Michelangelo
ศิลปิน มือเทวดา
ผู้สร้างสุดยอดศิลปะ 3 สาขา หนึ่งเดียวของโลก
บรรณาธิการ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ฉบับนี้ เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับบุคคลผู้มีความสามารถ คนหนึ่งของโลกในด้านศิลปะ ไมเคิลแองเจโล (Michelangelo) เป็นทั้งประติ มากร จิตรกรและสถาปนิกคนสำ�คัญแห่งยุคเรอเนสซองส์เขามีผลงานสุดยอด ด้านประติมากรรมชนิดหาคนเทียบได้ยากงานแกะสลักหินอ่อนรูปปั้น David และ Pieta เป็นงานประติมากรรมชิ้นเอกของโลก งานทางด้านจิตรกรรม ก็ยอดเยี่ยมมาก ภาพเขียน The Creation Of Adam มีชื่อเสียงเป็นอัน ดับต้นๆของโลกส่วนผลงานด้านสถาปัตยกรรมก็โดดเด่นไม่แพ้กันมหาวิหาร เซนต์ปีเตอร์ที่เป็นสถาปัตยกรรมชั้นยอดของโลกก็เป็นผลงานการออกแบบ ของเขา ไมเคิลแองเจโลเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาศิลปะตะวันตกมากที่ สุดคนหนึ่งและเป็นหนึ่งในศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคเรอเนสซองส์ ชลลดา ซู บรรณาธิการ
สารบัญ เติบโตบนกองหินอ่อนพร้อมสิ่วและค้อนในมือ สร้างชื่อลือเลื่องด้วยประติมากรรมชิ้นเอกของโลก โบสถ์น้อยซิสตีนที่สถิตภาพเขียนสุดมหัศจรรย์ งานออกแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอก ทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจให้กับงานศิลปะ ศิลปินมือเทวดาผู้สร้างสุดยอดศิลปะ 3 สาขา
เติบโตบนกองหินอ่อน พร้อมสิ่วและค้อนในมือ
Michelangelo di Lodovico Buonarroti Simoni ไมเคิลแองเจโลเป็นชาวอิตาลี เกิดเมื่อปี 1475 ที่หมู่บ้านคาปรีส ในแคว้ น ทั ส กานี เ มื อ งหลวงของแคว้ น ก็ คื อ เมื อ งฟลอเรนซ์ ซึ่ ง เป็ น เมืองทีเ่ ขาเติบโต หลังจากแม่เสียชีวติ ขณะทีไ่ มเคิลแองเจโล อายุได้ 6 ปี เขาอาศั ย อยู่ กั บ พี่ เ ลี้ ย งและสามี ซึ่ ง เป็ น ช่ า งตั ด หิ น ที่ เ มื อ ง บนภูเขานอกเมืองฟลอเรนซ์ชื่อ Settignano ซึ่งพ่อของเขามี เหมืองหินอ่อนและฟาร์มเล็กๆ ไมเคิลแองเจโลอยู่ที่นี่หลายปี ได้ซึมซับ ความสามารถพิเศษในการตัดแต่งหินอ่อนด้วยสิ่วและค้อนติดตัว ตั้งแต่เด็ก
Settignano
ปี1488
เขาถูกส่งไปเรียนภาษาที่เมือง
ฟลอเรนซ์ แต่เขาไม่สนใจเลย วัน ๆ เอาแต่ฝึกคัดลอกภาพเขียน ตามโบสถ์และอยู่ร่วมกับจิตรกรคนอื่น เมืองฟลอเรนซ์ในช่วงเวลา นั้นเป็นศูนย์กลางแห่งศิลปะและการศึกษามีประติมากรและจิตรกร ชื่ อ ดั ง สร้ า งผลงานมากมายให้ ไ มเคิ ล แองเจโลได้ ศึ ก ษาเรี ย นรู้ และแล้วเขาก็ได้ไปเป็นลูกศิษย์ของ Domenico Ghirlandaio จิตรกรชื่อดังในขณะนั้น
ผู้เชี่ยวชาญในการเขียนภาพปูนเปียก
(Fresco) เขาอยู่กับอาจารย์ได้เพียงปีเศษก็ถูกส่งตัวไปทำ�งานตาม คำ�ร้องขอของ Lorenzo de Medici ผู้ปกครองเมืองฟลอเรนซ์ ในปี 1489
Domenico Ghirlandaio โดเมนีโก กีร์ลันดาโย
เชี่ยวชาญทางการเขียนจิตรกรรมฝาผนัง
ตัวอย่างผลงานจิตรกรรมฝาผนังของ โดเมนีโก กีร์ลันดาโย
ระหว่างทำ�งานให้ Lorenzo de Medici ไมเคิลแองเจโล
มีผลงานเป็นภาพแกะสลักบนหินอ่อนหลายชิ้น เช่น Madonna of the Steps และ Battle of the Centaurs ชีวิตเขาพลิก ผันเมื่อ Lorenzo de Medici เสียชีวิต ไมเคิลแองเจโลจึงออกมา ทำ�งานของตัวเองพร้อมกับพัฒนาฝีมือด้านแกะสลัก ไปรับงาน ต่างเมืองที่เวนิสกับโบโลญญาบ้าง ระหว่างนี้ก็มีผลงานแกะสลัก หลายชิ้นรวมทั้ง
Crucifix
งานแกะสลักไม้ที่ทำ� ให้กับโบสถ์
Santo Spirito ที่เมืองฟลอเรนซ์เพื่อตอบแทนที่ให้เขาได้ศึกษา สรีระมนุษย์จากศพที่โรงพยาบาลของโบสถ์ จนถึงปี 1496 ไมเคิลแองเจโลจึงย้ายไปอยู่ที่กรุงโรมที่ซึ่ง เขาได้สร้างผลงานชิ้นเอกชิ้นแรก
Lorenzo de Medici โลเรนโซ เด เมดีชี
เป็นรัฐบุรุษคนสำ�คัญของฟลอเรนซ์ในประเทศอิตาลีในยุคเรอเนซองส์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีความสำ�คัญในทางการปกครอง นอกจากนั้น ลอเรนโซ เดอ เมดิชิยังเป็นเป็นนักการทูต ผู้อุปถัมภ์, ผู้มีปัญญา, ศิลปินและกวี
Madonna of the Steps
Crucifix at Santo Spirito
Battle of the Centaurs
Young Archer
St. Petronius from The Ark of St Dominic
St. Proclus from The Ark of St Dominic
สร้างชื่อลือเลื่องด้วย ประติมากรรมชิ้นเอกของโลก
Bacchus
ไมเคิลแองเจโลไปที่โรมตอนอายุ 21 ปี เริ่มต้น
ด้ ว ยงานแกะสลั ก หิ น อ่ อ นรู ป เทพเจ้ า แห่ ง ไวน์ Bacchus เมื่องานเสร็จกลับถูกปฏิเสธจากพระ คาร์ดินัล Raffaele Riario ผู้ว่าจ้าง ต่อมาถูกนำ� ไปประดับอยู่ในสวนของนายธนาคาร
Raffaele Riario
ปลายปี 1497
เขาได้รับการ
ว่าจ้างจากพระคาร์ดินัล Jean de Bilhères-Lagraulas ให้ทำ� งานแกะสลักหินอ่อน
Pieta
รูปพระแม่มารีใบหน้า
เศร้าหมองกำ�ลังประคองร่างของพระเยซูที่เพิ่งอัญเชิญลง จากกางเขน
ไมเคิลแองเจโลใช้เวลาไม่ถึงสองปีงานก็เสร็จ
ผลงานที่ออกมางดงามอย่างยิ่ง สมจริงทุกรายละเอียด สร้าง ความอัศจรรย์ใจแก่ผู้ได้ชมเป็นอย่างมาก เป็นผลงานชิ้นเอก ชิ้นแรกที่เขาทำ�สำ�เร็จด้วยวัยเพียง 24 ปี
Pieta
เป็นหนึ่งในงานประติมากรรมที่มีชื่อ
เสียงมากที่สุดในโลก ปัจจุบันเก็บรักษาที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกัน
เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจให้ผู้คนมาเยี่ยมชม
มหาวิหารแห่งนี้อย่างคับคั่งตลอดทั้งปี
ปี 1499
ไมเคิลแองเจโลกลับมาที่เมือง
ฟลอเรนซ์ ได้รบั การทาบทามให้ทำ� งานแกะสลักหินอ่อนชิน้ ใหญ่ รูปเดวิด (David) ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มมา 40 ปีแล้วแต่ยังไม่ สำ�เร็จ เนื่องจากช่างแกะสลักที่เคยรับงานนี้ต่างเห็นว่าหินอ่อน ชิ้นนี้มีตำ�หนิและไม่แข็งแรงพอที่จะทำ�รูปปั้นใหญ่ขนาดนั้นได้ ไมเคิลแองเจโลรับงานนี้ตอนที่เขาอายุ 26 ปี ใช้เวลาราว 4 ปี ระหว่างปี 1501 – 1504 แกะสลักก้อนหินอ่อนที่ถูกทิ้งไว้ ไม่มีใครเหลียวแลนาน 25 ปีให้เป็นวีรบุรุษผู้งามสง่าสวยงาม ราวผู้ วิ เ ศษเนรมิ ต ขึ้ น และกลายเป็ น ผลงานที่ มี ชื่ อ เสี ย งมาก ที่สุดของเขา
ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ข อ ง เ มื อ ง ที่ ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย
ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งซานโดรบอตติเชลลีและเลโอนาร์โด ด า วิ น ชี ถู ก เ รี ย ก ตั ว ม า เ พื่ อ พิ จ า ร ณ า ส ถ า น ที่ ตั้ ง David และได้เลือกให้ตั้งที่จตุรัส Piazza della Signoria หน้าวัง Palazzo Vecchio ต่อมาในปี 187 ถูกย้ายไปไว้ที่หอศิลป์ Galleria dell’Accademia
ส่วนที่เดิมได้สร้างรูปปั้นจำ�ลองของ
David ตั้งไว้แทนรูปหินอ่อนแกะสลัก David จากฝีมือ ของไมเคิลแองเจโลเป็นประติมากรรมชิ้นเอกของโลกและ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ตลอดมาถึงปัจจุบัน
Madonna and Child
ช่วงเวลาเดียวกับที่แกะสลัก David เขายังมีผลงาน
หินอ่อนแกะสลักชิ้นเยี่ยมอีกชิ้นหนึ่งคือ Madonna and Child หรือที่เรียกกันว่า Madonna of Bruges รูป พระแม่มารีกับพระเยซูองค์น้อยบนตัก มีลักษณะและ ความงดงามใกล้เคียงกับ Pieta ปัจจุบันอยู่ที่โบสถ์ Church of Our Lady ที่เมือง Bruges ประเทศ เบลเยี่ยม
นอกจากนี้เขายังมีผลงานหินอ่อนแกะสลักชั้นยอด
อีกมากมาย เช่น Moses รูปปั้นประดับหลุมฝังศพพระ สันตะปาปา Julius II ในโบสถ์ Church of San Pietro in Vincoli
ที่กรุงโรม
Rebellious
Slave
และ
Dying
slave
กับ
ที่เป็นประติมากรรมดาวเด่นใน
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ รวมทั้งบรรดารูปแกะสลักจำ�นวนมากที่ ประดับตามโบสถ์และหลุมฝังศพหลายแห่ง ซึ่งล้วนงดงาม วิจิตรสมกับที่มาจากฝีมือของประติมากรอันดับ 1 ของโลก ตลอดกาล
Dying Slave
Rebellious Slave
Moses
Night and Day
Dusk and Dawn
Rachel
Leah
St. Paul
St. Peter
Apollo (David)
Florentine Pieta
Crouching Boy
Rondanini Pieta
โบสถ์น้อยซิสตีนที่สถิต ภาพเขียนสุดมหัศจรรย์
ปี 1508
พระสันตะปาปา Julius II
ได้ให้ไมเคิลแองเจโลเขียนภาพบนเพดานโบสถ์น้อยซิสตีน (Sistine Chapel) ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่มากกว่า 500 ตารางเมตร ประกอบด้วยภาพกว่า 300 ภาพทั้งหมดเป็นภาพเขียน ปูนปั้น (Fresco) ตรงกลางเพดาเป็นภาพเขียนเหตุการณ์ จากพระคัมภีร์ปฐมกาล 9 ภาพ หนึ่งในนั้นที่อยู่กลางกลุ่ม คือภาพ The Creation Of Adam เป็นภาพที่มีชื่อเสียง มากที่สุดของเขา ภาพเขียนบนเพดานโบสถ์น้อยซิสตีนเป็น หนึ่งงานจิตรกรรมที่มีชื่อ เสี ยงที่ สุ ดของยุคเรอเนสซองส์ ไมเคิลแองเจโลใช้เวลาถึง 4 ปีในการสร้างงานสุดมหัศจรรย์ ชิ้นนี้ ภาพทุกภาพล้วนสวยงามน่าประทับใจ
The Delphic Sibyl
The Libyan Sibyl
The Last Judgement
ปี 1534
ไมเคิลแองเจโลรับงานชิ้นใหญ่ที่สุด
อีกชิ้นหนึ่งจากพระสันตะปาปา Clement VII เป็นการเขียนภาพ ปู น ปั้ น บนผนั ง หลั ง แท่ น บู ช าภายในโบสถ์ น้ อ ยซิ ส ตี น คื อ ภาพ
The
Last
พื้นที่
13.7
x
12
Judgement เป็นภาพขนาดใหญ่มาก เมตร
เขาใช้เวลานานถึง
8
ปี
ในการเขียนภาพนี้ ในภาพแสดงการมาครั้งที่สองของพระเยซูและ การพิพากษาของพระองค์ตามคัมภีร์ใบเบิล เมื่ อ งานเสร็ จ ภาพเปลื อ ยของพระเยซู แ ละพระแม่ ม ารี ถู ก วิ พ ากษ์ วิ จ ารณ์ ว่ า ล่ ว งเกิ น สิ่ ง ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ แ ละมี ก ารรณรงค์ โดยพระคาร์ดนิ ลั ให้เอาออกไปหรือเซ็นเซอร์เสีย แต่พระสันตะปาปา ไม่ยินยอม
ต่อมาในปี
1564
ไม่นานก่อนที่ไมเคิลแองเจโลจะเสียชีวิต
สภาคาทอลิก มีมติให้ทำ�การเซ็นเซอร์โดยให้ลูกศิษย์ของไมเคิลแองเจโล เป็นผู้เขียนภาพทับบริเวณที่ไม่เหมาะสม แต่มีการคัดลอกภาพต้นฉบับ เอาไว้ด้วย
ไมเคิ ล แองเจโลยั ง มี ผ ลงานภาพเขี ย นชั้ น ยอดอี ก หลายภาพ เช่น ภาพ Doni Tondo ที่เขียนด้วยสีน้ำ�มันและสีฝุ่น ปัจจุบันจัด แสดงอยู่ที่หอศิลป์อุฟฟีซีในเมืองฟลอเรนซ์
ภาพ Manchester
Madonna และภาพ The Entombment ทั้งสองภาพนี้เขียน ด้วยสีฝุ่น ปัจจุบันอยู่ที่หอศิลป์แห่งชาติ (ลอนดอน) รวมทั้งผล งานภาพปูนเปียกชิ้นสุดท้าย The Crucifixion of St. Peter ที่โบสถ์น้อยพอลลีน (Pauline Chapel) ด้ ว ย ฝี มื อ ขั้ น เ ท พ แ ล ะ ผ ล ง า น ก า ร เ ขี ย น ภ า พ ที่ ยอดเยี่ยม ไมเคิลแองเจโลจึงได้รับการยกย่องเป็นจิตรกรสำ�คัญที่สุด คนหนึ่งในยุคเรอเนสซองส์
Manchester Madonna
The Torment of Saint Anthony
The Entombment
The Crucifixion of St. Peter
The Battle of Cascina
Doni Tondo
ไมเคิลแองเจโลไม่ค่อยเซ็นต์ชื่อลงบนผลงานของตัวเอง
และไม่เคยทิ้งภาพใบหน้าตัวเองแบบเป็นทางการเอาไว้เลย Pieta เป็นผลงานชิ้นเดียวที่เขาได้ลงชื่อเอาไว้ ไมเคิลแองเจโล แกะสลัก Pieta ตอนที่ยังเป็นเด็กหนุ่มมาก ไม่นานหลังจาก Pieta
จัดแสดงในโบสถ์เป็นครั้งแรกเขาได้ยินบางคนพูดว่า
เป็นผลงานของช่างแกะสลักคนอื่น เขาจึงแกะสลักชื่อของเขา เป็นผู้ทำ�ลงบนสายสะพายของพระแม่มารี หลังจากครั้งนั้น เขาก็ไม่เคยทำ�อีกเลย แต่เขามักจะซ่อนใบหน้าของตัวเองเอาไว้ ในผลงานหลาย ๆ ชิ้น
ใบหน้าที่ปรากฏอยู่บนแผ่นหนังที่ถูกถลกในมือของ Saint Bartholomew จากภาพ The Last Judgement
ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมศีรษะของ Nicodemus ในรูปปั้น The Florentine Pieta
ใบหน้าของชายที่สวมผ้าโพกศีรษะสีน้ำ�เงินในภาพ The Crucifixion of St. Peter
งานออกแบบสถาปัตยกรรม ที่โดดเด่นเป็นเอก
ไมเคิ ล แองเจโลรั บ งานออกแบบและสร้ า งหลุ ม ฝั ง ศพให้
กับบุคคลสำ� คัญในยุคนั้นหลายที่ รวมทั้งของตระกูล Medici ผู้ปกครองเมืองฟลอเรนซ์และพระสันตะปาปา งานสร้างหลุมฝัง ศพมีทั้งงานสถาปัตยกรรมและประติมากรรม เขาใช้เวลาในการ สร้างหลุมฝังศพของพระสันตะปาปา Julius II นานถึง 40 ปี (ปี 1505–1545) เพราะนอกจากจะประกอบด้วยรูปปั้นจำ�นวน มากแล้ว ไมเคิลแองเจโลยังมีงานอื่นที่ต้องทำ�ให้เสร็จอีกมาก
Tomb of Pope Julius II
ปี 1523 ไมเคิลแองเจโลได้ออกแบบห้องสมุด Laurentian
Library ที่โบสถ์ San Lorenzo ในเมืองฟลอเรนซ์ซึ่งถือเป็น ต้นแบบของลัทธิจริตนิยม (Mannerism) เขาออกแบบห้องโถง และบันไดของที่นี่ได้โดดเด่นมาก ปี 1546 ได้ออกแบบลวดลายบน พื้นบริเวณจตุรัส Piazza del Campidoglio ในกรุงโรม ด้วย ลวดลายที่สวยงามสลับซับซ้อนเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกชิ้นหนึ่ง ไมเคิลแองเจโลยังได้ออกแบบประตู Porta Pia และวิหาร Santa Maria degli Angeli e dei Martiri ในกรุงโรมอีกด้วย
Laurentian Library Vestibule
Laurentian Library Staircase
Piazza del Campidoglio
Porta Pia
Santa Maria degli Angeli e dei Martiri
ไมเคิลแองเจโลในวัย 70 ปีได้รับงานชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิต
อีกครั้งหนึ่ง ปี 1546 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสถาปนิกของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica) ในกรุงโรม งานก่อสร้างมหาวิหารดำ�เนินมาแล้ว 50 ปี และงานฐานรากทำ� เสร็จตามแปลนของ Donato Bramante สถาปิกคนแรกตั้งแต่ ปี 1506
St. Peter’s Basilica
สถาปนิกคนอื่นได้ทำ�งานต่อเนื่องกันมามีการเปลี่ยนแปลงแบบ
หลายครั้ง แต่งานก่อสร้างมีความคืบหน้าน้อยมาก ไมเคิลแองเจโล คงแนวคิดหลักของ Bramante เอาไว้แต่ได้ออกแบบใหม่หลายส่วน โดยโดมที่สวยสง่าเป็นเอกลักษณ์ของมหาวิหารแห่งนี้ งานก่อสร้าง ก้าวหน้าไปด้วยดีแต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นโดมที่เสร็จ สมบูรณ์ด้วยตาตัวเอง
เนื่องจากเขาเสียชีวิตไปเสียก่อนที่โดมจะ
สร้างเสร็จ
The Dome of St. Peter’s Basilica
ทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจ ให้กับงานศิลปะ
ไมเคิลแองเจโลเป็นหนึ่งในผู้ที่ทุ่มเทให้กับการทำ�งานศิลปะ มากที่สุด เขาเริ่มทำ�งานในฐานะศิลปินตั้งแต่อายุ 14 ปี และทำ�งาน ศิลปะมาตลอดจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต
เขายังเป็นผู้ที่ทำ�งาน
ศิลปะรับใช้พระสันตะปาปามากถึง 9 พระองค์ ไมเคิลแองเจโล ใช้ เ วลาหลายปี ห ลั ง สุ ด กั บ การดู แ ลงานก่ อ สร้ า งมหาวิ ห าร เซนต์ปีเตอร์ เมื่อร่างกายเขาอ่อนแอมากจนควบคุมงานที่ไซต์งาน ด้วยตัวเองไม่ไหวแล้ว
เขายังคงควบคุมจากที่บ้านโดยการส่ง
ภาพวาดที่เขาออกแบบไปให้โฟร์แมนที่เขาไว้ใจ งานแกะสลักยังคง เป็นสิ่งเขารักที่สุดเสมอ เขาแกะสลักชิ้นงานอยู่ที่บ้านจนเกือบถึง วันสุดท้ายของชีวิต ไม่กี่วันก่อนที่เขาจะเสียชีวิตด้วยวัยเกือบ 89 ปี ในปี 1564 เขายังคงแกะสลักชิ้นงาน Rondanini Pieta อยู่
ไมเคิ ล แองเจโลเป็ น ศิ ล ปิ น ที่ มี ค่ า ตั ว แพงที่ สุ ด คน
หนึ่งในยุคนั้น ตอนที่เสียชีวิตเขามีทรัพย์สินจำ�นวนมาก คิดเป็นเงินในปัจจุบันราว
50
ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่ไมเคิลแองเจโลใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายสมถะ เขาเคยบอก ลูกศิษย์ว่าถึงเขาจะรวยแค่ไหนเขายังคงอยู่แบบคนจน เช่นเดิม เขาไม่ค่อยแยแสกับการกินและดื่มสักเท่าไรและ มักจะนอนหลับในชุดทำ�งานอยู่บ่อย ๆ เขาเป็นคนค่อน ข้างสันโดษไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใคร ไมเคิลแองเจโล ไม่แต่งงานโดยให้เหตุผลว่างานคือภรรยา และ “ภรรยา” ของเขาได้ทำ�ให้เขาเหนื่อยมากแล้ว ดังนั้นถ้ามีภรรยาอีก คนเขาคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ เรียกได้ว่าไมเคิลแองเจโล มีชีวิตเพื่อศิลปะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ศิลปินมือเทวดา ผู้สร้างสุดยอดศิลปะ 3 สาขา
ไมเคิลแองเจโลเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ในช่ ว งเวลาที ่ เ ขามี ช ี ว ิ ต อยู ่ เขาได้ ร ั บ ฉายาว่ า “The Divine One” ที่หมายถึง เทพเจ้า เขาคือ ศิ ล ปิ น มื อ เทวดาที่ ส ร้ า งสรรค์ สุ ด ยอดงานศิ ล ปะ ทั้งประติมากรรม จิตรกรรม และสถาปัตยกรรม อี ก ทั ้ ง ยั ง เป็ น กวี ท ี ่ ม ี ผ ลงานมากกว่ า 300 ชิ้น เป็ น เรื่ อ งมหั ศ จรรย์ ม ากที่ ผ ลงานชิ้ น เอกของโลก ทั้ง 3 สาขาจะเกิดจากฝีมือของคนคนเดียว
พระสันตะปาปา Julius II กล่าวว่า “ทรงยินดีบั่นทอนชีวิตของท่านลง เพื่อแลกกับ ชีวิตของไมเคิลแองเจโลให้ ย ื น ยาวออกไปอี ก ”