หนังสือธรรมะ สามีไม่ดี แก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดี แก้ที่สามี

Page 1


ท่านสามารถติดต่อขอหนังสือเล่มนี้ได้ฟรีที่ เว็บไซต์พระธรรมสิงหบุราจารย์ http://www.jarun.org/board/ ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้ได้ที่ เว็บไซต์พระธรรมสิงหบุราจารย์ http://www.jarun.org/digitallibrary/


ไม่สงวนลิขสิทธิ์ “ของดีของเราไม่ต้องสงวนลิขสิทธิ์ ใครอยากได้ก็ ให้เขาไป แต่ของไม่ดีของเราต้องสงวนไว้ ไม่ ให้คนอื่นมาใช้” จากธรรมะเทศนาเรื่อง ความเสื่อม โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ท่านได้เทศนาสั่งสอน อยู่เสมอ ดังนั้นหนังสือเล่มนี้ จึงไม่สงวนลิขสิทธิ์ ท่านสามารถนำ�ไปเผยแผ่เป็นธรรมทานด้วยวิธีการใดก็ได้ เช่น ถ่ายเอกสาร ส่งต่อทางอีเมลล์ ทำ�สำ�เนาใส่ซีดี โดยไม่ต้องขออนุญาตจากคณะผู้จัดทำ� เพียงแต่ท่านควรนำ�ไปเผยแผ่ให้ครบถ้วนทุกหน้า และถูกต้องตรงตามต้นฉบับนี้ทุกประการเท่านั้น

ผู้แต่ง (ผู้เรียบเรียง) คณะทำ�งาน รวบรวมเนื้อหา: ออกแบบศิลป์: จัดรูปเล่ม: พิสูจน์อักษร:

ณัฐวรรธน์ ภรนรา (webmaster@jarun.org) ณัฐวรรธน์ และ ภัทรชนันท์ ภรนรา รจนา ปทุมานนท์ และท่านอื่นๆ ที่มิได้เอ่ยนามไว้ ณ ที่นี้ สุดารัตน์ จันโพธิ์, ณัฐวรรธน์ ภรนรา ณัฐวรรธน์ ภรนรา คณะทำ�งาน


สามี ไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี ๙๗๘-๖๑๖-๙๐๖๘๐-๓-๗

พิมพ์ครั้งที่ ๑

ธันวาคม ๒๕๕๓ / ๑๐,๐๐๐ เล่ม

ราคา

จัดพิมพ์เพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทานเท่านั้น

ผู้รับผิดชอบการพิมพ์

สำ�นักพิมพ์ธรรมนำ�ใจ ๔๗๔ ถนนไมตรีจิต แขวงป้อมปราบฯ เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ ๑๐๑๐๐ โทรศัพท์ ๐๒ ๒๒๒ ๐๕๙๙

ดูแลการจัดพิมพ์โดย

บริษัท แซท โฟร์ พริ้นติ้ง จำ�กัด ๑๙๑-๑๙๓ ซ. รามคำ�แหง ๕๓ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ๑๐๓๑๐ โทรศัพท์ ๐๒ ๙๓๑ ๘๘๕๗

สร้างสรรค์ผลงาน

บริษัท คอนเน็ค พีเพิล จำ�กัด, ปทุมธานี โทรศัพท์ ๐๒ ๙๗๔ ๑๐๐๑ เว็บไซต์ http://www.connexpeople.com

บุ๊คดีดอทคอม ๐๘ ๑๕๙๙ ๑๔๓๙

อีเมลล์ book-d@hotmail.com, เว็บไซต์ http://www.book-d.com โทรศัพท์ ๐๒ ๒๒๒ ๐๕๙๙

3 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

หากท่านต้องการพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทาน หรือใช้ ในงานบุญ งานพิธีต่าง ๆ ท่านสามารถสั่งพิมพ์ ได้ที่

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ISBN


สารบัญ

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

4 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ครอบครัวไม่สุขเป็นเพราะเหตุใด ? สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี ภรรยาที่ดี สามีที่ดี เป็นอย่างไร สามีภรรยาไม่ทะเลาะกัน นี่สิความสุข สามีดีก็เชื่อ ภรรยาดีก็เชื่อ สามีภรรยาช่วยกันเจริญกรรมฐาน มีแต่รุ่งเรือง สร้างกุศล ต้องทำ�ทั้งสามีและภรรยา ภรรยาต้องเชี่ยวชาญเคหศาสตร์ สวดมนต์ช่วยให้สามีเป็นใหญ่เป็นโตได้ จิตสูงเมื่อใด จะได้สามีจิตสูง สามีเป็นของเขา ภรรยามีชู้ เพราะเหตุใด? “แม่กาหลง” ห่วงสามี ตายไปกลายเป็นเปรต อโหสิกรรมต่อกันให้ได้ ขออโหสิกรรมต่อสามี

๗ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๒๐ ๒๓ ๓๐ ๓๑ ๓๒ ๔๓ ๔๔ ๔๖ ๔๘


ภาคผนวก ต้องการให้จิตอยู่ที่ ต้องการให้มีการกำ�หนดจิต วิธีปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเบื้องต้น อานิสงส์ของการปฏิบัติธรรม ประโยชน์ของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

๗๓ ๘๕ ๙๒ ๙๔

บทสวดมนต์

๙๗

5 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

๕๐ ๕๑ ๕๔ ๕๘ ๕๙ ๖๐ ๖๓

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ภรรยาแผ่ส่วนกุศลให้สามี สามีไม่กลับบ้าน สามีไปติดผู้หญิง สวดมนต์ทำ�กรรมฐาน แก้กรรมได้ สามีเจ้าชู้ เล่นการพนัน ดื่มเหล้า ไม่ต้องไปตาม ภรรยามีชู้ ต้องแก้ด้วยกรรมฐาน แผ่เมตตา ให้ภรรยาเลิกด่าสามี ทำ�กรรมฐานช่วยภรรยาจากนรกได้


“ทานอะไร ไม่ล้ำ�เลิศประเสริฐเท่ากับ ให้ความดีเป็นทานหรือให้ธรรมเป็นทาน

เราช่วยให้เขาเป็นคนดี ดีที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้น ทานอะไรหนอทานน้ำ�ใจใสสะอาด ปราศจากมลทินที่เราให้ จะประเสริฐเท่ากับให้ธรรมะ ให้ธรรมะเป็นทานประเสริฐที่สุด” จากธรรมะเทศนาเรื่อง ให้ทานอย่างไรจึงจะได้ผล โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

ทางคณะทำ�งานขออนุโมทนาและขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำ�และจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เพื่อแจกเป็นธรรมทานไปยังสาธุชนทั่วไป คงมิมีคำ�ใดจะประเสริฐกว่าคำ�เทศนาสั่งสอน ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ที่น้อมนำ�มาใส่ไว้ ในส่วนแรกของหนังสือเล่มนี้ ท่านสามารถเล่าประสบการณ์ในการใช้ธรรมะจากหนังสือเล่มนี้ เพื่อแก้ปัญหาชีวิต หรือ จะสนทนา สอบถามปัญหาต่าง ๆ สามารถส่งจดหมายไปที่ บ้านธรรมนำ�ใจ ตู้ปณ. ๙ ปณจ.สามแยก กรุงเทพฯ ๑๐๑๐๐ หรืออีเมลล์ talk@dnjfriend.com


ครอบครัวไม่สุขเป็นเพราะเหตุใด ?

๒. แก้ไขชีวิตไม่ได้ ขาดสติสัมปชัญญะ เครียด กลายเป็น โรคประสาท เดี๋ ย วนี้ เ ป็ น กั น มาก หลายปั ญ หาแก้ ปั ญ หาชี วิ ต ไม่ ไ ด้ ถ้าเจริญพระกัมมัฏฐานจะแก้ได้ถูกจุด

7 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

๓. ปัญหาลูกไม่ยอมเรียนหนังสือ ไม่ต้องการเรียนหนังสือ ไปที่ วั ด อั ม พวั น เป็ น จำ � นวนมาก เถี ย งพ่ อ เถี ย งแม่ มี ทุ ก วั น ลู ก ไม่ ย อม เรี ย นหนั ง สื อ ไม่ อ ยากจะเรี ย นหนั ง สื อ เป็ น เวรกรรมของพ่ อ แม่ สร้างความไม่ดีให้กับลูก ทำ�ไม่ถูกให้กับหลาน รักไม่ถูกวิธี ทำ�ความไม่ดี ให้ลูกดู บ้านนั้นหาความเจริญไม่ได้แน่ คนที่เถียงพ่อเถียงแม่ พ่อแม่ก็เจ๊ง รั บ ราชการก็ ไ ม่ ไ ด้ ตำ � แหน่ ง เป็ น นั ก ธุ ร กิ จ ก็ ค้ า ขายไม่ ดี เอาดี ไ ม่ ไ ด้ คิ ด ไม่ ดี กั บ พ่ อ กั บ แม่ เท่ า นี้ เ องไม่ ใ ช่ ก ฎหมาย กฎหมายต้ อ งลงมื อ ทำ � กฎหมายมี โ จทก์ จำ � เลย กฎหมายลงมื อ ทำ � แล้ ว มี โ จทก์ จำ � เลย เราจะ ถู ก ยื น ยั น จากเอกสาร ศาลเชื่ อ แน่ แต่ เ ดี๋ ย วนี้ ไ ม่ เ ป็ น เช่ น นั้ น แล้ ว แต่หลักธรรมคำ�สั่งสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่แบบกฎหมาย เพียงแต่คิด

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

๑. ครอบครัวไม่มีความสุข เพราะไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ ไม่เคยปฏิบัติธรรม หาความสุขไม่ได้ ไม่มีความผูกพันกันเลย สามีภรรยา ทะเลาะกัน


เท่านั้น คิดว่าพ่อเราเป็นคนไม่ดี เจ๊งเลยนะ รับราชการก็โดนถอด แค่เพียงคิด ก็บาปแล้ว กฎหมายทำ�อะไรไม่ได้ ขาดเหตุผลอย่างนี้ ศีลธรรมหมดแล้ว เพียงแต่​่คิดก็ออกหลายราย คิดว่าแม่เป็นคนไม่ดี ไม่ต้องลงมือกระทำ�ก่อน เพียงคิดไม่ได้ท�ำ ธรรมะโดนแล้ว กฎหมายทำ�อะไรไม่ได้ แต่หลักธรรมคำ�สอน ของพระพุทธเจ้า ขาดเหตุผลข้อ ๓ ลูกไม่ยอมเรียนหนังสือ จะแก้อย่างไร แก้ไขได้แน่นอน พอกันเลย ลูกก็ดีไม่ได้ สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

8 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

๔. เศรษฐกิจไม่พอปากพอท้อง เป็นหนี้เป็นสินเขา แต่เรา ตามคำ � สอนของพระพุ ท ธเจ้ า เศรษฐกิ จ มั น ตก แต่ ไ ม่ เ ป็ น หนี้ ใ ครเลย สร้างฐานะแต่พอตัว รับผิดชอบจะเสียหาย น่าจะแก้ตรงนี้ มีเงินแค่ ๓๐% ไปกู้มาตั้ง ๘๐% ไปไม่รอด ทำ�งานแต่พอตัว นกขมิ้นเหลืองอ่อนเอ๋ย ทำ�รัง แต่พอตัว เศรษฐกิจเลวร้ายทีจ่ ะแก้ปญ ั หาชีวติ ได้ เศรษฐกิจไม่พอปากพอท้อง เป็นหนี้เป็นสินมากมาย ๕. มีเงินมีทองมากมายก่ายกองยังไม่พอ ตะเกียกตะกายไป ยากจน เอาเงินตามเงิน อย่าเอาเงินตามเงินเจ๊งทุกราย ยกตัวอย่างให้ท่านเห็น ไปเล่นการพนันเสียไป ๑ หมื่น เอาเงินไปตามอีก ๒ หมื่น ได้มา ๕ หมื่น และไปตามอีกหมดไปแสนหนึ่ง หมดเลย อย่าเอาเงินไปตามเงิน มีที่ไหน งานตามงาน งานเดินเงินก็ตาม เงินเข้า ไปกู้เงินเข้ารัฐบาลไปกู้เงินเข้ามา เมืองไทย งานจะเดินเงินจะตามมา ไม่ให้กู้ไม่สะพัด ไม่คล่องแคล่วว่องไว เงินจะมาได้ขอฝากไว้ งานจะเดินได้เงินจะตามมาหาท่านเอง งานไม่เดิน เงินก็ไม่ตามชีวิตจะแร้นแค้น ไม่มีแปลนและแผนผัง พระพุทธเจ้าคิดจะแก้ ปัญหา มีเหตุผลมากหลาย ครอบครัวไม่ดี ทำ�ให้ลูกติดยาเสพติด


เด็กเรียบร้อยเหมือนกันไม่ได้ บางคนเรียบร้อยไม่เหมือนกัน บางคนเรียบร้อยไหว้พระสวดมนต์ บางคนเจอผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่ ผูส้ งู อายุ อ่อนน้อมถ่อมตน เด็กบางคนปีกกล้าขาแข็ง มาจากไหน สิง่ แวดล้อม มาจากพ่อแม่ ขอฝากไว้ สิ่งแวดล้อมมาจากพ่อแม่ บางบ้านชวนลูกสวดมนต์ ไหว้พระ แม่กส็ วดพ่อก็สวด ลูกสวดเองตามโดยอัตโนมัติ บ้านนัน้ ก็เป็นบ้าน แสนสุข

ถ้าพ่อแม่ไม่ดี ลูกจะก่อเรื่องให้พ่อแม่เดือดร้อน จะไม่เชื่อฟัง พ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ดีมีปัญญา ลูกจะก่อวิชาให้พ่อแม่ จะเรียนเก่งเร่งก้าวหน้า ไม่เถียงพ่อเถียงแม่ ให้สวดมนต์เป็นนิจอธิษฐานจิตเป็นประจำ� อโหสิกรรม ก่อนแผ่เมตตา ครอบครัวนั้นไปรอด ลูกหลานเรียนเป็นดอกเตอร์หมด นีเ่ รียกว่ากรรมอยูท่ แี่ ม่ แม่ส�ำ คัญมากในครอบครัวนัน้ ถึงเรียกว่าเป็นแม่แบบ

9 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

พ่ อ แม่ ไ ม่ รู้ จั ก จะแก้ ไ ขปั ญ หา แม้ บิ ด าเจ้ า ชู้ เ ล่ น การพนั น จะไม่สามารถดูแลลูกได้ แต่มารดาก็สามารถทำ�ให้เป็นแบบอย่างแก่ลูก สร้างตัวให้ดีดูแลลูกให้ได้ รับรองไปรอด ให้แผ่เมตตาให้สามีได้ ลูกดีทุกคน ถ้ า แม่ ดี เ สี ย คนหนึ่ ง “กั น อยู่ ที่ แ ม่ แก้ อ ยู่ ที่ พ่ อ ก่ อ อยู่ ที่ ลู ก ปลู ก อยู่ ที่ ค รู ความรู้อยู่ที่ศิษย์ จะได้เป็นมิตรกัน”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ครอบครั ว เป็ น จุ ด มุ่ ง หมาย ครอบครั ว สำ � คั ญ เป็ น สถาบั น ทีจ่ ะแก้ไขตัง้ แต่เริม่ ต้น พ่อแม่ตอ้ งรักลูกคิดปลูกฝัง คิดตัง้ ตนให้ลกู มีการศึกษา ลูกได้ดีมีปัญญา เป็นคนดีมีวิชา สร้างให้ลูกเป็นคนดีให้ได้ พ่อแม่สำ�คัญ สถาบันครอบครัวสำ�คัญ


แม่ แ ผน แม่ แ ปลน สามี จ ะดี ชั่ ว ไม่ เ ป็ น ไร แต่ ถ้ า สามี ดี ที่ สุ ด แต่ ภ รรยา แตกแหลกลาญ รับรองลูกดีไม่ได้ เพราะลูกกับแม่ผูกพันกันมากกว่าพ่อ แบบแผนทีจ่ ะให้กบั ลูกก็ดกี ว่าพ่อ เพราะพ่อนีห่ า่ งมาก พ่อไปงานสังคมเยอะ แม่งานมาก การเรือนเคหศาสตร์ ที่เขาไปรบกันเขาเรียกพ่อทัพ มีแต่แม่ทัพ เป็นผู้ชายแต่ควบคุมกองทัพได้ ก็เรียกว่าแม่ทัพ จะเป็นชายก็ได้หญิงก็ได้ แต่ใครคุมเรือได้เรียกว่ากัปตัน อยู่ที่ต้นหนต้นกลกราบเรือ สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

10 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ยกตัวอย่างให้ญาติโยมได้ทราบว่าเมือ่ เดือนก่อนโน้น พ่อเป็นฝรัง่ แม่เป็นคนไทย ลูกเป็นเด็กผู้หญิง ๓ ขวบ มาที่วัดอัมพวัน คลานเข่าเลย แล้วก็กราบ ตั้งนะโม ๓ จบ อิติปิโส ภะคะวาฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ พุ ท ธคุ ณ ธรรมคุ ณ สั ง ฆคุ ณ และก็ ส วดพาหุ ง มหากาฯ คาถาสมเด็ จ พระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ถวายพรชัยมงคล สมเด็จพระนเรศวร ไม่เคยแพ้ทัพ ว่าได้จบ อาตมาก็ถามหนูอายุเท่าไร ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน โรงเรียนอนุบาล อายุ ๓ ขวบ ทำ�ไมสวดมนต์เก่ง ว่าได้ชดั เจนเหมือนผูใ้ หญ่ ว่าได้จงั หวะจะโคน แม่ ก็ ยิ้ ม พ่ อ ก็ ยิ้ ม ฝรั่ ง อเมริ กั น อาตมาบอกเอาปั จ จั ย มา ๑,๐๐๐ บาท เรียกมาหนูเธอจะต้องเป็นดอกเตอร์นะ หลวงพ่อให้หนู หนามแหลมใครเสีย้ ม แหลมออกจากท้องแม่ได้ ดูเสื่อให้ดูลาย ดูชายให้ดูพ่อ ไม่ต้องมีใครสอน กราบก็ ส วย คุ ก เข่ า แบบเทพธิ ด า แม่ เ ขาปริ ญ ญาโท พ่ อ เป็ น อเมริ กั น เป็นดอกเตอร์ขอบพระคุณหลวงพ่อมาก ที่ให้หนูไปเรียนเป็นดอกเตอร์ ขอบพระคุณอย่างสูง แล้วกราบลง ๓ หน การอ่อนน้อมถ่อมตน ปากหวาน นอบน้อม ตัวอ่อน มือเป็นหงอน กตัญญูเชิดชูระเบียบ คุณหนูจำ�ใส่ใจ นี่เป็น


ถ้ามีลูกมีหลาน อย่าให้อยู่ว่าง อย่าให้ห่างผู้ใหญ่ จะหลงทาง ได้ง่ายโดยเสียใจต่อภายหลัง จะแก้ไขไม่ได้ ตรงนี้น่าคิด

11 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

คุณบิดามารดาที่รัก โปรดผลิตลูกให้ดีหน่อยได้ไหม ก่อนจะมี บุ ต รธิ ด า สวดมนต์ ภ าวนา บ้ า นไหนสะอาดนั ก ปราชญ์ ม าเกิ ด บ้ า นไหนสกปรกสั ต ว์ น รกมาเกิ ด บ้ า นไหนสกปรกลามกเหลื อ เกิ น ใจก็สกปรก บ้านไหนสะอาดเฉียบขาดเป็นธรรม เทพเจ้าทุกแหล่งหล้า ก็จะส่งเทพเจ้ามาเกิดประเสริฐทุกประการ นักปราชญ์มาเกิดบ้านนั้นแน่ อยู่เย็นเป็นสุข ให้ช่วยกันผลิต ช่วยกันสวดมนต์ไหว้พระ ช่วยกันกำ�หนดจิต ที่ลิ้นปี่ให้แก้ไว้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

วิทยานิพนธ์ชวี ติ ฝรัง่ คนนัน้ เป็นคริสต์พดู ไม่คอ่ ยชัด บัดนีเ้ ป็นพุทธ ปริญญาโท อเมริกา เอาใจใส่ มีเมตตาดีเหลือเกิน เขายกย่องพุทธศาสนา ว่าสามารถ แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ทำ�ให้เขามีความสุขมาก เขาจึงรักเมืองไทยผูกพัน กับเมืองไทยมากแท้จริง เวลาทำ�งานรับราชการในต่างประเทศ สามีจะกลับ ก็มาคอยรับ ถอดเสื้อ ถอดรองเท้า ปฏิบัติอย่างดี เพราะภรรยาเป็นคนดี เขาจึงหันมาสวดพาหุงฯ สวดได้ชัดเจนลูกสวดไปด้วย สวดมาไม่กี่เดือน ลูกสวดได้หมด ๕ โมงเย็น พ่อยังไม่มา ลูกบอกแม่สวดมนต์เถอะ นีล่ กู นำ�พ่อแม่ มี เ หตุ ผ ล และพ่ อ แม่ ก็ ยิ้ ม แย้ ม แจ่ ม ใส บอกว่ า ลู ก เตื อ นพ่ อ ให้ ส วดมนต์ เด็กพอเขาถึงธรรมะเด็กจะทำ�ตามเวลา ตรงเวลา


สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

12

ถ้ า ท่ า นมี ลู ก ผู้ ห ญิ ง โปรดสอนวิ ช าเอกของพระพุ ท ธเจ้ า คื อ แม่บ้านการเรือนเคหศาสตร์ แม่แบบ แม่แผน แม่แปลน เรือน ๓ น้ำ� ๔ สร้างความดีในลูกสาว ถ้ามีลูกสาวถึงสำ�เร็จจะปริญญาโท-เอก ก็ต้องให้มี แม่บา้ นการเรือนเคหศาสตร์ให้ได้ จะได้รหู้ ลักของลูกผูห้ ญิง ลูกผูห้ ญิงเดีย๋ วนี้ ทำ�กับข้าวก็ไม่เป็น รับแขกกันอย่างไร เดินจะเหยียบหัวคนเฒ่าคนแก่ ใช้ไม่ได้ ไม่มีระบบไม่มีระเบียบเลย อาตมาเห็นพระเจ้าหลานเธอฯ คลาน เห็นแล้ว ขนหัวลุก สวยน่ารัก คลานตลอด เข้าห้องน้ำ�ก็คลาน ออกจากห้องน้ำ�ก็คลาน เด็กเดี๋ยวนี้เดินจะเหยียบหัวคนแก่คนเฒ่า ไปลามาไหว้ ขอประทานโทษ โปรดอภั ย ขอทางไปได้ ไ หม ไม่ มี เ ลย ไม่ มี ใ ครสอน เพราะพ่ อ แม่ เ ขา เป็นอย่างนั้น

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ก็ ข อ ฝ า ก พี่ น้ อ ง ส า ธุ ช น แ ล ะ พุ ท ธ ศ า ส นิ ก ช น ทั่ ว ไ ป ในประเทศไทยนี้ โปรดตีความคิดให้เข้ามาหาตัวท่านเองให้ชัด นี่แหละ ตามใจตัวเสียคนหมด ไม่รจู้ กั จะฝืนใจ คนทีเ่ ลวร้ายมันตามใจตัว มันกลัวลำ�บาก ความยากจะเกิดขึน้ คนทีไ่ ม่ตามใจตัว ไม่กลัวลำ�บาก ฝืนใจเข้าไปสูค่ วามดีได้ สมมุติว่าเราติดเหล้า ฝืนใจไม่กินซะอย่างเดียวถือสัจจะรับรองแก้ได้แน่นอน แต่ฝนื ใจไม่ได้ ปล่อยไปตามอารมณ์ ตามใจคนเช่นนี้ ขอฝากท่านผูใ้ หญ่ไว้ดว้ ย ปล่อยให้ลูกตามใจตัว แล้วตัวเองก็ตามใจด้วย รับรองเอาดีไม่ได้แน่นอน มีลูกขอให้เรียนหนังสือ หาวิชาใส่ตัวลูกให้ได้ ถึงจะยากดีมีจน ก็ไม่เป็นไร พ่อก็จนแม่ก็จน ไม่จนปัญญา ไม่จนสติ รับจ้างหากิน เอาลูกเรียน เป็นดอกเตอร์ได้ ทีจ่ งั หวัดสิงห์บรุ เี ป็นตัวอย่าง พ่อเป็นจับกัง แม่รบั จ้างซักรีด


ลูก ๕ คน เป็นดอกเตอร์ ๓ คน เป็นเถ้าแก่เนี้ยขายทอง ที่เยาวราช ๒ คน เพราะลู ก เขาทั้ ง หมด ๕ คนสวดมนต์ ภ าวนาเจริ ญ พระกรรมฐาน แต่บางครอบครัวพ่อเป็นนายพล พ่อเป็นเศรษฐี พ่อเป็นอาเสี่ย ลูกเป็นอาเฮีย หลายคนตามใจลู ก พระพุ ท ธเจ้ า ตามใจไม่ ไ ด้ น ะ ตามใจก็ เ สี ย คนหมด ตรงนี้ เ ป็ น ต้ น เหตุ ปล่ อ ยไปตามใจตามอารมณ์ จะเสี ย คน เสี ย อนาคต ของเขาเอง จะเสียใจต่อภายหลังโดยไม่รู้ตัว

13 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ลูกไม่สนใจในการเรียน ร้องไห้มาทีว่ ดั อัมพวันเป็นจำ�นวนมาก เพราะตามใจลูก จนไม่อยากเรียนหนังสือไปติดเพื่อนอันธพาล ความผูกพัน กับพ่อแม่ไม่มี หาความผูกพันกับพ่อแม่ได้ยาก เลยลูกก็ต้องไปติดเพื่อน ไปรักเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ทุกวันนี้ให้โอกาสลูกได้ยากมาก ไม่มีเวลาให้ลูกเลย เพราะยากจน ต้องไปทำ�มาหากิน สามีก็ไปทางหนึ่ง ภรรยาไปทางหนึ่ง ต่างคนต่างไป ในเมื่อต่างคนต่างไปก็เกิดปัญหา ลูกก็เลย ไม่มีความผูกพันกับพ่อแม่ กินข้าวก็คนละหม้อ อยู่กันคนละทิศคนละทาง ลูกก็เลยเลเพลาดพาดไปคบเพื่อนอันธพาล คบพาลมันจะได้ผิด คบบัณฑิต ได้ผล คบคนชั่วทำ�ตัวให้อับจน คบคนดีให้ผลจนวันตาย เมาเพศก็หมดค่า เมาสุราหมดความสำ�คัญ เมาการพนันหมดตัว เมาเพื่อนชั่วหมดดี เอาดีไม่ได้ นี่ตรงนี้เป็นเรื่องสำ�คัญที่แก้ไม่ได้ เลยลูกไม่เชื่อพ่อแม่เพราะความผูกพัน กับพ่อแม่ยุคใหม่สมัยนี้ไม่มีแล้ว เลยไปผูกพันกับเพื่อน

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

วั น เกิ ด นี่ สำ � คั ญ เป็ น การกตั ญ ญู ก ตเวทิ ธ รรมอย่ า งยิ่ ง วันขึ้นปีใหม่นี้ก็เป็นการกตัญญูกตเวทีต่อตัวเอง ที่เรารำ�ลึกคุณงามความดี ถึงบิดามารดาผู้ให้กำ�เนิดเกิดมาเป็นตัวตน


บ้ า นนั้ น ครอบครั ว ดี ห มดทั้ ง บ้ า น ดี ทั้ ง ลู ก ทั้ ง หลาน ในอนาคตด้วย มาจากพ่อแม่ทั้งสิ้น พ่อแม่ไม่เคยชวนลูกสวดมนต์ไหว้พระ ลูกก็เลเพลาดพาดเหมือนพ่อแม่ดังกล่าวแล้ว ทะเลาะให้ลูกเห็น หลั่งน้ำ�ตา ให้ ลู ก เห็ น เล่ น การพนั น ให้ ลู ก เห็ น กิ น เหล้ า ให้ ลู ก เห็ น ลู ก ก็ เ ป็ น พยาน หลักฐาน ลูกมันก็บันทึกหลักฐานความชั่วมาจากพ่อแม่ไว้ในจิตใจของเขา ไหนเลยเขาจะดีได้ สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

14 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ท่านทัง้ หลายเอ๋ย ตีความให้ตวั ท่านเอง ถ้าท่านยังกินเหล้าเมายา เล่ น การพนั น บ้ า บออยู่ เ ช่ น นี้ ลู ก ท่ า นจะดี ไ ม่ ไ ด้ แ น่ น อนนี่ มี ค วามหมาย ถ้าท่านหมั่นสวดมนต์ไหว้พระพาหุงมหากาฯ จิตใจก็ซึ้งไปในรสพระธรรม ฝั ง จริ ย ธรรมให้ แ น่ น ลู ก ท่ า นจะดี ทุ ก คน นี่ แ หละตี ลู ก ด้ ว ยแบบอย่ า ง อย่าตีลกู ให้หวั แตก เอาไม้หวดลูก เมตตาเจือโทสะอย่างนีล้ กู ท่านดีไม่ได้แน่นอน ลูกทำ�เลวเสียหายอย่าไปเข้าข้างลูก ส่วนมากพ่อแม่จะเข้าข้างลูก ทำ�ให้ลูกเสียหาย กันอยู่ที่แม่ แก้อยู่ที่พ่อ ก่ออยู่ที่ลูก ปลูกอยู่ที่ครู ความรู้ อยู่ที่ศิษย์ จะได้เป็นมิตรกัน แม่จะต้องกันลูกตลอดลูกจะเสียหายอย่างไร ก็ตาม พ่อต้องแก้ให้ลูก แม่กันไม่ได้แล้วต้องไปให้พ่อแก้ แต่ลูกถ้าเกิดเลวร้าย ขึ้ น มาแล้ ว จะก่ อ เรื่ อ งเดื อ ดร้ อ นให้ กั บ พ่ อ แม่ ต ลอด ถ้ า ลู ก ดี มี ปั ญ ญา จะก่อวิชาการก่อความดีให้กับพ่อแม่ได้ชื่นอกชื่นใจขอฝากพ่อแม่ ไว้ด้วย


สามี ไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สอนให้ช่วยตัวเองได้ สอนให้สอนตัวเองได้

สอนให้พึ่งตัวเองได้ ไม่ต้องไปพึ่งใคร

จุ ด มุ่ ง หมายของพระพุ ท ธเจ้ า สอนอย่ า งนั้ น ไม่ ต้ อ งการว่ า ไปเข้าวัดให้พระแก้ปัญหาให้ และก็เอาดอกไม้ธูปเทียนมาหาพระ กราบแล้ว กราบอีก นึกว่ามาขอธรรมะ มาขอให้ช่วย เริ่มต้นก็ขายที่ดินบ้าง ช่วยให้สามี ดีหน่อย สามีไม่ดีต้องแก้ตรงไหน ภรรยาไม่ดีแก้ตรงไหน

15 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

คำ�สอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่รบั เรือ่ งปัญหาของคน ท่านสอน คนให้แก้ปญ ั หา และคนก็น�ำ เอาปัญหามาให้พระ ไม่รจู้ กั จะช่วยตัวเอง คำ�สอน พระพุทธเจ้าแต่ละบทพระคาถา

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

พระพุทธเจ้าไม่เคยว่าใคร ท่านให้แต่ของดี ไม่เคยรับกิเลส ของใครมาไว้ในใจท่าน พระสงฆ์องค์เจ้าก็เช่นเดียวกัน ท่านคงไม่รับกิเลส ของใคร แต่อาจจะรับไทยทานเป็นการส่วนกุศล เอาไปบำ�รุงพระพุทธศาสนา ก็จะเป็นได้ ถ้าจะไปรับเรื่องของชาวบ้านมาให้หมดแล้ว ก็คงไม่ใช่คำ�สอน ของพระพุทธเจ้า


สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี ลูกไม่ดีแก้ที่พ่อแม่ พ่อแม่กินเหล้าเมายาสอนลูกให้เป็นโจร ต้องแก้ที่ลูก ให้ลูกสร้างแต่ความดี อย่าเชื่อฟังพ่อแม่ที่สอนลูกให้เป็นโจร ขอฝากท่านไว้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

16

ไม่ใช่เข้าวัดไปหาพระช่วยนะ พระท่านช่วยไม่ได้ แต่ตถาคต เพี ย งชี้ บ อกหนทาง ให้ เ ราเดิ น กั น เท่ า นั้ น ให้ เ ราทำ � หน้ า ที่ ใ ห้ ถู ก ต้ อ ง สำ � หรั บ มนุ ษ ย์ แต่ ญ าติ โ ยมทำ � หน้ า ที่ ไ ม่ ถู ก ต้ อ ง และก็ ป ฏิ บั ติ ไ ม่ ถู ก ทาง พระท่านจะช่วยโยมได้ไหม

ภรรยาที่ดี สามีที่ดี เป็นอย่างไร โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ถ้ า ท่ า นได้ ก รรมฐานแล้ ว ท่ า นจะไปปลุ ก ลู ก ให้ ตื่ น เสกลู ก ให้เป็นงาน จะพูดกับลูกก็เพราะ ไม่ดุไม่ด่าลูกต่อไป และเป็นภรรยาแม่บ้าน แม่เรือนทีด่ ี จะไม่ดา่ เสียดสีสามีเลย สามีกเ็ ห็นใจภรรยา จะไม่วา่ เสียดสีภรรยา เช่นเดียวกัน ยกย่องภรรยา อุตส่าห์เลี้ยงลูกตั้งหลายคน และยังเอาใจใส่ สามีอย่างดีด้วย ภรรยาก็เห็นใจสามี หาเงินหาทองมากมายไว้ในครอบครัว ผู้ที่จะรู้จริงอย่างนี้ต้องเจริญกรรมฐาน


สามีภรรยาไม่ทะเลาะกัน นี่สิความสุข

โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

ลูกดีมีปัญญาไม่เถียงพ่อเถียงแม่แต่ประการใด เพราะพ่อแม่ มีสติไว้ที่ใจ ควบคุมจิตอยู่ตลอดเวลากาล ลูกก็ติดนิสัยพ่อแม่ ปลูกสร้างก็ดี มีปัญญาตรงนี้ไม่มีใครคิด”

17

“ถ้าท่านเป็นสามีภรรยาทะเลาะกัน ลูกจะหาความสุขไม่ได้นะ ข้อนี้ไม่มีใครคิด อาตมาพยายามคิดให้เสมอคือกรรมฐาน

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

“การเจริญวิปัสสนากรรมฐานต้องการอย่างนี้ ต้องการเอาสติ มาไว้ที่ใจคือคนฉลาดปราดเปรื่องเรืองปัญญา สามีภรรยาก็เป็นคู่สร้างคู่สม เป็นเพือ่ นคูค่ ดิ มิตรคูบ่ า้ นกัน จะไม่ทะเลาะกันเลย นีส่ คิ วามสุขของโลกมนุษย์

ขอฝากไว้ พ่อแม่รกั กันดี ปรึกษาหารือกันดี ลูกดีใจมาก มีความสุข สว่างฟ้าสว่างดิน เหมือนพระจันทร์ลอยเด่นอยู่ในนภากาศ พ่อแม่ทะเลาะกัน ไม่เอาเหนือเอาใต้กนั เลย จนกระทัง่ แก่แล้วนะ ลู ก บ้ า นนั้ น ไม่ มี ค วามสุ ข เลย เหมื อ นฟ้ า มั น มื ด เหมื อ นเมฆหมอก มาบังพระจันทร์ฉะนั้น”


“ครอบครัวหาความสุขเถิด สามีภรรยาอย่าทะเลาะกันเลย สองคนตายายหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ เจริญภาวนาให้ลูก ปลูกฝังให้หลาน อยู่เย็นเป็นสุข นี่สิถึงจะถูกต้อง ไม่ใช่ท�ำ บุญไปสวรรค์ ทำ�บุญไปนิพพาน น้�ำ ลายไหลยืด ฟังเทศน์ กันไม่พัก เลยควักติดกัณฑ์เทศน์กันหมดตัว เดี๋ยวทอดกฐินผ้าป่า

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

18

ขอเจริญพร วัดนี้ไม่ต้องนะอาตมาจะทำ�บุญกับโยม ให้กลับไป มีความสุขในบ้าน กลับไปแล้วขอให้เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี มั่งมีศรีสุข ให้ลูกหลานเป็นดอกเตอร์ เท่านี้พอใจแล้วในโลกมนุษย์ ไม่จ�ำ ต้องกล่าวว่าไปสวรรค์นพิ พาน แค่ขนั้ ต้นก็มแี ต่ความทุกข์ หาความสุขไม่ได้เลย ไหนเลยจะไปสวรรค์นิพพานกับเขาได้ ขอฝากไว้”

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สามีดีก็เชื่อ ภรรยาดีก็เชื่อ โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

พระพุ ท ธเจ้ า ทรงสอนว่ า อย่ า เชื่ อ พระพุ ท ธเจ้ า พระองค์ ทรงแสดงขมวดท้ายไว้ ให้เชือ่ โดยเหตุผลข้อเท็จจริง ก็เชือ่ ตามเหตุผล ห้ามเชือ่ พ่อแม่ พ่อแม่สอนลูกเป็นโจรก็อย่าเชือ่ นีห่ มายเหตุแล้ว อย่าเชือ่ ใคร อย่าเชือ่ ผัว อย่าเชื่อเมีย ขอประทานโทษเถอะ ถามด้วยความจริงใจ โยมเชื่อสามีไหม


อ้าว ไม่เชื่อเลย นี่พูดอย่างนั้นไม่ถูก สามีดีก็เชื่อ สามีไม่ดีก็อย่าเชื่อ อาตมา เมื่อยังเป็นฆราวาสสมัยโบราณกาลก่อน ยังซักผ้าให้ภรรยา นี่สมมตินะ ถูเรือนให้เสร็จ ป้อนข้าวให้เขาเสร็จ ยังอยู่กับเขาไม่ได้เลย จนต้องมาบวช นี่เห็นไหมต้องมาบวชแล้ว นี่สามีดีก็เชื่อ ไม่ดีก็อย่าเชื่อ ภรรยาก็เช่นเดียวกัน ถ้าดีกเ็ ชือ่ พระพุทธเจ้าท่านยอดจริงๆ เห็นไหม มีสติจงึ รูไ้ ด้ เพือ่ นมี ๒ ประเภท เพื่อนดีก็ควรเชื่อ เพื่อนที่มันพาเหลวแหลกก็อย่าไปเชื่อ

19 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เมื่ อ สองวั น อาตมาไปเห็ น มาแล้ ว สามี ก ลั บ บ้ า น เธอจ๋ า ๆ ทำ�กับข้าวตามที่สั่งหรือเปล่า แม่บ้านเขาทำ�ผิดไป เขาทำ�น้ำ�พริกหวานไป เขาก็ บ อกว่ า นี่ ทำ � ให้ ข มหน่ อ ยไม่ ไ ด้ ห รื อ เท่ า นั้ น เลยโมโห เอาหม้ อ ข้ า ว ที่หุงสำ�เร็จรูปไม่มีน้ำ�ข้าวเหวี่ยงลงใต้ถุนเลย วันนั้นอาตมาไปจอดรถพอดี โครมอะไรกัน เลยบอกโชเฟอร์ ออก ๆ บ้านนีอ้ ะไรกัน โอ้โฮ เชือ่ ใจเราขนาดนัน้ เห็นไหมนี่เสียไหมล่ะ นี่เสียเลยนะโยม จำ�ไว้นะ เชื่อใจเราขณะมีโลภะ เชื่อใจเราขณะมีโทสะ เชื่อใจเราขณะมีโมหะ เสียทุกราย เพราะฉะนั้น ต้องตั้งสติก่อนจึงค่อยเชื่อ มีความหมายอย่างนั้น นี้ก็มีเหตุผล

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

แต่รา้ ยทีส่ ดุ ในโลกมนุษย์คอื เชือ่ อะไร โยมตอบได้แต่ยงั อึกอักอยู่ อาตมาตอบแทน ร้ายทีส่ ดุ คือเชือ่ ใจเราขณะมีโทสะ ขณะมีโมหะ ขณะมีโลภะ โทสะ โมหะ โลภะ จริงหรือไม่ นี่เชื่อใจเราอย่างนี้ร้ายที่สุด


สามีภรรยาช่วยกันเจริญกรรมฐาน มีแต่รุ่งเรือง โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

20 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

มีเรื่องอัศจรรย์เรื่องหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ มีครอบครัวหนึ่ง พ่อแม่เป็นคนใจบุญกุศล แต่ใจบุญสำ�หรับเอาหน้า ชอบทอดกฐิน ผ้าป่า ชอบทำ�บุญมาก ๆ มีนาอยู่ ๘๐ ไร่ ในสมัยนั้น มีเขยสองเขย เรียกว่าเขยเล็ก และเขยใหญ่ เขยเล็กอยู่ที่จังหวัดชัยนาทเป็นคนขี้เกียจและขี้อิจฉาริษยา เขยใหญ่เป็นคนจังหวัดขอนแก่น มาเป็นลูกจ้างทำ�นาตั้งแต่อายุ ๑๗-๑๘ ปี ทีบ่ า้ นนัน้ เขาบวชให้ ได้มาศึกษาวิปสั สนากับอาตมาทีว่ ดั พรหมบุรี จ.สิงห์บรุ ี จนได้มาเป็นลูกเขยบ้านนี้ มีนาอยู่ ๒ แห่ง แห่งหนึง่ เป็นนาดอน อีกแห่งหนึง่ เป็นนาลุ่ม เมื่อก่อนนี้ยังไม่มีคลองชลประทาน ต้องอาศัยน้ำ�ไหลเข้าบาง มาท่วมข้าว พ่อแม่ก็อคติ รักลูกเขยคนเล็ก เกลียดลูกเขยคนใหญ่ มีนาดียกให้ ลูกเขยคนเล็ก นาไม่ดีให้ลูกเขยคนใหญ่ เขยคนเล็กได้นาลุ่มใช้ปลูกข้าวหนัก ข้าวกลาง เขยคนใหญ่ได้นาดอนปลูกข้าวเบาน้ำ�ไม่ท่วม เขยคนใหญ่นเี้ ป็นลูกศิษย์กรรมฐาน โง่ ๆ เง่า ๆ ไม่เอาเหนือเอาใต้ ไม่ค่อยพูดจากับใคร นั่งกรรมฐานทุกวัน ให้นาไหนก็เอาทั้งนั้น ได้นาข้าว เบาน้ำ�ไม่ท่วม สองคนสามีภรรยาก็ช่วยกันทำ�คันนาให้สูงขังน้ำ� ทำ�นาด้วย


เจริญวิปัสสนาด้วย เขยคนเล็กได้นาลุ่มที่เขาเคยทำ�นาดี น้ำ�ไหลเข้าไปในบาง พาผักบุ้งผักปอดไหลเข้าไปในนาเต็มไปหมด นาลุ่มที่เคยได้ดีกลับไม่ได้ นาดอนของลูกเขยใหญ่กลับได้ดิบได้ดี

ในที่สุดก็ยกให้เขยเล็กไป เขยใหญ่ก็ไปทำ�นาที่ว่า ผักปอด มันไหลตามบางเข้าไปในนา นาที่อยู่ท้ายบางก็ทำ�ไม่ได้ สองคนสามีภรรยา ก็ทำ�ตามที่อาตมาสั่ง แล้วก็นั่งเจริญกรรมฐานอุทิศส่วนกุศล เขาไปตัดไม้ไผ่ มาปักหลัก แล้วก็ทำ�ราวยาว ๆ กัน้ ไม่ให้ผกั ปอดเข้านา มันก็ไหลไปทีอ่ นื่ ต่อไป นากลับได้ดีขึ้นมา ข้าวเจริญงอกงามดีมาก ความอคติของพ่อแม่ จิตใจ เลยรักลูกเขยคนเล็กมาก ก็บอกลูกเขยคนใหญ่ว่า “เอาอย่างนี้เถอะลูกเอ๋ย นานี่ดีอีกแล้ว ทำ�ดีนี่ ให้เขยเล็กสักปีเถอะ เจ้ากลับไปทำ�นาดอน”

21 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ฝ่ายพ่อแม่เกิดอคติ บอกกะเขยคนเล็กว่า นานั้นไม่ดีเสียแล้ว จึงมาขอเปลี่ยนนา เอานาดอนให้ลูกเขยคนเล็ก ลูกเขยใหญ่มาปรึกษาอาตมา บอกว่า “หลวงพ่อทำ�ไมหนอ คุณพ่อตาแม่ยายเขาทำ�อย่างนีจ้ ะถูกไหม” อาตมา ก็บอกว่า “เอาให้เขาเถอะ เขาอยากได้ มันไม่ใช่ของเรา เราก็ซอื้ มาได้แปลง ๕ ไร่ ก็ดีแล้ว สองคนสามีภรรยาค่อย ๆ ทำ�ไปเถอะ

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

อาตมาถามเขาว่ า “ทำ � นาดี ไ ด้ อ ย่ า งไร” เขาบอกว่ า ทำ � ไป อธิ ษ ฐานไป และเจริ ญ วิ ปั ส สนากรรมฐานที่ น านั้ น ทั้ ง สองสามี ภ รรยา นานั้นก็ดี ข้าวดีมาก ก็คันนาสูงทำ�ด้วยตัวเอง ทำ�ได้สองสามปี ปลูกบ้านได้ หนึ่งหลังและซื้อนาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแปลง


เขยเล็กไปทำ�นาดอนก็ขี้เกียจ ไม่เจริญกุศล บำ�เพ็ญกุศลก็ไม่เอา เจริญวิปัสสนาก็ไม่เอา อาตมาไปบอกที่บ้าน “เอาอย่างนี้ซิ เอาอย่างเขยใหญ่ เขาเจริญกรรมฐาน” เขาบอก “ผมไม่ชอบ ผมไม่ใช่นักกรรมฐาน” ผลสุดท้าย ทำ�นาดอนก็ไม่ได้อีก เกิดฝนแล้ง น้ำ�ไม่ท่วม

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

22 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

มันเป็นไปโดยธรรมชาติของกฎแห่งกรรม ทำ �นาลุ่มก็ไม่ได้ ทำ�นาดอนก็ไม่ได้ ในที่สุดก็ยกนาทั้งสองแปลงให้เขยเล็กไปหมด เขยใหญ่ ก็ทำ�นาที่เขาซื้อใหม่ และนั่งกรรมฐาน อุทิศส่วนกุศลให้เขยเล็กที่คิดอิจฉา วั น หนึ่ ง เขยเล็ ก กั บ ภรรยา คื อ ลู ก สาวของบ้ า นนั้ น เกิ ด เอายาพิ ษ ไปวาง จะฆ่าเขยใหญ่ให้ตายแล้วเอาสมบัตทิ งั้ หมด ไปวางทีท่ เี่ ขยใหญ่เคยนัง่ ทานข้าว ครอบครัวนี้ทานข้าวร่วมกัน เขยใหญ่เพิ่งจะปลูกบ้านแยกออกไป แต่ยัง ไม่ได้แยกบ้าน เขยใหญ่กบั ภรรยาสวดมนต์เจริญกรรมฐาน มีนมิ ติ ขึน้ มาบอกว่า วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายอย่าทานข้าวนะ มันเกิดนิมิตขึ้นมาเองและจงแผ่เมตตา ให้เจ้ากรรมนายเวรไป ในที่สุดก็มาร่วมวงทานข้าวกัน แม่ยายตัวสำ�คัญ ทานเข้าไปก่อนเลย ลูกสาวคนเล็กก็พลอยทานไปกับแม่ด้วย เลยก็ตาย เพราะอำ�นาจยาพิษนั้น ตายหมดทั้งคู่ อันนี้ชี้ให้เห็นได้เลยว่าความริษยา เป็ นกฎแห่ งกรรม และอานิสงส์แห่งการเจริญวิ ปัสสนากรรมฐานนี้นะ ช่วยให้รอดพ้นได้ ผูป้ ฏิบตั ธิ รรมทีร่ กั ทัง้ หลาย ท่านจะเห็นว่าอย่างไร ช่วยกัน วิจัยหน่อย เขยใหญ่คนนี้นะรวยมหาศาล เลยเป็นผู้อุปถัมภ์ที่วัดนี้ อาตมา จะไม่ขอบอกชื่อว่าเป็นท่านผู้ใด อำ�นาจของบุญกุศลภาวนานี่สูงสุดแล้ว ไม่ได้ใช้คาถาเลยนะ ขอให้จิตตั้งใจถึงเถอะ


สร้างกุศล ต้องทำ�ทั้งสามีและภรรยา

โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

23 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ตาเคลิม้ มีบา้ นอยูท่ ฝี่ งั่ ธนบุรใี กล้รมิ ฝัง่ คลอง จึงต้องอาศัยใช้เรือ เป็นพาหนะสัญจรไปมา ตาเคลิม้ มีภรรยาชือ่ ยายวาด มีนสิ ยั ชอบทำ�บุญทำ�ทาน และช่วยเหลือกิจการงานของวัดอย่างสม่ำ�เสมอ ผิดกับตาเคลิ้มซึ่งแม้จะเป็น คนร่ำ�รวยมากก็ตาม แต่เรื่องของการทำ�บุญนั้นกลับไม่ชอบเลย และมักจะ คอยขัดขวางยายวาดในเรือ่ งการทำ�บุญอยูเ่ สมอ แม้แต่การอนุโมทนาสาธุการ แกก็ไม่ยอมทำ�แต่ประการใดเลย การทำ�บุญที่แกเคยทำ�ก็มีแค่ การร่วมสร้าง สังกะสีสำ�หรับมุงหลังคาศาลาของวัดที่อยู่ใกล้ ๆ บ้านแก จำ�นวน ๑ แผ่น เท่านัน้ เพราะมัคทายกวัดนัน้ ได้มาคะยัน้ คะยอให้ตาเคลิม้ ช่วยทำ�บุญ ตาเคลิม้ จึงต้องจำ�ใจทำ� ในบางครั้งที่ตาเคลิ้มยอมไปวัดก็เพราะจะไปเล่นหมากรุก กั บ พระที่ วั ด ส่ ว นลู ก หลานของแก ตาเคลิ้ ม ก็ ไ ม่ ย อมให้ เ รี ย นหนั ง สื อ เพราะถือว่ามีทรัพย์สมบัติมากที่จะให้ลูกหลานไว้ใช้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

เรือ่ งของตาเคลิม้ นี้ เป็นเรือ่ งจากประสบการณ์ทอี่ าตมา ได้รบั รู้ มาเป็นเวลานานแล้ว ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ซึ่งในสมัยนั้น อาตมาเพิ่งเริ่ม ที่ จ ะสร้ า งพระอุ โ บสถหลั ง ใหม่ อาตมาเห็ น ว่ า เรื่ อ งของตาเคลิ้ ม นี้ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างดี จึงขอนำ�มาเล่าในวันนี้


อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันพระ ยายวาดก็จัดแจงตระเตรียมข้าวปลา อาหาร ขนมนมเนย สำ�หรับจะถวายพระในวัดทีอ่ ยูท่ างเหนือของบ้าน แต่เกิด รู้สึกไม่ค่อยสบาย เลยขอร้องตาเคลิ้มให้ช่วยนำ�ภัตตาหารไปถวายพระแทน

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

24 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ตาเคลิ้ ม จึ ง พายเรื อ ไปทำ � บุ ญ ที่ วั ด คนเดี ย ว เมื่ อ ได้ นำ � ของ ไปถวายพระเสร็จแล้ว จึงได้พายเรือกลับบ้าน พอดีในระหว่างทางที่กำ�ลัง พายเรือกลับบ้านอยูน่ นั้ ตาเคลิม้ เกิดเห็นผูห้ ญิงคนหนึง่ ซึง่ บ้านอยูก่ อ่ นจะถึง บ้านตาเคลิ้ม กำ�ลังจะขึ้นเรือที่มาหยุดจอดรับที่หน้าบ้านโดยมีผู้ชายสองคน นั่งอยู่ที่หัวเรือคนหนึ่งและท้ายเรืออีกคนหนึ่ง เป็นคนมารับ ตาเคลิ้มจึงหยุด ทักทายผูห้ ญิงคนนัน้ ว่า “อ้าว นัน่ แกจะไปไหนน่ะ ผูห้ ญิงคนนัน้ ก็ตอบตาเคลิม้ ว่า “เค้ากำ�ลังจะเอาฉันไปส่ง แกจะไปกับฉันด้วยไหมละ ตาเคลิ้มในขณะนั้น ก็รสู้ กึ ตัวว่าคล้ายเคลิม้ ๆ ไป เลยรับปากว่าจะตามไปส่ง จึงพายเรือตามหลังไป ผู้หญิงคนนี้ความจริงได้ตายไปแล้ว แต่ตาเคลิ้มไม่ได้นึกอะไร คิดแต่เพียงจะพายเรือตามไปส่งเขาเท่านั้น ฉะนั้นเมื่อถึงบ้านเลยไม่ได้แวะ พายผ่านบ้านไป ส่วนยายวาดอยูบ่ นเรือนเห็นตาเคลิม้ พายเรือตามผูห้ ญิงทีต่ าย ไปแล้วคนนัน้ ไป ก็ตะโกนร้องเรียกให้ตาเคลิม้ ให้หยุด แต่เรือทัง้ สองลำ�ก็พาย ผ่านบ้านไป จนกระทั่งเรือไปถึงคุ้งน้ำ� ยายวาดก็เห็นเรือล่มหายวับไปกับตา ส่วนตาเคลิ้มกำ�ลังพายเรือกำ�ปั่นตามหลังไป ก็ไม่ได้ยินเสียง ยายวาดเรียกแต่อย่างไร รู้แต่ว่าพอพายเรือผ่านบ้านแกไป ก็รู้สึกสว่างแวบ พอแสงสว่างแวบหาย ปรากฏว่าเรือได้เกยฝัง่ เข้าทีเ่ มือง ๆ หนึง่ คล้ายว่าจะเป็น เมืองลับแล ก็อยู่ใกล้ ๆ บ้านแกนั่นแหละ ตาเคลิ้มเลยลงไปชมดูเมืองนั้น


ตาเคลิ้ ม ก็ ไ ปเจอหลวงตาองค์ ห นึ่ ง หลวงตาที่ ต ายไป ก่อนตาเคลิม้ หลวงตาองค์นี้ ตาเคลิม้ เคยไปนัง่ เล่นหมากรุกกับแกทีว่ ดั บ่อย ๆ ในสมั ย ที่ ห ลวงตายั ง มี ชิ วิ ต อยู่ ตาเคลิ้ ม เห็ น ท่ า นไปนั่ ง เล่ น หมากรุ ก อยู่กลางแดด เลยเข้าไปหา พอหลวงตาเห็นตาเคลิ้มก็ทักขึ้นว่า “อ้าว เคลิ้ม ข้ามาอยู่นี่ตั้งนานแล้วไม่มีขาเล่นเลย แกมาพอดีเลย”

25 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ในโอกาสต่อมาตาเคลิม้ ก็เล่าว่า เสร็จแล้วก็มคี นมาพาตาเคลิม้ ไป พาไปดูหมดเลยหลาย ๆ แห่ง ไปดูบางบ้านทะเลาะกัน เอาสากตีกัน เอาอะไร ต่อมิอะไรตีกัน ตาเคลิ้มก็ไปเห็นหมด แล้วเขาก็บอกว่านี่แหละบ้านอันธพาล บ้านนรก ทะเลาะกันไม่พัก แล้วเขาก็เล่าว่า “นี่ตาเคลิ้มเอ้ย บ้านแถวนี้ มันไม่ยอมเอาลูกเรียนหนังสือ มันถึงได้เป็นอย่างนี้” ตาเคลิ้มนึกเสียใจ ดูไป เหมือนกันทั้งแถวเลย มีแต่ทะเลาะวิวาท ด่ากันทุกวัน นี่แหละบ้านอัปมงคล พอไปดูบ้านอีกแถวหนึ่ง เจอบ้านสวยหมดทุกคน เข้าบ้านไหนพูดเพราะ หมดทุกบ้าน ต้อนรับพาทีดเี หลือเกิน ลูกก็หวิ้ กระเป๋าไปโรงเรียน พอเดินต่อไป ได้อีกสักหน่อยเจอมหาวิทยาลัย แล้วคนนำ�เขาก็บอกว่านี่ตาเคลิ้ม แถวนี้ เขาอยู่ดีกินดีเพราะเขาให้ลูกเรียนหนังสือ ตาเคลิ้มก็นึกเสียใจ เพราะว่า ไม่ได้ให้ลกู เรียนหนังสือเลย เพราะนึกว่าทรัพย์สมบัตเิ รามีมาก เลยคนทีน่ �ำ ไป

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

หลวงตาเลยมีตาเคลิ้มเป็นเพื่อนเล่นหมากรุก หากโยมไปเจอ พระองค์ไหนนั่งเล่นหมากรุก ก็ช่วยไปบอกกับท่านนะ ว่าไม่เชื่อไปถาม หลวงพ่อวัดอัมพวัน มันเป็นบาปและไม่ต้องทำ�อะไรเลย การเล่นหมากรุก ไม่ใช่หน้าที่ของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา มันจะเป็นบาปเป็นกรรม


ก็บอกว่า “แม้แกจะมีสมบัติมาก มีเงินกี่ร้อยล้านก็ไม่เกิดประโยชน์ ดูคน มีเงินสิมันตีกันเห็นไหม เพราะมันไม่ได้เรียนหนังสือ และดูสิหมู่บ้านนี้ มีมหาวิทยาลัยสวยงาม มีคนเรียนหนังสือ เขาก็ไม่ทะเลาะวิวาทกัน เป็นผู้ดี เต็มขั้น เขาพูดเพราะกันทั้งบ้าน มีลูกมีหลานก็พูดกันเพราะ ๆ ทั้งนั้น”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

26

ตาเคลิ้ ม ก็ นึ ก เสี ย ใจว่ า “เรามี ลู ก ตั้ ง เก้ า คน ไม่ เ คยให้ ลู ก เรียนหนังสือแม้แต่คนเดียว มีทรัพย์สมบัติไปให้ เขาก็คงผลาญหมด” แกก็ นึกในใจ แล้วแกก็เดินดูมหาวิทยาลัย ดูแพทยศาสตร์ ดูโรงพยาบาลเยอะแยะ แล้วคนทีน่ �ำ ไปก็อธิบายอีกว่า “นีต่ าเคลิม้ พวกเขาเหล่านีไ้ ด้สร้างโรงพยาบาล ของเขาไว้นะ ทีเ่ ขามาอยูก่ นั นี”่ แล้วตาเคลิม้ ก็ไปเห็นคนเก่าทีร่ จู้ กั กันเป็นส่วนมาก

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

พอเดินต่อมาก็เห็นศาลา ตาเคลิ้มก็เกิดหิวข้าวจัง หิวข้าวที่สุด ก็เลยไปเจอคนรู้จัก เขาก็บอกว่า “อ้าวเชิญ ตาเคลิ้มมาอย่างไรละนี่ มา! มาทานข้าวกัน” ตาเคลิม้ ก็เข้าไปเพราะหิวมากน้ำ�ลายไหลเลย ก็ตรงไปนัง่ เก้าอี้ ที่โต๊ะของเขากับข้าวบริบูรณ์เลย ด้วยความหิวก็เลยเอาช้อนรีบตักขึ้นมากิน เสร็จแล้วก็ต้องรีบคายทิ้ง เพราะร้อนจังเลย เอ๊ะ จับกับข้าวดูก็ไม่ร้อน แต่พอ ใส่ปากกลับกินไม่ได้เลย กินไม่ได้ทั้งหมด ก็เลยต้องขอลาเขาไป แล้วมองดู เขากิน เขาก็กนิ กันได้ไม่เห็นเป็นไร ตาเคลิม้ ก็นกึ “โอ้! นีเ่ ราไม่ได้ท�ำ บุญเลย” พอเดินไปอีกก็มีโต๊ะกับข้าว ก็จำ�ได้ว่านี่กับข้าวบ้านเรานี่ ขนมนี่ยายวาด เคยเอาไปทำ�บุญ ขนมตะโก้ ขนมเปียกปูน ขนมปลากิมไข่เต่า ยายวาดเขาชอบทำ� ก็เข้าไปกินแต่กินไม่ได้เลย แล้วมีคนเขาก็บอกว่า “นี่มันขนมของยายวาด แกทำ�บุญมากินไปเถอะ” ตาเคลิม้ ก็ตกั กินอีกแต่กก็ นิ ไม่ได้เลย ปากพองหมดเลย


มันร้อน แล้วก็มีอีกคนหนื่งก็บอกว่า “นี่ของของเมียแก ตอนเมียแกทำ�บุญ แกเคยสาธุบ้างหรือเปล่า” แกก็ตอบว่า “ผมเป็นคนห้ามเลยว่า เอาไปให้พระ ฉันทำ�ไม” เลยกินไม่ได้ ตาเคลิ้มแค้นใจมาก

แล้วแกก็มาเล่นหมากรุกต่อ เล่นไปเล่นมาแดดเผาหลังลอกเลย แดดแรงอะไรอย่างนี้ หลวงตาก็เลยบอกว่า “นี่ตาเคลิ้ม ที่นี่ผิดกับวัดที่บ้าน เรานะ แดดทีน่ มี่ นั แรงเผาหลังลอกหมด” พออีกสักครูฝ่ นตกแล้ว ฝนตกลงมา เหมือนเข็มทิ่มแทงที่ตัว ก็เลยต้องรีบวิ่ง แต่หลวงตาก็ไม่ได้วิ่งเพราะไม่ได้ สร้างอะไรไว้ ก็ต้องนั่งโดนเข็มทิ่มแทงจับหมากรุกค้าง ตาเคลิ้มอยู่ไม่ได้

27 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ขอให้โยมจำ�ไว้นะของใครของมันนะ ไม่ใช่วา่ ผัวทำ�แล้วเมียได้ หรือเมียทำ�แล้วผัวได้ ยกตัวอย่าง โยมเป็นภรรยามาทำ�กรรมฐานอยู่เจ็ดวัน ได้สติสัมปชัญญะ ได้บุญกุศลมากแล้วก็อุทิศให้ผัว แต่ผัวไม่ได้ทำ�กรรมฐาน มันก็ไม่ได้ มันต้องมาทำ�เสียด้วยกัน

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

กลับมาอีกก็ไปเจอเสื่อปูไว้ พวกเขาก็นั่งกันเรียบร้อย ก็เรียก ตาเคลิม้ ให้นงั่ บอก “นัง่ ลงไปซินเี่ สือ่ แก” แกก็จ�ำ ได้วา่ เป็นเสือ่ ของยายวาดเขา พอแกนัง่ ลงไปก็นงั่ ไม่ได้ นัง่ ลงไปตูดร้อนเลย นีโ่ ยมจำ�ไว้เมียสร้างมา ผัวไม่ได้ เพราะผัวไม่ได้อนุโมทนา ตาเคลิม้ ก็นกึ แค้นในใจว่า “หนอย! ทีย่ ายวาดมาสร้าง ก็ส ตางค์ เ รานี่ น า แล้ ว ทำ�ไมเราไม่ได้นะ” หัว หน้าที่นั่ งก็ เ ลยย้ อ นถามว่ า “มันสตางค์ของแกอย่างไร เขาก็คา้ ขายของเขา” ตาเคลิม้ ก็ตอบว่า “เอ๊ะ ก็ผวั เมีย นอนอยู่ด้วยกัน ทำ�ไมไม่ได้ด้วยกันหรือ” เขาก็ตอบว่า “ไม่ได้หรอกของใคร ของมัน”


ก็วิ่งเข้าศาลาหลังใหญ่ แต่ตาเคลิ้มเข้าไม่ได้เสียอีกแล้ว เข้าได้ก็อยู่ไม่ได้ เลยต้องมาหลบอยู่ตรงชายคา ซึ่งมีสังกะสีอยู่แผ่นเดียว แล้วแกก็เล่าต่อไปว่า ฝนที่นั่นก็แปลก ตกแล้วยังชอนมาข้างใต้ได้ สาดมาโดนเอาหลังผมแย่เลย มันทิ่มจนเป็นตุ่ม ๆ หมดเลย

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

28

กล่าวถึงทางบ้านของตาเคลิ้ม เป็นระยะเวลาเจ็ดวัน ยายวาด ก็ไปหาหมอดูทกี่ รุงเทพฯ ก็ดวู า่ ตาเคลิม้ ตาย ตายทีใ่ ต้บา้ นเพราะเรือล่ม ยายวาด ก็เอาคนช่วยกันเอาแหลนไปตัก มันก็ไม่มี ล่องไปถามบ้านเหนือบ้านใต้ ก็ไม่มี ใครเจอเลย นี่ก็แสดงว่าไอ้เมืองนี่ใกล้บ้านตาเคลิ้มแน่ ๆ สรุปว่าไปหาหมอดู ก็บอกว่าตายหมด ก็เลยปรึกษาลูกหลานว่า พรุ่งนี้ทำ�บุญเจ็ดวันให้ตาเคลิ้ม แม้จะไม่ได้ศพก็ช่างมันเถอะ

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

พอถึงเวลาเจ็ดวัน เจ้าหน้าที่ที่พาตาเคลิ้มไปก็บอกว่า “ตาเคลิ้ม เจ้ากลับบ้านได้แล้ว ทุกสิง่ ทุกอย่างก็เห็นหมดแล้ว” แล้วให้มาทีห่ อประชุมใหญ่ และถามว่า “เป็นอย่างไรตาเคลิ้ม” แกก็ตอบว่า “เอาหละ ต่อไปนี้ผมจะไป สร้างวัด ไม่อยากไปเข้าหุ้นกับใครเขาแล้ว เพราะมันลำ�บากมาก ได้ไปอยู่ แค่ สั ง กะสี แ ผ่ น เดี ย ว ต่ อ ไปผมจะไปสร้ า งมั น ทั้ ง หลั ง เลย” เขาก็ ถ ามว่ า “จริงหรือเปล่าตาเคลิ้ม ถ้าแกไม่ทำ�ตาม ไม่ไปสร้าง บ้านแกจะต้องไฟไหม้นะ เพราะเสียสัจจะ ลูกเต้าก็จะซัดเซพเนจร ทรัพย์สมบัติก็จะหมด เอาหละ ตาเคลิม้ แล้วกลับไปสร้างนะ” แกตอบ “ครับ ผมจะสร้างครับ เพราะเงินผมเยอะ และต่อไปผมจะให้หลาน ๆ ของผมเรียนหนังสือ”


ในที่ สุ ด เขาก็ ส่ ง กลั บ โดยให้ ต าเคลิ้ ม นั่ ง เรื อ แล้ ว หลั บ ตา ซึง่ เป็นเวลาเดียวกัน ทางบ้านเป็นเวลาตีสี่ กำ�ลังจะทำ�กับข้าวเพือ่ ทำ�บุญเจ็ดวัน ตาเคลิ้ม คนคุมเขาสั่ง “เอ้า ตาเคลิ้มหลับตา จะรีบไปส่ง” พอตาเคลิ้มหลับตา ก็ได้ยินเสียงเฟี้ยว แกก็หงายท้อง เรือก็พุ่งเข้าไปที่ใต้ถุนบ้านตาเคลิ้มเลย พอแกหงายท้อง แกก็ลกุ ไม่ขนึ้ เป็นอัมพาต ส่วนยายวาดก็ก�ำ ลังจะเอาน้�ำ ไปเท ทีใ่ ต้ถนุ เลยเห็นเข้าก็ตะโกนเรียก “ไอ้หนูไปดูซิ นัน่ พ่อมึงหรือใครนะ เลยเอา ไฟมาดูกร็ อ้ ง “อ้าว พ่อมาแล้ว” เลยก็หามขึน้ มาบนเรือน ส่วนเรือก็ยงั อยูใ่ ต้ถนุ

29 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

พอค่อยยังชั่วพอที่จะลุกนั่งได้และพูดได้ ก็เลยเล่าให้ยายวาด และคนบ้านเหนือบ้านใต้ฟงั พระก็วจิ ารณ์กนั ว่าไปนรกมาบ้าง ไปเมืองลับแล มาบ้าง มันเป็นเรื่องแปลกที่ว่าไปส่งยายผู้หญิงคนนั้นมา และยายคนนั้น ก็อยู่ที่เมืองนั้นแล้ว ตอนพายเรือไปส่งก็พายตามเขาไปนั่นแหละ พอไปถึง ใต้บ้านเท่านั้นก็แวบเลย หายไปหมดเลย กลายเป็นเมือง ๆ หนึ่งเลย ดังนั้น ขอสรุปว่านรกสวรรค์นนั้ อยูร่ วมกันแน่นอนทีส่ ดุ แต่มนั คนละภพไม่สามารถ มองเห็น

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ยายวาดก็ถามว่า “อ้าย ไปไหนมาละนี่” ตาเคลิ้มก็อ้าปากจะ ตอบ แต่พูดไม่ได้ ไม่มีเสียง ได้แต่ทำ�ปากพะงาบ ๆ แล้วก็พลิกตัวไม่ได้ด้วย เกือบจะตาย เนือ้ ตัวก็ลอกหมดเลย เพราะไปโดนแดดเมืองนัน้ มา แล้วข้างก้น ก็เป็นรูโหว่หมดเลย เพราะไปโดนฝนมา


ภรรยาต้องเชี่ยวชาญเคหศาสตร์ โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

30 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

มาถึงตอนนี้ขอฝากญาติโยมเลยนะ ถ้ามีลูกสาวกับลูกชายนี่ โยมจะเอาใจใส่ใครมาก โยมจงเอาใจใส่ลูกสาวให้เชี่ยวชาญชำ�นาญการงาน กว่าลูกผู้ชาย เพราะถ้าไม่มีวิชาความรู้นี่ไม่เชี่ยวชาญเคหศาสตร์ ไม่เข้าใจ แม่บ้านการเรือน ไปได้สามีเขาก็แผลงฤทธิ์เอา อาตมาเคยเห็น ตี ๔ ตี ๕ ตกใต้ถุน นี่ไม่มีธรรมะเลย นี่ลูกสาวเราไม่เชี่ยวชาญ ไม่ชำ�นาญการ เราไม่เคย ตีลูกสาว แต่เราไปเห็นต่อหน้า ต่อตา ตำ�ตา ตำ�ตอ อย่างนี้เราโมโหหรือ ถึงไม่โกรธแต่ไม่พอใจลุกเขย แน่นอน


สวดมนต์ช่วยให้สามีเป็นใหญ่เป็นโตได้ โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

31 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ในที่สุดสอบได้ สอบนายทหารได้ เดี๋ยวนี้เป็นพันตรีไปแล้ว แล้วร่ำ�รวยมีเงินให้นายทหารกู้ จ่าคนนี้พอสวดมนต์ มีเงินและมีไร่ที่อำ�เภอ พัฒนานิคม มีสวนมะพร้าว มะพร้าวเยอะแยะมันเป็นความจริงขึ้นมา ไม่ใช่ ขลังด้วยคาถา แต่ขลังด้วยสติ สวดมนต์แล้วก็มีสติขึ้นมา ปัญญาก็เกิด สอบเขียนก็ได้เลย ตอนเสียเงิน ๒ หมื่นไม่ได้ เขาบอกข้อสอบให้ยังไม่ได้ บอกสวดพุทธคุณเข้า ได้ทกุ ราย อาตมาอบรมนักศึกษามานีต่ ดิ ตามโดยต่อเนือ่ ง ไม่ใช่ไปบอกขอกฐินผ้าป่า ต้องการประเมินผลขอให้เธอทำ�ตาม บางคนบอกว่า ฉันเรียนสำ�เร็จวิชาครูมาทำ�อะไรไม่ได้ บอกหนูไม่จำ�เป็นต้องเป็นครู มานั่ง กั ม มั ฏ ฐานสวดมนต์ เ ข้ า ไม่ จำ � เป็ น ต้ อ งวิ ช าที่ เ รี ย นตรงเลย มั น จะเกิ ด มีคนอุปถัมภ์ ช่วยเหลือผลักดันไปจนได้โดยวิธีนี้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

จ่าทีศ่ นู ย์ปนื ใหญ่นบี่ อกว่า หลวงพ่ออีก ๒-๓ ปีอายุผมเกินแล้ว สอบนายทหารไม่ ไ ด้ เสี ย ไป ๒ หมื่ น ก็ ไ ม่ ไ ด้ “อย่ า ไปพู ด เรื่ อ งเสี ย เงิ น เสียยี่ห้อทหาร สองคนผัวเมียสวดมนต์ได้มั้ย ต้องได้แน่ สวดสองคนเลย” พวกทหารศูนย์ปืนใหญ่ เขาบอกสงสัยบ้านจ่านี่ท่าจะบ้าแล้ว พอผัวจะไป ทำ � งาน “นี่ แ ม่ อี ห นู ม าสวดมนต์ แ ทน ฉั น จะไปทำ � งาน” เมี ย ก็ ส วดใหญ่ เพือ่ น ๆ มาเยีย่ ม ไปเถอะขาขาดไม่เคยไปเล่นไพ่ดว้ ยกัน เลิกเล่นมานัง่ สวดมนต์


จิตสูงเมื่อใด จะได้สามีจิตสูง โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

32

การเจริญพระกรรมฐานจะทำ�ให้ชีวิตรุ่งเรืองวัฒนาสถาพร และจะรุง่ เรืองต่อไปถึงลูกหลาน โยมลองดูได้เลย ยกตัวอย่างเรือ่ งจริงให้เห็น ดังนี้

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เมื่อสมัย พ.ศ. ๒๕๐๐ มีผู้หญิงคนหนึ่ง พ่อเป็นจับกังรถลพบุรี สิงห์บรุ ี แม่รบั จ้างซักรีดเสือ้ ผ้า สมัยนัน้ ใช้เตารีดชนิดเตาถ่าน ต้องใช้พดั โบก ให้ถ่านติด ครอบครัวนี้มีลูกทั้งหมด ๖ คน ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวคนโต เรียนจบชัน้ ม.๖ (เทียบเท่า ม.๓ สมัยนี)้ พ่อแม่ไม่มเี งินส่งเรียนต่อ เพราะต้อง เลี้ยงน้องอีก ๕ คน บ้านที่อยู่ปลูกทรงหมาแหงน อาศัยปลูกอยู่ในหน้าบ้าน ของเศรษฐีผู้หนึ่ง ลูกสาวคนโตนุ่งผ้าขาดปะแล้วปะอีก สร้อยสักเส้นก็ไม่มี แหวนสักวงก็ไม่มใี ส่ แถมยังนำ�เชือกปอ มามัดเอวแทนผ้า คุณพ่อของผูห้ ญิง คนนี้รู้จักกับอาตมา จะยากดีมีจนอย่างไร แต่เขาก็เป็นคนไม่ไร้ศีลธรรม ลู ก สาวคนโตนี้ บ อกกั บ อาตมาว่ า “หลวงพ่ อ คะ หนู ค ง หมดโอกาสทีจ่ ะมีสามีทดี่ ไี ด้ หนูคงจะมีสามีเป็นจับกังเหมือนคุณพ่อของหนู” อาตามก็ถามว่า “ทำ�ไมหนูคิดอย่างนั้นเล่า เป็นเพราะเหตุผล ประการใด”


เขาก็ ต อบว่ า “หนู เ ป็ น คนจน หาเช้ า กิ น ค่ำ � หาค่ำ � กิ น เช้ า ต้องเลี้ยงน้อง เงินทองก็ไม่พอจะเลี้ยงน้อง และส่งน้องไปโรงเรียนได้ บางวัน ก็ขาดแคลนเหลือเกิน เพราะไม่มีของจะแบกขึ้นรถ ไม่มีใครมาจ้างซักจ้างรีด ข้าวสารจะกรอกหม้อก็ไม่มี”

ตอนนั้ น ยั ง ไม่ มี สำ � นั ก ชี มี โ รงครั ว อยู่ ห ลั ง คาเดี ย วที่ อ าตมา ไปซื้อมา ในที่สุดเขาก็มาอยู่ที่วัดมารับใช้บ้าง นั่งกรรมฐานบ้าง ๑ เดือนเต็ม ที่วัดสอนทั้งแม่บ้านเคหศาสตร์ เขาเป็นคนหนึ่งที่สอนง่าย คนที่มีคุณธรรมสอนง่าย ไม่หัวดื้อหัวรั้น คนไม่มีกรรมสอนง่าย คนที่ กฎแห่งกรรมดันไปทางความชัว่ มันจะไม่ฟงั คำ�สอนเราเลย ขอฝากญาติโยม ไปคิดในวันนี้

33 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

อาตมาจึงบอกว่า “จะเชือ่ หลวงพ่อไหมล่ะ มาอยูท่ วี่ ดั หลวงพ่อ สักเดือนหนึ่ง” เขาก็ถามว่า “หลวงพ่อจะให้หนูอยู่ทำ�อะไรคะ” อาตมาตอบว่า “มาเถอะ มาช่วยอยู่ที่โรงครัว”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

อาตมาดู เ ด็ ก คนนี้ แ ล้ ว เห็ น หนอ... มั น บอกว่ า จะต้ อ งเป็ น เถ้าแก่เนีย้ เป็นอาเสีย่ ใหญ่ หน้าตายิม้ แย้มแจ่มใสตลอดรายการ เมตตาเธอมีอยู่ โหงวเฮ้งมันขึ้นแล้ว เขาจะต้องเป็นใหญ่เป็นโต จะจริงหรือไม่ประการใด ถ้าจริงเขาจะต้องเชื่อหลวงพ่อแน่


เด็กคนนั้นก็เป็นกฎแห่งกรรม พอได้ยินหลวงพ่อวัดอัมพวัน กล่าวว่า “เอาละหนู หนูไปฝึกจิตสูงเมื่อใด หนูจะได้สามีจิตสูง ถ้าหนูจิตต่ำ� เมื่อใด หนูจะได้สามีเป็นคนใจต่ำ�” เด็กคนนั้นคิดออกเลยทีเดียว เพราะคนมี บุ ญ วาสนา สะกิ ด นิ ด เดี ย ว เขารู้ แ ล้ ว คนที่ ไ ร้ บุญวาสนา บอกปากจะฉีกถึงรูหู ยังไม่รเู้ รือ่ ง จิตคอยหลัง่ ไหลไปสูก่ ฎแห่งกรรม ที่ทำ�ไว้ มันจะไม่ยอมฟังเลยนะ สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

34

ในเมือ่ เป็นเช่นนี้ เขาก็มาอยูท่ วี่ ดั อาตมาก็ให้ซอื้ เสือ้ ผ้าให้ใส่ใหม่ เขาก็ปฏิบตั กิ รรมฐานเดินจงกรมถึงระยะหก จิตเข้าถึงธรรมะ มีความอดทนสูง ปฏิบัติถึงขนาดตายให้ตาย เขาเป็นโรคโปลิโอด้วย กลับกลายหายไปได้ เพราะตั้งสติเข้าไป แต่งตัวก็สวยน่ารัก เป็นที่เจริญใจของผู้ที่ได้พบเห็น

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

พ่ อ แม่ เ ขาก็ เ ป็ น ห่ ว งลู ก สาวของเขาเหมื อ นกั น แต่ พ่ อ เขา พูดรู้เรื่อง เดิมทีเขาไม่ใช่คนจน แต่ไปได้เมียคนจน ทางบ้านเลยไม่ยกสมบัติ ให้เลย มีความรูแ้ ค่ ป.๔ เลยเป็นจับกัง ต้องช่วยตัวเอง พ่อเขาก็มาหาลูกสาวเรือ่ ย อาตมาก็บอกว่า “นี่คุณโยม อย่ามาห่วงลูกสาว อาตมาจะรับเป็นลูกสาวเอง จะดูแลอย่างดี” แม่ก็รับจ้างซักรีดไปก่อน เป็นทุกข์ทรมานชั่วคราว นี่แหละ กฎแห่งกรรม คนจะสร้างความดีต้องลงทุนความลำ�บากได้ พระเอกนางเอก ในเรื่องละครชีวิต เป็นคนยากจนทั้งนั้น เก็บผักหักฟืนขาย กตัญญูต่อพ่อแม่


ขอญาติโยมโปรดฟัง “สร้างความดีชอบลงทุนความลำ�บาก สร้างความชัว่ ชอบลงทุนความสบาย” คนทีช่ อบเลีย่ งงานเก่ง ไม่เอาเหนือเอาใต้ ประการใด มีมากทั่วไป แต่หาคนดีจริง ๆ หายาก มันต้องทนทุกข์ทรมาน ลำ�บากตลอดรายการ ชั่วโมงบินมันมาก คนที่ยากจนด้วยเงินทอง แต่ไม่จน ด้วยน้ำ�ใจ รู้เรื่องความทุกข์ดี

อาตมาก็บอกว่า “ยังไม่ครบหน่วยกิต ยังกลับไม่ได้ ต้องให้ครบ เดือนก่อน” นี่เห็นไหม ลูกสาวคนโตช่วยพ่อแม่ได้ อาตมาคิดถึงคำ�สัง่ สอนของพระพุทธเจ้าว่า ลูกสาวคนโตก็เป็น แม่ของน้องได้ ถ้าเป็นพี่ชายคนโตก็เป็นพ่อได้ พอปฏิบัติกรรมฐานได้ครบ ๑ เดือน ก็มปี ญ ั ญา มีมนุษย์สมบัตคิ รบ เป็นกุลสตรีอนั ดียงิ่ เป็นลูกแก้วลูกขวัญ เธอจะไปเป็ น แม่ แ ก้ ว แม่ ข วั ญ ของลู ก ในอนาคต มี ม นุ ษ ยสั ม พั น ธ์ ดี ม าก

35 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ลูกสาวอาตมาก็มานั่งกรรมฐาน แผ่เมตตา อานิสงส์ของการ แผ่เมตตา ทำ�ให้พ่อแม่มีงานทำ�มากมาย เขาจึงมาขอลูกสาวให้กลับไปช่วย

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

การเจริญพระกรรมฐานทำ�ให้จิตรวย ทำ�ให้ไม่จนเงินจนทอง ทำ�ให้มีสติปัญญา แก้ไขปัญหาได้ ตรงนี้ไม่มีใครคิดบ้างหรือ ท่านต้องการ จะมานั่งหลับตา จะไปสวรรค์ นิพพาน อย่างนั้นหรือ ท่านจะผิดหวังนะ แค่มนุษย์สมบัติท่านยังไม่ครบเลย มีเครื่องมือแก้ไขปัญหาหรือยัง ถ้ายังไม่มี ท่านจะไปสวรรค์ นิพพานไม่ได้ การเจริญกรรมฐานต้องการให้มีปัญญา แก้ไขปัญหา จำ�ตรงนี้ไว้ให้แม่น


ยิ้มตลอด เขาช่วยงานหลวงพ่อได้ดี แขกมาก็เจ้าคะเจ้าขา เชิญรับประทาน อาหาร แขกผู้ใหญ่มาก็ช่วยต้อนรับ โอภาปราศรัย หลวงพ่อเบาใจมาก ได้ลูกสาวดีอีกคนหนึ่ง เป็นที่พึ่งของหลวงพ่อได้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

36

พอลูกสาวกลับไป ใครมาวัดก็ถามถึงแต่หนูคนนัน้ ไม่ถามถึงหนู คนอืน่ เลย เพราะหนูอนื่ ไม่เคยไปเลีย้ งแขก อาตมาจึงได้ต�ำ ราใหม่บอกกับหนูวา่ “หนูเอ๋ย มาอยู่กับหลวงพ่อเพียงเดือนหนึ่ง หนูกลับไปนะเขาถามถึงจังเลย หนูกลับมาอยู่กับหลวงพ่อใหม่ไหม?” เขาก็ บ อกว่ า “ไม่ ไ ด้ ห รอกค่ ะ หลวงพ่ อ บอกให้ ห นู ไ ปเป็ น เศรษฐี จะกลับมาได้ยงั ไง ถ้าหนูกลับมา ก็ไม่เป็นเศรษฐีซคิ ะ จะไม่มเี งินมีทอง มาช่วยหลวงพ่อนะ”

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

อาตมาก็บอกว่า “ตกลง หนูจา๋ ได้เพชรหลวงพ่อไปหนึง่ กิโลแล้ว ได้ ท องคำ � ไปหนึ่ ง ตั น ทองกั บ เพชรอั น นี้ ไ ม่ ต้ อ งมี ตำ � รวจมาอารั ก ขา เก็บไว้ที่ใจของเธอ” “เพชรน้ำ�หนึ่งคือ ซื่อสัตย์ สุจริตเป็นนิจ ขยันประหยัดให้มั่น หันหลังให้สบาย มีความขยันหมัน่ เพียร เรียนด้วยตนเอง อัตตาหิอตั โนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน นี่คือเพชรของหลวงพ่อ” สัจจังเว อะมะตาวาจา พูดแล้วต้องทำ� ไม่ท�ำ ไม่ได้ คือเพชรน้�ำ หนึง่ ในดวงใจ เสียสละ สามัคคี มีสัจจะ มีวินัย ขยันเอาการ งานสะอาด ฉลาด รอบคอบ ชอบระวัง ตั้งใจให้ตรงศีลธรรม จะได้นำ�ทางให้ถูก จะได้ปลูกสติ


จะได้ดำ�ริชอบ จะได้ประกอบกุศล ได้ผลอนันต์ นี่คือเพชรในดวงใจ ถ้าคนใด มีเพชรในดวงใจ รับรองคนนั้นเป็นเศรษฐีแน่ ขยันหมั่นเพียรตลอดรายการ ลูกสาวหลวงพ่อคนนี้มีมนุษย์สมบัติครบ จะยืนเดินนั่งนอน จะเหลียวซ้ายแลขวา จะคู้เหยียดเหยียดขา ก็สวยน่ารัก ถึงจะนุ่งผ้าปะหน้า ปะหลังเหมือนแผนที่อย่างไรก็ตาม ก็ยังน่ารักอยู่

เขาบอกกับคุณพ่อคุณแม่ของเขาว่า “หนูจะไม่ทำ�ลายน้ำ�ใจ ของคุณพ่อคุณแม่เลย จะยากดีมีจนนุ่งผ้าปะ หนูก็ไม่อายเขานะ หนูสร้าง ความชัว่ หนูถงึ จะอาย ผ้าปะนีม่ นั ปิดร่างกาย เพือ่ กันหนาวร้อนเท่านัน้ ไม่ใช่กนั อย่างอืน่ ห่อเข้าไว้เพือ่ กันความละอายใจเท่านัน้ ไม่ตอ้ งการสวยฉูดฉาดนะ” คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจเหลือเกิน

37 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สอนให้นอ้ งสวดมนต์ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พาหุงมหากาฯ แล้วก็ชวนน้องนั่งกรรมฐาน พ่อแม่ก็ดีอกอกดีใจ ลูกเอ๋ย ถึงเหนื่อยมาพ่อก็ยังดีใจ

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

บางคนแต่ ง ตั ว ฉู ด ฉาด ทาปากแดงสวยจริ ง ๆ แต่ ดู แ ล้ ว มันน่าเกลียด ทำ�อะไรก็น่าเกลียด จะนั่งก็น่าเกลียด จะล้างชามก็น่าเกลียด แต่ลูกสาวหลวงพ่อน่ารัก จะทำ�อะไรก็น่าดู กลับไปอยู่บ้านก็ยังเจียมตัวอยู่ ยังนุ่งผ้าปะ เจียมตัวว่าเป็นคนจน พ่อแม่ก็พอมีเงินส่งน้องเรียนหนังสือ สวดมนต์แผ่เมตตาให้น้อง พอมืดค่ำ�แล้วก็สอนหนังสือให้น้อง น้องเรียน เก่งทุกคน


อาตมาก็สวดมนต์แผ่เมตตาให้ หนูเอย ลาหลวงพ่อกลับไปแล้ว หนูตอ้ งได้สามีหนึง่ ในตองอูแน่ เพราะคนดี ต้องได้สามีดี คนชัว่ ต้องได้สามีชวั่ ถ้าดีกับชั่วได้กัน จะอยู่กันไม่ได้ ต้องเลิกกันแน่ ๆ อยู่ต่อมามีเถ้าแก่ที่สิงห์บุรี พาอาเสี่ยใหญ่จากเยาวราช มาขอ ลูกสาวของเศรษฐี เขามีโรงสี มีโรงน้ำ�แข็ง มีลูกสาว ๓ คน ใส่เพชรพราว ทาปากเสียแดง คิ้วก็โก่งยังกับเขียน แต่ไม่ได้เรียนวิชา สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

38

เถ้าแก่พาอาเสีย่ เดินผ่านบ้านลูกสาวของเราพอดี เพราะมาอาศัย บ้านเศรษฐีอยู่ อาเสีย่ คนนีส้ บเนตรเห็นลูกสาวของหลวงพ่อกำ�ลังล้างชามอยู่ นึกพอใจทีเดียว นี่เห็นไหม ใส่ผ้าปะก็ยังพอใจ

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เขาก็ พ ากั น เดิ น เข้ า ไปในบ้ า นเศรษฐี ก็ ไ ด้ รั บ การต้ อ นรั บ เป็ น อย่ า งดี เถ้ า แก่ ก็ เ จรจาจะมาขอลู ก สาวบ้ า นนี้ จะให้ ค นไหนแล้ ว แต่ จะชอบกัน แต่คุณแม่มีความประสงค์ว่าจะขายคนโตก่อน ถามอาเสี่ยว่า ลูกสาวคนโตนี่ชอบไหม เขาก็ตอบว่า ไม่ชอบ คนรองชอบไหม ก็ไม่ชอบอีก พอถึงคนเล็ก ก็ไม่ชอบทั้งสามคน อาเสี่ยเข้ามา จะมีใครไหว้เขาสักคนไม่มีเลย เดินกระโปรงบาน ออกมา ใส่แหวนเพชรแพรวพราวไปหมด ทาปากแดงด้วย จะสวัสดีคะ่ ไม่มเี ลย ขอฝากไปคิด นี่บ้านลูกเศรษฐีนะ เถ้าแก่ที่พาอาเสี่ยไปนึกว่าจะมีหน้ามีตา กลับเสียหน้าเพราะเขาไม่ชอบ อาเสีย่ บอกว่า ชอบคนหน้าบ้าน เถ้าแก่บอกว่า ไปชอบทำ�ไม บ้านคนจน เป็นขี้ข้าเขา


แต่อาเสี่ยประทับใจ เดินผ่านมาก็ถามว่า “คุณครับ ทำ�อะไรครับ” ลู ก สาวหลวงพ่ อ บอก “ขอบคุ ณ ค่ ะ หนู กำ � ลั ง ล้ า งชามค่ ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์ถามหนู”

อย่าไปข้ามคนล้ม อย่าไปขู่คนกล้า อย่าไปวานคนร้าย อย่าไปกักคนรีบ อย่าไปชอบคนชั่ว อย่าไปตีคนตาย

อย่าไปข่มคนรู้ อย่าไปท้าคนพาล อย่าไปขายคนรัก อย่างไปบีบคนบอบ อย่าไปยั่วคนดี

โยมกรรมฐาน คนล้มไปแล้วอย่าข้ามนะ อย่าดูถูกคนจนนะ ดูเห็นหนอให้มันรู้ขึ้นมาบ้างซิว่า ข้างนอกเป็นเงาะป่า ข้างในเป็นทอง มันมีวิชา มีปัญญาหากิน รูปชั่วตัวดำ�แต่น้ำ�ใจงาม ไม่ดีหรือ รูปร่างสวย อย่างเทวดา แต่นิสัยเลวที่สุด จะมาเลี้ยงเราได้หรือ

39 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ขอฝากนักกรรมฐานไว้ ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าไปข้ามนะ บริษัทล้มไปแล้ว เดี๋ยวนี้เป็นเสี่ยใหญ่รวย เอาสามคูณเลยนะ อาตมาจำ�คำ�คม นี้ได้ตั้งแต่เป็นเด็ก

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

แต่สามคนนัน้ ไม่เคยไหว้อาเสีย่ ทีจ่ ะมาขอเลย ไม่มขี อบอกขอบใจ ถ้ า ไปเป็ น นางกวั ก ในบ้ า นของใคร คงขายของไม่ ไ ด้ หน้ า ก็ ง อ เหมือนมือนางกวัก จะยิ้มสักหน่อยก็ไม่ได้เลย เพราะไม่เคยมาเรียนจิตวิทยา ที่นี่ ถ้ามาฝึกก่อนก็จะได้ให้ยิ้ม พอเขาจะมาดูตัวคอยยิ้มเข้าไว้


สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

40 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ตอนหลังอาเสี่ยมาคนเดียว มานั่งคุยกับลูกสาวบอกว่า “คุณกำ�ลังทำ�อะไรครับ” ลูกสาวก็ตอบว่า “ขอบคุณค่ะ สบายดีคะ่ ” ลูกเศรษฐีสามคนนัน่ ขอบคุณไม่เป็นเลย ตอนหลังก็ไม่มีใครไปขอ มีสามีไม่ได้เลย อาเสี่ยก็พูดตรง ๆ บอกว่า “คุณครับ ผมชอบคุณแล้ว” พูดเอง ไม่ต้องมีเถ้าแก่ ลูกสาวตอบว่า“ขอบคุณค่ะทีช่ อบดิฉนั ชอบดิฉนั แบบไหนค่ะ” อาเสี่ยก็ตอบว่า “ชอบที่จะขอคุณไปอยู่บ้านผมซิครับ” ลูกสาวตอบว่า “ขอบคุณอย่างสูงทีส่ ดุ ดิฉนั ไม่บงั อาจหรอกค่ะ” อาเสี่ยถามว่า “เพราะเหตุใดรึ” ลู ก สาวตอบว่ า “ดิ ฉั น จนไม่ มี อ ะไรเลยนี่ ค ะ ดู บ้ า นดิ ฉั น ซิ ทรงหมาแหงน มาอาศัยบ้านเศรษฐีเขาอยู่นี่” อาเสี่ยบอกว่า “เอาละเธอ ฉันดูเธอมา ๓ ครั้งแล้ว ฉันเข้าออก บ้านนี้ ฉันดูเธอนะ” ลูกสาวก็บอกว่า “ดิฉันตกลงด้วยไม่ได้หรอกค่ะ ดิฉันยากจน เจียมตัวเจียมตนทุกประการเจ้าค่ะ คุณมาชอบดิฉัน ขอบพระคุณอย่างสูง ที่สุดที่อุตส่าห์เมตตาคนจน” ลูกสาวหลวงพ่อพูดดี มีโอกาสที่น่าคิด ทำ�ให้ อาเสี่ยรักเพิ่มมากขึ้น อาเสี่ยก็บอกว่า “เอาละ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมมาพูดเรื่องจริง นะนี่ ผมตกลงเลย”


ลูกสาวก็บอกว่า “ก็คุณมาขอลูกสาวเขาทั้งสามคน ลูกสาวเขา ดีนะ ดิฉันมาอาศัยบ้านเขาอยู่นะนี่ ตกลงด้วยไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะมาว่าเอา” อาเสีย่ ก็อตุ ส่าห์เทียวไปเทียวมา ๓ ครัง้ จึงได้ตกลง เรียกพ่อแม่มา บอกว่าจะเลี้ยงโต๊ะจีน ๒ โต๊ะ ลู ก สาวก็ ม าหาหลวงพ่ อ วั ด อั ม พวั น บอกว่ า หลวงพ่ อ คะ เรื่องราวเป็นอย่างนี้ หนูไม่ตกลงนะ เดี๋ยวเขาจะมาแห่เข้า

วันนั้น จวนสี่ทุ่ม คุณพ่อของลูกสาวมาหาอาตมา แล้วบอกว่า “หลวงพ่อ จะทำ�อย่างไรเล่า เขาไล่ผมแล้ว ไล่ให้ไปภายในคืนนี้ ผมจะไปยังไงทัน” อาตมาจึ ง ต้ อ งเอาช่ า งที่ วั ด ไปช่ ว ยรื้ อ บ้ า น ไปอาศั ย อยู่ ทีว่ ดั ทับควาย (เสถียรวรดิษฐ์) ปลูกทรงหมาแหงนอยูข่ า้ งวัด ปลูกคืนเดียวเสร็จ นี่คนรวยมีเงินนะ ดูถูกคนจนไล่แห่คืนนั้นเลย เขาก็ไม่มีปากมีเสียงจะเถียง เลยนะ ลูกสาวไปอยู่กรุงเทพฯ แล้ว ยังกลับมาทำ�ขนมมาไว้ที่วัดนี้ และเลี้ยง เพลด้วย

41 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

พอตกลง เขาก็ ม ากั น สี่ ห้ า คนเท่ า นั้ น เอาเสื้ อ ผ้ า ให้ เ ปลี่ ย น คาดเข็มขัดทอง ใส่แหวนเพชรแพรวพราว ใส่แค่วงเดียวพอ แล้วเขาก็ไปอยู่ ที่เยาวราช ขายทอง

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

หลวงพ่อบอกว่า “เอ้า! แห่ให้มันแห่ เขาไล่ให้เราไปรวยแล้ว ดีแล้ว” อาตมารู้ว่าต้องแห่แน่ ๆ


อาตมาเคยไปเยี่ยมเขา พบตาแป๊ะหนวดยาว คือ เตี่ยของเขา บอกว่า “หลวงพ่อเอย ลูกศิษย์ของหลวงพ่อดีจริง ๆ ถ้าไม่อยูข่ ายของไม่ได้นะ คนมาทีไรก็ถามว่า อาเจ๊ไปไหนเล่า อาเจ๊ไม่อยู่ อยู่แต่อั๊ว อยู่นี่กันหลายคน เป็นอะไรหา ถ้าอาเจ๊อยู่ก็ขายดี เจ๊มันพูดดีนี่” อาแป๊ะพูดอีกว่า “แหม! หลวงพ่อเอ๋ย ลูกสะใภ้อวั๊ ไม่ผดิ หวังเลย ได้นางกวักเข้าบ้าน เฮงไล้ เฮงขื่อ เซ็งลี้ฮ้อ ขายของดี” สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

42

เขาก็มีลูกเป็นใหญ่เป็นโตหมด ไปเรียนที่สิงคโปร์ ไต้หวัน เรียนเมืองนอกหมดทุกคนทั้งลูกสาวลูกชาย “หลวงพ่อดีใจเหลือเกิน หนูไม่ตอ้ งมาตอบแทนหลวงพ่อหรอกนะ”

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เมื่อมีเงินทอง ประกอบอาชีพการงาน เลยส่งน้องเรียนสำ�เร็จ การศึกษาทุกคน พ่อแม่ก็ไปอยู่กรุงเทพฯ หมด เขาก็ไม่ได้เป็นลูกเป็นหลาน อะไรของหลวงพ่อหรอก เราก็สอนเขาให้ดี ได้เป็นใหญ่เป็นโต อาตมาดี ใ จเหลื อ เกิ น ที่ ป ลุ ก คนให้ ตื่ น เสกคนให้ เ ป็ น งาน สอนคนให้มหี น้าทีก่ ารงานทำ� เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี เป็นทีพ่ อใจของอาตมา ในโลกมนุษย์นี้ ไม่ต้องไปสวรรค์ นิพพาน มันจะผิดหวัง คนเรายากดีมีจนอย่างไร สร้างคุณสมบัติมนุษย์ไว้ให้ครบ สมบัติมนุษย์ต้องสร้างให้กับตนเอง เมื่อคุณสมบัติครบแล้วมันจะดันให้สูง ขึ้นไปเอง ดังที่กล่าวมา


สามีเป็นของเขา ภรรยามีชู้ เพราะเหตุใด?

โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

กาเมสุมจิ ฉาจาร ถ้าเรารูต้ วั เอง นัง่ เจริญกุศลภาวนา มันจะบอก ว่าอดีตชาติ ไปปู้ยี่ปู้ยำ�เขามา ชู้สาวนานาประการ ผัวเขา เมียเขา นานาชนิด มีข้อคิดหลายอย่าง

43 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

บางท่านเป็นผู้ชายแท้ ๆ ปู้ยี่ปู้ยำ�ผู้หญิง ทำ�ให้เขาช้ำ�อกช้ำ�ใจ หลายชาติทผี่ า่ นมา เกิดมาในชาตินตี้ อ้ งเกิดมาเป็นผูห้ ญิงโสเภณี ก่อนจะตาย ต้องให้หนอนกินเสียก่อน มีจริงทีจ่ ดไว้หลายราย ถ้าท่านไม่เชือ่ ลองไปทำ�ดูนะ มีความหมายอย่างนี้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

มาในชาตินี้ เราก็มาลำ�บากลำ�บนในครอบครัวหาความสุข ไม่ ไ ด้ เ ลย มี ส ามี ก็ เ ป็ น ของเขาหมด มี ภ รรยาก็ มี ชู้ ห มด และครอบครั ว ต้องหายนะ ทะเลาะวิวาทกัน ไม่ใช่คู่สร้างคู่สม กลายเป็นคู่วิวาทกัน และจะ ต้องแตกแยกหย่าร้างกันไป ถึงจะมีลูกด้วยกันแล้ว มีทั้งเขยสะใภ้แล้วก็ตาม จะต้องแยกกันไปตามกาลเวลา จากการกระทำ�ของเราแน่นอนที่สุด


“แม่กาหลง” ห่วงสามี ตายไปกลายเป็นเปรต โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

44

วันหนึ่งเกิดอัศจรรย์ดลบันดาล ผีเข้าแม่บุญชู เขาว่าอย่างนั้น มาตามหลวงพ่อ ผีเข้าเมียภารโรงตอนประมาณบ่าย ๆ คนไปดูกันมากมาย ก็ปรากฏว่าผีชื่อ “แม่กาหลง” มาเข้าแล้วก็บอกว่าพวกที่ไปช่วยทำ�ครัวว่า “น้อยไป พวกเรานี่บาปกรรมเหลือเกินนะนี่ เราบาปมาแล้ว ต้องเป็นเปรตอยู่ที่บ้านหลังนี้มา เรามากับบ้านหลังนี้”

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

คนเขาก็ถามว่า “เอ้า! มาทำ�ไมเล่า ผีเข้ามาอยู่กุฏิหลังนี้ได้ อย่างไร” คนผีเข้าก็บอกว่า “เออ! พวกเอ็งไม่ต้องมายุ่ง เพราะท่านเชิญเรามา หลวงพ่อ วัดอัมพวันเชิญมา ให้มานั่งเจริญวิปัสสนาที่วัดนี้เราก็ตามมา และช่วยท่าน ดูแลโรงครัวด้วย เราดูไม่ได้เลย ดูมาหลายวันแล้ว พวกเราทำ�ครัวแล้วก็เม้ม ของวัด เอากะปิหอมกระเทียมติดไปบ้าน เอาปลาติดไปบ้านทุกวัน เราทนดู อยู่ไม่ได้จึงมาบอกเล่าเจ้า อย่าเอาไปนะจะเป็นเปรต เราเคยเป็นเปรตในบ้าน หลังนี้มาแล้ว เราต้องตาย แล้ววิญญาณก็จะอยู่เป็นเปรต เพราะเราได้ผลกรรมของเปรตผูกใจ อำ�นาจของโลภะ โทสะ โมหะ มันเกิดขึ้นในจิตผูกพัน สามีของเราเจ้าชู้มาก ชอบเที่ยวผู้หญิงยิงเรือ


มากหน้ า หลายตา ตลอดจนเหตุ ก ารณ์ เ บื้ อ งหน้ า ที่ เ ราเฝ้ า อยู่ ที่ บ้ า นนี้ เป็นบ้านของนายอำ�เภอ สามีของเราก็เจ้าชู้ ตอนที่ข้าพเจ้าจะตาย วิญญาณ ออกจากร่างไป ข้าพเจ้ามีอำ�นาจโลภะห่วงใยสมบัติ ห่วงใยสามีของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าตายแล้ววิญญาณจึงต้องมาอยู่ที่นี่คือเรือนหลังนี้ ก็เป็นเปรต

พระท่านนิมนต์ไปพูดไปกับผี อาตมาบอกไปไม่ได้หรอก ให้เขา พูดกันเอง พวกทีม่ าทำ�ครัวกลัวมาก ตัง้ แต่นนั้ มาก็ไม่มใี ครเอาพวกกะปิ หอม กระเทียมไปเลย เพราะมีผเี ปรตติดบ้านมาและก็ผแี ม่กาหลงบอกกับแม่ครัวว่า พวกเรานะมาทำ�ครัวกันเฉย ๆ น่าจะนัง่ สวดมนต์ไหว้พระเจริญกรรมฐานบ้าง ไม่มเี ลย ทำ�แต่ครัวอย่างเดียว เจ้าก็ได้แต่ครัวไป กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ทางวัดไม่มีเลย นี่ไม่สามารถจะปิดประตูอบายได้ อันนี้เป็นคำ�พูดของผี ที่มาเข้าแม่บุญชู

45 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

อาตมาก็ ไ ม่ ท ราบเลยว่ า คนที่ อ ยู่ ห ลั ง นี้ ที่ ต ายไปแล้ ว ชื่ อ แม่กาหลง เพราะยังไม่มใี ครบอกแม่พนิ ก็ไม่เคยบอก ผูใ้ หญ่กลีบก็ไม่เคยบอก เลยก็ได้ความก็บันทึกไว้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

แต่เราก็โชคดีเหลือเกิน ท่านไปซือ้ บ้านหลังนีม้ า ท่านก็บอกกับ เราว่า อย่ามาอยูบ่ า้ นหลังนีเ้ ลยอย่ามาเฝ้าอยูเ่ ลยเปรตเอ๋ย ท่านก็พดู เองอย่างนัน้ แต่เราได้รับทราบแต่ท่านก็ไม่ทราบว่าเรานั่งอยู่ใกล้ ๆ ท่าน ที่บ้านหลังนั้น นั่นเอง เลยเราก็ตามบ้านนี้มา ช่วยท่านรื้อช่วยปลูกเสร็จ ถามทุกคนนี่เรา เป็นเปรต ท่านทัง้ หลายอย่าเป็นเปรตอย่างเราเลย มานัง่ เจริญกรรมฐานกันเถิด” เขาว่าอย่างนั้นก็ได้ความว่าชื่อ กาหลง


อโหสิกรรมต่อกันให้ ได้ โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

46

เรื่องอภินิหารของวิญญาณ เป็นอภินิหารของบุญกุศลของคน ที่มาสร้าง เป็นเปรตแล้วก็ไม่ใช่เปรตต่อไปเพราะอำ�นาจจิต อำ�นาจของโลภะ กลายเป็นเปรต อำ�นาจโทสะลงนรกไป ตามขั้นตอน อำ�นาจโมหะมีอยู่ กั บ ท่ า นผู้ ใ ดรั บ รองวิ ญ ญาณแตกดั บ ทำ � ลายขั น ธ์ ก็ ต้ อ งไปเกิ ด เป็ น สั ต ว์ เดรัจฉานทันที อันนี้เป็นความจริง ตามหลักพระพุทธศาสนาที่เราเข้ามา พิสูจน์ได้โดยไม่ยากนัก

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ส่วนใหญ่ชาวพุทธไม่ค่อยชอบพิสูจน์ ไม่ชอบสร้างความดีกัน จิตฺเต สงฺกิลิฏเฐ ทุคฺคติ ปาติกงฺขา จิตเศร้าหมองไปนรก จิตผ่องใสไปสวรรค์ ง่าย ๆ อย่างนี้ บางทีจติ เศร้าหมอง ใจเศร้าหมอง คือ กิเลส ก็ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ ถ้าหากว่าเป็นหญิงใจเคียดแค้นกับสามี อาฆาตผูกพยาบาท ตายไปต้องเป็นผีดบิ จะไปกินเลือดของผูช้ ายเรียกว่าผีดบิ ตายไปแล้วไปฝังแล้ว ไม่เน่า ขนงอกได้ คิว้ งอกได้ เล็บงอกได้ท�ำ นองนี้ ถ้างอกยาวตามกำ�หนดของมัน จะขึ้นออกมา ไปกินเลือดของพวกผู้ชาย ผู้หญิงไม่ทำ� อย่างนี้เรียกว่าผีดิบ พิสูจน์ได้โดยไม่ยากนัก แต่เราจะทำ�ลายผีดิบก็ต้องเอาไปเผาเสีย ไม่ใช่ของ


ดิบดี ไม่ใช่ว่าคนตายไม่เน่าเล็บงอกได้ ขนคิ้วงอกได้ ผมงอกได้ ก็เป็นผู้วิเศษ ไม่ใช่แน่ เรียกว่าผีดิบ ส่วนใหญ่จะเป็นกับพวกผู้หญิง ส่วนผู้ชายอาตมา ไม่เคยพบ เคยพบแล้วในป่าเป็นแต่พวกผูห้ ญิง เคียดแค้นกับสามี เวลาจะตาย โกรธ จิตลงนรกเป็นผีดิบก่อนอื่นใดทั้งสิ้นมีความหมายมาก

ถ้าหมดห่วงหมดใยไม่มีอำ�นาจโลภะผูกใจไว้แต่ประการใด บุ ญ กุ ศ ลดลบั น ดาลไปสู่ สุ ค ติ โ ลกสวรรค์ เทวสถานได้ ทั น ที แต่ ถ้ า จิ ต ยังเกาะเกี่ยวอยู่ ห่วงใยด้วยอำ�นาจของโลภะ จะห่วงสามีก็ตาม ห่วงภรรยา ก็ตาม ห่วงลูกก็ตาม ห่วงหลานก็ตาม ห่วงทรัพย์สมบัตกิ ต็ าม ตายแล้วต้องเป็น ปูโ่ สมเฝ้าทรัพย์ อำ�นาจของตนทีม่ อี ยูใ่ นจิตใจ อันนีแ้ น่นอนทีส่ ดุ พระพุทธเจ้า จึงสอนให้กำ�หนดเสีย ตั้งสติ มีโลภะผูกใจอยู่ที่ไหนก็ตั้งสติไว้

47 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

บางทีพอ่ แม่ตาย ปูย่ า่ ตายายตาย บางคนบอกไม่ฝนั เห็นเลย ไม่มี วี่แววเลย อย่างนี้ก็ทำ�บุญกันใหญ่ ข้อเท็จจริงไม่ใช่ ถ้าเห็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ที่ตายไปแล้วมาเห็นวอบ ๆ แวบ ๆ มาเห็นอยู่เสมอ นั่นแหละไม่ดีหรอก เป็ น เปรตประจำ � บ้ า น ด้ ว ยอำ � นาจโลภะของคนที่ ต าย ห่ ว งใยลู ก หลาน ห่วงทรัพย์สมบัติ ตายแล้วอยู่ที่นั่น ไม่มีทางไปที่อื่นแล้ว เกาะอยู่ที่นั่น

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ขอเจริญพรญาติพี่น้องทั้งหลาย ได้รับทราบโดยทั่วกันนี่แหละ แม่กาหลงมีเหตุและผลตัง้ แต่ตน้ จนมาถึงบัดนี้ เดีย๋ วนีก้ ย็ งั มีหลักฐานอยูท่ วี่ ดั อัมพวัน พิสูจน์ได้โดยไม่ยากนัก


กำ�หนดการเจริญสติปฏั ฐานสีเ่ ป็นทางทีด่ ที สี่ ดุ ไม่มอี ะไรดีกว่า นีแ้ ล้ว อาตมามีประสบการณ์กบั ปัญหาเหล่านีม้ ามากมาย จิตคนเราเปลีย่ นได้ ในเมื่ อ มี ส ติ ไม่ จำ � ต้ อ งกล่ า วเฉพาะมนุ ษ ย์ ค นธรรมดาเท่ า นั้ น วิ ญ ญาณ แตกดับทำ�ลายขันธ์ของมันแล้ว ยังไปสร้างความดีของมันได้ เช่นเปรต แม่กาหลง เป็นต้น

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

48

ขออโหสิกรรมต่อสามี โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

หากท่านทัง้ หลายเคยด่าท่านผูม้ พี ระคุณ ถอนคำ�พูดแล้วขอสมาลา โทษเสีย ท่านจะได้ผลจากการเจริญกรรมฐานทันที เหมือนพระภิกษุตอ้ งแสดง อาบัตใิ ห้บริสทุ ธิเ์ สียก่อน แล้วมาเจริญกรรมฐานจึงจะได้ผล เช่น แม่แต้มอยูท่ ่ี บ้านเตาปูนใต้วดั สว่าง เจริญกรรมฐานมาตัง้ ๗-๘ ปี ไม่ได้ผลเพราะเรือ่ งอะไร อ๋อ! แกด่าสามีแกทีเ่ ป็นปลัดอำ�เภอชือ่ ปลัดเขียว แม่แต้มแกด่าผัวเก่ง มาปฏิบตั คิ ราวรุน่ แม่ใหญ่ บอกแม่เต้มเอ๊ย ขออโหสิกรรมเสีย บอกดวงวิญญาณให้อนุโมทนาต่อพระสงฆ์ดว้ ย หลังจากนัน้ ก็ขออโหสิกรรมให้ดวงวิญญาณรับทราบว่า พ่อเอ๋ย ฉันขอสมาลาโทษกายกรรม วจีกรรมต่อดวงวิญญาณ ขอพระสงฆ์รับทราบอนุโมทนาแล้วยะถาสัพพีให้ ตัง้ แต่นน้ั มา แม่แต้มเข้าผลสมาบัตไิ ด้ เจริญกรรมฐานได้ผลวันนัน้ เลย


49 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

อีกบ้านหนึง่ พ่อมีเมีย ๔ คน มีลกู เมียหลวงติดตามพ่อไป แล้วมา บอกแม่ แม่กบ็ อกพ่อเจ้าไม่ดี ลูกก็กลับไปด่าพ่อหาว่าพ่อไม่สงสารแม่ของตัว แล้วก็มาบวชทีว่ ดั นี้ บวชแล้วเดีย๋ วเป็นโน่นเป็นนี่ ปวดหัวไม่พกั เป็นโรคจะกลาย เป็นคนวิกลจริต อาตมาดูกฎแห่งกรรมแล้ว ถามว่านีพ่ อ่ อยูท่ ไ่ี หน บอกพ่ออยู่ กับเมียโน้นเมียนี้ แล้วก็เคยด่าพ่อไหม บอกเคย พ่อทำ�แม่ผมเจ็บใจ ผมก็ดา่ เอา นี่แหละไปบวชก็ไม่ได้ผล ไปถอนคำ�พูด ไปขอสมาลาโทษกับพ่อเจ้าเสีย แล้วเจ้าจะมาเรียนมานัง่ กรรมฐานได้ผลแน่ ๆ คนทีไ่ ม่ได้ผลเพราะกฎแห่งกรรม ตามสนอง

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

นี่อย่างแม่แต้มไม่มีเจตนาด่าให้สามีให้เสียหาย เป็นเพราะ ปากมันเคย เคยถามแม่แต้มด่าสามีจริงไหม จริงเข้าค่ะ ฉันนีป่ ากไม่ดี ชอบด่าเขา แล้วเขาก็ไม่เถียงฉันด้วย เขาเป็นลูกไล่ฉนั เท่านีท้ �ำ กรรมฐานไม่ขน้ึ มา ๗-๘ ปี เลยขออโหสิกรรมแล้วก็หายไป แล้วแม่แต้มก็เข้าผลสมาบัติ ให้นง่ั ได้ตง้ั ๘ ชัว่ โมง แม่ ใ หญ่ ท ราบดี น ะ แม่ แ ต้ ม ได้ ส้ิน ชี วิต ไปแล้ ว ก่ อ นตายแกบอกอาตมา ต้องไปนำ�ศพ ทัง้ ทีอ่ าตมาป่วยหนัก ก็ตอ้ งไปนำ�ศพแกไปเมรุ แล้วแกตายอย่างไร แก่ต้ัง ๘๐ กว่าร่วม ๙๐ แล้วตายแบบไหน เราก็รู้ว่าแกต้องตกบันไดตาย เพราะเมื่อก่อนแกผลักผัวแกตกบันได นี่ชัดเจนไหม ผลักผัวตกบันไดผัวเลย หัวทิม่ ลงไป เท่านีแ้ หละทำ�ให้แม่แต้มต้องตกบันไดตาย ขอฝากไว้อย่าสร้างเวร สร้างกรรมเลย


ภรรยาแผ่ส่วนกุศลให้สามี โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

50 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

มี ข้ า ราชการซี ๗ คนหนึ่ ง รั บ ราชการที่ จั ง หวั ด ลพบุ รี แต่ ต อนนี้ ย้ า ยไปแล้ ว จะไม่ ข อออกชื่ อ สามี รั บ ราชการระดั บ ซี ๘ สามีเป็นคนเจ้าชู้ เล่นการพนัน กลับบ้านเที่ยงคืนทุกวัน ภรรยาก็เสียใจ ร้องไห้มาหาอาตมา บอกว่าสามีไปชอบเด็กสาวทีศ่ าลากลาง ชือ่ นางสาววาสนา อาตมาก็บอกว่า เอาละคุณนายไม่เป็นไร จะแก้ที่โยมภรรยา โยมลาพักร้อน สัก ๗ วันได้ไหม มานัง่ กรรมฐาน เขาก็มาทีน่ ี่ พอนัง่ กรรมฐานเสร็จ แผ่เมตตา ทุกวัน ให้สามีมีความสุข แผ่เท่านี้เป็นการแก้กรรม กลับไปบ้านแล้วก็ไปนั่ง สวดมนต์ไหว้พระ สามีมาก็ไม่ว่ากระไร ไม่ชวนทะเลาะอีกต่อไป หากับข้าว ให้เต็มสำ�รับไว้ เขาจะทานหรือไม่ทานก็แล้วไป ทำ�หน้าที่แม่บ้านการเรือน อย่างดียิ่ง และจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก ขอเจริญพรว่า จะแก้บทใดอย่าพูดเรือ่ งนัน้ อย่าไปด่าว่าสามีเจ้าชู้ เล่นการพนัน จะไม่มีทางแก้ไขได้ จะเป็นการหยิกเล็บเจ็บเนื้อ จะเหลือวิสัย อย่าไปจี้แผลนัก เดี๋ยวจะกลายเป็นโรคมะเร็ง และจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ในทีส่ ดุ สามีกก็ ลับใจ เลิกเทีย่ ว หันมาดูแลลูกเพิม่ ขึน้ มานัง่ สวดมนต์กบั ภรรยา และนางสาววาสนาที่ศาลากลางก็กลับมาหาคุณนายนี้ บอกว่า “คุณพี่ขา


หนูไม่มอี ะไรหรอกนะ” คุณนายก็บอกว่า “ฉันไม่วา่ อะไรเธอหรอก ตามใจเธอ ฉันแผ่ให้เธอมีความสุขแล้ว” เลยร้ายกลับกลายดี นางสาววาสนามีพี่ชาย เป็นนายแพทย์ใหญ่อยู่อเมริกา ได้อุปการะลูกบ้านนี้ไปเรียนต่อที่อเมริกา มันช่วยกันได้อย่างนี้ แต่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันดังที่กล่าวแล้ว สามีบ้านอยู่ สันป่าข่อย จังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่เคยบวช ได้ปรึกษากับภรรยาว่าจะบวช ทีว่ ดั อัมพวัน เลยขออนุญาตลาอุปสมบท ๑๒๐ วัน ภรรยาพาสามีบวชได้แล้ว วิธีแก้กรรมอย่าไปผูกใจเจ็บ ให้อโหสิกรรมเสียก็จะเป็นสุขทุกฝ่าย สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

บางคนก็มาถามอาตมา หลวงพ่อคะนั่งกี่วันผัวจะกลับบ้าน อ๋อ! มานั่งแก้บนหรือนี่ มีครูอยู่ที่สกลนคร ผัวหายไปสามปีสี่ปีไม่กลับบ้าน มีลูกอยู่สามคนจะไม่ออกชื่อพ่อผัว แม่ผัว ขายที่ได้เป็นร้อยล้าน แล้วก็เอาไป กี่ร้อยล้านไม่รู้ หายไปเลย เข้าใจว่าไปโดนคนทุบตาย พระหมอดูก็แน่ บอกว่า ผัวตายแล้ว พ่อแม่ก็ทำ�บุญ ๗ วันแล้ว ๑๐๐ วันแล้วเรียบร้อย แต่ครูคนนี้ เดินทางมาจากสกลนคร มานั่งกรรมฐานที่วัดนี้ ๒ ครั้ง บอกนี่เราสอนเอง

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สามี ไม่กลับบ้าน

51


สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

52

มานีเ่ ดินจงกรม ๑ ชัว่ โมง ไม่ได้ดอี ย่าหยุดนะ เดินอย่างนี้ อย่างนี้ ยืนหนออย่างนี้ อย่างนี้ แล้วก็นั่ง ๑ ชั่วโมง ไม่ได้อย่าหยุดนะ เดินอย่างนี้ ยืนหนออย่างนี้ แล้วก็นั่ง ๑ ชั่วโมงอย่างต่ำ� ไม่ใช่สิบนาทียี่สิบนาที ไม่เอา! ตายให้มันตาย จะได้รกู้ นั นัง่ ให้มนั ถึงจริงซิ มันถึงจะซึมออกมา เข้าไม่ถงึ ทำ�ความดียงั ไม่ได้ขนั้ แบบโบราณท่ า นว่ า ไว้ อาตมาจำ � ได้ ม าจนบั ด นี้ ตอนเป็ น เด็ ก ไว้ ผ มเปี ย พระท่านเทศน์ มีบา้ นต้องมีครัว มีหวั ต้องมีผม ผูห้ ญิงต้องมีนม ขนมต้องมีไส้ ไม้ไผ่ต้องมีใบ ดันให้มันถึงที่ ทำ�ความดีให้มันถึงขั้น โยมไปสอนลูกมั่งซิ หมั่นจดหมั่นจำ� หมั่นจำ�หมั่นจด สิ่งใดงามอย่าได้งด หมั่นจดหมั่นจำ� เป็นตำ�รา ตอนที่อาตมาอยู่ประถมสองนี่ท่องประถมจรรยาได้หมด ถึงได้ มาพิมพ์หนังสือพัฒนาคำ�กลอนจิตพัฒนามารยาทไทย ให้สอนสั่งในชั้น มหาวิทยาลัย

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

แล้ ว ครู ค นนั้ น ก็ นั่ ง แผ่ เ มตตาให้ ส ามี ไม่ เ ชื่ อ ว่ า ผั ว ตาย แต่ พ่ อ ผั ว แม่ ผั ว ทำ � บุ ญ แล้ ว ให้ พ ระหมอดู น ะเอาไปหาให้ เ ขวไปเปล่ า ๆ ขอฝากแม่บ้านไว้ด้วย อย่าไปเชื่อหมอดูนะ ครู ค นนี้ บ อก หลวงพ่ อ หนู ตั ด กั ง วลได้ เ ป็ น สมาธิ แ น่ ที่หลวงพ่อพูดหนูไม่กังวลกับสามีแล้ว ตัดขาดไปแล้ว ไม่กังวลแน่ หนูมีแต่ สมาธิจิตด้วย จะตั้งใจเลี้ยงลูก ๓ คนนี้ ให้เป็นใหญ่เป็นโตต่อไปให้จงได้ ตามที่หลวงพ่อสอน หนูทำ�ได้แล้วแผ่เมตตาแผ่ส่วนกุศลไปให้สามี จะอยู่ แห่งหนตำ�บลใด ขอให้สามีปลอดภัย ในโลกมนุษย์และสัมปรายภพภายใน เบื้องหน้าสืบไป ไม่ต้องไประลึกชาติ ทำ�บุญก็เห็นเดี๋ยวนี้ ทำ�บุญถ้าไม่ได้


ด้วยความตัง้ ใจแล้วมันจะไปเอาชาติไหน ชาตินกี้ ไ็ ม่ได้ ชาติหน้ามันจะได้หรือ ขอฝากไว้อย่างนี้

53 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ภรรยานี่ก็แผ่เมตตาออกไป ขอให้สามีปลอดภัยมีโชคมีชัย เท่านี้เอง เลยก็เกิดมีปัญญาขึ้นมา เอาเงินห่อสามสี่ชั้น ใส่กระเช้าแล้วสอด ผักบ้างขนมบ้างอยู่ข้างนอก เงินดอลล่าร์ยัด ๆ ไป จ้างคนเขมรหามเอามาส่ง เสี่ยงออกชายแดนมาได้ ถึงบ้านสกลนคร พ่อแม่นึกว่าผีมา พอกลับมา ก็เลี้ยงลูกอย่างดีตลอดมา แล้วเงินที่ได้มาก็สร้างบ้าน ซื้อที่ดินไว้ แล้วทำ � บ้านจัดสรรขึ้นมา รวยเลย ก็ร่ำ�ลือถึงสกลนคร หนองคาย เขาได้เอาของ มาถวายมากมายก่ายกอง อาตมาถามว่าเป็นไง สามีตอบว่า ลำ�บากจริง ๆ หลวงพ่อ นีผ่ มมาแทบจะกราบเท้าภรรยาเลยว่าลำ�บากจริง ๆ ภรรยาเลยบอกว่า อุตส่าห์เลี้ยงลูกให้ได้ดี แล้วก็นั่งกรรมฐานแผ่เมตตาที่วัดหลวงพ่อนี้ตลอด

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

เมื่อภรรยาไม่มีกังวล สมาธิเกิดดลบันดาล เมื่อแผ่เมตตา และอุทิศส่วนกุศลให้สามีถึง ก็ปรากฎว่าสามีได้เงินแล้วหอบหิ้วไปกับทหาร เข้าไปเมืองกัมพูชาไปตั้งบริษัทกับญี่ปุ่น กับคนไทยและกัมพูชาเข้าหุ้นด้วย รวยมหาศาลแต่เอาเงินออกไม่ได้ เขมรไม่ให้ออกมา ก็นั่งพิจารณาถึงภรรยา ที่ แ ผ่ เ มตตาให้ เห็ น ภรรยาทุ ก วั น ก็ ทำ � ให้ เ กิ ด ปั ญ ญาจึ ง รี บ ขายบริ ษั ท เพราะอยากส่งเงินมาให้ภรรยาบ้าง เขมรก็ไม่ยอมให้ส่งเงินผ่านทางธนาคาร เลยขายบริษทั ทัง้ หมดให้ญปี่ นุ่ ไป เอาเงินดอลล่าร์ทเี่ มืองกัมพูชา พอขายได้แล้ว ทำ�ยังไงจะกลับได้ เขมรต้องตรวจด่าน


สามี ไปติดผู้หญิง สวดมนต์ทำ�กรรมฐาน แก้กรรมได้ โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

54

คุณนายละม้าย เกษแก้ว เป็นคนอ่านหนังสือไม่ออก สามีเป็น ทหารอากาศ ชือ่ นาวาอากาศตรีวาท เกษแก้ว เป็นฝ่ายการเงินของกองบิน ๒ โคกกระเทียม ลพบุรี ซึง่ เป็นยุคทีน่ าวาอากาศเอก (พิเศษ) จรรยา สุคนธทรัพย์ เป็นผู้บังคับการ ขณะนี้ท่านมียศเป็นพลอากาศเอกไปนานแล้ว

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

คุณนายละม้ายกับสามี มาเข้าวัดทำ�บุญที่วัดอัมพวันก็ไม่กี่ปี อาตมาก็ ชี้ แ จงชั ก จู ง ให้ คุ ณ นายนั่ ง กรรมฐาน เดิ น จงกรม ขวาย่ า งหนอ ซ้ายย่างหนอ เพราะว่า “คุณวาท” สามีแล้วแต่คณ ุ นาย พอลงมือปฏิบตั กิ ท็ �ำ ไม่ได้ ขวาเป็นซ้าย-ซ้ายเป็นขวา พองหนอ ยุบหนอ ก็กำ�หนดไม่ได้ อาตมาก็ ม าคิ ด หาอุ บ ายที่ จ ะสงเคราะห์ คุ ณ นายให้ ทำ � ให้ ไ ด้ สงสารคนประเภทนี้ อยากจะทำ�นัก แต่ทำ�ไม่ได้ เดินจงกรมก็เซ วั น หนึ่ ง แกก็ ม าที่ วั ด ถามว่ า “หลวงพ่ อ มี ค าถาไหม ฉั น ทำ � กรรมฐานไม่ได้แน่ อยากจะสวดมนต์” อาตมาก็เลยบอกว่า “โยมจะท่องได้หรือ อ่านหนังสือไม่ออก” แกก็บอกว่า “ฉันจะให้ลูกสอน” อาตมานึกได้ข้อหนึ่ง ต้องให้คุณนายสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเพื่อเป็นอุบาย หนักเข้า แม่ละม้ายท่องได้ ลูกสอนวันละตัวสองตัวท่องได้หมด ก็สวดพุทธคุณ


ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุง มหากา (รุณโิ ก) พอจบแล้วหันมาเอาพุทธคุณอย่างเดียว ให้สวดเท่าอายุเกินกว่า ๑ เกิดยึดมัน่ สติดี ก็สวดหนักเข้าทุกวัน ๆ จนสบายใจ ญาณวิถี เข้าสู่สติสัมปชัญญะ “สติมา” มันเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติของแกอีก ก็ทำ�ให้เกิดสติดีขึ้น พอสติดีขึ้น แกก็มาเล่าอะไรแปลก ๆ ให้ฟัง บอกว่า “ฉันสวดได้หมดแล้ว แล้วมันคล่องแคล่วในใจ” พอให้เดินจงกรมก็เดินได้ เพราะสติดีเสียอย่าง แล้วบอกว่าพองหนอยุบหนอได้ไหม ก็กำ�หนดได้ อีกเหมือนกัน และคล่องได้จากสวดมนต์ อันนี้เป็นไปได้เหมือนกัน

55 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ต่อมาวันหนึ่ง นาวาตรีวาทผู้สามี ก็บอกภรรยาว่า จะไปเก็บ ค่ า เช่ า นาที่ ท างเหนื อ แล้ ว ก็ ห ายไปเลย ๓-๔ วั น คุ ณ นายมาที่ นี่ ถ ามว่ า หลวงพ่อบอกซิว่าจะให้ทำ�อย่างไร ก็เลยบอกว่า สวดมนต์เข้า แล้วนั่งสมาธิ ก็เกิดขลัง สติเป็นตัวบอก ไม่ใช่ตาทิพย์ไปเห็นที่ไหนหรอก คุณนายละม้าย ก็เริ่มเข้านั่งสวดที่ห้องพระ ทีแรกก็สวดเท่าอายุ อายุ ๕๐ กว่าไปแล้ว อาตมา ก็บอกว่า โยมเอาอย่างนี้ มีไม้ขีดไหมเอาไม้ขีดมานับเข้า อายุเท่าไหร่ อายุ ๕๕

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

แล้ววันหนึ่งมาถามอาตมาว่า “หลวงพ่อทำ�อย่างไรจึงรู้ทางใน สามีโกหกบ้างอยากจะจับนัก” หลวงพ่อบอกว่ามีสติดที ำ�อย่างไร? เลยอาตมา ก็ ใ ช้ อุ บ ายจะบอกตามตรงไม่ ไ ด้ เธออยากนั่ ง ทางในให้ รู้ ว่ า สามี ซื่ อ สั ต ย์ ต่อฉันไหม มันสังหรณ์ในใจแล้ว ว่าสามีไม่ซอื่ ตรงต่อภรรยา อาตมาก็บอกว่า สวดใหญ่เลย สวดให้ได้ ๑๐๘ จบ สวดแล้วนั่งสมาธิ พองหนอยุบหนอ ก็พอไปได้ พอสวดและนัง่ สมาธิ แบบนีจ้ ติ ก็เข้าสูภ่ าวะสติดนี นั่ เอง ไม่ใช่สวด พุทธคุณแล้วก็ขลังเสกอะไรได้


สวด ๕๖ ถ้าอายุ ๕๘ สวด ๕๙ จบ แต่ให้สวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากาฯ ให้จบก่อน แกก็ยึดมั่นอยู่ในการสวดอย่างนี้ว่าเป็นได้แน่ ต่ อ ไปนี้ แ กก็ ไ ม่ ใ ช้ ไ ม้ ขี ด แกก็ นึ ก ในใจก็ ว่ า ได้ ค รบเลย ว่ า ได้ ค ล่ อ งแคล่ ว ว่องไว และเดินจงกรมได้เอง ไม่ต้องสอนเลย ตอนเราสอนทำ�ไม่ได้ สติไม่ดี ถ้าสติดีแล้ว เดินได้เองโดยอัตโนมัติ

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

56 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ในที่สุดแกก็เล่าว่าวันนั้นสวดมนต์ดึก และนั่งสมาธิหน้าพระ แล้วก็นกึ ในใจ ถามเอง ตอบเอง ถามว่า “นายวาทเขาไปไหน” “เขาไปจริงไหม” สติบอกว่า “ไปทีไ่ หนเล่ามาทีท่ า่ วุง้ เอาเงินให้ผหู้ ญิงไป ๒๐๐ บาท แล้วกินข้าว บ้านโน้นบ้านนี้” สติบอกเป็นช่องไป พอตอนเช้านาวาตรีมาแล้ว จะรีบไป ทำ�งาน พอแต่งตัวเสร็จ คุณนายละม้ายบอกว่า “นี่คุณมานี่เดี๋ยว ไปไหนมา เมื่อวาน” คุณนายก็เริ่มออกแขกเลย “นี่เมื่อวานนี้กินข้าวบ้านโน้นใช่ไหม” “แล้วคุณเอาสตางค์ไปให้นงั คนนัน้ ใช่ไหม” คุณวาทสามีกน็ กึ อยูใ่ นใจ ต้องไป ต่อว่าหลวงพ่อวัดอัมพวัน เป็นหมอดูให้ภรรยาจึงบอกได้อย่างนี้ สติ ที่ มั น บอกเหตุ ก ารณ์ ช นิ ด นี้ เ รี ย กว่ า ปั ญ ญา นี่ มั น เกิ ด ทั้งทางโลกทางธรรมมาควบคู่กันไป คุณนายละม้ายโดยที่ไม่รู้หนังสือ โดยที่ ไม่รอู้ ะไรเลย แล้วก็จริงด้วย พอตอนเย็นนาวาตรีวาท ขับรถมาต่อว่าอาตมาใหญ่ บอกว่ า หลวงพ่ อ ไปบอกอะไรกั บ แม่ บ้ า นผม ว่ า ผมไปบ้ า นโน้ น บ้ า นนี้ เอาสตางค์ ไ ปให้ เ ขา ผมสงสั ย หลวงพ่ อ แน่ น อน อาตมาก็ เ ลยบอกว่ า ยังไม่เจอกันเลย ไม่ได้บอกแน่นอน เขาก็เชื่ออาตมาเพราะไม่เคยโกหกใคร แล้วเขาก็กลับไป แล้วก็คดิ ว่าภรรยาเราไปให้เจ้าเข้าทรงทีไ่ หนถึงได้รเู้ หตุการณ์ ได้ชัดเจนอย่างตาเห็น


สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

57 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

อีกวันหนึ่งก็บอกกับคุณนาย “ผมจะไปเก็บค่าเช่านา” คุณนาย ก็บอกว่า “ตามสบาย แล้วเอาเงินมาให้ได้” ปรากฏว่าก็ไม่ได้ไปอีก ตอนแรก ก็ตงั้ ใจจะไปเก็บค่าเช่านา แต่ทนี มี้ าถึงท่าวุง้ ก็บอกว่าข้าวยังไม่ได้ตวง ไปก็เสีย เวลาเลยไปกินข้าวบ้านเก่าอีก เอาเงินไปให้ผู้หญิงอีก เป็นแม่ม้าย แม่ละม้าย ก็ นั่ ง สมาธิ พอนั่ ง สมาธิ เ สร็ จ แล้ ว “ก็ ถ ามหน่ อ ยเถอะสติ เ อ๋ ย นายวาท เขาไปไหน” “ไปบ้านเก่าอีกแล้ว” สติบอกอย่างนัน้ แม่ละม้ายรูห้ มด พอกลับมา ยังไม่ทนั ขึน้ บันได ยังไม่ทนั จะแต่งตัวไปทำ�งาน “นีค่ ณ ุ เอาเงินไปให้เขาอีกแล้ว” สามีบอกว่า “เดีย๋ วค่อยคุยกัน ผมไปทำ�งานก่อน” พอกลับมาแล้วอารมณ์ดแี ล้ว ก็คุยกัน “ถามจริง ๆ เถอะ รู้ได้อย่างไร” คุณนายละม้ายด่าเก่งแต่พอเจริญสติ แล้วไม่ด่าไม่ว่า แต่พูดในแต่ละคำ�ให้เจ็บในทรวง ให้สามีกลับไปคิดเอาเอง บอกว่า “พุทธคุณรู้ว่าคุณไปกินข้าวบ้านใคร เอาสตังค์ไปให้แม่ม่าย ชอบเขา หรือไง จะได้ยกให้เลย ดิฉันไม่อยากได้แล้ว” นาวาตรีก็เลยซึ้งใจว่า อำ�นาจ ธรรมะสามารถรู้ได้ละเอียดอย่างนี้ละหนอ เลยทำ�ให้นาวาตรี ละได้ทันที ไม่ไปบ้านผู้หญิงอีกต่อไป


สามีเจ้าชู้ เล่นการพนัน ดื่มเหล้า ไม่ต้องไปตาม โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

58

“สามีเจ้าชู้ เล่นการพนัน ดื่มเหล้า ไม่ต้องไปตาม อย่าไปตาม เกลียดยิ่งเข้าใกล้ รักยิ่งออกห่างไกล เกลียดเราก็แผ่เมตตา อย่าไปเกลียดเขา แผ่เมตตา เกลียดออกไป รักเข้ามาแทนที่ สร้างความดีตอ่ ไป เดีย๋ วเขาก็เลิกไปเอง แต่เราไปคิดว่าสามีไม่ดีอย่างโน้น ไม่ดีอย่างนี้ ข้อเท็จจริงดูตัวเราเองเถอะ เรามานัง่ กรรมฐานดูตวั เราว่า เราดีไม่พอหรืออย่างไร มันจะบอกกฎแห่งกรรม ออกมาชัด อย่าไปด่าสามี อย่าว่าสามีเจ้าชู้

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เขามาเล่าให้อาตมาฟังทัง้ นัน้ ลูกไม่ดี สามีไม่ดี ตัวเองดีคนเดียว อาตมาบอกให้ ม าเจริ ญ กรรมฐาน ไม่ พู ด กั บ ใครเลยจะรู้ เ อง ปรากฏว่ า เดินร้องไห้มาหาแล้วบอกว่า ฉันไม่ดีเองหลวงพ่อ นั่นจับจุดได้แล้ว คือ กฎแห่งกรรม ถ้าตัวดีจริงดังเขาว่าแล้ว สิง่ ทัง้ หลายดีทงั้ บ้าน ดีทงั้ ลูก ดีทงั้ สามี ขอฝากไว้ด้วย ถ้าสามีดแี สนจะดี ภรรยาไม่ดี บ้านนัน้ เอาไว้ไม่ได้เพราะภรรยานัน้ เป็นแม่ใหญ่ แม่บ้านสำ�คัญกว่าพ่อบ้าน พ่อบ้านจะเที่ยวไปงานสังคมช่างเขา เราเอาลูกไว้ให้ได้ ตัง้ สติอารมณ์ ชวนลูกสวดมนต์ไหว้พระ เดีย๋ วพ่อเขาก็กลับ มาเอง ขอฝากไว้นี่คือ แก้กรรมด้วยการกระทำ�


ไม่ ใ ช่ เ อาความร้ า ยไปแก้ ค วามร้ า ย เขาร้ า ยมาอย่ า ร้ า ยตอบ เขาไม่ดีมาจงเอาความดีเข้าไปแก้ไข คนตระหนี่ให้ของที่ต้องใจ คนพูด เหลวไหลเอาความจริ ง ใจเข้ า ไปสนทนา ถึ ง จะแก้ ไ ด้ ไม่ ใ ช่ เ หลวไหล ต่อเหลวไหลด้วยกัน สนทนากันสามีไม่ดี แถมภรรยาไม่ดีอีก เลยต่างคน ต่างแก้กรรมกันไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่ได้แน่นอน แก้ปัญหาไม่ตก”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

“ชีวิตจิตใจนี่คือ สามีภรรยา เป็นเพื่อนคู่คิดเป็นมิตรคู่บ้านกัน มีอะไรก็หนักเอาเบาสู้ หนักนิดเบาหน่อย ให้อภัยกันเถิด บ้านนัน้ จะประเสริฐ ญาติโยมที่มานี่ตั้งใจทำ�ใจให้ประเสริฐในหมู่คน ผู้มีใจประเสริฐจะมีพระ ประจำ�ใจ มีขันติความอดทน ต่อสู้ต่อเหตุการณ์”

59 โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

เมื่ออาตมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเหลืออีก ๒ วันก็จะกลับแล้ว มีดอกเตอร์คนหนึ่ง มีภรรยา ๓ คนมีชู้หมด เขาบอกว่าจะมีอีกคนหนึ่ง อาตมาบอกว่า อย่ามีนะ ถ้ามีก็มีชู้อีกนะ คุณมีกฎแห่งกรรม กาเมสุ มิ จ ฉาจารมา คุ ณ เป็ น ดอกเตอร์ ก็ จ ริ ง นะ คุ ณ ก็ เ ป็ น คนดี ด้ ว ย ทำ�ไมภรรยามีชู้ เพราะกาเมสุมิจฉาจารติดมา ๖๐ เปอร์เซ็นต์ อย่าลืมนะ นั่งกรรมฐานจึงจะรู้

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ภรรยามีชู้ ต้องแก้ด้วยกรรมฐาน


แผ่เมตตา ให้ภรรยาเลิกด่าสามี โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

60

อาตมาเคยแก้ ส องสามี ภ รรยาที่ วั ด นี้ น ะ ภรรยาก็ บ อกว่ า ไปด่าสามีว่า “ไอ้เหี้ย ไอ้เหี้ย” หรือ “อาเฮีย อาเฮีย” ด่าอยู่ทุกวัน แล้วสามี ก็ไม่รู้จะแก้อย่างไร ก็กลุ้มใจตลอดมา อาตมาเลยสงสารเขา เลยบอกให้สามี มานั่งกรรมฐานเถอะ เลยสามีก็พักร้อนมา ๑๐ วัน มานั่งกรรมฐานที่วัดนี้ นั่งเจริญกรรมฐาน จิตใจก็เป็นกุศลเลยแผ่เมตตาให้ภรรยา ภรรยาจะได้รับ หรือไม่ก็ตามใจ ก็ได้ปัญญาไปแก้ภรรยาให้เป็นคนดี

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

นีแ่ หละกรรมฐานแก้ปญ ั หาแก้กรรมได้ ภรรยาคนนีด้ มุ าก สามี ต้องเป็นเบี้ยล่าง ด่าอาเฮียทุกวัน ทำ�ไม่ดีก็อาเฮีย อาเฮีย ด่าทุกวัน แต่สามีก็ยิ้ม ไม่รู้จะแก้ได้อย่างไร ทำ�อย่างไรหนอ จึงจะแก้ภรรยาเรียกอาเฮียสักที ให้เรียก คุณพ่อสักหน่อย เพราะเราไม่ใช่คนจีนจะมาเรียกอาเฮียทำ�ไม ก็ควรจะเรียก คุณพี่นะ สามีกเ็ ลยมานัง่ กรรมฐาน สามีเป็นคนซือ่ มีความรูถ้ งึ ปริญญาโท เป็ น คนไม่ อ ยากจะเถี ย งใคร ภรรยาก็ ข่ ม เลยเรี ย กอาเฮี ย ทุ ก วั น เลยสามี ได้ธรรมะ แผ่เมตตาให้ภรรยาเป็นคนดีให้ได้


แล้วโยมนี่ก็กลับไป ภรรยาก็ว่า “เป็นไงได้สวรรค์ ได้นิพพาน มาเท่าไร เล่าให้ฟังซิ” สามีก็ยิ้มและสวดมนต์แผ่เมตตา

61 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เลยเก็ บ กระเป๋ า เดิ น ทางขึ้ น รถทั น ที “ถ้ า เธอเอาเหี้ ย ทำ � ผั ว ฉั น อยู่ กั บ เธอไม่ ไ ด้ ฉั น ไม่ ใ ช่ เ หี้ ย ฉั น เป็ น มนุ ษ ย์ โ สภา เพราะฉั น ไป เจริญวิปัสสนากรรมฐานมา” สามีเลยขึ้นรถไปเชียงใหม่หายไป ๑๐ วัน แล้วทำ�ไง ฝ่ายภรรยาก็มาที่นี่ แต่อาตมาไม่คุ้นกันหรอก บอก “หลวงพ่อค้า ช่วยฉันหน่อย สามีฉันหนีไป”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

อยูม่ าวันหนึง่ สามีเป็นซี ๗ ไปประชุม กลับมาก็ดกึ เพราะไปแวะ บ้านเพื่อน ภรรยาก็หาว่าสามีไปชุ่ยแช เอาเลยถกเขมรเลยด่า “ไอ้เฮีย อาเฮีย มาจนดึกจนตีสอง” สามีได้ปัญญาจากกรรมฐาน ปัญญาออกมาบอกว่า “นีเ่ ธอนัง่ เฉย ๆ ฉันจะพูดอะไรให้เธอฟังนะเธอนะ” “เอ้า! พูดมา อาเฮีย พูดมา พูดมา ไม่อยากฟัง” นั่นแน่ยายคนนี้สวยซะด้วย มีไฝ ฝี ขี้แมลงวันเหมือน นางพันธุรัตน์ อาตมาเห็นก็ชื่นใจ แหม! ถ้าเป็นสาว ๆ ก็ไปขอแล้ว นี่แก แก่ซะแล้ว เลยสามีใจดีแผ่เมตตาบอก “น้อง เธอได้สามีก็ดีมาก เป็นมนุษย์ จิตใสใจสะอาดบริสทุ ธิ์ อยูก่ นั มาจนมีลกู สามคน แล้วเธอก็นสิ ยั ดี ลูกก็โตแล้ว เรียนก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ไยเธอตอนนีน้ สิ ยั เลวเล่า” “ นิสยั เลวอย่างไร อาเฮีย” “พิโธ่เอ๋ย! น้องเอ้ยค่อย ๆ พูดกันเถอะ วันนีพ้ จี่ ะขอตัดสินใจ เอาหล่ะไม่เป็นไร เมือ่ ก่อนเธอได้ผวั เป็นมนุษย์ แต่เธอนิสยั ไม่ดี ตัง้ แต่เดีย๋ วนี้ เสียใจด้วย เธอเลิก มีผัวมนุษย์แล้วหรือ ถึงไปเอาเหี้ยมาทำ�ผัวซะได้”


บอก “ช่ ว ยไม่ ไ ด้ กลั บ ไปก่ อ น ไม่ ส น” อี ก สองวั น ก็ ม าอี ก มาบ่อย ๆ อาตมาก็นึกทำ�อย่างไร ต้องทำ�ให้เข็ด ก็บอกว่าต้องการให้ผัว กลับมา ต้องมานัง่ กรรมฐาน “อย่างนัน้ หรือคะหลวงพ่อ นัง่ แล้วผัวจะมาไหม” ก็ตอบว่า “มาซิ เอาหัวเป็นประกัน”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

62

มานั่งยังไม่ทันเดินจงกรมเลย เดี๋ยวมาอีกแล้ว บอก “หลวงพ่อ ผัวยังไม่เห็นมาเลย” โอ้โห! แย่มากยายคนนี้ นั่งยังไม่ทันจะพองยุบ มาถาม ซะแล้วว่าผัวมาไหม

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

นัง่ ไปอีกวันหนึง่ รุง่ ขึน้ มาแต่มดื อีกแล้ว มานัง่ ปฏิบตั แิ ล้ว คืนยัน รุง่ เลย ก็เลยถามว่า นัง่ ปฏิบตั อิ ย่างไร บอก “พองหนอ ยุบหนอ ผัวไปทีไ่ หนหนอ พองหนอ ยุบหนอ เขาว่าไปทางเชียงใหม่หนอ แล้วผัวจะกลับมาไหมหนอ” แหม! มันแย่จริง ๆ ยายคนนี้ ผลสุ ด ท้ า ยก็ เ ลยบอกว่ า โยมนี่ บ าปมากด่ า สามี นี่ โ ยม ต้องขออโหสิกรรมต่อสงฆ์กอ่ น เสร็จแล้วนัง่ กรรมฐานได้ดบิ ได้ดี ร้องไห้เลย บอกคิดถึงผัว โธ่! พิโธ่เอ๊ย! เราไม่น่าจ้วงจาบด่าเขาเช่นนี้เลย ตั้งแต่นั้นมา อาตมาก็รู้กัน ก็โทรศัพท์ไปบอกสามีว่ากลับได้ ๆ พอสามีกลับมาก็คืนดี นี่เดี๋ยวนี้อยู่ด้วยกันมีลูก ๕ คนแล้ว นี่ขอฝากญาติโยมไว้ เล่าเรื่องจริงให้ฟังนะ


ทำ�กรรมฐานช่วยภรรยาจากนรกได้

โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

63 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เล่าถึงประวัติ นายปุ่น นางสอิ้ง นายปุ่นบวช ๒-๓ พรรษา สวดปาติโมกข์ได้รุ่นเก่าแก่นานมาแล้ว แล้วเจริญกัมมัฏฐาน เมื่อสึกแล้วก็มา แต่งงานกับแม่สอิ้ง อยู่ด้วยกันมีลูก ๒ คน ตาปุ่นเป็นคนร่ำ�รวยอยู่ในอำ�เภอ ท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ นายปุน่ นีม้ จี ติ ใจเป็นมหากุศลสวดมนต์ไหว้พระ ตลอด แต่ยายสอิง้ ใจบาปหยาบช้า มีรา่ งกายทีเ่ ขาเขียนรูปไว้ นุง่ ผ้าโจงกระเบน ใส่เสือ้ เตีย่ ว มีผมก็ทดั หู มีสร้อยใส่ ไปบ้านใครต้องลักขโมยตลอดเวลา แล้วมา วันหนึง่ นางสอิง้ ไปช่วยงานหลานตาปุน่ บวชในพระศาสนา นางสอิง้ ก็ลกั ทอง ลักสร้อยแล้วก็บุ้ยไปโทษหลานตาปุ่นที่ยากจนกว่า ตีเสียหัวร้างข้างแตก

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

เรื่องมาสร้างกุฏิกัมมัฏฐาน โดยหญิงสองร่าง นางสองชาติ อาตมาเคยคิดว่ามันจะมีอย่างไรเรื่องนรกสวรรค์ แต่มีประสบการณ์กับที่วัด เรานีเ่ อง เมือ่ ตอนทีอ่ าตมามาอยูท่ วี่ ดั นี้ พ.ศ.๒๔๙๙ พอดี ๒๕๐๐ กุฏกิ มั มัฏฐาน ไม่มีเลย ยังไม่ได้มาเริ่ม เริ่มมาจากที่อื่น สอนกัมมัฏฐานมาเมื่อ ๒๔๙๕ สอนมานาน เมื่อสอนแล้วมาอยู่ที่วัดนี้ มาเป็นเจ้าอาวาส มาประสบการณ์ กับหญิงสองร่าง นางสองชาติ จึงได้สร้างกุฏกิ มั มัฏฐานต่อเนือ่ งมาตามลำ�ดับ จนบัดนี้


แล้วยัดเยียดให้เป็นคนขโมย แท้จริงตัวเป็นคนขโมยแท้ ๆ ไม่มีใครเชื่อ ว่านางสอิ้งนี่เป็นขโมย เพราะเป็นคนรวย มีจิตใจเป็นอกุศลอย่างนี้ ทำ�บาป หยาบช้าเหลือเกิน สวดมนต์ก็ไม่เป็น นางสอิ้งอ่านหนังสือไม่ออก ตาปุ่น สวดคนเดียวแทน ตาปุ่นเป็นสามีที่ดีของศรีภรรยา ไม่มองภรรยาในแง่ร้าย แต่ประการใด ไม่มีการนินทาลูกเมียนี่ประการหนึ่ง

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

64 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ประการที่ ส อง เขานิ ย มการไปทำ � ไร่ ไ ถนา โฉนดไม่ มี ใครอยากจะมีขยันขันแข็งก็ไปถากถางเอาเอง บุกป่าฝ่าดงพงไพร มีนา อยู่ ห ลายร้ อ ยไร่ เ พราะด้ ว ยความขยั น พ่ อ แม่ ข องเขาทำ � สื บ เนื่ อ งกั น มา ตามลำ�ดับ มีบ้านทรงไทย ๒ หลังแฝด และเรือนหออีกหลังหนึ่ง มีครบ ทุกรายการ แล้วก็ทกุ ปีท�ำ นาไปปลูกโรงนาอยูก่ ลางทุง่ กลางนา ในเมือ่ เป็นเช่นนี้ เขามีลกู จ้าง ๕ คน จ้างมาจากภาคอีสานคนละ ๒๐ บาท ข้าวคงจะเกวียนละ ๔๐ หรือ ๘๐ จำ�ไม่ได้มนั นานแล้ว เวลาไปอยู่โรงนา ตาปุน่ ก็ต้องเฝ้าบ้านอยู่กะแม่ แต่เมียเป็นคนจัดการเสร็จ แล้วเมื่อก่อนนี้มีกระแทะมีเกวียน เวลานวด ข้าวเสร็จแล้ว ก็ต้องเอาสากเอา ใช้ลมกลางทุ่ง เวลาก่อนจะนวดก็ใช้ลูกจ้าง ไปลักข้าวเขาตามโน่นตามนีม่ าใส่ ทุกปีลกั ข้าวเขามาใส่บาปมาก ไม่มใี ครจับได้ เพราะเนือ่ งจากว่า ตาปุน่ นางสอิง้ ในหมูบ่ า้ นตำ�บลนัน้ เป็นนายทุนให้แก่คนอืน่ อีกหลายทุนด้วยกัน สามีก็ไม่ทราบว่าภรรยาเป็นขโมย แล้วปีสุดท้าย นางสอิ้งมีทอง ๒ เส้น สายสะพายหนักเส้นละ ๘ บาท ปีนั้นกำ�ลังตั้งครรภ์ขึ้นอีก ก็ใจคอหงุดหงิดสังหรณ์ในใจว่า ปีนี้ โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ออกไปทำ�นาก็มีโรงนาปลูก ไปประจำ�จนเกี่ยวข้าว


ขายเรียบร้อย นางสอิง้ เอาทองไปฝังในโรงนา โดยทีค่ ดิ อกุศล กลัวลูกจ้างจะลัก อยู่บ้านกลัวจะไม่ปลอดภัย แล้วก็ใช้วิธีอย่างเดิม ให้ลูกจ้างไปลักข้าวอีก ยังไม่ทนั นวด พอดีเกิดคลอดบุตรตายทัง้ กลมคานา ตายแล้วตาปุน่ ก็จดั งานศพ

ต่อมานายปุ่น เห็นเรือนหอคิดถึงภรรยาทุกวัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ตอ้ งการเอาเรือนหอไปถวายวัด เอาไปปลูกกุฏเิ ป็นทรงไทยต่อไปตามลำ�ดับ สมภารเจ้าวัดก็เห็นด้วย นายปุ่นก็สร้างกุฏิ เมื่อเสร็จแล้วก็ฉลองกันใหญ่

65 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

กล่าวถึงภพมนุษย์ ตาปุ่นก็คิดถึงลูกเมีย เมื่อนวดข้าวเสร็จ เรียบร้อยก็ขายส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็เอาไปก่อพระเจดีย์ทรายข้าวเปลือก อุทิศส่วนกุศลให้แม่สอิ้งศรีภรรยาของตน พออุทิศส่วนกุศลให้แล้ว ก็ได้ ความว่าในโลกเมืองนรกนั้นได้อภัยโทษ นางสอิ้งได้คุณงามความดีสวดมนต์ ไหว้พระในเมืองนรก คงจะเป็นยมบาลบอกเหตุการณ์ให้นางสอิ้งฟังว่า สามีของเธอได้เอาข้าวทีร่ ว่ มงานกันเอามาก่อพระเจดียท์ รายข้าวเปลือกในวัด และอุทิศส่วนกุศลมาให้เธอ ก็ขอให้อภัยโทษเธอ ๒๐ ปี เหลือ ๘๐ ปี

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

นางสอิ้ ง เล่ า ว่ า รู้ ห มดไปตกนรก ๑๐๐ ปี เวลาถึ ง วั น โกน วันพระ มีพระมาลัยมาโปรดสั่งสอนในวันพระ แล้วในเมืองนรกเขาให้ สวดมนต์ไหว้พระ นางสอิ้งไม่เคยสวดได้เมื่อตอนอยู่ภพมนุษย์ นางสอิ้ง สวดได้หมด ทำ�วัตรเช้าเย็น พระมาลัยไปโปรด เทศน์เรื่องกรรมในโลก ของนรกนั้ น ในภพนั้ น ได้ ส วดมนต์ ไ หว้ พ ระเจริ ญ วิ ปั ส สนากั ม มั ฏ ฐาน เหมือนกัน สอนอย่างนั้น


มีหมอลำ�และมีหนังตลุง ๒ อย่าง ฉลองวันไหนรู้หมด ฉลองเสร็จแล้ว ก็ถวายเป็นการสงฆ์ให้แก่พระสงฆ์ทกุ สารทิศทีม่ าจากทิศใดก็ตาม ถวายเป็น สังฆทานอุทศิ แด่พระสงฆ์ เรียบร้อยแล้วก็อทุ ศิ ส่วนกุศลให้แก่ภรรยาของตน ก็ได้ลดอภัยโทษอีก ๒๐ ปี เหลือ ๖๐ ปี

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

66 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

นายปุ่นก็คิดว่าลูกก็โตแล้ว พ่อจะบวชในพระศาสนา บวชเพื่อ อุทิศส่วนกุศลให้ภรรยาของตนต่อไป สึกลาสิกขาเพศแล้วก็แต่งงานใหม่ ก็ได้ปรึกษาสมภาร ๆ ก็ว่าไม่ต้องสวดปาติโมกข์หรอก เคยสวดปาติโมกข์ได้ บวชแล้วก็ให้ถอื ธุดงควัตร ปฏิบตั ฉิ นั ข้าวเวลาเดียวอยูใ่ นป่าช้า เจริญวิปสั สนา กัมมัฏฐาน เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ภรรยาของตนต่อไป ตาปุ่นก็ได้บวช ในพระศาสนาอยู่ ๑ พรรษา เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานอโหสิกรรม และอุทิศ ส่วนกุศลให้ภรรยา ก็ไม่ได้ทราบว่าภรรยาไปตกนรก หรือขึน้ สวรรค์ประการใด พอออกพรรษาก็ ก ราบลาสมภารสึ ก ลาสิ ก ขาเพศไป แล้ ว ไปแต่ ง งาน กับภรรยาใหม่ต่อไป เมื่อสึกไปแล้วกุศลผลบุญก็ไปถึงแม่สอิ้งในเมืองนรก ยมบาลก็ให้อภัยโทษอีก ๔๐ ปี บอกว่าสามีของเธอได้บวช ในพระศาสนา ได้เจริญวิปสั สนากัมมัฏฐานอุทศิ ส่วนกุศลมา ขอให้อภัยโทษ ๔๐ ปี เหลือ ๒๐ ปี ให้อภัยไม่ได้ ๒๐ ปีนี้ เพราะเธอมีโทษ หนึ่ง ลักทอง แล้วโยนความผิดไปให้คนอื่น สอง ที่บาปหนัก คือ ลักข้าว ให้อภัยไม่ได้ เธอจะเอาอย่ า งนี้ ไ หม ก็ เ ห็ น ว่ า เธอมี คุ ณ งามความดี สวดมนต์ ไ หว้ พ ระเป็ น หั ว หน้ า ในเมื อ งนรกเจริ ญ กั ม มั ฏ ฐานในที่ สุ ด


จะให้กลับไปอยู่ในเมืองมนุษย์ ๒๐ ปี ไปใช้หนี้ผัว และจะต้องไม่กลับมาที่นี่ แต่ให้สญ ั ญานะเจ้าจะต้องรักษาอุโบสถทุกวันพระ ทำ�ได้หรือไม่ ประการทีส่ อง จะต้องไปสร้างกุฏิกัมมัฏฐานเงิน ๑ ชั่ง ไม่เกินไม่ขาดเพื่ออุทิศส่วนกุศล มิฉะนั้นจะต้องกลับมาเมืองนรกอย่างนี้อีก อย่างนี้นางก็รับปาก

พออายุถึง ๑๕ ปีแล้ว ให้พาไปบ้านตาปุ่น เตี่ยอดรนทนไม่ไหว ก็พาไป อายุ ๑๕ ปีแล้ว รูปร่างสวยขาว เพราะเป็นลูกเจ๊ก แต่วญ ิ ญาณของนางสอิง้ คนเดิม พอไปถึงบ้านตาปุน่ ก็ถามว่าตาปุน่ จำ�ฉันได้ไหม ตาปุน่ ก็อายุ ๗๘ แล้ว ฉันนางสอิ้งยังไงเล่า ตาปุ่นเข้าใจผิดคิดว่าไอ้ตาแป๊ะนี่คงจะเสี้ยมสอนลูก ให้ว่าเป็นนางสอิ้งจะมาเอาสมบัติ เพราะตาปุ่นแกรวย ตาแป๊ะแกก็ไม่ใช่

67 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เมื่อเป็นเช่นนี้ พอ ๑๑ ปีผ่านไป ก็รำ�ลึกชาติได้ ว่าเตี่ยหนูนี่ไม่ใช่ ลูกเตี่ย ฉันนี้เป็นนางสอิ้งภรรยาตาปุ่น ตำ�บลโน้น เตี่ยก็ยังไงกัน ไปปรึกษา ตำ�บลโน้นตำ�บลนี้ เอาอย่างนี้ให้มันลืมเรื่องเสียว่าจะจริงเท็จยังไงไม่ทราบ ก็เอาไข่หลงรัง ไข่ที่ตายโคม ไข่ข้าวเอามาต้มให้กินมันก็ไม่ลืม

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ก็มาเกิดใกล้บ้านตาปุ่นประมาณ ๒ กิโลกว่า ๆ มาเกิดเป็นลูก ตาแป๊ะแก่ อยู่คนละตำ�บลแต่รู้จักกัน แป๊ะแก่ได้ภรรยามา ๑๕ ปี ไม่มีบุตร ภรรยาสาวแต่ผัวก็ ๕๐ กว่าแล้ว แต่เกิดมามีบุตรตอน ๑๕ ปีผ่านไป บุตรนั้น ได้แก่ นางสอิ้งนั่นเอง นางสอิ้งคนเดิมรูปร่างเหมือนนางยักษ์ขะหมูขี มีไฝ ขี้แมงวันเม็ดเบ้อเร่อ แล้วจอนตัดทัดใบหู ดำ�ปี๋ นุ่งผ้าโจงกระเบน ผอมเกร็ง อาตมารู้เพราะดูรูปที่เขาแต่งงานกับตาปุ่น


คนรวย พอมีพอใช้ มีอาชีพทางแลกข้าว ขายโชห่วย ก็เล่าให้ฟังตาปุ่น ก็ไม่ยอมรับเชื่อ “พี่ปุ่นจำ�ฉันได้มั้ยว่าตอนอยู่กับพี่ปุ่นมาตอนบวชหลาน ฉั น นี่ เ ป็ น คนลั ก ทอง แล้ ว ไปโทษหลาน ข้ อ เท็ จ จริ ง ฉั น เป็ น คนเอามา” เพิ่งมารู้ความจริงในชาตินี้ ยังไม่เชื่ออาจเป็นการเสแสร้งแกล้งเล่าก็ได้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

68

เรื่องที่ ๒ เล่าต่อไปว่า “พี่ปุ่นตอนที่ฉันออกลูกตายทั้งกลมนั้น ฉันไปตกนรกอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี พี่ปุ่นเอาข้าวไปถวายวัด ก่อพระเจดีย์ทราย ข้ า วเปลื อ ก ฉั น ก็ ไ ด้ ล ดโทษตามลำ � ดั บ นอกเหนื อ จากนั้ น ก็ เ อาเรื อ นหอ ไปถวายวัด ฉันก็รใู้ นวันทีเ่ ท่านัน้ ได้อทุ ศิ ส่วนกุศล ยังมีหมอลำ�และหนังตะลุง ในวันนั้น

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เรื่องต่อไป พี่ปุ่นได้บวชในพระศาสนา ฉันก็ได้รับบุญกุศล ลดโทษไปตามอันดับดังที่กล่าวแล้ว นอกเหนือจากนั้น ที่ฉันมาเกิดใหม่นี้ ได้ลดโทษานุโทษมาแล้ว แต่ ๒๐ ปี ลดไม่ได้เนื่องจากบาปลักทอง ลักข้าว ให้ อ ภั ย โทษไม่ ไ ด้ ฉั น ก็ ต้ อ งกลั บ มาอยู่ ก ะพี่ ปุ่ น ต่ อ ไป แล้ ว ได้ สั ญ ญา กับทางนรกมาว่า ให้รกั ษาอุโบสถทุกวันพระ สวดมนต์ไม่ขาด และต้องไปสร้าง กุฏิกัมมัฏฐานด้วยเงินหนึ่งชั่ง” ตาปุน่ รับฟังเฉย ๆ ยังเชือ่ แน่ไม่ได้ แม่สอิง้ ในร่างใหม่ ถามต่อไปว่า “พี่ปุ่น ทองหมั้นของฉันยังอยู่มั้ย” “ทองอะไร” “มีสายสะพาย ๒ เส้น หนัก เส้นละ ๘ บาท” ตาปุ่นก็นึกไม่ออก ไม่ทราบว่ายังอยู่มั้ย แต่มันไม่มี แล้วบัดนี้ จำ�ความได้ นางสอิ้งก็เล่าต่อไปว่า “พี่ปุ่นโรงนายังอยู่มั้ย” “โรงนาไม่มีอยู่แล้ว


เพราะนาก็แบ่งให้ลูกเก่าหมดแล้ว มีเขยมีสะใภ้ไปหมดแล้ว” นางสอิ้งบอก จำ�ได้เลา ๆ “ต้นกระทุ่มมีมั้ย” “ยังอยู่” ก็พากันออกไปที่นาเดินออกไปที่นา หลายกิโล จ้างเขาขุด ในที่สุดก็ได้สร้อยคืนมา ๒ เส้น หนักเส้นละ ๘ บาท ตาปุ่ น จึ ง ยอมรั บ ว่ า เป็ น นางสอิ้ ง ในที่ สุ ด ก็ ไ ม่ ก ลั บ ไปอยู่ ก ะเตี่ ย แม่ อยู่กะตาปุ่นต่อไป

69 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

อาตมาก็ตกใจข้อไหนรู้มั้ย ว่าไปลักข้าว อาตมานี่ตัวลักข้าว มากกว่ายายสอิ้งอีก มันตกใจ ตอนเป็นเด็กเวลาโรงเรียนปิด อย่าลืมอาตมา ไปกับยายเม้า ยายเม้าเป็นหมอตำ�แยเก่า ถามว่า “ป้าเก็บข้าวตกได้วนั ละเท่าไหร่” “ได้วนั ละกระผีก แล้วเอ็งได้เท่าไร” “ผมได้วนั ละ ๑๐ กว่าถัง” “เอ็งทำ�ไมเก็บได้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

แม่สอิ้งก็เ ล่ า ความให้ อ าตมาว่ า ๓ คนด้ ว ยกัน ภรรยาใหม่ อายุ ๗๒ สามี ๗๘ ก็ปรึกษาปรองดองกันว่า ฉันรับคำ�มั่นสัญญาจะต้องไป สร้างกุฏิกัมมัฏฐานให้ได้ สามคนนี้ก็เดินทางไปหาทางสร้างกุฏิกัมมัฏฐาน เอาสร้ อ ยไปด้ ว ย ไปปากน้ำ � โพ ลงเรื อ แดงจากปากน้ำ � โพ มากรุ ง เทพฯ แสวงหาว่าที่ไหนมีสำ�นักกัมมัฏฐาน ก็ให้เทวดาสนใจดลบันดาลสามคนนั้น ก็ลงเรือแดงมาขึ้นที่สิงห์บุรี อาตมาก็มาอยู่ที่วัดนี้ เขาก็ไปถามชาวตลาดว่า ที่ไหนเป็นสำ�นักวิปัสสนามีมั้ย จังหวัดสิงห์บุรีนี้ เลยพอดีไปเจอเอาญาติ ของโยมสุ่นหาบของไปขาย เขาก็เลยเล่าว่า อาตมาได้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาส ที่วัดอัมพวันแล้ว ลองเดินทางไปถามดูว่าจะสร้างกุฏิกัมมัฏฐานมั้ย เห็นท่าน สอนกัมมัฏฐานมาช้านาน เลยสามคนก็ลงเรือเมล์ตอ่ จากนัน้ ก็มาขึน้ ทีห่ น้าวัด ก็เดินเข้ามาหาอาตมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง


มากนัก” “ก็ยายไปเซ่อทำ�ไมทีเ่ ป็นฟ่อนนีก่ ใ็ ส่กระสอบเข้าซิ” แล้วข้าวทีเ่ ขานวด ไว้กลางทุ่งก็ใส่กระสอบเลย นี่ลักอย่างนี้ ลักมากกว่ายายสอิ้งอีก ถ้าหน้าข้าว ต้ อ งออกอย่ า งนี้ ตกใจแต่ ไ ม่ พู ด อะไร นางสอิ้ ง มี ป ระโยชน์ ที่ โ บสถ์ เ ก่ า เวลาพระทำ�วัตรเขาเข้าไปด้วย มาค้างหลายคืน โยโส ภควา สวดมนต์ทำ�วัตร เช้าเย็นได้ทั้งหมดดีกว่าพระ ได้มาจากเมืองนรก ตอนนั้นอายุ ๑๖ ปีแล้ว ตาปุ่น ๗๘ อาตมายังเย้าอยู่เลย นี่สอิ้งอยู่กะตาแก่ทำ�ไม ไม่อยู่กะหนุ่มดีกว่า เข้าท่ากว่า เพราะรูปร่างสวย มารยาทดี เปลี่ยนแปลงตามสภาพ สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

70 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ก็ แ ม่ ส อิ้ ง ได้ ส ร้ า งกุ ฏิ กั ม มั ฏ ฐานข้ า งโบสถ์ เ ป็ น หลั ง แรก เขาบอกว่าสร้างแล้วต้องมีน�้ำ หล่อ ไม่ให้มดขึน้ อาตมาก็ท�ำ เป็นน้�ำ หล่อ เดีย๋ วนี้ มาแปลงใหม่ สร้างเป็นหลังแรกของวัดนี้ สร้างเสร็จครบ ๘๐ บาทพอดี บ้านทายกชื่อโยมเล็ก สุขสายพงศ์ ปีเดียวกะตาปุ่น ๗๘ ต้องมาพักบ้านนี้ อาศัยข้าวบ้านนี้ทาน ตอนนั้นโรงครัวไม่มี บ้านอยู่ข้างวัด เริ่มกัมมัฏฐาน หมดเงิน ๘๐ บาทพอดี ไม่เกินไม่ขาด พอสร้างเสร็จเขาก็กลับบ้านกลับไปแล้วอาตมาตามไปดูบ้าน ทองก็ได้เห็น ขอจับดูด้วย หลังจากนั้นตาปุ่นเริ่มเป็นอัมพาต ต้องป้อนข้าว ป้อนน้ำ�เช็ดก้น ก็ได้นางสอิ้งปรนนิบัติ เมียใหม่ก็ไม่ได้ทำ�อะไร อยู่คนละหลัง ก็ปฏิบัติได้อย่างดีมาก ทั้ง ๆ ที่สาวกะตาแก่คนนี้ แม่สอิ้งอีก ๔ ปี ครบ ๒๐ ปี ตามสัญญาในเมืองมนุษย์


อาตมาก็ติดตามผลสรุปแล้วได้ความว่าพออายุ ๒๐ ปีพอดี ตาปุ่นยังไม่ตาย เป็นอัมพาต นางสอิ้งก็ปรนนิบัติเรียบร้อยดีทุกอย่าง พอดี วันนั้นทำ�กับข้าวไปวัด พอเสร็จแล้ว นางสอิ้งก็ฟุบลงไปตายคาที่ อายุ ๒๐ ปี บริบูรณ์ อาตมายังไปเผา

71 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เรื่ อ งนี้ ชี้ ใ ห้ เ ห็ น ว่ า หญิ ง ๒ ร่ า ง นาง ๒ ชาติ บาปกรรม นักหนา แล้วเมืองนรกก็มีการสวดมนต์ไหว้พระ นางสอิ้งก็ถึงแก่ความตาย ตามสัญญา ๒๐ ปี พอดี วัดนีก้ ไ็ ด้กฏุ กิ มั มัฏฐานของแม่สอิง้ อาตมาก็กลัวเกรง ไปว่า บาปกรรมจะติดพันมา เดีย๋ วจะให้อภัยโทษไม่ได้ เลยสร้างกุฏกิ มั มัฏฐาน เป็ น การใหญ่ สร้ า งเป็ น ห้ อ งแถวให้ ท่ า นพั ก บอกลู ก หลานไว้ ด้ ว ยว่ า อยากปัญญาดีมยั้ ขัดส้วม รับรองปัญญาดีทกุ คน ไม่ใช่เรือ่ งโกหก อาตมาไปซือ้ บานประตู หน้าต่างจากกำ�แพงเพชร ไปเจอเด็กคนหนึ่ง บอกหลวงพ่อ หลานคนนี้หัวไม่เอาไหนเลย สอบตกอยู่เรื่อยอยากจะเรียนหนังสือ ทำ�ไง จะมีปญ ั ญา บอกว่ามาบวชเณรทีน่ ี่ พอบวชแล้วเณรขัดส้วม บอกผมอยูท่ บี่ า้ น ไม่เคยขัด ตื่น ๒ โมงเช้า ใครหาข้าวให้กิน บอกแม่ ก็ขัดส้วมขัดไปขัดมา ก็รักความสะอาด อยู่มาได้หน่อยสึก แล้วไปเรียนหนังสือต่อ เรียนไปเรียนมา กลายเป็นผู้พิพากษา ไปสอบได้ที่หนึ่งเลย นี่ขัดส้วม

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

เรื่องนี้เป็นความจริง พอนางสอิ้งตาย ตาปุ่นก็ ๘๐ กว่าปีแล้ว เผานางสอิง้ เรียบร้อยก็ตาปุน่ ตาย อีก ๒ ปี เมียใหม่กต็ ายหมด บัดนีบ้ า้ นก็แยกย้าย กันไป เมื่อเร็ว ๆ นี้ อาตมาไปเทศน์ที่ตำ�บลท่าตะโก ยังมีคนยังรับรู้อยู่อีกคน อายุ ๙๑ ปี เจ้ า คณะอำ � เภอเก่ า พระครู นิ พั น ธรรมคุ ต ท่ า นเป็ น เจ้ า คุ ณ ท่านก็มรณภาพไปนานแล้ว


ภาคผนวก

การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แนวสติปัฏฐาน ๔ ธรรมะเทศนา โดย

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตฺธมฺโม)

รวบรวมจากหนังสือ “กฎแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ” และหนังสือ “สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ”


ต้องการให้จิตอยู่ที่ ต้องการให้มีการกำ�หนดจิต โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์

“สติ ปั ฏ ฐาน สติ อ ยู่ ที่ ฐ าน เป็ น การรองรั บ ให้ จิ ต อยู่ ที่ ไม่ให้จิตเพ่นพ่าน ไม่ให้จิตฟุ้งซ่าน ไม่ให้จิตมันไปเครียด”

ข้อที่ ๑ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน แปลตามศัพท์ว่า พิจารณา กายในกายนี้ สักแต่ว่ากาย ไม่มีตัวตนบุคคลเราเขา แต่โดยวิธีปฏิบัติแล้ว ให้เอาสติ เอาจิตเพ่งดูกาย ยืน เดิน นั่ง นอน เหลียวซ้ายแลขวา จะคู้แขน เหยียดขาต้องติดตามดู คือ ใช้สตินี่เอง ดูร่างกายสังขารของเรา อันนี้เรารู้ไว้ เป็นเบื้องต้นก่อนสำ�หรับข้อที่หนึ่ง ข้อที่ ๒ เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน เวทนาเป็นสภาพที่ทนอยู่ ไม่ได้ บัญชาการไม่ได้ ต้องเป็นตามสภาพนี้และเป็นไปตามธรรมชาติเหล่านี้ เวทนามีอยู่ ๓ ประการ ได้แก่ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อุเบกขาเวทนา

73 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สติปัฏฐานสี่ มีอยู่ ๔ ข้อ สำ�หรับผู้ปฏิบัติธรรมใหม่ จงท่อง ความหมายนี้ไว้ก่อน

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

การบำ�เพ็ญจิตภาวนาตามแนวสติปัฏฐานสี่ ของพระพุทธเจ้า ของเรานี้ วิธีปฏิบัติเบื้องต้น ต้องยึดแนวหลักสติ เป็นตัวสำ�คัญ


ทั้ง ๓ ประการนี้ จุดมุ่งหมายก็ต้องการจะให้สติไปพิจารณา เวทนานัน้ ๆ เช่น ฝ่ายสุข ก็มที งั้ สุขกายสุขใจ อันนีเ้ รียกว่า “สุขเวทนา” แล้วก็ ทุกข์กายทุกข์ใจ หรือจะว่าทุกข์ทางด้านกายและใจก็ได้ เรียกว่า “ทุกขเวทนา” อุเบกขาเวทนาก็คือ ไม่สุข ไม่ทุกข์ จิตใจมักจะเลื่อนลอยหาที่เกาะไม่ได้ เรียกว่า “อุเบกขาเวทนา”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

74

วิธีปฏิบัติต้องใช้สติกำ�หนดคือ ตั้งสติระลึกไว้ ดีใจก็ให้กำ�หนด กำ�หนดอย่างไรหรือ กำ�หนดที่ลิ้นปี่ หายใจยาว ๆ จากจมูกถึงสะดือให้ได้ หายใจขึ้นลงยาว ๆ กำ�หนดว่า “ดีใจหนอ ๆ”

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ทำ�ไมต้องปฏิบตั เิ ช่นนีเ้ ล่า เพราะความดีใจและสุขกายสุขใจนัน้ เดีย๋ วก็ทกุ ข์อกี สุขเจือปนด้วยความทุกข์อย่างนี้ เพือ่ ความไม่ประมาทในชีวติ ของเรา จะต้องรู้ล่วงหน้า รู้ปัจจุบันด้วยการกำ�หนด จึงต้องกำ�หนดที่ลิ้นปี่ บางคนบอก กำ�หนดทีห่ วั ใจ ถูกทีไ่ หน? หัวใจอยูท่ ไี่ หนประการใด อันนี้ผู้ปฏิบัติยังไม่ต้องรับรู้วิชาการ ทิ้งให้หมด ปฏิบัติตรงนี้ให้ได้ ลิ้นปี่เป็นขั้วแบตเตอรี่ชาร์จไฟฟ้าเข้าหม้อ ทุกคนไปแปรธาตุ การปฏิ บั ติ ไ ม่ ใ ช่ ก ารวิ จั ย ไม่ ใ ช่ ป ระเมิ น ผล แต่ เ ป็ น การให้ ผุ ด ขึ้ น มาเอง โดยปกติ ธ รรมดานี่ แ หละ ให้ มั น ใสสะอาด รู้ จ ริ ง รู้ จั ง รู้ ปั จ จั ต ตั ง เวทิตัพโพ วิญญูหีติฯ ให้รู้ขึ้นมาเอง คำ�ว่า “รูเ้ อง” นีท่ �ำ ยาก รูว้ ชิ าการทำ�ง่าย อ่านหนังสือท่องได้กไ็ ด้ แต่รเู้ องให้ใสสะอาดขึน้ มารูย้ าก ทำ�ไมจะรูไ้ ด้งา่ ย ต้องปฏิบตั ขิ นึ้ มา ดีใจ เสียใจ มีความสุขกาย สุขใจ อย่าประมาทเลินเล่อนัก เราต้องตัง้ สติทกุ อิรยิ าบถตามกำ�หนด


การกำ � หนดจิ ต นี้ หมายความว่ า ให้ ตั้ ง สติ เป็ น วิ ธี ป ฏิ บั ติ สั ม ปชั ญ ญะ มี ค วามรู้ ตั ว อยู่ ต ลอดปั จ จุ บั น อย่ า งนี้ เป็ น ต้ น อดี ต ไม่ เ อา อนาคตไม่เอา ให้เอาปัจจุบนั ทีม่ นั เกิดขึน้ ให้ปฏิบตั อิ ย่างนี้ โดยข้อปฏิบตั งิ า่ ย ๆ ถ้าเสียใจ มีความทุกข์ใจ มันอยู่ในข้อนี้ จึงต้องกำ�หนดที่ลิ้นปี่ “เสียใจหนอ ๆ” หายใจลึก ๆ ยาว ๆ เสียใจเรือ่ งอะไร เป็นการป้อนข้อมูลไว้ให้ถกู ต้อง

ปวดหั ว เข่ า ปวดที่ ไ หนก็ ต าม ต้ อ งตามกำ � หนด กำ � หนด เป็ น ตั ว ปฏิ บั ติ เ ป็ น ตั ว ระลึ ก เอาจิ ต ไปสู่ จุ ด นั้ น เป็ น อุ ป าทานยึ ด มั่ น ก่ อ น เพราะเราจะก้ า วขึ้ น บั น ไดก็ ต้ อ งเกาะยึ ด เราจะก้ า วต่ อ ไปก็ ต้ อ งปล่ อ ย นี่อุปาทาน ถ้าใหม่ ๆ นี้เรียกว่าสมถะ สมถะยึดก่อน แล้วปล่อยไปก็เป็น วิปสั สนา เป็นต้น เราจะทราบความจริงถึงจะเป็นวิปสั สนาขึน้ มาต่อภายหลัง เพราะฉะนั้ น ผู้ ป ฏิ บั ติ ต้ อ งเข้ า ใจอย่ า งนี้ ต้ อ งกำ � หนด ส่ ว นใหญ่ ไม่ กำ � หนดกั น จึ ง ไม่ รู้ เ รื่ อ งราวอย่ า งนี้ เป็ น ต้ น มี ค วามสุ ข ทางไหนก็ตาม เดี๋ยวจะทุกข์อีก นี่มันแก้ไม่ได้เพราะอย่างนี้

75 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ปวดเมื่อย เป็นเวทนาทางกาย แต่จิตไปเกาะอุปาทานยึดมั่น ก็ปวดใจไปด้วย เช่น เราเสียใจ ร่างกายไม่ดี สุขภาพไม่ดีเป็นโรคภัยไข้เจ็บ จิ ต มั น ก็ เ กาะที่ เ จ็ บ นั้ น จึ ง ต้ อ งให้ กำ � หนดด้ ว ยความไม่ ป ระมาท เป็ น วิ ธี ฝึกปฏิบัติ ก็กำ�หนดเวทนานั้น

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

สติ นี่ ร ะลึ ก ได้ หมายถึ ง ตั ว แจงงาน หาเหตุ ที่ ม าของทุ ก ข์ ตัวสัมปชัญญะเป็นตัวบอกให้รู้ให้มีความเข้าใจ เรียกว่า ปัญญา รู้เท่าทัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบันนั่นเอง คนเรานี่จึงต้องกำ�หนดที่เวทนานี้


เกิดทีไ่ หนต้องแก้ทนี่ นั่ ไม่ใช่ไปแก้กนั ทีอ่ นื่ หาเหตุทมี่ าของมัน คือ สติ สติเป็นตัวกำ�หนด เป็นตัวหาเหตุ เป็นตัวแจงเบี้ยบอกให้รู้ถึงเหตุผล ตัวสัมปชัญญะ รู้ทั่ว รู้นอก รู้ใน นั่นแหละ คือ ตัวปัญญา ความรู้มันเกิดขึ้น ตัวสมาธิ หมายความว่า จับจุดนั้นให้ได้ เช่น เวทนาปวดเมื่อย เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติมาก จึงต้องให้กำ�หนด ไม่ใช่ว่ากำ�หนดแล้ว มันจะหายปวดก็หามิได้ ต้องการจะใช้สติไปควบคุมดูจิตที่มันปวด สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

76

เพราะปวดนี่เราคอยยึดมั่น จิตก็ไปปวดด้วย เลยก็กลับกลาย ให้เกิดทุกข์ใจขึ้นมา เพราะอุปาทานไปยึดขึ้นมาอย่างนี้ เป็นต้น จุดมุ่งหมาย ก็ต้องการให้เอาสติไปดูไปควบคุมจิตว่า มันปวดมากแค่ไหน ประการใด

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

อุเบกขาเวทนาไม่สุข ไม่ทุกข์ ใจก็ลอยหาที่เกาะไม่ได้ ใจลอย เหม่อมองไปแล้วเห็นคนเป็นสองคนไป จึงต้องกำ�หนดอุเบกขาเวทนา กำ�หนด ที่ไหน กำ�หนดที่ลิ้นปี่ หายใจยาว ๆ ลึก ๆ สบาย ๆ แล้วก็ตั้งสติระลึกก่อน กำ�หนด “รู้หนอ ๆ ๆ” ถ้ า เราสร้ า งคอมพิ ว เตอร์ ขึ้ น มาได้ ค รบ ป้ อ นข้ อ มู ล เข้ า ไป “รู้หนอ ๆ” เดี๋ยวสติก็รวมยึดมั่นในจิต จิตก็แจ่มใส ความทุกข์นั้นก็จะหายไป อุเบกขาเวทนาไม่สุขไม่ทุกข์ ส่วนใหญ่จะประมาทพลาดพลั้ง จึงต้องพยายามมีสติกำ�หนดทุกอิริยาบถดังที่กล่าวนี้


ข้อที่ ๓ จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ต้องท่องให้ได้ ทำ�ไมเรียก จิตตานุปสั สนาสติปฏั ฐาน ฐานของจิตต้องยึดในฐานทัพนี้ จิตเป็นธรรมชาติ ที่คิดอ่านอารมณ์ รับรู้อารมณ์ไว้ได้เหมือนเทปบันทึกเสียง จิตเกิดที่ไหน ผู้พัฒนาจิตต้องรู้ที่เกิดของจิตอีกด้วย

“เห็นหนอ ๆ” เห็นอะไร? เห็นรูป รูปอยู่ที่ไหน สภาวะรูปนั้น เป็นอย่างไร สภาพผันแปรกลับกลอกหลอกลวงได้ เยื้องย้ายได้ทุกประการ เรียกว่า รูป เป็นเรื่องสมมติ และเป็นเรื่องทำ�ลายได้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรปรวน ดับไป คือรูป ต้องกำ�หนด นักปฏิบัติอย่าทิ้งข้อนี้ไม่ได้ ในจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นธรรมชาติของจิตเกิดที่ตา เกิดแล้วกำ�หนด ไม่ใช่วา่ เราแส่ไปหากำ�หนดข้างนอก ตาเห็นอะไรก็ก�ำ หนดว่า “เห็นหนอ” ทำ�ไมต้องกำ�หนดด้วย เพราะจิตมันเกิด ตาสัมผัสกับรูปเกิดจิต ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เห็นของเหล่านั้น เรายังไม่มีปัญญา

77 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

วิธปี ฏิบตั ทิ �ำ อย่างไร? ให้ท�ำ อย่างนี้ ทีม่ าของจิตรูแ้ ล้ว เกิดทางตา ตาเห็น เห็นอะไรก็ตั้งสติไว้ จับจุดไว้ที่หน้าผาก อุณาโลมา.. กดปุ่มให้ถูก เหมือนเรากดเครื่องคิดเลข บวกลบคูณหารมีครบ กดปุ่มให้ถูกแล้วผลลัพธ์ จะตีออกมาอย่างนี้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

จิตเกิดทางอายตนะธาตุอนิ ทรียน์ เี่ อง จะพูดเป็นภาษาไทยให้ชดั ตาเห็นรูปเกิดจิตที่ตา หูได้ยินเสียงเกิดจิตที่หู จมูกได้กลิ่นเกิดจิตที่จมูก ลิ้นรับรสเกิดจิตที่ลิ้น กายสัมผัสร้อนหรือหนาว อ่อนหรือแข็งที่นั่งลงไป เกิดจิตทางกาย เรียกว่า จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน


เราชอบไหม ชอบเป็นโลภะ ไม่ชอบเป็นโทสะ เราไม่ใช้สติ เลยกลายเป็นคนโมหะ รู้ไม่จริง รู้แค่ตาเนื้อไม่รู้ตาใน ดูด้วยปัญญาไม่ได้ เลยดู ด้วยโมหะ คนเราจึงได้เลอะเทอะเปรอะเปื้อน ไปดังที่กล่าวแล้ว ต้องใช้สติ นีข่ อ้ จิตตานุปสั สนาสติปฏั ฐาน เป็นธรรมชาติของจิต ต้องพัฒนา ตรงนี้ ต้องกำ�หนดทุกอาการทุกอิริยาบถ หูได้ยินเสียง หูกับเสียงอย่างไร? ไกลแค่ไหนอย่างไรไม่ต้องไปประเมินผล ไม่ต้องวิจัย ห้าม! ห้ามเพราะเหตุใด สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

78

เพราะมันเป็นวิปัสสนึกไป นึกขึ้นมาก็วิจัยตามหลักวิชาการ มันจะไม่ได้ผล เราก็ตงั้ สติไว้ทหี่ ู ฟัง “เสียงหนอ” เราฟังเฉย ๆ ไม่ได้หรือ ทำ�ไม ต้องกำ�หนดด้วย?

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ถ้ า เราไม่ กำ � หนดเราจะขาดสติ ถ้ า กำ � หนดก็ เ ป็ น ตั ว ฝึ ก สติ ให้มสี ติอยูท่ หี่ ู จะได้รวู้ า่ เสียงอะไร? “เสียงหนอ ๆ” กำ�หนดเสียงเฉย ๆ ได้ไหม ได้! แต่ไม่ดี เพราะเหตุใด “หนอ” นี้เป็นการรั้งจิตให้มีสติดี มีความหมายอย่างนั้น คำ�ว่า “หนอ” ตัวนี้เป็นภาษาไทย หนอดีมาก เราจะบอกว่า “เสียงหนอ” มันรั้งจิต ได้ดีมาก มีสติดีในการฟัง ระลึกหนอว่าเสียงเขาด่า เสียงเขาว่า หรือเสียง เขาสรรเสริญเยินยอ ประการใด สัมปชัญญะ ตัวรู้ว่าเสียงนี้ของนาย ก. เสียงนี้ของนาง ข. มาพู ด เรื่ อ งอะไร ตั ว สติ จ ะแจงเบี้ ย หาเหตุ ที่ พู ด ทำ � ไมเขาจึ ง พู ด เช่ น นี้ ตัวสัมปชัญญะก็บอกกับเราว่า อ๋อเขาพูดนี่เพราะอิจฉาเรา เขาด่าเรา มาว่าเรา สติบอก สัมปชัญญะเป็นตัวคิด ปัญญาก็แสดงออก คอมพิวเตอร์ตีออกมาว่า


เสียงนี้ไร้ประโยชน์ เกิดขึ้นตั้งอยู่ก็วูบดับไปทันทีที่หู เลยก็ไม่ต่อเนื่องเข้ามา ภายในจิต เราก็ไม่มีการเศร้าหมองใจ เพราะข้อคิดนี้ เพราะฉะนั้นนักปฏิบัติ ต้องกำ�หนดตรงนี้ ไม่ใช่เดินจงกรม นั่ ง ปฏิ บั ติ พ องหนอยุ บ หนอให้ ไ ด้ ไม่ ใ ช่ ต รงนั้ น ตรงนั้ น เป็ น ตั ว สร้ า ง คอมพิวเตอร์ให้มีพลังในข้อคิดของวิปัสสนาญาณอีกประการหนึ่งต่างหาก

ฟัง อ๋อเขาด่า ด่ามาโดยสมมติว่าด่าเรา คิดว่าอย่างนั้น แต่เราอยู่ ตรงไหน ก็หาตัวเราไม่ได้ ตัวเราไม่ดี อย่างนี้คือ ปัญญา ไม่มีตัวตน ไม่มีบุคคล แต่เป็นโดยสมมติขึ้นมาที่เขาด่าเท่านั้น แล้วก็แปรปรวนเปลี่ยนแปลงสภาพ ของมันแล้วก็หลุดไป ดับวูบไปที่หู อันนั้นก็หมดสิ้นไป นี้เรียกว่า ตัวปัญญา นักปฏิบัติต้องกำ�หนดทุกอิริยาบถในการฝึก เป็นการดัดนิสัย ให้เข้าสู่จุดมุ่งหมายของผู้มีปัญญา เป็นความเคยชินจากการปฏิบัติธรรม ส่วนใหญ่พูดอย่างนี้ใครก็ทำ�ได้ใครก็รู้ แต่ปฏิบัติจริง ๆ ไม่ได้ เพราะไม่เคย

79 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“เสียงหนอ ๆ” ไม่ใช่เท่านี้เลยนะ เสียงเขาด่า ใช่แล้ว ถ้าเรา มีสมาธิดี สะสมหน่วยกิตสติปัฏฐานสูตรไว้ชัดเจน เสียงหนอก็รู้แล้ว อ๋อ... เขาด่าเรา ด่าเราตรงไหน มีตัวตนตรงไหนบ้าง ที่เราจะถูกด่าแล้วเจ็บช้ำ�น้ำ�ใจ เช่นนี้ เราก็ใช้ปัญญานี้เอง

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ผู้ปฏิบัติต้องเริ่มต้นด้วยการพิจารณาดูจิต จิตเกิดทางหู ถ้าเรา สร้างเครื่องได้ดีแล้ว ป้อนข้อมูลถูก สร้างระบบถูก ข้อมูลในจิตคือ อารมณ์ ที่เราเก็บเอาไว้นานนักหนาแล้ว คลี่คลายไม่ออกแฝงไว้ในอารมณ์ คือ โลภะ โทสะ โมหะ ทำ�ให้จิตเศร้าหมองมาช้านานไม่ผ่องใส จึงต้องกำ�หนดอย่างนี้


กำ�หนดเลยปล่อยเลยไปหมด เข้ามาถึงจิตใจภายในจิต คือ ประตูทั้ง ๖ ช่อง เข้ามาถึงห้องในทีน่ อนของเราแล้วจนแต้ม จนด้วยเกล้า จนด้วยปัญญา แก้ไข ปัญหาไม่ได้เลย เพราะมันอยู่ในจุดนี้เป็นจุดสำ�คัญ

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

80

แต่ผู้ปฏิบัติธรรมเอาไปทิ้งหมด ไม่เคยปฏิบัติจุดนี้เลย มีแต่ จะจ้องเดินจงกรม จ้องท้องพองหนอยุบหนออย่างเดียว เป็นไปไม่ได้ ไม่ครบ สติ ปั ฏ ฐานสี่ ปฏิบัติในข้อจิต ตานุปัส สนาสติ ปั ฏฐานสู ต ร ข้ อ นี้ เ ป็ นข้ อ อินทรียห์ น้าทีก่ ารงานทีจ่ ะต้องรับผิดชอบตัวเอง ต้องกำ�หนด “เสียงหนอ ๆ” ถ้ า กำ � หนดไม่ ทั น มั น เลยเป็ น อดี ต ไปแล้ ว เกิ ด เข้ า มาในจิ ต ใจเกิ ด โทสะ เกิดโกรธขึ้นมาทันที ทำ�อย่างไร? ไปเสียงหนออีกไม่ได้ ต้องกำ�หนดตัว สัมปชัญญะ กำ�หนดที่ไหน กำ�หนดที่ลิ้นปี่

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

บางทีไปสอนไม่เหมือนกันเสียแล้ว หลับหูหลับตาว่าส่งเดชไป จะถูกจุดได้อย่างไร กดเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ถูก กดไม่ถูกจุดแล้วมันจะออก มาอย่างที่เราต้องการไม่ได้ นี้สำ�คัญ ผู้ปฏิบัติเน้นในข้อนี้ให้มากต้องกดที่ลิ้นปี่ แต่อรรถาธิบาย อย่ า งไรนั้ น จะไม่ อ ธิ บ ายในที่ นี้ ขอให้ ท่ า นโง่ ไ ว้ ก่ อ น อย่ า ไปฉลาด ตอนปฏิบัติ เดี๋ยวจะไปคิดเอาเอง เกิดขึ้นมาเดี๋ยวท่านจะได้ของปลอมไปนะ จะได้ของไม่จริงไปอย่างนี้ กำ � หนดที่ เ ลยเป็ น อดี ต แล้ ว ต้ อ งกำ � หนดอยู่ อ ย่ า งเดี ย ว คื อ “รู้ ห นอ” ไว้ ก่ อ น รู้ ว่ า อะไรก็ ยั ง บอกไม่ ไ ด้ ทำ � ไมจะรู้ จ ริ ง ทุ ก สิ่ ง ต้องกำ�หนดทั้งนั้น ที่ลิ้นปี่ หายใจยาว ๆ หายใจอย่างไร?


ต้ อ งตั้ ง สติ ไ ว้ ที่ ลิ้ น ปี่ ดู ล มหายใจจากจมู ก ถึ ง สะดื อ แล้ ว ก็ ตั้งสติไว้ที่ลิ้นปี่ หายใจยาว ๆ “รู้หนอ ๆ” เพราะมันเลยไปแล้วเป็นอดีต กำ�หนดปัจจุบันไม่ได้ ต้องกำ�หนดตัวรู้อย่างนี้ เป็นต้น รับรองได้ผลแน่ ข้อที่ ๔ ธรรมานุปสั สนาสติปฏั ฐาน ธรรมในธรรม หมายความว่า เรามี ส ติ ปั ญ ญาจะรู้ แ ยกจิ ต ของเราว่ า คิ ด เป็ น กุ ศ ลหรื อ อกุ ศ ล ถู ก ต้ อ ง หรือไม่ถูกต้อง จะตัดสินอยู่ที่ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ในข้อที่ ๔ นี้

เรียกว่า ทำ�นอก ทำ�ใน ทำ�จิต ทำ�ใจ ทำ�อารมณ์ แสดงออก เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง ส่วนใหญ่เราจะเข้าข้างตัวเอง เลยคิดว่าตัวเองน่ะ คิดถูก ทำ�ถูกแล้ว ถ้าเรามานั่งเจริญกรรมฐานแก้ไขปัญหา กำ�หนด “รู้หนอ ๆ” คือ ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน เพราะเรายังไม่รู้จริง “รู้หนอ” หายใจยาว ๆ “รูห้ นอ ๆ ๆ” เดีย๋ วรูเ้ ลย ว่าทีเ่ ราทำ�พลาดผิดเป็นอกุศลไม่ใช่กศุ ล เป็นอกุศลกรรม จากการกระทำ�ทางกาย วาจา ใจ ก็ถา้ แสดงออกเป็นอกุศล นีธ่ รรมานุปสั สนา เชิงปฏิบัติการ ไม่ใช่วิชาการนะ

81 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เป็นการปฏิบตั กิ ารในธรรมานุปสั สนาสติปฏั ฐาน ธรรมในธรรม ทำ�นอกทำ�ใน ธรรมกับทำ�มันต่างกัน ทำ�ไปแล้วเป็นกุศลหรืออกุศล ทัง้ ทางโลก ทางธรรมมันอยู่รวมกันนี่ ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ข้าพเจ้าทำ�งานนี้ไปเป็นกุศลหรืออกุศล เดี๋ยวจะรู้ตัวตนขึ้นมา ทันทีมีปัญญา เรียกว่า ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน อาตมาหมายความถึง ปฏิบัติการ ไม่ใช่วิชาการ วิชาการจะไม่อธิบายอย่างนี้


บางคนบอกหลวงพ่อวัดอัมพวันอธิบายผิดแล้ว ใช่ มันผิดหลัก วิชาการ แต่มันถูกปฏิบัติการ มันจะรู้ตัวเลยว่า เราทำ�ไปนั่นเป็นกุศล ผลงาน ส่งผล คือเป็นบุญ เป็นความสุข “รู้หนอ” อ๋อรู้แล้วไปโกรธมันทำ�ไม ไปโกรธรูปนาม หรือไป โกรธใคร ตัวโกรธอยู่ที่คนโน้นทำ�ให้เราโกรธหรือ ตัวโกรธไม่ใช่อยู่ที่คนโน้น อยู่ที่เรา อยู่ที่ไหน อยู่ที่ใจ อยู่ที่จิต เก็บความโกรธเอาไว้ สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

82

ท่านจะมีแต่ความเป็นโทษ มีแต่ความเศร้าหมองใจตลอดเวลา ท่านจะไม่เป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้แก้ปัญหาไม่ได้เลย ก็สร้างปัญหาด้วยโทสะ สร้างปัญหาด้วยผูกเวร สร้างปัญหาด้วยผูกพยายาท น้อยไป! ดูถูกเรา นี่ท่าน จะต้องสร้างปัญหาแน่ อย่างนี้ เป็นต้น

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

การปฏิบัติเป็นการแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหาเหมือนอย่าง ทีท่ า่ นเข้าใจ และมีปญ ั ญา เห็นอารมณ์เรา ดูอารมณ์จติ ของเรา ดูจติ ใจของเรา ต่างหากอย่างนี้เป็นต้น สำ�คัญมาก บางคนไปสอนกันไม่ถกู “โกรธหนอ ๆ ๆ ๆ” เอาจิตตัง้ ตรงไหน? เอาสติไว้ตรงไหน? ไปกดไม่ถูก กดเครื่องคอมพิวเตอร์ผิด มันก็เลยออกมา แบบอย่างนั้นเอง จะวางจิตไว้ตรงไหนก็ไม่รู้ นี่สำ�คัญนะ “เห็นหนอ” อย่าลืมนะส่งกระแสจิตไว้ทหี่ น้าผาก ไม่ใช่หลับตา ว่ากันส่ง ถ้าท่านทำ�ดังที่อาตมาแนะแนวแล้ว รับรองได้ผลทุกคน


“เห็นหนอ” ก็ต้องส่งกระแสจิตจากหน้าผากออกไป เพราะว่า เราจะสังเกตตัวเองได้ทุกคน ความรู้สึกจะมารวมที่หน้าผากหมด ภาษาจีน เรียกว่า โหงวเฮ้ง มันจะมีแสงทีห่ น้าผากนะ ตอนนีไ้ ม่อรรถาธิบาย จิตท่านสูง ท่านจะเห็นเองว่า ดูหน้าคนดูตรงไหน โหงวเฮ้งอยู่ตรงไหน อย่าลืม

ถ้าสติดี มีปัญญาดี จะฝันเรื่องจริงได้ ฝันแล้วเป็นเรื่องจริง ถ้าจิตเก๊ ก็ฝันเก๊ ๆ จิตปลอมก็ฝันปลอมออกมา อาจารย์สอบอารมณ์บางคนชอบถามว่า “เห็นอะไรหรือยัง เห็นโน่นเห็นนี่ไหม” ไม่ต้องไปถามเขาอย่างนั้นนะ ถามว่ากำ�หนดหรือเปล่า เวทนาเกิดขึ้นกำ�หนดอย่างไร ต้องถามอย่างนี้ จะถูกต้องมากกว่า ไม่ต้องถาม เห็นอะไร ไปแนะแนวเขาทำ�ไมอย่างนั้น มีความหมายในการปฏิบัติมาก เพราะฉะนั้นปักจุดให้ถูก กดปุ่มให้ถูก เหมือนท่านทั้งหลาย คิดเลข ลองกดปุ่มผิด ๆ ซิ มันจะออกมาผิด ถ้ากดปุ่มถูกแต่ไฟฟ้าท่านหมด หมายความว่าสมาธิไม่มี กดอย่างไรไม่ออกมาตามรูปแบบนั้น ต้องมีสมาธิ

83 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ถามกันไม่พักเลย หลวงพ่อค่ะ ฉันมีนิมิตอย่างนี้ ฝันว่าอย่างนี้ จะได้แก่อะไร? ไม่ต้องมาถามแล้ว ฝันปลอมก็มีอุปาทานยึดมั่นก็ฝันได้ ถ้าจิตท่านโกรธ ผูกพยาบาทเก่งจะฝันร้าย จะฝันหนีโจร เป็นนิมิตที่เลวร้าย เพราะจิตมันไม่ดี

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ที่อาตมาพูดหลายครั้ง ยังไม่มีใครตีปัญหาได้เลย อุณาโลมา... มันเป็นการส่งกระแสจิตได้ดีมากในจุดศูนย์สมาธิ นี่แหละจะเกิดปัญญาได้ สำ�หรับตัวตนบุคคลปฏิบัติ ไม่ใช่มานั่งเห็นนิมิต


สมาธิ คือ จับจุดงานของเราไม่วางธุระ การกำ�หนดจิตให้อยู่ ในจุดเดียวกัน อย่างนีค้ อื กระแสไฟ ถ้ากระแสไฟมันพร่องไป ไฟไม่ได้ก�ำ หนด กดมาผิดทั้งนั้น จะไปโทษเครื่องเขาไม่ดีไม่ได้ เครื่องเขาดีเราบอกว่าไฟไม่มี คือ ไม่มีสมาธิอยู่นั่นเอง มีความหมายอย่างนั้นต้องจับจุดให้ถูกอย่างนี้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

84

ถ้าหากว่าไม่รจู้ ะกำ�หนดอย่างไร? ก็เอาความรูม้ ากำ�หนดทีล่ นิ้ ปี่ คิ ดไม่ อ อกเลย ทำ�อย่างไรก็ทำ�แบบเดิม มัน เป็ นอดี ต ไปแล้ ว คิ ด ไม่ อ อก ไม่รู้จะบอกได้อย่างไร ก็ทบทวน

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

การทบทวน ดูหนังสือก็ตอ้ งไปดูซ�้ำ เรียกว่า “ทบทวนหนังสือ” ถ้ า ทบทวนอารมณ์ ก็ ต้ อ งไปกำ � หนดอย่ า งนี้ หายใจยาว ๆ นั่ ง ท่ า สบาย อยู่ตรงไหนก็ตาม อยู่บนรถก็ได้ ทบทวนชีวิต ทบทวนอารมณ์ ว่าอารมณ์ลืม อะไรไปบ้าง? เก็บของไว้ทไี่ หนมันลืม ก็หายใจยาว ๆ มีประโยชน์มาก ตัง้ สติไว้ ทีล่ นิ้ ปีด่ วงหทัย เรียกว่า เจตสิก อาศัยหทัยวัตถุอยูท่ ลี่ นิ้ ปี่ วิธปี ฏิบตั อิ ยูต่ รงนีน้ ะ หายใจยาว ๆ “คิดหนอ ๆ” หายใจลึก ๆ ยาว ๆ เข้าไว้ เพราะทาง ปัญญาอยู่ตรงจมูกของเราถึงสะดือของเรานะ สั้นยาวไม่เท่ากันอย่างนี้ อีกสักครู่หนึ่ง ถ้ามีกระแสไฟฟ้าครบ คือ สมาธิดี หลักฐานดี เก็บหน่วยกิตไว้ได้มาก คอมพิวเตอร์จะตีออกมาทันที คิดออก แล้วคิด ที่แก้ปัญหาไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเอาวิชาข้อไหนมาแก้ ปัญญาจะออกมาบอกเรา เป็ น เครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ ตี อ อกมา แสดงอย่ า งนี้ และเอาไปใช้ เ ถอะ ได้ประโยชน์มาก คิดออกแน่ ของใครของมันต้องทำ�ขึ้นมา คือ ปัญญา ต้องทำ�ให้ถูกจุดนี้


วิธีปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเบื้องต้น (จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

การยืน

สติจับอยู่ที่เท้า การเดิน กำ�หนดว่า “ขวา...” “ย่าง...” “หนอ...” กำ�หนดในใจ คำ�ว่า “ขวา” ต้องยกส้นเท้าขวาขึ้นจากพื้นประมาณ ๒ นิ้ว เท้ากับใจนึกต้องให้พร้อมกัน “ย่าง” ต้องก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าช้าที่สุด

85 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

การเดินจงกรม

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ก่ อ นเดิ น ให้ ย กมื อ ไขว้ ห ลั ง มื อ ขวาจั บ ข้ อ มื อ ซ้ า ย วางไว้ ตรงกระเบนเหน็บ ยืนตัวตรง เงยหน้า หลับตา ให้สติจบั อยูท่ ปี่ ลายผม กำ�หนดว่า “ยืนหนอ” ช้า ๆ ๕ ครัง้ เริม่ จากศีรษะลงมาปลายเท้า และจากปลายเท้าขึน้ ไป บนศีรษะ กลับขึน้ กลับลงจนครบ ๕ ครัง้ แต่ละครัง้ แบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรก คำ�ว่า “ยืน” จิตวาดมโนภาพร่างกาย จากศีรษะลงมาหยุดทีส่ ะดือ คำ�ว่า “หนอ” จากสะดือลงไปปลายเท้า กำ�หนดคำ�ว่า “ยืน” จากปลายเท้า มาหยุดที่สะดือ คำ�ว่า “หนอ” จากสะดือขึน้ ไปปลายผม กำ�หนดกลับไปกลับมา จนครบ ๕ ครัง้ ขณะนั้นให้สติอยู่ที่ร่างกาย อย่าให้ออกไปนอกกาย เสร็จแล้วลืมตาขึ้น ก้มหน้าทอดสายตาไปข้างหน้าประมาณ ๑ ศอก


สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

86

เท้ายังไม่เหยียบพื้น คำ�ว่า “หนอ” เท้าลงถึงพื้นพร้อมกัน เวลายกเท้าซ้าย ก็เหมือนกัน กำ�หนดว่า “ซ้าย...” “ย่าง...” “หนอ...” คงปฏิบัติเช่นเดียวกัน กับ “ขวา...” “ย่าง...” “หนอ...” ระยะก้าวในการเดินห่างกันประมาณ ๑ คืบ เป็นอย่างมาก เพื่อการทรงตัวขณะก้าวจะได้ดีขึ้น เมื่อเดินสุดสถานที่ใช้แล้ว ให้น�ำ เท้ามาเคียงกัน เงยหน้าหลับตากำ�หนด “ยืนหนอ” ช้า ๆ อีก ๕ ครัง้ ทำ�ความ รูส้ กึ โดยจิต สติ รูอ้ ยูต่ งั้ แต่กลางกระหม่อม แล้วกำ�หนด “ยืนหนอ” ๕ ครัง้ เบือ้ งต่�ำ ตั้งแต่ปลายผมลงมาถึงปลายเท้า เบื้องบนตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมา “ยืนหนอ” ๕ ครั้ง แล้วหลับตา ตั้งตรง ๆ เอาจิตปักไว้ที่กระหม่อม เอาสติตามดังนี้

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“ยืน.....” (ถึงสะดือ) “หนอ.....” (ถึงปลายเท้า) หลับตาอย่าลืมตา นึกมโนภาพ เอาจิตมอง ไม่ใช่มองเห็นด้วยสายตา “ยืน……” (จากปลายเท้า ถึงสะดือ หยุด) แล้วก็ “หนอ…….” ถึงปลายผมคนละครึง่ พอทำ�ได้แล้ว ภาวนา “ยืน…หนอ...” จากปลายผม ถึงปลายเท้าได้ทันที ไม่ต้องไปหยุดที่สะดือ แล้วคล่องแคล่วว่องไว ถูกต้องเป็นธรรม ขณะนั้นให้สติอยู่ที่ร่างกาย อย่าให้ ออกไปนอกกาย เสร็ จ แล้ ว ลื ม ตาขึ้ น ก้ ม หน้ า ทอดสายตาไปข้ า งหน้ า ประมาณ ๑ ศอก สติจบั อยูท่ เี่ ท้า การเดิน กำ�หนดว่า “ขวา...” “ย่าง...” “หนอ...” กำ�หนดในใจ คำ � ว่ า “ขวา” ต้ อ งยกส้ น เท้ า ขวาขึ้ น จากพื้ น ประมาณ ๒ นิ้ ว เท้ากับใจนึกต้องให้พร้อม คำ�ว่า “ย่าง” ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าให้ช้าที่สุด เท้ายังไม่หยียบพื้น คำ�ว่า “หนอ” เท้าเหยียบพื้นเต็มฝ่าเท้า อย่าให้ส้นเท้าหลังเปิด


เวลายกเท้าซ้ายก็เหมือนกัน กำ�หนดคำ�ว่า “ซ้าย...” “ย่าง...” “หนอ...” คงปฏิบตั เิ ช่นเดียวกับ “ขวา...” “ย่าง...” “หนอ...” ระยะก้าวในการเดิน ห่างกันประมาณ ๑ คืบเป็นอย่างมาก เพือ่ การทรงตัวขณะก้าวจะได้ดขี นึ้ เมือ่ เดิน สุดสถานทีใ่ ช้เดินแล้ว พยายามใช้เท้าขวาเป็นหลักคือ “ขวา...” “ย่าง...” “หนอ...” แล้วตามด้วยเท้า “ซ้าย...” “ย่าง...” “หนอ...” จะประกบกันพอดี แล้วกำ�หนดว่า “หยุ ด ... หนอ...” เหมื อ นกั บ ที่ ไ ด้ อ ธิ บ ายมาแล้ ว ลื ม ตา ก้ ม หน้ า ท่ า กลั บ การกลับกำ�หนดว่า “กลับหนอ” ๔ ครั้ง คำ�ว่า “กลับหนอ”

การนั่ง กระทำ�ต่อจากการเดินจงกรม อย่าให้ขาดตอนลง เมือ่ เดินจงกรม ถึงที่จะนั่ง ให้กำ�หนด “ยืน... หนอ...” อีก ๕ ครั้ง ตามที่กระทำ�มาแล้วเสียก่อน แล้วกำ�หนดปล่อยมือลงข้างตัวว่า “ปล่อยมือหนอ ๆ ๆ” ช้า ๆ จนกว่าจะลงสุด เวลานั่งค่อย ๆ ย่อตัวลงพร้อมกับกำ�หนดตามอาการที่ทำ�ไปจริง ๆ เช่น “ย่อตัวหนอ ๆ ๆ” “เท้าพื้นหนอ ๆ ๆ” “คุกเข่าหนอ ๆ ๆ” “นั่งหนอ ๆ ๆ” เป็นต้น

87 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

หากฝึ ก จนชำ � นาญแล้ ว เราสามารถกำ � หนดให้ ล ะเอี ย ดขึ้ น โดยการหมุนตัวจาก ๙๐ องศา เป็น ๔๕ องศา จะเป็นการกลับหนอทัง้ หมด ๘ ครัง้ เมื่ออยู่ในท่ากลับหลังแล้วต่อไปกำ�หนด “ยืน...หนอ...” ช้า ๆ อีก ๕ ครั้ง ลืมตา ก้มหน้า แล้วกำ�หนดเดินต่อไป กระทำ�เช่นนี้จนหมดเวลาที่ต้องการ

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ครั้งที่ ๑ ยกปลายเท้าขวา ใช้สน้ เท้าขวาหมุนตัวไปทางขวา ๙๐ องศา ครั้งที่ ๒ ลากเท้าซ้ายมาติดกับเท้าขวา ครั้งที่ ๓ ทำ�เหมือนครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๔ ทำ�เหมือนครั้งที่ ๒


สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

88

วิธีนั่ง ให้นั่งขัดสมาธิ คือ ขาขวาทับขาซ้าย นั่งตัวตรง หลับตา เอาสติมาจับอยู่ที่สะดือที่ท้องพองยุบ เวลาหายใจเข้าท้องพอง กำ�หนดว่า “พอง หนอ” ใจนึกกับท้องที่พองต้องให้ทันกัน อย่าให้ก่อนหรือหลังกัน หายใจออกท้องยุบ กำ�หนดว่า “ยุบ หนอ” ใจนึกกับท้องที่ยุบต้องทันกัน อย่าให้กอ่ นหรือหลังกัน ข้อสำ�คัญให้สติจบั อยูท่ พี่ องยุบ เท่านัน้ อย่าดูลมทีจ่ มูก อย่าตะเบ็งท้อง ให้มีความรู้สึกตามความเป็นจริง ว่าท้องพองไปข้างหน้า ท้องยุบมาทางหลัง อย่าให้เห็นเป็นไปว่า ท้องพองขึน้ ข้างบน ท้องยุบลงข้างล่าง ให้กำ�หนดเช่นนี้ตลอดไป จนกว่าจะถึงเวลาที่กำ�หนด

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เมื่อมีเวทนา เวทนาเป็นเรื่องสำ�คัญที่สุด จะต้องบังเกิดขึ้น กับผู้ปฏิบัติแน่นอน จะต้องมีความอดทนเป็นการสร้างขันติบารมีไปด้วย ถ้าผู้ปฏิบัติข าดความอดทนเสี ย แล้ ว การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น ก็ล้มเหลว ในขณะที่นั่งหรือเดินจงกรมอยู่นั้น ถ้ามีเวทนาความเจ็บ ปวด เมื่อย คัน เกิดขึ้นให้หยุดเดิน หรือหยุดกำ�หนดพองยุบ ให้เอาสติไปตั้งไว้ ที่ เ วทนาเกิ ด และกำ � หนดไปตามความเป็ น จริ ง ว่ า “ปวดหนอ ๆ ๆ ๆ” “เจ็บหนอ ๆ ๆ ๆ” “คันหนอ ๆ ๆ ๆ” เป็นต้น ให้ กำ � หนดไปเรื่ อ ย ๆ จนกว่ า เวทนาจะหายไป เมื่ อ เวทนา หายไปแล้ว ก็ให้กำ�หนดนั่งหรือเดินต่อไป จิต เวลานั่งอยู่หรือเดินอยู่ ถ้าจิต คิดถึงบ้าน คิดถึงทรัพย์สินหรือคิดฟุ้งซ่านต่าง ๆ นานา ก็ให้เอาสติปักลง ที่ลิ้นปี่พร้อมกับกำ�หนดว่า “คิดหนอ ๆ ๆ ๆ” ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจิตจะหยุดคิด แม้ ดี ใ จ เสี ย ใจ หรื อ โกรธ ก็ กำ � หนดเช่ น เดี ย วกั น ว่ า “ดี ใ จหนอ ๆ ๆ ๆ” “เสียใจหนอ ๆ ๆ ๆ” “โกรธหนอ ๆ ๆ ๆ” เป็นต้น


เวลานอน

ท่านสามารถเข้าชมวีดีโอการสอน “วิธีปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน” โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญได้ที่ http://www.jarun.org/digitallibrary/

89 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

หมายเหตุ การเดินจงกรมนั้น กระทำ�การเดินได้ถึง ๖ ระยะ แต่ ใ นที่ นี้ อ ธิ บ ายไว้ เ พี ย งระยะเดี ย ว การเดิ น ระยะต่ อ ไปนั้ น จะต้ อ งเดิ น ระยะที่ ๑ ให้ ถู ก ต้ อ ง คื อ ได้ ปั จ จุ บั น ธรรมจริ ง จึ ง จะเพิ่ ม ระยะต่ อ ไป ตามผลการปฏิบัติของแต่ละบุคคล

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

เวลานอนค่ อ ย ๆ เอนตั ว นอนพร้ อ มกั บ กำ � หนดตามไปว่ า “นอนหนอ ๆ ๆ ๆ” จนกว่ า จะนอนเรี ย บร้ อ ย ขณะนั้ น ให้ เ อาสติ จับอยู่กับอาการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อนอนเรียบร้อยแล้ว ให้เอาสติ มาจับทีท่ อ้ ง แล้วกำ�หนดว่า “พอง หนอ” “ยุบ หนอ” ต่อไปเรือ่ ย ๆ ให้คอยสังเกต ให้ดวี า่ จะหลับไปตอนพอง หรือตอนยุบ อิรยิ าบถต่าง ๆ การเดินไปในทีต่ า่ ง ๆ การเข้าห้องน้ำ� การเข้าห้องส้วม การรับประทานอาหาร และการกระทำ� กิจการงานทั้งปวง ผู้ปฏิบัติต้องมีสติกำ�หนดอยู่ทุกขณะในอาการเหล่านี้ ตามความเป็นจริง คือ มีสติสัมปชัญญะ เป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา


สรุปการกำ�หนดต่าง ๆ พอสังเขป ดังนี้ (จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

90 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

๑. ตาเห็นรูป จะหลับตาหรือลืมตาก็แล้วแต่ ให้ตั้งสติไว้ที่ตา กำ�หนดว่า “เห็นหนอ ๆ ๆ ๆ” ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้สึกว่าเห็นก็สักแต่ว่าเห็น ละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้ ถ้าหลับตาอยูก่ ก็ �ำ หนดไปจนกว่า ภาพนั้นจะหายไป ๒. หูได้ยินเสียง ให้ตั้งสติไว้ที่หู กำ�หนดว่า “เสียงหนอ ๆ ๆ ๆ” ไปเรื่ อ ย ๆ จนกว่ า จะรู้ สึ ก ว่ า เสี ย ง ก็ สั ก แต่ ว่ า เสี ย ง ละความพอใจและ ความไม่พอใจออกเสียได้ ๓. จมูกได้กลิ่น ตั้งสติไว้ที่จมูก กำ�หนดว่า “กลิ่นหนอ ๆ ๆ ๆ” ไปเรื่ อ ย ๆ จนกว่ า จะรู้ สึ ก ว่ า กลิ่ น ก็ สั ก แต่ ว่ า กลิ่ น ละความพอใจและ ความไม่พอใจออกเสียได้ ๔. ลิ้ น ได้ ร ส ตั้ ง สติ ไ ว้ ที่ ลิ้ น กำ � หนดว่ า “รสหนอ ๆ ๆ ๆ” ไปเรื่ อ ย ๆ จนกว่ า จะรู้ สึ ก ว่ า รส ก็ สั ก แต่ ว่ า รส ละความพอใจและ ความไม่พอใจออกเสียได้ ๕. การถู ก ต้ อ งสั ม ผั ส ตั้ ง สติ ไ ว้ ต รงที่ สั ม ผั ส กำ � หนดตาม ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ละความพอใจและความไม่พอใจออกเสียได้ ๖. ใจนึกคิดอารมณ์ ตัง้ สติไว้ทลี่ นิ้ ปี่ กำ�หนดว่า “คิดหนอ ๆ ๆ ๆ” ไปเรื่อยจนกว่าความนึกคิดจะหายไป


๗. อาการบางอย่างเกิดขึ้น กำ�หนดไม่ทัน หรือกำ�หนดไม่ถูก ว่าจะกำ�หนดอย่างไร ตัง้ สติไว้ทลี่ นิ้ ปี่ กำ�หนดว่า “รูห้ นอ ๆ ๆ ๆ” ไปเรือ่ ย ๆ จนกว่า อาการนั้นจะหายไปการที่เรากำ�หนดจิต และตั้งสติไว้เช่นนี้ เพราะเหตุว่า จิตของเราอยู่ใต้บังคับของความโลภ ความโกรธ ความหลง เช่น ตาเห็นรูป ชอบใจเป็ น โลภะ ไม่ ช อบใจเป็ น โทสะ ขาดสติ ไ ม่ ไ ด้ กำ � หนดเป็ น โมหะ หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายถูกต้องสัมผัสก็เช่นเดียวกัน

91 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สติทเี่ กิดขึน้ ขณะปฏิบตั วิ ปิ สั สนากรรมฐานนัน้ นอกจากจะคอย สกัดกัน้ อกุศลธรรม และความทุกข์รอ้ นใจทีจ่ ะเข้ามาทางอายตนะแล้ว สติเพ่ง อยู่ที่รูปนาม เมื่อเพ่งเล็งอยู่ก็ย่อมเห็นความเกิดดับของรูป นาม ที่ดำ�เนินไป ตามอายตนะต่าง ๆ อย่างไม่ขาดสาย การเห็นการเกิดดับของรูปนามนั้น จะนำ�ไปสู่การเห็น พระไตรลักษณ์ คือ ความไม่เที่ยง ความทุกข์ และความ ไม่มีตัวตนของสังขาร หรืออัตภาพอย่างแจ่มแจ้ง

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

การปฏิ บั ติ วิ ปั ส สนากรรมฐาน โดยเอาสติ เ ข้ า ไปตั้ ง กำ � กั บ ตามอายตนะนั้ น เมื่ อ ปฏิ บั ติ ไ ด้ ผ ลแก่ ก ล้ า แล้ ว ก็ จ ะเข้ า ตั ด ที่ ต่ อ ของอายตนะต่ า ง ๆ เหล่ า นั้ น มิ ใ ห้ ติ ด ต่ อ กั น ได้ คื อ ว่ า เมื่ อ เห็ น รู ป ก็สกั แต่วา่ เห็น เมือ่ ได้ยนิ เสียงก็สกั แต่วา่ ได้ยนิ ไม่ท�ำ ความรูส้ กึ นึกคิดปรุงแต่ง ให้เกิดความพอใจหรือความไม่พอใจ ในสิ่งที่ปรากฏให้เห็นและได้ยินนั้น รูปและเสียงทีไ่ ด้เห็นและได้ยนิ นัน้ ก็จะดับไป เกิดและดับอยูท่ นี่ นั้ เอง ไม่ไหล เข้ามาภายใน อกุศลธรรม ความทุกข์ ร้อนใจ ที่คอยจะติดตาม รูป เสียง และ อายตนะภายนอกอื่น ๆ เข้ามา ก็เข้าไม่ได้


อานิสงส์ของการปฏิบัติธรรม

(จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

92

๑. มีวินัยในตัวเอง ๓ ประการคือ ๑. รู้จักระวังตัว ๒. รู้จักควบคุมตัวได้ ๓. รู้จักเชื่อฟังผู้ใหญ่ ถ้าเป็นเด็กจะไม่เถียงผู้ใหญ่

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

๒. มีกิจนิสัย ๔ ประการ ๑. ขยัน ไม่จับจด รักงาน สู้งาน ๒. ประหยัด รู้จักใช้ชีวิตและทรัพย์สินอย่างถูกต้องและคุ้มค่า ๓. พัฒนา รู้จักพัฒนาตัวเอง และอาชีพให้ดีขึ้น ๔. สามัคคี รักครอบครัว รักหมู่คณะ และรักประเทศชาติ ๓. มีลักษณะนิสัย ๔ ประการ ๑. มีสัมมาคารวะ ๒. อุตสาหะพยายาม ๓. ปฏิบัติตามระเบียบวินัย ๔. รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ วางตัวได้เหมาะสม


93 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

๕. อานิสงส์ในการเดินจงกรม ๑. อดทนต่อการเดินทางไกล ๒. อดทนต่อความเพียร ๓. มีอาพาธน้อย ๔. ย่อยอาหารได้ดี ๕. สมาธิที่ได้ขณะเดินตั้งอยู่ได้นาน (ในปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย เล่ม ๓๒)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

๔. มีความรู้คู่กับคุณธรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ๔ ประการได้ ๑. รู้จักคิด ๒. รู้จักปรับตัว ๓. รู้จักแก้ปัญหา ๔. มีทักษะในการทำ�งานและค่านิยมที่ดีงามในอนาคต เจ้านาย ทิ้ ง ลู ก น้ อ งไม่ ไ ด้ ลู ก น้ อ งทิ้ ง เจ้ า นายไม่ ไ ด้ เข้ า หลั ก ที่ ว่ า ผู้ใหญ่ดึง ผู้น้อยดัน คนเสมอกันจะได้อุปถัมภ์ค้ำ�จุนต่อไป


ประโยชน์ของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน (จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

94

การปฏิ บั ติ วิ ปั ส สนากรรมฐานนั้ น มี ป ระโยชน์ ม ากมาย เหลือที่จะนับประมาณได้ จะยกมาแสดงตามที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก สักเล็กน้อยดังนี้ คือ

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

• • • • •

สัตตานัง วิสทุ ธิยา ทำ�กายวาจาใจ ของสรรพสัตว์ให้บริสทุ ธิ์ หมดจด โสกะปะริ เ ทวานั ง สะมะติ ก กะมายะ ดั บ ความเศร้ า โศก ปริเทวนาการ ต่าง ๆ ทุ ก ขะโทมะนั ส สานั ง อั ต ถั ง คะมายะ ดั บ ความทุ ก ข์ ก าย ดับความทุกข์ใจ ญาณัสสะ อะธิคะมายะ เพื่อบรรลุมรรคผล นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เพื่อทำ�นิพพานให้แจ้ง


และยังมีอยู่อีกมาก เช่น

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

95 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

๑. ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท ๒. ชื่อว่าเป็นผู้ได้ป้องกันภัยในอบายภูมิทั้งสี่ ๓. ชื่อว่าได้บำ�เพ็ญไตรสิกขา ๔. ชื่อว่าได้เดินทางสายกลาง คือ มรรค ๘ ๕. ชื่อว่าได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยการบูชาอย่างสูงสุด ๖. ชือ่ ว่าได้บ�ำ เพ็ญ ศีล สมาธิ ปัญญา ให้เป็นอุปนิสยั ปัจจัย ไปในภายหน้า ๗. ชื่อว่าได้ปฏิบัติถูกต้องตามพระไตรปิฎกโดยแท้จริง ๘. ชื่อว่าเป็นผู้มีชีวิต ไม่เปล่าประโยชน์ทั้งสาม ๙. ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงพระรัตนตรัย อย่างถูกต้อง ๑๐. ชื่อว่าได้ปฏิบัติเพื่อให้เกิดวิปัสสนาญาณ ๑๖ ๑๑. ชื่อว่าได้สั่งสมอริยทรัพย์ไว้ในภายใน ๑๒. ชือ่ ว่าเป็นผูม้ าดี ไปดี อยูด่ ี กินดี ไม่เสียทีทเี่ กิดมาพบพระพุทธศาสนา ๑๓. ชื่อว่าได้รักษาอมตมรดกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เป็นอย่างดี ๑๔. ชือ่ ว่าได้ชว่ ยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุง่ เรืองยิง่ ๆ ขึน้ ไปอีก ๑๕. ชื่อว่าได้เป็นตัวอย่างอันดีงามแก่อนุชนรุ่นหลัง ๑๖. ชื่อว่าตนเองได้มีธนาคารบุญติดตัวไปทุกฝีก้าว


“อย่าลืมนะ ที่ลิ้นปี่ หายใจยาว ๆ สำ�รวมเวลาสวดมนต์ นั้นน่ะได้บุญแล้ว” จากธรรมะเทศนาเรื่อง วิธีแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์


บทสวดมนต์ กราบพระรัตนตรัย

สุปะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นมัสการ (นะโม) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

97 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)


ไตรสรณคมน์ (พุทธัง ธัมมัง สังฆัง)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

98 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

ทุติยัมปิ ทุติยัมปิ ทุติยัมปิ ตะติยัมปิ ตะติยัมปิ ตะติยัมปิ

พุทธัง ธัมมัง สังฆัง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง

สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง สะระณัง

คัจฉามิ คัจฉามิ คัจฉามิ คัจฉามิ คัจฉามิ คัจฉามิ คัจฉามิ คัจฉามิ คัจฉามิ

พระพุทธคุณ (อิติปิ โส) อิ ติ ปิ โส ภะคะวา อะระหั ง สั ม มาสั ม พุ ท โธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุต ตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ


พระธรรมคุณ สวากขาโต ภะคะวะตา ธั ม โม สั น ทิ ฏ ฐิ โ ก อะกาลิ โ ก เอหิ ปั ส สิ โ ก โอปะนะยิ โ ก ปั จ จั ต ตั ง เวทิตัพโพ วิญญูหีติฯ (อ่านว่า วิญญูฮีติ)

พระสังฆคุณ

99 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

(อ่านออกเสียง อาหุไนยโย ปาหุไนยโย ทักขิไณยโย โดยสระเอ กึ่งสระไอ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทงั จัตตาริ ปุรสิ ะยุคานิ อัฏฐะ ปุรสิ ะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย* ปาหุเนยโย* ทักขิเณยโย* อัญชะลี กะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ


พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

100 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ


101 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

* พรัหมัง อ่านว่า พรัมมัง

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง* วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญฯ


ชัยปริตร (มหากาฯ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

102 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปู เ รตวา ปาระมี สั พ พา ปั ต โต สั ม โพธิ มุ ต ตะมั ง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมั ง คะลั ง ฯ ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะรา ชิ ต ะปั ล ลั ง เก สี เ ส ปะฐะวิ โ ปกขะเร อะภิ เ สเก สั พ พะพุ ท ธานั ง อั ค คั ป ปั ต โต ปะโมทะติ ฯ สุ นั ก ขั ต ตั ง สุ มั ง คะลั ง สุ ป ะภาตั ง สุ หุ ฏ ฐิ ตั ง สุ ข ะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ** ปะทักขิณัง กายะกั ม มั ง วาจากั ม มั ง ปะทั ก ขิ ณั ง ปะทั ก ขิ ณั ง มะโนกัม มัง ปะณิธี เต ปะทัก ขิ ณา ปะทั ก ขิ ณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณฯ ** พรัหมะจาริสุ อ่านว่า พรัมมะจาริสุ


ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตาสัพ พะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตาสัพ พะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

พุทธคุณเท่าอายุเกิน ๑ (อิติปิโสเท่าอายุ+๑) อิ ติ ปิ โส ภะคะวา อะระหั ง สั ม มาสั ม พุ ท โธ วิ ช ชาจะระณะสั ม ปั น โน สุ ค ะโต โลกะวิ ทู อะนุ ต ตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

103 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

หลั ง จากสวดมนต์ ตั้ ง แต่ ต้ น จนจบบทพาหุ ง มหากาฯ แล้ ว ก็ ใ ห้ สวดเฉพาะบทพระพุท ธคุ ณ หรื ออิ ติ ปิโ ส ให้ ได้ จำ �นวนจบ เท่ า กับอายุ ของตนเอง แล้ ว สวดเพิ่ ม ไปอี ก หนึ่ ง จบ ตั ว อย่ า งเช่ น ถ้ า อายุ ๓๕ ปี ต้องสวด ๓๖ จบ จากนั้นจึงค่อยแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตาสัพ พะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ


“สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ�

อโหสิกรรมเสียก่อน และเราก็แผ่เมตตา ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย” จากธรรมะเทศนาเรื่อง กรรมฐานแก้กรรมได้อย่างไร โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์


“หายใจยาว ๆ ตั้งกัลยาณจิตไว้ที่ลิ้นปี่ ไม่ ใช่พูดส่งเดช” “จำ�นะที่ลิ้นปี่ เป็นการแผ่เมตตา” “จะอุทิศก็ยกจากลิ้นปี่ สู่หน้าผาก เรียกว่า อุณาโลมา ปจชายเต” จากธรรมะเทศนาเรื่อง วิธีแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์


บทแผ่เมตตา

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

106 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ

บทอุทิศส่วนกุศล (บทกรวดน้ำ�) อิทงั เม มาตาปิตนู งั โหตุ สุขติ า โหนตุ มาตาปิตะโร ขอส่วนบุญนี้จงสำ�เร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข อิ ทั ง เม ญาตี นั ง โหตุ สุ ขิ ต า โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำ�เร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข


อิทัง เม คุรูปัชฌายาจะริยานังโหตุ สุขิตา โหนตุ คุรู ปัชฌายาจะริยา ขอส่วนบุญนี้จงสำ � เร็ จ แก่ ครู อุ ปั ช ฌาย์ อ าจารย์ ข องข้ า พเจ้ า ขอให้ ค รู อุ ปั ช ฌาย์ อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี ขอส่ ว นบุ ญ นี้ จ งสำ � เร็ จ แก่ เ จ้ า กรรมนายเวร ทั้ ง ห ล า ย ทั้ ง ป ว ง ข อ ใ ห้ เ จ้ า ก ร ร ม น า ย เ ว ร ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข อิทงั สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขติ า โหนตุ สัพเพสัตตา ขอส่ ว นบุ ญ นี้ จ งสำ � เร็ จ แก่ สั ต ว์ ทั้ ง หลายทั้ ง ปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

107 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเปตา ขอส่ ว นบุ ญ นี้ จ งสำ � เร็ จ แก่ เ ปรตทั้ ง หลายทั้ ง ปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

อิทัง สัพพะเทวานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา ขอส่วนบุญนี้จงสำ �เร็จ แก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข


วิธีการสวดมนต์

(จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

108

การสวดมนต์ เ ป็ น นิ จ นี้ มุ่ ง ให้ จิ ต แนบสนิ ท ติ ด ในคุ ณ ของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ จิตใจจะสงบเยือกเย็นเป็นบัณฑิต มีความคิดสูง ทิฏฐิมานะทั้งหลายก็จะคลายหายไปได้ เราจะได้รับอานิสงส์ เป็นผลของตนเองอย่างนี้จากสวดมนต์เป็นนิจ

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

การอธิ ษ ฐานจิ ต เป็ น ประจำ � นั้ น มุ่ ง หมายเพื่ อ แก้ ก รรม ของผูม้ กี รรมจากการกระทำ�ครัง้ อดีตทีเ่ รารำ�ลึกได้ และจะแก้กรรมในปัจจุบนั เพื่อสู่อนาคต ก่อนที่จะมีเวรมีกรรม ก่อนอื่นใด เราทราบเราเข้าใจแล้ว โปรดอโหสิ ก รรมแก่ สั ต ว์ ทั้ ง หลาย เราจะไม่ ก่ อ เวรก่ อ กรรมก่ อ ภั ย พิ บั ติ ไม่ มี เ สนี ย ดจั ญ ไรติ ด ตั ว ไปเรี ย กว่ า “เปล่ า ” ปราศจากทุ ก ข์ ถึ ง บรมสุ ข คือนิพพานได้ เราจะรู้ได้ว่ากรรมติดตามมา และเราจะแก้กรรมอย่างไร ในเมื่อกรรมตามมาทันถึงตัวเรา เราจะรู้ตัวได้อย่างไร เราจะแก้อย่างไร เพราะมันเป็นเรื่องที่แล้ว ๆ มา การอโหสิกรรม หมายความว่า เราไม่โกรธ ไม่เกลียด เรามีเวร กรรมต่อกันก็ให้อภัยกัน อโหสิกันเสีย อย่างที่ท่านมาอโหสิกรรม ณ บัดนี้ ให้อภัยซึ่งกันและกัน พอให้อภัยได้ ท่านก็แผ่เมตตาได้ ถ้าท่านมีอารมณ์ ค้างอยูใ่ นใจ เสียสัจจะ ผูกใจโกรธ อิจฉาริษยา อาสวะไม่สนิ้ ไหนเลยล่ะ ท่านจะ แผ่เมตตาออกได้ เราจึงไม่พน้ เวรพ้นกรรมในข้อนี้ การอโหสิกรรมไม่ใช่ท�ำ ง่าย


วิธีในการสวดมนต์พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สอนไว้ว่า “เอาตำ�รามาดูกันก็ไม่ได้ผล แต่ดูตำ�ราเพื่อให้ถูกวรรคตอน และให้คล่องปาก แล้วจะได้คล่องใจ เป็นสมาธิ”

ท่านสามารถรับฟังเสียงสวดมนต์ “บทพาหุงมหากาฯ” และบทอื่น ๆ ได้ที่ http://www.jarun.org/digitallibrary/

(จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

เมื่อสวดมนต์ได้ถูกวรรคตอน เป็นสมาธิดีแล้ว ก็วางจิตให้ถูกต้อง สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ� (ลิ้นปี่) อโหสิกรรมเสียก่อนและเราก็แผ่เมตตา... (ลิน้ ปี่) มีเมตตาดีแล้ว ได้กุศลแล้วเราก็อุทิศเลย (อุณาโลม)

สวดมนต์เป็นนิจ (ลิ้นปี่) “แผ่ส่วนกุศลทำ�อย่างไร อุทิศตรงไหนทำ�ตรงไหน และวางจิต ไว้ตรงไหนถึงจะได้ อย่าลืมนะ ทีล่ นิ้ ปี่ หายใจยาว ๆ สำ�รวมเวลาสวดมนต์นนั้ น่ะ ได้บุญแล้ว ไม่ต้องเอาสตางค์ไปถวายองค์โน้นองค์นี้หรอก แล้วสำ�รวมจิต ส่งกระแสจิตที่หน้าผาก อุทิศส่วนกุศล ...” “ลิ้นปี่ จะอยู่ครึ่งทางระหว่างจมูกถึงสะดือ”

109 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

การวางจิต


อธิษฐานจิตเป็นประจำ� (ลิ้นปี่) “... อธิษฐานจิต หมายความว่า ตั้งสติสัมปชัญญะ ไว้ที่ลิ้นปี่ สำ�รวมกาย วาจา จิตให้ตั้งมั่นแล้ว จึงขอแผ่เมตตาไว้ในใจ สักครู่หนึ่ง แล้วก็ อุทิศให้มารดา บิดาของเรา ว่าเราได้บำ�เพ็ญกุศล ท่านจะได้บุญได้กุศลแน่ ๆ เดี๋ยวนี้ด้วย ผมเรียนถวายนะ มิฉะนั้นผมจะอุทิศไปยุโรปได้อย่างไร ...”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

110

อโหสิกรรมก่อนแล้วค่อยแผ่เมตตา

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“แผ่เมตตากับอุทิศ มันต่างกัน ทำ�ใจให้เป็นเมตตาบริสุทธิ์ก่อน ไม่อิจฉา ริษยา ไม่ผูกพยาบาทใครไว้ในใจ ทำ�ใจให้แจ่มใส ทำ�ให้ใจสบาย คือ เมตตา แล้วเราจะอุทศิ ให้ใครก็บอกกันไป มันจะมีพลังสูง สามารถจะอุทศิ ให้ คุณพ่อคุณแม่ของเรา กำ�ลังป่วยไข้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ เช่น วีโก้ บรูน ชาวนอรเวย์ ที่เคยมาบวชที่วัดนี้เป็นต้น ...”

แผ่เมตตา (ลิ้นปี่) อุทิศส่วนกุศล (อุณาโลม) “หายใจยาว ๆ ตั้ ง กั ล ยาณจิ ต ไว้ ที่ ลิ้ น ปี่ ไม่ ใ ช่ พู ด ส่ ง เดช จำ � นะที่ ลิ้ น ปี่ เป็ น การแผ่ เ มตตาจะอุ ทิ ศ ก็ ย กจากลิ้ น ปี่ สู่ ห น้ า ผาก เรียกว่า อุณาโลมา ปจชายเต ...”


ลำ�ดับการสวดมนต์

(จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

111 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

• ตั้งนะโม ๓ จบ • สวดพุทธัง ธัมมัง สังฆัง • สวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ • สวดพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ) • สวดมหาการุณิโก • สวดพุทธคุณ อย่างเดียวเท่ากับอายุ บวก ๑ เช่น อายุ ๒๘ ปี ให้สวด ๒๙ จบ อายุ ๕๔ ปี ให้สวด ๕๕ จบ เป็นต้น • แผ่เมตตา • อุทิศส่วนกุศล

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

“พระพุทธคุณ อาตมาสังเกตมาว่า บางคนเขาไปหาหมอดู เคราะห์ร้ายก็ต้องสะเดาะเคราะห์ อาตมาก็มาดูเหตุการณ์ โชคลางไม่ดี ก็เป็น ความจริงของหมอดู อาตมาก็ตั้งตำ�ราขึ้นมาด้วยสติ บอกว่า โยมไปสวด พุทธคุณเท่าอายุให้เกินกว่า ๑ ให้ได้ เพื่อให้สติดี แล้วสวด “พาหุงมหากาฯ” หายเลย สติก็ดีขึ้น เท่าที่ใช้ได้ผล สวดตั้งแต่ นะโม พุทธัง ธัมมัง สังฆัง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากาฯ จบแล้วย้อนกลับมาข้างต้น เอาพุทธคุณห้องเดียว (อิตปิ โิ ส ภะคะวา จนถึง พุทโธ ภะคะวาติ) ห้องละ ๑ จบ ต่อ ๑ อายุ อายุ ๔๐ สวด ๔๑ ก็ได้ผล”


เหตุใดต้องสวดพุทธคุณเท่าอายุเกิน ๑ หรือ อิติปิโสเท่าอายุ+๑ (จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

“อาตมาเคยพบคนแก่อายุ ๑๐๐ กว่าปี มีคนเอากับข้าวมาให้ ก็สวด อิตปิ โิ ส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ๑ จบ ให้ตวั เองก่อน ส่วนอีกจบหนึง่ ให้คนที่นำ�มาให้ เสร็จแล้วให้ถ้วยคืนไป อาตมาจับเคล็ดลับได้ จะให้ใคร ต้องเอาทุนไว้ก่อน ถึงได้เรียกว่า สวดพุทธคุณเท่าอายุเกินหนึ่งไงเล่า”

112 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“ที่ว่าให้ว่าสวดเท่าอายุนี่ หมายความว่าอายุเท่าไหร่ ๒๐ ถ้าเรา สวดแค่ ๑๐ เดียว มันก็ไม่เท่าอายุสวดไปเนี่ยเท่าอายุก่อนนะมันคุมให้มีสติ แล้วก็เกินหนึ่งเพราะอะไร ที่พูดเกินหนึ่งเนี่ยหมายความคนมักง่ายมักได้ คือ มันมีเวลาน้อย ถ้าสวดแค่เกินหนึ่งทำ�อะไรให้มันเกินไว้ เหมือนคุณโยมเนี่ย ไปค้าขาย ยังไม่ได้ขายได้สกั กะตังค์เลยจะเอาอะไรไปให้ทาน ยังไม่ได้ก�ำ ไรเลย ต้องให้ตัวเองก่อนนะ นี่ต้องค้าขายต้องลงทุนนี่ ต้องลงทุนก็สวดไป แต่สวด มากเท่าไรยิ่งดีมากได้มีสมาธิมาก แต่อาตมาที่พูดไว้คือคนมันไม่มีเวลา ก็เอา เกินหนึ่งได้ไหม เกินหนึ่งได้ก็ใช้ได้นะ แต่ถ้าเกินถึง ๑๐๘ ได้ไหม ยิ่งดีใหญ่ ทำ�ให้เกิดสมาธิสูงขึ้น”


การเปลี่ยนจาก “เต” เป็น “เม” ในบทสวดมนต์

(จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

“เม” คือ ข้า หมายถึง ผู้สวดนั่นแหละ ส่วน “เต” คือท่าน

“ท่านไปขุดน้�ำ กินเสียบ้านเดียว ท่านจะได้อะไรหรือ ขุดบ่อน้�ำ สาธารณะกินได้ทุกบ้าน ใครมาก็กิน ใครมาก็ใช้ ท่านได้บุญมาก มีถนน ส่วนบุคคล ท่านเดินได้เฉพาะบ้านเดียว ไม่สาธารณะแก่คนทัว่ ไป ท่านจะได้ บุญน้อยมาก มีอานิสงส์นอ้ ยมาก นีเ่ ปรียบเทียบถวาย เรือ่ งจริงเป็นอย่างนัน้ ”

113 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

เราสามารถเลือกสวดได้ทั้ง “เม” และ “เต” แต่ขอฝากย้ำ� คำ�สอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เรื่องการแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล มาให้พิจารณาดังนี้

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เทศน์ตอบผู้ให้สัมภาษณ์จากเทป ธรรมบรรยาย “สวดมนต์จนหายป่วย” และ “มารไม่มี บารมีไม่เกิด”


วิธีการแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล

(จากหนังสือ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ)

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

114 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“วันนี้จะขอฝากญาติโยมไว้ การอุทิศส่วนกุศล และการแผ่ ส่ ว นกุ ศ ลไม่ เ หมื อ นกั น การแผ่ คื อ การแพร่ ข ยาย เป็ น การเคลี ย ร์ พื้ น ที่ แผ่ส่วนบุญออกไป เรียกว่า สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทัง้ หมดทัง้ สิน้ เรียกว่าการแผ่แพร่ขยาย แต่การอุทศิ ให้ เป็ น การให้ โ ดยเจาะจง ถ้ า เราจะให้ ตั ว เองไม่ ต้ อ งบอก ไม่ ต้ อ งบอกว่ า ขอให้ข้าพเจ้ารวย ขอให้ข้าพเจ้าดี ขอให้ข้าพเจ้าหมดหนี้ ทำ�บุญก็รวยเอง เราเป็นคนทำ� เราก็เป็นคนได้ และการให้บิดามารดานั้น ก็ไม่ต้องออกชื่อ แต่ประการใด ลูกทำ�ดีมปี ญ ั ญา ได้ถงึ พ่อแม่ เพราะใกล้ตวั เรา พ่อแม่อยูใ่ นตัวเรา เราสร้ า งความดี ม ากเท่ า ไร จะถึ ง พ่ อ แม่ ม ากเท่ า นั้ น เรามี ลู ก ลู ก เราดี ลูกมีปัญญา พ่อแม่ก็ชื่นใจโดยอัตโนมัติไม่ต้องไปบอก” ผู้ปรารถนาจะปลูกเมตตาให้งอกงามอยู่ในจิต พึงปลูกด้วยการ คิดแผ่ ในเบื้องต้นแผ่ไปโดยเจาะจงก่อน ในบุคคลที่ชอบพอ มีมารดาบิดา ญาติมิตร เป็นต้น โดยนัยว่าผู้นั้น ๆ จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีทุกข์ มีสุขสวัสดี รักษาตนเถิด เมื่อจิตได้รับการฝึกหัดคุ้นเคยกับเมตตา เข้าแล้ว ก็แผ่ขยายให้กว้างออกไปโดยลำ�ดับดังนี้ ในคนที่เฉย ๆ ไม่ชอบไม่ชัง ในคนไม่ชอบน้อย ในคนที่ไม่ชอบมาก ในมนุษย์และดิรัจฉานไม่มีประมาณ


เมตตาจิต เมือ่ คิดแผ่กว้างออกไปเพียงใด มิตรและไมตรีกม็ คี วามกว้างออกไป เพียงนัน้ เมตตาไมตรีจติ มิใช่อ�ำ นวยความสุขให้เฉพาะบุคคล ย่อมให้ความสุข แก่ชนส่วนรวมตั้งแต่สองคนขึ้นไป คือ หมู่ชนที่มีไมตรีจิตต่อกัน ย่อมหมด ความระแวง ไม่ตอ้ งจ่ายทรัพย์ จ่ายสุข ในการระวังหรือเตรียมรุกรับ มีโอกาส ประกอบการงาน อันเป็นประโยชน์แก่ตนเองและหมู่เต็มที่ มีความเจริญ รุ่งเรืองและความสงบสุขโดยส่วนเดียว

“หายใจยาว ๆ ตัง้ สติกอ่ น หายใจลึก ๆ ยาว ๆ แล้วก็แผ่เมตตาก่อน มีเมตตาดีแล้ว ได้กุศลแล้ว เราก็อุทิศเลย อโหสิกรรม ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่พยาบาทใครอีกต่อไป และเราจะขออุทิศให้ใคร ญาติบุพเพสันนิวาส จะได้ก่อน ญาติเมื่อชาติก่อนจะได้มารับ เราก็มิทราบ ว่าใครเป็นพ่อแม่ ในชาติอดีต ใครเป็นพี่น้องของเราเราก็ไม่ทราบ แต่แล้วเราจะได้ทราบ ตอนอุ ทิ ศ ส่ ว นกุ ศ ลนี้ ไ ปให้ เหมื อ นโทรศั พ ท์ ไ ปเขาจะได้ รั บ หรื อ ไม่ เราจะรู้ได้ทันที”

115 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“ตัง้ สติหายใจยาว ๆ ตอนทีก่ รวดน้�ำ เสร็จแล้วอธิษฐานจิตไว้กอ่ น อธิษฐานจิตหมายความว่า ตั้งสติสัมปชัญญะไว้ที่ลิ้นปี่ สำ�รวมกาย วาจา จิต ได้ตั้งมั่นแล้ว จึงขอแผ่เมตตาไว้ในใจสักครู่หนึ่ง แล้วก็ขออุทิศให้บิดามารดา ของเราว่า เราได้บำ�เพ็ญกุศล ท่านจะได้บุญได้ผลแน่ ๆ เดี๋ยวนี้ด้วย ...”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ� อโหสิกรรมเสียก่อน และเราก็แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่เราไปสร้างกรรมมาครั้งอดีต รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง รู้เท่าทันหรือไม่เท่าทันก็ตาม ถ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์เช่นนี้แล้ว ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้ามันก็จะน้อยลงไป


“นี่ก็เช่นเดียวกัน เราจะปลื้มปีติทันทีนะ เราจะตื้นตันขึ้นมาเลย ถ้าท่านมีสมาธิ น้�ำ ตาท่านจะร่วงนะ ขนพองสยองเกล้าเป็นปีตเิ บือ้ งต้น ถ้าท่าน มาสวดมนต์กันส่งเดช ไม่เอาเหนือเอาใต้ ท่านไม่อุทิศท่านจะไม่รู้เลยนะ ... ”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

116 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“วันนี้ท่านทำ�บุญอะไร สร้างความดีอะไรบ้าง ดูหนังสือท่องจำ� บทอะไรได้บ้าง ก็อุทิศได้ เมืองฝรั่งเขาไม่มีการทำ�บุญ เราไปทอดกฐิน ผ้าป่า ถวายสังฆทาน เขาทำ�ไม่เป็น แต่ทำ�ไมเขาเป็นเศรษฐี ทำ�ไมเขามีความเจริญ ทางด้านเทคโนโลยี ทำ�ไมถึงเจริญด้วยอารยธรรมของเขา เพราะเขามีบุญ วาสนา เขาตั้งใจทำ� มีกิจกรรมในชีวิตของเขา จะยกตัวอย่าง วันนี้เขาค้าขายได้ เป็นพันเป็นหมื่นด้วยสุจริตธรรม เขาก็เอาอันนั้นแหละอุทิศไป วันนี้เขาปลูก ต้นไม้ได้มากมาย เขาก็เอาสิ่งนี้อุทิศไป ว่าได้สร้างความดีในวันนี้ ไม่ได้อยู่ว่าง แต่ประการใด เขาก็ได้บญ ุ ไม่จ�ำ เป็นต้องเอาสตางค์มาถวายพระเหมือนเมืองไทย ถวายสังฆทานกันไม่พกั ถวายโน่นถวายนีแ่ ต่ใจเป็นบาป อุทศิ ไม่ออก บอกไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น จะไม่ได้อะไรเลยนะ ... ” “... ที่ผมแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล ไปเข้าบ้านลูกสาวญวน ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ทำ�อย่างนี้นะ เวลาสวดมนต์ อิติปิโส... ยาเทวตา... ตัง้ ใจสวดด้วยภาษาบาลีเช่นนี้ ทีห่ ยุดเงียบไปน่ะ ผมสำ�รวมจิตตัง้ สติ แผ่เมตตา จิตสงบดีแล้วจึงอุทิศไป” “… ที่ท่องจำ�โคลงให้ได้น่ะเพื่อให้คล่องปาก ว่าให้คล่องปาก แล้วก็จะคล่องใจ คล่องใจแล้วถึงจะเป็นสมาธิ เป็นสมาธิแล้วถึงจะอุทิศได้ ไม่อย่างนั้นไม่ได้นะ”


“เอาตำ � รามาดู กั น ก็ ไ ม่ ไ ด้ ผ ล แต่ ดู ตำ � ราเพื่ อ ให้ ถู ก วรรคตอน และให้ ค ล่ อ งปาก แล้ ว จะได้ ค ล่ อ งใจ เป็ น สมาธิ ถึ ง จะมี กำ � ลั ง ส่ ง อุ ทิ ศ ไม่อย่างนั้นไม่มีกำ�ลังส่งเลยนะ” “การอุทิศส่วนกุศล นี่สำ�คัญนะ แต่ต้องแผ่เมตตาก่อน แผ่เมตตา ให้มีสติก่อน แผ่เมตตาให้มีความรู้ว่าเราบริสุทธิ์ ใจมีเมตตาไหม และอุทิศเลย มันคนละขั้นตอนกันนะ

“ท่านทำ�ประโยชน์อะไรในวันนี้ เอามาตีความ สำ�รวมตัง้ สติไว้กอ่ น ว่าขาดทุนหรือได้กำ�ไรชีวิต และจะไปเรียงสถิติในจิตใจเรียกว่าเมตตา แปลว่า ระลึกก่อน เมตตาแปลว่าปรารถนาดีกับตนเอง สงสารตัวเองที่ได้สร้างความ ดีหรือความชั่วเช่นนี้”

117 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“เรามาสวดมนต์ไหว้พระกันว่า โยโสภะคะวา.... ใจเป็นบุญไหม สวากขาโต... สุปฏิปันโน... ใจเป็นบุญไหม ท่านจะฟุ้งซ่านไปทางไหน สำ�รวม อินทรีย์ หน้าที่คอยระวัง เอาของจริงไปใช้ อย่าเอาของปลอมมาใช้เลย ...”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

แผ่เมตตากับอุทิศมันต่างกัน ทำ�ใจให้เป็นเมตตาบริสุทธิ์ก่อน ไม่อิจฉา ไม่ริษยา ไม่ผูกพยาบาทใครไว้ในใจ ทำ�ให้แจ่มใส ทำ�ใจให้สบาย คือเมตตา แล้วเราจะอุทิศให้ใครก็บอกกันไป มันจะมีพลังสูง สามารถจะ อุทิศให้คุณพ่อคุณแม่ของเรากำ�ลังป่วยไข้ ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ เช่น วีโก้ บรูน ชาวนอรเวย์ ที่เคยมาบวชที่วัดนี้เป็นต้น”


“หายใจยาว ๆ ตั้ ง กั ล ยาณจิ ต ไว้ ที่ ลิ้ น ปี่ ไม่ ใ ช่ พู ด ส่ ง เดช จำ�นะที่ลิ้นปี่เป็นการแผ่เมตตา จะอุทิศก็ยกจากลิ้นปี่สู่หน้าผาก เรียกว่า อุณาโลมา ปจชายเต นะอยูห่ วั สามตัวอย่าละ นะอยูท่ ไี่ หนตามเอามา แล้วก็อทุ ศิ ทันที จึงถึงตามที่ปรารถนา ไม่ว่าเป็นโยมพ่อโยมแม่ จะให้น้องเรียนหนังสือ จะให้ พี่เรียนหนังสือ หรือจะให้บุตรธิดาของตน จะได้ผลขึ้นมาทันที” สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

118

“ลูกว่านอนสอนยาก ลูกติดยาเสพติด ถ้าทำ�ถูกวิธีแล้ว มันจะ หันเหเร่มาทางดีได้ พ่อแม่กินเหล้าเมายา เล่นการพนัน ลูกจะไปสอนพ่อแม่ ไม่ได้ มีทางเดียวคือ เจริญพระกรรมฐาน สำ�รวมจิตแผ่เมตตา อุทศิ ส่วนกุศล

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“นะ” อยู่หัว สามตัวอย่าละ “นะ” อยู่ที่ไหนตามเอามาให้ได้ หมายความว่ากระไร ถ้าท่านทำ�กรรมฐาน ท่านจะทายออก “นะ” ตัวนีส้ �ำ คัญ “นะ” มีทั้งเมตตามหานิยม “นะ” แปลว่า การกระทำ�อกุศลให้เป็นกุศล “นะ” แปลว่า ทำ�ศัตรูให้เป็นมิตร สร้างชีวติ ในธรรม แล้วก็อทุ ศิ ส่วนกุศลไป” “… อย่าทำ�ด้วยอารมณ์ อย่าทำ�ด้วยความผูกพยาบาท อาฆาต ต่อกัน ละเวรละกรรมเสียบ้าง แล้วจิตจะโปร่งใส ใจก็จะสะอาดแล้วก็อทุ ศิ ไป จิตมันไม่ติดไฟแดง จิตไม่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จิตมันทะลุฝาผนังได้ ท่านเข้าใจ คำ�นี้หรือยัง จิตมันตรงที่หมาย จิตไม่มีตัวตน จิตคิดอ่านอารมณ์ มีจิตโปร่ง ท่านจะทำ�อะไรก็โล่งใจ สบายอก สบายใจ “นะ” อยู่หัว สามตัวอย่าละ เอา “นะ” ไปอุทิศให้ได้ ถ้าท่านมีครอบครัวแล้วโปรดตั้งปฏิญาณในใจว่า ให้บตุ รธิดาของเรารวยสวยเก่ง เร่งเป็นดอกเตอร์ อย่างนีซ้ ถิ งึ จะถูกวิธขี องผม”


“ท่านไปขุดน้ำ�กินเสียบ้านเดียว ท่านจะได้อะไรหรือ ขุดบ่อน้ำ� สาธารณะกินได้ทุกบ้าน ใครมาก็กิน ใครมาก็ใช้ ท่านได้บุญมากมีถนน ส่วนบุคคล ท่านเดินได้เฉพาะบ้านเดียว ไม่สาธารณะแก่คนทั่วไป ท่านจะได้ บุญน้อยมาก มีอานิสงส์นอ้ ยมาก นีเ่ ปรียบเทียบถวาย เรือ่ งจริงเป็นอย่างนัน้ ”

119 ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

“ผมทำ�มา ๔๐ กว่าปีแล้ว ทำ�ได้ผล ขอถวายความรู้เป็นบุญ เป็นกุศล ให้ทา่ นได้บญ ุ อย่างประเสริฐไป จะได้อทุ ศิ ให้โยมเขา เขาเป็นโรคภัย ไข้เจ็บ ถ้าไม่เหลือวิสัยมันก็หายได้”

สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

“… อย่าลืมนะ ที่ลิ้นป หายใจยาว ๆ สำ�รวมเวลาสวดมนต์ นั้นน่ะได้บุญแล้ว … แล้วสำ�รวมจิตส่งกระแสจิตที่หน้าผาก อุทิศส่วนกุศล เวลาแผ่เมตตาเอาไว้ที่ลิ้นปี่ สำ�รวมอินทรีย์ หน้าที่คอยระวัง นะ อุ อุอะมะ อุ อะมะ อะอะอุ นะอยู่ตรงไหน เอามาไว้ตรงไหน จับให้ได้แล้วอุทิศไป”


“ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด หมดก็ ไม่มา เราไม่หวงกัน เราก็ ไม่อด หมดก็มาเรื่อย ๆ” หนังสือ “สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน ตามแบบหลวงพ่อจรัญ” และ หนังสือ “สวดมนต์ ตามแบบหลวงพ่อจรัญ” ตลอดระยะเวลาหลายสิบปี พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญได้สละ เวลา แรงกาย แรงใจ เพื่อสอนวิธีนำ�สติมาใช้ เพราะเมื่อมีสติ จะเกิด ปัญญา จะแก้ปญ ั หาชีวติ ได้ หนังสือเล่มนี้ จะแนะนำ�วิธกี ารสวดมนต์ ทำ�กรรมฐานให้กับท่านตั้งแต่เริ่มต้น และตอบคำ�ถามเกี่ยวกับการ สวดมนต์ ทำ�กรรมฐาน เอาไว้ในเล่มนี้ด้วย (รหัส 424) (รหัส 426)

หนังสือ “ลูกไม่ดีแก้ที่พ่อแม่ พ่อแม่ ไม่ดีแก้ที่ลูก” และ หนังสือ “สามี ไม่ดีแก้ที่ภรรยา ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี” สามีไม่ดีแก้ที่ภรรยา

120

หลายปัญหาในครอบครัว ที่บางครั้งเราเองก็คิดว่าคงไม่มีทางแก้ไข แต่ ด้ ว ยธรรมะที่ พ ระเดชพระคุ ณ หลวงพ่ อ จรั ญ ท่ า นได้ ส อนไว้ จะนำ�พาท่านพบกับทางออกแห่งความสุข ที่ พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา สามารถอ่านได้กันทุกคน (รหัส 626) (รหัส 828)

หนังสือ “โรคภัยไข้เจ็บ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้” และ “โรคภัยไข้เจ็บ ตำ�รับตำ�รา ยา สมุนไพร”

ภรรยาไม่ดีแก้ที่สามี

หนังสือทีจ่ ะเป็นคูม่ อื ให้ทงั้ คนป่วยและญาติพนี่ อ้ ง ในวันทีโ่ รคภัยไข้ เจ็บได้มาถึง คนป่วยจะได้ทราบวิธปี ฏิบตั ติ น คนทีเ่ ป็นบุตร เป็นสามี ภรรยา เป็นพ่อแม่ญาติพนี่ อ้ ง จะทำ�สิง่ ใดได้บา้ งเมือ่ คนทีร่ กั ต้องพบ กับสัจจะธรรมของชีวิตในข้อนี้ (รหัส 525) (รหัส 526)

หากท่านต้องการจัดทำ�สื่อธรรมะเหล่านี้ เผยแผ่เป็นธรรมทาน หรือใช้ ในงานบุญ งานพิธีต่าง ๆ ท่านสามารถสั่งพิมพ์สั่งผลิตได้ที่

บุ๊คดีดอทคอม 081 599 1439

อีเมลล์ book-d@hotmail.com, เว็บไซต์ http://www.book-d.com

โทรศัพท์ 02 222 0599

ธรรมนำ�ใจ 828


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.