นิยามเลิรนนิงออปเจ็กต (Learning Objects) เพื่อการออกแบบพัฒนาสือ่ อิเล็กทรอนิกส โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง บทนํา ในระยะ 2-3 ปที่ผานมา คําวา เลิรนนิงออปเจ็กต (Learning Objects) กลายเปนคําที่ใช กันอยางแพรหลาย เพื่อใชเรียก สื่ออิเล็กทรอนิกสซงึ่ ออกแบบและพัฒนาขึน้ สําหรับการศึกษา เรียนรูของผูเรียน อยางไรก็ดี พบวา นักออกแบบและพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกสสว นใหญ ยังคงไม แนใจนัก ถึง ความหมายของคําวา Learning Objects ตัวอยางเชน คําวา Learning Objects แตกตางจาก e-Learning คอรสแวร ที่ไดพัฒนาขึ้นมาระยะหนึง่ แลวอยางไร ประกอบไปดวย คุณสมบัติอะไร ความสามารถในการใชรวมกัน และการนํากลับมาใชใหมของ Learning Objects ( Sharability and reusability) หมายความวาอยางไร ขนาดของสื่อทีจ่ ัดวาเปน Learning Objects นั้นควรเปนขนาดใด Learning Objects มีกี่ประเภท รวมทัง้ ในเรื่องของคําศัพทเชิง เทคนิคที่มักไดรับการกลาวถึง พรอมๆ ไปกับคําวา Learning Objects อันไดแก เมตาเดตา (metadata) มาตรฐาน SCORM เปนตน บทความนี้จงึ เขียนขึ้น เพื่ออธิบายความหมายและคุณสมบัติตางๆ ของคําวา Learning Objects รวมทั้งคําศัพทที่เกี่ยวของกับ Learning Objects ทั้งนี้เพื่อให นักออกแบบและพัฒนาสื่อ อิเล็กทรอนิกส รวมทั้ง นักการศึกษา ครูผูสอน หรือ ผูสนใจเกี่ยวกับสื่ออิเล็กทรอนิกส ไดมีความรู ความเขาใจเกีย่ วกับ Learning Objects อยางถูกตอง ทั้งนี้เพื่อสามารถนําความรู ความเขาใจไป ใชในการออกแบบและพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกสทมี่ ีคุณภาพ โดยครอบคลุมหัวขอเกี่ยวกับ นิยาม คุณลักษณะ มาตรฐาน SCORM เมตาเดตา (metadata) บทบาทและความสําคัญ ของการพัฒนา Learning Objects รวมทัง้ ไดเสนอแนะขอคิดเห็น เกี่ยวกับ นิยามของ Learning Objects ใน มุมมองของนักเทคโนโลยีการศึกษาทั้งนี้ โดยมุงหวัง เพือ่ ให นักออกแบบและพัฒนา Learning Objects มีความเขาใจที่ตรงกัน และนําไปสูการออกแบบพัฒนา Learning Objects อยางมี ประสิทธิภาพ คุมคากับเวลา ความพยายาม และ งบประมาณ ที่(จะ)ไดใชไป นิยามของ Learning Objects สําหรับความหมายของ Learning Objects นัน้ มีผทู ี่ใหนิยามคําวา Learning Objects ไวแตกตางกันไป โดยสามารถแบงความหมาย ตามลักษณะที่มีผนู ิยามไวได เปน 2 กลุม
1) กลุมทีห่ นึง่ นิยาม Learning Objects ไวอยางกวางๆ วา เปน สื่ออิเล็กทรอนิกส1 ใดๆ ซึ่งเราสามารถนํามาใชเพื่อวัตถุประสงคดานการศึกษา โดยอาจอยูในรูปของ ไฟลเอกสาร ไฟล เสียง ไฟลภาพ รวมทัง้ บทเรียนอิเล็กทรอนิกส ที่ใชในการนําเสนอขอมูล สารสนเทศ ความรู แนวคิดตางๆ นอกจากนี้ คุณลักษณะสําคัญของ Learning Objects ไดแก ความสามารถในการ นํากลับมาใชใหม (reusability) การใชรวมกัน (Sharability) และการทํางานรวมกัน (interoperability) ตัวอยางของการนิยาม Learning Objects ในกลุมนี้ ไดแก - ทรัพยากรในรูปแบบดิจิทัลใดๆ ที่ใชในการสนับสนุนการเรียนรู (Wiley, 2000) - ทรัพยากรในรูปแบบดิจิทัลใดๆ ที่ใชในการสื่อระหวางการเรียนรู (Wiley & Edwards, 2002) - ทรัพยากรในรูปแบบดิจิทัลซึ่งนํากลับมาใชไหมไดภายในบทเรียน (McGreal, 2004) ความหมายของ Learning Objects ในลักษณะนี้ เปนที่นยิ มใชกนั ทัว่ ไป ดังนั้นนักวิชาการ กลุมนี้ จึงมักมุง เนนในเรื่องของความสามารถใน การใชรวมกันของ Learning Objects การนํา กลับมาใชใหมของ Learning Objects มาตรฐานที่เกีย่ วของกับ Learning Objects เมตาเดตา (metadata) รวมทัง้ การสรางคลังของ Learning Objects ที่เรียกกันวา repositories นั่นเอง 2) กลุมที่สอง เปนกลุมที่มกี ารนิยามจากมุมมองทางดานการศึกษา (pedagogical view) ซึ่งจํากัดนิยามเฉพาะในลักษณะของ หนวยการเรียนการสอนในรูปแบบดิจิทัล ซึง่ มีความสมบูรณ ในตนเอง ประกอบดวยวัตถุประสงค เนื้อหาซึง่ อาจนําเสนอแนวคิดเรือ่ งใดเรื่องหนึ่ง หรือหลายเรื่อง แตจําเปนตองมีการออกแบบใหบูรณาการแนวคิดนั้นๆ เขาเปนเรื่องเดียวกัน โดยมีแบบฝกหัดเชิง โตตอบ และ/หรือ แบบทดสอบเพื่อวัดผลการเรียนรูของผูเรียน (self-contained) รวมทั้ง มีขนาด กระทัดรัด (bite-sized/ granularity) ซึ่งหมายถึง เวลาทีผ่ ูเรียนใชในการเรียนรูเนื้อหาแตละ Learning Objects นั้นไมควรเกิน 10-12 นาที โดยที่ยังคงตองมีคุณลักษณะสําคัญของ Learning Objects ทั้งสามคุณลักษณะ อันไดแก ความสามารถในการนํากลับมาใชใหม (reusability) การ ใชรวมกัน (Sharability) และการทํางานรวมกัน (interoperability) เชนเดียวกับกลุมแรก ตัวอยาง ของการนิยาม Learning Objects ในกลุม นี้ ไดแก - Objects ที่ประกอบดวย แฟมขอมูลหนึง่ แฟม หรือมากกวาที่ออกแบบขึ้นเพื่อจัดหา ประสบการณในการเรียนรูทเี่ ปนเอกเทศและมีความหมายสําหรับผูเรียน โดยอาจอยู ในรูปแบบของเสียง กราฟค ขอความ แอนิเมชั่น หรือ การผสมผสานของสื่อที่ไดกลาว
1
ในระยะแรกของการนําคําวา LO มาใช องคกรบางแหงถึงกับนิยามคําวา LO ไวกวางๆ วา เปนสิ่งใดๆ ในรูปดิจิทัล หรือไมใชดิจิทัล
สําหรับการเรียนรูโดยอาศัยเทคโนโลยี (IEEE, 2001)
มา นอกจากนีใ้ นการสราง Learning Objects นั้น จําเปนตองมีเปาหมายในการนํา กลับมาใชใหมในวัตถุประสงคการเรียนรูอนื่ และบริบทอืน่ ๆ ทัง้ นี้เพื่อครูผูสอน สามารถที่จะนํา Learning Objects กลับมาใชในการออกแบบการเรียนรูในลักษณะ ใหมในบริบทของสิ่งแวดลอมการเรียนรู และตอบสนองความตองการของผูเรียนที่ ชัดเจน (The Learning Federation Schools Online Curriculum Content Initiative, 2006) ในกลุมนี้ เราสามารถแบงไดอีกเปน 2 กลุมยอย ตามลักษณะของการนิยาม ไดแก 2.1) กลุมแรก เชื่อวา หนวยการเรียนการสอนในรูปของLearning Objectsนั้น สามารถ แบงไดเปนหลายประเภทตามการกลยุทธในการออกแบบการเรียนการสอน (instructional strategies) ของสื่อดิจิตัล ครอบคลุมหนวยการเรียนการสอนประเภทการนําเสนอ (Information Objects) การฝกหัด (Practice Objects) รวมทัง้ การจําลอง และเกม (Simulation & Games Objects) การสํารวจ (Exploratory Objects) และการคนพบ (Discovery Objects) ดังนัน้ การ มอง Learning Objects ในลักษณะนี้ จึงไมแตกตางจากการมองในลักษณะของ e-Learning courseware เทาใดนัก (Churchill, 2006) 2.2) กลุมสอง มองวา Learning Objects ที่ดีและสมบูรณ จะตองมีการออกแบบใน ลักษณะทีเ่ อื้อใหเกิดการเรียนรูที่มี ความหมายของผูเรียน (conducive to meaningful learning) ดังนัน้ สิง่ แวดลอมทางการเรียนรูที่ไดรับการออกแบบจะตองมีความเหมือนจริง (fidelity) สูง ทั้งนี้ เพื่อใหผูเรียนสามารถถายโยงความรู หรือทักษะ ไปใชตอไป กลุมนี้ จึงมุงเนนการออกแบบ Learning Objects ในลักษณะของการจําลอง (Simulation) เกม (Games) และ/ หรือ การสํารวจ (Exploratory) การคนพบ (Discovery) เปนสําคัญ สําหรับสื่ออิเล็กทรอนิกสในลักษณะนําเสนอ เนื้อหาสารสนเทศโดยตรง หรือ ในลักษณะของการฝกทักษะตางๆ สําหรับผูเรียนนัน้ จะถือวาไม สมบูรณ โดยเปนได เพียง information objects และ Practice Objects การเรียนรูจะเกิดจากการ มีปฏิสัมพันธกบั สิ่งแวดลอม การเรียนรูของผูใชเลิรนนิงออปเจ็กตจะเกิดขึ้นผานผลปอนกลับตางๆ ที่ไดมีการออกแบบไว และ/หรือ จากผลลัพธที่เกิดจากการมีปฏิสัมพันธกับ Learning Objects ดังกลาว ผูน ําของกลุมนี้ ไดแก Susan Atkins นักออกแบบสื่อ จากกลุม ของ The Learning Federation Schools Online Curriculum Content Initiative จากประเทศออสเตรเลีย (สัมภาษณ Susan Atkins, สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ, 6 มิ.ย. 2549) ในประเทศไทยนัน้ ตัวอยาง Learning Objects ซึ่งกําหนดนิยามของเลิรนนิงออปเจ็กต ใน ลักษณะนี้ ไดแก Learning Objects ที่ไดมีการออกแบบและพัฒนาของสสวท. ซึ่งไดเผยแพรให ครูผูสอนในบานเรา ตั้งแตกลางปพ.ศ. 2549 ที่ผานมา เชน ออปเจ็กตสอนแนวคิดเกีย่ วกับ เรื่อง
Projectiles (หรือ ที่รูจกั กันในชื่อวา ตะกรอลอดบวง) หรือ ออปเจ็กตสอนแนวคิดเรือ่ ง การ ออกแบบ (หรือ หนูดีผลิตกลองใสซีดี) เปนตน คุณลักษณะของ Learning Objects จากนิยามขางตนที่ไดกลาวมา ทําใหเราสามารถสรุปคุณลักษณะของLearning Objects ไว ได 6 ประการ ดังนี้ 1) ความสามารถในการนํากลับมาใชใหม (reusability) ในทีน่ ี้ หมายถึง ไดใน 2 ลักษณะ ลักษณะ ทีห่ นึ่ง หมายถึง การที่สามารถจะเลือกนํา Object ยอยๆ ซึ่งเปนสวนประกอบของLearning Objects ใดๆ กลับมาใชใหม เชน การนําไฟลภาพจาก Learning Objects หนึง่ กลับมาใช สําหรับ Learning Objects อีกชิน้ หนึ่ง เปนตน นอกจากนี้ การนํากลับมาใชใหม ยังอาจหมาย รวมถึง การนํากลับมาใชใหมของทรัพยากรวัตถุดิบในการสราง Learning Objects เชน เทม เพลต ปุม เปนตน 2) ความสามารถในการใชงานรวมกัน (Sharability) ในที่นี้ หมายถึง ความสามารถในการใชงาน Learning Objects แมวา Learning Objects นั้นจะอยูบนระบบบริหารจัดการการเรียนรู (LMS) หรือ ระบบบริหารจัดการเนื้อหา (LCMS) ที่แตกตางกัน เชน ระบบ Learning Space ของ IBM กับ ระบบ KC MOODLE ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม เปนตน 3) ความสามารถในการทํางานรวมกัน (interoperability) ในทีน่ ี้ หมายถึง ความสามารถในการ เขาถึงและใชงานLearning Objects แมวาเครื่องมือที่ใชในการเขาถึง งาน Learning Objects จะมีความแตกตางกัน เชน การเขาถึงจาก พีซี มือถือ หรือ พีดีเอ เปนตน 3 คุณลักษณะแรก ที่ไดกลาวไปนั้น เปนคุณลักษณะที่ขาดไมไดของ Learning Objects อยางไรก็ดี มีคุณลักษณะทีส่ ําคัญของLearning Objectsที่นกั ออกแบบพัฒนาควรใหความสนใจ อีก 3 คุณลักษณะ ไดแก :4) ขนาดกระทัดรัด (bite-sized/ granularity) ซึ่งหมายถึง เวลาที่ผูเรียนใชในการเรียนรูเนื้อหา หรือ เรียกดู Learning Objects แตละ Learning Objects นัน้ ไมควรเกิน 10-12 นาที ซึง่ แตกตาง จากการออกแบบ CAI ในสมัยกอน ซึง่ มีงานวิจยั หลายชิ้นที่สนับสนุนวา คาเฉลีย่ ของเวลาที่ใช ในการเรียนรูเนื้อหาที่เหมาสมของ CAI จะอยูที่ประมาณไมเกิน 25 นาที ตอ การเรียนรูของ ผูเรียนในครั้งหนึง่ ๆ (ถนอมพร 2541)
5) ความสมบูรณในตนเอง (self-contained)2 หรือ บางครั้งจะใชคําศัพทในภาษาอังกฤษ ที่วา Integrity ซึ่งหมายถึงการที่ Learning Objects นั้นจะตองมีความสมบูรณในตนเอง ประกอบดวย วัตถุประสงค เนื้อหา แบบฝกหัด และ/หรือ แบบทดสอบ ทัง้ นี้อาจเปนในลักษณะ ของการออกแบบกลยุทธการเรียนแบบบอกตรง (expository instruction) หรือ แบบออมๆ (inductive instruction) ก็ได 6) เอื้อใหเกิดการเรียนรูท ี่มคี วามหมาย (conducive to learning)3 หมายถึงการที่ Learning Objects ทีอ่ อกแบบพัฒนาขึ้นจะตองสงเสริมใหผูเรียนเกิดการเรียนรูในลักษณะที่สามารถนําไป เชื่อมโยงกับประสบการณ (โลก)จริงของผูเรียนได ดังนัน้ Learning Objects ทีส่ รางขึ้นจะตอง ออกแบบใหสิ่งแวดลอมการเรียนรูของผูเรียนมีความใกลเคียงกับโลกแหงความเปนจริงสําหรับ ผูเรียน ทั้งนีเ้ พื่อใหผูเรียนสามารถถายโยง (transfer) ทักษะที่ไดรับจากการใช Learning Objects ดังกลาวไปใชในบริบทอืน่ ๆ ตอไปได โดย Learning Objects ที่สามารถเอื้อตอการ เรียนรูในลักษณะดังกลาวจึงมักไดรับการออกแบบใหอยูใน รูปแบบของการจําลอง เกม การ คนพบ หรือ การสํารวจ มาตรฐาน SCORM และ METADETA มาตรฐานเปนสิ่งที่ถกู กําหนดขึ้น ทัง้ นีเ้ พื่อใหไดมาซึ่งสิง่ ตางๆ โดยเฉพาะอยางยิ่ง ผลิตภัณฑ หรือ สินคา ทีม่ ีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน และ/หรือ เพื่อการใชงานผลิตภัณฑ สิ่ง ตางๆ รวมกัน ไดอยางมีประสิทธิภาพ โดยมาตรฐานอาจอยูในลักษณะของขอกําหนดคุณลักษณะ (specification) ตางๆ ที่ไดกําหนดไวรวมกัน ตัวอยางเชน มาตรฐานของหลอดไฟฟา รางรถไฟ เครื่องเลนซีด/ี ดีวีดี สายโทรศัพท หรือแมกระทั่งฝาขวดเบียร เปนตน ดังนัน้ มาตรฐานของ Learning Objects จึงหมายเฉพาะถึง ขอกําหนดคุณลักษณะที่ไดรับการกําหนดขึ้นเพื่อใหไดมาซึ่ง ทรัพยากรการเรียนรู หรือ หนวยการเรียนการสอนในรูปแบบดิจิตัลที่มคี วามสามารถในการใชงาน รวมกันได โดยสามารถใชงานรวมกันระหวางระบบบริหารจัดการเนื้อหา/ สารสนเทศ (LMS หรือ LCMS) ที่มีความแตกตางกัน หรือในทางตรงกันขาม คือ การใชระบบบริหารจัดการเนื้อหา/ สารสนเทศ (LMS หรือ LCMS) ระบบเดียวที่สามารถจะเรียกใชทรัพยากรการเรียนรูจากที่ตงั้ ที่
2
สําหรับนักวิชาการในกลุมแรกที่ใหคํานิยาม Learning Objects (LO) ไวอยางกวางๆ นั้น ความสมบูรณในตนเองของ LO ไมใชคุณสมบัติที่
จําเปน เพราะ LO สามารถจะเปนสิ่งใดๆ ก็ได (digital หรือ non-digital) หรือ กลุมที่เชื่อวาอยูในลักษณะดิจิตัลเทานั้น ก็นิยาม LO ไวใน ลักษณะทีส่ ามารถอยูในรูปของไฟลเดียวๆ เชน ไฟลเสียง ไฟลภาพได โดยไมจาํ เปนตองเปนหนวย(สื่อ)การเรียนการสอน 3
นักวิชาการที่ไดนิยาม Learning Objects (LO) ไวจากกลุม 1 รวมทั้งกลุมที่ 2 บางสวน ไมไดใหความสําคัญในแนวคิดนี้ โดยถือวา LO
สามารถใชกลยุทธการเรียนการสอนในลักษณะใดก็ได โดยไมจํากัดวาจะตองอยูในลักษณะของการจําลอง/เกม/การคนพบ/การสํารวจ
แตกตางกัน รวมทัง้ มาตรฐานยังสามารถทําใหเกิดการใชงานรวมกันระหวางเครื่องมือการเขาถึง สารสนเทศ (devices) ที่แตกตางกันได หนึง่ ในมาตรฐานของ e-Learning ที่ไดรับการยอมรับมากที่สุด ในปจจุบัน ไดแก มาตรฐาน SCORM (Sharable Content Object Reference Model) ซึ่งพัฒนาขึ้นจากความ รวมมือกันระหวางกลุมของนักพัฒนามาตรฐาน e-Learning เชน IMS, ADL และ IEEE เปนตน โดยมีการแบงความรับผิดชอบของการพัฒนากันอยางชัดเจน เพื่อใหไดมาซึ่งขอกําหนด คุณลักษณะ (specification) และ คําแนะนํา (guidelines) รวมกัน รวมทั้งมีมาตรฐานการทดสอบ รวมกัน (testbeds) เพื่อไปสู ขอตกลงดานมาตรฐาน (standard bodies) สําหรับเนือ้ หาการเรียนรู บนเว็บ ที่ไดรับการยอมรับในที่สุด โครงสรางการจัดระบบของ SCORM นั้นอาจเปรียบไดกบั ชุดของหนังสือที่จัดเรียงกันอยู บนหิง้ ประกอบไปดวย(ชุด)หนังสือ 4 เลม(ชุด) ไดแก 1) SCORM Overview Book หรือ หนังสือภาพรวมของ SCORM เปนสวนซึ่งสรุปที่มาของ SCORM และครอบคลุมเกี่ยวกับขอกําหนดและขอตกลงดานมาตรฐานซึ่ง SCORM ใชใน การอางอิง อธิบายเกีย่ วกับความสัมพันธระหวาง(ชุด)หนังสือแตละเลม(ชุด) 2) SCORM Content Aggregation Model (CAM) Book หรือ หนังสืออธิบายขอมูลเพิม่ เติม ของเนื้อหา เปนสวนซึ่ง อธิบายถึงองคประกอบของขอมูลเกี่ยวกับลักษณะการเรียนรูของ ผูเรียนที่ตองการจัดเก็บเพื่อประโยชนในการวิเคราะหตอ ไป เชน เวลาที่ใชในการทํางาน (time on task) จํานวนครั้งการทําแบบฝกหัด ฯลฯ และวิธีการในการจัดกลุม (package) องคประกอบของขอมูลเหลานี้เขาดวยกัน เพื่อชวยในการสืบคน หรือ คนหา Objects ที่ ตองการใหพบ นอกจากนี้ ยังประกอบไปดวยสวนสําคัญ ที่อธิบายถึงองคประกอบของกฎ การจัดลําดับการเรียนรู รวมทั้งวิธีในการกําหนดชื่อ (labeling) การแลกเปลี่ยน และ การ คนพบเนื้อหาที่ตองการ 3) SCORM Run-Time Environment Book หรือ หนังสือเชิงเทคนิคที่เกีย่ วของ เปน สวนซึง่ อธิบายถึง ขอกําหนดดาน LMS ในการจัดการเชิงเทคนิค ขอกําหนดของ เนื้อหาการเรียนรู ที่ตองการใชรวมกัน 4) SCORM Sequence and Navigation Book หรือ หนังสืออธิบายเกี่ยวกับการจัดลําดับ และการนําทาง เปนสวนซึง่ อธิบายถึงการจัดลําดับ Objects เนื้อหาทีส่ นับสนุนมาตรฐาน SCORM เพื่อนําเสนอสูผูเรียน รวมทั้งอธิบายวิธีการที่ LMS ที่สนับสนุนมาตรฐาน SCORM ใชในการแปลความหมายของกฎการจัดลําดับ (sequence) การแปลผลการนํา ทาง (navigation) ของการใชงานของผูเรียน หรือ การแปลผลการทํางานของระบบ
SCORM และ Learning Objects เมื่อกลาวถึง คําวา มาตรฐาน SCORM นั้น จะตองทําความเขาใจใหชัดเจน กลาวคือ มาตรฐาน SCORM จะประยุกตไดกับ องคประกอบสําคัญของ e-Learning ทั้งสองดาน กลาวคือ ทั้งในสวนของ เนื้อหา (content) ซึ่งในทีน่ จี้ ะใชคําวา Learning Objects แทนคําวาเนื้อหา และ ใน สวนของระบบบริหารจัดการเนื้อหา/ สารสนเทศ (LMS หรือ LCMS) ในสวนของ มาตรฐาน SCORM ในดานของ Learning Objects นั้นจะหมายถึง การที่ Learning Objects นั้น ไดถูก นําไปจัดกลุม หรือ การpackaging ใหมีรายละเอียดเพิ่มเติมของขอมูลตามขอกําหนดของ มาตรฐาน SCORM ในภาพ 1 ไดอธิบายถึงการจัดกลุม (packaging) ของเลิรนนิงออปเจ็กต หลายๆ ชิ้นกอนนําเขาสูคลังความรู (repositories) ซึ่งรายละเอียดตางๆ ของออปเจ็กตจะถูก บันทึกในรูปของไฟลขอมูล ซึ่งทําหนาที่อธิบายถึงคุณสมบัติตางๆของ Learning Objects นั้น ตัวอยางเชน ชือ่ ขนาด สวนประกอบ ประเภท (นามสกุล) ตําแหนงที่ตงั้ ของไฟล และรายละเอียด ตางๆ ทั้งหมด ในลักษณะเดียวกันกับ รายละเอียดของขอมูลของหนังสือที่บันทึกไวบนบัตรคําใน หองสมุดในสมัยกอน (ศึกษาภาพ 2 ประกอบ) โดยจะถูกนํามาบีบอัดเขาดวยกัน (Zip) เปนไฟล เดียว โดย ขอมูลเชิงเทคนิคตางๆ ของ Objects จะอยูในรูปของ เมตาเดตา (metadata) 4 ซึ่งเปน ไฟลที่เขียนขึ้นดวยภาษา xml Learning Objects ที่สนับสนุนมาตรฐาน SCORM จะสามารถ นําไปใชในระบบ LMS หรือ LCMS ที่สนับ–สนุนมาตรฐาน SCORM ที่แตกตางกันได
Assemble different LOs
Zip up the resources
Import into digital repository
ภาพ 1: การจัดกลุม (packaging) ของเลิรนนิงออปเจ็กตกอนนําเขาสูค ลังความรู (repository)
4
ขอมูลเชิงเทคนิคตางๆ ของออปเจ็กต นอกเหนือจาก เมตาเดตา (metadata) ยังหมายรวมถึง manifest data และ Runtime
Environment แตสว นที่ไดรับกลาวถึงมากที่สุด คือ สวนของเมตาเดตา
สําหรับในสวนของ LMS หรือ LCMS นั้น หมายถึง การที่ระบบฯ ดังกลาวนั้น มีการ พัฒนาขึ้นใหมคี ุณสมบัติในการสนับสนุนมาตรฐาน SCORM โดยทําใหเราสามารถเรียกใชงาน Learning Objectsที่สนับสนุนมาตรฐาน SCORM ซึ่งถูกวางอยู ณ ที่ตงั้ ของทรัพยากรการเรียนรู จากที่ใดๆ ก็ตามในโลกไดอยางสะดวกสบาย นอกจากนี้ ดวยมาตรฐาน SCORM ยังทําใหเรา สามารถติดตาม ตรวจสอบขอมูลตางๆ เกีย่ วกับการใชงานLearning Objects ไดอยางละเอียด Single asset = raw media + meta-data file
A JPEG picture
Its associated meta-data
Picture of a naval
ภาพ 2: อธิบายถึงองคประกอบของเลิรนนิงออปเจ็กตทสี่ นับสนุนมาตรฐาน SCORM บทบาท/ ความสําคัญของการออกแบบและพัฒนา LO สําหรับคําถามที่วา ทําไม เราจึงตองใหความสําคัญกับการออกแบบและพัฒนาLearning Objects นั้น สาเหตุสาํ คัญประการหนึ่ง ไดแก การที่ สวนใหญสื่ออิเล็กทรอนิกสตางๆ ที่พฒ ั นาขึ้น สําหรับ e-Learning กอนหนาแนวคิดเกีย่ วกับLearning Objectsนั้น มักจะไดรับการออกแบบ พัฒนาขึ้นเพื่อวัตถุประสงคสาํ หรับการเรียนรูในเรื่องใดเรื่องหนึง่ หรือในบริบทใดบริบทหนึ่งที่ เฉพาะเจาะจง โดยที่ไมไดมงุ เนนการสรางขึ้น เพื่อใหสามารถนํากลับมาใชใหม หรือ มีการใช รวมกัน ผานระบบบริหารจัดการเนื้อหา (LCMS) หรือ ระบบบริหารจัดการการเรียนรู (LMS) อยางไรก็ดี เนือ่ งจาก เปนทีท่ ราบกันดี ในการพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกสแตละชิ้นนัน้ จําเปนตองมีถงึ การลงทุนสูง ในดาน เวลา และคาใชจาย จึงทําใหเกิดแนวคิดเกีย่ วกับความคุมคาของสื่อฯ และ การเพิม่ คุณคาของสื่อฯ โดยแนวคิด รูปแบบ และวิธกี ารในการนําสื่อฯ กลับมาใชใหม จึงสงผลให
เกิดแนวคิดเกีย่ วกับการพัฒนาสื่อในลักษณะของ Learning Objects ทัง้ นี้เพื่อสงเสริมและ สนับสนุนความพยายามในการพัฒนาสื่อขึ้นเพื่อใชสําหรับบริบทการเรียนรูทหี่ ลากหลายขึน้ มักมีคําถามเกิดขึ้นโดยเฉพาะอยางยิ่ง คําถามที่วา ทําไมเราจึงจําเปนตองใหความสนใจ กับการออกแบบพัฒนาLearning Objectsเพื่อการนํากลับมาใชใหมใหยุงยากขึ้นไปอีก เหตุผล ก็ คือ ความคุมคาในการลงทุนพัฒนา Learning Objects รวมทัง้ การทีL่ earning Objectsเหลานั้น จะมีคุณคาเพิม่ ขึ้น จากการที่ไดรับการนําไปใชมากกวาบริบทใดบริบทหนึ่งเพียงบริบทเดียว การ ออกแบบพัฒนาในลักษณะที่สามารถนํากลับมาใชใหมไดนี้ จะสงเสริมการเรียนรูทงั้ โดยตรง ซึ่ง ไดแก รายวิชาที่เนนความรู หรือทักษะตางๆ โดยตรง รวมไปถึงทั้งทางออม ซึ่งไดแก ความตองการ ในดานการเรียนรูอื่นๆ ในอนาคตที่อาจไมอยูในลักษณะรายวิชาใดรายวิชาหนึ่งก็ได นอกจากนี้ ในดานของความยืดหยุน ของการใชLearning Objectsนั้น หากเราสามารถ ออกแบบLearning Objectsใหสามารถใชไดมากกวาบริบทเดียว Learning Objects นัน้ ก็จะ สามารถนํากลับมาใชใหมไดงาย ทัง้ นี้เพราะเปนการยากมาก หรือ แทบเปนไปไมไดเลย ทีเ่ ราจะ สามารถนําLearning Objectsที่ออกแบบพัฒนาเพื่อวัตถุประสงคทเี่ จาะจง มา และ นําสื่อ ดังกลาวมาแยกออกเปนสวนๆ และ เลือกบางสวนออกจากบริบทเดิมที่ออกแบบไวโดยมี วัตถุประสงคทชี่ ัดเจน และนํากลับมาใชในบริบทใหม ดังนั้น การคํานึงถึงบริบทโดยกวางสําหรับ Learning Objectsที่เราพัฒนาจึงควรเปนขั้นตอนสําคัญขั้นตอนหนึ่งระหวางการออกแบบพัฒนา ตัวอยางเชน หากเราตองการที่จะสอนแนวคิดเกีย่ วกับ รูปทรงทางคณิตศาสตร การออกแบบ Learning Objectsจะแตกตางจากการออกแบบ CAI เรื่องรูปทรงทางคณิตศาสตร กลาวคือ ใน การออกแบบLearning Objects นั้น เราไมจําเปนจะตองกําหนดวัตถุประสงคเชิงพฤติกรรมที่ ตายตัว เชน เมื่อผูเรียนเรียนจบหนวยการเรียนเรื่อง รูปทรงทางคณิตศาสตร นี้แลว ผูเรียนจะ สามารถทําแบบทดสอบได กีข่ อ จากกี่ขอ และภายใตเงื่อนไขใด หาก ในการออกแบบ ควร คํานึงถึง วัตถุประสงคของ Learning Objects ในลักษณะที่มงุ เนนในการใหผูเรียนไดรับแนวคิด ความเขาใจผานการไดมีปฏิสัมพันธกับสิง่ แวดลอมการเรียนรูที่ออกแบบไวใน Learning Objects ในลักษณะที่สามารถนําไปปรับใชกับบริบทที่แตกตางแตใกลเคียงกันได ตัวอยางเชน สามารถนํา แนวคิดเกี่ยวกับ รูปทรงทางคณิตศาสตร ไปประยุกตใชในบริบทตางๆ เชน สามารถนําไปใชในการ ออกแบบชิ้นงานที่ไดรับมอบหมาย ในวิชา พืน้ ฐานการงานอาชีพและเทคโนโลยี เชน การออกแบบ รูปทรงผลิตภัณฑ เปนตน นอกจากนี้ แนวคิดสําคัญอีกประการ ไดแก วิธกี ารทีเ่ หมาะสมสําหรับ การวัดผลการเรียนรูของผูเรียน ซึ่งเปนผลจากการใช Learning Objects นัน้ มีความแตกตางจาก วิธีการในการวัดผลการเรียนรูของผูเรียน ซึ่งเปนผลจากการใชสื่อ CAI หรือ คอรสแวรในลักษณะ เดิม กลาวคือ การวัดผลการเรียนรูของผูเรียนที่ใช Learning Objects ควรใชการวัดผลในลักษณะ ตามสภาพจริง (authentic assessment) โดยอาจใช รูบริคส เพื่อวัดผลการเรียนรูจ ากชิน้ งานที่
ผูเรียนไดรับมอบหมายใหดาํ เนินงาน หลังจากที่ไดเรียนจาก Learning Objects อยางไรก็ดีชนิ้ งาน ดังกลาวที่ผูเรียนไดรับมอบหมายใหดําเนินการนั้น จําเปนจะตองชี้ใหเห็นวา ผูเรียนมีความรู ความ เขาใจ และ/หรือ ทักษะ แนวคิดที่ผูเรียนไดเรียนรู และฝกฝน มาจากLearning Objectsนั่นเอง บทสรุป: ขอคิดเห็น เกี่ยวกับ Learning Objects ในมุมมองของนักเทคโนโลยีการศึกษา บนพืน้ ฐานจากมุมมองของนักเทคโนโลยีทางการศึกษานั้น แนวคิดเกีย่ วกับ Learning Objects นั้น จะถือวาเปนแนวคิดใหมก็ไมใช จะถือวาเปนแนวคิดเกาก็ไมเชิง ทัง้ นี้เนื่องจากการที่ Learning Objects นัน้ ไมไดนําเสนอ หรืออาศัยกลยุทธการออกแบบการเรียนรูใหม (instructional strategies) แตอยางใด หากสิ่งทีเ่ รียกไดวา เปน นวัตกรรมทางความคิด อาจไดแก รากลึกของแนวคิดในการพัฒนา Learning Objects อันไดแก การนํา (สื่อ) กลับมาใชใหม (reusability/ repurposing) ในบริบทที่แตกตางกันไป เพื่อใหเกิดความคุมคา คุมทุน ดังนั้น ใน การออกแบบ Learning Objects ใดๆ จึงจําเปนตองใชเวลาใหมากในชวงของการออกแบบ ทัง้ นี้ เพื่อใหเกิดความเหมาะสมในการที่จะสามารถนําไปใชในบริบทที่หลากหลายได นอกจากนี้ หากมุงเนนใน ดานผลการเรียนรูของผูเรียน นักการศึกษาหรือผูสนใจการ ออกแบบพัฒนาLearning Objects จึงควรที่จะเขาใจความหมายใหชดั เจน และนําไปประยุกตใช เพื่อการออกแบบ พัฒนา สรางสรรค ผลงานของตนไดอยางถูกตอง ตรงตามหลักวิชาการในการ ออกแบบ Learning Objects ที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลตอไป โดยเฉพาะอยางยิง่ ในฐานะ นักออกแบบสือ่ การเรียนการสอนนัน้ ควรมีการนิยาม Learning Objects ในลักษณะที่สามารถ เอื้อตอการเรียนรูของผูเรียนที่มีความหมายของผูเรียน (conducive to meaningful learning) เปน สําคัญ มากกวาการออกแบบ Learning Objects ในลักษณะนําเสนอเนื้อหา หรือ Presentation Objects เชนเดียวกับการใชโปรแกรมนําเสนองาน เชน พาวเวอรพอยต เพียงเทานั้น โดยควรเลือก การออกแบบที่เนนลักษณะของเกม การจําลอง การคนพบ และการสํารวจ ทั้งนี้เพราะเปนรูปแบบ ที่มีกลยุทธการเรียนรูในการออกแบบสิ่งแวดลอมทางการเรียนที่เอื้อตอการเรียนรูท มี่ ีความหมาย ของผูเรียนไดเปนอยางดี รวมทั้งเปนรูปแบบกลยุทธที่สนับสนุนการเรียนรูในลักษณะกระตือรือรน (active learning) ของผูเรียน นอกจากนี้ ยังมักสนับสนุนแนวคิดที่วา “การเรียนรูเปนเรื่องสนุก” (“Learning is Fun.”) เพราะในการเรียนดวยกลยุทธดงั กลาวนัน้ ผูเรียนจะไดรับมอบหมายใหเปน ผูดําเนินกิจกรรมตางๆ เชน การแกไขสถานการณตางๆ ในบทบาทที่สมมติขึ้น รวมทั้งมักจะไดรับ ความสนุกสนานเพลิดเพลินไปพรอมๆ กันกับการเรียนรูด วย
รายการอางอิง ถนอมพร (ตันพิพัฒน) เลาหจรัสแสง. (2541). คอมพิวเตอรชวยสอน. กรุงเทพฯ : วงกมล โพร ดักชั่น. สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ.(2549). Learning Objects : สื่อการเรียนรูยคุ ดิจิทัล. [ระบบออนไลน]. แหลงที่มา http://www.ipst.ac.th/ magazine/mag134/70-74%20Learning%20Obj.pdf ( 27ธันวาคม 2549 ). Albert, I., Iain, M. and Mike, C. (2001). What is a Learning Objects, technically. [Online]. Available: http://users.tpg.com.au/adslfrcf/lo/learningObject(WebNet2001).pdf [2006, June 27]. Atkins,S and Jones,D. (2004). Consideration for learning design. [Online]. Available : http://www.thelearningfederation.edu.au/tlf2/sitefiles/assets/docs/ldpaper310804 final.pdf. [2007, January 27]. Churchill, D. (2006). Toward a useful classification of learning objects. Journal of Education Technology Research and Development. 54(5).[Online]. Available : http://www.springerlink.com/content/9g4336282u640184/fulltext.html. [September,2006]. Clarke,O and Gronn, D. (2004). Learning By Design : TLF Mathematics and numeracy learning objectsin classroom contexts in the Catholic Archdiocese of Melbourne. [Online].Available :http://www.thelearningfederation.edu.au/tlf2/sitefiles/assets/d ocs/brochures_reports/research/learning_by_design.pdf. [2007, January 27]. Krauss, M. & Ally, M. ( 2005). A Study of the Design and Evaluation of a Learning Objects and Implication of Content Development. [Online]. Available: http://ijklo.org/Volume1/v1p001-022Krauss.pdf [2006, June 27]. Lazarouwitz, R. & Huppert, J. (2003). Science Process Skills of 10th-Grade Biology Students in a Computer-Assisted Learning Setting. [Online]. Available: http:// www.iowa.gov/educate/prodev/science/science_9-12_14.doc [2006, June 27].
Liu, Y.(2005). Design of Learning Objects to Support Constructivist Learning Environments. [Online]. Available: http://edt.missouri.edu/Fall2005/Thesis/LiuY051706-T3789/research.pdf [2007, January 21]. McGreal, R. (2004). Learning Objects: a practical definition. International Journal of Instructional Technology and Distance Learning, 1(9), 21-32. Moral, E.D.& Cernea, D. A. (2006). Design and Evaluate Learning Objects in the New Framework of the Semantic Web. [Online].Available:http://www.formatex.org /micte2005/357.pdf [2006, June 27]. National Learning Infrastructure Initiative.(2003). Learning Objects.[Online]. Available: http://ep2010.salzburgresearch.at/knowledge_base/nlii_2003.pdf [2007, January 21]. Petrinjak,A,M.Sc. and Graham,R. (2004). Creating Learning Objects from Pre-Authored Course Materials: Semantic Structure of Learning Objects — Design and Technology. [Online]. Available: http://www.cjlt.ca/content/vol30.3/ petrinjak.html [2006, July 11]. Roy,M.(2004). Learning Objects. [Online]. Available: http://www.educause.edu/ir/library/pdf/DEC0402.pdf [2007, February 25]. South, J.B. & Monson,D.W. (2001). A University-wide System for Creating, Capturing, and Delivering Learning Objects. [Online]. Available: http://reusability.org/read/chapters/south.doc [2006, July 11]. The Learning Federation Schools Online Curriculum Content Initiative (2006), Documents Presented During the Seminar on Learning Objects, June 6th, 2006, Bangkok, Thailand. Walker,A & Recker,M.M. (2000). Collaboratively filtering Learning Objects. [Online]. Available: http://reusability.org/read/chapters/recker.doc [2006, August 20]. Wiley, D.A. (2000). Learning Objects Design and Sequencing Theory. [Online]. Available: http://opencontent.org/docs/dissertation.pdf [2006, June 30]. Wiley, D.A.(2001). Connecting Learning Objects to instructional design theory: A definition, a metaphor, and a taxonomy. [Online]. Available: http://www.elearning-reviews.org/topics/technolonogy/learning-objects/2001wiley-learning-objects-instructional-design-theory.pdf [2006, August 20].
Wiley, D.A., & Edwards, E. (2002). Online Self-organizing social systems: The decentralized future of online learning. [Online]. Available: http://wiley.ed.usu.edu/docs/ososs.pdf Wisconsin Online Resource Center.(No date). What are Learning Objects. [Online]. Available: http://www.wisc-online.com/about/Learning Objects Def Q Stand Uses.htm [2006, July 22].