www.playground-mag.com
01
02
www.playground-mag.com
www.playground-mag.com
03
LIFESTYLE • INSPIRATION • CREATIVE
editor’s note ..
ISSUE
04
APRIL 2012
010
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้อากาศร้อนสลับฝน แต่อีกไม่กี่วันก็จะได้ เล่นน้ำ�กันอย่างเมามันส์แล้วสินะคะ ตื่นเต้นจน จะรอไม่ไหวแล้ว.. ขอบคุณสำ�หรับทุกๆ กำ�ลังใจ โปสการ์ดทุกใบ อีเมลล์ทุกฉบับที่ส่งกันมาอย่างท่วมท้น สัญญาว่าจะอ่านทุกตัวอักษรเลยค่ะ มีน้องคนนึงเขียนมาเล่าให้ฟังว่า เขานั่งรถติด อยู่ในแท็กซี่ มองออกไปมีคุณฝรั่งสาวเดินลาก กระเป๋ามาเหมือนว่าจะหลงทาง บังเอิญกระเป๋า ไปติดตะแกรงเหล็กที่ฟุตบาท จู่ๆ ขอทานเด็ก น้อยอายุประมาณ 5 ขวบ ก็ลุกขึ้นไปช่วยคุณ ฝรั่งสาวเอากระเป๋าที่ติดออก เธอประทับใจมาก ขอบคุณเด็กน้อยเป็นการใหญ่ แล้วทัง้ คูก่ ก็ อดกัน.. ในมุมเล็กๆ ของเมือง เด็กตัวเล็กๆ ทำ�ให้ภาพ ประเทศไทยดูดีขึ้นเยอะเลย!! เข้ามาพูดคุยกันได้ที่ Fan Page : playground ุ ฉบับได้ท่ี magazine และอ่านออนไลน์ทก www.playground-mag.com นะคะ เมษานี้ เล่นสงกรานต์ให้สนุกค่ะ..
040
014 024
016
022 034
028
032
ณัฐริษาอร วาดรักชิด
บรรณาธิการบริหาร
นิตยสาร playground magazine เป็นนิตยสารในเครือบริษัท ผลิดอกออกแบบ จำ�กัด แจกฟรีสำ�หรับผู้สนใจทุกเดือนและ สามารถอ่านฉบับออนไลน์ได้ที่ www.playground-mag.com
บรรณาธิการบริหาร ณัฐรฺษาอร วาดรักชิด บรรณาธิการ กฤต กันภัย กองบรรณาธิการ neighbourgroup
จัดทำ�โดย บริษัท ผลิดอกออกแบบ จำ�กัด เลชที่ 2 ถนนทรัพย์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร 02 6370352
E-mail : Plidokdesigns@gmail.com.com
04
www.playground-mag.com
ช่างภาพ ภควัต วิภาตกนก ศิลปกรรม PDOB team
ภาพประกอบ ANN MOM • ศิลา ศรีมาลา
ฝ่ายโฆษนาและลูกค้าสัมพันธ์ กมล กันภัย • นันทพร อินทนนท์
email : playgroundinmagazine@gmail.com website : www.playground-mag.com
ติดต่อลงโฆษณา 08 1734 4492, 08 4120 9013, 0 2637 0352
playground™ คือเครื่องหมายการค้าของ บริษัท ผลิดอกออกแบบ จำ�กัด ไม่อนุญาตให้ผู้ใดนำ�ไปใช้ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางบริษัท
หาเราไม่เจอ อยู่ไกล ไปเอาไม่ทัน ไม่อยากแย่งเพื่อน
สมัครสมาชิก ด่วน!!!
เพียง 365 บาท ต่ออายุสมาชิก 1 ปี (วันละ 1 บาทเท่านั้น) รับนิตยสาร 12 ฉบับและเสื้อยืด 1 ตัว ไปใส่ฟรีๆ LIFESTYLE • INSPIRATION • CREATIVE
ใบสมัครสมาชิก Member Register
ชื่อ ที่อยู่
นามสกุล
มือถือ อีเมล์ เฟซบุ๊ค วันเกิด ระดับการศึกษา สีเสื้อที่เลือก ขนาดที่เลือก ที่อยู่ (ที่ต้องการให้จัดส่ง)
โทรศัพท์บ้าน เว็บไซด์
ขาว ดำ� S M ตามที่อยู่ด้านบน
ชื่อเล่น
อายุ สาขา ชมพู ฟ้า L XL สถานที่อื่น (โปรดระบุด้านล่าง)
วิธีการชำ�ระเงิน
โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร กสิกรไทย สาขาจามจุรีสแควร์ ชื่อบัญชี บจก. ผลิดอกออกแบบ เลขที่บัญชี 630-2-18717-5 ประเภท บัญชีออมทรัพย์
จากนั้นยืนยันด้วยการ
กรอกข้อมูลในใบสมัครสมาชิก ตัดใส่ซองจดหมาย ส่งมาพร้อมใบโอนเงิน มาที่ บ้านเลขที่ 2 ถนนทรัพย์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 ทางนิตยสารจะตอบรับสมาชิกและติดต่อท่านผ่านทาง อีเมล์ ที่ท่านกรอกในใบสมัคร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2637 0352 หรือดูรายละเอียดที่ www.playground-mag.com www.playground-mag.com
05
นิทรรศการ Olá Sião “500 ปี ไทย-โปรตุเกส”” ปฏิบัติการสุดขอบฟ้า เพื่ออำ�นาจ เงินตรา หรือ ศรัทธาแห่งพระเจ้า?
calendar event ..
เข้าชมฟรี ตั้งแต่ : 16 กุมภาพันธ์ 2555 ถึง : 29 พฤษภาคม 2555 สถานที่ : มิวเซียมสยาม ชั้น 1
ครั้งแรกของวงการพิพิธภัณฑ์ไทยกับ “นิทรรศการมีชีวิต” ฟัง-คุย-ดม-ชม-ชิม โดยผู้ชมจะได้เรียนรู้เรื่องราวสำ�คัญต่าง ๆ ผ่านการเล่าเรื่องจากนักแสดงที่สวมบทบาท เป็นชาวโปรตุเกสผู้ซึ่งมีความสำ�คัญต่อสยาม ในชุดแต่งกายสมจริง เพื่อให้เกิดความรู้สึก คล้อยตามไปกับบรรยากาศจำ�ลอง และให้คน ไทยเข้าใจรากเหง้า ภูมิหลังแห่งความสัมพันธ์ ของชนชาติโปรตุเกสและสยามประเทศ ที่มีมายาวนานถึง 500 ปี
นิทรรศการภาพถ่ายวีดีโอ “ดาวสองดวง” (The Upside Down
โดย อารยา ราษฎร์จำ�เริญสุข ตั้งแต่ : 15 มีนาคม 2555 ถึง : 29 เมษายน 2555 สถานที่ : มิวเซียมสยาม
อารยา ราษฎร์จำ�เริญสุข ศิลปินสร้างสรรค์ ผลงานชิ้นนี้ในปี 2550 ด้วยการบันทึกวีดีโอ การนัดพบของชาวนาชาวไร่และผลงานชิ้นเอก 4 ชิ้นของ 4 ศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ชื่อดัง แห่งศตวรรษที่ 19 ได้แก่ เอดูอาร์ด มาเนต, วินเซนต์ แวงโก๊ะ, ฌอง ฟรอง ซัวส์ มิเย่ต์, โอ กุสต์ เรอนัวร์ กลุ่มชาวนาชาวไร่ ผู้ไม่มีภูมิหลัง ด้านศิลปะแต่อย่างใดได้พูดถึงผลงานระดับ โลกอย่างอิสระ ซึ่งคำ�พูดคำ�จาของพวกเขา นี่เองที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชม อารยา ราษฎร์จำ�เริญสุขไม่มีเจตนาล้อเลียน กลุ่มชาวนาชาวไร่แต่อย่างใด แต่ต้องการให้ งานชิ้นนี้เปรียบเสมือนกระจกเงาสะท้อนให้ เห็นว่า บางครั้งงานศิลปะอาจทำ�ให้ ความเดียงสาและมุมการมองของผู้เสพ ลดลงก็เป็นได้ โทร. 02 225 2777 ต่อ 414 www.facebook.com/museumsiamfan
06
www.playground-mag.com
นิทรรศการ “ศิลปนิพนธ์ สาขาเครื่องโลหะ และรูปพรรณอัญมณี”
โดย วิทยาลัยเพาะช่าง ตั้งแต่ : 19 เมษายน 2555 ถึง : 26 เมษายน 2555 สถานที่ : จิวเวลรี่ เทรด เซ็นเตอร์ บริเวณหน้าลิฟท์แก้ว
นิทรรศการผลงานศิลปนิพนธ์ของนักศึกษา ชั้นปีที่4 สาขาเครื่องโลหะและรูปพรรณอัญมณี ที่จะสำ�เร็จการศึกษาในปีนี้ ได้นำ�มาจัดแสดงใน รูปแบบของแฟชั่นโชว์ ในวันที่19 เมษายนด้วย ไม่ได้มีแต่งานเครื่องประดับอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีงานรูปพรรณ ที่นักศึกษาเป็นคนออกแบบ และทำ�การผลิตขึ้นอีกด้วย อาทิเช่น งานบุปืน ยาว โคมไฟหนังใหญ่ แจกันผีเสื้อ เป็นต้น ข้อมูลเพิ่มเติม 0816971844, 0878114599
รับฟรี!!! e-coupon โดนัท 2 ชิ้น มูลค่า 30.เมื่อซื้อโดนัท 4 ชิ้นขึ้นไปในราคาปกติ (ชิ้นละ 15.- ขึ้นไป) เพียงดาวน์โหลด มิสเตอร์ โดนัท โมบาย แอพพลิเคชั่นฟรี บนไอโฟน และสมาร์ทโฟน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2555
พร้อมอัพเดทโปรโมชั่นสุดคุ้ม และข่าวสารใหม่ๆ ตลอดปี รีบโหลดกันนะ คุ้มค่าสุดๆ ไปเลย…
“เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ (The Walk Ratchaphruek) ไลฟ์สไตล์มอลล์รูปแบบใหม่ ตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์”
“เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการให้เป็นสถานที่ สำ�หรับตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อนหรือคู่รัก ได้ช้อปปิ้งอย่างสะดวกสบายแบบอินดอร์ ในบรรยากาศแบบเอาท์ดอร์ที่ให้ความรู้สึก โปร่งสบาย ด้วยการตกแต่งสถาปัตยกรรม แบบ Santa Monica Village มีร้านค้ามากมาย กว่า 250 ร้านค้า ทั้งร้านอาหาร ธนาคาร ร้านหนังสือ แหล่งรวมสินค้าไอที ศูนย์รวม เฟอร์นิเจอร์อย่าง อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ศูนย์การเรียนรู้สำ�หรับเด็ก Big C มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดในร่มหรือ Market Walk ที่มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ อาหารให้ได้ช้อปกันอย่างจุใจ เรียกได้ว่ามีครบทุกสไตล์ ในจุดหมายเดียวที่
“ KARMARTS PERSENTS 2PM HANDS UP ASIA TOUR IN BANGKOK 2012 บริษัท คาร์มาร์ท จำ�กัด มหาชน ร่วมสนับสนุน คอนเสิร์ต 2PM ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ผู้คนต่างให้การต้อนรับการดูคอนเสิร์ต 2PM ในครั้งนี้เป็นจำ�นวนมาก และยังจะมีกิจกรรม ภายในบูทคาร์มาร์ท ที่ให้เหล่าสาวก ฮอตเทส ได้ร่วมเล่นกิจกรรมกันอย่างสนุกสนานพร้อมรับ สินค้าคาร์มาร์ท ไปใช้ให้สวยใสกันไปเลย สาวๆ สไตล์เกาหลีอย่าพลาด!!! ความสวยและความสนุกแบบนี้ให้ติดตามกันได้ กับเครื่องสำ�อางนำ�เข้า คาร์มาร์ท www.karmarts.com
The Walk
www.playground-mag.com
07
play around ..
grandpa’s vespa มอไซค์คุณปู่ แต่ยังสู้ และสุดซ่า....
เวสป้าสักคัน กล้องโลโม่ซักตัว กับเพื่อนรู้ใจซักคน... เพียงเท่านี้ ชีวิตที่อยากผจญภัยเล็กๆ ในวันอันแสนน่าเบื่อก็สนุกขึ้นมาทันที แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กล้องนะสิ เพราะหลายคนมี และมีหลายตัวด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่ เจ้าเวสป้าคันนั้นต่างหากล่ะ คิดไปคิดมา ตังค์ก็ไม่มี เพื่อนก็ไม่ให้ยืม แต่อย่าเพิ่งถอดใจไปซะก่อน ลองไปถาม คุณปู่ดูสิ บางทีท่านก็แอบเก็บไว้ขี่คนเดียว... (บางทีคุณย่าก็ซ้อน 555) ตำ�นานของ Vespa ถือกำ�เนิดขึ้นนับแต่ปี 1946 จนกระทั่งปัจจุบัน Vespa ที่หลายคน หลงไหล ได้ถูกผลิตออกมาแล้วทั้งสิ้น 138 รุ่น และนี่คือบางรุ่นที่เจ๋งๆ Playground Magazine ขอแนะนำ�ให้กับ “มือใหม่หัดเก่า” ได้รู้จักกัน ณ บัดนี้...
Vespa MP6 1945
Vespa MP5 1943 นี่คือรถเวสป้ารุ่นแรก ที่มีการผลิตออกมา เพียงแต่ว่า เจ้า MP5 ตัวนี้ ไม่ได้เผยโฉมสู่สาธารณชน แต่อย่างใด เพราะเป็นรถต้นแบบ และใช้ขี่ร่อน ในโรงงานผลิตเท่านั้น รุ่นนี้ผลิตหลังจากที่โรงงาน เพิ่งทำ�เครื่องบินเสร็จ หน้าตาเลยน่ารักยังกะเครื่อง บินนั่นเอง 08
www.playground-mag.com
เจ้าคันนี้ คือรถเวสป้ารุ่นแรกที่ออกวางจำ�หน่าย อย่างเป็นทางการ โดยได้รับความนิยมอย่าสูงจาก ประชาชนชาวอิตาลี เพราะการออกแบบสวยไฉไล ราคาประหยัด และสามารถถอดประกอบได้ง่าย (หมายถึงเวลาซ่อม แต่ถ้าใครจะซื้อมาถอดเล่นก็ไม่ว่า ขอแค่ใส่กลับที่เดิมให้ครบก็พอ)
Vespa 125U 1953 เล็กและประหยัดกว่า คือแนวคิดในการผลิตรถรุ่นนี้ มันคือรถรุ่นใหม่ที่อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ต้องการ “ลดต้นทุนในการผลิต” เครื่องยนต์ขนาด 125 ซี.ซี. โดดเด่นที่“ตะเกียบล่าง” และดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังใช้เครื่องยนต์ขนาด “เล็กสุด” และแสนประหยัด
Vespa เป็นมายังไงกันนะเนี๊ยะ..!!
Vespa 150 1956 รถรุ่นนี้เริ่มติดตั้งมาตรวัดเรือนไมล์ทรงสี่เหลี่ยมเป็น รุ่นแรก และยังรวมรายละเอียดปลีกย่อย เล็กๆ น้อยๆ ที่แตกต่างออกไปจาก 125U โดยเฉพาะรุ่นปี 1956 นี้ เป็นโมเดลรุ่นสุดงท้ายสำ�หรับเวอร์ชั่นรถ “คอหงส์” (Swan Neck)
Vespa 150GS 1956 GS ย่อมาจาก Gran Sport พัฒนามาจากเครื่องยนต์ รถแข่งที่ Vespa ประสบความสำ�เร็จและเป็นเจ้าของ สถิติมายาวนาน และเจ้านี่คือรถจักรยานยนต์ 150cc ที่สามารถทำ�ความเร็วได้เกิน 100 กม. /ซม. รูปร่าง หน้าตาที่ออกไปทาง “รถสปอร์ต” สมชื่อ
Vespa 150GS 1961 มีการปรับเปลี่ยนให้เห็นอยู่พอสมควร บอดี้ถูกขยาย ความกว้างและความสูง ตรงส่วนของกระโปรง (ที่ สวมล้อหลังน่ะ) เปลี่ยนมาเป็นการล๊อคแบบบิด มาตรวัดไมล์ทรงเหลี่ยมปรับเปลี่ยนมาเป็นไมล์ “รูปทรงพัด”
หลังจาก Rinaldo ปลดเกษียนตัวเอง เขาได้ ทำ�การเปลี่ยนแปลงบริษัทโดยเน้นไปที่การ ผลิตยานพาหนะส่วนตัว ซึ่งเป็นที่ต้องการ ของชาวอิตาเลี่ยนในขณะนั้น ยานยนต์แบบ ใหม่ ที่เรียบง่าย ไม่สิ้นเปลือง สะดวกสบาย และสวยงาม รุ่นแรกที่ผลิตออกมาคือ MP5 หรือ “โดนัลดัค” ผลิตจากซากชิ้นส่วนของ เครื่องบิน แต่เป็นเพียงแค่รถต้นแบบที่ใช้เดิน ทางขนส่งและสำ�รวจในโรงงานเท่านั้น Enrico จึงเข้ามาบริหารอย่างเต็มตัว
Vespa 125U 1953 โมเดิลคลาสสิก คือแนวคิดของการออกแบบ ซึ่งทั้ง เพรียว เบาและดูเป็นรถสปอรด์มากกว่าที่ผ่านมา โช้ค อัพหน้าแบบตะเกียบแขนเดี่ยวคานสวิง ทำ�ให้รถ นุ่ม ขึ้นและปลอดภัยขึ้น แต่จุดขายของรุ่นนี้ อยู่ที่กล่อง เก็บของเหนือชุดแป้นไฟท้าย
Vespa 90 1963 รถรุ่นเล็กจากตระกูล Smal เผยโฉมครั้งแรกปี 1963 บอดดี้ชิ้นเดียว เครื่องยนต์สูบตั้งทำ�มุม 45 องศา ประหยัด และคล่องตัว เน้นไปที่ผู้หญิงเป็นหลัก เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยพัดลม เบาะเดี่ยวบน แป้นสปริงซับถูกเปลี่ยนมาเป็นเบาะยาวตอนเดียวที่ เรียกกันว่า “Tourismo Seat”รุ่นนี้มีอกีชื่อว่า “Lusso Version”
รถจักรยานยนต์คันเล็กๆ สัญชาติอิตาลี ได้ถูกผลิตออกมาในเดือน เมษายน ค.ศ. 1946 โดย ตระกูล Piaggio ที่แต่เดิมผลิต รถไฟ เครื่องบิน เรือโดยสาร เรือขนส่ง สินค้าแต่โรงงานก็ได้ถูกทำ�ลายลงในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเครื่องบินทิ้งระเบิด Rinaldo Piaggio ผู้พ่อและลูกชาย Enrico กับ Armando ช่วยกันฟื้นฟูโรงงานขึ้นใหม่ อีกครั้ง โดยพวกเขากลับมาพัฒนาเครื่องยนต์ และชิ้นส่วนต่างๆ ขึ้นใหม่ ทำ�ให้โรงงาน ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพียง 6 ปี จากคนงาน เพียง 136 คน มาเป็น 7000 คน
Vespa 90ss 1965 รถสปอร์ดที่ประสบความสำ�เร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยรูปทรงที่แคบ โดยการหั่นบังลมหน้าออก แฮนเดิ้ลบาร์ก็ถูกลดองศาลง vespa 90SS ได้รับการ ปรับแต่งเพื่อใช้แข่งในสนาม แต่ปัญหาคือถังกลาง ที่ไม่เหมาะแก่การขึ้นลง หรือวางของ จนหยุดการ ผลิตลงในปี 1971 โดยมียอดขายออกมา เพียง 5,300 คันเท่านั้น
ต่อมาในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1945 เวสป้ารุน่ MP6 ก็ถูกผลิตออกมาจำ�หน่ายในเชิงพาณิชย์ และได้รับความสนใจทันที รถจักรยานยนตร์ ขนาดเล็กนี้เป็นงานออกแบบที่ใช้เทคโนโลยี ของเครื่องบินผสมกับโครงสร้างแบบชิ้นเดียว ลักษณะเป็นง่ามเหมือนล้อที่กางออกเวลา ลงจอดของเครื่องบิน ซึ่งง่ายต่อการถอดล้อ และมีที่กำ�บังสำ�หรับกันน้ำ�ให้เหมาะสมกับ สภาพถนน ผู้เป็นเจ้าของกิจการ ได้ฟังเสียงรถ รุ่น MP6 แล้วทำ�ให้เขานึกถึงเสียงของตัวต่อ ตั้งแต่นั้นมารถจักรยานตร์ยนตร์จากตระกูลนี้ ก็ได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ตัวต่อ” หรือ “Vespa” ในภาษาอิตาลีนั่นเอง Enrico
www.playground-mag.com
09
little things ..
Gumball Machine ตู้หยอดลูกอม (โหลไข่หลอกเด็ก)
ตู้หยอดลูกอม คือ ตู้ที่ใช้เหรียญ หยอด ไม่ได้ใช้ลูกอมหยอด แต่เรียกให้กระชับได้ใจความ หลายคนเคยหยอด แต่พอโตขึ้นมาจะไม่กล้าหยอด เพราะ กลัวเพื่อนล้อ แถมหลังๆ ก็ไม่ค่อยมีตั้งที่ไหน เลยไม่รู้จะไป หยอดยังไง ตู้นี้อัศจรรย์เมื่อเราเป็นเด็ก เพียงแค่เอาเหรียญ ใส่ลงไปในร่อง (เปรียบเหมือนหลับตา) หมุนแกนตามเข็ม นาฬิกาให้ครบรอบ (เหมือนท่องคาถา) ทันใดนั้น เมื่อมี เสียง แก๊กๆๆๆ จะมีลูกอมออกมา (ประหนึ่งยักษ์จินนี่ใน ตะเกียงอาลาดิน) เท่านี้เอง เราก็จะได้อิ่มเอมกับรสชาติ ของยักษ์จินนี่ในปาก ยิ่งถ้าตู้ไหนเป็นระบบใส่เกลียวก่อน โผล่ลงตาตุ่มจะอลังการมาก เหมือนยักษ์ลีลาเยอะ หมุน ไปหมุนมาก่อนรับไม่ทัน (ก็...อดกิน) จะหยอดใหม่ก็ไม่ได้
Gumball Machine
010
www.playground-mag.com
พกเหรียญแล้ว เดี๋ยวนี้พกแต่บัตรเครดิต ถ้าใครผลิต “ตู้ รูดลูกอม” จะขอลองเป็นเจ้าแรก ประวัติน่าสนใจไม่น้อย เพราะเริ่มสร้างออกมาตั้งแต่ปี 1888 (พ.ศ.2431) แต่กว่า จะปรากฎในเชิงพาณิชย์ก็ปี 1907 (+543= พ.ศ. ลองบวก ดู สนุกดี!) ผลิตโดย บริษัทชื่อ Thomas Adams ในอเมริกา หลังจากนั้นมีอีกหลายบริษัททำ�ออกมาแข่งกัน โดยทั่วไป ตัวเครื่องจะประกอบด้วยแก้วทรกลมหรือทรงเหลี่ยมอยู่ ด้านบน (เดี๋ยวนี้เป็นพลาสติก) ตั้งอยู่บนฐานโลหะ สามารถ ถอดออกหรือเปิดจากด้านหลังเพือ่ เติมจินนีแ่ ละเก็บค่าอธิษฐาน ส่วนที่หยอดด้านหน้ามีกลไกแบบลานหมุน และทางออก เป็นประตูเล็กๆ นับเป็นสิ่งจรรโลงใจเมื่อได้พบเจอ แต่จะให้ หยอดอีกครั้ง คงไม่ กลัวตะครุบไม่ทัน อายเด็กมัน
PAPERTALK WORKSHOP ALL BOOKS YOU CAN DO
เรียนรู้และสนุกกับงานทำ�มือจากวัสดุกระดาษ ที่คุณสามารถทำ�ได้ด้วยตัวเอง ทั้ง Book Binding Pop-up, Fancy Card, Packaging, Wrapping etc. ทุกวันศุกร์และเสาร์ @ ARTS MANIA ค่าเรียนครั้งละ 800 บาท (รวมอุปกรณ์สำ�หรับเรียน เครื่องดื่ม และของว่าง) ลงทะเบียนล่วงหน้า 5 ครั้ง เลือกรับชุดอุปกรณ์ มูลค่า 800 บาท หรือเรียนฟรี 1 ครั้ง สอบถามรายละเอียดและตารางเรียนได้ที่ 083 995 0595 finn5415@yahoo.com
artsmania arts & design comm unity
www.arts-mania.com 0-2637-0352 www.playground-mag.com
011
in ten questions ..
Napassorn Bhavaves (Na) นภัสสร ภวะเวส ชื่อเล่น นะ เพิ่งจบ ม.6 จากหอหวัง เรียนสายวิทย์-คณิต เป็นลูกครึ่งหรือเปล่า
ไม่ใช่ค่ะ นะเหมือนแม่เลย ตอนเด็กๆ แม่ก็จะหน้าแบบเนี๊ยะ ผมจะทองๆ ด้วยนะ แต่แม่นี่สุพรรณเลย พ่อก็เป็นคนไทย
มีพี่น้องมั้ย
มีพี่ชายหนึ่งคนคะ แต่เขาจะตัวดำ�ๆ ใหญ่ๆ อ่ะ..ฮาฮา (หัวเราะ) เห็นภาพมั้ย?? แต่บางทีเพื่อนก็บอกว่าหน้าเหมือนเรา พี่จะหล่อๆ เล่นกล้ามอะไรแบบนั้น นะจะสนิทกับพี่ชาย เขาชอบให้เตะบอลให้ ตอนแรกนะก็ดูน่าสงสาร เป็นเด็กๆ แบบถักเปียสองข้าง จะเข้า บ้านก็เข้าไม่ได้ ต้องมาช่วยเตะ เพราะว่าพี่จะเป็นผู้รักษาประตู
มองว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน
ก็..แล้วแต่บรรยากาศนะ ถ้าช่วงจะสอบนะก็จะเก็บตัวนิดนึง และก็จะไปติวหนังสือกับเพื่อน แต่ถ้าว่างก็จะว่างเลย ใครชวนไปไหน นะไปหมด
อะไรได้รับความนิยมจากนะอยู่ในขณะนี้
ดูซีรี่ส์เลยค่ะ กำ�ลังอาการหนักมาก..!! พวกซีรี่ส์ฝรั่ง ตอนนี้ กำ�ลังติดเรื่อง Chuck แล้วก็เรื่อง White Collar มันจะเป็นแนว สายลับนิดนึง บางทีดูกันทั้งคืนเลย ยิ่งตอนนี้กลายเป็นงานหลัก ของนะเลย
คิดยังไง กับการที่เราจะรวมประเทศเป็นอาเซียนกัน
นะว่ามันก็ดีนะ เหมือนเราไม่ได้อยู่คนเดียว ถ้ามีปัญหาอะไร ก็จะมาช่วยกัน และอีกอย่างได้เปิดประเทศเสรี ให้เราไปทำ�งาน อีกประเทศหนึ่งได้ เขาก็มาทำ�งานในบ้านเราได้ ถ้าต่างประเทศ เข้ามามากเกินไป เราก็อาจจะแย่หน่อย เพราะฉะนั้นเราก็ต้อง ผลักดันตัวเอง ต้องแข่งขันกันมากขึ้น นะว่าเราก็น่าจะศึกษา ก่อนว่าแต่ละประเทศเขาเป็นยังไง แล้วอะไรที่เขาขาด หรือที่เขา ต้องการ ถ้าเรามีความสามารถด้านนั้นๆ มันก็น่าจะโอเค
ถ้าสมมุติเอนทรานซ์ ไม่ติด จะทำ�ยังไงดี
อย่างแรกก็ต้องทำ�ใจก่อนเลย.. ถ้าอยากเข้าจริงๆ ก็อาจจะรออีก ปีแล้วมาเอ็นทรานส์ใหม่ ช่วงหนึ่งปีนี้ก็ไปใช้ชีวิตก่อน แล้วก็แบ่ง 012
www.playground-mag.com
เวลอ่านหนังสือเอา อาจจะไปต่างประเทศ หาประสบการณ์ ใหม่ๆ มันส์ๆ อาจจะหาอะไรเรียนก่อน แต่ถ้าสำ�หรับคนอื่นๆ นะว่าก็ไม่ต้องเสียใจกับมันมาก ถ้าเลือกเรียนเอกชนได้ก็เรียน เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีที่เรียนดีๆ เยอะ
สงกรานต์นี้ถ้าไม่สาดน้ำ�กัน เราควรทำ�อะไร
จริงๆ ก็ยังอยากจะโดนน้ำ�อยู่นะ ถ้าไม่สาดกัน ก็ไปรดน้ำ� ผู้ใหญ่ค่ะ เพราะว่ามันร้อนมาก
คิดยังไงกับพวกที่ชอบโชว์ในวันสงกรานต์
จับเลย.. จะได้ไม่กล้าทำ� ถ้าเราปรับเขา หรือจับมาแป๊บเดียว แล้วก็ปล่อยเขาไป มันก็ง่ายๆ เขาก็ทำ�อีกสบายๆ นะว่าเขา ทำ�ให้คนต่างชาติมองว่าวัฒนธรรมไทยเป็นแบบนั้นไปค่ะ มันก็.. ไม่ค่อยดี
มีความทรงจำ�อะไรเด็ดๆ มั้ย จะจบ ม.6 แล้ว
ปกตินะเป็นคนเรียบร้อย..ฮาฮา (หัวเราะ) จริงๆ มันก็มีหลาย เรื่องนะคะ พวกนะชอบทำ�ให้ครูงอน จะได้ไม่เข้ามาสอน ถ้าเราคุยกันมาก ครูก็จะไม่ยอมออกมาสอน เราก็ช่วยกันคุย คุย คุย แล้วก็คุย.. ที่ผ่านมาเราก็จะได้เรียนกันน้อยมาก
อีกสิบปีข้างหน้าเราจะเห็นนะทำ�อะไร
อีกสิบปี.. นะก็คงทำ�งาน แต่ก็อยากจะเที่ยวรอบโลก แม่ก็สนับสนุนด้วยนะ แม่เคยดูทีวีแล้วมีสามีภรรยาคู่นึง เขาปั่นจักรยานไปรอบโลก แม่ก็เลยอยากให้เราไปบ้าง แต่คงไม่ต้องถึงกับปั่นจักรยานไป นะอยากไปอังกฤษ เพราะว่าชอบสำ�เนียงอังกฤษ แล้วก็อยากจะพาตัวเองไปอยู่ ในสภาพแวดล้อมแบบอังกฤษๆ มีจิบชงจิบชา..ฮาฮา (หัวเราะ) www.playground-mag.com
013
cover story ..
014
www.playground-mag.com
Toomtam ที่สำ�คัญก็คือ อย่าลืมที่จะเก็บเกี่ยว สิ่งต่างๆ รอบข้าง “ตูมตาม” ยุทธนา เบื้องกลาง
แนะนำ�ตัวกันหน่อยนะคะ
ผม ยุทธนา เบื้องกลาง ครับ ตูมตามครับผม มีผลงานละคร เวที เรื่องสี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล รวมไปถึงงานเพลงครับ ในอัลบั้มของตูมตามครับ
ตูมตามอยู่ที่นครสวรรค์ตลอดเลยใช่มั้ยคะ
ผมเป็นคนนครสวรรค์ครับ โตที่นั่น เรียนที่นั่น จนถึงจบ ม. 6
ตอนเด็กซนขนาดไหน ยิงนกตกปลา หรือว่า เป็นเด็กเรียบร้อย
ผมเป็นเด็กซน แต่ไม่เกเรนะ ผมจะชอบเล่นอะไรแปลกๆ อะไร ที่เด็กแถวนั้นเขาจะไม่ค่อยเล่นกัน เช่น ถ้าเด็กแถวนั้นเขา เตะบอลกัน ผมก็จะไม่ได้เตะครับ ผมจะไปปั่นจักรยาน ดาวน์ฮิลล์ครับ พวกจักรยานเอ็กซ์ตรีมอะไรแบบนั้น ตอนเด็กๆ คู่หูเป็นญาติกันนี่แหละ ไปไหนก็ไปด้วยกัน ซนทั้งคู่
มีวีรกรรมอะไรมันส์ๆ เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ
โฮ้ววว… มันส์สุดตอนเล่นดาวน์ฮิลล์นี่แหละครับ พวกเราสร้าง สนามเองเลย
เฮ้ย !!.. สร้างสนามเองได้ด้วยหรอ
ใช่ครับ.. มันจะมีพื้นที่ คือเวลาเล่นดาวน์ฮิลล์เนี่ยจะต้องใช้ สนาม หรือพื้นที่ๆ เป็นธรรมชาติจริงๆ ผมก็เอาเลย.. มันจะเป็นภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ หมู่บ้าน ที่พอจะเดินทางไปได้ ผมก็ปั่นจักรยานไปเลยครับ แล้วก็ไปสำ�รวจเส้นทางกัน จริงๆ แล้วมันคือเส้นทางของเกษตรกร คุณลุงคุณป้าเขาจะใช้กัน ทางเลาะป่าเพื่อขึ้นเขาน่ะครับ แต่ก็สามารถจะปั่นจักรยาน ไปได้ พอดูเส้นทางกันเสร็จแล้ว ก็เริ่มเล่นกันในสัปดาห์ต่อมา
เราก็ปน่ั ไป..ปัน่ ไป.. เผอิญว่าเป็นทางลง แล้วมันมีเนินกระโดดครับ ทุกครั้งผมกระโดดได้ ไม่มีปัญหาเลยผ่านฉลุย แต่คราวนี้.. กระโดดแล้วลอยสูงมาก มันคอนโทรลไม่อยู่ครับ แล้วทีนี้หน้า ผมไปฟาดกับต้นไม้เต็มๆ โอ้โฮ..โดนเต็มๆ เลยครับ
แล้วหน้าเป็ยังไงบ้างค่ะ
ก็หักเลยครับ.. ต้นไม้ครับ ต้นไม้หักเลย ต้นมันเป็นท่อน ประมาณแขน ฟาดเข้าไปเลย แล้วก็มีไม้มาปักอยู่ที่หน้าผมด้วย แต่ชิ้นไม่ใหญ่นะครับ ก็เลยไม่ได้เป็นอะไรมาก เจ็บพอสมควร ส่วนจักรยานผมพังยับไปเลยครับ.. ฮาฮา (หัวเราะ)
ตูมตามอยู่นครสวรรค์ตลอด แล้วทำ�ไมถึงได้มาประกวด เดอะสตาร์ ได้
ตอนแรกเลยผมอยากจะไปเวทีดัชชี่บอยครับ ประมาณตอน ม.5 ผมก็ได้รู้จากอาจารย์ที่โรงเรียนครับ อาจารย์ท่านเคย ทำ�งานในวงการบันเทิงมาก่อน แล้วก็กลับไปสอนที่นครสวรรค์ เหมือนกับว่าอาจารย์ท่านจุดประกายผม มาถามผมว่าอยากทำ� อะไรแบบนี้มั้ย.. แต่จริงๆ แล้วอาจารย์ท่านก็ไม่คิดเหมือนกัน นะครับว่าเด็กต่างจังหวัดจะอยากทำ�อะไรแบบนี้ด้วย ผมก็เลย เริ่มเล็งๆ พอรู้ข่าวว่าจะมีประกวดดัชชี่บอย ผมก็เลยอยาก ประกวดครับ ก็ไปหาข้อมูล แล้วมัวแต่ลีลาไปมา ก็เลยประกวด ไม่ทัน แต่ก็หาข้อมูลเรื่อยๆ รู้ว่ามีอีกเวที ก็คือ เดอะสตาร์ ผมก็เริ่มศึกษาดูว่าเขาทำ�ยังไง ต้องทำ�อะไรกันบ้าง ดูยูทูป ดูโน่นนี่ ก็..ยังไม่ได้ประกวดอยู่ดี ความจริงผมเป็นคนไม่ค่อย กล้าแสดงออก คุณพ่อก็บอกว่าถ้าอยากจะไปประกวดเดอะสตาร์ จริงๆ ขอร้องอย่างนึง..ให้ลองไปประกวดร้องเพลงที่เวทีงานวัด ได้มั้ย ไปลองดูก่อน คุณพ่ออยากรู้ว่าผมจะกล้าทำ�จริงๆ มั้ย www.playground-mag.com
015
ผมก็ไปเลยครับ ไปร้องเพลงลูกทุ่ง ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้ แสดงออก จากนั้นผมก็เข้ากรุงเทพ แต่ว่ายังไม่ได้ไปเดอะสตาร์ นะครับ ผมไปประกวด The Idol ของทางช่อง 3 ก่อน ที่ไป ประกวดครั้งนี้ ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ว่าจะเข้ารอบ หรืออะไรเลย คือผมแค่อยากรู้ อยากไปดูว่าเวลาเขาประกวด เขาออดิชั่นกัน มันเป็นยังไง รู้ว่ายังไงก็ไม่น่าจะได้อยู่แล้วล่ะครับ พอเริ่มเข้าใจ ก็ไปเดอะสตาร์ปีที่ 6 ผมมาที่ตึกแกรมมี่ก่อน เพราะเรารู้ว่า จะต้องรีบชิงใบสมัครให้ได้ คนเยอะมาก ก็โอเคได้ใบสมัครล่ะ พอออดิชั่นก็ตกรอบแรก..ฮาฮา (ทำ�หน้าเขิน)
ตูมตามว่า เพราะอะไรถึงตกรอบแรกปีนั้นค่ะ
อาจจะเป็นเพราะว่าความพร้อมในเรื่องของการร้องเพลง ภาพลักษณ์อะไรต่างๆ ของเรามันยังดูไม่พร้อม ยังเด็กเกินไป ด้วยครับ หลายๆ อย่างยังไม่โอเค ยังไม่เต็มที่ครับ พอที่ภาค กลางไม่ได้ ผมกลับไปท้อแป็บนึงสักสองอาทิตย์ ผมก็.. เอ๊ะ!! ยังมีโอกาส ไปภาคเหนือต่อดีกว่า ลองอีกก็ไม่ได้อีก ฮาฮา.. (หัวเราะ) ตกรอบก็ไปเที่ยวต่อเลยครับ แล้วผมก็ใช้เวลา ช่วงนัน้ เรียน ม.6 จนจบ หลังจากนัน้ ผมก็เข้ามาเรียนทีก่ รุงเทพครับ ที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
พอจบ ม. 6 แล้วตูมตามวางแผนเรื่องเรียนต่อไว้ว่ายังไง
ช่วงนั้นผมมัวแต่มาตามการออดิชั่น การประกวดต่างๆ ก็ไม่ค่อย 016
www.playground-mag.com
พวกเราเห็นเขาวิ่งตาม ผมขนลุกเลย ถึงกับน้ำ�ตาไหล.. แล้วแบบ เฮ้ย!! การที่มีคนมาเชียร์ มันรู้สึกแบบนี้ใช่มั้ย มันปลื้มมากเลยครับตรงนั้น ได้อ่านหนังสือ แล้วก็ไม่ได้สอบ GAT/PAT ด้วยครับ ของผม เป็นปีแรกที่ต้องสอบ แล้วพอไม่มีคะแนน GAT/PAT ก็เลย เอนทรานซ์ไม่ได้ ผมก็ดูมหาลัยเอกชนครับ พอดีที่เกษมบัณฑิต เขามีทุนในเรื่องของการร้องเพลงด้วย ผมก็ไปสอบทุน ปรากฎว่า ไปได้ทุนประเภทเรียนฟรี ผมก็เลยเข้าไปเรียน ได้เป็นนักร้อง ของมหาวิทยาลัย แล้วก็ได้เข้าชมรมร้องเพลง ทำ�กิจกรรม ตลอด ตอนแรกผมเข้าไปเรียนคณะสถาปัตยกรรม สาขา Interior design พอเราทำ�กิจกรรมของมหาลัยเยอะ มันก็หนักครับ ไม่ไหวละ คณะสถาปัตย์ฯ ต้องทำ�โปรเจคเยอะ มีงานตลอด ผมก็เลยคิดว่า ถ้าเราไม่มีเวลาเราเรียนนิเทศน์ดีกว่า ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ เพราะผมคิดว่าการประชาสัมพันธ์มันมีอยู่ในทุกๆ แขนงงาน
หลังจากตกรอบเดอะสตาร์ปีก่อนหน้า ตูมตามมีการ เตรียมตัวหรือซุ่มซ้อมอะไรเพิ่มเติมบ้างไหม สำ�หรับ ปีต่อมา
สืบเนื่องมาจากฝึกซ้อมร้องเพลงของที่มหาวิทยาลัย มันมีผล อย่างมากเลยครับ เพราะว่าพอเราได้ขึ้นเวทีบ่อยขึ้น มันก็ฝึก ความกล้าของเราไปเรื่อยๆ จนมาถึงเวทีเดอะสตาร์ จริงๆ วันที่ ผมมาประกวดเป็นวันที่ผมไม่ได้นอน คือคืนนั้นเป็นวันเกิดของ คุณแม่ของเพือ่ นครับ เราก็ไปกินอวยพรกัน ผมก็คดิ ว่าถ้านอนเนีย่ คงจะตื่นไม่ไหวแน่ๆ สักประมาณตีสี่ก็ออกมากับเพื่อน มานั่ง รอที่ตึกแกรมมี่ แต่ว่าปี 7 เนี่ย ผมไม่ค่อยได้หวังอะไร ก็คือมากัน สนุกๆ มาแบบง่วงๆ กันน่ะครับ ตอนนั่งรออยู่มีการถ่ายวีดีโอ เล่นกับเพือ่ นด้วยนะว่า “ดีใจจังเลยครับ ผมเข้ารอบแปดคนแล้ว” ฮาฮา (หัวเราะเสียงดัง) คือไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ ครับตอนนั้น ว่าตัวเองจะต้องได้ ก็สนุกๆ กับเพือ่ นไป พอเข้าไปออดิชน่ั รอบแรก พี่ๆ เขาให้ร้องหลายเพลงเลย พอออกมาพี่เขาก็ประกาศให้เรา เหลืออยู่จากสิบคนที่เข้าห้องออดิชั่นด้วยกัน ผมก็ไม่รู้ว่าต้อง ทำ�อะไรต่อ ก็งงๆ เขาให้เข้าไปอีกห้อง แล้วพี่เขาก็จะดูผ่านจอ ผมก็งง เพราะว่าไม่เคยผ่านเข้าถึงรอบนี้ ไม่เคยเจอแบบนี้ แต่ก็แบบ เริ่มมีลุ้นเว้ย!! ฮาฮา (หัวเราะ) วันนั้นกลับไปก็รอฟัง ผลครับ แต่จนขณะนั้นผมก็ยังไม่คิดว่าจะติดนะครับ เขาให้ทำ� อะไรเราก็ทำ�หมด พอมาดูผล.. ผมก็ไม่ได้รีบอะไร คนอื่นวิ่งไป
ต่อแถวดูผล ผมยังนั่งเล่นอยู่ข้างล่าง ผมนั่งจนไม่มีคนแล้วครับ ก็ค่อยเดินไปดูที่ป้าย อ่านๆ ดู อ้าว..มีชื่อเราด้วย!! ทุกคนเขา ขึ้นมารอรายงานตัวกันหมดแล้ว
ช่วงเวลาไหนที่เราประทับใจที่สุด ตั้งแต่เข้ามาประกวด
แรกเลยครับ..!! ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนก็คือ การมีแฟนคลับ วันนั้นเป็นวันที่เราต้องไปแถลงข่าวเปิดตัว จากนัน้ ก็ตอ้ งไปทีช่ อ่ ง 9 ต่อ พีก่ วางเขาเคยประกวดเวทีอน่ื มาก่อน และก็จะมีแฟนคลับที่ตามเชียร์เขาอยู่แล้ว วันนั้นพอสัมภาษณ์ รายการเสร็จ แฟนคลับพี่กวางก็วิ่งถือป้ายไฟมาด้วย พวกเรา เห็นเขาวิ่งตาม ผมขนลุกเลย ถึงกับน้ำ�ตาไหล.. แล้วแบบ เฮ้ย!! การที่มีคนมาเชียร์ มันรู้สึกแบบนี้ใช่มั้ย มันปลื้มมากเลยครับ ตรงนั้น แล้วก่อนจะขึ้นรถตู้ มีน้องคนนึงวิ่งมาบอกว่า “พี่ตูมตาม หนูเชียร์พี่อยู่นะ..” มันเป็น moment เล็กๆ ที่มีความสุขครับ
moment
ช่วงนี้เวลาว่างๆ ตูมตามชอบทำ�อะไรคะ ได้ขี่จักรยาน เหมือนเดิมไหม
ถ้าจะให้เอ็กซ์ตรีมเหมือนเมื่อก่อนก็คงจะไม่แล้วครับ เพราะว่า ไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น ตอนนี้ถ้าจะว่างหน่อยก็คงจะเป็นช่วง ดึกๆ สี่ทุ่ม ห้าทุ่ม ผมชอบไปเดินถ่ายรูปเล่นตามสนามหลวง หรือว่าตามตลาดของมือสองครับ
ตูมตาม Reccommend หนังสือ
ความสุขของกะทิ • ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน
ภาพยนตร์
รักสามเศร้า • National Treasure
เพล
เหงา คิดถึง รอ • เล่าสู่กันฟัง www.playground-mag.com
017
ผมอยากเป็นจิตรกร ผมชอบงานศิลปะ มาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็จะโดนว่าตลอด ว่าจะไปเป็นทำ�ไมศิลปินไส้แห้ง แต่ผมว่ามันคงจะมีความสุขดีนะครับ ได้นั่งเพ้อๆ ของผมไป.. ตูมตามถ่ายรูปมานานหรือยังคะ
ผมเริ่มชอบตั้งแต่ตอนปีหนึ่ง อาจจะเพราะว่าได้เรียนด้วย มันสนุกดี เราสามารถเก็บอารมณ์ เก็บความรู้สึก เก็บอะไรไว้ ได้หลายๆ อย่างเลยครับตอนถ่ายรูป
ของสะสมของตูมตามคืออะไรค่ะ
ผมชอบแว่น กับรองเท้าครับ Sneaker บ้าง รองเท้าหนังบ้าง Converse บ้าง ส่วนแว่นเนี่ย ก็ไม่ได้จะต้องแพงอะไร บางที ผมไปเที่ยวแล้วเจอ ก็ซื้อ ไปหัวหินชอบก็จะซื้อเก็บไว้ มันดู กวนๆ ดีครับ ถ้าอันไหนถูกใจก็ซื้อเก็บ
เคยวาดภาพตัวเองเป็นอย่างอื่นมั้ยค่ะ ถ้าวันนี้เราไม่ได้ เห็นตูมตามเป็นนักร้อง นักแสดง เราจะเห็นตูมตามทำ�อะไร
ถ้าสิ่งที่ผมอยากทำ�จริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือเปล่านะ ก็คือ ผมอยากเป็นจิตรกร ผมชอบงานศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็จะโดนว่าตลอด ว่าจะไปเป็นทำ�ไมศิลปินไส้แห้ง แต่ผมว่า มันคงจะมีความสุขดีนะครับ ได้นั่งเพ้อๆ ของผมไป..ฮาฮา (หัวเราะ) ถ้าที่มหาวิยาลัยมีให้ผมเรียนจิตรกรรม ผมก็คงเรียน แล้วครับ แต่ก็อ่ะสถาปัตย์ฯ ก็ได้ เพราะว่ายังเป็นแนวๆ นี้อยู่ แต่ก็เรียนไม่ไหว ต้องเปลี่ยนคณะมาเป็นนิเทศน์ ซึ่งก็ยัง พยายามเลือกที่เป็นแนวนี้ครับ
แล้วเคยได้มีโอกาสไปเรียนวาดรูปบ้างมั้ยคะ
เคยได้เรียนนิดหน่อยครับ แต่ว่าได้เรียนตอนบวชเณรนะ พระอาจารย์ที่ผมนับถือ ท่านจบจิตรกรรมมาจากเพาะช่าง ท่านก็จะสอน ตอนนั้นเป็นเณร แต่ว่าติสท์มาก..ฮาฮา (หัวเราะ) ก็ทำ�จนฝันอยากจะเรียนเลยครับ
มีคำ�แนะนำ�อะไรอยากฝากถึงคนที่เขาดูตูมตาม เป็นแบบอย่างอยู่มั้ยคะ
ครับ.. ก็อยากฝากเกี่ยวกับเรื่องของความคิดครับ ในการเรียน หรือว่าจะทำ�อะไรก็ตาม บางทีเราจะมัวแต่กังวลว่าต้องเรียน ให้เก่งต้องทำ�คะแนนให้ได้ดีที่สุด คือผมว่าให้เราทำ�เต็มที่ เท่าที่จะทำ�ได้ ณ เวลานั้นๆ และที่สำ�คัญก็คืออย่าลืมที่จะ เก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆ รอบๆ ข้างบ้างนะครับ
018
www.playground-mag.com
www.playground-mag.com
019
showing out ..
020
fashion photo
www.playground-mag.com
ชื่อผลงาน แนวคิด
Trend Circle แฟชั่นเป็นสิ่งที่เย้ายวน ฉาบฉวย น่าค้นหา แต่แฟชั่นก็เข้ามาและจากไป อย่างรวดเร็ว มีลักษณะเป็นวัฎจักรที่หมุนวนกลับไปมาอยู่ตลอดเวลา การวิ่งไล่ตามวัฎจักรของแฟชั่น อาจส่งผลเสียต่อผู้นั้นอย่างไม่รู้ตัว
ชื่อ สถาบัน ติดต่อ ชื่อ สถาบัน ติดต่อ
สุชาดา ชลายนต์ (อุ้ย) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และวีดีโอ de.aui@hotmail.com ชาติชาย บำ�รุงธรรม (อัพ) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาถ่ายภาพ upstopia@hotmail.com
ผลงานที่เกิดจากความตั้งใจนี้ อาจมีบางคนเคยเห็นหรือผ่านตามาบ้าง เพราะน้องๆ ทั้งสองคนทำ�ผลงานออกมาเพื่อแสดงงาน ร่วมกับเพือ่ นๆ ที่ Central World เมือ่ ไม่นานมานี้ สิง่ ทีบ่ ง่ บอกกับ Playground Magazine จากการพูดคุยกัน ตอบโจทย์คอลัมส์น้ี อย่างถูกต้อง หนึ่งคือ งานนั้นไม่จำ�เป็นที่จะต้องเป็นงานรางวัลหรือทำ�เพื่อส่งอาจารย์เท่านั้น สองคือ ตัวงานแสดงออกมาถึงความตั้งใจ และแนวคิดที่ชัดเจน เรามองเห็นบางสิ่งที่ขับเคลื่อนเขาทั้งสองให้ทำ�งานชิ้นนี้ออกมา ไม่ใช่เกรด ไม่ใช่รางวัล แต่มันคือสิ่งที่พวกเขาบอกว่า “โคตรเสียดายถ้าไม่ได้ทำ�” งานนี้มีที่มาที่ไปยังไงค่ะ
อุ้ย : เริ่มจากเขามีพื้นที่มาให้เราจัดแสดงงานค่ะ พอดีเพื่อนที่อยู่นิเทศน์ เขารู้จักกับพี่ที่นั่น ก็เลยมาถามๆ กันว่าอยากจะทำ�งานแสดงมั้ย จะไม่ ได้บังคับว่าต้องทำ�ค่ะ แล้วแต่เลยว่าใครอยากทำ�
อะไรอย่างนี้ครับ มันเหมือนเป็นวัฏจักร งานของเราก็เลย ชื่อว่า “Trend Circle”
ทำ�ไมอัพกับอุ้ยถึงเลือกที่จะทำ�งานนี้ด้วยกัน
อุ้ย : อุ้ยคิดว่า Fast Food Fast Fashion จะเอาอะไรมาทำ�ดี ถ้าเป็นผ้ามันก็ทั่วไปก็ไม่น่าจะเวิร์ค ก็เลยคิดถึงกระดาษค่ะ มันเป็นสิ่งไม่คงทน เหมือนแฟชั่น ก็สรุปกันที่เปเปอร์มาเช่ค่ะ
อุ้ย : คงเป็นเพราะว่าเราก็ช่วยงานกันเป็นปกติอยู่แล้วมั้งค่ะ อัพ : ใช่ครับ เวลาผมต้องถ่ายงาน อุ้ยก็จะมาช่วยดูเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม อยู่แล้วครับ ทำ�งานด้วยกันมาตลอด พอมีโปรเจคนี้มาเราก็เลยทำ�ด้วยกัน สนิทกันอยู่แล้วครับ คุยกันรู้เรื่อง
ขั้นตอนในการทำ�งานเป็นยังไงบ้าง
อุ้ย : ตอนแรกเราจะคุยกันก่อน คนที่จะทำ�งานนี้ทั้งหมดมาคุยกันก่อน และก็หาคอนเซปต์ร่วมกัน แล้วอัพก็เสนอว่าเป็น Fast Food ทุกคน ก็โอเค เพราะว่ามันเล่นได้เยอะ จากนั้นทุกคนก็เอาไปตีโจทย์เอง แล้วแต่ว่าจะตีโจทย์ยังไง และจะทำ�งานอะไร อัพ : พอลงตัวแล้ว เราก็ค่อยๆ list ออกมาว่าอยากจะมีอะไรในภาพบ้าง ภาพมันจะเป็นยังไงบ้าง แล้วเราก็แบ่งหน้าที่กัน อุ้ยก็จะดูแลในส่วนของ คอสตูม ผมก็จะดูพวกพร็อพต่างๆ อย่างเช่นในภาพจะต้องมีโซฟา แบบนี้ๆ ผมก็จะสั่งทำ�โซฟาขึ้นมา อีกภาพต้องมีรถ ก็ไปติดต่อขอยืมกัน มาครับ จากนั้นเราก็ลงมือถ่ายจริง ขั้นตอนต่อไปก็ต้องจัดการกับภาพ ที่ถ่ายมาแล้วก็ปริ้นต์ครับ
ได้ ไอเดียนี้มายังไง
อัพ : ตอนนั้นผมก็คิดถึงความเป็นแฟชั่นครับ ผมว่า Fast Food กับ Fashion มันก็คล้ายๆ กันนะ Fast Food มันดูน่าตื่นเต้น อาหารมันสวย วิธีการโปรโมทมันดี เวลาเรากินรสชาติมันก็ดีกว่าอาหารเพื่อสุขภาพ อยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วมันเป็นโทษต่อร่างกาย ส่วน Fashion ก็เหมือนกัน มาใหม่ๆ แน่นอนมันน่าตื่นเต้นอยู่แล้ว เวลาเราไปซื้อ เราเสพมันอยู่ ก็จะรู้สึกว่าเราอินเทรนด์ เราจะรู้สึกดี แต่สุดท้ายถ้าเรามัวแต่ตามแฟชั่น มันก็จะเดือดร้อนตัวเรา ก็เหมือนกับโดนแฟชั่นลงโทษ
ชุดที่ทำ�ออกมาทำ�ไมต้องเป็นกระดาษ
ส่วนที่ยากที่สุดของการทำ�งาน
อัพ : น่าจะเป็นส่วนของการเตรียมพร็อพนะครับ บางอย่างที่ อยากได้มันไม่มี หรือแพงเกินไป ก็ต้องเปลี่ยน เอาที่ทดแทนได้ อุ้ย : ของอุ้ยน่าจะเป็นส่วนของชุดนี่แหละค่ะ สเก็ตมาเยอะมากๆ แล้วก็มาดู มานั่งคุยกัน.. อันนี้ยังไม่ได้ๆ ก็ต้องสเก็ตใหม่ลองดู หลายๆ แบบ
มี Reference กันมั้ย ว่าประมาณไหน
อัพ : ของผมคือ ช่างภาพ Annie Leibovitz ครับ อุ้ย : อุ้ยก็มีค่ะ ไปดูในห้องสมุด เขาทำ�แฟชั่นโชว์เป็นเปเปอร์ มาเช่นี่แหละค่ะ แต่อุ้ยจำ�ชื่อเขาไม่ได้ค่ะ
หลังจากทำ�งานชิ้นนี้แล้ว รู้สึกยังไงบ้าง
อุ้ย : ตอนแรกก็รู้สึกว่างานเราก็ดีนะ แต่พอผ่านไป เห็นงาน เยอะขึ้น ก็แอบๆ เขินค่ะ เหมือนแบบ..ทำ�อะไรไปเนี๊ยะ ฮาฮา (หัวเราะ) แต่ดีนะคะ เพราะมันคือประสบการณ์ของเรา อัพ : ผมรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ทำ�โคตรเสียดายเลย การที่จะมีโอกาส รับผิดชอบงานที่ scale ใหญ่แบบนีต้ อนเรียนอยูม่ นั หาได้นอ้ ยมาก ต่อให้เราทำ�สุดฝีมือแล้ว ผลงานที่ออกมาไม่ได้ดีอย่างที่เราหวัง อย่างน้อยเราก็ได้ลอง ได้ฝึก ได้สัมผัส ส่งผลงานได้ที่ playgroundinmagazine@gmail.com www.playground-mag.com
021
know more ..
ตั๊ก
สุชาดา พยุงเจริญ โบราณคดี ปี 2 เอกภาษาฝรั่งเศส ค่ะ
บอล
วีระชัย เรือนพิมพ์ โบราณคดี ปี 2 เอกภาษาฝรั่งเศส ด้วย..
มะเหมี่ยว
วีนัส อยู่ดี โบราณคดี ปี 2 เอกภาษาฝรั่งเศส ด้วยค่ะ HISTORY OF ARTS 1400-2012
022
www.playground-mag.com
Faculty of
Archaeology
Silpakorn University • คณะโบราณคดี • มหาวิทยาลัยศิลปากร
คณะโบราณคดีมีสาขาอะไรบ้างค่ะ
เตรียมตัวสอบกันยังไงบ้าง
บอล : ภาควิชาโบราณคดี ภาควิชามานุษยวิทยา ภาค บอล : ของบอลจะสอบตรงก่อน วิชาประวัตศิ าสตร์ศลิ ปะ ภาควิชาภาษาตะวันออก ภาค ตั๊ก : ของตั๊กจะเน้นเข้าฝรั่งเศสเลย ก็เลยต้องไปสอบ วิชาภาษาตะวันตก ก็จะมีภาษาอังกฤษและภาษาฝรัง่ เศส PAT 7 ใช้คะแนนภาษาฝรั่งเศสอย่างเดียว ก็เข้าเลยค่ะ มะเหมี่ยว : บางสาขาก็จะเอา GAT ด้วยค่ะ แต่ไม่มีติว ทำ�ไมถึงเลือกเรียนคณะนี้คะ เฉพาะเข้าที่นี่นะคะ ก็คือต้องอ่านหนังสือกันปกติ ตั๊ก : จริงๆ ตั๊กชอบภาษาค่ะ ตอนแรกก็ดูคณะอักษรไว้ แต่เพื่อนมาแนะนำ�ว่ามีคณะโบราณด้วยนะ ที่ศิลปากร พอได้เข้ามาเรียนแล้ว เป็นอย่างที่คิดไว้มั้ย และก็ไม่ได้เรียนแค่โบราณอย่างเดียว ก็จะได้เรียน บอล : ช่วงแรกๆ มันก็เบาหน่อย พอหลังๆ ก็เริ่มจะมี ภาษาด้วย แล้วก็เน้นการสื่อสารด้วย สามารถเอาไปใช้ งานเยอะขึ้น ได้จริง ตั๊กก็เลยลองมาสอบตรงค่ะ ก็ปรากฎว่าได้ ตั๊ก : งานจะเริ่มเยอะค่ะ แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นงานทั้งหมด บางทีก็ต้องอ่านหนังสือเยอะค่ะ ฮาฮา (หัวเราะเขินๆ)
สอบตรงอย่างเดียวหรือเปล่า
บอล : มีสอบตรงด้วย แล้วก็ยื่นคะแนนกลางก็ได้ด้วย มะเหมีย่ ว : ส่วนหนูอยากเข้าศิลปากรอยูแ่ ล้วค่ะ จริงๆ หนูคิดเอาเองว่ามันน่าจะสบายๆ.. ฮาฮา (หัวเราะ) หนูกไ็ ปดูวา่ คณะนีต้ อ้ งเรียนทีไ่ หน ก็โอเคเรียนทีท่ า่ พระ ยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ หนูจะได้กลับบ้านได้ ไม่ต้องอยู่หอ แล้วหนูก็ไปดูกลักสูตรของคณะ ก็รู้ว่าที่นี่เน้นการฟัง พูด เขียน อ่าน มันไม่ต้องเน้นวรรณกรรมเยอะ ก็เข้า ทางหนักเลย!! ก็เลยเลือกเรียนที่นี่แหละ ใช่ล่ะ บอล : บอลรู้จักคณะนี้จากอาจารย์ที่โรงเรียน ท่านจบ จากคณะนีด้ ว้ ย อาจารย์บอกว่าถ้าอยากเรียนเพือ่ จะไป เป็นไกด์ทัวร์นำ�เที่ยว ก็น่าจะเหมาะกับที่นี่ เพราะเรา จะได้เรียนศิลปะไปด้วย
Renaissance (1400–1550)
รับน้องเป็นยังไงบ้าง โหดไหม
ตั๊ก : โหดค่ะ ว๊ากก็มีค่ะ ฮาฮา (หัวเราะ) มะเหมีย่ ว : คือมันจะเเหนือ่ ยมากค่ะ เราต้องไปรับน้อง ทุกที่เลย สนามจันทร์ก็ไป เพชรบุรีก็ไป บอล : นั่งรถไฟฟรี อะไรแบบเนี๊ยะ แล้วก็ไม่มีน้ำ�กิน!! ฮาฮา (หัวเราะ) ตั๊ก : มันเหนื่อย เหนื่อยมาก โหดๆ น่ะค่ะ แต่ว่าก็สนุก มากเหมือนกันนะคะ บอล : ใช่ๆ แล้วก็ได้รู้จักคนเยอะด้วย รู้จักกันหมด มะเหมื่ยว : เขาจะเน้นให้ทำ�กิจกรรมร่วมกันค่ะ
Mannerism (1527–1580)
แล้วมีโอกาสเจอกับเพื่อนๆ มหาลัยอื่นบ้างมั้ย
บอล : จะมีการชนช้างกัน
ชนช้างเลยหรอ..
บอล : ฮาฮา (หัวเราะ) มันคือการเอาน้องปีหนึ่งคณะ เรากับน้องปีหนึ่งของคณะอื่น ก็ไปร้องเพลงแข่งกัน เหมือนเชียร์โต้กัน มะเหมีย่ ว : ก็จะได้ไปเจอกับทีน่ ครปฐมด้วย ทีเ่ พชรบุรี ด้วย คือเราจะยกไปกันหมดค่ะ
แล้วใครกำ�หนดค่ะ ว่าจะต้องชนช้างกับใคร
ตัก๊ : ก็จะเป็นรุน่ พีค่ ะ่ คือเหมือนเขารูจ้ กั กันประมาณนัน้ ก็เลยจับไปชนช้างกัน
ศิลปากรก็มีคณะอักษรด้วยใช่มั้ย ทำ�ไมไม่เลือก ด้านภาษาโดยตรงเลยล่ะ
มะเหมีย่ ว : คณะโบราณ เราสามารถจะเรียนภาษา แล้ว ก็เรียนศิลปะด้วยค่ะ ตั๊ก : แต่ของอักษร เขาจะเน้นที่งานเขียน ที่ภาษา คือ แบบอักซ้อน..อักษรเลยค่ะ เราอาจจะเรียนวิชาโทเป็น ศิลปะได้ พวกประวัติศาสตร์ศิลปะ
Baroque (1600–1750)
Neoclassical (1750–1850) www.playground-mag.com
023
วิชาโทคืออะไร
บอล : คือวิชาเลือก เราต้องเลือกเรียนเพื่อจบ เหมือน เป็นบังคับว่าทุกคนต้องเรียนวิชาโทนะ แต่เลือกได้ มะเหมี่ยว : ก็คือว่าอย่างเราอยู่สาชาภาษาฝรั่งเศส เราก็จะมีวิชาเอกของสาขาเรา แต่ในส่วนของวิชาโท เช่ น ถ้ าเราสนใจวิ ช าของเอกสาขาภาษาตะวันออก ก็ไปเลือกวิชาของเขา มาเป็นวิชาโทของเราค่ะ แล้วเขา ก็สามารถจะเลือกวิชาเอกของฝรัง่ เศส เป็นวิชาโทของ เขาได้ค่ะ
แล้วปีสองล่ะคะ เรียนอะไร
เราสามารถไปฝึกงานประเภทไหนได้บ้าง
ตั๊ก : ส่วนมากก็จะลงวิชาเอกของตัวเองกันแล้วค่ะ มะเหมี่ยว : ทุกอย่างเลยค่ะ อะไรก็ตามที่ต้องใช้ภาษา แล้วก็วิชาโทด้วย ฝรั่งเศส บอล : จริงๆ ก็ไม่ได้บังคับว่าจะต้องฝึกงานนะ แต่วิชา วิชาที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์นี่ เราต้องเรียน เรียนของปีสจี่ ะน้อย อาจารย์กจ็ ะแนะนำ�ว่ามีที ไี่ หนบ้าง ย้อนไปถึงตรงไหน ที่เปิดรับ ก็จะให้ไปฝึกดู มะเหมี่ยว : เรียนกันไปตั้งแต่ยุคหินเลยค่ะ ตั๊ก : บางคนไม่ฝึกงาน ก็จะเก็บวิชาที่เขายังไม่เรียนค่ะ บอล : ปีสามก็จะต้องเรียนวิชาเอกเหมือนกัน แล้วก็ จะมีวชิ าโท คือปีสามน่าจะยากทีส่ ดุ เพราะว่าจะยิง่ เจาะ ก่อนจบต้องทำ� “วิทยานิพนธ์” มั้ยค่ะ ยิง่ เน้นในวิชาเอกของตัวเองมากขึน้ แต่ทกุ ๆ ปีกจ็ ะต้อง บอล : ถ้าเป็นสาขาภาษาต่างประเทศก็ไม่ต้องทำ� แต่ แล้ววิชาที่เกี่ยวกับศิลปะเราได้เรียนอะไรบ้าง จะเป็นแค่การสรุปเล็กน้อยๆ ของทีเ่ รียนมา แต่เอกอืน่ มีวิชาโทด้วย มะเหมื่ยว : จะเป็นพวกประวัติศาสตร์ศิลปะ เรียนว่า ตั๊ก : พอปีสี่วิชาเรียนก็จะน้อยลง และก็เริ่มออกไป อย่างโบราณคดี ประวัตศิ าสตร์ศลิ ปะ มนุษยวิทยา และ ศิลปะนี้อยู่ยุคนี้นะ เช่นศิลปะไทย มีสมัยไหนบ้าง ฝึกงานข้างนอกกันแล้วค่ะ จะไม่ค่อยได้เข้ามหาลัยกัน ก็ภาษาตะวันออก ต้องทำ�วิทยานิพนธ์ สุโขทัย อยุธยา ล้านนา ทวาราวดี
จะได้แยกสาขาตั้งแต่เข้ามาปีแรกแล้วหรอค่ะ
บอล : สี่ปี
คณะโบราณต้องเรียนทั้งหมดกี่ปีค่ะ
ตั๊ก : ใช่ค่ะ เข้ามาก็แยกเลยค่ะ เหมือนกะมาเลือกเอก นี้โดยตรงเลย
ปีหนึ่งเรียนอะไรกันบ้างค่ะ
หนึ่งสาขา มีนักศึกษาประมาณกี่คนค่ะ
ตัก๊ : ปีหนึง่ จะเน้นวิชาเลือกก่อน เพือ่ จะให้เก็บให้หมดก่อน มีพวกวิทยาศาสตร์บา้ ง มนุษย์ สังคม และก็พวกศิลปะ ก็เป็นการบังคับเลือกคะ คือจะไม่เรียนก็ไม่ได้ บอล : ปีหนึ่งเนี่ย วิชาเอกจะน้อย ก็เลยต้องเก็บพวก วิชาเลือกก่อน
Romanticism (1780–1850)
024
Realism (1848–1900)
www.playground-mag.com
มะเหมี่ยว : ประมาณห้าสิบคนค่ะ
Impressionism (1865–1885)
Post-Impressionism (1885–1910)
Fauvism and E (1900–
แต่ละสาขาเขาเน้นอะไรบ้าง
แล้วถ้าว่ายน้ำ�ไม่เป็นทำ�ยังไงคะ ขอไม่ลงน้ำ�ได้มั้ย
บอล : ก็อย่างของฝรั่งเศส จะเน้นฟัง พูด เขียน อ่าน ตั๊ก : เขาจะมีให้ไปฝึกค่ะ ฝึกว่ายน้ำ� ฝึกดำ�น้ำ�เลย แล้วก็อารยธรรม ให้รู้วัฒนธรรมเขา มะเหมี่ยว : สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ก็จะคล้ายกับของ แล้วกิจกรรมอืน่ ๆ ล่ะ เราทำ�กิจกรรมอะไรกันบ้าง มะเหมี่ยว : มีค่ะมี มีค่าย “Réalise ton rêve” ฝรั่งเศส แต่จะเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ตัก๊ : ภาษาไทย จะได้แกะจารึกค่ะ ต้องเรียนพวกภาษา แปลว่า “ทำ�ความฝันของคุณให้เป็นจริง” เราจะให้ น้องๆ มัธยมปลายทีส่ นใจคณะนี้ เข้ามาร่วมกิจกรรมดู บาลี เรียนเขมรด้วย เพราะว่ามีอิธิพลต่อภาษาไทย บอล : ของมนุษยวิทยา ก็จะเรียนเกี่ยวกับต้นกำ�เนิด การเรียนการสอน จะเป็นค่ายสองวัน เสาร์และอาทิตย์คะ่ ของมนุษย์ เน้นสังคมและวัฒนธรรม ทฤษฎีจะเยอะมาก เขาจะได้รู้ว่าใช่กับสิ่งที่เขาอยากเรียนหรืือเปล่า เรียนกันตั้งแต่เป็นลิงเลย พอทำ�วิทยานิพนธ์ ก็จะทำ� ตั๊ก : แล้วก็จะมีกิจกรรมอื่นๆ ของมหาลัยค่ะ เช่น งานอาจารย์ศิลป์ แล้วก็งานกิ๊ฟ เราก็จะทำ�หน้าที่หลัก เกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์อะไรแบบนั้น มะเหมี่ยว : สำ�หรับประวัติศาสตร์ศิลปะ จะเป็นพวก เลยค่ะ คือมาร่วมงาน..ฮาฮา (หัวเราะ) แล้วก็จะมีฉาย รูปแบบศิลปะของแต่ละยุค แต่ละสมัย จะมีของฝั่ง หนังกลางแปลงค่ะ ตะวันออก คือประเทศไทย อินเดีย ศิลปะชวา จีน มี บอล : แล้วก็มงี าน Freshy Game เราก็ตอ้ งเข้าร่วมด้วย ญี่ปุ่น เกาหลีด้วยค่ะ และก็ของฝั่งตะวันตก จะเน้นให้ จะไปแข่งกีฬาง่ายๆ วิเคราะห์ ประมาณว่าทำ�ไมถึงเป็นรูปแบบนี้ แนวคิด กีฬาง่ายๆ นี่อะไรค่ะ เขาคืออะไร ตั๊ก : สาขาโบราณคดีเลยเนี่ย จะได้เรียนเกี่ยวกับ บอล : ชักกะเย่อ..!! โบราณคดีแบบตรงๆ จะต้องขุดค้น วิเคราะห์ เขาจะ เด็กคณะนี้เขาปักหลักกันตรงไหนบ้างค่ะ ได้ลงพื้นที่ซะมากกว่า บางทีไปเป็นเดือนเลย มะเหมี่ยว : ก็ตรงนี้เลยค่ะ (เราพูดคุยกับน้องๆ ที่หน้า เดี๋ยวนี้ในประเทศไทยยังมีที่ให้ขุดอีกเหรอ ตึกคณะโบราณฯ) เดินข้ามหาลัยมาก็เจอคณะเราเลย บอล : มีๆ ยังขุดอยู่นะ แล้วจะมีโบราณคดีใต้น้ำ�ด้วย เหมือนเป็นโต๊ะทีอ่ ยูห่ น้าตึกเรียนของเราด้วย ก็เลยปัก จะต้องไปดำ�น้ำ�ดูซากเรือ หลักกันแถวๆ นีเ้ ลยค่ะ และถ้าออกไปกินข้าวข้างนอก ก็ต้องร้านลุงเน่ห์เลยค่ะ อยู่ตรงท่าช้าง
Expressionism –1935)
Cubism, Futurism, Supremativism, Constructivism, De Stijl (1905–1920)
Dada and Surrealism (1917–1950)
ฝากอะไรถึ ง น้ อ งๆ ที่ ส นใจจะเข้ า มาเรี ย นที่ นี่ หน่อยค่ะ
บอล : อย่างแรกก็ต้องเตรียมตัวก่อนเลย เตรียมอ่าน หนังสือ และถ้าเขามีกจิ กรรมอะไรก็อาจจะลองมาร่วม เพราะว่าจะได้รู้สึกคุ้นชิน และก็จะได้มีประสบการณ์ ได้รู้จักคณะมากขึ้น จะได้รู้ว่าต้องเตรียมยังไงบ้าง สำ�หรับแต่ละสาขา มะเหมี่ยว : ให้ตั้งใจเรียน ทำ�เกรด ม.ปลายให้ดีๆ เพราะบางวิชาต้องเอามายื่นด้วยค่ะ ตั๊ก : ให้ดูว่าตัวเองชอบอะไร แล้วก็ตั้งใจมาเลย จะได้ ไม่เสียเวลา.. อ่านมาถึงตรงนี้ เชือ่ ว่าน้องๆ ทีส่ นใจก็นา่ จะได้ขอ้ มูล ไปบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ส่วนใครที่อยากให้เราไป บุกคณะไหน หรือไปลุยกิจกรรมของมหาลัยอะไร งาน กีฟ๊ งานแต๊งค์ งานอาร์ตสตรีท บอกผ่านมาทาง E mail ได้เลยนะคะ หรือจะเป็นกิจกรรมที่คุณจัดขึ้น แล้วคิดว่า มันเจ๋งมาก! ก็ได้ค่ะ เราอยากไปดูให้เห็น กับตาว่า กลุ่มของคุณ “เจ๋ง” จริงหรือเปล่า
Abstract Expressionism Postmodernism And (1940s–1950s) and Pop Art Deconstructivism (1970 – ) 025 www.playground-mag.com (1960s)
Le cordon bleu ..
เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญตราชั้น สูงนี้ จึงต้องมีการจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างเอิกเกริก มีการ ระดมพ่ อ ครั ว ผู้ มี ฝี มื อ อั น เป็ น เลิ ศ มาปรุ ง อาหารมื้ อ สุ ด พิเศษ โดยการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างละเมียดละไม ก่อนที่ จะนำ�มาปรุงอาหาร รวมไปถึงเครื่องดื่มและเมรัยต่างๆ อย่างพิถีพิถัน เพื่องานฉลองครั้งนี้ ดังนั้นเมื่อใดที่เอ่ยชื่อ เลอ กอร์ดอง เบลอ ขึ้นมา ก็จะเป็นที่เข้าใจว่า เป็นงาน ฉลองที่มีอาหารอันสุดวิเศษนั่นเอง..
Le Tour d’ Angkhang เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กับโครงการเก๋ๆ แห่งปี ยกครัวขึ้นดอยแอ่วโครงการหลวง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เมื่อกษัตริย์เฮนรี่ ที่ 3 ได้พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงที่มีชื่อว่า “L’Ordre du Saint - Esprit” และสัญลักษณ์ถูกแทนด้วย เครื่องหมาย “กากบาทที่แขวนโบว์ สีฟ้า” หรือเรียกว่า “Le cordon bleu”
026
www.playground-mag.com
ที่ต้องขึ้นต้นซะเป็นทางการขนาดนี้ ก็เพราะว่าผมต้อง ทำ�หน้าที่ (ที่สุดแสนจะเต็มใจ) ตามติด โรงเรียนสอนการ ประกอบอาหารนานาชาติ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ไปกับโครงการเก๋ๆ แห่งปี “Le Tour d’ Angkhang 2012” โครงการนี้มีรูปแบบง่ายๆ ครับ คือเป็นการจัดทัวร์ สำ�หรับแขกเหรื่อมากมายราวหนึ่งร้อยห้าสิบคน จัดโดย โครงการหลวง เพื่ อ เที่ ย วชม สั ม ผั ส และดื่ ม ด่ำ � กั บ บรรยากาศอันแสนพิเศษของดอยอ่างขาง แต่ทว่าส่วนของ อาหารที่แขกทุกท่านจะได้รับประทานอย่างอิ่มเอมนั้น คือ ความท้าทายมากๆ สำ�หรับทีมงานของ เลอ กอร์ดอง เบลอ เพราะพีๆ่ เขาจะยก Restaurant ติดโลโก้ เลอ กอร์ดอง เบลอ
เชฟพฤกษ์ กำ�ลังอธิบายขั้นตอน ต่างๆ ในการเตรียมการครั้งนี้ 02 เชฟฟาบรีส กับลีลาการปั้น ประติมากรรมช๊อคโกแลต 03 ปรึกษาหารือระหว่างทางเดิน กับทีมงานผู้ช่วย 04 เชฟเอ (คนขวา) และผู้ช่วยกำ�ลัง เตรียมน้ำ�ยำ�รสเลิศลแะส่วนของ อาหารไทยชนิดต่างๆ 01
03
01
02
เพื่อป้องกันควมผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ เดี๋ยวผมจะพาไปดูว่า พี่ๆ ทีมเชฟ จาก เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เขาเตรียมตัวและวางแผนกันไว้อย่างไร เมือ่ เข้ามาถึง โรงเรียนสอนการประกอบอาหารนานาชาติ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ผมแอบสังเกตุการณ์อยู่หน้าห้อง เห็นทุกคนใส่ชุดฟอร์มสีขาว ของโรงเรียน มีโลโก้รูปโบว์สีฟ้าที่หน้าอก ดูแล้วก็รู้เลยว่าอาหารต้องพิเศษ มากๆ ผมจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปในห้องครัวเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตา (ก็เรามา แอบดูเขาเตรียมการใหญ่นี่ครับ เลยต้องยืมมาด เจมส์ บอนด์ มาใช้ชั่วคราว) แต่ไม่ทันจะก้าวออกไปหรอกครับ เชฟพฤกษ์ ก็มาเห็นเข้าพอดี (หมดกัน ไม่อ่งไม่แอบแล้วครับ ขอให้เชฟพาทัวร์เลยดีกว่า)
04
ตามติดไปทุกสถานีที่แขกเดินทางไป แล้วเด็ดเอาวัตถุดิบจากไร่ สวน แปลง ฟาร์ม บ่อ กะบะ ฯลฯ ของโครงการหลวง มาปรุง อาหารให้ทานกันสดๆ ณ บัดนั้น เรียกว่าถ้าท่านเดินไปชมความ งามของเขาลูกไหน ทีมเชฟจะตามไปทำ�อาหารให้ท่านทานกัน ทุกลูกทุกดอยเลยทีเดียว แล้วอย่างนี้ ผม “ผู้ทอดไข่เจียวยังไหม้” จะไม่อาสาตัว อาสาใจ อาสาสมัครไปได้ยังไงล่ะคร้าบบบ... แต่ ก่ อ นจะถึ ง วั น งานนั้ น หลายอย่ า งที่ เ ป็ น ส่ ว นสำ � คั ญ ใน การปรุง ในการประกอบอาหาร ต้องถูกจัดเตรียมอย่างดีครับ
สถานีเกษตรหลวง อ่างขาง เป็นโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำ�ริใน พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อส่งเสริมอาชีพ เกษตรกรรมทดแทนการปลูกฝิ่น สถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง อยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี
เชฟเล่ า ให้ ผ มฟั ง ว่ า การเตรี ย มงานครั้ ง นี้ เราต้ อ งวางแผนกั น หนั ก เชื่อหรือไม่ว่าของบางอย่างต้องเตรียมล่วงหน้าหลายสัปดาห์ อะไรที่เรา สามารถเตรียมได้ก่อน เราก็จะเตรียมและทำ�ไปจากที่นี่ ผมเกิดคำ�ถามขึ้น ในหัวเลยครับ เอะ.. แล้วเราจะเอาขึ้นไปบนดอยได้ยังไง? แล้วอาหารมันจะไม่เสียหายหรอ? แล้วอะไรล่ะที่เราสามารถเตรียมที่นี่ได้? แล้วทำ�ไมต้องทำ�จากที่นี่ไป? ทำ�บนนั้นเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ?.. ตอนนี้คิ้วผมเริ่มขมวดเข้าหากันเป็นรูปโบว์แล้วครับ เชฟพฤกษ์บอกว่า แขกค่อนข้างเยอะ ถ้าเราไปทำ�ทุกอย่างบนดอย คงจะไม่ทัน เพราะฉะนั้น เราจะต้องมีการวางแผนเกี่ยวกับเมนูในแต่ละมื้อ ว่าจะมีอะไรบ้าง ทั้ง ของคาว ของหวาน จากนั้นก็ดูว่า อะไรที่เราสามารถทำ�เตรียมไว้ได้ เช่น
ตำ�บลแม่งอน อำ�เภอฝาง จังหวัด เชียงใหม่ พื้นที่รับผิดชอบประมาณ 26.52 ตารางกิโลเมตร หรือ 16,577 ไร่ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้สนองพระบรมราชโองการ ในตำ�แหน่งประธานมูลนิธิโครงการ หลวง โดยใช้เป็นสถานีวิจัยและ ทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น ไม้ผล ผัก ไม้ดอกเมือง หนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกร ชาวเขาในการนำ�พืชเหล่านี้มาเพาะ ปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี
www.playground-mag.com
027
การลวกผัก การเตรียมชิ้นเนื้อต่างๆ การทำ�น้ำ�สลัด น้ำ�ยำ� ส่วน ของหวานเราก็สามารถเตรียมการได้ก่อนเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น เค้ก หรือมาการูน เชฟพฤกษ์พาผมเดินเข้าไปดูในตู้เย็น (คือผมต้องบอกก่อน ว่าจริงๆ ผมไม่รู้ว่ามันคือตู้เย็นหรอกครับ หน้าตามันต่างออกไป จากสิ่งที่ผมคุ้นเคยมาก ประตูอะลูมิเนียมสีเงินบานใหญ่สูงถึงหัว พอเปิดออกมา มีลมเย็นปะทะเข้าที่หน้า ผมนึกว่านี่เป็นประตู ของโดราเอม่อนที่พาเราข้ามมาถึงขั้วโลกเหนือ) เชฟพฤกษ์ให้ผม ดูวัตถุดิบต่างๆ ที่ถูกแพ็คไว้อย่างดีในถุงสูญญากาศ และถูกแช่แข็ง เพื่อรักษาความสด วัตถุดิบทุกอย่างจะถูกจัดเก็บแยกไว้ในตู้เย็น แต่ละตู้ มีทั้งผัก เนื้อสัตว์ ของหวานก็ด้วยเหมือนกัน ผมเพิ่งรู้ เดี๋ยวนี้เองว่า เราสามารถเตรียมวัตถุดิบแบบนี้ได้ นึกว่าทุกอย่าง จะต้องเตรียมกันที่หน้างานเท่านั้น
05
ผมถามเชฟพฤกษ์ว่า เราเอาวัตถุดิบเด็ดๆ ของโครงการหลวง มาทำ�อะไรบ้าง เชฟชี้ไปที่ “ปลาเทร้าส์” ที่ถูกส่งมาจากที่นั่น เพื่อให้เราเตรียมก่อน แล้วค่อยจัดส่งกลับขึ้นไปบนดอยอีกที ผมอยากรู้เลยว่าเจ้าปลาเทร้าส์นี้ทำ�ไมมันต้องเดินทางไกล มาถึ ง กรุ ง เทพฯ เชฟเล่ า ว่ า แม้ ว่ า เราจะเตรี ย มหลายอย่ า งไป เรียบร้อยแล้ว แต่เราก็ยังต้องใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ในการทำ� อาหารแต่ละมื้อตามสถานีต่างๆ บนดอยอ่างขาง เพราะฉะนั้น เราจึงต้องเตรียมเจ้าปลาเทร้าส์นี้ให้พร้อมซะก่อน เชฟใช้เวลา ร่วม 4 ชัว่ โมงในการแล่ และในขณะทีแ่ ล่จะต้องอยูใ่ นห้องปลอดเชือ้ สวมผ้าปิดปากอย่างมิดชิด ใส่ถุงมือ และต้องใช้มีด เขียง ที่ทำ�การ ฆ่าเชื้อแล้วเท่านั้น (ผมว่ามันเริ่มจะเหมือนห้องผ่าตัดยังไงก็ไม่รู้ นะครับ) เชฟจะนำ�ปลาออกมาจากตู้ทำ�ความเย็นครั้งละ 2-3 ตัว พอแล่เสร็จก็จะนำ�ไปใส่ในตู้ที่เป่าเฉพาะลมเย็น เพื่อป้องกันไม่ให้
06
07
ทีมเชฟ เลอ กอร์ดอง เบลอ สำ�รวจสถานี ต่างๆ บนดอยอ่าขาง 06 เชฟฟาบรีส คัดเลือกวัตถุดิบ 07 เชฟพฤกษ์ เชฟฟาบรีส และเชฟปาทริค กำ�ลังปรึกษากัน 08 เชฟมาร์ค กำ�ลังตรวจเช็ควัตถุดิบ 09 ทีมเชฟและพี่ๆ ผู้ช่วยเตรียมงานกัน อย่างแข็งขัน 10 แอบเอาภาพบนดอยก่อนเริ่มงานมาให้ดู 05
09
10
028
www.playground-mag.com
มีน้ำ�แข็งเข้าไปทำ�ลายรสชาติของเนื้อปลา และต้องลดอุณหภูมิ อย่างรวดเร็ว เพื่อหยุดการทำ�งานของจุลินทรีย์และแบคทีเรีย ทุกอย่างที่กล่าวมา เพื่อรักษาความสด และรสชาติที่ดีของเนื้อ ปลาเอาไว้.. ตอนนี้นอกจากคิ้วที่ขมวดเป็นโบว์แล้ว ดวงตาผมยัง ลุกวาวจากรายละเอียดแบบถี่ยิบๆๆๆ อีกต่างหากครับ!! ต่อจากห้องผ่าตัด เอ้ย ! ไม่ใช่ ! ห้องครัวครับ เชฟพาผมไป ห้องทำ�ขนม บัดนั้นเอง ที่เสียงเพลง Out Of My Mind ดังนำ�มา ก่อนที่ผมจะเดินถึงห้องซะอีก พอเปิดประตูเข้าไป ผมเห็นภาพ เชฟฟาบริส กำ�ลังฮัมเพลงพร้อมวาดลวดลายการทำ�ช็อกโกแลต (หรืองานประติมากรรมกันแน่?) เพื่อที่จะเอาไว้ตกแต่งโต๊ะขนม หวาน (ขนาดของตกแต่งยังอลังการขนาดนี้!!) เมื่อถามถึงขั้นตอน การทำ�งาน เชฟฟาบริสบอกว่าจะต้องมีการสเก็ตภาพในกระดาษ ก่อน แล้วจึงค่อยๆ ปั้นแต่งตามที่จินตนาการไว้ จากนั้นก็ขนแยก ชิ้นไป แล้วค่อยประกอบร่างบนดอยอีกที เพราะไม่อย่างนั้นจะ แตกหักเสียหายได้ ผมถามเชฟพฤกษ์ว่า เชฟเตรียมของหวาน
08
12
11
เปิดเผยโฉมหน้าทีมเชฟและ ผู้ช่วยจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ ให้เห็นกันจะๆ 12 เชฟปาทริค เตเรียง (เชฟใหญ่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ทั่วโลก เดินทางมาเยี่ยมโรงเรียน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เลยถือ โอกาสนี้ร่วมโครงการด้วยเลย) 13 เตาอบเจ้าของตำ�นาน “อบครัวซองทีเดียว ไฟดับทั้ง หมู่บ้าน” กลับมาประจำ�ที่อีกครั้ง 11
13
อะไรเด็ดๆ ไว้บ้างครับ เชฟยิ้มพร้อมกับตอบว่า เพียบ! มีทั้ง มาการูนหลากสีหลากรส เค้กชนิดต่างๆ และยังได้ สตรอเบอร์รี่ สดๆ ของโครงการหลวง มาเพิ่มรสชาติอีก เรื่องนี้เชฟพฤกษ์ ถึ ง กั บ ยกให้ เ ป็ น สตรอเบอร์ รี่ ที่ อ ร่ อ ยที่ สุ ด แล้ ว สตรอเบอร์ รี่ พระราชทานที่เกิดจากการผสมข้ามพันธ์ระหว่างยุโรปและญี่ปุ่น โดยผู้ที่มาทำ�งานด้านนี้คือ ด๊อกเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่ได้ยินข่าวของ โครงการหลวง แล้วรู้สึกอินมากๆ (รู้สึกอิน คือ การรู้สึกร่วมด้วย จนอยากกลายเป็นส่วนหนึ่ง) ท่านจึงย้ายตัวเองมาอยู่ที่เชียงใหม่ เพื่อทำ�การวิจัยว่าสตรอเบอร์รี่ที่จะปลูกในเมืองไทยนั้นต้องทำ� อย่างไร จึงจะได้ผลสตรอเบอร์รี่ที่อร่อยที่สุด สวยที่สุด เหมาะ สมกับอากาศประเทศเราที่สุด โอ้!! อะไรจะขนาดนั้นครับ ตอนนี้ ผมคงต้องสงวนท่าทีหน่อย เริ่มน้ำ�ลายสอแล้วเรา... เชฟยังคงพาผมเดินดูรอบๆ ผมสังเกตุเห็นอุปกรณ์ในห้องครัว เยอะแยะไปหมด หม้อ กระทะ ตะหลิว เตาอบ ถ้วยชามรามไห เชฟบอกผมว่า “เราจะเอาเตาอบตัวนี้ไปเที่ยวดอยอ่างขางด้วย” (สายตาของผมมองไปทางที่เชฟชี้ให้ดู) “มันไม่ใหญ่ไปหรอครับ” เชฟตอบว่า “มันก็ใหญ่นะ แต่ต้องเอาไปครับ เพราะจุดประสงค์ คือ อบครัวซองสูตรเด็ดของเรา เชฟเล่าว่า เมือ่ ปีทแ่ี ล้วก็เอาไปด้วย พอเสียบปลัก๊ ที ไฟดับทัง้ หมูบ่ า้ น จนเจ้าหน้าทีต่ อ้ งไปคุยกับชาวบ้าน ว่าขออบขนมสักครู่ และพวกเขาจะไม่มีไฟฟ้าใช้ไปสักสองสาม
ชั่วโมง สายตาของผมที่มองเจ้าเตาอบนี้ ได้แปลเปลี่ยนไปเป็น ความตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก แต่เชฟกระซิบบอกผมว่า “ปีนี้ ไม่ต้องห่วง พี่ๆ เจ้าหน้าที่เขาจัดการหาเครื่องปั่นไฟไว้ให้แล้ว” หลั ง จากที่ ไ ด้ เข้ า ไปสอดส่ อ งการเตรี ย มอาหารสำ � หรั บ โครงการ Le Tour d’ Angkhang 2012 ในครัวของ โรงเรียน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต มันทำ�ให้ผมทั้งตื่นเต้น ทั้งสงสัย และที่สำ�คัญคือเริ่มหิวซะแล้ว.. ผมเริ่มวาดภาพในหัวคร่าวๆ จาก คำ�บอกเล่าของเชฟพฤกษ์ โอ๊ยย.. ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น! ผมจะกลับไป เก็บกระเป๋า เตรียมตัวออกเดินทางไปกับกองทัพเชฟ และนี่เป็น ครั้งแรกที่ผมจะได้ขึ้นไปแอ่วดอยอ่างขาง อดคิดไม่ได้ว่างานบน นั้นจะเป็นอย่างไร จะวุ่นกันแค่ไหน อาหารแต่ละจาน แต่ละมื้อ จะออกมาอย่างไร สตรอเบอร์รี่จะออกผลหรือยัง เจ้าปลาเทร้าส์ จะสบายดีไหม และเตาอบจะทำ�ไฟดับอีกหรือเปล่า.. ผมเสียใจ ที่ ต้ อ งบอกว่ า รอเล่ ม หน้ า นะครั บ !! แล้ ว ค่ อ ยมาดู กั น ว่ า การ ดื่ ม ด่ำ � กั บ อากาศเย็ น ๆ บนดอยอ่ า งขาง พร้ อ มกั บ มื้ อ อาหาร รสเลิศจากฝีมือเชฟของ เลอ กอร์ดอง เบลอ จะทำ�เอาคุณผู้อ่าน อยากสัมพัสกับประสบการณ์นขี้ นาดไหน สำ�คัญคือ ทริปมีแค่ปลี ะ ครั้งเท่านั้นครับ ใครอยากไป เตรียมตัว เตรียมท้อง เตรียมจอง ข้ามปีได้เลยคร้าบบ...
โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต
เลขที่ 946 อาคารพาณิชย์ดุสิตธานี ชั้น 1 ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ : 02 237 8877 โทรสาร : 02 237 8878 อีเมลล์ : LECORDONBLEU@DUSIT.COM เว็บไซต์ : WWW.LECORDONBLEUDUSIT.COM www.playground-mag.com
029
Uncle Charlie วิธีเพิ่มความคิดสร้างสรรค์กับลุงชาร์ลี
nontent ..
ใครคิดงานไม่ออก ไม่มีไอเดีย ถามเพื่อนก็ไม่ช่วย เพราะเพื่อนก็คิดไม่ออกเหมือนกัน ลองเอาเทคนิคของ ลุงชาร์ลี ไปใช้ดู ความคิดสร้างสรรค์จะคล่องปู๊ดป๊าด หยั่งกะสั่งได้เลยล่ะ 555
1 พกสมุดโน๊ตส่วนตัวไปด้วยทุกที่ เจออะไรเด็ด หรือนึกอะไรออกจะได้รีบจดไว้
4 อย่าเร่งตัวเองมากเกินไปนัก คนไม่ใช่มอไซค์
7 พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางผู้คน ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
030
www.playground-mag.com
2
3
ลองขีดๆ เขียนๆ แบบไม่มีข้อกำ�หนดดูบ้าง ปล่อยให้มันอิสระ
คอมพิวเตอร์ก็ไม่ใช่คำ�ตอบเสมอไป ลุกออกมาเดี๋ยวนี้ !!
5
6
หันมาฟังเพลงใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย
เปิดใจ พร้อมที่จะรับ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ
8
9
คอยตามเช็คผลตอบรับของงานที่เราทำ�ไป เพื่อนำ�มาปรับใช้ต่อไป
ไม่ว่ายังไงก็ตามห้ามยอมแพ้เด็ดขาด
10 ต้องฝึกฝนเท่านั้น จะช่วยพัฒนาฝีมือ และไอเดียของเราได้
13 ฉลองความสำ�เร็จ แม้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
16 อย่าพยายามที่จะเป็นคนสมบูรณ์แบบ ของคนอื่นไปซะทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์ได้จริงๆ หรอกน่า
11 อย่าเศร้าไปเมื่อทำ�ผิดพลาด บางทีมันเกิดขึ้น เพื่อเป็นบทเรียน
14 กล้าที่จะเสี่ยง อย่ากลัวเด็ดขาด
17
12 เปิดหูเปิดตาซะหน่อย ไปที่ๆ เราไม่เคยไป จะเจออะไรแปลกใหม่
15 อย่าติดกับตำ�รา หรืออะไรเดิมๆ หาอะไรใหม่ๆ แหกกฏไปเลย !!
ชอบก็กด Like นะตะเอง
อย่ามัวแต่คิดเยอะ สนุกไปกับมันซะ !!!
www.playground-mag.com
031
inspiration ..
Marilyn Monroe “จงให้รองเท้าทีเ่ หมาะสมกับผูห้ ญิง แล้วเธอจะพิชติ โลกนีใ้ ห้ด”ู เสียงม่านชัตเตอร์รัวกระหน่ำ� ทำ�เอาผมประสาทกิน ง่วงก็ง่วง แต่ต้องมาแบกไฟแต่เช้าตรู่ ผมไม่ได้ทำ�งานเป็นพนักงานยกไฟ ถ่ายแบบที่ไหนหรอกครับ แต่ดันมีเพื่อนเป็นช่างภาพฝึกหัด และมันคนนี้ก็จะทำ� Portfolio เพื่อไปสมัครงานนิตยสารแฟชั่น จะว่าไปก็ตลกดี เพราะเพื่อนผมคนนี้มันเป็นช่างภาพมาตลอด คือเวลาเขาถ่ายรูปกัน จะต้องเป็นมันนี่แหละที่อาสาเป็นคนถ่าย นานเข้าก็เลยกลายเป็นช่างภาพประจำ�กลุ่ม ถ่ายเรื่อยไป งานรับปริญญา งานแต่งงาน ขึน้ บ้าน โกนจุก ถอนขน ทำ�บุญจอมปลวก แล้วแต่เพื่อนจะไหว้วาน โดยไม่ต้องเสียตังค์สักบาท เช้านี้มันนัดผมมาช่วยแบกไฟจากร้านเช่า เพื่อเอามาถ่ายแบบที่บ้าน ตื่นแต่เช้ายกของหลายกระเป๋า โบกแท็กซี่ก็นะ (เราจะไม่พูดถึง แท็กซี่แล้วนี่หว่า) อย่างที่คุณอ่านไปเมื่อเล่มสองนั่นแหละ “เฮ้ยๆ มาช่วยขยับไฟหน่อยครับ” เพื่อนผมหันมาสั่ง “น้าจะขยับไปไหนครับ กูไม่เห็นมีนางแบบสักคน” ผมเห็นมันถ่าย ฉากเปล่าๆ มาพักใหญ่แล้ว “ก็ซ้อมไง น้าไม่เคยซ้อมเหรอครับ เวลานักกีฬาจะลงสนามเขาต้อง ซ้อมนะครับ กูจะทำ�ผลงานระดับมาสเตอร์พีช ก็ต้องซ้อมสิครับ” ผมขี้เกียจเถียงกับมัน เพราะถึงยังไงก็ต้องขยับให้อยู่ดี ปู้นๆ ต่องแต่ง ขะหยุกขะหยิก แจ๊บๆ (อ่านออกเสียงจะได้อารมณ์) “นั่นๆ เสียงคนกดออดหน้าบ้าน สงสัยนางแบบมาแล้ว” หน้าตา มันระริกระรี้น่าหมั่นไส้ไม่แพ้เสียงออด ไม่ทันไรก็ควบลงบันไดไป เวลาผ่านไปสามสิบนาที แชะ พรึ่บ ตุหนิ๊ด บะหยุ๋งงง... แชะ พรึ่บ ตุหนิ๊ด บะหยุ๋งงง... เสียงม่านชัตเตอร์ (แชะ) ผสมไฟแฟลชที่ดับลง (พรึ่บ) พร้อมกับ การชาร์ตไฟใหม่ (ตุหนิ๊ด) และเสียงชาร์ตเสร็จแล้ว (บะหยุ๋งงง) ทำ�เอาผมประสาทจะกิน “น้องบุหงารำ�ไป ช่วยเผยอปากอีกนิดนะครับ น่านแหละครับ ดีครับ อีกนิดนะ ดีครับดี ยิ้มมุมปากนิดนึง หวานมากๆ ตรงนั้น อะไร ขี้มูกรึเปล่า อ๋อสิว ต่อเลยครับ อย่าบีบสิวนะ พี่กลัว” เพื่อนผมสั่งการผ่านรูรับแสงอย่างคล่องแคล่ว “ดีคร้าบบ จมูกอย่าบานครับ อย่าครับ พี่กำ�ลังซูมอยู่ เดี๋ยวอ้วก” “โอ้ยยย ยากไปค่ะ หงารำ�ทำ�หน้าเซ็กซี่กว่านี้ไม่ได้แล้วค่ะ เดี๋ยว ตะคริวกินหน้าพอดี” น้องนางแบบชื่อประหลาดพูดประโยคแรก “อดทนสิครับ มาริลีน มอนโร เขายังอดทนเลย” เพื่อนผมพยายาม ให้กำ�ลังใจแบบแปลกๆ
032
www.playground-mag.com
“มาริลีน มอนโร ใครค่ะ ชื่อเหมือนขนม” น้องหงารำ� (ชื่อเล่น เธอ) ทำ�หน้างง มาริลีน มอนโร เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 (พ.ศ. 2469) ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา แม่เธอชื่อ กลาดีส เพิร์ล (มอน โร) เบเคอร์” เมื่อแรกเกิด มาริลีน มอนโร มีชื่อว่า นอร์ม่า จีน มอร์เทนสัน Norma Jeane Mortenson ต่อมาไม่นานแม่ของ เธอปลี่ยนใหม่เป็น นอร์ม่า จีน เบเคอร์ Norma Jeane Baker ด้วยเหตุผลกลใดใครรู้แน่ชัด เพราะมีหลายเรื่องเล่าเหลือเกิน อยากรู้ค่อยไปค้นเอาเองนะ หรือจะเมล์มาถามก็ได้ มาริลีน มอนโรในวัยเด็กใช้ชีวิตสามบ้านแปดบ้าน เธอย้ายไป อยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์เรื่อยไปตั้งแต่สามขวบ และแต่ละที่ก็ ให้ประสบการณ์ที่เธอไม่อาจลืมได้ลง บางเรื่องราวบอกว่าเธอ ถูกข่มขืนในห้องเช่าของครอบครัวอุปถัมภ์หลายต่อหลายครั้ง และเมื่อเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกให้ผู้ที่อุปถัมภ์เธอทราบ เด็กหญิง นอร์มา จีน กลับถูกตบหน้าและถูกสั่งห้ามนำ�เรื่องนี้ไปบอกใคร จนทำ�ให้กลายเป็นเด็กที่เก็บเนื้อเก็บตัวและมีปัญหาในการเข้า สังคมในที่สุด “ฉันเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล คนเราต่างก็ เปลี่ยนไปทั้งนั้น คุณควรเรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป สิ่งที่แย่ก็คือ คุณมักจะพอใจเมื่อพวกเขาทำ�ในสิ่งที่ถูก เพราะคุณเชื่อใน คำ�โกหกเหล่านั้น ดังนั้นคุณควรเรียนรู้ที่จะเชื่อในตัวเอง บางครั้งสิ่งดีๆ ก็หลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา แต่เชื่อเถอะ สิ่งที่ดีกว่ากำ�ลังจะมาถึง” มาริลีน มอนโรมีจิตใจและร่างกายที่บอบช้ำ� เธอกลัวว่าสักวัน หนึ่งเธอจะเป็นเหมือนแม่ของเธอ และแล้วเธอก็ได้เจอป้าที่ เป็นญาติห่างๆ รับช่วงเลี้ยงดูตอนเธออายุได้ 11 ขวบ ทำ�ให้ จิตใจที่บอบช้ำ�ของเธอเริ่มดีขึ้น เพราะป้าเลี้ยงดูเธอด้วยความ เมตตา ถึงแม้จะยากจนก็ตาม ไม่เหมือนครอบครัวอุปถัมภ์ที่ แล้วๆ มาในอดีต
“ฉันก็มีความรู้สึกเหมือนกับคนอื่นๆ ฉันยังเป็นมนุษย์ สิ่งเดียวที่ฉันต้องการ คือการถูกรัก ทั้งกับตัวตนของฉัน และกับความสามรถของฉันด้วย”
มาริลีน มอนโร อยู่กับป้าเป็นเวลาหลายปี ไม่นานนักป้าของ เธอก็มีความจำ�เป็นต้องย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น ป้าเลยแนะนำ�ให้ เธอไปแต่งงานกับหนุ่มข้างบ้าน เพราะจะได้ไม่ถูกย้ายไปที่อื่นอีก เธอตกลง แม้เธอจะมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ นอร์มา จีน จึงต้องแต่งงานกับเจมส์ โดเฮอตี้ เด็กหนุ่ม ข้างบ้านในขณะที่เธอมีอายุได้เพียง 16 ปี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1942 ซึ่งการเป็นแม่บ้านสำ�หรับเธอไม่ใช่เรื่อง ง่ายนักโดยเฉพาะการทำ�อาหาร แต่หลังจากที่แต่งงาน เธอก็ พยายามเรียนรู้ แต่ก็ดูเหมือนว่าผลที่ออกมามักจะไม่ค่อยดีนัก เมื่อสามีของเธอถูกเรียกตัวไปรับใช้ชาติในสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้งานที่โรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ทาง ทหาร หน้าที่ของเธอก็คือการเป็นคนสำ�รวจร่มชูชีพ จากนั้นก็ ย้ายมาเป็นคนพ่นสีเครื่องบิน ถือเป็นผู้หญิงที่ไม่ง้อให้ผู้ชาย คอยเลี้ยงดูเหมือนคนรุ่นก่อน ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่สอง กำ�ลังร้อนระอุ รัฐบาลได้ส่งช่างภาพไปถ่ายรูปโรงงานขณะ กำ�ลังผลิตอาวุธ เพื่อข่มขวัญฝ่ายเยอรมัน และในหมู่คนงาน เหล่านั้น มี นอร์มา จีน หรือ มาริลีน มอนโร รวมอยู่ด้วย ช่างภาพคนนี้ไม่ได้สนใจผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาอย่างเธอสัก เท่าไหร่ จนกระทั่งเมื่อเขาเอาฟิลม์ไปอัดเป็นรูปก็เกิดสะดุดตา www.playground-mag.com
033
กับเสน่ห์ของเธอ เขาจึงกลับไปที่โรงงานนั้นอีกครั้งเพื่อชักชวน เธอมาเป็นนางแบบในนิตยสาร “พี่ทอดสมอคะ ตัวหนูจะไหม้แล้วค่ะ ถ้าไม่ถ่ายต่อ ช่วยปิดไฟ ได้ไหมค่ะ” น้องหงารำ�เรียกชื่อเพื่อนผมด้วยเสียงสั่นเครือ “อุ้ยนั่นสิ มัวแต่เล่า มาๆ ไหนหันหน้าไปอีกข้างซินะครับ” ทอดสมอเตรียมกล้อง เล็งจะถ่ายอีกครั้ง “เฮ้ยนั่น หน้าน้องหงารำ�เป็นอะไรไป ขาวข้างดำ�ข้าง ตลกดี ดูสิน้า” ผมสังเกตุเห็น จึงชวนเพื่อนมาดูด้วยกันใกล้ๆ “ว้าย ไม่เอาละค่ะ ไม่ถ่ง ไม่ถ่ายมันแล้ว หน้าหนูเป็นหยินหยาง ไปแล้ว” น้องหงารำ�วิ่งเอามือปิดหน้าออกไป “เล่าต่อสิน้า กำ�ลังสนุก เดี๋ยวน้องเขาก็มาเองแหละ” เธอตกลงเป็นนางแบบถ่ายภาพวับๆ แวมๆ ให้กับนิตยสาร หลายฉบับและนิตยสารเหล่านั้นก็ขายดีมาก จากนั้นมีคนมา ติดต่อให้เธอถ่ายภาพเปลือยหลายราย ซึ่งเธอก็ปฏิเสธมาตลอด แต่เมื่อชีวิตมาถึงจุดอับจน เธอต้องการเงินมาจ่ายค่าห้องเช่า และค่าอาหาร นอร์มา จีน จึงตกลงยอมรับข้อเสนอของช่าง ภาพที่ชื่อ ทอม เคลลี เธอถ่ายภาพเปลือยในที่สุด เพื่อแลกกับ เงินที่เธอเห็นว่าเป็นค่าตอบแทนที่คุ้มค่าในเวลานั้น ด้วยเงินค่าตัวเพียงแค่ 50 ดอลลาร์ ปฏิทินฉบับนั้นก็มีภาพ เปลือยของเธอตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี ค.ศ. 1953 ซึ่งก็โด่งดังไป ทั่วประเทศ โดยขายได้กว่า 1 ล้านชุด คิดเป็นเงินรายได้ใน เวลานั้นคือ 750,000 ดอลลาร์ มากกว่าที่เธอได้ไม่รู้กี่เท่า จากภาพเหล่านั้นเอง เธอสะดุดตาของแมวมองในฮอลลีวู้ด ทันที และก็กลายเป็นช่วงที่ชีวิตของเธอพลิกผันสู่จุดสูงสุด นอร์มา จีน ได้ไต่เต้าถึงระดับฮอลลีวู้ดที่เธอใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ชื่อมาริลีน มอนโร นี้ได้มาเมื่อเธอเข้ามาทำ�งานกับบริษัท ภาพยนตร์ 20th Century Fox โดยตั้งตามชื่อของดาราดังใน อดีต คือ มาริลีน มิลเลอร์ ส่วนนามสกุล มอนโร ได้มาจาก นามสกุลเก่าของแม่ ดังนั้นนอร์มา จีน ในวัย 20 ปี จึงได้ชื่อ ใหม่ว่า มาริลีน มอนโร 1921
1947
มาริลิน มอนโร ในวัย 16 ปี เริ่มต้นชีวิตในแสงสีด้วยการ เป็นนางแบบให้กับนิตยสาร YANK ซึ่งเป็นนิตยสารของ กองทัพสหรัฐโดยฝีมือช่างภาพ ของกองทัพอย่าง เดวิด โคโนเวอร์ หลังจากรุ่งโรจน์ในชีวิตนางแบบ เธอเปลี่ยนทรงผมใหม่และสีใหม่ จากสาวผมสีน้ำ�ตาลกลายเป็น สาวผมบลอนด์ซึ่งกลายเป็น ภาพลักษณ์ที่ติดตัวเธอไปตลอด
034
www.playground-mag.com
1953
มาริลิน มอนโร เริ่มมีผลงาน การแสดงด้วยบทตัวประกอบ ใน“เดอะ ช็อกกิ้ง มิส พิลกริม” ซึ่งก็ไม่โด่งดังเท่าไรแถมไม่มี เครดิตของเธอตอนท้ายด้วย เธอร่วมแสดงภาพยนตร์ถึง 33 เรื่อง ใน 15 ปี ส่วนใหญ่ก็เป็น เรื่องรักโรแมนติก ผลงานที่ สร้างชื่อของเธอได้แก่ ไนแองการ่า, เจนเทิลแมน พรี เฟอร์ บลอนด์ส, ฮาว ทู แมร์รี่ อะ มิลเลียนแนร์, เดอะ เซเว่น เยียร์ อิทช์ เป็นต้น
ในภาพยนตร์เรื่อง “เจนเทิล แมน พรีเฟอร์ บลอนด์ส” มาริลีน มอนโรได้รับรายได้ เพียง 500 เหรียญต่อสัปดาห์ เท่านั้น แต่ถึงแม้เงินเดือนจะ น้อยนิด แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ทำ�เงินถล่มทลายและทำ�ให้ เธอกลายเป็นดาราสาวผู้โด่งดัง ไปในทันที
ตอนนั้นเองที่ภาพเปลือยในอดีตของเธอถูกนำ�มาเปิดเผย สร้างความอื้อฉาวไปทั่วและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก อารมณ์คล้ายๆ ข่าวฉาวของดาราเมืองร้อนบางประเทศ แต่หนักกว่า มาริลีน มอนโร จึงได้ออกมาเล่าถึงชีวิตในหนหลัง และความจำ�เป็นที่จะต้องถ่ายภาพเปลือย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ประชาชนเกิดความรู้สึกสงสารและเห็นอกเห็นใจเธออย่างมาก จนทำ�ให้เธอยิ่งโด่งดังกว่าเดิม ดูสิ คนจะดังช่วยไม่ได้จริงๆ เธอพูดถึงเรื่องนี้ว่า “ฉันก็มีความรู้สึกเหมือนกับคนอื่นๆ ฉันยังเป็นมนุษย์ สิ่งเดียวที่ฉันต้องการ คือการถูกรัก ทั้งกับตัวตนของฉัน และกับความสามรถของฉันด้วย” หลังจากนั้น ชื่อของ มาริลีน มอนโร ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ ของความร้อนแรง ที่คนต่างรู้จักเธอในฐานะ “เซ็กซ์ซิมโบล” เธอกลายเป็นดาราหญิงชั้นแนวหน้าของวงการมายา ในเรือ่ ง Gentlemen Prefer Blondes มาริลนี มอนโร ร้องเพลง Diamonds are a Girl’s Best Friend หรือ “เพชรคือเพื่อน แท้ของผู้หญิง” วลีนี้โด่งดังติดปากผู้หญิงทั่วโลกไปในทันที จากนั้นภาพยนตร์เรื่อง the seven year itch ก็มีฉากหนึ่งที่ ตอกย้ำ�ภาพลักษณ์ของเธอให้คนทั่วโลกจดจำ�อีกครั้ง “นั่นน้าทำ�ทุเรศอะไรครับ” ผมเห็นมันทำ�ท่า.... เขียนไม่ออก อุจาดตาเกินไป “ก็ ท่านี้ไง เคยเห็นไหม ท่ากระโปรงกระเจิงของ มาริลีน ไง” “น้าทำ�ได้ทุเรศจริงๆ วะ เล่าต่อเหอะ อย่าทำ�อีกเลย ตลอด ชีวิตเลยนะ” ช่วงหลัง ชีวิตของเธอค่อยๆ ตกต่ำ�ลงจากข่าวฉาวกับชายมาก หน้าหลายตา แถมเรื่องเหล้า และยาชนิดต่างๆ ของเธออีก เธอตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์เองที่ชื่อ Marilyn Monroe Productions กับช่างภาพที่ชื่อ มิลตัน กรีน ภาพยนตร์เรื่อง แรกของบริษัทเธอคือ The Prince and the Showgirl ซึ่งได้ รับการตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก 1962 - 1989
แอนดี้ วอร์ฮอล ศิลปินป๊อปอาร์ตชื่อดัง นำ�ภาพ ใบหน้าของมาริลีนมาสร้างเป็นงานซิลก์สกรีนบน ผ้าใบไว้หลายชุด เช่น The Two Marilyn (1962) Marilyn (1964) และต่อมาภายหลังวอร์ฮอลได้นำ� มาทำ�ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ได้แก่ชุด Reversal Series: Marilyn ซึ่งทำ�ขึ้นระหว่าง ปี 1979 -1986 โดยใช้ สีในลักษณะกลับค่าของสี (negative) ที่ให้ความ รู้สึกแปลกไป แอนดี้ วอร์ฮอล ถือเป็นผู้ที่ทำ�ให้คนที่ชื่นชอบในตัว มาริลีน มอนโร ได้ใกล้ชิดเธอมากขึ้น แทนที่จะ เห็นแต่ในภาพยนตร์หรือภาพถ่ายเท่านั้น
“การประสบความสำ�เร็จทำ�ให้ผู้คนจำ�นวนมากเกลียดชังคุณ ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย มันคงดี ถ้าฉันสามารถ มีความสุขกับความสำ�เร็จได้ โดยไม่ต้องเห็นความอิจฉา ริษยาในสายตาของคนรอบข้าง” มาริลีน แต่งงานทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ความรักและชีวิตแต่งงาน ของเธอล้มเหลวตลอด เธอมีข่าวกับผู้ชายคนอื่นอีกด้วยในขณะ ที่ครองตัวเป็นสาวโสดในแต่ละช่วง ความรักของเธอไม่เคย สมหวังเอาเสียเลย
www.playground-mag.com
035
“ฉันเป็นคนดี แต่ก็ไม่ใช่นางฟ้า ฉันทำ�บาป แต่ก็ไม่ใช่ปีศาจ ฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ในโลกกว้างใหญ่ ที่พยายามจะ ตามหาใครสักคน เพื่อที่จะรัก” ความทุกข์ทั้งหลายได้จบสิ้นลง เหมือนเปลวเทียนที่มอดดับ เธอเสียชีวิตระหว่างการถ่ายทำ�ภาพยนต์เรื่อง Something’s Got To Give ในเช้าวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962 ด้วยวัยเพียง 36 ปี ร่างของเธอนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงในบ้านของเธอเอง ในมือกำ�โทรศัพท์ไว้แน่น มีโทรเลขฉบับหนึ่งขอให้เธอร่วมแสดง ในละครบรอดเวย์ตกอยู่ และบนหัวเตียงมีขวดยานอนหลับทิ้ง ไว้เกลื่อนกลาด สาเหตุการเสียชีวิตที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการคือ กินยานอนหลับเกินขนาด แต่หลายคนก็เชื่อว่าเธอไม่ได้ ฆ่าตัวตายแต่ถูกฆาตกรรมเพราะเรื่องอื้อฉาวกับผู้ชายหลายคน ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง มาริลีน มอนโร มีอิทธิพลกับดาราและศิลปินรุ่นหลังมากมาย เซอร์ เอลตัน จอห์น แต่งเพลงอุทิศให้แก่เธอ ชื่อเพลง candle in the wind ซึ่งเปรียบชีวิตของมาริลีนเหมือน เปลวเทียนท่ามกลางพายุอุปสรรคและเสียงนินทาไม่ขาดสาย 036
www.playground-mag.com
MY WEEK WITH MARILYN ในช่วงต้นฤดูรอ้ นปี 1956 มาริลนิ มอนโร ดาราสาวชาวอเมริกันได้ย่างเท้าลงบน แผ่นดินอังกฤษเป็นครั้งแรกระหว่าง การฮันนีมูนกับสามี (คนที่ 3) นักเขียน บทละครชื่อดัง อาร์เธอร์ มิลเลอร์ มอนโรได้มาเยือนอังกฤษเพื่อถ่ายทำ� The Prince and the Showgirl
ภาพยนตร์ที่โด่งดังของเธอ ในฤดูร้อนปีเดียวกันนั้นเอง โคลิน คลาร์ค เด็กหนุ่มวัย 23 ปี ได้ย่างเท้าลงบนกองถ่ายภาพยนตร์ เป็นครั้งแรกในชีวิต คลาร์ค ผู้เพิ่ง สำ�เร็จการศึกษาจากอ็อกซ์ฟอร์ด ใฝ่ฝันจะเป็นผู้กำ�กับและเขาก็ได้งาน เป็นผู้ช่วยผู้ต่ำ�ต้อย ในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน
สี่สิบปีให้หลัง เขาได้เล่าถึง ประสบการณ์หกเดือนในกองถ่าย ของเขาในไดอารี่ที่มีชื่อว่า
The Prince, the Showgirl and Me
แต่มีหนึ่งสัปดาห์ที่ขาดหายไป ในบันทึกของคลาร์ค จนกระทั่งหลายปีให้หลัง คลาร์คจึงเปิดเผยสาเหตุของเรื่องนี้ ในไดอารี่เล่มต่อมาที่มีชื่อว่า
My Week with Marilyn
เขาได้เล่าถึงเรื่องจริงของหนึ่งสัปดาห์ ที่หายไป หนึ่งสัปดาห์สุดวิเศษ ที่เขาได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับดาราสาว ที่โด่งดังที่สุดของโลก… หนึ่งสัปดาห์ที่ เขาอยู่กับ มาริลิน มอนโร ....................
“เมื่อฉันมองออกไปในฮอลลิวู้ดยามค่ำ�คืน ฉันคิดว่า จะต้องมีหญิงสาวอีกเป็นพันๆ ที่นั่งอยู่คนเดียวแบบฉัน และต่างก็ฝันที่จะเป็นดาราที่มีชื่อเสียง แต่ฉันไม่กังวล อะไรหรอกนะ เพราะความฝันของฉันหนักแน่นที่สุด” “อ้าว พี่ทอดสมอเล่าจบแล้วเหรอ หนูมาฟังไม่ทันน่ะ เล่า ใหม่อีกทีนะ” น้องหงารำ� เธอกลับมาพร้อมความสงสัย “จบแล้วล่ะ รีบถ่ายต่อให้เสร็จดีกว่านะ พีจ่ ะได้เอาไฟไปคืน” “แต่รอยไหม้ที่หน้าหนูมันล้างไม่ออกนี่คะ พี่จะถ่ายยังไง” ทอดสมอนิ่งไปสักพัก ถอนหายใจดังไพเราะ ก่อนจะยก กล้องขึ้นอีกครั้ง เอาละครับ ผมคงต้องทนฟังเสียง ประหลาดๆ นั่นอีกหลายรอบ แต่เรื่องราวของ มาริลีน มอนโร หญิงสาวผู้ทรงเสน่ห์ที่สุดในโลก ยังไม่จบเพียงเท่านี้ บางทีมันอาจเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับเธอ ให้พูดถึงไปอีก นานแสนนาน แต่อารมณ์นี้ผมสงสารเจ้าของนิตยสาร ที่รับเพื่อนผม เข้าไปสัมภาษณ์งานเหลือเกิน เพราะเขาจะต้องเห็นทุก ท่าทาง ทุกลีลา ทุกแอ๊คชั่น ของน้องสาวนอกไส้ มาริลีน มอนโร และบางที มาริลีน น่าจะไม่ดังขนาดนี้ ถ้าเกิดมา ในยุคนี้ ยุคของน้องบุหงารำ�ไป นางแบบหน้าใหม่ผู้โพสต์ ได้แต่ข้างซ้ายเท่านั้น “จงยิ้มไว้ เพราะว่าชีวิตเป็นสิ่งที่สวยงาม และมีอีก หลายสิ่งที่คุณสามารถยิ้มกับมันได้” www.playground-mag.com
037
fashion ..
038
www.playground-mag.com
hot pants ในปี 1971 Hot Pants กลายเป็นแฟชั่นกระแสหลัก และ กระจายความนิยมไปทัว่ ทั้งฝัง่ อเมริกาเหนือ มันคือกางเกง ที่เปิดเผยสัดส่วนของร่างกายแบบสุดๆ สั้นพอๆ กับชุด ว่ายน้ำ�หรือกางเกงชั้นใน แต่สาวๆ ในยุคนั้นต่างก็ใส่เดิน กันอย่างไม่เขอะเขิน ชื่อ Hot Pants ก็ได้มาเพราะความสั้นและเซ็กซี่เมื่อยาม สวมใส่นี่เอง เป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก ในปี 1971 สายการบิน Southwest Airline ของ Texas นำ�เอา Hot ตำ�นานเพลง soul อย่าง James Brawn ถึงกับมีเพลง Hot Pants มาใช้เป็นเครื่องแบบของพนักงานให้บริการบน Pants ในอัลบั้ม แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Hot Pants ปรากฏ เครื่องบิน ส่วนทีมเบสบอลในฟิลาเดลเฟียจ้างสาวๆ มาใส่ Hot Pants เพื่ อ เป็ น พนั ก งานต้ อ นรั บ และอำ � นวยความ ตัวต่อสาธารณชน สะดวกภายในสนามกีฬา พวกเธอเป็นที่รู้จักในชื่อ The Marlene Dietrich ที่สวมบทบาทเป็นนักร้องไนท์คลับใส่ Hot Pants Patrol มันในหนังเรื่อง The Blue Angel ปี 1930 มาก่อนแล้ว จากนั้น Hot Pants ก็กลายเป็นสิิ่งคุ้นตาในการแสดง ปี 1980 สาวๆ ฮิปฮอปก็ฮิต Hot Pants กับเขาด้วย ดูได้ คาบาเร่ต์ยามค่ำ�คืน จากคอสตูมของศิลปินกลุ่ม Salt-N-Pepa ที่เลือกใส่ Hot Pants กับเสื้อแจ็คเก็ตสุดเท่ห์ แล้วทุกถนนในยุโรปก็ได้รู้จัก Hot Pants ในยุคปี 1960 Hot Pants ที่ทำ�จากยีนส์จะถูกเรียกว่า “Daisy Dukes” นวัตกรรมที่พัฒนามาจากกระโปรงมินิสเกิร์ตนี้ มีจุดเด่น มีที่มาจากซีรี่ส์ทางโทรทัศน์เรื่อง The Dukes of Hazzard ที่ความสั้นเหมือนกับต้นแบบของมัน (1979 - 1985) แต่ที่ถูกจดจำ�มากที่สุดคือเจ้า Hot Pants สีทองในมิวสิควีดีโอเพลง Spinning Around ของ Kylie Mary Quant ดีไซน์เนอร์แบรนด์ดังออกแบบ Hot Pants Minogue ให้ขึ้นไปอวดโฉมบนแคทวอล์คของ André Courrèges และ Christian Dior จนวัยรุ่นยุคนั้นหันมาสวมใส่แต่ Hot Hot Pants อันโด่งดังสมัยคุณแม่ยังสาว พากันหวนกลับ มาให้ได้สัมผัสอีกครั้ง ในยุคที่ทุกอย่างสามารถ Vintage Pants ได้ดั่งใจนึก ขาสวยกับ Hot Pants เป็นสิ่งน่ามองสำ�หรับ Hot Pants มีทั้งที่เป็นหนัง ยีนส์ และขนแกะ สำ�หรับใส่ คนแปลกหน้า แต่อย่าลืมคำ�ว่า “กาลเทศะ” ก่อนเลือก ในตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนนั้นนิยมทำ�จากผ้าฝ้าย ผ้า สวมใส่ Hot Pants ตัวนั้นของคุณ.. ซาติน และมักใส่คู่กับรองเท้าบูท Hot Pants
www.playground-mag.com
039
play ground ..
Walk back day in Hua Hin
... เดินหัวหิน เล่นวันวาน... จะมีที่ไหนที่ทำ�ให้เรานึกถึงคำ�ว่าเมืองวินเทจ ได้ดีกว่า “หัวหิน” และไหนๆ ก็จะย้อนอดีตกันทั้งที ฉบับนี้ Playground Magazine ขอพาไปหัวหินสักครั้ง ไปสัมพัสกับเสน่ห์ของเมืองเก่า ผู้คน ทะเล และความทรงจำ�ในอดีต การเดินทางจากกรุงเทพนั้นไม่ยาก มีทั้งรถบัส รถไฟ รถตู้ แล้วแต่ ว่าเราจะอยากสัมพัสบรรยากาศแบบไหน เราขอแนะนำ�รถไฟ เพราะ ปลอดภัยและสนุกกว่าเห็นๆ อีกอย่างจะหาโอกาสขึ้นรถไฟไปไหน ต่อไหนก็ยาก (ไม่เอาน่า รถไฟฟ้าไม่นับสิ มันคนละอารมณ์ นั่นยืน ห้อยเป็นลิงหิวข้าวเลย ไม่เห็นสนุกตรงไหน) ค่าโดยสารก็ไม่แพง อย่างที่คิด และมีหลายระดับ แถมบริการประทับใจ รถธรรมดาชั้น หนึ่ง ออกเก้าโมงนิดๆ ถึงบ่ายโมงหน่อยๆ ราคาสองร้อยต้นๆ นั่ง นอนสักพัก หนุนตักคนอื่นสองที ถึงแล้ว (ถ้ามาคนเดียวให้ลองหนุน ตักตัวเอง ทำ�ได้ส่งรูปมาอวดให้ชื่นใจกันบ้าง) หลังจากหลับน้ำ�ลาย ย้อยใส่คนข้างๆ จนไหล่เปียก (นี่แหละความจริง) เราก็มาถึงสถานี รถไฟสไตล์ “วินเทจ” ที่ทำ�เอายกกล้องถ่ายรูปแทบไม่ทัน เพราะ มัวแต่ยกชะลอมลงมากองไว้ที่พื้น โอ้นี่ “ปริศนา” เดินทางมาถึง หัวหินแล้วหรือนี่ (ต่อไปนี้เราจะเรียกตัวเองว่า “ปริศนา-เชาว์” ละ กัน หันไปหันมา ไม่เห็นแม้แต่เงาของชายพจน์ หรือว่า ชายพจน์ อาจจะอยู่ที่ร้านกาแฟน่ารักๆ หลังนั้น ร้านกาแฟที่สถานีรถไฟนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ มากันเป็น คู่ดูน่ารัก การตกแต่งเข้ากับบรรยากาศของเมืองเก่าและตัวสถานี นั่งลงสักพักตากแอร์เย็นฉ่ำ� ก่อนออกเดินทางไปตามหาชายพจน์ต่อ ที่ “เพลินวาน” พิมานแสนสุข “รับอะไรดีครับ” พี่บาริสต้าถามอย่างสุภาพ “หนาขอ เอ่อ น้ำ�ส้มสักแก้วนะคะ” เราตอบสุภาพและเรียบร้อยด้วย “เอ่อ คุณปริศนาเชาว์ครับ ร้านกาแฟครับ ไม่ใช่วังชายพจน์” ที่ร้านมีโปสการ์ดให้คุณเขียนส่งถึงคนที่คุณคิดถึงจนไม่เป็นอันกิน อันนอน ปริศนาเชาว์อย่างเราส่งถึงตัวเองที่บ้าน เฮ้อ... คิดแล้วเศร้า 040
www.playground-mag.com
www.playground-mag.com
041
ออกจากสถานีมา นั่งสามล้อถีบชมเมือง อัตราค่าบริการจากสถานี รถไฟไปตลาดหัวหินหรือชายหาด 30 บาทขาดตัว แต่ถ้าใครจะนั่ง ชมวิวทิวทัศน์เมืองหัวหิน อยู่ที่ 300 ต่อรอบ ถือเป็นโอกาสดีก่อน จะเข้าทีพ่ กั คนอย่างหนาต้องไปสามล้อถีบอยูแ่ ล้ว แต่ส�ำ หรับท่านอืน่ ยังมีพาหนะให้เลือกแล้วแต่ชอบ ทั้งสองแถว มอเตอร์ไซเคิลรับจ้าง หรือเหมารถเป็นรอบๆ ไป พีส่ ามล้อพาผ่านตัวเมืองและลัดเลาะไปเรือ่ ย จนเราลีมจุดหมายปลาย ทางไป นึกขึ้นได้อีกทีก็มาถึง “เพลินวาน” ซะแล้ว “เพลิดเพลินจังเลยค่ะคุณพี่ นี่ค่ะ ค่ารถ สามร้อย” “กระผมขอเพิ่มเป็นสามหมื่นได้ไหมครับมาดาม ชะลอมเยอะไป เล่นเอาปวดน่อง” คุณพี่สามล้อเอาผ้าขาวม้าปาดเหงื่อ “แหม คุณพี่ก็ ช่างมีอารามณ์ขันนะคะ” ปริศนาเชาว์รีบคว้าชะลอม แล้วจ้ำ�หนีหายไปในเพลินวาน “เพลินสุข เพลินใจ เพลินนัยน์ เพลินอารมณ์ เพลินฝัน เพลินชม เพลินสม เพลินอุรา เพลินตา เพลินจ้อง เพลินมอง เพลินเคหา เพลินเปรียบ เพลินมนตรา เพลินเสน่ห์ เพลินชวน เพลินพัก เพลิน นิทรา เพลินทิวา เพลินพิมาน.. คุณปริศนาจะเลือกพักห้องไหนดีคะ่ ” พี่ประชาสัมพันธ์แนะนำ�ชื่อห้องให้ฟัง “เอ่อ อีกรอบได้ไหมค่ะ หนาความจำ�ไม่ค่อยดี” ทั้งหมดนี้คือชื่อห้องพักของพิมานเพลินวาน มีทั้งหมด 20 ห้อง ตลอดทางเดินเข้าห้องพักจะมีโปสเตอร์หนังเก่าๆ ให้ดูกันเพลินๆ กว่าจะถึงห้องคงใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง บันไดวนน่ารักมาก แถมมี ลิฟต์เลียนแบบของเก่าให้ลองขึ้น ส่วนภายในห้องแต่ละห้องตกแต่ง แบบย้อนยุค ทั้งของเล่นเก่า โคมไฟเก่า ตู้ยาเก่า เฟอร์นิเจอร์เก่า แต่เขาทำ�ขึ้นมาใหม่นะจ๊ะ รายละเอียดแต่ละอย่าง ดูแล้ววันวานสม ชื่อจริงๆ แต่สิ่งที่ทำ�ให้ตื่นตาที่สุดคือ “ตุ่ม” ใช่แล้วตุ่มที่หลังของหนานี่แหละ ไม่รู้ขึ้นมาตอนไหน แว้กก... ไม่ใช่ ตุ่มในห้องน้ำ�ต่างหากละค่ะ ความพิเศษอยู่ที่ มันสามารถทำ�น้ำ�อุ่นได้และเป็นลิขสิทธิ์ของเพลิน วานเขา ใครจะเอาไปใช้ต้องขออณุญาตินะเนี่ย ห้องของหนาคือ “เพลินมอง” ห้องที่สามารถชะโงกมาดูหนังกลาง แปลงได้ในยามค่ำ�คืน ระเบียงเล็กๆ สร้างบรรยากาศแบบชิลล์ๆ นั่งจิบน้ำ�มะตูมเย็นๆ มองวิถีและบรรยากาศเพลินวานยามโพล้เพล้ ช่างน่าอภิรมณ์อะไรอย่างนี้ หันไปทางซ้ายเจอชิงช้าสวรรค์ที่มีชื่อ แสนหวานว่า “นัยน์ตาเพลินวาน” หมุนอวดแสงสีสวยงาม ด้านล่าง มีซ้มุ งานวัดให้ลองเล่น ปืนลม ปาป๋อง มาหมด บรรยากาศอย่างนี้ ขอไปร่วมสนุกกับผู้คนและสถานที่หน่อยดีกว่า ร้านไอศกรีมหวานเย็นดูเหมาะกับหญิงหวานๆ อย่างเราที่สุด แค่เห็น บรรยากาศก็หายร้อนละค่ะ ตกแต่งแบบ Disco นิดๆ นั่งละเลียด 042
www.playground-mag.com
ไอศกรีมกะทิหอมๆ สำ�ลักความสุขเลยเรา จากนั้นก็ต่อด้วยน้ำ�จรวด ขวดเท่าโลก ตอนนี้เรากำ�ลังอยู่ในช่วงกินวินเทจ ขนมครก กาแฟโบราณ ในแก้วเฉพาะกิจมีเชือกหิวเก๋ไก๋.. ตามลงไปในท้องของหนา ระหว่างที่ กินโน่นกินนี่ ตาก็สาดส่องไปทั่ว เห็นร้านขายของเล่นโบราณ ก็เลยขอ เข้าไปฟื้นความทรงจำ�กันสักหน่อย ยังมีขนมที่เราฮิตกันตอนเด็กด้วย แอบคิดในใจว่า ยังกินได้จริงไหมนะ พี่คนขายเหมือนรู้ทันรีบเดินมา บอกว่า ของใหม่ทั้งหมด ผลิตขึ้นมาใหม่ กินได้จริงทุกชิ้น พอคุณพี่พูด แบบนี้..คนอย่างหนาก็ต้องสนองกันหน่อย ซัดมาซะถุงเบ่อเริ่ม!! เดินลึกเข้าไปด้านในเราจะเจอขุมสมบัตคิ ะ่ ร้านอาหารเพียบเลยค่ะ ผัดไท ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปิง หมูย่าง ไข่กระโหลก ขนมนมเนย.. ลายตาแล้ว เลือกไม่ถูกเลย พออิ่มแล้วก็ต้องเดินย่อยนิดหน่อย มีร้านขายซีดีเพลง ไทยสมัยก่อนด้วย มีร้านขายยาที่ตั้งชื่อเก๋ๆ ว่า “สยามโอสถ” และร้าน ถ่ายรูปที่แค่ชื่ออยากจะเข้าไปถ่ายแล้ว “ฉายาสมอเรียง” ถ้าใครพา เจ้าคุณพ่อกับหม่อมแม่มาด้วยต้องยิ้มกันแก้มปริเลยล่ะค่าาา เพราะจะ ได้ย้อนนึกถึงวันเก่าๆ คงจะมีเรื่องเล่าสนุกๆ เยอะเลย เราเหลือบไป เห็นโรงรับจำ�นำ� ที่ถูกจำ�ลองมาไว้ที่นี่ อาการเก่าของหนาก็กำ�เริบ กว่า จะเลิกติดโรงจำ�นำ�ได้ ต้องไปรักษาหลายที่ แต่คราวนี้คงลำ�บาก เพราะ ทั้งตัวมีแต่ถุงขนมที่เพิ่งจะซื้อมา กับชะลอมไปฝากชายพจน์ คงจะจำ�นำ� ไม่ได้..เศร้า!!
มาถึงหัวหินทั้งที ไม่ไปดูหินก็กระไรอยู่ เช้านี้ออกไปเดินเล่น ชายหาดให้น้ำ�ทะเลกระทบตาตุ่มพอคันๆ ท่าจะดี หาดที่นี่มีแต่ ฝรั่งค่ะ โน่นก็ฝรั่ง นี่ก็ฝรั่ง จนบางทีหนานึกว่ายังอยู่ต่างประเทศ อยู่เลย (ปริศนาเชาว์อยู่อเมริกามาก่อนค่าาา) เก้าอี้ผ้าใบกับร่ม หลากสีวางคลุมไปทั่วหาดหัวหิน ตลอดแนวหาดมีคนเล่นน้ำ� ประปราย หรือถ้าใครอยากขี่ม้ากินลมก็เตรียมเงินไว้สักสองร้อย ม้าจะเคลื่อนที่เป็นเวลาสิบห้านาฑี (ไม่ได้เขียนผิด“นาฑี”แบบ คุณ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ ผู้ร่ำ�รวยภาษาเขาว่าไว้) www.playground-mag.com
043
ใครมี เวลาอี ก สั ก หน่ อ ยที่ นี่ มี ร้ า นอาหาร ร้ า นกาแฟสไตล์ วิ น เทจเพี ย บ แนะนำ�ร้าน “บ้านถั่วเย็น” ที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาดหัวหิน และกาแฟ “เจ๊กเปี๊ยะ” อยู่คู่หัวหินมานานกว่า ๖๐ ปี นานจนคนเขาเรียกแยกที่ตั้ง ร้านว่า “สี่แยกเจ๊กเปี๊ยะ” ช่วงสายๆ ไปเที่ยว “วิกหัวหิน” ดูละครเวทีสัก เรื่องสองเรื่อง ข้อแนะนำ�คือ ถ้าใครอยากดูละครเวทีจริงๆ ให้โทรไปถาม รอบการแสดงก่อนจะดีกว่านะ เดี๋ยวพลาดแล้วจะเสียดาย
สามล้อถีบนะ ราคาคงประมาณสามหมื่น พอไปถึงเราก็เนียนๆ ไปยืนอ่านประวัติตรงทางเข้า จะได้รู้ที่มาที่ไปบ้าง จากนั้นเดิน เท้าต่อไปตามทางเดินร่มรื่น เข้ากับตัวหนาซะนี่กระไร นี่ถ้าถือ ชะลอมมาด้วยจะเปลี่ยนชื่อเป็น “พจมาน” ซะเลย แต่ไม่ได้ เรา มาตามหาวันเก่า มาตามหาชายพจน์ คงต้องเป็น ปริศนาเชาว์ ต่อไป สีเหลืองตัดกับฟ้าของตัวพระที่นั่ง แถมสีแดงจากหลังคา สร้างความตื่นตาแก่ผู้พบเห็น ฝรั่งยืนตะลึงในความงามและง่าย ของความเป็นไทยสมัยโน้น อาคารไม้ชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง หลังคา ทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องว่าว ช่างดงามจริงๆ พระตำ�หนักต่างๆ จะกระจายตัวกันเป็นหลังๆ แต่สามารถเดินจากหลังนี้ไปหลังโน้น ได้สบายๆ ด้วยทางเชื่อมแต่ละหลังทั้งด้านล่างและด้านบน ถ้า ได้อยู่แบบนี้คงจะไม่อยากกลับกรุงเทพแน่ๆ แต่เวลาไม่เคยคอยใคร ถัดจากนี้จะไปเดินเล่นที่ ซิเคด้ามาร์เก็ต
ซิเคด้ามาร์เก็ต (Cicada Market) หรือตลาดจั๊กจั่น อยู่บนพื้นที่ ของสวนศรีก่อนถึงเขาตะเกียบ ภายในสวนศรีมักจะมีการแสดง สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป มีลานอาหารอร่อยๆ ราคาย่อม เยาว์ และเมื่อท้องอิ่มก็เดินเล่นชมของทำ�มือ ของเก่า เสื้อผ้า งาน บ่ายคล้อยๆ เดินทางขึ้นเหนือไปหน่อย พาไปชมความงดงามของ พระราช ศิลปะหลาหลาย โซนหลักๆ ของตลาดจั๊กจั่น ได้แก่ Art A La นิเวศน์มฤคทายวัน วังเก่าสมัยรัชกาลที่ 6 ที่อยู่ห่างไปไม่กี่กิโล แต่อย่าไป Mode และโซน Art of Eating เพื่อนสนิทห่างๆ ของหนา นั่ง 044
www.playground-mag.com
เขียนรูปไม่เหมือนอยู่ที่นี่ ใครไปแล้วเห็นคนนั่งเขียนรูปไม่เหมือนอยู่ ให้ลองถาม ว่า “เพื่อนหนาหรือเปล่า” เจอตัวจะได้ลด ๑๐ บาท เดิ นเพลิ น ไปสักพักรู้ตัว อีกทีก็เย็นย่ำ� เดี๋ย วต้องรีบไปอาบน้ำ�แต่งตัว ปะแป้ง มองเล่ยะซักหน่อย ค่ำ�ๆ จะไปแวะตลาดโต้รุ่ง ก่อนไปกินซีฟู้ดกับชายพจน์ริมหาด ท่ามกลางแสงจันทร์นวลผ่อง “ตลาดโต้รุ่งหัวหิน” อยู่ตรงถนนเดชานุชิตตัดถนนเพชรเกษม มาไม่ยาก ถามใคร ก็รู้จัก ปริษศนาใช้บริการพี่สามล้อถีบอีกครั้ง (สงสัยเหมือนกันว่าพี่เขาไม่พักบ้าง เหรอ) ที่นี่มีอาหารง่ายๆ อร่อยๆเพียบ ผัดไทย หอยทอด ขาหมู มันไก่ เพราะ ปลา เตี๋ยวแห้ง ตามสั่ง มาหมด แต่ที่เป็นที่นิยมของฝรั่งมังค่ามากกว่าคนไทยคือ ซีฟู้ด ที่ตั้งเตาปิ้งกันข้างถนนยาวไปทั้งแถบ กุ้งตัวเท่าไก่ ปลาตัวเท่าหมู ถูกวาง ล่อน้ำ�ลายอย่างเป็นระเบียบ มีเนื้อสเต็กชิ้นเท่าเขียงที่บ้านแอบอยู่ข้างๆ นี่ถ้าหนา ไม่มีนัดดินเนอร์กับคุณชาย หนาจะฟาดให้เรียบพระเดชพระคุณ ได้เวลาต้องไปแล้ว นัดดินเนอร์นี้ที่ร้านริมหาด คุยไปพลางแทะหัวกุ้งไปพลาง โรแมนติคไม่หยอก ครั้นจะพึ่งบริการปั่นยิกๆ ของพี่สามล้อคนเดิมก็กลัวไปทัน แม้ชุดที่ใส่จะแสนวินเทจแค่ไหน แต่เพื่อรักษาเวลา โดดขึ้นมอไซค์วินเลยดีกว่าเรา พี่วินก็พาซิ่งไม่เกินห้านาฑี ถึงร้านแล้วค่าาาา ถ้ารู้ว่าใกล้ขนาดนี้ “วันหลังเดินมา ก็ได้” ร้านอาหารซีฟู้ดริมหาดมีให้เลือกเกลื่อนกลาดเลยค่ะ ทุกร้านคนแน่นหมด และส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง (อีกแล้ว) ผ่านไปสองชั่วโมง... “คุณชายนะคุณชาย หลอกหนาอีกตามเคย” ปริศนาเชาว์บ่นกับตัวเอง “ไม่เป็นไร กินคนเดียวก็ได้วะ หญิงเดี่ยวขาลุยอย่างเราไม่กลัวอยู่แล้นนนน” ในห้วงคำ�นึงและบรรยกาศของวันวาน ปริศนาเชาว์ทุบปูเสียงกังวาลไปทั้งหาด หัวหิน พลางคิดในใจว่า กลับไปเพลิดเพลินกับวันวานที่เพลินวานท่าจะดี เพราะ หล่อนแอบเห็นว่ามี “ร้านยาดอง” อยู่บนชั้นสอง... คำ�เตือน : ยาดองเพลินวานเขาเป็นแบบน่ารักๆ ให้ดูเก๋ๆ นะจ๊ะ ถ้าจะไปกินเพื่อเมามาย ควรเปลี่ยนชื่อเป็น “ลำ�ยอง” ไปเลยดีกว่าน้องหนาขาลุย
จาก ชายพจน์ www.playground-mag.com
045
learning around ..
Vienna Austria
ลอยล่องสู่ดินแดนแห่งความฝันของนักดนตรี..
เวียนนาเป็นชื่อภาษาอังกฤษของเมืองนี้ แต่ชื่ออย่างเป็นทางการ ในภาษาเยอรมันคือ “Wien” และอีกชื่อที่มาจากภาษาเซลติกคือ “Windo” ซึ่งมีความหมายว่า แสงสว่างและความยุติธรรม และ ชาวสโลวีเนียจะเรียกเมืองนี้ว่า “Dunaj” ซึ่งหมายถึงพื้นที่ๆ ตั้ง อยู่ในบริเวณแม่น้ำ�ดานูบ เวียนนาเป็นเมืองหลวง และเมืองที่มี ขนาดใหญ่ ที่ สุ ด ในประเทศออสเตรี ย (ออสเตรี ย นะ..ไม่ ใช่ ออสเตรเลีย..) เวี ย นนามี ป ระชากรราว 1.7 ล้ า นคน เป็ น ศู น ย์ ก ลางทั้ ง ทาง เศรษฐกิจและการปกครองของประเทศ ประกอบกับที่ตั้งที่อยู่ ใจกลางของทวีปยุโรปพอดี นครแห่งนี้จึงมีความสำ�คัญในระดับ นานาชาติโดยเป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น United Nations Industrial Develop-
ment Organization (UNIDO), Organization of Petroleum
046
www.playground-mag.com
และยังเป็นที่ตั้งของสำ�นักงาน สหประชาชาติแห่งที่สามของโลกอีกด้วย
Exporting Countries (OPEC)
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้นเวียนนาก็ไม่เป็นสองรองใคร เวียนนา เป็ น เมื อ งท่ อ งเที่ ย วที่ สำ � คั ญ เมื อ งหนึ่ ง ของยุ โรป เพราะความ โรแมนติกของดนตรีคลาสสิกและความเงียบสงบของเมือง ที่เป็น เสน่ห์ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องเดินทางมาเยี่ยมชม เวียนนาสักครั้งในชีวิต เวียนนาถูกยกย่องให้เป็นเมืองแห่งดนตรี เพราะมรดกทางดนตรี ที่ถูกกล่าวถึงจนทุกวันนี้ ช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์เวียนนาเป็น เมืองที่มีไว้สำ�หรับขุนนาง และบรรดาชนชั้นเจ้านายเท่านั้น ประเทศออสเตรียมีพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสูง และยอดเขาที่ สูงที่สุด คือ โกรสกลอคเนอร์ (Gross Glockner) ช่วงอากาศ หนาวจะมีหิมะปกคลุมยอดเขา ซึ่งจะหนาวจัดในเดือนธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าพูดถึงเวียนนาใครๆ ก็ต้องรู้จักชายผู้นี้ “โมสาร์ท (Mozart)” โมสาร์ ท เกิ ด ในปี 1721 ในเมื อ งซาลส์ บ วร์ ก เขาคื อ นั ก ดนตรี คลาสสิ ค ที่ เ ดิ น ทางไปแสดงดนตรี ทั่ ว ยุ โรปตั้ ง แต่ ยั ง เป็ น เด็ ก ผลงานของเขาได้ รั บ ความนิ ย มอย่ า งสู ง จนทำ � ให้ ป ระเทศ ออสเตรียเป็นที่รู้จักทั่วโลก บ้านดนตรี (haus der musik) สถานที่ๆ คนรักดนตรีพลาดไม่ ได้ บ้านดนตรีหลังนี้เหมาะสำ�หรับผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องดนตรี อย่างจริงจัง เพราะที่นี่จะให้ความรู้เรื่องเสียงตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไป จนถึงขั้นสูง ภายในบ้านจัดเป็นห้องพิพิธภัณฑ์ทางดนตรีของ เหล่าศิลปินชื่อก้องโลก อาทิ Wolfgang Amadeus Mozart, Ludwigvan Beethoven, Franz Schubert, Johann Strauss
ห้องจำ�ลองเสียงต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านอุปกรณ์แปลกตา ทั้งใน รูปฝักบัวอาบน้ำ�และเบ้าครึ่งวงกลมของลูกโลก และห้องแสดง การจำ�ลองเสียงทารกเมื่อครั้งยังเป็นตัวอ่อนอยู่ในครรภ์มารดา www.playground-mag.com
047
ว่าเขาจะได้ยินเสียงอะไรบ้าง โดยใช้วิทยาการสมัยใหม่มานำ� เสนอทั้งภาพและเสียงได้อย่างน่าสนใจ สถานที่ๆ อยากแนะนำ�ต่อมาคือ สวนสนุกพราเตอร์ (Prater) ตั้งอยู่ที่ฝั่งเมืองใหม่ของเวียนนาที่เรียกว่า Leopoldstadt ซึ่ง ต้องข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ�ดานูบ ชื่อ “Prater” นั้นแปลว่า ทุ่งหญ้า พราเตอร์เป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ที่นี่มี เครื่องเล่นมากมาย เช่น ม้าหมุน ลูกกลิ้งถาดรองแก้ว บ้านผีสิง โรลเลอร์โคสเตอร์ และคาสิโน รวมถึงชิงช้าสวรรค์ (Riesenrad) ขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 200 ฟุต ชิงช้าสวรรค์เก่าแก่ที่อยู่คู่เวียนนามาตั้งแต่ปีค.ศ. 1879 นี้ ใช้เป็น พาหนะชมวิวทั่วเวียนนาได้วิเศษที่สุด นอกจากนี้ยังมีบริการเปิด ให้เช่าสำ�หรับงานฉลองเล็กๆ หรืองานจัดแถลงข่าวพร้อมอาหาร ค่ำ�ชั้นเลิศ ในตู้กระเช้าเดอลุกซ์จำ�นวน 2 ตู้ พราเตอร์เปิดเป็น สถานที่สาธารณะสามารถเข้าได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู แต่ถ้าต้องการจะเล่นเครื่องเล่นชนิดใดก็ค่อยจ่ายเงิน 1-10 ยูโร แล้วแต่ชนิดของเครื่องเล่นนั้นๆ สวนสนุกนี้เปิดตั้งแต่ 10.00 01.00 น. ของทุกวัน เวียนนามีสถานที่สวยงามให้เราได้ไปชมกันอีกมากมาย เช่น พระ ราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) โดยสมเด็จพระจักร พรรดิ แ ม็ ก ซิ มิ เ ลี ย นที่ 2 ได้ ซื้ อ ที่ ดิ น ริ ม ฝั่ ง แม่ น้ำ � เวน ซึ่ ง ชื่ อ Schönbrunn หมายถึง น้ำ�พุอันงดงาม มาจากน้ำ�พุที่พุดขึ้นใน บริเวณนั้น พระราชวังนี้ถูกสร้างเพื่อใช้เป็นพระตำ�หนักชายป่า ใช้ในเวลาออกล่าสัตว์ หรือว่าจะไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะประจำ�เมือง อย่างสตัคท์ พาร์ค (StadtPark) ที่นี่มีรูปปั้นของนักดนตรีที่มีชื่อเสียงของ โลกมากมาย เช่น โมสาร์ท, โยฮัน สเตร้าท์, และชูเบริ์ต (อย่าง ว่าละนะ เมืองดนตรี รูปปั้นก็มีแต่นักดนตรีทั้งนั้น) สตัคท์พาร์ค มักจะมีการแสดงคอนเสิรต์ จากศิลปินผลัดเปลีย่ นหมุนเวียนกันไป สุดท้ายก่อนกลับแวะมหาวิหารเซนต์สตีเอฟน (St. Stephen’s Cathedral) ซั ก นิ ด ที่ นี่ เ ป็ น โบสถ์ ข องนิ ก ายโรมั น คาทอลิ ก รูปแบบการก่อสร้างเป็นแบบโรมานเนสก์และกอทิกผสมผสานกัน จุดเด่นคือหลังคากระเบื้องหลากสีที่มีความยาวถึง 111 เมตร และใช้กระเบื้องทั้งหมด 230,000 แผ่น (ไปนับมาแล้ว) เวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองที่มีความโรแมนติค และมี มนต์ขลังของดนตรีคลาสสิคอยู่ทุกมุมเมือง ยังมีสถานที่สำ �คัญ น่าเดินเล่นแกะรอยประวัติศาสตร์อีกมากมาย เวียนนนาน่าจะ เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำ�หรับคนที่กำ�ลังมองหาที่เรียนต่อในต่าง ประเทศ โดยเฉพาะด้านศิลปะ และดนตรี เมืองสวย บรรยากาศดี ดนตรีก็เพราะ แบบนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว.. เวียนนา 048
www.playground-mag.com
www.playground-mag.com
049
ไทยประดิษฐ์ ..
พัดสาน Weave Fan
พัดสาน (weave fan) เป็น ของใช้สำ�หรับโบกเตาไฟ ของคนไทยในสมัยก่อน หรือใช้สำ�หรับโบกร่างกายให้หาย คลายจากความร้ อ นได้ สามารถที่ จ ะนำ � ติ ด ตั ว ไปไหน มาไหนได้อย่างสะดวก วัสดุที่ใช้สานพัดเป็นผลผลิตจาก พืชพรรณธรรมชาติในท้องถิ่นคือ ไม้ไผ่ การสานพัด ผู้สาน นิยมสานเป็นรูปลักษณะต่าง ๆ มุ่งเน้นประโยชน์การใช้งาน มีการปรับปรุงพัฒนารูปแบบให้มีความสวยงามประณีต เช่น พัดสานห้าเหลี่ยมเหมาะสำ�หรับโบกพัดเตาไฟ พัดยก ลายดอกเป็นลวดลายต่าง ๆ พัดละเอียดรูปใบโพธิ์หรือ รูปหัวใจ และรูปตาลปัตร พัดสาน “บ้านแพรก” เป็นงาน
050
www.playground-mag.com
หัตถกรรมพื้นบ้านอันทรงคุณค่าที่เกิดจากภูมิปัญญาชาว บ้านอำ�เภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชาวอำ�เภอ บ้านแพรก ริเริ่มการสานพัดมาเป็นเวลานับ ๔๐ ปี มีการ ประยุกต์ปรับปรุงรูปแบบตลอดเวลา การสานพัดเป็นอาชีพ ที่เสริมรายได้ดีภายในครัวเรือน ชาวบ้านจะสานพัดในช่วง ว่างเว้นจากการทำ�นา เป็นสินค้าพื้นเมืองที่สำ�คัญอย่างหนึ่ง ของชาวบ้านแพรก พัดสานจึงกลายมาเป็นงานหัตถกรรม พื้นบ้านที่มีชื่อเสียง และได้รับการยกย่องให้เป็นเอกลักษณ์ ของชาวอำ�เภอบ้านแพรกมาตั้งแต่อดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
www.playground-mag.com
051
052
www.playground-mag.com