บ่วงรักพยัคฆ์ร้าย

Page 1


บ่วงรักพยัคฆ์ร้าย เรืองริน

เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ ISBN 978-616-91316-3-2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : สิงหาคม 2555 ราคา 235 บาท สำ�นักพิมพ์ เดซี่ บริษัท ลา วีเซ่ จำ�กัด 559/28 ซอยรัชดา 36 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. 10900 โทรศัพท์ 0-2140-0385-9 โทรสาร 0-2939-1177 www.daisy-book.com daisybook@daisy-book.com พิมพ์ที่ บริษัท ฐานการพิมพ์ จำ�กัด 9/11 หมู่ 9 ซอยสวนชิดลม เทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900 โทรศัพท์ 0-2954-2799 โทรสาร 0-2954-2800-2 จัดจำ�หน่าย บริษัท ธนบรรณ ปิ่นเกล้า จำ�กัด 3/19 ซอยบรมราชชนนี 11 ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700 โทรศัพท์ 02-434-8270-1 โทรสาร 02-424-8512

ฉบับพพิเาศะ ษ เฉ

e-book



คำ�นำ� ‘บ่วงรักพยัคฆ์รา้ ย’ เป็นนิยายเรือ่ งแรกทีน่ ามปากกา ’เรืองริน’ ได้มโี อกาส โลดแล่นบนเส้นทางนักเขียนอย่างที่ตัวเองตั้งใจไว้ นิยายเรื่องนี้กลั่นกรองมาจาก ความรู้อันน้อยนิดของเรืองรินและความที่เรืองรินเป็นคนที่ชอบคนในเครื่องแบบ เลยหยิบจับบวกสมอ้างให้ตัวเอกเป็นนายต�ำรวจผู้มากความสามารถ เรืองรินขออนุญาตบอกว่านิยายเรือ่ งนีม้ หี ลายรสชาติ ไม่วา่ จะเป็นบูเ๊ รียกเลือด หวานหยดย้อย และผสมขมขืน่ บ้าง ยังไงถ้าอยากจะรูล้ องหยิบกลับบ้านไปสักเล่ม นะคะ ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ จากเว็บนิยายที่คอยเป็นก�ำลังใจ ติชม บางครั้งยังช่วยตรวจทานค�ำผิดค�ำตกหล่นให้ด้วย และขอบคุณทุกๆ ท่านที่ช่วย อุดหนุนผลงานของเรืองริน และทีส่ ำ� คัญอย่างยิง่ ขอบพระคุณส�ำนักพิมพ์เดซีท่ ใี่ ห้โอกาสตีพมิ พ์นยิ าย เรือ่ งนี้ ‘บ่วงรักพยัคฆ์รา้ ย’ จะออกมาสมบูรณ์แบบไม่ได้ถา้ หากไม่มพี บี่ รรณาธิการ และพี่ๆ ทีมงานส�ำนักพิมพ์เดซี่ทุกท่าน บ่วงรักพยัคฆ์รา้ ยเกิดขึน้ จากจินตนาการของเรืองริน ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งราว ฉาก ชื่อ-นามสกุล หากมีข้อผิดพลาด พาดพิงถึงผู้ใดโดยที่เจตนาหรือไม่เจตนา ก็ตาม เรืองรินก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการอภัย จากท่านผู้นั้น สุดท้ายเรืองรินหวังว่า ‘บ่วงรักพยัคฆ์รา้ ย’ จะมอบความสุขความเพลิดเพลิน ให้แก่ผู้ที่มีนิยายเล่มนี้อยู่ในมือไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด เรืองรินยินดีน้อมรับและจะน�ำไปปรับปรุงผลงานเล่มต่อไปให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ

ด้วยรักและขอบคุณ เรืองริน



เรืองริน

1 ปฏิบัติการตัดแขน

“งานนี้เสี่ยงมาก พวกคุณระวังตัวอย่าให้ใครจับได้” “ครับท่าน” “อีกอย่างถ้างานนีเ้ สร็จพวกนัน้ คงวิง่ กันวุน่ ทางเราเองก็ตอ้ งเร่งหาหลักฐาน เพิ่มให้เร็วที่สุด เอาล่ะระวังตัวด้วย ไปได้แล้ว” เสียงทรงอ�ำนาจจากผู้บัญชาการ ของสองหนุ่มนายต�ำรวจกวาดตามองมาที่ลูกน้องมากฝีมือสองคนก่อนจะให้ออก ไปท�ำภารกิจย่อยที่อีกไม่นานจะสาวรอยถึงตัวการใหญ่ สองหนุ่มยืดอกตบเท้าชิด ก่อนจะถอยออกจากห้องของผู้บังคับบัญชา สองหนุ่มเดินออกมาขึ้นรถส่วนตัว เพื่องานใหญ่ที่ก�ำลังคอยอยู่ข้างหน้า “งานนี้มันเล็กน้อยมากนะถ้าเทียบกับกิจการเลวๆ ของพวกมัน” พันต�ำรวจตรีเอกพัน อังวรากุล เอ่ย ขณะขึ้นมาอยู่บนรถส่วนตัวของ เพื่อนต�ำรวจหนุ่มคู่หูที่เคยท�ำงานร่วมกันมาเกือบห้าปีเต็ม “ตัดแขนของมันสักข้าง ก็ยังดีกว่าไม่ได้ท�ำอะไรเลยนี่หว่า” พันต�ำรวจตรี มัธวีย์ เวทศิริพิพัฒน์ นายต�ำรวจมากด้วยฝีมือหาตัวจับยาก “มันก็จริงของแก เฮ้ย เมื่อไหร่ไอ้พวกคนชั่วจะหมดสักที” เอกพันเอน ศีรษะพิงพนักแล้วพูดออกมาดังๆ 9


“ถ้าโลกนีไ้ ม่มคี นชัว่ พวกเราจะท�ำไรกินล่ะ” มัธวียพ์ ดู ไปพลางหัวเราะพลาง “เออ จริงของแกอีกนั่นแหละ เซ็งโว้ย” เอกพันท�ำหน้าเบื่อโลก สองหนุม่ โดนเรียกตัวมาช่วยงานส่วนกลางเป็นเวลาเกือบหนึง่ ปีเต็ม งานลับ ทีม่ เี บือ้ งหลังความเป็นมาให้นา่ ค้นหา เมือ่ มีขา่ วของวงในว่ารัฐมนตรีในกระทรวงเกิด การยักยอกแถมพ่วงด้วยธุรกิจผิดกฎหมายทุกชนิด ทัง้ ค้ายา ค้าไม้เถือ่ น ค้ามนุษย์ ระยะหลังมีการเปิดบ่อนคาสิโนแถบชายแดนรองรับทั้งขาจรและขาประจ�ำ ทั้งใน และต่างประเทศ ด้วยความที่คู่หูหนุ่มมีผลงานมากมายเป็นที่กล่าวขาน เลยโดน เรียกตัวให้เข้ามาสืบราชการลับในครัง้ นี้ โดยห้ามเปิดเผยตัวตนให้คนภายนอกรับรู้ ไม่ว่าจะกรณีใดทั้งสิ้น มัธวีย์ขับรถมุ่งตรงไปยังสถานที่เป้าหมาย ที่จะพาก�ำลังบุกเข้าตรวจค้น เขากับเอกพันเพือ่ นคูห่ ไู ปดูลทู่ างไว้ตงั้ หลายครัง้ แล้ว จนกระทัง่ แน่ใจว่าร้านอาหาร แห่งนั้นเป็นแหล่งเก็บสินค้าที่จะเอามาปล่อยในกรุงเทพฯ นี่เป็นแค่ธุรกิจหนึ่งที่ พวกคนร้ายท�ำเท่านัน้ ธุรกิจส่วนมากจะท�ำอยูแ่ ถวจังหวัดกาญจนบุรเี พราะมีผใู้ หญ่ เจ้าเมืองทางนัน้ เป็นอีกหนึง่ ตัวการส�ำคัญทีค่ อยช่วยเหลืออยูต่ ลอดและรับส่วนแบ่ง บ้างเล็กน้อย สองหนุม่ ขับรถมาไม่ถงึ ครึง่ ชัว่ โมงก็ถงึ ร้านอาหารหรูทเี่ ป็นเป้าหมายส�ำคัญ เป็นร้านอาหารแถวชานเมือง แต่มีผู้คนคับคั่งอาจด้วยอาหารอร่อย และที่ส�ำคัญ พวกที่มารับของผิดกฎหมายปลอมตัวมาในคราบลูกค้าของร้านด้วย มัธวีย์น�ำรถ มาจอดยังลานจอดรถของร้านอาหารชื่อดังแห่งนั้น “เฮ้ย ไอ้มาร์ค แกใส่คอนแทกต์เลนส์ด้วยนะ” มัธวีย์หรือมาร์คจุปากอย่างขัดใจ เมื่อคิดถึงเรื่องยุ่งยากที่ต้องปลอมตัว ทุกครั้งที่ต้องปฏิบัติงาน ใส่วิก ติดหนวดยังไม่พอส�ำหรับเขา เพราะนัยน์ตาสีฟ้า มันเป็นปัญหาอย่างมาก ถ้าใครไม่รู้จักเขาจริง คงคิดว่าเขาเป็นชาวตะวันตกที่ย้าย มาอยูเ่ มืองไทยแน่ เพราะรูปร่างบวกทัง้ หน้าตาทีก่ ระเดียดไปทางมารดาชาวอังกฤษ ของเขา ส่วนที่ได้จากฝ่ายบิดาก็น่าจะเป็นภาษารวมทั้งชื่อและนามสกุลเท่านั้น ที่บอกว่าเขามีเชื้อไทยอยู่ด้วย “น่าเบื่อเป็นบ้าเลยว่ะ” “เออน่า ไม่ได้ใส่ทั้งวันเสียหน่อย เสร็จงานแล้วก็ถอดเลยนี่หว่า เอาไป” 10


เรืองริน

เอกพันหรือเอกที่ใส่วิก ติดหนวดพร้อมในชุดสูทท�ำทีเหมือนนักธุรกิจนัด ทานข้าวกันส่งคอนแทกต์เลนส์พร้อมทัง้ วิกผมให้เพือ่ นหนุม่ มัธวียไ์ ม่ตอ้ งติดหนวด เหมือนเอกพันเพราะเขาไว้มันตลอดทั้งหนวดและเครา แต่บางครั้งก็ต้องโกนออก เหมือนกันเพราะหน้าที่การงานที่ต้องปลอมตัวอยู่ตลอด “ว่าแต่ก�ำลังเสริมล่ะ” “เรียบร้อยไม่ต้องห่วง พวกนั้นคงจะดักคอยอยู่ใกล้ๆ นี่แหละ แค่รอ สัญญาณจากเราเท่านั้น” “อือ ไปเถอะ” มัธวีย์จัดการใส่วิก พร้อมคอนแทกต์เลนส์สีด�ำสนิทเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจ ก่อนจะตรวจดูปืนประจ�ำมือเผื่อมีอะไรผิดพลาดแล้วเก็บกลับเข้าที่เก่าคือใส่ไว้ยัง ซองปืนเป็นเข็มขัดหนังที่อกเสื้อแล้วสวมทับด้วยสูทสีด�ำ แค่นั้นก็ไม่มีใครสังเกต ว่าเขามีปืนอยู่ด้วย สองหนุ่มคู่หูที่มีความสูงไล่เลี่ยกันพร้อมทั้งชั้นเชิงที่เข้ากันได้ดีเดินเข้าไป ภายในร้านด้วยอาการปกติธรรมดาเหมือนลูกค้าทั่วไป ทั้งสองเลือกที่นั่งที่เห็นทั้ง ภายในร้านและลูท่ างเพือ่ หลบออกไปไม่ให้ใครสนใจ เอกพันเป็นคนจัดการสัง่ อาหาร มาสี่อย่างก่อนจะหันไปยักคิ้วให้พนักงานเสิร์ฟสาวสวย ฝ่ายนั้นเลยอายม้วนไป และกลับไปท�ำหน้าที่ของตัวเองต่อ “ไอ้นี่จะตายอยู่แล้วยังเหล่สาวอยู่ได้” มัธวีย์ก้มลงไปกระซิบใส่หูเอกพัน ฝ่ายนั้นแค่ยิ้มๆ ท�ำท่าทางยักไหล่กว้าง แล้วเสมองไปทางอื่นไม่สนใจมัธวีย์อีกเลย ไม่นานอาหารสี่อย่างก็พร้อมอยู่ตรง หน้าสองหนุ่ม “วันนี้ลาภปากอีกแล้วล่ะสิเรา” เอกพันพูดไปทานไป โชคดีที่สองหนุ่มมา เลือกที่นั่งไม่ค่อยมีแขกมากนัก “อะไรของแกไอ้เอก” “เดี๋ยวก็วุ่นวายกันหมดทั้งร้าน ใครจะมามัวตามเช็กบิลอยู่ จริงไหม” “เออ ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้เอก กินฟรีตลอด” “หรือแกจะเถียงไอ้มาร์ค” คราวนี้มัธวีย์ยักไหล่บ้างแล้วก็นั่งทานอาหาร ไปพลางมองดูลู่ทางกันไปพลาง โดยที่คนในร้านไม่มีใครนึกสนใจอะไรด้วย 11


บรรยากาศภายในร้านจัดแต่งไว้อย่างสวยงามมีทงั้ ทีอ่ ยูใ่ นร่มและนัง่ กินลม ชมบรรยากาศสบายๆ ขณะนีเ้ ป็นช่วงบ่ายสองของวันท�ำงาน ผูค้ นในร้านจึงดูบางตา กว่าช่วงเที่ยงวันหรือตอนค�่ำ ร้านแห่งนี้เปิดบริการตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงห้าทุ่ม จึงเป็นทีถ่ กู อกถูกใจของใครหลายคน ร้านอาหารแห่งนีเ้ ป็นชือ่ ของลูกน้องปลายแถว ของท่านรัฐมนตรีวิชัยเท่านั้น แต่ก็เพราะมันมีความส�ำคัญอยู่มากจึงต้องจัดการ ตัดท่อน�ำ้ เลีย้ งเสียก่อน โดยหัวเรือใหญ่มกั กระจายธุรกิจให้เป็นชือ่ ของลูกน้องหรือ คนสนิท หากมีปัญหาจะได้สาวรอยตามตัวการใหญ่ได้ยาก “อิ่มแล้วเหรอไอ้มาร์ค ฉันเห็นแกกินไปนิดเดียวเอง” เอกพันเงยหน้าขึ้น จากจานอาหาร เห็นอยู่ๆ มัธวีย์รวบช้อนแล้วเอาแต่เงียบ “ยังโว้ย แกดูโน่น” มัธวีย์พูดไม่มองหน้าเพื่อน แต่สายตากลับมองไปยัง พนักงานของร้านอาหารหลายคนที่แบกของอะไรสักอย่างเข้าไปภายในร้านโดยมี ชายฉกรรจ์สองคนคอยคุมอยู่ตลอดเวลา เอกพันหรี่ตาลงเหมือนอยากจะมองให้ ทะลุว่าภายในลังขนาดย่อมนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ “พวกมันคงไม่ท�ำอะไรโจ่งแจ้งหรอกมั้ง” ส�ำหรับเอกพันไม่อยากคิดว่า พวกนั้นจะท�ำอะไรเย้ยกฎหมายมากขนาดนั้นเลย แต่ถ้าใครไม่รู้เรื่องยาเสพติด ก็อาจจะไม่คิดมากอย่างพวกเขาสองคน “ว่าได้เหรอ ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด” มัธวีย์เปลี่ยนสายตา มาจับอยู่ที่ใบหน้าเอกพัน “แล้วจะเอายังไง” เอกพันเสียงเครียดขึ้น “แกนั่งรออยู่ตรงนี้แหละ ฉันจะไปเข้าห้องน�้ำเสียหน่อย” เอกพันรู้ได้ทันที ว่าคู่หูของเขาไม่ปล่อยให้เรื่องที่เห็นผ่านไปง่ายๆ เลยท�ำทีเป็นเข้าห้องน�้ำเพื่อไปดู ให้แน่ใจ มัธวียล์ กุ ขึน้ ยืนเต็มความสูงก่อนจะจัดเสือ้ สูทสีดำ� ให้เข้าที่ ร่างสูงก้าวยาวๆ ออกจากโต๊ะตรงไปยังส่วนที่เป็นด้านหลังของร้านอาหาร ชายหนุ่มเดินผ่านส่วนที่ เป็นบาร์เครื่องดื่มเล็กๆ เข้าไปทางที่เขาเห็นพนักงานขนของเข้าไป “การเดินทางเป็นยังไงบ้าง” “เรียบร้อยดีครับ” 12


เรืองริน

มัธวีย์แอบดูอยู่มุมหนึ่งด้านหลังของหญิงสาวรูปร่างเพรียวระหง ที่ยืนคุย อยู่กับชายฉกรรจ์ที่เขาเห็นคอยคุมการเคลื่อนย้ายเมื่อสักครู่ ดูท่าทางชายร่างยักษ์ นั้นจะนอบน้อมกับหญิงสาวร่างบางมากพอดู “แล้วของลอตนี้ครบหรือเปล่า” “ขาดไปสองลังครับ ที่โกดังมีปัญหานิดหน่อย เราเลยผลิตกันไม่ทัน” “อือ ไม่เป็นไร เอาตามที่ได้ก็แล้วกัน แต่คราวหลังคงให้ของขาดไม่ได้นะ ท่านถามฉันมาหลายครั้งแล้ว” “ครับ” มัธวีย์ได้ยินการสนทนาทั้งหมด แต่ที่เขาแปลกใจคือน�้ำเสียงหนึ่งหวานใส ก้องกังวาน ทีด่ เู หมือนจะเป็นหัวหน้าของคนพวกนัน้ อีกที ไม่นา่ จะมีผหู้ ญิงเสียงหวาน ร่วมอยู่ในกระบวนการร้ายนี้ด้วยเลย “เอาล่ะ ฉันคงต้องไปแล้ว นายดูแลทางนี้ได้ใช่ไหม” “ได้ครับไม่มีปัญหา” สิน้ เสียงพูดมัธวียไ์ ด้ยนิ เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพืน้ ดังใกล้เข้ามา ชายหนุม่ เลยหลบเข้าไปแอบอยู่ยังห้องน�้ำใกล้ๆ กัน เขาเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้า หญิงสาวคนนั้น เขารอเวลาให้ผ่านไปพักใหญ่ก่อนจะย้อนกลับออกมาดูที่เดิม ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นอีกแล้ว มัธวีย์กวาดสายตาคมกริบมองซ้ายขวาก่อนที่จะย่างเข้าไปภายในห้องที่ ประตูแง้มเปิดอยู่ ซึ่งเขาสันนิษฐานว่าน่าจะใช้เก็บของผิดกฎหมายที่ก�ำลังตามอยู่ “นั่นคุณจะท�ำอะไร” “เอ่อ ผม ผมหาห้องน�้ำครับ ไม่ทราบไปทางไหน” มัธวีย์ยังไม่ทันก้าวเข้าไปในห้องนั้นเลยก็มีเสียงห้าวดังมาจากด้านหลัง เสียก่อน ชายฉกรรจ์หรี่ตามองชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะเป็นฝ่ายน�ำทางจนไปถึง ห้องน�้ำ “ขอบคุณมากครับ ผมนี่แย่จริงๆ เลย” มัธวียล์ อบเป่าลมออกจากปากแล้วเดินเข้าห้องน�ำ้ ไป ไม่นานก็กลับออกมา ทีโ่ ต๊ะอาหารตามเดิม เอกพันเองก็ดเู หมือนกระวนกระวายทีม่ ธั วียห์ ายไปนานพอดู “เป็นไงเพื่อน” 13


ด้วย”

“เกือบไปแล้ว เรียกก�ำลังเสริมเถอะ รู้สึกว่าพวกมันเพิ่งลงของลอตใหม่

เอกพันพยักหน้าแล้วไม่นานมัธวีย์จึงได้ยินเสียงคู่หูพูดอยู่กับปลายสาย โดยใช้โทรศัพท์ที่ใส่เครื่องรับฟังอยู่ที่หูตลอดเวลา “เสือโคร่งเรียกเหยี่ยวขาว เสื้อโคร่งเรียกเหยี่ยวขาว” เสียงเอกพันหนัก แน่นแต่เบา แม้กระทั่งมัธวีย์เองยังจับใจความได้ไม่ถนัดนัก “เหยี่ยวขาวพูด ว่ามา” ปลายสายตอบรับมาในทันทีด้วยน�้ำเสียงดังกว่า ฝ่ายของเอกพันมากนัก “เสื้อโคร่งพร้อมแล้ว แบ่งก�ำลังเป็นสองฝ่าย ดักด้านหลังเป็นส่วนใหญ่ ด่วน” เอกพันเน้นย�้ำค�ำว่าด่วนหนักๆ “รับทราบ เลิกกัน” เอกพันหันมาพยักหน้ากับมัธวีย์เมื่อพูดเสร็จ “นอกจากพนักงานเสิร์ฟ มีพวกมันอยู่สองคนที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเก็บของ... แกกับฉัน” “โอเคเพื่อน ลุยกัน” เอกพันหักนิ้วตัวเองเสียงดังกร๊อบเป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมไปลุยเต็มที ทั้งสองเดินมายังส่วนที่มัธวีย์เข้ามาดักอยู่เมื่อสักครู่ และเข้ามาแอบอยู่ยังบริเวณที่ มัธวีย์มาส�ำรวจไว้ก่อนแล้ว มีชายฉกรรจ์สองคนอย่างมัธวีย์ว่า ยืนคุยกันอยู่หน้า ห้องเก็บของ มัธวียช์ นี้ วิ้ ไปทางเอกพันก่อนจะส่งตรงไปทางด้านซ้ายเป็นสัญญาณให้ เพื่อนหนุ่มเก็บคนซ้าย ตัวเองเก็บคนทางขวา เอกพันพยักหน้ารับ แล้วสองหนุ่ม ก็ออกไปยืนประจันหน้ากับชายฉกรรจ์ร่างยักษ์ “ผมมาขอความช่วยเหลือครับ เชิญมาทางนี้หน่อย ทั้งสองคนเลยครับ” มัธวีย์เป็นฝ่ายพูด “มีอะไรอีกล่ะคุณ เมือ่ กีก้ ห็ าห้องน�ำ้ ไม่เจอ แล้วตอนนีอ้ ะไรอีกล่ะ” ชายคน ที่น�ำทางมัธวีย์เข้าห้องน�้ำพูดขึ้น “มาเถอะครับ ช่วยผมหน่อย มีคนหมดสติอยู่ในห้องน�้ำ” เอกพันเลย ช่วยพูดอีกแรงเมื่อเห็นว่าทั้งสองยังนิ่งเงียบกันอยู่ ชายฉกรรจ์สองคนมองหน้ากันก่อนจะยอมเดินตามสองหนุ่มไป เอกพัน หลบให้พวกมันทั้งสองคนเดินตามการน�ำของมัธวีย์ไป ส่วนเขาเดินปิดท้าย ทันที 14


เรืองริน

ที่ทุกคนเข้ามาในห้องน�้ำ เอกพันปิดประตูลงกลอนเงียบกริบเพื่อปิดประตูตีแมว ตามแบบฉบับของสองหนุ่มโดยที่พวกมันไม่ทันได้สนใจ “ไหนล่ะที่ว่าคนเป็นลม” คนที่เดินอยู่หลังมัธวีย์ถามขึ้นเมื่อไม่เห็นมีใครที่ อยู่ในห้องน�้ำเลยสักคน มัธวีย์ไม่พูดแต่หันไปพยักหน้ากับเอกพัน แล้วหมัดหนักๆ ก็ลอยตามลม ใส่หน้าชายร่างยักษ์ที่ยืนอยู่หน้ามัธวีย์เสียงดัง แล้วเขาก็ไม่จ�ำเป็นต้องซ�้ำอีกเพราะ บัดนี้มันสลบคอพับไปแล้วด้วยก�ำลังหมัดมหาศาลของเขา ผัวะ! “เฮ้ย! อะไรวะ พวกมึงจะท�ำอะไรพวกกู” คนที่โดนเอกพันรัดคออยู่ทาง ด้านหลังเสียงดังด้วยความตกใจ “ก็ท�ำอย่างนี้ไงเพื่อน” สันข้อมือของเอกพันทั้งสองข้างสับลงด้านหลัง ต�่ำกว่าท้ายทอย ร่างสูงใหญ่ทรุดฮวบหมดสติไปอย่างง่ายดาย สองหนุม่ จับร่างยักษ์ของคนร้ายเข้าไปยัดไว้ในห้องน�ำ้ ห้องหนึง่ ก่อนจะล้างไม้ ล้างมือและเดินออกจากห้องน�ำ้ เป็นเวลาเดียวกับทีไ่ ด้ยนิ เสียงของรถต�ำรวจก�ำลังเสริม ทีเ่ อกพันเป็นคนเรียกไป เจ้าหน้าทีเ่ ข้ามาตรวจค้นภายในร้าน ลูกค้าทัง้ หลายแตกตืน่ เมื่อเห็นต�ำรวจหลายนายเข้ามายืนคุมสถานการณ์อยู่รอบด้าน “ไม่มอี ะไรครับ ขอให้ทกุ คนอยูใ่ นความสงบ ทางต�ำรวจทราบว่าทีร่ า้ นแห่งนี้ มีการเก็บยาเสพติดไว้ นี่ครับหมายค้น” นายต�ำรวจนายหนึ่งเข้ามาคุยกับหัวหน้าพนักงานแล้วส่งหมายค้นให้ดู มัธวีย์กับเอกพันเดินออกมาทันขณะที่ก�ำลังเสริมค้นห้องเก็บของ ซึ่งมันเป็นจริง อย่างที่ว่า ร้านอาหารแห่งนี้เป็นโกดังเก็บของขนาดย่อมเพื่อขนถ่ายของให้กับผู้ค้า รายย่อยในกรุงเทพฯ มัธวียห์ นั ไปพยักหน้าส่งไปทางห้องน�ำ้ กับดาบต�ำรวจนายหนึง่ ซึง่ ต�ำรวจอีกสองคนเดินเข้าไปควบคุมร่างของชายเคราะห์รา้ ยทีส่ องหนุม่ จัดการไว้ แล้วใส่กุญแจมือก่อนจะพาขึ้นรถของต�ำรวจ “ไปเถอะ ขืนยังอยูเ่ ดีย๋ วใครจับได้วา่ เราเป็นต�ำรวจจะแย่” เอกพันเอ่ยขณะที่ สายตากวาดมองไปรอบๆ

15


“อือ” สองหนุ่มเดินออกมาทางหน้าร้านที่เป็นลานจอดรถก่อนจะขับออก ไปจากร้านอาหารแห่งนั้นเหมือนอย่างเช่นทุกครั้งที่ทั้งสองปฏิบัติงานจะไม่อยู่ให้ ใครทันสังเกต “คงได้มากโขอยู่นา เห็นทีพวกมันคงนั่งไม่ติดแน่ล่ะคราวนี้ สะใจเป็นบ้า เลยว่ะ ฮ่าๆ” “นี่ยังเล็กน้อย พวกมันก็ชะล่าใจเกินไป คราวหน้ามันคงรัดกุมมากขึ้น เราจะท�ำงานยาก... ให้ตายสิ” อยูๆ่ มัธวียก์ ส็ บถออกมาเสียงดังจนเอกพันยังแปลกใจ “อะไรของแกวะไอ้มาร์ค” “แกช่วยจับพวงมาลัยหน่อย คันตาเป็นบ้าเลยว่ะ” อยู่ๆ มัธวีย์ก็ปล่อยมือ จากพวงมาลัยรถ ท�ำให้เอกพันรีบคว้าหมับไว้ด้วยอาการตกใจ “เฮ้ยๆ อะไรของแก นึกจะปล่อยพวงมาลัยก็ปล่อย ไม่ใช่รถบัมพ์นะโว้ย แถมยังเหยียบคันเร่งเสียผียังตามไม่ทันอีก โธ่ ไอ้นี่” เอกพันบ่นออดแอด แต่ ก็ยอมคว้าพวงมาลัยไว้มั่นขณะที่มัธวีย์ท�ำอะไรอยู่กับใบหน้าของตน “ฉันแสบตาหรือตาบอดแล้วก็ไม่รู้” มัธวีย์โวยลั่น “เออ ตาแกแดงจริงๆ ด้วย” เอกพันยื่นหน้าเข้ามาดูขณะที่ก�ำลังจับ พวงมาลัยรถอยู่ โชคดีที่การจราจรบริเวณนั้นค่อนข้างจะเป็นทางโล่ง “ไอ้วิกนี่ก็เหมือนกัน ร�ำคาญเป็นบ้าเลย” มัธวีย์กระชากวิกจากศีรษะออก ปาทิ้งไปทางด้านหลังรถ เอกพันเองก็ท�ำด้วยเช่นกัน แถมด้วยหนวดปลอมดึง ทีเดียวจนแสบแปลบขึน้ มา แล้วมัธวียก์ ห็ นั ไปวุน่ วายอยูก่ บั การถอดคอนแทกต์เลนส์ “แกท�ำความสะอาดมันบ้างไหมวะ” “ก็ทุกครั้งที่ใส่ฉันก็ถอดออกล้างตลอด” “ล้างยังไงวะ?” เอกพันยังถือพวงมาลัยค้าง “บ๊ะไอ้นี่ ถามมากจริง ก็ล้างกับน�้ำสะอาดสิ ให้ล้างกับน�้ำอัดลมหรือไง ยุง่ จริง” มัธวียเ์ ริม่ ขึน้ เสียงหัวเสียกับอาการระคายเคืองตา ส่วนเอกพันตบเข่าตัวเอง ฉาดใหญ่ “แล้วกัน ทีเรื่องอื่นฉลาดจังนะแก” “นี่แกจะหาว่าฉันโง่เหรอ” มัธวีย์หันไปหยิบกล่องใส่คอนแทกต์เลนส์มา เก็บข้างที่ถอดเสร็จแล้ว 16


เรืองริน

“ก็เออสิวะ ใครเขาล้างคอนแทกต์เลนส์กับน�้ำเปล่าบ้าง ถามจริงเถอะ แกไปซื้อไอ้คอนแทกต์เลนส์อันนี้มาจากตลาดนัดหรือเปล่าวะ” “บ้าสิ ฉันก็กลัวตาบอดเหมือนกันนะ” มัธวีย์เสียงดังขึ้นมาอีก “แล้วแกใช้คอนแทกต์เลนส์อันนี้มานานเท่าไหร่วะ” เอกพันยังถามไม่เลิก “ก็ตั้งแต่ที่เราเริ่มปลอมตัวกันนั่นแหละ ถามท�ำไม” เอกพันจุปากพร้อม โคลงหัว “บรรลัย ถึงว่า รู้ไว้เสียด้วยนะครับสารวัตรมัธวีย์ คอนแทกต์เลนส์น่ะเขา ใช้กนั แค่สองสัปดาห์เท่านัน้ แล้วการล้างเขาจะใช้นำ�้ ยาทีม่ าพร้อมกับคอนแทกต์เลนส์ นั่นแหละ การล้างกับน�้ำเปล่าเป็นวิธีที่ผิดรู้ไว้เสียด้วย โธ่ ฉันไม่รู้จะด่าแกยังไงดี” “อ้าวเหรอ ถึงว่ามันคันตาพิลึก” พูดแล้วก็ปากล่องคอนแทกต์เลนส์ทิ้ง เมื่อถอดเสร็จพลางคิดว่าคงไม่ใช้มันแล้ว เลยไม่ต้องทะนุถนอมมันอีก “จะไม่คันยังไงเล่า ก็เล่นใส่มาตั้งหลายเดือน แกเนี่ยน้า” เอกพันส่ายหัว ก่อนจะปล่อยมือจากพวงมาลัยเมื่อเพื่อนหนุ่มคว้าพวงมาลัยไว้ด้วยมือเดียว “ฉันจะตาบอดไหมวะ” “คงยัง ไปหาหมอก่อน โน่นไง เลี้ยวเลยคลินิกข้างหน้า” มัธวีย์มองตาม นิว้ ยาวของเอกพัน ไม่เกินห้าร้อยเมตรเป็นคลินกิ ชือ่ มิตรทิวารักษาโรคทัว่ ไป มัธวีย์ เลยหมุนพวงมาลัยเข้าข้างทางก่อนจะจอดลงตรงหน้าคลินิกพอดี “แกจะเข้าไปด้วยหรือปล่า” มัธวียเ์ อ่ยขึน้ ขณะทีม่ อื หนาเลือ่ นไปบิดกุญแจรถ “ขอนัง่ ในรถได้ไหมวะ” เอกพันเอนหลังพิงพนักก่อนจะปรือตามองเพือ่ นหนุม่ มือทั้งสองประสานไว้ที่ท้ายทอย “ตามใจ” มัธวีย์ว่าแล้วถอดเสื้อสูทสีด�ำสนิทพร้อมทั้งเนกไท แล้วตามมา ด้วยสายหนังปืนสั้นประจ�ำกาย ก่อนจะปลดกระดุมลงมาสองเม็ดแล้วออกจากรถ เดินเข้าไปในคลินิก เอกพันมองตามร่างสูงของมัธวีย์แต่สายตากลับชะงักนิ่งเมื่อตาคมไปจับ เข้ากับร่างบางของสาวในชุดพยาบาลที่เดินออกมาจากคลินิกเพื่อเอาขยะออกมา ทิ้งในถังที่วางอยู่ตรงฟุตบาทห่างจากรถของมัธวีย์เพียงไม่ถึงสิบเมตร “ใช่เลย คนนีแ้ หละทีค่ อยมานาน ขอบใจมากนะไอ้มาร์คทีแ่ กดันมาเจ็บตา เอาตอนนี้” เอกพันพูดคนเดียว เขาลงจากรถโดยที่ไม่ลืมปิดล็อก แล้วเดินตาม 17


ร่างบางในชุดพยาบาลเข้าไปภายในคลินกิ ผูค้ นไม่มากนัก เขาเห็นมัธวียน์ งั่ คอยคิว อยู่เลยเดินตรงเข้าไปนั่งอยู่ใกล้ๆ “เอ้า ก็ไหนแกบอกว่าไม่เข้ามาไง ไอ้นี่” “ฉันเจอของถูกใจว่ะเพื่อน” เอกพันพูดกับมัธวีย์ แต่ส่งสายตาหวานเยิ้ม มองไปยังเคาน์เตอร์ของนางพยาบาลหน้าห้องของนายแพทย์ “อะไรของแกอีกล่ะ” “นั่นไง สวยไหมวะ” มัธวีย์หันไปมองตามสายตาเอกพัน เจอเข้ากับ นางพยาบาลสาวสวยที่ยืนคอยรับบัตรคิวซึ่งเขาเจอก่อนหน้านั้นแล้ว “อือ ก็สวย สวยมากเลยด้วย” มัธวีย์แกล้งท�ำตาเยิ้มส่งไปให้เอกพันเห็น ก็เท่านั้น เขายอมรับว่าพยาบาลสาวคนนั้นสวยจริง แต่ก็ไม่ใช่สเปกเขา “ไม่ได้นะโว้ย คนนีฉ้ นั จอง จริงจังนะ” เอกพันรีบร้องห้ามเสียงดังจนผูป้ ว่ ย ข้างๆ ที่นั่งรอคิวอยู่หันมามองทั้งสองหนุ่มกันเป็นตาเดียว “เออ ยังไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเสียหน่อย ท�ำหวงไปได้ ท่าจะเป็นเอามาก นะแกเนี่ย” “รักแรกพบ” พูดแล้วก็หลับตาพริม้ ส่งจูบลมจูบแล้งไปตรงหน้า ก่อนจะหัน มาคว้าแขนของมัธวีย์เขย่าแรงๆ “ฉันขอเข้าไปห้องตรวจกับแกด้วยนะ เผื่อจะได้ ใกล้ชดิ กับคุณพยาบาลคนสวยบ้าง โน่นไง เห็นเข้าไปในห้องตรวจทุกรอบเลย ขอให้ ได้เบอร์โทรศัพท์ก็ยังดี” “เฮ้ย เร็วขนาดนั้นเลยเหรอวะ” “ก็เออสิวะ” เอกพันยักคิ้วให้เพื่อนทีหนึ่งแล้วยิ้มหน้าบานอย่างหมายมั่น ปั้นมือว่าต้องได้สานสัมพันธ์กับพยาบาลสาวสวยที่หมายปอง “แกยังไม่รู้เลยนะว่าเขาเป็นยังไง ไม่แน่อาจแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ได้” มัธวีย์เตือนอย่างนึกเป็นห่วง เพราะรู้ดีว่าเอกพันถ้าลองได้รักใครแล้วก็รักจริง แล้วก็อกหักมาเป็นสิบๆ รอบแล้วด้วย ค่าที่ไปรักเอาแฟนชาวบ้านเขา “เชิญ คุณมัธวีย์ เวทศิริพิพัฒน์ ค่ะ” “เสียงหวานเป็นบ้าเลยว่ะ ไปสิ ฉันจะได้ตามไปด้วย” สองหนุ่มลุกขึ้นพร้อมกัน เดินตรงไปยังห้องตรวจที่พยาบาลคนสวยยืน คอยอยู่หน้าห้อง มัธวีย์ส่งยิ้มให้พยาบาลสาวแล้วเดินเข้าไปก่อน ส่วนเอกพันเดิน 18


เรืองริน

ตามเพือ่ นหนุม่ เข้าไป แต่กย็ งั หันกลับมาเผชิญหน้ากับนางพยาบาลสาวทีก่ ำ� ลังจะเดิน ตามหลังเขาเข้าไปภายในห้องตรวจด้วย เอกพันหยุดกะทันหันจนร่างบางเกือบจะ ชนเอาแผ่นหลังกว้างในชุดเสื้อสูทที่ส่งให้เจ้าของร่างสูงดูเท่บาดตา “ผมขอเข้าไปด้วยได้ไหมครับ” เอกพันส่งยิม้ หวานหยดให้พยาบาลสาวสวย ที่เขาหมายตา ร่างบางดูเล็กไปถนัดเมื่อมายืนเทียบความสูงกับเขา “เชิญค่ะ” วนิดาหรือดาก้มหน้างุดเมือ่ เห็นสายตาของเขา หญิงสาวแทรกตัว ผ่านหน้าชายหนุ่มเข้าไปข้างใน เอกพันยิ้มตามร่างบางที่หน้าแดงโดยที่เจ้าตัวก็อาจจะไม่รู้ เขาทันได้เห็น ป้ายชื่อที่หน้าอกของหญิงสาว แถมยังนึกชมในความตาไวของตัวเองอีกด้วย “วนิดา มิตรทิวา ชื่อก็น่ารัก คนอะไรก็ไม่รู้” เอกพันพูดเบาๆ ตามหลัง วนิดาไป แล้วจึงเดินเข้ามานัง่ ใกล้กบั มัธวียท์ กี่ ำ� ลังยืน่ ใบหน้าหล่อเหลาไปให้แพทย์ วัยกลางคนใช้ไฟฉายส่องดวงตาทัง้ ซ้ายและขวา ตลอดเวลาเอกพันมองตามร่างบาง อยูไ่ ม่หา่ ง ไม่วา่ จะเดินไปทางไหนสายตาของเอกพันก็จบั จ้องอยูต่ ลอด จนวนิดาเอง ประหม่าจนต้องออกจากห้องไปรอเรียกบัตรคิวข้างนอกตามเดิม เอกพันยิ้มข�ำ เมื่อเห็นอาการเอียงอายของหญิงสาว “หมอให้ยาหยอดตาและก็ยาแก้อักเสบไปทาน อาทิตย์หน้าหมอนัดมาดู อาการหน่อยนะครับ” “ได้ครับ” มัธวียร์ บั ใบนัดจากหมอวัยกลางคนก่อนจะออกมารอรับยาข้างนอก เอกพันแย่งท�ำหน้าที่ไปรับยาแทนเขาเสียเองเพราะอยากใกล้ชิดกับพยาบาลสาว แต่กม็ เี สียงทุม้ นุม่ หูดงั มาท�ำลายความหวังของเอกพันเสียก่อนทีจ่ ะได้เบอร์โทรศัพท์ ของนางพยาบาลที่เขาหมายปอง เอกพันหันไปมองตามเสียง พบชายหนุ่มหน้าตาดีแต่สูงไม่เท่าเขากับ มัธวีย์ที่เข้ามายืนเกาะเคาน์เตอร์คุยอยู่กับหญิงสาว ท่าทางเหมือนคนรู้จักมักคุ้น กันเป็นอย่างดี “ดา คลินิกยังไม่ปิดอีกเหรอ นี่ก็เย็นมากแล้วนะ” “เหลือคนไข้อกี สามราย หลังจากนีก้ ไ็ ม่รบั แล้วล่ะค่ะ” วนิดาเงยหน้าขึน้ มา เมื่อเห็นว่าเป็นใครแล้วก็ก้มหน้าก้มตาท�ำงานต่อ เอกพันแอบสังเกตเห็นหญิงสาวใบหน้าหมองลงเมือ่ เผชิญหน้ากับชายหนุม่ 19


ผูม้ าใหม่ ครัง้ แรกเขาเสียใจไม่นอ้ ยทีค่ ดิ ว่าพยาบาลสาวสวยตรงหน้าคงมีแฟนแล้ว แต่เมื่อเห็นสายตาและใบหน้าเศร้าสลดก็คิดว่าเขาน่าจะยังมีหวังอยู่บ้าง “อือ ดีเลย พี่ว่าจะมาขออนุญาตคุณลุงพาดาไปดูหนังรอบดึกด้วยกัน” “พรุ่งนี้ดาต้องเข้าเวรเช้า คงไปด้วยไม่ได้หรอกค่ะ” วนิดายังพูดอยู่กับ ชายหนุ่มที่ชื่อศิลา ไม่นานถุงยาพร้อมเงินทอนก็ยื่นมาตรงหน้าเอกพัน หญิงสาว ยิ้มให้เขานิดเดียวก่อนจะหันไปพูดกับศิลาต่อ เอกพันเลยถอยฉากออกมาเสีย “เป็นไงล่ะ ท่าทางจะกินแห้วอีกตามเคย” มัธวีย์เข้ามากระซิบให้ได้ยินกัน สองคน เอกพันหน้างอท�ำปากยื่นก่อนจะเดินน�ำมัธวีย์มาที่รถ สองหนุ่มเข้ามานั่ง อยู่ในรถ มัธวีย์ยังท�ำหน้าที่ขับรถตามเดิม “วันที่หมอนัด ฉันขอมาด้วยนะ” เอกพันฉกใบนัดที่มัธวีย์วางไว้หน้ารถ ขึ้นมาดู “จะมาให้ช�้ำใจอีกท�ำไม แกก็เห็นว่าเขาสองคนดูสนิทกันจะตาย” มัธวีย์ ออกรถด้วยความเร็วเหมือนเช่นเคย “แต่ฉันไม่คิดอย่างแก ฉันว่าฉันยังมีหวังอยู่” “เฮ้ย แกเนี่ยน้า เจ็บแล้วไม่รู้จักจ�ำ” มัธวีย์มองใบหน้าเรียบเฉย ติดจะ เย็นชาของเอกพันแล้วส่ายหัวช้าๆ “ฉันไม่หล่อเลยหรือวะ ท�ำไมฉันอกหักตลอดเลย” เอกพันเปรยขึน้ มาเบาๆ “ใครว่า แกหล่อระเบิดเลยเพื่อน แต่อาจเป็นกรรมที่แกไปท�ำผู้หญิงไว้ เยอะมั้ง แกเลยไม่สมหวังสักที” มัธวีย์หันไปมองหน้าเพื่อนอย่างเห็นใจ ทุกครั้งที่เอกพันอกหักก็ท�ำหน้า อย่างนี้ตลอด ไม่ใช่ว่าเอกพันเพื่อนของเขาหน้าตาจะดูไม่ได้ เอกพันติดจะหล่อ บาดใจเสียอีก รูปร่างหรือก็สูงสมส่วนพอฟัดพอเหวี่ยงกับเขา แถมที่บ้านฐานะยัง ร�่ำรวยล้นฟ้า ไม่ต้องท�ำงานอะไรเลยก็มีกินไปตลอดชาติ แต่เพราะความที่เพื่อน ของเขาเป็นเสือผูห้ ญิง ควงไปนอนด้วยไม่เว้นแต่ละวัน แถมยังปฏิเสธผูห้ ญิงทีไ่ ม่ชอบ อย่างตัดบัวไม่ให้เหลือใยอีกก็หลายครั้ง อาจเป็นผลกรรมให้ต้องอกหักจากคน ที่รักอยู่หลายรอบก็เป็นได้ “ไปกินเหล้ากันดีกว่าไอ้มาร์ค” เอกพันเอนเบาะลงแล้วประสานแขนทัง้ สอง รองศีรษะเปลือกตาปิดลงเหมือนว่าจะหลับ แต่ก็ยังคงคุยอยู่กับมัธวีย์ตลอดทาง 20


เรืองริน

“โธ่ แกจะไม่ให้ฉันพักบ้างเหรอไง แกเล่นลากฉันไปกินทุกวันจนฉันจะ เป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มแล้วนะโว้ย” มัธวีย์โวยทันทีเมื่อเอกพันชวนออกไปดื่ม ปกติ พวกเขาทั้งสองก็ดื่มแทบทุกวันอยู่แล้ว “ก็มันเครียดนี่หว่า” เอกพันบอกมาตายังปิดสนิทอยู่อย่างเดิม “แกก็เครียดเสียทุกวันนัน่ แหละ แล้วจะไปทีไ่ หน ฉันล่ะเบือ่ แกจริงๆ” มัธวีย์ ไม่ได้ปฏิเสธอะไรมากนัก แต่ยังไม่วายบ่นเพื่อนหนุ่ม “ก็ผับเปิดใหม่ที่ชื่อสวิงไง” “ที่ไหนวะ” มัธวีย์ท�ำหน้างงๆ หันไปมองเอกพันที่พูดแต่ก็ไม่ยอมลืมตา “ก็ใกล้คอนโดแกนั่นแหละ นี่แกไปอยู่ไหนมาวะไอ้มาร์ค” เอกพันดึงตัว ลุกขึ้น ใช้แขนยันเบาะรถไว้หันข้างมาทางมัธวีย์พลางส่ายศีรษะไปมา “ก็ฉันไม่ใช่นักเที่ยวยามราตรีอย่างแกนี่หว่า ฉันขอกลับคอนโดไปอาบน�้ำ ก่อนแล้วกัน แกล่ะ” “ไปอาบน�ำ้ กับแกด้วยดีกว่า ขีเ้ กียจกลับบ้าน เดีย๋ วคุณแม่ไม่ให้ออกมาอีก ยืมเสื้อผ้าแกด้วย” ด้วยความทีส่ องหนุม่ รูปร่างใกล้เคียงกันเลยใส่เสือ้ ผ้ากันได้โดยเฉพาะเอกพัน มักจะมาอาบน�้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าของมัธวีย์ออกไปเที่ยวบ่อยๆ เพราะถ้าขืนกลับบ้าน มารดาของเอกพันที่หวงลูกชายยังกับอะไรดีคงไม่ให้ออกมาแน่ แถมบางครั้งหาก ติดลมจนถึงเช้ายังลากสังขารมาอาบน�้ำที่คอนโดเขาและเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาไป ท�ำงานอีกตามเคย มัธวีย์ส่ายศีรษะพลางถอนหายใจหนักหน่วงก่อนจะพารถ แลนด์โรเวอร์เจ็ดที่นั่งสีด�ำมันวาวกลับคอนโดใจกลางเมืองกรุง ถึงปากจะบ่น แต่ก็ยอมไปเป็นเพื่อนเอกพันอยู่ดี ผับเปิดใหม่ชอื่ สวิงมีนกั เทีย่ วยามราตรีทยอยกันเข้ามาไม่ขาดสายอาจเป็น เพราะยังใหม่อยู่ หลายๆ คนเลยสนใจอยากลองมาใช้บริการดู สองหนุ่มเลือกขึ้น ไปนัง่ อยูบ่ นชัน้ ลอยซึง่ ทีน่ งั่ ก็อยูร่ มิ สุดสามารถมองเห็นนักเต้นชัน้ ล่างได้อย่างถนัด “ที่นี่ไม่เลวนะ ใกล้คอนโดฉันด้วย” มัธวีย์เอ่ยขึ้นขณะที่นั่งจิบเหล้าชั้นดี สายตากวาดมองบรรยากาศรอบๆ บริเวณอย่างพอใจ 21


“เออ สงสัยคงต้องมาเป็นลูกค้าประจ�ำทีน่ เี่ สียแล้ว ทัง้ สถานที่ อาหาร สาวๆ ก็น่าลิ้มลองไปหมด” เอกพันยักคิ้วให้สาวๆ โต๊ะข้างๆ “คิดแต่เรื่องสาวๆ แหละแก” มัธวีย์ว่าเข้าให้อีกรอบ “เฮ้ย ไอ้มาร์ค สาวๆ โต๊ะนั้นเขาชูแก้วให้เราว่ะ รับหน่อยสิเพื่อน” เอกพันยกแก้วขึ้นชูก่อนจะกระดกรวดเดียวหมดเรียกเสียงตบมือของ สีส่ าวโต๊ะนัน้ ได้อย่างดี มัธวียก์ แ็ ค่ยกขึน้ จิบไม่ได้บา้ อวดสาวเหมือนเพือ่ นเขีย้ วลากดิน ของเขา “ฉันว่าคืนนี้คงสนุกล่ะ สักคนไหมไอ้มาร์ค เดี๋ยวฉันเจรจาให้” เอกพัน ขยับมากระซิบที่ข้างหูของมัธวีย์ “พอเลยแกไอ้เพื่อนเอก เชิญแกคนเดียว” มัธวีย์ส่ายหัวดิกเมื่อรู้ว่าเพื่อน ต้องการให้เขาพาสาวๆ กลับห้องด้วย “โธ่ สักคนเถอะวะ ท�ำงานเครียดๆ มาหลายวัน ผ่อนคลายเสียบ้าง ไอ้รอยย่นบนหน้าผากของแกจะได้ลดลงมั่ง นะ ฉันจัดให้ รับรองถูกใจชัวร์” ไม่พูดเปล่าเอกพันลุกขึ้นเดินไปหาสาวๆ โต๊ะที่ชูแก้วให้เมื่อสักครู่ ไม่นาน เอกพันก็เดินกลับมาพร้อมสาวสวยในอ้อมแขนถึงสองคน คลอเคลียนัวเนียกันมา ทิ้งตัวลงนั่งใกล้ๆ กับมัธวีย์ ชายหนุ่มส่ายหน้าพลางคิดในใจว่า เชื่อมันเลย ไอ้เพื่อนคนนี้ อยากได้สาวคนไหนเป็นต้องได้ ยกเว้นคนที่คิดจริงจังจะให้มาเป็น แม่ของลูกมัน เขาเห็นกินแห้วมาตลอด “สงสัยสาวๆ อยากกินไอ้หรั่งว่ะ ยังไม่ทันได้พูดเลยก็เสนอเสียแล้ว” เอกพันแอบมากระซิบเขา “ฉันว่าสาวๆ อยากกินไอ้หล่อมากกว่าว่ะ” มัธวียก์ ระซิบไปอาการเดียวกัน แล้วทั้งสองหนุ่มก็หัวเราะเบาๆ อย่างรู้กัน

22


เรืองริน

2 ลงโทษคนทำ�ผิด

เพียะ! ใบหน้าเรียวสวยสะบัดไปตามแรงฝ่ามืออวบใหญ่ที่ฟาดลงมาเพื่อลงโทษ คนที่ท�ำงานผิดพลาด เมื่อข่าวการบุกตรวจค้นแหล่งเก็บยาเสพติดที่ต�ำรวจไปยึด เป็นของกลางเมือ่ ช่วงบ่ายจัดเข้ามาถึงหูของนายพลอรัญ และคนทีต่ อ้ งโดนลงโทษ กับความสะเพร่าครั้งนี้ซึ่งก�ำลังรับความเจ็บปวดอยู่ “แกรูห้ รือเปล่าว่าเราต้องขาดทุนไปเท่าไหร่” เสียงทรงอ�ำนาจตวาดลัน่ ห้อง “ร้อยล้านค่ะ” เสียงหวานที่ติดเรียบเฉยเย็นชาเอ่ยกับ นายพลอรัญ จิตรารัศมี “ใช่ ร้อยล้าน แกมันท�ำงานสะเพร่า กี่ครั้งแล้วที่ฉันมอบหมายงานให้ท�ำ ล้มเหลวตลอด แล้วคราวนี้ท่านรัฐมนตรีท่านไม่พอใจมาก ถ้าของเสียหายจาก มือเราเองท่านไม่ว่า แต่นี่ดันให้ไอ้พวกต�ำรวจหน้าโง่ยึดไปเป็นของกลางหมด แกจะรับผิดชอบไหวไหม บอกมาซิ” “จะให้รสไปมอบตัวเลยไหมคะ ทุกอย่างจะได้จบ” รสสุคนธ์แกล้งพูดไป อย่างนัน้ ทัง้ ๆ ทีร่ วู้ า่ มันเป็นไปไม่ได้ หากเป็นอย่างนัน้ จริงนายพลอรัญและคุณหญิง รจเรศจะเดือดร้อน หรือไม่ต�ำรวจก็อาจจะสาวรอยถึงตัวการใหญ่อีกหลายคนได้ 23


“รสสุคนธ์!” นายพลอรัญเรียกเสียงดังดุดัน เพียะ! มือหนาอวบสะบัดใส่ใบหน้าเรียวอีกรอบ ซ�ำ้ รอยเดิมจนเลือดไหลย้อนลง มาตามมุมปาก ถึงเจ็บปวดแสนสาหัสแค่ไหนแต่รสสุคนธ์กไ็ ม่แม้แต่จะหลัง่ น�้ำตาให้ นายพลอรัญเห็น หลายปีมาแล้วที่รสสุคนธ์ต้องท�ำงานผิดกฎหมายเพื่อทดแทนบุญคุณ ข้าวแดงแกงร้อนที่นายพลอรัญและคุณหญิงรจเรศได้หยิบยื่นจุนเจือมาให้ ตั้งแต่ ไปรับเธอมาจากสถานเลี้ยงเด็กก�ำพร้าด้วยวัยเจ็ดเดือนเท่านั้น โดยยกเธอให้เป็น บุตรสาวคนโต และเมื่อเธออายุได้แค่ปีเศษ คุณหญิงก็ตั้งท้องโรสริน จนกระทั่ง วันหนึ่งเธอได้ยินจากปากของท่านทั้งสองที่คุยกันว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ รสสุคนธ์ เก็บง�ำความรูส้ กึ มาตลอด ทัง้ บ้านมีนายพลอรัญคนเดียวเท่านัน้ ทีร่ วู้ า่ เธอรูค้ วามจริง ว่าไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของจิตรารัศมี คุณหญิงรจเรศทั้งรักทั้งดูแลเอาใจใส่เธอ อย่างดี จนเธอไม่อาจทรยศท่านได้ อีกทั้งโรสรินลูกสาวแท้ๆ ของนายพลและ คุณหญิงรจเรศที่เข้าใจมาตลอดว่าเธอคือพี่สาวแท้ๆ โรสรินทั้งรัก ทั้งบูชาเคารพ เธอในทุกด้าน และมักจะติดเธอแจไม่ยอมให้หา่ งไปไหนโดยทีไ่ ม่ได้ไปด้วย ยกเว้น ตอนที่เธอไปท�ำงานเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ที่ท�ำให้รสสุคนธ์ต้องทนท�ำงานรับใช้นายพล ต่อไป ทั้งบ้านไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังของท่านนายพลอรัญแย่แค่ไหน นอกจาก รสสุคนธ์เพียงคนเดียวเท่านัน้ ทีบ่ งั เอิญไปรูเ้ ห็นถึงธุรกิจผิดกฎหมายทีน่ ายพลอรัญ และข้าราชการชัน้ ผู้ใหญ่หลายท่านร่วมกันท�ำ หลายครัง้ หลายคราทีร่ สสุคนธ์เกือบ จะไปแจ้งความกับต�ำรวจเพราะทนกับการท�ำเรื่องผิดกฎหมายไม่ได้ แต่เมื่อนึกถึง บุญคุณทีท่ ำ� ให้ตวั เองเติบใหญ่มาได้กต็ อ้ งยอมก้มหน้าก้มตาท�ำงานนีต้ อ่ ไป จนชีวติ ของเด็กก�ำพร้าอย่างเธอจะดับสูญไปในสักวันหนึ่ง “ไป ออกไปได้แล้ว อ้อ แต่เตรียมหาค�ำตอบดีๆ กับท่านรัฐมนตรีด้วย แล้วกัน คราวนี้ฉันจะไม่ช่วยอีกแล้ว” ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เมือ่ ได้ยนิ เสียงเคาะประตูหอ้ งท�ำงาน ทัง้ สองเลยรีบปรับสีหน้าและอารมณ์ ให้ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 24


เรืองริน

“คุณพ่อขา ให้โรสเข้าไปได้หรือเปล่าคะ” “เข้ามาสิลูก” รสสุคนธ์รีบดึงเอาผมลงมาปิดใบหน้านวลที่เป็นรอยแดงเห็นได้ชัด เพื่อ ไม่ให้โรสรินสังเกตเห็น ไม่นานร่างบอบบางเดินตรงเข้ามากอดเอวบางของพี่สาว แต่สายตากลับมองไปยังบิดา “โรสขออนุญาตออกไปเที่ยวได้ไหมคะ” โรสรินท�ำเสียงออดอ้อนบิดา “จะเที่ยวอีกแล้วหรือลูก พ่อเป็นห่วง เราชักจะชอบเที่ยวกลางคืนมากไป แล้วนะ” “โธ่ คุณพ่อขา อีกไม่กี่เดือนโรสต้องไปเรียนที่เมืองนอกแล้วนะคะ ให้โรสไปเที่ยวเถอะนะ นะคะ” “มีข้องอ้างตลอดนะเรา ก็ได้ แต่ต้องให้พี่สาวเราไปด้วย” ที่นายพลอรัญ อยากให้รสสุคนธ์ไปด้วยก็เพราะอยากให้ดแู ลโรสรินนัน่ เอง ท�ำไมรสสุคนธ์จะไม่รู้ ว่าท่านห่วงลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านจะพลาดพลั้ง “แน่อยู่แล้วล่ะค่ะ ถ้าไม่มีพี่รสจะสนุกตรงไหน” รสสุคนธ์หันมายิ้มกับ น้องสาว โชคดีที่โรสรินไม่ทันสังเกตรอยแดง “ถ้าอยากให้พี่ไปด้วยก็ให้พี่ไปอาบน�้ำก่อนนะ” “ได้ค่ะ เร็วๆ นะคะพี่รส” รสสุคนธ์เลยเลีย่ งเข้าห้องส่วนตัว อย่างน้อยๆ ก็มเี วลากลบเกลือ่ นรอยแดง บนใบหน้าได้บ้าง ครึง่ ชัว่ โมงให้หลังรสสุคนธ์เดินลงมาชัน้ ล่างในชุดเสือ้ เกาะอกสีดำ� สนิทและ กางเกงขายาว ส่งร่างบางให้ดูเพรียวมากยิ่งขึ้น โรสรินเมื่อเห็นพี่สาวลงมาก็รีบวิ่ง เข้ามาเกาะแขน มองพี่สาวอย่างชื่นชมกับความสวยที่ไม่อาจหาที่ติได้ “คุณพ่อล่ะ” ขณะเดินไปขึ้นรถรสสุคนธ์ก็ถามหานายพลอรัญ “พอทานข้าวเสร็จก็ขึ้นห้อง คงนอนหลับไปแล้วมั้งคะ” “เอ้า แล้วคุณแม่ไปไหน พี่เพิ่งนึกขึ้นได้ ตั้งแต่กลับมายังไม่เห็นคุณแม่ เลย” “ไปงานสมาคมอะไรสักอย่างเนีย่ แหละ คุณแม่ออกไปท�ำผมตัง้ แต่บา่ ยแล้ว กว่าจะกลับก็เที่ยงคืนโน่น” 25


“ถึงว่าสิ ยัยเด็กดื้อถึงอยากเที่ยวขึ้นมาเพราะทางสะดวกนี่เอง” รสสุ ค นธ์ หั น ไปบี บ จมู ก รั้ น ของโรสริ น แล้ ว เขย่ า ไปมาอย่ า งนึ ก เอ็ น ดู ถึงจะไม่ใช่พนี่ อ้ งกันแท้ๆ แต่รสสุคนธ์กร็ กั โรสรินมาก ด้วยความทีโ่ รสรินติดเธอแจ เป็นเด็กขีอ้ อ้ นจนไม่อาจท�ำห่างเหินกับสาวน้อยได้ลงคอ แม้จะรูว้ า่ ฐานะเธอกับสาวน้อย แตกต่างกันลิบลับ “แหม เบื่อจริงเลยคนรู้ทัน” โรสรินลูบจมูกตัวเองป้อยๆ แกล้งท�ำหน้างอ แต่ก็น่ารักในแบบฉบับของโรสริน สองสาวหัวเราะก่อนจะพากันออกจากบ้านไปจนถึงสถานบันเทิงชือ่ ดังแห่ง หนึ่งใจกลางเมืองกรุง ก่อนออกจากบ้านโรสรินได้โทรศัพท์ไปตามกลุ่มก๊วนที่เคย เที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ด้วยความที่โรสรินติดพี่สาวแจ ก็เลยมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ทัง้ เพือ่ นของเธอเองและเพือ่ นของพีส่ าวต่างเข้ากันได้ดโี ดยเฉพาะเรือ่ งเทีย่ วกลางคืน “เฮ้ย สองพีน่ อ้ งมาช้าจัง ปล่อยให้พวกเราคอยตัง้ นาน” กีรติทำ� หน้างอยืน คอยอยู่หน้าสถานบันเทิงพร้อมทั้งกลุ่มเพื่อนอีกห้าคน “ขอโทษนะจ๊ะกี้คนสวย รีบเข้าไปเถอะ” รสสุคนธ์เข้ามากอดเพื่อเอาใจ แล้วดึงแขนเพื่อนสาวเข้าไปในสถานบันเทิงแห่งนั้น “ว่าแต่ท�ำไมต้องมาที่นี่ล่ะ” “ก็ที่นี่เพิ่งเปิดใหม่ อยากลองดูบ้างน่ะพี่แอนนา เขามีส่วนลดด้วย มาเลย เดี๋ยวโรสจัดให้” กลุ่มสาวทั้งแปดคนเลือกได้โต๊ะที่ใกล้กับบาร์เครื่องดื่ม โรสรินเป็นคนสั่ง เครื่องดื่มทั้งหมดเพราะรู้อยู่แล้วว่าใครดื่มอะไรบ้าง “เฮ้ยๆ พี่รสดื่มเหล้าอย่างกับน�้ำเปล่ายังงี้เดี๋ยวก็เมาแย่ดิ” มุขสุดาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นพี่สาวเพื่อนที่เป็นกลุ่มก๊วนเดียวกันกระดกเหล้าหมดแก้ว “ฉันเครียดเรื่องงานนะ อย่าถือสาฉันเลยไอ้มุข” ด้วยความที่สนิทกัน สาวๆ เลยพูดเล่นหยอกล้อลูบหัวกันได้ “มีอะไรน่าเครียดจังวะคุณผู้จัดการ” นิหน่าเอ่ยแซวมาอีกที พร้อมด้วย เสียงเพื่อนๆ ที่ส�ำทับมาอีก ทุกคนแม้กระทัง่ กลุม่ เพือ่ นทีส่ นิทรูว้ า่ รสสุคนธ์ทำ� งานในต�ำแหน่งผูจ้ ดั การ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลในบริษัทที่ท่านนายพลอรัญมีหุ้นส่วนอยู่ด้วยครึ่งหนึ่ง ใช่... 26


เรืองริน

รสสุคนธ์ยอมรับว่าเธอท�ำงานนี้จริง แต่อีกงานที่ดูจะหนักหนากว่าเท่าตัวมันน่าจะ เครียดกว่ากันเยอะ และที่ส�ำคัญมันไม่สามารถเอามาบอกเล่าให้ใครฟังได้ แม้แต่ เพื่อนที่สนิทที่สุดก็ตาม “พีร่ สเครียดเรือ่ งอะไรไม่เห็นบอกโรสเลย” โรสรินถามพีส่ าวอย่างนึกเป็นห่วง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ โรสรินนัน้ เพิง่ จบมาหมาดๆ ยังไม่ได้หางานเป็นหลักเป็นแหล่งเพราะตัง้ ใจ จะไปเรียนต่อปริญญาโททีต่ า่ งประเทศโดยมีโครงการจะไปเรียนภาษาก่อนสองเดือน เพื่อรอลงทะเบียนเรียนในเทอมถัดไป เมื่อเห็นว่ารสสุคนธ์เอาแต่ดื่มอย่างเดียว อีกเจ็ดคนก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะ คิดว่าเพื่อนคงจะเครียดเรื่องงานมาจริงๆ ต่างดื่มกันจนได้ที่ ไม่นานก็ออกไปเต้น กันกระจายโดยเฉพาะรสสุคนธ์ที่เมื่อเหล้าเข้าปากทีไร เป็นต้องแดนซ์กระจาย รสสุคนธ์ดื่มไปด้วยเต้นไปด้วยภายใต้วงล้อมของหนุ่มๆ ที่เข้ามาคลอเคลียต่าง ก็ตกอยู่ภายใต้ของอ�ำนาจน�้ำเมากันทั้งนั้น มีบางคนมือไม้อยู่ไม่สุข จับนั่นแตะนี่ จนรสสุคนธ์ปัดป้องเป็นพัลวัน แต่ก็ยังยืนเต้นคลอเคลียกับพวกหนุ่มๆ ไม่เลิก “เฮ้ย ไอ้โรส ฉันว่าแกไปลากพีแ่ กกลับมาเต้นทีโ่ ต๊ะดีกว่าว่ะ” เบียร์สาวห้าว ในกลุม่ ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงเมือ่ เห็นท่าทางไม่คอ่ ยดีนกั ทีจ่ ะปล่อยให้เพือ่ นสาว ออกไปเต้นไกลหูไกลตา “เออ ฉันก็ว่างั้น อยู่ท่ามกลางหนุ่มชีกอพวกนั้นแล้วมันเสียวว่ะ” โบว์เป็น อีกคนที่ตะโกนกรอกช่องหูของโรสริน “ไปเถอะไอ้โรส ไปเอาพี่สาวแกกลับมาเลย หรือไม่แกก็ไปเต้นเป็นเพื่อน พี่แกเลย” แอนนาจึงเสริมมาอีกคน โรสรินเลยเดินเข้าไปแทรกกลุม่ ชายหนุม่ ทีพ่ ยายามเต้นล้อมหน้าล้อมหลัง พี่สาวเธออยู่ หญิงสาวเข้าไปตรงกลางวงเห็นหนุ่มหน้าตาดีก�ำลังโอบเอวรสสุคนธ์ อยู่ โรสรินเลยเดินเข้าไปปัดมือขาวเรียวนั้นออกพร้อมใบหน้าบึ้งตึงใส่ชายหนุ่ม จนฝ่ายนั้นไม่กล้าเข้ามายุ่ง ก่อนจะดึงร่างบางที่เดินเซน้อยๆ กลับมายังโต๊ะโดยที่ เจ้าตัวไม่ค่อยจะเต็มใจนัก “นี่ถามจริง แกจะหาผัวให้ได้คืนนี้หรือ” กีรติเดินอ้อมโต๊ะมากอดเอว รสสุคนธ์พร้อมกับตะโกนใส่หูเพื่อนสาวพูดไม่ค่อยจะจริงจังนัก 27


“ฮ่าๆ ได้ก็ดีสิกี้” รสสุคนธ์อดหัวเราะกับค�ำสัพยอกของเพื่อนไม่ได้ “ท�ำพูดไป ทีเขามาตามจีบตั้งหลายคนไม่สน แต่วันนี้จะมาคว้าเอาไอ้พวก ขี้เมาชีกอพวกนี้เสียได้” เบียร์ที่ได้ยินการสนทนาก็ตะโกนแข่งเสียงเพลงมาอีกคน “ไม่พูดกับพวกแกแล้ว ลงที่ฉันคนเดียวเลย ไปห้องน�้ำดีกว่า” รสสุคนธ์ เลยเลี่ยงที่จะไม่พูดกับใครอีกเพราะพูดไปก็เข้าตัวตลอด เพื่อนสาวของเธอก็ดู จะช่างพูดกันทั้งนั้น “ให้โรสไปเป็นเพือ่ นไหม” โรสรินถามอย่างเป็นห่วงเพราะเห็นอาการเดินเซ ของพี่สาว “ไม่ต้องหรอกจ้ะน้องรัก พี่ไปไม่นานหรอก” รสสุคนธ์เดินมาหยิกแก้มน้องสาวก่อนจะเดินเซตรงไปยังห้องน�้ำ หนุ่มๆ หลายคนยังไม่วายส่งแก้วไปให้ แต่รสสุคนธ์บอกปัดก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ แล้ว เดินจากไป “อุ๊ย ขอโทษค่ะ” ร่างบางเดินมาเกือบถึงห้องน�้ำอยู่แล้วด้วยความที่เห็นว่า ไม่ค่อยมีใครอยู่แถวหน้าห้องน�้ำมากนักเลยไม่ทันระวังตัว ร่างบางเลยเดินเข้าไป ชนอกของใครบางคนเข้าจนเกือบจะล้ม โชคดีที่ร่างที่เธอชนนั้นรับเธอไว้ได้ทัน รสสุคนธ์เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เธอเผลอเดินชน ใบหน้าใกล้กันจนอีกฝ่ายสัมผัส กลิ่นเหล้ารุนแรงจากหญิงสาวได้ แต่ด้วยมารยาทเขาจะท�ำเป็นรังเกียจก็ไม่ได้ “ตาคุณสวยจังค่ะ” รสสุคนธ์เผลอพูดเสียงแผ่วเบาออกไปด้วยอาการ ลืมตัว มัธวีย์ยอมรับว่าสาวร่างบางในอ้อมแขนคนนี้สวยบาดตาเลยทีเดียว แต่ เขาไม่ค่อยชอบผู้หญิงที่เมามายขนาดนี้เลยให้ตายสิ แต่ถ้าจะให้พาไปด้วยเป็น ครั้งคราวเขาก็พอจะรับได้อยู่หรอก ชายหนุ่มดันร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนให้กลับ มายืนในท่าปกติ “คุณไม่เป็นอะไรนะครับ” มัธวีย์เอ่ยถามไปทั้งๆ ที่รู้ว่าหญิงสาวไม่ได้เป็น อะไรมากนัก “เอ่อ ค่ะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร ขอตัวก่อนนะคะ” รสสุคนธ์พยายาม เรียกสติกลับคืนมา ก่อนจะบอกขอโทษเขาแล้วรีบพาตัวเองเข้าห้องน�ำ้ ไป หญิงสาว มายืนอยู่หน้ากระจก เธอไม่ได้เมาจนขาดสติ นัยน์ตาสีฟ้าสดใสของชายคนนั้นดู 28


เรืองริน

งดงามชวนมองพิลกึ เขาน่าจะเป็นชาวตะวันตก แต่เขาก็พดู ภาษาไทยกับเธอชัดแจ๋ว รสสุคนธ์หลงเคลิบเคลิ้มหน้ากระจกอยู่พักใหญ่ก่อนจะรีบท�ำธุระแล้วออกไปหา เพื่อนๆ ที่คอยอยู่ แต่ไม่วายยังคิดถึงชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าคนนั้น “เฮ้ย ไอ้มาร์ค แกไปห้องน�้ำหรือแกกลับไปนอนมาวะ ดูสิน้องๆ คอยอยู่ ตั้งนานแล้ว” เอกพันบุ้ยปากไปที่สาวสองคนที่มานั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยแล้วไม่นาน ก็คงจะได้ร่วมเตียงด้วยแน่นอน ตามประสาหนุ่มโสดที่มักพาสาวๆ ติดไม้ติดมือ กลับบ้านทุกครั้งที่ออกมาเที่ยวสถานบันเทิง ตามความพอใจของทั้งสองฝ่าย “เออ ขอโทษที” มัธวีย์ทิ้งตัวลงนั่งในที่เดิมโดยมีสาวสวยที่ชื่อจ๋านั่งอยู่ ข้างๆ “แหมสาวๆ พอเพื่อนพี่กลับมาก็เอาแต่หันไปมองมันเป็นตาเดียวเลยนะ อย่างนี้พี่เอกก็น้อยใจแย่สิ” เอกพันแกล้งเข้ามาเบียดชิดสาวสวยนางหนึ่งก่อนจะ เอนศีรษะซบกับไหล่ขาวเนียนนั้น มัธวีย์ส่ายศีรษะกับพ่อปลาไหล เขี้ยวลากดินจริงๆ ทีเมื่อตอนบ่ายยัง อกหักแบบไม่ได้ตงั้ หลักเลย มาตอนนีด้ มู นั สิ ท�ำยังกับทีต่ รงนีม้ มี นั กับสาวข้างกาย สองคนเท่านั้นแหละ “ไอ้เอกน้อยๆ หน่อย” “อิจฉาฉันเหรอ ก็น้องจ๋าคนสวยข้างกายแกนั่นแหละดูแลเขาหน่อย” เอกพันหันไปกกกอดสาวข้างกายแล้วจิบเหล้าที่สาวสวยยื่นมาจ่อให้ถึงริมฝีปาก สาวสวยก็ดูจะบริการถึงใจ สงสัยคืนนี้คงกระเป๋าหนักกลับบ้านเป็นแน่ แล้วคืนนั้นสองหนุ่มก็จบลงด้วยการพาสองสาวไปจัดการตามแบบฉบับ ของพวกเขาอย่างสุขสมด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายหนึ่งอยากปลดปล่อยอารมณ์ อีกฝ่ายก็อยากได้ทิปหนักๆ จากพวกเพลย์บอยกระเป๋าหนักทั้งหลาย สามวันผ่านไป “อาทิตย์หน้าเราไปพักผ่อนกันที่กาญจนบุรีดีไหมคุณหญิง พอดีเพื่อน สมัยเรียนมันท�ำรีสอร์ตอยู่ทางนั้น เพิ่งจะเจอมันเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เลยอยากหา โอกาสไปพักผ่อนและไปเยี่ยมมันด้วย” 29


“ได้หรือคะ ก็เห็นคุณเอาแต่ท�ำงาน” คุณหญิงรจเรศว่ามาเหมือนประชด ก็สามีเธอรักงานยิ่งกว่าอะไรดี “ก็นี่ไงล่ะ ผมเคลียร์งานไว้แล้วด้วย ไปเย็นวันศุกร์ กลับวันอาทิตย์ค�่ำๆ ก็ได้ กาญจนบุรีแค่นี้เอง นั่งรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง ว่าไงล่ะ” “ไปค่ะคุณพ่อ โรสอยากให้เราได้ไปพักผ่อนกันทัง้ ครอบครัวบ้าง” โรสริน แทรกขึ้นมาก่อน “ถ้าอย่างนั้นวันศุกร์หน้าออกเดินทางเลยแล้วกัน” นายพลอรัญสรุปทันที เมือ่ ไม่มใี ครคัดค้านและก็ไม่อยากให้ใครคัดค้านตามแบบฉบับของนายทหารทีต่ อ้ ง ออกค�ำสั่งกับผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ตลอด ทั้งหมดทานอาหารค�่ำกันเงียบๆ เมื่อเสร็จแล้วก่อนจะแยกย้ายกันไป นายพลอรัญเรียกรสสุคนธ์ไว้เสียก่อนที่หญิงสาวจะแยกตัวขึ้นไปห้องส่วนตัว “รส เดี๋ยวเข้าไปคุยงานกับพ่อหน่อย” “ค่ะคุณพ่อ” เมือ่ อยูต่ อ่ หน้าทุกคนทัง้ สองก็ทำ� เหมือนพ่อลูกทีร่ กั สนิทสนม กันอย่างดี รสสุคนธ์เดินตามหลังนายพลอรัญเข้าห้องท�ำงานไปเงียบๆ เพราะรู้ว่า เรื่องงานที่ท่านจะคุยด้วยคงหนีไม่พ้นเรื่องผิดกฎหมายอีกแน่ หญิงสาวเดินมานั่ง อยู่หน้าโต๊ะท�ำงานตรงข้ามกับนายพลอรัญ “ที่ไปเมืองกาญจน์ ฉันจะพาแกไปให้เขาดูตัว” นายพลอรัญเอ่ยขึ้นด้วย น�้ำเสียงเรียบสนิท แต่มันก็ท�ำให้รสสุคนธ์ช็อกไปชั่วขณะใหญ่ๆ ใบหน้าเรียวที่ ก้มต�่ำเงยขึ้นจับจ้องใบหน้าอวบแต่ทรงอ�ำนาจนิ่งแล้วเสียงแผ่วเบาก็ถามกลับไป “หมายความว่ายังไงคะ” รสสุคนธ์ถามย�้ำเหมือนไม่แน่ใจว่าได้ยินถูก หรือเปล่า “ก็ดูตัวเพื่อแต่งงานไง จะต้องให้ฉันอธิบายอีกท�ำไม” นายพลอรัญเสียง แข็งขึ้น “แต่งงาน! ท่านจะให้รสแต่งงานอย่างนั้นหรือคะ... รสไม่แต่ง” รสสุคนธ์ ปฏิเสธเสียงแข็งด้วยความที่ตกใจเธอจึงรีบปฏิเสธท่านนายพลออกไป “ไม่ได้ แกต้องแต่ง เพราะนี่คืองานที่ท่านรัฐมนตรีมอบหมายมา” 30


เรืองริน

“แต่นี่มันเป็นชีวิตและอนาคตของรส รสมีสิทธิ์เลือกเองไม่ใช่ให้ใครมา บังคับ” รสสุคนธ์เสียงดังกลับไปบ้างเมือ่ เห็นว่าท่านนายพลอรัญไม่ยอมฟังเธอเลย “หุบปากของแกเสียนะ ท่านรัฐมนตรีให้แกไปดูแลงานทีเ่ มืองกาญจน์แทน หลานชายท่าน แล้วแกก็ต้องแต่งงานไปอยู่ที่นั่นเพื่อไม่ให้ใครสงสัย” “ไม่ ให้รสไปท�ำงานแทนหลานชายท่านรสท�ำได้ แต่ท�ำไมต้องให้แต่งงาน ด้วย รสไม่เข้าใจ” “ก็ฉันบอกแกอยู่นี่ไง แต่งงานแล้วไปอยู่บ้านผัวแกจะได้ไม่มีใครสนใจ อีกอย่างคนที่ฉันจะให้แกแต่งงานด้วยก็ลูกชายเพื่อนของฉันเอง เขาร�่ ำรวยดีอยู่ ฉันไม่ได้ให้แกแต่งกับไอ้งั่งที่ไหนเสียหน่อย” “รสไม่อยากแต่ง รสขอไปท�ำงานอย่างเดียวได้ไหมคะ” รสสุคนธ์ออ้ นวอน นายพลอรัญเสียงสั่นเครือ “แกอย่าลืมว่าแกท�ำงานพลาดมากี่ครั้งแล้ว แล้วครั้งสุดท้ายมันร้ายแรง มาก โชคดีทตี่ ำ� รวจสาวรอยมาไม่ถงึ เรา ครัง้ นีจ้ ะเป็นการแก้ตวั แกแค่ไปดูแลความ เรียบร้อยทางโน้นแล้วรายงานท่านรัฐมนตรีมาก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นงานนี้แกต้อง ท�ำให้เนียนหน่อย แกก็น่าจะรู้ว่าถ้าคุณหญิงกับยัยโรสรู้เข้า มันจะเป็นเรื่องใหญ่” “หมายความว่ารสไม่มีทางปฏิเสธอย่างนั้นหรือคะ” “ใช่ แกออกไปได้แล้ว” เสียงโทรศัพท์ของนายพลอรัญดังขึ้นเสียก่อน ท่านเลยโบกมือไล่รสสุคนธ์ รสสุคนธ์นิ่งอึ้ง ก่อนจะถอยออกจากห้องท�ำงานของท่านนายพลอรัญ มือบางทีแ่ ตะลูกบิดประตูหอ้ งนอนสัน่ ระริกตามมาด้วยหยดน�ำ้ ตาอาบแก้ม รสสุคนธ์ รีบปาดทิง้ เข้าห้องและใส่กลอนอย่างแน่นหนา ร่างบางเดินไปทิง้ ตัวลงนอนบนเตียงนุม่ หญิงสาวคว�่ำหน้ากับหมอนสีขาวสะอาดแล้วกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง หากว่าเสียงนั้น ก็ดงั อยูแ่ ค่หมอนใบนัน้ ไม่ได้เล็ดลอดออกมาให้ใครได้ยนิ ไม่อย่างนัน้ คงได้แตกตืน่ กันทั้งบ้านเป็นแน่ 31


สุดสัปดาห์ครอบครัวจิตรารัศมีออกจากบ้านตรงไปยังจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยรถตูส้ ว่ นตัว ทุกคนดูรา่ เริงสดใสยกเว้นรสสุคนธ์ทเี่ อาแต่นงั่ เงียบไม่ยอมพูดจา กับใครทั้งนั้นจนคุณหญิงรจเรศอดสงสัยไม่ได้ “รสเป็นอะไรหรือลูก ไม่สบายหรือเปล่า แม่เห็นเรานั่งเงียบมาตลอดทาง เลยนะ” นิ้วมือเรียวยาวของรจเรศลูบไล้ศีรษะเล็กแผ่วเบาอย่างรักใคร่ “เปล่าค่ะคุณแม่ รสตื่นเต้นที่เราจะได้ไปพักผ่อนเท่านั้น” รสสุคนธ์แกล้ง ปดไปเพื่อให้ท่านเลิกสงสัย แต่ดูเหมือนอาการของเธอจะเป็นเอามากจนคุณหญิง รจเรศไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ “ตื่นเต้นแล้วท�ำไมเงียบจังล่ะลูก” รสสุคนธ์ไม่ได้ตอบ แค่ยิ้มบางๆ จนนายพลอรัญที่นั่งอยู่ส่วนหน้าหัน มาถลึงตาใส่โดยที่ทุกคนไม่ทันเห็นยกเว้นรสสุคนธ์ จนหญิงสาวต้องกลบเกลื่อน ตัวเองให้อยู่ในอาการปกติตามเดิม พลางคิดว่านายพลอรัญรักเธอเห็นเธอเป็นลูก บ้างหรือเปล่า ถ้าไม่รักแล้วจะไปเอาเธอมาจากสถานเลี้ยงเด็กก�ำพร้าท�ำไม สู้ให้ เธอมีชีวิตอยู่ในแบบที่ควรจะอยู่เสียดีกว่า ถึงไม่สบายกายแต่ก็อาจจะสบายใจ แต่นี่กลับสบายทางกายแต่ต้องมาทรมานทางใจ รสสุคนธ์ไม่อยากคิดว่าอนาคต ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะเธอไม่ใช่คนก�ำหนดทางเดินเองเสียแล้ว หลังจากนัง่ รถออกจากกรุงเทพฯ สองชัว่ โมงรถตูส้ ว่ นตัวมาถึงกาญจนบุรี หลังเที่ยงไปแล้ว โดยเข้าพักที่โรงแรมกึ่งรีสอร์ตริมแม่น�้ ำแควโดยมีเจ้าของคือ คุณก�ำธร เมธากิจจากร ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนของนายพลอรัญ แต่เรื่องการ บริหารก�ำธรมอบให้บตุ รชายเพียงคนเดียวดูแลทัง้ หมดไม่วา่ จะเป็นส่วนของโรงแรม รีสอร์ต และกิจกรรมต่างๆ ทีม่ ไี ว้บริการนักท่องเทีย่ วเป็นกิจกรรมทัง้ กลางแจ้งและ ในร่ม ลูกค้าที่พอใจสามารถซื้อแพ็กเกจเพิ่มจากทางรีสอร์ตได้เลย ส่วนมากแขก ที่มาจะชอบล่องแพไปตามแม่น�้ำแคว พายเรือ หรือไม่ก็ขี่รถ ATV และกิจกรรม อีกหลากหลายที่มีให้บริการ “มาถึงกันแล้วเหรอ เชิญเลย เชิญครับ” ก�ำธรออกมาต้อนรับด้วยท่าทาง ยิ้มแย้มแจ่มใส 32


เรืองริน

“เป็นไงสบายดีนะไอ้เขี้ยว” ไอ้เขี้ยวเป็นฉายาที่กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนชอบ เรียกนายพลอรัญ “สบายดี เลิกเรียกข้าว่าไอ้เขี้ยวได้แล้วนะไอ้ปากมอม” “ขอโทษครับท่านนายพล อ้อ นี่หรือลูกสาว สวยน่ารักทั้งคู่เลย” สองสาวท�ำความเคารพก�ำธร ฝ่ายนั้นรับไหว้ยิ้มแย้มเต็มใบหน้าอย่างคน อารมณ์ดี “ไปเถอะ เดี๋ยวจะพาไปห้องพัก ที่จริงไปพักที่บ้านข้าก็ได้นะ สะดวก กว่าเยอะ” “อย่ารบกวนเลยค่ะคุณก�ำธร แค่นกี้ ส็ ะดวกสบายมากแล้ว ทีน่ บี่ รรยากาศ ดีจังเลยนะคะ ฉันชักจะอิจฉาคุณก�ำธรเสียแล้วสิ” รจเรศเอ่ยขึ้นมาพลางมอง บรรยากาศรอบๆ อย่างพอใจ นานๆ ครั้งจะได้มาเที่ยวพักผ่อนกันเสียที เมื่อมา เจอที่นี่ก็รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย “แหม คุณหญิงจะมาพักเมื่อไหร่ก็ได้ครับ ที่นี่ยินดีต้อนรับครอบครัวของ ท่านนายพลอรัญเสมอแหละ” ก�ำธรแกล้งเรียกเพื่อนเสียเต็มยศ “จริงสิ คุณหญิงจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ อย่างก�ำธรว่า ไปดูห้องพักกันดีกว่า” ก�ำธรเป็นคนเดินน�ำไปยังห้องพักส่วนที่เป็นรีสอร์ต ห้องพักที่ก�ำธรพา ทัง้ หมดไปเป็นห้องชุดทีแ่ ยกตัวเป็นบ้านขนาดย่อม นายพลอรัญกับคุณหญิงรจเรศ พักหลังหนึ่ง ส่วนรสสุคนธ์กับโรสรินพักอีกหลังหนึ่ง ซึ่งทั้งสองหลังอยู่ติดกัน เดินไปมาหากันได้สะดวก แถมบรรยากาศก็เย็นสบายน่าอยู่ เพราะบ้านทัง้ สองหลัง ปลูกขึ้นที่ริมแม่น�้ำซึ่งถ้าเปิดประตูระเบียงออกไปจะมีเก้าอี้ตัวยาวให้นอนเล่น ผ่อนคลายอารมณ์อีกด้วย “สบายจังเลยค่ะคุณลุง” โรสรินเดินเข้าไปทิง้ ตัวลงบนเตียงกว้างกลิง้ ไปมา จนรสสุคนธ์อดหัวเราะไม่ได้ “ชอบก็อยู่หลายๆ วันสิลูก ที่นี่มีกิจกรรมให้ท�ำมากมาย ถ้าสองสาวเบื่อ เดี๋ยวลุงพาไปพายเรือเล่นเอาไหม” “ได้หรือคะ ไปด้วยกันนะพีร่ ส” โรสรินหันไปเขย่าแขนพีส่ าว รสสุคนธ์บบี จมูกรั้นของโรสรินแล้วก็พยักหน้า 33


“อือ ไปสิ พี่ก็อยากพายเรือเหมือนกัน” “ถ้าอย่างนั้นไปเลยนะคะคุณลุง โรสคันไม้คันมือเต็มทนแล้ว” ก�ำธร หัวเราะชอบใจเพราะเขามีลกู ชายคนเดียว เมือ่ มาเห็นลูกสาวของเพือ่ นทัง้ น่ารักและ เป็นกันเองก็ยิ่งรักเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเองเช่นกัน ก�ำธรมาส่งสองสาวทีท่ า่ น�ำ้ ของรีสอร์ต เมือ่ เห็นทัง้ สองลงเรือเรียบร้อยแล้ว เขาเลยกลับไปคุยกับนายพลอรัญและคุณหญิงรจเรศ สองสาวนั่งเล่นบนเรือแคนนูที่มีเจ้าหน้าที่ของทางรีสอร์ตเป็นผู้พายให้ และดูแลความปลอดภัยของสองสาวไปในตัวด้วยเพราะเป็นแขกส�ำคัญของนายใหญ่ ทั้งสองแยกกันนั่งคนละล�ำ ล่องไปตามสายน�้ำที่ไหลเอื่อยๆ แสนจะเย็นฉ�่ำท�ำให้ อารมณ์ผ่อนคลายลงได้เยอะโดยเฉพาะรสสุคนธ์ ทางด้านก�ำธรเดินไปยังส่วนที่เป็นมุมกาแฟ ก�ำธรสั่งของว่างเล็กๆ น้อยๆ มานั่งทานกับสองสามีภรรยาด้วยท่าทางสบายอารมณ์ “แล้วลูกชายเอ็งล่ะ ตัง้ แต่มาถึงข้าไม่เห็นเลย” อรัญมองหาไปรอบๆ เพราะ เขาเคยเจอกับลูกชายของเพื่อนและจ�ำหน้าได้ดี “ขอโทษทีเพื่อน เมื่อเช้าไอ้การมันมาบอกว่ามันจะเข้ากรุงเทพฯ แล้วมันก็ ขึ้นรถไปเลย ฉันยังไม่ทันพูดอะไรด้วยซ�้ำ” ก�ำธรพูดไปพลางส่ายหัวพลาง ยังนึก เคืองอาการร้อนรนของบุตรชายเมือ่ เช้าไม่หาย เมือ่ รูว้ า่ เขาจะพาสาวมาให้ดตู วั แล้ว ก็อย่างที่เห็นพ่อตัวดีรีบขึ้นรถบึ่งเข้ากรุงเทพฯทันทีโดยที่เขาก็ไม่อาจห้ามได้ “เอ้า แล้วอย่างนี้จะดูตัวกันยังไงล่ะ” นายพลอรัญเลิกคิ้วถาม “ข้าดูเองก็ได้ ไม่ว่าพี่หรือน้องข้ารับเป็นสะใภ้ได้หมดแหละ” “เอ๊ะ นีส่ องหนุม่ พูดอะไรกัน ดูตวั แล้วลูกสะใภ้ยงั ไง บอกมานะคุณอรัญ” รจเรศที่ทนฟังสามีกับก�ำธรพูดกันอยู่ก็อดถามออกไปไม่ได้เมื่อได้ยินถึงการดูตัว ท�ำให้นึกสงสัย “อ้อ ถ้าอย่างนัน้ ก็พดู เสียเลย ผมขอลูกสาวคุณหญิงมาเป็นลูกสะใภ้สกั คน นะครับ เรือ่ งนีผ้ มเปรยๆ กับไอ้เขีย้ วมันไว้แล้ว” ก�ำธรพูดพลางหันไปพยักหน้ากับ นายพลอรัญ “มิน่าล่ะถึงยอมทิ้งงานมาพักผ่อนที่นี่ ที่แท้ก็มีแผนจะจับลูกคลุมถุงชน ให้มันได้อย่างนี้สิคุณอรัญ ท�ำอะไรไม่ปรึกษาฉันสักค�ำ ลูกก็ลูกฉันด้วยเหมือนกัน 34


เรืองริน

นะ” คุณหญิงรจเรศมองนายพลอรัญตาเขียวปัด แต่ฝ่ายนั้นท�ำไม่สนใจ “เอาน่าคุณหญิง ไหนๆ ก็มาแล้ว พูดกันให้เคลียร์เลย เอาเป็นว่าข้ายก ลูกคนโตให้แล้วกันเป็นไง” คุณหญิงรจเรศหันขวับไปมองหน้าสามีอีกครั้งด้วย สายตาเป็นค�ำถาม “ได้ทั้งนั้นเพื่อน ขอแค่ให้ไอ้ลูกชายสุดที่รักของข้าได้เป็นฝั่งเป็นฝามีเมีย เสียที แค่นี้ก็พอใจแล้ว” “คุณถามความเห็นของลูกบ้างหรือเปล่า” คุณหญิงรจเรศเสียงเครียดขึ้น เมื่อรู้ว่าสามีจะยกลูกสาวคนโตให้เป็นสะใภ้เพื่อนรัก “ผมคุยกับยัยรสแล้ว ก็ไม่เห็นว่าอะไร สงสัยคงเบือ่ ชีวติ โสดแล้วเหมือนกัน ก็อยู่มาเกือบยี่สิบห้าปีแล้วนี่” แล้วสองหนุ่มก็หัวเราะเสียงดังที่คุณหญิงรจเรศไม่ชอบใจนัก ไม่ใช่ว่า ไม่อยากให้ลูกสุขสบาย แต่เป็นห่วงว่าลูกจะไม่มีความสุขมากกว่า ถึงรสสุคนธ์จะ ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ก็ตาม แต่เธอรักและห่วงเหมือนๆ กับที่รักและห่วงโรสริน มือ้ ค�ำ่ ของวันนัน้ ก�ำธรจัดเลีย้ งต้อนรับเสียเต็มที่ โดยการตัง้ โต๊ะอาหารริมน�ำ้ จุดเทียนส่องสว่างชวนให้น่าหลงใหล แถมอาหารของทางรีสอร์ตก็อร่อยถูกปาก “เอาล่ะพรุ่งนี้เราไปหาฤกษ์แต่งเลยแล้วกันนะ” “ฤกษ์แต่ง หมายความว่ายังไงคะคุณแม่” โรสรินทีน่ งั่ อยูใ่ กล้กบั มารดาหัน ไปกระซิบ “ก็พอ่ เขาให้พสี่ าวเราแต่งงานกับลูกชายคุณก�ำธรน่ะสิ” คุณหญิงรจเรศหัน ไปค้อนใส่สามี ฝ่ายนั้นท�ำเป็นไม่เห็นสายตาของภรรยาเสีย “หา พี่รสจะแต่งงาน แล้วท�ำไมโรสไม่รู้ มันกะทันหันเหลือเกิน” คราวนี้ โรสรินเสียงดังแล้วหันไปทางพีส่ าวเห็นยังนัง่ ก้มหน้าเงียบ เธอรูเ้ ลยว่ารสสุคนธ์ตอ้ ง โดนบังคับให้แต่งงานแน่ แต่ท�ำไมไม่ยอมคัดค้านสักค�ำ พี่สาวของเธอท�ำเหมือน ยอมก้มหน้าก้มตารับการตัดสินของบิดาเสียอย่างนั้นแหละ “ใช่จ้ะหนูโรส พี่สาวเราจะมาเป็นทองแผ่นเดียวกับลุงแล้ว ดีใจเหลือเกิน” รสสุคนธ์เงยหน้าขึ้นมายิ้มรับก�ำธรเมื่อนายพลอรัญที่นั่งติดกันลอบสะกิด ต้นขาของเธอ ใบหน้ายิ้มชื่นมื่นแต่นัยน์ตากลับเต็มไปด้วยแววเศร้าหมอง ใคร 35


จะรูบ้ า้ งว่าเธอจ�ำยอมรับปากแต่งงานเพราะเหตุผลอะไร ซึง่ ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย ทั้งหมดร่วมรับประทานอาหารมื้อพิเศษกันจนเกือบสี่ทุ่มต่างแยกย้ายกัน เข้าที่พัก รสสุคนธ์เดินเล่นอยู่ริมน�้ำได้พักใหญ่จึงเดินเข้ามาภายในห้องส่วนตัว ซึ่งแยกกับโรสรินคนละห้อง รสสุคนธ์ดื่มไวน์เข้าไปมากอยู่ เลยมึนเมาบ้างเล็กน้อย ร่างบางทิ้งตัวลง นอนขวางเตียงกว้างขาวสะอาด มือทั้งสองประสานกันที่หน้าอก สายตาจับจ้อง ขึ้นไปบนเพดาน โรสรินสังเกตอาการของพี่สาวตั้งแต่เข้ามาภายในห้องแล้วเลย เดินตามมาทิง้ ตัวนอนคว�ำ่ ข้างๆ พีส่ าว ใช้แขนยันรองศีรษะไว้เพือ่ จะมองหน้าพีส่ าว ได้ถนัด “พี่รส” โรสรินเรียกพี่สาวเสียงเบา “หือ” รสสุคนธ์ตอบรับแต่ไม่ยอมละสายตาจากเพดาน “โรสรู้ว่าพี่ไม่อยากแต่งงาน ท�ำไมพี่ไม่ปฏิเสธคุณพ่อไปล่ะ ไปคุยกับ คุณพ่อใหม่นะคะ บางทีท่านอาจจะเปลี่ยนใจ” “มันไม่มปี ระโยชน์แล้วล่ะ พีต่ ดั สินใจไปแล้วว่าจะแต่ง ถึงยังไงพีก่ ไ็ ม่ทำ� ให้ คุณพ่อผิดหวังหรอก” “โรสจะช่วยพูดนะคะ” “ไม่ตอ้ งหรอก แต่งงานกับเศรษฐีไม่ตอ้ งดิน้ รนท�ำงาน สบายจะตาย” พูดจบ น�้ำตาก็ไหลออกจากหางตา ถึงรสสุคนธ์จะรีบปาดทิ้ง แต่โรสรินทันได้เห็นมัน และรับรู้ว่าพี่สาวเสียใจมากอยู่ที่ต้องโดนบังคับ ถึงปากจะพูดว่ายอมรับแต่งงาน โดยดี แต่น�้ำตามันก็ออกมาจากความรู้สึกในใจที่แท้จริงต่างหาก มันฟ้องว่าพี่สาว ของเธอไม่เต็มใจแต่งงานสักนิด ศีรษะเล็กของโรสรินเอนทับอกหยุ่นของพี่สาวไว้ หันใบหน้าเข้าชนกัน มือบางของรสสุคนธ์ลูบไล้ศีรษะของโรสริน “โรสสงสารพี่รสจัง” “อย่าคิดมากเลย พี่ตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งพี่ก็จะแต่ง ไม่ดีหรือไง เรา จะได้มพี เี่ ขยนะ” รสสุคนธ์แกล้งพูดติดตลกเพือ่ ไม่ให้โรสรินเป็นกังวลกับเธอเกินไป ทัง้ สองนอนอยูใ่ นท่านัน้ เงียบๆ จนรสสุคนธ์ชนั ศีรษะขึน้ จึงรูว้ า่ โรสรินหลับคาอกเธอ ไปแล้ว ส่วนตัวเธอเองก็นอนอยู่ในท่านั้นปล่อยน�้ำตาให้ไหลออกมาจากหางตา ทั้งสองข้างอย่างไม่นึกว่าใครจะเห็นอีกแล้ว 36


เรืองริน

3 งานเข้า

ณ ห้องลับของกรมต�ำรวจ สถานที่ที่คนนอกไม่อาจเข้าออกได้นอกจากเจ้าหน้าที่เท่านั้น สองหนุ่ม ก�ำลังขะมักเขม้นรวบรวมหลักฐานการยักยอกทรัพย์ของ ท่านรัฐมนตรีวชิ ยั เสริมสาร และคดีเกี่ยวกับของผิดกฎหมายหลายอย่างที่ท่านมีส่วนร่วม “ไอ้มาร์ค เร็ว แกมาดูนี่” เอกพันเรียกมัธวีย์เสียงดัง “อะไรของแกวะเสียงดังเป็นบ้าเลย อกหักมาอีกหรือไง” มัธวีย์ว่ากลับให้ บ้าง “ไอ้เวร เรื่องงานโว้ย เร็วสิ นั่งทือ่ อยูไ่ ด้พบั ผ่า” เอกพันเร่งมาอีกทีเมือ่ เห็น เพื่อนหนุ่มยังไม่ยอมลุกขึ้นจากโต๊ะท�ำงานของตนเสียที มัธวีย์เลยยอมลุกจากโต๊ะท�ำงานของตนตรงเข้ามายืนอยู่ด้านหลังของ เพื่อนหนุ่มที่ก�ำลังนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์อยู่ไม่ห่าง นิ้วเรียวขาวสะอาดกดเมาส์ไป เรือ่ ยๆ ไม่นานกระดาษหลายแผ่นก็ออกมาจากเครือ่ งพิมพ์เอกสารทีเ่ อกพันสัง่ พิมพ์ แล้วหยิบออกมาส่งให้ตรงหน้ามัธวีย์ “แกดูตรงบัญชีการเบิกจ่ายของปีทแี่ ล้วกับปีนี้ งบมันต่างกันมากจนน่าตกใจ” มัธวีย์รับกระดาษหลายแผ่นไปดู หัวคิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง 37


“อือใช่ แต่อย่าลืมว่าปีที่แล้วทั้งปี งบยังไม่เท่าปีนี้ ที่เพิ่งจะเข้าเดือนที่ห้า ของปี” มัธวีย์เป็นคนละเอียดรอบคอบเสมอ “แล้วแกดูกระดาษแผ่นหลัง มันเป็นโครงการทีต่ อ้ งใช้งบประมาณทัง้ หมด แต่ละโครงการมันดูแปลกๆ ไม่ค่อยสมเหตุสมผลกับงบประมาณเลย” เอกพันดึง กระดาษแผ่นหลังมาวางในมือมัธวีย์เสียเองก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ “ฉันว่าเข้าเค้าเลยว่ะ หากจะน�ำโครงการทั้งหมดมาประเมินใหม่อีกรอบ เราคงได้งบประมาณการที่แท้จริง แต่เราคงต้องหาผู้เชี่ยวชาญหลายคนอยู่เพราะ โครงการแต่ละโครงการมันแตกต่างกันลิบลับ” “อือ น่าหนักใจว่ะ เราจะไว้ใจใครได้บา้ งก็ไม่ร”ู้ เอกพันใช้มอื ลูบปลายคาง อย่างใช้ความคิด “เอ๊ะ แล้วนี่อะไร นายไท ไกรวิทย์ เกี่ยวอะไรกับโครงการก่อสร้าง ทางด่วนวะ” มัธวีย์ไล่สายตาอ่านชื่อผู้รับผิดชอบโครงการทางด่วนไปเจอกับรายชื่อ ที่ไม่สมควรจะมาเกี่ยวกับโครงการของรัฐบาลพวกนั้นเลย “เฮ้ยมีด้วยหรือวะ นี่มันลูกชายคนโตของ พลเอกไกร ไกรวิทย์ นี่หว่า ฉันยังดูไม่ละเอียดเลย ท�ำไมท�ำอะไรกันโจ่งแจ้งอย่างนี้ ไม่กลัวใครจับได้หรือไงนะ” เอกพันดึงเอกสารในมือมัธวีย์ไปดูสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน ไท ไกรวิทย์ ลูกชายคนโตของ พลเอกไกร ไกรวิทย์ เป็นหัวเรือใหญ่ อีกคนทีม่ เี รือ่ งคาวๆ ออกมาประจานตัวเองหลายเรือ่ ง ไท ไกรวิทย์ เปิดบริษทั ก่อสร้าง ยักษ์ใหญ่โดยมีพ่อเป็นคนหนุนหลังมาตลอด ถ้าจะให้ท�ำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เห็นจะไม่มีเลย การที่มีชื่อของนายไทเข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการของรัฐบาล น่าจะมาจากคนในกระทรวงคอยช่วยเหลือหนุนหลังแน่ แล้วจะเป็นใครเสียอีก ถ้าไม่ใช่ ท่านรัฐมนตรีวิชัย เสริมสาร ที่ก�ำลังมีข่าวยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง อยู่ในขณะนี้ เพราะ พลเอกไกร ไกรวิทย์กับรัฐมนตรีวิชัยสนิทสนมกันพอสมควร “ท่าจะไม่ดเี สียแล้วล่ะงานนี้ แม้แต่ตำ� รวจระดับผูใ้ หญ่ยงั มีสว่ นเอีย่ วด้วย เราคงท�ำงานกันล�ำบากมาก” มัธวีย์หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ใกล้กับเอกพัน “แกคิดว่ายังไง” เอกพันเสียงเครียดขึ้น มองหน้าเพื่อนหนุ่มตาเขม็ง “เราไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น แม้แต่คนรอบข้าง” มัธวีย์ลดเสียงลงกวาดตา 38


เรืองริน

มองไปรอบๆ เห็นต�ำรวจรายอื่นนั่งท�ำงานกันอยู่ที่โต๊ะของตน ตามคดีที่ได้รับ มอบหมาย “พับผ่า ยุ่งเป็นบ้าเลย แล้วจะมีใครโผล่มาอีกบ้างวะ” “ว่าแต่แกไปได้เอกสารพวกนีม้ าได้ยงั ไง” มัธวียเ์ อ่ยขึน้ สายตาจับจ้องมอง เอกพันเห็นรายนั้นฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็ใช้ความหล่อให้เป็นประโยชน์หน่อยสิเพื่อน ฉันไม่ใช่แกนี่ที่เก็บ ความหล่อเงียบ” “ยังไงของแก” มัธวีย์ท�ำหน้างง “ไม่อยากจะโม้ ก็นอ้ งมีค่ นสวยทีฉ่ นั เคยควงไปผับ เมือ่ ครัง้ ก่อนทีเ่ ราจะไป บุกค้นคลังเก็บสินค้าพวกนั้นไงวะ ฉันยังโทรศัพท์คุยกับเขาอยู่ เพิ่งจะรู้ว่าเขา ท�ำงานในกระทรวง โชคดีเป็นบ้าเลย น้องมี่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย แค่ฉันบอกว่า อยากได้อันนั้นอันนี้เพื่อเอาไปเขียนสกู๊ปข่าว เขาก็แทบจะหาทุกอย่างมาประเคน ให้ฉันเลยล่ะ” น้องมี่ที่เอกพันพูดถึงก็เป็นสาวสวยที่ไปเจอกันในผับแล้วเอกพันก็พา ออกไปต่อทีอ่ นื่ มัธวียไ์ ม่คดิ ว่าเพือ่ นจะติดต่อกับหญิงสาวอยูอ่ กี เพราะปกติเอกพัน ไม่เคยคบกับสาวคนไหนนานเกินเดือนเลยด้วยซ�้ำ ยิ่งสาวที่ชอบเที่ยวกลางคืน เขารู้ว่าเพื่อนแค่เล่นด้วยเป็นครั้งคราวตามความพอใจของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น “เขียนข่าว?” “ฉันบอกน้องมี่ว่าฉันเป็นนักข่าวว่ะ” “ไม่นา่ เชือ่ ว่าน้องมีอ่ ะไรของแกจะกล้าเอาเรือ่ งวงในมาเปิดเผย ถ้ามีใครรูเ้ ข้า ฉันว่าเธอจะโดนหางเลขแน่ว่ะ” เอกพันไม่พดู แต่ยกั ไหล่เลิกคิว้ ก่อนจะเอนพิงพนักอย่างภูมใิ จกับความหล่อ ที่ช่วยงานเขาได้เยอะ “แล้วเรื่องกล้องวงจรปิดที่ฉันให้แกช่วยหาให้ล่ะ” มัธวีย์ยังสนใจเรื่องที่ เขาเห็นหญิงสาวร่างบางที่คิดว่ามีส่วนร่วมอยู่กับงานผิดกฎหมาย เขาอยากรู้ว่าเธอ จะสวยสักแค่ไหน เธอเป็นใคร? แล้วท�ำไมถึงมาเกีย่ วข้องกับเรือ่ งพวกนี้ เขาเดาเอา เองว่าหญิงสาวน่าจะอายุนอ้ ยกว่าเขาหลายปีอยู่ แต่ท�ำไมถึงดูมอี ำ� นาจจนไอ้ชายร่าง ยักษ์สองคนนั่นยังเคารพย�ำเกรงให้ 39


“ดูมันพร้อมใจจะใช้การไม่ได้เลยว่ะ ฉันว่าพวกนั้นคงตั้งใจท�ำให้มันเสีย มากกว่า” “แล้วไอ้พวกที่จับมาได้ล่ะ” มัธวีย์เคาะนิ้วกับโต๊ะท�ำงานเบาๆ “มันไม่ยอมเปิดปากซัดทอดใครเลย ถือว่าท่านรัฐมนตรีเลีย้ งลูกน้องดีใช้ได้ ส่วนพนักงานในร้านก็ไม่มีส่วนรู้เห็นมากนัก หาความอะไรไม่ได้เลย” เอกพันพูด พร้อมกับส่ายหัวดิก “ดูท่าคงจะได้แค่ของกลางมาดูเล่นอีกแล้ว มันน่าโมโหนัก” มัธวีย์จุปาก อย่างไม่สบอารมณ์ ก็มีหรืองานนี้เขากับคู่หูตามกันมาตั้งเกือบปีเต็ม แต่ความ คืบหน้ายังไปไม่ถึงไหนเลยด้วยซ�้ำ แถมจับได้ก็สาวรอยไปไม่ถึงตัวการส�ำคัญ ถึงเขาและเอกพันจะรู้ว่าเป็นฝีมือใครแต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะเอามาอ้างอิงได้เลย สองหนุ่มปรึกษากันอยู่จนมืดค�่ำด้วยความเคร่งเครียด และเมื่อเก็บโต๊ะจะกลับ เอกพันก็พูดแทรกขึ้น “ฉันขอไปนอนกับแกที่คอนโดด้วยสิไอ้มาร์ค” “ท�ำไม จะชวนกินเหล้าอีกล่ะสิ วันนี้ไม่เอานะโว้ย อยากนอน เพลียว่ะ” มัธวีย์ท�ำหน้าเซ็งอยากกลับไปผักผ่อนเต็มทน เพราะเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องคดีมา หลายวันแล้ว “ยังไม่ได้พดู สักค�ำ แกจะหาว่าฉันขีเ้ มาเหรอ วันนีก้ ไ็ ม่อยากกินเหมือนกัน แหละ ขี้เกียจกลับบ้านน่ะ” “เดี๋ยวแม่แกก็โทรตามอีกหรอก” มัธวีย์รู้ว่ามารดาของเอกพันเป็นห่วง ลูกชายสุดทีร่ กั มากแค่ไหน ยังพูดกรอกหูอยูท่ กุ วันว่าให้ลาออกจากการเป็นต�ำรวจ เสียที แต่เอกพันไม่ยอม เขารูว้ า่ เอกพันรักงานต�ำรวจมาก มากจนยอมขัดใจมารดา “โอ๊ย โน่น ตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อ อีกสองสามวันกว่าจะกลับ ไม่ต้อง ห่วงหรอก” “แล้วไป ไงก็ไป แกขับรถตามไปแล้วกัน หรือจะไปกับฉันก็ได้” “เชิญแกคนเดียวเลย ขี้เกียจนั่งมอเตอร์ไซค์ เดี๋ยวฉันแวะซื้อของกิน เข้าไปเอง แกกลับไปก่อนก็ได้” “เออ ไปนะ” มัธวีย์ตรงไปยังม้าเหล็กที่จอดสนิทนิ่งอยู่ยังลานจอดรถ เป็นบิ๊กไบค์สีด�ำ 40


เรืองริน

คันโปรดของเขา ปกติเขามักจะใช้จกั รยานยนต์คนั นีม้ ากกว่ารถยนต์เพราะไม่อยาก วุ่นวายกับปัญหารถติด การใช้มอเตอร์ไซค์ในกรุงเทพฯถือว่าเหมาะที่สุดแล้ว ส�ำหรับคนที่เกลียดการที่ต้องเจอการจราจรติดขัด มัธวีย์ก็เป็นอีกคน เขาหยิบ เอาถุงมือหนัง ตามด้วยหมวกกันน็อกแบบครอบลงไปจนถึงคางมาใส่ ก่อนจะ โบกมือให้เอกพันแล้วทะยานออกไปจากลานจอดรถ เอกพันตรงไปยังรถจากัวร์เปิดประทุนของเขาบ้าง ก่อนจะขับออกไป คนละทางกับมัธวีย์ ตรงไปยังร้านขายเป็ดอบน�้ำผึ้ง ไม่รู้เป็นยังไงวันนี้นึกอยากกิน มันขึ้นมา ขับรถไม่เกินสิบนาทีก็มาถึงร้าน มีลูกค้ารอคิวอยู่หลายคนเหมือนกัน เพราะเป็นร้านทีข่ นึ้ ชือ่ เรือ่ งเป็ดอบน�ำ้ ผึง้ เอกพันรีบลงจากรถเดินไปต่อคิว แต่เพราะ ความรีบร้อนไม่อยากต่อคิวนานๆ เลยไม่ทันมองทางจนไปชนเข้ากับร่างหนึ่งจน ฝ่ายนั้นเกือบหัวคะม�ำ ดีที่เขาพลิกข้อมือกลับไปรับไว้ได้ทัน “ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” เอกพันตกใจรีบคว้าร่างบางไว้ก่อน จะหกล้มลงไปเพราะความรีบร้อนของเขาเอง “อุ๊ย เปล่าค่ะ ไม่เป็นอะไร ฉันไม่เป็นอะไร... เอ้าคุณนั่นเอง” วนิดา เงยหน้าขึ้นก็พบกับลูกค้าของคลินิกเมื่อวันก่อนที่เธอจ�ำได้เพราะเขาเคยแซวเธอ หรืออาจเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของเขาด้วยกระมัง เอกพันฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นนางพยาบาลแสนสวยที่เขาหมายปอง นัน่ เอง กลิน่ หอมอ่อนละมุนลอยมาเตะจมูกจนเขาอยากจะสูดดมทีต่ น้ กลิน่ ของมัน เหลือเกิน โอ๊ย... โชคดีอะไรอย่างนี้วะ เอกพันแอบตะโกนก้องอยู่ในใจ “คุณพยาบาลมาท�ำอะไรแถวนี้หรือครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถามไปบ้าง “ฉันมาซือ้ เป็ดอบน�ำ้ ผึง้ ให้คณ ุ ลุงค่ะ แล้วคุณล่ะคะ” วนิดาก้มลงมองแขน เรียวที่ตกอยู่ในอุ้งมือของชายหนุ่มเหมือนฝ่ายนั้นเพิ่งนึกขึ้นได้เลยยอมปล่อยมือ อย่างแสนเสียดาย พลางขอโทษขอโพยหญิงสาวอีกรอบ “ผมก็เหมือนกัน เอาอย่างนี้ เดี๋ยวผมต่อคิวให้เองนะครับ คุณไปนั่งคอย ก่อนก็ได้ อีกหลายคิวกว่าจะถึง เดี๋ยวเมื่อยแย่เลย” เอกพันพูดพลางสายตาหันไป มองผู้คนที่ต่อคิวรอซื้อเป็ดอบน�้ำผึ้งเจ้าอร่อยกันเกือบสิบกว่าคน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่อยากเอาเปรียบคุณ” 41


“เรื่องแค่นี้เอง อย่าคิดมากเลยครับ คุณไปนั่งคอยเถอะ เดี๋ยวผมต่อคิว ให้เอง ถึงยังไงผมก็ต้องซื้อของผมเหมือนกัน” ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ ก่อนจะเดินไป ต่อคิวไม่ยอมให้วนิดาปฏิเสธ “ก็ได้ค่ะ” วนิดาพูดตามหลังเขาไปแล้วก็ไปหาที่นั่งคอยเขาพลางมองหน้า ชายหนุ่มที่ส่งยิ้มมาให้เธอเป็นครั้งคราว เอกพันยืนต่อคิวอยูเ่ กือบสิบห้านาทีกเ็ ดินกลับมาทีพ่ ยาบาลสาวสวยพร้อม กล่องใส่เป็ดอบน�้ำผึ้งสองกล่อง วนิดามองร่างสูงหล่อบาดใจเดินยิ้มเข้ามาหา ก่อนจะยื่นเป็ดอบน�้ำผึ้งกล่องหนึ่งมาตรงหน้า “ขอบคุณค่ะ นี่ค่ะค่าเป็ดอบน�้ำผึ้ง” วนิดายื่นเงินครบจ�ำนวนไปตรงหน้า แต่เอกพันส่ายศีรษะไม่ยอมรับเงินของหญิงสาว “ไม่เป็นไรครับ ผมซื้อให้ ถือว่าแลกกับการเป็นเพื่อนของเราได้ไหมครับ” เข้าแผนของเขาพอดี เอกพันคิดในใจ “ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวก็ว่าง่ายเหลือเกินจนน่าจะจับไป หอมแก้มให้ช�้ำไปทั้งแถบ เอกพันคิดแล้วยิ้มอยู่คนเดียว “ในเมื่อเราเป็นเพื่อนกันแล้ว ผมขอแนะน�ำตัวเลยแล้วกัน ผมเอกพัน เรียกเอกก็ได้ครับ แล้วคุณพยาบาลล่ะ” “วนิดาค่ะ เรียกดาเฉยๆ ก็ได้” วนิดายิ้มเอียงอาย ก็เขารู้จักชื่อเธอแล้ว ยังจะมาถามอีก เอกพันเห็นแก้มใสแดงปลัง่ ขึน้ เรือ่ ยๆ เลยเปลีย่ นเรือ่ งคุยไม่อยากให้ หญิงสาวต้องประหม่ามากนัก “ครับคุณดา ว่าแต่คุณดาจะกลับยังไงครับ” “ดานั่งแท็กซี่ค่ะ พอดีรถดาเพิ่งเอาเข้าอู่เมื่อวานนี้เอง” “ถ้าอย่างนัน้ ผมไปส่งดีกว่า เชิญครับ” เอกพันรีบอาสาเพือ่ สานสัมพันธ์ให้ แน่นแฟ้นขึ้น “เอ่อ ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” วนิดาเกรงใจ ถึงยังไงเธอกับเขาก็เพิ่งรู้จักกัน ได้ไม่เท่าไร เจอกันเพียงแค่ครั้งที่สองจะให้เขาไปส่งถึงบ้านเลยหรือ “ไหนว่ าเราเป็น เพื่อนกัน แล้วไงครับ อย่า เกรงใจผมอี กเลยนะครั บ ไปเถอะ รถผมจอดอยู่ทางโน้น” 42


เรืองริน

เอกพันไม่รอให้วนิดาปฏิเสธ เขารีบดึงกล่องเป็ดอบน�้ำผึ้งในมือหญิงสาว ไปถือเสียเอง วนิดาเลยยอมเดินตามเขาไปขึ้นรถโดยดี เอกพันไม่ใช่แค่หน้าตา หล่อเหลาอย่างเดียว เขายังมีความเป็นสุภาพบุรุษเต็มเปี่ยมอีกด้วย เอกพันเปิด ประตูรถให้วนิดาเข้าไปก่อนแล้วอ้อมไปทางฝัง่ คนขับ ก่อนจะหันไปยิม้ ให้หญิงสาว แล้วออกรถ ในใจนึกยิ้มย่องผ่องใสที่ได้ใกล้ชิดกับหญิงสาวที่เขาหมายปองอย่าง ไม่ทันคาดคิด “จะให้ผมไปส่งที่บ้านหรือคลินิกดีครับ” “ดาคงกลับบ้านเลยค่ะ” วนิดาบอกทางไปบ้านของเธอที่อาศัยอยู่กับลุง ญาติเพียงคนเดียวของเธอ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากคลินิกที่เขาเคยไปมาแล้ว “คุณดาอยู่กับใครหรือครับ เอ่อ จะละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่าก็ไม่รู้” เอกพันเกาท้ายทอยเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันจะไม่เหมาะนักหากจะถามเรื่องส่วนตัวของ หญิงสาว “ไม่หรอกค่ะ ดาอยู่กับคุณลุงสองคน ก็คนที่ตรวจอาการให้เพื่อนคุณ วันนั้นไงคะ” วนิดาหันไปพูดกับเขา ผมสลวยปลิวตามลมเพราะเขายังไม่ได้ปิด หลังคารถแต่อย่างใด “คลินิกของคุณลุงคุณนี่เอง มิน่า ชื่อคลินิกเหมือนนามสกุลคุณดาเลย แล้วคุณพ่อกับคุณแม่คุณดาล่ะครับ” “ท่านเสียไปตัง้ แต่ทดี่ าเรียนอยูม่ ธั ยมปลายค่ะ คุณลุงท่านก็อยูต่ วั คนเดียว ท่านเลยรับดูแลดามาตลอด” “อือ น่าเห็นใจ” เอกพันเปรยคนเดียวเสียงแผ่วเบา แต่วนิดายังทันได้ยิน เอกพันขับรถไปเงียบๆ เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะเวลาที่ได้คุย ได้ใกล้ชิดกับหญิงสาวร่างบางข้างๆ นี้ ไม่นานรถจากัวร์เปิดประทุนสุดโปรดของ เอกพันก็เข้ามาจอดอยู่หน้าบ้านขนาดกลางหลังกะทัดรัดภายในดูร่มรื่น แต่ติด จะเงียบเหงาอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะมีสมาชิกแค่สองคนเท่านั้น เอกพันลงไปเปิด ประตูรถให้หญิงสาวแล้วหันไปหยิบกล่องเป็ดอบน�้ำผึ้งที่วางอยู่เบาะหลังส่งให้ “คุณจะเข้ามาก่อนไหมคะ” วนิดายังมีน�้ำใจให้ ถึงยังไงเขาก็อาสามาส่ง ถึงที่ “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ พอดีผมนัดเพื่อนไว้ด้วย” 43


“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” วนิดาชูกล่องใส่เป็ดอบน�ำ้ ผึง้ พร้อมกับขอบคุณเขา ก่อนจะโบกมือให้ เอกพันยิ้มให้ก่อนกลับขึ้นไปประจ�ำที่แล้วออกรถ ใครว่าเขาไม่อยาก เข้าไปในบ้านของหญิงสาว ไม่รู้สิ ส�ำหรับกับหญิงสาวแสนสวยคนนี้เขารู้สึกว่า อยากทะนุถนอมมากเป็นพิเศษ หากเขาเข้าบ้านไป อยู่ด้วยกันสองต่อสอง เขา จะห้ามใจไม่ให้ล่วงเกินเธอได้หรือ ก็เธอช่างสวยหวานขนาดนั้น เขาเลยเลือกที่จะ ถอยก่อน เพราะเขารู้ดีว่าเขาเป็นคนมือไวใจเร็วส�ำหรับเรื่องสาวๆ อยู่แล้ว เลย ไม่อยากออกตัวแรง เดี๋ยวจะเป็นว่าเขาคิดคบกับเธอแค่หวังจะได้นอนด้วยเท่านั้น นี่เขาคิดมากไปหรือเปล่าเนี่ย วนิดามองตามรถของเอกพันไปจนลับตา เธอรู้สึกว่าการที่อยู่กับเขา แตกต่างกับการที่อยู่ใกล้ศิลามากนัก ศิลาถึงแม้จะเอาใจเก่ง พูดจาอ่อนหวาน แต่มือไม้ก็คอยหาเศษหาเลยกับเธอตลอด จะเลี่ยงไม่ไปไหนมาไหนด้วยก็เกรงใจ ผู้เป็นลุง เพราะศิลาเป็นลูกชายของเพื่อนที่ท่านสนิทด้วย วนิดาถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปจัดการเรื่องอาหารไว้คอยลุงของเธอ

ไม่ได้

คอนโดหรูใจกลางเมืองกรุง “ฉันคิดว่าแกกลับไปนอนบ้านแล้วเสียอีก” มัธวียอ์ ดพูดแดกดันเพือ่ นหนุม่

“ท�ำเป็นน้อยใจไปได้ หัวก็ไม่ได้ลา้ นเสียหน่อย ฉันก็บอกแล้วว่าจะมานอน กับแก เอ้านี่เป็ดอบน�้ำผึ้งเจ้าอร่อย กับนั่นข้าวผัดปูของโปรดของแก” เอกพันยื่น ถุงอาหารมาตรงหน้า “เออ ขอบใจ ว่าแต่แกไปไหนมาวะนานเป็นบ้าเลย” “ไม่อยากจะโม้ ฉันไปเจอคุณดา อ้อ คุณพยาบาลคนสวยไง แล้วก็ไปส่ง เขาที่บ้านมาด้วย” เอกพันพูด ท�ำหน้ายิ้มแย้มก่อนจะยักคิ้วให้มัธวีย์ทีหนึ่ง “เร็วขนาดนัน้ เลยหรือวะ แล้วแกรูแ้ ล้วหรือว่าคุณดาอะไรของแกยังโสดอยู”่ มัธวีย์ท�ำหน้าเหมือนไม่เชื่อที่เพื่อนพูดมากนัก “ชัวร์แน่นอน คุณดาเธออยู่กับลุงเพียงสองคน ก็คนที่แกไปรักษาตา เมื่อวันนั้นไง” 44


เรืองริน

“อ้อเหรอ แปลว่าแกจริงจังกับคนนี้แล้วใช่ไหม” มัธวีย์ท�ำหน้าเข้าใจ “แน่นอนว่ะ แกคอยดูกแ็ ล้วกัน” เอกพันท�ำหน้าชวนฝันก่อนจะเอนร่างสูง กับพนักโซฟาตัวยาว นอนดูทีวีเพลินไปเลย “ฉันคอยดูแกอยูแ่ ล้ว อกหักวันไหนฉันก็ตอ้ งไปนัง่ ดืม่ เป็นเพือ่ นอีกตามเคย” มัธวียย์ งั ไม่วายแกล้งเอกพันอีกตามเคย เพราะเมือ่ เอกพันอกหักทีไรก็ตอ้ งลากเขา ไปดื่มจนเกือบเช้าทุกที “ไอ้บา้ แช่งกันนีห่ ว่า กินๆ เข้าไปเลยอย่าพูดมาก” เอกพันกระเง้ากระงอด แล้วหันไปคว้าถุงอาหารมาแกะเสียเอง มัธวีย์เลยช่วยจัดการเทอาหารใส่จานแล้ว มานั่งกินกันที่หน้าทีวี ถึงบ่นว่าไม่อยากดื่ม แต่มัธวีย์ก็ยังเปิดเบียร์เย็นๆ มาสองกระป๋อง ทัง้ สองนัง่ กินกันไปได้ไม่นานก็เข้านอน ซึง่ คอนโดของมัธวียม์ หี อ้ งนอนแค่หอ้ งเดียว เป็นห้องนอนขนาดใหญ่และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ทั้งที่เป็นส่วนของครัวและ ห้องนัง่ เล่นทีส่ ามารถวิง่ ได้สบาย เพราะด้วยความทีเ่ ขาอยากมีความเป็นส่วนตัวเลย กวาดซื้อมันทั้งชั้นไปเลย สองหนุ่มทิ้งตัวลงนอนคนละด้าน มัธวีย์นอนหันหลังให้ และเงียบไปพักใหญ่แล้ว “ไอ้มาร์คนอนยัง” อยู่ๆ เอกพันก็พูดขึ้นมา “ก�ำลังจะหลับอยู่แล้ว เรียกท�ำไมอีก” เขาก�ำลังเขาภวังค์อยู่แล้วนั่นแหละ ถ้าเอกพันไม่เรียกไว้เสียก่อน “วันเสาร์นี้แกมีนัดตรวจที่คลินิกของคุณดาเธอใช่ไหม” “อือ ท�ำไม” เสียงของมัธวีย์ติดจะงัวเงียเล็กน้อย “ฉันไปด้วยอย่าลืมล่ะ” “แกนี่เป็นเอามากนะ สงสัยอีกไม่นานฉันคงได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแน่เลย ว่าแต่ได้เบอร์คุณดามาหรือเปล่า” “เฮ้ย จริงด้วย โง่เป็นบ้าเลยไอ้เอก แต่ไม่เป็นไร ค่อยไปขอวันที่ไป กับแกก็ได้ รับรองได้ชัวร์” เอกพันดีดตัวลุกขึน้ นัง่ เมือ่ เพิง่ นึกขึน้ ได้วา่ ยังไม่ได้เบอร์โทรศัพท์ของวนิดา มาเลย 45


“ขีโ้ ม้นะแก ไม่รฝู้ า่ ยหญิงเขาจะตกลงคบกับแกหรือเปล่า ไหนจะไอ้หน้าขาว ที่มาวันนั้นล่ะ ไม่รู้เขาไปถึงไหนๆ กันแล้ว หน้าตาก็ดีใช่ย่อย” “ไอ้มาร์ค แกช่างพูดท�ำลายก�ำลังใจเพือ่ นดีจงั นะ” เอกพันว่าให้แล้วเงียบไป “ฉันเตือนด้วยความหวังดีโว้ย” เอกพันเงียบไม่ได้พดู อะไรจนมัธวียส์ งสัย เลยหันกลับไปเจอสายตาแปลกๆ มองมาที่เขา เอกพันใช้นิ้วมือเรียวแตะอยู่ที่ ริมฝีปาก แล้วก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น ถึงจะเบาแต่สองหนุ่มที่ถูกฝึกมา อย่างช�ำนาญพอจะรู้ว่ามีคนก�ำลังจะล่วงล�้ำเข้ามาภายในที่ส่วนบุคคล สองหนุ่ม ดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกันทันทีเมื่อมีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ต่างตรงไปหาอาวุธ ประจ�ำกายของตัวเองมากระชับไว้ในมือ มัธวียท์ มี่ อี าการง่วงหาวกลับหายเป็นปลิดทิง้ เมื่อเจอสถานการณ์อันตรายเข้าอย่างกะทันหัน มัธวียเ์ ดินไปเอาหูแนบกับประตูหอ้ งนอนคอยฟังเสียงการเคลือ่ นไหว ส่วน เอกพันก็ยืนคุมเชิงรอดูสถานการณ์ด้วยความกระสับกระส่าย “มันพยายามจะเปิดประตูเข้ามา แกพร้อมนะ... งัน้ ไป” เมือ่ เอกพันพยักหน้า สองหนุ่มเลยเปิดประตูห้องนอนแผ่วเบา จรดฝีเท้าตรงไปยังประตูส่วนหน้า ทัง้ สองยืนขนาบประตูซา้ ยขวา มัธวียเ์ อาปืนยัดขอบกางเกงนอนด้านหลังของตัวเอง ซึ่งเขาไม่ได้ใส่เสื้ออย่างเอกพัน รายนั้นใส่ชุดนอนของมัธวีย์เสียเรียบร้อย จากนั้น มัธวีย์ก็หันมาพยักหน้าให้เอกพัน มัธวีย์ค่อยๆ แตะลูกบิดประตูขณะที่เอกพันยังถือปืนจ่อไปทางประตู เพือ่ ระวังภัยให้เพือ่ นหนุม่ ประตูถกู กระชากออกทันทีพร้อมกับร่างของชายฉกรรจ์ สี่คนยืนอยู่ด้วยอาการที่คิดไม่ถึงว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมา มัธวีย์ที่ เตรียมพร้อมอยูแ่ ล้วเตะเข้าข้อพับคนทีพ่ ยายามเปิดประตูหอ้ งของเขาแล้วกระโดด ข้ามไปเมื่อมันล้ม เขาตรงรี่ไปยังอีกคนที่วาดปืนสูงขึ้นเพื่อหมายจะจ่อมาทางเขา เอกพันยัดปืนใส่ในขอบกางเกงบ้างก่อนจะเตะเสยคางคนแรกทีม่ ธั วียเ์ ตะข้อพับไว้ เป็นผลให้มันสลบไปง่ายดาย ผัวะ! “เฮ้ย ไอ้มาร์คข้างหลัง” มัธวีย์หมุนตัวกลับขณะที่แขนแข็งแรงล็อกคออีกคนไว้ ปืนเก็บเสียงปะทุ ผ่านมัธวีย์ไปโดนพวกเดียวกันเอง 46


เรืองริน

“โอ๊ย... ไอ้เวร มึงยิงกูท�ำไมวะ ยิงไอ้สองคนนั่นสิโว้ย” มันหมายจะยิง มัธวีย์ แต่พลาดไปโดนแขนข้างซ้ายของพวกเดียวกัน จนเลือดไหลย้อยออกมา ไม่ขาดสาย เอกพันเข้ากระโดดเตะข้อมือคนที่ถือปืนหมายยิงมัธวีย์ จนปืนกระเด็น หลุดจากมือแล้วตามด้วยศอกหลังเข้าใบหน้า จนชายคนนัน้ หัวคิว้ แตกเลือดไหลอาบ มึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกคนเข้าไปประคองคนที่เอกพันเตะเสยคาง แล้วพาออกวิ่งไปก่อนใครเพื่อน ส่วนคนที่มัธวีย์ล็อกคอไว้สะบัดหลุดเพราะมัน ตัวใหญ่แรงเยอะและมัธวีย์เองก็ไม่ทันตั้งตัวมัวแต่หันกลับไปดูคนที่จ่อปืนใส่เขา อยู่ แล้วมันก็หลุดไปอีกคน เหลือไว้แค่คนเดียวที่หัวคิ้วแตกจากศอกของเอกพัน “ใครส่งพวกแกมา” มัธวียต์ ะคอกใส่คนร้ายขณะทีเ่ อกพันล็อกแขนมันไว้ ด้านหลังจนอกแอ่น “กูไม่บอกโว้ย พวกมึงเสือกกับเรื่องชาวบ้านมากนัก สักวันพวกมึง ไม่ตายดีแน่” มันตะโกนใส่หน้ามัธวีย์พร้อมทั้งสะบัดตัวเต็มแรงให้หลุดจากการ เกาะกุม “ถุย มึงนัน่ แหละจะตายอยูร่ อมร่อยังท�ำปากเก่งไม่เข้าท่า” เอกพันว่ามาบ้าง อย่างหัวเสีย “เฮ้ย” เสียงดังมาจากด้านหลังของมัธวีย์ไม่ไกลนักตามมาด้วยเสียงสาดกระสุน จากปืน M16 รัวถี่ยิบ เอกพันปล่อยมือจากคนร้ายกระโดดหลบพร้อมๆ กับมัธวีย์ เมือ่ สองหนุม่ กระโดดไปคนละทางแต่กย็ งั มีโอกาสยิงสวนกลับไปจนหมดแม็กกาซีน แล้วเสียงทั้งหลายก็เงียบหายไปพร้อมกับกลุ่มคนร้าย เอกพันกระโดดออกจาก ที่ก�ำบังหมายจะวิ่งออกไป แต่มัธวีย์สกัดไว้เสียก่อน “อย่า เรายังไม่รู้ว่าพวกมันมากันกี่คน มันอาจดักอยู่ข้างล่างก็ได้” “ไอ้พวกเวรนี่มันเป็นใครกันวะ มันกล้ามากที่มาดักยิงเราถึงคอนโดนี่” “มันอาจมาดักฉันคนเดียวไม่เกี่ยวกับแก” มัธวีย์พูด แต่สายตากลับ มองไปทางที่คนร้ายหนีไปด้วยแววกังวล “ก็ไม่แน่นะเพื่อน” 47


สองหนุ่มนั่งหน้าเครียดถ่างตาอยู่จนเกือบตีสามเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ ไม่นา่ เป็นห่วงเลยกลับไปนอนอย่างเดิม โชคดีทไี่ ม่มใี ครโทรศัพท์ไปแจ้งความ แต่ ทัง้ สองก็ตอ้ งโทรศัพท์ไปรายงานผูบ้ ญ ั ชาการว่าไม่มอี ะไรแค่โดนลอบท�ำร้ายเท่านัน้ เพราะไม่อยากท�ำให้เอิกเกริกมากนัก รุง่ เช้าทัง้ สองออกไปท�ำงานตามปกติ แต่กโ็ ดน ผู้บัญชาการเรียกพบตัวโดยด่วน “พวกคุณคิดว่าคนที่ลอบท�ำร้ายเมื่อคืนน่าจะเป็นใคร” “ผมยังไม่กล้าลงความเห็นครับท่าน” มัธวีย์เอ่ยออกไปเสียงหนักแน่น “แต่มนั ก็นา่ คิดอยูน่ า พวกคุณไปท�ำอะไรให้ใครจับได้หรือเปล่า” มัธวียก์ บั เอกพันหันไปมองหน้ากัน เพิง่ คิดขึน้ มาได้วา่ ครัง้ ก่อนทีเ่ ขาลากตัวคนร้ายไปจัดการ ในห้องน�้ำ มันน่าจะเห็น แต่ก็อาจจะไม่ใช่เพราะเขาสองคนก็ปลอมตัวอย่างดี “ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ ผมคิดว่าพวกคนร้ายน่าจะไหวตัวเรื่องที่เราตาม สืบอยู่ก็ได้” “ช่วงนี้พวกคุณระวังตัวหน่อยแล้วกัน ผมไม่อยากเสียคนดีมีฝีมืออย่าง พวกคุณไปหรอกนะ ถ้าเสร็จงานนี้เมื่อไหร่คุณสองคนคงได้นั่งโต๊ะแล้วล่ะ ผม จะเป็นคนยื่นเรื่องนี้ให้ผู้ใหญ่พิจารณาอีกที” ผู้การพลลพยื่นซองเอกสารสีน�้ำตาล ให้สองหนุ่ม “แล้วนี่สายของเรารายงานว่ากระบวนการค้ามนุษย์ของพวกมันจะน�ำ ผู้หญิงเข้ามาสัปดาห์หน้า พวกคุณน�ำก�ำลังไปดักสกัดตามที่อยู่ในซองเอกสารนั่น ได้เลย” เอกพันรับเอกสารมาเปิดดูแล้วยื่นส่งต่อให้มัธวีย์ “ห้าสิบคนเลยหรือครับ ผูห้ ญิงพวกนีค้ งโดนหลอกมาแน่ๆ สักกีค่ นกันเชียว ที่ยอมท�ำงานนี้” “ใช่ ครั้งนี้ถือว่ามันกล้ามาก เงินคงสะพัดหลายล้านอยู่ทีเดียว เอาล่ะ ผมไม่มอี ะไรแล้ว พวกคุณไปท�ำงานเถอะ ระลึกไว้วา่ ความปลอดภัยมาก่อนเสมอ” “ครับท่าน” สองหนุ่มยืดอกตบเท้าชิดกันจนเกิดเสียง ก่อนจะก้มศีรษะ นิดเดียวแล้วถอยออกจากห้องของผู้การพลลพไป “เจองานหนักอีกแล้วสิเรา” เอกพันพูดน�ำ้ เสียงติดตลกแต่แฝงไว้ดว้ ยแวว จริงจังในที “ครั้งนี้พวกมันคงระวังตัวแจ ผู้หญิงที่มันพามาก็เยอะเสียด้วย” มัธวีย์ 48


เรืองริน

เปรยกับตัวเองใบหน้าเครียดคล�้ำ “พวกมันมีสมอง พวกเราก็มีสมอง ดูซิใครจะแน่กว่าใคร ได้ซัดกัน มันมืออีกแล้วสิ” เอกพันพูดแล้วก�ำมือเข้าหากันแน่นแล้วต่อยเข้าฝ่ามือตัวเองจน เกิดเสียงดัง “แกอย่าลืมว่าเรามีผหู้ ญิงพวกนัน้ เป็นตัวประกันอยูด่ ว้ ยนะ” เอกพันเลิกคิว้ พลางถอนหายใจ สองหนุ่มนั่งวางแผนเรื่องเข้าจับกุมกลุ่มค้ามนุษย์ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของ ท่านรัฐมนตรีวิชัย ฉากหน้าเป็นรัฐมนตรีใจบุญ แต่เบื้องหลังเลวยิ่งกว่าสัตว์ เดรัจฉานชนิดไหนๆ ในโลกเสียอีก “ฉันว่ามันยังไงอยู่นะ พวกมันคงไม่พาผู้หญิงมาทางเดียวกันแน่ มันจะ ผิดสังเกตเอานา” “ฉันก็คิดเหมือนแก จากกาญจนบุรีถึงกรุงเทพฯ มีเส้นทางอยู่สองสายที่ น่าสงสัยว่ามันจะผ่าน” มัธวีย์ใช้นิ้วเรียวลูบไล้คางตัวเองไปมาเหมือนใช้ความคิด หัวคิ้วทั้งสองขมวดชนกันจนเกิดรอยย่น “หรือไม่มันอาจอ้อมไปทางอื่นเลยก็ได้” “เรายังไม่รู้ว่ามันจะมาทางไหนกันแน่ แต่เชื่อว่าพวกมันน่าจะรอบคอบ พอสมควร แต่ถึงเราพลาดสกัดจับ เราก็ยังรู้จุดส่งผู้หญิงของมันถ้าแกดูตาม ออร์เดอร์ของมันตามเอกสารของสายทีร่ ายงานมา แต่ฉนั อยากไปดักรอมันมากกว่า หรือแกว่าไง” “อือ น่าคิด สายของผูก้ ารถือว่าท�ำงานเทีย่ งตรงดี เอาเป็นว่าเราแบ่งสองสาย แล้วกัน” “ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน แกรับไปดักสายหลักทางเดินรถโดยสาร แล้วกัน ส่วนฉันไปดักสายรอง เชื่อว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่งต้องได้ตัวแน่” “ดีเลย ลุยเดี่ยวล่ะสิงานนี้ ไม่รู้แกหรือฉันจะเจอแจ็กพอตหรือไม่ก็ทั้ง สองฝ่าย” มัธวีย์ผละไปรับโทรศัพท์เมื่อมีสัญญาณเรียกเข้า เมื่อเห็นปลายสายก็นึก แปลกใจแล้วเขาก็กดรับสายไป “ใครมันเป่าหูให้แกโทรมาหาฉันตั้งแต่หัววันเลยวะ” 49


“โธ่พี่ ผมคิดถึงพีๆ่ บ้างไม่ได้หรือไงครับ ผมไม่ได้เข้ากรุงเทพฯตัง้ นานแล้ว อยากมาหาเพื่อนดื่มเสียหน่อย” “แกมาหาเพือ่ นดืม่ เหล้าไกลถึงกรุงเทพฯเลยหรือวะไอ้การ” มัธวียว์ า่ เข้าให้ อย่างไม่อยากเชื่อนัก “ตามนีน้ ะครับ เอาเป็นว่าผมไปคอยพีท่ คี่ อนโดนะ เลิกงานแล้วรีบกลับล่ะ อ้อ ชวนพีเ่ อกมาด้วย” การุชาติพดู จบแล้วก็รบี วางสายไปทันทีโดยไม่ยอมให้ทางนี้ พูดอะไรต่อ “เฮ้ยไอ้นี่” มัธวีย์สบถใส่โทรศัพท์ “อะไรวะไอ้มาร์ค” เอกพันเลิกคิ้วขณะเอ่ยถามออกไป “ก็ไอ้การสิ ไม่รู้เป็นอะไรของมัน บอกว่ามาหาเพื่อนดื่ม ตอนนี้คงไปนอน คอยอยู่ที่คอนโดฉันเรียบร้อยแล้วล่ะ ให้มันได้อย่างนี้สิน่า ไอ้การนะไอ้การ” มัธวีย์บ่นใส่โทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหน้าแล้วก็ส่ายศีรษะไปมาอย่างระอาใจ “มันจะมา ไม่เห็นโทรมาก่อนเลย ผิดวิสัยจริงๆ” เอกพันเอ่ยเสียงเรียบ “ฉันก็ว่ามันต้องมีอะไรแน่ ไม่อย่างนั้นมันไม่ทิ้งงานมาหรอก” “เออจริง” การุชาติหรือการเป็นเพื่อนรุ่นน้องสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของมัธวีย์ ก่อน ทีเ่ ขาจะสอบเข้ารับราชการต�ำรวจ ทัง้ สองสนิทกันมากจนกระทัง่ จบมาแล้วยังติดต่อ พบปะกันบ่อยครั้ง ส่วนกับเอกพันไม่ต้องพูดถึง เพราะเอกพันและการุชาตินิสัย ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เลยเข้ากันได้ง่ายอยู่แล้ว โดยเฉพาะเอกพันมักเป็นมิตรกับ คนง่าย “แล้วมันจะเข้าห้องแกได้ไง” “มาครั้งก่อนมันแอบเอาคีย์การ์ดห้องฉันไปท�ำ แกจ�ำไม่ได้หรือไง เข้าขั้น มิจฉาชีพเลยนะนั่น รวยเสียเปล่า ยังขี้งกไม่ยอมไปเปิดโรงแรมนอน” มัธวีย์บ่นไปอย่างนั้นเอง เขาคิดเสมอว่าการุชาติเหมือนน้องชายแท้ๆ ของ เขาเสียมากกว่าที่จะคิดเป็นอื่น “หึหึ เชื่อมันเลย คืนนี้เตรียมตัวลากมันกลับแล้วกัน” เอกพันหัวเราะ มือทัง้ สองกอดอกแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอีอ้ ย่างไม่ได้คดิ อะไรมากเรือ่ งทีก่ ารุชาติ ยอมทิ้งงานขับรถมาหาเพื่อนดื่มถึงกรุงเทพฯ 50


เรืองริน

สองหนุ่มคู่หูรู้ดีว่าถ้าการุชาติตั้งใจจะดื่มเมื่อไหร่ก็เตรียมตัวแบกร่างเมา ไม่ได้สติกลับทุกที เพราะเจ้าตัวรูด้ วี า่ รุน่ พีท่ งั้ สองไม่ทงิ้ ให้นอนข้างถนนแน่ อีกอย่าง นานๆ ทีการุชาติจะได้ดื่มหรือไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ซึ่งการุชาติมีเพื่อนที่สนิท ไม่มากนัก ตั้งแต่เรียนจบการุชาติก็ต้องรับภาระดูแลกิจการของบ้าน ถือว่าหนัก เอาการอยู่ ถึงเห็นว่าเป็นคนขีเ้ ล่น แต่เมือ่ ต้องท�ำงานการุชาติจะเป็นคนทีจ่ ริงจังมาก

51


4 สั่งเก็บ

“แกดูมนั มันท�ำเหมือนทีน่ คี่ อนโดมันงัน้ แหละ ตืน่ ได้แล้วโว้ย” มัธวีย์ กับเอกพันขึน้ มาถึงบนห้องก็เห็นการุชาตินอนหลับไม่รเู้ รือ่ งอยูบ่ นเตียงกว้าง มัธวีย์ พูดเสียงดังก่อนจะตบลงไปบนทีน่ อนหนานุม่ ทีร่ า่ งสูงของการุชาตินอนคว�ำ่ หน้าอยู่ เป็นผลให้เจ้าของร่างสูงดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงทันทีด้วยอาการงัวเงียเต็มทน พลาง ปิดปากหาว เมื่อเห็นว่าเป็นใครร่างสูงเลยทิ้งตัวนอนบนเตียงกว้างตามเดิม “โธ่ พีเ่ อกกับพีม่ าร์คนีเ่ อง นึกว่าใคร ท�ำไมต้องเสียงดังด้วยนะ ก�ำลังฝันดี อยู่เชียว” เปลือกตาทั้งสองยังปิดสนิทท�ำท่าเหมือนจะหลับต่ออย่างไรอย่างนั้น “ฝันว่าก�ำลังแต่งงานอยูเ่ หรอ” เอกพันหยอดให้เหมือนจีใ้ จด�ำของการุชาติ เข้าอย่างจัง แค่นั้นแหละพ่อตัวดีเลยลุกขึ้นมานั่งหน้างอ มองสองหนุ่มคู่หูคนละที แล้วเดินลงจากเตียงเข้าห้องน�้ำไป ทั้งมัธวีย์และเอกพันงงเป็นไก่ตาแตกที่อยู่ๆ การุชาติก็เงียบไป ไม่นานร่างสูงของการุชาติก็ออกจากห้องน�้ำหน้าตาสดชื่นกว่า เมื่อสักครู่มากนัก ก่อนจะเดินออกมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาวหน้าห้องนอน มือก็กดเปลี่ยนช่องเคเบิลทีวีไปเรื่อยๆ 52


เรืองริน

“เฮ้ยไอ้การ แกเป็นอะไรหน้าตาเหมือนหมาเน่าเลยว่ะ” มัธวีย์และเอกพัน เดินตามร่างสูงของรุ่นน้องมาทิ้งตัวลงนั่งใกล้ๆ ก่อนที่เอกพันจะทนกับอาการ ท�ำหน้าบูดของการุชาติไม่ไหวเลยถามออกไป “ยิ่งกว่าหมาเน่าอีกพี่ เฮ้อ เบื่อเป็นบ้า” มือเรียวที่กดเปลี่ยนช่องเคเบิลทีวี หยุดชะงักแล้วทิ้งรีโมตไว้ใกล้ๆ ไม่สนใจกับมันอีก “ทีแ่ กมาเพราะแกมีเรือ่ งไม่สบายใจใช่ไหม” มัธวียเ์ อ่ยถามพร้อมกับลุกขึน้ ไปเปิดตู้เย็นขนาดเล็กที่อยู่ใกล้กับชุดโซฟา หยิบเบียร์กระป๋องออกมาโยนไปให้ เอกพัน รายนัน้ รับไว้แล้วเปิดขึน้ จิบเสียอึกใหญ่ มัธวียส์ ง่ เบียร์ในมือทีย่ งั ไม่ได้เปิด อีกกระป๋องไปให้การุชาติ ตัวเองก็จิบของตนไปพลาง “จะว่าอย่างนัน้ ก็ได้ แต่กน็ า่ ดีใจอยูห่ รอก ก็จะได้เมียเป็นตัวเป็นตนเสียที” การุชาติกระดกเบียร์ขึ้นซดทีเดียวเกือบหมดกระป๋อง “อะไร งงแล้วนะเนี่ย” เอกพันถามก่อนจะพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นมาเหนือ ข้อศอกและปลดกระดุมเสื้อลงมาสองเม็ด “ก็พอ่ หาเมียให้ผมสิพี่ นัดมาดูตวั วันนี้ ผมเลยรีบเคลียร์งานจนดึก พอเช้า ผมก็รีบบึ่งรถมาเลย ถ้าพ่ออยากได้ลูกสะใภ้ก็ให้จัดการเอาเอง ผมขี้เกียจไปนั่ง ปั้นหน้าหล่อ” “ฮ่าๆ โธ่เอ๊ย นึกว่าเรือ่ งอะไร” เมือ่ รูส้ าเหตุของการท�ำหน้าเซ็ง สองหนุม่ คูห่ ู หัวเราะขึ้นพร้อมกันท�ำให้การุชาติหน้างอกว่าเก่าอีก “พีจ่ ะหัวเราะอะไรกันนักหนา ผมเครียดนะ” การุชาติสะบัดตัวอย่างขัดใจ ท�ำให้สองหนุ่มหัวเราะเข้าไปใหญ่กับอาการเหมือนเด็กถูกขัดใจ ทัง้ มัธวียแ์ ละเอกพันรูด้ วี า่ การแต่งงานส�ำหรับการุชาตินนั้ เป็นเรือ่ งไม่คอ่ ย จะเข้ากันสักเท่าไหร่ เพราะการุชาติชอบชีวิตอิสระ ถึงจะไม่ใช่หนุ่มเสเพลเมา หัวราน�ำ้ ไปวันๆ แต่จะให้มดั มือชกแต่งงานเห็นจะเป็นเรือ่ งทีน่ า่ วิตกกว่าการถูกตาม ฆ่าเชือดคอเสียอีก “ผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นเป็นใครกันนะ อยากรู้จัง” เอกพันพูดเสียงกลั้น หัวเราะ

53


“ก็เห็นว่าเป็นลูกสาวนายพลอะไรสักอย่าง เพื่อนพ่อนั่นแหละ เขาก็อยู่ กรุงเทพฯ แต่นัดกับคุณพ่อว่าจะพาว่าที่เมียผมให้ไปรู้จักกัน ป่านนี้คงถึงที่รีสอร์ต แล้วมั้ง ก็คงได้แต่ดูรูปผมนั่นแหละ” การุชาติเบ้หน้าเบื่อหน่าย “เขาอุตส่าห์พาว่าที่เจ้าสาวไปให้ดูตัว ดันหนีมาเสียได้ ถ้าเป็นฉันนะจะขอ ดูหน้าเสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เอกพันว่าให้อกี ถ้าเป็นเขานะจะขอดูกอ่ นว่าเจ้าสาว สวยแค่ไหน ถ้าไม่พอใจเขาจะบอกปัดทันที เหมือนเขาเห็นแก่ตัว แต่ถ้าไม่ชอบ ก็คือไม่ชอบ จะมาฝืนใจเสแสร้งท�ำไม “พี่ไม่โดนอย่างผมนี่ พี่ก็พูดได้สิ โธ่” การุชาติค้อนวงใหญ่ใส่เอกพัน “ระดับลูกสาวท่านนายพลคงไม่ขรี้ วิ้ ขีเ้ หร่อะไรหรอกมัง้ ” เอกพันท�ำหน้าคิด “จะสวยไม่สวยยังไงผมไม่รู้ ถึงยังไงพ่อก็ตอ้ งมาบังคับผมจนได้ ไม่อย่างนัน้ ผมไม่มานั่งเซ็งอย่างนี้หรอก เลิกพูดเถอะพี่ ที่ผมมาก็มีเรื่องคืบหน้าอีกอย่างหนึ่ง” การุชาติเสียงเครียดติดจะแข็งพร้อมทั้งยืดตัวตรงเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าที่มาก็เพราะ เรื่องส�ำคัญคอขาดบาดตายอีกเรื่องหนึ่ง “อะไร” คราวนี้เป็นเสียงของมัธวีย์บ้างที่ถามมา หลังจากที่นั่งจิบเบียร์ฟัง เอกพันและการุชาติคุยกันอยู่พักใหญ่ “อาทิตย์หน้าพวกนัน้ จะส่งผูห้ ญิงเข้ากรุงเทพฯ ต่อจากนัน้ พวกมันจะทยอย ส่งตามจังหวัดต่างๆ ในแต่ละภาค” “แปลว่าสายของแกเทีย่ งตรงดี เราก็รมู้ าอย่างนัน้ เหมือนกัน ก�ำลังวางแผน กันอยูเ่ ลย งานนีเ้ ราพลาดไม่ได้เหมือนกัน เราจะพยายามตัดช่องทางท�ำเงินของมัน ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสาวรอยอะไรได้บ้าง” เอกพันวางกระป๋องเบียร์ในมือลง ก่อนจะประสานมือทั้งสองข้างดัดนิ้วตัวเองไปมา เขามักจะท�ำอย่างนี้เสมอเวลาที่มี เรื่องให้คิดหรือเรื่องเครียดๆ ตรงหน้า “งานนี้พวกพี่ต้องลุยเองอีกแล้วเหรอ” การุชาติรู้มาตลอดว่าสองหนุ่มเข้า ท�ำงานในหน่วยปราบปรามต้องออกลุยอยู่ตลอด แต่ก็ยังไม่วายนึกห่วงอยู่ดี เขา ทั้งรักและเคารพสองหนุ่มเหมือนพี่แท้ๆ เสียอีก “ก็ท�ำไงได้ เราไม่ไว้ใจใครเลย อีกอย่างเรารับคดีนี้ไว้แล้ว เราจะท�ำมัน ให้ถึงที่สุดจนกว่าจะกระชากหน้ากากคนชั่วออกมาประจานให้ได้ ไม่อย่างนั้น อย่าหวังว่าเราจะปล่อยมันไปง่ายๆ” เอกพันพูดอย่างเดือดดาดใจเมือ่ คิดถึงเรือ่ งเลวๆ 54


เรืองริน

ที่พวกคนร้ายในคราบผู้ดีกระท�ำกัน “อ้อ แล้วเรือ่ งบ่อนอีก ผมรูแ้ ล้วว่าบ่อนของพวกมันอยูไ่ หน มันเปิดเป็นผับ แถวเขตชายแดนเลยล่ะ ชั้นล่างใช้เป็นบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ มีทางลับหนีออกได้ หากเกิดการตรวจสอบขึ้น ส่วนชั้นหนึ่งและสองเป็นส่วนของผับ ชั้นบนสุดก็ค้า บริการหญิงต่างชาติหรือไม่ก็พวกสาวๆ ในประเทศที่เต็มใจขายเอง ทั้งยาเสพติด ทุกอย่างอยู่ในนั้นหมด มันมีผู้ใหญ่ทางนั้นคอยคุมอยู่” การุชาติพูดยาวเหยียดใบหน้าเรียบเฉย “เมื่ อ เดื อ นก่ อ นมี น ายต� ำ รวจมาใหม่ เขาเป็ น คนดี น ะพี่ เที่ ย งตรงดี วันนั้นเขาพาก�ำลังเข้าตรวจค้น พวกมันไหวตัวทันเลยเก็บหลักฐานหมด จากนั้น ไม่ถึงสัปดาห์นายต�ำรวจคนนั้นก็หายสาบสูญไปแบบไม่รู้สาเหตุ พี่ว่าใครล่ะที่เป็น คนท�ำ” “ก็จะใครเสียอีกเล่า ก็ไอ้พวกที่เสียผลประโยชน์ทั้งหลายนั่นแหละ” “ผมให้ลกู น้องผมตามสืบว่านายต�ำรวจคนนัน้ หายไปไหน แต่ตามเท่าไหร่ ก็ไม่เจอ คนในครอบครัวก็ไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรออกมาเลย ผมว่าพวกนั้นคง ข่มขู่เอาไว้แน่” “อย่าว่าแต่ตำ� รวจนายนัน้ เลย ฉันกับไอ้มาร์คก็เกือบไปเหมือนกัน มันเล่น ทีเผลอ กะจะมาดักยิงที่คอนโดนี่แหละ โชคดีนะที่รอดมาได้ ไม่อย่างนั้นคงมี พาดข่าวหน้าหนึ่งไปแล้ว” เอกพันพูดแล้วก็สยิว ไม่อยากคิดถ้าเขาและมัธวียเ์ ผลอ ก็คงเป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว “หมายความว่าพี่ทั้งสองโดนมันเล่นงานให้แล้วหรือนี่” การุชาติตาโต ดูตกใจมาก “ก็ยงั ไม่แน่วา่ จะเป็นพวกมัน แต่เราสองคนก็ไม่มศี ตั รูทไี่ หนนอกจากพวก ทีเ่ ราตามสืบเรือ่ งมันอยู”่ หลังจากทีเ่ งียบอยูพ่ กั ใหญ่มธั วียเ์ ลยเอ่ยขึน้ มาเสียงเรียบ เป็นปกติเหมือนไม่ได้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ “แต่ผมว่าน่าจะใช่นะพี่ เราไม่มีทางรู้เลยนะว่าใครบ้างที่เป็นพวกของ รัฐมนตรีวิชัย ไม่แน่อาจจะเป็นต�ำรวจในหน่วยเดียวกับพวกพี่ก็ได้” การุชาติคิด เหมือนที่สองหนุ่มคิดคือ ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด แล้วที่ที่ปลอดภัย ที่สุดก็มักจะอันตรายที่สุดเหมือนกัน ใครจะไปรู้ได้ 55


“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วเรื่องโกดังเก็บไม้เถื่อน แล้วโรงงาน ผลิตยาเสพติดอีกล่ะ” มัธวีย์อยากสืบเรื่องราวทั้งหมดให้รู้เช่นเห็นชาติไปเลย แต่ติดที่พวกคนร้ายมีเครือข่ายเป็นคนใหญ่โตมากมาย และมีอาชีพหลายแขนง พอที่จะคุ้มกันได้ “อันนี้ผมยังตามหาไม่เจอเลยพี่ พวกมันแน่มาก มันไม่ไว้ใจใครเลย นอกจากพวกหัวหน้าใหญ่เท่านั้นที่จะไปสองที่นี้ได้ เพราะเป็นธุรกิจท�ำ เงินกว่า เรื่องอื่นเสียอีก ไหนจะยาที่ส่งทั้งในประเทศและส่งให้พ่อค้าแถวชายแดนรับไป ส่งต่อในประเทศเพื่อนบ้าน ไม้เถื่อนอีก ผมว่ามันน่าจะส่งผ่านประเทศเพื่อนบ้าน อันนี้มันจะส่งออกต่างประเทศหมด ไม่มีส่งในเมืองไทยเลย” “ถ้าอย่างนัน้ แกช่วยสืบต่อไปนะการ พยายามหาหลักฐานมัดตัวมันให้แน่น ทีส่ ดุ ฉันอยากจะปิดเกมฉากใหญ่นเี้ สียที ทนเห็นพวกมันท�ำบาปไม่ไหวอีกแล้วว่ะ” มัธวีย์ขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน นัยน์ตาสีฟ้าสดดูมุ่งมั่นมองตรงไปข้างหน้า “ได้ครับสารวัตร ผมนายการุชาติยินดีรับใช้ดูแลความผาสุกของราษฎร ครับผม” การุชาติยืดอกท�ำมือแตะขมับหน้าตาทะเล้น เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่ม ตึงเครียดขึ้น การุชาติชว่ ยงานของต�ำรวจมาระยะหนึง่ ด้วยเห็นว่ารุน่ พีท่ สี่ นิทรับคดีนอี้ ยู่ อีกอย่างแหล่งของผิดกฎหมายทั้งหลายก็อยู่ในภูมิล�ำเนาของเขาเอง เลยตกลงรับ ช่วยสืบราชการลับอีกคน โดยจะรายงานเรื่องทั้งหมดกับมัธวีย์และเอกพันเพียง สองคนเท่านั้น “ผมอุตส่าห์คาบข่าวมาบอก เอ๊ย ไม่ใช่ เอาข่าวมาบอกถึงที่ พีอ่ ย่าลืมเลีย้ ง เหล้าตอบแทนผมด้วยนะ มันเปรีย้ วปากเต็มทนแล้ว อยูท่ โี่ น่นไม่มเี พือ่ นดืม่ ถูกคอ เท่าพี่มาร์คกับพี่เอกสุดหล่อเลย เบื่อจะตายชัก” “แกไม่ต้องมาท�ำเป็นประจบเลย นั่นไงเบียร์นั่น กินๆ เข้าไปสิ หรือถ้า ไม่พอในตูเ้ ย็นมีอกี เป็นลัง ไปหยิบเอาเอง” มัธวียว์ า่ เข้าให้เมือ่ การุชาติทำ� มาประจบ เพื่อให้เขาและเอกพันออกไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนด้วย “โธ่ เห็นใจน้องนุ่งมั่งนะ ไม่ได้เที่ยวฟังเพลงตั้งนาน ขอทิ้งทวนก่อนจะ โดนจับแต่งงานหน่อยนะ” 56


เรืองริน

การุชาติส่งสายตาวิงวอนไปยังสองหนุ่ม มัธวีย์แค่ส่ายหน้า ส่วนเอกพัน ดีดนิ้วเสียงดังเป๊าะ “นี่แปลว่าแกต้องแต่ง ปฏิเสธอะไรไม่ได้แล้วใช่ไหม” “ก็คงอย่างนัน้ แหละมัง้ พ่อผมรีบจะตาย เผลอๆ แต่งเดือนหน้าเลยคอยดู ผมไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเหมือนกัน เฮ้อ วันนี้ขอผ่อนคลายเสียหน่อย ไปฟังเพลง เป็นเพื่อนผมนะ” การุชาติอ้อนเหมือนเด็กๆ จนสองหนุ่มใจอ่อน “อยากได้สาวๆ ไหมล่ะเดีย๋ วจัดให้” เอกพันยืน่ หน้าหล่อเหลาเข้าไปพูดกับ การุชาติ “ไม่ ผมอยากดืม่ อย่างเดียว พีน่ า่ จะหันไปท�ำอาชีพพ่อเล้านะน่าจะเหมาะดี” พูดจบก็ดดี ตัวออกจากโซฟาทันที ไม่นงั่ รอบาทาจากเอกพันให้โง่อยูห่ รอก เอกพัน เลยยกเท้าค้างไว้แค่นั้นเมื่อการุชาติรู้ทันพลางชี้หน้าท�ำปากขมุบขมิบ “ฉันก็คิดอย่างไอ้การมันว่ะ ก็แกขยันหาสาวๆ มาให้เพื่อนดีนัก” “เออ ว่ากันเข้าไป ถึงทีอดอยากปากแห้งอย่ามาขอให้ฉันหาให้แล้วกัน พ่อจะท�ำเมินเสียมัง่ ดูซจิ ะลงแดงตายกันไหม” เอกพันพูดพลางส่งสายตามาทีเ่ พือ่ น หนุ่มพร้อมทั้งพยักพเยิด “ถึงพี่ไม่หาให้ ผมก็จัดการตัวเองได้ไม่ต้องง้อสาวๆ ของพี่ให้เสียเวลา” การุชาติตะโกนออกมาจากห้องนอนที่วิ่งเข้าไปเมื่อสักครู่ “อ้อ ฉันลืมไป อีกไม่นานแกก็จะแต่งงานแล้วคงไม่ต้องออกไปหาสาวๆ ไกลบ้านหรอกใช่ไหม” ได้ทเี อกพันก็เอากลับบ้างเพราะรูว้ า่ พูดถึงเรือ่ งแต่งงานทีไร การุชาติก็ไปไม่เป็นต้องจนมุมอยู่เรื่อย “วกเข้าเรื่องนี้ทุกทีเลย” การุชาติบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อยแล้วก็เข้า ห้องนอนหายเงียบไปอีกที การถกเถียงจบลงแค่นนั้ เมือ่ ต่างอาบน�ำ้ แต่งตัวเพือ่ พาการุชาติไปเทีย่ วทิง้ ทวน ก่อนจะโดนจับแต่งงานโดยทีไ่ ม่สามารถปฏิเสธได้เลย คืนนัน้ เอกพันก็ไม่ได้หาสาวๆ มานอนเป็นเพื่อนเหมือนคืนอื่นๆ อย่างที่ปากพูด เวลาล่วงเลยจนเข้าวันใหม่แล้ว นั่นแหละที่สามหนุ่มจะได้ออกมาจากสถานบันเทิงแห่งนั้น ทั้งมัธวีย์และเอกพัน ก็ต้องแบกร่างสูงของการุชาติกลับมานอนที่คอนโดของมัธวีย์อีกตามเคย เอกพัน นัน้ ไม่ได้กลับไปนอนทีบ่ า้ นเพราะรุง่ เช้าเขามีนดั กับมัธวียเ์ รือ่ งไปตรวจดวงตาทีค่ ลินกิ 57


โชคดีที่เตียงนอนเป็นแบบคิงไซส์ ไม่ต้องนอนเบียดกันนัก แปดโมงเอกพันเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้นมาอาบน�้ำอาบท่า เมื่อตั้งใจไว้แล้วว่า เป็นวันนัดตรวจตาของมัธวีย์ที่ดูเจ้าตัวจะท�ำลืมเสียอย่างนั้น จนเอกพันต้องขุด ร่างยักษ์ขึ้นจากเตียงแล้วพาไปโยนไว้ในห้องน�้ำ ไม่นานร่างของมัธวีย์ก็ออกมา พร้อมกับผ้าขนหนูพนั เอวเพียงผืนเดียว ตามเนือ้ ตัวมีหยดน�ำ้ เกาะพราว ใบหน้าดูจะ งัวเงียอยากนอนอยู่เลย ส่วนการุชาติเมื่อเห็นทั้งสองหนุ่มลุกขึ้นอาบน�้ำอาบท่า เหมือนจะออกไปข้างนอก ก็ต้องรีบเข้าห้องน�้ำไปบ้าง ถึงจะอยากนอนต่อก็เถอะ สามหนุ่มพร้อมหน้ากันในตอนแปดโมงครึ่ง “เฮ้ย ดีใจจังเลยว่ะ ฉันจะได้เจอคุณดาแล้ว” เอกพันพูดไปยิม้ ไปเมือ่ คิดถึง ใบหน้าสวยหวานหยดของวนิดา สาวน้อยที่เขาหมายปองและตั้งใจจะไปพบหน้า อยู่ในขณะนี้ “อย่าท�ำเป็นปลากระดี่ได้น�้ำไปหน่อยเลยไอ้เอก เดี๋ยวก็กินแห้วอีกหรอก” “อย่าพูดมาก เดี๋ยวฉันขับรถตามแกไปแล้วกันนะ” “เอ้า คิดว่าแกจะไปคันเดียวกับไอ้นี่” “เออน่า ท�ำน้อยใจไปได้ ฉันกะว่าจะเข้าบ้านเสียหน่อย วันนี้คุณแม่ จะกลับจากญี่ปุ่นแล้ว วันนี้วันหยุด ถ้าไม่เห็นฉันอยู่บ้านเดี๋ยวเป็นเรื่องอีก” “ถึงว่าได้ชวนฉันออกแต่เช้า คลินิกเปิดแล้วยังก็ไม่รู้” “เออ อย่าบ่นไปเลย ไปเร็วสิ ฉันอยากเจอคุณดาใจจะขาดอยู่แล้ว” “พีจ่ ะไปไหนกันแต่เช้าเชียว วันนีว้ นั หยุดไม่ใช่เหรอ” การุชาติเอ่ยขึน้ ขณะที่ เดินออกจากห้องมาด้วยกัน “แกอยากรู้ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามมาเร็วสิ จะได้ไปหาอะไรใส่ท้องด้วย หิวเป็นบ้าเลย” มัธวีย์เดินบ่นไปตลอดทางก่อนจะตรงเข้าลิฟต์พร้อมทั้งสองหนุ่ม หนึ่งหนุ่มยิ้มแย้มสดใสตั้งแต่เช้า อีกหนึ่งหนุ่มท�ำหน้างงแต่ก็ยอมเดินตามรุ่นพี่ไป การุชาตินงั่ คูม่ ากับมัธวียท์ วี่ นั นีเ้ ขายอมเอารถแลนด์โรเวอร์เจ็ดทีน่ งั่ ของเขา ออก ส่วนเอกพันก็ขับรถตามไปอย่างสบายอารมณ์ ไม่ถึงยี่สิบนาทีทั้งหมดก็น�ำรถ มาจอดอยู่หน้าคลินิกมิตรทิวา “ไปสิไอ้มาร์ค ยืนท�ำพระแสงอะไรอีกวะ” เอกพันที่น�ำรถเข้ามาจอดซ้อน อยูด่ า้ นหลังของมัธวียเ์ ร่งมา พร้อมทัง้ ดึงแขนเพือ่ นหนุม่ ให้เดินตามเข้าไปในคลินกิ 58


เรืองริน

“ไอ้นี่ใจร้อนจริงโว้ย แกอยากเป็นคนป่วยเองไหมล่ะ เดี๋ยวฉันจัดให้ เอาให้เลือดอาบทั้งตัวเลยดีไหม ไอ้เพื่อนเวร” “ขี้บ่นอย่างนี้เมื่อไหร่จะหาเมียได้เสียที ดูไอ้การมันโน่น ได้แต่งก่อน ใครเพื่อนเลย อายมันไหมล่ะ” เอกพันพยักหน้าไปทางการุชาติที่เดินตามหลังมา ไม่ห่าง ส่วนคนถูกเอ่ยถึงท�ำหน้าไม่ชอบใจนักพลางบ่นอุบอิบ ‘อยากมีเมียเสียที่ไหน เพิ่งจะย่างเลขสามไปไม่กี่เดือนเอง ยังอยาก จะใช้ชีวิตโสดต่อไปสักพัก แต่ผู้ปกครองของเขาไม่ยอมท่าเดียว ท�ำไงได้ล่ะ เฮ้อ คิดแล้วกลุ้มใจจริงๆ’ มัธวียห์ น้ายุง่ ส่ายหัวดิก ก่อนจะเดินน�ำเข้าคลินกิ ไป เขาเป็นรายทีส่ ามทีไ่ ด้ เข้าพบแพทย์ของเช้าวันนี้ ส่วนเอกพันไม่ได้เข้าห้องตรวจกับมัธวีย์ด้วย แต่ก็ใช้ สายตาสอดส่องไปเรือ่ ยทว่าก็ไร้รา่ งของวนิดา ส่วนการุชาติกม็ องตามสายตาเอกพัน อย่างงงๆ “หาอะไรพี่” การุชาติสะกิดต้นขาของเอกพัน “ก็หาสาวสวยทีฉ่ นั ตัง้ ใจมาเจอเขาน่ะสิ” พูดพลางสายตาก็หาไปจนทัว่ บริเวณ ของคลินิกจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีหญิงสาวที่เขาหมายปองอยู่ด้วยในขณะนี้ “ใครเหรอ” การุชาติท�ำหน้าเหวอ “เขาเป็นหลานสาวของคุณหมอที่ตรวจไอ้มาร์คนั่นไง เฮ้อ สงสัยคงชวด อีกตามเคย คุณดาไปไหนนะท�ำไมไม่เข้าคลินิกล่ะ” เอกพันท�ำเสียงอ่อยหน้าเศร้า ลงกว่าเก่า “ที่แท้ก็มาตามจีบหญิง เดี๋ยวนี้ไม่มีสาวๆ เดินแวะเวียนเข้ามาหาเหรอ ถึงต้องตามเขามาถึงที่” “เฮ้ย คนนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมานะ แกอย่าพูดไป คนนี้ฉันจริงจังด้วย คอยดูก็แล้วกัน ไม่แน่ฉันอาจได้แต่งก่อนแกก็ได้นะไอ้การ” “เชิญพี่ตามสบายเถอะ ผมไม่ได้แก่เหมือนพี่นี่” การุชาติหลอกด่าเอกพัน หน้าตาเฉย “ไอ้นี่ ฉันเพิง่ จะสามสิบสาม ยังไม่แกโว้ย” เอกพันเริม่ เสียงดังอย่างหัวเสีย บ้าง ก็เพราะไอ้อาการหลอกด่าหน้าตายของการุชาตินั่นไง 59


“แล้วท�ำไมอยากสละโสดเสียล่ะ” การุชาติยังกวนประสาทเอกพันต่อไป ไม่เลิก พลางยักคิ้วหลิ่วตาล้อเลียนเอกพัน “ก็เจอคนถูกใจไม่รบี คว้าเดีย๋ วคนอืน่ ก็ตดั หน้าเสียก็เท่านัน้ แกอย่าถามมาก ได้ไหม ร�ำคาญ” เอกพันหยุดการพูดของการุชาติไว้แค่นั้นแล้วเขาก็เดินเข้าไปถาม ผูช้ ว่ ยของคุณหมออีกคนทีท่ ำ� หน้าทีร่ บั บัตรคิวอยู่ “ขอโทษครับ ไม่ทราบคุณวนิดา จะเข้ามาหรือเปล่าครับ” ผูช้ ว่ ยทีท่ ำ� หน้าทีอ่ ยูห่ น้าเคาน์เตอร์เงยหน้าขึน้ มามองชายหนุม่ รูปหล่อทีม่ า ถามหาหลานสาวเจ้าของคลินกิ ด้วยอาการชืน่ ชมอย่างออกนอกหน้า แต่เอกพันไม่ได้ สนใจมากนัก เขาแค่ยิ้มรับเพื่อไม่ให้เสียมารยาทเท่านั้น “อ้อ พี่ดาเธอออกเวรที่โรงพยาบาลตอนเช้า คงจะไม่เข้ามาหรอกค่ะ คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ” “อ้อ เปล่าครับ ขอบคุณมาก” เอกพันเม้มปากอย่างผิดหวังแล้วถอยกลับ มานัง่ ลงข้างๆ การุชาติทที่ ำ� หน้าล้อเลียนอยูต่ ลอดเวลา จนเอกพันต้องนัง่ หันหลังให้ ไม่นานมัธวีย์ก็ออกจากห้องตรวจเดินตรงมาที่สองหนุ่ม “ว่าไงไอ้เอก คุณดาของแกไม่มาหรือไง” มัธวีย์เดินมานั่งข้างเอกพันเมื่อ เห็นสีหน้าก็พอจะรูว้ า่ ผิดหวังตามเคย เขาอยากจะหัวเราะกับท่าทางงอนเหมือนเด็ก ของเพื่อนหนุ่มนัก “ก็เออดิ กลับกันได้หรือยังล่ะ” “แกไม่หว่ งฉันมัง่ หรือวะ ฉันมาหาหมอนะ” มัธวียเ์ ลิกคิว้ ถามออกไปไม่ได้ หวังอะไรอย่างที่ถามมากนัก “ก็เห็นอยูว่ า่ แกไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว อย่าท�ำเป็นน้อยใจเลย แกนีน่ อ้ ยใจ เก่งขึ้นทุกวันแล้วนะ” “ไปเถอะพี่ ไปหากาแฟอร่อยๆ กินกันดีกว่า ผมชักหิวแล้ว ปล่อยให้ พี่เอกกินแห้วไปคนเดียวเลย” การุชาติยังยิ้มหน้าระรื่นเมื่อเห็นว่าแกล้งเอกพันให้ หน้างอนั้นเป็นเรื่องสนุก เพราะปกติเอกพันจะเป็นคนอารมณ์ดี แม้กระทั่งอยู่ใน ภาวะฉุกเฉินยังไงก็ยงั ยิม้ ได้ แต่พอมาเรือ่ งสาวๆ ทีไร ถ้าไม่ได้ดงั่ ใจจะโกรธหัวฟัด หัวเหวี่ยงอย่างนี้เสมอ 60


เรืองริน

“ไอ้นี่พูดมากไปแล้ว ไม่น่าพามันมาเลย ซวยเป็นบ้า” เอกพันเดินบ่นไปตลอดจนกระทัง่ มาถึงรถทีจ่ อดอยูห่ น้าคลินกิ แล้วโบกมือ ให้มธั วียแ์ ละการุชาติกอ่ นจะออกรถ จุดหมายคือบ้านของตัวเอง ส่วนมัธวียแ์ ยกไป กับการุชาติเพื่อหาอะไรใส่ท้องที่ก�ำลังร้องประท้วงว่าหิวเต็มทน หลายวันผ่านไป ณ สนามกอล์ฟชือ่ ดังแถวชานเมืองกรุงเทพฯทีพ่ วกคนมีเงิน ชอบมาหาความส�ำราญ มาออกก�ำลัง เพือ่ อวดความร�ำ่ รวยของตน ซึง่ มีกลุม่ ชายวัย กลางคนสี่คนที่นั่งสนทนากันอยู่ที่โต๊ะตัวกลมสีขาวสะอาด พร้อมทั้งจิบน�้ำเย็นๆ หรือไม่กเ็ ครือ่ งดืม่ ชูกำ� ลัง และอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ ทีม่ บี ริการให้ลกู ค้าทีใ่ ช้บริการ สนามกอล์ฟแห่งนั้น “เป็นไงคุณอรัญ สบายดีนะ” รัฐมนตรีวชิ ยั เสริมสาร ทีอ่ ยูใ่ นชุดกางเกงขา ยาวเสื้อแขนยาวสีขาวสะอาดตา นั่งอยู่ในกลุ่มชายวัยกลางคนสี่คนนั้นด้วยท่าทาง ยิม้ แย้ม ใบหน้าทีเ่ ต็มไปด้วยแววของคนท�ำงานแต่กแ็ ฝงไว้ดว้ ยความเจ้าเล่ห์ ถึงวัย จะย่างเข้าไปเกือบเลขหกแล้ว แต่ก็ยังดูแข็งแรงและคล่องแคล่ว “สบายดีครับ” นายพลอรัญค้อมศีรษะให้ขณะที่ทุกคนนั่งสนทนากันอยู่ “แล้วเรื่องที่จะให้ลูกสาวคุณไปดูแลงานที่เมืองกาญจน์ล่ะ เธอพอท�ำได้ หรือเปล่า” ทุกครั้งที่รัฐมนตรีวิชัยพูดถึงเรื่องของรสสุคนธ์ มักจะมีแววกรุ้มกริ่ม ให้เห็นอยู่เสมอ “อ้อ ครับ ผมจะให้เขาไปอยูเ่ ดือนหน้าเลยครับ” นายพลอรัญตอบไปแล้ว ก่อนจะยกแก้วน�้ำเย็นขึ้นดื่ม “รู้สึกว่าจะให้แต่งงานกับเศรษฐีที่นั่นเลยหรือ ท�ำไมรีบจัง เสียดายความ สาวความสวย แถมเก่งอีกต่างหาก” รัฐมนตรีวชิ ยั พูดแล้วก็หวั เราะเบาๆ ในใจรูส้ กึ เสียดายสาวน้อยที่ทั้งสวยเก่งถูกใจเขาเหลือเกิน “ยัยรสก็ยี่สิบห้าแล้วนะครับ ผมอยากให้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที อีกอย่าง ถ้าไปท�ำงานที่นั่นจะได้ไม่มีใครผิดสังเกตด้วย” “อือ คุณคิดการณ์ไกลดี เอาเป็นว่าผมเป็นประธานงานแต่งให้เองดีไหม” ท่านรัฐมนตรีวิชัยเสนอตัว “เป็นเกียรติอย่างมากครับ” นายพลอรัญก้มศีรษะให้อกี ครัง้ ด้วยความยินดี 61


ท�ำไมนายพลอรัญจะไม่รู้ว่าท่านรัฐมนตรีวิชัยคิดอย่างไรกับรสสุคนธ์ เขารูม้ าตลอดว่าท่านรัฐมนตรีวชิ ยั ชอบรสสุคนธ์มาก แต่ตดิ อยูท่ ศี่ รีภรรยาของท่าน มักลุยแหลกเสมอเมื่อสามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยทั้งที่เต็มใจและโดนบังคับให้ บ�ำรุงบ�ำเรอสวาท ถึงยังไงเขาก็อดเห็นใจรสสุคนธ์ไม่ได้ หากต้องเสียความสาว ความสวยและอนาคตเพราะผู้ชายมากตัณหาอย่างท่านรัฐมนตรีวิชัย สู้ให้แต่งงาน อยู่กินกับหนุ่มๆ รุ่นเดียวกันยังดีเสียกว่า เขาเลยอยากให้แต่งงานมีครอบครัวไป เสียที จะได้ไม่ต้องมีปัญหากับท่านรัฐมนตรีในภายหลัง เพราะถ้ารัฐมนตรีวิชัยแค่ เอ่ยมาค�ำเดียว เขาก็คงปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน เพราะรัฐมนตรีวชิ ยั เป็นผูม้ พี ระคุณ ของเขา ทั้งสี่คนเดินออกไปยังหลุมกอล์ฟที่หนึ่งพร้อมทั้งสนทนาไปพลาง ถึงแม้ จะมีสาวแคดดี้ แต่ทั้งสี่คนก็ไม่หวั่นเรื่องที่คุยกันเท่าไร เพราะให้เงินปิดปากไป เล็กน้อย สาวๆ เหล่านั้นก็ปิดปากเงียบเพราะถ้าพวกเธอน�ำเรื่องของลูกค้าที่ได้ยิน ไปเผยแพร่ ผลเสียก็จะถึงตัวพวกเธอเอง เรื่องอะไรต้องตัดท่อน�้ำเลี้ยงดีๆ ไปล่ะ “แล้วเรื่องที่ให้ไปจัดการไอ้คู่หูล่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว” ท่านรัฐมนตรีหัน ไปพูดกับ พลเอกไกร ไกรวิทย์ เป็นงานเป็นการในขณะที่ สุรศักดิ์ การติยานน เป็นคนหวดไม้กอล์ฟเสียงดังอยูไ่ ม่ไกลนัก ซึง่ สุรศักดิเ์ ป็นนักธุรกิจค้าพลอยทีเ่ ป็น หนึ่งในหลายตัวการในกระบวนการผิดกฎหมายร่วมกับรัฐมนตรีวิชัย “ครัง้ ก่อนมันไหวตัวครับ แต่ผมเชือ่ ว่าอีกไม่นานเราน่าจะจัดการเสีย้ นหนาม สองคนนัน้ ได้แน่” พลเอกไกรตอบออกไปอย่างไม่คอ่ ยจะแน่ใจนักเพราะรูก้ ติ ติศพั ท์ ของสองหนุม่ คูห่ ดู แี ละมีผบู้ ญ ั ชาการทีค่ อยปกป้องอยูต่ ลอดเวลา เขาได้รบั มอบหมาย จากท่านรัฐมนตรีวชิ ยั ให้หามือปืนไปจัดการมัธวียแ์ ละเอกพัน และเกือบจะท�ำส�ำเร็จ อยู่แล้ว แต่สองหนุ่มไหวตัวทันเสียก่อน เลยถอยออกมาตั้งหลักเพื่อหาลู่ทางใหม่ ซึง่ มือปืนทีพ่ ลเอกไกรหามานัน้ เป็นพวกมือปืนรับจ้างทัว่ ไป แต่กพ็ อจะไว้ใจได้วา่ จะ ไม่เปิดเผยเรื่องของผู้ว่าจ้าง หากว่าได้ค่าแรงพอเหมาะกับที่ต้องเสี่ยง “พวกมันสองคนแน่มากที่มาล้วงคองูเห่าอย่างพวกเรา ยังทึ่งในความเก่ง และฉลาดของพวกมันนะ ถ้าได้มาเป็นพวกด้วยก็ดี แต่ในเมือ่ มันเล่นบุกเราเสียจน ตั้งหลักแทบไม่ทันอย่างนี้ มันก็ต้องจบชีวิตลงเพียงแค่นั้นแหละ” พูดจบรัฐมนตรี วิชัยก็หวดไม้กอล์ฟเสียงดังสนั่นเหมือนเป็นการลั่นวาจาสิ่งที่พูดไป 62


เรืองริน

นายพลอรัญแอบลอบกระเดือกน�้ำลายลงคอ ถึงเขาจะเข้าร่วมวงการ ผิดกฎหมาย แต่เขาก็ไม่ชอบวิธีปิดปากด้วยการฆ่าแบบที่ท่านรัฐมนตรีวิชัยท�ำอยู่ ขณะนี้ แต่ส�ำหรับรัฐมนตรีวิชัย พลเอกไกร และสุรศักดิ์นั้นดูว่าเรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องธรรมดา เมือ่ หลายปีกอ่ นเขาขาดทุนทางธุรกิจ อยูๆ่ ท่านรัฐมนตรีกย็ นื่ มือเข้ามาช่วย และดันเขาจนกระทั่งมียศเป็นพลเอก เพราะเหตุนี้เขาเลยต้องท�ำงานเพื่อทดแทน บุญคุณที่ท่านรัฐมนตรีเคยช่วยไว้ด้วยการท�ำงานผิดกฎหมาย มารู้ตัวอีกทีก็สาย ทีจ่ ะถอนตัวเสียแล้ว ยิง่ ระยะหลังเขายังต้องให้รสสุคนธ์เข้ามามีสว่ นร่วมด้วยเพราะ ท่านรัฐมนตรีชอบรสสุคนธ์ไม่ใช่น้อย เลยอยากให้เข้ามาร่วมงานด้วย จริงๆ แล้ว ท่านรัฐมนตรีวิชัยจะฝากงานในกระทรวงให้รสสุคนธ์ แต่เขาเป็นคนคัดค้านไว้ ถึงรสสุคนธ์จะไม่ใช่ลกู แท้ๆ แต่ถงึ ยังไงเขาก็เลีย้ งดูเธอมาตัง้ แต่เล็กย่อมจะอดห่วง ไม่ได้ถ้าต้องให้เข้าไปท�ำงานท่ามกลางพวกสิงสาราสัตว์หัวงูทั้งหลาย “เรือ่ งผูห้ ญิงหยุดไว้กอ่ นแล้วกัน รูส้ กึ ว่าในคนของเราจะมีพวกสายต�ำรวจ อยู่ด้วยนะ” รัฐมนตรีวิชัยเอ่ยขึ้นมาขณะที่ก�ำลังเดินไปยังหลุมกอล์ฟที่สองด้วย น�้ำเสียงเรียบสนิทแต่แฝงไว้ด้วยอ�ำนาจน่าเกรงขาม “ผมก็คิดว่ามีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นไอ้พวกต�ำรวจหน้าโง่มันจะรู้การ เคลื่อนไหวของเราได้ยังไง” สุรศักดิ์สวนขึ้นมาบ้างหลังจากที่นิ่งฟังการสนทนามา พักใหญ่ “มีสองทางไม่มนั ก็เรา แต่ผมกล้ารับรองว่าพวกมันต้องไปลงนรกก่อนแน่ ฮ่าๆ” พลเอกไกรหัวเราะเสียงเหี้ยมดูน่ากลัว นายพลอรัญรูม้ าตลอดว่าพลเอกไกรเป็นคนเลวคนขายชาติคนหนึง่ ไม่แพ้ รัฐมนตรีวิชัยสักเท่าไหร่ พลเอกไกรกับเขามีอายุเท่ากันและได้รับการช่วยเหลือ ผลักดันจากรัฐมนตรีวชิ ยั เหมือนกัน แต่พลเอกไกรยินยอมเต็มใจท�ำงานนีเ้ พือ่ เงิน อย่างเดียว แต่สำ� หรับเขาจ�ำเป็นต้องท�ำเพือ่ ตอบแทนบุญคุณทีร่ ฐั มนตรีวชิ ยั เคยช่วย พลเอกไกรนัน้ ถ้าอยากได้อะไรก็ตอ้ งได้ เขาเสียภรรยาไปตัง้ แต่บตุ รชายอายุยงั น้อย หลังจากนัน้ ก็ไม่ได้แต่งงานอยูก่ นิ กับใคร แต่เมือ่ เกิดอารมณ์ตณ ั หาขึน้ มา คนสนิท จะหาเด็กสาวบริสุทธิ์มาให้ นายพลอรัญพอจะรู้มาบ้างว่าพลเอกไกรเป็นพวก 63


จิตไม่ปกติในเรื่องเพศ ชอบความรุนแรง เมื่อไม่นานมานี้มีข่าววงในพูดกันว่ามี เด็กสาวคนหนึ่งที่ถูกจัดมาให้บ�ำเรอสวาทพลเอกไกรนอนหมดลมคาเตียงเพราะ ความโหดร้ายป่าเถือ่ นของเขา โชคดีทยี่ ดั เงินให้ครอบครัวเด็กคนนัน้ ไปหลายแสน เรื่องจึงเงียบลงได้ “เอาล่ะ เป็นอันว่าผมเชื่อมือคุณ คุณไกร หวังว่าอีกไม่นานไอ้สองคู่หูนั่น จะไม่กลับมารังควานเราได้อีก” “รับรองครับท่าน ผมจะรีบจัดการให้เร็วทีส่ ดุ ” พลเอกไกรให้คำ� มัน่ สายตา เหี้ยมโหดมีแววดุร้ายตลอดเวลา

64


เรืองริน

5 ยาสั่ง สาวช่างยั่ว

มัธวียแ์ ละเอกพันน�ำก�ำลังดักสกัดตรวจค้นรถเข้าออกกรุงเทพฯเกือบทุกคัน แต่กไ็ ร้รอ่ งรอยของคนร้ายทีส่ ายรายงานว่าจะพาผูห้ ญิงเข้ามาขายบริการในกรุงเทพฯ เมือ่ คนร้ายไหวตัวทันการดักสกัดจับจึงคว้าน�ำ้ เหลว สองหนุม่ กลับมาอย่างหัวเสีย เมื่อไม่สามารถท�ำอะไรได้เลย ทั้งสองคอยเฝ้าอยู่จนเช้าก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย ถอนก�ำลังกลับ มัธวียแ์ ละเอกพันแยกย้ายกันกลับไปอาบน�ำ้ เปลีย่ นเสือ้ ผ้าและกลับ มาท�ำงานตามเดิม “บ้าจริง นึกว่าวันนีจ้ ะได้ตวั แล้วเชียว” เอกพันสบถลัน่ เมือ่ มาเจอกับมัธวีย์ หลังจากแยกย้ายกลับไปอาบน�้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว “พวกมันไหวตัวทัน ไม่รู้ว่าสายของเราที่แฝงเข้าไปอยู่กับพวกมันจะเป็น ยังไงบ้าง” มัธวีย์พูดด้วยทางทางเคร่งเครียด ใจนึกเป็นกังวลหลายเรื่อง “จริงสิ ฉันยังนึกหวั่นๆ อยู่เลย” ไม่นานมีสญ ั ญาณโทรศัพท์ของมัธวียด์ งั ขึน้ ขัดจังหวะการสนทนา ชายหนุม่ เลยหันไปรับสาย “มีอะไรไอ้การ” เมือ่ ได้ยนิ ว่าปลายสายเป็นใครเอกพันก็รบี เดินเข้ามาทิง้ ตัว ลงนั่งข้างๆ มัธวีย์รอฟังว่าการุชาติโทรศัพท์เข้ามาเรื่องอะไร เพราะเขาเองสังหรณ์ 65


ว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องของพวกคนร้าย “ข่าวไม่ดีพี่ พี่คงคว้าน�้ำเหลวใช่ไหม” เสียงของการุชาติดูเครียดกว่าปกติ มากนัก “อือ” “คนของผมที่ส่งไปอยู่ในกลุ่มคนร้ายหนีออกมาได้ มันบอกว่าสายของ ต�ำรวจถูกเก็บเกลีย้ ง มีมนั คนเดียวทีห่ นีรอดมาได้ เลยรีบเอาข่าวมาบอกผมนีแ่ หละ ทีแรกผมจะไปช่วยสายพวกนั้น แต่ลูกน้องผมบอกว่าคงไม่ทันแล้วเพราะพวกมัน อุ้มไปฆ่าเสียที่ไหนก็ไม่รู้ ยังตามหาตัวไม่เจอเลย” “ระย�ำ คงไม่ทันอย่างที่ลูกน้องแกว่านั่นแหละ ถึงยังไงเราก็เสียพวกเขา ไปแน่แล้ว แกไม่ออกไปช่วยน่ะดีแล้ว พรุ่งนี้ก็งานแต่งแก เกิดอะไรขึ้นมาจะยุ่ง ช่วงนี้แกก็หยุดไปก่อนแล้วกัน อย่าเพิ่งมีการเคลื่อนไหวอะไร ไม่อย่างนั้นพวกมัน จะจับได้ ฉันไม่อยากให้แกต้องมาเดือดร้อนไปด้วย” ครัง้ แรกทีร่ วู้ า่ การุชาติจะต้องแต่งงานอีกหนึง่ อาทิตย์ขา้ งหน้า เขากับเอกพัน ตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่ามันจะกะทันหันจนแทบจะตั้งตัวไม่ทัน แต่ในเมื่อผู้ใหญ่ ทัง้ สองฝ่ายตกลงกันไว้อย่างนัน้ เขาในฐานะรุน่ พีข่ องการุชาติกย็ อมรับว่าอีกไม่นาน การุชาติก็จะมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนเสียที ถึงยัง ไงก็เห็ นใจการุชาติอ ยู่ดี เมื่อต้องตกกระไดพลอยโจรไปอย่างนั้น แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้โวยวายอะไรมากนัก เลยคิดว่าการุชาติคงท�ำใจยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ได้ “เดือดร้อนผมไม่กลัวหรอกพี่ แค่ให้พวกนั้นโดนจับ ผมพอใจแล้ว” การุชาติพูดอย่างเดือดดาดใจไม่แพ้สองหนุ่มคู่หูสักเท่าไหร่ “เอาเถอะ แกอย่าเพิง่ วูว่ ามไป ช่วงนีม้ นั เริม่ เล่นงานเรากลับ เราก็อยูเ่ งียบๆ ไปก่อนแล้วกัน” “ครับ” “งานแต่งของแกฉันกับไอ้เอกคงไปงานเลีย้ งช่วงค�ำ่ คงไม่ได้เข้าไปในงานหมัน้ ช่วงเช้านะ” “ไม่เป็นไรครับพี่ ผมเข้าใจ เฮ้อ คิดแล้วก็หนักใจ พรุ่งนี้จะแต่งงานแล้ว ยังไม่ได้เจอหน้าว่าที่เจ้าสาวเลย” “เอาน่า มีเมียนะ ไม่ได้ให้ไปท�ำอะไรทะลึ่งตึงตังเสียที่ไหน” 66


เรืองริน

“ผมก็คดิ อย่างนัน้ แหละ แค่แต่งงาน ถ้าอยูด่ ว้ ยกันไม่ได้กห็ ย่า เป็นอันจบ กันไป” การุชาติพดู เหมือนการแต่งงานเป็นเรือ่ งไม่ส�ำคัญอะไรมากนัก หากอยูก่ นั ไป แล้วเข้ากันไม่ได้จริงๆ ค่อยหย่ากันภายหลังก็ไม่น่าแปลก การุชาติคุยกับมัธวีย์ พักใหญ่ก็วางสายไป หลังจากการุชาติกลับไปเมืองกาญจน์สปั ดาห์กอ่ นก็ได้รบั ข่าวดีทเี่ ป็นข่าวร้าย ส�ำหรับเขาคือบิดาของเขาหาฤกษ์แต่งงานได้ทนั ใจดีจริง คืออีกหนึง่ อาทิตย์ขา้ งหน้า เขาก็ไม่รวู้ า่ ท�ำไมต้องรีบแต่งกันหนักหนา แต่ในเมือ่ มติทเี่ ขาไม่มสี ทิ ธิค์ ดั ค้านออกมา อย่างนั้นแล้วเขาก็ต้องยอมจ�ำใจแต่งงานกับเจ้าสาวที่ไม่เคยเห็นหน้าโดยปริยาย ทีแรกเขายังคิดว่าอย่างน้อยน่าจะมีเวลาสักสองถึงสามเดือนก่อนจะมีงานแต่งขึ้น แต่พอกลับไปถึงบ้านบิดาก็ยมิ้ หน้าบานเมือ่ เห็นเขากลับจากกรุงเทพฯ แล้วบอกข่าว ที่ท่านดีใจเป็นที่สุด เขายังอดคิดไม่ได้ว่าเจ้าสาวของเขาน่าจะหน้าตาขี้เหร่ถึงให้รีบ แต่งขนาดนี้ ขืนถ้ารอให้ช้ากว่านี้อาจจะหาใครมาแต่งด้วยไม่ได้ บิดาเขาก็เห็นด้วย เสียอย่างนั้น ตลอดทั้งวันสองหนุ่มไม่เป็นอันท�ำงานแต่อย่างใดเพราะมัวแต่คิดเรื่อง สายทีถ่ กู อุม้ ไปฆ่า ไหนจะเรือ่ งทีค่ ว้าน�ำ้ เหลวเมือ่ คืนทีผ่ า่ นมาและผูก้ ารพลลพทีเ่ ป็น ผูบ้ งั คับบัญชาโดยตรงของเขาทัง้ สองสัง่ ให้ทงั้ สองหนุม่ หยุดการเคลือ่ นไหวชัว่ ขณะ “เฮ้ยไอ้มาร์ค จะสองทุ่มแล้ว กลับเถอะว่ะ หรือว่าจะไปหาอะไรดื่ม ผ่อนคลายเสียหน่อย” “อือ ดีเหมือนกัน วันนี้เซ็งเป็นบ้าเลย” สองหนุ่มออกจากที่ท�ำงานตรงไปยังผับที่ชื่อสวิงเพราะทั้งสองกลายเป็น ขาประจ�ำไปเสียแล้ว อาจด้วยบรรยากาศของผับและอยู่ใกล้กับคอนโดของมัธวีย์ ด้วย เลยเลือกที่นั่นแทนที่อื่นๆ มัธวีย์ขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจน�ำเอกพันไปก่อน เพราะรายนั้นก็เอารถส่วนตัวไปด้วย โดยหารู้ไม่ว่ามีมอเตอร์ไซค์อีกคันที่ขับตาม สองหนุม่ ไปตลอดเวลาแล้วรายงานข่าวการเคลือ่ นไหวของสองหนุม่ ให้เจ้านายทราบ ผ่านทางโทรศัพท์

67


ณ บริษัทเอสเฮช โลจิสติก จ�ำกัด “คุณแม่หรือคะ รสต้องเคลียร์งาน คงกลับค�่ำหน่อยนะคะ” “โธ่ พรุ่งนี้ก็จะแต่งงานแล้วนะลูก ยังจะท�ำงานอีกหรือ” คุณหญิงรจเรศ เอ่ยเสียงอ่อนอกอ่อนใจ เพราะตั้งแต่รู้ว่าต้องเข้าพิธีแต่งงานอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา รสสุคนธ์ก็เอาแต่ท�ำงาน กลับบ้านดึกดื่นทุกวัน “รสต้องเคลียร์เอกสารทางนีใ้ ห้เสร็จเสียก่อนทีร่ สต้องไปอยูท่ เี่ มืองกาญจน์ น่ะค่ะ ผู้จัดการคนใหม่มารับงานแทนรสจะได้ไม่ยุ่งมากนัก” “ก็ได้ลูก แต่อย่ากลับดึกมากนักนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลุกไม่ไหว” “ค่ะ คุณแม่ไม่ตอ้ งเป็นห่วงนะคะ รสจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จเร็วทีส่ ดุ ค่ะ” “จ้ะ” หลังจากวางสายจากรสสุคนธ์แล้วคุณหญิงรจเรศก็หันไปมองหน้าสามีที่ นัง่ อยูข่ า้ งๆ ด้วยอาการไม่พอใจนักตัง้ แต่รวู้ า่ สามีกำ� หนดงานแต่งรวดเร็วตามใจตน นางก็ไม่คุยกับสามีอีกเลย เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของรสสุคนธ์กลัวว่าลูกจะคิด ว่าเธอและท่านนายพลอรัญจะผลักภาระการเลี้ยงดูเธอไปให้พ้น คุณหญิงรจเรศ รู้ดีว่ารสสุคนธ์จริงๆ แล้วเป็นเด็กอ่อนแอทางใจ ถึงภายนอกจะแสดงออกถึงภาพ ของสาวมัน่ ร่าเริง เก่งรอบด้าน แต่ลกึ ๆ แล้วรสสุคนธ์แฝงไว้ดว้ ยความความอ่อนแอ ความน้อยเนื้อต�่ำใจเมื่อเห็นท่านนายพลอรัญดูแลเอาใจใส่โรสรินมากกว่าตน ถึงแม้จะไม่พูดไม่กระท�ำอะไรให้เห็น แต่สายตาที่คุณหญิงรจเรศเคยเห็นบ่อยครั้ง มันท�ำให้นางอดคิดเสียไม่ได้ว่ารสสุคนธ์รู้ความจริงที่ตัวเองเป็นเด็กที่นางและสามี ไปขอมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กก�ำพร้า เพราะเหตุนี้คุณหญิงรจเรศจึงสงสารและ เห็นใจรสสุคนธ์ไม่น้อย รสสุคนธ์เคลียร์งานและเก็บของส่วนตัวจนเกือบสามทุม่ ร่างบางเดินออก จากห้องท�ำงานที่นั่งมาเกือบสามปีหลังจากเรียนจบ พรุ่งนี้เธอก็ต้องแต่งงานแล้ว ย้ายไปอยู่กับสามีที่จังหวัดกาญจนบุรี ว่าที่สามีที่เธอไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ�้ำ กล่อง ใบย่อมขนาดเต็มอ้อมแขนถูกเก็บไว้หลังรถก่อนที่ร่างบางจะขึ้นประจ�ำที่คนขับ รสสุคนธ์ขับรถไปได้ไม่นานก็ผ่านสถานบันเทิงที่เธอและเพื่อนๆ เคยมากันเพียง ครั้งเดียว เท้าบางไวเท่าความคิดพร้อมทั้งหักพวงมาลัยกลับรถแล้วมาจอดอยู่ที่ หน้าสถานบันเทิงแห่งนั้นพลางคิดว่าขอนั่งฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์สักชั่วโมง 68


เรืองริน

คงไม่เป็นอะไร เสือ้ สูทสีขาวแขนยาวเข้ารูปแบบของผูห้ ญิงถูกถอดออกวางไว้ขา้ งทีน่ งั่ คนขับ เหลือไว้แต่ชดุ เกาะอกสีมว่ งสดทีย่ าวเหนือเข่า ส่งร่างบางให้สวยแบบเซ็กซีเ่ ย้ายวนใจ พร้อมส้นสูงสามนิ้วครึ่งเข้ากับชุด รสสุคนธ์เดินเข้าไปในสถานบันเทิงแห่งนัน้ โดยมีกระเป๋าไร้สายแบบทันสมัย ใบไม่โตมากนัก หญิงสาวเลือกได้ที่นั่งตรงบาร์เครื่องดื่มที่มีบาร์เทนเดอร์หน้าตาดี คอยบริการอยู่ตลอดเวลาด้วยลีลาชวนมอง รสสุคนธ์ยิ้มให้เด็กหนุ่มที่เธอคิดว่า น่าจะอายุน้อยกว่าเธอสักปีหรือสองปี “รับอะไรดีครับคุณผู้หญิง” “ขอ Strawberry Daiquiri แก้วหนึ่งค่ะ” เครื่องดื่มที่รสสุคนธ์สั่งเป็นน�้ำผลไม้ปั่นผสมกับแอลกอฮอล์ที่รสสุคนธ์ ชอบดื่มเป็นประจ�ำ ด้วยเพราะมีรสหวานจึงอ้างกันว่ามันเป็นเครื่องดื่มของผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วอาจมีดกี รีแรงกว่าเหล้าบางชนิดทีผ่ ชู้ ายชอบดืม่ เสียอีก ผูช้ ายบางคน ยังเมินที่จะดื่มของพวกนี้เสียด้วยซ�้ำเพราะกลัวจะเมาแล้วขายหน้าสาวๆ ไม่นานเครื่องดื่มที่รสสุคนธ์สั่งก็มาวางอยู่ตรงหน้าด้วยแก้วทรงสูงมีน�้ำ สีหวานอยู่ด้านในพร้อมด้วยผลไม้ที่มักน�ำมาตกแต่งที่ขอบแก้วให้ดูน่าทานขึ้น รสสุคนธ์นงั่ จิบเครือ่ งดืม่ ไปเรือ่ ยๆ จนเวลาผ่านไปเครือ่ งดืม่ ทีส่ งั่ ก็หมดลงพร้อมด้วย ความรูส้ กึ ทีย่ งั ไม่อยากกลับบ้าน เธอเลยสัง่ มาเป็นแก้วที่สอง ไม่นานก็ตามมาด้วย แก้วที่สาม “ฮึ พรุง่ นีแ้ ล้วสินะทีฉ่ นั จะต้องแต่งงาน น่าสมเพชทีส่ ดุ ” ด้วยความมึนเมา จากเครือ่ งดืม่ ทีใ่ ครๆ คิดว่ามันไม่มฤี ทธิร์ า้ ยแรง แต่เมือ่ ดืม่ เข้าไปมากๆ ก็สามารถ ท�ำให้มึนเมาขึ้นมาได้เหมือนกัน ร่างสาวเริ่มเอนเอียงพร้อมทั้งพยายามลุกขึ้นพา ตัวเองออกไปเต้นเพื่อปลดปล่อยอารมณ์เมื่อมีการเปลี่ยนเพลงอย่างกะทันหัน จากเพลงสากลมาเป็นเพลงไทยสตริง เหล่านักเต้นเมื่อได้ยินแค่ดนตรีเริ่มเพลงก็ โห่เสียงร้องอย่างชอบใจ มันเป็นเพลงอัลบั้มใหม่ล่าสุดของนักร้องสาวมาดเซอร์ที่ รสสุคนธ์ชอบและติดตามผลงานของเธอคนนี้มาตลอด ‘จะมัวกังวลกันไปท�ำไม ปล่อยใจลอยไปให้สุขสบาย ลืมความวุ่นวาย... 69


ก็อยู่คนเดียวให้มันสบาย ไม่รู้ไม่ชี้ไม่คิดไม่แคร์อะไร มาคล้องแขน โยกย้าย... มาท�ำอะไรให้มนั ร่าเริง มาท�ำชีวติ ให้มชี วี า ยืดแขนยืดขา มาเต้นแร้งเต้นกา มาเลย บรรเลง ละเลง ไปด้วยกัน ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มากมาย’ เพลง กา กา กา ศิลปิน ปาล์มมี่ รสสุคนธ์เริม่ เต้นด้วยความผ่อนคลายมากขึน้ เมือ่ เพลงเริม่ ด�ำเนินไปเรือ่ ยๆ ด้วยท�ำนองสนุกสนาน จากที่เต้นอยู่ข้างๆ บาร์เครื่องดื่มกลับถูกหนุ่มๆ หลายคน ต้อนให้ออกไปเต้นกลางวงอย่างสนุกสนานจนลืมเวลา หนุ่มหลายคนเริ่มหันมาสนใจสาวน้อยที่เต้นจนลืมความสวยด้วยสายตา เป็นมัน อยากจะพาไปกกกอดด้วยกันทัง้ นัน้ ต่างเบียดเข้ามาเพือ่ ให้ได้เต้นใกล้ชดิ ท�ำความสนิทสนมกันมากขึ้น แต่ด้วยเพราะเสียงเพลงที่ดังสนั่นและด้วยความ มึนเมารสสุคนธ์กลับไม่ได้คดิ อะไรมาก แค่เต้นและตะโกนร้องตามเสียงเพลงเท่านัน้ ไม่ได้สนใจกับหนุ่มๆ รอบข้างมากนัก “เฮ้ย ไอ้มาร์คดูนั่นสิวะ เด็ดแท้เลยแม่เจ้าโว้ย” มัธวีย์และเอกพันเข้ามา นั่งดื่มอยู่ในผับที่ชื่อสวิงได้เกือบชั่วโมงกว่าแล้ว ทั้งสองขึ้นมานั่งอยู่บนชั้นลอย ริมระเบียงมองขาแดนซ์มากมายสนุกกันพร้อมทัง้ จิบบรัน่ ดีไปด้วย การเหนือ่ ยจาก งานทัง้ วันทัง้ คืนเริม่ ผ่อนคลายลงเมือ่ เจอเสียงเพลง ได้ดมื่ ด�ำ่ กับบรรยากาศรอบข้าง “อะไร” มัธวีย์วางแก้วบรั่นดีในมือลงพร้อมทั้งมองตามสายตาเพื่อนหนุ่ม ที่ก�ำลังสนในกลุ่มนักเต้นที่ชั้นล่างของผับอย่างไม่ยอมละสายตาทั้งๆ ที่มีสาวสวย นั่งอยู่ข้างกายทั้งคน “นั่นไง สาวน้อยชุดสีม่วงนั่นเต้นมันเป็นบ้าเลยว่ะ ดูไอ้หนุ่มๆ พวกนั้นสิ ตามคลอเคลียไม่เลิกเลย สงสัยน้องสาวคนสวยคงฉายเดี่ยว พวกนั้นเลยกล้าไป แนบชิดติดไหล่อยู่อย่างนั้น” เอกพันมองภาพเบื้อล่างด้วยท่าทางสนใจเป็นพิเศษ เขามองเห็นสาวร่างบางคนหนึง่ อาการมึนเมาได้ทกี่ ำ� ลังเต้นกระจายอยูก่ ลาง หมูผ่ ชู้ ายมือปลาหมึกทัง้ หลายพร้อมทัง้ ส่ายศีรษะด้วยความระอาทีห่ ญิงสาวไม่ยอม รักนวลสงวนตัว “สาวๆ สมัยนี้ช่างกล้านะ” มัธวีย์พึมพ�ำเสียงเบาคนเดียวเพราะถึงยังไง ก็ไม่อยากท�ำลายน�ำ้ ใจสาวข้างกายของเพือ่ นหนุม่ ทีใ่ จกล้าหน้าด้านมานัง่ คลอเคลีย 70


เรืองริน

อยูไ่ ม่หา่ ง ถึงจะมาในรูปแบบใกล้เคียงกับสาวขาแดนซ์ขา้ งล่าง แต่กค็ นละลักษณะ กัน เพราะสาวข้างกายของเอกพันไม่ได้ไปเต้นยัว่ ชายมากหน้าหลายตาอยูอ่ ย่างนัน้ “น่ากลัวว่ะ” หลังจากมองอยู่พักใหญ่ก็จบเพลงแรกแล้วเริ่มด้วยเพลง จังหวะสนุกๆ อีกเพลง สาวร่างบางก็ยังคงเต้นไม่หยุด “กลัวอะไรของแกไอ้เอก” มัธวียเ์ ห็นเพือ่ นหนุม่ นัง่ มองสาวขาแดนซ์อยูน่ าน จนสาวสวยข้างกายเริ่มงอนขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เจ้าตัวดูจะยังท�ำเฉยไม่ยอมหันกลับ ไปเอาใจสาวสวย “นมหกไงเพื่อน ดูสิ แม่ดึงเกาะอกขึ้นใหญ่เลย ไอ้พวกที่เต้นอยู่ข้างๆ ท�ำหน้าเสียดายเป็นแถวเลย” เอกพันเอนร่างสูงเข้ามากระซิบชิดใบหูของเพือ่ นหนุม่ “ดูแกสนใจผู้หญิงคนนั้นจังนะ” เอกพันยักไหล่แล้วหันกลับไปนัง่ อย่างเดิมก่อนจะคว้าร่างบางข้างกายเข้ามา แนบชิดสนิทมากขึ้นพร้อมทั้งยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มรวดเดียวหมด “ไม่มีอะไรหรอก ฉันอยากรู้ว่าหล่อนจะเสร็จใครในกลุ่มที่ก�ำลังล้อมรอบ อยู่นั่นน่ะ ฉันไม่ได้อยากไปแย่งกับใคร แค่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็สวยบาดตาบาดใจ แล้วล่ะ ใช่ไหมครับ น้องแตงคนสวย” มัธวีย์เลิกคิ้วก่อนจะมองลงไปด้านล่างเป้าหมายคือสาวร่างบางภายใต้ วงล้อมของหนุ่มกลัดมันทั้งหลาย ทางด้านรสสุคนธ์เมื่อเริ่มรู้สึกถึงมือไม้ของหนุ่มๆ ที่พร้อมจะจับส่วนสัด บนร่างกายของเธอมากขึ้น เธอเลยเดินกลับมานั่งที่เดิม ถึงจะมึนเมาแต่ก็ยังมีสติ พอที่จะรู้ว่าอันตรายเข้ามาถึงตัว ด้วยการถูกลวนลามจากหนุ่มนักดื่มทั้งหลาย แต่ก็ไม่วายมีหนึ่งหนุ่มเดินตามมานั่งลงใกล้ๆ ดูท่าทางภายนอกสุภาพใช้ได้เพราะ ไม่ได้เข้ามาใกล้หรือมือหนวดปลาหมึกเหมือนที่เจอมาเมื่อสักครู่นี้ “ผมขอนั่งด้วยคนนะครับ รู้สึกว่าคุณจะมาคนเดียว ไม่เหงาหรือครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มเป็นมิตรให้รสสุคนธ์ “ไม่หรอกค่ะ ฉันคงอยูไ่ ม่นานก็จะกลับแล้ว” รสสุคนธ์ยมิ้ ตอบกลับไปบ้าง โดยหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มข้างกายก�ำลังมีแผนการอะไรบางอย่าง ภายใต้ใบหน้าใสซื่อ ไร้พิษสง 71


“ยังไม่ทันไรจะกลับแล้วหรือครับ อยู่นั่งเป็นเพื่อนคุยกับผมก่อนนะครับ พอดีผมก็มาคนเดียวเหมือนกัน เพื่อนๆ ไม่มีใครว่างสักคนเดียว” ชายหนุ่มแกล้ง พูดเสียงติดจะอ้อนเล็กน้อย “ผมชื่อเอ็มครับ คุณล่ะครับ” เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร เขาก็เลยแนะน�ำตัวเสียเลยเพื่อ หวังสานสัมพันธ์ต่ออย่างที่ตั้งใจเอาไว้ “ฉันชือ่ รสค่ะ” รสสุคนธ์บอกแค่ชอื่ เล่นเท่านัน้ พลางนึกว่ามีเพือ่ นคุยด้วย ก็ดเี หมือนกันจะได้ไม่เหงา จริงๆ แล้วเธอก็ยงั อยากนัง่ ฟังเพลงอยูท่ นี่ สี่ กั พัก ไม่ได้ อยากรีบกลับเลย “ชื่อเพราะจัง แล้วนั่นเครื่องดื่มคุณหมดแล้วนี่ครับ ผมสั่งให้ใหม่นะ” “ไม่ตอ้ งหรอกค่ะ ไม่นานฉันว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน อย่าสัง่ อะไรเลยค่ะ” “นั่งเป็นเพือ่ นผมสักพักเถอะครับ เดีย๋ วผมสัง่ น�้ำผลไม้ให้ดมื่ แก้เมาดีกว่า ขืนกลับอย่างนี้จะขับรถไหวหรือครับ นะครับ ผมจัดการให้” เขาไม่รอให้รสสุคนธ์ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่กลับเรียกบาร์เทนเดอร์แล้วสัง่ น�้ำมะนาวมาสองแก้ว รสสุคนธ์ไม่ทันสังเกตว่าชายหนุ่มยักคิ้วให้บาร์เทนเดอร์ไป ครั้งหนึ่งเหมือนจะเป็นการทักทายกัน ไม่นานน�้ำมะนาวในแก้วทรงสูงเย็นเฉียบ ก็ถูกวางอยู่ตรงหน้า “ดื่มหน่อยนะครับ จะได้ตาสว่างขึ้น” ชายหนุ่มเลื่อนแก้วมาตรงหน้าของ รสสุคนธ์ หญิงสาวอึกอักอยู่ไม่นานก็ยอมยกแก้วน�้ำมะนาวเย็นฉ�่ำขึ้นไปจิบเพียง เล็กน้อย ใช่ ความเย็นและหวานซ่อนเปรี้ยวชุ่มคอท�ำให้รสสุคนธ์รู้สึกดีขึ้นอย่าง บอกไม่ถูก “ขอบคุณมากนะคะ ฉันดีขึ้นจริงๆ ค่ะ” รสสุคนธ์บอกเขาหน้าตาดูสดชื่น ขึ้นมาทันตาเห็น พร้อมทั้งยิ้มหวานหยดส่งไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า “ถ้าอย่างนัน้ ก็ดมื่ ให้หมดสิครับ จะได้รสู้ กึ ดีขนึ้ ” และไม่นานคุณก็จะดีขนึ้ กว่านี้ผมรับรอง เหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยก็ว่าได้ ชายหนุ่มต่อประโยคนั้นในใจ รสสุคนธ์ยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดก่อนจะส่งยิ้มให้เขา ชายหนุ่มเองก็ดื่ม ของตัวเองเรือ่ ยๆ จนหมดแก้วเหมือนกัน แต่ของเขาเป็นน�ำ้ มะนาวธรรมดาไม่ได้มี สิ่งแปลกปลอมอย่างของหญิงสาวซึ่งเขากับบาร์เทนเดอร์หนุ่มรู้จักมักคุ้นกันเป็น อย่างดีและให้ท�ำเรื่องพวกนี้เป็นประจ�ำแถมด้วยทิปเล็กๆ น้อยๆ ให้บาร์เทนเดอร์ 72


เรืองริน

หนุม่ พอได้กนิ ขนมเล่นก็เท่านัน้ ซึง่ บาร์เทนเดอร์หนุม่ และเอ็มรูจ้ กั กันมานานตัง้ แต่ที่ บาร์เทนเดอร์หนุม่ ยังท�ำงานอยูท่ ผี่ บั อีกแห่งหนึง่ เพิง่ จะย้ายเข้ามาท�ำงานทีน่ กี่ ต็ อนที่ ผับนี้เปิดใหม่ “คุณมาคนเดียวไม่กลัวหรือครับ” ชายหนุ่มยังชวนคุยขณะที่รสสุคนธ์ยัง นั่งฟังเพลงเฉยหลังจากดื่มน�้ำมะนาวจนหมดแก้วไปแล้ว “ไม่หรอกค่ะ จะไปกลัวอะไร คนตั้งเยอะแยะมีอะไรก็ร้องให้ดังเท่านั้น” พูดเสร็จก็หัวเราะเสียงใส “ผิดกับผม มาคนเดียวชักหวาดๆ กลัวว่าจะกลับไปไม่ครบสามสิบสอง ฮ่าๆ ล้อเล่นนะครับ” พูดเสร็จชายหนุ่มก็หัวเราะเสียงกังวานท�ำเอารสสุคนธ์ต้อง หัวเราะตามไปด้วย รสสุคนธ์ยอมรับว่าชายตรงหน้าคุยสนุก เธออยู่คุยกับเขาไปพักใหญ่ จนกระทัง่ รูส้ กึ ร้อนขึน้ มา มันเป็นอาการแปลกๆ มันร้อนรุม่ ใจหวิวเหมือนจะเป็นลม อย่างไรชอบกลจนต้องขอตัวเข้าห้องน�้ำเพื่อไปหาน�้ำเย็นมาลูบหน้าและต้นแขน กระทั่งความร้อนเริ่มแผ่กระจายมากขึ้นจนเธอต้องวักน�้ำขึ้นมาละเลงทั้งใบหน้า ล�ำคอ เนื้อตัวจนเปียกปอน เมือ่ เห็นสาวในชุดสีมว่ งขาแดนซ์หายไปจากกลุม่ นักเต้น สองหนุม่ ก็เลิก สนใจ นั่งดื่มกันต่อไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยเกินห้าทุ่มตรง เอกพันก็ขอแยกตัว ไปกับสาวสวยที่ชื่อแตง “ไอ้มาร์ควันนีแ้ กเลีย้ งใช่ไหมวะ” เอกพันลุกขึน้ ยืนเต็มความสูง ในอ้อมแขน มีร่างของสาวสวยอยู่ด้วย “เออ ทิ้งเพื่อนเลยนะแก” มัธวีย์ว่าเข้าให้ “เออน่า เดีย๋ วคราวหลังฉันเลีย้ งเต็มทีเ่ ลยเพือ่ น วันนีง้ ว่ งเป็นบ้าอยากนอน เต็มทีแล้ว” เอกพันท�ำปิดปากหาวหวอดๆ จนมัธวียต์ อ้ งเบ้ปากให้เมือ่ คิดว่าเพือ่ นหนุม่ มารยาไปอย่างนั้นเอง เอกพันไม่ได้ง่วงนอนเสียหน่อย แค่อยากจะหาเวลาไปสาน สัมพันธ์กับสาวข้างกายมากกว่า ท�ำไมมัธวีย์จะไม่รู้ 73


เอกพันออกไปได้พักใหญ่แล้ว มัธวีย์จึงเรียกเด็กเก็บเงิน ก่อนกลับ เขาแวะเข้าห้องน�้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว “เฮ้ย! อะไรวะ” มัธวีย์ตกใจเมื่ออยู่ๆ มีร่างหนึ่งวิ่งตรงมาที่เขาเกาะติดแจ พร้อมทั้งกอด เขาไว้แน่น ศีรษะเล็กซบลงตรงแผ่นอกกว้างไม่ยอมเงยหน้าขึ้น ผมเผ้าเปียกปอน เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็เปียกชื้นจนเขาสัมผัสได้ “ช่วยด้วย พาฉันไปด้วยนะคะ ฉันร้อน ไม่ไหวแล้ว พาฉันไปด้วย” ร่างบางสั่นเทาแต่ไม่ใช่เพราะหนาว แต่เพราะอะไรสักอย่างที่มันปั่นป่วนอยู่ในกาย ขณะนี้ เลือดทุกหยดที่สูบฉีดด้วยความเร็วเกินปกติอย่างแรง ด้วยสารกระตุ้น บางอย่างทีเ่ ธอเผลอกินเข้าไปโดยไม่รตู้ วั คลืน่ ความร้อนบางอย่างแผ่กระจายแทรกซึม ไปทั่วร่างกายจนร้อนรุ่มเหมือนว่าจะแตกออกเสียให้ได้ “อะไรกันคุณ วันนี้ผมไม่ต้องการผู้หญิง คุณไปหาคนอื่นเถอะ” เขาพยายามแกะมือบางทีก่ อดเขาไว้แน่นออกไปให้ได้ แต่สาวน้อยเงยหน้า ขึ้นมองเขาสายตาเชิญชวน ตาปรือหวานฉ�่ำ เขานึกออกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็น คนเดียวกับทีเ่ ขาและเอกพันเห็นจากด้านบนว่าเธอเต้นกระจายอยูเ่ มือ่ สักครู่ เขาคิด ว่าเจ้าหล่อนจะไปต่อกับหนุม่ ๆ พวกนัน้ เสียอีก แล้วนีท่ ำ� ไมมาเกาะเขาแจไม่ยอมไป กับพวกนั้นล่ะ “ไม่ พาฉันไปด้วย คุณจะไปไหนพาฉันไปด้วยนะคะ ฉันร้อน ช่วยฉัน หน่อยเถอะ” ร่างบางยังไม่ยอมถอยห่างอ้อนวอนให้เขาพาเธอไปด้วย มันเป็นผล มาจากฤทธิ์ของสารกระตุ้นที่ใครๆ เรียกกันว่า ’ยาปลุกเซ็กซ์’ “อะไรกัน ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องการ คุณไปหาผู้ชายคนอื่นเถอะ เฮ้ย ปล่อยสิคุณ” ร่างบางกอดเขาเอาไว้แน่นกว่าเก่า เกาะเป็นปลิงเหนียวหนึบไม่ยอมให้เขา ออกเดินไปไหนถ้าไม่พาเธอไปด้วย “พาฉันไปด้วย พาไปไหนก็ได้ทไี่ ม่ใช่ทนี่ ี่ ให้ฉนั ไปกับคุณนะ ฉันร้อนมาก ฉันร้อนจริงๆ” เสียงแหบพร่าที่เหมือนเจ้าตัวจะพยายามบังคับตัวเองจนสุดฤทธิ์ เอ่ยออกมาช่างเย้ายวนอารมณ์ดิบของมัธวีย์เสียเหลือเกิน “เวรแล้วไหมล่ะไอ้มาร์คเอ๊ย แม่นี่ก็เหลือเกิน ขายกันซึ่งๆ หน้าอย่างนี้ 74


เรืองริน

เลยหรือนี่” มัธวีย์ส่ายศีรษะ ปากก็บ่นพึมพ�ำไปเรื่อยพลางก้มลงมองมือสาวสวยที่ เกาะติดเขาไม่ห่าง “ไปเถอะคุณ พาฉันออกไปด้วยนะ ฉันไม่ไหวแล้ว ร้อนเหลือเกิน ร้อน ไปหมดทั้งตัวเลย” เสียงของหญิงสาวเหมือนเว้าวอนให้เขายอมพาเธอไปด้วย ร่างบางเองก็ดูจะมีอาการเซเล็กน้อย เนื้อตัวร้อนรุ่ม “เฮ้ย ไม่... คุณไปหาคนอืน่ เถอะ ผมไม่อยากได้ผหู้ ญิงไปนอนด้วยจริงๆ” มั ธ วี ย ์ พ ยายามตั ด ใจจากร่ า งบางที่ ดู เ หมื อ นจะร้ อ นยิ่ ง กว่ า ไฟเสี ย อี ก มือหนาค่อยๆ แกะแขนเรียวออกจากรอบเอวเขา แต่หญิงสาวขัดขืนไม่ยอมท่าเดียว เธออยากให้เขาพาไปด้วยให้ได้ ทั้งสายตาอ้อนวอนและเชิญชวน ริมฝีปากขบเม้ม กันอยูต่ ลอดเวลา พร้อมทัง้ เสียงครางแผ่วในล�ำคอ จนเขาต้องกระเดือกน�ำ้ ลายอย่าง ยากล�ำบาก ‘นี่ถ้าเขาพาไปที่คอนโดด้วย เธอคงเป็นคนจัดการเขาเสียเอง ก็ดูสิยั่วเก่ง เป็นบ้าเลย’ มัธวีย์ถอนหายใจหนักหน่วงพลางคิดว่าสงสัยคืนนี้เขาต้องพาสาวสวย เลือดร้อนไปนอนด้วยเป็นแน่แท้ แต่มาคิดอีกทีเธอกล้ามากทีเ่ ปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่รู้ว่าโดนมาเสียเละแล้วหรือเปล่า เลยไม่มีใครสนใจจึงจะมาจับเขา เขาก็กลัว โรคติดต่อเหมือนกัน ถ้าไม่อดอยากจริงๆ เขาก็ไม่สนใจ ต่อให้สวยเหมือนเทพธิดา อย่างไรถ้าเขาบอกไม่ก็ต้องไม่ “พาฉันไปด้วย ฉันไม่ไหวแล้ว” รสสุคนธ์พูดอะไรซ�้ำไปซ�้ำมา รู้สึก ครั่นเนื้อครั่นตัวอย่างไรชอบกล สติก็เกือบจะไม่เหลือแล้ว เธอรู้ว่าก�ำลังท�ำอะไรที่ มันไร้ยางอาย แต่ก็บังคับร่างกายไม่ได้จริงๆ ร่างกายที่รุ่มร้อน อยากปลดปล่อย อะไรสักอย่างที่อยู่ในตัวให้หายไป อยากแก้ผ้าให้เหลือแต่เนื้อเปลือยเปล่า อยาก ให้ใครสักคนเข้ามากอดเธอไว้ตลอดเวลา “ไม่ดีกว่า ปล่อยเถอะคุณ ผมจะกลับแล้ว คุณไปหาเอาดาบหน้าแล้วกัน” พูดจบมัธวียก์ ส็ ะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของสาวร่างบาง จนร่างนัน้ ผละถอยหลัง เสียการทรงตัวไปเล็กน้อย มัธวีย์เดินออกจากร้านไม่หันไปมองหญิงสาวอีกเลย ชายหนุ่มตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจใส่ถุงมือหนังสีด�ำก่อนจะหันไปคว้าหมวก กันน็อกขึน้ มาสวม แต่สายตากลับชะงักค้างเมือ่ ภาพตรงหน้าน่าหวาดเสียวเหลือเกิน หญิงสาวในชุดสีม่วงสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยเดินตามเขาออกมาตั้งแต่ 75


เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้เธอพยายามจะถอดเสื้อตัวเองกลางลานจอดรถ ร่างบาง ปากระเป๋าที่ถือออกมาด้วยทิ้งลงตรงหน้า มือบางจับเสื้อเกาะอกทั้งสองข้างไว้ เขา เพิ่งจะสังเกตว่าเสื้อของเธอเป็นซิปซ่อนอยู่ด้านหน้าผ่าลงมาถึงช่วงเอว แล้วขณะนี้ เจ้าตัวเองพยายามดึงรั้งซิปลงมาจนเผยให้เห็นทรวงอกร�ำไร ที่มีปราการสีแดงสด แบบเกาะอกปิดไว้อีกชั้นหนึ่ง “เฮ้ย! คุณท�ำบ้าอะไรน่ะ” มัธวีย์เบิกตากว้างตกใจกับภาพตรงหน้า “ฉันร้อน... ร้อน” เสียงแหบพร่าลากยาวเหมือนคนจะขาดใจตายเสียให้ได้ มัธวียเ์ องก็ตกตะลึง เขาผ่านผูห้ ญิงมาก็เยอะแต่ไม่เคยเจออย่างนีม้ าก่อนเลย นีเ่ ป็นประสบการณ์ครัง้ แรกทีม่ สี าวสวยมาเสนอตัวแล้วพอเขาปฏิเสธ เธอดูเหมือน จะไม่ยอมให้เขาเมินเฉยกับเรือนร่างของเธอง่ายๆ เธอพยายามยั่วยวนเขาทุกทาง ให้เขาพาไปด้วยให้ได้ มัธวีย์วางหมวกกันน็อกลงที่เดิมแล้วรีบลงจากการคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ คันโปรดตรงไปคว้ามือบางที่ก�ำลังดึงรั้งซิปให้ลงไปจนสุด เหลืออีกแค่ไม่ถึงคืบ ชุดเกาะอกสีม่วงสดก็จะเผยให้เห็นร่างขาวผ่องที่ซ่อนตัวอยู่ในร่มผ้าของเธอ “คุณท�ำบ้าอะไร ไม่อายชาวบ้านเขาบ้างหรือไง แค่โดนผมปฏิเสธแค่นี้ จะแก้ผ้าโชว์เลยหรือ” มัธวียจ์ บั ยึดข้อมือบางให้หยุดการกระท�ำ แต่ดเู หมือนเธอจะผลักอกเขาออก และจัดการต่อไป เสียงดุกระด้างของเขาไม่ได้ชว่ ยเรียกสติของหญิงสาวกลับมาเลย สักนิด มัธวีย์ชักหัวเสียกับการกระท�ำของเธอเต็มทน “เออ... เอา... เอา... เอาเข้าไปแม่คุณ อยากถอด อยากโชว์ก็ตามใจ เชิญเลยผมไม่สนคุณแล้ว ไปล่ะ” มัธวีย์หันหลังเดินกลับไปที่รถของตัวเองอีกรอบพยายามระงับจิตใจที่มัน วาบหวิวกับภาพที่เห็น ชายหนุ่มยืนหันหลังให้และถอนหายใจหนักหน่วงเหมือน จะพยายามตัดใจ แต่ก็ท�ำไม่ได้เลยต้องเดินกลับไปหาร่างบางที่ดึงซิปเสื้อเกาะอก ตัวสวยออกมาจนสุดปลายทางของมันแล้ว ชายหนุ่มคว้าชุดของเธอไว้ทันก่อนที่ มันจะร่วงลงไปตามเรือนร่างเย้ายวนแล้วดึงกลับมาให้อยู่ในสภาพปกติ “โธ่เอ๊ย อยากจะบ้าตาย... ผมยอมก็ได้ ไป คุณไปกับผมแล้วกัน ยุง่ เป็นบ้า พับผ่าสิ” มัธวีย์เดินกลับไปที่รถ เขาบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าท�ำไมต้องไปเห็นใจ 76


เรืองริน

ผู้หญิงช่างยั่วคนนี้ อาจเป็นเพราะสภาพที่ดูแทบไม่ได้ ใบหน้าผมเผ้ายุ่งเหยิง เปียกชื้นไปด้วยน�้ำที่เจ้าตัวน่าจะจัดการละเลงใส่ตัวเองแบบไม่ยั้ง “คุณจะพาฉันไปด้วยใช่ไหม ฉันร้อนเหลือเกิน” รสสุคนธ์ก�ำเสื้อเกาะอก ตัวสวยเอาไว้แน่น ใจหวิวเมื่อได้ใกล้ชิดเขา แม้มันเป็นเพียงชั่วเสี้ยววินาทีที่เขาดึง ชุดเธอเอาไว้ก็ตาม “ก็มาสิ ดึงซิปขึ้นเสียด้วย” สติอันน้อยนิดของรสสุคนธ์สั่งการให้เธอดึงซิปชุดตัวสวยขึ้นจนมันกลับ มาอยูใ่ นสภาพปกติ ท่าทางการเคลือ่ นไหวต่างๆ ช่างดูเย้ายวนอย่างเหลือเชือ่ มัธวีย์ เดินกลับไปเก็บกระเป๋าที่หญิงสาวทิ้งไว้เสียเองแล้วดึงร่างบางให้เดินกลับไปที่รถ มอเตอร์ไซค์ของเขา ร่างสูงขึน้ คร่อมพร้อมทัง้ คว้าหมวกกันน็อกขึน้ มาใส่ เขาพยายาม ไม่มองเข้าไปภายใต้เสื้อเกาะอกที่หมิ่นเหม่ล่อแหลมน่าหวาดเสียวนั้น “ถ้าจะไปกับผมก็ขึ้นมา” มัธวีย์เสียงดังท่าทางขัดใจเมื่อเห็นว่าร่างบาง ยังยืนเฉย “ฉันร้อน ช่วยด้วยเถอะค่ะ” รสสุคนธ์เอ่ยเสียงแผ่ว “รู้แล้ว รีบขึ้นมาสิ ยุ่งเป็นบ้าเลย ผมไม่เคยพบเคยเจอผู้หญิงที่ตื๊อไม่เลิก อย่างคุณสักครัง้ เลย อยากจะไปนอนกับผมก็ได้ จัดให้” รสสุคนธ์สติรางเรือนเต็มทน เขาสั่งให้ท�ำอะไรก็ท�ำ แค่ขอให้เขาช่วยปลดปล่อยความร้อนรุ่มต่างๆ นานาออก ไปจากตัวเธอก็พอ ผิดชอบชัว่ ดีอย่างไรเธอไม่สามารถรับรูไ้ ด้ในขณะนี้ เพราะฤทธิ์ ของสารกระตุน้ ประสาททีเ่ ข้าครอบง�ำสติทกุ ส่วนให้หลงระเริงเหมือนผูห้ ญิงกร้านโลก มัธวีย์ถอนหายใจหนักพลางคิดว่าน่าจะปล่อยให้เดินแก้ผ้าโชว์สักรอบ ให้หายกร้านโลกเสียบ้าง แต่คิดอีกทีคงไม่เหมาะที่จะให้สาวแถมสวยอีกต่างหาก ต้องมาท�ำอะไรพิเรนทร์อย่างนัน้ ใครเป็นพ่อเป็นแม่คงปวดหัวพิลกึ ทีม่ ลี กู สาวอย่างนี้ ก็อย่างที่เขาเคยพูดกันไม่มีผิดที่ว่า บ้านไหนมีลูกสาวก็เหมือนมีส้วมไว้หน้าบ้าน ท�ำอะไรนิดหน่อยก็เหม็นคาวฉาวโฉ่ไปทัว่ ท�ำให้พอ่ แม่ตอ้ งอับอายขายหน้าชาวบ้านเขา รสสุคนธ์ปรือตามองหน้าเขาอย่างไม่รู้จะท�ำอย่างไร มัธวีย์เลยดึงร่างบาง ขึน้ มานัง่ ซ้อนหลังในลักษณะตะแคงหันข้างให้เขา ร่างบางเอนซบลงกับแผ่นหลังกว้าง แขนทั้งสองยกขึ้นกอดเอวหนากระชับมั่น มัธวีย์เลยออกรถตรงไปยังคอนโด ของเขาทันที นัง่ มาได้ไม่นานมือบางทีก่ อดเอวเขาเริม่ ขยับเคลือ่ นไหวลูบไล้ตรงช่วง 77


หน้าอกของเขาจนร่างสูงที่ท�ำหน้าที่ขับรถอยู่ถึงกับสะดุ้ง ใช่ว่าเขาจะหวั่นไหวกับ อีแค่มือเล็กๆ ที่สัมผัสเสียเมื่อไหร่ แต่มือเล็กไม่ได้แค่เคลื่อนไหวลูบไล้แผ่วเบา เท่านัน้ กลับบีบขย�ำหน้าอกทีเ่ ต็มไปด้วยมัดกล้าม มีเสียงครางแผ่วเบาจากร่างบาง มาให้ได้ยินอยู่เป็นระยะ มัธวีย์ใช้มือหนึ่งตะครุบจับหมับเข้ากับมือบางซุกซนเมื่อมันเลื่อนต�่ ำลง เรือ่ ยๆ จนน่าหวาดเสียว แต่ไม่วายอีกมือทีย่ งั เป็นอิสระก็กระท�ำการแทน คว้าหมับ เข้าที่เป้ากางเกงผ้าเนื้อหนาของเขาอย่างจัง มัธวีย์สะดุ้งเฮือกอีกครั้ง ไม่เคยเลย สักครั้งที่เสียท่าให้กับผู้หญิงหน้าตาใสซื่ออย่างนี้มาก่อน โชคดีที่คอนโดของเขา ห่างจากผับแห่งนัน้ ไม่มาก ขับรถแค่สบิ นาทีกถ็ งึ ถ้านานกว่านีเ้ ขาคงได้ลงแดงตาย คามือของสาวช่างยั่วคนนี้แน่ หรือไม่เขาก็แค่จอดรถแล้วทิ้งเธอไว้กลางทาง ปล่อยตามยถากรรมให้ไปหาผู้ชายบ�ำเรอความใคร่ของเธอเสียให้พอ มัธวียจ์ อดรถในทีจ่ อดประจ�ำของเขาใต้คอนโดหรูใจกลางเมืองหลวง แล้ว รีบถอดหมวกกันน็อก มือหนาตะครุบมือเรียวบางทีย่ งั เคลือ่ นไหวอยูต่ รงเป้ากางเกง ของเขาไม่ห่าง จนน้องชายของเขาเริ่มรับรู้ถึงสัมผัส และก�ำลังจะตื่นตัวเต็มที่ จนเป้ากางเกงตุง ปวดหน่วงไปทั้งร่าง “นี่คุณใจเย็นๆ หน่อยไม่ได้หรือไง” มัธวีย์พูดพร้อมทั้งสะบัดมือบางออก แล้วเขาก็ก�ำของสงวนเพื่อระงับการตื่นตัวของมันเสียเอง ชายหนุ่มหายใจเข้าออก หนักหน่วง ฟันขบเข้าหากันเสียงดังกรอดๆ “ช่วยฉันหน่อย ฉันไม่ไหวแล้ว กรุณาช่วยฉันด้วยเถอะค่ะ” มัธวีย์ลงจากรถแล้วคว้าร่างบางลากไปยังลิฟต์ตรงขึ้นห้องของเขาทันที เมื่อเขาพยายามระงับอารมณ์เต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนน้องชายของเขาจะไม่ยอม ร่วมมือด้วย ถ้าอย่างนัน้ เขาจะเป็นฝ่ายร่วมมือกับน้องชายของเขาเสียเอง เขาจะจัด ให้หนักจนลุกขึ้นไม่ไหวเลยคอยดู ‘แม่สาวช่างยั่ว’ มัธวีย์คาดโทษที่หญิงสาว ท�ำให้เขาตื่นตัวโดยที่เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจเลยด้วยซ�้ำ ทั้งสองเข้ามายังลิฟต์ตัวกว้างที่มีกระจกรอบด้าน รสสุคนธ์เองตอนนี้ก็ไม่ รับรูอ้ ะไรทัง้ สิน้ เมือ่ สติไม่ได้อยูก่ บั เนือ้ กับตัวอีกต่อไปแล้ว สติของเธอมันดับวูบไป เพราะฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กซ์เพียงอย่างเดียว ร่างบางเอนเข้ากอดเอวหนาใบหน้า ซุกซบอกกว้าง จนมัธวียเ์ องก็ดเู หมือนจะหมดความอดทน ร่างสูงกระชากหญิงสาว 78


เรืองริน

ออกจากตัวเล็กน้อยแล้วก้มลงบดขยี้ริมฝีปากเข้ากับปากเรียวดูเอิบอิ่มช่างยั่ว เรียกเสียงครางอย่างพอใจจากร่างบางได้ไม่น้อย เขาเองยังนึกแปลกใจที่เธอท�ำ เหมือนไม่เคยจูบใครมาก่อน ดูช่างไร้เดียงสาเหมือนเด็กอ่อนหัด จูบแบบเร่าร้อน ยังคงด�ำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดประตูจึงเปิดออก มัธวียอ์ ดทนไม่ไหวอีกแล้ว ร่างสูงถอนปากออกแล้วก้มลงช้อนร่างบางลอยจากพืน้ ก่อนจะพาเข้าห้องนอนของเขาไป

79


6 สาวบริสุทธิ์ยั่วรัก

มัธวีย์วางร่างบางในอ้อมแขนลงกับที่นอนขนาดคิงไซส์ แล้วตามลงมา ทาบทับ ปากหยักสวยได้รปู ปิดประกบปากเรียวเอิบอิม่ ทีแ่ ย้มเผยอย่างยัว่ ยวน จูบ เร่าร้อนดุดัน มัธวีย์เพิ่มแรงบดเคล้ามากขึ้นเรื่อยๆ เขาใช้ปลายลิ้นรุกล�้ำควานหา ลิ้นนุ่มในปากเรียวเอิบอิ่มที่แยกรอรับสัมผัสจากเขา ปลายลิ้นหอมหวานเริ่มแตะ สัมผัสกับปลายลิ้นร้อนแรงราวกับลาวา รสสุคนธ์ใบหน้าแดงก�่ำ ร่างบางสั่นสะท้านวาบหวามรัญจวนใจ เมื่อถูก ปลุกกระตุน้ ด้วยจูบทีเ่ ร่าร้อนจากชายหนุม่ มากประสบการณ์และด้วยยาปลุกเซ็กซ์ ที่ท�ำงานอย่างมีประสิทธิภาพช่วยสร้างอารมณ์ให้หวั่นไหวสั่นสยิวได้ไม่ยากนัก แขนเรียวทัง้ สองข้างยกขึน้ โอบกอดเขาไว้พร้อมทัง้ ลูบไล้แผ่วเบาด้วยความไร้เดียงสา แต่มันก็ท�ำให้ชายหนุ่มสะท้านขึ้นมาได้เหมือนกัน มัธวีย์ผละจูบออกขณะที่มือหนาดึงรั้งซิปชุดเกาะอกตัวสวยลงมาจนเผย ให้เห็นชัน้ ในสีแดงสดดูเซ็กซีช่ วนมองเมือ่ ตัดกับผิวขาวเนียนละเอียดของหญิงสาว ชายหนุม่ ครางหนักๆ ในล�ำคอเมือ่ ก้มลงไปดูดเม้มเนินอกอวบอิม่ เกินตัวทัง้ สองข้าง รสสุคนธ์ผวาเมื่อเขาใช้ลิ้นร้อนลากไล้ไปมาที่เนินหน้าอกอย่างไม่ลดละจนเนินอก 80


เรืองริน

สองข้างเปียกชื้น ชุดเกาะอกสีม่วงสดถูกดึงออกไปผ่านทางปลายเท้า ก่อนที่มันจะ ตกลงไปข้างเตียงอย่างไร้ความหมาย ร่างบางเผยส่วนสัดชวนมองเต็มตัว แต่ยังมีปราการชิ้นน้อยสองชิ้นสี เดียวกันปกปิดไว้อย่างไม่ค่อยจะมิดชิดเท่าไรนัก รสสุคนธ์ปรือตามองชายหนุ่มที่ เคลื่อนไหวอยู่บนตัวเธอ บิดตัวท่าทางเชิญชวนให้เขารีบเร่งเข้าหาและเติมเต็มเพื่อ ช่วยปลดปล่อยความร้อนรุ่มในกายเธอ “ฉันไม่ไหวแล้ว ช่วยฉันด้วย ช่วยฉัน” “อือ ใจเย็นสาวน้อย ผมช่วยคุณแน่ไม่ต้องห่วงหรอก” มัธวีย์พูดเสียง แหบพร่า กายสัน่ สะท้าน ดูเหมือนเขาจะพยายามควบคุมอารมณ์สดุ ความสามารถ เพื่อไม่ให้เผด็จศึกสาวน้อยช่างยั่วเร็วเกินไปนัก มัธวีย์ขึ้นคร่อมร่างบางไว้ มือสองข้างบีบคลึงอกอวบอิ่มช่างแตกต่างกับ เรือนร่างเล็กทีด่ นู า่ จะสูงไม่เกินร้อยหกสิบห้า ปากหยักได้รปู ค่อยๆ เข้าครอบครอง ปากเรียวเอิบอิ่มอีกรอบ รสสุคนธ์ยกแผ่นหลังขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเพื่อให้เขาได้สัมผัส หน้าอกได้สะดวกขึน้ มือเรียวทัง้ สองข้างลูบไล้แผ่นหลังกว้างก่อนจะดึงชายเสือ้ เชิต้ ออกจากขอบกางเกง แล้วมือน้อยก็มุดหายเข้าไปภายใต้ตัวเสื้อของเขาสัมผัส แผ่นหลัง ก่อนจะวกกลับมาด้านหน้าพร้อมทั้งบีบขย�ำเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ตาม เนื้อตัวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเต็มตึงของเขา “อือ ท�ำไมคุณถึงร้อนแรงอย่างนี้นะ” มัธวีย์ผละจากปากเรียว เขาจูบไล้ลงไปจนถึงทรวงอกอวบใหญ่เต่งตึง มือหนาเลื่อนไปทางด้านหลัง สะกิดตะขอเพียงนิดเดียวชุดชั้นในสีแดงสดก็ดีดตัว ปลดปล่อยให้ดอกบัวคู่งามเป็นอิสระ มัธวีย์จ้องตะลึงกับความงามเหมือนไม่เคย ถูกใครสัมผัสมาก่อน ยอดทรวงสีชมพูชชู นั รอรับการสัมผัสจากเขา มัธวียก์ ม้ ลงไป หยอกเย้าด้วยความพอใจ เป็นผลให้ร่างบางผวาอีกรอบกอดคอเขาไว้ พร้อมทั้ง เสียงครางที่เริ่มดังขึ้นจากการกระท�ำของชายหนุ่ม พยายามเบียดแนบชิดเข้ามา ให้มากยิง่ ขึน้ เอวบางเคลือ่ นไหวยัว่ เย้าเขาเมือ่ รูว้ า่ ท�ำอย่างนัน้ แล้วตัวเองมีความสุข “ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันทนไม่ไหวแล้ว” ศีรษะเล็กส่ายไปมาเมือ่ อารมณ์ทเี่ พิม่ ขึน้ ทรมานเธออย่างมากล้น 81


มือหนาเลือ่ นลงมาดึงปราการชิน้ น้อยกลางร่างบางออกแล้วปาทิง้ ลงไปรวม กับชุดสวยที่เขาจัดการไปก่อนหน้านั้นแล้ว มัธวีย์ผละจากอกอวบอิ่มแล้วยกตัว ขึ้นเล็กน้อยเพื่อก้มลงมองเนินเนื้อแห่งเพศที่เขาสัมผัสได้ว่ามันไร้ซึ่งสิ่งใดที่ควรมี เหมือนหญิงสาวรายอื่นที่เขาเคยผ่านมาก่อนหน้านี้จนนับไม่ถ้วน “สวยเหลือเกิน” มัธวีย์ค่อยๆ แตะมือหนาลงบนนาผืนน้อยที่ไร้ซึ่งการเพาะปลูก หรืออาจ จะเป็นผืนนาที่อยู่บนสวรรค์ มันช่างสวยงามไม่มีสิ่งใดปกปิดจนเขาคิดว่าสาวสวย เหมือนเด็กทารก มัธวียห์ ายใจหอบแรงขึน้ จากการสัมผัสเพียงแผ่วเบา การกระท�ำ ของมัธวีย์ยิ่งสร้างความทรมานให้รสสุคนธ์เข้าไปอีก หญิงสาวท�ำหน้าเหมือนจะ ร้องไห้ แต่ก็ยังบดเบียดร่างเข้าหาเขาเพื่อให้เขาเติมเต็ม ช่วยให้เธอหายจากอาการ ทรมานอันแสนสาหัส ผลจากฤทธิย์ ากระตุน้ ท�ำให้รา่ งบางก�ำลังมีความสุขอย่างเต็มเปีย่ ม เสียงคราง กระเส่าดังไปทัว่ ทัง้ ห้องนอนทีส่ ะท้อนก้องไปมา ของแปลกปลอมจากภายนอกท�ำให้ ร่างบางได้รับความทุกข์ทรมาน แต่มันก็เป็นความทรมานที่มีความสุขเหลือหลาย มากกว่าครั้งใดเสียอีก นิ้วมือของชายหนุ่มเริ่มแตะต้องกับส่วนที่อ่อนไหวของ ร่างกายสาวอย่างคนช�ำนาญการเป็นอย่างดี มือบางเปลี่ยนมาเป็นจับกระชับข้อมือ ที่ก�ำลังเร่งกระท�ำกับร่างกายเธอไว้เมื่อรับรู้ว่าร่างกายไม่ใช่ของเธออีกต่อไปแล้ว มันก�ำลังจะหลุดลอยออกไปไกลสุดกู่ แต่แล้วอยู่ๆ เหมือนมีใครมาดึงรั้งเอาไว้ ก่อนจะปล่อยเธอไปอีกรอบแล้วกระชากกลับมาแรงๆ เสียงกรีดร้องผสมกับเสียงหายใจหอมถี่ผสานกันเสียงดัง ร่างบางทิ้งตัว ลงกับที่นอนหนานุ่มสั่นกระตุกเป็นระลอก มัธวีย์สัมผัสได้ถึงความสุขที่เขา ปรนเปรอให้หญิงสาว มัธวีย์จัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนทาบทับ ร่างบางไว้อกี รอบ คราวนีเ้ ขาไม่พดู พร�ำ่ ท�ำเพลงอีกต่อไปแล้ว เมือ่ ชายหนุม่ แทรกตัว เข้าหาเบียดชิดจนเขาสัมผัสได้ถึงความต้องการอันมากล้นที่ต้นขาของหญิงสาว มัธวียเ์ อือ้ มมือไปค้นอะไรสักอย่างในลิน้ ชักข้างหัวเตียงในขณะทีย่ งั คร่อม ร่างบางยั่วตาอยู่ แล้วสิ่งที่เขาต้องการก็เข้ามาอยู่ในมือเขาเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่ม ฉีกซองสีแดงด้วยฟันแล้วดึงเอาสิ่งของภายในสีแดงสดออกมาสวมใส่แก่นกลางที่ ตึงแน่นอยากปลดปล่อยเต็มทน เพราะถูกหญิงสาวยัว่ มาตัง้ นานแล้วจนเขาปวดหน่วง 82


เรืองริน

ไปทั้งเรือนร่าง มัธวีย์แทรกร่างสูงใหญ่เข้ากับเรือนร่างบอบบางช่างยั่วยวนทันที เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่ทั้งสองร่วมกันทักทอมันขึ้นมาพักใหญ่ “โอ๊ะ... เจ็บ...” “นี่มัน... นี่มันอะไรกันวะ ท�ำไม เป็นไปไม่ได้ คุณยังบริสุทธิ์อยู่” ใบหน้างามบิดเบีย้ วด้วยความเจ็บจากครัง้ แรก และด้วยขนาดของเขาทีใ่ ส่ เข้ามาอย่างไม่ยับยั้ง มัธวีย์เองก็เกร็งตัวแน่นเมื่อรู้ว่าหญิงสาวยังบริสุทธิ์ ไม่เคย ต้องมือชายใดมาก่อน ร่างหนาหยุดการเคลือ่ นไหวใดๆ ทัง้ สิน้ เขาค้างอยูใ่ นท่านัน้ เพื่อผ่อนคลายความตึงคับแน่นที่ท�ำให้น้องชายของเขาซ่านสยิว แล้วเขาก็ค่อยๆ ถอนแก่นกายออกจากร่างบางเมื่อหญิงสาวสั่นสะท้านด้วยความเจ็บ แต่เขาคิดผิด เมือ่ ร่างบางกลับเอือ้ มมือมาคว้าเอวหนาของเขาเอาไว้ไม่ให้ถอนกายออกไปจากร่าง ของตน “ช่วยฉันด้วย... ได้โปรด” ร่างบางบิดอ่อนระทวยน�ำ้ ตาร่วงลงมาจากหางตา ดูเหมือนหญิงสาวพยายามต่อต้านอะไรบางอย่างภายในกายอยู่ ริมฝีปากล่างถูกกัด จนห้อเลือด นัยน์ตาพริม้ หลับ มือสองข้างจับกดสะโพกเขาเข้าหาตัวเองแน่นขึน้ เรือ่ ยๆ จนหญิงสาวเป็นคนขยับเรือนร่างเบียดมัธวียเ์ สียเองเมือ่ ชายหนุม่ ยังชะงักค้างไม่ยอม เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น “เดี๋ยว... เฮ้ย... ท�ำไมคุณถึง...” มัธวียเ์ กร็งร่างหนาไม่ขยับจนร่างบางขัดใจเป็นคนลุกขึน้ ผลักเขาให้นอนลง แล้วขึ้นคร่อมทับร่างสูงเสียเอง แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์จึงไม่รู้ว่าจะเริ่ม อย่างไร แต่ด้วยฤทธิ์ยาที่ท�ำให้เธอช่างเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายสิ้นดี ชายหนุ่มเห็น อาการเก้ๆ กังๆ เขาเลยผลักร่างบางให้กลับไปอยูใ่ ต้รา่ งเขาอย่างเดิม ในเมือ่ หญิงสาว ไม่แคร์ว่าเป็นครั้งแรกแล้วยังท�ำท่าทางว่าอยากให้เขาร่วมเร่งมือท�ำกามกิจโดยเร็ว มีหรือเขาจะรอช้าอยู่อีก ในเมื่อเขาเองก็ต้องการปลดปล่อยเหมือนกัน มัธวีย์น�ำกายกลับเข้าหาหญิงสาวอีกรอบซึ่งมันก็สะดวกกว่าครั้งแรก แต่ ก็ยังรู้สึกคับแน่นอยู่ดี ร่างบางยกสะโพกรับเอวหนาของชายหนุ่มในจังหวะที่เขา ประสานเข้าเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มเริ่มขยับในจังหวะช้าๆ เสียงหายใจเริ่มหนัก และถี่แรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางเองบิดเร่าครวญครางฟังไม่ได้ศัพท์ ช่างไม่เหมือน หญิงบริสุทธิ์เสียเลย 83


‘นี่ถ้าเขาไม่เป็นคนเปิดบริสุทธิ์เธอเอง เขาจะไม่เชื่อเด็ดขาดว่าผู้หญิงคนนี้ ยังไม่มีชายใดแตะต้อง เพราะความร้อนแรงยั่วยวนเพศตรงข้ามอย่างมืออาชีพที่ เขาเคยใช้บริการหลายต่อหลายคนยังสู้แม่สาวร้อนแรงคนนี้ไม่ได้เลย’ ร่างสูงทิ้งตัวลงไปจูบปิดปากเรียวที่เผยแยกออกจากกัน พร้อมทั้งเบียด หน้าอกเต็มไปด้วยมัดกล้ามเข้าหาอกอวบอิ่มล้นมือ แต่ร่างบางกลับชะงักเล็กน้อย แล้วมือบางก็พยายามสอดแทรกระหว่างตัวเขาและเธอไปที่บริเวณหน้าอก มัธวีย์ หยุดการเคลื่อนไหว เขายกร่างขึ้นมองหญิงสาวก็พบต้นเหตุที่ท�ำให้ร่างบางใบหน้า บิดเบี้ยว มันเป็นสร้อยคอของเขาเอง สร้อยที่มีแหวนทองค�ำขาวแบบเรียบง่าย ฝังเพชรเม็ดเล็กๆ ไว้เหมือนกันทั้งสองวงที่เขาใส่มันติดตัวอยู่ตลอดเวลา มัธวีย์ หยิบจี้ที่เป็นแหวนเหวี่ยงไปทางด้านหลัง เขาไม่เคยถอดมันมานานและจะไม่ถอด ออกดัวย จึงให้มันไปอยู่อย่างผิดที่สักพักเพื่อเขาจะได้ท� ำกิจกรรมต่อ จากนั้น มัธวีย์ก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกรอบ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายเต็มใบหน้าแดงก�่ำเรียวงาม จนเขาต้องเอื้อมมือไป แตะเช็ดให้ ปากเรียวขบเม้มเข้าหากันด้วยความเสียวซ่านก่อนจะเปล่งเสียงคราง ดังสนัน่ ห้องนอน จนชายหนุม่ ต้องก้มลงปิดเสียงนัน้ ด้วยจูบเร่าร้อนอีกครัง้ พร้อม ทั้งมือหนากอบกุมอกอวบอิ่มไปด้วย ในขณะเดียวกันช่วงกลางล�ำตัวก็ก�ำลัง ท�ำหน้าทีอ่ ย่างดีเยีย่ มไม่ขาดตกบกพร่อง แม้รา่ งกายเขาจะสุขสมกับร่างงามเพียงใด แต่เขาจะพยายามประวิงเวลาเพื่อช่วยน�ำพาเธอให้พานพบความสุขที่เธอต้องการ ให้เต็มที่และถึงใจที่สุด ผมยาวนุ่มสลวยแผ่กระจายเต็มหมอน ศีรษะเล็กโยกไปมาตามแรงรัก ของเขา ใบหน้างามบิดเบี้ยวเหมือนคนทรมานจะขาดใจแต่ก็ยังส่งเสียงครางระงม ไม่ขาดสาย มือบางจิกทึ้งผ้าปูที่นอนจนยับยู่ไปทั้งเตียง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง ประสานกับเสียงครางและเสียงหายใจหอบถีข่ องชายหนุม่ จนเขาต้องขบกรามแน่น มัธวีย์เร่งจังหวะถี่เร็วขึ้น รสสุคนธ์รู้สึกหมุนคว้างเหมือนคนอยู่ในภวังค์ นัยน์ตาปรือหวานฉ�่ำ ปากอิ่มช่างยั่วอารมณ์ดิบของเขายิ่งนัก ความกระสันเสียว เพิ่มขึ้นตามล�ำดับ เลือดในกายสาวยิ่งสูบฉีดเต้นแรงขึ้น ภายในช่องทางสวรรค์ บีบรัดเป็นระยะ เขาเข้าใจเลยว่าหญิงสาวใกล้แตะขอบสวรรค์ เขาจึงเร่งน�ำพา ในจังหวะเมามันถึงใจพร้อมอาการเกร็งร่างเมือ่ ถึงจุดเดียวกับหญิงสาวใต้รา่ งทีค่ ราง 84


เรืองริน

เสียงแหลมยาว ร่างกายสั่นกระตุกด้วยความเสียวซาบซ่าน “ไม่ไหวแล้ว...” หลังจากลมหายใจที่หอบแรงกลับมาอยู่ในภาวะปกติ ร่างสูงจึงถอดถอน แก่นกายออกจากร่างบางแล้วดึงสิ่งป้องกันของเขาทิ้งลงถังขยะที่หน้าห้องน�้ำ ก่อนจะเดินหายเข้าห้องน�้ำไปพักใหญ่ เขากลับออกมาอีกรอบเห็นร่างบางที่นอน เหยียดยาวอยู่บนที่นอนหนานุ่มก�ำลังส่งเสียงครางแผ่วเบาในล�ำคอ อกอวบอิ่ม สองข้างกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหอบถี่ มือบางข้างหนึ่งนวดคลึงอกอิ่มของตัวเอง อีกข้างก�ำลังกดวนอยู่กลางล�ำตัวในอาการเดียวกับที่เขาท�ำให้เธอเป็นครั้งแรก ดวงตาทั้งสองข้างพริ้มหลับไม่รับรู้ว่าชายหนุ่มมายืนมองด้วยอาการตะลึงอยู่ข้างๆ ‘ไม่อยากเชื่อว่าหญิงสาวยังไม่อิ่มจนต้องบ�ำเรอความใคร่ให้ตัวเองอีกรอบ หรือว่าที่เขาท�ำมันไม่ถูกใจเธอกันแน่’ ร่างสูงนัง่ ลงทีข่ อบเตียง การยุบตัวของเตียงนอนท�ำให้รา่ งบางปรือตาขึน้ มอง เมื่อเห็นว่าเป็นเขาหญิงสาวเลยหยุดการกระท�ำทั้งหลายแล้วลุกขึ้นมาใช้สองแขน โอบต้นคอของเขาแล้วเหนีย่ วให้ใบหน้าโน้มต�ำ่ ลงมาหาก่อนจะเป็นฝ่ายครอบครอง ริมฝีปากของเขาด้วยความไร้เดียงสา แต่กแ็ ฝงไว้ดว้ ยความร้อนแรงเชิญชวน จนเขา ต้องจับร่างบางผละออกห่างจากตัว “รักฉัน... รักฉันอีกนะคะ... รักฉัน” น�้ำเสียงอ้อนวอนสั่นเครือแหบพร่าจนเกือบจะไม่ได้ยิน พร้อมทั้งสายตา หวานฉ�่ำเหมือนคนมึนเมา มัธวีย์พิศมองร่างบางสวยบาดตาอยู่ครู่ เมื่อเจอสายตา ขอร้องแกมบังคับมา เขาเลยสะบัดผ้าขนหนูที่พันกายท่อนล่างทิ้งไป แล้วกระโดด ขึน้ เตียงจัดการกับสาวน้อยตรงหน้าด้วยอารมณ์คอ่ นข้างร้อนแรงกว่าครัง้ แรกมาก เพราะคิดว่าเขาคงท�ำไม่ถึงใจ เธอจึงพยายามจัดการตัวเอง เมื่อเขามีโอกาสครั้ง ที่สองเขาจะจัดแบบเต็มกระบวนการให้ ดูซิว่าร่างบางจะยังต้องบ�ำบัดให้ตัวเอง อีกหรือไม่ มัธวียก์ อดรัดฟัดเหวีย่ งกับร่างบางด้วยความร้อนแรงกว่าครัง้ แรก มือหนา บีบเคล้นอกอิ่มเมามันไม่สนใจว่าหญิงสาวจะเจ็บ เอวหนาเบียดแทรกกลางล�ำตัว หญิงสาวหนักหน่วง ปากหยักได้รูปบดขยี้ไม่ปรานีเมื่อร่างบางจับศีรษะเขากด เข้าหาใบหน้าของตัวเอง ปากอิ่มตอบรับการรุกเร้าของเขาด้วยอาการเดียวกัน 85


แต่ก็ยังด้อยประสบการณ์กว่าชายหนุ่ม รสสุคนธ์ทนกับอารมณ์เสียวสยิวไม่ไหวแล้ว จึงเร่งให้เขาช่วยขยับสะโพก ของเธอให้เร็วขึน้ มือเรียวโอบรอบล�ำคอแข็งแรง นิว้ เรียวยาวจิกลงไปตามเนือ้ ของเขา ด้วยแรงที่ไม่เบาเลย และแล้วมัธวีย์ก็พาร่างบางแตะขอบสวรรค์อีกรอบ ชายหนุ่ม ซบหน้าหอบหายใจอยู่กับอกอิ่ม ใบหน้าหวานถูไถไปกับศีรษะของเขา สายตาปรือหวานชวนมอง มัธวีย์ ชะงักมือที่คลึงอกอวบแล้วเงยใบหน้าขึ้นมองหญิงสาว เขาเห็นริมฝีปากอิ่มขบเม้ม เข้าหากันส่งสายตาเชิญชวนมายังเขา เสียงหวานร้องหาให้เขาช่วยเติมเต็มเร่งเร้าบท รักสุดสวาทอีกรอบอย่างไม่รู้จักอิ่ม “คุณไม่เหนื่อยหรือ... ผมท�ำไม่ดีอีกหรือ มันยังไม่ถึงใจคุณตรงไหน สองครั้งที่ผ่านมาคุณไม่ชอบเลยหรือ” “ฉันมีความสุข... คุณช่วยฉันนะคะ” เสียงแหบโหยเร้าอารมณ์มธั วียเ์ หลือเกิน สงสัยเขาต้องเล่นบทสวาทกับเธอ อีกรอบ เขายอมรับว่าพอใจหญิงสาวใต้รา่ งของเขาคนนีม้ าก อาจเป็นเพราะเธอยัง บริสทุ ธิจ์ นกระทัง่ เขาเป็นคนตีตราราคีให้เธอ แต่มนั ก็เป็นความเต็มใจของเธอเอง ด้วย เธอเรียกร้องให้เขากระท�ำกับเธอตลอดเวลา มัธวียเ์ หนือ่ ยสายตัวแทบขาดเมือ่ ผ่านเพลงรักแสนเร่าร้อนในรอบสุดท้าย พร้อมกับแสงอรุณรุง่ ส่องผ่านผ้าม่านสีทบึ เข้ามาภายในห้อง แสดงว่าเขากับหญิงสาว ร่วมรักกันจนเช้า บทสวาทสุดท้ายหญิงสาวร่างบางเป็นฝ่ายน�ำพาเขาไปสู่จุดหมาย ปลายทางโดยมีเขาคอยสอนและช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา มัธวีย์ยังกอดกระชับ ร่างบางที่นอนหอบหายใจถี่เร็วอยู่บนอกของเขา เมื่อลมหายใจกลับมาภาวะปกติ ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองร่างบางที่หลับพับคออ่อนคาอกเขาไปแล้วพร้อมๆ กับ หมดฤทธิ์ยาปลุกเซ็กซ์ที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่มีโอกาสรับรู้ก็ได้เจือจางลงไปด้วย ผมยาวกระจายยุ ่ ง เหยิ ง เคลี ย อยู ่ ที่ อ กของเขาเอง มั ธ วี ย ์ ทิ้ ง ศี ร ษะลง เปลือกตาหนักอึง้ แต่เขาก็ยงั มีสติพอทีจ่ ะยกตัวหญิงสาวออกเพียงนิดเดียวเพือ่ ดึง กายออกจากร่างบางแล้วถอดเอาเครื่องป้องกันบางเบาสีแดงออกทิ้งไปข้างเตียง ก่อนจะใช้เท้าใหญ่เกี่ยวเอาผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมทั้งร่างบางและร่างของตัวเอง มัธวีย์กอดกระชับร่างบางเพื่อบรรเทาอากาศเย็นจัดของช่วงเช้าและจากเครื่อง 86


เรืองริน

ปรับอากาศอย่างดีภายในห้อง และไม่นานชายหนุ่มก็หลับไปโดยมีหญิงสาวนอน อยู่กับอกของเขา มัธวียต์ นื่ ขึน้ มาอีกรอบพร้อมทัง้ สูดเอาอากาศเข้าปอดหนักๆ เปลือกตาปรือ ขึ้นมองไปบนเพดานกะพริบตาอยู่อย่างนั้นสองสามรอบก่อนจะเห็นภาพเบื้องหน้า ได้อย่างถนัดชัดเจน แล้วรู้สึกหนักตรงล�ำตัว พอก้มลงมองก็นึกขึ้นได้ว่ามีร่างบาง นอนทาบทับเขาอยู่ในลักษณะเดิมก่อนที่เขาจะหลับไป ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบ นาฬิกาข้อมือที่โต๊ะหัวเตียงขึ้นมาดูพบว่ามันเป็นเวลาบ่ายสามโมงครึ่งแล้ว “นี่เรานอนนานขนาดนี้เลยหรือ” ก็แน่สิ ก็เขาเล่นสวาทกับหญิงสาวร่างบางคนนี้ทั้งคืนจนกระทั่งเช้ากว่า จะได้ปิดเปลือกตาลง ไหนจะอดนอนมาสองคืนอีก ไม่ตายคาอกสาวช่างยั่วคนนี้ ก็ดีเท่าไหร่แล้ว เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะร่วมรักกับผู้หญิงคนไหนได้มากมายขนาดนี้ เพราะถุงยางอนามัยที่เขามีติดห้องตลอด หมดเกลี้ยงลงด้วยหญิงสาวคนนี้ คนเดียวและภายในคืนเดียวด้วย หากว่าเธออยากมีอะไรกับเขาอีกรอบเขาคง จะไล่ให้เธอไปหาเอาดาบหน้าแล้วล่ะ ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ ร้อนแรงเป็นบ้า เหมือน โดนยากระตุ้นมาอย่างนั้นแหละ “เฮ้ย หรือว่า... เป็นไปได้ไหมว่าเธอโดนมอมยามา” มัธวีย์นอนครุ่นคิดอยู่อย่างนั้นเป็นนาน แต่ก็หาข้อสรุปอะไรให้ตัวเอง ไม่ได้จนกระทัง่ เขาจับยกร่างบางทีย่ งั หลับใหลอยูก่ บั อกของเขาลงไปนอนยังทีน่ อน หนานุ่มแล้วตัวเองก็ลุกขึ้นคว้าผ้าขนหนูผืนใหญ่มาพันกายท่อนล่างไว้ก่อนจะเดิน เข้าห้องน�ำ้ ไป มัธวียก์ ลับออกมาอีกรอบพร้อมใบหน้าทีส่ ดใสขึน้ ตามเนือ้ ตัวมีหยดน�ำ้ เกาะพราว ชายหนุ่มเดินมาทิ้งตัวลงนั่งยังขอบเตียงฝั่งตรงข้ามกับที่หญิงสาวนอน หลับอยู่ ร่างบางนอนหันหลังให้เขา หันหน้าออกไปทางระเบียงห้อง มัธวีย์เหลือบ ไปยังนาฬิกาอีกรอบ มันบอกเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้ว เหลือเวลาสองสามชั่วโมง ก่อนที่เขาจะไปงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของการุชาติที่โรงแรมชื่อดัง เขาต้องพูดกับ หญิงสาวคนนี้ให้รู้เรื่องก่อนที่เขาจะปล่อยเธอกลับบ้านไป มัธวียเ์ ดินไปเปิดตูเสือ้ ผ้าหยิบเอากางเกงยีนส์เนือ้ หนาสีเข้มขึน้ มาใส่พร้อมทัง้ เข็มขัดหนังสีน�้ำตาลหลังจากใส่ชั้นในสีขาวสะอาดแล้ว ภาพสะท้อนของกระจก 87


ในตู้เสื้อผ้าท�ำให้เขาต้องยกมือหนาขึ้นลูบคางตัวเอง พลางคิดว่าน่าจะจัดการมัน เสียหน่อย คงจะไม่เหมาะแน่หากเดินเข้างานแต่งไปทั้งที่หน้าตาเหมือนมหาโจร อย่างนี้ คิดแล้วก็เดินเข้าห้องน�้ำไปทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อ เขาจัดการกับหนวดเครา รกครึ้มดกด�ำดูน่าเกลียด เขาไม่ได้โกนมันทิ้งหรอก แค่ตัดแต่งให้สั้นและน่าดู กว่าเดิมเท่านั้น เพราะเขาอยู่กับมันมานานจนมันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเสียแล้ว มัธวีย์ก�ำลังก้มหน้าล้างเศษหนวดที่เขาโกนทิ้ง แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างอยู่อย่างนั้น เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องจากห้องนอน “กรี๊ด!...” มีนาหรือมีก่ ำ� ลังเก็บโต๊ะท�ำงานหลังจากเลยเวลาเลิกงานมาแล้วเกือบครึง่ ชัว่ โมง เพือ่ นร่วมงานหลายคนต่างทยอยกันกลับไปเกือบหมดแล้ว อยูๆ่ ก็มเี สียงหนึง่ ดังขึน้ มาจากทางด้านหลังพร้อมทัง้ ร่างของรัฐมนตรีวชิ ยั ทีอ่ ตุ ส่าห์เดินมาจากอีกห้อง หนึง่ ซึง่ มีนากับรัฐมนตรีวชิ ยั ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากนัก นอกจากเรือ่ งงานเท่านัน้ เพราะเธอเป็นผู้ช่วยเลขาของรัฐมนตรีอีกท่านหนึ่ง “จะกลับแล้วเหรอหนูมี่ ฉันรู้ว่าหนูอยู่แถวรังสิต ฉันฝากของไปให้เพื่อน หน่อยสิ ฉันเองก็ติดงานแต่งเสียด้วย ถ้าเทียวไปเทียวมาน่ากลัวว่าจะไม่ทันงาน น่ะสิ รับเป็นประธานเปิดงานเขาเสียด้วย” “ได้ค่ะท่าน ว่าแต่ไหนคะของที่จะให้เพื่อนท่าน” มีนาลุกขึ้นออกไปยืนประจันหน้ากับรัฐมนตรีวิชัย แล้วมองหาของที่ท่าน อ้างว่าจะให้เอาไปให้เพื่อน “อ้อ นี่จ้ะ ไม่มีอะไรมาก แค่เอกสารนิดหน่อย หนูคอยแถวๆ ร้านกาแฟ แดร์ก็ได้ ฉันจะให้เขาไปรับที่นั่น” รัฐมนตรีวิชัยดึงเอาซองเอกสารสีขาวไม่ได้จ่า หน้าซองไว้มาตรงหน้ามีนา ซึ่งเธอรับมาดูพลางคิดว่าเพื่อนของท่านคงรู้ ไม่ต้อง จ่าหน้าซองก็ได้ “ได้ค่ะไม่มีปัญหา” “ขอบใจมากนะ ถ้าไม่ได้หนูฉันคงแย่แน่ เกรงใจเหมือนกัน คงกลับบ้าน ช้าสินะ มีใครว่าหรือเปล่า” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะท่าน คอนโดหนูอยู่ติดร้านกาแฟนั่นพอดี ไม่เสียเวลา 88


เรืองริน

อะไรหรอกค่ะ” มีนาเก็บเอกสารนั้นลงในกระเป๋าสะพายเตรียมตัวกลับคอนโด ของตัวเอง “อ้อ ค่อยเบาใจหน่อย เอาล่ะ ฉันต้องไปแล้ว ขอบใจมากนะหนูมี่” รัฐมนตรีวิชัยผละจากมา เบ้หน้า ยกมุมปากขึ้นอย่างน่าเกลียด มีนาออกจากกระทรวงตรงไปขึน้ รถของตัวเองทีล่ านจอดรถ แล้วขับออกไปยัง คอนโดของตัวเอง พลางนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่รู้เลยว่าคนที่จะมาเอาซองเอกสาร ขนาดเล็กนี้ชื่ออะไร เพื่อความแน่ใจจะได้ให้ถูกคน “ลืมได้ไงนะ แต่ไม่เป็นไร ท่านคงให้เพื่อนไปรอแล้วมั้ง” มีนาพารถของตัวเองเข้าไปจอดที่ใต้คอนโดที่เธออาศัยอยู่เพราะไม่อยาก จอดไว้ที่หน้าร้านกาแฟเพราะว่ามีรถแวะเวียนมาจอดอยู่บ่อยครั้งและที่ตรงนั้นก็ ไม่วา่ งเสียด้วย เธอเลยเลือกเดินมาจากคอนโดเพราะมันอยูต่ ดิ กับร้านกาแฟแห่งนัน้ สายตาสอดส่ายไปมาเพื่อมองหาเพื่อนของรัฐมนตรีวิชัยที่เธอเองก็ไม่รู้เสียด้วยว่า รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร หรือแม้แต่ชอื่ ก็ยงั ไม่รู้ มีนายืนอยูต่ รงนัน้ เป็นเวลาห้านาที ก็มรี ถตูค้ นั สีขาวกระจกด�ำมาจอดเทียบไม่ไกลกับเธอมากนักพร้อมทัง้ ชายคนหนึง่ แต่งตัวภูมิฐานเดินตรงเข้ามาที่เธอ “ใช่คุณมีนาหรือเปล่าครับ” “อ้อ ใช่ค่ะ คุณคงมารับของที่ท่านวิชัยฝากไว้” “ใช่ครับ ผมมีของฝากกลับไปให้ทา่ นด้วย คุณตามผมมาหน่อยเถอะครับ” มีนาเดินตามชายร่างสูงไปจนถึงรถตู้คันนั้นพร้อมทั้งยื่นซองเอกสารที่เธอ ถืออยู่ในมือไปให้เขา ชายหนุ่มรับไว้แล้วเก็บเข้าไปยังเสื้อคลุมชั้นใน “ไหนคะของที่จะฝากให้ท่าน” “ไม่มหี รอกครับ” แล้วร่างของมีนาก็ถกู ผลักเข้าไปในรถตูค้ นั ดังกล่าวด้วย ความรวดเร็ว พร้อมทัง้ ร่างของชายหนุม่ ตามเข้ามาติดๆ เสียงประตูอตั โนมัตคิ อ่ ยๆ ปิดตามหลัง ถึงมันจะปิดลงช้าๆ แต่ก็หามีใครได้สนใจเห็นถึงความผิดปกติไม่ เมื่อรถเคลื่อนออกจากที่ไปเรื่อยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เอ๊ะ อะไร ปล่อยนะ” “อย่าสะดีดสะดิ้งไปหน่อยเลย กูไม่ปาดคอเสียตรงนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว เงียบๆ นะ” จากค�ำพูดสุภาพเปลีย่ นไปทันทีเมือ่ สามารถเอาตัวมีนาขึน้ รถมาได้อย่าง สบาย

89


มีนาชักหวั่นใจมากขึ้น เมื่อรถยิ่งขับออกทางชานเมือง เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า พาโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย มีนาใช้โอกาสที่มันก�ำลังเผลอกดโทรศัพท์ แต่เจ้ากรรม แค่ปลดล็อกเสียงมันก็ดังขึ้นมา คนร้ายเลยไหวตัวหันขวับมาทางเธอ “อีนเี่ ดีย๋ วตบเลย เอามานี”่ คนร้ายกระชากโทรศัพท์ไปจากมือของมีนาแล้ว ส่งไปให้เพื่อนของมันคนที่ท�ำหน้าที่ขับรถที่ชื่อเดช มันเลยเปิดหน้าต่างแล้วปา ไอโฟนรุ่นใหม่ทิ้งไปทันที หลังจากนัน้ ไม่นานรถก็มาจอดภายในบริเวณบ้านหลังงามทีม่ ผี ชู้ ายหลายคน เดินวนเวียนอยูท่ วั่ บริเวณเหมือนเป็นการคอยให้ความปลอดภัยคนส�ำคัญอยู่ มีนา ถูกพาตัวเข้าไปในบ้านตรงไปยังห้องหนึง่ ทีถ่ กู ดัดแปลงเป็นห้องนอน มีชายร่างใหญ่ นั่งหันหลังให้ทุกคนที่เข้ามาใหม่ “มาแล้วเหรออีนังตัวดี แส่หาเรื่องดีนัก อยู่ดีๆ ไม่ชอบ” “ท่าน... จับฉันมาท�ำไม” “ท�ำอะไรไว้ล่ะ เสือกเอาข้อมูลราชการไปให้ไอ้ต�ำรวจนั่น แค่มันนอนด้วย ครั้งสองครั้งก็ยอมเสี่ยงเลยนะแก วันนี้แหละแกได้มีผัวหลายคนสมใจแน่ พวก มึงออกไป ไว้ให้กูเบื่อก่อน ใครอยากต่อเอาเลย” ห้องนั้นถูกแปรสภาพเป็นสังเวียนรักดุเดือดไปทันที ด้วยความป่าเถื่อน โหดเหี้ยมของพลเอกไกร มีนายังไม่เข้าใจกระจ่างนัก แต่รู้ว่าภัยก�ำลังมาถึงตัว โดนทั้งมือทั้งเท้า พยายามอ้อนวอนขอเท่าไหร่เขาก็ยังคงกระท�ำการกับเธอด้วย ความรุนแรงอย่างทีห่ ญิงสาวแทบรับไม่ได้ กว่าพลเอกไกรจะสมดัง่ ใจ มีนาก็บอบช�ำ้ สะบักสะบอมจนแทบจะเรียกได้วา่ ซากมนุษย์ ไหนจะต้องทนแบกรับความบอบช�ำ้ จากลูกน้องเกือบโหลของพลเอกไกรอีก และแล้วเรื่องของมีนาก็จบลงเพียงแค่นั้น หญิงสาวหายเงียบไปโดยไม่มีใครสามารถรับรู้ได้ว่าเธอไปไหน

90


เรืองริน

7 เจ้าสาวตัวสำ�รอง

รุง่ เช้าของวันเดียวกันกับทีร่ สสุคนธ์เพิง่ จะหลับไปกับอกของมัธวีย์ ทีบ่ า้ น จิตรารัศมีกเ็ กิดเรือ่ งวุน่ วายขึน้ เมือ่ ทุกคนต่างตืน่ ขึน้ มาก็พบว่าว่าทีเ่ จ้าสาวหายตัวไป อย่างไร้ร่องรอย ต่างหากันวุ่นไปทั่วทั้งบ้านไม่ว่าจะเป็นประมุขของบ้านหรือแม้แต่ แม่บ้านทั้งสี่คนพร้อมทั้งคนขับรถ “หาให้ทั่วซิ ยัยรสอาจจะออกไปเดินเล่นก็ได้” คุณหญิงรจเรศเดินคุม แม่บ้านหาบุตรสาวจนทั่วทั้งบ้านแต่ก็ไม่พบ นางชักใจไม่ดีขึ้นมาเสียแล้ว “ไม่ตอ้ ง หยุดก่อน แล้วทุกคนก็มานัง่ นี่ ใครเห็นรสสุคนธ์เป็นคนสุดท้าย” นายพลอรัญออกค�ำสัง่ เสียงเฉียบขาดเหมือนกับตวาด ขณะทีท่ กุ คนก�ำลัง หาตัวรสสุคนธ์เพื่อจะให้แต่งตัวเข้าพิธีหมั้นในช่วงเช้าที่จะจัดขึ้นที่บ้านจิตรารัศมี นายพลอรัญเดินไปทิง้ ตัวลงนัง่ ทีห่ อ้ งรับแขกร้องเรียกทุกคนให้เข้าไปหา ทัง้ คุณหญิง รจเรศและโรสรินทีม่ สี หี น้าไม่ตา่ งกันเดินมานัง่ ทีโ่ ซฟาตัวสวยฝัง่ ตรงข้ามกับนายพล อรัญที่ท�ำหน้าเหมือนว่าโกรธใครมาสักร้อยชาติ “ฉันถามว่าใครเห็นรสสุคนธ์เป็นคนสุดท้าย” นายพลอรัญเสียงดังขึน้ เมือ่ ไม่มีใครตอบค�ำถามของเขา 91


แม่บา้ นสีค่ นต่างหันมองหน้ากันแล้วเกิดเสียงซักถามกันเบาๆ ก่อนจะส่าย ศีรษะพร้อมกัน ส่วนคุณหญิงรจเรศและโรสรินหันมามองหน้ากันงงๆ ได้แต่สา่ ยหน้า ให้กัน คุณหญิงรจเรศนั้นเมื่อวางสายจากรสสุคนธ์ในช่วงหัวค�่ำนางก็ขึ้นห้องนอน เลย ส่วนโรสรินเธอรู้สึกปวดศีรษะเลยเข้านอนตั้งแต่หลังทานอาหารเย็นเสร็จ แต่ถา้ เป็นเวลาปกติเธอมักจะเข้าไปขลุกอยูใ่ นห้องของรสสุคนธ์จนง่วงนอนจึงกลับ ไปนอนห้องของตัวเอง หรือไม่ก็นอนกับรสสุคนธ์เลย “หมายความว่ายังไง ไม่มีใครเห็นเลยหรือ แล้วเมื่อคืนยัยรสกลับบ้าน กี่โมง ใครเป็นคนเปิดประตูให้บ้าง” นายพลอรัญถามออกไปสายตากวาดมอง ใบหน้าของทุกคนด้วยหน้าตาเคร่งเครียด “เมื่อคืนกิ่งอยู่เป็นคนสุดท้ายค่ะ กิ่งมาปิดไฟในห้องรับแขกตอนห้าทุ่ม แต่กงิ่ คิดว่าคุณรสเธอกลับเข้ามาแล้ว พอปิดไฟเสร็จกิง่ ก็กลับไปนอนเลย” เด็กสาว ชื่อกิ่งหลานสาวของแม่ครัวชื่ออ้อนเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางสั่นๆ เพล้ง! “ว้าย! คุณคะ” คุณหญิงรจเรศตกใจยกมือขึ้นทาบอกเมื่อสิ้นเสียงเด็กกิ่ง นายพลอรัญก็ปัดแจกันใบงามที่วางอยู่บนโต๊ะใบเล็กข้างๆ ตกแตกกระจายด้วย ความหวาดเสียวของบรรดาแม่บ้านที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้า ส่วนโรสรินเองก็ตกใจ ไม่น้อยเพราะไม่เคยเห็นบิดามีอารมณ์รุนแรงขนาดนี้มาก่อน “ให้มันได้อย่างนี้สิ เลี้ยงมันมาจนโต แต่ดูมันท�ำ มันหนีงานแต่ง มัน ไม่ไว้หน้าผมเลยนะคุณหญิง” นายพลอรัญขบกรามแน่นพูดเสียงลอดไรฟันฟังดู น่ากลัว แววตากระด้างจนโรสรินเองยังหวั่นใจ “ยัยรสหนีงานแต่งแน่แล้วหรือคะ ลูกอาจกลับมาตอนเช้าก็ได้ อดใจรอ ก่อนนะคะ” คุณหญิงรจเรศยังไม่อยากเชื่อว่ารสสุคนธ์จะมาหนีงานแต่งไปอย่างนี้ “คุณคิดว่ามันยังจะกลับอยูห่ รือ ดูสกิ โี่ มงกีย่ ามกันแล้ว อีกไม่เกินสิบนาที ฝ่ายเจ้าบ่าวก็จะถึงแล้ว เราจะเอาหน้าไปไว้ไหน แล้วแขกผู้ใหญ่ที่เชิญมาอีกล่ะ มันน่าขายหน้านัก” เสียงกระด้างพร้อมทั้งสรรพนามที่เรียกชื่อรสสุคนธ์ท�ำให้คุณหญิงมอง หน้านายพลอรัญด้วยสายตาขุน่ เคือง แต่นายพลอรัญหาสนใจสายตาของภรรยาไม่ 92


เรืองริน

“ยัยรสไปอยู่เสียที่ไหนนะ แม่เป็นห่วงเหลือเกิน” คุณหญิงรจเรศไม่วาย คร�่ำครวญถึงรสสุคนธ์ อดหวั่นไม่ได้เพราะคิดว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีกับหญิงสาว “ไม่ตอ้ งไปโอดครวญถึงมันอีก มาหาทางแก้ไขปัญหากันดีกว่า ว่าท�ำยังไง ถึงจะไม่อับอายชาวบ้านเขา” นายพลอรัญสะบัดเสียงใส่ภรรยาพร้อมทั้งสายตา จิกมองอาการคร�่ำครวญด้วยความขัดอกขัดใจ แต่ไม่รู้จะไปลงกับใคร เชื่อว่าถ้า เจอหน้ารสสุคนธ์ นายพลอรัญคงได้ท�ำอะไรสักอย่างแน่ๆ “ในเมื่อลูกหนีไปแล้ว เราก็บอกยกเลิกงานเสียก็เท่านั้น” คุณหญิงรจเรศ เสียงแผ่วเจือสะอื้นจนโรสรินต้องเข้ามากุมมือเรียว ถึงแม้วัยจะล่วงเลยเข้าไปห้า สิบแล้ว แต่ด้วยการดูแลตัวเองอย่างดีท่านเลยเหมือนหญิงวัยสี่สิบต้นๆ “ไม่ได้” เสียงนายพลตวาดมาดังลัน่ บ้าน ทุกคนในทีน่ นั้ สะดุง้ เฮือกอีกรอบ ต่างมองจ้องไปที่นายพลอรัญด้วยความคิดที่แตกต่างกันไป “แล้วคุณจะท�ำยังไงล่ะคุณอรัญ ในเมื่อลูกก็ไม่อยู่แล้ว” คุณหญิงรจเรศ เสียงแข็งขึน้ มาบ้างเมือ่ สามีดจู ะเกรีย้ วกราดท�ำท่าไม่ยอมยกเลิกงานแต่งทัง้ ๆ ทีว่ า่ ที่ เจ้าสาวก็หายตัวไปแล้ว ทั้งหมดหันไปทางหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถที่เข้ามายังบริเวณบ้านเป็น ขบวนรถของเจ้าบ่าวที่มาจอดเทียบท่าอยู่ยังประตูบ้าน เป็นรถตู้สามคันโดยมีแขก ผู้ใหญ่ของทางเจ้าบ่าวและตัวของเจ้าบ่าวเองที่อยู่ในชุดสูทสีขาวสะอาดเดินเคียงคู่ มากับบิดาของตนเข้ามาภายในบ้าน นายพลอรัญและคุณหญิงรจเรศเดินออกไปรับฝ่ายเจ้าบ่าวและพากันมา นัง่ ทีโ่ ซฟาในห้องรับแขกทีม่ โี รสรินและแม่บา้ นนัง่ อยูก่ อ่ นหน้านัน้ แล้ว โรสรินลุกขึน้ ไหว้กำ� ธรและเลยไปถึงหนุม่ หล่อทีพ่ ระเอกเกาหลียงั เรียกพี่ โรสรินบอกได้คำ� เดียว ว่าหล่อมาก ร่างสูงสมส่วนในชุดสูทสีขาว ผมดกด�ำ คิ้วเข้ม ตาคมจัด จมูก เป็นสันรับกับใบหน้า ริมฝีปากชมพูแบบธรรมชาติเป็นรูปหยักสวย ผิวพรรณขาว สะอาด ‘Love at first sight’ (รักแรกพบ) ถ้าเธอจะพูดอย่างนี้มันจะหน้าด้านเกิน ไปไหม แต่โรสรินชอบเขาจริงๆ ชายหนุ่มที่เธอเคยฝันถึงเลยล่ะ แต่ชายหนุ่มตรง หน้าช่างหน้าตายเสียเหลือเกิน ดูนิ่งๆ จนเหมือนจะเย็นชา 93


เมื่อแรกที่การุชาติเห็นโรสรินเขากลับมีความคิดที่แตกต่างกัน หญิงสาว ร่างเล็กหน้าตาเหมือนเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน�้ำนม เขาไม่ชอบ ไม่เกลียด แต่เป็น เฉยๆ เสียมากกว่า ร่างเล็กผิวขาวจัด เครือ่ งหน้าเหมือนเด็กสาวย่างเข้าวัยรุน่ ใหม่ๆ จมูกรั้นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ‘ดูท�ำหน้าเข้าสิ คงจะชอบฉันแล้วสิเด็กน้อย’ การุชาติคิดในใจพร้อมทั้ง มุมปากที่ยกขึ้นเหมือนยิ้มเยาะจนโรสรินหน้าเสียที่เผลอเปิดเปลือยความในใจให้ เขารับรู้อย่างไม่ตั้งใจ ทั้งที่เขาจะมาเป็นพี่เขยของเธออยู่แล้ว “เอ๊ะ ท�ำไมทุกคนหน้าตาดูเครียดกันอย่างนี้ล่ะ แล้วไหนหนูรสสุคนธ์ ยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกหรือ” หลังจากนัง่ ลงแล้วก�ำธรจึงเอ่ยถามเมือ่ ไม่เห็นว่าทีล่ กู สะใภ้ ร่วมอยู่ด้วย ทุกคนของบ้านจิตรารัศมีหันไปมองหน้ากันเลิ่กลั่ก “นังลูกไม่รกั ดีของฉันมันหนีไปแล้วล่ะ” นายพลพูดเสียงสะบัดจนทัง้ ก�ำธร และการุชาติหันไปจ้องมองเป็นตาเดียว ทั้งสองพ่อลูกรับรู้ได้ว่านายพลอรัญอยู่ ในอารมณ์ไหน “เฮ้ย หมายความว่ายังไงวะไอ้เขี้ยว” ก�ำธรถามขึ้นสีหน้าเลิ่กลั่ก “เพราะคุณไปบังคับลูก ยัยรสเลยหนีไป บอกยกเลิกงานไปเสียเถอะค่ะ คุณอรัญ ไหนๆ ลูกก็หายตัวไปแล้ว” คุณหญิงรจเรศพูดกับสามี แต่ไม่กล้าสู้หน้า ก�ำธรและว่าที่เจ้าบ่าว “ไม่ได้ ถึงยังไงวันนี้ก็ต้องมีงานแต่งเกิดขึ้น ผมไม่ยอมขายหน้าเด็ดขาด ผู้ใหญ่ที่เชิญมาจะคิดยังไงล่ะถ้ายกเลิกเสียกลางคันแบบนี้” “ใจเย็นเพื่อน ถ้าจะยกเลิกก็ได้ ข้ากับลูกไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ก�ำธรจับลง ที่เข่าของนายพลอรัญพยายามพูดเพื่อไม่ให้นายพลอรัญที่ดูอารมณ์ไม่อยู่กับเนื้อ กับตัวเย็นลง “ไม่ ข้าตัดสินใจแล้วก�ำธร ข้าจะให้ยัยโรสเข้าพิธีวันนี้” นายพลอรัญ พูดขึ้นเสียงหนักแน่นพร้อมทั้งพยักหน้าไปทางบุตรสาวที่จ้องมองเขาด้วยอาการ ตกตะลึง ดวงตากลมเบิกกว้าง อาการของหญิงสาวอยูใ่ นสายตาของการุชาติตลอด เขาเห็นใบหน้าเล็กกลับเผือดสีลงเมื่อเจอค�ำขาดของบิดา “คุณพ่อ!/คุณอรัญ!” โรสรินและคุณหญิงรจเรศเรียกนายพลอรัญขึ้นพร้อมกัน 94


เรืองริน

“พ่อตัดสินใจแล้ว ไปพายัยโรสไปแต่งตัว จะถึงฤกษ์หมั้นแล้ว” นายพล อรัญหันไปสัง่ ภรรยาเสียงเฉียบขาด โรสรินมองบิดาน�้ำตาคลอเบ้า คุณหญิงรจเรศ คว้ามือเรียวของบุตรสาวเข้ามากุมไว้ในอุ้งมือ สัมผัสได้ถึงความเย็นชืด แต่กลับ มีเหงื่อซึมเต็มอุ้งมือ “โรสไม่ใช่ตัวแทนของพี่รส ท�ำไมคุณพ่อต้องบังคับกันแบบนี้ด้วย คุณพ่อ บังคับพี่รสไม่ได้ แล้วต้องมาบังคับโรสแทนหรือคะ” เสียงเจือสะอื้นเป็นที่น่าเห็นใจของทุกคนที่นั่งอยู่ในขณะนั้น ยกเว้น นายพลอรัญเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมมองหน้าบุตรสาว เอาแต่มองตรงไปข้างหน้า ด้วยแววตากระด้าง “บอกให้ไปแต่งตัวก็ไปสิ” นายพลอรัญเสียงดังใส่ลกู สาวทัง้ ทีเ่ ขาไม่เคยใช้ อารมณ์กับเธอมาก่อนเลย โรสรินปาดน�ำ้ ตาทีพ่ ร้อมใจกันทิง้ ตัวลงมาแล้ววิง่ หายไปยังห้องนอนของตน โดยมีคุณหญิงรจเรศเดินตามไปด้วยเพราะห่วงบุตรสาวนั่นเอง “เอ็งบังคับลูกมากเกินไปหรือเปล่าอรัญ” ก�ำธรมองตามร่างเล็กของโรสริน แล้วหันมาถามนายพลอรัญ ส่วนการุชาติเองก็อยากรู้ว่าท�ำไมนายพลอรัญไม่ยอม ยกเลิกงานแต่งเสีย แต่เขาก็ยังนั่งมองดูสถานการณ์เฉยไม่ได้ร่วมสนทนาด้วย “เอ็งรังเกียจลูกสาวข้าหรือก�ำธร” นายพลอรัญลดเสียงลงเมือ่ หันไปพูดกับ ก�ำธรเพื่อนรักสมัยเรียน “ไม่ได้รังเกียจ ข้าบอกแล้วว่าไม่ว่าคนพี่หรือคนน้องข้ายินดียอมรับเป็น ลูกสะใภ้หมดนัน่ แหละ แต่เอ็งก็ไม่ควรไปบังคับลูกถึงขนาดนัน้ นะ” สีหน้าของก�ำธร ดูเป็นกังวลเหลือเกิน “ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยกเลิกงานแต่ง ว่าแต่พ่อการเถอะ จะว่าอะไร หรือเปล่าถ้าต้องเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหันอย่างนี้” ประโยคหลังนายพลอรัญ หันไปถามชายหนุ่มซึ่งจะมาเป็นลูกเขยของบ้านจิตรารัศมีในอีกไม่ช้า “ถึงยังไงผมก็รับปากแล้วว่าจะแต่ง ไม่ว่าเจ้าสาวคนไหนผมก็ยินดีครับ” การุชาติพูดเสียงเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา การุชาติคิดในใจว่าเอาแล้วยังไงล่ะ เกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นจนได้ ครั้งแรกเขา คิดว่าฝ่ายเจ้าสาวยอมเต็มใจแต่งด้วย แต่ที่ไหนได้กลับถูกบังคับเหมือนกันและ 95


เลวร้ายกว่าเขาเสียอีก เธออาจรับไม่ได้ถึงต้องหนีไปในวันแต่งงาน แต่เขากลับ ไม่รอดเมื่อเธอยังมีน้องสาวอีกคนที่จะมาเป็นเจ้าสาวตัวส�ำรองแทนเธอ ถ้ารู้ว่าเธอ ถูกบังคับตัง้ แต่ตน้ เขาจะได้ตดิ ต่อมาคุยกันเพือ่ ให้ผใู้ หญ่ทงั้ สองฝ่ายยกเลิกทีจ่ ะให้ แต่งงานเสีย เธอจะได้ไม่ตอ้ งตกทีน่ งั่ ล�ำบากอย่างนี้ ส่วนเขาเองก็จะได้รอดจากการ ถูกคลุมถุงชนและไม่ต้องเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหันอย่างนี้ การุชาติเหลือบไปเห็นรูปทีใ่ ส่กรอบวางอยูท่ โี่ ต๊ะตัวเล็กข้างๆ แล้วเขาก็จำ� ได้ ว่าหนึง่ ในนัน้ คือคนทีก่ ำ� ลังจะมาเป็นเจ้าสาวของเขาในขณะนี้ ส่วนอีกคนน่าจะเป็น พี่สาวของเธอที่หนีออกจากบ้านไป การุชาติบอกได้เลยว่าสวยมาก แต่เธอคงไม่ใช่ เนื้อคู่ของเขาแน่ ทางด้านโรสรินเมือ่ วิง่ ขึน้ มาบนห้องแล้วหญิงสาวกลับมาทิง้ ตัวลงนัง่ บนเตียง ปล่อยน�้ำตาให้ไหลริน ถึงจะชอบชายหนุ่มลูกของเพื่อนบิดา แต่โรสรินก็ไม่ถึงกับ อยากแต่งงานด้วยเพราะเธอก�ำลังจะไปเรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศ ถ้าเธอยอม แต่งงานในวันนี้ อนาคตที่วาดหวังไว้ก็เป็นอันดับวูบลง แต่เมื่อขัดค�ำสั่งของบิดา ไม่ได้ เลยต้องจ�ำยอมแต่งชุดที่พี่สาวของเธอน่าจะได้ใส่ในวันนี้เพื่อเข้าพิธีหมั้น กับชายหนุ่มที่เธอบอกว่าชอบเขา ฤกษ์สวมแหวนหมั้นคือตอนเก้าโมงยี่สิบเก้านาที การุชาตินั่งมองว่าที่ เจ้าสาวหน้าตาเฉย ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรมากนัก โรสรินอยู่ในชุดไทยประยุกต์ สีขาว มีตัวเสื้อเป็นแบบเปิดไหล่มนข้างหนึ่ง กระโปรงเรียบแนบเนื้อสีขาวไปทั้งตัว ผมถูกเกล้าขึ้นติดด้วยดอกไม้เล็กๆ ดูสวยงาม ใบหน้าถูกแต่งแต้มไว้แบบบางเบา ขณะนี้โรสรินนั่งอยู่นิ่งๆ จนถึงนิ่งที่สุด ใครอยากให้เธอท�ำอะไรเธอก็จะท�ำ ก�ำธร เป็นคนส่งแหวนเพชรน�ำ้ งามมาให้บตุ รชายเมือ่ ถึงเวลาทีไ่ ด้ดมู าจากอาจารย์ทา่ นหนึง่ ถึงจะเป็นฤกษ์ของบุตรชายและรสสุคนธ์ แต่ทั้งหมดของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ ตกลงแล้วว่าจะใช้ฤกษ์เดิมเพราะเป็นเลขที่สวยอยู่แล้ว การุชาติรับแหวนจากบิดา มาถือไว้ในมือ “ยัยโรสส่งมือให้พี่เขาสิ” นายพลอรัญส่งเสียงพอให้ได้ยนิ โรสรินส่งมือซ้ายไปให้ชายหนุม่ การุชาติ ค่อยๆ สวมแหวนที่นิ้วนางเรียวยาวขาวสะอาดดูน่ารักนั้นเสร็จแล้วก็ปล่อยมือบาง ตามเดิม 96


เรืองริน

“ไหว้พี่เขาเสียด้วย” โรสรินยกมือขึ้นไหว้ชายหนุ่มแต่ไม่ยอมมองหน้า เธอท�ำตามค�ำสั่งของ ท่านนายพลอรัญเหมือนตัวเองเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชา “ทีนี้ก็สวมแหวนให้พี่เขาบ้าง” โรสรินหันไปหยิบแหวนขึ้นมาสวมให้เขา การุชาติเห็นท่าทางซังกะตายเลยแกล้งใช้นวิ้ ชีส้ ะกิดลงทีฝ่ า่ มือเล็กจนโรสรินเงยหน้า คิ้วขมวดมองเขาสายตาไม่เป็นมิตรนัก ถึงเธอจะชอบรูปร่างหน้าตาของเขา แต่ก็ ไม่ได้ชอบไปเสียทั้งหมด ไม่รู้ว่านิสัยใจคอจะเป็นอย่างไร ก็ตอนที่เขายิ้มเยาะ เมือ่ ตอนทีเ่ ธอเผลอปล่อยไก่ให้เขาจับได้นนั้ มันท�ำให้เธอไม่คอ่ ยชอบใจนัก เหมือน เขาจะดูถูกเธออย่างนั้นแหละ และแล้วพิธหี มัน้ ช่วงเช้าจบลงด้วยการถ่ายรูปไว้เป็นทีร่ ะลึก เมือ่ เสร็จแล้ว โรสรินเลยกลับขึ้นห้องไปไม่สนใจว่าบิดาจะว่าอย่างไร เธอคว้าโทรศัพท์กดเข้า เบอร์ของรสสุคนธ์ เธอไม่ได้โกรธพี่สาวเลยที่หนีไป เพราะรสสุคนธ์อาจรับไม่ได้ที่ ต้องโดนบังคับ สัญญาณเรียกจนสุดสายก็ไม่มีใครรับ โรสรินกดซ�้ำเป็นครั้งที่สอง ผลก็เหมือนเดิม เธอแค่อยากคุยกับพี่สาว อยากถามว่าอยู่ที่ไหน อยากระบาย ให้ใครสักคนฟังว่าตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไร รสสุคนธ์จะได้ยินเสียงโทรศัพท์ได้อย่างไรในเมื่อมันตกอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ของมัธวีย์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เมื่อปิดประตูห้อง เสียงทุกอย่างก็ไม่สามารถเข้ามา รบกวนได้เลย หรืออีกนัยหนึง่ คือทัง้ สองหนุม่ สาวอ่อนเพลียหลับเป็นตายจะได้ยนิ เสียงโทรศัพท์ได้อย่างไร “โรสโทรหาใครหรือลูก” คุณหญิงรจเรศที่เดินตามบุตรสาวเข้ามาภายใน ห้องส่วนตัวเดินมานั่งข้างๆ บุตรสาวพร้อมทั้งโอบเอวบางกระชับเข้าแนบตัว การ สัมผัสที่อบอุ่นจากมารดาท�ำให้โรสรินผ่อนคลายลงได้มากหลังจากผ่านเวลาที่น่า อึดอัดตึงเครียดส�ำหรับเธอ “โทรหาพี่รสค่ะ แต่พี่รสไม่รับสาย” “แม่ไม่อยากเชื่อว่าพี่สาวเราจะมาหนีเอาวันแต่งงานอย่างนี้” คุณหญิงรจเรศท�ำหน้าเศร้าเสียงแผ่วเบาลงจนโรสรินต้องเอือ้ มมือบางเข้ามา กุมมือมารดาไว้มั่น “แต่ถา้ เป็นโรสก็คงท�ำอย่างนัน้ ” โรสรินเอ่ยกับมารดาด้วยน�ำ้ เสียงหนักแน่น 97


หากเป็นเธอคงจะท�ำอย่างนัน้ เหมือนกัน แต่ตอนนีม้ นั หมดโอกาสให้เธอได้ทำ� อย่างที่ รสสุคนธ์ท�ำ “แม่กไ็ ม่รจู้ ะช่วยลูกยังไงเหมือนกัน พ่อเราก็ไม่ยอมท่าเดียว อดทนหน่อย นะลูก แม่เชื่อว่าสักวันลูกกับพี่เขาต้องรักกันได้” คุณหญิงรจเรศตบหลังมือของ บุตรสาวเบาๆ เป็นการปลอบใจ โรสรินเม้มปากน�ำ้ ตาคลอเบ้าอีกรอบ เมือ่ คิดถึงอนาคตอันสดใสในวันข้างหน้า ต้องพังลงเพราะงานแต่งบ้าบอของบิดาทีบ่ งั คับใครๆ ไปทัว่ คุณหญิงรจเรศโอบกอด ลูกสาวเอาไว้พร้อมทั้งลูบหลังบอบบางภายใต้ชุดไทยแสนสวย ไม่นานหญิงสาวก็ เงียบเสียงลง คุณหญิงรจเรศเลยปล่อยให้บุตรสาวอยู่คนเดียวภายในห้องตัวเอง โรสรินทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ไม่นานก็หลับไปทั้งที่ใส่ชุดไทยแสนสวยอยู่ เกือบบ่ายสองที่หญิงสาวตั้งนาฬิกาปลุกไว้เพื่อลุกขึ้นอาบน�้ำเพราะช่างท�ำผมจะมา ตอนบ่ายสาม ร่างบางค่อยๆ ลุกขึ้นแต่ก็ต้องตกใจเมื่อมีร่างอุ่นๆ ของใครบางคน นอนหันหลังให้ เมื่อดูอีกทีก็พบว่าเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนั่นเอง “ว้าย! คุณ... คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง แล้วมานอนบนเตียงฉันตั้งแต่ เมื่อไหร่” การุชาติลกุ ขึน้ หน้าตางัวเงีย ก็เมือ่ คืนเขาท�ำงานจนดึก ไหนจะต้องออกจาก บ้านตั้งแต่เช้ามืดจนนอนไม่พอ เมื่อง่วงนอนเข้า ว่าที่พ่อตาก็พามานอนในห้องนี้ ทีแรกทีเ่ ห็นหญิงสาวนอนอยูเ่ ขาก็จะหันหลังกลับเหมือนกัน แต่ความง่วงหาวมันมี มากกว่าเลยต้องมานอนบนเตียงเดียวกันนี้แหละ “อะไรเล่า เสียงดังเป็นบ้าเลย คนง่วงนอนจะตายอยูแ่ ล้วนะ” การุชาติหน้ายุง่ ปรือตามองเจ้าของเสียง “ออกไปเลย ใครอนุญาตให้มานอนในห้องของฉัน ออกไป” โรสรินชี้มือ ไปทางประตูเสียงดังลั่นห้อง “อย่าหลงตัวเองนักเลย สวยรึก็เปล่า ท�ำเป็นหวงตัวไปได้” เพียะ! มือเรียวฟาดลงบนใบหน้าหล่อเหลาเสียงดัง จนหน้าหันไปตาม แรงตบที่ไม่เบาเลย ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ หันมามองหญิงสาวด้วยความมึนงง “ออกไป... ที่ฉันยอมแต่งงานด้วยเพราะฉันโดนพ่อบังคับ ไม่ได้อยาก เป็นเมียคุณจนตัวสั่น” 98


เรืองริน

จากอาการงัวเงียหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเจอเข้ากับฝ่ามือสายฟ้าฟาด การุชาติ เลยลุกขึ้นออกจากห้องนอนของหญิงสาวไป ไม่ได้หันมามองอีกเลย พลางคิดว่า เขาคงพูดแรงไปจริงๆ เธอถึงได้ดโู กรธขนาดนัน้ ก็เขาง่วงนอน ปกติถา้ เขาง่วงนอน แล้วมีใครมาขัดเขาจะหัวเสียทุกทีไป ครัง้ นีก้ เ็ หมือนกัน การุชาติสบถด่าตัวเองพลาง คิดว่าปากเขาพาจนอยู่เรื่อย เวลา 19.00 น. งานเลีย้ งฉลองมงคลสมรสของการุชาติและโรสรินเริม่ ขึน้ ในโรงแรมชือ่ ดัง ใจกลางเมืองกรุง แขกหลายคนไม่คอ่ ยมีใครติดใจมากนัก โดยเฉพาะรัฐมนตรีวชิ ยั ทีด่ เู หมือนเห็นด้วยในการเปลีย่ นตัวเจ้าสาวเพราะความทีห่ วังจะได้กนิ รสสุคนธ์เสียเอง นายพลอรัญไม่ได้บอกเรือ่ งทีร่ สสุคนธ์หนีไป บอกแค่วา่ ป่วยกะทันหันคงไปท�ำงาน ให้ท่านรัฐมนตรีที่เมืองกาญจน์ในเร็วๆ นี้ไม่ได้ ซึ่งรัฐมนตรีวิชัยก็ไม่ได้ติดใจแต่ อย่างใด โรสรินหน้างอตลอดทัง้ งาน ไม่วา่ ใครจะพูดอย่างไรก็เอาแต่ยนื เฉยไม่ยอม มองหน้าใครเลย เหมือนเธอก�ำลังอยู่ในโลกส่วนตัวที่คนนอกไม่อาจเข้าถึง ไม่แสดงท่าทางดีอกดีใจเหมือนเจ้าสาวทัว่ ไป ผิดกับการุชาติถงึ จะถูกบังคับอย่างไร เขาก็รกั ษาหน้าตาของผูใ้ หญ่ไว้ ไม่ได้ทำ� ท่าแสนงอนเหมือนเจ้าสาว ร่างสูงจูงมือบาง ให้เดินตามไปทักทายแขกตลอดทั่วทั้งงาน เป็นที่พอใจของนายพลอรัญและก�ำธร ยิ่งนัก “นี่ปล่อยมือฉันได้แล้ว จะจับท�ำไมนักหนา” โรสรินยังเคืองที่เขาว่าเธอ เมื่อตอนกลางวัน เลยขยะแขยงการสัมผัสจากเขา แต่ชายหนุ่มกลับบีบมือแข็งขึ้น เพื่อไม่ให้หญิงสาวสะบัดหลุด “นี่สาวน้อย วันนี้วันแต่งงาน ไม่รักษาหน้าตาตัวเองก็รักษาหน้าตาผู้ใหญ่ ไว้บ้างก็ดีนะ” เสียงเรียบเฉย แต่ใบหน้ากลับยิ้มยิงฟันก้มลงมาพูดกับหญิงสาว “ช่างฉัน ไม่ตอ้ งมายุง่ นายเป็นใครถึงต้องมาสัง่ สอนฉัน” โรสรินสะบัดหน้า ใส่เขา 99


“แหม ก็ก�ำลังเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุด” “หลงตัวเอง” ว่าเขาทั้งที่ใบหน้าเรียบเนียนที่แต่งแต้มเสียสวยงามหันไปมองทางอื่น เหมือนไม่ได้สนทนาอยู่กับชายหนุ่ม “หรือว่าไม่จริง แล้วเมื่อเช้าใครน้าที่มองเราตาเป็นมันเชียว” การุชาติเอียง หน้าเข้ามาล้อเลียนหญิงสาว “อย่าพูดบ้าๆ นะ” โรสรินเสียงสะบัดหันกลับมามองหน้าชายหนุ่มตาเขียวปัด “ฮึ หรือไม่จริง ฉันรู้นะว่าเธอชอบฉัน สายตาเธอมันฟ้อง แต่เสียใจนะฉัน กลับรู้สึกเฉยๆ กับเธอเสียมากกว่า” โรสรินสะบัดมือบางเดินออกไปจากงาน เข้าห้องน�ำ้ ของโรงแรมไม่แม้แต่จะ ชวนใครไปเป็นเพื่อน แขกบางส่วนทยอยกันกลับ โดยมีนายพลอรัญ ก�ำธร และคุณหญิงรจเรศพร้อมด้วยเจ้าบ่าวยืนส่งกันอยู่หน้างาน เมือ่ ผูใ้ หญ่ถามหาโรสริน การุชาติเลยอาสาไปตามให้ เขาเดินไปทางห้องน�ำ้ แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปเพราะมีผู้หญิงหลายคนอยู่ในนั้น เขาแค่ยืนเมียงมองด้านหน้า ห้องน�้ำแต่ก็ไม่เห็นร่างบางออกมาเสียที และเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเขาเลยถาม ออกไป “ขอโทษนะครับ คือว่าผมมาตามเจ้าสาวของผม ไม่ทราบว่าเธออยู่ข้างใน หรือเปล่า” “อ้อ ใช่คะ่ ฉันเห็นเธออยูข่ า้ งในนัน่ ล่ะค่ะ ดีจงั นะคะมาคอยเฝ้าตลอดเลย น่าอิจฉาจัง” การุชาติแค่ยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า เธอจึงเดินจากไป การุชาติยนื คอยอยูห่ น้าห้องน�ำ้ เกือบสิบนาที แต่ไม่เห็นร่างเล็กออกมาเสียที จนเขาเริ่มจะหมดความอดทน ร่างสูงผลักบานประตูห้องน�้ำเข้าไปเมื่อเห็นผู้หญิง กลุ่มหนึ่งเดินออกมา เขาคิดว่าคงจะไม่มีใครเข้ามาอีกแล้ว “นี่แม่คุณจะยืนส่องกระจกให้ตัวเองหายเข้าไปข้างในได้เหมือนในหนัง หรือไง” การุชาติเดินเข้ามาเห็นหญิงสาวยืนนิ่งอยู่หน้ากระจกอยู่นานไม่ได้รับรู้ว่า เขาเข้ามาในห้องน�้ำนั้นด้วย 100


เรืองริน

“ปากเสียเกินไปแล้วนะ” โรสรินหันมาตวาดใส่รา่ งสูงทีย่ นื ตัวตรงเอามือทัง้ สองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง “ต้องออกไปส่งแขกแล้ว อย่ายืนเสียเวลาอยูเ่ ลย เร็วสิ” การุชาติเดินเข้ามา จูงมือบางให้เดินออกตามกันไป แต่โรสรินขืนตัวเอาไว้ การุชาติออกแรงมากขึน้ จน ร่างนั้นต้องจ�ำยอมเดินตามการจับจูงของเขาออกไป “เอ๊ะ ปล่อยสิ” โรสรินโวยวายเมือ่ การุชาติโอบเอวบางเข้าหาตัวมากขึน้ ขณะทีเ่ ดินเข้าไปยัง บริเวณงานพร้อมกัน ยิ่งเห็นหญิงสาวท�ำท่ารังเกียจเขาทั้งๆ ที่สายตามันฟ้องว่าชอบเขามาก การุชาติยิ่งอยากแกล้ง “มาแล้วหรือลูก จะได้ฤกษ์ส่งตัวแล้ว ไปเถอะ” ฤกษ์สง่ ตัวอยูท่ เี่ วลาห้าทุม่ โดยใช้หอ้ งชุดของโรงแรมเป็นห้องหอ ทัง้ หมด ขึ้นมาอยู่ยังห้องหอพร้อมหน้า เตียงใหญ่ประดับด้วยกลีบดอกกุหลาบแต่งไว้เป็น รูปหัวใจ ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความหอมหวาน สองหนุ่มสาวนั่งลง กับพื้นตรงหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย “ถึงการแต่งงานครั้งนี้จะไม่ได้เกิดจากความรักของเราทั้งสองคน แต่แม่ เชื่อว่าพ่อการจะดูแลน้องได้ แม่ฝากน้องด้วยนะ มีอะไรก็หันหน้าคุยกัน โรสเอง ก็เหมือนกัน อย่าเอาแต่ใจตัวเอง ให้ฟังพี่เขาบ้าง” โรสรินท�ำหน้าเซ็ง เธอไม่ได้คิดจะอยู่ครองเรือนกับเขาไปจนแก่เสียหน่อย คนปากเสีย “ลุงฝากโรสด้วยนะการ” นายพลอรัญพูดพร้อมทั้งตบลงบนบ่ากว้าง “ครับ” การุชาติรบั ค�ำทัง้ ทีเ่ ขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะอยูก่ บั หญิงสาวข้างกายได้ นานแค่ไหน ในเมื่อแต่งงานกันโดยขาดความรักความเข้าใจกัน “ส่วนพ่อแค่อยากมีหลานไวๆ แค่นี้พอ” ก�ำธรกระซิบกับบุตรชายแล้ว ทั้งสามจึงออกจากห้องไป เหลือไว้แค่คู่บ่าวสาว โรสรินลุกขึ้นแล้วเดินหายเข้าห้องน�้ำไป ไม่ยอมแม้จะพูดหรือมองหน้า การุชาติด้วยซ�้ำ ชายหนุ่มเดินมาทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาขวางเตียงแล้วหลับไปด้วย ความเหนื่อยล้า โรสรินใช้เวลาในห้องน�้ำนานพอสมควร หญิงสาวเดินออกมาจาก 101


ห้องน�ำ้ พร้อมด้วยเสือ้ คลุมอาบน�ำ้ ใบหน้าสดใสเมือ่ โดนน�ำ้ เย็นชืน่ ใจช�ำระคราบไคล ร่างบางชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มหลับไปแล้ว ร่างสูงสมส่วนดูหล่อบาดตา ถึงบอกว่าจะไม่ชอบใจเขา แต่กอ็ ดไม่ได้ทจี่ ะขอชืน่ ชมเขาเงียบๆ โรสรินเดินไปทิง้ ตัว ลงที่โซฟาตัวโตแล้วหลับไป การุชาติรู้สึกตัวขึ้นมาตอนตีสี่ ตาคมค่อยๆ ปรือขึ้นมองห้องที่ยังสว่างอยู่ พบตัวเองนอนขวางเตียงจึงลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าแช่มชื่นขึ้นจากการได้นอนพักติดต่อ กันหลายชั่วโมง ชายหนุ่มกวาดสายตามองหาเจ้าสาว พบหญิงสาวในชุดคลุม อาบน�ำ้ นอนหลับคุดคูอ้ ยูบ่ นโซฟาตัวยาว ร่างสูงค่อยๆ เดินเข้าไปมองร่างเล็กใกล้ๆ เขาพิศมองอยู่นานก่อนจะเดินหายเข้าห้องน�้ำไปแล้วกลับออกมาพร้อมเสื้อคลุม อาบน�้ำเช่นเดียวกับหญิงสาว การุชาติเดินตรงไปหาร่างเล็ก มือเรียวยาวขาวสะอาดค่อยๆ แตะเขย่าที่ ต้นแขนเพื่อให้หญิงสาวไปนอนที่เตียง ถึงเขาจะไม่ได้รักเธอ แต่ถึงยังไงก็แต่งงาน กันแล้ว เขารู้จักหน้าที่ของตัวเองดีว่าควรดูแลเธอพอสมควร “นี่ นอนขี้เซาจริง ลุกขึ้นไปนอนที่เตียงโน่น มานอนท�ำอะไรตรงนี้” ร่างเล็กเริ่มขยับกายเล็กน้อยก่อนจะหันหน้ากลับมาเพ่งมองเจ้าของเสียงเมื่อคิด ขึ้นได้ว่าตัวเองก�ำลังอยู่ในคืนวันส่งตัวเข้าหอ ร่างเล็กจึงสั่นขึ้นมาเฉยๆ ยิ่งมาเห็น ชายหนุม่ อยูใ่ นเสือ้ คลุมอาบน�ำ้ กลิน่ กายหอมอ่อนๆ ท�ำให้ใจสาวสัน่ หวิวเข้าไปใหญ่ ร่างบางรีบดีดตัวขึ้นนั่งตัวตรง มือทั้งสองก�ำสาบเสื้อเข้าหากันแน่น “ไม่ ฉันจะนอนตรงนี้” เสียงแผ่วเบาจนการุชาติเกือบจะไม่ได้ยิน “นอนตรงนี้ก็เมื่อยตายชัก ไปนอนบนเตียงโน่น” อาการพูดของชายหนุ่ม เหมือนค�ำสั่งเสียมากกว่า “ฉันก็นอนมาได้ทั้งคืน ไม่เห็นเดือดร้อนอะไร นายอยากนอนก็นอนไป คนเดียว” การุชาติพ่นลมออกทางจมูกอย่างขัดใจ เขาเข้ามาจูงมือบางให้ลุกขึ้นเดิน ตามไปที่เตียงกว้างที่มีกลีบกุหลาบเต็มที่นอน ชายหนุ่มชะงักเมื่อสัมผัสได้ถึง ความสั่นของร่างเล็ก ก่อนที่เขาจะหันมาเผชิญหน้าแล้วยิ้มล้อเลียนเมื่อรู้สาเหตุที่ หญิงสาวไม่ยอมขึ้นไปนอนบนเตียง “ฮึ กลัวล่ะสิ” 102


เรืองริน

“บ้า ฉัน... เอ่อ... ฉันไม่ได้กลัวสักหน่อย” บอกเขาไปอย่างนัน้ แต่หน้ากลับ แดงขึ้นเรื่อยๆ “ไม่ได้กลัวแล้วท�ำไมต้องสั่นด้วย ฉันว่าฉันพลาดอะไรไปแล้วล่ะ” “อะไรของนาย” “ก็ฉันยังไม่ได้เผด็จศึกเจ้าสาวเลย” ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมากระซิบจนแก้มนวลแดงปลัง่ เท้าเล็กถอยออกห่าง จากเขาโดยไม่รู้ตัว “ไม่ ฉันไม่ยอมนายหรอก ถอยออกไปห่างๆ เลย” “เดี๋ยวก็รู้ว่าจะยอมหรือไม่ยอม” “ว้าย! ท�ำอะไร ออกไปนะ ฉันไม่ยอมนายหรอก ฉันไม่อยากมีอะไรกับนาย” ริมฝีปากสีสดฉกเข้าปิดปากเรียวทีร่ อ้ งออกมาด้วยความตกใจ ปากเย็นชืด จากการทีเ่ ขาชอบอาบน�ำ้ เย็นมากว่าน�ำ้ อุน่ เมือ่ ไม่นานกลับร้อนรุม่ แตะสัมผัสรุนแรง เรียกร้องมากไปด้วยประสบการณ์ จนร่างบางดิ้นรนด้วยความขัดขืนร้องประท้วง เสียงหนักๆ ในล�ำคอ มือบางยันแผ่นอกกว้างสะบัดตัวออกห่าง แต่ติดที่มือหนา กระชับแผ่นหลังไว้แน่น อีกมือจับท้ายทอยเล็กบังคับให้เงยขึ้นรับปากร้อน จูบแรกของโรสรินทัง้ หนักหน่วงและร้อนแรงจากชายทีช่ �ำนาญเรือ่ งอย่างว่า เมื่อเทียบกับเธอแล้วเหมือนเด็กฝึกหัดกับอาจารย์ชั้นเซียนที่ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ทุกกระบวนท่า มือหนาเลื่อนจากแผ่นหลังลงไปคลึงสะโพกผ่านเนื้อผ้าแรงๆ จน กายสาวสั่นสะท้านร้องประท้วงเขา แต่เสียงก็ถูกเก็บไปด้วยริมฝีปากหยักสีสดที่ ไม่ยอมถอยออกห่างเพือ่ ให้หญิงสาวได้หายใจบ้างจนร่างบางยิง่ ทุบตีเขาเป็นการใหญ่ เมื่อส�ำลักจวนเจียนจะหมดลมเต็มที การุชาติรวู้ า่ นีเ่ ป็นจูบแรกของหญิงสาวเขายิง่ ได้ใจใหญ่ เมือ่ ภายนอกร่างเล็ก ดูจะขัดขืน แต่ลึกๆ แล้วออกจะเต็มใจให้เขาจูบ เขาสังเกตจากปากเรียวที่แย้ม เผยรับสัมผัสของเขาอย่างไม่รู้ตัว ถึงเธอจะอ่อนด้อยประสบการณ์ แต่ท�ำให้เขา ปั่นป่วนขึ้นมาได้เหมือนกัน ลิ้นหนาแทรกเข้ามาในโพรงปาก กวาดหาความหวาน ที่เขาเคยคิดว่าเธอน่าจะยังไม่สิ้นกลิ่นน�้ำนม แต่เขารู้แล้วว่าเขาคิดผิด เธอช่าง หอมหวานปานน�ำ้ ผึง้ เดือนห้าผิดกับรูปร่างเล็กบอบบางเหมือนเด็กเพิง่ แตกเนือ้ สาว 103


การุชาติถอนปากออกเมือ่ ได้ยนิ เสียหายใจฟืดฟาด ส�ำลักอยูก่ บั ปากของเขา ปากเรียวเริ่มแดงจัดขึ้นและเปียกชื้น มือหนายังกดสะโพกมนเข้าหาตัวมากยิ่งขึ้น ร่างเล็กหอบหายใจเข้าไปเต็มปอด ยังไม่มีโอกาสรับรู้ว่าเขาเบียดกายสูงเข้ามามาก ยิ่งขึ้นจนเมื่อสัมผัสได้ว่าเสื้อคลุมอาบน�้ำที่เธอใส่ถูกเขากระตุกสายด้านหน้าหลุด เผยให้เห็นอกอิ่มเต่งตึง “ว้าย! ไอ้บ้า... ลามก” โรสรินก�ำสาบเสื้อเข้ามาทบกันแล้วจัดการมัดไว้ อย่างเดิม เท้าเล็กซอยถอยหลังจนห่างจากเขาพอสมควร การุชาติแค่ยิ้มกับอาการ ของหญิงสาว ปากหยักเม้มเข้าหากันอย่างแสนเสียดายปากเรียวหวานฉ�่ำ แต่เขา คิดว่าค่อยๆ สอนไป ไม่อยากให้เธอตื่นกลัวกับการกระท�ำของเขามากนัก “ท�ำไมต้องหน้าแดงอย่างนั้น หรือว่าไม่สบาย” การุชาติท�ำท่าเดินเข้าไปหา เขารู้สาเหตุที่เธอแก้มแดง แต่ก็ยังอยากแกล้งหญิงสาวมากกว่า “อย่าเข้ามานะ ออกไป” “ไล่ผัวท�ำไม วันนี้วันเข้าหอนะ เราควรมีกิจกรรมร่วมกันหน่อยไม่ดีหรือ หากใครๆ รู้เข้าเขาคงหัวเราะแย่ที่วันเข้าหอบ่าวสาวไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันเลย” สายตากรุ้มกริ่มมองเรือนร่างเล็ก พร้อมทั้งมือเรียวยาวขาวสะอาดลูบไล้ริมฝีปาก ตัวเอง “ก็... ก็แตะไปแล้วนี่ นายจะเอาอะไรอีก” โรสรินเสียงตะกุกตะกัก แววตา สั่นไหวกลัวชายหนุ่มตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทางนิตินัยไปเรียบร้อยแล้ว “ฉันหมายถึงนัน่ น่ะ” การุชาติไม่พดู เปล่าแต่สายตากลับทิง้ ต�่ำลงทีเ่ นินอกอิม่ ที่เขาเห็นมากับตาแล้วว่ามันสวยตั้งชูชันรอรับสัมผัสนุ่มนวลจากใครบางคนอยู่ “ว้าย! ไอ้บ้า เอาเปรียบคนอื่น... ไอ้ผู้ชายลามก” โรสรินร้องขึ้น มือทั้งสอง ประสานกอดอกแน่น การุชาติย่างสามขุมเข้าหาร่างเล็ก มือเรียวขาวสะอาดคว้า เข้าที่ข้อมือเรียวแล้วกระชากทีเดียวสองร่างก็ล้มลงไปบนที่นอนหนานุ่ม ร่างเล็ก เกยทับร่างสูงด้วยอาการสั่นไหว “พูดให้เพราะๆ หน่อยเข้าใจไหม ถึงไม่ได้รกั กันแต่เราก็แต่งงานกันแล้วนะ” “ใช่สิ ฉันก็แค่เจ้าสาวส�ำรองของคุณนี่ ฉันมันตัวปลอม ไม่รู้เมื่อไหร่ ฉันจะหมดเวรหมดกรรมเสียที” 104



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.