สุขสาระ ตุลาคม 51

Page 1


www.muslimthaihealth.com

www.dekdek.org

www.suksara.org

W E L L-B E I N G ปีท่ี 5 ฉบับที่ 58 ตุลาคม 2551 Á คนเรามักจะเป็นเช่นนี้ มักจะคิดเอาว่าสิ่งภายนอก เช่นรถยนต์ป้ายแดงราคาแพง, บ้าน

หลังใหญ่ หรือการมีเงินเป็นสิบล้าน, ร้อยล้าน เป็นสิง่ ทีท่ ำให้ชวี ติ ของเรามีความสุขอย่างแท้จริง? แน่นอน เรารูว้ า่ การขับขีร่ ถยนต์ปา้ ยแดงราคาแพง ไม่ได้ทำให้เราถึงทีห่ มายเร็วกว่าคนอืน่ เพราะเราจะติดหนึบอยู่ในรถออกไปในไม่ได้ ท่ามกลางการจราจรที่คับคั่ง เหมือนเช่นผู้คนใน รถยนต์คนั อืน่ ๆ รถยนต์ป้ายแดงราคาแพงกับรถคันเก่าคันเดิมคงจะให้ความรู้สึกต่างกันเมื่อนำมาเปรียบ เทียบกัน แต่เอาเข้าแล้ว ความสุขในการขับรถยนต์ปา้ ยแดงอยูต่ รงไหน? ตรงทีร่ ถใหม่กว่าหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้น เราคงมีความสุขอยู่ได้ไม่นาน เพราะพรุ่งนี้รถยนต์ป้ายแดงของเราก็จะมีรอย ขีดข่วน ฝุน่ และรอยเปรอะเปือ้ นจะเพิม่ ขึน้ ไม่นานนักทีร่ ถคันใหม่ของเราก็จะตกรุน่ เป็นรถเก่า แสนเชยต่อไป ตามกาลเวลา และคนทีจ่ ะวิตกกังวลก็คงไม่พน้ ...เจ้าของรถ! มีคนบอกว่าเราควรตั้งธงแห่งความสุขไว้ นั่นก็คือทำจิตใจให้เบิกบาน รู้จักทักทายและ ช่วยเหลือผูค้ น แม้เพียงเล็กน้อย และทีส่ ำคัญต้องไม่ลมื ถึงความผูกพันกันในครอบครัว เครือญาติ และเพื่อนสนิท แต่อีกหลายคนกลับบอกว่า ทำจิตใจเบิกบานไม่ไหว เพราะทุกคนต่างมุ่งมาที่ ตัวเขา และเขาเองก็เหนือ่ ยเหลือเกิน อย่างนัน้ แล้วความสุขอยูต่ รงไหน? รอมฎอนทีผ่ า่ นมา เราได้ผา่ นการทดสอบให้อดทนต่อสิง่ ยัว่ ยุตา่ งๆ โดยเฉพาะในเรือ่ งของ อารมณ์มาแล้ว ตลอดเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เราผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาอย่างไม่ยากเย็น เรามี ความสุขมากทีไ่ ด้มโี อกาสอยูใ่ นช่วงเวลานัน้ เมือ่ เวลาได้ผา่ นพ้นมา เราก็ยงั คงมองหาความสุข กันอยู่ เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ราวกับว่าความสุขได้หนีหายไปนานแล้ว ถ้าเช่นนั้นเราลองทำบันทึก ความสุขกันจะดีไหม นับแต่นี้ไป ลองจดบันทึกดูว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ทำให้เรามีความสุข และ เรามีความสุขแล้วกีค่ รัง้ ต่อวัน ลองเริม่ ต้นบันทึก ตัง้ แต่เมือ่ ครัง้ ทีล่ กู คนแรกกำลังหัดพูด...คุณมีความสุขเพียงใด เมือ่ ได้ยนิ ลูกเอยคำว่า “พ่อ” หรือ “แม่” หรือเมื่อคุณเข้าไปในมัสยิด แล้วมีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ เนื้อตัว มอมแมมสองสามคนมานั่งใกล้ๆ ขณะที่ผู้ใหญ่บางคนเดินมาดุเด็ก และบอกให้ถอยไป แต่คุณ กลับยื่นมือไปให้เด็กจับ พร้อมรอยยิ้ม...เด็กตัวเล็กๆ เนื้อตัวมอมแมม ยื่นมือมาให้คุณ พร้อม รอยยิม้ และพูดคุยกับคุณอย่างไว้วางใจ นับดูแล้ว วันนี.้ ..คุณคงมีความสุขมากกว่าทีไ่ ด้คาดไว้!

ความสุข...

หายไปไหน?

จากปก

เยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม เชียงใหม่ สุขสาระ เป็นวารสารเพื่อเผยแพร่กิจกรรมและข่าว สารของแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และศูนย์ศกึ ษานโยบาย เพื ่ อ การพั ฒ นา คณะเศรษฐศาสตร์ จุ ฬ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย Ø สุ ข สาระ ยังได้เสนอบทความและ ข่ า วสารที ่ เ ป็ น ประโยชน์ ต ่ อ สั ง คมมุ ส ลิ ม ไทยและ ผู้สนใจทั่วไป ให้ตระหนักถึงปัญหาทางด้านสุขภาพ หรือสุขภาวะที่กำลังรุกรานสังคมไทยอยู่ในปัจจุบัน เพื ่ อ จะได้ เ ตรี ย มตั ว และหาทางป้ อ งกั น แก้ ไ ข Ø บรรณาธิการ อาณัติ ศานติศาสน์ Ø กองบรรณาธิการ วิรชาติ มัสอูดี , เอนก ขันศรีทรง Ø ฝ่ า ยสมาชิ ก กัลยาณา วาจิ Ø รูปเล่ม เปรมจิต เจริญมิน Ø หาก คุณต้องการบอกรับวารสารฉบับนี้ เชิญส่งจดหมาย แจ้งที่อยู่ของคุณได้ที่ : สำนักงานแผนงานสร้างเสริม สุ ข ภาวะมุ ส ลิ ม ไทย (สสม.) ศู น ย์ ศ ึ ก ษานโยบาย เพื่อการพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทรศั พ ท์ 0-2218-6193 โทรสาร 0-2218-6194 Ø ศูนย์ประสานงานภาคกลาง โทรศัพท์ 0-2719-8721 Ø ศูนย์ประสานงานภาคอีสาน โทรศัพท์ 042-207-174 Ø ศูนย์ประสานงานภาคเหนือ โทรศัพท์ 053-247-367 Ø ศู น ย์ ป ระสานงานภาคใต้ ต อนบน โทรศัพท์ 08-6273-4185 Ø ศูนย์ประสานงานภาคใต้ ตอนกลาง โทรศัพท์ 08-7293-3413 Ø ศูนย์ประสานงาน ภาคใต้ตอนล่าง โทรศัพท์ 073-350-266 Ø โรงเรียน ผู้นำสุขภาวะมุสลิมไทย โทรศัพท์ 0-2729-8816 Ø มัสยิดปลอดบุหรี่ โทรศัพท์ 08-9811-0105 Ø ชุมชน รักสุขภาวะ โทรศัพท์ 08-5072-4734 Ø พิมพ์ที่ หจก. มาร์ค เอ็ม พรินติ้ง 36 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. 10510 โทรศัพท์ 0-2540-7870-2 Ø


ดัชนีสุขภาพ ด้วยความหลากหลายของเทคโนโลยีที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเหตุให้ การบริโภคสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิม่ ขึน้ อย่างไม่หยุดยัง้ และกระจายไปสูป่ ระชากรทุกชนชัน้ ทัง้ โทรศัพท์มอื ถือ, คอมพิวเตอร์, เครือ่ งเล่นเพลง, เครือ่ งใช้ไฟฟ้า ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้ เมือ่ สิน้ สภาพจะกลายเป็น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทีน่ บั วันจะมีปริมาณมากขึน้ เรือ่ ยๆ Á

อาซีซะห์ X

แนวโน้มว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มขึ้น เรือ่ ยๆ ในอัตรา ร้อยละ 12 ต่อปี คาดว่า ภายในปี 2555 ประเทศไทยจะมี ขยะ อิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 5 ล้านชิ้น นอก จากนี้ประเทศไทยยังกลายเป็นส่วนหนึ่ง ของปลายทางขยะอิเล็กทรอนิกส์จากทั่ว โลก ซึ่งถูกแฝงมาในรูปของการนำเข้า สินค้ามือสอง เรียกกันว่า “ตลาดมือสอง” แต่ แ ท้ ท ี ่ จ ริ ง แล้ ว มั น คื อ “ตลาดขยะ อิเล็กทรอนิกส์” ซึ่งเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ต่างประเทศไม่ใช้แล้ว เป็นสินค้า ที่มีอายุการใช้งานสั้นและพร้อมจะเป็น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างปัญหามลพิษ

ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีทุกวันนี้ ยังมีส่วนให้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์อยู่ใน สภาพตกรุ่นเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครื่อง คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมี อัตราการเปลี่ยนแปลงเครื่องบ่อยที่สุด อายุการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ปั จ จุ บ ั น อยู ่ ร ะหว่ า ง 3-5 ปี ขณะที ่ โทรศั พ ท์ ม ื อ ถื อ มี อ ายุ ใ ช้ ง านเฉลี ่ ย 18 เดือน อายุการใช้งานทีส่ น้ั บวกกับจำนวน ผู ้ ใ ช้ เ ครื ่ อ งคอมพิ ว เตอร์ แ ละโทรศั พ ท์ มือถือซึง่ ปัจจุบนั มีมากกว่า 1 พันล้านคน ทั่วโลกนั้น กำลังเป็นปัจจัยที่เพิ่มขยะ อิเล็กทรอนิกส์ไปพร้อมๆ กัน โดยกรม ควบคุมมลพิษ ประมาณว่า ในปี 2550 ประเทศไทยมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ โทรทัศน์, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่อง ปรับอากาศ, คอมพิวเตอร์ และจอคอมพิวเตอร์มากถึง 3.37 ล้านชิ้น และยังมี X

3 ÿ¢ “√–


ริมคลอง

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

แหล่งข้อมูล 1. http://www.greenpeace.org 2. http://www.thaienv.com 3. http://www.vcharkarn.com 4. http://www.siam-handicrafts.com

ข้าวยำอาหารเพื่อสุขภาพที่มีส่วน ผสมทั้งหมดเป็นสมุนไพร มีสารอาหาร ต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ข้าวยำ เป็นอาหารที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยลิ้มลอง กันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นอาหารที่ขึ้น ชื่อของชาวใต้จนดูเหมือนจะกลายเป็น Á

ต่อสิ่งแวดล้อม แต่ประเทศไทยนำเข้า เพราะยังใช้ได้ในบ้านเรา ขยะเหล่ า นี ้ ม ี ส ่ ว นผสมของโลหะ หนักทัง้ ตะกัว่ , แคดเมียม, นิเกิล, โบรมีน, สารหนู, ลิเทียม และเบริลเลียม หาก กำจัดไม่ถูกต้องจะเป็นอันตรายต่อสิ่งมี ชีวิต เพราะสารเคมีที่เสื่อมสภาพภายใน จะไหลออกมาสู่สิ่งแวดล้อม เข้าสู่ระบบ นิเวศและห่วงโซ่อาหาร เมื่อเข้าสู่ร่างกาย คนและสะสมจนมี ป ริ ม าณมากพอก็ จ ะ มีผลต่อระบบประสาท, ระบบหมุนเวียน ของเลือด, การทำงานของไต และระบบ สืบพันธุ์ ส่งผลต่อการพัฒนาของเด็กและ ภาวะตั้งครรภ์ หากประชาชนผู้รู้เท่าไม่ ถึ ง การณ์ เ ผาขยะที ่ ม ี ส ารเคมี อ ั น ตราย เหล่านี้รวมอยู่ด้วย อาจก่อให้เกิดสารก่อ มะเร็งได้ ดั ง นั ้ น หากคุ ณ กำลั ง จะควั ก เงิ น ซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ล่าสุดอยู่ ก็ให้หยุดคิดสักนิด อย่าให้ความสวยงาม ภายนอกและกลยุทธ์ทางการตลาดหลอก ลวงเอาได้ เพื่อช่วยกันลดปริมาณขยะ อันตรายที่ดูเผินๆ แล้วแทบไม่เห็นความ ร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ภายในแม้แต่นิดเดียว เราไม่ ค วรปล่ อ ยให้ ค วามก้ า วหน้ า ทาง เทคโนโลยีตอบแทนผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ด้วยพิษร้ายอีกต่อไป

กัลยาณา

X

...คุณผูอ้ า่ นครับ... “สุขสาระ” มีข้อเสนอสำหรับเรื่องราวดีๆ ของคุณ ทั้งที่ได้รับจากเพื่อนสนิท หรือญาติ พีน่ อ้ ง ทีส่ ร้างความประทับใจ สร้างกำลังใจ ให้คณ ุ ยืนหยัดอย่างเข้มแข็งได้ ขอเชิญชวนคุณผู้อ่านส่งเรื่องน่าประทับใจดังกล่าว พร้อมที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ ของคุ ณ มาที ่ ก องบรรณาธิ ก ารสุ ข สาระ คณะเศรษฐศาสตร์ จุ ฬ าลงกรณ์ ม หาวิ ท ยาลั ย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330 หรือที่ อีเมล์ suksara@yahoo.co.th โดยความยาวของเรื่องไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ เอ4 หรือขนาดบรรทัดพิมพ์ 20 บรรทัด สำหรับเรือ่ งของคุณทีไ่ ด้รบั การตีพมิ พ์ “สุขสาระ” มีคา่ ขนมเล็กๆ น้อยๆ พร้อมทีจ่ ะมอบให้ 4 ÿ¢ “√–

X

สั ญ ลั ก ษณ์ อ าหารปั ก ษ์ ใ ต้ อ ี ก เมนู ห นึ ่ ง ข้าวยำทำจากข้าวที่รับประทานกันเป็น ประจำทุกวันนั่นเอง แต่จะเพิ่มการปรุง แต่ ง บ้ า งเล็ ก น้ อ ยโดยใส่ น ้ ำ บู ด ู , ปลา, มะพร้าวคั่ว, น้ำมะนาว และผักต่างๆ เพื่อให้ข้าวดูมีสีสันและรสชาติที่น่ารับ ประทานมากขึ้น ข้าวยำจะอร่อยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับน้ำบูดูเป็นสำคัญ เพราะน้ำบูดู ถือได้ว่าเป็นพระเอกของข้าวยำ ถ้าขาด น้ ำ บู ด ู ห รื อ ปรุ ง รสบู ด ู ไ ม่ อ ร่ อ ย ข้ า วยำ ก็ทานไม่อร่อย รสชาติจืดชืดเลยทีเดียว ซึ่งข้าวยำที่ปรุงรสแล้วจะออกรสหลาย รสด้วยกัน ได้แก่ รสมันของมะพร้าว, รสเปรี้ยวจากมะม่วงดิบและน้ำมะนาว, รสเค็มหวานจากน้ำบูดู, รสเผ็ดของพริก ป่น เรียกว่าเป็นอาหารที่บำรุงธาตุก็ได้


บุหรีก่ บั ชีวติ X

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

แหล่งข้อมูล 1. http://th.wikipedia.org 2. http://www.samunpri.com 3. http://ittm.dtam.moph.go.th 4. www.krabong.com 5. www.healthnet.in.th

*มะพร้าว รสมันหวาน บำรุงกำลัง บำรุงเส้นเลือด ใช้รกั ษาโรคกระดูก *พริกขีห้ นู รสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุน้ ให้เจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อยอาหาร *กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมใน ลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคทางผิวหนัง น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์

น้ำบูดู พระเอกของข้าวยำ

เอนก ขันศรีทรง

“บุหรี่ชูรส” บุหรี่รูปร่างสวยงาม รสผลไม้ มีรสส้ม, ช็อกโกแลต, เลม่อน, มินต์, วนิลลา, เชอรี่, คาราเมล แม้ กระทั่งรสบ๊วย ผู้หญิงสูบได้, เด็กสูบดี เพราะมีสารนิโคตินน้อย ไม่มีสารทาร์ สูบแล้วเบาสบาย ไม่มสี ารเสพติดเจือปน? Á

ซึ่งในข้าวยำหนึ่งจานมีสารอาหารหลาย อย่าง ดังตารางประกอบข้างล่าง ข้ า วยำ 1 จาน ให้ พ ลั ง งานต่ อ ร่างกาย 1,141 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย น้ำ 589.7 กรัม, โปรตีน 31.1 กรัม, ไขมัน 18.0 กรั ม , คาร์ โ บไฮเดรต 217.3 กรัม, กาก 11.8 กรัม, ใยอาหาร 1.8 กรัม, แคลเซียม 191.9 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 363 มิลลิกรัม, เหล็ก 200 มิลลิกรัม, เรตินอล 13.2 ไมโครกรัม, เบต้าแคโรทีน 65.8ไมโครกรัม, วิตามินเอ 6,772.4 IU, วิตามินบีหนึง่ 825.18 มิลลิกรัม, วิตามิน บีสอง 0.61 มิลลิกรัม, ไนอาซิน 7.77 มิลลิกรัม, วิตามินซี 68.60 มิลลิกรัม นอกจากนี้เครื่องข้าวยำยังประกอบ ไปด้วยสมุนไพรที่ให้ประโยชนต่อร่างกาย ได้แก่

ยั บ ยั ้ ง การเจริ ญ ของเชื ้ อ รา แบคที เ รี ย ไวรั ส ลดน้ ำ ตาลในเลื อ ด ลดไขมั น ใน หลอดเลือด *หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไอเพือ่ ขับเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด *มะนาว เปลือกผลมีรสขม ช่วย ขับลม น้ำมะนาวรสเปรี้ยว ขับเสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน ฟอกโลหิต *ตะไคร้ รสปร่ากลิน่ หอม แก้ปวด ท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญ อาหาร *ใบมะกรู ด รสปร่ า กลิ ่ น หอม ติดร้อน ใช้ปรุงอาหารช่วยดับกลิ่นคาว แก้โรคลักปิดลักเปิด ขับลมในลำไส้ ขับ ระดู แก้ลมจุกเสียด *มะม่วง รสเปรีย้ ว ขับเสมหะ *ถัว่ ฝักยาว รสมันหวาน มีคณ ุ ค่า ทางอาหารสู ง กระตุ ้ น การทำงานของ กระเพาะ ลำไส้ บำรุงธาตุ *ข่า รสเผ็ดปร่าและร้อน ช่วยขับ ลม ขับพิษโลหิตร้ายในมดลูก ขับลมใน ลำไส้ สำหรั บ การใช้ ส ี ผ สมอาหารเพื ่ อ เพิ่มสีสันให้กับข้าวยำนั้น ควรที่จะใช้สี ทีไ่ ด้จากธรรมชาติ เช่น สีจากดอกอัญชัน ซึ่งจะให้สีม่วงคราม หรือไม่ถ้าอยากได้สี เหลืองก็สามารถนำดอกคำฝอยมาผสมได้ ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าสีที่ได้จากธรรมชาติ จะให้สีอ่อนๆ ไม่เข้มมากและจะมีกลิ่น ที่หอม ไม่เหมือนกับสีที่ซื้อจากท้องตลาด ทัว่ ไปซึง่ จะให้สที เ่ี ข้ม ไม่นา่ รับประทาน

นี่เป็นคำโฆษณาชวนเชื่อของบริษัท บุหรี่ที่พยายามโน้มน้าวกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นสตรีและเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เข้า มาเป็นนักสูบหน้าใหม่ ทั้งๆ ที่ความจริง แล้ว บุหรี่ทั่วไปหรือบุหรี่ชูรสมีสารพิษ เหมือนกันกว่า 4,000 ชนิด เช่น นิโคติน, ทาร์, ไซยาไนด์, คาร์บอนฯ, ไนโตรเจนฯ, สารกั ม มั น ตภาพรั ง สี และที ่ ส ำคั ญ ใน บุหรี่มวนสวยๆ มวนนั้นยังมีสารก่อมะเร็ง มากกว่า 40 ชนิดในแต่ละมวน นอกจาก นีย้ งั เป็นบ่อเกิดของโรคอืน่ มากมาย ไม่วา่ จะเป็นโรคถุงลมโป่งพอง, มะเร็งในปาก, X

5 ÿ¢ “√–


สูบหน้าใหม่ โดยการผลิตบุหรี่ที่บางเบา ผ่านการปรุงแต่งรสจนหอมยั่วยวนด้วย กลิ่นอ่อนของผลไม้ต่างๆ รสหวาน มีหีบ ห่อสวยงาม ดึงดูดความสนใจ ใช้ช่อง ทางจำหน่ายที่เข้าถึงเยาวชนได้ง่าย เช่น อินเตอร์เน็ต ที่พบว่ามีคำค้นและขาย บุหรีอ่ ยูถ่ งึ 6 พันเว็บไซต์ บุหรี่ชูรส ส่วนใหญ่วางขายกันแบบ หาบเร่แผงลอย พร้อมสลายตัวได้ในเวลา เพียงไม่กี่นาที เนื่องจากร้านค้าเหล่านี้ ไม่ ม ี ใ บอนุ ญ าตจำหน่ า ยบุ ห รี ่ อ ย่ า งถู ก กฎหมายจากกรมสรรพสามิ ต พบมาก มะเร็งปอด, เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ, มะเร็งกล่องเสียง, โรคหัวใจ เป็นต้น ในปี 2549 ศูนย์วิจัยและจัดการ ความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ได้ สำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของเยาวชน อายุ 13-15 ปี จำนวน 350 คน พบว่า เยาวชน 10% ยอมรับว่าสูบบุหรี่ ใน จำนวนนี้ 52.8% ยอมรับว่าเคยสูบบุหรี่ ชู ร ส และงานวิ จ ั ย อี ก ชิ ้ น หนึ ่ ง ระบุ ว ่ า วัยรุ่นหญิงสูบบุหรี่ครั้งแรก อายุต่ำกว่า 12 ปี จำนวน 10% เร็วกว่าผู้ชายใน กลุ่มอายุเดียวกัน โดยสูบทุกวัน 21.2% และสูบเกือบทุกวัน 42.1% ซึ่งเด็กผู้หญิง ในระดั บ อุ ด มศึ ก ษาในเขตเมื อ งจะสู บ มากกว่าชนบท ทุกวันนี้ ผู้หญิงและเยาวชนเป็น

ถ้อยคำโดนใจ... โดย คุณมนัส ปีนัง

ผู้บริโภครายใหญ่ของธุรกิจนี้ อันเป็นผล จากการ ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดของ บริ ษ ั ท บุ ห รี ่ ท ี ่ เ น้ น กลุ ่ ม เป้ า หมายที ่ เ ป็ น ผู้หญิงและเยาวชน ทั้งหลายทั้งปวงนี้ เป็นเครื่องมือ ของบริษัทบุหรี่ เพื่อหลอกล่อให้เกิดนัก

.¶¶¶¶¶¶¶¶¶¶¶.. สุขสาระ ขอเชิญคุณผู้อ่านส่ง ถ้ อ ยคำแสดงออกถึ ง ความรั ก ความ ห่ ว งใย ต่ อ สุ ข ภาพและสิ ่ ง แวดล้ อ ม หรือต่อต้านบุหรี่หรือสุรา ตัวอย่างเช่น “หยุดพ่นควันพิษ ทำร้ายครอบครัว” “ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยหยุดโลก ร้อน” มายังอีเมล์ suksara@yahoo.co.th หรือที่ สำนักงานแผนงานสร้างเสริม สุขภาวะมุสลิมไทย สสม. คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330 พร้อมทีอ่ ยู่ หมายเลขโทรศัพท์ของคุณ สำหรับถ้อยคำทีโ่ ดนใจ สุขสาระ มีเสือ้ ยืดโปโล สุดเก๋มอบให้ และจะได้นำออกมา เผยแพร่ในวารสารสุขสาระในโอกาสต่อไป 6 ÿ¢ “√–

X

ในย่าน สยามสแควร์, จตุจักร, สะพาน พุทธฯ, ตะวันนา, สวนลุมฯ ไนท์พลาซ่า, อาร์ซีเอ ส่วนราคาค่อนข้างสูง มีตั้งแต่ ซองละ 60 ถึง 120 บาท บุหรีช่ รู ส ไม่ใช่แค่เรือ่ งรสชาติ แม้ แต่กล่องก็ยังถูกออกแบบให้มีสีสันแปลก ล่อตา และถ้าใครเคยเห็นหน้าค่าตาของ บุหรี่จำพวกนี้ จะพบว่า ไม่มีคำเตือน หรือรูปภาพที่เกี่ยวกับการรณรงค์ให้งด สูบบุหรี่ให้เคืองสายตาแต่อย่างใด บุหรี่ชูรส จึงไม่ได้ชูรสเพียงอย่าง เดียว แต่ชูมหัตภัยมากกว่าบุหรี่ทั่วไป เพราะภาพพจน์ที่ดูแสนหวาน จึงล่อลวง ผูค้ นได้มากขึน้ !

ข้อมูลจาก - ศูนย์วจิ ยั และจัดการความรูเ้ พือ่ การ ควบคุมการบริโภคยาสูบ (ศจย.) - มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ - www.thaihealth.or.th - www.manager.co.th


อาหารกับสุขภาพ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

¾ ฟักทอง

เมือ่ พูดถึง เบต้าแคโรทีน บางคนคงสงสัยว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร? เบต้า แคโรทีน คือสารตั้งต้นของวิตามินเอ (โปรวิตามินเอ) มีบทบาทสำคัญในการรักษา สุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยปกติร่างกายของมนุษย์เราสามารถเปลี่ยน เบต้าแคโรทีนไปเป็นวิตามินเอได้ตามปริมาณทีร่ า่ งกายต้องการ นอกจากนี้ เบต้าแคโรทีน ยังเป็นสารต้านอนุมลู อิสระและพบว่าสามารถลดอัตราเสีย่ งในการเกิดโรคมะเร็งได้อกี ด้วย ในปัจจุบันมีการนำเบต้าแคโรทีนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายชนิด โดยจะผสม วิตามินและเกลือแร่ชนิดอืน่ หลายชนิดเข้าไปด้วยเพือ่ บำรุงร่างกาย Á

X

โนรีซนั ต์

ปริมาณของเบต้าแคโรทีนทีค่ วรรับประทาน ต่อวันเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนั้น คือ 15 มิลลิกรัม ในขณะที่การรับประทาน เพื่อหวังผลในรักษาจะต้องได้รับในปริมาณ มากกว่านี้ เบต้าแคโรทีนนั้น มีประโยชน์ต่อ ร่างกาย และผิวพรรณ อย่างมาก คือ ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ลดความเสื่อม ของเซลล์ ข องลู ก ตา ลดความเสี่ ยงต่ อ การเป็นต้อกระจก ช่วยป้องกันผิวที่อาจ เกิดจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลต ที่มากับแสงแดดได้ จึงทำให้ผิวพรรณ มีสุขภาพดี ไม่มีริ้วรอยแก่ก่อนวัย แลดู

เบต้าแคโรทีน

?

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

เบต้าแคโรทีน พบมากในผัก และ ผลไม้ทม่ี สี สี ม้ , เหลือง หรือ แดง เพราะ เบต้าแคโรทีน คือ ตัวการทำให้พืชผัก และผลไม้มีสีสันดังกล่าว เช่น แครอท, ฟั ก ทอง, หน่ อ ไม้ ฝ รั ่ ง , ข้ า วโพดอ่ อ น, แตงโม, แคนตาลูป, มะละกอสุก และผัก

(Beta-Carotene) คืออะไร ทีม่ สี เี ขียว เช่น บรอคโคลี, มะระ, ผักบุง้ , ต้นหอม, ผักคะน้า, ผักตำลึง เป็นต้น สำหรับปริมาณในการรับประทาน ของวิตามินเอเพื่อรักษาสุขภาพโดยทั่วไป คือ 5,000 หน่วยสากล (IU) ซึง่ เทียบเท่า กับเบต้าแคโรทีน 3 มิลลิกรัม และสำหรับ

อ้างอิง th.wikipedia.org/wiki/เบต้าแคโรทีน http://variety.hunsa.com/detail.php?id=1928 รายงานวิจัยเรื่อง เบต้าแคโรทีน ป้องกันมะเร็ง นางสาว นูรีดาน ดอแล มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=10254 ¾ หน่อไม้ฝรัง่

X

7 ÿ¢ “√–


เรือ่ งน่ารูก้ บั หมอกษิดษิ X

นายแพทย์กษิดิษ ศรีสง่า

โรคอกหัก เป็นโรค ที่มนุษย์เราเกือบทุกคนเป็นกัน โดยรู้ตัวบ้าง ไม่รตู้ วั บ้างเสมอ บางคนเมือ่ เผชิญโรคนี้ ก็จะเกิดความผิดหวังรุนแรง ถึงขัน้ กินข้าวกินปลาไม่ได้ หรือบางครัง้ ก็ฆา่ ตัวตายไปเลยก็มี Á

8 ÿ¢ “√–

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

¾ แตงโม

เมื ่ อ ความเศร้ า โศก เพิ ่ ม มากขึ ้ น วิธีการที่จะหนีพ้นได้ เพียงทางเดียวก็คือ การฆ่าตัวตาย ดังนัน้ คนเหล่านี้ จึงต้อง มี ค นคอยดู แ ล ปลอบใจ และแนะนำ หนทางที ่ ถ ู ก ต้ อ งให้ เพื ่ อ จะได้ ก ลั บ มา ดำเนินชีวติ สูแ่ นวปกติได้ สาเหตุที่เกิดโรคนี้ขึ้นมาก็เพราะมัน เป็น ความดึงดูดกันระหว่างเพศ ที่เป็น คู่กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้านั้นได้ กำหนดมาแล้ว ตั้งแต่แรก ดังที่พระองค์ อัลลอฮฺ ซุบฮาฯ ได้ทรงกล่าวไว้วา่ “พระองค์ ค ื อ ผู ้ ท รงสร้ า งพวก ท่ า นขึ ้ น มาจากชี ว ิ ต เดี ย ว และด้ ว ย ชีวิตเดียวนั้นพระองค์ได้สร้างคู่ของ มันขึ้นมา เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันอย่าง

ฮาเร๊ะ เจ๊ะโด : แปลเป็นภาษายาวี

สดใสอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังช่วยรักษา สภาพปกติของ เซลล์เยื่อบุตาขาว กระจก ตา ช่องปาก ทางเดินอาหาร ทางเดิน หายใจ รวมถึงทางเดินปัสสาวะให้เป็น ปกติ และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของ ร่างกายทำงานได้ดีอีกด้วย นอกจากเบต้ า แคโรที น จะมี ประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณของ คนเราแล้ว มันยังสามารถทำอันตรายกับ ตัวเราได้เช่นกัน เนือ่ งจาก เบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ที่เมื่อร่างกายได้รับมากกว่าความต้องการ จะหันไปทำหน้าที่ในทางตรงกับข้าม โดย กลายตัวเป็น ‘Pro-Oxidant’ ซึง่ เป็นสาร ที่ส่งเสริม ‘การเกิด’ อนุมูลอิสระ ดังนั้น การบริ โ ภคเบต้ า แคโรที น ที ่ ม ากเกิ น ไป อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด โรคมะเร็ง โดยเฉพาะการรับประทาน เบต้าแคโรทีนในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม ขณะทีก่ ารรับประทานอาหาร แบบธรรมชาติทั่วไป เช่น มะละกอสุก, ฟักทอง, ตำลึง โอกาสที่ร่างกายจะได้รับ สารนี้มากเกินไปจะเป็นไปได้ยาก เพราะ เราจะอิ่มก่อนได้รับปริมาณมากเกินไป

ในอิ ส ลามเรา ก็ ม ี ก ล่ า วถึ ง โรคนี ้ เช่นกัน โดย ท่าน อิบนิกอยยิม โดยเรียก ว่าเป็นโรค หลงใหลงมงาย คือ เกิดความ รักความต้องการในบุคคลๆ หนึง่ แล้วไม่ สมปรารถนา ทำให้เกิดอาการต่างๆ นานา โรคนี้สามารถเกิดได้กับทุกๆ คน ทั้งชาย และหญิง ทั้งผู้ที่มีความรู้และผู้ที่ไม่มี ความรู้ อาการนัน้ ได้แก่ ซึมเศร้า ไม่รน่ื เริง หมดความสนใจไยดีในชีวิต หมดความ หวังในชีวิต ไม่พบทางออกอันใด มักจะ นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ บางครั้ง ก็ร้องไห้ ร้องห่มได้ทั้งวัน

¾ ข้าวโพดอ่อน

X

มีความสุข...” อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัล อะอ์รอฟ อายะฮฺท่ี 189 (7: 189) วิธีการรักษาโรคอกหักนั้น วิธีที่ได้ ผลดีที่สุดก็คือ ทำให้เขาสมหวังในสิ่งนั้น ถ้าทำได้ ดังนั้นในคนที่ไม่สมรัก ถ้าเรา ทำให้เขาได้สมรักได้ เขาก็จะกลับกลาย เป็นอีกคนหนึ่งที่กระฉับกระเฉง มีชีวิต ชีวา และกระตือรือร้นที่จะทำกิจการงาน ต่างๆ อย่างเข้มแข็ง เรียกได้ว่า เปลี่ยน แปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว แต่วิธีการนี้แม้จะได้ผลดีที่สุด แต่ ก็มักจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น วิธีการต่อไป ก็คือการสอนให้เขาทำใจ หรือบังคับจิตใจ ตัวเอง ให้คิดในแนวทางที่ถูกต้องต่อไป แนวทางนั้นได้แก่


○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ถ้ายังไม่ได้ผล ก็ขอให้เขานึกถึงความน่าเกลียดของสิ่งที่เขารักดูบ้าง ว่าเขาจะได้รบั สิง่ ทีน่ า่ เกลียด ความไม่ดอี ะไรบ้าง จากผูท้ เ่ี ขารักนัน้ เขาจะพบว่า การคิดเช่นนี้จะช่วยลดความดีงามที่เขามองเห็นจากคนที่เขารัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ ทำให้เขารักเธอให้ลดลงไป และให้เขาถามเพือ่ นบ้านของเขาในสิง่ ทีพ่ วกเหล่านัน้ อาจจะปกปิดไว้เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดีของเธอ

4.

ถ้ายังไม่ได้ผล ก็จะต้องให้เขาพิจารณาถึงสิ่งที่ไม่ดีที่จะเกิดขึ้นแก่เขา เมื่อเขาพยายามทำเพื่อให้บรรลุความต้องการ ให้เขาพิจารณาดูผลที่จะเกิดขึ้น จากการทำตามความใคร่ของตัวเองว่าจะทำความความเสื่อมเสียเช่นไรกับตัวเขา ทำให้เขาไม่ได้พบกับสิ่งประเสริฐ มันจะทำให้เกิดผลเสียอย่างยิ่งในโลกนี้ และ จะทำให้ผลดีที่เขาควรจะได้รับต้องล่าช้าลง

3.

ให้เขาได้เข้าใจว่า แท้จริง คู่ต่างๆ นั้น ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ด้วย วิทยปัญญาของพระผู้เป็นเจ้า และไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นการขวน ขวายใดๆ ถ้าไม่ใช่คู่กันแล้ว ก็จะไม่สามารถจะสมหวังได้อย่างเด็ดขาด แต่ถ้าคู่กัน แล้ว ก็จะไม่มใี ครสามารถมาแยกจากกันได้ ดังนัน้ สิง่ ทีด่ ที ส่ี ดุ คือ การมอบหมาย ต่ออัลลอฮฺ และทำหน้าที่บ่าวของพระองค์ให้ดีที่สุด เท่านั้นเอง การพยายาม กระทำให้สิ่งที่พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮาฯ ไม่ทรงอนุญาตนั้นเป็นสิ่งที่บ่าวของ อัลลอฮฺ ซุบฮาฯ จะต้องห่างไกลมันออกไป และคิดว่ามันเป็นสิ่งต้องห้ามที่ไม่มี ทางเกิดขึน้ ได้

2.

เพิ่มความรักในอัลลอฮฺ ซุบฮาฯ ขึ้นมาแทนที่ คนที่เป็นโรคอกหักนั้น มักจะไม่มีความรักในพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮาฯ หรือมีอยู่น้อยเกินไป ดังนั้น เมื่อ เพิม่ ความรักในอัลลอฮฺ ซุบฮาฯ ให้มากขึน้ มีจติ ใจทีร่ กั อัลลอฮฺ ซุบฮาฯ อย่าง บริสทุ ธิ์ ความรั ก ในรู ป กายอื ่ น ๆ ก็ จ ะลดลงเอง ดั ง เช่ น ที ่ พ ระองค์ อ ั ล ลอฮฺ ซุ บ ฮาฯ ได้กล่าวไว้เกีย่ วกับท่านนบียซู ฟุ ความว่า “...เช่นนีแ้ หละ ทีเ่ ราได้ทำให้สง่ิ ชัว่ ร้ายต่างๆ และความเสือ่ มเสีย จากการมีเพศสัมพันธ์ทผ่ี ดิ ๆ นัน้ หลุดพ้นไปจากเขา แท้จริงเขานัน้ เป็นหนึง่ จากบรรดาบ่าวที่มีจิตใจบริสุทธิ์ของเรา” อัลกุรอาน ซูเราะฮฺยูซุฟ อายะฮฺที่ 24 (12: 24)

1.

5.

ถ้ายังไม่ได้ผล เขาก็จะต้องกลับไปหา พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่จะช่วยเขาเสมอ เมื่อเขาได้ ร้องขอและจะต้องนำตัวเขาเข้าไปสู่เบื้องหน้า ของพระองค์ ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ด้วยความสุภาพและถ่อมตัว เมื่อใดก็ตามที่เขา ได้ทำดังนี้ แล้วประตูแห่งความสำเร็จย่อมเปิด ให้กับเขา เหล่านี้แหละคือวิธีการแก้ไขโรคอกหักใน อิสลาม และสิ่งสำคัญที่จะป้องกันโรคอกหักได้ ก่อนที่มันจะเกิดก็คือ เราจะต้องมีเติมความรัก ในพระผู้เป็นเจ้า และในศาสนาของเราให้เต็ม เปี่ยมอยู่ในหัวใจก่อน การเติมเต็มเช่นนี้ จะ ทำให้ความรักที่จะมีต่อสิ่งอื่นที่จะเกิดขึ้นภาย หลังเป็นเพียงความรักเล็กๆ ที่ไม่สามารถจะทำ อันตรายต่อหัวใจเราได้อีก เท่านี้เราก็จะปลอดภัย จากโรคอกหักแล้วครับ วัสสลาม

X

9 ÿ¢ “√–


10 ÿ¢ “√–

X


พบหมอจินตนา ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

เลือดสูง, คนสูบบุหรีจ่ ดั , คนดืม่ สุรา, คน ทีเ่ ป็นโรคไต, โรคเบาหวาน, คนทีม่ คี วาม เครียดเป็นประจำ และรับประทานอาหาร เค็มเป็นประจำ” อิ บ รอฮี ม ถามแพทย์ ถ ึ ง การรั ก ษา โรคนี้ซึ่งแพทย์ได้ตอบว่า “เมื่อเป็นโรค ความดันเลือดสูงแล้วจะต้องรักษาโรค ซึ่งเป็นสาเหตุก่อน ต้องปฏิบัติตัวตาม คำแนะนำของแพทย์ ตรวจวัดความดัน เลือดอย่างสม่ำเสมอ รับประทานยาตาม แพทย์สั่ง ควบคุมน้ำหนักตัวอย่าให้อ้วน รับประทานอาหารอย่างหลากหลายให้ ครบ 5 หมู่ เพิม่ อาหารกากใย เช่น ผัก, ผลไม้ที่มีรสหวานน้อย, หลีกเลี่ยงอาหาร ไขมันสูง เช่น หนังเป็ด, หนังไก่, อาหาร ใส่กะทิ, ขนมหวาน, สมองสัตว์, ไข่แดง, ไข่นกกระทา, เครือ่ งในสัตว์, หอยนางรม, ปลาหมึกใหญ่, ลดอาหารเค็ม โดยรับ ประทานเกลือไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา, ลดอาหารที่ใส่ผงชูรส, ใส่เครื่องปรุงรส ต่ า งๆ และของหมั ก ดอง รั บ ประทาน น้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา เปลี่ยน วิธีปรุงอาหาร จากการทอดมาเป็นการ ต้ม, นึ่ง, ย่างและอบแทน เลิกสูบบุหรี่, งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ออกกำลังกาย อย่างถูกวิธีโดยให้มีความเหมาะสมกับ สภาพร่างกาย เพศและวัย เช่น การเดิน

หรือเท่ากับ 140 มิลลิเมตรปรอท วัดค่า ล่างได้มากกว่าหรือเท่ากับ 90 มิลลิเมตร ปรอท หรือวัดได้สูงทั้งค่าบนและค่าล่าง ส่วนมากแล้วคนทีเ่ ป็นโรคความดันเลือดสูง มักมีอายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป ถ้าพบ ความดั น เลื อ ดสู ง ในคนอายุ น ้ อ ยจะพบ ร่วมกับความผิดปกติอื่นๆ เช่น โรคไต, โรคต่ อ มไร้ ท ่ อ , โรคเนื ้ อ งอกในสมอง เป็ น ต้ น ส่ ว นสาเหตุ ข องโรคความดั น เลือดสูงนั้น มี 2 ชนิด ชนิดแรกพบได้ น้ อ ยโดยมี ส าเหตุ จ ากโรคต่ า งๆ เช่ น โรคเนื้องอกต่อมหมวกไต, ภาวะไตวาย, โรคเนื้องอกในสมอง, ภาวะครรภ์เป็นพิษ, การได้รับยาหรือสารบางชนิด ส่วนอีก ชนิดหนึ่งพบได้มาก เป็นชนิดที่ไม่ทราบ สาเหตุ ส่วนใหญ่พบโดยบังเอิญ ซึ่งมัก พบในคนอ้วน คนที่มีไขมันในเลือดสูง มีพอ่ แม่ หรือญาติพน่ี อ้ งเป็นโรคความดัน

X

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

อิบรอฮีมเป็นชายวัยกลางคนอายุ 46 ปี เขามีอาการปวดศีรษะบริเวณ ท้ายทอย, มึนงง ในช่วงตื่นนอนใหม่ๆ มีอาการอ่อนเพลีย, เหนื่อยง่าย, ใจสั่น, นอนไม่หลับ, ตามัว, มือเท้าชามานาน ประมาณ 1 เดือน ในช่วงบ่ายของวัน หนึ่งมีเลือดกำเดาสีแดงไหลออกมาจาก รูจมูกด้านซ้ายของเขาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตกใจ จึงรีบไปพบแพทย์ หลังจาก แพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว จึงพบว่าอิบรอฮีมเป็นโรคความดันเลือด สูง แพทย์วัดความดันเลือดของเขาได้ 180/100 มิลลิเมตรปรอท อิบรอฮีมเป็น คนอ้วน สูบบุหรี่วันละ 10 มวนมานาน ประมาณ 20 ปี บิดาของเขาก็มีประวัติ เป็นโรคความดันเลือดสูงและได้เสียชีวิต ไปเมื่อ 2-3 ปี มาแล้ว แพทย์อธิบายให้ อิบรอฮีมฟังว่า Á

“ความดั น เลื อ ดหมายถึ ง แรงดั น เลือดที่กระทบผนังหลอดเลือด ความดัน เลือดเกิดจากการบีบตัวของหัวใจ เพื่อส่ง เลือดไปเลีย้ งส่วนต่างๆ ของร่างกาย การ วัดความดันเลือดวัดได้ 2 ค่า คือความดัน เลื อ ดค่ า บน ซึ ่ ง เป็ น แรงดั น เลื อ ดขณะ หัวใจบีบตัว ส่วนความดันเลือดค่าล่าง เป็นแรงดันเลือดขณะหัวใจคลายตัว โดย ใช้หน่วยวัดเป็นมิลลิเมตรปรอท ความดัน เลือดปกติไม่ควรเกิน 120/80 มิลลิเมตร ปรอท เมื่ออายุมากขึ้นความดันเลือดจะ สูงขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นความดันเลือด สูงจะวัดความดันเลือดค่าบนได้มากกว่า

แพทย์หญิงจินตนา โยธาสมุทร

X

11 ÿ¢ “√–


จับประเด็น เร็ว, วิ่ง, ว่ายน้ำ, แอโรบิก อย่างน้อย สัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 30 นาที ห้าม ออกกำลั ง กายชนิ ด ที ่ ต ้ อ งใช้ ก ำลั ง และ แรงเบ่งสูง เช่นการยกน้ำหนัก, วิดพื้น, วิ่งอย่างรวดเร็ว, หลีกเลี่ยงความเครียด, ทำจิตใจให้แจ่มใส, พักผ่อนให้เพียงพอ, ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะ คนที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ตรวจ รักษาและรับประทานยาตามแพทย์สั่ง อย่างสม่ำเสมอ ห้ามหยุดยาเอง ถ้ามี อาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นให้รีบไปพบ แพทย์ และสำหรั บ ผู ้ ห ญิ ง ที ่ ก ำลั ง รั บ ประทานยาคุมกำเนิด ซึ่งเป็นตัวการหนึ่ง

X

วิรชาติ มัสอูดี

คนงานขณะติดตั้งส่วนติดตาม ในใจกลางของ CMS

ควรหลีกเลีย่ งอาหารไขมันสูง เช่น หนังเป็ด, หนังไก่ และอาหารทอด

ในการทำให้ ค วามดั น เลื อ ดสู ง ขึ ้ น ให้ เปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดชนิดอื่นแทน... คนที่เป็นความดันเลือดสูงแล้วไม่ได้รักษา จะทำให้เกิดอันตรายจากภาวะแทรกซ้อน ต่างๆ เช่น อัมพฤกษ์, อัมพาตซึง่ เกิดจาก หลอดเลือดในสมองตีบอุดตันหรือแตก ทำให้ตามัวหรือตาบอดซึ่งเกิดจากหลอด เลือดในลูกตาตีบหรือแตก ทำให้ไตวาย หรือไตพิการซึ่งเกิดจากหลอดเลือดที่ไป เลี้ยงไตตีบเกิดภาวะหัวใจวาย และถ้า ความดันเลือดสูงมาก จะเกิดการชักหมด สติ จนเสียชีวติ ได้” จากคำอธิ บ ายของแพทย์ ท ำให้ อิบรอฮีมเข้าใจว่าโรคความดันเลือดสูง จะต้ อ งพยายามรั ก ษาอย่ า งสม่ ำ เสมอ โดยรับประทานยาตามแพทย์สั่ง มาพบ แพทย์ ต ามนั ด เพื ่ อ ป้ อ งกั น อั น ตรายที ่ อาจจะเกิดขึ้นจากโรคนี้ 12 ÿ¢ “√–

X

เมื่อไม่นานมานี้ องค์กรวิจัย นิวเคลียร์แห่งยุโรป European Organization for Nuclear Research หรือ เซิรน์ (CERN) ได้ตดิ ตัง้ เครือ่ ง เร่งอนุภาคขนาดใหญ่ Large Hadron Collider (LHC) ภายในอุโมงค์ใต้ดนิ รูปวงแหวนขนาดเส้นรอบวง 27 กิโลเมตร ที่มีอาณาเขตครอบคลุม พื้นที่ใต้ดินของประเทศฝรั่งเศส และ สวิตเซอร์แลนด์ ซึง่ มีขนาดใหญ่ทส่ี ดุ ในโลก และได้เริ่มการทดลองอย่าง เป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551 Á

เครือ่ งเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ Large Hadron Collider (LHC) มีเป้าหมายที่ จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงและข้อจำกัดของทฤษฎีทางฟิสิกส์อนุภาคที่มีอยู่ในปัจจุบัน อันอยู่ภายใต้กฎของแรงทั้งสี่ ในทางทฤษฎีเชื่อว่าเมื่อเดินเครื่องจะสามารถค้นพบ อนุภาคฮิกส์ ซึ่งเป็นอนุภาคชนิดเดียวในแบบจำลองมาตรฐานที่ยังไม่ถูกค้นพบ เป็นการตอบคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ภายใต้กฎทางฟิสิกส์ และสามารถอธิบาย คุณสมบัติพื้นฐานของอนุภาคที่ประกอบกันขึ้นเป็นมวล การทดลองครัง้ นีม้ กี ระแสข่าวลือต่างๆ และความวิตกกังวลว่าจะเกิดหลุมดำ ดูดกลืนโลกหายเข้าไป และเมื่อผู้คนได้ยินก็เกิดอาการหวาดกลัวว่าการทดลอง ครั้งนี้จะนำมาซึ่งจุดจบของโลก และกระแสความหวาดกลัวก็แผ่ขยายไปมาก ถึงขั้น ที่มีการฆ่าตัวตายเพื่อหลีกหนีวันสิ้นโลก การทดลองครั้งนี้เป็นการเลียนแบบทฤษฎีบิ๊กแบงซึ่งเป็นทฤษฎีกำเนิดจักรวาล ของนักวิทยาศาสตร์ โดยมีความเชื่อว่า จักรวาลกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 15,000 ล้านปีที่แล้ว ก่อนการเกิดของจักรวาล ไม่มีมวลสาร ช่องว่างหรือเวลา จักรวาล เป็นเพียงจุดที่เล็กยิ่งกว่าอะตอมเท่านั้น ต่อมาจักรวาลที่เล็กที่สุดนี้ได้ระเบิดออก


รายงาน ชุมพล ศรีสมบัติ

X

เสี ย งเจื ้ อ ยแจ้ ว ของเด็ ก ในพื ้ น ที ่ บริเวณองค์การสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ บ่งบอกถึงการเรียนรู้อย่างมีความสุข สนุก สนานระหว่างร่วมกิจกรรม ชมพรรณไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ และชมวีดทิ ศั น์ โดย ผ่านโครงการ “เยาวชนรักษ์สง่ิ แวดล้อม” ซึง่ ทางคณะกรรมการและคณะครูฟรั ฎฺ อู นี มัสยิดอัต-ตักวา ได้รับการสนับสนุนงบ ประมาณจากแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะ มุสลิมไทย สสม. โดยมีจุดประสงค์ให้ น้องๆ เยาวชน ได้ตระหนักถึง แนวโน้ม ทีเ่ กิดวิกฤติ ในเรือ่ งของสิง่ แวดล้อม และ มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ยากนักหาก มนุษย์ไม่รู้จักการรักษาสิ่งแวดล้อม โดย เฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องมุสลิม ในฐานะเป็น ตัวแทนมนุษย์ และเป็นผู้ที่ได้รับความไว้ วางใจจากอัลลอฮฺ ซุบฮาฯ จึงมีหน้าที่ ต้องดูแลตัวเราเองและการสร้างสรรค์ ของอัลลอฮฺ ซุบฮาฯ รอบๆ ตัวเราใน เรื่องการใช้และการดูแลภายในขอบเขต ที่พระองค์ทรงกำหนดให้ Á

อาณาเขตของ LHC ครอบคลุมพื้นที่ใต้ดินของประเทศฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์

อย่ า งรุ น แรงและรวดเร็ ว ในเวลาเพี ย ง เศษเสี ้ ย ววิ น าที แรงระเบิ ด ก่ อ ให้ เ กิ ด หมอกธาตุซึ่งแสงไม่สามารถทะลุผ่านได้ ต่อมาเริ่มเย็นลง หมอกธาตุเริ่มรวมตัว กั น เป็ น อะตอม จั ก รวาลเริ ่ ม โปร่ ง แสง ในทางทฤษฎีแล้วพื้นที่บางแห่งจะมีมวล หนาแน่นกว่า ร้อนกว่า และเปล่งแสง ออกมามากกว่า ซึ่งต่อมาพื้นที่เหล่านี้ได้ ก่ อ ตั ว เป็ น กลุ ่ ม หมอกควั น อั น ใหญ่ โ ต มโหฬาร และภายใต้กฎของแรงโน้มถ่วง กลุ่มหมอกควันอันมหึมานี้ได้ค่อยๆ แตก ออก จนเป็นโครงสร้างของกาแลกซี ดวง ดาวต่างๆ ได้ก่อตัวขึ้นในกาแลกซี และ จักรวาลขยายตัวออกอย่างต่อเนื่องจนถึง ปัจจุบัน ในลักษณะเดียวกัน การทดลองของ เซิร์นครั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ใช้โปรตอน ซึ่งเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาวิ่งชนกัน ด้วยความเร็วสูงด้วยเครื่อง LHC เพื่อ

ต้ อ งการรู ้ ว ่ า ภายหลั ง ที ่ โ ปรตอนชนกั น ด้วยความเร็วสูงเกือบเท่าความเร็วแสง แล้วจะเกิดสิง่ ใดขึน้ ตามมา ผลการทดลองจะให้ความรู้ใหม่แก่ มนุษยชาติหรือไม่หรืออาจไม่ค้นพบสิ่ง ใดๆ เลย คงต้องติดตามกันต่อไป “และพระองค์ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า ขณะที่มันเป็นไอหมอก ดังนั้นพระองค์ จึงตรัสแก่ชั้นฟ้าและแผ่นดินว่า เจ้า ทั ้ ง สองจงมา จะโดยเต็ ม ใจหรื อ ไม่ เต็มใจก็ตาม มันทั้งสองกล่าวว่า ข้า พระองค์ ม าอย่ า งเต็ ม ใจ” อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ ฟุศศิลตั อายะฮฺท่ี 11 (41: 11) “จงกล่าวเถิด (มุฮมั มัด) จงท่อง เที่ยวไปบนหน้าแผ่นดิน และพิจารณา ดูว่า พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้ง หลายอย่างไร...” อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัลอังกะบูต อายะฮฺท่ี 20 (29: 20)

X

13 ÿ¢ “√–


เรือ่ งเล่า X

รศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน์

วันที่ 16-22 มีนาคม 2551 ที่ ผ่านมาผมได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศ เวียดนาม จุดประสงค์ของการเดินทาง ครั้งนี้ต่างจากการเดินทางครั้งอื่นๆ ไม่ใช่การประชุมทางวิชาการ ไม่ใช่การ ท่องเที่ยว แต่เน้นการลงภาคสนามใน พืน้ ทีท่ ผ ่ี มจะเรียกว่า “ถิน่ ” ทีม่ ชี นกลุม่ น้อยชาวจามอาศัยอยูม่ าก ในเวียดนาม ชาวจามส่วนใหญ่อาศัยอยู่ภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศ ชาวจามในภาค กลางเป็ น มุ ส ลิ ม ประมาณ 50% ใน ขณะที่ชาวจามในภาคใต้เป็นมุสลิมเกือบ 100% จริง ๆ แล้วยังมีจามอาศัยอยู่ ในประเทศอืน่ อีกมาก โดยเฉพาะในกัมพูชา และมีอกี ไม่นอ้ ยทีอ่ ยูใ่ นไทยและมาเลเซีย Á



“เ ย า ว ช น” รักษ์สง่ิ แวดล้อม

โครงการ “เยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม” นั้นจะเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชน มุสลิม ในระดับชั้นประถมศึกษา เนื่องจากต้องการปลูกจิตสำนึก ให้เด็กๆ ได้รู้ว่า ปัญหาโลกร้อน วิกฤติของสิ่งแวดล้อม เกิดมาจากอะไร ซึ่งเชื่อว่ากิจกรรมที่ออก แบบขึ้นเพื่อให้เด็กรู้จักปัญหา เข้าใจและเสนอแนวทางการแก้ไข เด็กๆ จะได้นำ ความรู้ที่ได้รับ นำไปบอกต่อเพื่อนฝูง แก่ครอบครัว เพื่อช่วยกันหาทางแก้ไขต่อไป ปีนเ้ี ป็นปีแรกทีท่ าง สสม. โดยศูนย์ประสานงานภาคเหนือ จัดให้มโี ครงการลักษณะนี้ ในอนาคตจะมีแผนขยายกิจกรรมออกไปยังโรงเรียน ชุมชน ต่างพื้นที่ และต่าง จังหวัดในเขตภาคเหนือ หวังจะเห็นเยาวชนเป็นทูตของครอบครัว นำเรื่องราวที่ได้รับรู้กลับไปเล่า กลับไปบอกครอบครัว และสังคมที่อยู่ เพื่อให้ทุกคนตื่นตัว เกิดการปฏิบัติจริง ซึ่งจากการที่ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้สร้างกิจกรรมที่ทำให้เด็กๆ จะ ทำหน้าที่เป็นทูตสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่ง โครงการนำร่องที่จัดขึ้นนี้ เชื่อว่า จะเป็ น การจุ ด ประกายที ่ จ ะเกิ ด โครงการใหญ่ๆ ในอนาคต อินชา อัลลอฮฺ

14 ÿ¢ “√–

X

มัสยิดในชุมชนจาม

ในเชิงประวัติศาสตร์ เรื่องราวของ อาณาจั ก รจามย้ อ นหลั ง ไปได้ น ั บ พั น ปี อาณาจักรจามผ่านภาวะสงครามหลาย ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสงครามกับเวียดนาม ซึ่งรุกรานมาจากทิศเหนือ สงครามกับ อาณาจักรขอมทางตอนใต้ ผลจากสงคราม ครั ้ ง สุ ด ท้ า ยทำให้ จ ามเสี ย เอกราชแก่ เวียดนาม ชาวจามนับหมื่นคนถูกสังหาร ทิ้ง จำนวนหนึ่งหนีลงใต้เข้าไปในกัมพูชา จำนวนไม่ น ้ อ ยหนี อ อกทะเลไปอยู ่ ต าม หมูเ่ กาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟกิ เช่น ไหหลำ จนกระทัง่ ปัจจุบนั ในปัจจุบัน ประชากรชาวจามใน เวี ย ดนามมี จ ำนวนเท่ า ไร เป็ น เรื ่ อ งที ่


ทะเลทรายเวียดนาม

ทะเลเวียดนาม

โต้แย้งกันมาก ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผล จากนโยบายชนกลุ่มน้อยของเวียดนาม จึงทำให้มีจำนวนประชากรตามรายงาน น้อยกว่าความเป็นจริง ข้อมูลทางการ ที่ได้ทราบจากนักวิจัยเวียดนามระบุว่า มีอยู่เป็นหลักแสนคน บางคนว่ามี 1-2 แสนคนทั่วประเทศ แต่ในความเป็นจริง น่าจะมีมากกว่านั้น การที่ผมสรุปเช่นนี้ มาจากในช่วงไม่กว่ี นั ของภาคสนาม ทีผ่ ม มีโอกาสเยีย่ มเยียนประมาณ 5-6 ชุมชน รวมประชากร 2-3 หมืน่ คน ยังมีอกี หลาย ชุมชนในภาคกลางที่เรานั่งรถผ่านแล้ว ไม่ได้แวะเยีย่ ม อีกหลายชุมชนทีเ่ ราไม่ได้ ผ่าน และโดยเฉพาะในภาคใต้ ซึ่งชาว จามส่วนใหญ่อยู่ วิถีชีวิตของชาวจามในปัจจุบันแตก ต่ า งกั น ไปในแต่ ล ะพื ้ น ที ่ ในภาคกลาง ความเข้มข้นในทางศาสนาจะน้อยกว่า ในภาคใต้ ชาวจามโดยเฉพาะในภาคกลาง เน้นความอยู่รอดของเชื้อชาติจามเป็น หลัก ในขณะที่ชาวจามในภาคใต้ซึ่งเป็น ชาวจามส่วนใหญ่จะมีความเคร่งครัดทาง ศาสนาในระดับหนึ่ง และแนวทางใกล้ เคียงกับมุสลิมในไทยหรือมาเลเซีย

อาหารของชาวจามแตกต่ า งจาก อาหารพื ้ น บ้ า นของชาวเวี ย ดนามและ อาหารเวียดนามที่คนไทยรู้จักกันดี อาหาร เวียดนามที่เรารู้จักกันจะคล้ายๆ อาหาร จีน ไขมันค่อนข้างเยอะ อาหารพื้นบ้าน ของเวียดนามจะเป็นข้าวสวย, ต้มปลา, ผักสด และน้ำพริกเป็นหลัก ในขณะที่ อาหารจามจะคล้ายอาหารพืน้ บ้านเวียดนาม ซึง่ เป็นอาหารทีด่ ตี อ่ สุขภาวะ และแน่นอน ดีกว่าอาหารเวียดนามที่คนไทยรู้จักกัน พื้นที่ที่ชาวจามอาศัยอยู่มีจุดขาย มากมาย ที่สำคัญคือ โบราณสถานที่มี อายุพันปีและรอดมาได้จากระเบิดของ สหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเวียดนาม ทะเลทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา ที่อยู่ติด กับทะเลที่สวยงามไม่แพ้ชายหาดหลาย แห่งในเมืองไทย ป่าหินขนาดใหญ่ที่ยัง ไม่ได้รับการพัฒนา ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็น

เอกลักษณ์และศักยภาพของชุมชนจาม ต่อเศรษฐกิจของเวียดนาม นโยบายชนกลุ่มน้อยของเวียดนาม ในส่วนที่เกี่ยวกับจามก็น่าสนใจ เวียดนาม แบ่งชนกลุ่มต่างๆ ออกเป็นเกือบร้อยกลุ่ม ในจำนวนนี้หลายกลุ่มเป็นชาวจามแต่ถูก แบ่งย่อยออกทำให้แต่ละกลุ่มมีประชากร ค่อนข้างน้อยและรวมกลุ่มกันได้ยากขึ้น แต่ ท ี ่ น ่ า สนใจคื อ นโยบายการศึ ก ษาที ่ รัฐบาลเวียดนามยอมให้มีการสอนภาษา จามในโรงเรียนในพืน้ ทีท่ จ่ี ามเป็นประชากร ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยน่าจะ ใช้เป็นบทเรียนได้ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่พอจะ เล่าสู่กันฟังได้ และคงมากเกินกว่าที่จะ ใช้หน้ากระดาษสุขสาระบรรยายได้ ผม ได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำ เป็นความ ทรงจำที ่ ไ ด้ จากการเดิ นทางที่ ผมใฝ่ฝ ั น

จากซ้าย อ. Ikemoto, ดร. Thanh Phan มุสลิมจาม, ผู้เขียน X

15 ÿ¢ “√–


เก็บมาฝาก X

อับดุรเราะฮีม บินฮาซัน

คาเวียร์ หรือ ไข่ปลาคาเวียร์ (caviar) เป็นไข่ปลาที่ผ่านการปรุงรสโดยไข่มา จากปลาหลากหลายประเภท ไข่ปลาคาร์เวียร์นี้ถึงได้มีราคาแพง คาร์เวียร์เป็นไข่ปลา ซึ่งกำเนิดมาจากปลาพันธุ์พิเศษซึ่งมีชื่อว่า ปลาสเตอร์เจียน โดยส่วนมากนิยมนำมา จากไข่ปลาสเตอร์เจียน คาเวียร์ได้มกี ารโฆษณาและได้ขน้ึ ชือ่ ว่าเป็นหนึง่ ในอาหารที่ อร่อยที่ สุ ด ในโลก คำว่ า คาเวี ย ร์ ม าจากภาษาเปอร์ เ ซี ย ว่ า (Khag-avar) ซึ ่ ง มี ค วามหมายว่ า “ไข่ ป ลาที ่ ป รุ ง รส” โดยในแถบเปอร์ เ ซี ย จะใช้ ห มายถึ ง ปลา สเตอร์เจียน ในปัจจุบัน คาเวียร์ที่มีชื่อเสียงจะมาจากฝั่งทะเลสาบแคสเปียนในแถบ อาเซอร์บยั ญาน, อิหร่าน และรัสเซีย คาเวียร์มหี ลายประเภทและหลายสี โดยคาเวียร์ สีทอง ที่มาจากปลาสเตอร์เลต (sterlet) เป็นคาเวียร์ที่หายาก นิยมรับประทานกัน ในหมู่ชนชั้นสูง โดยในปัจจุบันคาเวียร์ชนิดนี้แทบจะหาไม่ได้เนื่องจากมีการล่ามากจน เกินไป และทำให้เกิดการสูญพันธุ์ Á

มัสยิดทีพ่ บเห็นระหว่างทาง

มานานและได้อาจารย์ Ikemoto จาก มหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นธุระจัดการให้ ท้ายทีส่ ดุ ผมอยากให้ผอู้ า่ นทุกท่าน ได้ทราบว่าสายใยแห่งความเป็นพี่น้อง มุสลิมนัน้ เข้มข้นเพียงใด ตลอด 7 วันใน เวียดนาม ผมได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จากเพื่อนชาวเวียดนามหลายท่าน รวมถึง

สตรีมุสลิมเวียดนาม เชื้อสายจาม

ดร. Thanh Phan ซึ่งเป็นมุสลิมจามที่ เป็นไกด์นำทางตลอด 7 วัน พาเยี่ยม ชุมชนจามและมัสยิด แวะชมพิพธิ ภัณฑ์สถาน ตลอดจนดูแลเรื่องอาหาร กระทั่ง วั น กลั บ พี ่ น ้ อ งมุ ส ลิ ม จามหลายคนก็ ม า แวะเยี่ยมที่โรงแรม แม้ในวันนี้ก็ยังคง ติดต่อส่งข้อมูลเกีย่ วกับจามและเวียดนาม มาให้อยู่เสมอ

16 ÿ¢ “√–

X

ก่อนที่จะรู้จักคาร์เวียร์ มาเข้าใจ เกี่ยวกับปลาสเตอร์เจียนเสียก่อน ปลา สเตอร์เจียน (Sturgeon) เป็นปลากระดูก แข็งขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ในอันดับปลา ฉลามปากเป็ด Acipenseriformes อาศัย ได้อยูท่ ง้ั น้ำจืด, น้ำกร่อย และทะเล เมือ่ ยังเล็กจะอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด ทะเล สาบ หรือตามปากแม่น้ำ แต่เมื่อโตขึ้น จะว่ายอพยพลงสู่ทะเลใหญ่ และเมื่อถึง ฤดูวางไข่ก็จะว่ายกลับมาวางไข่ในแหล่ง น้ำจืด ปลาสเตอร์เจียนเป็นปลาที่มีสาย พันธุ์แบ่งออกเป็น 25 สายพันธุ์ทั่วโลก และใน 25 สายพันธุ์ เป็นปลาที่อาศัย อยูใ่ นบริเวณทะเลสาบแคสเปียน 5 สาย


ชีวติ กับธรรมชาติ X

พันธุ์ ทะเลสาบแคสเปียนเป็นทะเลสาบ น้ำเค็มใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณทวีปเอเชีย ซึ่งประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ติดทะเลสาบแคสเปียน ก็คอื รัสเซีย, อิหร่าน, เตอรฺกสิ ถาน และใน 5 สายพันธุ์มีเพียง 3 สายพันธุ์ เท่านั้นที่สามารถผลิตไข่ปลาที่เราเรียกว่า คาร์เวียร์ ที่มีคุณภาพ ปัจจุบันคาร์เวียร์ ที่มีคุณภาพมากที่สุดซึ่งจำหน่ายไปทั่วโลก 90% จากปลาสเตอร์เจียนในทะเลสาบ แคสเปียน คาร์เวียร์ บริเวณนีจ้ งึ ได้ชอ่ื ว่า เป็นคาร์เวียร์ที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ การเรียกคาร์เวียร์ว่า ไข่ปลาคาร์เวียร์ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เนื่องจากคาร์เวียร์เป็น ชือ่ เฉพาะทีเ่ รียก เพราะถ้าเอ่ยว่าคาร์เวียร์ ก็จะทราบทันทีว่าเป็นไข่ปลา ปลาสเตอร์ เ จี ย น 3 สายพั น ธุ ์ ท ี ่ สามารถผลิตคาร์เวียร์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด

ขนาดย่อมลงมา อาศัยอยู่ในส่วนน้ำลึก มักกินสาหร่ายและพืชในน้ำเป็นอาหาร มีลำตัวยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนัก ประมาณ 200 กก. ให้ “คาร์เวียร์” ทีม่ ี สีสนั แตกต่างกันออกไป ตัง้ แต่สเี ทา, เทา อมทอง และสีทองอำพัน ขึ้นอยู่กับแร่ ธาตุที่สะสมอยู่ในแหล่งพืชที่ปลาแต่ละ ตัวกินเข้าไป และสายพันธุ์ที่สามได้แก่ Sevruga เป็นปลาขนาดเล็กที่สุด ยาว ประมาณ 1.5 เมตร และหนักเพียง 25

ในโลก ได้แก่สายพันธุ์ Beluga ลำตัว ยาวประมาณ 6 เมตร หนักถึงประมาณ 600 กก. ปริมาณของไข่จะอยูท่ ่ี 25-50% ของน้ำหนักตัว ปลาทีม่ อี ายุในช่วง 25 ปี จะให้คาร์เวียร์ที่คุณภาพดีที่สุด มีสีเทา จางๆ ส่งประกายสีทองเป็นมันวาว สาย พันธุท์ ส่ี องคือ Osetra โดยทัว่ ไปสามารถ เรียกได้หลายชื่อดังนี้ asetra, oscetra, ossetra, and ossetrova เป็นปลาพันธุ์ ทีม่ า : http://most-expensive.net/caviar-world http://www.freshcaviar.com http://www.caviarsupreme.com/

ปาซียะห์

กก. เท่านัน้ เป็นปลาทีม่ จี ำนวนมากทีส่ ดุ จึงมีปริมาณสู่ท้องตลาดมากเพียงพอที่ จะส่งจำหน่ายให้ลูกค้าทั่วโลก Sevruga Caviar ให้หน่วยไข่ทเ่ี ล็กสุดให้สที ง้ั เทาเงิน เทาเข้ม และดำ มีเนื้อที่ละเอียด มีกลิ่น หอมเรื ่ อ ๆ รสมั น เนี ย นและเค็ ม จางๆ โดยปกติ สายการบินชั้นเยี่ยมมักใช้เสิร์ฟ สำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สท์คลาส คาร์เวียร์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เรียกว่า ALMAS ได้มาจากปลาสายพันธุ์ Beluga แต่ที่พิเศษก็คือเป็น ปลาสเตอเจียนสายพันธุ์ Beluga ทีม่ อี ายุกว่า 100 ปี โดยสังเกตจากสีของปลา ยิ่งถ้ามีอายุ มากเท่าใดสีของปลาจะเปลี่ยนเป็นสีจาง ลงถึงเป็นสีขาว ส่วนที่มีราคาแพงที่สุด ในโลก ก็คือในรูปที่นำมาให้ชมกัน บรรจุ ในกระปุกทองคำ 24 การัต ราคาต่อ 1 กิโลกรัม $23,308 หรือประมาณเก้าแสน สามหมื่นบาท นอกจากนี้แล้ว สเตอร์เจียนยังนิยม เลี้ยงเป็นปลาสวยงามอีกด้วย

ในชี ว ิ ต ของคนไทยเรามั ก คุ ้ น เคยกั บ ไอศกรี ม วานิ ล ลา เค้ ก วานิ ล ลา แม้ แ ต่ น ้ ำ หอม มาหลาย ชั่วอายุคน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า วานิลลาผลิตมาจากไหน มีรูปร่าง ลักษณะเป็นอย่างไร หลายคนคิด ว่ามันคือกลิ่นสังเคราะห์ที่ทำขึ้นมา จากสารเคมี แต่ ใ นประเทศที ่ เ ป็ น ต้ น ตำรั บ อาหารที ่ ม ี ส ่ ว นผสมของ วานิลลาเป็นสารแต่งกลิ่นจะรู้ดีว่า วานิลลานี้มาจากไหน วานิลลา เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดใน ป่าแถบอเมริกากลาง ประเทศเม็กซิโก และกัวเตมาลา ต่อมาได้มีผู้นำพันธุ์มา ขยายเพื่อปลูกเชิงการค้าบนเกาะมาดากัสการ์แอฟริกาใต้และอินโดนีเซีย สำหรับ ประเทศไทย ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็น ผู้นำวานิลลาเข้ามาปลูก แต่สันนิษฐาน ว่าคงจะได้พันธุ์มาจากอินโดนีเซีย มาปลูก ไว้ที่สถานีทดลองพืชสวนพลิ้ว จังหวัด จันทบุรีนานมาแล้ว นอกจากนั้นยังพบ ว่ า มี ก ารปลู ก อยู ่ ท ี ่ ค ณะเกษตรศาสตร์

X

17 ÿ¢ “√–


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมือ่ ปี พ.ศ.2521 แต่ไม่ได้ปลูกบนค้างโดยเฉพาะ แต่อาศัยค้าง ของเรือนเพาะชำและปล่อยให้เลื้อยเกาะเป็นร่มเงาในเรือนเพาะชำ วานิลลาเริ่ม ปลูกและได้ผลครัง้ แรกที่ ศูนย์วจิ ยั พืชสวนชุมพร ในปี พ.ศ.2534 ปัจจุบนั มีการปลูก ในหลายที่ซึ่งล้วนเป็นสถานีทดลองพืช โดยเฉพาะมูลนิธิโครงการหลวง ที่เล็งเห็น ว่าควรส่งเสริมให้เกิดธุรกิจวานิลลาขึ้น จึงมีการผลักดัน และได้รับการตอบรับจาก ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากการปลูกวานิลลามีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง จึงยัง ไม่มีการปลูกเป็นล่ำเป็นสันโดยเอกชน

วานิลลา จัดเป็นพืชตระกูลกล้วยไม้ เป็น พืชเครื่องเทศที่มีการใช้ประโยชน์โดยการนำผัก มาหมักและบ่มให้เกิดกลิ่นและรสชาติ นำมา ปรุงแต่งรสอาหารไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีม เค้ก วานิลลา ขนมหวานลูกกวาด และยังนำไปใช้ใน อุตสาหกรรมยาและน้ำหอมด้วย วานิลลาเป็น พืชเถาเลือ้ ยให้ผลผลิตหลายปี เถาจะเลือ้ ยพันไป บนค้างหรือไม้ยืนต้นอื่นๆ โดยจะอาศัยรากเป็น ตัวยึดเกาะ ลำต้นมีลักษณะเป็นเถายาวสีเขียว อวบน้ ำ ขนาดของลำต้ น ขึ ้ น อยู ่ ก ั บ ความอุ ด ม สมบูรณ์ของเถาเมื่อโค้งงอจะหักง่าย มีเส้นผ่าน ศูนย์กลาง 1-2 เซ็นติเมตร ปล้องความยาว 5-15 เซ็นติเมตร ใบมีลกั ษณะแบนกว้าง อวบน้ำ ปลาย ใบเรียว ก้านใบสัน้ รากมีสเี ขียว เป็นรากอากาศ ค่อนข้างยาว รากแตกออกตรงข้ามใบ รากบริเวณโคนจะแตกออกมาเป็นแขนง ช่อดอก ออกจากตรงซอกใบ ไม่มกี า้ นช่อดอกแตกออกไป แต่ละต้นมีประมาณ 4 ช่อ แต่ละ ช่อมีดอก 15 ดอก ดอกมีสเี หลืองอมเขียวกลีบดอกหนา ก้านดอกสัน้ มีกลีบเลีย้ ง 3 กลีบ สองกลีบด้านบนมีลักษณะคล้ายกลีบเลี้ยง อีกกลีบหนึ่งเปลี่ยนเป็นรูปปากแตร มีขนาดสัน้ กว่ากลีบดอกอืน่ ฝักมีลกั ษณะคล้ายทรงกระบอกแคบ โป่งตรงปลายฝักมี 3 มุม ภายในฝักจะมีเมล็ดอยูจ่ ำนวนมาก วานิลลาสามารถเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น แถบเส้นศูนย์สูตร ตั้งแต่ระดับ น้ำทะเลจนสูงกว่าระดับน้ำทะเล ต้องการการกระจายตัวของฝนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ทนต่อสภาพลมแรงจัด ชอบดินที่มีการระบายน้ำดี การปลูกในดินเหนียวจะทำให้ รากเน่าง่าย วานิลลา จัดเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่มีแนวโน้มความต้องการของตลาด สูง เนือ่ งจากเป็นพืชทีต่ อ้ งนำไปเป็นวัตถุดบิ ในสินค้าบริโภค และจากการสำรวจทาง การตลาดพบว่าวานิลลาเป็นที่สนใจอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร สมุนไพร สปาและเครื่องสำอาง

18 ÿ¢ “√–

X

แหล่งข้อมูล : http://ndoae.doae.go.th/news_024.html http://dailynews.co.th www.navy.mi.th/navic/document/pakinaka/p8612b.html www.chiangmainews.co.th/viewnews.php?id=1821&lyo=0




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.