THER MAGAZINE

Page 1

1


2


Editor's LETTER

มหนาวมาแล้ว...1 ความรู ้ สึ ก แรกที่ เ ราก้ า วขาลงจากเตี ย งแล้ ว พบว่ า อากาศรอบตัวเย็นลง ขณะที่เราก�าลังตื่นเต้นกับการ เข้าสู่ฤดูใหม่อย่างเป็นทางการ(สักที) แต่เมื่อเราเดิน ออกจากที่คอนโดก็พบว่า อากาศรอบตัวที่เย็นลงนั้น อาจไม่ ได้ท�าให้คุณรู้สึกสดชื่นเสมอไป....4

หากคุณผู้อ่านลองสังเกตดู รอบนี้ลมหนาวมาแบบปุบปับชนิดที่ว่าเมื่อวานยังร้อนอบอ้าวอยู่เลย ไฉนวันนี้อากาศถึงได้เย็นลงแบบนี้ เล่นเอาร่างกายที่เคยแข็งแรงมาตลอดหลายเดือน เกิดเครื่องรวนซะอย่าง นั้น... ต้องยอมรับว่า ร่างกายของคนเรานั้นก็เหมือนกับเครื่องจักร ถ้าเราใช้งานมากเกินไป ประกอบกับ ปล่อยปละละเลยการดูแลแล้วล่ะก็... เชื้อโรครอบตัวก็จะสามารถจู่ โจมเข้าสู่ร่างกายเราได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นหากช่วงนี้ ใครที่ท�างานหนัก เราแนะน�าให้หันมาใส่ ใจเวลาพักผ่อนของตัวเองมากขึ้น หาอาหารเสริมมาเป็นตัวช่วยในการรักษาสุขภาพด้วยยิ่งดี เพราะร่างกายของเรา ถ้าเราไม่ดูแลให้ดี ก็ ไม่มี ใครดูแลให้เราได้ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

อิชย์อาณิคม์ ชิตวิเศษ บรรณาธิการบริหาร 3


contentable 7

t

KIMONO by NADESHIKO By เกตุวดี Marumura

The Hidden Closet By กันต์กนิษฐ์ มิตรภักดี

16

10

หยุดชี้นิ้วตัดสิน By The Standard Culture

Female Rapper By ฉัตรรวี เสนธนิสศักดิ์

22 4

19

Kota Kinabalu By ปรางวลัย พูลทวี


What's story

Inside?

5


6


ความกลัดกลุ้มใจเล็กๆ น้อยๆ ของดิฉันในตอนนี้คือ การหาชุดไทยมาใส่ทุกวันศุกร์ ที่ท�างานขอความร่วมมือในการ ใส่ผ้าไทย ซึ่งดิฉันก็อยากให้ความร่วมมือบ้าง แต่ดิฉันยังไม่เจอ ชุดไทยในฝัน คือ ชุดไทยที่ ใส่ง่าย ลายทันสมัย และดู ‘เก๋ ๆ’ เมื่อเดือนที่แล้วดิฉันมีเวลาที่ โตเกียว 3 ชั่วโมงเพื่อ รอขึ้นเครื่องบินกลับไทย ย่านโปรดที่ดิฉันเลือกไปคือโอโมเตะซัน โดะ และเผอิญเจอร้านหนึ่งที่หยุดลมหายใจดิฉัน ร้าน KIMONO by NADESHIKO

กลกิโมโน

แบรนด์เกของยามาโตะ ร้านกิโมโนอันดับ หนึ่งของญี่ปุ่น ที่น�าเสนอวิธีการใส่กิโมโน เกไกแบบ East Meets West เรื่องโดย เกตุวดี Marumura

กิ โมโนส่วนใหญ่ที่นี่จะเรียบหรูหรือเป็นลายญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นนกกระเรียน แต่ KIMONO by NADESHIKO นี้น�าเสนอ กิโมโนลายเรียบๆ เป็นลายสกอตบ้าง ลายกราฟิกบ้าง เป็นลาย ที่ดูสบายๆ ใส่ ไปเดินเล่นก็ ได้ และสีสันที่ ใช้ก็ดูใหม่ทันสมัย เช่น เดียวกัน เมื่อเทียบกับร้านกิโมโนทั่วไปแล้ว ร้านปกติจะดูสว่างๆ ดูยิ่งใหญ่อลังการ มีเสื่อตาตามิ แต่ร้านนี้ดู ‘ป๊อป’ มาก แถม หน้าร้านยังมีขายเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปินปักผม ตุ้มหู กระเป๋าย่าม เพื่อให้เข้ากับชุดอีกด้วย ส�าหรับชาวต่างชาติที่ ไม่คอ่ ยได้ ใส่ชดุ ยูกาตะและไม่ เคยมีชดุ กิโมโนเลยอย่างดิฉนั บอกเลยว่าเห็นครัง้ แรกคือ กรีด๊ กร๊า ดกับความน่ารัก สดใส ของกิโมโนร้านนี้อย่างมาก และที่ส�าคัญ ที่สุดคือ ราคาเป็นมิตรมาก! หากเทียบกับกิ โมโนทั่วไปนั้นราคาประมาณตัวละ 30,000 บาทเป็นอย่างต�า่ โดยเฉลีย่ สูงสุดราคาเหยียบแสน แถม นี่คือราคาแค่ชุดกิโมโน ยังไม่รวมผ้าอื่นๆ ที่ต้องใส่ร่วมกันอีก แต่ กิโมโนร้านนี้ราคารวมกิโมโน โอบิ (ผ้าพันเอว) ทุกอย่างแล้วตก เพียง 1 – 3 หมื่นบาทเท่านั้น ท�าให้ กิโมโนที่เคยเป็นของแพง แทบจะหาโอกาสใส่ ไม่ ได้ (โอกาสที่ ใส่คอื ตอนไปร่วมพิธชี งชากับ ดูละครคาบูก)ิ และไม่ทา� ให้วยั รุน่ สนใจนัน้ กลายเป็น ‘แฟชัน่ ’ เก๋ๆ อย่างหนึ่งที่ท�าให้เด็กผู้หญิงทั่วไปอาจเอื้อมได้

7


วิธีการเดินของฉันต่างไป มีสถานที่ที่ฉันจะก้าวเดินไปอีกมาก ฉันเริ่มจะชินกับการมีคนมองฉันนิดหนึ่งแล้ว หากฉันใส่กิโมโนมากขึ้น ฉันได้ขยับไปท�าสิ่งต่างๆ มากขึ้นทุกวัน แต่มันไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนโลกนะ มันเป็นความแปลกใหม่เล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจ�าวัน ในขอบเขตรัศมี 500 เมตรรอบตัวฉัน แต่ข้างในตัวฉันนั้น เหมือนค่อยๆ เติบโตขึ้น ฉัน…เริ่มใส่กิโมโนแล้วล่ะ เรื่องตื่นเต้นนิดๆ ที่เกิดในชีวิตฉัน เปลี่ยนทรงผม…จากยาว เป็นสั้น ลองใส่รองเท้าส้นสูง ลองฉีดน�้าหอมกลิ่นที่ชอบ เวลาที่ฉันได้เป็นตัวของฉันในแบบใหม่ ฉัน รู้สึกสนุก ขณะเดียวกันก็ตื่นเต้น ลองให้ ‘กิโมโน’ ท�าให้คุณตื่นเต้นเล็กๆ กันนะ

8

และที่กล่าวมาคือประโยคแรกบนเว็บ… คอนเซปต์ของแบรนด์ คือ “My First Kimono” ส�าหรับ สาวๆ วัย 20 ปี ราคาจึงไม่แพง และสามารถซักกิโมโนในเครื่องซัก ผ้าเองได้ (กิโมโนของจริงเป็นผ้าไหม ต้องส่งซักโดยเฉพาะ ค่าใช้จ่าย สูง ดูแลยากมาก) จริงๆ แล้ว เจ้าของแบรนด์คือร้านกิโมโนยามาโตะ ร้าน กิโมโนที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น และมีสาขากว่า 120 สาขาทั่ว ประเทศ และเป็นแบรนด์ที่มีอายุกว่า 100 ปี หน้ า ตาร้ า นยามาโตะ ซึ่ ง แตกต่ า งกั บ KIMONO by NADESHIKO โดยสิ้นเชิง ไม่น่าเชื่อว่าบริษัทเก่าแก่จะมีแบรนด์ที่ โดนใจวัยรุ่นได้ เพียงนี้... บทเรียนที่ดิฉันได้จากการไป ‘เผลอ’ เยือน KIMONO by NADESHIKO คือ


2. กล้าประกาศความดี

1. กล้าปรับสินค้า ร้านที่ขายสินค้าไทยหลายๆ ร้านพยายามน�ำเสนอ ความเป็นไทย เช่น ผ้าถุงไทย เข็มขัดเงิน ซึ่งนั่นอาจจะไม่ ได้ท�ำให้วัย รุ่นกรี๊ดกร๊าดสักเท่าไร แต่ KIMONO by NADESHIKO เข้าใจดีว่า วัยรุ่นไม่ชอบใส่กิโมโนเพราะแพง ดูแลยาก ไม่รู้จะใส่ ไปไหน และใส่ แล้วดูเชย ทางแบรนด์พยายามแก้ปัญหาทุกจุดด้วยการเปลี่ยน วัสดุให้ราคาถูกลง สีสันสดใสขึ้น ลวดลายวัยรุ่นขึ้น เพื่อให้กิโมโน กลายเป็นของที่เข้าถึงได้ง่าย และเพื่อให้คนรุ่นใหม่ต้องการใส่กิโมโน มากขึ้น พร้อมกันนั้นยังน�ำเสนอวิธีการใส่กิโมโนแบบใหม่ เช่น สาวที่ ใส่แว่นก็ ใส่กิโมโนได้ หรือหมวกที่ ใส่จะเป็นหมวกตะวันตกหรือ หมวกสานที่มีที่บ้านก็ ใส่ด้วยกันได้ ดูเก๋ ไปอีกแบบดี

เวลาหน่วยงานต่าง ๆ น�ำเสนอสินค้าไทย เช่น ขนมไทยโบราณ กระเป๋า หวาย ผ้าไหมไทย เราจะใช้ค�ำว่า ‘รณรงค์’ เช่น รณรงค์ ใส่ชุดไทย นั่นหมายถึงเรา ก�ำลังพยายามหาทางชักชวนให้คนกลับมาใช้ของสมัยก่อนอยู่ แต่พอกระแสหมดก็ ไม่มี ใครอยากใช้อีก (เพราะเราโดนรณรงค์หรือกึ่งบังคับ) แต่ KIMONO by NADESHIKO นั้นไม่ ได้พยายามรณรงค์ ให้คนใช้ สินค้าญี่ปุ่น แต่กลับชูความเป็นญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ เช่น ประโยคหน้าเว็บไซต์ ก็เขียน ว่า “วิธีการเดินของฉันจะต่างไป เริ่มมีคนมองฉัน” หรือเมื่ออธิบายตัวสินค้า ทาง แบรนด์น�ำเสนอว่า “ลองใส่ผ้าลายใหม่ที่ ไม่สามารถใส่ ได้ ในชุดกระโปรงตะวันตก ทัว่ ไปได้” ทุกประโยคล้วนน�ำสิง่ ทีเ่ ราไม่สามารถสัมผัสประสบการณ์ได้จากชุดธรรม ดาๆ ทัว่ ไปเพราะกิโมโนเป็นผ้าหน้าแคบ เวลาเดินต้องเดินก้าวสัน้ ๆ แต่นนั่ ก็กลายมา เป็นวิธีการเดินที่เป็นเอกลักษณ์แบบกิโมโน และดูน่ารักดี เพราะใส่กิโมโน คนอื่นๆ ที่เดินผ่านอาจหยุดมองเรา เพราะใส่กิโมโน จึงสามารถลองใส่ผ้าสีแดงแปร๊ดหรือฟ้าสลับขาวได้ เป็นลายที่เข้ากับกิโมโนโดยเฉพาะจริงๆ กล้าประกาศจุดเด่นที่เฉพาะสินค้าโบราณเท่านั้นจึงจะมี ได้ 3. ท�ำไมต้องซื้อ ป้ายหน้าร้านหรือเว็บในไทยมักจะบอกเพียงชื่อสินค้านั้นๆ เช่น จาน สังคโลก เสื้อย้อมคราม บางแบรนด์ที่ท�ำการตลาดเก่งหน่อยก็จะเล่า Story ของ สินค้านั้นๆ เล่ากระบวนการท�ำ เล่าวิธีออกแบบลวดลาย แต่ Storytelling เหล่านั้นจะไม่ท�ำให้ลูกค้าเชื่อหากขาดสิ่งส�ำคัญไป นั่นคือเราได้บอกลูกค้าหรือยังว่า ท�ำไมต้องซื้อ Kimono by NADESHIKO เลือกทีจ่ ะน�ำเสนอ “การเปลีย่ นแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตที่ท�ำให้คนตื่นเต้น” โดยน�ำประสบการณ์การใส่กิโมโนนั้นไปอยู่ร่วมกับ การได้ลองใส่รองเท้าส้นสูงหรือการฉีดน�้ำหอมของสาวๆ จริงสินะ เสาร์-อาทิตย์นี้ลองเปลี่ยนตัวเองนิดๆ ด้วยการหันมาลอง ใส่กิโมโนดีกว่า นั่นคือสิ่งที่ลูกค้าจะบอกกับตัวเอง หลังได้รับ Brand Message นี้ ประโยคนี้จะท�ำให้ลูกค้ารู้สึก “จริงสินะ” และเห็นข้อดีของการซื้อ สินค้ามากขึ้น วันนี้ (วันที่เขียนต้นฉบับ) ตรงกับวันศุกร์พอดี ดิฉันก็ยังกลุ้มใจกับการ หาชุดไทยที่เข้ากับตัวเองใส่ ไปท�ำงานเช้านี้ แต่คืนนี้ดิฉันจะบินไปญี่ปุ่น พบกันนะ Kimono by NADESHIKO

9


The Hidden Closet เซ็กซ์ที่เติมเต็มและตัวตนอื่นที่ซ่อนอยู่ใน

อีโรติกช็อปของ

ออย อรนันท์

เรื่องโดย กันต์กนิษฐ์ มิตรภักดี

10


The Hidden Closet คืออีโรติกช็อปขนาดย่อม

ในซอยทองหล่อ 6 ที่นี่พรั่งพร้อมด้วยของเล่นและคอสตูม นานาชนิดที่รอคอยให้หนุ่มสาวผู้เบื่อหน่ายกับเซ็กซ์แบบ เดิมๆ ได้ไปเลือก ไปลอง เผื่อจะค้นพบตัวตนใหม่ๆ ที่ตัวเอง อาจไม่รู้ว่าซุกซ่อนอยู่ เจ้าของร้านอย่าง ออย–อรนันท์ ตั้งปณิธาน นท์ คือหญิงสาวที่เปดกว้างเรื่องเซ็กซ์และพร้อมมอบค�า แนะน�าเรื่องบนเตียงให้กับใครก็ตามที่แวะเวียนไปเยี่ยมชมตู้ เสื้อผ้าลับของเธอ จะบอกแฟนยังไงว่าอยากลองเล่นอะไรใหม่ๆ บนเตียง? “ก็คงต้องพูดตรงๆ หรือเปล่า” หญิงสาวผมบลอนด์ตอบ เคล้าเสียงหัวเราะ “อาจจะลองหยอดๆ ก่อนก็ ได้ว่า เธออยากให้ฉันเป็น อะไร เล่นอะไร เพราะแฟนตาซีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หรือไม่กเ็ ปลีย่ น ชุดมาเลย (หัวเราะ) ซื้อของมาเลย แล้วมาชวนให้เขาลองเล่น ของแบบนี้ มันต้องลองไป ปรับไป คุยกันว่าชอบแบบนี้ ไม่ชอบแบบนี้ เจอกันไม่ถึงสิบนาที ออย–อรนันท์ ตั้งปณิธานนท์ ก็ ให้ค�า แนะน�าเรื่องบนเตียงกับเราได้แล้ว สมดีกรีเจ้าของร้าน The Hidden Closet อี โรติกช็อปขนาดย่อมที่อัดแน่นด้วย ‘ของเล่น’ ส�าหรับคู่รักรัก สนุกที่อยากหลีกหนีความจ�าเจของท่ามิชชันนารี ก่อนจะลงลึกไปกว่านี้ เราคงต้องเตือนก่อนว่า บทความนี้ ไม่ เหมาะกับคนทีเ่ คร่งครัดกับศีลธรรมทางเพศราวกับอยู่ในยุควิกตอเรียน ไม่ เหมาะกับคนที่เขินอายเกินจะเมนชั่นค�าว่าเซ็กซ์ โดยหน้าไม่แดง แต่ถา้ คุณหนุม่ สาววัยเจริญพันธุผ์ ู้ ไม่เชือ่ ว่าการ ‘ชวนเพือ่ นไป เตะบอล’ คือค�าตอบสุดท้ายยามมีอารมณ์ทางเพศ เขยิบเข้ามาใกล้ๆ เราจะพูดคุยเรื่องเซ็กซ์กัน

ท�าไม ‘หญิงไทยใจงาม’ คนหนึ่ง ถึงกล้าเปดอีโรติกช็อป อะไรที่ ท�าให้เธอกล้ากว่าหญิงสาวคน อื่นที่เราเคยพบเจอ? “เราเรียนเมืองนอกตั้งแต่อายุ 14 กลับมาอยู่ที่นี่ตอน 25 แล้ว” ค�าตอบของหญิงสาวตรงกับการคาดเดาของเรา กระนั้นออยก็ออกตัว “แต่มันก็คงไม่ ใช่แค่อยู่เมืองนอกหรอก เพราะคนไทยหลายคนที่อยู่เมืองนอกก็อาจ ไม่ ได้คิดเหมือนกันกับเรา เหตุผลจริงๆ คงเพราะเราเรียนอาร์ตมั้ง และเพื่อนๆ ที่นู่น ก็ โอเพ่นมาก เราสามารถคุยกันได้หลายๆ เรื่อง ตั้งแต่ดนตรี คัลเจอร์ ความเป็นมา ของมนุษย์ ความแตกต่างของคนแต่ละทวีป” ออยบอกว่า เมือ่ หลายปีกอ่ น ซีรสี ท์ วี่ า่ เป็นแรงบันดาลใจให้เธอและกลุม่ สาวๆ เพื่อนสนิทรวมตัวกันเปิดร้าน The Hidden Closet แต่น่าเสียดายที่เปิดได้ ไม่ นานก็ต้องปิดตัวลงด้วยเหตุน�้าท่วมใหญ่ ในกรุงเทพฯ กระทั่งสองปีที่แล้ว ออยตัดสินใจชุบชีวิต The Hidden Closet ขึ้นมา อีกครั้ง แม้ชื่อจะคงเดิม แต่ร้านใหม่นั้นมาพร้อมคอนเซปต์ ใหม่ที่ลงลึกในศาสตร์และ ศิลปแห่งกามารมณ์ยิ่งกว่าเดิม “ร้านก่อนเราเน้นความสนุกสนานมากกว่า มีของพวกถุงน่อง เทียน กิ๊ฟ เซตปาร์ตี้สละโสด ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น เดินเข้ามาจะไม่ค่อยรู้ จะถามว่าอันนี้ คืออะไร “แต่กับร้านนี้เราเป็นผู้ ใหญ่ขึ้น กลุ่มลูกค้าคือผู้หญิงที่มีอายุขึ้นมาหน่อย อาจจะเลย 28 ปีขึ้นมา มีความมั่นใจในตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เขาจะเดิน เข้ามาในร้านแบบ อุ๊ย อยากได้กุญแจมืออันนี้ อยากได้สร้อยหนังอันนี้ คือสามารถ บอกเราได้เลยว่า ชอบแนวน่ารัก ชอบแบบหนังๆ แนะน�าสินค้าให้หน่อย” ด้วยช่อง ว่างระหว่างปีของร้านแรกและร้านปัจจุบัน คล้ายกับว่าร้านนี้เป็นภาพสะท้อนตัวตน ออยที่เติบโตขึ้น เราตั้งข้อสังเกต “อืม เราเองก็ ไม่ ได้อายที่จะพูดเรื่องพวกนี้แล้ว ความใคร่มีอยู่ ในตัวทุก คน มันซ่อนอยู่ลึกๆ ข้างใน เราคิดว่าผู้หญิงทุกคนควรรู้ก่อนว่าจะพลีสตัวเองยังไง เพราะฉะนัน้ การมีของเล่นหรืออะไรก็แล้วแต่ทเี่ ราสามารถให้ความสุขกับตัวเองได้ มัน

11


ในชีวิตจริงเราจะเป็นใครอื่นได้นอกจากตัวเอง? “เวลาปกติเราก็ต้องไปท�างาน ต้องเป็นคนคนหนึ่งที่เราต้องเป็น แต่จริงๆ แล้วคนเราสามารถมี ได้หลายตัวตน คุณเป็นนางพยาบาลได้ เป็น นางแบบได้ เป็นได้หลายแบบเลย” ออยว่า ในชีวิตเซ็กซ์ การสวมตัวตนอื่นทั้งเพิ่มความสนุกสนานและหล่อ เลี้ยงให้เสน่หายังคุกรุ่นอยู่เสมอ “ตอนเปิดร้านนี้ เราอยากเน้นให้คู่รักได้กระชับความสัมพันธ์กัน เพราะพอคนเราแต่งงานไป ก็ต้องมีเซ็กซ์กับคนเดียวไปตลอดชีวิต บางทีมัน ต้องเติมสีสันบ้าง ไม่อยากให้ผู้ชายหรือผู้หญิงคิดว่าต้องไปมองหาอย่างอื่น นอกบ้าน คือเรามีกันและกัน หาอะไรมาเล่นกันก็ ได้ ลองคุยกับคู่ของเราว่า จะลองท�าอะไร จะไม่ผ่านไปจุดไหน เส้นของเราอยู่ตรงไหน” เธอเสริมว่า แนวคิดเรื่องความส�าคัญของเซ็กซ์ ในความสัมพันธ์ ค่อยๆ ก่อตัวในใจพร้อมกับเลขวัยที่เพิ่มขึ้น

“เราควรเป็นผู้หญิงที่ independent อยู่กับแฟนเพราะ เลือกที่จะอยู่ ไม่ใช่ว่าเพราะแฟน ต้องมาท�าให้เรามีความสุข ต้อง มาเอาใจเรา” ไฟสลัวปนกับแสงนีออนสีชมพูและเพลงทีเ่ ปิดคลอเบาๆ ส่งให้ The Hidden Closet ดูเย้ายวนและชวนค้นหา “เราเซตฟีลร้านให้เป็นเหมือนตู้เสื้อผ้าที่ซ่อนอยู่ ในห้องนอนของผู้ หญิง” ออยอธิบายเหตุผลที่ภายในร้านไม่ ได้แบ่งพื้นที่ส�าหรับสินค้าแต่ละหมวด อย่างชัดเจน หากแต่มี โต๊ะ ตู้ และราวแขวนที่เรียงรายด้วยเสื้อผ้าและแอ็กเซส เซอรีนานาชนิดกระจายอยู่รอบร้าน วิธีเดียวที่จะหาคอสตูมที่ ใช่หรือของเล่นที่ ชอบคือการค่อยๆ ขุด ค่อยๆ ค้นใน ‘ตู้เสื้อผ้า’ แห่งนี้อย่างถ้วนทั่ว ชุดนอนโปร่งบาง ชุดเลเท็กซ์แนบเนื้อ ชุดนางพยาบาล แก๊กบอล หลากสี เชือกชิบาริ กุญแจมือทั้งแบบเบสิกและแบบขนมิงก์ฟูฟ่อง แส้ที่ท�าจาก หลากหลายวัสดุ ปลอกคอส�าหรับหนุม่ สาวสาย submissive–ทีน่ มี่ แี ทบทุกอย่าง เท่าที่ขอบเขตแฟนตาซีหรือ fetish ของคุณจะพาไปถึง อธิบายโดยคร่าวส�าหรับคนทีเ่ พิง่ เคยได้ยนิ ค�านีเ้ ป็นครัง้ แรก เฟทิช คือความลุ่มหลงในวัตถุบางอย่างหรืออวัยวะบางส่วนของร่างกาย (ซึ่งคนทั่วไป มองว่าไม่เกี่ยวกับเพศ) ลุ่มหลงชนิดที่เมื่อได้เห็น ได้สัมผัส จะเกิดเป็นความใคร่ หลายคนมักสับสนระหว่างเฟทิชและ fetishistic disorder ซึ่ง ถือเป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วเฟทิชเป็นเพียงรสนิยม ซึ่งแบ่ง เป็นหลากหลายประเภท ตั้งแต่เฟทิชเท้า เฟทิชมือ เฟทิชเครื่องหนัง ไปจนถึง เฟทิชโซ่แส้กุญแจมือ นอกจากตอบสนองแฟนตาซีและเฟทิชแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราคิดว่า The Hidden Closet มี ให้ทุกคนที่มาเยี่ยมเยียนคือความรู้สึกเซ็กซี่ ซึ่งเมื่อ แตะถึงประเด็นนี้ ออยรีบบอกทันทีว่าไม่เกี่ยวกับเสื้อผ้าชิ้นจิ๋วที่แขวนอยู่ ในร้าน แต่อย่างใด

“เมื่อก่อนด้วยความเป็นวัยรุ่น เราไม่ ได้คิดอะไรมาก มีแฟน เยอะ พอเบื่อก็เปลี่ยน แต่พอโตขึ้นเราเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์มากขึ้น เราพยายามจะท�าให้ทุกอย่างดีขึ้นตลอดเวลา เราเรียนรู้ว่ายังไงถึงจุดหนึ่ง คนเราก็ต้องเบื่ออยู่แล้ว แต่เราสามารถก�าจัดความเบื่อออกไปได้ หาอะไร แปลกๆ ใหม่ๆ มาท�ากัน ไม่ต้องคิดมากกับมัน รู้สึกแบบไหนก็ลองท�าไป เรา ไม่ ได้สนับสนุนให้คนท�าผิด ไปมีอะไรกับคนอื่น แย่งแฟนคนอื่น เราสนับสนุน ให้คนหันกลับมาหาคนที่อยู่ ใกล้ตัวมากกว่า” และก็เป็นจริงตามความตั้งใจของออย ลูกค้าจ�านวนไม่น้อยของ The Hidden Closet คือคู่รักที่จูงมือมาเลือกซื้อของด้วยกัน ในกรณีเช่นนี้ เธอ มักจะรูดม่านอย่างมิดชิดเพือ่ ให้คนทัง้ คู่ ได้ลองชุดและไถ่ถามวิธี ใช้อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในบรรยากาศทีเ่ ป็นส่วนตัวและปลอดภัย ทัง้ จากสายตาทีส่ อดส่องด้วยความ ใคร่รู้ และจากความคิดอ่านของสังคมทีม่ กั รอตัดสินรสนิยมทางเพศของใครๆ

“มันมาจากความมั่นใจ เราต้อง รู้สึกก่อนว่า เฮ้ย เราดูดีนะ เราเซ็กซี่ นะ เรามีคุณค่านะ ความเซ็กซี่มัน อยู่ที่ความคิด ไม่ใช่ร่างกายหรือ การแต่งตัว เราต้องท�ายังไงก็ได้ให้ เรามองเข้าไปในกระจกแล้วรู้สึกว่า ตัวเองเซ็กซี่จัง ไม่จ�าเป็นต้องแต่ง ตัวโป เพราะโปไม่ได้แปลว่าเซ็กซี่ บางทียิ่งปดอาจจะยิ่งเซ็กซี่กว่าด้วย ซ�้า”

แล้ ว สมมติ ถ ้ า คนรั ก ของเราไม่ อิ น กั บ รสนิ ย มทางเพศแบบ เดียวกัน เซ็กซ์ที่ไม่สมหวังจะชี้เป็นชี้ตายความสัมพันธ์ได้ไหม? “ความสัมพันธ์เป็นเรื่องซับซ้อน มันมีหลายเรื่อง ทั้งค่าเช่าบ้าน การเลี้ยงดูลูก มันไม่ ใช่ว่าเซ็กซ์ไม่ดีก็เลยเลิกกัน ผู้หญิงเราก็คงคิดว่า แต่เขา ก็ดกี บั เรานะ เราว่าถ้าเซ็กซ์ไม่ฟลู ฟิลก็ฟลู ฟิลตัวเอง ไม่ตอ้ งรอให้ ใครมาฟูลฟิล แล้วก็ ใช้ชีวิตต่อไป” ออยทิ้งท้ายพร้อมเสียงหัวเราะ สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ ในสถานการณ์แบบไหน อยากลอง เล่นอะไรใหม่ๆ กับคู่รัก หรืออยากลองสารพัดวิธีเพื่อฟูลฟิลตัวเอง หญิงสาว ผมบลอนด์พร้อมต้อนรับคุณเข้าสู่ตู้เสื้อผ้าอันแสนเย้ายวนเสมอ

12


13


14


15


หยุดชี้นิวตัดสิน

ซินดี้ บิชอพ ชวนร่วมชม ‘นิทรรศการ พลังสังคม หยุดคุกคามทางเพศ’ #DontTellMeHowtoDress

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ที่ผ่านมา มีข่าวดุเดือดไม่แพ้สภาพอากาศเดือน เมษายน เมื่อ ซินดี้-สิรินยา บิชอพ นักแสดงและนาง แบบระดับต�ำนานได้โพสต์วิดีโอคลิปทางอินสตาแก รมส่วนตัว แสดงทัศนะทางสังคมในประเด็นทาง สังคม เมื่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐออกมาเตือนให้ผู้หญิง งดแต่งกายเซ็กซี่ในช่วงสงกรานต์ เพื่อป้องกันการ ล่วงละเมิดทางเพศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซินดี้ สิรินยา แสดงความคิดเห็นโดยอ้างอิงถึง กรณีที่ตนเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศทั้งๆ ที่ ไม่ ได้แต่งกายเซ็กซี่ ส�ำคัญที่สุดในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงมีสิทธิ์ที่จะแต่งตัวอย่าง ไรก็ ได้ตราบใดที่ ไม่อนาจารหรือผิดกฎหมาย ผู้ชายต่างหากที่ ควรพิจารณาการกระท�ำของตนเอง เพราะไม่ว่าผู้หญิงจะแต่ง ตัวอย่างไร ผู้ชายก็ ไม่มีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัว ตราบใดที่ยังไม่ ได้รับการยินยอมจากอีกฝ่าย หลั ง จากคลิ ป ดั ง กล่ า วถู ก โพสต์ แ ละส่ ง ต่ อ กั น มากมายทางสังคมออนไลน์ ที่สุดมันได้จุดกระแสให้ผู้คนจ�ำนวน มากออกมาร่วม ‘สนับสนุน’ ความคิดของเธอ จนเกิดเป็นแคมเปญ #DontTellMeHowToDress เธอจึงคิดต่อยอดกระแสให้กลาย มาเป็นกิจกรรมซึ่งเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยหวังให้สังคมไทย หันมาตระหนักและมีมุมมองความเข้าใจที่ถูกต้องต่อปัญหาการ คุกคามทางเพศ

ล่าสุดวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ซินดี้-สิรินยา บิชอพ ได้ร่วมกับองค์การเพื่อ สตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women), มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล, ณัฐ ประกอบสันติสุข ช่าง ภาพชื่อดัง, บริษัท ดู.ดิด.ดัน จ�ำกัด, บริษัท รพินท์นิภา จ�ำกัด และศูนย์การค้าสยามพารา กอน เพือ่ จัดนิทรรศการพลังสังคมหยุดคุกคามทางเพศ (Social Power Exhibition Against Sexual Assault) ที่ลานแฟชั่น ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1 บรรยากาศในพิธเี ปิด มีการจัดเสวนาในหัวข้อ ‘ถอดประสบการณ์การถูกคุกคาม ทางเพศ’ โดย แอนนา-คาริน จัตฟอร์ส (Anna-Karin Jatfors) ผู้อ�ำนวยการ UN Women ประจ�ำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ได้ชี้ ให้เห็นว่า การคุกคามทางเพศยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิด ขึน้ ทัว่ โลกมาอย่างยาวนาน และมายาคติทวี่ า่ ผูห้ ญิงเป็นสาเหตุของการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะด้วยเครื่องแต่งกาย หรือการพาตัวเองไปอยู่ ในสถานที่สุ่มเสี่ยง ยังคงเป็นความเชื่อ ที่มีอยู่ผิดๆ ที่คนส่วนใหญ่ ในสังคมยึดถือ

อภิญญา เวชยชัย ประธานมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เล่าเสริมอีกว่า จากสถิติ ที่มูลนิธิได้จากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ถูกคุกคามทางเพศมีช่วงอายุตั้งแต่ 2-80 ปี ซึ่งขัด กับความคิดของคนส่วนใหญ่ทเี่ ชือ่ ว่า การล่วงละเมิดทางเพศมักเกิดขึน้ ในวัยรุน่ เพียงอย่าง เดียว หรือเสื้อผ้าของเหยื่อผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศซึ่งเป็นเสื้อผ้าปกติ ที่ ใช้สวมใส่ ในชีวิต ประจ�ำวัน ไม่ ได้เซ็กซี่หรือโป๊เปลือยแต่อย่างใด สิ่งเหล่านี้ยิ่งตอกย�้ำความเข้าใจผิดที่สังคม มีต่อปัญหาการคุกคามทางเพศ

16


ส่วนแนวทางแก้ ไขปัญหา ประธานมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเสริม ว่า “ในความเป็นจริง ผู้ชายจ�ำนวนมากอาจจะถูกสื่อสารด้วยความคิดทาง สังคมมายาวนานว่ามีอำ� นาจเหนือกว่าผูห้ ญิง ท�ำให้ผชู้ ายมักลงโทษผูห้ ญิงโดย การชี้นิ้ว โดยการบอกว่า เพราะเธอนั่นแหละเลยเป็นแบบนี้ ซึ่งทางแก้คือต้อง ไปแก้กับระบบการศึกษา ไปแก้ ในเรื่องการสร้างความตระหนักในสังคม แก้ โดยการท�ำให้ผู้ชายมองเห็นผู้หญิงทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน และมีศักดิ์ศรี ที่เท่าเทียมกัน” ณั ฐ ประกอบสั น ติ สุ ข ช่ า งภาพเจ้ า ของผลงานภาพถ่ า ยใน นิทรรศการ กล่าวว่า ตัวนิทรรศการจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นการจัดแสดงเสื้อผ้าของผู้หญิงซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมข้อความ บรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิหญิงชาย ก้าวไกล

ปิดท้ายด้วยเสวนา ‘ถอดประสบการณ์การถูกคุกคามทางเพศ’ โดยนางสาวธารารัตน์ ปัญญา ซึ่งได้มาเล่าเรื่องราวที่เธอเคยถูกล่วงละเมิด ทางเพศโดยคนสนิท และขั้นตอนการฟ้องร้องด�ำเนินคดีทางกฎหมาย ที่ ประชาชนทั่วไปสามารถท�ำได้เมื่อประสบเหตุจริง ส่วนใครที่สนใจนิทรรศการฯ จะจัดแสดงที่ลานแฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนถึงวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะย้ายไปจัดแสดงต่อทีห่ อศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่าง วันที่ 3-15 กรกฎาคมนี้

และส่วนที่สองเป็นภาพถ่ายของศิลปิน นักแสดง อาทิ สินจัย เปล่งพานิช, เมทินี กิ่งโพยม, อนันดา เอเวอริงแฮม, ปาณิสรา อารยะ สกุล พร้อมบทสัมภาษณ์ถงึ ความเห็นทีม่ ตี อ่ ปัญหาการคุกคามทางเพศในสังคม

17


18


Female rapper. เรื่องโดย ฉัตรรวี เสนธนิสศักดิ์

“Oh my god, look at her butt” คือหนึ่งประโยคติด หูจากนิกกี้ มินาจที่เรารักเพราะความเผ็ดถึงใจแร้วงัยคัยแคร์ แต่โลกนี้ไม่ได้มีแค่แรปเปอร์สาวสายบิชจริตเฟยร์ซ ซึ่งก็ต่อสู้อยู่ ในแวดวงที่แรปเปอร์ชายคอยรันวงการและพร้อมจะประเมินแรป เปอร์หญิงอยู่ตลอดเวลา คราวนี้เราอยากพูดถึงแรปเปอร์หญิง ในพื้นที่อื่นๆ กันบ้าง อย่างอัฟกานิสถาน และเยเมน เมื่อการแรปของพวกเธอเป็นมากกว่าความหลงใหลในวัฒนธรรม ฮิปฮอป แต่ยังเป็นการเล่าเรื่องของตัวเอง และแสดงจุดยืนว่าผู้หญิงสามารถ เป็นอะไรก็ ได้ที่พวกเธออยากจะเป็น แม้อยู่ ในสังคมที่ผู้ชายยังเป็นใหญ่ ในนาม ของพระเจ้าก็ตาม

นีค่ อื หนึง่ ในเนือ้ ร้องทีก่ ล้าหาญทีส่ ดุ เท่าทีเ่ คยฟังมาในชีวติ ขณะที่ ก็นา่ หวัน่ ใจว่าหากพวกผูช้ ายหัวเก่าได้ยนิ เข้า เธอจะเป็นยังไง และเมือ่ เสิรช์ ต่อ ก็พบว่าสิง่ นัน้ เกิดขึน้ กับเธอจริงๆ ในเมืองหลวงอย่างกรุงคาบูลเธอถูกขูฆ่ า่ และ ขูจ่ ะข่มขืนในรถบัสประจ�าทาง จนเธอไม่สามารถเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ ได้อีก และในคืนหนึ่งที่เมืองเฮราต (Herat) เธอถูกผู้ชาย 10 คนรุมท�าร้ายระหว่างเดินกลับบ้าน มีคนพบ เธอนอนโชกเลือดและเสื้อผ้าขาดวิ่นอยู่กลางถนนในวันรุ่งขึ้น (คนๆ นั้นคือนัก ดนตรีชื่อ Diverse ซึ่งต่อมาคือแฟนของเธอ ปัจจุบันทั้งคู่ย้ายไปอยู่เยอรมนี ท�าเพลงและโปรดิวซ์งานด้วยกันในนาม 143 Band Music) ย้อนไปในปี 2013 นักเขียนของ The Washington Post ติดตาม โซรูรี ไปเพื่อท�าสารคดี ในอัฟกานิสถาน พวกเขาเช่าบ้านหลังหนึ่งในแถบสลัม ซึ่งองค์กรเอ็นจี โอในนิวยอร์กเป็นผู้ออกเงินให้ และขณะที่ถ่ายท�าอยู่ตรง ระเบียง ไม่เกิน 5 นาทีเจ้าของบ้านก็มาไล่เธอออกไป เพราะมีเพื่อนบ้านแจ้ง ว่ามีผู้หญิงก�าลังถ่ายท�าอะไรสักอย่างอยู่ ในบ้านหลังนี้ “คนอั ฟ กั น ยั ง ไม่ เ ปิ ด กว้ า งพอที่ จ ะเห็ น ผู ้ ห ญิ ง แสดงออกในที่ สาธารณะ ไม่ว่าจะการร้อง เต้น หรือออกทีวีก็ตาม” เธอเล่า และทุกอย่าง จึงยากไปหมดส�าหรับโซรูรี แต่เธอก็เลือกที่จะท�าต่อด้วยเหตุผลที่ว่า “ถ้าฉัน เอาแต่เงียบ มันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” เธอจึงท�าเพลงออกมาอีกหลายเพลง ทัง้ วิจารณ์รฐั บาลตาลีบาน และการก่อการร้าย พูดถึงปัญหาความยากจนและคอร์รปั ชัน่ ในประเทศ ในปี 2017 เธอก็ถกู ยกให้เป็น 1ใน 30 คนเอเชียทีน่ า่ จับตาโดยนิตยสารฟอร์บส์ (30 Under 30 Asia 2017) สาขาการบันเทิงและการกีฬา เธอยังเป็นแรงบันดาล ใจที่ท�าให้แรปเปอร์หญิงคนอื่นๆ กล้าที่จะท�าในสิ่งที่อยากท�าเช่น ซูซาน ฟีรูซ (Soosan Firooz) และโซนิตา้ อลิซาเดห์ (Sonita Alizadeh) แรปเปอร์หญิง ที่อายุน้อยที่สุดในอัฟกานิสถาน ในปี 2018 นี้ เธอยังมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น

ในโลกอาหรับ เมือ่ หมวกแกปมาแทนทีฮ่ ิญาบ พาราไดส์ โซรูรี (Paradise Sorouri) คือแรปเปอร์หญิงคนแรก ของอัฟกานิสถาน ที่ท�าเพลงเกี่ยวกับสิทธิสตรี ได้ถึงน�้าถึงเนื้อในทุกวรรคตอน จนอยากจะกราบแทบเท้า มีความเจ็บปวดที่ ไม่สิ้นสุดในเสียงร้องของฉัน ไม่ ใช่ขั้วโลกเหนือ แต่ที่นี่ก็ โคตรหนาว ฉันอยากวิ่งหนีแต่ถูกแทงจากด้านหลัง ฉันอยากคิดแต่ก็ ถูกแทงที่หัว ฉันถูกเผาในนามของอิสลาม การคิดจะแก้แค้นคือเรือ่ งน่าอดสู ฉัน ถูกราดน�้ากรดไปทั่วทั้งตัว ฉันถูกขาย แล้วก็ตายอย่างไร้วิญญาณ สามีสามารถข่มขืนฉัน แล้วก็มีเมียอีก 4 คน และผู้คนก็ ไม่ ได้รู้สึก ผิดกับฉันเลย แต่ฉันก็จะขอส่งเสียงนี้ ไปให้พวกเขา อัฟกานิสถานคือชือ่ ประเทศของฉัน แต่มนั กลับเต็มไปด้วยความเจ็บ ปวด พวกเราได้แต่รอระเบิดลูกต่อไปตัง้ แต่เช้าจนค�า่ ระเบิดเอาชีวติ ผูค้ นข้างนอก ขณะที่ฉันก็เสียสติอยู่ข้างใน จงฟัง ที่นี่ ไม่มีความหวัง พวกคุณจงไปซะ ฉันเอง เป็นผูห้ ญิงเหมือนๆ กับพวกคุณ อย่าปล่อยฉันท�าอยูค่ นเดียว จงคว้ามือไปด้วยกัน

19


สิ่ ง ที่ ค ล้ า ยกั น ของทั้ ง โซรู รี และยาห์ ย า คื อ ครอบครั ว ของทั้ ง คู ่ ต ่ า งลี้ ภัยสงครามไปจากประเทศบ้านเกิด โซรูรี ย้ า ยไปทาจิ กิ ส ถาน ขณะที่ ย าห์ ย าย้ า ยไป ซาอุดีอาระเบีย พวกเธอพบโลกของป็อปคัล เจอร์จากสื่อข้างนอกประเทศ แต่ท้ายที่สุด พวกเธอตัดสินใจกลับมาท�ำสิ่งตามความฝัน และต่อสู้ ในบ้านเกิดของตัวเอง นั่นจึงท�ำให้ (ไม่ว่าลึกๆ แล้วพวกเธอจะอยากแสดงพลัง ผ่านเรือนร่างอย่างแรปเปอร์หญิงในประเท ศอื่นๆ หรือสนใจแบรนด์เนมหรือไม่ก็ตาม) พวกเธอเลือกจะพูดถึงสิ่งอื่นที่ส�ำคัญกว่าใน บริบทของตัวเอง ขณะทีป่ ระเทศใกล้เคียงอย่างเยเมน ชะตากรรมของผูห้ ญิงก็ ไม่ ได้ตา่ ง กันนัก แรปเปอร์สาวอย่างอมานี ยาห์ยา (Amani Yahya) ถูกข่มขู่ ในทุกช่องทาง หลังจากเธอเปิดตัวเพลงแรกและขึ้นเวที โดยปราศจากฮิญาบ ในทุกๆ โชว์ ยาห์ยา จะแรปในลุคสตรีทและสิ่งที่เธอร้องพุ่งเข้าประเด็นอย่างตรงไปตรงมา ยาห์ยาแต่งเพลงนี้ ให้กบั เพือ่ นวัยเด็กของเธอทีถ่ กู บังคับให้แต่งงานเมือ่ อายุ 11 ปี ซึง่ นีค่ อื สิง่ ทีเ่ ด็กหญิงในเยเมนรวมถึงประเทศอืน่ ๆ ในโลกอาหรับต้องเผชิญ (กฎหมายเยเมนเพิ่งก�ำหนดให้ผู้หญิงแต่งงานหลังอายุ 18 ปี ก็เมื่อปี 2015 แต่ก็ ยังไม่ ได้มีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัดนัก) โดยยาห์ยาแรปเป็นภาษาอังกฤษที่แอบ เรียนรู้เองจากโทรทัศน์ตั้งแต่เด็ก เธอตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะร้องเป็นภาษาอังกฤษ เพราะอยากให้ทงั้ โลกได้รบั รูว้ า่ มีอะไรเกิดขึน้ ในประเทศตัวเองบ้าง โดยมีครอบครัว ของเธอเป็นผู้สนับสนุน และนั่นเป็นเรื่องที่เธอมองว่าโชคดีที่สุด “ฉันอยากเป็นเสียงให้กบั เด็กสาวในเยเมน การแรปคือการส่งข้อความ เรื่องมันซีเรียส พวกคุณต้องฟังว่ามันร้ายแรงแค่ ไหน และการเป็นแรปเปอร์ ศิลปิน หรือแอคทิวสิ ต์ ในเยเมนนัน้ ไม่ ใช่เรือ่ งง่าย เพราะนีเ่ ป็นสังคมทีผ่ ชู้ ายปกครองอยู่ มัน เป็นเรื่องเสี่ยงถึงชีวิต” ยาห์ยาเล่า ในปี 2016 เธอยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ ไปร่วมพูดคุยใน Women’s Forum for the Economy & Society ที่เธอเผยในช่วง Q&A ว่าตนมักจะจัดอีเวน ต์อย่างลับๆ เพื่อแรป ทั้งงานเต็มไปด้วยผู้หญิง และเด็กหญิงในเยเมนหลายคนก็ พยายามติดต่อเพื่อให้ก�ำลังใจเธอ ขอก�ำลังใจจากเธอ หรือส่งเรื่องราวของตัวเอง ให้เธอหยิบไปแต่งเป็นเนื้อร้อง

20

ซึ่งนั่นท�ำให้พวกเธอดูห้าวหาญไม่น้อยไปกว่าพวกผู้ชายที่ก�ำ หินไว้ ในมือ ทหารที่ถือปืน หรือนักการเมืองที่คอยสั่งการอะไรต่อมิอะไรอยู่ ด้านบนสุดของปัญหา ส�ำหรับคนสุดท้าย ขอพูดถึงแรปเปอร์หญิงจากโลกมุสลิมอีกคน ที่น่าสนใจ นั่นคือโมนา เฮย์ดาร์ (Mona Haydar) ที่ออกมาแรปโต้กลับคนที่ บอกให้พวกเธอถอดฮิญาบออก ทั้งพวกคนที่พกความศิวิไลซ์มาเต็มกระเป๋า รวมถึงพวกเฟมินสิ ต์สดุ โต่งทีเ่ ชือ่ ว่าเสรีภาพมีเพียงหนึง่ เดียว เฮย์ดาร์อยากให้ พวกเขาจงยอมรับความแตกต่างหลากหลายของผู้หญิงบนโลกใบนี้กันเสียที โมนาเป็นชาวซีเรียทีอ่ าศัยในอเมริกา เพลงเดบิวต์ของเธอเมือ่ ปี 2017 คือ ‘Hijabi’ (Wrap My Hijab) ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเพลงประท้วงที่ ดีที่สุดของปี 2017 โดย Billboard.com และเนื้อหาของมันก็เป็นอีกหนึ่งน�้ำ เสียงจากผู้หญิงมุสลิมที่ โลกควรฟัง ต่อด้วยท่อนฮุคติดหูที่ย�้ำว่าโลกเสรีที่แท้จริง คือการปล่อยให้ พวกเธอสวมฮิญาบต่อไป และยอมรับในสิ่งที่พวกเธอเป็นต่างหาก ซึ่งหาก เทียบกับสองแรปเปอร์สาวด้านบน พวกเธออาจเห็นไม่ตรงกันนักเรื่องวิถี ปฏิบตั ทิ างศาสนา อาจเพราะแต่ละคนก็คงมีเรือ่ งทีถ่ กู กดทับหรือถูกแวดล้อม ด้วยปัญหาในคนละบริบท แต่ ไม่ว่าใครจะมาประเด็นไหน การแรปของพวก เธอก็เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังทีเดียว และเมื่อมองกลับมาในบ้านเรา แรปเปอร์หญิงในเมืองไทยก็ ใช่ ว่าจะไม่มี หลายคนในรายการ The Rapper หรือ Show Me the Money ก็เปิดพื้นที่ ให้แรปเปอร์หญิงไว้อย่างน่าสนใจ บางคนเลือกเน้นไปที่ความส ตรองในความรักหรือการด่าคนรักแบบเผ็ด บางคนเลือกเล่าเรื่องครอบครัว หรือการท�ำตามความฝัน ซึ่งน่าติดตามต่อว่าเราจะได้ฟังเนื้อหาอื่นใดนอก เหนือจากนัน้ อีกบ้าง และเชือ่ ว่าหากจะท�ำ พวกเธอก็นา่ จะท�ำได้เจ๋งไม่แพ้ ใคร


21


DOCUMENTARY

Kota Kinabalu ป่าเขาและทะเลที่อยู่ใกล้เราแค่เอื้อม เรื่องโดย ปรางวลัย พูลทวี

FOCUS โคตา คินาบาลู เป็นเมืองหลวงของรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย ถือว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา เพราะประชากรกว่าครึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ส่วนอีกครึ่งก็นับถือ ศาสนาคริสต์ พุทธ ฮินดู รวมถึงลัทธิและกลุ่มคนที่ยังนับถือความ เชื่อพื้นบ้านต่างๆ นักท่องเที่ยวจีนและเกาหลีนิยมมาเที่ยวโคตา คินาบาลู เนื่องด้วย มีธรรมชาติที่สวยงามและยังอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาคินา บาลู ที่มีไม้ป่าหายากอย่างต้นราฟฟลีเซียยักษ์ พายเรือล่องแก่ง ในแม่น�้ำคาดามายัน และด�ำน�้ำ 5 เกาะที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ Tunku Abdul Rahman พื้นที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งมีชื่อเรียกว่า ‘อาปิ–อาปิ (Api-Api)’ ในภาษามาเลย์ แปลว่า ‘ไฟ’ ส่วนอีกค�ำเล่าขานหนึ่งก็กลาวว่าพื้นที่แห่งนี้มีชื่อว่า ‘เดโซกา (Deasoka)’ ที่แปลว่า ‘ใต้ต้นมะพร้าว’ ในภาษาบาเจา (ชนเผ่าหนึ่งแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มี รากฐานอยู่ ในประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซียและบรูไน) เมื่อกลุ่มล่าอาณานิคมอย่างอังกฤษเข้ามายึดครองและพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ พวกเขาก็แต่งตั้งพื้นที่นี้และใช้ชื่อว่า ‘เจสเซลตัน (Jesselton)’ ตามท่านเซอร์ ชาร์ลส์ เจสเซลตัน ที่เป็นรองประธานของบริษัทบอร์เนียวเหนือของอังกฤษ (British North Borneo Company) หลังจากผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย ทั้งการต่อต้านแย่งชิง อ�ำนาจของนักล่าอาณานิคมกับกลุม่ ชนพืน้ เมือง และหลังสงครามโลกทัง้ ทีส่ อง ในปี 2000 พืน้ ทีแ่ ห่งนีก้ ็ ได้รบั การเยียวยาและแต่งตัง้ ให้เป็นเมืองหลวงของรัฐซาบาห์แทนทีเ่ มืองซัน ดากาน (Sandakan) ที่ถูกท�ำลายไป พร้อมกับได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘โคตา คินาบาลู (Kota Kinabalu)’ มาจากชื่อของภูเขา ‘คินาบาลู (Kinabalu)’ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง ซึ่งค�ำว่าคินาบาลูก็ยังกร่อนมาจากค�ำว่า ‘อากิ นาบาลู (Aki Nabalu)’ ที่แปลง่าย ๆ ว่า สวรรค์ หรือสถานที่อันสงบสุขและศักดิ์สิทธิของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วในภาษาดูซุน พวกเขา มีความเชื่อว่าคนที่ตายไปนั้นจะได้ขึ้นไปอยู่บนจุดยอดของภูเขาแห่งนี้ ส่วนค�ำว่า ‘โคตา (Kota)’ ในภาษามาเลแปลว่าป้อมปราการ หรือเมือง เมื่อมารวมกันแล้วโคตา คินาบาลู จึงแปลว่า เมืองแห่งคินาบาลูนั่นเอง ท่องเที่ยวในเมือง โคตา คินาบาลูเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน และมีการ ผสมผสานทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ พื้นที่บริเวณนี้เดิมทีมีชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่ ใน ซาบาห์ก็สามารถรวบรวมได้ราว 30 เผ่า แต่ที่เป็นเผ่าใหญ่ที่สุดก็คือคาดาซาน–ดูซุน (Kadasan-Dusun) และชาวบาเจา นอกจากนั้นสัดส่วนของเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็ยัง มีชาวจีนที่เป็นสัดส่วนใหญ่ ชาวมาเลย์ และอื่น ๆ

22

ชาวมาเลย์และชาวบาเจาซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่ของเมือง นับถือศาสนาอิสลาม ท�ำให้ประชากรกว่าครึ่งของโคตา คินาบาลูนับถือ ศาสนาอิสลาม แต่ก็ ไม่ ใช่ว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองอิสลามเสียขนาดนั้น เพราะอีกครึ่งนับถือศาสนาคริสต์ และก็ยังมีคนที่นับถือศาสนาพุทธ ฮินดู รวมถึงลัทธิและกลุม่ คนทีย่ งั นับถือความเชือ่ ตามพืน้ บ้านของตนเอง อยู่เช่นเดียวกัน ด้ ว ยภู มิ ป ระเทศที่ มี ทั้ ง ภู เ ขา ทะเล และป่ า ไม้ แหล่ ง เศรษฐกิจของหลักโคตา คินาบาลูกพ็ งึ่ อาศัยธรรมชาติเป็นหลัก แหล่งราย ได้อันดับต้น ๆ ของโคตา คินาบาลูมาจากการตัดไม้ น�้ำมัน อย่างน�้ำมัน ปาล์มก็เป็นทีน่ ยิ ม และรองลงมาก็คอื การท่องเทีย่ ว และโคตา คินาบาลูมี นักท่องเทีย่ วชาวจีนและเกาหลีเป็นอันดับหนึง่ เพราะว่าเป็นพืน้ ทีต่ ดิ ทะเล และมีหมู่เกาะเล็ก ๆ อยู่ ไม่ ไกล อาชีพประมงก็เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรม ใหญ่ของที่นี่ อาหารทะเลเป็นที่ขึ้นชื่อมากทีเดียว วัฒนธรรมจีนและเกาหลีกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่อย่าง เห็นได้ชัด มีร้านอาหารเกาหลีแถบทุกถนน และในโรงแรม ป้ายตาม สถานที่ท่องเที่ยวก็มักจะมีภาษาเกาหลีเขียนอยู่ถัดจากภาษาจีน ต่าง จากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศอื่น ๆ ที่มักจะเห็นคน ญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่น หรือร้านอาหารญี่ปุ่นมากกว่า ตอนที่เดินเล่นในตัว เมือง หรือไม่ว่าจะที่ ไหน ๆ มักจะพบคนเกาหลีเยอะเสียบางทีก็คิดว่า ตัวเองอยู่ประเทศเกาหลีเสียอย่างนั้น


ท่องเที่ยวป่าเขา ผู้คนชาวโคตา คินาบาลูมีชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติได้อย่าง น่าสนใจ ถ้าออกไปจากตัวเมืองโคตา คินาบาลูเพื่อเที่ยวชมในละแวก รอบ ๆ จุดศูนย์กลางของทัศนียภาพก็มักจะเป็นภูเขาคินาบาลู ที่เป็น ภูเขาที่สูงที่สุดในมาเลเซีย อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติคิ นาบาลู (Kinabalu Park) ภูเขาคินาบาลูและพืน้ ทีร่ อบ ๆ ภูเขาได้รบั การบันทึกให้เป็น มรดกโลกเพราะเป็นพืน้ ทีท่ มี่ คี วามอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพมากทีส่ ดุ แห่ง หนึ่งของโลก รวมถึงไม้ป่าหายากอย่างต้นราฟฟลีเซียยักษ์ (Rafflesia) ซึ่งเป็นดอกไม้กาฝากที่มีวงจรการฝังตัว เติบโตกลายเป็นดอกนาน มากกว่าหนึง่ ปี และบานเพียงแค่ 7 วัน หน้าตามันค่อนข้างประหลาด ถ้า ให้พดู ตรง ๆ ก็ดเู ป็นดอกไม้กนิ คนในหนังไซไฟ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง แล้วแต่สายพันธุ์ แต่อนั ทีผ่ เู้ ขียนได้ ไปดูเป็นพันธุท์ มี่ ขี นาดใหญ่อนั ดับสอง ความใหญ่ของมันมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว ๆ 80 เซ็นติเมตร นอกเหนือจากการเดินชมป่าดงดิบ เขาคินาบาลูสามารถ มองเห็นได้จากหลายมุมเวลานั่งรถไปตามสถานที่รอบ ๆ อุทยาน ซึ่ง สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะนึกถึงที่นี่เป็นอย่างแรกก็คงไม่พ้นกิจกรรมเดินป่า ขึ้นเขาเพื่อท้าทายความสามารถของตัวเอง ในครั้งนี้ผู้เขียนไม่มี โอกาส ได้ ไปปีนเขา แต่ก็คิดว่าครั้งหน้าไม่อยากพลาดเลยจริง ๆ

ท่องเที่ยวล่องน�้ำลงทะเล ส�ำหรับคนที่ ไม่ ใช่สายเดินป่าปีนเขา สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของโค ตา คินาบาลูก็ยังมี ให้เลือกไปกัน ส�ำหรับคนที่ชื่นชอบกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม ก็มีกิจกรรม พายเรือล่องแก่ง (White Water Rafting) ในแม่น�้ำคาดามายันที่ตัดผ่านหมู่บ้าน Melangkap แม่นำ�้ คาดามายันเป็นแม่นำ�้ สายหลักที่ ไหลจากเขาคินาบาลูสทู่ ะเลเหนือ ของซาบาห์ เป็นแม่น�้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของหลายชุมชนหมู่บ้านมาอย่างยาวนาน แต่ เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ (แรงสั่นสะเทือน 6.0 ริกเตอร์) ในซาบาห์เมื่อปี 2015 ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดของมาเลเซียนับตั้งแต่ปี 1976 ท�ำให้ โคลนถล่มลง มาปะปนในแม่น�้ำคาดามายันจนขุ่นและใช้อุปโภคบริโภคไม่ ได้ ต้องใช้เวลาอยู่หลาย สัปดาห์กว่าในการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ โดยรอบภูเขาคินาบาลู กิจกรรมล่องแก่งเหมาะส�ำหรับคนที่ชอบความท้าทาย ตอนที่ผู้เขียนไป นั้นเป็นอาทิตย์ที่ฝนไม่ตกพอดีท�ำให้ระดับน�้ำค่อนข้างตื้น ถึงจะมีจังหวะที่แพไปติดบน โขดหินเล็ก ๆ แต่ก็มีจังหวะที่แพพุ่งแรงและค่อนข้างอันตราย ถ้าเป็นช่วงที่น�้ำสูง ไกด์ บอกว่าสูงอาจจะถึงสองเมตรได้ ถ้าแบบนัน้ น�ำ้ คงเชีย่ วกราดพุง่ แรงไม่มสี ะดุด ต้องคอย ฟังค�ำแนะน�ำของไกด์ที่จะนั่งอยู่กับเราบนแพด้วยว่าให้จ้วงไม้พายไปในทิศทางไหน ก็ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ตื่นเต้น เร้าใจ และท้าทายความสามารถของก�ำลังแขนเลยล่ะ สถานที่ท่องเที่ยวยังไม่หมดอยู่แค่น�้ำจืด เพราะจากที่ โคตา คินาบาลู สามารถขึ้นเรือไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ Tunku Abdul Rahman ที่ดูแลหมู่เกาะ เล็ก ๆ 5 เกาะที่แยกตัวห่างจากตัวเมืองโคตา คินาบาลูในระยะไม่เกิน 8 กิโลเมตร ซึ่งได้แก่ เกาะกายา (Pulau Gaya) เกาะซาปี (Pulau Sapi) เกาะมานูกาน (Palau Manukan) เกาะมามูติก (Palau Manutik) และเกาะซูลุก (Palau Sulug) นอกจากจะสามารถเข้าพักในรีสอร์ทบนเกาะ (ทีเ่ ต็มไปด้วยนักท่องเทีย่ ว ชาวจีนและเกาหลี) และด�ำน�้ำส่องปะการัง ก็ยังมีกิจกรรมน่าตื่นเต้นอย่างโหนสลิง Zipline ข้ามจากเกาะกายาไปยังเกาะซาปิ ระยะห่างของมันไม่ ไกลมาก เหมาะส�ำหรับ คนที่ชอบความน่าตื่นเต้นและอยากท้าทายความกลัวของตัวเอง และยังมีกจิ กรรม Seawalking เดินใต้นำ�้ ดูปะการัง แต่ผเู้ ขียนคิดว่าด้วย การจัดการและการสือ่ สารทีข่ ดั ข้องท�ำให้เราไม่ ได้ ได้ประสบการณ์ทนี่ า่ ตืน่ เต้นอย่างที่ เราคาดหวังไว้เมื่อเทียบกับราคาแพ็กเกจของกิจกรรมนี้ โคตา คินาบาลูและซาบาห์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากรอให้ทุกคน ค้นหาความสวยงามของธรรมชาติ ถือว่าเป็นอีกทางเลือกส�ำหรับคนที่อยากพักผ่อน ใกล้ ๆ แต่เปลีย่ นบรรยากาศไปจากบ้านเราและมีคา่ ใช้จา่ ยไม่แพง นอกจากนีก้ ารเดิน ทางก็ถือว่าสะดวกเพราะแอร์เอเชียเพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพ–โคตา คินาบาลู ใช้ เวลาเพียง 3 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายไม่ต้องไปต่อเครื่องให้วุ่นวายแล้วนะ

23


24


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.