Dropbox

Page 1

ยินดีนาเสนอ

นายอดิเทพ พันธ์กระโทก รหัส 53631161


หัวข้อที่นาเสนอ 

Dropbox คืออะไร

ทาไม Dropbox จึงเป็นที่นิยม

วิธีการใช้ Dropbox

คุณสมบัติของโปรแกรม

Dropbox คืออะไร  เป็นการบริการที่ทาให้ไฟล์ที่ใช้ร่วมกันมีข้อมูลตรงกันและมีการสารองข้อมูล  มีการใช้งานที่สะดวก o ไม่ต้องอัปโหลดหรือดาวน์โหลดเวอร์ชั่นล่าสุด o ไม่ต้องพกพา thumd drive หรือเขียนข้อมูลลงไปใน CD*DVD o เวอร์ชั่นล่าสุดของไฟล์จะอัปโหลดโดยอัตโนมัติที่เครื่องที่เราใช้  สามารถกู้ไฟล์ที่ไม่ตั้งใจที่จะลบออกกลับคืนมาได้  สามารเก็บและเลือกเวอร์ชั่นที่เคยแก้ไขก่อนหน้านี้  สามารถเก็บรูปภาพและแสดงรูปภาพในลักษณะสไลต์โชว์  สามารถแบ่งปันไฟล์และโฟนเดอร์ให้กับบุคคลอื่น และบุคคลอื่นยังสามารถลบแก้ไขไฟล์ได้  สามารถแบ่งปันให้ผู้อื่นทั่วไปดูไฟล์ได้

การใช้ Dropbox


 สามารถใช้งานได้ในลักษณะเว็ปแอปพลิเคชั่นซึ่งสามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ http://www.dropbox.com  สามารถใช้งานได้ในลักษณะเว็ปแอปพลิเคชั่นบนเดสก์ท็อปบนระบบปฏิบัติการ ทั้ง Windows ,Mac OS Xและ Linux o ทาให้สามารถเปิดโปรแกรม Microsoft Words แล้วบันทึกลงไปในโฟลเดอร์ที่ แบ่งปันกับผู้อื่น และทาให้ไม่เสียเวลาในการอัปโหลดโฟลเดอร์ใหม่ o หากมรการ Update เอกสารที่เราแบ่งปันให้กับคนอื่นหรือคนอื่นแบ่งปันให้เรา จะมีการ แจ้งเตือนที่เครื่องคอมพิวเตอร์  สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ o มีเวอร์ชั่นที่ทางานบน iPone, iPodtouch, iPad, Adondroid,Windows Phone 7, Blackberry

ทาไม Dropbox เป็นที่นิยม  ง่ายและสะดวกในการใช้งาน o มีเมนูที่เข้าใจง่าย ไม่สับซ้อน o มีเอกสารหรือคู่มือที่ช่วยทาให้เรียนรู้การใช้งานได้อย่างรวดเร็ว  รูปแบบของเอกสารไม่เปลี่ยนไปจากเดิม o รูปแบบของเอกสารในกลุ่ม Microsoft office ไม่เปลี่ยน  ทางานได้เร็ว o Dropbox เป็นระบบที่ให้บริการในลักษณะคลาวด์เซอร์วิส o สามารถเขียนและอ่านข้อมูลได้เร็วเปลี่ยบเสมือนบันทึกข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอรืของตัว เราเอง


 ใช้ได้ฟรี o ผู้ใช้ Dropbox ใหม่ทุกๆคนได้รับพื้นที่ฟรี 2 GB ในการใช้งาน

Dropbox เป็นคลาวด์เซอร์วิส (Cloud service) o คราวด์เซอร์วิสเน้นการแชร์ทรัพยากรด้านโครงสร้างพื้นฐานของไอทีให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด  ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องของระบบที่อาจจะช้าเมื่อมีข้อมูลเก็บมากขึ้นเพราะระบบจะขยาย ความสามารถในการบริการตามความต้องการของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ o จากการคาดการณ์ของบริษัทการ์ทเนอร์ ระบุว่า ตลาด คลาวด์ เซอร์วิส ทั่วโลกจะขยายใหญ่ขึ้น และจะมีมูลค่าประมาณ 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2013

ขนาดพื้นที่ของ Dropbox ที่สามารถใช้ได้ โดยทั่วไป Dropbox อนุญาตให้คนใช้ฟรี 2 GB หากต้องการใช้พื้นที่ใน Dropbox ฟรี สามารถทาได้ 2 วิธี จ่ายค่าใช้บริการ จะได้พื้นที่ จะได้พื้นที่ 100

50 GB คิดค่าบริการ $9.99 ต่อเดือนหรือ $99.00 ต่อปี GB คิดค่าบริการ $19.99 ต่อเดือนหรือ $199.00 ต่อปี

แนะนาให้ผู้อื่นที่ยังไม่เคยใช้ Dropbox จะมีพื้นที่ 250 8GB เพิ่มฟรี

MB ต่อผู้ใช้ Dropbox ใหม่ที่เข้าใช้ Dropbox สาหรับคนที่แนะนาจะได้พื้นที่ไม่เกิน


คุณสมบัติของโปรแกรม 1.ซิงก์ไฟล์

ภาพวาดด้านบนนั้นก็พอจะอธิบายได้อย่างคร่าวๆ แล้วว่า เมื่อผู้ใช้งานจับไฟล์ใดๆ โยนเข้าไปไว้ใน เจ้ากล่องมหัศจรรย์นี้แล้ว Dropbox จะทาการซิงก์ไฟล์ดังกล่าวโดยทันที ผู้ใช้งานจึงสามารถเข้าถึงไฟล์ได้ทุก ที่ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ 2.แชร์ไฟล์

ผู้ใช้งานสามารถแชร์โฟลเดอร์ทั้งโฟลเดอร์หรืออัลบั้มภาพได้โดยใช้ Dropbox โดยการจับโฟลเดอร์ ที่ต้องการแชร์ไปไว้บน Dropbox และ invite เพื่อนๆ ให้นาโฟลเดอร์ดังกล่าวไปใช้งานได้ นอกจากนั้นผู้ใช้งานยังสามารถส่งลิงค์ของไฟล์ใดๆ บน Dropbox ของตนไปให้กับเพื่อนๆ ได้อีก ด้วย


3.สารองข้อมูลแบบออนไลน์

เนื่องจากโฟลเดอร์ที่ทาง Dropbox ได้ทาการสร้างไว้นั้นจะทางานอยู่บนเซอร์เวอร์ของ Dropbox เอง เพราะฉะนั้นถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ทีบ้านเกิดไฟไหม้ (เหมือนในภาพ) หรือหัวใจวายไปก่อนวัยอันควร ก็มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้ฝากไว้บน Dropbox จะยังอยู่ครบ นอกจากนั้นเมื่อเริ่มสมัครบริการ ผู้ใช้งานทุกท่านจะได้รับพื้นที่ในการฝากไฟล์ฟรีๆ มาถึง 2GB ด้วยกัน (สามารถเพิ่มได้โดยจ่ายเงิน อัพเกรดเป็น Account แบบ Pro) 4.สามารถกู้ไฟล์ที่ลบทิ้งไปแล้วได้

นอกจากจะทาหน้าที่ในการรับฝากไฟล์แบบธรรมดาแล้ว Dropbox ยังเก็บ history ของการ เปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ผู้ใช้งานได้ทาลงไปบนโฟลเดอร์ Dropbox ของตนด้วย เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานจึง สามารถเข้าไปแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ หรือแม้กระทั่งทาการกู้ไฟล์ที่เผลอลบทิ้งไปได้ด้วย


โดยปกติแล้ว Dropbox จะเก็บ history ไฟล์ของผู้ใช้งานเอาไว้เป็นระยะเวลา 30 วัน ซึ่งผู้ใช้งาน สามารถเพิ่มเป็นแบบไม่จากัดเวลาได้โดยใช้ “Pack-rat” ซึ่งเป็น add-on สาหรับผู้ใช้งาน Account แบบ Pro วิธีการติดตั้ง เริ่มเลยก็คือไปดาวน์โหลดตัวโปรแกรม Dropbox ได้ที่ www.dropbox.com แล้วเลือก ระบบปฏิบัติการตามระบบที่ตัวเองใช้ ซึ่งในขณะนี้รองรับทั้ง Windows, Mac, Linux และ app ของ iPhone เสร็จแล้วก็ทาการติดตั้งตามขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งอย่าลืมทาการสมัคร Account แบบฟรี (มี เนื้อที่ให้ 2GB) ก่อนที่จะสิ้นสุดขั้นตอนการติดตั้งนั้น ตัวโปรแกรมจะถามว่าจะให้ติดตั้งโฟลเดอร์ Dropbox สาหรับฝากไฟล์ไว้ที่ไหน ก็แนะนาให้ติดตั้งไว้บนหน้าจอ Desktop ง่ายดี แต่ถ้าไม่เลือก เอง ตัวโปรแกรมจะติดตั้งโฟลเดอร์ดังกล่าวไว้ภายใน My Document วิธีการฝากไฟล์โดยใช้ตัวโปรแกรม ง่ายๆ เลยก็คือเมื่อเราติดตั้ง Dropbox เสร็จแล้วจะปรากฏไอคอน Dropbox บนหน้าจอและบน Taskbar ครับ ให้คลิ้กเปิดโปรแกรมขึ้นมาจะเห็นหน้าจอดังภาพด้านบน เจ้านี่ล่ะครับทีจะเป็น โฟลเดอร์การทางานหลักของ Dropbox โดยเมื่อผู้ใช้งานจับไฟล์ใดๆ โยนไว้ในโฟลเดอร์นี้ ไฟล์ ดังกล่าวก็จะขึ้นไปอยู่บนเซอร์เวอร์ของ Dropbox โดยอัตโนมัติ ฉะนั้นไม่ว่าผู้ใช้งานอยากจะเข้าถึง ไฟล์ดังกล่าวจากที่ใดๆ ก็ตามที่มีอินเทอร์เน็ต ก็สามารถทาได้โดยการติดตั้ง Dropbox ลงในระบบ ทาการล็อคอินโดยใช้ E-mail และ Password ที่เราใช้ในการลงทะเบียนครั้งแรกก็เรียบร้อยแล้วครับ


วิธีการฝากไฟล์ผ่านทางเว็บบราวเซอร์ ในกรณีที่ผู้ใช้งานไม่สะดวกที่จะฝากไฟล์โดยใช้โปรแกรม อาจจะเนื่องด้วยกาลังใช้งานเครื่องอยู่ใน ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรมหรือกรณีอื่นๆ ก็ตาม ก็สามารถทาการเปิด เว็บไซต์ www.dropbox.com แล้วใส่ E-mail กับ Password ลงไป ทางเว็บไซต์จะเปิดหน้าขึ้นมาตาม ภาพด้านบน จากนั้นผู้ใช้งานก็สามารถอัพโหลดไฟล์ได้โดยคลิ้กที่ปุ่ม Upload เลยครับ หรือจะสร้าง โฟลเดอร์ใหม่ขึ้นมาจากหน้าจอนี้ก็ย่อมได้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าการฝากไฟล์ผ่านทางบราวเซอร์ แบบนี้นั้นจะใช้เวลาอัพโหลดช้ากว่าผ่านทางตัวโปรแ


วิธีการทาลิงค์ให้คนอื่นดาวน์โหลดไฟล์ ขั้นตอนแรกนั้นก็ให้นาไฟล์ที่ต้องการแชร์ไปไว้ใน Public folder ของ Dropbox ถัดจากนั้นก็ให้คลิ้ก ชวาตรงไฟล์แล้วให้เลือก Copy pubic link ตามภาพด้านบน แล้วเราก็นาลิงค์ที่ได้ไปให้คนที่เรา ต้องการดาวน์โหลดก็เป็นที่เรียบร้อย


วิธีการแชร์โฟลเดอร์ทั้งโฟลเดอร์ให้คนอื่นมองเห็น เริ่มต้นโดยการเปิดเว็บไซต์ Dropbox ขึ้นมาแล้วทาการล็อคอินเข้าไป เมื่อเราเข้ามาที่หน้าจอหลักแล้วให้ เลือก Sharing ตรงแท็บด้านบน เลือก Share a folder แล้วจะให้เราเลือกระหว่างจะแชร์โฟลเดอร์ที่มีอยู่ แล้วหรือจะสร้างใหม่ขึ้นมา พอเลือกได้แล้วเราก็ต้องกรอก E-mail ของผู้รับลงไปตามภาพบน ส่วน ข้อความเชิญชวนนั้นจะใส่หรือไม่ก็ได้ครับ อีกวิธีหนึ่งนั่นก็คือให้เราเลือกแท็บ Files บนหน้าจอแรกหลังจากที่ล็อคอินเข้ามา เลือกโฟลเดอร์ที่เรา ต้องการให้คนอื่นมองเห็น คลิ้กขวา เลือก Share this folder แล้วกรอก E-mail ผู้ที่ต้องการให้มองเห็น โฟลเดอร์นี้ก็เรียบร้อย


วิธีการกู้และลบไฟล์แบบถาวร สาหรับวิธีการกู้และลบไฟล์แบบถาวรนั้นมีขั้นตอนที่คล้ายๆ กันนั่นก็คือ ให้เราทาการล็อคอินผ่านทาง เว็บไซต์ของ Dropbox เข้ามา แล้วกดแท็บ Show deleted files หรือจะเข้าผ่านทางไอคอนบนหน้าจอของ เรา แล้วคลิ้กขวา ไปที่ Dropbox -> Show deleted files ก็ได้เพราะสุดท้ายแล้วจะเข้ามาที่หน้าจอเดียวกัน พอเสร็จแล้วจะเห็นได้ว่าไฟล์ที่เราได้ทาการลบไปแล้วจะปรากฏเป็นสีเทาๆ ลางๆ ดังภาพบน ทีนี้ให้ คลิ้กขวา ที่นี้ก็เลือกได้เลยครับว่าถ้าจะกู้ไฟล์ให้กด Undelete หรือถ้าจะลบแบบถาวรไปเลยก็กด Permanently Delete ครับ แต่อย่าลืมนะครับว่า Account Free นั้นตัว Dropbox จะเก็บ history ของไฟล์ เอาไว้เพียง 30 วัน เกินกว่านี้จะกู้กลับไม่ได้แล้วนะครับ


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.