รายงานประจำป 2553
ANNUAL REPORT 2010 ºÃÔÉÑ· äÍàÍ¿àÍÊ á¤»» µÍÅ (»ÃÐà·Èä·Â) ¨Ó¡Ñ´ (ÁËÒª¹) IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED
General Information ขอมูลทั�วไปของบริษัท
ชื่อบริษัท Company Name
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) IFS Capital (Thailand) Public Company Limited (“Company”)
ที่ตั้งสำนักงานใหญ Address
เลขที่ 1168/55 ชั้น 20 อาคารลุมพินีทาวเวอร ถนนพระราม 4 แขวงทุงมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 1168/55, Fl. 20, Lumpini Tower, Rama 4 Road, Tungmahamek, Sathorn, Bangkok 10120
ประเภทธุรกิจ Type of Business
การใหสินเชื่อการรับโอนสิทธิเรียกรองหรือสินเชื่อแฟคเตอริ่ง (Factoring) สินเชื่อลีสซิ่งประเภทสัญญาเชาทางการเงิน (Financial Lease) สินเชื่อเชาซื้อ (Hire Purchase) และสินเชื่อประเภทอื่นๆ โดยเนนกลุมลูกคาที่ เปนผูประกอบการขนาดกลางและขนาดยอมภายในประเทศ Providing Factoring services, Financial Lease, Hire Purchase, and other services with focus on local SMEs.
เลขทะเบียนบริษัท Company Registration No.
107550000033
โทรศัพท Telephone
02-285-6326 - 32 และ 02-679-9140 - 4
โทรสาร Fax.
02-285-6335 และ 02-679-9159
เว็บไซต Website
www.ifscapthai.com
Contents สารบัญ
02 03 04 08 10 12 13 17
21 22 23 25 29 30 48 59 60 68 74 76 78 80 82 138 139
จุดเด่นทางการเงิน / Financial Highlights วิสัยทัศน์และพันธกิจ / Vision and Mission สาส์นจากประธานกรรมการ / Message from the Chairman คณะกรรมการ / Board of Directors คณะผู้บริหาร / Management Team โครงสร้างองค์กร / Organization Chart ลักษณะการประกอบธุรกิจ / Nature of Business ประวัติและความเป็นมาของบริษัท / Milestones โครงสร้างรายได้ / Revenue Structure นโยบายการลงทุนและโครงสร้างเงินทุน / Investment Policy and Capital Structure ภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน / Industry and Competition ปัจจัยความเสี่ยง / Risk Factors โครงสร้างการถือหุ้น / Shareholding Structure โครงสร้างการจัดการ / Management Structure การกำ�กับดูแลกิจการ / Good Corporate Governance นโยบายการจ่ายเงินปันผล / Dividend Policy รายการระหว่างกัน / Related Party Transactions คำ�อธิบายและการวิเคราะห์ฐานะทางการเงินและผลการดำ�เนินการ / Management Discussion and Analysis
ความรับผิดชอบต่อสังคม / Corporate Social Responsibility รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงิน / Report of the Board of Directors’ Responsibilities for the Financial Statements
รายงานคณะกรรมการตรวจสอบ / Report of the Audit Committee รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต / Audit Report of Certified Public Accountant งบการเงิน / Financial Statements ค่าตอบแทนการสอบบัญชี / Remuneration of the Auditor บุคคลอ้างอิง / Other References
Financial Highlights ข้อมูลสำ�คัญทางการเงิน
2008
2009
2010
“ปรับปรุงใหม่” “Restated”
2,396
หน่วย : ล้านบาท / Million Baht 2,123 2,099
สินทรัพย์รวม
2,396
2,123
2,099
หนี้สินรวม
1,868
1,519
1,299
529
604
799
286.45
231.37
247.87
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
78.37
76.92
87.61
ต้นทุนทางการเงิน
77.97
47.57
40.21
กำ�ไรขั้นต้น
129.66
124.83
140.58
กำ�ไรก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเงินได้
130.11
106.87
120.05
71.13
76.87
84.80
กำ�ไรต่อหุ้น (บาทต่อหุ้น)
1.02
0.22
0.21
มูลค่าต่อหุ้น (บาทต่อหุ้น)
5.00
1.00
1.00
อัตรากำ�ไรขั้นต้น (ร้อยละ)
62.45
72.41
77.76
อัตรากำ�ไรสุทธิ (ร้อยละ)
24.83
33.22
34.21
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ร้อยละ)
14.05
13.58
12.09
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ร้อยละ)
3.06
3.40
4.02
อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน (เท่า)
1.17
1.29
1.67
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า)
3.53
2.52
1.63
42.31
40.98
*47.11
Total Assets
Total Liabilities
สินทรัพย์รวม Total Assets
ส่วนของผู้ถือหุ้น
Total Shareholders’ Equity
2008 2009 2010
รายได้รวม
799 529
Total Revenue
604
Selling and Administrative Expenses Finance Cost
ส่วนของผู้ถือหุ้น
Gross Profit
Total Shareholders’ Equity
Profit before Allowance for Doubtful Debts and Income Tax
2008 2009 2010
กำ�ไรสุทธิ Net Profit
286.45 231.37
247.87
Earnings per Share (Baht) Par Value (Baht/Share)
อัตราส่วนทางการเงิน Financial Ratio Analysis รายได้รวม
Gross Profit Margin (%)
Total Revenue
2008 2009 2010
Net Profit Margin (%)
84.80
Return on Equity (%)
Return on Assets (%)
76.87
Current Ratio (Times)
71.13 กำ�ไรสุทธิ
Debt to Equity (Times)
Net Profit
อัตราการจ่ายเงินปันผล (ร้อยละ) Dividend Payout (%)
2008 2009 2010
* เงินปันผลเสนอจ่าย : ในอัตราหุ้นละ 0.085 บาทต่อหุ้น
Proposed dividend per share : at the rate of Baht 0.085 per share.
Proposed date of dividend payment : 10th May 2011
Date of the 2011 Annual General Meeting of Shareholders : 25th April 2011 at 2.00 p.m.
วันที่จ่ายเงินปันผล : 10 พฤษภาคม 2554
กำ�หนดประชุมผู้ถือหุ้นประจำ�ปี 2554 : วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 14.00 น.
สถานที่ : ห้องสัมมนา ชัน้ 11 อาคารลุมพินที าวเวอร์ 1168/55 ถนนพระราม 4 แขวงทุง่ มหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Venue : Seminar Room, 11th Floor Lumpini Tower, 1168/55 Rama IV Road, Tungmahamek, Sathorn, Bangkok 10120.
เป็ น ผู้ นำ � ที่ มี ค วามชำ � นาญพิ เ ศษทางการเงิ น ใน การนำ�เสนอสินเชือ่ แฟคเตอริง่ และผลิตภัณฑ์ทางการ เงิ น อื่ น ที่ ห ลากหลายด้ ว ยบริ ก ารที่ ดี เ ยี่ ย มสำ � หรั บ ผูป้ ระกอบการในประเทศ และ สร้างคุณค่าให้องค์กรอันจะ นำ � มาซึ่ ง ผลตอบแทนสู ง สุ ด แก่ผู้ถือหุ้น ความพึงพอใจ แก่ผู้บริหาร ทีมงาน และผู้ถือ ผลประโยชน์ร่วมอื่น ๆ
Vision วิสัยทัศน์
To be the leading specialist in providing factoring and financial solutions for local businesses and entrepreneurs, committed to service excellence and creating value for shareholders, management, staff and other stakeholders.
เราให้บริการทางการเงิน ด้ ว ยรู ป แบบผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ปรับเปลี่ยนตามความ ต้องการของลูกค้าเพื่อ ให้ ลู ก ค้ า ได้ รั บ ความ พอใจสูงสุด
Mission พันธกิจ
We offer timely and innovative financial solutions to satisfy the financial needs of our clients. เราให้ ค วามสำ � คั ญ ในการสร้ า งมิ ต รภาพอั น แข็ ง แกร่งกับลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ We emphasize strong relationships with all our clients and business partners. เราต้ อ งการเป็ น องค์ ก รที่ ช่ ว ยรั บ ผิ ด ชอบดู แ ล สังคมและมีธรรมาภิบาลสูงในการบริหาร We seek to be a responsible corporate citizen and are committed to high standard of corporate governance.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
3
Message from the Chairman สาส์นจากประธานกรรมการ
เรียน ท่านผู้ถือหุ้น, ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) หรือ IFS จะได้นำ�เสนอผลการดำ�เนินงานที่ผ่านมาผ่านรายงาน ประจำ�ปีฉบับนี้ ซึ่งถือเป็นฉบับแรกหลังจากที่ IFS ได้เข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553
“ เ ร า อ ยู่ ใ น ธุ ร กิ จ ใ น ประเทศไทย 20 ปี และ เจริ ญ เติ บ โตควบคู่ ไ ป กั บ ก า ร พั ฒ น า ก า ร ของประเทศไทย จึงทำ�ให้ เรามี ค วามเข้ า ใจความ ต้องการของตลาด และ เข้ า ถึ ง ลู ก ค้ า กลุ่ ม เป้ า หมายได้เป็นอย่างดี ”
ผู้ถือหุ้นคงตระหนักดีว่า IFS เป็นบริษัทที่มีความ เชี่ยวชาญในธุรกิจสินเชื่อแฟคเตอริ่ง สินเชื่อลีสซิ่ง และสินเชื่อเช่าซื้อสำ�หรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมถึงสินเชื่อทางการเงินอื่นที่เกี่ยวเนื่องกัน เราอยู่ ในธุรกิจในประเทศไทย 20 ปี และเจริญเติบโตควบคู่ ไปกับการพัฒนาการของประเทศไทย จึงทำ�ให้ เรามีความเข้าใจความต้องการของตลาด และเข้าถึง ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าระบบ เศรษฐกิจมหภาคของประเทศไม่ค่อยมีเสถียรภาพ ในรอบระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาก็ตาม เรามีการ บริหารจัดการอย่างระมัดระวังและรอบคอบ มีการ นำ�เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ใน การบริหารงานอย่างต่อเนือ่ ง ทัง้ ทางด้านไอที มีการ นำ�เสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ รวมถึงการนำ� วิธีการจัดการกับความเสี่ยงอย่างมีแบบแผน
บริ ษั ท ถื อ ว่ า เป็ น บริ ษั ท แฟคเตอริ่ ง แห่ ง แรกในประเทศไทยที่ ให้ บ ริ ก ารใน การทำ�ธุรกรรมผ่านระบบ on-line แบบ real time ในรูปแบบของ e-Factoring ให้กับลูกค้า นอกจากนี้แผนการบริหารความเสี่ยงของเราได้รับการทบทวน อย่างสม่ำ�เสมอจากคณะกรรมการบริษัท ปี 2553 นับว่าเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าที่คาด ในอัตราร้อยละ 7.8 ถึงแม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงเดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม ปัญหามาบตาพุด ทำ�ให้ฉุดความเชื่อมั่นการลงทุน และใน ช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำ�ท่วมอย่าง รุนแรง รวมถึงการแข็งค่าของเงินบาทอย่างมีนัยสำ�คัญ ส่วนผลงานของ IFS ในปี 2553 ถือว่ามีการเจริญเติบโตดี กล่าวคือปริมาณการให้สินเชื่อขยายตัว ได้ร้อยละ 24 คือจาก 13,697 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 16,979 ล้านบาท ในปี 2553 ส่วนผลกำ�ไรก็เติบโตได้ดีเช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน คือ
4
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Message from the Chairman/สาสน์จากประธานกรรมการ
จาก 76.18 ล้านบาทในปี 2552 (“ปรับปรุงใหม่”) เป็น 84.80 ล้านบาทในปี 2553 ด้วยเหตุนี้ คณะ กรรมการบริษัทจึงได้เสนอจ่ายเงินปันผลในอัตรา หุ้นละ 0.085 บาท หรือ 8.5 สตางค์ต่อหุ้น คิด เป็นเงินทั้งสิ้น 39.95 ล้านบาทสำ�หรับปี 2553 เงินปันผลเสนอจ่ายดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 50 โดยประมาณของกำ�ไรสุทธิของบริษัทหลังหักเงิน สำ�รองตามกฏหมาย และต้องได้รับความเห็นชอบ จากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำ�ปี 2554
ปี 2554 นี้ เป็นปีที่บริษัทดำ�เนินงานครบรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในประเทศไทยในปี 2534 เราเชื่ อ ว่ า ประสบการณ์ แ ละความเชี่ ย วชาญที่ สั่งสมมาในธุรกิจนี้ กอรปกับความสำ�เร็จในการ เป็นสมาชิกในตลาดหลักทรัพย์จะช่วยให้เราเป็น องค์ ก รที่ มี คุ ณ ภาพในการให้ บ ริ ก ารแก่ ลู ก ค้ า รักษาไว้ซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสียของ บริษัท ตลอดจนความซื่อสัตย์ในการดำ�เนินธุรกิจ ตามหลั ก การกำ � กั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี ข องบริ ษั ท ทำ�ให้บริษัทตระหนึกดีถึงการมีความรับผิดชอบใน ปี 2554 เป็นปีที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคง ฐานะสมาชิกที่ดีของสังคมและสิ่งแวดล้อม เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 4-5 ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากภาวะ ท้ายสุดนี ้ ในนามของคณะกรรมการบริษทั ขอกล่าว เศรษฐกิจของโลกที่คาดว่าจะยังคงชะลอตัว ธุรกิจ ขอบคุณผู้ถือหุ้น ลูกค้า ธนาคาร ตลอดจน ของ IFS ก็เช่นเดียวกันเราคาดหมายว่าจะยัง ผู้ มี ส่ ว นได้ เ สี ย ทุ ก ฝ่ า ยที่ ใ ห้ ก ารสนั บ สนุ น การ คงเติบโตตามการขยายตัวของเศรษฐกิจภายใน ดำ�เนินงานของบริษทั ด้วยดีเสมอมา และขอขอบคุณ ประเทศ ผู้ประกอบการที่บริษัทให้สินเชื่อส่วนใหญ่ คณะผู้ บ ริ ห ารและพนั ก งานทุ ก ท่ า นที่ ไ ด้ ป ฎิ บั ติ เป็ น ผู้ ป ระกอบการขนาดกลางและขนาดย่ อ ม หน้าที่เต็มกำ�ลังความสามารถ และสร้างความ (SMEs) ซึง่ ยังมีความต้องการสินเชือ่ อยูเ่ ป็นจำ�นวน ก้าวหน้าให้กับบริษัทตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มาก แต่มีข้อจำ�กัดในการขอสินเชื่อจากธนาคาร ที่ต้องใช้หลักประกัน กอรปกับ IFS ได้เริ่มให้ บริ ก ารสิ น เชื่ อ ลี ส ซิ่ ง และเช่ า ซื้ อ อี ก ครั้ ง หนึ่ ง นั บ ตั้ ง แต่ มี ก ารขายหุ้ น สามั ญ เพิ่ ม ทุ นต่ อ ประชาชน ในเดือนสิงหาคม 2553 ทำ�ให้บริษัทสามารถ ตอบสนองความต้ อ งการของลู ก ค้ า ได้ ห ลาก หลายมากขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างแหล่งรายได้ เพิ่มเติมอีกทางหนึ่ง ในอนาคตเรายังคงคิดค้นหา นายลี ซูน คี ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอื่นเพื่อนำ�เสนอ ประธานกรรมการ ให้กับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
5
Message from the Chairman/สาสน์จากประธานกรรมการ
Dear Shareholders, On behalf of IFS Capital (Thailand) Public Company Limited (IFS), I am pleased to present our results in our maiden Annual Report since our successful listing on the Stock Exchange of Thailand on 10th August 2010. As shareholders are aware, IFS specializes in factoring, equipment finance (leasing and hire purchase) and other related financial services. We have been in Thailand for 20 years and have grown together with Thailand’s development. We have built up a good understanding of the market and understand the needs of our clients. While there have been short term instability in the last 20 years, we have managed our business prudentially and consistently adopted new technologies, both in IT, new financial products and risk management methodologies. We are the first factoring company in Thailand to provide real-time online factoring services in the form of e-Factoring to our clients, and our risk management practices are regularly reviewed by the Board.
“ We have been in Thailand for 20 years and have grown together with Thailand’s development. We have built up a good understanding of the market and understand the needs of our clients. ”
The overall Thai economy in the year 2010 performed better than expected with a growth rate of 7.8%, despite the political unrests of April/May and the Map Ta Phut problem which affected investors’ confidence in the first half of the year. Severe flooding and the strong appreciation of the Thai Baht also affected the overall growth of the Thai ecomomy in the second half of the year. IFS’ performance in 2010 was good with factoring volume growing about 24% from Baht 13,697 million in 2009 to Baht 16,979 million in 2010. The Company’s net profit also grew from Baht 76.18 million in 2009 (“Restated”) to Baht 84.80 million in 2010. With this, the Board is proposing a dividend of Baht 0.085 or 8.5 Satang per share, totalling Baht 39.95 million for the year 2010. The proposed dividend, if approved by shareholders at the 2011 Annual General Meeting, is about 50% of the Company’s net profit after legal reserve and is in line with the Company’s dividend policy.
6
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Message from the Chairman/สาสน์จากประธานกรรมการ
In 2011, the Thai economy is expected to continue growing but at slower pace of 4-5% due to the slowdown of the global economy. IFS is expected to continue growing in line with the country’s economy. The business of the Company is closely associated with the small and medium sized enterprises (SMEs), many of which are still in need of credit facilities but have restricted access to the banks’ credit facilities due to the collateral requirements of banks. IFS has recommenced its leasing and hire purchase businesses after its IPO in August 2010, and this will help to better support the needs of our clients, as well as creating an additional source of income. We continue to explore new avenues and products with a view to introducing them to our clients. The Company approaches its 20th anniversary since its incorporation in Thailand in 1991 this year. We believe that our cumulative experience in this area as well as our successful listing will help us provide quality services to our clients and in maximizing value to all stakeholders of the Company. Our strong corporate governance standards will enable us to discharge our responsibility as a member of society and towards the environment. Finally, on behalf of the Board, I would like to express my appreciation to the shareholders, clients, bankers and all other stakeholders for your good support over the past years. I would also like to thank the management and staff for their good work and dedication to the Company over the years.
Lee Soon Kie Chairman IFS Capital (Thailand) Public Company Limited
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
7
Board of Directors คณะกรรมการ
ดร.ธรรมนูญ อานันโทไทย
รองประธานกรรมการ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
นายลี ซูน คี
ประธานกรรมการ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Dr. Thamnoon Ananthothai Deputy Chairman of IFS Capital (Thailand) PCL
Mr. Lee Soon Kie
Chairman of IFS Capital (Thailand) PCL
8
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล
กรรมการ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Mr. Suvait Theeravachirakul
Director of IFS Capital (Thailand) PCL
Board of Directors/คณะกรรมการ
นายตัน เล เยน
กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Mr. Tan Ley Yen
Executive Director & CEO of IFS Capital (Thailand) PCL
คุณลิม มุย หลิง
กรรมการ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Ms. Lim Mui Ling
Director of IFS Capital (Thailand) PCL
นายนิพัทธ์ จำ�รูญรัตน์
กรรมการ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Mr. Niphat Chamroonrat
Director of IFS Capital (Thailand) PCL
คุณนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์
กรรมการ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Mr. Niwat Kanjanaphoomin
Director of IFS Capital (Thailand) PCL
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
9
Management Team คณะผู้บริหาร
นายกันตภณ กิตติศิริประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
Mr. Guntapon Kittisiriprasert Chief Financial Officer
นายตัน เล เยน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
Mr. Tan Ley Yen
Chief Executive Officer
นางสาวขวัญใจ แซ่ไหล
นายปากน้ำ� สาระกุล
Ms. Kwanjai Sae-Lai
Mr. Paknam Sarakul
ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายปฏิบัติการ General Manager Operations
10
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
ผูจ้ ดั การทัว่ ไป ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และลูกค้าสัมพันธ์ General Manager Business Development & Client Relations
Management Team / คณะผู้บริหาร
นางเพ็ญศรี เพชรทอง
ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการเงินและบัญชี
Mrs. Pensri Pettong
Assistant General Manager Finance & Accounts
นางสาวนรารักษ์ คงศิริเรืองไล
ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ 2
Ms. Nararak Kongsiriruanglai Assistant General Manager Business Development 2
นายยุทธชัย ศิริพรรณพงค์
ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาสินเชื่อ, บุคคลและธุรการ
Mr. Yutthachai Siriphanpong Assistant General Manager Client Review, HR & Admin.
นายสุวิชาญ เจริญพรพจน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ 1
Mr. Suvichan Charoenponpoj Assistant General Manager Business Development 1
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
11
Organization Chart โครงสร้างองค์กร
Board of Directors คณะกรรมการบริษัท Compensation & Nomination Committee คณะกรรมการ กำหนดคาตอบแทนและสรรหา
Audit Committee คณะกรรมการตรวจสอบ
Risk Management Committee คณะกรรมการ บริหารความเสี่ยง
Internal Audit * ผูตรวจสอบภายใน CEO Mr. Tan Ley Yan ประธานเจาหนาที่บริหาร คุณตัน เล เยน
Business Development & Client Relations Mr. Paknam Sarakul, GM
Finance & Accounts Mr. Guntapon Kittisiriprasert, CFO
Operations Ms. Kwanjai Sae-Lai, GM
ฝายพัฒนาธุรกิจและ ลูกคาสัมพันธ คุณปากน�ำ สาระกุล ผูจัดการทั�วไป
ฝายการเงิน คุณกันตภณ กิตติศิริประเสริฐ ประธานเจาหนาที่
ฝายปฏิบัติการ คุณขวัญใจ แซไหล ผูจัดการทั�วไป
Mr. Suvichan Charoenponpoj AGM, Business Development
Mrs. Pensri Pettong AGM, Finance & Accounts
คุณสุวิชาญ เจริญพรพจน ผูชวยผูจัดการทั�วไป ฝายพัฒนาธุรกิจ Ms. Nararak Kongsiriruanglai AGM, Business Development คุณนรารักษ คงศิริเรืองไล ผูชวยผูจัดการทั�วไป ฝายพัฒนาธุรกิจ
คุณเพ็ญศรี เพชรทอง ผูชวยผูจัดการทั�วไป ฝายการเงินและบัญชี Mr. Yutthachai Siriphanpong AGM, Client Review, HR & Admin. คุณยุทธชัย ศิริพรรณพงศ ผูชวยผูจัดการทั�วไป ฝายพัฒนาสินเชื่อ บุคคลและธุรการ
หมายเหตุ: * ปัจจุบันบริษัทมีผู้ตรวจสอบภายใน 2 ทีม 1) บริษัท เอเอ็มซี อินเตอร์เนชั่นแนล คอนซัลติ้ง จำ�กัด โดยการว่าจ้างหน่วยงานภายนอก และ 2) ผู้ตรวจสอบ ภายในจากบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล ลิมิเต็ด (สิงคโปร์) Remarks: * The Company has 2 teams of internal auditors: 1) AMC International Consulting Co., Ltd. (Outsourced Company) and 2) IFS Capital Limited (Singapore).
12
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Nature of Business ลักษณะการประกอบธุรกิจ
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) (“IFS”) ประกอบ ธุรกิจหลัก 4 ประเภท ดังนี้
1. บริการสินเชื่อการรับโอนสิทธิเรียกร้องหรือสินเชื่อแฟคเตอริ่ง:
เป็นการให้บริการสินเชื่อระยะสั้นเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจสำ�หรับ ผู้ประกอบการ บริษัทจะรับซื้อลูกหนี้การค้าที่เกิดจากการค้าขายภายใน ประเทศ และ/หรือส่งออกต่างประเทศจากลูกค้าซึ่งเป็นผู้ขายสินค้าหรือบริการ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำ�ประกันแต่จะโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้การค้าของ ลูกค้าให้กับบริษัทเป็นหลักประกัน บริษัทเน้นให้บริการกับผู้ประกอบการ ขนาดกลางและขนาดย่อมที่ต้องการเงินสดไปหมุนเวียนในธุรกิจ และทำ�ให้ เกิดสภาพคล่องในการบริหารงานมากขึ้น
2. บริการสินเชื่อลีสซิ่งประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน:
เป็ นการให้ บ ริ ก ารสิ น เชื่ อ แก่ ผู้ ป ระกอบการที่ ต้ อ งการเงิ น ลงทุ น ในการซื้ อ ทรัพย์สินประเภทยานพาหนะและเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม ตลอดจน เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง และรถใช้งานเกษตรกรรม โดยบริ ษั ท เป็ น ผู้ จั ด หาทรั พ ย์ สิ น จากผู้ จำ � หน่ า ยตามที่ ผู้ เ ช่ า ต้ อ งการ ส่วนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเป็นของบริษัท ผู้เช่ามีสิทธิครอบครองและใช้ ประโยชน์จากทรัพย์สนิ และมีหน้าทีซ่ อ่ มแซมบำ�รุงรักษาทรัพย์สินที่เช่า ชำ�ระ ค่าเช่าตามเงื่อนไข โดยทั่วไปกำ�หนดระยะเวลาการเช่า 3-5 ปี ชำ�ระค่าเช่า เป็นรายเดือน และส่วนใหญ่คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ทั้งนี้ ผู้เช่าจะบอกเลิก สัญญาก่อนครบกำ�หนดเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เมื่อครบกำ�หนดสัญญาเช่าและ ไม่ผิดเงื่อนไขตามสัญญา ผู้เช่ามีสิทธิซื้อซากทรัพย์สินที่เช่าในราคาที่ตกลงกัน ณ วันทำ�สัญญา
3. บริการสินเชื่อเช่าซื้อ:
เป็ นการให้ บ ริ ก ารสิ น เชื่ อ แก่ ผู้ ป ระกอบการที่ ต้ อ งการเงิ น ลงทุ น ในการซื้ อ ทรัพย์สินประเภทยานพาหนะและเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม ตลอดจน
เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง และรถใช้งานเกษตรกรรม โดยบริษัทเป็นผู้จัดหาทรัพย์สินจากผู้จำ�หน่ายตามที่ผู้เช่าซื้อต้องการ ส่วน กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเป็นของบริษัท ผู้เช่าซื้อมีสิทธิครอบครองและใช้ ประโยชน์จากทรัพย์สิน และมีหน้าที่ซ่อมแซมบำ�รุงรักษาทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ชำ�ระค่าเช่าซื้อตามเงื่อนไข โดยทั่วไปกำ�หนดระยะเวลาการเช่า 2-5 ปี ชำ�ระ ค่าเช่าเป็นรายเดือน คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ ทั้งนี้ ผู้เช่าซื้อจะบอกเลิกสัญญา ก่อนครบกำ�หนดเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เมื่อครบกำ�หนดและไม่ผิดเงื่อนไขตาม สัญญา ผู้ให้เช่าซื้อจะโอนกรรมสิทธิ์ไปยังผู้เช่าซื้อ
4. บริการเสริมอื่นๆ:
เป็นการให้บริการเสริมต่างๆ ที่บริษัทจัดให้กับลูกค้าเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกค้า สามารถใช้บริการทางการเงินกับบริษัทได้อย่างครบวงจร อาทิ เช่น • Confirming LC/TR: เป็นบริการที่เสริมให้กับลูกค้าแฟคเตอริ่งปัจจุบัน ที่ เ ป็ น ผู้ นำ � เข้ า ที่ มี ก ารตกลงสั่ ง ซื้ อ สิ น ค้ า จากต่ า งประเทศเพื่ อ นำ�เข้ามาจำ�หน่ายหรือเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าโดยที่ลูกค้า ที่มาขอใช้บริการ LC/TR (Letter of Credit / Trust Receipt) กับบริษัท โด ย ส่ ว น ให ญ่ ไม่ ต้ อ ง ใช้ ห ลั ก ป ร ะ กั น เมื่ อ ลู ก ค้ า แจ้ ง ค ว า ม ประสงค์ที่จะขอใช้บริการกับบริษัท บริษัทจะเป็นผู้ติดต่อกับธนาคาร ให้ออกหนังสือ LC หรือทำ� TR ให้กับลูกค้าโดยใช้วงเงินที่บริษัทมีอยู่ กับธนาคารในการออก LC/TR
• Inventory Financing: เป็นบริการสินเชือ่ รูปแบบหนึง่ ทีล่ กู ค้าสามารถ
สร้างกระแสเงินสดจากสินค้าคงคลัง โดยสินค้าคงคลังต้องมีราคา ตลาดที่ชัดเจนและมีผู้ซื้อสินค้าที่แน่นอนแต่ยังไม่ได้ทำ�การส่งมอบ สินค้า เมื่อลูกค้าส่งมอบสินค้าไปแล้ว ทางบริษัทจะรับชำ�ระค่าสินค้า โดยตรงกับผู้ซื้อเอง
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
13
Nature of Business / ลักษณะการประกอบธุรกิจ
• Floor Plan: เป็นสินเชือ่ ให้แก่ตวั แทนจำ�หน่ายรถยนต์ทไ่ี ด้รบั แต่งตั้งอย่าง
เป็นทางการให้จำ�หน่ายรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ (Authorized Dealership) เป็นบริการสินเชื่อสำ � หรั บ ใช้ เป็ น แหล่ ง เงิ นทุ น ในการจั ด ซื้ อ รถยนต์ เพื่อนำ�มาจำ�หน่ายเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้จัดจำ�หน่ายรถยนต์ การให้สินเชื่อลูกค้าจะต้องนำ�ส่งเอกสารสิทธิแสดงความเป็นเจ้าของ รถมาให้บริษัทในการใช้บริการสินเชื่อ และลูกค้าจะชำ�ระเงินคืนบริษัท เมื่อต้องการจำ�หน่ายรถยนต์นั้น
• Contract Financing: เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ช่วยผู้ประกอบการที่มี
ใบสั่งซื้อ หรือสัญญาซื้อขาย หรือสัญญาการให้บริการที่แน่นอนจาก ลูกหนี้การค้าชั้นดี แต่ยังขาดเงินทุนเพื่อใช้ซื้อวัตถุดิบในการผลิต สินค้าหรือเพื่อเตรียมการบริการ ลูกค้าสามารถนำ�สัญญาดังกล่าว มาขอสินเชื่อกับบริษัทได้ โดยบริษัทจะชำ�ระเงินล่วงหน้าไปก่อน และ หลังจากลูกค้าส่งมอบสินค้าหรือบริการแล้ว ลูกค้าจะนำ�ใบแจ้งหนี้ หรือใบส่งของมาให้แก่บริษัทเพื่อให้บริษัทไปรับชำ�ระเงินจากลูกหนี้ การค้าตามเวลาที่ครบกำ�หนดต่อไป และจะนำ�เงินที่ได้รับชำ�ระจาก ลู ก หนี้ ก ารค้ า นั้ น มาหั ก ยอดเงิ น รั บ ชำ � ระล่ ว งหน้ า ที่ บ ริ ษั ท ได้ ให้ กั บ ลูกค้าไปก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น
เป้าหมายการประกอบธุรกิจ บริ ษั ท ตั้ ง เป้ า หมายที่ จ ะเป็ น หนึ่ ง ในบริ ษั ท ผู้ นำ � การให้ บ ริ ก ารสิ น เชื่ อ เพื่อการค้าและการพาณิชย์ โดยเน้นการให้บริการกับลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบ การขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาในอนาคต ใน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ และเพิม่ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจประเภทอืน่ ๆ เช่น สินเชือ่ แฟคเตอริง่ สำ�หรับการส่งออก สินเชือ่ ลีสซิง่ และสินเชือ่ เช่าซือ้ และพยายามทีจ่ ะเพิม่ สินเชือ่ อืน่ ทีเ่ กีย่ วข้องกับ ธุรกิจที่ทำ�อยู่เพื่อครอบคลุมการให้บริการแบบครบวงจรให้มากขึ้นในอนาคต
“บริ ษั ท ตั้ ง เป้ า หมาย ที่จ ะเป็ น หนึ่ง ในบริ ษัท ผูน้ �ำ การให้บริการสินเชือ่ เพื่ อ การค้ า และการ พาณิชย์”
14
• Block Discounting: เป็นผลิตภัณฑ์สนิ เชือ่ ทีใ่ ห้กระแสเงินทุนหมุนเวียน
แก่ธรุ กิจ โดยนำ�สัญญาขายสินค้าและบริการแบบเช่าซือ้ แบบผ่อนชำ�ระ หรือสัญญาเช่าทีม่ กี ารชำ�ระแบบเป็นงวดทุกๆ เดือนมาขายให้แก่บริษทั เพื่อขอรับเงินรับชำ�ระล่วงหน้าก่อนเป็นก้อนในครั้งแรก เงินรับชำ�ระ ล่วงหน้าคิดเป็นร้อยละเท่าไหร่นั้นแล้วแต่จะตกลงกัน โดยลูกค้าจะ ชำ�ระคืนบริษทั แบบเป็นงวดๆ ตามแต่ตกลงกัน โดยอายุของสัญญาจะ อยู่ที่ 1-3 ปี
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Nature of Business / ลักษณะการประกอบธุรกิจ
IFS Capital (Thailand) Public Company Limited (“IFS”) provides 4 main lines of business :
1. Factoring Service:
A short-term loan providing working capital to entrepreneurs. The Company will purchase accounts receiveable, including the rights to claim, from the local and/ or export sales of clients without the need of security. The Company focuses on providing services to the SMEs who are in need of working capital to improve their liquidity.
2. Leasing Service:
A service to businesses who require capital investment on industrial vehicles and machines, tools used for relocation of goods, vessels and vehicles used in agricultural activities. The Company will procure the assets from distributors as per the clients’ requirements. The legal rights of the asset belongs to the Company but the client has the right to possess and utilize the leased assets, be responsible for the repair and maintenance of the leased assets and pay the leasing rental as agreed. Normally, the lease contract is from 3-5 years and the leasing rental is paid on a monthly basis based on a floating rate. The client cannot solely cancel the lease contract by himself prior to the completion of the contract. Upon the completion of the contract, the client has the right to purchase the assets at the agreed price which has been stated since the contract date.
4. Other services:
are additional services provided to the Company’s clients such as: • Confirming LC/TR: An additional service for existing factoring clients who import raw material or goods, usually without requiring additional collateral. When the Company’s clients request for the service of LC/TR (Letter of Credit/Trust Receipt), the Company will liase with the banks to issue LC or TR on behalf of the clients, utilizing the Company’s credit facilities with the banks. •
Inventory Financing: Another form of credit service which enables clients to advance cash from their inventory on the condition that the inventory must have a clear market price and definite purchasers and the products have not yet been delivered. Once the products are delivered, the Company will collect payment directly from the purchaser.
• Floor Plan: A service provided to auto dealers to provide funding for purchasing of cars for distribution. The clients must possess authorized dealership and submit documents on the right of ownership to the Company. Monies are repayable after sales of the cars.
The Company’s objective is to be a leader in the commercial finance business by focusing on SMEs.
3. Hire Purchase Service:
A service similar to that of Leasing except that interest is on a fixed rate basis, the contract period is from 2-5 years, and the legal rights of the asset will be transferred to the client at the end of the contract.
•
Contract Financing: A service to provide facility when clients have purchase order, firm contracts (sales/service) but lack of funds to execute order. Cash advances could be made for clients to purchase raw materials to manufacturing to shipment of goods. Clients can submit contracts for this facility and the Company will provide advance payment to pay their suppliers. Upon completion of the contract, clients will submit invoices and delivery notes on their customers to the Company for factoring.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
15
Nature of Business / ลักษณะการประกอบธุรกิจ
• Block Discounting: A convenient method of financing a trader’s hire purchase, credit sale or rental agreements with monthly repayment basis and with a contract period of 1-3 years. The Company acquires the trader’s rights under the agreements at a discounted valuation for a lump sum of cash advancement and the gross value will be repayable by equal monthly installments. The valuation of discounted agreements will be subject to negotiation.
Objective of Business Operations The Company’s objective is to be a leader in the commercial finance business by focusing on SMEs. The Company has plans to open branches in the Central, Eastern, North Eastern, and Northern parts of Thailand in the future. The Company plans to increase revenues from export factoring, leasing and hire purchase services. In addition, the Company is planning to widen its range of services so as to become a one-stop financial services centre for its clients.
16
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Milestones
ประวัติและความเป็นมาของบริษัท
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2534 ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดยมีชื่อเดิมเมื่อเริ่มก่อตั้ง ว่า บริษัท อยุธยาอินเตอร์เนชั่นแนลแฟคเตอร์ส จำ�กัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำ�กัด (มหาชน) (“ธ.กรุงศรีอยุธยา”) ถือหุ้นร้อยละ 45 และบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์)1 (“IFS (Singapore)”) ถือหุ้นร้อยละ 40 เพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อการรับโอนสิทธิเรียกร้องหรือสินเชื่อ แฟคเตอริ่ง ปี 2550 บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยกลุ่ม IFS (Singapore) ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทจาก ธ.กรุงศรีอยุธยา และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด ต่อมาวันที่ 18 เมษายน 2550 บริษัทได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และได้เพิ่มทุนจดทะเบียนและเรียกชำ�ระแล้ว เป็น 350 ล้านบาท ปี 2552-2553 บริษัทได้เปลี่ยนสภาพบริษัทจากบริษัทสัญชาติไทยเป็นบริษัทต่างด้าว โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (1) สินเชื่อแฟคเตอริ่ง และ (2) สินเชื่อ แบบลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อสินค้าประเภทยานพาหนะและเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง และรถใช้งาน เกษตรกรรม สำ�หรับผู้รับบริการรายใหม่ บริษัทได้เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคม 2553 พร้อมกับการเสนอขาย หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน 120 ล้านหุ้น ทำ�ให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำ�ระแล้วเพิ่มจาก 350 ล้านบาทเป็น 470 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กลุ่ม IFS (Singapore) ถือหุ้นรวมกันร้อยละ 73.13
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำ�คัญของบริษัท
1
ปี 2534
เหตุการณ์ มิถนุ ายน: บริษทั เพิม่ ทุนจดทะเบียนและเรียกชำ�ระแล้วจาก 1 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท โดยการร่วมทุนระหว่าง ธ. กรุงศรีอยุธยาถือหุน้ ร้อยละ
2537 2538 2543
เมษายน: บริษทั เพิม่ ทุนชำ�ระแล้วเป็น 100 ล้านบาท
45 และ IFS (Singapore) ถือหุน้ ร้อยละ 40
บริษทั เริม่ ประกอบธุรกิจสินเชือ่ ลีสซิง่ ประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน และสินเชือ่ เช่าซือ้
มิถนุ ายน: บริษทั ได้ลดทุนจาก 100 ล้านบาท เหลือ 50 ล้านบาท โดยลดมูลค่าทีต่ ราไว้จาก 10 บาท เหลือ 5 บาท เพือ่ ล้างขาดทุนสะสมทีเ่ กิดขึน้ เนือ่ งจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540/2541
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์) เดิมชื่อบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แฟคเตอร์ส (สิงคโปร์) จำ�กัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่ปี 2530 และเข้าเป็นบริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในปี 2536 กลุ่มบริษัท IFS (Singapore) เป็นกลุ่มที่เชี่ยวชาญในธุรกิจทางด้านการเงิน ได้แก่ บริการสินเชื่อประเภทต่างๆ เช่น (แฟคเตอริ่ง ลีสซิ่ง เช่าซื้อ) การประกันสินเชื่อ (Credit Insurance) การออกหุ้นกู้ (Bonds and Guarantees) Structured Finance และธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) โดยกลุ่มบริษัท IFS (Singapore) ประกอบไปด้วยหลายบริษัท และมีการดำ�เนินธุรกิจในหลายประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฮ่องกง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 บริษัทมีทุนชำ�ระ แล้วเท่ากับ 88.03 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็น 2,108.54 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 23.9525 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2552) รายละเอียดของ กลุ่ม IFS (Singapore) สามารถดูได้ที่ www.ifscapital.com.sg
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
17
Milestones /ประวัติความเป็นมาของบริษัท
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำ�คัญของบริษัท ปี เหตุการณ์ 2544 กุมภาพันธ์: บริษทั เพิม่ ทุนชำ�ระแล้วอีก 200 ล้านบาท เป็น 250 ล้านบาท เสนอขายให้แก่ ธ. กรุงศรีอยุธยาและ IFS (Singapore) 2547 เมษายน: บริษัทหยุดการให้บริการสินเชื่อลีสซิ่งประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน และสินเชื่อเช่าซื้อเนื่องจาก ธ. กรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นราย ใหญ่มีนโยบายไม่ให้บริษัทในเครือประกอบธุรกิจซ้ำ�ซ้อนกัน
2550 มกราคม: บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด2 (“ไอเอฟเอส โฮลดิ้งส์”) ซื้อหุ้นของบริษัทจาก ธ. กรุงศรีอยุธยา และจาก ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยรายอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 49.20 และบริษัทกลับมาให้บริการสินเชื่อลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อภายหลัง ธ. กรุงศรีอยุธยาไม่ได้เป็น ผู้ถือหุ้น กุมภาพันธ์: บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด เมษายน: บริษัทได้แปรสภาพจากบริษัทจำ�กัดเป็นบริษัทมหาชน และเพิ่มทุนชำ�ระแล้วอีก 100 ล้านบาทเป็น 350 ล้านบาท
2551 ธันวาคม: บริษัทได้รับความเห็นชอบโดยหลักการจากคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวให้บริษัทประกอบธุรกิจ (1) สินเชื่อแฟค
เตอริ่ง และ (2) สินเชื่อแบบลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรและเครื่องใช้ในอุตสาหกรรม เฉพาะแก่ผู้รับบริการรายเดิมที่มีภาระ ผูกพันตามสัญญาให้เช่าแบบลีสซิ่งและให้เช่าซื้อ และบริษัทได้รับใบอนุญาตในวันที่ 3 กรกฎาคม 2552
2552 มกราคม: บริษัทหยุดการให้บริการสินเชื่อลีสซิ่ง และสินเชื่อเช่าซื้อแก่ผู้รับบริการรายใหม่ เมษายน: กลุ่ม IFS (Singapore) ได้เข้าซื้อหุ้น ไอเอฟเอส โฮลดิ้งส์ จากผู้ถือหุ้นคนไทย ทำ�ให้กลุ่ม IFS (Singapore) ถือหุ้นร้อยละ 100 ในไอเอฟ เอส โฮลดิ้งส์ ทำ�ให้ กลุ่ม IFS (Singapore) เป็นผู้ถือหุ้นรวมในบริษัทร้อยละ 98.2 พฤศจิกายน: บริษัทเปลี่ยนมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญจากหุ้นละ 5 บาทเป็นหุ้นละ 1 บาท ธันวาคม: บริษัทได้ยื่นขอความเห็นชอบอีกครั้งจากคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพื่อขออนุญาตประกอบธุรกิจบริการให้ เช่าแบบลีสซิ่ง และให้เช่าซื้อสินค้าประเภทยานพาหนะและเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง และ รถใช้งานเกษตรกรรม สำ�หรับผู้รับบริการรายใหม่ และบริษัทได้รับใบอนุญาตในวันที่ 6 สิงหาคม 2553
2553 สิงหาคม: บริษัทได้เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมกับเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนจำ�นวน 120 ล้านหุ้น ทำ�ให้
บริษัทมีทุนจดทะเบียนและชำ�ระแล้วเป็น 470 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กลุ่ม IFS (Singapore) ถือหุ้นร้อยละ 73.13 และบริษัทเริ่ม ประกอบธุรกิจสินเชื่อแบบลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อสินค้าประเภทยานพาหนะและเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้าย สินค้า เรือขนส่ง และรถใช้งานในเกษตรกรรม ให้กับผู้รับบริการรายใหม่
2 บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด จดทะเบียนเป็นบริษัทจำ�กัดในปี 2549 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 45 และ นายนิพัทธ์ จำ�รูญรัตน์และบุตรถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 55 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน ปัจจุบันคุณนิพัทธ์ จำ�รูญรัตน์และบุตร ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัดแล้ว และกลุ่มบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100
18
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Milestones /ประวัติความเป็นมาของบริษัท
IFS Capital (Thailand) Public Company Limited was incorporated on March 21, 1991 in the name of Ayudhya International Factors Co., Ltd., a jointventure between Bank of Ayudhaya Public Company Limited (“BAY”) with 45% of shares and IFS Capital Limited1 (“IFS (Singapore)”) with 40% of shares. Principal activity was the provision of factoring services. In 2007, the Company’s shareholdering was changed. The IFS Group of Singapore bought over the Company’s shares from BAY and from minority shareholders totalling 49.2%, and changed the Company’s name to IFS Capital (Thailand) Ltd. In April 2007, the Company was converted to become a public company limited and increased its registered and paid up capital to Baht 350 million. In 2009-2010, the Company’s status was changed from that of a Thai company to a foreign company. It obtained licenses to provide (1) factoring services and (2) the leasing and the hire purchase services for industrial vehicles and machines, tools used for the relocation of goods, vessels and vehicles used in agricultural activities. The Company was listed on the Stock Exchange of Thailand on 10th August 2010 and issued an additional 120 million common stocks for its public offering which resulted in the increase of paid-up capital from Baht 350 million to Baht 470 million. The major shareholder is the IFS Group of Singapore with total shareholding of 73.13%.
Summary of the important milestones of the Company: Year 1991
Details June: The Company increased its paid-up capital from Baht 1 million to Baht 50 million through a joint-investment between Bank of
1994 1995 2000
April: The Company increased its paid-up capital to Baht 100 million.
2001
February: The Company increased its paid-up capital by Baht 200 million to Baht 250 million with shares issued to Bank of Ayudhya and IFS (Singapore).
Ayudhya and IFS (Singapore) with 45% and 40% shareholding respectively.
The Company started its leasing and hire purchase business.
June: The Company decreased its capital from Baht 100 million to Baht 50 million by decreasing its par value from Baht 10 to Baht 5 to eliminate the accumulated loss caused by the economic crisis of 1997/1998.
1 IFS Capital Limited was originally known as International Factors (Singapore) Limited which was registered in Singapore since 1987 and listed on the Singapore Stock Exchange since 1993. IFS (Singapore) Group specializes in various kind of financial services, such as factoring, leasing and hire purchase, credit insurance, bonds and guarantees, structured finance, and venture capital. The IFS (Singapore) Group consists of several subsidiaries and operates its business in several countries, namely, Singapore, Thailand, Malaysia, Indonesia, and Hong Kong. As of December 31, 2009, IFS (Singapore)’s paid-up capital was SGD 88.03 million or Baht 2,108.54 million (the exchange rate as of December 30, 2009 was Baht 23.9525 per SGD 1). Details of IFS (Singapore) can be found at www.ifscapital.com.sg.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
19
Milestone/ประวั Milestones /ประวั ติบตริิบษริัทษความเป็ ัทความเป็ นมาของบริ นมาของบริ ษัทษัท
Summary of the important milestones of the Company: Year Details 2004 April: The Company ceased to provide its leasing and hire purchase services due to the duplication of business with a subsidiary of its major shareholder, Bank of Ayudhya.
2007 January: IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd. (“IFS Holdings”)2 purchased shares of the Company from the Bank of Ayudhya and the other minority shareholders totalling 49.20%. The Company then recommenced its leasing and hire purchase business when the Bank of Ayudhya ceased to be its shareholder. February: The Company changed its name to IFS Capital (Thailand) Co., Ltd. April: The Company changed its status from “limited company” to “public company limited” and increased its paid-up capital by Baht 100 million to Baht 350 million.
2008 December: The Company received an in-principle approval from the Foreign Business Committee to operate the business of (1) factoring and (2) leasing and hire purchase services for machinery and industrial equipment to existing clients only. The certificate was officially received on 3rd July 2009.
2009 January: The Company ceased to provide its leasing and hire purchase services to new clients. April: IFS (Singapore) Group bought over all the shares of IFS Holdings, resulting in IFS Holdings becoming a wholly owned subsidiary
of IFS (Singapore), and IFS (Singapore) Group holding 98.2% of shares in the Company. November: The Company changed its par value of common shares from Baht 5 per share to Baht 1 per share. December: The Company applied to the Foreign Business Committee to provide leasing and hire purchase services for industrial vehicles and machineries, tools used for the relocation of goods, vessels and vehicles used in agricultural activities to new clients, and approval was received on 6th August 2010.
2010 August: The Company was listed on the Stock Exchange of Thailand and issued 120 million common stocks at its initial public offering
leading to an increase of paid-up capital to Baht 470 million. The major shareholder is IFS (Singapore) Group which holds altogether 73.13% of shares. The Company also started to provide leasing and hire purchase services of industrial vehicles and machineries, tools used for the relocation of goods, vessels and vehicles used in agricultural activities to new clients.
2 IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd., was registered as a limited company in 2006, as a joint-venture investment company between IFS (Singapore) and Mr. Niphat Chamroonrat and his sons with 45% and 55% of shares respectively. Mr. Niphat and his sons had since sold their shares, and IFS (Singapore) Group now owns 100% of IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd.
20
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Revenue Structure โครงสร้างรายได้
โครงสร้างรายได้ของบริษัทในปี 2551 – 2553 Revenue Structure of the Company in 2008 – 2010 ปี 2551
ปี 2552
2008
ปี 2553
2009
2010
ล้านบาท
ร้อยละ
ล้านบาท
ร้อยละ
ล้านบาท
ร้อยละ
186.27
65.03
148.75
64.29
166.27
67.08
4.39
1.53
4.98
2.15
2.59
1.05
รายได้จากสัญญาเช่าทางการเงิน
16.97
5.92
18.67
8.07
11.92
4.81
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจากการซื้อสิทธิเรียกร้อง/1
59.84
20.89
48.04
20.76
58.22
23.49
รายได้อื่น/2
18.98
6.63
10.93
4.73
8.86
3.57
รวมรายได้
286.45
100.00
231.37
100.00
247.87
100.00
Million (Baht)
รายได้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง Factoring income
รายได้จากการให้เช่าซื้อ Hire purchase income Finance lease income
Factoring commission and service fees /1 Other income/2 Total Revenues
หมายเหตุ
/1
Remarks
/1
%
Million (Baht)
%
Million (Baht)
%
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเป็นรายได้ค่าธรรมเนียมจากการรับโอนสิทธิเรียกร้อง ค่าธรรมเนียมนี้ได้รวมถึงบริการจัดทำ�ใบแจ้งบัญชีลูกหนี้การค้า บริการเรียก เก็บเงิน และการบริหารหนี้ทางการค้า /2 รายได้อื่นประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมการเปิดวงเงินและขยายวงเงิน รายได้ค่าเช่าอาคารสำ�นักงาน (เฉพาะปี 2551-2552) เบี้ยปรับและดอกเบี้ยสำ�หรับลูกค้าค้าง ชำ�ระเงินเกินกำ�หนด และหนี้สูญที่ตามเก็บเงินได้ในภายหลัง เป็นต้น The revenue from fees and services are from the transfer of the rights to claim. The fees include the provision of credit checking, collection, and accounts receivable management services. /2 Other income include committment fee paid on acceptance of credit facilities, Income from office rental (2008 & 2009 only), contractual penalty and interest on overdue payment of clients and recovery of non-perfoming loan, etc.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
21
Investment Policy and Capital Structure นโยบายการลงทุนและโครงสร้างเงินทุน
ปัจจุบันบริษัทไม่มีการลงทุนในบริษัทย่อย และ/หรือบริษัทร่วม อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจพิจารณาลงทุนในบริษัทย่อย และ/หรือบริษัทร่วมให้เหมาะสมกับ ภาวะการดำ�เนินธุรกิจ โดยบริษัทมีนโยบายลงทุนในบริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วมในธุรกิจที่เกื้อหนุนและเอื้อประโยชน์ต่อการทำ�ธุรกิจของบริษัทหรือ เป็นธุรกิจทีอ่ ยูใ่ นอุตสาหกรรมทีม่ แี นวโน้มเจริญเติบโตในอนาคต ทัง้ นี้ บริษทั จะคำ�นึงถึงอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน เพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ของบริษัทเป็นสำ�คัญ โดยบริษัทจะควบคุมดูแลด้วยการส่งตัวแทนของบริษัท เพื่อร่วมเป็นกรรมการหรือร่วมบริหารในบริษัทย่อย และ/หรือบริษัทร่วมนั้นๆ โดยการลงทุ น ในบริ ษั ท ดั ง กล่ า วจะต้ อ งผ่ า นการพิ จ ารณาอนุ มั ติ จ าก คณะกรรมการบริษัท และ/หรือ ผู้ถือหุ้น และ/หรือ ในกรณีที่เป็นการเข้าทำ� รายการที่เกี่ยวโยงกันจะต้องผ่านการพิจาณาอนุมัติจากคณะกรรมการตรวจ สอบอีกด้วย รวมทั้งต้องนำ�กฏเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้
At present, the Company has no investment in any subsidiary and/or affiliated company. However, the Company may consider investing in subsidiary and/or affiliated company in the future. It is the Company’s policy to invest in businesses or industries which provide support or benefits to the Company’s existing business or has growth potential. The Company focuses on the return on investment and benefits to the Company’s shareholders. The Company’s representatives will be assigned as Directors to supervise or co-manage the subsidiary and/or affiliated company. The investment, if any, shall be approved by the Board of Directors and/or the shareholders and/or, in case of the related party transaction, the Audit Committee. The related party regulations shall be adhered to accordingly.
โครงสร้างเงินทุน
Capital Structure
ทุนจดทะเบียน และทุนชำ�ระแล้วของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 มีดังนี้ ทุนจดทะเบียน : 470,000,000 บาท ทุนชำ�ระแล้ว : 470,000,000 บาท หุ้นสามัญ : 470,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ : 1 บาท
22
Registered and Paid-Up Capital of the Company as at 31st December 2010 are as follow: Registered Capital : Baht 470,000,000 Paid-Up Capital : Baht 470,000,000 Ordinary Shares : 470,000,000 Shares Par Value : Baht 1 per share
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Industry and Competition ภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน
ธุรกิจสินเชื่อแฟคเตอริ่ง
ธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อ
จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปี 2552 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปี 2553 ธุรกิจสินเชื่อแฟคเตอริ่งของบริษัทมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดจากการขยาย ตัวของเศรษฐกิจไทย รวมถึงได้รบั แรงสนับสนุนจากการฟืน้ ตัวของเศรษฐกิจโลก ทำ�ให้บริษทั สามารถคงความเป็นหนึง่ ในบริษทั ผูน้ �ำ ในอุตสาหกรรม ในปี 2554 บริษัทคาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอัตราที่เหมาะสม ถึงแม้ว่า จะมีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต อาทิ เช่น การปรับตัวสูงขึ้น ของราคาน้ำ�มัน การแข็งค่าของเงินบาท การเมืองภายในประเทศ เงินเฟ้อ และแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย  ธุรกิจแฟคเตอริง่ ในปีทผ่ี า่ นมามีการแข่งขันค่อนข้างสูง สืบเนือ่ งมาจากธนาคาร หลายแห่งได้ให้ความสนใจที่จะปล่อยสินเชื่อดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการให้บริการกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีความต้องการเงินทุนหมุนเวียน แต่มีข้อจำ�กัดในการขอสินเชื่อจาก ธนาคารทีต่ อ้ งใช้หลักประกัน และด้วยทีมงานทีม่ ปี ระสบการณ์ ความได้เปรียบ ทางด้านเทคโนโลยีท่ีสามารถให้บริการผ่านระบบออนไลน์ในรูปแบบของ e-Factoring และด้วยความเอาใจใส่และระมัดระวังรอบคอบในการบริหาร ความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ บริษัทจึงมีความเชื่อมั่นที่จะคงความเป็นหนึ่งใน บริษัทผู้นำ�ในอุตสาหกรรม
จากภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2553 มีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด ส่งผล ให้ผู้ประกอบการเพิ่มกำ�ลังการผลิต โดยการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องจักรในอุตสาหกรรม จึงทำ�ให้มีความต้องการ ใช้วงเงินสินเชื่อประเภทลีสซิ่งและเช่าซื้อ บริษัทเริ่มให้บริการสินเชื่อสำ�หรับเครื่องจักรและอุปกรณ์อีกครั้งหนึ่งนับ ตั้งแต่มีการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในเดือนสิงหาคม 2553 และ จะยังคงมุ่งเน้นการให้บริการกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งมีความต้องการสินเชื่อลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อ อันเป็นผลมาจาก การทีธ่ นาคารมีขอ้ จำ�กัดในการให้วงเงินสินเชือ่ ประเภทดังกล่าว และเนือ่ งจาก ผู้ประกอบการลีสซิ่งและเช่าซื้อประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ยังมีจำ�นวน น้อยราย บริษัทคาดว่าปริมาณสินเชื่อลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อยังมีแนวโน้ม ขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2554
สำ�หรับแนวโน้มระยะยาวของธุรกิจแฟคเตอริ่งในไทย จากข้อมูลเว็บไซต์ของ International Factors Group (www.ifgroup.com) รายงานมูลค่าปริมาณการ ค้าของธุรกิจแฟคเตอริ่งโดยประมาณ (Factoring Volume) ในประเทศไทย ในปี 2550 2551 และ 2552 เท่ากับ 66,466 ล้านบาท 117,758 ล้านบาท และ 64,973 ล้านบาท (ปี 2552 ลดลงเนื่องจากวิกฤตการเงินโลกและภาวะ ถดถอยของเศรษฐกิจไทย) ตามลำ�ดับ และมีอัตราส่วนมูลค่ารายได้รวมต่อ GDP (GDP Penetration) ปี 2552 ร้อยละ 0.72 ข้อมูลนี้เมื่อเทียบกับประเทศ ในแถบยุโรปเช่น อังกฤษ และเยอรมัน ซึ่งมีปริมาณการค้าธุรกิจแฟคเตอริ่ง ต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 10.55 และ 3.78 ตามลำ�ดับ ส่วนประเทศฮ่องกงและ สิงคโปร์มีอัตรา GDP Penetration อยู่ที่ร้อยละ 5.38 และ 3.31 ตามลำ�ดับ โดยค่าเฉลี่ยของ GDP Penetration ของโลกอยู่ที่ร้อยละ 3.25 จึงนับได้ว่าการ เติบโตของตลาดสินเชื่อแฟคเตอริ่งในประเทศไทยยังมีแนวโน้มที่สดใสและ ต่อเนื่องได้อีกมาก
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
23
Industry and Competition / ภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน
Factoring Business
Equipment Finance Business
Following a slowdown in 2009 due to the global economic crisis, the factoring business of the Company recovered strongly in 2010 in line with the growth of the Thai economy and global economic recovery. The Company was able to maintain its position as a leader of the industry. In 2011, the Company is expected to continue growing at a reasonable pace, although there are factors that might affect its growth, such as the rising oil prices, appreciation of the Thai Baht, local politics, inflation and the increase in the policy interest rate by Bank of Thailand.
In line with the growth of the Thai economy in 2010, manufacturers in Thailand had started to expand its production capacity through investments in fixed assets, such as industrial equipment, tools and machineries. This resulted in an increase in a demand for credit facilities, such as leasing and hire purchase.
Competition in the factoring business has become more intense in recent year as more banks enter the business. The Company will continue to focus on the SMEs who are in need of working capital to support their business but have restricted access to the credit facilities of banks due to the collateral requirement of banks. However, with its experienced staff, technological advantage through e-Factoring services and prudent risk management system, the Company is confident of maintaining its leadership position in the industry.
The Company recommenced its equipment finance business following its IPO in August 2010, and will continue to focus on the SMEs who are most in need of leasing and hire purchase services due to the general reluctance of banks to finance the purchase of machineries for industrial use. Although the Company is considered a new player in the industry, due to the limited number of service providers in the equipment finance business, the Company expects to be successful in growing its leasing and hire purchase business in 2011.
With reference to the International Factors Group website (www.ifgroup. com), the volume of factoring business in Thailand for the years 2007, 2008, and 2009 were Baht 66,466 million, Baht 117,758 million and Baht 64,973 million respectively (the decrease in 2009 was due to the global economic crisis and its effects on the Thai economy). The GDP penetration rate in 2009 was 0.72%, while that of the Euro Zone such as England and Germany, were 10.55% and 3.78% respectively; Hong Kong and Singapore were 5.38% and 3.31% respectively; and the world’s average was 3.25%. Thus, there is still ample room for growth of the factoring business in Thailand.
24
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Risk Factors ปัจจัยความเสี่ยง
ปั จ จั ย ความเสี่ ย งที่ อ าจจะเกิ ด ขึ้ น และส่ ง ผล กระทบต่อการดำ�เนินงานของบริษัทในอนาคต ซึ่งบริษัทได้ตระหนักถึงความสำ�คัญของการ บริหารและควบคุมความเสี่ยงดังกล่าวให้เกิด ประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1. ความเสี่ยงด้านสินเชื่อ
เนื่องจากลักษณะของธุรกิจแฟคเตอริ่งเป็นการให้สินเชื่อระยะสั้นไม่มีหลัก ทรัพย์ค้ำ�ประกัน เป็นการรับโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ทางการค้า ความเสี่ยง ด้านสินเชื่อจึงเกิดจากคุณภาพของลูกหนี้การค้าและลูกค้ารวมถึงคุณภาพ ของสินค้าและบริการทีล่ กู ค้าส่งมอบให้กบั ลูกหนีก้ ารค้า หากสินค้าหรือบริการ มีปัญหา ลูกหนี้การค้าอาจปฏิเสธการรับสินค้าหรือบริการ และไม่ชำ�ระหนี้ ตามเอกสารการค้านัน้ ๆ หรืออาจเป็นกรณีทลี่ กู หนีก้ ารค้ามีปญ ั หาทางการเงิน ไม่สามารถชำ�ระหนี้ทางการค้านั้นได้ และลูกค้าเองก็อาจไม่มีความสามารถ ชำ�ระหนี้แทนลูกหนี้การค้าได้ตามสัญญา บริษัทมีการบริหารจัดการด้านสิน เชื่อ ด้วยการตั้งเกณฑ์และกำ�หนดขัน้ ตอนในการตรวจสอบทัง้ ลูกค้าและลูกหนี้ การค้าอย่างรัดกุมก่อนการอนุมัติสินเชื่อ เป็นมาตรการที่บริษัทพัฒนาอย่าง ต่อเนื่องจากประสบการณ์ในการดำ�เนินธุรกิจมายาวนาน เกณฑ์ที่กล่าวมามี ดังนี้ 1.1. 1.2. 1.3. 1.4. 1.5.
1.6.
ตรวจสอบข้อมูลจากศาลแพ่งบางแห่งว่ามีคดีฟ้องร้องกับคู่กรณีอ่ืน ใดหรือไม่ รวมทัง้ การเช็คข้อมูลจากศาลล้มละลายกลาง นอกจากนีย้ งั มี ก ารตรวจสอบข้ อ มู ล จากเครดิ ต บู โรเกี่ ย วกั บ ประวั ติก ารจ่ า ยเงิ น โดยลูกค้าเป็นผูน้ �ำ ข้อมูลจากเครดิตบูโรมาประกอบการพิจารณา
หากมีการนำ�เสนอวงเงินของลูกค้ารายใดที่ผิดไปจากเกณฑ์ดังกล่าว จะต้อง ให้แจ้งให้คณะกรรมการบริษัทเพื่อทราบหรืออนุมัติ ด้วยมาตรการต่างๆ ดัง กล่าวข้างต้น บริษัทจึงเชื่อมั่นในคุณภาพของลูกค้าและลูกหนี้การค้า
2. ความเสี่ยงด้านความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยเงินกู้เป็นต้นทุนหลักของบริษัทแปรผันตามภาวะอัตราดอกเบี้ยใน ตลาด และมีผลต่อการกำ�หนดอัตราดอกเบี้ยที่คิดกับลูกค้า การเปลี่ยนแปลง ของอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำ�เนินงานของบริษัท ด้วยเหตุ นี้ บริษัทจึงมีนโยบายและแนวทางการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวน ของอัตราดอกเบี้ย กล่าวคือ สินเชื่อที่บริษัทให้แก่ลูกค้าเป็นสินเชื่อแฟคเตอริ่ง ซึ่งเป็นสินเชื่อระยะสั้น และคิดค่าธรรมเนียมเงินชำ�ระเบื้องต้นแบบลอยตัวซึ่ง สอดคล้องกับต้นทุนของบริษัทที่เกิดจากการกู้ยืมระยะสั้นที่มีอัตราดอกเบี้ย ลอยตัว เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับตัวสูงขึ้น บริษัทสามารถปรับค่า ธรรมเนียมเงินชำ�ระเบื้องต้นที่เรียกเก็บจากลูกค้าในอัตราที่สูงขึ้นตามอัตรา ดอกเบีย้ ของตลาดได้ สำ�หรับสินเชือ่ ลีสซิง่ บริษทั คิดอัตราดอกเบีย้ แบบลอยตัว เช่นเดียวกัน ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ บริษัทคิดอัตราดอกเบี้ยกับลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อ เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ แต่บริษัทมีสินเชื่อเช่าซื้อเป็นจำ�นวนน้อยมาก ดังนั้น บริษัทเชื่อมั่นว่าความเสี่ยงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผลการดำ�เนินงานไม่ มากนัก
ทำ� Credit Scoring เพื่อใช้วิเคราะห์ลูกค้ารายใหม่ที่ขอวงเงินสินเชื่อ และวิ เ คราะห์ ลู ก หนี้ ก ารค้ า ที่ ลู ก ค้ า ต้ อ งการนำ � มาขายโอนสิ ท ธิ เรียกร้อง ข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์ใน Credit Scoring เช่น ระยะเวลาการ ดำ�เนินกิจการ ประวัติผู้ถือหุ้น/ผู้บริหาร ประวัติการชำ�ระหนี้ งบการเงิน ความสามารถในการชำ�ระหนี้ แนวโน้มของอุตสาหกรรม เป็นต้น กำ�หนดสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้กับแต่ละภาคธุรกิจ (Industry Limit) โดยจะต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้างทั้งหมดของลูกค้า กำ � หนดเกณฑ์ ก ารใช้ ว งเงิ น สิ น เชื่ อ ที่ ไ ด้ รั บ อนุ มั ติ ข องลู ก ค้ า แต่ละราย โดยการใช้วงเงินของลูกค้ารายใดรายหนึ่งจะไม่เกินร้อยละ 10 ของวงเงินรวมที่ลูกค้าทั้งหมดได้ใช้วงเงิน กำ�หนดเกณฑ์ในการให้วงเงินกับลูกหนี้การค้าแต่ละราย โดยวงเงินที่ ลูกหนีร้ ายใดรายหนึง่ ต้องไม่เกินร้อยละ 30 ของส่วนของผูถ้ อื หุน้ ของบริษทั กรณีทเ่ี ป็นลูกค้าเดิม บริษทั มีการทบทวนข้อมูลลูกค้าและลูกหนีก้ ารค้า 3. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทางการเงิน (Credit Review) เป็นประจำ�ปีละครั้ง บางกรณีอาจทำ�ปีละ 2 ครั้ง หรือ ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทางการเงินเกิดจากบริษัทกู้เงินระยะสั้นเป็นส่วน ทำ�ทุกไตรมาสแล้วแต่บริษัทจะพิจารณาถึงความจำ�เป็น ใหญ่ อาทิ เงินกู้ยืมหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) ซึ่งมีระยะเวลา
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
25
Risk Factors / ปัจจัยความเสี่ยง
การกู้ยืมตั้งแต่ 1 เดือนถึง 6 เดือน บริษัทมีความเสี่ยงกรณีเจ้าหนี้สถาบัน การเงินอาจเรียกให้ชำ�ระคืนเงินกู้ยืมก่อนกำ�หนดระยะเวลา หรือกรณีเจ้าหนี้ สถาบันการเงินไม่ตอ่ อายุตว๋ั สัญญาใช้เงินเมือ่ สัญญาครบกำ�หนด ทำ�ให้บริษทั จะต้องชำ�ระคืนเงินกู้ยืมซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท
ปัจจัยความเสี่ยงดังกล่าวถูกลดทอนด้วยข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้
ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหม่ที่เป็นธนาคารมากขึ้น แต่ก็มีข้อจำ�กัดใน เรื่องของประสบการณ์ ความยืดหยุ่นในการให้บริการ และการตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที นอกจากนี้บริษัทยังเป็นบริษัทแห่งแรก ในประเทศไทยที่ได้นำ�เทคโนโลยีที่สามารถให้บริการกับลูกค้าผ่านระบบ ออนไลน์ในรูปแบบของ e-Factoring
3.1. ธุรกรรมของบริษัทส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อแฟคเตอริ่ง ซึ่งมีอายุในการเก็บ 5. ความเสี่ยงจากอิทธิพลในการบริหารงานของผู้ถือ หนี้โดยเฉลี่ยประมาณ 45-60 วัน ซึ่งสอดคล้องกับการใช้เงินกู้ประเภท หุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2553 กลุ่มบริษัท IFS (Singapore) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ระยะสั้นได้เป็นอย่างดี ในบริษัทคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 73.13 ซึ่งมากกว่าร้อยละ 50 ของจำ�นวนหุ้น 3.2. ถึงแม้สินเชื่อ ลีสซิ่งและสิ น เชื่ อเช่ า ซื้ อจะเป็ นการให้ สิ น เชื่ อ ประเภท ที่จำ�หน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ทำ�ให้สามารถคุมเสียงของบริษัทได้ ไม่ ระยะปานกลาง อายุการชำ�ระคืน 3-5 ปี บริษัทมีนโยบายการบริหารหนี้ ว่าจะเป็นเรื่องกรรมการหรือการขอมติในเรื่องอื่นที่ต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ของ ให้เกิดความสมดุล ด้วยการใช้เงินกู้ระยะยาว และหลีกเลี่ยงการใช้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยกเว้นในเรื่องที่กฎหมายหรือข้อบังคับของบริษัทกำ�หนด ให้ต้องได้รับเสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ดังนั้น ผู้ถือหุ้นรายอื่นไม่ เงินกู้ระยะสั้นสำ�หรับธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซื้อ สามารถรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อตรวจสอบและถ่วงดุลการบริหารงานได้ 3.3. บริษัทประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อแฟคเตอริ่งมายาวนาน 20 ปี ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างการจัดการของบริษัท ประกอบด้วยคณะ มีความสัมพันธ์อันดียิ่งกับเจ้าหนี้สถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง และมี กรรมการบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการกำ�หนดค่าตอบแทน และสรรหา และคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง จะเห็นได้ว่าบริษัทมีการ ประวัติการชำ�ระหนี้เงินกู้ยืมตามสัญญาด้วยดีมาโดยตลอด วางโครงสร้ า งการบริ ห ารงานโดยบุ ค คลที่ มี ค วามรู้ ค วามสามารถในการ 3.4. กรณีเจ้าหนี้สถาบันการเงินเรียกชำ�ระคืนเงินกู้ยืมก่อนกำ�หนด บริษัท ดำ�เนินธุรกิจ และมีการกำ�หนดขอบเขตอำ�นาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุด สามารถใช้วงเงินสินเชื่อ 10 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเงินสำ�รองใน ต่างๆ อย่างชัดเจนและโปร่งใส และในกรณีการทำ�รายการที่เกี่ยวโยงกับ ยามฉุกเฉินจากบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์) (“IFS กรรมการ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และผู้มีอำ�นาจควบคุมในกิจการ รวมถึงบุคคลที่ อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ บุคคลดังกล่าวจะไม่มีสิทธิออกเสียงใน (Singapore)”) ได้ทันที การอนุมัติรายการนั้นๆ 3.5. นอกจากนี้ บริษัทสามารถที่จะระดมทุนด้วยวิธีการอื่นๆ จากตลาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความ เหมาะสมกับสถานการณ์ของสภาวะทางการเงิน
4. ความเสี่ยงด้านการตลาดและการแข่งขัน
บริษทั อาจมีความเสีย่ งจากการเข้ามาของคูแ่ ข่งขันรายใหม่ ถึงแม้การประกอบ ธุ ร กิ จ สิ น เชื่ อ แฟคเตอริ่ ง และสิ น เชื่ อ ลี ส ซิ่ ง และเช่ า ซื้ อ ไม่ จำ � เป็ นต้ อ งมี ใ บ อนุญาตในการประกอบธุรกิจ และไม่อยู่ภายใต้การกำ�กับดูแลของธนาคาร แห่งประเทศไทย จึงดูเสมือนว่าจะมีความเสี่ยงที่ผู้แข่งขันรายใหม่จะเข้ามา ประกอบธุรกิจได้โดยง่าย แต่ด้วยการทำ�ธุรกิจประเภทนี้ จำ�เป็นต้องมีเงินทุน สูง และมีต้นทุนทางการเงินที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ ดังนั้น นอกจาก ธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทย่อยของธนาคารพาณิชย์แล้ว การเข้ามาของผู้ ประกอบการรายใหม่ จึงทำ�ได้ไม่ง่ายนัก
26
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Risk Factors / ปัจจัยความเสี่ยง
The Company places important emphasis on risk factors which could affect the Company’s future operations by establishing effective risk management and control as follows: 1. Credit Risk
The Company’s factoring business is to provide short term unsecured loans through the purchase of accounts receivable. Credit risk is therefore dependent on the quality of the accounts receivable and clients, including the quality of products and services delivered to buyers by the clients. Low quality products and services might be rejected and remained unpaid. The buyers with financial problem might also default on payments and the clients could not repay as agreed. Therefore, the Company’s credit risk management established policies and procedures to carefully examine both clients and buyers prior to loan approval. The following are the Company’s policy guidelines which are being constantly reviewed and improved upon to manage its business operations: 1.1. Credit scoring aims to analyze new clients and the buyers on their business operations, profiles of shareholders and management, debt payment records, financial statements, industry trend, etc. 1.2. Maximum exposure on each industry (Industry Limits) shall not exceed 20% of total outstanding portfolio. 1.3. Maximum exposure on a single client shall not exceed 10% of the total portfolio. 1.4. Maximum credit limit granted to each debtor (buyer) shall not exceed 30% of the Company’s shareholders’ funds. 1.5. Credit review of exisiting clients shall be done regularly and at least once annually. 1.6.
2. Interest Rate Risk
Borrowing interest rate, the main cost of the Company, fluctuates with market conditions and has an effect on the Company’s lending interest rate to its clients. Changes in interest rate will also affect the Company’s operating results. Therefore, the Company has established policies and guidelines to manage interest rate risk. Factoring is a short-term loan and offered on floating rate basis to the clients. When interest rate in the money market changes, the Company will adjust its lending rate to the clients accordingly. For leasing, the Company also offers on the floating interest rate basis. Only hire purchase is offered on a fixed rate basis. However, the hire purchase business accounts for only a small portion of the Company’s total portfolio. Thus, the Company is confident that interest rate risk poses a small effect on the Company’s operations.
3. Financial Liquidity Risk
Most borrowings of the Company are in the form of promissory note (P/N) with a tenor of 1 to 6 months. The risk occurs if the lender calls for repayment prior to the maturity of the loan, or if the lender decided not to extend the P/N facility on the maturity of the contracts, resulting in the Company having to repay the loan which will affect the Company’s cash flow.
The above mentioned risk can be mitigated through the following: 3.1. The bulk of the Company’s business is factoring, which is short term in nature and with average collection period of 45 – 60 days. This matches nicely with the borrowings of the Company. 3.2.
Although leasing and hire purchase are medium term loans with repayment period of 3-5 years, the Company’s policy is to match proportionately with the long term borrowings of the Company, and avoid the risk of using short term borrowing to support its leasing and hire purchase business.
3.3.
The Company has been in business for 20 years and has been able to maintain good relationships with its bankers, and has good record of debt payment. It will continue to give importance to managing good relationships with its bankers.
The Company must check with the Civil Court for possible lawsuit against both clients and buyer, including checking with the Central Bankruptcy Court; and the National Credit Bureau relating to the clients’ repayment record with other financial institutions.
3.4. In the event of emergency, when bankers call for the loans prior to maturity, the Company is able to utilize the SGD 10 million standby credit facility granted by IFS (Singapore).
Any deviation to the above shall be reported to the Board of Directors for information and/or approval.
3.5. The Company will explore other options available in raising funds from the capital market to offset the above mentioned financial liquidity risk.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
27
Risk Factors / ปัจจัยความเสี่ยง
4. Marketing and Competition Risk
New players may enter the market and pose a challenge to the market leadership of the Company since there is no licensing requirement to operate factoring and/or leasing/hire purchase business; and these businesses are not regulated by the Bank of Thailand. However, the lending business requires high capital and competitive cost of capital to survive the competition. Therefore, other than banks or subsidiaries of banks, it is not easy to enter the market of the Company’s core business of factoring and leasing/hire purchase. Although more and more banks have entered the factoring business, they do not have the experience that the Company has, and are not as flexible and responsive to the needs of the clients. The Company is also ahead in technological development and is the first company in Thailand to offer an e-Factoring platform to serve the needs of its clients.
5. Risk from major shareholders’ influencial management As of 30th December 2010, IFS (Singapore) Group is the major shareholder of the Company with 73.13% of shares, which is more than 50% of total shares. With such a high shareholding, it it only inevitable that IFS (Singapore) can influence the management through its directors on the Board or through voting rights at shareholders’ meeting except for approval of significant agendas which by laws or regulation require three-fourths of the voting rights at the shareholders’ meeting. It is also balanced by the Company’s organization structure, which comprises of the Audit Committee, the Compensation and Nomination Committee and the Risk Management Committee. These positions are held by independent directors knowledgable in business operations. If the Company enters into a connected transaction with directors, major shareholders, the Company’s authorized persons and persons with a possible conflict of interest on connected transaction, such persons are not entitled to vote on the entry into that transaction.
28
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Shareholding Structure โครงสร้างการถือหุ้น
รายชื่อผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรก บริษัท ไอเอฟเอส (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) Top 10 Shareholders of IFS Capital (Thailand) PCL. ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2553* As of December 30, 2010*
ลำ�ดับที่
ชื่อ/ชื่อบริษัท
No.
จำ�นวนหุ้น
Name/Company
ร้อยละ
No. of Shares
Percentage
343,700,000
73.13%
1
IFS (Singapore) Group*
2
นายอภิชัย เอกมั่น
Mr. Apichai Ekman
8,400,000
1.79%
3
น.ส.เพชรรัตน์ วลีฤกษ์ทรัพย์
Miss Petcharat Waleelerksap
5,000,000
1.06%
4
บริษัท โรงสีเอกไรซ์ จำ�กัด
Ake Rice Mill Company Limited
4,000,000
0.85%
5
นายณัฐพล เอื้อวัฒนสกุล
Mr. Nathapol Uahwatanasakul
3,500,000
0.74%
6
บริษัท สต๊อคเวลล์ (ไทยแลนด์) จำ�กัด
Stockwell (Thailand) Co.,Ltd.
2,799,945
0.60%
7
นายสมชาย จิวชัยศักดิ์
Mr. Somchai Jiewchaisak
2,221,300
0.47%
8
นายศักรภพน์ ธีวรากร
Mr. Sakrapob Teewarakorn
2,050,000
0.44%
9
น.ส. เกษมศรี ธรรมเป็นจิตต์
Mr. Kaseamsri Dhampenjit
1,580,000
0.34%
10
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำ�กัด
Thai NVDR Company Limited
1,563,000
0.33%
รายย่อยอื่นๆ
Minority Shareholders
95,185,755
20.25%
รวม
Total
470,000,000
100.00%
* ผู้ถือหุ้นกลุ่ม IFS (Singapore) ประกอบด้วย
* Shareholding of IFS (Singapore) Group was due to : 1) IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd. (a wholly owned subsidiary of IFS (Singapore)) with 172,200,000 shares (36.64%).
2) บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ (ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ Phillip Assets Pte., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 40.40) ถือหุ้น 171,500,000 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 36.49)
2) IFS Capital Limited (“IFS (Singapore)”) (which is 40.40% owned by Phillip Assets Pte., Ltd.) with 171,500,000 shares (36.49%).
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IFS (Singapore) คือ บริษัท Phillip Assets Pte. Ltd. โดยผู้รับผล ประโยชน์สุดท้าย (Ultimate Shareholder) คือ นาย Lim Hua Min ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการของ IFS (Singapore) รายละเอียดสามารถดูได้ในเว็บไซต์ www.ifscapital.com.sg
The ultimate shareholder of Phillip Assets Pte., Ltd. is Mr. Lim Hua Min, a Singaporean businessman who is presently the Chairman of IFS (Singapore). For more details see www.ifscapital.com.sg.
เนื่องจาก บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (“IFS (Singapore)”) เป็นบริษัทจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ทำ�ให้ IFS (Singapore) รวมถึงบริษัทย่อยต้องปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เช่น การได้มาหรือจำ�หน่ายสินทรัพย์ที่มีขนาดสาระ สำ�คัญ จะต้องได้รับมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ IFS (Singapore) ด้วย ทั้งนี้ ข้อบังคับเกี่ยวกับ บริษัทจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มในเว็บไซต์ www.sgx.com
IFS (Singapore) is a company listed on the Singapore Exchange (SGX). Its group of companies have to comply with the regulations of the SGX. The regulations of the SGX can be found at www.sgx.com.
1) บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด (ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือกลุ่ม IFS (Singapore) ถือหุ้นร้อยละ 100) ถือหุ้น 172,200,000 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 36.64)
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
29
Management Structure โครงสร้างการจัดการ
คณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 มีจำ�นวน 7 ท่าน ประกอบด้วย รายชื่อ ตำ�แหน่ง 1. นายลี ซูน คี ประธานกรรมการ 2. นายตัน เล เยน กรรมการ 3. นางสาวลิม มุย หลิง กรรมการ กรรมการ 4. นายนิพัทธ์ จำ�รูญรัตน์ 5. ดร. ธรรมนูญ อานันโทไทย กรรมการ กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ 6. นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล กรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ 7. นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการบริษัท
โดยมี นายกันตภณ กิตติศิริประเสริฐ เป็นเลขานุการคณะกรรมการบริษัท
กรรมการผู้มีอำ�นาจลงนามแทนบริษัท
นายตัน เล เยน หรือนายลี ซูน คี ลงลายมือชื่อและประทับตราสำ�คัญของ บริษัท
ขอบเขต หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัทมีอำ�นาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบในการจัดการ บริษัทให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัท ตลอด จนมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ชอบด้วยกฎหมายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และ ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของบริษัท โดยสรุปอำ�นาจหน้าที่ และความรับ ผิดชอบที่สำ�คัญได้ดังนี้ 1. จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมสามัญประจำ�ปี ภายใน 4 เดือน นับแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัท 2. จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง 3. จัดให้มีการทำ�งบดุลและงบกำ�ไรขาดทุนของบริษัท ณ วันสิ้นสุดรอบระยะ เวลาบัญชีของบริษทั ซึง่ ผูส้ อบบัญชีตรวจสอบแล้ว และนำ�เสนอต่อทีป่ ระชุม ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติ 4. คณะกรรมการมอบอำ�นาจให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนหรือบุคคล 30
อื่นใดปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดแทนคณะกรรมการได้โดยอยู่ภายใต้ การควบคุมของคณะกรรมการ หรืออาจมอบอำ�นาจเพื่อให้บุคคลดังกล่าว มี อำ � นาจตามที่ ค ณะกรรมการเห็ น สมควรและภายในระยะเวลาที่ คณะกรรมการเห็ น สมควรซึ่ ง คณะกรรมการอาจยกเลิ ก เพิ ก ถอน เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขบุคคลที่ได้รับมอบอำ�นาจ หรืออำ�นาจนั้นๆ ได้เมื่อ เห็นสมควร นอกจากนี้ คณะกรรมการอาจมอบอำ�นาจให้คณะกรรมการบริหารมี อำ�นาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานต่างๆ โดยมีรายละเอียดการมอบอำ�นาจ ตามขอบเขตอำ�นาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร ทั้งนี้ การมอบอำ�นาจนั้นต้องไม่มีลักษณะเป็นการมอบอำ�นาจที่ทำ�ให้ คณะกรรมการบริหาร หรือผู้รับมอบอำ�นาจสามารถพิจารณา และอนุมัติ รายการทีค่ ณะกรรมการบริหาร หรือผูร้ บั มอบอำ�นาจหรือบุคคลทีเ่ กีย่ วข้อง หรือ มีส่วนได้เสีย หรือมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อื่นใดกับบริษัท หรือ บริษทั ย่อย ยกเว้นเป็นการอนุมตั ริ ายการทีเ่ ป็นไปตามนโยบายและหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการพิจารณาและอนุมัติไว้แล้ว
5. กำ�หนดเป้าหมาย แนวทาง นโยบาย แผนงานและงบประมาณของบริษัท ควบคุ ม กำ � กั บ ดู แ ลการบริ ห ารและการจั ด การของประธานเจ้ า หน้ า ที่ บริหารให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้รับมอบหมาย เว้นแต่ในเรื่องดังต่อไปนี้ คณะกรรมการต้องได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนการดำ�เนิน การ อันได้แก่ เรื่องที่กฎหมายกำ�หนดให้ต้องได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุม ผู้ถือหุ้น เช่น การเพิ่มทุน การลดทุน การออกหุ้นกู้ การขายหรือโอน กิจการของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วนที่สำ�คัญให้แก่บุคคลอื่น หรือการซื้อ หรือรับโอนกิจการของบริษัทอื่นมาเป็นของบริษัท การแก้ไขหนังสือ บริคณห์สนธิหรือข้อบังคับ เป็นต้น นอกจากนี้ คณะกรรมการยังมีขอบเขตหน้าที่ในการกำ�กับดูแลให้บริษัท ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำ�หนด ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อาทิเช่น การทำ�รายการทีเ่ กีย่ วโยงกัน และการซื้อหรือขายทรัพย์สินที่สำ�คัญตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท 6. พิจารณาโครงสร้างการบริหารงาน แต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร และคณะกรรมการอื่นตามความเหมาะสม 7. ติดตามผลการดำ�เนินงานให้เป็นไปตามแผนงาน และงบประมาณอย่าง ต่อเนื่อง
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
8. กรรมการจะต้องไม่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการ แข่งขันกับกิจการของบริษัทหรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือเป็นหุ้นส่วนไม่จำ�กัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำ�กัด หรือเป็น กรรมการของบริษัทเอกชน หรือบริษทั อืน่ ทีป่ ระกอบกิจการอันมีสภาพอย่าง เดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของบริษัทไม่ว่าจะทำ�เพื่อประโยชน์ ตนหรือเพื่อประโยชน์ผู้อื่น เว้นแต่ จะได้แจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบ ก่อนที่จะมีมติแต่งตั้ง 9. กรรมการต้ อ งแจ้ ง ให้ บ ริ ษั ท ทราบโดยไม่ ชั ก ช้ า หากมี ส่ ว นได้ เ สี ย ไม่ ว่ า โดยตรงหรือโดยอ้อมในสัญญาที่บริษัททำ�ขึ้น หรือถือหุ้น หรือหลักทรัพย์ อื่นเพิ่มขึ้น หรือลดลงในบริษัท หรือบริษัทในเครือ นอกจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว บริษัทยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุด ย่อยอีก 3 ชุด เพื่อช่วยในการบริหาร พิจารณากลั่นกรอง ตัดสินใจ และเพื่อ ความโปร่งใสตามหลักการกำ�กับกิจการที่ดี ดังนี้ • คณะกรรมการตรวจสอบ • คณะกรรมการการกำ�หนดค่าตอบแทนและสรรหา • คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจสอบ ของบริษทั ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย กรรมการอิสระ จำ�นวน 3 ท่าน ซึง่ ทัง้ 3 ท่าน เป็นกรรมการการตรวจสอบทีม่ ี ความรูแ้ ละประสบการณ์ในการสอบทานความน่าเชือ่ ถือของงบการเงิน
รายชื่อ 1. ดร. ธรรมนูญ 2. นายสุเวทย์ 3. นายนิวัฒน์
ตำ�แหน่ง อานันโทไทย ธีรวชิรกุล กาญจนภูมินทร์
ประธานกรรมการตรวจสอบ กรรมการตรวจสอบ กรรมการตรวจสอบ
4. พิจารณา คัดเลือก เสนอแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีความเป็นอิสระ เพื่อทำ�หน้าที่ เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท และเสนอค่าตอบแทนของบุคคลดังกล่าว รวม ทั้งเข้าร่วมประชุมกับผู้สอบบัญชี โดยไม่มีฝ่ายจัดการเข้าร่วมประชุมด้วย อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 5. พิจารณารายการที่เกี่ยวโยงกันหรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผล ประโยชน์ ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่ารายการดังกล่าวสมเหตุสมผล และเป็นประโยชน์ สูงสุดต่อบริษัท 6. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการของบริษัทมอบหมายด้วยความเห็น ชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบ 7. จัดทำ�รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบโดยเปิดเผยไว้ในรายงาน ประจำ�ปีของบริษทั ซงึ่ รายงานดังกล่าวต้องลงนามโดยประธานคณะกรรม ตรวจสอบ และต้องประกอบด้วยข้อมูลอย่างน้อยดังต่อไปนี้ • ความเห็นเกี่ยวกับความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นที่เชื่อถือได้ของรายงาน ทางการเงินของบริษัท • ความเห็นเกี่ยวกับความเพียงพอของระบบควบคุมภายในของบริษัท • ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายที่ เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท • ความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้สอบบัญชี • ความเห็นเกี่ยวกับรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ • จำ�นวนการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และการเข้าร่วมประชุม ของกรรมการตรวจสอบแต่ละท่าน • ความเห็นหรือข้อสังเกตโดยรวมที่คณะกรรมการตรวจสอบได้รับจาก การปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายจากคณะ กรรมการบริษัท
ขอบเขต หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการตรวจสอบ 8. ในกรณีที่พบหรือมีข้อสงสัยว่ามีรายการหรือการกระทำ�ดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจ 1. สอบทานให้บริษัทมีการรายงานทางการเงินอย่างถูกต้องและเพียงพอ
2. สอบทานให้บริษัทมีระบบการควบคุมภายใน (Internal control) และระบบ การตรวจสอบภายใน (Internal audit) ที่เหมาะสมและมีประสิทธิผล และ พิจารณาความเป็นอิสระของหน่วยงานตรวจสอบภายใน ตลอดจนให้ ความเห็นชอบในการพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้าย เลิกจ้างหัวหน้าหน่วยงาน ตรวจสอบภายใน หรือหน่วยงานอืน่ ใดทีร่ บั ผิดชอบเกีย่ วกับการตรวจสอบ ภายใน 3. สอบทานให้ บ ริ ษั ท ปฏิ บั ติ ต ามกฎหมายว่ า ด้ ว ยหลั ก ทรั พ ย์ แ ละ ตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์ และกฎหมายทีเ่ กีย่ วข้อง กับธุรกิจของบริษัท
มี ผ ลกระทบอย่ า งมี นั ย สำ� คั ญ ต่ อ ฐานะการเงิ นและผลการดำ� เนิ นงาน ของบริษัท ให้คณะกรรมการตรวจสอบรายงานต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อดำ�เนินการปรับปรุงแก้ไขภายในเวลาที่คณะกรรมการตรวจสอบเห็น สมควร • รายการที่เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ • การทุจริต หรือมีสิ่งผิดปกติหรือมีความบกพร่องที่สำ�คัญในระบบ ควบคุมภายใน • การฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ข้อกำ�หนด ของตลาดหลักทรัพย์ หรือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
31
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
คณะกรรมการกำ�หนดค่าตอบแทนและสรรหา
คณะกรรมการกำ�หนดค่าตอบแทนและสรรหาของบริษทั ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 มีจำ�นวน 3 ท่าน ประกอบด้วย
รายชื่อ 1. นายนิพัทธ์ 2. ดร. ธรรมนูญ 3. นายลี ซูน คี
ตำ�แหน่ง จำ�รูญรัตน์ อานันโทไทย
ประธาน สมาชิก สมาชิก
รายชื่อ 1. นายสุเวทย์ 2. ดร. ธรรมนูญ 3. นายนิวัฒน์ 4. นายตัน เล เยน
ตำ�แหน่ง ธีรวชิรกุล อานันโทไทย กาญจนภูมินทร์
ประธาน สมาชิก สมาชิก สมาชิก
ขอบเขต หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหาร ความเสี่ยง
ขอบเขต หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการกำ�หนดค่า 1. ให้คำ�แนะนำ�แก่คณะกรรมการบริษัทในการกำ�หนดนโยบายบริหารความ เสี่ยง กลยุทธ์ มาตราฐาน และอื่นๆ รวมถึงการกำ�หนดระดับความเสี่ยง ตอบแทนและสรรหา 1. เสนอแนะโครงสร้างค่าตอบแทนกรรมการในคณะกรรมการบริษัท และ สมาชิกในคณะกรรมการต่างๆ รวมถึงค่าเบี้ยประชุม โบนัส สวัสดิการ และผลประโยชน์ตอบแทนอื่นๆ ทั้งที่เป็นตัวเงินและมิใช่ตัวเงิน
2. ประเมินผลประกอบการของบริษัท เพื่อกำ�หนดการให้โบนัส และการขึ้น เงินเดือนประจำ�ปีของทั้งบริษัทโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานในอุตสาหกรรม ที่เหมาะสมในการพิจารณาประกอบ 3. เสนอแนะโครงสร้างเงินเดือนของบริษัทรวมถึงผลประโยชน์ตอบแทนอื่นๆ 4. พิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ให้ความเห็น และข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับโครงการ เสนอขายหลักทรัพย์ใหม่แก่กรรมการและพนักงาน (ESOP) 5. เสนอแนะโครงสร้าง ขนาด และองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการต่างๆ พร้อมทั้งกำ�หนดคุณสมบัติให้กับกรรมการ หรือ สมาชิกที่ต้องการสรรหา 6. เสนอรายชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการบริษัทเพื่อนำ� เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในกรณีที่มีตำ�แหน่งว่างลงเนื่องจากครบวาระ และให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณาในกรณีที่มีตำ�แหน่ง ว่างลงเนื่องจากกรณีอื่นๆ 7. ปฏิบัติหน้าที่ และความรับผิดชอบอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะ กรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 มี จำ�นวน 4 ท่าน ประกอบด้วย
32
ที่สามารถยอมรับได้
2. ร่วมกับฝ่ายจัดการของบริษทั ในการทบทวนนโยบาย กลยุทธ์ ขอบข่ายงาน รูปแบบและขัน้ ตอนในการปฏิบตั งิ าน เพือ่ ให้มน่ั ใจว่าการจัดการความเสีย่ ง มีความเพียงพอและเหมาะสม ในระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ และการบริหารความเสี่ยงได้ถูกนำ�ไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง 3. ทบทวนระบบของการบริ ห ารความเสี่ ย งขององค์ ก รเป็ น ครั้ ง คราว ซึง่ ครอบคลุมธุรกรรมทัง้ หมดของบริษทั รวมถึงการมอบหมายให้บคุ คลใด บุคคลหนึ่ง หรือคณะกรรมการชุดย่อยเป็นผู้กำ�กับดูแลและบริหารจัดการ ความเสี่ยงโดยรวมของทั้งบริษัทและรายงานให้คณะกรรมการบริษัทได้ รับทราบ
คณะผู้บริหาร
คณะผู้บริหารของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย
รายชื่อ
ตำ�แหน่ง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กิตติศิริประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน สาระกุล ผู้จัดการทั่วไป – ฝ่ายพัฒนา ธุรกิจและลูกค้าสัมพันธ์ 4. นางสาวขวัญใจ แซ่ไหล ผู้จัดการทั่วไป – ฝ่ายปฏิบัติการ เจริญพรพจน์ 5. นายสุวิชาญ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป– ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ 6. นางสาวนรารักษ์ คงศิริเรืองไล ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป– ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เพชรทอง 7. นางเพ็ญศรี ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป– ฝ่ายการเงินและการบัญชี ศิริพรรณพงศ์ 8. นายยุทธชัย ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป– ฝ่ายพัฒนาสินเชื่อ,บุคคลและ ธุรการ 1. นายตัน เล เยน 2. นายกันตภณ 3. นายปากน้ำ�
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
ขอบเขตอำ�นาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบของประธานเจ้าหน้าที่ ช่วงที่ทำ�ให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือผู้รับมอบอำ�นาจจากประธาน เจ้าหน้าที่บริหารสามารถอนุมัติรายการที่ตนหรือบุคคลที่อาจมีความ บริหาร 1. บริหารงานประจำ�วันและ/หรือควบคุมดูแลการดำ�เนินกิจการของบริษัท
2. ดำ�เนินการหรือบริหารงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ ระเบียบ ข้อกำ�หนด คำ�สั่ง นโยบาย เป้าหมาย แผนการดำ�เนินงาน และงบประมาณ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการและ/หรือมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท 3. ดำ�เนินการตามที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย 4. กำ�หนดโครงสร้างองค์กร รวมถึงการมีอำ�นาจพิจารณาว่าจ้างพนักงาน บรรจุแต่งตั้ง การโอน โยกย้ายข้ามสายงาน/ฝ่าย/แผนก หรือการพ้นจาก การเป็นพนักงาน กำ�หนดอัตราค่าจ้าง ให้บำ�เหน็จรางวัล ปรับขึ้นเงิน เดือนและค่าตอบแทน เงินโบนัส ของพนักงานทัง้ หมดในตำ�แหน่งทีต่ �ำ่ กว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 5. มีอำ�นาจพิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายเพื่อการจัดซื้อสินทรัพย์ และบริการ สำ�หรับบริษัท ตลอดจนถึงอำ�นาจในการอนุมัติการใช้จ่ายทางการเงินเพื่อ ใช้ในการปฏิบัติงานของบริษัท ภายในวงเงินที่กำ�หนดโดยคณะกรรมการ บริษัท 6. มีอำ�นาจ ออกคำ�สั่ง ระเบียบ ประกาศ และบันทึก เพื่อให้การปฏิบัติงาน เป็นไปตามนโยบาย และผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท และเพื่อรักษา ระเบียบ วินัย การทำ�งานภายในองค์กร 7. มี อำ � นาจกระทำ � การและแสดงตนเป็ น ตั ว แทนของบริ ษั ท ต่ อ บุ ค คล ภายนอกในกิจการที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อบริษัท 8. มีอ�ำ นาจแต่งตัง้ คณะทำ�งานชุดต่างๆ เพือ่ การดำ�เนินกิจการหรือการบริหาร งานของบริษทั และให้มอี �ำ นาจในการมอบอำ�นาจช่วง และ/หรือมอบหมาย ให้ บุ ค คลอื่ น ปฏิ บั ติ ง านเฉพาะอย่ า งแทนได้ โดยการมอบอำ � นาจช่ ว ง และ/หรื อ การมอบหมายดั ง กล่ า วให้ อ ยู่ ภ ายใต้ ก ารควบคุ ม ของ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรืออาจมอบอำ�นาจเพื่อให้บุคคลดังกล่าว มีอ�ำ นาจตามทีป่ ระธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหารเห็นสมควร และภายในระยะเวลา ทีป่ ระธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหารเห็นสมควร ซึง่ อาจยกเลิก เพิกถอน เปลี่ยนแปลง บุคคลที่ได้รับมอบอำ�นาจ หรือการมอบอำ�นาจนั้นๆ ได้ตามสมควร 9. ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย 10. ปฏิบัติงานด้วยความสุจริตและระมัดระวังผลประโยชน์ของบริษัท ทั้งนี้ การมอบหมายอำ�นาจหน้าที่และความรับผิดชอบของประธาน เจ้า หน้าทีบ่ ริหารนัน้ จะไม่มลี กั ษณะเป็นการมอบอำ�นาจ หรือมอบอำ�นาจ
ขัดแย้ง (ตามนิยามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำ�หนด) มีส่วนได้เสียหรือ อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อนื่ ใดกับบริษทั หรือบริษทั ย่อย เว้นแต่ เป็นการอนุมัติรายการที่เป็นไปตามปกติธุรกิจที่มีการกำ�หนดขอบเขต ชัดเจน
อนึ่ง อำ�นาจหน้าที่ของประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะไม่รวมถึงอำ�นาจที่ทำ�ให้ ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห ารสามารถอนุ มั ติ ร ายการที่ ต นหรื อ บุ ค คลที่ อ าจมี ความขัดแย้งมีส่วนได้เสีย หรืออาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อื่นใดทำ� กับบริษัทหรือบริษัทย่อย (ถ้ามี) ยกเว้นเป็นการอนุมัติรายการที่เป็นลักษณะ การดำ�เนินธุรกรรมการค้าปกติทั่วไปของบริษัทที่มีเงื่อนไขการค้าทั่วไปที่เป็น ไปตามนโยบายและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริษัทพิจารณาและอนุมัติไว้ แล้ว
เลขานุการบริษัท
บริษัทได้แต่งตั้ง นายกันตภณ กิตติศิริประเสริฐ ทำ�หน้าที่เลขานุการบริษัท โดยมี อำ � นาจหน้ า ที่ ต ามที่ กำ � หนดไว้ ในหมวดความรั บ ผิ ด ชอบของคณะ กรรมการตามข้อกำ�หนดของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งประสานงานให้มีการปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ เพื่อให้เป็นไป ตามหลักการกำ�กับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท
การสรรหากรรมการและกรรมการอิสระ
บริษัทมีคณะกรรมการสรรหา ในการคัดเลือกบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นกรรมการ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ การดำ�เนินธุรกิจ มีความตัง้ ใจ และมีจริยธรรม ในการทำ�งาน เป็นต้น
การสรรหากรรมการบริษัท
ในการคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัทมีขั้นตอนดังนี้ 1. คณะกรรมการบริษัทประกอบด้วยกรรมการอย่างน้อย 5 คน แต่งตั้ง โดยให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเป็นผู้เลือกตั้งกรรมการโดยใช้เสียงข้างมากตาม หลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้ • ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับจำ�นวนหุ้นที่ตนถือ • ผู้ถือหุ้นแต่ละคนจะใช้คะแนนเสียงที่มีอยู่เลือกตั้งบุคคลคนเดียวหรือ หลายคนเป็นกรรมการก็ได้ ในกรณีที่เลือกตั้งบุคคลหลายคนเป็น กรรมการจะแบ่งคะแนนเสียงให้แก่ผู้ใดมากน้อยเพียงใดไม่ได้ • บุคคลซึ่งได้รับคะแนนเสียงสูงสุดตามลำ�ดับลงมาเป็นผู้ได้รับการเลือก ตั้งเป็นกรรมการ เท่าจำ�นวนกรรมการที่จะพึงมีหรือจะพึงเลือกตั้งใน ครั้งนั้นในกรณีท่บี ุคคลซึ่งได้รับการเลือกตั้งในลำ�ดับถัดลงมามีคะแนน เสียงเท่ากันเกินจำ�นวนกรรมการทีจ่ ะพึงมี หรือจะพึงเลือกตัง้ ในครัง้ นัน้ ให้ ผู้เป็นประธานเป็นผู้ออกเสียงชี้ขาด
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
33
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
2. ในการประชุมสามัญประจำ�ปีทุกครั้ง กรรมการจะต้องออกจากตำ�แหน่ง อย่างน้อยหนึ่งในสามโดยอัตรา ถ้าจำ�นวนกรรมการจะแบ่งออกให้เป็น สามส่วนไม่ได้ ก็ให้ออกโดยจำ�นวนใกล้ที่สุดกับส่วนหนึ่งในสาม กรรมการที่จะต้องออกจากตำ�แหน่งในปีแรก และปีที่สองภายหลัง จดทะเบียนบริษัทนั้น ให้จับสลากว่าผู้ใดจะออก ส่วนปีหลังๆ ต่อไป ให้ กรรมการที่อยู่ในตำ�แหน่งนานที่สุดเป็นผู้ออกจากตำ�แหน่ง กรรมการผู้ออกจากตำ�แหน่งไปนั้นอาจจะเลือกเข้ารับตำ�แหน่งอีกก็ได้
บริษัท มีคณะกรรมบริษัททั้งสิ้น 7 ท่าน โดยมีกรรมการที่เป็นตัวแทนของผู้ถือ หุ้นใหญ่จำ�นวน 2 ท่าน ประกอบด้วยนายลี ซูน คี และนางสาวลิม มุย หลิง
5. ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของกรรมการของ บริษัท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของบริษัท
การสรรหากรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ
• • • •
ไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมในการบริหารลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษาที่รับเงินเดือนประจำ� ไม่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เช่น ซื้อ/ขายทรัพย์สินและบริการที่มีนัย สำ�คัญตามที่ ก.ล.ต. กำ�หนด (ใช้แนวทางในทำ�นองเดียวกับข้อกำ�หนด ว่าด้วยการทำ�รายการที่เกี่ยวโยงกันของตลาดหลักทรัพย์) ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้สอบบัญชี ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ให้บริการทางวิชาชีพใดๆ รวมถึงการให้บริการ เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งได้รับค่าบริการเกิน กว่า 2 ล้านบาท ต่อปี
บริษทั มีหลักเกณฑ์ในการสรรหากรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ ดังนี ้ 1. มีกรรมการอิสระไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกรรมการทั้งคณะ และมีจำ�นวน ไม่ต่ำ�กว่า 3 คน 2. มีกรรมการตรวจสอบไม่น้อยกว่า 3 คน 3. มีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
6. ไม่มีลักษณะอื่นใด ที่ทำ�ให้ไม่สามารถให้ความเห็นอย่างอิสระเกี่ยวกับ การดำ�เนินงานของบริษัท
คุณสมบัติกรรมการอิสระ
2. กรรมการตรวจสอบทุกคนต้องเป็นกรรมการอิสระ รวมทั้งต้อง • ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทให้ตัดสิน ใจในการดำ�เนินกิจการของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำ�ดับเดียวกัน หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งและ • ไม่เป็นกรรมการของบริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทย่อยลำ�ดับ เดียวกัน เฉพาะที่เป็นบริษัทจดทะเบียน
2. ไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการทีม่ สี ว่ นร่วมในการบริหารงาน ลูกจ้าง พนักงาน ทีป่ รึกษา ทีไ่ ด้เงินเดือนประจำ� หรือผูม้ อี �ำ นาจควบคุมของบริษทั บริษทั ใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำ�ดับเดียวกัน หรือนิติบุคคลที่อาจมี ความขัดแย้ง (ปัจจุบัน และช่วง 2 ปี ก่อนได้รับการแต่งตั้ง)
3. มีหน้าที่ตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยคุณสมบัติ และขอบเขตการดำ�เนินการของคณะกรรมการตรวจสอบ
เป็นไปตามประกาศที่เกี่ยวข้องกำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้ 1. ต้องถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 1 ของจำ�นวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ บริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือนิติบุคคลที่อาจมีความ ขัดแย้ง โดยให้นับรวมหุ้นที่ถือโดยผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย
คุณสมบัติกรรมการตรวจสอบ
1. ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการ หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท
4. มี ค วามรู้ แ ละประสบการณ์ เพี ย งพอที่ จ ะสามารถทำ � หน้ า ที่ ใ นฐานะ กรรมการตรวจสอบ และต้องมีกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 1 คน ที่มี 3. ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต หรือโดยการจดทะเบียนตามกฎหมาย ความรู้และประสบการณ์ที่จะสามารถทำ�หน้าที่ในการสอบทานความน่า ของผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้มีอำ�นาจควบคุม หรือบุคคลที่จะได้รับ เชื่อถือของงบการเงินได้ การเสนอชื่อเป็นผู้บริหารหรือผู้มีอำ�นาจควบคุมของบริษัทหรือบริษัทย่อย 4. ไม่มีความสัมพันธ์ด้านบริหารหรือทำ�ธุรกิจร่วมกับบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำ�ดับเดียวกัน หรือนิติบุคคลที่อาจมี ความขัดแย้ง ทั้งปัจจุบันและ 2 ปีก่อนวันที่ยื่นคำ�ขออนุญาตกับสำ�นักงาน ก.ล.ต. ในประเด็นดังต่อไปนี้
34
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
Board of Directors
The Board of Directors as of December 31, 2010, consisted of 7 members, namely:
Name
Position
1. Mr. Lee Soon Kie 2. Mr. Tan Ley Yen 3. Ms. Lim Mui Ling 4. Mr. Niphat Chamroonrat 5. Dr. Thamnoon Ananthothai 6. Mr. Suvait 7. Mr. Niwat
Chairman of the Board Director Director Director Director, Independent Director, Chairman of the Audit Committee Theeravachirakul Director,Independent Director, Member of the Audit Committee Kanjanaphoomin Director,Independent Director, Member of the Audit Committee
Mr. Guntapon Kittisiriprasert as Secretary to the Board of Directors
Authorized Directors of the Company
Mr. Tan Ley Yen or Mr. Lee Soon Kie is authorized to sign with the Company’s seal affixed.
Scope, Duties and Responsibilities of the Board of Directors
The Board of Directors has the power, duties and responsibilities to manage the Company to be in compliance with laws, objectives, and regulations of the Company, as well as the resolution of the shareholders’ meeting with lawful approval, honesty, and carefulness of the Company’s benefits. The summary of important power, duties and responsibilities is as follows: 1. To hold the annual general meeting of shareholders within 4 months from the end of the fiscal year; 2. To call the meeting of the Board of Directors at least once every three months; 3. To arrange for the preparation and submission of the audited balance sheet and profit and loss statement at the end of each fiscal year to the shareholders’ meeting for its consideration and approval; 4. To authorize any one or several directors or any person to perform any action on behalf of the Board of Directors under the supervision of the Board of Directors, or granting the power-of-attorney to such designed person(s) to perform any action within the specified time as the Board of Directors may think fit; provided, however, that the Board of Directors has the sole discretion to revoke or modify such designated director or power-of-attorney as the Board of Directors may think fit; In addition, the Board of Directors may authorize the Executive
Committee to conduct any activities within the specified scope of work, duties and responsibilities of the Executive Committee. No authorization will entitle the Executive Committee or its authorized representative to consider and approve the transaction, which may cause a conflict of interest between the Executive Committee, its authorized representative or any related person or interested person as the one party and the Company or its subsidiary companies as the other party. However, an exception is granted where the transaction conforms to the approved policies and rules of the Board of Directors;
5. To determine the goals, prospects, policies, business plans and budgets of the Company, and to ensure that the work performed by the Executive Committee complies with the set policies. However, the Board of Directors needs to obtain the resolution of the shareholders’ meeting before entering into these transactions that required approval of the shareholders’ meeting, for instance, increase or reduction of capital, issue of bonds, sale or transfer of all or any substantial parts of the Company’s businesses to any third party, purchase or acceptance of transfer of other businesses, amendment to any third party, purchase or acceptance of transfer of other businesses, amendment to the Memorandum of Association, and so on; The Board of Directors is also responsible for ensuring the Company’s compliance with the securities and exchange law and rules of the SET, for instance, rules concerning the entry into connected transactions and concerning purchase or sale of substantial assets, including any law governing the Company’s business; 6. To review the management structure and appoint the Executive Committee, Chief Executive Officer and any sub-committees, as it deems appropriate; 7. To ensure that the Company’s performance follows the business plans and budgets at all times; 8. To refrain from conducting any similar or competitive business, participating as partner in an ordinary partnership or partner with unlimited liability in a limited partnership or director in a private company or in any other firms, companies or corporations operating businesses similar to or in competition with the Company, regardless of whether for his/her own benefit or for others’ benefit. However, an exception is granted where the director provides notice to the shareholders’ meeting in advance of his/her effective appointment as director of the Company; 9. To notify the Company without delay in the event of likelihood that the director may have direct or indirect interests as a result of
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
35
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
(i) the Company’s entry into any agreement, and (ii) his/her increased or decreased holding of shares or bonds in the Company or its subsidiary companies. Apart from the Board of Directors, the Company has appointed 3 subcommittees to help with management, consideration or screening, decision making, and transparency, following the principles of the Good Corporate Governance, namely: - The Audit Committee - The Compensation and Nomination Committee - The Risk Management Committee
Audit Committee
As of December 31, 2010, the Audit Committee consisted of 3 members with knowledge and experience to review the financial statements of the company.
Name
Position
Chairman of the Audit Committee 1. Dr. Thamnoon Ananthothai Theeravachirakul Member 2. Mr. Suvait Kanjanaphoomin Member 3. Mr. Niwat
Scope of Power, Duties and Responsibilities of the Audit Committee 1. To review the Company’s financial report to ensure that it is accurate and adequate.
2. To review the Company’s internal control system and internal audit system to ensure that they are suitable and efficient, to determine the internal audit’s independence, as well as to approve the appointment, transfer and dismissal of the chief of internal audit or any other person in charge of internal audit. 3. To review the Company’s compliance with the law on securities and exchange, the SET’s regulations and other laws relating to the Company’s business. 4. To consider, select and nominate an independent person to be the Company’s auditor, and to propose such person’s remuneration, as well as to attend a non-management meeting with an auditor at least once a year. 5. To review the connected transactions, or the transactions that may lead to conflicts of interests, to ensure that they are in compliance with the laws and the Exchange’s regulations, and are reasonable and for the highest benefit of the Company. 6. To perform any other act as assigned by the Company’s Board of Directors.
36
7. To prepare, and to disclose in the Company’s Annual Report, an Audit Committee’s report which must be signed by the Audit Committee’s Chairman and consist of at least the following information: • an opinion on the accuracy, completeness and creditability of the Company’s financial report, • an opinion on the adequacy of the Company’s internal control system, • an opinion on the compliance with the law on securities and exchange, the Exchange’s regulations, or the laws relating to the Company’s business, • an opinion on the suitability of an auditor, • an opinion on the transactions that may lead to conflicts of interests, the number of the Audit Committee meetings, and the attendance of such meetings by each committee member, • an opinion or overview comment received by the Audit Committee from its performance of duties in accordance with the charter, and other transactions which, according to the Audit Committee’s opinion, should be known to the shareholders and general investors, subject to the scope of duties and responsibilities assigned by the Company’s Board of Directors. 8. To report to the Board when the Audit Committee finds or suspects any of the following transactions or acts, which may materially affect the Company’s financial condition and operating results, in order to proceed with a remedy within the timeline that the Audit Committee thinks fit: • a transaction which cause a conflict of interest; • any fraud, unusual practice or material defects in relation to the internal control system; and • a violation of the law on securities and exchange, the SET’s regulations or other laws relating to the Company’s business.
Compensation and Nomination Committee
As of 31st December 2010, the Compensation and Nomination Committee of the Company consisted of 3 members, namely:
Name 1. Mr. Niphat 2. Dr. Thamnoon 3. Mr. Lee Soon Kie
Position Chamroonrat Chairman of the Compensation and Nomination Committee Ananthothai Member Member
Scope of Power, Duties and Responsibilities of the Compensation and Nomination Committee
1. To recommend the remuneration structure of the Board of Directors’ and Committees’ members including meeting allowances, bonus, welfare and other benefits both in monetary and non-monetary terms;
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
2. To evaluate the corporate performance of the Company to determine bonus and annual salary increase across the Company, taking into account appropriate industry benchmarks;
Management Team
As of December 31, 2010, the Company’s Management Team consisted of:
3. To recommend the Company’s salary structure and other benefits;
Name
Position
4. To consider, comment, and evaluate on the Employee Stock Option Program (ESOP) Schemes for directors and employees;
1. Mr. Ley Yen Tan 2. Mr. Guntapon Kittisiripraert 3. Mr. Paknam Sarakul
Chief Executive Officer Chief Financial Officer GM, Business Development and Client Relations GM, Operations Assistant GM, Business Development Assistant GM, Business Development Assistant GM, Finance and Acccounts Assistant GM, Credit Review, Human Resources and Adminsitration
5. To recommend the structure and composition of the Board and Committees together with the qualification of its members; 6. To recommend the list of nominees for the Board of Directors to be proposed to the Shareholders’ General Meeting in case of vacancies by rotation and to the Board of Directors in case of casual vacancies; and 7. To perform the scope of duties and responsibilities as assigned by the Board of Directors.
Risk Management
4. Ms. Kwanjai 6. Mr. Suvichan
Sae-Lai Charoenponpoj
7. Ms. Nararak
Kongsiriruanglai
8. Mrs. Pensri
Pettong
9. Mr. Yutthachai Siriphanpong
As of December 31, 2010, the Risk Mangement Committee consisted of 4 members, namely:
Name 1. Mr. Suvait
Position Theeravachirakul
2. Dr. Thamnoon Ananthothai 3. Mr. Niwat Kanjanaphoomin 4. Mr. Tan Ley Yen
Chairman of the Risk Management Committee Member Member Member
Scope of Power, Duties and Responsibilities of the Risk Management Committee
1. Recommend to the Board in formulating the risk management policies, strategies, standards etc. and defining acceptable risk levels; 2. Review with management of the Company the risk management reports, policies, strategies, frameworks, models and procedures, etc., to ensure that the Company has adequate and suitable risk management to acceptable levels, and ensure continued implementation of risk management; and 3. Periodically review enterprise risk management (ERM) systems that cover all activities of the Company including the assignment of any person or sub-committee to oversee the integration of departmental risk management and control systems and report to the Board.
Scope of Power, Duties and Responsibilities of the CEO
1. To manage the Company’s day-to-day business operations and/or supervise the Company’s general administration; 2. To ensure or manage that the Company’s operations follow and satisfy its business objectives, articles of association, rules, regulations, orders, policies, goals, operating plan and budget, which are approved by the Board or the resolution of the general meeting of shareholders or both; 3. To follow the tasks assigned by the Company’s Board of Directors; 4. To set the organization structure, hire, appoint, transfer, remove and misemploy, determine wages of, grant rewards to, raise salary and remuneration of, and give bonuses to all employees who hold positions at a lower level than the CEO; 5. To approve and authorize disbursement for the procurement of assets and services for the Company. Approves financial transactions for the Company’s operations within the limit determined by the Board of Directors; 6. To issue orders, regulations, announcements and records to have all operations follow the Company’s policies, maximize its benefits and cope with its rules and principles;
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
37
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
7. To present as the Company’s representative to outside parties in related circumstances to benefit the Company; 8. To appoint working teams to be responsible for operating or managing the Company’s business and to subrogate or designate any person to perform a specific task on behalf of the CEO. Each appointment, subrogation or designation is subject to the CEO’s control. Alternatively, the CEO may appoint any person to have the power to do any acts as he thinks fit and within the time specified by him. The CEO has the discretion to cancel, withdraw or change that appointment, subrogation or designation at any time; 9. To perform other duties as assigned by the Company’s Board of Directors; and 10. To work with integrity and regards to the Company’s benefits. The duties and powers of the Chief Executive Officer do not include the duty and authority to approve transactions which are related to the CEO or persons with possible conflict of interest or causes any conflict of interest with the Company or its subsidiaries (if any), unless it is to approve transactions in the normal course of business of the Company following the policy and principles stipulated by the Board of Directors.
Corporate Secretary
The Company has appointed Mr. Guntapon Kittisiripraert to be the Corporate Secretary with the authority as indicated by the Board of Directors following the Securities and Exchange Act, as well as to act in order to comply with the Board of Directors’ resolution following the Company’s Good Corporate Governance principles.
The Nomination of Directors and Independent Directors The Company’s Nomination Committee is to select candidates for the positions of Director by considering various criteria such as knowledge, capability, experience, determination and work ethics, etc. which are beneficial to the Company’s business operations.
Nomination of the Company’s Directors
The procedures of the nomination of candidates to be appointed as Directors are as follows: 1. The Board of Directors consists of at least 5 members who are appointed by the meeting’s election with the majority votes, following the principles and methods as follows: • Each shareholder has 1 vote for each share held; • Each shareholder may exercise the vote in electing one or more persons to be the directors but the votes are indivisible; and
38
•
The person who obtains the highest votes will be elected as a director in respective order according to the required number of directors, but if two or more persons obtain equal votes, the Chairman must cast a final vote.
2. At every Annual General Meeting of Shareholders, one-third (1/3) of the directors, or if it is not a multiple of three, then the number nearest to one-third (1/3) must retire from office. There must be a drawing by lots to determine the directors retiring on the first and second years following the registration of the Company. In each subsequent year, the directors who occupy the position for the longest period must retire. A retiring director is eligible for re-election. The Company’s Board of Directors consists of 7 members with two Directors as representatives of the major shareholders, namely, Mr. Lee Soon Kie and Ms. Lim Mui Ling.
The Nomination of the Independent Directors and Audit Committee
The Company’s procedures for the nomination of the Independent Directors and Audit Committee are as follows: 1. The Independent Directors shall consist of no less than one-thirds of the Directors and no less that 3 members. 2. The Audit Committee shall consist of no less than 3 members. 3. The qualifications are indicated as follow:
Qualifications of the Independent Directors
In compliance with the related notification of the Stock Exchange of Thailand as follows: 1. Hold not more than 1% of the total shares with voting rights of the Company, parent company, affiliated companies, or juristic persons which may have conflicts of interest, including the shares held by related persons; 2. Not be or used to be an Executive Director, an employee, staff, advisor who earns salary, or controlling person of the Company, parent company, subsidiary company, associate company, a subsidiary of the same level, or juristic person who may have conflicts of interest (at present and two years prior to the appointment); 3. Not having blood relations or legitimate relations with the Executives, major shareholders, controlling persons, or candidate persons to be nominated as Executives or controlling persons of the Company or a subsidiary.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
4. Not having management relationship or business with the Company, parent company, affiliated company, subsidiary at the same level, or juristic persons which may have conflicts of interest at present and 2 years before the submission date of the following matters with SEC: • Not be or used to be an Executive Director, an employee, staff, advisor who earns salary; • Not having business relationship such as sale/purchase significant assets or services as stipulated by the SEC (following the guidelines of the notification of the connected transaction of the SET); • Not be or used to be the Auditor; or • Not be or used to be any provider of professional services, including the legal advisor, financial advisor whom receives a service fee of more than Baht 2 million per year. 5. Not be an appointed Director, or representative of the Director of the Company, major shareholder, or persons, who are related to the major shareholders of the Company. 6. Not having any characteristics which will impair making independent opinions on the Company’s operations.
Qualifications of the Audit Committee
1. Received an appointment from the Board of Directors or through a resolution from a shareholders’ meeting. 2. Every Audit Committee member shall be an Independent Director and: • Not being a Director who is assigned by the Board of Directors to make decision in the operations of the Company, parent company, affiliated companies, subsidiary company of the same level, or juristic persons which may have conflict of interest; and • Not being a Director of the parent company, subsidiary company, subsidiary company of the same level, only apply to the listed company. 3. Have a duty as stipulated by the notification of the Stock Exchange of Thailand RE: Qualification and Scope of the Audit Committee’s operations. 4. Have sufficient academic qualification and work experience to work as the Audit Committee and at least 1 member of the Audit Committee shall have sufficient academic qualification and work experience to examine the credibility of the financial statements.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
39
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
ประวัติกรรมการ / The Board of Directors Biography นาย ลี ซูน คี /Mr. Lee Soon Kie อายุ 52 ปี / years
การศึกษา / การอบรม Education / Training • • •
ปริญญาโท สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ University of Wales, Aberystwyth Master’s degree in Computer Science of University of Wales, Aberystwyth
ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ The National University of Singapore
Bachelor’s degree in Economics of The National University of Singapore
Understanding the Regulatory Environment in Singapore - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทสิงคโปร์ Understanding the Regulatory Environment Program in Singapore 2008-Singapore Institute of Directors
ตำ�แหน่งปัจจุบัน / Present Position
• ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
ความสัมพันธ์กับบริษัท / Relation with the Company
• จำ�นวนการถือหุ้นในบริษัทร้อยละ % of Stock holding in the Company = 0.085 • ชนิด / Type หุ้นสามัญ / Ordinary • จำ�นวน / Amount 400,000
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง / Work Experience for the past 5 years ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
บริษัท / Company
2553-ปัจจุบัน / 2010-Present 2552-ปัจจุบัน / 2009-Present 2550-ปัจจุบัน / 2007-Present 2549-ปัจจุบัน / 2006-Present
กรรมการ / Director กรรมการ / Director กรรมการ / Director ประธานกรรมการ / Chairman of the Board กรรมการ / Director
IFS Capital Intellectual Property Private Ltd. (Singapore) IFS Factors (Malaysia) Scln. Bhd, (Malaysia) IFS Capital (Hong Kong) Ltd. (Hong Kong) IFS Capital (Malaysia) Sdn. Bhd. (Malaysia)
2548-ปัจจุบัน / 2005-Present กรรมการ / Director กรรมการ / Director กรรมการ / Director 2547-ปัจจุบัน / 2004-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
IFS Ventures Private Ltd. (Singapore) IFS Ventures 2 Ltd. (Singapore) Advance Finance PCL.
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) IFS Capital (Thailand) PCL.
PT. IFS Capital Indonesia (Indonesia)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการบริหาร
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์)
กรรมการ / Director กรรมการ / Director กรรมการ / Director กรรมการ / Director
Phillip Ventures Enterprise Fund Ltd. (Singapore) IFS Capital Assets Private Ltd (Singapore) Phillip Private Equity Pte Ltd (Singapore) ECICS Ltd. (Singapore)
CEO & Executive Director
40
IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd.
ประธานคณะกรรมาธิการ
Chairman of the Board of Commissioners
2546-ปัจจุบัน / 2003-Present
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด
IFS Capital Ltd.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
ดร.ธรรมนูญ อานันโทไทย / Dr.Thamnoon Ananthothai อายุ 54 ปี / years
การศึกษา / การอบรม Education / Training
• ปริญญาเอก International Management Walden University, Naple, Florida, USA.
Doctor’s degree of International Management Walden University, Naple, Florida, USA.
• Understanding the Fundamental of Financial Statements Program รุ่นที่ 7/2007 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Understanding the Fundamental of Financial Statements (UFS-7/2007) - Thai Institute of Directors
• The Role of the Chairman Program รุ่นที่ 14/2006 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย The Role of the Chairman Program (RCP -14/2006) - Thai Institute of Directors
• Director Certification Program รุ่นที่ 70/2006 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Director Certification Program (DCP -70/2006) - Thai Institute of Directors
• Audit Committee Program รุ่นที่ 10/2005 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Audit Committee Program (ACP - 10/2005) - Thai Institute of Directors
• Director Accreditation Program รุ่นที่ 48/2005 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Director Accreditation Program (DAP 48/2005) - Thai Institute of Directors
ตำ�แหน่งปัจจุบัน / Present Position
• รองประธานกรรมการ กรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ สมาชิกคณะกรรมการกำ�หนดค่าตอบแทนและสรรหา และสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ความเสี่ยง Deputy Chairman, Independent Director, the Chairman of the Audit Committee, Member of Compensation and Nomination Committee and Member of Risk Management Committee
ความสัมพันธ์กับบริษัท / Relation with the Company
• จำ�นวนการถือหุ้นในบริษัทร้อยละ / % of Stock holding in the Company = 0.06 • ชนิด / Type หุ้นสามัญ / Ordinary • จำ�นวน / Amount 300,000
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง / Work Experience for the past 5 years ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
บริษัท / Company
2553-ปัจจุบัน / 2010-Present กรรมการอิสระ / Independent Director
บริษัท ไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่นโปรดักส์ จำ�กัด (มหาชน)
2550-ปัจจุบัน / 2007-Present รองประธานกรรมการ กรรมการอิสระ ประธาน คณะกรรมการตรวจสอบ สมาชิกคณะกรรมการ กำ�หนดค่าตอบแทนและสรรหา และสมาชิกคณะ กรรมการบริหารความเสีย่ ง /
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Thai Union Frozen Products PCL. IFS Capital (Thailand) PCL.
Deputy Chairman, Independent Director, the Chairman of the Audit Committee, Member of Compensation and Nomination Committee and Member of Risk Management Committee
รองประธานและประธานกรรมการตรวจสอบ /
บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำ�กัด (มหาชน)
กรรมการตรวจสอบ / Audit Committee ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ / Bangkok University บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จํากัด (มหาชน)
Vice Chairman and Director of Audit Committee
Better World Green PCL.
Vintage Engineering PCL.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
41
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง (ต่อ) / Work Experience for the past 5 years (Continued) ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
บริษัท / Company
2549-ปัจจุบัน / 2006-Present กรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ
บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำ�กัด (มหาชน)
2548-ปัจจุบัน / 2005-Present กรรมการและกรรมการตรวจสอบ
บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำ�กัด (มหาชน)
2547-ปัจจุบัน / 2004-Present กรรมการบริหาร / Executive Director
บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำ�กัด (มหาชน)
2544-ปัจจุบัน / 2001-Present กรรมการบริหาร / Executive Director
คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
Director and the Chairman of Audit Committee Director and Member of Audit Committee
Eastern Printing PCL.
Property Perfect PCL.
Merchant Partners Securities PCL.
The Agricultural Futures Exchange of Thailand
น.ส. ลิม มุย หลิง / Ms. Lim Mui Ling อายุ 51 ปี / years
การศึกษา / การอบรม Education / Training
• ปริญญาตรีบัญชี The National University of Singapore
Bachelor of Accountancy of The National University of Singapore • Understanding the Regulatory Environment in Singapore - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทสิงคโปร์ Understanding the Regulatory Environment Program in Singapore 2008 - Singapore Institute of Directors
ตำ�แหน่งปัจจุบัน / Present Position • กรรมการ / Director
ความสัมพันธ์กับบริษัท / Relation with the Company
• จำ�นวนการถือหุ้นในบริษัทร้อยละ / % of Stock holding in the Company = 0.05 • ชนิด / Type หุ้นสามัญ / Ordinary • จำ�นวน / Amount 250,000
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง / Work Experience for the past 5 years ช่วงเวลา / Period
42
ตำ�แหน่ง / Position
บริษัท / Company
2552-ปัจจุบัน / 2009-Present กรรมการ / Director
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
2551-ปัจจุบัน / 2008-Present กรรมการ / Director กรรมการ / Director กรรมการ / Director
IFS Capital Assets Private Ltd. (Singapore) IFS Ventures Private Ltd. (Singapore) IFS Ventures 2 Ltd. (Singapore)
IFS Capital (Thailand) PCL.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
นายสุเวทย์ ธีระวชิรกุล / Mr. Suvait Theeravachirakul อายุ 52 ปี / years
การศึกษา / การอบรม Education / Training
• ปริญญาโทบริหารธุรกิจ Wagner College, New York, USA
Master of Business Administration of Wagner College, New York, USA • Director Certification Program รุ่นที่ 9/2001 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Director Certification Program (DCP 9/2001) - Thai Institute of Directors
• Director Accreditation Program รุ่นที่ 15/2006 - สมาคมส่งเสริมกรรมการบริษัทไทย Director Accreditation Program (ACP 15/2006) - Thai Institute of Directors
• Successful Formulation & Execution the Strategy รุ่นที่ 6/2010 - สมาคมส่งเสริมกรรมการบริษัทไทย Successful Formulation & Execution the Strategy (SFE 6/2010) - Thai Institute of Directors
ตำ�แหน่งปัจจุบัน / Present Position
• กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และ ประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
Independent Director, Audit Committee Member and the Chairman of Risk Management Committee
ความสัมพันธ์กับบริษัท / Relation with the Company
• จำ�นวนการถือหุ้นในบริษัทร้อยละ / % of Stock holding in the Company = 0.02 • ชนิด / Type หุ้นสามัญ / Ordinary • จำ�นวน / Amount 100,000
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง / Work Experience for the past 5 years ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
2553-ปัจจุบัน / 2010-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board 2552-ปัจจุบัน / 2009-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board กรรมการ / Director ประธานกรรมการ / Chairman of the Board 2551-ปัจจุบัน / 2008-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board กรรมการ / Director ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board 2550-ปัจจุบัน / 2007-Present กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
บริษัท / Company บริษัท ที ลีสซิ่ง จำ�กัด / T Leasing Co., Ltd. บริษัท พาราไดซ์ รีเทล จำ�กัด / Paradise Retail Co., Ltd. บริษัท มาบุญครอง ศิริชัย เอ็นเตอร์ไพร้ส จำ�กัด Ma Boonkhrong Sirichai Enterprise Co., Ltd.
บริษัท สีมาแพค จำ�กัด / Sima Pac Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค ฮอสพิทาลิตี้ แมนเนจเม้นท์ จำ�กัด MBK Hospitality Management Co., Ltd.
บริษัท พาราไดซ์ พาร์ค จำ�กัด / Paradise Park Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค เรซสิเด้นซ์ จำ�กัด / MBK Resident Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค สแควร์ จำ�กัด / MBK Square Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค อาเขต จำ�กัด / MBK Arcade Co., Ltd. บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) IFS Capital (Thailand) PCL.
Independent Director, Audit Committee Member and the Chairman of Risk Management Committee
ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board 2549-ปัจจุบัน / 2006-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
บริษัท กลาสเฮ้าส์ บิลดิ้ง จำ�กัด / Glas Haus Building Co., Ltd. บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำ�กัด Apple Auto Auction (Thailand) Co., Ltd.
บริษัท เอ็ม บี เค ฟู้ด ไอแลนด์ จำ�กัด / MBK Food Island Co., Ltd. Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
43
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง (ต่อ) / Work Experience for the past 5 years (Continued) ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
2548-ปัจจุบัน / 2005-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ
Independent Director, Audit Committee Member
บริษัท กลาสเฮ้าส์ รัชดา จำ�กัด / Glas Haus Ratchada Co., Ltd. บริษัท กระทู้ แลนด์ จำ�กัด / Kathu Land Co., Ltd. บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำ�กัด (มหาชน) Thai Rung Union Car Public Company (Limited)
2546-ปัจจุบัน / 2003-Present
กรรมการ / Director กรรมการ / Director ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board กรรมการบริหาร / Executive Director
บริษัท พี อาร์ จี พืชผล จำ�กัด / PRG Granary Co., Ltd. บริษัท ราชสีมา ไรซ์ จำ�กัด / Ratchasrima Rice Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จำ�กัด / MBK Center Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค เลเชอร์ จำ�กัด / MBK Laser Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค พรีเมียม จำ�กัด / MBK Premium Co., Ltd. บริษัท แอ๊บโซลูท แทรเวิล จำ�กัด บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำ�กัด (มหาชน)
2545-ปัจจุบัน / 2002-Present
กรรมการ / Director ประธานกรรมการ / Chairman of the Board กรรมการ / Director ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board กรรมการ / Director กรรมการ / Director กรรมการ และกรรมการผู้อำ�นวยการ
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำ�กัด / Siam Piwat Co., Ltd. บริษัท ซี แอล พี แมนเนจเม้นท์ จำ�กัด / C L P Management Co., Ltd. บริษัท แปลน เอสเตท จำ�กัด / Plan Estate Co., Ltd. บริษัท แปลน แอพไพรซัล จำ�กัด / Plan Appraisal Co., Ltd. บริษัท ลานบางนา จำ�กัด / Lan Bangna Co., Ltd. บริษัท สยามพิวรรธน์ โฮลดิ้ง จำ�กัด / Siam Piwat Holding Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค รีสอร์ท จำ�กัด (มหาชน) / MBK Resort PCL. บริษัท เอ็มบีเค จำ�กัด (มหาชน)
2544 - ปัจจุบัน / 2001-Present
ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board กรรมการ / Director
บริษทั คริสตัล เลค พร็อพเพอร์ตส้ี ์ จำ�กัด / Crystal Lake Properties Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค แอสเซ็ท จำ�กัด / MBK Asset Co., Ltd. บริษัท ทรัพย์สินธานี จำ�กัด / Supsinnthanee Co., Ltd. กองทุนรวมธนชาติพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ 1 / Nasset Property Fund 1 บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
กรรมการ / Director กรรมการ / Director
บริษัท เชอราตัน รอยัล ออคิด จำ�กัด / Royal Orchid Sheraton Co., Ltd. บริษัท ไทย รอยัล ออคิด เรียล เอซเทท จำ�กัด
2547-ปัจจุบัน / 2004-Present
44
บริษัท / Company
Director and President
Patum Rice Mill and Granary PCL.
MBK PCL.
Royal Orchid Hotel (Thailand) PCL.
Thai Royal Orchid Real Estate Co., Ltd.
2542 - ปัจจุบัน / 1999-Present กรรมการ / Director
บริษัท ไพรมาซี อิลิแกนซ์ อินเวสเมนท์ จำ�กัด
2540 - ปัจจุบัน / 1997-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
บริษัท ดิ โอลิมปิค คลับ จำ�กัด / The Olympic Club Co., Ltd. บริษัท ภูเก็ต ล็อค ปาล์ม กอล์ฟ คลับ จำ�กัด
ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำ�กัด / MBK Guarantee Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค แคปปิตอล จำ�กัด / MBK Capital Co., Ltd. บริษทั เอ็ม บี เค เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำ�กัด / MBK Entertainment Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำ�กัด
2537 - ปัจจุบัน / 1994-Present กรรมการ / Director 2535 - ปัจจุบัน / 1992-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
บริษัท วชิรฉัตร คอนซัลแตนท์ จำ�กัด / Wachirachat Consultant Co., Ltd. บริษัท เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ จำ�กัด / The Nine Center Co., Ltd.
Primacy Elegance Investments Ltd.
Phuket Loch Palm Golf Club Co., Ltd.
MBK Hotels and Resorts Co., Ltd.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง (ต่อ) / Work Experience for the past 5 years (Continued) ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
บริษัท / Company
2534-ปัจจุบัน / 1991-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board ประธานกรรมการ / Chairman of the Board 2533-ปัจจุบัน / 1990-Present กรรมการ / Director
บริษัท เอ็ม บี เค การธุรกิจ จำ�กัด / MBK Business Co., Ltd. บริษัท เอ็ม บี เค สมาร์ท ฟอร์ซ จำ�กัด / MBK Smart Force Co., Ltd. บริษัท ริเวอร์เดล กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ จำ�กัด
2530-ปัจจุบัน / 1987-Present ประธานกรรมการ / Chairman of the Board
บริษัท เอ็ม บี เค แอ็ดวานซ์ จำ�กัด / MBK Advance Co., Ltd.
Riverdale Golf and Country Club Co., Ltd.
นายนิพัทธ์ จำ�รูญรัตน์ / Mr. Niphat Chamroonrat อายุ 67 ปี / years
การศึกษา / การอบรม Education / Training
• ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ Pitman College, UK
Bachelor of Business Administration, Pitman College, UK • Director Accreditation Program รุ่นที่ 62/2007 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Director Accreditation Program (DAP 62/2007) - Thai Institute of Directors
ตำ�แหน่งปัจจุบัน / Present Position
• กรรมการ และประธานคณะกรรมการกำ�หนดค่าตอบแทนและสรรหา
Director and the Chairman of Compensation and Nomination Committee
ความสัมพันธ์กับบริษัท / Relation with the Company
• จำ�นวนการถือหุ้นในบริษัทร้อยละ / % of Stock holding in the Company = 0.05 • ชนิด / Type หุ้นสามัญ / Ordinary • จำ�นวน / Amount 250,000
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง / Work Experience for the past 5 years ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
บริษัท / Company
2550-ปัจจุบัน / 2007-Present กรรมการ และ ประธานคณะกรรมการกำ�หนด ค่าตอบแทนและสรรหา
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
2512-ปัจจุบัน / 1969-Present กรรมการ / Director
บริษัท อินเตอร์คอร์น (สยาม) จำ�กัด / Inter Corn (1983) Co., Ltd.
IFS Capital (Thailand) PCL.
Director and the Chairman of Compensation and Nomination Committee
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
45
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
นายตัน เล เยน / Mr. Tan Ley Yen อายุ 54 ปี / years
การศึกษา / การอบรม Education / Training
• ปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการระหว่างประเทศ Royal Holloway College, University of London (UK)
Master of Business Administration in International Management of Royal Holloway College, University of London (UK) • ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ (เกียรตินิยม) สาขาวิทยาการจัดการ University of Manchester Institute of Science and Technology (UK) Bachelor of Science (Honours) in Management Sciences, University of Manchester Institute of Science and Technology (UK) • Director Accreditation Program รุ่นที่ 65/2007 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Director Accreditation Program (DAP 65/2007)
ตำ�แหน่งปัจจุบัน / Present Position
• กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และสมาชิกคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง Executive Director & CEO, Member of Risk Management Committee
ความสัมพันธ์กับบริษัท / Relation with the Company
• จำ�นวนการถือหุ้นในบริษัทร้อยละ / % of Stock holding in the Company = 0 • ชนิด / Type หุ้นสามัญ / Ordinary • จำ�นวน / Amount 0
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง / Work Experience for the past 5 years ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
บริษัท / Company
2550-ปัจจุบัน / 2007-Present กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร และสมาชิกคณะกรรมการบริหารความเสีย่ ง
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
2549-ปัจจุบัน / 2006-Present กรรมการ / Director
บริษัท ไอเอฟเอส โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด
2543-2549 / 2000-2006
บริษัท อยุธยาอินเตอร์เนชั่นแนล แฟคเตอร์ส จำ�กัด
IFS Capital (Thailand) PCL.
Executive Director & CEO and Member of Risk Management Committee
46
กรรมการบริหาร / Executive Director
IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd.
Ayudhya International Factors Co., Ltd.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Structure / โครงสร้างการจัดการ
นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ / Mr. Niwat Kanjanaphoomin อายุ 49 ปี / years
การศึกษา / การอบรม Education / Training
• ปริญญาโทบริหารธุรกิจ Massey University (New Zealand)
Master of Business Administration of Massey University (New Zealand)
• ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง Bachelor of Computer Engineering of King Mongkut Institute of Technology Ladkrabang • Director Accreditation Program รุ่นที่ 82/2010 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Director Accreditation Program course (DAP 82/2010) - Thai Institute of Directors • Audit Committee Program รุ่นที่ 30/2010 - สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย Audit Committee Program (ACP 30/2010) - Thai Institute of Directors
ตำ�แหน่งปัจจุบัน / Present Position
• กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และสมาชิกคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
Independent Director, Audit Committee Member and Member of Risk Management Committee
ความสัมพันธ์กับบริษัท / Relation with the Company
• จำ�นวนการถือหุ้นในบริษัทร้อยละ / % of Stock holding in the Company = 0 • ชนิด / Type หุ้นสามัญ / Ordinary • จำ�นวน / Amount 0
ประสบการณ์การทำ�งานในระยะ 5 ปีย้อนหลัง / Work Experience for the past 5 years ช่วงเวลา / Period
ตำ�แหน่ง / Position
บริษัท / Company
2552-ปัจจุบัน / 2007-Present กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และสมาชิกคณะกรรมการบริหารความเสีย่ ง
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
2553-ปัจจุบัน / 2010-Present กรรมการผู้จัดการ / President 2548-2553 / 2005-2010 ผู้จัดการใหญ่ / CEO
สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย / Thai Bond Market Association บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำ�กัด / National Credit Bureau Co., Ltd.
IFS Capital (Thailand) PCL.
Independent Director, Audit Committee Member and Member of Risk Management Committee
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
47
Good Corporate Governance การกำ�กับดูแลกิจการ
คณะกรรมการบริษัทได้จัดให้มีนโยบายการกำ�กับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 โดยนำ�หลักการกำ�กับดูแลกิจการที่ดี 5 หมวด สำ�หรับบริษัทจดทะเบียนปี 2549 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมา เป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใส และเสริมสร้างองค์กร ให้มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการดำ�เนิน ธุรกิจอันจะสร้างความเชือ่ มัน่ ให้แก่ผถู้ อื หุน้ นักลงทุน ผูม้ สี ว่ นได้เสีย และผูท้ ่ี เกีย่ วข้องโดยสรุปได้ดังนี้
1. สิทธิของผู้ถือหุ้น
คณะกรรมการบริษัทให้ความสำ�คัญเกี่ยวกับสิทธิของผู้ถือหุ้นทุกๆคน ในการ ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทในแต่ละครั้ง บริษัทจะจัดส่งหนังสือเชิญประชุม พร้อมรายละเอียดของวาระต่างๆ ข้อมูลประกอบการประชุมที่สำ�คัญและ จำ�เป็น ความเห็นของคณะกรรมการ รายงานการประชุมครั้งก่อน รายงาน ประจำ�ปี และเอกสารเพิ่มเติมอื่นๆเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจ รวมถึง หนังสือมอบฉันทะทั้ง 3 แบบ คือ แบบ ก. แบบ ข. และแบบ ค. เอกสารที่ ต้องใช้ในการมอบฉันทะ และวิธีการใช้ให้ทราบ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถเลือก ใช้แบบใดก็ได้ โดยจะจัดส่งให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน และ โฆษณาคำ�บอกกล่าวเชิญประชุมในหนังสือพิมพ์ติดต่อกันเป็นระยะเวลาไม่ น้อยกว่า 3 วันก่อนการประชุม และในการประชุมจะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นมี สิทธิอย่างเท่าเทียมกันในการตรวจสอบการดำ�เนินงานของบริษัท และแสดง ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ มีการบันทึกการประชุมถูกต้องครบถ้วน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้ ภายหลังบริษัทได้เข้าจด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษทั ได้เพิม่ ช่องทางการสือ่ สาร กับนักลงทุนอีกช่องทางหนึ่ง หรือ นักลงทุนสัมพันธ์ผ่านเว็ปไซต์ของบริษัท www.ifscapthai.com นอกเหนือจากช่องทางในระบบ ELCID ของ ตลาดหลักทรัพย์ จึงทำ�ให้ผู้ถือหุ้นสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเชิญ ประชุม รายงานประจำ�ปี ตลอดจนข้อมูลสำ�คัญอื่นๆที่จะเผยแพร่ให้นัก ลงทุนได้รับทราบรวดเร็วยิ่งขึ้น
2. การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน
คณะกรรมการบริ ษั ท ให้ ค วามสำ � คั ญ ในการปฏิ บั ติ ต่ อ ผู้ ถื อ หุ้ น อย่ า งเท่ า เทียมกัน โดยผู้ถือหุ้นสามารถแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ ให้กับ บริษัทผ่านช่องทางการสื่อสารกับนักลงทุนสัมพันธ์ รวมถึงการเปิดโอกาส ให้ ผู้ ถื อ หุ้ นที่ ไม่ ส ามารถเข้ า ร่ ว มประชุ ม สามารถมอบอำ � นาจให้ ก รรมการ อิสระอย่างน้อย 1 ท่าน หรือผู้รับมอบอำ�นาจเป็นตัวแทนในการเข้าร่วม ประชุมและออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ คณะกรรมการบริษัท มีนโยบายปฏิบัติตามข้อบังคับของบริษัท กฏหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ และข้อบังคับ ประกาศ คำ�สั่ง หรือข้อกำ�หนดของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกำ�หนด 48
ทั้งนี้ คณะกรรมการให้ความสำ�คัญการปฏิบัติตามข้อกำ�หนดเกี่ยวกับการ ทำ�รายการที่เกี่ยวโยงกัน การได้มาและจำ�หน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่สำ�คัญของ บริษทั การเปิดเผยข้อมูลการทำ�รายการทีเ่ กีย่ วโยงกันและการใช้ขอ้ มูลภายใน เพือ่ หาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผูอ้ น่ื ตลอดจนกำ�หนดให้มกี ารดำ�เนินการ ต่างๆ เพือ่ ป้องกันการทำ�รายการทีอ่ าจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
3. บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย
บริษัทให้ความสำ�คัญต่อสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ตามสิทธิที่ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรม ดังนี้ 1. ผู้ถือหุ้น: บริษัทปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเป็นธรรม รายงาน สถานภาพและแนวโน้มในอนาคตขององค์กรให้รบั ทราบตามความเป็นจริง 2. ลูกค้า: บริ ษั ท ให้ บ ริ ก ารที่ มี คุ ณ ภาพรวดเร็ ว เพื่ อ ตอบสนองความ ต้องการของลูกค้า ภายใต้เงื่อนไขที่เป็น ธรรมทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเก็บ รักษาความลับของลูกค้า 3. คู่ค้าและ/หรือเจ้าหนี้: บริษัทปฏิบัติต่อคู่ค้าและเจ้าหนี้อย่างเสมอภาพ และเป็นธรรม เป็นไปตามสัญญาหรือ เงื่อนไขที่ตกลงกัน 4. พนักงาน: บริษทั ให้ผลตอบแทนและการแต่งตัง้ ทีเ่ ป็นธรรมและเหมาะสม ดูแลรักษาสภาพแวดล้อมในการ ทำ�งานให้มคี วามปลอดภัย พัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะของพนักงานอย่างสม่ำ�เสมอ 5. คู่แข่ง: บริษัทประพฤติตามกติกาการแข่งขันที่ดี หลีกเลี่ยงวิธีการไม่สุจริต หรือไม่เหมาะสม และไม่ทำ�ลายชื่อเสียงของคู่แข่ง 6. สังคม ชุมชนและสิง่ แวดล้อม: บริษทั ให้การสนับสนุนกิจกรรมเพือ่ ร่วม สร้างสรรค์สงั คม ชุมชน และสิง่ แวดล้อมอย่างสม่�ำ เสมอเพือ่ ให้ชมุ ชนมีคณ ุ ภาพ ที่ดีขึ้น ทั้งที่ดำ�เนินการเองและร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำ�ข้อพึงปฏิบัติเกี่ยวกับจรรยาบรรณธุรกิจเพื่อ ให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนในองค์กรยึดถือเป็นแนวทางการ ปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเที่ยงธรรม โดย บริษัทจะกำ�กับและติดตามเพื่อให้มีการปฏิบัติตามแนวทางของจรรยาบรรณ ธุรกิจดังกล่าวอย่างจริงจัง รวมถึงการกำ�หนดบทลงโทษทางวินัยไว้ด้วย ส่วนข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากผู้ร้องเรียนหรือผู้แจ้งเบาะแสผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ของบริษัท www.ifscapthai.com ผ่านฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ทาง โทรศัพท์ หรือทางไปรษณีย์ก็ตาม จะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ ดำ�เนินการปรับปรุงแก้ไข
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
วาระการดำ�รงตำ�แหน่ง
4. การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส
คณะกรรมการบริษัทดูแลให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลสำ�คัญที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ต่อสาธารณะ ทั้งข้อมูลทางการเงิน รายงานทางการเงิน และข้อมูลที่มิใช่ ทางการเงินอย่างถูกต้อง ทันเวลา และโปร่งใส ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นไปตามข้อกำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำ�นักงาน คณะกรรมการกำ�กับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำ�นักงาน ก.ล.ต.”) ในส่วนของคุณภาพของรายงานทางการเงิน บริษัทได้แต่งตั้ง บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำ�กัด (“สำ�นักงาน”) ในการเป็นผู้สอบบัญชี ของบริษัท ซึ่งสำ�นักงานเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสำ�นักงาน ก.ล.ต. มีความเป็นอิสระ และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัท ทำ�ให้ สามารถมั่นใจได้ว่า ข้อมูลที่แสดงในรายงานทางการเงินมีความถูกต้อง เป็น ไปตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป อีกทั้งยังกำ�หนดให้คณะกรรมการ ตรวจสอบ เป็นผู้ดูแลพิจารณากลั่นกรองรายงานทางการเงิน รวมถึงการเปิด เผยข้อมูลในงบการเงินของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทได้มีการเปิดเผยรายงาน ผู้สอบบัญชี คำ�อธิบายและวิเคราะห์งบการเงิน พร้อมทั้งรายงานความรับ ผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทต่อรายงานทางการเงิน รายงานของคณะ กรรมการตรวจสอบ เปิดเผยบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท และ คณะกรรมการชุดย่อย จำ�นวนครั้งที่กรรมการแต่ละท่านเข้าร่วมประชุม เปิด เผยข้อมูลค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารในรายงานประจำ�ปี คณะกรรมการบริษัทให้ความสำ�คัญต่อการเปิดเผยข้อมูลที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา และโปร่งใส และทั่วถึงทั้งรายงานข้อมูลทางการเงินและ ข้อมูลทั่วไป บริษัทจึงได้จัดตั้งฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ โดยมอบหมายให้ นาย ปากน้ำ� สาระกุล เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศที่ สำ�คัญของบริษัท เพื่อเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับนักลงทุนที่เป็นสถาบัน ผู้ถือหุ้น และนักวิเคราะห์ทั่วไป ทั้งนี้ นักลงทุนทั่วไปสามารถติดต่อขอทราบ ข้อมูลของบริษัทได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-285-6326-32 หรือที่เว็บไซต์ www.ifscapthai.com
5. ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
คณะกรรมการบริษัทมีบทบาทสำ�คัญในการกำ�กับดูแลกิจการ และมีความ รับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่ผู้ถือหุ้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและ ผู้ถือหุ้นโดยรวม
โครงสร้างคณะกรรมการ
การถ่วงดุลของกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
คณะกรรมการบริษัทมีจำ�นวนที่เหมาะสม และสมดุลระหว่างกรรมการที่เป็น ผู้บริหารกับกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร กรรมการบริษัททั้งหมดมีจำ�นวน 7 ท่าน ประกอบด้วย กรรมการที่เป็นผู้บริหาร จำ�นวน 1 ท่าน กรรมการที่ไม่เป็น ผู้บริหารจำ�นวน 6 ท่าน ทั้งนี้ ในจำ�นวนกรรมการทั้งหมดเป็นกรรมการอิสระ จำ�นวน 3 ท่าน และเป็นกรรมการที่มาจากตัวแทนผู้ถือหุ้นจำ�นวน 2 ท่าน
วาระการดำ�รงตำ�แหน่งของกรรมการแต่ละท่านเป็นไปตามข้อบังคับของ บริษัท กรรมการต้องออกจากตำ�แหน่งอย่างน้อย 1 ใน 3 โดยกรรมการผู้ออก จากตำ�แหน่งไปนั้น อาจได้รับเลือกเข้ารับตำ�แหน่งได้อีก
การรวมหรือแยกตำ�แหน่ง
ประธานกรรมการบริษัทไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับฝ่ายบริหาร และมิได้เป็น บุคคลเดียวกันกับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทั้งนี้ มีการแบ่งหน้าที่ออกจาก กันชัดเจนระหว่างการกำ�หนดนโยบายและการกำ�กับดูแล กับการบริหารงาน ประจำ�
เลขานุการบริษัท
คณะกรรมการบริษทั ได้แต่งตัง้ นายกันตภณ กิตติศริ ปิ ระเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่ การเงิน เป็นเลขานุการบริษทั เพือ่ ดูแลกิจกรรมของคณะกรรมการบริษทั รวมทัง้ ประสานงานให้มีการปฏิบัติตามมติคณะกรรมการ
คณะกรรมการชุดย่อย
คณะกรรมการบริษัทได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยอีก 3 ชุด เพื่อแบ่งเบา ภาระหน้าที่ในการทำ�งานของคณะกรรมการบริษัท ศึกษาในรายละเอียด และกลั่นกรองงานตามความจำ�เป็น ซึ่งได้แก่ (1) คณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อช่วยในการกำ�กับดูแลกิจการของบริษัท ด้านรายงานทางการเงิน และ ด้านการปฏิบัติตามกฏระเบียบ และนโยบาย (2) คณะกรรมการกำ�หนด ค่ า ตอบแทนและสรรหาเพื่ อ ช่ ว ยในกระบวนการพิ จ ารณาค่ า ตอบแทนที่ เหมาะสม โดยใช้ข้อมูลค่าตอบแทนของบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน และ (3) คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเพื่อช่วยพิจารณานโยบายด้านบริหาร ความเสี่ ย งที่ ค รอบคลุ ม ทั่ ว ทั้ ง องค์ ก รของบริ ษั ท ให้ มี ค วามเพี ย งพอและ เหมาะสม ในระดับความเสีย่ งทีย่ อมรับได้และมีการนำ�ไปปฏิบตั อิ ย่างต่อเนือ่ ง
บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ภาวะผู้นำ�และวิสัยทัศน์
คณะกรรมการบริษัทประกอบด้วยกรรมการที่มีความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำ�เนินธุรกิจ คณะกรรมการบริษัทมีส่วน ร่วมในการให้ความเห็นในการกำ�หนดวิสัยทัศน์และภารกิจ กลยุทธ์ เป้าหมาย ทางการเงิน ความเสี่ยง แผนงาน และงบประมาณของบริษัท ตลอดจนกำ�กับ ดูแลฝ่ายจัดการให้ดำ�เนินการเป็นไปตามแผนงานและนโยบายที่กำ�หนดไว้ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ความขัดแย้งทางผลประโยชน์
คณะกรรมการบริ ษั ท ได้ ร ะมั ด ระวั ง ในการป้ อ งกั นความขั ด แย้ ง ทางผล ประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้น จึงได้กำ�หนดแนวทางปฏิบัติสำ�หรับบริษัท กรรมการ และผู้บริหารในการเข้าทำ�รายการระหว่างกัน กำ�หนดมาตรการและขั้นตอน ในการอนุมัติให้เข้าทำ�รายการระหว่างกัน และนโยบายหรือแนวโน้มการ
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
49
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
ทำ�รายการระหว่างกันในอนาคต ให้สอดคล้องและเป็นไปตามกฎหมายว่า ด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อบังคับ ประกาศ คำ�สั่ง หรือข้อ กำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง กำ�หนด รวมทั้งเปิดเผยข้อมูลรายการที่เกี่ยวโยงกันไว้ในงบการเงิน รายงาน ประจำ�ปี และแบบแสดงรายงานข้อมูลประจำ�ปี (แบบ 56-1) เพื่อให้ผู้ถือหุ้น สามารถตรวจสอบได้
ข้อซักถามในประเด็นที่มีข้อสงสัย รายงานการประชุมจะมีการจดบันทึกเป็น ลายลักษณ์อักษร และจะจัดเก็บรายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองจากที่ ประชุมแล้ว เพื่อให้กรรมการหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้ โดย การเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทในปี 2551-2553 มีดังนี้ กรรมการ
ปี 2551
จริยธรรมทางธุรกิจ
บริษัทได้จัดทำ�จรรยาบรรณธุรกิจ เพื่อเป็นแนวทางให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานยึดถือปฏิบัติ ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องความเป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้น การ คำ�นึงถึงสิทธิของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆ การหลีกเลี่ยงการกระทำ�ใดๆ ที่ขัดแย้งทางผลประโยชน์ของบริษัท ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สนิ ของบริษทั การหลีกเลีย่ งการใช้ขอ้ มูลภายในเพือ่ เอือ้ ประโยชน์สว่ นตน การเปิดเผยข้อมูล อย่างถูกต้องและทันเวลา ความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม
ระบบการควบคุมภายในและการตรวจสอบภายใน
คณะกรรมการบริ ษั ท ตระหนั ก ถึ ง ความสำ � คั ญ ในการจั ด ให้ มี ร ะบบการ ควบคุมภายในเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และเชื่อถือต่อผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วน ได้เสีย โดยบริษัทได้จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งมีสมาชิกเป็นกรรมการ อิสระทั้งหมดเพื่อดูแลระบบการควบคุมภายในของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ดูแลรายงานทางการเงินให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน และ เชื่อถือได้ ดูแลระบบการทำ�งานที่ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้โดยเฉพาะ เรื่องของความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ตลอดจนดูแลให้บริษัทปฏิบัติตาม กฏหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง กับการประกอบธุรกิจของบริษัท ในปี 2553 คณะกรรมการตรวจสอบได้มี การประชุมร่วมกัน 4 ครั้ง และทุกครั้งได้ประชุมร่วมกับผู้สอบบัญชี ฝ่าย จัดการของบริษัท หัวหน้าฝ่ายบัญชีของบริษัท รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นตาม ความจำ�เป็น เพื่อพิจารณาและให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงระบบการ ควบคุมภายในของบริษัท นอกจากนี้บริษัทได้ว่าจ้างบริษัท เอเอ็มซี อินเตอร์ เนชั่นแนล คอนซัลติ้ง จำ�กัด เป็นผู้ตรวจสอบภายในของบริษัท รวมถึงการมีผู้ ตรวจสอบภายในจากบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์) ทำ�หน้าที่ ตรวจสอบการปฏิบัติงานของระบบงานต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และ รายงานผลการตรวจสอบภายในตามแผนที่ได้กำ �หนดไว้ล่วงหน้าประจำ�ปี ต่อคณะกรรมการตรวจสอบได้รับทราบ
ปี 2553
จำ�นวนครั้งที่เข้าร่วมประชุม / จำ�นวนครั้งการประชุม 1. นายลี ซูน คี
4/6
3/6
4/5
2. นายตัน เล เยน
6/6
6/6
5/5
-
1/6
4/5
4/6
6/6
5/5
5. ดร.ธรรมนูญ อานันโทไทย
6/6
6/6
5/5
6. นายสุเวทย์
ธีรวชิรกุล
6/6
6/6
5/5
7. นายนิวัฒน์
กาญจนภูมินทร์*
-
1/6
5/5
8. นายหว่อง ชิน เคียง*
4/6
2/6
-
9. นายสิงหะ
4/6
4/6
-
3. นางสาวลิม มุย หลิง* 4. นายนิพัทธ์
จำ�รูญรัตน์
นิกรพันธุ์*
หมายเหตุ
* นายหว่อง ชิน เคียง ลาออกจากการเป็นกรรมการเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2552
* * *
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ลาออกจากการเป็นกรรมการ กรรมการอิสระ และ กรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 นางสาวลิม มุย หลิง เข้ามาดำ�รงตำ�แหน่งกรรมการ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2552 นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ เข้ามาดำ�รงตำ�แหน่งกรรมการ กรรมการ อิสระ และกรรมการตรวจสอบ เมื่อ 7 สิงหาคม 2552
การประชุมคณะกรรมการ
คณะกรรมการบริษัทมีการประชุมโดยปกติอย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง และ มีการประชุมเพิ่มเติมตามความจำ�เป็น มีการส่งหนังสือเชิญประชุมพร้อม ระเบี ย บวาระการประชุ ม ที่ ชั ด เจนและเอกสารประกอบการประชุ ม เพี ย ง พอจัดส่งให้กรรมการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน เว้นแต่ในกรณีจำ�เป็นเร่ง ด่วน เพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท เพื่อให้คณะกรรมการได้มีเวลา ศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนเข้าร่วมประชุม ในการประชุม คณะกรรมการ เปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงได้มีส่วนร่วมในการเข้าร่วมประชุม เพื่อตอบ
50
ปี 2552
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
ค่าตอบแทน
บริษัทได้กำ�หนดนโยบายค่าตอบแทนกรรมการไว้อย่างชัดเจนและโปร่งใส โดยค่าตอบแทนอยู่ในระดับเดียวกับอุตสาหกรรม รวมทั้งคำ�นึงถึงประสบการณ์ ภาระหน้าที่ ขอบเขตของบทบาทและความรับผิดชอบ เพื่อที่จะดูแลและรักษากรรมการที่มีคุณสมบัติที่ต้องการ และได้ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วน ค่าตอบแทนผู้บริหารเป็นไปตามหลักการและนโยบายที่คณะกรรมการบริษัทกำ�หนด โดยพิจารณาตามบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบ และผลการ ปฏิบัติงานและความทุ่มเทของผู้บริหารแต่ละท่าน
ค่าตอบแทนรวมของคณะกรรมการบริษัท ในปี 2551 และ 2553 ดังนี้ กรรมการ
ปี 2551 เบี้ย เบี้ย บำ�เหน็จ ประชุม กรรมการ กรรมการ (บาท) รายปี (โบนัส)** (บาท) (บาท) 100,000 130,000 -
1. นายลี ซูน คี 2. นายตัน เล เยน
เบี้ย ประชุม (บาท) 95,000
ปี 2552
ปี 2553
เบี้ย บำ�เหน็จ กรรมการ กรรมการ (โบนัส) รายปี (บาท) (บาท) 130,000 444,000
เบี้ย เบี้ย บำ�เหน็จ ประชุม กรรมการ กรรมการ (บาท รายปี (โบนัส) (บาท) (บาท) 120,000 130,000 444,000
-
-
-
-
-
-
-
-
-
3. นางสาวลิม มุย หลิง* 4. นายนิพัทธ์ จำ�รูญรัตน์ 5. ดร. ธรรมนูญ อานันโทไทย 6. นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล 7. นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์* 8. นายหว่อง ชิน เคียง *
100,000 220,000 200,000 80,000
50,000 160,000 100,000 50,000
-
20,000 120,000 265,000 220,000 40,000 40,000
100,000 160,000 100,000 53,000 -
222,000 222,000 222,000 222,000
80,000 125,000 260,000 230,000 220,000 -
50,000 100,000 250,000 150,000 148,333 -
222,000 222,000 222,000 -
9. นายสิงหะ รวม
120,000 820,000
150,000 640,000
-
145,000 945,000
- 222,000 543,000 1,554,000
1,035,000
นิกรพันธุ์ *
828,333 1,110,000
หมายเหตุ * นายหว่อง ชิน เคียง ลาออกจากการเป็นกรรมการเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2552
* นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ลาออกจากการเป็นกรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 * นางสาวลิม มุย หลิง เข้ามาดำ�รงตำ�แหน่งกรรมการ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2552 * นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ เข้ามาดำ�รงตำ�แหน่งกรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ เมื่อ 7 สิงหาคม 2552 ** ปี 2551 ไม่มีการจ่ายบำ�เหน็จกรรมการ (โบนัส)
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
51
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
ค่าตอบแทนผู้บริหาร (ค่าตอบแทนผู้บริหารที่มีรายชื่ออยู่ ในคณะผู้บริหาร) ในปี 2551 และ 2553 ดังนี้ ค่าตอบแทน
ปี 2551 จำ�นวน ราย
จำ�นวน ราย
เงินเดือนและโบนัส
8
จำ�นวนเงิน รวม (บาท) 16,516,677
รวม
8 16,516,677
ค่าตอบแทนอื่นๆ ที่เป็นตัวเงิน
บริษัทได้เข้าร่วมกองทุนสำ�รองเลี้ยงชีพกับกองทุน ซึ่งจดทะเบียนแล้วตาม พระราชบัญญัติกองทุนสำ�รองเลี้ยงชีพ โดยพนักงานจ่ายเงินสมทบเข้า กองทุนในอัตราร้อยละ 5 ของค่าจ้าง และบริษัทจ่ายสมทบอีกส่วนหนึ่งตาม อัตราที่กำ�หนดไว้ในข้อบังคับกองทุน
การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน
บริษัทมีข้อกำ�หนดและหลักเกณฑ์ในการควบคุมและการใช้ข้อมูลภายใน อย่างรัดกุม โดยเฉพาะข้อมูลแสดงฐานะทางการเงินของบริษัทก่อนที่จะเผย แพร่ต่อสาธารณชน บริษัทมีนโยบายและวิธีการดูแลผู้บริหารและพนักงาน ในการนำ�ข้อมูลภายในของบริษัทไปใช้ เพื่อประโยชน์ส่วนตน ดังนี้ 1. ห้ามมิให้กรรมการ ผู้บริหาร รวมถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ของบุคคลดังกล่าว ใช้ข้อมูลภายในเพื่อทำ�การซื้อ ขาย โอน หรือรับโอน หลักทรัพย์ของบริษัท ก่อนที่ข้อมูลนั้นจะถูกเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไป ทราบโดยทั่วถึงกัน โดยเฉพาะในช่วง 30 วันก่อนที่งบการเงินของบริษัท จะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชน นอกจากนี้ ภายหลังจากที่ข้อมูลได้ถูกเผย แพร่แล้ว บุคคลข้างต้นห้ามไม่ให้มีการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท จนกระทั่งประชาชนที่ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวได้มีเวลาประเมินข้อมูลที่ ได้รับในระยะเวลาพอสมควรแล้ว (7 วัน นับแต่วันที่เผยแพร่) 2. ให้ความรู้แก่กรรมการ และผู้บริหาร ที่มีหน้าที่ที่จะต้องรายงานการถือ ครองหลักทรัพย์ของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เกี่ยวกับ การรายงานการถือหลักทรัพย์ของบริษัท โดยหากกรรมการ ผู้บริหาร รวม ถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าว ที่เข้าข่าย มีการซื้อ ขาย โอน หรือรับโอนหลักทรัพย์ของบริษัทตามที่กำ�หนดไว้ ในประกาศสำ�นักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ สจ. 14/2540 เรื่อง การ จัดทำ�และเปิดเผยรายงานการถือหลักทรัพย์และบทกำ�หนดโทษตามพระ ราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ปี 2553 จำ�นวน ราย
จำ�นวนเงินรวม (บาท)
8
จำ�นวนเงิน รวม (บาท) 18,111,400
9
20,480,930
8
18,111,400
9
20,480,930
ทรัพยากรบุคคล บุคลากร
จำ�นวนผู้บริหารและพนักงาน ในปี 2553 บริษัทมีบุคลากรทั้งสิ้น 70 คน แบ่ง ตามสายงานต่างๆ ดังนี้ ประเภท
จำ�นวนพนักงาน
ผู้บริหาร
9
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
17
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อ
12
ฝ่ายปฏิบัติการ
18
ฝ่ายการเงินบัญชี
3
ฝ่ายกฎหมาย
1
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ เลขานุการ และกำ�กับการ ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ ฝ่ายพัฒนาสินเชื่อ / บุคคลและธุรการ
1
รวม
9 70
ทั้งนี้ ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำ�นวนพนักงาน อย่างมีนัยสำ�คัญและไม่มีข้อพิพาททางด้านแรงงานใด ๆ
หากมีการกระทำ�การฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะดำ�เนิน การทางวินยั เพือ่ พิจารณาลงโทษตามสมควรแก่กรณี เช่น ตักเตือนเป็นหนังสือ ลดค่าจ้าง พักงาน เลิกจ้าง เป็นต้น 52
ปี 2552
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
ผลตอบแทนรวมและลั ก ษณะผลตอบแทนที่ ให้ กั บ พนั ก งาน (ไม่รวมกรรมการ และผู้บริหาร) ลักษณะผลตอบแทน เงินเดือน / ค่าจ้าง โบนัส ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการพนักงาน รวม
ปี 2551 (บาท) 22,917,194
ปี 2552 (บาท) 22,567,047
ปี 2553 (บาท) 24,588,659
6,187,359
4,867,430
9,011,504
29,104,553
27,437,477
33,600,163
นโยบายในการพัฒนาบุคลากร
บริษัทให้ความสำ�คัญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการพัฒนาความรู้ และความสามารถของพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ�งาน คุณภาพของการให้ บริการ โดยได้จัดให้มีการฝึกอบรม การสัมมนาโดยบุคคลทั้งจากภายในและภายนอกที่จำ�เป็นต่อพนักงานโดยรวมและรายบุคคลอย่างสม่ำ�เสมอ เพื่อเพิ่ม ศักยภาพในการทำ�งานและสามารถนำ�ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการทำ�งาน รวมทั้งมีนโยบายในการให้ผลตอบแทนกับพนักงานในอัตราที่เหมาะสมเพื่อจูงใจ และรักษาให้พนักงานทำ�งานกับบริษัทในระยะยาว และนอกจากนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์พนักงานเพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีภายในองค์กร อย่างสม่ำ�เสมอ
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
53
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
Corporate Governance
3. Roles of Stakeholders
The Board of Directors of the Company approved the Principles of Good Corporate Governance on 7th November 2008 by adopting the 5 principles of good corporate governance for listed companies of SET 2006 as practice guidelines of the Company to strengthen and enhance transparency and corporate management system. These are beneficial to the business operations which will lead to confidence of shareholders, investors, stakeholders and related persons. The Corporate Governance Principles can be summarized as follow:
1. Shareholders: The Company treats all shareholders with equal fairness by accurately reporting actual status and future trend of the Company;
1. The Rights of Shareholders
The Board of Directors places great emphasis on the rights of shareholders. Prior to shareholders’ meeting, invitation letters attached with details of the agenda, important and necessary information, opinions of the Board, minutes of the previous meeting, annual report, and other additional documents concerned for decision making, including proxies form A, B, and C, documents used in the assignment of proxy and explanation documents of how to use the granting of proxy, of which the shareholders will receive no less than 7 days. Also, there will be announcement of meeting published in the local newspapers for at least 3 consecutive days prior to the meeting. Shareholder has equal rights in examining the Company’s operations and provide opinions and suggestions. Minutes of meeting will be accordingly recorded for shareholders’ examination. In addition, after the Company’s listing on the Stock Exchange of Thailand, the Company has increased its channel of communication with its shareholders on its website (www.ifscapthai.com) under “Investor Relations” apart from ELCID system of SET. This enables shareholders to gain quick access concerning the meeting invitation letter, annual report, as well as other important information disseminated to the shareholders.
2. Equal Treatment toward Shareholders
The Board of Directors treat all shareholders with equal importance by providing them an opportunity to express their opinions and suggestions through Investor Relations. In addition, shareholders who cannot attend the meeting could authorize a proxy to an independent director or a representative to be the nominee to attend the meeting and cast a vote when necessary. The Board of Directors places strict adherence to the Company’s regulations, Securities and Exchange laws, notifications, orders, and the regulations of the Stock Exchange of Thailand and other relevant organizations. Moreover, the Board of Directors places importance on compliance with regulations regarding related transaction, acquisition and disposal of significant assets, disclosure of related transaction information, and accessing of information for the benefit of oneself or others. The Board has also stipulated rules to prevent any transaction with conflicts of interest.
54
The Company places importance on the rights of all stakeholders of the Company following the deserved rights of receiving equal and fair treatment as follows:
2. Clients: The Company provides effective and quick services to serve the needs of its clients on fair conditions to both parties as well as to maintain clients’ confidentiality; 3. Business Partners and/or Creditors: The Company treats its business partners and creditors with equality and fairness on the agreed terms and conditions; 4. Employees: The Company provides fair and equitable returns and appointments, safe working environment and continuous development of knowledge, ability and skills of employees; 5. Competitors: The Company strictly follows the rules of competition, avoids any inappropriate or corrupted methods or destroy competitors’ reputation; 6. Society, Community, and Environment: The Company continuously engages in activities that enhance quality of life of the society, community and environment through its own activities or cooperation with the government, private sectors and community. In addition, the Company has established the code of business conduct to all directors, executives and employees which serve as guidelines for performing their duties with honesty, trustworthiness, and fairness. The Company shall strictly supervise and ensure compliance to the the code of business conduct, including enforcing disciplinery and punishment actions. Complaints can be sent to the Company’s website at www.ifscapthai.com, Investor Relations via telephone or postal mail, they will be sent to the related units for further proceed.
4. Information Disclosure and Transparency
The Board of Directors has to ensure the accuracy, timeliness and transparency in the Company’s disclosure of important information to the public both in Thai and English, in accordance with the notifications of the Stock Exchange of Thailand (SET) and the Securities and Exchange Commissions (SEC).
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
For the financial reports quality, the Company has appointed the auditors from Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos Audit Co., Ltd. (Deloitte), who are approved auditors by the Office of the SEC, as the Company’s external auditors. With Deloitte as an independent party, the Company is confident that the financial reports are accurate and prepared in accordance with the general accepted accounting standards. The Board has also appointed the Audit Committee who will review the quality of the financial reports and the disclosure of the financial reports of the Company. In addition, the Company has enclosed the report of the Auditors, the management discussion and analysis report, the reports on the responsibilities of the Board of Directors toward financial report, the report of the Audit Committee, the disclosure of the roles and duties of the Board of Directors and the Sub-Committees, Directors’ meeting attendance, the disclosure of the remuneration of the Directors and Executives in the Annual Report.
Corporate Secretary
The Board of Directors of the Company places importance on the information disclosure with accuracy, completeness, timeliness and transparency by assigning Mr. Paknam Sarakul, to be responsible for the financial statements and general information disclosure of the Company and to be a representative of the Company to communicate with institutional investors, shareholders and analysts. The investors can contact the Company to receive the Company’s information at telephone number 02-285-6326-32 or the Company’s website at www.ifscapthai.com.
Roles, Duties and Responsibilities of the Board of Directors
5. Responsibility of the Board of Directors
The Board of Directors plays an important role to oversee the Company and is responsible for maximizing benefits to the shareholders of the Company.
Structure of the Board of Directors Balance of the Non-Executive Directors
The Board of Directors comprises of Executive and Non-Executive Directors appropriately appointed and balanced with 7 directors, comprising of 1 Executive Director and 6 Non-Executive Directors, 3 of which are Independent Directors, and 2 are the representatives of the major shareholder.
Term of Directorship
The term of each director is in accordance with the Company’s regulations i.e. one-thirds of directors shall leave their positions and may be re-appointed.
Segregation of Positions
The Chairman of the Board has no relationship whatsoever with the mangement team and is a different person from the Chief Executive Officer. Their duties are clearly separated between directing the Company’s policies and day-to-day management.
The Board of Directors has appointed Mr. Guntapon Kittisiriprasert, Chief Financial Officer, to be the Corporate Secretary to oversee the activities of the Board, including ensuring compliance with the Board’s resolutions.
Sub-Committees
The Board of Directors has established 3 Sub-committees to assist the Board in overseeing matters in details namely (1) Audit Committee to help with corporate governance, financial reporting and compliance with policies; (2) Compensation and Nomination Committee to help structure appropriate remuneration based on industry norm and (3) Risk Management Committee to formulate and supervise the risk management policies covering all business units of the Company to contain and mititgate risks to a minimum.
Leadership and Vision
The Board of Directors consists of personnel with knowledge, capability and experience which are beneficial to the business operations. The Board participates in formulating the vision and mission, strategies, financial goals, risks, plans and budget of the Company, including ensuring management’s compliance with the plans and policies with efficiency and effectiveness.
Conflicts of Interest
The Board of Directors manages and monitors connected transactions carefully to avoid any possible conflicts of interest by setting measures and procedures as guidelines for approving the entry into connected transactions of the Company, directors, and executives, including the future policies and direction regarding connected transactions. Each approval of the connected transaction must comply with the law of Securities and Exchange and the regulations, notifications, order or the announcements of The Stock Exchange of Thailand and other related organizations, including the disclosure of the connected transactions in the financial statements, the annual report form (Fom 56-1) for shareholders to examine.
Business Ethics
The Company has implemented the code of business conduct which serves as guidelines for directors, executives and staff to follow. The Company’s code of business conduct covers fairness toward the shareholders, realization of the rights of all stakeholders, abstinence from any actions that result in conflicts of interest, responsibility towards the Company’s assets, abstinence of usage of internal information for one’s benefit, accurate and timeliness disclosure of information and responsibility toward society and the public.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
55
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
Internal Control System and Internal Auditing System
The Board of Directors understands the importance of having a good internal control system and has thus established an Audit Committee which comprises of three independent directors. The Audit Committee oversees the efficiency and effectiveness of the internal control of the Company, ensures the financial reports are accurate, complete and creditable, ensures the working system is accurate, transparent, examinable, particularly the conflicts of interest, including ensures compliance to the Securities and Exchange law or other related laws concerning the Company’s business operations. During the year, the Audit Committee had 4 meetings of which were attended by the external auditors, management, head of accounting department and other related persons as necessary. The Meetings serve to consider and suggest improvement to the Company’s internal control system. In addition, the Company has appointed AMC International Consulting Co., Ltd. as internal auditors of the Company. The Company also engages internal auditors from IFS (Singapore) to access and suggest improvement on existing operational systems. Both groups of internal auditors report directly to the Audit Committee.
Attendance of the Company’s Board of Directors
The Board of Directors’ meetings are held at least 4 times annually on a quarterly basis. A letter of invitation with clear meeting agendas and documents for meeting will be sent to directors at least 7 days prior to the meeting date except for an urgent case, to let the Board to have enough time to study the information before attending the meeting. The Board provides an opportunity for senior executives to participate in the meetings. Minutes of meeting are accurately documented and filed for further reference. Attendance of the Board members and the frequency of Board meetings for 2008-2010 are tabled as follows:
56
Directors
2008
2009
2010
Attendance / No. of Meetings 1. Mr. Lee Soon Kie
4/6
3/6
4/5
2. Mr. Tan Ley Yen
6/6
6/6
5/5
-
1/6
4/5
4. Mr. Niphat Chamroonrat
4/6
6/6
5/5
5. Dr. Thamnoon Ananthothai
6/6
6/6
5/5
6. Mr. Suvait Theeravachirakul
6/6
6/6
5/5
7. Mr. Niwat Kanjanaphoomin*
-
1/6
5/5
8. Mr. Wong Chin Kieng*
4/6
2/6
-
9. Mr. Singha Nikornpun*
4/6
4/6
-
3. Ms. Lim Mui Ling*
Remarks * * * *
Mr. Wong Chin Kieng resigned from the position of Director on August 7, 2009. Mr. Singha Nikornpun resigned from the positions of Director, Independent Director, and member of the Audit Committee on May 27, 2009. Ms. Lim Mui Ling was appointed to the position of Director on August 7, 2009. Mr. Niwat Kanjanaphoomin was appointed to the positions of Director Independent Director, and member of the Audit Committee on August 7, 2009.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
Remuneration
The Company has stipulated a clear and transparent remuneration policy for directors at par with the industry, based on experience, duties, roles and responsibilities, in order to keep and maintain the directors with the Company. The policy was approved at the Annual General Meeting of Shareholders. The Board has drawn up a remuneration policy for the executives based on similar principles. The cash remunerations paid to directors and executives are as follows:
Total Remuneration of the Board and Committees from 2008-2010 Directors
2008 Meeting Allowance
2009
Directors’ Bonus **
Meeting Allowance
(Baht)
Directors’ Annual Allowance (Baht)
(Baht)
100,000
130,000
2. Mr. Tan Ley Yen
-
3. Ms. Lim Mui Ling*
2010
Directors’ Bonus
Meeting Allowance
(Baht)
Directors’ Annual Allowance (Baht)
Directors’ Bonus
(Baht)
Directors’ Annual Allowance (Baht)
(Baht)
-
95,000
130,000
444,000
120,000
130,000
444,000
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
20,000
-
-
80,000
50,000
-
4. Mr. Niphat Chamroonrat
100,000
50,000
-
120,000
100,000
222,000
125,000
100,000
222,000
5. Dr. Thamnoon Ananthothai
220,000
160,000
-
265,000
160,000
222,000
260,000
250,000
222,000
6. Mr. Suvait Theeravachirakul
200,000
100,000
-
220,000
100,000
222,000
230,000
150,000
222,000
7. Mr. Niwat Kanjanaphoomin*
-
-
-
40,000
53,000
-
220,000
148,333
-
8. Mr. Wong Chin Keng*
80,000
50,000
-
40,000
-
222,000
-
-
-
9. Mr. Singha Nikornpun*
120,000
150,000
-
145,000
-
222,000
-
-
-
Total
820,000
640,000
-
945,000
1. Mr. Lee Soon Kie
Remarks
543,000 1,554,000 1,035,000
(Baht)
828,333 1,110,000
* Mr. Wong Chin Keng resigned from the position of Director on August 7, 2009. * Mr. Singha Nikornpun resigned from the positions of Director, Independent Director, and member of the Audit Committee on May 27, 2009. * Ms. Lim Mui Ling was appointed to the position of Director on August 7, 2009. * Mr. Niwat Kanjanaphoomin was appointed to the positions of Director Independent Director, and member of the Audit Committee on August 7, 2009. ** There was no payment of bonus in 2008.
Remuneration for executives from 2008-2010 are as follows: Remuneration
2008
2009
2010
No. of Executives
Total Amounts Paid (Baht)
No. of Executives
Total Amounts Paid (Baht)
No. of Executives
Total Amounts Paid (Baht)
Monthly Salary and Bonus
8
16,516,677
8
18,111,400
9
20,480,930
Total
8
16,516,677
8
18,111,400
9
20,480,930
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
57
Good Corporate Governance / การกำ�กับดูแลกิจการ
Other Cash Remuneration
The Company is registered under the Provident Fund Act which requires provident fund contribution by both employee and employer. The employees have to pay 5% of the salary to the contribution and the Company has to pay another portion as stipulated by the fund regulation.
Control of Insider Information
During the past 3 years, there were no significant change in staff strength and there had been no labour dispute. The remuneration paid to the staff (excluding directors and executives) were: Types of Remuneration
The Company enforces strict rules on the possession and usage of confidential information, particularly financial information before disseminating to the public. The Company’s policies on insider information are as follow:
Monthly salary/ Bonus
1. Directors, executives, including their spouses and child(ren) below the legal age are not allowed to buy, sell, transfer or received the transferred securities of the Company before 30 days before public dissemination of the financial statements. In addition, buying, selling or transferring securities could be resumed at least 7 days after public dissemination (7 days starting from the date of dissemination).
Total
2. Directors and executives are required to provide reports of acquiring and exchanging of shares of the Company of themselves, their spouse and child(ren) under the legal age to conform to the notification of the Office of SEC no. SorChor. 14/2540 relating to the Preparation and Disclosure of Reports on Securities Holding and disciplinary measures prescribed on the Securities and Exchange Act B.E. 2535.
Welfare Expediture for staff
Staff Strength
There were a total of 70 executives and staff in 2010 broken down by departments as follow:
58
No. of staff 9
Business Development
17
Client Relations and Credit Risk Management
12
Operations
18
Finance and Accounts
3
Legal
1
IR, Secretariat and Compliance
1
Credit Review/Human Resources and Administration
9
Total
70
2010 (Baht)
22,917,194
22,567,047
24,588,659
6,187,359
4,867,430
9,011,504
29,104,553
27,437,477
33,600,163
The Company recognizes the importance of knowledge and competency development for its employee as it will bring about an increase of their competency and quality of service. Therefore, the Company consistently provides in-house and external trainings and seminars to all staff or individual to increase skills and knowledge on their jobs. The Company also rewards its employee appropriately to motivate and retain their services in the long run. In addition, the Company also supports activities to motivate and encourage bonding among staff.
Human Resources
Executives
2009 (Baht)
Policies in Developing Human Resouces
Any violation against the aforementioned regulations shall have to face disciplinary actions in the form of warning, salary reduction, suspension of duties, termination of employment, etc.
Types
2008 (Baht)
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Dividend Policy
นโยบายการจ่ายเงินปันผล
บริษัท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำ�ไรสุทธิภายหลัง การหั ก ภาษี เ งิ น ได้ นิ ติ บุ ค คลและการจั ด สรร ทุนสำ�รองตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บริษัท อาจกำ�หนดให้การจ่ายเงินปันผลมีอัตราน้อย กว่าอัตราที่กำ�หนดข้างต้นได้ โดยขึ้นอยู่กับผล การดำ�เนินงาน ฐานะการเงิน สภาพคล่องของ บริษัท และความจำ�เป็นในการขยายการดำ�เนิน งานของบริษัทและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนใน การบริหารกิจการ
The Company has a dividend policy of paying dividends at a rate of not less than 50 percent of the net profit available after payment of the Company’s corporate income tax and allocation of legal reserve. However, subject to the operating results, financial conditions and the Company’s working capital requirements, the dividend rate could be less than such rate.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
59
Related Party Transactions รายการระหว่างกัน
สรุปรายการระหว่างกันของบริษัท และบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือกับบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในปี 2551 2552 และ 2553 บริษัทมีรายการระหว่างกันกับบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งในปีบัญชี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 2552 และ 2553 ดังนี้
บุคคลที่อาจมี ความขัดแย้ง
ลักษณะความ สัมพันธ์
ลักษณะรายการ
จำ�นวนเงิน (บาท) ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553
ความเห็นกรรมการ ตรวจสอบ
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์) (IFS (Singapore))
1. IFS (Singapore) ถือ หุ้นในบริษัทร้อยละ 49 ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 และร้อยละ 36.49 ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2553
1. เงินกู้ยืม
ที่ผ่านมา บริษัทยังไม่ เคยใช้เงินกู้ใน ส่วนนี้
รายการดังกล่าวถือเป็น รายการที่เป็นประโยชน์ ต่อบริษัทโดยเป็นการเสริม สภาพคล่องในการดำ�เนิน งานของบริษัท
• เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2549 บริษัทได้ตอบรับ Letter of Offer กู้ยืมเงิน ระยะสั้นเพื่อใช้เป็นเงิน ทุนหมุนเวียนจาก IFS (Singapore) เป็นจำ�นวน 2. บริษัท ไอเอฟเอส 10 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์หรือ แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ เทียบเท่าในเงินสกุลบาทหรือ (ประเทศไทย) จำ�กัด ซึ่ง ดอลล่าร์สหรัฐ อัตราดอกเบี้ย เป็นบริษัทย่อยของ IFS จะถูกกำ�หนดขึ้น (Singapore) ถือหุ้นใน บริษัทร้อยละ 49.2 ณ • อัตราดอกเบี้ยจะถูก วันที่ 7 เมษายน 2552 กำ�หนดขึ้นในแต่ละครั้ง เมื่อ และร้อยละ 36.64 ณ มีการเบิกถอน โดยกำ�หนด วันที่ 30 ธันวาคม 2553 ที่อัตราต้นทุนของผู้ให้กู้ยืม บวกร้อยละ 1 กำ�หนดชำ�ระ 3. นายลี ซูน คี ดอกเบี้ยเป็นรายเดือนหรือ เป็นกรรมการบริหาร รายไตรมาส (Executive Director) และประธานเจ้าหน้าที่ • การชำ�ระคืนเงินต้นเมื่อ บริหารกลุ่ม IFS ทวงถามหรือภายใน 1 ปีภาย (Singapore) (Group CEO) หลังจากวันที่ออกเอกสาร และเป็นกรรมการของ Letter of Offer แล้วแต่วันใด บริษัท จะถึงก่อน 4. นางสาวลิม มุย หลิง เป็นประธานเจ้า หน้าที่ฝ่ายการเงินกลุ่ม IFS (Singapore) (Group CFO) และเป็นกรรมการ ของบริษัท
60
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
ที่ผ่านมา บริษัทยังไม่ เคยใช้เงินกู้ ในส่วนนี้
ที่ผ่านมา บริษัทยังไม่ เคยใช้เงินกู้ ในส่วนนี้
นอกจากนี้ เงินให้กู้ยืมดัง กล่าวเป็นเงินกู้ยืมที่ไม่มี หลักประกัน อัตราดอกเบี้ยกำ�หนดไว้ ชัดเจนและใกล้เคียงกับ อัตราดอกเบี้ยในตลาดซึ่ง เป็นที่ยอมรับได้ เหตุผลและความจำ�เป็น ที่ทำ�รายการดังกล่าว เพื่อใช้เป็นแหล่งเงิน ทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ใน ยามฉุกเฉินของบริษัท
Related Party Transactions / รายการระหว่างกัน
บุคคลที่อาจมี ความขัดแย้ง
ลักษณะความ สัมพันธ์
ลักษณะรายการ
จำ�นวนเงิน (บาท) ความเห็นกรรมการ ตรวจสอบ ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553
• สัญญาดังกล่าวมีกำ�หนด ระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่ ลงนามในสัญญาฉบับนี้ สัญญาเงินกู้ยืมดังกล่าวมี การต่ออายุสัญญาเรื่อยมา จนถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2554 อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่มี การเบิกใช้วงเงินนี้เลย เป็นรายการที่สมเหตุสม ผล และเป็นผลดีแก่บริษัท
2. อื่นๆ
1. IFS (Singapore) ตกลงรับ เป็นสปอนเซอร์ค่าของขวัญ ปีใหม่ให้แก่พนักงานของ IFS โดยให้ IFS จ่ายชำ�ระเงินล่วง หน้าไปก่อน ลูกหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 2. ค่าใช้จ่ายในการเรียกเก็บ ระหว่างกัน ค่าใช้จ่ายในการ เดินทางของกรรมการ
16,390
ลูกหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 3. ค่าใช้จ่ายในการเรียกเก็บ ระหว่างกัน ค่าวีซ่า และ การ ต่อวีซ่าของพนักงานบริษัทที่ เป็นชาวต่างชาติ
-
ลูกหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 4. ค่าใช้จ่ายในการเรียกเก็บ ระหว่างกัน ค่าใช้จ่ายในการ เดินทางของกรรมการและ ผู้ตรวจสอบภายใน
-
เจ้าหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
-
3. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการ เพิ่มทุน
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเพิ่ม ทุน ซึ่งดำ�เนินการโดย IFS (Singapore) จำ�นวน 0.9 ล้าน บาท
16,709
20,602
16,056
-
เป็นรายการที่สมเหตุสม ผล เป็นปกติของธุรกิจ และเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิด ขึ้นจริง เป็นรายการที่สมเหตุสม ผล เป็นปกติของธุรกิจ และเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิด ขึ้นจริง
-
59,570 เป็นรายการที่สมเหตุสม ผล เป็นปกติของธุรกิจ และเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิด ขึ้นจริง
10,026 -
- รายการดังกล่าวถือเป็น รายการปกติที่เกี่ยวกับ การเพิ่มทุน เป็นค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจริงและแสดง ยอดสุทธิจากส่วนเกิน มูลค่าหุ้น
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
61
Related Party Transactions / รายการระหว่างกัน
บุคคลที่อาจมี ความขัดแย้ง
ลักษณะความ สัมพันธ์
ลักษณะรายการ
2.บริษัท ไอเอฟ เอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด
1. IFS (Singapore) ซึ่ง เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท ถือหุ้นในบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด ร้อยละ 99.98 ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2552
1. เงินให้กู้ยืม
จำ�นวนเงิน (บาท) ความเห็นกรรมการ ตรวจสอบ ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553
2. นายลี ซูน คี เป็น กรรมการของบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล • อัตราดอกเบี้ยกำ�หนดที่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) อัตราต้นทุนของผู้ให้กู้ยืมบวก จำ�กัด และเป็นกรรมการ ร้อยละ 1 ของบริษัท • กำ�หนดชำ�ระคืนเงินต้น 3. นายตัน เล เยน เป็น และดอกเบี้ย ในวันที่ 30 กรรมการของบริษัท มีนาคม 2552 ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) • สัญญาดังกล่าวมีกำ�หนด จำ�กัด และเป็นกรรมการ ระยะเวลา 2 เดือนนับจากวัน และประธานเจ้าหน้าที่ ที่ลงนามในสัญญาฉบับนี้ บริหารของบริษัท - ยอดต้นงวด - ให้กู้ยืม (จ่ายคืน) - ยอดปลายงวด - ดอกเบี้ยรับ
62
1. IFS (Singapore) ควร ออกหนังสือค้ำ�ประกัน หรือหนังสือยินยอมชดใช้ ค่าเสียหายให้กับบริษัท เท่ากับวงเงินที่ให้กู้ยืม ซึ่ง เป็นเงื่อนไขที่ทัดเทียมกับ ธนาคาร
• เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 บริษัทได้ทำ� Letter of Offer ให้กู้ยืมเงินระยะสั้น แก่ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด เป็นจำ�นวน 280 ล้าน บาท โดย IFS (Singapore) ออกหนังสือค้ำ�ประกันให้กับ บริษัทเท่ากับวงเงินที่กู้ยืม
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
2. ภายหลังเงินให้กู้ยืม ดังกล่าว บริษัทยังมีวงเงิน สินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพียงพอในการดำ�เนิน ธุรกิจ 3. อัตราดอกเบี้ยกำ�หนด ไว้ชัดเจนและเป็น ธรรมเนียมปฏิบัติของ ตลาดในประเทศไทย สำ�หรับเงินให้กู้ยืมระหว่าง บริษัท - 280,000,000 - (280,000,000) - -
-
2,466,658
-
-
Related Party Transactions / รายการระหว่างกัน
ความจำ�เป็นและความสมเหตุสมผล
การทำ�รายการระหว่างกัน เป็นความจำ�เป็นและมีความสมเหตุสมผลของการทำ�รายการ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของบริษัทและถือว่าเป็นไปตามลักษณะ การประกอบธุรกิจทั่วไป และบริษัทได้จ่ายค่าตอบแทนในราคาที่ยุติธรรม ซึ่งเป็นราคาที่เสมือนทำ�กับบุคคลภายนอกสำ�หรับการทำ�รายการระหว่างกันที่มี ราคาตลาดหรือราคาที่ทำ�กับบุคคลภายนอกอ้างอิง
มาตรการและขั้นตอนการทำ�รายการระหว่างกัน
ในกรณีที่บริษัทมีการเข้าทำ�รายการระหว่างกันที่เป็นรายการทางการค้าปกติ กับกรรมการ ผู้บริหาร หรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง โดยมีข้อตกลงทางการค้า ในลักษณะเดียวกับที่วิญญูชนพึงกระทำ�กับคู่สัญญาทั่วไปในสถานการณ์เดียวกัน ด้วยอำ�นาจต่อรองทางการค้าที่ปราศจากอิทธิพลในการที่ตนจะมีสถานะ เป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องบริษัทจะดำ�เนินการเสนอต่อคณะกรรมการให้พิจารณาอนุมัติในหลักการเพื่อให้ฝ่ายบริหารสามารถ อนุมัติการทำ�ธุรกรรมดังกล่าวได้ ในกรณีที่บริษัทจะต้องเข้าทำ�รายการระหว่างกันกับบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งที่ไม่เป็นรายการทางการค้าปกติ บริษัทจะต้องนำ�เสนอต่อคณะกรรมการตรวจ สอบพิจารณาความเหมาะสมก่อนการเข้าทำ�รายการ และจะนำ�เสนอความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบต่อที่ประชุมคณะกรรมการ หรือที่ประชุมผู้ถือ หุ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจของคณะกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นตามแต่กรณีในการอนุมัติการเข้าทำ�รายการดังกล่าว ทั้งนี้ การพิจารณาอนุมัติการทำ�รายการ ระหว่างกันดังกล่าว ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อบังคับ ประกาศ คำ�สั่ง หรือข้อกำ�หนดของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งผู้ที่อาจมีความขัดแย้ง หรือมีส่วนได้เสียในการทำ�รายการระหว่างกันจะไม่มีสิทธิออกเสียงลงมติในการทำ�รายการ ระหว่างกันนั้น ๆ
นโยบายหรือแนวโน้มการทำ�รายการระหว่างกันในอนาคต
ในกรณีที่มีการทำ�รายการระหว่างกันในอนาคต บริษัทมีนโยบายที่จะดำ�เนินการให้เป็นไปตามลักษณะธุรกิจการค้าปกติของบริษัท และบริษัทจะปฏิบัติตาม กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อบังคับ ประกาศ คำ�สั่ง หรือข้อกำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่ เกี่ยวข้องกำ�หนด และบริษัทจะเปิดเผยรายการระหว่างกันไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน แบบแสดงรายการข้อมูลประจำ�ปี (แบบ 56-1) และรายงาน ประจำ�ปีของบริษัท (แบบ 56-2)
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
63
Related Party Transactions / รายการระหว่างกัน
Related Party and Connected Transactions Summary of related party and connected transactions for the year ended 31st December 2008, 2009 and 2010 were as follow:-
Persons with Relationship possible conflict of Interest
Transactions
Amount (Baht) 2008 2009 2010
IFS Capital Limited (“IFS (Singapore)”)
1. Loans
The Company did not drawdown the loan
1. IFS (Singapore) owned 49% of the shares as at 2nd February 2008 and 36.49% of shares as at 30th December 2010;
• On 8th May 2006, the Company signed the Letter of Offer with IFS (Singapore), for a short-term loan facility of SGD 10 million or equivalent in Thai Baht or 2. IFS Capital Holdings US Dollar; (Thailand) Ltd., the subsidiary of IFS • The interest rate will (Singapore), owned be charged upon each 49.2% of the shares as withdrawal based on cost at 7th April 2008 and of the fund plus 1% which 36.64% of shares as at will be paid on monthly or 30th December 2010; quarterly basis. 3. Mr. Lee Soon Kie is the Executive Director and the Group CEO of IFS (Singapore) Group, and the Company’s Director; 4. Ms. Lim Mui Ling is the Group CFO of IFS (Singapore) Group and the Company’s Director;
64
• The loan will be due within a year or when called upon, whichever is earlier. • The term of the loan was 1 year starting from the acceptance date in the contract; Although the loan was not drawn down, the Company had renewed the contract yearly. The contract is due to expire on 26th October 2011.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
The Company did not drawdown the loan
The Company did not drawdown the loan
Opinions of the Audit Committee The transaction was beneficial to the Company’s liquidity. It was an unsecured loan. The interest rate was clearly stipulated to be almost equivalent to the market’s interest rate, which was acceptable. The transaction was an additional working capital in case of emergency.
Related Party Transactions / รายการระหว่างกัน
Persons with Relationship possible conflict of Interest
Transactions
1. (Continued)
2. Others
Amount (Baht) 2008 2009 2010
Opinions of the Audit Committee The trasaction was reasonable and beneficial to the employees of the Company.
1. IFS (Singapore) had sponsored a gift for the Company’s New Year Party with advance payment by the Company The Company’s related debtors
16,390
16,709
16,056
2. Reimbursement of travelling expenditure to attend the meeting of the Board of Directors in Singapore. The Company’s related debtors
The transaction was reasonable, considered as a normal business and was based on actual reimbursement. -
20,602
3. Reimbursement of expenses for VISA and VISA renewal and work permit of the Company’s foreign employee. The Company’s related debtors
The transaction was reasonable, considered as a normal business and was based on actual reimbursement. -
-
59,570
4. Reimbursement of expenses for travelling expenditure of Directors and Internal Auditors. The Company’s related creditors
3. Capital Increase Expenditure The Company’s capital increase expenditure of Baht 0.9 million performed by IFS (Singpapore).
The transaction was reasonable, considered as a normal business and was based on actual reimbursement. -
10,026
The transaction was a normal practice for capital increase as the actual expenditure was net of the premium of the ordinary shares.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
65
Related Party Transactions / รายการระหว่างกัน
Persons with Relationship possible conflict of Interest
Transactions
2. IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd.
1. Loan
1. IFS (Singapore), the major shareholder of the Company owned 99.98% of shares in IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd. on 27th May 2009. 2. Mr. Lee Soon Kie was the Director of IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd., and the Director of the Company. 3. Mr. Tan Ley Yen was the Director of IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd., and the Director and CEO of the Company.
Amount (Baht) 2008 2009
Opinions of the 2010 Audit Committee 1. IFS (Singapore) should issue the letter of guarantee to the Company equivalent to the loan amount. The condition was the same as the bank;
th
• On 28 January 2009, the Company granted a short term loan to IFS Capital Holdings (Thailand) Ltd. totalling Baht 280 million. IFS (Singapore) issued the letter of guarantee for the same amount of the loan to the Company;
2. After the loan, the Company still had credit facilities with financial institutions and enough for its business operations.
• The interest rate was equivalent to the cost of fund plus 1%;
The transaction was considered a connected transaction, accounting for 9.82% of the Company’s total assets, and needed the approval of the Board of Directors.
• The due date of the principal repayment and interest payment was on 30th March 2009; • The contract had a period of 2 months effective from the acceptance date of the contract.
66
280,000,000 (280,000,000)
- Beginning Balance - Loan (Repaid) - Ending Balance
-
-
- Received Interest
-
2,466,658
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
-
3. The interest rate was at the Company’s cost of fund plus 100 basis points which was the market practice in Thailand for related party’s loan transaction.
Related Party Transactions / รายการระหว่างกัน
In necessity and the rationale of the transactions
The connected transactions were necessary and reasonable, and of benefits to the Company’s normal business operations, and were transacted at an arm’s length basis as if performed with external parties for the connected transactions of the market prices or the external parties’ reference prices.
Measures or procedures for approving the entry into connected transactions
If the Company planned to enter into a connected transaction, which was in the ordinary course of its business, with its director, executive officer or related person on a commercial agreement which a prudent person might enter into with another party under the similar circumstances and the Company maintained the power of negotiation independently from the other party’s influence in his/her capacity as the Company’s director, executive officer or related person, then the Company must propose the connected transaction for the Board’s consideration and approval in principle in order that the Management would be able to approve the entry into that connected transaction. If the Company planned to enter into a connected transaction, which was not in the ordinary course of its business, with a person with a possible conflict of interest, the connected transaction must be proposed for the Audit Committee’s examination of the reasonableness first. Consequently, the Audit Committee’s opinion on the connected transaction must be presented at the Board of Directors’ Meeting or the General Meeting of Shareholders to support the Board or the Shareholders in making a decision to approve the connected transaction. Each approval of the connected transaction must comply with the law on securities and exchange and any applicable regulations, notifications, orders and requirements of the SET. A person with a possible conflict of interest or the relevant interested person would not be entitled to vote on the entry into that transaction.
Future policy or direction regarding the entry into connected transactions
To enter into a connected transaction in the future, the Company had a policy to follow its common business practice and to comply with the law on securities and exchange and any applicable regulations, notifications, orders and requirements of the SET and other relevant agencies. The Company would disclose its connected transactions in the notes to the financial statements, the annual report form (Form 56-1) and the annual report (Form 56-2).
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
67
Management Discussion and Analysis
คำ�อธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำ�เนินงานและฐานะทางการเงิน
ภาพรวมผลการดำ�เนินงาน
ผลงานของบริษัทในปี 2553 ถือว่ามีการเจริญเติบโตดี และเป็นไปตามการ ขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจ บริษัทมียอดสินเชื่อแฟคเตอริ่งขยายตัวร้อยละ 24.0 จาก 13,697 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 16,979 ล้านบาทในปี 2553 ใน ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อลิสซิ่งมีการขยายตัวจำ�นวน 52.3 ล้านบาท ซึ่ ง ยั ง ไม่ ม ากนั ก อั น เนื่ อ งมาจากบริ ษั ท ได้ เริ่ ม ให้ บ ริ ก ารสิ น เชื่ อ เช่ า ซื้ อ และ สินเชื่อลิสซิ่งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 เป็นต้นมา
สรุปผลการดำ�เนินงานทางการเงิน รายได้
ปี 2553 บริษัทมีรายได้รวมจำ�นวน 247.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.1 จากปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากการซื้อ สิทธิเรียกร้องซึ่งประกอบด้วย รายได้จากการซื้อสิทธิเรียกร้องจำ�นวน 166.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.8 และรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการจากการซื้อสิทธิเรียกร้องจำ�นวน 58.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2 ล้าน บาท หรือร้อยละ 21.2 รายได้ทั้งสองส่วนรวมกันคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 90.6 ของรายได้รวม อย่างไรก็ตาม รายได้จากการให้เช่าซื้อและรายได้จากสัญญาเช่าทางการเงิน จำ�นวน 14.5 ล้านบาท ลดลง 9.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.6 จากปีก่อน อั น เนื่ อ งมาจากการหยุ ด ให้ บ ริ ก ารสิ น เชื่ อ เช่ า ซื้ อ และสิ น เชื่ อ ลิ ส ซิ่ ง ตั้ ง แต่ มกราคม 2552 ถึง สิงหาคม 2553 ทำ�ให้รายได้เกิดจากการให้บริการใน ธุรกรรมของลูกค้าที่ยังคงค้าง รายได้อื่นจำ�นวน 8.9 ล้านบาท ลดลง 2.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.9 จาก ปีก่อน อันเนื่องมาจากในปี 2552 บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมระหว่าง บริษัท และรายได้ค่าเช่าอาคารสำ�นักงาน สำ�หรับรายได้อื่นประกอบด้วยค่า ธรรมเนียมในการเปิด/เพิ่มวงเงินสินเชื่อแฟคเตอริ่ง ค่าบริการการจัดเก็บเงิน เบี้ยปรับและดอกเบี้ยสำ�หรับลูกหนี้ที่ค้างชำ�ระเกินกำ�หนด ดอกเบี้ยรับจาก LC/TR และค่านายหน้าประกันภัย เป็นต้น
ค่าใช้จ่าย
1. ค่ า ใช้ จ่ า ยพนั ก งานที่ เ พิ่ ม ขึ้ น มาจากการปรั บ เงิ น เดื อ นประจำ � ปี สวัสดิการอื่นๆ และ ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ของพนักงานสำ�หรับเงิน ชดเชยการเลิกจ้างและผลตอบแทนการทำ�งานกับบริษัทเป็นเวลานาน ซึง่ เป็นผลกระทบจากการนำ�มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19 “ผลประโยชน์ ของพนักงาน” ที่บริษัทถือปฏิบัติก่อนวันบังคับใช้ 2. ค่ า เสื่ อ มราคาและค่ า ตั ด จำ � หน่ า ยที่ เพิ่ ม ขึ้ น เกิ ด จากการปรั บ ปรุ ง ตกแต่งอาคารสำ�นักงาน 3. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้น
• ค่าตอบแทนผู้บริหารจำ�นวนเงิน 23.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.9 อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของผู้บริหารและการปรับเงิน เดือนประจำ�ปี • ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำ�นวนเงิน 7.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาท อัน เนื่องมาจากการตั้งสำ�รองเพิ่มขึ้น โดยอัตราส่วนสำ�รองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้ เกิดรายได้เท่ากับร้อยละ 108 ณ สิ้นปี 2553
ต้นทุนทางการเงิน
ต้นทุนทางการเงินถือเป็นต้นทุนหลักของบริษัทซึ่งเป็นลักษณะของธุรกิจการ ให้สินเชื่อ ในปี 2553 บริษัทมีต้นทุนทางการเงินจำ�นวน 40.2 ล้านบาท ลดลง 7.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.5 จากปีก่อน อันเนื่องมาจากการมีต้นทุน ทางการเงินลดลง และมีชำ�ระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากเงินที่ได้รับจากการ ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเมื่อเดือนสิงหาคม 2553
กำ�ไรสุทธิ
สำ�หรับปี 2553 บริษัทมีกำ�ไรสุทธิก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี จำ�นวน 80.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.9 จากปีก่อน และ จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีในปี 2553 เกี่ยวกับภาษีเงินได้และ ผลประโยชน์ของพนักงาน ทำ�ให้มีการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ของ พนักงานจำ�นวน 2.8 ล้านบาท และการลดลงของภาษีเงินได้จำ�นวน 7.1 ล้าน บาท ทำ�ให้บริษัทมีกำ�ไรสุทธิหลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีจำ�นวน 84.8 ล้านบาท
สำ�หรับปี 2553 บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมจำ�นวน 94.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.1 จากปีที่ผ่านมา รายละเอียดดังนี้ ทั้งนี้ จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีดังกล่าวบริษัทได้ปรับปรุงงบกำ�ไร • ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำ�นวน 64.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4 ล้าน ขาดทุนย้อนหลังสำ�หรับปี 2552 จากกำ�ไรสุทธิ 71.3 ล้านบาทเป็นกำ�ไรสุทธิ บาทหรือร้อยละ 15.0 จากปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจาก 76.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเนื่องจากการลดลงของภาษีเงินได้
68
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Discussion and Analysis / คำ�อธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำ�เนินงานและฐานะทางการเงิน
หน่วย: พันบาท
รายได้และค่าใช้จ่าย
ปี 2553
ปี 2552 “ปรับปรุง ใหม่”
รายได้รวม
247,868 166,268 14,519 58,222 8,859
231,365 148,752 23,651 48,038 10,924
16,503 17,516 (9,132) 10,184 (2,065)
7.13 11.78 (38.61) 21.20 (18.90)
94,615 64,154 23,454 7,007
76,867 55,769 21,153 (55)
17,748 8,385 2,301 7,062
23.09 15.04 10.88 12,840.00
153,253 40,211 28,239
154,498 47,569 30,750
(1,245) (7,358) (2,511)
(0.81) (15.47) (8.17)
84,803
76,179
8,624
11.32
รายได้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง รายได้จากการให้เช่าซื้อและจากสัญญาเช่าทางการเงิน รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการจากการซื้อสิทธิเรียกร้อง รายได้อื่น
ค่าใช้จ่ายรวม
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ค่าตอบแทนผู้บริหาร ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (กลับรายการ)
กำ�ไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ ดอกเบี้ยจ่าย ภาษีนิติบุคคล
กำ�ไรสุทธิ
เปลี่ยนแปลง จำ�นวน ร้อยละ
ฐานะทางการเงิน สินทรัพย์รวม
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัทมีสินทรัพย์รวมจำ�นวน 2,098.8 ล้านบาท เปรียบเทียบกับวันเดียวกันของปี 2552 สินทรัพย์รวมลดลง 24.1 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1.1 สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อและลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาวจำ�นวน 48.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.3 การลด ลงของลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้องจำ�นวน 38.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.2 ในขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำ�นวน 43.1 ล้าน บาท หรือร้อยละ 58.3 การเพิ่มขึ้นของเงินให้กู้ยืมค่าซื้อสินค้าจำ�นวน 11.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 626.0 และจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัด บัญชีจำ�นวน 11.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.8
หนี้สินรวม
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัทมีหนี้สินรวมจำ�นวน 1,299.3 ล้านบาท ลดลง 220.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.5 จากวันที่ 31 ธันวาคม 2552 สาเหตุหลัก เกิดจากการลดลงของเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจำ�นวน 235.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.9 และการเพิ่มขึ้นของประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน จำ�นวน 15. ล้านบาท หรือร้อยละ100
ส่วนของผู้ถือหุ้น
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำ�นวน 799.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 195.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.5 จากวันที่ 31 ธันวาคม 2552 สาเหตุหลักเกิด จากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนในเดือนสิงหาคม 2553 จำ�นวน 120 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.35 บาท ทำ�ให้มีเงินทุนเพิ่มขึ้น จำ�นวน 120 ล้าน บาท และส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญที่เพิ่มขึ้นสุทธิด้วยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนจำ�นวน 31.7 ล้านบาท และจากกำ�ไรสุทธิปี 2553 ที่เพิ่มขึ้นสุทธิด้วย เงินปันผลจ่ายจำ�นวน 53.3 ล้านบาท นอกจากนี้ จากการที่บริษัทได้นำ�มาตราฐานการบัญชีฉบับที่ 19 เรื่อง “ผลประโยชน์ของพนักงาน” มาถือปฏิบัติก่อน วันบังคับใช้ โดยบริษัทเลือกวิธีการและได้ปรับปรุงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าวกับกำ�ไรสะสมต้นงวดของปี 2553 ลดลง จำ�นวน 9.0 ล้านบาท และจากการที่บริษัทได้นำ�มาตราฐานการบัญชีฉบับที่ 12 เรื่อง “ภาษีเงินได้” มาถือปฏิบัติก่อนวันบังคับใช้ในปี 2553 โดยบริษัทได้ ปรับปรุงผลกระทบของภาษีเงินได้ย้อนหลังในงบการเงินสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 เพิ่มขึ้นจำ�นวน 33.7 ล้านบาท ที่นำ�มาแสดงเปรียบเทียบเพื่อ ให้สอดคล้องกับนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับภาษีเงินได้ในงวดปัจจุบัน
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
69
Management Discussion and Analysis / คำ�อธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำ�เนินงานและฐานะทางการเงิน
หน่วย: พันบาท
สินทรัพย์และหนี้สิน
ปี 2553
ปี 2552 “ปรับปรุง ใหม่”
สินทรัพย์รวม
2,098,765 116,979 83 1,736,252 143,481 12,909 76 3,345 140 38,867 963 44,738 932
2,122,869 73,896 1047 1,775,028 192,151 1,778 37 8,578 138 33,685 1771 33,697 1063
(24,104) 43,083 (964) (38,776) (48,670) 11,131 39 (5,233) 2 5,182 (45.62) 11,041 (131)
(1.14) 58.30 (92.07) (2.18) (25.33) 626.04 105.41 61 1.45 15.38 (2.58) 32.77 (12.32)
หนี้สินรวม
1,299,333 1,020,000 100,000 38,764 125,000 15,569
1,519,360 1,480,000 10 38,998 352 -
(220,027) (460,000) 100,000 (10) (234) (352) 125,000 15,569
(14.48) (31.08) (100) (0.60) (100) -
799,432 470,000 31,746 (38) 17,984 279,740
603,509 350,000 97 14,384 239,028
195,923 120,000 31,746 (135) 3,600 40,712
32.46 34.29 (140.11) 25.03 17.03
2,098,765
2,122,869
(24,104)
(1.14)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เงินลงทุนชั่วคราว ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง – สุทธิ ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อและลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาว – สุทธิ เงินให้กู้ยืมค่าซื้อสินค้า – สุทธิ ลูกหนื้อื่น – บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น เงินฝากธนาคารที่ใช้เป็นหลักประกัน ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ – สุทธิ สินทรัพย์ไม่มีตัวตน – สุทธิ สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน เงินกู้ยืมระยะยาวที่ครบกำ�หนดชำ�ระในหนึ่งปี เจ้าหนี้อื่น – บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หนี้สินหมุนเวียนอื่น เงินมัดจำ�ค่าเช่า เงินกู้ยืมระยะยาว ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน
ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม
หุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำ�ระแล้ว ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญ กำ�ไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน กำ�ไรสะสม - สำ�รองตามกฎหมาย กำ�ไรสะสม - ยังไม่ได้จัดสรร
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
70
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
เปลี่ยนแปลง จำ�นวน ร้อยละ
Management Discussion and Analysis / คำ�อธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำ�เนินงานและฐานะทางการเงิน
Overall Performance
The factoring business of the Company expanded strongly in 2010 with a growth of 24% from Baht 13,697 million in 2009 to Baht 16,979 million in 2010. This is in line with the strong recovery of the Thai economy. However, the Company’s leasing and hire purchase business expanded by only Baht 52.3 million as the Company had just recommenced this business following its IPO in August 2010. Overall, the performance of the Company was good.
Operating Results Revenue
In 2010, the Company’s total revenue was Baht 247.9 million, an increase of Baht 16.5 million or 7.1% from the previous year. This was due mainly to the increase in factoring volume, which led to the increase in factoring income to Baht 166.3 million, an increase of Baht 17.5 million or 11.8%; and an increase in factoring commission and service fees to Baht 58.2 million, an increase of Baht 10.2 million or 21.2%. These made up 90.6% of the total revenue. However, income from leasing and hire purchase decreased to Baht 14.5 million, a decrease of Baht 9.1 million or 38.6% since the Company recommenced this business only in August 2010. Other income amounted to Baht 8.9 million, a decrease of 2.1 million or 18.9% from 2009. This was due to the absence of interest income from the loan to its major shareholder, and office rental income. Other income included commitment fees paid on acceptance of credit facilities, collection fees, contractual penalties and interest on overdue settlements, interest received from LC/TR and insurance commission, etc.
•
Allowance for doubtful accounts was Baht 7.0 million, an increase of Baht 7.1 million, due to specific and collective allowance for doubtful accounts. The ratio of the allowance for doubtful accounts against non-performing loan was 108% as of 31st December 2010.
Finance Cost
Finance cost was a major expense of the Company due to the nature of the lending business. In 2010, finance cost was Baht 40.2 million, a decrease of Baht 7.4 million or 15.5% from 2009, due mainly to the lower cost of borrowing as compared to 2009, and the funds raised from the Company’s initial public offering in August 2010.
Net Profit
For the year 2010, the Company’s net profit before the changes in accounting policies was Baht 80.5 million, an increase of Baht 9.2 million or 12.9%. Following the changes in accounting policies on “Income Tax” and “Employee Benefits”, (employee benefit expense increased by Baht 2.8 million while tax expense reduced by Baht 7.1 million due to deferred tax credit) the net profit in 2010 increased to Baht 84.8 million. The effect of changes of accounting policies was retrospectively adjusted to the net profit of financial year 2009. The offset resulted in an increase in net profit from Baht 71.3 million to Baht 76.2 million, with deferred tax credit a major contributing factor.
Expenses
In 2010, the Company’s total expenses were Baht 94.6 million, an increase of Baht 17.8 million or 23.1% from 2009. Details of the increase can be summarized as follow:• Selling and administrative expenses were Baht 64.2 million, an increase of Baht 8.4 million or 15.0% as a result of: 1. Increase in staff expenses due to annual salary adjustment, other welfare and benefits, and provision for employee benefits relating to severance pay & long service awards as a result of the early adoption of Thai Accounting Standards No. 19 “Employee Benefits”. 2. Increase in depreciation and amortization expenses due to office renovation. 3. Increase in specific business tax in line with higher revenue. • Management benefit expenses were Baht 23.5 million, an increase of Baht 2.3 million or 10.9%. This was mainly due to annual salary adjustment of executives.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
71
Management Discussion and Analysis / คำ�อธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำ�เนินงานและฐานะทางการเงิน
In thousand Baht
Revenues and Expenses
2010
2009 “Restated”
Change Amount
%
Revenues
247,868 166,268 14,519 58,222 8,859
231,365 148,752 23,651 48,038 10,924
16,503 17,516 (9,132) 10,184 (2,065)
7.13 11.78 (38.61) 21.20 (18.90)
Expenses
94,615 64,154 23,454 7,007
76,867 55,769 21,153 (55)
17,748 8,385 2,301 7,062
23.09 15.04 10.88 12,840.00
153,253 40,211 28,239
154,498 47,569 30,750
(1,245) (7,358) (2,511)
(0.81) (15.47) (8.17)
84,803
76,179
8,624
11.32
Factoring income Hire purchase and finance lease income Factoring commission and service fees Other income Selling and administrative expenses Management benefit expenses Allowance (Reversal) for doubtful accounts
Profit before Finance Cost and Income Tax Expenses Finance cost Income tax expenses
Net Profit
Financial Status Total Assets
As at 31st December 2010, the Company’s total assets were Baht 2,098.8 million, a decrease of Baht 24.1 million or 1.1% from prior year. The main reasons for the decrease were a decrease in hire purchase and lease contract receivables of Baht 48.7 million or 25.3%, and a decrease in factoring receivables of Baht 38.8 million or 2.2%. The decrease in accounts receivable was partially offset by (1) an increase in cash and cash equivalents of Baht 43.1 million or 58.3%; (2) an increase in inventory finance receivables of Baht 11.1 million or 626%; and (3) an increase in deferred tax assets of Baht 11 million or 32.8%.
Total Liabilities
The Company’s total liabilities as at 31st December 2010 was Baht 1,299.3 million, a decrease of Baht 220 million or 14.5% from prior year. This was due mainly to the decrease in borrowings from financial institutions of Baht 235 million or 15.9%, partially offset by the increase in provision for employee benefits of Baht 15 million or 100%.
Shareholders’ Equity
Shareholders’ equity as at 31st December 2010 was Baht 799.4 million, an increase of Baht 195.9 million or 32.5%. The main reason for the increase was the initial public offering of 120 million shares at Baht 1.35 per share. This resulted in an increase of paid-up capital by Baht 120 million and net share premium by Baht 31.7 million. Net profit after dividend payment was Baht 53.3 million. Also, the Company had adopted in advance Thai Accounting Standard No. 19 “Employee Benefits”, resulting in a decrease of retained earnings by Baht 9 million. As the Company had adopted in advance Thai Accounting Standard No. 12 “Income Tax” in 2010, resulting in an increase of retained earnings by Baht 33.7 million for the year ended 31st December 2009. The adjustments were necessary for comparison purposes to reflect the effects of deferred tax as if the accounting policy has always been in place.
72
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Management Discussion and Analysis / คำ�อธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำ�เนินงานและฐานะทางการเงิน
In thousand Baht
Assets, Liabilities and Shareholders’ Equity
2010
2009 “Restated”
Change Amount
%
Assets
2,098,765 116,979 83 1,736,252 143,481 12,909 76 3,345 140 38,867 963 44,738 932
2,122,869 73,896 1047 1,775,028 192,151 1,778 37 8,578 138 33,685 1771 33,697 1063
(24,104) 43,083 (964) (38,776) (48,670) 11,131 39 (5,233) 2 5,182 (45.62) 11,041 (131)
(1.14) 58.30 (92.07) (2.18) (25.33) 626.04 105.41 61 1.45 15.38 (2.58) 32.77 (12.32)
Liabilities
1,299,333 1,020,000 100,000 38,764 125,000 15,569
1,519,360 1,480,000 10 38,998 352 -
(220,027) (460,000) 100,000 (10) (234) (352) 125,000 15,569
(14.48) (31.08) (100) (0.60) (100) -
Issued and paid-up share capital Premium on ordinary shares Unrealized gain (loss) on investments revaluation Retained earnings – Legal reserve Retained earnings – Unappropriated
799,432 470,000 31,746 (38) 17,984 279,740
603,509 350,000 97 14,384 239,028
195,923 120,000 31,746 (135) 3,600 40,712
32.46 34.29 (140.11) 25.03 17.03
Total Liabilities and Shareholders’ Equity
2,098,765
2,122,869
(24,104)
(1.14)
Cash and cash equivalents Current investments Factoring receivable, net Hire purchase and lease contract receivable, net Inventory finance receivable, net Amounts due from a related company Other current assets Bank deposits held as collateral Property, plant and equipment, net Intangible assets, net Deferred tax assets Other non-current assets Short-term loans from financial institutions Current portion of long-term loan Amount due to a related company Other current liabilities Rental deposit Long-term loan Provision for employee benefits
Shareholders’ Equity
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
73
Social Responsibility ความรับผิดชอบต่อสังคม
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) ได้ตระหนัก ถึงการดำ�เนินธุรกิจที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อนำ�ไปสู่การมีสังคมที่ดีและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข บริษัทจึงให้ความ สำ�คัญในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน เกื้อกูลต่อสังคม ทั้งใน ด้านการทำ�บุญ ทำ�กุศล การบริจาค หรือการพัฒนาสังคมในรูปแบบต่างๆ เพื่อทำ�ให้ผู้ด้อยโอกาสและสังคมส่วนรวมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เข้มแข็ง และยั่งยืน IFS Capital (Thailand) Public Company Limited is aware of the importance of its responsibility to society, community, and its business environment. The Company engages in various activities to help enhance the lives of the underpriviledged and society as a whole.
74
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Social Responsibility / ความรับผิดชอบต่อสังคม
บริษัทได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมขึ้นทุกปี และในปี 2553 คณะทำ�งานของ บริษัทเชื่อว่าเยาวชนที่ดีเป็นรากฐานสำ�คัญในการพัฒนาสังคมในอนาคต โดยบริษัท ได้จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน บริจาคหนังสือ เครื่องอุปโภค และบริโภคให้กับสถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ดในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือให้กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ ประเทศเฮติ ร่วมสมทบทุนเพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคและบริโภคให้กับผู้ได้รับ ความเสียหายในบริเวณย่านชุมชนบ่อนไก่จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 และบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้ำ�ท่วมอย่างรุนแรงเมื่อเดือน ตุลาคม 2553 เป็นต้น In the year 2010, for example, the Company organized a visit to the Pakkred Home for Boys in November, and treated the boys to a sumptuous lunch in addition to the donations of books, foodstuffs and a variety of consumer goods. The Company also donated to the victims of the Haiti’s earthquake, the Bonkai Community, which was affected by the political crisis in April/May 2010, and the flood victims in October 2010.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
75
Report of the Board of Directors’ Responsibilities for the Financial Statements รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงิน
คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบต่องบการเงินเของบริษัท รวมถึงข้อมูลสารสนเทศทางการเงินที่ปรากฏในรายงานประจำ�ปี ซึ่งงบการเงินสำ�หรับปีสิ้น สุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 จัดทำ�ขึ้นตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไปในประเทศไทย โดยเลือกใช้นโยบายการบัญชีที่เหมาะสมและถือปฏิบัติอย่าง สม่ำ�เสมอ ใช้ดุลยพินิจอย่างระมัดระวัง และประมาณการที่สมเหตุสมผลในการจัดทำ� รวมทั้งมีการเปิดเผยข้อมูลสำ�คัญอย่างเพียงพอในหมายเหตุประกอบ งบการเงิน คณะกรรมการบริษัท ได้จัดให้มีและดำ�รงไว้ซึ่งระบบการควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน การบริหารความเสี่ยง และการกำ�กับดูแลที่เหมาะสมและมี ประสิทธิผล เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลทางบัญชีมีความถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอที่จะดำ�รงรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินของบริษัทและป้องกันความเสี่ยง ตลอดจน เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตหรือการดำ�เนินการที่ผิดปกติอย่างมีนัยสำ�คัญ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการที่เป็นอิสระ ทั้งหมดเป็นผู้กำ�กับดูแลเกี่ยวกับคุณภาพของรายงานทางการเงิน การสอบทานนโยบายการบัญชี การสอบทานระบบการควบคุมภายใน การตรวจสอบ ภายใน และการบริหารความเสี่ยง ตลอดจนพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลรายการเกี่ยวโยงระหว่างกันอย่างครบถ้วน เพียงพอ และเหมาะสม โดยความเห็นของ คณะกรรมการตรวจสอบปรากฏอยู่ในรายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งแสดงไว้ในรายงานประจำ�ปีแล้ว คณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่า ระบบการควบคุมภายในโดยรวมของบริษัทมีความเพียงพอและเหมาะสม และสามารถสร้างความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผล ได้ว่างบการเงินของบริษัท สำ�หรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 แสดงฐานะการเงิน ผลการดำ�เนินงาน และกระแสเงินสดถูกต้องในสาระสำ�คัญแล้ว และได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจากบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำ�กัด ซึ่งให้ความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไขในรายงานผู้ สอบบัญชีซึ่งได้แสดงไว้ในรายงานประจำ�ปีแล้วเช่นกัน
นายลี ซูน คี นายตัน เล เยน ประธานกรรมการบริษัท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
76
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Report of the Board of Director’s Responsibilities for the Financial Statements / รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงิน
The Company’s Board of Directors is responsible for the financial statements of the Company as well as financial information presented in the annual report. The Company’s financial statements for the year ended 31st December 2010 have been prepared in accordance with Thailand’s Generally Accepted Accounting Principles (GAAP). In preparing the financial statements, appropriate accounting policies have been adopted and regularly adhered to, using careful discretion and reasonable estimates. As well, key information has been adequately disclosed in the notes to the financial statements. The Board of Directors has also put in place and maintained internal control systems, internal audit systems, risk management systems as well as appropriate and efficient corporate governance. The purpose is to ensure that the accounting information is accurate, complete and adequate, and that not only the Company’s assets and risk protection are properly maintained but also fraud and significant irregular actions are prevented. In this connection, the Board of Directors has appointed the Audit Committee with all of its members being independent directors. The Committee is responsible for ensuring the quality of financial reports, reviewing accounting policies, reviewing internal control systems, the internal audit systems and the risk management systems. As well, it is responsible for ensuring that the disclosure of information about related party transactions is complete, adequate and appropriate. The opinion of the Audit Committee is given in its report which is already included in this Annual Report. The Board of Directors is of the opinion that the overall internal control systems of the Company are adequate and appropriate and gives rise to the reasonable confidence that the Company’s financial statements of the year ended 31st December 2010 reflect rightly the Company’s financial status, performance and cash flows in an adequate and essential manner and have been audited by the certified auditors from Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos Co., Ltd. who provided unqualified opinon as stated in the Auditors’ Report which has been included in this Annual Report.
Mr. Lee Soon Kie Mr. Tan Ley Yen Chairman of the Board Chief Executive Officer
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
77
Report of the Audit Committee รายงานคณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจสอบบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) ประกอบด้วยกรรมการอิสระจำ�นวน 3 ท่าน โดยมีวาระการดำ�รง ตำ�แหน่ง 2 ปี ประกอบด้วย 1. ดร. ธรรมนูญ อานันโทไทย ประธานกรรมการตรวจสอบ 2. นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล กรรมการตรวจสอบ 3. นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติงานภายใต้ขอบเขต หน้าที่ และความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำ�หนด ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในรอบปี 2553 คณะกรรมการตรวจสอบได้มีการประชุมร่วมกันจำ�นวน 4 ครั้ง โดยกรรมการตรวจสอบทุกท่านเข้า ร่วมประชุมครบถ้วนทุกครั้ง ซึ่งสรุปสาระสำ�คัญได้ดังนี้ • สอบทานงบการเงินรายไตรมาส และงบการเงินประจำ�ปี 2553 ร่วมกับผู้สอบบัญชี และผู้บริหาร เพื่อให้มั่นใจว่างบการเงินมีความถูกต้องตามที่ควรใน สาระสำ�คัญตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป และมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอ ครบถ้วน และเป็นที่เชื่อถือได้ • สอบทานข้อมูลการดำ�เนินงานและระบบการควบคุมภายในเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีระบบการควบคุมภายในที่เหมาะสมและเพียงพอโดยพิจารณาจาก รายงานการตรวจสอบภายในของผู้ตรวจสอบภายในจากบริษัท เอ เอ็ม ซี อินเตอร์เนชั่นแนล คอนซัลติ้ง จำ�กัด และจากบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำ�กัด (สิงคโปร์) ทั้งนี้ไม่พบจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องที่เป็นสาระสำ�คัญ • สอบทานร่วมกับผู้บริหารเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทได้ปฏิบัติตามกฏหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ข้อกำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย หรือกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัท • พิจารณาคัดเลือก เสนอแต่งตั้ง และเสนอค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อนำ�เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น • สอบทานการทำ�รายการระหว่างกัน รวมทั้งรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อ กำ�หนดของตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่ารายการดังกล่าวสมเหตุสมผลและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท • ให้ความเห็นต่อคณะกรรมการบริษัท ในประเด็นสำ�คัญที่คณะกรรมการบริษัทต้องการให้คณะกรรมการตรวจสอบแสดงความเห็น คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบอย่างเป็นอิสระและแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา คณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่ารายงาน ทางการเงินของบริษทั มีการจัดทำ�ตามมาตรฐานการบัญชีทรี่ บั รองทัว่ ไปมีการกำ�กับดูแลกิจการทีด่ ีมีการบริหารความเสีย่ งและระบบการควบคุมภายในทีม่ ปี ระสิทธิผล และเหมาะสมเพียงพอ รวมทั้งมีการกำ�กับดูแลการปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามกฏหมายหรือกฏเกณฑ์ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการ ดำ�เนินธุรกิจปัจจุบัน
ดร. ธรรมนูญ อานันโทไทย ประธานกรรมการตรวจสอบ
78
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Report of the Audit Committee / รายงานคณะกรรมการตรวจสอบ
The Audit Committee of IFS Capital (Thailand) PCL. consists of 3 Independent Directors who are servicing on a two-year term, namely: 1. Dr. Thamnoon Ananthothai Chairman of the Audit Committee 2. Mr. Suvait Theeravachirakul Member 3. Mr. Niwat Kanjanaphoomin Member The Audit Committee performs their duties under the scope, duties, and responsibility assigned by the Board of Directors which are in accordance with the Notification of the Stock Excange of Thailand. In 2010, the Audit Committee had conducted 4 meetings which were attended by every Director. The important details can be summarized as follow: • Review of the quarterly financial statements and the 2010 annual financial statements that were mutually agreed between the Auditors and the Management to ensure the accuracy and compliance of the general accepted accounting standards, and to provide sufficient, complete and credible disclosure. • Examination of the internal control system was performed to ensure that the Company has appropriate and effective internal controls in accordance with the report of the Internal Auditors from AMC International Consulting Co., Ltd. and IFS Capital Limited (Singapore). There were no significant weaknesses or flaws found. • Mutual examination with the Management to ensure the Company’s compliance with the requirements and rules of the Office of the Securities and Exchange Commission, The Stock Exchange of Thailand and the relevant laws governing the Company’s business operations. • Consideration, nomination and proposal of remuneration of the external auditors to the Board of Directors were reviewed and proposed to the shareholders’ meeting for approval. • Reviews of related party transactions or conflict of interests transactions were performed in accordance with the laws and the notification of The Stock Exchange of Thailand to ensure that the transactions were reasonable and provided the utmost benefits to the Company. • Providing opinions on important matters to the Board of Directors which required further opinions from the Audit Committee. The Audit Committee had performed their duties with independence and provided their opinions truthfully. The Committee opined that the Company’s financial statements complied with the general accepted accounting standards, had good corporate governance and effective and adequate risk and internal control system. Its operations was accurate and appropriate, pursuant to laws and regulations, which was in accordance with the present business environment.
Dr. Thamnoon Ananthothai Chairman of the Audit Committee
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
79
Audit Report of Certified Public Accountant รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
เสนอผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 งบกำ�ไรขาดทุน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น และงบกระแสเงินสด สำ�หรับปีสิ้นสุด วันเดียวกันของบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูล ในงบการเงินเหล่านี้ ส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบในการแสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าวจากผลการตรวจสอบของข้าพเจ้า งบการเงินของบริษัทสำ�หรับ ปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่นในสำ�นักงานเดียวกัน ซึ่งแสดงความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไข ตามรายงานการตรวจสอบลงวันที่ 29 มกราคม 2553 โดยมีวรรคอธิบายซึ่งสรุปได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่บริษัทได้หยุดการขยายธุรกิจสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาว และการปรับ โครงสร้างการถือหุน้ เป็นคนต่างด้าวทำ�ให้บริษทั มีสภาพเป็นคนต่างด้าว โดยบริษทั ได้รบั ใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวให้ประกอบธุรกิจบัญชีสาม (21) ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งกำ�หนดให้ข้าพเจ้าต้องวางแผนและปฏิบัติงานเพื่อให้ได้ความเชื่อมั่นอย่างมี เหตุผลว่า งบการเงินแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำ�คัญหรือไม่ การตรวจสอบรวมถึงการใช้วิธีการทดสอบหลักฐานประกอบรายการ ทั้งที่เป็น จำ�นวนเงินและการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน การประเมินความเหมาะสมของหลักการบัญชี ที่กิจการใช้และประมาณการเกี่ยวกับรายการทางการเงินที่เป็น สาระสำ�คัญ ซึ่งผู้บริหารเป็นผู้จัดทำ�ขึ้นตลอดจนการประเมินถึงความเหมาะสมของการแสดงรายการที่นำ�เสนอในงบการเงินโดยรวม ข้าพเจ้าเชื่อว่าการตรวจ สอบดังกล่าวให้ข้อสรุปที่เป็นเกณฑ์อย่างเหมาะสมในการแสดงความเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นว่า งบการเงินข้างต้นนี้แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ผลการดำ�เนินงาน และกระแสเงินสดสำ�หรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน ของบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำ�คัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป โดยทีม่ ใิ ช่เป็นการแสดงความเห็นอย่างมีเงือ่ นไข ตามทีก่ ล่าวในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 3 บริษทั ได้น�ำ มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19 เรือ่ ง “ผลประโยชน์ ของพนักงาน” และฉบับที่ 12 เรื่อง “ภาษีเงินได้” มาถือปฏิบัติก่อนวันบังคับใช้โดยได้บริษัทปรับปรุงผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี สำ�หรับผลประโยชน์พนักงานในกำ�ไรสะสมต้นงวดของปี 2553 และปรับปรุงผลกระทบของภาษีเงินได้ในงบการเงินสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ที่ นำ�มาแสดงเปรียบเทียบเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับภาษีเงินได้ของงวดปัจจุบัน
ชวาลา เทียนประเสริฐกิจ กรุงเทพมหานคร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขทะเบียน 4301 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำ�กัด
80
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Audit Report of Certified Public Accountant / รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
TO THE SHAREHOLDERS AND THE BOARD OF DIRECTORS IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED We have audited the accompanying balance sheets of IFS Capital (Thailand) Public Company Limited as at December 31, 2010, and the related statements of income, changes in shareholders’ equity and cash flows for the year then ended. These financial statements are the responsibility of the Company’s management as to their correctness and completeness of the presentation. Our responsibility is to express an opinion on these financial statements based on our audits. The financial statements for the year ended December 31, 2009 were audited by another auditor of the same firm, whose report thereon dated January 29, 2010, expressed an unqualified opinion on those statements with emphasis paragraphs which can be summarized as the Company ceased the expansion of the hire purchase and leasing business and changed its shareholding structure to be a foreign company leading to change the Company’s status to be foreign company and the Company has obtained the foreign business license to do the business in category 3 (21) service business. We conducted our audit in accordance with generally accepted auditing standards. Those standards require that we plan and perform the audit to obtain reasonable assurance as to whether the financial statements are free of material misstatement. An audit includes examining, on a test basis, evidence supporting the amounts and disclosures in the financial statements. An audit also includes assessing the accounting principles used and significant estimates made by management, as well as evaluating the overall financial statement presentation. We believe that our audit provide a reasonable basis for our opinion. In our opinion, the aforementioned financial statements present fairly, in all material respects, the financial position of IFS Capital (Thailand) Public Company Limited as at December 31, 2010, and the results of its operations and its cash flows for the year then ended, in conformity with generally accepted accounting principles. Without qualifying our opinion, as described in Note 3 to the financial statements, the Company has early adopted Thai Accounting Standards (TASs) No. 19 “Employee Benefits” and No. 12 “Income Taxes”. The effect in change of accounting policy for “Employee Benefits” has been retrospectively adjusted the beginning balance of retained earnings for the year 2010. In addition, the Company has retrospectively restated the comparative financial statements for the year ended December 31, 2009 to be in accordance with the new accounting policy for “Income Taxes”.
Chavala Tienpasertkij Certified Public Accountant (Thailand) BANGKOK Registration No. 4301 February 14, 2011 DELOITTE TOUCHE TOHMATSU JAIYOS AUDIT CO., LTD.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
81
Financial Statements งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 สินทรัพย์
หน่วย : บาท หมายเหตุ
2553
2552 “ปรับปรุงใหม่”
116,978,870
73,896,147
สินทรัพย์หมุนเวียน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เงินลงทุนชั่วคราว
7
82,544
1,046,956
ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง - สุทธิ
8
1,736,252,367
1,775,028,137
ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อที่ครบกำ�หนดชำ�ระในหนึ่งปี - สุทธิ
9
10,008,111
18,894,335
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาวที่ครบกำ�หนด ชำ�ระในหนึ่งปี - สุทธิ
10
56,392,787
73,622,869
เงินให้กู้ยืมค่าซื้อสินค้า - สุทธิ
11
12,909,319
1,777,855
ลูกหนี้อื่น - บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
26
75,626
37,311
3,344,658
8,578,255
1,936,044,282
1,952,881,865
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น รวมสินทรัพย์หมุนเวียน
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เงินฝากธนาคารที่ใช้เป็นหลักประกัน
12
140,001
138,376
ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อ - สุทธิ
9
6,025,074
15,946,841
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาว - สุทธิ
10
71,055,418
83,687,231
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ
13
38,867,103
33,684,473
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน - สุทธิ
14
962,916
1,770,907
สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี
15
44,737,597
33,696,996
932,250
1,062,650
รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
162,720,359
169,987,474
รวมสินทรัพย์
2,098,764,641
2,122,869,339
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
82
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) งบดุล (ต่อ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
หน่วย : บาท หมายเหตุ
2553
2552 “ปรับปรุงใหม่”
หนี้สินหมุนเวียน เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน
16
1,020,000,000
1,480,000,000
เงินกู้ยืมระยะยาวที่ครบกำ�หนดชำ�ระในหนึ่งปี
17
100,000,000
-
เจ้าหนี้อื่น - บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
26
-
10,026
38,763,540
38,998,201
1,158,763,540
1,519,008,227
-
352,000
หนี้สินหมุนเวียนอื่น รวมหนี้สินหมุนเวียน หนี้สินไม่หมุนเวียน เงินมัดจำ�ค่าเช่า เงินกู้ยืมระยะยาว
17
125,000,000
-
ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน
19
15,569,469
-
140,569,469
352,000
1,299,333,009
1,519,360,227
รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน รวมหนี้สิน
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
83
Financial Statements / งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) งบดุล (ต่อ) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น (ต่อ)
หน่วย : บาท หมายเหตุ
2553
2552 “ปรับปรุงใหม่”
หุ้นสามัญ 470,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท
470,000,000
470,000,000
ทุนที่ออกและชำ�ระแล้ว หุ้นสามัญ 470,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท ชำ�ระเต็มมูลค่า หุ้นสามัญ 350,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท ชำ�ระเต็มมูลค่า
470,000,000
ส่วนของผู้ถือหุ้น ทุนเรือนหุ้น
20
ทุนจดทะเบียน
350,000,000
ส่วนเกินทุน ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญ
21
31,746,399
-
(38,774)
96,668
17,984,452
14,384,452
ยังไม่ได้จัดสรร
279,739,555
239,027,992
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น
799,431,632
603,509,112
2,098,764,641
2,122,869,339
กำ�ไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง มูลค่าเงินลงทุน กำ�ไรสะสม จัดสรรแล้ว ทุนสำ�รองตามกฎหมาย
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
84
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
22
Financial Statements / งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) งบกำ�ไรขาดทุน สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 หมายเหตุ
2553
หน่วย : บาท 2552 “ปรับปรุงใหม่”
รายได้ รายได้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง
166,268,521
148,752,343
2,594,454
4,983,351
รายได้จากสัญญาเช่าการเงิน
11,924,524
18,667,745
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจากการซื้อสิทธิเรียกร้อง
58,221,643
48,037,871
8,859,106
10,924,310
247,868,248
231,365,620
ค่าใช้จ่ายในการขาย
12,811,698
10,769,635
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
51,341,815
44,999,567
ค่าตอบแทนผู้บริหาร
23,454,263
21,153,400
7,007,505
(55,906)
94,615,281
76,866,696
153,252,967
154,498,924
40,211,418
47,569,359
113,041,549
106,929,565
28,238,785
30,750,323
84,802,764
76,179,242
0.21
0.22
398,986,301
350,000,000
รายได้จากการให้เช่าซื้อ
รายได้อื่น
26
รวมรายได้ ค่าใช้จ่าย
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (กลับรายการ) รวมค่าใช้จ่าย กำ�ไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ ต้นทุนทางการเงิน กำ�ไรก่อนภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้
15, 25
กำ�ไรสุทธิ กำ�ไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน
20
บาท
จำ�นวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำ�หนัก
20
หุ้น
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
85
Financial Statements / งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 หมายเหตุ
หน่วย : บาท
ทุนที่ออก และชำ�ระ แล้ว
ส่วนเกิน ทุนจากการ เปลี่ยนแปลง มูลค่าเงิน ลงทุน
กำ�ไร(ขาดทุน) กำ�ไรสะสม ที่ยังไม่เกิด ยังไม่ได้ ขึ้นจากการ จัดสรรแล้ว ทุ น สำ � รอง จัดสรร เปลี่ยนแปลง มูลค่าเงิน ตามกฎหมาย
รวม ส่วนของ ผู้ถือหุ้น
350,000,000
-
196,399
-
-
(58,920)
350,000,000
-
137,479
-
-
-
-
76,179,242
76,179,242
- (30,100,000)
(30,100,000)
“ปรับปรุงใหม่” ยอดคงเหลือต้นปี ณ วันที่ 1 มกราคม 2552 ตามที่เคยรายงานไว้ ผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลง นโยบายการบัญชี เกี่ยวกับ ภาษี เงินได้
3
10,827,704 167,658,939
-
528,683,042
28,846,559
28,787,639
10,827,704 196,505,498
557,470,681
ยอดคงเหลือต้นปี ณ วันที่ 1 มกราคม 2552 ปรับปรุงใหม่ กำ�ไรสุทธิ เงินปันผลจ่าย
24
-
-
-
สำ�รองตามกฎหมาย
22
-
-
-
3,556,748
(3,556,748)
-
-
-
(40,811)
-
-
(40,811)
350,000,000
-
96,668
14,384,452 239,027,992
603,509,112
ส่วนเปลี่ยนแปลง มูลค่าเงินลงทุน ยอดคงเหลือปลายปี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
86
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น (ต่อ) สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 หมายเหตุ
หน่วย : บาท
ทุนที่ออก และชำ�ระ แล้ว
ส่วนเกิน ทุนจากการ เปลี่ยนแปลง มูลค่าเงิน ลงทุน
กำ�ไร(ขาดทุน) กำ�ไรสะสม ที่ยังไม่เกิด ขึ้นจากการ ยังไม่ได้ จัดสรรแล้ว เปลี่ยนแปลง ทุนสำ�รอง ตาม จัดสรร มูลค่าเงิน กฎหมาย
350,000,000
-
138,097
รวม ส่วนของ ผู้ถือหุ้น
ยอดคงเหลือต้นปี ณ วันที่ 1 มกราคม 2553 ตามทีเ่ คยรายงานไว้
14,384,452 205,289,567
569,812,116
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การบัญชีเกี่ยวกับภาษีเงินได้
3
-
-
(41,429)
-
33,738,425
33,696,996
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การบัญชีเกี่ยวกับผลประโยชน์ของ พนักงาน
3
-
-
-
-
(8,991,201)
(8,991,201)
350,000,000
-
96,668
14,384,452 230,036,791
594,517,911
ยอดคงเหลือต้นปี ณ วันที่ 1 มกราคม 2553 ปรับปรุงใหม่ เพิ่มทุนหุ้นสามัญ
20
120,000,000
-
-
-
-
120,000,000
ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญ
21
-
31,746,399
-
-
-
31,746,399
-
-
-
-
84,802,764
84,802,764
- (31,500,000)
(31,500,000)
กำ�ไรสุทธิ เงินปันผลจ่าย
24
-
-
-
สำ�รองตามกฎหมาย
22
-
-
-
3,600,000
(3,600,000)
-
-
-
(135,442)
-
-
(135,442)
470,000,000
31,746,399
(38,774)
17,984,452 279,739,555
799,431,632
ส่วนเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน ยอดคงเหลือปลายปี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
87
Financial Statements / งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) งบกระแสเงินสด สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552
หน่วย : บาท หมายเหตุ
2553
2552
113,041,549
106,929,565
7,007,505 (687,196) 36,281 39,369,538 2,724,897 6,402,592 167,895,166
(55,906) (227,500) (115,828) 389 47,074,326 4,931,419 158,536,465
33,340,752 19,044,327 30,836,575 (13,914,965) (38,315) 5,233,597 130,400 (1,625)
54,463,824 26,353,044 80,696,837 1,348,189 (20,921) 6,707,253 (3,441)
(10,026) 2,968,128 (352,000) 245,132,014
10,026 906,940 (3,484,664) 325,513,552
(38,256,026) (39,713,047) 167,162,941
(49,407,064) (34,468,410) 241,638,078
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำ�เนินงาน
กำ�ไรก่อนภาษีเงินได้ ปรับปรุงด้วย ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (กลับรายการ) กำ�ไรจากการจำ�หน่ายเงินลงทุน กำ�ไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขาดทุนจากการขาย/ตัดจำ�หน่ายสินทรัพย์ถาวร ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจ่าย ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำ�หน่าย สินทรัพย์ดำ�เนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลง ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อ ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาว เงินให้กู้ยืมค่าซื้อสินค้า ลูกหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น เงินฝากธนาคารที่ใช้เป็นหลักประกัน หนี้สินดำ�เนินงานเพิ่มขึ้น (ลดลง) เจ้าหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หนี้สินหมุนเวียนอื่น หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น เงินสดรับจากการดำ�เนินงาน จ่ายดอกเบี้ย จ่ายภาษีเงินได้ เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำ�เนินงาน
88
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) งบกระแสเงินสด (ต่อ) สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552
หน่วย : บาท หมายเหตุ
2553
2552
(10,657,711) (149,800) (29,325) 1,487,442 22,777 (9,326,617)
(450,427) (464,784) 591,500 (323,711)
(460,000,000) 300,000,000 (75,000,000) (31,500,000) 120,000,000 31,746,399 (114,753,601)
(190,000,000) (64,000,000) (30,100,000) (284,100,000)
43,082,723 73,896,147 116,978,870
(42,785,633) 116,681,780 73,896,147
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน
เงินสดจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์ถาวร เงินสดจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์ไม่มีตัวตน เงินสดจ่ายเพื่อซื้อเงินลงทุน รับชำ�ระจากลูกหนี้สัญญาเช่าซื้อเป็นเงินลงทุน เงินสดรับจากการขายสินทรัพย์ถาวร เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน
เงินสดจ่ายคืนเงินกู้ระยะสั้น เงินสดรับจากเงินกู้ระยะยาว เงินสดจ่ายคืนเงินกู้ระยะยาว เงินสดจ่ายเงินปันผล เงินสดรับจากการเพิ่มทุนหุ้นสามัญ ส่วนเกินทุนจากมูลค่าหุ้นสามัญ เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลงสุทธิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันต้นปี เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นปี
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
89
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED BALANCE SHEETS AS AT DECEMBER 31, 2010 AND 2009 ASSETS
BAHT Notes
2010
2009 “Restated”
116,978,870
73,896,147
CURRENT ASSETS Cash and cash equivalents Current investments
7
82,544
1,046,956
Factoring receivable, net
8
1,736,252,367
1,775,028,137
Current portion of hire purchase receivable, net
9
10,008,111
18,894,335
Current portion of lease contract receivable, net
10
56,392,787
73,622,869
Inventory finance receivable, net
11
12,909,319
1,777,855
Amounts due from a related company
26
75,626
37,311
3,344,658
8,578,255
1,936,044,282
1,952,881,865
Other current assets Total Current Assets NON-CURRENT ASSETS Bank deposits held as collateral
12
140,001
138,376
Hire purchase receivable, net
9
6,025,074
15,946,841
Lease contract receivable, net
10
71,055,418
83,687,231
Property, plant and equipment, net
13
38,867,103
33,684,473
Intangible assets , net
14
962,916
1,770,907
Deferred tax assets
15
44,737,597
33,696,996
932,250
1,062,650
162,720,359
169,987,474
2,098,764,641
2,122,869,339
Other non-current assets Total Non-current Assets
TOTAL ASSETS Notes to the financial statements form an integral part of these statements
90
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED BALANCE SHEETS (CONTINUED) AS AT DECEMBER 31, 2010 AND 2009
BAHT Notes
2010
2009 “Restated”
LIABILITIES AND SHAREHOLDERS' EQUITY CURRENT LIABILITIES Short-term loans from financial institutions
16
1,020,000,000
1,480,000,000
Current portion of long-term loan
17
100,000,000
-
Amount due to a related company
26
-
10,026
38,763,540
38,998,201
1,158,763,540
1,519,008,227
-
352,000
Other current liabilities Total Current Liabilities NON-CURRENT LIABILITIES Rental deposit Long-term loan
17
125,000,000
-
Provision for employee benefits
19
15,569,469
-
140,569,469
352,000
1,299,333,009
1,519,360,227
Total Non-current Liabilities
TOTAL LIABILITIES Notes to the financial statements form an integral part of these statements
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
91
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED BALANCE SHEETS (CONTINUED) AS AT DECEMBER 31, 2010 AND 2009
BAHT Notes
2010
2009 “Restated”
470,000,000
470,000,000
SHAREHOLDERS' EQUITY SHARE CAPITAL
20
Authorized share capital 470,000,000 ordinary shares of Baht 1 each Issued and paid-up share capital 470,000,000
470,000,000 ordinary shares of Baht 1 each, fully paid-up
350,000,000
350,000,000 ordinary shares of Baht 1 each, fully paid-up ADDITIONAL PAID-IN CAPITAL 31,746,399
-
(38,774)
96,668
17,984,452
14,384,452
Unappropriated
279,739,555
239,027,992
TOTAL SHAREHOLDERS' EQUITY
799,431,632
603,509,112
2,098,764,641
2,122,869,339
Premium on ordinary shares
21
UNREALIZED GAIN (LOSS) ON INVESTMENTS REVALUATION RETAINED EARNINGS Appropriated Legal reserve
TOTAL LIABILITIES AND SHAREHOLDERS' EQUITY Notes to the financial statements form an integral part of these statements
92
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
22
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED STATEMENTS OF INCOME FOR THE YEARS ENDED DECEMBER 31, 2010 AND 2009
BAHT Notes
2010
2009 “Restated”
166,268,521
148,752,343
Hire purchase income
2,594,454
4,983,351
Finance lease income
11,924,524
18,667,745
Factoring commission and service fees
58,221,643
48,037,871
8,859,106
10,924,310
247,868,248
231,365,620
Selling expenses
12,811,698
10,769,635
Administrative expenses
51,341,815
44,999,567
Management benefit expenses
23,454,263
21,153,400
7,007,505
(55,906)
94,615,281
76,866,696
153,252,967
154,498,924
40,211,418
47,569,359
113,041,549
106,929,565
28,238,785
30,750,323
84,802,764
76,179,242
REVENUES Factoring income
Other income
26
Total Revenues EXPENSES
Allowance for doubtful accounts (Reversal) Total Expenses PROFIT BEFORE FINANCE COST AND INCOME TAX EXPENSES FINANCE COST PROFIT BEFORE INCOME TAX EXPENSES INCOME TAX EXPENSE
15, 25
NET PROFIT BASIC EARNINGS PER SHARE
20
BAHT
0.21
0.22
WEIGHTED AVERAGE NUMBER OF ORDINARY SHARES
20
SHARES
398,986,301
350,000,000
Notes to the financial statements form an integral part of these statements
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
93
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED STATEMENTS OF CHANGES IN SHAREHOLDERS’ EQUITY FOR THE YEARS ENDED DECEMBER 31, 2010 AND 2009 Notes
BAHT
Issued and Premium Unrealized paid-up on Ordinary Gain (Loss) on share capital Share investments
Retained earnings Total Appropriated Unappropriated Shareholders’ Legal reserve equity
“As restated” Beginning balance as at January 1, 2009 as previously reported Effect of the change in accounting policy for deferred tax asset
3
Beginning balance as at January 1, 2009 as restated Net income
-
196,399
10,827,704
167,658,939
528,683,042
-
-
(58,920)
-
28,846,559
28,787,639
350,000,000
-
137,479
10,827,704
196,505,498
557,470,681
-
-
-
-
76,179,242
76,179,242
Dividend paid
24
-
-
-
-
Legal reserve
22
-
-
-
3,556,748
(3,556,748)
-
-
-
(40,811)
-
-
(40,811)
350,000,000
-
96,668
14,384,452
239,027,992
603,509,112
Changes in investment value Ending balance as at December 31, 2009
94
350,000,000
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
(30,100,000) (30,100,000)
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED STATEMENTS OF CHANGES IN SHAREHOLDERS’ EQUITY (CONTINUED) FOR THE YEARS ENDED DECEMBER 31, 2010 AND 2009 Notes
Beginning balance as at January 1, 2010 as previously reported
Issued and paid-up share capital
BAHT
Premium on Unrealized Ordinary Gain (Loss) on Share investments
Retained earnings Total Appropriated Unappropriated Shareholders’ equity Legal reserve
350,000,000
-
138,097
14,384,452
205,289,567
569,812,116
Effect of the change in accounting policy for deferred tax asset
3
-
-
(41,429)
-
33,738,425
33,696,996
Effect of the change in accounting policy for employee benefits
3
-
-
-
-
(8,991,201)
(8,991,201)
350,000,000
-
96,668
14,384,452
230,036,791
594,517,911
Beginning balance as at January 1, 2010 as restated Capital increase ordinary shares
20
120,000,000
-
-
-
-
120,000,000
Premium on ordinary share
21
-
31,746,399
-
-
-
31,746,399
-
-
-
-
84,802,764
84,802,764
Net income Dividend paid
24
-
-
-
-
(31,500,000)
(31,500,000)
Legal reserve
22
-
-
-
3,600,000
(3,600,000)
-
-
-
(135,442)
-
-
(135,442)
470,000,000
31,746,399
(38,774)
17,984,452
279,739,555
799,431,632
Changes in investment value Ending balance as at December 31, 2010
Notes to the financial statements form an integral part of these statements
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
95
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED STATEMENTS OF CASH FLOWS FOR THE YEARS ENDED DECEMBER 31, 2010 AND 2009
BAHT Notes
2010
2009
113,041,549
106,929,565
Allowance for doubtful accounts (Reversal)
7,007,505
(55,906)
Gain from sales of investment
(687,196)
(227,500)
-
(115,828)
36,281
389
39,369,538
47,074,326
Employee benefits expense
2,724,897
-
Depreciation and amortization
6,402,592
4,931,419
167,895,166
158,536,465
Factoring receivable
33,340,752
54,463,824
Hire purchase receivable
19,044,327
26,353,044
Lease contract receivable
30,836,575
80,696,837
(13,914,965)
1,348,189
(38,315)
(20,921)
5,233,597
6,707,253
130,400
-
(1,625)
(3,441)
(10,026)
10,026
Other current liabilities
2,968,128
906,940
Non-other current liabilities
(352,000)
(3,484,664)
245,132,014
325,513,552
Interest expenses paid
(38,256,026)
(49,407,064)
Income tax paid
(39,713,047)
(34,468,410)
167,162,941
241,638,078
CASH FLOWS FROM OPERATING ACTIVITIES Income before income tax expenses Adjustments for :
Gain from exchange rate Loss from sales/write-off fixed assets Interest expenses
Operating assets (increase) decrease
Inventory finance receivable Amounts due from a related company Other current assets Non-other current assets Fixed deposits pledged as collateral Operating liabilities increase (decrease) Amounts due to a related company
Cash generated from operating activities
Net cash provided by operating activities
96
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED STATEMENTS OF CASH FLOWS (CONTINUED) FOR THE YEARS ENDED DECEMBER 31, 2010 AND 2009
BAHT Notes
2010
2009
(10,657,711)
(450,427)
(149,800)
(464,784)
(29,325)
-
1,487,442
591,500
22,777
-
(9,326,617)
(323,711)
(460,000,000)
(190,000,000)
Cash received from long-term loans
300,000,000
-
Cash paid for long-term loan
(75,000,000)
(64,000,000)
Cash paid for dividend
(31,500,000)
(30,100,000)
Proceeds from capital increase ordinary shares
120,000,000
-
31,746,399
-
(114,753,601)
(284,100,000)
Net increase (decrease) in cash and cash equivalents
43,082,723
(42,785,633)
Cash and cash equivalents at beginning of the year
73,896,147
116,681,780
116,978,870
73,896,147
CASH FLOWS FROM INVESTING ACTIVITIES Cash paid for purchases of fixed assets Cash paid for purchases of intangible assets Cash paid for purchases of investment Proceeds from sales of investment Cash received from sale of fixed assets Net cash used in investing activities
CASH FLOWS FROM FINANCING ACTIVITIES Cash paid for short-term loan
Proceeds from premium in ordinary shares Net cash used in financing activities
Cash and cash equivalents at end of the year Notes to the financial statements form an integral part of these statements
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
97
Financial Statements / งบการเงิน
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) หมายเหตุประกอบงบการเงิน สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 1. ข้อมูลทั่วไปและการดำ�เนินงานของบริษัท
บริษัทได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำ�กัดในเดือนมีนาคม 2534 ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย และได้ดำ�เนินการจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำ�กัด กับกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2550 โดยมีสำ�นักงานตั้งอยู่ที่ชั้น 20 อาคารลุมพินีทาวเวอร์ เลขที่ 1168/55 ถนนพระราม 4 แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ ธุรกิจหลักของบริษัทได้แก่การรับซื้อสิทธิเรียกร้อง ทำ�ธุรกิจสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด ถือหุ้นร้อยละ 36.64 และ ร้อยละ 49.20 ตามลำ�ดับ และ IFS Capital Limited ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ถือหุ้นร้อยละ 36.49 และร้อยละ 49.00 ตามลำ�ดับ ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้น รายใหญ่ของ IFS Capital Limited คือ Phillip Asset Pte. Ltd. ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ถือหุ้นร้อยละ 40.40 ตัง้ แต่วนั ที่ 1 มกราคม 2552 บริษทั ได้หยุด การขยายธุรกิจสัญญาเช่าซือ้ และสัญญาเช่าระยะยาวแต่ยงั คงให้บริการในธุรกรรมทีย่ งั คงค้างอยูก่ บั ลูกค้าต่อไป
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2552 บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทได้ปรับโครงสร้างการถือหุ้นเป็น คนต่างด้าว จึงทำ�ให้บริษทั มีสภาพเป็นคนต่างด้าวด้วย ดังนัน้ บริษทั ได้ยน่ื ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัตกิ ารประกอบ ธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประกอบ ธุรกิจบัญชีสาม (21) การทำ�ธุรกิจบริการดังนี้ 1. แฟ็กเตอริ่ง 2. ให้เช่าแบบลีสซิ่งและให้เช่าซื้อ เฉพาะแก่ผู้รับบริการรายเดิมที่มีภาระผูกพันตามสัญญาให้เช่าแบบลีสซิ่งและให้เช่าซื้อ
ทั้งนี้ บริษัทจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำ�หนดไว้ในใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เมือ่ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 บริษทั ได้ยน่ื ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจบัญชีสาม (21) การทำ�ธุรกิจบริการให้เช่าแบบลีสซิง่ และให้เช่าซือ้ สินค้าประเภท ยานพาหนะและเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง และรถใช้งานเกษตรกรรมแก่ผู้รับบริการรายใหม่ และได้ รับอนุมัติจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ประกอบธุรกิจตามที่ขอข้างต้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2553 เมือ่ วันที่ 27 เมษายน 2553 บริษทั ได้รบั อนุญาตจากบริษทั ไอเอฟเอส แคปปิตอล ลิมเิ ต็ด ประเทศสิงคโปร์ ซึง่ เป็นผูถ้ อื หุน้ รายใหญ่ของบริษทั ให้เสนอขาย หุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน และนำ�หุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 บริษัทได้ทำ�การเสนอขายหุ้นของบริษัทให้กับประชาชนจำ�นวน 120 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.35 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 162 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2553 บริษัทได้จดทะเบียนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้เรียกชำ�ระแล้วจำ�นวน 120 ล้านหุ้นหรือ 120 ล้านบาทดังกล่าว กับ กระทรวงพาณิชย์แล้ว
98
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2553 บริษัทได้ชำ�ระค่าธรรมเนียมและได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจบัญชีสาม (21) การทำ�ธุรกิจบริการให้เช่าแบบลีสซิ่ง และ ให้เช่าซื้อสินค้าประเภท ยานพาหนะและเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า เรือขนส่ง และรถใช้งานเกษตรกรรม และ ในวันเดียวกันตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มหี นังสือแจ้งว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้สง่ั ให้รบั หุน้ สามัญของบริษทั ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำ�นวน 470 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 470 ล้านบาท ให้ทำ�การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “IFS” และกำ�หนดให้เริ่มซื้อขายได้ ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2553 เป็นต้นไป
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
2. เกณฑ์การจัดทำ�และนำ�เสนองบการเงิน
งบการเงินนี้ได้จัดทำ�เป็นเงินบาทและเป็นภาษาไทยตามมาตรฐานการบัญชีและวิธีปฏิบัติทางการบัญชีที่รับรองทั่วไปในประเทศไทย ทั้งนี้งบการเงินนี้มี วัตถุประสงค์ทจ่ี ดั ทำ�ขึน้ เพือ่ แสดงฐานะการเงิน ผลการดำ�เนินงานและกระแสเงินสดตามหลักการและวิธปี ฎิบตั ทิ างการบัญชีทร่ี บั รองทัว่ ไปใน ประเทศไทย งบการเงินของบริษทั ได้จดั ทำ�ขึน้ ตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงวันที่ 30 มกราคม 2552 เรือ่ ง กำ�หนดรายการย่อทีต่ อ้ งมีในงบการเงิน พ.ศ. 2552 สภาวิชาชีพบัญชีได้ออกประกาศสภาวิชาชีพบัญชีเกีย่ วกับมาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการรายงานทางการเงินและการตีความมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินใหม่ และมาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานการรายงานทางการเงินซึ่งได้มีการปรับปรุงใหม่ ดังต่อไปนี้ - ประกาศสภาวิชาชีพบัญชีฉบับที่ 17/2553 ลงวันที่ 9 เมษายน 2553 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2553
มาตรฐานการบัญชี/มาตรฐานการรายงานทางการเงิน
วันที่มีผลบังคับใช้
แม่บทการบัญชี (ปรับปรุง 2552)
มีผลบังคับใช้ทันที
มาตรฐานการบัญชี
ฉบับที่ 1 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 2 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 7 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 8 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 10 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 11 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 12 ฉบับที่ 17 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 20 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 23 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 24 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 27 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 28 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 29 ฉบับที่ 31 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 33 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 34 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 36 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 37 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 38 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 40 (ปรับปรุง 2552)
การนำ�เสนองบการเงิน สินค้าคงเหลือ งบกระแสเงินสด นโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการและข้อผิดพลาด เหตุการณ์ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน สัญญาก่อสร้าง ภาษีเงินได้ สัญญาเช่า การบัญชีสำ�หรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความช่วย เหลือจากรัฐบาล ต้นทุนการกู้ยืม การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ เงินลงทุนในบริษัทร่วม การรายงานทางการเงินในสภาพเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อรุนแรง ส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า กำ�ไรต่อหุ้น งบการเงินระหว่างกาล การด้อยค่าของสินทรัพย์ ประมาณการหนี้สิน หนี้สินที่อาจเกิดขึ้น และสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น สินทรัพย์ไม่มีตัวตน อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน
1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2556 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2556 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
99
Financial Statements / งบการเงิน
มาตรฐานการบัญชี/มาตรฐานการรายงานทางการเงิน มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 5 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 6
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายและการดำ�เนินงานที่ยกเลิก การสำ�รวจและประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่
วันที่มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554
- ประกาศสภาวิชาชีพบัญชีฉบับที่ 50/2553 ฉบับที่ 51/2553 ฉบับที่ 52/2553 ฉบับที่ 53/2553 ฉบับที่ 54/2553 และฉบับที่ 55/2553 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553
มาตรฐานการบัญชี/มาตรฐานการรายงานทางการเงิน / การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 16 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 18 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 19 ฉบับที่ 21 (ปรับปรุง 2552) ฉบับที่ 26
วันที่มีผลบังคับใช้
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ รายได้ ผลประโยชน์ของพนักงาน ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การบัญชีและการรายงานโครงการผลประโยชน์ เมื่อออกจากงาน
1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2556 1 มกราคม 2554
การจ่ายโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ การรวมธุรกิจ
1 มกราคม 2554 1 มกราคม 2554
มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 2 ฉบับที่ 3 (ปรับปรุง 2552)
การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 15
สัญญาการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์
1 มกราคม 2554
ผู้บริหารของบริษัทคาดว่าจะนำ�มาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับบริษัทมาเริ่มถือปฏิบัติกับงบการเงินของบริษัท เมื่อมาตรฐานดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ยกเว้นมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 12 เรื่อง “ภาษีเงินได้” และมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19 “ผลประโยชน์ของ พนักงาน” ซึ่งบริษัทได้นำ�มาใช้ก่อนวันที่มีผลบังคับใช้ มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 1 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง “การนำ�เสนองบการเงิน” มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำ�หนดเกี่ยวกับการแสดงรายการในงบการเงิน และ การเปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ดังนั้นบริษัทต้องจัดทำ�งบการเงินด้วยวิธีปรับย้อนหลังเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีดัง กล่าวเมื่อมีผลบังคับใช้ มาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานการรายงานทางการเงินนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ผู้บริหารของบริษัทคาดว่าการนำ�มาตรฐานการบัญชีเหล่านี้ มาถือปฏิบัติจะไม่มีผลกระทบอย่างเป็นสาระสำ�คัญต่องบการเงินของบริษัทในงวดที่เริ่มถือปฏิบัติ
3. การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
บริษทั ได้ใช้นโยบายการบัญชีและวิธกี ารคำ�นวณในงบการเงินเช่นเดียวกันกับทีใ่ ช้ในงบการเงินสำ�หรับปีสน้ิ สุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ยกเว้นเรือ่ งดังต่อไปนี้
3.1 การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับผลประโยชน์ของพนักงาน
บริษทั ได้น�ำ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 19 เรือ่ ง “ผลประโยชน์ของพนักงาน” มาถือปฏิบตั กิ อ่ นวันบังคับใช้ (ดูหมายเหตุขอ้ 4.9) โดยบริษทั เลือกวิธ ี การปรับปรุงผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าวกับกำ�ไรสะสมต้นงวดของรอบระยะเวลาบัญชีสำ�หรับปี 2553
100
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
3.2 การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับภาษีเงินได้
บริษทั ได้น�ำ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรือ่ ง “ภาษีเงินได้” มาถือปฏิบตั กิ อ่ นวันบังคับใช้ (ดูหมายเหตุขอ้ 4.10)โดยบริษทั ได้ปรับย้อนหลังงบกำ�ไร ขาดทุน งบแสดงการเปลีย่ นแปลงในส่วนของผูถ้ อื หุน้ สำ�หรับปีสน้ิ สุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 และงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ทีน่ �ำ มาเปรียบ เทียบเสมือนว่าบริษัทได้ถือปฎิบัติตามนโยบายการบัญชีใหม่เกี่ยวกับภาษีเงินได้มาโดยตลอด บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าวนั้นเหมาะสม เนื่องจากแสดงผลการดำ�เนินงานของบริษัทให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในเชิง ธุรกิจและสามารถรับรู้ภาระภาษีเงินได้ที่ต้องจ่ายหรือได้รับคืนในอนาคตจากการดำ�เนินกิจการที่เกิดขึ้นในงบการเงินของบริษัท งบการเงินสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ที่นำ�มาเปรียบเทียบได้มีการปรับย้อนหลังแล้วโดยแสดงผลกระทบได้ดังนี้
2553 บาท
2552 บาท
44,737,597 44,737,597
33,696,996 33,696,996
15,569,469 15,569,469
-
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม ก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การลดลงจากภาษีเงินได้รอตัดบัญชี
138,097 (41,429)
196,399 (58,920)
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม หลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
96,668
137,479
205,289,567 33,738,425 (8,991,201) 230,036,791
167,658,939 28,846,559 196,505,498
กำ�ไรสุทธิสำ�หรับปี ก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
80,459,511
71,287,376
การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ของพนักงาน การลดลงของภาษีเงินได้ กำ�ไรสุทธิสำ�หรับปี หลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
(2,785,930) 7,129,183 84,802,764
4,891,866 76,179,242
สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม ก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม หลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม ก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเพิ่มขึ้นของประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม หลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
กำ�ไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน
กำ�ไรสะสม - ยังไม่ได้จัดสรร ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม ก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การเพิ่มขึ้นของประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม หลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
กำ�ไรสุทธิ
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
101
Financial Statements / งบการเงิน
2553 บาท
2552 บาท
398,986 0.20 (0.01) 0.02 0.21
350,000 0.20 0.02 0.22
การเพิ่มขึ้นของกำ�ไรสุทธิต่อหุ้น กำ�ไรสุทธิต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน จำ�นวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำ�หนัก (พันหุ้น) กำ�ไรสุทธิต่อหุ้น ก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ของพนักงาน การลดลงของภาษีเงินได้ กำ�ไรสุทธิต่อหุ้น หลังการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
4. สรุปนโยบายการบัญชีที่สำ�คัญ
งบการเงินนี้ได้จัดทำ�ขึ้นโดยใช้เกณฑ์ราคาทุนเดิมในการวัดมูลค่าขององค์ประกอบของงบการเงิน ยกเว้น ตามที่ได้เปิดเผยในนโยบายการบัญชี นโยบาย การบัญชีที่สำ�คัญของบริษัทโดยสรุปมีดังต่อไปนี้
4.1 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดประกอบด้วยเงินสดในมือเงินฝากธนาคารและเงินฝากประจำ�ทีค่ รบกำ�หนดชำ�ระคืนภายใน 3 เดือนหรือน้อยกว่า และไม่รวมเงินฝากธนาคารที่นำ�ไปวางเป็นหลักประกัน
4.2 การรับรู้รายได้
รายได้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง รับรู้ตามเกณฑ์คงค้างรายได้จากการให้เช่าซื้อ รับรู้โดยใช้วิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (effective interest rate)
รายได้จากสัญญาเช่าทางการเงิน รับรู้โดยวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (effective interest rate) รายได้ดอกเบีย้ จากการให้เช่าซือ้ และจากสัญญาเช่าทางการเงินรับรูต้ ามเกณฑ์คงค้างยกเว้นดอกเบีย้ ทีผ่ ดิ นัดชำ�ระติดต่อกันเกิน 3 เดือน รับรูต้ าม เกณฑ์เงินสด รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจากการซื้อสิทธิเรียกร้อง รับรู้เป็นรายได้เมื่อรับโอนสิทธิ
4.3 ลูกหนี้
ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้องแสดงยอดสุทธิจากค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อและลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาวแสดงโดยใช้ยอดคงค้างตามสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาวภายหลังจาก หักรายได้ทางการเงินตั้งพักและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้ว
4.4 ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
ค่าเผือ่ หนีส้ งสัยจะสูญตัง้ ตามจำ�นวนหนีท้ คี่ าดว่าจะเรียกเก็บไม่ได้โดยการวิเคราะห์ฐานะของลูกหนีแ้ ต่ละรายบริษทั มีเกณฑ์ในการตัง้ ค่าเผือ่ หนีส้ งสัย
จะสูญดังนี้
ลูกหนี้ค้างชำ�ระตั้งแต่ 3 เดือนแต่ไม่เกิน 6 เดือน ลูกหนี้ค้างชำ�ระตั้งแต่ 6 เดือนแต่ไม่เกิน 12 เดือน ลูกหนี้ค้างชำ�ระตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป 102
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
อัตราร้อยละของ ยอดลูกหนี้ 20 50 100
Financial Statements / งบการเงิน
นอกจากนัน้ บริษทั ได้พจิ ารณาการตัง้ ค่าเผือ่ หนีส้ งสัยจะสูญโดยใช้วธิ กี ารกันสำ�รองเป็นกลุม่ ลูกหนี้ (Collective approach) สำ�หรับลูกหนีจ้ ากการ ซื้อสิทธิเรียกร้อง, ลูกหนี้สัญญาเช่าซื้อ, ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาว และเงินให้กู้ยืมค่าซื้อสินค้า ที่จัดชั้นปกติและลูกหนี้ที่ค้างชำ�ระไม่ เกิน 3 เดือนทีม่ ลี กั ษณะความเสีย่ งด้านเครดิตคล้ายคลึงกัน โดยใช้ขอ้ มูลหนีส้ ญ ู ในอดีตเพือ่ ประมาณการค่าเผือ่ หนีส้ งสัยจะสูญของสินเชือ่ ในแต่ละ กลุ่ม (ดูหมายเหตุข้อ 8, 9, 10 และ 11)
4.5 เงินลงทุนชั่วคราว เงินลงทุนชั่วคราวเป็นเงินลงทุนในตราสารทุน โดยจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขายและแสดงตามมูลค่ายุติธรรม กำ�ไรหรือขาดทุนจากการ เปลีย่ นแปลงในมูลค่ายุตธิ รรมรับรูใ้ นส่วนของเจ้าของในกรณีเกิดการด้อยค่าของมูลค่าเงินลงทุนทุกประเภทบริษทั จะรับรูผ้ ลขาดทุนดังกล่าวในงบ กำ�ไรขาดทุน 4.6 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ แสดงตามราคาทุนหักค่าเสื่อมราคาสะสม ราคาทุนของอาคารชุด-ทีด่ นิ คำ�นวณจากราคาทีด่ นิ ทัง้ หมดของอาคารชุด ณ วันซือ้ ตามราคาประเมินของหน่วยงานราชการ โดยเฉลีย่ ตามอัตราส่วน กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนกลางของอาคารชุดที่บริษัทมีกรรมสิทธิ์อยู่รวมถึงส่วนเฉลี่ย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการซื้ออาคารชุดโดยตรงส่วนราคาทุนของ อาคารชุด - สำ�นักงานได้มาจากต้นทุนของอาคารชุดทั้งหมดหักราคาทุนของอาคารชุด - ที่ดิน
ค่าเสื่อมราคาคำ�นวณโดยใช้วิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานโดยประมาณของสินทรัพย์ซึ่งมีดังต่อไปนี้ อาคารชุด - สำ�นักงาน 40 ปี เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำ�นักงาน 5 ปี ยานพาหนะ 5 ปี
4.7 สินทรัพย์ไม่มีตัวตนและค่าตัดจำ�หน่าย สินทรัพย์ไม่มีตัวตนได้แก่ คอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ สินทรัพย์ไม่มีตัวตนแสดงตามราคาทุนหักค่าตัดจำ�หน่ายสะสม ค่าตัดจำ�หน่ายสะสมแสดงอยู่ใน งบกำ�ไรขาดทุน ค่าตัดจำ�หน่ายของสินทรัพย์ไม่มตี วั ตนคำ�นวนจากราคาทุนของสินทรัพย์โดยใช้วธิ เี ส้นตรงตามอายุการใช้ประโยชน์โดยประมาณ 3 ปี
4.8 รายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศ
บริษทั แปลงค่ารายการบัญชีในสกุลเงินตราต่างประเทศทีเ่ กิดขึน้ ระหว่างปีเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลีย่ น ณ วันทีเ่ กิดรายการ และแปลงค่าสินทรัพย์
และหนีส้ นิ ที่เป็นตัวเงินในสกุลเงินตราต่างประเทศ ซึ่งคงเหลือ ณ วันที่ตามงบดุล เป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงประกาศของธนาคาร แห่งประเทศไทย ณ วันนั้น บริษัทรับรู้กำ�ไรและขาดทุนจากการปริวรรตเงินตราต่างประเทศเมื่อมีการชำ�ระเงิน และที่เกิดจากการแปลงค่าเป็น รายได้หรือค่าใช้จ่าย เมื่อกำ�ไรและขาดทุนนั้นเกิดขึ้น
4.9 ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน บริษัทได้นำ�มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19 “ผลประโยชน์ของพนักงาน” มาถือปฏิบัติก่อนวันบังคับใช้ โดยมีนโยบายดังนี้
บริษัทรับรู้ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงานสำ�หรับเงินชดเชยการเลิกจ้างให้แก่พนักงานตามกฎหมายแรงงานของประเทศไทย และประมาณการหนีส้ นิ ผลประโยชน์ของพนักงานสำ�หรับการทำ�งานให้กบั บริษทั เป็นเวลานานประมาณการหนีส้ นิ ผลประโยชน์ของพนักงานดังกล่าว คำ�นวณโดยใช้เทคนิคการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย (Actuarial Technique) อันเป็นประมาณการจากมูลค่าปัจจุบันของกระแส เงินสดที่คาดว่าจะต้องจ่ายในอนาคตและคำ�นวณคิดลดโดยใช้อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลที่มีกำ�หนดเวลาใกล้เคียงกับระยะเวลา ของหนีส้ นิ ดังกล่าวโดยประมาณการกระแสเงินสดทีค่ าดว่าจะต้องจ่ายในอนาคตนัน้ ประมาณการจากเงินเดือนพนักงาน อัตราการลาออก อายุงาน และปัจจัยอืน่ กำ�ไรหรือขาดทุนจากการเปลีย่ นแปลงประมาณการจะรับรูเ้ ป็นค่าใช้จา่ ยในงบกำ�ไรขาดทุนสำ�หรับรอบระยะเวลาบัญชีทเ่ี กิดรายการนัน้
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
103
Financial Statements / งบการเงิน
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพนักงานจะบันทึกในงบกำ�ไรขาดทุนเพื่อกระจายต้นทุนดังกล่าวตลอดระยะเวลาของการจ้างงาน (ดูหมายเหตุข้อ 19) 4.10
ภาษีเงินได้ บริษัทได้นำ�มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 12 “ภาษีเงินได้” มาถือปฏิบัติก่อนวันบังคับใช้ โดยมีนโยบายดังนี้ ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้คำ�นวณจากกำ�ไรทางภาษีเงินได้คูณด้วยอัตราภาษีเงินได้ตามกฎหมายตามที่ประกาศใช้ ณ วันที่ในงบดุล และปรับปรุงด้วย ผลกระทบที่เกิดจากการบันทึกบัญชีตามวิธีการบัญชีภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี
สินทรัพย์และหนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีเกิดจากผลแตกต่างชั่วคราวระหว่างราคาตามบัญชีของสินทรัพย์หรือหนี้สินในงบดุลกับ ตามฐานภาษี หนีส้ นิ ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจะรับรู้ สำ�หรับผลแตกต่างชัว่ คราวทุกรายการ สำ�หรับสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจะรับรูเ้ มือ่ มีความเป็นไปได้ว่า บริษัทจะมีกำ�ไรทางภาษีในอนาคตที่เพียงพอที่จะใช้ประโยชน์จากผลแตกต่างชั่วคราวที่เกิดขึ้นนั้น
ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีรับรู้เป็นรายได้หรือค่าใช้จ่ายในงบกำ�ไรขาดทุน ยกเว้นกรณีที่ผลแตกต่างชั่วคราวนั้นเป็นรายการที่บันทึกโดยตรงใน ส่วนของผู้ถือหุ้น ค่าภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับรายการดังกล่าวจะถูกบันทึกหักจากรายการดังกล่าวในส่วนของผู้ถือหุ้น สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีและหนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจะหักกลบกันเมื่อบริษัทมีสิทธิตามกฎหมายและบริษัทมีความ ตั้งใจที่จะเสียภาษีเงินได้ด้วยยอดสุทธิ
4.11 กำ�ไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน กำ�ไรต่อหุน้ ขัน้ พืน้ ฐานคำ�นวณโดยการหารกำ�ไรสุทธิดว้ ยจำ�นวนถัวเฉลีย่ ถ่วงน้�ำ หนักของหุน้ สามัญทีถ่ อื ในระหว่างปีในกรณีทมี่ กี ารเพิม่ ทุนบริษทั คำ�นวณ
หุน้ สามัญถัวเฉลีย่ ถ่วงน้�ำ หนักตามระยะเวลาทีไ่ ด้รบั ชำ�ระค่าหุน้ บริษทั ไม่มหี นุ้ สามัญเทียบเท่าอืน่ คงเหลือทีม่ ผี ลกระทบต่อการคำ�นวณกำ�ไรต่อหุน้ ปรับลด
4.12 ประมาณการทางบัญชี
ในการจัดทำ�งบการเงินให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ผู้บริหารของบริษัทต้องอาศัยดุลยพินิจในการกำ�หนดนโยบายการบัญชี การ ประมาณการและตั้งข้อสมมติฐานหลายประการ ซึ่งมีผลกระทบต่อการแสดงจำ�นวนสินทรัพย์ หนี้สิน และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ และหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น ณ วันสิ้นงวด รวมทั้งการแสดงรายได้ และค่าใช้จ่ายของงวดบัญชี ถึงแม้ว่าการประมาณการของผู้บริหาร ได้พิจารณา อย่างสมเหตุสมผลภายใต้เหตุการณ์ ณ ขณะนั้น ผลที่เกิดขึ้นจริงอาจมีความแตกต่างไปจากประมาณการนั้น
5. การจัดประเภทรายการใหม่
รายการในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ได้มีการจัดประเภทรายการใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดประเภทรายการในงบการเงินสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 โดยเงินมัดจำ�รับจากสัญญาเช่าระยะยาว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 จำ�นวน 90.45 ล้านบาท ซึ่งเดิมเคยแสดงแยกต่างหากภายใต้ หนี้สินไม่หมุนเวียน ได้นำ�มาแสดงสุทธิกับลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาว
6. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระแสเงินสด
รายการที่ไม่ใช่เงินสด สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 มีดังต่อไปนี้
104
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
เจ้าหนี้ซื้อสินทรัพย์ถาวรยกมา บวก ซื้ออุปกรณ์ หัก เงินสดจ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์ เจ้าหนี้ซื้อสินทรัพย์ถาวยกไป (แสดงรวมอยู่ในหนี้สินหมุนเวียนอื่น)
2553 บาท
2552 บาท
84,831
3,959
10,594,815 (10,657,711)
531,299 (450,427)
21,935
84,831
7. เงินลงทุนชั่วคราว
เงินลงทุนชั่วคราว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย
2553 มูลค่ายุติธรรม
บาท
กำ�ไรขั้นต้น ที่ยังไม่เกิดขึ้น บาท
137,936 137,936
(55,392) (55,392)
82,544 82,544
ราคาทุน
เงินลงทุนชั่วคราว - เงินลงทุนเผื่อขาย ตราสารทุนในความต้องการของตลาดในประเทศ
รวมเงินลงทุนชั่วคราว
บาท
2552 มูลค่ายุติธรรม
บาท
กำ�ไรขั้นต้น ที่ยังไม่เกิดขึ้น บาท
908,859 908,859
138,097 138,097
1,046,956 1,046,956
2553 บาท
2552 บาท
ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง
2,169,944,831
2,273,133,663
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (*)
(75,534,847) 2,094,409,984 (358,157,617) 1,736,252,367
(76,735,228) 2,196,398,435 (421,370,298) 1,775,028,137
ราคาทุน
เงินลงทุนชั่วคราว - เงินลงทุนเผื่อขาย ตราสารทุนในความต้องการของตลาดในประเทศ
รวมเงินลงทุนชั่วคราว
บาท
8. ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง - สุทธิ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง - สุทธิ ประกอบด้วย
หัก เจ้าหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง - สุทธิ
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
105
Financial Statements / งบการเงิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง - สุทธิ แยกตามอายุหนี้ที่ค้างชำ�ระ มีดังต่อไปนี้
ภายในวันที่ครบกำ�หนด เกินวันครบกำ�หนดชำ�ระ น้อยกว่า 3 เดือน 3 เดือน - 6 เดือน 6 เดือน - 12 เดือน ปรับโครงสร้างหนี้ ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างดำ�เนินคดีตามกฎหมาย
2553 บาท
2552 บาท
1,389,337,862
1,399,824,087
693,818,634 14,595,612 981,752 1,475,350 69,735,621 2,169,944,831
791,105,605 12,097,982 4,510,073 1,975,350 63,620,566 2,273,133,663
(*) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทได้มีการพิจารณาการกันสำ�รองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแบบกลุ่มลูกหนี้ (Collective approach) สำ�หรับลูกหนี้ จากการซื้อสิทธิเรียกร้องที่จัดชั้นปกติและลูกหนี้ที่ค้างชำ�ระไม่เกิน 3 เดือน เป็นจำ�นวนเงิน 1,893,877 บาท และ 2,488,523 บาท ตามลำ�ดับ (ดูหมายเหตุ ข้อ 4.4)
9. ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อ - สุทธิ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อ - สุทธิ ประกอบด้วย
2553 บาท
2552 บาท
ลูกหนี้ตามจำ�นวนในสัญญาคงเหลือ
19,858,422
41,487,391
หัก รายได้ทางการเงินตั้งพัก
(1,685,785) 18,172,637 (2,139,452) 16,033,185 11,146,049 (1,137,938) 10,008,111 6,025,074
(4,280,240) 37,207,151 (2,365,975) 34,841,176 21,488,782 (2,594,447) 18,894,335 15,946,841
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (*) ลูกหนี้ที่ครบกำ�หนดชำ�ระในหนึ่งปี หัก รายได้ทางการเงินตั้งพัก ลูกหนี้ที่ครบกำ�หนดชำ�ระในหนึ่งปี - สุทธิ ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อ - สุทธิ
106
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อ-สุทธิแยกตามอายุหนี้ที่ค้างชำ�ระ มีดังต่อไปนี้
2553 บาท
2552 บาท
ภายในวันที่ครบกำ�หนดชำ�ระ
17,552,958
39,041,740
ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างดำ�เนินคดีตามกฎหมาย
2,305,464 19,858,422
2,445,651 41,487,391
(*) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทได้มีการพิจารณาการกันสำ�รองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแบบกลุ่มลูกหนี้ (Collective approach) สำ�หรับลูกหนี้ จากสัญญาเช่าซือ้ ทีจ่ ดั ชัน้ ปกติและลูกหนีท้ ค่ี า้ งชำ�ระไม่เกิน 3 เดือน เป็นจำ�นวนเงิน 44,960 บาท และ 131,295 บาท ตามลำ�ดับ (ดูหมายเหตุขอ้ 4.4)
10. ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาว - สุทธิ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาว - สุทธิ ประกอบด้วย
2553 บาท
2552 บาท
ลูกหนี้ตามจำ�นวนในสัญญาคงเหลือ
197,086,563
280,483,032
หัก เงินมัดจำ�จากสัญญาเช่าระยะยาว (หมายเหตุข้อ 5) หัก รายได้ทางการเงินตั้งพัก หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (*)
(53,212,814) (16,068,158) 127,805,591 (357,386)
(90,446,487) (21,802,682) 168,233,863 (10,923,763)
ลูกหนี้ที่ครบกำ�หนดชำ�ระในหนึ่งปี หัก เงินมัดจำ�จากสัญญาเช่าระยะยาว หัก รายได้ทางการเงินตั้งพัก ลูกหนี้ที่ครบกำ�หนดชำ�ระในหนึ่งปี - สุทธิ ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าระยะยาว - สุทธิ
127,448,205 86,956,756 (21,510,848) (9,053,121) 56,392,787 71,055,418
157,310,100 96,236,605 (11,424,021) (11,189,715) 73,622,869 83,687,231
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ลูกหนี้จากสัญญาเช่าระยะยาว - สุทธิแยกตามอายุหนี้ที่ค้างชำ�ระมีดังต่อไปนี้
ภายในวันที่ครบกำ�หนดชำ�ระ เกินวันครบกำ�หนดชำ�ระ: น้อยกว่า 3 เดือน ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างดำ�เนินคดีตามกฎหมาย
2553 บาท
2552 บาท
197,086,537
261,398,511
26 197,086,563
115,446 18,969,075 280,483,032
(*) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทได้มีการพิจารณาการกันสำ�รองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแบบกลุ่มลูกหนี้ (Collective approach) สำ�หรับลูกหนี้ ตามสัญญาเช่าระยะยาวทีจ่ ดั ชัน้ ปกติและลูกหนีท้ ค่ี า้ งชำ�ระไม่เกิน 3 เดือน เป็นจำ�นวนเงิน 357,386 บาท และ 592,807 บาท ตามลำ�ดับ (ดูหมายเหตุขอ้ 4.4) Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
107
Financial Statements / งบการเงิน
11. เงินให้กู้ยืมค่าสินค้า
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 เงินให้กู้ยืมค่าสินค้า - สุทธิ ประกอบด้วย
2553 บาท
2552 บาท
เงินให้กู้ยืมค่าสินค้า
15,695,309
1,963,241
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (*) เงินให้กู้ยืมค่าสินค้า - สุทธิ
(2,785,990) 12,909,319
(185,386) 1,777,855
(*) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัทได้มีการพิจารณาการกันสำ�รองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแบบกลุ่มลูกหนี้ (Collective approach) สำ�หรับเงินให้กู้ยืมค่าสินค้า ที่จัดชั้นปกติและลูกหนี้ที่ค้างชำ�ระไม่เกิน 3 เดือน เป็นจำ�นวนเงิน 14,087 บาท (ดูหมายเหตุข้อ 4.4)
12. เงินฝากธนาคารที่ ใช้เป็นหลักประกัน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 เงินฝากประจำ�ธนาคารจำ�นวน 140,001 บาท และ 138,376 บาท ตามลำ�ดับ ได้นำ�ไปเป็นหลักประกันการออก หนังสือค้ำ�ประกันของธนาคารให้กับบริษัท
13. ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ
ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ - สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย
ยอดคง เหลือ ณ วัน ที่ 1 มกราคม 2553 บาท
เพิ่มขึ้น
จำ�หน่าย
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553
บาท
บาท
บาท
3,417,277 37,457,987 28,389,900 5,381,994 74,647,158
9,342,876 1,251,939 10,594,815
(1,145,310) (1,145,310)
3,417,277 37,457,987 36,587,466 6,633,933 84,096,663
(14,861,004) (22,633,073) (3,468,608) (40,962,685) 33,684,473
(936,450) (3,303,136) (1,113,541) (5,353,127)
1,086,252 1,086,252
(15,797,454) (24,849,957) (4,582,149) (45,229,560) 38,867,103
ราคาทุน อาคารชุด-ที่ดิน อาคารชุด-อาคาร เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำ�นักงาน ยานพาหนะ รวมราคาทุน
ค่าเสื่อมราคาสะสม อาคารชุด-อาคาร เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำ�นักงาน ยานพาหนะ รวมค่าเสื่อมราคาสะสม ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ
108
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
ยอดคง เหลือ ณ วัน ที่ 1 มกราคม 2552 บาท
เพิ่มขึ้น
จำ�หน่าย
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
บาท
บาท
บาท
3,417,277 37,457,987 32,581,213 5,381,994 78,838,471
531,299 531,299
(4,722,612) (4,722,612)
3,417,277 37,457,987 28,389,900 5,381,994 74,647,158
(13,924,555) (25,429,342) (2,424,916) (41,778,813) 37,059,658
(936,449) (1,925,954) (1,043,692) (3,906,095)
4,722,223 4,722,223
(14,861,004) (22,633,073) (3,468,608) (40,962,685) 33,684,473
บาท บาท
5,353,127
ราคาทุน อาคารชุด-ที่ดิน อาคารชุด-อาคาร เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำ�นักงาน ยานพาหนะ รวมราคาทุน
ค่าเสื่อมราคาสะสม อาคารชุด-อาคาร เครื่องตกแต่งและเครื่องใช้สำ�นักงาน ยานพาหนะ รวมค่าเสื่อมราคาสะสม ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ
ค่าเสื่อมราคาสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 2552
3,906,095
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ราคาตามทุนของอาคารและอุปกรณ์ที่หักค่าเสื่อมราคาทั้งจำ�นวนแล้วแต่ยังคงใช้งานอยู่มีจำ�นวน 19,834,545 บาท และ 19,633,935 บาท ตามลำ�ดับ
14. สินทรัพย์ ไม่มีตัวตน - สุทธิ
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน - สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย
ยอดยกมา ณ วันที่ 1 มกราคม 2553
เพิ่มขึ้น
ลดลง
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553
3,138,750 3,138,750
241,474 241,474
-
3,380,224 3,380,224
(1,367,843) (1,367,843) 1,770,907
(1,049,465) (1,049,465)
-
(2,417,308) (2,417,308) 962,916
ราคาทุน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมราคาทุน
ค่าตัดจำ�หน่ายสะสม โปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมค่าตัดจำ�หน่ายสะสม สินทรัพย์ไม่มีตัวตน - สุทธิ
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
109
Financial Statements / งบการเงิน
ยอดยกมา ณ วันที่ 1 มกราคม 2552
เพิ่มขึ้น
ลดลง
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552
2,842,010 2,842,010
296,740 296,740
-
3,138,750 3,138,750
(342,519) (342,519) 2,499,491
(1,025,324) (1,025,324)
-
(1,367,843) (1,367,843) 1,770,907
บาท บาท
1,049,465
ราคาทุน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมราคาทุน
ค่าตัดจำ�หน่ายสะสม โปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมค่าตัดจำ�หน่ายสะสม สินทรัพย์ไม่มีตัวตน - สุทธิ
ค่าตัดจำ�หน่ายสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 2552
1,025,324
15. สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี
สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 มีรายละเอียดดังนี้
2553 บาท
2552 บาท
สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี
44,737,597
33,738,425
หัก หนี้สินภาษีเงินได้รอตัดบัญชี สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีสุทธิ
44,737,597
(41,429) 33,696,996
สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วยผลกระทบทางภาษีของรายการดังต่อไปนี้
2552
รายการทีร่ บั รู้ รายการทีร่ บั รู้ ในงบกำ�ไรขาดทุน ในส่วนของผู้ถือหุ้น บาท บาท บาท
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ หนี้สูญที่อยู่ระหว่างการดำ�เนินคดี สินทรัพย์จากสัญญาเช่าทางการเงิน กำ�ไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของ เงินลงทุน - หลักทรัพย์เผื่อขาย ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน อื่นๆ
110
2553 บาท
27,063,106
(2,817,803)
-
24,245,303
1,785,299 4,890,020
5,490,650 3,558,570
-
7,275,949 8,448,590
(41,429) 33,696,996
817,469 80,297 7,129,183
58,046 3,853,372 3,911,418
16,617 4,670,841 80,297 44,737,597
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ หนี้สูญที่อยู่ระหว่างการดำ�เนินคดี สินทรัพย์จากสัญญาเช่าทางการเงิน กำ�ไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของ เงินลงทุน - หลักทรัพย์เผื่อขาย
2551 บาท
รายการทีร่ บั รู้ ในงบกำ�ไรขาดทุน บาท
รายการทีร่ บั รู้ ในส่วนของผู้ถือหุ้น บาท
2552 บาท
27,134,457
(71,351)
-
27,063,106
1,785,299 (73,197)
4,963,217
-
1,785,299 4,890,020
(58,919) 28,787,640
4,891,866
17,490 17,490
(41,429) 33,696,996
16. เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย
ตั๋วสัญญาใช้เงิน
2553 บาท
2552 บาท
1,020,000,000
1,480,000,000
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินโดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.15 - 2.95 ต่อปี และร้อยละ 2.65 - 5.25 ต่อปี ตามลำ�ดับ
17. เงินกู้ยืมระยะยาว
เงินกู้ยืมระยะยาว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย
2553 บาท เงินกู้ระยะยาว
125,000,000
หัก เงินกู้ยืมระยะยาวที่ครบกำ�หนดชำ�ระในหนึ่งปี
100,000,000 225,000000
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง โดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ THBFIX (3 เดือน) + 2.75 ต่อปี และมี กำ�หนดชำ�ระเงินต้นทุก 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 ถึงเดือนมีนาคม 2556
18. เงินกองทุนสำ�รองเลี้ยงชีพพนักงาน
บริษัทได้จัดตั้งเงินกองทุนสำ�รองเลี้ยงชีพสำ�หรับพนักงานที่สมัครเข้าโครงการหลังจากทำ�งานครบ 1 ปี และได้จดทะเบียนเป็นกองทุนสำ�รองเลี้ยงชีพ ตามพระราชบัญญัติกองทุนสำ�รองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 เงินสมทบของบริษัท ซึ่งได้บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงบการเงินมีจำ�นวน 2.1 ล้านบาท และ 1.8 ล้านบาท ตามลำ�ดับ Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
111
Financial Statements / งบการเงิน
19. ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน
บริษัทคำ�นวณประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน โดยประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย โดยสมมติฐานประกอบด้วยอัตรา คิดลดร้อยละ 4 อัตราการลาออกร้อยละ 2 ร้อยละ 6 และร้อยละ 11 ขึ้นอยู่กับกลุ่มของอายุของพนักงาน อัตราการขึ้นเงินเดือนร้อยละ 9 และอายุ เกษียณ 60 ปี ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงานสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย
2553 บาท ประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงาน สำ�หรับเงินชดเชยการเลิกจ้าง (ดูหมายเหตุข้อ 19.1) ประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงาน สำ�หรับการทำ�งานกับบริษัทเป็นเวลานาน (ดูหมายเหตุข้อ 19.2) ประมาณการหนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน
13,536,314 2,033,155 15,569,469
19.1 ประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงานสำ�หรับเงินชดเชยจากการเลิกจ้าง การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าปัจจุบันของประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงานสำ�หรับเงินชดเชยจากการเลิกจ้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 แสดงดังนี้
2553 บาท มูลค่าปัจจุบันของประมาณการหนี้สินต้นงวด ต้นทุนบริการงวดปัจจุบัน ต้นทุนดอกเบี้ย ผลประโยชน์ที่จ่ายระหว่างงวด มูลค่าปัจจุบันของประมาณการหนี้สินปลายงวด
11,240,453 1,846,243 449,618 13,536,314
ประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงานสำ�หรับเงินชดเชยจากการเลิกจ้างสำ�หรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย
2553 บาท
112
ต้นทุนบริการงวดปัจจุบัน ต้นทุนดอกเบี้ย
1,846,243 449,618
รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงาน สำ�หรับเงินชดเชยจากการเลิกจ้างที่รับรู้ในงบกำ�ไรขาดทุนสุทธิ
2,295,861
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
19.2 ประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงานสำ�หรับการทำ�งานกับบริษัทเป็นเวลานาน การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าปัจจุบันของประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงานสำ�หรับการทำ�งานกับบริษัทเป็นเวลานาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 แสดงดังนี้
2553 บาท มูลค่าปัจจุบันของประมาณการหนี้สินต้นงวด ต้นทุนบริการงวดปัจจุบัน
1,604,120 425,904
ต้นทุนดอกเบี้ย
64,164
ผลประโยชน์ที่จ่ายระหว่างงวด
(61,033)
มูลค่าปัจจุบันของประมาณการหนี้สินปลายงวด
2,033,155
ประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงานสำ�หรับการทำ�งานกับบริษัทเป็นเวลานานสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย
2553 บาท ต้นทุนบริการงวดปัจจุบัน ต้นทุนดอกเบี้ย
425,904 64,164
รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับประมาณการหนี้สินผลตอบแทนของพนักงาน สำ�หรับการทำ�งานกับบริษัทเป็นเวลานานที่รับรู้ ในงบกำ�ไรขาดทุนสุทธิ
490,068
20. ทุนเรือนหุ้น
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทจากเดิมมูลค่าหุ้นละ 5 บาท เป็น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท และอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำ�นวน 120,000,000 บาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำ�นวน 120,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากเดิมบริษัทมีทุนจดทะเบียนจำ�นวน 350,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 470,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำ�นวน 470,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท และได้มีการอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำ�นวน 120,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ดังนี้ - หุ้นสามัญใหม่จำ�นวน 117,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป - หุ้นสามัญใหม่จำ�นวน 2,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหาร
ทั้งนี้ มอบหมายให้คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้มีอำ�นาจในการกำ�หนดราคาเสนอขายหุ้น ระยะเวลาการเสนอขาย ข้อกำ�หนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการ จัดสรรหุ้นดังกล่าวข้างต้น เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2553 บริษัทได้รับอนุมัติจากสำ�นักงานคณะกรรมการกำ�กับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้เสนอขายหุ้นต่อประชาชน เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2553 มีมติมอบหมายให้ประธานกรรมการบริษัทหรือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร เป็นผู้มีอำ�นาจในการพิจารณากำ�หนดราคาเสนอขาย ระยะเวลาเสนอขายและข้อกำ�หนดและเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับ ประชาชนทั่วไป
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2553 บริษัทได้ลงนามแต่งตั้งผู้จัดการร่วมการจัดจำ�หน่ายและรับประกันการจัดจำ�หน่ายและผู้ร่วมจัดจำ�หน่ายและรับประกัน การจัดจำ�หน่าย จำ�นวน 120,000,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.35 บาท ซึ่งบริษัทได้ขายหุ้นดังกล่าวทั้งหมดแล้วเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 รวม เป็นเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นทั้งสิ้น 162,000,000 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2553 บริษัทได้จดทะเบียนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้เรียกชำ�ระแล้ว จำ�นวน 120,000,000 หุ้น หรือ 120,000,000 บาทดังกล่าว กับกระทรวงพาณิชย์แล้ว Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
113
Financial Statements / งบการเงิน
จำ�นวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำ�หนักสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 คำ�นวณได้ดังนี้
2553 บาท จำ�นวนหุ้นสามัญคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 จำ�นวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำ�หนักที่ออก (120,000,000 x 149/365) จำ�นวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำ�หนัก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553
350,000,000 48,986,301 398,986,301
21. ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญ
ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำ�กัด พ.ศ. 2535 มาตรา 51 เกิดจากการที่บริษัทเสนอขายหุ้นสูงกว่ามูลค่า หุ้นที่จดทะเบียนไว้หักด้วยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนซึ่งถือเป็นทุนสำ�รองและจะนำ�ไปจ่ายเป็นเงินปันผลไม่ได้
22. ทุนสำ�รองตามกฎหมาย
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำ�กัด พ.ศ. 2535 บริษัทจะต้องจัดสรรเงินสำ�รองอย่างน้อยร้อยละห้าของกำ�ไรสุทธิประจำ�ปีหลังจากหักขาดทุน สะสมยกมา (ถ้ามี) จนกว่าสำ�รองดังกล่าวมีจำ�นวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของทุนจดทะเบียน
23. การจัดการส่วนทุน
วัตถุประสงค์ในการบริหารทุนของบริษัทเป็นไปเพื่อการดำ�รงไว้ซึ่งความสามารถในการดำ�เนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นและ เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีส่วนได้เสียอื่น
ทั้งนี้บริษัทจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ก�ำ หนดไว้ในใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว กำ�หนดให้บริษัทต้องมีเงินกู้ทั้งสิ้นที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ต้องไม่เกินเจ็ดเท่าของเงินทุน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทได้ปฏิบัติตามข้อกำ�หนดดังกล่าวข้างต้น นอกจากนี้เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2553 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอนุญาตให้บริษัทประกอบธุรกิจบัญชีสาม (21) โดยบริษัทจะเริ่มประกอบธุรกิจได้ต้องมีทุนขั้นต่ำ�รวมทั้งสิ้นไม่ น้อยกว่า 427,954,151 บาท (หมายเหตุข้อ 1)
24. เงินปันผลจ่าย
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2553 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ จำ�นวน 350,000,000 หุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท เป็นจำ�นวนเงิน 31.50 ล้านบาท และบริษัทได้จ่ายเงินปันผลดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้ว เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2553 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2552 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญจำ�นวน 70,000,000 หุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.43 บาท เป็นจำ�นวนเงิน 30.10 ล้านบาท และบริษัทได้จ่ายเงินปันผลดังกล่าว ให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้ว เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2552
25. ภาษีเงินได้
ภาษีเงินได้สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย
114
2553 บาท
2552 บาท
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ตามแบบแสดงรายการ
35,367,967
35,642,189
รายการปรับปรุงภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับ ผลแตกต่างชั่วคราวที่เกิดขึ้นและที่กลับรายการ ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ตามงบกำ�ไรขาดทุน
(7,129,182) 28,238,785
(4,891,866) 30,750,323
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
รายการกระทบยอดระหว่างภาษีเงินได้และกำ�ไรทางบัญชี สำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 มีดังนี้
กำ�ไรทางบัญชีก่อนภาษี ภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 30 ผลกระทบทางภาษีของรายได้และค่าใช้จ่ายทางบัญช แต่มิได้เป็นรายได้และค่าใช้จ่ายทางภาษี ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับผลแตกต่าง ชั่วคราวที่เกิดขึ้นและที่กลับรายการ ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ตามแบบแสดงรายการ
2553 บาท
2552 บาท
113,041,549
106,929,565
33,912,465 (5,673,680) 28,238,785 7,129,182 35,367,967
32,078,870 (1,328,547) 30,750,323 4,891,866 35,642,189
26. รายการระหว่างบุคคลหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
งบการเงินนี้ได้รวมรายการที่เกิดขึ้นกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกันโดยการถือหุ้นหรือการมีผู้ถือหุ้นหรือกรรมการร่วมกัน ดังนั้นงบการเงินนี้จึง แสดงผลของรายการดังกล่าว ซึ่งการกำ�หนดราคาซื้อขายระหว่างกัน การกำ�หนดอัตราดอกเบี้ยระหว่างกันและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามปกติทางธุรกิจ และเป็นเงื่อนไขการค้าทั่วไป สำ�หรับบุคคลที่เกี่ยวข้องกันเป็นไปตามที่ได้รับอนุมัติโดยกรรมการหรือผู้ถือหุ้น ยอดคงเหลือที่สำ�คัญกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย
ความสัมพันธ์
2553 บาท
2552 บาท
ลูกหนื้อื่น - บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ไอเอฟเอส แคปปิตอล ลิมิเต็ด
บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่
75,626
37,311
เจ้าหนี้อื่น - บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ไอเอฟเอส แคปปิตอล ลิมิเต็ด
บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่
-
10,026
2553 บาท
2552 บาท
-
2,466,658
รายการค้าที่สำ�คัญกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันสำ�หรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย
ความสัมพันธ์
ดอกเบี้ยรับบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด
บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2552 บริษัทให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นจำ�นวน 280 ล้านบาท ซึ่งเงินให้กู้ยืมข้างต้น ครบกำ�หนดชำ�ระภายใน 30 มีนาคม 2552 โดยบริษัทได้รับชำ�ระคืนทั้งจำ�นวนแล้วเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2552 บริษัทมีการคิดดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราต้นทุนทางการเงินของบริษัทบวกร้อยละ 1
27. ภาระผูกพัน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และวันที่ 31 ธันวาคม 2552 บริษัทมีสัญญาวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนทั่วไปในกิจการ ดังนี้
วงเงินสินเชื่อรวม
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บาท
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 บาท
2,806,000,000
2,727,000,000
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัทมีภาระผูกพันเลตเตอร์ออฟเครดิตกับสถาบันการเงินเป็นจำ�นวน 9.17 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้าจากการซื้อสิทธิ เรียกร้อง สัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาวใช้ ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อดังกล่าวที่ยังไม่ได้ใช้กับสถาบัน การเงินจำ�นวนรวม 1,407 ล้านบาท และ 1,177 ล้านบาท ตามลำ�ดับ Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
115
Financial Statements / งบการเงิน
28. ค่าใช้จ่ายตามลักษณะ
กำ�ไรสุทธิสำ�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 เกิดขึ้นภายหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่สำ�คัญ ดังต่อไปนี้
2553 บาท
2552 บาท
ค่าตอบแทนของกรรมการและผู้บริหาร
23,454,263
21,153,400
ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำ�หน่าย หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ (กลับรายการ) ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าธรรมเนียมวิชาชีพ ต้นทุนทางการเงิน
33,600,163 6,402,597 7,007,505 7,683,443 3,054,544 40,211,418
27,437,477 4,931,419 (55,906) 6,843,702 3,258,260 47,569,359
29. การเสนอข้อมูลทางการเงินจำ�แนกตามส่วนงาน
การดำ�เนินงานของบริษัทประกอบด้วย การรับซื้อสิทธิเรียกร้อง ทำ�ธุรกิจสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาว และบริษัทวัดผลการดำ�เนินงานจาก กิจกรรมเหล่านี้โดยถือเป็นส่วนงานทางธุรกิจเพียงส่วนเดียว นอกจากนั้น บริษัทดำ�เนินธุรกิจในเขตภูมิศาสตร์เดียว คือ ประเทศไทย ดังนัน้ รายได้ กำ�ไรจากการดำ�เนินงานและสินทรัพย์ทง้ั หมดทีแ่ สดงในงบการเงินนีจ้ งึ เกีย่ วข้องกันกับส่วนงานธุรกิจและเขตภูมศิ าสตร์ตามทีก่ ล่าวไว้ขา้ งต้น
30. การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องเกิดจากความซับซ้อนในการระดมทุนให้เพียงพอและทันเวลาต่อการปฏิบัติตามภาระผูกพันที่กำ�หนดไว้ในเครื่องมือ ทางการเงิน ทั้งนี้ผู้บริหารได้ประเมินฐานะการเงินและผลการดำ�เนินงานในปัจจุบันและเชื่อว่าบริษัทมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องน้อย ความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญา ความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาอาจเกิดจากการที่คู่สัญญาไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำ�หนดในสัญญาที่ทำ�ไว้กับบริษัทและทำ�ให้เกิดความ เสียหายแก่บริษัทได้ บริษัทได้มีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงนี้โดยมีการวิเคราะห์สินเชื่อจากข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า และการติดตามลูกค้าอย่าง สม่ำ�เสมอ ตามแนวทางที่ได้กำ�หนดไว้ในระเบียบ พิธีปฏิบัติสินเชื่อ ความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญานี้มีมูลค่าสูงสุดตามที่แสดงไว้ในด้าน สินทรัพย์ในงบดุลหลังจากหักสำ�รองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญแล้ว ความเสี่ยงเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเครื่องมือทางการเงินในงบดุลนั้น เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย อันอาจจะมีผลในทางลบต่อ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในปีปัจจุบันและในอนาคต ความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ยนี้เกิดขึ้นจากการจัดโครงสร้าง และลักษณะของรายการในสินทรัพย์หนี้ สิน หรืออาจเกิดจากระยะเวลาที่แตกต่างกันในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระหว่างรายการทางด้านสินทรัพย์และหนี้สิน ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้เปิดเผยแล้วในหมายเหตุข้อ 16 และ 17 วิธีการและข้อสมมติฐานในการประมาณมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน ข้อสมมติฐานของมูลค่ายุติธรรมต้องใช้ดุลยพินิจในการประมาณการ ดังนั้นมูลค่ายุติธรรมที่ประมาณขึ้นที่เปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงินนี้จึง ไม่จำ�เป็นต้องบ่งชี้ถึงจำ�นวนเงินซึ่งเกิดขึ้นจริงในตลาดแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน การใช้ข้อสมมติฐานทางการตลาดและหรือวิธีการประมาณที่แตกต่าง กันอาจมีผลกระทบที่มีสาระสำ�คัญในมูลค่ายุติธรรมที่ประมาณขึ้น บริษัทใช้วิธีการและข้อสมมติฐานดังต่อไปนี้ในการประมาณมูลค่ายุติธรรมของ เครื่องมือทางการเงิน 116
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
มูลค่ายุติธรรม ถือตามจำ�นวนเงินที่แสดงในงบดุล
ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง
ลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้องแสดงยอดหลังหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ดอกเบี้ยแบบลอยตัว ถือตามจำ�นวนเงินที่แสดงในงบดุล
มูลค่ายุติธรรมโดยประมาณของลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้องที่ใช้อัตรา
ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาว
มูลค่ายุติธรรมโดยประมาณของลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาว คำ�นวณโดยใช้วิธีการหาส่วนลดกระแสเงินสด โดยพิจารณาอัตรา คิดลดจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ตามอายุสัญญาคงเหลือเฉลี่ย
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 มูลค่าตามบัญชี มูลค่ายุติธรรม บาท บาท ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาว รวมส่วนที่ถึงกำ�หนดชำ�ระภายในหนึ่งปี เงินให้กู้ยืมค่าซื้อสินค้า
143,481,390
143,481,390
12,909,319
12,909,319
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 มูลค่าตามบัญชี มูลค่ายุติธรรม บาท บาท ลูกหนี้จากสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเช่าระยะยาว รวมส่วนที่ถึงกำ�หนดชำ�ระภายในหนึ่งปี เงินให้กู้ยืมค่าซื้อสินค้า
192,151,276
192,151,276
1,777,855
1,777,855
เงินลงทุนชั่วคราว
เงินลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน มูลค่ายุติธรรมถือตามราคาที่ซื้อขายกันในตลาด
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน
มูลค่ายุติธรรมโดยประมาณของเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ถือตามจำ�นวนเงินที่แสดงในงบดุล
31. การอนุมัติ ให้ออกงบการเงิน
งบการเงินนี้ได้รับการอนุมัติให้ออกงบการเงินจากกรรมการผู้มีอำ�นาจลงนามของบริษัท เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
117
Financial Statements / งบการเงิน
IFS CAPITAL (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED NOTES TO THE FINANCIAL STATEMENTS FOR THE YEARS ENDED DECEMBER 31, 2010 AND 2009 1. GENERAL INFORMATION AND THE COMPANY’S OPERATION
The Company was incorporated in March 1991, under the laws of Thailand and registered as a Public Company Limited with the Ministry of Commerce on April 18, 2007. The Company’s office is located at 20th floor Lumpini Tower, 1168/55 Rama IV Road, Tungmahamek, Sathorn, Bangkok. The principal business activities of the Company are factoring, hire purchase and leasing businesses. The major shareholders as at December 31, 2010 and 2009 were IFS Capital Holdings (Thailand) Limited with 36.64% and 49.2%, respectively and IFS Capital Limited (registered in Singapore) with 36.49% and 49.0% shareholding, respectively. The major shareholder of IFS Capital Limited was Phillip Asset Pte. Ltd. (registered in Singapore) with 40.4% shareholding. Commencing from January 1, 2009, the Company ceased the expansion of the hire purchase and leasing businesses but still continued to provide services to existing customers. On April 1, 2009, IFS Capital Holdings (Thailand) Limited, a major shareholder of the Company has changed its shareholding structure to that of a foreign company. Accordingly, the status of the Company has been changed to that of foreign company. Therefore, the Company has submitted the request to do business under Section 17 of the Foreign Business Act B.E. 2542 and obtained the license of foreign business operations dated July 3, 2009 from the Department of Business Development to do the business in category 3 (21) service business as follows: 1. Factoring 2. Leasing and hire purchase businesses only to the existing customers committed under the leasing and hire purchase agreements Thus, the Company has to comply with the conditions specified in the certificate of foreign business operations. On November 27, 2009, the Company had reapplied for a permission to operate a business under annex 3 (21): service businesses of leasing and hire purchase of vehicles and machineries used in industry, tools used in transport of goods, vessels and carriages used in agriculture to new clients and on April 8, 2010, the Company had obtained the approval from the Department of Business Development.
118
On April 27, 2010, the Company obtained approval from IFS Capital Limited in Singapore, who is the Company’s major shareholder, for its public offering and its listing on the Stock Exchange of Thailand.
On August 3, 2010, the Company had made its public offering and sold 120 million shares at Baht 1.35 per share totaling of Baht 162 million and on August 5, 2010, the Company had registered such additional paid-up capital of 120 million shares equivalent to Baht 120 million with the Ministry of Commerce.
On August 6, 2010, the Company has paid the fee and received a license to operate a business under annex 3 (21) : service businesses of Leasing and Hire purchase of vehicles and machineries used in industry, tools used in transport of goods, vessels and carriages used in agriculture and on the same day the Stock Exchange of Thailand (SET) informed that the SET’s board has approved a listing of common shares of IFS Capital (Thailand) Public Company Limited amounting to 470 million shares with a par value of Baht 1 per share, total amounting to Baht 470 million, to be traded on the SET using the trading name of “IFS” commencing from August 10, 2010.
2. BASIS OF PREPARATION AND PRESENTATION OF FINANCIAL STATEMENTS
The statutory financial statements are prepared in Thai Baht and in the Thai language in conformity with accounting standards and practices generally accepted in Thailand. Accordingly, the financial statements are intended solely to present the financial position and results of operations and cash flows in accordance with accounting principles and practices generally accepted in Thailand. Financial statements are shown in accordance with the Notification of the Department of Business Development dated January 30, 2009 regarding “The Brief Particulars in the Financial Statements B.E. 2552”. The Federation of Accounting Professions issued the Notifications of Federation of Accounting Professions regarding the new and revised Thai Accounting Standards (TASs), Thai Financial Reporting Standards (TFRSs) and Thai Financial Reporting Interpretation (TFRI) as follows:
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
- Notification of Federation of Accounting Professions No. 17/2553 dated April 9, 2010 that have been announced in the Royal Gazette on May 26, 2010:
TASs/TFRSs
Effective date
Accounting Framework (Revised 2009)
Immediately
Thai Accounting Standards (TASs) TAS 1 (Revised 2009) TAS 2 (Revised 2009) TAS 7 (Revised 2009) TAS 8 (Revised 2009) TAS 10 (Revised 2009) TAS 11 (Revised 2009) TAS 12 TAS 17 (Revised 2009) TAS 20 (Revised 2009) TAS 23 (Revised 2009) TAS 24 (Revised 2009) TAS 27 (Revised 2009) TAS 28 (Revised 2009) TAS 29 TAS 31 (Revised 2009) TAS 33 (Revised 2009) TAS 34 (Revised 2009) TAS 36 (Revised 2009) TAS 37 (Revised 2009) TAS 38 (Revised 2009) TAS 40 (Revised 2009)
Presentation of Financial Statements Inventories Statement of Cash Flows Accounting Policies, Changes in Accounting Estimates and Errors Events after the Reporting Period Construction Contracts Income Taxes Leases Accounting for Government Grants and Disclosure of Government Assistance Borrowing Costs Related Party Disclosures Consolidated and Separate Financial Statements Investments in Associates Financial Reporting in Hyperinflationary Economies Interests in Joint Ventures Earnings Per Share Interim Financial Reporting Impairment of Assets Provisions, Contingent Liabilities and Contingent Assets Intangible Assets Investment Property
January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2013 January 1, 2011 January 1, 2013 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011 January 1, 2011
Thai Financial Reporting Standards (TFRSs) TFRS 5 (Revised 2009) TFRS 6
Non-current Assets Held for Sale and Discontinued Operations Exploration for and Evaluation of Mineral Resources
January 1, 2011 January 1, 2011
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
119
Financial Statements / งบการเงิน
- Notification of Federation of Accounting Professions No. 50/2553, No. 51/2553, No. 52/2553, No. 53/2553, No. 54/2553 and No. 55/2553 dated November 24, 2010 that have been announced in the Royal Gazette on December 15, 2010:
TAS/TFRS/TFRI TAS
Effective date
TAS 16 (Revised 2009)
Property, Plant and Equipment
January 1, 2011
TAS 18 (Revised 2009)
Revenue
January 1, 2011
TAS 19
Employee Benefits
January 1, 2011
TAS 21 (Revised 2009)
The Effects of Changes in Foreign Exchange Rate
January 1, 2013
TAS 26
Accounting and Reporting by Retirement Benefit Plans
January 1, 2011
TFRS 2
Share-based Payment
January 1, 2011
TFRS 3 (Revised 2009)
Business Combinations
January 1, 2011
Agreements for the Construction of Real Estate
January 1, 2011
TFRS
TFRI TFRI 15
The Company’s management anticipates that all of the above accounting standards and financial reporting standards will be adopted in the Company’s financial statements when they become effective except for TAS 12 “Income taxes” and TAS 19 “Employee benefits” which the Company has early adopted before the effective date. TAS 1 (Revised 2009) “Presentation of Financial Statements” changes the requirements regarding the presentation of financial statements and disclosures in the notes to financial statements. Therefore, the Company has been required to apply these standard retrospectively when they become effective. Except the above TASs and TFRSs, the Company’s management anticipates that the adoption of those accounting standards will have no material impact on the financial statements of the Company in the period of initial application.
3. CHANGE IN ACCOUNTING POLICIES
The financial statements are prepared using the same accounting policies and method of computation as those used for the year ended December 31, 2009, except for the following:
3.1 Change in accounting policy of employee benefits
The Company has early adopted Thai Accounting Standard No.19 “Employee Benefits” (see Note 4.9). As a result, the Company has retrospectively adjusted the beginning balance of retained earning for the year ended December 31, 2010.
3.2 Change in accounting policy of income tax
120
The Company has early adopted Thai Accounting Standard No.12 “Income Taxes” (see Note 4.10). As a result, the Company has retrospectively restated the statements of income and statements of changes in shareholders’ equity for the year ended December 31, 2009 and the balance sheet as at December 31, 2009, presented for comparison, as the Company carrying the new policy on income tax had always been in use.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
The Company believes that this change in the accounting policy is appropriate as the Company’s result of operations presented is consistent with business aspects and the obligation of income tax payable or refundable in the future can be recognized in the financial statements. The financial statement for the year ended December 31, 2009, presented herein for comparison, have been restated accordingly and the effects are as follows:
2010 Baht
2009 Baht
-
-
Increase in deferred tax assets
44,737,597
33,696,996
Balance at January 1, after change in accounting policy
44,737,597
33,696,996
-
-
Increase in provision for employee benefits
15,569,469
-
Balance at January 1, after change in accounting policy
15,569,469
-
Balance at January 1, before change in accounting policy
138,097
196,399
Decrease in deferred tax
(41,429)
(58,920)
96,668
137,479
205,289,567
167,658,939
Increase in deferred tax assets
33,738,425
28,846,559
Increase in provision for employee benefits
(8,991,201)
-
230,036,791
196,505,498
Net profit for the year before change in accounting policies
80,459,511
71,287,376
Increase in provision for employee benefits
(2,785,930)
-
7,129,183
4,891,866
84,802,764
76,179,242
398,986
350,000
EPS before change in accounting policies
0.20
0.20
Increase in provision for employee benefits
(0.01)
-
Decrease in income tax
0.02
0.02
EPS after change in accounting policies
0.21
0.22
Deferred tax assets Balance at January 1, before change in accounting policy
Provision for employee benefits Balance at January 1, before change in accounting policy
Unrealized gain on investments
Balance at January 1, after change in accounting policy
Retained earnings - Unappropriated Balance at January 1, before change in accounting policies
Balance at January 1, after change in accounting policies
Net profit
Decrease in income tax Net profit for the year after change in accounting policies
Increase in Earnings Per Share (“EPS”) Basic earnings per share
Weighted-average number of ordinary shares (Thousand shares)
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
121
Financial Statements / งบการเงิน
4. SIGNIFICANT ACCOUNTING POLICIES
The financial statements have been prepared under the historical cost convention except as disclosed in the accounting policies. Significant accounting policies adopted by the Company are summarized below:
4.1 Cash and cash equivalents
Cash and cash equivalents consist of cash on hand, deposits at bank and fixed deposits with original maturities of 3 months or less and excluding cash at banks used as collateral.
4.2
Income recognition Factoring income is recognized on an accrual basis. The hire purchase income is recognized using the effective interest method. The finance lease income is recognized using the direct financing method of accounting, based on effective interest rate. Interest on hire purchase and finance lease contract is recognized on an accrual basis, except when interest is in arrears for more than three months which is then recognized on a cash basis. Factoring commission and service fees are recognized upon the transfer of rights.
4.3 Accounts receivable Factoring receivable is shown net of allowance for doubtful accounts. Hire purchase receivable and lease contract receivable are stated at the outstanding hire purchase contract price and lease contract price after deducting unearned financing income and allowance for doubtful accounts. 4.4 Allowance for doubtful accounts Allowance for doubtful accounts is an estimate of the debts which may prove to be uncollectible . Based on review of the current status of each receivable, the Company sets up the allowance for doubtful accounts as follows: Percentage of receivable Overdue up to 3 months not over 6 months Overdue up to 6 months not over 12 months Overdue up to 12 months
20 50 100
In addition, the Company had determined to set up the allowance for doubtful accounts on a collective approach for factoring, hire puchase, lease contract receivables and inventory finance receivable which are classified as normal and overdue less than 3 months which have similar credit risk characteristics assessed based on the historical loss experience of each loan category (see Notes 8, 9, 10 and 11). 4.5 Current investments Current investments represent investments in equity securities which are classified as security available for sale and are stated at fair value. Gain or loss on the change in fair value is presented as an item in equity. In case of an impairment in value of investment has occurred, the resultant loss for all classification of investment is recognized in the statements of income.
122
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
4.6 Property, plant and equipment Property, plant and equipment are stated at cost less accumulated depreciation. Cost of condominium-land consists of the allocation of direct costs on acquisition, and an apportionment of the total cost of condominium, as assessed officially at the acquisition date, calculated using the rate of the Company’s ownership rights. Cost of condominium - building is derived from total cost of condominiumdeducted by cost of condominium - land. Depreciation is calculated using the straight-line method, based on the estimated useful lives of the assets as follows: Condominium - building 40 years Furniture and fixtures 5 years Vehicles 5 years 4.7 Intangible assets and amortization Intangible assets, which are computer software, are stated at cost less accumulated amortization. The amortized amount is included in statements of income. Amortization of intangible assets is calculated by reference to their costs on a straight-line basis over their estimated useful lives of 3 years. 4.8 Foreign currency transactions Transactions during the year denominated in foreign currencies are translated into Baht at the rates of exchange on the transaction dates. Monetary assets and liabilities denominated in foreign currencies at the balance sheet date are translated into Baht at the exchange rates prevailing at that date. Gains and losses on foreign exchange arising from settlements and translation are recognized as income or expense when incurred. 4.9 Provision for employee benefits The Company has early adopted Thai Accounting Standard No. 19 “Employee Benefits” to comply before effective. The policy is as follows: The Company provides provision regarding the severance pay under the Thai Labor Protection Act and long service awards payable to employees. The liability in respect of employee benefits is calculated by using the actuarial technique. The present value of the defined benefits obligation is determined by discounting estimated future cash flows using yields on the government bonds which have terms to maturity approximating the terms of related liability. The estimated future cash flows shall reflect employee salaries, turnover rate, length of service and other. Actuarial gains or losses will be recognized in the statements of income in the period to which they are related. The costs associated with providing these benefits are charged to the statements of income so as to spread the costover the employment period during which the entitlement to benefits is earned (see Note 19). 4.10 Income tax expenses The Company has early adopted Thai Accounting Standard No.12 “Income Taxes” to comply before effective. The policy is as follows: Income tax expense is based on the taxable profit multiplied by the tax rate that has been enacted at the balance sheet date and adjusted by the effect of deferred income tax accounting. Deferred tax assets and liabilities result from temporary differences between the carrying amounts of assets or liabilities in the balance sheet and their tax bases. Deferred tax liabilities are recognized for all taxable temporary differences and deferred tax assets are recognized to the extent that it is probable that future taxable profit will be available against which deductible temporary differences can be utilized.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
123
Financial Statements / งบการเงิน
Deferred tax expenses are charged or credited in the statement of income, except when the temporary differences relate to items credited or charged directly to equity, in which case the deferred tax is also recorded in equity. Deferred tax assets and liabilities are offset when they relate to income tax levied by the same taxation authority and the Company intends to settle its current tax assets and liabilities on a net basis. 4.11 Basic earnings per share Basic earnings per share are calculated by dividing net income by the number of weighted average ordinary shares outstanding during the year. In case of a capital increase, the number of ordinary shares is weighted according to the time of subscription was received. The Company did not have any common share equivalents outstanding which would have a dilutive effect on basic earnings per share.
4.12 Accounting estimates
The preparation of financial statements in conformity with generally accepted accounting principles also requires the Company’s management to exercise judgments in order to determine the accounting policies, estimates and assumptions that affect the could reported amounts of assets and liabilities, the disclosure of contingent assets and liabilities at the date of the financial statements and the reported amounts of revenue and expenses during the reporting period. Although these estimates are based on management’s reasonable consideration of current events, actual results may differ from these estimates.
5. RECLASSIFICATION
Balance sheets as at December 31, 2009 have been reclassified to conform to the classification on the financial statement as at December 31, 2010 which deposits on long-term lease contracts as at December 31, 2009 amount to Baht 90.45 millions, previously separately presented as non-current liabilities was reclassified to be against net lease contract receivable.
6. SUPPLEMENTARY OF CASH FLOWS INFORMATION
Non cash transactions for the years ended December 31, 2010 and 2009 are as follows:
Other payable - equipments, beginning balance Add Purchases of equipment Less Cash paid for purchases of equipment Other payable - equipment, ending balance (included in other current liabilities)
2010 Baht
2009 Baht
84,831
3,959
10,594,815
531,299
(10,657,711)
(450,427)
21,935
84,831
7. CURRENT INVESTMENTS
Current investments as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
Current investment - available for sale securities
124
2010 Cost Gross unrealized Gains Baht Baht
Fair Value Baht
Marketable equity securities
137,936
(55,392)
82,544
Total current investments
137,936
(55,392)
82,544
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
2009 Cost
Fair Value
Baht
Gross unrealized Gains Baht
Marketable equity securities
908,859
138,097
1,046,956
Total current investments
908,859
138,097
1,046,956
2010 Baht
2009 Baht
2,169,944,831
2,273,133,663
(75,534,847)
(76,735,228)
2,094,409,984
2,196,398,435
Less Factoring payable
(358,157,617)
(421,370,298)
Factoring receivable, net
1,736,252,367
1,775,028,137
2010 Baht
2009 Baht
1,389,337,862
1,399,824,087
693,818,634
791,105,605
14,595,612
12,097,982
981,752
4,510,073
1,475,350
1,975,350
69,735,621
63,620,566
2,169,944,831
2,273,133,663
Current investment - available for sale securities
Baht
8. FACTORING RECEIVABLE, NET
Factoring receivable, net as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
Factoring receivable Less Allowance for doubtful accounts (*)
Factoring receivable, net as at December 31, 2010 and 2009 were classified by aging as follows:
Current Over due : Less than 3 months 3 - 6 months 6 - 12 months Restructuring Debtors subject to legal proceedings
(*) As at December 31, 2010 and 2009, the Company has provided for the allowance for doubtful accounts on a collective approach for factoring receivable which were classified as normal and overdue for less than 3 months which amounted to Baht 1,893,877 and Baht 2,488,523, respectively (see Note 4.4).
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
125
Financial Statements / งบการเงิน
9. HIRE PURCHASE RECEIVABLE, NET
Hire purchase receivable, net as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
2010 Baht
2009 Baht
Outstanding contract price
19,858,422
41,487,391
Less
(1,685,785)
(4,280,240)
18,172,637
37,207,151
(2,139,452)
(2,365,975)
16,033,185
34,841,176
Due within one year
11,146,049
21,488,782
Less
Unearned financing income
(1,137,938)
(2,594,447)
Current portion of hire purchase receivable, net
10,008,111
18,894,335
6,025,074
15,946,841
Less
Unearned financing income Allowance for doubtful accounts (*)
Hire purchase receivable, net Aging of hire purchase receivable, net as at December 31, 2010 were classified by aging as follows:
Current Debtors subject to legal proceedings
2010 Baht
2009 Baht
17,552,958
39,041,740
2,305,464
2,445,651
19,858,422
41,487,391
(*) As at December 31, 2010 and 2009, the Company has provided for the allowance for doubtful accounts on a collective approach for hire purchase receivable which were classified as normal and overdue for less than 3 months which amounted to Baht 44,960 and Baht 131,295, respectively (see Note 4.4).
126
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
10. LEASE CONTRACT RECEIVABLE, NET
Lease contract receivable, net as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
2010 Baht
2009 Baht
Outstanding contract price
197,086,563
280,483,032
Less
Deposits on long-term lease contracts (Note 5)
(53,212,814)
(90,446,487)
Less
Unearned financing income
(16,068,158)
(21,802,682)
127,805,591
168,233,863
(357,386)
(10,923,763)
127,448,205
157,310,100
86,956,756
96,236,605
(21,510,848)
(11,424,021)
Less
Allowance for doubtful accounts (*)
Due within one year Less
Deposits on long-term lease contracts
Less
Unearned financing income
(9,053,121)
(11,189,715)
Current portion of lease contract receivable, net
56,392,787
73,622,869
Lease contract receivable, net
71,055,418
83,687,231
2010 Baht
2009 Baht
197,086,537
261,398,511
26
115,446
-
18,969,075
197,086,563
280,483,032
Lease contract receivable, net as at December 31, 2010 and 2009 were classified by aging as follows:
Current Over due : Less than 3 months Debtors subject to legal proceedings
(*) As at December 31, 2010 and 2009, the Company has provided for the allowance for doubtful accounts on a collective approach for lease contract receivable which were classified as normal and overdue for less than 3 months which amounted to Baht 357,386 and Baht 592,807, respectively (see Note 4.4).
11. INVENTORY FINANCE RECEIVABLE, NET
Inventory finance receivable, net as at December 31, 2010 and 2009 consist of the follows:
2010 Baht
2009 Baht
Inventory finance receivable
15,695,309
1,963,241
Less Allowance for doubtful accounts (*)
(2,785,990)
(185,386)
Inventory finance receivable, net
12,909,319
1,777,855
(*) As at December 31, 2010, the Company has provided for the allowance for doubtful accounts on a collective approach for inventory finance receivable which were classified as normal and overdue for less than 3 months amounted to which Baht 14,087, respectively (see Note 4.4).
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
127
Financial Statements / งบการเงิน
12. BANK DEPOSIT HELD AS COLLATERAL
As at December 31, 2010 and 2009, fixed deposit at bank of Baht 140,001 and Baht 138,376, respectively, have been pledged with a bank as security for issuing bank guarantees by a bank on behalf of the Company.
13. PROPERTY, PLANT AND EQUIPMENT, NET
Property, plant and equipment, net as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
Balance as at January 1, 2010 Baht
Additions
Disposals
Baht
Baht
Balance as at December 31, 2010 Baht
3,417,277
-
-
3,417,277
Condominium - Building
37,457,987
-
-
37,457,987
Furniture and fixtures
28,389,900
9,342,876
(1,145,310)
36,587,466
5,381,994
1,251,939
-
6,633,933
74,647,158
10,594,815
(1,145,310)
84,096,663
Condominium-Building
(14,861,004)
(936,450)
-
(15,797,454)
Furniture and fixtures
(22,633,073)
(3,303,136)
1,086,252
(24,849,957)
(3,468,608)
(1,113,541)
-
(4,582,149)
Total accumulated depreciation
(40,962,685)
(5,353,127)
1,086,252
(45,229,560)
Property, plant and equipment, net
33,684,473
Cost Condominium - Land
Vehicles Total cost
Accumulated depreciation
Vehicles
128
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
38,867,103
Financial Statements / งบการเงิน
Balance as at January 1, 2009 Baht
Additions
3,417,277
-
-
3,417,277
Condominium - Building
37,457,987
-
-
37,457,987
Furniture and fixtures
32,581,213
531,299
(4,722,612)
28,389,900
5,381,994
-
-
5,381,994
78,838,471
531,299
(4,722,612)
74,647,158
Condominium-Building
(13,924,555)
(936,449)
-
(14,861,004)
Furniture and fixtures
(25,429,342)
(1,925,954)
4,722,223
(22,633,073)
(2,424,916)
(1,043,692)
-
(3,468,608)
Total accumulated depreciation
(41,778,813)
(3,906,095)
4,722,223
(40,962,685)
Property, plant and equipment, net
37,059,658
Baht
Disposals Balance as at December 31, 2009 Baht Baht
Cost Condominium - Land
Vehicles Total cost
Accumulated depreciation
Vehicles
33,684,473
Depreciation for the years ended December 31, Baht Baht
2010 2009
5,353,127 3,906,095
As at December 31, 2010 and 2009, the gross carrying amounts of fully depreciated assets still in use are Baht 19,834,545 and Baht 19,633,935, respecitively.
14. INTANGIBLE ASSETS, NET
Intangible assets, net as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
Balance as at January 1, 2010 Baht
Additions
3,138,750
241,474
-
3,380,224
3,138,750
241,474
-
3,380,224
(1,367,843)
(1,049,465)
-
(2,417,308)
(1,367,843)
(1,049,465)
-
(2,417,308)
Baht
Disposals
Balance as at December 31, 2010 Baht Baht
Cost Computer software Total cost
Accumulated amortization Computer software Total accumulated amortization Intangible assets, net
1,770,907
962,916
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
129
Financial Statements / งบการเงิน
Balance as at January 1, 2009 Baht
Additions
Disposals
Baht
Baht
Balance as at December 31, 2009 Baht
2,842,010
296,740
-
3,138,750
2,842,010
296,740
-
3,138,750
(342,519)
(1,025,324)
-
(1,367,843)
(342,519)
(1,025,324)
-
(1,367,843)
Cost Computer software Total cost
Accumulated amortization Computer software Total accumulated amortization Intangible assets, net
2,499,491
1,770,907
Amortization for the years ended December 31, 2010
Baht
1,049,465
2009
Baht
1,025,324
15. DEFERRED TAX ASSETS
Deferred tax assets as at December 31, 2010 and 2009 are as follows:
Deferred tax assets Less Deferred tax obligation Deferred tax assets - net
130
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
2010 Baht
2009 Baht
44,737,597
33,738,425
-
(41,429)
44,737,597
33,696,996
Financial Statements / งบการเงิน
Deferred tax assets as at December 31, 2010 and 2009 consist of tax effects from the following items:
2009
Transaction Transaction recognized in recognized in the statement the Equity of income Baht Baht Baht
2010
Baht
Allowance for doubtful accounts
27,063,106
(2,817,803)
-
24,245,303
Bad debt on process of litigation
1,785,299
5,490,650
-
7,275,949
Assets from lease contract
4,890,020
3,558,570
-
8,448,590
(41,429)
-
58,046
16,617
Post-employment benefits obligation
-
817,469
3,853,372
4,670,841
Other
-
80,297
-
80,297
33,696,996
7,129,183
3,911,418
44,737,597
Transaction Transaction recognized in recognized in the statement the Equity of income Baht Baht Baht
2009
Unrealized gain (loss) on the change in value of investments - available-for-sale securities
2008
Baht
Allowance for doubtful accounts
27,134,457
(71,351)
-
27,063,106
Bad debt on process of litigation
1,785,299
-
-
1,785,299
Assets from Financial Lease
(73,197)
4,963,217
-
4,890,020
Unrealized gain (loss) on the change in value of investments - available-for-sale securities
(58,919)
-
17,490
(41,429)
28,787,640
4,891,866
17,490
33,696,996
16. SHORT-TERM LOANS FROM FINANCIAL INSTITUTIONS
Short-term loans from financial institutions as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
Promissory notes
2010 Baht
2009 Baht
1,020,000,000
1,480,000,000
As at December 31, 2010 and 2009, the company have short-term loans from financial institutions bear interest rate at 2.15% - 2.95% per annum and 2.65% - 5.25% per annum, respectively.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
131
Financial Statements / งบการเงิน
17. LONG-TERM LOANS
Long-term loans as at December 31, 2010 consist of the following:
2010 Baht Long-term loan
125,000,000
Less Current portion of long-term loan
100,000,000 225,000000
As at December 31, 2010, the company has long-term loans with a financial institution at the interest rate THBFIX(3 months) + 2.75% p.a. and is repayable by quarterly from March 2010 to March 2013.
18. PROVIDENT FUND
The Company has a contributory staff provident fund for its employees who apply to join after one year’s service which was registered as the provident fund in accordance with the Provident Fund Act B.E. 2530 (1987). For the years ended December 31, 2010 and 2009, the Company’s contributions included in selling and administrative expenses in the financial statements amounting to Baht 2.1 million and Baht 1.8 million, respectively.
19. PROVISION FOR EMPLOYEE BENEFITS
The Company calculated provision for employee benefits by using actuarial technique. The assumptions are included discount rate at 4%, resignation rate at 2%, 6% and 11% depending on age group of employees, salary increase rate at 9% and retirement age at 60 years. Provision for employee benefits for the year ended December 31, 2010 consist of the following:
2010 Baht Provision for severance pay (See Note 19.1) Provision for long service awards (See Note 19.2) Provision for employee benefits
13,536,314 2,033,155 15,569,469
19.1 Provision for severance pay
Change in the present value of provision for severance pay as at December 31, 2010, is as follows:
2010 Baht Present value of obligation, beginning balance Cost of service - current period Finance cost Benefits paid during the period Present value of obligation, ending balance
132
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
11,240,453 1,846,243 449,618 13,536,314
Financial Statements / งบการเงิน
Provision for severance pay for the year ended December 31, 2010 is as follows:
2010 Baht Cost of service - current period
1,846,243
Finance cost
449,618
Total provision for severance pay expenses recognized in statement of income - net
2,295,861
19.2 Provision for long service awards Change in the present value of provision for long service awards for the year ended December 31, 2010 is as follows:
Present value of obligation, beginning balance
2010 Baht 1,604,120
Cost of service - current period
425,904
Finance cost
64,164
Benefits paid during the period
(61,033)
Present value of obligation, ending balance
2,033,155
Provision for long service awards as at December 31, 2010 is as follows:
2010 Baht Cost of service - current period
425,904
Finance Cost
64,164
Total provision for long service awards expenses recognized in statement of income
490,068
20. SHARE CAPITAL
On November 27, 2009, the extraordinary shareholder’s meeting passed a resolution to approve the change of par value of the Company’s shares from Baht 5 per share to Baht 1 per share. It also approved an increase of the registered capital by Baht 120,000,000 through the issuance of 120,000,000 new ordinary shares at the par value of Baht 1 per share from the existing registered capital of Baht 350,000,000. The new registered capital of Baht 470,000,000 was divided into 470,000,000 ordinary shares at the par value of Baht 1 per share and the allotment of 120,000,000 new ordinary shares at the par value of Baht 1 per share was approved as follows:
- 117,500,000 new ordinary shares at the par value of Baht 1 per share would be offered to the general public by way of a public offering. - 2,500,000 new ordinary shares at the par value of Baht 1 per share would be offered to the Company’s directors and/or management staff. Thus the Board of Directors was authorized to determine the offer price, the offer period and the terms and conditions relating to the allocation of the new shares. On March 5, 2010, the Company obtained the approval of the public offering from the Office of the Securities and Exchange Commission. On May 10, 2010, the Board of Directors’ Meeting no. 3/2010 passed a resolution stating that the Chairman or Chief Executive Officer were authorized to determine the offer price, the offer period, the terms and conditions relating to the Initial Public Offering (IPO).
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
133
Financial Statements / งบการเงิน
On July 28, 2010, the Company signed the Underwriting Agreements with the Co-Lead Underwriters and the Co-Underwriters were to underwrite 120,000,000 shares with offering price at Baht 1.35 per share. The Company sold the shares on August 3, 2010 for Baht 162,000,000 and on August 5, 2010, the Company had registered an additional paid-up new ordinary shares of 120,000,000 shares equivalent to Baht 120,000,000 with the Ministry of Commerce. The weighted average number of ordinary shares for the year ended December 31, 2010, was calculated as follows:
2010 Baht Number of ordinary shares outstanding as at December 31, 2009 Weighted average number of new shares issued during the period (120,000,000 x 149/365) Weighted average number of ordinary shares outstanding as at December 31, 2010
350,000,000 48,986,301 398,986,301
21. PREMIUM ON ORDINARY SHARE
The share premium account is set up under the provisions of Section 51 of the Public Companies Act. B.E. 2535, which requires companies to set aside share subscription monies received in excess of the par value of the shares issued less expenses relating to the increase in share capital as is a reserve account and cannot be distributed as dividend.
22. LEGAL RESERVE
Pursuant to the Public Companies Act. B.E. 2535 (1992), the Company must allocate to a reserve fund from the annual net profit, not less than five percent of the annual net profit deducted by the total accumulated loss brought forward (if any) until the reserve fund reaches an amount of not less than ten percent of the registered capital.
23. CAPITAL MANAGEMENT
The Company’s objectives in managing capital are to safeguard the Company ability to continue as a going concern in order to provide returns for shareholders and benefits for other stakeholders.
The Company has to comply with the conditions specified in the certificate of foreign business operations in that the total amount of loans used in the operation of the business permitted must not exceed seven times the principal. On December 31, 2010 and 2009, the Company’s financial statements showed compliance to the conditions as mentioned. Moreover, on April 8, 2010, the Company had obtained the approval from the Department of Business Development to operate a business under annex 3 (21). However, the Company is required to have a minimum capital of the Company of not less than Baht 427,954,151, which will be fulfilled when the Company lists on the Stock Exchange of Thailand (Note 1).
24. DIVIDENDS PAID
On April 23, 2010, the ordinary shareholders’ meeting passed a resolution to pay dividend of Baht 0.09 per share on 350,000,000 shares, totaling Baht 31.50 million. Such dividend was paid on April 29, 2010. On April 24, 2009, the ordinary shareholders’ meeting passed a resolution to pay dividend of Baht 0.43 per share on 70,000,000 shares, totaling Baht 30.10 million. The Company paid such dividend on April 30, 2009.
25. INCOME TAX
Income tax for the years ended December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
134
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
2010 Baht
2009 Baht
Income tax expense from taxable income per income tax return
35,367,967
35,642,189
Deferred tax expense relating to the origination and reversal of temporary differences
(7,129,182)
(4,891,866)
Income tax per the statements of income
28,238,785
30,750,323
The reconciliation between income tax - income (expense) and accounting income for the years ended December 31, 2010 and 2009 are follows:
2010 Baht
2009 Baht
113,041,549
106,929,565
Income tax at 30%
33,912,465
32,078,870
Tax effect of non-deductible expenses (benefits)
(5,673,680)
(1,328,547)
Income tax per the statements of income
28,238,785
30,750,323
7,129,182
4,891,866
35,367,967
35,642,189
Accounting income before tax
Deferred tax expense relating to the origination and reversal of temporary differences Income tax expenses from taxable income
26. RELATED PARTY TRANSACTIONS
The accompanying financial statements include certain transactions with related companies. The relationship may be that of shareholding or the companies may have the same group of shareholders or directors. The financial statements reflect the effects of these transactions in the normal business practice, and the price rates, interest rates, terms and conditions are considered to be at arms length, for related party as at the date received by the Board or the shareholders approved.
Balance with related companies as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
Relationship
2010 Baht
2009 Baht
Amount due from a related company IFS Capital Limited
Major Shareholder company
75,626
37,311
Amount due to a related company IFS Capital Limited
Major Shareholder company
-
10,026
2010 Baht
2009 Baht
-
2,466,658
Significant transactions with related company as at December 31, 2010 and 2009 consist of the following:
Relationship Interest income IFS Capital Holdings (Thailand) Co., Ltd
Major Shareholder company
On January 30, 2009, the Company loaned an amount of Baht 280 million to a major shareholder company. Such loan was due by March 30, 2009. The Company received the full settlement of the loan on March 30, 2009. Interest on loan to its major shareholder was determined using the interest rate at the Company’s cost of funding plus 1% p.a.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
135
Financial Statements / งบการเงิน
27. COMMITMENTS
As at December 31, 2010 and 2009, the Company has the committed credit facility agreements with financial institutions for general corporate funding requirements as follows:
Total credit facilities
As at December 31, 2010 Baht
As at December 31, 2009 Baht
2,806,000,000
2,727,000,000
As at December 31, 2010, the Company has utilised the letter of credit amounting to Baht 9.17 million for factoring, hire purchase and leasing contract. However, as at December 31, 2010 and 2009, the Company has unused such credit facilities with banks totaling Baht 1,407 million and Baht 1,177 million, respectively.
28. EXPENSES BY NATURE
Net profit for the years ended December 31, 2010 and 2009 were arrived at after charging the following items:
2010 Baht
2009 Baht
Directors and management benefit expenses
23,454,263
21,153,400
Employee benefit expenses
33,600,163
27,437,477
Depreciation and amortization
6,402,597
4,931,419
Bad debts and doubtful accounts (Reversal)
7,007,505
(55,906)
Business tax
7,683,443
6,843,702
Professional fee
3,054,544
3,258,260
40,211,418
47,569,359
Finance cost
29. FINANCIAL INFORMATION BY SEGMENT
The operation of the Company consists of factoring, hire purchase and leasing business. The results of operation of these activities are measured as a single segment. In addition, these activities are carried on in Thailand. As a result, revenues, operating profits and identifiable assets as reflected in these financial statements pertain to the aforementioned industry segment and geographical area.
30. DISCLOSURE OF FINANCIAL INSTRUMENTS Liquidity risk
Liquidity risk arises from the problem in adequately raising fund and in time to meet commitment as indicated in the financial instruments. The management, based on the Company’s current financial position and result of operations, believes that the Company’s liquidity risk is minimal.
Credit Risk
136
Credit risk refers to the risk that a counterparty will default on its contractual obligations resulting in a financial loss to the Company. The Company has adopted the policy to prevent such risk by performing credit analysis on customers’ information and follow-up on customer status consistently according to the Company’s regulations. The maximum exposure to credit risk in the event the counter parties fail to perform their obligations is the carrying amount of the assets as recorded in the balance sheet, net of a portion of allowance for impairment.
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Financial Statements / งบการเงิน
Interest Rate Risk
Interest rate risk of financial instruments in the balance sheet arises from the potential of a change in interest rates having an adverse effect on the net interest earnings of the Company in the current reporting period, and in future years. Interest rate risk arises from the structure and characteristics of the Company’s assets, liabilities and equity or in the mismatch in repricing dates of its assets and liabilities. Information regarding interest rates of loans from financial institutions is disclosed in Notes 16 and 17.
Methods and assumptions in estimating fair value of financial instruments
Considerable judgment is necessarily in the estimation of fair values. Accordingly, the estimates presented herein are not necessarily indicative of the amount that could be realized in a current market exchange. The use of different market assumptions and/or estimation methodologies may have a material effect on the estimated fair value. The following methods and assumptions were used by the Company in estimating fair value of financial instruments.
Cash and cash equivalents
The estimated fair values are based on the amounts recognized in the balance sheet.
Factoring receivable
Factoring receivable is presented after net allowance for doubtful accounts. The fair value of factoring receivables bearing floating rates of interest are based on the amounts recognized in the balance sheet.
Hire purchase and lease contract receivables
Fair values of hire purchase and lease contract receivables are estimated by using discounted cash flow analysis using interest rates currently being offered and average remaining years to maturity.
As at December 31, 2010 Carrying Value Fair Value Baht Baht Hire purchase and lease contract receivables including current portion Inventory finance receivable
143,481,390
143,481,390
12,909,319
12,909,319
As at December 31, 2009 Carrying Value Fair Value Baht Baht Hire purchase and lease contract receivables including current portion Inventory finance receivable
192,151,276
192,151,276
1,777,855
1,777,855
Current investments
Fair value for listed securities are based on quoted market prices.
Short-term loans from financial institutions
The fair values of short-term loans from financial institutions bearing floating interest rates of interest are based on the amounts recognized in the balance sheet.
31. APPROVAL FOR ISSUANCE OF THE FINANCIAL STATEMENTS
These financial statements have been approved for issue by the authorized director of the Company on February 14, 2011.
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
137
Remuneration of the Auditor ค่าตอบแทนการสอบบัญชี
ค่าตอบแทนการสอบบัญชี
บริษัทจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้สอบบัญชีของบริษัท คือ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำ�กัด นอกจากนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาทิ เช่น ค่าปรึกษาภาษีอากร ค่าจัดทำ� Group Reporting และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกิดขึ้นจริง ดังนี้ (หน่วย: บาท) ค่าตอบแทนการสอบบัญชี ค่าบริการอื่นๆ รวมใช้จ่าย
ปี 2551
ปี 2552
ปี 2553
1,685,000
1,605,000
1,790,000
80,000
313,330
332,880
1,765,000
1,918,330
2,122,880
Remuneration of the Auditors
The Company paid remuneration to the Auditors of Deloitte Touche Tohmatsu Jaijo Audit Co., Ltd. in the form of both Audit Fee and Non-Audit Fee, such as Tax Advisory Fee, Group Reporting Fee and Out-of-Pocket Expenses as follow: (BAHT) Audit Fee Non-Audit Fee Total
138
Year 2008
Year 2009
Year 2010
1,685,000
1,605,000
1,790,000
80,000
313,330
332,880
1,765,000
1,918,330
2,122,880
รายงานประจำ�ปี 2553 : บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำ�กัด (มหาชน)
Other References บุคคลอ้างอิง
นายทะเบียนหลักทรัพย์ Share Registrar
ผู้สอบบัญชี Auditors:
ที่ปรึกษากฎหมาย Legal Advisors:
บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำ�กัด เลขที่ 2/7 หมู่ที่ 4 (โครงการนอร์ธปาร์ค) อาคาร สถาบันวิทยาการตลาดทุน ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศัพท์ 66(0)-2596-9000 หรือ 66(0)-2596-9302-11 โทรสาร 66(0)-2832-4994-6 หรือ เลขที่ 62 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชั้น 2, 6-7 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ 66(0)-2229-2800 โทรสาร 66(0)-2359-1262-3
Thailand Securities Depository Co., Ltd. 2/7 Moo 4 (Northpark Project) Capital Market Academy Building, Vibhavadee Rangsit Rd., Toong Song Hong, Lak Si, BKK 10210 Tel. 66(0)-2596-9000 or 66(0)-2596-9302-11 Fax. 66(0)-2832-4994-6
นายชวาลา เทียนประเสริฐกิจ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 4301 ดร. ศุภมิตร เตชะมนตรีกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3356 นายมนตรี พาณิชกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3461
Mr.Chavala Tienpasertkit CPA No.4301 Dr. Suphamit Techamontrikul CPA No. 3356 Mr. Montree Panichkul CPA No. 3461
บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำ�กัด อาคารรัจนาการ ชั้น 25 เลขที่ 183 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 โทรศัพท์ 66(0)-2676-5700 โทรสาร 66(0)-2677-5757
Deloitte Touche Tohmatsu Jaiyos Advisory Co.,Ltd. Rajanakarn Building, 25th Floor, 183 South Sathorn Road, Yannawa, Sathorn Bangkok 10120 Tel. 66(0)-2676-5700 Fax. 66(0)-2677-5757
บริษัท แอส เอส ฮอไรซัน จำ�กัด ชั้น 14 ตึก จี พี เอฟ ทาวเวอร์ เอ 93/1 ถนนวิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพ 10330 โทรศัพท์ 66(0)-2627-3443 โทรสาร 66(0)-2627-3250
LS Horizon Ltd. 14th Floor, GPF Witthayu Tower A 93/1 Wireless Road, Lumpini, Phatumwan, Bangkok 10330 Tel. 66(0)-2627-3443 Fax. 66(0)-2627-3250
นายโสภณ กิติดำ�รงค์เจริญ 7 (ซอย 1 เสรี 8) ถนนพระรามเก้า 58 แขวง/เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250 โทรศัพท์ 66(0)-2300-5629 โทรสาร 66(0)-2300-5610
Mr. Sophon Kitidamrongcharoen 7 (Soi 1 Seri 8), Rama 9 Road 58, Suanluang, Bangkok 10250 Tel. 66(0)-2300-5629 Fax. 66(0)-2300-5610
Or 62 The Stock Exchange of Thailand Building, Fl. 2, 6-7, Rachadapisek Road, Klongtoey, Bangkok 10110, Thailand Tel: 66(0)-2229-2800 Fax: 66(0)-2359-1262-3 TSD CALL CENTER: (66 2) 229 2888
Annual Report 2010 : IFS Capital (Thailand) PCL
139
บริษัท ไอเอฟเอส แคปปตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ชั�น 20 อาคารลุมพ�นีทาวเวอร, 1168/55 ถนนพระราม 4 แขวงทุงมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทร : 0-2285-6326-32 และ 0-2679-9140-4 โทรสาร : 0-2285-6335 และ 02-679-9159 IFS Capital (Thailand) Public Company Limited 20 Floor Lumpini Tower, 1168/55 Rama 4 Road, Tungmahamek, Sathorn, Bangkok 10120 Tel: 0-2285-6326-32 and 0-2679-9140-4 Fax: 0-2285-6335 and 02-679-9159
www.ifscapthai.com