เงารักในรอยทราย

Page 1


เงารักในรอยทราย อาคาเซีย

เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ ISBN 978-616-91316-4-9 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กันยายน 2555 ราคา 210 บาท สำ�นักพิมพ์ เดซี่ บริษัท ลา วีเซ่ จำ�กัด 559/28 ซอยรัชดา 36 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. 10900 โทรศัพท์ 0-2939-1177 โทรสาร 0-2939-1177 www.daisy-book.com daisybook@daisy-book.com พิมพ์ที่ บริษัท ฐานการพิมพ์ จำ�กัด 9/11 หมู่ 9 ซอยสวนชิดลม เทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900 โทรศัพท์ 0-2954-2799 โทรสาร 0-2954-2800-2 จัดจำ�หน่าย บริษัท ธนบรรณ ปิ่นเกล้า จำ�กัด 3/19 ซอยบรมราชชนนี 11 ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700 โทรศัพท์ 02-434-8270-1 โทรสาร 02-424-8512



คำ�นำ�

อยากบอกกับทุกคนว่าอาคาเซียดีใจมากๆ ทีไ่ ด้รบั การต้อนรับอย่างอบอุน่ จากบ้านเดซีแ่ ห่งนี้ (กระซิบดังๆ นิดนึงค่ะว่า บ.ก.ทีน่ ใี่ จดีมากๆๆๆ ^^) ไม่รจู้ ะถ่ายทอด ออกมาเป็นตัวอักษรอย่างไร แต่รู้สึกยินดีเหลือเกิน ที่มีโอกาสกลับมาจับงาน ทะเลทรายที่ตนเองรักอีกครั้ง หลังจากวางมือจากงานเขียนแนวทะเลทรายมา สองปีเต็ม ซึง่ การกลับมาในครัง้ นีข้ องอาคาเซีย คงเป็นนิยายทะเลทรายอันมีกลิน่ อาย ของความรัก ที่ท�ำให้ทุกคนต้องอ่อนไหวไปตามตัวละคร และร่วมอมยิ้มไปกับ ‘ท่านหญิงดาเนียนจอมแก่น’ ทีม่ าป่วนหัวใจ ‘ท่านชีคกาหริบ’ และท�ำให้ทกุ คนต้อง เอ็นดูในความน่ารักน่าเอ็นดูของนาง ณ โอกาสนี้ อาคาเซียขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนผลักดันให้อาคาเซียได้กลับมา อยู่ในเส้นทางที่ตนเองรักอีกครั้ง ขอบคุณส�ำนักพิมพ์เดซี่ และพี่ๆ ทีมงานที่น่ารักทุกคนมากจ้า โดยเฉพาะ บ.ก.พี่นิ่ม ซึ่งคอยติดต่อประสานงานมาโดยตลอด ขอบคุณค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆ นักเขียนทุกๆ ท่าน โดยเฉพาะ อ้อม สะมะเรีย ที่แนะน�ำ บ้านหลังใหม่อันแสนอบอุ่นให้ ^^


ขอบคุณพี่เก๋ เจ้าของนามปากกา วรรณิก พี่สาวที่แสนดีซึ่งท�ำหน้าที่เป็น บรรณาธิการส่วนตัว และกระตุ้นให้น้องสาวมีไฟลุกขึ้นมาปั่นต้นฉบับตลอด ขอบคุณน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ในเด็กดีทุกท่าน ซึ่งรวมไปถึงนักอ่านเงา ที่มอบคอมเมนต์ให้ รวมทั้งก�ำลังใจก้อนโตที่ท�ำให้ไฟแห่งการปั่นต้นฉบับของ ข้าพเจ้าลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง ขอบคุณสมาชิกทุกคนในครอบครัวทัง้ แม่ ทัง้ ป๊า น้องชายทีช่ ว่ ยเป็นก�ำลังใจ และไม่รบกวนเวลาที่อาคาเซียเก็บตัวท�ำงานอยู่ในห้อง สุดท้าย... ท้ายทีส่ ดุ อาคาเซียขอขอบคุณนักอ่านผูใ้ จดี ทีต่ ดั สินใจครอบครอง เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนีม้ ากเลยค่ะ ทีท่ า่ นมีสว่ นผลักดันให้อาคาเซีย คนเขียนฝัน ตัวน้อยๆ มีแรงใจ และสร้างสรรค์งานเขียนที่ตนเองรักต่อไป ฝากไว้ด้วยรัก อาคาเซีย

Like

f

อาคาเซี​ีย กิรณา กัณฐมณี


‘ขอแสงสว่างจากดวงตะเกียง จงช่วยน�ำทางข้าไปพบนางผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจ’


อาคาเซีย

บทน�ำ

‘ฮาน่า’ นามที่ไม่รู้จัก... ‘ฮาน่า’ นามที่ไม่เคยได้ยินใครเอ่ยถึง... ‘ฮาน่า’ หากแต่ตรึงใจให้ถวิลหา แลจดจ�ำอยู่ในวิญญาณของผู้เอื้อนเอ่ย... ‘ขอแสงสว่างจากดวงตะเกียง จงช่วยน�ำทางข้าไปพบนางผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจ’ ถ้อยภาวนาอันหนักแน่นดังก้องในวิหารโบราณเก่าแก่สะท้อนกับผนังสีขาวราว บทสวดมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ฝังความปรารถนาแรงกล้าแลเจ็บปวดซึ่งถักทอในดวง วิญญาณ ดวงตาสีมรกตแฝงฝังความเศร้ากับการรอคอยอันยาวนานคงไม่ละไปจาก ดวงตะเกียงซึ่งฉาบแสงสีส้มนวล ก่อนเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของสตรีจะดังก้องใน โสตประสาทเมื่อค�ำวิงวอนปราศจากการตอบรับ! “ฮาน่า!” ร่างเล็กของเด็กน้อยสะดุ้งเฮือกจากเตียงนอนตัวเตี้ยปูด้วยขนสัตว์ แสนนุ่ม พร้อมเสียงหอบหายใจเหนื่อยราววิ่งมาไกลแสนไกล หยาดเหงื่อเม็ดเล็กบน วงหน้าขาวเนียนท่ามกลางอากาศหนาวเย็นตอกย�้ำดาเนียนชัดนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมิใช่ ความฝัน... ริมฝีปากสีแดงสดคงขยับเอ่ยถึงนามซึ่งฝังในวิญญาณซ�้ำๆ คล้ายเสียง พึมพ�ำและไม่มีวันลบเลือน พร้อมตลบผ้าห่มขนแกะออกจากกายขยับตัวลุกจาก เตียงนอนด้วยฝีเท้าเบาที่สุด 9


เงารักในรอยทราย

‘ตามความปรารถนาแห่งแสงสว่างนั่นไป’ เสียงหนึ่งใต้จิตส�ำนึกบอกเช่นนี้ ทว่า เท้าน้อยสัมผัสพื้นพรมเท่านั้นเสียงลูกกระพรวนซึ่งผูกไว้ข้างเตียงจึงส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง ขึ้นพลอยให้เด็กน้อยสะดุ้ง เหล่าพี่เลี้ยงซึ่งหลับใหลอยู่ข้างเตียงตัวเตี้ยจึงตื่นในทันที “นั่นท่านหญิงจักไปไหนเจ้าคะ?!” ดวงตามรกตแฝงฝังความเศร้าคล้ายมีหยาดน�ำ้ ตามาคลอเบ้าปรายมามองพีเ่ ลีย้ ง ผู้ถามเสียงดุแวบหนึ่ง ก่อนเมินหน้าไปยังดวงตะเกียงฉลุลายซึ่งตั้งไว้กลางกระโจมเพื่อ ขับไล่ความมืดมิด “เดินเล่น ข้านอนไม่หลับ” “มิใช่ออกตามหาฮาน่ารึ?” เป็นนางก�ำนัลลิมุสที่ย้อนถามด้วยน�้ำเสียงแข็ง กระด้าง กระนั้นดาเนียนก็ไม่ตอบนอกจากคว้าเสื้อคลุมขนสัตว์มาสวมทับแล้วก้าวขา ออกจากกระโจมแสนอบอุ่นโดยไม่สนใจเสียงเรียกของบรรดาพี่เลี้ยงจอมวุ่นวายที่ พร้อมใจกันจ้องจับผิดนาง พ้นจากกระโจมอันอบอุน่ สูภ่ ายนอกอันหนาวเย็น เด็กน้อยจึงห่อกายเข้าหากัน กระนัน้ ดวงตามรกตแฝงฝังความเศร้าคงไม่ละสายตาจากดวงดาวสุกสว่างทีส่ ดุ บนโพ้นฟ้า พร้อมรอยยิ้มละมุนเปื้อนความสุข “ฮาน่า... คอยก่อนเถิด ข้าก�ำลังเดินทางไปพบเจ้า” ค�ำร�ำพันดุจเดิมทุกราตรี คงแรงกล้า ทว่าเมือ่ ร่างน้อยสัมผัสความหนาวเย็นอันแห้งแล้งและหายใจเอาอากาศเย็น เข้าไปในโพรงจมูก ดาเนียนจึงจามเสียงดังออกมา ก่อนรีบเร่งพาตัวเองหลบหลังกระโจม ใหญ่ทันทีเมื่อเสียงเรียกของเหล่านางก�ำนัลพี่เลี้ยงดังขึ้น ดาเนียนรอพี่เลี้ยงทั้งสี่นางวิ่งผ่านไปจึงเดินห่างออกมาจากกระโจมใหญ่ซึ่งมี เหล่าทหารองครักษ์อารักขาแขกคนส�ำคัญของนครคามิล่าอยู่ ทว่าอากาศอันเหน็บหนาว จึงท�ำให้เด็กน้อยต้องห่อกายเข้าหากันอีกครั้งเมื่อลมเย็นยะเยือกหอบเอาละอองทราย ลอยคว้างในอากาศมาต้องผิวยิบๆ มือน้อยอันเย็นเฉียบยื่นไปรองประกายระยิบระยับ ดัง่ เกล็ดดวงดาว ขณะดวงตาสีมรกตงดงามคงหยุดนิง่ ยังดวงดาวสุกสว่างดุจดวงตะเกียง จากโพ้นฟ้าไกล สองขาน้อยซึง่ สวมรองเท้าขนสัตว์และคงรักษาอุณหภูมขิ องร่างกายไว้เป็นอย่างดี ย�่ำไปข้างหน้า โดยมีจุดหมายอยู่ที่ดวงดาวสุกสว่างซึ่งมิเคยไขว่คว้ามาครอบครองได้ ทว่าพ้นจากกระโจมใหญ่ส�ำหรับพักแรมได้ไม่เท่าไหร่นางก�ำนัลผู้ดูแลจึงเข้ามาฉุดรั้ง ข้อมือบางของท่านหญิงตัวน้อยเอาไว้ก่อน “ดึกป่านนี้แล้วท่านหญิงจะไปไหนเจ้าคะ?!” 10


อาคาเซีย

“ปล่อยข้า ฮาน่าก�ำลังรอข้าอยู่” เด็กน้อยพยายามขืนข้อมือจากการเกาะกุม พอหลุดออกจากมือลิมสุ มาได้ ดาเนียนจึงชะงักเท้าไว้อกี เมือ่ นางก�ำนัลพีเ่ ลีย้ งอีกสามนาง มาดักหน้าเอาไว้ “ให้ตายเถอะ! เมื่อไหร่พวกผู้ใหญ่ถึงเลิกวุ่นวายกับชีวิตของข้าสักที” ผูม้ ศี กั ดิเ์ ป็นท่านหญิงแห่งนครคามิลา่ บ่นอุบกับตนเอง แต่ดวู า่ ถ้อยค�ำนัน้ มิสามารถท�ำให้ ผู้ดูแลเปลี่ยนความตั้งใจได้เลย “กลับเข้ากระโจมเถิดเจ้าค่ะท่านหญิง หากท่านชีคฮาซันรู้ความนี้เข้า พวกข้า ทัง้ หมดอาจต้องอาญา” ลิมสุ ผูต้ ดิ ตามดูแลใกล้ชดิ ก�ำราบด้วยน�ำ้ เสียงดุดนั กระนัน้ ผูถ้ กู เรียกยังเพิกเฉยท�ำหูทวนลม แต่พอถูกคว้าข้อมืออีกครั้งดาเนียนจึงท�ำหน้ายุ่งพยายาม ขืนตัวออก “ปล่อยข้านะ!” “มิปล่อยเจ้าค่ะ ท่านหญิงต้องกลับเข้ากระโจมพร้อมข้าเดี๋ยวนี้!” ลิมุสท�ำตาโต น่ากลัวกว่าเดิม “หยุดออกค�ำสั่งกับข้า ข้าปรารถนาจักอยู่ที่นี่” “มิได้เจ้าค่ะ หากท่านหญิงยังดื้อดึงข้าจะน�ำความนี้บอกกล่าวกับท่านชีค” “อย่าขู่ข้า” ดาเนียนเสียงแข็ง “ข้ามิได้ขู่ หากท่านหญิงอยากถูกจ�ำกัดบริเวณอยู่แต่ในกระโจมอีกก็ตามใจ ข้าจักมิยุ่งวุ่นวายอีก” ดาเนียนเม้มปากเป็นเส้นตรงกับถ้อยนางก�ำนัลพี่เลี้ยงจอมจุ้นจ้านและดุร้าย พลางท�ำสายตาไม่พอใจใส่ “ข้าพอใจมากนักทีเ่ จ้ามิทำ� เช่นนัน้ ” บอกจบเด็กน้อยจอมดือ้ จึงกระชับเสือ้ คลุม เข้าหากันแล้วย�่ำเท้าไปในทิศทางที่ตนเองพอใจ ทว่าไปได้ไม่ถึงยี่สิบก้าวด้วยซ�้ำ บรรดา พี่เลี้ยงจอมเข้มงวดทั้งสี่ก็ล้อมดาเนียนเอาไว้อีก “จะกลับเข้ากระโจมเอง หรือต้องการให้พวกข้าอุ้มท่านหญิงกลับไปเจ้าคะ?” พี่เลี้ยงสาวร่างท้วมในชุดพื้นเมืองยาวถึงตาตุ่มสวมผ้าคลุมสีขาวถามด้วยน�้ำเสียงดุดัน พร้อมหักนิว้ มือ ซึง่ กิรยิ านัน้ ท�ำให้เด็กน้อยยิม้ มุมปาก ดวงตาสีมรกตเป็นประกายวาววับ ขึ้นมาทันทีเมื่อมีเรื่องสนุกให้ท�ำในราตรีอันเหน็บหนาวกลางท้องทะเลทราย “ตามแต่พวกเจ้าปรารถนาเถิด” สิน้ ค�ำเด็กน้อยซึง่ อยูใ่ นกิรยิ าเอือ่ ยเฉือ่ ยเซือ่ งซึม จึงกลายเป็นวานรน้อยแสนซุกซนว่องไวทันทีเมือ่ พีเ่ ลีย้ งร่างท้วมตรงดิง่ เข้ามาตะครุบตัว! แล้วการวิ่งไล่จับรอบค่ายพักแรมจึงเริ่มต้นขึ้น ความสงบเงียบในรัตติกาล กับเสียงลมจึงอันตรธานหายไปในทันทีเมื่อเสียงของท่านหญิงตัวน้อยและเหล่านาง 11


เงารักในรอยทราย

ก�ำนัลดังขึ้น หนึ่งคือผู้วิ่งหนี และอีกสี่คือผู้วิ่งไล่ตาม ดาเนียนอาศัยความคล่องตัวและ ได้เปรียบเรื่องรูปร่างแทรกตัวไปในที่แคบได้อย่างรวดเร็วพร้อมหันมาหัวเราะชอบใจ เมื่อพบภาพอันน่าประทับใจซึ่งเกิดจากฝีมือตนเอง “ท�ำอะไรตรงคบเพลิงน่ะ” ร่างเล็กหยุดหัวเราะเมื่อเห็นชายผ้าคลุมหน้าของ นางก�ำนัลพีเ่ ลีย้ งนางหนึง่ ติดไฟขึน้ มา ก่อนรีบวิง่ หนีไปเมือ่ ลิมสุ จอมอึดทีถ่ ลกชายกระโปรง รุ่มร่ามตรงดิ่งเข้ามาหา “หยุดนะท่านหญิง ข้าขอสั่งให้ท่านหยุด!” “ค�ำสัง่ นัน้ ข้าขอใช้กบั เจ้า” ร่างเล็กโต้เถียงขณะวิง่ หน้าตัง้ หนีการจับกุม จนกระทัง่ มาเสียท่าให้กับเหล่านางก�ำนัลพี่เลี้ยงทั้งสี่ที่หน้ากระโจมจัดเลี้ยงของท่านชีคฮาซัน นั่นล่ะ “ปล่อยข้านะ!” ผูถ้ กู อุม้ เข้าเอวตัวลอยจากพืน้ ทรายโวยวายพยายามทุบตีมอื อวบ นั่นเป็นพลวัน พอไม่ได้ผลดาเนียนจึงเปลี่ยนมาฝังคมเขี้ยวลงบนเอวหนานั่นทันที “โอ๊ย!” นางก�ำนัลปล่อยให้ร่างเล็กของท่านหญิงน้อยตกลงบนพื้นทราย เย็นเฉียบทันที ทว่าความวุ่นวายก็ไม่ยุติตรงนั้น ดาเนียนรีบทรงตัวลุกขึ้นวิ่งหนีอีกครั้ง แต่ลิมุสก็ไวกว่าสามารถคว้าเสื้อคลุมของเด็กน้อยจอมซนเอาไว้ได้พร้อมกับหิ้วตัวลอย จากพื้น “ปล่อยข้านะ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์กระท�ำกับท่านหญิงดาเนียนเช่นนี้” “เอะอะอะไรกัน?!” กระแสเสียงดังกังวานของผู้ปกครองนครเล็กๆ ซึ่งก�ำลัง ต้อนรับแขกเมืองมีผลให้ทุกคนหยุดความเคลื่อนไหวพร้อมคุกเข่าหมอบตัวลงบน ผืนทรายละเอียดและเย็นเฉียบ หากจะมีที่ไม่หมอบตัวลงเหมือนคนอื่นก็มีแต่ท่านหญิง ดาเนียนเท่านั้น ซ�้ำยังวิ่งเข้ามากอดบิดาอย่างประจบด้วย “ท่านพ่อ” “ดึกแล้ว ท�ำไมถึงยังมิเข้านอนอีกเล่าท่านหญิง?” มือหนาของผู้ปกครองนคร คามิลา่ ลูบศีรษะของบุตรีอย่างเอ็นดูรกั ใคร่ แลไม่แปลกใจสักนิดเมือ่ เห็นเหตุการณ์ชลุ มุน วุ่นวายซึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ ที่ดูว่าจะเป็นเรื่องปกติด้วยซ�้ำ “ลูกนอนไม่หลับเจ้าค่ะ ฮาน่าก�ำลังเรียกหาลูก” ค�ำตอบดุจเดิมเหมือนทุกครัง้ จากการลัน่ วาจาถามท�ำให้ใบหน้ามากด้วยริว้ รอย แห่งกาลเวลาของผู้ปกครองคามิล่ากังวลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “ฮาน่าอีกแล้วรึ... พ่อว่าเจ้าควรรีบกลับเข้ากระโจมแล้วให้ลิมุสเล่านิทานให้ฟัง เถิดดาเนียน” 12


อาคาเซีย

“แต่ข้าอยากอยู่กับท่านพ่อนี่เจ้าคะ ข้าเบื่อหน่ายพี่เลี้ยงพวกนี้เต็มทนแล้ว พวกนางทั้งสี่ชอบออกค�ำสั่งกับข้าผู้เป็นท่านหญิงเหลือเกิน ซ�้ำยังใช้ความรุนแรงกับข้า” ได้โอกาสงามดาเนียนจึงบอกกล่าวความอึดอัดให้บิดารับรู้ทันที กระนั้นค�ำพูด ของเด็กน้อยคงมีนำ�้ หนักไม่มากนัก ทัง้ นีเ้ ป็นเพราะผูป้ กครองนครคามิลา่ เชือ่ มัน่ ในความ ดื้อดึงในตัวบุตรีมากกว่านั่นเอง “ลิมุสออกค�ำสั่งเป็นเพราะเจ้าดื้อน่ะสิ... กลับไปพักผ่อนเถอะดาเนียน พ่อยังมี แขกคนส�ำคัญต้องดูแลอีก” “แต่ข้า...” “ไม่มีแต่บุตรีแห่งข้า จงว่าง่ายและไม่ดื้อดึง” แม้นไม่พอใจทีบ่ ดิ าไม่ตามใจและพาตนเองเข้าไปในกระโจมใหญ่ดว้ ย แต่ดาเนียน ก็มิใช่เด็กโง่ที่ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้ “เจ้าค่ะ ข้าจักกลับไปนอน” “ดีมากลูกข้า” ชีคฮาซันยิ้มละมุนก่อนก้มตัวลงมาจุมพิตหน้าผากมนของบุตรี แล้วยืนเต็มความสูง ตวัดสายตาเป็นประกายวาววับมายังสี่พี่เลี้ยงสาวซึ่งยังหมอบอยู่ บนผืนทราย “พาท่านหญิงกลับกระโจม หากพวกเจ้าปล่อยให้บุตรีแห่งข้าออกมาเดิน เพ่นพ่านท่ามกลางอากาศเหน็บหนาวเช่นนีอ้ กี ข้าจะสัง่ โบยให้หลังลาย” เจอค�ำสัง่ เฉียบขาด ของผู้ปกครอง ทั้งสี่พี่เลี้ยงจึงรีบรับค�ำสั่งอย่างพร้องเพรียง “เจ้าค่ะ” ชีคฮาซันรอจนบุตรีคนเล็กผูเ้ ป็นดัง่ ดวงใจกลับกระโจมทีพ่ กั แล้วนัน่ ล่ะจึงผ่อน ลมหายใจออกมายาวก่อนหันหลังกลับเข้ากระโจมใหญ่ซงึ่ ก�ำลังสนุกครืน้ เครงด้วยเสียง ดนตรีและนางระบ�ำแสนสวย ทว่าสีหน้าของผู้ปกครองนครซึ่งเปื้อนรอยยิ้มกลับเต็ม ไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชดั หลังจากกลับเข้ามาในกระโจม และสีหน้านีเ้ องก็หารอด สายตาชีคริยาร์ดไม่ ชีคหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่แห่งนครฟาตินขมวดคิ้วสงสัย “เหตุอันใดท�ำให้ท่านอาเป็นกังวล หรือท่านไม่ชื่นชอบการแสดงของนางระบ�ำ เหล่านี้?” ค�ำถามจากผูม้ อี ำ� นาจจนทุกแคว้นใกล้ไกลต้องเกรงกลัวและให้ความเคารพดึง ความสนใจของชีคฮาซันซึ่งก�ำลังจมอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองได้ “มิใช่เลยท่านชีค หาใช่นางระบ�ำแสนงดงามของนครฟาติน” 13


เงารักในรอยทราย

“แล้วท่านอาเป็นกังวลเรื่องใดเล่า? หวังว่ามิใช่เรื่องการเจริญมิตรไมตรีของข้า หรอกนะ” ดวงตาสีน�้ำมันดิบของผู้มีอ�ำนาจนั้นท�ำให้ชีคฮาซันซึ่งมีอายุอานามมากกว่า ชักหายใจไม่ทั่วท้อง “มิใช่อีกเช่นกัน ที่ข้าเป็นกังวลอยู่นี้หาใช่การเจริญมิตรไมตรีของท่าน แต่เป็น เรื่องบุตรีคนเล็กของข้าต่างหากที่ท�ำให้ข้าเป็นกังวลตลอด...” น�้ำเสียงและสีหน้าของผู้ปกครองนครคามิล่า อาณาจักรเล็กๆ เพียงปลายก้อย เมื่อเทียบกับนครฟาตินเรียกความสนใจจากชีคริยาร์ดดีนัก ด้วยเข้าใจหัวอกของ คนเป็นพ่อจึงปลอบไปตามสมควร เพราะตัวชีคริยาร์ดเองประจักษ์ดีว่าบุตรีคนเล็กของ ชีคฮาซันนั้นซุกซนมากเพียงใด “ท่านหญิงน้อยแค่ซกุ ซนตามวัย การทีน่ างหนีออกจากนครเพือ่ ตามท่านอาอาจ ดูไม่เหมาะสมส�ำหรับสตรี แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอันใด” “เพียงเท่านั้นหรือมากกว่านั้นสักสิบเท่าข้าคงยินดี” เสียงทอดถอนหายใจราว แบกรับภูเขาทรายไว้ทงั้ ลูกยิง่ ท�ำให้ผมู้ แี ต่บตุ รีอย่างชีคริยาร์ดต้องแปลกใจและให้ความ สนใจ “โปรดเผยความกังวลแก่ข้า เผื่อข้าผู้นี้จักช่วยอะไรท่านอาได้บ้าง” ชีคฮาซันเงียบไปอึดใจ ดวงตาผูผ้ า่ นโลกมามากเต็มไปด้วยความลังเลไม่แน่ใจ ว่าจักเอื้อนเอ่ยถึงสิ่งที่ท�ำให้เป็นกังวลกับผู้ยิ่งใหญ่ดีไหม “หรือท่านอามิไว้ใจข้า?” “หาใช่ไม่ ทีข่ า้ กังวลอยูท่ กุ วันนีเ้ ป็นเพราะค�ำท�ำนายจากผูเ้ ฒ่าผูด้ แู ลจิตวิญญาณ ของเราต่างหาก” พอหลุดปากไปแล้วชีคฮาซันจึงถอนหายใจออกมายาวพร้อมปิด เปลือกตาลงราวน้อมรับโชคชะตาจากค�ำท�ำนายซึ่งยากจักเปลี่ยนแปลง “น่ากลัวเช่นนั้นรึ สีหน้าท่านบอกเช่นนั้น” ชีคฮาซันพยักหน้า “เป็นมากกว่านัน้ อีก เพราะค�ำท�ำนายนีไ่ งเล่าข้าถึงท�ำทุกวิถที าง เพื่อปกป้องรักษาดินแดนอันหวงแหนของบรรพบุรุษเอาไว้” “จงบอกข้าเถิดท่านอา หากช่วยได้ ข้าริยาร์ดผู้นี้ยินดีให้ความช่วยเหลือ” มีรอยยิ้มบางจากผู้ผ่านโลกมามากกว่าพร้อมขยับริมฝีปากซึ่งปกคลุมไปด้วย หนวด “ค�ำท�ำนายของผูเ้ ฒ่าผูด้ แู ลบอกกับข้าว่า หากบุตรหรือบุตรีเอือ้ นเอ่ยถึงแสงสว่าง และเสาะแสวงหาปรารถนาอันแรงกล้าคราใด นัน่ หมายความว่านครเล็กเพียงปลายก้อย บนแผนทีน่ ามคามิลา่ จักถูกลบเลือนหายไป” กระแสเสียงของชีคฮาซันเต็มไปด้วยความ 14


อาคาเซีย

หวาดหวั่น เมื่อค�ำท�ำนายนั้นก�ำลังคืบคลานเข้าสู่ความเป็นจริงเข้ามาทุกขณะ... นครคามิลา่ เป็นนครเล็กๆ อยูภ่ ายใต้การปกครองดูแลยึดหลักด้วยเมตตาและ ความสงบสุขมาหลายชัว่ อายุคน การค้าขายแลกเปลีย่ นสินค้าจ�ำพวกพืชพันธุธ์ ญ ั ญาหาร รวมทั้งการค้าม้าศึกคืออาชีพหลักของชาวเมืองคามิล่า จึงท�ำให้นครเล็กๆ ในหุบเขา สลับซับซ้อนกลายเป็นที่รู้จักของหมู่คาราวานเร่ในท้องทะเลทราย และความสมบูรณ์ เรียบง่ายนี้เองจึงเป็นเหตุจูงใจเรียกร้องให้ผู้ไล่ล่าอาณานิคมอันกระหายชัยชนะจาก สงครามและอ�ำนาจต่างมุ่งหน้ามาที่นี่ หรือแม้นแต่ชีคริยาร์ดด้วยเช่นกัน “มันเป็นเพียงค�ำท�ำนาย ขอท่านอาอย่าได้หวาดหวั่นเลย” “ข้าวาดหวังให้เป็นเช่นนั้นมาตลอด ข้าภาวนาให้ค�ำท�ำนายคลาดเคลื่อน แต่ ท่านชีคคงมิทราบ หลังจากดาเนียนพูดได้นางได้สร้างความหวาดหวั่นให้กับข้ามากนัก นางเอื้อนเอ่ยถึงแสงสว่างรวมทั้งนามที่ไม่รู้จัก นางร�่ำร้องหาสิ่งนั้นทุกราตรี ฮาน่า ฮาน่า ฮาน่า มิรวู้ า่ นางพร�ำ่ เพ้อหาผูใ้ ด” ไม่เพียงน�ำ้ เสียงเท่านัน้ นัยน์ตาของผูป้ กครองนครคามิลา่ ยังเต็มไปด้วยความวิตกนานัปการ “เท่าที่ข้าฟัง แค่ค�ำเพรียกหาไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอันใด ท่านชีคผู้ยิ่งใหญ่อย่าง ท่านอาไม่นา่ วิตก” ผูน้ งั่ บนเบาะนุม่ ขนาบข้างด้วยสองนางงามอ้าปากรับเม็ดทับทิมสีชมพู ก่อนยกจอกทองเหลืองขึ้นจิบ “ตรงข้ามกันเลย อาณาจักรในดินแดนอันไกลโพ้นล้วนแล้วแต่มาเยี่ยมเยือน เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับนครแห่งข้ามากมายนัก บุตรของข้าถูกน�ำไปเป็นตัวประกัน คนแล้วคนเล่าจนไร้ทายาทผูป้ กครองนคร ส่วนบุตรีแห่งข้าหลายนางถูกขอไปเป็นชีคคา จากหลายเผ่าซึ่งแข็งแกร่งด้วยการทหาร เราไม่สามารถแข็งข้อได้ แต่นั่นไม่ท�ำให้ข้าวิตก เท่ากับการมาเยือนของนครผู้กระหายชัยชนะแห่งสงครามหรอกนะ” พอหลุดปากออกมาแล้วบรรยากาศในกระโจมจึงเปลีย่ นเป็นความตึงเครียดทันที เมื่อชีคริยาร์ดยกมือขึ้นเพื่อหยุดการแสดงระบ�ำหน้าท้อง “ท่านอาคงมิได้หมายถึงการมาของข้าหรอกนะ” ผูม้ เี จตนาเช่นนัน้ ตัง้ แต่แรกถาม ด้วยน�้ำเสียงทุ้มต�่ำ นัยน์ตาสีเข้มราวสีของน�้ำมันดิบเป็นประกายเจิดจรัส “หามิได้ ข้าหมายถึงการมาเยือนของผูป้ กครองนครแห่งทาสซากีมสุ น่าต่างหาก” ชีคฮาซันรีบแก้ แต่ค�ำตอบของผู้ปกครองนครคามิล่ากลับท�ำให้ดวงตาของผู้กระหายสงคราม จรัสแสงขึ้นมาอีกครั้ง ลองนครซากีมุสน่าให้ความสนใจดินแดนปลายก้อยแห่งนี้แล้ว ล่ะก็ นั่นย่อมหมายความว่า ‘สงครามแย่งดินแดน’ ก�ำลังเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง 15


เงารักในรอยทราย

“คนพวกนั้นมาท�ำอะไรที่นี่หรือท่านอา?” “เอ่อ...” จะให้บอกตรงๆ ได้อย่างไรว่าทางนั้นขอเจริญสัมพันธไมตรี มีหวัง นครคามิล่าได้ถูกชีคริยาร์ดตีกระจุยเป็นแน่ เพราะจากการเยี่ยมเยือนทุกครั้งชีคริยาร์ด ก็แสดงออกให้เห็นตลอดเวลาว่าปรารถนาจักครอบครองนครเล็กๆ แห่งนี้นัก “ฮึ?” ผู้ทรงอ�ำนาจยกคิ้วหนาขึ้นสูงอย่างรอคอยค�ำตอบ “ทางนั้นผ่านมาเจอเราเข้า จึงขอเจรจาค้าขายเป็นพันธมิตรรวมทั้งขอซื้อขาย แลกเปลี่ยนม้าศึก” “แล้วท่านอาให้ค�ำตอบคนพวกนั้นเช่นไร?” แทบยกมือปาดหยาดเหงือ่ ซึง่ เกาะบนผิวหน้า แต่ชคี ฮาซันมีความอดทนอดกลัน้ ต่อแรงกดดันมากกว่านั้นเมื่อต้องเจรจากับท่านชีคผู้ยิ่งใหญ่อย่างชีคริยาร์ด “ทางเรามีม้าศึกไม่มากพอ น่าเสียดายที่ต้องปฏิเสธไปเช่นนั้น” ค�ำตอบของผู้ปกครองนครคามิล่าท�ำให้ใบหน้าเข้มของชีคริยาร์ดคลายความ เคร่งขรึมลงไปบ้าง ก่อนโบกมือให้สัญญาณกับเหล่านางระบ�ำเปิดการแสดงต่อ กระนั้น ในสมองอันชาญฉลาดยังเต็มไปด้วยเรือ่ งต้องขบคิดมากมาย ลองศัตรูออกสะสมม้าศึก เช่นนี้ นั่นย่อมหมายความว่ากลิ่นอายสงครามคงเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่นานข้างหน้า “ท่านอาปฏิเสธทางนั้นไปมิหวั่นหรอกรึว่ากองทัพซากีมุสน่าอันน่าสะพรึงกลัว จักแห่มาที่นี่” การต้อนเหยื่อด้วยวิธีอันสุดแสนฉลาดแยบยลนั้นคือสิ่งที่ชีคริยาร์ดถนัด และ มันใช้ได้ผลกับผู้ปกครองนครคามิล่าซึ่งเผยจุดอ่อนออกมาให้เห็นนัก “ไม่เลยท่านชีค” ค�ำปฏิเสธนั้นไม่มั่นคงเท่าไหร่ ใช่... ชีคหนุ่มสัมผัสความหวาดกลัวในน�้ำเสียง นั่นได้ “นครคามิลา่ มิเคยก่อศัตรู เราเป็นมิตรกับคาราวานจากทุกนครทีม่ าเยีย่ มเยือน อีกอย่างหากผูเ้ คยค้าขายกับนครแห่งข้าดี ต้องรูข้ ดี จ�ำกัดของจ�ำนวนสินค้าทีเ่ รามี จักว่าไป สัปดาห์ที่แล้วคาราวานของท่านแวะมาพักม้าที่นี่ ข้าเห็นผ้าทอมือของนครท่านช่างมี ลวดลายวิจิตรงดงามมากนัก จะสะดวกไหมหากข้าจะขอเจรจาแลกเปลี่ยนผ้าทอมือกับ พืชผลทางการเกษตรของข้าในครั้งนี้เลย” คิ้วหนาของชีคริยาร์ดยกขึ้นสูง ก่อนเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมุมปากที่คู่สนทนา เปลี่ยนเรื่องได้อย่างรวดเร็ว 16


อาคาเซีย

“ด้วยความยินดีขอรับท่านอา ฮึ สมแล้วทีผ่ คู้ รองนครเก่งกาจเรือ่ งการเจรจาค้าขาย นครแห่งนี้จึงขึ้นชื่อว่าเป็นวาณิชแห่งตะวันออก” “น้อมรับค�ำชมขอรับ” ชีคฮาซันยิ้มให้อีกครั้งก่อนลอบพ่นลมหายใจออกมา เมื่อสามารถรอดพ้นจากแรงกดดันของอีกฝ่ายมาได้อย่างหวุดหวิด แม้นการมาเยือน ของผู้ครองนครฟาตินจะไม่ใช่ครั้งแรก แต่การมาเยี่ยมเยือนของชีคริยาร์ด ผู้ขึ้นชื่อว่า กระหายสงครามได้น�ำความหวาดหวั่นมาสู่ชีคฮาซันตลอด เพราะทุกครั้งที่ชีคริยาร์ดมา เยือน ไม่เพียงต้องต้อนรับให้สมเกียรติผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น ตอนแขกส�ำคัญนี้เดินทางกลับ ต้องมอบบรรณาการเพื่อยื้อชะตาของนครคามิล่าออกไปด้วย แต่ครัง้ นีจ้ กั น�ำบรรณาการจากทีไ่ หนมอบให้ทา่ นชีคริยาร์ดล่ะ? ในเมือ่ นครคามิลา่ เพิง่ ยอมตัดใจยกทองค�ำก้อนโตให้กบั ผูป้ กครองคนใหม่ของนครซากีมสุ น่าผูเ้ หีย้ มโหด ไปเมื่อไม่ถึงสิบราตรีที่แล้วนี้เอง เฮ้อ... ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มใจนัก ภายในกระโจมพักแรมอันงดงามของชีคฮาซัน... เสียงแมลงกลางคืนซึง่ แว่วสะท้อนในท้องทะเลทรายอันหนาวเย็นในยามราตรีกาล ที่ก�ำลังหมดไปมิสามารถกล่อมให้ผู้ปกครองนครคามิล่าข่มตาให้หลับลงได้เลย ยิ่ง เสียงลมหวีดหวิวนอกกระโจมสะบัดธงสามเหลี่ยมไปมาจนเกิดรูปเงาภายในกระโจม พร้อมกลิ่นเขม่าควันไฟจากคบเพลิงจางๆ ยิ่งสร้างความตึงเครียดให้ชีคฮาซันมากนัก ตอนนี้ในคลังมีเหรียญทองและเหรียญเงินอยู่จ�ำนวนน้อยนิด ทั้งหมดนั้นต้อง ส�ำรองเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในยามจ�ำเป็น ซึ่งส่วนหนึ่งแบ่งไว้ส�ำหรับค่าใช้จ่ายเรื่องม้าศึก รวมทัง้ เมล็ดพันธุพ์ ชื ส�ำหรับการเกษตร ดังนัน้ เหรียญทีม่ อี ยูใ่ นมือนีค้ งมิใช่เครือ่ งบรรณาการ ชั้นเลิศส�ำหรับชีคริยาร์ดผู้ยิ่งใหญ่เป็นแน่ แต่ถ้าไม่มอบสิ่งใดให้ผู้มาเยือนติดไม้ติดมือ กลับไปเลย คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเช่นกัน... แล้วความคิดหนึง่ จึงแวบเข้ามาในหัว มันเป็นวิธอี นั ชาญฉลาดทีป่ ฏิบตั สิ บื มาช้านาน แลสามารถรักษานครคามิล่าเอาไว้ไม่ให้เป็นเมืองขึ้นของนครใดจนถึงบัดนี้ “หรือยกท่านหญิงดาเนียนให้ทา่ นชีคริยาร์ดดี?” ชายวัยห้าสิบกว่าตัง้ ค�ำถามกับ ตัวเอง แต่พอนึกถึงความเหมาะสมด้วยเรือ่ งของวัยแล้วชีคฮาซันจึงส่ายหน้า เพราะบุตรี คนเล็กที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในขณะนี้ยังเยาว์วัยนัก ดูว่าจักมีวัยไล่เลี่ยกับบุตรสาว คนโตของชีคริยาร์ดด้วยซ�้ำ หากยกให้เป็นนางสนมก็ดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ “หรือจักรอ ให้นางโตเป็นสาวก่อนแล้วจึงส่งไป?” ชีคฮาซันส่ายหน้าให้ตวั เองอีก ถ้ารอให้ดาเนียนโต 17


เงารักในรอยทราย

เป็นสาวเต็มตัว มีหวังนครคามิลา่ คงสิน้ นามและถูกลบออกจากแผนทีต่ ามค�ำท�ำนายของ ท่านผู้เฒ่าเป็นแน่ แต่เมื่อท�ำอันใดมิได้และไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ ชีคฮาซันจึงหันมา พึ่งค�ำท�ำนายด้วยการเสี่ยงทายแทน เปลือกหอยมุกเนื้อหนาซึ่งตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคนทั้งสี่ชิ้นคืออุปกรณ์ส�ำคัญของการเสี่ยงทาย ซึ่งผลค�ำท�ำนายอันแม่นย�ำ ตรงหน้าไม่แตกต่างไปจากความคิดของชีคฮาซันแม้นแต่น้อยนิด “ดาเนียนเอ๋ย หากเป็นโชคชะตาก�ำหนดไว้พ่อคงยากที่จักทัดทาน” ชีคฮาซัน พึมพ�ำก่อนปิดเปลือกตาลงพร้อมค้อมศีรษะอย่างน้อมรับผลค�ำท�ำนาย...

18


อาคาเซีย

1 บรรณาการแสนสวย

ณ นครฟาติน เสียงตะโกนโหวกเหวกของบรรดาพ่อค้าเร่ซึ่งมากับขบวน คาราวานดังแข่งกับเสียงตะโกนของพ่อค้าเจ้าถิน่ เพือ่ แข่งกันขายสินค้าให้กบั ผูเ้ ดินออกมา จับจ่ายใช้สอย เสียงเจรจาพูดคุยจับประเด็นไม่ได้จงึ สร้างความจอแจให้หน้าก�ำแพงเมือง อีกทั้งเสียงฝีเท้าขบวนรถม้า อูฐ ลาซึ่งสัญจรไปมาบนทางเดินจึงท�ำให้ฝุ่นทรายลอยคลุ้ง ไปทั่วบริเวณ กระนั้นนครแห่งความยิ่งใหญ่ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสาวงามและผ้าทอยังดึงดูดให้ เหล่าพ่อค้าคาราวานแวะเวียนมาค้าขายเสมอ แม้นค่าผ่านประตูเมืองเพือ่ เข้ามาท�ำการค้า จะมีราคาสูงลิบก็ตามที แล้วความวุน่ วายก็กลายเป็นความสงบขึน้ มาเมือ่ ม้าเร็วน�ำขบวน ตรงดิ่งเข้ามาภายในประตูเมืองพร้อมค�ำสั่ง “เปิดทาง! ท่านชีคริยาร์ด อิมฮาซา ก�ำลังมุ่งหน้ามาทางนี้” เมื่อผู้ขอทางเอ่ยถึงนามที่ชาวเมืองให้ความเคารพย�ำเกรงดังก้องไปทั่วบริเวณ ทุ ก ความวุ ่ น วายอั น เกิดขึ้นจากความไร้ร ะเบีย บจึง อยู่ในความสงบเรียบร้อยทันที ทางเดินเต็มไปด้วยผูค้ นถูกแหวกออกเป็นสองฝัง่ โดยปริยาย และเมือ่ ม้าสีนลิ ขีโ่ ดยบุรษุ 19


เงารักในรอยทราย

ผู้สง่างามและทรงอ�ำนาจพร้อมขบวนผู้ติดตามวิ่งเหยาะๆ เข้ามาภายในประตูเมือง เหล่าประชาชนซึง่ อยูล่ ะแวกนัน้ จึงพร้อมใจหมอบตัวลงบนพืน้ ทรายเพือ่ แสดงความเคารพ ต่อผู้ปกครองนคร จนกระทั่งขบวนรถม้าเคลื่อนผ่านไปหมดแล้วนั่นล่ะ บรรยากาศ การค้าขายชานเมืองจึงกลับมาครึกครื้นจอแจอีกครั้ง นครฟาตินอันสวยงามและเจริญรุง่ เรืองแห่งนีม้ ที า่ นชีคผูป้ กครองหนุม่ ถึงสองคน หนึ่งคือ ชีคริยาร์ด อิมฮาซา ผู้มีอุปนิสัยเฉียบขาดดุดันซึ่งมีอ�ำนาจสูงสุดของนคร และชื่นชอบการเสาะแสวงหาดินแดนที่ไม่รู้จักจนเกิดการท�ำศึกสงครามขยายดินแดน อยู่เนืองๆ นอกจากนี้ยังออกล่าตระเวนพาสาวงามจากทุกดินแดนมาอยู่ในนครของตน ดังนั้นนครแห่งนี้จึงเปิดการค้าเสรีเรื่องทาสอย่างถูกกฎหมาย แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ ความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย นั่นก็คือตัวทาสและตัวนายจ้าง ดังนั้นการไปมา ของชีคริยาร์ดจึงสร้างความหวาดหวั่นให้ชาวทะเลทรายและผู้พบพานเสมอๆ ซึ่งผิดกับ ผู้ปกครองนครคนที่สองนัก ชีคกาหริบ อิมฮาซา อนุชาต่างมารดาของชีคริยาร์ด ผู้ซึ่งฉลาดปราดเปรื่อง เรียนรู้ศาสตร์แห่งศิลป์แขนงต่างๆ ได้แตกฉานตั้งแต่อายุยังน้อย หากแต่รักสันโดษ มีจติ ใจอ่อนโยน ชืน่ ชอบการเพาะปลูก เลีย้ งสัตว์ และปรารถนาให้ชาวเมืองอยูด่ กี นิ ดีจงึ ออกเสาะแสวงหาเมล็ดพันธุพ์ ชื จากดินแดนอืน่ มาเพาะปลูกในดินแดนของตนตลอด ด้วย อุปนิสยั ทีข่ ดั กับชีคริยาร์ดนีล่ ะ่ จึงท�ำให้ชคี ริยาร์ดมอบหมายให้อนุชาออกปราบโจรทะเลทราย แทนตนเองอยูเ่ นืองๆ หรือแม้นแต่สง่ ไปท�ำสงครามกับนครอืน่ ๆ ทีแ่ ข็งข้อด้วยเพือ่ ฝึกฝน ให้ชีคกาหริบเป็นผู้กล้าที่สมบูรณ์แบบ “ท่ า นชี ค กาหริ บ น� ำ ชั ย ชนะกลั บ มาสู ่ น ครแล้ ว !” ม้ า เร็ ว ตั ว ที่ ส องพร้ อ มธง สามเหลี่ยมวิ่งผ่านเข้ามาในประตูเมืองพร้อมส่งเสียงตะโกนมาแต่ไกล ประชาชนผู้ออก มาจับจ่ายใช้สอยต่างเฝ้ารอการกลับมาจึงพร้อมใจเปิดทางเป็นสองฝั่งในทันที ซึ่งการ กลับมาของท่านชีคกาหริบรูปงามซึ่งสาวๆ เฝ้าฝันถึงนี้เองจึงสร้างความคึกคักให้กับ นครแห่งนี้นัก “ท่านชีคกาหริบกลับมาแล้ว” เสียงบรรดาเด็กน้อยและสาวๆ ต่างเอ่ยขึ้นด้วย ความยินดี ไม่เพียงบรรดาสาวงามจะออกมาต้อนรับหน้าชื่นตาบาน พวกนางทั้งหลาย ยังน�ำดอกไม้หลากสีมาโปรยต้อนรับให้สมเกียรติชคี หนุม่ อีกด้วย กว่าขบวนม้าอันยิง่ ใหญ่ ที่มาพร้อมทาสเชลยซึ่งเป็นจอมโจรทะเลทรายเคลื่อนผ่านไป ดอกไม้สีสดหลากสีจึง กระจายจนเกลื่อนพื้นอย่างยินดีในชัยชนะอันงดงาม และการกลับมาพร้อมชัยชนะของชีคกาหริบซึง่ ใช้เวลานานถึงครึง่ ปีในการล่าหัว 20


อาคาเซีย

จอมโจรทะเลทรายผู้ยงิ่ ใหญ่นเี่ องจึงท�ำให้ชีคริยาร์ดจัดงานเลีย้ งอย่างยิง่ ใหญ่เพือ่ ฉลอง ชัยชนะให้กบั อนุชา รวมทัง้ ต้อนรับธิดาตัวน้อยคนทีส่ บิ เอ็ดซึง่ เกิดขึน้ ในวันเดียวกันนีด้ ว้ ย เสียงดนตรีจงั หวะสนุกดังขึน้ สอดคล้องกับท่าเต้นอันพลิว้ ไหวอ่อนช้อยของเหล่า นางระบ�ำแสนสวยทัง้ ห้า ซึง่ เผยหน้าท้องแบนราบกับเสียงลูกกระพรวนยักย้ายส่ายสะโพก ไปมา รอบๆ บริเวณห้องสีเ่ หลีย่ มจัตรุ สั กว้างซึง่ โยงระย้าด้วยผืนผ้าสีเหลืองทองตัดผนัง สีส้มอ่อนกับลวดลายฉลุบนโค้งหน้าต่างทรงหัวหอมคงเต็มไปด้วยขุนนางชั้นผู้ใหญ่ซึ่ง นั่งเรียงแถวและหันหน้าเข้าหากันเพื่อรับชมการแสดง โดยมีผู้ปกครองทั้งสองนั่งอยู่บน เบาะนุ่มกับพื้นยกระดับซึ่งสูงกว่าเล็กน้อย “ขอฉลองความส�ำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้แด่อนุชาแห่งข้า วีรบุรุษผู้ซึ่งสร้างชื่อเสียง และความน่าเกรงขามให้นครฟาติน” ชีคริยาร์ดชูจอกทองเหลืองขึน้ เหนือศีรษะด้วยรอยยิม้ ปลาบปลืม้ น�ำเหล่าขุนนาง ชั้นผู้ใหญ่ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน ก่อนดื่มฉลองความส�ำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้ชีคกาหริบที่ สามารถปราบโจรทะเลทรายผู้ดุร้าย และสามารถพิชิตเมืองใต้มาครอบครอง ซ�้ ำยัง กวาดต้อนบรรดาโจรร้ายพร้อมเหล่าสาวงามที่โจรร้ายจับไว้เป็นเชลยกลับเข้ามาในนคร ฟาติน “แด่ความยิง่ ใหญ่ของเชษฐาแห่งข้าเช่นกัน” ผูไ้ ด้รบั เกียรติยมิ้ ละมุนเอามือแตะ หน้าอกพร้อมค้อมศีรษะให้อย่างนอบน้อม ซึง่ กิรยิ านีเ้ รียกเสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจจาก ชีคริยาร์ดจนดังกังวานไปทัว่ ห้อง ก่อนหันไปหอมแก้มสาวงามซึง่ คอยปรนนิบตั อิ ยูข่ า้ งๆ “เรามาดื่มฉลองให้กับน้องข้าอีกครั้ง” ทั้งหมดปฏิบัติตามค�ำสั่งของชีคริยาร์ด ด้วยใบหน้าอิม่ เอมความสุข และสนุกไปพร้อมกับเหล่านางระบ�ำทัง้ ห้า “เจ้ากลับมาครัง้ นี้ ดูซบู ผิดตาไปมาก ดูวา่ ข้าใจร้ายเหลือเกินทีส่ ง่ เจ้าไปท�ำลายรังโจรถึงเมืองใต้เพียงล�ำพัง” “โอ้ไม่เลยขอรับ เพื่อความสงบสุขของชาวเมือง ข้าผู้เป็นน้องย่อมต้องช่วย แบ่งเบาภาระอันยิ่งใหญ่แห่งพี่ข้า” “ฮ่าๆ พูดได้ดี ยังไงข้าต้องขอบใจเจ้ามากนะกาหริบ” มือหนาสวมธ�ำมรงค์ น�ำ้ งามตบลงบนไหล่หนาสมชายชาตรีของอนุชาต่างมารดาอย่างรักใคร่ ผูเ้ จียมตัวเสมอมา จึงค้อมศีรษะให้ดังเดิม “ตอนข้ากลับเข้าเมืองมา ได้ยินว่าพี่ข้าเพิ่งกลับจากการท่องทะเลทรายและแวะ เยี่ยมเยียนนครคามิล่า ไปคราวนี้บรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ประการใด?” น�้ำเสียงเนิบๆ ของชีคกาหริบคราถามถึงนครปลายก้อยซึ่งมิยอมสวามิภักดิ์ แต่ขอเป็นพันธมิตรทางการค้าสร้างความอึดอัดให้ชีคริยาร์ดนัก เพราะตลอดระยะเวลา 21


เงารักในรอยทราย

สามปีทผี่ า่ นมา ทางนครฟาตินพยายามกดดันและหาแนวทางหลอมรวมนครเล็กๆ นาม คามิล่าเป็นดินแดนเดียวกับนครฟาตินตลอด แต่นครผู้โดดเดี่ยวก็มีกุศโลบายต่างๆ มารับมือ ซ�้ำยังเปิดช่องทางการค้าและส่งบรรณาการเป็นม้าศึกมาให้ตลอด นอกจากนี้ ยังส่งเมล็ดพันธุ์พืชมาให้เนืองๆ ดังนัน้ ชีคริยาร์ดจึงตัดสินใจตีนครเล็กๆ แห่งนีม้ ไิ ด้ แต่พอรูข้ า่ วว่านครแห่งทาส ก�ำลังให้ความสนใจและเจริญสัมพันธไมตรีกับชีคฮาซันผู้เป็นวาณิชแห่งตะวันออก ชีคริยาร์ดจึงท�ำใจเย็นอีกต่อไปไม่ได้จงึ ตัดสินใจออกท่องทะเลทรายพร้อมแวะเยีย่ มเยียน นครคามิล่าอีกครั้ง “เฮ้อ ข้าเองก็มิรู้เช่นกันว่าข้าบรรลุวัตถุประสงค์อย่างที่เจ้าถามหรือไม่” ค�ำตอบก�ำกวมไม่กระจ่างชัดอีกทั้งสีหน้าไม่สบายใจของชีคผู้ปกครองนคร ท�ำเอาชีคกาหริบย่นคิ้วยาวได้รูปรับกับโครงหน้าเข้าหากัน เพราะตั้งแต่กลับมาเขาได้ยิน เหล่านางก�ำนัลต่างพูดถึงบรรณาการของนครคามิล่าไม่ขาดสาย ซึ่งการได้ครอบครอง สาวงามอันเป็นบุตรีของท่านชีคจากนครนั้นๆ ก็เท่ากับว่าฟาตินนครประสบความส�ำเร็จ และบรรลุวัตถุประสงค์นั่นแล้ว “ข้าได้ยินว่าท่านพี่ได้ครอบครองสตรีที่งดงามและอ่อนเยาว์ที่สุดในแคว้น ตะวันออก” “โอ้... ยังห่างไกลค�ำนั้นนักน้องรักของข้า” น�้ำเสียงของผู้ประสบและรับมือกับ นางงาม ‘จอมซน’ ที่อนุชาให้ความสนใจเต็มไปด้วยความเอือมระอา แต่คนฟังอย่าง ชีคกาหริบกลับตีความไปอีกทาง “คงจริ ง นครแห่ ง เราก็ ขึ้ น ชื่ อ เรื่ อ งสาวงาม ข้ า ตระเวนไปทั่ ว ทุ ก ทิ ศ จาก ดินแดนตะวันออกจรดดินแดนตะวันตก ยังมิเคยพานพบนครแห่งไหนมากสาวงาม เท่านครเรา ถึงว่าพี่ข้าจึงมิตื่นเต้นกับสาวงามนางนี้ ว่าแต่ท่านชีคฮาซันส่งบุตรีล�ำดับที่ เท่าไหร่มาให้เราหรือขอรับ?” “ถ้าข้าจ�ำไม่ผิด น่าจักคนสุดท้องนะ” น�ำ้ เสียงไร้ปตี ซิ ำ�้ ยังดูเหนือ่ ยหน่ายยิง่ ท�ำให้ชคี กาหริบแปลกใจ ด้วยว่าชีคริยาร์ด ยังหนุม่ แน่นอายุอานามเพียงสามสิบเท่านัน้ ซึง่ ทุกครัง้ ทีไ่ ด้หญิงงามมาครอบครองเชษฐา จะพานางผู้นั้นมาแสดงตัวในงานเลี้ยงด้วยเสมอ เพื่อประกาศให้ทุกคนรับรู้และยกย่อง ให้เกียรตินางผู้นั้นในฐานะสนม แต่ราตรีนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น ซ�้ำยังดูว่าท่านชีคริยาร์ด มิอยากเอ่ยถึงนางงามที่ว่านั้นด้วย “ท่านพี่มิยินดี รึเป็นเพราะนางมิงดงามสมค�ำร�่ำลือขอรับ?” 22


อาคาเซีย

ค�ำถามนัน้ ท�ำให้ชคี ริยาร์ดแย้มยิม้ น้อยๆ “ข้าดูวา่ นางน่าจักงดงามมากนะกาหริบ เพียงแต่ยังมิใช่กาลนี้” ยิง่ ฟังก็ยงิ่ งง ชีคหนุม่ ขมวดคิว้ ชนกัน เพราะรูอ้ ยูว่ า่ เชษฐานัน้ ปรารถนาบุตรชาย ส�ำหรับสืบทอดบัลลังก์ถงึ เพียงใด ซึง่ ระยะเวลาสิบปีทผี่ า่ นมาชีคริยาร์ดยังไม่สมปรารถนา เพราะบุตรซึ่งเกิดจากสนมทั้งสิบเอ็ดนางนั้นยังไม่มีบุตรชายแม้นแต่คนเดียว และนี่ จึงเป็นอีกหนึง่ สาเหตุทชี่ คี ริยาร์ดต้องออกแสวงหาสาวงามจากทุกดินแดนเพือ่ มีสายเลือด ไว้สืบทอดบัลลังก์ในกาลต่อไป สีหน้าของชีคกาหริบในเพลานี้เองที่เรียกเสียงหัวเราะจากชีคริยาร์ดออกมาได้ “มิต้องท�ำหน้าเช่นนั้น เอาอย่างนี้ ในเมื่อเจ้าสนใจในตัวนางงามมากนัก ข้า ขอมอบบรรณาการนี้แด่เจ้าดีกว่ากาหริบน้องข้า เผื่อท่านหญิงจะมอบความอภิรมย์ให้ กับเจ้าบ้าง” “โอ้ ข้าคงรับไว้มิได้ ข้าใช้ชีวิตอิสระมานานคงยังมิพร้อมกับสิ่งนี้ อีกอย่าง ท่านพี่เองก�ำลังแสวงหานางงามเพื่อเป็นสนมอยู่ หากข้ารับไว้เกรงว่ามิถูกมิควร” ผู้ปกครองอันดับสองซึ่งร้างสาวงามเคียงข้างเพราะชื่นชอบการใช้ชีวิตสันโดษ รีบปฏิเสธ เพราะรูว้ า่ เชษฐาของตนนัน้ ยังปรารถนาทีจ่ กั หาสนมอยูเ่ นืองๆ อีกทัง้ ยังต้องการ ทายาทสืบบัลลังก์ ดูเถอะ ขึ้นปกครองนครแห่งนี้มาเป็นสิบปีแล้ว แต่ชีคริยาร์ดซึ่งมีนางสนมรวม ยีส่ บิ กว่านางกลับปราศจากบุตรชายให้ชนื่ ใจสักคน ล่าสุดทีล่ มื ตาขึน้ มาเมือ่ ตอนเทีย่ งวัน ซึ่งเป็นธิดาล�ำดับที่สิบเอ็ดก็ยังคงเป็นบุตรีอีกเช่นเคย “อย่าได้เกรงใจเลยน้องข้า นี่คือสิ่งถูกต้องที่สุดแล้ว ข้าหวั่นใจด้วยซ�้ำหาก ข้ารับท่านหญิงดาเนียนมาเป็นสนม ฝ่ายในคงวุ่นวายพิลึก” ยิง่ ฟังก็ยงิ่ สร้างความสงสัย ชีคกาหริบไม่สนใจด้วยซ�ำ้ ว่าการแสดงอันน่าอภิรมย์นนั้ จบลงตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สิ่งที่ติดใจเห็นจะเป็นปฏิกิริยามิไยดีของผู้ครองนครนี่ล่ะ “วุน่ วายอย่างไรหรือขอรับ? ข้ามิเคยเห็นนางงามอันเป็นบรรณาการจักสร้างปัญหา ให้กับทางเราแต่อย่างใด มิหน�ำซ�้ำยังสวามิภักดิ์กับเราเป็นอย่างดี” ชีคริยาร์ดยิ้มกว้างกับวาจาของผู้ไม่รู้พิษสงของนางงามตัวน้อยนั่น “ทางที่ดีเจ้า รีบรับนางไว้ก่อนเถอะ ประเดี๋ยวเจ้าก็จักได้รับค�ำเฉลยเอง ถือซะว่าช่วยแบ่งเบาภาระ ของข้าก็ได้” ดูว่าผู้ปกครองนครตั้งใจมอบบรรณาการนี้ให้นัก ซ�้ำยังมิเฉลยค�ำตอบในสิ่งที่ ฉงนสงสัย แลนัน่ จึงท�ำให้ชคี กาหริบปฏิเสธอันใดมิได้ จะเป็นอันใดไปหากเขาจักมีสนม 23


เงารักในรอยทราย

ไว้เป็นเพือ่ นแก้เหงาเหมือนดัง่ เชษฐาบ้าง คิดได้ดงั นัน้ ชีคกาหริบจึงไม่ขดั ศรัทธาแต่อย่างใด นอกจากเอามือแตะหน้าอกพร้อมค้อมศีรษะ “ข้าน้อมรับบรรณาการไว้ครอบครองขอรับ” “ดี... ดีมากๆ” มือหนาของผูป้ กครองนครวางลงบนไหล่หนาบึกบึนของอนุชาพร้อมระเบิดเสียง หัวเราะ ก่อนหันมาสนุกสนานกับเหล่านางระบ�ำแสนสวยอีกครัง้ ดังนัน้ ท่านชีคริยาร์ดจึง ไม่เห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนนั่น... การเดินทางรอนแรมกลางทะเลทรายถึงสิบห้าราตรีเต็มจากดินแดนหนึ่งสู่ ดินแดนหนึง่ จากทรายผืนหนึง่ สูท่ รายอีกผืนหนึง่ รวมทัง้ แวะเวียนยังเมืองท่าต่างๆ จึงเป็น เหตุให้ทา่ นหญิงดาเนียนผูซ้ งึ่ กลายมาเป็นบรรณาการชัน้ เลิศเอาแต่ร�่ำไห้กระจองอแงตาม ประสาเด็กมาตลอดทาง ด้วยว่าไม่เคยชินกับการเดินทางจากบ้านจากเมืองมาไกลแสน ไกลเพียงล�ำพังกับคนแปลกหน้าเช่นนี้ และการที่นางงามตัวน้อยเอาแต่ร�่ำไห้เช่นนี้เอง จึงสร้างความร�ำคาญให้กับชีคริยาร์ดมากนัก ‘ข้ามิเคยพานพบเด็กคนไหนร�่ำไห้ได้เก่งเท่านี้มาก่อนเลย แม้นแต่บุตรีแห่งข้า ซึ่งมีวัยไล่เลี่ยกับนาง ก็ยังพูดง่ายกว่าเด็กน้อยผู้นี้หลายเท่านัก’ เป็นค�ำปรารภด้วยความร�ำคาญอย่างยิง่ ซึง่ ดาเนียนรูแ้ ก่ใจดีวา่ ท่านชีคผูย้ งิ่ ใหญ่ ก�ำลังพูดถึงตนเอง และนี่เองที่ดาเนียนรู้ว่าการประท้วงเพื่อเรียกร้องกลับนครด้วยการ ร�่ำไห้ใช้ได้ผล ท่านหญิงตัวน้อยจึงเอาแต่ร�่ำไห้ไปตลอดทาง แล้วมีหรือที่ท่านชีคริยาร์ด ผู้ยิ่งใหญ่จะสยบให้แค่เสียงเด็กร้อง! ดังนั้นภาระอันใหญ่หลวงในการดูแลท่านหญิง ดาเนียนทั้งหมดจึงตกเป็นของนางก�ำนัลลิมุสในทันที ‘ท่านชีคมีค�ำสัง่ ให้เจ้าผูด้ แู ลท่านหญิง จงท�ำให้ทา่ นหญิงดาเนียนหยุดร�่ำไห้ หาก ยังได้ยินเสียงอันน่าร�ำคาญนี้อีก เจ้าจักถูกเฉือนปลายลิ้นแทน’ มิเพียงภาระหน้าทีซ่ งึ่ ยากจะปฏิเสธ ซ�ำ้ ยังมีคมมีดของท่านชีคริยาร์ดค�ำ้ คอไว้อกี ดังนั้นนางก�ำนัลลิมุสจึงต้องสรรหาสารพัดวิธีมาใช้หลอกท่านหญิงตัวน้อย ซึ่งใช้ได้ผล เป็นพักๆ เท่านัน้ และราตรีนอี้ กี เฉกเช่นกันทีท่ า่ นหญิงดาเนียนเอาแต่รำ�่ ไห้กอดผ้าขนแกะ ผืนโปรด พร้อมร�ำพันงึมง�ำซ�้ำๆ กับปรารถนาจะกลับบ้าน ซึ่งเสียงเล็กอันน่าร�ำคาญในราตรีนี้หาได้ท�ำให้นางก�ำนัลลิมุสปวดหัวอย่างเคย เพราะท่านหญิงจอมยุง่ มิได้อยูใ่ นรถม้าร่วมขบวนกับท่านชีคริยาร์ดเหมือนราตรีกอ่ น ดัง นัน้ ไม่วา่ ท่านหญิงน้อยจักร้องไห้เสียงดัง หรือจะขว้างปาข้าวของเพือ่ เรียกร้องความสนใจ 24


อาคาเซีย

เช่นไรลิมุสก็ไม่ใส่ใจ สิ่งที่นางก�ำลังสนใจก็คือเรื่องความงามของตัวเองเท่านั้น ด้วยก่อนหน้านีช้ คี ริยาร์ดส่งยูนคุ ขันทีมาแจ้งว่ากลางดึกชีคกาหริบผูค้ รอบครอง บรรณาการจักมายลโฉมของท่านหญิงแห่งคามิลา่ นครถึงฮาเร็มแห่งนี้ และขอให้ทา่ นหญิง ดาเนียนเตรียมตัวต้อนรับด้วย แม้นท่านชีคกาหริบจักไม่ได้มายลโฉมของนาง แต่ลิมุส ก็รู้ว่านี่คือโอกาสทองที่นางจะเลื่อนฐานะอันน่ารังเกียจนี้ให้สูงส่งขึ้น “ข้าคิดถึงท่านพ่อท่านแม่ เจ้าช่วยพาข้ากลับไปนครคามิล่าทีสิลิมุส” ดาเนียน เช็ดคราบน�้ำตาออกจากแก้มชื้นขณะยังมีเสียงสะอึกสะอื้น “โอ้ชา่ งน่าเวทนานัก ว่าแต่ทา่ นหญิงปรารถนาฮาน่ามิใช่หรือเจ้าคะ ท่านชีคฮาซัน จึงได้ส่งท่านหญิงมาดินแดนแห่งนี้แล้ว ท่านยังปรารถนาสิ่งใดอีก?” น�้ำเสียงของลิมุส แข็งกระด้างขึน้ มาทันทีเมือ่ ไร้ความจ�ำเป็นต้องรักษาสถานะนางก�ำนัลและท่านหญิงเอาไว้ เพราะดูว่าท่านชีคผู้ปกครองนครแห่งนี้หายกย่องในตัวท่านหญิงดาเนียนไม่ ซ�้ำยัง ปล่อยปละละเลยน�ำมาไว้ในฮาเร็มอันเงียบเหงาราวกับสุสานร้าง ที่แย่ไปกว่านั้นท่านชีค ริยาร์ดยังยกท่านหญิงดาเนียนให้เป็นสมบัติของผู้อื่นครอบครองอีก แต่ก็นั่นล่ะ ไม่ว่าท่านหญิงน้อยจักตกเป็นสมบัติของใครก็มิส�ำคัญเท่ากับนาง ต้องแสวงหาความมั่นคงให้กับตัวเอง และโอกาสเพียงหนึ่งเดียวก็ก�ำลังคืบคลานมาถึง “ที่นี่มีแต่คนใจร้าย... ทุกคนใจร้ายกับข้า แม้นแต่เจ้าก็เช่นกัน” เด็กน้อยต่อว่า ต่อขานเมื่อนางก�ำนัลลิมุสซึ่งลั่นวาจาไว้กับท่านชีคฮาซันว่าจักดูแลตนเป็นอย่างดีกลับ ไม่รักษาสัจจะนั้น ซ�้ำยังท�ำร้ายทุบตีจนเจ็บระบมไปทั้งตัว “ข้าท�ำไมเจ้าคะ?” “ใจร้าย เจ้าทุบข้า ตีข้า หากกลับไปได้ข้าจะฟ้องให้ท่านพ่อลงอาญาเจ้า” ดาเนียนต่อว่า ดวงตาสีมรกตมีน�้ำมาคลอเบ้าแต่มันก็ถูกเช็ดออกไปเมื่อลิมุสหัวเราะขัน ความอ่อนแอนั่น “เจ้าขันเรื่องอันใดหรือลิมุส?” “ก็ขนั ท่านน่ะสิทา่ นหญิง โถ ปรารถนาจักกลับนครคามิลา่ ท่านหญิงย่อมรูด้ นี ะว่า บุตรีของชีคฮาซันซึง่ ถูกส่งตัวไปต่างนครยังมิเคยมีผใู้ ดได้กลับมาเยีย่ มเยือนนครคามิลา่ อีก แล้วท่านจักท�ำเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า” รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างสาแก่ใจสร้างความกดดันให้ดาเนียนนัก เพราะ เด็กน้อยตระหนักดีว่าบรรดาพี่สาวทั้งสิบห้านางซึ่งเกิดต่างมารดานั้นยังมิเคยมีใคร กลับมาเยี่ยมเยียนบ้านเกิดอีกหลังจากถูกจับขึ้นหลังอูฐไปเป็นบรรณาการเพื่อเจริญ สัมพันธไมตรีกับนครอื่น แค่ความดื้อรั้นและเชื่อมั่นในตัวเองก็มิท�ำให้ดาเนียนยอมรับ ความพ่ายแพ้ง่ายๆ 25


เงารักในรอยทราย

“เจ้าพูดถูก แต่ทกุ คนย่อมมีความปรารถนา และข้าปรารถนาจักกลับไปคามิลา่ นคร” ดวงตาสีมรกตเป็นประกายเจิดจรัสขึ้นมาอีกครั้ง “ตามแต่ปรารถนาเลยท่านหญิง แต่ข้าขอบอกอันใดไว้สักอย่าง” เสียงหัวเราะ ในล�ำคอหายไปกลายเป็นเสียงกระซิบอย่างจริงจัง พร้อมหรี่ตาลง “ต่อให้ท่านหญิงขี่อูฐ ออกไปจากนครแห่งนีไ้ ด้ ยังไงซะท่านก็ไปมิพน้ ทะเลทรายกว้างใหญ่อนั แห้งแล้งนีห้ รอก หรือถ้ารอดไปก็ไม่แน่ว่าท่านอาจเจอโจรทะเลทรายจอมโหดสังหารก่อน อย่าว่าจักเหลือ รอดชีวิตกลับไปหาชีคฮาซันเลย แม้นแต่ฮาน่าที่ท่านเอ่ยถึงทุกราตรีก็มิมีวันได้พบ!” ได้ยินค�ำขู่อันน่าสะพรึงกลัวดาเนียนที่นั่งกอดเข่าจึงรีบเช็ดคราบน�้ำตาออกจาก ดวงตาสีมรกต “อย่าแตะต้องปรารถนาแห่งข้า ฮาน่าจักปกป้องข้า” “โอ้ เป็นความฝันอันเพ้อเจ้อของท่านหญิงต่างหากเล่า” ลิมุสไม่วายยั่วเย้า “นีม่ ใิ ช่ความฝันอันเพ้อเจ้อ” ดาเนียนเสียงแข็งขึน้ มาทันที และกิรยิ านัน่ ยิง่ สร้าง เสียงหัวเราะให้กับลิมุสนัก “สิ่งใดบอกท่านหญิงหรือเจ้าคะ ท่านถึงมั่นใจเพียงนั้น?” “สัญชาตญาณบอกข้า” ได้ยนิ น�ำ้ เสียงมัน่ คงนัน่ ยิง่ ท�ำให้นางก�ำนัลสาวหัวเราะชอบใจ เพราะตัง้ แต่รบั หน้าที่ เป็นพี่เลี้ยงให้บุตรของท่านชีคมาหลายคน ลิมุสยังไม่เคยเจอเด็กคนไหนมีจินตนาการ มากมายเข้าขั้นเพ้อเจ้อเท่าท่านหญิงดาเนียนมาก่อน “เอาล่ะๆ ข้าจักมิถามท่านหญิงว่าสัญชาตญาณตรงส่วนไหน เอาเป็นว่าท่านหญิง ทิ้งความปรารถนาที่จักกลับคามิล่านครเถิด” ดาเนียนเงียบไปอีกทว่าดวงตาสีมรกตแฝงฝังความเศร้าคงไหววูบ นางเคย ปรารถนาอยากออกตามหาแสงสว่างเจิดจ้าไปยังสุดขอบของทะเลทรายอันไกลโพ้นเพื่อ สานต่อค�ำเรียกร้องของจิตวิญญาณภายในใจ แต่คดิ ไม่ถงึ ว่าการตามหาบุคคลซึง่ มีตวั ตน ในความฝันนั้นกลับต้องแลกมาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่นางมี นอกจากถูกบิดาพาขึ้นรถม้าพร้อมยัดหีบเสื้อมากับคาราวานของชีคริยาร์ด โดยมิพบหน้ามารดาแล้ว บิดายังกล่าวค�ำลวงว่าท่านชีคริยาร์ดจักพานางมาพบฮาน่าอีก แต่นั่นยังไม่ย�่ำแย่เท่ากับบิดาทอดทิ้งให้อยู่กันตามล�ำพังกับนางก�ำนัลพี่เลี้ยงจอมดุร้าย ยิ่งคิดดาเนียนยิ่งหดหู่ใจนัก หรือนางต้องมีชะตากรรมเฉกเช่นพี่สาวแล้วจริง? “เจ้ามิอยากกลับไปนครคามิล่าหรือลิมุส สหายน่ารักของเจ้าอยู่ที่นั่นทั้งหมด และเขาอาจรอคอยการกลับมาของเจ้าก็ได้” ดาเนียนกลืนเสียงสะอึกสะอื้นลงคอขณะ โน้มน้าวอีกฝ่าย 26


อาคาเซีย

“โอ้ไม่เลย ข้าไม่ปรารถนากลับไปที่นั่นอีก ข้ายินดีด้วยซ�้ำที่พ้นจากเจ้าหนี้ มากมายมาได้” “แล้วเจ้าไม่คิดถึงท่านพ่อท่านแม่รึ?” ลิมุสส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาแข็งกระด้างไม่บ่งบอกถึงความโศกเศร้าหรืออาลัย อาวรณ์แต่อย่างใด “ไม่เลยท่านหญิง ข้าเป็นอิสระจากครอบครัวมานานเพราะพ่อข้าขายข้าให้มา เป็นทาสตั้งแต่ยังเด็ก” “เจ้าช่างน่าสงสารนัก” ดวงตาสีมรกตเศร้าลง “มันกลายเป็นเรือ่ งธรรมดาส�ำหรับข้าเสียแล้ว จักว่าไปท่านหญิงเองก็มชี ะตากรรม ไม่ต่างจากข้าหรอกนะ ดีกว่านิดหน่อยก็ตรงที่ท่านมีฐานะเป็นท่านหญิงก็เท่านั้น” ได้ฟังค�ำเปรียบเทียบหัวใจดวงน้อยของดาเนียนจึงห่อเหี่ยวลงไปอีก “จริงของเจ้า ไม่ว่าจักมีฐานะสูงส่งเช่นไร หากถูกทอดทิ้งปล่อยปละละเลย ไม่สนใจท�ำเหมือนว่าข้าเป็นสินค้าชิ้นหนึ่ง ข้าก็คงมีค่าไม่ต่างจากนางทาสธรรมดาๆ ที่ ถูกขายหรอก” พอถูกจี้จุดอ่อนเข้าให้ดาเนียนก็ท�ำท่าว่าจักร�่ำไห้ออกมาอีก “ช่างน่าสงสารนัก แต่อย่ากังวลไปเลยท่านหญิงน้อย โชคชะตาไม่กลัน่ แกล้งเรา เสมอไปหรอก” “ข้าก็หวังเช่นนัน้ ” ดาเนียนยิม้ เศร้าให้ลมิ สุ เมือ่ ความเป็นนายเป็นบ่าวถูกท�ำลายลง และนั่นก็เปิดช่องทางให้ลิมุสได้ออกเล่ห์อุบาย “จะว่าไปเราสองคนซึ่งไม่มีอะไรท�ำน่าจะหาอะไร ’เล่น’ แก้เหงานะเจ้าคะ หรือ ท่านหญิงเห็นว่าอย่างไร?” ได้ยินค�ำว่า ‘เล่น’ ในน�้ำเสียงฟังแล้วดูมีความสุขของนางก�ำนัลลิมุสนั่นล่ะ ดาเนียนจึงสลัดความหดหู่อันไร้ประโยชน์ทิ้งไป “เล่นอันใดหรือลิมุส?” เพราะน�้ำเสียงใคร่รู้ของเด็กน้อยนี่ล่ะ ลิมุสจอมเจ้าเล่ห์ จึงยิ้มมุมปากดวงตาเป็นประกายวาววับ “เราสองคนจะเล่นเปลี่ยนตัวกัน” “อย่างไรรึ?” ดาเนียนเอียงคอสงสัย ผูซ้ งึ่ เพลินกับความงามอยูห่ น้าหีบใบน้อยกับหน้ากระจกสีเ่ หลีย่ มผืนผ้าฉลุลาย จึงลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเด็กน้อยซึ่งนั่งอยู่บนเตียงตัวเตี้ยโยงด้วยผ้าเนื้อบางท�ำหน้าที่ ต่างม่าน “ท่านหญิงจักมาเป็นข้า... ส่วนข้าจักไปเป็นท่านหญิง เราลองสลับตัวกันสักหนึง่ ราตรีจักเป็นไร แล้วพรุ่งนี้ข้าก็จักกลับมาเป็นข้า ส่วนท่านก็จักกลับมาเป็นท่าน” 27


เงารักในรอยทราย

“โอ้ ช่างเป็นการเล่นทีว่ เิ ศษนัก ไม่เป็นไรลิมสุ ข้ายินดีเล่น ข้าจักเป็นเจ้าจนกว่า ข้าจักเลิกพอใจ” ดาเนียนยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ พร้อมรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงตัวเตี้ย ไปเปิดหีบใบใหญ่เลือกเอาเสือ้ ผ้าและเครือ่ งประดับของตนเองทีล่ มิ สุ พอจะใช้ได้มายืน่ ให้ “เป็นท่านหญิงต้องงดงาม มาเลยนางงามแห่งนครคามิล่า ข้าคือนางก�ำนัลดาเนียนจัก ปรนนิบตั ทิ า่ นหญิงลิมสุ เอง” ว่าแล้วเด็กน้อยจอมซนทีไ่ ม่ทนั เล่หอ์ บุ ายของนางก�ำนัลสาว จึงหันมาแปลงโฉมลิมุสทันที...

28


อาคาเซีย

2 รางวัล

ทางเดินใต้โค้งทรงหัวหอมสว่างไสวด้วยโคมตะเกียงฉลุลายซึง่ ติดไว้ตามเสา จนสุดทางเดิน ร่างสูงสง่างามในชุดพืน้ เมืองเต็มยศ สวมเสือ้ คลุมสีกรมท่าแทรกดิน้ สีทอง ตรงขอบแขนและสาบเสื้อ เผยให้เห็นเสื้อตัวในสีขาวเนื้อบาง สวมผ้าคลุมศีรษะสีขาว สะอาดตา เดินผ่านสวนสวยมากด้วยดอกไม้นานาพันธุ์จากท้องทะเลทรายเชื่อมตรง ไปยังฮาเร็มส่วนในอันเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจชั้นเลิศของท่านชีคซึ่งเต็มไปด้วย ความเงียบเหงาวังเวงอย่างไม่รีบร้อนนัก ทั้งนี้เป็นเพราะชีคกาหริบมีด�ำริต้องการเปลี่ยนสถานที่กักขังหญิงงามให้เป็น พื้นที่เพาะพันธุ์ดอกไม้งามนั่นเอง ดังนั้นชีคหนุ่มจึงมิเห็นถึงความส�ำคัญอันใดที่จักน�ำ สิ่งมีชีวิตแสนสวยซึ่งเรียกว่านางงามมาเก็บไว้ในนี้ และการมาเงียบๆ ของชีคกาหริบ พร้อมด้วยผูต้ ดิ ตามเพียงคนเดียวอย่างองครักษ์ยโู ซจึงไม่สร้างความแตกตืน่ ให้สาวงาม เพียงหนึ่งเดียวเท่าไหร่นัก 29


เงารักในรอยทราย

ร่างสูงสง่าพร้อมผู้ติดตามเดินผ่านห้องว่างมากมายอย่างไม่รีบร้อน พอเห็น แสงสว่างจากดวงตะเกียงเรืองรองตรงหน้าต่างพร้อมเสียงดนตรีอันสนุกสนาน รอยยิ้ม อ่อนโยนจึงปรากฏขึน้ บนใบหน้าสีแทนของชีคหนุม่ พลางคิดในใจว่านางงามช่างเตรียมตัว ต้อนรับเขาดีเหลือเกิน “บอกข้าเถิดยูโซ ว่าเจ้าได้ยินเสียงดนตรีเช่นเดียวกับข้า?” กระแสเสียงทุ้มต�่ำ ของชีคกาหริบดังขึน้ ดวงตาหวานฉ�ำ่ คมคายแลงดงามดัง่ นิลกาฬชนิดอิสตรียงั อายกวาด ไปรอบๆ บริเวณซึ่งร้างนางงามมาเนิ่นนาน หากมีใครสักคนเอ่ยถามว่าในฮาเร็มของชีคกาหริบมีสงิ่ ใดงดงามทีส่ ดุ ชีคหนุม่ คงตอบกับใครๆ ได้อย่างเต็มปากเต็มค�ำว่าฮาเร็มของเขามีดอกกุหลาบทะเลทรายทีง่ ดงาม ที่สุดและหอมยวนใจที่สุด แต่ราตรีนี้คงเอ่ยได้มิเต็มปากนักเมื่อเขาได้ครอบครอง นางงามซึ่งงดงามและเยาว์วัยที่สุดจากนครตะวันออก “ข้าได้ยนิ เสียงดนตรีดงั จากในห้องทางด้านนูน้ ขอรับท่านชีค นัน่ คือเสียงเรียกร้อง ของนางงาม” ผู้ติดตามใกล้ชิดและแสนซื่อสัตย์นามยูโซซึ่งด�ำรงต�ำแหน่งองครักษ์ค้อม ศีรษะให้ และค�ำตอบนี้เองที่ท�ำให้วงหน้าหล่อเหลาคมคายของชีคหนุ่มเปื้อนรอยยิ้ม ขึ้นมาได้ “เช่นนั้นเจ้าจงน�ำทางข้าไปอย่าได้รอช้า” ยูโซปฏิบัติตามค�ำสั่งในทันที... โค้งประตูฉลุลายเป็นทรงโดมคล้ายหัวหอมเปิดออกกว้างเมื่อ ชีคกาหริบ อิมฮาซา มาเยี่ยมเยือน พอร่างสูงใหญ่สง่างามไปทุกอิริยาบถก้าวผ่านผ้าม่านโยงระย้า ห้อยย้อยเข้ามาในห้อง ทุกเสียงอันกังวานไพเราะซึ่งดังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมจึงอันตรธาน พร้อมการแสดงความเคารพอย่างนอบน้อมของผู้รู้ส�ำนึกในฐานะของตนเอง จักมีก็แต่ ดาเนียนเท่านั้นซึ่งยืนตะลึงค้างเช่นนั้นเมื่อเห็นบุรุษร่างโตแลสง่างามก้าวเข้ามาในห้อง “ฮาน่า” ค�ำร�ำพันนั้นแผ่วเบาดุจเสียงกระซิบ หัวใจดวงน้อยเต้นถีร่ วั เมือ่ เสียงหนึง่ จากก้นบึง้ หัวใจเรียกร้องให้เดินไปหาบุรษุ ผู้นี้ ทว่ายังมิทันได้กระท�ำสิ่งนั้น ลิมุสก็กระตุกชายกระโปรงรุ่มร่ามเป็นเชิงตักเตือน เสียก่อน ดาเนียนแตะมือบางไว้ที่อกด้านซ้ายอันเป็นต�ำแหน่งหัวใจ พร้อมย่อตัวลงบน พืน้ พรมเพือ่ แสดงความเคารพ กระนัน้ ดวงตาสีมรกตซึง่ มองอยูบ่ นพืน้ พรมก็อดกวาดสายตา มองปลายเท้าสีแทนของมหาบุรุษผู้เป็นนายเหนือหัวของชาวนครฟาตินมิได้ “นางผู้นี้คือนางงามของนครคามิล่าอย่างที่พี่ข้าเอ่ยถึงจริงหรือยูโซ?” 30


อาคาเซีย

ดวงตาหวานฉ�ำ่ ของชีคหนุม่ คงจับจ้องมายังสตรีแรกรุน่ ซึง่ เงยหน้าขึน้ มาแย้มยิม้ อย่างเป็นมิตร ก่อนเมินหน้ามายังองครักษ์ผู้ติดตามซึ่งได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้ เข้ามายังฝ่ายในซึ่งร้างด้วยนางงาม “เอ... กระผมคิดว่าน่าจะใช่นะขอรับ” ยูโซตอบอย่างไม่มนั่ ใจเท่าไหร่นกั เพราะ ข่าวลือทีไ่ ด้ยนิ จากเหล่านางก�ำนัลมานัน้ ดูวา่ ไม่สอดคล้องกับหญิงงามตรงหน้าเท่าไหร่นกั หากบอกว่าสตรีตรงหน้านั้นงดงามก็คงเข้าเค้าค�ำว่า ‘งดงาม’ อยู่บ้าง แต่ตรงค�ำว่า ‘เยาว์วยั ’ นีส่ ทิ ที่ ำ� ให้ยโู ซต้องหนักใจ เพราะวัยของนางในตอนนีน้ า่ จักไล่เลีย่ กับชีคกาหริบ ด้วยซ�้ำ “นางเป็นเช่นไรบ้างยูโซ?” อีกค�ำถามหนึง่ ในน�ำ้ เสียงราบเรียบทีย่ โู ซมิสามารถทายใจท่านชีคกาหริบออกว่า มีประสงค์อันใดกันแน่ แต่เขาก็พร้อมตอบไปตามความคิดเห็นของตนเอง “นางงดงามดั่งอัญมณีล�้ำค่าในท้องทะเลทรายซึ่งประเมินค่ามิได้ขอรับ” “ดี... ดีมาก” ค�ำชมนั้นมิเพียงเรียกรอยยิ้มจากชีคกาหริบ แม้นแต่นางงามลิมุสซึ่งถูกเข้าใจ ว่าเป็นท่านหญิงแห่งนครคามิล่าและหมอบตัวอยู่บนพื้นพรมยังยิ้มเอียงอายเคลิ้มตาม ค�ำชมไปด้วย มีหรือกิริยาเกินงามนั้นจะรอดสายตาชีคกาหริบไปได้ แต่เห็นก็ท�ำเป็น ไม่เห็นซะเพราะไม่อยากใส่ใจ ดวงตาหวานฉ�่ำที่อิสตรีต้องอายจึงปรายมายังเด็กน้อย ในชุดพืน้ เมืองสีนำ�้ เงินเข้มตัดกับสีผวิ ขาวสะอาดซึง่ อยูข่ า้ งๆ นางงามอย่างให้ความสนใจ จักบอกว่าต้องชะตาแต่แรกเห็นก็คงไม่ผิด เพราะดวงตาสีมรกตนั้นคล้ายมี อ�ำนาจดึงดูดบางอย่างแฝงฝังอยู่ ซึ่งชี้ชวนน่าเข้าใกล้ยิ่งนัก “แล้วเด็กน้อยผู้นั้นล่ะใครกัน?” ยูโซสอดนิ้วเข้าไปใต้ผ้าคลุมเมื่อเกาศีรษะ ด้วยสุดรู้ได้ว่านางงามตัวน้อยตรง หน้านี้คือใคร “เอ... น่าจักเป็นนางก�ำนัลผู้ติดตามนะขอรับ” “นางก�ำนัลรึ” เสียงทุม้ เต็มไปด้วยความแปลกใจ ดูวา่ ค�ำตอบของยูโซผูต้ ดิ ตาม รับใช้ใกล้ชิดนั้นมิสอดคล้องกับสิ่งที่เขาเห็นสักนิด หากบอกว่านางงามตัวน้อยนี่เป็น ท่านหญิง ส่วนนางงามนี้เป็นนางก�ำนัลรับใช้ยังเข้าเค้ามากกว่า ร่างสูงสง่างามปรายตามายังนางงามในชุดพื้นเมืองสีอ่อนอีกครั้ง ก่อนเดินเอา มือไพล่หลังมาทิ้งกายบนเบาะนุ่มในอิริยาบถอันแสนสบาย กระนั้นดวงตาหวานฉ�่ำแล งดงามกว่าอิสตรียังไม่ละไปจากบรรณาการชั้นเลิศซึ่งได้รับจากท่านชีคริยาร์ดอีกทอด 31


เงารักในรอยทราย

กระนัน้ ในใจยังเต็มไปด้วยค�ำถาม ว่าเหตุใดเชษฐาของเขาถึงปฏิเสธบรรณาการชัน้ เลิศนี่ แสงสีส้มนวลตาจากตะเกียงโคมฉลุลายทาบทับในห้องกว้างสีขาวสะอาดตาซึ่ง ร้างผูอ้ าศัยมานาน และการได้นงั่ อยูบ่ นเบาะนุม่ ชีคกาหริบจึงส�ำรวจความงามของหญิงงาม ตรงหน้าได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จักบอกว่างามจับตาจับใจก็มิใช่เลยทีเดียว เพราะ ชีคหนุ่มเคยพบพานหญิงงามมามากกว่านี้ แต่สตรีตรงหน้าก็ใช่ว่าขี้ริ้วขี้เหร่ซะทีเดียว จากนั้นจึงกวาดสายตาเลยไปยังนางงามร่างเล็กกระจ้อยร่อยซึ่งมิยอมหลบสายตาและ มองมาทางเขาอย่างเปิดเผยเสมือนให้ความสนใจ “มานั่งข้างๆ ข้าสินางงาม” ลิมุสยิ้มตาพราวพลางรีบขยับตัวไปนั่งบนเบาะนุ่มข้างๆ ชีคกาหริบตามค�ำเชิญ นั้นทันที พร้อมคว้าเหยือกทรงสูงมารินชาใส่จอกทองเหลืองเพื่อเอาอกเอาใจผู้เป็นนาย เหนือหัว “ดูเจ้าคล่องแคล่วเรื่องปรนนิบัติเอาใจข้านักนะนางงาม” “นั่นเป็นหน้าที่ของข้าซึ่งถูกฝึกปรือมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว ข้าเต็มใจดูแลผู้เป็น เจ้าชีวิตของข้า” ลิมุสยิ้มอายสบตาหวานฉ�่ำของท่านชีคอย่างมีจริต ยูโซผู้ติดตามรับใช้ ชีคหนุม่ จึงรูห้ น้าทีข่ องตนเองดี เขาจึงพาตัวเองออกจากบริเวณนัน้ อย่างเงียบๆ โดยมิลมื หันมาสะกิดนางก�ำนัลตัวน้อยซึ่งนั่งจ้องหน้าท่านชีคตาไม่กะพริบให้ออกจากห้องด้วย แต่ดาเนียนกลับมิเข้าใจความหมายที่ยูโซพยายามสื่อสารสักนิด “มากับข้านี่แม่หนูน้อย” เสียงของยูโซเป็นกระซิบขณะคว้าข้อมือบางเล็ก กระจ้อยร่อย แต่ผู้ถูกกระท�ำกลับแข็งขืนไม่เชื่อฟัง “จักพาข้าไปไหนเล่าเจ้าหนวดเหล็ก?” “บังอาจมากนะเจ้า! กล้าเรียกองครักษ์ขั้นห้าของท่านชีคกาหริบเช่นนั้นได้ อย่างไร” ยูโซท�ำหน้าดุไม่พอใจที่เด็กน้อยจากต่างเมืองช่างโอหังนัก แต่น�้ำเสียงที่เปล่ง ออกมาก็ดังไม่มากเพราะมิต้องการรบกวนท่านชีคกาหริบซึ่งก�ำลังรื่นรมย์อยู่กับสาวงาม “ก็จริงนีน่ า หน้าตาสกปรกเลอะเทอะ จักขัน้ ใดก็ดเู หมือนมหาโจรอยูด่ ”ี มิเพียง จ้องหน้าชายร่างโตซึง่ ด�ำรงต�ำแหน่งถึงองครักษ์ขนั้ ห้าด้วยแล้ว ดาเนียนกลับหัวเราะคิกคัก ที่อีกฝ่ายท�ำหน้าตาจริงจังเหมือนน่ากลัว แต่กลับดูตลกในสายตานาง “อยากถูกโบยก้นลายหรืออย่างไร จงรีบออกจากห้องนี้ไปพร้อมกับข้าซะเถิด แม่ตวั น้อย” ยูโซบอกด้วยน�ำ้ เสียงดุดนั อีกครัง้ ด้วยต้องการขูใ่ ห้เด็กน้อยกลัว แต่ดาเนียน กลับไม่รู้สึกเช่นนั้นซ�้ำยังส่งเสียงดังกว่าเก่าเมื่อถูกขัดใจ “ข้าไม่ไปไหนทัง้ นัน้ ข้าปรารถนาจักอยูท่ นี่ ”ี่ ค�ำยืนยันนีเ้ องท�ำให้ผเู้ พลินกับการ 32


อาคาเซีย

สนทนากับนางงามจากต่างเมืองต้องยกคิ้วขึ้นสูงพร้อมตวัดสายตามามองผู้ส่งเสียงดัง “เจ้าท�ำอันใดนางงามตัวน้อยรึยูโซ?” ได้ยินค�ำถามนั้นจากชีคกาหริบ ผู้ซึ่งยืนเต็มความสูงจึงหันมาค้อมศีรษะให้ ในอาการส�ำรวมนอบน้อม “กระผมก�ำลังชักชวนนางงามตัวน้อยออกจากห้องขอรับ” ได้ยนิ ค�ำปรารภขององครักษ์ผตู้ ดิ ตามเท่านัน้ นางก�ำนัลลิมสุ ผูฝ้ นั ใฝ่ความสบาย และต้องการยกฐานะของตนเองขึ้นเป็นสนมของชีคกาหริบรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น เพียง ข้ามพ้นราตรีนี้ไปนางจักทิ้งสภาพของตัวเองและกลายเป็นนางสนมของ ท่านชีคกาหริบ อิมฮาซา ยิ่งคิดลิมุสยิ่งมีความสุข ดวงตาของนางจึงเจิดจรัสขึ้นมา ทว่าวิมานในอากาศ ที่ลิมุสสร้างเอาไว้ก็ทลายลงไม่เป็นท่าเมื่อกระแสเสียงอันทุ้มชวนฟังของชีคหนุ่มดังขึ้น “มิต้องไปไหนทั้งนั้นหรอกยูโซ อยู่เป็นเพื่อนคุยกับข้านี่ล่ะ” “ขอรับ” แม้นจักแปลกใจกับความต้องการนัน้ แต่ยโู ซก็คอ้ มศีรษะน้อมรับค�ำสัง่ แล้วถอยมานั่งอยู่กับพื้นพรมข้างเด็กน้อยโดยฟังบทสนทนาของชีคหนุ่มไปเงียบๆ เพื่อเป็นการฆ่าเวลา “เจ้าเป็นธิดาล�ำดับที่เท่าไหร่ของท่านชีคฮาซันรึ?” “สุด... สุดท้ายเจ้าค่ะ” ลิมุสตอบอย่างอึกอักพลางกวาดสายตามายังท่านหญิง ตัวจริง เพราะในใจได้แต่รำ�่ ร้องให้เด็กน้อยจอมแก่นนีอ้ อกไปจากห้องหอแห่งนีส้ กั ที แต่ ดูเหมือนว่าความปรารถนานั้นจักริบหรี่ลงทุกทีๆ เมื่อท่านหญิงดาเนียนกลับนั่งเท้าคาง ฟังนางสนทนากับท่านชีคตาแป๋ว “โอ้... เจ้าดูเจริญวัยมากกว่าที่ข้าคิดไว้มากนักนะนางงาม” ลิมสุ ยิม้ แหยกับค�ำพูดนัน่ พลางลอบกลืนน�ำ้ ลายลงคอ เพราะมิรวู้ า่ ชีคกาหริบรูจ้ กั ชาวนครคามิลา่ ดีถงึ เพียงใด อีกอย่างหากท่านชีครูว้ า่ นางคือนางก�ำนัลธรรมดาคงต้องโทษ อาญาที่บังอาจแอบอ้างเป็นท่านหญิงแห่งนครคามิล่าเป็นแน่ ยิ่งคิดลิมุสยิ่งร้อนใจนัก “ท่านชีคคงมิรู้ว่าท่านชีคฮาซันมีบุตรธิดามากถึงสิบหกคนในเพลานี้” ลิมุสแจง เหตุผล กระนั้นคนฟังอย่างดาเนียนกลับส่ายหน้าพึมพ�ำเสียงแผ่วอยู่คนเดียว “ใครว่าสิบหก สิบเจ็ดต่างหาก ชีคคาแม่ของข้าก�ำลังตั้งท้องน้องของข้าอยู่” เรือ่ งสัพเพเหระมากมายถูกชีคกาหริบหยิบขึน้ มาสนทนา ทว่าค�ำตอบไม่ตรงกับ ความเป็นจริงของลิมุสจึงท�ำให้ดาเนียนต้องคัดค้านอยู่เนืองๆ และนี่เองเป็นเหตุให้ยูโซ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ต้องหันมาถลึงตาดุใส่อยู่เนืองๆ 33


เงารักในรอยทราย

“มิมใี ครบอกกล่าวรึวา่ เป็นเด็กเป็นเล็กมิควรแทรกเวลาผูใ้ หญ่เขาคุยกัน โดยเฉพาะ เจ้าซึ่งอยู่ในฐานะนางก�ำนัล” ได้ยินเช่นนั้นดาเนียนจึงหันขวับมาทันที “ข้ามีอสิ ระในการเจรจา ท่านต่างหากพึงสมควรต้องระวังถ้อยวาจา ท่านองครักษ์ หนวดเหล็ก” “นี่เจ้า!” เด็กน้อยยักคิว้ ให้กอ่ นปรายตาไปยังลิมสุ ซึง่ เค้นเสียงหัวเราะดูเริงร่าให้กบั ท่านชีค โดยมิสนใจองครักษ์ร่างโตซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ อีก “เจ้านี่อารมณ์ขันนักนะนางงาม” ชีคกาหริบหัวเราะแล้วลุกขึ้นจากเบาะนุ่ม กระนั้นลิมุสซึ่งวาดหวังว่าความงามกับอัธยาศัยของนางจักมัดใจท่านชีครูปงามไว้ได้ จึงร้อนรน “ท่านชีคจักไปทีใ่ ดเจ้าคะ?” ลิมสุ รีบลุกขึน้ เกาะท่อนแขนอันบึกบึนแลรัง้ ไว้ทนั ที “กลับไปพักผ่อนสินางงาม จรดราตรีแล้วข้ายังมิได้หลับพักผ่อนเต็มตาเลย” ชีคกาหริบหันมาเผชิญหน้า พลางหลุบเปลือกตามองมือน้อยซึ่งรั้งต้นแขนไว้ก่อนแกะ มือนัน่ ออกพร้อมค�ำถามในใจ ว่าเหตุใดท่านหญิงแห่งคามิลา่ นครมือถึงหยาบกระด้างนัก แล้วชีคหนุม่ รูปงามก็ได้รบั ค�ำตอบในทันทีเมือ่ เห็นข้อมือบางทัง้ สองปราศจากสัญลักษณ์ แห่งเชื้อสาย ‘นี่พี่ข้าโดนท่านชีคฮาซันหลอกลวงหรือนี่ ถึงได้ส่งนางงามนอกเชื้อสายแห่งชีค มาเป็นบรรณาการ?’ ดวงตาคมหวานฉ�่ำปรายมายังนางงามซึ่งยิ้มเอียงอายด้วยสีหน้าอันปราศจาก ความพึงพอใจ แต่ลมิ สุ ผูถ้ กู แตะต้องกลับไม่ทนั สังเกตถึงสิง่ นัน้ ซ�ำ้ ยังยิม้ อย่างมีจริตด้วย คิดเข้าข้างตนเองว่าชีคหนุ่มรูปงามก�ำลังปรารถนาในตัวนาง “ท่านเหนือ่ ยล้าจากการเดินทาง พักผ่อนทีน่ กี่ ไ็ ด้เจ้าค่ะ เดีย๋ วข้าจักดูแลปรนนิบตั ิ ท่านเอง” ลิมุสชักชวนพร้อมบิดกายไปมาอย่างเขินอาย และกิริยานี้เองที่ท�ำให้เจ้าของ ดวงตาสีมรกตปฏิบัติตามเพราะความไร้เดียงสา “เดี๋ยวข้าจักดูแลปรนนิบัติท่านเอง” ดาเนียนท�ำเสียงออดอ้อนตามพร้อมกับ ยื่นมือไปสะกิดยูโซ จนผู้ติดตามใกล้ชิดชีคหนุ่มต้องหันมาถลึงตาใส่กับความแก่แดด เกินวัยนั่น “เกินวัยไปแล้วเจ้าเด็กน้อย กิรยิ าเยีย่ งนีต้ อ้ งใช้เวลาฝึกฝนอีกสิบปีถงึ จักได้ผล” “ท�ำไมล่ะ?” 34


อาคาเซีย

ดาเนียนท�ำหน้าตาไม่เข้าใจ เพราะนางเห็นบรรดาสาวงามในฮาเร็มของบิดาชอบ ปฏิบัติเช่นนี้อยู่เป็นประจ�ำ แม้นแต่ตัวลิมุสในตอนนี้ก็ยังพลอยเป็นไปด้วย “ก็เพราะเจ้ายังเด็กอยู่น่ะสิ” ยูโซติเตียน ดาเนียนจึงก้มส�ำรวจตัวเองกระนัน้ นางก็อดปรายตาไปยังท่านหญิงก�ำมะลอไม่ได้ นางก็แค่ตัวเตี้ยกว่า ขาสั้นกว่า หน้าอกเล็กกว่า และไม่มีสะโพกผายออกมาก็เท่านั้น ไม่เหมือนกับลิมสุ ซึง่ มีทกุ อย่างครบ ดาเนียนมองตัวเองสลับกับลิมสุ ซึง่ เป็นจังหวะเดียว กับที่ชีคกาหริบปรายตามาสบพอดี ดั่งห้วงเวลาหยุดหมุนแลทอดทิ้งทุกสิ่งไว้เบื้องหลังของกาลเวลา... ดวงตา สีมรกตงดงามยังสบนิ่งกับดวงตาหวานฉ�่ำดั่งนิลกาฬโดยมิหลบสายตาแต่อย่างใด คล้ายเคยพบพาน แต่มิรู้ว่าเนิ่นนานแต่ไรมา คล้ายเคยสิเน่หาสนิทชิดใกล้ แต่มิรู้ว่าสัมผัสอบอุ่นนั้นเลือนหายไปแต่กาลใด แต่ทเี่ ด่นชัดสุดก็คอื ความรูส้ กึ คุน้ เคยอย่างประหลาดด้วยต้องชะตาแต่แรกเห็น นั่นล่ะ รอยยิ้มแห่งความยินดีและมิตรภาพจึงปรากฏขึ้นบนวงหน้าอันหล่อเหลา ทว่ายัง มิทันขยับกายไปหาเด็กน้อย ลิมุสก็รั้งร่างหนาเอาไว้ด้วยจริตแห่งอิสตรีซะก่อน “หากมิโปรดจักพักที่นี่ ขอท่านชีคเมตตาช่วยพาข้าไปด้วยนะเจ้าคะ ที่นี่ เงียบเหงาวังเวงเหลือเกิน ข้าผู้พลัดถิ่นมามิคุ้นชินกับสถานที่เช่นนี้” ค�ำขอร้องของนางงามต่างนครสร้างความแปลกใจระคนไม่พอใจให้ชคี กาหริบนัก สาเหตุจากความแปลกใจเป็นเพราะนางงามผู้นี้เสนอตัวเกินงามจนมิอยากเข้าใกล้ ดูไป คล้ายหลุมพรางหลอกล่อเหยื่อมากกว่า ส่วนที่ไม่พอใจเห็นจะเป็นร่างบางอันเย้ายวน ซึ่งนัวเนียจนแทบจะพันร่างของเขาเอาไว้นี่ล่ะ ชีคกาหริบผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วหันไปหาตัวช่วยคนส�ำคัญ “จงบอก ข้าอีกสักครั้งเถิดยูโซ ว่านางงามจากนครคามิล่านี้เป็นเช่นไร?” พอถูกเอ่ยนามยูโซจึงละสายตาไปจากเด็กน้อยเพื่อตอบค�ำถามของท่านชีค “ข้ายืนยันค�ำเดิมว่านางงดงามไม่มีที่ติขอรับ” ชีคกาหริบอมยิ้มดวงตาพร่างพราวเป็นประกาย “ความงามของนางสมควรแก่ การครอบครองหรือไม่ยูโซ?” “สมควรแก่การครอบครองเป็นที่สุดขอรับ” ผู้ติดตามเห็นดีเห็นงามอีกเช่นเคย ซึ่งถ้อยค�ำนั้นเองที่ท�ำให้ชีคกาหริบหัวเราะเสียงเย็น “เช่นนัน้ จงยืนยันแก่ขา้ อีกสักครัง้ เถิด ว่านางงามผูน้ เี้ หมาะสมกับบุรษุ ผูส้ ง่างาม เยี่ยงนักรบเช่นเจ้าหรือไม่” 35


เงารักในรอยทราย

“มิมสี ตรีนางใดคูค่ วรกับเอกบุรษุ แห่งท้องทะเลทรายเช่นท่านอีกแล้ว” พอหลุดปาก ออกไปโดยมิทันไตร่ตรองค�ำถามให้ดี ยูโซจึงเงยหน้าขึ้นมองชีคกาหริบซึ่งหัวเราะอย่าง อารมณ์ดีอีกครั้ง “ดีมากยูโซ เช่นนัน้ ข้าขอมอบนางงามผูเ้ ป็นดัง่ อัญมณีอนั ล�ำ้ ค่านีแ้ ก่เจ้า เพือ่ เป็น รางวัลที่เจ้าดูแลข้าเป็นอย่างดีมาตลอดเวลาที่เราออกรบด้วยกัน” น�ำ้ เสียงหนักแน่นและใบหน้ายิม้ แย้มของชีคกาหริบท�ำให้ยโู ซรีบทรุดตัวเอามือ แตะอกซ้ายเพือ่ รับนางงามไว้ในครอบครองด้วยความเต็มใจในทันที ผิดกับลิมสุ นัก นาง ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงบนพืน้ พรมมือไม้เย็นเฉียบในทันทีเมือ่ ความฝันแสนสวยมอดไหม้ ในพริบตา จากต�ำแหน่งนางสนมของชีครูปงามกลับกลายเป็นแค่เมียขององครักษ์หนุ่ม ผู้ติดตามรับใช้ท่านชีคเสียนี่ โอ้ ยิ่งคิดก็ยิ่งร้าวในอกนัก... “ได้โปรดเถอะท่านชีค ข้ามิปรารถนาเช่นนั้น ท่านผู้เป็นใหญ่โปรดเมตตาข้า ผู้พลัดถิ่นมาด้วยเจ้าค่ะ” เป็นค�ำวิงวอนที่น่าสงสารนัก กระนั้นชีคหนุ่มยังคงเพิกเฉยต่อจริตมารยาและ คราบน�้ำตานั่น “ข้าเมตตาเจ้ามากทีส่ ดุ แล้วนางงาม ข้ามิปรารถนามีนางสนมในครานี้ แลอีกสิง่ ข้ามิปรารถนานางงามนอกเชือ้ สายทีม่ ใิ ช่บตุ รีของชีคฮาซันมาเป็นนางคูใ่ จ” ชีคหนุม่ บอก เสียงเย็นก่อนคว้าข้อมือบางของนางงามตัวน้อยออกจากห้องดือ้ ๆ โดยมิลมื หันไปก�ำชับ กับผู้ติดตามคนสนิทอีกครั้ง “พรุ่งนี้รุ่งสางเจ้าค่อยมารับใช้ข้าก็ได้นะยูโซ ข้าอนุญาตให้ เจ้าพักผ่อนได้เต็มที่” “ขอรับ” ยูโซแย้มยิ้มอย่างดีใจพร้อมค้อมศีรษะให้นายเหนือหัวด้วยความ ซาบซึ้งใจอีกครั้ง “มากับข้าเถิดแม่หนูนอ้ ย ปล่อยให้นายของเจ้าได้ทำ� หน้าทีข่ องนางให้สมบูรณ์เถิด” ชีคกาหริบกล่าวด้วยน�้ำเสียงอ่อนโยน กระนั้นผู้เยาว์วัยยังไม่เข้าใจถึงเรื่องที่ชีคหนุ่ม พูดถึงแม้นแต่น้อย ดาเนียนจึงหันไปมองลิมุสซึ่งร�่ำไห้ปานจะขาดใจจนน่าสงสาร “แต่ลิมุสก�ำลังร�่ำไห้ นางต้องการคนปลอบใจและคนอยู่เป็นเพื่อนนะเจ้าคะ” “เชื่อข้าเถิด ยูโซจักท�ำหน้าที่นั้นแทนเจ้าเอง รับรองว่ายูโซจักสร้างความพอใจ ให้กับนายสาวของเจ้ามากกว่าที่เจ้าจักกระท�ำได้แน่แม่หนูน้อย” โดนห้ามปรามนั่นล่ะ ดาเนียนจึงยอมเดินตามแรงจูงของท่านชีคกาหริบไป โดยทิ้งความสงสัยทั้งหมดไว้ยังกรอบประตูที่ปิดเข้าหากัน... 36


อาคาเซีย

ลูกไฟดวงโตสีส้มแดงเจิดจ้าซึ่งโผล่พ้นขอบฟ้าจับท้องฟ้าตะวันออกคือสิ่ง สวยงามและอัศจรรย์สำ� หรับชีคกาหริบผูร้ กั สันโดษ กว่าครึง่ ปีเชียวทีช่ คี หนุม่ หาได้ชนื่ ชม สิง่ สวยงามจากธรรมชาติเช่นนีเ้ พราะต้องออกท�ำศึกกับจอมโจรผูย้ งิ่ ใหญ่แห่งทะเลทราย และการได้ยลสิ่งนี้อีกครั้งก็สร้างความสงบและพึงพอใจแก่ชีคกาหริบมากนัก ดวงตาหวานฉ�ำ่ ชนิดอิสตรีตอ้ งอิจฉาหากคมเข้มสมชายชาตรีกวาดมองแสงทอง ของวันใหม่ซงึ่ ลูบไล้โพ้นทะเลทรายซึง่ อยูไ่ กลสุดลูกหูลกู ตาออกไปและยังเป็นอาณาจักร ของนครฟาติน ก่อนหลุบมองบ้านเรือนดินเหนียวทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสน้อยใหญ่เรียงราย แน่นขนัดอันแทรกด้วยต้นปาล์ม กระโจมจากหนังสัตว์และกระโจมจากผืนผ้า มองจาก ที่สูงชีคหนุ่มเห็นผู้คนขนาดเพียงปลายก้อยเท่านั้น นครแห่งนี้จึงดูมีชีวิตชีวามากนัก ระหว่างชมเมืองเพลินๆ นั่นเองเสียงชายผ้าม่านซึ่งห้อยด้วยลูกกระพรวนจึงดังขึ้นเมื่อมี ผู้ผ่านเข้าออก “เรียนท่านชีค น�้ำอุ่นพร้อมแล้วเจ้าค่ะ” ยูนุคขันทีในชุดพื้นเมืองสีขาวซึ่งท�ำ หน้าที่แทนองครักษ์ยูโซเดินเข้ามาค้อมศีรษะให้ในกิริยาสุภาพนอบน้อม ชีคกาหริบซึ่ง ยังกอดอกทอดสายตาไปนอกกรอบหน้าต่างจึงพยักหน้ารับรู้ “ขอบใจมาก หมดหน้าที่เจ้าแล้วออกไปเถอะ” “เจ้าค่ะ” ความเป็นส่วนตัวกลับมาอีกครั้ง ชีคหนุ่มจึงเดินกลับเข้ามาหลังฉากไม้ฉลุ ลวดลายพร้อมจัดการถอดเสื้อผ้าออกจนเปล่าเปลือยแล้วหย่อนตัวลงอ่างไม้ขนาดใหญ่ ซึง่ เป็นน�ำ้ อุน่ ก�ำลังดีและผสมน�ำ้ มันหอมระเหยเอาไว้ แพขนตางอนงามปิดลงช้าๆ ปล่อย ให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ซึ่งกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน�้ำมันหอมระเหยอันผสมอยู่ในน�้ำนั้น สร้างความผ่อนคลายให้ชคี หนุม่ เป็นอย่างดีจนกระทัง่ ได้ยนิ เสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามานัน่ ล่ะ เปลือกตาจึงขยับลืมขึ้นอีกครั้ง “ใครกัน?” “ยูโซขอรับ” ผูเ้ ข้ามาในห้องรายงานตัวก่อนจัดการเก็บเสือ้ ผ้าซึง่ ถอดทิง้ ไว้บนพืน้ “ท�ำไมทิง้ นางงามมาเร็วนักล่ะยูโซ เจ้าควรอยูก่ บั นางให้นานกว่านีน้ ะ” ชีคกาหริบ เอ่ยปากเพื่อชวนคุยมากกว่า “เรื่องรักนั้นว่าส�ำคัญ แต่เรื่องหน้าที่นั้นส�ำคัญกว่าขอรับท่านชีค” “เฮ้อ ข้าล่ะเชื่อเจ้าเลย” ชีคหนุ่มหัวเราะในล�ำคอ “หรือเสน่ห์นางงามนั้นยัง ไม่เย้ายวนใจเจ้า?” “หาเป็นเช่นนั้นขอรับ นางงดงามและน่าปรารถนา เพียงแต่ว่า...” 37


เงารักในรอยทราย

ผู้เล่าหยุดชะงักไป ชีคหนุ่มจึงเลิกคิ้วเรียวขึ้นสูง “แต่อันใดรึ?” “นางดุร้ายไปหน่อยขอรับ” ได้ยนิ อย่างนัน้ ชีคกาหริบจึงปรายตาไปยังองครักษ์คใู่ จซึง่ รอยแผลตามใบหน้า อันเกิดจากการขีดข่วนของรอยเล็บเรียกเสียงหัวเราะของผู้ปกครองนครจนดังลั่นห้อง จากนั้นร่างสูงสง่าจึงก้าวขึ้นจากอ่างอาบน�้ำมาแต่งตัวโดยไม่ซักถามอะไรอีก พออยู่ใน ชุดพืน้ เมืองสีเรียบแล้วนัน่ ล่ะชีคกาหริบจึงก้าวออกมายังพืน้ ทีน่ งั่ เล่นซึง่ จัดเตรียมอาหาร เอาไว้แล้ว ทว่าพอออกมาพบกับความผิดปกติ คิ้วหนาได้รูปจึงตวัดไปยังกองหมอน ทันที เพียงแค่เห็นนางงามตัวน้อยซึง่ แฝงตัวอยูใ่ นกองหมอนได้อย่างกลมกลืน ชีคหนุม่ ถึงกับท�ำหน้ายุ่ง “เมื่อคืนข้าพานางไปอยู่กับท่านหญิงฮันนี่แล้วนี่นา เหตุใดนางถึงกลับมาอยู่ ที่นี่อีก?” ยูโซได้แต่ส่ายหน้าเพราะราตรีที่ผ่านมาเขามิได้อยู่รับใช้ชีคหนุ่ม “หรือนางแอบ หนีเข้ามาขอรับ กระผมดูว่าเด็กน้อยนางนี้จักซุกซนใช่ย่อย” “มีความเป็นไปได้สูง” ชีคหนุ่มพยักหน้ารับทิ้งตัวลงบนกองหมอนพลางหลุบ เปลือกตามองเด็กน้อยด้วยสายตาอ่อนโยน และสายตานี้เองที่ท�ำให้องครักษ์ยูโซต้อง แปลกใจ ด้วยว่าตั้งแต่ติดตามรับใช้ชีคกาหริบมานานยังมิเคยเห็นสายตาเช่นนี้มาก่อน แม้นแต่สาวงามทีเ่ ข้ามาปรนนิบตั ริ บั ใช้ชคี หนุม่ ก็มเิ คยมองแบบนีส้ กั ครัง้ แต่กบั ต้นกุหลาบ ในสวนที่ท่านชีครักก็ว่าไปอย่าง มือหนาของชีคกาหริบยืน่ มาสัมผัสแก้มนุม่ อันแดงระเรือ่ เบาๆ ก่อนหยุดสายตา เอาไว้กบั วงหน้างดงามและเยาว์วยั ทว่ากวาดสายตามายังมือขาวสะอาดดัง่ ผูม้ เิ คยสัมผัส แสงแดดมาก่อนคิ้วหนาจึงยกขึ้นสูงแล้วเลื่อนปลายนิ้วมาสัมผัสสิง่ นั้นเบาๆ เป็นรอยสัก สีนำ�้ ตาลมะฮอกกานีดงั่ สร้อยข้อมือทีข่ อ้ มือด้านซ้ายซึง่ บ่งบอกฐานะอันสูงส่งของนางผูม้ ี สายเลือดเกี่ยวพันกับท่านชีคฮาซัน “มีอันใดหรือขอรับ?” ยูโซท�ำหน้าสงสัยเมื่อจู่ๆ ชีคหนุ่มก็ให้ความสนใจใน นางงามตัวน้อย ซ�้ำยังแย้มยิ้มราวเจอสิ่งถูกใจ “ดูนี่ก่อนเถิดยูโซ แล้วเจ้าจักรู้ว่าข้าพบสิ่งใดเข้า” ผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดมองตามนิ้วแข็งซึ่งชี้มายังรูปวาดที่ข้อมือจากเฮนน่า ไม่ส.ิ .. ไม่ใช่รปู วาดประการใด แต่เป็นรอยสักต่างหาก และนัน่ ก็ทำ� ให้องครักษ์หนุม่ ตาโต เมื่อตระหนักถึงฐานะแท้จริงของนางงามตัวน้อยขึ้นมา “ท่านหญิง! นางคือท่านหญิง” 38


อาคาเซีย

“ถึงว่าพีข่ า้ ถึงส่ายหน้าให้บรรณาการชิน้ นี”้ ผูไ้ ด้รบั สิทธิค์ รอบครองอย่างถูกต้อง เอ่ยด้วยน�้ำเสียงขบขันเมื่อรู้ฐานะแท้จริงของนางงามตัวน้อยที่ยังหลับใหลนี่ กาลหนึ่งชีคกาหริบพร้อมด้วยผู้ติดตามยูโซเคยปลอมตัวเป็นพ่อค้าเร่เข้าไป ขอซื้อเมล็ดพันธุ์พืชในนครคามิล่า และนับเป็นความโชคดีนักที่ในกาลนั้นเขาได้พบกับ ชีคฮาซันผู้ครองนครอันแสนใจดี พอพูดจาถูกคอต้องอัธยาศัยกันเพียงไม่กี่คำ� เขาจึง ได้รับค�ำเชิญจากชีคฮาซันและกลายเป็นแขกคนส�ำคัญในทันที ซึ่งการเจรจาในคราบ พ่อค้าเร่ในครัง้ นัน้ เองทีท่ ำ� ให้เขารับรูถ้ งึ วัฒนธรรมของชาวนครอย่างหนึง่ ว่า ผูส้ บื เชือ้ สาย ตรงจากท่านชีคผูค้ รองนครไม่วา่ บุตรหรือธิดาจักต้องสลักสัญลักษณ์อนั สูงสุดนีไ้ ว้ทขี่ อ้ มือ ด้านซ้าย เพื่อบ่งบอกฐานะอันสูงสุดของบุคคลผู้นั้น “ฮึ งดงามและเยาว์วัย ช่างมิผิดค�ำร�่ำลือนั้นจริงๆ” ชีคหนุ่มส่ายหน้าอย่าง ขบขัน ซึ่งเสียงหัวเราะอันแปลกหูนี้เองที่ปลุกให้นางงามตัวน้อยซึ่งหลับอย่างสบาย ในกองหมอนลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย... “อรุณสวัสดิ์ดาเนียน” เพียงค�ำทักทายค�ำเดียวก็ท�ำให้ดาเนียนลุกขึ้นทันที กระนั้นนางยังมิสามารถ หลุดจากข้อมือแข็งและใหญ่โตของชีคกาหริบไปได้ “โปรดปล่อยข้า ท่านชีค” ผูซ้ งึ่ แอบไต่ผา้ ม่านและปีนหน้าต่างเข้ามาซ่อนตัวในห้อง เริม่ โวยวายพร้อมทัง้ แกะมือหนานัน่ ทันที แต่แรงอันน้อยนิดคงมิสามารถง้างมือหนานัน่ ออกได้ “ปล่อยน่ะปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่กาลนี้ เมือ่ คืนข้าส่งเจ้าไปอยูก่ บั ท่านหญิงฮันนีแ่ ล้ว มิใช่รึ เหตุใดเจ้าถึงขัดค�ำสั่งมาซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนของข้าได้?” ชีคกาหริบถามด้วย น�้ำเสียงติดดุ แต่ผู้รับใช้ใกล้ชิดอย่างยูโซรู้ว่าน�้ำเสียงนั้นไม่จริงจังเท่าไหร่นัก “ข้ามิปรารถนาที่นั่นเจ้าค่ะ ที่นั่นมีแต่กฎระเบียบอันน่าปวดหัว อีกอย่างข้ามิ คุ้นเคยกับท่านหญิงฮันนี่ด้วย” ดาเนียนยกเหตุผลขึ้นอ้างเพื่อมิต้องกลับไปอยู่ร่วมกับ คนแปลกหน้าอีก ในสถานการณ์อดึ อัดเช่นนีน้ างขอกลับไปอยูก่ บั นางก�ำนัลลิมสุ เสียดีกว่า อย่างน้อยดาเนียนก็รู้สึกอุ่นใจกว่าการอยู่กับคนแปลกหน้า “นัน่ มิใช่เหตุผลทีฟ่ งั ขึน้ หรอกนะท่านหญิง โทษเก่าทีเ่ จ้าหลอกลวงเอานางก�ำนัล มาแอบอ้างเป็นท่านหญิงข้ายังมิทันเอาเรื่องเจ้าเลย ยังมิข้ามราตรีเจ้าก็ก่อเหตุให้ข้าต้อง ปวดหัวอีก” ดาเนียนก้มหน้างุดทันทีทอี่ กี ฝ่ายรูฐ้ านะแท้จริงของตนเอง แต่กย็ งั อ้อมแอ้มถาม ออกมา “ท่านชีครู้ได้อย่างไรเจ้าคะว่าข้าเป็นท่านหญิง?” 39


เงารักในรอยทราย

“นัน่ มิสำ� คัญเท่ากับสิง่ ทีเ่ จ้าก�ำลังปฏิบตั อิ ยู่ บิดาเจ้ามิสงั่ สอนหรอกรึวา่ บุรษุ และ สตรีที่มิใช่สามีภรรยาห้ามอยู่ร่วมห้องเดียวกันในยามราตรีกาล” โดนค�ำต�ำหนิเข้าไปเด็กน้อยจึงเม้มปากแดงเรือ่ เข้าหากัน ก่อนอ้อมแอ้มออกมา “สั่งสอนเจ้าค่ะ ท่านพ่อยังก�ำชับข้ามาอีกว่าต่อให้ทรายกลบหน้าข้าต้องซื่อสัตย์ และภักดีต่อท่านชีคผู้เป็นนายเหนือหัวเท่านั้น” “เป็นวาจาทีด่ เี ยีย่ มและข้าก็พงึ พอใจในค�ำสัง่ สอนนีม่ ากด้วย เช่นนัน้ เจ้าจงฟังข้า ผู้เป็นนายเหนือหัวของเจ้าให้ดีนะท่านหญิงดาเนียน ว่าเจ้าจงกลับไปอยู่เป็นเพื่อน ท่านหญิงฮันนีซ่ ะดีๆ และเพือ่ ความปลอดภัยของตัวเจ้าเอง จงละทิง้ ฐานะอันสูงส่งของเจ้า ลงซะ” ได้ยินเช่นนั้นเด็กน้อยจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางจ้องหน้าชีคหนุ่มอย่าง ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ถึงดาเนียนจักรู้สึกดีที่ได้พบบุคคลซึ่งต้องชะตาแต่แรกเห็น แต่การถูกบังคับใจนั้นหาใช่สิ่งที่นางปรารถนาสักนิด “ผู้ใหญ่มักเอาแต่ใจตนเองเสมอ” “ใครว่า เด็กน้อยอย่างเจ้าต่างหากที่เอาแต่ใจตนเอง” ชีคหนุ่มแย้งโดยซ่อน ความขบขันเอาไว้ใต้ใบหน้าอันเรียบสนิท “ผู้ใหญ่เอาแต่ใจมากกว่า โดยเฉพาะกับท่านผู้มีอ�ำนาจ มิเชื่อลองถามไถ่ท่าน องครักษ์หนวดเหล็กของท่านดูสิ” พอหาทางออกมิได้ดาเนียนจึงโยนให้ยูโซซึ่งยืนอยู่ ข้างๆ ดื้อๆ ชีคกาหริบจึงตวัดสายตามายังผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิด “ไหนลองพูดให้ข้าฟังซิยูโซ ว่าใครคือผู้ที่เอาแต่ใจตัวเองกันแน่” “ท่านหญิงดาเนียนขอรับ” ยูโซตอบโดยมิต้องเสียเวลาคิดในทันที “ได้ยนิ แล้วใช่ไหมแม่หนูนอ้ ย เอาล่ะหมดเวลาเล่นสนุกแล้ว เจ้าจงมากับข้าซะดีๆ” “ข้าไม่ไป กรี๊ด! ช่วยข้าด้วย” ร่างเล็กซึ่งถูกอุ้มขึ้นพาดบ่าหวีดร้องทันที แต่มิว่า จักดิ้นรนอย่างไรดาเนียนก็ไม่สามารถลงจากไหล่แข็งแรงของชีคหนุ่มได้ “ปล่อยข้านะ ท่านชีค! ท่านไร้สทิ ธิจ์ กั ปฏิบตั กิ บั ข้าเช่นนี้ ข้าเป็นท่านหญิงดาเนียนนะ” ดาเนียนโวยวาย ทั้งเตะขาทั้งดิ้นรนสุดก�ำลังจนชีคกาหริบจนปัญญาจักรับมือนั่นล่ะ จึงจ�ำต้องปล่อย แม่หนูนอ้ ยลงบนพืน้ อีกครัง้ พร้อมสัง่ ให้ยโู ซไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามา พอได้สงิ่ ทีต่ อ้ งการแล้ว นั่นล่ะ ชีคกาหริบจึงลงมือกับดาเนียนทันที “อย่ากล่าวหาว่าข้าใจร้ายเลยนะดาเนียน เจ้ามันดื้อดึงกว่าที่ข้าจักรับมือนัก” มือหนาของชีคหนุ่มตบแก้มเนียนเบาๆ เป็นการหยอกเย้าก่อนหันไปพยักหน้า ให้ผู้ติดตามยูโซอุ้มดาเนียนผู้สิ้นฤทธิ์เพราะผืนผ้าขึ้นบนบ่า 40


อาคาเซีย

“ตามข้ามา” ครานี้ชีคกาหริบมิส่งดาเนียนไปหาหลานสาวคนโตซึ่งมีวัยไล่เลี่ย เหมือนเช่นเคย แต่ชคี หนุม่ เลือกพาดาเนียนไปส่งให้แม่นมมีนาญ่าแทน ซึง่ การปรากฏตัว ของชีคกาหริบในโรงทอผ้าเป็นครัง้ แรกในรอบครึง่ ปีสร้างความตืน่ เต้นยินดีให้สตรีสงู วัย ซึ่งเคยด�ำรงต�ำแหน่งเป็นถึงแม่นมมากนัก “ข้าคิดว่าท่านลืมนางมีนาญ่าผู้นี้เสียแล้ว” “หาใช่เช่นนั้นเลยท่านแม่นม ข้าติดภารกิจของทางราชส�ำนักจึงมิมีเวลาว่าง จักเยี่ยมเยียน” น�้ำเสียงของชีคกาหริบนั้นยังเต็มไปด้วยความเคารพผู้ซึ่งมีบุญคุณ มิต่างจากมารดาแท้ๆ จากนั้นจึงบอกถึงธุระส�ำคัญที่เป็นเหตุให้ต้องมาถึงโรงทอผ้า “ข้าแปลกใจมากนะเจ้าคะทีท่ า่ นชีคน�ำแม่หนูนอ้ ยนีม้ ามอบให้ขา้ เลีย้ งดู” ร่างอวบ ของสตรีสูงวัยซึ่งยังด�ำรงต�ำแหน่งหัวหน้านางก�ำนัลเดินวนรอบเด็กน้อยซึ่งถูกมัดมือ มัดปาก ก่อนหรี่ตาลงขณะสบดวงตาสีมรกตซึ่งวาววับด้วยก�ำลังโกรธและไม่พอใจ “ท�ำอย่างไรได้เล่าท่านแม่นม ในเมือ่ นางงามตัวน้อยนีค้ อื สนมแห่งข้า และข้าก็มริ ู้ วิธีจัดการรับมือกับนาง ครั้นจะปล่อยให้อยู่ด้วยก็กระไรอยู่ ข้าคงมิพ้นค�ำครหาเป็นแน่” ชีคกาหริบกล่าวอย่างระอา ซึ่งถ้อยค�ำนี้เองที่เรียกเสียงหัวเราะของนางมีนาญ่าได้ “โอ้ ข้าได้ยินเหล่านางก�ำนัลกล่าวถึงนางงามตัวน้อยนี้เช่นกัน แต่มิคิดว่านาง จักเยาว์วัยเพียงนี้” “ข่าวนั่นคงท�ำให้แม่นมปวดหัว” นางผูม้ ากวัยกว่าแย้มยิม้ ตามประสาคนใจดี “จักว่าไปนางดูคคู่ วรกับท่านชีคนะ เจ้าคะ” คิว้ หนาของชีคหนุม่ ยกขึน้ สูงเกือบหลุดปากออกไปว่าตรงไหน แต่แม่นมมีนาญ่า ก็ชิงต่อท้ายขึ้นมาเสียก่อน “แต่คงมิใช่ในกาลนี้” “เอาเถิด ยังไงข้าฝากท่านช่วยดูแลอบรมสั่งสอนนางด้วย เลี้ยงดูนางเอาไว้เป็น สหายของหลานสาวผู้น่ารักของข้าสักคนคงมิเป็นการเพิ่มภาระให้ท่านแม่นมหรอกนะ” “เจ้าค่ะ มิใช่ภาระอันใดเลย ข้ายินดีจักอบรมให้นางเติบใหญ่เป็นสตรีที่คู่ควร กับท่านเอง” แม่นมมีนาญ่าค้อมศีรษะรับค�ำสั่ง ชีคหนุ่มจึงยิ้มมุมปากพร้อมส่ายหน้ากับ ค�ำหยอกเย้านั่น “เลิกล้อข้าเล่นได้แล้วท่านแม่นม ยังไงข้าฝากเป็นธุระให้ด้วยแล้วกัน” “เจ้าค่ะ” แม่นมมีนาญ่าค้อมศีรษะอย่างนอบน้อมอีกครัง้ ร่างสูงสง่าจึงย่อตัวลง ตรงหน้าแม่หนูน้อยที่ท�ำหน้าเหมือนจักร้องไห้แต่ก็ไม่มีน�้ำตาให้เห็น พลางกวาดสายตา มองวงหน้าและหยุดสบดวงตาสีมรกตอันงดงามอีกครั้ง 41


เงารักในรอยทราย

“อยูท่ นี่ กี่ บั แม่นมมีนาญ่านะดาเนียน ฮาเร็มของข้ามิคคู่ วรกับเด็กน้อยแสนซุกซน เช่นเจ้าหรอก ท�ำตัวให้น่ารักล่ะแม่หนูน้อย แล้วข้าจักแวะมาเยี่ยมเจ้าบ่อยๆ” มีปฏิกิริยาจากเด็กน้อยด้วยการส่ายหน้าไปมา แต่ชีคกาหริบไม่พูดอะไรอีก นอกจากสัมผัสวงหน้าอ่อนเยาว์พร้อมรอยยิ้ม “ข้าต้องกลับแล้วล่ะ” ชีคหนุม่ กล่าวลาด้วยน�ำ้ เสียงอ่อนโยน ทว่าดวงตาสีมรกต อันแฝงฝังความเศร้าซึง่ เต็มไปด้วยแววตัดพ้อนีเ่ องทีฉ่ ดุ ดึงให้ชคี หนุม่ วางมือลงบนศีรษะ ของเด็กน้อย วาบคะนึงหนึง่ ในความรูส้ กึ เมือ่ แตะต้องสัมผัสท�ำให้กอ้ นเนือ้ ในอกซ้ายกระตุกวูบ คุ้นเคยราวกับเคยกระท�ำเช่นนี้กับนางงามตัวน้อยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มิอาจระลึกรู้ว่า เนิ่นนานแต่ไรมา ชีคกาหริบหยุดชะงักในสิ่งที่เกิดขึ้น พลางหลุบเปลือกตาพิจารณา เจ้าของดวงตาสีมรกตอันแฝงฝังความเศร้าสร้อยอีกครัง้ ... บอกมิถกู ว่าเป็นความรูส้ กึ เช่นไร ละมุนละไมจนมิอยากจากลา หรือแค่ว่าความสงสารที่มีให้เท่านั้น เมื่อมิอาจหาค�ำตอบ อันว้าวุ่นให้ตนเอง ชีคหนุ่มจึงตัดใจก้าวออกจากห้องจัตุรัสสีทรายทันที เมื่อพ้นออกจากโรงทอผ้าซึ่งมากด้วยเครื่องทอผ้าและผืนผ้างดงามมาได้แล้ว ชีคกาหริบจึงหลุบเปลือกตามองฝ่ามือของตนเองพร้อมกับผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ดวงตาหวานฉ�่ำแลคมคายคงปรายไปยังโค้งประตูที่เพิ่งเดินห่างออกมา เป็นความรู้สึก ก�้ำกึ่ง จักหนักใจก็มิใช่ จักสบายใจก็มิเชิง แต่เมื่อนึกถึงดวงตาสีมรกตอันเต็มไปด้วย ความตัดพ้อซึง่ สบด้วยเมือ่ ครูก่ ท็ ำ� ให้ชคี กาหริบรูส้ กึ ผิดมากเลยทีเดียวทีท่ อดทิง้ นางไว้กบั แม่นมมีนาญ่าเช่นนั้น...

42


อาคาเซีย

3 แฝงตัว

ผ้าม่านสีเขียวใบไม้ออ่ นใต้โค้งหัวหอมฉลุลายสะบัดไหวเต้นระบ�ำไปพร้อม ยอดใบปาล์มต้นสูงคราลมเย็นพัดผ่าน กระนั้นภายในห้องกว้างอันเย็นสบายมากด้วย ต�ำราหลายแขนง แผนทีห่ นังสัตว์ และศาสตราวุธหลากชนิดซึง่ ใช้ตกแต่งห้องยังคงเงียบ สงบราวกับไม่มีใครอยู่ “ชาขอรับ” ยูโซผูต้ ดิ ตามใกล้ชดิ วางถ้วยชารสหวานโรยด้วยใบมินต์ลงบนโต๊ะไม้ มันวาวอย่างเบามือ ก่อนหันมาฝนแท่งหมึกให้กับท่านชีคกาหริบ ขณะที่ร่างสูงสง่า สวมชุดพืน้ เมืองสวมผ้าคลุมศีรษะในอิรยิ าบถสบายๆ ก�ำลังตรวจตราหนังสือส�ำคัญของ เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทีละฉบับอย่างละเอียดถี่ถ้วน สรรพเสียงจากภายนอกถูกลมเย็นพัดพาเข้ามาในห้องเป็นระยะ และเสียงที่ ชีคกาหริบคุ้นชินมากสุด นั่นก็คือเสียงของเหล่าทหารกล้าซึ่งถูกฝึกปรือเป็นอย่างดีเพื่อ เตรียมตัวส�ำหรับท�ำสงครามครั้งใหม่ แม้นมิเห็นด้วยนักที่นครฟาตินแทบไม่ห่างจาก ศึกสงครามเลย แต่ชคี กาหริบก็ทำ� อันใดมากไม่ได้เพราะตัวชีคหนุม่ เองเข้าใจถึงความจ�ำ เป็นที่ชีคริยาร์ดต้องกระท�ำเช่นนั้น 43


เงารักในรอยทราย

‘ถึงเราไม่รุกรานก็ใช่ว่าเราจักปลอดภัย นครอื่นผู้กระหายชัยชนะจากสงคราม ต้องยกทัพมาโจมตีเราอยู่ดี’ ค�ำปรารภของชีคริยาร์ดซึง่ สานเจตนารมณ์จากอดีตผูป้ กครองคนเก่าสร้างความ เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับชีคกาหริบมาโดยตลอด ที่เห็นด้วยคือภายในตัวเมืองควรมี ทหารกล้าไว้ปกป้องนครจากการรุกรานของข้าศึก แต่ทมี่ เิ ห็นด้วยเห็นจักเป็นการออกล่า ตระเวนหาดินแดนใหม่ๆ และเข้าครอบครองอย่างไม่ถูกนี่ล่ะ แต่มิว่าจักคัดค้านด้วยวิธีใดชีคกาหริบก็มิเคยขัดใจพี่ชายตนเองได้สักครั้ง มิหน�ำซ�้ำยังถูกส่งตัวไปท�ำศึกสงครามอยู่เนืองๆ บางครั้งต้องออกสู่ท้องทะเลทราย เพื่อปราบโจรร้ายด้วยตนเองด้วยซ�้ำ แล้วความเงียบจึงถูกท�ำลายลงเมื่อเสียงโห่ร้อง ก้องกังวานดังเข้ามาในห้องท�ำงาน “ปีนที้ หารใหม่ของเราท่าทางจักมีจำ� นวนมากนะยูโซ กองทัพถึงคึกคักเหลือเกิน” “ขอรับ จากที่กระผมทราบมาจากทางมหาเสนาราเมซ จ�ำนวนทหารใหม่ ในกองทัพเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมสักสองร้อยนายเห็นจักได้” ค�ำบอกเล่านัน้ ท�ำเอาผูอ้ อกทัพจับท�ำศึกกับโจรทะเลทรายในเมืองใต้เป็นระยะเวลา ครึ่งปีเศษถึงกับตาโต “สองร้อยนายเชียวหรือ หวังว่าพี่ข้ามิสั่งเกณฑ์เด็กหนุ่มเพิ่งจับทวนจับดาบมา ฝึกเป็นทหารกล้าในกองทัพหรอกนะ” “เอ่อ... เป็นอย่างที่ท่านชีคคาดการณ์มิมีผิดขอรับ” ได้ยินค�ำยืนยันเช่นนั้นชีคกาหริบจึงส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ ชีคริยาร์ดมิเคยรับฟังความเห็นของตนเองแม้แต่น้อย ซ�้ำยังฟังแต่มหาเสนาเฒ่าราเมซ ซึ่งพลอยจักชักน�ำให้ก่อสงครามอยู่ร�่ำไป ซึ่งในตัวเขาเองมิเคยยินดีแต่อย่างใด ด้วยรู้ ว่าการสูญเสียผู้เป็นที่รักในศึกสงครามมิใช่เรื่องน่ายินดีเลยสักนิด เสียงร�่ำไห้ยามหญิงสาวชาวบ้านกอดศพสามีผู้เป็นทหารกล้าโดยมีเด็กน้อย อยู่ข้างๆ ยังดังก้องอยู่ในหู แววตาโศกเศร้า รอยน�้ำตา การสูญเสียจึงเป็นสิ่งที่ยาก จักยอมรับนัก และเพราะตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลานี่เองชีคหนุ่มจึงต้องวางแผน ให้รอบคอบ เวลาท�ำศึกสงครามเขาจึงใช้ก�ำลังทหารเพียงหยิบมือเพื่อลดการสูญเสียนี้ พอก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือส�ำคัญของทางราชส�ำนักยังมิทันหมดกอง เสียง กรุ๊งกริ๊งจากลูกกระพรวนก็ดังขึ้นเสียก่อน มิต้องมีใครบอกชีคกาหริบก็รู้ได้ทันทีว่า ใครเป็นผู้กระท�ำเสียงนี้ และมันก็ท�ำให้ชีคหนุ่มต้องถอนหายใจหนักออกมาอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าตนเองถูกรบกวนแล้ว 44


อาคาเซีย

“มิต้องแฝงตัวในซอกผนังหรอกดาเนียน ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า” มิเพียงค�ำเอ่ยทัก ดวงตาหวานฉ�่ำแฝงความอ่อนระอายังปรายสายตาไปยังตู้ใบใหญ่ซึ่งมากด้วยลิ้นชัก ทว่าผู้ที่ชะโงกหน้าเปื้อนฝุ่นทรายออกมาให้เห็นพร้อมรอยยิ้มอย่างประจบกลับมิใช่นาม ที่ถูกเรียกขาน และการคาดการณ์ผิดครั้งแรกนี้เองที่ท�ำให้ชีคหนุ่มต้องย่นคิ้วเข้าหากัน “อ้าว ท่านหญิงฮันนี่เองหรอกรึ?” “เจ้าค่ะท่านอา เป็นข้าเอง” ผู้มาเยี่ยมเยือนด้วยความซุกซนยิ้มประจบ ก่อนวิ่ง เหยาะๆ ออกจากที่ซ่อนตรงดิ่งมายังชีคหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นอาทันที “ใครน�ำพาเจ้ามาทีน่ หี่ รือฮันนี่ เจ้าย่อมรูก้ ฎระเบียบดีนนี่ าว่าห้องนีม้ เิ หมาะกับสตรี และห้ามมิให้สตรีทุกนางเข้ามาภายใน” ท่านหญิงฮันนีห่ น้าเจือ่ นสีทนั ทีเมือ่ ถูกต�ำหนิ แต่เพราะอยาก ‘อวด’ บางสิง่ ทีจ่ บั ได้ จึงท�ำให้นางยังแย้มยิ้มสู้สายตาดุๆ นั่น “ข้ามีความจ�ำเป็นบางอย่างเจ้าค่ะ” “ความจ�ำเป็นอันใดรึท่านหญิง?” ผู้ถูกถามซึ่งเรียบร้อยอยู่ในโอวาทมาโดยตลอดเม้มปากเป็นเส้นตรง กิริยา ดื้อเงียบอันผิดนิสัยนี่เองจึงท�ำให้ชีคกาหริบต้องละมือจากหนังสือส�ำคัญมาสนใจ หลานสาวคนโตซึ่งมีอายุได้เก้าขวบเศษและก�ำลังอยู่ในวัยซุกซน “บอกอามาฮันนี่ว่าเจ้ามาที่นี่กับใคร แต่อาคิดว่าเจ้ามิน่ามาที่นี่เพียงล�ำพังแน่” ฮันนี่ไม่ตอบแต่ปรายตาไปยังต�ำแหน่งซึ่งนางเพิ่งเดินจากมาพร้อมเรียกนาม สหายรัก “ออกมาเถิดดาเนียน ท่านอารู้หมดแล้ว” สิน้ ค�ำดาเนียนซึง่ มีสภาพเนือ้ ตัวมอมแมมไปด้วยฝุน่ ทราย ผมเผ้ารุงรังมิตา่ งจาก ท่านหญิงฮันนี่จึงยอมโผล่หน้าออกมาให้เห็น “ว่าแล้วเชียว...” ชีคกาหริบและยูโซพึมพ�ำอย่างเหนื่อยหน่ายออกมาพร้อมกัน ราวกับนัดหมาย ด้วยรู้ว่าดาเนียนมักเป็นต้นเหตุแห่งความวุ่นวายเสมอ ขนาดน�ำนาง ไปฝากไว้กับแม่นมมีนาญ่าผู้เคร่งครัดกฎระเบียบดูแลแล้ว วันดีคืนดีนางงามตัวน้อยนี่ ยังแอบหนีมาเล่นซุกซนอยู่ในห้องนอนเขาได้เลย และวันนี้ก็อีกเช่นกันที่เขาต้องรับมือ นางงามจอมแก่นถึงสองนางในคราเดียว พอเห็นสภาพของสองเด็กน้อยซึ่งมีวัยอ่อนกว่าถึงสิบปีชนิดเต็มตาตั้งแต่ศีรษะ จรดปลายเท้ายิ่งท�ำให้ชีคกาหริบหนักใจ หากตัดค�ำน�ำหน้าอันหมายถึงยศศักดิ์อันสูงส่ง นัน่ ออก เด็กน้อยทัง้ คูน่ กี่ ม็ ไิ ด้แตกต่างจากเด็กชาวเมืองธรรมดาทัว่ ไปแม้นแต่นอ้ ย เสือ้ ผ้า 45


เงารักในรอยทราย

สีอ่อนตัดเย็บอย่างประณีตยับยู่ยี่และขาดรุ่งริ่ง อีกทั้งยังเปื้อนฝุ่นทรายราวกับเอาตัวลง ไปคลุก เส้นผมหวีเรียบกลายเป็นยุง่ เหยิง หน้าตาอันหมดจดงดงามมอมแมมเหมือนนัก เดินทางร่อนเร่กลางทะเลทรายที่ไม่ผ่านการอาบน�้ำมานาน ส่วนตามเล็บมือนั้นดูสกปรก จนอยากจับไปช�ำระล้างนัก “ในกาลนี้เจ้าทั้งสองต้องเรียนหนังสือมิใช่รึ?” เจ้าของห้องท�ำเสียงดุในทันที ดวงตาหวานฉ�่ำติดไม่พอใจยังมิละสายตาไปจากสองท่านหญิงตัวน้อย “ใช่เจ้าค่ะ แต่เราสองคนท�ำให้ท่านอาจารย์พอใจ ท่านอาจารย์จึงปล่อยให้ ข้าและดาเนียนได้เล่นสนุกตามใจชอบ” ผู้เป็นต้นคิดเรื่องหนีเรียนแย้มยิ้ม แต่วาจานั้น หาท�ำให้ชีคกาหริบเชื่อถือไม่ สี่เดือนเศษที่ผ่านมาตั้งแต่พาดาเนียนไปฝากฝังไว้กับแม่นมมีนาญ่าจนกระทั่ง นางได้สนิทสนมกับฮันนี่ ก็ดวู า่ สมาชิกในโรงทอผ้าอันแสนสุขสงบจักวุน่ วายและปวดหัว กับสองดรุณีน้อยแทบทุกทิวาราตรี ข้าวของหลายชิ้นถูกน�ำออกมาซ่อมแซม อีกทั้ง มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหม่เข้ามาแทนในส่วนที่ช�ำรุดเสียหาย ซึ่งสาเหตุมาจากเด็กน้อย คู่นี้ล้วนๆ จนกระทั่งมาถึงเดี๋ยวนี้ชีคกาหริบยังคิดไม่ตกเลยว่า เขาคิดถูกหรือคิดผิด กันแน่ที่ส่งดาเนียนไปอยู่เป็นเพื่อนฮันนี่ เพราะดูฮันนี่ที่ดื้อเงียบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจัก เพิ่มความซนและแก่นแก้วขึ้นมาอีกเป็นเท่าทวี “จริงหรือ?” คิ้วหนาของชีคหนุ่มยกขึ้นด้วยความแปลกใจ “เป็นความจริงทุกประการเจ้าค่ะท่านอา ท่านอาจารย์บอกว่าข้าสองคนแตกฉาน เรื่องการคิดค�ำนวณแล้วจึงปล่อยออกมาเล่นได้” “ท่านอาจารย์กล่าวเช่นนั้นรึ?” ยิ่งฟังก็ยิ่งปราศจากความเชื่อถือ ตั้งแต่แม่นม มีนาญ่าผูด้ ำ� รงต�ำแหน่งหัวหน้านางก�ำนัลมีชอื่ เสียงเคร่งครัดเรือ่ งระเบียบวินยั ถอดใจจาก ดาเนียนแล้ว เขาจึงต้องว่าจ้างนักปราชญ์และท่านอาจารย์คนอื่นๆ อีกหลายคนมาช่วย ดูแลสองท่านหญิงเพื่อช่วยผ่อนแรงแม่นมมีนาญ่า แต่ระยะเวลาสี่เดือนเศษที่ผ่านมา เด็กน้อยทัง้ สองคนกลับร่วมมือกลัน่ แกล้งนักปราชญ์ผเู้ ก่งกาจคนแล้วคนเล่าจนมิมผี ใู้ ด สมัครใจมาสอนเด็กน้อยทั้งสองคนนี้อีกแล้ว “เจ้าค่ะ หากมิเชื่อ ท่านชีคจักส่งยูโซไปสอบถามก็ได้” เจอวาจาท้าทายของดาเนียนเข้าไปชีคกาหริบจึงพูดอันใดมิออก ลองดาเนียน มัน่ ใจเช่นนีน้ นั่ ก็หมายความว่านักปราชญ์ผนู้ นั้ คงเสียท่าให้เด็กน้อยทัง้ สองคนนีเ่ รียบร้อย แล้ว ทว่าอาการยืนเฉยไม่เป็นพร้อมขยับตัวไปมาและเสียงหัวเราะกับกิรยิ าหดตัวท�ำสะดุง้ รวมทั้งเสียงลูกกระพรวนต้องท�ำให้ชีคกาหริบหน้ายุ่งกว่าเดิม 46


อาคาเซีย

“อุ๊ย อยู่เฉยๆ สิ ข้าจั๊กจี้ ฮันนี่ข้ามิไหวแล้ว เจ้าตัวน้อยซุกซนเหลือเกิน” “ส่งมันมาให้ข้าสิ” ฮันนี่แบมือออก ดาเนียนรีบส่งเส้นด้ายให้สหายรัก พร้อมดึงสาวปลายเชือกเพือ่ น�ำสิง่ มีชวี ติ ตัวน้อย หน้าตาคล้ายหนูออกมาส่งมอบให้ และสิ่งที่เห็นก็ท�ำให้ชีคกาหริบต้องส่ายหน้าในทันที เพราะรู้ได้เลยว่าอะไรเป็นเหตุให้เด็กน้อยทั้งสองคนมีสภาพเช่นนี้ “เจ้าตัวน้อยนีค้ อื สหายใหม่ของพวกข้าเอง” ค�ำแนะน�ำและรอยยิม้ อันเปีย่ มด้วย ความสุขของท่านหญิงฮันนีพ่ ร้อมกิรยิ าทะนุถนอมเจ้าตัวน้อยเท่าฝ่ามือ ยิง่ ท�ำให้ชคี หนุม่ หน้ายุ่งกว่าเดิม “เจ้าทั้งสองไปน�ำกระรอกดินมาจากที่ใด?” “ในสวนเจ้าค่ะ ข้ากับฮันนีช่ ว่ ยกันขุดแล้วก็จบั ตัวมา” ดาเนียนตอบอย่างฉะฉาน ด้วยความภูมิใจ แต่คนฟังกลับหูผึ่งนั่งไม่ติด ดูจากสีหน้าและแววตาของเด็กสองคนก็พอจักรู้ ได้ว่าพวกนางทั้งคู่สนุกสนานเพียงใด ป่านนี้สวนที่ดรุณีน้อยเอ่ยถึงมิย่อยยับไปแล้วรึ “สวนแห่งไหนหรือหลานข้า?” สีหน้ากับกิรยิ าร้อนใจของชีคกาหริบท�ำให้เด็กสาว ทั้งสองมองหน้ากันแล้วผสานเสียงหัวเราะคิกคัก ด้วยรู้ว่าชีคกาหริบรักสวนดอกไม้ ในฮาเร็มถึงเพียงใด “สวนท้ายวังของท่านพ่อข้าเองเจ้าค่ะ ท่านอาวางใจเถิด ข้ากับดาเนียนมิเข้าไป ซุกซนหรือกระท�ำอันใดในสวนสวยของท่านแม้นแต่ปลายก้อย” ฮันนี่ตอบอย่างฉะฉาน พร้อมปล่อยกระรอกดินลงบนพื้นหินอ่อน “ดีมากหลานข้า ว่านอนสอนง่ายอย่างนีส้ บิ ดิ าเจ้าถึงรักและเอ็นดูเจ้านัก” ทว่ายัง มิทันสิ้นค�ำชมดี เจ้ากระรอกดินตัวน้อยซึ่งตื่นกลัวผู้คนก็วิ่งไปวิ่งมา แล้วปลายเส้นด้าย ซึ่งผูกติดกับนิ้วเล็กของท่านหญิงฮันนี่จึงหยุดออก ดาเนียนซึ่งไหวตัวได้ทันจึงท�ำตาโต “ฮันนี่ เจ้าตัวน้อยมันหนีไปแล้ว!” “ช่วยข้าจับมัน!” เสียงเล็กนั้นออกค�ำสั่งแล้วการวิ่งไล่จับกระรอกดินจึงเริ่มต้น อีกครั้งโดยที่สองนางงามตัวน้อยมิสนใจเสียงห้ามปรามของชีคกาหริบแม้นแต่น้อย “ปล่อยมันไปเถิดหลานข้า หากเจ้าอยากได้ อาจักสั่งให้องครักษ์จับมาให้ใหม่” “มิได้เจ้าค่ะ เจ้าตัวนี้เป็นสหายของข้าสองคนแล้ว ว้าย!” สิ้นเสียงอุทานของ ท่านหญิงฮันนี่ ผู้ถลกกระโปรงยาวรุ่มร่ามและวิ่งรอบห้องพร้อมป่ายปีนบนตู้มากด้วย ลิ้นชักจึงโดดหนี “ดาเนียน ระวัง!” สิ้นค�ำเตือนของฮันนี่ตู้ใบใหญ่จึงโค่นล้มลงมา ทว่าเด็กน้อยทั้งสองคงมิหยุดที่ตรงนั้น 47


เงารักในรอยทราย

โครม! “มันอยู่ตรงนั้นฮันนี่” ปัง! “มันวิ่งไปหาเจ้าแล้วดาเนียน” ปึ้ง! เพียงกระรอกดินตัวเดียวห้องท�ำงานอันเป็นระเบียบเรียบร้อยจึงเปลีย่ นสภาพราว ถูกพายุทรายถล่มภายในพริบตา และผู้ยืนอยู่เป็นศูนย์กลางของห้องคงท�ำอันใดมิได้ นอกจากอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น จนกระทั่ง... “ข้าจับมันได้แล้ว” ดาเนียนยิ้มกว้างอย่างดีใจ พร้อมส่งกระรอกดินตัวน้อย ในมือให้กบั ท่านหญิงฮันนีด่ ว้ ยความระมัดระวัง ทว่าเงยหน้าขึน้ มาเจอสีหน้าและแววตา ของชีคกาหริบเท่านั้น ดาเนียนจึงยิ้มกว้างกว่าเดิม “ข้าท�ำส�ำเร็จแล้วเจ้าค่ะ” “ใช่ เจ้าท�ำได้ดมี ากดาเนียน” ฮันนีเ่ อ่ยชมพร้อมแนบแก้มเนียนบนตัวกระรอกดิน ก่อนชูเจ้าตัวน้อยในมือให้ชีคกาหริบได้ชื่นชม “มันกลับมาอยู่ในมือของข้าแล้วเจ้าค่ะท่านอา พวกข้ายอดเยี่ยมไหมเจ้าคะ” “ใช่ พวกเจ้าทัง้ สองท�ำได้ดมี าก!” ชีคหนุม่ ผูอ้ ดทนกับความซุกซนกัดฟันกรอดๆ จนเส้นเลือดบนขมับนูนขึ้นมา “แต่สหี น้าของท่านอาดูมไิ ด้ยนิ ดีกบั ข้าสองคนเลยนะเจ้าคะ” ฮันนีย่ งั ตัง้ ข้อสังเกต พลางเอียงศีรษะแลน่าเอ็นดู “ถูกต้อง ข้ามิยินดีกับสิ่งนี้ เจ้าทั้งสองลองดูรอบๆ ห้องท�ำงานของข้าก่อนเถิด” ทั้งสองปฏิบัติตามในทันที เพียงแค่เห็นความเปลี่ยนแปลงรอยยิ้มอย่างปีติสุข จึงอันตรธานหายกลายเป็นใบหน้าเหยเกขึ้นมาทันที “ความโชคดีมิเข้าข้างเราสองคนแล้วล่ะดาเนียน ข้าว่าเรารีบเผ่นกันเถอะ” เพียงขยับตัวได้ก้าวเดียวร่างสูงสง่างามของชีคกาหริบก็กอดอกยืนขวางหน้า เอาไว้ก่อน “จักรีบไปไหนหรือหลานข้า?” “เอ่อ ข้าเพิ่งนึกได้ว่าข้ากับดาเนียนต้องเรียนวิธีปั่นด้าย ใช่ไหมสหายข้า?” ผู้หา ข้อแก้ตัวยิ้มแหยพลางหันมาหาแนวร่วมอย่างดาเนียน “ใช่ๆ เราสองคนต้องเรียนวิธีปั่นด้าย แม่นมมีนาญ่าอาจก�ำลังรอข้าสองคนอยู่ ก็ได้” “โอ้ ข้าปรารถนาจักได้ยนิ เจ้าสองคนพูดถึงสิง่ นีม้ านานแล้ว มันยอดเยีย่ มจริงๆ” 48


อาคาเซีย

น�้ำเสียงของชีคกาหริบเต็มไปด้วยความเย็นเยียบชนิดที่ท�ำให้ผู้ฟังขนลุก จากนั้นจึงหัน ไปออกค�ำสั่งกับผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดด้วยน�้ำเสียงเฉียบขาด “ยูโซ เจ้าจงพาท่านหญิง ฮันนีแ่ ละดาเนียนไปมอบให้แม่นมมีนาญ่า รวมทัง้ ช่วยก�ำชับกับนางว่า ข้ามีประสงค์สงั่ ให้ กักบริเวณนางทั้งสองไว้ในโรงทอผ้าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แล้วสั่งให้เหล่านางก�ำนัลจัด เวรเฝ้าไว้ให้ดี หากปล่อยปละละเลยให้นางทั้งสองออกมาซุกซนตามใจชอบในระหว่าง ต้องโทษอีก ข้าจักสั่งท�ำโทษผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด!” “ขอรับ” ยูโซรับค�ำสัง่ อย่างกระตือรือร้นพร้อมค้อมศีรษะให้ จากนัน้ จึงหันมาหา ท่านหญิงจอมซนทั้งสอง “มิได้นะเจ้าคะท่านอา ท่านอาจักกระท�ำเช่นนั้นมิได้” ฮันนี่โวยวายทันทีเมื่อ ได้ยินบทลงโทษเช่นนั้น “เพิม่ โทษพวกนางเป็นหนึง่ สัปดาห์ครึง่ ” ชีคหนุม่ ออกค�ำสัง่ ด้วยน�ำ้ เสียงดุจเดิม “ท่านชีคกระท�ำเช่นนี้เท่ากับส่งข้ากับท่านหญิงฮันนี่เข้าคุกชัดๆ ช่างไร้ความ ยุติธรรมกับข้าสองคนจริงๆ” คราวนี้เป็นดาเนียนออกตัวเจรจาด้วยหวังว่าจักได้รับการลดโทษ “เพิ่มโทษพวกนางทั้งสองเป็นสองสัปดาห์!” ชีคกาหริบเปลี่ยนค�ำสั่งอีกครั้ง ดาเนียนจึงท�ำเสียงฮึดฮัดในล�ำคอด้วยความไม่พอใจ พอตั้งท่าจักคัดค้านอีก ท่านหญิงฮันนี่จึงรีบยื่นมือมาปิดปากสหายรักเสียก่อน “พอเถิดสหายข้า ขืนเรายังแข็งข้อมีหวังท่านอาสั่งขังเราสองคนจนแก่ตายแน่” ดวงตาสีมรกตอดตวัดไปยังร่างสูงซึ่งยืนกอดอกอยู่มิได้ ยิ่งเห็นรอยยิ้มอย่าง พึงพอใจของผูไ้ ด้รบั ชัยชนะด้วยแล้วยิง่ ท�ำให้ดาเนียนหงุดหงิดอารมณ์ยงิ่ นัก นางจึงได้แต่ ย่นจมูกใส่เท่านั้น “เชิญท่านหญิงขอรับ” ยูโซผายมือเชิญ พอทัง้ สองไม่ยอมขยับตัว ซ�ำ้ ยังแข็งขืน ยูโซจึงต้องจูงข้อมือเล็กของเด็กน้อยทั้งสอง ทว่าทั้งสองก็มีกิริยาคล้ายๆ กันคือ สะบัดสะบิ้งมิให้แตะเนื้อต้องตัว “มิต้องจูง เราเดินเองได้” ดาเนียนสะบัดแขนออก ส่วนฮันนี่เชิดปลายคางขึ้น แต่สดุ ท้ายก็โดนยูโซดันหลังออกไปจากห้องท�ำงานนัน่ ได้ กระนัน้ ยังมีเสียงโวยวายแว่วไป ตลอดทางจนกระทั่งเสียงเล็กๆ นั้นเงียบหายไป พอเด็กน้อยจอมแก่นทั้งสองคนจากไปแล้วความเงียบจึงกลับเข้ามาอีกครั้ง ทว่าผลงานทีพ่ วกนางทัง้ สองทิง้ ไว้ให้ดตู า่ งหน้าก็สร้างความหนักใจให้ชคี กาหริบมากนัก เสียงถอนหายใจถูกปล่อยออกมาเมือ่ หันไปเห็นซากแจกันใบสวยอันเป็นหนึง่ ในของสะสม 49


เงารักในรอยทราย

แสนรักและหายากแตกกระจายเป็นเสีย่ งๆ ชัน้ วางต�ำราล้มลงมาจนสิง่ ของทีว่ างอยูใ่ นนัน้ กระจัดกระจาย ตูม้ ากด้วยลิน้ ชักใบใหญ่ลม้ ลงมาจนเกิดช�ำรุด แม้นแต่คนโททองเหลือง ที่อยู่ในผนังยังล้มลงมาอยู่บนพื้น เฮ้อ... ให้ตายเถอะ ตั้งแต่เข้ารับหน้าที่อันใหญ่หลวงช่วยเชษฐาดูแลประชาชน ให้อยูด่ กี นิ ดี ชีคหนุม่ เพิง่ ประจักษ์วา่ ตนเองคิดผิดมหันต์นกั ทีส่ ง่ ดาเนียนไปอยูเ่ ป็นเพือ่ น ท่านหญิงฮันนี่ ดูท่านหญิงตัวน้อยเถิด ขยันสร้างวีรกรรมปั่นป่วนให้ผู้ดูแลปวดหัวได้ ไม่เว้นแต่ละวัน ทว่ายังมิทนั กลับมานัง่ ท�ำงานตามเดิมเสียงองครักษ์หน้าห้องก็ตะโกนขึน้ ก่อนว่า ชีคริยาร์ดมาเยีย่ มเยือน ร่างสูงสง่าในชุดพืน้ เมืองสีดำ� ขลิบดิน้ ทองอันบ่งบอกถึงต�ำแหน่ง สูงสุดต้องชะงักเท้าเพียงก้าวผ่านโค้งประตูเข้ามาประสบพบเจอความไร้ระเบียบในห้อง “เกิดอันใดขึ้นที่นี่หรืออนุชาแห่งข้า?!” น�้ำเสียงของชีคริยาร์ดเต็มไปด้วยความ แปลกประหลาดใจเมื่อได้พานพบในสิ่งที่ไม่เคยเจอ เพราะด้วยนิสัยของอนุชาที่ใจเย็น ดังล�ำธารแล้วมิมีทางกระท�ำสิ่งนี้ได้เป็นแน่ “ท่านพี”่ ร่างสูงสง่ามิแพ้กนั เอามือแตะอกอันเป็นต�ำแหน่งหัวใจพร้อมค้อมศีรษะ ให้ผู้ด�ำรงต�ำแหน่งสูงส่งกว่าก่อนกวาดสายตาไปรอบๆ อย่างอ่อนใจอีกครา “หรือเจ้าหักโหมงานมากเกินไปจึงต้องระบายออกเยี่ยงนี้” ชีคริยาร์ดถามอย่าง ห่วงใย “โอ้มิใช่เลยขอรับ ที่ห้องท�ำงานของข้าเป็นเช่นนี้เป็นเพราะฝีมือท่านหญิงฮันนี่ และสหายล้วนๆ” เพียงถ้อยค�ำเดียวทุกความสงสัยจึงอันตรธานหาย เพราะความซนนี้มิเพียง ผู้ดูแลรับใช้จักคุ้นชินจนต้องส่ายหน้า แม้นแต่ชีคริยาร์ดผู้ยิ่งใหญ่เองยังต้องขยาด ความซนอันไร้ขีดจ�ำกัดของบุตรีด้วยเช่นกัน “ฮันนี่อีกแล้วหรือ นางเข้ามาท�ำอันใดที่นี่?” “ไล่จับกระรอกดินขอรับ” “กระรอกดินรึ โอ้... เช่นนั้นสวนสวยท้ายวังของข้าที่วินาศไปก็เป็นฝีมือบุตรี แห่งข้ารึนี่” ชีคริยาร์ดกุมขมับก่อนเรียกองครักษ์ผู้ติดตามเข้ามา “เจ้าจงรีบไปหยุดยั้ง โทษทัณฑ์ทขี่ า้ มอบให้ผทู้ ำ� สวนโดยไว แล้วจงเร่งรีบเกณฑ์ผคู้ นมาช่วยกันท�ำให้สวนของข้า เป็นดั่งเดิมโดยเร็วที่สุด” “ขอรับ” พอองครักษ์ออกไปจากห้องแล้วชีคริยาร์ดจึงมาทิ้งกายบนกองหมอนพร้อม 50


อาคาเซีย

เอนหลังในอิริยาบถแสนสบายโดยมิสนใจข้าวของซึ่งล้มอยู่เกลื่อนพื้นห้องนั่นอีก “ข้ามิมคี ำ� พูดอันใดจักพูดถึงเด็กซุกซนนีแ่ ล้วล่ะกาหริบน้องข้า นับวันยิง่ ยากจัก หยุดยั้งนาง แม้นแต่แม่นมมีนาญ่าก็ยังส่ายหน้าให้กับบุตรีแห่งข้านางนี้” น�ำ้ เสียงเหนือ่ ยหน่ายนัน่ ท�ำให้ชคี กาหริบต้องอมยิม้ ใช่วา่ ขบขันกิรยิ าชีคริยาร์ด แต่เป็นความซุกซนของท่านหญิงน้อยจากสองนครต่างหาก ในผืนทรายกว้างใหญ่ไพศาล จักมีใครสักกีค่ นสามารถท�ำให้ทา่ นชีคผูย้ งิ่ ใหญ่แห่งนครฟาตินต้องส่ายหน้าได้เล่า ถ้าจักมี ก็มีแต่ท่านหญิงฮันนี่และท่านหญิงดาเนียนนั่นล่ะ “เดีย๋ วพ้นวัยนีไ้ ปนางคงเรียบร้อยเองล่ะขอรับ ข้าเชือ่ ว่าแม่นมมีนาญ่ามีวธิ อี บรม พวกนาง” ชีคกาหริบยังมอบค�ำปลอบใจที่ดีให้เสมอ ทั้งๆ ที่ลึกๆ แล้วตนเองก็มิมั่นใจ ว่าแม่นมมีนาญ่าจักท�ำเช่นนั้นได้หรือไม่ “ข้าหวังเช่นนั้นเหมือนกันนะกาหริบ” น�้ำเสียงของชีคริยาร์ดเต็มไปด้วยความ เหนื่อยล้า “พี่ข้ามีเรื่องส�ำคัญอันใดหรือ ถึงมาหาข้าถึงที่นี่” “เพียงมองตาก็รู้ใจ สมแล้วที่เป็นน้องรักแห่งข้า ดูสาสน์ส�ำคัญฉบับนี้ก่อนเถิด กาหริบ” มือหนาสวมธ�ำมรงค์น�้ำงามหยิบเอาสาส์นส�ำคัญของมหาเสนาราเมซยื่นให้กับ ชีคกาหริบ ผู้รับจึงรับมาอย่างนอบน้อมพร้อมทั้งเปิดอ่านในทันที ห้องกว้างปราศจากเสียงพูดคุย นอกจากควันของยาสูบอันมีกลิ่นหอมของ ใบมินต์ซึ่งลอยฟุ้งอยู่ในห้องก่อนถูกลมเย็นพัดผ่านไป ทว่าเสียงของเหล่าทหารกล้ายัง ดังก้องเข้ามาเป็นพักๆ จนกระทั่งตัวอักษรสิ้นหน้ากระดาษเนื้อหยาบนั่นล่ะชีคกาหริบ จึงวางมือลง “ใครเป็นผู้ส่งรายงานฉบับนี้มาหรือขอรับ?” “พ่อตาของข้าเอง มหาเสนาราเมซเคยบอกข้าว่าพบชาวซากีมุสน่าแฝงตัวเข้ามา สอดแนมในนครของเรา” เพียงประโยคเดียวชีคกาหริบก็รับรู้ได้ทันทีว่ากลิ่นอายสงครามซึ่งฝังตัวอยู่ใต้ เม็ดทรายก�ำลังร้อนระอุและรอวันปะทุขึ้นมา “เมื่อไหร่หรือขอรับ แล้วท่านมหาเสนาราเมซได้กลิ่นคนพวกนั้นจากไหน?” น�ำ้ เสียงนัน้ เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เพราะไม่เพียงมีสายลับซึง่ แฝงตัวเข้ามาปะปน อยูร่ ว่ มกับชาวเมือง ในรายงานยังระบุอกี ว่ามีขนุ นางชัน้ ผูใ้ หญ่ของนครฟาตินแอบก่อกบฏ ลอบส่งเสบียงและให้ความร่วมมือกับกองโจรที่เข้ายึดซากีมุสน่าเป็นเมืองขึ้นอีกด้วย 51


เงารักในรอยทราย

“ท่านมหาเสนาส่งรายงานนีใ้ ห้ขา้ เมือ่ เจ็ดราตรีกอ่ น อย่าเพิง่ เป็นกังวลไปกาหริบ น้องข้า กาลนี้ข้าได้ส่งทหารฝีมือดีออกตรวจตรานครแล้ว อ้อ ข้าสั่งให้จัดเวรยามที่ ปราการเพิม่ ขึน้ ด้วยนะ ให้รไู้ ปสิวา่ ปิดนครแล้วเจ้าหนูสกปรกพวกนัน้ จักยังรอดน�ำ้ มือเรา ไปได้” น�้ำเสียงของชีคริยาร์ดเย็นเยียบนักคราเอ่ยถึงความตายซึ่งเป็นอนาคตของ จอมโจรซึ่งอ้างตัวเป็นชาวซากีมุสน่า ดวงตาสีน�้ำมันดิบเป็นประกายวาววับขึ้นมาทันที เมื่อคิดหาวิธีก�ำจัดศัตรูที่กล้าแฝงตัวเข้ามา “พวกนครแห่งทาสคงคุน้ ชินกับความตายจึงกล้าท้าทายอ�ำนาจของท่านชีคริยาร์ด แต่ท่านพี่โปรดวางใจเถิด เรื่องนี้ข้าจักรับหน้าที่ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยให้อีกแรง” ชีคกาหริบอาสาอย่างแข็งขัน “เจ้าช่างมีน�้ำใจนักน้องข้า” ผูร้ บั ค�ำชมค้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อมในทันที “ข้ายินดีเพือ่ แบ่งเบาภาระของท่าน แต่เรียนท่านพี่ตามตรงนะขอรับ ว่าข้ามิอาจไว้วางใจมหาเสนาเฒ่าราเมซเลยสักนิด ข้าหวัน่ ใจเหลือเกินว่านีอ่ าจเป็นข่าวโคมลอยทีป่ ล่อยออกมาเพือ่ หยัง่ เชิงความพร้อมทาง การทหารของเราก็เป็นได้” หลายๆ เหตุการณ์รา้ ยทีผ่ า่ นพ้นมาล้วนแล้วแต่มมี หาเสนาเฒ่ามาเกีย่ วข้องด้วย ทัง้ นัน้ แต่มอิ าจมีหลักฐานมามัดตัวเพือ่ เอาความผิดจิง้ จอกเฒ่าเจ้าเล่หร์ ายนีไ้ ด้ มิหน�ำซ�ำ้ มหาเสนาผูก้ มุ อ�ำนาจทหารในมือกว่าพันนายยังหาเล่หอ์ บุ ายมาใช้เพือ่ ให้ทกุ คนไว้วางใจ ในความซื่อสัตย์ตลอดเวลา ครั้งล่าสุดก็ยกบุตรีคนเล็กให้มาเป็นสนมของผู้ครองนคร แห่งนี้นี่ล่ะ “เจ้าก็หวาดระแวงมากเกินไปกาหริบ มหาเสนาราเมซรับใช้ตระกูลอิมฮาซามา ตัง้ แต่ทา่ นพ่อปกครองนคร คนเก่าแก่ยอ่ มมองเห็นการณ์ไกล อีกอย่างมหาเสนาคงมิกล้า ท�ำการใหญ่เช่นนั้นหรอก ในเมื่อบุตรีของมหาเสนาเฒ่าเป็นสนมแห่งข้าถึงสามนาง” เหตุผลของผู้มีอ�ำนาจสูงสุดแห่งนครท�ำให้ชีคกาหริบเงียบไปด้วยยากจักค้าน แต่ในใจนั้นกลับคิดเห็นตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง หากมองตามนั้นทุกคนย่อมรู้สึกว่า มหาเสนาเฒ่านัน้ จงรักภักดีตอ่ ชีคริยาร์ดเพียงใดถึงส่งบุตรีมาเป็นสนมของชีคริยาร์ดถึง สามนาง แต่ใครบ้างจักมองเห็นถึงความผิดปกตินี้ มีพ่อคนไหนมิรักลูกบ้าง แต่การส่งบุตรีถึงสามนางเข้ามาเป็นสนมในฮาเร็ม นั่นย่อมบ่งบอกได้ว่ามหาเสนาราเมซนั้นกระหายอ�ำนาจถึงเพียงใด เพราะกาลหนึ่ง ท่านชีคริยาร์ดเคยลัน่ วาจาไว้วา่ หากสนมนางใดสามารถให้ก�ำเนิดบุตรชายได้ จักแต่งตัง้ 52


อาคาเซีย

ยกย่องนางงามผูน้ นั้ ให้เป็นชีคคา มหาเสนาเฒ่าคงมองเห็นช่องทางนีด้ ว้ ยกระมังจึงขยัน ส่งบุตรีเข้ามาในฮาเร็มมิได้หยุดหย่อน “เรื่องคนของเราเอาไว้ก่อนเถิดกาหริบ ที่ข้ามิไว้วางใจเห็นจักเป็นเรื่องคนของ นครแห่งทาสมากกว่า คราก่อนที่ข้าเดินทางไปนครคามิล่าก็ได้กลิ่นพวกนั้นเหมือนกัน ซากีมุสน่าก�ำลังออกตระเวนหาซื้อม้าศึกฝีเท้าดีมาสะสมไว้” อย่าว่าแต่ดินแดนตะวันออกเลยที่นครแห่งทาสไปเยี่ยมเยียน แม้นแต่เมืองใต้ ซึ่งชีคกาหริบเพิ่งพิชิตมาได้ก็ยังมีคนของนครแห่งทาสปลอมปนเข้าไป ซึ่งการได้พบปะ ผูเ้ คยปกครองซากีมสุ น่านีเ่ องทีท่ ำ� ให้ชคี กาหริบได้รคู้ วามจริงบางอย่างทีม่ สิ ามารถเปิดเผย ให้ผู้ใดรู้ได้ “แต่ตอนนี้ทางคามิล่าตกเป็นสิทธิ์ขาดของเราแล้วมิใช่หรือขอรับ?” “ใช่ เราได้สิทธิ์ผูกขาด แต่ข้ามิอาจไว้วางใจชีคฮาซันได้เลย เจ้าต้องรู้จักวิสัย พ่อค้าดีสิกาหริบ หากใครให้ผลตอบแทนมากกว่าย่อมฝักใฝ่ฝ่ายนั้นอยู่ร�่ำไป หาก ชีคฮาซันไปสวามิภักดิ์กับนครแห่งทาสเรามิแย่หรอกรึ” ชีคกาหริบพยักหน้าไม่มีค�ำคัดค้านอันใด เกือบหลุดปากบอกอยู่แล้วเชียวว่า จักกลัวอันใดในเมื่อมีท่านหญิงดาเนียนเป็นหลักค�้ำประกันความซื่อสัตย์นี้อยู่ แต่เมื่อ นึกถึงเจ้าของดวงตาสีมรกตซึง่ โหยหาความอบอุน่ เพราะร้างไกลจากผูใ้ ห้กำ� เนิด ชีคหนุม่ ก็มิอาจเอื้อนเอ่ยถึงสิ่งนั้นได้ “เอาเถิดพี่ข้า เรื่องยังไม่เกิดท่านอย่าเพิ่งเป็นกังวลไป หากเรื่องนี้เป็นความจริง ขึน้ มา ข้ากาหริบนีล่ ะ่ จักช่วยแบ่งเบาภาระของท่านเอง” ชีคหนุม่ บอกด้วยน�ำ้ เสียงหนักแน่น ดวงตาดั่งนิลกาฬวาววับเป็นประกายชัดเจน “ขอบใจเจ้ามากนะกาหริบ เจ้าช่างดีกับข้านัก” มือหนาสวมธ�ำมรงค์น�้ำงามวาง บนบ่าแข็งแกร่งพร้อมรอยยิ้มตื้นตันใจ “นั่นเป็นหน้าที่ของข้าผู้เป็นน้องอยู่แล้วขอรับ”

53


เงารักในรอยทราย

4 สืบหาข่าว

ไอเย็นยะเยือกบนปราการหินทรายอันแข็งแกร่งทีท่ อดตัวยาวเหยียดกลืนหายไป ในความมืดช่างสร้างความอึดอัดและหวาดกลัวให้กับผู้สัมผัสบรรยากาศอันวังเวงนี้นัก เพียงอึดใจกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบขาวจากที่ไกลแสนไกลจึงโชยผ่านจมูก และปลิดปลิวความกลัวให้แผ่วจางลง... กระนั้นคงมิใช่ทั้งหมด เมื่อจิตใต้ส�ำนึกสั่งให้ หนีไปให้พ้นจากพื้นที่ตรงนี้ ดวงตาหม่นเศร้าหลังผ้าคลุมหน้าสีเทาเข้มคงกวาดสายตา หามิ่งมิตร ทว่าในความมืดสลัวนั้นหามีใครสักคนเป็นเพื่อนเพื่อปลอบประโลมไม่ ‘จงไปให้พ้นความอ้างว้างอันแฝงฝังอยู่ในความกลัวนี้’ เสียงหนึ่งร�่ำร้อง แต่มิ สามารถหลุดพ้นก้าวข้ามผ่านไปได้เมื่อเสียงโห่ร้องอันน่าสะพรึงกลัวจากที่ไกลๆ ดังแว่ว เข้ามาในโสตประสาท... ร่างมอมแมมเปื้อนฝุ่นละอองทรายคล้ายวณิพกจึงหันหลังวิ่งไปตามขั้นบันได ของปราการอันมีรอยแหว่งเว้าจากการท�ำลายล้างของพายุทราย ยิ่งวิ่งก็ยิ่งไกล และ เหมือนวิ่งวนอยู่ในเขาวงกตซึ่งมิมีทางออกสู่ภายนอก จนกระทั่งร่างบางนั้นพานพบ แสงสว่างจากดวงตะเกียงบนปราการอันเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในความมืดนั่นล่ะ นางจึงหยุดเท้าลงก่อนมุ่งหน้าหาแสงสว่างนั้นทันที มือบางอันเต็มไปด้วยบาดแผลจาก การถูกท�ำร้ายยื่นไปแตะต้องสิ่งนั้นอย่างยินดี พร้อมประคองดวงตะเกียงนั้นขึ้นมาด้วย 54


อาคาเซีย

ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม “รอข้าก่อนเถิดฟาเดล... ข้าจักไปหาเจ้า” น�ำ้ เสียงหวานแว่วนัน้ เต็มไปด้วยความ อาทร ทว่าขยับตัวมาพบชายชุดขาวแต่งกายคล้ายองครักษ์พร้อมปลายดาบวาววับครา ต้องแสงตะเกียงและสบตาสีมรกตอันแฝงฝังความเศร้าหม่นนัน่ เข้า นางผูอ้ าภัพสะดุง้ เฮือก จึงปล่อยดวงตะเกียงให้ตกสู่พื้น เพล้ง! เสียงเศษแก้วของดวงตะเกียงกระทบพืน้ ปราการอันเย็นเยียบนัน้ ท�ำเอาร่างบาง ในชุดเสื้อคลุมสีเทาเปื้อนฝุ่นทรายสะดุ้งเฮือกพร้อมเปล่งเสียงออกมา “ฟาเดล ข้าเอง!” “ฟาเดล ข้าเอง!” ชีคกาหริบผวาตื่นขึ้นมาพร้อมกับค�ำเรียกขานซึ่งติดมาจาก ภาพฝัน พลางปล่อยเสียงหอบหายใจเหนื่อยออกมาราวผ่านการวิ่งมาไกลแสนไกล ร่างสูงใหญ่บกึ บึนอันปราศจากเสือ้ ผ้าอาภรณ์ในท่อนบนกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องซึง่ ยัง ถูกความมืดของราตรีกาลครอบครอง ผิวกายอันสะอาดและแน่นไปด้วยกล้ามเนือ้ สมชายชาตรีคงชุม่ ไปด้วยเม็ดเหงือ่ มิได้เย็นเยือกเหมือนเมือ่ ครู่ และนีเ่ องทีท่ ำ� ให้ชคี หนุม่ ตระหนักถึงว่าเหตุการณ์เสมือนจริง เมือ่ ครูเ่ ป็นเพียงความฝันเท่านัน้ ดังนัน้ ชีคกาหริบจึงส่ายหน้าแล้วปิดเปลือกตาลงอีกครัง้ อย่างช้าๆ เพียงอึดใจลมหายใจเข้าออกของชีคหนุม่ จึงสม�ำ่ เสมอก่อนด�ำดิง่ สูห่ ว้ งความฝัน อีกครั้ง ...ไอเย็นยะเยือกบนปราการทอดยาวสุดสายตาค่อยจางหายไปกลายเป็นความ อบอุน่ ละมุนละไม เมือ่ บุรษุ ในชุดขาววางดาบอันใหญ่โตนัน่ ลงพร้อมรัง้ ร่างบางของหญิง ผู้อาภัพเข้ามาในอ้อมกอดเพื่อปลอบประโลม แล้วจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากอันมีแผลเป็น จากไฟไหม้ซึ่งท�ำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเป็นสีคล�้ำแดง และไม่เรียบเนียนเหมือนผิวหนัง ในส่วนอื่นๆ แต่นั่นก็หาท�ำให้องครักษ์รูปงามรังเกียจไม่ “อย่าแตะต้องข้าเช่นนั้นฟาเดล ข้าคือหญิงผู้อับโชค ข้าคือนางผู้อัปลักษณ์ ข้าคือนางแม่มด มิคู่ควรให้ท่านแปดเปื้อนมลทินจากค�ำครหาเช่นค�ำสาปนี้” “มิใช่เลย เจ้ามิใช่สิ่งนั้น เจ้าคือนางที่ข้ารัก เจ้าคือดวงใจแห่งข้า” “แต่... แต่ข้ามิคู่ควร” นางผู้เจียมตัวยังขืนกายออกจากอ้อมกอดอันอบอุ่นนั่น ทว่านางผู้ถูกตราหน้าด้วยสารพัดค�ำหยามเหยียดคงมิได้รับอิสระเมื่อองครักษ์หนุ่มยัง จองจ�ำนางด้วยวงแขนอันอบอุ่นนั้นไว้ “ทิ้งความคู่ควรอันเป็นความปรารถนาของผู้อื่นเอาไว้ตรงนี้เถิดนางงามแห่งข้า 55


เงารักในรอยทราย

จงรู้ไว้ว่าดวงใจของข้ามีแต่เจ้า และเป็นของเจ้าผู้เดียวนับแต่บัดนี้” หญิงผู้อัปลักษณ์แย้มยิ้มด้วยความปีติสุขพร้อมโผตัวเขย่งปลายเท้ากอดคอ บุรุษในชุดขาวพร้อมประทับจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปาก ทว่าเหลือบไปเห็นชาวบ้านซึ่งจุดไต้ และก�ำลังตรงดิ่งเข้ามา ดวงตาเปี่ยมด้วยความสุขจึงแทนที่ด้วยความหวาดกลัวขึ้นมา ทันที “พวกนัน้ ตามข้ามาแล้ว รีบหนีเถิดฟาเดล ชาวบ้านพวกนัน้ ต้องการเพียงตัวข้า” “ไม่ ข้ามิมีวันทอดทิ้งเจ้าเป็นอันขาด” สองร่างกอดกันไว้แน่นเมื่อเหล่าชาวบ้าน น�ำก�ำลังเข้าล้อมปราการจนทั้งสองมิมีทางหนีได้ “ส่งนางแม่มดนีม้ าให้พวกเราเถิดท่านองครักษ์ฟาเดล” ผูป้ กครองหมูบ่ า้ นมิเผย ใบหน้าให้เห็นนอกจากดวงตาอันดุดันเรียกร้อง “ไม่ นางมิใช่แม่มด นางเป็นภรรยาข้า” “ท่านต้องมนต์สะกดของนางแล้วล่ะท่านองครักษ์ โปรดส่งนางมาเถิด ข้าจักน�ำ นางหญิงผู้อัปลักษณ์นี้ไปช�ำระล้างบาปในตัว” ความปรารถนาอันแรงกล้านัน้ ช่างน่าสะพรึงกลัวนัก มิเพียงโลหิต แต่ยงั หมายถึง การจองจ�ำดวงวิญญาณตามความเชือ่ ของแม่เฒ่า นางอัปลักษณ์ผถู้ กู ตราหน้าด้วยสารพัด ค�ำหยามเหยียดขดตัวเข้าหาอกกว้างอย่างหวาดหวั่นเมื่อหนทางการหนีรอดนั้นหมดลง พอถูกต้อนให้หมดหนทางแล้วนัน่ ล่ะหยดน�ำ้ ตาของนางผูอ้ าภัพจึงไหลรินเปือ้ นแก้มเป็น ทางยาวก่อนหยดลงสู่บนพื้นก�ำแพง “โปรดเถิดท่านผู้น�ำ โปรดไว้ชีวิตท่านองครักษ์ฟาเดลด้วย” ผูค้ นเหล่านัน้ ต่างเพิกเฉยต่อค�ำวิงวอน สีหน้าของชาวบ้านซึง่ อยูห่ ลังผูน้ ำ� เต็มไปด้วย ความหวาดหวั่นมิแพ้นางแต่อย่างใด แต่มิมีใครเห็นด้วยกับค�ำวิงวอนของนางสักคน “ได้โปรดเถิดนายท่าน” นางผู้อาภัพยังวิงวอนด้วยน�้ำเสียงสะอึกสะอื้นปานจัก ขาดใจราวกับรู้ชะตากรรมของตนเองและผู้เกี่ยวข้องผูกพันทางจิตใจ “น�ำตัวไป!” ค�ำสั่งของผู้ปกครองคือข้อสรุปทั้งหมด นางผู้อับโชคเห็นสายตาอันเย็นเยียบ เห็นความกระหายเลือดอันไร้เมตตาของ วิญญาณ ยิ่งเสียงร้องโห่ดังกระหึ่มขึ้นและสะท้อนก้องไปในทะเลทราย ความหวาดกลัว ยิ่งมีอ�ำนาจยิ่งใหญ่เหนือจิตใจ “ฟาเดลจงปล่อยข้า แล้วท่านจงหนีไปซะ” นางคงร�่ำร้อง สองดวงตาหวานซึง้ นอง ไปด้วยน�้ำตาคราสบดวงตาสีมรกตงดงาม 56


อาคาเซีย

“ไม่ เราจักไปด้วยกัน” น�้ำเสียงอันอบอุ่นคงดังก้องภายในใจก่อนพากันขึ้นมา บนขอบก�ำแพง “เราจักไม่มีวันพรากจากกัน...” เสียงนั้นค่อยจางหายไปในค�ำวิงวอนอัน ปราศจากความเมตตา พร้อมกับแสงไฟส้มแดงจากไต้ที่มอดดับขณะดิ่งตัวลงมาจาก ที่สูง... “ฟาเดล!” ตุ้บ! การตกลงมากระแทกพืน้ อีกครัง้ ท�ำให้รา่ งบึกบึนอันปราศจากอาภรณ์ในท่อนบน ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ชีคหนุ่มค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งคล้ายยังมิตื่นดี พลางกวาดสายตาอัน อัดแน่นด้วยความเจ็บปวดจากความฝันไปรอบๆ บริเวณห้องนอนอันมืดสลัวอีกครั้ง “ฝันรึ?” ชีคหนุม่ ร�ำพันก่อนสะบัดศีรษะไล่ความมึนงงออกไป เพราะรูส้ กึ เหมือน ว่าตนเองได้ดิ่งลงมาจากที่สูง นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ชีคกาหริบนอนตกเตียง แต่เมื่อรู้ว่าทุกเรื่องเสมือนจริงที่ เกิดขึ้นเป็นเพียงภาพความฝัน ชีคหนุ่มจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วทิ้งสะโพกสอบลง บนเตียงนุ่มอีกครั้ง เหมือนเดิม... เป็นความรู้สึกที่มิสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นค�ำพูด หรือเล่าสู่ให้ผู้ใดฟังได้ รู้เพียงว่าโศกเศร้ากับความฝันนั้นจนอยากคว้าใครสักคนมา กอดไว้เพื่อปลอบประโลมหัวใจตนเอง แต่เมื่อจิตส�ำนึกตระหนักถึงตัวตนของตนเอง ชีคหนุ่มจึงได้สติ “เลอะเทอะใหญ่แล้วกาหริบ” ผู้เตือนสติตนเองใช้หลังมือเช็ดหยาดเหงื่อบน ใบหน้าแล้วล้มตัวนอนอีกครัง้ แต่ในครัง้ นีม้ วิ า่ จักพยายามข่มตาให้หลับเพียงไร ร่างกาย ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการอันนีไ้ ด้ ซ�ำ้ ในหัวสมองกลับครุน่ คิดอยูก่ บั ความฝัน ซึ่งเขาฝันซ�้ำๆ ถึงสองครั้งติดต่อกันในราตรีเดียว ดวงตาคมแลงดงามดัง่ นิลกาฬกวาดไปรอบๆ ห้องนอนอันเงียบสงบของตนเอง อีกครัง้ ผ้าม่านสีขาวผืนบางคงสะบัดไหวคราเมือ่ ลมเย็นแห่งฤดูกาลของท้องทะเลทรายพัด ผ่านมา แต่กม็ มิ แี สงสว่างอันใดทีต่ ดิ ตาตรึงใจเท่าแสงสว่างจากตะเกียงน�ำ้ มันในความฝัน นั่น และนี่เองที่ท�ำให้ชีคหนุ่มต้องทบทวนภาพที่เห็นในฝันอีกครั้ง เป็นฝันทีแ่ ปลกประหลาดนัก... เขาฝันถึงทหารองครักษ์ชดุ ขาวในยุคโบราณผูซ้ งึ่ รับหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัยของปราการอันยาวเหยียด และนางอัปลักษณ์อนั เป็นทีร่ กั ของบุรุษชุดขาวภายใต้ความรักอันยิ่งใหญ่ ใช่ว่าทั้งชีวิตเขาจักมิเคยหลับฝันถึงเรื่องราว ต่างๆ เหล่านี้เลย เพียงแต่ความฝันในราตรีนี้นั้นเสมือนจริงจนชีคหนุ่มรู้สึกเหมือนเคย พบพานและประสบกับตนเองเมื่อครั้งหนึ่งนานแสนนานมาแล้ว... 57


เงารักในรอยทราย

“ฟาเดล” ชีคหนุม่ เอ่ยถึงนามขององครักษ์หนุม่ ซึง่ สามารถจดจ�ำรายละเอียดได้ดี โดยเฉพาะดวงตาอ่อนโยนคราทอดมองนางอันเป็นทีร่ กั แต่เมือ่ รูว้ า่ ตนเองก�ำลังอ่อนไหว กับความฝัน ชีคหนุ่มจึงส่ายหน้าพร้อมทอดถอนลมหายใจออกมาอีกครา “ไร้สาระน่า กาหริบ” ติเตียนตนเองเสร็จชีคหนุม่ จึงปิดเปลือกตาลงอีกครัง้ ทว่าครัง้ นีร้ า่ งกายกลับมิอาจ ตอบสนองความต้องการของจิตใจอีกแล้ว มิวา่ จักขยับตัวเปลีย่ นอิรยิ าบถยังไง ก็มอิ าจข่มตา ให้หลับลงได้ และยิ่งใช้ความพยายามเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างแรงต่อต้านภายในจิตใจมากขึ้น เท่านั้น ซ�้ำน�้ำเสียงขององครักษ์หนุ่มยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท จนชีคกาหริบต้องเอา มือปิดหูพร้อมดีดตัวลุกขึ้นนั่ง “ข้าคือ ชีคกาหริบ อิมฮาซา แห่งนครฟาตินเข้าใจไหม!” ชีคหนุม่ ตะโกนลัน่ ห้อง ซึง่ เสียงนีเ้ องทีท่ ำ� ให้ผตู้ ดิ ตามรับใช้ใกล้ชดิ ทีห่ ลับอยูข่ า้ งๆ อย่างยูโซต้องดีดตัวลุกขึน้ นัง่ ในอาการสะลึมสะลือ “เข้าใจขอรับท่านชีค” “ข้ามิได้พดู กับเจ้า” ชีคหนุม่ บอกด้วยน�้ำเสียงหงุดหงิดก่อนลุกขึน้ ไปจุดตะเกียง น�้ำมันแล้วคว้าเสื้อผ้าไปอาบน�้ำดื้อๆ กระนั้นยังมิวายหันมาออกค�ำสั่งกับผู้ติดตามรับใช้ ใกล้ชิดด้วยน�้ำเสียงดุดันดั่งคราออกรบ “เราจักเดินทางไปตรวจตรานอกปราการเพื่อ สอดส่องดูว่ามีพวกนครแห่งทาสเข้ามาปะปนอยู่กับเราหรือไม่ เจ้าจงเตรียมตัวให้ดีล่ะ ยูโซ” “ขอรับ” แม้นจักงวยงงกับค�ำสั่งของชีคหนุ่มซึ่งลุกขึ้นมาอาบน�้ำแต่งตัวกลาง ราตรี แต่ยูโซก็หาคัดค้านอันใดได้นอกจากลุกขึ้นมาปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้เป็นนาย ในอาการสะลึมสะลือ พอชีคกาหริบอยู่ในคราบวาณิชหนุ่มเรียบร้อยแล้วนั่นล่ะยูโซซึ่ง นั่งอ้าปากหาวหวอดๆ จึงละทิ้งความขี้เกียจแล้วรีบไปเตรียมม้าคู่ใจพร้อมเสบียงอาหาร ก่อนติดตามชีคหนุ่มออกนอกนครไปอย่างเงียบเชียบในทันที... ฝีเท้าม้าเร็วคูใ่ จของชีคหนุม่ พร้อมม้าเร็วของยูโซหยุดลงเมือ่ ควบมาถึงประตู หน้าปราการสูงตระหง่านตรงหน้าซึง่ ทอดตัวยาวเหยียดล้อมรอบนครฟาตินราวงูเลือ้ ยพัน ไปจนสุดลูกหูลกู ตาในตอนรุง่ สาง ฝุน่ ทรายคงตลบอบอวลฟุง้ กระจายไปทัว่ บริเวณ ทว่า บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยคงมิแตกต่างจากกาลอื่นๆ ทั้งในและนอกก�ำแพงยังเต็ม ไปด้วยเหล่าพ่อค้าและคาราวานเร่ซงึ่ มาพร้อมกับสินค้าจากต่างเมืองมากมาย มีรถม้าจ่าย ค่าผ่านด่านผ่านเข้าออกประตูเมืองตลอดเวลา โดยมีการเก็บภาษีเฉพาะขาเข้าเท่านั้น 58


อาคาเซีย

ชีคหนุ่มซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าชื่นชมภาพของประชาชนด้วยใบหน้านิ่งเฉย มุมหนึ่งเป็นร้านขายพรมมีพรมขนแกะอวดลวดลายวิจิตรพิสดารมากางขาย ถัดมาเป็นร้านขายผ้าพื้นเมืองซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของนครฟาติน มุมตรงฟากก�ำแพงจึง ดูมีสีสันดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าที่อื่น กระนั้นในฝั่งตรงข้ามคงดึงดูดลูกค้าได้มิยิ่งหย่อน ไปกว่ากัน เพราะตรงบริเวณนัน้ เป็นร้านสินค้าทองเหลืองจ�ำพวกเครือ่ งใช้ไม้สอยในเรือน มีครบครันตั้งแต่จอก เหยือกน�้ำคอสูง คนโท แจกัน ถาด ตะเกียงน�้ำมัน หรือแม้นแต่ เครื่องประดับ มีระยะเว้นห่างคั่นด้วยร้านขายผักผลไม้ รวมถึงกองอินทผลัม ทับทิม และองุ่นลูกโตน่ารับประทาน “หากมิได้ออกมาเห็นด้วยตาของตัวเองเช่นนี้ ข้าคงมิเชื่อแน่ว่านครแห่งนี้ท�ำ ศึกสงครามมิเคยว่างเว้น” ชีคหนุ่มซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าคู่ใจดูสง่าผ่าเผยเปรยขึ้น “เหตุใดนายท่านถึงกล่าวเช่นนั้นล่ะขอรับ?” ยูโซท�ำหน้าตาสงสัยโดยเรียก ชีคหนุม่ ซึง่ อยูใ่ นคราบวาณิชว่านายท่าน พลางกวาดสายตาไปรอบๆ เมือ่ เห็นบรรยากาศ เหล่านี้เป็นเรื่องปกติไป “ก็เพราะทุกเมืองที่เราไปเยี่ยมเยือนมิได้อุดมสมบูรณ์แบบนี้ไงเล่ายูโซ ผู้คน ออกจักหวาดกลัวและเก็บตัวอยูแ่ ต่ในบ้านดินเหนียว หรือไม่กข็ ดุ อุโมงค์อยูใ่ ต้ดนิ ด้วยซ�ำ้ แต่เจ้าดูผู้คนพวกนี้เถิด มิได้หวั่นเกรงกับสงครามเลยสักนิด” “ที่เป็นเช่นนั้น เพราะชาวเมืองพวกนี้มิได้ตกเป็นทาสจึงมิหวั่นเกรงอันใดกับ ศึกสงคราม” “ก็จริงของเจ้า ผูอ้ อกไล่ลา่ กับผูถ้ กู ไล่ลา่ มันคนละอารมณ์กนั เฮ้อ ข้าล่ะเบือ่ หน่าย ชิงชังกับการศึกสงครามเหลือเกิน มิรู้ว่าเมื่อไหร่พี่ชายของข้าจักชิงชังกับการสูญเสียนี่ สักที” ชีคหนุ่มเปรยออกมาเพื่อระบายความอึดอัด แต่ก็มิมีความคิดเห็นอันใดจาก ผู้ติดตามนอกจากรับฟังแล้วปิดปากเงียบเท่านั้น ดวงตาหวานฉ�ำ่ แฝงความจริงจังจึงกวาดไปรอบๆ บริเวณอีกครัง้ แสงแดดสีสม้ เจิดจ้าซึง่ ลูบไล้ทอ้ งทะเลทรายอันไกลโพ้นเริม่ ขยับตัวสูงขึน้ มาทาบทับบริเวณปราการ และ หนึ่งเสียงจากการเป่าเขาสัตว์ก็เรียกความสนใจจากชีคกาหริบซึ่งอยู่ในคราบวาณิชหนุ่ม ได้ดีนัก “เขาขายอันใดหรือยูโซ?” “ทาสขอรับ” “ทาส?” สีหน้าชีคหนุ่มเต็มไปด้วยค�ำถาม เคยรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย 59


เงารักในรอยทราย

เรือ่ งการค้าทาส โดยให้ทงั้ ตัวเจ้าของทาสและตัวทาสตกลงเต็มใจกันเองว่าจักโยกย้ายไป ท�ำงานที่ไหน แต่มิคิดว่าการแก้กฎหมายในครั้งนั้นจักกลายเป็นการจับคนมาใส่กรงขัง แล้วน�ำมาเร่ขายเช่นอูฐลาแบบนี้ “มันกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันยูโซ?” “กระผมมิแน่ใจขอรับ เพราะหลังกลับจากการปราบโจรทะเลทรายกับนายท่าน กระผมก็เห็นสิ่งนี้แล้ว” ได้ยินค�ำตอบแบบก�ำปั้นทุบดิน ชีคกาหริบจึงกลอกตาไปมา “เฮ้อ ข้าก็ตั้งค�ำถามแบบมิได้คิดเสียด้วย” ร่างสูงสง่างามบนหลังม้าจึงตวัดสายตามายังกรงขังซึ่งมีล้อเลื่อนส�ำหรับลากจูง อีกครั้ง และภาพที่ชีคหนุ่มในคราบวาณิชเห็นก็เป็นภาพที่มิชื่นชอบนัก แม้นกฎหมาย การซือ้ ขายทาสจักเป็นไปด้วยความสมัครใจของทัง้ สองฝ่าย คือตัวเจ้านายผูเ้ ป็นเจ้าของ ทาสและตัวทาสเอง แต่ก็ยังมีผู้ละเมิดในกฎข้อนี้ให้เห็นอยู่ พอเห็นความไม่ถูกต้องเข้า ชีคหนุ่มจึงควบม้าคู่ใจตรงดิ่งเข้าไปหาในทันที “เหตุใดทาสตัวน้อยนี่ถึงมีสภาพเช่นนักโทษ?” เพียงค�ำถามเดียวจากน�้ำเสียงอันมีอ�ำนาจ ก็ท�ำให้ผู้น�ำเด็กหนุ่มมาใส่โซ่ตรวน พร้อมจับใส่กรงขังชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาในทันที “ก็เพราะเจ้าหนุม่ น้อยนีด่ อื้ ดึงและพูดยากน่ะสิ ข้าจึงต้องปฏิบตั เิ ช่นนีเ้ พือ่ สัง่ สอน ให้เจ้าหนูนี่ได้รู้ซึ้งในรสชาติของค�ำว่าทาส” ชีคกาหริบพยักหน้าพลางตวัดสายตาอันปราศจากความรู้สึกไปยังเด็กหนุ่มซึ่ง มีวยั ไล่เลีย่ กับหลานสาวคนโตพร้อมพิจารณาอย่างถีถ่ ว้ น ตามเนือ้ ตัวของผูถ้ กู เรียกขาน ว่าทาสมีแต่ฝนุ่ ทราย รอยบาดแผล และยังมีรอยเลือดแห้งกรังติดอยู่ ตามเสือ้ ผ้ามีรอ่ งรอย ของสายแส้ที่ประทับเอาไว้ รวมทั้งมีรอยแผลเป็นทางยาวซึ่งสามารถเห็นภาพได้เลยว่า เด็กชายผูน้ ถี้ กู ทารุณด้วยวิธใี ดบ้าง เห็นสภาพเช่นนีแ้ ล้วก็เวทนานัก ชีคหนุม่ จึงพยักหน้า ให้กับยูโซแทนค�ำสั่ง “นายข้าสนใจจักซื้อตัวเด็กน้อยผู้นี้ ท่านตั้งราคาไว้เท่าไหร่หรือ?” ชายผิวหมึกดวงตาปราศจากความเมตตาแจ้งราคา จากนั้นเงินค่าไถ่อิสรภาพ จ�ำนวนหนึ่งซึ่งมีค่าเท่ากับราคาอูฐหนึ่งตัวจึงถูกโยนให้ “โอ้ข้าลืมบอกไป ว่ายังมีค่ากุญแจนี่อีก” ยูโซหันมาขอความเห็นกับผู้เป็นนายทันทีที่พ่อค้าทาสเล่นตุกติก “จ่ายให้เขาไป” 60


อาคาเซีย

ยูโซค้อมศีรษะให้ผเู้ ป็นนายเป็นการน้อมรับค�ำสัง่ แล้วโยนเงินค่าไถ่ให้ชายผิวหมึก อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ยูโซได้รับรอยยิ้มอันน่าสยดสยองพร้อมลูกกุญแจจากพ่อค้าทาส รายนี้ด้วย “อิสระของเจ้าเป็นของวาณิชรูปงามนั่นแล้วเจ้าหนูน้อย” ชายผิวหมึกตบศีรษะ ทาสตัวน้อยเป็นการส่งท้ายขณะเปิดประตูให้เด็กนั่นมุดออกจากกรงขังเช่นสัตว์ตัวหนึ่ง พร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยเมื่อสร้างประสบการณ์อันน่าเจ็บปวดให้กับเด็กน้อย รายนี้ได้ ชีวติ ต้องด�ำเนินต่อไป พอหลุดออกจากกรงขังมาได้เด็กชายนามอาลีซงึ่ มีสภาพ อิดโรยบอบช�้ำไปทั้งร่างกายและจิตใจจึงเดินโงนเงนมาคุกเข่าเพื่อแสดงความเคารพ ต่อท่านผู้มีพระคุณ “ข้าชื่ออาลี ยินดีรับใช้นายท่านขอรับ” มิมีใครเสียเวลาสนใจทาสตัวน้อย หาก จักมีก็แต่ค�ำสั่งของชีคกาหริบเท่านั้น “ขึ้นมาบนหลังม้า” เด็กน้อยรีบทรงตัวลุกขึ้น ท�ำท่าว่าจักขึ้นหลังม้าสีนิลทันที แต่ผู้ติดตามอย่างยูโซก็คว้าตัวเอาไว้ก่อน “ตัวนี้ต่างหากเจ้าหนุ่มน้อย” ผูห้ า้ มปรามโดดขึน้ หลังม้าอย่างช�ำนาญ จากนัน้ มือหนาของยูโซจึงยืน่ ไปให้ทาส ตัวน้อยด้วยความเมตตาพร้อมออกแรงฉุดให้ขึ้นบนหลังม้า ก่อนพุ่งทะยานตามหลัง ผู้เป็นนายไปติดๆ จนกระทั่งควบม้ามาถึงตลาดเดินเท้านั่นล่ะ ชีคกาหริบจึงกระตุกสาย บังเหียนให้ม้าคู่ใจหยุดฝีเท้าลงจากนั้นจึงส่งสายบังเหียนให้กับผู้ติดตามยูโซเพื่อน� ำม้า ไปพักยังโรงรับฝาก กระนั้นทุกฝีก้าวของยูโซคงมีเด็กน้อยอาลีตามเป็นเงา ซ�้ำเด็กน้อย ที่รู้หน้าที่ของตนเองดียังช่วยจูงม้าไปเก็บอย่างคล่องแคล่วจนยูโซชักร�ำคาญเมื่อถูกแย่ง หน้าที่ไปดื้อๆ “นายท่านขอรับ แล้วเจ้าหนูน้อยผู้นี้ล่ะขอรับ?” ร่างสูงซึ่งมิสนใจสินค้ามีชีวิตปรายหางตามามองทาสตัวน้อยแวบหนึ่ง “ไขกุญแจมือนั่นออกแล้วปล่อยตัวไปซะ” “ขอรับ” ยูโซรับค�ำสัง่ อย่างกระตือรือร้นในทันที “เอาล่ะเจ้าหนู อิสระเป็นของเจ้า แล้ว จงขอบคุณนายของข้าซะ” อาลีรบี ปฏิบตั ติ ามค�ำสัง่ นัน้ ด้วยการคุกเข่าอันมีแผลเป็นลงตรงหน้าวาณิชรูปงาม ผู้ใจดี 61


เงารักในรอยทราย

“ขอบคุณนายท่านมากขอรับ พระคุณครั้งนี้ข้าอาลีจักขอจดจ�ำไปจนวันตาย” มีรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าและดวงตาของเด็กน้อยซึ่งฉายชัดออกมาให้เห็น “เอาเถอะมิต้องขอบใจอะไรข้าหรอก มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ข้าพึงกระท�ำอยู่แล้ว ต่อจากนีไ้ ปชีวติ เป็นของเจ้าเองแล้วเจ้าหนูนอ้ ย จักไปแห่งหนใดก็ไปตามแต่ใจเจ้าปรารถนา เถิด แต่จงพึงระวังพวกพ่อค้าทาสให้ดี หากเจ้าถูกคนพวกนัน้ จับได้อกี ก็ใช่วา่ เจ้าจักโชคดี เสมอไป” ชีคหนุม่ ผูม้ เี มตตาก�ำชับก่อนเดินจากไป ทว่าเด็กน้อยก็มมิ ที ที า่ ว่าจะไปจากตรง นั้นง่ายๆ ซ�้ำยังเดินตามหลังผู้มีพระคุณมาอีกจนยูโซต้องหันไปถลึงตาใส่ “อ้าว ท�ำไมมิไปตามทางของเจ้าอีกล่ะ?” เจอค�ำตวาดจากน�ำ้ เสียงดุดนั เข้าไปเด็กน้อยจึงหดคอ กระนัน้ ก็มวิ ายยืดคอขึน้ มา แจงเหตุผล “กระผมถูกจับตัวมาจากต่างเมือง บ้านเรือนถูกไฟสงครามเผามอดไหม้หมดแล้ว ส่วนญาติพนี่ อ้ งทีม่ กี ถ็ กู จอมโจรสังหาร บางส่วนทีห่ นีรอดกระจายไปคนละทิศทาง ไหนๆ นายท่านทัง้ สองก็เมตตากระผมมาแต่ตน้ แล้ว ดังนัน้ นายท่านโปรดเมตตาให้ความเอ็นดู กับกระผมต่อไปด้วยเถิดขอรับ” อาลีคุกเข่าที่บาดเจ็บลงบนพื้นทรายอีกครั้ง และ ถ้อยค�ำทิ่มแทงใจด�ำนี้นี่เองที่ท�ำให้ชีคกาหริบต้องทอดถอนหายใจออกมายาวและนาน กว่าปกติ ในสงครามนั้นเกิดเรื่องโศกเศร้ามากมายนัก มีเด็กก�ำพร้าจ�ำนวนมากเกิดขึ้น หลังจากสงครามยุติลง ซึ่งเด็กจ�ำนวนสองในสิบนั้นได้ถูกพ่อค้าทาสหัวใสกวาดต้อนมา เป็นทาสเชลย และดูว่าเด็กน้อยตรงหน้าผู้ซึ่งก�ำลังเติบโตเป็นหนุ่มในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็คงมิรอดจากชะตากรรมอันน่าหดหู่นี้ “เจ้าช่างละโมบเหลือเกินนะเจ้าหนู นายท่านของข้าซื้อชีวิตไถ่อิสรภาพให้แก่ เจ้าแล้วเจ้าจักเรียกร้องอันใดอีก” ยูโซต�ำหนินึกร�ำคาญแทนผู้เป็นนาย แต่พอเด็กน้อย หน้าเผือดสีลงชีคกาหริบจึงยกมือขึ้นปรามเสียก่อน “อย่าต�ำหนิอาลีเลยยูโซ การสูญเสียเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ต้องเผชิญหน้ากับ สงคราม ข้าเองก็เคยมีสว่ นเกีย่ วข้องกับเรือ่ งนี้ อย่างไรเสียข้าคงปฏิเสธความรับผิดชอบ อันนี้มิได้” เด็กน้อยอาลีทำ� หน้างงๆ กับถ้อยค�ำนัน้ แต่กย็ นิ ดีมนิ อ้ ยเมือ่ เงยหน้ามาเห็นรอย ยิ้มของวาณิชหนุ่มผู้ใจดี 62


อาคาเซีย

“ไหนๆ โชคชะตาได้กำ� หนดให้ขา้ พบเจ้าแล้ว จงมาเป็นผูต้ ดิ ตามของข้าเถิดอาลี” มือหนายื่นมาให้อาลีจับโดยมิรังเกียจว่ามือนั้นจักเปื้อนสิ่งใดมาบ้างพร้อมทั้ง ฉุดให้รา่ งเล็กนัน้ ลุกขึน้ ซึง่ ความเมตตาของวาณิชหนุม่ รูปงามนัน้ น�ำความตืน้ ตันมาสูอ่ าลี นัก ทว่าเสียงท้องร้องขออาหารของอาลีก็ดังขึ้นจนเด็กน้อยต้องรีบเอามือปิดท้องของ ตนเองเอาไว้พร้อมยิม้ แหยๆ ให้ ซึง่ กิรยิ านัน้ สร้างรอยยิม้ อย่างเอ็นดูให้ชคี กาหริบได้ดนี กั “เอาล่ะก่อนอืน่ เราควรหาอาหารรองท้องกันสักหน่อย” ชีคหนุม่ แย้มยิม้ ก่อนเดิน น�ำไปยังร้านขายอาหารริมทางในทันที...

63


เงารักในรอยทราย

5 หาข่าว

เช้าจรดค�ำ่ ค�ำ่ จรดเช้ารวมเป็นเวลาเจ็ดราตรีเต็มทีช่ คี กาหริบซึง่ อยูใ่ นคราบวาณิช คงเดินทางเร่รอนในท้องทะเลทราย โดยแวะเวียนไปรอบก�ำแพงเมืองชัน้ นอกซึง่ กินพืน้ ที่ อาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล รวมทัง้ พูดคุยกับทหารผูร้ กั ษาป้อมปราการทุกด่านทีม่ กี าร ตัง้ ด่านตรวจคนเข้าเมืองและเก็บภาษีคาราวานพ่อค้าทีข่ อเข้ามาค้าขายแลกเปลีย่ นสินค้า ในเมืองฟาติน เพื่อหาข่าวความเคลื่อนไหวว่ามีคนของนครแห่งทาสแทรกแซงเข้ามาอยู่ ในเมืองฟาตินอย่างที่มหาเสนาราเมซเขียนรายงานหรือไม่ ซึง่ รายละเอียดทีไ่ ด้จากเหล่าทหารผูด้ แู ลรักษาความปลอดภัยของป้อมปราการนัน้ ท�ำให้ชีคกาหริบรับรู้ว่ามิมีสิ่งแปลกปลอมอันใดหลงเข้ามา หากจักมีมาเยอะเห็นจักเป็น ความเคลือ่ นไหวของคาราวานเร่จากทีอ่ นื่ นัน่ ล่ะทีเ่ พิม่ จ�ำนวนมากขึน้ กว่าทุกๆ ปีทผี่ า่ นมา “มินา่ เชือ่ ว่านครฟาตินจักมีชาวเบดูอนิ ร่อนเร่เข้ามาค้าขายสินค้ามากถึงเพียงนี”้ ชีคกาหริบเอ่ยขึ้นเมื่อจูงม้าฝีเท้าดีคู่ใจเข้ามาในเขตโอเอซิสซึ่งอยู่นอกก�ำแพงเมืองฟาติน ในเวลาพลบค�่ำ และชีคหนุ่มก็พบว่าค�่ำนี้มิเพียงแต่เขาเท่านั้นที่ต้องการที่พัก เพื่อนร่วม เดินทางไกลทัง้ หมดได้แวะมาพักแรมทีน่ ดี่ ว้ ยเช่นกัน ตอนนีโ้ อเอซิสเล็กๆ ซึง่ เขาเคยแวะ มาพักแรมมีกระโจมน้อยใหญ่กางเต็มไปหมด 64


อาคาเซีย

“มิเพียงชาวเบดูอนิ นะขอรับ ยังมีชาวยิปซีเร่รอ่ นด้วย” ยูโซผายมือไปยังกระโจม ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ติดกับโขดหินอันมีเหล่านางงามในชุดแต่งกายสีสดใสถึงห้านางที่ออก มาช่วยกันเตรียมอาหาร และกลิ่นซุปข้นๆ ส่งกลิ่นหอมฉุยลอยออกจากหม้อดินนี่ล่ะที่ เรียกเสียงท้องร้องของอาลีได้ดีนัก “คืนนี้พวกเราคงต้องพักแรมกันที่นี่” “เช่นนั้นนายท่านรออยู่ตรงนี้สักครู่นะขอรับ กระผมจักลองสอบถามดูว่าพอมี กระโจมว่างส�ำหรับเราบ้างไหม” ชีคหนุ่มเพียงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ผู้ติดตามใกล้ชิดแสนซื่อสัตย์อย่างยูโซ จึงหายไปพักใหญ่แล้วกลับมาพร้อมกับข่าวดี “เราได้ทพี่ กั แล้วขอรับนายท่าน เจ้าของกระโจมใหญ่ดา้ นนูน้ น�ำอูฐไปขายในเมือง พรุ่งนี้เย็นๆ ถึงกลับมา จึงว่างส�ำหรับเราสามคนพอดี” ยูโซยิ้มกว้างขณะรายงาน “ดีมาก” ชีคหนุ่มเอ่ยปากพลางคว้าถุงเสบียงจากหลังม้าลงมา แต่ยูโซกับอาลี ทีร่ หู้ น้าทีข่ องตนเองดีจงึ รีบช่วยกันหอบสัมภาระทัง้ หมดนัน่ ลงจากหลังม้าโดยทีย่ โู ซเป็น ผู้น�ำทางไปยังกระโจมพักแรมในทันที รอบๆ บริเวณกระโจมทีพ่ กั อันซอมซ่อนัน้ เต็มไปด้วยโขดหินทราย ภายในกระโจม รึกเ็ ก่าและเหม็นอับ แต่นนั่ ก็มใิ ช่ปญ ั หาส�ำหรับชีคหนุม่ แต่อย่างใด หรือต่อให้ทพี่ กั ย�ำ่ แย่ กว่านี้อีกสิบเท่าชีคหนุ่มก็ยินดีที่จักพักแรม ทั้งนี้เป็นเพราะเขาได้ถูกฝึกปรือเรื่องการ เผชิญหน้ากับความล�ำบากมาแล้วเป็นอย่างดีนั่นเอง “นายท่านทั้งสองพักผ่อนเถิดขอรับ เดี๋ยวกระผมออกไปหาเสบียงแห้งมาให้” อาลีเอ่ยขึน้ หลังจากท�ำความสะอาดกระโจมเรียบร้อยแล้ว ยูโซซึง่ ก�ำลังเตรียมอาหารเย็น ให้ผเู้ ป็นนายจึงหันมามองหน้าชีคกาหริบเป็นเชิงถามในทันที ด้วยว่ายังมิไว้วางใจเด็กน้อย ผู้นี้เท่าไหร่นัก แต่ชีคหนุ่มก็พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต “ไม่ต้องหามามากนักหรอกอาลี พรุ่งนี้ข้าก็เดินทางกลับแล้ว” “ขอรับ” อาลีค้อมศีรษะให้อย่างกระตือรือร้นก่อนออกนอกกระโจมไป เมื่อได้ อยู่กันตามล�ำพังแล้วยูโซจึงน�ำอาหารแห้งที่เตรียมมาด้วยออกไปปรุงอาหาร พออาหาร ร้อนๆ สุกแล้วจึงตักใส่ถ้วยมามอบให้กับชีคหนุ่มในกิริยาส�ำรวมนอบน้อม กระนั้นยัง มิวายมองหาเพื่อนร่วมทางตัวน้อยที่ติดสอยห้อยตามกันมาร่วมสัปดาห์ “มองหาอาลีหรือ?” ร่างใหญ่ซึ่งเอนหลังในกิริยาสบายๆ เอ่ยขึ้น “ขอรับ กระผมมิกล้าไว้วางใจเจ้าเด็กอาลีนี่เลยขอรับ” “ท�ำไมล่ะ?” ผู้รับประทานอาหารปรายตามอง 65


เงารักในรอยทราย

“สายตาหวาดกลัวของเจ้าเด็กนั่น ท�ำให้ผมนึกถึงสายตาของทาสเชลยขอรับ” ได้ยินเช่นนั้นชีคหนุ่มจึงยิ้มมุมปาก “ก็อาลีเป็นทาสเชลยนี่ยูโซ มิแปลกหรอกหากเจ้าจักเห็นและรู้สึกเช่นนั้น” “มันมิใช่ทาสเชลยธรรมดาสิขอรับ แต่เป็นสายตาของทาสเชลยที่ถูกส่งให้มา เป็นบรรณาการ นายท่านมิสังเกตหรือขอรับว่าผิวพรรณของเจ้าเด็กอาลีนี้ดูหมดจดกว่า ทาสทั่วๆ ไป” “ข้าเห็นสิ่งนั้นแล้วล่ะ เพราะอย่างนี้ไงข้าถึงต้องรับอุปการะเด็กนี่ไว้ บางทีอาลี อาจเป็นบุตรของคหบดีจากนครไหนก็ได้” พอได้ยินชีคกาหริบเปรยออกมาเช่นนั้น ผู้ติดตามรับใช้ใกล้ชิดอย่างยูโซจึง หมดเรื่องไม่สบายใจในทันทีเมื่อตระหนักรู้ว่าชีคกาหริบนั้นมองการณ์ไกลกว่าตนเอง พอไม่มีเรื่องติดใจอันใดสนทนาแล้ว ผู้ติดตามจึงหันมาสนใจกับการท�ำความสะอาด ทีพ่ กั ให้ตนเอง จนกระทัง่ อาลีกลับมาพร้อมกับเนือ้ แห้งพวงน้อยนีล่ ะ่ ยูโซจึงคว้ากระติก น�้ำขึ้นมาสะพายบนบ่า “เดี๋ยวกระผมขอตัวไปตักน�้ำก่อนนะขอรับ” ยูโซหันมาบอกผู้เป็นนายซึ่งตอนนี้ ก�ำลังเอนหลังในอิริยาบถแสนสบายและก�ำลังให้ความสนใจอยู่กับแผนที่หนังสัตว์ ร่างสูงสง่างามละสายตาจากแผนที่แล้วพยักหน้าให้ “ไปเถิดยูโซ แล้วอย่าลืม หาหญ้าให้ม้ากินด้วยล่ะ” “ขอรับ” ภายในกระโจมทีพ่ กั คงเงียบสงบเมือ่ ผูเ้ ป็นนายมิสนใจผูต้ ดิ ตามตัวน้อยทีซ่ อื้ มา เพียงไม่นานยูโซจึงกลับเข้ามาในกระโจมพักแรมพร้อมกับข่าวใหม่อันน่าสนใจ “นายท่าน ได้กลิ่นแล้วขอรับ” ร่างสูงเพรียวรีบวางกระติกน�ำ้ ซึง่ หุม้ ด้วยหนังสัตว์ลงพร้อมขยับตัวมาใกล้ผเู้ ป็นนาย ในกิริยาสุภาพเรียบร้อย ทว่าหันมาเจอสายตาใคร่รู้ของเด็กอาลี ถ้อยค�ำที่เตรียมมาพูด จึงกลืนหายไปในล�ำคอเสียก่อน “ว่ามาเถิดยูโซ ในนี้มีแต่คนของเราทั้งนั้น” ผู้เป็นนายกล่าวด้วยน�้ำเสียงเนิบๆ เป็นเชิงอนุญาต ยูโซท�ำหน้าตาไม่ไว้วางใจ ซ�้ำยังปรายตาไปมองเด็กอาลีซึ่งนั่งอยู่ในกองเสบียง และก�ำลังตัง้ หน้าตัง้ ตากินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอีกครัง้ แต่เมือ่ ชีคหนุม่ พยักหน้าซ�ำ้ เป็น ครั้งที่สองยูโซจึงต้องรายงาน 66


อาคาเซีย

“กระผมพบข่าวความไม่ชอบมาพากลแล้วขอรับนายท่าน แต่มิใช่บุคคลส�ำคัญ ที่เราก�ำลังตามหา” “เจ้าพบใครรึ?” ชีคหนุ่มผู้หยิบถ้วยชาขึ้นจิบถามด้วยน�้ำเสียงเนิบๆ “กระผมพบนักฆ่าขอรับ ได้ยินว่ามาล่าหัวของจอมโจรทะเลทรายซีมุส” เพียงนามเดียวที่ได้ยินก็ท�ำให้เด็กน้อยอาลีหน้าเผือดสี พลางลอบกลืนน�้ำลาย ลงคออย่างยากล�ำบาก แต่ยังตั้งใจฟังบทสนทนาของผู้เป็นนายต่อ “มันมิใช่เรื่องของเราโดยตรงแต่ก็ใช่ว่าจักละเลยไปได้ มีความเป็นไปได้สูงที่ จอมโจรทะเลทรายนั่นอาจหลบหนีเข้ามาในนคร” ชีคหนุ่มตั้งสมมุติฐาน มือหนาคงจับ ถ้วยชาหมุนเล่นในอาการครุ่นคิด “ใช่ขอรับ กระผมเคยพบโจรถ่อยนี่” เป็นอาลีที่แทรกขึ้น แน่นอนว่ากิริยานั้น น�ำความไม่พอใจมาสู่ยูโซนัก “ใครใช้ให้เจ้าแสดงความคิดเห็นหรือเจ้าอาลี?” เด็กชายซึง่ ก�ำลังอยูใ่ นอาการหวาดกลัวก้มหน้างุดในทันที ชีคกาหริบจึงต้องหัน ไปยกมือปรามผู้ติดตาม “อย่าต�ำหนิอาลีเลย ปล่อยให้อาลีได้พูดเถิด” พอได้รับอนุญาตเช่นนั้นอาลีกลับเงียบไปดื้อๆ จนยูโซต้องท�ำเสียงกระแอมไอ ในล�ำคอ “ว่าอย่างไรเล่าเจ้าอาลี?” “จงเล่าในสิ่งที่เจ้ารู้มาออกมาเถิด... อาลี” “ขอ... ขอรับ เมื่อสัปดาห์ก่อนกระผมถูกคนของจอมโจรซีมุสจับตัวมาขอรับ” เด็กน้อยเล่าด้วยน�้ำเสียงหวาดกลัว สีหน้าของเด็กชายเผือดสีอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทุก เหตุการณ์ยงั ฝังแน่นอยูใ่ นกล่องความทรงจ�ำ ซึง่ ท่าทีนเี้ องทีท่ ำ� ให้ชคี กาหริบต้องหรีต่ าลง แม้นมิใช่อริศัตรูกันโดนตรง แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าจอมโจรด้วยแล้วย่อมเป็นสิ่งที่ ชีคกาหริบมิปรารถนา ยิ่งเป็นจอมโจรซีมุสผู้เหี้ยมโหดที่หลงเข้ามาอยู่ในนครฟาติน ด้วยแล้วยิ่งสมควรต้องก�ำจัดให้สิ้นซากโดยไว ทว่ายังมิทันไต่ถามรายละเอียด ยูโซ ก็แทรกขึ้นเสียก่อน “หน็อยแน่ เป็นเด็กเป็นเล็กปากเพิง่ จักสิน้ กลิน่ น�ำ้ นมมิเท่าไหร่กร็ อิ าจโป้ปดแล้วรึ อย่างเจ้าก็แค่ทาสเร่ร่อน อย่าว่าแต่จอมโจรซีมุสจักสนใจเจ้าเลย แม้นแต่โจรกระจอกๆ ก็ยังมิชายตาแลเจ้าด้วยซ�้ำเจ้าอาลี” 67


เงารักในรอยทราย

ขอรับ”

“แต่กระผมพูดความจริงนะขอรับ พวกนัน้ จับตัวกระผมมา มิเชือ่ นายท่านดูนสี่ ิ

อาลีรีบเปิดเสื้อตัวใหม่ซึ่งได้รับจากท่านชีคขึ้น พร้อมแสดงรอยแผลเป็นอัน เกิดจากเหล็กเผาไฟซึ่งประทับตราสัญลักษณ์แห่งทาสอันเป็นรูปดาบไขว้ซึ่งปรากฏเป็น รอยแผลเป็นที่ยังมิแห้งสนิทดี เพียงแค่เห็นสัญลักษณ์ชีคกาหริบซึ่งมีท่าทีสบายๆ จึงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมแล ให้ความสนใจในทันที เพราะนามของจอมโจรซีมุสที่พูดถึงนี้ก�ำลังเป็นที่หวาดกลัวของ เหล่านักเดินทางไกลร่อนเร่ในท้องทะเลทรายในตอนนี้นัก “ชายผิวหมึกที่น�ำเจ้ามาขายเร่ในตลาดเป็นหนึ่งในจอมโจรซีมุสด้วยรึ?” เด็กน้อยส่ายหน้าในทันที “กระผมมิทราบขอรับ รู้แค่ว่าชายผิวหมึกค้าขายกับ พวกโจร” “เช่นนั้นเจ้าพอรู้หรือไม่ว่าผู้ที่จับตัวเจ้ามามุ่งหน้าไปที่ใด?” อาลีส่ายหน้าให้กับผู้เป็นนายเหนือหัวอีกเช่นเคย “กระผมมิทราบปลายทางที่ แน่ชดั ของคนพวกนัน้ ขอรับ กระผมรูแ้ ค่วา่ หลังจากโจรพวกนัน้ ขายกระผมให้พอ่ ค้าทาส แล้วจึงเดินทางออกนอกเมืองไปเลย” ค�ำบอกเล่าของเด็กน้อยนั้นท�ำให้บรรยากาศภายในกระโจมอันซอมซ่อตกอยู่ ภายใต้อ�ำนาจความเงียบอีกครั้ง จนได้ยินเสียงดนตรีจากกระโจมหลังอื่นซึ่งดังมาจาก พวกยิปซีเร่ร่อน “เอาเถิดยูโซ นีม่ ใิ ช่เรือ่ งของเรา และตอนนีพ้ วกเราทัง้ หมดก็ควรพักผ่อนเอาแรง ได้แล้ว ย�่ำรุ่งเราต้องออกเดินทางไกลกันอีก” ความต้องการของนายเหนือหัวคือข้อยุติ ของทุกบทสนทนา ยูโซจึงค้อมศีรษะอย่างนอบน้อม “ขอรับ นายท่านพักผ่อนเถิด เดีย๋ วกระผมกับอาลีจกั อยูย่ ามเฝ้าดูความปลอดภัย ให้นายท่านเอง” ฝีเท้าม้าเร็วมุ่งสู่ประตูเมืองชั้นในในตอนพลบค�่ำเมื่อยูโซผู้ติดตามเป็นผู้ แสดงตราสัญลักษณ์ของผู้น�ำให้ผู้เฝ้าประตูดู เพียงม้าศึกน�ำพาผู้เป็นนายผ่านเข้ามายัง ตัวเมืองเสียงหนึ่งจึงตะโกนขึ้น “ท่านชีคกาหริบกลับมาแล้ว” เสียงนัน้ เองทีน่ ำ� พาให้เหล่าทหารองครักษ์ซงึ่ ดูแลความปลอดภัยให้กบั ประตูเมือง ชั้นในทั้งหมดคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ปกครองซึ่งหายไปจากนคร 68


อาคาเซีย

เป็นเพลากว่าสิบราตรีในทันที กิรยิ านอบน้อมของผูค้ นรอบข้างนีเ่ องทีท่ ำ� ให้ผตู้ ดิ ตามท่านชีค คนใหม่ที่ไม่รู้ฐานะอันแท้จริงของผู้เป็นนายถึงกับตื่นตระหนกและหวาดกลัว... “นะ...นายท่านขอรับ ที่นี่ที่ไหนหรือขอรับ?” ค�ำถามจนเกือบเป็นกระซิบท�ำให้ ยูโซที่ยังคุมสายบังเหียนพาม้าคู่ใจเดินเหยาะๆ บนพื้นหินหันไปสนใจเด็กน้อยซึ่งนั่งอยู่ บนหลังม้านิดหนึ่ง “นครฟาตินไงเล่า เจ้าอย่าเพิ่งซักไซ้อันใดข้าตอนนี้ได้ไหมเจ้าหนู” โดนยูโซดุอีกเช่นเคยอาลีจึงสงบปากสงบค�ำ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองความงดงาม อันหาที่ไหนมาเทียบมิได้ แม้นแต่นครซากีมุสน่าอันงดงามที่จากมาก็เถิด พอเงยหน้า ขึ้นเบื้องสูงพร้อมกับนายเหนือหัว อาลีจึงเห็นดวงไฟสีส้มดวงน้อยสว่างไสวในที่มืด แต่ก็มิสนใจอันใดนอกจากมัวตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศรอบข้าง ทว่าส�ำหรับชีคกาหริบ ที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรกลับนั่งเฉยบนหลังม้าอีกมิได้ “ดาเนียน” ชีคหนุม่ พึมพ�ำเบาๆ เมือ่ เงยหน้าเผลอสบสายตากับนางงามผูถ้ อื ดวง ตะเกียงนั่นเข้า “ฝากเก็บม้าให้ข้าด้วยยูโซ” สั่งเสร็จร่างสูงอันสง่างามซึ่งอยู่ในคราบวาณิชหนุ่มจึงรีบผละเข้าหาแสงสว่าง ในอาคารซึ่งเป็นห้องประชุมทันทีโดยมิสนใจค�ำถามของผู้ติดตามอย่างยูโซสักนิด “ถามก็มิตอบ แล้วกระผมจักรับใช้ท่านชีคได้อย่างไร” พึมพ�ำกับตนเองเสร็จ ยูโซทีพ่ าอาลีมาบนหลังม้าด้วยจึงคว้าสายบังเหียนม้าของท่านชีคเอาไว้กอ่ นพาม้าศึกแสนรู้ ของท่านชีคไปเก็บในคอกทันที กระนั้นอาลีที่ยังติดตามยูโซไปยังตื่นเต้นและตื่นตระหนกกับสิ่งปลูกสร้างอัน แปลกตาไม่น้อย มิเพียงแต่บ้านเรือนซึ่งต่างจากชาวเมืองซากีมุสน่าแล้ว แต่การแสดง ความเคารพนอบน้อมของเหล่าทหารองครักษ์นั่นยิ่งเป็นสิ่งยืนยันถึงฐานะอันยิ่งใหญ่ ของวาณิชหนุ่มผู้เป็นนายเหนือหัวนั่นด้วย และนี่เองที่ท�ำให้อาลีสะท้านเยือกจนเส้นขน ทุกเส้นชูชัน “อ้าว เป็นอันใดไปเล่าเจ้าหนู?” ยูโซหันมาถามด้วยรอยยิม้ จางๆ เมือ่ เห็นเด็กน้อย ท�ำหน้าตาตื่นตระหนก มองนั่นมองนี่เลิ่กลั่ก “นะ...นายท่านขอรับ นายท่านของนายท่านคือท่าน... ท่านชีคหรือขอรับ?” พอค�ำถามนัน้ หลุดออกจากคอไปแล้วอาลีจงึ ลอบกลืนน�ำ้ ลายลงคอ เพราะขณะที่ ถูกจอมโจรซีมุสจับตัวมา อาลีได้ยินจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่พูดถึงความโหดเหี้ยมอันน่า สะพรึงกลัวของชีคหนุ่ม ริยาร์ด อิมฮาซา และ ชีคกาหริบ อิมฮาซา เจ้าผู้ปกครอง นครฟาตินแห่งนี้ แต่ค�ำถามนัน่ กลับท�ำให้องครักษ์ผตู้ ดิ ตามรับใช้ทา่ นชีคกาหริบมานาน 69


เงารักในรอยทราย

ต้องยิ้มกว้างอย่างขบขันกับกิริยาตื่นๆ ของอาลี “ใช่แล้ว ข้าจักบอกความลับบางอย่างให้เจ้าฟังนะเจ้าหนูนอ้ ย นายของข้าคือชีค กาหริบ อิมฮาซา ผู้ยิ่งใหญ่ ข้าคิดว่าเจ้าน่าจักรู้จักนามนี้มาบ้างนะ” พอรับรูถ้ งึ ฐานะแท้จริงอาลีจงึ กลืนน�ำ้ ลายลงคออย่างยากล�ำบากอีกครัง้ “นายท่าน ขอรับ แล้ว... แล้วท่านชีคกาหริบ เอ่อ... ดุสมค�ำร�่ำลือหรือเปล่าขอรับ?” “แล้วกว่าสิบราตรีที่เดินทางร่อนเร่ในทะเลทรายด้วยกัน เจ้าคิดเช่นไรล่ะ?” “กระผมมิทราบขอรับ” อาลีตอบเสียงสั่น “ก็มีบ้าง... แต่มิใช่ทุกครั้ง ในเมื่อเจ้าอาสาติดตามรับใช้ท่านชีคเองก็อย่าเพิ่ง ถอดใจกลับค�ำในตอนนี้ล่ะ เมื่อรู้ฐานะแท้จริงของนายข้าแล้วเจ้าก็ควรเคารพและให้ ความซื่อสัตย์ต่อท่านชีคผู้มีบุญคุณเอาไว้ให้มากๆ เพราะมันจักเป็นผลดีต่อตัวเจ้าเอง ในกาลข้างหน้านะเจ้าหนู” เสียงที่ยูโซลากหายไปในล�ำคอช่างสร้างความกดดันให้อาลีผู้มาจากต่างแดน มากนัก “ขอ... ขอรับนายท่าน” เด็กชายรับค�ำพลางกลืนน�้ำลายลงคออย่างหวาดหวั่น และสีหน้านี้เองที่ท�ำให้องครักษ์อย่างยูโซต้องหัวเราะออกมา “ท�ำตัวให้ทา่ นชีคเอ็นดูเข้าไว้อาลี ท่านชีคกาหริบน่ะท่านมีเมตตา มิตอ้ งกลัวเกรง ในสิ่งที่เจ้าได้ยินมาหรอกนะ เพราะนั่นมิใช่ความจริงทั้งหมด” มือหนาของผู้มากวัยกว่า ตบไหล่เบาๆ อย่างให้กำ� ลังใจ ผูซ้ งึ่ เคยได้ยนิ นาม ชีคกาหริบ อิมฮาซา ว่าดุรา้ ยเช่นพญา เหยี่ยวคราสู้รบอยู่ในสงครามอย่างอาลีจึงคลายความกังวลไปได้เปลาะหนึ่ง กระนั้นก็ คงมิใช่ทั้งหมด “เรื่อง... เรื่องที่นายท่านกล่าวเป็นความจริงนะขอรับ” “เอ๊ะ เจ้าเห็นข้าเป็นคนโป้ปดหรืออย่างไรเจ้าหนู ทหารองครักษ์อย่างข้าถือความ ซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้นแล้วการกล่าวค�ำเท็จคือสิ่งต้องห้ามส�ำหรับข้าเลยเชียว เจ้าจงรับรู้ไว้ด้วยนะว่าท่านชีคกาหริบเกลียดชังคนโกหก หากเจ้ากลัวโดนตัดลิ้นก็จง อย่ากล่าวค�ำเท็จล่ะ” พอได้ทียูโซจึงแกล้งขู่เด็กน้อยอีก “ขอ... ขอรับ” อาลีพยักหน้ารับ กระนัน้ ความหวาดกลัวในใจก็ยงั มิได้หายหมด ในคราวเดียว “เอาล่ะเจ้าหนู ท่านชีคได้มอบหมายหน้าที่อันส�ำคัญให้แก่เจ้าแล้ว จงตามข้า มาเถิด” 70


อาคาเซีย

อาลีจึงกลืนน�้ำลายลงคอกับน�้ำเสียงจริงจังขององครักษ์ยูโซอีกครั้ง ก่อนเดิน ตามหลังองครักษ์หนุ่มอย่างหลีกเลี่ยงมิได้... ร่างสูงใหญ่ในคราบพ่อค้าวาณิชกวาดสายตาหวานฉ�่ำเข้ามาในห้องประชุม กว้างเมื่อได้เห็นหลังไวๆ ของนางงามตัวน้อยในชุดพื้นเมืองสีขาวสะอาดตาถือดวง ตะเกียงวิ่งเข้ามาหลบในห้องอันเป็นสถานที่ต้องห้ามส�ำหรับสตรี “ดาเนียน ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” กระแสเสียงทุ้มต�่ำทรงอ�ำนาจคง สะท้อนก้องในห้องประชุมอันงดงามและเงียบสงบ กระนั้นนางงามตัวน้อยยอดยุ่งที่ ดับดวงตะเกียงในมือยังเลือกทีจ่ กั ปิดปากเงียบ และขดตัวอยูใ่ นทีม่ ดื สลัวข้างแจกันใบโต อย่างนั้น “ดาเนียน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” ไร้เสียงตอบรับใดๆ นอกจากเสียงสะท้อนของตนเองเช่นเดิม จนชีคกาหริบ ต้องออกไปน�ำตะเกียงน�้ำมันหน้าห้องมาถือไว้เพื่อขับไล่ความมืดสลัวนั่นล่ะ ดวงตา หวานฉ�ำ่ จึงปรายไปมองรอบๆ บริเวณอีกครัง้ เมือ่ แสงสีสม้ นวลตาสว่างเจิดจ้าขึน้ กระนัน้ ในห้องโล่งยังมิมีสิ่งใดผิดสังเกต “ดาเนียน ข้าจักให้โอกาสเจ้าเป็นครัง้ สุดท้าย มิเช่นนัน้ ข้าจักออกค�ำสัง่ ให้แม่นม มีนาญ่ากักบริเวณเจ้าเป็นเวลาสิบราตรี” ค�ำขู่นั้นก้องไปในห้องกว้างซึ่งงดงามด้วยศิลปะชั้นเลิศ ร่างน้อยซึ่งขดตัวอยู่ หลังแจกันใบใหญ่พร้อมดวงตะเกียงจึงค่อยๆ ช�ำเลืองสายตามองดูท่าทีของชีคหนุ่ม ดาเนียนรู้ดีว่านี่มิใช่ค�ำขู่ เพราะท่านชีคกาหริบปฏิบัติเช่นนั้นทุกครั้งที่นางดื้อดึงขัดค�ำสั่ง “ได้ยินข้าหรือไม่ ข้าจักนับถึงสาม” ชีคหนุ่มเอ่ยเรียกอีก รู้สึกไม่สนุกเลยที่ต้อง มาเล่นซ่อนหากับนางสนมตัวน้อยอันแสนซุกซนนี่ “หนึ่ง” เพียงสิน้ เสียงดังกังวานอันสะท้อนก้อง นางงามตัวน้อยซึง่ หลบอยูห่ ลังแจกันใบ ใหญ่จึงยอมออกมาปรากฏตัวให้เห็นในทันที “ข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ” ใช่เพียงเสียงขานรับ ดาเนียนยังท�ำความเคารพท่านชีคอย่าง นอบน้อมพร้อมช้อนดวงตาสีมรกตมองร่างสูงใหญ่อันสง่าผ่าเผย ดวงตาสีมรกตอันแฝงฝังความเศร้าคงมิหลบสายตาของชีคหนุ่ม และเป็น ชีคกาหริบเองทีต่ อ้ งผ่อนลมหายใจออกมายาว ใช่วา่ จักเอือมระอาทีพ่ บหน้านางงามตัวน้อย ในสถานทีต่ อ้ งห้ามส�ำหรับสตรี แต่เขารูส้ กึ โล่งอกมากกว่าทีด่ าเนียนปฏิบตั ติ ามค�ำสัง่ ของ เขา แล้วความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลก็อันตรธานหายสิ้นไปในทันทีเมื่อได้พบ วงหน้าของนางงามตัวน้อยผู้แสนซุกซนผู้เป็นดั่งยอดดวงใจนี้อีกครั้ง 71


เงารักในรอยทราย

มิรู้ว่าความรู้สึกร�ำคาญแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพันตั้งแต่เมื่อไหร่ จากเคย เหนือ่ ยหน่ายกับพฤติกรรมอันซุกซนและแสนชาญฉลาดเกินวัยของนาง แต่พอได้ใกล้ชดิ ความรูส้ กึ นัน้ กลับอันตรธานหาย ยิง่ วันเวลาเคลือ่ นผ่านเนิน่ นานเท่าไหร่กลับยิง่ หล่อหลอม ให้ดาเนียนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขามากขึ้นเท่านั้น จนชีคกาหริบมิกล้าปฏิเสธ มิตรภาพระหว่างเขาและดาเนียนอีก ดูว่ายิ่งนานวันก็ยิ่งผูกพันรักใคร่เอ็นดูในตัวนางมากขึ้นเรื่อยๆ จนลืมไปเลย ว่านางงามตัวน้อยนี่ล่ะที่สร้างปัญหาให้เขาอยู่เนืองๆ หรือเพราะนี่เป็นชะตาลิขิตไว้ นาง จึงเป็นมิตรภาพเพียงหนึ่งเดียวที่เขามีให้อิสตรีผู้มาจากต่างสายเลือดและมีฐานะเป็นถึง นางสนมนอกจารีตของเขา “เจ้าเข้ามาซนอะไรในนี้รึดาเนียน รู้หรือไม่ว่าพื้นที่ส่วนนี้คือที่ต้องห้ามของสตรี ในฮาเร็ม?” “ข้ามิสนใจกฎระเบียบพวกนัน้ ข้ารูเ้ พียงว่าข้าปรารถนาแต่เจอหน้าท่านคนแรก เท่านั้น” น�้ำเสียงเล็กๆ ของดาเนียนสั่นน้อยๆ เสมือนแบกรับความโศกเศร้าอันใหญ่โต เอาไว้เพียงผู้เดียว แต่วาจาเกินเด็กนั้นก็ท�ำให้ชีคกาหริบต้องส่ายหน้า “เจ้าพูดออกมาราวกับว่าเจ้าเป็น...” พอเห็นสีหน้านางงามตัวน้อยที่เริ่มมีน�้ำมาคลอ ถ้อยค�ำที่ชีคกาหริบเตรียมมา โต้ตอบกับดาเนียนว่า ‘เจ้าเป็นภรรยาของข้า’ จึงกลืนกลับเข้าไปในล�ำคอเช่นเดิมพร้อม ย่อตัวลงมาช่วยเช็ดน�้ำตาให้กับนางงามตัวน้อย “เป็นอันใดหรือนางงามแห่งข้า?” ยิ่งได้ยินถ้อยห่วงใยจากท่านชีค ยิ่งสัมผัสได้ว่าเขามีตัวตนมิใช่ความฝัน ดาเนียนซึ่งขวัญเสียไปกับเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อหลายราตรีก่อนยิ่งร�่ำไห้หนักกว่าเดิม “อย่าร�่ำไห้สิดาเนียน น�้ำตามิเหมาะกับเจ้าหรอก” ค�ำปลอบประโลมอันแสนอ่อนโยนนั้นกลับยิ่งท�ำให้ดาเนียนร�่ำไห้หนักกว่าเดิม ก่อนโผตัวเข้ากอดร่างสูงใหญ่นั่นทันที “โอ้!” ชีคหนุ่มอุทานด้วยความตกใจ แต่คงมิขัดขืนอันใดกับการกระท�ำของ นางงามตัวน้อย ซ�้ำยังปล่อยให้ดาเนียนร�่ำไห้จนสาแก่ใจ โดยที่เขาได้แต่ลูบแผ่นหลัง เพื่อปลอบประโลมเท่านั้น “เอาล่ะทีนี้จงบอกข้ามาเถิดว่าผู้ใดท�ำให้เจ้าร�่ำไห้เสียน�้ำตา มากถึงเช่นนี้” มิเพียงค�ำถาม ชีคกาหริบยังเช็ดคราบน�้ำตาจากวงหน้าแดงก�่ำและนอง ไปด้วยหยาดน�้ำตานั่นอย่างอ่อนโยน ดาเนียนใช้หลังมือเช็ดปลายจมูกของตนเองก่อน ปรายตาไปรอบๆ บริเวณห้อง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยมิมีใครคนอื่นนอกจากชีคกาหริบ 72


อาคาเซีย

นางจึงเริ่มต้นเล่าเรื่อง “เมื่อสิบราตรีก่อนท่านชีคริยาร์ดมีค�ำสั่งให้ออกค้นหาท่านให้ทั่ว เหล่าทหาร องครักษ์และนางก�ำนัลต่างวุน่ วายกับการหายตัวไปของท่าน ข้ากับท่านหญิงฮันนีจ่ งึ ช่วย ออกติดตามหาท่านอีกแรงเจ้าค่ะ” เพียงประโยคเดียวจากปากดาเนียน ชีคกาหริบก็วาดภาพในหัวได้เลยว่าหลัง ออกจากวังไปเงียบๆ โดยมิได้บอกกล่าวกับใครได้เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับที่นี่บ้าง ส่วน สาเหตุที่เขามิบอกกล่าวแก่ใครก็เพื่อความสะดวกของเขาเอง อีกอย่างการออกหาข่าว ส�ำคัญเช่นนี้หากยกโขยงเหล่าทหารองครักษ์ไปจักเอิกเกริก และนั่นอาจท�ำให้เป้าหมาย ที่เขาต้องการรู้ข่าวไหวตัวและหนีไปได้เช่นกัน “แล้วอย่างไรต่อเล่า?” “วันนัน้ ข้าแอบได้ยนิ ท่านมหาเสนาราเมซพูดคุยกับผูต้ ดิ ตามว่า จักสัง่ นักฆ่าออก ไล่ล่าท่านโดยตั้งรางวัลค่าหัวเป็นเหรียญทองห้าร้อยเหรียญทองเจ้าค่ะ” ค�ำบอกเล่าจากนางงามตัวน้อยท�ำให้ชีคหนุ่มมีสีหน้าเคร่งขรึมกว่าเดิม ก่อน บดกรามเข้าหากันเป็นสันนูนเมือ่ ทราบเรือ่ งโอหังของมหาเสนาเฒ่าผูม้ กั ใหญ่ใฝ่สงู ใช่วา่ เขาจักหูเบาเชื่อค�ำพูดของเด็กน้อยวัยแปดขวบโดยง่าย แต่ที่เขาโกรธนั้นเป็นเพราะการ กระท�ำของมหาเสนาราเมซต่างหาก อย่างคราก่อนที่เขาลงใต้เพื่อปราบจอมโจรทะเลทรายก็เช่นกัน มหาเสนาเฒ่า ราเมซยังส่งนักฆ่ามือดีไปลอบวางยาพิษเพื่อสังหารเขาถึงในค่ายทหาร แต่โชคดีที่ว่า เขาไหวตัวได้ทันจึงสามารถจับตัวผู้ร้ายได้ ทว่าคั้นเอาความผิดและขังตัวไว้ราตรีเดียว เท่านั้น ผู้ลงมือวางยาพิษก็สิ้นลมด้วยยาพิษชนิดเดียวกัน จากการสืบหาหลักฐาน รวมทัง้ เค้นเอาความจริงจึงรูว้ า่ ผูล้ งมือวางยาพิษเขานัน้ เคยเป็นนักฆ่าทาสรับใช้ผซู้ อื่ สัตย์ ของมหาเสนาราเมซนั่นเอง “เรื่องนี้มีใครสมรู้ร่วมคิดบ้าง?” “ข้ามิทราบเจ้าค่ะ ภายในโรงตีเหล็กข้าเห็นเพียงมหาเสนาราเมซกับผู้ติดตาม เท่านั้น” ชีคกาหริบเพียงพยักหน้ากระนัน้ อดหรีต่ าหันมาเอาความผิดจากดาเนียนอีกมิได้ “ว่าแต่เจ้าเข้าไปท�ำอะไรในโรงตีเหล็กรึดาเนียน รู้หรือไม่ว่า...” “ว่าที่นั่นเป็นสถานที่ต้องห้ามส�ำหรับสตรี”

73


เงารักในรอยทราย

ผู้ที่เพิ่งน�้ำตาแห้งไปจากวงหน้าแทรกขึ้น เพราะได้ยินชีคกาหริบใช้ประโยคนี้ ต�ำหนินางมิรู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนจ�ำได้ขึ้นใจ แต่ดาเนียนก็มิเคยปฏิบัติตามค�ำสั่งนั่นเลย สักครัง้ แต่กม็ เิ คยต้องอาญาหนักเลยสักหน เต็มทีก่ แ็ ค่สงั่ กักบริเวณให้อยูแ่ ต่ในโรงทอผ้า เท่านั้นหากนางดื้อขัดใจชีคหนุ่มนี่เข้า พอถูกนางงามตัวน้อยดักคออย่างรู้ทันชีคหนุ่มจึงกระแอมในล�ำคอ “เจ้ายังมิได้ตอบข้าเลยว่าเข้าไปที่โรงตีเหล็กด้วยเหตุอันใด” “เคยได้ยินนางก�ำนัลบอกว่า หากท่านชีคมิอยู่ที่แปลงเพาะช�ำ ก็ต้องอยู่ที่สวน กุหลาบในฮาเร็ม หรือไม่ก็อยู่ในโรงตีเหล็ก ข้าจึงไปตามหาท่านที่โรงตีเหล็กนั่นเจ้าค่ะ” ชีคหนุม่ ยกคิว้ ขึน้ สูงหาได้หลงกลแม่ตวั น้อยง่ายๆ มีหรือทีช่ คี กาหริบจักมิรเู้ ท่าทัน ความซุกซนอันลือเลื่องของนางงามตัวน้อย หากมิเข้าไปเล่นซุกซนตามประสาก็คงแอบ ฝึกดาบจับอาวุธนั่นล่ะ “เหตุผลเพียงนั้นมิท�ำให้เจ้าผู้เข้มแข็งร�่ำไห้ได้หรอกนะดาเนียน” โดนค�ำถามจี้ใจด�ำนางงามตัวน้อยจึงเงียบไป กอดดวงตะเกียงในมือไว้แน่น พลางเม้มปากเป็นเส้นตรงเหมือนปกปิดบางอย่างเอาไว้ “บอกสิ่งที่ปิดบังแก่ข้ามาเถิดดาเนียน เจ้าเป็นคนของข้านะ” “ข้ากลัวเจ้าค่ะ” น�้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเอ่ยถึงสิ่งที่ตนเอง เผชิญมา “อย่ากลัวดาเนียน ข้าอยู่ข้างเจ้าและปกป้องเจ้าเสมอ จงบอกสิ่งที่เจ้าแบกไว้ ให้ข้ารับรู้เถิด” ดาเนียนเงียบไปอีก แต่เมื่อรู้ว่าเปล่าประโยชน์จักเก็บความลับอันน่ากลัวไว้ คนเดียวจึงอ้อมแอ้มออกมา “ท่านมหาเสนาจับได้วา่ ข้าแอบฟังเรือ่ งส�ำคัญนี้ ท่านมหาเสนาจึงเค้นเอาความว่า ข้ามาท�ำอันใดในโรงตีเหล็ก” น�ำ้ เสียงของดาเนียนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมือ่ ระลึกถึง ดวงตาสีน�้ำข้าวอันเหี้ยมโหดคู่นั้นของมหาเสนาราเมซ และของผู้ติดตามนามมิราฟซึ่งมี ความแม่นย�ำในการใช้อาวุธลับ “แล้วเจ้าตอบมหาเสนาเฒ่านั่นว่าอย่างไร?” “ในตอนนัน้ ข้ามิรจู้ กั แก้ตวั เช่นไร จึงปดท่านมหาเสนาว่าข้าวิง่ ตามมาจับกระรอกดิน ที่หลุดหนีให้ท่านหญิงฮันนี่ เพียงเท่านั้น... เพียงเท่านั้นท่านมหาเสนาจึงใช้กริชเล่มน้อย สังหารเจ้ากระรอกดินสหายของข้าในทันที มิหน�ำซ�ำ้ ท่านมหาเสนายังก�ำชับว่าห้ามมิให้ขา้ น�ำเรื่องที่ได้ยินไปบอกกับใครเด็ดขาด มิเช่นนั้นข้าจักเป็นเหมือนกระรอกดินตัวนั้น” 74


อาคาเซีย

ดาเนียนสะอึกสะอื้นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวระคนเสียใจเมื่อต้องสูญเสียสหายรัก ตัวน้อยไปให้กับความขี้ขลาดของตนเอง “ข้าเสียใจที่ท�ำให้เพื่อนของข้าต้องตาย แต่นั่น มิท�ำให้ข้ากังวลมากกว่าการหาท่านมิพบ ทุกซอกทุกมุมอันกว้างใหญ่ของที่นี่ล้วนแต่ ปราศจากเงาของท่าน รู้ไหมว่าข้ากลัว ข้าเป็นกังวลว่าท่านจักได้รับอันตราย ข้ากังวลว่า ท่านจักเป็นเหมือนสหายตัวน้อยของข้า มหาเสนาราเมซช่างน่ากลัวเหลือเกิน” “เฮ้อ... เด็กหนอเด็ก” ชีคหนุ่มร�ำพันกับตัวเองกับความช่างมีน�้ำใจของนางงามตัวน้อย พลางสบ ดวงตาสีมรกตที่ยังมีคราบน�้ำตาเปรอะเปื้อน “ยังมิทันใดเจ้าก็แช่งให้ข้าสิ้นลมหายใจแล้วหรือดาเนียน” “มิใช่นะเจ้าคะ ข้ามิเคยปรารถนาเช่นนั้น หากเป็นอย่างที่ท่านกล่าวหาจริง ข้า คงมิกล้าเสีย่ งต่ออาญามาเฝ้ารอดวงดาวปรารถนาเพือ่ อธิษฐานขอให้ทา่ นปลอดภัยหรอก” นางงามตัวน้อยแย้งพลางเบือนหน้าหนีดื้อๆ เมื่อชีคหนุ่มตีความไปอีกเรื่อง ชี ค กาหริ บ จึ ง ยิ้ ม ขั น กั บ กิ ริ ย าสะดี ด สะดิ้ ง ของนางงามตั ว น้ อ ยที่ ล อกเลี ย น พฤติกรรมของนางในฮาเร็มมาใช้ ก่อนจับร่างเล็กกระจ้อยร่อยให้หันมาสบตากับเขา อีกครั้ง “เจ้ามิมีความจ�ำเป็นอันใดต้องท�ำเช่นนั้นเลยนะดาเนียน ในเมื่อนครแห่งข้าพา ตัวเจ้ามาเป็นหลักประกันความซื่อสัตย์ เจ้าควรจักเกลียดข้า ชิงชังข้าถึงจักถูกต้องนะ นางงามตัวน้อย” “ข้ามิเคยค�ำนึงถึงเรื่องนั้นเลยนะเจ้าคะ ท่านชีคมิเคยปฏิบัติต่อข้าเฉกเช่น บรรณาการ ข้าจึงตระหนักอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณและเป็นมิตร ที่ดีกับข้าเสมอมา” วาจาฉะฉานและฉลาดเป็นกรดของนางงามตัวน้อยนัน้ ท�ำให้ชคี กาหริบต้องลอบยิม้ มุมปากก่อนวางมือหนาลงบนศีรษะเด็กน้อยอย่างเอ็นดู แล้วใช้ปลายนิว้ เกลีย่ คราบน�ำ้ ตา บนวงหน้าของดาเนียนออกอีกครั้ง “ขอบใจในความภักดีของเจ้ามากนะดาเนียน” น�้ำเสียงนั้นคงเต็มไปด้วยความ อ่อนโยนก่อนลุกขึน้ เต็มความสูงแล้วจูงนางงามตัวน้อยจอมยุง่ เดินเอือ่ ยๆ ไปตามทางเดิน ซึ่งเต็มไปด้วยตะเกียงน�้ำมันอย่างไม่รีบร้อนมากนัก “เจ้ายังมิตอบค�ำถามข้าเลยว่าเจ้าเข้าไปท�ำอะไรที่โรงตีเหล็ก” ดาเนียนซึ่งก�ำฝ่ามือใหญ่อันอบอุ่นเอาไว้อดบีบมือหนานั้นไม่ได้เมื่อถูกคาดคั้น เอาค�ำตอบอีก 75


เงารักในรอยทราย

“ข้าตอบค�ำถามท่านไปแล้วนี่เจ้าคะ” “ใช่ เจ้าตอบแล้ว แต่เจ้าตอบมิตรงค�ำถาม” ชีคกาหริบอดปรายตามามอง เด็กน้อยจอมเจ้าเล่ห์อีกมิได้ “บอกข้ามาเถิดว่าเจ้าเข้าไปซุกซนอันใดในนั้น” “ข้ามิได้ซุกซนนะเจ้าคะ ข้าแค่อยากเรียนรู้การใช้อาวุธต่างๆ ให้เป็นก็เท่านั้น” ความคิดอันออกนอกกรอบเกินสตรีพลอยให้ชคี กาหริบต้องส่ายหัว ลองดาเนียน ได้ริเริ่มนั่นก็หมายความว่าหลานสาวคนโตของเขาก็คงจักหันมาสนใจสิ่งนี้ด้วยเช่น กัน แค่จินตนาการไปว่าสองนางงามตัวน้อยนี่ลุกขึ้นมาจับมีด จับดาบ จับธนู ชีคหนุ่ม ก็เสียวสันหลังวาบแล้ว ลองถ้าเป็นเช่นนั้นเรื่องวุ่นวายคงเกิดขึ้นในฮาเร็มอีกเป็นแน่ “เป็นหญิงมิเห็นส�ำคัญต้องร�่ำเรียนศาสตราวุธเลย เจ้าเรียนรู้การทอผ้า การ เต้นระบ�ำ การเป็นสตรีที่เพียบพร้อมมิดีกว่ารึดาเนียน” ดาเนียนหยุดเท้าลงดื้อๆ พลางช้อนสายตามองผู้ที่สูงกว่าตนเองอย่างจริงจัง เป็นครั้งแรก “ท่านปรารถนาสตรีผู้เพียบพร้อมหรือเจ้าคะ?” ได้ยินค�ำถามเช่นนั้นชีคหนุ่มจึงหัวเราะ “เจ้านี่แก่แดดเกินวัยมากไปแล้วนะ แม่หนูน้อย” “ท่านยังมิตอบค�ำถามข้าเลย” “มิมบี รุ ษุ ใดกล้าปฏิเสธหญิงงามผูเ้ พียบพร้อมด้วยรูปสมบัตแิ ละคุณสมบัตหิ รอก ดาเนียน” “แม้นแต่ตัวท่านเองก็ด้วยใช่ไหมเจ้าคะ?” ชีคหนุ่มพยักหน้ารับกับค�ำเปรยนั่น ก่อนหรี่ตาลงขณะมองนางงามตัวน้อยที่ ช่างซักช่างถามอีกครั้ง “ว่าแต่เจ้าจักร�่ำเรียนการใช้อาวุธไปท�ำไมเล่า ในเมื่ออยู่ในนี้มิมีใครรังแกเจ้าได้ หรือว่าจักเอาไปต่อยตีกับใคร” ดาเนียนห่อไหล่ทันที “เรียนไว้เพื่อป้องกันตัวจากการถูกรังแกเจ้าค่ะ คงมิได้ เอาไปต่อยตีกับผู้ใด อ้อ อีกสิ่งที่ข้าร�่ำเรียนไว้เพื่อปกป้องท่านด้วย” ชีคกาหริบก้าวเดินต่อไปอย่างไม่รบี ร้อนอันใดพร้อมกับเสียงหัวเราะ “เจ้าน่ะหรือ จักปกป้องข้า ฮ่าๆ ส�ำคัญตัวเองผิดไปแล้วกระมังแม่หนูน้อย” “หยุดหัวเราะเยาะข้านะเจ้าคะ สักวันเถิดท่านต้องเสียใจทีพ่ ดู กับข้าเช่นนี้ เพราะ ข้าจักเป็นองครักษ์หญิงดูแลคุ้มครองความปลอดภัยให้ท่านเอง” 76


อาคาเซีย

ความปรารถนาอันแรงกล้าของนางงามตัวน้อยท�ำเอาชีคกาหริบชะงักไป เมื่อ วาบคะนึงหนึ่งท�ำให้เขานึกถึงองครักษ์ชุดขาวในความฝัน แต่เมื่อหลุบเปลือกตามอง นางงามตัวน้อยท�ำหน้าจริงจังจึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง “แล้วข้าจักรอนะ องครักษ์หญิงดาเนียน” ชีคหนุ่มกระเซ้าเย้าแหย่ก่อนจักจูง มือน้อยของดาเนียนไว้ดังเดิมก่อนพานางไปส่งกับแม่นมมีนาญ่าเหมือนเคย...

77


เงารักในรอยทราย

6 แต่งตั้งผู้ปกครอง

ลานกว้างภายในของโรงตีเหล็กอันเงียบเหงาได้คกึ คักด้วยเสียงเจีย๊ วจ๊าว และ เสียงหัวเราะของบรรดานางงามตัวน้อยขึ้นมา เมื่อเหล่าท่านหญิงตัวน้อยของ ชีคริยาร์ด อิมฮาซา ตั้งแต่คนโตไล่เรียงไปถึงคนกลางพากันยกโขยงมาร�่ำเรียนศิลปะป้องกันตัว จากการใช้ศาสตราวุธต่างๆ อย่างจริงจังเป็นครัง้ แรก และสาเหตุทเี่ ป็นเช่นนัน้ เป็นเพราะ ท่านหญิงฮันนีผ่ เู้ ป็นแกนน�ำเป็นผูร้ เิ ริม่ ท�ำตามปรารถนาของดาเนียนนัน่ เอง ดังนัน้ ทุกวัน ในช่วงเย็นจึงมีบรรดาท่านหญิงทั้งห้าและหนึ่งนางสนมตัวน้อยมารวมตัวกันที่ลานกว้าง ภายในโรงตีเหล็ก นี่เองสถานที่ท�ำงานของบรรดาช่างตีดาบจึงกลายสภาพเป็นสนาม เด็กเล่นไป “วันนี้เราจักเรียนรู้วิธีการจับดาบที่ถูกต้องขอรับ” ท่านอาจารย์ผสู้ อนซึง่ เป็นแม่ทพั ใหญ่มฝี มี อื ของนครฟาตินเอ่ยด้วยน�ำ้ เสียงจริงจัง ทว่าสิง่ ทีเ่ ขาพูดกลับไม่มผี ใู้ ดรับฟังเลย ซ�ำ้ ยังให้ความสนใจกับอุปกรณ์ประกอบการเรียน มากกว่าแล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นในทันทีเมื่ออาลีซึ่งเป็นผู้ช่วยท่านอาจารย์ผู้ฝึกสอน น�ำดาบไม้มาวางลง ยังมิทนั ได้รบั อนุญาตบรรดาท่านหญิงผูแ้ สนซุกซนก็คว้าดาบไม้อนั เล็ก ซึ่งสั่งท�ำขึ้นมาเฉพาะส�ำหรับผึกหัดมาฟันเล่นกันในทันที 78


อาคาเซีย

“โอ้ หยุดก่อนขอรับท่านหญิง! หากท�ำเช่นนั้นพวกท่านอาจได้รับอันตราย” มิมใี ครเชือ่ ค�ำห้ามปรามนัน้ ซ�ำ้ ยังส่งเสียงหัวเราะชอบใจเมือ่ ท�ำให้อาจารย์ผสู้ อนร้อนใจได้ พอท�ำอันใดมิได้ท่านอาจารย์ผู้รับหน้าที่ฝึกสอนท่านหญิงจึงต้องตามสหายอีกสองท่าน มาช่วยปราม แล้วความวุ่นวายก็สงบลงเมื่อสามารถยึดดาบไม้และควบคุมสถานการณ์ เอาไว้ได้ “เราทั้งสามจักสอนท่านหญิงให้เป็นทหารกล้า ดังนั้นท่านหญิงควรอยู่ภายใต้ กฎระเบียบของทหาร” เป็นครัง้ ทีเ่ ท่าไหร่แล้วมิรู้ ทีบ่ รรดาแม่ทพั ฝีมอื ดีตอ้ งรับหน้าทีฝ่ กึ การใช้ศาสตราวุธ ให้กบั บรรดาท่านหญิงจอมแก่นเอ่ยถึงประโยคนี้ ซึง่ มันก็เรียบร้อยได้แค่ประเดีย๋ วเท่านัน้ แล้วความวุ่นวายก็มาเยือนให้ได้เหนื่อยใจอีก “เจ้าค่ะ” ท่านหญิงฮันนี่ตอบรับด้วยน�้ำเสียงเข้มแข็ง และกิริยานี้เองที่ท�ำให้ ท่านอาจารย์ผฝู้ กึ สอนต้องแปลกใจ เพราะดูวา่ วันนีส้ ถานการณ์กลับไม่เลวร้ายอย่างทีค่ ดิ เมือ่ ท่านหญิงทัง้ ห้าและอีกหนึง่ นางสนมตัวน้อยทีย่ นื ตัวตรงตัง้ ใจฟังค�ำสัง่ ซ�ำ้ ยังปฏิบตั ติ าม อย่างว่าง่าย แต่เมื่อหันไปเห็นร่างอันสูงสง่าของผู้ปกครองนครฟาตินล�ำดับที่สอง เหล่า แม่ทัพฝีมือดีจึงมิแปลกใจอันใดที่บรรดาท่านหญิงจอมแก่นนั้นเรียบร้อยขึ้นมาได้ “ท่านชีค” ทั้งสามแม่ทัพค้อมศีรษะให้ชีคกาหริบอย่างนอบน้อมเมื่อร่างสูงสง่า พร้อมผู้ติดตามมาดูการฝึกดาบของบรรดาท่านหญิงด้วยตนเองเงียบๆ “มิต้องมากพิธีหรอก ข้าแค่แวะมาดูว่าการฝึกดาบของเหล่าหลานสาวตัวน้อย ของข้าเป็นเช่นไรบ้าง” น�้ำเสียงของชีคหนุ่มเต็มไปด้วยความห่วงใย เพราะรู้ดีว่ามิใช่เรื่องง่ายเลยที่ แม่ทพั ผูย้ งิ่ ใหญ่ทงั้ สามจักปราบเด็กน้อยทัง้ หกทีแ่ สนซุกซนให้อยูใ่ ต้กฎระเบียบเหมือนกับ เหล่าทหารกล้า ถึงแม้นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่นี้จักผ่านการฝึกทหารกล้ามาเป็นร้อยเป็นพัน แล้วก็ตาม พวกนางงามตัวน้อยนีใ้ ช่หยอกเสียทีไ่ หนเล่า ขนาดท่านชีคริยาร์ดยังส่ายหน้า ระอา เพราะมิเพียงความดือ้ ดึงชอบขัดค�ำสัง่ บางครายังรวมหัวจ้องจักเอาโทษท่านอาจารย์ ด้วยหากท่านอาจารย์ผสู้ อนนัน้ ขัดใจ พอได้มาเห็นการเรียนการสอนนีแ้ ล้วชีคหนุม่ ก็รสู้ กึ อ่อนอกอ่อนใจและเห็นใจเหล่าแม่ทัพผู้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้นัก “ท่านหญิงทัง้ หมดเรียนรูก้ ารใช้อาวุธได้อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่วมากขอรับ ขอท่านชีคอย่าได้ห่วง” ชีคกาหริบเพียงพยักหน้ากับค�ำรายงานมิได้เอ่ยออกมาว่านั่นล่ะคือสิ่งที่เขา ห่วงใย เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนเขาได้ข่าวเข้าหูมาว่า อาลีเด็กชายวัยสิบสามที่เขาซื้อตัว 79


เงารักในรอยทราย

มาจากพ่อค้าทาสซึง่ เข้ามาช่วยงานในโรงตีเหล็กนัน้ หัวแตกเพราะฝีมอื ท่านหญิงฮันนีแ่ ละ พรรคพวก แล้วไหนจักเป็นเครือ่ งมือในโรงตีเหล็กอีกทีพ่ วกนางตัวน้อยต่างพร้อมใจไป น�ำออกมาเล่นโดยมิรู้คุณค่าของสิ่งของจนต้องเดือดร้อนผู้ดูแลน�ำเรื่องนี้ขึ้นบอกกล่าว กับท่านชีคริยาร์ด “ในเมื่อท่านแม่ทัพเอ่ยปากเช่นนั้นข้าก็สบายใจได้เปลาะหนึ่ง อย่างไรเสีย ช่วยเฝ้าดูความปลอดภัยของท่านหญิงให้ดีล่ะ อาวุธของมีคมจริงอย่าเพิ่งให้พวกนาง จับต้อง จนกว่าทั้งหมดจักมีทักษะความช�ำนาญเฉพาะตนแล้วนั่นล่ะถึงอนุญาตให้ใช้ อาวุธจริงฝึกได้” “ขอรับ” แม่ทพั ผูร้ บั หน้าทีฝ่ กึ สอนทัง้ สามรับปากอย่างพร้อมเพรียง ก่อนหมอบ ตัวลงพื้นอีกครั้งเมื่อการฝึกดาบในวันนี้มี ท่านชีคริยาร์ด อิมฮาซา พร้อมเหล่าผู้ติดตาม เข้ามาชมการฝึกดาบด้วยตนเองถึงในโรงตีเหล็ก “ท่านพี”่ ชีคกาหริบเอามือแตะอกซ้ายอันเป็นต�ำแหน่งหัวใจพร้อมค้อมศีรษะให้ กับผู้เป็นใหญ่แลมีอ�ำนาจสูงสุดของฟาตินนคร “โอ้ เจ้าก็อยู่ในนี้ด้วยรึกาหริบ ข้าก�ำลังต้องการเจอหน้าเจ้าอยู่พอดี ให้คนไป ตามตัวเจ้าที่โรงเพาะช�ำก็มิเจอตัว” “ข้าเพิ่งมาจากที่นั่น ท่านพี่มีเรื่องอันใดให้ข้ารับใช้หรือขอรับ?” “พูดที่นี่คงมิสะดวก เดี๋ยวเจ้าตามข้าไปพบในห้องท�ำงานด้วยก็แล้วกัน” “ขอรับ” ชีคกาหริบค้อมศีรษะรับค�ำสัง่ พร้อมกับหลีกทางให้เชษฐาได้รบั ชมการ ฝึกดาบของบรรดาเหล่าบุตรีตัวน้อยซึ่งยังอยู่ในวัยซุกซน “เป็นเช่นไรบ้าง บรรดาบุตรีทนี่ า่ รักของข้ามิท�ำให้พวกท่านทัง้ สามผิดหวังหรอก นะ?” น�ำ้ เสียงของชีคริยาร์ดนัน้ เต็มไปด้วยความสนอกสนใจระคนห่วงใยในธิดาตัวน้อย ที่ต่างพากันพร้อมใจแหกกฎระเบียบของฮาเร็มมาฝึกดาบเช่นทหารกล้า “ท่านหญิงทัง้ ห้าเรียนรูพ้ นื้ ฐานได้รวดเร็วมากเลยขอรับ ใช้เวลาฝึกมิทนั ถึงเดือน บรรดาท่านหญิงต่างก็ช�ำนาญในการจับดาบและฟาดฟันได้อย่างคล่องแคล่วแล้วขอรับ” ชีคริยาร์ดยิม้ อย่างพึงพอใจ แต่สำ� หรับชีคกาหริบทีร่ คู้ วามเคลือ่ นไหวของบรรดา นางงามตัวน้อยเกือบทุกวันได้แต่ลอบส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจกับความจริงทีไ่ ด้รบั “ดีมาก นี่หากอีกหกนางที่เหลือโตกว่านี้ข้าคงต้องวานพวกท่านเป็นธุระให้ อีก คิดแล้วก็ปลื้มใจนัก พ่อเป็นนักรบ หากมีบุตรีที่เก่งกล้าเยี่ยงนักรบก็มิใช่เรื่องเสีย หายอันใด ซ�้ำยังเป็นเรื่องน่ายินดี เจ้าฝึกลูกข้าให้ดีๆ ล่ะ ตอนนี้พวกนางยังเยาว์วัยนัก เอาแค่หอมปากหอมคอก่อน มิต้องฝึกหนักเหมือนกับเหล่าทหารกล้าของข้าหรอกนะ” 80


อาคาเซีย

“ขอรับ” แม่ทพั ทัง้ สามซึง่ รับหน้าทีเ่ ป็นอาจารย์สอนดาบรับปากอย่างพร้อมเพียง “ในเมือ่ มีผดู้ แู ลแล้วข้าจักได้คลายกังวล ตามข้ามาเถิดกาหริบน้องข้า ข้ามีเรือ่ ง ส�ำคัญที่ต้องพูดกับเจ้า” ชีคริยาร์ดละสายตาจากธิดาตัวน้อยมาหาอนุชาของตนเองทันที “ขอรับ” พอผู้ปกครองนครทั้งสองและบรรดาผู้ติดตามไปจากโรงตีเหล็กแล้วนั่นล่ะ บรรดาแม่ทพั ทัง้ สามผูร้ บั หน้าทีเ่ ป็นอาจารย์สอนดาบถึงกับผ่อนลมหายใจออกมาพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมายเมื่อหันไปเจอความซุกซนของบรรดาท่านหญิงตัวน้อยเข้าอีก ดูว่าที่ฝึกได้และเอาใจใส่กับการเรียนมากกว่าลูกศิษย์คนอื่นๆ ก็เห็นจักเป็น นางสนมตัวน้อยของท่านชีคกาหริบเท่านัน้ ส่วนท่านหญิงทัง้ ห้านัน้ มิตอ้ งพูดถึง พวกนาง แค่มาสนุกสนานกับความแปลกใหม่ และสร้างความวุน่ วายให้กบั โรงตีเหล็กตามประสา เด็กอยากรูอ้ ยากเห็นมากกว่าทีจ่ กั เรียนรูว้ ชิ าจริงจังก็เท่านัน้ และเหตุนเี้ องจึงท�ำให้แม่ทพั ทั้งสามต้องปวดหัวไปกับเหล่าท่านหญิงตัวน้อยมิเว้นแต่ละวัน “ท่านอาจารย์ ระวังขอรับ!” สิน้ ค�ำเตือนของอาลี ดาบไม้อนั สัน้ จึงลอยลิว่ ตรงดิง่ มาโดนศีรษะของท่านแม่ทัพใหญ่ทันที และการหงายท้องล้มลงนั่นเองที่เรียกเสียง หัวเราะชอบใจจากบรรดาท่านหญิงทั้งหมดได้ “ท่านอาจารย์ มิเป็นไรนะขอรับ?!” เป็นอาลีที่รีบวิ่งมาดูอาการของผู้ที่หงายท้องก้นจ�้ำเบ้า กระนั้นก็มิวายหันไปหา ท่านหญิงฮันนี่ซึ่งหัวเราะชอบใจกับผลงานความแม่นย�ำของตนเอง “เห็นฝีมือข้าหรือยังน้องข้า ว่าแม่นย�ำราวกับจับวางเพียงใด” มิเพียงค�ำคุยโว แต่ทา่ ทางนัน้ ยังเรียกเสียงหัวเราะชอบใจตามมาอีก และค�ำพูด ย่ามใจนี้เองที่ท�ำให้อาลีซึ่งทนเห็นเหตุการณ์คล้ายๆ กันอย่างนี้ทุกวันมิได้จึงต้องหันไป ตักเตือนผู้กระท�ำ “นี่มิใช่การกระท�ำของนักรบ แต่เป็นการกระท�ำของเด็กเกเรมากกว่า” “เจ้าว่าใครเป็นเด็กเกเรรึอาลี?” ท่านหญิงฮันนี่ตวัดสายตามามองด้วยความ มิพอใจทันที “กระผมเพียงพูดเปรียบเปรยให้ฟงั เท่านัน้ ท่านหญิงลองตรองดูเองเถิดว่านี่ใช่ การกระท�ำของนักรบผู้กล้าหาญหรือไม่” อาลีท�ำหน้าดุพลางช่วยพยุงให้ร่างใหญ่โตของ แม่ทัพซึ่งล้มก้นกระแทกพื้นลุกขึ้น “ข้ามิเป็นอันใดหรอกอาลี เจ้ามีอนั ใดค้างอยูก่ ไ็ ปท�ำเถิด เดีย๋ วข้ากับแม่ทพั ทัง้ สอง จักดูแลท่านหญิงเอง” 81


เงารักในรอยทราย

อาลีตวัดสายตามองท่านหญิงฮันนีน่ ดิ หนึง่ ก่อนเบือนหน้าหนี กระนัน้ ท่านหญิง ฮันนี่ก็มิปล่อยให้อาลีหันหลังให้ง่ายๆ เช่นนี้ “อาลี นั่นเจ้าจักไปไหน?” “ข้ายังมีงานอีกมากมายที่ต้องไปท�ำ” อาลีตอบเสียงเรียบไม่สนใจด้วยซ�้ำว่า ท่านหญิงฮันนี่จักพอใจหรือไม่ “ข้าในฐานะท่านหญิงมิอนุญาตให้เจ้าไปไหนได้ เจ้าต้องอยู่เล่นกับพวกเรา เข้าใจไหมอาลี” ผูอ้ ยูใ่ ต้บญ ั ชากลอกตาไปมาพร้อมถอนหายใจอย่างมิสบอารมณ์แต่กแ็ ข็งขืนอันใด มิได้ จากนั้นจึงปรายตาไปยังดาเนียนซึ่งยืนดูเหตุการณ์เงียบๆ เป็นเชิงขอความคิดเห็น แต่เมื่อดาเนียนพยักหน้าให้ อาลีจึงหันมาเจรจากับท่านหญิงฮันนี่อีกครั้ง “กระผมมีงานอีกมากมายทีต่ อ้ งกระท�ำ วันนีค้ งมิสะดวกทีจ่ กั เล่นกับพวกท่าน” “งานอันใดข้ามิสน ถ้าเจ้ากล้าขัดค�ำสั่ง ข้าจักสั่งท�ำโทษเจ้าเดี๋ยวนี้” ค�ำขู่ของ ท่านหญิงฮันนีม่ ไิ ด้สร้างความกลัวเกรงให้กบั อาลีแต่อย่างใด แต่เพราะขัดใจมิเคยส�ำเร็จ นั่นล่ะ ดังนั้นอาลีจึงต้องตัดใจจากชิ้นงานที่ท�ำค้างเอาไว้ “ท่านอาจารย์เหนื่อยมาทั้งวันกับเหล่าทหารกล้าแล้ว ทิ้งให้ทางนี้เป็นหน้าที่ของ กระผมเองเถิดขอรับ” อาลีอาสาอย่างผู้มีความปรารถนาดี “ว่าแต่เจ้าจักรับมือท่านหญิงทั้งห้าไหวหรืออาลี?” “กระผมมิแน่ใจ แต่คดิ ว่าน่าจักพอมีวธิ ที ดี่ กี ว่าทีท่ ำ� ให้ทา่ นอาจารย์มติ อ้ งเหนือ่ ย กับเด็กทโมนเหล่านี้” น�้ำเสียงของอาลีเป็นกระซิบในประโยคท้ายก่อนการละเล่น อันพิสดารแหวกกฎประเพณีจักเริ่มต้นขึ้น เมือ่ ก�ำหนดกฎกติกาการละเล่น อาลีและดาเนียนถูกสัง่ ให้เป็นฝ่ายหนีการไล่ลา่ โดยมีทา่ นหญิงทัง้ ห้าเป็นผูไ้ ล่ตามพร้อมกับดาบไม้ไล่ฟนั กระนัน้ ระหว่างการไล่ลา่ ผูห้ นี สามารถใช้ดาบไม้ขึ้นต่อสู้เพื่อป้องกันตนเองได้ และจักพ่ายลงหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งท�ำ ดาบไม้หล่นจากมือ “ระวังด้วยนะขอรับท่านหญิง” แม่ทพั ผูด้ แู ลเรือ่ งการฝึกดาบให้กบั เหล่าท่านหญิง ป้องปากตะโกนบอกระหว่างอยู่ดูแลคุ้มครองความปลอดภัย เพราะรู้สึกห่วงใยเรื่องนี้ เหลือเกิน แต่เมื่อท�ำอันใดมิได้จึงต้องปล่อยให้เลยตามเลยอย่างมิรู้ว่าจักขัดใจเหล่า นางงามตัวน้อยได้เช่นไร...

82


อาคาเซีย

ภายในห้องกว้างซึ่งติดกระเบื้องหลากสีอันมีลวดลายของดอกไม้พื้นเมือง และลวดลายเลขาคณิตขดพันเป็นศิลปะ โยงระย้าด้วยผ้าม่านสีขาวเต็มไปด้วยความ ตึงเครียดในทันทีเมือ่ ชีคริยาร์ดเริม่ ต้นเอ่ยถึงปัญหาและความต้องการของมหาเสนาราเมซ ผู้ซึ่งรับใช้ท่านชีคแห่งนครฟาตินนานถึงสองแผ่นดิน “ข้าดูจากผลงานความดีความชอบของมหาเสนาราเมซมีมากพอดู เจ้ามีความ คิดเห็นประการใดกับเรื่องที่ข้าจักปูนบ�ำเหน็จให้ท่านมหาเสนาไปเป็นผู้ปกครองเมืองใต้ บ้าง?” “ขุนนางที่ดีย่อมมิเรียกร้องความดีความชอบจากผู้ปกครองขอรับ เรื่องนี้ข้ามิ เห็นด้วยเป็นอันขาด” ชีคหนุ่มคัดค้านสุดตัวเมื่อเรื่องมหาเสนาเฒ่าเจ้าเล่ห์ขออ�ำนาจจากชีคริยาร์ดไป ปกครองเมืองใต้ด้วยตนเอง จักปล่อยให้มหาเสนาเฒ่าเจ้าเล่ห์ไปปกครองนครใต้ล�ำพัง ได้อย่างไร ขืนปล่อยให้ไปก็เท่ากับติดปีกให้งูเห่าเท่านั้น ดูจากรูปการณ์ก็รู้แล้วว่า มหาเสนาเฒ่าก�ำลังคิดการใหญ่โตและคิดมิซอื่ ต่อราชส�ำนัก มิเช่นนัน้ คงมิลกุ ขึน้ มาเรียกร้อง สิทธิ์ด้วยการหยิบเรื่องเมืองใต้ซึ่งอยู่ห่างไกลจากนครฟาตินและร้างการปกครองมาอ้าง ทั้งๆ ที่เมืองใต้เพิ่งชิงมาจากกองโจรทะเลทรายได้มิทันข้ามปี และตอนนี้ยังมีผู้ปกครอง นครชั่วคราวดูแลอยู่แท้ๆ “ท�ำไมล่ะน้องข้า?” ผู้นั่งชันเข่าสูบใบยาสูบและพ่นควันหอมกลิ่นของใบมินต์ยกคิ้วขึ้นสูง ด้วยว่า มิเห็นถึงเหตุผลของการปฏิเสธ เพราะมหาเสนาราเมซได้น�ำพาและท�ำประโยชน์เพื่อชาว ฟาตินไว้ตั้งมากมาย อีกทั้งยังเป็นคนเก่าคนแก่ที่ไว้วางใจได้ ซ�้ำยังเชี่ยวชาญเรื่องการ วางแผนท�ำศึกสงคราม หากจักส่งไปปกครองเมืองใต้คงมิเป็นไร มิหน�ำซ�้ำยังช่วยเชิดชู เกียรติให้กับชาวนครฟาตินยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก “ถึงแม้นมหาเสนาผูย้ งิ่ ใหญ่จกั สร้างคุณงามความดีไว้ให้กบั เรามากมาย แต่นนั่ ก็เพื่อผลประโยชน์ในกาลข้างหน้าทั้งนั้น บอกตามตรงนะขอรับว่าข้ามิอาจไว้วางใจใน ความภักดีของมหาเสนาเฒ่านัน้ ได้เลย อีกสิง่ ทีข่ า้ กังวลก็คอื มหาเสนาเฒ่านัน้ มีทหารกล้า อยู่ในก�ำมือตั้งมากมาย หากส่งไปอยู่เมืองใต้ก็เท่ากับว่าห่างหูห่างตาเรา จักก่อการกบฏ เมื่อไรก็ยากจักควบคุมสถานการณ์นะขอรับ” เหตุผลอันมีนำ�้ หนักของชีคกาหริบจึงท�ำให้ชคี ริยาร์ดผูใ้ จร้อนต้องตรองความคิด ของตนเองซ�้ำอีกครั้ง 83


เงารักในรอยทราย

เล่า?”

“ก็ถูกอย่างที่เจ้าว่านะกาหริบ แล้วเจ้าคิดว่าใครคือผู้ที่เหมาะสมกับนครแห่งนี้

“ข้าคงให้ค�ำตอบกับท่านพี่มิได้ขอรับ เพราะเรื่องนี้ยิ่งใหญ่กว่าที่จักตัดสินใจ เพียงล�ำพัง ข้าคิดว่าเราควรถามความคิดเห็นส่วนใหญ่จากบรรดาขุนนางในที่ประชุม มากกว่าขอรับ จักได้ลดค�ำครหาและผิดใจของเหล่าบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่” “อือ เป็นความคิดที่ดีมากเลยกาหริบน้องข้า เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าเราจักน�ำเรื่องนี้ เข้าหารือในที่ประชุม” ชีคริยาร์ดลงความเห็นก่อนจักหันมาสูบยาสูบต่อ... สืบเนือ่ งในเรือ่ งอันหาข้อยุตมิ ไิ ด้นเี้ องจึงท�ำให้ชคี ริยาร์ดต้องเรียกบรรดาขุนนาง น้อยใหญ่ทงั้ หมดมารวมตัวกันในห้องประชุมอีกครัง้ เพือ่ หาบุคคลผูเ้ หมาะสมไปปกครอง เมืองใต้ และหนึ่งในสามรายชื่อที่ได้รับการเสนอมติในที่ประชุมอันนอกเหนือไปจาก มหาเสนาราเมซแล้ว ยังมีแม่ทัพราอุฟผู้กล้า และชีคกาหริบอยู่ในจ�ำนวนนั้นด้วย “ทุกท่านมีความเห็นเช่นไรโปรดบอกความคิดเห็นแก่ขา้ ด้วย” ชีคริยาร์ดเอ่ยขอ ความคิดเห็นเมือ่ บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ตา่ งเสนอชือ่ ผูท้ เี่ หมาะสมกับต�ำแหน่งถึงสามคน ซ�้ำยังถกเถียงเรื่องความเหมาะสมกันใหญ่โต หากส่งแม่ทพั ราอุฟผูก้ ล้าลงไปปกครองเมืองใต้กเ็ กรงว่าจักมิมใี ครรับหน้าทีฝ่ กึ เหล่าทหารกล้า อีกทั้งจักท�ำให้ภายในเกิดความสั่นคลอนในเรื่องความมั่นคง ทว่าหาก ส่งมหาเสนาราเมซไปก็ดวู า่ ภาระอันยิง่ ใหญ่นจี้ กั หนักหนาเกินไปส�ำหรับผูท้ มี่ วี ยั มากกว่า หกสิบปีซำ�้ ยังต้องเสียทหารกล้าไปเกือบครึง่ นคร แต่ถา้ ส่งชีคกาหริบไป ก็จกั เกิดผลกระทบ ด้านการปกครองต่อนครฟาตินอีกเช่นกัน เพราะชีคกาหริบเป็นผูแ้ บ่งเบาภาระหน้าทีจ่ าก ชีคริยาร์ดมาโดยตลอด “เรียนท่านชีค กระผมเห็นว่าในทีน่ มี้ มิ ใี ครเหมาะสมเท่ากับท่านชีคกาหริบอีกแล้ว ขอรับ เพราะผูท้ นี่ ำ� ก�ำลังทหารกล้าเข้าทลายกองโจรทะเลทรายก็คอื ท่านชีคกาหริบ ซ�ำ้ ยัง น�ำชัยชนะกลับมา รวมทั้งสร้างขวัญก�ำลังใจให้ประชาชนในเมืองใต้ กระผมจึงมิเห็นว่า ผู้ใดจักเหมาะสมและคู่ควรเท่ากับชีคกาหริบอีกแล้วขอรับ” มหาเสนาราเมซกล่าวขึ้น ในที่ประชุมเพื่อประกาศเจตนารมณ์แห่งความซื่อสัตย์ให้บรรดาขุนนางอื่นได้รับรู้ พอผูม้ อี ำ� นาจต่อจากท่านชีคผูป้ กครองเสนอความคิดเห็นเช่นนัน้ บรรดาขุนนาง อื่นๆ ที่สวามิภักดิ์ต่อมหาเสนาเฒ่าที่ล่วงรู้แผนการมาก่อนหน้าจึงพากันคัดค้าน “แต่ทา่ นชีคกาหริบอายุยงั น้อยนะขอรับ ปีนเี้ พิง่ จักย่างยีส่ บิ ด้วยซ�ำ้ กระผมเกรงว่า หากท่านชีคกาหริบเป็นผู้ปกครองทางเมืองใต้จักมิให้ความย�ำเกรง” 84


อาคาเซีย

“กล่าวเช่นนัน้ ก็มถิ กู นะท่านบารุน ถึงท่านชีคกาหริบจักอายุยงั น้อย แต่ขา้ มิเห็นถึง ปัญหาแต่อย่างใด ท่านชีคเป็นถึงนักรบผู้กล้าหาญฉลาดปราดเปรื่อง อีกทั้งยังมีความรู้ เรือ่ งศาสตร์แห่งศิลป์อกี หลายแขนง ด้วยประสบการณ์ทชี่ ว่ ยท่านชีคริยาร์ดปกครองนคร มาหลายปีตั้งแต่อายุเพียงสิบห้าเศษ ข้าคิดว่าน่าจักเพียงพอส�ำหรับการปกครองเมือง ใต้อยู่นา” เป็นมหาเสนาราเมซอีกเช่นเคยที่คัดค้านความคิดเห็นของลูกน้องซึ่งเตรียม การมาก่อนหน้าที่จักเข้าประชุม เหล่าขุนนางคนอื่นๆ ที่เห็นถึงความจงรักภักดีจึงคล้อย ตามและเห็นชอบไปด้วย “ท่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างล่ะท่านแม่ทพั ?” ชีคริยาร์ดหันมาถามแม่ทพั ใหญ่ ผู้ซื่อสัตย์ที่ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่ในสงครามตลอดมา “กระผมเห็นด้วยกับท่านมหาเสนาราเมซขอรับ ณ ที่นี้คงมิมีใครเหมาะสม เท่ากับชีคกาหริบอีกแล้ว” แม้นแต่ท่านแม่ทัพราอุฟผู้ซื่อสัตย์และมิเคยลงรอยกับมหาเสนาราเมซสักครั้ง ก็ยังเห็นด้วยกับความคิดนี้ของมหาเสนาเฒ่า “แต่ชีคกาหริบต้องอยู่ช่วยข้าดูแลนครแห่งนี้นี่นา... หากส่งน้องข้าไปเมืองใต้ ก็เท่ากับว่าข้าขาดมือขวาคนส�ำคัญไปเชียวนะ” ความเห็นของชีคริยาร์ดท�ำให้บรรยากาศภายในห้องประชุมเงียบไปอึดใจหนึ่ง กระนั้นใบหน้าอันมีริ้วรอยแห่งกาลเวลาของมหาเสนาราเมซยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่าง ภาคภูมิ เพราะรู้ดีว่าชีคริยาร์ดจักยืนหยัดและให้ความส�ำคัญกับตนเองเพียงใด นั่นจึง มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจักได้ครอบครองเมืองใต้โดยมิมีข้อกังขาจากบรรดาขุนนาง คนอื่นๆ เมื่อมีท่านชีคริยาร์ดให้การสนับสนุนเช่นนี้ แต่เพราะมิอยากให้ใครคัดค้าน ในต�ำแหน่งอันหอมหวนนี้ในภายหลัง มหาเสนาราเมซจึงเปรยขึ้นอีกว่า “ข้าเล็งเห็นแล้วว่าตอนนี้นครฟาตินสุขสงบ ประชาชนอยู่กันอย่างมีความสุข และเราก็มิได้มีปัญหาเรื่องเขตแดนกับนครอื่นแต่อย่างใด ดังนั้นมิน่าจักมีปัญหาใด หากจักส่งชีคกาหริบไปเป็นผู้ปกครองเมืองเล็กๆ ทางใต้ขอรับ” “แม้นแต่ทา่ นมหาเสนาก็ยงั เห็นด้วยกับท่านแม่ทพั หรือ?” ชีคริยาร์ดยกคิว้ ขึน้ สูง เมื่อผู้แสดงเจตจ�ำนงออกมาชัดเจนว่าต้องการปกครองเมืองใต้กลับล�ำกะทันหัน “กระผมยึดถือมติทปี่ ระชุมและเคารพการตัดสินใจของท่านชีคขอรับ” มหาเสนาเฒ่า ค้อมศีรษะ ชีคริยาร์ดพยักหน้ารับกับกิริยานอบน้อมของมหาเสนาราเมซ แต่ส�ำหรับผู้ถูก เสนอชือ่ ให้ปกครองเมืองใต้อย่างชีคกาหริบกลับเต็มไปด้วยความไม่สบายใจเพราะมิรวู้ า่ 85


เงารักในรอยทราย

มหาเสนาเฒ่าเจ้าเล่ห์จักมีแผนการอันใดซ่อนเอาไว้อีก ในเมื่อมหาเสนาเฒ่าเป็นผู้เสนอ ขอบ�ำเหน็จความชอบจากท่านชีคริยาร์ดด้วยตนเอง แต่พอมาอยูใ่ นทีป่ ระชุมกลับเปลีย่ น ความปรารถนากะทันหันซะนี่ ซ�้ำยังเป็นแนวหน้าเสนอชื่อของเขาเข้ารับต�ำแหน่งเสียอีก แต่มิว่านี่จักเป็นเล่ห์กลอุบายใด ชีคกาหริบบอกตนเองเลยว่า มิว่าต้องเดินทาง ไปปกครองเมืองใต้ หรืออยูร่ บั ใช้ชคี ริยาร์ดทีน่ ี่ อย่างไรเขาก็จกั ขัดขวางทุกๆ แผนการร้าย ของมหาเสนาผู้นี้ให้ถึงที่สุดตราบใดที่ผืนทรายยังมิกลบหน้าเฒ่าเจ้าเล่ห์ราเมซ! “ข้าจักส่งชีคกาหริบเป็นผู้ปกครองเมืองใต้ มีผู้ใดคัดค้านความเห็นนี้บ้าง?” “กระผมอยากเรียนขอให้ทา่ นชีคทบทวนอีกครัง้ นะขอรับ ผูท้ เี่ หมาะสมกับเมืองใต้ ควรเป็นมหาเสนาราเมซมากกว่า” บารุนผู้มีหน้าที่ดูแลคลังทรัพย์สินของนครฟาตินยัง ยืนกรานเช่นเดิม ซึ่งความเห็นแตกต่างในข้อนี้จึงเกิดการถกเถียงระหว่างขุนนางชั้น ผูใ้ หญ่ดว้ ยกัน และความคิดเห็นทีแ่ ตกแยกเป็นสองพวกนีเ่ องทีท่ ำ� ให้ชคี กาหริบรูว้ า่ พวกพ้อง ของมหาเสนาราเมซมีมากน้อยเท่าไร “เอาอย่างนี้ ในเมือ่ หาข้อยุตมิ ไิ ด้ขา้ ก็ขอให้ทา่ นแสดงเจตนาออกมาอย่างชัดเจน หากใครปรารถนาให้ชีคกาหริบเป็นผู้ปกครองเมืองใต้จงแยกตัวไปด้านนู้น” ชีคริยาร์ด ผายมือไปยังขวามือข้างแจกันใบงามซึ่งน�ำมาตกแต่งห้อง “ส่วนใครปรารถนาจักให้ ท่านมหาเสนาราเมซเป็นผู้ปกครองเมืองใต้จงนั่งลงตรงหน้าข้า” สิน้ ค�ำเท่านัน้ เหล่าขุนนางซึง่ นัง่ เรียงหน้าเข้าหากันในทีป่ ระชุมจึงลุกขึน้ ยืนแสดง เจตจ�ำนงของตนเองออกมา และเมือ่ นับจ�ำนวนความเห็นของเหล่าขุนนางนัน่ แล้วกลับพบ ว่าทั้งสองฝ่ายมีจ�ำนวนความเห็นที่เท่ากัน “โอ้ ความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายเสมอกันหรือนี่ แล้วทีนี้จักท�ำเช่นไร สงสัยว่า การตัดสินใจในครั้งนี้คงขึ้นอยู่กับพวกท่านทั้งสองแล้วล่ะ ชีคกาหริบ ท่านมหาเสนา” ผูน้ งั่ อยูบ่ นบัลลังก์ทองค�ำเหลืองอร่ามหันมามองสบตากับชีคกาหริบและมหาเสนาราเมซ “ว่าอย่างไรเล่า กาหริบน้องข้า?” “เรือ่ งนีข้ า้ มิมคี วามคิดเห็นอันใดขอรับ” ชีคกาหริบซึง่ ปิดปากมานานเอ่ยขึน้ ด้วย น�ำ้ เสียงเรียบสนิท ดังนัน้ เมือ่ ค�ำตอบของชีคกาหริบเป็นเช่นนีผ้ ชู้ ชี้ ะตาผูป้ กครองจึงตกมา อยู่ในมือมหาเสนาราเมซในทันที แล้วทุกสายตาของเหล่าขุนนางในที่ประชุมก็มาหยุดที่ มหาเสนาราเมซเป็นหนึง่ เดียวในทันที ด้วยสนใจว่ามหาเสนาเฒ่าเจ้าเล่หจ์ กั เปลีย่ นจุดยืน ของตนเอง หรือว่ายืนยันความต้องการเดิมที่ชี้แจงในที่ประชุมเมื่อครู่ “ก็เหลือแต่ท่านแล้ว ว่าอย่างไรเล่าท่านมหาเสนา ท่านจักเปลี่ยนความคิดเห็น หรือยืนยันเจตจ�ำนงเช่นเดิม?” 86


อาคาเซีย

ผูถ้ กู กดดันจากเหล่าขุนนางในห้องประชุมและท่านชีคริยาร์ดกลืนน�ำ้ ลายลงคอ มือหนาซึ่งซุกอยู่ในเสื้อคลุมเนื้อหนาที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อก�ำเข้าหากันแน่น นึกโกรธตัวเอง อยู่ไม่น้อยที่กลอุบายของตนเองกลับย้อนกลับมาท�ำให้ตนเองเสียโอกาส ตั้งแต่รับใช้ ชาวเมืองฟาตินในฐานะมหาเสนาถึงสองสมัย มีหรือที่มหาเสนาราเมซจักมิปรารถนา ขึ้นปกครองนครเอง แต่นั่นล่ะ มิว่าจักท�ำอย่างไรก็ยังมิใช่โอกาสอันเหมาะสมที่ท�ำให้ ความปรารถนานั้นเป็นจริงเสมือนในครั้งนี้อีกเช่นกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าโมโหนัก! “แล้วท่านชีคมีความเห็นว่าอย่างไรล่ะขอรับ?” แทนที่จักตอบ มหาเสนาเฒ่ากลับโยนภาระทั้งหมดให้กับท่านชีคริยาร์ดซะนี่ และนีเ่ องทีท่ ำ� ให้ชคี ริยาร์ดต้องคิดหนัก ตอนแรกเขาก็มเิ ชือ่ ถือค�ำพูดของอนุชาเท่าไหร่นกั แต่เมือ่ ได้เห็นอะไรทีช่ ดั เจนมากขึน้ ในทีป่ ระชุมวันนีก้ ย็ งิ่ ท�ำให้ชคี ริยาร์ดต้องเปลีย่ นความคิด ของตนเองเสียใหม่ “ข้ามิมีความเห็นอันใด เรื่องนี้ข้าได้มอบหมายให้ทุกท่านเป็นผู้ตัดสินใจแล้ว” ค�ำตอบอันชาญฉลาดของชีคริยาร์ดเรียกรอยยิม้ จากชีคกาหริบได้ดี แต่สำ� หรับ มหาเสนาราเมซกลับหนักใจพูดอันใดมิออกเมื่อโอกาสงามๆ ก�ำลังหลุดลอยไป หากเขาเปลี่ยนจุดยืนของตนเองกะทันหันนั่นก็แสดงให้เห็นถึงความมักใหญ่ ใฝ่สูงคิดมิซื่อต่อราชส�ำนัก แต่หากเขายืนยันค�ำของตนเอง นั่นก็หมายความว่าเขาเสีย โอกาสอันยิ่งใหญ่ครั้งเดียวในชีวิตนี้ไปในทันที “ว่าอย่างไรเล่าท่านมหาเสนา ทุกคนก�ำลังรอคอยค�ำตอบจากท่านอยู่นะ?” โดนชีคริยาร์ดถามซ�้ำอีกครั้งมหาเสนาเฒ่าจึงปาดเหงื่อ ก่อนจักกัดฟันกรอดๆ ตอบกลับไปด้วยความเสียดายว่า “ข้ายืนยันเจตนารมณ์เดิม มิมผี ใู้ ดเหมาะสมกับเมืองใต้เท่าท่านชีคกาหริบอีกแล้ว ขอรับ” พอสิ้นค�ำเหล่าขุนนางจึงพากันค้อมศีรษะน้อมรับความคิดเห็นของมหาเสนา ราเมซในทันที “ได้ยินหรือไม่กาหริบน้องข้า” “ขอรับ” ชีคกาหริบค้อมศีรษะให้ กระนั้นดวงตาดั่งนิลกาฬยังปรายไปมอง สีหน้าท่าทางของมหาเสนาราเมซ ซึ่งสีหน้ามหาเสนาเฒ่าในตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธ และผิดหวังอย่างชัดเจน 87


เงารักในรอยทราย

“เอาล่ะ ในเมื่อเราได้รับความคิดเห็นอันยุติธรรมเป็นเอกฉันท์แล้ว เช่นนั้น ข้าในนาม ชีคริยาร์ด อิมฮาซา ผู้ปกครองนครฟาตินล�ำดับที่ยี่สิบเอ็ดขอแต่งตั้งให้ ชีคกาหริบ อิมฮาซา อนุชาแห่งข้าเป็นผู้ปกครองเมืองใต้อย่างเป็นทางการ” เมื่อวาจาของผู้ปกครองดังลั่นขึ้นในห้องประชุม ชีคกาหริบและเหล่าขุนนาง น้อยใหญ่ตา่ งเอามือกุมต�ำแหน่งหัวใจอันแสดงถึงความจงรักภักดีพร้อมใจกันน้อมศีรษะ รับบัญชาของท่านชีคริยาร์ดในทันที “ขอน้อมรับบัญชาขอรับ” ภายในคฤหาสน์สที รายอันงดงามมิยงิ่ หย่อนไปกว่าฮาเร็มของท่านชีคริยาร์ด เต็มไปด้วยเสียงโวยวายในทันทีเมื่อมหาเสนาเฒ่าราเมซท�ำลายข้าวของจนแตกกระจาย เพื่อระบายโทสะซึ่งอัดอั้นมาจากห้องประชุม “ฮึ่ย! มันน่าเจ็บใจนัก บัลลังก์เมืองใต้ก�ำลังจักตกเป็นของข้าแล้วเชียว แต่ต้อง มาเสียรู้ให้กับเจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่น” มหาเสนาเฒ่าแยกเขี้ยวตาวาวพลางบดกรามเป็น สันนูน “ถึงท่านมหาเสนาจักมิได้ครอบครองบัลลังก์เมืองใต้ก็ใช่ว่าจักหมดโอกาสสิ้น นะขอรับ” มิราฟผูต้ ดิ ตามรับใช้เอ่ยขึน้ และความเห็นนัน้ ก็ท�ำให้ผโู้ กรธเป็นทุนเดิมอยูแ่ ล้ว ต้องคว้าคนโททองเหลืองปาใส่พื้นเพื่อระบายความโกรธ “อย่าเอ่ยวาจาที่ซ�้ำเติมข้าเช่นนั้นมิราฟ!” “ท่านตีความผิดแล้วล่ะท่านมหาเสนา กระผมหมายความว่าตราบใดทีช่ คี กาหริบ นัน่ ยังเดินทางมิถงึ เมืองใต้ นัน่ ย่อมหมายความว่าโอกาสอันงามยังเป็นของเราอยู”่ น�ำ้ เสียง และสายตาของอดีตนักฆ่าช่างเย็นเยียบนัก และหนทางที่มิราฟผู้ติดตามรับใช้ชี้แนะให้ นีเ่ องทีท่ ำ� ให้มหาเสนาเฒ่ากระหยิม่ ยิม้ ย่องขึน้ มาได้เมือ่ ความคิดบางอย่างเกิดขึน้ มาในหัว “ตั้งแต่ข้ามีผู้ติดตามมามีแต่เจ้านั่นล่ะที่ฉลาดเป็นกรดมากที่สุด สิ่งที่เจ้าบอก ข้านั้นช่างเป็นสิ่งที่ข้าให้ความสนใจนักมิราฟ” ผู้รับค�ำชมค้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อม “กระผมเห็นว่านั่นเป็นวิธีเดียวที่จัก ท�ำให้ท่านมหาเสนาสมหวังขอรับ เพราะเรามีศัตรูคนเดียวกัน เมื่อเราก�ำจัดชีคกาหริบ ผูเ้ ป็นศัตรูของข้าได้ นัน่ ย่อมหมายความว่าชีวติ ของชีคริยาร์ดก็มติ า่ งอันใดกับมดตัวน้อย ที่รอเวลาถูกบดขยี้”

88


อาคาเซีย

มิราฟบีบถ้วยทองเหลืองในมือจนบุบบี้ ดวงตาอันเหี้ยมโหดกระหายโลหิตนั้น เป็นประกายเจิดจรัสขึ้นมาในทันทีเมื่อคิดแผนการปลิดชีวิตชีคกาหริบให้ทรมานที่สุด เพื่อให้สาสมแก่โทษที่ชีคกาหริบน�ำพาเหล่ากองทัพทหารกล้าไปทลายรังโจรจนพี่น้อง ของมิราฟต้องเสียชีวิตทั้งหมด “แล้วเจ้าจักใช้แผนอันใดจัดการกับชีคโอหังนั่นรึ?” “ท่านมหาเสนาโปรดใจเย็น กาลใดทีช่ คี กาหริบออกเดินทางจากนครแห่งนี้ นัน่ ย่อมหมายความว่าวาระนัน้ คือวันสิน้ นาม ชีคกาหริบ อิมฮาซา” มิราฟเค้นเสียงเย็นเยียบ จนมหาเสนาราเมซผู้ฟังยังขนลุกตามไปกับความโหดร้ายอันน่าสะพรึงกลัวนี้ “ฮ่าๆ ดี ดีมาก หากเจ้าท�ำได้ส�ำเร็จข้าจักตกรางวัลให้เจ้าอย่างงามเลยมิราฟ” ผู้ติดตามยิ้มเหี้ยมอีกครั้งพร้อมกับค้อมศีรษะให้ “ท่านเตรียมรางวัลอย่างงาม ให้กระผมล่วงหน้าได้เลย รับรองว่างานนี้ไม่มีพลาด” “แน่นอน แล้วเราจักมาฉลองความส�ำเร็จนี้ร่วมกัน”

89


เงารักในรอยทราย

7 พลัดพราก

ในราตรีอันร้างด้วยแสงจันทราและหมู่ดาวช่างเป็นราตรีที่เงียบเหงาส�ำหรับ ผู้ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวนัก เสียงเพลงบรรเลงกล่อมราตรีดังแว่วจากฮาเร็มของท่านชีค ริยาร์ดถูกสายลมเย็นหอบพามาเป็นระยะๆ สิ่งนั้นยิ่งสร้างความเหงาหงอยให้ผู้พลัดถิ่น มาไกลมากนัก ร่างน้อยในชุดพื้นเมืองสีขาวสะอาดยาวรุ่มร่ามยังข่มตาให้หลับมิได้ คงเอาแต่เดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง พอมิมที างก�ำจัดความว้าวุน่ ในใจออกไป เจ้าของดวงตาสีมรกตแฝงฝังความเศร้า จึงทอดสายตาเหม่อลอยออกไปนอกโค้งหน้าต่างทรงหัวหอม แต่ห้วงคะนึงความคิดถึง นั้นกลับส่งไปให้ ท่านชีคกาหริบ อิมฮาซา ตลอดซึ่งช่างขัดกับการกระท�ำของนางนัก หลังจากทราบข่าวว่าท่านชีคกาหริบได้รับมอบหมายหน้าที่ส�ำคัญให้น�ำเหล่าทหารกล้า เดินทางไปปกครองเมืองใต้แล้ว ดาเนียนจึงเก็บตัวอยู่แต่ในห้องและพยายามหลบหน้า ชีคกาหริบตลอด เพราะนางตระหนักดีว่าอีกมินานนางจักถูกทอดทิ้งอยู่ที่นี่เพียงล�ำพัง เหมือนอย่างที่นางก�ำนัลลิมุสกล่าวถึง ‘ท่านชีคกาหริบคงพาท่านหญิงไปด้วยหรอก แค่ภาระหน้าทีอ่ นั ใหญ่หลวงก็ทำ� ให้ ท่านชีคกาหริบแทบมิมีเวลาปลีกตัวท�ำอันใดแล้ว สู้เอาเวลาไปท�ำอย่างอื่นมิดีกว่าหรือ’ 90


อาคาเซีย

ถ้อยค�ำของนางก�ำนัลลิมสุ ช่างกัดกินใจนัก และนีเ่ องจึงเป็นเหตุให้ดาเนียนต้อง บุกไปพบชีคกาหริบถึงห้อง พอนึกถึงเรื่องที่ชีคกาหริบต้องเดินทางไกลขึ้นมา หยดน�้ำตาแห่งความน้อยใจ จึงปริ่มดวงตาอันงดงามของดาเนียนอีกครั้ง เมื่อนึกถึงถ้อยค�ำปฏิเสธของชีคกาหริบ และนั่นก็ท�ำให้ดาเนียนรู้สึกว่าตนเองช่างด้อยค่าเหลือเกิน ‘ขอให้ข้าติดตามรับใช้ท่านในเมืองใต้ด้วยนะเจ้าคะ’ ‘มิได้หรอกดาเนียน เราไปกับกองทัพทหารคงไม่สะดวกดูแลเจ้า พ�ำนักอยู่ที่นี่ เถิดนะ นครทางใต้หาได้สมบูรณ์พรั่งพร้อมเหมือนนครแห่งนี้ อีกอย่างเจ้าอยู่ที่นี่จักได้ เป็นเพื่อนท่านหญิงฮันนี่ด้วย หากเจ้าเดินทางไปกับข้า คิดหรือไม่ว่าท่านหญิงฮันนี่ จะเหงาเพราะขาดสหายสนิทเช่นเจ้าไป’ เหตุผลอันยากปฏิเสธนีเ้ องทีน่ ำ� พาความโศกเศร้าระคนน้อยใจมาสูด่ าเนียนนัก นางก็แค่อยากอยูใ่ กล้ชดิ กับท่านชีคกาหริบเท่านัน้ แต่ทา่ นชีคกลับแสดงออกชัดเจนเลย ว่ามิต้องการนาง ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ และเหตุนี้เองที่ท�ำให้ดาเนียนหลบหน้าชีคกาหริบ มาหลายราตรี “ท่านชีคใจร้าย” เด็กน้อยร�ำพันพร้อมกับหยาดน�้ำตาที่รินไหลเมื่อนึกถึงการ พลัดพรากซึ่งก�ำลังจักเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ “ยังมิหลับอีกหรือดาเนียน?” ผู้ร�่ำไห้ถึงกับสะดุ้งเมื่อค�ำถามของท่านหญิงฮันนี่ดังขึ้นก่อนรีบเช็ดหยดน�้ำตา ออกจากวงหน้าในทันที ด้วยมิปรารถนาให้ผู้ใดได้เห็นความอ่อนแอนี้ก่อนหันกลับมา ตอบค�ำถาม “ข้านอนมิหลับ ว่าแต่ท่านหญิงเถิด ดึกแล้วท�ำไมถึงยังออกมาหาข้าอีก เดี๋ยว ท่านแม่นมมีนาญ่าก็ดุเอาหรอก” ฮันนี่มิได้สนใจค�ำถามมากไปกว่าสีหน้าของดาเนียน ในตอนนี้ “เจ้าร�ำ่ ไห้เรือ่ งใดหรือสหายข้า?!” ผูถ้ ามเต็มไปด้วยความตกใจเมือ่ ได้เห็นน�ำ้ ตา ของดาเนียนผู้เข้มแข็งเป็นครั้งแรก “มิมีอันใดหรอก แค่ฝุ่นทรายเข้าตา ท่านหญิงอย่าได้กังวลไปเลยเจ้าค่ะ” “เจ้าปดได้ไม่เนียนหรอกดาเนียน อย่าปิดบังข้าเลย เราเป็นสหายรักกัน เจ้ามี เรื่องไม่สบายใจอันใดควรบอกให้ข้ารับรู้เถิด” ท่านหญิงฮันนี่ยังจ้องวงหน้าอันเปื้อน คราบน�ำ้ ตาเขม็ง แต่ผถู้ กู จับตามองกลับปิดปากเงียบได้อย่างดีเยีย่ ม “หากให้ขา้ ทายทีเ่ จ้า เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องเช่นนี้ เป็นเพราะท่านอากาหริบใช่หรือไม่?” 91


เงารักในรอยทราย

โดนจี้ใจด�ำเข้าไปดาเนียนจึงเงียบไปก่อนพยักหน้ารับช้าๆ “หรือท่านหญิงมิกังวลเรื่องนี้เล่า?” “ก็มีบ้างเหมือนกัน แต่คงไม่หนักหนาสาหัสเช่นเจ้าถึงขนาดเอาแต่เก็บตัวอยู่ ในห้องมิยอมออกไปดูเดือนดูตะวันแลรับฟังข่าวความเคลื่อนไหวของท่านอาหรอก” “จักไปรับรู้ให้เจ็บปวดท�ำไมเจ้าคะ ในเมื่อรู้ไปท่านชีคก็ต้องเดินทางไปเมืองใต้ อยู่ดี” น�ำ้ เสียงของดาเนียนเต็มไปด้วยความตัดพ้อ จนท่านหญิงฮันนีต่ อ้ งถอนหายใจ ออกมาเพราะรู้ว่าสหายรักของตนเองสนิทสนมกับท่านอากาหริบถึงเพียงใด “ท�ำอย่างไรได้เล่าดาเนียน ในเมื่อนี่เป็นมติของราชส�ำนัก บิดาของข้าเอง มิสามารถเปลี่ยนแปลงอันใดได้ แล้วใครเลยจักกล้าขัด เจ้าเองก็อย่าเพิ่งเป็นกังวล ไปเลยนะ ถึงมิมที า่ นอากาหริบมาฝึกดาบเป็นเพือ่ นให้กบั พวกเรา ก็ใช่วา่ เจ้าจักปราศจาก สหายซะเลยทีเดียว ยังมีข้าและบรรดาท่านหญิงอีกตั้งหลายคนที่เป็นเพื่อนเล่นกับเจ้า อ้อ ยังมีสหายอาลีอีกนะ” ดาเนียนยิม้ บางให้กบั ค�ำปลอบใจของท่านหญิงฮันนี่ แต่กม็ ไิ ด้คดั ค้านออกมาว่า สหายทัง้ หมดทีท่ า่ นหญิงฮันนีเ่ อ่ยถึง ต่อให้มมี ากเป็นร้อยคนก็มมิ ใี ครเทียบชีคกาหริบได้ เพราะสหายทั้งหมดนั้นมิมีใครสามารถปกป้องนางจากกฎระเบียบอันเคร่งครัด รวมทั้ง ปกป้องนางจากอันตรายซึ่งอาจได้รับจากมหาเสนาราเมซนั่นได้ “เจ้ายิ้มออกแล้ว ดีใจจังเลย ข้าคิดว่าสหายอาลีต้องคลายเหงาให้เจ้าได้แน่ๆ เพราะสหายอาลีมีของเล่นแปลกๆ มาแบ่งให้พวกเราเล่นอยู่ตลอดเวลา” ดาเนียนได้แต่พยักหน้าเห็นด้วยเมื่อท่านหญิงฮันนี่เอ่ยถึงอาลีด้วยน�้ำเสียง ชื่นชม ก่อนแอบผ่อนลมหายใจออกมายาวเพราะมิรู้สึกเลยว่าการเล่นกับอาลีจักสนุก เหมือนตอนเล่นกับท่านชีค “แล้วท่านหญิงแอบมาหาข้ากลางดึกมีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ?” “มีสิ เมือ่ ครูข่ า้ ได้ยนิ ข่าวจากท่านพ่อว่าท่านอากาหริบจักเปลีย่ นแผนการเดินทาง รู้สึกว่าเป็นย�่ำรุ่งนี้ล่ะท่านอากาหริบจักเคลื่อนทัพพาเหล่าทหารกล้าจ�ำนวนหนึ่งร้อยนาย ไปเมืองใต้” ข่าวความเคลือ่ นไหวใหม่ลา่ สุดของผูป้ กครองนครท�ำให้ดาเนียนสลัดความ เศร้าโศกทิ้งไปเลยทีเดียว “จริงหรือเจ้าคะ ก็ไหนว่าจักเคลื่อนทัพอีกสองราตรีข้างหน้า” “เปลี่ยนแปลงแล้วดาเนียน ได้ยินว่าทางกองทัพพร้อมเลยเปลี่ยนแผนการ เดินทางนิดหน่อย เร่งให้เร็วขึ้นจักได้ถึงเมืองใต้เร็วๆ ข้ามาบอกเจ้าเพียงเท่านี้ เจ้าเอง 92


อาคาเซีย

ก็รีบพักผ่อนเถิด ย�่ำรุ่งจักได้มีแรงมาส่งท่านอา” มือบางของท่านหญิงฮันนี่สัมผัสแก้ม ของสหายรักเบาๆ “เจ้าค่ะ ท่านเองก็พักผ่อนเช่นกัน แล้วย�่ำรุ่งเจอกันที่ลานกว้าง” “ดีมาก ราตรีสวัสดิ์นะสหายข้า” “ราตรีสวัสดิ์เจ้าค่ะ” ดาเนียนเดินมาส่งท่านหญิงฮันนี่ถึงปากประตูห้อง รอจน ร่างบางของสหายผูน้ า่ รักกลืนหายไปกับความมืดของราตรีกาลพร้อมนางก�ำนัลผูต้ ดิ ตาม ซึ่งยืนรออยู่หน้าห้องแล้ว ดาเนียนจึงหันมาคว้าเสื้อคลุมสีหม่นพร้อมกับดวงตะเกียง ก่อนตรงดิ่งไปยังโรงตีเหล็กทันที... เสียงตีแผ่นทองเหลืองของช่างตัวน้อยดังขึน้ แข่งกับช่างตีดาบซึง่ ท�ำงานในราตรี กาล กระนัน้ การมาเยือนโรงตีเหล็กอย่างกะทันหันของดาเนียนก็มิได้น�ำพาความวุ่นวาย มาให้เหล่าช่างฝีมือที่สนิทสนมจากการฝึกดาบแต่อย่างใด ซ�้ำยังมีเสียงหัวเราะจากการ ตอบค�ำถามของนางงามตัวน้อยตลอดเวลา “ที่ข้าเลิกท�ำงานในตอนกลางวันเพราะมิอยากปวดหัวกับเด็กน้อยแสนซุนซน เช่นเจ้าไงเล่า ได้ความว่าเจ้ากับท่านหญิงท�ำท่านแม่ทัพล้มป่วยเลยมิใช่หรือ?” “ท่านอาจารย์ไม่สบายอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ยังหักโหมงานมิยอมพักผ่อน ต่างหากเล่า ท่านบาบีเลิกถามในเรื่องที่ข้าสุดรู้แล้วมาสอนข้าตีแผ่นทองเหลืองให้เป็น รูปร่างเถิดเจ้าค่ะ” ดาเนียนท�ำคิว้ ชนกันเมือ่ เวลาในรัตติกาลก�ำลังน้อยลงไปทุกทีๆ แต่สงิ่ ที่นางตั้งใจจักท�ำยังคงมิบรรลุวัตถุประสงค์ “ข้าท�ำเป็นแต่มีดดาบกับหัวธนู แล้วเจ้าจักให้ข้าสอนอันใดเล่าแม่หนูน้อย?” “วิธีการท�ำเครื่องรางเจ้าค่ะ อันใดก็ได้ที่พอเป็นรูปเป็นร่างพอจักห้อยคอได้” ดาเนียนบอกอย่างร�ำคาญเมื่อโดนเซ้าซี้ “เครื่องรางหรือ เอ ตั้งแต่เกิดมาข้ามิเคยตีโลหะเป็นเครื่องรางสักครั้งเลยนะ ดาเนียน แต่ถ้าให้หลอมในแม่พิมพ์แล้วขึ้นเป็นรูปก็ว่าไปอย่าง” ได้ยินเช่นนั้นดาเนียน จึงตาวาวขึ้นมาทันที “เช่นนัน้ สอนวิธลี ดั ให้แก่ขา้ อีกมินานก็จกั ย�่ำรุง่ แล้ว ข้าเกรงว่าเครือ่ งรางของข้า จักเสร็จมิทันกาล” พอได้ยนิ น�ำ้ เสียงร้อนใจของเด็กน้อยซึง่ อัธยาศัยดีและเป็นทีร่ กั ของทุกคน บาบี จึงเลิกคิ้วขึ้นสูง 93


เงารักในรอยทราย

“แล้วเจ้าจักเอาเครื่องรางนี้ไปท�ำอันใด จักว่าญาติเจ้าอยู่ในกองทัพก็หาใช่ไม่” “เรื่องนั้นท่านบาบีมิต้องรู้ นี่เป็นความลับของข้าเท่านั้น” ได้ยินเช่นนั้นบาบีช่างผู้ตีดาบอันดับหนึ่งของฟาตินนครจึงหัวเราะเสียงดัง แต่ ก็ยอมสอนวิธีหลอมแผ่นทองเหลืองให้กับนางงามตัวน้อย “ทิ้งไว้สักหนึ่งเล่มเทียนแล้วเจ้าก็ใช้เหล็กนี่คีบแม่พิมพ์ไปแช่น�้ำเย็นเอาไว้ ทิ้งไว้อีกสักประเดี๋ยวแล้วค่อยแกะออกมา อ้อ อย่าเพิ่งเอามือไปจับต้องล่ะ เดี๋ยวมือจัก พองเอา” “เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์” ดาเนียนมิวายเย้าแหย่ช่างตีดาบที่บ่นกระปอดกระแปด ตลอดการสอนก่อนกลับไปท�ำหน้าที่ของตัวเองต่อ พออยู่คนเดียวล�ำพังหน้าเตาหลอม ดาเนียนจึงปฏิบัติตามขั้นตอนที่บาบีสอนไว้ทันที และระหว่างที่รอความส�ำเร็จนั่นเอง ดาเนียนซึ่งนั่งเฝ้าอยู่หน้าเบ้าหลอมจึงเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย... ...ไอชืน้ จากบรรยากาศรอบข้างและลมแรงทีพ่ ดั ผ่านมีผลให้เสือ้ คลุมสีเทาหม่น อันเปือ้ นฝุน่ ทรายของนางผูม้ แี ผลเป็นบนใบหน้านัน้ แนบเข้าหาตัวจนเน้นรูปร่าง กระนัน้ ผูย้ นื อยูบ่ นขอบก�ำแพงและถือดวงตะเกียงเอาไว้แนบอกยังขับร้องบทเพลงพืน้ เมืองปล่อย ให้เส้นผมสีน�้ำตาลไหม้สยายไปกับแรงลม “ฮาน่า” พอเรียกขานนามนั้น นางผู้ขับกล่อมด้วยบทเพลงแห่งสายลมจึงหยุด บทเพลงนั่นลง ดวงตาสวยซึ้งอ่อนโยนและอบอุ่นทอดมองไปเบื้องหน้าเพื่อแสวงหา อิสรภาพ “เจ้ามาพบข้าใช่ไหม?” มิมีค�ำพูดตอบรับหรือปฏิเสธนอกจากรอยยิ้มเจือความเศร้าอันแสนอ่อนโยน ก่อนจักยืน่ มือบางซึง่ เต็มไปด้วยแผลเป็นมาสัมผัสแก้มเบาๆ พร้อมประทับจุมพิตทีแ่ ก้ม แทนค�ำอ�ำลา ทว่าในดวงตาคู่นั้นเสมือนมิอยากจากลา แต่ต้องไปเพราะหน้าที่และความ จ�ำเป็นบางอย่าง ทว่าลมแรงทีโ่ หมหนักเข้าใส่พร้อมละอองทรายซึง่ ถูกพัดเข้ามาปะทะผิวจึงท�ำให้ ผู้อยู่ใกล้พายุทรายต้องหรี่ตาลง พอเบือนหน้าออกไปจึงพบความแปรปรวนอันน่ากลัว เมฆคล�้ำด�ำมืดก�ำลังกลืนกินแสงสว่างจากดวงอาทิตย์แลแผ่อาณาบริเวณเป็นวงกว้าง จนทุกสรรพสิ่งเหนือผืนทรายอันอยู่ใต้ตะวันนั้นจมหายไปในความมืดมิดนี้ “พายุทรายก�ำลังมา เราต้องไปจากที่นี่!” 94


เงารักในรอยทราย

276


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.