A
mazing Thailand ทำ�อาหารเหนือและ อาหารใต้กินเองง่ายๆ
เที่ยวไทย ขึ้นเหนือลงใต้
1
2
3
แอ่ว เหนือ
4
5
7 ที่เที่ยวดอยสูงภาคเหนือรับ
6
ลมหนาวนอนดูดาวชมทะเลหมอก
7
1.ภูชี้ฟ้ฟอา จ.เชียงราย เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดเชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปก็คือ ‘ภูชี้ฟ้า’ เพราะเป็นภูเขาที่มีความสวยงาม และมีจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ลักษณะเป็นหน้าผาสูง สูงประมาณ 1,200 – 1,628 เมตร จากระดับน้ำ�ทะเลปานกลาง ปลายเขาแหลมชี้ขึ้นไปบนฟ้า เป็นที่มาของชื่อ ‘ภูชี้ฟ้า’ ช่วงฤดูหนาวนี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความหนาวเย็น ทะเลหมอกสีขาว และชมความงามของดอก ชงโคป่าที่จะออกดอกบานสะพรั่งงดงาม ภูชี้ฟ้า วนอุทยานภูชี้ฟ้า สำ�นักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โทร.0-5371-4914
8
2.ดอยเสมอดาว จ.น่าน ใครกำ�ลังหาที่กางเต็นท์นอนดูดาว ไม่มีที่ไหนจะเหมาะไปกว่า ‘ดอย เสมอดาว’ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เพราะเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่ง หนึ่ง บริเวณดอยเสมอดาวจะ เป็นพื้นที่ลานกว้างตามสันเขา มี ทิวทัศน์เป็นภูเขาสลับซับซ้อนสุด ลูกหูลูกตา สามารถกางเต็นท์ ค้างคืน พักผ่อนดูดาวกันได้แบบ ชิลล์ๆ นอกจากนี้ยังสามารถรอดู ทะเลหมอกและพระอาทิตย์ในยาม เช้า รวมถึงดูพระอาทิตย์ตกดินก็ งดงามไม่แพ้กัน
9
3.ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่อยู่ในท้องที่ อำ�เภอจอมทอง อำ�เภอแม่แจ่ม กิ่งอำ�เภอดอยหล่อ และอำ�เภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ สามารถเข้าถึง ได้โดยใช้เส้นทาง เชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่น ดินหมายเลข 108) ไปยังอำ�เภอจอมทอง 50 กม. ระยะทางประมาณ 50 กม. เลี้ยวขวาตามถนนสาย จอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) ประมาณ 8 กม. ก็จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่ง ชาติที่บริเวณน้ำ�ตกแม่กลาง และตัดขึ้นสู่ยอดดอยอิน ทนนท์เป็นระยะทางทั้งหมด 49.8 กม. ที่ทำ�การ อุทยานแห่งชาติจะตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 31 มีทั้งบ้านพัก เต้นท์สนามคู่ และสถานที่กางเต้นท์ ไว้บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ ที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม. ที่ 31 อำ�เภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160 โทร. (053) 268550 หรือติดต่อที่สำ�นักอุทยานแห่ง ชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. (02) 57954852, 5795269 หรือคลิกเข้ามาหาข้อมูลละเอียดยิบได้ที่นี่ เลย www.doiinthanon.com 10
ดอยอิน ทนนท์
11
4.ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ มาเชียงใหม่แล้วสิ่งที่ไม่ควรพลาดคือต้อง ไปเที่ยวให้ได้เลยที่ดอยอ่างขาง ดอยอ่างขาง เป็นภูเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำ�ทะเล 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 ตั้งอยู่ บนทิวเขาแดนลาว ของอำ�เภอฝาง จังหวัด เชียงใหม่ บรรยากาศดี อากาศบนเขาจะ หนาวเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วง เดือน ธันวาคม-เดือนมกราคม อากาศจะหนาวเย็น มากจนน้ำ�ค้างกลายเป็นน้ำ�ค้างแข็ง ดอยอ่างขาง จะเป็นที่ ตั้งของสถานี เกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำ�ริในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “ให้เขาช่วยตัวเอง” เปลี่ยน พื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมือง หนาวที่สร้างรายได้ดีกว่าเก่าก่อน ภายใน สถานีเกษตรหลวงอ่างขางจะมีที่เที่ยวมากมาย แปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว พืชผัก เมืองหนาวและแปลงไม้ดอกที่สวยงามมากมาย ท้อ บ๊วย พลัม สตรอเบอร์รี่ สาลี่ราสเบอรี่ ลูกพลับ เยอะมาก หมู่บ้านชาวเขา 12
รถโดยสารประจำ�ทาง หรือรถตู้ จะสามารถขึ้น รถได้ที่สถานีขนส่งช้างเผือก จะมี รถโดยสารประจำ� ทางร์ สายเชียงใหม่ – ฝาง หรือ เชียงใหม่ – ท่า ตอน ราคา 85 บาทรถตู้ สายเชียงใหม่ – ฝาง หรือ เชียงใหม่ – ท่าตอน ราคา 150 บาท ลง รถหน้าวัดหาดสำ�ราญ พอลงรถหน้าวัดหาดสำ�ราญแล้ว เดินเข้าไปในวัด จะมีคิวรถสองแถวสีขาว รับนักท่อง เที่ยวขึ้นดอยอ่างขาง
ดอย อ่าง ขาง
13
5.ยอดเขาโมโกจู จ.กำ�แพงเพชร สำ�หรับคนรักการเดินเขา นี่คือ จุดหมายปลายทางในฝัน ‘โม โกจู’ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน อุทยานแห่งชาติแม่วงก์และสูง ที่สุดในผืนป่าตะวันตก ด้วยความ สูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำ� ทะเล คำ�ว่า “โมโกจู” เป็นภาษา กะเหรี่ยง แปลว่า เหมือนฝน จะตก เนื่องจากบนยอดเขามัก ถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกและมี อากาศหนาวเย็นตลอดเวลา เปิด ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสในเดือน พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ของ ทุกปี โดยจะต้องจองเวลาการ เดินทางและปฏิบัติตามกติกาของ เจ้าหน้าที่อุทยานอย่างเคร่งครัด เพราะเส้นทางเดินมีความลาดชัน ต้องใช้เวลาเดินไปกลับ 5 วัน และกางเต็นท์พักแรมในป่า
14
6.ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย อีกหนึ่งดอยที่ได้รับ ความนิยมจากนักท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก ‘ดอยผา ตั้ง’ ในอำ�เภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย สูงจาก ระดับน้ำ�ทะเลประมาณ 1,800 เมตร จากยอด ดอยสามารถชมทัศนียภาพ ของแม่น้ำ�โขงฝั่งลาวและ ยอดภูชี้ฟ้าที่อยู่ห่างออกไป 25 กิโลเมตร ช่วงหน้า หนาวนี้นอกจากจะมีทะเล หมอกสวยๆ ให้ได้ชมแล้ว ในเดือนธันวาคมถึงเดือน มกราคม ยังมีดอกซากุระ บานสะพรั่ง และในเดือน กุมภาพันธ์มีดอกเสี้ยวบาน งดงาม นอกจากนี้ดอยผา ตั้งยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน ชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า ซึ่งสามารถไปสัมผัสกับวิถี ชีวิตชุมชนได้เช่นกัน 15
7.ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย ‘ดอยแม่สลอง’ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับ การมาพักผ่อนในหน้าหนาวเป็นอย่างยิ่ง เพราะ มีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ� ตั้งแต่การไปชมความ สวยงามของธรรมชาติ สัมผัสอากาศหนาวเย็น บน ความสูงกว่า 1,500 เมตร พร้อมนั่งจิบชาอุ่นๆ ชมทะเลหมอก จากนั้นไปเดินเล่นชมไร่ชาสีเขียวขจี ที่ปลูดลดหลั่นเป็นชั้นๆ สวยงาม แวะกราบสักกา ระพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวเชาหลายเผ่าซึ่งอาศัยอยู่บนดอย แห่งนี้ รวมถึงชมดอกพญาเสือโคร่งสีชมพูที่จะบาน สะพรั่งตลอดทางขึ้นดอยแม่สลอง รถโดยสารประจำ�ทาง ขาไปดอยหัวแม่คำ� - นั่งรถสองแถวสีเขียวแก่สายแม่จัน-ท่าตอนท่ารถ อยู่ในตลาดแม่จัน ลงรถที่ด่านตรวจกิ่วสะไต จาก นั้นต่อรถ สองแถวจากกิ่วสะไต ไปแม่สลอง เวลา ออกไม่แน่นอน แต่จะมีรถมารอรับผู้โดยสารเป็นระยะ ๆ หรือรอโบกรถ เข้าไป ก็ได้ - รถสองแถวสีฟ้า สายป่าซาง-แม่สลอง บริเวณบ้านป่าซาง มีรถตั้งแต่ เวลา 07.00-16.00 น. เหมาไป -กลับ 800 บาท รถคิว คนละ 60-100 บาท ขากลับจากแม่ สลอง รถจะรอผู้โดยสารตรงบริเวณ เซเว่นอีเลฟเว่น 16
ดอย แม่ สลอง
17
18
Honda CBR250
0RR (300 RR)
19
เที่ยวภาคใต้
20
21
1.หาดตะโละกาโปร์ - ปัตตานี ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองปัตตานีตามทางหลวงหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) เลี้ยวซ้ายเข้าอำ�เภอยะหริ่ง ข้ามคลองยามูตามสะพานคอนกรีตขนาดใหญ่ ผ่าน พื้นที่สวนป่าชายเลนและหมู่บ้านไปจนถึงทางแยกเข้า สู่หาด รวมระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร หาดตะ โละกาโปร์เป็นหาดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดปัตตานี เคย ประกวดแหล่งท่องเที่ยว 5 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ได้ที่ 2 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ประจำ�ปี 2529 หาดตะโละกาโปร์เป็นหาดทรายขาวสะอาดขนาน กับชายฝั่งทะเล มีเรือกอและของชาวประมงจอดอยู่เป็น จำ�นวนมาก หาดทรายแห่งนี้งอกยาวออกไปเรื่อยๆ เพราะเกิดจากกระแสน้ำ�พัดเอาตะกอนทรายมาทับถม พอกพูน เหมาะแก่การไปนั่งพักผ่อนชมความสวยงาม มีทิวสนและต้นมะพร้าวให้ความร่มรื่นสวยงาม หาด ทรายทอดตัวยาวขนานไปกับทิวสนร่มรื่น มี สายน้ำ�พาคลื่นเคลื่อนมากระทบฝั่ง ในวันที่อากาศ ปลอดโปร่งน้ำ�ทะเลจะมีสีคราม ทรายเป็นสีทอง สวยงามมาก เหมาะสำ�หรับพักผ่อนหย่อนใจ หาก เลยไปยังหมู่บ้านประมงจะมีเรือกอและจอดเรียงราย อยู่เป็นทิวแถว ซึ่งชาวบ้านแถบนี้จะพาเรือออกไปทำ� ประมงแล้วนำ�กลับมา โดยจะลากขึ้นมาเก็บในช่วงเช้าๆ สถานที่พักแรม บริเวณชายหาดยังไม่มีจุดพักแรม 22
2. เกาะตาชัย - จังหวัดพังงา
เกาะตาชัย คงไม่มีใครไม่รู้จักกับเกาะสวรรค์แห่งนี้ เพราะเป็น ดาวเด่นอีกหนึ่งแห่งของท้องทะเลอันดามัน เป็นหนึ่งในเกาะของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุด เป็น เพียงเกาะเล็ก ๆ มีบรรยากาศเงียบสงบ สิ่งที่ทำ�ให้เกาะตาชัย เป็นสวรรค์ของคนรักท้องทะเลก็คือ หาดทรายที่ขาวสะอาด เนื้อ เนียนนุ่มละเอียด ราวกับผงคอฟฟี่เมต อีกทั้งน้ำ�ทะเลที่เป็นสีฟ้า เทอร์ควอยซ์ใสแจ๋วราวกับกระจก มีแนวปะการังที่สมบูรณ์อยู่ราย ล้อมรอบเกาะ กับปลาหลากหลายชนิด ก็เป็นสีสันที่ทำ�ให้เกาะ ตาชัยสวยงามสมบูรณ์แบบ และอีกหนึ่งความพิเศษของเกาะตาชัย ก็คือ ที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของ "ปูไก่" ซึ่งเป็นพันธุ์ปูที่หาชม ได้ยาก มีไม่กี่แห่งในท้องทะเลอันดามันเท่านั้น 23
3.น้ำ�ตกโตนงาช้าง - จังหวัดสงขลา
น้ำ�ตกโตนงาช้างเป็นน้ำ�ตกที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงมาก แห่งหนึ่งของภาคใต้และของจังหวัด สงขลา น้ำ�ตกโตนงาช้างมี 7 ชั้นชั้นที่มีชื่อเสียงมี่สุดคือโตนงาช้างซึ่งเป็นชั้นที่ 3 ของน้ำ�ตกซึ่งสายน้ำ� ตกแยกออกเป็นสองสายคล้ายงาช้างน้ำ�ตกโตนงาช้างนี้อยู่ใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างมีการจัด สถานที่และสิ่งอำ�นวยความสะดวกไว้ บริการนักท่องเที่ยวมีทางเดินศึกษาธรรมชาติและเที่ยวชมน้ำ�ตกชั้น ต่างๆหากจะ ชมน้ำ�ตกให้ครบทุกชั้นต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตรสำ�หรับน้ำ�ตกทั้ง 7 ชั้น 24
4.เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก - จังหวัดพังงา เกาะไข่ในและเกาะไข่นอก ตั้งอยู่ ในเขตจังหวัดพังงา แต่ก็ไม่ไกลจาก จังหวัดภูเก็ตมากนัก นักท่องเที่ยว จึงนิยมที่จะเดินทางมาจากทางฝั่ง จังหวัดภูเก็ต เกาะไข่ในและเกาะไข่ นอกเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ ที่โผล่ ขึ้นมากลางทะเลอันดามัน มีหาด ทรายขาวสะอาดสวยงามไม่แพ้เกาะ ตาชัย สามารถเดินเที่ยวได้รอบเกาะ ภายในไม่กี่นาที มีแนวโขดหินและ ทัศนียภาพสวยงามแปลกตา น้ำ� ทะเลใสแจ๋ว สามารถลงเล่นน้ำ� ดำ� น้ำ�ชมปะการังได้อย่างสบาย ๆ นัก ท่องเที่ยวไม่เยอะ บรรยากาศเงียบ สงบ ไม่สามารถที่จะพักค้างคืนได้ เพราะเกาะทั้งสองแห่งนั้นเล็กมาก นักท่องเที่ยวสามารถซื้อทัวร์เพื่อไป เที่ยวพักผ่อนได้ภายใน 1 วัน
25
5.เกาะรอก - จังหวัดกระบี่ เกาะรอก ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะลันตา อำ�เภอเกาะลันตา จังหวัด กระบี่ ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งอันดามัน เพราะความสวยงามของหาดทรายและน้ำ� ทะเลที่นี่กินขาดท้องทะเลแทบจะทุกแห่ง ในอันดามัน อีกทั้งยังเงียบสงบ ไม่มี ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง สร้างเสียงรบกวนธรรมชาติ การมาเที่ยว ที่นี่จึงเป็นแบบไปเช้า-เย็นกลับเสียส่วน ใหญ่ นอกจากนี้เกาะรอกยังมีจุดดำ�น้ำ�ที่ สวยงามสามารถลงไปแหวกว่ายชมปะการัง ได้อย่างเต็มอิ่ม ซึ่งถ้าโชคดีจะได้พบเห็น ปลาการ์ตูนมากมายมาแหวกว่ายข้าง ๆ อีกด้วย ใครไม่อยากดำ�น้ำ�ก็สามารถที่จะ เดินทอดน่อง เล่นน้ำ�อยู่บริเวณชายหาด หรือจะนอนฟังเพลง อ่านหนังสือ นอน อาบแดดก็ได้เช่นกัน
26
6.มัสยิดกลางปัตตานี เป็นมัสยิดที่สวยที่สุดของ ไทย สร้างในปี พ.ศ. 2497 และทำ�พิธีเปิดโดยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อ วันที่ 3 พฤษภาคม 2506 เพื่อให้ เป็นศูนย์กลางในการประกอบ ศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมใน ภาคใต้ เป็นสถาปัตยกรรม แบบตะวันตก หลังคาทรง สี่เหลี่ยมชั้นเดียว มีโดม ใหญ่ 2 โดม รายรอบด้วย โดม เล็กๆ อีกหลายโดม ดู สวยงาม มัสยิดกลางแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ตัวเมืองปัตตานี ริม ถนนสายปัตตานี-ยะลา (ทางหลวงหมายเลข 410) หรือจากถนนพิพิธแล้วเลี้ยว ขวาไปตามถนนไปจังหวัดยะลา ระยะทาง ประมาณ 500 เมตร จะเห็นมัสยิดกลางตั้ง ตระหง่านอยู่ริมถนนอย่างสง่า งาม 27
7.อ่าวมาหยา - จังหวัดกระบี่
ถ้าพูดถึงท้องทะเลไทยที่สวยงามสุด ๆ คงจะไม่พูดถึงอ่าวมา หยาไม่ได้ เพราะที่นี่เป็นท้องทะเลแห่งแรก ๆ ที่ทำ�ให้คนทั่ว โลกรู้จักท้องทะเลไทย จากการเป็นโลเคชั่นถ่ายทำ�ภาพยนตร์ เรื่องเดอะบีช อ่าวมาหยาก็ดังเป็นพลุแตก กลายเป็น Dream Destination ที่ใคร ๆ ก็อยากจะมาเช็กอินสักครั้ง อ่าวมาหยา เป็นเวิ้งอ่าวที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตา น้ำ�ทะเลเป็นสีเขียวมรกตสวยใส มีปลามากมายหลากหลายสีสัน ว่ายวนไปมาอยู่บริเวณชายหาด และยังมีแนวปะการังอยู่รอบ ๆ ไม่ไกลจากชายหาดเท่าไร ซึ่งน้ำ�ทะเลก็จะเป็นสีเขียวมรกต สวยงามมาก ๆ 28
เกร็ดความรู้ ทานกะหล่ำ�ปลีดิบมีพิษนะ
ในกะหล่ำ�ปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goibrogen) ซึ่งเป็นสารที่จะไปกันไม่ให้ต่อม ไทรอยด์จับไอโอดีน ไปสร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน (Thyroscine) ได้ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ จะ ทำ�ให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำ�ลายได้ โดยการต้ม จึงควรรับประทาน กะหล่ำ�ปลีสุก จะดีกว่ากะหล่ำ�ปลีดิบ 29
Thailand Food
30
Thailand Food
สูตรอาหาร
อาหารภาคใต้ หรอยจังหู อาหารภาคเหนือ จ๊าดลำ� 31
สูตรอาหาร
อาหารภาคใต้ หรอยจังหู
32
ข้าวยำ�
ส่วนผสมข้าวยำ� • กุ้งแห้งป่น • เส้นหมี่ขาว • ซีอิ๊วดำ� • ข้าวตังทอด • มะพร้าวคั่ว• มะนาว หรือ มะม่วงเปรี้ยว• พริกป่น• น้ำ�ข้าวยำ�สำ�เร็จรูป • ข้าวสวยหุงสุกเม็ดเรียงสวย • ผักต่าง ๆ เช่น ถั่วฝักยาวซอย, ถั่วพูซอย, ตะไคร้ซอย, ใบมะกรูดซอย, ใบบัวบกซอย, ใบชะพลูซอย, ถั่วงอกเด็ดหาง, ส้มโอแกะเป็นกลีบดอกไม้พวง ชมพู หรือ ดอกดาหลา หรือ ดอกชมพู่มะ เหมี่ยว, แตงกวาหั่นแว่น
วิธีทำ�ข้าวยำ� • 1. นำ�กุ้งแห้งมาตำ�ให้ละเอียดและฟู (หรือใส่เครื่องปั่นพอ หยาบ ๆ) • 2. นำ�เส้นหมี่ขาวไปผัด ใส่ซีอิ๊วดำ�หวานลงไป ปรุงรสแค่พอเค็ม ๆ หวาน ๆ ผัดให้มันเส้นไม่ติดกันก็พอ • 3. บิข้าวตังทอดเป็นเศษ ๆ ไว้ • 4. คั่วมะพร้าวด้วย ไฟอ่อน ๆ ให้มีสีเหลืองทอง (หมั่นดูและคนบ่อย ๆ นะฮะ มันไหม้ง่าย) • 5. ตักข้าวใส่จาน (ปริมาณไม่ต้องเยอะ สักทัพพีน้อย ๆ ก็พอ) หยิบผักอย่างละนิดละหน่อยเรียงให้พอดี จากนั้นโรย กุ้งแห้ง เส้นหมี่ ใส่มะพร้าวคั่ว (ตุ๊ดชอบใส่เยอะ ๆ รสนัว ดี) น้ำ�ข้าวยำ�สัก 2-3 ช้อน ชิมรสตามชอบ ถ้ารสอ่อนก็ ค่อยเติม บีบมะนาว โรยพริกป่น คลุกให้ทั่ว 33
หมูผัดกะปิ
ส่วนผสม หมูผัดกะปิ • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ • กระเทียม 5 กลีบ • หอมแดงซอย 2-3 หัว • ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เพื่อ ความหอม) • พริกขี้หนูหั่น 2 เม็ด • สันคอหมูติดมัน 250 กรัม (หั่นเป็นชิ้นหนา) • น้ำ�ตาลปี๊บ หรือน้ำ�ตาลทราย • ใบมะกรูดซอย • พริกชี้ฟ้าสีแดง (หั่นเฉียง) 34
วิธีทำ�หมูผัดกะปิ • 1. นำ�กะปิ กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ และพริกขี้หนูไปโขลกจนละเอียด เตรียมไว้ • 2. ใส่น้ำ�มันพืชลงในกระทะ ใส่ส่วนผสม ที่โขลกไว้ลงผัดใช้ไฟอ่อน พอหอมก็ใส่เนื้อหมู ลงไปผัดจนสุก • 3. ปรุงรสด้วยน้ำ�ตาลปี๊บ โรยใบมะกรูด ซอยและพริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงลงไป คลุกเคล้าให้ เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
คั่วกลิ้งหมู
ส่วนผสม คั่วกลิ้งหมู
วิธีทำ�คั่วกลิ้งหมู
• หมูเนื้อแดงสับ 200 กรัม • น้ำ�พริกคั่วกลิ้ง 2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดได้ตามความ เผ็ดที่ชอบ) • กะปิอย่างดี 1/2 ช้อนชา (ควรชิมรสชาติของน้ำ� พริกแกงก่อนใส่กะปิ เพราะน้ำ�พริกแกงแต่ละร้านมี ความเค็มไม่เท่ากัน) • น้ำ�ตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา • น้ำ�ปลา (ปรุงรส) 1 ช้อนชา • น้ำ�มันพืช (สำ�หรับผัด) • ใบมะกรูดซอย 6 ใบ • พริกไทยอ่อน 1 ช่อ
1. โขลกน้ำ�พริกคั่วกลิ้งกับกะปิให้พอเข้ากัน เตรียมไว้ 2. ใส่น้ำ�มันพืชลงในกระทะ พอร้อนใส่เนื้อ หมูสับลงไปผัดจนเกือบสุก 3. จากนั้นใส่น้ำ�พริกคั่วกลิ้งลงไปผัดกับ หมูสับให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำ�ตาลปี๊บและ น้ำ�ปลา ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ 4. ปิดไฟแล้วใส่พริกไทยอ่อนและใบมะกรูด ซอยลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟ พร้อมกับผักสดตามชอบ
35
ผัดสะตอกุ้งสด
ส่วนผสม ผัดสะตอกุ้งสด • น้ำ�พริกแกง 4 ช้อนโต๊ะ • น้ำ�มันพืช (สำ�หรับผัด) 1 ช้อนโต๊ะ • กุ้งสด (ปอกเปลือกผ่าหลัง) 100 กรัม • หมูสับ 100 กรัม • น้ำ�ตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ • น้ำ�ปลา 2 ช้อนโต๊ะ • สะตอ (แกะเปลือก) 100 กรัม ส่วนผสม น้ำ�พริกแกง • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ • หอมแดง 2 หัว • กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ • พริกขี้หนู 10-15 เม็ด 36
วิธีทำ�น้ำ�พริกแกง • 1. โขลกกระเทียมกับหอมแดงและกุ้งแห้งจน ละเอียด • 2. ใส่กะปิและพริกขี้หนูลงไปโขลกให้ละ เอีนยดเข้ากัน เตรียมไว้ วิธีทำ�ผัดสะตอกุ้งสด • 1. ใส่น้ำ�มันพืชลงในกระทะ ใส่น้ำ�พริก แกงลงไปผัดจนหอม • 2. ใส่หมูสับและกุ้งลงผัดจนสุก ปรุง รสด้วยน้ำ�ตาลปี๊บ และน้ำ�ปลา • 3. ใส่สะตอลงผัดจนสุกหอม ตักใส่ จาน พร้อมเสิร์ฟ
แกงไตปลา
ส่วนผสม แกงไตปลา • ไตปลาอย่างดี 1 ขวด • น้ำ� 1.5 ลิตร • น้ำ�พริกแกงเผ็ด 200 กรัม • น้ำ�มะขามเปียก (ปรุงรส) • น้ำ�ตาลทราย (ปรุงรส) • ปลาโอย่าง 1 ตัว หรือปลาทูนึ่ง 5 ตัว (แกะเอา เฉพาะเนื้อ) • ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลาง) 10 ใบ • ผักสดตามชอบ เช่น หน่อไม้ไร่ ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือเปราะ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ� อย่างละ 100 กรัม
วิธีทำ�แกงไตปลา • 1. ต้มไตปลาในหม้อ คนผสมจนละลาย ยก ลงจากเตา กรองเอาแต่เฉพาะน้ำ�ไตปลา เตรียมไว้ • 2. ใส่น้ำ�ลงในหม้อ ใส่น้ำ�พริกแกงเผ็ดลงคน ผสมจนละลาย นำ�ขึ้นตั้งไฟแรง ต้มจนเดือด จาก นั้นใส่ไตปลาลงต้ม คนผสมให้เข้ากัน ปรุงรส ด้วย น้ำ�มะขามเปียก และน้ำ�ตาลทราย ชิมรสตาม ช• 3. ใส่เนื้อปลาที่แกะเตรียมไว้ลงต้มจนเดือด ชิมรส จากนั้นใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้ และใบมะกรูด ลงต้มจนสุก ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อม เสิร์ฟ 37
สูตรอาหาร
อาหารภาคเหนือ จ๊าดลำ�
38
ไส้อั่ว ส่วนผสมไส้อั่ว ชุดทำ�ไส้อั่วแบบสำ�เร็จ 1 ซอง น้ำ�อุ่น หมูสับติดมัน (ควรใช้หมูติดมัน นิดหน่อยนะคะ ถ้าเนื้อแดงล้วน ๆ จะแข็งไม่อร่อยค่ะ)
วิธีทำ�ไส้อั่ว 1. ผสมเครื่องปรุงไส้อั่วกับน้ำ�อุ่นให้เข้ากัน 2. ใส่เนื้อหมูสับลงไปนวดให้เข้ากัน (แต่เพื่อความเข้มข้น เราใส่เครื่องปรุงหมดเลยแต่ใส่หมูแค่ค่อนส่วน) 3. ยัดส่วนผสมไส้ใส่ลงในไส้หมู 4. นำ�ไส้อั่วไปย่าง
39
น้ำ�พริกหนุ่ม
40
ส่วนผสมน้ำ�พริกหนุ่ม พริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียม เกลือป่นเล็กน้อย ผักชีซอย ต้นหอมซอย ผักสดตามชอบ แคบหมู
วิธีทำ�น้ำ�พริกหนุ่ม 1. ย่างพริกหนุ่ม กระเทียม และหอมแดง จากนั้นแกะเปลือกออก 2. โขลกพริกหนุ่ม กระเทียม และหอมแดง ที่ย่างแล้วกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ชิม รส ตามชอบ (ให้ออกเผ็ด-เค็ม แต่ไม่ต้อง เค็มมาก) 3. ตักน้ำ�พริกหนุ่มใส่ถ้วย โรยด้วยผักชี และต้นหอม เสิร์ฟคู่กับผักสดและแคบหมู
ส่วนผสม น้ำ�พริกแกงข้าว ซอย พริกแห้งเม็ดใหญ่คั่ว 7 เม็ด เกลือป่น 1 ช้อนชา รากผักชีคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ ขิงซอยคั่ว 1/4 ถ้วย ขมิ้นซอยคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ หอมแดงคั่ว 3/4 ถ้วย ชะโกแกะเปลือก (คั่วเมล็ดให้ หอมแล้วนำ�ไปป่น) 1 เม็ด ส่วนผสม ข้าวซอยไก่ น่องไก่ 3-4 น่อง หางกะทิ 3 ถ้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ+1ช้อนชา หัวกะทิ 1 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ+1/2ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ� 1/2 ช้อนชา น้ำ�ตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำ�มันพืช (สำ�หรับทอด) บะหมี่เหลือง 5 ก้อน เครื่องเคียง ได้แก่ ผักกาดดองซอย มะนาวหั่นเป็นชิ้น พริกป่นผัดน้ำ�มัน หอมแดงหั่นชิ้น
ข้าวซอยไก่
1. ล้างน่องไก่ให้สะอาด พักทิ้งไว้ ในกระชอนให้สะเด็ดน้ำ� 2. ทำ�น้ำ�พริกแกง โดยโขลกพริก แห้งกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด จากนั้นใส่รากผักชี ขิงซอย ขมิ้น 6. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซี ซอย และหอมแดง โขลกรวมกัน อี๊วดำ� น้ำ�ตาลทราย และหัว จนละเอียดเข้ากันดี ใส่ชะโกลงไป กะทิที่เหลือคนผสมพอทั่ว พอ โขลกต่อจนเข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้ เดือดอีกครั้งปิดไฟ ยกลงจาก (แต่สูตรนี้เราใช้พริกแกงสำ�เร็จรูป เตา เตรียมไว้ 7. ใส่น้ำ�มันพืชลงในกระทะ นำ� นะคะ) 3. ใส่หางกะทิลงในหม้อ ใส่เกลือ ขึ้นตั้งไฟปานกลางจนร้อน แบ่ง 1/2 ช้อนโต๊ะ ยกขึ้นตั้งไฟกลางจน บะหมี่ลงทอดทีละน้อยให้กรอบ ร้อนใส่ไก่ลงไป พอกะทิเดือดลด เหลือง (ประมาณ 1 ก้อน) เป็นไฟอ่อน เคี่ยวให้ไก่สุกนุ่ม และ จากนั้นตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ�มัน กะทิแตกมันเล็กน้อย เตรียมไว้ พักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะปิด 4. นำ�กระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง ฝาให้สนิท ใส่หัวกะทิ 1/2 ถ้วย ผัดเคี่ยวให้ 8. วิธีจัดเสิร์ฟ ให้ลวก แตกมันเล็กน้อย ใส่น้ำ�พริกแกงลง บะหมี่ใส่ชาม ตักน่องไก่พร้อม ผัดให้เข้ากันทั่วและมีกลิ่นหอม น้ำ�แกงราดลงไปประมาณ 1 5. จากนั้นตักใส่ในหม้อกะทิที่ใส่ ถ้วย โรยหน้าด้วยบะหมี่ทอด ไก่ไว้แล้วคนผสมให้เข้ากัน กรอบ วางเครื่องเคียงลงไป ตกแต่งด้วยใบผักชี พร้อมเสิร์ฟ
41
แกงอ่อมหมู ส่วนผสม แกงอ่อมหมู ขั้วตับหมูหั่นชิ้น 1 กิโลกรัม เครื่องในหมูหั่นชิ้น 1/2 กิโลกรัม (ตับเหล็ก ไส้อ่อน และหัวกระเพาะ) หมูสามชั้นหั่นชิ้น ข่าซอย -ตะไคร้ซอย -บมะกรูด ซอย -น้ำ�พริกแกงอ่อม (ประกอบด้วย กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ พริก แห้ง และกะปิเอาไปปั่นละเอียด) น้ำ�เปล่า -เลือดหมูสด -ใบมะกรูด พริกลูกโดด -ต้นหอมซอย ขนมจีนหรือข้าวสวย
42
วิธีทำ�แกงอ่อมหมู 1. ใส่ขั้วตับหมู เครื่องในหมู หมูสามชั้น ข่าซอย ตะไคร้ซอย และใบมะกรูดซอยลงหม้อแกง ตามด้วยน้ำ� พริกแกงอ่อม 2. เติมน้ำ�เปล่าลงไปเล็กน้อยคลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกขึ้น ตั้งไฟอ่อน รอจนหมูหดตัวและน้ำ�แกงหอมเข้าที่ 3. นำ�เลือดหมูไปต้มสุกใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำ�เปล่าลง ไปอีกเล็กน้อย เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้หมูเปื่อยได้ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง 4. หลังจากเปื่อยได้ที่ใส่ใบมะกรูดและพริกลูกโดดลงไป ด้วย โรยต้นหอม 5. พร้อมเสิร์ฟกับขนมจีน หรือข้าวสวย
1. โขลกพริกแห้ง กระเทียม ข่า ตะไคร้ รากผักชี และหอมแดงเข้าด้วยกันแล้วใส่ปลาร้าสับละเอียดลงไป โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง 2. ตักเครื่องพริกแกงออกจากครกก่อนแล้วค่อยใส่ ขนุนดิบต้มลงไปโขลก โดยตักเครื่องพริกแกงที่แบ่งไว้ ใส่ลงไปสัก 1 ช้อน โขลกให้เข้ากัน 3. ใส่มะเขือเทศลงไปในครก ค่อย ๆ บด อย่าตำ�นะ ครับ เพราะน้ำ�จากมะเขือเทศจะกระเด็น พักไว้ 4. ตั้งกระทะใส่น้ำ�มันพืชลงไป ใส่พริกแกงที่แบ่งไว้ลง ไปผัดให้หอม 5. ใส่หมูสามชั้นลงไป ใส่ขนุนที่โขลกผสมพริกลงไป ผัดให้หอม 6. สุดท้ายโรยใบมะกรูดหั่นฝอยลงไปคนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
ตำ�ขนุน ส่วนผสม ตำ�ขนุน พริกแห้ง -กระเทีย -ข่า -ตะไคร้ซอย -รากผักชี (ถ้ามี) -หอมแดง -ปลาร้าสับละเอียด นุนดิบต้ม (พักไว้จนเย็น) มะเขือเทศ -น้ำ�มันพืช หมูสามชั้น -ใบมะกรูดหั่นฝอย
43
44
เกร็ดความรู้ อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน
อดนอนบ่อยๆ ระวังเป็นเบาหวาน ร่างกายที่ไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม จะใช้อินซูลินได้น้อยลง คนอดนอนบ่อยๆ จึงมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงกว่าปกติ... 45
46
วีรันดา เชียงใหม่ เดอะ ไฮท์ รีสอร์ท - เชียงใหม่
ที่ตั้ง : 192 หมู่2 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ราคา : 4,200 - 9,700 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม : www.verandaresortandspa.com
47
ปานวิมาน เชียงใหม่ สปา รีสอร์ทs จ.เชียงใหม่
ที่ตั้ง : 197/2 หมู่ 1 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180 ราคา : 2,700 - 19,000 บาท. 48
เดอะเซนส์ บูติค โฮเทล จ.พิษณุโลก
The Zense Boutique Hotel ตั้งอยู่ห่างจาก สนามบินพิษณุโลกซึ่งเป็นสนามบินที่ใกล้ที่สุด 6 กิโลเมตร เดอะเซนส์ บูติค โฮเทล เปิดให้จองผ่าน Booking.com มาตั้งแต่ 17 มิ.ย. 2016 49
น่านตรึงใจ บูทีคโฮเต็ จ.น่าน
50