CBD CANNABINOID MEDECINE & MEDICAL

Page 1


สารบัญ บทความวิชาการ หน้า กัญชา 1-2 ส่วนประกอบของต้น กัญชา 3-6 สารสำ�คัญ กัญชา 7-12 กัญชาและสมองระบบประสาทส่วนกลาง 13-14 Cannabis(กัญชา)และการเดินทางของ Cannabinoid 15-16 อนุกรมวิธานของกัญชาและกัญชง 17-21 การศึกษาผลของสาร CBD ในมนุษย์ & 22 เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับกัญชา THC&CBD ช่วยอะไร ? 23-29 CBD น้ำ�มันกัญชา 30-32 เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ กัญชา & 33 กระบวนการชีวสังเคราะห์สาร CBD และ THC วิธีสกัดน้ำ�มันกัญชา(แบบทำ�ได้เองทั่วไป) 34 ข้อแนะนำ�และข้อควรระวังในการใช้น้ำ�มันกัญชา 35


คำ�นำ�

จัดทำ�ขึ้นเพื่อคุณภาพชีวิต และหนังสือการแพทย์แคนนาบินอยด์ และกัญชาศาสตร์ เพื่อการวิจัย เล่ม 3 นี้ สิ่งแวดล้อมของมวลมนุษย์ ร่วมรณรงค์สัปดาห์วันสิ่งแวดล้อมโลกในวัน ที่ 4-8 มิถุนายน 2561 ด้วยการจัดอบรม หลักสูตรดังกล่าว ระหว่างวันที่ 4-8 มิถุนายน 2561 (วันสิ่งแวดล้อมโลกคือวันที่ 5 มิถุนายน 2561 ) ตามที่เป็น ที่ทราบทั่วกันว่ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายมี วิวัฒนาการร่วมกัน ทั้งสิ่งมีชีวิตเล็กๆ กระทั่งที่เป็นมนุษย์ Homosapean ผ่านการเปลี่ยนแปลง พัฒนามานาน หลายยุค แม้มนุษย์จะพยายามศึกษาคันคว้าและอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ รวมทั้งเรื่องของชีวิตต่างๆ ก็ได้พบเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ยังไม่อาจรู้ได้หมด และบางกรณียังต้องผ่าน การ พิสูจน์อีกมาก จึงพบว่าสิ่งที่เราได้รู้มาและเข้าใจว่าถูกต้อง ต่อมาก็ได้ถูกเปลี่ยนไปมากมายหลาย เรื่อง ในวงการ แพทย์ก็เช่นกัน ในช่วงชีวิตของแพทย์ตามแบบ conventiona. รุ่นนี้ หรือก่อนนี้ หลายรุ่น ไม่ได้มีโอกาสเรียน เกี่ยวกับการแพทย์แคนนาบินอยด์ (Cannabinoid medicine) ใน โรงเรียนแพทย์แต่อย่างใด แม้ว่าแคนนาบินอยด์ และรีเชพเตอร์ของแดนนาบินอยด์ ได้รับการค้นพบ และพิสูจน์อย่างปราศจากข้อโต้แย้งทางวิซาการก็ตาม แต่การ วิจัยเพื่อความเข้าใจในทางประโยชน์ และพิษภัย (ถ้าจะมี) โดยเฉพาะการใช้เป็นยารักษาโรค ยังคงมีอย่างจำ�กัด โดยเฉพาะ cannabinoids ชื่อ CBD คงมีการศึกษาค่อนข้างมากใน THC อย่างไรก็ดีได้มีการศึกษา ทั้งแบบ primary research, case report, meta analysis จำ�นวนไม่น้อย กว่าหนึ่งหมื่นรายงานที่พบได้ในฐาน ข้อมูล Medline, Cochrane, etc. และมีรายงานที่น่าสนใจชองคณะกรรมการของ USA Nationat Academies ofโดยเฉพาะ cannabinoids ชื่อ CBD คงมีการศึกษาค่อนข้างมากใน THC อย่างไรก็ ดีได้มีการศึกษา ทั้งแบบ primary research, case report, meta analysis จำ�นวนไม่น้อย กว่า หนึ่งหมื่นรายงานที่พบได้ในฐานข้อมูล Medline, Cochrane, etc. และมีรายงานที่น่าสนใจชองคณะ กรรมการของ USA National Academies of Science-Engineering-Medicine ในปี 2017 ก็ตาม รวมถึงในช่วงปีที่ผ่านมา WHO ได้ออกรายงานเฉพาะเกี่ยวกับ CBD ที่เป็นสารที่ถูกจัดให้เป็น ยาเสพติด โดยไม่พบผลการเป็นพิษและก่ออันตรายต่อสุขภาพอย่างที่จัดให้เป็นไว้ จึงได้นำ�รายงาน นี้มารวมไว้ในภาคผนวก เพื่อท่านที่สนใจใช้ศึกษาโดยละเอียดต่อไป และวงวิชาการคาดว่าจะมีการ เปลี่ยนแปลงการจัดกลุ่ม Cannbinoid , CBD นี้เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาให้เป็นประโยชน์ต่อ วงการแพทย์และการรักษาผู้เจ็บป่วยต่อไป ในหนังสือนี้ได้รวมบทความของคณาจารย์ นักวิชาการ ท่านที่เป็นวิทยากรในหลักสูตร รุ่นที่ ๒ นี้ ซึ่งสมาคมแพทย์ฯ ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านไว้ ณ.ที่ นี้ด้วย และ ได้นำ� CV ของวิทยาการลงพิมพ์ในที่นี้เพื่อส่งเสริมการสื่อสารเพื่อการร่วมกันวิจัยหาคำ� ตอบเกี่ยวข้องกับกัญชาทางการแพทย์สืบไป กับทั้งในการอบรมหลักสูตร รุ่น ๒ นี้ สมาคมแพทย์ฯ ได้รับความกรุณาอย่างดี จาก รศ.ดร.ภัมปนาท ภักดีกุล คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ศาสตร์ กับ รศ.ดร.สยาม อรุณศรีมรกต มหาวิทยาลัยมหิดล รองคณบดีคณะสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรศาสตร์ ร่วมถึงดร.ณัทกวี ศิริรัตน์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏเพชรบุรี สมาคมแพทย์ฯ จึงขอเรียนให้ผู้อ่านได้ทราบถึงสิ่งดีๆ และความตีที่ทำ�นกรุณา หลักสูตรด้วยหากท่านใดประสงค์ให้ข้อเสนอแนะ โปรดแจ้งที่ cannabinoidcourse@gmait.com

แพทย์หญิงอรพรรณ์ เมธาติลกกุล บรรณาธิการ


1


กัญชา ชื่อสามัญ Cannabis, Hemp, Indian Hemp, Marihuana, Marijuana,

Dope, Gage, Ganja, Grass, Hash, Hashish, Kuf, Mary jane, Pot, Sens, Sess, Skunk, Smoke, Reefer, Weed กัญชา ชื่อวิทยาศาสตร์ Cannabis sativa L. ชื่อพ้อง วิทยาศาสตร์ Cannabis sativa subsp. indica(Lam.)E.Small & Cronquist,Cannabis indica Lam.) จัดอยู่ในวงศ์กัญชา (CANNABACEAE) สมุนไพรกัญชา มีชื่อเรียกอื่น ว่า กัญชา กัญชาจีน (ทั่วไป), ปาง (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน), ยานอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), คุนเช้า (จีน), ต้าหมา (จีนกลาง) เป็นต้น.

2


3


ลักษณะของกัญชา โครงสร้าง อวัยวะ

ต้นกัญชา จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูเดียว มีความสูงได้ประมาณ 1-3 เมตร ลำ�ต้น มีขนาดเล็ก ตั้งตรงลักษณะของลำ�ต้นเป็นเหลี่ยม มีขนสีเขียวอมเทาและไม่ค่อยแตก สาขา ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ขึ้นได้ในดินทุกชนิด ถ้าปลูกในดินร่วนซุยและมีอาหารอุดม สมบูรณ์จะงอกงามดีมาก พืชชนิดนี้มีถิ่นกำ�เนิดในทวีปเอเชียมีเขตการกระจายพันธุ์ใน อัฟกานิสถานทวีปแอฟริกาเขตร้อน ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือและใต้ และฮาวาย พบ ปลูกมากในยุโรป ประเทศบราซิล อเมริกันแถบตะวันออก และปลูกมากตามแนวเขาทาง ภาคเหนือของประเทศไทย

4


ดอกกั​ันชา(กัญชา) หรือ กะหรี่

ดอกกัญชา... ออกดอกเป็นช่อที่ง่ามใบหรือปลายกิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว ดอกเป็นแบบ แยกเพศ มีทั้งดอกช่อเพศผู้และดอกช่อเพศ เมีย ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะ แยกกันอยู่คนละต้น โดยช่อดอกและใบของต้น เพศผู้จะจัดเรียงตัวกันแบบห่าง ๆ ซึ่งต่างจาก ต้นเพศเมียที่จะเรียงชิดกัน ดอกเล็ก และ ดอกเพศเมียจะมีกลีบเลี้ยงหุ้มอยู่ ดอกกัญชาเพศผู้และเพศมีย จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนสามารถ แยกออกได้ด้วยตาเปล่าถ้าหากนำ�มาเทียบกันจะเห็นความต่างได้ง่าย ซึ่งกัญชาเพศผู้ไม่เป็นที่นิยมของผู้ที่ใช้กัญชาเพื่อนำ�มาสูบ

5


6


Trichomes(ไทรโคม) ส่วนที่เล็ก แต่มีความสำ�คัญ

ถึงแม้จะเป็นส่วนที่เล็กที่สุด แต่ก็เป็นส่วน สำ�คัญที่สุดส่วนหนึ่งของต้นกัญชา ไทร โคมจะมีรูปทรงคล้ายเห็ดที่มีเรซิ่นคริสตัลใส อยู่บนหัว ปกคลุมอยู่ทั่วช่อดอก มีความ หนาแน่นสูงในบริเวณ คาลิกซ์ และมีน้อยที่ ใบไทรโคมเป็นส่วนที่พืชพัฒนาขึ้นมา เพื่อ ปกป้องศัตรูทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตุ่มกลมใสที่อยู่บนยอดของไทรโคมที่เรียก ว่า Terpenes จะเป็นส่วนที่บรรจุสาร THC และ สาร Cannabinoids อื่นๆเอาไว้

Cola (โคล่า)

ฐานรองของช่อกัญชา

ฐานของช่อโคล่าหมายถึงส่วนที่มีดอกอยู่ เต็มไปหมด เป็นที่ที่ดอกของตัวเมียวางตัว กันแน่นพร้อมที่จะแตกดอก โคล่าหลัก บาง ครั้ ง เรี ย กว่ า ช่ อ ส่ ว นยอดจะถู ก สร้ า งขึ้ น ใน ส่วนที่สูงที่สุดของต้น ในขณะที่มีช่อขนาด เล็กเกิดขึ้นในช่วงล่าง ปริมาณและขนาดของ ช่อสามารถที่จะเพิ่มหรือดัดแปลงได้เมื่อใช้ เทคนิคการปลูกที่เรียกว่า Topping หรือ Low Stress Training (LST) หรือจะเป็น Screen of Green (ScrOG)

Node หน่อ

หรือหน่อ คือข้อที่จะเจริญต่อไปเป็นกิ่ง ใบ หรือดอกต่อไป

7


Fan Leaves

Sugar Leaves

คือส่วนใบหลักของต้นกัญชา มีตั้งแต่ 3 –

คือใบเลี้ยงที่ขึ้นบริเวณช่อดอกกัญชา

ใบหลัก

ใบเลี้ยง

11 แฉก ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

Stem

Pistil (เกษร)

คือลำ�ต้น

ขนส่วนปลายของกลีบเลี้ยง ออกจากส่ ว นปลายของกลี บ เลี้ ย งหรื อ Calyxes จะมีขนสีส้มๆแดงๆเล็กๆ เกษร เหล่ า นี้ ทำ � หน้ า ที่ เ ก็ บ รวบรวมละอองเกษร ของเพศผู้ จะเริ่มจากมีสีออกขาวและจะ ค่ อ ยๆเข้ ม ขึ้ น จนกลายเป็ น สี อ อกเหลื อ งๆส้มๆและสีแดง และน้ำ�ตาล ตามมาตาม การเจริญเติบโตของต้นไม้ เกษรพวกนี้มี บทบาทสำ�คัญในการเจริญพันธุ์ของต้นไม้ และมี ส่ ว นน้ อ ยมากในการทำ � ให้ ด อกไม้ มี กลิ่นที่เพิ่มมากขึ้น

ลำ�ต้น

Calyx (คาลิกซ์)

กลีบเลี้ยง ของต้นกัญชา

กลีบเลี้ยง ลักษณะตะปุ่มตะป่ำ�เหมือนใบที่ ทับกันไปมา เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆใต้ใบเล็กๆที่ เรียกว่า sugar leaves คุณจะเจอตัวตุ่มที่ ดูเหมือนถูกฉีกออก อันนั้นแหละที่เรียกว่า กลีบเลี้ยงหรือ Calyxes จริงๆกลีบเลี้ยงมี หลายรุปแบบ ขนาดและสีที่ต่างกันตามชนิด และสายพันธุ์ แต่ลักษณะที่เหมือนกันคือ เป็นส่วนที่มีความเข้มข้นของ trichomes สูงที่สุดในต้น 8


annabinoids (แคนนาบินอยด์) นั้นถูกค้นพบ ในพืชกัญชาเป็นอันดันแรก และจากนั้นก็ มาค้นพบในร่างกายมนุษย์

9


THC - CBD เปรียบเสหมือนกุญแจ

นปัจุบันมีการค้นพบสาร Cannabnoids ในกัญชากว่า 140 ชนิด เช่น THCA,THCV, CBDA, CBG, CBC, CBCA,CBN ฯลฯ แต่สารสําคัญที่มีบทบาทและวิทยาศาสตร์ เข้าใจมากที่สุดคือ THC (Delta-9-tetrahydrocannabinol, หรือ (Delta-9-THC) และ CBD (Cannabidiol) คือสารหลักในกัญชาที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิต ประสาท ทําให้รู้สึกเคลิมเคลิ้ม ผ่อนคลาย มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจิตประสาท และเป็น ตัวที่ใช้วัดค่าความแรงของกัญชาในสายพันธุ์ต่างๆเมื่อ THC เข้าสู่ร่างกาย THC จะไปประกบ เข้ากับตัวรับสาร CB1 และ CB2 บางส่วน ซึ่งเป็นจุดเดียวกับ Anandamide (Cannabinoid ที่ร่างกายผลิตขึ้น) และกระตุ้นให้ตัวรับเหล่านั้นทํางานในแบบเดียวกันกับ Anandamide การเดินทางของกัญชาเราสามารถ ได้รับสาร Cannabinoids จากกัญชาได้ หลายวิธีคือ การสูบกัญชาโดยตรง การได้รับทางการกินกัญชาในรูปแบบการสกัดหรือการ ปรุงเป็นอาหารต่างๆ การทาเพื่อให้ซึมเข้าพิวหนัง หรือการสอดผ่านทวารหนัก ซึ่งวิธีการรับ สารที่ต่างกันก็อาจสร้างผลที่แตกต่างกันได้ตามรูปแบบความต้องการใช้ที่ต่างกัน การสูบ กัญชาโดยตรงนอกจากจะได้รับ Cannabinoids จากกัญชาแล้วยังได้สารไม่พึงประสงค์ที่ เกิดจากการเผาไหม้อย่าง คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ซึ่งจะทําให้ความสามารถของเลือดในการเป็นตัวนําออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่างๆลดลง และได้ รับทาร์ (Tar) ในปริมาณที่สูงกว่าบุหรี่เพราะการสูบกัญชามักไม่นิยมใช้ก้นกรองซึ่งคงเป็น เรื่องที่ไม่ต้องถกเถียงกันว่าการสูบทาร์เข้าไปจะสามารถก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่ เพราะ ทาร์ เป็นสาเหตุหนึ่งของการก่อให้เกิดโรคมะเร็งอย่างชัดเจน แต่ข้อมูลที่เชื่อมโยงการสูบกัญชา และการเกิดมะเร็งปอดนั้นมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง และยังคงมีการถกเถียงกันอยู่ในราย ละเอียด

10


วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันจึงแบ่ง Cannabinoid ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ได้แก่

E

ndogenous cannabinoids หรือ Endocannabinoid คือ Cannabinoids ที่ ผลิตขึ้นในร่างกายสิ่งมีชีวิต พบได้ทั้งในร่างกายมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เกือบทุกชนิด ประกอบด้วยสารสําคัญ 2 ชนิด คือ Anandamine และ 2-AG (2-arachidonoylglycerol) Exogenous Cannabinoid คือ Cannabinoids จากภายนอกร่างกายที่ได้จากการผลิต ขึ้นจากห้องแลบและ Cannabinoids ที่พบได้ในพืชกัญชา Cannabinoids ทั้ง 2 กลุ่มมีกระบวนการทํางานที่เหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ Cannabinoids ที่ผลิตในร่างกายจะถูกผลิตแบบเฉพาะกิจโดยมีหน้าที่ที่ชัดเจน และจะถูกย่อย สลายไปอย่างรวดเร็ว ต่างจาก Cannabinoids ภายนอกที่ได้จากกัญชาจะถูกย่อยสลาย ได้ช้า นั่นหมายความว่า Cannabinoids จากกัญชาจะสามารถกระตุ้นการทํางานของต่อม CB ได้เป็นเวลานานกว่า การที่ระบบการทํางานของ ECS ในร่างกายไม่เป็นปรกติ หรือ การ ที่ร่างกายขาดสาร Cannabinoids อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงการได้รับ สาร Cannabinoids เพื่อไปกระตุ้นการทํางานบางอย่างก็อาจหมายถึงกระบวนการรักษา โรคที่ปัจจุบันยังรักษาได้ยาก Ethan Russo นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันได้ สันนิษฐานไว้ว่า เมื่อใดที่ endocannabinoid ในร่างกายต่ำ�จะทําให้เกิดโรค ไมเกรน ปวด กล้ามเนื้อ โรคลําไส้ และการเสื่อมสภาของ ร่างกายอื่นๆ 11


12


13


14


กัญชากับสมองและระบบประสาท

ส่วนกลาง

กัญชาออกฤทธิ์กดประสาท ซึ่งจะทำ�ให้ผู้เสพมีอาการคล้ายกับเมาเหล้า หน้าแดง ลิ้น ไก่พันกัน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เซื่องซึม ง่วงนอนตลอดเวลา ซึ่งถ้าหากเสพในปริมาณ มากเกินไป อาจจะทำ�ให้เกิดภาพลวงตา ควบคุมตัวเองไม่ได้ และมีจิตใจที่ดุร้ายผิด ปกติได้

T

(THC) ทําให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้ม มึนเมา (THC) ชะลอการส่งสัญญาณ ของสมองที่มากเกินไป ทําให้การสื่อสารของสมองลดการถูกรบกวนซึ่งเป็น สาเหตุของความเครียดลง ก่อให้เกิดความคิดที่โลดแล่น (Creative) (THC) ช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ประสาท (Neurogenesis) ซึ่งอาจเป็น หนทางของการรักษาหรือบรรเทาโรค อัลไซเมอร์ (THC) ลดการอักเสบของ ระบบประสาท (Reduce Neuroinflammation) ลด อาการบาดเจ็บหรือการอักเสบใน สมอง (THC) ลดอาการปวดในสมอง (Analgesic) (THC) ลดอุณหภูมิร่างกาย (Hypothalamus) (THC) ลบความทรงจํา ระยะสั้นที่ไม่จําเป็นออก ซึ่งในบางครั้งก็อาจทําให้ เป็นคนขี้หลงขี้ลืม แต่ในทางกลับกันก็สามารถช่วยผู้ป่วยที่เกิดความเครียดและโรคซึมเศร้า จากภาพความสะเทือนใจในอดีต อย่างเช่นการรักษาโรค PTSD ที่เป็นมากในทหารที่ผ่าน สงครามที่โหดร้าย (CBD) ลดอาการทางจิตประสาทของ THC (CBD) ป้องกันการสูญเสียของความจําระยะสั้น จาก THC (CBD) ป้องกันอาการจิตเสื่อม โรคประสาท ลดความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรค ทางจิตที่มาจากการใช้ THC, (CBD) ลดอาการวิตกกังวล (CBD) ลดอาการคลื่นใส้อาเจียน (CBD) อาจช่วยรักษาโรคโรคจิตเภท (Schizophrenia) (CBD) ป้องกันโรคนอนไม่หลับ (Anti-Insomnia) ลดอาการชักจากโรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis) และ จากโรคลมชักต่างๆ (Epilepsy)

15


16


annabis

ในปัจุบันมีการค้นพบสาร Cannabinoids ในกัญชากว่า 140 ชนิด เช่น THCA, THCV, CBDA,CBG, CBC, CBCA, CBN ฯลฯ แต่สารสําคัญที่มีบทบาทและวิทยาศาสตร์ เข้าใจมากที่สุดคือ THC (Delta-9-tetrahydrocannabinol, หรือ D9-THC) และ CBD (Cannabidiol) คือสารหลักใน กัญชาที่เรารู้จักกันดีว่าเป็นสารที่ออกต่อจิตประสาททําให้รู้สึก เคลิมเคลิ้ม ผ่อนคลายมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจิตประสาท และเป็นตัวที่ใช้วัดค่าความแรงของกัญชาในสายพันธุ์ต่างๆ เมื่อ THC เข้าสู่ร่างกาย THC จะไปประกบเข้ากับตัวรับสาร CB1 และ CB2 บางส่วน ซึ่งเป็นจุดเดียว กับ Anandamide (Cannabinoid ที่ ร่างกายผลิตขึ้น) และ กระตุ้นให้ตัวรับเหล่า นั้นทํางานในแบบเดียว กันกับ Anandamide การเดินทางของกัญชาเราสามารถ ได้รับสาร Cannabinoids จากกัญชาได้หลายวิธีคือ การสูบกัญชาโดยตรงการได้รับทางการกินกัญชาในรูปแบบการสกัดหรือการปรุงเป็น อาหารต่างๆ การทาเพื่อให้ซึมเข้าพิวหนัง หรือการสอดผ่านทวารหนัก ซึ่งวิธีการรับสาร ที่ต่างกัน ก็อาจสร้างผลที่แตกต่างกันได้ตามรูปแบบความต้องการใช้ที่ต่างกันการสูบ กัญชาโดยตรงนอกจากจะได้รับ Cannabinoids จากกัญชาแล้วยังได้สารไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการเผาไหม้อย่าง คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ซึ่งจะทําให้ความสามารถของเลือดในการเป็นตัวนําออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อ ต่างๆลดลงและได้รับทาร์ (Tar) ในปริมาณที่สูงกว่าบุหรี่เพราะการสูบกัญชามักไม่นิยมใช้ ก้นกรองซึ่งคงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องถกเถียงกันว่าการสูบทาร์เข้าไปจะสามารถก่อให้เกิดมะเร็ง หรือไม่เพราะทาร์เป็นสาเหตุหนึ่งของการก่อให้เกิดโรคมะเร็งอย่างชัดเจนแต่ข้อมูลที่เชื่อม โยงการสูบกัญชาและการเกิดมะเร็งปอดนั้นมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง 17


ารเดินทางของ Cannabinoids ที่ได้จากการสูบกัญชา จะเข้าสู่ปอดเดินทาง ผ่านถุงลมเล็กๆ ภายในปอดก่อนจะเข้าสู่กระแสเลือดและถูกส่งไปยังระบบต่างๆของร่างกาย อย่างรวดเร็ว เมื่อ Cannabinoids ที่อยู่ในกระแสเลือดไปเจอตัวรับสาร CBD ก็จะทําการ ประกบเข้ากับตัวรับสาร และเริ่มกระบวนการ ทํางานในระบบนั้นๆ การสูบกัญชาจึงกินเวลาไม่เกิน 10-15 นาทีใน การออกฤทธิ์ ส่วนการ ได้รับ Cannabinoids จากการกินกัญชา ในรูปแบบต่างๆ นั้น Cannabinoids จะถูกส่ง ไปยัง กระเพาะอาหาร ผ่านกระบวนการย่อยอาหาร ซึ่งอาจใช้ เวลานาน 3060 นาที ก่อนที่จะถูกส่งเข้าไปใน กระแสเลือด และเริ่มทํางาน เช่นเดียวกันกัญชาเอง ก็ไม่ได้ต่างจาก สรรพสิ่งทั่วไปที่มีทั้งคุณ และโทษใน ตัว ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพอดี การ ใช้ที่อยู่บนความพอดีก็มีประโยชน์ มากมาย กับผู้ใช้ ในทางตรงกันข้าม การใช้ ในปริมาณที่มากเกินไปก็นํามา ซึ่งผลร้ายเช่นกันความพอดีดูเหมือน จะเป็นนามธรรม ที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ เองยังไม่มีเครื่องมือที่ชี้วัด ได้คงต้องเป็นหน้าที่ ของผู้ใช้ที่จะต้อง พิจารณาตาม เวลา โอกาสและความเหมาะสม ด้วยตัวเอง ควบคู่ไปกับ พื้นฐานความเข้าใจ การทํางานของกัญชา กับระบบต่างๆของร่างกาย ในส่วนสุดท้ายของบทนี้เรา ขอขยายข้อดีและข้อเสียที่กัญชา สามารถสงผลต่อร่างกายของเราได้

18


อนุกรมวิธานของกัญชาและกัญชง

กัญชาและกัญชงเป็นพีชไนวงศ์ Camabacee หรือบางครั้งเรียกว่า Cannabinaceae รายงานว่าชื่อวิทยาศาสตร์ของกัญชาคือ Connobis sotivo L. subspo. in dico ในขณะที่กัญชง(hemp) คือพืชอีก subspecies หนึ่งที่แยกออกมาจากกัญซา ที่ มีชื่อเรียกว่า Connobis sotivo L subsp. sotivo อย่างไรก็ตาม นักพฤกษศาสตรีใน ปัจจุบัน ได้รวม subspecies ต่างๆ เข้าด้วยกัน ดังนั้นชื่อวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องของทั้งกัญ ชงและกัญชาคือ Cannabis sotiva L

แหล่งที่พบ CBD

CBD พบในทุกส่วนของกัญชงและกัญชา ปริมาณสารที่พบมีความแตกต่งกัน ออกไปตามแหล่งที่เพาะปลูกและภูมิประเทศ ในเชิงอุตสาหกรรมพพว่ามีการปลูกกัญชง หรือที่เรียกว่า Industrial hemp เพื่อเก็บเกี่ยวเอาเมล็ดไปสกัดน้ำ�มันและเก็บเกี่ยวต้นเพื่อ ให้ได้เส้นใย โดยกัญชงจะต้องมีปริมาณ THC ต่ำ� และมีปริมาณสาร CBD สูง นอกจากนี้ บางครั้งยังพบ cannabinot (CBN) ในสารสกัดกัญชงและกัญชา ซึ่งสารนี้ไม่ได้เกิดขึ้น ตามธรรมชาติ แต่ได้จากการสลายตัวของ THC United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC) ได้มีการแบ่งประเภทของพืช C. sotivo เป็นสองกลุ่มคือ ประเภท ยา (drug type) และประเภทเส้นใย (fiber type) โดยใช้อัตราส่วนระหว่างสาร THC+CBN:CBD เป็นเกณฑ์ในการจัดจำ�แนก โดยกำ�หนดว่าถ้าอัตราส่วนของ THC+CBN:CBD มากกว่า 1 เป็นประเภทยา แต่ถ้า THG-CBN.CBD น้อยกว่า 1 เป็นประเภทเส้นใย หลาย ประเทศอบุญาตให้มีการเพาะปลูกกัญชงและควบคุมให้เป็นประเภทเส้นใย (ทีber type) เพื่อใช้ประโยชนในเชิงอุตสาหกรรม อาทิเช่น ประเทศในแถบยุโรป โดยกำ�หนดให้มีปริมาณ สาร THC ไม่เกินร้อยละ 012%๑ และไม่เกินร้อยละ 0.3% ในประเทศแคนาดา โดยกำ�หนดให้ อัตราส่วนระหว่าง THC&CBN:CBD มากกว่า 1

กระบวนการชีวสังเคราะห์สาร CBD และ THC

กระบวนกาวซีวสั่งเคราะห์สTร C๓๐ และหC ไนผีชวงศ์กัญชาตามธรรมชาติจะ เริ่มจากสารตั้ง-ต้นที่มีชื่อว่า olivetolic acid จากนั้นสารตัวนี้จะถูกเปลี่ยนให้เป็น cannabigerolic acid (CBGA)ตัวยกระบวนการ aromatic prenytransferase สารที่ได้ จากกระบวนการนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นสาร cannabidiolic acid (CBDA) ด้วยเอนไซม์ที่ชื่อ ว่า CBDA synthase และถูกเปลี่ยนเป็นสาร delta9-tetrahydrocannabinotic acid (THCA) ด้วยเอนไซม์ THCA synthase สาs CBDA และ THCAทั้งสองตัวนี้เป็นสารที่สามา รถพบโดยทั่วไปตามธรรมชาติก่อนที่ได้รับความร้อนหรือแสงแดดและเกิด 19


เภสัชจลนศาสตร์และการนำ�ส่งยาของ CBD

ชีวปริมาณออกฤทธิ์ (bioavailbility) คือค่าสัตส่วของสารที่สามารถเข้าสู่ระบบ ไหลเวียนโลหิต (6ystemic circulation) ของมนุษย์หรือสัตว์ หลังจากไต้ด้รับจากช่องท่า งต่างๆไม่ว่าจะเป็นโดยการกิน หรือการสูบเป็นตัน ซึ่งการได้รับสารแต่ละช่องทางก็จะส่งผลให้ ได้คำ�ชีวปริมาฌออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป รายงานค่าชีวปริมาณออกฤทธิ์จากการให้ C8D ผ่านทางซ่องทางต่าง ๆ มีดังนี้ - การสูบ (smoking) มีค่าชีวปริมาณออกฤทธิ์ อยู่ระหว่าง 11-45% [1920 - การกิน (oral administration) มีค่าชีวปริมาณออกฤทธิ์อยู่ที่ประมาณ 6% นอกจากนี้ยังพบว่าการได้รับสาร CBD ขนาด 20 มิลลิกรัมทางหยดผ่านใต้ลิ้น (sublingua) ในอาสาสมัครจำ�นวน 6 คนพบว่ามีความเข้มขั้นของสาร CBD ในเลือดอยู่ที่ 2.05 นาโนกรัม/มิลลิลิตรภายในเวลา 130 นาที มีการรายงานถึงกระบวนการเรืยณแปลงของยา (metablism) ของสาร CBD ว่า มีลักษณะคล้ายกับการเปลี่ยนของสาร THC นั่นก็คือเกิดการทำ�ลายที่ตับโดยการทำ�งาน ของเอนไซม์ cytochome P450 ด้วยปฏิกิริยาออกซิเดซันตรงบริเวณคาร์บอนตำ�แหน่งที่ 9 ให้เปีน alcoho และ carboxylic acid ค่าครึ่งชีวิต หรือ half-life คือเวลาที่ใช้กำ�จัด ปริมาณสารครึ่งหนึ่งออกจากร่างกาย half-life ของสาร CBD ขึ้นอยู่กับช่องทางและ ความถี่ของการได้รับสาร มีรายงานว่าสาร CBD มีค่าเฉลีย hatfufe อยู่ที่ 31 ชั่วโมงเมื่อได้ รับผ่านทางการสูบ และมีค่า half life 24 ชั่วโมงหลังการฉีด ในขณะที่การรับประทาบสาร C๒๐ ขนาต ใ0 มิลลิกรัมเป็นเวลานาน 6 สัปตาห์ พบว่ามีคำ� haเเfe อยู่ที 2 ถึง เ วัน 20


รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของ CBD ที่มีในท้องตลาด

ยาที่มี CBD เป็นองค์ประกอบในท้องตลาดคือ Nabiximols (Sativex) ซึ่งเป็น ส่วนผสมของ THC และ CBD ใช้ในรูปแบบสเปรย์ผ่านทางกระพุ้งแก้ม (buccal spray) ใช้ รักษากล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วย mu(tiple sclerosis โดยได้รับการรับรองจากองค์การ อาหารและยา (FDA) ในหลายประเทศเช่น สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐเช็ค เยอรมนี เดนมาร์กและสวีเดน และได้รับการรับรองจาก FDA ในประเทศแคนาดา ในการใช้บรรเทา อาการปวดสำ�หรับ ผู้ป่วย multiplesclerosis และผู้ป่วยมะเร็งด้วยสำ�หรับ ผลิตภัณฑ์ที่เป็น สารบริสุทธิ CBD ยังไม่ได้มีการอนุมัติจาก FDA ให้มี การจัดจำ� หน่ายตามท้องตลาด ที่ผ่านมา การศึกษาทดลอง ทางคลินิก สำ�หรับการใช้ CBD สำ�หรับรักษาอาการโรคลม ชักใน มนุษย์บริหารยาโดยให้ทางปาก รูปแบบเภสัช ภัณฑ์ เป็นแบบแคปซูล และแบบสารละลาย ปัจจุบันบริษัท Gw pharmaceuticals ได้มีการยื่นนำ�เสนอผลิตภัณฑ์ รูปแบบสารละลายทีม่ สี ว่ นผสมของ CBD ภายใต้ชื่อทางการค้า Epidiolex ต่อ FDA ของประเทศสหราชอาณาจักรเพื่อ ขอเสนอให้อนุมัติไช้รักษาโรคลมชัก นอกจากนี้ยังมีบริษัทชื่อ The Echo Pharmaceuticals ของประเทศ Netherlands ได้ทำ�การพัฒนายาเม็ด CBD ภายไต้ชื่อทางการ คำ�คือ Anisol

21


เพื่อโชรักษาโรคจิตแภท (Schizophrenia) และโรคลมชัก ซึ่งยังอยู่ในกระบวนบการศึกษา ประสิทธิภาพและควานปลอตภัยในมบุษย์ นอกจากนี้ ไนพ้องตลาด โตยเลพาะตลาดออพ ไลน์ พบการจำ�-Wsinu.ลิตdณนส่วนผสมของ CB๐ ในรูปแบบต่างๆมากมาย โตยไม่ใต้มี การขออนุญาตการผลิตและจำ�หน่าฮอย่งเขึ้นทางการ เช่น ผลิตภัณฑ์แบบแคปซูล ผสิต ภัณฑ์รูปแบบครีมทา แบบสารละลายผิงเจร, (tincture) และรูปแบบฉีดพ่นแบบสเปรย์ เป็นต้น

สรุป

CBD เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในกัญชาและกัญชงที่มีความน่าสนใจในด้าน การต้านชัก การแก้อักเสบ และแก้ปวด รวมทั้งมีการรายงานฤทธิ์คลายกังวล ปกป้องการ เสื่อมของประสาท ด้านมะเร็งอีกด้วย การที่ CBD ไม่มีฤหริ์ต่อจิตประสาท ทำ�ใหม่ต้องกังวล เรื่องของการเสพย์ติด ดังนั้น หากกฎหมายไทยเปิดโอกาสให้มีการใช้ Cธอ หรือสารสกัด คัญชงที่มีมาตรฐานที่ปรีริมาณ CD จะทำ�ให้เกิดการวิจัยกัญชง หรือ สาร C3D เพื่อใช้ ประโยชน์ทางการแพทย์ อับจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยส่วนรวม

22


การศึกษาผลของสาร CBD ในมนุษย์

การศึกษาทางคลินิกของ CBD ยังมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับ THC มีรายงานการ ศึกษา CBD สำ�หรับรักษาโรคลมชัก (eplep9) หลายการศึกษา ดังตัวอย่างต่อไปนี้ในปี 1980 Cunha และคณะ!ข ได้ทดลองให้ CBD ขนาด 3 มิลลิกรัม/กิโลกรัมในอาสาสมัคร สุขภาพดีจำ�นวน 8 คนเป็นเวลา 30 วัน เทียบกับกลุ่มยาหลอกในจำ�นวนเท่ากัน ไม่พบว่ามี อาการพิษหรือผลข้างเคียงที่ร้ายแรง จากนั้นได้ทดลองในผู้ป่วยลมชักจำ�นวน 15 คน อายุ ระหว่าง 14-49 ปี โดยให้ผู้ป่วยรับประทานยาแคปซูล CBD ขนาด 200-300 มิลลิกรัม/ วัน ทุกวัน เสริมจากยาต้านชักที่ผู้ป่วยได้รับ เป็นเวลา 4 เดือนครึ่ง โดยอาสาสมัครแบ่งออก เป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับ CBD และกลุ่มได้รับยาหลอก และมีวิธีการศึกษาแบบ double-blind ผลการทดลองพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับ CBDจำ�นวน 4 ใน 8 คนไม่พบอาการซักใน ช่วงเวลาที่ศึกษาเลย และผู้ป่วย 3 คนมีอาการดีขึ้นบางส่วนและไม่พบการเปลี่ยนแปลงในผู้ ป่วย 1 คน ส่วนในกลุ่มยาหลอกพบว่า อาสาสมัคร 7 คนอาการไม่เปลี่ยนแปลงและเมื่อเร็วๆ นี้ Devinsky และคณะ! ได้รายงานการศึกษาการใช้สาร C3ง ช่วยรักษาอาการสมชักชนิด Dravet syndrome ในกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 2-18 ปี จำ�นวน 120 คน โดยอาสาสมัครจะได้ รับยาน้ำ� CBD ขนาด 20 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน หรือยาหลอก พบว่าใน 14 สัปดาห์ CBD สามารถลดอัตราการชักได้จากค่าเฉลี่ย 12.4 ครั้งต่อเดือน เหลือ 5.9 ครั้งต่อเดือนอาการ ข้างเคียงที่พบในกลุ่ม CBD ได้แก่ ท้องเสีย อาเจียน อ่อนเพลีย มีใช้ ง่วง และมีค่าการทำ�งาน ตับที่ผิดปกติ

เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับกัญชา

1. กัญชาสามารถลบความจำ�ระยะสั้นออกได้ ผู้เสพกัญชาหลายคนมักจะขี้หลงขี้ลืม เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ด้วยเหตุนี้จึง มีการนำ�กัญชามาใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่เกิดจากมีความทรงจำ�ที่สะเทือนใจ เช่น การรักษาทหารที่ผ่านสงคราม หรือการรักษาผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก 2. การสูบกัญชา ไม่ทำ�ให้เสียชีวิตในทันที การสูบกัญชาเกินขนาด จะส่งผลกระทบต่อระบบสมองที่ประกอบไปด้วยไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) และฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) จึงทำ�ให้รู้สึกกระหาย หิวน้ำ� ปาก แห้ง ความจำ�สั้น ขาดสมาธิ และอาจพบเรื่องเลือกเลือน สติไม่สมประกอบได้บ้างในระยะยาว แต่ไม่เคยมีผู้เสียชีวิตจากการสูบกัญชาเกินขนาด 3. กัญชากระตุ้นความอยากอาหารได้ ส่วนประกอบของกัญชาที่นิยมนำ�มาใช้ประกอบอาหารมากที่สุด คือใบกัญชา และเมล็ด กัญชา ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีฤทธิ์กระตุ้นความอยากอาหาร โดยเมนูยอดนิยมคือ ต้มไก่ใส่ กัญชาที่ยังหารับประทานได้ตามต่างจังหวัด 23


THC & CBD ช่วยอะไร ? (THC&CBD) ป้องกันการย่อยสลายของระบบประสาทช่วย อาการของโรคปลอกประสาท เสื่อม Multiple sclerosis (THC&CBD) กระตุ้นความอยากอาหารสามารถช่วยผู้ป่วย เอดส์และมะเร็งป้องกัน ภาวะน้ําหนักลดอย่างรวดเร็ว (THC&CBD) ช่วยโรคซึมเศร้า โรค อารมณ์สองขั้ว สมาธิสั้น (THC&CBD) ช่วยลดอาการสั่นที่เกิดจากโรคพาร์กินสัน (Parkinson) ช่วยสมองผลิต Dopamine และลดอาการของโรค (THC&CBD) ปกป้องสมอง จากโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ตัน แตก หรือ ฉีกขาด (Stroke) และเพิ่มการตอบสนอง จากสมอง ในบริเวณที่ประสบปัญหาจาก stroke

24


25


26


กระบวนการชีวสังเคราะห์สาร

CBD และTHC ในพืชวงศ์กัญชาตามธรรมชาติจะเริ่ม จากสารตั้งตันที่มีชื่อว่า olivetolic acd จากนั้นสารตัวนี้จะถูกเปลี่ยนให้เป็น cannabigerolic acid (CEGGAN ด้วยกระบวนการ aromatic prenytransferase สารที่ได้จากกระบวนการนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นสาร cannabidiolic acd (CBDA) ด้วย เอนไซม์ที่ชื่อว่า CBDA synthase และถูกเปลี่ยนเป็นสาร delta-9-tetrahydrocannabinolic acid (THCA) ด้วยเอนไซม์ THCA synthase สาs CBDA และ THCA

กระดูกและกล้ามเนื้อ Musculoskeletal

(CBD) ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก สามารถฟื้นฟูกระดูกที่หักให้ กลับมาสมบูรณ์ได้เร็วขึ้น (CBD) ป้องกันหรือบรรเทาโรคสะเก็ดเงิน โรคเรื้อน กวางหรือโรค ผิวหนังเรื้อรัง (THC&CBD) ระงับอาการเจ็บปวด (THC&CBD) คลายการหดตัวของกล้าม เนื้อ (THC&CBD) ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (THC&CBD) ลดอาการเจ็บและอักเสบตามข้อต่อ (THC&CBD) ลดอาการบวม อักเสบ

ผลเสีย

(THC) อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการโรคจิตเภทสําหรับผู้ที่มี ปัจจัยเสี่ยงเช่น จิตใจอ่อนแอ และ พันธุกรรม (THC) หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะชลอการทํางานของ สมองและทําให้สมองหยุดสร้างสารเคมีที่ทําให้รู้สึกดีและทําให้รู้สึกหงุดหงิดง่ายเวลาไม่ได้ใช้ (THC) มีผลต่อการพัฒนาในด้านลบของสมองที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ กัญชาจึงส่งผลก ระทบโดยตรงต่อการพัฒนาสมองของเยาวชน (THC) ลดความดันนัยตา สามารถป้องกัน การตาบอดของผู้ป่วยตาต้อหิน (Glaucoma) ได้ ปัจจุบันนักวิจัยกําลังพัฒนายาที่เลียน แบบการทํางานของ THC ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการทางจิตประสาทเพื่อใช้รักษาโรคต้อหิน

กระดูกและกล้ามเนื้อ Musculoskeletal

(CBD) ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก สามารถฟื้นฟูกระดูกที่หักให้ กลับมาสมบูรณ์ได้เร็วขึ้น (CBD) ป้องกันหรือบรรเทาโรคสะเก็ดเงิน โรคเรื้อน กวางหรือโรค ผิวหนังเรื้อรัง (THC&CBD) ระงับอาการเจ็บปวด (THC&CBD) คลายการหดตัวของกล้าม เนื้อ (THC&CBD) ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (THC&CBD) ลดอาการเจ็บและอักเสบตามข้อต่อ THC&CBD) ลดอาการบวม อักเสบ

27


28


ระบบไหล เวียนโลหิต (หัวใจ และ เลือด)

(THC) เพิ่มความต้องการออกซิเจนของร่างกาย (THC) ช่วยลดอาการปวด ไมเกรน (THC) ป้องกันการเจริญเติบโตของเส้นเลือดที่จําเป็นในการเจริญเติบโตของมะเร็ง (CBD) ลดน้ําตาลในเลือด ช่วยโรคเบาหวาน (CBD) ป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (CBG) ลดความดันเลือด ข้อเสีย (THC) เพิ่มอัตตาการเต้นของหัวใจได้มากถึง 60% ซึ่ง อาจเป็นอันตรายในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด (THC) ลดการย่อยสลายของไขมันไม่ดี ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในโรคหลอดเลือดตีบ เพราะฉะนั้น ผู้ใช้จึงควรคํานึงถึงการทานอาหาร ที่มีไขมันสูง

ภูมิคุ้มกัน (Immune System)

(CBD) ปรับความสมดุลให้กับระบบภูมิคุ้มกัน

ระบบทางเดินอาหาร

(THC&CBD) ชลอการย่อยอาหารทําให้กระเพาะมีเวลาย่อยอาหารมากขึ้นเป็นผล ให้ร่างกายสามารถดูดซึมอาหารได้มากขึ้น (THC&CBD) ลดอาการลําไส้อักเสบ (Crohn’s disease) (THC&CBD) จะช่วยสนับสนุนการประกบตัวของ Insulin ซึ่งจะช่วยลดอาการ การต่อต้าน Insulin ของร่างกายช่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (เกิดจากพฤติกรรม) ข้อเสีย (THC) ลดการเผาผลาญไขมันที่ไม่ดี ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ผู้ใช้กัญชาจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ไขมันสูงเป็นพิเศษ

ปอด

(THC) ขยายหลอดลม ช่วยโรคหอบหืด

ระบบการสืบพันธิ์

ข้อเสีย (THC) การใช้ระหว่างตั้งครรถ์จะทําให้ทารกมีน้ำ�หนักน้อยตอนเกิดและ มีปัญหาคล้ายกับที่มารดาใช้บุหรี่และแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์ เช่น หัวเล็กและการจะ เจริญเติบโตที่ช้าลง (THC) ในเพศชายจะทําให้จํานวนอสุจิน้อยลงและมีความต้องการทาง เพศที่ลดลง ในเพศหญิงจะทําให้ไข่ไม่สมบูรณ์

29


CBD น้�ำ มันกัญชา

งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นข้อดีต่อสุขภาพมากมายของ CBD ซึ่งเป็นส่วน ประกอบของกัญชาทางการแพทย์ cannabidiol หรือ beforementioned (CBD) ไม่มี ผลกระทบทางจิตเมื่อเทียบกับ THC ซึ่งเป็นที่รู้จักในการเชื่อมต่อกับกัญชาที่ใช้เพื่อการ พักผ่อนหย่อนใจผลกระทบของกัญชาทางการแพทย์ที่มี CBD มีการพิสูจน์ยังผู้ป่วยอย่าง จริงจัง

CBD กัญชาน้ำ�มันจะช่วยให้มีปัญหาในการย่อยอาหาร

ความอยากอาหารที่ ดี ต่ อ สุ ข ภาพเป็ น สิ่ ง สำ � คั ญ มากเพื่ อ ให้ ร่ า งกายของคุ ณ มี สุ ข ภาพดี โ ดยเฉพาะเมื่ อ ร่ า งกายของคุ ณ ต้ อ งการที่ จ ะกู้ คื น หลั ง จากที่ เ จ็ บ ป่ ว ยหรื อ เกิ ด อุบัติเหตุ เจ็บป่วยบางคนลดความอยากอาหารของคุณและป้องกันไม่ให้ร่างกายรักษาตัวเอง CBD เป็นที่รู้จักกันสำ�หรับการเพิ่มความอยากอาหารและเป็นไปตามสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ทำ�หน้าที่ CBD ผ่านผู้รับ cannabinoid ต่างๆในร่างกายมนุษย์และเช่นนี้จะเป็นประโยชน์ สำ�หรับมันนักวิทยาศาสตร์คิดว่าตัวรับเหล่านี้มีบทบาทสำ�คัญในการควบคุมการบริโภค อาหาร ขอขอบคุณที่นี้ CBD ผูกกับผู้รับนี้และช่วยในการกระตุ้นความอยากอาหาร CBD นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันอาการคลื่นไส้และเสถียรภาพที่เกิดจากการเจ็บป่วย เป็นประโยชน์ อย่างยิ่งสำ�หรับผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำ�บัดหรือการรักษาอื่นๆ ของการเจ็บป่วยที่ รุนแรงบาง CBD กัญชาน้ำ�มันเป็นยาแก้ปวด - ช่วยลดอาการปวด CBD ผูกกับผู้รับ CB1 ในร่างกายและบรรเทาจากความเจ็บปวด จะทำ�หน้าที่ antiinflamatory และลดอาการบวม

น้ำ�มัน CBD กัญชาเป็นยารักษาโรคจิต - กับโรคจิต

CBD ลดอาการโรคจิตเชื่อมต่อกับตัวอย่างเช่นโรคจิตเภทและอื่นๆ ในโคโลญใน เยอรมนีมันก็พบว่ามีผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคจิตเภทเกี่ยวกับ 1,1 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่ นี่ในสาธารณรัฐเช็กและในประเทศสหรัฐอเมริกามันเป็นล้าน 2,4 ของผู้อยู่อาศัย CBD จะไม่หยุดที่น่าแปลกใจนักวิทยาศาสตร์มีความอุดมสมบูรณ์ของประโยชน์ต่อสุขภาพ และผลการรักษาที่มีการให้บริการที่ ยังคงมีจำ�นวนที่สูงขึ้นของนักวิทยาศาสตร์แพทย์และ ผู้ใช้มากเกินไปเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพเหล่านี้และผลกระทบของ CBD ซึ่งเป็น benficial สำ�หรับการดำ�เนินชีวิตที่มีสุขภาพดี

30


CBD กัญชาน้ำ�มันแบ่งออกความวิตกกังวล

ย่านศูนย์กลางธุรกิจสามารถลดความวิตกกังวลทางสังคมที่ร้ายแรง ทั่วไปความผิดปกติของความวิตกกังวลทางสังคมหรือเศร้าเป็นหนึ่งใน รูป แบบที่พบมากที่สุดของความวิตกกังวล disordersthat เลวลงคุณภาพ ชีวิต บางคนบ่นเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของความวิตกกังวลทางสังคมหลังการ ใช้กัญชา แต่มันมีสาเหตุมาจากระดับต่ำ�ของ CBD เมื่อเทียบกับเนื้อหาที่สูง ขึ้นอย่างมีนัยสำ�คัญของ THC ในกัญชา

ในการศึกษาจาก 2011 นักวิทยาศาสตร์กำ�ลังศึกษาผลกระทบของ CBD ในคนที่ มีความผิดปกติของความวิตกกังวลเศร้า พวกเขาได้เลือก 24 คนที่มีความผิดปกตินี้ที่ไม่ เคยได้รับการรักษาให้หายขาดใน SAD หลังจากที่พวกเขาแบ่งผู้เข้าร่วมในทั้งสองกลุ่ม กลุ่ม หนึ่งที่ได้รับ 600mg ของ CBD ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่ได้รับยาหลอกเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ถามผู้เข้าร่วมจะมีส่วนร่วมในการทดสอบการจำ�ลองการพูดในที่ สาธารณะขณะที่พวกเขาวัดความดันโลหิตความถี่หัวใจระดับความเครียดกายสิทธิ์และฟัง ก์ชั่นอื่นๆ ทางสรีรวิทยา กลุ่มที่ถูกกำ�หนด CBD พบว่าลดลงอย่างมีนัยสำ�คัญของความ วิตกกังวลข้อบกพร่องความรู้ความเข้าใจและความรู้สึกไม่สบายในช่วงคำ�พูดของพวกเขา ในการเปรียบเทียบในกลุ่มอื่นๆ ที่ได้รับยาหลอกคนได้แสดงสัญญาณของความวิตกกังวล สูงกว่าข้อบกพร่องความรู้ความเข้าใจและความรู้สึกไม่สบายในระหว่างการพูดของพวกเขา ตามที่สถาบันแห่งชาติมี 15 ล้านของชาวอเมริกันที่ทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวล พวก เขาจะทำ�เครื่องหมายโดย fobias สังคม ล้าน 6,8 ของประชาชนทนทุกข์ทรมานจากความ วิตกกังวลทั่วไป รวมถึงการรักษาแบบดั้งเดิมมักจะให้คำ�ปรึกษากับแพทย์ของสิ่งที่นำ�ไปสูยา ่​​ ตามใบสั่งแพทย์ (antidepressives) การรักษาด้วยความช่วยเหลือของย่านธุรกิจจะดีกว่า การรักษาด้วยantidepressives CBD ทำ�หน้าที่ได้เร็วขึ้นและไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ หรืออาการถอน

...

31


32


เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับกัญชา

1. กัญชาสามารถลบความจำ�ระยะสั้นออกได้

2. การสูบกัญชา ไม่ทำ�ให้เสียชีวิตในทันที

ผู้เสพกัญชาหลายคนมักจะขี้หลงขี้ลืม เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ด้วยเหตุนี้จึง มีการนำ�กัญชามาใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่เกิดจากมีความทรงจำ�ที่สะเทือนใจ เช่น การรักษาทหารที่ผ่านสงคราม หรือการรักษาผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก การสูบกัญชาเกินขนาด จะส่งผลกระทบต่อระบบสมองที่ประกอบไปด้วยไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) และฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) จึงทำ�ให้รู้สึกกระหาย หิวน้ำ� ปาก แห้ง ความจำ�สั้น ขาดสมาธิ และอาจพบเรื่องเลือกเลือน สติไม่สมประกอบได้บ้างในระยะยาว แต่ไม่เคยมีผู้เสียชีวิตจากการสูบกัญชาเกินขนาด 3. กัญชากระตุ้นความอยากอาหารได้ ส่วนประกอบของกัญชาที่นิยมนำ�มาใช้ประกอบอาหารมากที่สุด คือใบกัญชา และเมล็ด กัญชา ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีฤทธิ์กระตุ้นความอยากอาหาร โดยเมนูยอดนิยมคือ ต้มไก่ใส่ กัญชาที่ยังหารับประทานได้ตามต่างจังหวัด

กระบวนการชีวสังเคราะห์สาร CBD และ THC

กระบวนการชีวสังเคราะห์สาร CBD และTHC ในพืชวงศ์กัญชาตามธรรมชาติจะ เริ่มจากสารตั้งตันที่มีชื่อว่า olivetolic acd จากนั้นสารตัวนี้จะถูกเปลี่ยนให้เป็น cannabigerolic acid (CEGGAN ด้วยกระบวนการ aromatic prenytransferase สารที่ได้ จากกระบวนการนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นสาร cannabidiolic acd (CBDA) ด้วยเอนไซม์ที่ชื่อ ว่า CBDA synthase และถูกเปลี่ยนเป็นสาร delta-9-tetrahydrocannabinolic acid (THCA) ด้วยเอนไซม์ THCA synthase สาs CBDA และ THCA ทั้งสองตัวนี้เป็นสารที่ สามารถพบโดยทั่วไปตามธรรมชาติก่อนที่ได้รับความร้อนหรือแสงแดดและเกิดการสลาย ตัวของกรดในโครงสร้างสาร (non- enzymatic decarboxylation) ทำ�เกิดสาร CBD และ THC กระบวนการสังเคราะห์สาร CBD และ THC ในพืชกัญขาตามธรรมชาติ ฤทธิ์ทาง เภสัชวิทยาของ CBD มีฤทธิ์ต้านอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวด ต้านภาวะกล้ามเนื้อหด เกร็ง (spasticity) มีฤทธิ์คลายกังวล และต้านการคลื่นไส้อาเจียน นอกจากนี้ ยังพบว่า สาร CBD ยังมีคุณสมบัติเป็นantagonist ต่อการจับ cannabinoid CB1 receptor การ ศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสาร CBD ในสัตว์ทดลองในปี 2016 Hammell และคณะ ได้ ทำ�การศึกษาฤทธิ์ของสาร CBD ในรูปแบบเจลทาผิวต่อการยับยั้งการปวดและการอักเสบใน หนูทดลองที่ถูกเหนี่ยวนำ�ให้เกิดอาการโรคไขข้ออักเสบ 33


วิธีสกัดน้ำ�มันกัญชา

วิธีสกัดกัญชา มีหลายวิธี วิธีที่ทำ�กันโดยทั่วไป ขั้นตอนดังนี้

1.นำ�ดอกกัญชาเพศเมียแห้ง 100g แช่ใน Ethyl Alcohol (Ethanol) 99.8% แต่ถ้าไม่มี จะใช้ EthylAlcohol (Ethanol) 95% แทนได้ 2,000g ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่นิยมนำ�มาสกัดกัญชา (ห้ามใช้ Methyl Alcohol (Methanol) โดยเด็ดขาด) เพราะทำ�ให้ตาบอดได้ 2.หมั่นคน นาน 5 นาที 3.กรองสารสกัดออกมา 4.นำ�สารสกัดไประเหยด้วยเตาไฟฟ้าชนิดไม่มีเปลวไฟ หรือ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ***ห้ามทำ�ในที่อากาศไม่ถ่ายเทเพราะทำ�ให้เกิดการลุกไหม้ได้ 5.เมื่อ Alcohol ระเหยออกไปหมดจะเหลือในส่วนที่เป็นน้ำ�มันข้นมี Chlorophyll จึงมี สีเขียวเข้ม ออกดำ�ซึ่งได้ทั้งสาร THC และ/หรือ CBD และสารอื่นๆอีกหลายร้อยชนิดขึ้นกับ สายพันธุ์ และสิ่งแวดล้อมสารในกัญชาไม่ออกฤทธิ์ต่อก้านสมองจึงไม่ทำ�ให้เสียชีวิต ซึ่งต่าง จากฝิ่น ***หมายเหตุ การสกัดน้ำ�มันกัญชาใช้เองโดยการขาดความรู้ความเข้าใจทำ�ให้เกิดผล เสียมากกว่าผลดี ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ�การสกัดน้ำ�มัน 34


ข้อแนะนำ�และข้อควรระวังในการใช้น้ำ�มันกัญชา 1.ลดขนาดยาให้น้อยที่สุดแต่ไม่ใช่หยุดยาเพราะจะกลายเป็น dopamine deprivation และที่สำ�คัญคือหยุดยาที่ทำ�ให้ levodopa ค้างอยู่ในสมองนาน เช่น entacapone และแม้แต่ dopamine agonists ถ้าเป็นไปได้ เช่น pramipexol ropinirole 2.และใช้กัญชาร่วมในขนาดที่น้อยที่สุดเพียงครึ่งหยด ต่อวันในวันแรก และต้อง เริ่มตอนก่อนนอนทุกครั้ง 3 .ในขณะเดียวกันประเมินยาอื่นที่ผู้ป่วยใช้ด้วยว่าจะมีปฏิกิริยาควบรวมกับ กัญชาที่ใช้อยู่หรือไม่ซึ่งอาจจะต้องลด/เพิ่มขนาดยาในเวลาต่อมา เพราะกัญชาอาจไปเพิ่ม ฤทธ์หรือลดฤทธ์ของยานั้นๆ และทำ�ให้อาการของโรคอื่นกลับเลวลงไปอีก 4.การเพิ่มขนาดของกัญชาควรกระทำ�อย่างช้าๆในวันรุ่งขึ้นหรือ ในอีกสองวันถัด มาทั้งนี้ โดยประเมินจากผลข้างเคียงได้แก่ง่วงเมา โซเซ เวียนหัวคลื่นไส้หรือมีความดันตกซึ่ง อาจจะเกิดกับน้ำ�มันกัญชาธรรมดามากกว่า แต่เกิดกับ CBD ได้ แม้ว่าจะน้อยมาก และดูว่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้วหรือยัง 5.ถ้ายังไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจค่อยค่อยเพิ่มทุกวันหรือทุกสองวันได้ขนาดครึ่ง หยด ตอนก่อนนอน และควรหยุดอยู่ที่ไม่เกินสามถึงสี่หยด การจะใช้กัญชาในช่วงเวลาอื่น หรือไม่อย่างไรขึ้นอยู่กับว่าจะมีผลแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงอะไรบ้างและผู้ป่วยทำ�งานอะไร เวลากลางวันและอาจจะเกิดอันตรายในการทำ�งานพริอไม่ 6.ห้ามคิดว่ายิ่งใช้ปริมาณมากยิ่งดีเนื่องจากการใช้กัญชาในการรักษาโรคเป็นการ ปลุกระบบกัญชาธรรมชาติในตัวให้ทำ�งานและปรับสมดุลย์ในร่างกาย หมายเหตุ : คำ�แนะนำ�นี้ไไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำ�ตามนี้ทั้งนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้โดย ขึ้นอยู่กับชนิดของกัญชา ขนิดของสายพันธุ์กัญชา และความเข้มข้นของกัญชาที่ใช้

35


บรรณานุกรม

Would Heath Organization, 817 WHO Expert Committee on Drug Dependence Thirty-ninth Report; WHO Technical Report Series, No.1009. Avaitable Online From;http:/apps,who. in’tliris bitstream /handle/10665/260546/9789241210188 -eng.pdf United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC). Recommended Methods for the ldentification and Analysis of Cannabis and Cannabis Products. Vienna. 2009. Available Online From; https:/Iwww.unodc.org/documents/scientifi/STNAR-40-Ebook_1.pdf The Plant List; A Working List of Al Plant Species. Available Online From; http:/I www.theplantlist.org/tpu 1.1/search? q-cannabis+sativa National Academies of Sciences E, Medicine. The Health Effects of Cannabis and Cannabinoids: The Current State of Evidence and Recommendations for Research. Washington, DC: The National Academies Press; 2017. 486 p. World Health Organization. Cannabidiot (CBD). Pre-Review Report. Agenda lItem 5.2. Expert Committee on Drug Dependence Thirty-ninth Meeting, Geneva, 610 November 2017. Long LE, Malone DT, Tayor DA. The Pharmacological Actions of Cannabidio. Drugs of the Future. 2005; 30(7):747-753. Savage SR, Romero-Sandova. A, Schatman M, Wallace M, Fanciutto G, MCCarberg B, et al. Cannabis in Pain Treatment: Clinical and Research

Considerations. The Journal of Pain. 2016:17(6):654-68.

พ.ญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล นายกสมาคมแพทย์อาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.