Chiang Mai Art Community Symposium 2014

Page 1

สัมมนาชุมชนศิลปะเชียงใหม ธุรกิจของศิลปะ 26 กรกฎาคม 2557 ณ สํานักสงเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม

organized by CAC - Chiangmai Art Conversation in collaboration with the U.S. Consulate General, Chiang Mai and Center for the Promotion of Arts and Culture, CMU


cac-art.info . facebook.com/cmartconversation . cac.chiangmai@gmail.com


��

สัมมนาชุมชนศิลปะเชียงใหม: ธุรกิจของศิลปะ

CHIANG MAI ART COMMUNITY SYMPOSIUM: BUSINESS OF ART การสัมมนาชุมชนศิลปะเชียงใหม่ เพื�อสร้างเครือข่ายที�แข็งแรงของธุรกิจศิลปะ พื�นที�ทางศิลปะ และศิลปินท้องถิ�นในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยการบรรยายพิเศษโดย โฮเซน ฟามานี (Hossein Farmani) ทูตวัฒนธรรมศิลปะจากสหรัฐฯ เจ้าของ Farmani Gallery LA/NY และ Rooftop Gallery กรุงเทพฯ จัดโดย Chiangmai Art Conversation (CAC) โดยความร่วมมือกับ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจําประเทศไทย, สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ และ สํานักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถานที� สํานักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เวลา วันเสาร์ที� �� กรกฏาคม ���� เวลา �:�� - ��:�� �:�� ��:�� SECTION � ��:��

ลงทะเบียน สุทธิรัตน์ ศุภปริญญา หัวหน้ากลุ่ม CAC กล่าวนำการสัมมนา ผ.ศ.วิลาวัณย์ เศวตเศรนี ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม กล่าวต้อนรับ Chiang Mai Art Space: Challenges & Success Stories พื�นที�ทางศิลปะเชียงใหม่: เรื�องราวของความท้าทายและความสำเร็จ นำเสนอโดยตัวแทนจากพื�นที�ทางศิลปะในจังหวัดเชียงใหม่ใน � ประเด็น ได้แก่ วิสัยทัศน์ / แผนการดำเนินงาน / กลุ่มเป้าหมาย / การจัดการและความท้าทาย ผู้บรรยาย สุวารี วงค์กองแก้ว จาก กลุ่มพิพิธภัณฑ์กลางเวียงเชียงใหม่ คามิน เลิศชัยประเสริฐ จาก ��st Century Museum of Contemporary Spirit ต่อลาภ ลาภเจริญสุข จาก Gallery Seescape วันเอก จันทรทิพย์ จาก Pongnoi Community Art Space พิสิฐพงศ์ สิระพิศุทธิ� จาก คำเปิง ศิลปินในสถานพำนัก Pinyo Ensminger และ วารุณี เสาสูง จาก DAA (Documentary Arts Asia) วรวิทย์ รัตนกิจ จาก Art Relief International กิติก้อง ติลกวัฒโนทัย จาก CAP (Chiang mai Art on Paper)

SECTION � ��:�� SECTION � ��:��

กล่าวต้อนรับ โดย กงสุลใหญ่ สหรัฐอเมริกา การบรรยายเรื�อง ธุรกิจของศิลปะ โดย โฮเซน ฟาร์มานี แผนที�ศิลปะเชียงใหม่ CAC เสนอโครงการแผนที�ศิลปะเชียงใหม่ แลกเปลี�ยนและระดมความคิดเห็นเพื�อหาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันทำงาน



Chiang Mai Art Conversation เป็นกลุ่มศิลปินที�ทํางานเกี�ยวกับ การโปรโมตศิ ล ปะร่ ว มสมั ย ของ เชียงใหม่โดยการสะสม สร้าง และ ส่งต่อข้อมูลศิลปะของเชียงใหม่ไป สู่สาธารณะ โดยเรามีเป้าหมายที� ต้ อ งการจะขยายและสร้ า งความ แข็งแกร่งของเครือข่ายชุมชนและผู้ ชมศิลปะในจังหวัดเชียงใหม่ การสัมมนาครั�งนี�จัดขึ�นเพื�อเปิด โอกาสในการพบปะพูดคุยกันเป็น ครั�งแรก ระหว่างตัวแทนจากพื�นที� ทางศิลปะ ศิ ล ปิ น และผู ้ ท ํ า งาน เกี�ยวกับศิลปะในจังหวัดเชียงใหม่ ด้ ว ยการจั ด บรรยายแลกเปลี � ย น ประสบการณ์การทํางาน ความรู้ และทัศนะในการพัฒนาศักยภาพ ทั�งยังเป็นการสร้างเครือข่ายคนทํา งานศิลปะในเชียงใหม่อีกด้วย — สุทธิรัตน์ ศุภปริญญา, CAC


CHIANG MAI ART SPACE challenges & success stories

เรื่องราวของความทาทายและความสำเร็จ



เครือขาย พิพิธภัณฑ กลางเวียง เชียงใหม สุวารี วงคกองแกว

หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์พื�นถิ�นล้านนา หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ ถ.พระปกเกล้า ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ����� ��� ��� ���, ��� ��� ��� cmocity.com | facebook.com/cm.�museum �:�� - ��:�� น. หยุดวันจันทร์ ห้องสมุดฟื�นบ้านย่านเวียง เปิดทุกวัน �:�� - ��:�� น. หยุดในวันหยุดนักขัตฤกษ์ facebook.com/Fuenbanlibrary


��

พิ พ ิ ธ ภั ณ ฑ์ ก ลางเวี ย งประกอบไปด้ ว ยสาม พิพิธภัณฑ์หลัก แห่งแรกได้แก่อาคารที�เคยเป็น ศาลากลางจังหวัดเก่า ซึ�งถูกทิ�งร้างไว้และเก่าแก่ มากแล้ว เทศบาลนครเชียงใหม่ได้รบั เอาอาคารนี� มา แล้วมีนโยบายปรับปรุงเป็นพิพธิ ภัณฑ์ ใช้เวลา ตั�งแต่ริเริ�มจนถึงเปิดทำการได้ คือตั�งแต่ปี ���� ถึง �� รวมแล้ว �� ปี

แม้อาคารสถานที�จะเป็นพื�นที�ของเทศบาลนคร เชียงใหม่ แต่การตัดสินใจในการบริหาร อาศัย พันธมิตรฯ ที�เป็นองค์กรเอกชน และประชาชน ร่วมกันกำหนดการใช้ กำหนดกิจกรรมต่างๆ แล้ว ใช้ห้องสมุดทำหน้าที�เชื�อมโยงระหว่างผู้คนและ กลไกของรัฐ เพือ� ใช้พน�ื ทีใ� ห้เกิดประโยชน์กบั ผูค้ น ในเมืองให้มากที�สุด

พิพธิ ภัณฑ์นม�ี ลี กั ษณะเป็น Discovery Museum อธิบายถึงเมืองเชียงใหม่ โดยให้ผู้เข้าชมใช้เวลา ไม่นานนักในการเข้าใจเมือง โดยใช้พน�ื ทีใ� จกลาง เมืองเก่า คนโบราณเชื�อกันว่าเมืองเป็นเหมือน ร่างกายของมนุษย์ พืน� ทีใ� จกลางของเมืองจึงเป็น “สะดือเมือง” และพื�นที�โดยรอบ ก็สำคัญทาง ประวัตศิ าสตร์เช่นเดียวกัน ทางโครงการจึงทำการ ขอพืน� ทีข� า้ งเคียงอืน� ๆ เพือ� เปิดอีกสองพิพธิ ภัณฑ์ ซึ�งรวมแล้วใช้เวลาอีก �� ปีต่อมา กว่าจะเปิดได้ สำเร็จ

บทบาทอีกประการหนึ�ง คือ การใช้พิพิธภัณฑ์ใน การขับเคลื�อนและฟื�นฟูเมืองเก่า โครงการนี�ได้ ตีความพิพิธภัณฑ์ที�เกินจากความเป็นอาคาร สถานที�ออกไป แต่เห็นว่าภายในพื�นที�เมืองเก่า �.� ตารางกิโลเมตร มีวดั ต่างๆ ถึง �� วัด เมืองเก่า ทั � ง เมื อ งจึ ง เป็ น พื � น ที � พ ิ พ ิ ธ ภั ณ ฑ์ อ ี ก แบบหนึ � ง โครงการจึงคิดถึงการฟื�นฟูวิถีชีวิตของเมืองเก่า และดึงชุมชนต่างๆ เข้ามาร่วมในการขับเคลื�อน

ความยากของมัน คือ เมืองเชียงใหม่ไม่ใช่พื�นที� ซึ�งสร้างพิพิธภัณฑ์ได้ง่ายนัก กลุ่มเป้าหมายใน การชมมีทง�ั เยาวชน นักท่องเทีย� วไทย นักท่องเทีย� ว ต่างชาติ ซึ�งเราต้องคิดถึงทั�งสามกลุ่มเป้าหมาย ไปพร้อมๆ กัน ซึ�งตัวเลขการเข้าชมตั�งแต่เริ�มเปิด มายังเพิ�มขึ�นเรื�อยๆ อย่างต่อเนื�อง การทำพิพธิ ภัณฑ์ให้ได้กำไรในไทย ยากมาก หาก พูดถึงในมิตกิ ารทำธุรกิจ เราขาดทุน แต่ถา้ พูดถึง มิติทางสังคม คิดว่าสังคมเราได้กำไร คนเข้าชม ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ตัวเลขราว � - � หมื�นคน ขณะที�ตัวเลขต่างชาติก็มีมากขึ�น พื�นฐานคือเรา คิดถึงเรือ� งความยัง� ยืนของเมือง เยาวชนของเมือง ควรรับรู้ข้อมูลของเมือง ไม่ใช่ข้อมูลนี�อยู่ที�ผู้เชี�ยว ชาญเฉพาะ ในอาคารทีส� าม เราได้ทำห้องสมุดเล็กๆ ขึน� มาด้วย เปิดมา � ปีแล้ว ชือ� ว่า “ห้องสมุดพืน� บ้านย่านเวียง” แนวคิดเกิดขึ�นมาจากการเปิดทำการพิพิธภัณฑ์ แรกแล้ว แต่ดว้ ยลักษณะของอาคารราชการและ มีรั�วสูง ทำให้คนทั�วไปไม่ค่อยเข้ามาใช้ในฐานะ พื�นที�สาธารณะ อาคารที�สร้างขึ�นมาใหม่นี�จึงใช้ วิธีออกแบบให้มีลักษณะเป็นพื�นที�สาธารณะ ให้ คนสามารถได้เข้ามาใช้ประโยชน์ พยายามสร้าง ปฏิสมั พันธ์ระหว่างเมืองกับผูค้ น โดยใช้กลไกการ ขับเคลื�อนห้องสมุดเป็นเครื�องมือ

ในด้านงบประมาณ โครงการใช้งบของเทศบาล ในการขับเคลือ� นพิพธิ ภัณฑ์หลัก ยกเว้นส่วนงาน ห้องสมุดและงานสาธารณะ ที�ใช้ทุนจากองค์กร ต่างๆ เช่น สสส. โดยห้องสมุดใช้ตวั ตึกของเทศบาล แต่หนังสือและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ใช้การระดม สิ�งของจากผู้คนในเมือง ปั ญ หาและอุ ป สรรคสำคั ญ คื อ โครงการที � ร ั ฐ ว่าจ้างเอกชนทำนั�น มักได้งานที�ไม่ค่อยดีนัก มี การแก้ไขโดยในการทำอาคารหลังที�สอง ได้ขอ ระดมของสะสมจากผูค้ นมาสนับสนุน และนำมา จัดแสดง โดยไม่ได้ขอเป็นตัวเงิน ได้ไอเดียนี�มา จากการไปดูงานโดยทุนของสถานกงสุลฯ


���/� หมู่ �� ซอยวัดอุโมงค์ �� ถ.สุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ����� ��� ��� ��� | spirit@��century.org facebook.com/��century ��century.org

พิพิธภัณฑ จิตวิญญาณ รวมสมัย แหง ศตวรรษที่ 31 คามิน เลิศชัยประเสริฐ


��

โครงการนี�เริ�มจากการที�ผมถูกเชิญให้ไปพูดที� ��st Century Museum ทีญ � ป�ี นุ่ ช่วงปี ���� ทีน� น�ั เป็นพิพธิ ภัณฑ์ทร�ี ว่ มสมัยทีส� ดุ ของโลกแห่งหนึง� มี คอลเลคชันทีด� มี ากของศิลปะร่วมสมัยในศตวรรษ ที� �� และเขาได้เชิญมาทำงานเกี�ยวกับเมือง ใน ประเด็นว่าจะทำอย่างไรให้ศลิ ปะไปกระตุน้ เมือง คานาซาว่าให้มีชีวิตชีวา โดยได้เชิญเราไปเยี�ยม ชมสถานทีต� า่ งๆ เพือ� หาไอเดียในช่วง � - � วันนัน� จนได้ไปเยี�ยมชมโรงเรียนแห่งหนึ�ง ที�นี�จะมีโครง การทำประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนในรูปแบบ การเขียนความดีของเด็กแต่ละคน คนละหนึ�ง อย่างลงบนกระดาษประกาศนียบัตร เราได้สอบ ถามว่าแล้วมีเด็กคนไหนที�ไม่มีความดีเลยไหม? หรือไม่รู้จะเขียนอะไรลงไป อาจารย์ใหญ่ของ โรงเรียนได้บอกว่า เขาเชื�อว่า ทุกคนมีความดี หนึ�งอย่างในตัว ซึ�งคำตอบของครูคนนี�ได้เปลี�ยน วิธีคิดและเป็นแรงบันดาลใจให้เรา และได้ขอให้ ครูคนนัน� เขียนข้อความ “ทุกคนมีความดีหนึง� อย่าง ในตัวเอง” ให้ด้วย และเราได้เขียนข้อความว่า “ไม่มดี กี ว่า ไม่มเี ลวกว่า ไม่มเี ท่ากัน” แลกเปลีย� น กับเขาด้วย นอกจากนัน� ยังมีกจิ กรรมทีใ� ห้ชาวเมืองคานาซาว่า เอาข้าวของที�ประทับใจมาคนละหนึ�งอย่าง แล้ว แต่ละคนนำสิ�งเหล่านี�มาบอกเล่าถึงมัน เพื�อมา แสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์และแต่ละคนนำของมา ถ่ายรูปร่วมกัน ประสบการณ์ จ ากญี � ป ุ ่ น นี � เ ป็ น จุ ด เริ � ม ต้ น ของ การทำพิพิธภัณฑ์ แนวคิดก็คือในโลกอนาคตนั�น ทุกคนจะเป็นส่วนหนึ�งของศิลปะ ร่างกายเราจะ เป็นศิลปะ จิตวิญญาณก็จะเป็นงานศิลปะ สังคม ย่อมถูกขับเคลือ� นโดยคนทุกคน ไม่ใช่เพียงคนใด คนหนึ�งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ�ง

ในปี ���� ได้เริม� นำแนวคิดนีม� าทำทีเ� ชียงใหม่ โดย รวบรวมประสบการณ์ในอดีตของชีวิตของผม ตั�งแต่เริ�มต้นประสบการณ์ทางศิลปะวัฒนธรรม ทัง� วัตถุและเหตุการณ์ตา่ งๆ เป็นตัวแทนการเรียนรู้ ของผม ก็จะรวบรวมมาไว้ในพิพิธภัณฑ์ โดยมัน ไม่ใช่งานของผม แต่เป็นเรื�องประสบการณ์ที�ผม มีส่วนร่วมกับมัน ผมเห็นว่าร่างกายของเราก็คือพิพิธภัณฑ์ แล้ว จิตวิญญาณที�อยู่เบื�องหลังของกิจกรรมต่างๆ ก็คืองานศิลปะด้วย พื�นที�นี�ได้กำหนดจะใช้ใน การทดลอง � ปี อยากให้เป็นพื�นที�ให้คนเข้ามา เรียนรู้และแชร์ประสบการณ์ โดยมีกิจกรรมแนว creative sharing workshop ให้แต่ละคนมา แชร์ความรู้ และแบ่งปันกัน สรุปแล้ว แนวคิดของ พิพิธภัณฑ์ศตวรรษที� �� ไม่ใช่เพียงพูดถึงพืน� ทีน� �ี หรือโปรเจกต์ทเ�ี กิดขึน� ใน ที�ต่างๆ แต่จริงๆ แล้ว มันคือตัวพวกเราทุกคน ร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเราทุกคนที�จะ แบ่งปันให้กันได้ นี�คือแนวคิดของพิพิธภัณฑ์


Gallery Seescape เปิดมาตัง� แต่ปี ���� บริเวณ นิมมานเหมินทร์ โดยได้เปลีย� นจากพืน� ทีร� า้ นเหล้า โดยทดลองเปิดเป็นพื�นที�ใหม่ ตั�งใจให้เป็นพื�นที� ศิลปินได้มาแลกเปลีย� นกันและเชือ� มศิลปะร่วมสมัย เข้ากับชุมชน โดยใช้พื�นที�คาเฟ่ และร้านอาหาร เป็นสื�อกลาง ภายในแกลเลอรี�ประกอบไปด้วยส่วนห้องจัด นิทรรศการ ซึง� มีนทิ รรศการหมุนเวียนทุกๆ เดือน, ห้องแสดงผลงานกึ�งถาวร ซึ�งแสดงผลงานที�จัด แสดงไปแล้ว และรวบรวมไว้จดั จำหน่าย, สตูดโิ อ ทำงานของศิลปิน เพราะเราเชื�อในกระบวนการ เกิดศิลปะ ไม่ใช่เพียงตัวศิลปะที�วางโชว์ไว้อย่าง เดียว โดยมีการทำห้องนอนทีใ� ห้ศลิ ปินมาทดลอง ทำงาน, ร้านจัดจำหน่ายงานของศิลปิน, คาเฟ่ที� เชือ� มผูค้ นเข้าสูศ่ ลิ ปะได้งา่ ยขึน� , แกลเลอรีเคลือ� นที� เพือ� เคลือ� นเข้าสูช่ มุ ชนได้งา่ ยขึน� ทีเ� ริม� ทำมาตัง� แต่ ปี ����

Seescape เปิดทำการมา � ปี มีผลงานนิทรรศการ จัดแสดงมากกว่า �� ครัง� ทัง� โดยศิลปินไทยรุน่ ใหม่ และศิลปินต่างชาติ มีการจัดงานเปิดท้ายขายของ, งาน VDO installation, งานแนว Performance, งาน collection ต่างๆ และแม้แต่การทำอาหาร รวมทัง� ยังมีงานจัดบรรยายด้านศิลปะและพยายาม จัด Artist Talk ช่วงก่อนทีจ� ะมีงานเปิดนิทรรศการ ทุกครัง� เพือ� ช่วยสือ� สารกับผูค้ นในวงกว้างขึน� มาก กว่าเพียงการเปิดแสดงงานเฉยๆ ความคาดหวังที�ทำแกลเลอรี�นี�อีกอย่างหนึ�งคือ อยากให้งานที�จัดแสดงเป็นงานเชิงทดลอง เพื�อ ขับเคลื�อนศิลปะไปยังทิศทางใหม่ๆ โดยในด้าน งบประมาณได้วางแผนไว้ตง�ั แต่ตน้ ว่าจะใช้รายได้ ส่วนอื�นมาสนับสนุนด้านการเงินให้กับการแสดง นิทรรศการเชิงทดลอง โดยเฉพาะการใช้ร้านค้า จำหน่ายงานของศิลปินท้องถิน� และยังมีสว่ นของ คาเฟ่ที�เพิ�มเติมรายได้ ในช่วงนี� ยังมีการทำโครงการใหม่ คือโครงการ “MIT MAP” เป็นการให้ผู้คนร่วมกันเขียนแผนที� ทางไปบ้านเพื�อน หรือแกลเลอรี�และพื�นที�ศิลปะ อื�นๆ อาจจะเรียกว่า “แผนที�ทางสัมพันธภาพ” เพราะเชื�อว่าแผนที�นั�นไม่จำเป็นต้องเป็นเพียง แผนทีท� างกายภาพ แต่สามารถเป็นพืน� ทีล� ายเส้น ซึ�งให้ผู้คนมาช่วยกันเติมพื�นที�หรือสัญลักษณ์ ต่างๆ ร่วมกันได้


��

��/� ถ.นิมมานเหมินทร์ ซอย �� ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ��� ��� ���� galleryseescape@gmail.com seescapechiangmai.blogspot.com facebook.com/galleryseescape ��:�� - ��:�� น. หยุดวันจันทร์

Gallery Seescape ตอลาภ ลาภเจริญสุข


เริม� แรกของการทำโป่งน้อยอาร์ตสเปซ ไม่ได้ตง�ั ใจ ว่าจะให้เป็นพืน� ทีศ� ลิ ปะโดยตรง แต่จะใช้ทำพืน� ที� อยู่อาศัยบริเวณชุมชนโป่งน้อย แต่ด้วยลักษณะ ความเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้เมือง และยังมีความ เป็นชุมชนชาวบ้านอยู่เยอะ ทำให้เกิดความคิด ว่ า อยากจะสร้ า งพื� น ที� ศ ิ ล ปะขึ� น มาในชุ ม ชน แต่ปัญหาของแกลเลอรี�ศิลปะที�ผ่านมาคือคนใน ชุมชนทั�วไปมักไม่ค่อยที�จะเข้ามาดู ข้อท้าทาย เริ�มแรกคือจะทำงานอย่างไรให้คนในชุมชนเข้า มาเกี�ยวข้องกับแกลเลอรี� ตั�งแต่แรกนั�น ต้องการให้พื�นที�นี�ไม่แสวงหาผล กำไร เพื�อความกลมกลืนในการอยู่ร่วมกันชุมชน พืน� ฐานคือมีนทิ รรศการหมุนเวียน � - � นิทรรศการ ต่อปี โดยกลุ่มศิลปะที�มาแสดงงานมีทั�งศิลปิน ในเชียงใหม่ ทั�งรุ่นเก่าและใหม่ ทั�งดังและไม่ดัง และศิลปินชาวต่างชาติ นอกจากนั�นยังพยายาม คัดเลือกศิลปินรุ่นใหม่ที�มุ่งมั�นจะทำงานศิลปิน ซึง� ส่วนใหญ่ยงั ไม่มเี งินทุนอะไรมาก พิจารณาจาก แนวทางการทำงาน การใช้ชีวิต และความมุ่งมั�น ในการทำงาน

นิทรรศการเน้นให้เป็นงานแนวทดลอง ไม่ใช่งาน ที�จะขาย ซึ�งปกติมีหลายพื�นที�ในเชียงใหม่ทำ อยูแ่ ล้ว แม้งานแนวทดลองจะเป็นงานทีไ� ม่ถงึ กับ ประสบความสำเร็จ ไม่ได้กำไร ก็สามารถเข้ามา ทำในพื�นที�ได้ แต่มีข้อแม้คือศิลปินต้องจัดงาน ให้ชุมชนแบบใดก็ได้หนึ�งครั�ง โดยไม่จำเป็นต้อง เป็นระหว่างการแสดงงาน แต่กลับมาจัดในภาย หลังก็ได้ เหมือนเป็นสัญญาทางใจระหว่างศิลปิน แกลเลอรี� และชุมชน อันนี�เป็นไปตามเป้าหมาย ในการนำศิลปะเข้าไปสู่ชุมชน หรือดึงชุมชนเข้า มาร่วมกับเรา สำหรับผูจ้ ดั แสดงงาน ทางแกลเลอรีจะสนับสนุน ทั�งให้พื�นที�จัดแสดงงาน ผู้ช่วยติดตั�งงาน ช่วย ด้านประชาสัมพันธ์ หรือระหว่างนัน� จะมีงานนอก โปรแกรม ก็ให้คนมาขอใช้พื�นที�ได้ โดยไม่เสียค่า ใช้จา่ ย หรือจะมีคา่ ใช้จา่ ยบ้างก็ในเรือ� งของคนงาน ที�จ้างมาช่วยงาน ที�ผ่านมามามีทั�ง กิจกรรมการให้ศิลปินได้พูดคุย ถึงการทำงานและการใช้ชีวิตของเขา ในช่วงเปิด งานศิลปะแต่ละครัง� , มีการเชิญศิลปินมาบรรยาย ให้นักเรียนนักศึกษาตามโอกาส รวมทั�งการทำ กิจกรรมศิลปะชุมชน โดยมีการเปิดสอนศิลปะให้ ชุมชนและคนทัว� ไปในทุกวันอังคารและวันพฤหัส โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


��

��� หมู่ � ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ��� ��� ���� pongnoicomm@gmail.com facebook.com/pongnoi ��:�� - ��:�� น. หยุดวันจันทร์

Pongnoi Community Art Space วันเอก จันทรทิพย


ตู้ ปณ. �� ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่ ����� ��� ��� ���� | compeung@yahoo.com facebook.com/compeung compeung.org

คำเปง ศิลปนในสถานพำนัก พิสิฐพงศ สิระพิศุทธิ์


��

คำเปิง แปลว่า “คำทีเ� หมาะสม” โครงการนีเ� ริม� มา จากการทำโปรแกรมเชิญศิลปินให้มาอยู่ทำงาน ในเชียงใหม่ประมาณ � เดือน (Artist Resident) พื�นที�ของคำเปิงอยู่บริเวณดอยสะเก็ด เริ�มแรกมี การสร้างบ้านดินและใช้ข้าวของในท้องถิ�น โดย เริ�มก่อสร้างในปี ���� และศิลปินคนแรกเริ�มเข้า มาทำกิจกรรมในปี ���� โครงการจะรับศิลปินจากทั�วโลก ในทุกสาขา ไม่ ว่าทำงานศิลปะรูปแบบไหน ไม่ใช่เพียงศิลปิน ทัศนศิลป์ แต่ศิลปินอื�นๆ เช่น Composer หรือ แม้แต่นกั เขียน ศิลปินส่วนหนึง� มาแล้วกลับมาใหม่ บางคนก็มาแล้ว ไม่ได้กลับมาอีก ยกตัวอย่างเช่น ศิลปินญีป� นุ่ คนหนึง� มาทำงานตัง� แต่ปี ���� และ จะกลับมาทุกปีในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละปี โดยวางโครงการทำงานร่วมกันไว้ประมาณ �� ปี งบประมาณสนับสนุนส่วนหนึ�งจะออกโดยตัว ศิลปินเอง โดยการส่ง Proposal เข้ามาให้พจิ ารณา และถ้าหากผ่าน ทางเราก็จะออกจดหมายเชิญ ศิลปินสามารถนำจดหมายเชิญนั�นไปขอทุนจาก ภายนอกเข้ามาได้ บางกรณีศลิ ปินก็มกี ารทำงาน ร่วมกันกับโครงการอื�นๆ ไปในเวลาเดียวกันด้วย และตั�งแต่ปี ���� เป็นต้นมา ได้มีการให้ทุน สองทุนต่อปี สนับสนุนให้ศิลปินมาทำงานใน โครงการนี�โดยตรง ทุนครอบคลุมทั�งหมดตั�งแต่ ค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ และค่าใช้จา่ ยในการทำงาน นอกจากนั�น โครงการคำเปิงยังมีงานนิทรรศการ และงานอีเวนต์ต่างๆ ด้วย เช่น ล่าสุดได้จัดงาน ที�หอศิลป์สามกษัตริย์ฯ โดยเชิญศิลปินที�เคยมา ทำงานร่วมกับโครงการ กลับมาทำงานชิ�นใหม่ๆ แล้วจัดแสดงร่วมกัน เป็นต้น และเรายังไปทำงาน ร่วมกับโครงการอืน� ๆ ในพืน� ทีต� า่ งๆ ด้วย เช่น งาน Chaingmai Now ซึง� จัดแสดงทีห� อศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ


��/� ถ.วัวลาย ซอย � ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ����� ��� ��� ���� | daa@doc-arts.asia facebook.com/DocumentaryArtsAsia www.doc-arts.asia

Documentary Arts Asia (DAA)

PINYO ENSMINGER และ วารุณี เสาสูง


��

พื�นที� DAA เป็นพื�นที�แกลเลอรี�และโรงภาพยนตร์ เล็กๆ ที� ถนนวัวลาย ซอย � โดยโครงการมี เป้าหมาย ในการทำงานเพื�อเพิ�มจำนวนและคุณภาพของ งานภาพถ่ า ยและงานสารคดี ใ นเอเชี ย โดยความร่วมมือของช่างภาพและคนทำสารคดี ในเอเชียหลายกลุ่ม โครงการนี�เริ�มขึ�นมาตั�งแต่ปี ���� เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยได้ทุน ก้อนแรกจากกองทุน Eugene Smith พื�นที�แกลเลอรี�ของ DAA เปิดจัดแสดงภาพถ่าย ประเด็นต่างๆ ในเอเชีย โดยมีทง�ั งานของช่างภาพ ที�ได้รับการยอมรับในระดับโลก และช่างภาพใน ท้องถิ�น เช่น ตัวอย่างงานของช่างภาพในรัฐ กะฉิ�น ที�ถ่ายเรื�องราวชีวิตในพื�นที�พม่า หรืองาน ของนักศึกษาในเชียงใหม่ โดยนิทรรศการมีการ หมุนเวียนงานกันทุกเดือน และเน้นเลือกงานที� วงการไม่ค่อยได้ยินหรือรับทราบมาจัดแสดง DAA ยังมีพื�นที�ในการจัดฉายภาพยนตร์ โดยใน ทุกคืนวันจันทร์จะจัดฉายภาพยนตร์อนิ ดีใ� นเอเชีย ส่วนคืนวันพฤหัสจะจัดฉายภาพยนตร์สารคดี และในพื�นที�แกลเลอรี�ชั�นสอง เรายังมีการทำ ห้องสมุดเล็กๆ ที�รวบรวมหนังสือภาพและดีวีดี ซึ�งแม้จะเล็ก แต่ก็รวบรวมหนังสือภาพไว้มาก ทีส� ดุ แห่งหนึง� ในเอเชีย โดยให้ผสู้ มัครเป็นสมาชิก สามารถติดต่อยืมไปได้ อีกโครงการหนึ�ง คือการจัดอบรมในหัวข้อต่างๆ เพื�อสนับสนุนที�สนใจงานด้านช่างภาพและการ ทำสารคดี เช่น การอบรมการตัดต่อ การถ่าย ภาพยนตร์ด้วยกล้อง DSLR เป็นต้น และยังมี ทุนสำหรับให้ NGOs ในเชียงใหม่เข้าอบรมได้ ฟรีสองคนในกิจกรรมแต่ละครั�ง

DAA ยังรับศิลปินที�ทำงานด้านสารคดี เข้ามา ทำงานในเชียงใหม่ มีทุนให้ปีละหนึ�งคน โดยมี อุปกรณ์การถ่ายภาพสำหรับสมาชิกในการให้เช่า ยืมด้วย และยังเปิดพืน� ทีแ� กลเลอรีใ� ห้องค์กรต่างๆ ขอใช้ในการจัดกิจกรรม ในช่วงปีแรกยังมีการจัดอบรมการถ่ายภาพข่าว ซึ�งมีช่างภาพจากทั�วโลกมาร่วมกิจกรรม และ ระดมทุนให้นกั ศึกษาทีท� ำงานด้านนีไ� ด้กว่า �� ทุน ในปีนั�น นอกจากนั�นในแต่ละปี ยังมีการจัดงาน นิทรรศการภาพถ่าย โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ทีม� กี ารจัดงาน พยายามทำให้เชียงใหม่เป็น เมือง แห่งภาพถ่าย โดยประสานงานหลายๆ พื�นที�ใน เชียงใหม่ มาร่วมจัดแสดงงานภาพถ่าย


โครงการ Cultural Canvas Thailand เริ�มต้นขึ�น ในปี ���� ลักษณะงานจะเน้นการจัดหาอาสา สมัครมาทำงานในประเด็นทางสังคมต่างๆ เช่น ประเด็น HIV หรือการค้ามนุษย์ และต่อมาในปี ���� ได้พัฒนาเป็นโครงการ Art Relief International (ARI) โดยพื�นฐานแนวคิดว่าโครงการ ศิลปะต่างๆ สามารถจะช่วยเหลืองานทางด้าน สังคมได้ด้วย และเห็นว่าเชียงใหม่เป็นพื�นที�ของ เมืองศิลปะอยู่แล้ว โครงการจะมี ก ารคั ด เลื อ กอาสาสมั ค รหรื อ ศิ ล ปิ น จากทั � ว โลกเข้ า มาทำงานในเชี ย งใหม่ ระยะเวลาตั�งแต่ � อาทิตย์ถึง � เดือน โดยมี สถานทีพ� กั ให้อยู่ มีรถรับส่ง และช่วยประสานงาน องค์กรต่างๆ ให้ แต่อาสาสมัครต้องออกค่าใช้จา่ ย ด้วยตนเองระดับหนึ�ง

โครงการจะส่ ง อาสาสมั ค รเข้ า ไปทำงานกั บ องค์กรต่างๆ ที�เป็นพันธมิตรร่วมกันกว่า �� โครงการ ทัว� ประเทศ และทัว� จังหวัดเชียงใหม่ เช่น โครงการด้านแม่และเด็ก, Thai Freedom House, ศูนย์การศึกษาสำหรับชาวพม่าหรือผูอ้ พยพต่างๆ เป็นต้น โดยมีการส่งอาสาสมัครหรือศิลปินเข้าไป ทำงานกับองค์กรต่างๆ ทุกวัน เฉลีย� � - � ครัง� ต่อวัน พื�นฐานของการทำกิจกรรมคือการมุ่งใช้ศิลปะ ในการบำบัดผูค้ น มุง่ ใช้ศลิ ปะทำให้คนมีความสุข มีพื�นที�ในการแสดงออกทางสังคม และช่วยเป็น กระบอกเสียงในด้านต่างๆ มีการทำ workshop ทั�งในด้านการละคร การสอนศิลปะเบื�องต้น การถ่ายภาพ งานด้านดนตรี เป็นต้น งานศิลปะ เหล่านีอ� าจช่วยส่งเสริมรายได้ให้กบั คนด้อยโอกาส ช่วยสร้างชุมชนทางสังคม หรือนำไปสูก่ ารจัดแสดง นิทรรศการในที�ต่างๆ โดยมีการประสานกับ แกลเลอรีต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย


��

Art Relief International วรวิทย รัตนกิจ

� ซอย � ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ����� ��� ��� ���� | director@artrelief.net facebook.com/ArtReliefInternational artrelief.net


C.A.P Studio ก่อตัง� มา ��-�� ปี ความเป็นมาคือ หลังจากทีเ� ราจบการศึกษาทีม� หาวิทยาลัยเชียงใหม่ และไปเรียนต่อด้านภาพพิมพ์ที�ออสเตรเลีย แล้ว กลับมาที�เชียงใหม่อีกครั�งในปี ���� พร้อมกับ คำถามว่ า เรี ย นภาพพิมพ์มาแล้วจะทำอาชีพ อะไรดี โดยสามารถตอบตนเองได้วา่ ตนหลงใหล ในกระบวนการงานภาพพิมพ์มาก และฝันอยาก เห็ น สตู ด ิ โ อภาพพิ ม พ์ ใ นเมื อ งไทยที � ส ามารถ ทำงานได้ตลอดเวลา จึงเริม� จากการใช้อพาทเมนต์ เล็กๆ หลัง ม.ช. ทำสตูดิโอภาพพิมพ์ขึ�น โดยกู้ ยืมเงินจากที�บ้านมาเริ�มซื�อแท่นพิมพ์แรก ใช้เวลาสามปีในการทำงานที�นั�น จนในปี ���� ได้มกี ารขยับขยายสตูดโิ อ ย้ายพืน� ทีม� าอยูบ่ ริเวณ นิมมานเหมินทร์ ซอย �� ในตอนแรกตั�งใจว่าจะ ทำหน้าอาคารเป็นแกลเลอรี และด้านหลังเป็น สตูดิโอทำงาน แต่ปรากฏว่าทำไปเป็นสตูดิโอ แบบเต็มตัว เพราะพื�นที�เต็มไปด้วยข้าวของและ แท่นพิมพ์ต่างๆ

C.A.P ประกอบด้วยทีม � คน โดยสี�คนเป็น นักศึกษาทีเ� ราเคยไปสอน และผลักดันขึน� มาร่วม งานกัน ทีผ� า่ นมาได้รว่ มงานกับศิลปินหลากหลาย กลุ่ม ทั�งไทยและเทศ โดยศิลปินที�ร่วมงานกันไม่ จำเป็นต้องมีเบื�องหลังการทำงานด้านภาพพิมพ์ และศิลปะมาก่อนก็ได้ เช่น โครงการเด็กๆ ที�ติด เชื�อ HIV ได้มาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน และนำไป แสดงหารายได้ที�ประเทศญี�ปุ่น ปั จ จุ บ ั น ยั ง ได้ ท ำโครงการทดลองในการผลิ ต ภาพพิมพ์ โดยใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ ทั�งเพื�อลด ต้นทุนในการผลิต และการผสมผสานสร้างสรรค์ เทคนิคใหม่ๆ กับศิลปินที�มาร่วมงานกัน เช่น การใช้กระดาษสาที�เป็นผลิตภัณฑ์ของท้องถิ�น มาทดลองทำงาน


���/�� ถ.นิมมานเหมินทร์ ซอย �� ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ����� ��� ��� ���� kitikong@gmail.com facebook.com/kitikongCAP

C.A.P Studio Chiangmai Art on Paper กิติกอง ติลกวัฒโนทัย


BUSINESS OF ARTS why study art? by Hossein Farmani

ธุรกิจ ขอ โดย โฮเซน ฟารมานี


อง ศิลปะ คุณโฮเซน แนะนำตัวเองว่าเป็นมิชชันนารีทางศิลปะ หรือผู้เผยแผ่ศิลปะ แทนที�จะ เผยแผ่ศาสนา เขาเป็นเจ้าของกิจการด้านศิลปะและบันเทิง �� กิจการทั�วโลก โดยสไลด์ที�เตรียมมาพูดคุยในวันนี� เคยนำไปพูดให้นักศึกษาด้านศิลปะในที�ต่างๆ ฟัง ซึ�งหลายคนในที�นี�น่าจะมีประสบการณ์อยู่แล้ว จึงจะพูดอย่างย่นย่อพอสมควร


Hossein Farmani


ความเป็น “ธุรกิจ” ของศิลปะเห็นได้จากความสำคัญ ของตลาดศิลปะ โดยตัวเลขในปี ���� มีการซือ� ขาย งานศิลปะทัว� โลกมูลค่ารวมแล้วกว่า ��.�� พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมทีใ� หญ่มาก อย่างหนึง� ของโลก และคนทีท� ำงานด้านนีไ� ม่จำเป็น ต้องเก่งศิลปะก็ได้ เพราะมีอาชีพที�เกี�ยวข้องกับ ศิลปะอย่างหลากหลายให้เข้ามาร่วม ทั�งศิลปิน คนขายงานศิลปะ นักสะสมงานศิลปะ เป็นต้น คุณโฮเซนได้ยกตัวอย่างงานของศิลปินหลายคน ทีท� ำมูลค่ามหาศาล เช่น งานของ Cindy Sherman ซึ�งถ่ายภาพตัวเองในแนวศิลปะ ได้รับความนิยม สูง และสามารถขายได้กว่า � แสนดอลลาร์ฯ หรือ งานของ Jeff Koons ซึง� เริม� แรกพยายามมาเสนอ ขายงานให้เขา �� ชิน� ในราคา ��� ดอลลาร์ฯ และ ต่อมามีราคาเพิม� ขึน� มหาศาล จึงอยากชวนให้คน มาสะสมงานของเพือ� นๆ ตัง� แต่เริม� แรก เพราะจะ มีคุณค่าเพิ�มขึ�น นอกจากนั�น งานของศิลปินที�มีชีวิตอยู่ แล้วขาย ได้ราคาดีก็มี ไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินที�ตายแล้ว งานถึงจะมีราคา สิง� เหล่านีท� ำให้เห็นว่าคุณสามารถ มีรายได้จากงานที�คุณรักได้ คุณโฮเซนยังยกตัวอย่างศิลปินไทยที�มีชื�อเสียง ในระดับนานาชาติหลายคน ชีใ� ห้เห็นว่าศิลปินไทย ก็สามารถไปสร้างชื�อในระดับสากลได้ นิทรรศการ “��/�� Nature Nurture” (��- �� กรกฎาคม ���� ณ Central Festival Chiangmai) ซึง� เขาเป็นภัณฑารักษ์โดยได้เลือกงานของ ศิลปิน ไทยและอเมริกันอย่างละ �� คน คนละหนึ�งชิ�น เพื�อต้องการให้เห็นความใกล้เคียงกันระหว่าง สองชาติในเรื�องงานศิลปะ คุณโฮเซนกล่าวต่อถึงความสำเร็จของศิลปินว่า มาจากพื�นฐานด้านต่างๆ ได้แก่

หนึ�ง. ความสร้างสรรค์ (creativity) เขาเห็นว่า สถาบันศิลปะต่างๆ ควรหยุดสอนเน้นเรือ� งเทคนิค หรือเรื�อง skill เพราะศิลปินไม่ใช่ช่างเทคนิค แต่สิ�งที�ควรให้คนเรียนรู้คือ creative mind หรือ ความคิดสร้างสรรค์ ทีท� ำให้เขาเป็นมากกว่าทีเ� ขา เรียนรู้มา ทำให้สามารถแตกยอดออกไปได้จาก พื�นฐานศิลปะ พื�นฐานความสร้างสรรค์นั�นทำให้ สถาปนิกคนหนึง� เป็นได้ทง�ั ผูอ้ อกแบบเครือ� งแต่ง กาย หรือนักออกแบบภายใน ทำให้สามารถสร้าง สรรค์งานที�มากกว่าความเชี�ยวชาญเฉพาะ จึง อยากให้อาจารย์หรือผู้สอนส่งเสริมให้คนฝึกฝน ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง สอง. ความทุม่ เทใส่ใจและรักในสิง� ทีท� ำ (passion) ในฐานะคนสอนหรือทำงานส่งเสริมด้านศิลปะแล้ว โจทย์ของเรา คือ จะทำให้ผสู้ นใจศิลปะตระหนักรู้ ในความรักของเขา หรือต่อสิง� ทีเ� ขาจะทำได้อย่างไร สาม. ความต่อเนื�อง ไม่ย่อท้อ (persistence) คนทำงานศิลปะชิน� หนึง� อาจจะมีคนไม่ชอบงานนัน� ในเริม� แรก แต่เราต้องมีคณ ุ สมบัตขิ องความอดทน และมุมานะ ไม่หยุดลง และทำงานชิ�นต่อๆ ไป ออกมา เขายกตัวอย่างประสบการณ์การจัดงาน ประมูลของ �� ชิน� แต่มคี นมาร่วมงานเพียง �� คน เขากลับคิดว่าไม่เป็นไร เพราะเขาต้องการแค่คน สองคนที�มี passion กับของที�เขานำมาเพื�อมา ร่วมกันประมูลต่องานเหล่านั�น สี.� ศิลปินทีเ� ก่งและประสบความสำเร็จ มักจะเป็น นักสื�อสารมวลชนที�เก่งด้วย (communicate) ห้า. เท่ แบบตัว K (Kool) ศิลปินไม่ใช่เพียง ทำงานศิลปะแต่ละชิน� แต่ควรทำให้ตวั ตนของคน สร้างงานเป็นงานศิลปะชิน� หนึง� ด้วย ทำตัวเองให้ แตกต่าง เช่น Andy Warhol มีลักษณะเป็น ศิลปินที�แสดงตัวได้อย่างมีชื�อเสียง ก่อนที�เขาจะ มีชื�อเสียงจริงๆ เสียอีก


คุณโฮเซนเล่าถึงจุดเริ�มต้นของเขา ในการสะสม งานศิลปะ ซึ�งโดยมากเป็นงานภาพถ่ายจากการ เป็นนักศึกษาด้านช่างภาพที�ลอสแอนเจลิส และ เริ�มรู้สึกเบื�อการต้องทำงานคนเดียวในสตูดิโอ เลยใช้นิตยสารแฟชั�นเป็นเวทีออกไปพบปะกับ ช่างภาพคนอื�นๆ หรือนางแบบ และได้เริ�มสะสม งานศิลปะภาพถ่าย จากที�ได้รู้จักช่างภาพของ นิตยสาร ซึ�งมักจะให้ภาพปรินท์ตอบแทนกับเขา หลังเริ�มเก็บสะสม คนเริ�มเรียกเขาว่า collector และเริ�มรูส้ กึ สนใจ เพือ� นส่วนใหญ่ในยุค ��’s จะ ลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ เขาเห็นว่าการสะสม ของเราตลก เพราะเพือ� นลงทุนกับทีด� นิ แต่คณ ุ ซือ� กระดาษ แต่พอถึงตอนนีร� าคาของกระดาษเหล่า นั�นเพิ�มขึ�นมหาศาล ตอนนี�เขาเป็นหนึง� ในผูค้ รอบ ครองชุดงานศิลปะทีใ� หญ่ทส�ี ดุ ในอเมริกา เขาเริ�มก่อตั�งองค์กรผู้ป่วย HIV โดยทำกองทุน ช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ในภูมิภาคต่างๆ ทัว� โลก ด้วยเงิน �.� ล้านกว่าดอลลาร์ฯ โครงการ นี�เกิดขึ�นได้เพราะการรวมตัวของคนกลุ่มหนึ�งที� จะมาซื�องานศิลปะ และเมือ� คนเริม� ซือ� งานศิลปะ คนมาหาเขาแล้วบอกว่า เขาเป็นนักสะสมศิลปะ ปัจจุบันจากที�เคยมีแกลเลอรีภาพถ่ายแห่งเดียว ในลอสแอนเจลิส ตอนนี�มีกว่า �� กว่าแห่ง และ คนตระหนักว่าภาพถ่ายก็เป็นงานศิลปะรูปแบบ หนึ�ง หลายคนมาขอบคุณที�เขาแนะนำให้สะสม งานศิลปะไว้ตั�งแต่เนิ�นๆ เขายังพยายามทำศิลปะให้เข้าสู่ชุมชน ไม่ใช่แค่ แกลเลอรีที�คนไปเปิดงานคุยกันแล้วกลับบ้าน

เขาจึงได้ปิดแกลเลอรี�แห่งหนึ�งที�นิวยอร์ค แต่ทำ pop-up gallery ที�แกลเลอรีสามารถไปอยู่ที�ไหน ก็ได้ โดยเทรนด์ของการทำ pop-up กำลังมาแรง ที�ยุโรปและอเมริกา แล้วคนจะยินดีที�สามารถนำ ศิลปะไปสูช่ มุ ชนของเขา ไม่ใช่ให้คนรูส้ กึ กลัวหรือ ไม่มน�ั ใจทีจ� ะเข้ามาในแกลเลอรีแบบเป็นทางการ นอกจากนัน� เขายังมีประสบการณ์ได้ไปปรับปรุง ตึกทีอ� ยูอ่ าศัย โดยทำให้ชน�ั บนสุดของตึกกลายเป็น แกลเลอรี โดยคนทีน� ง�ั ในออฟฟิศสามารถมองเห็น งานศิลปะได้ เพื�อให้คนรู้สึกว่าเข้าถึงศิลปะได้ ทุกคนสามารถเป็นนักสะสมงานศิลปะได้ และทุก คนเห็นคุณค่าของงานศิลปะได้ คุณโฮเซนกล่าวถึงการจัดงานเปิดนิทรรศการ งานหนึ�งของเขาที�กรุงเทพฯ แล้วเขาตกใจมากที� มีคนมาร่วมงานมากกว่า ��� คน โดยส่วนใหญ่ เป็นคนทีไ� ม่รจู้ กั เลย ทำให้เขาเห็นว่าผูช้ มชาวไทย มี ค วามกระหายอย่ า งมากต่ อ การที � จ ะเข้ า ใจ หรือเข้าชมงานศิลปะ แต่เป็นหน้าทีข� องเราทีจ� ะให้ ข้อมูลเขา ให้ขอ้ แนะนำเขา หรือให้เขาเข้าใจเรือ� ง การสะสมงานได้ เรามักถูกทำให้เชือ� จากหลายๆ ภาคส่วนว่าถ้าเรา ไม่ตั�งราคางานศิลปะของเราไว้ให้สูงระดับหนึ�ง งานของเราจะไม่ได้รบั การยกย่อง แต่แท้จริงแล้ว อยากให้ศลิ ปินทำงานทีค� นธรรมดาก็สามารถซือ� ได้ เราไม่จำเป็นต้องมีกลุ่มเป้าหมายแคบๆ แต่ สามารถมีงานชิ�นเล็กๆ ที�คนทั�งประเทศสามารถ เป็นเจ้าของได้ โดยอาจมีบางชิ�นที�ทำไว้เพื�อขาย ให้คนอย่างเขาก็ได้


Q&A

��

ช่วงถาม-ตอบ แลกเปลี�ยนกัน ท้ายการบรรยาย

..................................................................... ผูฟ้ งั ถามเรือ� งมูลค่าของงานศิลปะจะเพิม� ขึน� ไหม ถ้าหากงานนั�นถูกพิพิธภัณฑ์ซื�อไป?

..................................................................... ผู้ฟังถามถึงการแสดงออกหรือสื�อสารตัวเองถึง ความเป็นศิลปิน ว่าจะทำได้อย่างไร? คุณโฮเซนกล่าวเปรียบเทียบว่าทีส� หรัฐอเมริกานัน� คนทีท� ำตัวขาโจ๋มาก มักจะเป็นศิลปิน แต่เมืองไทย ศิลปินมักจะเดินเข้ามาแบบขอโทษไปทัว� พูดเบาๆ ท่าทางไม่คอ่ ยมัน� ใจในตัวเอง ทีอ� เมริกาศิลปินจึง ถูกบอกให้ถอ่ มตัวหน่อย แต่ทเ�ี มืองไทยเขาจะบอก ศิลปินให้กลับไปเอางานชิน� ทีค� ณ ุ มัน� ใจทีส� ดุ กลับ มาใหม่ เพราะถ้าคุณยังไม่มน�ั ใจในงานของคุณเอง จะเอามาขายหรือทำให้คนอื�นมั�นใจได้อย่างไร เขาเห็นว่าศิลปินในเมืองไทยและในเอเชีย ยังขาด ความเป็นมืออาชีพในสิ�งที�ทำ แต่ที�อเมริกา ไม่ว่า คุณทำอะไร คุณก็ต้องทำอย่างมืออาชีพ ฉะนั�น ตอนที�เรานำเสนอตัวเองออกไปเราจึงยังขาด ความรู้สึกที�จะทำมันอย่างมืออาชีพ มุ่งมั�นจนถึง ที�สุด ทำงานออกมาในฐานะ “อาชีพ” อย่างต่อ เนือ� งไม่ใช่แค่งานเพียงชิน� เดียว ทำให้งานของเรา ไปทีไ� หนคนก็จำได้ ทำให้งานมีลายเซ็นของตัวเอง ทำให้คนรู้ว่านี�งานของใคร ..................................................................... ผูฟ้ งั ถามเรือ� งแนวคิดทีม� องว่าศิลปะควรจะเป็นไป เพื�อศิลปะเอง ไม่ควรนำมาขาย คิดอย่างไร? คุณโฮเซน เห็นว่า ถ้าหากเราสามารถเอางานที� เราทำไปช่วยจ่ายค่าบ้านให้เรา ไปซื�อข้าวได้ ไป ซือ� ปัจจัยสีไ� ด้กด็ เี ลย แต่ตราบใดทีค� ณ ุ บอกว่ากำลัง หิวข้าวจะตายอยู่แล้วแนวคิดนั�นก็ไม่มีประโยชน์

คุณโฮเซนเห็นว่า มีความแตกต่างกัน เพราะใน ยุโรป งานที�ถูกพิพิธภัณฑ์ซื�อไป จะเป็นไปเพื�อ การเก็งกำไร แล้วไม่ได้นำมาจัดแสดง เพือ� ให้งาน นั�นหาดูได้ยากขึ�น มูลค่าของมันจะมากขึ�น โดย งานทีเ� ป็นดิจติ ลั ภาพถ่าย หรือจิตรกรรมทีส� ามารถ ผลิตซ้ำได้เยอะ ศิลปินมักจะวางลิมิตว่าจะผลิต สิ�งนี�แค่จำนวนหนึ�ง เช่น �� ชิ�น ก็ต้องทำแค่นน�ั เพราะยิง� ทำมากจะยิง� ทำให้มลู ค่าของงานลดลง ..................................................................... คุณโฮเซนได้ถามกับคนทำพืน� ทีศ� ลิ ปะ ว่าพวกเขา มีวิธีการเลือกศิลปินมาแสดงงานหรือร่วมงาน อย่างไร? คุณกิติก้อง ตอบว่าเคยถามคำถามนี�กับอาจารย์ เช่นเดียวกัน โดยท่านตอบว่า ก็เลือกศิลปินที�ดี คนที�ให้ความเคารพผู้อื�น ทำงานหนัก ขยัน และ มี passion กับงานศิลปะ คุณลักษณะแบบนีเ� ป็น คนที�มีอนาคตหรือที�ทางที�ไปแน่นอน ไม่จำเป็น ต้องเป็นศิลปะที�ดังก็ได้ แกลเลอรีของเขาเองก็ พยายามเลือกผูร้ ว่ มงานเป็นสัดส่วน ��/��/�� คือ ��% เป็นศิลปินท้องถิน� ��% เป็นศิลปินต่างชาติ และอีก ��% เป็นคนทีไ� ม่มพี น�ื ฐานด้านภาพพิมพ์ แต่มีความน่าสนใจ คนกลุ่มหลังนี�สามารถทำให้ เกิดไอเดีย เกิดความคิดสร้างสรรค์ เพราะเขาไม่มี กรอบที�ถูกวางไว้กับศิลปะเชิงรูปแบบ คุณต่อลาภ ตอบว่า เขาดูจากผลงานศิลปะที�น่า สนใจ และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์โดยรวมต่องาน ด้านศิลปะในเชียงใหม่ พิจารณาจากคนทีส� ง่ ราย ละเอียดมา โดยมีทมี หลายคนช่วยกันดูวา่ คนไหน จะเหมาะสมที�จะให้นำมาแสดง


��

.....................................................................

.....................................................................

คุณโฮเซนถามกลับ ถึงคนที�เป็นศิลปิน ว่ามีแนว ทางการตั�งราคาขายงานตัวเองอย่างไร?

ผูฟ้ งั ได้ตง�ั คำถามว่าคุณโฮเซนวางแผนจะจัดการ อย่างไรกับคอลเลคชั�นที�ตัวเองมี?

ศิลปินท่านหนึ�งตอบว่าตั�งแบบราคาต่ำ ให้ใครก็ สามารถซื�อได้ การตั�งสูงจะทำให้ยิ�งขายช้าลง และไม่มีเงินเข้ามาหมุนเวียนให้สามารถทำงาน ชิ�นต่อๆ ไปได้

คุณโฮเซนตอบว่าเขาเคยมีความฝันว่าอยากจะ ทำแกลเลอรี�ภาพถ่ายที�ใหญ่ที�สุด และดีที�สุด ที� ลอสแอนเจอลิส วันหนึ�งมีคนมาให้เขาเช่าตึกฟรี ถึง � ปี เขาตื�นเต้นมาก แต่เมื�อมาลองคำนวณ ค่าใช้จา่ ยทัง� หมดทีจ� ะต้องใช้บริหารงานพบว่า ถ้า ทำจนถึงสิน� ปีท�ี �� เขาคงจะต้องขายคอลเลคชัน ทัง� หมดนี� เขาจึงคิดว่าคงต้องแบ่งคอลเลคชันของ ตัวเองเป็นหลายๆ ส่วน แล้วส่งไปยังพืน� ทีท� เ�ี ล็กกว่า แต่สามารถจะจัดงานแสดงงานพวกนีไ� ด้ โดยเขา เห็นว่าถ้าไปอยูใ่ นพิพธิ ภัณฑ์ พวกเราจะไม่คอ่ ยมี โอกาสได้เข้าไปชมมัน แต่เขาอยากจะให้ผู้คนได้ ชมงานเหล่านี� โดยหาพืน� ทีท� เ�ี ข้าถึงคนได้มากกว่า แม้จะไม่ใหญ่นักก็ตาม

ศิลปินอีกท่านหนึง� ตอบว่าการทำงานของเขาจะแบ่ง เป็นงานชิ�นใหญ่ๆ งานมาสเตอร์ มีความสำคัญ และใช้เวลาทำนาน ซึ�งจะตั�งราคาไว้สูง และจะมี งานชิน� เล็กๆ ทีต� ง�ั ราคาต่ำ เพือ� ให้สามารถขายงาน ได้เร็วขึ�น ..................................................................... คุณโฮเซนได้สอบถามอาจารย์ทา่ นหนึง� ถึงแนวทาง ในการบอกหรือให้คำแนะนำกับนักศึกษาศิลปะ อย่างไร ในการทำงานศิลปะต่อไปของพวกเขา? อาจารย์ตอบว่ามักจะบอกกับนักศึกษาว่าจงทำ งานต่อไป อย่าย่อท้อ อย่ากลัวแล้วเอาตัวเองไป เปรียบเทียบกับคนอื�น เพราะตัวเราต้องพัฒนา และสร้างคุณค่าให้งานของเราเองได้ คุณโฮเซนแนะนำนักเรียนศิลปะว่าให้พยายาม เข้าหาอาจารย์ หรือคนทีส� ามารถให้ความเห็นต่อ งานของเราได้ ให้เขาช่วยวิพากษ์วจิ ารณ์งานของ เรา เพราะตัวเราเองใกล้ชิดกับงานของตนเอง มากเกินไป ทำให้ไม่สามารถมองงานของตนเอง ได้รอบด้าน และวิพากษ์วิจารณ์มันได้

..................................................................... คำถามเรือ� งคนสะสมงานศิลปะจะมีการหารายได้ จากคอลเลคชั�นที�สะสมไว้อย่างไร? คุ ณ โฮเซนตอบว่ า เขาเองไม่ ม ี ก ารหาเงิ น จาก คอลเลคชันทีส� ะสมไว้ แต่จะให้คนอืน� เช่าไปแบบ ไม่คิดเงิน แม้จริงๆ จะมีคนทำเงินจากการให้เช่า คอลเลคชันของตัวเองได้ แต่เขาจะไม่ทำ ตราบที� ยังมีคา่ ใช้จา่ ยพอสำหรับค่าประกันต่างๆ ก็เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องหารายได้จากส่วนนี�


farmanigallery.com


CHIANG MAI ART MAP brainstorming for possibility

การระดมความคิดเห็นเพื่อหาความเปนไปได



��

สุทธิรัตน ศุภปริญญา จาก CAC

กลาวแนะนำเสนอโครงการแผนที่ศิลปะเชียงใหม โครงการแผนทีศ� ลิ ปะเชียงใหม่ (Chiang Mai Art Map) เริ�มจากความคิดว่าเชียงใหม่ในสมัยก่อน ยังมีพน�ื ทีศ� ลิ ปะไม่คอ่ ยมากนัก สมัยหนึง� เคยมีงาน “เชียงใหม่จดั วางสังคม” ทีใ� ช้พน�ื ทีส� าธารณะ ถนน หรือวัด เป็นพืน� ทีจ� ดั แสดงงาน จนต่อมาเริม� มีพน�ื ที� ทางศิลปะโดยตรงเยอะขึน� แต่หลายๆ พืน� ทีเ� ราไม่ รู้จักเลย แล้วชุมชนคนที�ดูงานในแต่ละพื�นที�ก็ยัง อยูใ่ นวงจำกัด เฉพาะคนรูจ้ กั กันหรือคนทีถ� กู เชิญ ไม่ใช่ทุกคนจะไปทุกที�ได้ มีทั�งเหตุผลที�คนไม่รู้จัก กัน หรือไม่รู้ข้อมูลข่าวสาร การทำแผนที�ศิลปะขึ�นมาน่าจะทำให้เห็นภาพ ใหญ่ของทั�งเมืองเชียงใหม่ ทำให้คนทั�วไปทราบ ว่ามีพื�นที�ศิลปะอยู่ที�ไหน เปิด -ปิดเมื�อไร แต่ละ พืน� ทีม� คี วามสนใจเรือ� งอะไร มีงานอะไรในขณะนัน� โดยแผนที�เชียงใหม่ตามปกติที�เป็นมา มักจะยัง ไม่มีการระบุพื�นที�ศิลปะต่างๆ เอาไว้ จากการรวบรวมสถิติในเดือนกรกฎาคม ���� ที ม งานพยายามนั บ เท่ า ที � ท ราบว่ า มี ก ิ จ กรรม ศิลปะอะไรบ้าง พบว่ามี �� งานนิทรรศการ, � งาน Performance, � งานนิทรรศการในกรุงเทพฯ ที� คนเชียงใหม่ไปแสดง, � งานที�ศิลปินไปจัดแสดง ทีญ � ป�ี นุ่ และศิลปินอีก � คนมีงาน Art talks พูดคุย กับสาธารณะ ซึ�งถือได้ว่ามีงานจำนวนมาก และ หลายคนก็ไม่ทราบความเคลื�อนไหว ตัวอย่างแผนที�ศิลปะจากที�ต่างๆ เช่น BAM! Bangkok Art Map เป็นแผ่นพับทีร� วบรวมแกลเลอรี และพืน� ทีศ� ลิ ปะในกรุงเทพฯ เอาไว้ ข้อมูลของแผนที� นี�สามารถปรับใช้เวลามีการจัดงานนิทรรศการ ศิลปะใหญ่ๆ ทั�งเมือง เช่น งาน Gallery Night ของสมาคม ฝรั�งเศส เป็นต้น การมีแผนที�ทำให้ เห็นภาพใหญ่ของเมืองนั�นได้ว่ามีพื�นที�ศิลปะอยู่ ตรงไหนบ้าง นอกจากนีย� งั มีตวั อย่างแผนทีศ� ลิ ปะของเมืองต่างๆ ทั�วโลก เช่น แผนที�ศิลปะของเมือง จอร์จทาวน์ปีนัง หรือของเมืองโตเกียว ซึ�งไม่ได้เพียงพิมพ์

แจกทั�วไป แต่สามารถปรินท์จากเว็บไซต์ได้เลย หรือของเมืองยกยาการ์ตา ก็จะมีการทำแผนที� ออกมาใหม่ปีละครั�ง ตัวอย่าง Art Map ทีล� อนดอน ก็จะมีหลายรูปแบบ มาก มีหลาย form ให้เลือกดู มีการพัฒนาไปเป็น แอพพลิเคชันบนมือถือ และการทำเป็น Art Map Online ซึ�งเพิ�มลูกเล่น ลักษณะเป็น interaction ผู้ดูแผนที�สามารถเลือกซูมเข้าใกล้และออกได้ หรือเลือกทำไอคอนที�ปักหมุดในจุดต่างๆ ได้ รูปแบบออนไลน์ทำให้แผ่นที�มีความยืดหยุ่นใน การให้ข้อมูลสูงมากขึ�น แผนที� Art Rabbit ของอังกฤษ เป็นแรงบันดาลใจ เริ�มต้นหนึ�งที�ทำให้อยากจะทำแผนที�ศิลปะใน เชียงใหม่ เพราะมีรูปแบบน่าสนใจ สามารถซูม เข้าซูมออก และคลิกเข้าไปในแต่ละพื�นที�ศิลปะ ได้ การเข้าไปดูแต่ละพื�นที�ก็จะให้ข้อมูล และดู กิจกรรมในแต่ละช่วงเวลาที�อัพเดทได้ นอกจากนั�น คุณประโยชน์ของการทำแผนที�อีก ประเด็นหนึ�ง คือการช่วยเก็บ archive หรือฐาน ข้อมูลเอาไว้ ว่าใครได้เคยทำอะไร ที�ไหน เมื�อไร อย่างไร ซึ�งในระยะยาวข้อมูลเหล่านี�สามารถจะ นำไปใช้ทำให้เห็นมากขึ�นว่างานศิลปะในเมือง เปลี�ยนแปลงหรือพัฒนาอะไรขึ�นแค่ไหน อย่างไร และเป็นการเก็บสะสมประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ของเมืองไว้ด้วย สำหรั บ แนวคิ ด เริ � ม ต้ น คื อ คิ ด ทำแผนที � ศ ิ ล ปะ เฉพาะที�เป็นออนไลน์อย่างเดียว แต่พอเริ�มได้คุย กับคนเยอะขึ�น ก็คิดว่าความต้องการของคนมี หลากหลาย การทำเป็นกระดาษก็มคี วามสำคัญ พบว่าถ้าต้องเดินออกไปข้างนอก การทำเป็น กระดาษน่าจะสะดวกกว่า ทัง� สองรูปแบบจึงน่าจะ เชือ� มโยงกัน โดยกระดาษอาจจะช่วยบอกสถานที� ว่าที�ไหนเป็นอะไร แล้วมีข้อมูลสำคัญให้ แต่บน ออนไลน์ก็จะมีรายละเอียดเพิ�มเติม และมีข้อมูล กิจกรรมที�อัพเดทกว่า



��

ชวงระดมความคิดเห็นจากผูรวมงาน

การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหวางคนทำงานพื้นที่ทางศิลปะ คุณโฮเซน ให้ความเห็นว่าเขายังไม่เคยไปสัมผัส หรือลองใช้แผนที�อื�นๆ นอกจากของกรุงเบอร์ลิน แต่เขาพบว่าที�เบอร์ลินทำไว้ได้ค่อนข้างดี เมืองนี� มีแกลเลอรี�เยอะมากในอันดับต้นๆ ของโลก แผนที�แบบนี�ช่วยทำให้คนเห็นว่ามีอะไรอยู่ที�ไหน อย่างไรบ้าง และยังช่วยดึงดูดเรื�องการท่องเที�ยว นอกจากนีย� งั เสนอให้มกี ารประชุม หรือพบปะคน ในวงการศิลปะเชียงใหม่แบบนีก� นั ทุกๆ เดือนหรือ สองเดือนครั�ง คำถาม ประเภทของคนดูแผนที� ที�น่าจะมีหลาก หลายกลุ่ม เช่น เด็ก ผู้ใหญ่ หรือชาวต่างชาติ จึงอยากรู้ว่าผู้ทำตั�งใจจะทำเป็นกี�เวอร์ชั�น? อ.ปรัชญา FOTOFOFA แสดงความคิดเห็นว่า ข้อมูลน่าจะมีชดุ ข้อมูลเดียวอยูแ่ ล้ว แต่ประเด็นอยู่ ที�วิธีการนำเสนอมากกว่า เพราะคิดว่าเวอร์ชัน เดียวน่าจะไม่พอที�จะตอบสนองคนกลุ่มต่างๆ อาจจะต้องแยกกลุม่ ให้ชดั เจน อย่างเช่น กลุม่ วัยรุน่ จากประสบการณ์พบว่าแบบกระดาษมันเวิรค์ กว่า เพราะพวกวัยรุน่ จะไปทีต� า่ งๆ แบบไม่ได้เตรียมตัว ไว้ก่อน เช่น เคยไปที�อังกฤษ เวลา มีงานเทศกาล แต่ละแกลเลอรีกจ็ ะมีการเอาพวกแผนที� โปสการ์ด โปสเตอร์ต่างๆ มาใส่รวมกันไว้ เรื�องข้อมูลไม่น่า มีปัญหา แต่ปัญหาน่าจะอยู่ที�ว่า ต้องทำอย่างไร ให้แผนที�ไปถึงคนกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มเด็กวัยรุ่น เราจะเอาแผนทีไ� ปวางไว้เฉยๆ ในแกลเลอรีกอ็ าจ จะไม่เวิร์ค ต้องอาศัยงานที�เด็กๆ เขาไปกัน แล้ว นำแผนที�ไปวางในงานนั�น หรือโปรโมทมันในที�ที� ไม่ใช่แกลเลอรี คำถาม ต้องการจะทำให้ใครดู? นักท่องเที�ยว กลุ่มพวกเราเอง หรือกลุ่ม นักวิชาการ เพราะว่าแผนทีส� ำหรับนักท่องเทีย� วก็นา่ จะเป็นอีกแบบหนึง� ไป CAC อยากจะให้คนส่วนใหญ่ หรือกลุม่ คนทีส� นใจชมงานศิลปวัฒนธรรม ในเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที�ยวหรือไม่ ก็อยากให้เขาทราบข้อมูล ก่อนที�จะเดินทางไปที�ต่างๆ

ข้อเสนอ นอกจากทำแผนที� เป็นภาษาอังกฤษกับไทยแล้ว น่าจะทำภาษาจีนด้วย CAC ตอนนี�ยังติดเรื�องทุนอยู่ ไม่มีแม้งบในการทำแผนที�นี� จึงอยากจะปรึกษาด้วยว่าจะ มีวิธีไหนที�จะสามารถมีงบใน การทำโครงการนี�ไปได้เรื�อยๆ และทำให้อยู่ได้อย่างยั�งยืน การขอทุนก้อนเริ�มแรกก็อาจ พอเป็นไปได้ แต่ในระยะยาว ก็อาจจะอยู่ไม่ได้ ชูกิจ Ne'na ให้ความเห็นว่า จากประสบการณ์ของหนังสือ พิมพ์แจกฟรี เขาจะใช้วิธีขาย โฆษณา หรื อ ระดั บ องค์ ก ร ใหญ่ๆ อาจจะมีทนุ ให้หรือเรา อาจจะใช้แนวทางการลงขัน กันเอง? CAC กล่าวเสริมว่ากิจกรรมนี� ส่วนหนึ�งเริ�มจากอยากให้คน ที�กำลังทำแต่ละพื�นที�ได้รู้จัก กัน รู้ซึ�งกันและกันว่าใครอยู่ ตรงไหน ซึ�งเป็นพื�นฐานของ การทำแผนที� และเห็นว่าน่า จะทำให้แกลเลอรีแต่ละแห่ง เชื�อมโยงความร่วมมือกันได้ การจำหน่ายจ่ายแจกต่างๆ ก็จะตามมาภายหลัง


คุณบุ๋ม SCERC กล่าวว่า โครงการนี�คล้ายกับที� กำลังทำอยู่กับ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ช. ในเรื�อง logistic โดยมีโครงการทำการโปรโมทการท่องเทีย� ว � จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยผลักดันการทำแอพพลิเคชัน เพื�อเสนอว่า เมื�อ คุณมาเชียงใหม่คุณต้องไปที�ไหน ไปทำอะไร ซึ�ง คิดว่าเรือ� งศิลปะน่าจะเป็นเรือ� งเรือ� งแหล่งท่องเทีย� ว อย่างหนึ�งได้ และเสนอให้ทำ � ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน ด้วยภาวะที�นักท่องเที�ยวจีนมาเยอะมาก มีกลุ่มที� เรียกว่า “solomo” (social - local - mobile) เป็น กลุ ่ ม จะชอบเช็ ค อิ น แหล่ ง ท่ อ งเที � ย วในท้ อ งถิ � น แผนที�ศิลปะจึงน่าจะดึงดูดตรงนี�ด้วย

Shih-tung Lo ศิลปินจากไต้หวัน ได้เล่าถึงการทำ แผนที�ที�ไทเป ที�จะมีการแผนที�ตามรถใต้ดิน โดยที� แต่ละสถานีจะมีบอกว่าใกล้ๆ สถานีนจ�ี ะมีกจิ กรรม อะไรบ้าง ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ทั�งหมด แต่ที�ไต้หวันการเดินเท้าถือเป็นวิธีเดินทาง พืน� ฐาน ซึง� เห็นว่าเรือ� งการเดินทางน่าจะเป็นปัญหา ของเมืองเชียงใหม่มาก เพราะขนาดเขาจะมางานนี� ยังต้องหาคนไปรับ หรือหากจะมาเอง จะบอกรถ สองแถวว่าอย่างไรดี ปัญหาการคมนาคมจึงน่าจะ เป็นอุปสรรคอย่างหนึ�ง อีกประเด็นคือประโยชน์ในการทำแผนทีน� อ�ี กี อย่าง หนึง� นัน� คือมันเป็นการรวบรวมข้อมูล และ timeline กิจกรรมของเมืองได้อย่างชัดเจนที�สุด

ผูร้ ว่ มสัมมนาคนหนึง� เล่าข้อสังเกตว่า แม้นกั ท่องเทีย� วทุกคนจะมีสมาร์ทโฟน แต่ทกุ คนก็จะมีแผนทีก� ระดาษ ในมือกัน แสดงว่าส่วนกระดาษก็ยังสำคัญ และอยากเห็นว่ากระดาษมัน live สามารถอัพเดทได้ตลอด CAC ให้ขอ้ มูลว่าเริม� แรกอยากจะทำในส่วนของแผนทีศ� ลิ ปะก่อน เชือ� ว่าเรา สามารถทำแผนทีห� ลายๆ รูปแบบได้ แต่ฐานของเราเริม� ต้นคงเป็นพืน� ทีศ� ลิ ปะ แล้วค่อยขยายเพิ�มเติม ส่วนพื�นที�แนวสร้างสรรค์อื�นๆ อาจจะยังไม่มี ซึ�งถ้า มองกันแล้ว พื�นที� workshop ต่างๆ ก็สามารถเป็นส่วนหนึ�งด้วย ในลักษณะ ความเป็นชุมชนสร้างสรรค์ทางศิลปะได้ วาระหนึ�งของ CAC คือความต้องการจัดเก็บสิ�งที�เป็นประวัติศาสตร์ของ กิจกรรมศิลปะของเมืองเชียงใหม่ เราจะสามารถเห็นว่าตอนนี�เกิดอะไรขึ�น บ้าง แล้วในอดีตเคยมีใครทำมาอะไรมาแล้วบ้าง แล้วเราจะได้ไม่ย่ำอยูก่ บั ที� แต่โดยธรรมชาติของแกลเลอรีในเชียงใหม่ พบว่าปัญหาหนึง� คือ กว่าจะรูว้ า่ มีกจิ กรรมวันไหน ก็เมือ� จะจัดพรุง่ นีแ� ล้ว แล้วเราก็รไู้ ม่หมดว่ามีงานทีไ� หนบ้าง คำถามคือจะออกแบบอย่างไรให้เจ้าของแกลเลอรี�แต่ละที�สามารถเป็นผู้ อัพเดทข้อมูลเอง ผ่านส่วนระบบที�ออกแบบเป็นศูนย์กลางไว้ ให้แต่ละคนที� เป็นเจ้าของข้อมูลเผยแพร่เอง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื�องของ hardcopy

ส้ม CAC ได้ขอความร่วมมือ กับเจ้าของพืน� ทีศ� ลิ ปะต่างๆ ไป ช่วยกรอกข้อมูลรายละเอียด พืน� ทีข� องตัวเอง เพือ� รวบรวมเป็น ฐานข้อมูลเอาไว้ โดยเข้าไปที� http://cac-art.info/artmap นอกจากนี�เป้าหมายอีกอย่าง ของ CAC คือถ้าสามารถรวบ รวมข้อมูลไปได้สักระยะหนึ�ง ในอนาคตก็อยากจะจัดเทศกาล ศิลปะ โดยขอชวนให้แต่ละพืน� ที� ทีส� นใจ เข้าร่วมมาเป็นส่วนหนึง� ของพื�นที�เทศกาล

ผู้ร่วมสัมมนา ได้เสนอเรื�องภาษาว่า คนจีนเท่าที� เห็น ไม่ค่อยไปแกลเลอรี�หรือพิพิธภัณฑ์กัน เพราะ มารูปแบบเหมาทัวร์ แต่กลุ่มที�อยู่ long stay เช่น กลุ่มญี�ปุ่น หรือผู้สูงอายุ ที�มาอยู่นาน กลุ่มพวกนี� จะไปพื�นที�ศิลปะมากกว่า ก็อาจจะเป็นตัวเลือก เรื�องภาษา คือ อังกฤษ ไทย แล้วอีกภาษาจะเป็น ญีป� นุ่ หรือ จีน เท่านัน� เพราะไม่ควรจะเกิน � ภาษา


��

เจ้าหน้าที�หอศิลป์ ม.ช. ได้ให้ความเห็นว่าเท่าทีเ� ห็น นักท่องเที�ยวต่างชาติมาขอข้อมูล พบว่าเขาไม่ได้มา ถามว่าแถวๆ นี�มีงานอะไรบ้าง แต่มาถามว่าบริเวณ ใกล้ๆ นี�มีแกลเลอรีหรือพื�นที�ศิลปะที�ไหนบ้าง เราก็จะ แนะนำที�นั�นที�นี� ปัญหาที�ตามมาคือ เขาไม่รู้แกลเลอรีนั�นอยู่ตรงไหน แล้วพอเอาแผนทีข� องเชียงใหม่ให้ เราก็ตอ้ งเอาปากกา มาวงว่ามันอยู่ตรงไหน บางคนก็จะสับสน เพราะใน แผนทีก� ม็ สี ญ ั ลักษณ์มากมาย คิดว่าน่าจะตัดสัญลักษณ์ อืน� ๆ ออก แล้วทำตัว A (Art) ใหญ่ให้ เห็นได้ชดั ไปเลย ระบุให้ดูง่ายขึ�นว่าแต่ละที�อยู่ตรงไหน

ผูร้ ว่ มสัมมนาเสนอ เรือ� งปัญหาแกลเลอรีแต่ละทีไ� ม่มี ป้ายหรือสัญลักษณ์เพื�อบอกว่าแกลเลอรีของตัวเอง อยู่ตรงไหน ทำให้นักท่องเที�ยวที�เดินมาตามแผนที�หา ไม่เจอ อาจจะต้องหาทางแก้ไขกัน หรือทำเป็นป้าย หรือ landmark สัญลักษณ์ของ พื�นที�ร่วมกันทั�วเมือง ก็อาจจะเป็นประโยชน์ ผูร้ ว่ มสัมมนาเสนอ ว่า apps ในสมาร์ทโฟน สามารถ เด้งขึ�นมาเตือนเราได้ตลอดเวลา หรือสามารถเลือกดู ย้อนหลังได้ ติดตามข้อมูลที�อัพเดทได้ตลอด และการ ใช้ apps ระบุตำแหน่ง ก็ช่วยให้สามารถนำทางไป พื�นที�ต่างๆ ได้ง่ายขึ�น

............................................................................

............................................................................

............................................................................

............................................................................

คุณศุภชัย ร่ำเปิงกระบอกเสียงสถาน เล่าว่าใน กลุ่มเล็กๆ ของตนก็มีความพยายามทำเดินบริเวณ วัดอุโมงค์ วัดร่ำเปิง ไปถึงวัดโป่งน้อย ให้เด็กนักศึกษา ได้เรียนรู้ชุมชน ทราบปัญหาต่างๆ ซึ�งก็ทำได้และเห็น ด้วย ชื�นชมงานนี�โดยเห็นว่าการรวบรวมฐานข้อมูล ของโครงการนี�จะเป็นส่วนหนึ�งที�ทำให้เกิดเทศกาล ใหญ่ๆ ในเชียงใหม่ได้

ผู้ร่วมสัมมนาคนหนึ�ง เล่าถึงตัวอย่าง walking tour ในกรุงเทพฯ ที�มีการจัดเดินชมวัด มีอาจารย์ที�รู้เรื�อง ศิลปะไทย หรือเรื�องต้นไม้ พาเดินชมในพื�นที�เส้นทาง ต่างๆ หรือจัดเป็นกลุ่มจักรยาน รวมทั�งมีการติดต่อ โรงเรียนบนเส้นทาง เพื�อหาเด็กที�สนใจมาเรียนรู้หรือ เป็นอาสาสมัครมัคคุเทศท้องถิ�น ซึ�งไม่จำเป็นต้องอยู่ ในหลักสูตร


ผูร้ ว่ มสัมมนาถาม ถึงเรือ� งทีเ� หมือนสถาบันการศึกษา ไม่ได้มสี ว่ นเกีย� วด้วย และเหมือนตามไม่ทนั สังคมด้วย CAC ได้พยายามประสานและหาความร่วมมือกับทาง กลุ่มอาจารย์เหมือนกัน อาจารย์ที�เราเชิญติดงานอื�น ทีจ� ดั ซ้อนกันในวันนี� แต่กจ็ ะพยายามประสานงานกับ สถาบันการศึกษาต่อไป

คุณศศิวิมล ASEF เล่าถึงกิจกรรมศิลปะในสิงคโปร์ ที�รัฐสนับสนุนจาก grassroots มาเป็น partnership กัน จะมีการทำเป็นแผนที�ทุกจุดของมุมเมือง รวมทั�ง แผนทีศ� ลิ ปะ ซึง� พอมองกลับมาเชียงใหม่ พบว่าไม่มที �ี ที�จะรวบรวมข้อมูลนี� นอกจากนี�ที�สิงคโปร์ยังมีกลุ่มอาสาสมัครพาแนะนำ พืน� ทีเ� ป็น art walk บนฐาน art map ทีท� ำขึน� มา พาไป แนะนำสถานทีต� า่ งๆ เบือ� งต้นอาจแบ่งเป็นเส้นทางต่างๆ แต่ละเส้นจะใช้เวลากี�ชั�วโมง ตามแต่กลุ่มเป้าหมาย

ผู้ร่วมสัมมนาอีกคนหนึ�งเสนอ ว่าอาจต้องทำให้ สถาบันการศึกษามาเจอกับคนทำพื�นที�ต่างๆ มากขึ�น เช่น การให้นกั ศึกษามาแสดงงานจบในพืน� ทีแ� กลเลอรี ต่างๆ เพื�อสร้างบุคลากรและอาสาสมัคร โดยเล่าถึง ตัวอย่างกิจกรรมในไต้หวัน ที�มีการจัดเทศกาล แล้ว แต่ละพืน� ทีก� จ็ ะจัดกิจกรรมพร้อมๆ กัน ผูช้ มก็จะซือ� ตัว� แล้วเดินตั�งแต่ปากซอย สลับไปในแต่ละที� คนดูจะได้ ใกล้ชิดกับศิลปิน และทำให้รู้จักพื�นที�ไปด้วย

อาสาสมัครอาจมีทง�ั แบบฟรี และ ไม่ฟรี แล้วทัวร์นน�ั ก็ สามารถทำทัง� แบบเก็บเงินหรือไม่เก็บ ซึง� เชียงใหม่ยงั ไม่มี ทั�งที�น่าจะทำได้ เพราะแต่ละที� ก็อยู่ใกล้ๆ กัน ไม่ใช่เพียงเรื�องการทำ map แต่จะทำอย่างไรให้เกิด กลุ่มคนดู - คนอ่าน

............................................................................

............................................................................

............................................................................ ผูร้ ว่ มสัมมนาอีกคนหนึง� เสริมข้อมูลว่าตอนนีม� กี าร ทำ art network ของแกลเลอรีกรุงเทพฯ โดยแต่ละที� ก็มาแชร์อีเมล์กัน แล้วก็เข้าไปใน Google Doc แล้ว แชร์ปฏิทินกัน แต่ละคนก็เข้าไปแชร์อีเวนท์ของตัวเอง ว่ามีวันไหน คนอื�นก็เข้ามาดูได้ง่ายๆ

Chiang Mai Art Conversation ขอขอบคุณผู้ร่วม สัมมนาทุกท่านที�กรุณาสละเวลามาแบ่งปันความคิด เห็น อันจะนำไปสู่การพัฒนาโครงการต่อๆ ไปสำหรับ งานทางด้านศิลปะร่วมสมัยในจังหวัดเชียงใหม่ หาก มีความคืบหน้าเพิม� เติมจะแจ้งให้ทา่ นติดตามผ่านทาง

— จบการสัมมนา

cac-art.info . facebook.com/cmartconversation


project director สุทธิรัตน์ ศุภปริญญา coordinator รัชนก เกตุบุญเรือง receptionists กิตติมา จารีประสิทธ์ พิชญา งามเจริญ summarizer นพพล อาชามาส photographers เด็ด จงมั�นคง อานนท์ นงเยาว์ videographers วิภูพงศ์ จิระประภูศักดิ� รัฐธรรม งอสอน ธนาวร ชัยวรากิจ interpreters ถิง ชู พิมพ์พิศา ชัยเลิศ designer อธิคม มุกดาประกร

collaborators


��

youtube.com — soon



��


released in September ����


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.