R
P
CC
P
R
OI NU TN
A m o r n t h e p
M a h a m a r t
©
2
0
1
6
1
2
3
INNER OUTER
SPACE
ช่ ว งเวลา 3 ปี ท�ีผ่ า นมา ผมกลับ มาอยู่ ใ นสถานที�ท�ีต งั� ใจให เ้ ป็ น ทัง� ที�ท าํ งานและพื�น ที�ใ ช้ชีวิต มีค วามไม่ พ ร้อ มหลายอย่ า งที�ต อ้ งเผชิญ ทัง� จากตัว เองและสิ�ง แวดล อ้ มที�ไ ม่ เ อื�อ อํา นวยนัก สิ�ง หนึ� ง ที�ผ มพยายามทํา ก็ คื อ การเพาะปลู ก และดู แ ลให พ้ ืช พรรณที�น�ี เ ติบ โตเพื�อ เป็ น ร่ ม เงา สร้างบรรยากาศของการทํางาน และเป็ นอาหารยังชีพ แต่ มนั ก็ไม่ง่าย ด้วยผืนดินที�แลง้ และ รกเรื� อ จํา เป็ นต้อ งใช้ค วามเพี ย รมากที เ ดี ย วเพื� อ ให ค้ วามมี ชี วิ ต ชี ว าเกิ ด ขึ� น ในที� แ ห่ ง นี� และถึ ง อย่ า งไรผมก็ ย งั ต้อ งทํา งานสร้า งสรรค์ไ ปด้ว ย Over the past three years, I have decided to restore my land in countryside of Mae Taeng District in Chiang Mai Province to make it my home and studio. It was raw and dry. And my mind was heavy with many problems. I needed a time to heal and at the same time make this place livable.
4
ในการทํา กิ จ วัต รประจํา วัน และในตอนที� ข� ึน รู ป งาน ความกัง วลมัก เกาะกุ ม อยู่ ภ ายในใจของผม มีเ รื� อ งราวมากมายวนเวีย นอยู่ หลาย ครัง� ผมทํา งานเพีย งเพื�อ ให ใ้ จไม่ ร อ้ นรน ออกแรงเคลื�อ นไหวร่ า งกาย ให ส้ อดประสานไปกับ ความยื ด หยุ่ น ของเนื� อ ดิ น ที�เ ย็ น ชื� น เพื�อ ให ม้ นั กลายเป็ น รู ป ร่ า งต่ า งๆ อาจมีห รือ ไม่ มีค วามหมาย บางครัง� เรื�อ งราวที� ได้พ บเจอก็ ถู ก ถ่ า ยทอดลงไปในงานโดยไม่ ต งั� ใจ มัน ทํา ให ก้ ารต่ อ สู ้ ภายในตัว เองสงบลง บางครัง� ก็ ฟุ้ งกระจายขึ�น มาใหม่ แต่ ผ มค่ อ ยๆ จดจ่ อ กับ ลมหายใจได้ง่ า ยขึ�น เวลาที� มีเ พีย งตัว ผมอยู่ ก ับ ลมหายใจ และงานทํา ให ผ้ มสัง เกตเห็ น ตัว เอง เกิ ด ความเข า้ ใจที� ก ระจ่ า งและ ปล่ อ ยวางสิ� ง ที� ก ัง วลไปที ล ะเรื� อ ง 5
In my daily routine and at work, I often lingered in anxiety. I tried to keeptext) my mind on the clay, (eng letting its softness and coolness lead me to create forms and shapes. Sometimes they were just as simple as animals or plants; other times they were conceptual or intangible things, or things without any meaning at all. They helped calm the struggle in me.
6
และผมเริ� ม ศึ ก ษาการเผาเซรามิก ด้ว ยเตาฟื นอย่ า งจริ ง จัง โดยใช้ เตากระต่ า ย อัน เป็ นเตาที� ผ มสร้า งขึ� น จากดิ น เยื� อ กระดาษเมื� อ หลายปี ที� แ ล ว้ มี ข นาดไม่ ใ หญ่ น ั ก เพื� อ ให เ้ อื� อต่ อ การทํ า งาน คนเดียวได้ ไม่ตอ้ งพึ�งพาความช่ วยเหลือจากคนอื�นๆ มันยังไม่เคย ถู ก ใช้ง านเลยสัก ครัง� จึ ง เป็ น การทํา งานที�ท า้ ทายมาก การเผางาน ในช่ ว งแรก เนื� อ งจากความด้อ ยประสบการณ์ ข องผม อีก ทัง� เตาก็ ยัง ใหม่ เ อี� ย ม มี ค วามเป็ นฉนวนความร้อ นน้อ ยทํ า ให ส้ ู ญเสี ย ความร้อ นออกไปนอกเตาได้ง่ า ย ส่ ง ผลให ต้ อ้ งเผางานติ ด ต่ อ กัน เป็ นเวลาหลายสิบ ชัว� โมงซึ� ง เกิ น กว่ า ที� ศ ัก ยภาพคนเพีย งคนเดี ย ว จ ะ รั บ ไ ห ว แ ท บ เ ป็ น ไ ป ไ ม่ ไ ด้เ ล ย ที� อุ ณ ห ภู มิ จ ะ สู ง ขึ� น จ น ถึ ง ระดับ ที� เ คลือ บหลอมตัว ได้ดี งานที� ไ ด้จึ ง มัก มี เ คลือ บที� ย งั ไม่ สุ ก เ ป็ น สี เ ท า จั บ ตั ว ห น า ใ ห ้ ค ว า ม รู ้ สึ ก แ ห ้ ง แ ล ้ง
9
Meanwhile, I started to learn wood-firing. I had built the Rabbit Kiln from paper clay many years before. It was small so I could fire alone. At the beginning it was very challenging because I lacked experience and the kiln was fresh; it needed a lot of firing to turn into an effective one. In my first firing, after more than 35 continuous hours of stoking, the glaze was still unmelt. And it kept repeating like this for more than two years.
10
การเผางานด้ว ยเตาฟื นสอนผมว่ า เราจะเผางานได้ส ํา เร็ จ เมื� อ รู จ้ กั ความสัม พัน ธ์ข องธรรมชาติ แ ละทํา งานร่ ว มกับ มัน ทุ ก กระบวนการ นับ ตัง� แต่ ก ารขนฟื น คัด แยก จัด เก็ บ เติ ม เชื� อ ฟื นเข า้ สู่ เ ตา ล ว้ นแต่ เรี ย กร้อ งการใช้เ รี� ย วแรงอย่ า งเต็ ม ที� หากถอดใจหยุ ด เผาเสีย ก็ ต อ้ ง กลับ ไปเริ� ม ใหม่ ต งั� แต่ ต น้ บางครัง� จึง ต้อ งฝื น ตัว เองอย่ า งมาก แต่ เ มื�อ ร่ า งกายเราเหนื� อ ยล า้ จิต ใจเราจะอยู่ ก บั ตัว เองมากขึ�น มองเห็น ตนเอง ชั ด เ จ น ขึ� น จิ ต ใ จ แ ล ะ ร่ า ง ก า ย ข อ ง เ ร า เ ต า เ ผ า ชิ� น ง า น แ ล ะ ธรรมชาติ ล ว้ นแต่ เ ป็ นปั จ จัย ร่ ว มที� มี ผ ลต่ อ การทํ า งานให ส้ ํ า เร็ จ มัน จึ ง มี ท ั�ง ความตั� ง ใจและความบัง เอิ ญ อยู่ ใ นชิ� นงานเดี ย วกั น ความผิด พลาด ความไม่ส มบู ร ณ์ การแตกร้า วฉี ก ขาดเกิด ขึ�น ได้เ สมอ สิ� ง ที� ผ่ า นมาทัง� หมดทํา ให ร้ ู ว้ ่ า กระบวนการสร้า งงานนั�น มีคุ ณ ค่ า และ สําคัญยิ�งกว่าผลงานที�ได้มา และเรายอมรับความงามแบบที�มนั เป็ นได้ ก็ ต่ อ เมื�อ เรายอมรับ ในธรรมชาติ ยอมรับ ในศัก ยภาพและข อ้ จํา กัด ข อ ง ตั ว เ ร า เ อ ง
21
Wood-firing has opened my vision to see the relation of nature. Moreover, it has made me deeply understand myself. Since its processes require physical strength, sometimes exceeding my ability, I must endure the exhaustion. At the times I almost failed, I have learnt that I am just one small factor in this work, as well as in life; the rest are nature and things we could never completely control. All we must do is learn to accept. What is ‘perfect’ never exists, so does the imperfection. With this realization, I could see that even with the cracks and flaws, things can still be graceful. By accepting nature and myself, I see the true beauty everywhere. And learning is never-ending. 24
25
26
ในธรรมชาติ สรรพสิ� ง ล ว้ นแต่ เ คลื� อ นไหวเปลี� ย นแปลง อาจดู เ วีย นซํา� เป็ น เช่ น เดิม ในทุก ๆ วัน ทว่ า มัน ก็ เ ปลี�ย นไป ที ล ะน้อ ย บางครั� ง ก็ เ ล็ ก จ้อ ยเสี ย จนเราไม่ ท ัน สัง เกต ยอดอ่ อ นของต้น หญ้า แทงขึ�น มาบนผืน ดิน ใบไม ป้ ลิด ปลิว ลงจากต้น ฟ้ าโปร่ ง เมฆก่ อตัวครึ�ม ฝนตก แม่นาํ� เหือดแหง้ แล ว้ กลับ มาเอ่ อ ท น้ ใหม่ ชาวนาหว่ า นไถรอข า้ วเติ บ โตเพื�อ เก็ บ เกี� ย วในฤดู ก าลต่ อ ไป เป็ นองค์ป ระกอบที� แ วดล อ้ ม อยู่ ใ นชี วิต เรารับ รู แ้ ละรับ เอาสิ�ง เหล่า นี� เ ข า้ มาด้ว ยการสัม ผัส มองเห็น ดืม� กิน สูดอากาศหายใจ แล ้วจึงถ่ายเทออกไป เป็ นรูปแบบซํา� ๆ เรารับ เอาเวลาเข า้ มาเปลี�ย นแปลงเซลล์ข องเราไปทีล ะอณู สิ�งต่ างๆ ผสานเขา้ เป็ นชีวติ และความรู ส้ ึกนึกคิดของเรา เขา้ และออก วนเวีย นเป็ น วัฏ จัก ร ใน "ตัว เรา" มี "ข า้ งนอก" และ "ข า้ งนอก" ก็ มี "ตัว เรา" เช่ น กัน แต่ เ รามัก คุ น้ ชิ น จนเห็ น มัน เป็ นเรื� อ งปกติ ธ รรมดา เช่ น เดี ย วกับ สิ� ง ต่ า งๆ ที� เ คลื� อ นคล อ้ ยผ่ า นเราไป
27
Change is the most certain thing in nature. What seem the same are in fact changing little by little – like our body cells, the budding and falling leaves, the clouds and rain, the dry and full river and seasons. Through every tiniest slice of time, this insignificance occurs and is the essence of life. With our senses; drinking, eating, touching, seeing, breathing, we absorb change and become it. Then we change others – living or non-living things – as we pass it on. We are the boundary between the outside and inside, as we are part of them at the same time. By exchanging, our lives and world are created. And with this simplest pattern, we are connected to the circle of life.
28
29
30
31
ถ า้ จับ เอาห ว้ งเวลาที�ห ยุ ด นิ� ง มาเพ่ ง พิเ คราะห์ดู ไ ด้ เราคงเห็น ว่า รายละเอี ย ดแม เ้ พีย งเศษเสี�ย วของมัน ล ว้ นแตกต่ า ง เหมือ น เม็ดทรายแต่ ละเม็ดในมหาสมุทร ดาวแต่ ละดวงในหว้ งอวกาศ แ ม ว้ ่ า มัน จ ะ แ ต ก ต่ า ง กั น อ ย่ า ง ไ ร มัน ก็ เ กิ ด ขึ� น ม า ค ง อ ยู่ แ ล ะ แ ต ก ดั บ ไ ป ใ น ที� เ ดี ย ว กั น นั� น งานชุดนี� คือการสร้างรู ปสัญลักษณ์ของสิ�งที�ได้สมั ผัสในแต่ ละ เสี�ยวเวลา นํามาเรียบเรียงต่ อกันเป็ นเสน้ ทางของเวลาที�ใหญ่ข� นึ รู ป ทรงต่ า งๆ สร้า งขึ� น จากสิ� ง ที� เ รี ย บง่ า ยในชี วิ ต ประจํา วัน เมื�อ มาอยู่ ร วมกัน ก็ ป ระกอบกัน เป็ นรู ป ร่ า งที�แ ตกต่ า งออกไป เหมือนดังหยดนํา� เม็ดทราย ก้อนกรวด ใบไม ้ และสิ�งทัง� หลาย ที� ม าประกอบรวมกัน เป็ นโลก ในรู ป ทรงหนึ� ง มี ท ั�ง ตัว วัต ถุ ซึ�งมองเห็นและสัมผัสได้ ขณะเดียวกันก็มอี ากาศ คือ พื�นที�ว่าง ที�ล อ้ มรอบหรื อ อยู่ ภ ายในรู ป ทรงนั�น มีแ สงและเงาที�ล ดั เลาะ เลี� ย วเบนไปตามรู ป ร่ า งของมัน มี พ� ื น ผิ ว ของงานที� เ ป็ นทั�ง เครื�อ งแบ่ง แยกและเชื�อ มต่ อ ระหว่า งพื�น ที�ภ ายนอกและภายใน
Endless small changes cause us to be the same and different as stars in the sky or grains of sand. We were here, we are here and will always be here. Together we are the universe. This exhibition presents symbolic expression of what I have experienced in times. Each figure is inspired by simple things in daily life, either with meaning or not. Smaller pieces, varying in details, when arranged together, form a group of artwork with new meaning, similar to water drops, rocks, leaves and other things, when related to each other, form our world.
32
37
งานเหล่ า นี� มี ล กั ษณะเป็ นงานประติ ม ากรรมในสิ� ง แวดล อ้ ม การจัด วางปรับ เปลี�ย นไปตามพื�น ที� โดยคํา นึ ง ถึง องค์ป ระกอบ ของพื� น ที� ว่ า เป็ นองค์ ป ระกอบของงานด้ว ย เช่ น ราบเรี ย บ หรื อ มีก ารเปลี�ย นระดับ สู ง ตํา� ทึ บ หรื อ เปิ ดโล่ ง ลัก ษณะและ ทิ ศ ทางของแสงสว่ า งเป็ นอย่ า งไร สิ� ง ต่ างๆ ในพื� นที� น ั� น มี อ ะไรบ า้ ง เช่ น พื ช พรรณ นํ� า ดิ น วัส ดุ อ�ื น ที� เ กี� ย วข อ้ ง ขณะเดี ย วกัน งานอาจเปลี�ย นแปลงลัก ษณะพื�น ผิว และสีส นั ไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะเมื�อ อยู่ ใ นพื�น ที�ธ รรมชาติ ต้น ไม ้ ใบหญ้า เศษใบไม แ้ ห ง้ ไลเคนส์ห รื อ มอสบนชิ� นงาน อาจ ทํา ให ต้ ัว งานพัฒ นาไปก็ ไ ด้ ดัง นั�น ชิ� นงานจึ ง ไม่ ไ ด้ส ํา เร็ จ ลง เมื�อ ทํา เสร็ จ แต่ อ าจเติบ โตและเปลี�ย นแปลงไปอีก ตามวิธี ก าร จัด วาง มีค วามหมายยืด หยุ่ น ไปตามสิ�ง แวดล อ้ มที�ม นั ดํา รงอยู่
38
ยกตัว อย่ า ง เมื�อ งานถูก จัด วางอยู่ บ นผืน นํา� กลางทุ่ง นา แสงสว่ า ง ส่ อ งลงมากระทบผื น นํ�า แล ว้ ถู ก สะท อ้ นกลับ ขึ� น ไปยัง ตัว งาน แสงสะท อ้ นนี� เ คลื�อ นไหวเป็ น ริ�ว ไปตามการกระเพื�อ มของนํา� และ เปลี� ย นมุ ม ตกกระทบไปเรื� อ ยๆ ตามทิ ศ ทางของดวงอาทิ ต ย์ ขณะเดี ย วกัน เมื�อ มองไปยัง ผืน นํา� ก็ เ ห็ น เงาสะท อ้ นของชิ� น งาน ท ้อ ง ฟ้ า แ ล ะ ร่ ม ไ ม ้เ ป็ น ผื น แ ผ่ น ล อ้ ม ร อ บ ชิ� น ง า น อ ยู่ แ ล ะ มี ทอ้ งฟ้ ากับต้นไมจ้ ริงๆ ที�โอบลอ้ มเอาไวด้ า้ นบนอีกด้วย ทัง� หมดนี� ทํา ให เ้ กิ ด มิ ติ แ ละความซับ ซ อ้ นขึ� น โดยมี ต ัว งานเป็ นสิ� ง ที� เ ชื� อ ม ทุกอย่ างเขา้ ด้วยกัน ชิ�นงานเองก็มีชีวิตขึ�นมาด้วยความมีชีวิตชีวา ที� อ ยู่ ร ายรอบ ซึ� ง วิ ธี ก ารทํ า งานแบบนี� คื อ สิ� ง ที� ต ั ว ผมสนใจ เมื� อ งานชุ ด นี� อยู่ ใ นพื� น ที� ห อ้ งแสดงงาน ก็ จ ะได้ร ับ การจัด วาง แตกต่ า งไปอี ก และเปลี� ย นไปอี ก ครั�ง เมื� อ อยู่ ใ นสถานที� อ�ื น ๆ ด้ว ยความหลากหลายของพื�น ที�ด งั ที�ก ล่ า วมาแล ว้ การจัด วางจึง เป็ นสิ�งที�สาํ คัญและทา้ ทายมากพอๆ กับการสร้างสรรค์ตวั ชิ�นงาน
39
40
43
The figures are composed of elements that create their shape and definition: the objects we can see and touch, the space inside and outside of them, lights and shadows showering upon, which visually define them. Images of nature are drawn, painted, or stamped on the surface. All the works are symbols of connection between myself and the surroundings. They imply a peaceful flow of mind, seeing details of life, which happens when I dwell in a wide space of nature. As this is an installation art, the arrangement alters according to its setting. The work are laid out in relation to the space’s elements, e.g. source and direction of light, landscape, color, etc., as its environment. When viewing, the work and the surroundings become one overall piece of art, with different interpretations and atmosphere in accordance with the space.
44
45
46