Darkism Magazine

Page 1

April 2017

First Issue

Darkism magazine

Tales of Death and Dementia

Strange Stories

and creepy from around the world.

Mythology

Mythology of horror around the world.

Travel

the place you should not miss. PHOTO BY SLEVIN AARON




Darkism Issue One - April 2017

EDITORIAL จุดเริ่มจากตัวเรานั้นเปนคนชอบอานอะไรที่แปลกๆ หรืออะไรที่เกี่ยวกับ ความลีล ้ บ ั อานแลวก็สนุกสนาน จึงอยากทํานิตยสารทีม ่ เี นือ ้ หาเกีย ่ ว กับเกร็ดประวัติศาสตร เรื่องนารู เรื่องความลับ เรื่องแปลกประหลาด และเรื่องผี และ ยังเปนนิตยสารที่เลาเรื่องราวประสบการณสุดทาทาย ไมใชแคเรื่องเลา แตยังมีทั้งตํานาน นิทาน ฯลฯ จึงสรางขึ้นมาเพื่อใหผู อานไดเกิดความสนุกสนาน และไดความรูเกี่ยวกับเรื่องของประวัติ ศาสตรบนโลกใบนืี้ จึงเกิดเปนนิตยสาร Darkism ซึง ่ คําวา Dark ในทีน ่ ค ี้ อ ื ความมืดดําความ ลึกลับในโลกใบนี้ ที่เต็มไปดวยเรื่องที่เรายังไมรู และเขาใจมัน

บรรณาธิการ


CONT

ENTS

05

ตํานานลี้ลับ 6 Dancing Plague 8 Yostuka Kaidan

11

สถานที่ลึกลับ 12 Moai on Easter Island 13 The Bermuda Triangle

20

วัตถุลึกลับ 21 Crystal Skulls 23 Giant Stone Balls of Costa Rica

25

6

เรื่องเลาสุดประหลาด 26 Sailing Stone 27 Max Hoffman 28 The Rendlesham Forest Incident

21

16

บุคคลลึกลับ 17 Green Childrren of Woolpit 18 Babuska Lady


Darkism Issue One - April 2017

ตํานาน

ลี้ ลั บ ตํ า นานที่ เ ล า สื บ ต อ กั น มา นานหลายศตวรรษ บอก เล า เรื่ อ งราวในอดี ต อั น น า ลึ ก ลั บ ตื่ น เต น สะพรึ ง และ สยองขวั ญ ของผู  ค น ในอดี ต จากทั่ ว ทุ ก มุ ม โลก


06

Pieter Bruegel de Oude

DANCING

ขอบคุณภาพจาก http://blog.daum.net

PLAGUE ชี พ จ ร ล ง เ ท า ในประวัติศาสตรของฝรั่งเศส ไดมีการบันทึก ไว เกีย ่ วกับเหตุการณแปลกที่ เกิดขึน ้ ในเดือน กรกฎาคม ปค.ศ. 1518 เมือ ่ จูๆ  ก็มห ี ญิงสาว ทีช ่ อ ื่ วา Troffea ออกมาเตนบนถนนตราสบูรก  โดยไมพักเปนเวลา 6 วัน 6 คืนใน 1 สัปดาหก็มี ผูค  นในชาวบานอีก 34 คน ออกมาเตนกัน หลัง จากนัน ้ จากสิบก็เพิม ่ เปนรอย สิง ่ ทีน ่ า  ประหลาด ก็คอ ื ตัง ้ แตทเี่ ธอเริม ่ เตนจนครบหนึง ่ เดือน ไดมี คนกวา 400 คน ออกมาเตนกันโดยไมหยุดพัก และ ในที่สุด ก็มีคนจํานวนมากเสียชีวิต เนื่อง จาก หัวใจเตนผิดปกติ ออนเพลีย เหนื่อยลา ไมไดกิน ไมไดนอน มีบันทึกอื่นวา เหตุการณแบบนี้เคยเกิดขึ้นมา กอนประเทศฝรัง ่ เศส คือทีเ่ มืองอาเคน (แถบตะ วันตกของเยอรมนี) เริม ่ ในเดือนมิถน ุ ายนปค.ศ. 1374 เมือ ่ คนทีเ่ ดินตามถนนนัน ้ กรีดรองเหมือน คนประสาทหลอน และยังเตนรําทาแปลกๆ ดิ้น และบิดตัวไปมาจนหมดแรง ซึง ่ เรือ ่ งประหลาดนี้ แพรหลายไปถึงเนเธอรแลนด ตามเสนแสวงบุญ ตางๆ อีกดวย

ขอมูลจาก YAKLAI

ผูเชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร นักโบราณคดี หลายคนใหความเห็นวาอาจเปนความเชื่อเรื่อง พอมด แมมด ซาตาน ทุกคนออกมาเตน เพือ ่ แกอาถรรพ อาจเพราะทัง ้ หมูบ  า  นถูกสาบ แม กระทั่งโรคประหลาด


PA I N T E D B Y K U N I Y O S H I , T H E G H O S T O F O I WA


Darkism Issue One - April 2017

8

Yotsuya Kaidan หรือ ตํานานของ Oiwasan เปนตํานานผีที่โดงดังที่สุด ในญี่ปุน หากลอง ถามคนญี่ปุนวา ผีตัวไหนของญี่ปุนนากลัวที่ สุด รับรองไดวา  ชือ ่ ของ Oiwasan ตองเปนชือ ่ แรก ๆ ที่คนญี่ปุนนึกถึงอยางแนนอน ในระหวางชวงสมัยเอโดะ มีผห ู ญิงทีเ่ พียบพรอม ทั้งความสวย และ จิตใจดี และ ถูกโจษขานถึง ความงามของเธอ นามวา Oiwa มีชายมาก มายหมายปอง แตเธอก็เลือกซามูไรหนุมชื่อ Iemon Tamiya เปนสามี หารูไ มวา  การตัดสิน ใจทีจ ่ ะแตงงานของเธอนัน ้ ผิด สามีของเธอรัก เธอในชวงแรกๆเทานั้น แตหลังจากสภาพการ เงินไมคอ  ยดีนก ั Iemon ก็ไปตกหลุมรักลูกสาว เศรษฐีเขา ในขณะที่ Oiwa ก็เพิ่งคลอดลูก ลูก สาวเศรษฐี และสามีจึงคิดจะกําจัดเธอทิ้ง

วันหนึ่ง วิญญาณของเธอ ก็โผลขึ้นมากลาง บานพรอมพรอมเสียงโหยหวญIemon ก็ควา ดาบแทงเขาที่เงาของ Oiwa แตหารูมั้ยวาราง นั้นคือลูกเศรษฐีชูรักของตน เมื่อเศรษฐีเขามา รางก็กลายเปน Oiwa ที่หนาตาหนาเกลียดอีก ครั้ง Iemon ก็ฟนเขาอีก แตรางนั้นก็กลับเปน รางของเศรษฐี เขาไดหนีกลับไปอยูที่บานตน แตแลวก็โดนเชือกที่หอยอยูกลางบานพันที่คอ เขาพยายามควาดาบเพื่อจะตัดเชือก แตพลาด ไปโดนคอตนเองและตายในที่สุด

YOTSUYA KAIDAN

ตํ า น า น แ ม น า ค ญี่ ปุ  น

ยังมีคา ํ บอกเลาวา หากใครไดนา ํ เรือ ่ งเธอไปสราง หนัง หรือละคร ตองไปไหวศาส Qiwa-Inari Tamiya Jinja ที่โตเกียว จากขอมูลที่กลาวมาเบื้องตนทั้งหมด ทั้งรูป ถายและขอมูลตางๆ นั้น อาจจะยังไมเปนที่แน ชัด เพราะเปนเรื่องที่คอนขางจะเปนที่ตองหาม สําหรับคนญี่ปุน

ขอมูลจาก www.marumaru.com

หญิงชูไดใชให Iemon เอายาพิษที่ทําใหเสียโฉม ไปให Oiwa ซึ่งหลอกวาเปนยาบํารุง Oiwa ได ดื่มยานั้น ทําใหตาของเธอปูดขึ้น หนาของเธอ เสียโฉม เมื่อเธอรูวานี่คือ แผนของทั้งสองคน เธอก็แคนมาก และไดฆาตัวตายในบึงนํ้า




Darkism Issue One - April 2017

สถานที่

ลึกลับ เคยสงสัยกันไหมวา โบราณสถาน เกาแกบางแหงบนโลกนั้น ยิ่งใหญ และสวยงาม มีโครงสรางทีซ ่ บ ั ซอน เกินกวาคนโบราณจะทําได มีคนที่ คิดคนทฤษฎีตา  ง ๆ มากมาย แต สุดทายก็เปนทฤษฎีที่นาเหลือเชื่อ กันหมด จะเปนไปไดไหมวา ไมใชฝ มือของมนุษย ทฤษฎีที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก นั้น เปนความเชื่อที่มีมานาน บาง คนก็บอกวาไรสาระ แตหลักฐานที่ สืบคนได ของนักโบราณคดีนั้นก็ ทําใหเชือ ่ ไดวา  พวกเราไมไดอยูอ  ยาง โดดเดี่ ย วในจั ก รวาล และสิ่ ง ที่ บ  ง บอกไดวา มนุษยตางดาวมาเยือน โลกเรานั้น มีดังตอไปนี้


12

MOAI ON EASTER ISLAND รู ป ป น โ ม อ า แ ห ง เ ก า ะ อี ส เ ต อ ร

P H O T O G R A P H BY J I M R I C H A R D S O N , N AT I O N A L G E O G R AO H I C C R E AT I V E

เกาะอีสเตอร (Easter) ภาษาถิน ่ เรียก ราปา นุย (Rapa Nui) และ ภาษาสเปนเรียกวา ปสกวา (Isla de Pascua) เปนเกาะทีอ ่ ยูก  ลางมหาสมุทร แปซิฟคอยางโดดเดี่ยว ขนาดของเกาะมีเพียง 160 ตารางกิโลเมตร ยาว 25 กิโลเมตร กอน จะมีคนมาอยูอาศัย ที่นี่มีแคนก และ แมงปอง เทานั้น ถูกคนพบโดยนักเดินเรือชาวดัตช ชือ ่ จาค็อบ ร็อกเกวีน (Jacob Roggaveen) เขาพบ เกาะในวันอีสเตอร จึงไดตง ั้ เปนชือ ่ เกาะนัน ่ เอง ตํ า นานรู ป ป  น โมอาย ถื อ เป น เรื่ อ งที่ ยั ง ชวน สงสั ย กั น อยู  ถึ ง จุ ด ประสงค ใ นการสร า ง และ วิ ธี ก ารเคลื่ อ นย า ยหิ น ที่ ห นั ก ร ว ม 10 ตั น ไป ไวยังจุดตางๆ ตามเกาะอีสเตอร รูปปนยักษ และหินแกะสลักเปนหนาคนโมอาย (Moai) เชื่อกันวา เปนฝมือของชาวโพลีนีเซีย (Polynesian) ทีเ่ ขามาปกครองใน ชวงป 1250 รูปปนเหลานั้น กระจายอยูทั่วเกาะอยูประมาณ 887 ตัว รวมทัง ้ ตัวทีย ่ ง ั แกะสลักไมเสร็จ ขนาด ตัวของโมอาย ที่ใหญนั้นมีความสูงประมาณ 10 เมตร นํ้าหนัก 82 ตัน

ทีส ่ า ํ คัญคือ โมอายทุกตัวถูกแกะสลักมาจากหิน กอนเดียวกันที่มาจากเหมืองหินราโน ราราคู (Rano Raraku) แกะสลักโดยใชหินภูเขาไฟซึ่ง มีความแข็ง และคมกวาหินในเหมืองหินโมอาย บางตั ว มี ห มวกสี แ ดงที่ เ รี ย กกั น ว า พู ค าโอ (Pukao) และ ลูกตาที่ประดับดวยปะการังขาว แกะสลัก เชื่อกันวาเปนสัญลักษณแทนเทพเจ า หรือ หัวหนาเผาที่ลวงลับไปแลว ทฤษฎี เ รื่ อ ง การเคลื่ อ นย า ยของโมอายจาก เหมืองหินไปวางยังตําแหนงตางๆ บนเกาะนั้น ก็ยง ั คลุมเครืออยู แตกส ็ น ั นิษฐานกันไดวา  นาจะ มีการใชแรงงานเคลือ ่ นยายหิน และไมซง ุ เปนจํา นวนมาก เพื่อลากโมอายลงจากภูเขา ปจจุบน ั รูปปน  โมอายแหงเกาะอีสเตอรไดรบ ั เลือก ใหเปนหนึ่งในมรดกโลก โดย UNESCO และ ได การจัดตัง ้ องคกรขึน ้ มา เพือ ่ ศึกษาเรือ ่ งราวของ มันอยางจริงๆจังๆ ประกอบกับในป ค.ศ. 1888 เกาะนีถ ้ ก ู ผนวกรวมเขากับประเทศชิลี และมีการ สรางสนามบินขึ้นเกาะอีสเตอรจึงกลายมาเปน แหลงทองเทีย ่ วทางวัฒนธรรมทีส ่ า ํ คัญของโลก อีกแหงหนึง ่ ในทีส ่ ด ุ


THE BERMUDA

TRIANGLE

สามเหลีย ่ มเบอรมว ิ ดานานนํา ้ อาถรรพ สามเหลีย ่ ม เบอรมว ิ ดา (The Bermuda Triangle) หรืออีกชือ ่ หนึง ่ วา สามเหลีย ่ มปศาจ (the Devil’s Triangle) อาณาเขตทีส ่ มมติขน ึ้ มาในมหาสมุทร แอตแลนติก ถาหากลองลากเสนจากภาคตะวัน ตก ไปถึงตอนใตของแอฟริกา และเปอรโตริโก ใหเปนรูปสามเหลี่ยม เนื้อที่ประมาณ 1.2 ลาน ตารางกิโลเมตร บริเวณนี้เองที่ขึ้นชื่อเรื่องการ หายสาบสูญไปแบบผิดปกติทเี่ กิดขึน ้ ของอากาศ ยานและเรือเดินสมุทร เหตุการณแรกเกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้ง ทีส ่ องในป ค.ศ. 1945 เปนตนมาไดรบ ั รายงาน การสาบสูญอยางผิดปกติในพื้นที่เบอรมิวดา อยางมากมาย เครื่องบินจํานวนกวา 100 เครือ ่ ง และเรือเดินสมุทรจํานวนนับไมถว  น ชีวต ิ มนุษยอีกนับพัน ไดหายไปในบรรยากาศ และ พื้นทะเลของสามเหลี่ยมเบอรมิวดาแหงนี้ โดย ไมมร ี อ  งรอยใดๆ ไมมซ ี ากศพ ไมมเี ศษชิน ้ สวน ใดๆ ของเรือ หรือ เครื่องบินที่หายไปเหลือให เห็น การหายสาบสูญ ยังคงปรากฏอยูตอไป และ มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลายประเทศที่ เกี่ยวของกับการสูญเสียพยายามรวมกันคน ควาหาคําตอบ ก็ยง ั ไมสามารถบอกสาเหตุ และ วิธท ี างปองกันจากภัยลึกลับ ทีเ่ กิดขึน ้ ในบริเวณ ทองทะเลแหงนี้ได The Lost Patrol จาก Pinterest

การหายสาบสูญที่โดงดังมากที่สุด จนทําให ชาวอเมริกันตองใหความสนใจ คือ การหาย สาบสูญของฝูงบิน 19 ของกองทัพเรือสหรัฐ ที่หายสาบสูญไปพรอมกันทั้งฝูง ซึง ่ อยูในระหวางการฝกบิน พรอมกับชีวิตนักบินและ พล เรื อ นประจํ า เครื่ อ งรวม 14 นาย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1945 นิตยสารอเมริกันลีเจียน ฉบับ ประจําเดือนเมษายน ค.ศ. 1962 ตีพิมพวา กอนการหายตัวไปอยางไรรองรอย ผูบังคับ ฝูงบินไดกลาววา “ เรากําลังเขาสูเขตนํ้าขาว ไมมีอะไรดูปกติเลย เราไมรูวาเราอยูที่ไหน นํ้าทะ เลเปนสีเขียว ไมใชสีขาว” สอดคล อ งกั บ ลั ก ษณะการหายสาบสู ญ ของ เครื่องบินสวนใหญ ที่สวนมากกอนจะขาดการ ติดตอกับฐานปฏิบัติการ จะรายงานถึงสภาพ ทุกอยางที่ปรกติ บรรยากาศ และ ทัศนวิสัย สงบแจมใสดี ไมมีวี่แววของพายุ หลังจากนั้นก็ จะหายไปแบบฉับพลัน ไมมีแมแต การสงสัญญาณขอความชวยเหลือ SOS บางครั้งที่กอน เครื่องบินจะหายสาบสูญ นักบินมีเวลาพอที่จะ แจ ง ข า วความผิ ด ปกติ ม ายั ง ฐานปฏิ บั ติ ก าร ทุกรายงานแจงตรงกันวา ไมสามารถควบคุม กลไกตางๆ ใหดา ํ เนินไปตามปกติได เข็มทิศประ จําเครื่องหมุนสะเปะสะปะ ไมสามารถบอกทิศ ทางได ทองฟากลายเปนสีเหลืองมองดูคลาย หมอกหนาทึบ ทั้งๆ ที่เปนวันที่บรรยากาศแจม ใส และแดดสองจามากอน ทองทะเลที่เงียบ สงบกลับปนปวนขึ้นมาโดยไมทราบสาเหตุ


14

ทฤษฎีที่ 1 การแปรผันของสนามแมเหล็ก โลก เปนไปไดวา  บริเวณดังกลาวเปนทีท ่ ี่ สนามแมเหล็กมีความเขมขนสูง ทําใหเกิด การผิดพลาดของเครือ ่ งวัดระดับ และเข็ม ทิศประจําเครือ ่ ง เค งบินจึงดิง ่ ลงมหา สมุทร ถูกดูดกลืนหายไปอยางรวดเร็ว ทฤษฎีที่ 2 ประตูมต ิ ิ เปนไปไดวา  ดังกลาว ตั้งอยูในจุดสมดุลของสนามแมเหล็กไฟ ฟากับพลังของสนามแรงโนมถวง ซึ่ง เกิดชองวางที่เชื่อมตอกับอีกมิติหนึ่งใน หวงอวกาศ เมื่อวัตถุหลุดผานเขาไปอีก มิติแลว จะไมสามารถกลับมาไดอีก ทฤษฎีที่ 3 เทคโนโลยีชั้นสูง เปนไปไดวา อาจมีมนุษยตางดาวหรือมนุษยที่อาศัย อยูใ ตมหาสมุทรบริเวณนัน ้ ตองการขโมย เรือหรือเครือ ่ งบิน และสิง ่ มีชว ี ต ิ เพือ ่ ศึกษา หรือทดลองบางอยาง ขอสันนิษฐานนี้ สอดคลองกับรายงานที่วา มีผูพบเห็น จานบินลึกลับรอนไปมาเหนือสามเหลีย ่ ม เบอรมิวดาอยูหลายครั้ง ขอบคุณภาพจาก Thinking of Bermuda

ผูเ ชีย ่ วชาญตางๆ ตางก็พยายามหาคําตอบวา เกิดอะไรขึ้นที่นั่น สวนมากทําไดเพียงตั้งขอ สันนิษฐานเกี่ยวกับ ความนาจะเปนของเหตุการณดังกลาวดังนี้

ทฤษฎีที่ 4 กระแสนํ้าวนมหาศาล นักประ ดานํ้ามักเห็นปลองนํ้าเงินอยูตามหุบผา ใตนา ํ้ และแหลงหินปะการัง นอกฝง  บาฮา มัส มีลักษณะเปนอุโมงค หรือปลองใต ทะเลปลองจํานวนมากตาง มีทางแยก ออกไปในหลายทิศทาง มีกระแสนํา ้ ทีไ่ หล เชี่ยว ทําใหนํ้าบริเวณปากปลองไหลวน เขาไปภายในอยางรวดเร็ว กอใหเกิดการ หมุนเปนกรวยเหนือพืน ้ นํา ้ ในลักษณะของ วังนํ้าวนสามารถดูดคน และ เรือเล็กได อยางรวดเร็ว

ขอบคุณภาพจาก Travel Truelife และ TeeNee.com

ทฤษฎีที่ 5 กาซมีเธน พื้นที่ดังกลาวเปน พื้นที่ที่มีกาซมีเธนอยูใตทองทะเลเปนจํา นวนมาก จนปะทุขึ้นเหนือทองทะเล ซึ่ง กาซนี้ เมื่อขยายตัวเปนวงกวางแลว ไม วาวัตถุใดๆ เคลือ ่ นทีผ ่ า  น มันก็จะดูดกลืน ทุกอยางจมลงทะเลลึกอยางรวดเร็ว แตสุดทายทุกทฤษฎีก็ยังไมอาจใหความ กระจางชัดแกเราได เนือ ่ งจากยังไมมใี คร ทีเ่ ดินทางไปพิสจ ู นได เพราะอาณาบริเวณ ที่กวางมาก เพราะฉะนั้นการคนหาเพื่อ พิสจ ู นในสามเหลีย ่ มเบอรมว ิ ดา จึงไมใช เรื่องงาย แตก็มีองคกรของรัฐ และเอก ชนตางใหความสนใจในการสํารวจ โดย หวังวาจะเจอหลักฐานอะไรก็ตามที่นํามา ใชไขปริศนาของ ดินแดนอาถรรพ แหง นี้ได

ขอมูลจาก Trueid และ Wikipedia



Darkism Issue One - April 2017

16

บุคคล ลึกลับ หลายศตวรรษที่ ผ  า นมา มีเรือ ่ งราวเกีย ่ วกับบุคคล ลึกลับเกิดขึ้นมามากมาย บนโลกบางเรือ ่ งอาจระบุไว อยางชัดเจน ขณะที่บาง เรื่องนั้นยังเปนเรื่องที่ยัง เลากันมาจากปากตอปาก คราวนี้ Darkism Megazine ก็ จ ะขอหยิ บ ยกเรื่ อ งราว ของบุคคลลึกลับของโลก ตัง ้ แตสมัยอดีตจนถึงปจจุบันที่ถูกบันทึกไวในประ วัติศาสตร มาเลาใหทาน ผูอานไดทราบกัน


Darkism Issue One - April 2017

GREEN CHILDREN

OF WOOLPIT

ขอมูลจาก www.palungjit.org

พี่ นองตัวเขียวแหงวูลพิต

กลางหมูบานวูลพิต ของเมืองซัฟฟอรคในประ เทศอังกฤษ พี่นองชายหญิงคูนี้ปรากฏตัวขึ้น อยางลึกลับเมื่อประมาณศตวรรษที่ 12 เมื่อดู รวมๆแลว ทัง ้ สองคนอาจจะเปนเด็กตางถิน ิ่ ที่ พลัดหลงมา แตทวาเนื้อตัวสีเขียว เครื่องแตง กายทีด ่ ป ู ระหลาดตา และภาษาทีไ่ มมใี ครรูจ  ก ั มา ก อ น เหตุ นี้ จึ ง ทํ า ให ท้ั ง สองคนดู ต  า งออกไป และชาวเมืองตางก็ใหความสนใจเปนอยางมาก ในชวงแรกทัง ้ สองคนไมยอมรับประทานอะไรเลย นอกเสียจากถั่วเขียวสด ที่ผูคนนํามาให แต หลังจากนั้นไมนานก็สามารถปรับตัวใชชีวิตได เหมือนคนปกติ และพูดภาษาอังกฤษไดพอประ มาณจึงเลาที่มาของตัวเองใหฟงวา พวกเขา มาจากเซนตมาติน เมืองที่เต็มไปดวยความมืด มิด จนกระทั่งวันหนึ่งทั้งสองคนไดยินเสียงดัง กึกกองไปทั่ว จึงไดออกเดินทางเพื่อตามหา เสียงนั้น ซึ่งกวาจะรูตัวอีกทีก็พบวาตัวเองมา อยูในเมืองวูลพิตเสียแลว มีหลายฝายไดพยายามทีจ ่ ะหาความเปนไปไดวา  พวกเขาคือใคร มาจากไหน และขอสันนิษฐานที่ เปนไปไดจริงทีส ่ ด ุ ก็คอ ื ทัง ้ สองคนนาจะหลบหนี สงครามกลางเมืองใกลๆ และทีต ่ ว ั เขียวคือ เปน เพราะโรคชนิดหนึ่งนั่นเอง จนถึงตอนนี้ก็ยังไมมีใครสามารถหาคําตอบที่ ชัดเจนได อยางไรก็ตาม ปจจุบันนี้เมืองวูลพิต ก็ไดกลายเปนสถานที่ทองเที่ยวสําคัญอีกแหง ของอังกฤษไป


18

BABUSHKA LADY บาบุชกา เลดี้

ขอมูลจาก BEINGTO

ลักษณะทาทางของเธอเปนที่นาสงสัยวา อาจ จะเปนหนึ่งในผูสมรูรวมคิดกอเหตุการณอันนา สะเทือนขวัญครั้งนี้ขึ้น ซึ่งผูเกี่ยวของ และ FBI ก็ไดออกตามหาตัวเธอ เพื่อขอหลักฐานมาใช ประกอบคดี โดยในปค.ศ. 1970 มีคนอางตัววา เปนผูห  ญิงคนดังกลาว โดยเธอชือ ่ โลลิตา ดีวา โดวิช แตสด ุ ทายแลวก็เปนแคคา ํ โกหก ดังนัน ้ จน แลวจนรอดก็ไมมีใครรูวาผูหญิงคนดังกลาว เปนใครจนกระทั่งบัดนี้ หลังจากเหตุการณลอบสังหาร ประธานาธิบดี จอหน เอฟ เคนเนดี้ ในปค.ศ. 1963 ไดปรากฏ มีผส ู ง ั เกตเห็นหญิงนิรนามรายหนึง ่ ซึง ่ เธอสวม เสือ ้ โคทสีนา ้ํ ตาลพรอมกับปกปดใบหนาดวยผา คลุม เธอไดยืนอยูในจุดที่นาสงสัยเปนอยางยิ่ง เพราะวาเธอไดยืนอยูใกลกับรถของจอหน เอฟ เคนเนดี้ และ ในวินาทีที่เคนเนดี้ถูกสังหาร โดย ปนสไนเปอร เธอจึงสามารถมองเห็นเหตุการณ ทั้งหมดไดอยางชัดเจน

ขอบคุณรูปภาพจาก www.jfkassassinationgallery.com และ www.reddit.com



Darkism Issue One - April 2017

20

วัตถุ ลึกลับ OPASTS ยอมาจาก Out Of Place Artifacts แปล ตามตัวนั้นหมายถึง วัตถุ เหนือยุค

ในชวงหลายรอยปผา  นมา นี้ มนุษยไดคน  พบวัตถุลก ึ ลับตางๆ มากมายทัว ่ โลก โดยแตละอยาง ไมไดสอด คลองกับทฤษฎีความเปน ไปไดของโลก ไมวาจะเปน ดานอารยธรรม ความฉลาด ของสมอง ความคิด ฯลฯ การคนพบเหลานี้ เปนหลัก ฐานวา ในสมัยโบราณ มี วัฒนธรรมที่ลํ้าหนากวา ที่เราคาดไวมาก


Darkism Issue One - April 2017

Crystal Skulls กะโหลกคริ ส ตั ล

กะโหลกแกว เปน 1 ใน สมบัติโบราณของอารย ธรรมที่สาบสูญ ที่เต็มไปดวยปริศนามานับศต วรรษ นับตั้งแตมีการคนพบกะโหลกแกว ของ ชนเผาโบราณ ยิง ่ Hollywood นํามันมาผูกเขา ภาพยนตเรือ ่ งอินเดียนาโจน วาผูไ ดครอบครอง มันจะไดรับพลังที่สามารถควบคุมธรรมชาติได ไวในครอบครอง ยิ่งทําใหมันลึกลับมากยิ่งขึ้น

วากันวาทั่วโลก มีกะโหลกแกวคริสตัลทั้งหมด 13 กะโหลก แตที่ถูกคนพบแลวกลับมีดวยกัน เพียงแค 5 กะโหลกเทานั้น กะโหลกแกวคริสตัล ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ กะโหลกที่ มิทเชลล เฮดจ นักสํารวจชาวอังกฤษคนพบ เขาเดินทาง ไปศึกษาอายธรรมมายา มีความเชือ ่ วากะโหลกแกวเหลานีถ ้ ก ู สรางโดย ชน

ซึง ่ กะโหลกดังกลาว มีขนาดเทากันกับศีรษะของ

เผาโบราณที่มีอารยธรรม และเทคโนโลยี่ที่กาว

มนุษยเปนอยางมาก ทั้งลักษณะของขากรร

หนาเปนอยางมากของชนเผาทีส ่ าบสูญ เชน ชาว

ไกรและฟนแตละซี่ ถูกสรางขึน ้ ดวยความประณีต

มายา ชาวแอซแท็คส โดย พวกนักบวช พอมด

ที่นาประหลาดใจคือ กะโหลกแกวคริสตัลนี้ถูก

หรือ หมอผี หรือ บางมีความเชื่อถึงวามันไมใช

สรางขึ้นดวยวิทยาการที่ในปจจุบันยังยากที่จะ

วัตถุจากโลกนี้ เพือ ่ ใชประกอบพิธก ี รรม การราย

สรางขึ้น ซึ่งมีทั้งความละเอียด และ สวยงาม

เวทมนต คาถา ในการรักษาเยียวยา การไลภต ู ผี

นักโบราคดีไดคาดกาณวา  นีค ่ อ ื สิง ่ ทีม ่ นุษยตา  ง

หรือ สาปแชง

ดาวทิ้งเอาไว


22

ผูคนพบกะโหลกแกว คริสตัลที่ดังที่สุด

ขอบคุณรูปภาพจาก Ambergris Caye's Finest News Source และ badarchaeology

กะโหลกอันนี้ คอนขางคลายคลึงกับกะโหลกแกว Mitchell-Hedges เพียงแตมีรายละเอียดนอยกวา และไมสามารถถอดขากรรไกร


Darkism Issue One - April 2017

Giant Stone Balls of Costa Rica

ปริ ศ นาลู ก หิ น ยั ก ษ ใ นคอสตาริ ก า ในชวงทศวรรษที่ 1930 ขณะที่คนงานกําลัง

จากขอสันนิษฐานพบวา ลูกหินยักษเหลานี้เกิด

ถางปากลวยในปาทึบ ของประเทศคอสตาริกา

ขึน ้ กอนมนุษย คือเกิดในยุคแทรเซียรีพเี รียดซึง ่

ก็ไดพบกับ ลูกหินยักษทรงกลมประหลาด ทีม ่ ี

นานกวา 40 ลานปมาแลว อยางไรก็ตาม วัตถุ

ขนาดตางๆ หลายสิบลูกมีตง ้ั แตเทาลูกเทนนิส

เหลานี้ ก็ยง ั ไมสามารถหาคําตอบทีช ่ ด ั เจนไดจน

ไปจนถึงลูกที่มีเสนผานศูนยกลาง 8 ฟุต หนัก

ถึงตอนนี้

ถึง 16 ตัน เห็นไดชัดวาลูกหินพวกนี้ไมไดเกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติ แตเกิดจากฝมือของมนุษย ซึ่งใน บริเวณดังกลาว ไมพบรองรอยของมนุษยทอ ี่ ยู ใกลเคียงแมแตนอย ตามตํานานทองถิ่นเชื่อวา มีทองคําอยูภ  ายใน แตเมือ ่ ระเบิดหินพวกนีก ้ ลับ เจอแตความวางเปลา ขอบคุณภาพจาก Crystalinks



Darkism Issue One - April 2017

เรื่องเลา

สุดประ

หลาด หลายศตวรรษที่ผานมา บนโลกใบนี้ เต็มไปดวยเรือ ่ งราวตางๆมากมายซึง ่ Darkism Magazine จะมาบอกเลา เรื่องราวจากเหตุการณตางๆ ที่มีอยู ทั่วทุกมุมโลก หรือ เรื่องเลาในอดีตที่ เกิดขึน ้ อยางนาประหลาดใจจากผูอ  า  น ทางบาน ซึ่งนํามาเผยแพรใหพวกเรา และ ผูอานทานอื่นๆ ไดอานกันอยาง เพลิดเพลิน


26

SAILING

STONE ป ร า ก ฏ ก า ร ณ  หิ น เ ดิ น ไ ด 

ปรากฏการณ ธ รรมชาติ หิ น เดิ น ได (Sailing Stone) เปน 1 ใน ปรากฏการณธรรมชาติที่ยัง คงเปนปริศนา ที่เกิดขึ้นที่ อุทยานแหงชาติเดท วัลลี่ย (Death Valley National Park)ในรัฐแค ลิฟอรเนีย (California) ประเทศสหรัฐอเมริกา สิง ่ ทีเ่ กิดขึน ้ คือ จะพบรองรอยการเคลือ ่ นทีข ่ อง กอนหินบนดินเหนียวที่แหงเปนทางยาวไป โดย จะเกิดขึ้นทุก 3-2 ครั้ง / ป และหินบางกอนใช เวลาถึง 4-3 ปในการเคลื่อนที่ จากลักษณะรูปรางของรองรอย การไถลของ หินนัน ้ บงบอกไดวา  หินกอนนัน ้ ตอง เคลือ ่ นทีใ่ น ชวงที่พื้นของเรซแทรค พลายานั้นถูกปกคลุม ดวยดินเหนียวออนนุม  ถาเปนฝมอ ื ของคนหรือ สัตวจะตองมีรอ  งรอยของการเหยียบยํา ่ รบกวน ชัน ้ ดิน เหนียวดวย แตในบริเวณดังกลาวไมปรา กฏหลักฐานรองรอยจากคน หรือ สัตวทจ ี่ ะชวย ใหหน ิ เคลือ ่ นทีเ่ ลย มีเพียงรองรอย การไถลของ หินเทานั้น ทางสมมุติฐาน อางวาเกิดจาก ลม ตัวการที่นิ ยมนํามาใชอธิบาย ปรากฎการณนก ี้ ค ็ อ ื ลม โดย สวนมากลมที่พัดผานบริเวณนี้ จะมีทิศทางพัด จากทิศตะวันตกเฉียงใตไปยังทิศตะวันออกเฉียง เหนือ และรองรอยการไถลของหินก็มีทิศทาง ขนาดกับทิศทางของลมนี้ดวย ขอมูลจาก Wowboom

P H OTO G R A P H Y BY R i c h a rd N o r r i s , Ya l e S c i e n t i f i c M a g a z i n e


Darkism Issue One - April 2017

Max Hoffman

ขอมูลจาก indepencil

เ ด็ ก ช า ย ผู  ฟ   น คื น ชี พ

ปค.ศ. 1865 ในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เด็ก ชายแม็กซ ฮอฟแมน (Max Hoffman) วัย 5 ขวบ ไดเสียชีวิตลง และถูกนํารางไปฝงยังสุสานใกล กับฟารมของครอบครัว คืนนั้นเองแมของเขาฝนวา บุตรชายของตนที่ อยูในหลุมยังมีชีวิตอยู และพยายามตะเกียกตะ กายขึน ้ มาจากดิน โดยเขาพยายามตอสูเ พือ ่ เอา ชีวต ิ รอดในโรงศพทีม ่ ด ื มิดนัน ้ เพียงลําพัง ปาก ก็เรียกหาแมอยูต  ลอดเวลา มือทัง ้ สองของแม็กซ ถูกมัดไพลอยูใตแกมขวาในทานอนตะแคง แบบ ทีเ่ ขาถนัด เขาจึงไมสามารถชวยเหลือตัวเองให ออกไปไดเลย เมือ ่ แมสะดุง  ตืน ่ จากความฝนนัน ้ กลางดึกนัน ่ เอง เธอไดปลุกสามีและเลาความฝนใหฟง  พรอมทัง ้ ชวนสามีไปขุดหลุมศพของลูกชายเพือ ่ ชวยชีวต ิ เขา แตผเู ปนสามีปฏิเสธเพราะคิดวาเธอเพอเจอ เพราะความเสียใจอยางหนักที่ลูกชายเสียชีวิต ไปอยางกระทันหัน

คืนตอมาเธอก็ฝนเหมือนเดิมอีกครั้ง และปลุก สามีขึ้นมาเลาความฝนอีกเชนเคย ครั้งนี้แมสา มีจะไมเชือ ่ แตกอ ็ ดทนตอความสงสารเธอไมไหว จึงตกลง พาเธอไปยังหลุมศพของลูกชาย และ ดวยความชวยเหลือของเพื่อนบาน นายฮอฟ แมนก็ขด ุ หลุมศะลูกชายในเชาตรูว  น ั รุง  ขึน ้ ในนัน ้ มีรางของเด็กชายนอนนิ่งอยูอยางคนตายทั่ว ไปไมมก ี ารหายใจ แตไมมส ี ญ ั ญาณชีวต ิ ใดๆ แต ศพนัน ้ ยังดูใหมมาก แมวา  พวกเขาไมไดอนุญาต ใหแพทยฉีดยารักษาสภาพศพ แตก็ไมมสิ่งใด เปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่ถูกฝงไปแลวกวา 2 ถึง 3 วัน อยางไรก็ตาม สองสามีภรรยาไดนําลูกชายไป ใหหมอตรวจดูอก ี ครัง ้ ซึง ่ หมอเองแมประหลาด ใจ แตก็พยายามทําทุกวิถีทางที่จะชวยใหเด็ก นอยฟนขึ้นมาอีกครั้ง และเปนที่นามหัศจรรย อยางยิ่ง เพราะในอีก 1 ชั่วโมงตอมา เด็กชาย แม็กซ ฮอฟแมน ก็กระพริบตา และเริ่มรูสึกตัว สัญญาณชีวต ิ วัดไดอก ี ครัง ้ เขาลืมตาขึน ้ มา และ ปกติทุกประการ 1 สัปดาหตอมา เด็กนอยหาย เปนปกติ และ กลับบานได นอกจากนั้นเขายัง สามารถใชชีวิตอยูตอมาจนถึงอายุ 90 ปเลยที เดียว


ขอบคุณภาพจาก CohenUFO.org

28

The Rendlesham

Forest Incident เหตุการณที่ ปาเร็มเดิลแชม

เหตุการณในวันนั้นเกิดขึ้นเมื่อเวลาตีสาม ของ วันที่ 26 ปลายเดือนธันวาคม ไดเกิดแสงไฟประ หลาดเคลื่อนที่ผานไปมาที่ปาเร็นเลสแฮม ดาน นอกฐานทัพอากาศวูดบริดจ ทางตะวันออก ของอังกฤษ ตอนแรกพวกเจาหนาที่ปาไมคิด วา เปนเครื่องบินลงจอด เลยเขาไปตรวจสอบ แตปรากฏวาสิ่งที่พวกเขาเห็นกลับเปนยูเอฟโอ รูปทรงสามเหลีย ่ มโลหะ บินได มีสามขา และเปลง แสงประหลาดอยูในที่มืด กอนที่จะลงจอดบน พื้นดิน พวกเขาจึงรีบกลับไปเพื่อเรียกกําลัง เสริม

แสงไฟประหลาดที่ลอยตัวอยูในปา ขอบคุณภาพจาก Science | HowStuffWorks

ตอมา บริเวณจุดที่ยูเอฟโอลงจอดดังกลาวก็ ไดกลายเปนพื้นที่มีชื่อเสียงของการปรากฏตัว ของยูเอฟโอของประเทศอังกฤษ ซึง ่ หลายฝาย พยายามหาขอเท็จจริงจนถึงทุกวันนี้ วันตอมา เมื่อนําเจาหนาที่เขาตรวจอีกครั้ง ก็ พบยูเอฟโอลําดังกลาวหายไป แตกระนั้นก็ยัง รองรอยการเผาไหม และรองรอยแรงกดทับ และคารังสีที่ผิดปกติในบริเวณนั้น

ภาพสถานที่ลงจอด ขอบคุณภาพจาก www.rendlesham-incident.co.uk

ขอมูลจากตวยตูนส

เหตุการณที่ปา เปนเหตุการณประหลาดที่เกิด ขึน ้ ในปาเร็นเลสแฮม , ซัฟโฟลก ประเทศอังกฤษ ในป 2980 โดยหลายคนไดเชื่อมโยงเหตุการณ ดังกลาววาเปนฝมือของยูเอฟโอ




Darkism


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.