ISSN 0859-0982
วารสาร
ปที่ ๑๘ ฉบับที่ ๙๕ ประจําเดือน ตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๕๔
คณะผูจัดทํา กองบรรณาธิการ
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พล.ท.ปญญา ขวัญอยู พล.ท.ปราโมทย ระงับภัย พล.อ.ชาญวิช ศรีธรรมวุฒิ พล.อ.วิชญ ไขรัศมี พล.อ.มนตรี สังขทรัพย พล.ท.สิงหศึก สิงหไพร
พล.อ.เกรียงไกร เจริญศิริ พล.อ.จําลอง บุญกระพือ พล.อ.ศักดิ์สิน ทิพยเกษร พล.อ.อาทร โลหิตกุล พล.อ.สมเกียรติ สุทธิไวยกิจ พล.ท.ธนดล เผาจินดา
กองอํานวยการ ผูอํานวยการ : รองผูอํานวยการ :
ผูชวยผูอํานวยการ :
ที่ปรึกษา :
เลขานุการ : ผูชวยเลขานุการ√ :
พล.ท.ชูเกียรติ เธียรสุนทร พล.ต.อิทธิพล ทองดี พล.ต.วิชิต ศรีประเสริฐ พล.ต.ไพโรจน พนาเวศร พล.ต.ทลวงรณ วรชาติ พล.ต.ยศนันท หรายเจริญ พ.อ.ณัฏฐพัฒน พริ้งรักษา พ.อ.สุรชัย สินไชย พ.อ.เธียรศักดิ์ รื่นเริง พ.อ.ประจัญ คําแดง พ.อ.ชัยวัฒน แจงประจักษ พ.อ.วิโรจน วิจิตรโท พ.อ.วุฒิไกร คลายทอง พ.อ.สุดยอด พรมแกว æพ.อ.ชาติชาย แจงสี พ.อ.ไตรจักร นาคะไพบูลย พ.อ.สมควร วงษเวียงจันทร พ.อ.อรุณ สนิท∑√Ï æพ.อ.ศักดิ์ชัย ธนศรีสุนีย พ.อ.เกรียงศักดิ์ แยมศิริ พ.อ.สุทัศน เอี่ยมอารมณ
∫√≥บรรณาธิการ√ :
พ.อ.เกรียงศักดิ์ แยมศิริ
ºŸÈ™Ëผูชวยบรรณาธิการ√ :
æพ.อ.สอาด ยศพลเสนีย พ.ท.นรินทรพร ขุมนาคË¡
æ§ผูจัดการ√ :
พ.อ.สุทัศน เอี่ยมอารมณ
ŸÈรองผูจัดการ√ :
พ.ท.นรินทรพร ขุมนาคË¡
กองจัดการ√ :
พ.ท.สุชาติ จิตรอรุณµ√ÏÕÿ≥ จ.ส.อ.ธีรยุทธ ประจักษจิตรµ√Ï
Ëฝายบทความและวิชาการ :
พ.ต.หญิง มาริกา ปาลกะวงศฯ ร.ต.หญิง ญาตาวีมนิ ทร วรณัฏฐากูร
ËÕß ¡∫Ÿ√≥Ï
ร.อ.ดาบชัย แสงชาติÏœ
ΩËฝายออกแบบศิลป :
พ.ต.หญิง มาริกา ปาลกะวงศฯ
และการผลิต
ร.ท.สุชาติ นุชสา จ.ส.อ.จักริน เวชชบุษกร ส.อ.ชาญฤทธิ์ แสงเดือนฉาย
ฝายสมาชิกสัมพันธ∏Ï :
æพ.ท.สุชาติ จิตรอรุณµ√ÏÕÿ≥ จ.ส.อ.สรยุทธ √¬ÿ∑∏ ทองสุข ส.อ.อาภากร เฟองฟู°√ ‡ø◊ËÕߟ
ΩËฝายเหรัญญิก° :
พ.ท.ปยะ จอนสุข
ΩËฝายกฎหมาย¬ :
æพ.ท.อรรถพล แผวพาลชน
พิมพที่Ë :
หจก. อรุณการพิมพ โทร. ๐-๒๒๘๒-๖๐๓๓-๔ โทรสาร ๐-๒๒๘๒-๒๑๘๗-๘
ºŸÈæผูพิมพโฆษณา :
นางสาวชมชนก วงษฐากร°√
ขอพระองคทรงสถิตทิพยวิมาน เสวยสุขพระสําราญแดนสวรรค เหลาทวยราษฎรชาวไทยพรอมใจพลัน สงเสด็จพระองคทานสูสวรรคาลัย ดวยเกลาดวยกระหมอม ขาพระพุทธเจา รักษาดินแดนวารสาร
รักษาดินแดน
วารสาร
๒
แนะนํา ผบ.นรด.
พลโท ชูเกียรติ เธียรสุนทร
รักษาดินแดน
วารสาร
นอมรับพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ใหรับราชการสนองพระเดชพระคุณ ในตําแหนง ผูบัญชาการหนวยบัญชาการรักษาดินแดน เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ เปน ผบ.นรด. ลําดับที่ ๓ พล.ท.ชูเกียรติ เธียรสุนทร เกิดเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๔๙๕ จบการศึกษาจาก รร.อํานวยศิลป (พระนคร) เมื่อป ๒๕๑๑ จากนั้น ได เ ข า รั บ การศึ ก ษา ณ รร.เตรี ย มทหาร (รุ น ที่ ๑๒) และเข า รั บ การศึกษาตอ ณ รร.นายรอยพระจุลจอมเกลา (รุนที่ ๒๓) เริ่มรับราชการครั้งแรก ในตําแหนง ผูบังคับหมวดปนเล็ก กองรอยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ ๒ กรมผสมที่ ๒ กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค เมื่อป ๒๕๑๙ และเจริญกาวหนาเรื่อยมา จนเขารับการศึกษา ณ รร.เสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจําชุดที่ ๖๔ ในป ๒๕๒๘ และหลักสูตร วิทยาลัยการทัพบก ชุดที่ ๓๙ ในป พ.ศ. ๒๕๓๖ พล.ท.ชูเกียรติ เปนนายทหารที่มีความรูความชํานาญในสายงาน สัสดีและระบบกําลังสํารองเปนอยางดี จนไดรับแตงตั้งใหดํารงตําแหนง ผูอ าํ นวยการกอง ไดแก ผอ.กองการควบคุมกําลังสํารอง และ ผอ.กองการสัสดี เมื่ อ ครั้ ง ยั ง สั ง กั ด กรมการกํ า ลั ง สํ า รองทหารบก จากนั้ น เมื่ อ มี ก ารรวมหน ว ยเป น หน ว ยบั ญ ชาการกํ า ลั ง สํ า รอง ท า นได ดํ า รงตํ า แหน ง ผอ.กองการเตรี ย มพล เมื่อป พ.ศ. ๒๕๕๒ และเปน ผูบัญชาการศูนยการกําลังสํารอง ในปเดียวกัน และปจจุบันเปน ผูบัญชาการหนวยบัญชาการรักษาดินแดน
๓
นโยบาย รัฐมนตรีวา การกระทรวงกลาโหม
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ๑. นโยบายทั่วไป
รักษาดินแดน
วารสาร
๑.๑ ให ข า ราชการยึ ด มั่ น ในสถาบั น ชาติ ศาสนา พระมหากษั ต ริ ย และ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเปนประมุข ๑.๒ ให ยึ ด ถื อ กฎหมาย นโยบาย และมติ ข องคณะรั ฐ มนตรี นโยบายและ การสั่งการของอดีตรัฐมนตรีวาการกระทรวงกลาโหมที่ยังมีผลบังคับใช ยุทธศาสตร การปองกันประเทศ รวมทั้งแผนและหลักการสําคัญที่เกี่ยวของ ๑.๓ ให ป รั บ ปรุ ง กฎหมาย ข อ บั ง คั บ ระเบี ย บ ประกาศ คํ า สั่ ง หรื อ มติ คณะรั ฐ มนตรี ที่ เ กี่ ย วข อ งให ทั น สมั ย กระทบสิ ท ธิ เ สรี ภ าพของประชาชนน อ ยที่ สุ ด ใหความสําคัญในการตอบสนองนโยบายเรงดวนของรัฐบาล
๑๑
ต อ เนื่ อ งในการรบ มี ก ารปฏิ บั ติ ก ารร ว มและ พรอมเผชิญความทาทายจากภัยคุกคามรูปแบบ ใหมที่เกิดขึ้น ทั้งภายในประเทศและระดับภูมิภาค ๒.๕ พัฒนาและสงเสริมกิจการอุตสาหกรรม ปองกันประเทศและพลังงานทหาร โดยใหความ สํ า คั ญ กั บ การบู ร ณาการขี ด ความสามารถของ ภาครัฐและเอกชน ใหความรวมมือในการพัฒนา
๒. นโยบายเพื่ อ การรั ก ษาความมั่ น คง แหงชาติ
๑๒ รักษาดินแดน
วารสาร
๒.๑ พิ ทั ก ษ รั ก ษาและเทิ ด ทู น สถาบั น พระมหากษัตริย เพื่อใหคงเปนศูนยรวมจิตใจของ ประชาชน และเปนสถาบันหลักที่สําคัญยิ่งในการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย ทรงเปนประมุข ๒.๒ สนับสนุนการสรางความปรองดอง สมานฉันทของคนในชาติ ฟนฟูประชาธิปไตย และ สงเสริมความเขาใจอันดีระหวางทหารกับประชาชน ๒.๓ สนั บ สนุ น การแก ไ ขและยุ ติ ป ญ หา ความไมสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต ให เกิดความสงบเรียบรอยโดยเร็ว โดยถือเปนนโยบาย เรงดวน ดวยการนอมนําแนวทางพระราชทาน “เขาใจ เขาถึง พัฒนา” มาใชเปนแนวทางในการ แกไขปญหา ๒.๔ พั ฒ นาศั ก ยภาพกองทั พ และระบบ การปองกันประเทศใหมีความพรอมในการพิทักษ รั ก ษาเอกราชอธิ ป ไตย ความมั่ น คงแห ง ราช อาณาจักร และการรักษาผลประโยชนของชาติ มีโครงสรางที่เหมาะสมและทันสมัยทัดเทียมกับ กองทัพของประเทศชั้นนําในอาเซียน โดยในการ ปฏิ บั ติ ก ารทางทหารจะต อ งสามารถยุ ติ ค วาม ขัด แยง ไดอ ยางรวดเร็ว มีความอ อนตัว ความ
อุ ต สาหกรรมป อ งกั น ประเทศในกลุ ม ประเทศ อาเซียน เพื่อนําไปสูการพึ่งพาตนเองในการผลิต อาวุ ธ ยุ ท โธปกรณ รวมทั้ ง สนั บ สนุ น การพั ฒ นา พลั ง งานทดแทนจากแหล ง ทรั พ ยากรภายใน ประเทศ ๒.๖ พั ฒ นาความร ว มมื อ ทางทหารกั บ ประเทศเพื่อนบาน ประเทศในกลุมอาเซียน มิตร ประเทศ และองคกรระหวางประเทศ ทั้งในระดับ ทวิภาคีและพหุภาคี เพือ่ จัดระเบียบสภาวะแวดลอม ดานความมัน่ คง ขจัดความหวาดระแวง สรางความ ไวเนือ้ เชือ่ ใจ สรางสันติภาพ เสถียรภาพ ความมัน่ คง ความมัง่ คัง่ ความกาวหนา และความสงบสุขรวมกัน และเพื่ อ ให เ ป น ส ว นหนึ่ ง ในการนํ า ไปสู ก ารเป น ประชาคมการเมืองและความมั่นคงของอาเซียน ในป ๒๕๕๘ รวมทัง้ สนับสนุนภารกิจเพือ่ สันติภาพ การปฏิบตั กิ ารเพือ่ มนุษยธรรม และสงเสริมบทบาท
๒.๙ ส ง เสริ ม และกํ า กั บ ดู แ ลข า ราชการ ใหปฏิบตั หิ นาทีไ่ ดอยางมีประสิทธิภาพ โดยกําหนด แนวทางการรับราชการที่ชัดเจน พัฒนาความรู ความสามารถ พัฒนาขวัญกําลังใจ คาตอบแทน สวั ส ดิ ก ารด า นต า ง ๆ โดยพิ จ ารณาปรั บ สิ ท ธิ ประโยชนของกําลังพล ใหสอดคลองกับสภาวะ เศรษฐกิจ เสริมสรางที่ตั้งหนวยทหารใหมีความ
ประชาชน และการพั ฒ นาประเทศ ด ว ยการ สนั บ สนุ น การดํ า เนิ น การตามโครงการอั น เนื่ อ ง มาจากพระราชดําริ การรักษาผลประโยชนของชาติ การพัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคงภายใตปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง การปองกัน บรรเทา และแกไข ปญหาสําคัญของชาติ ไดแก ปญหาทรัพยากร ธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม ภัยพิบัติ ภัยคุกคาม ขามชาติ การกอการราย และอาชญากรรมขามชาติ รูปแบบตาง ๆ ซึง่ รวมถึงปญหายาเสพติด ผูห ลบหนี เขาเมือง แรงงานตางดาวผิดกฎหมาย การคา สิ่งของผิดกฎหมาย การคามนุษย โจรสลัด และ ภัยจากเครือขายอินเทอรเน็ต ๒.๘ ดํ า รงไว ซึ่ ง เกี ย รติ แ ละศั ก ดิ์ ศ รี ข อง สถาบันทหาร ใหเปนทีเ่ ชือ่ มัน่ แกประชาชนในฐานะ องคกรที่มีหนาที่รับผิดชอบหลักในการรักษาความ มั่นคงของชาติ
สมบูรณเหมาะสมตอการปฏิบัติงานในยามปกติ ทั้งในสวนของอาคารสํานักงาน บานพักสวัสดิการ ของหน ว ย ตลอดจนสภาพแวดล อ มภายใน หน ว ยงานและพื้ น ที่ ใ ช ป ระโยชน อื่ น ๆ รวมทั้ ง สรางรายได สนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิต และความเปนอยูของกําลังพลและครอบครัว ๒.๑๐ ใหความสําคัญตอทหารผานศึกและ ครอบครัว เพื่อสรางความศรัทธาตอประชาชน รวมทัง้ สรางขวัญกําลังใจตอกําลังพลทีก่ าํ ลังปฏิบตั ิ หนาทีใ่ นการปองกันประเทศ โดยพัฒนาใหมสี ภาพ ชีวิตความเปนอยูที่ดี มีเกียรติ และศักดิ์ศรี รวมทั้ง เชิดชูเกียรติทหารผานศึก ใหทกุ ภาคสวนของสังคม ไดรับรู และยอมรับความสําคัญของทหารผานศึก ที่ไดสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกปองชาติบาน เมืองมาโดยตลอด
รักษาดินแดน
วารสาร
ในการรักษาสันติภาพของโลกภายใตกรอบของ สหประชาชาติ แ ละผลประโยชน ข องประเทศ เปนหลัก ๒.๗ สงเสริมการใชทรัพยากรทั้งปวงของ กระทรวงกลาโหมใหเกิดประโยชนสงู สุดตอประเทศ โดยใช ศั ก ยภาพของกองทั พ ในการพั ฒ นาพลั ง อํานาจแหงชาติดานตาง ๆ ทั้งที่เปนการชวยเหลือ
๑๓
ผูบังคับบัญชาระดับสูง หนวยบัญชาการรักษาดินแดน
พลตรี อิทธิพล ทองดี
พลตรี วิชิต ศรีประเสริฐ
รองผูบัญชาการหนวยบัญชาการรักษาดินแดน (๑)
รองผูบัญชาการหนวยบัญชาการรักษาดินแดน (๒)
พลตรี ไพโรจน พนาเวศร
พลตรี ทลวงรณ วรชาติ
ผูบัญชาการศูนยการกําลังสํารอง
เสนาธิการหนวยบัญชาการรักษาดินแดน
พลตรี ยศนันท หรายเจริญ
๔
รักษาดินแดน
วารสาร
ผูบัญชาการกองพลทหารราบที่ ๑๑
บรรณาธิการแถลง ÂÔ¹´ÕµŒÍ¹ÃѺÊÙ‹ºŒÒ¹ãËÁ‹ “ÃÑ¡ÉҴԹᴹÇÒÃÊÒÔ ÇÒÃÊÒâͧ˹‹ÇºÑÞªÒ¡ÒÃÃÑ¡ÉҴԹᴹ สวัสดีครับทานสมาชิกมิตรรักนักอานทุกทาน ในชวงหลายเดือนที่ผานมาที่ “วารสารเสือป่ า” ไดหายหนาหายตาไป ไมไดไปไหนไกลหรอกครับ แตเนื่องจากเปนนโยบายจาก ผบ.นรด. ที่ประสงค จะมอบประโยชนสูงสุดใหกับสมาชิกทุกกลุมอยางเทาเทียม จึงไดมีการแบงกลุมเปาหมายของวารสาร ออกเปนสองสวน คือ สวนที่เปนขาราชการ นรด. สถานศึกษาวิชาทหาร หนวยงานราชการ และประชาชน ทั่วไปที่ตองการรับทราบขาวสารเกี่ยวกับการฝก นศท. และกําลังพลสํารอง และสวนที่สองคือ ขาราชการ สายงานสัสดีซึ่งมีกระจายอยูทุกหัวระแหงของประเทศ ซึ่งสมาชิกกลุมนี้ตองการรับทราบขาวสารเกี่ยวกับ กฎระเบียบ ขอบังคับ รวมทั้งแนวทางปฏิบัติตาง ๆ ในสายงานสัสดี เพื่อใหสามารถใหคําแนะนํา ในขอกฎหมายเพื่อบริการประชาชนไดอยางถูกตอง เปนไปในทิศทางเดียวกัน และทันเวลา จากเหตุผลที่กลาวมาขางตน จึงสงผลใหมีการแบงวารสารของหนวยออกเปนสองเลม ไดแก “วารสารสัสดี” และ “รักษาดินแดนวารสาร” เพื่อใหความรูในวิทยาการที่เกี่ยวของกับแตละสายงาน ไดอยางเหมาะสม ถูกตอง และชัดเจน ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชนสูงสุดของคุณผูอาน สําหรับเพื่อนสมาชิกสายงานสัสดี สมาชิกทั่วไป และสถานศึกษาวิชาทหารที่ไดสมัครหรือตอ อายุสมาชิก “วารสารเสือป่ า” และชําระเงินรายปครบถวนแลว ทางกองบรรณาธิการจะยังคงจัดสงวารสาร ใหทานตามมูลคาที่ทานชําระเงินมา เพียงแตทานจะไดรับวารสารในชื่อ “รักษาดินแดนวารสาร” ครับ ทั้งนี้หากเพื่อนสมาชิกสายงานสัสดีที่ยังคงตองการบอกรับเปนสมาชิก “รั กษาดินแดนวารสาร” เพือ่ เปนกําลังใจใหคณะผูจ ดั ทําและสนับสนุนงานของ นรด. ทานสามารถทําไดงา ย ๆ โดยการกรอกขอมูล ในใบสมัคร (ทีห่ นาสุดทาย) พรอมแนบธนาณัติ และสงกลับมาทีก่ องบรรณาธิการ “รักษาดินแดนวารสาร” ไดทุกเวลาครับ คณะผูจัดทําทุกคนขอกราบขอบพระคุณทุกทานลวงหนาไว ณ ที่นี้ สุดทาย หากทานมีขอคิดเห็นประการใด ขอไดโปรดแนะนํามาไดตามที่อยูในทายเลม ผมและ นอง ๆ ในกองบรรณาธิการ ยินดีนอมรับไปปรับปรุง...พบกันใหมฉบับหนา
(เกรียงศักดิ์ แยมศิริ) บรรณาธิการ
รักษาดินแดน
วารสาร
พ.อ.
๕
ส า ร บั ญ
C O N T E N T S รั ก ษ า ดิ น แ ด น ว า ร ส า ร
ปที่ ๑๘ ฉบับที่ ๙๕ ประจําเดือนตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๕๔
ISSN 0859-0982
อันเนื่องจากปก
พระประวัติสมเด็จพระเจาภคินีเธอ เจาฟาเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
๗
เกี่ยวเนื่องกับหนวย
แนะนําผูบังคับบัญชา หนวยบัญชาการรักษาดินแดน ถอนคํา “โรคจิตถาวร” ใน สด.๔๓ ปลดตราบาป สมานแผลใจ สาวประเภทสอง ขาวดวน ถึงวาที่ผูหมวดใหม ครบ ๑๐๐ ป กิจการกําลังสํารอง สุภาพบุรุษนักศึกษาวิชาทหาร ศสร. เปลี่ยนชื่อถนนและเสนทางเขา-ออกในพื้นที่ ปฏิทินการฝกสอน นศท. (สวนกลาง) ประจําปการศึกษา ๒๕๕๔ วิธีการสงหมายเรียกพลและการดําเนินคดี นายทหารสัญญาบัตรกองหนุน
๓ ๒๓ ๓๐ ๓๒ ๓๕ ๓๘ ๖๒ ๗๐
เหลียวแลรอบตัว
นโยบาย รัฐมนตรีวาการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เมล็ดพันธุแหงความเมตตา “ความจงรักภักดีตอพระมหากษัตริย” คือ การนอมนําแนวพระราชดําริมาสูวิถีชีวิต ความจงรักภักดีตอสถาบันพระมหากษัตริย บทความดีเดน นศท. ปนใหญหนากระทรวงกลาโหม เปนทหารไดอะไร เชฟ...เครื่องแบบสีขาวกับหมวกทรงสูง ๑๐ คําพูดที่ลูกอยากไดยินจากพอแม ๑๐ อันดับภัยรายออนไลน
๑๑ ๑๔ ๑๙ ๒๑ ๓๙ ๔๓ ๕๘ ๗๕ ๗๘ ๘๒
พบกันเปนประจํา
๖
รักษาดินแดน
วารสาร
มุมพระเครื่อง : พระคงลําพูน ขาวรอบรั้ว นรด. ขาวสั้นทางทหารทันโลก แนะนําอาวุธ : เครื่องบินขับไลรุนใหมแบบกริเพน แนะนําสถานศึกษาวิชาทหาร : โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ขํา ๆ โดยปาชาติ
๔๗ ๕๒ ๕๖ ๖๐ ๖๕ ๘๕
พระประวั ติ สมเด็จพระเจาภคินีเธอ เจาฟาเพชรรั ต นราชสุ ด า สิ ริ โสภาพั ณณวดี
เ
มื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เวลา ๒๐.๐๐ น. สํานักพระราชวังออกประกาศ สํานักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจาภคินีเธอ เจาฟาเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม ความวา สมเด็จพระเจาภคินีเธอ เจาฟาเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไดเสด็จประทับ รักษาพระอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต ณ ตึก ๘๔ ป ชั้น ๕ ดานตะวันออก โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแตวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ แมคณะแพทยไดถวายการรักษาอยางใกลชิดจนสุดความสามารถ พระอาการประชวรไดทรุดลงตามลําดับ และสิ้นพระชนมเมื่อเวลา ๑๖ นาฬกา ๓๗ นาที วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ รวมพระชันษา ๘๕ ป วงศานุ ว งศ และข า ทู ล ละอองธุ ลี พ ระบาทในราช สํ า นั ก ไว ทุ ก ข ถ วายมี กํ า หนด ๑๐๐ วั น ตั้ ง แต วั น สิ้ น พระชนม เ ป น ต น ไป อนึ่ ง ทรงพระกรุ ณ าโปรด เกล า โปรดกระหม อ มพระราชทานพระบรมราชา นุ ญ าตให ป ระชาชนเข า ถวายนํ้ า สรงพระศพหน า พระฉายาลักษณ ซึง่ ประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม
รักษาดินแดน
วารสาร
พระบาทสมเด็จ พระเจ าอยู หัว มีพ ระบรม ราชโองการโปรดเกล า โปรดกระหม อ มให สํ า นั ก พระราชวังจัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุด ตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่ง ดุ สิ ต มหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวั ง ทรง พระกรุ ณ าโปรดเกล า โปรดกระหม อ มให พ ระบรม
๗
๘
รักษาดินแดน
วารสาร
ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแตเวลา ๑๓.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๖.๐๐ น. วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔ จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน เพื่อเปนการถวายอาลัยแดสมเด็จพระเจา ภคินีเธอ เจาฟาเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ผูทรงเปนองคอุปถัมภกิจการรักษาดินแดน ขอนอมนํา พระประวัติของพระองคทานมาบันทึกไวดวยสํานึก ในพระกรุ ณ าธิ คุ ณ (ข อ มู ล จากนิ ต ยสารสกุ ล ไทย ฉบับวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๔๐) ดังนี้ สมเด็จพระเจาภคินีเธอ เจาฟาเพชรรัตนราช สุดา สิริโสภาพัณณวดี เปนพระราชธิดาพระองคเดียว ในพระบาทสมเด็ จ พระมงกุ ฎ เกล า เจ า อยู หั ว และ พระนางเจาสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติเมื่อวัน อังคารที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ในพระที่นั่ง เทพสถานพิลาส ซึง่ อยูเ บือ้ งหลังของพระทีน่ งั่ จักรพรรดิ พิมาน ในพระบรมมหาราชวัง เพียง ๒ วันที่พระองค ประสู ติ พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎ เกล าเจ าอยู หัว ก็เสด็จสวรรคต เมือ่ เวลา ๑ นาฬกา ๔๕ นาที ของวันที่ ๒๖ พฤศจิ ก ายน ณ พระที่ นั่ ง จั ก รพรรดิ พิ ม าน ในพระบรมมหาราชวัง เมื่ อ ทรงพระเยาว ไ ด เ สด็ จ ไปทรงศึ ก ษาที่ โรงเรียนราชินี จนมีพระชันษา ๑๓ ป จึงเสด็จไปทรง ศึกษาในประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๔๘๐ การศึกษาของพระองคในประเทศอังกฤษ เนนไปทาง ภาษาอังกฤษและดนตรี ทรงมีพระอัจฉริยะในการแสดง เปยโนเปนอยางยิง่ สวนวิชาอืน่ ๆ โปรดวิชาภูมศิ าสตร นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการคํานวณปฏิทิน อยางรวดเร็วโดยไมตอ งใชกระดาษเขียน เชน ทูลถามวา วั น ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๓ ตรงกั บ วั น อะไร จะทรงตอบไดโดยเร็ววา วันเสาร และจะทรงบอกไดวา มี พ.ศ.ใดอีกในวันที่ ๑ มกราคม และจะตรงกับวัน เสารใดในปปจ จุบนั ทรงคํานวณปฏิทนิ ระหวาง ๓๐๐ ๔๐๐ ป ทั้งที่ลวงมาแลวและในอนาคต ทรงมีความจํา แมนยํามากในเรื่องตัวเลข
สมเด็จพระเจาภคินีเธอ เจาฟาเพชรรัตนราช สุดา สิริโสภาพัณณวดี ประทับอยูในประเทศอังกฤษ ในชวงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ และกลับสูกรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ รวมเวลาที่ประทับในตางประเทศ ๒๒ ป ทรงสรางวังทีซ่ อยสันติสขุ ถนนสุขมุ วิท ประทาน นามวา วังรื่นฤดีŽ เหมือนชื่อวังแหงแรกที่ถนนสุโขทัย การเสด็ จ กลั บ มาประทั บ ในประเทศไทย นั บ เป น การเปลี่ยนแปลงความเปนอยูครั้งใหญของพระองค ความมีอิสระและเวลาสวนพระองคนอยลง ทรงอุทิศ เวลาใหสังคมและประโยชนสวนรวม พระราชกิจที่ทรง บําเพ็ญอยูแยกได ๓ ทาง คือ ๑. พระราชกิจเนื่องดวยพระบรมชนกนาถ เชน กิจการลูกเสือ เนตรนารี กรมการรักษาดินแดน โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ๒. พระราชกิ จ สื บ เนื่ อ งของสมเด็ จ พระ อัยยิกาเจา สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูห วั กลาวคือ สมเด็ จ พระศรี พั ช ริ น ทราบรมราชิ นี น าถ ทรงสร า ง สถาบั น การศึ ก ษาไว ใ นกรุ ง เทพฯ และต า งจั ง หวั ด หลายแหง ไดแก โรงเรียนราชินี โรงเรียนเสาวภา วิทยาลัยพยาบาลศิรริ าชพยาบาล โรงเรียนจอมสุรางค อุปถัมภ จว.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ พระองค ทรงตั้งมูลนิธิสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เพือ่ เปนประโยชนทางการศึกษา โดยใหทนุ แกนกั เรียน ที่เรียนดีในสถาบันดังกลาว
รักษาดินแดน
วารสาร
๓. ทรงเป น องค อุ ป ถั ม ภ กิ จ การเกี่ ย วกั บ สังคมสงเคราะห การศึกษา และการทหาร และพระ ศาสนาประมาณ ๑๘ องคการ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ พระราชทานพระยศทหารเปนพันโท ราชองครักษพเิ ศษ และผูบังคับการพิเศษ กองพันที่ ๒ กรมผสมที่ ๕ จังหวัดนครศรีธรรมราช (ปจจุบัน คือ กองพันที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๑๕) และต อ มา พ.ศ. ๒๕๒๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหเปนนายทหารพิเศษ ประจํากรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค ใน พ.ศ. ๒๕๒๘ เมื่ อ พระองค ท รงเจริ ญ พระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจา อยูหัว และสมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดําเนินไปในการบําเพ็ญพระราชกุศล พระราชทาน ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทรงพระกรุ ณ าโปรดเกล า ฯ พระราชทานนํ้ า พระมหาสังข และเหรียญรัตนาภรณชั้นที่ ๑ ตลอดจน พระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารกลางวันที่พระที่นั่ง บรมพิมาน และทรงรวมโตะเสวยดวย พ.ศ. ๒๕๓๓ ไดรับพระราชทานเลื่อนพระยศ ทหารเปน พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก และ โปรดเกล า ฯ ให เ ป น นายทหารพิ เ ศษประจํ า กรม ทหารม า ที่ ๑ รั ก ษาพระองค ในพระบาทสมเด็ จ พระมงกุ ฎ เกล า เจ า อยู หั ว กรมนั ก เรี ย นนายร อ ย
รักษาพระองค โรงเรียนนายรอยพระจุลจอมเกลา กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค โรงเรียนนายเรือ และกรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค โรงเรียน นายเรื อ อากาศ กั บ ได รั บ พระราชทานเครื่ อ งราช อิสริยาภรณอนั เปนสิรยิ งิ่ รามกีรติ ลูกเสือสดุดชี นั้ พิเศษ พ.ศ. ๒๕๓๔ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ถวายปริญญาคหกรรมบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพัฒนา การครอบครัวและเด็ก โดยทีท่ รงบําเพ็ญพระกรณียกิจ ในดานการสงเสริมความสุขของเด็ก และพัฒนาการ ครอบครัวอยางเดนชัด อันไดแก การที่ทรงอุปถัมภ กิจการเนตรนารี อนุกาชาด อาสากาชาด และทรง สงเสริมการศึกษาในสถาบันตาง ๆ สมเด็ จ พระเจ า ภคิ นี เ ธอ เจ า ฟ า เพชรรั ต น ราชสุ ด า สิ ริ โ สภาพั ณ ณวดี มี พ ระจริ ย วั ต รงดงาม ทรงเปยมดวยพระเมตตา ทรงรักษาศีล ๕ ไดอยาง บริสุทธิ์ และที่สําคัญยิ่ง ทรงมีพระกตัญูตอสมเด็จ พระบรมชนกนาถและพระชนนีเปนอยางยิ่ง จะทรงตั้ง เครื่องสังเวยพระกระยาหารกลางวันทุกเวลากลางวัน และทรงจัดดอกไมจุดธูปเทียนบูชา พระบรมทนตและ พระบรมอั ฐิ ส มเด็ จ พระบรมชนกนาถและพระชนนี ทุกเวลาคํ่า สมเด็ จ พระเจ า ภคิ นี เ ธอฯ มี พ ระปณิ ธ าน อันแนวแนในการทรงบําเพ็ญพระกรณียกิจ ดังปรากฏ ในพระดํารัสที่พระราชทานในงานฉลองพระชนมายุ ๖๑ พรรษา เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๙ ณ วชิ ร าวุ ธ วิ ท ยาลั ย ความตอนหนึ่ ง ว า “ฉั น ขอ กลาวตอทานทั้งปวงวา จะพยายามบําเพ็ญตน เพื่อประโยชนแกบานเมือง ดวยความจงรักภักดี ต อ บ า นเกิ ด และต อ องค พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ า อยู หั ว ผู ท รงเป น พระประมุ ข ของชาติ ทั้งจะไดรักษาเกียรติศักดิ์แหงความเปนราชนารี ในมหาจักรีบรมราชวงศไวชั่วชีวิต”
๙
62
วารสารเสือป่า
ปวีณา สมคิ ด
รอยยิ้มเล็ก ๆ ของเด็กนอยนักเรียนโรงเรียนราชประชา นุ เ คราะห ฯ ๒๗ จั ง หวั ด หนองคาย หลั ง จากได รั บ ผ า เช็ ด ตั ว สี ม ว งอ อ น ของพระราชทานจากพระบาทสมเด็ จ พระเจ า อยู หั ว ที่ ค ณะผู บ ริ ห าร และเจ า หน า ที่ มู ล นิ ธิร าชประชานุ เ คราะห ในพระบรมราชูปถัมภ ไดนํามาแจกจายแกเด็กนักเรียนโรงเรียน ราชประชานุ เ คราะห ฯ และประชาชนในพื้ น ที่ ภ าคอี ส าน และ ภาคเหนือ ที่ไดทํากิจกรรมเปนประจําทุกป เมื่อยางเขาเดือนแหง ฤดูหนาว หรือเมื่อประสบภัยพิบัติอื่น ๆ
1๔ รักษาดินแดน
วารสาร
ความอบอุ่นใจของเด็กน้อยเหล่านี้ มีเพียง ความอบอุ ่ น จากผ้ า ที่ ห ่ อ หุ ้ ม ตั ว แต่ เ ป็ น ความ ปลาบปลื้มที่เด็ก ๆ ทั้งหลายที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ความเจริญ ได้รับพระราชทานความช่วยเหลือจาก พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว พระมหากษั ต ริ ย ์ ของแผ่นดินไทย โดยมี นายขวัญแก้ว วัชโรทัย
เมื่อแรกเริ่ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเงินสามล้านบาท ให้เป็นทุนประเดิม ก่อตั้งมูลนิธิ และพระราชทานนามว่า “มูลนิธิราช ประชานุเคราะห์” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้อยู่ใน “พระบรมราชูปถัมภ์” พร้อมกับทรงด�ำรงต�ำแหน่งพระบรมราชูปถัมภก แห่งมูลนิธินี้ด้วย มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรม ราชูปถัมภ์ มีความหมายว่า “พระราชา” และ “ประชาชน” อนุเคราะห์ซงึ่ กันและกัน เป็นการ แสดงน�้ำพระทัยว่า เวลาท�ำงานควรจะได้ให้ ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย โดยมู ล นิ ธิร าชประชานุ เ คราะห์ ฯ ได้ ถื อ ก� ำ เนิ ด ขึ้ น จากเหตุ ก ารณ์ ภั ย พิ บั ติ ที่ ต� ำ บล แหลมตะลุ ม พุ ก อ� ำ เภอปากพนั ง จั ง หวั ด นครศรีธรรมราช เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๕ พร้อม กันนี้ได้จัดสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติมแก่โรงเรียน
รักษาดินแดน
วารสาร
นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ และนายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธริ าชประชา นุเคราะห์ฯ ที่ช่วยแบ่งเบาภารกิจ เดินทางกว่า ๘๐๐ กิโลเมตร โดยทางรถยนต์ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศไทย ทีป่ ระสบภัยพิบตั อิ ากาศหนาว เมือ่ ช่วง ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ เพือ่ เข้าช่วยเหลือผูป้ ระสบ ภั ย พิบัติอ ย่ า งทัน ท่ ว งที ตามพระราโชบายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานไว้ “...ให้ไปให้ความอบอุ่นไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ ได้ยากโดยฉับพลัน ท�ำให้ผปู้ ระสบภัยได้รบั การ ช่วยเหลือ มีก�ำลังใจที่จะปฏิบัติงานต่อไป...” “...การช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้นจะต้อง ช่วยในระยะสั้น หมายความว่า เป็นเวลาที่ ฉุกเฉินต้องช่วยโดยเร็ว และต่อไปก็จะต้อง ช่วยให้ต่อเนื่อง...ส่วนเรื่องการช่วยเหลือใน ระยะยาวก็มคี วามจ�ำเป็นเหมือนกัน...เป็นผลว่า เขาได้รบั การดูแลเหลียวแลมาจนกระทัง่ ได้รบั การศึกษาที่สามารถท�ำมาหากินได้โดยสุจริต และโดยมีประสิทธิภาพ เป็นพลเมืองดีของ ประเทศชาติ...”
15
ประถมศึกษาบ้านปลายแหลม ต่อมาพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อโรงเรียน นี้ใหม่ว่า “โรงเรียนราชประชานุเคราะห์” ไม่มี หมายเลข โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่สร้างรุ่น แรกจากมหาวาตภัยภาคใต้ทแี่ หลมตะลุมพุก จึงถือ ก�าเนิดขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ จ�านวน ๑๒ โรงเรียน และต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๑๓ เกิด อุทกภัยอย่างหนักที่ต�าบลท่าแฝก อ�าเภอท่าปลา
1๖ รักษาดินแดน
วารสาร
จังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้ก่อสร้างโรงเรียนราชประชา นุ เ คราะห์ ขึ้ น อี ก จนถึ ง ป จ จุ บั น มี โ รงเรี ย นราช ประชานุเคราะห์จัดตั้งทั่วประเทศไทย จ�านวน ๔๔ โรงเรียน พัชรนันท์ อิม่ ทัว่ หรือ น้องนิว เป็นคนพื้นเพจังหวัด ป ต ตานี ป จ จุ บั น ท� า งานใน ต�าแหน่งนักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธริ าชประชานุเคราะห์ ใน
พระบรมราชูปถัมภ์ เป็นนักเรียนทีไ่ ด้รบั พระราชทาน ทุ น ช่ ว ยเหลื อ จากมู ล นิ ธิร าชประชานุ เ คราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สืบเนือ่ งจากบิดาของน้องนิว ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจากภัยพิบัติพายุไต้ฝุน “เกย์” เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ ขณะ ประกอบอาชีพประมงอยู่กลางทะเล ซึ่งในขณะนั้น น้องนิวก�าลังเรียนอยูช่ นั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียน อนุบาลปตตานี ขาดเสาหลักของบ้าน แต่ยงั มุมานะ เรียนต่อในชัน้ มัธยมศึกษาตอนต้น จนกระทัง่ ขณะนี้ จบการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขานักสังคม สงเคราะห์ ที่ตั้งใจเลือกเรียนในสาขาวิชานี้ เพราะ อยากที่จะท�างานด้านสังคมสงเคราะห์ ให้ความ ช่ ว ยเหลื อ ผู ้ ด ้ อ ยโอกาสคนอื่ น ๆ พร้ อ มกั น นี้ ภาคภูมิใจมากที่ได้รับทุนพระราชทานจากมูลนิธิ ราชประชานุ เ คราะห์ ฯ จนจบการศึ ก ษาระดั บ ปริญญาโท น้ อ งแพร-นางสาวสุ ค นธ์ ทิ พ ย์ สุ ก สี สาวน้อยจากอ�าเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ มี โ อกาสได้ ต ามเสด็ จ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่หัวอย่างใกล้ชิด เมื่อปี ๒๕๔๔ ในขณะที่เรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ น้องแพรเล่าให้ฟงว่า เป็นความรู้สึกที่ประทับใจ และจดจ�าได้ตลอดชีวิต เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็น
อ่านหนังสือไว เกิดความเข้าใจได้ดี เข้าศึกษาต่อ ในระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท ปจจุบนั ท�างานให้กบั มูลนิธกิ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในต�าแหน่งเจ้าหน้าที่การเงินการธนาคาร นั ก เรี ย นที่ ศึ ก ษาในโรงเรี ย นราชประชา นุเคราะห์ฯ ทุกคน จะใช้ระบบการศึกษาทางไกล ผ่านดาวเทียมของโรงเรียนวังไกลกังวลฯ เป็นหลัก ส� า คั ญ ในการศึ ก ษาหาความรู ้ ซึ่ ง ที่ ผ ่ า นมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม จะเข้ า เช็ ก สภาพการส่ ง สั ญ ญาณภาพ ป ญ หา ข้อขัดข้อง การตอบสนองการเรียนการสอนของ นักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งโรงเรียนวังไกลกังวลฯ อ� า เภอหั ว หิ น จั ง หวั ด ประจวบคี รี ขั น ธ์ ต้ น ทาง การสอน เป็ น โรงเรี ย นที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระ ปรเมนทรมหาอานันทมหิดล มีพระบรมราชานุญาต ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๔๘๑ เพื่อให้ การศึกษาแก่บตุ รหลานของเจ้าหน้าทีผ่ รู้ กั ษาวังไกล กังวล ซึ่งมีอยู่จ�านวนมากแต่ไม่มีสถานที่เล่าเรียน มีฐานะเป็นโรงเรียนราษฎร์ทไี่ ด้พระราชอุปการะค่า ใช้จ่ายจากเงินพระราชกุศลเป็นรายปี โรงเรียนวังไกลวังกลฯ เปดสอนนักเรียนตัง้ แต่ ชั้นเด็กเล็กขึ้นไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และ เป ด สอนหลั ก สู ต รวิ ช าชี พ ระยะสั้ น เพิ่ ม เติ ม ด้ ว ย
รักษาดินแดน 1๗ วารสาร
ครูส อนเรื่อ งฝนหลวง และประโยชน์ ข องชั้นดิน ที่เขาเต่าด้วยพระองค์เอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ การบันทึกเทป รายการ “ศึกษาทัศน์” รายการ ที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ทรงพระกรุ ณ า โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้โรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดท�ารายการการศึกษา และได้พระราชทานชื่อรายการ “ศึกษาทัศน์” ขึ้น โดยครั้ ง นี้ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว เสด็ จ พระราชด�าเนินเป็นครูสอน และทรงอธิบาย ทรงยก ตัวอย่างให้เกิดความเข้าใจง่ายด้วยพระองค์เอง น้องแพรเป็นนักเรียนทีไ่ ด้รบั ทุนการศึกษาจากมูลนิธิ ราชประชานุเคราะห์ฯ อย่างต่อเนื่องจนถึงระดับ ปริญญาตรี และขณะนีก้ า� ลังศึกษาระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ซึ่ง ในป จ จุ บั น น้ อ งแพรท� า งานที่ มู ล นิ ธิร าชประชา นุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในต�าแหน่งเจ้า หน้าที่บริหารงานทั่วไป ส่ ว นน้ อ งอ้ อ ย สาวแห่ ง เมื อ งอุ ด รธานี นางสาวสรัลนุช ทองกอง เป็นนักเรียนในโรงเรียน ราชประชานุ เ คราะห์ ฯ ๒๗ จั ง หวั ด หนองคาย ที่ได้รับทุนการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ เรียนระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมของ โรงเรี ย นวั ง ไกลกั ง วลฯ ที่ ฝ ก ให้ ผู ้ เ รี ย นมี ส มาธิ
1๘ รักษาดินแดน
วารสาร
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการ โดยการประสาน งานจาก นายขวัญแก้ว วัชโรทัย รองเลขาธิการ พระราชวัง เสนอให้กรมสามัญศึกษาจัดการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อเฉลิมพระเกียรติในปีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี และถวายเป็ น พระราชกุ ศ ลแด่ ส มเด็ จ พระศรี น คริ น ทราบรมราชชนนี ซึ่ ง มี พ ระมหา กรุณาธิคุณใหญ่หลวงต่อการเสริมสร้างยกระดับ การศึกษาและคุณภาพชีวิตของปวงประชาราษฎร์ อย่ า งทั่ ว ถึ ง ตลอดมา การศึ ก ษาทางไกลผ่ า น ดาวเทียม นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการท�าให้ นั ก เรี ย นในส่ ว นภู มิ ภ าคหรื อ ชนบทห่ า งไกลได้ มี โอกาสรั บ ประสบการณ์ ก ารเรี ย นรู ้ ที่ มี คุ ณ ภาพ ไม่ด้อยกว่าโรงเรียนที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน แล้ว ยังจะใช้เป็นสื่อในการเผยแพร่แลกเปลี่ยน ข้ อ มู ล ข่ า วสารที่ เ ป็ น ประโยชน์ ต ่ อ การพั ฒ นา การศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
นี่ เ ป็ น เพี ย งไม่ กี่ ตั ว อย่ า งของเมล็ ด พั น ธุ ์ แห่ ง ความเมตตา ซึ่ ง เด็ ก นั ก เรี ย นเหล่ า นี้ ล ้ ว น ได้ รั บ พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ จากพระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ในด้ า นการศึ ก ษาตลอดจนการ พัฒนาคุณภาพชีวิต และยังมีเด็กนักเรียนที่ได้รับ พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ในด้ า นการศึ ก ษาจากทุ ก ภูมภิ าคทัว่ ประเทศ พร้อมทีจ่ ะเติบโตเป็นทรัพยากร ทีม่ คี ณ ุ ค่า ดัง่ เมล็ดพันธุแ์ ห่งความเมตตาทีส่ มบูรณ์ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปญญา เพื่อสืบสาน พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ ไ ด้ พ ระราชทานพระราชด� า รั ส ในครั้ ง หนึ่ ง ว่ า ทรัพยากรทีม่ คี า่ ทีส่ ดุ ของประเทศไทย คือประชาชน ทีม่ คี ณ ุ ภาพ ควรเริม่ ดูแลด้านสุขภาพอนามัย ไม่ให้ เป็นภาระกับสังคม พร้อมกับเน้นการศึกษาให้กับ เยาวชน ให้รู้จักคิดรู้ว่าอะไรดีส�าหรับตัวเอง
“ความจงรักภักดีตอพระมหากษัตริย” คือ การนอมนําแนวพระราชดําริมาสูวิถีชีวิต
แผนกประชาสัมพันธฯ
ผูเขียนเชื่อวาทุกทานรูจักและเขาใจในความหมายของคําวา “ความจงรัก ภักดี” กันอยางแนนอน แตปญหาอยูที่วาแตละทานสามารถอธิบายและยกตัวอยาง การแสดงออกซึ่ ง “ความจงรั ก ภั ก ดี ” โดยเฉพาะอย า งยิ่ ง “ความจงรั ก ภั ก ดี ต อ พระมหากษัตริย” ทีแ่ ตละทานมีอยูใ นหัว (ใจ) อยางเปนรูปธรรม ชัดเจน และเขาใจได โดยงายวาอยางไร ทานพระครูกลาววา การรูคุณ คือ การรู ถึงคุณคา รูถึงคุณประโยชน รูถึงคุณความดีที่ มีประจําอยูในสิ่งนั้นหรือในคนนั้น เพื่อที่จะได แสดงพฤติกรรมตาง ๆ ออกมาดวยความรู มิใช แสดงไปตามความรูสึกชอบหรือไมชอบ เมื่อเรา “รู” ความรูจะบอกเราเองถึงความถูก ความผิด ความเหมาะสม ไมเหมาะสม ควรกระทํา หรือ ไม ค วรกระทํ า ฉั น ใดฉั น นั้ น เมื่ อ เราได รู ใ น พระเมตตา ได รู ใ นพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ของ พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวที่มีตอพสกนิกร ชาวไทย ผ า นทางโครงการพระราชดํ า ริ ก ว า
รักษาดินแดน
วารสาร
ผู ช ว ยศาสตราจารย พระครู สุ น ทร ธรรมโสภณ ผูอ าํ นวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขต สิรนิ ธรราชวิทยาลัย ในพระราชูปถัมภ ไดกลาวถึง “ความจงรักภักดีตอพระมหากษัตริย” ไวอยาง นาสนใจ โดยนําความหมายที่ปรากฏในพจนา นุ ก รมฉบั บ ราชบั ณ ฑิ ต ยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ที่กลาววา “ความจงรักภักดี หมายถึง ความ ผูกใจรักดวยความเคารพนับถือ หรือรูคุณ อยางยิ่ง” มาประกอบ และเนนใหเราพิจารณา ที่คําวา “รูคุณอยางยิ่ง”
๑๙
๒๐ รักษาดินแดน
วารสาร
๔,๐๐๐ โครงการ ไดเขาใจในคุณความดีของ พระองคทานอยางถองแท ผานทางพระจริยวัตร อันงดงามและเปยมไปดวยทศพิธราชธรรม แลว นอมนําแนวพระราชดําริและพระราชประสงค ของท า นมาสู วิ ถี ชี วิ ต ของเรา มาสู ก ารปฏิ บั ติ ของเรา นั่นคือความจงรักภักดีที่แทจริง และเปน ความจงรักภักดีทมี่ คี ณ ุ ภาพ หาใชความจงรักภักดี แบบพิ ธีก รรม ที่ เ ราต า งก็ ทํ า ตาม ๆ กั น ไป พูดตาม ๆ กันไป แตมิไดออกมาจากมโนธรรม สํานึก คนไทยนั้นมีความจงรักภักดีตอพระมหา กษั ต ริ ย แ ละพระบรมวงศานุ ว งศ ใ นระดั บ ดี อยูแ ลว แตทา นพระครูอยากใหเราเพิม่ “คุณภาพ”
ลงไปในความจงรักภักดีนั้นดวย ดังนั้น “ความ จงรักภักดีทมี่ คี ณ ุ ภาพ จึงเปนความจงรักภักดี ดวยปญญา มิใชเปนความจงรักภักดีเพียง พิธีกรรม แตตองเปนความจงรักภักดีดวย วิถีชีวิตที่แทจริง เพื่อจะไดเปนความจงรัก ภักดีดวยคุณภาพแบบยั่งยืน” ผู เ ขี ย นหวั ง ว า ทั ศ นะจากท า นพระครู จะจุดประกายใหคุณผูอานไดมองเห็นแนวทาง ในการแสดงออกซึง่ “ความจงรักภักดีตอ พระมหา กษัตริย” ที่มีคุณภาพ และจะไดนอมนําแนว พระราชดําริมาสูวิถีปฏิบัติในทุก ๆ วันของชีวิต ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะเปนการแสดงออกซึ่งความจงรัก ภักดีดวยคุณภาพอยางยั่งยืน
บทความดีเดน นศท.
รางวลั ชนะเลิศ นศท.ณัฐรินทร รัตนะพิบูลย ชั้นปที่ ๓ โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จังหวัดอุบลราชธานี ศูนยฝกนักศึกษาวิชาทหารมณฑลทหารบกที่ ๒๒
ความจงรักภักดี ตอสถาบันพระมหากษัตริย
รักษาดินแดน
วารสาร
กองทัพบกโดยนรด.มีความ ปรารถนาใหนศท. ้ ไดมี้ สวนร ่ วม ่ ในการแสดงออกถึงการปกปอ ้ งและ เทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริยจึง์ ได้ จัดการประกวดบทความสําหรับนศท. ทัวประเทศ ่ ในหัวขอ้ “ความจงรัก ภักดีโ”ดยผูไ้ ดรั้ บรางวัลตา่ งๆจะไดรั้ บ การประกาศเกยี รติคุณและเผยแพร่ งานเขยี นในรักษาดินแดนวารสาร
ผมเชือ่ วาคนไทยหลายคนอาจเคยไดอา นหรือไดฟง ความยิ่งใหญของพระราชาจากในนิทาน เราจะเห็นไดวา พระราชาในนิทานนั้นลวนมีคุณธรรม มีความกลาหาญ มีความสามารถมากมาย สิ่งทั้งหลายเหลานี้ ก็เปนเพียง นิทานสอนใจเราถึงแบบอยางกษัตริยที่ทรงไวซึ่งทศพิธ ราชธรรม แต สํ า หรั บ ผมนั้ น ยั ง มี จ อมกษั ต ริ ย ผู ท รง พระปรี ช าสามารถอยู พ ระองค ห นึ่ ง ที่ มิ ใ ช เ ป น เพี ย ง จอมกษัตริยในนิทาน นั่นคือพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ภูมิพลอดุลยเดช “พ่ อ” ที่ปวงชนชาวไทยตางรักและภักดี อยางสุดหัวใจ ตลอดเวลาทีพ่ ระองคทรงครองราชยนนั้ ไมมี แมเพียงสักครั้งที่จะไมเห็นพระองคเสด็จพระราชดําเนิน ไปทรงเยี่ ย มประชาชนของพระองค ใ นถิ่ น ทุ ร กั น ดาร จนอาจกลาวไดวาแผนดินไทยตั้งแตเหนือจรดใตยังไมมี ทีใ่ ดทีพ่ ระองคจะเสด็จฯ ไปไมถงึ ความยิง่ ใหญของพระองค จึงมิใชสิ่งที่เราอานพบในนิทานเทานั้น เพราะพระองค ได ท รงเป น แบบอย า งแห ง จอมกษั ต ริ ย ผู เ ป ย มไปด ว ย ทศพิ ธ ราชธรรม ผมจึ ง รู ซึ้ ง ถึ ง คํ า มั่ น สั ญ ญาที่ พ ระองค ทรงใหไวกบั ปวงชนชาวไทยทีว่ า “เราจะปกครองแผ่ นดิน โดยธรรม เพื�อประโยชน์ สขุ แห่งมหาชนชาวสยาม” บัดนี้ ไดเปนที่ประจักษตอพสกนิกรชาวไทยของพระองคแลววา พระองค ไ ด ท รงกระทํ า ตามคํ า มั่ น สั ญ ญาที่ ไ ด ใ ห ไ ว กั บ พสกนิกรของพระองคมิไดบกพรองแตประการใด
๒๑
เราในฐานะพสกนิกรชาวไทยผู้จงรักภักดี จึงควรถามตนเองได้ แล้ วว่ า จะทําอย่ างไรให้ ประเทศไทยมีความสงบสุข และร่ วมเป็ นกําลังสําคัญ ในการสร้ างสรรค์ ส� ิงดีงามตามแนวพระราชดําริ ของพระองค์ ท่านให้ อยู่ คู่กับผืนแผ่ นดินไทยตราบนานเท่ านาน
๒๒ รักษาดินแดน
วารสาร
สิ่ ง หนึ่ ง ที่ ทํ า ให ผ มรู สึ ก รั ก และเทิ ด ทู น พระบาท สมเด็จพระเจาอยูห วั คงไมพน “ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง” ผมมี ค วามชื่ น ชมในแนวคิ ด ของทฤษฎี นี้ เ นื่ อ งจากเป น ทฤษฎีการสรางความสุขใหกับตัวเองไดดํารงชีวิตไดโดย ไมเดือดรอน ประเทศไทยเองก็เคยไดรบั บทเรียนจากวิกฤติ ตมยํากุงมาแลว ก็ควรที่จะนอมรับเอาทฤษฎีนี้ไปปรับใช กับตนเอง คอยเตือนสติตนเองวาวิกฤติที่เกิดขึ้นครั้งนั้น เกิดจากการที่เรากาวไปเร็วเกินไป ความฟุมเฟอยแสวงหา ไม รู จัก พอเป น ป จ จั ย สําคัญอยางยิ่งที่จะทําใหเราตอ ง เดือดรอน พระองคจึงสอนใหคนไทยมี “ความพอเพียง พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ ้ ุมกันที�ด”ี ความพอเพียง พอประมาณก็คือใหเราสํารวจตัวเองวาเรามีกําลังทรัพย เทาไหร ควรพอไดหรือยัง ความมีเหตุผลก็คือการที่เราตอง คิดใหรอบคอบวาสิ่งที่เราตองการนั้นมีความจําเปนมาก นอยเพียงใด สุดทายคือการมีภูมิคุมกันที่ดี รูจักระงับ ยับยั้งความอยากไดอยากมีของตนเอาไว เลือกเดินทาง สายกลาง ซึ่งสิ่งเหลานี้พระองคไดทรงสั่งสอนใหคนไทย ทุกคนไดรับรูรับทราบ โดยทั่วกันแลววาเปนแนวทางการ สรางความสุขใหกับตนเองโดยไมตองแลกมาดวยสิ่งใด นอกจากนี้พระองคยังไดทรงใหความสําคัญกับ “เกษตรทฤษฎีใหม่ ” โดยไดทรงเปลี่ยนพระราชวังของ พระองคเองใหกลายเปนแปลงสาธิตการเกษตร ทรงทําการ ทดลองเลี้ยงโคนม ปลานิล ปลูกขาวดวยพระองคเอง พระองคจึงเปนกษัตริยพระองคเดียวในโลกที่ทรงทําการ เกษตรด ว ยพระองค เ อง และทรงเปลี่ ย นพระราชวั ง ของพระองคใหกลายเปนแปลงสาธิตการเกษตร พระองค
จึงเปนจอมกษัตริยผูอุทิศตนเพื่อปวงชนชาวไทยอยาง แทจริง เมื่อไดความรูใหมมานั้น พระองคก็ยังทรงถายทอด วิทยาการตาง ๆ ที่ทรงไดทดลองมานั้นใหกับเกษตรกร ชาวไทย ส ง เสริ ม ให เ กิ ด โครงการต า ง ๆ ขึ้ น มากมาย สร า งอาชี พ สร า งรายได กระจายสู สั ง คมอย า งทั่ ว ถึ ง ส ง ผลให ลู ก หลานชาวไทยมี คุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดี ขึ้ น และ ยังทรงใหความสําคัญกับการแกไขปญหาจากภัยธรรมชาติ อันเกิดจากสภาพแวดลอมในภูมิภาคตาง ๆ ทั่วประเทศ ไม ว า จะเป น การสร า งฝายชะลอนํ้ า การปลู ก กํ า แพง หญาแฝกพลิกพื้นสภาพดิน การปลูกปาชายเลนปองกัน นํ้ า ทะเลกั ด เซาะ โครงการฝนหลวง การบํ า บั ด นํ้ า เสี ย ในแมนํ้าดวยผักตบชวา พระอัจฉริยภาพของพระองค ในด า นการสร า งสรรค แ ละแก ไ ขป ญ หาของพระองค จึ ง เป น ที่ ย อมรั บ จากคนทั่ ว ทั้ ง โลกว า พระองค ท รงเป น “ยอดกษัตริ ย์นักพัฒนา ผู้ประสบความสําเร็ จในการ พัฒนามนุษย์ อย่ างยั�งยืน” แมเวลาจะผานลวงเลยมากวา ๖๔ ปที่พระบาท สมเด็ จ พระเจ า อยู หั ว ทรงงานอย า งหนั ก เพื่ อ พสกนิ ก ร ชาวไทยของพระองค แตพระราชกรณียกิจ พระจริยวัตร อั น งดงามที่ พ ระองค ท รงยึ ด ถื อ ปฏิ บั ติ ม าตลอดจะเป น แบบอย า งจอมกษั ต ริ ย ผู เ ป ย มไปด ว ยทศพิ ธ ราชธรรม เราในฐานะพสกนิกรชาวไทยผูจ งรักภักดี จึงควรถามตนเอง ไดแลววาจะทําอยางไรใหประเทศไทยมีความสงบสุข และ รวมเปนกําลังสําคัญในการสรางสรรคสิ่งดีงามตามแนว พระราชดําริของพระองคทานใหอยูคูกับผืนแผนดินไทย ตราบนานเทานาน
ถอนคํา “โรคจิตถาวร” ใน สด.๔๓ ปลดตราบาป สมานแผลใจ สาวประเภทสอง พ.ต.หญิง มาริกา ปาลกะวงศ ณ อยุธยา
ในทุก ๆ ปเมื่อถึงชวงเวลาเกณฑทหาร เราจะไดเห็นภาพสาวสวยนั่งยิ้มหวานอยูทามกลางชายหนุม จํานวนนับรอย บางคนอาจรูสึกแปลกตา บางคนอาจรูสึกขบขันในกิริยาที่พวกเธอแสดงออก มันคือ ความตรงกันขามที่ไมนาจะปรากฏในการเกณฑทหารที่ควรจะมีแตผูชายเทานั้น ดังนั้นพวกเธอจึงกลายเปน จุดสนใจและเปนสีสันใหกับหนวยตรวจเลือกฯ หลายแหงเสมอมา
...พวกเธอเหล่านี้ คือเจ้าของนิยามค�าว่า “สาวประเภทสอง”
รักษาดินแดน
วารสาร
พู ด กั น ตามตรง โดยธรรมชาติ แ ล้ ว สาว ประเภทสองเหล่านี้ คือผู้ที่มเี พศก�าเนิดเป็นชาย หากแต่มจี ติ ใจและความประพฤติค่อนไปทางหญิง ซึ่งในทางกฎหมายรับราชการทหารแล้ว แม้ว่า คนกลุ่มนี้จะมีจิตใจเป็นหญิง และมีสภาพร่างกาย เป็นหญิง แต่ตามเพศก�าเนิดแล้วทุกคนต่างก็ยัง คงมีหน้าที่ของ “ลูกผู้ชายไทย” ที่ต้องปฏิบัติตาม กฎหมายอย่างเคร่งครัด... ชายไทยทุกคนจึงต้องไป เข้ารับการตรวจเลือกทหารฯ
2๓
เมือ่ สาวประเภทสองเข้ารับการตรวจเลือก ทหารฯ
24 รักษาดินแดน
วารสาร
“สาวประเภทสอง” มี อ ยู ่ ด ้ ว ยกั น หลาย ลั ก ษณะ ซึ่ ง สิ่ ง ส� ำ คั ญ ที่ ท� ำ ให้ แ ต่ ล ะคนมี ค วาม แตกต่างกัน คือ ระดับ ของการปรับ แต่ งสภาพ ร่างกาย บางรายได้ท�ำการปรับแต่งสภาพร่างกาย บางส่วน เช่น การท�ำศัลยกรรมหรือใช้ฮอร์โมนเสริม หน้าอก ให้มีลักษณะละม้ายคล้ายหญิง บางราย มีการปรับแต่งอย่างสมบูรณ์ที่เรารู้จักกันว่าเป็น “การแปลงเพศ” ซึ่ ง ทั้ ง สองกลุ ่ ม นี้ จ ะด� ำ รงชี วิ ต เหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่อย่างไรก็ดี ยังมีบางรายที่ จิ ต ใจไปทางหญิ ง แล้ ว แต่ ไ ม่ ไ ด้ แ ปลงเพศ โดย ยังคงสภาพร่างกายปกติเฉกเช่นชายทั่วไป... อะไร จะเกิดขึ้นเมื่อพวกเธอไปเกณฑ์ทหาร? ข้อมูลจากกองการสัสดี นรด. ท�ำให้ทราบว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีสาวประเภทสองมาเข้ารับ การตรวจเลือกทหารฯ อยู่เนือง ๆ โดยกลุ่มสาว ประเภทสองที่ท�ำศัลยกรรมแปลงเพศแล้วจะพบ ไม่มาก ซึ่งคณะกรรมการตรวจเลือกฯ จะให้เกียรติ และรีบปล่อยตัว ส่วนผูท้ เี่ สริมหน้าอกแต่ยงั ไม่แปลง เพศมีจำ� นวนเฉลีย่ ทัง้ ประเทศประมาณร้อยละ ๐.๕ ทั้งนี้จ�ำนวนของสาวประเภทสองจะพบมากในเขต หรื อ อ� ำ เภอที่ มี ค วามเจริ ญ แล้ ว คื อ ประมาณ ร้ อ ยละ ๑ ของผู ้ เ ข้ า รั บ การตรวจเลื อ กฯ ซึ่ ง ก็ หมายความว่าในแต่ละวันของแต่ละหน่วยจะมี ประมาณ ๔ - ๕ คนเท่านั้น และหากในแต่ละปี มีชายไทยเข้ารับการตรวจเลือกทหารฯ ประมาณ ๔๕๐,๐๐๐ คน ก็จะมีสาวประเภทสองประมาณ ๒,๐๐๐ คนทั่วประเทศ เมื่อถึงเวลาที่สาวประเภทสองจะต้องไปเข้า รับการตรวจเลือกทหารฯ พวกเธอก็ต้องใช้หลัก เกณฑ์เช่นเดียวกับกลุม่ ชายแท้ กล่าวคือ เมือ่ ถึงเดือน
ต.ค. - ก.พ. ของปี ก่อนการตรวจเลือกทหาร กองทัพบก ได้เปิดโอกาสให้ทหารกองเกินที่เห็นว่าตนเองเป็น โรคทีข่ ดั ต่อการรับราชการ เข้ารับการตรวจโรคก่อน การตรวจเลือกฯ ได้ที่ รพ.ทหารบก ๑๙ แห่งทั่ว ประเทศ และน�ำใบส�ำคัญความเห็นแพทย์ไปแสดง ต่อคณะกรรมการตรวจเลือกฯ ในวันตรวจเลือกฯ ได้ ด ้ ว ย ซึ่ ง ในวั น ตรวจเลื อ กฯ คณะกรรมการ ตรวจเลื อ กฯ จะต้ อ งด� ำ เนิ น การตามขั้ น ตอนที่ กฎหมายก�ำหนด ตั้งแต่การเรียกชื่อ ตรวจร่างกาย วัดขนาดร่างกายและจับสลาก ทั้งนี้หากคณะกรรมการตรวจเลือกฯ สังเกต เห็นสาวประเภทสอง โดยประเมินจากรูปลักษณ์ ภายนอก การแต่งกาย หากมีสภาพร่างกาย กิริยา อาการเป็นสาวประเภทสอง คณะกรรมการตรวจ เลือกฯ จะแยกไปตรวจในห้องลับส�ำหรับตรวจโรค โดยแพทย์ประจ�ำคณะกรรมการตรวจเลือกฯ พร้อม กับกรรมการอีก ๑ นาย จะร่วมกันตรวจและลง ความเห็นร่วมกัน หากเห็นว่ามีการดัดแปลง ตัดแต่งอวัยวะร่างกายก็จะพิจารณาก�ำหนด เป็นคนจ�ำพวกที่ไม่ต้องเข้ารับราชการทหาร แต่หากเห็นว่ามีร่างกายสมบูรณ์เป็นปกติเหมือน ชายทั่วไป ก็จะต้องด�ำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือ
วัดขนาดร่างกายและจับสลากเช่นเดียวกับชาย ทั่วไป โดยหากจับสลากแดงถูกเข้ากองประจ�ำการ ก็จะแจ้งให้หน่วยทหารดูแลช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจเลือกฯ แล้ว หากผู้ถูก เข้ า กองประจ�ำ การเห็ น ว่ า คณะกรรมการตั ด สิ น ไม่ถูกต้องหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถ ยื่ น ค� ำ ร้ อ งต่ อ คณะกรรมการชั้ น สู ง ให้ ตั ด สิ น ใหม่ได้ โดยค�ำตัดสินของคณะกรรมการชั้นสูงถือ เป็นที่สุด
“โรคจิตถาวร” ใน สด.๔๓ ...ตราบาป ติดตัว ??
รักษาดินแดน
วารสาร
แม้จะมีการปฏิบตั อิ ย่างเท่าเทียมแล้วก็ตาม แต่ เ นื่อ งจากพวกเธอมีส ภาพร่ า งกายและจิต ใจ เป็นหญิงซึ่งอาจเป็นการไม่เหมาะสมหากต้องใช้ ชีวิตและฝึกร่วมกับพลทหารชายแท้ ดังนั้นจึงได้ มีความพยายามที่จะช่วยเหลือสาวประเภทสอง ให้ผ่านการตรวจเลือกทหารฯ อย่างถูกต้อง โดย หลั ง จากที่ ไ ด้ ต รวจร่ า งกายและลงความเห็ น โดยแพทย์และกรรมการตรวจเลือกฯ แล้ว ขั้นตอน ต่อไปก็คอื การลงบันทึกทางเอกสาร... ขัน้ ตอนนีเ้ อง ที่น�ำมาซึ่งปัญหาใหญ่ เนื่ อ งจากในปั จ จุ บั น ยั ง ไม่ มี ก ฎกระทรวง ที่ ร ะบุ ลั ก ษณะอาการส� ำ หรั บ สาวประเภทสอง ไว้เป็นการเฉพาะ คณะกรรมการตรวจเลือกฯ จึงต้อง เทียบเคียงกับอาการโรคตามกฎกระทรวงที่ไม่ต้อง ส่งเข้ารับราชการทหาร ดังนัน้ ในหลักฐานทางทหาร ของสาวประเภทสองจึงมีถ้อยค�ำ เช่น “โรคจิต ถาวร” หรือ “โรคจิตผิดปกติถาวร” หรือแม้ กระทั่ง “หน้าอกผิดรูป” ฯ ลฯ แม้จะเป็นเจตนาที่ดีในการช่วยเหลือแบบ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และไม่ได้มีผลต่อประวัติด้าน สุขภาพแต่อย่างใด แต่ถ้อยค�ำเหล่านี้กลับเป็น เสมือนตราบาปทีต่ ดิ อยูใ่ นประวัตชิ วี ติ ของบุคคลนัน้ และก่อให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจ�ำวัน การศึ ก ษา และการประกอบสั ม มาชี พ ของสาว ประเภทสอง บางรายอาจถึ ง ขั้ น สู ญ เสี ย โอกาส ทางการศึกษาและหน้าที่การงานที่ดี ซึ่งปัจจุบัน นี่คือหลักปฏิบัติที่กระทรวงกลาโหมได้ถือ ก็ ไ ด้ มี ก รณี ตั ว อย่ า งที่ ผู ้ เ สี ย หายยื่ น ฟ้ อ งต่ อ ศาล ปฏิบัติตลอดมา ไม่ว่าจะทั้งกับชายแท้และสาว เพื่อขอแก้ไขหลักฐานทางทหารอยู่หลายกรณี และ ประเภทสอง ทุ ก คนต้ อ งได้ รั บ การปฏิ บั ติ อ ย่ า ง บางกรณี ก็ ไ ด้ เ ป็ น ข่ า วครึ ก โครมทางสื่ อ มวลชน อีกด้วย เท่าเทียมและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
25
ดังนั้นเพื่อมิให้เป็นการกระทบกระเทือนต่อ สภาพจิตใจและการด�ำเนินชีวิต รวมทั้งยังเป็นการ ให้เกียรติในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน หน่วยงานต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องไม่ว่าจะเป็นส่วนทหาร เช่น กระทรวงกลาโหม กองทัพบก หน่วยบัญชาการ รักษาดินแดน หรือแม้กระทั่งส่วนพลเรือน เช่น กระทรวงมหาดไทย กรมสุขภาพจิต และคณะ กรรมการสิทธิมนุษยชน ฯ ลฯ ต่างก็ให้ความสนใจ ที่จะแก้ไขถ้อยค�ำส�ำหรับระบุในเอกสารทางทหาร ของสาวประเภทสอง
แก้ไขถ้อยค�ำ...ท�ำอย่างไรดี ?
26 รักษาดินแดน
วารสาร
ประเด็นเรื่องถ้อยค�ำที่ระบุใน สด.๔๓ เป็น เรื่องที่ใกล้ตัวประชาชน เป็นปัญหาที่รอการแก้ไข มานาน และยังเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน จนมี ส�ำนักข่าวหลายแห่งติดต่อมาเพือ่ ขอสัมภาษณ์และ ขอทราบข้อมูลจาก นรด. ในเรื่ อ งนี้ ผู ้ เ ขี ย นได้ มี โ อกาสเข้ า พบท่ า น ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน พล.ท. ชูเกียรติ เธียรสุนทร โดยท่านได้ให้ความกระจ่าง เกี่ยวกับที่มาที่ไปของปัญหานี้ พร้อมทั้งให้แนวคิด ในการแก้ไขถ้อยค�ำดังกล่าว ด้วยวิธีการที่ช่วยให้ ผู้เขียนเข้าใจได้ง่าย ๆ (เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเข้าใจ ยากส�ำหรับคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไป และไม่เข้าใจระบบ การคัดเลือกทหาร...อย่างดิฉัน) ก็เลยจะน�ำมาเล่า ต่อให้คุณผู้อ่านทราบค่ะ ในการแก้ไขถ้อยค�ำส�ำหรับเรียกสาวประเภท สอง ควรค�ำนึงถึงหลัก ๓ ประการ คือ ถูกต้อง ตามหลักการแพทย์ ถูกใจผู้บังคับใช้กฎหมาย และที่ส�ำคัญ “ถูกใจผู้ใช้” ด้วย กล่าวคือ ๑. ถูกต้องตามหลักการแพทย์ : ควร เรียกชื่อให้ถูกต้องตามหลักวิชาการแพทย์สากล
เพื่ อ ให้ ก รรมการแพทย์ ไ ด้ ล งความเห็ น ถู ก ต้ อ ง ตามชื่ อ โรคทางวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเป็ น ที่ ย อมรั บ ของทุกประเทศได้ ๒. ถูกใจผู้บังคับใช้กฎหมาย : มีความ สะดวกต่อการบังคับใช้กฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ และ เกิดความเป็นธรรมกับทุกคน มิใช่ว่าใครที่ไม่อยาก เป็นทหารก็ทำ� ท่ากระตุ้งกระติง้ หรือนุ่งกระโปรงมา กล่ า วคื อ ไม่ เ ป็ น ช่ อ งทางในการหลี ก เลี่ ย งการ รับราชการทหาร ๓. ถูกใจผูใ้ ช้ : ต้องไม่เป็นอุปสรรคในการ ประกอบอาชีพ หรือเป็นปมด้อยทางสังคม สรุปก็คอื จะต้องได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย
กว่าจะมาเป็นค�ำว่า “ภาวะเพศสภาพไม่ตรง กับเพศก�ำเนิด” ส�ำ หรับ ที่ม าของการเปลี่ย นแปลงถ้ อ ยค�ำ ใน สด.๔๓ ส� ำ หรั บ กลุ ่ ม สาวประเภทสองนั้ น พ.อ.สอาด ยศพลเสนี ย ์ ผู ้ ช ่ ว ยผู ้ อ� ำ นวยการ กองการสัสดี นรด. ได้ให้ข้อมูลกับผู้เขียนว่า ได้ มีความพยายามในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงถ้อยค�ำ ใน สด.๔๓ มาตั้ ง แต่ ป ี ๒๕๔๙ โดยได้ มี ก าร ประชุมหารือโดยภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย (ซึ่งเป็น ผู้รักษากฎหมาย) แพทย์ พร้อมด้วยภาคเอกชน ซึ่งเป็นองค์กรเครือข่ายความหลากหลายทางเพศ เกี่ยวกับเอกสารการตรวจเลือกทหารฯ ของสาว ประเภทสอง และที่ประชุมได้มีความเห็นให้แก้ไข กฎกระทรวง ก�ำหนดโรคและความผิดปกติของ ผู ้ ที่ มี ร ่ า งกายและจิ ต ใจเป็ น หญิ ง โดยเพิ่ ม เติ ม ให้เป็น “คนจ�ำพวก ๒” ซึ่งในที่ประชุมได้มีการ เสนอให้ใช้ขอ้ ความ ซึง่ แปลมาจากชือ่ ภาษาอังกฤษ ที่ว่า “Gender Identity Disorder” อาทิ
สมานแผลใจ สาวประเภทสอง คุณผูอ้ า่ นคงสงสัยว่า แล้วคนทีใ่ นใบ สด.๔๓ ได้ระบุว่าเป็น “โรคจิตถาวร” ไปเสียแล้ว จะแก้ไข อย่างไร? เรื่องนี้ท่าน ผบ.นรด. ไม่ได้นิ่งนอนใจค่ะ ท่ า นได้สั่ง การให้อ อกประกาศหน่ว ยบัญชาการ รักษาดินแดน เพือ่ ชีแ้ จงและแจ้งให้สาวประเภทสอง ที่ ใ นใบ สด.๔๓ ได้ ร ะบุ ถ ้ อ ยค� ำ เช่ น “โรคจิ ต ถาวร” “โรคจิ ต ผิ ด ปกติ ถ าวร” หรื อ “หน้ า อก ผิดรูป” แล้วก่อให้เกิดผลกระทบทางการศึกษาและ การประกอบอาชีพ สามารถมาติดต่อขอรับหนังสือ รับรองประกอบใบ สด.๔๓ ได้ที่ กองการสัสดี
หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร กรุงเทพฯ หรือโทรศัพท์มาปรึกษา ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข ๐-๒๒๒๓-๓๒๕๙ ๐-๒๒๒๓-๓๔๒๑ ในเวลาราชการ คุ ณ ผู ้ อ ่ า นที่ มี บุ ต รหลานหรื อ รู ้ จั ก ใครที่ มี ปัญหาเช่นนี้ ฝากท่านได้นำ� ข่าวนีไ้ ปบอกต่อกันด้วย นะคะ ทัง้ นีผ้ เู้ ขียนได้แนบประกาศและตัวอย่างของ หนังสือรับรองที่ นรด. จะออกให้มาด้วยแล้วค่ะ นีก่ ใ็ กล้ถงึ เวลาทีจ่ ะต้องเตรียมตัวส�ำหรับการ ตรวจเลือกทหารฯ ในปี ๒๕๕๕ แล้วนะคะ อย่าลืม เตือนลูกหลาน หากเห็นว่าตนเองน่าจะเป็นโรคที่ ขัดต่อการรับราชการ ก็ให้ไปรับการตรวจโรคก่อน การตรวจเลือ กฯ ได้ ที่ รพ.ทหารบก ๑๙ แห่ ง ทั่วประเทศ และอย่าลืมน� ำ ใบส� ำ คัญ ความเห็น แพทย์ ไ ปแสดงต่ อ คณะกรรมการตรวจเลื อ กฯ ในวันตรวจเลือกฯ ด้วย อ๊ะ ๆ นี่ผู้เขียนแนะน�ำเพื่อเป็นประโยชน์ อย่างบริสุทธิ์ใจนะคะ มิได้ชี้ช่องทางให้ท่านพากัน ท�ำผิดกฎหมาย เกิดเป็นชายไทย ต้องไปท�ำหน้าที่ ของลูกผูช้ ายอย่างสมศักดิศ์ รี จับได้สลากแดงจะไป กลัวท�ำไม ชีวิตนี้จะได้เป็นทหารสักกี่ครั้งกัน ที่ ส� ำ คั ญ อย่ า ให้ อ ายสาวประเภทสองเลย แม้ว่าพวกเธอจะปฏิเสธสภาพร่างกายและจิตใจ ที่เป็นชาย แล้วหันมาประพฤติตนเป็นหญิง แต่ พวกเธอยังคงเหลือจิตส�ำนึกการท�ำหน้าที่ลูกผู้ชาย ไทยเท่ า ๆ กั บ ที่ ช ายไทยทั้ ง แท่ ง พึ ง มี . ..พบกั น วันตรวจเลือกทหารฯ นะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก กองการสัสดี นรด. โดย พ.อ.ชาติชาย แจ้งสี ผอ.กสด.นรด.
รักษาดินแดน 27 วารสาร
๑. “ความผิดปกติในการรับรู้หรือการ ยอมรับเพศทางร่างกายของตน” ๒. “ร่ า งกายผิ ด ปกติ อั น เนื่ อ งมาจาก ความผิดปกติในการรับรู้หรือการยอมรับเพศ ทางร่างกายของตน” ๓. “มีรา่ งกายทีผ่ ดิ ปกติอนั เนือ่ งมาจาก ความผิดปกติในการรับรู้หรือการยอมรับเพศ ทางร่างกายของตน” ๔. “มีร่างกายแตกต่างจากเพศก�ำเนิด ชาย” เป็นที่น่าเสียดายที่ข้อความซึ่งถูกน�ำเสนอ เหล่านี้ได้ถูกคัดค้านจากกลุ่มเครือข่ายองค์กรสิทธิ มนุษยชน เนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะ มีข้อความว่า “ผิดปกติ” รวมอยู่ด้วย จึงมีผู้เสนอ ข้อความใหม่ว่า “ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศ ก�ำเนิด” และใช้ชื่อภาษาอังกฤษ คือ “Gender Identity Disorder” ซึง่ ก็เป็นทีพ่ งึ พอใจของทุกฝ่าย และขณะนี้ อ ยู ่ ใ นขั้ น ตอนการแก้ ไ ขกฎกระทรวง ของคณะกรรมการกฤษฎี ก า โดยคาดว่ า น่ า จะ ประกาศใช้ได้ในการตรวจเลือกทหารฯ ในปี ๒๕๕๕
วารสาร
2๘ รักษาดินแดน
วารสาร
รักษาดินแดน 2๙
ขาวดวน !!! ถึง วาที่ผูหมวดใหม
ขาวนี้สําคัญมาก สําหรับผูที่จะเขารับการประดับเครื่องหมายยศ รอยตรี ประจําป ๒๕๕๕ ขอแจงใหผูที่ไดรับการแตงตั้งยศเปนวาที่รอยตรี ในสวนของกองทัพบก ตามคําสั่ง กระทรวงกลาโหม เรือ่ งแตงตัง้ ยศทหารใหนกั ศึกษาวิชาทหาร เฉพาะปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ทีม่ คี วามประสงคจะเขารวมในพิธปี ระดับเครือ่ งหมาย ยศรอยตรี ในสวนของกองทัพบก ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๕ ไดนาํ สําเนาคําสั�งแต่ งตัง� ยศว่ าที� ร้ อยตรี และบัตรประจําตัว ประชาชน มาแสดงความจํานงดวยตนเองที่ กองการเตรียมพล หนวยบัญชาการรักษาดินแดน (สวนเจาเชตุ) ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร กทม. ในวันและเวลาราชการ ติดตอไดตั้งแตบัดนี้เปนตนไป จนถึงสิน� เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ หากพนกําหนดแลวไมวาจะกรณีใด ถือวาทานสละสิทธิ์ในการเขารวมในพิธีประดับเครื่องหมาย ยศรอยตรี จาก กองทัพบก ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๕ และในปตอ ๆ ไปดวย
๓๐ รักษาดินแดน
วารสาร
รูแลวฝากบอกตอ ๆ กันไปดวย... รับทราบ!!!
วารสาร
รักษาดินแดน
๓๑
พ.อ.อภิชาติ จงเกษม
ใน
๓๒ รักษาดินแดน
วารสาร
วันศุกรที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ จะเปนวันครบรอบ ๑๐๐ ป ของการจัดตั้ง กิ จ การเสื อ ป า ขึ้ น ในประเทศไทย เมื่ อ วั น ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๔๕๔ และ กองทั พ บกได ถื อ ว า วั น ดั ง กล า วเป น วั น สํ า คั ญ เพื่ อ น อ มระลึ ก ถึ ง พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว ที่ไดทรงจัดตั้งกองเสือปาขึ้น เพื่อเปนหนวยกําลัง ประชาชนสําหรับชวยเหลือกองทัพในยามสงคราม อันเปนตนกําเนิดของกําลังสํารองในปจจุบัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัวทรงจัดตั้งกองเสือปาขึ้นเพื่อปกปองประเทศชาติ จากการลาอาณานิคมของประเทศตะวันตกในสมัยนั้น โดยทุกมณฑลหัวเมืองจะมี กองเสือปา เรียกวา “กรมเสือปาเสนารักษาดินแดนมณฑล” มีดวยกัน ๒๐ มณฑลทั่วประเทศ โดยมี ขาหลวงเทศาภิบาลทําหนาที่ผูบังคับการกรมเสือปาในมณฑลของตน ขึ้นสังกัดโดยตรงตอ พระมหากษัตริย มีหนาที่ชวยเหลือทางราชการรักษาความสงบเรียบรอยของบานเมือง, ถวายอารักขาพระมหากษัตริย และชวยเหลือเพื่อนมนุษยโดยไมหวังผลตอบแทน
รักษาดินแดน ที่ยังคงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว หนวยบัญชาการรักษาดินแดน ไดขออนุมัติ กองทัพบก ใหวันที่ ๖ พฤษภาคมของทุกป เปน “วันกําลังสํารอง” เมือ่ วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๔๗ ซึง่ กองทัพบกเห็นวาเปนเรื่องที่เกี่ยวของกับประชาชน ทั้งประเทศ จึงใหเสนอเรื่องตามสายการบังคับ บัญชาเพื่อเขารับการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี ให กํ า หนดเป น “วั น กํ า ลั ง สํ า รองแห ง ชาติ ” ซึ่ ง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๔๘ ดังกลาว ไดอนุมตั ติ ามมติคณะกรรมการกลัน่ กรอง
เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ชุดที่ ๗ (ฝายกฎหมาย พลังงาน ระบบราชการ และประชาสัมพันธ) และ ไดอนุมัติใหกระทรวงกลาโหมกําหนดใหวันที่ ๖ พฤษภาคมของทุกป เปน “วันกําลังสํารอง” โดยยังไมตอ งกําหนดใหเปนวันแหงชาติ แตให ถือเปนวันสําคัญของกระทรวงกลาโหม และจัด กิจกรรมตามความเหมาะสม ทัง้ นีห้ ากดําเนินการ ไประยะหนึ่งแลว สามารถมีกิจกรรมรวมกันกับ กลุ ม เป า หมายต า ง ๆ ซึ่ ง สะท อ นคุ ณ ค า และ
รักษาดินแดน
วารสาร
หน ว ยบั ญ ชาการรั ก ษาดิ น แดน ในฐานะ หนวยงานกํากับดูแลกิจการกําลังสํารอง ไดจัด การประชุมหนวยงานที่เกี่ยวของ รวมกันพิจารณา กํ า หนด “วั น กํ า ลั ง สํ า รอง” เพื่ อ น อ มระลึ ก ถึ ง พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ของพระบาทสมเด็ จ พระมงกุ ฎ เกล า เจ า อยู หั ว และได ข อความเห็ น ชอบไปยั ง วั ง รื่ น ฤดี เมื่ อ พฤศจิ ก ายน ๒๕๔๗ โดยท า นผู ห ญิ ง บุ ต รี วี ร ะไวทยะ ผู บ ริ ห ารงาน ในสมเด็จพระเจาภคินีเธอ เจาฟาเพชรรัตนราช สุดา สิริโสภาพัณณวดี ตอบรับใหทราบวา ทรงมี รับสั่งอนุโมทนายินดีและชื่นชมหนวยบัญชาการ
๓๓
๓๔ รักษาดินแดน
วารสาร
เกิดความเปนปกแผนมากขึ้น อาจกําหนดใหเปน วันสําคัญแหงชาติไดในภายหนา ในการนีห้ นวยบัญชาการรักษาดินแดน จึงได ร ว มกั บ หน ว ยงาน/องค ก รกํ า ลั ง สํ า รอง ได มี การดํ า เนิ น กิ จ กรรม “วั น กํ า ลั ง สํ า รอง” ตั้ ง แต วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๘ เปนตนมาจนถึง ปจจุบัน โดยมีกิจกรรมที่สําคัญไดแก การถวาย พานพุ ม พระบรมราชานุ ส าวรี ย พ ระบาทสมเด็ จ พระมงกุ ฎ เกล า เจ า อยู หั ว , การบริ จ าคโลหิ ต , การบําเพ็ญสาธารณประโยชน, พิธีสงฆ, การจัด บอรดแสดงนิทรรศการของหนวยงาน/องคกรกําลัง สํารอง สํ า หรั บ วั ต ถุ ป ระสงค ข องการกํ า หนดวั น กําลังสํารอง ประกอบดวย ๓ ประการ คือ ๑. เพือ่ เปนการระลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ และเทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ ๖ ที่ไดทรงกอตั้ง กองเสือปา อันเปนตนกําเนิดของกําลังสํารอง
๒. เพื่อ ปลุก จิตสํานึก ในความรับผิดชอบ ตอหนาที่ของการเปนกําลังสํารองของชาติ เพื่อ ช ว ยเหลื อ และสนั บ สนุ น ให ป ระเทศชาติ มี ค วาม เจริญและมั่นคงสืบตอไป ๓. เพือ่ เสริมสรางความสัมพันธอนั ดีระหวาง กําลังสํารอง และกําลังประจําการ อันจะนํามาซึ่ง ความสามัคคีของคนในชาติเปนสวนรวม กําลังสํารอง ตามแผนการระดมสรรพกําลัง ของกระทรวงกลาโหม หมายถึง “กําลังที่มใิ ชกาํ ลัง ประจําการและกองประจําการทีเ่ ตรียมไวใชในยาม สงคราม, ยามประกาศกฎอัยการศึก, ยามประกาศ สถานการณฉกุ เฉิน หรือในยามปฏิบตั กิ ารดวยการ ใชกาํ ลังทหารขนาดใหญ เพือ่ ปกปองคุม ครองรักษา เอกราชและอธิปไตยของชาติ หรือเพื่อรักษาความ สงบเรียบรอยและความมั่นคงภายในประเทศ ซึ่ง ประกอบดวยกําลังตาง ๆ คือ กําลังพลสํารอง กํ า ลั ง กึ่ ง ทหาร กลุ ม พลั ง มวลชนจั ด ตั้ ง โดยมี กฎหมายรองรับ และกลุมพลังมวลชนอื่น ๆ” สําหรับการจัดกิจกรรม “วันกําลังสํารอง” ในวันศุกรที่ ๖ พ.ค. ๕๔ มีหนวยรับผิดชอบ จํานวน ๕ หนวย คือ นรด., ทภ.๑, ทภ.๒, ทภ.๓ และ ทภ.๔ ซึ่งจะมีกิจกรรมที่สําคัญ ไดแก พิธีวางพานพุม ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย (หรือพระบรม ฉายาลั ก ษณ ) พระบาทสมเด็ จ พระมงกุ ฎ เกล า เจาอยูห วั , พิธสี งฆ, การเลีย้ งพระทีโ่ รงพยาบาลสงฆ, การมอบโล แ ละเกี ย รติ บั ต รให กั บ ผู ส นั บ สนุ น กิจกรรมวันกําลังสํารอง, รับประทานอาหารกลางวัน, การไปเยีย่ มและมอบสิง่ ของใหกบั ทหารและตํารวจ ที่ไดรับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหนาที่ใน ๓ จชต. ณ โรงพยาบาลเหล า ทั พ , การบริ จ าคโลหิ ต , โครงการคลองสวย-นํ้าใสรวมกับกรุงเทพมหานคร และการลงนามถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราช
สุภาพบุรุษ
นักศึกษาวิชาทหาร พ.ต.หญิง มาริกา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา
“ขาไมตองการตําราเรียนที่เดินได ที่ขาอยากไดนั้น คือ เยาวชนที่เปนสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย สุจริต มีอุปนิสัยใจคอดี” พระราชดํารัสพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว
พ
รักษาดินแดน
วารสาร
ระราชดํารัสของลนเกลาฯ รัชกาลที่ ๖ ดังกลาว เปนเสมือนแนวทางสําคัญทีค่ รูทหารจากทุกศูนยฝก และหนวยฝกนักศึกษาวิชาทหาร ไดนอ มนําใชในการปลูกฝงใหเยาวชนมีจติ สํานึกทีด่ ี รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย และมีจติ ใจทีเ่ ปนสุภาพบุรษุ มีจติ สาธารณะ เห็นประโยชนของสวนรวมมากอนประโยชนสว นตัวเสมอ จึงอาจกลาวไดวาการเรียน รด. เปนอีกองคประกอบหนึ่งที่รวมสรางคนดี มีจิตสาธารณะใหแกประเทศชาติ
๓๕
๓๖ รักษาดินแดน
วารสาร
ที่กลาวไปขางตนอาจเปนนามธรรมเกินไป วันนี้ “รักษาดินแดนวารสาร” จึงขอนําเรื่องราว ที่ เ กิ ด ขึ้ น จริ ง ของเยาวชนคนดี ที่ มี ตั ว ตนจริ ง ๆ มาเลาสูกันฟง เพื่อใหทุกทานไดรวมกันสรรเสริญ ในคุณความดีของเด็ก ๆ เหลานั้น เหตุการณนี้เกิดขึ้น ณ สถานีรถไฟหัวลําโพง เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๔ มีคณะนักเรียน จากจังหวัดกระบี่รวม ๒๐๐ คน ซึ่งเดินทางมา ทัศนศึกษายังกรุงเทพมหานคร ไดเกิดอาการปวย ดวยโรคอาหารเปนพิษกะทันหันขณะกําลังเตรียม ตัวขึ้นรถไฟกลับบาน เปนที่อลหมานกันทั้งสถานี ในความสับสนอลหมานนี้เอง มีนักศึกษา วิชาทหารกลุมหนึ่งไดมีนํ้าใจเขาชวยเหลือลําเลียง นอง ๆ ผูปวยและขาวของสัมภาระออกจากขบวน รถไฟโดยไมรงั้ รอและไมนกึ ถึงความเหนือ่ ยยากของ ตนเอง ทําใหการลําเลียงเปนไปดวยความรวดเร็ว บรรดาผู ป วยไดรับ การนํา ส งโรงพยาบาลได ทัน ทวงที เจาหนาที่กูชีพกูภัยไดผูชวยเพิ่มเติม ทําให สถานการณ ที่ สั บ สนวุ น วายสงบลงได ใ นเวลา อันรวดเร็ว ถือวาเปนการกระทําที่เปนประโยชน ตอสังคมอยางมาก เปนที่ประทับใจตอผูพบเห็น เจ า หน า ที่ กู ชี พ กู ภั ย เจ า หน า ที่ ตํ า รวจ รวมทั้ ง คณะครู-นักเรียนผูประสบเหตุ สมควรไดรับการ ยกยองชมเชยอยางจริงใจ
สุภาพบุรุษนักศึกษาวิชาทหารกลุมดังกลาว มีดว ยกัน ๓๒ นาย (ดังรายนามทีป่ รากฏ) ทุกคนเปน นศท. ชั้นปที่ ๓ จากโรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท อุปถัมภ) เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งเพิ่งกลับจาก การฝกภาคสนามและกําลังรอรถไฟเพื่อกลับบาน การชวยเหลือนอง ๆ ที่ไมสบายในครั้งนี้เกิดขึ้น อยางทันทวงที โดยไมตองใหใครสั่ง ไมตองรองขอ แสดงใหเห็นถึงความมีนํ้าใจของ นศท. กลุมนี้ ซึ่งในการนี้ วาที่รอยโท บัญญัติ เสกนําโชค อาสาสมัครหนวยแพทยกชู วี ติ โรงพยาบาลกลาง ไดเปนตัวแทนของเจาหนาที่ทุกคน มีหนังสือมาถึง หนวยบัญชาการรักษาดินแดนและรักษาดินแดน วารสาร เพือ่ ใหไดชว ยกันประกาศเกียรติคณ ุ ในนํา้ ใจ ดังกลาว ดังมีใจความตอนหนึ่งวา... “ในการนี้ กระผมจึ ง ขอกราบเรี ย นผู บั ญ ชาการหน ว ย บัญชาการรักษาดินแดน ไดประกาศขอบคุณ และประกาศเกี ย รติ คุ ณ ยกย อ งต อ คุ ณ งาม ความดี นั ก ศึ ก ษาวิ ช าทหารกลุ ม ดั ง กล า ว ใหสงั คมไดรบั ทราบ เพือ่ เปนกําลังใจให นศท. ดังกลาวไดกระทําความดีสืบตอไปและเปน ตัวอยางที่ดีแก นศท. อื่น ๆ อีกทั้งยังเปน การสงเสริมให นศท. มีจิตสาธารณะในการ ชวยเหลือสังคม แมภายนอกจะแตงกายดวย เครื่ อ งแบบที่ น า เกรงขาม แต ภ ายในจิ ต ใจ
จะตองมีจติ ใจทีโ่ อบออมอารี มีนาํ้ ใจ ถึงจะเปน ชายชาติทหารทีแ่ ทจริง อันเปนการสรางความ ภาคภู มิ ใ จต อ นศท. และเป น ภาพลั ก ษณ ที่ดีของการเปนนักศึกษาวิชาทหารตอไปใน อนาคตอีกดวย” แมวา ขณะนีน้ อ ง ๆ ผูป ว ยทุกคนจะไดเดินทาง กลั บ ถึ ง บ า นอย า งปลอดภั ย แล ว แต เ รื่ อ งราว ความมีนํ้าใจชวยเหลือสังคมโดยไมนิ่งดูดายของ
สุภาพบุรุษ นศท. กลุมนี้ จะเปนอีกหนึ่งตัวอยาง ที่ดีให นศท. อื่น ๆ ไดปฏิบัติตาม อีกทั้งยังเปนการ สงเสริมใหคนที่ทําความดี มีจิตสํานึกสาธารณะ อยูแลว ไดมีกําลังใจในการทําความดีตอไป ซึ่งคุณ ความดีเหลานีล้ ว นเปนสิง่ ทีเ่ รา ๆ ทาน ๆ ปรารถนา ที่จะเห็นเปนอยางยิ่งในสภาพสังคมที่ผูคนหลงลืม การมีนํ้าใจชวยเหลือกันเชนทุกวันนี้
หนวยบัญชาการรักษาดินแดน
ขอยกยองชมเชย “สุภาพบุรุษจากโรงเรียนสีกัน (วัฒนานันทอุปถัมภ) นักศึกษาวิชาทหาร” ทั้ง ๓๒ นาย ดังรายนามตอไปนี้ คุนผลิน กองนฤต คธาชาง ทองทิพย พารวย สียางนอก วงศนพรัตน พันธนาเสวี ยอดเจริญ ตุมเลียง จิตตหาญ
นศท.เกริกไกร นศท.กิตติชัย นศท.ณัฐวุฒิ นศท.อานุภาพ นศท.ชาคริต นศท.ณัฐวัฒน นศท.สุพีศิน นศท.ภาณุเดช นศท.อนุชา นศท.จรูญวิทย นศท.ธีรพัชร
สุขชาติ ทับทอง มะแปนไพร อาทิเวช ชูชาติ แตมเกิด สุขโร ศักดิ์ดี วรรักษ โมกจวานนท ใจเดช
นศท.โชติเวทย นศท.เสกสรรค นศท.อพิเชษฐ นศท.สุพรเทพ นศท.วันครู นศท.ปยสวัสดิ์ นศท.นราดร นศท.กิตติกร นศท.นันพิพัฒน นศท.รุงทิวา
กูโปรง ชะพลพรรค หนูแกว ศรีศักดิ์ ชูพุทธพงษ สินทรัพย สงสังข พึ่งตน เลิศยุทธนาชัย หานกาน
รักษาดินแดน ๓๗ วารสาร
นศท.ติณณ นศท.ภัทรนนท นศท.ธนวัตร นศท.ณัฐพล นศท.หัตถพงศ นศท.พุฒิพงษ นศท.ณัฐนนท นศท.นิธินันท นศท.อารินทร นศท.ประวิทย นศท.ณัฐวุฒิ
ศสร. เปลี่ยนชื่อถนนและเสนทางเขา-ออกในพื้นที่ กยข.ศสร.
ดวย พล.ต.ไพโรจน พนาเวศร ผูบัญชาการศูนยการกําลังสํารอง (ผบ.ศสร.) ไดกรุณาอนุมัติ ใหตั้งชื่อถนนและเสนทางเขา-ออก ภายในพื้นที่ ศูนยการกําลังสํารอง (ศสร.) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ เพื่อใหขาราชการ ศสร. นักศึกษาวิชาทหาร และประชาชนทั่วไปที่มา ติดตอราชการ ไดทราบถึงเสนทางตาง ๆ ดังนี้
๓๘ รักษาดินแดน
วารสาร
๑. “ถนนเสือปา” : เริม่ ตัง้ แตถนนดานหนา คลัง สป.๕ - เสาธง รร.รด.ศสร. - สวนวชิรญาณ ลานวรรณสมิต - สนามเด็กเลนขางแฟลต ป.๓ ๒. “ถนน รด.” : เริ่มตั้งแตถนนดานหนา คลัง สป.๓ - โรงอาหาร รร.รด.ศสร. - แผนกขนสง - โรงกรองนํ้า - แฟลต ป.๔ ๓. “ถนนเสือปาเหนือ” : เริ่มตั้งแตถนน ดานหนาสนามเด็กเลนขางแฟลต ป.๓ - แฟลต ป.๒ - แฟลต ป.๑ - สนามเด็ ก เล น ด า นหน า แฟลต น.๑ ๔. “ถนนเสือปาใต” : เริ่มตั้งแตถนนดาน หนาคลัง สป.๕ - สนามยิงปนวิภา ๑ - คลังแผนก สนับสนุน รร.รด.ศสร. - หองเรียน ๕
๕. “ซอยเสื อ ป า ๑” : เริ่ ม ตั้ ง แต ซ อย ดานหนาสวนวชิรญาณ - คลังอาวุธ รร.รด.ศสร. แผนกขนสง ๖. “ซอยเสื อ ป า ๒” : เริ่ ม ตั้ ง แต ซ อย ดานหนาคลัง สป.๕ - หองเรียน ๒ - หองเรียน ๑ สนามกีฬาเปตอง ๗. “ถนนประตู แ ดง” : ถนนด า นหน า กองรักษาการณ ๘. “ถนนประตู เ ขี ย ว” : ถนนด า นหน า แฟลต ป.๑ ๙. “ถนนประตูดํา” : ถนนดานหลังคลัง สป.๓ - ดานหลังโรงอาหาร รร.รด.ศสร. จึงขอแจงมาใหทราบโดยทั่วกัน
บทความดีเดน นศท.
““แม”
นศท.หญิง อังกฤษ บุรกสิกร ชั้นปที่ ๔ กองรอย ๔๐๑ มหาวิทยาลัยรามคําแหง
ภายใตก ารเติบ โตที่พบเห็น แตการ ปกครองของผู นํ า ที่ เ ป น ชาย ทํ า ให เ กิ ด คําถามขึ้นภายในใจของฉันวาจะมีหญิงใด ที่ ยิ่ ง ใหญ แ ละเป ย มด ว ยความเสี ย สละ ยิ่งกวาผูนําชายหรือไม? ซึ่งฉันก็ไดคนพบ คําตอบของคําถามวาคงจะมีแตหญิงคนนี้ คนเดียวเทานั้นก็คือ “แม” นั้นเอง สําหรับฉันแลว “แม” มิใชเพียงผูหญิงผูให กําเนิดเทานั้น หากแตทานยังเปนหญิงผูเสียสละ แรงกายแรงใจและหยาดเหงือ่ เพือ่ เลีย้ งดูและอบรม สั่งสอน ฉันจึงเติบโตเปนคนดีอีกคนหนึ่งในสังคม
เนื่องในโอกาสวันคลายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ และยังเปน “วันแมแหงชาติ” หนวยบัญชาการรักษาดินแดน โดย ศูนยการกําลังสํารอง ไดจัดกิจกรรม “นศท. ซาบซึ้งพระคุณแม” ไดจัดประกวดบทความเทิดทูน พระคุณแม และยังเชิญคูแมลูกตัวแทนสถานศึกษา ตาง ๆ มาพบปะกัน เมื่อ ๒๓ ก.ค. ๕๔ โดยมี พล.ต.ไพโรจน พนาเวศร ผบ.ศสร. เปนประธานในพิธี
ไมวา จะดือ้ รัน้ เพียงใด แมกไ็ มเคยละความพยายาม ที่อบรมบมนิสัยใหฉันใหฉันเปนคนดี ยามที่ลูก อยางเราถึงคราวหิวโซ แมของเราก็จัดการหุงหา อาหารดูแลความเปนอยูของเรากอนจนลืมใสใจ
รักษาดินแดน
วารสาร
รางวัลชนะเลิศ
๓๙
๔๐ รักษาดินแดน
วารสาร
ก็แตตัวเราเองเทานั้น ที่ ตัวทานเอง เห็นเปนเชนนี้ แลวฉันคงไมอาจปฏิเสธ “คงไมยากเย็นแสนเข็ญเกินไป จะลึกซึ้งตระหนักถึงความ ได เ ลยวายอดหญิงเพียง หากเราจะหวนกลั บ ไปเป น หมายของคํ า ว า “แม ” ที่ มี ต อ ลู ก ได เ ป น อย า งดี หนึ่ ง เดี ย วที่ ทุ ม เทเพื่ อ ฉั น ฝ า ยให แ ละดู แ ลท า นบ า งไม ใ ช เกินกวาใคร ๆ มานานเกือบ ๒๐ ป และ หญิงเพียงคนเดียว สามารถทํ า หน า ที่ ข อง เฉพาะวันแม...” ที่เลี้ยงดูและมอบสิ่งดี ๆ แม ไ ด อ ย า งไม ข าดตก บกพรอง ก็คงมีแต “แมของฉัน” เทานั้น ซึ่งทาน ให เ รามาตั้ ง แต ถื อ กํ า เนิ ด คงไม คิ ด หวั ง สิ่ ง ใด ยังเปนแบบอยางที่ดีในการปฏิบัติตนดังคํากลาว ตอบแทนเพียงปรารถนาใหเราเปนคนดีคนหนึ่ง ของสั ง คม เพี ย งเท า นี้ ที่ ท า นต อ งการ มี ห รื อ ที่วา สิบคําสอนไมเทาปฏิบัติเปนแบบอยาง จะมี ห ญิ ง ใดนางใดอี ก เล า ที่ จ ะยอมเหน็ ด เราจะใหทานบางไมได? และมันคงไมยากเย็น เหนื่อย เมื่อยลา ทุมเทและเสียสละใหแกเราโดย แสนเข็ญเกินไป หากเราจะหวนกลับไปเปนฝายให ไมหวังสิ่งตอบแทนไดอยางแมของเรา จะมีหญิงใด และดูแลทานบาง มิใชเพียงเฉพาะวันแม แตจงรัก ยอมเจ็บปวดเพือ่ ใหเราไดถอื กําเนิดและดืม่ กินเลือด และดูแลทานในทุกวัน ที่เรายังมีแม เชนนั้นแลว จากอกที่กลั่นเปนนํ้านมอุน ๆ นอกจากคนเปนแม เราคงไดรูสึกดีมีคุณคาเมื่อไดตอบแทนพระคุณ จะมีมือคูใดคอยประคับประคองเราดวยปรารถนา ของทานบางอยางที่ลูกนอย ๑ คน พอจะทําได ดีอนั เปย มไปดวยความรักความเอ็นดู นอกเสียจาก สิ่ ง ที่ เ ราให ท า นไปเพี ย งสิ่ ง ที่ เ ล็ ก น อ ยและเที ย ม มื อ คู นี้ ข องแม เ รานี่ เ อง เมื่ อ ยิ่ ง พิ นิ จ พิ เ คราะห ไมตดิ ฝุน เลยสักนิดกับสิง่ ทีท่ า นทําเพือ่ เรามา ซึง่ นัน้ ใหละเอียดถีถ่ ว นถึงพระคุณอันยิง่ ใหญนแี้ ลว เห็นที ควรทําใหเราทุกคนยอมรับกันถวนหนาวาหญิง คําจํากัดความของคําวา “แม” ดูจะละเอียดลออ ผูย งิ่ ใหญในชีวติ ของเราทุกคนนัน้ ก็คอื คนคนนีน้ เี่ อง และลึกซึ้งเกินกวาจะเรียงรอยเปนถอยคําได คงมี “แมของเรา”
บทความดีเดน นศท.
“พระคุณใด..เทาพระคุณแม”
นศท.อรรถกร เทพสิทธิ์ ชั้นปที่ ๓ โรงเรียนเทพศิรินทร
มาแมทายาให...ทุกครั้งที่เจอหนาแมมักจะถามวา หิ ว หรื อ ยั ง อยากกิ น อะไรเดี๋ ย วแม ทํ า ให กิ น ... แมถามไถเรื่องราวตาง ๆ ในแตละวัน ถึงวันไหน เราไมมีเวลาจะคุยกับทาน ทานก็มีความสุขที่แค จะไดถามวาเรามีความสุขดีหรือเปลา...วันไหนที่มี เรื่องทุกขรอนนอนไมหลับ แมก็จะรองเพลงกลอม จนนอนหลับฝนดี... แลววันนีเ้ ราไดยอ นกลับไปถาม แมของเราบางหรือยังวา คุณแมกินขาวแลวรึยัง แมอยากกินอะไรไหม หรือวันนีแ้ มไปไหนมา บางที การใหเวลาใสใจในคําพูดอะไรเล็ก ๆ นอย ๆ เหลานี้ เปนการสรางความสุขทีย่ งิ่ ใหญได แตทมี่ ากไปกวา นั้นคือ การทําสิ่งเหลานี้จนเปนนิสัยในทุก ๆ วัน และใชชีวิตทุกวินาทีอยูกับการใหความรักกับคน ในครอบครัว นี่แหละ คําวา “แม” ของผม ดังนั้น วันแมของผมจึงมีตลอดทั้งปหรือ ๓๖๕ วัน เพราะ แมมีความสําคัญตอผมมาก
รักษาดินแดน
วารสาร
ทุ
กชีวติ ทีเ่ กิดมาบนโลกใบนีย้ อ มมี “แม” เปนผูเลี้ยงดู ฟูมฟก ใหเราดําเนินชีวิต ไปในแนวทางที่ถูกที่ควร “แม” ยอมเสียสละทุกสิ่ง ทุกอยางใดเพือ่ ลูกตนมีชวี ติ ทีด่ ี มีความสุข ถึงแมวา จะตองเหนือ่ ย ทอแทมากแคไหนก็ตาม การที่ “แม” ทําทุกอยางเชนนี้ไดก็เพราะ ความรัก ความเปน หวงที่มีตอลูก ซึ่งความรักเชนนี้ไมมีความรักใดมา เทียบเทียมรักอันยิ่งใหญของ “แม” ได ถึงแมวา เราจะตองอยูหางไกล “แม” สักเพียงใด เขาก็ยัง คงรัก คิดถึงและเปนหวงเสมอ และไมมีวันลดนอย ลงไปกวาเดิมเลย สํ า หรั บ ผมคํ า ว า “แม ” นั้ น หมายถึ ง คน คนหนึ่ง ซึ่งใชชีวิตธรรมดาทั่วไป และพรอมจะเปน ทุกอยางใหกับผม ทานเปนผูที่คอยประคองเราทุก เมื่อ ไมวาเราจะเปนอยางไร ในทุก ๆ วัน ทุกยาง กาวที่เราเดินไปในโลกใบนี้ เมื่อยามที่ผมหกลม แม ข องผมจะเดิ น มาพร อ มยาเสมอแล ว บอกว า
รางวัล รองชนะเลิศ
๔๑
“ดอกมะลิที่ผมเตรียมมาดวยใจในวันนี้ จึงเปนนิมิตอันดียิ่ง ที่ผมตองการนํามากราบทาน เพื่อขอพรจากทานและนําความ เปนสิริมงคลแหงชีวิตใหกับตนเอง” ในวันนี้ เราไดหันกลับมามองตนเองบาง ไหมวาเราไดทําอะไรให “แม” ตองเสียใจ ตอง เหน็ดเหนือ่ ยหรือทุกขใจมากเพียงใด แตจะอยางไร หรือมากไปกวานี้ ผมคิดวา “แม” ของทุกคนก็ยัง ยิ้มและพรอมที่จะใหอภัยผูเปนลูกเสมอ นั่นแสดง ใหเห็นวา สิ่งที่ผูเปนลูกตองกระทําตอผูเปน “แม”
๔๒ รักษาดินแดน
วารสาร
พระคุณใดไหนเลาเทาคุณแม เฝาปลอบโยนลูกรักใหบรรเทา คอยปรนเปรอลูกดั่งดวงแกว คอยปองปกลูกรักยามซุกซน สรางทุกอยางเพื่อใหลูกพบสุขสันต เพียงแคใหลูกนอยรอดปลอดภัย
นั้นควรจะทําอยางไรบาง เพียงแคเราพูดออกไปวา “แม” เหนื่อยไหม หรือ รัก “แม” จัง แคนี้มันก็ดี กวาที่เราไมไดทําอะไรเลย ไมมีรักใด ยิ่งใหญเทา รักของ “แม” และไมมีความคิดถึงใด ยิ่งใหญเทา ความคิดถึงของ “แม” ดังนั้นบทสรุปของแมที่ผม อยากมอบใหแมของทุกคนในวันนี้ จึงเปนดังนี้ เปนรักแทบริสุทธิ์ดุจเมฆขาว หายโศกเศรา เหงาใจ คลายกังวล ใหคาดแคลวแผวพาลหายสับสน แมยอมทนเพราะรักลูกดั่งดวงใจ แมนชีวันก็พลีไดมิเหือดหาย ทั่วแดนไตรคุณแมเลิศประเสริฐเอย
ปนใหญ หนากระทรวงกลาโหม
พ.ท.นรินทรพร ขุมนาค
มีโอกาสผานไปทางวัดพระศรีรัตนศาสดารามหลายตอหลายครั้ง ทุกครั้งที่มองศาลาวาการ กระทรวงกลาโหมรูสึกไดเสมอมาวา อาคารเกาแกหลังนี้สวยงามสมกับเปนที่ทําการของหนวยงานดาน ความมั่นคงของชาติ ยิ่งไปกวานั้นเมื่อเห็น “ปนใหญ” ที่ตั้งเรียงรายไวบริเวณสนามดานหนารอบเสา ธงดวยแลว บงบอกไดเลยวาแสนยานุภาพของกองทัพไทยในอดีตนาเกรงขามไมแพชาติใดในภูมิภาคนี้ ในอดีต
“ปืนใหญ่” เปนอาวุธที่มีบทบาท ส�าคัญต่อกองทัพไทยเพียงใด
รักษาดินแดน
วารสาร
รำชพงศำวดำรเมื อ งเหนื อ ได้ ก ล่ ำ วถึ ง “ปืนใหญ่” ของไทยไว้ว่ำพระยาเมืองพสุจราช ศรีสัชนาลัย ทรงมีรำชสำสน์ไปถึงพระเจ้ำกรุงจีน เพือ่ ทูลขอช่ำงหล่อสัมฤทธิ์ ถม ปัด จ�ำนวน ๑๐ คน มำท�ำกำรหล่อปืนใหญ่ จ�ำนวน ๑๒๐ กระบอก ทั้งนี้มีหลักฐำนกำรตั้งป้อมค่ำยที่มีช่องปืนใหญ่
4๓
อยูร่ อบก�ำแพงเมืองศรีสชั นาลัยตัง้ แต่ปี พ.ศ. ๑๕๙๕ ทั้ ง ปรากฏหลัก ฐานว่ า มี ก ารใช้ ป ื น ใหญ่ ค รั้ ง แรก ในสงครามระหว่ า งโยนกเชี ย งแสนของพระเจ้ า พรหมมหาราช กับศรีสชั นาลัยของพระเจ้าพสุจราช ในปี พ.ศ. ๑๕๙๙ ในสมั ย กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยามี ก ารใช้ ป ื น ใหญ่ เพื่อการรบอย่างกว้างขวาง เช่น มีการวางปืนใหญ่ ไว้รอบก�ำแพงเป็นระยะ ๆ ห่างกันราว ๕ วา เป็น ระยะทางถึง ๑๒ กม. เพื่อการป้องกันพระนคร ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ต่อมาเมื่อคราว เสียกรุง ครั้งที่ ๒ พม่าได้ขนปืนใหญ่กลับหงสาวดี ไปจ�ำนวนหนึง่ ทีเ่ หลือได้ทำ� ลายจนเสียหายทัง้ หมด ครั้ น ในสมั ย กรุ ง รั ต นโกสิ น ทร์ มี ก าร ใช้ ป ระโยชน์ จ ากปื น ใหญ่ ม ากที่ สุ ด เห็ น จะเป็ น ในปี พ.ศ. ๒๓๒๘ ครั้งสงครามเก้าทัพ คราวนั้น กรมพระราชวั ง บวรมหาสุ ร สิ ง หนาทได้ มี พระบัณฑูรให้เอาปืนใหญ่และปืนปากกว้างที่ใช้ ท่ อ นไม้ เ ป็ น ลู ก กระสุ น ยิ ง ต่ อ สู ้ กั บ กองทั พ พม่ า จนสามารถท�ำลายป้อมค่ายและหอรบของพม่า พังลงราบคาบ ทัง้ ไพร่พลของพม่ายังถูกลูกปืนใหญ่ กองทั พ ไทยที่ ท� ำ ด้ ว ยไม้ ล ้ ม ตายจ� ำ นวนมาก จนท�ำให้ไม่กล้าออกนอกค่าย
44 รักษาดินแดน
วารสาร
เสือร้ายเผ่นทะยาน
ปืนใหญ่หน้าศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม
ได้มาจากไหน
ปืนใหญ่ทตี่ งั้ ไว้บริเวณหน้ากระทรวงกลาโหม นั้นมีอยู่ด้วยกัน ๔๒ กระบอก มีทั้งสร้างมาตั้งแต่ ในสมัยอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ สามารถแบ่งออกได้เป็น ๔ กลุ่ม ประกอบด้วย ๑. ปืนที่หล่อในประเทศไทย มีอยู่ด้วย กัน ๒ ประเภท ได้แก่ ปื น ที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระพุ ท ธ ยอดฟ้าจุฬาโลกทรงโปรดให้สร้าง ปืนที่หลวงบรรจงรจนาเป็นผู้สร้าง ๒. ปื น ที่ ซื้ อ หรื อ สั่ ง หล่ อ มาจากต่ า ง ประเทศ ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศส และโปรตุเกส ส�ำหรับช่างหล่อปืนชาวต่างประเทศที่มีชื่อเสียง ในขณะนั้นคือ ยาเดอร์ ลาครัวซ์ และเจ เบอร์ รังเยร์ ๓. ปืนที่ได้มาจากการท�ำศึกสงคราม ๔. ปืนที่ไม่ปรากฏที่มา ชือ่ ของปืนก็เป็นสิง่ ทีน่ า่ สนใจ บางกระบอก ได้รบั การตัง้ ชือ่ อย่างวิจติ รพิสดาร เช่น ไตรภพพ่าย พระพิรุณแสนห่า หรือคนธรรพแผลงฤทธิ์ ตั้งชื่อ เพื่อให้ไพร่พลให้เกิดความฮึกเหิมก็มี เช่น พรหม มาศปราบมาร ถอนพระสุเมรุ หรือเสือร้ายเผ่น ทะยาน ตั้งชื่อที่คล้องจองกันอย่างเช่น นารายณ์ สังหาญ มารประไลย ไหวอรนพ เป็นต้น นอกจากนี้ ชื่อของปืนบางกระบอกยังบ่ง บอกถึงอาณาเขตของประเทศในสมัยโบราณว่า แผ่ ข ยายออกไปไกลเพี ย งใดด้ ว ย ตั ว อย่ า งเช่ น มุหงิดหลวงฟัน (มุงิด คือชาวชวาพวกหนึ่งอาศัย อยูแ่ ถว ๆ เกาะเชลีเบส) มักกะสันแหกค่าย (มักกะสัน คื อ ชาวมุ ส ลิ ม ที่ ม าจากประเทศอิ น โดนี เ ซี ย )
นารายณ์สังหาญ ปืนใหญ่พระมหาฤกษ์ หูจับยกท�ำเป็นลายกนก หน้าสิงห์ เพลา ล�ำกล้องสลักรูปราชสีหเ์ ผ่น พญานาค กินรี ดอกไม้ รูส�ำหรับจุดชนวนก็ท�ำเป็นรูปหนุมาน, นก, ใบไม้ และคนมีปีก เป็นต้น มารู ้ จั ก ปื น ใหญ่ ห น้ า กระทรวงกลาโหม
ที่ส�ำคัญกันเถอะ
ปืนพระมหาฤกษ์ และปืนพระมหาชัย เป็นปืนคู่แฝดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุ ฬ าโลกทรงโปรดให้ ส ร้ า งขึ้ น เพื่ อ ท� ำ หน้ า ที่ อื่ น ในกองทั พ นอกจากการใช้ เ ป็ น อาวุ ธ โดยปื น พระมหาฤกษ์ ใช้ยงิ เพือ่ เป็นสัญญาณในการยกทัพ ส่ ว นปื น พระมหาชั ย นั้ น ใช้ ยิ ง เพื่ อ เป็ น สั ญ ญาณ ให้ ไ พร่ พ ลทราบว่ า กองทัพ มีชัย เหนือ ข้ า ศึก แล้ ว ปืนใหญ่ทั้งสองกระบอกมีขนาดเท่ากัน คือ ยาว ๒ เมตร ๒๐ เซนติเมตร ปากล�ำกล้องกว้าง ๑๑๕ มิลลิเมตร หล่อด้วยสัมฤทธิ์ ปืนอัคนิรุท เป็นปืนที่เก่าแก่ที่สุดในกลุ่ม ปื น ใหญ่ ที่ ตั้ ง อยู ่ บ ริ เ วณหน้ า กระทรวงกลาโหม สันนิษฐานว่าหล่อขึน้ ใน ปี พ.ศ. ๒๑๖๗ จากประเทศ สเปน สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ ล�ำกล้องปืนมีรูปปีก และดาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสเปน
รักษาดินแดน
วารสาร
ยวนง่ า ง้ า ว (ยวน หมายถึ ง ประเทศเวี ย ดนาม ในปั จ จุ บั น ) หรื อ ตั้ ง ชื่ อ ตามแหล่ ง ที่ ไ ด้ ป ื น ใหญ่ กลับมาจากการท�ำศึกสงคราม เช่น ชะนะหงษา ปราบอังวะ (หมายถึงเมืองหงษาวดี และเมือง อังวะ ในประเทศพม่า) โดยทั่ ว ไปปื น ส่ ว นใหญ่ มั ก หล่ อ ด้ ว ยทอง สัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นโลหะที่คนโบราณมักน�ำมาใช้หล่อ พระพุ ท ธรู ป ด้ ว ยเพราะคุ ณ สมบั ติ ท างเคมี ที่ มี เนื้อละเอียดเป็นมันวาว เหนียว และทนความร้อน พอสมควร เมื่อหล่อออกมาแล้วท�ำให้ได้ชิ้นงานที่มี ความสวยงาม ถึง แม้ป ืนจะถูกสร้ างขึ้นเพื่อวัตถุป ระสงค์ ในการท�ำลายล้าง หรือประหัตประหารกันก็ตามที ผู้สร้างก็ยังบรรจงสลักเสลาลวดลายอย่างงดงาม ลงในทุกส่วนของตัวปืน ถ้าเป็นปืนที่หล่อในประเทศไทย โดยมาก ผู้สร้างจะใช้ลวดลายแบบไทย เช่น ลายคร�่ำเงิน คร�่ำทองบนล�ำกล้องปืน ส่วนปืนที่หล่อจากต่าง ประเทศก็จะท�ำเป็นรูปมงกุฎ รูปนก หรือไม่ก็เป็น สัญลักษณ์ของประเทศผู้ผลิตนั้น ๆ รังเพลิงท้ายล�ำกล้องก็เป็นส่วนส�ำคัญอีก แห่งหนึ่งที่ช่างท�ำปืนใหญ่สมัยโบราณใช้สังสรรค์ งานศิลป์ส่วนมากจะท�ำเป็นรูปสังข์ หรือเขางอน ประกอบลายต่าง ๆ เช่น กระจัง ลูกฟัก หรือบ้าง ก็ท�ำเป็นรูปดอกไม้
45
ปืนอัคนิรุท
ปืนพิรุณแสนห่า
ปืนพระอิศรปราบจักวาฬ
ปืนพญาตานี
46 รักษาดินแดน
วารสาร
ปืนพิรุณแสนห่า เป็นปืนที่สมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช ทรงให้หล่อขึ้นที่วังหลัง (บริเวณ สวนมังคุด) เมือ่ ปี พ.ศ. ๒๓๒๐ ในพระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ บันทึก ไว้วา่ อ�ำนวยการสร้างโดยเจ้าพระยามหากษัตริยศ์ กึ สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ ประดับลวดลายบนล�ำกล้อง ปืน รูชนวนมีรูปกนกหน้าสิงห์ขบ ส่วนท้ายเป็น รูปลูกฟัก มีห่วงส�ำหรับยก ๔ ห่วง ปืนอิศวรปราบจักรวาฬ พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงโปรดให้หล่อขึน้ ทีห่ น้า โรงละครใหญ่ บริเวณประตูวเิ ศษไชยศรีเมือ่ ปี พ.ศ. ๒๓๓๐ สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ ล�ำกล้องประดับด้วย ลวดลายกนกหน้าสิงห์สวยงามมาก รูชนวนเป็น รูปคนมีปีก และมีรูปกินรีอยู่เพลาทั้งสองข้าง ปืนพญาตานี ปืนที่กระบอกใหญ่และยาว ที่สุด ทั้งประวัติก็น่าสนใจ ปืนพญาตานีหล่อด้วย ทองสัมฤทธิ์ ยาว ๓ วา ๑ ศอก ๑ คืบ ๒ นิ้วครึ่ง
ปากกระบอกกว้าง ๑๑ นิ้ว ล�ำกล้องปืนเกลี้ยงไม่มี การประดับลวดลาย ส่วนท้ายล�ำกล้องท�ำเป็นเครือ่ ง ประกอบรูปสังข์ เพลาสลักเป็นรูปราชสีห์สวยงาม มาก มีห่วงจับยกขนาดใหญ่ ๔ ห่วง น่าเกรงขาม ตามประวัตเิ มืองปัตตานีกล่าวว่า นางพญาปัตตานี ศรี วั ญ เจ้ า เมื อ งปั ต ตานี ใ นสมั ย นั้ น ได้ สั่ ง ให้ ชาวจี น ฮกเกี้ ย นชื่ อ ลิ้ ม โต๊ ะ เคี่ ย ม หล่ อ ขึ้ น เพื่ อ ป้องกันการรุกรานของกองทัพสยาม จ�ำนวน ๓ กระบอก ได้แก่ พญาตานี ศรีนาครี และมหาเลลา ปื น พญาตานี ได้ เ ดิ น ทางมาถึ ง กรุ ง เทพ มหานคร โดยกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงเป็นผู้น�ำกลับมา เมื่อครั้งเสด็จน�ำทัพไปรบกับ พม่าซึ่งยกมาตีหัวเมืองทางใต้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๙ จากนั้นก็เสด็จไปปราบหัวเมืองทางมาลายูที่มัก เอาใจออกห่างจากไทยอยู่เสมอ เมื่อได้รับชัยชนะ จึงทรงด�ำริที่จะน�ำปืนใหญ่กลับมาถวายพระบาท สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จ�ำนวน ๒ กระบอก ได้แก่ ปืนพญาตานี และปืนศรีนาครี แต่ระหว่าง ขนขึ้ น เรื อ รบหลวง เรื อ ที่ บ รรทุ ก ปื น ศรี น าครี เกิดอุบัติเหตุล่มท�ำให้ปืนจมหายในอ่าวปัตตานี จึงน�ำกลับมาได้เพียงปืนพญาตานีเท่านั้น แม้ในปัจจุบัน วิทยาการสมัยใหม่จะท�ำให้ ปืนหน้ากระทรวงกลาโหมหมดหน้าทีใ่ นการป้องกัน ประเทศไปแล้วก็ตาม ก็ยังหวังว่าเมื่อใดที่เราท่าน เดินผ่านในครัง้ ต่อ ๆ ไป ปืนทัง้ ๔๒ กระบอก จะได้ มีโอกาสบอกเล่าถึงความกล้าหาญ ความเสียสละ ของบรรพชนไทยในอดีตที่ยอมสละชีวิตเลือดเนื้อ รักษาผืนแผ่นดินไทยเอาไว้ด้วยความเหนื่อยยาก เพือ่ เตือนใจอนุชนรุน่ หลังให้มคี วามรัก ความสามัคคี และหวงแหนในแผ่ น ดิ น ... นอกเหนื อ จากการ ท�ำหน้าที่เป็น “ปืนใหญ่” วัตถุโบราณของชาติ แต่เพียงอย่างเดียว
มุมจพระเครื ่อง า ทาพระจันทร
www.thaprachan.com
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ ๕ ทรงบรรจุพระเครื่อง ๒ องคไวที่ยอด ธงชัยเฉลิมพล (ธงปราบฮอ) หนึง่ ในนัน้ คือ “พระคงดํา” หรือ “พระลําพูนดํา” การทีพ่ ระองคทรงเลือก พระลําพูนดําไวในยอดธงชัยเฉลิมพลนี้ พระองคจะตองทรงทราบถึงอภินิหารและพุทธานุภาพของ พระลําพูนดําเปนแนแท มุมพระเครือ่ งฉบับนีจ้ งึ ขอนําทานไปรูจ กั กับ “พระคงดํา” หรือ “พระลําพูนดํา” พระศักดสิทธิ์แหงเมืองหริภุญชัย พ อ ขุ น เม็ ง รายมหาราช ผู ร วบรวมแว น แคว น ทางเหนือเขาเปนอาณาจักรลานนา เมื อ งลํ า พู น ถึ ง แม ว า จะตกอยู ภ ายใต การปกครองของอาณาจั ก รล า นนาแต ก็ ไ ด เ ป น ผู ถ า ยทอดมรดกทางศิ ล ปะและวั ฒ นธรรมให แกผูที่เขามาปกครอง ดังปรากฏหลักฐานทั่วไป ใน เวียงกุมกาม เชียงใหมและเชียงราย เมือง ลํ า พู น จึ ง ยั ง คงความสํ า คั ญ ในทางศิ ล ปะและ วั ฒ นธรรมของอาณาจั ก รล า นนา จนกระทั่ ง สมัยสมเด็จพระเจาตากสินมหาราช เมืองลําพูน จึงไดเขามาอยูในราชอาณาจักรไทย มีผูครองนคร สืบตอกันมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร ตอมา ภายหลังการเปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕
รักษาดินแดน ๔๗ วารสาร
แตกอนอื่นผมขอแนะนําประวัติของจังหวัด ลําพูนใหทานไดทราบกอน ดังตอไปนี้ครับ... จังหวัดลําพูน เดิมชื่อ “เมืองหริภุญชัย” เปนเมืองโบราณ มีอายุประมาณ ๑,๓๔๒ ป ตามพงศาวดารโยนกเลาสืบตอกันถึงการ สรางเมืองหริภุญชัยวา ฤๅษีวาสุเทพเปนผูเกณฑ พวกเม็งคบุตรหรือชนเชื้อชาติมอญมาสรางเมือง นี้ขึ้น ในพื้นที่ระหวางแมนํ้าสองสายคือ แมนํ้า กวงและแมนาํ้ ปง เมือ่ มาสรางเสร็จไดสง ทูตไปเชิญ ราชธิดากษัตริยเมืองละโว พระนาม “จามเทวี” มาเป น ปฐมกษั ต ริ ย ป กครองเมื อ งหริ ภุ ญ ชั ย สืบราชวงศกษัตริยตอมาหลายพระองค จนกระทั่ง ถึงสมัยพระยายีบาจึงไดเสียการปกครองใหแก
พระคงลําพูน
พระบางลําพูน
๔๘ รักษาดินแดน
วารสาร
เมือ่ เจาผูค รองนครองคสดุ ทาย คือ พลตรี เจาจักรคํา ขจรศักดิ์ ถึงแกพิราลัย เมืองลําพูนจึงเปลี่ยนเปน จังหวัด มีผูวาราชการจังหวัดเปนผูปกครองสืบมา จนกระทั่งถึงปจจุบัน ทุกวันนี้เรารูจักลําพูนในฐานะที่เปนจังหวัด ที่มีขนาดเล็กที่สุดของภาคเหนือ ดวยขนาดพื้นที่ ประมาณ ๔,๕๐๕.๘๘๒ ตร.กม. และอยูในกลุม จั ง หวั ด ภาคเหนื อ ตอนบน แต ที่ สํ า คั ญ ลํ า พู น ได ก ลายเป น พื้ น ที่ ที่ มี ศั ก ยภาพในการพั ฒ นา เป น ศู น ย ก ลางความเจริ ญ ของภาคเหนื อ ตอน บน และอนุภูมิภาคลุมนํ้าโขง หรือพื้นที่สี่เหลี่ยม เศรษฐกิจ รวมกับจังหวัดเชียงใหม สั ญ ลั ก ษณ ป ระจํา จัง หวัด ลํา พู น คือ รู ป พระธาตุหริภุญชัย จากภาพ เจดียในดวงตรา หมายถึ ง พระธาตุ ห ริ ภุ ญ ชั ย ซึ่ ง กล า วกั น ว า มี พ ระบรมธาตุ ข องพระพุ ท ธเจ า ประดิ ษ ฐานอยู นั บ เป น ปู ช นี ย สถานสํ า คั ญ เป น ที่ เ คารพนั บ ถื อ ของชาวเมืองและจังหวัดใกลเคียง ส ว นคํ า ขวั ญ ประจํ า จั ง หวั ด กล า วว า “พระธาตุเดน พระรอดขลัง ลําไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวี ศรีหริภุญชัย”
พระคงดํา กรุวัดมหาวัน จว.ลําพูน
รูจักกับจังหวัดลําพูนกันคราว ๆ แลว กลับ มาคุยกันตอถึงเรื่องประวัติแหง “พระคงดํา” หรือ “พระลําพูนดํา” กันดีกวา ในแผ น ดิ น ของสมเด็ จ พระพุ ท ธเจ า หลวง พระป ย มหาราชเจ า แห ง กรุ ง รั ต นโกสิ น ทร มี พระเครื่อ งปรากฏอยู ห ลายชนิด แตละชนิดก็มี อานุ ภ าพและพุ ท ธานุ ภ าพมากมายแตกต า งกั น เชน พระรวง, พระหูยาน, พระนารายณทรงปน, เขมรขนนก, พระนางพญา, พระผงสุพรรณ, พระ รอด, พระกําแพง, ปรุหนง, เหยี่ยวดํา, เหยี่ยวแดง, พระชินราช, นางตรา, ทาเรือ, ยอดธง, ทากระดาน ฯลฯ แตพระองคกลับทรงเลือกเอาพระจากเมือง หริ ภุ ญ ชั ย (ลํ า พู น ) โดยทรงเลื อ กที่ จ ะบรรจุ พระลําพูนคงดําไวที่ยอดธงชัยเฉลิมพลธงแรก ของกองทัพไทย และทหารหาญไทยก็นําธงชัย เฉลิ ม พลธงนี้ ไ ปรบและปราบปรามอริ ร าชศั ต รู จนสงครามสงบราบคาบ จึ ง เป น ที่ เ ชื่ อ ได ว า พระป ย มหาราชเจ า จะตองทรงรูซึ้งถึงอภินิหารและพุทธานุภาพของ พระลําพูนดําวามีมากกวาพระเครื่องหลายชนิด และทรงไววางใจในอานุภาพของพระลําพูนดําได จึงไดทรงนําไปบรรจุไวในยอดธงชัยเฉลิมพล
การที่ไดเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพื่อใหทาน ทั้งหลายทราบวา พระคงดํา (พระลําพูน) มี มหิทธานุภาพ อภินิหาร และพุทธานุภาพแนแท อยางหาที่สงสัยมิได ตํานาน “จามเทวี” ประวัติเดิมแตโบราณ กลาวไววา มีฤๅษีสี่องคนามวา พระสุเทวฤๅษี พระ สุกกทันตฤๅษี พระสุพรหมฤๅษี พระสุมนนารทฤๅษี พระฤๅษีทั้งสี่ไดรวมมือรวมใจกันสรางเมือง “หริภญ ุ ชัย” ในป พ.ศ. ๑๒๓๐ เมือ่ สรางเมืองเสร็จ ก็ตกลงใจเชิญ “พระนางจามเทวี” พระราชธิดา ของพญาจั ก รวั ติ ผู เ ป น ราชาครองเมื อ งละโว มาครอง “หริภุญชัย” พระนางจามเทวี ทรงยินยอมตามคําเชิญของ พระฤๅษี กอนออกเดินทางจากละโวสูหริภุญชัย พระนางได ทู ล ต อ พระยาจั ก รวั ติ พ ระบิ ด าของ พระนาง โดยขอนําชางในกิจการตาง ๆ หลายแบบ อย า งละห า ร อ ยคน และพระที่ เ ก ง ในทางธรรม และเวทยคาถา อีกหารอยรูป ขบวนทีพ่ ระนางจามเทวีเสด็จขึน้ เหนือเพือ่ ไป ครองหริภุญชัยเชื่อวาเปนขบวนเดินทางที่ยิ่งใหญ
พระรอดเนื้อเขียวกรุวัดมหาวัน จว.ลําพูน
ช า งในกิ จ การต า ง ๆ หลายแบบอย า งที่ ออกเดินทางในขบวนแตละคนยอมมีครอบครัว ติดไปดวย แตละครอบครัวของชางคนหนึ่งยอมมี หลายคน พระที่ เ ก ง อี ก ห า ร อ ยรู ป ย อ มมี ลู ก ศิ ษ ย หลายคนติดตามไป ขบวนทหารที่อารักขาพระนาง และคุมครองผูเดินทางสูหริภุญชัยตองมีจํานวน นับพันคน และทหารแตละคนมีครอบครัวของตน รวมเดินทางไปดวย ในสมัยนัน้ ราชธานี “ละโว” เปน เมืองใหญริมทะเล การเริ่มเสด็จออกเดินทางคงใช เรือแลนเลียบริมฝงทะเลเขาปากนํ้าซึ่งในสมัยนั้น คงอยู แ ถวนครสวรรค จวบจนอี ก สองป ต อ มา ใน พ.ศ. ๑๒๐๕ ไดเสด็จถึงหริภุญชัย (ลําพูน) เมื่อพระนางจามเทวีไดครองหริภุญชัยนคร ที่ฤๅษีทั้งสี่สรางขึ้นแลว จึงมีโองการใหสถาปนา พระอารามใหญขนึ้ สีท่ ศิ เรียกวา “จตุรพุทธอาราม” เพื่อใหเปนพุทธปราการ คุมครองนครหริภุญชัยให อยูเย็นเปนสุข และปลอดภัยจากอันตรายตาง ๆ และพระฤๅษีทั้งสี่ที่มาจากทิศใด ก็ประจําอาราม ดังกลาวในทิศของตน เมื่ อ ได ส ถาปนาจตุ ร พุ ท ธอารามแล ว พระฤๅษี ทั้ ง สี่ ต า งก็ ส ร า งพระเครื่ อ งหลายแบบ
รักษาดินแดน ๔๙ วารสาร
พระบางเนือ้ เขียว กรุวดั มหาวัน จว.ลําพูน
๕๐ รักษาดินแดน
วารสาร
หลากหลายชนิดบรรจุไวยังอารามของตน เพื่อเปน อนุสรณ และปองกันเมืองในยามมีภัย พระฤๅษี ทั้ ง สี่ ส ร า งพระของตน แต ล ะ พระอารามนั้ น ย อ มมี ก ารแลกเปลี่ ย นและแบ ง พระเครื่ อ งซึ่ ง กั น และกั น และนํ า พระเครื่ อ งนั้ น มาบรรจุในอาราม ในทิศประจําของตน หนึ่งใน จตุรพุทธอารามทีส่ รางมีชอื่ วา “อาพัทธาราม” คํา วา อาพัทธาราม มีความหมายวา วัดทีแ่ ข็งแรงถาวร ซึ่ ง อาพัท ธารามที่ก ล า วถึ ง นี้ ก็ คื อ “วั ด พระคง” ในปจจุบัน ศาสตราจารยยอรช เซเดส นักโบราณคดี กลาวถึงวัดพระคงนี้วา “...วัดพระคงตั้งอยูนอก ประตูเมืองหางจากประตูเมืองประมาณสามเสน โบสถ และวิ ห ารที่ เ ห็ น อยู ทุ ก วั น นี้ เ ป น ของใหม แต โ ครงร า งเป น เหมื อ นเก า แต ค รั้ ง พวกมอญ ยังปกครองเมืองลําพูนอยู...” อีกตอนหนึง่ เขียนไววา “...สมัยของพระพิมพ ชนิดนี้เปนการยากที่จะกําหนดใหแนนอนลงได แตประเภทหนึ่งเปนของเกาแกมากที่สุดคือ ชนิด ที่เรียกวา “พระอยูคง” (หรือยิงไมออกแทงไมเขา) ไดทําขึ้นที่วัดหนึ่งในเมืองลําพูนชื่อ วัดพระคง...” ฯลฯ “...โบสถและวิหารของวัดนี้คงจะเปนปูชนีย สถานแหงหนึ่งในครั้งโบราณ เพราะยังมีพระพิมพ เล็ก ๆ นับจํานวนพัน ซึ่งเปนรูปพระพุทธเจานั่ง อยูใตตนโพธิ์พฤกษ อันไดทําขึ้นที่นั่นเปนเวลานาน แลว ขุดไดบริเวณวัดนี้หลายรอยหลายพัน แมจน ทุกวันนี้...” แตพระพิมพยังมีอยูเสมอ จนกลาว กันเปนสามัญวา ถาใครมีบุญแลวเปนแตคุยเขี่ย แผนดินที่นั่นเพื่อหาพระ เปนตองไดเสมอทีเดียว “พระลําพูน” หรือพระคง มิใชมีอยูที่วัด พระคง (อาพัทธาราม) ทีเ่ ดียว พระลําพูนมีอยูใ นกรุ หลายวัด เชน ทีว่ ดั ดอนแกว (อรัญญิกสัมมการาม) ทีว่ ดั ประตูลี้ (มหารัตตาราม) ทีว่ ดั ดอยคํา จังหวัด เชียงใหม ก็มีผูพบพระคง และพระคงแหงวัดดอย
คํามิใชเปนพระคงฝากกรุ เปนพระคงของกรุดอย คําเอง!! แมแตกรุหางไกลจากลําพูน เชนทีว่ ัดราง วัดหนึ่งแถวจังหวัดแพร ก็มีผูพบกรุพระลําพูน!! ที่ “ทุงกูราง” ซึ่งอยูไมหางจากวัดประตูลี้ มากนัก เปนสถานที่ที่มีซากวัดโบราณ ก็มีผูขุดได พระลําพูน (พระคง) ฉะนั้น พระลําพูนจึงมิไดมีแตที่แหลงกําเนิด ของตน (ที่วัดพระคง) เทานั้น จึงมีกระเซ็นกระสาย อยูในกรุหรือลานดินวัดอื่นได พระลํ า พู น (พระคง) ได ส ร า งขึ้ น ครั้ ง แรกในสมั ย “พระนางจามเทวี ” จากนั้ น มา ไดสรางอีกหลายยุคหลายสมัย เชน สรางขึน้ ในสมัย พญามหันตยศ สรางขึ้นในสมัยพญาสรรพสิทธิ์ และตอมาก็สรางขึ้นอีกหลายครั้งหลายหน แมแต ในปจจุบนั ก็ไดจดั สรางขึน้ แตนกั เลงพระหรือนักเลง นิยมพระเครื่อง ยอมดูออกไดวา พระลําพูนองคนี้ เปนพระลําพูนที่สรางแตครั้งสมัยพระนางจามเทวี หรือสรางในสมัยพญามหันตภัย หรือสมัยพญา สรรพสิทธิ์ หรือไดสรางในสมัยตอมา ในดานพิมพทรง ทั้งพระลําพูนกรุเกากรุใหม มีพิมพคลายกันจนแยกไมออก พระลําพูน (พระ คง) กรุใหมมีเนื้อหยาบกวาพระลําพูนกรุเกา สวน พระลําพูนกรุเกาเนื้อจะละเอียดแนนกวา ความ นิย มของนัก พระเครื่อ งจึง นิย มพระลําพู น (พระ คง) กรุเการุนจามเทวียิ่งกวากรุใหม และเชื่อวา พระลําพูน (พระคง) ที่สรางโดยพระฤๅษีในสมัย พระนางจามเทวี มีพุทธานุภาพและอภินิหารดีกวา รุนที่สรางในสมัยตอมา พระคงวัดดอยคําแหงจังหวัดเชียงใหม เปนพระคงของกรุดอยคําโดยตรง พระคงกรุวัด ดอยคํา มีใบโพธิ์ที่โปรงกวาใบโพธิ์ของพระลําพูน (พระคงแห ง วั ด พระคง) และองค พ ระแบนกว า ดานหลังนูนนอยกวาพระลําพูนแหงวัดพระคง
เชน พระรอด พระคง พระบาง พระสิบสอง พระสาม เปนจํานวนมาก รุงขึ้นอีกปคือ ป พ.ศ. ๒๔๙๘ ทางวัดได รื้ อ บั น ไดกุ ฏิ ท า นสมภารวั ด โดยขุ ด รื้ อ ถอน รากฐานบันไดเกา และขุดดินลงรากฐานบันไดทีจ่ ะ สร า งใหม ในกาลยุค ครั้ง นี้ไ ด พ บพระรอดพิม พ ตาง ๆ กวาสองรอยองค และยังไดพบพระสกุลลําพูน หลายแบบอยางเชน พระรอดหลวง พระรอดพิมพ (ใหญ) พิเศษ พระจามเทวี (เปนพระเล็กขนาดใบ มะขาม มีลกั ษณะเดียวกับพระรอด เปนพระทีห่ าได ยากยิง่ ) พระคง พระบาง พระเลีย่ ง พระลือ พระสาม พระแปด พระสิบสอง พระยีส่ บิ แปด พระงบนํา้ ออย พระกลวย พระกวาง รูปปนฤๅษี (นารอด) รูป นางสุชาดา (พระนางจามเทวี) รูปยักษ รูปคนธรรพ เปนตน ทานผูอานจะเห็นไดวา ที่วัดมหาวัน (มหา วนาราม) นอกจากมีพระรอดแลวก็มีพระอีกหลาย แบบหลายชนิด และมีพระลําพูน (พระคง) อยูด ว ย! พระลําพูนแหงวัดมหาวัน (มหาวนาราม) เนื้ อ ของพระละเอี ย ดนุ ม เป น เนื้ อ อย า งเดี ย วกั บ พระรอดแหงวัดมหาวัน พระลํ า พู น นั้ น ใช แ ทนพระรอดมหาวั น ได พุ ท ธคุ ณ มิ ไ ด ยิ่ ง หย อ นไปกว า กั น ผู ส ร า งคื อ คนคนเดียวกัน แตราคายังหางกันมาก ใครมีไว ตองหวงแหนเปนธรรมดา... พบกันใหมฉบับหนา สวัสดีครับ
รักษาดินแดน
วารสาร
เนื้อพระคงกรุวัดดอยคํา จะแหงและมีราดํา ขึ้นเปนแหง มีแรปรากฏในเนื้อพระใหเห็นทุกองค เมือ่ ไมกปี่ ท ผี่ า นมา ไดมกี ารซอมแซมบริเวณในโบสถ ที่วัดพระคง ผูซอมไดขุดพื้นโบสถลึกลงไปหลาย เมตร ไดพบพระคงรวมพันองค และมีพระตาง ๆ อีกหลายแบบอยูในโคลนที่ขุดขึ้น ในการขุดซอม โบสถในครั้งนี้ ไดพบพระลําพูนชินเงิน!!! ส ว นใหญ พ ระลํ า พู น ชิ น เงิ น ถู ก ฝ ง อยู ใ น ดินโคลน ทําใหผุกรอน เมื่อจับตองเขาก็รวน มี นอยองคที่อยูในบริเวณที่มีทรายหนาแนน ยังอยู ในสภาพดี ไมผุ ดังรูปที่นํามาใหทานชม พระลําพูนเนื้อชิน (เงิน) ไมเคยปรากฏพบที่ วัดอืน่ นอกจากวัดพระคง (อาพัทธาราม) พระลําพูน เนื้อชินเปนพระที่หาไดยากยิ่ง... เปนพระที่ยากยิ่ง จะพบเห็น... นาน ๆ ครั้งถึงจะพบ ในหมูนักเลงเลนพระ พระลําพูน (พระคง) ที่ แ พงที่ สุ ด และหายากคื อ พระลํ า พู น แห ง วัดมหาวัน (มหาวนาราม) นักเลงพระที่อยูภาคเหนือ เรียกพระลําพูน แหงวัดมหาวันวา...“พระคงแหงกรุวัดมหาวัน” หรือ “พระคงแหงวัดมหาวัน” นักเลงพระหลายคนเชื่อวา “พระคงแหง วัดมหาวัน” มิใชเปนพระคงแหงวัดพระคงนํามา ฝากกรุไวที่วัดมหาวัน และเชื่ออยางมั่นใจวา พระคงแห ง วั ด มหาวั น ได ส ร า งขึ้ น ในคราว เดียวกันกับพระรอดรุน จามเทวีแหงวัดมหาวัน! บางคนบอกว า พระคงแห ง วั ด มหาวั น สรางกอนพระรอด เพราะมีลักษณะเล็กเกือบเทา พระรอด...จากลักษณะของพระคงแหงวัดมหาวัน ที่เล็กจึงไดกลายเปนพระรอดในขั้นตอมา! เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ ทางวัดมหาวันไดขยาย พระวิหาร ใหกวางออกไปทางทิศตะวันตก ไดขุด พืน้ ดินปกเสา ในการขุดพืน้ ทีค่ รัง้ นี้ ไดพบพระเครือ่ ง
๕๑
พ.ท.อุทัย กาวี และทีมงาน
สวัสดี
ครับทุกทาน ยินดีตอนรับสูบานหลังใหม “รักษาดินแดนวารสาร” ...การยายครั้งนี้ เหมือนยายกลับสูบานเดิม ทานสมาชิกที่อยูกับเรามานานเกิน ๗ ป จะทราบกันดีวา “รักษาดินแดนวารสาร” คือ วารสารประจํา “กรมการรักษาดินแดน” ที่ไดมีการปรับปรุง เปลี่ยนโฉมไป และสุดทาย เพื่ อ ประโยชน สู ง สุ ด ของผู อ า น จึ ง ต อ งมี ก ารปรั บ โฉมอี ก ครั้ ง ซึ่ ง ผมและที ม งาน ก็ ยั ง มุ ง มั่ น ตั้ ง ใจรวบรวม ขาวสารความเปนไปของกําลังพลภายในหนวยมาฝากทานเหมือนเดิม หางหายไปพักใหญ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ขาวสารในฉบับนี้จึงมีคอนขางมาก คอย ๆ อานกันไปนะครับ เอา...มาอัพเดตความเปนไปของเพื่อนรวมงานในหนวยเราตั้งแตตนป ๕๔ กันเลยครับ
ข อ แ ส ด ง ค ว า ม ยิ น ดี กั บ นายทหารสั ญ ญาบั ต รระดั บ พั น เอกที่ ไ ด้ รั บ การประดั บ เครื่ อ งหมายโลหะสี ท องรู ป คทา ไขว้ ป ระกอบช่ อ ชั ย พฤกษ์ ดั ง รายนามต่ อ ไปนี้ ิ นั ธ์ ฐานะจาโร, พ.อ.วรภพ ถาวรแก้ ว, พ.อ.ธิตพ พ.อ.พณิชย์ ศิริพละ, พ.อ.เกษียร ยืนยง, พ.อ. วุฒชิ ยั เจริญรื่น และ พ.อ.ทัฐเมธา ปั ญญเบกษา ข่าวที่ ๒ ขอแสดงความยินดีกับนาย ทหารสัญญาบัตรที่ได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้น ดังนี้ พ.ท.วินิจ อ้ วนโพธิ์กลาง เป็น พ.อ. พ.ท. ศักดาวุธ รัตนโสภา เป็น ว่ าที่ พ.อ. พ.ต.ราเชล เชื่องสุวรรณ, พ.ต.กริชทอง ฤกษ์ กรี เป็น พ.ท. พ.ต.ไตรรัตน์ เวชโช, พ.ต.อรรถพล แก้วค�าแสน เป็น ว่ าที่ พ.ท. ร.ท.สุรเชษฐ์ ทองขาว, ร.ท.
5๒ รักษาดินแดน
วารสาร
ข่าวที่ ๑
ภาณุวัตน์ บัวงาม เป็น ว่ าที่ ร.อ. ร.ต.นที เทพสิทธิ์, ร.ต.นฤทธิ์ ยิม้ ภักดี, ร.ต.บุญถิ่น กองค�า เป็น ว่ าที่ ร.ท. ร.ต.สิทธิชยั ศรีแก้ วช่ วง เป็น ว่ าที่ ร.ท. ส่วนนายทหารประทวนก็มผี ทู้ ไี่ ด้รบั การเลือ่ น ยศสูงขึน้ ดังต่อไปนี้ จ.ส.ท.สุพงษ์ พิริยะพฤนท์ และ จ.ส.ท.โสธร อุรารั กษ์ เป็น ว่ าที่ จ.ส.อ. จ.ส.ต.ส�าเริง ศรีบ้าน เป็น จ.ส.ท. ส.อ.สุเทพ เชิงหอม, ส.อ.สมชาย บุญรั กษ์ เป็น จ.ส.ต. ส.อ.หญิง สิริเพ็ญ นงค์ สงู เนิน เป็น จ.ส.ต.หญิง ส.ต.หญิง ภาราดา มหาสมบัติ เป็น ส.ท.หญิง ั ธ์ มั่นวิง, พลฯ ส�ารวจ ชูช่วย, พลฯ พุทธิพน พลฯ อิศรา เพาะนาไร่ , พลฯ สุวพัฒน์ ศรีสว่ าง เป็น ส.ต.
ย้ายมาจาก พล.๑ รอ. ส่วนกลุ่มนายทหารประทวนก็มีท่านที่ย้าย เข้ามารับราชการ ณ นรด. ดังนี้ ส.อ.จิตตินันท์ ศรีเมฆ ย้ายมาจาก ศร. ส.อ.ประพันธ์ ไพฑูรย์ ย้ายมาจาก ร.๒๙ พัน.๒ ส.อ.สุเทพ เชิงหอม ย้ายมาจาก พล.๑ รอ. ...ชาวรอบรั้ว นรด. ยินดี ข่าวที่ ๓ มี น ายทหารสั ญ ญาบั ต ร ต้อนรับทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง มีความสุขกับงานใหม่ ย้ายมารับราชการ ณ นรด. ดังรายนามต่อไปนี้ นะครับ ิ นั ธ์ ฐานะจาโร ย้ายมาจาก พล.๑ รอ. พ.อ.ธิตพ พ.อ.วินิจ อ้ วนโพธิ์กลาง ย้ายมาจาก สลก.ทบ. พ.ท.สุ ทินา พงษ์ ศิริพันธ์ ย้ายมาจาก ศร. พ.ต.สมชาย ลิม้ จ�ำลอง ย้ายมาจาก สพ.ทบ. พ.ต.ไพโรจน์ จันทร์ ทนา ย้ายมาจาก รพ.ค่าย ธนะรัชต์ ร.อ.สาโรจน์ เกือ้ กูล ย้ายมาจาก ม.พัน.๑ รอ.ร.อ.ณรง ค์ ภัทรกมลวุฒิ ย้ายมาจาก พล.ช.ร.อ.วิเชียร แตงผึ่ง ย้ายมาจาก ม.พัน.๓ รอ. ข่าวที่ ๔ มีเพือ่ นนายทหารสัญญาบัตร ร.อ.สมศักดิ์ กุลมา ย้ายมาจาก ร.๑๑ พัน.๒ รอ. ร.อ.ธี ร พล บุ ญ ญานุ ส นธิ์ ย้ า ยมาจาก ย้ายไปรับราชการนอกหน่วย ดังนี้ พ.อ.บรรเทิง ม.พัน.๒๙ รอ. ร.อ.ธรรมสถิตย์ หลวงสิทธิ์ จุ้ยวงศ์ ย้ายไป จทบ.อ.ต. พ.ท.อิทธิกร ศิริวลั ย์ ย้ายมาจาก ร.๑ พัน.๔ รอ. ร.อ.นิวัช สังขดี ย้ายไป สลก.ทบ.พ.ท.อุทยั กาวี ย้ายไป สลก.ทบ. ย้ายมาจาก ร.๑ พัน.๔ รอ. ร.อ.สุรชัย หล�่ำชู พ.ท.วรรธ อุ บ ลเดชประชารั ก ษ์ ย้ า ยไป ย้ายมาจาก ร.๗ พัน.๕ ร.ท.เกษมวิช โลหิตกุล ทน.๑ พ.ท.สายั ณ ห์ เกี ย รติบุ ต ร ย้ายไป ย้ายมาจาก ยศ.ทบ. ร.ท.นพดล ปาละประเสริฐ รร.การบิน ทบ. พ.ท.อดิศักดิ์ โพธิ์หริ ัญ ย้ายไป ย้ายมาจาก รร.นส.ทบ. ร.ต.สิทธิพงษ์ สุทธิ ทน.๓ พ.ท.หญิง ยุพาพร เอี่ยมละออ ย้ายไป
รักษาดินแดน
วารสาร
นอกจากนี้ ยังมีก�ำลังพลได้รับการเลื่อนยศ สูงขึน้ และเลือ่ นฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตร คือ ร.ต.เชษฐา ปากขันตี เลื่อนฐานะเป็น ผบ.มว. ปล.ร้ อยอาวุธเบา พัน.ร.ศสร. ...ขอแสดงความ ยินดีกับทุกท่านด้วยครับ
53
กสห.กห. พ.ท.หญิง ต้ องใจ ชาญชัยศึก ย้ายไป สลก.ทบ. พ.ต.เกรี ยงศักดิ์ ชัยชนะกิจพงษ์ ย้ายไป จบ. พ.ต.ศิริพน โพธิอาภา ย้ายไป พล.ร.๑๑ พ.ต.นคร บุ ญ นฤมิ ต ร ย้ายไป ขส.ทบ. ร.อ.คชพงศ์ ฐิตพ ิ ชิ ญาวัฒน์ ย้ายไป ร.๒๑ พัน.๓ รอ. ร.ท.รณกฤต สุคันธนาค ย้ายไป กทก.กกล.กห. นอกจากนี้ยังมีนายทหารประทวนย้ายไปรับ ราชการนอกหน่วย ดังนี้ จ.ส.อ.ไสว สวัสดิ์ศรี ย้ายไป รร.นส.ทบ.ส.อ.ณัฐพงษ์ มณีน่วม ย้ายไป ศรภ. ส.อ.ณภัทร อภิชาตสกุล ย้ายไป ดย.ทบ. ส.อ.กฤษดา มณี รั ต น์ ย้ า ยไป สบ.ทหาร ส.อ.หญิง นุชรี มหาชัย ย้ายไป รร.นส.ทบ. ...เพือ่ นร่วมงานทางนี้ ขอให้ทกุ ท่านทีจ่ ะย้ายไปทาง โน้น มีความสุขความเจริญในหน้าที่การงานใหม่ ครับ...เราจะคิดถึงท่านทุกคน
หลับให้สบายนะครับ สุดท้าย จบเรือ่ งเศร้า มาสูเ่ รือ่ งน่ายินดี คือ มีกำ� ลังพลมาบรรจุใหม่จาก นนส.ทบ. ดังต่อไปนี้ ิ ธิ์ แสงแก้ว, ส.ต.อิศรา อิ่มอารมณ์ , ส.ต.ศักดิ์สท ส.ต.ณัฐวุฒิ ทาเกตุ, ส.ต.จีรวุฒิ ค้ าแฟง, ส.ต. มงคล พรมมะยา, ส.ต.สุริยัน นกแก้ ว, ส.ต. ยุทธพงษ์ พรหมศิระ, ส.ต.ณัฐวัฒน์ บุญประคอง, ส.ต.วิสทุ ธิ์ เจริญหลาย, ส.ต.อภิวฒ ั น์ อ่ วมเอี่ยม, ส.ต.ธีระยุทธ อินทะยศ, ส.ต.น�ำโชค สาค�ำ, ส.ต. พรสยาม กวนหอบ, ส.ต.พัศวุฒิ โกมุทฉาย, ส.ต.วันชัย วาระนุช, ส.ต.วศิน ดวงสิทธิชัย, ส.ต.วัลลภ ฤทธิ์อร่ าม, ส.ต.อดิศักดิ์ สายยาโน และ ส.ต.เอกวิทย์ ทองน่ วม ส่วนก�ำลังพลที่มาบรรจุใหม่ ทั้งจากทหาร กองประจ�ำการและพลเรือน ก็มีรายชื่อดังต่อไปนี้
ข่ า วที่ ๕ มาถึงข่าวเศร้าส�ำหรับเพื่อน พลฯ อังคาร ทาทอง บรรจุเป็น พลขับ กบร.ศสร.
54 รักษาดินแดน
วารสาร
ร่ ว มงานและครอบครั ว กล่ า วคื อ มี ช าว นรด. เสียชีวิต ๒ ท่าน ได้แก่ พ.ต.สุทธิพนั ธ์ พยุงวงษ์ เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด และ จ.ส.อ.สมศักดิ์ อินทกูล เสียชีวิตด้วยอาการ เลือดออกในกระเพาะอาหาร ...ชาว นรด. ทุกคน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของทั้งสองท่าน
พลฯ ณัฐพงศ์ นามวงศ์ พรหม และ พลฯ อภิชยั
อิ น ต๊ ะแสน บรรจุ เ ป็ น เสมี ย น รร.รด.ศสร. พลฯ ณัฐพล ฉัตรแก้ ว และ พลฯ อภิชาต รุ่งเรือง บรรจุเป็น ช่างยานยนต์ พัน.ร.ศสร. พลฯ สัญญา เที่ ย งพลู ว งศ์ บรรจุ เ ป็ น พลขั บ รร.กสร.ศสร. พลฯ อรรณพ เพ็ชรดี บรรจุเป็น พลขับ ศสร.
พลฯ วัฒนา ขมสวัสดิ์ บรรจุเป็น พลขับรถ ร.๑๑๑ พลฯ วงศรั ตน์ บุญรั กษา บรรจุเป็น ช่างวิทยุ ร.๑๑๒ พลฯ พันทวี สียา บรรจุเป็น เสมียนส่งก�ำลัง ร.๑๑๒ พลฯ สมมาตร ดิศวรรณี บรรจุเป็น พลขับรถ พัน.ร.ศสร. พลฯ จักรกฤษณ์
เชยแสง บรรจุ เ ป็ น เสมี ย น รร.กสร.ศสร. พลฯ เฉลิมพล พลตือ้ บรรจุเป็น พลขับรถ รร.กสร.ศสร.
ยังไม่หมดนะครับ ยังมีมาบรรจุอีก ได้แก่ พลฯ อิศรา เพาะนาไร่ บรรจุเป็น เสมียน กตพ.นรด. พลฯ สุวพัฒน์ ศรี สว่ าง บรรจุเป็น เสมียน กฝศ.นรด.พลฯ สีชยั สุขสงวน บรรจุเป็น
เสมียน กกพ.ศสร. พลฯ ณัฐพล ตะเภาน้ อย บรรจุ เ ป็ น เสมี ย น กยข.ศสร. นายวั ช รกร รกไพร และ น.ส.ฉั นทนา สาคูณ บรรจุเป็น เสมียน รร.รด.ศสร. พลฯ เดชา ชูเชิด บรรจุ เป็น พลขับ ผขส.กบร.ศสร. น.ส.เกศราภรณ์ อ�ำนวยผล บรรจุเป็น พนักงานบริการ กยข.นรด. น.ส.ณั ฐ สุ ด า บุ ญ ชิ ด บรรจุเป็น พนักงาน บริการ กตพ.นรด. น.ส.สุภาภัสส์ สุดสวาท และ น.ส.พรเพ็ญ หวังกุศล บรรจุเป็น พนักงาน บริ ก าร รร.กสร.ศสร. นายธนพงษ์ เภรี ว งษ์ บรรจุเป็น พลดุริยางค์ รร.กสร.ศสร. ...ชาว นรด. ยินดีต้อนรับน้องใหม่ทุกท่าน ขอให้ปรับตัวเข้ากับ สังคมใหม่ได้อย่างสบาย ๆ นะครับ
รักษาดินแดน
วารสาร
เอาละครับ หวังว่าข้อมูลข่าวสารจะไม่มากจนล้นเกินความอดทน และหากท่านมีข้อสงสัย ข้องใจ หรือมีข่าวสาร อะไรจะให้กองบรรณาธิการ ช่วยประชาสัมพันธ์ ติดต่อเจ้าหน้าที่ กอง บก. ได้ที่ กกร.นรด. โทร. ๐-๒๒๒๑-๒๘๗๑ หรือ ๙๑๙๕๕ นะครับ ฉบับนี้คงต้องลาไปก่อน พบกันใหม่ใน “รักษาดินแดนวารสาร” ฉบับหน้า... สวัสดี
55
เอ็มดีหนุม
กองทั พ มาเลเซี ย ได รั บ งบประมาณทาง ทหารป พ.ศ. ๒๕๕๔ เปนเงิน ๔.๕ พันลานเหรียญสหรัฐ มีโครงการจัดหาอาวุธหลักที่สําคัญรอการรับมอบคือ เครือ่ งบินเฮลิคอปเตอรคน หาและกูภ ยั ทางทะเล (SAR) อีซี-๗๒๕ (EC-725) จํานวน ๑๒ เครื่อง จะไดรับมอบ เครื่องบินชุดแรกในป พ.ศ. ๒๕๕๕ เครื่องบินมีนักบิน ๒ นาย บรรทุกทหารได ๒๘ นาย เครื่องยนตเทอรโบ ชารฟ ขนาด ๒,๔๑๓ แรงมา (๒ เครื่อง) มีความเร็ว สูงสุด ๓๒๔ กิโลเมตรตอชั่วโมง และพิสัยบินไกลสุด
๕๖ รักษาดินแดน
วารสาร
EC-725
๘๕๗ กิ โ ลเมตร เพื่ อ จะนํ า เข า ประจํ า การทดแทน เครื่องบินเฮลิคอปเตอรรุนเกาแบบนูรี่ (Nuri S-61A-4 ของฝูงบินที่ ๓ และฝูงบินที่ ๕) และเครื่องบินขนสง ทางทหารขนาดใหญ เอ๔๐๐เอ็ม (A400M) จํานวน ๔ เครือ่ ง จะไดรบั มอบเครือ่ งบินชุดแรกในป พ.ศ. ๒๕๕๘ เจ า หน า ที่ ป ระจํ า เครื่ อ งบิ น ๔ นาย เครื่ อ งยนต เทอร โ บพร็ อ พ ให แ รงขั บ ขนาด ๑๑,๐๔๐ แรงม า (๔ เครื่อง) ความเร็วเดินทาง ๗๘๐ กิโลเมตรตอชั่วโมง พิสัยบินไกลสุด ๓,๒๙๘ กิโลเมตร และบรรทุกทหาร ได ๑๑๖ นาย กองทั พ อากาศอิ น โดนี เ ซี ย ได จั ด ซื้ อ เครื่ อ งบิ น ฝ ก ไอพ น ขั้ น ก า วหน า แบบใหม ที - ๕๐ โกลเดนอีเกิ้ล (GoldenEagle) จํานวน ๑๖ เครื่อง มีมลู คา ๔๐๐ ลานเหรียญสหรัฐ จากประเทศเกาหลีใต เพื่ อ ทดแทนเครื่ อ งบิ น ฝ ก ขั้ น ก า วหน า รุ น เก า แบบ ฮอรค เอ็มเค.๕๓ จะไดรับมอบเครื่องบินชุดแรกในป พ.ศ. ๒๕๕๕ เครื่องบินฝกไอพนขั้นกาวหนาชนิดสอง ที่นั่ง ที-๕๐ ขนาดยาว ๑๒.๙๘ เมตร นํ้าหนักบินขึ้น สูงสุด ๑๓,๕๐๐ กิโลกรัม เครื่องยนตเทอรโบแฟน
GoldenEagle
ใหแรงขับเมือ่ ใชสนั ดาปทาย ๑๗,๗๐๐ ปอนด ความเร็ว สูงสุด ๑.๕ มัค พิสยั บิน ๑,๘๕๑ กิโลเมตร ปนกลอากาศ ขนาด ๒๐ มิลลิเมตร และติดตัง้ อาวุธไดตามภารกิจบิน (ภารกิจตอสูทางอากาศและภารกิจโจมตีภาคพื้นดิน) กองทัพอากาศอินโดนีเซียมีโครงการจัดหา เครื่องบินฝกใบพัดขั้นกาวหนาซูเปอรทูคาโน (Super Tucano) จํานวน ๘ เครื่อง จากประเทศบราซิล เมื่อ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ใชในภารกิจโจมตี เบาเพื่อทดแทนเครื่องบินโจมตีรุนเกาแบบโอวี-๑๐ บรองโก (OV-10 Bronco) ทีป่ ระจําการมานาน เครือ่ งบิน ซู เ ปอร ทู ค าโนมี นํ้ า หนั ก ปกติ ๒,๔๒๐ กิ โ ลกรั ม เครื่ อ งยนต เ ทอร โ บพร็ อ ฟ ขนาด ๑,๖๐๐ แรงม า ความเร็ ว สู ง สุ ด ๕๕๗ กิ โ ลเมตร พิ สั ย บิ น ไกลสุ ด ๑,๕๖๘ กิ โ ลเมตร และติ ด อาวุ ธ ได ห นั ก ๑,๕๐๐ กิโลกรัม (ตําบลติดตั้งอาวุธไดหาจุด) กองทัพอากาศ อิ น โดนี เ ซี ย จะได รั บ มอบเครื่ อ งบิ น ชุ ด แรกปลายป พ.ศ. ๒๕๕๔
กองทั พ อากาศอิ น เดี ย กํ า ลั ง ปรั บ ปรุ ง เครื่องบินขับไล มิก-๒๙ ฟลครั่ม จํานวน ๖๙ เครื่อง ประจําการมาตั้งแตป พ.ศ. ๒๕๒๓ มีมูลคาในสัญญา ๙๖๕ ลานเหรียญสหรัฐ ดําเนินการโดยประเทศรัสเซีย ปรับปรุงดานระบบเครือ่ งยนต ระบบอะวิโอนิกส ระบบ เรดาร และระบบอาวุธ เมือ่ ปรับปรุงเสร็จแลวจะเรียกวา มิก-๒๙ ยูพีจี (MiG-29 UPG) กองทัพอากาศอินเดีย จะไดรับมอบเครื่องบินชุดแรกในป พ.ศ. ๒๕๕๖
MiG-29 UPG กองทัพอากาศไทยรับมอบเครือ่ งบินขับไล แบบกริเพน เจเอเอส ซี/ดี จํานวน ๖ เครือ่ ง เปนรุน ฝกสอง ที่นั่ง ๔ เครื่อง และรุนที่นั่งเดี่ยว ๒ เครื่อง ณ กองบิน ๗ ฐานทัพอากาศสุราษฎรธานี เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๔ ทําการฝกของนักบินและเจาหนาที่ภาค พื้นดินเพื่อใหสามารถทําการบินไดทุกภารกิจบินหรือ ใหมีความพรอมรบของฝูงบินในปลายป พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกอบกับสภาพภูมิประเทศทางดานภาคใตเปน ชายฝงทะเลทั้งสองดาน และตองเตรียมความพรอม ที่จะรับมอบเครื่องบินขับไลแบบกริเพน ในเฟสที่ ๒ จํานวน ๖ เครื่อง เปนรุนที่นั่งเดี่ยว โดยกองทัพอากาศ ไทยจะไดรับมอบเครื่องบินในป พ.ศ. ๒๕๕๖ เครื �องบิ นขับไล่แบบกริ เพ่น เจเอเอส ซี /ดี
Super Tucano วารสาร
รักษาดินแดน ๕๗
พล.อ.อาทร โลหิตกุล
เปลี่ยนศักราชใหมไดไมนานก็ถึงเดือนเมษายน ซึ่งเดิมทีถือวาเปนเดือนแรกแหงปใหม ของไทย ปจจุบันแมวาจะไมใชเดือนแรกของปใหม แตก็เปนเดือนที่มีความสําคัญกับทหาร โดยเฉพาะอยางยิ่งชายไทยที่มีหนาที่ที่ตองรับใชชาติตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร เฉพาะตั้งแตวันที่ ๑ เม.ย.ก็จะมีการตรวจเลือกทหารกองเกินเขาเปนทหารกองประจําการ หรือ ที่ชาวบานเรียกวา “การเกณฑทหาร”
5๘ รักษาดินแดน
วารสาร
กรรมวิธกี ารเกณฑ์ทหารนัน้ ก็มตี งั้ แต่การวัด ขนาดร่างกาย การตรวจโรค การตรวจหลักฐาน ฯลฯ และสุดท้ายเมือ่ ได้จา� นวนคนทีม่ คี ณ ุ สมบัตคิ รบถ้วน แล้วหากเกินจ�านวนที่ทางราชการต้องการ ซึ่งตาม ข้อเท็จจริง หรือการปฏิบัติที่ผ่าน ๆ มา ยอดของ ทหารกองเกินมีคุณสมบัติครบถ้วนก็จะมีมากกว่า ยอดที่ทางราชการต้องการเข้ามาเป็นทหารกอง ประจ�าการ จึงจ�าเป็นต้องมีวิธีการคัดเลือก ซึ่งวิธี การคัดเลือกที่ใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือ “การจับฉลาก” หรือที่พูดกันว่า จับใบด�าใบแดง
นั่นเอง คนที่ได้รับใบแดง ก็ต้องเข้าไปรับใช้ชาติ ด้วยการเป็นทหาร ๒ ปี ส่วนคนได้ใบด�า ก็ไม่ต้อง เข้ารับราชการ ห้วงเวลาที่มีส�าคัญและตื่นเต้นที่สุด เห็ น จะเป็ น ห้ ว งเวลาจั บ ใบด� า -ใบแดงนี่ แ หละ ในอดี ต ที่ ผ ่ า นมาคนกลั ว การเป็ น ทหารกั น มาก เวลาจับฉลากใครได้ใบด�าก็ดีอกดีใจอย่างลิงโลด กระโดดโลดเต้ น จนตั ว ลอย ส่ ว นคนได้ ใ บแดง ก็ห่อเหี่ยวเศร้าสร้อย บางคนถึงกับร้องห่มร้องไห้ หมดอาลัยในชีวติ ยังกับต้องไปตกระก�าล�าบาก หรือ หมดอิสรภาพอะไรท�านองนั้น
รามค�ำแหงมาหลายปี ยังไม่มที า่ ทีวา่ จะจบ บางครัง้ ไปสร้างปัญหาให้กับพ่อแม่ต้องเสียเงินเสียทอง ท�ำความหนักใจให้กับพ่อ-แม่ตลอดเวลา แต่ทุกคน ก็ยังให้อภัย ให้ความรักและตามอกตามใจ ด้วย เห็นว่าเป็นลูกชาย หลานชายคนเดียวของตระกูล พ่อ-แม่เองหนักใจไม่รวู้ า่ ลูกจะมีอนาคตเป็นอย่างไร โดยเฉพาะผู ้เป็น แม่ต้อ งไปแอบร้อ งไห้อ ยู ่เสมอ เมื่อเปรียบเทียบลูกของตนกับลูกของเพื่อน ๆ ที่อยู่ ในวัยใกล้เคียงกัน แก้ ว ต้ อ งถู ก เกณฑ์ ท หารเพราะไม่ เ รี ย น รด. พ่ อ -แม่ ไ ปเยี่ ย มที่ ก องร้ อ ย ขณะที่ แ ก้ ว ฝึ ก แม่เห็นลูกชายหน้าด�ำ ผมเกรียน กลับมาบ้านก็ ร้องไห้สงสารลูก เพราะไม่เคยเห็นลูกชายล�ำบาก และต้องถูกสัง่ ถูกบังคับ ปัจจุบนั แก้วเป็นทหารเกือบ ๒ ปีแล้วเป็นหัวหน้าทีมฟุตบอลของหน่วย แก้วเป็น ผู้นำ� ของเพื่อน ๆ เพราะมีความรู้ดีกว่า เป็นผู้มีวินัย ปฏิ บั ติ ต ามค� ำ สั่ ง โดยเคร่ ง ครั ด เสาร์ อาทิ ต ย์ ที่ได้ลากลับบ้าน แก้วเปลี่ยนเป็นคนละคน ต่างกับ แก้วคนเดิม เลิกบุหรี่ ช่วยท�ำงานบ้าน ท�ำสวน ปลูก-รดน�ำ้ ต้นไม้ อ่านหนังสือ และขออนุญาตหน่วย ไปสอบ เมื่อถึงฤดูสอบ แบ่งเงินให้แม่เดือนละ ๕๐๐ บาท ทุกเดือน แม่รับเงินแล้วแอบร้องไห้ ด้วยความดีใจ ตื้นตันใจที่เห็นลูกชายเปลี่ยนไป เป็นคนละคน อีกไม่กี่เดือน แก้วก็จะเป็นทหารกองหนุน และหลังจากนัน้ ไม่นาน แก้วก็ได้เป็นบัณฑิตมีอาชีพ การงานที่มั่นคง ผมว่ า แม่ มั น ต้ อ งร้ อ งไห้ อี ก แต่ น�้ ำ ตาที่ ร้องไห้ครั้งนี้จะเป็นน�ำ้ ตาแห่งความปลื้มปีติ ความ ภาคภูมิใจในตัวลูก รวมทั้งความสมหวัง เป็นค�ำตอบที่ชัดเจนว่า “เป็นทหารได้
อะไร”
รักษาดินแดน 59 วารสาร
แต่อนั ทีจ่ ริงแล้ว เป็นการเข้าใจทีค่ าดเคลือ่ น ของคนที่ไม่รู้จริงหรือคนที่อยู่นอกกองทัพ เพราะ การได้ เ ปลี่ ย นชี วิ ต จากบุ ค คลพลเรื อ นมาเป็ น ทหารรับใช้ชาตินั้น นับว่าเป็นโอกาสดีเป็นที่น่า ภาคภู มิ ใ จ นั บ เป็ น เกี ย รติ ย ศเป็ น ชื่ อ เสี ย งเชิ ด ชู วงศ์ ต ระกู ล มากกว่า และยิ่งในปั จ จุบันกองทัพ ได้ปรับปรุงพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของ ทหารกองประจ�ำการให้มีการกินดีอยู่ดี มีเงินเดือน มีเบีย้ เลีย้ งในอัตราสูงขึน้ มีสวัสดิการ มีการเพิม่ พูน ความรู ้ ทั ก ษะวิ ช าชี พ สมดั ง ค� ำ ขวั ญ ที่ ก ล่ า วว่ า “เป็นทหาร ได้อะไรมากกว่าทีค่ ดิ ” ในกรมกองที่ ทหารเข้ามาสังกัดอยู่ นอกจากมีการฝึก-การหัด ทางทหารแล้ว ยังมีการสั่งสอนอบรมใครที่มีนิสัย เกเร ไม่เคารพกฎกติกาของสังคม หรือเป็นคนที่ไม่ ค่อยมีระเบียบในชีวิตของตนเองก็จะปรับเปลี่ยน ไปเป็นคนละคน มีผู้ปกครองหลายท่านเคยพูดให้ ฟังว่า คนเกเรที่เข้ามาเป็นทหาร เมื่อปลดออกไป ก็จะดีขึ้น ส่วนคนที่เป็นคนดีอยู่แล้ว ก็จะดีขึ้นอีก ผูท้ ผี่ า่ นการเป็นทหารจะมีลกั ษณะ “ผูน้ ำ� ” มากกว่า ผู้ที่ไม่เคยผ่านการเป็นทหาร จะมีความเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ กล้าคิด กล้าพูด กล้าท�ำ กล้าตัดสินใจ ซึ่งจะได้รับการยอมรับและยกย่องมากกว่า ดังนั้น ค�ำพูดทีว่ า่ “การเป็นทหารได้อะไรมากกว่าทีค่ ดิ ” นั้นเป็นจริงแท้แน่นอน ผมมีหลานชายคนหนึ่งชื่อ “แก้ว” ซึ่งเป็น ลูกโทนของพ่อแม่ ที่มีฐานะดีครอบครัวหนึ่ง แก้ว เกิดมาอยูท่ า่ มกลางความอบอุน่ มีคนพะเน้าพะนอ เอาอกเอาใจเพราะมีทั้งพ่อ-แม่-ป้า และอาที่คอย ดูแลเอาใจใส่ให้ความรัก ความเอ็นดู แก้วเป็นผูช้ าย คนเดียวในบ้าน (หากไม่นับพ่อของเขา) ชีวิตที่บ้าน ของแก้วแสนสุขสบาย กิน เทีย่ ว เล่น (ฟุตบอล กีฬา โปรดของเขา) สูบบุหรี่ ขับรถพาสาวเที่ยว เรียน
เครื่องบินขับไลรุนใหม
แบบกริเพน
พล.ท.ทรงพล ไพนุพงศ
เครื่ อ งบิ น ขั บ ไล แ บบกริ เ พ น (JAS 39 Gripen) ได พั ฒ นาขึ้ น ในยุ ค ปลายของสงครามเย็ น ของสองชาติอภิมหาอํานาจทางทหารของโลก โดยประเทศสวีเดนวิจัยพัฒนาโครงอากาศยานขึ้นเองภายใน ประเทศและระบบอาวุธตามมาตรฐานนาโต เครื่องบินตนแบบทําการบินครั้งแรก เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ เพื่อนําเขาประจําการทดแทนเครื่องบินขับไลรุนเกาแบบ ซาบ ๓๗ วิจเจน (Saab 37 Viggen) ที่กําลังลาสมัย กองทัพอากาศสวีเดนมีความตองการ ๒๐๔ เครือ่ ง เครือ่ งบินใชเครือ่ งยนตเทอรโบแฟน ใหแรงขับ ๑๒,๑๐๐ ปอนด เมื่อใชสันดาปทายใหแรงขับ ๑๘,๑๐๐ ปอนด ความเร็ว ๒.๐ มัค รัศมีทําการรบ ๘๐๐ กิโลเมตร เพดานบิน ๕๐,๐๐๐ ฟุต ปนกลอากาศเมาเซอร บีเค-๒๗ ขนาด ๒๗ มิลลิเมตร (มีลูกกระสุน ๑๒๐ นัด) ติดอาวุธภายนอก ลําตัว ๘ จุด นํ้าหนักวิ่งขึ้นสูงสุด ๑๔,๐๐๐ กิโลกรัม ปริมาณนํ้ามันเชื้อเพลิงภายในลําตัว ๓,๐๐๐ ลิตร ระยะทาง วิ่งขึ้น ๔๐๐ เมตร ระยะทางรอนลง ๖๐๐ เมตร และระบบเรดาร พีเอส-๐๕/เอ
๖๐ รักษาดินแดน
วารสาร
กองทั พ อากาศสวี เ ดนได ป ระจํ า การด ว ย เครื่องบินขับไลที่นั่งเดี่ยว เจเอเอส ๓๙ เอ ชุดแรก เมือ่ วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ณ กองบิน เอฟ ๗ ที่เมืองเซทีนาส (Satenas) และกองบิน เอฟ ๑๗ ที่ เ มื อ งรอนนี บี (Ronneby) นั ก บิ น ของกองทั พ อากาศไทยไดรับการฝกเปลี่ยนแบบกับเครื่องบิน
ขับไลแบบกริเพน ที่กองบิน เอฟ ๗ พรอมดวย เจาหนาที่ภาคพื้นดิน เครื่องบินขับไลแบบกริเพน ๓๙ ซี/ดี มีความทันสมัยและเปนเครื่องบินขับไล ในยุคที่ ๔.๕ กองทัพอากาศไทยไดจัดซื้อเครื่องบินขับไล แบบกริเพน ๓๙ ซี/ดี จํานวน ๖ เครือ่ ง ป พ.ศ. ๒๕๕๑
ไดรับมอบเขาประจําการฝูงบิน ๗๐๑ กองบิน ๗ ฐานทั พ อากาศสุ ร าษฎร ธ านี เพื่ อ จะทดแทน เครื่องบินขับไลรุนเกาแบบ เอฟ-๕อี/เอฟ ที่กําลัง จะหมดอายุ ก ารใช ง าน ประจํ า การเฟสที่ ห นึ่ ง จํานวน ๖ เครื่อง (รุนที่นั่งเดี่ยว ๒ เครื่อง และ รุนฝกสองที่นั่ง ๖ เครื่อง) ทําการบินตรงมาจาก ประเทศสวีเดนถึงที่ตั้งเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ
เครื �องบิ นขับไล่กริ เพ่น ติ ดตัง� ระบบเรดาร์ พีเอส-๐๕/เอ มีระยะตรวจการณ์ไกล ๑๒๐ กิโลเมตร มี ปื นกลอากาศ ขนาด ๒๗ มิ ล ลิ เ มตร พร้ อ ม ลูกกระสุน ๑๒๐ นัด ติ ดตัง� อาวุธภายนอกได้ ๘ จุด ภารกิ จต่อสูท้ างอากาศติ ดตัง� จรวดนําวิ ถีพิสยั กลาง ก้าวหน้า เอไอเอ็ม-๑๒๐, จรวดนํ าวิ ถีพิสยั ใกล้ เอไอเอ็ม-๙ ไซไวเดอร์ ภารกิ จโจมตี เรื อรบติ ดตัง� จรวดนําวิ ถี อากาศสู่เรื อ อาร์ บีเอส-๑๕เอฟ
รักษาดินแดน
วารสาร
เครื �องบิ นขับไล่กริ เพ่น ขนาดยาว ๑๔.๑ เมตร ช่วงปี ก ๘.๔ เมตร พืน� ทีป� ี ก ๓๐.๐ ตารางเมตร สูง ๔.๕ เมตร นํ�าหนัก ตัวเปล่า ๖,๘๐๐ กิ โลกรัม นํ�าหนักบินขึ�นสูงสุด ๑๔,๐๐๐ กิ โลกรัม เครื � องยนต์ วอลโว เทอร์ โบแฟน ให้แรงขับ ๑๒,๑๐๐ ปอนด์ ให้แรงขับเมือ� ใช้สนั ดาปท้าย ๑๘,๑๐๐ ปอนด์ ความเร็ว ๒.๐ มัค เพดานบิ น ๑๕,๒๔๐ เมตร รัศมี ทําการรบ ๘๐๐ กิ โลเมตร และ พิ สยั บิ น ๓,๒๐๐ กิ โลเมตร (เมื อ� ติ ดถังนํ�ามันอะไหล่) ประจํ า การฝูง บิ น ๗๐๑ กองบิ น ๗ ฐานทัพอากาศสุราษฎร์ ธานี (ในภาพเป็ นเครื � องบิ นกริ เพ่น ของฝูงบิ น ๗๐๑ พร้ อมด้วย สัญลักษณ์ ปลาฉลาม)
พ.ศ. ๒๕๕๔ พื้ น ที่ ป ฏิ บั ติ ก ารบริ เ วณภาคใต มีชายฝงทะเลทั้งสองดาน คือ มหาสมุทรแปซิฟก และมหาสมุ ท รอิ น เดี ย และเตรี ย มการรั บ มอบ เครื่องบินกริเพน ในเฟสที่สอง จํานวน ๖ เครื่อง เปนรุนที่นั่งเดี่ยว ในป พ.ศ. ๒๕๕๖ เมื่อถึงเวลานั้น เครือ่ งบินขับไล เจเอเอส ๓๙ ซี/ดี รวมทัง้ สิน้ ๑๒ เครือ่ ง จะชวยใหการคุม ครองผลประโยชนของชาติในพืน้ ที่ ภาคใต ตลอดจนแหลงกาซธรรมชาติในอาวไทยที่ นําขึ้นมาใชเปนเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟา สําหรับใหแสงสวางตามบาน พรอมดวยเครื่องใช ไฟฟาตามสํานักงานและโรงงานอุตสาหกรรมใหมี ความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น ภัยคุกคามทางดานทหารจากเครือ่ งบินขับไล ทีส่ าํ คัญคือกองทัพอากาศมาเลเซีย เครือ่ งบินขับไล โจมตีพิสัยไกลชนิดที่นั่งคู ซู-๓๐ เอ็มเคเอ็ม จํานวน ๑๘ เครือ่ ง ของฝูงบินที่ ๑๑ ฐานทัพอากาศกองเคดัค เครื่องบินขับไลที่นั่งเดี่ยว มิก-๒๙ ฟลครั่ม จํานวน ๑๖ เครื่อง ของฝูงบินที่ ๑๙ ฐานทัพอากาศควนตัน และเครื่องบินขับไลโจมตีชนิดที่นั่งคู เอฟ/เอ-๑๘ ดี ฮอรเน็ต จํานวน ๘ เครื่อง ของฝูงบินที่ ๑๘ ฐานทัพ อากาศบัตเตอรเวิรธ กองทัพอากาศพมา เครื่องบิน ขับไลที่นั่งเดี่ยว มิก-๒๙ ฟลครั่ม จํานวน ๓๐ เครื่อง (บางสวนรอการรับมอบจากรัสเซีย)
๖๑
ปฏิทินการฝกสอน นศท. (สวนกลาง) ประจําปการศึกษา ๒๕๕๔ สัปดาห
เสาร
อาทิตย
จันทร
อังคาร
พุธ
พฤหัสบดี
ศุกร
หมายเหตุ
ปฐมนิเทศ ๑๘ มิ.ย. ๑๙ มิ.ย. ๒๐ มิ.ย. ๒๑ มิ.ย. ๒๒ มิ.ย. ๒๓ มิ.ย. ๒๔ มิ.ย. สัปดาหการปฐมนิเทศ นศท. ทุกศูนยฝก
๒
การฝก-สอน ตามหลักสูตร นศท. ๒๕ มิ.ย. ๒๖ มิ.ย. ๒๗ มิ.ย. ๒๘ มิ.ย. ๒๙ มิ.ย. ๓๐ มิ.ย. ๑ ก.ค. เริจํา่มนวน ๒๐ สัปดาห ๒ ก.ค. ๓ ก.ค. ๔ ก.ค. ๕ ก.ค. ๖ ก.ค. ๗ ก.ค. ๘ ก.ค.
๓
ก.ค. วันอาสาฬหบูชา ๙ ก.ค. ๑๐ ก.ค. ๑๑ ก.ค. ๑๒ ก.ค. ๑๓ ก.ค. ๑๔ ก.ค. ๑๕ ก.ค. ๑๕ เรียนชดเชยในวันเสารที่ ๒๓ ก.ค.
๑
๔
ก.ค. วันเขาพรรษาเรียนชดเชยวันอาทิตยที่ ๑๖ ก.ค. ๑๗ ก.ค. ๑๘ ก.ค. ๑๙ ก.ค. ๒๐ ก.ค. ๒๑ ก.ค. ๒๒ ก.ค. ๑๖ ๑๗ ก.ค. (ศฝ.จว.ส.ป./รร.ชท.สปท.) ๑๘ ก.ค. หยุดชดเชยวันเขาพรรษา เรียนชดเชยในวันเสารที่ ๓๐ ก.ค.
๕
๒๓ ก.ค. ๒๔ ก.ค. ๒๕ ก.ค. ๒๖ ก.ค. ๒๗ ก.ค. ๒๘ ก.ค. ๒๙ ก.ค.
๖
๓๐ ก.ค. ๓๑ ก.ค. ๑ ส.ค. ๒ ส.ค.
๗
๖ ส.ค.
๘
๑๓ ส.ค. ๑๔ ส.ค. ๑๕ ส.ค. ๑๖ ส.ค. ๑๗ ส.ค. ๑๘ ส.ค. ๑๙ ส.ค.
๙
๒๐ ส.ค. ๒๑ ส.ค. ๒๒ ส.ค. ๒๓ ส.ค. ๒๔ ส.ค. ๒๕ ส.ค. ๒๖ ส.ค.
๑๐
๒๗ ส.ค. ๒๘ ส.ค. ๒๙ ส.ค. ๓๐ ส.ค. ๓๑ ส.ค. ๑ ก.ย.
๑๑
๓ ก.ย.
๑๒
๑๐ ก.ย. ๑๑ ก.ย. ๑๒ ก.ย. ๑๓ ก.ย. ๑๔ ก.ย. ๑๕ ก.ย. ๑๖ ก.ย.
๑๓
๑๗ ก.ย. ๑๘ ก.ย. ๑๙ ก.ย. ๒๐ ก.ย. ๒๑ ก.ย. ๒๒ ก.ย. ๒๓ ก.ย.
๑๔
๒๔ ก.ย. ๒๕ ก.ย. ๒๖ ก.ย. ๒๗ ก.ย. ๒๘ ก.ย. ๒๙ ก.ย. ๓๐ ก.ย.
๑๕
๑ ต.ค.
๒ ต.ค. ๓ ต.ค. ๔ ต.ค.
๑๖
๘ ต.ค.
๙ ต.ค. ๑๐ ต.ค. ๑๑ ต.ค. ๑๒ ต.ค. ๑๓ ต.ค. ๑๔ ต.ค.
๑๗
สัปดาหการบริจาคโลหิตครั้งที่ ๔ (รอบเชา) ๒๓ ต.ค. วันปยมหาราช เรียนชดเชย ๒๒ ต.ค. ๒๓ ต.ค. ๒๔ ต.ค. ๒๕ ต.ค. ๒๖ ต.ค. ๒๗ ต.ค. ๒๘ ต.ค. วันเสารที่ ๒๒ ต.ค. (นศท. เรียนวันอาทิตย) ๒๔ ต.ค. หยุดชดเชยวันปยมหาราช เรียนชดเชยในวันเสารที่ ๒๙ ต.ค. นศท.ที่ไดอนุมัติตาม ๒๙ ต.ค. ๓๐ ต.ค. ๓๑ ต.ค. ๑ พ.ย. ๒ พ.ย. ๓ พ.ย. ๔ พ.ย. ฝหลักชดเชยให กเกณฑครั้งที่ ๒ (๓๑ ต.ค. - ๔ พ.ย.) ก-สอน ตามหลักสูตร ๕ พ.ย. ๖ พ.ย. ๗ พ.ย. ๘ พ.ย. ๙ พ.ย. ๑๐ พ.ย. ๑๑ พ.ย. จบการฝ นศท. จํานวน ๒๐ สัปดาห
๑๙ ๒๐
๔ ก.ย.
๘ ส.ค.
๕ ก.ย.
๖ ก.ย.
๒ ก.ย.
๖๒ รักษาดินแดน
สัปดาหการบริจาคโลหิตครั้งที่ ๒ (รอบเชา)
๗ ก.ย. ๘ ก.ย. ๙ ก.ย.
๕ ต.ค. ๖ ต.ค.
สัปดาหการบริจาคโลหิตครั้งที่ ๓ (รอบบาย) ฝ ก ชดเชยให นศท.ที่ไดอนุมัติ ๗ ต.ค. ตามหลักเกณฑ ครั้งที่ ๑ (๓ - ๗ ต.ค.)
๑๕ ต.ค. ๑๖ ต.ค. ๑๗ ต.ค. ๑๘ ต.ค. ๑๙ ต.ค. ๒๐ ต.ค. ๒๑ ต.ค.
วารสาร
๑๘
๗ ส.ค.
สัปดาหการบริจาคโลหิตครั้งที่ ๑ (รอบบาย),๔ ส.ค. พิธไี หวครูของ นศท. ส.ค. วันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ๙ ส.ค. ๑๐ ส.ค. ๑๑ ส.ค. ๑๒ ส.ค. ๑๒ เรียนชดเชยในวันเสารที่ ๒๑ ส.ค.
๓ ส.ค. ๔ ส.ค. ๕ ส.ค.
การสอบภาคปฏิบัติ, ภาคทฤษฎี นศท. ประจําปการศึกษา ๒๕๕๔ สัปดาห
๒๑
๒๒
๒๓
เสาร
อาทิตย
จันทร
อังคาร
พุธ
พฤหัสบดี
ศุกร
หมายเหตุ
พ.ย. สอบภาคปฏิบัติป ๑ - ๓ ชาย ๑๒ พ.ย. ๑๓ พ.ย. ๑๔ พ.ย. ๑๕ พ.ย. ๑๖ พ.ย. ๑๗ พ.ย. ๑๘ พ.ย. ๑๒ (ศฝ.จว.สมุทรปราการ/รร.ชท.สปท.)
๑๓ พ.ย. สอบภาคปฏิบัติป ๑ - ๕ หญิง, ๓ - ๕ ชาย (ศฝ.รร.รด.ศสร./ศฝ.ยอย) ๑๔ - ๑๘ สอบภาคปฏิบัติป ๑ - ๓ ชาย (ศฝ.รร.รด.ศสร./ศฝ.ยอย) พ.ย. สอบภาคทฤษฎีป ๑ - ๒ ชาย ๑๙ พ.ย. ๒๐ พ.ย. ๒๑ พ.ย. ๒๒ พ.ย. ๒๓ พ.ย. ๒๔ พ.ย. ๒๕ พ.ย. ๑๙ (ศฝ.จว.สมุทรปราการ) ๑๙ พ.ย. สอบภาคทฤษฎีป ๑, ๒, ๔ หญิง, ๔ ชาย (สวนกลาง) ๒๐ พ.ย. สอบกลางภาคทฤษฎีป ๓, ๕ ชาย, หญิง (ทั่วประเทศ) ๒๑ - ๒๕ พ.ย.สอบภาคทฤษฎีป ๑ - ๒ ชาย (ศฝ.รร.รด.ศสร./ศฝ.ยอย) พ.ย. สอบเก็บตกภาคทฤษฎีป ๓, ๕ ๒๖ พ.ย. ๒๗ พ.ย. ๒๘ พ.ย. ๒๙ พ.ย. ๓๐ พ.ย. ๑ ธ.ค. ๒ ธ.ค. ๒๗ ชาย, หญิง (ทั่วประเทศ) ๒๘ พ.ย. สอบเก็บตกภาคปฏิบัติป ๑ - ๕ ชาย, หญิง (สวนกลาง) ๓๐ พ.ย. สอบเก็บตกภาคทฤษฎีป ๑, ๒, ๔ ชาย, หญิง (สวนกลาง)
๒๔
๓ ธ.ค.
๒๕
๑๐ ธ.ค. ๑๑ ธ.ค. ๑๒ ธ.ค. ๑๓ ธ.ค. ๑๔ ธ.ค. ๑๕ ธ.ค. ๑๖ ธ.ค.
๒๖
อมภาคทฤษฎี (๑๙ ธ.ค. ป ๑, ๒, ๔ ๑๗ ธ.ค. ๑๘ ธ.ค. ๑๙ ธ.ค. ๒๐ ธ.ค. ๒๑ ธ.ค. ๒๒ ธ.ค. ๒๓ ธ.ค. สอบซ ชาย, หญิง) (๒๐ ธ.ค. ป ๓, ๕ ชาย, หญิง) ๒๔ ธ.ค. ๒๕ ธ.ค. ๒๖ ธ.ค. ๒๗ ธ.ค. ๒๘ ธ.ค. ๒๙ ธ.ค. ๓๐ ธ.ค.
หมายเหตุ วันหยุดราชการ
การเรี ยนชดเชย การสอบประจําปี
๕ ธ.ค.
๖ ธ.ค.
๗ ธ.ค. ๘ ธ.ค.
๙ ธ.ค. ๘ ธ.ค. วันนักศึกษาวิชาทหาร
๑๕ ก.ค. วันอาสาฬหบูชา ใหมาเรียนชดเชยวันเสารที่ ๒๓ ก.ค. ๕๔ ๑๘ ก.ค. หยุดชดเชยวันเขาพรรษา ใหมาเรียนชดเชยวันเสารที่ ๓๐ ก.ค. ๕๔ ๑๒ ส.ค. วันเฉลิมพระชนมพรรษา ใหมาเรียนชดเชยวันเสารที่ ๒๐ ส.ค. ๕๔ ๒๔ ต.ค. หยุดชดเชยวันปยมหาราช ใหมาเรียนชดเชยวันเสารที่ ๒๙ ส.ค. ๕๔ นศท. ที่ขอเรียนชดเชยถูกตองตามหลักเกณฑ และไดรับอนุมัติใหเรียนชดเชยตามกําหนด ดังนี้ ครั้งที่ ๑ สัปดาหที่ ๑๕, วันจันทรที่ ๓ ต.ค. - วันศุกรที่ ๗ ต.ค. ๕๔ (รอบเชา - รอบบาย) ครั้งที่ ๒ สัปดาหที่ ๑๙, วันจันทรที่ ๓๑ ต.ค. - วันศุกรที่ ๔ พ.ย. ๕๔ (รอบเชา - รอบบาย) ๑๒ พ.ย. สอบภาคปฏิบัติป ๑ - ๓ ชาย (ศฝ.จว.สมุทรปราการ/ศฝ.รร.ชางฝมือทหาร) ๑๓ พ.ย. สอบภาคปฏิบัติป ๑ - ๕ หญิง, ๓ - ๕ ชาย (ศฝ.รร.รด.ศสร./ศฝ.ยอย นศท.สวนกลางที่เรียนวันอาทิตย) ๑๔ - ๑๘ พ.ย. สอบภาคปฏิบัติป ๑ - ๓ ชาย (ศฝ.รร.รด.ศสร./ศฝ.ยอย นศท.) ๑๙ พ.ย. สอบภาคทฤษฎีป ๑ - ๒ ชาย (ศฝ.จว.สมุทรปราการ)
รักษาดินแดน
วารสาร
๒๗
๔ ธ.ค.
๖๓
๑๙ พ.ย. สอบภาคทฤษฎีป ๑, ๒, ๔ หญิง, ๔ ชาย (นศท.สวนกลาง) *๒๐ พ.ย. สอบภาคทฤษฎีป ๓, ๕ ชาย, หญิง (ทั่วประเทศ) ๒๑ - ๒๕ พ.ย. สอบภาคทฤษฎีป ๑, ๒ ชาย (ศฝ.รร.รด.ศสร./ศฝ.ยอย นศท.) *๒๗ พ.ย. สอบเก็บตกภาคทฤษฎีป ๓, ๕ ชาย, หญิง (ทั่วประเทศ) (รวมพลเวลา ๐๗.๔๕ น.) *๒๘ พ.ย. สอบเก็บตกภาคทฤษฎีป ๑ - ๕ ชาย, หญิง (สวนกลาง) (รวมพลเวลา ๐๗.๔๕ น. ที่ รร.รด.ศสร.) *๓๐ พ.ย. สอบเก็บตกภาคทฤษฎีป ๑, ๒, ๔ ชาย, หญิง (สวนกลาง) (รวมพลเวลา ๐๗.๔๕ น. ที่ รร.รด.ศสร.) ๘ ธ.ค. วันนักศึกษาวิชาทหาร ๑๙ ธ.ค. สอบซอมภาคทฤษฎีป ๑, ๒, ๔ ชาย, หญิง (สวนกลาง) (รวมพลเวลา ๐๗.๔๕ น. ที่ รร.รด.ศสร.) ๒๐ ธ.ค. สอบซอมภาคทฤษฎีป ๓, ๕ ชาย, หญิง (สวนกลาง) (รวมพลเวลา ๐๗.๔๕ น. ที่ รร.รด.ศสร.) หลักเกณฑ์ การขอผ่ อนผันให้ นศท. เรี ยนชดเชย กรณีเข้ าร่ วมโครงการต่ าง ๆ ดังนี � ๑. โครงการเพื่อสงเสริมสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย ซึ่งจัดโดยหนวยงานราชการหรือองคกรตาง ๆ ๒. โครงการของสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.) ๓. โครงการสงเสริมโอลิมปควิชาการ และมาตรฐานวิทยาศาสตร คณิตศาสตร (สอวน.) ๔. โครงการประเมินผลคุณภาพการศึกษาระดับประเทศ (GAT/PAT) การสอบตรงเขาศึกษาตอในระดับอุดมศึกษาและ การแขงขันการตอบปญหาทางการศึกษาระดับชาติ ๕. โครงการตอตานยาเสพติด ซึ่งจัดโดยหนวยงานราชการหรือองคกรตาง ๆ ๖. โครงการมูลนิธิการศึกษาและวัฒนธรรมสัมพันธไทย - นานาชาติ (เอเอฟเอส ประเทศไทย) ๗. โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนไทย - นานาชาติ โดยใชทุนการศึกษาของรัฐหรือหนวยงานเอกชน ๘. การเป น ผู แ ทนของประเทศ เขา รว มการแขง ขันระหวางประเทศ และกีฬาแหงชาติ หรือตัวแทนรวมกิจกรรม ในตางประเทศ หมายเหตุ ตองมีหนังสือจากสถานศึกษาวิชาทหารพรอมหลักฐานการเขารวมโครงการ (โดยหัวหนาสถานศึกษาวิชาทหาร เปนผูล งนามถึงผูบ งั คับบัญชาการโรงเรียนรักษาดินแดน) สงหนังสือดังกลาวทีแ่ ผนกเตรียมการ โรงเรียนรักษาดินแดน ศูนยการกําลังสํารอง โดยตรง
๖๔ รักษาดินแดน
วารสาร
แผนกเตรี ยมการ โรงเรี ยนรักษาดิ นแดน ศูนย์การกําลังสํารอง โทร./โทรสาร ๐-๒๒๗๕-๒๑๗๕ (โทรทหาร ๙๐๖๕๐)
แนะนํา สถานศึกษา
โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
เลขที่ ๕๔ ถนนวิภาวดีรงั สิต แขวง/เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ๑๐๔๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๗๖ ๖๒๗๖ โทรศัพท ๐ ๒๒๗๗ ๙๑๑๐ วิ ท ยฐานะ รั บ นั ก เรี ย นที่ เ ป น บุ ต รข า ราชการ กองทัพบก และบุตรบุคคลอื่นทั่วไปเขาเรียน ภายหลังกองทัพบกพิจารณาเห็นวา การ จัดการศึกษาแกเยาวชนควรมอบใหเปนหนาที่ของ กระทรวงศึกษาธิการ และดวยปญหาการขาดแคลน ผูชํานาญในการจัดการศึกษา จึงไดโอนโรงเรี ยน บุ ต รข้ า ราชการกองทั พ บกส่ ว นกลางให้ แ ก่ กระทรวงศึกษาธิการ เมื�อวันที� ๑๘ มีนาคม ๒๕๑๗ หลั ง จากที่ ก องทั พ บกดํ า เนิ น การมาได ๖ ป การโอนโรงเรียนบุตรขาราชการกองทัพบก สวนกลางใหเปนโรงเรียนของกรมสามัญศึกษานั้น กองทัพบกไดเสนอชือ่ “จอมพล มหาอํามาตย์ เอก เจ้ าพระยาสุรศักดิ�มนตรี ” ผูบัญชาการทหารบก คนแรก ที่กองทัพบกภาคภูมิใจในเกียรติประวัติ ใหกรมสามัญศึกษาใชเปนชื่อของโรงเรียน โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีจัดการศึกษาระดับ มัธยมศึกษา จัดการเรียนการสอนโดยเนนผูเรียน เปนสําคัญ จัดศูนยการเรียนรูโดยใชสื่ออุปกรณ และเทคโนโลยี ที่ ทั น สมั ย เน น กิ จ กรรมที่ ห ลาก หลายรวมทั้งมีความเจริญกาวหนาทางดานอาคาร สถานที่ และสิ่ ง แวดล อ มที่ เ หมาะแก ก ารเรี ย นรู จึ ง ได รั บ รางวั ล “โรงเรี ย นดี เ ด่ น รั บ รางวั ล พระราชทานประจําปี การศึกษา ๒๕๔๒” โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีในปแรกนั้น มีอาคาร ๕ หลัง โรงอาหาร ๑ หลัง หอนอน ๑ หลัง และ โรงพลศึกษา ๑ หลัง บัดนี้ โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี มี ค วามเจริ ญ ก า วหน า ทางด า นอาคารสถานที่
รักษาดินแดน
วารสาร
โรงเรี ย นสุ ร ศั ก ดิ์ ม นตรี เดิ ม คื อ โรงเรี ย น บุตรข้ าราชการกองทัพบก สรางขึ้นเพื่อเปนการ แบงเบาภาระการจัดการศึกษาของชาติ และเปนการ ตอบแทนขาราชการสังกัดกองทัพบก ซึง่ ตองปฏิบตั ิ หนาที่ดวยความเสียสละจะไดไมตองวิตกกังวล ในเรือ่ งการจัดหาโรงเรียนใหบตุ รหลาน ในป ๒๔๙๒ ฯพณฯ จอมพล ผิน ชุณหะวัน รองผูบัญชาการ ทหารบก ในขณะนัน้ จึงชักชวนขาราชการกองทัพบก ทุกทาน ใหเสียสละเงินรายไดปล ะ ๑ วันใหกองทัพบก เพื่ อ รวบรวมสมทบทุ น ในการก อ สร า งโรงเรี ย น บุตรขาราชการกองทัพบก และไดดําเนินการสะสม เงินจํานวนนี้ ตั้งแตวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๔๙๒ เปนตนมา วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๐๙ เริม่ การกอสราง โรงเรียนบุตรขาราชการกองทัพบกสวนกลางขึน้ โดย ฯพณฯ จอมพล ประภาส จารุเสถียร ผูบ ญ ั ชาการ ทหารบก ในขณะนัน้ ไดมอบหมายให พลเอก เต็ม หอมเศรษฐี เปนประธานอนุกรรมการการจัดตั้ง และกอสราง ซึง่ สรางเสร็จในเดือนพฤษภาคม ๒๕๑๑ บนเนื้อที่ ๕๘ ไร ริมถนนวิภาวดีรังสิต โดยนายก รัฐมนตรีสมัยนั้นคือ ฯพณฯ จอมพล ถนอม และ ท่ านผู้หญิงจงกล กิตติขจร เปนผูใหการอุปถัมภ โรงเรียน โรงเรียนบุตรขาราชการกองทัพบก จัดการ ศึกษาตั้งแตอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา แผนกพาณิชยการ และชางกล เปน โรงเรี ย นราษฎร ที่ ก ระทรวงศึ ก ษาธิ ก ารรั บ รอง
๖๕
๖๖ รักษาดินแดน
วารสาร
มีการกอสรางอาคารเพิม่ เติมหลายหลัง อาคารของ โรงเรียนประกอบดวย อาคาร ๑ ชือ่ “ตึกจอมพลถนอม กิตติขจร” เปนอาคาร ๔ ชัน้ เปนทีต่ งั้ ของสํานักงานกลุม บริหาร วิชาการ หองสารสนเทศ สํานักงานกลุมบริหาร การเงินสินทรัพยและบริหารงานบุคคล สํานักงาน ผูอ าํ นวยการ หองประชุม “เห็นแกลกู ” หองจริยธรรม หองคอมพิวเตอร หองการเงิน หองโสตทัศนศึกษา บริภัณฑ หองปฏิบัติการทางภาษา หองมัลติมีเดีย และหองศูนยวิชาภาษาอังกฤษ อาคาร ๒ ชื่อ “ตึกจอมพลผิน ชุณหะวัน” เปนอาคาร ๓ ชั้น เปนที่ตั้งของกลุมสาระการเรียนรู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุมสาระ การเรียนรูภาษาตางประเทศ หองศูนยวัฒนธรรม โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี “ภูมปิ ั ญญาไทย” หองศูนย วิชาสังคมศึกษา และใชเปนหองเรียนจํานวน ๑๕ หอง อาคาร ๓ ชื่ อ “ตึ ก จอมพลประภาส จารุ เ สถี ย ร” เป น อาคาร ๓ ชั้ น เป น ที่ ตั้ ง ของ กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร หองศูนยวิชา วิ ท ยาศาสตร ห อ งเรี ย นสี เ ขี ย ว ห อ งปฏิ บั ติ ก าร ทางวิทยาศาสตร และหองนวัตกรรมกาญจนาภิเษก และใชเปนหองเรียน ๑๒ หอง อาคาร ๔ ชื่อ “ตึกสํานักงานสลากกินแบ่ ง รั ฐบาล” เปนอาคาร ๓ ชั้น เปนที่ตั้งของกลุมสาระ การเรียนรูภาษาไทย หองศูนยวิชาภาษาไทย และ ใชเปนหองเรียนจํานวน ๑๔ หอง อาคาร ๕ ชื่อ “ตึกพลเอกทวิช เสนีย์วงศ์ ” เปนอาคาร ๓ ชั้น เปนที่ตั้งของกลุมสาระการเรียนรู คณิตศาสตร หองศูนยวิชาคณิตศาสตร กลุมสาระ การเรี ย นรู สุ ข ศึ ก ษาและพลศึ ก ษา และใช เ ป น หองเรียนจํานวน ๑๕ หอง อาคาร ๖ ชื่อ “ตึกเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา” เปนอาคาร ๔ ชั้น เปนที่ตั้งของโรงอาหาร หองศูนยเพื่อนใจวัยรุน หอประชุม หองปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร และใชเปนหองเรียนจํานวน ๒๘ หอง อาคาร ๗ ชือ่ “ตึกพลเอกเต็ม หอมเศรษฐี” เปนโรงพลศึกษา อาคาร ๘ ชือ่ “ตึกพลเอกกฤษณ์ สีวะรา” เปน อาคารหอนอน เปนที่ตั้งของหองโยธวาทิตวาทยา อาคาร ๙ ชือ่ “ตึกพลเอกอาทิตย์ กําลังเอก” เปนที่ตั้งของกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพ เทคโนโลยีและศิลปะ หองปฏิบัติการของวิชาการ งานอาชีพและศิลปะ และใชเปนหองเรียน ๑๓ หอง อาคาร ๑๐ ชือ่ “ตึกจอมพลมหาอํามาตย์เอก เจ้ า พระยาสุ ร ศั ก ดิ� ม นตรี ” เป น อาคาร ๓ ชั้ น เปนทีต่ งั้ ศูนยวทิ ยบริการ ประกอบดวย หองหนังสือ ทั่วไปและอางอิง หองศูนยพัฒนาสูความเปนเลิศ (Resource Center) หอง Internet หองนานา นวัตกรรม หองศึกษาคนควาดวยตนเอง หองวีดทิ ศั น หองพิพธิ ภัณฑโรงเรียน หองกีฬาในรม งานแนะแนว อาคาร ๑๑ ชื่อ “ตึกเจริ ญ พูลวรลักษณ์ ” เป น อาคาร ๓ ชั้ น เป น ที่ ตั้ง ของสํ านั ก งานกลุ ม บริ ห ารงานทั่ ว ไป สํ า นั ก งานสมาคมผู ป กครอง และครูโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี สํานักงานสมาคม ศิษยเกาบุตร ทบ.-สุรศักดิ์มนตรี และหองประชุม โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี นอกจากนี ย� ังมีอาคารประกอบจํานวน ๔ หลัง ประกอบด้ วย ๑. อาคารปกครอง เปนที่ตั้งของสํานักงาน กลุมบริหารกิจการนักเรียน งานประชาสัมพันธ สํานักงานเครือขายผูปกครองฯ ๒. อาคารพยาบาล ๓. อาคารกิจกรรมพัฒนาผูเรียน ๔. ศาลาฉัฏฐมงคล เปนเรือนไมทรงไทย ใชเปนที่จัดกิจกรรมสงเสริมและอนุรักษวัฒนธรรม ไทย ๕. สนามกี ฬ าจํ า นวน ๖ สนาม และ สระวายนํ้า ๑ สระ
นายธีระพงศ นิยมทอง
ผูอํานวยการโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
๑. ประวัติสวนตัว
เกิดวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๘ ปจจุบันอายุ ๕๖ ป ตําแหนงปจจุบัน ผูอํานวยการโรงเรียน สุรศักดิ์มนตรี สังกัด สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๒ คุณวุฒิ ประโยคมัธยมศึกษาวิชาชีพชั้นสูง (ปม.ช.) ครุศาสตรบัณฑิต (ค.บ.) นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต (นศ.ม.) การบริหารการศึกษา (ป.บัณฑิต)
๓. ประวัติการทํางาน
๒๕๒๐ ๒๕๒๑ - ๒๕๓๕ ๒๕๓๕ - ๒๕๓๗ ๒๕๓๗ - ๒๕๓๙ ๒๕๔๐ - ๒๕๔๓ ๒๕๔๓ - ๒๕๔๕ ๒๕๔๕ - ๒๕๔๙ ๒๕๔๙ - ๒๕๕๑ ๒๕๕๑ - ปจจุบัน
สาขา/วิชาเอก ดนตรีสากล พลศึกษา การประชาสัมพันธ บริหารการศึกษา
สถานศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป วิทยาลัยครูจันทรเกษม มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
ครูโรงเรียนสตรีนนทบุรี อาจารยโรงเรียนนนทบุรี ผูชวยอาจารยใหญ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวังนนทบุรี ผูชวยผูอํานวยการโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวังนนทบุรี ผูอํานวยการโรงเรียนไทรนอย จังหวัดนนทบุรี ผูอํานวยการโรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย กทม. ผูอํานวยการโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย กทม. ผูอํานวยการโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภฯ ผูอํานวยการโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
รักษาดินแดน ๖๗ วารสาร
๒. ประวัติการศึกษา
๔. การฝกอบรม/ศึกษาดูงาน ๒๕๔๓ ๒๕๔๕ ๒๕๕๐ ๒๕๕๑ ๒๕๕๒
หลักสูตรการปฏิบัติงานจิตวิทยาเพื่อความมั่นคง (สจว.) หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน รุน ๑ หลักสูตรการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงรองรับการกระจายอํานาจทางการศึกษา หลักสูตรผูบริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.๑๓) ศาลยุติธรรม หลักสูตรการปองกันราชอาณาจักร รุนที่ ๕๒ (ปรอ.รุนที่ ๒๒)
๕. ประสบการณดานการบริหารงานบุคคล
๖๘ รักษาดินแดน
วารสาร
๑. ประธานอนุกรรมการฝายดุริยางคเนื่องในงาน ๕ ธันวา มหาราช และงาน ๑๒ สิงหา มหาราชินี มูลนิธิ ๕ ธันวา มหาราช ๒. กรรมการฝายกิจกรรมงานชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ ๒๐ ป ๒๕๔๕ - ๒๕๔๖ ๓. ประธานศูนยพัฒนาคุณภาพวิชาภาษาจีน (โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย) ๔. ประธานศูนยพัฒนาคุณภาพวิชาภาษาญี่ปุน (โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภฯ) ๕. ประธานศูนยพัฒนาคุณภาพวิชาสังคมศึกษา (โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี) ๖. กรรมการบริหารสมาคมจักรยานแหงประเทศไทย ในพระอุปถัมภฯ ๗. ผูทรงคุณวุฒิใน อ.ก.ค.ศ. สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต ๑ ๘. กรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตํารวจกรุงเทพมหานคร (สถานีตาํ รวจนครบาลพญาไท และสถานีตํารวจนครบาลดินแดง) ๙. คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารางพระราชบัญญัติ สถาบันพัฒนศิลป ๑๐. กรรมการประเมินการเลื่อนวิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ, ครูเชี่ยวชาญ ๑๑. ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุมครองผูบริโภค วุฒสิ ภา
ผกท.สุพจน รักธรรม
รองผูอํานวยการโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ฝายบริหารงานบุคคล หัวหนางานรักษาดินแดน ผูอํานวยการโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ประวัติการรับราชการ
เริ่มรับราชการตั้งแตวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จังหวัดอุดรธานี ๑ ตุลาคม ๒๕๒๔ โรงเรียนเบญจมราชาลัย กรุงเทพมหานคร ๑ ตุลาคม ๒๕๔๐ ผูช ว ยผูอ าํ นวยการโรงเรียนกาญจนาภิเษก นครปฐม (พระตําหนักสวนกุหลาบมัธยม) จังหวัดนครปฐม ๑ ตุลาคม ๒๕๔๖ รองผูอํานวยการโรงเรียนจันทรประดิษฐารามวิทยาคม สังกัด สพท.กทม.๓ กรุงเทพมหานคร ๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ รองผูอํานวยการโรงเรียนโยธินบูรณะ สังกัด สพท.กทม. กรุงเทพมหานคร ๑ เมษายน ๒๕๕๑ รองผูอ าํ นวยการโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย สังกัด สพท.กทม.๑ กรุงเทพมหานคร ๑ เมษายน ๒๕๕๓ รองผูอํานวยการโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี สังกัด สพม.เขต ๒ กรุงเทพมหานคร
วุฒิการศึกษา
ปริญญาโท ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ปริญญาตรี การศึกษาบัณฑิต วิชาเอกพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (พลศึกษา)
เกี่ยวกับงานนักศึกษาวิชาทหาร
สําเร็จการฝกอบรมตามหลักสูตรผูกํากับนักศึกษาวิชาทหารของกองทัพบก ระยะเวลาตั้งแตวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๒ ถึงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๒ กอตัง้ สถานศึกษานักศึกษาวิชาทหารโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยนครปฐม (พระตําหนักสวนกุหลาบ มัธยม) พ.ศ. ๒๕๔๒
รักษาดินแดน ๖๙ วารสาร
วิธีการสงหมายเรียกพลและ
การดําเนินคดีนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน
กองการเตรียมพล นรด.
ส
วั ส ดี ค รั บ เพื่ อ นข า ราชการและสมาชิ ก รั ก ษาดิ น แดนวารสารทุ ก ท า น สํ า หรั บ ฉบั บ นี้ กองการเตรียมพลฯ ไดนําวิธีการปฏิบัติในเรื่องการสงหมายเรียกพล และการดําเนินคดีตอ นายทหารสัญญาบัตรกองหนุนที่ขัดขืนการเรียกพล เพื่อใหขาราชการสายงานสัสดีใชเปนแนวทางปฏิบัติ ซึ่งวิธีการดังกลาวนั้นเปนคําชี้แจงในการปฏิบัติงานที่ทาน พล.อ.ศักดิ์สิน ทิพยเกษร เคยดํารงตําแหนง ผูอํานวยการกองการกําลังสํารอง กรมการกําลังสํารองทหารบก (ผอ.กสร.กสร.ทบ.) ในขณะนั้น และ ไดเคยพิมพลงในวารสารสัสดีมาแลว โดย กองการกําลังสํารอง กรมการกําลังสํารองทหารบก (กสร.กสร.ทบ.) ซึ่งตอมาไดเปลี่ยนชื่อเปน กองการเตรียมพล หนวยบัญชาการกําลังสํารอง (กตพ.นสร.) ตั้งแตการ รวมหนวย รด. กับ กสร.ทบ. เมื่อ ๑๐ พ.ค. ๔๕ และเปลี่ยนชื่อเปน กองการเตรียมพล หนวยบัญชาการ รักษาดินแดน (กตพ.นรด.) ตั้งแต ๑ เม.ย. ๕๒
๗๐ รักษาดินแดน
วารสาร
สําหรับแนวทางการปฏิบัติงานในเรื่องวิธี การสงหมายเรียกพลและแนวทางการดําเนินคดีฯ ตามที่เผยแพรในวารสารฉบับนี้ ไดมีกําหนดไวใน แผนการเรียกพลเพื่อตรวจสอบและฝกวิชาทหาร ประจําปของ ทบ. เชนกัน มีขอกําหนดเพิ่มเติม การปฏิบัติของเจาหนาที่ที่เกี่ยวของไวดังตอไปนี้
๑. ขั้นการเตรียมการเรียกพล
ให ห น ว ยเรี ย กพล (มทบ./จทบ.) จั ด ทํ า ชุ ด เอกสารการเรี ย กพล (คํ า สั่ ง เรี ย กพล, หมายเรียกพล, บัญชีเรียกพล ฯลฯ) ตามรายชื่อ กํ า ลั ง พลสํ า รองที่ บ รรจุ อ ยู ใ นบั ญ ชี บ รรจุ กํ า ลั ง (ตพ.๕) ของหนวยตาง ๆ ซึง่ ไดผ่านการตรวจสอบ
๒. ขั้นปฏิบัติการเรียกพล
การเรียกพลเพื�อฝึ กวิชาทหาร ตาม ระบบ ๑ : ๑ : ๑ : ๓ ซึง่ จะตองทําการเรียกพล ๔ ครัง้ ในปงบประมาณแรก (ฝกเฉพาะหนาที่ใน พ.ค., มิ.ย., ก.ค. เดือนละ ๒ วัน รวม ๖ วัน และฝกเปน หนวยกองรอยใน ส.ค. ๑๐ วัน) และเรี ยกพล อี ก ๓ ครั �ง ในปงบประมาณถัดไป (ฝกเฉพาะ หนาที่ใน ม.ค., ก.พ. เดือนละ ๒ วัน รวม ๔ วัน และฝกเปนหนวยกองพันใน มี.ค. ๑๐ วัน) ใหสัสดี อําเภอประสานกับนายอําเภอลงนามในเอกสาร การเรียกพล (ตพ.๑๓) พรอมกันทีเดียว เนื่องจาก จะไม มี การเปลี่ ยนตัว กํา ลังพลสํา รองไดอีกและ เพื่ อ ความสะดวกในการส ง มอบให กั บ กํ า ลั ง พล สํารอง โดยกําหนดให้ สัสดีอาํ เภอส่ งชุดเอกสาร
การเรียกพลถึงกําลังพลสํารองเฉพาะในครัง� แรก เท่ านัน� สําหรับชุดเอกสารการเรียกพลครั้งตอไป ใหนําสง มทบ./จทบ. เพื่อมอบใหกําลังพลสํารอง ในวั น ปลดปล อ ยพลแต ล ะครั้ ง (กรณี กํ า ลั ง พล สํารองที่ไมมารายงานตัว ใหนําสงคืนสัสดีอําเภอ เพื่อดําเนินการสงชุดเอกสารการเรียกพลเชนเดียว กับครั้งแรก) สําหรับการเรียกพลเพือ่ ตรวจสอบ กําหนด ๑ วั น หรื อ การเรี ย กพลเพื่ อ ฝ ก วิ ช าทหารเพื่ อ เลื่อนยศ-ฐานะ กําหนด ๓๐ วัน (รร.กสร.ศสร.) จะสงชุดเอกสารการเรียกพลใหกับกําลังพลสํารอง เพี ย งครั้ ง เดี ย ว คงจะไม มี ป ญ หาในการปฏิ บั ติ แตอยางใด จึงขอใหเจาหนาที่สายงานสัสดี และหนวย ที่เกี่ยวของไดยึดถือเปนแนวทางในการปฏิบัติงาน ถาหากเพือ่ นสมาชิกทานใดมีปญ หาขอขัดของ หรือ ขอเสนอแนะตาง ๆ กรุณาติดตอไดที่ พ.ต.คมจักร ชัยชนะ แผนกเรียกพลและระดมพล กตพ.นรด. โทรศัพท ๐-๒๒๒๓-๓๒๕๔ โทร.ทบ. ๙๑๙๙๓ ไดในวันและเวลาราชการ
รักษาดินแดน ๗๑ วารสาร
สภาพทหารกองหนุ นมาแล้ วเป็ นอย่ างดี และ สามารถที่จะเรียกกําลังพลสํารองเหลานั้นได ทั้งนี้ ตองจัดทําใหแลวเสร็จกอนวัน ต.-๑๐ และใหเริ่ม สงชุดเอกสารการเรียกพลถึง ผวจ.ในทองที่ หรือ สงถึงกําลังพลสํารองประเภทนายทหารสัญญาบัตร กองหนุน ไดตั้งแตวัน ต.-๑๐
การปฏิบัติในการสงหมายเรียกพลและการดําเนินคดี ตอทหารสัญญาบัตรกองหนุนที่ขัดขืนคําสั่งเรียกพล
๗๒ รักษาดินแดน
วารสาร
การเรียกพลเพื่อฝกวิชาทหารของ ทบ. คือ การเรียกกําลังพลสํารองที่มีรายชื่อบรรจุในบัญชีบรรจุ กําลังของหนวยตาง ๆ ตามแผนปองกันประเทศ เขามารับการฝกทบทวนวิชาทหาร โดยมีความมุงหมาย เพื่อใหกําลังพลสํารองเกิดความคุนเคย และสามารถปฏิบัติการรบรวมกับกําลังประจําการอยางมี ประสิทธิภาพ แตในการเรียกพลฯ ดังกลาว ยังมีปญหาและอุปสรรคในหลายดาน ที่สําคัญที่สุดก็เรื่อง ของคน ไดแก กําลังพลสํารอง (ส.และ พลฯ) พยายามทุกวิถีทางที่จะไมใหถูกเรียกพล โดยไมยอมรับ หมายเรียกพล ทําใหทางราชการไมสามารถเรียกพลไดครบตามจํานวน สําหรับผูที่หลีกเลี่ยงหรือ ขัดขืนการเรียกพล ก็ไมสามารถลงโทษตามกระบวนการยุตธิ รรมได เนือ่ งจากจับตัวไมได หรือจับตัวได แต อัยการ/ศาลสั่งไมฟองเพราะพยานหลักฐานออน ดังนั้น เพื่อใหการสงหมายเรียกพลและการดําเนินคดีฯ มีผลในทางปฏิบัติอยางเปนรูปธรรม กองการกําลังสํารอง จึงไดกําหนดแนวทางฯ เพื่อใหเจาหนาที่ สายงานสัสดีนําไปปฏิบัติ ดังนี้ ๑. การส่ งหมายเรี ยกพล สําหรั บนายทหารประทวนกองหนุ นและพลทหารกองหนุ น ให้ ปฏิบตั เิ ป็ น ๓ ขัน� คือ ๑.๑ ขัน� ที� ๑ ใหสัสดีอําเภอ/กิ่งอําเภอ/เขต ไปสงหมายเรียกพล (ตพ.๑๓) ใหกําลังพล สํารอง ณ ภูมิลําเนาทหารภายในวัน ต.+ ๑ โดยใหกําลังพลสํารองเซ็นรับหมายเรียกพลในบัญชีเรียกพล (ตพ.๘) กําลังพลสํารองในสวนนี้จะไมมีปญหาในการมารายงานตัว สวนกําลังพลสํารองที่ไมอยูใน ภูมิลําเนาทหารหรือปฏิเสธการรับหมายเรียกพลดวยประการใด ๆ ก็ตาม ใหนําหมายเรียกพลกลับมา แลวดําเนินการสงอยางเปนทางการในขั้นที่ ๒ ๑.๒ ขัน� ที� ๒ การส ง หมายเรี ย กพลในขั้ น นี้ ต อ งดํ า เนิ น การให เ สร็ จ ภายในวั น ต.+ ๒ โดยจัดเปนชุดเจาหนาที่ประกอบดวย ๓ ฝาย คือ ฝายปกครอง (กํานัน/ผูใหญบาน/สารวัตรกํานัน/ผช. ผูใหญบาน), ฝายพนักงานสอบสวน (เจาหนาที่ตํารวจ) และฝายทหาร (สัสดี) โดยชุดเจาหนาที่ดังกลาว จะนําหมายเรียกพลฉบับนั้นไปสงใหกําลังพลสํารองที่มีปญหา (สงซํ้า ณ ภูมิลําเนาทหาร) หากยังไมยอม เซ็นรับอีก ก็แจงใหกําลังพลสํารอง หรือผูปกครอง (ญาติ) ทราบถึงโทษของการไมรับหมายเรียกพล แลวบันทึกรายละเอียดของการดําเนินการทั้งหมดพรอมเหตุผลใหครบถวนสมบูรณลงในแบบบันทึก ปค.๑๔ และขอใหฝา ยปกครอง (กํานัน) ลงนามเปนผูบ นั ทึกดังกลาว โดยมีพนักงานสอบสวนและฝายทหาร ลงนามเปนพยานดวย หลังจากนั้นใหนําหมายเรียกพลกลับมาเพื่อดําเนินการสงในขั้นที่ ๓ ๑.๓ ขัน� ที� ๓ ใหสัสดีนําหมายเรียกพลที่สงไมไดในขั้นที่ ๒ นําสงทางไปรษณียลงทะเบียน ตอบรับอีกครั้งหนึ่ง โดยสงไปยังภูมิลําเนาทหารหรือภูมิลําเนาประกอบอาชีพ ตองดําเนินการใหแลวเสร็จ ภายในวัน ต.+ ๔ เมื่อดําเนินการครบทั้ง ๓ ขั้นตอนแลว ในวัน ต.+ ๒๐ หากกําลังพลสํารองไมมารายงานตัว ตามวัน เวลา และสถานที่ที่ทางราชการกําหนดไวในหมายเรียกพล ให มทบ./จทบ.รวบรวมรายชื่อและ
หลักฐานของกําลังพลสํารองผูนั้น เพื่อดําเนินคดีในขอหาหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนการเรียกพลฯ ตาม พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๔๖ หรือ ๔๗ แลวแตกรณี หลักฐานดังกลาวประกอบดวย - สําเนาหมายเรียกพล - สําเนาการบันทึกฯ ใน ปค.๑๔ - หลักฐานการตอบรับทางไปรษณีย ตามกฎหมายใหถือวาทางราชการทหารไดพยายามทุกวิถีทาง ที่จะใหกําลังพลสํารอง ไดรบั หมายเรียกพล และทางไปรษณียก ไ็ ดสง กอนวันรายงานตัวถึง ๑๗ วัน ดังนัน้ ใหถอื วากําลังพลสํารอง ผูนั้นไดรับทราบหมายเรียกพลนั้นแลว แตเพื่อใหการดําเนินการทั้ง ๓ ขั้น มีเวลาเพียงพอ อาจจะเริ่มสง หมายเรียกพลไดกอน วัน ต. ประมาณ ๕ - ๗ วัน ๒. การดําเนินคดีต่อผู้ขัดขืนคําสั�งเรี ยกพล สําหรั บนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน ๒.๑ นายทหารสั ญ ญาบั ต รกองหนุ น เข า รั บ การเรี ย กพลตามคํ า สั่ ง ของผู บั ง คั บ บั ญ ชา โดยใชคาํ สัง่ เรียกพล (ตพ.๑๗) ดังนัน้ ผูท ขี่ าดการเรียกพลจะมีความผิดฐานขัดขืนหรือละเลยมิกระทําตาม คําสั่งฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐ ใหลงอาญาจําคุกไมเกิน ๕ ป และคดีดังกลาวใหอยูใน อํานาจศาลทหารตาม พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยมาตราที่เกี่ยวของในการปฏิบัติมีดังนี้ - มาตรา ๑๖ นายทหารชั้นสัญญาบัตรนอกประจําการเปนบุคคลที่อยูในอํานาจศาลทหาร - มาตรา ๔๗ นายทหารพระธรรมนูญหรืออัยการทหาร มีอํานาจทําการสอบสวนคดีอาญา ทั้งปวง ซึ่งอยูในอํานาจศาลทหาร แตถามีเหตุอันสมควร ผูบังคับบัญชาจะสั่งใหนายทหารชั้นสัญญา บัตร ทําการสอบสวนก็ได ทั้งนี้ไมตัดอํานาจของพนักงานสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา การสอบสวนดังกลาวในวรรคกอน ใหถือวาเปนการสอบสวนตามประมวลกฎหมายตาม วิธีพิจารณาความอาญาดวย เพือ่ ประโยชนแกการสอบสวน ใหผมู หี นาทีท่ าํ การสอบสวนมีอาํ นาจออกหมายเรียกใหบคุ คลใด มาใหถอยคํา หรือสงสิ่งใดที่จะใชเปนพยานหลักฐานได - มาตรา ๔๙ อัยการทหารมีอํานาจทําการสอบสวนเพิ่มเติม หรือจะสงใหผูที่มีหนาที่ สอบสวน ทําการสอบสวนเพิ่มเติมก็ได ๒.๒ การดําเนินการ ควรใหพนักงานสอบสวน (ตํารวจ) ทําการสอบสวนและดําเนินคดี จะสะดวกกวาฝายทหาร แตขอใหผูที่ไดรับมอบอํานาจไปรองทุกขกลาวโทษ มีการประสานการปฏิบัติ กับพนักงานสอบสวนไดเขาใจขั้นตอนของการปฏิบัติ กลาวคือ เมื่อเสร็จสิ้นในการรับรายงานตัวของ การเรียกพลแตละครั้งภายใน ๗ วัน หนวยเรียกพลจะตองตรวจสอบจากบัญชีเรียกพล (ตพ.๘) และ หนวยฝก (บางคนอาจไปรายงานตัว ณ หนวยฝกโดยตรง) แลวรวบรวมรายชื่อและหลักฐานตาง ๆ ใหพนักงานสอบสวน ที่เปนภูมิลําเนาทหารของนายทหารสัญญาบัตรกองหนุนที่ขาดการเรียกพล โดยมี หลักฐาน ดังนี้.๒.๒.๑ หนังสือขอใหสอบสวนจับกุม จะตองระบุผรู บั มอบอํานาจ ยศ-ชือ่ และตําแหนง ของผูที่จะมารองทุกขกลาวโทษดําเนินคดีใหชัดเจน
วารสาร
รักษาดินแดน ๗๓
ใหเรียบรอย
๒.๒.๒ สํ า เนาคํ า สั่ ง เรี ย กพล (ตพ.๑๗) จะต อ งถ า ยเอกสารและรั บ รองสํ า เนา
๒.๒.๓ บัญชีรายชื่อนายทหารสัญญาบัตรกองหนุนที่ขาดการเรียกพล มีรายละเอียด เกี่ยวกับ ยศ-ชื่อ หมายเลขประจําตัว ภูมิลําเนาทหาร ชื่อบิดา มารดา ขาดการเรียกพลเมื่อใด ครั้งที่เทาใด หมายเหตุใหทราบการสงคําสั่งเรียกพลไปใหที่ไหน ๒.๒.๔ สําเนาไปรษณียต อบรับภายในประเทศ จะตองถายเอกสารทัง้ ดานหนา - หลัง และรับรองสําเนาดวย ๒.๒.๕ สําเนาหนังสือที่ รมว.กห. อนุมตั ใิ หเรียกนายทหารสัญญาบัตรกองหนุนเขารับ การเรียกพล ตามที่ กสร.ทบ. (นรด.) สําเนาเรื่องให ๒.๓ เมื่อรองทุกขกลา วโทษและแจ ง ข อ หาให พนั ก งานสอบสวนทราบแล ว ต อ งชี้ แจง การใหประกันตัวผูต อ งหาใหพนักงานสอบสวนทราบดวย เพราะสารวัตรใหญมอี าํ นาจใหประกันตัวผูต อ งหา ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๐ (๓) กําหนดโทษจําคุกไมเกิน ๕ ป ตองมีหลักทรัพยประมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท เปนหลักประกันชั้นสอบสวน ถาจังหวัดทหารบกเปนเจาของเรื่อง แจงเปนผูกลาวหา นายทหารสัญญาบัตรกองหนุนในพื้นที่ แตศาลจังหวัดทหารบกในพื้นที่ไมมีอํานาจที่จะดําเนินคดี นายทหารสัญญาบัตรกองหนุนดังกลาวได จะตองสงสํานวนการสอบสวนไปยังเขตอํานาจตามพื้นที่ ศาลมณฑลทหารบก เมื่อไดสงสํานวนการสอบสวนไปใหอัยการพิจารณาแลว อัยการเสนอให ผบ.มทบ. พิจารณาสั่งฟองหรือไมฟอง หรือจะสั่งใหพนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มก็ได ซึ่งสรุปดังนี้.๒.๓.๑ คําสั่งไมฟอง ทางอัยการจะตองมีหนังสือแจงใหทางพนักงานสอบสวนทราบ เพื่อใหผูตองหาลงชื่อทราบสั่งไมฟอง และถอนการประกัน การดําเนินคดีก็เสร็จสิ้น ๒.๓.๒ คําสั่งฟอง พนักงานสอบสวนจะตองสงตัวผูตองหาไปยังอัยการ เพื่อดําเนิน การควบคุม หรือทางอัยการจะใหประกันตัวชัน้ อัยการก็ได โดยใชหลักทรัพยจาํ นวนเทากับในชัน้ สอบสวน เมื่อดําเนินคดีไปแลวผลเปนประการใด จะตองแจงใหพนักงานสอบสวนและ จทบ. ที่กลาวหาทราบ เพื่อ จทบ. จะไดรายงานให ทบ. (ผาน กสร.ทบ.) ทราบตอไป ๒.๔ การดําเนินการอยางจริงจัง ในการดําเนินคดีตอกําลังพลสํารองที่หลีกเลี่ยงขัดขืน การเรียกพลทุกนาย ยอมมีผลใหกาํ ลังพลสํารองคนอื่น ๆ ไมกลากระทําความผิดอีก ถึงแมวาจะไดรับโทษ เพี ย งแค ใ ห ร อการลงอาญา หรื อ ศาลสั่ ง ไม ฟ อ งก็ ต าม เมื่ อ ถู ก เรี ย กพลอี ก ก็ จ ะรี บ มารายงานตั ว โดยไมขาดการเรียกพลเพราะไดรับบทเรียนในการถูกดําเนินคดีมาแลว... จึงขอใหเจาหนาที่สายงานสัสดีทุกระดับนําแนวทางดังกลาวฯ ไปปฏิบัติเพื่อใหการเรียกพล เพื่อฝกวิชาทหารของ ทบ. ไดกําลังพลสํารองครบตามจํานวนที่ไดกําหนดไวในแผนการเรียกพลเพื่อฝก วิชาทหาร ประจําปของ ทบ. อันจะทําใหเกิดผลดีตอการพัฒนาระบบกําลังสํารองของกองทัพไทยตอไป
๗๔ รักษาดินแดน
วารสาร
(ลงชื่อ) พ.อ.ศักดิ์สิน ทิพยเกสร (ศักดิ์สิน ทิพยเกสร) ผอ.กสร.กสร.ทบ.
เชฟ ...
เครือ่ งแบบสีขาว กับหมวกทรงสูง หลายคนคงมองวาตนกําเนิดของหมวกเชฟ สีขาวทรงสูง (Toque Blanche) มีแรงบันดาลใจ มาจากแฟชั่น แตความจริงแลวหมวกเชฟที่ตองสูง เดงขนาดนี้มีเหตุผลจากการใชงานลวน ๆ เพราะ ในชวงแรกหมวกเชฟเปนเพียงหมวกทรงแบนเทานัน้ ตอมาในชวงศตวรรษที่ ๑๘ อังตวน คาแรม (Antoine Careme) เชฟชื่ อ ก อ งโลกได พั ฒ นา หมวกเชฟสูงขึ้น เพราะคิดวาการใสหมวกทรงแบน ทําใหอากาศภายในหัวระบายออกไดไมดีในหอง ครัวที่รอนระอุแบบนี้ เขาจึงใสไมกระดานเพื่อให หมวกตั้งขึ้น (วากันวาหมวกของคาแรมดันสูงถึง ๑๘ นิ้วเลยทีเดียว เพื่อใหสมฐานะที่เปนเชฟใหญ) ก อ นจะเปลี่ ย นวิ ธี ม าใช ผ า ชุ บ นํ้ า ผสมกั บ แป ง มันสําปะหลังเพื่อใหผาแข็งตัวแทน
รักษาดินแดน ๗๕ วารสาร
“เครือ่ งแบบสีขาวสะอาดตา หมวก ทรงสูง และผากันเปอน” สัญลักษณ สากลที่เรามองปราดเดียวก็รูแลววา ผู ที่ ส วมชุ ด นี้ จ ะเป น ใครไปไม ไ ด นอกจาก “เชฟ” (Chef) และเชือ่ วาคงมี อีกหลายคนที่กําลังเกาศีรษะสงสัยวา ทําไมเชฟจึงตองแตงตัวแบบนีด้ ว ย?…
ถาไมอยากหัวขาด....ก็จงใสหมวก !
ส ว นคํ า ถามที่ ว า ทํ า ไมเชฟต อ งใส ห มวก คงตองยอนไปในสมัยพระเจาเฮนรีท่ ี่ ๘ ของอังกฤษ (ค.ศ. ๑๔๙๑ - ๑๕๔๗) เมื่อพระองคทรงพบกับ ฝนรายเจอเสนผมในซุป เหตุการณในครัง้ นัน้ ทําเอา พระองคกริ้วมาก ถึงกับทรงสั่งประหารเชฟที่ทําซุป ทันที หลังจากนั้นพระองคยังทรงมีพระราชโองการ ให “เชฟทุกคนตองใสหมวก” ตั้งแตนั้นมาบรรดา เชฟนอยใหญกเ็ ลยตองหาหมวกมาใสกนั เพือ่ รักษา ความสะอาดและรักษาชีวิตของตัวเอง
ทําไมตองเปนชุดสีขาว ?
หากจะพูดถึงเรื่องสีของชุด เราคงตองยอน กลับไปในศตวรรษที่ ๑๖ ซึ่งเปนชวงที่กลุมประเทศ แถบยุโรปมีความเขมงวดในเรื่องของความเชื่อเปน อยางมาก ถาใครมีความเชื่อตางจากคริสตจักร มักถูกมองวาเปนพวกนอกคอก ทําใหในชวงนั้น บรรดาศิลปนผูมีความคิดสรางสรรค ซึ่งรวมถึง อาชีพเชฟดวย บางก็ถูกจับกุม บางถูกประหารชีวิต เลยก็มี ทําใหเชฟตางพากันหลบซอนตัว ทําตัว กลมกลืนกับพวกบาทหลวงนิกายกรีกออโธดอกซ (Orthodox Church) เครือ่ งแบบของเชฟจึงใชสเี ทา หรือสีดาํ ใหดแู ลวไมตา งจากบรรดาพระมาตัง้ แตนนั้
จนกระทัง่ เวลาผานไป อังตวน คาแรม เจาเกา คนเดิม ก็ไดปฏิวตั สิ ขี องชุดใหเปนสีขาว เพราะคิดวา เปนสีที่มีความเหมาะสมมากกวา ซึ่งความคิดนี้ ออกุ ส เอสคอฟฟ น เยร (Auguste Escoffier) เชฟรุ น น อ งที่ โ ด ง ดั ง ไม แ พ กั น ก็ ส นั บ สนุ น เต็ ม ที่ เนื่องจากเขามองวาความสะอาดของเครื่องแบบ เป น สิ่ ง สํ า คั ญ และเป น การแสดงถึ ง ความเป น มืออาชีพในตัวเชฟเองอีกดวย
ปดรอยเปอนไดสนิทดวยกระดุม ๒ แถว
๗๖ รักษาดินแดน
วารสาร
เสื้อของเชฟมีลักษณะพิเศษไปจากเสื้อผา อื่น ๆ คือ แผงกระดุม ๒ แถวซายขวาบนหนาอก เพื่อใหเชฟสามารถสลับกลับเปลี่ยนดานนอกและ ในได หากทําเสื้อเลอะเทอะเมื่อไร สามารถซอนได ทันใจ สวนมากนิยมทําจากผาฝายที่สามารถทน ความรอนไดดี บุ ๒ ชั้น เพื่อใหเชฟปลอดภัยจาก ของรอนที่กระเด็นเขามาไดทุกเมื่อ
กางเกงหลวม ๆ ใสสบาย
แมกางเกงสีขาวตามแบบของคาแรมจะเปน ที่นิยม แตจริง ๆ แลวกางเกงเชฟมีไดหลายสี โดย สีมาตรฐานเปนกางเกงลายทางหรือลายหมากรุก สีนาํ้ เงิน-ขาว และสีดาํ -ขาว เพราะกางเกงลายหมาก รุกสามารถอําพรางรองรอยเปรอะเปอนบนตัวเชฟ ไดเปนอยางดี ซึง่ กางเกงทีด่ ไี มควรจะคับหรือหลวม จนเกินไป เพื่อใหเชฟเคลื่อนไหวรางกายสะดวก
ปองกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีเชฟจํานวนไม นอยเลือกรองเทาคล็อกแบบไม เพราะเขาสามารถ เตะรองเทาทิ้งไดเลยเมื่อเกิดสถานการณฉุกเฉิน อยางหมอนํา้ รอนหกใสเทา และเมือ่ ใสแลวไมทาํ ให สะดุดงาย ๆ นอกจากนี้เชฟยังมีเครื่องแตงกายอื่น ๆ อีก ไมวาจะเปน “เนกไท” ซึ่งแทจริงแลวเปรียบเสมือน กับผาพันคอเพื่อใหเชฟเช็ดเหงื่อเมื่อตองอยูหนา เตารอน ๆ และ “ผากันเปอ น” ทีม่ หี ลากสีหลายแบบ ก็เหมือนเปนเกราะปองกันชุดเชฟใหคงความขาว สะอาดทั้งยังชวยปองกันอันตรายอื่น ๆ อยางความ รอนไดอีกชั้นหนึ่ง ในปจจุบันเครื่องแบบเชฟไมไดมีกฎตายตัว แลวคะ เพราะมีเชฟหลายคนทีด่ ไี ซน และตัดชุดเชฟ ออกมาเอง เชน เชฟอเล็กซิส โซเยอร (Alexis Soyer ค.ศ. ๑๘๑๐ - ๑๘๕๘) เชฟชาวฝรั่งเศสที่โดงดัง ในอั งกฤษ ในฐานะเป นผู ปรุ ง อาหารให กองทั พ สมัยพระราชินนี าถวิกตอเรีย ก็ไดสรางสรรคชดุ เชฟ ของตนใหมีหมวกบาเรตสีแดง (คลายกับหมวก ทหารสมัยกอน) และแจ็กเก็ตที่มีปกและแขนเสื้อ ใหญเบิ้ม ซึ่งเขาเรียกสไตลของเขาวา “la zougzoug”
รองเทาคล็อกกันลื่นไถล
แมเครื่องแบบเชฟจะสามารถเปลี่ยนแปลงได เรามักจะเห็นเชฟสวนใหญใสรองเทาหัวโต ๆ สนหนา ๆ รองเทาทีว่ า นัน้ คือ “รองเทาคล็อก” (Clog) แตเชฟสวนใหญก็ยังคงมองวาเครื่องแบบสีขาว ซึง่ เปนรองเทาแตะทําจากไมทชี่ าวยุโรปในสมัยกอน ที่สืบทอดกันมารอยกวาปนั้นเปนสิ่งที่มีคุณคา ใสทาํ งานในไร เพราะใสสบาย มีความทนทาน แถม และควรภูมิใจนั่นเอง ยังยึดเกาะพื้นไดดี เชฟจึงเลือกใสรองเทาชนิดนี้กัน รองเทาคล็อกของเชฟในปจจุบัน สวนหัว แหลงขอมูล มักทําดวยวัสดุออนนุมและยืดหยุน เชน หนังนิ่ม ๆ www.chefolio.com บางก็ทาํ จากยาง เพราะขึน้ รูปไดงา ยและยังสามารถ www.ezinearticles.com ออกแบบไดพอดีกับเทา แตที่สําคัญที่สุดรองเทา http://en.wikipedia.org www.tallyrad.info/historychefs/chef-whites.shtm/ ต อ งมี ก ารออกแบบกั น ลื่ น ด ว ยไม ห รื อ ยางเพื่ อ วารสาร
รักษาดินแดน ๗๗
๑๐พคํอาพูแมด
ที่ลูกอยากไดยินจาก
Ë
ÅÒ¤¹ÁÑ¡¾Ù´Ç‹Ò “¡ÒáÃзíÒÊíÒ¤ÑÞ¡Ç‹Ò¤íÒ¾Ù´” ᵋºÒ§¤¹¡çÁÑÇᵋ¡ÃзíÒ¨¹ÅÐàŤíÒ¾Ù´ÍÂÙ‹ äÁ‹¹ŒÍ â´Â੾ÒФ¹ã¹¤Ãͺ¤ÃÑÇà´ÕÂǡѹ àÁ×è;‹ÍáÁ‹ ¡çÍÂÒ¡ä´ŒÂÔ¹ÅÙ¡ºÍ¡ÃÑ¡ ÍÂÒ¡ãËŒÅÙ¡¡Í´ ËÍÁ ËÃ×ÍÁÕᵋ ¤íÒ¾Ù´´Õ æ ᵋ㹷ҧ¡ÅѺ¡Ñ¹¤¹à»š¹ÅÙ¡àͧ¡çäÁ‹ä´ŒÁÕ¤ÇÒÁ µŒÍ§¡Ò÷Õèᵡµ‹Ò§¨Ò¡¾‹ÍáÁ‹à·‹Ò㴹ѡ
๗๘ รักษาดินแดน
วารสาร
นอกจากอวัจนภาษา เชน การกอด การหอม ฯลฯ ทีท่ กุ คนรับรูวาเปนการแสดงออกเพือ่ ความรัก แลว วัจนภาษาก็ไมควรมองขามไปเชนกัน พอแม ทุกคนจึงพยายามที่จะพูดดวยนํ้าเสียงที่นุมนวล และพูดแตสิ่งดี ๆ กับลูก นอยคนนักที่จะพูดจา ราย ๆ หรือพูดคําสบถกับลูก ทีเ่ ปนเชนนัน้ เพราะมัน คือสัญชาตญาณของคนเปนพอและแม
คําพูดดี ๆ เหลานี้จะซึมเขาสูจิตใจของลูก โดยพวกเขาจะรับรูไดถึงความรักจากพอและแม ซึ่งมันจะเปนภูมิคุมกันจิตใจใหลูกเจริญเติบโตเปน ผูใหญที่ดีได ดังนั้นลองมาดูกันวา ๑๐ คําพูดดี ๆ ที่ลูกอยากไดยินจากพอแมนั้นมีอะไรกันบาง
๑. พอกับแม “รัก” ลูกมากนะ
แนนอนวาลูกคือดวงใจของพอแม แตการที่ ละเลยคําพูดงาย ๆ และมีคาขนาดนี้มันก็เปนสิ่ง ผิดพลาดที่ยิ่งใหญพอควร เพราะคนหลายคนไมมี โอกาสที่จะบอกรักลูกในวินาทีสุดทายเลยดวยซํ้า ในทางกลับกันไมวา จะเปนลูก หรือพอแม รวมไปถึง คนทุกคน ก็ควรใหความสําคัญกับความรักและ คําพูดไปพรอม ๆ กัน กอนที่พอแมจะไมมีลูก ใหบอกรัก หรือลูกบอกรักในวันที่สายเกินไป ทั้งนี้ อยามัวแตแสดงความรัก และเชื่อวาลูกรูอยูแลววา พอแมรักลูกมากแคไหน เพราะบางเวลาคําพูดก็ สําคัญไมแพการกระทําเชนกัน ดังนัน้ บอกรักลูกบาง เขาจะไดรูวาจริง ๆ แลว พอแมรักลูกมากแคไหน ๓. พอกับแม “สนับสนุน” ลูกเสมอนะ พ อ แม ทุ ก คนควรตระหนั ก อยู เ สมอว า ๒. พอกับแม “ภูมิใจ” ในตัวลูกมากนะ “ลูกไมใชเรา เราไมใชลูก” เพราะฉะนั้นอยาเอาลูก มั น อาจมี บ างอย า งที่ ลู ก ทํ า ให พ อ แม รู สึ ก ไปเปรียบเทียบกับตัวเองสมัยเด็ก ๆ บางอยางที่ ภูมิใจมากเปนพิเศษ ไมวาจะเปนการแสดงความ พอแมชอบ ลูกอาจไมชอบ มุมมองที่ตางกัน ถาไม เปนสุภาพบุรุษ มีนํ้าใจ หรือแสดงความสามารถ เขาใจกันก็ทาํ ใหมปี ญ หากันได และถาหากเด็กบาง พิเศษใหเห็นอยูเสมอ พอแมทุกคนควรลองนึกดู คนถูกบังคับมาก ๆ ก็จะรูสึกวาเขาไมมีความเปน ดี ๆ วา จุดเดนของลูกคืออะไร แลวสิ่งใดที่ทําให สวนตัว ไรอสิ ระ ทอแท และไมมคี วามมัน่ ใจในตัวเอง พอแมภูมิใจในตัวเขา ก็ใชชวงเวลาดี ๆ บอกใหลูก ขณะที่บางคนโตมาในครอบครัวนักกฎหมาย แต ไดรับรูบางวา “พอกับแมภูมิใจในตัวลูกมากนอย ตองการเปนนักเขียน หรือบางคนมีความตองการ แคไหน” เพราะคําพูดเพียงไมกี่คํานี้มันจะเปลี่ยน ใชชีวิตอยางที่อยากเปน เปนพลังและกําลังใจใหลกู ไดอยางมหัศจรรยทเี ดียว ไมวาเขาจะเลือกเปนอยางไร หากสิ่งที่เขา ตัดสินใจนัน้ เปนสิง่ ทีด่ ี พอแมกค็ วรสนับสนุนพวกเขา เพียงแคบอกวา “พอกับแมยงั คงเขาใจและสนับสนุน ลูกทุกเมื่อ ถาสิ่งนั้นมันเปนสิ่งที่ดีและลูกตองการ”
๔. พอกับแม “เชื่อมั่น” ในตัวลูกเสมอนะ
ชวงระยะเวลาหนึ่งโดยเฉพาะเมื่อลูกเริ่มเขา สูวัยรุน ความเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อยางอาจเขา มาจนพอแมตงั้ ตัวไมตดิ ลูกอาจสูญเสียความมัน่ ใจ ในการตัดสินใจหรือลงมือทําสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หากใคร วารสาร
รักษาดินแดน ๗๙
เคยเจอปญหาลูกอยูในชวงสับสนแบบนี้ลองถาม ๖. ลูกเปน “เด็กดี” ของพอกับแม พอแมทุกคนควรทําความเขาใจธรรมชาติ ตัวเองดูวา เคยสละเวลาบอกลูกบางหรือไมวา “พอกับแมเชื่อมั่นในตัวลูกมากนอยแคไหน ไมวา ของเด็กกอนวา เด็กทุกคนอยากไดรบั คําชมเชยและ ไดยินคํายืนยันจากพอแมอีกสักครั้งวา เขาเปน จะเกิดอะไรขึ้น พอและแมก็จะอยูขางลูกเสมอ” ลูกทีด่ พี อหรือไม ดังนัน้ หากลูกเปนเด็กดี มีนาํ้ ใจ นารักกับทุกคน พอแมก็ควรชมเชยลูกบางวา “ลูกเปนเด็กดีของพอและแมมาก” เพราะการที่ เขาได ยิน คํา พู ด เหล า นี้ มัน จะทํา ให ลู ก เห็น คุณ ค า ในตัว เองมากขึ้น และเป น การสร า ง ความสัมพันธที่ดีในครอบครัวอีกดวย
๕. พอกับแม “ขอโทษ”
๘๐ รักษาดินแดน
วารสาร
บางครั้งการขอโทษมันอาจจะเปนสิ่งที่ยาก ทีส่ ดุ ทีจ่ ะพูด แลวยิง่ คนสวนใหญมกั ใหความสําคัญ กับความเปนพอและแมคอนขางสูง ดังนั้นหาก พอแมทําผิด ก็จะคิดกันแตเพียงวา พอแมไมควรที่ จะขอโทษลูก ยิง่ คนเปนพอดวยแลว อาจจะยากขึน้ ไปอีกที่จะกลาวคําวา “ขอโทษ” กับลูก อยางไรก็ดี คําขอโทษจากพอแมนั้น ลูก ๆ เองก็ควรมีเหตุผลและรูจักบาปบุญคุณโทษดวย เพราะลู ก ไม มี สิ ท ธิ์ ที่ จ ะขึ้ น เสี ย งหรื อ ออกคํ า สั่ ง กั บ พ อ แม ไ ม ว า จะประการใดก็ ต าม ทั้ ง นี้ ก ารที่ พอแมกลาวคําขอโทษกับลูกเมื่อทําผิดพลาดนั้น ไมไดหมายความวา ลูกจะดูถกู ความเปนพอเปนแม ในทางกลับกันการที่พอแมยอมรับและกลาขอโทษ นัน้ มันยังทําใหทกุ คนเรียนรูท จี่ ะเคารพตัวเองเพราะ กลาที่จะยอมรับในสิ่งที่ทําลงไป อีกทั้งยังเคารพ ความรูสึกของผูอื่นดวย
๗. แมเลิกกัน แตลูกไมตองเลือกรัก
ขอนี้จะดีสําหรับครอบครัวที่พอแมมีเหตุที่ ตองเลิกรากันไป ทําใหเด็กตกอยูในภาวะสับสน เลือกวาจะตองอยูกับใคร ซึ่งในระหวางชวงเวลา สับสนกับการเลือกฝงของพอและแมแลว ลูกบาง คนที่ตกอยูในเหตุการณแบบนั้นอาจจะตองเลือก ดวยวาจะรักใคร ซึ่งพอแมสวนใหญมักจะกีดกัน ลูกไมใหพบอีกฝายหนึ่ง เชน หากลูกอยูกับแม
แมมกั จะสอนใหรกั แม แตเกลียดพอ หรือหากอยูก บั พอก็ตองรักพอและเกลียดแม เปนตน ดังนั้นไมวา จะเปนพอหรือแม แมในที่สุดจะไมไดอยูดวยกัน แตก็ไมควรบังคับลูกใหรักใครคนใดคนหนึ่งเทานั้น เพราะยังไงพอกับแมก็คือบุคคลที่สําคัญที่สุดใน ชีวิตของเขา
๙. พอกับแม “ไมไดหมายความวาอยางนั้น” นะลูก
รักษาดินแดน
วารสาร
บางครั้งพอแมอาจจะพูดอะไรบางอยางที่ ลูกฟงแลวรูสึกเสียใจกับคําพูดเหลานั้น ทั้ง ๆ ที่ ในความเป น จริ ง แล ว พ อ แม อ าจพู ด ไปโดยที่ ไมไดคิดวาลูกจะเสียใจกับสิ่งที่พูดออกไป ดังนั้น หากพอแมทราบวาลูกเสียใจกับสิ่งที่ไดพูดออกไป ก็ควรอธิบายใหเขาเขาใจวา หมายความวาอยางไร ๘. พอกับแม “ยอมรับ” ในสิ่งที่ลูกเปน เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นมากเทาไหร เขายิ่งตองการ กันแน อยาใหลูกเขาใจผิด ๆ แตทางที่ดีก็ควร การยอมรับจากพอและแมมากขึ้นเทานั้น ในความ พูดจาใหชัดเจนตั้งแตแรกจะดีกวา เปนจริงแลวลูกมักจะพยายามทําทุกอยางเพือ่ ใหพอ แมยอมรับในตัวเขา ไมวาจะเปนเรื่องการตัดสินใจ ๑๐. ลูกคือ “คนสําคัญ” ของพอกับแมนะ จริ ง ๆ แล ว ข อ นี้ อ าจเป น คํ า ที่ สํ า คั ญ ในความรักวัยเด็ก หรือการกระทําตาง ๆ ที่ลูก อาจมี พ ฤติ ก รรมเบี่ ย งเบน แม พ อ แม จ ะคอยดู อันดับแรก ๆ เสียดวยซํ้า เมื่อในความเปนจริงแลว อยูหาง ๆ และการที่ลูกรูวาพอแมยอมรับในสิ่งที่ ลูกคือคนสําคัญและคนพิเศษสําหรับพอแม แตจะมี ลูกเปน และเลือกแลวนั้น แสดงใหเห็นวาพอแมไม สักกี่ครั้งที่พอแมไดบอกใหลูกรับรูจากปากของพอ ไดละเลยแตอยางใด อีกทั้งยังคงรักและเขาใจอยู แมเองบาง เชือ่ เถอะวาหากไดพดู ใหลกู รู สิง่ ทีจ่ ะได เสมอดวย เพียงแคพอแมบอกกับลูกวา “พอแม กลับมานัน้ มันยอมมีคา มหาศาลมากกวาเปนไหน ๆ เขาใจและยอมรับลูกเสมอ ไมวาลูกจะเปนอยางไร เพราะนัน่ คือสายใยความรักระหวางพอแม และลูก ทั้งนี้ พอแมทุกคนควรกอดลูกบางโดยเฉพาะเมื่อ ก็ตาม” ลูกเริม่ โตขึน้ อยาใหวยั ทีเ่ ปลีย่ นไปมาทําใหระยะหาง พอ แม ลูก หางกันจนรูสึกวาการกอดนั้นเปนเรื่อง แปลก ดังนั้นการกอดลูกแนน ๆ และบอกวาเขา สําคัญมากแคไหน แมจะใชเวลาเพียงไมกี่นาที แตมันจะเปนความทรงจําที่คนเปนพอ แม และ ลูกจะไมมีวันลืมไดเลย อยางไรก็ตาม สิ่งเหลานี้อาจดูเหมือนเปน ประโยคธรรมดา จนหลายคนมองขามมันไป แต ในความเปนจริงแลว ไมมีใครปฏิเสธสิ่งเหลานี้ ไดเลย แมการกระทําจะสําคัญมากเพียงใด แตคาํ พูด ก็ไมไดสาํ คัญนอยไปกวา อยาลืมวา ในขณะทีพ่ อ แม ตองการไดยินลูกบอกรัก เขาก็อยากไดยินจากคุณ เชนกัน
๘๑
๑๐ อันดับ ภั ย ร า ยออนไลน ที่ผูใชงานอินเทอรเน็ตตองระวัง
น
ายเจค โซเรียโน ฝายสือ่ สารดานเทคนิค ศูนยวจิ ยั ขอมูลเทรนดแล็บส เปดเผยวาอาชญากรไซเบอร จะใชเทคนิคกลลวงทางสังคมที่แตกตางกันเพื่อหลอกลอเหยื่อ เช น การคลิ ก ลิ ง ค ที่ ส แปม, การดาวน โ หลดไฟล ห รื อ การกรอก แบบฟอรมโดยใสขอมูลสวนตัวที่เปนความลับ สิ่งเหลานี้จะกอใหเกิด ผลประโยชนทางการเงินแกอาชญากรไซเบอร ซึง่ พยายามจะหาผลประโยชน ช ว งเทศกาลวั น หยุ ด เนื่ อ งจากมี จํ า นวนผู ใ ช ง านอิ น เทอร เ น็ ต มากขึ้ น เพื่อคนหารานคา เลือกซื้อสินคา และบริการตาง ๆ ผานทางเว็บไซต เทรนด ไมโคร ไดจัดทําสรุป ๑๐ อันดับ ภัยรายออนไลนที่ผูใชงาน อินเทอรเน็ตตองระวัง
อันดับ ๑๐ - ภัยลวงนักลาของถูก
๘๒ รักษาดินแดน
วารสาร
: อาชญากรไซเบอร จ ะใช ส ว นลดและ โปรโมชั่ น เพื่ อ หลอกล อ เหยื่ อ ให ค ลิ ก ลิ ง ค ที่ เ ป น อันตรายหรือใสขอมูลที่เปนความลับของตนเอง ในเว็บไซตหลอกลวง โดยทั่วไปแลวผลิตภัณฑ
ที่ นํ า มาใช ล อ เหยื่ อ จะเป น สิ น ค า ยอดนิ ย มและ สิ น ค า ขายดี ซึ่ ง อาจทํ า ให ผู ใ ช อ ดใจไม ไ ด ที่ จ ะ คลิกลิงคที่ปรากฏ และในปนี้เทรนด ไมโคร พบวา โทรจัน TRO_AYFONE.A ใชประโยชนจากการเปดตัว Apple iPhone โดยมัลแวรจะแสดงในรูปโฆษณาลวง
เหมือนกับการสรางเว็บไซตลวงของรานคาออนไลน ที่สามารถซื้อผลิตภัณฑดังกลาวได
อันดับ ๙ - เว็บไซตการกุศลจอมปลอม
: ภัยพิบัติตาง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เชน เหตุการณแผนดินไหว ไฟปา นํ้าทวม ลวนถูก อาชญากรไซเบอรนํามาใชประโยชนเพื่อลอลวง โดยเฉพาะเทศกาลวั น หยุ ด เป น ช ว งเวลาที่ ผู ใ ช อินเทอรเน็ตสวนใหญเกิดความรูสึก “อยากทําบุญ และตองการบริจาค” อยูแลว ซึ่งนับเปนชวงเวลา ที่ ดี ที่ สุ ด สํ า หรั บ อาชญากรไซเบอร ที่ จ ะบรรลุ ตามแผนที่ ว างไว นอกจากผู ใ จบุ ญ ที่ ต อบกลั บ ข อ ความอี เ มลลวงหรื อ เว็ บ ไซต ล วงซึ่ ง ไม ไ ด ใ ห ความชวยเหลือแกผูใดแลว ยังจะตองสูญเสียเงิน หรือขอมูลที่เปนความลับไปแทนอีกดวย
อันดับที่ ๗ - โฆษณามัลแวร (Malver tisements)
: อาชญากรไซเบอร จ ะใช โ ฆษณาและ โปรโมชั่นของปลอม (เลียนแบบโฆษณาของจริง) เพื่ อ แพร ก ระจายมั ล แวร โ ดยอาศั ย ความเชื่ อ ใจ ของผู ซื้ อ สิ น ค า ออนไลน ที่ มั ก สนใจเรื่ อ งสิ น ค า ราคาพิเศษ โฆษณาที่แสดงอยูในเว็บไซตที่มีการ เขาชมสู ง จะถู ก ใชเปน ตัวกระตุน ใหดาวนโ หลด มั ล แวร โ ดยเว็ บ ไซต ย อดนิ ย ม เช น Google, Expedia.com, Rhapsody.com, Blick.com และแมแต MySpace มั ก ถู ก ใช เ ป น ที่ แ ฝงตั ว ของแบนเนอร โฆษณาที่เปนอันตราย ซึ่งเมื่อคลิกเขาไปดูก็จะ ดาวนโหลดมัลแวรลงไปในระบบของผูใชงานได แสดงให เ ห็ น ว า โฆษณาที่ เ ป น อั น ตรายเหล า นี้ ถูกฝงตัวอยูแทบจะทุกหนทุกแหงบนโลกไซเบอร
อั น ดั บ ที่ ๘ - บั ต รอวยพรอิ เ ล็ ก อันดับที่ ๖ - ผลการคนหาแหลง ทรอนิกส (อีการด) ชอปปงชวงคริสตมาส (ที่เปนอันตราย)
: ผลลั พ ธ คํ า ตอบที่ ม ากั บ สคริ ป ต ที่ เ ป น อันตราย ทําใหเกิดภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบ เชน มัลแวร ฟชชิ่งไซต ยูอารแอลอันตราย โดย ผูเขียนมัลแวรจะเลือกชวงเทศกาลตาง ๆ ที่จะนํา ผู ใ ช ง านไปยั ง ผลลั พ ธ ที่ เ ป น อั น ตรายของตนได ในป ๒๕๕๐ ผลของการคนหาคําวา “Christmas gift shopping” ถูกพบวานําไปสูมัลแวรหลากหลาย ชนิดทีเ่ ปนอันตราย และเมือ่ เร็วนี้ ผลของการคนหา คําวา “ Halloween costumes” ถูกพบวาแอบซอน ซอฟตแวรปองกันไวรัสของปลอมไว
รักษาดินแดน
วารสาร
: อาชญากรไซเบอรมักจะใชบัตรอวยพร อิเล็กทรอนิกสหรืออีการดเพื่อลอลวงเหยื่อใหคลิก ลิงคที่เปนอันตรายในขอความสแปม และนั่นอาจ ทําใหเครือ่ งคอมพิวเตอรของเหยือ่ ตกอยูใ นอันตราย ได การโจมตีประเภทนีม้ กั ใชประโยชนของเทศกาล วันหยุด เมือ่ มีผใู ชสง อีการดมากขึน้ และคาดหวังวา อีการดที่ไดรับนั้นจะมาจากเพื่อนหรือญาติสนิท
๘๓
อันดับที่ ๕ - เว็บไซตสุดฮิต
: จัดเปนภัยคุกคามสําหรับผูใชออนไลน เพราะเปาหมายหลักของการติดเชื้อ จะเกิดขึ้น บนเว็ บ ไซต ที่ ค าดว า ปลอดภั ย และน า เชื่ อ ถื อ โดยเฉพาะอย า งยิ่ ง ช ว งวั น หยุ ด เทศกาลที่ กํ า ลั ง จะมาถึง ซึ่งผูซื้อนิยมซื้อสินคาผานทางออนไลน เชน รานอาหารออนไลน เว็บไซตประมูล เว็บไซต อีคอมเมิรซ อาชญากรไซเบอรจะแพรกระจายเชื้อ ไปยังเหยื่อ โดยการเลือกเว็บไซตยอดนิยม และ มีการเขาชมสูง
อั น ดั บ ที่ ๔ - ข อ มู ล ส ว นบุ ค คลบัตรของขวัญและโปรโมชั่น (ของปลอม)
: ผูใ ชทชี่ อบคนหาของฟรีหรือโปรโมชัน่ พิเศษ บนเว็บนั้น เสี่ยงตอการถูกโจมตีในลักษณะนี้ได แบบสํารวจขอมูลที่ดูเหมือนจะปลอดภัยนี้มักจะ ถูกใชเก็บขอมูลสวนบุคคลโดยของรางวัล บัตร ของขวัญ หรือแมแตเงินสดจะถูกใชเพือ่ ลอเหยือ่ ให กรอกแบบสํารวจของปลอม โดยทีเ่ หยือ่ จะไมทราบวา นั่นคือ ฟชชิ่งไซต และเปนสวนหนึ่งของแผนการ ขโมยขอมูลสวนตัวที่เปนความลับ
อันดับที่ ๓ - อีคอมเมิรซฟชชิ่ง
๘๔ รักษาดินแดน
วารสาร
: อีเบย (eBay) ถูกจัดอันดับใหเปนรานคา ปลีกออนไลนที่ไดรับความนิยมสูงสุดในป ๒๕๕๐ มีผูใชบริการมากกวา ๑๒๔ ลานคน และอีเบย ยังติดอันดับสูงสุดของเว็บไซตที่แฮกเกอรนิยมใช ทําเปนเว็บไซตลวงดวย นับจากการขโมยขอมูล ส ว นบุ ค คลจนถึ ง การจั ด อั น ดั บ ความน า เชื่ อ ถื อ อาชญากรไซเบอรจะใชแผนการทีช่ าญฉลาดเพือ่ ให ไดขอมูลของผูใชเพื่อเพิ่มผลประโยชนทางการเงิน
อันดับที่ ๒ - โทรจันทีม่ าพรอมใบรับ สินคา (ของปลอม)
: ขอความตาง ๆ จากผูจ ดั สงสินคายอดนิยม ซึง่ แจงทางอีเมลวาไมสามารถสงมอบของใหผรู บั ได พร อ มแนบไฟล ข อ มู ล ที่ ดู เ หมื อ นเป น ใบแจ ง หนี้ แตจริง ๆ แลวเปนขอความสแปม ที่จะลอลวงผูใช ใหติดตั้งโทรจันลงในเครื่องคอมพิวเตอร ปญหา ดังกลาวคอนขางแยกแยะลําบากสําหรับนักชอป ออนไลนที่กําลังรอการจัดสงสินคาในชวงเทศกาล ทั้งนี้ UPS และ FedEx เปนตัวอยางของบริษัท ผูจัดสงสินคาที่อาชญากรไซเบอรนิยมใชเปนเหยื่อ ลอผูซื้อสินคาออนไลนมากที่สุด
อันดับที่ ๑ - ใบแจงราคาสินคา (ปลอม)
: บางครัง้ ผูใ ชงานอาจจะไดรบั ขอความอีเมล ทีแ่ จงใหพวกเขาเปด และพิมพ...? ทีไ่ ดแนบมา ไฟล ที่แนบมานั้นไมใชใบแจงราคาสินคาของจริง แตวา เปนโทรจัน ผูที่ซื้อสินคาออนไลนบอย ๆ จะไดรับ ใบแจงราคาสินคาอยูแ ลว และถือเปนเปาหมายหลัก ของภัยคุกคามประเภทนี้ แตในทางกลับกันผูใช ที่ไมเคยซื้อสินคาออนไลนและแนใจวาไมไดทํา การสั่งซื้อสินคาใด ๆ ก็อาจจะสงสัยและเปดไฟล แนบทายดังกลาว สแปมก็จะแพรกระจายไปทั่ว ลาสุดที่พบคือหนอนไวรัส WORM_OTORUN.C ดั ง นั้ น ผู ใ ช อิ น เทอร เ น็ ต หรื อ ผู ซื้ อ สิ น ค า ออนไลน จึงตองระมัดระวังและคํานึงถึงความปลอดภัยมาก ขึ้นระหวางเลือกซื้อสินคาออนไลน
ขอบคุณเนื้อหาบทความดี ๆ จาก www.quickpc.co.th
“ ¢íÒæ ” โดย ปาชาติ
๒๐ อาการ ที่บงบอกวา
คุณเมา
๑๑. คุ ณ ตั้ ง ชื่ อ สุ นั ข สองตั ว โปรดที่ บ า นว า “วิสกี้” และ “โซดา” ๑๒. คุณคนพบวาเบียร ๕ แกว ใหพลังงานคิด เปนแคลอรีเทากับขาวแกงจานโต ดังนัน้ เพือ่ เห็นแก สุขภาพ คุณจึงควรงดขาวเย็น ๑๓. ทุกครั้งที่คิดหาคําสนทนาที่เหมาะสมไมทัน คุณไมคั่นจังหวะดวย “เออ” แตจะพูดวา “เอิ๊ก” ๑๔. คุณมักหาปากไมเจอ บอยครั้งที่ดื่มโดย ใชจมูก ๑๕. ยุงที่กัดคุณเปนตองตีลังกาตกทอทุกตัวไป ๑๖. คุณเดินอยางมีจงั หวะจะโคน อันเปนรูปแบบ เฉพาะตัวคือ กาวไปซาย ยายไปขวา เดินไปหนา และถอยหลัง ๑๗. คุณเห็นเสื้อตัวเองถอดไวที่เตียง กางเกง อยูในอางอาบนํ้า แตปราการดานสุดทายกลับ ตกอยูนอกบาน ๑๘. คุณพบวาสาวงามที่คุณกอดไวในวงแขน และพากลับบาน ที่แทคือ กรวยยางจราจร ๑๙. เพื่อนคุณไลคุณกลับบาน คุณจําเปนตอง บอกใหเขารูบอย ๆ วา “โผม…มาย…มาว…” ๒๐. คุณคิดวา “รัฐบาลทําทุกเรื่อง ดีที่สุดแลว”
รักษาดินแดน
วารสาร
๑. คุณ ชอบมีป ากเสีย งกั บ สิ่ง ไม มี ชี วิ ต เช น ปายรถเมล เสาไฟฟา ถังขยะ ฯลฯ ๒. ผลการตรวจเลือดของคุณ แพทยระบุวา พบปริมาณเลือดเจือจางในกระแสเหลา ๓. คุณเขาใจผิดวา อาหารหาหมูประกอบดวย โปรตีน ไขมัน คารโบไฮเดรต วิตามิน และเหลา ๔. คําพูดที่บอยที่สุดเวลานั่งคนเดียวคือ เบียร อีก แกว หรือ เหลาอีกแก ว เบียร อีกแก ว เหล า อีกแกว ๕. คุณตองเกาะสนามหญาไวแนนเพราะกลัว ตกจากโลก ๖. ศี ร ษะของคุ ณ เป น แผลบ อ ยที่ บ ริ เ วณ ทายทอยและหนาผากโดยไมทราบสาเหตุ แพทย สันนิษฐานวามันอาจกระแทกกับขอบโถสวม ๗. คุณมองเห็นภาพชัดกวา ถาหลับตาขางหนึง่ และจะเห็นชัดมากขึ้นถาคุณหลับตาทั้งสองขาง ๘. รูกุญแจสตารตรถเคลื่อนที่ได แถมถนน สายนัน้ แผไปมาเหมือนงู ทําใหคณ ุ ขับรถดวยความ ยากลําบาก ๙. คุณมีปญหาเพียงอยางเดียวที่นากลัวที่สุด ของการดื่มเหลาคือ ไมมีเหลาดื่ม ๑๐. ผูห ญิงทุกคนทีค่ ณ ุ เห็นจะมีฝาแฝดคูเ หมือน ยืนอยูขาง ๆ
๘๕
โทษของสุรา
๘๖ รักษาดินแดน
วารสาร
อันสุราเมรัย ใครเสพติด พาชีวติ มืดมน จนฉิบหาย หนึง่ ...สินทรัพย ของตนนัน้ พลันวอดวาย สอง...อาจตาย ดวยทะเลาะ เพราะความเมา สาม...เจ็บปวย ดวยโรคาพยาธิ สี.่ ..คนตําหนิ นินทาพาอับเฉา หา...หนาดาน หนักหนาเวลาเมา หก...โง ...โงเขลา ปญญาหด หมดสิน้ เอย
ó ¤Ò¶Ò¢Í§¤¹·íÒ§Ò¹ ñ. ¤Ò¶Ò¤¹·íÒ§Ò¹ ¢Ñé¹áá...·‹Í§¹ÐâÁ ó ¨º¡‹Í¹ áŌǨ֧¤‹Í·‹Í§¤Ò¶Ò¹Ð... ÍÒ¨¨ÐÁÕ...à«ç§ä»ºŒÒ§...㹺ҧ¤ÃÑé§ ÍÒ¨¨ÐÁÕ...àº×è͡ѹºŒÒ§...㹺ҧ˹ ÍÒ¨¨ÐÁÕ...àËÁç¹¢Õé˹ŒÒ...¡ÑººÒ§¤¹ ¾ÂÒÂÒÁ·¹ ·íÒ§Ò¹ä» à¾ÃÒÐä´Œµ§Ñ ¤
ò. ¤Ò¶Ò»Å‹ÍÂÇÒ§ ¡Ù Ç‹ÒáÅŒÇã¹âÅ¡¹ÕéÁÕ»˜ÞËÒ à¢Ò äÁ‹´‹Ò ¡çª×蹪Á ËÃ×Íà©Â æ ÊÒÁ »ÃÐàÀ··ÕèÇ‹Ò¹Õé ÁÔà»ÅÕè¹àÅ ¨§ ÇÒ§à©Â ã¤Ã¶×ÍÊÒ໚¹ºŒÒµÒÂ
ó. ¤íÒÊ͹¢Í§¾Ãоط¸à¨ŒÒ ÍÂ‹Ò ä»¹Ö¡Ç‹Ò “¤¹Í×è¹” à˹×Í ¡Ç‹ÒàÃÒ à¾ÃÒзíÒãËŒà¡Ô´»Á´ŒÍ ÍÂ‹Ò ä»¹Ö¡Ç‹Ò “¤¹Í×è¹” µíèÒ ¡Ç‹ÒàÃÒ à¾ÃÒзíÒãËŒà¡Ô´·Ô°Ô ÍÂ‹Ò ä»¹Ö¡Ç‹Ò “¤¹Í×è¹” àÊÁÍ ¡Ç‹ÒàÃÒ à¾ÃÒзíÒãËŒà¡Ô´¡ÒÃᢋ§¢Ñ¹
วารสาร
รักษาดินแดน ๘๗
โรงเรียนชางฝมือปญจวิทยา
สรางคนสูงาน เชี่ยวชาญทักษะ ปญจมีวินัย
เปดสอน ระดับ ปวช. ปวส. ประเภทวิชาอุตสาหกรรม : สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานยานยนต สาขางานเทคนิคยานยนต
กระทรวงศึกษาธิการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษา โทร. ๐-๒๒๗๒-๕๕๖๐, ๐-๒๖๑๗-๗๗๘๑-๒ โทรสาร ๐-๒๒๗๒-๕๕๖๔ ๙๔๒/๑ ซอย ๑๘ ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ๑๐๙๐๐
รวมสนับสนุนการจัดทํา
ดวยการประชาสัมพันธองคกรในวารสารเสือปา (ราย ๓ เดือน) สูผูอานทั่วประเทศ
สนใจติดตอ พันตรีหญิง มาริกา ปาลกะวงศ ณ อยุธยา หรือ จาสิบเอก ธีรยุทธ ประจักษจิตร โทร. ๐-๒๒๒๑-๒๘๗๑, ๐-๒๒๒๒-๔๘๔๐ โทรสาร ๐-๒๒๒๑-๗๙๙๐ ÇÒÃÊÒÃàÊ×Í»èÒ
51