My singapore story.

Page 1

..My Singapore Story..

By.. Akanishi

Daiko


Intro ก่อนออกเดินทางไปสิงคโปร์มักมีคนถามเสมอว่า ไปสิงคโปร์ตั้ง 6 วัน..สิงคโปร์มีอะไรน่าเที่ยวเยอะ ขนาดนั้นเหรอ?..ตอนนั้นเราเองก็ตอบไม่ได้ จนกว่าจะไปสัมผัสกับสิงคโปร์ด้วยตัวเอง.. เราเชื่อว่า เส้นทางการท่องเที่ยวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทุกคนล้วนมีความทรงจําแต่ละที่เป็นของตัวเอง เรามีความทรงจําของสิงคโปร์เป็นของเรา แต่ละคนที่เคยไปเที่ยวสิงคโปร์ ก็มีความทรงจําของสิงคโปร์เป็นของตัวเองเช่นกัน Photo book เล่มนี้ เราเลือกสิ่งที่น่าประทับใจที่เราได้พบ และแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ให้ทุกคนได้รับรู้กับสิงคโปร์ของเราค่ะ แล้วสิงคโปร์ของคุณละคะเป็นแบบไหน? Akanishi Daiko


1.

Gardens by The Bay วันแรกพอลงเครื่องมา ตอนค่ําๆ เรามาที่ Gardens by Bay เป็นที่แรก แสงสีของต้นไม้ทําให้เราตื่นเต้น และเป็นโชคดีของเราที่ ส่วนของสวนจัดเทศกาลคริสมาสพอดี แสงสีจึงดูวิบวับไปหมด เราเหมือนแมงเม่าเดินเข้าในไฟแห่งความสนุกสนาน.. ระหว่างทางสามารถมองเห็น Singapore Flyer งามค่ําคืนและตึก Sends Sky Park ที่ถือว่า เป็นตึกที่ต้องถ่ายคู่หากมาสิงคโปร์ เราไม่ได้ขึ้นไปด้านบนตึก เพราะ มีค่าเข้า เอาเป็นว่าแค่มองอยู่ไกลๆก็อิ่มแล้ว เดินค่อนข้างเยอะตั้งแต่วันแรกแต่ก็ไม่หวั่น การเดินทาง >> MRT : Bayfront ทางออก B ! / รถเมลล์ สาย 133 จาก ! lavender มาเรื่อยๆลงที่ตึก !Send ! Sky Park เดินลัดตึก ! และลอดมาทางใต้สะพานไปที่ ! สวนได้เลย


2.

Botanic Gardens ! สวนสีเขียวร่มรื่นเหมาะกับการพักผ่อนเดินเล่นใครชอบ ต้นไม้คงจะชอบที่นี่ไม่น้อย ในสวนมีสวนกล้วยไม้ที่ต้องเสียเงิน เข้าไปดู สําหรับเราเฉยๆกับที่นี่เพราะไม่ค่อยมีอะไรนอกจาก ต้นไม้ตามชื่อสถานที่และวันที่เราไปดอกไม้ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร

การเดินทาง : MRT botanic Gardens สามารถเดินไป MRT Orchard ได้แต่เดินไกลอยู่ เหมือนกัน


3.

Chinatown ! เป็นย่านช็อปปิ้งของฝากและหาของกินที่หลายคนต้อง ชอบ อาหารมีหลายประเภทให้เลือกทานที่ food street หากมา ตอนเย็นๆ บรรยากาศที่ food street จะชิวมาก ที่ชอบอีกอย่าง คงเป็นตึกและการตกแต่งที่ chinatown สีสันสดใสน่ารักมาก เราสามารถเดินไปที่ วัดจีน,วัดมุสลิมและพิพิธภัณฑ์ red dot แถวนั้นได้ไม่ยากเลย

การเดินทาง : MRT : chinatown ทางออก A >>main street ทางออกก D ห้าง People Park เพื่อ ซื้อตั๋ว Universal ร้าน Sea wheel ชั้น 3


Red dot design museum

ตึกจริงสีค่อนข้างซีดไปมากแล้ว แต่การ Design ยังคงเก๋อยู่


4.

ตึก ราม บ้าน ช่อง กับ Raffle hotel [Museum] ที่หาไม่เจอ ! ตอนแรกว่าจะไป raffle hotel แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ถามคนแถวนั้นบอกว่าปิดไปแล้ว (??) เลยเดินเล่นแถวนั้น ทะลุ ไปจนถึง city hall ที่ปิดปรับปรุงอยู่ ย่านนี้มีตึก โรงแรมสวยๆ เยอะโดยเฉพาะตึกธนาคารสวยและดูรวยมาก 55 กลายเป็นว่า จาก raffle hotel ที่หาไม่เจอ เป็นทริปเดินดูบ้านเมืองสิงคโปร์ไป รู้สึกว่าตัวเองเดินเยอะมาก เพราะ ปลายทางที่ต่อไป คือ Singapore Flyer แถบนั้นทะลุถึงกันหมดเลย สถานที่ดังๆ หาไม่ยาก


5.

Singapore Flyer ! เดินเหนื่อยแล้วก็มาหยุดพัก นั่งชมประเทศสิงคโปร์มุม สูงด้วยกระเช้าลอยฟ้า กระเช้าเคลื่อนตัวช้าๆ ให้เราได้ดูเมือง ด้านล่างอย่างเต็มอิ่ม จากตึกสูงกลายเป็นตึกเล็กๆ ตั้งเรียง รายเหมือนเลโก้ ตอนกลางคืนไฟจากตึกจะต้องสวยมากแน่ๆ


Fountain

terrace

น้ําพุเต้นระบํา


Mer Lion &

Marina

Bay Sand

เสน่ห์ยามค่ําคืนของสิงคโปร์เป็นอะไรที่ลืมไม่ลง


6.

CASINO

โชคดีมีให้เราครั้งเดียว ! casino ที่สิงคโปร์เปิดให้เข้าฟรี แต่ต้องอายุเกิน 22 เท่านั้นถึงจะเข้าได้ มีการตรวจจากพาส ปอร์ต สามารกเดินข้ามสะพาน Helix ไปถึงตัวห้างที่มีคาสิโนอยู่ได้เลย ข้างในมีเครื่องเล่นแสวงโชค เยอะมากถึง 3-4 ชั้น กลิ่นบุหรี่อบอวน มีน้ําให้ดื่มฟรี เรากับเพื่อนเลือกเล่น สล๊อต ที่เป็นตู้ๆ จะมีให้ เลือกเดิมพันตั้งแต่ 2 เหรียญขึ้นไป ลองครั้งแรก เล่นไม่เป็นกดมั่วมาก 555 แล้วก็นั่งงงกัน ปรากฏ เพื่อนไปกดปุ่ม collect แล้วหน้าจอก็ขึ้นเป็นเหรียญเงินเยอะๆ(ถือว่าจบเกมส์ ) ตู้ปริ้นเช็คให้เรา 15 เหรียญ ตอนนั้นคืองงมาก แบบ ได้มาแบบ งงๆ ในคาสิโนจะมีตู้ให้เอาใบนี้ไปรับเงินโดยอัตโนมัติ รับเงินเสร็จลองเล่นอีกครั้ง ก็ไม่ได้แล้ว โชคดีมีได้ครั้งเดียวจริงๆ.


7. Art museum ! เพราะฝนตกทําให้เราเลือกที่จะไป museum จะว่าไปแล้วสิงคโปร์เป็นเมืองศิลปะเลยนะ เดินผ่านไป ที่ไหนเมืองนี้จะต้องมีงานศิลป์ ให้เห็นอยู่เสมอ singapore art museum เป็นสถานที่ตอบโจทย์ สําหรับคนที่ชอบดูงานศิลปะ อีกท่ีหนึ่ง มีงานศิลปะทุก รูปแบบ ห้อง learning ใน museum มีให้เราทํางาน ศิลปะของเราด้วยเช่นเดียวกัน ค่าเข้า : 10 เหรียญ การเดินทาง : MRT สถานี Bras Basah


8.

Haji lane ! แถวนี้เป็นย่านร้านขายของที่มีการตกแต่ง graffiti ได้ ฮิปเตอร์มากๆ เดินเพลิน ถ่ายรูปเพลิน haji lane อยู่ใกล้ๆ bali lane ที่นี่ใกล้ที่พักเราเลยขึ้นรถเมลล์ไป สาย 145 ถ้า เห็นป้าย bali lane ก็ลงได้เลย


9.

Singapore

Marathon

! ได้ไปวิ่ง marathon เป็นครั้งแรกในชีวิตที่สิงคโปร์ ระยะทางที่เลือกคือ 10 กม. เราทําเวลาได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที การวิ่งครั้งนี้ให้อะไรหลายๆอย่างกับเรา เราได้เห็นว่าคน สิงคโปร์ส่วนใหญ่ใส่ใจกับการออกกําลังกายมาก เรารู้สึกตื้น ตันใจระหว่างคนที่วิ่งนําไปก่อนแล้วสวนทางกับเรา ทุกคนส่ง เสียงเชียร์และปรบมือให้ ระหว่างวิ่งเราเหนื่อยเลยเดิน มีลุงที่ เป็นกองเชียร์ข้างสนาม ตะโกนและตบไล่ว่า สู้ๆ!!(ภาษาจีน) แม้จะไม่รู้จักกัน แต่พลังที่ลุงส่งมาก็ทําให้เราวิ่งต่อไปได้ และ เวลาเข้าเส้นชัยมันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ การวิ่งของเราครั้งนี้ทําให้เรารู้อีกว่ามีเพื่อนที่ไม่คิด จะทิ้งกัน รอเราอยู่เสมอแม้จะนําหน้าไปก่อน มีหลงกันบ้างแต่เพื่อนก็ยังรอเราอยู่ที่ที่นัดกันไว้ ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ ตัวเองโชคดีมากที่มีเพื่อนดีๆ

Don't stop when you're tired, Stop when you're done.


10.

Universal Studio ! ถือเป็นสวนสนุกสมชื่อ ภาพที่ได้มาให้พนักงาน ถ่ายภาพให้ กังฟูแพนด้าเป็น character ที่ฮาสุดๆ เล่น กับคนที่มาถ่ายรูปด้วย และเรียกเสียงหัวเราะจากเราไป เยอะเลย น่ารักสุด เราเล่นลืมอายุตัวเองไปเลย 555 ที่ พลาดไม่ได้คือ เครื่องเล่นมัมมี่ และ ทรานฟอร์เมอร์


! ทริกของการได้เล่นเร็วๆ ถ้าไปกันเพียง 2 คนคือ ให้เข้าแถวเล่น ในช่อง single rider คือแยกกันเล่น แค่ไม่ได้นั่งด้วยกันแปร๊บเดียวแต่ ประหยัดเวลาได้ 3 เท่าเลยค่ะ เช่น ทรานฟอร์เมอร์ถ้ารอ จะประมาณ 60 นาที แต่ถ้าเข้าช่องนี้ จะลดเหลือ 10 นาทีค่ะ (ส่วนคนที่มี fast pass ก็ยื่นเล่นแล้วแต่เลย) อย่าลืมเอาบัตรลด 5 เหรียญลดราคา อาหารด้วยนะคะ การเดินทาง : MRT HarbourFront ไปตามป้ายที่ชี้ไป Sentosa การเดินทางเลือกไปทางเดินหรือรถไฟฟ้าเข้าเกาะก็ได้ค่ะ เราเลือก เดิน เสีย 1 เหรียญ เป็นค่าเข้าเกาะ


boardwalk to Sentosa ทางเดินสู่เกาะเซนโตซ่า


11.

Greenkiwi Hostel ! ที่พักอาศัยของเราทั้ง 5 คืน (2,500 บาท)เราดีใจมากที่ได้พักที่นี่ ราคาไม่แพง พนักงานน่ารัก เต็มใจบริการให้ข้อมูลที่เที่ยว อาหารเช้า ฟรี ห้องน้ํารวมแต่ก็สะอาดดี เราพักห้องหญิงล้วน 8 คน ได้เพื่อน เกาหลีและเยอรมันมา มีแลกเปลี่ยนอีเมลล์กันตามประสา ที่นี่ยังมีพี่ บอล(ขอเอ่ยนามตรงนี้นะพี่) เป็นลูกครึ่งไทย มาเล พูดไทยได้ พี่บอล แนะนําที่เที่ยวต่างๆโดยเฉพาะการเดินทางในสิงคโปร์ได้ดีมาก คุยสนุก เม้ากันเพลิน 555 เรามีเตรียมโปสการ์ด ที่ระลึกจากไทยไปให้เขียน ความรู้สึกส่งท้าย และแปะไว้ที่ hostel เป็นความทรงจําเล็กๆว่าเราเคย มาอยู่ที่นี่ และ ยังให้เพื่อนใหม่ที่ได้รู้จักเขียนอีกแผ่นให้เราเก็บไว้ด้วย เชื่อว่าถ้าตัวเองหยิบขึ้นมาดูจะต้องยิ้มได้แน่ๆ

การเดินทาง: MRT Lavender นั่งรถเมล์สาย 133 จนเห็นปั๊มเอส โซ่แล้วลงได้ โฮสเทลจะอยู่ฝั่งปั๊มเอสโซ่ ต้องข้ามถนนมา (จะเดิน ก็ได้แต่ไกลอยู่) / MRT Boon keng ทางออก c เดินผ่านสนาม หญ้า ผ่านร้านอาหารไทยมาเรื่อยๆ มองป้ายข้างตึกไว้ แล้วจะเจอ


12. Food

! อาหารที่สิงคโปร์หากินไม่ยาก และรสชาติก็ไม่ได้แปลกประหลาดจนกินไม่ได้ ส่วนใหญ่ จะเป็นอาหาร จีน,อินเดีย เราไม่ได้คาดหวังกับเรื่องอาหารในการเที่ยวครั้งนี้ คือ มีอะไรอยาก กินอะไรก็กิน ถูกๆง่ายๆ เอามาเลย แซนวิสก็กินได้ คือกะมาเพื่อเที่ยวอย่างเดียวเลย ใครที่ ไม่ได้คาดหวังกับกินเหมือนเราก็หาอะไรกินได้ไม่ยากเลย food republic ก็ได้ถ้าเที่ยวห้าง หรือจะเป็น food street china town ก็มีอาหารหลากหลายให้เลือกสรร ใครอยากประหยัด ควรมีขวดสําหรับใส่น้ําเตรียมไว้เวลาไปเที่ยวเวลากินข้าวจะได้ไม่ต้องซื้อน้ํา


Foods.


13. Fashion ! เราเป็นอีกคนที่โคตรจะมีความสุขเวลาได้แต่งตัวไปเที่ยว เลย ชอบหาชุดที่คิดว่าเหมาะกับที่เที่ยวนั้นๆ แล้วถ่ายรูป พอ เห็นรูปสวยก็จะมีความสุขมากก ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนเราบ้าง หรือเปล่า แบกเป้เที่ยวก็แต่งตัวงามๆได้นะเออ


MY Fashion at Singapore


14.

Friend. คู่หูในการเดินทางครั้งนี้คือเพื่อนของเราเอง เราเที่ยวกัน 2 คน เพื่อนเราเป็นคนวางทริป เราจึงต้องดูแลกัน พลัดกันถ่ายรูป ระหว่างทางเรามีความทรงจําเพิ่มขึ้นมาด้วยกัน หัวเราะ หงุดหงิด มีความสุขและเข้าใจกันมากขึ้น การท่องเที่ยวแต่ละครั้งทําให้เรา รู้สึกโชคดีที่มีเพื่อนคนนี้อยู่ข้างๆ แต่ละคนอาจจะมีการเดินทาง เป็นของตัวเอง เที่ยวคนเดียว เที่ยวเป็นกลุ่ม ของเรานั้นก็มีเพื่อน คนนี้เหละที่อยู่กับเราและไม่เคยทิ้งกัน ขอบคุณนะ. !


Special Thanks -พ่อกับแม่คนที่คอยสนับสนุนเราทุกอย่าง -Trophy Nateผู้คอยจัดทริปและอยู่ข้างๆกัน -กล้อง Nikon D3100 อุปกรณ์เก็บความทรงจํา -สองเท้าของตัวเองที่พาเราไปในทุกๆที่ สุดท้ายขอให้ทุกคนได้รับ แรงบันดาลใจในการเดินทาง ผ่านหนังสือเล่มนี้นะคะ แล้วคุณจะได้รับอะไร ที่มันมากกว่าการท่องเที่ยว

Akanishi Daiko


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.