ศรีธนญชัยผูป้ ราดเปรื่องเรือ่ งปัญญา ศรีธนญชัยผู้ฉลาดแกมโกง ศรีธนญชัยชายผู้ไม่ยอมแพ้
หนังสือเรียนประกอบกำรสอน นิทำนพื้นบ้ำนศรีธนญชัย Textbook for teaching Thai folk tale Sri Thanonchia
ผู้แต่ง รศ. วิเชียร เกษประทุม ผู้จัดทำ นางสาวธัญลักษณ์ ดวงประทุม รหัส 5610111250004 นางสาวฝนทิพย์ นามมาลี รหัส 5610111250005 นางสาวปรารถนา มากคช รหัส 5610111250016 นางสาวศุจีภรณ์ จันขอนแก่น รหัส 5610111250017 นางสาวอริสา กองม่วง รหัส 5610111250020 นางสาวศิริพร จิตบวร รหัส 5610111250038 นางสาวละมัย ธรรมวิเศษ รหัส 5610111250039 สาขาการประถมศึกษา ชั้นปีที่ 4
คำนำ หนังสือเรียนประกอบการสอน เรื่อง “ศรีธนญชัย” จัดเป็นหนังสือเรียน นิทานมุกตลกประเภทคนเจ้าปัญญาแบบฉลาดแกมโกงที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ รู้จักอย่างแพร่หลายมากที่สุดเรื่องหนึ่งของไทย เรื่องศรีธนญชัยนั้นส่วนใหญ่เป็นการตีความภาษา อันเป็นการใช้ปฏิภาณ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งบางครั้งก็เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง แต่บางครั้งก็เป็นการ ช่วยชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่น การนาเรื่องศรีธนญชัยมาทาเป็นหนังสือเรียนประกอบการสอนนั้น ก็เพื่อ เป็นการช่วยถ่ายทอดนิทานไทยที่คนไทยรู้จักกันมานานให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และ สืบทอดกันต่อไป อย่ า งไรก็ ต าม มี พ ฤติ ก รรมบางอย่ า งของศรี ธ นญชั ย ที่ ไ ปสร้ า งความ เดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น และขัดต่อธรรมเนียมประเพณี ซึ่งไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ผู้เรียนจะต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย
คณะผู้จัดทา
สำรบัญ ตอน ๑. กาเนิดศรีธนญชัย ๒. อาบน้าให้น้องและเก็บข้าวของอย่าให้รกรุงรัง ๓. บวชเป็นสามเณร ๔. ขายดีอย่างเทน้าเทท่า ๕. สิ่งใดหกตกหล่นให้เก็บกวาดขึ้นมาให้หมด บรรณานุกรม ภาคผนวก
หน้ำ 1 6 11 16 21 26 27
แนวทำงในกำรศึกษำหนังสือเล่มนี้ หนังสือเรียนประกอบการสอนเรือ่ ง ศรีธนญชัย เรื่องนี้เป็นนิทานพื้นบ้านที่กล่าว ถึงความชาญฉลาดที่แฝงด้วยกลโกงของ ศรีธนญชัย ที่ชวนติดตาม เนือ้ เรื่องของแต่ละ ตอน มีทั้งข้อคิด คติเตือนใจ และเนื้อเรื่องที่สนุกสนานเพลิดเพลิน ชวนอ่านอย่างไม่มี เบื่อ หนังสือเรียนประกอบการสอนเรื่อง ศรีธนญชัย มีหลายเรื่องหลายตอนและแต่ละ ตอนจะมีเนือ้ เรือ่ งดาเนินต่อกันไปเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านให้สนุกมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนทุกท่านควรอ่านต่อกันในแต่ละตอนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และหนังสือเรียน ประกอบการสอนเรือ่ ง ศรีธนญชัย เล่มนี้นา ๕ ตอนแรกมานาเสนอให้แก่ผู้เรียนได้ลอง อ่านและศึกษาเรื่องราวความเป็นไปต่าง ๆ ในเรื่อง นิทานพื้นบ้านเรือ่ ง ศรีธนญชัย ยังมี อีกหลายตอนให้ผู้เรียนได้ติดตามถึงความเฉลียวฉลาดบวกกลโกงอันแยบยล ของศรีธนญ ชัยกันได้ในตอนต่อไป
ข้อแนะนำ ในการอ่าน นิทานพื้นบ้านเรื่อง ศรีธนญชัย เรือ่ งนี้ผู้เรียนจะได้ทั้งข้อคิด คติ เตือนใจต่าง ๆ จากตัวละครในเรือ่ งและควรมีวจิ ารณญาณในการอ่านเพราะในเรื่องนั้นมี ทั้งเรื่องกลโกงต่าง ๆ เล่ห์เหลี่ยมต่าง ๆ ผู้เรียนควรพิจารณาแยกแยะในเรื่องทีค่ วรเอา เป็นแบบอย่างและไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง และในขณะที่ผเู้ รียนกาลังอ่านหนังสือเรียน ประกอบการสอน เรือ่ ง ศรีธนญชัย อย่าส่งเสียงดังจนรบกวนคนข้าง ๆ ล่ะ เพราะว่า นิทานพื้นบ้านเรื่องนี้ตลกมาก
๑ กำเนิดศรีธนญชัย
1
แบบทดสอบก่อนเรียน ๑. นางเหราฝันว่า ได้ไปเที่ยวเล่นที่เขาชื่อว่าอะไร ๑. เขาไกรลาส ๒. เขาพระสุเมรุ ๓. เขาพะเนินทุ่ง ๒. นางเหราตั้งครรภ์ได้ครบสิบเดือน ในวัน เดือน ปี อะไร ๑. วันพฤหัสบดี เดือน ๒ ปีระกา ๒. วันพฤหัสบดี เดือน ๓ ปีวอก ๓. วันพฤหัสบดี เดือน ๔ ปีวอก
2
๑. กำเนิดศรีธนญชัย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระเจ้าแผ่นดินและพระมเหสี ทรงพระนามว่า “พระเจ้าเจษฎา” และ “พระนางอนงคมาลี” พระองค์ได้ปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิธราชธรรม ทาให้ราษฎรได้รับความร่มเย็น เป็นสุข ปราศจากข้าศึกศัตรูมารุกราน หัวเมืองน้อยใหญ่เกรงกลัวพระเดช ต่างพากันมานอบน้อมเป็น จานวนมาก มีครอบครัวหนึ่ง สามีชื่อ “นายนันทา” ภรรยาชื่อ “นางเหรา” (เห-รา) ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บา้ นบึง ซึ่งอยู่ทางเหนือของกรุงศรีอยุธยา ทั้งสองครองรักกันมานาน แต่ก็ไม่มีทายาทที่จะสืบสกุล ทาให้ทั้งสอง กลุ้มใจมาก วันหนึ่งจึงสร้างศาลเพียงตาขึ้น (ศาลเพียงตา คือ ศาลเทพารักษ์ที่ทาขึ้นชั่วคราว มีระดับเสมอ นัยน์ตา) พร้อมตั้งเครื่องบวงสรวงสังเวยเทวดา แล้วอธิษฐานจิตขอลูก ทาให้พระอินทร์ทราบถึงความ ประสงค์ของทั้งสอง จึงมีพระบัญชาให้เทพบุตรองค์หนึ่งจุติ (เปลี่ยนสภาพจากกาเนิดหนึ่งไปเป็นอีก กาเนิดหนึ่ง) ลงไปเกิดในครรภ์ของนางเหราทันที คืนนั้นนางเหราฝันว่า ได้ไปเที่ยวเล่นที่เขาพระสุเมรุอันสูงใหญ่ นางยื่นมือไปจับยอดเขาแล้วขึ้น ไปคว้าเอาพระจันทร์มากัดกิน จากนั้นนางก็เหาะลงมา ดังคาประพันธ์ว่าดังนี้ ฝันว่าไปเที่ยวเล่น ปิดทางขวางหน้าไว้ นางจึงยื่นมือไป เดินเหยียบเลียบไปมา ฉวยได้มากัดกิน กินแล้วนางผายผัน
เขาพระสุเมรุอันสูงใหญ่ จะเดินไปยากนักหนา จับเมรุไกรยอดภูผา แล้วจึงคว้าเอาพระจันทร์ บนคีรินสิ้นทั้งนั้น จากที่นั้นเหาะลงมา (ศรีธนญชัย สานวนกาพย์ หน้า ๘)
นางสะดุ้งตื่นขึ้นเล่าความฝันให้สามีฟัง นายนันทาปลอบภรรยาว่า ชะรอยน้องจะมีบุตรจึงทาให้ ฝันประหลาดเช่นนี้ ทั้งได้แนะนาให้นางเหราไปพบท่านสมภารซึ่งเป็นหมอดู ให้ช่วยทานายทายทัก ครั้งรุ่งขึ้น นางเหรารีบตรงไปยังกุฏิของท่านสมภารทันที พอไปถึงนางได้พบกับสามเณรรูปหนึ่ ง ซึ่งได้บอกแก่นางว่า ท่านสมภารไม่อยู่ ติดกิจนิมนต์ คงจะกลับมาในตอนสาย ๆ พร้อมกับถามนางว่า “โยมมีธุระอะไรรีบด่วนกับท่านสมภารหรือ” นางตอบไปว่า “ดิฉันไม่มีธุระอะไรมาก เพียงแต่จะมาขอให้ ท่านทานายฝันให้สักหน่อย” สามเณรจึงขอให้นางเหราเล่าความฝันให้ฟัง พอนางเล่าจบสามเณรก็กล่าวดังคาประพันธ์ว่า ปีนี้คงมีบุตร งามบริสุทธิ์หมดมลทิน เป็นชายโฉมเฉิดฉิน ประกอบสิ้นในลักขณา จะเป็นตลกหลวง เราไม่ลวงเล่นดอกหนา ไปเถิดนางสีกา ตามรูปว่าอย่าวุ่นวาย (ศรีธนญชัย สานวนกาพย์ หน้า ๙) 3
นางเหราจึงกลับมาเล่าคาทานายฝันของสามเณรให้สามีฟัง ทาให้ทั้งสองดีใจ สบายใจขึ้นที่จะได้ ลูกชาย ครั้งพอนางเหรากลับมาถึงบ้าน ท่านสมภารก็กลับมาถึงยังกุฏิ สามเณรได้เล่าเรื่องความฝันของ นางเหราให้ฟัง พร้อมทั้งคาที่ตนเองทานายไป ทาให้สมภารโกรธบอกว่า “เขาจักมีลูกชาย งามพรรณราย ด้วยบุญมา จะได้ครองพารา ในใต้ฟ้าไม่เทียมทัน” หาได้เป็นอย่างที่สามเณรทานายไม่ เมื่อนางเหราตั้งครรภ์ได้ครบสิบเดือน ในวันพฤหัสบดี เดือน ๔ ปีวอก เวลาบ่ายสองโมง นางก็ คลอดบุตรชายมีรูปร่างหน้าตาน่ารัก ขณะที่คลอดนั้นมีอาการวิปริตมืดครึ้มไปทั่วทั้งเมือง บรรดาชาวบ้านเมื่อทราบข่าวว่า นายนันทากับนางเหราได้บุตรชาย ต่างพากันนาข้าวของเงิน ทองมามอบให้เป็นจานวนมาก ทาให้สองสามีภรรยามีฐานะดีขึ้น จึงตั้งชื่อลูกชายว่า “ศรีธนญชัย” ความจริงดวงชะตาของศรีธนญชัยนั้น ควรจะเป็นไปตามที่สมภารบอก เพราะเทวดาจุติลงมา เกิด แต่เนื่องจากสามเณรไปทานายเสียก่อน จึงทาให้คลาดเคลื่อนไป ซึ่งถือเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของ คนไทยในสมัยโบราณ
คำถำมหลังเรียน ๑. นายนันทาแนะนาให้นางเหราไปพบกับใครเพื่อให้ช่วยทานายความฝัน ๒. นายนันทากับนางเหราตั้งชื่อลูกชายว่าอะไร
4
แบบทดสอบหลังเรียน ๑. นางเหราฝันว่า ได้ไปเที่ยวเล่นที่เขาชื่อว่าอะไร ๑. เขาไกรลาส ๒. เขาพระสุเมรุ ๓. เขาพะเนินทุ่ง ๒. นางเหราตั้งครรภ์ได้ครบสิบเดือน ในวัน เดือน ปี อะไร ๑. วันพฤหัสบดี เดือน ๒ ปีระกา ๒. วันพฤหัสบดี เดือน ๓ ปีวอก ๓. วันพฤหัสบดี เดือน ๔ ปีวอก
บทสรุป นายนันทากับนางเหราได้บุตรชาย จึงตั้งชื่อลูกชายว่า “ศรีธนญชัย” ชาวบ้านต่างพากันนาข้าว ของเงินทองมามอบให้เป็นจานวนมาก ทาให้สองสามีภรรยามีฐานะดีขึ้น และความจริงดวงชะตาของ ศรีธนญชัยนั้น ควรจะเป็นไปตามที่สมภารบอกคือ “เขาจักมีลูกชาย งามพรรณรายด้วยบุญมา จะได้ ครองพารา ในใต้ฟ้าไม่เทียมทัน ” มิใช่เป็นไปตามที่สามเณรทานายก่อนหน้านี้ จึงทาให้คลาดเคลื่อนไป ซึ่งถือเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของคนไทยในสมัยโบราณ
5
๒ อำบน้ำให้นอ้ งและเก็บข้ำวของอย่ำให้รก รุงรัง
6
แบบทดสอบก่อนเรียน ๑. นางเหราได้ซื้อขนมอะไรให้ลูกทั้งสองกิน ๑. ขนมเปียกปูน ๒. ขนมหม้อแกง ๓. ขนมดอกดิน ๒. เพราะเหตุใดทาให้สองสามีภรรยาต้องออกจากบ้านแล้วต้องฝากให้ศรีธนญชัยดูแลน้อง ดูแลบ้าน ตามลาพังทุกวัน ๑. เพราะต้องออกไปทาธุระนอกบ้าน ๒. เพราะต้องออกไปทางานนอกบ้าน ๓. เพราะต้องออกไปซื้อของนอกบ้าน
7
๒. อำบน้ำให้น้องและเก็บข้ำวของอย่ำให้รกรุงรัง สองสามีภรรยาได้ทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูศรีธนญชัยลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาจนอายุได้ ๕ ขวบ นางเหราก็ให้กาเนิดบุตรชายอีกคนหนึ่งและได้เลี้ยงดูบุตรทั้งสองด้วยความรักที่เสมอกัน วันใดที่ ทั้งสองสามีภรรยาต้องออกจากบ้าน ศรีธนญชัยในฐานะพี่ชายก็จะทาหน้าที่เลี้ยงดูนอ้ ง ซึ่งพี่น้องทั้งสองก็ รักใคร่กันดี อยู่มาวันหนึ่ง มียายแม่ค้ามาขายขนม ศรีธนญชัยอยากกินขนมจึงขอร้องให้แม่ซื้อ นางเหราได้ ซื้อขนมดอกดินแบ่งให้ลูกทั้งสองเท่าๆ กัน แต่ศรีธนญชัยไม่พอใจ คิดว่าตนเองเกิดก่อนควรได้มากกว่า ส่วนยายแม่ค้าขายขนมรู้สึกเอ็นดูเด็กชายคนน้อง จึงหยิบขนมส่งให้สองห่อเป็นการแถม ทาให้ ศรีธนญชัยโกรธและร้องไห้พลางตัดพ้อว่ายายแม่ค้า ว่าทาไมไม่ให้ตนเองบ้าง เช้าวันหนึ่ง สองสามีภรรยาได้ออกไปประกอบอาชีพเหมือนทุกวัน คงปล่อยให้ศรีธนญชัยเลี้ยงดู น้อง แต่เนื่องจากศรีธนญชัยไม่พอใจเรื่องการแบ่งขนมทั้งๆ ที่ตนทางานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการอาบน้า ให้น้อง ป้อนข้าว ดูแลปัดกวาดบ้านแต่แม่ไม่เคยเห็นความดี วันนี้ศรีธนญชัยจึงไม่ทาหน้าที่เช่นเคย คง ปล่อยให้น้องคลานคลุกฝุ่นเล่น ข้าวปลาอาหารก็ไม่ป้อน น้าท่าก็ไม่อาบให้ แถมข้าวของที่นอ้ งรื้อค้นก็ไม่ เก็บกวาดให้เรียบร้อย พอถึงเวลาเย็น เมื่อสองสามีภรรยากลับมา เห็นลูกชายคนเล็กสกปรกมอมแมมเช่นนั้นก็ตกใจ รีบอุ้มลงไปที่ท่าน้า พลางจัดการอาบน้าขัดสีจนเนื้อตัวสะอาดหมดจด แล้วพาขึ้นมาบนบ้าน ทาแป้ง แต่งตัว ป้อนน้าป้อนข้าว กล่อมให้ลูกนอน ครั้นรุ่งเช้าก่อนที่ทั้งสองจะออกจากบ้าน นางเหราจึงเรียกศรีธนญชัยมาสั่งว่า “ศรีธนญชัยลูก รัก วันนี้ลูกอยู่บ้านช่วยเลี้ยงน้องไว้ให้ดี และอาบน้าอาบท่าชาระขัดสีน้องให้สะอาดหมดจดทั้งนอกทั้งใน แล้วจึงป้อนข้าวกล่อมให้น้องนอน อย่าให้น้องหนีไปไหน ถ้ากลับมาไม่พ บลูกจะถูกทาโทษ ส่วนข้าวของ ต่างๆ ช่วยเก็บกวาดอย่าให้รกรุงรัง จาที่แม่สั่งไว้ให้ดี” แล้วทั้งสองก็ออกจากบ้านไป ด้วยเวรกรรมที่เคยสร้างไว้ต่อกัน ช่วยดลใจให้ศรีธนญชัยคิดริษยาน้อง และตัดสินใจฆ่าน้องของ ตน แล้วนาไปชาระขัดสีให้สะอาดทั้งนอกทั้งใน นามาผัดแป้งแต่งตัวยกไปใส่ไว้ในเปลตามที่แม่สั่ง ต่อจากนั้นก็เก็บข้าวของภายในบ้านทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะเป็นถ้วยโถโอชาม เครื่องใช้ไม้สอย กระบุง ปุ้งกี๋ รวมทั้งเครื่องนอน มุ้งหมอนผ้าห่ม ขนไปทิ้งในแม่น้า เพื่อไม่ให้รกรุงรังตามที่แม่สั่งไว้ เช่นเดียวกัน แล้วกลับมานั่งรอพ่อแม่ เมื่อสองสามีภรรยากลับมาถึงบ้านเห็นบ้านว่างเปล่า ข้าวของเครื่องใช้ไม่มีเหลือก็แปลกใจยิง่ นัก รีบเดินเข้าไปในบ้าน เห็นศรีธนญชัยนั่งอยู่ จึงถามว่าน้องอยู่ที่ไหน ศรีธนญชัยตอบว่าน้องนอนอยู่ใน เปลนั่นไง ทั้งสองจึงเดินเข้าไปดู เห็นลูกนอนปากอ้า นัยน์ตาปลิ้นอยู่บนเบาะอย่างน่าเวทนาที่สุดก็ตกใจ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกกอดศพลูกร้องไห้เพียงจะขาดใจ จึงร้องถามศรีธนญชัยว่า “ใครมาทากับน้องอย่าง นี้ และข้าวของในบ้านไปไหนหมด”
8
ศรีธนญชัยตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “แม่ลืมไปเสียแล้วหรือสั่งลูกไว้ว่าอย่างไร แม่สั่งว่าให้ อาบน้าน้องให้สะอาดหมดจดทั้งนอกทั้งใน ลูกก็ทาแล้ว แม่ดูซิว่าน้องสะอาดทั้งนอกทั้งในหรือไม่ ส่วน บ้านเรือนแม่บอกว่า อย่าให้รกรุงรัง ลูกก็เก็บข้าวของไปทิ้งน้า จนบ้านเรือนโล่งโถงอย่างที่เห็นนี่แหละ ลูกได้ทาตามที่แม่สั่งทุกประการแล้ว” เมื่อได้ฟังคานั้น ทาให้สองสามีภรรยาโกรธเป็นที่สุด ฉวยไม้ช่วยกันไล่ตีศรีธนญชัย จนล้มลุก คลุกคลานเป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก และด่าทอขับไล่ให้ออกไปพ้นจากบ้าน ทั้งยังไปเที่ยวป่าวประกาศให้ ญาติพี่น้อง รวมทั้งเพื่อนบ้านทั้งหลายอย่าได้พูดจาคบหา ช่วยเหลือจุนเจือคนชั่วอย่างอ้ายศรีธนญชัย อีกด้วย ฝ่ายญาติพี่น้องของนายนันทาและนางเหราต่างนาข้าวของเครื่องใช้ที่จาเป็นมาให้แก่สองสามี ภรรยา เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมทั้งปลอบโยนให้คลายโศกและนาศพไปฝังยังป่าช้า ส่วนศรีธนญชัยนั้นต้องซัดเซพเนจรออกจากบ้านไปอย่างไร้จุดมุ่งหมาย ทั้งนี้เป็นเพราะความเถรตรง ของตนนั่นเอง
คำถำมหลังเรียน ๑. นางเหราได้กาเนิดบุตรชายคนที่สอง ตอนศรีธนญชัยอายุได้กี่ปี ๒. เพราะเหตุใดศรีธนญชัยจึงตัดสินใจฆ่าน้องของตนเอง
9
แบบทดสอบหลังเรียน ๑. นางเหราได้ซื้อขนมอะไรให้ลูกทั้งสองกิน ๑. ขนมเปียกปูน ๒. ขนมหม้อแกง ๓. ขนมดอกดิน ๒. เพราะเหตุใดทาให้สองสามีภรรยาต้องออกจากบ้านแล้วต้องฝากให้ศรีธนญชัยดูแลน้อง ดูแลบ้าน ตามลาพังทุกวัน ๑. เพราะต้องออกไปทาธุระนอกบ้าน ๒. เพราะต้องออกไปทางานนอกบ้าน ๓. เพราะต้องออกไปซื้อของนอกบ้าน
บทสรุป นายนันทาและนางเหราได้ให้กาเนิดบุตรชายคนที่สองตอนศรีธนญชัยอายุได้ ๕ ขวบและได้ให้ ความรักเท่ากันทั้งสองคน สองสามีภรรยาต้องออกไปทางานนอกบ้านทุกวันและศรีธนญชัยในฐานะ พี่ชายต้องทาหน้าที่ดูแลน้อง ดูแลบ้าน อยู่มาวันหนึ่งมียายแม่คา้ มาขายขนม นางเหราได้ซอื้ ขนมดอกดิน ให้ลูกๆทั้งสองกินเท่าๆ กัน แต่ศรีธนญชัยไม่พอใจคิดว่าตนเป็นพี่ควรได้มากกว่า แถมยายแม่ค้ายังแถม ขนมให้คนน้องอีกยิ่งทาให้ศรีธนญชัยไม่พอใจมากๆ อีกทั้งคิดว่าตนทางานบ้านทุกอย่างแต่แม่ไม่เห็น ความดี ทาให้ศรีธนญชัยไม่ยอมดูแลน้อง ดูแลบ้าน ศรีธนญชัยจึงถูกลงโทษ แต่แล้ววันหนึ่งแต่ศรีธนญ ชัยเกิดคิดริษยาน้องของตน จึงตัดสินใจฆ่าน้องของตน เมื่อสองสามีภรรยากลับมาถึงบ้านและรู้ความ จริงจากปากศรีธนญชัยจึงโกรธและไล่ตีพร้อมขับไล่ศรีธนญชัยออกจากบ้าน และประกาศไม่ให้ใคร ช่วยเหลือจุนเจือ ศรีธนญชัยนั้นต้องซัดเซพเนจรออกจากบ้านไร้จุดมุ่งหมาย ทั้งนี้เป็นเพราะความเถร ตรงของตนนั่นเอง
10
๓ บวชเป็นสำมเณร
11
แบบทดสอบก่อนเรียน ๑. เมือ่ ศรีธนญชัยเดินขึ้นไปบนกุฏแิ ล้วได้พบเข้ากับใคร ๑. ภิกษุสูงอายุ ๒. ชายสูงอายุ ๓. แม่ชี ๒. ใครเป็นคนโกนจุกให้แก่ศรีธนญชัย ๑. ชายสูงอายุ ๒. สมภาร ๓. แม่ชี
12
๓. บวชเป็นสำมเณร ศรีธนญชัยเดินร้องไห้ออกจากบ้านด้วยความน้อยใจที่ถกู ขับไล่ด่าตี เมื่อเดินซมซานไปหาญาติพี่ น้องก็ไม่มีผู้ใดพูดจาปราศรัยด้วย มีแต่คนรังเกียจด่าว่า จึงมุ่งหน้าเดินไปเรื่อยจนมาถึงวัดแห่งหนึ่ง ศรีธนญชัยตัดสินใจเดินขึน้ ไปบนกุฏิหลังใหญ่พบพระภิกษุสูงอายุรูปหนึง่ จึงเข้าไปกราบ พร้อมออกปาก ฝากตัวกับท่านว่า “กระผมชื่อศรีธนญชัย กาพร้าพ่อแม่ ญาติพี่น้องก็ไม่มีกระผมขอความเมตตาจากท่านช่วยรับ กระผมไว้รับใช้ปรนนิบตั ิอยู่ในวัดนี้สักคนเพื่อเอาบุญจะได้ไหมครับ” ท่านสมภารพอได้ฟังคาพูดของศรีธนญชัย เห็นว่าเป็นเด็กฉลาด พูดจาฉะฉาน แคล่วคล่อง จึง เกิดความเมตตาสงสาร ตอบไปว่า “ถ้าเป็นอย่างทีเ่ จ้าบอกมาข้าก็เห็นใจและจะรับเจ้าไว้เป็นศิษย์วดั จง อยู่กับข้าทีน่ แี่ หละ รับรองว่าเจ้าจะไม่อดตายอย่างแน่นอน” เมื่ออยู่กับท่านสมภาร ศรีธนญชัยได้ปฏิบัตหิ น้าทีศ่ ิษย์ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนท่าน สมภารไว้วางใจ ครั้นศรีธนญชัยอายุครบ ๑๓ ปี ท่านสมภารก็จดั การโกนจุกให้ตามธรรมเนียมไทยและ บรรพชาให้เป็นสามเณร ขณะที่เป็นสามเณรอยู่ ท่านสมภารได้สอนทั้งภาษาไทยและภาษาขอมให้แก่ศรีธนญชัย จนอ่าน ได้เขียนคล่อง คิดเลขได้เร็ว สวดอ่านคาฉันท์ได้อย่างไพเราะ อยู่มาวันหนึ่ง หลานสาวของท่านสมภารซึ่งมีหน้าตาสดสวยและกาลังเป็นสาวรุ่น ได้มีศรัทธามา บวชเป็นชีอยูก่ ับท่านสมภาร ในตอนแรกท่านสมภารก็ได้สอนอ่านเขียนเรียนเลขให้แก่หลานสาวของท่านเอง สอนไปได้ระยะ หนึ่งก็คงจะเบือ่ ประกอบกับเห็นว่าศรีธนญชัยมีวชิ าแก่กล้า น่าจะทาหน้าที่แทนท่านได้ จึงมอบภาระให้ ศรีธนญชัยสอนหนังสือหลานสาวแทน ในตอนแรกการสอนของสามเณรศรีธนญชัยกับแม่ชีสาว หลานสมภารก็เรียบร้อยดี เพราะมี สมภารดูแลอยู่ใกล้ ๆ วันหนึง่ ขณะที่สมภารหลับ ครูศรีธนญชัยอดใจไว้ไม่ได้ถือโอกาสลวนลามแม่ชีสาว ทันที ฝ่ายแม่ชีสาวก็ร้องห้ามปราม ว่าทาไมถึงทาอย่างนี้ศรีธนญชัยทาทีกลบเกลื่อนบอกว่าสอนไม่จา อ่านผิดไปเองแล้วยังมาต่อว่าครูอีก พอดีสมภารตื่นขึ้นพอดีได้ยินเสียงครูกับศิษย์โต้เถียงกัน จึงออกปาก ตาหนิหลานสาวว่า ครูสอนอะไรให้จดจาไว้ และอย่าได้มีปากเสียงกับครูอกี เป็นอันขาด นับตัง้ แต่นั้นเป็นต้นมา ครูศรีธนญชัยเริ่มได้ใจ เนื่องจากเห็นว่าแม่ชีสาวไม่กล้าโต้เถียงกับตนแล้ว เมื่อได้โอกาสก็ลวนลามแม่ชสี าวเหมือนเช่นเคย ส่วนแม่ชีสาวก็เฝ้าแต่ปดั ป้องหยิกข่วนเพื่อเอาตัวรอด วันหนึ่งเป็นคราวเคราะห์ของสามเณรศรีธนญชัยเพราะขณะที่กาลังลวนลามแม่ชีสาวอยู่นนั้ ท่านสมภารได้แอบมาเห็นเข้า ท่านสมภารโกรธมากที่เห็นศรีธนญชัยทาเช่นนัน้ จึงจับตัวศรีธนญชัยมา โบยตี พร้อมทัง้ ขับไล่ออกจากวัด ดังคาประพันธ์ว่าดังนี้ สมภารต่อยตบ อ้ายลูกบัดซบ ไม่รู้คณ ุ คน ไสหัวมึงไป กูไม่กงั วล 13
นอกรูช้ ีตน้
อ้ายคนส่าสาม อย่าอยู่ที่นี่
ไปเสียวันนี้ จะอยู่นานไป มันเป็นเสี้ยนหนาม
ให้พ้นอาราม คงได้เกิดความ ในพระศาสนา (ศรีธนญชัย สานวนกาพย์ หน้า ๒๙ )
คำถำมหลังเรียน ๑. สมภารสอนวิชาภาษาอะไรบ้างให้แก่ศรีธนญชัย ๒. สมภารให้ใครเป็นคนสอนหนังสือให้แม่ชีสาวแทนตน
14
แบบทดสอบหลังเรียน ๑. เมือ่ ศรีธนญชัยเดินขึ้นไปบนกุฏแิ ล้วได้พบเข้ากับใคร ๑. ภิกษุสูงอายุ ๒. ชายสูงอายุ ๓. แม่ชี ๒. ใครเป็นคนโกนจุกให้แก่ศรีธนญชัย ๑. ชายสูงอายุ ๒. สมภาร ๓. แม่ชี
บทสรุป ศรีธนญชัยเดินซมซานออกจากบ้านจนได้มาเจอเข้ากับวัดแห่งหนึง่ และฝากตัวรับใช้สมภารที่ วัดแห่งนัน้ เรื่อยมาจนอายุครบ ๑๓ ปี สมภารจึงได้ทาพิธีโกนจุกและบรรพชาให้เป็นสามเณร สมภาร สอนทั้งภาษาไทยและภาษาขอมให้แก่แก่ศรีธนญชัยจนอ่านได้เขียนคล่อง คิดเลขได้เร็ว สวดอ่านคาฉันท์ ได้อย่างไพเราะ อยู่มาวันหนึง่ หลานสาวสมภารเกิดความศรัทธาจึงบวชเป็นชีในช่วงแรกนัน้ สมภารเป็น ผู้สอนหนังสือให้กับแม่ชดี ้วยตนเอง แต่ภายหลังได้เปลี่ยนให้ศรีธนญชัยมาสอนแทนแต่ด้วยแม่ชนี ั้นเป็น สาวแรกรุน่ ศรีธนญชัยจึงได้ลวนลามแม่ชีสาวอยู่บ่อยครัง้ จนสมภารจับได้และไล่ศรีธนญชัยออกจากวัด ไปในทันที
15
๔ ขำยดีอย่ำงเทน้ำเทท่ำ
16
แบบทดสอบก่อนเรียน ๑. ศรีธนญชัยเมื่อถูกไล่ออกจากวัดแล้วไปไหน ๑. ไปบ้านญาติ ๒. กลับบ้านไปหาพ่อแม่ ๓. ไปบ้านยายขายขนม ๒. ศรีธนญชัยตีความหมาย คาว่า “ขายดีอย่างเทน้าเทท่า” ว่าอย่างไร ๑. ขายขนมได้คล่อง ๒. ขายขนมที่ท่าน้า ๓. นาขนมไปเททิ้งที่ท่าน้า
17
๔. ขำยดีอย่ำงเทน้ำเทท่ำ ศรีธนญชัยเมื่อถูกสมภารขับไล่ออกจากวัด ก็จาใจต้องลาสึกจากสามเณร เดินร้องไห้ออกจากวัด เพราะไม่รู้จะไปพึ่งใครได้อีกแล้ว ญาติพี่น้องก็ขับไล่ ด่าทอ จึงบากหน้าเดินทางกลับบ้านไปหาพ่อแม่ นายนันทาและนางเหราเห็นหน้าลูกชายกลับมา ก็ปรึกษากันว่าจะทาอย่างไรกันดี ตกลงพาศรี ธนญชัยไปขายให้ไกลบ้าน แต่อยู่ได้ไม่นานศรีธนญชัยก็หนีกลับมา บอกว่าเขาใช้งานลูกหนักเหลือเกิน ลูกทนไม่ไหวแล้ว สองสามีภรรยาจึงต้องหาเงินไปไถ่ตัวมา แล้วนามาขายให้คนอื่นต่อไป เนื่องจากใน สมัยก่อนมีระบบค้าทาส กล่าวคือ พ่อแม่ที่ยากจนจะนาลูกไปขายให้แก่คนมีฐานะเพื่อให้ไปเป็นทาสรับ ใช้ เพิ่งมาเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่๕ นี่เอง ศรีธนญชัยทนอยู่กับนายทาสไม่ไหว คงหนีกลับมาเหมือนเดิม นายนันทาและนางเหราก็ขับไล่ โบยตีเชิงด่าว่าอ้ายลูกกาลี นับแต่วันนี้ขอจงไปให้พ้น อย่าได้กลับมาให้เห็นหน้าอีก ศรีธนญชัยก้มลง กราบเท้าพ่อแม่ พร้อมขอร้องว่า แม่อย่าได้นาลูกไปขายให้แก่คนอื่นเลย ขอจงพาลูกไปขายให้แก่ ยายที่ เคยมาขายขนมที่บ้านเรา ซึ่งลูกมีความเต็มใจอย่างยิ่งที่จะได้รับใช้ยาย คาพูดนี้นับเป็นเล่ห์กลของศรี ธนญชัยที่จะได้ถือโอกาสแก้แค้นยายคนขายขนมนั่นเอง จึงแกล้งกล่าวเบี่ยงบ่ายเช่นนั้น สองสามีภรรยาหารู้เท่าทันลูกชายไม่ จึงตอบตกลงและพาศรีธนญชัยไปขายให้ยายแม่ค้ าขาย ขนม ตามที่ศรีธนญชัยขอร้อง เมื่อไปอยู่กับยายแม่ค้าขายขนมได้ไม่นาน ยายก็ใช้ศรีธนญชัยออกไปขายขนมแทนตน โดยใช้ หาบขนมไปขายทุกบ้าน เมื่อหิวขึ้นมาก็หยุดนั่งกินขนมที่หาบไปขาย พบหมูหมากาไก่กลางทางก็หยิบ ขนมวางให้กินอย่างทิ้งๆขว้างๆพอเห็นชาวบ้านเขาตั้งวงเล่นการพนันกันอยู่ ก็วางหาบขนมทิ้งไว้และเข้า ไปนั่งดู ใครจะบอกใครจะเตือนว่ามีผู้หยิบขนมไปก็ไม่นาพา ครั้นเย็นเห็นควรจวนเวลา ก็คว้าหาบวิ่งกลับ ยายแม่ค้าออกมารับ เห็นขนมหมดหาบก็แสนจะดี ใจ ถามว่าเงินที่ขายได้อยู่ไหนจงเอามา ศรีธนญชัยตอบดังคาประพันธ์ว่า ธนญชัยบอกด้วยมารยาท ถ้อยคามุสา ว่าข้าไปเที่ยวร้องขาย พวกเพื่อนชาวบ้านทั้งหลาย คุ้นเคยกับยาย เขาชวนกันซื้อสับสน ทีละเฟื้องทีละไพหลายคน นายมียายมน นางสนลูกสะใภ้ยายดี (ศรีธนญชัย สานวนกาพย์ หน้า ๓๖) สรุปว่าคนรู้จักกับยายเขาซื้อเชื่อไว้ ยังไม่จ่ายสักคนนั่นเอง ยายก็หลงเชื่อบอกกับศรีธนญชัยว่า “พรุ่งนี้เอ็งเอาขนมไปขายใหม่ แล้วช่วยเก็บค่าขนมที่เขาติดไว้มาด้วยก็แล้วกัน” พอรุ่งเช้ายายก็จัดหาบขนมให้ศรีธนญชัยไปขายเหมือนเดิม โดยก่อนที่ศรีธนญชัยจะออกเดินทาง ยายได้สั่งว่า “ขอให้ขายดีอย่างเทน้าเท่ทาเชียวนะหลานนะ” คาพูดนี้เองทาให้ศรีธนญชัยนึกกระหยิมอยู่ ในว่า “คราวนี้แหล่ะยายเฒ่าเอ๋ยคงสมพรปากดังที่พูดแน่” 18
ศรีธนญชัยรีบหาบขนมออกจากบ้านไปทันที หาบไปได้สักพักหนึ่งเผอิญผ่านคาคลอง(ซึ่งมีท่าน้า ศรีธ นญชัยจึงหาบขนมไปเทที่ท่าน้ านั้ น จนหมดเกลี้ยงหาบ แล้วหาบหาบเปล่ากลับบ้านด้วยความ กระหยิ่มยิ้มย่อง ยายเห็นศรีธนญชัยกลับมาแต่วันพร้อมกับหาบเปล่าก็แปลกใจ ถามว่า “วันนี้ทาไมหลานขาย ของหมดหาบเร็วเหลือเกิน มีใครเหมาซื้อไปจนหมดหาบหรือ” ศรีธนญชัยตอบไปอย่างหน้าตาเฉยว่า “ไม่มีใครเหมาหรอกยาย ยายสั่งว่าให้ขายดีอย่างเทน้าเท ท่า ผมก็เลยเอาขนมทั้งไปเททิ้งที่ท่าน้า ตามคาที่ยาสั่งนั่นแหล่ะ” ความจริงคาว่า “เทน้าเทท่า” นั้นในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ได้ให้คา จากัดความไว้ว่า เป็นภาษาปาก และเป็นคาวิเศษณ์ หมายความว่า คล่องหรือรวดเร็ว มักใช้ประกอบคา ว่า ขายเป็น ขายดีเป็นเทน้าเทท่าซึ่งก็หมายถึงขายได้คล่อง ขายได้เร็วนั่นเอง แต่ศรีธนญชัยกลับนามาไป ตีความหนังสือเพื่อให้เข้ากับการกระทาของตนเอง พอยายได้ฟังดังนั้น ก็โกรธศรีธนญชัยอย่างที่สุด เพราะทุนก็ไม่ได้กาไรก็สูญ จึงโบยตีก่นด่าศรี ธนญชัยเอ็ดอึงไปทั่วบ้าน ยายคิดว่าคนอย่างศรี ธนญชัยนี้คงจะเลี้ยงเอาไว้ไม่ได้ มีแต่ทาให้เดือดร้อนราคาญ อย่ากระนั้น เลยน่าจะนาไปเป็นข้ารับใช้ลูกชายของเรา ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เป็นหลวง(บรรดาศักดิ์ข้าราชการสูงกว่าขุน ต่ากว่าพระ) ในหนังสือศรีธนญชัยสานวนกาพย์ ใช้ชื่อว่า “หลวงนาย” รับราชการสนองพระเดชพระคุณ อยู่ในวังหลวง คงจะสามารถปราบอ้ายศรีธนญชัยจอมเถรตรงได้เป็นแน่แท้ เนื่องจากมีอานาจราชศักดิ์ อยู่ในวัง
คำถำมหลังเรียน ๑. ศรีธนญชัยขอร้องให้พ่อแม่พาตนไปขายให้กับยายขายขนมเพราะอะไร ๒. ยายแม่ค้าขายขนมนาศรีธนญชัยให้ไปเป็นข้ารับใช้ใคร 19
แบบทดสอบหลังเรียน ๑. ศรีธนญชัยเมื่อถูกไล่ออกจากวัดแล้วไปไหน ๑. ไปบ้านญาติ ๒. กลับบ้านไปหาพ่อแม่ ๓. ไปบ้านยายขายขนม ๒. ศรีธนญชัยตีความหมาย คาว่า “ขายดีอย่างเทน้าเทท่า” ว่าอย่างไร ๑. ขายขนมได้คล่อง ๒. ขายขนมที่ท่าน้า ๓. นาขนมไปเททิ้งที่ท่าน้า
บทสรุป เมื่อศรีธนญชัยถูกสมภารขับไล่ออกจากวัด จึงจาใจต้องลาสึกจากสามเณรแล้วบากหน้าเดินทาง กลับบ้านไปหาพ่อแม่ เมื่อนายนันทาและนางเหราเห็นหน้าลูกชายกลับมา ก็ปรึกษากันแล้วนาศรีธนญชัย ไปขายให้เป็นทาสรับใช้ไกลบ้านหลายครั้งแต่ก็ทนไม่ได้หนีกลับมาทุกครั้ง นายนันทาและนางเหราจึงขับ ไล่ศรีธนญชัยไปให้พ้น ศรีธนญชัยจึงออกเล่ห์กล ขอร้องพ่อแม่ให้พาตนไปขายให้กับยายคนที่เคยมาขาย ขนมที่บ้านเพื่อถือโอกาสแก้แค้นยายแม่ค้าคนนั่น เมื่อไปอยู่กับยายแม่ค้าขายขนม ศรีธนญชัยก็สร้างแต่ ความเดือดร้อนให้ยายแม่ค้าขายขนม ยายจึงคิดว่าคนอย่างศรีธนญชัยเลี้ยงไว้ก็มีแต่สร้างความเดือดร้อน ราคาญ จึงจะนาศรีธนญชัยให้ไปเป็นข้ารับใช้ลูกของตนที่เป็น หลวงนาย เพราะคงจะสามารถปราบ ศรีธนญชัยจอมเถรตรงได้
20
๕ สิ่งใดหกตกหล่นให้เก็บกวำดขึ้นมำให้ หมด
21
แบบทดสอบก่อนเรียน ๑. ศรีธนญชัยได้รับมอบหมายให้ทาอะไรเมื่อไปอยู่กับหลวงนาย ๑. ให้ถือตะกร้าผลไม้เดินตามหลวงนายเข้าไปในวัง ๒. ให้ถือล่วมหมากเดินตามหลวงนายเข้าไปในวัง ๓. ให้ถือร่มคอยเดิมตามหลวงนายเข้าไปในวัง ๒. เมื่อศรีธนญชัยมาอยู่กับหลวงนายได้ปฏิบัติตนด้วยการทางานอย่าง ๑. ใช้ความเจ้าเล่ห์หลอกใช้ให้ผู้อื่นทางาน ๒. ขยันขันแข็งจนเป็นที่ถูกใจ ๓. ขยันขันแข็ง ทางานเยี่ยงทาส
22
๕. สิ่งใดหกตกหล่นให้เก็บกวำดขึ้นมำให้หมด ครั้นรุ่งเช้ายายก็พาศรีธนญชัยไปยังบ้านลูกชาย โดยให้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ลูกชายฟังทั้ง ได้กาชับว่าต้องการาบมันให้อยู่อย่าปล่อยให้มันได้ใจเป็นอันขาดเพราะมันทากับแม่มาแล้วอย่างเจ็บแสบ เหลือเกิน หลวงนายรับคาแม่บอกว่าแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเอาไว้เป็นธุระของลูกเองเพราะดูลักษณะของศรี ธนญชัยแล้วเห็นว่าเป็ นคนฉลาดมีปฏิภาณไหวพริบสูงน่าจะอบรมสั่งสอนให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้ โดยไม่ยากเย็นนักทาให้ยายสบายใจขึ้นแล้วลาลูกชายกลับไป เมื่อศรีธนญชัยมาอยู่กับหลวงนายได้ปฏิบัติตนด้วยการทางานอย่างขยันขันแข็งจนเป็นที่ถูกใจ หลวงนายเป็นยิ่งนัก หลวงนายจึงไม่ได้ใช้งานเยี่ยงทาสคงใช้งานแบบเป็นข้ารับใช้ธรรมดาเท่านั้น วันหนึ่งศรีธนญชัยได้รับมอบหมายให้ถือล่วมหมากเดินตามหลวงนายเข้าไปในวัง คาว่า “ล่วม” นั้นตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ให้ความหมายไว้ว่าหมายถึงเครื่องสาหรับใส่ หมากพลูบุหรี่ส่วนมากทาด้วยผ้ามีใบปกของโบราณแต่ที่ทาด้วยโลหะก็มีเนื่องจากคนในสมัยโบราณไม่วา่ หญิงหรือชายต่างกินหมากกันทั้งนั้นคนมีอันจะกินหรือพวกเจ้านายจึงต้องมีคนถือล่วมหมากให้ เมื่อเดินมาได้สักพักหนึ่งหลวงนายเกิดเปรี้ยวปากอยากกินหมากจึงบอกศรีธนญชัยให้ส่งล่วม หมากมาให้แก่ตน ธนญชัยส่งให้ นายรับเอาไป นายค้นคว้าหา ธนญชัยเล่นกู
หากไม่มีหมากพลู ร้องด่าขู่รู่ จริงเจียวหรือนา หมากพลูมากมาย อ้ายลูกฉิบหาย มึงไม่นาพา เอาไปเสียไหน จึงไม่ได้มา เคืองข้องร้องด่า อ้ายห่าหักคอ ธนณชัยจึงว่า วิ่งตามนายมา ไม่ทันรั้งรอ ล่วมล่อยพลอยตก จากพกจากห่อ หมากพลูของพ่อ หกคว่าตามทาง จะหยุดเก็บใส่ กลัวจักช้าไป เร่งรีบเดินพลาง เดินเด้าตุ่มเดาะ วิ่งเหยาะทุกอย่าง เหนื่อยนักพักเพียงพ่าง ปิ้มปางขาดใจ (ศรีธนญชัย สานวนกาพย์ หน้า ๔๒)
23
หลวงนายได้ฟังศรีธนญชัยชี้แจงดังนั้นก็หายโกรธบอกว่า “ต่อไปจงจาไว้ถ้ามีสิ่งใดหกตกหล่นให้ เก็บกวาดขึ้นมาให้หมดอย่าทาให้เรี่ยเกลื่อนกลาดหรือไม่” ศรีธนญชัยได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มพร้อมตอบว่า “ครับ ต่อไปผมจะปฏิบัติตามคาสั่งสอนโดยไม่ให้ขาด ตกบกพร่องแม้แต่น้อย” วันรุ่งขึ้นหลวงนายก็เดินทางเข้าไปในวังเหมือนทุกวันโดยมีศรีธนญชัยถือล่วมหมากเดินตามหลัง ด้วยความเรียบร้อยเมื่อมือถือล่วมหมากตกลงมาบนพื้นดินศรีธนญชัยก็เก็บกวาดทุกอย่างที่ขึ้นอยู่ใน บริเวณนั้นมาจนหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นขี้ช้าง ขี้ม้า ขี้วัวขี้ควายรวมทั้งกรวด หิน ดิน ทรายด้วย โดยการยัด อัดแน่นมาเต็มล่วมหมาก ครั้นเดินทางมาใกล้วังขุนนางทั้งหมดจึงพากันมาหยุดพักที่ศาลาพักร้อน หลวงนายเปรี้ยวปากจึง ขอให้ศรีธนญชัยส่งล่วมหมากมาให้เมื่อเปิดล่วมหมากดูเห็นสรรพสิ่งมากมายก็ตกใจพูดอะไรไม่ออก ฝ่ายบรรดาขุนนางคนอื่นๆเมื่อเห็นเช่นนั้นต่างพากันหัวเราะและพูดจาเสียดสีเยาะเย้ยว่าภรรยา ของหลวงนายช่างดีจริงจัดเตรียมสิ่งของมาให้สามีกินล้วนวิเศษทั้งนั้น สร้างความอับอายให้แก่หลวงนาย เป็นที่สุด หลวงนายได้เรียกศรีธนญชัยมาต่อว่าทาไมถึงทาอย่างนี้ ศรีธนญชัยก็ตอบว่า “ก็ท่านสั่งไว้ว่า ถ้า ทาอะไรหกตกหล่นให้เก็บขึ้นมาให้หมดผมก็ได้ปฏิบัติตามคาสั่งของหลวงนายนั้นหาได้ ทาเกินแก่คาสั่ง ไม่”ความจริงคาสั่งของหลวงนายนั้นหมายความว่าถ้าทาหมากหกตกหล่นให้เก็บขึ้นมาให้หมดแต่ ศรีธนญชัยกลับตีความตามตัวหนังสือ หลวงนายโกรธศรีธนญชัยมาก แต่ไม่รู้จะทาอย่างไรได้นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็ไม่เรียกใช้ ศรีธนญชัยอีกเลย
คำถำมหลังเรียน ๑. คาว่า “ล่วม” หมายถึงอะไร ๒. ทาไมศรีธนญชัยถึงโดนหลวงนายต่อว่า
24
แบบทดสอบหลังเรียน ๑. ศรีธนญชัยได้รับมอบหมายให้ทาอะไรเมื่อไปอยู่กับหลวงนาย ๑. ให้ถือตะกร้าผลไม้เดินตามหลวงนายเข้าไปในวัง ๒. ให้ถือล่วมหมากเดินตามหลวงนายเข้าไปในวัง ๓. ให้ถือร่มคอยเดิมตามหลวงนายเข้าไปในวัง ๒. เมื่อศรีธนญชัยมาอยู่กับหลวงนายได้ปฏิบัติตนด้วยการทางานอย่าง ๑. ใช้ความเจ้าเล่ห์หลอกใช้ให้ผู้อื่นทางาน ๒. ขยันขันแข็งจนเป็นที่ถูกใจ ๓. ขยันขันแข็ง ทางานเยี่ยงทาส บทสรุป หลวงนายได้รับปากแม่ว่าจะรับศรีธนญชัยมาดูแลเพราะเห็นว่าเป็นคนฉลาดมีปฏิภาณไหวพริบ สูงน่าจะอบรมสั่งสอนให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้และเมื่อศรีธนญชัยมาอยู่กับหลวงนายได้ปฏิบัติตน ด้วยการทางานอย่างขยันขันแข็งจนเป็นที่ถูกใจหลวงนาย แต่วันหนึ่งศรีธนญชัยได้รับมอบหมายให้ถือ ล่วมเดินตามหลวงนายเข้าไปในวัง ในระหว่างเดินมาได้สักพักหลวงนายอยากกินหมากจึงบอกศรีธนญชัย ให้ส่งล่วมแต่ตอนที่ส่งให้ศรีธนญชัยกับทาล่วมล่วง หลวงนายจึงโกรธศรีธนญชัยมาก และหลวงนายก็ บอก ศรีธนญชัยว่า“ต่อไปจงจาไว้ถ้ามีสิ่งใดหกตกหล่นให้เก็บกวาดขึ้นมาให้หมดอย่าทาให้เรี่ยเกลื่อน กลาด และวันต่อมาศรีธนญชัยก็เป็นคนถือล่วมอีก และศรีธนญชัยก็ทาล่วมล่วงลงบนพื้นอีกและศรีธนญ ชัย ได้เก็บกวาดพื้นดินตามที่หลวงนายเคยบอกไว้แต่ครั้งนีศ้ รีธนญชัยเก็บทุกอย่างที่อยู่บนพื้น ขี้ช้าง ขี้มา้ กรวดหิ น ใส่ ม าหมด หลั ง จากนั้ น หลวงนายก็เ ดินพั ก ที่ ศาลาพั ก ร้ อนพร้อ มขุนนางต่า งๆ และก็ ให้ ศรีธนญชัยส่งล่วมให้ พอหลวงนายเปิดล่วมดูก็ตกใจ และพวกขุนนางก็ต่างเห็นและก็ หัวเราะเยาะเย้ยกัน จึงสร้างความอับอาย ทาให้หลวงนายโกรธและหลวงนายก็เรียกศรีธนญชัยมาต่อว่าและที่ศรีธนญชัยทา แบบนี้เพราะศรีธนญชัยตีความ ความหมายผิดจึงทาให้หลวงนายโกรธมากหลั งจากวันนั้นหลวงนายก็ไม่ เรียกใช้ศรีธนญชัยอีกเลย
25
บรรณำนุกรม รศ.วิเชียร เกษประทุม . เล่ำเรือ่ ง...ศรีธนญชัย . กรุงเทพมหานคร : เรืองแสงการพิมพ์ , ๒๕๕๓
26
ภำคผนวก ๑ กำเนิดศรีธนญชัย เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ๑. นางเหราฝันว่า ได้ไปเที่ยวเล่นทีเ่ ขาชือ่ ว่าอะไร ตอบ ๒. เขาพระสุเมรุ ๒. นางเหราตั้งครรภ์ได้ครบสิบเดือน ในวัน เดือน ปี อะไร ตอบ ๓. วันพฤหัสบดี เดือน ๔ ปีวอก เฉลยคำถำมหลังเรียน ๑. นายนันทาแนะนาให้นางเหราไปพบกับใครเพื่อให้ช่วยทานายความฝัน ตอบ สมภาร ๒. นายนันทากับนางเหราตัง้ ชื่อลูกชายว่าอะไร ตอบ ศรีธนญชัย ๒ อำบน้ำให้น้องและเก็บข้ำวของอย่ำให้รกรุงรัง เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ๑. นางเหราได้ซื้อขนมอะไรให้ลูกทั้งสองกิน ตอบ ๓. ขนมดอกดิน ๒. เพราะเหตุใดทาให้สองสามีภรรยาต้องออกจากบ้านแล้วต้องฝากให้ศรีธนญชัยดูแลน้อง ดูแลบ้าน ตามลาพังทุกวัน ตอบ ๒. เพราะต้องออกไปทางานนอกบ้าน เฉลยคำถำมหลังเรียน ๑. นางเหราได้กาเนิดบุตรชายคนที่สอง ตอนศรีธนญชัยอายุได้กี่ปี ตอบ ๕ ปี ๒. เพราะเหตุใดศรีธนญชัยจึงตัดสินใจฆ่าน้องของตนเอง ตอบ เพราะเวรกรรมที่เคยสร้างไว้ต่อกัน จึงดลใจให้ศรีธนญชัยคิดริษยาน้อง และตัดสินใจฆ่า น้องของตน 27
๓ บวชเป็นสำมเณร เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ๑. เมือ่ ศรีธนญชัยเดินขึ้นไปบนกุฏแิ ล้วได้พบเข้ากับใคร ตอบ ภิกษุสูงอายุ ๒. ใครเป็นคนโกนจุกให้แก่ศรีธนญชัย ตอบ สมภาร เฉลยคำถำมหลังเรียน ๑. สมภารสอนวิชาภาษาอะไรบ้างไห้แก่ศรีธนญชัย ตอบ ภาษาไทย,ภาษาขอม ๒. สมภารให้ใครเป็นคนสอนหนังสือให้แม่ชีสาวแทนตน ตอบ ศรีธนญชัย ๔ ขำยดีอย่ำงเทน้ำเทท่ำ เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ๑. ศรีธนญชัยเมื่อถูกไล่ออกจากวัดแล้วไปไหน ตอบ ๒. กลับบ้านไปหาพ่อแม่ ๒. ศรีธนญชัยตีความหมาย คาว่า “ขายดีอย่างเทน้าเทท่า” ว่าอย่างไร ตอบ ๓. นาขนมไปเททิ้งทีท่ ่าน้า เฉลยคำถำมหลังเรียน ๑. ศรีธนญชัยขอร้องให้พ่อแม่พาตนไปขายให้กบั ยายแม่ค้าขายขนมเพราะอะไร ตอบ เพราะศรีธนญชัยจะไปแก้แค้นยายแม่ค้าขายขนม ๒. ยายแม่ค้าขายขนมนาศรีธนญชัยให้ไปเป็นข้ารับใช้ใคร ตอบ ให้ไปเป็นข้ารับใช้ ลูกชายของยายแม่คา้ ขายขนม ซึ่งเป็น หลวงนาย
28
๕ สิ่งใดหกตกหล่นให้เก็บกวำดขึ้นมำ ให้หมด
เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ๑. ศรีธนญชัยได้รบั มอบหมายให้ทาอะไรเมื่อไปอยู่กับหลวงนาย ตอบ ๒. ให้ถอื ล่วมเดินตามหลวงนายเข้าไปในวัง ๒. เมือ่ ศรีธนญชัยมาอยู่กับหลวงนายได้ปฏิบัตติ นด้วยการทางานอย่าง ตอบ ๓. ขยันขันแข็งจนเป็นที่ถูกใจ เฉลยคำถำมหลังเรียน ๑. คาว่า “ล่วม” หมายถึงอะไร ตอบ เครือ่ งสาหรับใส่หมากพลูบุหรี่ ๒. ทาไมศรีธนญชัยถึงโดนหลวงนายต่อว่า ตอบ ทาหมากหกตกหล่น
29