HERB
ส มุ นไ พ ร เพ ื ่ อค ุ ณ
Issue : 1
>>...<<
January 2015
Editor’s Note
การดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงนั้น นอกจากการออกกำ�ลังกายที่ถูกต้องอย่างสม่ำ�เสมอแล้ว การรับประทานอาหารก็มีความสำ�คัญ มากไม่ต่างกัน ซึ่งชีวิตประจำ�วันของคนเรา การรับประทานอาหารถือเป็นพื้นฐานของการดำ�รงชีวิตให้อยู่รอด การ “เลือก” อาหารที่จะ รับประทานนั้นจึงเป็นสิ่งสำ�คัญ “สมุนไพร” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของวิธีการรักษาที่ได้ผลดี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานหรือการรักษาตามวิธีต่างๆจากสมุนไพร ชนิดนั้นๆ สมุนไพรเปรียบเสมือนยารักษาโรคโดยธรรมชาติที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการทางเคมีเหมือนยาแผนปัจจุบันทั่วไป สรรพคุณของ สมุนไพรมีประโยชน์มากในทางยา จึงเป็นที่รู้จักกันว่า “ยาสมุนไพร” หรืออีกทางหนึ่งคือ “ยาแผนโบราณ (ยาสมุนไพรแผนโบราณ)”
“HERB สมุนไพรเพื่อคุณ” เล่มนี้ จึงได้รวบรวมสิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์จากสมุนไพรไว้เพื่อผู้อ่านทุกท่านแล้ว
เนตรชนนี สุขสนอง บรรณาธิการ
3
Content 6-7 How to 8-9 tre n e c m u e s u M 10-12 h t n o M f o u Men lthy 13 a e H r o f b r e H N 14-15 A E S A r o f b Voca 16-17 n u F r o F Fairs 18 Information
Museum centre เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สมุนไพร ณ ศาลาโอสถ
Menu of Month สุดยอดเมนูสุขภาพจากสมุนไพร เพื่อรับมือกับฤดูหนาว
Information Fairs
ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์งานต่างๆ
5
How to หากพูดถึงคำ�ว่า สมุนไพร หลายคนอาจนึกถึงเพียงแค่พืช หรือต้นไม้เท่านั้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้วสมุนไพร คือ พืชที่ใช้ทำ�เป็น เครื่องยา และรวมไปถึงส่วนที่ได้จากสัตว์ แร่ธาตุต่างๆ ที่เกิดจาก ธรรมชาติ โดยมีความสำ�คัญกับชีวติ มนุษย์ในทางสุขภาพ อันหมายถึง ทั้งการรักษาโรคและการส่งเสริมสุขภาพ อาจเรียกเป็นอีกอย่างหนึ่งคือ ยาสมุนไพร หรือ เภสัชวัตถุ(พืชวัตถุ, สัตว์วัตถุ, ธาตุวัตถุ) ซึ่งเป็น ยาที่ได้มาโดยยังมิได้ผสมปรุงหรือแปรสภาพ ตามวิถีชีวิตของชาวไทยมีความผูกพันและให้ความเคารพกับ ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณ แพทย์พื้นบ้านส่วนใหญ่จะเคารพครู อาจารย์ผู้สั่งสอนวิชา เวชกรรม ให้ ทั้งยังมีรูปเคารพต่างๆไว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลตามคติความเชื่อดั้งเดิมอีกด้วย ดังนั้น การจัดแสดงประวัติหรือวิวัฒนาการของเภสัชกรรมไทยและ การแพทย์แผนไทย มักมีรูปเคารพต่างๆจัดแสดงไว้เพื่อให้คน รุ่นหลังได้เคารพและรำ�ลึกถึงพระคุณของท่านเหล่านั้น ซึ่งวันนี้ เราจะทำ�ความรู้จักกับ บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ หรือ หมอชีวกโกมารภัจจ์ นั่นเอง ชีวกโกมารภัจจ์ ชีวกโกมารภัจจ์เป็นพระโอรสเลี้ยงของอภัยราชกุมาร พระโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร ผูค้ รองกรุงราชคฤห์ แห่งแคว้นมคธ ตามประวัติระบุว่า หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นบุตรของนางสาลวดี หญิงงามเมืองในกรุงราชคฤห์ ซึ่งมีความงามและเสน่ห์ยิ่ง ซึ่งเมื่อ นางท้องและกลัวจะมีผลต่ออาชีพ จึงได้แกล้งป่วย และเมือ่ คลอดบุตร ออกมา ก็ให้ทาสนำ�ทารกใส่กระด้งไปทิ้งกองขยะ รุ่งเช้าเจ้าชายอภัย ผ่านมาเห็นทารกถูกฝูงกาห้องล้อม ก็ตรัสถามคนใกล้ชิดว่า “ยังมีชวี ติ อยูห่ รือ” (ชีวกะ) ครัน้ ได้ทรงรับคำ�ยืนยันว่า “ยังมีชวี ติ อยู”่ จึงได้นำ�ทารกนั้นมาเลี้ยง และพระราชทานนามว่า “ชีวก” และให้ นามสกุลว่า “โกมารภัจจ์” เมื่อเติบโตขึ้น ชีวกโกมารภัจจ์ได้ตกลง เลือกเรียนวิชาแพทย์ จึงได้ออกเดินทางโดยอาศัยพ่อค้าชาวเมือง ตักศิลา โดยได้อาจารย์ทิศาปาโมกข์ ณ สำ�นักตักศิลาเป็นอาจารย์ ชีวกโกมารภัจจ์เป็นนักเรียนทีไ่ ม่เสียค่าเล่าเรียน เพราะไม่มสี มบัติ ติดตัวไป จึงทำ�งานให้กับสำ�นักร่วมไปกับการเรียนด้วย แต่ชีวกโกมารภัจจ์กเ็ รียนสำ�เร็จภายในระยะเวลาก่อนกำ�หนด การทดสอบ
6
ว่าชีวกโกมารภัจจ์สุดสิ้นหรือไม่นั้น อาจารย์จะมอบตะกร้าให้ใบหนึ่ง สั่งให้ถือเข้าไปในป่า ห่างจากประตูเมืองออกไปด้านละ 1 โยชน์ จนครบ 4 วัน (4 ประตู) หากพบว่าสมุนไพรชนิดใดที่ไม่มี สรรพคุณในทางเป็นยารักษาโรค ก็ให้เก็บเอามาให้อาจารย์ หลังจาก ผ่านไป 4 วัน ท่านได้นำ�ตะกร้ากลับมาคืน กล่าวว่า ไม่พบพืช แม้แต่ชนิดเดียวที่ไม่มีสรรพคุณในทางทำ�เป็นยารักษาโรค ทุกชนิด ล้วนมีสรรพคุณเป็นยาทัง้ สิน้ จึงเป็นการรับรองความรูแ้ ละความสำ�เร็จ ของชีวกโกมารภัจจ์ ภายหลังจากทีส่ ำ�เร็จการศึกษา ท่านได้สร้างชือ่ เสียง ในการรักษาอาการเจ็บป่วยมากมาย จนต่อมาได้เป็นแพทย์ประจำ� พระองค์ของพระพุทธเจ้า และประจำ�พระภิกษุสงฆ์อันมีพระพุทธเจ้า เป็นประมุขด้วย ชีวกโกมารภัจจ์ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน และด้วย ศรัทธาในพระพุทธเจ้า ปรารถนาจะไปเฝ้าวันละ 2-3 ครั้ง แต่ด้วย เห็นว่าพระเวฬุวันไกลเกินไป จึงสร้างวัดถวายในอัมพวัน คือ สวนมะม่วงของตน เรียกกันว่า ชีวกัมพวัน (อัมพวันของหมอชีวก) ด้วยเหตุที่หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นแพทย์ประจำ�คณะสงฆ์ และเป็นผู้มี ศรัทธาเอาใจใส่เกื้อกูลพระสงฆ์มาก จึงเป็นเหตุให้มีคนมาบวชเพื่อ อาศัยวัดเป็นที่รักษาตัวจำ�นวนมาก จนหมอชีวกโกมารภัจจ์ต้อง ทูลเสนอพระพุทธเจ้า ให้ทรงบัญญัตขิ อ้ ห้าม มิให้รบั บวชคนเจ็บป่วย ด้วยโรคบางชนิด นอกจากนั้นหมอชีวกโกมารภัจจ์ได้กราบทูลเสนอ ให้ทรงอนุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ เพื่อเป็นที่บริหารกายช่วยรักษา สุขภาพของภิกษุทง้ั หลาย หมอชีวกโกมารภัจจ์ได้รบั พระดำ�รัสยกย่อง เป็นเอตทัคคะ หลังจากที่ได้รู้จักกับประวัติเพียงย่อของหมอชีวกโกมารภัจจ์ แล้ว อาจทำ�ให้หลายท่านได้รจู้ กั กับวิวฒ ั นาการของการแพทย์แผนไทย และสมุนไพรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างมีความเกี่ยวข้องกันอย่าง สำ�คัญโดยตรง และเชื่อมโยงไปถึงว่า มนุษย์เรานั้นเกิดมาโดย ธรรมชาติ เติบโตมากับธรรมชาติ ในเวลาเจ็บป่วย ก็ยังต้องพึ่งพา สิ่งที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติอีกเช่นกัน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมี การแพทย์ การรักษาที่ใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีความก้าวหน้าต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามยุคสมัยนั้น แต่ถึงอย่างไรสมุนไพรที่มีอยู่ทั่วไปหรือหา ได้ง่ายๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำ�คัญและเรียนรู้ให้ดีอีกด้วย *ที่มาข้อมูล : บางส่วนมาจากคู่มือแจกฟรี
7
Museum centre พิพิธภัณฑ์ : พิพิธภัณฑ์สมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สิ่งที่จัดแสดง : เครื่องยาไทยและต่างประเทศ และวิวัฒนาการของ รูปแบบการใช้เครื่องยาจากสมุนไพร รูปเคารพ ตำ�รายา เครื่องมือ ทำ�ยา และเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พระไภสัชคุรุ สมุดข่อย ใบลาน หินบดยา กระบองอาญาสิทธิ์ของแพทย์หลวง เป็นต้น ที่ตั้ง : ชั้น 3 อาคารโอสถศาลา ถ.พญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (ตรงข้ามห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง) เวลาทำ�การ : ทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 09.00 – 12.00 น. เว้นวันหยุดราชการ (การเข้าชมเป็นหมู่คณะ กรุณาแจ้งให้ทราบ ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์และอาจเข้าชมนอกวันเปิดทำ�การได้) ค่าเข้าชม : 20 บาท โทรศัพท์และโทรสาร : 0-2218-8441
พิกัดยา >> การจำ�กัดจำ�นวนตัวยาหลายสิ่งหลายอย่าง นำ�มารวมกันเข้าเป็นหมวดหมู่ เป็นพวกรวมเรียกเป็นชื่อเดียว
8
ตำ�รายา >> การแพทย์แผนไทยสมัยโบราณนิยมท่องจำ� สืบทอดต่อกันมา และมีบางส่วนที่ได้จารึกไว้เป็นตำ�ราบนวัสดุต่างๆ เช่น แผ่นหนัง แผ่นดินเผา แผ่นศิลา ใบลาน กระดาษ เป็นต้น
พระไภสัชคุรุ >> เป็นพระนามของพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง (พุทธนิกายมหายาน) แปลว่า “จอมหมอยา” หรือ ไภสัชคุรุไวฑูรยประภาตถาคต แปลว่า พระตถาคตผู้เป็นจอมแพทย์ ทางยา
กระบองแดง >> เป็นกระบองลงรักสีแดง ส่วนปลาย แกะลายทอง ประดับกระจก ใช้เป็นกระบองอาญาสิทธิ์ สำ�หรับ เจ้าพนักงานกรมหมอหลวง กระทรวงวัง เพื่อไปเก็บต้นยาสดที่ปลูก ไว้ตามบ้านเรือนของราษฏร สำ�หรับนำ�มาประกอบพระโอสถของ พระเจ้าแผ่นดิน
เฉลว >> ใช้เป็นเครือ่ งหมายทีท่ ำ�ด้วยตอก หักขัดกันเป็นมุม ตั้งแต่สามมุมขึ้นไป แพทย์แผนโบราณใช้ปักหม้อยาต้ม นอกจากนี้ อาจใช้ปักเป็นเครื่องหมายบอกขายของหรือปักบอกเขตก็ได้ และยังใช้ ป้องกันการถุกกระทำ�ด้วยคาถาอาคมและภูตผีปีศาจ โดยที่เฉลวเป็น เครื่องหมาย หมายถึง ยันต์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับยา
9
Menu of Month แกงส้มดอกแค
เครื่องปรุง/ส่วนผสม -
พริกแห้ง เกลือ กะปิ กระชาย หอมแดง
-
น้ำ�มะขามเปียก น้ำ�เปล่า ดอกแค น้ำ�ปลา เนื้อปลา / ปลากระป๋อง
วิธีทำ�
- เตรียมพริกแกงส้ม โดยโขลกพริกแห้ง กระชาย หอมแดง กะปิ และเกลือเข้าด้วยกันจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน (ในที่นี้ใส่เนื้อปลากระ ป๋องลงไปด้วยเพื่อความเข้มข้น) - ตั้งน้ำ�ให้เดือด จากนั้นใส่พริกแกงส้มลงไป - ปรุงรสด้วยน้ำ�มะขามเปียกและน้ำ�ปลา - ใส่ดอกแคลงไป คนให้เข้ากัน รอผักสุก - ปิดไฟ พร้อมเสริฟ
ประโยชน์
แกงส้มดอกแค แก้ไข้หัวลม มีประโยชน์และคุณค่า ทางอาหารมากมาย ตั้งแต่เครื่องของพริกแกงที่ประกอบไปด้วย สมุนไพรชนิดต่างๆ รวมถึงผักหรือดอกแค ซึ่งมีคุณสมบัติเพื่อ ปรับสมดุลต่างๆของธาตุในร่างกายให้เป็นปกติ
สรรพคุณทางยา
- พริกแกงส้ม ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร - รสเปรี้ยวของน้ำ�มะขามเปียก ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้ท้องผูก ลดความร้อนในร่างกาย - ดอกแค แก้ไข้หัวลม (ปรับสมดุลในร่างกาย) 10
ไข่หวานน้ำ�ขิงมะพร้าวอ่อน เครื่องปรุง/ส่วนผสม -
ขิงแก่ (ทุบพอแตกหรือหั้นเป็นชิ้น) น้ำ�ตาลทรายแดง ไข่ไก่ น้ำ�เปล่า เนื้อมะพร่าวอ่อน
วิธีทำ�
- ตั้งน้ำ�ให้เดือด จากนั้นใส่ขิงและน้ำ�ตาลทรายแดงลงไป - คนให้น้ำ�ตาลละลายจนหมด ตักขิงออก - รอน้ำ�เดือด ใส่ไข่ไก่ลงไป - เมื่อไข่สุกแล้ว ตักใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ โดยมีเนื้อมะพร้าวอ่อนรอ ไว้แล้ว - พร้อมเสริฟ
ประโยชน์
ไข่หวานน้ำ�ขิงมะพร้าวอ่อน นอกจากจะเป็นอาหารทานเล่นแล้ว ยังมีประโยชน์สำ�หรับร่างกายที่เผชิญกับอากาศหนาวตอนนี้ได้อีกด้วย เพราะขิงหรือน้ำ�ขิงมีประโยชน์ทางโภชนาการ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และยังรวมไปถึงโปรตีน กรดอะมิโนที่จำ�เป็นทุกชนิด ตลอดจนวิตามินและเกลือแร่อีกหลากหลายชนิดจากไข่ไก่ด้วย ส่วนคุณประโยชน์ทางสมุนไพรจากขิงคือ - ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ต่อต่านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง - ช่วยลดน้ำ�ตาลในเลือด ลดระดับไขมันคอเรสเตอรอล ช่วยลดความอ้วนได้ - รักษาอาการปวดศีรษะและไมเกรน
สรรพคุณทางยา
- ขิง มีฤทธิ์ร้อน ช่วยขับลม กระตุ้นการทำ�งานของลำ�ไส้และสามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้ เพราะมีสารเคมีธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ กลูตาไธไน-เอส-ทรานสเฟอเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ - ลดการอักเสบในลำ�ไส้ใหญ่ - ลดน้ำ�ตาลในเลือดได้
11
ทูน่าลุยสวนสมุนไพร เครื่องปรุง/ส่วนผสม -
ทูน่าในน้ำ�เกลือ พริกขี้หนูซอย ขิงซอย / ข่าซอย น้ำ�ปลา -
ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย น้ำ�มะนาว หอมแดงซอย
วิธีทำ�
- เตรียมทูน่าใส่ภาชนะ โดยแยกออกจากน้ำ�เกลือ - เตรียมน้ำ�ยำ�โดยใส่พริกขี้หนูซอย น้ำ�มะนาว น้ำ�ปลา - ใส่ทูน่า ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย ขิงซอย ข่าซอย คลุกเคล้า ให้เข้ากัน - ตักใส่จานหรือภาชนะที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสริฟ
ประโยชน์
ทูน่าลุยสวนสมุนไพร หรือยำ�ทูน่า ให้ประโยชน์ทางโภชนาการมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์และเป็นอีกทางเลือก หนึ่งสำ�หรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนได้อีกด้วย เพราะทูน่าเป็นเนื้อปลาที่มีคุณค่าอาหารทางโปรตีนสูง คอเรสเตอรอลต่ำ�และมีโอเมก้าหรือ กรดไขมันที่จำ�เป็นต่อร่างกาย เช่น DHA และ EPA ซึ่งดีต่อระบบประสาทและสมอง รวมทั้งยังได้ประโยชน์จากสมุนไพรอีกมากมาย
สรรพคุณทางยา 12
ขิง ช่วยขับลม แก้ท้องอืด แก้ไอ ขับเสมหะ ข่า ช่วยขับลม แก้อาหารเป็นพิษ พริกขี้หนู บรรเทาไข้หวัด ลดน้ำ�มูก ลดเสมหะ ขับปัสสาวะ กระตุ้นความอยากอาหาร ช่วยเผาผลาญ ตะไคร้ ช่วยขับลม ดับกลิ่นคาว แก้เบื่ออาหาร ใบมะกรูด ช่วยขับลม ขับเสมหะ บำ�รุงหัวใจ
Herb for Healthy หากพูดถึง ฤดูหนาว หลายคนชื่นชอบฤดูกาลนี้เพราะมีอากาศที่เย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว แต่ก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่ไม่ชอบอากาศ หนาวเย็น วันนี้เรามีวิธีเตรียมตัว เตรียมร่างกายเพื่อรับมือกับอากาศหนาวเย็นที่กำ�ลังเข้ามาในตอนนี้จากสมุนไพรไทย ที่มีสรรพคุณในการ ช่วยปรับสมดุลในร่างกายให้ปกติหรือคงที่นั่นเอง ในร่างกายคนเรานั้น มีธาตุเป็นองค์ประกอบที่แตกต่างกันไป เช่น ธาตุดิน ธาตุน้ำ� ธาตุลม และธาตุไฟ และอาการเจ็บป่วย ที่เกิดขึ้น มักเกิดมาจากการเสียสมดุลของธาตุในร่างกายนั่นเอง ในฤดูหนาว ธาตุที่มักจะมีอาการเจ็บป่วยเนื่องจากการเสียสมดุลของธาตุในร่างกายคือ ธาตุน้ำ� อาการที่พบบ่อย คือ อาการ แสบคอ เจ็บคอ มีเสมหะ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากกลุ่มอาการของโรคในระบบทางเดินหายใจ คนไทยเราจึงมีวิธีการดูแลรักษาสุขภาพจาก ธรรมชาติ โดยการนำ�พืชสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ได้ เพราะสมุนไพรหลายชนิดหาซื้อได้ง่ายและบางครัวเรือนยังมีการปลูกไว้ใช้เองด้วย สมุนไพรที่เหมาะกับการปรับสมดุลของคนธาตุน้ำ� มีดังนี้ - พริก : มีสารแคพไซซิน (capsaicin) ซึง่ ช่วยในระบบไหลเวียน เลือดในร่างกาย และช่วยให้การเกิดความเย็นบริเวณนิ้วมือและ นิ้วเท้าลดลงได้ - ขิง : มีสารจิงเกอรอล (gingerol) ซึ่งช่วยลดคอเรสเตอรอล ชนิดเลวในร่างกาย และช่วยให้หลอดเลือดไม่แข็งตัว - กระเทียม : ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยเฉพาะบริเวณ ผิวหนัง - กระชาย : เป็นพืชมีรสร้อน ช่วยระบบย่อยอาหาร และลดอาการ จุกเสียดในกระเพาะอาหารด้วย - โหระพา : ใช้แต่ใบคั้นเอาน้ำ� (ประมาณ 1 ถ้วย) ผสมน้ำ�ผึ้ง ใช้จิบแก้ไอ ช่วยลดอาการอักเสบของหลอดลมและช่วยขับเหงื่อได้ คุณประโยชน์จากสมุนไพรดังกล่าว ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะ กับคนธาตุน้ำ�หรือเพียงแค่ฤดูหนาวเท่านั้น แต่สามารถนำ�ไปปรุงอาหารสำ�หรับคนทุกธาตุหรือใช้ได้กับทุกฤดูกาล นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายด้วยประโยชน์จากสมุนไพร แล้ว เราควรดูแลสุขภาพจิตใจให้ดขี น้ึ ตามไปด้วย โดยการออกกำ�ลังกาย อย่างสม่ำ�เสมอ หรือฝึกสมาธิเพื่อเป็นการฝึกจิตให้เข้มแข็งและดีขึ้น ไปด้วย ถ้าเรามีสุขภาพจิตที่ดี เราก็จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งที่ดีและ แข็งแรงด้วยเช่นกัน
Tips : ด้านโหราศาสตร์
ธาตุดิน : ราศีพฤษภ ราศีกันย์ ราศีมังกร ธาตุน้ำ� : ราศีกรกฎ ราศีพิจิก ราศีมีน ธาตุลม : ราศีเมถุน ราศีตุลย์ ราศีกุมภ์ ธาตุไฟ : ราศีเมษ ราศีสิงห์ ราศีธนู 13
Vocab for ASEAN ประเทศไทย ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการ กระเทียม (กระ-เทียม) ตะไคร้ (ตะ-ไคร้)
ประเทศอินโดนีเซีย ใช้ภาษาอินโดฯเป็นภาษาราชการ bawang putih (บาวัง ปูตีห์) serai (เซอไร)
ประเทศมาเลเซีย ใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาราชการ bawang putih (บาวัง ปูตีห์) serai (เซอไร)
ประเทศสิงคโปร์
ใช้ภาษามาเลย์ จีนกลาง อังกฤษ bawang putih (บาวัง ปูตีห์) serai (เซอไร)
ประเทศฟิลิปปินส์ ใช้ภาษาอังกฤษ ฟิลิปิโน ตากาล็อก garlic (กาลิค) lemongrass (เลเมินกราส)
14
ประเทศลาว ใช้ภาษาลาวเป็นภาษาราชการ
(phak thiam) (ja nav)
ประเทศพม่า ใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาราชการ
(kyaatswanhpyauu) (sanpurar ko myaat)
ประเทศกัมพูชา ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาราชการ
(khtoem) (sloekakrei)
ประเทศเวียดนาม ใช้ภาษาเวียดนามเป็นภาษาราชการ
(ตอย) (สา)
ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาราชการ
bawang putih (บาวัง ปูตีห์) serai (เซอไร)
15
For Fun
แนวตั้ง
1. เป็นพืชล้มลุกสีเขียว ในใบเป็นวุ้นสีเขียวอ่อน ใช้รักษาแผลไฟไหม้และน้ำ�ร้อนลวก 2. รักษาอาการวัณโรค รักษาจี๊ด สรรพคุณแก้ปวดฟัน 3. สุดยอดสมุนไพรสำ�หรับการถ่ายพยาธิ 4. เป็นยารักษาโรคคางทูม 5. มีดอกหอม เป็นพรรณไม้ยืนต้น ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกเป็นสีม่วงดำ� 6. แก้ไข้เพื่อเสมหะ แก้หอบ แก้ไอ แก้ไข้จับสั่น 7. แก้อาการท้องผูก ช่วยในการระบาย นิยมทานทั้งผลดิบและผลสุก 8. มีลักษณะเป็นกอ มีกลิ่นหอม ทำ�เป็นยาไล่แมลงได้ ขับปัสสาวะและขับลมได้ดี 9. รากใช้แก้ไอ ขับเสมหะ ใบใช้แก้เริม 10. มีกลิ่นหอมหวาน ช่วยลดระดับน้ำ�ตาลในเลือดสำ�หรับผู้ป่วยเบาหวาน 11. ลดอาการวิงเวียนศีรษะ รักษาอาการปวด 12. นิยมใช้เป็นยาขับประจำ�เดือนที่ได้ผลดี 13. สมุนไพรไทยโบราณสำ�หรับรักาโรคผิวหนังสารพัดชนิด 14. ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง เป็นเบาหวานหรือสตรีมีครรภ์ มีราคาค่อนข้างแพง
16
แนวนอน
1. ช่วยขับประจำ�เดือนและน้ำ�คาวปลา แก้โรคริดสีดวงทวารและไส้เลื่อน 2. ช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดคอเรสเตอรอลชนิดเลว ช่วยปกป้องระบบประสาทจากความแก่ชรา 3. มีสีเหลืองสด ใช้บรรเทาอาการกรดไหลย้อนและท้องไส้ปั่นป่วนได้ 4. ดอกสีเหลือง มีกลิ่นหอม สรรพคุณเป็นยารักษาโรคหอบหืดและอาการคันตามผิวหนัง 5. ใช้แก้พิษร้อนกับร่างกาย ถอนพิษอักเสบ แก้ผดผื่นและคัน 6. มีแคลเซียมสูง ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง 7. ใช้ขับเหงื่อ รักษาโรคผิวหนังจำ�พวกกลากเกลื้อน เป็นผลไม้ 8. สรรพคุณมากมายมหาศาล บรรเทาอาการเจ็บคอได้ ช่วยให้ฟันขาว สะอาด และแข็งแรงมากขึ้น 9. ใบมีสรรพคุณช่วยรักษาเหา 10. ขับเสมหะ ลดอาการไอ แก้ไข้อาการวัณโรค 11. ใช้เป็นยาบำ�รุงหัวใจ ฆ่าเชื้อในช่องปากและทางเดินอาหาร 12. รสเผ็ดร้อน ไล่ลม แก้ท้องอืด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ขับเหงื่อ 13. ช่วยให้ความดันโลหิตลดลงได้ ทำ�ให้หลอดเลือดดำ�และเส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น 14. ลดความดันโลหิตและลดอัตราการเต้นของหัวใจไม่ให้เต้นเร็วเกินไป แก้เจ็บคอได้ สุดยอดยาอายุวัฒนะ 15. มีดอกสีขาวหรือสีม่วง มักอยู่ในอาหารประเภทแกง เช่น แกงเขียวหวานนิยมใช้ใบในการประกอบอาหารประเภทต้มยำ� ใช้ไล่ยุงและแมลง ใช้ดับกลิ่นต่างๆได้
17
Information Fairs เที่ยวงานเกษตรแฟร์ปากช่อง ปี 2557 • ขอเชิญร่วมงาน “เกษตรแฟร์ปากช่อง ปี 57” ระหว่างวันที่ 18-21 ธันวาคม 2557 ณ ศุนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ (ไร่ข้าวโพดสุวรรณ) ริมถนนมิตรภาพ อำ�เภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา • ภายในมีกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น การประกวดผลิตผลทาง การเกษตร การแสดงของวงดนตรี ร้านค้าพันธุ์พืชต่างๆ ไม้ดอก ไม้ประดับ ชมไร่เศรษฐกิจ เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ โทรศัพท์ 0-4436-1770-6 ททท. สำ�นักงานนครราชสีมา โทรศัพท์ 0-4421-3667
เกษตรสุรนารี’ 58
18
• ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน “เกษตรสุรนารี’58” ระหว่างวันที่ 7-11 มกราคม 2558 เวลา 09.00-12.00 น. ณ บริเวณลานพลาซ่า เทคโนธานี และอาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา • ภายในงานจัดเป็น งานแสดงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี การเกษตรภายใต้แนวคิด “ทำ�ธุรกิจเกษตรอย่างไร...ให้ได้ชัย ในอาเซียน” และพบกับกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย เช่น - นิทรรศการ “เทคโนโลยีการผลิตสัตว์นำ้ �...ทางเลือกสูอ่ าเซียน” ชม ปลาหมอยักษ์ กบยักษ์ ปลาพวง ฯลฯ - นิทรรศการพืชอาหาร มันยักษ์ เห็ดและสมุนไพรไปอาเซียน ไก่ไทย...ไก่อาเซียน - การประกวดโค แพะ แกะ สุนัข และการประกวดทางด้านพืช ชิงถ้วยพระราชทานฯ - สินค้าอาเซียน สินค้าธงฟ้า สินค้า OTOP และสินค้าหลาก หลายทางการเกษตร มาครั้งเดียว เที่ยวได้ทั้งวัน กับหลากหลายกิจกรรม ที่นี่!
รายละเอียดเพิ่มเติม
สำ�นักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร โทรศัพท์ 0-4422-4152-3 จองพืน้ ทีจ่ ำ�หน่ายสินค้า : คุณอำ�พา มีมยุ้ โทรศัพท์ 0-4422-5083, 09-0182-9090
สุขภาพที่ดี เริ่มต้นได้ จากตัวของคุณเอง