04
จังหวัดสุรนิ ทร์ SURIN
• อุโบสถ สร้างด้วยศิลา(หิน) แบบโบราณ
วัดกะทมวนาราม
ตำ�บลนาบัว อำ�เภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
Wat Katom Wanaram 210 Moo 8 Na Bua Sub-district, Mueang Surin District, Surin Province
วัดกะทมวนาราม ตั้งอยู่เลขที่ 210 หมู่ที่ 8 ต�ำบลนาบัว อ�ำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต ที่ดิน ตั้งวัดมีเนื้อที่ 11 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา ปัจจุบันมี พระครูสุนทร ปัญญารังสี เป็นเจ้าอาวาส เดิมชื่อ วัดสะอ็อม ตั้งเมื่อ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2512 โดยมี พระราชวิสทุ ธิธรรมรังสี (ทิน นามเดิม หลวงปูเ่ ปลีย่ น โอภาโส แต่งตัง้ สมณะศักดิเ์ ป็น พระครูวนกิจโกศล พระโอภาสธรรมญาณ และ พระราชวิสุทธิธรรมรังสี) เป็นผู้น�ำ ชาวบ้ า นในการสร้ า งวั ด และตั้ ง ชื่ อ วั ด ตามชื่ อ ของหมู ่ บ ้ า น วัดกะทมวนราม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 18 เมตร ยาว 29 เมตร
พระครูสุนทรปัญญารังสี เจ้าอาวาสวัดกะทมวนาราม
เทพทันใจ
234
สิ่งก่อสร้างเสนาสนะส�ำคัญ
โบสถ์ (อุโบสถ) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2508 สร้างด้วยศิลา (หิน) แบบโบราณ เนื่องจากในพื้นที่ชนบทจะมีหินอัคนีมาก ชาวบ้านจึงได้ ช่วยกันขนหิน บ้างก็หาบหินจากทุ่งนามาสู่วัด ส่วนทรายน�ำมาจาก คลองล�ำชีและคลองห้วยเสนง ซึง่ ชาวบ้านจะใช้เกวียนขนเป็นระยะทาง ไกลประมาณ 10 กิโลเมตร อุโบสถหลังนี้หลวงปู่เปลี่ยน โอภาโส ได้ออกแบบและก่อสร้างเอง โดยไม่ได้จ้างช่าง ซึ่งมีชาวบ้านมาช่วยกัน สร้างจนเสร็จ ใช้ระยะเวลาในการสร้าง 6 ปี จึงได้ฉลองผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต อุโบสถหลังนีน้ บั เป็นศิลปะทีแ่ ปลกตาส�ำหรับผู้ทไี่ ด้พบเห็นและมี เพียงแห่งเดียวในจังหวัดสุรนิ ทร์ ส่วนพระประธานในโบสถ์ เป็นพระพุทธ รูปทองเหลืองแท้ ปางมารวิชัย อัญเชิญมาจากกรุงเทพฯ เป็นพระพุทธ รูปทีม่ คี วามสวยและงดงามมาก พร้อมกับพระสาวก พระสารีบตุ ร และ พระมหาโมคคัลลานะ วันที่อัญเชิญมาถึงวัดมีเหตุอัศจรรย์อย่างหนึ่ง คือ ไม่สามารถยกลงจากรถได้ชาวบ้านได้ทำ� พิธอี ญ ั เชิญพระพุทธรูปลง จึงยกลงจากรถได้ นอกจากเหตุการณ์ที่ยกพระพุทธรูปลงไม่ได้แล้ว ยังมีเหตุการณ์ฝนตกหนักทั้ง ๆ ที่ช่วงเวลานั้นไม่ใช่ฤดูฝน (ช่วงเดือน มกราคม) ปัจจุบันมีการบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ คือ ประตูโบสถ์ 4 ช่อง และ หน้าต่าง 6 ช่อง มีการติดลายขอบแบบศิลปะขอมโบราณที่เสา 2 ข้ า ง โดยมี ล ายบั ว หงาย ลายประจ� ำ ยามก้ า มปู ลายรวงข้ า ว ขอบทวารจะมี ฤ ๅษี จ� ำ ศี ล ลายดอก ลายทั บ หลั ง บรรทมสิ น ธุ ์ (พระนารายณ์บรรทมสินธุ์) มีพระนางลักษมีเทวีอยู่ข้างเหล่าเทพ ผุดออกจากดอกบัวข้างบนจะมีรูปพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญเป็นทรงไทยประยุกต์ (คอนกรีตเสริมเหล็ก) สร้างเมือ่ พ.ศ. 2538 เพือ่ ประกอบพิธกี รรมในวันพระ หรือรับกฐินผ้าป่า เป็นต้น ภายในประกอบด้วยผลงานที่โดดเด่นที่สุดของท่าน โดย
ปราศจากการเปรียบเทียบนั้นมี 2 ประเภท คือ 1. ผลงานด้านนามธรรมท่านได้ชอื่ ว่าเป็นนักรังสรรค์ความบริสทุ ธิ์ ด้านพระธรรมวินัยโดยแท้จริง ท่านมีความเพียรพยายามที่ไม่ถดถอย โดยเฉพาะข้อวัตรปฏิบัติ ท่านจะถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น การถือ บิณฑบาตเป็นกิจวัตร ถึงท่านจะชราภาพแล้วก็ตาม หากไม่อาพาธหนัก ท่านก็จะออกรับบิณฑบาตเป็นประจ�ำหรือแม้แต่โทษทางวาจาทีจ่ ะกล่าว ร้ายหรือกล่าววจีทจุ ริตใด ๆ ย่อมไม่ปรากฏแก่ผู้ฟัง 2. ผลงานด้านรูปธรรม ท่านได้ชื่อว่าเป็นนักเผยแผ่ นักบริหาร นักการปกครอง นักการศึกษา และนักก่อสร้าง ทีเ่ พียบพร้อมด้วยความ สามารถ ท่านรับการแต่งตัง้ ให้เป็นคณะกรรมการประจ�ำองค์การเผยแผ่ และเป็นพระนักเทศน์รูปหนึ่งที่มีชื่อเสียง ในสมัยทีท่ า่ นเป็นก�ำลังส�ำคัญของหลวงปูด่ ลุ ย์ อตุโล ในด้านการ บริหารปกครอง ท่านได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ด�ำรง ต�ำแหน่งทางการปกครอง อาทิ เจ้าคณะอ�ำเภอเมืองสุรนิ ทร์ เจ้าอาวาส ในด้านการศึกษา ท่านได้ชว่ ยพัฒนาการศึกษาของคณะสงฆ์ โดยเฉพาะ พัฒนาส�ำนักเรียนวัดบูรพารามช่วยอบรมสั่งสอนพระภิกษุสามเณรให้ เข้าใจในอักขรวิธีในด้านงานการก่อสร้าง
สิ่งที่ถือว่าเป็นมรดก และผลงานทางสถาปัตยกรรมที่ส�ำคัญของท่าน ก็คือ
กาสร้ า งโบสถ์ วั ด กะทมวนาราม ซึ่ ง ใช้ วั ส ดุ จ ากหิ น ล้ ว น ๆ นอกจากนีท้ า่ นยังมีสว่ นร่วมในการสร้างความส�ำเร็จให้แก่วดั ต่าง ๆ เช่น ช่ ว ยสร้ า งโบสถ์ วัด บู ร พารามจนแล้ ว เสร็จ และเป็ น ผู ้ บุก เบิก สร้ า ง วัดกะทมวนาราม เป็นต้น พระราชวิสุทธิธรรมรังสี (หลวงปู่เปลี่ยน โอภาโส) ท่านได้ลงั ขารเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2543 สิริอายุรวม 85 ปี 3 เดือน 3 วัน 64 พรรรษา “ข้อมูลจาก ชีวประวัติพระราชวิสุทธิธรรมรังสี” จากเว็ปไซด์วดั บูรพาราม พระอารามหลวงจังหวัดสุรินทร์
235