เมนูอาชีพแก้จน คนโคราช
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หน้า ๒
คนโคราช
เพาะถั่วงอก หน้า ๑๘
รับซื้อของเก่า หน้า ๒๔
รับซื้อ-ขายส่งมะพร้าว หน้า ๑๙
“แนะนาอาชีพทางเลือก เพื่อยกระดับรายได้ครัวเรือนตกเกณฑ์ ปี ๒๕๕๔” จาทาโดย สานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา
สารบัญ อาหารคาว - ขนมจีนน้ายา หน้า ๑ - ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หน้า๒ - ไก่ย่าง หน้า ๓ - ปลาส้มปรุงรส หน้า ๔ - ส้มต้ารสแซบ หน้า ๕ - ผัดหมี่โคราช หน้า ๖
อาหารหวาน -มะพร้าวแก้ว หน้า ๗ -ข้าวเหนียวมูน หน้าปลาแห้ง หน้า ๘ -กล้วยเชื่อม หน้า ๙ -สาคูมะพร้าวอ่อน หน้า ๑๐ -สังขยา หน้า ๑๑ -ข้าวโพดอบเนย หน้า ๑๒
เบ็ดเตล็ด -รับจ้างย้อมผ้า หน้า ๒๒ -รับซือของเก่า หน้า ๒๔ -ขายส่งขนมแผง หน้า ๒๕
เครื่องดื่ม
-ประมง(อุปกรณ์จับปลา)
-น้านมถั่วเหลือง(น้าเต้าหู้)
หน้า ๒๖
หน้า ๑๓ -ชาเขียวนมสด หน้า ๑๔ -เต้าฮวยนมสด หน้า ๑๕ -น้าผลไม้ปั่น หน้า ๑๖
เพาะปลูก / เลี้ยงสัตว์ -เพาะถั่วงอก หน้า ๑๘
-รับซือ/ขายส่งมะพร้าว หน้า ๑๙ -การเพาะเลียงจิงหรีด หน้า ๒๐
งานช่าง -ช่างตัดผม/ ช่างเสริมสวย หน้า ๒๗ -ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ หน้า ๒๘
อาหารคาว ขนมจีนน้ายา เงินลงทุน : ครั้งแรกประมาณ 5,500 บาท (ไม่รวมค่าเช่าสถานที่) รถเข็น 3,000 บาท โต๊ะ-เก้าอี้ 3 ชุด ประมาณ 1,800 บาท รายได้ : ประมาณ 15,000 บาท/เดือน อุปกรณ์ : รถเข็น เตาแก๊สพร้อมถัง หม้อ ทัพพี จาน ช้อนส้อม แก้วน้้า ภาชนะใส่ผัก ภาชนะใส่ช้อนส้อม โต๊ะ-เก้าอี้ แหล่งจ้าหน่ายอุปกรณ์ : ร้านค้าทั่วไป ตลาด ห้างสรรพสินค้า วิธีท้า : ขนมจีน (ซื้อจากตลาดทั่วไป โดยซื้อเหมามาในปริมาณมากเพียงพอส้าหรับ การขายแต่ละวัน เพื่อจะได้ราคาถูก) ส่วนผสมพริกแกง : - พริกแห้ง 9 เม็ด
- ตะไคร้หั่น 2 ช้อนโต๊ะ
- ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
- หัวหอมหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- กะปิ 1 ช้อนชา
- กระชาย 1 ถ้วยตวง
น้าส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นให้ละเอียดถ้าจะใช้วิธีโขลก ต้องโขลกทีละอย่างเพื่อไม่ให้ กระเด็น ส่วนผสมน้ายา : - ปลาช่อน (หรือปลาน้้าดอกไม้ หรือปลาส้าลี) 1 กิโลกรัม - น้้าปลา 1/2 ถ้วยตวง - มะพร้าวขูดแล้ว 1 กิโลกรัม วิธีท้า : น้ามะพร้าวมาคั้นเป็นหัวกะทิ 1 ถ้วยตวง หางกะทิ 10 ถ้วยตวง น้าปลาไปต้ม แกะเอาเฉพาะเนื้อปลามาโขลกรวมกับพริกแกง (ที่โขลกไว้แล้วข้างต้น) จากนั้น น้าหาง กะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด เอาปลาที่โขลกรวมกับพริกแกงใส่ลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรส ด้วยน้้าปลา แล้วเติมหัวกะทิ ข้อแนะน้า 1. ถ้าท้าขาย ต้องเพิ่มปริมาณอัตราส่วนทุกชนิดให้มากขึ้น 2. ถ้าไม่มีท้าเลพอที่จะวางโต๊ะ-เก้าอี้ก็อาจตักใส่ถุงขายอย่างเดียว หรือรถเข็นขายซึ่งท้าให้ประหยัดเงินลงทุนด้วย
๑
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เงินลงทุน : เงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 3,600 บาท(รถเข็น 3,000 บาท เตาถ่านและ ตะแกรงย่าง 100 บาท) รายได้ : ประมาณ 6,000 บาท/เดือน อุปกรณ์ : รถเข็น เตาถ่านและตะแกรงย่าง ไม้เสียบหมูย่าง ถุงพลาสติก วิธีท้าส่วนผสม หมู
1 กิโลกรัม
กะทิ
น้้าปลา
2 ช้อนโต๊ะ
น้้าตาลทราย 1
ซีอิ๊วด้า
1 ช้อนชา
½
ถ้วยตวง ช้อนโต๊ะ
รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียด 1 ช้อนชา วิธีท้า : หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นบางๆ กว้าง 1 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว น้ามาคลุกกับน้้าตาลทราย น้้าปลา ซีอิ๊วด้า กระเทียม พริกไทย รากผักชี หมักไว้ 1 ชั่วโมง จากนั้นน้าหมูมาเสียบไม้ ย่างไฟปานกลาง ขณะที่ย่างพรมหัวกะทิ ย่างจนสุกได้ที่ ข้าวเหนียว : น้าข้าวเหนียวประมาณ 2 กิโลกรัม แช่น้าทิ้งไว้ค้างคืน จึงซาวน้้าทิ้ง แล้ว น้ามานึ่งโดยใส่น้าอย่าให้ท่วมข้าวเหนียว นึ่งประมาณครึ่งชั่วโมง ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาด แหล่งชุมชน ข้อแนะน้า 1. หากบริเวณที่อยู่อาศัยเป็นท้าเลที่เหมาะกับการค้าขาย ก็ไม่ต้องซื้อรถเข็น ท้าให้ ประหยัดเงินลงทุนได้ 2. ท้าให้สะอาดน่ารับประทาน และใช้เนื้อหมูสด ๆ ไม่ผสมสีหรือสารกันบูด
๒
ไก่ย่าง เงินลงทุน : ประมาณ 4,000 บาท ( รถเข็นราคาประมาณ 3,000 บาท) รายได้ : ประมาณ 800 บาท/วัน วัสดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น เตาถ่าน ตะแกรง กะละมัง หม้อ ไม้เสียบไก่ ถุงพลาสติก ส่วนผสมไก่ย่าง ไก่สด
3
กิโลกรัม
กระเทียม
20
กลีบ
รากผักชีหั่น
2
ช้อนโต๊ะ
พริกไทย
10
เม็ด
เกลือป่น
2
ช้อนชา
ซีอิ๊วหวาน
1
น้้าตาลทราย
1
ช้อนโต๊ะ
ช้อนโต๊ะ
วิธีท้า น้าไก่สดเป็นชิ้นๆ ได้แก่ น่อง ขา ปีก สะโพก ตับ กึ๋น มาคลุกเคล้ากับพริกไทย กระเทียม
รากผักชี ที่โขลกละเอียดแล้ว ใส่เกลือป่น ซีอิ้วหวาน และน้้าตาลทราย คลุกให้
เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงน้ามาเสียบไม้ ปีก น่อง ขาสะโพก เสียบชิ้นละไม้ ส้าหรับตับและกึ๋นเสียบไม้ละ 3-4 ชิ้น จากนั้นน้ามาย่างเตาถ่านไฟปานกลาง ถ้าไฟแรงเกิน โรย ด้วยขี้เถ้า ย่างให้สุกเกรียมทั้ง 2 ด้าน แต่อย่าให้ไหม้ ส่วนผสมน้าจิม น้าจิมแจ่ว พริกป่น
5 ช้อนโต๊ะ
น้้าปลา
1
ถ้วยตวง
น้้ามะนาว
1 ถ้วยตวง
หอมหัวแดงซอย
1
ช้อนโต๊ะ
น้้าปลาร้า
2 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่ว
2
ช้อนโต๊ะ
ต้นหอม ผักชีหั่น
2 ช้อนโต๊ะ
วิธีท้า น้าส่วนผสมทุกชนิดผสมรวมกันให้เข้ากัน (น้้าปลาร้าไม่ใส่ก็ได้)
ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาดทั่วไป แหล่งชุมชน ข้อแนะน้า : ควรขายควบคู่กับข้าวเหนียวนึ่งหรือส้มต้า เพื่อเสริมรายได้ ๓
ปลาส้มปรุงรส เงินลงทุน : ครั้งแรกประมาณ 1,000 บาท รายได้ : ประมาณ 500 บาท ขึ้นไป/วัน วัสดุ/อุปกรณ์ : กะละมัง ถังพลาสติก ถุงพลาสติก ยางรัดถุง ส่วนผสม ปลาตะเพียน
10
กิโลกรัม
เกลือเสริมไอโอดีน
1
ขีด
ข้าวสุก
3½
กิโลกรัม
เกลือป่น
5
ก้ามือ
กระเทียมบด
1
กิโลกรัม
แป้งข้าวเจ้า
½
กิโลกรัม
น้้าสะอาด วิธีท้า 1. น้าปลามาล้างให้สะอาด ตัดครีบ น้าไส้ออกให้หมด 2. ใช้แปรงสีฟันล้างในท้องปลาให้สะอาด เอาเลือดปลาออกให้หมด 3. ผสมแป้งข้าวเจ้า 2½ ขีด (ครึ่งหนึ่งของ ½ กิโลกรัม) กับน้้า 1 กะละมัง น้าไป ล้างปลาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อขจัดกลิ่นคาว 4. น้าปลาที่ล้างสะอาดแล้วหมักกับเกลือป่น 4 ก้ามือ ใช้เวลาหมัก 1 ชั่วโมง 5. หลังจากนั้น ล้างปลาด้วยน้้าสะอาด 2 ครั้ง และล้างด้วยแป้งข้าวเจ้า ผสมน้้าอีก 1 ครั้ง (อัตราส่วน แป้ง 2½ ขีด : น้้า 1 กะละมัง 6. น้าเกลือป่น 1 ก้ามือ ข้าวสุก เกลือเสริมไอโอดีน และกระเทียมบด ผสมให้เข้ากัน แบ่งสักเล็กน้อยคลุกเคล้ากับปลาที่ล้างแล้ว ส่วนที่เหลือน้าไปใส่ในท้องปลาแต่ละตัวให้ เต็มท้อง 7. น้าปลาไปหมักไว้ในถังที่มีฝาปิด ทิ้งไว้ 3-4 วัน 8. ตักใส่ถุงพลาสติกขาย ขนาด ½ -1 กิโลกรัม หรือตามที่ลูกค้าต้องการ ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาดทั่วไป หรือขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้า ข้อแนะน้า : ท้าให้สะอาด ปิดให้มิดชิด อย่าให้แมลงวันตอม
๔
ส้มต้ารสแซบ เงินลงทุน : ครั้งแรกประมาณ 2,000 – 3,000 บาท (รวมราคารถเข็น) รายได้ : ประมาณ 1,000 – 2,000 บาท ขึ้นไป/วัน วัสดุ/อุปกรณ์ : ครก จาน-ช้อน รถเข็น ส่วนผสม มะละกอดิบหั่นฝอย 2 ถ้วยตวง แครอทหั่นฝอย 1/2 ถ้วยตวง ตวง (หั่นความยาวประมาณ 1" )
ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วย
น้้าปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้้าตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีสามารถใช้น้าตาลทรายแทนได้) น้้ามะนาว 3 ช้อนโต๊ะ มะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นครึ่ง) กุ้งแห้ง 1/3 ถ้วยตวง ถั่วลิสง 1/4 ถ้วยตวง พริกขี้หนู 10 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความต้องการ) กระเทียมสด 5 กลีบ วิธีท้า 1. ใส่กระเทียมและพริกลงในครก ใช้สากต้าพอแหลก จึงใส่กุ้งแห้งและต้าต่อไปอีกสักพัก 2. ใส่น้าตาลปี๊บ ต้าต่อจนน้้าตาลละลาย จึงใส่มะละกอฝอย, แครอทฝอย, ถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ, ถั่วลิสง ปรุงรสด้วย น้้าปลาและน้้ามะนาว จากนั้นจึงต้าต่อจนส่วนผสมทั้งหมด เคล้ากันทั่ว 3. ปรุงรสให้ถูกปากด้วย น้้าตาล, น้้าปลา หรือน้้ามะนาวเพิ่ม รสดั้งเดิมจะมีรสหวาน, เผ็ด และเปรี้ยวพอๆกัน 4. ตักใส่จานและโรยหน้าด้วยถั่วลิสง เสิรฟพร้อมผักสด (กะหล่้าปลี, ถั่วฝักยาว, ผักบุ้งไทย, อื่นๆ) และข้าวเหนียว ร้อนๆ ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาด แหล่งชุมชน เข็นขายตามท้องถนน
๕
ผัดหมี่โคราช ไก่สะเต๊ก เงินลงทุน
ประมาณ 4,000 บาท (รถเข็นราคาประมาณ 3,000 บาท)
เงินลงทุ:นประมาณ ประมาณ บาท บาท/วั (รถเข็นนราคาประมาณ 3,000 บาท) รายได้ 1000 -4,000 1500 บาท ประมาณ 500น –เตาถ่ 1,000 บาท/วั น ง หม้อ ไม้เสียบไก่ ถุงพลาสติก วัรายได้ สดุ/อุป: กรณ์ : รถเข็ าน บาท ตะแกรง กะละมั ดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น กะละมัง หม้อ ใบตองหรือใช้กล่องโฟม ส้อมพลาสติกหรือไม้ ส่วัวสนผสม เนื้ออกไก่ 600 กรัม ขิง 1 ชิ้น (หั่นเป็นชิ้นบางๆ) ตะไคร้ซอยละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ เสียบ ถาดใบใหญ่ ปากคีบ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ลูกผักชีคั่ว 1/2 ช้อนชา ยี่หร่าผง 1/2 ช้อนชา พริกไทยผง 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม (50 จาน)
ขมิ้นผง 1/2 ช้อนชา ผงกะหรี่ 1/2 ช้อนชา กระเทียมสับ 7 กลีบ กะทิ 1 ถ้วยตวง
เส้นหมี่โคราช 30 ก้า
กระเทียม 500 กรัม
หอมแดง 1
1/2
กิโลกรัม
น้้ามันพืช 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้้าตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ (**ไม้ส้าหรับเสียบไก่เพื่อย่าง 1 ถุง) วิน้ธ้าีทตาบปี ้า ๊บ 500 กรัม น้้ามะขาม 300 กรัม เต้าเจียว 100 กรัม
พริก1.หั ป่น่นเนื 100 ถั่วและบาง งอก 2 (ความกว้ กิโล ใบกุายงประมาณ ช่าย 1/2 1กินิโล้ว) มันหมูแข็ง 1/2 กิโล ้อไก่กรั เป็นมชิ้นยาว วิธีท2. ้า ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกันในชามใบใหญ่ จากนั้นใส่กะทิลงไป คนให้เข้ากัน 3.
ใส่ เนื้อไก่นลหมี งไปในเครื ่องหมั 90 -120 นาที เอาเส้ ่โคราชแช่ น้ากเส้และทิ นหมี้งไว้ ่หปาซืระมาณ ้อได้ตามร้ านขายของฝากโคราชแต่ ที่ขึ้นชื่อเลย
ก็จะเป็น เส้นหมี่ปักธงชัย กับเส้นหมี่พิมาย
4. น้าไก่มาเสียบไม้เตรียมไว้ย่าง น้าน้้าหมักที่เหลือไปอุ่นในหม้อจนกระทั่งเดือด 5.
กระเที ยมมาต้ าให้หยาบ หลักงเป็ จากนั ก็ต้าหอมแดงพอหยาบ ๆ เช่นกัน ย่น้าางไก่ ด้วยไฟร้ อนปานกลาง ทาน้ๆ้าหมั นครั้ง้นคราวระหว่ างกลับหน้า
6.
ตั้ง่อกระทะให้ นเอามั นหมู หั่นอชิมน้้น้าลงไปเจี วพอได้ กากหมูแล้วก็ยกลง และเท เมื ไก่สุกแล้ว จัรด้อใส่ จาน เสริ ฟพร้ จิ้ม (ซ๊อยสถั ่ว + อาจาด)
น้้ามันจากการเจียวหมู ใส่กระทะร้อนปานกลาง ใส่กระเทียม หอมแดงที่เรา ซ๊อสถั่ว (ส้ าหรั บน้าผัจิด มสะเต๊ ะ) : ใส่กากหมู น้้าตาลปี๊บ น้้ามะขามเปียก พริกป่น ผสมให้เข้า เตรี ยมไว้ พอหอม กันดีแล้ว ใส่เส้นหมี่โคราช ผัดให้เส้นสุกแล้วยกลง น้้าพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา น้้าตาลแดง 2 ช้อนโต๊ะ กะทิ 1 ถ้วยตวง น้้าร้อน 1/2 ถ้วยตวง ถั่วลิสงบด 1/4 ถ้วยตวง
โรยหน้าด้วยถั่วงอกและใบกุยช่าย เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อาจาด (ส้าหรับน้าจิมสะเต๊ะ) :
ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาด แหล่งชุมชน เข็นขายตามท้องถนน
น้้าส้มสายชู 125 มิลลิลิตร น้้าตาล 115 กรัม แตงกวาซอย 1/2 ลูก ข้อแนะน้า 2: ควรขายควบคู ่กับ1ส้มเม็ต้ดา/ข้ าวเหนี ยวไก่หั-่นหมู ปิ้ง เพืน่อแว่เสริ หอมแดงซอย ลูก พริกชี้ฟ้าแดง (เอาเม็ ดออก, ขวางเป็ น) มรายได้ ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาด แหล่งชุมชน เข็นขายตามท้องถนน
๖
อาหารหวาน มะพร้าวแก้ว เงินลงทุน วัตถุดิบ ประมาณ 500 บาท รายได้ประมาณ
/วัสดุอุปกรณ์ ประมาณ 400 – 600 บาท
300 – 500 บาท / วัน
วัสดุอุปกรณ์ ถาดสี่เหลี่ยมใส่ขนม กระชอน กะละมังเล็ก ส่วนผสม มะพร้าวขูดเป็นเส้นๆ 3 ถ้วยตวง น้้าตาลทราย 1 ถ้วยตวง น้้าลอยดอกมะลิ 1/2 ถ้วยตวง (หรือน้้าเปล่า) เกลือป่น 1/2 ช้อนชา สีผสมอาหาร (แล้วแต่สีที่ชอบ) หรือใช้สีสมุนไพรแทน วิธีท้า 1. ผสมน้้าเปล่าและน้้าตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง น้าไปตั้งบนไฟ อ่อนจนละลาย ใส่เกลือลงไป เคี่ยวต่อจนเหนียวเป็นยางมะตูม แล้วจึง เติมสีผสมอาหารลงไป (ถ้าต้องการหลายสี ให้แบ่งน้้าเชื่อมออกมาเป็น ส่วนๆ ตามจ้านวนสีที่ต้องการ) 2. เมื่อเตรียมน้้าเชื่อมเสร็จแล้ว ใส่มะพร้าวขูดลงไปเชื่อม คนให้ทั่วเพื่อให้ น้้าตาลจับมะพร้าวให้ทั่วทั้งเส้น เชื่อมจนน้้างวดลงจึงปิดไฟ 3. ตักมะพร้าวเชื่อมออกมาวางบนถาด ใช้ช้อนจัดแต่งรูปทรงให้เป็น ลักษณะก้อนกลมขนาดพอๆกัน (ต้องท้าให้เสร็จก่อนน้้าเชื่อมแห้ง) เมื่อท้า เสร็จ ให้น้าไปผึ่งแดดจนแห้ง 4. จัดใส่จานเสริฟหรือใส่ภาชนะมิดชิดเพื่อเก็บไว้รับประทานภายหลังได้ ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาดนัด แหล่งชุมชน งานบุญต่างๆ
๗
ข้าวเหนียวมูนหน้าปลาแห้ง เงินลงทุน วัตถุดิบ ประมาณ รายได้ประมาณ
300 บาท /วัสดุอุปกรณ์ ประมาณ 400 – 600 บาท
250 – 400 บาท / วัน
วัสดุอุปกรณ์ ถาดสี่เหลี่ยมใส่ขนม กระชอน กะละมังเล็ก กระด้ง จาน-ช้อนส้อม ส่วนผสม เนื้อปลาตากแห้ง 100 กรัม หอมแดงซอย 80 กรัม เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้้าตาลทราย 150 กรัม
วิธีท้า 1. น้าปลาแห้งไปอบจนกรอบ แกะเอาก้างปลาออก (ถ้ามีก้างใหญ่ๆ) ให้เหลือแต่เนื้อปลา แล้วน้าไปโขลกให้เนื้อฟู 2. ตั้งกระทะบนไฟอ่อนๆ น้าหอมแดงไปเจียวพอเหลืองกรอบ (ระวังไหม้) ปิดไฟ จึงน้าออกมาสะเด็ดน้้ามัน 3. น้าน้้ามันที่เหลือจากการเจียวหอมไปใส่ในกระทะและตั้งบนไฟร้อน ปานกลาง ใส่เนื้อปลาที่เตรียมไว้ ในขั้นตอนที่หนึ่งลงไปผัดจนปลากรอบ จากนั้นใส่เกลือลงไปผัดต่อ (ควรชิมด้วย ถ้าปลาแห้งเค็มมาก ก็ควรลด ปริมาณเกลือลง) เสร็จแล้วจึงปิดไฟ 4. น้าเนื้อปลาที่ผัดแล้วไปผสมกับหอมเจียวและน้้าตาลทราย เคล้าให้เข้ากันดี 5. เวลาเสริฟ ตักข้าวเหนียวมูนใส่จาน เติมหน้าปลาลงไปบนข้าวเหนียว มูน พร้อมเสริฟได้ทันที ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาดนัด แหล่งชุมชน งานบุญต่างๆ
๘
กล้วยเชื่อม เงินลงทุน วัตถุดิบ ประมาณ รายได้ประมาณ
200 บาท /วัสดุอุปกรณ์ ประมาณ 400 – 600 บาท
200 – 400 บาท / วัน
วัสดุอุปกรณ์ ถาดสี่เหลี่ยมใส่ขนม กระชอน กะละมังเล็ก ส่วนผสม
กล้วยไข่ห่าม 8-10 ผล (ปอกเปลือกและบั้งตามขวาง) น้้าเปล่า 500 กรัม
น้้าตาลทราย 400 กรัม
น้้ามะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้้ากะทิ 1/2 ถ้วยตวง (ส้าหรับท้าน้้ากะทิราดหน้า) เกลือป่น 1/2 ช้อนชา (ส้าหรับท้าน้้ากะทิราดหน้า) วิธีท้า 1. น้ากระทะทองเหลืองไปตั้งบนไฟอ่อน จากนั้นผสมน้้าตาล ทราย, น้้าเปล่า และน้้ามะนาวลงไป คนจนส่วนผสม ทุกอย่าง เข้ากันดี 2. น้ากล้วยที่ปอกแล้วลงไปเชื่อมในกระทะ เชื่อมจนสุกทั่ว โดยสังเกตว่าผิวกล้วยจะใส ฉ่้าและเป็นเงา จากนั้นตักใส่จาน เสริฟเตรียมไว้ 3. ท้าน้้าราดหน้าโดยผสมน้้ากะทิกับเกลือป่นเข้าด้วยกัน น้าไปตั้งบนไฟอ่อนๆสักพัก ระวังอย่าให้กะทิแตกมัน 4. เวลาเสริฟ ราดน้้ากะทิบนกล้วยที่เชื่อมแล้ว สามารถเสริฟ ได้ทั้งขณะร้อน หรือเย็น ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาดนัด แหล่งชุมชน งานบุญต่างๆ
๙
สาคูมะพร้าวอ่อน เงินลงทุน วัตถุดิบ ประมาณ รายได้ประมาณ
300 บาท /วัสดุอุปกรณ์ ประมาณ 400 – 600 บาท
250 – 400 บาท / วัน
วัสดุอุปกรณ์ ถาดสี่เหลี่ยมใส่ขนม กระชอน กะละมังเล็ก ใบตอง (ห่อกระทง) ส่วนผสม สาคู 200 กรัม เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเป็นชิ้น 100 กรัม น้้าเปล่า 900 กรัม หัวกะทิ 100 กรัม เกลือป่น 1/4 ช้อนชา แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนชา น้้าตาลทราย 250 กรัม วิธีท้า 1. น้าน้้าเปล่าใส่ลงในหม้อและตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ขณะรอน้้าเดือดน้าสาคู ไปล้างในน้้าเปล่าอย่างรวดเร็ว 2. เมื่อน้้าเดือด จึงใส่สาคูลงในหม้อ คนอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เม็ดสาคูเกาะตัว กัน ต้มจนเกือบสุก โดยเม็ดสาคูจะมีลักษณะใส จะเหลือจุดขาวๆภายในเม็ด สาคู 3. ใส่น้าตาลทรายลงไปในหม้อ คนจนน้้าตาลละลายจึงใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน ลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้งจึงปิดไฟ 4. ท้าน้้าราดกะทิ โดยใส่น้ากะทิ, แป้งข้าวเจ้าและเกลือลงในหม้อเล็ก ตั้งบนไฟ อ่อนๆจนเข้ากันดี ปิดไฟและพักไว้ 5. ตักสาคูมะพร้าวอ่อนใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้้ากะทิ พร้อมเสริฟรับประทาน ได้ทันที ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาดนัด แหล่งชุมชน งานบุญต่างๆ
๑๐
สังขยา เงินลงทุน วัตถุดิบ ประมาณ
300 บาท
วัสดุอุปกรณ์ ประมาณ 2,000 -3,000 บาท รายได้ประมาณ
500 – 700 บาท / วัน
วัสดุอุปกรณ์ ถาดสี่เหลี่ยมใส่ขนม กะละมังเล็ก ส่วนผสม
เครื่องปั่นไฟฟ้า หม้อคน
ใบเตยซอยละเอียด 150 กรัม ไข่ 1 ฟอง นมข้นจืด 2 ถ้วยตวง น้้าเปล่า 2 ถ้วยตวง น้้าตาล 200 กรัม แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ ขนมปังหรือปาท่องโก๋ (ส้าหรับทานกับสังขยา)
วิธีท้า 1. น้าใบเตยและน้้าเปล่าใส่ลงไปในเครื่องปั่นไฟฟ้า และปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้า กันดี จากนั้นจึงน้าไปกรองด้วยผ้าขาวบาง 2. ใส่นมข้นจืด, น้้าตาล, แป้งข้าวโพด, ไข่ และน้้าใบเตย (ที่ท้าในขั้นตอนที่หนึ่ง) ลงไปในเครื่องปั่นไฟฟ้าและปั่นจน ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว 3. น้าส่วนผสมที่ได้ ไปใส่ลงในกระทะและตั้งบนไฟอ่อนๆ และคนอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 20 นาที จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น 4. ตักสังขยาใส่ถ้วยแล้วโรยหน้าด้วยนมข้นจืดนิดหน่อย และจัดเสริฟพร้อมกับขนมปัง หรือปาท่องโก๋แล้วแต่ชอบ ส้มต้าส้มต ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ตลาดนัด แหล่งชุมชน / อาจใช้รถเข็นขาย ข้อเสนอแนะ
จ้าหน่ายพร้อมเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น เต้าฮวยนมสด น้้านมถั่วเหลือง(น้้าเต้าหู้) ชานม เป็นต้น
๑๑
ข้าวโพดอบเนย เงินลงทุน วัตถุดิบ
(ข้าวโพด) ประมาณ 250- 300 บาท
วัสดุอุปกรณ์(หม้อ) ประมาณ 350-500 บาท รายได้ประมาณ
350 บาท / 40 แก้ว
วัสดุอุปกรณ์ หม้อคน-ทัพพี แก้ว-ช้อนพลาสติก
ข้าวโพดหวาน 10 กก. เนยเค็ม ½ ก้อน นมสดกระป๋อง 1 กระป๋อง น้้าตาลทรายขาว ใช้ประมาณ 1/3 กก. /ข้าวโพด 10 กก. วิธีท้า 1. แกะเปลือกข้าวโพดหวานออก และเอาเศษฝอยต่างๆออกด้วย 2. แนะน้าให้ต้มข้าวโพดทั้งฝักแล้วค่อยแกะออก ขณะต้มให้เติมเกลือลงไปเล็กน้อย 3. เมื่อได้เม็ดข้าวโพดที่ต้มแล้วและแกะเม็ดเสร็จเป็น ที่เรียบร้อยแล้วให้ใส่ไว้ในหม้อแล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมไว้ 4. วิธีการผสมข้าวโพดอบเนยแต่ละแก้ว เริ่มโดยตักข้าวโพดประมาณ 2 ทัพพี ใส่ลงไปในหม้อคนเล็ก เติมเนยเค็มคลุกเคล้าให้เข้ากัน 5. เติมน้้าตาลทราย ½ ช้อนทานข้าว ตามด้วยนมสด 2-3 ช้อน เหยาะเกลือนิด หน่อยแล้วคนให้เข้ากันก็เป็นอันเรียบร้อย 6. ตักใส่แก้พลาสติกที่เตรียมไว้ พร้อมเสริฟได้เลย
๑๒
เครื่องดื่ม น้านมถั่วเหลือง(น้าเต้าหู้) เงินลงทุน : ครั้งแรกประมาณ 3,000 – 4,500 บาท (รวมรถเข็น) รายได้ : 5,000 – 6,000 บาท / เดือน วัสดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น เตา หม้อ ถ้วย ฯลฯ ส่วนผสม ถั่วเหลือง 1 ก.ก. น้้าสะอาด 8 ลิตร น้้าตาลทราย 1 ก.ก. เกลือป่น ½ ช้อนชา เครื่องปรุงที่ใส่ในน้้าเต้าหู้ สาคูเม็ดใหญ่ วุ้นหั่นเป็นเส้นยาว ลูกบัวต้ม ลูกเดือย ถั่วแดง ฟักเชื่อมหั่นเป็นชิ้น ๆ น้้าเชื่อม วิธีท้า น้าถั่วเหลืองมาคัดเอาสิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วน้าไปแช่น้าประมาณ 5 ชั่วโมง หรือถ้าแช่ในน้้าร้อนประมาณ 3 ชั่วโมง จนนิ่ม ขยี้เปลือกออก ล้างจน สะอาด ตวงน้้า 2 ลิตร น้าไปต้มจนเดือด ที่เหลือน้าไปปั่นกับถั่วเหลืองจนหมด เทใส่หม้อที่รองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น น้าน้้าที่ต้มเดือดเทตามลงไป คนให้เข้ากัน คั้นเอาแต่น้านมถั่วเหลือง ต้มไฟกลาง พอเดือดใส่เกลือ ครึ่งช้อนชา เคี่ยวต่ออีก ประมาณ
5 นาที ท้าน้้าเชื่อมเข้มข้น โดยใช้น้าตาลทรายเคี่ยวกับน้้าสะอาด
ในสัดส่วน 2 : 1 จนน้้าตาลละลายหมด เวลาขายใส่น้าเชื่อมและเครื่องปรุงต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ
ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย ย่านชุมชน เช่น ตลาด โรงเรียน สถานที่ราชการ เป็นต้น
๑๓
ชาเขียวนมสด เงินลงทุน : ครั้งแรกประมาณ 3,000 – 4,500 บาท (รวมรถเข็น+หม้อต้มกาแฟ) รายได้ : 450- 600 บาท / 50 แก้ว วัสดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น หม้อต้มกาแฟ แก้วพลาสติก ส่วนผสม (ชาเขียว 1 แก้ว) 1. 2. 3. 4. 5. 6.
ชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ นมข้นหวาน 2 ออนซ์ น้้าตาลทราย 1 ช้อนชา นมสด 1 ออนซ์ เกลือนิดหน่อย ไซรัปชาเขียว
วิธีการท้าชาเขียวนมสด
น้าชาเขียวมาผ่านน้้าร้อนสัก 1 ครั้ง(โดยใช้เครื่องต้มกาแฟ แบบโบราณก็ได้หรือใช้วิธีแช่กับน้้าร้อนประมาณ 3 - 4 นาที อย่าเกินนี้นะเพราะรสชาติชาเขียวจะขมไม่อร่อย แล้วเอานมข้นหวาน น้้าตาลทราย นมสด ใส่แก้วไว้ เทชาเขียวลงไปคนให้เข้ากัน เติมเกลือนิดหน่อย เอาแก้วใส่น้าแข็งเทชาเขียวนมสดที่เราชงไว้ และท็อปหน้าด้วยไซรัปชาเขียว
ข้อแนะน้า : ควรท้าเครื่องดื่มหลายชนิด และมีขนมของขบเคี้ยวขายควบคู่กัน ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย ย่านชุมชน เช่น ตลาด โรงเรียน สถานที่ราชการ
๑๔
เต้าฮวยนมสด ส่วนผสม นมถั่วเหลือง
200 กรัม (1 ถ้วยตวง)
วุ้นผง
1
ช้อนชา
เจลาติน
1
นมสด
2
ช้อนชา ช้อนโต๊ะ
วิธีท้า 1. ผสมทุกอย่างลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน 2. ตั้งไฟต้มจนเดือดประมาณ 3 นาที ยกลงมาเทใส่หม้ออีกใบหนึ่ง 3. พักส่วนผสมไว้ 10 ชั่วโมงจนกลายเป็นเต้าฮวยเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 3 วัน
ชานม ส่วนผสม ชาจีนมะลิ
50 กรัม
คอฟฟี่เมต วิธีท้า
น้้าสะอาด
2
ลิตร
300 กรัม 1. ต้มน้้าให้เดือด ยกลงมาตั้งบนโต๊ะ จากนั้นแช่ใบชาให้ออกสีของชา 2. กรองเอากากของใบชาออกให้เหลือแต่น้าชา เติมคอฟฟี่เมตและน้้าตาล
ทรายลงไปคนให้เข้ากัน 3. กรองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเศษของใบชาเหลืออยู่ในชานม
ชาไข่มุก ส่วนผสม ไข่มุกสมุนไพร
100
กรัม
น้้าตาลทรายแดง
2
ช้อนโต๊ะ
น้้าสะอาด
2
ลิตร
วิธีท้า 1. ต้มน้้าให้เดือดพล่าน 2. ใส่ไข่มุกลงไปต้มจนสุก (นานประมาณ 30 นาที) พอน้้างวดยกลงจากเตา 3. ล้างด้วยน้้าเย็น เติมน้้าตาลทรายแดงคนให้เข้ากัน ปิดฝาพักไว้จนไข่มุกพอง ตัวก็น้าไปใช้ได้ ข้อแนะน้า การท้าเครื่องดื่มชาไข่มุก สามารถน้าไปประยุกต์ใช้ผสมกับสมุนไพรต่าง ๆ ได้ เช่น มะตูม ตะไคร้ ขิง กระชายด้า กระเทียม หอม มะเขือเทศ เก๊กฮวย เพื่อเพิ่มสีสันรสชาด และสรรพคุณ และยังเป็นการสนับสนุน ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาไทยด้วย
๑๕
น้าผลไม้ปั่น เงินลงทุน : ประมาณ 4,000 บาท (เครื่องปั่นน้้าผลไม้ 1,500 บาทขึ้นไป กระติกน้้าแข็ง 200 กว่าบาท ที่คั้นน้้าส้มอะลูมิเนียม 250 บาท) รายได้ : ประมาณ 8,000 -10,000 บาท/เดือน วัสดุ/อุปกรณ์ : เครื่องปั่น ที่คั้นน้้าส้ม ภาชนะใส่ผลไม้ โหลใส่น้าเชื่อม ช้อน มีด เขียง ทัพพีกลมขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลาง 2 ½ นิ้ว แก้ว ถุงพลาสติก หลอดดูด ยางรัดถุง กระติกน้้าแข็งและภาชนะตักน้้าแข็ง วัตถุดิบ : น้้าตาลทราย น้้า นมสด เกลือป่น น้้าแข็ง และผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด มะพร้าวน้้าหอม กล้วยหอม แตงไทย ฝรั่ง แอปเปิ้ล แตงโม แครอท เป็นต้น วิธีท้า 1. น้าน้้าตาลทรายและน้้าในอัตราส่วน 2:1 ตั้งไฟ คนให้ละลายเข้ากันเป็นน้้าเชื่อม แล้วใส่ โหลไว้ 2. น้ามะพร้าวน้้าหอมที่เตรียมไว้ เอาแต่น้ามะพร้าวและตักเนื้อเป็นชิ้น ๆ เทใส่ภาชนะไว้ 3. ผลไม้อื่น ๆ ใส่ภาชนะไว้ให้ดูสวยงาม วิธีปั่นน้าผลไม้ 1 แก้ว 1. น้้าส้ม – ส้ม 1-2 ผล (ขึ้นอยู่กับขนาดของผลส้ม) คั้นเอาน้้าน้้ามะนาว – มะนาว 1 ผล คั้นเอาน้้าสับปะรด – หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1/3 ถ้วยตวง มะพร้าวอ่อน – น้้ามะพร้าวพร้อมเนื้อเล็กน้อยประมาณ 1 ทัพพีกลม 2. น้าน้้าหรือเนื้อผลไม้ตามที่ลูกค้าต้องการ ในอัตราส่วนข้อ 1 ใส่เครื่องปั่น 3. ตักน้้าเชื่อมใส่ประมาณ 1 ทัพพีกลม 4. ใส่เกลือประมาณ ¼ ช้อนชา (อาจมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับชนิดของน้้าผลไม้) 5. ตักน้้าแข็งใส่
(มีต่อ)
๑๖
6. ใส่นมสดเล็กน้อยตามชนิดของน้้าผลไม้ที่ลูกค้าต้องการ 7. กดปุ่มเครื่องปั่นปั่นน้้าแข็งให้ละเอียดตามความต้องการของลูกค้า 8. จากนั้นเทใส่ถุงหรือแก้วให้ลูกค้า ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย : ย่านชุมชน ตลาดนัดชุมชน หน้าสถานศึกษา หรือสถานที่ราชการ ข้อแนะน้า 1. อาจเพิ่มชา-กาแฟปั่น โอวัลตินหรือไมโลปั่น โดยใช้ชา-กาแฟส้าเร็จรูปไมโลหรือโอวัล ตินชงใส่น้าตาล และครีมเทียมหรือนมข้นหวาน น้าไปปั่น หรือชง-กาแฟโบราณร้อน-เย็น ขายควบคู่กัน 2. การท้าน้้ามะนาวปั่น ไม่ควรบีบเปลือกมากเกินไป เพราะจะท้าให้มีรสขม 3. ควรสอบถามความต้องการของลูกค้าว่าต้องการรสชาติอย่างไร เช่น หวานน้อยหรือมาก และน้้าผลไม้บางชนิดต้องการ ใส่นมสดหรือไม่
๑๗
การเพาะถั่วงอก เงินลงทุน : ประมาณ 1,500 บาท
ปลูกพืช/ เลี้ยงสัตว์
รายได้ 1,400 บาท/175 กิโลกรัม วัสดุ/อุปกรณ์ : โอ่งน้้า 5 ใบ กระสอบข้าวสาร อ่างล้างถั่วงอก สายยาง เมล็ดถั่วเขียว แหล่งจ้าหน่ายวัสดุอุปกรณ์ : เมล็ดถั่วเขียว หาซื้อได้ตามร้านค้าเมล็ดพันธุ์ไม้ทั่วไป วิธีด้าเนินการ 1. น้าโอ่งน้้า หรือโอ่งลายมังกร ขนาดกลาง 5 ใบ มาเจาะรูที่ก้นโอ่งขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร จ้านวน 5 รูต่อใบ เพื่อให้น้าไหลออก 2. น้าเมล็ดถั่วเขียวน้้าหนัก 15 กิโลกรัม แช่ในน้้าสะอาด 1 วัน เมื่อแช่น้าจนได้ที่แล้วให้ ล้างเมล็ดถั่วเขียวให้สะอาด พร้อมกับช้อนเมล็ดถั่วที่ลอยน้้าทิ้ง เพราะเป็นเมล็ดเสีย เพาะพันธุ์ไม่ได้ 3. จากนั้นน้ามาเทลงในโอ่งๆ ละ 3 กิโลกรัม จ้านวน 5 โอ่ง ปิดทับด้วยกระสอบข้าวสาร ใช้ระยะเวลาในการเพาะเลี้ยง 3 วัน โดยในแต่ละวันต้องรดน้้าวันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น เมื่อครบ 3 วันแล้วจะได้ถั่วงอกมีความยาวประมาณ 3 เซนติเมตร ได้ น้้าหนัก 35-38 กิโลกรัม/1 โอ่ง รวม 5 โอ่ง จะได้ถั่วงอกประมาณ 175 กิโลกรัม ต่อ เมล็ดถั่วเขียว 15 กิโลกรัม ตลาด/แหล่งจ้าหน่าย ขายส่งแม่ค้าตลาดสด หรือน้าไปขายเองในตลาดสด ข้อแนะน้า 1. เมล็ดพันธุ์ควรเป็นเมล็ดถั่วเขียวผิวมันหรือถั่วเขียวสีด้า 2. การเพาะถั่วงอกในช่วงฤดูหนาว จะต้องเพิ่มระยะเวลาในการเพาะเป็น 4 วัน เพราะในช่วงฤดูหนาวพืชเติบโตช้า 3. วิธีรดน้้าควรที่จะมีตะแกรงพลาสติกรองรับแรงดันน้้าที่ไหลมาตามสายยาง เพื่อ ป้องกันไม่ให้แรงดันน้้าเซาะถั่วงอกแตกกระจาย ซึ่งจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วงอก และท้าให้ถั่วงอกมีลักษณะหงิกงอ เสียรูปทรงได้
๑๘
รับซือ-ขายส่งมะพร้าว เงินลงทุน : ประมาณ 1,500 – 2,000 บาท (รถเข็นพ่วงแบบธรรมดา 2 ล้อ +ราคารับซื้อมะพร้าว) รายได้ : ประมาณ 500 -700/ 50 ผล วัสดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น (พ่วง) กระสอบ ตะขอเกี่ยว มีด(ด้ามยาวใช้ปอกเปลือก) ตาชั่ง วิธีการ 1. รับซื้อผลมะพร้าวอ่อน-แก่ จากหมู่บ้านหรือชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง 2. คัดแยกประเภทในการส่งไปขาย เช่น - มะพร้าวอ่อน (ขายเป็นผล) ผลละ 8-15 บาท - มะพร้าวแก่ปอกเปลือก
ผลละ 24-25 บาท
- เนื้อมะพร้าวขูดเป็นฝอย กิโลกรัมละ 34-36 บาท - เปลือกมะพร้าวสับ กิโลกรัมละ 1.50
– 2 บาท
(อ้างอิงจาก http://www.ryt9.com) 3. น้าไปส่งตามตลาดนัดในเมือง หรือร้านอาหาร โดยบรรจุลงกระสอบ ก็ได้ หรือบรรทุกในรถเข็นพ่วงก็ได้
๑๙
การเลียงจิงหรีด เงินลงทุน
ประมาณ 2,000 – 2,500 บาท (พ่อแม่พันธ์จิ้งหรีด ราคาคู่ละ 10 บาท)
รายได้ : กิโลกรัมละ 100 บาท อุปกรณ์ : กล่องพลาสติก อาหารของจิ้งหรีด : กล้าอ่อนของพืช และ อาหารไก่ ขันตอนด้าเนินการ 1.เตรียมดินโดยใช้ดินที่มีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย น้้าหนัก 5 กก./กล่อง อบดินที่ อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 ชั่วโมง หรือตากดินเป็นเวลา 5 วัน 2.จับคู่ผสมพันธ์ ใช้ตัวเต็มวัยที่เป็นตัวเมีย2 ตัว ตัวผู1้ ตัว/กล่องให้อาหารจิ้งหรีด1 กรัม/ กล่อง(อาหารไก่) ให้อาหารทุก3 วัน 3. เมื่อครบ 10 วัน น้าจิ้งหรีดที่ผสมพันธ์วางไข่แล้ว ออกจากกล่อง หลังจากนั้น ประมาณ 3 – 5 วัน
จิ้งหรีดจะเริ่มฟักออกเป็นตัวมีขนาดเล็กมาก งดให้อาหาร ให้
เฉพาะน้้า และหญ้าสดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 4. จิ้งหรีดที่มีอายุ 1 – 7 วัน ให้อาหารเปลี่ยนหญ้าทุก 7 วัน ให้อาหาร 2 กรัม/กล่อง/3 วัน เวลาให้น้าต้องน้าถ้วยอาหาร
ออกก่อน
เนื่องจากอาหารจะขึ้นราได้ง่าย 5. เมื่อจิ้งหรีดอายุ 8 – 15 วัน เปลี่ยนหญ้าทุก 3 วัน พรมน้้าทุก 3 วัน อย่าให้ชื้น จนเกินไป เนื่องจากจะเกิดไรจิ้งหรีด ให้อาหาร 4 กรัม/กล่อง/3วัน เมื่อจิ้งหรีดอายุ 16 – 30 วัน ให้อาหารเพิ่มเป็น 8 กรัม/กล่อง/3วัน 6. หลังจากจิ้งหรีดอายุได้ 30 วัน น้าจิ้งหรีดจาก 3 กล่องมาใส่ลงในกรง ให้หญ้าสดทุก 3 วัน ให้อาหาร 10 กรัม/กรง/วัน 7. เก็บจิ้งหรีดขายหลังจากที่จิ้งหรีดมีอายุได้ 2 เดือน หรือ 60 วัน หลังจากการฟักออกจากไข่
๒๐
การแปรรูป ส่วนผสม ข่า
ใบมะกรูด ตะไคร่
เกลือสินเธาว์
วิธีการ 1. น้าจิ้งหรีดมาล้างท้าความสะอาด 2. น้ามาคั่วและปรุงรสด้วยเครื่องปรุงโดยใส่ข่า ตะไคร่ ใบมะกรูด และเกลือสินเธาว์ คั่วจนสุก แหล่งจ้าหน่าย
ตลาด หรือแหล่งชุมชนต่างๆ
ข้อแนะน้า 1. ควรระระวังเรื่องความสะอาด และศัตรูของจิ้งหรีดคือมด ดังนั้นจึงควรมีที่รองตู้กันมดเอาไว้ 2. ก่อนน้าจิ้งหรีดส่งขายหรือแปรรูปต้องงดให้อาหาร 3 วัน โดยเฉพาะหญ้าสด และหัวอาหารไก่ จะได้ไม่มีกลิ่นของสารอาหาร
๒๑
รับจ้างย้อมผ้า เงินลงทุน
เบ็ดเตล็ด
ประมาณ 800 บาท
(ปี๊บสังกะสีใบละ 15 บาท ถังพลาสติกใบละ 20 บาท เตาอังโล่ 70 บาท สีย้อม ผ้าสีสีด้า กิโลกรัมละ 80 บาท หินเคลือบสี กิโลกรัมละ 35 บาท น้้ายากันสีตก กิโลกรัมละ 150 บาท สีย้อมผ้าสีกรมท่า กิโลกรัมละ 300 บาท รายได้ : ประมาณ 300 บาท / วัน วัสดุ/อุปกรณ์ ปี๊บสังกะสี 2 ใบ ถังพลาสติกชนิดที่ใช้บรรจุสี 5 ใบ เตาอังโล่ขนาด 15 นิ้ว 1 เตา สีย้อมผ้าสีด้าและสีกรมท่า น้้ายากันสีตก หินเคลือบสี วิธีด้าเนินการ การย้อมสีด้า 1.น้าปี๊บมาเติมน้้าสะอาดประมาณ ½ ของปี๊บ น้าขึ้นตั้งไฟ จากนั้นให้ผสมสี ย้อมผ้าสีด้าลงในปี๊บ 12 ช้อนโต๊ะ ใส่หินเคลือบสี 2 ช้อนโต๊ะ คนให้ละลายเข้ากัน แล้วรอจนน้้าร้อนพอมีไอร้อนลอยขึ้น แต่ไม่ต้องถึงกับเดือดพล่าน จึงยกลงจากเตา 2.เมื่อน้้าย้อมผ้าร้อนแล้ว ก่อนจะน้าผ้าลงย้อมให้น้าผ้าไปซักน้้าเปล่าให้เปียกทั่ว ตัวเสียก่อน จากนั้นจึงน้ามาแช่ในปี๊บน้้าย้อมผ้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วน้า ไม้มาคนให้ทั่วยกผ้าขึ้นเหนือปี๊บ ปล่อยให้น้าย้อมไหลลงปี๊บ เมื่อผ้าใกล้สะเด็ดน้้า ก็น้ากลับมาแช่ในปี๊บอีกแล้วยกขึ้นใหม่ ท้าเช่นนี้ติดต่อกันประมาณ 2-3 ครั้ง จึง แช่ผ้าทิ้งไว้ในปี๊ปอีก 10 นาที รอให้สีย้อมผ้าเกาะติดเนื้อผ้าเต็มที ในขณะที่รอนี้ ให้น้าถังพลาสติก 3 ใบ มาใส่น้าสะอาดโดยใบหนึ่งให้ผสมน้้ายากันสี ตกลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนอีกสองใบที่เหลือใช้ส้าหรับซักผ้าที่ ย้อมเสร็จแล้ว หลังจากแช่ผ้าครบ 10 นาที ให้น้าผ้าขึ้นมาซักในน้้า ที่เตรียมไว้จนแน่ใจว่าสะอาด
๒๒
3. จากนั้นน้าลงแช่ในถังที่ผสมน้้ายากันสีตกประมาณ 10 นาที แล้วจึงน้าขึ้นมาซักในถังน้้าอีกในที่เหลือ ขั้นตอนสุดท้ายก็บิดผ้า น้าขึ้นมาตากจนแห้งเป็นอันเสร็จขั้นตอนการย้อมผ้าสีด้า การย้อมสีกรมท่า มีข้อแตกต่างจากการย้อมสีด้าเล็กน้อยกล่าวคือ จะใช้น้าสะอาด ½ ปี๊บ ใช้สีกรมท่า 12 ช้อนโต๊ะ หินเคลือบสี 2 ช้อนโต๊ะ และเพิ่มเกลือถุงเล็กลงไปผสม อีก 1 ถุง ส่วนขั้นตอนการย้อมต่าง ๆ จะเหมือน กับการย้อมสีด้า ข้อควรระวัง ขั้นตอนการแช่น้ายากันสีตก ห้ามน้าผ้าที่ย้อมด้วยสีกรมท่ามาแช่ร่วมกับถังน้้ายากันสีตก ที่ใช้กับผ้าสีด้า เพราะจะท้าให้ผ้าที่ย้อมมีสีด้าปะปนกับสีกรมท่าและ น้้าเปล่าที่ใช้ซักก็ต้องเปลี่ยนใหม่ ทุกครั้ง ข้อแนะน้า 1. ปี๊บที่ใช้ถ้าจะให้ดีควรเป็นปี๊บที่เคยบรรจุของดอง เพราะปี๊บแบบนี้จะเคลือบ “น้้ายาป้องกันสนิม” มาอย่างดีใช้ได้นาน และหากมีทุนมากก็ควรเปลี่ยนถัง พลาสติกเป็นถังแบบสแตนเลส เพราะจะสะดวกในการล้างท้าความสะอาด และเปลี่ยนเป็นเตาแก๊สแต่ถ้าจะใช้เตาอังโล่ ก็อาจหาเศษฟืนมาใช้แทนถ่าน เป็นการประหยัดยิ่งขึ้น 2. น้้ายากันสีตกสามารถใช้ได้หลายครั้งจนกว่าจะเห็นว่าเริ่มสกปรกจึงค่อยเปลี่ยนใหม่ ส่วนน้้ายา ย้อมสีก็สามารถใช้ได้นาน แต่ในการย้อมสีผ้าใหม่แต่ละชิ้นแต่ละครั้ง จะต้องเติมหินเคลือบสีลง ไปเพิ่มอีก 2 ช้อนโต๊ะทุกครั้ง 3. ผ้าโทเร ผ้าเนื้อมันและผ้ายืด จะย้อมไม่ค่อยติด แต่ถ้าเป็นความต้องการ ของลูกค้าก็ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบ 4. เพื่อลดมลพิษและรักษาสิ่งแวดล้อมควรเตรียมถังไว้อีก 1 ใบ เจาะรูพรุนที่ก้นถังแล้วใส่ทรายไว้ครึ่งถัง เมื่อจะเทน้้าย้อมผ้าทิ้งให้เทลงในทราย เพื่อกรองกากสารเคมีของสีย้อมก่อนจะปล่อยให้น้าไหลลงสู่แหล่งน้้าธรรมชาติ
๒๓
อาชีพรับซือของเก่า(การคัดแยกขยะขาย)
เงินลงทุน : ประมาณ 2,000-3,000 บาท (รถเข็นพ่วงแบบธรรมดา 2ล้อ +เงินทุนรับซื้อของเก่า) รายได้ : ขึ้นอยู่กับปริมาณขยะที่คัดแยกได้ วัสดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น (พ่วง) ตาชั่ง กระสอบ วิธีการ 1. รับซื้อขยะ หรือของเก่าต่างๆ จากหมู่บ้าน/ชุมชน โดยใช้กระสอบ หรือ รถเข็น(พ่วง) เป็นพาหนะในการรับซื้อและขนส่ง 2. จากนั้นน้าขยะมาคัดแยกประเภท เช่น - กระดาษขาวด้า พิมพ์
5 บาท /ก.ก.
- กระดาษสี กล่องรองเท้าแบบสวย - กระดาษหนังสือพิมพ์
2 บาท /ก.ก.
3 บาท /ก.ก.
- กล่องลังน้้าตาล 4 - 5 บาท /ก.ก. - กระป๋อง
6.5 บาท/กก.
- ขวดแก้วแตก (ขาว-น้้าตาลแดง) 0.2-0.3 บาท/กก. - ขวดน้้าปลา 16 บาท/ลัง (ขายแยกใบละ ๑ บาท) - พลาสติกใส ขวดน้้า ขวดน้้ามันพืช 13 บาท /กก. - เหล็กรวม 5.5 บาท/ กก. - ขวดเบียร์ (ใบละ 1 – 3 บาท) ฯลฯ
อ้างอิงจาก
http://www.wongpanit.com
๒๔
ขายส่งขนมแผง ขนมแผง ที่เราพูดถึงอยู่นั้น คือ ขนมที่เป็นแพ็คซองเล็กๆ แล้วน้ามาเย็บติดกัน เป็นแผงนั่นเอง อุปกรณ์ที่ต้องลงทุน ได้แก่ - เครื่องซีลปากถุง ราคาประมาณ 800
– 1000 บาท
- ถุงพลาสติก ราคากิโลกรัมละ 30
– 45 บาท
- กระดาษแข็งแผ่นละ 10 บาท ยกตัวอย่างของที่น้ามาแพ็คจ้าหน่ายได้ หนังปลาทอดกรอบปรุงรส - ต้นทุนกิโลกรัมละ 200 – 220 บาท - ราคาขาย 3 ถุง 100 บาท หรือขายแยกเป็นถุง ถุงละ 35 บาท - บรรจุซองละ ประมาณ 10 - 20 กรัม ก้าไรกิโลกรัมละ 125 – 150 บาท ดังนั้นแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่เราสามารถดัดแปลง หรือเลือกที่จะน้ามาจ้าหน่ายใน ลักษณะแบบนี้ก็ไม่ได้ยากอะไร แต่เราต้องค้านึงถึงสถานที่ในการผลิต แหล่งรับซื้อ ที่ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องของรสชาติและความสะอาด ตลาด/สถานที่จ้าหน่าย สามารถวางขายหน้าร้านขายของช้าทั่วไป ร้านขายก๋วยเตี๋ยว ร้านขายส้มต้า การขายส่งขนมแผงอาจจะเหนื่อยหน่อยที่ต้องหาร้านค้าในช่วงแรก แต่ถ้าเราหาเครือข่าย ได้แล้ว ก็สามารถทุ่นแรงได้มาก หรือสามารถให้หน่วยงานราชการ ส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ จัดหา หรือสนับสนุนเพิ่มเติมก็ได้อีกทางหนึ่ง
๒๕
ประมง (อุปกรณ์หากินใช้จับปลา
เครื่องมือหาปลาพื้นบ้านอาจมิได้หมายถึงสิ่งของที่ท้าไว้เพื่อใช้ในการจับ ปลาเท่านั้น แต่เครื่องมือหาปลายังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนทั้งใน ชุมชน และนอกชุมชนที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับแม่น้า การหาปลาได้ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ ระหว่างพี่น้องในชุมชนและต่างชุมชน หากจะกล่าวว่าการใช้เครื่องมือหาปลาเป็นส่วน หนึ่งของรากฐานทางวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่นก็คงไม่ผิดแปลกเท่าใดนัก เครื่องมือหาปลาบางชนิด เช่น จ๋้า (สะดุ้ง) หิง (สวิง) แซะ ซึ่งใช้ตามริม ห้วย หนอง หรือทุ่งนา อาชีพประมงนั้น สิ่งที่ต้องลงทุนก็คือ อุปกรณ์ในการหาปลา และทุน ประสบการณ์ ความรู้เดิมในการหาปลาที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ ราคาอุปกรณ์ในการหาปลาในปัจจุบัน - สวิง
ราคา ตั้งแต่ 100 – 1500 บาท มีหลากหลาย
- แห
ขนาด และรูปแบบ ส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์หาปลา
- หิง
ในปัจจุบัน เราสามารถท้าใช้เองได้ในชุมชน มี กลุ่ม
- แซะ
อาชีพ ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่า
- ไซ
ปลา หรือผลผลิตที่เราได้มา จะสามารถแปรรูป
- ฆ้อง
และสร้างมูลค่าได้อย่างไร
ปลาที่จับตามห้วย หนอง เป็นปลาชนิดที่มีขนาดเล็ก และจับเพื่อเป็น อาหารของครอบครัวเป็นหลัก หากเหลือก็จะขายเป็นรายได้เข้าครอบครัวหรือแปรรูป ขาย เช่น น้ามาแอ๊บ (ลักษณะคล้ายห่อหมกแต่ต่างกันตรงที่แอ็บไม่ใช้เครื่องปรุงมาก เหมือนห่อหมก) เป็นห่อขายในชุมชน ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ (ปลา) ได้อีก ทางหนึ่ง ท้าให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงเป็นอาชีพหนึ่งที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
๒๖
งานช่าง ช่างตัดผม/ช่างเสริมสวย
ก่อนจะตัดสินใจท้าอาชีพนี้ อย่างน้อยคุณต้องมีทุนเดิม คือ ประสบการณ์บวกกับใจรักในอาชีพนี้ก่อน ถึงจะสามารถเรียนรู้และอาศัยช่องทางนี้ เพื่อหารายได้ให้กับตัวเอง เงินลงทุน
: ขึ้นอยู่กับวัสดุอุปกรณ์ที่คุณจะลงทุน
รายละเอียดราคา มีดังนี้ - กระจกเงา 1 บาน ราคาประมาณ 980 บาน - เก้าอี้ตัดผมอย่างดี ราคาประมาณ 3,000 บาท (หรืออาจใช้เก้าอี้ พลาสติกหรือเก้าอี้ไม้ที่ท้าขึ้นเองได้ก่อน) - ไดร์เป่าผม ราคาประมาณ 800 -1,500 บาท - กรรไกร ตัด-สระซอย ราคาประมาณ 350 - 540 บาท/ด้าม - โรลม้วนผม ราคาประมาณ 100 บาท - ผ้าขนหนูผืนเล็ก ผืนละ 45 – 55 บาท/ผืน หลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการหาท้าเล/สถานที่ที่เหมาะสมในการลงทุน เราไม่จ้าเป็นต้องเปิดที่บ้านอย่างเดียวก็สามารถหาท้าเลอื่นได้ เช่น ตลาดนัดชุมชน ไปร่วมกับส่วนท้องถิ่น/เทศบาล นา
๒๗
ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ อาชีพนี้ถือว่าเป็นอาชีพเสริมให้กับใครที่มีทักษะ ฝีมือ ในงานช่างแบบนี้ถ้า ไม่ท้าด้วยใจรักก็ยากที่จะเรียนรู้ได้เร็ว ส่วนใหญ่แล้วช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ถ้ามีฝีมือดี อยู่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดก็น่าจะเป็น วัตถุดิบในการผลิต คืออะไหล่รถจักรยานยนต์
เงินลงทุนที่ต้องใช้ (อุปกรณ์ซ่อมรถ อย่างน้อยน่าจะมีทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว) อาทิเช่น - ยางนอก ราคาเริ่มต้น เส้นละ 190 บาท - ยางใน ราคาเริ่มต้นเส้นละ 43 บาท - ผ้าเบรก (สูญญากาศ) คู่ละ 35 บาท - หัวเทียน ราคาเริ่มต้น หัวละ 34 บาท - โซ่มอเตอร์ไซด์ เริ่มต้น เส้นละ 70 บาท - ฯลฯ ที่มา http://www.apmotopart.com
๒๘
ที่ปรึกษา นางสายพิรุณ น้อยศิริ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา นายสมาน พั่วโพธิ์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นางอัจฉรา เคียงวิมลรัตน์ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน นางสาวจุลี บุญวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน นางขวัญใจ จันทรมณี หัวหน้าฝ่ายอ้านวยการ
"ล้ม" ลงสักกี่ครั้ง ผิดหวังมาสักกี่หน ลุกขึ้นยืนให้ได้ แล้วสักวันเราจะเจอความสุข เพราะความสุขไม่ได้หนีจากเราไปไหนหรอก
กองบรรณาธิการ นายสุรพล ท้าวพรหม นักวิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ นางจารุภา พลฉิม นักวิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ นายเอกราช ญาณอุบล นักวิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ พิมพ์/ออกแบบ นางสาวราตรี ปิ่นศักดิ์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ
มันอยู่ใกล้เราแค่เพียงเอื้อมมือจริง ๆ… …มีคนเคยบอกไว้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ
ไม่ใช่สิ่งที่จะกาหนดความสุขของคุณ แต่มันเป็นความคิดของคุณเองต่างหาก ความคิดที่มีต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับคุณนั่นเองจะสุขหรือจะทุกข์ก็ขึ้นอยู่ที่เราทั้งนั้นเป็นคนกาหนด ล้มทั้งยืนเสียบ้างก็คงไม่เสียหายไร แต่ล้มไม่เป็นเลยนี่สิ...
“แนะนาอาชีพทางเลือก เพื่อยกระดับรายได้ครัวเรือนตกเกณฑ์ ปี ๒๕๕๔” จาทาโดย สานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา