Made in Thailand 100 Brand Heroes Proud to be Thai on the world stage

Page 1



Proudly Sponsored by

T MarkŠ a sign of quality and excellence


AN INTRODUCTION TO THE BRAND HEROES OF THAILAND In a market crowded with competitors vying to become the next household name, these Thai companies have managed to channel innovation, good governance and business smarts into bona fide success. Known as “Thailand’s Brand Heroes,” these Thai establishments are blazing trails into the international market—setting the standard for the next generation’s corporate stars. They go above and beyond simple profit margins and bottom lines. These are the companies that define “made in Thailand” on the domestic and international stage, exemplifying the country’s rich history of producing high quality, versatile products and services.

BUILDING BLOCKS In an increasingly globalized society, the need for nationwide sustainability platforms has never been more important. When it comes to Thailand’s heavy industry, several of the nation’s largest producers of construction materials and factory-made products are not only helping to provide the building blocks for the country’s future schools, hospitals and homes, they are also laying the foundation for a sustainable future. These companies, like Panel Plus, PTT Lubricants and COTTO, are fighting for sustainability through hazardous waste removal, biodegradable products and missions to help impoverished children.

FLAVORS OF SIAM The heartmade quality that local Thais pour into their cuisine on a daily basis has made the country famous across the world. Brands like Blue Spice, Wel-B and Suree are helping to carry Thailand’s culinary traditions to all corners of the Earth while also promoting preservative-free foods, safe production methods and clean eating. Many of these brands also gather their ingredients from the Royal Project Foundation, an initiative founded by HM the late King Bhumibol Adulyadej to help poor farmers grow organic, pesticide-free produce.

BY DESIGN The nation’s wealth of forward-thinking designers has made it a hotbed for inventive architecture, furniture and homeware. For many Thai brands, design isn’t just about beauty, it’s about building products that solve problems for a greater cause. There are companies like Ayodhya and Yothaka, which remove destructive water hyacinth—an invasive plant ruining the livelihoods of local farmers— from Thailand’s rivers and use it to make internationally acclaimed furniture. There are also brands like NaRaYa which work with non-government organizations to provide education and income for poorer rural families across Thailand.

FEELING GOOD Thailand’s local wellness traditions have received almost as much attention as its food. The nation’s penchant for soothing pain through massage and rejuvenating the body with homestead remedies is a source of great pride nationwide. But many of these companies are also leaders in the fight for a better future. Luxury spa brands, like Panpuri, are producing exclusively organic, pollutant-free products. At the same time, local cosmetics companies, such as Sabai Arom and Giffarine, are teaming up with Thai farmers to supply their ingredients and also enlisting global institutions—such as the DSM Nutritional Products Company in Switzerland—to help uphold international consumer safety standards. Through the lens of heavy industry, design, food and health, these and countless other Thai brands are helping the nation shine bright on the world stage while making a difference at home—not through sales figures and flashy ad campaigns, but corporate missions and values that make the country proud. These are the stories of Thailand’s Brand Heroes.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ในตลาดทีผ่ ปู้ ระกอบการต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพือ่ ก้าวไปสูก่ ารเป็นแบรนด์ในดวงใจของผูบ้ ริโภค บริษทั สัญชาติไทยเหล่านีใ้ ช้นวัตกรรม หลักธรรมาภิบาล และไหวพริบทางธุรกิจเป็นช่องทางในการด�ำเนินกิจการจน สามารถประสบความส�ำเร็จในทีส่ ดุ องค์กรต่างๆ เหล่านีซ้ งึ่ เป็นทีร่ จู้ กั กันในนาม ‘ไทยแลนด์ แบรนด์ ฮีโร่’ ได้ เข้าไปบุกเบิกตลาดต่างประเทศและเป็นแบบอย่างให้กบั บรรดาบริษทั รุน่ หลัง ภารกิจของบริษทั เหล่านีไ้ ม่ได้จำ� กัด อยูแ่ ค่เรือ่ งผลก�ำไรหรือปัจจัยชีว้ ดั ความอยูร่ อดของบริษทั เท่านัน้ แต่พวกเขาคือนิยามของค�ำว่า ‘เมดอินไทยแลนด์’ อย่างแท้จริงทัง้ ในประเทศและบนเวทีโลก ซึง่ สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพและประโยชน์ใช้สอยของสินค้าและบริการ ของไทย ทีไ่ ด้รบั การกล่าวขานมายาวนาน BUILDING BLOCKS

ในสังคมทีไ่ ด้รบั อิทธิพลจากกระแสโลกาภิวตั น์มากขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง นโยบายว่าด้วยการสร้างความยัง่ ยืน จึงเข้ามา มีบทบาทส�ำคัญต่อประเทศอย่างทีไ่ ม่เคยเป็นมาก่อน ส�ำหรับภาคอุตสาหกรรมหนักของไทย ผูผ้ ลิตวัสดุกอ่ สร้าง รายใหญ่และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่เพียงเข้ามามีบทบาทในการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และทีอ่ ยูอ่ าศัย ในประเทศเท่านัน้ แต่ยงั เป็นผูว้ างรากฐานให้กบั อนาคตทีย่ งั่ ยืนอีกด้วย บริษทั ต่างๆ เช่น พาเนล พลัส (Panel Plus) พีทที ี ลูบริแคนท์ส (PTT Lubricants) และคอตโต้ (COTTO) ได้เดินหน้าสร้างอนาคตทีย่ งั่ ยืนผ่านมาตรการ ต่างๆ อาทิ การก�ำจัดของเสียที่เป็นอันตรายอย่างเหมาะสม การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ และการให้ ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส FLAVORS OF SIAM

ความพยายามเหล่านีป้ รากฏให้เห็นเด่นชัดในเรือ่ งวัฒนธรรมอาหาร คุณภาพและความพิถพี ถิ นั ใส่ใจในอาหารที่ ปรุงเสมอ ท�ำให้ชอื่ เสียงของประเทศไทยกลายเป็นทีร่ จู้ กั ไปทัว่ โลก สินค้าแบรนด์ไทยอย่างบลูสไปซ์ (Blue Spice) เวล-บี (Wel-B) และสุรยี ์ (Suree) ได้ชว่ ยเผยแพร่วฒ ั นธรรมอาหารไทยไปสูท่ กุ มุมโลก และสนับสนุนการไม่ใช้ สารกันบูด การเลือกสรรวัตถุดบิ ทีป่ ลอดภัย รวมทัง้ มีประโยชน์ตอ่ สุขภาพ ในบรรดาแบรนด์ไทยเหล่านี้ หลายๆ แบรนด์นนั้ เลือกใช้วตั ถุดบิ จากโครงการหลวง อันเป็นโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ เพือ่ ช่วยเหลือเกษตรกรผูย้ ากไร้ในการเพาะปลูกผักผลไม้ปลอด สารพิษและปราศจากยาฆ่าแมลง BY DESIGN

บรรดานักออกแบบหัวสร้างสรรค์ของไทยได้น�ำพาประเทศไปสู่ยุครุ่งเรืองของสถาปัตยกรรม การออกแบบ เฟอร์นเิ จอร์และเครือ่ งใช้ในบ้าน แบรนด์ไทยจ�ำนวนมากมองว่าดีไซน์นนั้ ไม่ใช่แค่เรือ่ งของความสวยงาม แต่ยงั หมายถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ ส่วนรวมและสามารถช่วยแก้ปญ ั หาต่างๆ แบรนด์อย่างอโยธยา และโยธกาได้เลือกเอาผักตบชวา ซึง่ เป็นวัชพืชทีส่ ร้างปัญหาให้กบั เกษตรกรในท้องถิน่ มาใช้เป็นวัตถุดบิ ในการ ผลิตเฟอร์นเิ จอร์จนประสบความส�ำเร็จในระดับสากล ส่วนแบรนด์นารายา ก็ได้รว่ มมือกับองค์กรเอกชนจัด การฝึกอบรมวิชาชีพเพือ่ สร้างรายได้ให้กบั ครอบครัวผูม้ รี ายได้นอ้ ยตามถิน่ ทุรกันดารของประเทศ FEELING GOOD

คนไทยนัน้ ให้ความส�ำคัญกับการปรนนิบตั ดิ แู ลสุขภาพและร่างกายไม่แพ้เรือ่ งอาหารการกิน คนไทยส่วนใหญ่มกั นิยมบรรเทาความปวดเมือ่ ยและคืนความสดชืน่ ให้แก่รา่ งกายด้วยวิธนี วดแผนไทย ซึง่ เป็นภูมปิ ญ ั ญาท้องถิน่ ที่ เป็นอีกหนึง่ ความภาคภูมใิ จของคนไทย กระนัน้ ผูป้ ระกอบการชาวไทยหลายต่อหลายคน ก็ได้อทุ ศิ ตนท�ำงาน อย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับศาสตร์การดูแลสุขภาพเหล่านี้ขึ้นไปอีกขั้น เครื่องหอมและผลิตภัณฑ์สปาซึ่ง แบรนด์ปญ ั ญ์ปรุ ิ (Panpuri) ผลิตและจัดจ�ำหน่ายนัน้ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคทีป่ ราศจากสารพิษ ในขณะทีแ่ บรนด์ อย่างสบายอารมณ์ (Sabai Arom) และกิฟฟารีน (Giffarine) นัน้ เลือกใช้วตั ถุดบิ จากเกษตรกรไทยและร่วมมือ กับองค์กรระดับโลกอย่าง บริษทั ดีเอสเอ็ม นิวทริชนั่ แนล โปรดักส์ ของสวิตเซอร์แลนด์ ในการยกระดับมาตรฐาน ความปลอดภัยผูบ้ ริโภคให้อยูใ่ นระดับสากล ธุรกิจประเภทอุตสาหกรรมหนัก การออกแบบ อาหาร และสุขภาพ รวมถึงแบรนด์ไทยอืน่ ๆ อีกนับไม่ถว้ น ล้วนมีสว่ นช่วยในการผลักดันให้สนิ ค้าไทยได้เฉิดฉายบนเวทีโลก ทัง้ ยังสร้างความเปลีย่ นแปลงในประเทศไป พร้อมๆ กัน ความส�ำเร็จของแบรนด์เหล่านีไ้ ม่ได้มตี วั ชีว้ ดั เป็นยอดขายหรือโฆษณาฉาบฉวย แต่สะท้อนอยูใ่ น พันธกิจและค่านิยมขององค์กรซึง่ สร้างความภาคภูมใิ จให้กบั คนไทยทัง้ ประเทศ ทัง้ หมดทัง้ มวลนีเ้ องคือเรือ่ งราว ความส�ำเร็จของบรรดา ไทยแลนด์ แบรนด์ ฮีโร่


MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


006 BUILDING BLOCKS 034 FLAVORS OF SIAM 090 BY DESIGN 128 FEELING GOOD


AYODHYA proudly carries T Mark: the sign of Quality and Excellence. Heart-felt passion transformed into ideas that harmonize local materials with exquisite craftmanship where quality in every design is recognized by the world.


BUILDING BLOCKS INDUSTRY AND CONSTRUCTION Corporate Social Responsibility

006 | 007


GOING GREEN Thailand’s construction and heavy industry sectors are helping to pave the way to a sustainable future in new and exciting ways On May 5, 2014, Thailand’s Northern city of Chiang Rai was hit by a 6.3 magnitude earthquake, the largest ever recorded in the Kingdom. In addition to the widespread damage, 73 schools were destroyed, leaving 2,000 students without classrooms and causing 150 million baht in destruction. Within three weeks of the crisis, local disaster agencies had identified nine schools for urgent reconstruction. They needed a solution, and they needed it quickly. Within six weeks, various members of local industry and government organizations had created plans for buildings far removed from the template Thai schools have adhered to since the 1960s. They would use sustainable materials, like locally-grown bamboo, to build the structures, which were designed to be both aesthetically beautiful and resistant to future earthquakes. The buildings would be functional, strong and environmentally sustainable—it would be a fresh start to a community left beaten and battered. Once completed, the disaster-resistant designs came to inspire Thailand’s pavilion at the prestigious Venice Biennale architecture fair. On the world stage, the initiative quickly became a testament to Thailand’s commitment to construct a sustainable future. In this case, bringing environmentally-friendly classrooms back to Chiang Rai’s disaster-stricken students. But this was more than simply an example of industry and government working together for a good cause, it was indicative of a growing trend in Thailand’s industrial sector for greener products that put community first. There are countless other examples of Thai-based producers in nearly all sectors of heavy industry—such as rubber, ceramics and metal production—who are helping to create the building blocks for Thai society while placing an increased focus on environmental and social responsibility.

Chiang Rai’s post-earthquake schools are eco-friendly and built using sustainable materials

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


These disaster-resistant structures quickly became a testament to Thailand’s commitment to sustainability

ภัยพิบตั ไิ ด้เหล่านีจ้ งึ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กบั ศาลา ไทยในงานมหกรรมศิลปะ Venice Biennale และได้ กลายเป็นเครือ่ งพิสจู น์ถงึ ความมุง่ มัน่ ของประเทศไทย ในการสรรค์สร้างอนาคตทีย่ งั่ ยืนให้เป็นทีป่ ระจักษ์แก่ สายตาโลก โดยเริ่มต้นจากการมอบห้องเรียนที่เป็น มิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในจังหวัดเชียงราย

Inside one of the Chiang Rai schools constructed after a devastating 6.3 magnitude earthquake in May 5, 2014

นวัตกรรมดังกล่าวเป็นมากกว่าการร่วมมือกันของภาค อุตสาหกรรมและรัฐบาลในการช่วยเหลือสังคม เพราะ นีค่ อื สิง่ ทีก่ ำ� หนดแนวโน้มทีก่ ำ� ลังเติบโตในภาคอุตสาหกรรมไทย เช่น การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สเี ขียวทีค่ ำ� นึง ถึงชุมชนเป็นหลัก ยังมีผผู้ ลิตไทยอีกหลายรายในแทบ ทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมหนักที่ก�ำลังเจริญรอย ตามแนวทางดังกล่าว เช่น อุตสาหกรรมยางพารา เมือ่ วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เกิดเหตุแผ่นดิน เซรามิก และโลหะ ซึง่ มีบทบาทในการสร้างความมัน่ คง ไหวขนาด 6.3 แมกนิจตู ในจังหวัดเชียงราย ซึง่ นับเป็น ให้กับสังคมไทย พร้อมทั้งให้ความส�ำคัญกับความ แผ่ น ดิ น ไหวที่ รุ น แรงที่ สุ ด ในประวั ติ ศ าสตร์ ไ ทย รับผิดชอบด้านสิง่ แวดล้อมและสังคมไปด้วย นอกจากแรงแผ่นดินไหวจะก่อให้เกิดความเสียหายใน วงกว้างแล้ว โรงเรียน 73 แห่งในพืน้ ทีย่ งั ได้รบั ความ แนวโน้มนีเ้ ป็นส่วนหนึง่ ในการผลักดัน เป้าหมายการ เสียหาย ท�ำให้นกั เรียนกว่า 2,000 คนไร้หอ้ งเรียน พัฒนาทีย่ งั่ ยืน (SDGs) 17 ข้อ ของสหประชาชาติ และทรัพย์สินได้รับความเสียหายทั้งหมดกว่า 150 ในปี พ.ศ. 2558 จากนานาประเทศทัว่ โลก และคาด ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ทตี่ กอยูใ่ นสภาวะ ว่าจะมีผลบังคับใช้ในประเทศไทยภายในปี พ.ศ. 2563 วิกฤต หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยใน ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสังคมที่ ท้องทีไ่ ด้กำ� หนดให้มกี ารบูรณะโรงเรียนทีไ่ ด้รบั ความ ยุตธิ รรมและมีสขุ ภาพดีให้สำ� เร็จภายในปี พ.ศ. 2573 เสียหาย 9 แห่งอย่างเร่งด่วน เนื่องจากต้องการ ผ่านโครงการต่างๆ ทีม่ งุ่ เน้นเรือ่ งการบริโภคและการ หาทางแก้ปญ ั หาอย่างรวดเร็วทีส่ ดุ ภาคอุตสาหกรรม ผลิตทีม่ คี วามรับผิดชอบ การสนับสนุนให้ประชาชนมี ในประเทศและหน่วยงานของรัฐได้ใช้เวลา 6 สัปดาห์ น�ำ้ สะอาดดืม่ ใช้ และการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่าง ในการจัดท�ำแปลนอาคารใหม่ขึ้น ซึ่งเป็นแปลนที่ ยั่งยืน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่มีเดิมพันสูงทั้งสิ้น แตกต่างจากรูปแบบมาตรฐานของอาคารเรียนไทย รายงานเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก (Global Footprint ทัว่ ไปทีใ่ ช้กนั มากว่า 50 ปีโดยสิน้ เชิง เนือ่ งจากใช้วสั ดุ Network) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเชิงนโยบายระดับโลก ที่มีความยั่งยืนอย่างไม้ไผ่ที่ปลูกในท้องถิ่นส�ำหรับ ระบุว่าหากเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในปี โครงสร้างอาคาร ท�ำให้อาคารมีรปู ทรงทีส่ วยงามและ พ.ศ. 2573 ประชากรทั่วโลกจะใช้ทรัพยากรเป็น ทนทานต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นใน 2 เท่าของปริมาณทีธ่ รรมชาติสามารถผลิตทดแทนได้ อนาคต อาคารใหม่เหล่านีโ้ ดดเด่นในเรือ่ งประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในประเทศไทย ซึง่ เป็นพืน้ ทีอ่ อ่ นไหว ใช้สอย ความแข็งแกร่ง และความยัง่ ยืนทางสิง่ แวดล้อม ต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ วารสาร ท�ำให้ชมุ ชนซึง่ ได้รบั ความเสียหายอย่างหนักหน่วงกลับ Asia-Pacific Journal of Public Health ได้คาดการณ์ ว่าหากข้อตกลงปารีสไม่บรรลุผลส�ำเร็จ จีดีพีของ มาเริม่ ต้นใหม่อกี ครัง้ ประเทศไทยจะลดลงถึง 6% ในปี พ.ศ. 2573 และ หลังการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อาคารทีส่ ามารถต้าน ลดลงถึง 90% ในปี พ.ศ. 2642 008 | 009


One of PTT’s businesses, PTT Lubricants, is a prime example of the company’s commitment to a sustainable future. Its commitment to international quality standards, innovative technology and sustainable practices exemplify the traits of a T-Mark brand hero. In 2015, PTT Lubricants offered API SN products and a new package design. This design reduced its use of plastic by as much as 12 percent. In 2016, PTT Lubricants launched Performa Euro Syn for European cars, offering better fuel economy with longer drain intervals. Another leader in Thailand’s sustainability mission is COTTO, a world-class manufacturer of tiles and sanitary ware under the mighty SCG Group. One of Thailand’s industrial success stories, its products can be found across Asia, and as far as Europe and North America. Much of the company’s widespread success is attributable to its core values: sustained investment in pioneering production technology, research and development and highly skilled employees.

COTTO is the first brand in Thailand to proudly display a CO2 reduction label on its tiles, sanitary ware and faucets

This trend is part of a global push to enact the United Nations’ 17 Sustainable Development Goals (SDGs), which were issued in 2015. Expected to come into force in Thailand by 2020, the UN’s master plan aims for a fairer, healthier society by 2030 through initiatives aimed at responsible consumption and production, access to clean water, and sustainable industry growth—and the stakes are high. According to a report by the Global Footprint Network, an international think tank, failure to reach these goals by 2030 will result in a global society that consumes twice as many resources as the Earth can naturally replenish. Thailand, in particular, is extremely vulnerable to climate change, and the Asia-Pacific Journal of Public Health estimates that the nation’s GDP could drop by as much as six percent by 2030 if the Paris Agreement doesn’t succeed—by 2099, that number will be 90 percent. These issues are increasingly catching the attention of heavy industry in Thailand, which relies on human and natural resources to thrive. According to a recent OECD development report by the World Bank, approximately 42 percent of Thailand’s economic structure is devoted to its industrial sector. As a nation, Thailand succeeds in many areas of sustainability and needs improvement in others. The nation ranks high on the global stage (and atop Southeast Asia) in terms of renewable energy production, but lags behind many of its neighboring countries, such as India, the Philippines and Indonesia, in terms of carbon emissions. But that’s not to downplay the country’s leading role in Southeast Asia’s push for a greener future. Thailand has, in fact, had a head start

due to the late King Bhumipol’s Sufficiency Economy Philosophy (Setthakit Pho Phiang), which promotes balanced progress with moderation, prudence and reasonableness. Through sustainable, community-driven projects, Thailand’s major corporations are giving shape to these values. If you are looking for examples of companies making an effort to live up to Thailand’s sustainability initiatives, look no further than PTT. One of the largest corporations in the country, it is also the only company from Thailand listed in the Fortune Global 500 companies. By 2020, PTT aims to achieve zero growth in its emission growth rate. It is also increasing its number of green products and has set an aggressive zero hazardous waste-to-landfill target. Greenhouse Gas (GHG) emissions are to be cut by five percent compared to 2012, while energy consumption will drop by 1.9% annually from 2017 on.

While business success on the international stage is often rightfully lauded in Thailand, it’s the company’s leadership role in the nation’s sustainability movement that is worth noting. COTTO was one of the first heavy industry brands in Thailand to embrace the importance of ISO (International Organization of Standardization) certification. It has also founded its own line of eco-products, titled ECO COTTO. Thanks to dedicated and clean production methods, the brand has earned an ISO 14021 certification verifying it as environmentally-friendly. This has made COTTO the first brand in Thailand to proudly display a CO2 reduction label on its tiles, sanitary ware and faucets. The sustainability movement doesn’t stop at these two brands. Countless members of Thailand’s industrial sector—such as Keratiles Ceramic, Altron, FB Battery and Mitsumaru—are pushing the boundaries of intelligent design and environmental sustainability to create functional products that don’t destroy the planet. As the world’s 16th largest manufacturer of goods, Thailand can have an outsize role in promoting sustainable practices in the industrial sector. Thanks to highly committed corporations and a handful of dedicated smaller companies that are paving the way for that transformation. And with Thailand’s unique position at the middle of other ASEAN members, those changes will be felt throughout the region.

After Thailand’s commitment to the Paris Agreement in 2015, PTT Lubricants reduced its reliance on plastic packaging by as much as 12 percent

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ปัญหาเหล่านีส้ ร้างความวิตกแก่ภาคอุตสาหกรรมหนัก ของไทยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรม ทีต่ อ้ งพึง่ พาทรัพยากรมนุษย์และทรัพยากรธรรมชาติ ในการเติบโต รายงานการพัฒนาขององค์การเพือ่ ความ ร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) โดย ธนาคารโลก ระบุวา่ ประมาณ 42% ของโครงสร้าง เศรษฐกิจไทยนัน้ มาจากภาคอุตสาหกรรม แม้ประเทศ ไทยจะถือว่าประสบความส�ำเร็จในเรื่องความยั่งยืน หลายๆ ด้าน แต่ก็จ�ำเป็นต้องได้รับการพัฒนาใน เรือ่ งอืน่ ๆ เช่นกัน การผลิตพลังงานทดแทนของไทย นัน้ มีประสิทธิภาพเป็นอันดับต้นๆ ของโลก (และสูงสุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) แต่ยงั คงตามหลังประเทศ เพือ่ นบ้านอย่าง อินเดีย ฟิลปิ ปินส์ และอินโดนีเซีย อยู่ในเรื่องการจ�ำกัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ถงึ กระนัน้ บทบาทของไทยในการขับเคลือ่ นอนาคต สีเขียวภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่ได้ ลดลงแต่อย่างใด ประเทศไทยนัน้ ได้เปรียบชาติอนื่ ๆ เนือ่ งจากมีหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งส่งเสริมให้ ประชาชนพั ฒ นาชี วิ ต อย่ า งสมดุ ล ด้ ว ยการรู ้ จั ก ประมาณตน มัธยัสถ์ และใช้เหตุผลในการไตร่ตรอง ซึ่งบรรดาบริษัทชั้นน�ำของไทยก�ำลังด�ำเนินการสร้าง คุณค่าเหล่านีใ้ ห้เป็นรูปธรรมผ่านการจัดตัง้ โครงการที่ ยัง่ ยืนโดยมีชมุ ชนเป็นตัวขับเคลือ่ น

ผลิตภัณฑ์ของคอตโต้ได้รับการวางจ�ำหน่ายไปทั่ว ทั้ ง ภู มิ ภ าคเอเชี ย รวมทั้ ง ส่ ง ออกไปยั ง ยุ โ รปและ อเมริกาเหนือ ความส�ำเร็จในวงกว้างของคอตโต้เป็น ผลมาจากการยึ ด ถื อ ค่ า นิ ย มหลั ก ขององค์ ก รซึ่ ง ประกอบด้วย การลงทุนอย่างยัง่ ยืนในด้านเทคโนโลยี การผลิตทีล่ ำ�้ สมัย การวิจยั และพัฒนา และการเฟ้นหา บุคลากรทีม่ คี วามเชีย่ วชาญ

การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนผลิตภัณฑ์กระเบือ้ ง สุขภัณฑ์ และก๊อกน�ำ้ อย่างภาคภูมิ

การขั บ เคลื่ อ นความยั่ ง ยื น ในอุ ต สาหกรรมไทย ไม่ได้หยุดอยูเ่ พียงสองแบรนด์ดงั กล่าว เพราะธุรกิจเจ้า อืน่ ๆ ในภาคอุตสาหกรรมอย่าง เคอร่าไทล์ เซรามิก (Keratiles Ceramic) อัลทรอน (Altron) เอฟบี แบตเตอรี่ (FB Battery) และมิตซูมารุ (Mitsumaru) แม้ความส�ำเร็จทางธุรกิจของคอตโต้ในเวทีโลกจะได้รบั ก็ได้เดินหน้าพัฒนาดีไซน์อัจฉริยะและส่งเสริมความ การเชิดชูอย่างสมเกียรติในประเทศ แต่บทบาทความ ยัง่ ยืนทางสิง่ แวดล้อมเพือ่ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็น เป็นผู้น�ำของคอตโต้ในการผลักดันเรื่องความยั่งยืน ประโยชน์และเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมเช่นกัน กลับเป็นสิง่ ทีห่ ลายคนควรให้ความส�ำคัญ คอตโต้คอื แบรนด์อตุ สาหกรรมหนักเจ้าแรกของไทยทีเ่ ล็งเห็นถึง ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของโลก ความส�ำคัญของการรับรองมาตรฐาน ISO (Interna- ประเทศไทยจึงมีบทบาทส�ำคัญในการสนับสนุนการ tional Organization of Standardization) นอกจากนี้ ประกอบกิจการเพื่อความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม คอตโต้ยังจัดตั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมขึ้น ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากธุรกิจรายย่อยทีม่ งุ่ มัน่ ใน ภายใต้ชอื่ อีโค คอตโต้ (ECO COTTO) ด้วยวิธกี าร การสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน และด้วย ผลิตทีพ่ ถิ พี ถิ นั และปราศจากสารเคมีอนั ตราย คอตโต้ ต� ำ แหน่ ง ทางภู มิ ศ าสตร์ ข องประเทศไทยซึ่ ง ตั้ ง อยู ่ จึงได้รบั การรับรองมาตรฐาน ISO 14021 ซึง่ เป็นการ ใจกลางระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ความ ยืนยันถึงความเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมของผลิตภัณฑ์ เปลี่ยนแปลงเหล่านี้จึงสามารถส่งอิทธิพลไปทั่วทั้ง ด้วยเหตุนคี้ อตโต้จงึ เป็นแบรนด์แรกของไทยทีต่ ดิ ฉลาก ภูมภิ าค

หากจะพูดถึงตัวอย่างของบริษทั ทีส่ ามารถด�ำเนินการ ให้สอดรับกับแผนความยั่งยืนของประเทศไทยนั้น คงไม่มใี ครจะโดดเด่นไปกว่าปตท. นอกจากจะเป็นหนึง่ ในองค์กรทีม่ ขี นาดใหญ่ทสี่ ดุ ในประเทศแล้ว ปตท. ยัง เป็นบริษทั แห่งเดียวของไทยทีต่ ดิ อันดับ 500 บริษทั ที่ ใหญ่ทสี่ ดุ ของโลกโดยนิตยสารฟอร์จนู ปตท. ได้ตงั้ เป้า ทีจ่ ะลดอัตราการปล่อยมลพิษให้เป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2563 อีกทัง้ ยังมุง่ เพิม่ จ�ำนวนของผลิตภัณฑ์สเี ขียวและ ก�ำหนดมาตรการเพือ่ ลดการฝังกลบของเสียอันตราย ให้เป็นศูนย์ โดยอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ของบริษทั จะต้องลดลง 5% เมือ่ เทียบกับปี พ.ศ. 2555 ในขณะที่การใช้พลังงานจะลดลงปีละ 1.9% ต่อปี นับตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป ธุรกิจหล่อลืน่ ปตท. หนึง่ ในธุรกิจของบริษทั ปตท. จ�ำกัด (มหาชน) เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เด่นชัดของ บริษทั ทีย่ งั ยึดมัน่ ในการพัฒนาอย่างยัง่ ยืนเพือ่ อนาคต ซึง่ คุณลักษณะอย่างการยึดมัน่ ในการรับรองมาตรฐาน สากล นวัตกรรมเทคโนโลยีรปู แบบใหม่ และการปฎิบตั ิ เพือ่ บรรลุผลแห่งความยัง่ ยืน ล้วนแต่เป็นสิง่ ทีค่ วรค่า แก่การได้รบั ตรามาตรฐานแบรนด์ไทยบนเวทีโลกอย่าง T Mark ในปี พ.ศ. 2558 ผลิตภัณฑ์หล่อลืน่ ปตท. ได้นำ� เสนอผลิตภัณฑ์หล่อลืน่ API SN เป็นรายแรก ของประเทศ และบรรจุภณ ั ฑ์รปู แบบใหม่ทสี่ ามารถลด ปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกลงได้ถงึ 12% ทัง้ นีใ้ นปี 2559 ได้พฒ ั นาและวางจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ Performa Euro Syn ส�ำหรับรถยนต์ยโุ รป ทีใ่ ห้การประหยัดน�ำ้ มัน เชือ้ เพลิงและยืดอายุการเปลีย่ นถ่ายทีน่ านยิง่ ขึน้ อีกหนึ่งผู้น�ำส�ำคัญในภารกิจความยั่งยืนของไทยคือ คอตโต้ (COTTO) ซึง่ เป็นผูผ้ ลิตกระเบือ้ งและสุขภัณฑ์ ระดับโลกภายใต้กลุ่มบริษัทเอสซีจี (SCG Group) ในฐานะธุรกิจทีป่ ระสบความส�ำเร็จในอุตสาหกรรมไทย

The newly designed schools in Chiang Rai are constructed to resist future earthquakes

010 | 011


R

Thailand is home to some of the world’s greatest rubber plantations, which produce a raw material that has formed many of the country’s business success stories. From a small business making bumpers and tires founded 49 years ago, Chaiseri Metal & Rubber Co. now makes state-of-the-art military vehicles capable of withstanding blasts that would tear through a traditional armored vehicle. But Nopparath Koolhiran, Vice President and Manager of Foreign Affairs of Chaiseri Metal & Rubber Co., Ltd., stresses that Thai rubber is still at the heart of Chaiseri, and that the business continually refines and improves its formulas. As a producer of tires, joints and bushings, Chaiseri began maintaining Thai army vehicles and even upgrading them. This set Chaiseri on path to developing increasingly sophisticated products: continuous tracks, tank wheels, rubber-to-metal bonded parts, belt jointsand torque rods. Chaiseri would identify a weakness in the Royal Thai Army’s imported vehicles and set out to correct it. Today, tanks on Chaiseri tracks

are quieter run, more smoothly and cause less damage to roads. Chaiseri run-flat tires can last 150km before needing to be changed. Chaiseri’s most ambitious project yet is the First Win 4x4 (FW4x4). Noting that some armored vehicles had blast resistant doors but that their underside was not protected—a fatal weakness against improvised explosive devices buried in roads—Chaiseri developed its own unique design, a blast-proof v-shaped monocoque hull. Chaiseri’s superlative products have won the trust of Thailand’s Ministry of Defense and relevant agencies. But the FW4x4 has also already been sold to Malaysia and the Philippines. In fact, Ms. Nopparat is hoping the UN too will soon choose the FW4x4 for its missions across the globe. From a producer of rubber parts to a high-tech defense contractor, Chaiseri embodies the qualities of innovation that define the T Mark.

Nopparath Koolhiran Vice President and Manager of Foreign Affairs, Chaiseri

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ประเทศไทยถือเป็นแหล่งปลูกยางพาราทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ แห่งหนึง่ ของโลก ซึง่ เป็นวัตถุดบิ ทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหลังเรือ่ งราวความส�ำเร็จของธุรกิจน้อยใหญ่ของไทย จากกิจการผลิตกันชน และยางรถยนต์เล็กๆ เมือ่ 49 ปีกอ่ น ปัจจุบนั ชัยเสรีเมทท็อลแอนด์รบั เบอร์ จ�ำกัด ได้ยกระดับธุรกิจเป็นผูผ้ ลิตรถถังทีท่ นั สมัยและทนทานต่อแรงระเบิดสูงกว่ารถหุม้ เกราะทัว่ ไป นพรัตน์ กุลหิรญ ั รองประธานกรรมการและผูจ้ ดั การฝ่ายต่างประเทศ เน้นย�ำ้ ว่ายางพาราไทยยังคงเป็นหัวใจส�ำคัญในการผลิตของชัยเสรี และทางบริษทั จะเดินหน้าปรับแต่งและพัฒนาสูตรยางของตนอย่างต่อเนือ่ ง สืบเนือ่ งจากการเป็นผูผ้ ลิตยางรถ ข้อต่อ และบูชแบบต่างๆ ชัยเสรีจงึ เริม่ ให้บริการ ซ่อมแซมและปรับแต่งรถถังของกองทัพเสริมเข้ามาในภายหลัง บริการต่างๆ เหล่า นี้ท�ำให้ชัยเสรีก้าวไปสู่การเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น ตีนตะขาบ ล้อรถถัง ชิ้นส่วนยางเชื่อมโลหะ ข้อต่อสายพาน และลูกหมากรถ ชัยเสรีจะตรวจสอบหาข้อบกพร่องของรถถังทีก่ องทัพไทยน�ำเข้าจากต่างประเทศและ น�ำมาปรับแก้ ปัจจุบนั รถถังทีผ่ ลิตโดยชัยเสรีนนั้ วิง่ ได้เงียบและนุม่ กว่า ทัง้ ยังสร้าง ความเสียหายให้กับพื้นถนนได้น้อยกว่า นอกจากนี้ยางรันแฟลตของชัยเสรียัง สามารถวิง่ ได้ถงึ 150 กิโลเมตรต่อการเปลีย่ นยางแต่ละครัง้ โครงการทีล่ ำ้� หน้าทีส่ ดุ ของชัยเสรีในขณะนีค้ อื รถเกราะเฟิรส์ วิน 4x4 (FW4x4) ชัยเสรีคน้ พบว่ารถเกราะบางประเภทมีประตูกนั แรงระเบิดแต่กลับไม่มกี ารป้องกัน บริเวณใต้ทอ้ งรถ ซึง่ เป็นจุดอ่อนส�ำคัญทีอ่ าจส่งผลถึงแก่ชวี ติ หากรถวิง่ ทับกับระเบิด ทีฝ่ งั อยูใ่ ต้ดนิ ด้วยเหตุนชี้ ยั เสรีจงึ ได้พฒ ั นารถหุม้ เกราะโมโนค็อก (monocoque) ซึง่ ตัวถังและโครงรถเป็นเกราะหนาประกอบกันเป็นชิน้ เดียว ยุทโธปกรณ์คณ ุ ภาพ สูงของชัยเสรีจงึ ได้รบั ความไว้วางใจจากกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานความมัน่ คง ต่างๆ นอกจากนี้ รถเกราะ FW4x4 ยังถูกส่งออกไปจ�ำหน่ายให้กบั กองทัพมาเลเซีย และฟิลปิ ปินส์ดว้ ย โดยส่วนตัวนพรัตน์เองก็คาดหวังว่าในอนาคตรถเกราะ FW 4x4 ของชัยเสรีจะได้รบั เลือกจากสหประชาชาติให้นำ� ไปใช้ในการปฏิบตั ภิ ารกิจทัว่ โลก ด้วยการเติบโตจากธุรกิจชิน้ ส่วนอะไหล่ยางพารา มาสูก่ ารเป็นผูผ้ ลิตยุทโธปกรณ์ ไฮเทคให้กบั กองทัพต่างๆ บริษทั ชัยเสรีจงึ เป็นเสมือนตัวแทนคุณภาพงานนวัตกรรม ซึง่ ท�ำให้บริษทั ฯ สามารถคว้าตราสัญลักษณ์รบั รองคุณภาพสินค้า Thailand Trust Mark (T Mark) มาครองได้สำ� เร็จ

012 | 013


COTTO is a world-class manufacturer of tiles and sanitary ware under the wing of the SCG Group. The company’s success is the result of sustained investment in pioneering production technology, extensive research, talented designers and a highly skilled workforce. The SCG Group began manufacturing mosaic tiles as COTTO brand products for export to Europe, USA and Japan in 1979. In 2009, the company started COTTO STUDIO, which produces a complete line of tiles, sanitary wares and faucets to provide total solutions for customers. Another significant milestone in the development of the company came in 2012 when COTTO took a big leap to becoming a global brand with its new concept, “Share the World Pleasure.” COTTO was selected to participate in Milan Design Week 2012 in Italy where it exhibited unique designs and technologies and received positive feedback from designers around the world for its high-quality products and innovative designs. Key to COTTO’s success on the international stage is its gifted team. Designers include Innovation Director Sanpang-iam Kriangkrai and Product Development Director Somnuk Komolsevekul. Somnuk is the recipient of many product design awards, including the G Mark Good Design Award from the Japan Industrial Design Promotion Organization (JDP), the DEmark Award for Design Excellence from DITP and numerous Best of The Best Red Dot Design Awards. Another essential member of the team is Anuvat Chalermchai, COTTO’s brand director, who has been instrumental in helping the brand achieve worldwide recognition. COTTO was the first company in Thailand to recognize the importance of international standard certification. The company focuses on manufacturing standards, product quality, environmental concerns and export standards, and has received many standard guarantees and institution certifications. These include the SCG Eco Value certificate, the Water Efficiency Labeling and Standard (WELS) Scheme, the Water Consumption Saver Stars guarantee by the Australian government, and many more. COTTO is committed to offering green products and has its own ECO COTTO brand. The environmentally-friendly products are verified by the SCG and carry the SCG Eco Value label. Products or services with SCG Eco Value label must be manufactured by a specialized production process to reduce environmental impact and must comply with ISO 14021. COTTO has become the first brand to be certified with a CO2 reduction label for its tiles, sanitary ware and faucet production.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


คอตโต้คอื ผูผ้ ลิตกระเบือ้ งและสุขภัณฑ์ระดับโลกซึง่ อยูภ่ ายใต้ การบริหารงานของกลุ่มบริษัทเอสซีจี (SCG Group) ความ ส�ำเร็จของบริษทั เป็นผลจากการลงทุนทีย่ งั่ ยืนในด้านเทคโนโลยี การผลิตทีล่ ำ�้ สมัย การค้นคว้าวิจยั ทีค่ รอบคลุม นักออกแบบที่ มีความสามารถ และแรงงานที่มีทักษะสูง กลุม่ บริษทั เอสซีจเี ริม่ ต้นผลิตกระเบือ้ งโมเสคภายใต้ชอื่ คอตโต้ เพื่อส่งออกไปยังยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2522 ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 บริษัทฯ ได้เปิดตัว คอตโต้ สตูดิโอ (COTTO STUDIO) ซึ่งผลิตกลุ่มสินค้า ประเภทกระเบื้อง สุขภัณฑ์ และก๊อกน�้ำ เพื่อให้บริการแบบ ครบวงจรส�ำหรับลูกค้า อีกหนึ่งหลักไมล์ส�ำคัญของบริษัทนั้น เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2555 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คอตโต้เติบโตอย่าง ก้าวกระโดดจนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก พร้อมกับแนวคิด ‘แบ่งปันความสุขให้แก่โลก’ คอตโต้ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม งาน มิลาน ดีไซน์ วีค 2012 ทีป่ ระเทศอิตาลีเพือ่ จัดแสดงดีไซน์ และเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคอตโต้ รวมทั้งยัง ได้เสียงตอบรับทีด่ จี ากนักออกแบบทัว่ โลก เนือ่ งจากสินค้าทีม่ ี คุณภาพสูงและรูปลักษณ์ที่ทันสมัย บุ ค ลากรมากฝี มื อ ของคอตโต้ คื อ กุ ญ แจสู ่ ค วามส� ำ เร็ จ บนเวทีโลก โดยมีนักออกแบบมือฉมังอย่าง สรรพางค์เอี่ยม เกรียงไกร ผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายนวัตกรรม และสมนึก กมลเสวีกลุ ผู้อ�ำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งก�ำกับดูแลการพัฒนา เทคโนโลยีและการออกแบบที่ยั่งยืนให้กับบริษัทฯ สมนึกเป็น เจ้าของรางวัลด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์จากหลายส�ำนัก อาทิ รางวัล Good Design Award (G Mark) จากองค์การ ส่งเสริมการออกแบบด้านอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (JDP) รวมถึ ง รางวั ล Design Excellence Award (DEmark) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และรางวัล Best of the Best จาก Red Dot Design Awards ขณะที่ อีกหนึ่งสมาชิกผู้มีบทบาทส�ำคัญยิ่งในการผลักดันให้คอตโต้ กลายเป็นแบรนด์ซ่ึงเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติคือ อนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็กเตอร์ของคอตโต้

Anuvat Chalermchai Brand Director, Cementhai Ceramics Co., Ltd.

คอตโต้คือผู้ประกอบการเจ้าแรกของไทยที่เล็งเห็นถึงความ ส� ำ คั ญ ของการได้ รั บ การรั บ รองมาตรฐานในระดั บ สากล โดยให้ความส�ำคัญกับมาตรฐานการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์ ความตระหนักในด้านสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานการส่งออก ด้วยเหตุนคี้ อตโต้จงึ ได้รบั การรับรองมาตรฐานต่างๆ จากหลาย สถาบัน อาทิ ฉลาก SCG Eco Value ซึ่งเป็นฉลากส�ำหรับ ผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม Water Efficiency Labeling and Standard (WELS) อันเป็นการรับรองมาตรฐาน อุตสาหกรรมในด้านสุขภัณฑ์และระบบการจัดการน�้ำจาก ประเทศออสเตรเลีย รวมทั้ง Water Consumption Saver Stars จากรัฐบาลออสเตรเลีย และอื่นๆ อีกมากมาย คอตโต้ ยึ ด มั่ น ในการสร้ า งสรรค์ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เ ป็ น มิ ต รต่ อ สิ่งแวดล้อม ผ่านการพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์อีโค คอตโต้ (ECO COTTO) ผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมเหล่านีจ้ ะ ต้องผ่านการรับรองโดยเอสซีจี และติดฉลาก เอสซีจี อีโค แวลู ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับฉลากเอสซีจี อีโค แวลู จะ ต้ อ งผ่ า นกรรมวิ ธี ก ารผลิ ต พิ เ ศษที่ ช ่ ว ยลดผลกระทบด้ า น สิ่งแวดล้อมและเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 14021 คอตโต้ยัง เป็นผู้ผลิตกระเบื้อง สุขภัณฑ์ และก๊อกน�้ำ รายแรกที่ได้ติด ฉลากคาร์บอน ซึ่งแสดงระดับการลดการปล่อยก๊าซเรือน กระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศอีกด้วย

014 | 015


Petroleum Authority of Thailand (PTT) was established in 1978, following the privatization of the state enterprise Petroleum Authority of Thailand, PTT Public Company Limited or “PTT” was registered in 2001, as Thailand’s national energy company. PTT holds a leading position, both upstream and downstream, in Thailand’s energy sector as a fully-integrated energy company both domestically and overseas in the areas of exploration and production, transmission, petrochemical, refining, marketing and trading of petroleum and petrochemical products. As a member of the Dow Jones Sustainability Indices, PTT never loses its grip on its social responsibilities, environmental protection and nature preservation. PTT has been involved in the lubricants business since 1978. PTT Lubricants is one of the leading professional manufacturers certified by ISO 9001 and ISO 14001. It provides the full range of high performance with advanced technology lubricants; automotive, industrial, specialty lubricants and greases; and variety of other services. PTT Lubricants’ emphasis is not only on smart performance but also smart technology and smart marketing. Thus, PTT Lubricants has become the number-one lubricant’s brand in Thailand for eight consecutive years and has been distributed to over 39 international destinations. With its philosophy of “The Moving Innovation”, PTT Lubricants is now ready to go beyond its limits to truly become a “Pride and Treasure of Thailand” on a global scale.

บริษทั ปตท. จ�ำกัด ( มหาชน ) หรือ ปตท. เป็นบริษทั พลังงานแห่งชาติ จดทะเบียนจัดตัง้ ในปี พ.ศ. 2544 โดยการแปลงสภาพจากการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ในปัจจุบนั ปตท. เป็นผูน้ ำ� ใน ภาคพลังงานของประเทศในฐานะบริษทั พลังงานแบบครบวงจร โดยมีธรุ กิจคลอบคลุมตัง้ แต่ตน้ น�ำ้ จนปลายน�ำ้ ไม่วา่ จะเป็นการส�ำรวจ การผลิต การวางระบบท่อส่ง ผลิตภัณฑ์ปโิ ตรเคมี การกลัน่ และซือ้ ขายพลังงานปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์เคมี ทัง้ ในประเทศและนอกประเทศ และในฐานะที่ ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นหนึง่ ในสมาชิกกลุม่ ดัชนีความยัง่ ยืนดาวโจนส์ DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) บริษทั ปตท. จ�ำกัด (มหาชน) ยังคงยึดมัน่ ในบทบาทความรับผิดชอบทางสังคมในการ รักษาสิง่ แวดล้อมและอนุรกั ษ์ธรรมชาติ

Buranin Rattanasombat Executive Vice President, Lubricants Business, PTT

ธุรกิจหล่อลืน่ ปตท. ถือก�ำเนิดในปี พ.ศ. 2521 โดยผลิตภัณฑ์หล่อลืน่ ปตท. เป็นหนึง่ ในผูผ้ ลิต ผลิตภัณฑ์หล่อลืน่ ชัน้ น�ำทีไ่ ด้รบั การรับรองมาตรฐานระบบการจัดการ ISO 9001 และ ISO 14001 ผลิตภัณฑ์หล่อลืน่ ปตท. มีผลิตภัณฑ์ทคี่ รอบคลุมทุกกลุม่ ความต้องการ ไม่วา่ จะเป็นผลิตภัณฑ์ หล่อลืน่ ส�ำหรับยานยนต์ อุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์หล่อลืน่ พิเศษ และจาระบี รวมไปถึงรูปแบบการ บริการอืน่ ๆ อีกมากมาย ธุรกิจหล่อลืน่ ปตท. ด�ำเนินงานโดยไม่ได้มงุ่ เน้นไปยังการด�ำเนินงานทีไ่ ด้ คุณภาพเพียงอย่างเดียว (smart performance) แต่ยงั ยึดมัน่ ในการใช้เทคโนโลยีและการใช้หลักการ ตลาดอย่างชาญฉลาด (smart technology & smart marketing) จึงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์หล่อลืน่ ปตท. เป็นแบรนด์อนั ดับ 1 ในประเทศไทยมาตลอด 8 ปีทผี่ า่ นมา นอกเหนือจากนี้ ปตท. ยังเชือ่ มัน่ ในหลักของ “นวัตกรรมแห่งการขับเคลือ่ น” จึงท�ำให้ผลิตภัณฑ์หล่อลืน่ ปตท. พร้อมรับทุกการ เปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวข้ามขีดจ�ำกัดสู่การเป็นสมบัติอันล�้ำค่าของคนไทยในฐานะบริษัทพลังงาน แห่งชาติ (Pride and Treasure of Thailand) บนเวทีโลก

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Altron is a popular Thai electronic appliance brand under Thai Habel Industrial Co., Ltd. Established in 1987 and headquartered in Bangkok, the company specializes in home audio and visual products such as LED and LCD TVs, DVDs, and small household appliances such as rice cookers and kettles. The Altron brand itself is a premium line of cutting-edge TVs with sleek designs and the latest technology, be it curved screens, innovative sound technology, or high-definition LTV panels. It represents an exciting new step for Thai electronics manufacturing—the creation of a recognizable brand that goes beyond OEM to offer the latest specs at highly competitive prices. The product range includes the Altron 39” Curved TV, the Altron Indigo Series LTV with DDSI (Dynamic Direct Sound Impact), the Altron 50” Smart TV with full HD, and the reasonably priced Maroon Series TV. The Altron brand is available through leading Thai retailers including Tesco Lotus, Big C Supercenter, Makro, Mega Home and the online retailer Lazada. In addition to its Altron brand, Thai Habel Industrial Co., Ltd. produces OEM brands of all home audio and visual products and small appliances for strategic partners in Thailand and overseas. Two factories located in Prachinburi and Nakorn Pathom have achieved Management System Standards ISO 9001:2008, Thai Industrial Standards Institutes (TISI) and Green Industry Qualification from the Ministry of Industry, which give local and international customers confidence in product quality.

Narindej Thaveesangpanich Deputy Managing Director, Thai Habel Industrial Co., Ltd

อัลทรอนคือแบรนด์เครือ่ งใช้ไฟฟ้ายอดนิยมของไทย ซึง่ ผลิตโดย บริษทั ไทยฮาเบล อินดัสเตรียล จ�ำกัด บริษทั ได้รบั การก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2530 และมีสำ� นักงานใหญ่ ตัง้ อยูท่ กี่ รุงเทพมหานคร บริษทั ไทยฮาเบลอินดัสเตรียล ด�ำเนินกิจการในฐานะ ผูป้ ระกอบการทีเ่ ชีย่ วชาญในเรือ่ งเครือ่ งใช้ไฟฟ้าประเภทภาพและเสียง เช่น โทรทัศน์ จอแอลอีดแี ละแอลซีดี เครือ่ งเล่นดีวดี ี และอุปกรณ์เครือ่ งใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น หม้อหุงข้าวและกาต้มน�ำ้ สินค้าของอัลทรอนเป็นผลิตภัณฑ์ทมี่ คี ณ ุ ภาพสูงและทันสมัย อาทิ ทีวดี ไี ซน์เรียบ หรูและใช้เทคโนโลยีใหม่ลา่ สุด ไม่วา่ จะเป็นหน้าจอโค้ง นวัตกรรมเทคโนโลยีเสียง หรือจอแอลทีวที มี่ คี วามละเอียดสูง อัลทรอนเปรียบเสมือนก้าวใหม่ของการผลิต สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยซึง่ ก้าวข้ามธุรกิจการรับจ้างผลิต (Original Equipment Manufacturer) และหันมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทใี่ ช้เทคโนโลยีทที่ นั สมัยในราคา ทีจ่ บั ต้องได้ ผลิตภัณฑ์ของอัลทรอนประกอบด้วย ทีวจี อโค้ง Altron 39” Curved TV ทีวี Altron Indigo Series LTV ทีม่ าพร้อมระบบเสียง DDSI (Dynamic Direct Sound Impact) สมาร์ททีวกี ว้าง 50 นิว้ ทีม่ าพร้อมความคมชัดระดับ Full HD และรุน่ Maroon Series ทีม่ าพร้อมความคุม้ ค่า สินค้าของอัลทรอนมีจำ� หน่ายตามห้างสรรพสินค้า ชัน้ น�ำทัว่ ประเทศ อาทิ เทสโก้โลตัส บิก๊ ซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ แม็คโคร เมกาโฮม รวมถึงร้านค้าออนไลน์ลาซาด้า นอกเหนือจากแบรนด์อัลทรอนแล้ว บริษัท ไทยฮาเบล อินดัสเตรียล จ�ำกัด ยังรับจ้างผลิตอุปกรณ์เครือ่ งเสียงและภาพ รวมถึงเครือ่ งใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กส�ำหรับ พันธมิตรทางธุรกิจทัง้ ภายในและต่างประเทศ โรงงานของอัลทรอนทัง้ 2 แห่งใน จั ง หวั ด ปราจี น บุ รี แ ละนครปฐมได้ รั บ การรั บ รองมาตรฐานระบบการจั ด การ ISO 9001:2008 มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และใบรับรอง อุตสาหกรรมสีเขียวจากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึง่ ช่วยสร้างความมัน่ ใจในคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ให้กบั ลูกค้าทัง้ ในและต่างประเทศ 016 | 017


The rich, mutlicolored, mesmerizing shimmer of Sonite’s mosaic surfaces are the kind of original-yettimeless, tasteful design statement you might find in a leading boutique designer hotel, or perhaps on the pages of a coffee table book about exquisite interiors. Such a beautifully rich appearance did not happen by chance. Nithiphan Darakananda, President of Sonite Surfaces, continually pushes the boundaries of what is possible working with polymer mosaic tiles. His product is thinner and lighter than glass mosaics, can be purchased in concave and convex shapes and, thanks to a project with pioneering young designer Apirat Boonruangthaworn, can even be applied to furniture. It’s no wonder, then, Nithiphan is a regular guest at the Thailand Creative and Design Centre, the Kingdom’s pioneering research facility for promoting Thai creativity. The double-layered tiles have an unparalleled shimmer, while the eco–friendly Bio–Composite line is made from recycled coffee grinds and rice husks. Indeed, Sonite isn’t just committed to beauty, but also to the environment. Its mosaics and surface coverings are consistently lauded by the most highlyregarded industry awards. At home, Sonite has earned dozens of accolades. Among its company mantle are a whopping eight DEmark awards for various collections, three Prime Minister’s Business Enterprise Awards and one Prime Minister’s Creative Award. Internationally, the brand has soaked up Japan’s Good Design Award and a Scarlet Opus Award in the United States.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Nithiphan Darakananda President, Sonite

แผ่นกระเบือ้ งโมเสคสีสนั สดใสระยิบระยับของโซไนต์ เซอร์เฟสเซสคืองานออกแบบ ทีม่ เี อกลักษณ์เฉพาะแต่ยงั คงเสน่หเ์ หนือกาลเวลาและความมีรสนิยมไว้ โดยสามารถ พบได้ตามโรงแรมบูติคชั้นน�ำที่มีจุดขายในเรื่องดีไซน์หรือในหนังสือแต่งบ้าน ลวดลายที่สวยสะดุดตาของตัวผลิตภัณฑ์ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ นิติพันธ์ ดารกานนท์ กรรมการผูจ้ ดั การบริษทั โซไนต์ เซอร์เฟสเซส ได้เดินหน้าเฟ้นหาวิธี การน�ำเอากระเบือ้ งโมเสคทีผ่ ลิตจากโพลีเมอร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สงู สุด ผลิตภัณฑ์ของโซไนต์ เซอร์เฟสเซสมีความบางและเบากว่าเมือ่ เทียบกับโมเสคทีเ่ ป็น แก้ว รวมทั้งมีแบบทรงเว้าและนูนให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ภายหลังการ ร่วมงานกับนักออกแบบรุน่ ใหม่อย่าง อภิรฐั บุญเรืองถาวร กระเบือ้ งโมเสคของ โซไนต์ เซอร์เฟสเซสจึงถูกน�ำไปประยุกต์ใช้กบั งานเฟอร์นเิ จอร์ จึงไม่ใช่เรือ่ งน่าแปลก ใจที่นิติพันธุ์ได้กลายมาเป็นขาประจ�ำของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) แหล่งค้นคว้าแห่งแรกๆ ของประเทศทีใ่ ห้การสนับสนุนในด้านความคิดสร้างสรรค์ ของคนไทย กระเบือ้ งเคลือบ 2 ชัน้ ของโซไนต์ เซอร์เฟสเซสมีประกายเงาโดดเด่นเหนือใคร ขณะทีผ่ ลิตภัณฑ์ทใี่ ช้วสั ดุผสมชีวภาพอันเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม (Bio-Composite) ซึง่ ท�ำมาจากกากกาแฟและแกลบ ได้แสดงให้เห็นว่าบริษทั ไม่เพียงแต่เน้นผลิตสินค้า ทีม่ คี วามสวยงามแต่ยงั ใส่ใจในเรือ่ งสิง่ แวดล้อมด้วย กระเบือ้ งโมเสคและวัสดุกรุพนื้ ผิวของโซไนต์ เซอร์เฟสเซสได้รบั การยกย่องให้ได้รบั รางวัลอันทรงเกียรติตา่ งๆ ในแวดวงอุตสาหกรรม บริษทั สามารถคว้ารางวัลมาครอง จากหลายเวทีในไทย ได้แก่ รางวัล Design Excellence Award (DEmark) รวม ทัง้ สิน้ 8 รางวัล จากความส�ำเร็จของผลิตภัณฑ์รนุ่ ต่างๆ รวมถึงรางวัลผูป้ ระกอบ ธุรกิจดีเด่นจ�ำนวน 3 รางวัล และรางวัล Prime Minister’s Creative Award จ�ำนวน หนึง่ รางวัล ส�ำหรับในเวทีนานาชาติ บริษทั โซไนต์ เซอร์เฟสเซสยังได้รบั รางวัล Good Design Award (G Mark) จากประเทศญีป่ นุ่ และรางวัล Scarlet Opus Award จากประเทศสหรัฐอเมริกา 018 | 019


Panel Plus Co., Ltd. was established in 1990 under Mitr Phol Group. The company is a producer of particle board, medium density fiberboard and melamine-faced panels, which are used as substitute materials for natural wood.

บริษทั พาเนล พลัส จ�ำกัด ก่อตัง้ ขึน้ เมือ่ ปี พ.ศ. 2533 ภายใต้การบริหารงานของกลุม่ มิตรผล บริษทั พาเนล พลัสคือผูผ้ ลิตไม้ปาร์ตเิ กิล้ ไม้เอ็มดีเอฟ และไม้เคลือบ เมลามีน ซึง่ เป็นวัสดุใช้ทดแทนไม้จริงจากธรรมชาติ

As a leading producer of substitute wood products, Panel Plus responds to its customers’ needs for value-added products by utilizing high technology in its production and business solutions. These high-quality products include short-cycle laminated melamine faced panels with enhanced resistance to scratches, moisture and chemicals, composite particle board made rubber wood, MDF medium density fiberboard, HMR MDF or highly moisture resistant medium density fiberboard and woodlook synchronous panels. The latest innovation from Panel Plus is Tricoya® ExDF, a completely new form of panel product that demonstrates outstanding durability and stability in the most extreme and challenging environments, both exterior and as interior.

ในฐานะผู ้ น� ำ ในด้ า นการผลิ ต วั ส ดุ ท นแทนไม้ พาเนล พลัสได้ตอบสนองความต้องการของผูบ้ ริโภคที่ มองหาผลิตภัณฑ์ทดี่ ยี งิ่ ขึน้ โดยการน�ำเอาเทคโนโลยี ขั้นสูงมาใช้ในกระบวนการผลิตและบริการทางธุรกิจ ต่างๆ ผลิตภัณฑ์คณ ุ ภาพสูงของพาเนล พลัสนัน้ มีตง้ั แต่ แผ่นไม้เคลือบเมลามีนที่ผ่านกระบวนการบิดผิวด้วย ความร้อนสูง (Short Cycle Press) ท�ำให้ทนทานต่อ รอยขีดข่วน ความชื้น และสารเคมี ไปจนถึงแผ่น ปาร์ตเิ กิล้ ไม้เอ็มดีเอฟ ไม้เอชเอ็มอาร์ เอ็มดีเอฟซึง่ ทน ต่อความชืน้ สูง และแผง Synchronous Panel ทีใ่ ห้ผวิ สัมผัสเหมือนไม้จริง นอกจากนี้ พาเนล พลัสยังได้เปิด ตั ว นวั ต กรรมใหม่ ล ่ า สุ ด อย่ า ง Tricoya® ExDF ไม้กนั น�ำ้ ซึง่ เหมาะส�ำหรับใช้ตกแต่งทัง้ ภายในและนอก อาคาร ซึง่ มีความแข็งแรงทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อม

Panel Plus employees regularly take part in CSR activities which range from helping flood victims in Southern Thailand to taking part in charity runs for children in need.

บุคลากรของพาเนล พลัสได้เข้าร่วมโครงการเพือ่ สังคม อย่างต่อเนือ่ ง นับตัง้ แต่การช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยน�ำ้ ท่วมในพืน้ ทีจ่ งั หวัดภาคใต้ของไทย ไปจนถึงงานวิง่ การ กุศลเพือ่ เด็กด้อยโอกาส

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


With its headquarters in Bangkok and an extensive manufacturing facility in Saraburi, Kenzai Ceramics specializes in the production of high-quality interior and exterior tiles. The company was established by Nalinee Tantiwatpanich as Piman Ceramics Co., Ltd in 1987. In 1991, the company was renamed Kenzai Ceramics Co., Ltd and expanded its production capacity to 500 sq meters per day with a new tunnel kiln. Today, equipped with the latest technology and a highly skilled team, Kenzai can produce up to 4,000 sq meters. of tiles per day. Kenzai products are certified with quality by ASTM from USA, EX87 from Italy, SASO standard from the Kingdom of Saudi Arabia for outstanding quality. The range of unglazed and homogeneous ceramics tiles are fired to 1,250 degrees Celsius and are suitable for use in homes, showrooms and as exterior decoration on building facades, walkways, terraces and pool decks.

เคนไซ ซี ร ามิ ค ส์ คื อ ผู ้ เ ชี่ ย วชาญในด้ า นการผลิ ต กระเบื้องคุณภาพสูงส�ำหรับการตกแต่งภายในและ ภายนอกอาคาร โดยมีสำ� นักงานใหญ่ตงั้ อยูท่ กี่ รุงเทพฯ และโรงงานผลิตขนาดใหญ่ในจังหวัดสระบุรี นลินี ตันติวฒ ั น์พานิช ได้กอ่ ตัง้ บริษทั ฯ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2530 ภายใต้ชอื่ บริษทั พิมาน ซีรามิคส์ จ�ำกัด ก่อนจะเปลีย่ น ชือ่ เป็นบริษทั เคนไซ ซีรามิคส์ จ�ำกัดในปี พ.ศ. 2534 รวมทั้ ง ขยายก� ำ ลั ง การผลิ ต กระเบื้ อ งเป็ น 500 ตารางเมตรต่อวัน และติดตัง้ เตาเผาเพิม่ อีกหนึง่ เตา ด้วยเทคโนโลยีใหม่ลา่ สุดและทีมงานมากฝีมอื ส่งผล ให้ปจั จุบนั เคนไซ ซีรามิคส์สามารถผลิตกระเบือ้ งได้ มากถึง 4,000 ตารางเมตรต่อวัน ผลิตภัณฑ์ของ เคนไซ ซีรามิคส์ยงั ได้รบั การรับรองคุณภาพมาตรฐาน ASTM จากสหรัฐอเมริกา มาตรฐาน EX87 จาก ประเทศอิตาลี และมาตรฐาน SASO จากประเทศ ซาอุดอิ าระเบีย

In 2010, Kenzai Ceramics penetrated markets in Laos, Myanmar, Cambodia and Brunei. Today, the tiles are also exported to the USA, Japan, Bangladesh, Singapore, the Philippines and throughout the Middle East.

กระเบื้องเซรามิกเนื้อเดียวที่ไม่ผ่านการเคลือบของ เคนไซ ซี ร ามิ ค ส์ ทุ ก ชิ้ น นั้ น ผ่ า นกรรมวิ ธี เ ผาด้ ว ย อุณหภูมิ 1,250 องศาเซลเซียส และเหมาะส�ำหรับที่ อยูอ่ าศัย ห้องจัดแสดงสินค้า ทัง้ ยังเหมาะส�ำหรับการ ตกแต่งบริเวณด้านหน้าอาคาร ทางเดิน ระเบียง และ บริเวณสระว่ายน�ำ้

Employees at Kenzai Ceramics are always ready to assist with enquiries. The company provides a free design service and accurate quotes for the number of tiles required. In 2017, the company’s products were awarded a DEmark Award for Design Excellence.

ในปี พ.ศ. 2553 บริษทั สามารถเจาะกลุม่ ลูกค้าใน ตลาดลาว พม่า กัมพูชา และบรูไน ได้สำ� เร็จ ปัจจุบนั กระเบือ้ งของเคนไซ ซีรามิคส์ได้รบั การส่งออกไปยัง สหรัฐอเมริกา ญีป่ นุ่ บังกลาเทศ สิงคโปร์ ฟิลปิ ปินส์ และประเทศต่างๆ ในภูมภิ าคตะวันออกกลาง พนักงานของเคนไซ ซีรามิคส์ยินดีให้บริการตอบ ข้ อ สงสั ย ของลู ก ค้ า พร้ อ มทั้ ง ให้ บ ริ ก ารออกแบบ และประเมินจ�ำนวนกระเบื้องโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในปี พ.ศ. 2560 ผลิตภัณฑ์ของเคนไซ ซีรามิคส์ยงั ได้ รับรางวัล Design Excellence Award (DEmark) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมาครองอีกด้วย 020 | 021


Clean, cool and refreshing air is essential for any home or business operating in a hot climate. It’s no surprise then that air-conditioning manufacturer Saijo Denki is one of Thailand’s greatest success stories. Not only is Saijo Denki consistently one of the top three best selling brands in Thailand, where it competes against the best-known foreign brands, but it also exports to Japan and countries across North America, Europe and the Middle East thanks to cutting-edge home technology. Founded in 1987 through a technological partnership with Japan, Saijo Denki builds its products almost entirely in-house, under one roof, and has its own research and development department. Over three decades, its products have achieved numerous milestones, from operating in heats above 55 degrees celsius, to the introduction of inverter system technology, to using UV rays to purify air, to round-the-clock ozone air purification, to complying with ISO 9002, 9001 and 14001 standards. Today, the company is focused on environmentally-friendly technologies (such as its R410A Air Conditioner, which is very successful in North America and Europe) and building smart capacities into its devices. For example, the latest Saijo Denki GPS Inverter air-conditioner can be controlled from your smartphone or programmed to turn on when you get within a three-kilometer radius of your home. Designed for on-the-go, affluent professionals with families, the smart-connected device allows owners to adjust their homes’ temperature from anywhere on Earth—be it New York or Bangkok.

อากาศทีส่ ะอาด เย็นสบาย และสดชืน่ เป็นสิง่ ส�ำคัญทีข่ าดไม่ ได้ส�ำหรับบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ในประเทศเขตร้อน จึงไม่ใช่เรือ่ งแปลกทีผ่ ผู้ ลิตเครือ่ งปรับอากาศอย่างซัยโจ เด็นกิ จะกลายเป็นตัวแทนความส�ำเร็จทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของ ประเทศไทย บริษทั ไม่เพียงติดอันดับ 1 ใน 3 ยีห่ อ้ สินค้าที่ ขายดีที่สุดในประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่ยังสามารถส่งออก เครื่องปรับอากาศไปจ�ำหน่ายยังญี่ปุ่นและประเทศในทวีป อเมริกาเหนือ ยุโรป และตะวันออกกลาง เนือ่ งด้วยเทคโนโลยี ส�ำหรับทีอ่ ยูอ่ าศัยทีม่ คี วามทันสมัย ซัยโจ เด็นกิได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 จาก ความร่วมมือทางเทคโนโลยีระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์เกือบทัง้ หมดของซัยโจ เด็นกิผลิตมาจากโรงงาน ของบริ ษั ท ฯ ซึ่ ง มี แ ผนกวิ จั ย และพั ฒ นาเป็ น ของตั ว เอง ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษทีผ่ า่ นมา ผลิตภัณฑ์ของ ซัยโจ เด็นกิได้รบั การปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพหลายด้าน ไม่วา่ จะเป็นความสามารถในการท�ำงานในอุณหภูมทิ สี่ งู กว่า 55 องศาเซลเซียส ระบบอินเวอร์เตอร์ การก�ำจัดเชือ้ โรคใน อากาศด้วยแสงยูวี การฟอกอากาศด้วยโอโซนตลอด 24 ชัว่ โมง นอกจากนี้ ซั ย โจ เด็ น กิ ยั ง ได้ รั บ การรั บ รองมาตรฐาน ISO 9002 มาตรฐาน ISO 9001 และมาตรฐาน ISO 14001 ปัจจุบนั บริษทั ซัยโจ เด็นกินนัน้ ให้ความส�ำคัญกับเทคโนโลยี ทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม เช่น เทคโนโลยีเครือ่ งปรับอากาศ รุ ่ น R410A ซึ่ ง ได้ รั บ เสี ย งตอบรั บ เป็ น อย่ า งดี ใ นทวี ป อเมริกาเหนือและยุโรป และการเพิม่ ขีดความสามารถอัจฉริยะ ต่างๆ ให้กบั เครือ่ งปรับอากาศ เช่น จีพเี อสอินเวอร์เตอร์รนุ่ ล่าสุดทีส่ ามารถควบคุมการท�ำงานได้ผา่ นสมาร์ทโฟนหรือตัง้ โปรแกรมให้เปิดปิดได้ภายในรัศมี 3 กิโลเมตรจากตัวบ้าน ด้วยรูปแบบของผลิตภัณฑ์ทตี่ อบโจทย์กลุม่ ผูใ้ ช้งานระดับบน ทีเ่ ป็นครอบครัวและต้องเดินทางตลอดเวลา อุปกรณ์อจั ฉริยะ ชิน้ นีย้ งั ช่วยให้ผใู้ ช้สามารถปรับอุณหภูมภิ ายในบ้านจากทีใ่ ด ก็ได้ในโลก ไม่วา่ จะเป็นกรุงเทพฯ หรือนิวยอร์ก

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Diamond Building Products Public Company Limited (DBP) is a manufacturer and distributor of roofing products, wall sidings and ceilings, artificial boards, and equipment for the installation of roof and house structures. The company also provides a service for the design and installation of roofs under its trademarks Diamond Roof, Adamas and Jearanai. Top quality products under the trademark “Diamond” are divided into three main categories: fiber cement roof tiles, concrete roof tiles and artificial boards. Tiles are made for a long service life, and can withstand all types of weather. They are easy to install, and a range of colors add elegance to homes and buildings.

บริษทั ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จ�ำกัด (มหาชน) (ดีบพี )ี คือผูผ้ ลิตและจัดจ�ำหน่ายกระเบือ้ งหลังคา แผ่นผนัง ฝ้าและไม้สังเคราะห์ รวมทั้งอุปกรณ์ส�ำหรับติดตั้ง หลังคาและโครงสร้างที่อยู่อาศัย บริษัทยังมีบริการ ออกแบบและติดตัง้ หลังคาภายใต้เครือ่ งหมายการค้า ตราเพชร อดามัส และเจียระไน ผลิตภัณฑ์คณ ุ ภาพ ตราเพชรแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ กระเบือ้ ง หลังคาซีเมนต์เส้นใย กระเบือ้ งหลังคาคอนกรีต และ ไม้สงั เคราะห์ กระเบือ้ งตราเพชรได้รบั การออกแบบ และผลิตเพือ่ ให้มอี ายุการใช้งานทีย่ าวนานและทนต่อ ทุกสภาพอากาศ สามารถติดตัง้ ง่าย และมีสสี นั หลาก หลายให้เลือกใช้ในการตกแต่งบ้านหรืออาคาร

The company enjoys strong growth in the surrounding CLMV market, seeing year-over-year increases in overall demand thanks to the booming construction sectors of Thailand’s neighbours. In total, the brand exports to 10 nearby markets, the largest being China.

บริษทั ผลิตภัณฑ์ตราเพชรเติบโตอย่างก้าวกระโดดใน ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ซึง่ มีความ ต้องการสินค้าโดยรวมเพิม่ ขึน้ ทุกปีเนือ่ งจากการขยาย ตัวของภาคการก่อสร้าง โดยบริษัทส่งสินค้าออกไป จ�ำหน่ายในกว่า 10 ประเทศ รวมถึงประเทศจีนซึง่ เป็น ตลาดทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ

DBP’s commitment to customer satisfaction includes unique designs, competitive pricing and excellent service through strong distribution channels and an efficient management system. Company employees enjoy a comfortable and sustainable learning environment, and the opportunity for career development. DBP enforces strict quality control measures to ensure the highest standards thrououghout production, including raw materials selection, packaging, on-time delivery and excellent after-sales service. This resulted in ISO 9001:2008 certifications from TUV NORD in 2010.

ดีบพี มี งุ่ มัน่ ทีจ่ ะมอบความพึงพอใจให้แก่ลกู ค้าในเรือ่ ง ดีไซน์ทเี่ ป็นเอกลักษณ์ ราคาทีย่ อ่ มเยา และบริการชัน้ ยอด ผ่านช่องทางการจัดจ�ำหน่ายทีน่ า่ เชือ่ ถือและระบบ บริหารจัดการทีม่ ปี ระสิทธิภาพ พนักงานของบริษทั ฯ ปฏิบตั งิ านในสภาพแวดล้อมทีด่ แี ละกระตุน้ ให้เกิดการ เรียนรูแ้ ละการพัฒนาทีย่ งั่ ยืน รวมทัง้ ได้รบั โอกาสและ ความก้าวหน้าในหน้าทีก่ ารงานอย่างต่อเนือ่ ง ดี บี พี มี ม าตรการควบคุ ม คุ ณ ภาพที่ เ ข้ ม งวดในทุ ก ขั้ น ตอน นั บ ตั้ ง แต่ ขั้ น ตอนการคั ด เลื อ กวั ต ถุ ดิ บ การควบคุมคุณภาพการผลิต บรรจุภณ ั ฑ์ การจัดส่ง สินค้าทีร่ วดเร็วและตรงเวลา ไปจนถึงบริการหลังการ ขายที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับการรับรอง มาตรฐาน ISO 9001:2008 จากสถาบัน TUV NORD เมือ่ ปี พ.ศ. 2553 022 | 023


For decades, Thai artisans have looked to the country’s rich array of natural resources to craft their homespun decorations, furniture and art, including the beautiful ceramic tiles that line many of the nation’s traditional homes. While these ceramic tiles often feature breathtaking designs and colorful patterns, their time-honored traditional production methods left them unstable and susceptible to cracks and damage, hurting their appeal on the international stage. That was all the opportunity a quick-thinking entrepreneur named Suchat Supaton needed. Drawing on his years of experience in the ceramic tile industry, Suchat created Keratiles Ceramic, the first company to fuse advanced manufacturing technology with traditional techniques, creating earthen tiles that were uniquely Thai, but strong and durable enough for the international market. Today, the company distributes its products through more than 400 domestic dealers and 30 countries worldwide. Despite its large production volumes, Keratiles Ceramic maintains a very respectable environmental record. It recycles around 30 percent of the raw materials used in its production, and currently holds ISO 14001 and ISO 9001 accreditation standards from the International Organisation for Standardization, which recognizes companies worldwide for their environmental efforts.

เป็ น เวลาหลายทศวรรษที่ ช ่ า งฝี มื อ ชาวไทยได้ ใ ช้ ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอนั อุดมสมบูรณ์ของ ประเทศ มาสร้างสรรค์เป็นของตกแต่ง เฟอร์นเิ จอร์ และงานศิลปะภายในบ้าน ซึ่งรวมถึงงานกระเบื้อง ดิ น เผาแบบที่ พ บได้ ทั่ ว ไปตามบ้ า นเรื อ นไทย แม้กระเบือ้ งเหล่านีจ้ ะมีลวดลายและสีสนั ตระการตา แต่การผลิตด้วยกรรมวิธแี บบดัง้ เดิมนัน้ ท�ำให้กระเบือ้ ง เสี่ยงต่อการแตกร้าวได้ง่าย วัสดุดังกล่าวจึงไม่ได้รับ ความนิยมในตลาดโลกเท่าทีค่ วร แต่สิ่งนี้กลับเป็นโอกาสทองส�ำหรับผู้ประกอบการ หัวสร้างสรรค์อย่าง สุชาติ ศุภทนต์ ด้วยประสบการณ์ อันคร�ำ่ หวอดในวงการกระเบือ้ งเซรามิก สุชาติได้กอ่ ตัง้ เคอร่าไทล์ เซรามิก ซึง่ เป็นบริษทั แห่งแรกทีม่ แี นวคิด ผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตทีท่ นั สมัยเข้ากับกรรมวิธี ดั้งเดิม เพื่อสร้างสรรค์เป็นกระเบื้องดินเผาที่ยังคง แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย แต่มคี วามแข็งแรง ทนทานตามมาตรฐานสากล ปัจจุบนั เคอร่าไทล์ เซรามิก จ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ผา่ นตัวแทนจ�ำหน่าย 400 แห่งใน ประเทศไทย และอีกกว่า 30 ประเทศทัว่ โลก แม้จะมี ก�ำลังผลิตมหาศาล แต่เคอร่าไทล์ เซรามิก ก็ไม่เคย ละเลยในเรือ่ งสิง่ แวดล้อม กล่าวคือ วัตถุดบิ ทีใ่ ช้ในการ ผลิตประมาณ 30% จะถูกน�ำไปรีไซเคิล ปัจจุบัน เคอร่าไทล์ เซรามิกได้รบั มาตรฐานการรับรองคุณภาพ ISO 14001 และ ISO 9001 จากองค์การระหว่าง ประเทศว่าด้วยมาตรฐานซึ่งให้การรับรองแก่บริษัท ต่างๆ ทีด่ ำ� เนินมาตรการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Glascera is Thailand’s number one manufacturer of glass mosaic tiles for retail and wholesale. Glascera tiles are made at a 4,000-sq-meter factory in Chonburi, just 90-minutes from Bangkok. A workforce of 200 skilled employees produces 20,000 sq meters of standard and custom-made mosaic tiles per month in an astonishing variety of designs. The colorful tiles are extremely versatile and can be used in homes to decorate walls, windowsills, walkways, bathrooms, kitchens, swimming pools and many others creative projects. Glascera tiles have won numerous design awards, including Material ConneXion, the G Mark Good Design Award from the Japan Institute of Design Promotion, and the DEmark Award for Design Excellence from DITP. The tiles are available at leading retailers throughout Thailand such as Home Pro and Global House. The high-quality tiles have been used in numerous hotels and resorts including Shangri-La Hotel, Spa and Resort in Chiang Mai, and are also exported worldwide.

เอส เอส กลาสเซร่า คือผูผ้ ลิตกระเบือ้ งโมเสคแก้วส�ำหรับการจ�ำหน่ายปลีกและส่งอันดับหนึง่ ของไทย กระเบือ้ ง กลาสเซร่าได้รบั การผลิตขึน้ ในโรงงานทีค่ รอบคลุมพืน้ ทีก่ ว่า 4,000 ตารางเมตรในจังหวัดชลบุรี ซึง่ ใช้เวลา เดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 90 นาที บุคลากรผูช้ ำ� นาญการกว่า 200 ชีวติ สามารถผลิตกระเบือ้ งโมเสคหลาก ดีไซน์ชนิดมาตรฐานและแบบสัง่ ท�ำพิเศษได้ในปริมาณกว่า 20,000 ตารางเมตรต่อเดือน กระเบือ้ งแก้วหลาก สีสนั ของกลาสเซร่าสามารถน�ำไปใช้งานได้หลากวัตถุประสงค์ เช่น น�ำไปตกแต่งผนังบ้าน ขอบหน้าต่าง ทางเดิน พืน้ ห้องน�ำ้ และห้องครัว สระว่ายน�ำ้ และการใช้ในงานสร้างสรรค์อนื่ ๆ กระเบื้องแก้วกลาสเซร่าสามารถคว้ารางวัลด้านการออกแบบมาครองได้มากมาย อาทิ รางวัล Material ConneXion รางวัล Good Design Award (G Mark) จากองค์การส่งเสริมการออกแบบทางอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศญีป่ นุ่ (JDP) และรางวัล Design Excellence Award (DEmark) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระเบือ้ งแก้วกลาสเซร่ามีจำ� หน่ายตามร้านค้าชัน้ น�ำทัว่ ประเทศ เช่น โฮมโปร และโกลบอลเฮ้าส์ กระเบือ้ งคุณภาพ ดี ข องกลาสเซร่ า ถู ก น� ำ ไปใช้ ใ นงานตกแต่ ง ภายในโรงแรมและรี ส อร์ ต ต่ า งๆ เช่ น โรงแรมแชงกรี ล า สปาและรีสอร์ตต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทัง้ ยังได้รบั การส่งออกไปจ�ำหน่ายทัว่ โลก

024 | 025


Aconatic is a value-for-money brand under the Hi-Fi Orient Thai Public Company Limited, which has been producing consumer electronic goods, household appliances and IT products for more than two decades. Today, Aconatic is Thailand’s leading brand for consumer products. Initially, the company sold audio and visual products, such as DVDs and speakers. Over the years, the range of products has expanded to include LED, UHD and Smart TVs, set top boxes and smart boxes, audio equipment such as sound bars, home theaters and Bluetooth speakers, household appliances, including refrigerators, freezers and air coolers, and accessories. Products are not high-end technology or high innovation. Instead, the Aconatic brand is positioned as an affordable name that focuses on good quality and service at reasonable price for Thai consumers. In 2016, the brand made its first move into the international marketplace, expanding its exports to Cambodia, Laos, Myanmar and Vietnam, where its presence continues to grow. It also enjoys more than 300 selling points in Thailand.

อโคเนติกคือผูผ้ ลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครือ่ งใช้ไฟฟ้า ภายในบ้าน และผลิตภัณฑ์ด้านไอที ภายใต้บริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย จ�ำกัด ซึง่ ขึน้ ชือ่ ในเรือ่ ง ‘ความ คุ้มค่าราคา’ มายาวนานกว่าสองทศวรรษ ปัจจุบัน อโคเนติกขึ้นแท่นเป็นแบรนด์สินค้าประเภทอุปโภค บริโภคชั้นน�ำของไทย แรกเริ่มเดิมที บริษัทไฮไฟ โอเรียนท์ ไทยนั้นเป็นบริษัทจ�ำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทภาพและเสียง เช่น เครือ่ งเล่นดีวดี แี ละล�ำโพง ต่อมาจึงขยายฐานการผลิตไปสูก่ ลุม่ ผลิตภัณฑ์ประเภท ทีวแี อลอีดี ทีวยี เู อชดี สมาร์ททีวี ชุดกล่องทีวดี จิ ติ ลั และกล่องสมาร์ททีวี อุปกรณ์เครือ่ งเสียง เช่น ล�ำโพง ซาวด์บาร์ ชุดโฮมเธียเตอร์ และล�ำโพงบลูทธู รวมถึง เครือ่ งใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ตูเ้ ย็น ตูแ้ ช่แข็ง พัดลม ไอเย็น และอุปกรณ์เสริมต่างๆ สินค้าของอโคเนติกไม่ ได้เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้เทคโนโลยีระดับไฮเอนด์หรือ นวัตกรรมล�ำ้ สมัย หากแต่เป็นสินค้าทีค่ มุ้ ค่าราคาและ ถูกออกแบบมาเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค เป็ น หลั ก บริ ษั ท ให้ ค วามส� ำ คั ญ ในเรื่ อ งคุ ณ ภาพ และการให้บริการในราคาที่ย่อมเยาส�ำหรับลูกค้า คนไทย ในปี พ.ศ. 2559 อโคเนติกได้ขยับขยายกิจการ ไปสูต่ ลาดต่างประเทศ โดยส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม และได้รบั ความนิยมสูงขึน้ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอโคเนติกมีจุดจ�ำหน่ายสินค้า มากกว่า 300 แห่งทัว่ ประเทศ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Amena has been a leading brand of high-quality airconditioners in Thailand for more than three decades. Manufactured by Unico Consumer Products Co.Ltd., Amena air-conditioners use the latest energy-saving and environmentally friendly technology. Today, Amena is represented both in the domestic market as well as many other countries around the globe.

อามี น ่ า คื อ แบรนด์ เ ครื่ อ งปรั บ อากาศคุ ณ ภาพสู ง ที่ ค รอง ความเป็นผูน้ ำ� ในประเทศไทยมานานกว่าสามทศวรรษ เครือ่ ง ปรับอากาศอามีนา่ ซึง่ ผลิตโดย บริษทั ยูนโิ ก้ คอนซูมเมอร์ โปรดักส์ จ�ำกัด ใช้เทคโนโลยีลา่ สุดทีป่ ระหยัดพลังงานและเป็น มิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันอามีน่าได้รับเสียงตอบรับที่ดี จากผูใ้ ช้ทงั้ ในและต่างประเทศ

Amena has been awarded ISO 9001:2008, ISO 14001:2004 and OHSAS 18001:2007 certification. The company currently manufactures a diverse range of air-conditioners and has become a major Thai exporter. Units are made at a state-of-the-art manufacturing facility in Prachinburi with a production capacity of 350,000 units per year. Amena focuses on developing cutting edge air-conditioning technology to build its range of environmentally friendly products, which help reduce ozone-damaging substances. The company strives to achieve its vision of creating the best air-conditioner for healthy indoor air quality without having a negative impact on the environment.

อามี น ่ า ได้ รั บ การรั บ รองมาตรฐาน ISO 9001:2008 มาตรฐาน ISO 14001:2004 และมาตรฐาน OHSAS 18001:2007 ปัจจุบนั บริษทั ฯ ผลิตเครือ่ งปรับอากาศหลาก หลายประเภท และกลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องปรับ อากาศรายส�ำคัญของไทย เครือ่ งปรับอากาศอามีนา่ ผลิตใน โรงงานทีท่ นั สมัยในจังหวัดปราจีนบุรี ซึง่ มีกำ� ลังการผลิตกว่า 350,000 หน่วยต่อปี อามีน่าให้ความส�ำคัญในการพัฒนา เทคโนโลยีเครือ่ งปรับอากาศให้ทนั สมัยอยูเ่ สมอและเป็นมิตร ต่อสิง่ แวดล้อม เพือ่ ช่วยปกป้องชัน้ บรรยากาศจากสารท�ำลาย โอโซน บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะด�ำเนินการตามวิสัยทัศน์เพื่อ สร้างสรรค์เครื่องปรับอากาศส�ำหรับภายในอาคารที่ดีต่อ สุขภาพและไม่สง่ ผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อม

026 | 027


This 100-percent Thai-owned company has been a leader in Thailand’s air-conditioning industry for over 40 years. Founded in downtown Bangkok in 1970, Unifab Equipment Co. Ltd. has since moved to a 10,000-sq-meter facility in the suburbs. This is where it conducts its cutting-edge research and development into the latest air-conditioning technology. The result is high-efficiency, low-energy consumption products with the highest environmental standards. Uni-Aire has succeeded at exporting across the globe, with air-conditioning systems operable in extreme climates from very cold countries like Canada and China to extremely hot ones in the Middle East. Overall, the company exports to more than 70 countries worldwide, which account for 25 percent of its market.

บริษทั สัญชาติไทยแท้แห่งนี้ เป็นผูน้ ำ� ในด้านอุตสาหกรรมเครือ่ งปรับอากาศของไทย มากว่า 40 ปี บริษทั ยูนแิ ฟ้บ อีควิปเมนต์ จ�ำกัด นัน้ ก่อตัง้ กิจการขึน้ ในปี พ.ศ. 2513 บนท�ำเลใจกลางกรุงเทพฯ ก่อนจะย้ายกิจการและโรงงานไปยังพืน้ ที่ 10,000 ตารางเมตรในแถบชานเมือง โรงงานแห่งนี้เป็นสถานที่ค้นคว้าวิจัยและพัฒนาที่ ทันสมัยเพือ่ คิดค้นเทคโนโลยีเครือ่ งปรับอากาศล่าสุด ผลลัพธ์ทไี่ ด้คอื ผลิตภัณฑ์ ทีม่ ปี ระสิทธิภาพสูงแต่ประหยัดพลังงาน และยังเป็นไปตามมาตรฐานสูงสุดในด้าน สิง่ แวดล้อม ส�ำหรับตลาดส่งออก ยูนแิ อร์ได้รบั เสียงตอบรับทีด่ จี ากลูกค้าในทุกภูมภิ าค เนือ่ งจาก เป็นระบบเครือ่ งปรับอากาศทีส่ ามารถท�ำงานได้ในทุกสภาพอากาศ ทัง้ ในประเทศ ที่อากาศหนาวจัดอย่างแคนาดาและจีน หรือประเทศที่อากาศร้อนจัดในภูมิภาค ตะวันออกกลาง ยูนิแอร์ประสบความส�ำเร็จในมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้สว่ นแบ่งตลาดของยูนแิ อร์กว่า 25% นัน้ มาจากตลาดส่งออก

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Siam Furukawa Trading Co., Ltd. is a distributor for FB lead-acid batteries by Siam Furukawa Co., Ltd., a leader in battery technology for more than 50 years. If you’re getting a battery in Thailand, it’s most likely you’ll get an FB, such is the brand’s ubiquity and the high level of trust it commands. A wide variety of FB Battery products are available for all types of car, trucks and motorcycle. Continuous development, selection of quality raw material and parts, modern testing equipment, systematic supervision and inspection by experts and human resource development ensure that FB Battery products are premium quality with endurance, high power and attractive packaging design. FB Battery conducts business in an ethical manner and is committed to sustainable development through social and environmental responsibility. For Siam Furukawa Co., Ltd., corporate social responsibility means observing the importance of social rules and corporate ethics, reducing the environmental burden caused by business activities, ensuring product safety and ensuring product, employee and community safety while advancing society and improving people’s lives. The company’s stringent controls and ISO certification are an assurance of its high-quality production methods and a safe working environment for its employees.

บริษทั สยามฟูรกู าวาเทรดดิง้ จ�ำกัด คือผูจ้ ดั จ�ำหน่าย แบตเตอรีร่ ถยนต์เอฟบี ซึง่ ครองต�ำแหน่งผูน้ ำ� ในตลาด แบตเตอรี่มายาวนานกว่า 50 ปี หากพูดถึงยี่ห้อ แบตเตอรีร่ ถยนต์ ผูบ้ ริโภคหลายคนจะนึกถึงแบตเตอรี่ เอฟบีเป็นอันดับแรกๆ เนือ่ งจากเป็นทีน่ ยิ มในวงกว้าง และได้รบั ความไว้วางใจอย่างสูงจากผูบ้ ริโภค ผลิตภัณฑ์ของเอฟบีแบตเตอรี่มีให้เลือกหลากหลาย ส�ำหรับทัง้ จักรยานยนต์ รถบรรทุก และรถยนต์ซงึ่ ใช้ ระบบไฟฟ้าทีต่ า่ งกันในแต่ละรุน่ ทัง้ นี้ ด้วยการพัฒนา อย่างต่อเนือ่ ง การคัดสรรวัตถุดบิ และชิน้ ส่วนอะไหล่ อย่างพิถพี ถิ นั อุปกรณ์ทดสอบทีท่ นั สมัย การควบคุม ดูแลอย่างเป็นระบบ การตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ และการพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคล ท�ำให้เอฟบี แบตเตอรี่ เป็นผลิตภัณฑ์คณ ุ ภาพระดับพรีเมียมทีม่ ี รูปลักษณ์สวยงาม ทนทาน และให้กำ� ลังไฟสูง เอฟบีแบตเตอรี่ด�ำเนินธุรกิจบนหลักจริยธรรมและ ยึ ด มั่ น ในหลั ก การพั ฒ นาอย่ า งยั่ ง ยื น ผ่ า นการท� ำ โครงการรับผิดชอบเพือ่ สังคมและสิง่ แวดล้อม ส�ำหรับ บริษทั สยามฟูรกู าวาเทรดดิง้ ความรับผิดชอบต่อสังคม หมายถึงการปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ของสังคมและหลัก จริยธรรมองค์กร การลดผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อมที่ เกิดจากการด�ำเนินการธุรกิจ การตรวจสอบความ ปลอดภั ย ของผลิ ต ภั ณ ฑ์ รวมถึ ง สวั ส ดิ ภ าพของ พนักงานและชุมชนรอบข้าง และการสร้างสรรค์สนิ ค้า และบริการที่ช่วยพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพ ชีวติ ของคนในประเทศ มาตรการควบคุมทีเ่ ข้มงวดของ บริษทั ฯ และการรับรองมาตรฐาน ISO เป็นเครือ่ ง ยืนยันได้ดถี งึ กระบวนการผลิตทีใ่ ส่ใจในเรือ่ งคุณภาพ และสภาพแวดล้อมในการท�ำงานทีป่ ลอดภัย 028 | 029


Mitsumaru is a popular brand of small home appliances. Established in 2004 by T.A.T. (Thailand) Co.,Ltd., the company produces a wide range of products you’ll find in Thai homes across the country. While its lineup starts from humble hotpots and rice cookers, Mitsumaru has also developed products with bold designs, such as its line of compact vacuum cleaners and sleek desk lamps. To consumers, the brand has come to represent reliability and value for money. Thanks to its glowing reputation, Mitsumaru is now an industrial giant, producing electric blenders, sukiyaki cookers, gas stoves, electric fans, insect killers and much more. All of its products meet international standards and have been certified with ISO 9002, the international CE Mark and the European Key Mark. Mitsumaru has the capacity to produce 600,000-700,000 units per year, which are primarily aimed at high-end retail outlets, department stores and wholesale agents.

มิตซูมารุคอื แบรนด์เครือ่ งใช้ไฟฟ้าในบ้านขนาดเล็กยอดนิยมซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2547 ภายใต้บริษทั ที.เอ.ที. (ประเทศไทย) จ�ำกัด สินค้าที่ บริษทั ผลิตออกมาจ�ำหน่ายสามารถพบได้ตามครัวเรือนทัว่ ไปในประเทศ ผลิตภัณฑ์ของมิตซูมารุมตี งั้ แต่หม้อต้ม หม้อหุงข้าว ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ ทีม่ ดี ไี ซน์โดดเด่นอย่างเครือ่ งดูดฝุน่ ขนาดพกพาและโคมไฟตัง้ โต๊ะดีไซน์ เรียบหรู ผลิตภัณฑ์ของมิตซูมารุนนั้ เป็นตัวแทนของความน่าเชือ่ ถือและ ราคาทีค่ มุ้ ค่า ด้วยชือ่ เสียงเป็นวงกว้างในด้านคุณภาพ ปัจจุบนั มิตซูมารุได้กลายเป็น ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเครือ่ งใช้ไฟฟ้า โดยเป็นผูผ้ ลิตเครือ่ งปัน่ ไฟฟ้า หม้อต้มสุกี้ เตาแก๊ส พัดลมไฟฟ้า เครือ่ งช็อตแมลง และผลิตภัณฑ์อนื่ ๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งได้รับการรับรอง มาตรฐาน ISO 9002 ตราสัญลักษณ์ CE Mark และตราสัญลักษณ์ European Key Mark มิตซูมารุมกี ำ� ลังการผลิตถึง 600,000-700,000 หน่วยต่อปี และวางจ�ำหน่ายตามร้านค้าปลีกชัน้ น�ำ ห้างสรรพสินค้า และ ร้านค้าส่งต่างๆ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Setting the standard for stovetop cooking equipment, Lucky Flame burners are known by Thailand’s best home and professional cooks as the go-to gear for stir-frying, deep-frying and simmering one’s way to culinary perfection. Why? Because of the vision of Chaiyong Leelaswatanakoon, whose business, Wattu-Usahakhum Co., Ltd, grew from importing and distributing stoves, ovens and roasters, to making ones which bettered the products he originally sold. With their intense heat and easy transportation, Lucky Flame products are made for the culinary culture of Thailand, and are essential for any cook looking to master those truly Thai flavors. Today, Lucky Flame is equally focused on safety. The company strictly inspects each product coming off its assembly line. Most notably, valves are made by a computer numerical control (CNC) system and Robodrill, enabling precision at the microscopic level. They are not only inspected on site but also through random lifetime inspections across the country. The company’s international certification (ISO 9001:2008) and awards recognize the high standards of its products. But Lucky Flame also stands out for the sheer range of its production, from gas cookers, water heaters, gas ovens and range hoods to pressure regulators and igniters. While many of these products are affordable and utilitarian, Lucky Flame also makes sleek masterpieces for the most refined homes. The depth of its product range has made the brand popular internationally. Currently, Lucky Flame exports to various AEC members, including nearby markets in Cambodia, Laos, Myanmar and Vietnam. You can also find its products across the globe in markets like the United States, South Africa, Nigeria, Bangladesh and Mauritius. The brand is also increasing its product diversity in these regions—adding cooker heads, sinks, water heaters, ovens and roasters.

ในฐานะบริษทั ผูว้ างมาตรฐานให้กบั อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์เตาแก๊สประกอบ อาหาร เตาแก๊สลัคกีเ้ ฟลมจึงเป็นตัวเลือกแรกๆ ทีบ่ รรดาพ่อบ้านแม่บา้ นและเชฟมือ อาชีพทั่วประเทศเลือกใช้ในการปรุงอาหาร ไมว่าจะด้วยกรรมวิธีผัดหรือทอด เหตุที่เตาแก๊สของลัคกี้เฟลมได้รับความไว้วางใจเช่นนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก วิสัยทัศน์ของไชยยงค์ ลีลาศวัฒนกุล เจ้าของบริษัทวัตถุอุตสาหกรรม จ�ำกัด ผูผ้ นั ตัวจากธุรกิจน�ำเข้าและจัดจ�ำหน่ายเตาแก๊ส เตาอบ และเตาย่าง มาสูก่ ารผลิต เตาแก๊สทีม่ ปี ระสิทธิภาพในการให้ความร้อนสูงกว่า รวมทัง้ ยังสะดวกต่อการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ของลัคกีเ้ ฟลมนัน้ ได้รบั การออกแบบให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมการปรุง อาหารของคนไทยโดยเฉพาะ และกลายเป็นหัวใจส�ำคัญของการปรุงอาหารไทยให้ ได้รสชาติแบบต้นต�ำรับ ลัคกีเ้ ฟลมนัน้ ให้ความส�ำคัญกับประเด็นเรือ่ งความปลอดภัยไม่แพ้คณ ุ ภาพ บริษทั ฯ มีมาตรการทีเ่ ข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าทุกชิน้ ทีอ่ อกจากสายพานการผลิต ซึง่ มาตรการทีโ่ ดดเด่นทีส่ ดุ คือ กระบวนการผลิตวาล์วแก๊สโดยเครือ่ งเจาะกลึงทีใ่ ช้ระบบ ซีเอ็นซี (CNC) และโรโบดริล (Robodrill) ท�ำให้สามารถควบคุมการผลิตได้แม่นย�ำ ในระดับไมครอน มาตรการควบคุมคุณภาพของลัคกีเ้ ฟลมนัน้ ไม่ได้จำ� กัดอยูแ่ ค่ใน โรงงานผลิตเท่านั้น แต่ยังมีการสุ่มตรวจคุณภาพสินค้าทั่วประเทศตลอดอายุ การใช้งานอีกด้วย มาตรฐาน ISO 9001:2008 และรางวัลระดับสากลอืน่ ๆ ทีบ่ ริษทั ได้รบั ถือเป็นเครือ่ ง การันตีคณ ุ ภาพสินค้าของลัคกีเ้ ฟลมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ลัคกีเ้ ฟลมยังโดดเด่น ในเรือ่ งความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ซึง่ มีตงั้ แต่เตาแก๊ส เครือ่ งท�ำน�ำ้ อุน่ เตาอบ แก๊ส เครือ่ งดูดควัน เครือ่ งปรับแรงดันั และปืนจุดแก๊ส แม้ลคั กีเ้ ฟลมจะขึน้ ชือ่ ใน เรือ่ งของราคาทีย่ อ่ มเยาและรูปแบบทีค่ ำ� นึงถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก แต่กม็ กี าร ออกแบบผลิตภัณฑ์ทมี่ ดี ไี ซน์หรูหรามาเพือ่ รองรับกลุม่ ลูกค้าระดับบนด้วย ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ท�ำให้ลัคกี้เฟลมเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมใน ตลาดต่างประเทศ ปัจจุบนั ลัคกีเ้ ฟลมส่งออกสินค้าไปยังกลุม่ ประเทศสมาชิกเออีซี และเพื่ อ นบ้ า นใกล้ เ คี ย งอย่ า ง ลาว พม่ า และเวี ย ดนาม ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ข อง ลัคกีเ้ ฟลมมีวางจ�ำหน่ายทัว่ โลก ทัง้ ในสหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย บังกลาเทศ และมอริเชียส นอกจากนีล้ คั กีเ้ ฟลมยังเดินหน้าเพิม่ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพือ่ เจาะกลุม่ ลูกค้าใหม่ๆ ในภูมภิ าคเหล่านี้ อาทิ หัวเตาแก๊ส อ่างล้างจาน เครือ่ ง ท�ำน�ำ้ อุน่ เตาอบ และเตาปิง้ ย่างอีกด้วย 030 | 031


Transporting frozen food around the world while keeping it in the best possible condition is a challenge, and only the most high-tech businesses can succeed. That’s why the parent company of Eastern Polypack Company Limited (EPP) holds over 100 patents, with another 100 pending for approval, ensuring it delivers frozen food technology which can’t be beat. Driving this technology is Pawat Vitoorapakorn, owner of Eastern Polymer Group (EPG). Pawat took his family’s rubber plantation from humble beginnings to the cutting-edge polymer conglomerate it is today, investing 100 to 120 million baht a year in research and development, which can be seen in EPP’s innovative lineup of food packaging. For example, EPP has developed a unique foodgrade UV ink for its packages, making them as environmentally friendly as they are stylish. As a member of EPG, the company is involved in the manufacturing of thermal insulated tubing, plastic sheets, automotive parts, aluminum air duct components, lighting and plastic packaging. As such, EEP’s market success relies on its internationally recognized certifications, such as GMP/HACCP, ISO 9001, ISO 14001, TIS/OHSAS 18001. This makes EPP a trusted partner for some of the biggest names in the food industry, not only in Thailand but internationally.

การส่งออกอาหารแช่แข็งไปทั่วโลกโดยยังคงรักษา คุณภาพของสินค้าไว้นนั้ เป็นความท้าทายทีม่ เี พียงธุรกิจ ทีม่ คี วามก้าวล�ำ้ ทางเทคโนโลยีเท่านัน้ ทีส่ ามารถท�ำได้ นี่คือสาเหตุที่บริษัทแม่ของบริษัทอีสเทิร์น โพลีแพค จ�ำกัด (อีพพี )ี ได้ถอื ครองสิทธิบตั รกว่า 100 ฉบับ และ ยังมีสทิ ธิบตั รอีกกว่า 100 ฉบับทีก่ ำ� ลังรอการอนุมตั ิ เพื่อให้บริษัทฯ ได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีการผลิต บรรจุภณ ั ฑ์อาหารแช่แข็งทีด่ ที สี่ ดุ ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ หัวเรือใหญ่แห่งกลุ่มอีสเทิร์นโพลีเมอร์ (Eastern Polymer Group) หรืออีพจี ี คือ ผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลังการขับเคลือ่ นเทคโนโลยีดงั กล่าว ภาวัฒน์ ได้ต่อยอดกิจการสวนยางพาราของครอบครัว และ พั ฒ นาจนก้ า วมาเป็ น กลุ ่ ม บริ ษั ท ผู ้ ผ ลิ ต โพลี เ มอร์ รายใหญ่อย่างในปัจจุบนั ด้วยเงินลงทุนในด้านการวิจยั และพัฒนากว่า 100 ถึง 120 ล้านบาทต่อปี ผลลัพธ์ที่ ได้คอื นวัตกรรมบรรจุภณ ั ฑ์อาหารหลากหลายรูปแบบ ของอีพพี อี าทิ หมึกยูวเี กรดพิเศษส�ำหรับใช้ในการพิมพ์ ลงบนบรรจุภณ ั ฑ์อาหาร ซึง่ ปลอดภัยต่อสุขภาพและมี ความสวยงาม ในฐานะบริ ษั ท ลู ก ของกลุ ่ ม อี พี จี บริ ษั ท ได้ เ ข้ า ไป มีส่วนร่วมในการผลิตท่อหุ้มฉนวนความร้อน แผ่น พลาสติก ชิน้ ส่วนยานยนต์ ชิน้ ส่วนท่อเฟล็กซ์อลูมเิ นียม หลอดไฟ และบรรจุภณ ั ฑ์พลาสติกอีกด้วย การได้การ รับรองมาตรฐานสากล เช่น มาตรฐาน GMP/HACCP มาตรฐาน ISO 9001 มาตรฐาน ISO 14001 และ มาตรฐาน TIS/OHSAS 18001 นัน้ เป็นปัจจัยทีส่ ง่ ผล ต่อความส�ำเร็จในด้านยอดขาย ซึง่ ท�ำให้บริษทั กลายเป็น พันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจยักษ์ใหญ่ใน อุตสาหกรรมอาหารทัง้ ในและนอกประเทศ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


The story of Satien Stainless Steel Public Company Limited is a perfect example of Thai ingenuity and entrepreneurship. In 1966, Satien Youngvanich founded the company to weld stainless steel freezers for hotels and various airlines. The welding process inspired him to develop a new way to make stainless steel spoons, which he launched under the brand Zebra in 1968. He picked this particular spoon model for its lack of availability in foreign markets, due to its uniquely Asian profile. But the brand would go on to grow well beyond its debut product. As a measure of his success, the factory now covers 100 rai (16 hectares), employs 1,000 people and makes over 2,000 products. Its hightech standards have earned it international certification like ISO 9001:2008, environmental management system ISO 14001:2004. Its subsidiary, Zebra, encompasses utensils, pots, pans, catering equipment and electronic scales. It has also been joined by two more brands, Sun’z, which stresses value for money, and Estio, whose elegant designs look right at home in even the most beautiful kitchens.

บริษทั เสถียรสเตนเลสสตีล จ�ำกัด คือแบบอย่างความส�ำเร็จในฐานะผูป้ ระกอบการ ที่มีหัวคิดสร้างสรรค์ฺ ในปี พ.ศ. 2509 เสถียร ยังวาณิช ได้ก่อตั้งบริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล จ�ำกัด ขึน้ เพือ่ ด�ำเนินกิจการเชือ่ มตูแ้ ช่สแตนเลสให้แก่โรงแรม และสายการบิ น กระบวนการเชื่ อ มสแตนเลสสตี ล จุ ด ประกายให้ เ สถี ย รน� ำ สแตนเลสสตีลในโรงงานไปต่อยอดในการผลิตช้อน และก่อตัง้ แบรนด์หวั ม้าลาย (Zebra) ขึน้ ในปี พ.ศ. 2511 เสถียรเจาะจงเลือกพัฒนาช้อนสัน้ ขึน้ เนือ่ งจากเป็น แบบทีห่ ายากในต่างประเทศ ด้วยเป็นลักษณะเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์ทเี่ ชือ่ มโยง กับวัฒนธรรมของเอเชีย กระนัน้ ปัจจุบนั สินค้าตราหัวม้าลายก็เติบโตไปไกลกว่า ช้อนสแตนเลสมากนัก ความส�ำเร็จของสินค้าตราม้าลายท�ำให้ขณะนีโ้ รงงานของเสถียรสเตนเลสสตีลมีพนื้ ที่ กว่า 100 ไร่ รวมทัง้ ว่าจ้างบุคลากรกว่า 1,000 คน และผลิตสินค้ากว่า 2,000 ชนิด มาตรฐานการผลิตทีท่ นั สมัยท�ำให้เสถียรสเตนเลสสตีลได้รบั การรับรองมาตรฐาน สากล เช่น มาตรฐาน ISO 9001:2008 และมาตรฐานรับรองระบบบริหารจัดการ ด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001:2004 ผลิตภัณฑ์ของหัวม้าลายประกอบไปด้วย เครื่องมือเครื่องใช้ในบ้าน หม้อ กระทะ เครื่องครัวส�ำหรับงานจัดเลี้ยง และ เครือ่ งชัง่ น�ำ้ หนักแบบดิจติ ลั นอกจากนี้ บริษทั ยังได้เปิดตัวเครือ่ งครัวตราพระอาทิตย์ (Sun’z) ซึง่ เน้นเรือ่ งความคุม้ ค่าราคาและเอสทิโอ (Estio) ทีเ่ น้นในเรือ่ งดีไซน์หรูหรา

032 | 033


BLUE SPICE proudly carries T Mark: the sign of Quality and Excellence. Heartening flavors are based on fresh, clean and organic ingredients that are unveiled through secret recipes prepared from the bottom of the heart.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


FLAVORS OF SIAM

THE FOOD INDUSTRY Heartmade Quality

034 | 035


Thitid “Ton” Tassanakajohn Head Chef and Owner, Le Du

Issaya Siamese Club

CULINARY CAPITAL

Rattapong Wattanaporn Deputy Managing Director

Global fine-dining awards are finally shining a spotlight on the superlative produce Thailand’s restaurants work with. Bo.lan

Thai food has gained global recognition as a fuss-free and flavor-packed experience that is impossible to resist. But perceptions are changing as to where Thailand sits in the pantheon of major global fine dining destinations. While Thailand’s image as laidback still contrasts with the obsessive refinement of Japanese and French cuisine, the Kingdom has in fact been steadily raising the bar for its food industry over the past few years. Smaller producers have been given the spotlight, sustainable farming methods are being rolled out and regional specialties are being given the credit they are due. Today, Bangkok is seen as a fine-dining destination of the highest order, not just the place for a quick pad Thai on a plastic stool. Thailand counts 13 million farmers, who account for almost 10 percent of the gross domestic produce. The food industry as a whole represents a whopping 28 percent of GDP. Obviously, this brings huge volumes and variety—from organic rice to frozen shrimp and processed snacks. But Thailand isn’t just a major food producer, it’s also the one making some of the world’s best foods,

as is evidenced by its dominance on the region’s fine-dining scene. Thanks to the superior quality of Thai produce, Bangkok has officially joined the ranks of Tokyo, Hong Kong and Singapore as a major culinary capital. In late 2017, the inaugural Bangkok edition of the famous Michelin Guide will consecrate the city’s rise to dining mecca—not only for its shop-houses and street food, but also for fine-dining institutions with a global reputation. While Thais did not wait for the French dining guide to trust in their cooking, the coveted stars are a welcome confirmation. In the meantime, the San Pellegrino World’s 50 Best Restaurants Awards have already cemented Bangkok’s outsize culinary force in the region. With nine restaurants in the awards’ latest Asian edition, Bangkok tied with Singapore. And for the third year in a row, Bangkok’s modernist restaurant Gaggan topped the list. But chef Gaggan Anand is quick to credit David Thompson, also a World’s 50 Best mainstay, who closed his one-Michelin-star Nahm in London and moved

it over to Bangkok. “I think David was really an inspiration to chefs in Bangkok,” says Gaggan Anand. “He showed the way for a new generation.” In 2011, Thai restaurant Bo.Lan opened, headed by a Thai-Australian couple who had worked for David Thompson in London. Bo.Lan’s Thai chef, Duongporn ‘Bo’ Songvisava, would go on to be named best female chef in Asia by Veuve Clicquot in 2013. Then local celebrity chef Ian Kittichai opened Issaya, serving authentic Thai food with slight tweaks in a gorgeous colonial-style villa. Both venues ranked in 2017’s Asia’s 50 Best Restaurant Awards. Gaggan has also been a formidable mentor; and has shown his commitment to Thai produce by backing a new opening just next to his original restaurant, Gaa. Headed by chef Garima Arora, the restaurant strives to use only Thai ingredients, whose freshness and flavors just can’t be beat. Another rising star is Le Du chef Thitid “Ton” Tassanakajohn, who made his debut in San Pellegrino’s prestigious list this year. His Thai food isn’t

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ในขณะที่อุตสาหกรรมอาหารโดยรวมนั้นคิดเป็นกว่า 28% ของจีดพี ี ซึง่ เป็นตัวเลขทีแ่ สดงถึงปริมาณและ ความหลากหลายของทัง้ ผลิตภัณฑ์อาหารและผลผลิต ทางการเกษตร นับตัง้ แต่ขา้ วออร์แกนิค ไปจนถึงกุง้ แช่ แข็งและขนมขบเคีย้ ว ประเทศไทยไม่ได้เป็นแค่ผผู้ ลิต วั ต ถุ ดิ บ รายส� ำ คั ญ เท่ า นั้ น แต่ ยั ง ขึ้ น ชื่ อ ในฐานะ ผูส้ ร้างสรรค์เมนูอาหารทีด่ ที สี่ ดุ ของโลกด้วย ดังจะเห็น ได้จากอิทธิพลของอาหารไทยในแวดวงไฟน์ไดนิง่ ของ ภูมภิ าค ด้ ว ยผลผลิ ต ทางการเกษตรไทยที่ มี คุ ณ ภาพสู ง กรุงเทพฯ จึงสามารถไต่อนั ดับขึน้ เป็นหนึง่ ในเมืองหลวง ทางด้านอาหารร่วมกับโตเกียว ฮ่องกง และสิงคโปร์ ได้อย่างเป็นทางการ และในช่วงปลายปี พ.ศ. 2560 การเปิดตัวคู่มือแนะน�ำร้านอาหารระดับโลกอย่าง ‘มิชลินไกด์’ ฉบับกรุงเทพฯ จะสถาปนาให้เมืองหลวง แห่งนีก้ ลายเป็นดัง่ นครเมกกะแห่งอาหารคาวหวาน ซึง่ ไม่ได้จำ� กัดอยูแ่ ค่รา้ นอาหารตามตึกแถวและแผงอาหาร ริมทาง แต่ยงั รวมถึงบรรดาร้านอาหารไฟน์ไดนิง่ ทีไ่ ด้ ออกไปสร้างชื่อในระดับสากล แม้บรรดาเชฟอาหาร ไทยจะไม่จ�ำเป็นต้องพึ่งคู่มือร้านอาหารจากฝรั่งเศส ฉบับดังกล่าวเพือ่ การันตีฝมี อื ในการปรุงอาหารของตน กระนัน้ การได้ประดับดาวมิชลินทีใ่ ครต่างหมายปอง สักดวงก็ไม่ใช่เรือ่ งเสียหาย

Gaggan

ในสายตาของคนทั่วโลก อาหารไทยนั้นกลายเป็นที่ นิ ย มเพราะรสชาติ ที่ จั ด จ้ า นชวนรั บ ประทานและ ขัน้ ตอนการปรุงทีไ่ ม่ยงุ่ ยากซับซ้อน แต่มมุ มองของคน ทัว่ โลกเกีย่ วกับจุดยืนของประเทศไทยในฐานะครัวของ โลกก็กำ� ลังค่อยๆ เปลีย่ นแปลงไป แม้อาหารไทยจะยัง คงภาพลักษณ์สบายๆ ต่างจากการปรุงอาหารญี่ปุ่น หรือฝรัง่ เศสซึง่ มีขนั้ ตอนยุง่ ยากซับซ้อนกว่า กระนัน้ ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยก็ พยายามเดินหน้ายกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม อาหารอย่างต่อเนือ่ ง ผูผ้ ลิตอาหารรายย่อยเริม่ ได้รบั ความสนใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้น วิธีการท�ำเกษตร อย่างยัง่ ยืนได้กลายเป็นทีแ่ พร่หลาย ขณะทีผ่ บู้ ริโภค เริ่มหันกลับมาให้ความสนใจกับอาหารในท้องถิ่น ในปัจจุบันกรุงเทพฯ ได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมาย ปลายทางส�ำหรับอาหารไฟน์ไดนิง่ ทีไ่ ม่ได้มเี พียงร้าน ขายผัดไทยจานด่วนอีกต่อไป

2 แห่งนัน้ ติดอันดับ 50 ร้านอาหารทีด่ ที สี่ ดุ ของเอเชีย ประจ�ำปี พ.ศ. 2560 ด้วย นอกจากนี้กากั้นยังเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘ครูสอนท�ำ อาหาร’ ที่ลูกศิษย์ต่างเกรงขาม เขาได้แสดงความ มุ่งมั่นที่จะใช้วัตถุดิบของไทยในการสร้างสรรค์เมนู อาหาร โดยได้รว่ มเปิดร้านอาหารอีกแห่งตรงข้ามร้าน แห่งแรกของตัวเองในชือ่ กา (Gaa) ทีม่ หี วั เรือใหญ่ อย่างเชฟการิมา อโรรา และมุ่งใช้เฉพาะวัตถุดิบที่ คัดสรรจากในประเทศซึง่ ขึน้ ชือ่ เรือ่ งความสดใหม่และ อัดแน่นด้วยรสชาติ ส่วนอีกหนึง่ เชฟดาวรุง่ ในเวลานี้ อย่าง ‘เชฟต้น’ ธิตฏิ ฐ์ ทัศนาขจร จากร้าน เลอ ดู (Le Du) ซึง่ ติดโผในรายชือ่ อันทรงเกียรติของซานเปลเลกรีโนเป็นครัง้ แรกในปี 2560 อาหารไทยซึง่ เป็น ฝีมอื การรังสรรค์ของเชฟต้นไม่เพียงมีกลิน่ อายความ โมเดิรน์ แต่ยงั สะท้อนถึงความมุง่ มัน่ ของตัวเชฟในการ คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบอาหารทะเลจากแหล่งวัตถุดิบ

ในขณะเดียวกัน การประกาศรางวัล 50 ร้านอาหารที่ ดีทสี่ ดุ ของโลก (Asia’s 50 Best Awards) ซึง่ จัดขึน้ โดย San Pellegrino ก็เป็นอีกหนึง่ เสียงทีป่ ระกาศให้ โลกรูถ้ งึ อิทธิพลของอาหารไทยในภูมภิ าคเอเชีย ซึง่ จาก ผลตัดสินในปี 2559 นัน้ ประเทศไทยเสมอกับสิงคโปร์ โดยในรายชื่อดังกล่าวมีร้านอาหารไทยติดอันดับถึง 9 ร้าน แม้รา้ นอาหารสไตล์โมเดิรน์ ของกรุงเทพฯ อย่าง กากัน้ (Gaggan) จะสามารถครองแชมป์มาแล้วถึง 3 สมัยติดต่อกัน แต่เชฟกากัน้ อนันต์ เจ้าของร้านก็ ไม่ลมื ทีจ่ ะยกความดีความชอบให้กบั เดวิด ธอมป์สนั หนึง่ ในร้านซึง่ ติดอันดับรางวัล 50 ร้านอาหารทีด่ ที สี่ ดุ หลายสมัย โดยเขาได้ปดิ ตัวร้านอาหารหนึง่ ดาวมิชลิน ของเขาทีช่ อื่ น�ำ้ (Nahm) ก่อนจะย้ายกิจการมายัง กรุงเทพฯ “ผมเชือ่ ว่าเดวิดเป็นแรงบันดาลใจให้กบั เชฟ หลายๆ คนทีน่ ี่ เขาคือผูช้ ที้ างให้บรรดาเชฟรุน่ ใหม่” กากัน้ อนันต์กล่าว

คู่สามีภรรยาชาวไทยและออสเตรเลียได้ร่วมกันเปิด ร้านอาหารไทย โบ.ลาน (Bo.lan) ขึน้ ในปี พ.ศ. 2554 โดยทัง้ คูเ่ คยท�ำงานให้กบั เดวิด ธอมป์สนั ในลอนดอน เชฟชาวไทยผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลังร้านโบ.ลาน อย่าง ดวงพร ทรงวิศวะนัน้ ได้รบั รางวัลจากเวิฟ คลิกโกต์ (Veuve Clicquot) ในฐานะสุดยอดเชฟหญิงของเอเชียประจ�ำปี พ.ศ. 2556 หลังจากนั้นไม่นาน เชฟชื่อดังอย่าง ประชากรไทยกว่า 13 ล้านคนนั้นประกอบอาชีพ ‘เชฟเอียน’ พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชยั ก็ได้เปิดตัว อิษยา เกษตรกรรม โดยกว่า 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (Issaya) ร้านอาหารสไตล์โคโลเนียลซึง่ เสิรฟ์ อาหาร ในประเทศ (จีดพี )ี นัน้ มาจากผลผลิตทางการเกษตร ไทยทีส่ อดแทรกลูกเล่นปลายจวักไว้ ซึง่ ร้านอาหารทัง้ 036 | 037

Duangporn “Bo” Songvisava and Dylan “Lan” Jones Chef-Owners, Bo.lan


Gaggan Anand Head Chef and Owner, Gaggan

just modern, but shows a commitment to using only sustainable sources of seafood. His meats and vegetables are also from Thailand, a fine-dining seal of approval that confirms the incredible quality of Thai food. Thailand’s foremost culinary ambassador is perhaps Chef Nooror Somany Steppe of the world-famous restaurant fine-dining chain Blue Elephant. The restaurant’s sophisticated interpretations of classic Thai specialties and opulent decor have made it a hit internationally as well as here in Bangkok at the flagship property on Sathorn Road. In fact, it all began in Brussels, Belgium, but Blue Elephant can now count on additional venues in Phuket, London, Bangkok and Paris. To Chef Nooror, using local produce is key to her success. “I can see Thais wanting to come to their roots, taking interest in their own produce and old recipes,” says Chef Nooror, who serves old-school favorites like gaeng kee lek (cassia leaf curry) and tom som (spicy and sour soup). The beautiful presentation really impresses, while the taste is equally satisfying. Dishes like gaeng om (curry with vegetables) really burst with balanced flavors and the khao luem pua (baked rice in lotus) is unforgettable—cooked to perfection. Blue Elephant’s success is such that it also produces products under the brand Blue Spice. Boasting an “ingredients first” philosophy, it uses only the highest quality raw materials available in Thailand—many of which come from the Royal Project Foundation. In a bid to rid Northern Thailand’s hillside regions of opium fields, HM King Bhumibol Adulyadej founded the Royal Projects in 1969—with the objective of supporting local agricultural development and helping farmers make a living producing clean, fresh produce. In an effort to follow these initiatives, the Doi Kham Company was founded the same year. Utilizing the region’s

Blue Elephant

cool climate, His Majesty’s plan for farmers to grow high-value, low-yield native crops like peaches has become a national success story. Today, the Doi Kham Company produces a wide range of organic products, including dehydrated fruits, jam, canned fruit, frozen fruit and full-fat soya flour. In fact, even the city’s most prominent French restaurants, such as the Mandarin Oriental’s venerable Le Normandie or L’Atelier de Joel Robuchon (from the man with the most Michelin stars in the world), proudly use Royal Projects produce. Thailand is a vast country home to countless varieties of rice, mangoes and durian, which all have specific taste profiles and seasonality—a boon to every chef seeking inspiration. It doesn’t take a visit to a fine-dining restaurant to enjoy just how delicious Thailand’s seafood, meat and vegetables are. But the recent praise being showered on the city’s top chefs confirms that they are lucky to be working with some of the world’s best produce.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ทีย่ งั่ ยืน ขณะทีว่ ตั ถุดบิ จ�ำพวกเนือ้ และผักก็ได้รบั การ สืบเนื่องจากพระราชด�ำริให้จัดตั้งโครงการพระบรมคัดสรรจากแหล่งผลิตในประเทศเช่นกัน ถือเป็นอีก ราชานุเคราะห์ชาวเขาขึน้ เพือ่ แก้ปญ ั หาการปลูกฝิน่ ของ เครือ่ งพิสจู น์คณ ุ ภาพของวัตถุดบิ อาหารไทย ชุมชนชาวเขาในภาคเหนือของไทย จึงมีการจัดตั้ง โรงงานหลวงส� ำ เร็ จ รู ป ขึ้ น และน� ำ มาแปรรู ป เป็ น ทูตแห่งความอร่อยของอาหารไทยที่โดดเด่นที่สุดใน ผลิตภัณฑ์ในเครือ่ งหมายการค้า ดอยค�ำ บริษทั เป็น นาทีนคี้ งหนีไม่พน้ เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ แห่งเครือ ส่วนหนึง่ ของโครงการในพระราชด�ำริในปี พ.ศ. 2512 ร้านอาหารไฟน์ไดนิง่ ระดับโลกอย่าง บลู เอเลฟเฟ่นท์ เพือ่ สนับสนุนการพัฒนาการเกษตรในท้องถิน่ และช่วย (Blue Elephant) ซึ่งมีสาขาแรกอยู่ที่กรุงบรัสเซลล์ เหลือเกษตรกรให้มีรายได้จากการเพาะปลูกผลผลิต ประเทศเบลเยี่ยม การตีความอาหารไทยต้นต�ำรับ ทางการเกษตรที่สะอาดและสดใหม่ ด้วยภูมิอากาศ ออกมาได้อย่างมีรสนิยม รวมถึงการตกแต่งทีห่ รูหรา ทีเ่ ย็นสบายของภาคเหนือ พระราชด�ำริของพระบาทได้ ส ร้ า งชื่ อ เสี ย งให้ กั บ ร้ า นอาหารแห่ ง นี้ ใ นระดั บ สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชทีต่ อ้ งการส่ง นานาชาติ เช่นเดียวกับสาขาใหญ่ในกรุงเทพฯ บนถนน เสริมให้เกษตรกรปลูกพืชผลทีม่ มี ลู ค่าสูงแต่ให้ผลผลิต สาทร และปัจจุบนั ร้านอาหารบลู เอเลฟเฟ่นท์ได้ขยาย ต�่ำอย่างพีช จึงประสบความส�ำเร็จในที่สุด ปัจจุบัน สาขาไปยังภูเก็ต ลอนดอน กรุงเทพฯ และปารีส ดอยค�ำผลิตสินค้าปลอดสารพิษออกมาหลายประเภท ส�ำหรับเชฟนูรอ การใช้วตั ถุดบิ ในท้องถิน่ คือกุญแจที่ อาทิ ผลไม้อบแห้ง แยม ผลไม้กระป๋อง ผลไม้แช่เข็ง น�ำไปสูค่ วามส�ำเร็จ “ฉันเชือ่ ว่าคนไทยอยากหวนคืนสู่ และแป้งถั่วเหลืองไขมันเต็ม แม้กระทั่งร้านอาหาร รากเหง้าของตัวเอง จึงเลือกใช้วตั ถุดบิ ทีผ่ ลิตในประเทศ ฝรัง่ เศสทีม่ ชี อื่ เสียงในกรุงเทพฯ อย่าง เลอ นอร์มงั ดี และสร้างสรรค์อาหารจากต�ำรับอาหารเก่าแก่ทสี่ บื ทอด (Le Normandie) ของโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กันมา” เชฟนูรอ ผู้ขึ้นชื่อในฝีมือการปรุงอาหาร และลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง (L’Atelier de Joel Robuchon) ร้านอาหารของเชฟซึง่ ได้รบั การประดับ ต้นต�ำรับของไทยอย่างแกงขีเ้ หล็กและต้มส้มกล่าว ดาวมิชลินมากที่สุดในโลก ก็เลือกใช้วัตถุดิบจาก ศิลปะการจัดจานอาหารของ บลู เอเลฟเฟ่นท์ ได้สร้าง โครงการหลวงเช่นกัน ความประทับใจให้กบั บรรดาผูม้ าเยือน ในขณะทีร่ สชาติ ก็ เ ป็ น ที่ ถู ก อกถู ก ใจไม่ แ พ้ กั น เมนู แ กงอ่ อ มของ ประเทศไทยเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าว มะม่วง และ ร้านอัดแน่นไปด้วยรสกลมกล่อม ส่วนเมนูขา้ วลืมผัว ทุเรียนสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผลไม้ตาม (ข้าวอบในกลีบบัว) ซึง่ ปรุงขึน้ มาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฤดูกาลและมีรสชาติอนั เป็นเอกลักษณ์ เปรียบเสมือน ดิ น แดนสวรรค์ ส� ำ หรั บ เชฟที่ ต ้ อ งการเสาะหา ก็อร่อยจนลืมไม่ลง แรงบันดาลใจใหม่ๆ จริงอยูท่ บี่ รรดาร้านไฟน์ไดนิง่ ไม่ใช่ ความส�ำเร็จอย่างล้นหลามของร้านบลู เอเลฟเฟ่นท์ เพียงหนทางเดียวให้คนกินได้เสพรสชาติอาหารไทย ท�ำให้ทางร้านตัดสินใจสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ออกมา แต่ค�ำชมในฝีมือการท�ำอาหารของเชฟมือวางอันดับ จ�ำหน่ายภายใต้แบรนด์ บลู สไปซ์ (Blue Spice) ด้วย ต้นๆ ของกรุงเทพฯ ซึง่ หลัง่ ไหลเข้ามาอย่างต่อเนือ่ ง ความยึดมัน่ ในหลักปรัชญา “วัตถุดบิ ต้องมาก่อน” การ ก็เป็นเครื่องยืนยันชั้นดีว่าพวกเขาโชคดีแค่ไหนที่มี ผลิตสินค้าของบลู สไปซ์ จึงคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบ โอกาสได้สร้างสรรค์อาหารรสเลิศจากวัตถุดบิ ทีด่ ที สี่ ดุ คุณภาพสูงของไทย ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากโครงการ ของโลก หลวง Yannis Janssens Pastry Chef, L’Atelier de Joël Robuchon, Bangkok

The Doi Kham Company offers a range of organically grown Thai products that are shipped around the world

038 | 039


Over 36 years ago, Thai restaurants were hardly the international culinary staple that they are now. The most that anyone knew about Thai cuisine was pad Thai and, possibly, green curry. Over in Brussels, Belgium, chef Nooror Somany Steppe started to change all of that by opening the Blue Elephant, a restaurant that would later become synonymous with “Royal Thai” cuisine. This would be the first in a highly successful chain of Thai restaurants that would later become the Blue Elephant Group, and turn Chef Nooror into a leading ambassador of Thai cuisine and one of the best Thai chefs in the world. Blue Spice was born when Blue Elephant came up with the idea of selling its own range of sauces, seasonings, curry pastes, stir-fry sauces, rice, noodles, coconut cream and snacks to discerning gourmets who wanted the convenience of Blue Elephant in their own homes. Available in both retail and food service formats, Blue Spice products are made with the best aromatic herbs and spices sourced directly from Thailand and are sold in the fine food outlets of more than 20 countries and to food professionals who recognize exceptional quality and taste. Blue Spice prides itself on its “ingredients first” philosophy, using only the highest quality raw materials available in Thailand — many of which come from the Royal Project Foundation, an initiative founded by HM the late King Bhumibol Adulyadej to help poor farmers grow organic, pesticide-free produce. Every year, Chef Nooror helps build on Blue Spice’s offerings by creating new recipes, including last year’s reduced salt, vegan and gluten-free curry paste, premium fish sauce, the Street Food Collection featuring Thai Fish Cake cooking set, Sweet Sticky Rice dessert kit, Southern Thai Biryani cooking set with Jasmine Rice, and waistline-friendly Snack Fit by Blue Elephant line. Blue Spice is also stringent in its quality control processes, utilizing HACCP, GMP, Halal and BRC certified standards. This results in products made entirely of Thai ingredients which are all natural and without MSG, preservatives or artificial coloring.

Nooror Somany Steppe Founder, Blue Elephant

Blue Spice actively pursues a good working environment by mandating strict safety guidelines at work, fair salaries for all staff, health care insurance, provident funds and other benefits. With help from the Royal Projects and the Chaipattana Foundation, it also employs energy-saving and waste-sorting measures alongside other projects to help preserve the environment.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


เมื่อ 36 ปีที่แล้ว ร้านอาหารไทยไม่ได้เป็นที่รู้จักในแวดวงอาหารระดับโลก เฉกเช่นปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักอาหารไทยเพียงผิวเผินผ่านเมนูอย่างผัดไทย หรือแกงเขียวหวาน การเปิดร้านบลู เอเลเฟ่นท์ ณ นครบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ของเชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ เป็นเสมือนจุดเริม่ ต้นของความเปลีย่ นแปลงดังกล่าว ซึง่ ต่อมาร้านอาหารแห่งนีไ้ ด้กลายเป็นตัวแทนของอาหารไทยต�ำรับชาววัง ชัยชนะนี้ คือความส�ำเร็จครั้งแรกของเครือร้านอาหารไทยอันโด่งดัง ซึ่งกลายมาเป็น บลู เอเลเฟ่นท์ กรุป๊ ในปัจจุบนั และได้เปลีย่ นบทบาทของเชฟนูรอให้กลายเป็น ทัง้ ทูตอาหารไทยชัน้ แนวหน้าและหนึง่ ในเชฟอาหารไทยมือวางอันดับต้นๆ ของโลก บลู สไปซ์ถือก�ำเนิดขึ้นเมื่อครั้งที่บลู เอเลเฟ่นท์ได้ริเริ่มความคิดที่จะจ�ำหน่าย สินค้าต่างๆ อาทิ ซอสนานาชนิด เครื่องปรุงรส เครื่องแกง ซอสผัด ข้าว เส้นก๋วยเตีย๋ ว กะทิ และขนมขบเคีย้ วต่างๆ แก่นกั ชิมตัวยงทัง้ หลายทีต่ อ้ งการลิม้ รส อาหารจากร้านบลู เอเลเฟ่นท์ได้งา่ ยๆ ทีบ่ า้ น สินค้าของบลู สไปซ์ ซึง่ มาทัง้ ในรูปแบบ สินค้าปลีกและเมนูทเี่ สิรฟ์ ในร้านอาหารชัน้ น�ำ ผลิตมาจากสมุนไพรและเครือ่ งเทศ ชัน้ เยีย่ มทีไ่ ด้รบั การคัดสรรในไทย และวางจ�ำหน่ายตามร้านวัตถุดบิ ชัน้ น�ำใน 20 ประเทศ ถือเป็นผูเ้ ชีย่ วชาญด้านอาหารทีร่ ซู้ งึ้ ถึงคุณภาพและรสชาติอนั ล�ำ้ เลิศ บลู สไปซ์ ยึดถือแนวคิดทีว่ า่ “เครือ่ งปรุงต้องมาก่อน” โดยใช้วตั ถุดบิ คุณภาพ ทีห่ าได้ในประเทศ ซึง่ ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตของโครงการหลวง โครงการอันเนือ่ งมาจาก พระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เพือ่ ส่งเสริม ให้เกษตรกรหันมาปลูกผักปลอดสารพิษและปราศจากยาฆ่าแมลง ทุกๆ ปี เชฟนูรอจะช่วยคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ เพือ่ สร้างสรรค์สนิ ค้าพิเศษให้กบั บลู สไปซ์ อาทิ เครือ่ งแกงเจไร้กลูเต็นสูตรลดเกลือ น�ำ้ ปลาคุณภาพระดับพรีเมียม ชุดทอดมัน ของคอลเล็คชันสตรีทฟูด้ ชุดข้าวเหนียวมูน ชุดข้าวหมกหอมมะลิสตู รอาหารใต้ และ ขนมขบเคีย้ วแคลลอรีต่ ำ�่ อย่างสแน็คฟิตจาก บลู เอเลเฟ่นท์ นอกจากนี้ บลู สไปซ์ ยั ง ควบคุ ม คุ ณ ภาพการผลิ ต สิ น ค้ า อย่ า งเข้ ม งวด ผ่านการรับรองมาตรฐาน HACCP มาตรฐาน GMP ตราฮาลาล และมาตรฐาน BRC ท�ำให้เกิดเป็นสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบในท้องถิ่นทั้งสิ้น อันเป็นวัตถุดิบ จากธรรมชาติ ปราศจากผงชูรส สารกันบูด และสีสงั เคราะห์ บลู สไปซ์ มีความตัง้ ใจทีจ่ ะสร้างสภาพแวดล้อมในการท�ำงานทีด่ ี ผ่านมาตรการ ด้านความปลอดภัยขณะปฏิบตั งิ านอันเข้มงวด และการมอบค่าตอบแทนทีเ่ ป็นธรรม แก่พนักงานทุกคน รวมไปถึงประกันสุขภาพ กองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพ และ สิทธิประโยชน์อื่นๆ ด้วยความช่วยเหลือจากโครงการหลวงและมูลนิธิชัยพัฒนา บลู สไปซ์ ยังใช้แผนประหยัดพลังงานและมาตรการแยกขยะควบคูไ่ ปกับโครงการ อืน่ ๆ เพือ่ ช่วยรักษาสิง่ แวดล้อมอีกด้วย

040 | 041


Thai food has always been a challenge to make if you want it done right. The chili pastes and sauces that have turned Thai cuisine into a global phenomenon can be a time-consuming chore for even the most experienced of cooks. In the 1970s, women were just starting to join the workforce in great numbers, but they still did the majority of the cooking in their homes. They needed a helping hand. So in 1976, Napapor n “J Lek” and Kajor nkiet Jindavaranon started the “J Lek Brand”, providing the finest quality pastes and sauces made from scratch in Klong Rangsit, Pathumthani. After a successful few decades, that company eventually grew into KRS Spicy Food—named after Klong Rangsit, the company’s birthplace, and purveyor of premium food products to all market sectors. Today, KRS boasts customers from all over the world, including the USA, Japan and Israel, and is certified by BRC Global Standards and IFC Food Standard. It is also the first Fair Trade producer in Southeast Asia in the Thai Curry Paste and Dipping Sauce categories.

การประกอบอาหารให้ได้รสชาติแบบไทยแท้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย น�้ำพริกและ น�้ ำ จิ้ ม สารพั ด ชนิ ด เป็ น องค์ ป ระกอบหนึ่ ง ที่ ท� ำ ให้ อ าหารไทยโด่ ง ดั ง ไปทั่ ว โลก แต่แม้กระทั่งแม่ครัวที่มากประสบการณ์ที่สุดก็อาจต้องเสียเวลาไม่น้อยหากต้อง ต�ำน�ำ้ พริกด้วยตนเอง ในยุคทีผ่ หู้ ญิงจ�ำนวนมากเริม่ ออกไปท�ำงานนอกบ้านมากขึน้ การมีตวั ช่วยเพือ่ ประหยัดเวลาจึงเป็นสิง่ จ�ำเป็น ในปี พ.ศ. 2519 นภาพรหรือ ‘เจ๊เล็ก’ และขจรเกียรติ จินดาวรานนท์ จึงได้กอ่ ตัง้ น�ำ้ พริกเจ๊เล็ก ขึน้ ณ คลองรังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยผลิตน�ำ้ พริกและน�ำ้ จิม้ คุณภาพสูงซึง่ มีความพิถพี ถิ นั ในทุกขัน้ ตอนการผลิต หลังผ่านพ้นกว่า 2 ทศวรรษ แห่งความส�ำเร็จ น�ำ้ พริกเจ๊เล็กจึงได้พฒ ั นาไปเป็นบริษทั เคอาร์เอส สไปซี่ ฟูด้ ส์ ซึง่ เป็นชื่อย่อของสถานที่ก่อก�ำเนิดธุรกิจแห่งนี้อย่างคลองรังสิต และยังเป็นผู้จัด จ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารพรีเมียมให้กบั อุตสาหกรรมและภาคส่วนต่างๆ ในปัจจุบนั บริษทั เคอาร์เอส มีลกู ค้าจากทัว่ ทุกมุมโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา ญีป่ นุ่ และอิสราเอล รวมทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐาน BRC และมาตรฐาน IFC นอกจากนี้ เคอาร์เอส สไปซี่ ฟูด้ ส์ ยังเป็นผูผ้ ลิตรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทใี่ ช้วตั ถุดบิ จากการค้าโดยชอบธรรม (Fair Trade) ในประเภทเครือ่ งแกงและน�ำ้ จิม้ อีกด้วย

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Phuket abounds in culinary treasures, and with its unique mix of Hokkien Chinese, Southern Thai, and Malay influences, boasts a food culture unlike anywhere else in Thailand. Flavorful nuggets of crispy pork, dried shrimp chili dip, pungent fish kidney curry: these are all dishes that visitors to the island clamor for, yet rarely find in their own home towns. Luckily, Pornthip Phuket (Pornthip Sea Store) provides the highest quality iterations of popular Phuket-based culinary offerings, including cashew nuts, pork floss, dried local seafood, rice crackers, dried fruit and a battery of curry and chili pastes made from local recipes. As a result, Pornthip Phuket is also known as the “King of Herbal Recipes,” providing gourmet souvenirs made to exacting Phuket taste standards. Take home a jar of dried cuttlefish with herbs, dried herbal-flecked shrimp, dried mango or crispy fried durian and rest assured you are bringing a piece of Phuket with you.

จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งขุมทรัพย์อาหารชั้นเลิศ ด้วยการผสมผสานระหว่าง อิทธิพลของชาวจีนฮกเกีย้ น ชาวใต้ และชาวมาเลย์เข้าไว้ดว้ ยกันอย่างลงตัว ท�ำให้ วัฒนธรรมอาหารของภูเก็ตไม่เหมือนที่ไหนในประเทศ นักท่องเที่ยวที่เดินทาง มายังเกาะภูเก็ตต่างเสาะหาหมูแผ่นกรอบรสเข้มข้น น�้ำพริกกุ้งเสียบ หรือ เครื่องแกงไตปลาที่มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหากไม่ใช่ที่นี่แล้ว ของขึ้นชื่อ เหล่านีอ้ าจจะหารับประทานได้ยากสักหน่อย ร้านพรทิพย์ ภูเก็ต (ภูเก็ต ซี สโตร์) จึงได้คดั สรรผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพเยีย่ ม และเป็นทีน่ ยิ มของเกาะภูเก็ต อันได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หมูหยอง อาหารทะเลแห้ง ข้าวตัง ผลไม้อบแห้ง เครือ่ งแกงและน�ำ้ พริกบรรจุขวดสูตรดัง้ เดิม มาให้นกั ท่องเทีย่ ว ได้เลือกซือ้ ร้านพรทิพย์ ภูเก็ต ยังได้สมญาว่าเป็น “เจ้าแห่งอาหารสูตรสมุนไพร” จากผลิตภัณฑ์อาหารของฝากทีต่ รงตามมาตรฐานรสชาติแบบชาวภูเก็ตทุกกระเบียด หากมีโอกาสได้ไปเยือน ลองซือ้ ปลาหมึกแห้งสมุนไพรสักกระปุก หรือกุง้ เสียบกรอบ มะม่วงอบแห้ง และทุเรียนทอด แค่นี้ก็เหมือนได้รสชาติแท้ๆ ของภูเก็ตติดมือ กลับบ้านไปด้วยแล้ว

042 | 043


One of the most beloved names in the local food industry, Maepranom— named after Pranom Daengsupha, who founded the company in 1959 with her husband—still bears the iconic photo of “Mother Pranom’s” face on its range of products, considered among the best pastes, seasonings, sauces and meal sets on the market today. Since starting with a single product—Thai chili paste in a glass jar—Maepranom has since expanded into two lines: Maepranom Brand and Siam Kitchen Brand. With the help of the most up-to-date production technologies available, all products are made to meet international standard certifications such as BRC, GMP, HACCP, Halal, Q-Mark and ISO 9001. Even better, its products are made without MSG, artificial coloring or preservatives, ensuring that Maepranom meets the most stringent health and hygiene standards on the market. This vote of confidence in Maepranom was confirmed in 2014, when the company received the “Thai Select” trust mark, which guarantees its authenticity and suitability for international export.

ส�ำหรับในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารไทยแล้ว แม่ประนอมซึง่ มีทมี่ าจากชือ่ ของประนอม แดงสุภา ถือเป็นหนึง่ ในแบรนด์ขวัญใจของใครหลายคน เธอได้กอ่ ตัง้ บริษทั ร่วมกับสามี ของเธอในปี พ.ศ. 2502 ปัจจุบนั ภาพใบหน้าสุดคลาสสิกของ ‘แม่ประนอม’ ยังคง ปรากฏอยูบ่ นผลิตภัณฑ์ของแม่ประนอม อาทิ น�ำ้ พริก เครือ่ งปรุง น�ำ้ จิม้ และชุดอาหาร ส�ำเร็จรูป และยังคงเป็นหนึง่ ในชือ่ แบรนด์ทตี่ ดิ หูทสี่ ดุ ในปัจจุบนั แรกเริม่ เดิมที ผลิตภัณฑ์ของแม่ประนอมมีเพียงน�ำ้ พริกบรรจุขวดแก้ว แต่ตอ่ มาได้แยก เครือ่ งหมายการค้าออกเป็น ตราแม่ประนอม และ ตราครัวสยาม ด้วยเทคโนโลยีการ ผลิตทีท่ นั สมัยทีส่ ดุ สินค้าทุกชิน้ จึงได้รบั การผลิตตามมาตรฐานสากล ทัง้ มาตรฐาน BRC มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐานฮาลาล เครือ่ งหมาย Q และ มาตรฐาน ISO 9001 ผลิตภัณฑ์ของแม่ประนอมนัน้ ปราศจากผงชูรส สีสงั เคราะห์ และสารกันบูด จึงมัน่ ใจได้วา่ ตรงตามมาตรฐานด้านสุขภาพและสุขอนามัย และในปี พ.ศ. 2557 บริษทั ยังได้รบั ตราสัญลักษณ์ Thai Select ยิง่ ตอกย�ำ้ ความเชือ่ มัน่ ว่าสินค้า สูตรดัง้ เดิมของแม่ประนอมนัน้ ควรคูแ่ ก่การส่งออกไปจ�ำหน่ายยังนานาประเทศ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


There is no ingredient more integral to authentic Thai food than fish sauce. Indeed, fish sauce was so important that most families brewed their own in their backyards for private consumption. But the effort—and aroma—were something to be tolerated, not savored, in the name of great food. This is where Thai Fish Sauce Factory discovered a convenient gap in the market. Established in 1944 by Tien Chan, Thai Fish Sauce Factory has been producing high-quality fish sauce for over 60 years. The maker of the popular “Squid Brand” fish sauce (widely preferred by most Thais), Thai Fish Sauce Factory has two facilities in Samut Songkhram and Samut Prakan provinces, both utilizing state-of-the-art technology. The Squid brand fish sauce has grown so much in popularity that it is now a well-known product abroad, exported to the United States, Europe and Australia since 1974. Squid fish sauce meets ISO 9001:2000 and HACCP certification standards.

ขึ้ น ชื่ อ ว่ า เป็ น อาหารไทยแล้ ว ไม่ มี เ ครื่ อ งปรุ ง ใด ทีจ่ ะเป็นหัวใจส�ำคัญมากไปกว่าน�ำ้ ปลา น�ำ้ ปลาถือเป็น วัตถุดิบส�ำคัญจนถึงขั้นที่บางครอบครัวหมักไว้เพื่อ บริโภคเองในครัวเรือน แต่กระบวนการหมักเพือ่ ให้ได้ มาซึง่ น�ำ้ ปลาชัน้ เลิศรวมถึงกลิน่ ทีต่ ามมานัน้ ไม่ใช่สงิ่ ที่ น่าอภิรมย์แต่อย่างใด และปัจจัยเหล่านีเ้ ป็นช่องว่างใน ตลาดทีบ่ ริษทั โรงงานน�ำ้ ปลาไทยเล็งเห็น

ผลิตน�้ำปลาคุณภาพสูงมาแล้วเป็นเวลากว่า 60 ปี โดยผู้ผลิต น�้ำปลาตราปลาหมึก ซึ่งขายดิบขายดี ในหมูผ่ บู้ ริโภคชาวไทยรายนี้ มีโรงงาน 2 แห่งในจังหวัด สมุทรสงครามและสมุทรปราการ ซึง่ ใช้เทคโนโลยีใน การผลิ ต ที่ ทั น สมั ย น�้ ำ ปลาตราปลาหมึ ก ได้ รั บ ความนิ ย มอย่ า งมหาศาลจนกลายเป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ซึ่ ง เป็ น ที่ รู ้ จั ก ในตลาดโลก โดยถู ก ส่ ง ออกไปยั ง สหรั ฐ อเมริ ก า ยุ โ รป และออสเตรเลี ย มาตั้ ง แต่ บริษัทโรงงานน�้ำปลาได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. ปี พ.ศ. 2517 น�ำ้ ปลาตราปลาหมึกได้รบั การรับรอง 2487 โดยนายเทียน นิธปิ ติ กิ าญจน์ และได้เดินสาย มาตรฐาน ISO 9001:2000 และมาตรฐาน HACCP

044 | 045


This Thai food products company—named after the personal navigator of a royal Thai boat in the 1700s—has gained world renown for its well-regarded range of dipping sauces, seasonings, pastes, powders, pickles, dried ingredients and coconut products, which are all ingredients integral to the making of an authentic Thai meal. Because of the complexity of many Thai dishes, the need for a trusted purveyor of genuinely Thai food products has intensified.

Rattapong Wattanaporn Deputy Managing Director, Pantai Norasingh

Established in 1962, Pantai Norasingh’s fortunes have risen alongside those of Thai cuisine itself. The global popularity of Thai food has spurred demand for the company’s sauces, seasonings and pastes; today, Pantai Norasingh exports its products to more than 40 countries worldwide, including the United States, Canada and those in the Middle East and Europe. Not surprisingly, great emphasis is placed on ensuring the highest quality and hygiene criteria are met, and products are made in accordance with Halal, GMP, HACCP, BRC and ISO 9001:2000 certification standards.

บริษัทจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งตั้งชื่อตามนายเรือหลวงในสมัยช่วงปลาย กรุงศรีอยุธยาแห่งนี้ ได้สร้างชือ่ เสียงในตลาดโลกจากผลิตภัณฑ์นำ�้ จิม้ หลากชนิด ไปจนถึงเครือ่ งปรุง น�ำ้ พริก ผงปรุงรส ของดอง วัตถุดบิ แห้ง และผลิตภัณฑ์จาก มะพร้าว ผลิตภัณฑ์อาหารเหล่านีล้ ว้ นเป็นส่วนประกอบส�ำคัญในการปรุงอาหารไทย รสดัง้ เดิม เนือ่ งด้วยต�ำรับอาหารไทยส่วนใหญ่นน้ั มีความสลับซับซ้อน หลายคนจึง มองหาตัวช่วยซึง่ เป็นผลิตภัณฑ์รสชาติไทยแท้จากผูจ้ ดั จ�ำหน่ายทีไ่ ด้รบั ความไว้วางใจ หลังก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2505 แบรนด์พนั ท้ายนรสิงห์นนั้ ได้รบั ความนิยมเพิม่ ขึน้ สอดคล้องกับความต้องการบริโภคอาหารไทยในระดับนานาชาติ ซึ่งได้ช่วยเพิ่ม ยอดขายให้กบั ซอส เครือ่ งปรุงรส และน�ำ้ พริก โดยปัจจุบนั บริษทั ได้ทำ� การส่งออก ไปจ�ำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทัว่ โลก เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา รวมถึงกลุม่ ประเทศในตะวันออกกลางและยุโรป จึงไม่นา่ แปลกใจทีบ่ ริษทั พันท้ายนรสิงห์ จะให้ ความส�ำคัญยิง่ ยวดต่อการยึดถือมาตรฐานคุณภาพและความสะอาด ส่งผลให้สนิ ค้า ของพั น ท้ า ยนรสิ ง ห์ ผ ่ า นการรั บ รองมาตรฐานฮาลาล มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน BRC และมาตรฐาน ISO 9001:2000

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Home cooking is about providing for your family. Perhaps no food product company understands this more than Suree Interfoods, which remains a family-run business more than 20 years after it was founded by Dr. Sonchai Wattanaporn. Suree has since become a leading manufacturer of premium-quality sauces, pastes, seasonings and coconut milk, providing quick and convenient solutions to Thai food-loving families in over 54 countries. Naturally, Suree products are made with clean hygiene and safe practices emphasized at every stage of the manufacturing process. Suree products are also certified by world-class organizations such as GMP, HACCP, ISO 9001:2008, ISO 22000:2005, Halal and BRC. Not surprisingly, Suree products have garnered national recognition for their excellence, winning the Prime Minister’s Export Award in 2004 and 2009 for their high production quality and efficiency in meeting international standards. Today, products such as Suree’s green curry paste, sweet chili sauce, pickled catfish and premium soy sauce are available at high-quality markets worldwide.

กว่า 20 ปี กิจการครอบครัวอย่าง สุรีย์ อินเตอร์ฟู้ดส์ ยังคงเป็นบริษัท ผลิตอาหารที่เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค ที่อยากให้สมาชิกครอบครัว ได้อมิ่ อร่อยเมือ่ ท�ำอาหารรับประทานเองทีบ่ า้ น บริษทั สุรยี ์ อินเตอร์ฟดู้ ส์ นัน้ ก่อตัง้ โดย ดร.สนใจ วัฒนาพร และต่อมาได้กลายเป็นบริษทั ชัน้ น�ำของไทยผูผ้ ลิตซอส พริกแกง เครือ่ งปรุงต่างๆ และกะทิคณ ุ ภาพพรีเมียม ซึง่ มอบตัวช่วยอันสะดวก รวดเร็วให้แก่ผทู้ ชี่ นื่ ชอบอาหารไทยในกว่า 54 ประเทศ สิ น ค้ า ตราสุ รี ย ์ ถู ก ผลิ ต ขึ้ น ตามมาตรฐานด้ า นความปลอดภั ย และสุ ข อนามั ย ในทุกขัน้ ตอนการผลิต นอกจากนีผ้ ลิตภัณฑ์ของสุรยี ย์ งั ได้รบั การรับรองมาตรฐาน ระดับโลกต่างๆ อาทิ มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน ISO 9001:2008 มาตรฐาน ISO 22000:2005 มาตรฐานฮาลาล และมาตรฐาน BRC จึงไม่นา่ แปลกใจทีส่ นิ ค้าตราสุรยี จ์ ะได้รบั การยกย่องด้านคุณภาพ จนได้รบั รางวัล Prime Minister’s Export Award พ.ศ. 2547 และ พ.ศ. 2552 ในฐานะ ผู้ผลิตสินค้าคุณภาพสูงและมีประสิทธิภาพในการผลิตทัดเทียมมาตรฐานระดับ นานาชาติ ปัจจุบนั ผูบ้ ริโภคสามารถหาซือ้ ผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ ของสุรยี ์ เช่น น�ำ้ พริก แกงเขียวหวาน ซอสพริกหวาน ปลาร้า และซีอิ๊วขาวคุณภาพเยี่ยมได้จาก ทัว่ ทุกมุมโลก

046 | 047


A subsidiary of Charoen Pokphand (CP), CP Intertrade has operated for over 30 years as a premium trader of all categories of materials, including international brand names. Known worldwide for its superior sourcing, importing, exporting and marketing of quality food products, CP Intertrade also offers a service consolidating different varieties of food items under alternative brands such as Bafco, Golden Rose and Golden House. However, CP Intertrade is probably best known for its “Royal Umbrella” Thai food products. Royal Umbrella encompasses an array of items, ranging from canned pineapple and tuna to coconut milk, sauces, instant curries and rice noodles. Perhaps Royal Umbrella’s most renowned product is its premium Thai jasmine (Hom Mali) rice, which is selected, cultivated, processed and packed under the highest market standards. CP Intertrade has been awarded ISO 9001:2000, ISO 14001, GMP, HACCP, and Halal certification and has also won the Prime Minister’s Export Award.

ซีพี อินเตอร์เทรด หนึ่งในบริษัทภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ด�ำเนิน กิจการมาแล้วกว่า 30 ปี ในฐานะผูค้ า้ วัตถุดบิ ระดับพรีเมียมทุกชนิด รวมไปถึง แบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับสากล นอกจากจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องของ ความสามารถทีเ่ หนือกว่าในการเสาะหาวัตถุดบิ การน�ำเข้า-ส่งออก และการตลาด ส�ำหรับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพแล้ว ซีพี อินเตอร์เทรดยังให้บริการแบบ ครบวงจรเกี่ยวกับอาหารประเภทต่างๆ ภายใต้แบรนด์ทางเลือกส�ำหรับผู้บริโภค อย่าง บาฟโก้ (Bafco) โกลเด้นโรส (Golden Rose) และ โกลเด้นเฮ้าส์ (Golden House) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แบรนด์ของซีพี อินเตอร์เทรดซึง่ เป็นที่ รูจ้ กั มากทีส่ ดุ คงหนีไม่พน้ ผลิตภัณฑ์อาหารไทย ตราฉัตร (Royal Umbrella) ซึง่ ผลิตและจัดจ�ำหน่ายสินค้านานาชนิดนับตัง้ แต่สบั ปะรดและทูนา่ กระป๋อง ไปจนถึง กะทิ ซอสปรุงรส แกงส�ำเร็จรูป และเส้นก๋วยเตีย๋ ว สินค้าตราฉัตรทีข่ นึ้ ชือ่ ทีส่ ดุ คือ ข้าวหอมมะลิเกรดพรีเมียมซึง่ ผ่านการคัดสรร เก็บเกีย่ ว ผ่านกระบวนการผลิต และบรรจุภายใต้มาตรฐานสูงสุดในตลาด ซีพี อินเตอร์เทรดได้รับการรับรอง มาตรฐาน ISO 9001:2000 มาตรฐาน ISO 14001 และมาตรฐานฮาลาล รวมไปถึงรางวัล Prime Minister’s Export Award และ Thailand’s Export Award

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Considered Thailand’s leading manufacturer of cooking sauces, canned seafood and ready-to-eat meals, Hi-Q Food Products began in 1986 with a focus on exporting pet food abroad. Hi-Q quickly became one of the world’s foremost suppliers of many internationally known pet food brands. Only later in 1990 did Hi-Q turn its focus to the local market, becoming the first in Thailand to introduce an “easy open” feature on its product packages, gaining a 15 percent market share in a relatively small period of time. In 1996, Hi-Q acquired the rights to Roza, a Thai cooking sauce and canned fish company, and in 1998, Roza Agri-Industrial Company came into being. With a production capacity of 5,000 tons a year, Roza produces tomato paste, a key ingredient in both ketchup and canned sardines, as well as newer products such as light soy sauce, tuna and chicken in pouches and microwaveable tasty meals. Hi-Q’s aggressive expansion tactics appear to have paid off: over the past 15 years, its sales volume has grown more than 30 times over and its assets have grown more than 73-fold. Its products meet both GMP and HACCP standards.

บริษทั ไฮคิว ผลิตภัณฑ์อาหาร (Hi-Q Food Products) คือผูผ้ ลิต ซอสปรุงรส อาหารทะเลกระป๋อง และอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน ชัน้ น�ำของเมืองไทย ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ เมือ่ ปี พ.ศ. 2529 โดยมีวตั ถุประสงค์ เริ่มแรกคือมุ่งส่งออกผลิตภัณฑ์ส�ำหรับสัตว์เลี้ยงไปยังต่างประเทศ เป็นหลัก โดยไฮคิวได้ผลักดันธุรกิจของตัวเองจนกลายเป็นซัพพลายเออร์ รายหลั ก ของแบรนด์ อ าหารสั ต ว์ ร ะดั บ โลกหลายแห่ ง อย่ า งรวดเร็ ว จนกระทัง่ ในปี พ.ศ. 2533 ไฮคิวจึงค่อยหันกลับมามุง่ ตีตลาดภายใน ประเทศ และกลายเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่น�ำบรรจุภัณฑ์ชนิด ‘เปิดง่าย’ มาใช้กบั บรรจุภณ ั ฑ์ของตัวเอง จนสามารถเพิม่ ส่วนแบ่งตลาด ได้ถงึ 15% ภายในช่วงระยะเวลาสัน้ ๆ ในปี พ.ศ. 2539 ไฮคิวได้รับสิทธิ์ผลิตและจ�ำหน่าย โรซ่า ซึ่งเป็น ซอสปรุงรสอาหารไทยและผลิตภัณฑ์ปลากระป๋อง และในปี พ.ศ. 2541 บริษัท โรซ่า เกษตรอุตสาหกรรม จึงได้ถือก�ำเนิดขึ้น ด้วยก�ำลัง การผลิต 5,000 ตันต่อปี โรซ่าผลิตซอสมะเขือเทศเข้มข้น ซึ่งเป็น วัตถุดิบหลักของทั้งผลิตภัณฑ์ซอสมะเขือเทศและปลาซาร์ดีนกระป๋อง รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างซีอวิ๊ ขาว ทูนา่ และเนือ้ ไก่บรรจุถงุ และ อาหารพร้อมรับประทาน กลยุทธ์การขยายกิจการในเชิงรุกของไฮคิว น�ำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา โดย ยอดขายของไฮคิวเติบโตขึน้ กว่า 30 เท่า ในขณะทีท่ รัพย์สนิ ของบริษทั มีจำ� นวนเพิม่ สูงขึน้ กว่า 73 เท่า ผลิตภัณฑ์ของไฮคิวได้รบั การรับรอง มาตรฐาน GMP และมาตรฐาน HACCP

048 | 049


Yan Wal Yun is such a well-known food company that it has its own Wikipedia page. Regarded as one of the biggest sauce companies in Thailand, Yan Wal Yun was founded in 1947 by the Tangsombatvisit family. Most of its products are sold under the iconic Healthy Boy Brand, bearing the easily recognizable drawing of a Thai boy holding a brown bottle against a blue background. Perhaps best known for its soy sauce, which won Yan Wal Yun the honor of being the first company certified by the Thai Industrial Standards Institute in the soy sauce category, the Healthy Boy (aka “Dek Somboon”) brand also provides popular fish pastes, soybean pastes, oyster sauce, seasoning sauce, dipping sauce, fish sauce, vinegar, ground pepper and even Japanese soy sauce, in a nod to Thais’ more cosmopolitan tastes. Yan Wal Yun products were granted the Halal Seal, indicating they meet Halal standards by the Islamic Council of Thailand.

บริษทั ทีท่ กุ คนรูจ้ กั ดีอย่าง หยัน่ หว่อ หยุน่ นัน้ ได้รบั การยอมรับว่าเป็นผูผ้ ลิตซอสปรุงรสทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ แห่งหนึง่ ของประเทศไทย บริษทั หยัน่ หว่อ หยุน่ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2490 โดยครอบครัวตัง้ สมบัตวิ สิ ทิ ธิ์ และได้ จ�ำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ ตราเด็กสมบูรณ์ ซึง่ เป็น ภาพวาดเด็กผูช้ ายถือขวดซีอวิ๊ สีนำ�้ ตาลบนพืน้ หลังสีฟา้ อันแสนคุน้ ตา ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ ขึ้ น ชื่ อ ที่ สุ ด ของหยั่ น หว่ อ หยุ ่ น คงจะหนีไม่พ้นซีอิ๊วขาว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ท�ำให้ หยัน่ หว่อ หยุน่ กลายเป็นบริษทั แรกทีไ่ ด้รบั มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในสาขาน�้ำซีอิ๊ว สินค้าตรา เด็กสมบูรณ์ยังประกอบไปด้วยซอสปลาเค็ม ซอส เต้าเจีย้ ว ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น�ำ้ จิม้ น�ำ้ ปลา น�ำ้ ส้มสายชู และพริกไทยป่น รวมไปถึงสินค้าอย่าง ซอสโชยุ เพื่อตอบรับกับรสชาติที่เป็นสากลขึ้นของ คนไทย นอกเหนื อ จากนี้ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ทุ ก ชิ้ น ของ หยัน่ หว่อ หยุน่ ยังได้รบั ตราฮาลาล ซึง่ ผ่านการรับรอง จากคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Established under the name “Nguan Soon Company”, Artchit International was founded by Artchit Limprana in 1954 out of a single storefront in Bangkok’s Yaowarat (Chinatown). The business focused on selling spices and ground pepper under the moniker “Hand Brand No. 1”—which has since become a household name and is now exported to more than 20 countries. Only the highest quality spices and herbs make it into a Hand Brand No. 1 bottle, and only the most modern dry-heating and crushing methods are used to process them. Bottles that are nearly ubiquitous on every Thai table include the blue tin bottles of ground white pepper, glass bottles of iodized table salt, curry powder and masala powder, glass grinders of black peppercorns, and mini-bottles of black sesame, seven-taste chili powder, sansho and ground hot chili. Hand Brand products have won numerous awards over the company’s long history, including the Thai Best Exporter Award in 1988, the Shell Guide Test Guarantee for best pepper in Thailand, and ISO 9002, Halal, GMP, HACCP, ISO 9001:2008 and BRC certification. In 2011, it won the Prime Minister’s Export Award recognizing the country’s best exporters.

050 | 051

อาจจิตต์ อินเตอร์เนชันแนล ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2497 ภายใต้ชื่อ บริษัทง่วนสูน โดยอาจจิตต์ ลิ้มประนะ นัน้ เริม่ ต้นจากห้องแถวหนึง่ คูหาในเยาวราช และเป็นผู้ จ�ำหน่ายเครือ่ งเทศและพริกไทยป่นภายใต้ชอื่ พริกไทย ตรามือที่ 1 (Hand Brand No.1) ซึง่ เป็นชือ่ ติดหูคน ไทย และส่งออกสินค้าไปยังกว่า 20 ประเทศ พริ ก ไทยตรามื อ ที่ 1 คั ด สรรเฉพาะเครื่ อ งเทศ และสมุนไพรคุณภาพเยีย่ ม และใช้กรรมวิธกี ารผลิต โดยการให้ความร้อนแห้งและการบดที่ทันสมัยที่สุด ในบรรดาเครื่องปรุงที่มีติดโต๊ะอาหารทั่วฟ้าเมืองไทย นั้นประกอบด้วย พริกไทยขาวป่นในขวดกระป๋อง สี น�้ ำ เงิ น เกลื อ ไอโอดี น ในขวดแก้ ว ผงกะหรี่ ผงมาซาลา พริกไทยเม็ดด�ำขวดฝาบด งาด�ำในขวดจิว๋ ผงพริก 7 รส ซันโช และพริกป่น ตลอดระยะเวลาที่ ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ตรามือที่ 1 ได้กวาดรางวัลมานับ ไม่ถว้ น รวมถึงรางวัล Best Exporter Award ประจ�ำ ปี พ.ศ. 2531 รางวัลเชลล์ชวนชิมการันตีความอร่อย ในฐานะพริกไทยทีด่ ที สี่ ดุ ในประเทศไทย และได้รบั การ รับรองมาตรฐาน ISO 9002 มาตรฐานฮาลาล มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน ISO 9001:2008 และมาตรฐาน BRC ในปี พ.ศ. 2544 บริษทั ยังได้รบั รางวัล Prime Minister’s Export Award ซึง่ มอบให้แก่ผปู้ ระกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นอีกด้วย


One of the biggest rice manufacturers in Asia today, Patum Rice Mill and Granary is the producer of the popular Mah Boonkrong line of products—the first packaged rice brand in Thailand. Armed with a wide range of products from the more traditional “Hom Mali” (100 percent Thai Jasmine) rice to newly-developed varieties such as the healthy, digestion-friendly “MultiGrain Rice” (high in antioxidants and fibers) and trendy “Sachi” (100 percent Japanese rice), Mah Boonkrong rice is well adapted to meet the rigorous demands of today’s market. Available both locally and abroad, Mah Boonkrong rice products are easily found nearly everywhere, including Big C, Villa Market, 7-Eleven and even in traditional mom-and-pop shop-house stores. Its products are also used in numerous discerning restaurant outlets: Suki Number One, MBK Food Island, the Fifth Food Avenue, and HINA Japanese restaurant. Patum Rice Mill and Granary has attained certification from GMP, HACCP, ISO 9001 and BRC, attesting to its high quality standards.

หนึ่งในผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดของเอเชียในปัจจุบัน อย่างปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี คือผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลัง ผลิตภัณฑ์ชอื่ ดังอย่าง ข้าวมาบุญครอง แบรนด์ขา้ ว บรรจุถุงรายแรกของประเทศไทย บริษัทผลิตและ จ�ำหน่ายสินค้ามากมายนับตัง้ แต่ ข้าวหอมมะลิตน้ ต�ำรับ (ข้าวหอมมะลิ 100%) ไปจนถึงผลิตภัณฑ์อนื่ ๆ อาทิ ข้าวมัลติเกรน ซึ่งดีต่อสุขภาพและช่วยในการย่อย อาหาร (เนือ่ งจากมีสารต้านอนุมลู อิสระและเส้นใยสูง) รวมถึง ซาจิ อีกหนึง่ แบรนด์ขา้ วญีป่ นุ่ 100% ทีก่ ำ� ลัง ได้รับความนิยม ผลิตภัณฑ์ข้าวมาบุญครองได้ถูก ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคใน ยุคปัจจุบนั ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ข ้ า วมาบุ ญ ครองมี จ� ำ หน่ า ยทั้ ง ใน และต่างประเทศ โดยสามารถหาซือ้ ได้ตามห้างสรรพสินค้า อาทิ บิก๊ ซี วิลลามาร์เก็ต เซเว่นอีเลฟเว่น และ ตามร้านค้าทัว่ ไป นอกจากนีผ้ ลิตภัณฑ์ขา้ วมาบุญครอง ยังถูกน�ำไปใช้เป็นวัตถุดิบในร้านอาหาร เช่น สุกี้ นัมเบอร์วนั (Suki Number One) เอ็มบีเคฟูด้ ไอแลนด์ (MBK Food Island) ฟิฟธ์ฟดู้ อเวนิว (Fifth Food Avenue) และร้านอาหารญีป่ นุ่ ฮินะ ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี ได้รบั การรับรองมาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน ISO 9001 และมาตรฐาน BRC ซึ่ ง เป็ น เครื่ อ งยื น ยั น มาตรฐานคุ ณ ภาพสู ง สุ ด ของ ผลิตภัณฑ์ MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Thailand’s biggest exports are commonly thought to be shrimp, rice and rubber, but its most important export is something that might not be measurable: its culture. Food plays a big part of that culture; unsurprisingly, Thai cuisine is more popular than ever. Monty & Totco—first founded in Bangkok in 1988 as Monty International—seeks to be one of the world’s biggest ambassadors for Thai culture by providing premium quality food products both abroad and at home. A vast array of products ranging from sauces, salad dressings and curries to pastes, ready-made meals and snacks ensures that Monty & Totco sells to more than 50 countries around the world, including France, Australia and Canada. By introducing consumers all over the world to beloved Thai dishes like tom yum soup, vermicelli spicy salad and Thai Rama chicken, Monty & Totco is also helping to spread the gospel of Thai culture and traditions to new places abroad.

ในสายตาของคนทั่ ว ไป กุ ้ ง ข้ า ว และยางพารา คือสินค้าส่งออกล�ำดับต้นๆ ของไทย กระนัน้ สินค้า ส่งออกที่ส�ำคัญที่สุดของประเทศไทยอาจเป็นสิ่งที่ ประเมินค่าไม่ได้อย่างวัฒนธรรม ซึง่ อาหารไทยถือเป็น ส่วนส�ำคัญของวัฒนธรรมดังกล่าว จึงไม่นา่ แปลกใจที่ อาหารไทยนัน้ ก�ำลังได้รบั ความนิยมสูงสุดในปัจจุบนั มอนตี้ แอนด์ ท็ อ ทโก้ ก่ อ ตั้ ง ขึ้ น ในกรุ ง เทพฯ เมือ่ ปี พ.ศ. 2531 ในนามมอนตี้ อินเตอร์เนชันแนล โดยมุ่งหวังที่จะเป็นหนึ่งในทูตผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรม ไทยไปสูส่ ายตานานาชาติ ผ่านการจัดจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ อาหารระดับพรีเมียมทั้งในและต่างประเทศ สินค้า หลากชนิดของมอนตี้ แอนด์ ท็อทโก้ ไม่วา่ จะเป็นซอส น�ำ้ สลัด เครือ่ งแกง อาหารส�ำเร็จรูป หรือขนมขบเคีย้ ว นัน้ ถูกส่งไปจ�ำหน่ายยังประเทศต่างๆ กว่า 50 ประเทศ ทัว่ โลก เช่น ฝรัง่ เศส ออสเตรเลีย และแคนาดา การที่ มอนตี้ แอนด์ ท็อทโก้ได้ทำ� ให้เมนูขนึ้ ชือ่ อย่างต้มย�ำกุง้ ย�ำวุน้ เส้น และพระรามลงสรงเป็นทีร่ จู้ กั ไปทัว่ โลกนัน้ ถื อ เป็ น การช่ ว ยเผยแพร่ หั ว ใจของวั ฒ นธรรมและ ประเพณีไทยไปในต่างแดน

Prao Vajrabhaya Managing Director, Thai-Choice and SRI Real Estate

052 | 053


The story of this company is actually mirrored by the story of Asia itself. Born in Indonesia during the 19th century, the company was originally named Kamolkij, founded by Hia Kwang Iam. When he relocated to Thailand, Kamolkij moved with him, establishing itself in 1912 as a river transport company. It then evolved into rice milling and commodity trading before branching out into agricultural-related trading and manufacturing, growing and adapting as Asia itself has done. Today, the company’s major interests involve rice exports, vegetable oils, animal feed and spa products. It has also split into two entities: the original Kamolkij, which oversees the rice-related parts of the business, and Kasisuri, which is responsible for all vegetable oil and rice bran-related operations. Kasisuri, owner of the popular Alfa One rice bran oil brand, is currently known for its excellence in rice oil and also offers the lighter Rizi rice bran oil and standard domestic grade Arroza brand.

ประวัตคิ วามเป็นมาของบริษทั แห่งนีด้ ำ� เนินมาพร้อมๆ กับการพัฒนาและเติบโต ของภูมิภาคเอเชีย บริษัทถือก�ำเนิดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซียในช่วงสมัยศตวรรษ ที่ 19 และเริม่ ต้นธุรกิจภายใต้ชอื่ กมลกิจ (Kamolkij) โดยมีนายเหียกวงเอีย่ ม เป็น ผูก้ อ่ ตัง้ เมือ่ ครัง้ ย้ายมาตัง้ ถิน่ ฐานยังประเทศไทย เหียกวงเอีย่ มได้นำ� บริษทั กมลกิจ ข้ามน�ำ้ ข้ามทะเลมาตัง้ กิจการขึน้ ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2455 ในฐานะบริษทั ขนส่ง สินค้าทางน�้ำ จากนั้นจึงพัฒนากิจการไปเป็นโรงสีข้าวและจ�ำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค ก่อนจะขยับขยายไปสูธ่ รุ กิจการซือ้ ขายและผลิตสินค้าทางการเกษตร ขณะ ทีค่ อ่ ยๆ ปรับตัวและพัฒนาไปตามยุคสมัย ปัจจุบัน รายได้หลักของบริษัทมาจากการส่งออกข้าว น�้ำมันพืช อาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์สปา โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ กมลกิจ ซึง่ ดูแลธุรกิจทีเ่ กีย่ วข้อง กับข้าว และ กสิสรุ ยี ์ ซึง่ ดูแลผลิตภัณฑ์นำ�้ มันพืชทุกชนิดรวมถึงธุรกิจทีเ่ กีย่ วข้อง กับร�ำข้าว กสิสรุ ยี ์ เจ้าของแบรนด์นำ�้ มันร�ำข้าวชือ่ ดังอย่าง อัลฟ่าวัน ขึน้ ชือ่ ในเรือ่ ง ของคุณภาพชัน้ เลิศ อีกทัง้ ยังจ�ำหน่ายน�ำ้ มันร�ำข้าว ริซี่ (Rizi) และ อโรซ่า (Arroza) ซึง่ เป็นแบรนด์สำ� หรับจ�ำหน่ายภายในประเทศ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


With more than 15 years’ experience under its collective belt, Q Plus Concept can boast of being the top herb, spice and dehydrated vegetable producer in Thailand. Maker of the Sutharos brand of seasonings since 2014, Q Plus products are all GMP, HACCP and Halal certified. Products range from pantry basics such as black pepper powder, dried whole chilies and curry powder to more Thai-centric seasonings such as dried sweet basil, dried sliced lemongrass and dried kaffir lime leaf. For fledgling Thai cooks, Sutharos also produces convenient Thai cooking sets including creamy tom yum soup, tom kha soup, and both green and red curries, as well as food additives, spices, dehydrated vegetables and spice mixes for industrial use. An in-house laboratory ensures that products maintain their top-quality standards. With Sutharos in the kitchen, even the most amateur cook can produce great takes on coconut chicken soup, stir-fried holy basil rice dishes, sweet basil curry and even spicy lemongrass noodles.

คิวพลัส คอนเซพท์ (Q Plus Concept) คือหนึง่ ในผูผ้ ลิตสมุนไพร เครือ่ งเทศ และ ผักอบแห้งคุณภาพพรีเมียมของประเทศซึง่ มีประสบการณ์มากว่า 15 ปี ผลิตภัณฑ์ ของคิวพลัสล้วนได้รบั การรับรองมาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP และมาตรฐาน ฮาลาล รวมทัง้ ยังเป็นผูก้ อ่ ตัง้ แบรนด์เครือ่ งปรุงรส สุธารส ขึน้ ในปี พ.ศ. 2557 ผลิตภัณฑ์ของสุธารสครอบคลุมตัง้ แต่วตั ถุดบิ ทีม่ กี นั ทุกครัวเรือน อย่าง พริกไทย ด�ำป่น พริกแห้ง และผงกะหรี่ ไปจนถึงเครือ่ งปรุงรสแบบไทยๆ เช่นใบโหระพาแห้ง ตะไคร้ฝานแห้ง และใบมะกรูดแห้ง นอกจากนีส้ ธุ ารสยังผลิตชุดประกอบอาหารไทย ทีท่ ำ� ง่ายและสะดวก อาทิ ชุดต้มย�ำน�ำ้ ข้น ต้มข่า แกงเขียวหวาน และแกงเผ็ดต่างๆ รวมไปถึงวัตถุแต่งกลิ่นรส เครื่องเทศ ผักอบแห้ง และเครื่องแกงส�ำหรับใช้ใน อุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ทพี่ ฒ ั นาโดยฝ่ายปฏิบตั กิ ารวิจยั ทัง้ หมดนัน้ ได้รบั การควบคุม คุณภาพเพื่อรักษามาตรฐานที่ดีที่สุดไว้ แค่เพียงมีเครื่องปรุงของสุธารสติดครัว แม้แต่พอ่ ครัวแม่ครัวมือสมัครเล่นก็สามารถท�ำต้มข่าไก่ ข้าวผัดกะเพรา แกงโหระพา และย�ำตะไคร้แสนอร่อยได้

054 | 055


Packaged food company Thasia might be a household name today, but it wasn’t always that way—building a food empire takes time. In 1985, a Thai entrepreneur named Metha Kornsantiwong landed one of the most important distribution deals in the nation. His company, Win Chance Foods, won the right to import America’s beloved Heinz products—a Pittsburgh-based company that specializes in culinary Americana from tomato-based sauces to baked beans and pickles—and things kept rolling from there. As time went on, the company diversified its portfolio, pulling products from a plethora of world-class manufacturers in countries such as Canada, Germany, Italy and South Korea in addition to the United States. In 2011, the company took the next step in its entrepreneurial ventures—establishing its own brand of products named Thasia. The move was a tremendous success, and today Thasia produces a range of sauces, packaged meals, curry pastes, oils, rice products and salad dressings. It also creates a popular line of wholesale products for the food service industry. Thasia’s production process is certified by ISO 22000, BRC, IFS, GMP, HACCP and Halal.

บริษทั ผลิตอาหารส�ำเร็จรูปบรรจุหอ่ แบรนด์ ทาเซีย อาจกลายเป็นชือ่ ติดหูในปัจจุบนั แต่บริษทั ต้องใช้เวลาอยูห่ ลายปีกว่าจะประสบความส�ำเร็จอย่างเช่นทุกวันนีไ้ ด้ ในปี พ.ศ. 2528 ผูป้ ระกอบการชาวไทย เมธา กรสันติวงศ์ ได้บรรลุขอ้ ตกลงทีม่ คี วาม ส�ำคัญระดับประเทศ กล่าวคือ บริษทั วินแชนซ์ ฟูด้ ส์ (Win Chance Foods) นัน้ ได้ลขิ สิทธิข์ อง ไฮนซ์ ไปครอง บริษทั ซึง่ เป็นขวัญใจชาวอเมริกนั แห่งนีม้ ฐี านการผลิต ตัง้ อยูใ่ นเมืองพิตซ์เบิรก์ และเชีย่ วชาญเกีย่ วกับอาหารสไตล์อเมริกนั นับตัง้ แต่ซอส มะเขือเทศ ไปจนถึงถั่วอบและแตงกวาดอง และนั่นคือจุดเริ่มต้นซึ่งน�ำไปสู่ การต่อยอดทีส่ ำ� คัญ เมือ่ เวลาผ่านไป บริษทั ได้เพิม่ ความหลากหลายให้กบั ผลิตภัณฑ์มากขึน้ โดยน�ำเข้า ผลิตภัณฑ์ระดับเวิลด์คลาสจากผูผ้ ลิตในประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา เยอรมนี อิตาลี เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2554 บริษทั ได้เดินหน้าสร้างสรรค์แบรนด์ ของตนเองภายใต้ชอื่ ทาเซีย ซึง่ ประสบความส�ำเร็จอย่างล้นหลาม ปัจจุบนั ทาเซีย ผลิตและจัดจ�ำหน่ายซอสหลากชนิด อาหารบรรจุหอ่ พริกแกง น�ำ้ มัน ผลิตภัณฑ์ จากข้าว และน�ำ้ สลัด บริษทั ยังผลิตผลิตภัณฑ์อาหารส�ำหรับจ�ำหน่ายในราคาส่ง ส�ำหรับอุตสาหกรรมการบริการอาหาร กระบวนการผลิตของทาเซียนัน้ ได้รบั การ รับรองมาตรฐาน ISO 22000 มาตรฐาน BRC มาตรฐาน IFS มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP และมาตรฐานฮาลาล

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Marketing itself as “Thailand on a plate,” Exotic Foods was born out of two siblings’ desire to see the Thai cuisine they loved enjoyed by consumers all over the world. Founded in 1999, Exotic Foods began with only a handful of sauces, seasonings and pastes. Today, the company offers more than 200 food and beverage products, sold in over 62 countries worldwide. Exotic Foods prides itself on using only the best ingredients in its products, which range from oyster and sweet chili sauces to cooking essentials such as coconut milk and fish sauce, canned fruits and vegetables, snacks made out of dehydrated fruits and coconut juice drinks. Even better, Exotic Foods also produces an all-natural range of sauces, pastes, cooking essentials and snacks, as well as tinned heat-and-serve dishes, such as tom yum soup and massaman curry. All products meet FDA, DEP, Halal, GMP, HACCP, ISO 9001:2008, ISO 22000:2005, BRC and IFS certified standards.

บริษัทเอ็กโซติค ฟู้ด ซึ่งก่อตั้งขึ้นภายใต้แนวคิด “รวมความเป็นไทยไว้ในจานเดียว” ถือก�ำเนิดขึ้นจาก ความปรารถนาของสองพีน่ อ้ งทีอ่ ยากเห็นอาหารไทยทีต่ นชืน่ ชอบกลายเป็นทีน่ ยิ มของคนทัว่ โลก หลังก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2542 เอ็กโซติค ฟูด้ ได้เริม่ ต้นธุรกิจจากการคิดค้นสูตรและผลิตน�ำ้ จิม้ เครือ่ งปรุงรส และ น�้ำพริกเพียงไม่กชี่ นิด ขณะทีใ่ นปัจจุบนั บริษทั มีรายการผลิตภัณฑ์อาหารและเครือ่ งดืม่ ทีจ่ ดั จ�ำหน่ายกว่า 200 รายการใน 62 ประเทศทัว่ โลก เอ็กโซติค ฟูด้ เลือกใช้เฉพาะวัตถุดบิ ทีด่ ที สี่ ดุ ในการผลิต โดยประเภทผลิตภัณฑ์มตี งั้ แต่ซอสหอยนางรม และซอสพริก ไปจนถึงวัตถุดบิ ทีข่ าดไม่ได้ในการปรุงอาหารไทยอย่างกะทิและน�ำ้ ปลา รวมถึงผักและผลไม้ กระป๋อง ขนมขบเคีย้ วทีท่ ำ� จากผลไม้อบแห้ง และน�ำ้ มะพร้าว ยิง่ ไปกว่านัน้ น�ำ้ จิม้ น�ำ้ พริก วัตถุดบิ ปรุงอาหาร ของทานเล่น รวมไปถึงอาหารกระป๋องพร้อมรับประทาน เช่น ต้มย�ำและแกงมัสมัน่ ทีผ่ ลิตโดย เอ็กโซติค ฟูด้ ล้วนใช้จากวัตถุดิบจากธรรมชาติ และได้รับการรับรองจากส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มาตรฐานฮาลาล มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน ISO 9001:2008 มาตรฐาน ISO 22000:2005 มาตรฐาน BRC และมาตรฐาน IFS

056 | 057


With the motto “Quality of Life” in mind, Betagro has quietly incorporated itself into the fabric of nearly every Thai’s life. Founded in 1967 as a livestock production facility in Pak Chong, Nakhon Ratchasima province, Betagro quickly grew by establishing a production base in Lopburi and expanding from livestock farming into animal breeding and manufacturing animal health products. Now a country leader in the agroindustrial sector, Betagro engages in multiple facets of the livestock business, including chicken and swine breeding, hatcheries, broiler farming, chicken layer farming, fattening pig farming and swine semen. Betagro has also leveraged its livestock knowledge into farm equipment and animal pharmaceuticals, and has embarked on strategic partnerships with local farmers, and even produces custom-made products to meet unique and growing farming demands. Perhaps most visibly, the namesake Betagro brand offers pork, chicken, eggs, processed meats, ready-to-cook and ready-to-eat items and seasonings, while the premium line “S-Pure” deals in high-quality pork, chicken and eggs for health-conscious consumers. Betagro is now branching into the restaurant industry with brands such as Little Mermaid, Hon Aji Ramen and Romankan Yokohama.

ตลอดชั่ ว ระยะเวลาที่ ผ ่ า นมา บริ ษั ท ที่ ค� ำ นึ ง ถึ ง ‘คุณภาพชีวติ ’ อย่างเบทาโกรได้คอ่ ยๆ กลายมาเป็น ส่วนหนึง่ ของวิถชี วี ติ คนไทย เบทาโกรก่อตัง้ ขึน้ ครัง้ แรก ในปี พ.ศ. 2510 ในฐานะฐานการผลิตด้านปศุสตั ว์ใน อ�ำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะเพิม่ ฐาน การผลิตอย่างรวดเร็วไปยังจังหวัดลพบุรีและพัฒนา กิจการฟาร์มปศุสตั ว์ไปเป็นโรงเพาะพันธุส์ ตั ว์และโรงงาน ด้านผลิตภัณฑ์เพือ่ สุขภาพสัตว์ ในฐานะองค์กรชัน้ น�ำ ของภาคส่วนอุตสาหกรรมเกษตร ปัจจุบนั เบทาโกรได้ เข้ามามีสว่ นร่วมในด้านต่างๆ ของธุรกิจปศุสตั ว์ อาทิ การท�ำโรงเพาะพันธุไ์ ก่และสุกร โรงฟักไข่ ฟาร์มไก่ กระทง ฟาร์มไก่ไข่ ฟาร์มเลีย้ งหมูแและโรงเพาะน�ำ้ เชือ้ สุกร นอกจากนีเ้ บทาโกรยังได้นำ� ความรูใ้ นด้านปศุสตั ว์ ของตนไปใช้กับการผลิตอุปกรณ์ส�ำหรับฟาร์มและ เวชภัณฑ์สำ� หรับสัตว์ รวมทัง้ ยังจับมือเป็นพันธมิตรกับ เกษตรกรในท้องถิน่ และผลิตสินค้าตามสัง่ ที่ตรงกับ ความต้องการของเกษตรกรแต่ละรายและขานรับต่อ ความต้องการในการท�ำฟาร์มปศุสตั ว์ทเี่ พิม่ สูงขึน้ เบทาโกรมีชื่อเสียงในด้านการผลิตและจัดจ�ำหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหารประเภทต่างๆ นับตัง้ แต่ไข่ เนือ้ ไก่ และเนือ้ หมู ไปจนถึงอาหารปรุงส�ำเร็จพร้อมทานและ เครือ่ งปรุงรส ภายใต้แบรนด์ชอื่ เดียวกับบริษทั เบทาโกร ผลิตและจ�ำหน่ายเนือ้ หมู เนือ้ ไก่ ไข่ เนือ้ สัตว์แปรรูป อาหารปรุงส�ำเร็จพร้อมทาน และอาหารพร้อมรับประทาน และเครือ่ งปรุงรส ส่วนผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สนิ ค้า พรีเมียมอย่าง เอสเพียว (S-Pure) นัน้ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อาทิ เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่คุณภาพสูง ส�ำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ปัจจุบันเบทาโกร ได้ขยายสาขาธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์อย่างลิตเติล้ เมอร์เมด (Little Mermaid) ฮอง อะจิ ราเมน (Hon Aji Ramen) และโรมันคัง โยโกฮาม่า (Romankan Yokohama)

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Although everyone loves fried foods—Thais especially—the health effects from ingesting unhealthy processed oils would give anyone with concerns about heart disease or high cholesterol pause. Luckily for those people, Thai Edible Oil allows them to have their fried chicken and to eat it too. Thanks to an advanced extraction technology developed with the help of German and Belgian engineers, Thai Edible Oil was able to extract rice germ or rice bran oil from the rice kernel, preserving the most nutritious part of rice rich in vitamin-E and oryzanol and helping to reduce cholesterol and fight aging free radicals. Indeed, rice bran oil is considered so healthy that the Japanese call it “heart oil”. Besides its health benefits, King Rice Bran Oil is versatile—usable in dressings, stir-fries, deep-frying and baking—thanks to its high smoke point. It is sold all over the world, including the United States, Japan, Australia and the European Union. Thai Edible Oil is also the first Thai vegetable oil company to receive HACCP and GMP certification, and has since attained ISO 9001:2000, ISO/IEC 17025:2005, ISO 14001:2004 and ISO 22000:2005 certifications.

058 | 059

แม้ของทอดจะเป็นอาหารโปรดของใครหลายๆ คน แต่ผลกระทบต่อสุขภาพทีเ่ กิดจากการบริโภคน�ำ้ มันพืช ผ่านกระบวนการ (processed oil) อาจท�ำให้ผทู้ มี่ ี ปั ญ หาเรื่ อ งโรคหั ว ใจหรื อ คลอเลสเตอรอลสู ง ต้ อ ง ฉุกคิดบ้างไม่มากก็นอ้ ย โชคดีทผี่ บู้ ริโภคเหล่านีม้ บี ริษทั น�ำ้ มันบริโภคไทย (Thai Edible Oil) เป็นทางเลือก ส�ำหรับการรับประทานเมนูทอด ด้วยเทคโนโลยีการสกัด ที่ทันสมัย ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยวิศวกรชาวเยอรมันและ เบลเยียม บริษัทน�้ำมันบริโภคไทยจึงสามารถสกัด น�ำ้ มันจมูกข้าวหรือน�ำ้ มันร�ำข้าว และรักษาเมล็ดข้าว ส่วนทีอ่ ดุ มด้วยสารอาหารอย่างวิตามินอีและโอรีซานอลไว้ ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยลดคลอเลสเตอรอลและต่อสู้กับ สารอนุมูลอิสระเพื่อชะลอความแก่ นี่จึงเป็นเหตุผล ส�ำคัญทีท่ ำ� ให้นำ�้ มันร�ำข้าวถูกมองว่าเป็นน�ำ้ มันทีด่ ตี อ่ สุขภาพมากจนชาวญี่ปุ่นขนานนามว่าเป็น “น�้ำมัน ส�ำหรับหัวใจ” นอกเหนือจากประโยชน์ตอ่ สุขภาพแล้ว น�ำ้ มันร�ำข้าว คิง ยังเป็นน�ำ้ มันสารพัดประโยชน์ โดยสามารถใช้เป็น ส่วนประกอบในน�ำ้ สลัด หรือการผัด ทอด และอบได้ เนือ่ งจากมีจดุ เกิดควัน (smoke point) สูง น�ำ้ มันร�ำข้าว คิงมีจำ� หน่ายอยูท่ วั่ โลก รวมทัง้ ในสหรัฐอเมริกา ญีป่ นุ่ ออสเตรเลีย และประเทศในสหภาพยุโรป นอกจากนี้ บริษทั น�ำ้ มันบริโภคไทยยังเป็นบริษทั น�ำ้ มันพืชแห่งแรก ของประเทศไทยทีไ่ ด้รบั การรับรองมาตรฐาน HACCP และมาตรฐาน GMP รวมทัง้ ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2000 มาตรฐาน ISO/IEC 17025:2005 มาตรฐาน ISO 14001:2004 และ ISO 22000:2005


A leading manufacturer of cooking oil in Thailand, Morakot Industries was founded in 1981 by a group of Malaysian and Thai investors under the name “ThaiMax Industries”. Morakot specializes in palm, sunflower and soybean oils, but also produces blended vegetable oil, corn oil, canola oil and coconut oil. In a bid to shift to more health-conscious customers, the company’s goal is to meet the needs of all different types of cuisines with products that not only result in delicious food, but also contribute to consumer health. Morakot prides itself on embracing innovation early, and was the first cooking oil manufacturer in Thailand to market its cooking oil in polyethylene terephthalate (PET) bottles, which are free from cancer-causing vinyl chloride (VCM). Morakot has also been recognized by the industry for its excellence, including the Asia-Pacific Award for outstanding palm oil manufacturer, the International Asia Award for its outstanding quality control and becoming the first company to be awarded the Outstanding Product Quality Award. Its products also meet ISO 9001:2008, GMP, HACC, FSSC 22000, ISO 22000: 2005, THS 24000, Kosher and ISO/IEC 17025:2005 standards.

ผู้ผลิตน�้ำมันประกอบอาหารชั้นน�ำของประเทศไทย มรกตอินดัสตรี้ส์ก่อตั้งขึ้น โดยกลุม่ นักลงทุนชาวมาเลเซียและไทยในปี พ.ศ. 2524 ภายใต้ชอื่ ไทยแม็กซ์ อินดัสตรีส้ ์ (ThaiMax Industries) มรกตเป็นผูเ้ ชีย่ วชาญในเรือ่ งน�ำ้ มันปาล์ม น�ำ้ มัน ดอกทานตะวัน และน�้ำมันถั่วเหลือง และปัจจุบันได้เพิ่มการผลิตน�้ำมันพืชผสม น�ำ้ มันข้าวโพด น�ำ้ มันคาโนลา และน�ำ้ มันมะพร้าว เพือ่ ให้ตอบโจทย์กลุม่ ผูบ้ ริโภค ทีใ่ ส่ใจในเรือ่ งสุขภาพ บริษทั จึงตัง้ เป้าหมายทีจ่ ะผลิตน�ำ้ มันซึง่ เหมาะส�ำหรับประกอบ อาหารประเภทต่างๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่จะท�ำให้อาหารมีรสชาติอร่อย เท่านัน้ แต่ยงั เป็นประโยชน์ตอ่ สุขภาพของผูบ้ ริโภคอีกด้วย มรกตคื อ ผู ้ ผ ลิ ต น�้ ำ มั น ที่ น� ำ นวั ต กรรมอั น ทั น สมั ย มาใช้ เ ป็ น รายแรกๆ และ เป็นผู้ผลิตน�้ำมันประกอบอาหารรายแรกของประเทศที่บรรจุน�้ำมันลงในขวด โพลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) ซึ่งเป็นวัสดุที่ปราศจากสารวีซีเอ็มซึ่งเป็นสาร ก่อมะเร็ง นอกจากนี้ มรกตยังเป็นทีย่ อมรับในภาคอุตสาหกรรมเนือ่ งด้วยคุณภาพ ชัน้ เลิศ โดยได้รบั รางวัล Asia Pacific Award ในฐานะผูผ้ ลิตน�ำ้ มันปาล์มดีเด่น ประจ�ำภูมภิ าคเอเชียแปซิฟกิ และรางวัล International Asia Award ส�ำหรับการ ควบคุมคุณภาพดีเด่น รวมทัง้ เป็นบริษทั แรกทีไ่ ด้รบั รางวัล Outstanding Product Quality Award นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์มรกตยังได้รบั การรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACC มาตรฐาน FSSC 22000 มาตรฐาน ISO 22000:2005 มาตรฐาน THS 24000 มาตรฐานโคเชอร์ และมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2005

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


The name Mama and its bright red logo have become synonymous with instant noodles among Thais. Street food vendors create new dishes by stir-frying the instant noodles with Vienna sausages, or mixing them with a spicy-sour sauce and bitter greens for a tangy yum salad. College students eat their favorite flavors by the boatful; tourists lug packages home with them as tasty souvenirs. In every case, Mama has become an indispensable part of Thai pop culture. But there was a time before Mama. In 1972, Thai President Foods was founded as a joint venture between President Enterprise Co. of Taiwan and local company Saha Pattanaphibul. Specializing in instant noodle products, Thai President Foods has since branched out into biscuits, fruit juice, wheat flour and sauces, but its most popular brand remains Mama—which has ruled the instant noodle roost for over 40 years with more than a 50 percent market share. Thai President Foods products are certified to GMP, HACCP, ISO 9001, ISO 14000, ISO/IEC 17025, Kosher, Halal and BRC standards. The company has also met its “Workplace Conditions Assessment” and received its SMETA (Sedex Members Ethical Trade Audit).

ส�ำหรับคนไทย ค�ำว่า ‘มาม่า’ นัน้ มีความหมายเท่ากับ ‘บะหมีก่ งึ่ ส�ำเร็จรูป’ ถึงขนาด ที่โลโก้มาม่าสีแดงสดสะดุดตาได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องร้อง อ๋อในทันทีทเี่ ห็น และยังเป็นหนึง่ ในวัตถุดบิ ของเมนูยอดนิยมส�ำหรับบรรดาพ่อค้า แม่คา้ แผงลอย ทีม่ กั น�ำเส้นบะหมีก่ งึ่ ส�ำเร็จรูปมาม่าไปผัดกับไส้กรอก หรือน�ำไป คลุกเคล้ากับน�้ำย�ำและผักต่างๆ จนได้เป็นย�ำรสแซ่บ มาม่านั้นเป็นที่นิยมทั้งใน กลุ่มนักเรียนนักศึกษา และนักท่องเที่ยวที่ต่างหอบหิ้วมาม่าข้ามน�้ำข้ามทะเล กลับไปเป็นของฝาก จนมาม่าได้กลายเป็นส่วนส�ำคัญซึง่ อยูค่ วู่ ฒ ั นธรรมกระแสหลัก ของไทย บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ นั้นก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2515 จากการร่วมทุน ระหว่างบริษทั เพรซิเดนท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ของไต้หวัน และบริษทั สหพัฒนพิบลู ของไทย โดยบริษทั ไทยเพรซิเดนท์ฟดู ส์ ซึง่ เป็นผูเ้ ชีย่ วชาญในด้านผลิตภัณฑ์บะหมี่ กึง่ ส�ำเร็จรูป ได้ขยับขยายกิจการครอบคลุมไปถึงสินค้าประเภทบิสกิต น�ำ้ ผลไม้ แป้งสาลี และน�ำ้ จิม้ ต่างๆ แต่ยงั ไม่มสี นิ ค้าใดทีส่ ามารถโค่นบัลลังก์แบรนด์ขายดี อั น ดั บ หนึ่ ง อย่ า งมาม่ า ได้ มาม่ า เป็ น ผู ้ น� ำ ตลาดบะหมี่ กึ่ ง ส� ำ เร็ จ รู ป ของไทย มาแล้วกว่า 40 ปีและมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ผลิตภัณฑ์ของไทย เพรซิเดนท์ฟดู ส์ได้รบั การรับรองมาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน ISO 9001 มาตรฐาน ISO 14000 มาตรฐาน ISO/IEC 17025 รวมถึงมาตรฐาน โคเชอร์ ฮาลาล และ BRC อีกทั้งบริษัทยังผ่านข้อก�ำหนดการประเมินสภาพ การท�ำงาน และได้รบั มาตรฐานระบบการจัดการเกีย่ วกับการคุม้ ครองแรงงานและ ความปลอดภัย (SMETA)

060 | 061


Few companies can boast of being the brainchild of the late King, but Doi Kham—a shortened name using the Northern Thai words for “mountain” and “gold”­—certainly can. When King Bhumibol Adulyadej visited Chiang Mai in 1964, he noticed many of the poor, rural villagers used environmentally destructive “slash and burn” methods to grow their crops, as well as a rise in the cultivation of opium. Seeking to discourage both pratices, King Bhumibol used his own funds to start a rural development project that would educate villagers on sustainable farming practices and sell the resulting produce to the public at fair prices on the villagers’ behalf. It was in this way that Doi Kham was born in 1969. The Doi Kham “royal projects foundation” now oversees four research stations and 35 development centers that work with 295 villages of 14,109 families—approximately 85,000 poor rural Thais and hill tribe people in all. Still located on the outskirts of Chiang Mai, Doi Kham farms along the Klong Chonprathan irrigation canal and its fruits, vegetables and flowers are sold in outlets throughout the country. Doi Kham also sells by-products from these farms, including juices, dried fruit snacks, jams, canned fruits, tomato paste, frozen fruit, honey, soya flour and even a well-regarded coffee ground from 100 percent Arabica beans. Besides offering mainstays such as carrots, lettuce and broccoli, the Doi Kham Royal Projects have also been integral in introducing Western fruits, vegetables and flowers to Thailand. Formerly “exotic” items such as kiwis, leeks and avocado are now commonplace, alongside more Western-oriented herbs such as marjoram, lemon thyme, rosemary, Italian parsley and tarragon. Doi Kham also now sells fennel, Western-style large purple eggplant, purple cabbage, haricots verts (also known as “needle beans”), beefheart tomatoes, beetroot and button mushrooms, and is working to introduce new delicacies to the market by working with local chefs to adapt them to Thai conditions, such as endive, figs and artichokes. Today, Doi Kham exports 30 percent of its produce to the Asia-Pacific region, and edible items are preservative- and artificial flavoring-free.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ดอยค�ำเป็นเพียงหนึ่งในบริษัทไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่สามารถกล่าวได้อย่างเต็ม ภาคภูมวิ า่ ถือก�ำเนิดขึน้ จากพระราชด�ำริของพระมหากษัตริย์ ค�ำว่า ‘ดอยค�ำ’ นัน้ มีทมี่ าจากค�ำว่า ‘ภูเขา’ และ ‘ทองค�ำ’ ในภาษาเหนือ เมือ่ ครัง้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชด�ำเนินเยือนจังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2507 พระองค์ทรงเล็งเห็นว่าชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารนิยมใช้วิธีที่ เป็นภัยต่อสิง่ แวดล้อมอย่างการถางและเผาป่าเพือ่ บุกเบิกพืน้ ทีท่ ำ� ไร่ รวมทัง้ ยังมี การปลูกฝิน่ กันอย่างแพร่หลาย เพือ่ หยุดยัง้ การกระท�ำดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชทรั พ ย์ ส ่ ว นพระองค์ เ พื่ อ ก่ อ ตั้ ง โครงการพั ฒ นาชนบท ซึ่งให้ความรู้ในเรื่องการท�ำเกษตรแบบยั่งยืนแก่ชาวบ้าน รวมถึงช่วยให้ชาวบ้าน สามารถจ�ำหน่ายผลิตผลในราคาที่เป็นธรรมด้วยตนเอง แบรนด์ดอยค�ำจึงได้ถือ ก�ำเนิดขึน้ ในปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชด�ำริดงั กล่าว มูลนิธโิ ครงการหลวงของดอยค�ำประกอบด้วยสถานีวจิ ยั 4 แห่งและศูนย์พฒ ั นา 35 แห่ง ซึง่ ร่วมงานกับ 14,109 ครอบครัวจาก 295 หมูบ่ า้ น โดยมีชาวไทยและ ชาวเขาในถิน่ ทุรกันดารเข้าร่วมโครงการทัง้ หมดประมาณ 85,000 คน ผัก ผลไม้ และดอกไม้ทปี่ ลูกในไร่ของดอยค�ำตามริมคลองชลประทาน จะถูกจัดส่งไปจ�ำหน่าย ยังร้านค้าทัว่ ประเทศ นอกจากนี้ ดอยค�ำยังจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ จาก ผลิตผลทีป่ ลูกในโครงการ อาทิ น�ำ้ ผลไม้ ผลไม้อบแห้ง แยม ผลไม้กระป๋อง ซอส มะเขือเทศ ผลไม้แช่แข็ง น�ำ้ ผึง้ แป้งถัว่ เหลือง และกาแฟคัว่ บดคุณภาพจากเมล็ด กาแฟอาราบิกา้ 100% นอกเหนือจากการจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอย่างแครอท กะหล�ำ่ และ บร็อคโคลีแ่ ล้ว โครงการหลวงดอยค�ำยังมีบทบาทส�ำคัญในการน�ำผัก ผลไม้ และ ดอกไม้จากตะวันตกเข้ามายังประเทศไทยอีกด้วย โดยพืชผลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น ของแปลกส�ำหรับคนไทยอย่างกีวี่ อโวคาโด้ และกระเทียมต้น ได้กลายเป็นวัตถุดบิ ที่หาซื้อได้ทั่วไป รวมไปถึงสมุนไพรต่างๆ ที่มักใช้ในอาหารฝรั่งอย่างมาจอร์รัม เลมอนไธม์ โรสแมรี่ พาร์สลียอ์ ติ าเลียน และทาร์รากอน ขณะนีด้ อยค�ำได้นำ� ต้น ยีห่ ร่า มะเขือม่วงยักษ์จากประเทศตะวันตก กะหล�ำ่ ม่วง ถัว่ ฝักแฮริคอต (หรือที่ รูจ้ กั กันในชือ่ ถัว่ เข็ม) มะเขือเทศเนือ้ บีทรูต และเห็ดแชมปิญอง เข้ามาจ�ำหน่าย และก�ำลังเดินหน้าสรรหาวัตถุดบิ ใหม่ๆ เข้าสูต่ ลาดให้คนไทยได้รบั ประทาน ผ่านการ ร่วมมือกับเชฟชาวไทยเพื่อปรับสูตรอาหารให้เข้ากับคนไทย อาทิ อ็องดีฟ มะเดือ่ ฝรัง่ และอาร์ตโิ ชก ปัจจุบนั ดอยค�ำส่งออกผลผลิต 30% ไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลิตภัณฑ์ของดอยค�ำนั้นปราศจากวัตถุกันเสียและ วัตถุปรุงแต่งกลิน่ สังเคราะห์

062 | 063


As the population ages, demand for products that promote well-being has skyrocketed. By realizing the value of mulberries—a treasure trove of antioxidants, fiber and low caffeine—Green Tea Co., Ltd. pioneered the introduction of mulberry tea to Thailand. The company has since successfully expanded to add Ranong Tea Products, its range of herbal teas, green mulberry teas and organic coffee, growing the popularity of healthy beverages at home and abroad. Ranong Teas are not only good for you. The highest-quality organic ingredients and raw materials mean nothing without sustainable and environmentally sound farming methods. To this end, Ranong Tea selects and works with only the best organic farmers and tea cultivators, and goes as far as to teach the farmers themselves about planting and tea selection, how to avoid contamination, and how to adhere to HACCP and GMP standards. By doing this, Ranong Tea not only ends up with premium-quality tea, but also creates new job opportunities and additional income for good farmers.

Supachai Chaiwatanamethin General Director, Ranong Tea

Of course, the most important element is taste. Ranong Tea is an innovator on this front, adding strawberry and lemon flavors to black tea, infusing green tea with mint and blending mulberry tea with herbal flavors such as ginger, lemongrass and bael fruit for unique taste experiences.

ในยุคที่ประเทศไทยก�ำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ ความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพจึง พุง่ สูงขึน้ อย่างรวดเร็ว บริษทั กรีน ที จ�ำกัดจึงได้รเิ ริม่ จ�ำหน่ายชามัลเบอร์รใี นประเทศ ด้วยเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ของมัลเบอร์รี ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ใยอาหาร และมีคาเฟอีนต�ำ่ นับแต่นนั้ มา บริษทั ประสบความส�ำเร็จในการขยาย สายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราเรนอง ที ซึง่ ประกอบด้วย ชาสมุนไพรหลากชนิด ชาเขียว มัลเบอร์รี และกาแฟออร์แกนิค ท�ำให้กระแสนิยมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้น ทัง้ ในและต่างประเทศ นอกจากผลิตภัณฑ์ของ เรนอง ที จะมีประโยชน์ต่อตัวผู้ดื่มแล้ว วัตถุดิบ คุณภาพและปลอดสารพิษทีท่ างบริษทั เลือกใช้ ยังเป็นผลผลิตจากการท�ำเกษตรแบบ ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเรนอง ที จะร่วมมือกับเกษตรกรและ นักเก็บใบชาฝีมือดีที่เน้นการท�ำเกษตรปลอดสารพิษ นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้ ลงพื้นที่ไปให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกและคัดสรรใบชา การหลีกเลี่ยงสารเคมี ปนเปือ้ น และการปฏิบตั ติ ามมาตรฐาน HACCP และมาตรฐาน GMP ให้แก่เหล่า เกษตรกร ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เรนอง ที สามารถผลิตชาที่มีคุณภาพสูงแล้ว ยังช่วยสร้างงานและรายได้ให้แก่กลุม่ เกษตรกรอีกด้วย แน่นอนว่ารสชาติของชาย่อมเป็นสิง่ ส�ำคัญ เรนอง ที จึงได้สร้างสรรค์สตู รใหม่ๆ อย่างการเติมกลิ่นสตรอว์เบอร์รีและเลมอนลงในชาด�ำ การผสมกลิ่นมินท์ลงใน ชาเขียว หรือการผสมผสานชามัลเบอร์รกี บั รสชาติสมุนไพรต่างๆ อาทิ ขิง ตะไคร้ และมะตูม เพือ่ สร้างประสบการณ์ทไี่ ม่เหมือนใครในการดืม่ ชา

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Before Lactasoy was even a glimmer in founder Viriya Chiraphadhanakul’s eye, its very first factory—Lactasoy’s current head office—was already hard at work. Crafting citrus-flavored soft drinks under the aptly-named brands Happy and Double Happy, it distributed products to Japanese base camps and in the Yaowarat (Chinatown) area during World War II.

ก่อนที่ วิรยิ ะ จิรพัฒนกุล จะผุดไอเดียแลคตาซอย ขึน้ มานัน้ โรงงานแห่งแรกซึง่ ปัจจุบนั เป็นทีต่ งั้ ส�ำนักงาน ใหญ่ของแลคตาซอยได้เดินสายการผลิตแบบเต็มก�ำลัง อยูก่ อ่ นแล้ว โดยผลิตน�ำ้ อัดลมรสส้มภายใต้ชอื่ แบรนด์ ทีฟ่ งั ดูสนุกอย่าง แฮปปี้ (Happy) และ ดับเบิล้ แฮปปี้ (Double Happy) เพื่อส่งผลิตภัณฑ์ไปขายให้กับ กองทัพญีป่ นุ่ และในตลาดเยาวราช

It was only later that Lactasoy came into being, thanks to Ultra Heat Treatment (UHT) technology. Considered the most economic method for preserving food (and retaining most of the food’s nutrients) via modern technology, UHT involves heating the products to 132 degrees Celsius before rapidly bringing the temperature back down to room temperature and protecting it in a sterilized carton. Best of all, no preservatives are necessary. The product struck a chord with Thai consumers, becoming a leader in the UHT soymilk market for more than 50 years. Lactasoy products, ranging in flavors from original and natural to green tea and chocolate, are GMP, HACCP and Halal certified.

ต่อมาเมื่อมีการน�ำเทคโนโลยีท�ำลายเชื้อจุลินทรีย์ ด้วยความร้อนสูง (ยูเอชที) เข้ามาใช้ ผลิตภัณฑ์ แลคตาซอยจึงได้ถือก�ำเนิดขึ้น โดยยูเอชทีนั้นเป็น กรรมวิ ธี ก ารถนอมอาหารด้ ว ยการใช้ เ ทคโนโลยี สมัยใหม่ทมี่ คี า่ ใช้จา่ ยน้อยทีส่ ดุ (รวมทัง้ ยังรักษาคุณค่า ทางอาหารส่วนใหญ่ไว้ได้) กระบวนการยูเอชทีคือ การให้ความร้อนกับผลิตภัณฑ์ที่ 132 องศาเซลเซียส ก่อนจะปรับอุณหภูมลิ งมาอย่างรวดเร็วให้อยูท่ อี่ ณ ุ หภูมิ ห้องและเก็บรักษานมไว้ในบรรจุภณ ั ฑ์ทผี่ า่ นการฆ่าเชือ้ แบบสเตอริไลซ์ ทัง้ ยังปราศจากสารกันบูด ผลิตภัณฑ์ นมยูเอชทีของแลคตาซอยสามารถตอบโจทย์ความ ต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี ท�ำให้รงั้ ต�ำแหน่งผูน้ ำ� ในตลาดนมถัว่ เหลืองของประเทศมาแล้ว กว่า 50 ปี ผลิตภัณฑ์ของแลคตาซอยมีหลากหลายรสชาติ ให้เลือก ทัง้ รสต้นต�ำรับ รสธรรมชาติ ไปจนถึงรสชาเขียว และช็อคโกแลต ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่ได้รับการรับรอง มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP และมาตรฐาน ฮาลาล

064 | 065


Previously registered as “Pro Food Co., Ltd.” in 1984, the company that would become Thailand’s best known dairy producer was established by a group of Kasetsart University food scientists who wished to better the health of Thai people through dairy products. The first batch of yogurt produced by this group bore the name that the company would later become: Dutch Mill. Dutch Mill quickly expanded thanks to rapidly increasing demand, creating new products, such as drinking yogurt, in short order. Taking its goal of introducing healthy dairy foods to Thais to heart, Dutch Mill began a program of direct sales in Thailand’s provinces through its network of “Dutch Mill ladies”, reminiscent of the “Avon ladies” in the United States. Dutch Mill products are now available in Singapore, China, Malaysia, the Philippines, Indonesia, Laos and Burma, and they are certified to meet GMP, HACCP ISO 9001: 2008, and ISO 14001: 2004 standards. Dutch Mill has won the Prime Minister’s Export Award several times.

แดรี่ พลัส ซึง่ เดิมทีจดทะเบียนในชือ่ ‘โปรฟูด้ จ�ำกัด (Pro Food Co., Ltd.)’ ในปี พ.ศ. 2527 คือผูผ้ ลิต ผลิตภัณฑ์นมชื่อดังของไทย บริษัทก่อตั้งขึ้นโดย กลุ่มนักวิทยาศาสตร์การอาหารจากมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ทตี่ อ้ งการให้คนไทยมีสขุ ภาพดีดว้ ยการ บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมวัว โดยโยเกิร์ตล็อตแรกที่ ผลิตโดยนักวิทยาศาสตร์อาหารกลุม่ นีม้ ชี อื่ ว่า ‘ดัชมิลล์’ ซึง่ ถูกน�ำมาใช้เป็นชือ่ บริษทั ในปัจจุบนั กิ จ การของดั ช มิ ล ล์ เ ติ บ โตอย่ า งรวดเร็ ว เนื่ อ งจาก ความต้องการบริโภคทีพ่ งุ่ สูงขึน้ และหลังจากนัน้ ไม่นาน ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่าง โยเกิรต์ พร้อมดืม่ ก็ได้รบั การ รังสรรค์ขนึ้ ด้วยปณิธานทีว่ า่ อยากให้คนไทยได้ดมื่ นม คุณภาพดี ดัชมิลล์จึงได้ริเริ่มโครงการขายตรงใน จังหวัดต่างๆ ผ่านเครือข่าย ‘สาวดัชมิลล์’ ซึง่ มีระบบ คล้ายกับ ‘สาวเอวอน’ ในสหรัฐอเมริกา ขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ของดัชมิลล์มีจ�ำหน่ายในประเทศสิงคโปร์ จีน มาเลเซีย ฟิลปิ ปินส์ อินโดนีเซีย ลาว และพม่า และได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACPP มาตรฐาน ISO 9001:2008 และมาตรฐาน ISO 14001:2004 นอกจากนี้ ดัชมิลล์ยงั ได้รบั รางวัล Prime Minister’s Export Award เนือ่ งด้วยคุณภาพ ในการบริหารจัดการทีเ่ ป็นเลิศ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


It’s hard to imagine now, but there was a time before coconut jelly drinks existed. The bewitching combination of refreshing liquid with irresistible texture, the world’s first coconut jelly drink was born in coconut-rich Thailand in 2001, courtesy of Thai soft drinks firm Mogu Mogu. It comes as little surprise that the mixture of tasty fruit juice and rich Nata de Coco jelly soon became everyone’s favorite fruit drink. Born from humble beginnings, the Mogu Mogu of today has come a long way. Its popular fruit flavors—14 and counting—are now available in 70 countries and created a revolution in the soft drinks industry. All the same, they are not resting on their laurels. Sappe Plc remains vigilant about the quality of ingredients used in Mogu Mogu products, which must be chemical-free, undergo strict quality control measures and pass rigorous hygiene standards. Its factories are committed to ISO 9001:200, GMP (Codex), HACCP, Halal, Kosher and Food & Drug Administration of Thailand certification. Last but not least, Sappe is an environmentally friendly company that places importance on the wellbeing of its employees. By providing workers with a relaxed atmosphere and friendly company culture, Sappe believes employees will be free to excel at what they do best.

ในปี พ.ศ. 2544 บริ ษั ท โมกุ โมกุ ผู ้ ผ ลิ ต เครื่ อ งดื่ ม ประเภทไม่ มี แ อลกอฮอล์ ได้ ใ ห้ ก� ำ เนิ ด เครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก ด้วยการผสมผสานน�ำ้ ผลไม้ทใี่ ห้ความสดชืน่ เข้ากับ เนือ้ สัมผัสอันน่าลิม้ ลอง ในประเทศทีซ่ งึ่ มะพร้าวได้รบั การปลูกอย่างแพร่หลาย จนกลายมาเป็นเครื่องดื่ม ทีค่ รองใจใครต่อใครได้อย่างน่าอัศจรรย์ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ โมกุ โมกุได้เดินทางผ่านร้อน ผ่านหนาวมากมาย จนปัจจุบันผลิตภัณฑ์น�้ำผลไม้ ยอดนิยมของโมกุ โมกุ นัน้ มีวางจ�ำหน่ายถึง 14 รสชาติ ใน 70 ประเทศ และยังคงเดินหน้าคิดค้นรสชาติใหม่ๆ อย่างต่อเนือ่ ง ก่อให้เกิดการปฏิวตั คิ รัง้ ใหญ่ในวงการ อุตสาหกรรมเครือ่ งดืม่ ไม่มแี อลกอฮอล์ แม้จะประสบ ความส�ำเร็จอย่างล้นหลาม แต่โมกุ โมกุ ก็ยงั คงเดิน หน้าพัฒนาตนเองอย่างต่อเนือ่ ง บริษทั เซ็ปเป้ นัน้ พิ ถี พิ ถั น ต่ อ การควบคุ ม คุ ณ ภาพวั ต ถุ ดิ บ ที่ ใ ช้ ใ น ผลิตภัณฑ์ของโมกุ โมกุ โดยจะต้องปลอดสารเคมี และ ผ่านการควบคุมภาพและมาตรฐานความสะอาดที่ เข้มงวด โรงงานของบริษัทยังได้รับมาตรฐาน ISO 9001:200 มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐานทางศาสนาอย่างฮาลาลและโคเชอร์ รวมทัง้ ยังได้รบั การรับรองจากส�ำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยาอีกด้วย เซ็ปเป้ยังเป็นบริษัทที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่ง พัฒนาคุณภาพชีวติ ของพนักงานทุกคน ด้วยการสร้าง บรรยากาศที่ดีในการท�ำงานและวัฒนธรรมองค์กร ที่เป็นมิตร บนความเชื่อที่ว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ พนักงานทุกคนท�ำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

066 | 067

Piyajit Ruckariyapong Chief Executive Officer, Sappe


Thailand is experiencing its own home-grown coffee boom, thanks in part to the efforts of companies like Boncafe, a leading producer and supplier in the food and beverage industry. Its main claim to fame is its coffee beans and ground coffee products, all of which use local beans sourced from the North and South of Tha i l a nd a nd e mp l oy i ng a d v a nc e d Sw i ss technology from roasting and grinding. Boncafe a l s o s e l l s q u a l i t y c o ff e e m a c h i n e s f r o m manufacturers in Switzerland, Italy and the United States, instant mix drinks, designer sauces and flavored syrups. Established in Singapore by coffee-loving couple W.E. Huber and his wife in 1962, Boncafe came to Thailand in 1991 and incorporated as a joint Thai and Swiss venture. It quickly grew into a one-stop shop for coffee and beverage-related ingredients, adjusting to market changes with products such as coffee pods and capsule coffee. In 2014, Boncafe became part of the worldwide beverage conglomerate Massimo Zanetti, cementing its high quality standards.

กระแสการปลูกกาแฟท้องถิน่ ในประเทศไทยส่วนหนึง่ เป็นผลมาจากน�ำ้ พักน�ำ้ แรง ของบริษัทอย่างบอนกาแฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ชั้นแนวหน้า ในอุตสาหกรรมอาหารและเครือ่ งดืม่ สินค้าหลักทีท่ ำ� ให้บอนกาแฟได้รบั การตอบรับ ที่ดี คือเมล็ดกาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟคั่วบด ซึ่งล้วนใช้เมล็ดกาแฟจากทาง ภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศไทย ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีอนั ทันสมัยจาก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เข้ามาช่วยในการคัว่ บดกาแฟ นอกจากนี้ บอนกาแฟยัง จ�ำหน่ายสินค้าอื่นๆ อาทิ เครื่องชงกาแฟคุณภาพเยี่ยมจากผู้ผลิตในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี และสหรัฐอเมริกา เครือ่ งดืม่ ส�ำเร็จรูป ซอสปรุงพิเศษ และน�ำ้ เชือ่ มรสชาติตา่ งๆ บอนกาแฟ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในประเทศสิงคโปร์ โดยคู่สามีภรรยาผู้รักการดื่ม กาแฟอย่าง นายดับบลิว อี ฮูเบอร์ และภรรยาในปี พ.ศ. 2505 และเข้ามา เปิดกิจการในประเทศไทยเมือ่ ปี พ.ศ. 2534 โดยเป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษทั ไทยกับสวิตเซอร์แลนด์ บอนกาแฟเติบโตขึน้ อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นร้านจ�ำหน่าย อุปกรณ์ท�ำกาแฟครบวงจรที่มีทั้งเมล็ดกาแฟและวัตถุดิบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และ ปรับตัวได้ทนั ตามความเปลีย่ นแปลงของตลาด โดยการน�ำเครือ่ งชงกาแฟและกาแฟ แคปซูลเข้ามาจ�ำหน่าย ในปี พ.ศ. 2557 บอนกาแฟได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึง่ ของกลุม่ ธุรกิจเครือ่ งดืม่ ระดับโลกอย่าง มัสซิโม ซาเน็ตติ (Massimo Zanetti) ซึง่ ช่วย ยกระดับมาตรฐานทีส่ งู อยูแ่ ล้วของแบรนด์ให้มคี วามแข็งแกร่งยิง่ ขึน้

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


There is a reason why coconuts are one of the most sought-after ingredients in the world today. A longtime indispensable culinary staple in the tropics, coconuts are gaining world renown for their nutritional benefits­—indeed, one coconut is able to provide nearly all of the daily recommended amount of minerals and vitamins for one average-sized individual. No surprise, then, that KFresh Coconuts has been able to grow on the worldwide coconut craze as one of the world’s biggest producers and exporters of aromatic coconuts, exporting almost 20 million coconuts per year to more than 20 countries. KFresh prides itself on the excellent quality of its aromatic coconuts, which can only be grown in a few select provinces in Central Thailand. The farming area, situated ideally between two rivers, is blessed with mineral-rich soil and year-round sunlight, and is tilled by farmers who are uniquely skilled in growing this particular type of coconut. The result: distinctively fragrant and sweet coconuts of superior quality.

มะพร้าวกลายมาเป็นส่วนประกอบอาหารที่ผู้คนทั่วโลกให้ความนิยมอย่างสูง ในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้ในเมนูอาหารของประเทศ เมืองร้อนแล้ว มะพร้าวยังขึ้นชื่อในด้านคุณค่าทางโภชนาการ เพียงรับประทาน มะพร้าวหนึง่ ลูก ร่างกายจะได้รบั แร่ธาตุและวิตามินในปริมาณทีเ่ พียงพอต่อวัน เนื่องด้วยความนิยมบริโภคมะพร้าวในตลาดโลก เค เฟรช จึงผันตัวมาเป็น หนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกมะพร้าวน�้ำหอมชั้นน�ำของโลก โดยส่งออกมะพร้าว จ�ำนวนกว่า 20 ล้านลูกต่อปี ไปขายในกว่า 20 ประเทศ หนึง่ ในความภาคภูมใิ จ ของ เค เฟรช คือการผลิตมะพร้าวน�ำ้ หอมคุณภาพเยีย่ มจากมะพร้าวทีส่ ามารถ ปลูกได้เพียงบางจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทยเท่านั้น พื้นที่เพาะปลูก ซึง่ ตัง้ อยูร่ ะหว่างแม่นำ�้ 2 สายนัน้ อุดมไปด้วยแร่ธาตุในดินและมีแสงแดดส่องถึง ตลอดทัง้ ปี นอกจากนีม้ ะพร้าวของเค เฟรช ยังได้รบั การดูแลจากเกษตรกรผูม้ ี ความช�ำนาญในการปลูกมะพร้าวสายพันธุ์ดังกล่าว ท�ำให้มะพร้าวน�้ำหอมของ เค เฟรช มีคณ ุ ภาพดีและรสชาติหอมหวานเป็นพิเศษ

068 | 069

Kemtas Manusrungsri President, K Fresh


The idea of a healthy snack can seem like an oxymoron to all but the most disciplined of dieters. Although studies have proven that restricting calories is still the fastest way to lose weight, people remain confused on what best to eat in between meals. The answer: nutritious—yet satisfying—snacks that are sweet enough to keep even the sweetest tooth happy. This is where Wel-B comes in. Wel-B snacks are made out of seasonal fruits grown in Thailand and packed full of natural nutrients. Ranging from tropical mangoes and durians to international favorites such as strawberries, peaches and apricots, these snacks can be eaten alone between meals, or used to supplement breakfast as a topping for cereal or yoghurt. By utilizing a vacuum freeze-drying method perfected by NASA for its astronauts, Wel-B is able to preserve its snack fruits by extracting all their moisture while locking in all their nutrients—without using heat or oil. To keep the fruit pristine, the very best in hygiene, safety and quality controls are used during the manufacturing process, including HACCP, GMP, BRC and Halal standards.

ขนมเพื่อสุขภาพอาจฟังดูขัดหูส�ำหรับผู้ที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องการรับประทานมากนัก แม้จะมีงานวิจยั ทีพ่ สิ จู น์แล้วว่าการควบคุมแคลลอรีเ่ ป็นวิธลี ดน�ำ้ หนักทีไ่ ด้ผลเร็วทีส่ ดุ แต่หลายๆ คนก็ยงั สงสัยว่าจะรับประทานอะไรระหว่างมือ้ อาหารได้บา้ ง ผลิตภัณฑ์ ขนมทีอ่ ดุ มไปด้วยสารอาหาร แต่ยงั คงรสชาติหอมหวานน่ารับประทานของเวล-บี จึงเป็นทางเลือกทีน่ า่ สนใจไม่นอ้ ย สินค้าของเวล-บีนนั้ ผลิตจากผลไม้ตามฤดูกาลของไทย ซึง่ อุดมไปด้วยสารอาหาร จากธรรมชาติ และมีให้เลือกสรรตั้งแต่ผลไม้เมืองร้อนอย่างมะม่วงและทุเรียน ไปจนถึงผลไม้จากต่างประเทศ เช่น สตรอว์เบอร์รี พีช และแอปริคอท โดยสามารถ เอาไว้เป็นขนมขบเคีย้ วระหว่างวัน หรือใช้เสริมมือ้ อาหาร เช่น รับประทานพร้อม ซีเรียลหรือโยเกิรต์ ในมือ้ เช้า ด้ ว ยกรรมวิ ธี อ บแห้ ง เยื อ กแข็ ง สุ ญ ญากาศที่ คิ ด ค้ น ขึ้ น เพื่ อ นั ก บิ น อวกาศของ องค์การนาซ่า ขนมผลไม้อบแห้งของเวล-บีจงึ สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานและยังคง คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ด้วยกรรมวิธีการไล่ความชื้นโดยไม่ใช้ความร้อน หรือน�ำ้ มัน เพือ่ ให้ผลไม้คงความสะอาดสดใหม่ ผ่านกระบวนการผลิตทีค่ วบคุม คุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐาน HACCP มาตรฐาน GMP มาตรฐาน BRC และมาตรฐานฮาลาล

Nathawut Paopreecha Managing Director, Wel-B

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Probably the first brand spotted in the juice section of every supermarket, Tipco has a lot to boast about: 40 years of experience, 40 export countries, 12 prestigious awards in 2016 alone and four operation sites in key areas of Thailand employing over 1,000 people. A food and ready-to-drink beverage manufacturer, Tipco has been the beverage market leader for 20 years and is known for its Tipco Squeeze fruit juices, 40 percent fruit concentrate under the brand Tipco Cool, Aura Mineral Water, and chain of Squeeze juice bars. Taking its motto “Bring Wellness to Society” to heart, Tipco also helps research and development in various areas, including through new products and marketing strategies. With products like its 100 percent pasteurized fruit juices, Tipco hopes to spread the idea that health food can also be delicious and fun. With this in mind, Tipco has spread out into more health-conscious products such as “Tipco Plus Collagen,” “Tipco Profiber” and “Tipco Wave” exercise drinks.

หนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่คนสังเกตเห็นบนชั้นวางน�้ำผลไม้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต คงจะหนีไม่พน้ ทิปโก้ บริษทั ซึง่ มีประวัตคิ วามเป็นมาอย่างยาวนาน และได้สงั่ สม ประสบการณ์ในการด�ำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี รวมทัง้ ส่งออกสินค้าไปยังกว่า 40 ประเทศ และกวาดรางวัลอันทรงเกียรติกว่า 12 รางวัลเฉพาะในปี พ.ศ. 2559 ปี เดียว โรงงานทัง้ 4 แห่งของบริษทั ตัง้ อยูใ่ นพืน้ ทีอ่ ตุ สาหกรรมหลักของประเทศไทย และมีบคุ ลากรมากกว่า 1,000 คน ในฐานะผูผ้ ลิตอาหารและเครือ่ งดืม่ พร้อมดืม่ ทิปโก้ครองต�ำแหน่งผูน้ ำ� ตลาดมาแล้วกว่า 20 ปีและมีผลิตภัณฑ์สร้างชือ่ ได้แก่ น�ำ้ ผลไม้ทปิ โก้สควีซ (Tipco Squeeze) น�ำ้ ผลไม้เข้มข้น 40% ทิปโก้คลู (Tipco Cool) น�ำ้ แร่ออร่า (Aura Mineral Water) และร้านน�ำ้ ผลไม้สควีซ (Squeeze) ทิปโก้ซึ่งยึดมั่นในคติ “Bring Wellness to Society” ได้มุ่งมั่นศึกษาวิจัยและ พัฒนาในด้านต่างๆ รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และกลยุทธ์ทางการตลาด ทิปโก้มงุ่ หวังทีจ่ ะเผยแพร่แนวคิดทีว่ า่ อาหารเพือ่ สุขภาพสามารถมีรสชาติอร่อยและ สนุกไปได้พร้อมๆ กัน ผ่านผลิตภัณฑ์อย่างเช่นน�ำ้ ผลไม้พาสเจอไรซ์ 100% และ ด้วยแนวคิดนีเ้ อง ทิปโก้จงึ ได้ขยายสายการผลิตไปยังสินค้าทีม่ ปี ระโยชน์ตอ่ สุขภาพ ยิง่ ขึน้ อาทิ ทิปโก้ พลัส คอลลาเจน (Tipco Plus Collagen) ทิปโก้ โปรไฟเบอร์ (Tipco Profiber) และเครือ่ งดืม่ เกลือแร่ ทิปโก้ เวฟ (Tipco Wave)

006 | 007


It’s hard to go to a supermarket without spotting a Malee product. This longstanding company began as a fruit exporter in 1964, but soon saw a gap in the market for fruits that were out of season. To preserve these fruits and extend consumption periods, the company began to can their own produce, leading to the birth of Malee in 1971. Today, Malee provides both canned fruits such as rambutans, longans, sweet corn and pineapples, as well as fruit juices, milk, coffee and drinking water. To ensure high quality, Malee adheres to the standards set by GMP, HACCP, BRC, IFS, Halal, Kosher, US FDA and ISO 9001:2015. In keeping with a “Thailand’s Brand Hero”, Malee remains committed to providing products that enhance consumer health and seeks to follow socially responsible governance principles and prioritize ethical business practices. Malee also actively pursues environmentally sound methods in its production process, and has been granted several awards thanks to environmental innovations such as its efficient wastewater treatment and management.

หนึ่งในสินค้าที่มักปรากฏอยู่บนชั้นในซูเปอร์มาร์เก็ตเสมอนั้นคือผลิตภัณฑ์มาลี บริษทั ทีม่ ปี ระวัตอิ นั ยาวนานแห่งนี้ มีจดุ เริม่ ต้นในปี พ.ศ. 2507 จากการเป็นผูส้ ง่ ออก ผลไม้ ต่อมาจึงได้เล็งเห็นถึงช่องว่างทางธุรกิจเมือ่ พบว่าลูกค้าต้องการรับประทาน ผลไม้นอกฤดูกาล บริษทั จึงได้รเิ ริม่ การบรรจุผลไม้ลงกระป๋อง เพือ่ รักษาเนือ้ ผลไม้ ไว้และยืดระยะเวลารับประทาน ซึง่ น�ำไปสูก่ ารก่อตัง้ แบรนด์มาลีขนึ้ ในปี พ.ศ. 2514 ปัจจุบนั มาลีทำ� ธุรกิจจ�ำหน่ายผลไม้กระป๋อง อาทิ ลิน้ จี่ ลองกอง ข้าวโพดหวาน และสับปะรด รวมทัง้ ยังจ�ำหน่ายน�ำ้ ผลไม้ชนิดต่างๆ รวมถึงนม กาแฟ และน�ำ้ ดืม่ ผลิตภัณฑ์ของมาลียงั ได้การรับรองคุณภาพจากมาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน BRC มาตรฐาน IFS มาตรฐานฮาลาล มาตรฐานโคเชอร์ มาตรฐาน จากส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา และมาตรฐาน ISO 9001:2005 มาลียังคงเดินหน้าผลิตสินค้าที่เสริมสร้างสุขภาพให้แก่ผู้บริโภค เพื่อเป็นการท�ำหน้าที่ต่อสังคมตามหลักธรรมาภิบาล และเน้นย�้ำความส�ำคัญใน การประกอบธุรกิจตามหลักจริยธรรม ตามจุดประสงค์ของโครงการ ไทยแลนด์ แบรนด์ ฮีโร่ นอกจากนี้ มาลียังส่งเสริมการใช้กรรมวิธีการผลิตที่เป็นมิตรกับ สิง่ แวดล้อม และยังได้รบั รางวัลมากมายจากนวัตกรรมสีเขียว อาทิ ระบบการจัดการ และบ�ำบัดน�ำ้ เสียทีม่ ปี ระสิทธิภาพ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


People new to Thailand may be bewildered at the popularity of a bright green syrup among Thais of all ages, but then again those people have probably never tried Hale’s Blue Boy. This intense, emerald-colored liquid has delighted Thai children for decades, flavoring their shaved ices, chilled milk drinks and carbonated sodas with its distinctive sea foam hue and cream soda flavor. Set up in 1959, Hale’s Blue Boy saw its popularity quickly grow, expanding into markets in the Middle East, Europe and North America. Hale’s has grown accordingly, developing the equally popular red sala syrup as well as cantaloup, grape, jasmine, pineapple, rose, root beer and strawberry flavors. These syrups have proven useful additions to dessert recipes such as red pomegranate cake and cantaloupe pie, along with more savory dishes like sweet and sour shrimp, barbecue pork ribs as well as spicy mixed seafood and pineapple salad. The company has since won FDA, GMP, TIS, SGS and Halal certification.

ชาวต่างชาติผไู้ ม่คนุ้ เคยกับประเทศไทยอาจงุนงงเมือ่ ได้เห็นความนิยมทีค่ นไทยทุกเพศทุกวัยมีตอ่ น�ำ้ เชือ่ มสีเขียว ยีห่ อ้ นี้ แต่นนั่ อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยได้ลมิ้ ลองรสชาติของน�ำ้ หวานเฮลซ์บลูบอยมาก่อน น�ำ้ หวานเข้มข้นสี เขียวมรกตนี้ เป็นทีช่ นื่ ชอบของเด็กไทยมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ โดยนิยมน�ำไปใช้เพิม่ รสชาติให้กบั น�ำ้ แข็งใส นมเย็น และโซดา จนเกิดเป็นชัน้ โฟมและรสชาติครีมโซดาหอมๆ ทีไ่ ม่เหมือนใคร ความนิยมของเฮลซ์บลูบอย พุง่ ทะยานขึน้ อย่างรวดเร็วนับตัง้ แต่กอ่ ตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2502 และยังขยายตลาดไปยังกลุม่ ประเทศตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกาเหนือด้วย ในขณะเดียวกัน เฮลซ์บลูบอยเองก็ไม่เคยหยุดเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยได้คดิ ค้นรสชาติใหม่อย่างกลิน่ สละไซเดอร์ทไี่ ด้รบั ความนิยมไม่แพ้กนั รวมไปถึงรสอืน่ ๆ อย่าง แคนตาลูป องุน่ มะลิ สับปะรด กุหลาบ รูทเบียร์ และสตรอว์เบอร์รี น�ำ้ เชือ่ มรสชาติตา่ งๆ นีถ้ กู น�ำไปใช้แต่งกลิน่ และรสขนมหวาน เช่น เค้ก ทับทิมกรอบ และ พายแคนตาลูป รวมถึงใช้เพิม่ ความกลมกล่อมให้กบั อาหารเมนูตา่ งๆ เช่น กุง้ ผัดเปรีย้ วหวาน ซีโ่ ครงหมูบาร์บคี วิ และย�ำซีฟดู้ สับปะรด บริษทั ยังได้รบั การรับรองมาตรฐาน FDA มาตรฐาน GMP มาตรฐาน TIS มาตรฐาน SGS และมาตรฐานฮาลาล

072 | 073


No food product is more associated with Thailand in international minds than Singha beer. The beer’s brewer, Boon Rawd Brewery, was named after the company’s founder, “Boon Rawd” Sresthaputra, who was granted the name “Phya Bhirom Bhakdi” by King Rama VII and is now known as the man who first brought beer to Thailand. His descendants, the Bhirom Bhakdi family, have run the company ever since, expanding into soft drinks and drinking water. Boon Rawd Brewery remains the only brewery to have ever received the right to use the Garuda symbol on its products, signalling royal approval, which was granted to the company in 1939. Phraya Bhirom Bhakdi gained inspiration for brewing Singha beer after touring German and Danish breweries, seeking to find out how they made their beer. Construction on Boon Rawd began in 1933, and the first bottled beers were produced a year later. Sixty years after the first Singha beer bottles rolled off the assembly lines, Boon Rawd bought two breweries in Germany. However, all Singha brand beer is brewed solely in Thailand, preserving Singha’s unique local taste even for its export markets. Boon Rawd itself has expanded and grown since the 1930s, diversifying into real estate, restaurants, agriculture, manufacturing and packaging, making it one of the most famous companies in Thailand.

ผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหารและเครื่ อ งดื่ ม ของไทยที่ คุ ้ น หู ชาวต่างชาติมากทีส่ ดุ คงจะหนีไม่พน้ ชือ่ ของเบียร์สงิ ห์ บริษทั บุญรอดบริวเวอรี่ ผูจ้ ดั จ�ำหน่ายเบียร์สงิ ห์นนั้ ก่อตัง้ โดยบุญรอด เศรษฐบุตร ซึง่ เป็นทีร่ จู้ กั ในฐานะ ผู้น�ำเครื่องดื่มเบียร์เข้ามาสู่ประเทศไทยเป็นคนแรก โดยภายหลังพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) โปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิใ์ ห้ เป็นพระยาภิรมย์ภกั ดี ตระกูลภิรมย์ภกั ดีจงึ ได้สบื ทอด กิจการเบียร์ตงั้ แต่นนั้ มา และได้เพิม่ สายการผลิตน�ำ้ อัดลมและน�ำ้ ดืม่ เข้ามาด้วย บริษทั บุญรอดบริวเวอรี่ ยังคงเป็นบริษทั เดียวทีไ่ ด้รบั อนุญาตให้ใช้ตราครุฑบน สินค้า สืบเนื่องจากตราตั้งที่ได้รับพระราชทานจาก ส�ำนักพระราชวังเมือ่ ปี พ.ศ. 2482 พระยาภิ ร มย์ ภั ก ดี ไ ด้ รั บ แรงบั น ดาลใจในการท� ำ เบียร์สิงห์จากเมื่อครั้งเดินทางไปเยี่ยมชมโรงกลั่น ในประเทศเยอรมนีและเดนมาร์ก เพือ่ ไขข้อข้องใจใน วิธกี ารผลิตเบียร์ เมือ่ ปี พ.ศ. 2476 บริษทั บุญรอด บริวเวอรีจ่ งึ ได้เริม่ ก่อสร้างโรงกลัน่ เบียร์ของตัวเองขึน้ และเริ่มเดินสายการผลิตเบียร์เพื่อออกจ�ำหน่ายในปี ถัดมา กว่า 60 ปีให้หลัง บุญรอดบริวเวอรีไ่ ด้เข้าซือ้ กิจการโรงกลั่นเบียร์อีก 2 แห่งในประเทศเยอรมนี แต่บริษัทยังคงจ�ำกัดสายการผลิตเบียร์สิงห์ไว้แค่ ในโรงงานที่ประเทศไทย ส�ำหรับการจัดจ�ำหน่ายทั้ง ในและต่างประเทศ เพือ่ คงไว้ซงึ่ รสชาติดงั้ เดิมอันเป็น เอกลักษณ์ของตัวเบียร์ บริษทั บุญรอด ยังคงเติบโต อย่างต่อเนือ่ งตัง้ แต่ชว่ งปี พ.ศ. 2473 และได้ขยาย ธุรกิจไปยังภาคอสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร การเกษตร และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ส่งผลให้เครือบุญรอด เป็นบริษทั ทีม่ ชี อื่ เสียงมากทีส่ ดุ แห่งหนึง่ ในประเทศ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


For some, a night on the town would be unthinkable without a hit of Red Bull, the energy drink so potent that it purportedly “gives you wings.” But TC Pharmaceutical is about more than just Red Bull: it is a leading food and beverage company in Thailand with more than 30 product lines under nine brands and over 2,600 employees. These products include electrolyte beverages, functional drinks to improve health and snacks. Founded by Chaleo Yoovidhya in 1956, TC Pharmaceutical imported medical products from Europe to Thailand. But it was Chaleo’s invention of Kratingdaeng (Red Bull) in 1975 that would change the company’s fortunes forever; with its stimulating effects mixed with unique taste profile, Red Bull would eventually become the most popular energy drink in the world. Today, TC Pharmaceutical gives back through its corporate social responsibility ventures such as its environmental preservation projects, aid to victims of natural disasters and support for the development of local communities.

ถ้าให้นึกถึงชีวิตในเมืองยามค�่ำคืน บางคนอาจจะ จินตนาการถึงการอดหลับอดนอนโดยปราศจากการซด กระทิงแดง (Red Bull) สักอึกไม่ได้เลย ว่ากันว่า นี่คือเครื่องดื่มชูก�ำลังที่มีฤทธิ์สูงจนท�ำให้ผู้ดื่มรู้สึก ราวกับ ‘เหาะได้’ กระนัน้ ทีซี ฟาร์มาซูตคิ อล ก็เป็น มากกว่าผูผ้ ลิตกระทิงแดง เพราะนอกจากเครือ่ งดืม่ ชูก�ำลังแล้ว กระทิงแดงยังถือเป็นผู้ผลิตอาหารและ เครือ่ งดืม่ ชัน้ น�ำของประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์กว่า 30 รายการภายใต้ 9 แบรนด์ และมีพนักงานกว่า 2,600 คน ผลิตภัณฑ์ของ ทีซี ฟาร์มาซูตคิ อล นัน้ ครอบคลุมเครื่องดื่มเกลือแร่ เครื่องดื่มฟังก์ชันนอล เพือ่ สุขภาพ และผลิตภัณฑ์ขนมขบเคีย้ ว แม้ว่านายเฉลียว อยู่วิทยา จะก่อตั้ง ทีซี ฟาร์มาซูตคิ อล มาตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2499 และด�ำเนินธุรกิจน�ำ เข้าเวชภัณฑ์จากยุโรปมาจ�ำหน่ายในประเทศ แต่การ แจ้งเกิดของกระทิงแดงในปี พ.ศ. 2518 คือจุดเปลีย่ น ที่แท้จริงซึ่งพลิกโชคชะตาของบริษัทไปตลอดกาล ด้วยฤทธิก์ ระตุน้ ทีผ่ สมผสานกับรสชาติทมี่ เี อกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร กระทิงแดงจึงได้ขึ้นแท่นกลายเป็น เครื่องดื่มชูก�ำลังที่ขายดีที่สุดในโลก ปัจจุบัน ทีซี ฟาร์มาซูติคอล คืนประโยชน์สู่สังคมผ่านกิจกรรม เพือ่ สังคมขององค์กร เช่น โครงการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม การช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากภัยธรรมชาติ รวมทัง้ ให้ความสนับสนุนในด้านการพัฒนาชุมชน


Before Chalerm Yoovidhya started Siam Winery in 1986, wines were still an enigma to most Thais, something to sip at while enduring the purgatory of a long Western meal. Siam Winery changed all of that by recalibrating Thai attitudes towards wine and reframing it as a healthy alcoholic drink to be enjoyed as part of a life well lived. In doing so, it helped fashion a Thai wine culture that, until then, had been almost non-existent. SPY Wine Cooler, a response to the general Thai dislike of sour, fermented wine, was a whopping success, moving more than 160 million bottles off shelves every year. On the heels of SPY, Monsoon Valley launched in 2002, embodying a more modern interest in “new latitude wines”—namely, wines from unexpected locales. Focusing on international varietals able to thrive in tropical conditions, Monsoon Valley’s grapes are grown in Hua Hin, making it the first and only vineyard in Prachuab Kiri Khan province, only 2.5 hours south of Bangkok. Besides working with local contract farmers to offer an array of quality brands to consumers, Siam Winery also imports over 30 brands of wines to meet every consumer taste in the market.

ก่อนทีเ่ ฉลิม อยูว่ ทิ ยาจะก่อตัง้ สยามไวเนอรี่ (Siam Winery) ขึน้ ในปี พ.ศ. 2529 ไวน์ยงั เป็นเครือ่ งดืม่ ทีเ่ ป็นปริศนาส�ำหรับคนไทย โดยคนไทยส่วนมากรูเ้ พียงว่าไวน์ เป็นเครือ่ งดืม่ ทีใ่ ช้จบิ ในระหว่างการรับประทานอาหารฝรัง่ สยามไวเนอรีไ่ ด้พลิก ทัศนคติของคนไทยทีม่ ตี อ่ ไวน์และเปลีย่ นภาพลักษณ์ของไวน์ให้กลายเป็นเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ทด่ี ตี อ่ สุขภาพ และเป็นส่วนหนึง่ ในความรืน่ รมย์ของชีวติ ด้วยการสร้าง วัฒนธรรมการดืม่ ไวน์ให้เป็นแฟชัน่ แม้วา่ ก่อนหน้านีว้ ฒ ั นธรรมดังกล่าวแทบจะไม่ ปรากฏอยูเ่ ลยในสังคมไทย สปาย ไวน์ คูลเลอร์ (SPY Wine Cooler) หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถือก�ำเนิดขึ้น เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ถกู กับรสเปรีย้ วทีเ่ กิดจากการหมักไวน์นนั้ ประสบความ ส�ำเร็จอย่างถล่มทลาย โดยสามารถจ�ำหน่ายได้มากกว่า 160 ล้านขวดต่อปี หลังจากสปายประสบความส�ำเร็จเพียงไม่นาน มอนซูนแวลลีย์ก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้น ในปี พ.ศ. 2545 โดยมุง่ เน้นความสนใจไปที่ New Latitude Wines หรือไวน์ที่ ผลิตในภูมภิ าคทีไ่ ม่ได้ขนึ้ ชือ่ เรือ่ งไวน์ มอนซูนแวลลียค์ ดั สรรเฉพาะพันธุอ์ งุน่ นอกที่ สามารถโตในสภาพอากาศร้อนชืน้ ได้มาเป็นวัตถุดบิ โดยองุน่ ทีม่ อนซูนแวลลียน์ ำ� มา หมักนัน้ เป็นผลผลิตจากไร่องุน่ ทีห่ วั หิน ซึง่ เป็นไร่องุน่ แห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัด ประจวบคีรขี นั ธ์ และตัง้ อยูท่ างทิศใต้ของกรุงเทพมหานครโดยใช้เวลาเดินทางเพียง สองชัว่ โมงครึง่ นอกเหนือจากการร่วมมือกับเกษตรกรในท้องถิน่ เพือ่ ผลิตสินค้า คุณภาพภายใต้ชอ่ื แบรนด์ตา่ งๆ ให้กบั ผูบ้ ริโภคแล้ว สยามไวเนอรีย่ งั น�ำเข้าไวน์อกี กว่า 30 ยีห่ อ้ เพือ่ ตอบสนองต่อรสนิยมของผูบ้ ริโภคทุกกลุม่ ในตลาด

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Because wine is a relatively new introduction to the Thai palate, many have yet to get used to the tannic, grassy and earthier flavors that it possesses. In order to fill the gap between wine-drinking aspirations and wine-drinking reality, wine coolers were created: sweeter, easier to drink, and typically easier on the wallet than traditional wines, which often carry hefty taxes when imported from abroad. Zpark wine coolers, developed by Bangkok Pattana Winery, are a popular option for Thais looking for a sweeter, easier-drinking alternative to some of the heavier tastes of Western wines crafted for a cooler climate. Made with local flavors such as lychee and roselle and boasting an alcohol content of less than five percent, these wine coolers are a refreshing antidote to hot Bangkok weather and typically pair well with deep-fried snacks or Thai desserts. Bangkok Pattana Winery has won awards from Assumption University (ABAC) and was selected to join in the One Tambon One Project (OTOP) group of companies.

เพราะคนไทยไม่ใช่คอไวน์ หลายคนจึงยังไม่คนุ้ ชินกับรสชาติขมเฝือ่ นและรสสัมผัส ของเครือ่ งดืม่ ชนิดนีเ้ ท่าไรนัก และเพือ่ จะท�ำให้ความปรารถนาในการดืม่ ไวน์กบั ความ เป็นจริงมาบรรจบกันได้นนั้ เครือ่ งดืม่ ‘ไวน์คลู เลอร์’ ซึง่ มีรสหวาน ดืม่ ง่ายและราคา สบายกระเป๋ากว่าไวน์แบบดัง้ เดิมซึง่ มักจะมาพร้อมกับอัตราภาษีนำ� เข้าสูงลิบ จึงได้ ถือก�ำเนิดขึน้ สปาร์ค ไวน์คูลเลอร์ ซึ่งได้รับการคิดค้นและผลิตขึ้นโดยบริษัทบางกอกพัฒนา ไวเนอรี่ (Bangkok Pattana Winery) เป็นตัวเลือกทีไ่ ด้รบั ความนิยมในหมูค่ นไทย ทีช่ นื่ ชอบไวน์ทรี่ สหวานและดืม่ ง่ายกว่าไวน์ฝรัง่ รสชาติหนักๆ ซึง่ เหมาะกับสภาพอากาศ หนาว สปาร์คไวน์คลู เลอร์นนั้ เกิดจากการน�ำเอารสชาติทคี่ นุ้ ปากคนไทยมาผสมผสาน เข้าด้วยกัน เช่น ลิน้ จีแ่ ละกระเจีย๊ บ และจ�ำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ไว้ในระดับทีต่ ำ�่ กว่า 5% ซึง่ ไวน์คลู เลอร์รสชาติตา่ งๆ เหล่านีเ้ ป็นเสมือนเครือ่ งดืม่ คลายร้อนชัน้ ดี และยัง เข้ากันดีกบั กลับแกล้มจ�ำพวกของทอดหรือขนมไทย บริษทั บางกอกพัฒนาไวเนอรี่ ได้รบั รางวัลจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญและยังได้รบั คัดเลือกให้เข้าร่วมเป็นหนึง่ ใน กลุม่ บริษทั หนึง่ ต�ำบลหนึง่ ผลิตภัณฑ์ (OTOP) ด้วย


For Thais of a certain age, the glass bottle emblazoned with the big green spot evokes memories of a childhood spent sipping sweet orange drinks after an afternoon playing outside. Founded in 1954, the name Green Spot has been synonymous with delicious beverages in Thailand for over half a century, encompassing not only the country’s first iconic non-carbonated orange drink, but also Vitamilk, Thailand’s first bottled and best selling soymilk, with a 60 percent market share. Although the popularity of Green Spot products is obvious, the company is also known for its stringent quality control methods. Green Spot products are ISO 9001:2000, GMP, HACCP, Halal, EFSIS, TLS 8001-2003, ISO 14001, and OHSAS 18001 certified, and its products are sold in Australia, America, Africa and Europe. By focusing on consistency, high quality and continued innovation, Green Spot aims to ensure that its products remain popular for the next half century to come.

ขวดแก้วสกรีนลายตัวหนังสือค�ำว่ากรีนสปอต คงจะท�ำให้ผใู้ หญ่หลายคนหวนนึกถึง วัยเด็กเมื่อครั้งยังนั่งดูดน�้ำส้มรสหวานหลังออกไปวิ่งเล่นมาทั้งวัน บริษัทกรีนสปอต ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2497 ได้กลายมาเป็นชือ่ เรียกเครือ่ งดืม่ รสชาติอร่อยมายาวนาน กว่าครึง่ ศตวรรษ และนอกจากจะครองต�ำแหน่งผูผ้ ลิตเครือ่ งดืม่ รสส้มไม่อดั ลมเจ้าแรก ของไทยซึง่ กลายเป็นทีจ่ ดจ�ำแล้ว กรีนสปอตยังเป็นผูผ้ ลิตไวตามิลค์ นมถัว่ เหลืองบรรจุ ขวดทีข่ ายดีทสี่ ดุ ของประเทศ ซึง่ มีสว่ นแบ่งตลาดมากถึงร้อยละ 60 นอกเหนือจากชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ภายใต้บริษัทกรีนสปอตแล้ว บริษัทแห่งนี้ ยังมีชอื่ เสียงด้านการควบคุมคุณภาพทีเ่ ข้มงวด สินค้าของกรีนสปอตได้รบั การรับรอง มาตรฐาน ISO 9001:2000 มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐานฮาลาล มาตรฐาน EFSIS มาตรฐาน TLS 8001-2003 มาตรฐาน ISO 14001 และ มาตรฐาน OHSAS 18001 ทัง้ ยังถูกส่งออกไปขายในทวีปออสเตรเลีย อเมริกา แอฟริกา และยุโรป กรีนสปอตมุง่ มัน่ ทีจ่ ะรักษาความนิยมของตนไว้อย่างต่อเนือ่ ง โดยการให้ความ ส�ำคัญกับการรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดอี ยูเ่ สมอ รวมถึงการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


The most popular fish-based snack food in the country for over 19 years, Taro produces a healthy, nutritious product that is also delicious and fun to eat. Made from fresh sea-caught white fish, the meat is blended with exotic spices, baked and then processed in a factory to form the distinctive flat strips that are so often found on the shelves and tabletops of Thais everywhere—and even abroad in other parts of Asia and Europe. The baked fish snacks are available in various mouthwatering flavors, including “smoky salmon” and “BBQ kimchi.” But that’s not all: child-friendly HeRo snacks are blended with vegetables and sold in sweet corn and sweet carrot flavors; popular Hot Cuttlefish sauce snacks are blended with squid and flavored in hot sauce; innovative X’Zite snacks are cut into thicker seaweed snack-like strips and blended with spicy cuttlefish; and convenient Fish Sticks are cut into shorter sticks and available in “Supreme Barbecue” flavor. All products meet HACCP, GMP, ISO 9002 and Halal requirements.

ในฐานะผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวที่ท�ำจากเนื้อปลาซึ่งได้รับความ นิยมสูงสุดมากว่า 19 ปี ทาโรผลิตสินค้าทีด่ ตี อ่ สุขภาพ มี คุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งยังมีรสชาติอร่อยถูกปากชวน ขบเคีย้ ว โดยผลิตจากปลาเนือ้ ขาวทีจ่ บั จากทะเลสดๆ คลุก เคล้ากับเครือ่ งเทศทีม่ รี สชาติเป็นเอกลักษณ์ ก่อนจะน�ำไปอบ และผ่านกระบวนการของโรงงานเพือ่ ตัดแผ่นเนือ้ ปลาออกเป็น เส้นแบน ปลาสวรรค์ทาโรสามารถหาซือ้ ได้ตามร้านค้าทัว่ ไป และเป็นผลิตภัณฑ์ทคี่ นไทยมีตดิ บ้าน รวมถึงประเทศอืน่ ๆ ใน เอเชียและยุโรป ปลาสวรรค์ทาโรมีหลายรสชาติให้เลือก รวมทัง้ แซลมอนรม ควันและบาร์บคี วิ กิมจิ นอกจากนีย้ งั มีขนมส�ำหรับเด็กตรา ฮีโร่ ซึ่งมีส่วนประกอบของผักจ�ำหน่ายในรสข้าวโพดหวานและ แครอทหวาน ปลาหมึกปรุงรสเผ็ด อันเป็นสินค้าขายดีทที่ ำ� จาก เนื้ อ ปลาหมึ ก ปรุ ง รสในซอสเผ็ ด ไปจนถึ ง ขนมหน้ า ตา สร้างสรรค์อย่าง เอ็กซ์ไซต์ สาหร่ายแผ่นหนารับประทานง่าย ผสมเนือ้ ปลาหมึกรสจัดจ้าน และ ฟิชสติก๊ ส์ ขนมแท่งเล็กพอดี ค�ำทีม่ าในรสชาติสพุ รีมบาร์บคี วิ ผลิตภัณฑ์ทงั้ หมดได้รบั การ รับรองมาตรฐาน HACCP มาตรฐาน GMP มาตรฐาน ISO 9002 และมาตรฐานฮาลาล 078 | 079


Itthipat Peeradechanpan Founder, Tao Kae Noi

There are few modern rags-to-riches stories as inspiring as that of Itthipat “Top” Peeradechanpan, founder of what would become the biggest seller of seaweed snacks in Thailand. As a young student addicted to video games, Itthipat took less interest in his studies and more interest in using his online game savvy to make up to 400,000 baht a month. But after his parents amassed a 40 million baht debt and declared bankruptcy in 2002—forcing them to move to China—freewheeling Itthipat had to fend for himself in order to stay in Thailand. The entrepreneurial skill that Itthipat displayed in winning money from his video games would end up serving him well. Noticing that many Thais enjoyed eating sugar-fried chestnuts but did not want to trek all the way to Chinatown to get them, Itthipat decided to sell chestnuts at shopping malls, thereby bringing Chinatown to downtown. The idea took off, mushrooming into 30 outlets at Big C and TESCO Lotus, but expansion ground to a halt when TESCO’s new management suddenly stopped chestnut sales, saying the frying process was too smelly for their stores. After briefly attempting to fry the chestnuts outside (and seeing quality and taste suffer as a result), the 20-year-old Itthipat was left to start nearly from scratch once again. This time, it was seaweed. After seeing the rising popularity of seaweed snacks but unable to secure a bank loan for capital investments because of his youth, Itthipat sold his chestnut business and used the money to set up a factory. He hit upon 7-Eleven as the perfect vehicle through which to sell his product, and after designing attractive enough packaging and attaining the required GMP certification to be able to be sold in 7-Eleven stores, Tao Kae Noi (a Chinese-Thai term for “little boss”) was born. Today, Tao Kae Noi is the leading processed seaweed manufacturer in the country, boasting more than 70 percent of the seaweed snack market share. Tao Kae Noi now produces a variety of flavored seaweed snacks produced in a number of ways including grilled, baked and even tempura-style, as well as souvenirs, corn snacks, mini-breads and potato sticks. Its products are CODEX GMP, HACCPGMP, ISO 9001:2008 and Halal certified.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


หนึ่งในต�ำนานความส�ำเร็จของเศรษฐีรุ่นใหม่ที่สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นจาก ศูนย์และเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน คือเรื่องราวชีวิตของ อิทธิพทั ธ์ กุลพงษ์วณิชย์ หรือต๊อบ ผูก้ อ่ ตัง้ ธุรกิจสาหร่ายขบเคีย้ วยีห่ อ้ ดัง ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย สมัยที่ยังเป็นเด็กติดเกมอยู่นั้น อิทธิพัทธ์ ไม่สนใจเรียนและใช้เวลาไปกับการเล่นเกมออนไลน์จนสามารถหารายได้ เป็นกอบเป็นก�ำถึง 400,000 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม หลังจากทีพ่ อ่ แม่ ของอิทธิพทั ธ์ประสบปัญหาจนติดหนีจ้ ำ� นวนกว่า 40 ล้านบาทและถูกฟ้อง ล้มละลายในปี พ.ศ. 2545 ท�ำให้ต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ประเทศจีน อิ ท ธิ พั ท ธ์ จึ ง ต้ อ งยื น ด้ ว ยล� ำ แข้ ง ของตนเองเพื่ อ หาหนทางอาศั ย อยู ่ ใ น ประเทศไทยต่อไป ทั ก ษะการประกอบธุ ร กิ จ ของอิ ท ธิ พั ท ธ์ ที่ ไ ด้ ม าจากการท� ำ เงิ น ในเกม กลายเป็นประโยชน์สำ� หรับตัวเขาในทีส่ ดุ หลังจากเล็งเห็นว่าคนไทยหลายคน ชอบรับประทานเกาลัดคัว่ แต่ไม่อยากต้องไปซือ้ กินถึงเยาวราช อิทธิพทั ธ์ จึงตัดสินใจน�ำเกาลัดจากเยาวราชมาจ�ำหน่ายในศูนย์การค้าเพือ่ ให้คนไทย สามารถซื้อหาเกาลัดคั่วรับประทานได้ง่ายขึ้น ไอเดียดังกล่าวประสบ ความส�ำเร็จและธุรกิจร้านเกาลัดของอิทธิพัทธ์ได้เปิดตัวขึ้นในบิ๊กซีและ เทสโก้โลตัสกว่า 30 สาขา แต่แล้วการขยับขยายกิจการก็ต้องชะงักลง เมื่อฝ่ายบริหารจัดการชุดใหม่ของเทสโก้สั่งระงับการจ�ำหน่ายเกาลัด

อย่างกะทันหัน โดยให้เหตุผลว่ากระบวนการคัว่ นัน้ ส่งกลิน่ ฟุง้ เกินไปส�ำหรับพืน้ ที่ ศู น ย์ ก ารค้ า หลั ง ลองเปลี่ ย นไปคั่ ว เกาลั ด ที่ บ ริ เ วณด้ า นนอกศู น ย์ ก ารค้ า ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้ออกมามีคุณภาพและรสชาติแย่ลง อิทธิพทั ธ์ในวัย 20 ปีจงึ ต้องเริม่ ต้นใหม่จากศูนย์อกี ครัง้ เมื่อค้นพบว่าสาหร่ายขบเคี้ยวเป็นสินค้าที่ก�ำลังมาแรง แต่ไม่สามารถกู้เงินจาก ธนาคารมาลงทุนได้เองเนือ่ งจากอายุยงั ไม่ถงึ อิทธิพทั ธ์จงึ ตัดสินใจขายกิจการเกาลัด ของตนและน�ำเงินทีไ่ ด้มาก่อตัง้ โรงงาน อิทธิพทั ธ์ตดิ ต่อไปยังเซเว่นอีเลฟเว่นเพือ่ เป็น สื่อกลางการจัดจ�ำหน่ายสินค้า โดยหลังจากที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูน่าดึงดูด และได้รับการรับรองจีเอ็มพีตามข้อก�ำหนดการจ�ำหน่ายสินค้าในเซเว่นอีเลฟเว่น เรียบร้อยแล้ว เถ้าแก่นอ้ ย (ค�ำว่า ‘เจ้านายน้อย’ ในภาษาจีน) จึงถือก�ำเนิดขึน้ ปั จ จุ บั น เถ้ า แก่ น ้ อ ยเป็ น ผู ้ ผ ลิ ต สาหร่ า ยแปรรู ป ชั้ น น� ำ ของประเทศ โดยมี ส่วนแบ่งมากกว่า 70% ในตลาดสาหร่ายขบเคีย้ ว ขณะนีเ้ ถ้าแก่นอ้ ยผลิตสาหร่าย ขบเคีย้ วรสชาติตา่ งๆ โดยใช้กรรมวิธหี ลากรูปแบบ ไม่วา่ จะเป็นการย่าง อบ หรือ กระทัง่ น�ำสาหร่ายไปชุบแป้งทอดสไตล์เท็มปุระ อีกทัง้ ยังผลิตและจ�ำหน่ายของฝาก ป๊อปคอร์น ขนมปังอบกรอบ และมันฝรัง่ แท่ง ผลิตภัณฑ์ของเถ้าแก่นอ้ ยนัน้ ได้รบั การรับรองมาตรฐาน CODEX GMP มาตรฐาน HACCPGMP มาตรฐาน ISO 9001:2008 รวมไปถึงมาตรฐานฮาลาล

080 | 081


Buono specializes in the types of food product that are hard to resist: gelato, sorbet and mochi ice, as well as Chinese mooncakes and French macarons. Under the Buono brand name, the company produces a range of gelatos, tropical fruit sorbets and both Thai and international frozen desserts, while under the Lamai Thai banner, Buono produces gourmet frozen ready-to-eat savory dishes like egg-wrapped pad Thai and chicken satay with peanut sauce. Out of its production facility only 70 km from Suvarnabhumi Airport, Buono is able to concentrate on both of its lines, Buono (production capacity: 3.5 million liters a year) and Thai Lamai (production capacity: more than 1,000 tons a year), while retaining high quality standards for both. Buono also offers private label manufacturing services at competitive prices, as well as the capacity to craft custom recipes to any specification. Buono products are certified with the ISO 9001:2008, GMP, HACCP, IFS and BRC programs.

บูโอโน่ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญสารพัดเมนู อาหารทีอ่ ร่อยเกินห้ามใจ ไม่วา่ จะ เป็นเจลาโต้ เชอร์เบต ไอศกรีม โมจิ หรือขนมไหว้พระจันทร์ และมาการอง โดยผลิตภัณฑ์ ภายใต้ชื่อแบรนด์ บูโอโน่ นั้ น ประกอบด้ ว ยเจลาโต้ เชอร์เบตรสผลไม้เมืองร้อน และขนมหวานแช่แข็งทั้ง ของไทยและต่างประเทศ ส่ ว นผลิ ต ภั ณ ฑ์ ภ ายใต้ แบรนด์ ละไมไทย นัน้ ได้แก่ อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานอย่างผัดไทห่อไข่และไก่ สะเต๊ะพร้อมน�ำ้ จิม้ ถัว่ ลิสง บูโอโน่ผลิตสินค้าคุณภาพสูงส�ำหรับทัง้ สองสายการผลิต ได้แก่ บูโอโน่ (ก�ำลัง การผลิต 3.5 ล้านลิตรต่อปี) และละไมไทย (ก�ำลังการผลิตมากกว่า 1,000 ตันต่อปี) จากโรงงาน ที่ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ 70 กิโลเมตร นอกจากนีบ้ โู อโน่ยงั รับจ้างผลิตสินค้าประเภท Private Label หรือสินค้าตราห้างในราคาย่อมเยา และบริการ สร้างสรรค์สตู รอาหารตามความต้องการ ผลิตภัณฑ์ ของบูโอโน่ยังได้รับมาตรฐาน ISO 9001:2008 มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน IFS และมาตรฐาน BRC

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Any Thai with a child under five years of age is familiar with the products of European Food, a leading manufacturer of confectionary and bakery products in Thailand under the name “Euro.” Light, fluffy cakes filled with custard, chocolate-enrobed sponge cake sandwiches filled with cream, choux puffs filled with chocolate or strawberry cream—these snacks are the delight of every child and the nightmare of every parent who is ready to go to bed. Besides Euro Cake, Choco Pie and Bakery Ball, Euro is responsible for wafers, fruit jellies, gummies, marshmallows, candy, gum, snacks and even soft drinks: like a Thai version of a real-life Willy Wonka factory. But European Food is also a real company. Operating under the motto “smile and happiness,” Euro sells its products at all major outlets such as 7-Eleven, Foodland and Big C, and exports regularly to Cambodia, Laos, Myanmar and Vietnam with plans to expand its market further. Additionally, Euro products are HACCP and GMP certified to ensure a high standard is maintained throughout their manufacturing process

ครอบครัวไทยที่มีลูกเด็กเล็กแดงคงจะคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ของยูโรเปี้ยนฟู้ด เป็นอย่างดี ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ขนมหวานและเบเกอรี่ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ ยูโร่ ทั้งเค้กเนื้อนุ่มสอดไส้คัสตาร์ด เค้กสปอนจ์ไส้ครีมเคลือบ ช็อคโกแลต ชูครีมสอดไส้ชอ็ คโกแลตและสตรอว์เบอร์รี ขนมเหล่านีค้ อื ของโปรด ของเด็กหลายคน นอกเหนือจากยูโร่เค้ก (Euro Cake) ช็อคโก้พาย (Choco Pie) และเบเกอรี่บอล (Bakery Ball) แล้ว ยูโร่ยังผลิตขนมปังเวเฟอร์ เยลลี่ผลไม้ เยลลีเ่ คีย้ วหนึบ มาร์ชเมลโลว์ ลูกกวาด หมากฝรัง่ ขนมขบเคีย้ ว และน�ำ้ อัดลม อีกด้วย บริษทั แห่งนีจ้ งึ เปรียบเสมือนเป็นโรงงานของ ‘วิลลี่ วองก้า’ ในประเทศไทย แต่ยูโรเปี้ยนฟู้ดไม่ใช่บริษัทที่มีอยู่แค่ในนิยาย ยูโร่ด�ำเนินกิจการโดยค�ำนึงถึง “รอยยิ้มและความสุข” ของผู้บริโภคเป็นหลัก ผลิตภัณฑ์ของยูโร่มีวางจ�ำหน่าย อยูใ่ นร้านค้าชัน้ น�ำทัว่ ไป เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น ฟูด้ แลนด์ และบิก๊ ซี รวมทัง้ ยังส่งออก ไปจ�ำหน่ายในกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม และมีแผนทีจ่ ะขยายตลาดต่อไป อีกในอนาคต นอกจากนีผ้ ลิตภัณฑ์ของยูโร่ยงั ได้รบั การรับรองมาตรฐาน HACCP และมาตรฐาน GMP อันเป็นเครือ่ งยืนยันว่าบริษทั มีกระบวนการผลิตทีไ่ ด้มาตรฐาน ตลอดทัง้ กระบวนการ

082 | 083


Under the brand “Twin Elephants and Earth,” Erawan Food has made and distributed canned fruits, vegetables and coconut milk for over six decades out of Samut Sakorn province, starting as a small family business selling pickled vegetables and garlic, dried turnips and salted preserved cabbage. In the 1970s, the company obtained a canning factory and began exporting agricultural products in earnest, gaining a market share of as much as 70 percent. Expanding rapidly in the 1980s in order to meet surging demand, the company—previously registered as “Kwang Ew Lang” —became Erawan Foods Company Limited. The “Twin Elephants and Earth” brand was born. Today, Erawan Food still sells preserved vegetables, such as pickled green mustard, but the bulk of its business lies in canned vegetables like abalone mushrooms, bamboo shoots and banana blossom, and canned fruits such as rambutan, longan, toddy palm and water chestnut. Committed to offering consistently high-quality products, the company’s offerings are GMP, HACCP and Halal certified.

เอราวัณฟูดได้ผลิตและจัดจ�ำหน่ายผักผลไม้กระป๋อง และกะทิจากโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการมาแล้ว กว่า 6 ทศวรรษ ภายใต้แบรนด์ Twin Elephant หรือ ช้างคู่ลูกโลก โดยเริ่มต้นขึ้นจากธุรกิจเล็กๆ ภายใน ครอบครัวซึง่ จ�ำหน่ายผัก กระเทียมดอง ผักกาดแห้ง และกะหล�ำ่ ดองน�ำ้ เกลือ ในช่วงปี พ.ศ. 2513-2522 บริษทั ได้เข้าซือ้ กิจการโรงงานเครือ่ งกระป๋องเพือ่ เริม่ ต้น ส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอย่างจริงจัง จนครอง ส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 70% จากการขยายกิจการ อย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษ 80s เพือ่ ตอบสนองต่อ ความต้องการของผูบ้ ริโภคทีพ่ งุ่ สูงขึน้ บริษทั ซึง่ เดิมที จดทะเบียนในนาม กวงอิว๋ ลัง้ ได้เปลีย่ นชือ่ เป็น บริษทั เอราวัณฟูด จ�ำกัด และแบรนด์ช้างคู่ลูกโลกจึงได้ ถือก�ำเนิดขึน้ ปัจจุบันแม้เอราวัณฟูดจะยังคงจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผักดองต่างๆ อาทิ ผักกาดเขียวปลีดอง แต่ไม้ตาย ของธุรกิจนั้นแท้จริงแล้วอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ผักกระป๋อง อย่างเห็ดเป๋าฮือ้ หน่อไม้ หัวปลี รวมถึงผลไม้กระป๋อง อย่างเงาะ ล�ำไย ลูกตาล และแห้ว ด้วยปณิธานทีจ่ ะ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคอย่าง ต่อเนือ่ ง ผลิตภัณฑ์ของเอราวัณฟูดจึงผ่านการรับรอง มาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCPA และมาตรฐาน ฮาลาล

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Aphisak Theppadungporn Managing Director, TCC

It’s impossible to imagine Thai food without coconut. Lending their milk and cream to some of the country’s best soups, curries, stirfries and desserts, coconuts are one of the most important ingredients in a Thai cook’s repertoire. This is where Theppadungporn Coconut Co., Ltd. (TCC) comes in. Founded in 1976, TCC is now the world’s premier manufacturer and exporter of coconut products—as well as, not surprisingly, a wide range of Thai food ingredients: coconut milk, coconut water, virgin coconut oil, curry paste, dipping sauces, stir-fry sauces, seasonings, processed vegetables and fruits, all under the globally known Chaokoh, Mae Ploy and Yoddoy brands. Thanks to the worldwide popularity of Thai cuisine, TCC’s expansion has surged, growing to three factories in Thailand tasked with meeting international demand. A whopping 80 percent of TCC’s products are exported, with North America claiming the biggest share of the market. TCC is also socially and environmentally responsible, intent on crafting quality products while maintaining strict safety, hygiene and quality controls. As a result, its factories are compliant with US FDA, GMP, HACCP, BRC, Halal, ISO 9001:2008, ISO 14001:2004,ISO 50001:2011, and TLS8001-2010 standards. TCC also holds certificates from Green Industry level 3, controls the carbon footprint of its products and maintains high standards for corporate social responsibility.

084 | 085

มะพร้าวถือเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้ในการสร้างสรรค์ อาหารไทย ไม่วา่ จะเป็นจานผัด แกง ทอด หรือเมนูของ หวานเลิศรส ต่างก็ลว้ นมีสว่ นประกอบของกะทิทงั้ สิน้ บริษทั เทพผดุงพรมะพร้าว จ�ำกัด ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2519 ถือเป็นบริษทั แรกของโลกทีร่ เิ ริม่ ธุรกิจการ ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว อีกทัง้ ยังผลิต ส่ ว นผสมอื่ น ๆ ที่ ใ ช้ ป ระกอบอาหารไทยออกวาง จ�ำหน่าย เช่น กะทิ น�ำ้ มะพร้าว น�ำ้ มันมะพร้าวบริสทุ ธิ์ เครือ่ งแกง น�ำ้ จิม้ ซอสผัด เครือ่ งปรุงรส และผักผล ไม้บรรจุกระป๋อง ภายใต้แบรนด์ซงึ่ เป็นทีร่ จู้ กั ไปทัว่ โลก อันได้แก่ ชาวเกาะ แม่พลอย และยอดดอย ด้ ว ยความนิ ย มของอาหารไทยในระดั บ นานาชาติ ส่งผลให้บริษทั เทพผดุงพรมะพร้าว ต้องขยายโรงงาน ผลิตออกไปถึง 3 แห่งในไทย เพือ่ รองรับความต้องการ จากนานาประเทศ โดยสินค้าร้อยละ 80 จะถูกส่งออก ไปยังทวีปอเมริกาเหนือซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาด สูงสุด บริษทั เทพผดุงพรมะพร้าว ยังใส่ใจต่อสังคม และสิง่ แวดล้อม โดยมุง่ ผลิตสินค้าทีไ่ ด้มาตรฐาน และ มีการควบคุมคุณภาพ ความถูกสุขลักษณะ และความ ปลอดภัยอย่างเข้มงวด ท�ำให้บริษทั ได้รบั การรับรอง จากส� ำ นั ก งานคณะกรรมการอาหารและยาของ สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงมาตรฐาน GMP มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน BRC มาตรฐานฮาลาล มาตรฐาน ISO 9001:2008 มาตรฐาน ISO 14001:2004 มาตรฐาน ISO 50001:2011 และมาตรฐาน TLS80012010 นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับประกาศนียบัตร อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 3 จากการควบคุมปริมาณ คาร์บอนฟุตพริน้ ท์ในกระบวนการผลิต และยังคงรักษา มาตรฐานแนวทางความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) ไว้ในระดับสูง


Thailand has always relied on agriculture as the backbone of its society. Even today, about a third of the country’s land mass is earmarked for the farming of rice, fruit or vegetables. But a healthy agricultural sector means a sustainable one. Universal Food—more commonly known as UFC—is devoted to maintaining Thailand’s agricultural health as one of the country’s leading processors, manufacturers and distributors of fruits, vegetables, beverages, sauces and seasonings. Intent on supplying the world with Thai produce, UFC has built a strong network of relationships with local farmers in order to keep the quality of raw materials high. That produce is then graded, sorted and trimmed in accordance with UFC’s own stringent quality control standards before it is sealed and cooked in compliance with international hygiene criteria. These strict control measures are one of the reasons why UFC, founded in 1969, has been able to consistently deliver such high-quality processed fruits and vegetables, sauces, seasonings and beverages.

อุตสาหกรรมการเกษตรเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของประเทศไทย แม้กระทัง่ ในปัจจุบนั ราว 1 ใน 3 ของพืน้ ทีใ่ นประเทศนัน้ ถูกน�ำไปใช้เพือ่ จุดประสงค์ทาง การเกษตร อาทิ การท�ำนาข้าว และการปลูกผักผลไม้ กระนัน้ การทีภ่ าคการเกษตร จะสามารถยืนหยัดได้ จะต้องอาศัยแนวทางการพัฒนาอย่างยัง่ ยืนด้วย ยูนเิ วอร์แซล ฟูด้ ส์ หรือทีร่ จู้ กั กันในนามยูเอฟซี ในฐานะผูแ้ ปรรูป ผูผ้ ลิต และผูจ้ ดั จ�ำหน่ายผัก ผลไม้ เครือ่ งดืม่ ซอสปรุงรส และเครือ่ งปรุงชัน้ น�ำของประเทศ จึงมุง่ มัน่ พัฒนาภาค การเกษตรของไทยให้มคี วามเข้มแข็ง ด้วยเจตนารมณ์ของบริษัทที่ต้องการส่งออกผลิตภัณฑ์ของไทยไปสู่ตลาดโลก ยูเอฟซีได้สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ทเี่ ข้มแข็งกับเกษตรกรในท้องถิน่ เพือ่ รักษา ควบคุมวัตถุดิบให้มีมาตรฐานอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ผลผลิตทางการเกษตรที่ ยูเอฟซีนำ� มาใช้ผลิตจึงผ่านการให้คะแนน คัดเลือก และตัดแต่งภายใต้มาตรฐาน การควบคุมคุณภาพที่เคร่งครัดของยูเอฟซี ก่อนจะน�ำไปผ่านกระบวนการปรุง หรือบรรจุ ตามหลักการด้านสุขลักษณะในระดับสากล มาตรการควบคุมทีเ่ ข้มงวด เหล่านีค้ อื ปัจจัยส�ำคัญทีท่ ำ� ให้บริษทั ทีก่ อ่ ตัง้ ขึน้ มาตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2512 อย่างยูเอฟซี ยังคงสามารถผลิตผัก ผลไม้แปรรูป ซอส และเครือ่ งปรุงรส รวมถึงเครือ่ งดืม่ ทีม่ ี คุณภาพสูงได้อย่างต่อเนือ่ งจวบจนปัจจุบนั

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Probably the most well-known sugar brand in the country today, Mitr Phol did not start out as a sugar company at all. Instead, it was initially established in 1946 as a small producer and trader of condensed syrup to sugar mills. It was only 10 years later when Mitr Phol would attain the in-house capacity to produce its own sugar, and nearly 30 years after that it would set up a sugar mill in Chayaphum Province. Yet today, Mitr Phol can now boast seven sugar mills in China and is the PRC’s second largest sugar producer at approximately 1.3 million tons of sugar a year. Mitr Phol has since expanded into Laos and Australia, and won numerous awards at both the national and international level for its products. Besides the easily recognizable blue bags of refined sugar, its product range includes cane syrup, flavored syrup, icing sugar, lower-calorie sugar, brown sugar and coconut sugar. Mitr Phol has also been awarded ISO 14001:2004, OSHAS 180001:1999, Kosher, HACCP, GMP, Non-GMO Challenge, FSSC 22000, Halal and ISO 9001:2008 certification.

แบรนด์น�้ำตาลซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดของประเทศ ในขณะนี้อย่างมิตรผลนั้น ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็น บริษทั ผลิตน�ำ้ ตาลแต่อย่างใด บริษทั เล็กๆ แห่งนีไ้ ด้รบั การก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2489 ในฐานะผู้ผลิตและ จัดจ�ำหน่ายน�ำ้ เชือ่ มเข้มข้นและโรงหีบน�ำ้ อ้อย จนกระทัง่ 10 ปี ต ่ อ มา มิ ต รผลจึ ง สามารถสั่ ง สมก� ำ ลั ง และ ทรัพยากรมากพอทีจ่ ะเริม่ เดินสายผลิตน�ำ้ ตาลเอง และ ในอีกราว 30 ปีต่อมาจึงได้ก่อตั้งโรงงานน�้ำตาลขึ้น ที่ จั ง หวั ด ชั ย ภู มิ ทุ ก วั น นี้ มิ ต รผลมี โ รงงานน�้ ำ ตาล ในประเทศจีนทัง้ หมด 7 แห่ง และถือเป็นผูผ้ ลิตน�ำ้ ตาล รายใหญ่ทสี่ ดุ อันดับ 2 ของจีน โดยสามารถผลิตน�ำ้ ตาล ได้ราว 1.3 ล้านตันต่อปี นับตัง้ แต่เปิดตลาดในจีนเป็นต้นมา มิตรผลได้ขยาย กิจการเพิ่มเติมไปยังประเทศลาวและออสเตรเลีย โดยผลิตภัณฑ์ของมิตรผลนั้นได้รับรางวัลมากมาย ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ นอกเหนือจาก ถุงบรรจุนำ�้ ตาลทรายสีฟา้ เด่นสะดุดตาแล้ว ผลิตภัณฑ์ ของมิตรผลยังรวมไปถึงน�ำ้ เชือ่ ม น�ำ้ เชือ่ มชนิดแต่งกลิน่ และรสชาติ น�ำ้ ตาลไอซิง่ น�ำ้ ตาลแคลอรีต่ ำ�่ น�ำ้ ตาล ทรายแดง และน�ำ้ ตาลมะพร้าว มิตรผลได้รบั การรับรอง มาตรฐาน ISO 14001:2004 มาตรฐาน OSHAS 180001:1999 มาตรฐานโคเชอร์ มาตรฐาน HACCP มาตรฐาน GMP หนังสือรับรองสินค้าปลอดจีเอ็มโอ มาตรฐาน FSSC 22000 มาตรฐานฮาลาล และ มาตรฐาน ISO 9001:2008


Producing fresh, clean produce is a growing agricultural challenge for countries across the world in the face of global warming and rising population numbers. Thailand is no different, and a handful of highly respected agriculture companies are leading the way to a sustainable food future within the country’s borders. Suan Srakaew is one such company. Founded in 1989 as a modest 93-rai garden growing fruit trees and vegetables, the company is now one of Thailand’s industry leaders in sustainable agriculture. It’s a certified Good Agricultural Practices (GAP) producer by the Ministry of Agriculture and Cooperatives, and received domestic acclaim after contributing to several research projects to reduce lost farming yields and help develop safer preservation practices. Suan Srakaew was also instrumental in developing several new varieties of produce, including the first ruby mango and sunrise papaya. Today, the company operates under four key principles: Quality, Value-added, Development and Safety. It offers a wide range of fresh and dry fruits, and delivers to an impressive range of international clientele that includes Cathay Pacific, Chan Man Chau Fruit and the Citysuper supermarket chain. Domestically, its products are found in almost every major supermarket chain and several established luxury hotels, including Mandarin Oriental, Grand Hyatt and The Sukhothai.

การสร้างสรรค์ผลผลิตทางการเกษตรที่สดใหม่และสะอาดคือความท้าทาย ครัง้ ใหญ่ของแวดวงการเกษตรในหลายๆ ประเทศ เนือ่ งจากโลกก�ำลังประสบกับ ภาวะโลกร้อนและจ�ำนวนประชากรที่พุ่งสูงขึ้น ส�ำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน บริ ษั ท จั ด จ� ำ หน่ า ยผลผลิ ต ทางการเกษตรที่ ไ ด้ รั บ การยอมรั บ จ� ำ นวนไม่ น ้ อ ย ได้ ก ลายเป็ น ผู ้ น� ำส� ำ คั ญ ในการสร้ า งอนาคตของอุ ต สาหกรรมอาหารภายใน ประเทศให้เกิดความยั่งยืน โดยมีสวนสระแก้วเป็นหนึ่งในก�ำลังส�ำคัญดังกล่าว หลังจากก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2532 บนพืน้ ทีเ่ พาะปลูกกว่า 93 ไร่ ปัจจุบนั บริษทั สวนสระแก้วคือหนึง่ ในผูน้ ำ� ด้านเกษตรกรรมแบบยัง่ ยืนของไทย ซึง่ ได้รบั การรับรอง มาตรฐาน Good Agricultural Practices (GAP) จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งยังได้รับค�ำชมจากหลายภาคส่วนในฐานะผู้สนับสนุนโครงการศึกษาวิจัยต่างๆ เพื่อลดการสูญเสียผลผลิตจากการเกษตรไปโดยเปล่าประโยชน์ และคิดค้นวิธี การถนอมอาหารที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สวนสระแก้วยังมีบทบาทส�ำคัญ ในการพัฒนาพืชสายพันธุใ์ หม่ตา่ งๆ ขึน้ เป็นครัง้ แรก เช่น มะม่วงทับทิมทอง และ มะละกอสายพันธุ์ฮาวาย ปัจจุบัน สวนสระแก้วด�ำเนินธุรกิจภายใต้หลักส�ำคัญ 4 ประการ คือ คุณภาพ การเพิม่ มูลค่า การพัฒนา และความปลอดภัย และ จัดจ�ำหน่ายผลไม้สดและอบแห้งให้กบั องค์กรทีม่ ชี อื่ เสียงในระดับสากล อาทิ คาเธ่ย์ แปซิฟคิ (Cathay Pacific) ชานมัน่ เชาฟรุต้ (Chan Man Chau Fruit) และซูเปอร์มาร์เก็ตซิตซี้ เู ปอร์ (Citysuper) ส�ำหรับในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ของสวนสระแก้ว มีวางจ�ำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตชัน้ น�ำทัว่ ไป และในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวอย่าง แมนดารินโอเรียนเต็ล แกรนด์ไฮแอทเอราวัณ และเดอะสุโขทัย

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Pet ownership has grown rapidly among Thais, leading to the need for a reliable pet food producer to meet treasured pets’ nutritional needs. Not surprisingly, risng demand has made pet food a lucrative business worth an estimated 25 billion baht, with average growth rates of 10-15 percent a year. A subsidiary of Betagro—one of the top five makers and distributors of pet food in Thailand, Pet Focus produces both dry and wet food as well as snacks for pets at every stage of life under the brand names Dog’njoy, Cat’njoy, Perfecta and Bingo Starr. Products include feed for puppies and kittens, small breeds, large breeds and adult all-breeds, wet food with flavors including beef, turkey and lamb, and snacks that not only supplement calcium intake but also promote dental care. Pet focus products can be bought at discerning pet stores all over the country, and are guaranteed to meet HACCP, ISO 9001 and GMP standards. Dedicated to the motto “Let’s make life better,” Pet Focus also distributes and imports pet supplies, and will resell another company’s product under its own name and branding upon request.

เนือ่ งจากกระแสการเป็นเจ้าของสัตว์เลีย้ งนัน้ แพร่หลายอย่างรวดเร็วในหมูค่ นไทย จึงจ�ำเป็นต้องมีผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่เชื่อถือได้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ทางด้านโภชนาการของบรรดาสัตว์เลีย้ งหัวแก้วหัวแหวน จึงไม่ใช่เรือ่ งน่าแปลกใจ ที่ความต้องการซึ่งพุ่งสูงขึ้นนั้นได้ท�ำให้ธุรกิจอาหารสัตว์มีเม็ดเงินเดินสะพัดกว่า 25,000 ล้านบาท พร้อมทัง้ มีอตั ราการเติบโต 10-15% ต่อปี บริษทั เพ็ท โฟกัส ภายใต้เครือเบทาโกร เป็นหนึง่ ในผูผ้ ลิตและจัดจ�ำหน่ายอาหารสัตว์ชนั้ น�ำ 5 รายใหญ่ ของประเทศไทย ซึง่ ประกอบด้วยอาหารสัตว์ชนิดแห้งและเปียก รวมถึงขนมส�ำหรับ สัตว์เลีย้ งทุกช่วงวัยภายใต้ชอื่ ด็อกเอนจอย (Dog’njoy) แคทเอนจอย (Cat’njoy) เพอร์เฟคต้า (Perfecta) และบิงโกสตาร์ (Bingo Starr) นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ของ เพ็ท โฟกัส นัน้ ยังประกอบด้วยอาหารส�ำหรับลูกสุนขั และแมว อาหารส�ำหรับสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ และสัตว์วยั เจริญพันธุท์ กุ สายพันธุ์ โดยอาหารชนิดเปียกมีทงั้ ชนิดทีม่ ี ส่วนผสมของเนือ้ วัว เนือ้ ไก่ และเนือ้ แกะ รวมไปถึงขนมทานเล่นต่างๆ ทีไ่ ม่เพียง เป็นแหล่งแคลเซียมชัน้ ดีเท่านัน้ แต่ยงั ส่งเสริมสุขภาพฟันของสัตว์เลีย้ งอีกด้วย ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ข องเพ็ ท โฟกั ส สามารถหาซื้ อ ได้ ต ามร้ า นจ� ำ หน่ า ยอาหารและ อุปกรณ์สัตว์เลี้ยงชั้นน�ำทั่วประเทศ และยังได้รับการรับรองมาตรฐาน HACCP มาตรฐาน ISO 9001 และมาตรฐาน GMP นอกจากนี้ เพ็ทโฟกัสยังจัดจ�ำหน่าย และน�ำเข้าอุปกรณ์สตั ว์เลีย้ ง และรับจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษทั พันธมิตรภายใต้ ชือ่ และแบรนด์ของเพ็ท โฟกัส เอง โดยยึดมัน่ ในคติ “มุง่ สร้างสรรค์ชวี ติ ทีด่ กี ว่า”

088 | 089


# TH A ILA N D HEARTMADE

NARAYA proudly carries T Mark: the sign of Quality and Excellence. The Quality Bag is a true reflection of relentless nurturing and heart-felt ‘family-like’ care from the team that made it happen - resulting in the success of a bag that holds a place in the hearts of people all over the world. MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


BY DESIGN LIFESTYLE, FASHION AND FURNITURE Sustainability

090 | 091


Kenkoon

RISE OF THE DESIGNER

Thai furniture manufacturers are gaining global recognition for their unique designs and environmental awareness Like most of Thailand’s creative practices, its design culture is rich with tradition and a history that dates back centuries. From the classic elegance found in the decorations of the Grand Palace to the rustic, homey dwellings found in rural Thailand and the Buddhist temples sprinkled around the nation, the aesthetic ethos of traditional Thai decoration has travelled across the globe, reaching countless people who have never stepped inside the Kingdom.

Homegrown brands like Mobella, Deesawat and Yothaka are commanding a larger share of the spotlight on the global design stage. Their designs are current and sophisticated—fuelled by the creativity Thais are known for but refined with modern techniques. And the world is taking notice. Travel to design fairs around the world, such as the Salone del Mobile Milano, and you’ll find countless Thai brands on show. The traditions are still there, but with a modern twist.

While many cultures are known for their historic design languages—such as Italy, France, Japan and India—what’s often lesser known is the modern interpretations of these traditions. For Thailand, this is changing. What was once an art form dominated by traditional shapes has seen an explosion of modernity in recent decades. Over the years, a new wave of contemporary Thai creatives has emerged, who bring with them forwardthinking design concepts fueled by knowledge of the old traditions.

Case in point: Mobella’s Saisai—an elegant and striking piece of design. It’s also one that invites a playful curiosity. Tipped to one side, it’s a chair. Laid flat, it’s a daybed. Designed in collaboration with Anupol Yooyen, Saisai draws inspiration from the myriad clever ways sellers of sweets in Thai markets package their treats using banana leaves. To Thais, Saisai isn’t just clever, modular and comfortable, it’s also an evocation of the instantly recognizable silhouette of the dessert after which it is named.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


เช่นเดียวกับอีกหลายสายอาชีพที่ต้องใช้ความคิด สร้างสรรค์ในการท�ำงาน วงการออกแบบไทยก็มี ประวั ติ ศ าสตร์ แ ละแบบแผนที่ ยึ ด ถื อ ปฏิ บั ติ กั น มา ช้านาน นับตัง้ แต่ความวิจติ รตระการตาทีป่ รากฏบน ศิลปะการตกแต่งในพระบรมมหาราชวังไปจนถึงความ เรียบง่ายของบ้านเรือนในชนบท และวัดวาอารามที่ พบเห็นได้ในทุกพืน้ ทีท่ วั่ ประเทศ ศิลปะการตกแต่งของ ไทยนั้นกลายเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวโลก รวมถึงอีกหลายคนทีไ่ ม่เคยแม้แต่มาเยือนเมืองไทย

หนึ่งในตัวอย่างผลงานไทยร่วมสมัย คือ ‘ใส่ไส้’ จาก โมเบลลา ซึง่ เป็นผลงานการออกแบบทีส่ ะดุดตา และน่าสนใจ ใส่ไส้เป็นเก้าอีท้ มี่ ลี กั ษณะเอียงไปด้านหนึง่ เมือ่ เอนพนักพิงลงไปให้ราบกับพืน้ ก็จะกลายเป็นโซฟา กึง่ เตียงนอน โมเบลลาจับมือกับ อนุพล อยูย่ นื ในการ ออกแบบผลงานชิ้ น ดั ง กล่ า วขึ้ น มาโดยได้ รั บ แรงบันดาลใจจากภูมปิ ญ ั ญาของพ่อค้าแม่คา้ ขนมไทย ทีส่ ามารถใช้ใบตองห่อขนมออกมาได้สารพัดวิธี ส�ำหรับ คนไทย เก้าอี้ใส่ไส้ตัวนี้ไม่ได้เป็นเพียงผลงานการ ออกแบบทีช่ าญฉลาด ขนาดกะทัดรัด และนัง่ สบาย แม้ประเทศทีม่ คี วามรุม่ รวยทางวัฒนธรรมอย่าง อิตาลี เท่านั้น แต่ยังเป็นการดึงเอารูปทรงที่โดดเด่นของ ฝรัง่ เศส และอินเดีย จะเป็นทีก่ ล่าวขานในเรือ่ งศิลปะ ขนมใส่ไส้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของผลงานออกมา การออกแบบที่มีความเป็นมาอันยาวนาน แต่น้อย น�ำเสนอได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย คนนักจะรูว้ า่ ศิลปะเหล่านีก้ ไ็ ด้รบั การตีความใหม่ให้เข้า กับยุคสมัยเช่นกัน และในปัจจุบนั ประเทศไทยก็กำ� ลัง การเน้นให้ความส�ำคัญกับดีไซน์ที่สดใหม่นั้นตรงกัน เจริญรอยตามแนวทางดังกล่าว รูปแบบงานศิลปะทีเ่ คย ข้ามกับการรับจ้างผลิตสินค้า (Original Equipment อยู่ภายใต้ขนบธรรมเนียมดั้งเดิมนั้นค่อยๆ ได้รับ Manufacturer) ซึ่งเดิมทีเคยเป็นรายได้หลักของ อิทธิพลใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาหลายปีที่ บรรดาเจ้าของโรงงานเฟอร์นเิ จอร์ในไทย แบรนด์อย่าง ผ่านมา คลืน่ ลูกใหม่แห่งงานศิลปะไทยร่วมสมัยจึงได้ โมเบลลา ดีสวัสดิ์ และเคนคูน ล้วนแล้วแต่ปรับตัวให้ ถื อ ก� ำ เนิ ด ขึ้ น พร้ อ มกั บ แนวคิ ด การออกแบบเชิ ง กลายเป็นผูเ้ ชีย่ วชาญในด้านการสร้างแบรนด์และเป็น ก้าวหน้าทีน่ ำ� มาผสมผสานกับองค์ความรูด้ งั้ เดิม ผู้ผลิตที่ค�ำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยร่วมมือกับบรรดา นักสร้างสรรค์มากความสามารถอย่างอนุพล แม้จะ แบรนด์ในประเทศอย่าง โมเบลลา (Mobella) ดีสวัสดิ์ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การร่วมมือในลักษณะดังกล่าวจะ (Deesawat) และ โยธกา (Yothaka) มีบทบาทส�ำคัญ ท�ำให้แบรนด์ชนั้ น�ำของอุตสาหกรรมเฟอร์นเิ จอร์ไทย ในการส่งเสริมให้งานออกแบบไทยเป็นทีร่ จู้ กั ในระดับ กลายเป็นแบบอย่างให้กบั ผูผ้ ลิตในอุตสาหกรรมอืน่ ๆ โลกมากขึ้น โดยงานออกแบบของแบรนด์เหล่านี้มี ที่ต้องการเป็นมากกว่าแค่ผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับ ทั้งองค์ประกอบของความทันสมัยและความมีระดับ แบรนด์อนื่ ๆ อันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นเรื่องถนัดของ นั ก ออกแบบไทย ผสมผสานกั บ เทคนิ ค สมั ย ใหม่ ไม่มีผู้ใดเหมาะจะก�ำหนดเส้นทางของอุตสาหกรรม อันประณีต จนกลายเป็นผลงานทีไ่ ด้รบั ความสนใจไป เฟอร์นิเจอร์ไทยไปมากกว่า จิรชัย ตั้งกิจงามวงศ์ ทั่วโลก หากได้มีโอกาสไปชมงานแสดงสินค้าและ ผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายวิจยั และพัฒนาและฝ่ายการตลาดของ นวัตกรรมเกีย่ วกับการออกแบบระดับโลก อาทิ งาน บริษทั อุตสาหกรรม ดีสวัสดิ์ จ�ำกัด ปูข่ องจิรชัยคืออดีต ซาโลน เดล โมบิล มิลโน (Salone del Mobile Milano) ผูค้ า้ ไม้สกั ในพม่า เมือ่ ปี พ.ศ. 2515 ตระกูลของจิรชัย ทีเ่ พิง่ จัดขึน้ เมือ่ ปี 2559 นัน้ ผูม้ าเยือนจะได้พบกับผล ได้ซอื้ กิจการโรงงานเฟอร์นเิ จอร์จนี โบราณแห่งหนึง่ ใน งานจากแบรนด์ไทยทีไ่ ปร่วมจัดแสดงจ�ำนวนนับไม่ถว้ น สิงคโปร์ก่อนที่จะย้ายทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งเครื่องจักร ซึ่งงานออกแบบดังกล่าวยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความ พนักงาน และวัตถุดบิ ข้ามน�ำ้ ข้ามทะเลมาตัง้ โรงงาน เป็นไทย แต่ได้สอดแทรกลูกเล่นสมัยใหม่เข้าไปด้วย ตรงฝัง่ ธนบุรี ปัจจุบนั โรงงานดีสวัสดิม์ พี นักงานทัง้ หมด กว่า 400 คนและด�ำเนินการตัง้ แต่การแปรรูปไม้สกั โดยใช้เตาอบไม้ จนกระทัง่ ได้เป็นผลิตภัณฑ์เฟอร์นเิ จอร์

Suwan Kongkhunthian Managing & Design Director, Yothaka

“เดิมทีเราผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบจีน” จิรชัยกล่าว แต่เนือ่ งจากประเทศไทยห้ามการตัดไม้พะยูง ดีสวัสดิ์ จึงยุตกิ ารผลิตแบบเดิมและหันไปผลิตเฟอร์นเิ จอร์ไม้ สักแทน ซึง่ จิรชัยกลับมองว่าเป็นข้อดี “ไม้สกั มีลกู เล่น เยอะกว่า และทันสมัยกว่า” นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ไม้สักยังเป็นที่ถูกอกถูกใจของ ตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ซึง่ เป็นตลาดทีม่ ลี กู ค้าแบรนด์ ต่างๆ ใช้บริการรับจ้างผลิตเฟอร์นเิ จอร์ของดีสวัสดิเ์ ป็น ทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ด้วยสภาวะการแข่งขันที่ซบเซา เนือ่ งจากค่าแรงทีเ่ พิม่ สูงขึน้ ซึง่ เป็นกรณีทเี่ กิดขึน้ มา แล้วกับประเทศสิงคโปร์ ดีสวัสดิ์ ซึง่ ได้คาดการณ์การ เปลีย่ นแปลงดังกล่าวมาตัง้ แต่ 10 ปีกอ่ นหน้า จึงมุง่ มัน่ สร้างอัตลักษณ์ให้กบั แบรนด์ของตัวเองอย่างเต็มที่ แม้จะยังคงรับจ้างผลิตเฟอร์นเิ จอร์ให้กบั แบรนด์อนื่ ๆ ตามปกติ แต่ดีสวัสดิ์ก็น�ำผลงานไปจัดแสดงที่งาน ซาโลน เดล โมบิล ณ กรุงมิลาน มาแล้วเป็นเวลา 6 ปี เพือ่ ให้แบรนด์ได้ปรากฏสูส่ ายตาชาวโลก การเน้นใช้ 092 | 093

Yothaka


This focus on fresh designs is a far cry from original equipment manufacturing (OEM), once the bread and butter of furniture factory owners in Thailand. Brands like Mobella, Deesawat or Kenkoon have reinvented themselves as branding experts and environmentally-conscious innovators while going through the difficult process of learning to work with talented creatives like Anupol. However challenging, these collaborations have made the furniture industry’s top players role models for manufacturers looking to grow beyond OEM. No one is better placed to chart the journey of the Thai furniture industry than Jirachai Tangkijngamvong, research and development director and marketing director of Deesawat Industries Co., Ltd. Jirachai’s grandfather was a teak trader in Burma and, in 1972, the family purchased a traditional Chinese furniture factory in Singapore before moving it—machines, staff, material and all—to the Thonburi side of Bangkok. Today, the factory employs 400 people and processes teak from kiln to final product. “We started doing Chinese-style furniture,” says Jirachai. But with Thailand’s ban on rosewood logging, Deesawat eventually had to abandon that style and switch to teak, which Jirachai now sees as a boon. “Teak is a bit more fun, a bit more modern.”

Outdoor furniture also has the benefit of meshing well with Thailand’s image as a tropical destination with an unforgiving climate. If a lounge chair can survive 100 percent humidity and 44 degrees celsius, it can survive summer in New York or London. Building on that, numerous other Thai brands also focus on the outdoors, be it Kenkoon, Plato, Yothaka or Corner 43. Indeed, Yothaka is another highly recognizable brand from Thailand that demonstrates a genuine commitment to design. Headed by Suwan Kongkhunthian, it stands out for being directed by a designer rather than an industrialist, but also for its early recognition of the importance of environmental awareness in US and European markets. Today, many Thai manufacturers have followed in his footsteps, using materials such as water hyacinth, pineapple fiber, farmed rubber trees or synthetic rattan. But Yothaka was a pioneer. Suwan grew up in Chiang Mai before working as an interior designer in Singapore from 19801989. Feeling homesick, he returned to Thailand and began designing with water hyacinth. Considered an invasive nuisance, the floating plant can clog waterways. Collecting it is therefore not only free (save for the labor costs) but also serves to maintain canals and rivers.

It’s also a lot more desirable for US and European markets whose brands tasked Deesawat with producing OEM furniture for them. But Singapore’s evolution, where rising wages made manufacturing uncompetitive, would eventually befall Thailand as well. Deesawat saw this shift coming ten years ago and worked hard to build an identity of its own.

I n 2 0 0 3 a n d 2 0 0 4 , Yo t h a k a w o n t h e prestigious Japanese G-Mark award for his designs, whose organic qualities exude a clear sense of place (Asia) and purpose (outdoor living). Suwan has kept up with the times, though, exploring other materials that are durable and have a small environmental footprint. “We maintained our technique and skill and switched to outdoor furniture in polyethylene,” he says.

While it does continue to produce OEM for other brands, Deesawat has been going to Milan’s Salone del Mobile for some six years now to build up its own name. Its focus on in-house design led to a recognizable style where slender planks of teak seamlessly connect with aluminium rods, creating a look that instantly evokes the joys of sipping a cold drink outside on a warm day.

Thailand has developed a unique system of partnerships. Instead of manufacturers hiring a designer outright, they might create a line with them and share revenue. Corner 43, for example, has worked with many designers—Jitrin Jintaprecha, Apirat Boonruangthaworn, Thirawat Kunnawutrittiron­—putting out yearly collections that are almost like fashion lines. Making generous

Jirachai Tangkijngamvong Research and Development Director, Deesawat

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Anupol Yooyuen Design Director, Mobella

นั ก ออกแบบภายในองค์ ก รจึ ง ส่ ง ผลให้ เ กิ ด สไตล์ ที่ เ ป็ น ผู้ผลิตไทยหลายรายได้ด�ำเนินตามรอยของโยธกาในการใช้ เอกลักษณ์ อย่างการใช้ไม้สกั แผ่นบางเชือ่ มกับท่อนอลูมเิ นียม วัตถุดบิ อย่างผักตบชวา ใยสับปะรด ต้นยางจากสวน และ โดยปราศจากรอยต่อ จนเกิดเป็นงานเฟอร์นเิ จอร์ไม้สกั ทีช่ วน หวายสังเคราะห์ ในงานออกแบบ ให้นกึ ถึงการจิบเครือ่ งดืม่ เย็นๆ ในวันทีอ่ ากาศดี สุวรรณเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อนที่จะเดินทางไปท�ำงาน นอกจากนี้ เฟอร์นิเจอร์แบบเอาท์ดอร์ยังเข้ากันได้ดีกับ ในแวดวงออกแบบทีป่ ระเทศสิงคโปร์ระหว่างปี พ.ศ. 2523ภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะเมืองร้อน หากเก้าอีต้ วั หนึง่ 2532 สุวรรณเดินทางกลับประเทศไทยเนือ่ งจากรูส้ กึ คิดถึง สามารถอยู่รอดในอุณหภูมิ 44 องศาเซลเซียสของไทยได้ บ้านและได้เริม่ ต้นการออกแบบผลงานโดยใช้ผกั ตบชวา ซึง่ ก็ตอ้ งสามารถอยูร่ อดท่ามกลางฤดูรอ้ นของนครนิวยอร์กและ เป็นผักที่ขึ้นชื่อว่าก่อความร�ำคาญให้กับชาวบ้านและมักจะ กรุงลอนดอนได้เช่นกัน ด้วยเหตุนแี้ บรนด์ไทยอืน่ ๆ จ�ำนวน เข้าไปอุดตันทางระบายน�ำ้ ดังนัน้ การเก็บเอาผักตบชวามาใช้ มากจึงหันมาให้ความส�ำคัญกับเฟอร์นเิ จอร์สำ� หรับภายนอก จึงไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ (ยกเว้นค่าจ้างแรงงาน) อีกทั้งยัง อาคารมากขึน้ ไม่วา่ จะเป็น เคนคูน (Kenkoon) พลาโต (Plato) เป็นการช่วยท�ำให้แม่นำ�้ ล�ำคลองสะอาดขึน้ อีกด้วย โยธกา (Yothaka) หรือ คอร์เนอร์ 43 (Corner 43) ในปี พ.ศ. 2546 และ 2547 โยธกาได้รบั รางวัล Good Design โยธกาเป็นอีกหนึง่ แบรนด์ชนั้ น�ำของไทยทีม่ จี ดุ ยืนแตกต่างจาก Award (G Mark) อันทรงเกียรติจากประเทศญี่ปุ่นจาก แบรนด์อื่นๆ ในเรื่องการออกแบบ เพราะอยู่ภายใต้การ ผลงานการออกแบบโดยใช้วสั ดุอนิ ทรียท์ สี่ ามารถสือ่ ถึงกลิน่ บริหารงานของนักออกแบบอย่าง สุวรรณ คงขุนเทียน อีกทัง้ อายของสถานที่ (ทวีปเอเชีย) และวัตถุประสงค์ (การใช้ชวี ติ ยั ง เป็ น หนึ่ ง ในแบรนด์ แ รกๆ ที่ เ ล็ ง เห็ น ว่ า ตลาดสหรั ฐ ฯ นอกบ้าน) ได้อย่างยอดเยีย่ ม ด้วยความทีส่ วุ รรณเป็นคนทีท่ นั และยุโรป ให้ความส�ำคัญกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน ต่อยุคสมัย เขาจึงหมัน่ เฟ้นหาวัตถุดบิ ใหม่ๆ ซึง่ มีความทนทาน 094 | 095


Deesawat

use of rattan, Jitrin’s collections are unequivocally tropical and Asian despite their sharp lines. “We’ve worked with Japanese, Italian and Thai designers,” says Deesawat’s Jirachai. “We want to combine professional and young designers in one scene. It’s not fun without that mix. Thai designers are very good with creativity. What they lack are construction techniques and marketing knowledge. That’s why we always have interns come to the factory and we work with King Mongkut University.” Anon Pairot is one such designer who has collaborated with multiple brands. Anon is not your usual designer, though. Despite degrees in mechanical engineering and architecture, Anon first grabbed the attention of the international media for conceptual pieces blurring the traditional barriers between product and artwork. Recently, he exhibited massive installations at the Singapore Art Fair that featured hundreds of plastic insects. Now, he collaborates with the Department of International Trade Promotion (DITP) to identify promising designers. With Thai furniture finally recognized for its high-quality finishing and eco-credentials, Anon believes building a reputation for great design is the next step. The Thai furniture industry’s huge success is serving as inspiration for other industries, too. Its environmental friendliness and the ability for longstanding manufacturers to work with independent designers is serving as a template for leatherwork, housewares and even fashion. And now that there is a model to harness the boundless imagination of Thai designers, expect a flurry of masterpiece creations at the next Salone del Mobile or Maison et Objets.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


และไม่สง่ ผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อมอยูเ่ สมอ “เรายังคงเทคนิคและทักษะดัง้ เดิมไว้แต่หนั ไปใช้พอลิเอทิลนี ในการผลิตเฟอร์นเิ จอร์ แบบเอาท์ดอร์แทน” สุวรรณกล่าว ประเทศไทยมีระบบพันธมิตรทางธุรกิจทีแ่ ตกต่างจากทีอ่ นื่ แทนทีผ่ ผู้ ลิตจะว่าจ้างนักออกแบบโดยตรง ทัง้ สองฝ่ายกลับใช้วธิ ี ร่วมมือกันผลิตสินค้าแล้วค่อยแบ่งผลก�ำไรกัน แบรนด์อย่างคอร์เนอร์ 43 ได้รว่ มงานกับนักออกแบบมาแล้วหลายราย ทัง้ จิตริน จินตปรีชา อภิรฐั บุญเรืองถาวร และถิรวัฒน์ คุณวุฒฤิ ทธิรณ โดยออกคอลเลคชันใหม่ทกุ ๆ ปีไม่ตา่ งจากแบรนด์แฟชัน่ งานของจิตรินซึง่ ใช้หวายเป็นวัสดุหลักนัน้ แม้จะมีทรวดทรงทีค่ มคาย แต่กส็ อื่ ถึงความเป็นเมืองร้อนและวิถแี บบตะวันออก ได้อย่างไม่ตอ้ งสงสัย “เราร่วมมือกับนักออกแบบชาวญีป่ นุ่ อิตาลี และไทย เราต้องการดึงนักออกแบบอาชีพรุน่ ใหม่เข้ามาท�ำงานร่วมกัน การผสม ผสานดังกล่าวน่าจะท�ำให้งานออกมาสนุกขึน้ นักออกแบบไทยมีหวั ครีเอทีฟมาก จะขาดก็แต่เทคนิคด้านการผลิตและความรู้ ในด้านการตลาด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าท�ำไมเรามีเด็กเข้ามาฝึกงานในโรงงานอยู่ตลอดเวลา และยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรดี ว้ ย” จิรชัย เจ้าของแบรนด์ดสี วัสดิก์ ล่าว อานนท์ ไพโรจน์ คือหนึง่ ในนักออกแบบทีเ่ คยร่วมงานกับหลากหลายแบรนด์ และมีความแตกต่างจากนักออกแบบทัว่ ไป แม้จะจบการศึกษาในด้านวิศวกรรมเครือ่ งกลและสถาปัตยกรรม แต่อานนท์กเ็ ป็นทีจ่ บั ตาของสือ่ ต่างชาติหลังจากได้รงั สรรค์ ผลงานเชิงแนวคิดในการก�ำจัดช่องว่างทีม่ กั จะเกิดขึน้ ระหว่างผลิตภัณฑ์และศิลปะ อานนท์เพิง่ ได้เดินทางไปจัดแสดงผลงาน ขนาดมหึมาทีท่ ำ� มาจากแมลงพลาสติกหลายร้อยตัวของเขาในงาน สิงคโปร์ อาร์ต แฟร์ และปัจจุบนั เขาได้รว่ มมือกับกรม ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เพือ่ ท�ำหน้าทีเ่ ฟ้นหานักออกแบบดาวรุง่ เมือ่ เฟอร์นเิ จอร์ไทยเป็นทีย่ อมรับในเรือ่ งของ การตกแต่งคุณภาพสูงและความตระหนักด้านสิง่ แวดล้อมแล้ว อานนท์เชือ่ ว่าขัน้ ต่อไปคือการท�ำให้เฟอร์นเิ จอร์ไทยเป็นทีร่ จู้ กั ในด้านของดีไซน์ทยี่ อดเยีย่ ม ความส�ำเร็จครัง้ ยิง่ ใหญ่ของอุตสาหกรรมเฟอร์นเิ จอร์ไทยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กบั อุตสาหกรรมอืน่ ๆ อีกหลายอุตสาหกรรม ทัง้ ในแง่ของความเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมและการทีผ่ ผู้ ลิตรุน่ เก่าสามารถหลุดจากกรอบเดิมๆ แล้วหันมาร่วมมือกับนักออกแบบ อิสระ ความส�ำเร็จครัง้ นีไ้ ด้กลายเป็นแบบอย่างให้กบั ทัง้ อุตสาหกรรมเครือ่ งหนัง อุตสาหกรรมข้าวของเครือ่ งใช้ในครัวเรือน และ แม้กระทัง่ อุตสาหกรรมแฟชัน่ เมือ่ จินตนาการทีไ่ ร้ขอบเขตของนักออกแบบไทยมีหวั เรือใหญ่คอยบังคับทิศทางแล้ว เชือ่ ว่าใน งานซาโลน เดล โมบิล และ เมซง เอ ออบเจต์ (Maison et Objet) ครัง้ หน้า เราคงได้มโี อกาสยลผลงานสร้างสรรค์ของ แบรนด์เหล่านีอ้ ย่างแน่นอน

Anon Pairot Founder, Anon Pairot Studio

096 | 097


Every year, invasive water hyacinth plants clog Thailand’s waterways and cause rampant flooding along the country’s rivers. For many, these fast-growing plants are useless and destructive weeds that wreak havoc on local ecosystems. It takes creativity and determination to look at a river choked by water hyacinth and envision using the troublesome plant for something positive, but that is exactly what M.L. Pawinee Santisiri (Sukhasvasti) did when she founded Ayodhya in 1994. At the time, she was working on a rural development project to find uses for the plant, and noticed the hyacinth’s naturally fibrous structure. She thought it would be perfect for making furniture. Ayodhya employed pioneering techniques, skilled craftsmen and talented designers to transform the weed into contemporary styled sofas, armchairs, partitions, lighting, vases, rugs and numerous other striking and original products. Turning this invasive species into a commercially viable crop has been an environmental success story that has empowered local communities while improving their environment. Villagers are now aware of water hyacinth as a cash crop, and harvesting it provides an important supplementary income. Interior designers across the globe have praised Ayodhya’s simple aesthetic, delicate texture and natural look. The company has already won many prestigious awards, including the Design for Asia Award from the Hong Kong Design Centre, the Best of Designer of the Year Award in Product Design, and the Tokyo Creation Award from the Tokyo Fashion Association. The company is known for its excellent craftsmanship and beautiful designs, which, although distinctly Thai, complement any modern home. The brand is constantly introducing new collections with fresh and inspiring pieces. Its extensive catalogue includes creations that use eco-friendly hemp, which is renowned for its strength and durability, sourced from hill-tribe communities in northern Thailand. It has even recently released pieces made of recycled newspaper. After discovering that paper accounts for almost 40 percent of global waste, M.L. Pawinee challenged her team to create designer homeware from paper waste. The result was a range of playful, environmentally-friendly and elegant furniture, each with Ayodhaya’s unique design aesthetic. After more than two decades, Ayodhaya remains one of the most inspiring environmentally-friendly brands in Thailand. It has held true to its outstanding environmental credentials and commitment to producing products with minimal impact, while at the same time inspiring interior designers and delighting homeowners around the world. M.L. Pawinee Santisiri Managing & Design Director, Ayodhya

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ในทุกๆ ปีจะมีผักตบชวาจ�ำนวนมากเข้าไปขวางทาง น�ำ้ ไหลของแม่นำ�้ ล�ำคลอง จนเป็นสาเหตุให้เกิดอุทกภัย รุนแรงในบริเวณพืน้ ทีต่ ดิ แม่นำ�้ ของประเทศไทย พืชที่ แพร่ พั น ธุ ์ เ ร็ ว ชนิ ด นี้ ไ ด้ ส ร้ า งความร� ำ คาญใจให้ กั บ ชาวบ้านส่วนใหญ่ เนือ่ งจากเป็นวัชพืชทีไ่ ร้ประโยชน์ และบ่อนท�ำลายระบบนิเวศในท้องถิ่น มีเพียงผู้ที่มี หัวคิดสร้างสรรค์และความมุง่ มัน่ เท่านัน้ ทีจ่ ะสามารถ น� ำ ผั ก ตบชวาซึ่ ง ลอยอยู ่ เ ต็ ม แม่ น�้ ำ ล� ำ คลองไปใช้ ประโยชน์ได้ และนัน่ คือสิง่ ที่ ม.ล. ภาวิณี สุขสวัสดิ์ ท�ำเมือ่ ครัง้ ทีก่ อ่ ตัง้ แบรนด์อโยธยาขึน้ ในปี พ.ศ. 2537 ขณะนั้น ม.ล. ภาวิณี ก�ำลังปฏิบัติงานในโครงการ พัฒนาชนบทแห่งหนึง่ เพือ่ ศึกษาหาวิธนี ำ� เอาผักตบชวา มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และค้นพบว่าโครงสร้างตาม ธรรมชาติ ข องผั ก ตบชวานั้ น มี ลั ก ษณะเป็ น เส้ น ใย ม.ล. ภาวิณเี ชือ่ ว่าผักตบชวาเป็นวัตถุดบิ ทีเ่ หมาะส�ำหรับ น� ำ ไปผลิ ต เป็ น เฟอร์ นิ เ จอร์ ด้ ว ยเทคนิ ค พิ เ ศษที่ คิดค้นขึน้ อโยธยาได้รว่ มงานกับช่างฝีมอื ผูเ้ ชีย่ วชาญ และนักออกแบบมือฉมัง เพือ่ แปลงโฉมวัชพืชชนิดนีใ้ ห้ เป็นโซฟา เก้าอีน้ วม ฉากกัน้ ห้อง โคมไฟ แจกัน เสือ่ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยอื่นๆ อีกมากมายที่ทั้ง สวยและมีเอกลักษณ์ การยกระดับพืชทีเ่ ป็นศัตรูตอ่ สิง่ แวดล้อมชนิดนีใ้ ห้กลายเป็นผลิตผลทีม่ ปี ระโยชน์ใน เชิงพาณิชย์ กลายเป็นเรือ่ งราวความส�ำเร็จทีส่ ามารถ สร้างความแข็งแกร่งให้กบั ชุมชนในท้องถิน่ และยังส่ง ผลดีตอ่ สิง่ แวดล้อมอีกด้วย และท้ายทีส่ ดุ ชาวบ้านก็เห็น ความส� ำ คั ญ ของผั ก ตบชวาในฐานะพื ช เศรษฐกิ จ ซึง่ การเก็บผักตบชวาขายสามารถสร้างรายได้เสริมได้ เป็นกอบเป็นก�ำ

นักออกแบบภายในทัว่ โลกต่างชืน่ ชมผลงานเฟอร์นเิ จอร์และของแต่งบ้านทีท่ ำ� จากผักตบชวาของแบรนด์อโยธยา เนือ่ งจากมีความสวยงามและเรียบง่าย วัสดุทใี่ ช้มคี วามประณีต และรูปลักษณ์ดเู ป็นธรรมชาติ อโยธยาสามารถ คว้ารางวัลอันทรงเกียรติมาแล้วหลายเวที เช่น รางวัล Design for Asia Award จากศูนย์การออกแบบฮ่องกง (Hong Kong Design Centre) รางวัล Designer of the Year Award สาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และรางวัล Tokyo Creation Award จากสมาคมแฟชัน่ แห่งโตเกียว อโยธยาขึน้ ชือ่ ในเรือ่ งงานฝีมอื ชัน้ ยอดและดีไซน์ทสี่ วยงาม แม้เฟอร์นเิ จอร์ของอโยธยาจะเน้นหนักเรือ่ งเอกลักษณ์ ความเป็นไทย แต่กช็ ว่ ยสร้างความลงตัวยิง่ ขึน้ ให้กบั บ้านสไตล์โมเดิรน์ ได้ อโยธยามีคอลเลคชันใหม่ๆ ซึง่ สามารถ สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้พบเห็นออกมาอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ของอโยธยามีให้เลือกมากมาย ทั้งผลงาน สร้างสรรค์จากกัญชง ซึง่ เป็นพืชทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมและขึน้ ชือ่ ในเรือ่ งความแข็งแรงทนทาน โดยกัญชงที่ อโยธยาน�ำมาใช้นนั้ ปลูกโดยชุมชนชาวเขาในภาคเหนือของไทย นอกจากนี้ อโยธยายังได้ออกคอลเลคชันใหม่ทที่ ำ� จากหนังสือพิมพ์รไี ซเคิล หลังค้นพบว่าปริมาณขยะโลกกว่า 40% นัน้ มาจากกระดาษ ม.ล. ภาวิณี จึงได้ตงั้ โจทย์ให้ทมี งานของเธอลองออกแบบเครือ่ งใช้ในบ้านขึน้ จากขยะ กระดาษ ผลลัพธ์ทไี่ ด้คอื เฟอร์นเิ จอร์ทสี่ วยหรู แฝงด้วยลูกเล่น รวมทัง้ เป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม และสะท้อนให้ เห็นถึงศิลปะการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของอโยธยา แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่าสองทศวรรษ แต่อโยธยาก็ยงั ยืนหยัดในฐานะแบรนด์ทใี่ ห้ความส�ำคัญในเรือ่ งสิง่ แวดล้อม เป็นอันดับต้นๆ อโยธามีความเป็นเลิศในด้านการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อมและยึดมัน่ ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับบรรดา นักออกแบบภายใน พร้อมทัง้ สร้างความสุขให้กบั ผูอ้ ยูอ่ าศัยทัว่ โลก

098 | 099


For Polpat Asavaprapha, the creative force behind Asava, clothes are a reflection of inner beauty, strong character and cultural identity. The talented designer, who studied fashion at Parsons and has worked with Giorgio Armani and Maxmara and interned for Marc Jacobs, felt a void needed to be filled in Thai fashion. He established Asava in 2008 with the aim of reinterpretating classical, timeless designs for modern women and their urban lifestyles. Asava believes that timeless silhouettes, delicate designs, classic cuts and high-quality materials enable women to get more out of life. Never too seasonal, each Asava collection keeps moving forward with a refined outlook. Asava Group labels include the luxurious and thoughtful Asava, the lavishly youthful ASV, and the stylistically functional Uniform by Asava. As Polpat often says, “Don’t be fashionable, just be.” Asava designs can be found in Bangkok at its flagship store on Sukhumvit Road, at Siam Paragon, Emquartier, The Emporium Department Store, Central Chidlom and online at shop.asavagroup.com. Polpat’s creative vision and energy extends well beyond the realm of fashion. He recently opened Sava Dining, a fine dining establishment in the Helix Quartier at EmQuartier, which showcases his flair for interior design as much as his taste for the finer things in life. As a whole, Asava Group has built itself into one of the most recognizable symbols of quality in the nation. It’s guiding principles to foster conscious, mindful living and timeless class with ease and conviction are visible throughout its range of products and overall brand ethos. For nearly 10 years, Asava and its associated brands have upheld the quality standards expected of T Mark brands, encapsulating the essence of Thai style and craftsmanship into one. This unwavering commitment to design artistry, passion-based products and innovative ideas sets Asava Group apart from many of its competitors locally and abroad.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Polpat Asavaprapha Creative Director, Asava

ส�ำหรับพลพัฒน์ อัศวะประภา ผู้อยู่เบื้องหลังคอนเซปต์สุดครีเอทีฟของแบรนด์ อาซาว่าแล้ว เสือ้ ผ้าเป็นเสมือนกระจกเงาสะท้อนทัง้ ความงามจากภายใน รวมถึง ตัวตนของผูส้ วมใส่ และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ดีไซน์เนอร์ผมู้ ากความสามารถ รายนีจ้ บการศึกษาจาก Parsons School of Design ในนิวยอร์กและเคยท�ำงาน ร่วมกับจิออร์จโิ อ อาร์มานีและแม็กซ์มารา รวมทัง้ ยังเคยฝึกงานทีม่ าร์ค จาคอบส์ พลพัฒน์รสู้ กึ ว่าวงการแฟชัน่ ไทยนัน้ ยังมีชอ่ งว่างทีต่ อ้ งได้รบั การเติมเต็ม แบรนด์ อาซาว่าจึงได้รบั การก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2551 โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ ก�ำหนดนิยาม ใหม่ให้กับเสน่ห์เหนือกาลเวลาส�ำหรับผู้หญิงยุคใหม่ อาซาว่าเชื่อว่าเสน่ห์เหนือ กาลเวลา การออกแบบอันประณีต รวมถึงรูปทรงตัดเย็บทีค่ ลาสสิค และการใช้วสั ดุ คุณภาพสูง สามารถช่วยเพิม่ คุณค่าให้กบั ผูห้ ญิงได้ เสือ้ ผ้าของอาซาว่านัน้ เหมาะ ส�ำหรับสวมใส่ในทุกฤดูกาล และมักสะท้อนถึงความสดใหม่และความมีรสนิยม แบรนด์ตา่ งๆ ภายใต้การดูแลของอาซาว่ากรุป๊ ประกอบไปด้วยแบรนด์เสือ้ ผ้าสุดหรู อย่างอาซาว่า เครือ่ งแต่งกายแนวสดใสสไตล์วยั รุน่ อย่างแบรนด์ เอเอสวี (ASV) รวมทั้งแบรนด์เสื้อผ้าที่เน้นทั้งสไตล์และประโยชน์ใช้สอยอย่าง ยูนิฟอร์ม บาย อาซาว่า (Uniform by Asava) เขามักจะกล่าวอยู่เสมอว่า “อย่าไปท�ำตัว ตามแฟชั่น แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ” เสื้อผ้าจากแบรนด์อาซาว่ามีจ�ำหน่ายที่ แฟล็กชิปสโตร์บนถนนสุขมุ วิท รวมถึงทีส่ ยามพารากอน เอ็มควอเทียร์ ดิเอ็มโพเรียม เซ็นทรัลชิดลม และบนเว็บไซต์ shop.asavagroup.com. วิสัยทัศน์และพลังความคิดสร้างสรรค์ของพลพัฒน์ได้ก้าวพ้นขีดจ�ำกัดของวงการ แฟชัน่ ล่าสุด พลพัฒน์ได้เปิดตัว ซาว่าไดนิง่ (Sava Dining) ธุรกิจร้านอาหารของ เขาในกรุงเทพฯ บนตึกเดอะเฮลิกซ์ของห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ ซาว่าไดนิง่ ถือเป็นการต่อยอดจากแบรนด์อาซาว่าที่แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในด้านงาน ออกแบบภายในและความมีรสนิยมของพลพัฒน์ อาซาว่ากรุป๊ ได้กา้ วมาเป็นแบรนด์ แฟชัน่ ไทยทีไ่ ด้รบั การยอมรับสูงสุดในเรือ่ งคุณภาพ อาซาว่า กรุป๊ ด�ำเนินธุรกิจบน ปณิธานทีจ่ ะมุง่ มัน่ สร้างสรรค์รสนิยมการใช้ชวี ติ ทีใ่ ส่ใจในทุกรายละเอียด เรียบง่าย แต่มสี ไตล์เหนือกาลเวลา ซึง่ สะท้อนให้เห็นในผลิตภัณฑ์และปรัชญาของบริษทั เป็น เวลาเกือบ 10 ปีทอี่ าซาว่าและแบรนด์ภายใต้อาซาว่า กรุป๊ ได้รกั ษาไว้ซงึ่ คุณภาพ ตามมาตรฐานของ Thailand Trust Mark (T Mark) และรวมเอาลักษณะพิเศษของ ความเป็นไทยและงานฝีมอื อันประณีตไว้ดว้ ยกัน ความมุง่ มัน่ ทีจ่ ะสร้างสรรค์ศลิ ปะ แห่งการออกแบบ ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ท�ำให้อาซาว่า กรุป๊ มีความ โดดเด่นเหนือแบรนด์คแู่ ข่งหลายๆ แบรนด์ทงั้ ในและต่างประเทศ 100 | 101


In 1989, a man from Greece named Vassilios Lathouras found himself traveling to Thailand in the hope of making a new life and building on his financial success. During his stay, he visited the Ancient City in Samut Prakan, where he met a tour guide named Wasna Roongsaenthong. No one knew at the time, but their chance meeting that day would eventually lead to the creation of one of Thailand’s most well-known brands. The two married and started NaRaYa, a lifestyle and accessories brand that today seems perpetually mobbed by visitors from Japan, Korea and China who are seeking out its trademark fabric bags adorned with bowties. With 25 stores locally and a wealth of foreign interest, it’s no surprise that NaRaYa also has 11 international stores, mostly in Japan, but also in Vietnam, Hong Kong and Cambodia.

NaRaYa’s designs and brand identity are so clearly identifiable, it’s easy to forget the brand is actually continuously being refreshed and updated. It currently includes over 10,000 designs for accessories, children’s products, handbags, home décor, kitchenware, seasonal gifts and stationery. Each NaRaYa product begins with the selection of the finest locally sourced fabrics. The company’s creative team work closely with expert cutters and sewers, ensuring that each signature NaRaYa product is designed and finished with utmost care and attention to detail. The range includes designs fashioned from cotton, satin, denim, pleated fabrics and canvas.

Wasna Roongsaenthong President, NaRaYa

Value for money is at the core of the NaRaYa philosophy, and each item is reasonably priced. The company is also committed to social responsibility and works closely with skilled craft groups and small enterprises in Thailand’s rural provinces. Villagers are supplied with materials and designs, and receive professional training until they reach the required standard. NaRaYa’s training program and long-term support has led to increased incomes, provided economic security and strengthened communities across Thailand. Today, the company works with more than 4,000 talented craftspeople in provincial villages, and also employs 3,000 more at the Bangkok headquarters, factories in northeast Thailand and numerous retail outlets across the country. From the raw materials to the finished item, each NaRaYa product is a showcase of Thai design talent and craftsmanship. NaRaYa also works closely with government and non-governmental agencies on inspirational projects that create and promote handicrafts made in rural provinces. One such project included joining hands with the international non-profit poverty relief charity, CARE. As a result, NaRaYa provided training and ongoing support for more than 3,000 families in rural provinces. For more than 20 years NaRaYa has been one of Thailand’s most loved textiles brands. Now in its third decade, Narai Intrade Co., Ltd continues to go from strength to strength, delighting customers around the world with new and exciting NaRaYa designs. Retail outlets occupy prime locations in Thailand and the brand also has 13 international shops in Cambodia, Hong Kong, Malaysia, Taiwan and Vietnam. NaRaYa continues to create exquisite products with the emphasis on quality craftsmanship, functionality, beauty and value for money.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ในปี พ.ศ. 2532 นายวาสิลโิ อส ลาทูรสั เดินทางจากประเทศกรีซมาเยือนเมืองไทย ด้วยความหวังทีจ่ ะเริม่ ต้นชีวติ ใหม่และสร้างอนาคตทีม่ งั่ คัง่ ในระหว่างทีเ่ ทีย่ วชม เมืองโบราณในจังหวัดสมุทรปราการอยูน่ นั้ เขาก็ได้พบกับมัคคุเทศก์ทชี่ อื่ วาสนา รุง่ แสนทอง ไม่มใี ครรูเ้ ลยว่าการโคจรมาพบกันโดยบังเอิญของทัง้ สองนัน้ จะน�ำมาสู่ การถือก�ำเนิดของแบรนด์ทมี่ ชี อื่ เสียงเป็นล�ำดับต้นๆ ของไทยในปัจจุบนั วาสิลโิ อส และวาสนาได้รว่ มกันก่อตัง้ นารายา ร้านจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และเครือ่ ง ประดับแห่งนี้ ปัจจุบนั คลาคล�ำ่ ไปด้วยนักท่องเทีย่ วชาวญีป่ นุ่ เกาหลี และจีน ทีล่ ว้ น มาหาซื้อกระเป๋าผ้าติดโบว์อันเปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าของนารายา เนือ่ งจากแบรนด์นารายานัน้ ได้รบั ความสนใจจากต่างประเทศอย่างล้นหลาม จึงไม่ น่าแปลกใจทีน่ อกจากสาขากว่า 25 แห่งในไทยแล้ว นารายายังได้เปิดสาขาอีก 11 แห่งทัว่ โลก โดยส่วนใหญ่อยูใ่ นประเทศญีป่ นุ่ รวมทัง้ ในเวียดนาม ฮ่องกง และ กัมพูชา แม้สนิ ค้าของนารายาจะมีดไี ซน์และเอกลักษณ์ทชี่ ดั เจน แต่แท้จริงแล้วทางแบรนด์ ก็มกี ารปรับเปลีย่ นดีไซน์ให้ทนั สมัยอยูต่ ลอดเวลา จนปัจจุบนั สินค้าของนารายา ประกอบด้วยทั้งเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์เด็ก กระเป๋าถือ ของตกแต่งบ้าน เครือ่ งครัว ของขวัญส�ำหรับช่วงเทศกาล และเครือ่ งเขียน ให้ลกู ค้าสามารถเลือกซือ้ มากกว่า 10,000 แบบ ผลิตภัณฑ์ของนารายาแต่ละชิน้ นัน้ เริม่ ต้นจากการเลือกสรร ผ้าทีม่ คี ณ ุ ภาพดีทส่ี ดุ ภายในประเทศ จากนัน้ ทีมออกแบบของนารายาจะท�ำงานร่วม กับช่างตัดเย็บอย่างใกล้ชดิ เพือ่ ให้การออกแบบและตัดเย็บผลิตภัณฑ์เป็นไปอย่าง พิถพี ถิ นั ผลิตภัณฑ์ของนารายานัน้ ท�ำมาจากผ้าชนิดต่างๆ อาทิ ผ้าฝ้าย ผ้าซาติน ผ้ายีนส์ ผ้าอัดกลีบ และผ้าใบ

ความคุม้ ค่าคือหัวใจส�ำคัญของนารายา ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์ทกุ ชิน้ จึงได้รบั การ จ�ำหน่ายในราคาทีส่ มเหตุสมผล นารายายึดหลักความรับผิดชอบต่อสังคมและได้ ร่วมงานอย่างใกล้ชดิ กับกลุม่ ช่างฝีมอื และนักธุรกิจรายย่อยในพืน้ ทีช่ นบทของไทย โดยคนในชุมชนจะได้รับวัสดุและแบบร่างของผลิตภัณฑ์เพื่อน�ำไปใช้ในการผลิต รวมถึงการฝึกอบรมจนสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ออกมาได้ตรงตามมาตรฐาน ทีก่ ำ� หนด โครงการฝึกอบรมและการสนับสนุนทีม่ มี าอย่างยาวนานของนารายานัน้ ช่วยเพิม่ รายได้ สร้างความมัน่ คงทางเศรษฐกิจ และเสริมความแข็งแกร่งให้กบั ชุมชน ทัว่ ประเทศ ปัจจุบนั นารายาร่วมมือกับช่างฝีมอื กว่า 4,000 ชีวติ และว่าจ้างบุคลากร อีกกว่า 3,000 คนเพือ่ ประจ�ำการในส�ำนักงานใหญ่ทกี่ รุงเทพฯ รวมถึงโรงงานใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้านค้าปลีกอีกหลายแห่งทั่วประเทศ นับตั้งแต่ ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนออกวาง จ�ำหน่าย ผลิตภัณฑ์นารายาทุกชิน้ นัน้ สะท้อนให้เห็นถึงพรสวรรค์ในการออกแบบ และทักษะด้านงานฝีมอื ของคนไทย นอกจากนี้ นารายายังจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการด�ำเนินโครงการ สร้างสรรค์และสนับสนุนทักษะงานฝีมอื ในพืน้ ทีช่ นบท หนึง่ ในโครงการดังกล่าวคือ การร่วมมือระหว่างนารายากับองค์กรการกุศลระดับนานาชาติทไี่ ม่แสวงหาก�ำไรเพือ่ ช่วยเยียวยาความยากจนอย่างแคร์ (CARE) ส่งผลให้นารายาสามารถจัดฝึกอบรม และให้การสนับสนุนกับชาวบ้านในพืน้ ทีช่ นบทอย่างต่อเนือ่ งถึง 3,000 ครัวเรือน เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วทีน่ ารายาสามารถครองต�ำแหน่งหนึง่ ในแบรนด์ผลิตภัณฑ์ จากผ้ายอดนิยมของไทย บริษทั นารายณ์อนิ เตอร์เทรด จ�ำกัด ก็ยงั คงเดินหน้าเข้า สูท่ ศวรรษทีส่ ามอย่างแข็งแกร่งและพร้อมส่งมอบสิง่ ดีๆ ให้กบั ลูกค้าทัว่ โลก ด้วย ดีไซน์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจในแบบนารายา โดยร้านจ�ำหน่ายสินค้าของนารายานั้น กระจายตัวอยูต่ ามท�ำเลชัน้ ยอดในประเทศ ขณะทีอ่ กี 13 สาขาตัง้ อยูใ่ นกัมพูชา ฮ่องกง มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนาม นารายายังคงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทมี่ ี ความประณีตและให้ความส�ำคัญในด้านคุณภาพ ประโยชน์ใช้สอย รูปลักษณ์ และ ความคุม้ ค่าอย่างต่อเนือ่ ง

102 | 103


For interiors architect Metchanun Suensilpong, life is about design. When the gifted graduate of MJM Art School in Paris returned to Bangkok, he set about creating a collection of contemporary stainless steel and teakwood furniture for Kenkoon. His minimalist elegance and outstanding build quality not only found favour with the Scandinavian market but was also featured in Canadian Design Magazine. Today, the Bangkok factory and design studio producing the Kenkoon brand is renowned worldwide for style, excellent build quality and durability. As a design company and manufacturer with almost 30 years of experience, Kenkoon controls every stage of the creative process, from the initial concept through to the finished product, thereby ensuring that each piece is exceptional in every detail. The company values its business partnerships and works closely with clients on marketing and sales support. A passionate designer, as well as the head of the design department, Mark ensures that new and exciting products are added to the collection every two or three months. The collection includes a range of indooroutdoor chair, sofas, tables, gazebos and

accessories made using Mark’s signature combinations of materials; teak and stainless, mesh and stainless, glass and stainless, as well as pure teak. Kenkoon’s striking designs and skillful use of materials have made its furniture the choice of discerning homeowners and interior designers for luxury condominiums, as well as design-led hotels and resorts around the world. Kenkoon furniture can be found in 18 countries including Australia, Italy, Japan, UK, the USA, and at its signature concept showroom in Bangkok. Kenkoon uses commercial grade materials for exceptional strength and durability. The company’s designers and craftsmen can tailor products to specific needs. Collaborations with interior designers, project managers and architects have resulted in the completion of extraordinary projects for W Hotels in Bangkok, Hong Kong and New York, The Okura Bangkok, Hotel Nikko in Tokyo, Alila Villa Soori in Bali, Intercontinental Dubai, and many more high-profile clients. Kenkoon’s original designs have won numerous awards, domestically and internationally. The company also participates worldwide in exhibitions such as Index Dubai, United and Maison et Objet in Paris.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


นักออกแบบภายในอย่าง ‘มาร์ค’ เมธชนัน สวนศิลป์พงศ์ ได้อทุ ศิ ทัง้ ชีวติ ของเขาให้ กับงานออกแบบ หลังดีไซน์เนอร์ผมู้ ากพรสวรรค์รายนีส้ ำ� เร็จการศึกษาจากโรงเรียน ศิลปะ MJM Art School ในกรุงปารีสและเดินทางกลับสู่บ้านเกิดที่กรุงเทพฯ เขาก็ได้เริม่ ลงมือผลิตเฟอร์นเิ จอร์รว่ มสมัยจากสแตนเลสสตีลและไม้สกั ภายใต้ชอื่ แบรนด์ เคนคูน ด้วยความสง่างามเรียบหรูบวกกับคุณภาพเป็นเลิศนัน้ ไม่เพียงแต่ เป็นทีถ่ กู อกถูกใจในตลาดสแกนดิเนเวียเท่านัน้ แต่ยงั โด่งดังถึงทวีปอเมริกาเหนือจน ได้รบั การกล่าวถึงในนิตยสาร Canadian Design ของแคนาดาอีกด้วย ปัจจุบนั โรงงานและสตูดโิ อออกแบบในกรุงเทพฯ ของเคนคูนนัน้ เป็นทีร่ จู้ กั ไปทัว่ โลกเนือ่ ง ด้วยสไตล์ทโี่ ดดเด่น คุณภาพการผลิตทีย่ อดเยีย่ ม และความทนทาน ในฐานะผูอ้ อกแบบและผลิตเฟอร์นเิ จอร์ซงึ่ มีประสบการณ์มาเกือบ 30 ปี เคนคูน นัน้ พิถพี ถิ นั ในทุกขัน้ ตอนสร้างสรรค์ นับตัง้ แต่การระดมความคิดจนผลิตภัณฑ์ออก มาเป็นรูปเป็นร่าง ส่งผลให้ผลงานทุกชิ้นของเคนคูนมีความโดดเด่นในทุก รายละเอียด เคนคูนให้ความส�ำคัญกับการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและการท�ำงาน ร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดในการสนับสนุนทางการตลาดและการขาย ในฐานะ ดีไซน์เนอร์ไฟแรงและหัวหน้าฝ่ายออกแบบ เมธชนันจึงเดินหน้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ทีน่ า่ สนใจใหม่ๆ ออกมาทุก 2-3 เดือน ผลิตภัณฑ์ของเคนคูนนัน้ มีทงั้ เก้าอีส้ ำ� หรับภายในและนอกอาคาร โซฟา โต๊ะ ศาลา หย่อนใจ และของประดับตกแต่งต่างๆ ซึง่ เป็นการผสมผสานวัตถุดบิ ในแบบของ เมธชนัน เช่น การจับคูไ่ ม้สกั ผ้าตาข่าย หรือแก้วกับสแตนเลส รวมไปถึงการใช้ ไม้สกั ล้วนในการผลิต ดีไซน์ทโี่ ดดเด่นสะดุดตาและความเชีย่ วชาญในงานฝีมอื ท�ำให้ เฟอร์นเิ จอร์ของเคนคูนกลายเป็นตัวเลือกล�ำดับต้นๆ ส�ำหรับผูท้ ชี่ า่ งเลือกและบรรดา นักออกแบบภายในตามคอนโดหรู รวมถึงโรงแรมและรีสอร์ตต่างๆ ทัว่ โลกทีม่ จี ดุ ขายในเรือ่ งดีไซน์ เฟอร์นเิ จอร์ของเคนคูนนัน้ มีจำ� หน่ายทีโ่ ชว์รมู ในกรุงเทพฯ รวมถึง อีก 18 ประเทศทัว่ โลก อาทิ ออสเตรเลีย อิตาลี ญีป่ นุ่ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา เคนคูนใช้วสั ดุเกรดอุตสาหกรรมในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทแี่ ข็งแกร่งและทนทาน นักออกแบบและช่างฝีมอื ของเคนคูนสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ออกมาได้ตามความ ต้องการของลูกค้า การร่วมมือกันระหว่างนักออกแบบภายใน ผูจ้ ดั การโครงการ และ สถาปนิก ได้กอ่ ให้เกิดผลลัพธ์ทนี่ า่ ทึง่ เช่น โรงแรม W Hotel ในกรุงเทพฯ ฮ่องกง และนิวยอร์ก โรงแรม The Okura Prestige กรุงเทพฯ โรงแรม Hotel Nikko ใน โตเกียว โรงแรม Alila Villa Soori ในบาหลี โรงแรม Intercontinental Dubai รวม ถึงกลุม่ ธุรกิจอืน่ ๆ ทีม่ ชี อื่ เสียงอีกมากมาย ดีไซน์อนั มีเอกลักษณ์ทำ� ให้เคนคูนสามารถกวาดรางวัลจากทัง้ ในและต่างประเทศ นอกจากนีเ้ ฟอร์นเิ จอร์ของเคนคูนยังได้รบั การจัดแสดงตามนิทรรศการต่างๆ ทัว่ โลก เช่น Index Dubai, United และ Maison et Objet ในกรุงปารีส

Metchanun Suensilpong Head of Design Division, Kenkoon


For most of history, Thai designers were restrained by the traditional techniques and creative philosophies of their predecessors. But in recent years, a new wave of creative thinkers has pushed the boundaries of “proper” Thai design to new heights, blending the country’s rich cultural heritage with contemporary techniques from abroad. Established in 2005, renowned furniture brand Mobella has been a key player in this movement. A subsidiary of parent company Pimpen Co., Ltd., Mobella’s collection of contemporary beds, sofas, armchairs, recliners, benches, stools and coffee tables have been enriching the lives of style-conscious homeowners with stunning, innovative designs for years. In 2016, Mobella released a groundbreaking signature collection developed with some of Thailand’s most talented designers, Anuphon Yooyuen and Koi Pariyaporn Thammarungsee, to great acclaim. Their inherently Thai designs are inspired by the weaving techniques used by dessert market merchants to make various containers out of banana leaves. Anupol’s SAISAI, which can be positioned either as a chair or daybed, is an ingenious take on the eponymous dessert. Koi, too, has found a dual function in a couch-meets-foldable-bed design inspired by rolled Thai wafers. Mobella prides itself on designs with style and substance. With a team of consultants and in-house designers, the brand’s creative flair has earned it numerous international design awards. Its unique design aesthetic, craftsmanship and use of high-quality leather and luxurious fabrics have gained the company a reputation for excellence throughout Europe, the Middle East and Japan. International recognition has been achieved with top awards such as the Design Excellence Award, the Good Design Award, and the Prime Minister’s Export Award.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Anupol Yooyuen Design Director, Mobella

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบไทยถูกจ�ำกัดอยู่ ในกรอบของประเพณีที่ถูกก�ำหนดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ บรรดาคลืน่ ลูกใหม่ทเี่ ป็นนักคิดหัวสร้างสรรค์ได้นำ� พางานออกแบบไทยให้กา้ วพ้น ‘ขนบ’ เดิมไปสูม่ ติ ใิ หม่ ผ่านการผสมผสานความรุม่ รวยทางวัฒนธรรมของชาติเข้า กับเทคนิคร่วมสมัยจากต่างประเทศ โดยแบรนด์เฟอร์นเิ จอร์ชอื่ ดังอย่างโมเบลลา ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2548 คือหนึง่ ในผูม้ บี ทบาทส�ำคัญในการเคลือ่ นไหวดังกล่าว ในฐานะบริษทั ย่อยของ บริษทั พิมพ์เพ็ญ จ�ำกัด โมเบลลาได้สร้างสรรค์เฟอร์นเิ จอร์ สไตล์รว่ มสมัยอย่างต่อเนือ่ ง ไม่วา่ จะเป็นเตียง โซฟา เก้าอีน้ วม เก้าอีป้ รับพนักเอน ม้านัง่ เก้าอีส้ ตูล หรือโต๊ะกาแฟ ซึง่ ล้วนสร้างสีสนั ให้กบั ผูอ้ ยูอ่ าศัยทีใ่ ส่ใจในเรือ่ ง ดีไซน์ ด้วยงานออกแบบทีส่ วยและทันสมัย ในปี พ.ศ. 2559 โมเบลลาได้ออกคอลเลคชันที่มีความแหวกแนวและล�้ำสมัย ซึง่ เป็นผลงานร่วมกับนักออกแบบมือทองอย่าง อนุพล อยูย่ นื และ ก้อย ปริยาพร จนได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลาม งานดีไซน์ทมี่ กี ลิน่ อายความเป็นไทยของโมเบลลา นัน้ ได้รบั แรงบันดาลใจมาจากเทคนิคการห่อขนมด้วยใบตองให้เป็นรูปร่างต่างๆ ของ บรรดาพ่อค้าแม่คา้ ชาวไทย ผลงาน ‘ใส่ไส้’ ของอนุพลซึง่ สามารถปรับเป็นได้ทงั้ เก้าอี้ และโซฟากึง่ เตียงนอนนัน้ สามารถน�ำเสนอเอกลักษณ์ของขนมใส่ไส้ออกมาได้อย่าง ชาญฉลาด ขณะทีป่ ริยาพรก็ได้รงั สรรค์เฟอร์นเิ จอร์ทเี่ ป็นได้ทงั้ โซฟาและเตียงพับ โดยได้รบั แรงบันดาลใจมาจากขนมทองม้วน การออกแบบที่มีสไตล์และสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงคือความภาคภูมิใจของ โมเบลลา ด้วยพลังสร้างสรรค์ของทีมที่ปรึกษาและนักออกแบบภายในองค์กร โมเบลลาจึงสามารถคว้ารางวัลด้านการออกแบบจากนานาชาติมาครองได้หลาย รางวัล ชือ่ เสียงของโมเบลลานัน้ เป็นทีก่ ล่าวขานไปทัว่ ทัง้ ยุโรป ตะวันออกกลาง และ ญีป่ นุ่ เนือ่ งด้วยความสวยงามทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ งานฝีมอื อันประณีต และการเลือก ใช้หนังและผ้าคุณภาพสูง โมเบลลานัน้ ได้รบั การยอมรับในระดับสากลโดยมีรางวัล ต่างๆ เป็นเครือ่ งการันตี เช่น รางวัล Design Excellence Award (DEmark) รางวัล Good Design Award (G Mark) และรางวัลผูส้ ง่ ออกสินค้าและบริการดีเด่น

106 | 107


One of the most difficult parts of starting any new business is deciding on a name. While most find this a tedious, almost agonizing process, it wasn’t a difficult decision for designer Supriya Kulthaveesup and her husband, Anek. When they founded their own company in 2005 the answer was simple and clear, they would name the business after their favorite breed of dog, the ever-reliable Labrador. Today, the Labrador brand is revered in Thailand for its high-end stationery products and environmentally conscious production methods. From an eco-friendly factory designed with a water treatment system, natural light and ventilation and low heat transmissibility, to developing its own leather tanning and production process to minimize the use of chemicals, Labrador has a loyal clientele who appreciate the company’s sustainable and responsible business model. Reinforcing its environmental stance, Labrador ensures that its products are durable and easily recyclable. It even offers a service to repair its goods. The brand’s design philosophy follows three keywords: simplicity, creativity and green awareness. All Labrador products are designed to enhance modern living. The company manufactures a wide range of stylish leather goods including backpacks, tote bags, laptop and travel cases, camera straps and more. Handmade by skilled craftsmen, Labrador’s distinctly contemporary take on the traditional art of leather work has proved extremely popular in Thailand and with international markets. Labrador’s innovative products have showcased at international fairs including Maison et Objet in Paris, and Paperworld in Germany, and the company now has distributors throughout Europe, Hong Kong, India, Japan, Singapore and Taiwan. Despite their success, Supreeya and Anek do not rest on their laurels. They strive to keep Labrador fresh and exciting by adding new products to the catalogue every six months. Anek Kulthaveesup, Supreeya Kulthaveesup Design Director, Director, Labrador

Following the success of Labrador leather goods, Supreeya and Anek are launching three more labels, each guided by the same underlying philosophy of simplicity, creativity and green awareness. Relabrador offers stationery items made from recycled leather while Labrador Paper provides a selection of refill paper, notebooks and envelopes, and the Zonn labels includes a collection of eye-catching wallets, folders and travel cases made from lightweight, waterproof materials. Labrador opened its flagship retail outlet in Bangkok’s Terminal 21 shopping mall, and now has shops in Central Embassy and Siam Square One. Each store has created a warm and welcoming interior using natural timber for floors, walls and shelving to display the products. With striking minimalist designs and impressive green credentials, Labrador is a unique lifestyle brand for today’s caring consumers.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


เจ้าของธุรกิจหลายๆ คนอาจมองว่าการตั้งชื่อแบรนด์ถือเป็นหนึ่งในงานที่ยาก ใช้เวลา และเป็นเรือ่ งน่าปวดหัว กระนัน้ ส�ำหรับคูส่ ามีภรรยานักออกแบบอย่างเอนก และสุปรียา กุลทวีทรัพย์ การตัดสินใจดังกล่าวกลับไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อเริ่ม ก่อตัง้ บริษทั ของตัวเองในปี พ.ศ. 2548 ทัง้ คูก่ ม็ คี ำ� ตอบอยูใ่ นใจเป็นทีเ่ รียบร้อย โดย ได้ตงั้ ชือ่ บริษทั ตามสุนขั พันธุโ์ ปรดของตนอย่าง ‘ลาบราดอร์’ ทุกวันนี้ลาบราดอร์เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคในฐานะผู้ผลิตเครื่องเขียนระดับ ไฮเอนด์ซงึ่ ใช้วธิ กี ารผลิตทีค่ ำ� นึงถึงสิง่ แวดล้อม นับตัง้ แต่การติดตัง้ ระบบบ�ำบัดน�ำ้ เสียและระบบระบายอากาศ การออกแบบโรงงานให้สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี และการใช้แสงธรรมชาติ ไปจนถึงการพัฒนาเทคนิคการฟอกหนังและกระบวนการ ผลิตเพือ่ ลดการใช้สารเคมีให้เหลือน้อยทีส่ ดุ ด้วยเหตุนี้ ลาบราดอร์จงึ ได้รบั ความ สนับสนุนจากลูกค้าทีเ่ ห็นชอบกับการสร้างโมเดลธุรกิจทีย่ งั่ ยืนและรับผิดชอบต่อ สังคม เพือ่ ตอกย�ำ้ จุดยืนของบริษทั ในเรือ่ งการอนุรกั ษ์สง่ิ แวดล้อม ผลิตภัณฑ์ของ ลาบราดอร์จึงได้รับการออกแบบให้มีความทนทานและสามารถน�ำไปรีไซเคิลได้ นอกจากนี้ ทางบริษทั ยังมีบริการซ่อมสินค้าให้กบั ลูกค้าอีกด้วย ปรัชญาการออกแบบของลาบราดอร์นั้นตั้งอยู่บนหลักการส�ำคัญ 3 ข้อคือ ความเรียบง่าย ความคิดสร้างสรรค์ และความตระหนักด้านสิง่ แวดล้อม ผลิตภัณฑ์ ของลาบราดอร์ทุกชิ้นถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ลาบราดอร์ได้สร้างสรรค์สินค้าเครื่องหนังดีไซน์เก๋ อาทิ กระเป๋าเป้ กระเป๋าผ้า กระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์ กระเป๋าเดินทาง และสายคล้องกล้อง โดยทุกชิ้นได้รับ การผลิตขึน้ ด้วยฝีมอื ของช่างผูเ้ ชีย่ วชาญ ซึง่ เป็นการประยุกต์ศาสตร์การออกแบบ เครือ่ งหนังจนได้เป็นสไตล์ทมี่ เี อกลักษณ์เฉพาะของลาบราดอร์ ซึง่ ได้รบั ความนิยม เป็นอย่างมากทัง้ ในและต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ของลาบราดอร์ถูกน�ำไปจัดแสดงในงานแสดงสินค้านานาชาติอย่าง Maison et Objet ในปารีส และ Paperworld ในประเทศเยอรมนี ขณะนีล้ าบราดอร์ มีตัวแทนจ�ำหน่ายทั้งในยุโรป ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไต้หวัน แม้แบรนด์ลาบราดอร์จะประสบความส�ำเร็จอย่างล้นหลาม แต่สุปรียาและเอนก

ก็ไม่เคยหยุดเดินหน้าพัฒนา สองสามีภรรยานักออกแบบยังคงมุง่ มัน่ สร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทุก 6 เดือนเพือ่ ให้แบรนด์ลาบราดอร์ยงั คงความสดใหม่และน่า สนใจอยูเ่ สมอ ต่อเนือ่ งจากความส�ำเร็จของแบรนด์เครือ่ งหนังอย่างลาบราดอร์ สุปรียาและเอนก ได้เปิดตัวแบรนด์อนื่ ๆ เพิม่ เติม ได้แก่ รีลาบราดอร์ (Relabrador) แบรนด์เครือ่ ง เขียนจากวัสดุหนังรีไซเคิล ลาบราดอร์ เปเปอร์ (Labrador Paper) แบรนด์จำ� หน่าย ผลิตภัณฑ์อย่างกระดาษรีฟลิ สมุด และซองจดหมาย รวมถึงแบรนด์ ซน (Zonn) ซึง่ ผลิตและจ�ำหน่ายกระเป๋าสตางค์ แฟ้ม และกระเป๋าเดินทางทีท่ ำ� จากวัสดุกนั น�ำ้ และมีน�้ำหนักเบา โดยทั้ง 3 แบรนด์ยังคงด�ำเนินการภายใต้ปรัชญาของความ เรียบง่าย ความคิดสร้างสรรค์ และความตระหนักด้านสิง่ แวดล้อม สาขาใหญ่ของลาบราดอร์ตงั้ อยูท่ หี่ า้ งสรรพสินค้าเทอร์มนิ ลั 21 ในกรุงเทพฯ รวมทัง้ ยังมีสาขาทีเ่ ซ็นทรัลเอมบาสซีและสยามสแควร์วนั ร้านแต่ละแห่งของลาบราดอร์นนั้ ตกแต่งโดยใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง หรือชั้นวางสินค้า จึงให้ บรรยากาศอบอุน่ และเป็นมิตร ทัง้ นี้ ด้วยดีไซน์แบบมินมิ ลั และชือ่ เสียงทีส่ งั่ สมมา ในฐานะแบรนด์สเี ขียว ลาบราดอร์จงึ กลายเป็นแบรนด์สนิ ค้าไลฟ์สไตล์ทนี่ า่ จับตา มองส�ำหรับลูกค้ายุคใหม่ผใู้ ส่ใจในสิง่ แวดล้อม 108 | 109


It’s impossible to talk about the history of Thai design without mentioning teakwood buildings and furniture. Native to Southeast Asia, you will find this beautiful and resilient material in many of the country’s Buddhist temples, furniture pieces and works of art. The wood’s durability and beauty make it a top choice for designers all over the world and an essential material in the Thai design canon. Locally, furniture brand Deesawat is one of Thailand’s leading premium fur niture manufacturers specializing in teakwood products. The company is helmed by secondgeneration CEO Jirachai Tangkijngamvong, who continues to build on the company’s 45-yearold legacy as a premium-quality furniture manufacturer. Established by Jirachai’s father in 1972, today Deesawat has a reputation for elegance and minimalism, with collections that include indoor and outdoor furniture and flooring, expertly designed and meticulously finished to reflect the company motto, “Where Quality Comes Naturally”. D e e s a w a t ’s e x c e p t i o n a l d e s i g n t e a m includes Atsushi Koike, winner of the DEMark Award, Nakarin Kamseela, runner-up in the Gift and Home Decorative Design Awards, and the CEO himself, also a winner of the DEMark Award. These young and inspired Thai designers often combine traditional teakwood with modern materials such as aluminum and stainless steel to showcase a new modern Thai aesthetic. Each piece of Deesawat furniture is the perfect balance of beautiful design and functionality —a combination that elicits an emotional response from the people that use them. Young and dynamic, Deesawat achieves design excellence and a high-quality finish to every piece of Thai teakwood furniture.

คงเป็นการยากทีจ่ ะพูดถึงประวัตศิ าสตร์การออกแบบ ของไทย โดยไม่เอ่ยถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ไม้ที่มี ต้นก�ำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชนิดนีเ้ ป็นวัสดุที่ สามารถพบเห็นได้ทวั่ ไปตามวัดวาอาราม รวมทัง้ ใช้เป็น วัสดุส�ำหรับเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะ คุณสมบัติที่ ทนทานและความสวยงามท�ำให้ไม้สักเป็นตัวเลือก อันดับต้นๆ ของนักออกแบบทัว่ โลก และเป็นหัวใจใน อุตสาหกรรมการออกแบบของไทย ดีสวัสดิ์คือหนึ่งในผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม ชัน้ แนวหน้าของไทย ซึง่ เชีย่ วชาญในเรือ่ งของผลิตภัณฑ์ ทีท่ ำ� จากไม้สกั ขณะนีบ้ ริษทั อยูภ่ ายใต้การบริหารงาน ของทายาทรุน่ ที่ 2 อย่างจิรชัย ตัง้ กิจงามวงศ์ ซึง่ ยังคง เดินหน้าสัง่ สมชือ่ เสียงของบริษทั ทีเ่ ปิดด�ำเนินการมา แล้วกว่า 45 ปี ในฐานะผูผ้ ลิตเฟอร์นเิ จอร์คณ ุ ภาพ พรีเมียม ดีสวัสดิก์ อ่ ตัง้ โดยบิดาของจิรชัยในปี พ.ศ. 2515 ซึง่ เป็นแบรนด์ทข่ี นึ้ ชือ่ ในเรือ่ งของความสง่างาม และเรียบง่าย โดยจ�ำหน่ายตัง้ แต่เฟอร์นเิ จอร์สำ� หรับ ภายในและนอกอาคารไปจนถึงวัสดุปูพื้น ซึ่งแต่ละ ชิน้ ล้วนได้รบั การออกแบบโดยผูเ้ ชีย่ วชาญ เพือ่ ให้ได้ ออกมาเป็นผลลัพธ์อนั สมบูรณ์แบบ สะท้อนค�ำขวัญ ของบริษทั ทีว่ า่ “ทีซ่ งึ่ คุณภาพเกิดขึน้ โดยธรรมชาติ” ทีมออกแบบมือฉมังของดีสวัสดิ์ ประกอบด้วย อัตสึชิ โคอิเคะ เจ้าของรางวัล Design Exllence Award (DEMark) นครินทร์ ค�ำสีลา เจ้าของรางวัลรอง ชนะเลิศ Gift and Home Decorative Design Award และแม้กระทัง่ ตัวจิรชัยเอง ก็เคยได้รบั รางวัล DEmark มาแล้วเช่นกัน นักออกแบบรุน่ ใหม่ไฟแรงเหล่านีม้ กั ผสมผสานงานไม้สักแบบดั้งเดิมเข้ากับวัสดุสมัยใหม่ เช่น อลูมเิ นียมและสแตนเลสสตีล เพือ่ ถ่ายทอดความ งามแบบไทยร่วมสมัย ในฐานะแบรนด์ที่มีความสดใหม่และไม่เคยหยุดนิ่ง ดีสวัสดิจ์ งึ ได้สร้างสรรค์เฟอร์นเิ จอร์ซงึ่ เป็นส่วนผสมอัน ลงตัวระหว่างดีไซน์ที่สวยงามและประโยชน์ใช้สอย ท�ำให้งานไม้สกั ไทยของดีสวัสดิท์ กุ ชิน้ เป็นทีช่ นื่ ชอบของ ผูบ้ ริโภค รวมทัง้ มีความยอดเยีย่ มทัง้ ในแง่ดไี ซน์และ คุณภาพของตัวผลิตภัณฑ์

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


There was a time when Thai-made products were considered inferior to their European or American counterparts. But that stigma has slowly faded over the years thanks in large part to a handful of determined Thai brands that have made it their mission to prove Thai-made products can indeed shine on the international stage. One of those companies is Bathroom Design i-Spa, which has made establishing Thailand as a home for quality, innovative products one of its core business values. The brand has transformed the simple pleasure of a bath or shower at home into a luxurious sensory experience. And the world is taking notice. Renowned for innovative designs, technical expertise, using the latest materials, and high standards of production, Bathroom Design i-Spa was the first Asian bathroom ware brand to win major international awards, including numerous prestigious Red Dot Design Awards. Bathroom Design i-Spa is a brand of the Bathroom Design Company, designers and manufacturers of high-quality bathtubs, ceramic sanitary ware, shower enclosures, massage and shower panels, and bathroom accessories. The company believes its talented Thai design and manufacturing team is one of the best in the world and capable of ensuring Bathroom Design i-Spa becomes a global brand name synonymous with high-quality sanitary ware. In particular, Bathroom Design i-Spa is rolling out major technical innovations, such as the intelligent bathtub control systems known as i-Touch, S-Spa and i-Spa, i-Command, an intelligent water fill and auto stop command activated via mobile phone, and i-Aroma, an intelligent scented mist moisturizer. Bathroom Design Company is committed to good governance, encourages personal development among its employees and endeavors to minimize the company’s impact on the environment with good waste management practices. Bathroom Design i-Spa products are available at 200 outlets throughout Thailand and 30 countries in Asia, the Middle East and Europe.

ครัง้ หนึง่ ผลิตภัณฑ์ทผี่ ลิตโดยคนไทยเคยถูกมองว่ามีคณ ุ ภาพด้อยกว่าผลิตภัณฑ์จาก ยุโรปหรืออเมริกา แต่คำ� ครหาก็คอ่ ยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา ทัง้ นี้ ต้องยกความ ดีความชอบให้กบั เหล่าแบรนด์ไทยทีม่ งุ่ มัน่ พิสจู น์ตวั เองให้โลกเห็นว่าผลิตภัณฑ์ของ ไทยก็สามารถเฉิดฉายบนเวทีโลกได้เช่นกัน หนึ่งในบริษัทดังกล่าวคือบาธรูมดีไซน์ ไอ-สปา แบรนด์ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันให้ ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมและสินค้าคุณภาพทีช่ ว่ ยเพิม่ มูลค่าให้กบั ธุรกิจได้อย่างมีนยั ส�ำคัญ บาธรูมดีไซน์ ไอ-สปาได้ยกระดับการอาบน�ำ้ ธรรมดาให้ กลายเป็นประสบการณ์ทเี่ ปีย่ มไปด้วยสัมผัสของความหรูหราจนกลายเป็นทีป่ ระจักษ์ บาธรูมดีไซน์ ไอ-สปาขึน้ ชือ่ ในเรือ่ งดีไซน์ทลี่ ำ�้ สมัย ความเชีย่ วชาญในด้านเทคนิค การเลือกใช้วสั ดุทที่ นั สมัย และมาตรฐานในการผลิต บาธรูมดีไซน์ ไอ-สปา จึงเป็น แบรนด์สขุ ภัณฑ์เจ้าแรกในเอเชียทีส่ ามารถกวาดรางวัลใหญ่ๆ ในระดับสากลมาครอง รวมถึงรางวัล Red Dot Design Awards อันทรงเกียรติ บาธรูมดีไซน์ ไอ-สปา เป็นหนึง่ ในแบรนด์ภายใต้บริษทั บาธรูม ดีไซน์ ผูอ้ อกแบบ และผลิตอ่างอาบน�ำ้ สุขภัณฑ์เซรามิก ม่านบังอาบน�ำ้ ห้องนวดและห้องอาบน�ำ้ รวม ถึงสิ่งของเครื่องใช้ในห้องน�้ำคุณภาพสูง ทีมออกแบบและผลิตของบาธรูมดีไซน์ ไอ-สปา ประเทศไทย คือหนึง่ ในทีมฝีมอื ฉกาจผูส้ ามารถผลักดันให้ บาธรูมดีไซน์ ไอ-สปา กลายเป็นแบรนด์สขุ ภัณฑ์คณ ุ ภาพระดับโลกได้สำ� เร็จ เคล็ดลับความส�ำเร็จของบาธรูมดีไซน์ ไอ-สปา อยูท่ กี่ ารใช้นวัตกรรมเพือ่ ท�ำให้การ อาบน�้ำสนุกกว่าที่เคย เช่น ระบบควบคุมอ่างอาบน�้ำอัจฉริยะ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ไอ-ทัช (I-Touch) เอส-สปา (S-Spa) และ ไอ-สปา (I-Spa) รวมถึง ไอ-คอมมานด์ (I-Command) ระบบควบคุมการเปิดปิดน�้ำอัจฉริยะผ่านโทรศัพท์มือถือ และ ไอ-อโรมา (I-Aroma) เครือ่ งพ่นไอน�ำ้ อโรม่าอัจฉริยะ บริษทั บาธรูมดีไซน์ ไอ-สปา ยึดมัน่ ในหลักธรรมาภิบาล พร้อมทัง้ ส่งเสริมด้านการ พัฒนาศักยภาพของบุคลากร และพยายามลดผลกระทบจากการด�ำเนินงานของ บริษทั ทีม่ ตี อ่ สิง่ แวดล้อมผ่านการใช้ระบบก�ำจัดขยะทีม่ ปี ระสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์ของ บาธรูมดีไซน์ ไอ-สปามีจำ� หน่ายในกว่า 200 ร้านค้าทัว่ ประเทศและอีก 30 ประเทศ ในเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป 110 | 111


Founded in 1995, Performax Co. Ltd. is a leading manufacturer of household furniture made from water hyacinth, a fast-growing tropical water plant that causes environmental problems by blocking waterways. Water hyacinth are strong, durable and can be woven to create elegant furniture which retains the plant’s natural beauty. The Performax water hyacinth collection includes contemporary furniture for living rooms, bedrooms, and dining rooms, and is sold in more than 30 countries. In 2010, Performax introduced a new range of furniture made from bamboo. This abundant, sustainable and extremely strong material is used in a wide variety of bold, modern designs which are not typically associated with bamboo. The range includes sofas and armchair sets, beds, coffee tables and decorative items such as lamps. Designers and craftsmen at Performax continue to experiment and innovate. Each year, the company releases a new collection of stylish modern furniture for consumers who cherish the simplicity and natural beauty of water hyacinth and bamboo. Performax is the recipient of many international design awards, including the G Mark Good Design Award from the Japan Industrial Design Promotion Organization (JDP), the DEmark Award and the Eco Design Award.

บริษทั เพอร์ฟอร์แมกซ์ จ�ำกัด ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2538 คือผูผ้ ลิตเฟอร์นเิ จอร์สำ� หรับครัวเรือนชัน้ น�ำจาก ผักตบชวา ซึ่งเป็นพืชน�้ำเมืองร้อนที่แพร่พันธุ์อย่าง รวดเร็วและสร้างปัญหาทางสิง่ แวดล้อม เนือ่ งจากเข้าไป อุดตันทางน�้ำไหลของแม่น�้ำล�ำคลอง เส้นใยของผัก ตบชวานัน้ มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถน�ำไป สานเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สวยและยังคงความงามแบบ ธรรมชาติไว้ ในบรรดาเฟอร์นิเจอร์ผักตบชวาของ เพอร์ฟอร์แมกซ์ประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ ร่วมสมัยส�ำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้อง รับประทานอาหาร โดยมีวางจ�ำหน่ายในกว่า 30 ประเทศ ทัว่ โลก ในปี พ.ศ. 2553 เพอร์ฟอร์แมกซ์ได้เปิดตัว เฟอร์นเิ จอร์คอลเลคชันใหม่ทผี่ ลิตจากไม้ไผ่ วัสดุทมี่ ี ความทนทานและยัง่ ยืนชนิดนี้ สามารถพบได้มากใน ไทยและถูกน�ำไปใช้ในงานออกแบบสไตล์โมเดิร์นที่มี ความฉูดฉาด ต่างจากภาพลักษณ์โดยทัว่ ไปของไม้ไผ่ เฟอร์นเิ จอร์ไม้ไผ่ของเพอร์ฟอร์แมกซ์ประกอบด้วยทัง้ โซฟา ชุดเก้าอีน้ วม เตียงนอน โต๊ะกาแฟ และของตกแต่ง ห้องต่างๆ อาทิ โคมไฟ นั ก ออกแบบและช่ า งฝี มื อ ของเพอร์ ฟ อร์ แ มกซ์ ไม่เคยหยุดทดลองและคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ในแต่ละปี เพอร์ฟอร์แมกซ์จะเปิดตัวคอลเลคชันสไตล์โมเดิรน์ ซึง่ เหมาะส�ำหรับลูกค้าทีช่ นื่ ชอบความเรียบง่ายและความ สวยงามตามธรรมชาติของผักตบชวาและไม้ไผ่ เพอร์ฟอร์แมกซ์คว้ารางวัลด้านการออกแบบในระดับ นานาชาติมาครองมากมาย อาทิ รางวัล Good Design Award (G Mark) จากองค์การส่งเสริมการออกแบบ ทางอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (JDP) รางวัล Design Excellence Award (DEmark) จากกรมส่งเสริม การค้าระหว่างประเทศ และรางวัล Eco Design Award

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Established in 2006, Meepiyaboon Company Limited designs and manufactures wooden furniture for the domestic and international market under the Oggi brand. Oggi is renowned for simple yet elegant products that emphasize the natural beauty of unbleached wood. With a high-quality finish and a reasonable price, the compact designs are perfect for modern lifestyles where space is limited. Designs such as the Mali collection, an outdoor table and chairs set inspired by Phu Luang jasmine, combine warm colors with comfort and craftsmanship. It’s a perfect example of Oggi’s ability to mix Scandinavian minimalism with a distinctly Thai influence. Other products include the Dim Console storage unit, and the Off the Floor Bike Storage Rack, which won the DEmark Award for Design Excellence. Oggi furniture also won the G Mark Good Design Award from the Japan Industrial Design Promotion Organization (JDP) and the Prime Minister’s Export Award presented by the Thailand Ministry of Commerce. The latest designs can be viewed at Oggi House in Bangkok, a showcase for its contemporary furniture collection.

บริษทั มีปยิ บุญ จ�ำกัด ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ เมือ่ ปี พ.ศ. 2549 คือผูอ้ อกแบบและผลิตเฟอร์นเิ จอร์ เพือ่ จัดจ�ำหน่ายทัง้ ในและต่างประเทศ ภายใต้ชอื่ แบรนด์อกจิ แบรนด์อกจิขึ้นชื่อในเรื่องดีไซน์ท่ีเรียบหรูมีระดับ โดยเน้นความงามในแบบธรรมชาติของไม้ที่ไม่ผ่าน การย้อมสี ด้วยงานฝีมอื คุณภาพบวกกับราคาทีส่ มเหตุ สมผล ผลงานออกแบบดีไซน์กะทัดรัดของอกจิจึง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่มีพื้นที่ใช้สอย จ�ำกัด หนึง่ ในผลงานออกแบบของอกจิอย่างคอลเลคชัน ‘มะลิ’ คือชุดโต๊ะและเก้าอีส้ นามทีไ่ ด้รบั แรงบันดาลใจ จากมะลิภูหลวง ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสี โทนร้อน ทักษะงานฝีมือ และความสะดวกสบาย เข้าด้วยกัน คอลเลคชันดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความ สามารถของอกจิในการสอดแทรกความมินมิ ลั ในแบบ สแกนดิเนเวียเข้ากับเอกลักษณ์ของไทยได้อย่างลงตัว ผลิตภัณฑ์อนื่ ๆ ของอกจินนั้ ได้แก่ ตูเ้ ก็บของ Dim Console และชัน้ วางของ Off the Floor Bike Storage Rack ซึง่ เป็นผลงานทีไ่ ด้รบั รางวัล Design Excellence Award (DEmark) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนีเ้ ฟอร์นเิ จอร์ของอกจิยงั สามารถคว้ารางวัล Good Design Award (G Mark) จากองค์การส่งเสริม การออกแบบทางอุ ต สาหกรรมแห่ ง ประเทศญี่ ปุ ่ น (JDP) และรางวัลผูผ้ ลิตและส่งออกดีเด่นจากกระทรวง พาณิชย์ ผูท้ สี่ นใจสามารถเข้าไปชมผลงานล่าสุดของ อกจิได้ที่ Oggi House ในกรุงเทพมหานคร ซึง่ เป็นพืน้ ที่ จัดแสดงคอลเลคชันเฟอร์นเิ จอร์รว่ มสมัยของอกจิ

112 | 113


Crafactor was born out of the imagination and experience of one of Thailand’s most celebrated designers, Eggarat Wongcharit. Drawing on his rich life experiences and art education in Milan and New York, Eggarat returned to Thailand in 2002 to establish his own studio as well as a furniture and home accessories brand, Crafactor, and start exporting furniture and home accessories that express Thai design attitude to global market. Eggarat’s design team and artisans combine a love of local materials and the essence of Thai aesthetics with modern production methods to create artistic and often dramatic furniture. Constantly evolving, the collection includes limited edition pieces, chairs, sofas, benches, chaise lounges, Ottomans and coffee tables. Crafactor furniture has been purchased by high profile clients around the world and used by interior designers for luxury hotels and resorts. Many Crafactor designs have won awards, including the DEMark Award for its Sputnik chair, Designer of the Year for the Fiori table and Elle Décor Magazine Award 2005 Best Furniture Award for the Guadi chair, to name a few. Eggarat himself was also presented with an Honor Award for Lifetime Achievement by Silpakorn University in Bangkok.

คราฟท์แฟคเตอร์ถอื ก�ำเนิดขึน้ จากจินตนาการและประสบการณ์ของนักออกแบบ มากฝีมอื ซึง่ ได้รบั การยอมรับมากทีส่ ดุ รายหนึง่ ของไทยอย่าง เอกรัตน์ วงษ์จริต หลัง เดินทางกลับเมืองไทยในปี พ.ศ. 2545 เอกรัตน์ได้ดงึ เอาประสบการณ์ผา่ นร้อนผ่าน หนาวของตัวเองและความรูด้ า้ นการออกแบบทีต่ นได้รำ�่ เรียนจากมิลานและนิวยอร์ก มาใช้ในการก่อตั้งแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในชื่อ คราฟท์แฟคเตอร์ ซึง่ สามารถสะท้อนกลิน่ อายความเป็นไทยให้โลกเห็น ทีมออกแบบและช่างฝีมอื ของ เอกรัตน์ได้ผสมผสานความหลงใหลในวัตถุดบิ ท้องถิน่ เข้ากับแก่นความงามแบบไทย ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย จนได้ผลลัพธ์เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีความสวยงาม ตระการตาราวกับงานศิลปะ

Eggarat Wongcharit Design Director, Crafactor

คราฟท์แฟคเตอร์ได้เดินหน้าพัฒนาสินค้าของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง อาทิ เก้าอี้ เก้าอีน้ วม โซฟา ม้านัง่ เก้าอีอ้ อตโตมัน โต๊ะกาแฟ และสินค้าคอลเลคชันพิเศษซึง่ ผลิตในจ�ำนวนจ�ำกัด เฟอร์นเิ จอร์ของคราฟท์แฟคเตอร์ได้รบั การจ�ำหน่ายไปทัว่ โลก ให้กบั ลูกค้ารายใหญ่และยังเป็นแบรนด์ทนี่ กั ออกแบบภายในของโรงแรมและรีสอร์ต หรูหลายแห่งเลือกใช้ ผลงานออกแบบของคราฟท์แฟคเตอร์นนั้ ชนะรางวัลต่างๆ อาทิ รางวัล Design and Excellence Award (DEMark) จากผลงาน Sputnik Chair รางวัล Designer of the Year for Fiori Table รางวัล Elle Décor Magazine Award ประจ� ำ ปี พ.ศ. 2546 รางวั ล Best Furniture Award จาก ผลงาน Guadi Chair ขณะทีเ่ อกรัตน์เองก็ได้คว้ารางวัล Honor Award for Lifetime Achievement จากมหาวิทยาลัยศิลปากรมาครองเช่นกัน

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


While Thailand’s traditional craftsmen and women have always enjoyed a great reputation for their excellent artistry and technique, they often struggle, like many other skilled workers, with changing times. Fastpaced modern lifestyles change rapidly from one year to the next, and those with backgrounds in more traditional arts can struggle to adapt to changing consumer needs. Headed by Suwan Kongkhunthian, designer furniture brand Yothaka aims to change this. Suwan was one of the first designers in Thailand to implement environmentally-friendly materials like water hyacinth into furniture design. Considered an invasive nuisance, the floating plant can clog waterways and cause flooding across Thailand’s countryside. Collecting it is therefore not only free (save for the labor costs) but also serves to maintain canals and rivers. Since 1989, Yothaka has provided secure employment and training for local craftsmen to ensure they can adapt to contemporary trends. The brand combines traditional craft skill and modern designs to produce beautiful, contemporary pieces. Today, the dynamic company employs more than 180 designers and craftsmen who produce a collection of Asian-inspired furniture and accessories using other eco-friendly materials such as water hyacinth, wicker, rattan and yan lipao fern vines, which grow abundantly in Southern Thailand. Yothaka has also extended its eco-friendly range to include semi-outdoor furniture made from recycled plastics woven for a natural look onto a rattan frame. The innovative company also uses pineapple fiber paper that was first developed in Thailand. Under Yothaka, locally grown and processed eco-friendly materials come together to great effect in a series of colorful chairs, stools and benches. A bouquet of awards includes the prestigious G Mark Award from the Japan Institute of Design Promotion and the Design Excellence Award from the Department of Export Promotion.

แม้ช่างฝีมือของไทยจะได้รับการยกย่องในเรื่องความมีหัวศิลป์และเทคนิคอัน ยอดเยีย่ ม แต่สงิ่ ทีต่ อ้ งเผชิญคือการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย วิถชี วี ติ ทีต่ อ้ งแข่งกับ เวลาในยุคสมัยทีท่ กุ สิง่ ทุกอย่างเปลีย่ นแปลงไปอย่างรวดเร็วนัน้ ท�ำให้ผทู้ คี่ ลุกคลีอยู่ ในแวดวงศิลปะไทยโบราณอาจต้องดิ้นรนเพื่อปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของ ผูบ้ ริโภค ทว่าแบรนด์ผอู้ อกแบบเฟอร์นเิ จอร์อย่าง โยธกา ซึง่ น�ำโดยสุวรรณ คงขุนเทียน พยายามจะเปลีย่ นความคิดดังกล่าว สุวรรณคือหนึง่ ในนักออกแบบรายแรกๆ ของ ไทยที่น�ำวัสดุท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างผักตบชวาเข้ามาใช้ในการออกแบบ เฟอร์นเิ จอร์ โดยวัชพืชชนิดนีม้ ักเข้าไปอุดตันทางระบายน�ำ้ จนเป็นสาเหตุให้เกิด อุทกภัยในพืน้ ทีช่ นบทของไทย ดังนัน้ การเก็บผักตบชวามาใช้จงึ ไม่เพียงแต่ประหยัด ค่าใช้จา่ ยเท่านัน้ (ยกเว้นค่าจ้างแรงงาน) แต่ยงั เป็นการช่วยรักษาความสะอาดของ แม่นำ�้ ล�ำคลองอีกด้วย นับตัง้ แต่กอ่ ตัง้ แบรนด์ขนึ้ ในปี พ.ศ. 2532 โยธกาได้วา่ จ้างและจัดหลักสูตรการ อบรมแก่ช่างฝีมือในท้องถิ่นเพื่อให้พวกเขาสามารถปรับตัวได้ทันต่อกระแสความ นิยมในแต่ละยุคสมัย ทักษะงานฝีมอื แบบดัง้ เดิมและการออกแบบสไตล์โมเดิรน์ ถูก น�ำมาผสมผสานกันเพือ่ สร้างสรรค์เป็นงานออกแบบทีส่ วยและทันสมัย ในปัจจุบนั บริษทั ทีเ่ ปีย่ มด้วยวิสยั ทัศน์แห่งนีม้ นี กั ออกแบบและช่างฝีมอื รวมทัง้ สิน้ 180 ชีวติ ซึง่ บุคคลเหล่านีท้ ำ� หน้าทีผ่ ลิตเฟอร์นเิ จอร์และของแต่งบ้านทีไ่ ด้แรงบันดาลใจจาก วัฒนธรรมในเอเชีย โดยใช้วสั ดุทเี่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม เช่น ผักตบชวา หวาย และย่านลิเภา ซึง่ พบได้มากทางบริเวณภาคใต้ของไทย นอกจากนี้ โยธกายังได้ขยายสายการผลิตส�ำหรับผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ไปยังกลุม่ ผลิตภัณฑ์เฟอร์นเิ จอร์กงึ่ เอาท์ดอร์ทที่ ำ� จากเส้นใยพลาสติกรีไซเคิลและน�ำ ไปสานบนโครงหวายเพือ่ ให้ดมู คี วามเป็นธรรมชาติ บริษทั ใช้กระดาษใยสับปะรดซึง่ ถูกพัฒนาขึน้ ในไทยเป็นทีแ่ รก รวมถึงวัสดุอนื่ ๆ ทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมซึง่ ปลูก และแปรรูปในท้องถิน่ ส�ำหรับการผลิตเก้าอี้ เก้าอีส้ ตูล และม้านัง่ สีสนั สดใส รางวัล อันทรงเกียรติทโี่ ยธกาเคยได้รบั นัน้ ได้แก่ รางวัล Good Design Award (G Mark) จากสถาบันส่งเสริมการออกแบบทางอุตสาหกรรมแห่งประเทศญีป่ นุ่ และรางวัล Design Excellence Award (DEmark) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 114 | 115


Hawaii Thai began making rattan furniture in 1956. Following a shortage of rattan in the 1980s, the company developed Durawera synthetic wicker and rattan. The material overcame the limitations of natural materials by offering better durability both indoors and outdoors. Durawera is an exclusive patent of Hawaii Thai. Furniture made with the material is ideal for all-weather and UV-resistant, strong and durable, has a natural feel, and is easy to clean and care for. Durawera can also be recycled. The synthetic wicker cords are woven with great care by skilled craftsmen and women in a wide range of contemporary furniture styles and functions. Hawaii Thai synthetic rattan furniture is ideal for use in homes and gardens, as well as resorts and swimming pool areas. Just look at its list of clients. The company has collaborated with more than 2,000 projects worldwide, which includes Wynn hotels in Las Vegas and Macau, and Hilton Pattaya. H a w a i i T ha i fur ni ture ha s be e n a w a rde d t h e G M ar k G o o d Design Award from the Japan Institute of Design Promotion, and the DEMark Award for Design Excellence. It has achieved ISO 9001:2008 certification for its consistency of product quality and high level of customer service.

ฮาวายไทยเริ่มต้นผลิตเฟอร์นิเจอร์จากหวายในปี พ.ศ. 2499 หลังเกิดภาวะ ขาดแคลนหวายในช่วงทศวรรศที่ 80s ฮาวายไทยจึงได้คดิ ค้นหวายเทียมสังเคราะห์ ยีห่ อ้ ดูราเวร่า (Durawera®) ขึน้ โดยวัสดุดงั กล่าวช่วยให้ฮาวายไทยสามารถเอาชนะ ขีดจ�ำกัดของวัสดุธรรมชาติได้เนือ่ งจากมีคณ ุ สมบัตทิ ที่ นทานกว่า หวายสังเคราะห์ ดูราเวร่าเป็นลิขสิทธิเ์ ฉพาะของฮาวายไทย เฟอร์นเิ จอร์ทผี่ ลิตขึน้ จากวัสดุของฮาวาย ไทยนัน้ เหมาะสมกับการใช้งานทัง้ ภายในและนอกอาคาร ทนต่อทุกสภาพอากาศ และรังสียูวี หวายสังเคราะห์ดูราเวร่าให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติและดูแลท�ำความ สะอาดง่าย อีกทัง้ ยังสามารถน�ำไปรีไซเคิลได้อกี ด้วย เส้นหวายเทียมดูราเวร่าได้รบั การสานอย่างบรรจงด้วยช่างฝีมอื ผูช้ ำ� นาญ จนเกิดเป็น เฟอร์นเิ จอร์รว่ มสมัยหลากสไตล์และมีประโยชน์ใช้สอยครบครัน เฟอร์นเิ จอร์หวาย เทียมของฮาวายไทยเหมาะส�ำหรับการใช้งานทัง้ ภายในและนอกอาคาร รวมถึงตาม รีสอร์ตและสระว่ายน�ำ้ ต่างๆ ฮาวายไทยได้รว่ มงานกับบริษทั ต่างๆ ในการสร้างสรรค์ โครงการต่างๆ กว่า 2,000 โครงการทัว่ โลก ซึง่ ในบรรดารายชือ่ ลูกค้านัน้ ประกอบ ด้วยโรงแรมวินน์ ลาสเวกัสและมาเก๊า โรงแรมฮิลตันพัทยา และอืน่ ๆ อีกมากมาย เฟอร์นเิ จอร์ของฮาวายไทยได้รบั รางวัล Good Design Award (G Mark) จาก องค์การส่งเสริมการออกแบบทางอุตสาหกรรมแห่งประเทศญีป่ นุ่ (JDP) และรางวัล Design Excellence Award (DEmark) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 จากความสม�่ำเสมอในด้าน คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการทีย่ อดเยีย่ ม

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


With more than four decades of experience, Pranda Jewelry is renowned as one of Asia’s leading makers of refined gold, silver and costume jewelry. Chonvicha Loekvitunkul, Managing Director of Prima Diamond was quoted as saying 2017 has been a year of high demand for diamond jewelry among Thai customers. But it’s not just Thailand. A pioneer of mass craftsmanship, Pranda has the capability to produce more than 10 million high-quality, reasonably-priced items per year from its factories in Thailand, Vietnam and Indonesia. A team of 3,500 highly skilled product development technicians, designers and craftsmen and women create exquisite jewelry for distribution to wholesalers and retailers worldwide in Europe, India and the USA. The company also has its own other brands: Prima Gold, Prima Art, and Julia and Merii, which are primarily sold in their own retail outlets and franchise businesses throughout Asia and the Middle East. High-end gold jewelry brands worldwide appreciate the craftsmanship of Pranda gold jewelry, while the company’s silver jewelry is often seen on top TV shopping channels in the USA and Europe, and is available in department stores and leading local jewelers. With its state-of-the-art plating facilities, Pranda also produces costume jewelry for international fashion brands, as well as individuals passionate about high-end fashion.

ด้วยประสบการณ์การท�ำธุรกิจกว่า 4 ทศวรรษ แพรนด้าจิวเวลรีจ่ งึ เป็น ที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตทองค�ำ เงินเจียระไน และเครื่องประดับแฟชั่น ชัน้ น�ำของเอเชีย ชลวิชา ฤกษ์วทิ รู กุล กรรมการผูจ้ ดั การของพรีมา่ ไดมอนด์กล่าวว่าปี 2560 เป็นปีที่ความต้องการเครื่องประดับเพชร พุง่ สูงขึน้ ในบรรดาผูบ้ ริโภค ชือ่ เสียงของแพรนด้าจิวเวลรีไ่ ม่ได้เป็นทีก่ ล่าวขานแค่ในประเทศเท่านัน้ ในฐานะผูบ้ กุ เบิกกระบวนการ ‘การผลิตจิวเวลรีช่ นั้ สูงในปริมาณมาก’ แพรนด้ามีก�ำลังการผลิตเครื่องประดับคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุ สมผลกว่า 10 ล้านชิน้ ต่อปีจากฐานการผลิตในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ทีมช่างเทคนิค นักออกแบบ และช่างฝีมอื ผูเ้ ชีย่ วชาญ กว่า 3,500 ชีวติ คือผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลังผลิตภัณฑ์จวิ เวลรีท่ สี่ วยและประณีต ซึง่ ได้รบั การส่งออกไปยังผูค้ า้ ส่งและปลีกทัว่ โลกทัง้ ในยุโรป อินเดีย และ สหรัฐอเมริกา ทัง้ นี้ บริษทั แพรนด้าจิวเวลรีม่ แี บรนด์จวิ เวลรีภ่ ายใต้เครือ ของบริษทั อย่างพรีมา่ โกลด์ (Prima Gold) พรีมา่ ไดมอนด์ (Prima Diamond) พรีมา่ อาร์ต (Prima Art) และ จูเลียแอนด์เมรี่ (Julia and Merii) ซึง่ มีจำ� หน่ายตามร้านในเครือแพรนด้าจิวเวลรีแ่ ละสาขาอืน่ ๆ ใน เอเชียและตะวันออกกลาง จิวเวลรีท่ องค�ำของแพรนด้าเป็นทีโ่ ปรดปรานของบรรดาแบรนด์ระดับ ไฮเอนด์ทั่วโลก ส่วนจิวเวลรี่เงินของแพรนด้าก็มักปรากฏให้เห็นตาม รายการขายสินค้าบนโทรทัศน์ชอื่ ดังทัง้ ในสหรัฐฯ และยุโรป รวมทัง้ วางจ� ำ หน่ า ยตามห้ า งสรรพสิ น ค้ า และร้ า นเครื่ อ งประดั บ ชั้ น น� ำ ด้วยเทคโนโลยีแม่พมิ พ์ทที่ นั สมัย แพรนด้าจึงสามารถผลิตเครือ่ งประดับ แฟชัน่ ส่งให้กบั บรรดาแบรนด์แฟชัน่ และเครือ่ งประดับทัว่ โลก รวมถึง กลุม่ ลูกค้าผูห้ ลงใหลในแฟชัน่ ระดับไฮเอนด์

116 | 117


Northern Thailand, particularly the city of Chiang Mai, has a well-deserved reputation as the home of the country’s finest artists and craftsmen. It is particularly well-known for ceramics. For more than two decades, Prempracha’s collections have delighted local and export markets with beautiful ceramic tableware and decorative items. By collaborating with outside designers, Prempracha breathes new life into the beautiful, traditional crafts of Northern Thailand. With designer Kuroki, they released plates that combined the precious arts of weaving and hand-forming ceramics. Each plate is made unique by the imprints of fine and beautiful woven fabrics. In the Epoch Collection, in collaboration with Thinkk Studio, handcrafted prototypes are reproduced using contemporary techniques, but retain the tell-tale signs of the artisans’ hands. W ith its team of inter national designers and outstanding local artisans, Prempracha’s C o l l e c t i o n p ro d u c e s m o u l d - m a d e a n d hand-thrown glazed stoneware in more than 1,000 unique designs. The team travels the world visiting studios, attending tradeshows and seminars, viewing collections and participating in workshops in search of inspiration and to keep up with the latest design trends. The collection includes tableware, vases and large decorative pieces, and stools and figurines that appeal to Eastern and Western tastes. Prempracha is continually adding new items to its extensive catalogue, ensuring that it is always fresh and exciting. Bespoke products can also be made to meet a specific client design brief. The studio is the recipient of numerous prestigious awards, including the G Mark Good Design Award 2016 from the Japan Institute of Design Promotion, and Thailand’s DEmark Design Excellence Award 2016 in the Lifestyle Products category.

ในบริเวณภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชียงใหม่นนั้ เป็นทีร่ จู้ กั ในฐานะเมืองแห่งศิลปินและช่าง ฝีมอื ของประเทศ ซึง่ ขึน้ ชือ่ ในเรือ่ งเครือ่ งปัน้ ดินเผา เป็น เวลากว่าสองทศวรรษแล้วทีเ่ ปรมประชาคอลเลคชัน่ ได้ สร้างสรรค์ผลงานเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและของ ตกแต่งจากเครือ่ งปัน้ ดินเผาทีส่ วยงามจนเป็นทีช่ นื่ ชอบ ทัง้ ในหมูช่ าวไทยและต่างชาติ เปรมประชามุ่งมั่นที่จะชุบชีวิตให้กับศิลปะอันเก่าแก่ ของภาคเหนือ โดยร่วมมือกับดีไซน์เนอร์ชั้นน�ำอาทิ คุโรกิ ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จานดินเผาทีผ่ สม ผสานศิลปะลายผ้าทอกับเครือ่ งปัน้ ดินเผาท�ำมือ โดย จานแต่ละใบจะพิมพ์ดว้ ยลายผ้าทอทีส่ วยประณีตไม่ซำ�้ แบบกัน ส�ำหรับในคอลเลคชัน Epoch ซึง่ เป็นการร่วม มือกับ Thinkk Studio งานเครือ่ งปัน้ ดินเผาโบราณถูก น�ำมาใช้เป็นต้นแบบเพือ่ ผลิตซ�ำ้ ด้วยเทคนิคสมัยใหม่ แต่ยงั คงไว้ซงึ่ เอกลักษณ์ของฝีมอื ช่างศิลป์ ด้วยทีมนักออกแบบนานาชาติและช่างฝีมอื ท้องถิน่ ผูม้ ี ความช�ำนาญ เปรมประชาสามารถผลิตเครือ่ งเคลือบ หินทั้งแบบที่หล่อด้วยแม่พิมพ์และใช้แป้นหมุนออก มากว่า 1,000 รูปแบบไม่ซำ�้ กัน ทีมดีไซน์เนอร์ของ เปรมประชาออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อไปเยี่ยมชม สตูดิโอต่างๆ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและสัมมนา รวมถึงงานจัดแสดงคอลเลคชันต่างๆ และเข้าร่วม เวิร์คช็อปเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจและติดตามเทรนด์ การออกแบบใหม่ๆ อยูเ่ สมอ สินค้าทีเ่ ปรมประชาผลิต และจ�ำหน่ายมีตงั้ แต่เครือ่ งใช้บนโต๊ะอาหาร แจกัน และ ของตกแต่งชิน้ ใหญ่ ไปจนถึงเก้าอีส้ ตูลและรูปปัน้ ซึง่ ล้วนเป็นทีช่ นื่ ชอบของทัง้ ลูกค้าชาวเอเชียและตะวันตก เปรมประชาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทมี่ คี วามสดใหม่และ น่าสนใจอย่างต่อเนือ่ ง อีกทัง้ ยังมีบริการรับผลิตสินค้า ตามสัง่ เพือ่ ให้สนิ ค้าออกมาตรงกับดีไซน์เฉพาะทีล่ กู ค้า ต้องการอีกด้วย สตู ดิ โ อของเปรมประชาสามารถคว้ า รางวั ล อั น ทรงเกียรติตา่ งๆ มาครองมากมาย อันได้แก่ รางวัล Good Design Award (G Mark) ประจ�ำปี พ.ศ. 2559 จากสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Institute of Design Promotion) และรางวัล Design Excellence Award (DEmark) ประจ�ำปี พ.ศ. 2559 ในหมวดผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Wander into one of Thailand’s palatial homes or its renowned five-star hotels and you are likely to see incredible tableware and china, much of it coming from Royal Porcelain. Since 1983, the iconic Thai brand has been one of Asia’s leading manufacturers of high-quality ceramic tableware and employs 2,000 staff across two factories and six showrooms in Bangkok and Phuket. Its factories are equipped with the latest machinery and technology, and are capable of producing more than 30 million items per year. Artists at Royal Porcelain are continually updating an extensive portfolio of designs which include traditional, classic and contemporary products under the following brands: Royal Porcelain, Royal Bone China, Royal Fine China and Royal Porcelain Maxadura, a durable tableware collection suitable for the hospitality industry. The company’s newest brand is Deva, a fun and functional tableware collection aimed at the high-end retail and five-star hotel markets. Royal Porcelain exports to more than 60 countries. Vigorous quality controls and attention to detail at every stage of production ensure that the company is the first tableware manufacturer in Thailand to achieve the ISO 9001:2000 Quality Standard Certifications from the Bureau Veritas Thailand Ltd.

หากก้าวเข้าไปในคฤหาสถ์หรูหรือโรงแรมหรูระดับห้าดาวของไทย จะพบว่าเกินครึง่ ของบรรดาเครื่องลายครามและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารซึ่งสวยอลังการนั้น เป็น ผลิตภัณฑ์ของรอยัล ปอร์ซเลน นับตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2526 เป็นต้นมา แบรนด์ไทยดัง กล่าวได้กลายเป็นหนึง่ ในผูผ้ ลิตภาชนะเครือ่ งใช้เซรามิกคุณภาพสูงชัน้ น�ำของภูมภิ าค เอเชีย และมีบคุ คลากรทัง้ หมด 2,000 คนซึง่ ปฏิบตั งิ านในโรงงาน 2 แห่งรวมถึง โชว์รมู อีกทัง้ หมด 6 แห่งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต โรงงานของรอยัลปอร์ซเลนใช้ เครือ่ งจักรและเทคโนโลยีทที่ นั สมัยซึง่ มีกำ� ลังการผลิตสูงกว่า 30 ล้านชิน้ ต่อปี นัก ออกแบบของรอยัลปอร์ซเลนเดินหน้าสัง่ สมประสบการณ์การออกแบบของตนอย่าง ไม่หยุดนิง่ โดยได้สร้างสรรค์สนิ ค้าทัง้ ในดีไซน์แบบดัง้ เดิม คลาสสิค และร่วมสมัย ส�ำหรับผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ ภายใต้แบรนด์ ‘รอยัลปอร์ซเลน (Royal Porcelain)’ ‘รอยัล โบนไชน่า (Royal Bone China)’ ‘รอยัลไฟน์ไชน่า (Royal Fine China)’ และ ‘รอยัลปอร์ซเลนมาซาดูรา (Royal Porcelain Maxadura)’ ซึง่ เป็นคอลเลคชันเครือ่ ง ใช้บนโต๊ะอาหารทีม่ คี วามทนทานเหมาะส�ำหรับธุรกิจการบริการ ขณะทีแ่ บรนด์ใหม่ ล่าสุดของรอยัลปอร์ซเลนอย่าง ‘เทวา (Deva)’ ผลิตและจ�ำหน่ายเครื่องใช้บน โต๊ะอาหารทีค่ รบครันทัง้ ลูกเล่นและประโยชน์ใช้สอย เหมาะส�ำหรับการใช้งานใน ร้านอาหารหรูและโรงแรมห้าดาว รอยัลปอร์ซเลนส่งออกสินค้าไปจ�ำหน่ายยังกว่า 60 ประเทศ ด้วยการควบคุม คุณภาพอย่างเข้มงวดและความใส่ใจรายละเอียดในทุกขัน้ ตอนการผลิต บริษทั รอยัล ปอร์ซเลนจึงเป็นผู้ผลิตภาชนะบนโต๊ะอาหารรายแรกของไทยที่ได้รับการรับรอง มาตรฐาน ISO 9001:2000 จากบริษทั บูโร เวอริทสั ประเทศไทย จ�ำกัด


With Thailand’s design sector leaning heavily towards ethical manufacturing practices and social initiatives, it’s not surprising that some of the country’s oldest corporations are excelling in this area as well. For more than 50 years, Srithai Superware has been producing high-quality plastic and melamine kitchen and tableware products under the Superware brand name. Srithai Superware conducts business in a fair and ethical manner, and in 2016 was rated “Excellent” in the Corporate Governance Assessment of Thai Listed Companies undertaken by the Stock Exchange of Thailand (SET). Today, Srithai Superware has expanded beyond Thailand with factories in Vietnam, India and Indonesia to meet the demands of exporting to more than 100 countries. Company Chairman Sanan Angubolkul says that keeping up with trends is the secret to Superware’s success in Thailand, and it is now on track to becoming a top global brand. The company’s R&D center not only creates exciting new designs but also develops innovative materials such as melamine mixed with sugarcane and cassava for lightweight biodegradable products. The latest innovations also ensure the highest standards of safety and hygiene, providing customer confidence.

เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมการออกแบบของไทยหันมาใช้การผลิตที่มี จริยธรรมและโครงการเพือ่ สังคมเป็นตัวขับเคลือ่ นองค์กรมากขึน้ จึงไม่ใช่ เรือ่ งแปลกทีบ่ ริษทั เก่าแก่ของไทยหลายแห่งจะมีชอื่ เสียงในเรือ่ งดังกล่าว เป็นระยะเวลากว่า 50 ปีทบี่ ริษทั ศรีไทยซุปเปอร์แวร์เดินหน้าสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์เครือ่ งครัวจากพลาสติกและเมลามีนคุณภาพสูง ภายใต้ชอื่ แบรนด์ซปุ เปอร์แวร์ (Superware) ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ยดึ มัน่ ในหลัก จริยธรรมการประกอบธุรกิจและการปฏิบตั อิ ย่างเป็นธรรม และได้รบั การประเมินให้เป็นบริษทั จดทะเบียนระดับ ‘ยอดเยีย่ ม’ ในการประเมิน การก�ำกับดูแลกิจการประจ�ำปี พ.ศ. 2559 ซึง่ จัดท�ำโดยตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (SET) ปัจจุบนั ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ได้ขยายการผลิต ออกไปนอกประเทศ โดยมีโรงงานในเวียดนาม อินเดีย และอินโดนีเซีย เพือ่ เพิม่ ก�ำลังการผลิตให้สามารถตอบรับต่อความต้องการสินค้าส่งออก ในกว่า 100 ประเทศ สนัน่ อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริษทั ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ กล่าวว่า การคอยติ ด ตามเทรนด์ อ ยู ่ เ สมอคื อ เคล็ ด ลั บ แห่ ง ความส� ำ เร็ จ ของ ซุปเปอร์แวร์ในประเทศไทย ซึง่ ขณะนีก้ ำ� ลังจะก้าวไปเป็นแบรนด์ชนั้ น�ำ ระดับโลก ศูนย์วิจัยและพัฒนาของศรีไทยซุปเปอร์แวร์ไม่เพียงแต่ สร้างสรรค์ดไี ซน์ใหม่ๆ ทีน่ า่ สนใจออกมาสูต่ ลาดเท่านัน้ แต่ยงั เดินหน้า พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ วัสดุนำ�้ หนักเบาทีส่ ามารถย่อยสลายได้ซงึ่ ท�ำมาจากเมลามีนผสมอ้อยและมันส�ำปะหลัง นวัตกรรมต่างๆ เหล่านี้ ยังก่อให้เกิดมาตรฐานระดับสูงสุดในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย จึงช่วยเพิม่ ความมัน่ ใจให้กบั ผูใ้ ช้ผลิตภัณฑ์

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Founded in 1978, Thantawan Industry Public Co., Ltd. is Thailand’s leading manufacturer of compostable, low- and high-density polyethylene bags. It’s also one of the country’s greatest industrial success stories. Listed on the stock market in 1994, the company has continually expanded its product line and invested in its R&D to not only make better products, but also reduce its environmental footprint. Its compostable bioplastics, for example, will naturally biodegrade in nature, leaving no harmful residues behind. Thantawan uses this material to make straws, shopping bags, planting bags, garbage bags, drinking straws and plastic gloves for use in hotels, hospitals, restaurants and the home. Demanding international corporations looking for certifiably eco-friendly products, such as IKEA, have long trusted Thantawan. But the company also has its own brands: SUNSTRAW drinking straws and SUNZIP resealable bags, Kitchen Neat resealable bags and straws, EcoAbsolute certified compostable bags, Fresh & Fresh packaging, which helps extend shelf life, and Zipsolution resealable bags. Thantawan’s modern production facility is equipped with 300 machines and more than 1,000 skilled staff with the capabilities to support the unlimited demands of its customers. In addition, the company attained ISO 9001:2000 certification for its quality management system and ISO 14001:2004 certification for its environmental management system. In addition, Thantawan was rated Exemplary Export Entrepreneur by the Revenue Department, and Golden Exporter by the Department of Customs.

บริษทั ทานตะวันอุตสาหกรรม จ�ำกัด (มหาชน) นัน้ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2521 และ เป็นผู้น�ำในการผลิตถุงพลาสติกพอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูงและต�่ำที่ ย่อยสลายได้ของประเทศไทย ทานตะวันคือหนึง่ ในเรือ่ งราวความส�ำเร็จทีเ่ ป็นทีก่ ล่าว ขวัญมากทีส่ ดุ ในแวดวงอุตสาหกรรม หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมือ่ ปี พ.ศ. 2537 ทานตะวันได้ขยายสายการผลิตไปยังผลิตภัณฑ์อนื่ ๆ และมีการลงทุน ในด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มเติม โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ให้ดขี นึ้ เท่านัน้ แต่ยงั พยายามลดผลกระทบทีม่ ตี อ่ สิง่ แวดล้อมอีกด้วย พลาสติกชีวภาพของทานตะวันจะย่อยสลายไปเองตามกาลเวลา จึงไม่ก่อให้เกิด สารตกค้าง ทานตะวันใช้พลาสติกชีวภาพในการผลิตหลอด ถุงช้อปปิง้ ถุงเพาะช�ำ ถุงขยะ หลอดดูดน�้ำ และถุงมือพลาสติกส�ำหรับใช้ในโรงแรม โรงพยาบาล ร้านอาหาร และภายในทีอ่ ยูอ่ าศัย บริษัทชั้นน�ำซึ่งมองหาวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ว่าเป็น มิตรต่อสิง่ แวดล้อมเช่น อิเกีย (IKEA) ถือเป็นลูกค้าอีกรายทีเ่ ชือ่ มัน่ ในคุณภาพ การผลิตของทานตะวันมาอย่างช้านาน กระนัน้ บริษทั ทานตะวันก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง อันได้แก่ หลอดดูดน�ำ้ ตราซันสตรอ (SUNSTRAW) ถุ ง ซิ ป ล็ อ คตราซั น ซิ ป (SUNZIP) ถุ ง ซิ ป ล็ อ คและหลอดตราคิ ต เช่ น นี้ ต (Kitchen Neat®) ถุงย่อยสลายได้ซงึ่ ได้รบั การรับรองมาตรฐานตราอีโค่แอบโซลูท (EcoAbsolute) บรรจุภณ ั ฑ์ถนอมอาหารตราเฟรชแอนด์เฟรช (Fresh & Fresh) และถุงซิปล็อคตราซิปโซลูชนั่ (Zipsolution) โรงงานผลิตทีท่ นั สมัยของทานตะวันประกอบด้วยเครือ่ งจักรกว่า 300 เครือ่ งและ บุคลากรผูช้ ำ� นาญการกว่า 1,000 คน ท�ำให้มกี ำ� ลังผลิตเพียงพอต่อความต้องการที่ ไร้ขดี จ�ำกัดของผูบ้ ริโภค นอกจากนี้ บริษทั ทานตะวันอุตสาหกรรมยังได้รบั การรับรอง มาตรฐาน ISO 9001:2000 ส�ำหรับระบบบริหารจัดการในโรงงานทีม่ ปี ระสิทธิภาพ และมาตรฐานระบบการจัดการสิง่ แวดล้อม ISO 14001:2004 อีกทัง้ ยังได้รบั การ ประเมินให้เป็นธุรกิจส่งออกตัวอย่างโดยกรมสรรพากร และได้รบั การคัดเลือกจาก กรมศุลกากรให้เป็นผูส้ ง่ ออกระดับบัตรทอง (Gold Card Exporter) อีกด้วย 120 | 121


The first pair of jeans under Thai brand Mc Jeans was created in 1975. Today, it is the nation’s best-selling jeans company and aspires to become Asia’s leading apparel and lifestyle company known for quality products at a reasonable price. From humble beginnings, it is now listed on the stock market after a highly successful initial public offering in 2013. It’s hard to resist the allure of Mc Jeans: the deep indigo dye, high quality fabric and materials, the tailored cuts, accent stitching… No detail is overlooked despite its wide range of products, from T-shirts to jackets, skirts, shirts and accessories. The company contributes to society through various initiatives such as its McSmart Project, which is a contest allowing anyone to showcase their skills in art and design by using leftover denim scraps from Mc Jeans’ manufacturing facility to create a useful work. There is also its Mc Sewing Training for Occupation Development initiative, which teaches people how to sew and mend clothes as a means to generate additional income for their families. Mc Jeans can be found in more than 800 dedicated retail outlets throughout Thailand, in places like Central, The Mall and Robinsons department stores, but also Tesco Lotus and Big C supermarkets. Mc Jeans also has a presence through appointed sales agents in Myanmar, Laos, Cambodia and Iran. Mc Jeans expanded its customer base by launching a range of Mc brands as a means to hit various consumer segments, including McLady, McT, Mc mini, UP and mcmc, as well as an all-new line of skin care products, Aromatique Active. The entire Mc range is also available through the online shop, mcshop.com

แบรนด์กางเกงยีนส์สัญชาติไทยแบรนด์แรกอย่าง แม็คยีนส์ นัน้ ถือก�ำเนิดขึน้ ในปี พ.ศ.2518 แม็คยีนส์ กลายเป็นยีห่ อ้ ยีนส์ทขี่ ายดีทสี่ ดุ ในประเทศไทย และ ก�ำลังก้าวขึน้ ไปเป็นแบรนด์เสือ้ ผ้าและไลฟ์สไตล์ชนั้ น�ำ ของเอเชี ย ซึ่ ง ขึ้ น ชื่ อ ในเรื่ อ งคุ ณ ภาพและราคาที่ จับต้องได้ จากจุดเริม่ ต้นก้าวเล็กๆ ปัจจุบนั แม็คยีนส์ กลายเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังบริษัทเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2556 การห้ามใจไม่ให้หลงเสน่ห์ของแม็คยีนส์นั้นไม่ใช่ เรือ่ งง่าย ทัง้ การใช้ผา้ และวัสดุคณ ุ ภาพสูง ฝีมอื ตัดเย็บ ที่ประณีตและขอบแนวตะเข็บ แม้จะมีผลิตภัณฑ์ ในสายการผลิตเป็นจ�ำนวนมาก นับตั้งแต่เสื้อยืดไป จนถึงแจ็คเก็ต กระโปรง เสือ้ เชิต้ และเครือ่ งประดับ ต่างๆ แต่แม็คยีนส์ก็ยังคงให้ความส�ำคัญกับทุกๆ รายละเอียดเสมอ แม็คยีนส์คนื สิง่ ดีๆ สูส่ งั คมผ่านโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ โครงการแม็คสมาร์ท (Mc Smart) ซึ่งเป็น โครงการประกวดทีเ่ ปิดโอกาสให้ประชาชนทัว่ ไปได้มี โอกาสร่วมแสดงทักษะทางศิลปะและงานออกแบบ โดยการน� ำ เศษผ้ า ยี น ส์ ที่ เ หลื อ จากการผลิ ต ยี น ส์ กลั บ มาสร้ า งสรรค์ ใ ห้ เ ป็ น ผลงานที่ เ ป็ น ประโยชน์ และโครงการพัฒนาอาชีพในชือ่ Mc Sewing Training for Occupation Development เพื่ออบรมทักษะ การตัดเย็บและซ่อมแซมเสือ้ ผ้า ซึง่ ผูเ้ ข้าร่วมสามารถ น�ำไปใช้สร้างรายได้เพิม่ เติมได้ ผลิตภัณฑ์แม็คยีนส์มวี างจ�ำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า ในเครือเซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน เทสโก้โลตัส และบิก๊ ซีซเู ปอร์มาร์เก็ต รวมทัง้ หมดกว่า 800 แห่ง นอกจากนี้ แม็คยีนส์ยังถูกส่งออกไปยังพม่า ลาว กัมพูชาและอิหร่าน ผ่านตัวแทนจ�ำหน่ายที่บริษัท ก�ำหนด แม็คยีนส์ขยายกลุม่ ลูกค้าด้วยแบรนด์ตา่ งๆ ทีต่ อบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทหี่ ลากหลาย ได้แก่ แมคเลดี้ (McLady) แม็คที (McT) แม็ค มินิ (Mc mini) อัพ (UP) แม็คแม็ค (mcmc) และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ บ�ำรุงผิว Aromatique Active โดยผลิตภัณฑ์เหล่านีม้ ี จ�ำหน่ายบนเว็บไซต์ mcshop.com

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


The desire to create unique, aesthetically pleasing everyday products drove Sinee Dumrongkitkarn to found Zenith Enterprise, which produces innovative office and personal stationery products under the brand ZEQUENZ. “It’s the details that make us different. You can really feel the quality of our materials, as well as our artisans’ craftsmanship,” says Sinee. “Customers can tell that those details are worth it.” Zenith adheres to the environmental principles of reduce, recycle, reuse—essential components of the Thailand Trust Mark. The brand favors eco-friendly materials such as mulberry paper, which is made from weeds rather than trees, to mitigate its impact on deforestation, while the leather it uses is biodegradable. All raw materials are sourced from certified suppliers. In addition to having an efficient wastewater treatment system, the company also employs non-toxic, eco-friendly manufacturing processes. Established by Sinee in 1989, Zenith Enterprise continually innovates, blending traditional craft skills with the latest modern techniques. Distributed throughout the world, the range of stylish paper products includes the company’s signature 360 collection, the eco-book series, PLANET, and premium office and personal stationery items sought after by writers and journalists, businessmen, artists, architects, designers and individuals who care about quality. Behind each beautiful and durable ZEQUENZ product is a passionate and highly skilled craftsman. Testament to their expertise is the string of international awards, including New York’s ConneXion Award for the ZeniCraft paper casting handmade bio paper, the 2010 Best Innovation Awards from South Africa, and many more. Sinee’s products nonetheless carry an undeniable sense of Thainess. To Sinee, staying true to her identity has been key to her brand’s long-lasting appeal.

ความปรารถนาที่ จ ะสร้ า งสรรค์ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ส� ำ หรั บ ชี วิ ต ประจ�ำวันซึ่งสวยงามและโดดเด่นไม่เหมือนใคร คือแรง ผลักดันส�ำคัญของ สินี ด�ำรงค์กจิ การ ผูก้ อ่ ตัง้ บริษทั ซีนธิ เอ็นเตอร์ไพร์ส และเจ้าของพื้นที่ส�ำนักงานหน้าตาล�้ำสมัย รวมทัง้ แบรนด์เครือ่ งเขียนอย่าง ซีเคว้นซ์ (ZEQUENZ) “ความ ละเอียดประณีตท�ำให้งานเราต่างจากเจ้าอืน่ คุณภาพของวัสดุ และฝีมอื ของช่างมันปรากฏให้เห็นเด่นชัดในงาน ซึง่ ลูกค้ารูส้ กึ ว่ารายละเอียดเหล่านีม้ นั คุม้ ค่ากับสิง่ ทีต่ อ้ งจ่าย” สินกี ล่าว บริษทั ยึดมัน่ ในหลักการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม อันได้แก่ การลด การรี ไ ซเคิ ล และการน� ำ กลั บ มาใช้ ใ หม่ ซึ่ ง เป็ น หนึ่ ง ในหลักเกณฑ์การพิจารณาส�ำคัญของตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ทั้งยังเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อ สิง่ แวดล้อมอย่างกระดาษสา ซึง่ ท�ำมาจากวัชพืชแทนกระดาษ ทีผ่ ลิตจากต้นไม้เพือ่ ช่วยลดการตัดไม้ทำ� ลายป่า และหนังที่ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ วัสดุทกุ ชนิดทีซ่ เี คว้นซ์ เลือกใช้นนั้ น�ำมาจากแหล่งทีไ่ ด้รบั การตรวจสอบและรับรอง มาตรฐาน นอกเหนือจากระบบบ�ำบัดน�ำ้ เสียทีม่ ปี ระสิทธิภาพ ซีเคว้นซ์ยงั ใช้กระบวนการผลิตทีป่ ลอดสารพิษและเป็นมิตร ต่อสิง่ แวดล้อมอีกด้วย นับตัง้ แต่กอ่ ตัง้ ขึน้ เมือ่ ปี พ.ศ. 2532 ซีนธิ เอ็นเตอร์ไพร์สได้ อาศัยความเชีย่ วชาญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง ต่อเนื่อง รวมทั้งผสมผสานทักษะงานฝีมือสมัยเก่าเข้ากับ เทคนิคสมัยใหม่ ในบรรดาผลิตภัณฑ์จากกระดาษทีไ่ ด้รบั การ ส่ ง ออกไปจ� ำ หน่ า ยทั่ ว โลก ประกอบด้ ว ยดาวเด่ น อย่ า ง คอลเลคชัน 360 ชุดสมุดเพือ่ สิง่ แวดล้อมแพลเน็ต (PLANET) รวมถึงของใช้สำ� นักงานและเครือ่ งเขียนระดับพรีเมียมซึง่ เป็น ทีน่ ยิ มในหมูน่ กั เขียน นักข่าว นักธุรกิจ สถาปนิก นักออกแบบ และบุคคลทัว่ ไปทีใ่ ส่ใจในเรือ่ งคุณภาพ เหล่าช่างฝีมือชั้นยอดผู้หลงใหลในงานออกแบบ คือผู้อยู่ เบือ้ งหลังผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ซเี คว้นซ์ทที่ งั้ สวยและทนทาน โดยมีรางวัลระดับสากลเป็นเครือ่ งพิสจู น์ ไม่วา่ จะเป็นรางวัล ConneXion Award จากกรุงนิวยอร์ก ส�ำหรับผลงานกระดาษ ชีวภาพท�ำมือ ZeniCraft ทีใ่ ช้เทคนิคการท�ำภาพนูนต�ำ่ รางวัล Best Innovation Awards ประจ�ำปี พ.ศ. 2553 และรางวัล อืน่ ๆ อีกมากมาย ผลงานแต่ละชิน้ ของซีเคว้นซ์นนั้ มีความเป็น ไทยแฝงอยู่ ส�ำหรับสินี การไม่ลมื รากเหง้าของตัวเองคือกุญแจ ส�ำคัญทีท่ ำ� ให้เสน่หข์ องแบรนด์ไม่จางหายไปตามกาลเวลา


การใช้วสั ดุรไี ซเคิลและกระบวนการผลิตทีเ่ ป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของบรรดา บริษทั ออกแบบชัน้ แนวหน้าของไทย กระนัน้ แบรนด์ ที่โดดเด่นกว่าเจ้าอื่นๆ คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก ควอลี่ ซึง่ อยูภ่ ายใต้การบริหารของหนึง่ ในผูก้ อ่ ตัง้ และ ผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายออกแบบอย่างธีรชัย ศุภเมธีกลู วัฒน์ แบรนด์ทกี่ วาดรางวัลมาแล้วหลายเวทีนี้ เป็นทีร่ จู้ กั ใน วงกว้างจากผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้านทีม่ ลี กู เล่นน่าสนใจ สีสนั สดใส ใช้สอยได้จริง และผลิตจากวัสดุรไี ซเคิล ทัง้ หมด

Teerachai Suppameteekulwat Founder and Design Director, Qualy

Using recycled materials and eco-friendly production methods is quickly becoming standard practice among some of Thailand’s most well-recognized design companies. Qualy is one of the more prominent members of that growing list. Under the guidance of co-founder and design director Teerachai Suppameteekulwat, the multi-award-winning brand has gained widespread recognition for its fun, colourful and functional household objects made entirely from recycled materials. Its sweet and playful collections are designed to lighten the mood of young-minded individuals. Its array of decorative designs often follow animal and nature themes and include sparrows, chicks and doves, as well as functional items for the kitchen, dining room, bedroom and bathroom such as clothes hooks, storage containers, bottle openers, waste baskets, and much more. The name Qualy represents the company’s business philosophy: Q for quality ideas, design, materials and production; U for unique and recognizable designs; A for aesthetics, a stylish modern look but also functional; L for longevity to reduce waste and environmental impact; and Y for products designed for you. Qualy is also a company with a heart. It creates and innovates to benefit its customers, and is committed to minimizing its impact on the environment. From the initial design stages through to production of the final, the resources required are calculated to ensure minimum wastage and efficient use of energy. All Qualy products and packaging are made with high-quality recycled materials. A string of international awards include Thailand’s DEMark and Designer of the Year Award, the Good Design Award from Japan, and the FORM Award from Germany.

ผลิตภัณฑ์ทมี่ ดี ไี ซน์นา่ รักเหล่านีถ้ กู ออกแบบขึน้ มาเพือ่ ช่วยสร้างบรรยากาศสนุกๆ ให้กับผู้อยู่อาศัย โดย ควอลี่มักจะใช้ธีมสิงสาราสัตว์ เช่น นกกระจอก ลูกเจีย๊ บ และนกพิราบขาว ในการออกแบบเครือ่ งใช้ ส�ำหรับห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องนอน และ ห้องน�ำ้ อย่างตะขอแขวนผ้า กล่องเก็บของ ทีเ่ ปิดขวด ตะกร้าใส่ขยะ และอืน่ ๆ อีกมากมาย ชือ่ ของแบรนด์ควอลีน่ นั้ สะท้อนปรัชญาในการท�ำธุรกิจ ของบริษทั โดยตัว Q มาจากไอเดีย ดีไซน์ วัสดุ และ กระบวนการผลิตทีม่ คี ณ ุ ภาพ (Quality) U มาจาก ดีไซน์ทโี่ ดดเด่นไม่ซำ�้ ใคร (Unique) A มาจากความ สวยงาม (Aesthetic) รูปลักษณ์ที่เก๋ไก๋ทันสมัยแต่ สามารถใช้งานได้จริง L มาจากอายุการใช้งานทีท่ นทาน (Long-lasting) เพือ่ ช่วยลดจ�ำนวนขยะและผลกระทบ ทางสิ่งแวดล้อม และ Y นั้นหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ ออกแบบขึน้ มาเพือ่ คุณ (You) โดยเฉพาะ นอกจากนีค้ วอลีย่ งั เป็นบริษทั ทีใ่ ส่ใจในทุกรายละเอียด โดยมุ ่ ง มั่ น สร้ า งสรรค์ แ ละคิ ด ค้ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เ ป็ น ประโยชน์แก่ผบู้ ริโภค อีกทัง้ ยังยึดมัน่ ในแนวทางการ ลดผลกระทบทางสิง่ แวดล้อมอย่างเคร่งครัด นับตัง้ แต่ ขัน้ ตอนการออกแบบไปจนถึงกระบวนการผลิตในตอน สุดท้าย ทรัพยากรที่น�ำมาใช้นั้นจะต้องได้รับการ ค�ำนวณมาเป็นอย่างดีเพือ่ ลดปริมาณของเสียและการ ใช้พลังงานให้เหลือน้อยทีส่ ดุ ผลิตภัณฑ์และบรรจุภณ ั ฑ์ ของควอลี่ทุกชิ้นผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิลคุณภาพสูง ควอลี่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพระดับนานาชาติ ได้แก่ รางวัล Design Excellence Award (DEMark) และรางวัล Designer of the Year Award จาก ประเทศไทย รวมถึงรางวัล Good Design Award (G Mark) จากประเทศญี่ปุ่น และรางวัล FORM Award จากประเทศเยอรมนี

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Few toy manufacturers can claim to focus on sustainability as much as Plan Creation Co., Ltd. The creative force behind PlanToys, Plan Creation produces a range of bright and colorful toys designed to stimulate young minds. The company’s core value is Sustainable Play through commitment to environmental responsibility. All PlanToys are made using rubberwood trees that are no longer viable for rubber harvesting, as well as organic pigments and water-based dyes. PlanToys was the first brand in the world to make toys from Planwood, a high-density composite fiberboard composed of reclaimed wood particles left from the manufacturing of rubberwood toys. The material is safe, strong and durable. The company is the recipient of numerous international awards including the Red Dot Design Award, Parents Choice and Best Toys awards. The extensive catalogue includes toys suitable for newborns to four-year-olds and other categories such as Babies, Active Play, Games and Puzzles, Construction and Creativity, and Learning and Education. Plan Creation also strives to be a good corporate citizen. As part of its Sustainable Mind initiative, it has planted more than 40,000 trees covering 2,000 acres in Chaiyaphum province in the past eight years. All PlanToys have undergone rigorous testing and exceed international safety standards, including USA ASTM and European EN71 standards.

มี ผู ้ ผ ลิ ต ของเล่ น เพี ย งไม่ กี่ ร ายเท่ า นั้ น ที่ ใ ห้ ค วาม ส� ำ คั ญ ในเรื่ อ งการด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ อย่ า งยั่ ง ยื น เท่ า กั บ บริษัท แปลนครีเอชั่นส์ จ�ำกัด แปลนครีเอชั่นส์ (Plan Creations) คือผูส้ ร้างสรรค์ของเล่นภายใต้ชอื่ แปลนทอยส์ ของเล่นสีสนั สดใสซึง่ ถูกออกแบบขึน้ เพือ่ ใช้ในการกระตุน้ ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ค่านิยม องค์กรของแปลนส์ครีเอชั่นส์คือการผลิตของเล่นที่ ยัง่ ยืนผ่านกระบวนการทีร่ บั ผิดชอบต่อสิง่ แวดล้อม ของ เล่นของแปลนทอยส์ทกุ ชิน้ ผลิตขึน้ จากไม้ยางพาราซึง่ หมดอายุการกรีดน�ำ้ ยางแล้ว รวมถึงใช้ผงสีและสียอ้ ม ไม้สตู รน�ำ้ ทีป่ ลอดสารพิษ แปลนทอยส์คอื ผูผ้ ลิตของเล่นรายแรกของโลกทีผ่ ลิต ของเล่นจากแปลนวูด้ (Planwood) หรือแผ่นใยไม้อดั เนือ้ แน่นทีผ่ ลิตจากเศษไม้ซงึ่ เหลือจากการผลิตของเล่น ไม้ยางพารา โดยแปลนวูด้ เป็นวัสดุทปี่ ลอดภัย แข็งแรง และมีความทนทาน บริษทั แปลนครีเอชัน่ ส์สามารถคว้ารางวัลระดับสากล มาครองจากหลายเวที ไม่วา่ จะเป็นรางวัล Red Dot Design Award รางวัล Parents Choice และรางวัล Best Toys และยังเป็นผูจ้ ำ� หน่ายผลิตภัณฑ์หลากชนิด ได้แก่ ของเล่นส�ำหรับเด็กวัยแรกเกิดไปจนถึง 4 ขวบ รวมถึงสินค้าในหมวดอืน่ ๆ เช่น หมวดทารก (Babies) หมวดการเล่นแบบแอคทีฟ (Active Play) หมวดเกม และปริศนา (Games and Puzzles) หมวดการก่อสร้าง และความคิดสร้างสรรค์ (Construction and Creativity) และหมวดการเรียนรูแ้ ละการศึกษา (Learning and Education) นอกจากนีแ้ ปลนครีเอชัน่ ส์ยงั มุง่ มัน่ ทีจ่ ะด�ำเนินธุรกิจใน ฐานะบรรษัทพลเมืองที่ดี แปลนครีเอชั่นส์ได้ริเริ่ม โครงการจิตส�ำนึกรักษ์ความยั่งยืนและเดินหน้าปลูก ต้นไม้ไปแล้วกว่า 40,000 ต้น ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ราว 5,000 ไร่ในจังหวัดชัยภูมิ ตลอดระยะเวลา 8 ปี ทีผ่ า่ นมา ผลิตภัณฑ์ทง้ั หมดของแปลนทอยส์ลว้ นผ่าน กระบวนการทดสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดภายใต้ มาตรฐานสากล เช่น มาตรฐาน USA มาตรฐาน ASTM และมาตรฐาน EN71


Determined to break out of the typical “buyand-sell” model that ensnares many other Thai business owners into creating low-profit importing companies, the Kitkamjai family was determined to build something that would last generations. In 1989, they started Gambol, a shoe company driven to represent “Thai-made” in every way. They wouldn’t simply outsource their designs and import the finished product; they wanted to control the entire manufacturing process, and ended up creating a brand that has made a significant mark on Thailand’s consumer and design landscape in the years that followed. The brand has since become a strong player in Thailand’s local shoe industry, staking its reputation on quality, affordable shoes with signature thick soles and colorful designs. Currently, the company revolves around four main design philosophies: “Ezy”, focusing on simplistic designs and color schemes; “Zapp”, featuring bright, loud color combinations; “Zah”, with heavy influences from graphic design; and “Zeek”, a line of adventur wear for people with active lifestyles. In 2010, Gambol won the Cannes Lions Ads of the World award for a print ad campaign promoting its To Cut series of sneakers. In 2014, the company made moves to certify that its manufacturing process meets international standards and establish the company’s position as a leader in environmental and social sustainability. Gambol undertakes regular sustainability projects aimed at supporting Thai youth. Most recently, it’s “Boldasone” campaign raised money for Thailand’s paralympic athletes though special T-shirts designed by renowned street artist Rukkit Kaunhawate. It’s also part of a scholarship initiative to support underprivileged students at Sathani Phromdam School.

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปรับรูปแบบการท�ำธุรกิจการ น�ำเข้าสินค้าแบรนด์ต่างประเทศเข้ามาขายในไทย ซึง่ มีกำ� ไรน้อย ตระกูลกิจก�ำจายจึงมุง่ มัน่ สร้างสรรค์ ธุรกิจ โดยในปี พ.ศ. 2532 ตระกูลกิจก�ำจายได้กอ่ ตัง้ บริ ษั ท รองเท้ า บิ๊ ก สตาร์ ขึ้ น เพื่ อ น�ำ เสนอความเป็ น ‘สินค้าไทยท�ำ’ ในทุกๆ ด้าน โดยเป้าหมายของพวกเขา ไม่ใช่การจ้างนักออกแบบจากนอกบริษัทและน�ำเข้า สินค้าจากต่างประเทศมาจ�ำหน่าย แต่ตอ้ งการควบคุม กระบวนการผลิตทุกขัน้ ตอน จนสามารถสร้างแบรนด์ ทีม่ คี วามโดดเด่นส�ำหรับกลุม่ ผูบ้ ริโภคและแวดวงการ ออกแบบของไทยได้ ส� ำ เร็ จ นั บ ตั้ ง แต่ ก ารก่ อ ตั้ ง แกมโบลถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีบทบาทส�ำคัญใน อุตสาหกรรมรองเท้าภายในประเทศ โดยมีชอื่ เสียงใน ฐานะรองเท้าคุณภาพทีจ่ ำ� หน่ายในราคาย่อมเยา และ มีจดุ เด่นคือพืน้ รองเท้าทีห่ นาและสีสนั สดใส ปัจจุบนั ผลิตภัณฑ์ของแกมโบลนัน้ ครอบคลุมทุกกลุม่ เป้าหมาย และได้ขยายผลิตภัณฑ์ออกมาเป็น 4 สไตล์ คือ อีซี่ (Ezy) ซึง่ สือ่ ถึงดีไซน์ทเี่ รียบง่าย แซบ (Zapp) ซึง่ เป็นการผสมผสานของสีสนั ฉูดฉาดสดใส ซ่า (Zah) ซึง่ ได้รบั อิทธิพลจากลวดลายกราฟฟิก และ ซีค (Zeek) ซึง่ เหมาะส�ำหรับขาลุยทีร่ กั การผจญภัย ในปี พ.ศ. 2553 แกมโบลสามารถคว้ารางวัล Cannes Lions Ads of the World มาครองจากแคมเปญ โฆษณาสิ่งพิมพ์เพื่อประชาสัมพันธ์รองเท้าผ้าใบรุ่น ทูคทั (To Cut) ในปี พ.ศ. 2557 แกมโบลได้รบั การ รับรองกระบวนการผลิตในระดับมาตรฐานสากลและ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้น�ำในการด�ำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม แกมโบลได้ริเริ่ม โครงการเพือ่ ความยัง่ ยืนต่างๆ โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ สนับสนุนเยาวชนไทย ล่าสุดแกมโบลได้จดั แคมเปญ Boldasone โดยจ�ำหน่ายเสือ้ ยืดซึง่ ออกแบบโดยศิลปิน แนวสตรีทชือ่ ดังอย่าง รักกิจ ควรหาเวช เพือ่ จัดหาทุน ให้กับนักกีฬาพาราลิมปิคทีมชาติไทย นอกจากนี้ แกมโบลยังได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เด็กด้อย โอกาสทีโ่ รงเรียนสถานีพรมแดนอีกด้วย

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Rubber Killer is a Chiang Mai-based producer of innovative messenger bags, tote bags, backpacks, pouches and wallets made from old bicycle, car and truck inner tubes and car seatbelts. Founded by Saroengrong Wong-Savun, an independent architect and founder of the Re-Leaf Studio, Rubber Killer’s eco-friendly up-cycled products were designed to help deal with a huge waste problem. The company slogan is “After 200,000 km on the road, it’s back in your hands”. All Rubber Killer products are unique. The recycled rubber materials have different grooves, ridges and marks, meaning that no two items are alike. Hand-washed, repressed, shaped and lovingly handstitched to create high-quality, fashionable accessories, the Rubber Killer collection is available in the UK, Germany, Japan and Singapore. As part of its corporate social responsibility (CSR) efforts, Rubber Killer provides opportunities for impoverished local economies by training them, equipping them with valuable skills and providing fair compensation under the Fair Trade international system. A percentage of profit also goes to fund a local education scholarship, with the aim of financing the schooling of needy students.

รับเบอร์คิลเลอร์คือผู้ผลิตกระเป๋าใส่เอกสาร กระเป๋าโท้ท กระเป๋าเป้ กระเป๋า อเนกประสงค์ และกระเป๋าสตางค์ทมี่ คี วามทันสมัยจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้วสั ดุ จากจักรยานเก่า ยางรถยนต์ และเข็มขัดนิรภัย รับเบอร์คิลเลอร์ก่อตั้งขึ้นโดยสเริงรงค์ วงษ์สวรรค์ สถาปนิกและผู้ก่อตั้งรี-ลีฟ สตูดโิ อ (Re-Leaf Studio) เพือ่ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์อพั ไซเคิลทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ ของรับเบอร์คลิ เลอร์นนั้ ถูกออกแบบขึน้ เพือ่ ช่วยจัดการกับปัญหา ขยะล้นเมือง ภายใต้สโลแกน “หลังวิง่ ครบ 200,000 กม. แล้ว มันจะกลับมาอยู่ ในมือคุณ” ผลิตภัณฑ์ของรับเบอร์คลิ เลอร์ทกุ ชิน้ มีเอกลักษณ์ทไี่ ม่ซำ�้ ใคร ยางรีไซเคิลทีน่ ำ� มาใช้ เป็นวัสดุนนั้ ให้กลิน่ อาย สัมผัส และลวดลายทีต่ า่ งกันไป หมายความว่าจะไม่มี ผลิตภัณฑ์ชนิ้ ไหนเลยทีซ่ ำ�้ กัน วัสดุตา่ งๆ ถูกน�ำมาล้าง บีบอัด ขึน้ รูป และเย็บด้วย มืออย่างพิถพี ถิ นั เพือ่ สร้างสรรค์เป็นกระเป๋าทีเ่ ก๋และมีคณ ุ ภาพสูง ผลิตภัณฑ์ของ รับเบอร์คลิ เลอร์มวี างจ�ำหน่ายในสหราชอาณาจักร เยอรมนี ญีป่ นุ่ และสิงคโปร์ รับเบอร์คลิ เลอร์ได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กบั ชุมชนผูย้ ากไร้ผา่ นการฝึกอบรม ต่างๆ ซึง่ เป็นส่วนหนึง่ ของโครงการความรับผิดชอบต่อสังั คม (CSR) เพือ่ สร้างทักษะ ที่ ช ่ ว ยเพิ่ ม มู ล ค่ า และให้ ค ่ า ตอบแทนที่ เ ป็ น ธรรมภายใต้ ม าตรฐานแฟร์ เ ทรด (Fair Trade) ในระดับสากล รวมทัง้ ได้มอบรายได้สว่ นหนึง่ ให้เป็นทุนการศึกษา ส�ำหรับนักเรียนในท้องถิน่ ทีข่ าดแคลนทุนทรัพย์


PANPURI proudly carries T Mark: the sign of Quality and Excellence. Because only the very best will do, hence, the wholehearted commitment to sourcing the purest ingredients for the finest quality aromas that bring balance and rejuvenate life.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


FEELING GOOD

HEALTH & BEAUTY Environmental Care

128 | 129


TOUCH OF BEAUTY

Thailand’s personal care industry draws on the Kingdom’s keen eye for design and closely guarded secrets passed down from generation to generation. Thai traditions for wellbeing go back centuries into the past. Thai massage, in particular, is world-famous for its soothing properties. But the ancient art of nuad Thai is only a small part of a holistic approach to health which also makes use of Thailand’s incredibly rich and diverse flora. Generations of accumulated wisdom and knowledge in the cultivation of local herbs, plants and fruits, like jasmine, kaffir lime, lemongrass and coconut, have led to their use in local products that can combat the effects of aging, improve skin complexion and boost all-round health. Today, this historical expertise has led to a robust personal care industry which is focused on increasingly natural products and superlative packaging. Decades-old brands are reinventing themselves with organic lines while newcomers are using bleeding-edge design to breathe new life into age-old treatments. One such company, Panpuri, which produces natural and sustainable spa and aromatherapy items that are available for retail in over 20 countries worldwide. “My dream was to create a world-class brand from Thailand,” says Vorravit Siripark, founder and chief executive of Panpuri. Vo r r a v i t ’s p a s s i o n f o r T h a i s c e n t s a n d natural products was nurtured in his youth when he helped his grandmother prepare jasmineinfused water for guests. He has channeled this passion for Thailand’s bounty into one of the

country’s most respected brand names. To create Panpuri Jasmine Absolute oil, for instance, workers hand-pick the flowers before dawn when their aroma is most intense. “Panpuri has positioned itself since day one to create only products that are almost entirely made from natural materials,” says Vorravit. While Panpuri is committed to using the most natural flowers and herbs, it also stands out for its refined packaging: carved bottles with gold highlights, geometric flasks of colored glass, embossed boxes with opulent tassels. “Thais make all these wonderful products but, before Panpuri, packaging lagged behind” says Vorravit. “It’s necessary that a good product is good from the inside to the outside.” Another pioneer of world-class spa products is University of Washington graduate Vudhichai Harnphanich, also known as Paul Harnn. Formerly an architect, he returned to Thailand to found Harnn in 2002, now a leading natural soap manufacturer and exporter in Asia. You’ll find his products at the award-winning Harnn Heritage Spa at the InterContinental Sun Peninsula Danang and the InterContinental Samui Baan Taling Ngam Resort. Harnn has also spawned three more sister brands such as Tichaa, Vuudh and Jaritt—not to mention scores of Harnn boutiques across 15 countries.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


ศาสตร์ แ ห่ ง การบ� ำ บั ด และผ่ อ นคลายนั้ น เป็ น เสมือนประเพณีที่อยู่คู่คนไทยมาหลายศตวรรษ ซึ่ง คนทั่ ว โลกมั ก รู ้ จั ก ในรู ป แบบการนวดแผนไทย กระนั้ น ศิ ล ปะการนวดแผนโบราณถื อ เป็ น เพี ย ง เศษเสีย้ วของสารพัดวิธกี ารดูแลสุขภาพ ซึง่ ใช้ประโยชน์ จากพืชนานาชนิดทีม่ อี ยูอ่ ย่างอุดมสมบูรณ์ในประเทศ รวมทัง้ ภูมปิ ญ ั ญาและความรูท้ สี่ งั่ สมกันมาหลายชัว่ อายุ ในเรื่องการเพาะปลูกสมุนไพร พืช และผลไม้ใน ท้องถิ่น เช่น มะลิ มะกรูด ตะไคร้ และมะพร้าว โดยผลผลิตที่ได้มานั้นถูกน�ำไปใช้เป็นส่วนผสมของ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ ช ่ ว ยชะลอวั ย ปรั บ สภาพผิ ว และ บ�ำรุงสุขภาพในด้านต่างๆ ปั จ จุ บั น ความเชี่ ย วชาญด้ า นสมุ น ไพรที่ สื บ ทอด กันมา ได้กลายเป็นปัจจัยเสริมความแข็งแกร่งให้กบั อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพือ่ สุขภาพความงามของไทย

ซึ่งหันมาพึ่งวัตถุดิบจากธรรมชาติและแข่งขันในเรื่อง บรรจุภัณฑ์มากขึ้น เหล่าแบรนด์เก่าแก่พยายาม ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์โดยเพิ่มสายการผลิตสินค้า ปลอดสารเคมี ขณะที่แบรนด์ใหม่ๆ นั้นพยายามใช้ ดีไซน์ที่ล�้ำสมัยเพื่อท�ำให้ศาสตร์อันเก่าแก่นี้กลับมา เป็นทีน่ ยิ มอีกครัง้ หนึ่งในแบรนด์ดังกล่าวคือปัญญ์ปุริ ผู้ซึ่งรังสรรค์ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ส ปาและเครื่ อ งหอมบ� ำ บั ด จากวั ต ถุ ดิ บ ธรรมชาติผา่ นกระบวนการทีย่ งั่ ยืน และส่งสินค้าออกไป จ�ำหน่ายในกว่า 20 ประเทศทัว่ โลก “ความฝันของผม คือการปัน้ แบรนด์ไทยไปสูร่ ะดับโลก” วรวิทย์ ศิรพิ ากย์ ผูก้ อ่ ตัง้ และกรรมการผูจ้ ดั การบริษทั ปุริ จ�ำกัด กล่าว วรวิ ท ย์ ห ลงใหลในเสน่ ห ์ ข องกลิ่ น หอมแบบไทยๆ และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมาตัง้ แต่สมัยวัยรุน่ โดย เริ่มต้นจากเมื่อครั้งที่เขาได้ช่วยคุณยายเตรียมน�้ำดื่ม ผสมดอกมะลิให้กบั แขกผูม้ าเยือน จึงได้นำ� ความรักทีม่ ี ต่อสมบัตลิ ำ�้ ค่าของชาติชนิ้ นีม้ าต่อยอดจนเกิดเป็นหนึง่ ในผลิตภัณฑ์สขุ ภาพและความงามทีไ่ ด้รบั การยอมรับ 130 | 131


Vudhichai has professed his commitment to ethical business, a stance that drives his search for organic produce to make his creams and scents. The HARNN Five Elements Perfume Lotion, for example, is an alcohol-free alternative to fragrances. It combines natural active ingredients such as organic olive oil, organic camellia oil and ginseng extracts to moisturize, soften and restore natural skin radiance. Beyond beautiful, natural products that show real results, Thailand’s personal care industry is also focusing on the working conditions of all stakeholders. Oriental Herbs Co Ltd. has taken its commitment to natural produce and fair trade to the point of forming herbal cooperatives to improve the lives of the hill communities of Thailand. It’s all down to the vision of community development worker Dusadee Sutthilerd, who noticed the variety of herbs the hill communities grew for their own culinary and medicinal uses. In a bid to provide the villagers with better livelihoods, she organised a few villages into

cooperatives, and thereafter the Oriental Herbs Co. Ltd was born. The company now has 4,046 rai of land in Chiang Rai and nearby provinces, growing a variety of herbs which include ginger, lemongrass, and curcuma. These herbs are processed hygienically into effective high-quality, and sustainable products that include compresses, bath soaks and teas. “Our goal is to bring prosperity and happiness to all who are involved,” says Sutthilerd. Through buying HARNN products, consumers can feel a kinship with local Thai farmers and benefit from the centuries of wisdom passed down through generations, while knowing they are not harming the planet. Indeed, Thailand is also home to decadesold family-run companies with carefully guarded recipes. And there is currently a revival for tapping into such knowledge. One such company is Twin Lotus. Originally a small herbal drug store, it used the know-how and rare herbs of Asia to practice traditional oriental medicine. When its founder, Dr.

Boonkit Leelertipan, realized that the only herbal toothpastes available were imported—and that they were skimping on the herbs—he resolved to created a formula using only herbs. Today, Twin Lotus is available across the globe and makes a much wider range of products, from shampoos to supplements. What all its product have in common is the high-quality, natural herbs involved in making them. Twin Lotus currently employs 450 people and is equipped with stateof-the-art labs that process herbs from its seven rai (1.12 hectares) of nurseries. Using the latest technology from Germany, Twin Lotus ensures all its products meet the highest international standards. Through their innovative, sustainable practices and positive working conditions, these Thai-owned companies have earned themselves the Thailand Trust Mark—a symbol denoting the highest quality of standards and excellence in production. These products are not only safer for the environment, they also enhance beauty and wellbeing, while embracing Thai culture and the natural way of life.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


คือ ธิชา (Tichaa) วุฒิ (Vuudh) และ จริต (Jaritt) รวมไปถึงร้านจ�ำหน่ายสินค้า ของแบรนด์หาญซึง่ มีสาขาอยูใ่ น 15 ประเทศ วุฒิชัยด�ำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของหลักจริยธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เขา คัดสรรแต่วัตถุดิบปลอดสารพิษเพื่อน�ำมาเป็นส่วนผสมของครีมบ�ำรุงผิวและ เครือ่ งหอมต่างๆ เช่น โลชัน่ หอมทีม่ สี ว่ นประกอบของธาตุเจ้าเรือนทัง้ ห้า (HARNN Five Elements Perfume Lotion) ซึง่ เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกไว้ใช้แทนน�ำ้ หอม และปราศจากส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อันเป็นการผสมผสานระหว่างสารออกฤทธิ์ ต่างๆ จากธรรมชาติ เช่น น�ำ้ มันโอลีฟ น�ำ้ มันดอกคามิเลีย และสารสกัดจากโสม เพือ่ มอบความนุม่ ชุม่ ชืน่ และฟืน้ ฟูความเปล่งปลัง่ ให้กบั ผิวพรรณ นอกเหนื อ จากผลิ ต ภั ณ ฑ์ ธ รรมชาติ ซึ่ ง มี บ รรจุ ภั ณ ฑ์ ส วยงามและเห็ น ผลจริ ง เมือ่ ใช้แล้ว อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพือ่ สุขภาพความงามของไทยยังให้ความส�ำคัญ เกีย่ วกับเรือ่ งคุณภาพชีวติ การท�ำงานของทุกฝ่ายทีเ่ กีย่ วข้องอีกด้วย บริษทั ดิ โอเรียนทอล เฮิรบ์ ส์ จ�ำกัด (The Oriental Herbs Co Ltd.) ยึดมัน่ ในการใช้ผลผลิตจากธรรมชาติ และหลักการค้าเสรี จึงได้ก่อตั้งสหกรณ์สมุนไพรขึ้นมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้กบั ชุมชนชาวเขาในประเทศไทย โดยแนวคิดดังกล่าวจุดประกายมาจากวิสยั ทัศน์ ของนักพัฒนาชุมชนอย่างดุษฎี สุทธิเลิศ ซึง่ เล็งเห็นถึงความหลากหลายของพืชผัก สมุนไพรทีช่ าวเขาปลูกไว้เพือ่ รับประทานและใช้เป็นยารักษาโรคในครัวเรือน ด้ ว ยความมุ ่ ง มั่ น ที่ จ ะมอบคุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดี ขึ้ น ให้ กั บ ชาวบ้ า น ดุ ษ ฎี จึ ง ได้ จัดระเบียบหมูบ่ า้ นต่างๆ ให้เข้าร่วมในระบบสหกรณ์ ซึง่ เป็นจุดก�ำเนิดของบริษทั ดิ โอเรียนทอล เฮิรบ์ ส์ ปัจจุบนั บริษทั มีพนื้ ทีท่ างการเกษตรหลายพันไร่ในเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง ซึง่ เพาะปลูกสมุนไพรชนิดต่างๆ เช่น ขิง ตะไคร้ และขมิน้ โดยสมุนไพรเหล่านีจ้ ะถูกน�ำไปแปรรูปผ่านกระบวนการทีถ่ กู สุขลักษณะ จนได้เป็น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ มี คุ ณ ภาพสู ง และอยู ่ เ ป็ น ไปตามหลั ก การพั ฒ นาอย่ า งยั่ ง ยื น อาทิ ลูกประคบ ผลิตภัณฑ์อาบน�ำ้ และใบชาขัดผิว “เป้ า หมายของเราคื อ การสร้ า งความสุ ข และความส� ำ เร็ จ ให้ กั บ ทุ ก ฝ่ า ย ทีเ่ กีย่ วข้อง” ดุษฎีกล่าว ผูบ้ ริโภคทีเ่ ลือกซือ้ ผลิตภัณฑ์ของดิ โอเรียนทอล เฮิรบ์ จะรูส้ กึ ได้ถงึ สายสัมพันธ์ทมี่ ตี อ่ เกษตรกรในท้องถิน่ รวมทัง้ ประโยชน์ของภูมปิ ญ ั ญา ไทยที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ และในขณะเดียวกันก็มี ส่วนช่วยในการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อมด้วย นอกจากนี้ ประเทศไทยยั ง เป็ น ที่ ตั้ ง ของบรรดาบริ ษั ท เก่ า แก่ ที่ ก ่ อ ตั้ ง และ บริหารงานโดยตระกูลต่างๆ ซึง่ เก็บรักษาสูตรการท�ำผลิตภัณฑ์มาเป็นเวลาหลาย Vorravit Siripark ทศวรรษ ในปัจจุบนั เริม่ มีการน�ำเอาองค์ความรูท้ สี่ งั่ สมไว้กลับมาใช้ประโยชน์อกี ครัง้ Founder and CEO, Panpuri โดยหนึง่ ในบริษทั ดังกล่าวคือ ดอกบัวคู่ อดีตร้านยาสมุนไพรเล็กๆ แห่งนี้ ได้นำ� เอา ั ญาต่างๆ มาใช้ในการรักษาแบบแผนตะวันออก เมือ่ มากทีส่ ดุ กว่าจะสกัดน�ำ้ มันหอมระเหยดอกมะลิมาได้แต่ละหยดนัน้ พนักงานของ สมุนไพรหายากและภูมปิ ญ ปัญญ์ปรุ ติ อ้ งออกไปเก็บดอกมะลิตอนก่อนรุง่ สางด้วยตนเอง เนือ่ งจากเป็นช่วงเวลา ผูก้ อ่ ตัง้ อย่าง นพ. บุญกิจ ลีเลิศพันธ์ ค้นพบว่ายาสีฟนั สมุนไพรทีว่ างขายตามท้อง ทีด่ อกมะลิสง่ กลิน่ หอมตลบอบอวลทีส่ ดุ “เจตนารมณ์ของปัญญ์ปรุ นิ บั ตัง้ แต่วนั แรก ตลาดเป็นยาสีฟนั ทีน่ ำ� เข้ามาจากต่างประเทศ และมีสว่ นผสมของสมุนไพรในปริมาณ น้อยกว่าทีค่ วรจะเป็น เขาจึงได้คดิ ค้นยาสีฟนั สูตรใหม่ซงึ่ มีแต่สมุนไพรเป็นส่วนผสม คือการรังสรรค์เฉพาะผลิตภัณฑ์ทที่ ำ� จากวัตถุดบิ ธรรมชาติ” วรวิทย์กล่าว นอกเหนื อ จากการใช้ ด อกไม้ แ ละสมุ น ไพรจากธรรมชาติ แ ล้ ว ปั ญ ญ์ ปุ ริ ยั ง ปั จ จุ บั น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ข องดอกบั ว คู ่ มี ว างจ� ำ หน่ า ยทั่ ว โลกและได้ ข ยายกลุ ่ ม โดดเด่นในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและประณีต อาทิ ขวดฉลุเหลือบทอง ผลิตภัณฑ์ให้มคี วามหลากหลายขึน้ อาทิ แชมพูสระผม ไปจนถึงผลิตภัณฑ์บำ� รุงต่างๆ สิ่งที่ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของดอกบัวคู่มีร่วมกันคือการเลือกสรรวัตถุดิบสมุนไพร ขวดแก้วสีเข้มทรงเรขาคณิต และกล่องปักลายนูนสุดหรูประดับด้วยพู่ จากธรรมชาติคณ ุ ภาพสูงเพือ่ ใช้ในกระบวนการผลิต ปัจจุบนั ดอกบัวคูม่ บี คุ ลากร “คนไทยมีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ แต่ก่อนหน้าที่จะมีปัญญ์ปุริ 450 คน พร้อมด้วยห้องทดลองทีท่ นั สมัยไว้สำ� หรับแปรรูปสมุนไพรจากแปลงปลูกพืน้ ที่ เรายังสู้เขาเรื่องการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่ได้” วรวิทย์กล่าว พร้อมเสริมว่า 7 ไร่ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดจากประเทศเยอรมนี ผูบ้ ริโภคจึงมัน่ ใจได้วา่ “ผลิตภัณฑ์ทดี่ ตี อ้ งดีทง้ั ภายในและภายนอก” ผลิตภัณฑ์ของดอกบัวคูน่ นั้ เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากลสูงสุด อี ก หนึ่ ง ผู ้ บุ ก เบิ ก แห่ ง วงการผลิ ต ภั ณ ฑ์ ส ปาระดั บ โลกคื อ บั ณ ฑิ ต จาก ด้ ว ยนวั ต กรรมที่ ทั น สมั ย กอปรกั บ หลั ก การด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ ที่ ยั่ ง ยื น และ มหาวิทยาลัยวอชิงตันอย่าง วุฒชิ ยั หาญพานิช หรือ พอล หาญ ในปี พ.ศ. 2545 สภาพการท� ำ งานที่ เ ป็ น มิ ต ร แบรนด์ ไ ทยดั ง กล่ า วจึ ง ได้ รั บ ตราสั ญ ลั ก ษณ์ อดีตสถาปนิกรายนีเ้ ดินทางกลับมาเมืองไทยเพือ่ ก่อตัง้ แบรนด์หาญ (Harnn) ซึง่ Thailand Trust Mark (T Mark) ซึง่ เป็นตราสัญลักษณ์รบั รองคุณภาพสินค้าที่ ปัจจุบนั ได้ขนึ้ แท่นเป็นหนึง่ ในผูผ้ ลิตและส่งออกสบูจ่ ากธรรมชาติชนั้ แนวหน้าของ ก�ำหนดขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณค่าของสินค้าและบริการของไทย ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภูมภิ าคเอเชีย โดยผลิตภัณฑ์ของเขานัน้ ปรากฏอยูใ่ นสปาซึง่ คว้ารางวัลระดับโลก เหล่านีไ้ ม่เพียงเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม แต่ยงั ช่วยเสริมสร้างความงามและยกระดับ อย่าง หาญ เฮอริเทจ สปา (Harnn Heritage Spa) โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ซัน คุณภาพชีวิตของผู้ใช้ รวมทั้งสนับสนุนวัฒนธรรมไทยและวิถีชีวิตธรรมชาติ เพนินซูลา ดานัง และโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล สมุย บ้านตลิง่ งามรีสอร์ท ควบคูไ่ ปด้วย นอกจากนีแ้ บรนด์หาญยังได้แตกสายกลุม่ ผลิตภัณฑ์เป็นแบรนด์ลกู อีก 3 แบรนด์

132 | 133


When a team of Thai medical professionals pulled together their specialist knowledge to create a cosmetics brand aimed at the public, it resulted in a global skincare sensation. Giffarine began in 1996, and since has grown to encompass premium health and beauty products, cosmetics, skin care, hair care, and natural spa and aromatherapy products, as well and health food and household items. Giffarine has its own research and development center managed by a team of doctors, chemists and food scientists. It also works closely with renowned local and international companies such as DSM Nutritional Products Company in Switzerland, the world’s largest supplier of health, nutrition, personal care and aroma ingredients, to ensure high-quality production systems and consumer safety. With a new 39,000 square metre production facility designed and built to GMP standards, Giffarine has production the capacity for up to 20 million pieces per month.

เมื่อทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ชาวไทยน�ำ องค์ความรูเ้ ฉพาะทางของตนมาสร้างสรรค์เป็นแบรนด์ เครือ่ งส�ำอางส�ำหรับผูบ้ ริโภคทัว่ ไป แบรนด์ผลิตภัณฑ์ บ�ำรุงผิวทีก่ ลายเป็นกระแสไปทัว่ โลกจึงได้ถอื ก�ำเนิดขึน้ กิฟฟารีนเริม่ ต้นกิจการในปี พ.ศ. 2539 ก่อนจะเติบโต และขยายสายการผลิตไปยังผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และความงามระดับพรีเมียม อาทิ เครื่องส�ำอาง ผลิตภัณฑ์บำ� รุงผิว ผลิตภัณฑ์บำ� รุงเส้นผม ผลิตภัณฑ์ สปาและเครื่องหอมบ�ำบัดจากธรรมชาติ ไปจนถึง อาหารเพื่อสุขภาพและข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน กิฟฟารีนได้จดั ตัง้ ศูนย์วจิ ยั และพัฒนาเป็นของตัวเอง ซึง่ อยูภ่ ายใต้การบริหารงานของทีมแพทย์ นักเคมี และ นักวิทยาศาสตร์การอาหาร อีกทัง้ ยังร่วมมือกับบริษทั ชือ่ ดังทัง้ ในและนอกประเทศ อาทิ บริษทั ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารดีเอสเอ็ม (DSM Nutritional Products Company)ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึง่ เป็นผูจ้ ดั จ�ำหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์สขุ ภาพและความงาม รวมถึงวัตถุดบิ ส�ำหรับเครือ่ งหอมรายใหญ่ทสี่ ดุ ของโลก กิฟฟารีนรักษามาตรฐานและระบบการผลิตให้อยู่ใน ระดับสูงเสมอเพือ่ ให้ผบู้ ริโภคมัน่ ใจว่าผลิตภัณฑ์มคี วาม ปลอดภัย ภายในพืน้ ทีโ่ รงงานผลิตแห่งใหม่ซงึ่ มีขนาด กว่า 39,000 ตารางเมตรนัน้ ได้รบั การออกแบบและ ก่อสร้างตรงตามมาตรฐาน GMP ท�ำให้กิฟฟารีน สามารถเพิ่มศักยภาพการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 20 ล้าน หน่วยต่อเดือน

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Thanks to superb facilities, a service-oriented culture and some of the most experienced and qualified healthcare professionals in the world, Thailand is a regional hub for medical tourism. Bangkok International Dental Center (BIDC) has emerged as the most highly-regarded dental clinic in the country thanks to its world-class facilities and highly skilled team. As the first dental clinic in Thailand to attain Joint Commission International Accreditation, which is considered the gold standard in global healthcare, you can rest assured that you will enjoy exceptionally high standards of care at an affordable price. The award-winning dental center also received the prestigious Prime Minister’s Export Award, which recognizes the BIDC as a market leader in dental tourism catering to international patients and expatriates. The modern, seven-story facility is equipped with the most advanced dental technologies and is staffed by 70 leading dental surgeons and their highly trained support teams. BIDC provides general dentistry and 11 specialties. It is also the leading dental implant center in Thailand and has a skilled team of cosmetic dentists. A dental specialist referral system also ensures that each stage of treatment is assigned to different specialist to ensure proper diagnosis and treatment. Equally important is the fact that BIDC abides by a system of price transparency with no hidden charges.

ด้วยสิง่ อ�ำนวยความสะดวกทีค่ รบครัน ความใส่ใจในการบริการ และทีมผูเ้ ชีย่ วชาญ ทางการแพทย์ที่มีความสามารถและประสบการณ์ในระดับโลก ประเทศไทยจึง กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเทีย่ วเชิงสุขภาพของภูมภิ าค ซึง่ ท�ำให้ศนู ย์ทนั ตกรรม บางกอก อินเตอร์เนชัน่ แนล เดนทัล เซ็นเตอร์ (BIDC) เป็นทีร่ จู้ กั ในฐานะคลินกิ ทันตกรรมของไทยทีไ่ ด้รบั การยอมรับในวงกว้าง เนือ่ งจากมีสงิ่ อ�ำนวยความสะดวก ระดับเวิลด์คลาสและบุคลากรผูเ้ ปีย่ มความสามารถ ในฐานะคลินกิ ทันตกรรมแห่งแรก ของประเทศไทยซึง่ ได้รบั การรับรองมาตรฐาน Joint Commission International Accreditation ซึง่ ถือเป็นมาตรฐานสากลระดับสูงในด้านการรักษาพยาบาล ผูใ้ ช้บริการ จึ ง สามารถวางใจได้ ว ่ า จะได้ รั บ การดู แ ลรั ก ษาด้ ว ยมาตรฐานสู ง สุ ด ในราคา ทีส่ มเหตุสมผล ศูนย์ทนั ตกรรมแห่งนีย้ งั ได้รบั รางวัลการันตีคณ ุ ภาพอืน่ ๆ อาทิ รางวัล ผูส้ ง่ ออกสินค้าและบริการดีเด่น ซึง่ เป็นเครือ่ งยืนยันว่าศูนย์ทนั ตกรรม BIDC คือ ผูน้ ำ� ในตลาดการท่องเทีย่ วเชิงสุขภาพ ซึง่ ได้รบั ความนิยมทัง้ ในหมูค่ นไข้ทเี่ ดินทาง มาจากต่างประเทศและชาวต่างชาติทพี่ ำ� นักอยูใ่ นประเทศไทย คลินิก 7 ชั้นซึ่งตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นแห่งนี้ เพรียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี ด้านทันตกรรมที่ทันสมัย รวมถึงทีมทันตแพทย์ชั้นน�ำอีกกว่า 70 ราย ท�ำให้ ศูนย์ทนั ตกรรม BIDC ให้บริการด้านทันตกรรมทัว่ ไปและการรักษาเฉพาะทางอีก 11 ด้าน และเป็นศูนย์บริการทันตกรรมรากเทียมชั้นน�ำของประเทศ โดยมีทีม ทันตแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญในด้านทันตกรรมเพือ่ ความงามคอยให้บริการ เนือ่ งจากศูนย์ ทันตกรรมแห่งนีใ้ ช้ระบบการส่งต่อทันตแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญ ผูป้ ว่ ยจึงจะได้รบั การรักษา ในแต่ละขัน้ ตอนโดยผูเ้ ชีย่ วชาญของแต่ละสาขานัน้ ๆ เพือ่ ให้การวินจิ ฉัยและการรักษา เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกสิง่ หนึง่ ทีส่ ำ� คัญไม่แพ้ปจั จัยด้านอืน่ ๆ คือทางศูนย์ ทันตกรรมมีการเลือกใช้ระบบราคาทีโ่ ปร่งใสและไม่มคี า่ ใช้จา่ ยแอบแฝง

134 | 135


With a wealth of natural herbs, flowers and spices to draw on, it’s unsurprising that Thailand has emerged as one of the aromatherapy and spa product capitals of the world. Panpuri is among the country’s most luxurious producers of exquisite scents, creams and tonics for home use and high-end spas. Since 2003, it has operated on the philosophy of “beauty from within,” using Eastern natural remedies to create high quality, organic wellness products that are safe and beneficial for consumers. PANPURI PRODUCTS Eastern philosophy identifies natural remedies that cleanse and connect with mind, body and soul. Panpuri utilizes organically grown plants and herbs found in Thailand that have known beneficial properties. Add some premium international ingredients such as Madagascan vanilla and Rose Absolute (pure essential oil from rare Moroccan roses) and Panpuri wellness becomes rich with natural goodness. POLLUTANT FREE Panpuri ensures that no harmful, hypoallergenic chemicals are used in the manufacturing of its products, keeping them free of paraben, SLS, silicone and mineral oils. Packaging is also carefully selected, using only paper that has not been bleached and eco-friendly soy ink.

UNDERSTANDING THE BRAND With its focus on wellbeing, all-natural products and Eastern herbal remedies, Panpuri ensures it has an edge over the competition with its clear brand vision. Regular re-evaluation of its direction and products shows the company ways to improve its services. Little wonder that Panpuri is known and trusted by its loyal consumers worldwide. PANPURI ORGANIC SPA Taking its wellness regime a step further, the company has opened the superbly elegant Panpuri Organic Spas in Bangkok and Penang, with the motto “Everything that touches you is organic.” This means that its bathrobes, towels, sheets, fresh fruits and refreshments—as well as all the spa products—are carefully selected for their organic properties. A wide range of therapies from across Asia are offered, including classic massages from Thailand, India, Bali, China and the Philippines, each claiming a superlative experience. Try one and see. INTERNATIONAL AWARDS Such is the quality of its products that Panpuri regularly wins awards around the world. These include the Thailand Trust Mark and Design Excellence Award (DEmark) from Thailand, Good Design Award (G Mark) in Japan, Pentawards in 2011 and 2012, Best Thai Brand Award from the Prime Minister (2014) and an AsiaSpa award in 2016 for the Asian Ritual Product of the Year. Panpuri products are exported to department stores and specialty retail outlets in 22 countries. Many luxury resorts, spas and hotels also carry Panpuri products and amenities for their guests. Vorravit Siripark Founder and CEO, Panpuri

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Panpuri ด้วยสมุนไพร ดอกไม้ และเครือ่ งเทศทีม่ ใี ห้เลือกสรรมากมายจากธรรมชาติ จึงไม่ใช่ เรือ่ งแปลกทีป่ ระเทศไทยจะขึน้ ชือ่ ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการบ�ำบัดด้วยเครือ่ งหอม และผลิตภัณฑ์สปาของโลก ปัญญ์ปรุ คิ อื หนึง่ ในผูผ้ ลิตเครือ่ งหอม ครีมบ�ำรุงผิว และ ยาบ�ำรุงชั้นเลิศส�ำหรับใช้ในครัวเรือนและสปาหรูระดับ 5 ดาว นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา ปัญญ์ปรุ ไิ ด้ดำ� เนินกิจการภายใต้ปรัชญา “ความงามจาก ภายใน” โดยใช้วธิ กี ารบ�ำบัดด้วยธรรมชาติตามศาสตร์แบบตะวันออก เพือ่ สร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพสูงและปราศจากสารเคมี ซึ่งมีประโยชน์และ ปลอดภัยส�ำหรับผูบ้ ริโภค ผลิตภัณฑ์ของ Panpuri ปรัชญาตะวันออกกล่าวถึงการบ�ำบัดด้วยธรรมชาติทชี่ ว่ ยช�ำระล้างองค์ประกอบทัง้ 3 อันได้แก่ จิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ ให้สะอาด ปัญญ์ปรุ จิ งึ ได้นำ� พืชผัก สมุนไพรของไทยทีม่ ปี ระโยชน์ ซึง่ ปลูกด้วยวิธกี ารแบบอินทรียม์ าใช้เป็นวัตถุดบิ ใน การผลิต ก่อนจะน�ำมาผสมผสานกับส่วนผสมน�ำเข้าระดับพรีเมียม อาทิ วานิลลา มาดากัสการ์ และน�ำ้ มันหอมระเหยกุหลาบ (น�ำ้ มันหอมระเหยบริสทุ ธิจ์ ากกุหลาบ โมร็อคโกพันธุห์ ายาก) ผลิตภัณฑ์ดแู ลสุขภาพของปัญญ์ปรุ จิ งึ เป็นผลิตภัณฑ์ทอี่ ดุ ม ไปด้วยสรรพคุณจากธรรมชาติ ปราศจากสารพิษ ปัญญ์ปรุ เิ ลือกใช้เฉพาะสารเคมีทไี่ ม่เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดอาการแพ้และระคาย เคืองในกระบวนการผลิต โดยผลิตภัณฑ์ของปัญญ์ปรุ ทิ กุ ชนิดจะไม่มสี ว่ นผสมของ พาราเบน เอสแอลเอส ซิลโิ คน และน�ำ้ มันแร่ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังได้รับ การคัดเลือกอย่างพิถพี ถิ นั โดยเลือกใช้เฉพาะบรรจุภณ ั ฑ์กระดาษทีไ่ ม่ผา่ นการฟอก และใช้หมึกพิมพ์ชนิดพิเศษจากถัว่ เหลืองซึง่ เป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม เข้าใจแบรนด์ ปัญญ์ปรุ พิ ยายามสร้างข้อได้เปรียบให้เหนือคูแ่ ข่งผ่านการก�ำหนดวิสยั ทัศน์ทชี่ ดั เจน โดยมุง่ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพือ่ สุขภาพซึง่ ใช้วตั ถุดบิ จากธรรมชาติ 100% รวมถึง ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรตะวันออก การประเมินทิศทางขององค์กรและคุณภาพ ผลิตภัณฑ์อยูเ่ ป็นประจ�ำ ช่วยให้บริษทั สามารถหาแนวทางใหม่ๆ ในการปรับปรุง และพัฒนาบริการอย่างต่อเนือ่ ง จึงไม่นา่ แปลกใจทีป่ ญ ั ญ์ปรุ ไิ ด้กลายเป็นแบรนด์ที่ มีชอื่ เสียงและเป็นทีไ่ ว้วางใจของผูบ้ ริโภคทัว่ โลกในปัจจุบนั Panpuri Organic Spa ปัญญ์ปรุ กิ า้ วล�ำ้ ไปอีกขัน้ ในเรือ่ งผลิตภัณฑ์และบริการเพือ่ สุขภาพ ด้วยการเปิดตัว สปาหรูเหนือระดับ ในชือ่ ปัญญ์ปรุ ิ ออร์แกนิค สปา (Panpuri Organic Spa) ในกรุงเทพฯ และปีนงั พร้อมสโลแกน “สัมผัสจากธรรมชาติในทุกขัน้ ตอน” ท�ำให้ ในทุกผลิตภัณฑ์ทเี่ ลือกใช้ ไม่วา่ จะเป็นเสือ้ คลุมอาบน�ำ้ ผ้าขนหนู หรือเครือ่ งบริโภค อย่างผลไม้สด รวมถึงเครือ่ งดืม่ ต่างๆ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์สปาอืน่ ๆ ล้วนแล้วแต่ ผ่านการคัดเลือกมาอย่างพิถพี ถิ นั และปราศจากสารพิษ ปัญญ์ปรุ ใิ ห้บริการการบ�ำบัด ด้วยศาสตร์แขนงต่างๆ จากหลายประเทศในเอเชีย ไม่วา่ จะเป็นการนวดแผนไทย อินเดีย บาหลี จีน หรือฟิลปิ ปินส์ ซึง่ แต่ละศาสตร์ลว้ นมอบประสบการณ์ชน้ั เลิศให้ แก่ผทู้ ไี่ ด้สมั ผัส รางวัลระดับสากล ผลิตภัณฑ์คณ ุ ภาพของปัญญ์ปรุ นิ น้ั กวาดรางวัลมาแล้วทัว่ โลก ได้แก่ รางวัล Design Excellence Award (DEmark) จากประเทศไทย รางวัล Good Design Award (G Mark) จากประเทศญีป่ นุ่ รางวัล Pentawards ในปี พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2555 รางวัล Prime Minister’s Export Award สาขา Best Thai Brand ในปี พ.ศ. 2557 และรางวัล AsiaSpa Award ในปี พ.ศ. 2559 สาขา Asian Ritual Product of the Year รวมถึงได้รบั ตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) จากกรมส่งเสริม การค้าระหว่างประเทศ

ปัญญ์ปรุ สิ ง่ ออกผลิตภัณฑ์ไปจ�ำหน่ายยังห้างสรรพสินค้าชัน้ น�ำและร้านจ�ำหน่ายผลิต ภัณฑ์สปาในกว่า 22 ประเทศ นอกจากนี้ รีสอร์ท สปา และโรงแรมหรูหลายแห่ง ต่างก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของปัญญ์ปรุ สิ ำ� หรับแขกผูเ้ ข้าพักเช่นกัน

136 | 137


หาญคือหนึง่ ในแบรนด์ทสี่ ามารถน�ำเอาความเป็นไทย มาร้อยเรียงและน�ำเสนอในรูปแบบทีโ่ ดดเด่น หาญได้ บรรจงรั ง สรรค์ ค อลเลคชั น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ดู แ ลผิ ว กาย ส� ำ หรั บ ชายและหญิ ง ที่ ส วยงามประณี ต โดยได้ แรงบันดาลใจจากพฤกษศาสตร์นานาพรรณในท้องถิน่ ศาสตร์ ก ารรั ก ษาโรคด้ ว ยสมุ น ไพรอั น เก่ า แก่ แ ละ เอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย หาญให้ความส�ำคัญกับการสร้างเสริมสุขภาพและ ความเป็นอยู่ที่ดี โดยคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบที่ดีที่สุด จากธรรมชาติซึ่งมีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ เช่น น�้ำมันร�ำข้าว มาใช้ในการผลิตสบู่ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะ ของหาญ รวมถึ ง น�้ ำ มั น นวดสปา และน�้ ำ มั น หอมระเหยสูตรออร์แกนิคทีไ่ ด้รบั การรับรอง นอกจากนี้ หาญยังได้เนรมิตน�ำ้ หอมทีผ่ สมผสานกลิน่ ตะไคร้และ ลาเวนเดอร์ รวมถึงมะลิและใบสะระแหน่เข้าไว้ดว้ ยกัน ภายใต้คอลเลคชัน Five Elements Eau de Toilette ผลิตภัณฑ์ของหาญไม่เพียงมีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ เท่านัน้ แต่บรรจุภณ ั ฑ์ทสี่ วยงามยังเป็นเสมือนเครือ่ ง ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายภายใต้แบรนด์หาญนี้ คือสิง่ ทีท่ กุ คนล้วนปรารถนา นอกเหนื อ จากผลิ ต ภั ณ ฑ์ ต ่ า งๆ ซึ่ ง ถื อ เป็ น เอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์แล้ว หาญยังเป็นเจ้าของ หาญ เฮอริเทจ สปา (HARNN Heritage Spa) แบรนด์ เครื่องหอมร่วมสมัยที่แต่งเติมเอกลักษณ์ให้กับทุก ไลฟ์สไตล์อย่าง วุฒิ (Vuudh) คาเฟ่เครือ่ งดืม่ สมุนไพร ธิชา (Tichaa) ไปจนถึงแบรนด์เครือ่ งแต่งกายทีผ่ ลิต จากเส้นใยธรรมชาติทชี่ อื่ จริต (Jaritt)

Few brands capture so completely the essence of exotic Thailand than HARNN. Inspired by indigenous botanicals, the ancient tradition of herbal medicine and the country’s unique culture, HARNN has created a collection of exquisite body care products for men and women. HARNN’s holistic approach to wellbeing means using only the finest natural active ingredients such as rice bran oil in its patented soap formulation and home spa massage oils, certified organic essential oils. They also produce heavenly fragrance combinations such as lemongrass and lavender, and jasmine and mint in the Five Elements eau de toilette collection. Yet HARNN products don’t just appeal to our olfactory sense; elegant packaging makes these luxurious body care products objects of desire. In addition to signature HARNN products, the company also has its own HARNN Heritage Spa, the contemporary lifestyle fragrance brand, Vuudh, Tichaa herbal infusions, and Jarrit brand lifestyle wear made from natural fabrics.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Not many businesses can boast that they capture in a bottle the essence of Thailand. But Sabai-arom certainly can. With its range of beauty creams, cosmetics and spa products playing on iconic local scents like jasmine, lemongrass, coconut and lychee, each of Sabai-arom’s creams and oils provides an olfactory journey to the Kingdom. This ethical beauty and wellness brand company was built on five guiding principles: that its products should be vegetarian and cruelty-free; that products preserve Thai wisdom by using indigenous herbs; that ingredients are sourced from farmers who use organic and sustainable methods; that farmers, customers and stakeholders are treated with respect and fairness; and that they try to deliver happiness to everyone they meet on the journey.

Sasathorn Nasongkhla Founder, Sabai-arom

Sabai-arom believes that its wellness products offer more than nourishment for the body; they represent the abundance of Thailand and its culture. The range of products includes soap bars, shower gels, shampoo, body lotions, massage oils and fragrances, all packaged with that extra special ingredient—Thai happiness.

138 | 139

สบายอารมณ์ คื อ แบรนด์ ที่ ส ามารถกล่ า วได้ อ ย่ า ง ภาคภูมวิ า่ สินค้าของตนนัน้ สะท้อนถึงเอกลักษณ์ความ เป็นไทยออกมาได้ครบถ้วน ด้วยผลิตภัณฑ์ครีมบ�ำรุงผิว เครื่องส�ำอาง และผลิตภัณฑ์ส ปานานาชนิ ด ซึ่ ง ผสมผสานกลิ่นหอมแบบไทยๆ อาทิ มะลิ ตะไคร้ มะพร้าว และลิ้นจี่ จึงท�ำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ครีมและ น�ำ้ มันของสบายอารมณ์สมั ผัสประสบการณ์ความหอม ของเมืองไทยทุกครัง้ ทีใ่ ช้ บริษัทเพื่อความงามและสุขภาพแห่งนี้ยึดปณิธาน ด้านจริยธรรมทีส่ ำ� คัญ 5 ประการ คือ ผลิตภัณฑ์ตอ้ ง ปราศจากวัตถุดบิ จากสัตว์และไม่ผา่ นกระบวนการซึง่ ไร้มนุษยธรรม ผลิตภัณฑ์ตอ้ งอนุรกั ษ์ไว้ซงึ่ ภูมปิ ญ ั ญา สมุนไพรท้องถิ่น วัตถุดิบที่ใช้ต้องเป็นผลผลิตจาก การเกษตรแบบยั่งยืนและปลอดสารพิษ เกษตรกร ลูกค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องได้รับการปฏิบัติ อย่างให้เกียรติและเป็นธรรม รวมถึงต้องส่งมอบความสุข ตลอดกระบวนการออกแบบ ผลิต และจัดจ�ำหน่าย สบายอารมณ์ เ ชื่ อ ว่ า นอกจากการใช้ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ เพื่อสุขภาพ จะเป็นการประทินผิวแล้ว ผลิตภัณฑ์ เหล่านี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความ อุดมสมบูรณ์ของประเทศไทยอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์ ของสบายอารมณ์นั้นแสดงถึงสุนทรียะในแบบไทย อันถือเป็นส่วนผสมอันสุดแสนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น สบูก่ อ้ น ครีมอาบน�ำ้ โลชัน่ ทาผิว น�ำ้ มันนวด ไปจนถึง เครือ่ งหอมต่างๆ


Distributed to 68 stores in 14 countries worldwide, THANN is a natural skincare and aromatherapy brand that creates products using botanicals derived from the finest resources and modern dermatological science. Its products are certified by various international skin institutes, which administer a range of dermatological, irritation and efficacy tests to ensure THANN products are high-quality and worthy of international recognition. With more than 500 hospitality partners across the world, including top hoteliers, premium airlines and high-end shopping malls, THANN’s selective range of skincare products use vitamin-E-enriched rice bran oil and nano shiso extract, which have unique moisturizing properties and contain anti-oxidants to protect skin cells. Furthermore, THANN uses pure aromatic essential oils, extracted from precious plants and florals, in its skincare products, which help provide unique healing benefits and memorable sensory experiences.

ธัญ ผลิตภัณฑ์ดแู ลสุขภาพผิว และผลิตภัณฑ์อโรมา เธอราปี ที่เปี่ยมด้วยส่วนผสมทรงประสิทธิภาพจาก ธรรมชาติ และผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง ผูเ้ ชีย่ วชาญแล้วว่าไม่กอ่ ให้เกิดการแพ้ รวมทัง้ ผ่านการ ทดสอบประสิทธิภาพจากสถาบันวิจัยผิวหนังที่ได้รับ การยอมรับในระดับสากล นอกจากผลิตภัณฑ์ธญ ั จะมีการจ�ำหน่ายใน 68 สาขา และกว่า 14 ประเทศทัว่ โลกแล้ว ยังมีโรงแรมชัน้ น�ำ ระดับ 5 ดาวทีม่ ชี อ่ื เสียงในหลายประเทศทัว่ โลก และ ห้องพักผู้โดยสารชั้นธุรกิจชองสายการบินชั้นน�ำใน ท่าอากาศยานมากกว่า 500 แห่ง ให้ความไว้วางใจ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ธญ ั เพือ่ มอบประสบการณ์ผอ่ นคลาย และปรนนิบตั ผิ วิ แก่ลกู ค้าคนส�ำคัญ ส่วนผสมส�ำคัญจากน�ำ้ มันร�ำข้าว ซึง่ อุดมด้วยคุณค่า วิตามินอี เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของธัญที่มีในทุก ผลิตภัณฑ์ เช่นเดียวกับ สารสกัดจากใบชิโซะ ทีช่ ว่ ย มอบความชุม่ ชืน้ ชะลอริว้ รอยแห่งวัย พร้อมฟืน้ ฟูผวิ ให้กลับมีสขุ ภาพดี นอกจากนี้ ธัญยังใช้น�้ำมันหอมระเหยที่สกัดจาก ดอกไม้และพืชพรรณธรรมชาติทั่วโลกในผลิตภัณฑ์ ดูแลผิว เพือ่ ส่งมอบคุณค่าของธรรมชาติสผู่ วิ พร้อม กลิ่นหอมที่ช่วยผ่อนคลาย รวมทั้งช่วยปรับสมดุล อารมณ์และจิตใจ

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Thanks to the mind of a qualified medical doctor with a background in traditional oriental healing, one of the world’s most widely used herbal toothpaste brands was born. Dr. Boonkit Leelertphan’s Twin Lotus Co., Ltd started out as a herbal drug store using the know-how and rare herbs of Asia to support the practice of traditional oriental medicine. Dr. Boonkit realized the need for high-quality herbal toothpaste made in Thailand. Foreign brands were expensive despite using fewer herbs than Dr. Boonsak would have liked. He decided to make his ideal toothpaste and started leaving it in shops on consignment. The rest is history. Today, Twin Lotus is a name which everyone in the country recognizes. Regionally, Twin Lotus is available in China, Vietnam, Cambodia and Laos. Thanks to its Halal certification, the brand is also popular in the Middle East. In European countries, including Italy, Germany, England and many others, Twin Lotus has gained a foothold which promises further global expansion. The company has widened its range of products from oral to skin and hair care. What all these products have in common is the high-quality, natural herbs involved in making them. Twin Lotus currently employs 450 people and is equipped with state-of-the-art labs which process herbs from its 1.12 hectares of nurseries. Using the latest technology from Germany, Twin Lotus is maintaining the highest standards for its products despite its rapid expansion into export markets.

140 | 141

สื บ เนื่ อ งจากปณิ ธ านของนายแพทย์ ผู ้ เ ชี่ ย วชาญ ในการแพทย์แผนตะวันออก ยาสีฟนั สมุนไพรซึง่ เป็น ทีน่ ยิ มใช้กนั อย่างแพร่หลายทีส่ ดุ ยีห่ อ้ หนึง่ ของโลกจึงได้ ถือก�ำเนิดขึน้ บริษทั ดอกบัวคู่ จ�ำกัด ซึง่ ก่อตัง้ โดย นพ. บุญกิจ ลีเลิศพันธ์ เริม่ ต้นกิจการจากร้านขายยา เล็กๆ ซึ่งน�ำเอาสมุนไพรหายากและภูมิปัญญาต่างๆ มาใช้ ใ นการรั ก ษาโรคแบบแผนตะวั น ออก เมื่ อ นพ. บุญกิจ เล็งเห็นว่าประเทศไทยต้องการยาสีฟนั สมุนไพรคุณภาพสูง เนื่องจากยาสีฟันที่น�ำเข้าจาก ต่ า งประเทศนั้ น มี ร าคาสู ง และยั ง มี ส ่ ว นผสมของ สมุนไพรน้อยกว่าที่ควร จึงตัดสินใจคิดค้นยาสีฟัน สูตรของตนเองขึน้ และส่งไปฝากขายตามร้านค้าต่างๆ จนประสบความส� ำ เร็ จ และกลายเป็ น ที่ ก ล่ า วขาน อย่างในปัจจุบนั ปั จ จุ บั น ดอกบั ว คู ่ ก ลายเป็ น ชื่ อ ติ ด หู ค นไทย โดยผลิตภัณฑ์ดอกบัวคู่นั้นได้รับการส่งออกไปยัง ประเทศต่างๆ ในภูมภิ าค ได้แก่ จีน เวียดนาม กัมพูชา และลาว นอกจากนี้แบรนด์ดอกบัวคู่ยังเป็นที่นิยม ในประเทศตะวันออกกลาง เนือ่ งจากได้รบั การรับรอง มาตรฐานฮาลาล ขณะทีใ่ นอิตาลี เยอรมนี อังกฤษ และประเทศอืน่ ๆ ในยุโรปนัน้ ดอกบัวคูก่ ม็ ตี ลาดรองรับ และมีแนวโน้มทีจ่ ะขยายตลาดออกไปยังประเทศอืน่ ๆ ทัว่ โลกได้อกี ในอนาคต บริ ษั ท ดอกบั ว คู ่ ไ ด้ ข ยายสายการผลิ ต เพิ่ ม เติ ม จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ส�ำหรับช่องปากไปยังผลิตภัณฑ์ บ�ำรุงผิวและเส้นผม โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนมี ส่วนผสมจากสมุนไพรคุณภาพสูง ปัจจุบันดอกบัวคู่ มีบุคลากรทั้งสิ้น 450 คน พร้อมทั้งห้องทดลอง ทีท่ นั สมัยซึง่ ใช้สำ� หรับแปรรูปสมุนไพรจากแปลงเพาะ ปลูกบนพืน้ ที่ 7 ไร่ โดยเทคโนโลยีลา่ สุดจากประเทศ เยอรมนี ท�ำให้ดอกบัวคูส่ ามารถขยายตลาดส่งออกไป ยังประเทศต่างๆ และในขณะเดียวกันก็รกั ษามาตรฐาน สูงสุดทางด้านการผลิตไว้ได้อย่างต่อเนือ่ ง


The British Dispensary and Snake Brand has a long history. It was established in 1892 by Dr. Thomas Hayward Hays who opened a pharmacist selling products with a logo of an arrow striking a snake, a symbol of curing sickness. In 1928, Dr. Luan, an ancestor of the Vongvanij family, developed the company’s famous scented cooling powder and prickly heat powder to relieve skin rashes and discomfort in hot weather. This product was the first brand produced by Thais that became popular at home and abroad. In some countries outside Thailand, Snake Brand products are marketed under the St. Luke’s brand. It is perhaps one of Thailand’s most iconic products. No bathroom is complete without it. Snake Brand Prickly Heat Powder is effective in relieving itching, prickly heat rash and skin irritation caused by sweat and hot weather. The powder has a fresh scent of natural essential oils and comes in a metal tin in classic, lavender, cool pink and ocean fresh fragrances. In recent years, The British Dispensary has diversified with other Snake brand products including active cooling powder, St. Luke’s baby powder, shower gel, hair tonic cologne, and more.

Anurut Vongvanij Executive Chairman, The British Dispensary

กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางูและผลิตภัณฑ์ตรางูนั้นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมา อันยาวนาน แบรนด์ตรางูกอ่ ตัง้ ขึน้ ในปี พ.ศ. 2435 โดย นพ. โธมัส เฮย์เวิรด์ ผูเ้ ปิดต�ำนานเวชภัณฑ์ภายใต้โลโก้รปู ‘งูถกู ศรปัก’ ซึง่ เป็นสัญลักษณ์ของการรักษา โรคภัยไข้เจ็บ ในปี พ.ศ. 2471 นพ. ล้วน ว่องวานิช ได้พฒ ั นาสูตรแป้งเย็นกลิน่ หอมและแป้งเย็น ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของบริษัทเพื่อบรรเทาอาการผดผื่นบนผิวหนังและคลาย ความร้อน ผลิตภัณฑ์แป้งเย็นดังกล่าวกลายเป็นสินค้าไทยยี่ห้อแรกที่ผลิตโดย คนไทย ซึง่ ได้รบั ความนิยมทัง้ ในและต่างประเทศ ส�ำหรับในบางประเทศ ผลิตภัณฑ์ ตรางูจะวางจ�ำหน่ายภายใต้ชอื่ เซนลุกซ์ (St. Luke’s) ส่วนในประเทศไทยนัน้ แป้งตรางูถอื เป็นผลิตภัณฑ์ทไี่ ม่วา่ ใครเห็นก็ตอ้ งรูจ้ กั และมีใช้ในทุกครัวเรือน แป้งเย็นตรางูมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการคัน ผดผื่น และอาการระคายเคือง ผิวซึง่ เกิดจากเหงือ่ และความร้อน โดยแป้งตรางู ซึง่ ถูกบรรจุในกระป๋องเหล็กนัน้ มีกลิน่ หอมสดชืน่ จากน�ำ้ มันหอมระเหยธรรมชาติ และมีทงั้ หมด 4 กลิน่ ได้แก่ Classic, Lavender, Cool Pink และ Ocean Fresh ภายในระยะเวลาไม่กปี่ ี ที่ผ่านมา บริษัทอังกฤษตรางูได้ขยายสายการผลิตของแบรนด์ตรางูไปยังกลุ่ม ผลิตภัณฑ์อนื่ ๆ อาทิ แป้งเย็นแอคทีฟ แป้งเด็กเซนลุกซ์ เจลอาบน�ำ้ แฮร์โทนิค โคโลญ และผลิตภัณฑ์อนื่ ๆ อีกมากมาย

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Erb fuses traditional Thai wisdom, natural ingredients, and the latest scientific innovations to create a collection of beauty products for women. The brand was founded in 2000 by leading Thai fashion designer, Pattree Bhakdibutr. She named the collection Erb after the old Thai expression, erb-im, which refers to the radiant glow of Thai women and is a testament to their physical wellbeing and spiritual contentment. Erb products are modern interpretations of traditional Siamese indulgences. Ingredients sourced from authentic Thai herbs are used to create the brand’s unique signature blends. Erb recognizes the importance of sustainability. To this end, all Erb products are cruelty-free, formulated with natural and certified organic ingredients, use no paraben, mineral oils or petroleum derivatives and are dermatologically tested. They are also certified by the Food and Drug Administration of Thailand, comply with international Food and Drug Administration standards and use environmentally friendly packaging. Not only that, but Erb products offer some of the most beautiful packaging in Thailand. Whether buying an Erb item as a gift or for oneself, the brand’s elegantly crafted containers are instantly recognizable as a uniquely Thai and highly premium item. The brand’s highly acclaimed Aromatique and Princess Pa collections, which stand among Thailand’s elite skincare ranges, have received Outstanding Product Design Excellence Awards from the Thai Ministry of Commerce. The Aromatique collection was also honored with Japan’s Good Design Award for its clean appearance and use of high-end materials. E r b b e a u t y p ro d u c t s h a v e e n j o y e d i n ternational acclaim. Erb Seven Pollen Face Serum was listed as the Top 3 Best Face Serum by Natural Health Magazine, UK, and Erb Finger Fabulous Aromatic Hand Cream was for selected as the Best Hand Cream by Image Magazine, UK.

เอิบคือการผสมผสานระหว่างภูมปิ ญ ั ญาไทย วัตถุดบิ จากธรรมชาติ และนวัตกรรมอันทันสมัย เพือ่ น�ำมา รังสรรค์เป็นคอลเลคชันผลิตภัณฑ์ความงามส�ำหรับ สุภาพสตรี แบรนด์เอิบก่อตัง้ ขึน้ ในปีพ.ศ. 2543 โดย ดีไซน์เนอร์แนวหน้าของวงการแฟชัน่ ไทยอย่าง พัชทรี ภักดีบตุ ร ค�ำว่า ‘เอิบ’ นัน้ มาจากค�ำว่า ‘เอิบอิม่ ’ โดย พัชทรีตอ้ งการสือ่ ถึงผิวพรรณอันเปล่งปลัง่ ของผูห้ ญิง ไทย รวมทั้งเพื่อเป็นตัวแทนของสุขภาพกายและใจ อันสมบูรณ์ ผลิตภัณฑ์ของเอิบเกิดจากการน�ำเอา สุนทรียะแห่งความเป็นไทยแท้มาตีความใหม่ ผ่านการ คัดสรรวัตถุดบิ สมุนไพรไทยเพือ่ น�ำมาเนรมิตเป็นส่วน ผสมทีเ่ ป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ แบรนด์เอิบให้ความส�ำคัญกับแนวคิดเรือ่ งการพัฒนา อย่างยัง่ ยืน ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์ของเอิบทุกชิน้ จึงต้อง ผ่านกระบวนการทีถ่ กู ต้องเป็นธรรม และต้องใช้วตั ถุดบิ จากธรรมชาติซงึ่ ได้รบั การรับรองว่าปลอดสารพิษ รวม ทัง้ ปราศจากพาราเบน น�ำ้ มันแร่ หรือส่วนผสมจาก ปิโตรเลียม และต้องผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผวิ หนัง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ของเอิบยังได้รับการรับรอง มาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของไทย และเป็น ไปตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอาหารและยาสากล รวมถึงใช้บรรจุภณ ั ฑ์ทเี่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ผลิตภัณฑ์ของเอิบยังขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของ บรรจุภัณฑ์ ซึ่งได้รับการออกแบบและผลิตขึ้นให้มี ความโดดเด่นสะดุดตา ในฐานะผลิตภัณฑ์ระดับ พรีเมียมที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยออกมา ได้ อ ย่ า งชั ด เจน เหมาะส� ำ หรั บ ทั้ ง น� ำ ไปมอบเป็ น ของขวัญและซือ้ ไว้ใช้เอง คอลเลคชัน Aromatique และ Princess Pa ซึง่ ได้รบั ค�ำชมเป็นวงกว้างนัน้ เป็นหนึง่ ในแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำ� รุงผิวทีด่ ที สี่ ดุ การันตีดว้ ยตรา สัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) และ Design Excellence Award (DEmark) จากกรม ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ รางวัล Good Design Award (G Mark) จากประเทศ ญี่ปุ่นส�ำหรับคอลเลคชันอโรมาติก เนื่องจากมีการ ออกแบบทีส่ วยงามและใช้วสั ดุคณ ุ ภาพสูง ผลิตภัณฑ์เพือ่ ความงามของเอิบยังได้รบั การยอมรับใน ระดับสากล โดยเซรัม่ บ�ำรุงผิวหน้า Erb Seven Pollen Face Serum ได้ตดิ อันดับหนึง่ ในสามเซรัม่ ผิวหน้าทีด่ ี ทีส่ ดุ จากนิตยสาร Natural Health ของอังกฤษ ในขณะ ทีค่ รีมทามือ Erb Finger Fabulous Aromatic Hand Cream ก็ได้รบั การคัดเลือกให้เป็นครีมทามือทีด่ ที สี่ ดุ โดยนิตยสารสัญชาติองั กฤษ Image

142 | 143


Assoc. Prof. Dr. Phitaya Charupoonphol is a man of vision. As Dean of Mahidol University International College (MUIC), he has played a key role in ensuring that the college is now regarded as one of Thailand’s finest. Under his leadership, and while adhering to the MUIC’s motto, “Wisdom of the Land,” this renowned institution has built a strong foundation of excellence. It now offers 19 undergraduate degrees and 22 minors covering liberal arts, sciences and management, as well as two master’s degree programs for approximately 4,000 students. MUIC conducts its programs in English but also offers courses taught by native speakers in Chinese, Spanish, Japanese, French and German. Dedicated to expanding its reach and the knowledge of its students, MUIC has a Memorandum of Understanding with more than 100 institutions around the world. Like its students, MUIC strives to achieve international standards and academic excellence. Over the years, its graduates have launched successful careers in communication, the arts, entertainment, business, technology, science, tourism and hospitality, as well as government and non-government organizations. Just as important as a degree, its graduates leave MUIC with a thorough grounding in life skills and a love of learning.

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


รศ.นพ.พิทยา จารุพูลผล คือหนึ่งในผู้มีวิสัยทัศน์ ในฐานะผู้ด�ำรงต�ำแหน่ง คณบดีวทิ ยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) รศ.นพ.พิทยา มีบทบาทส�ำคัญ ในการผลักดันให้วทิ ยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลกลายเป็นหนึง่ ในวิทยาลัย นานาชาติทดี่ ที สี่ ดุ ของประเทศอย่างในปัจจุบนั ภายใต้การก�ำกับดูแลของ รศ.นพ.พิทยา และการยึดมัน่ ในค�ำขวัญ “ปัญญาของแผ่นดิน” ของมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา ที่มีชื่อเสียงแห่งนี้จึงได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านความเป็นเลิศทางวิชาการ ให้ กั บ ผู ้ เ ข้ า ศึ ก ษา โดยในขณะนี้ มี ห ลั ก สู ต รปริ ญ ญาตรี เ ปิ ด สอนเป็ น จ� ำ นวน 19 หลักสูตร และวิชาโท 22 วิชา ซึ่งครอบคลุมศาสตร์ในด้านต่างๆ ได้แก่ ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการบริหารจัดการ รวมถึงยังเปิดสอนหลักสูตร ปริญญาโทอีก 2 หลักสูตรซึง่ มีนกั ศึกษาประมาณ 4,000 คน แม้วทิ ยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลจะด�ำเนินการเรียนการสอนด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่ยงั มี การเปิดสอนหลักสูตรภาษาจีน สเปน ญีป่ นุ่ ฝรัง่ เศส และเยอรมัน โดยอาจารย์ เจ้าของภาษาอีกด้วย ด้วยความมุง่ มัน่ ทีจ่ ะเข้าถึงนักศึกษาและถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้ได้ในวงกว้าง วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลจึงได้จับมือกับสถาบัน การศึกษาอีกกว่า 100 แห่งทัว่ โลก วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลนั้นมุ่งมั่นในการด�ำเนินงานเพื่อให้ได้มา ซึ่งมาตรฐานระดับสากลและความเป็นเลิศทางวิชาการ เช่นเดียวกับนักศึกษา ของวิทยาลัย บัณฑิตทีจ่ บการศึกษาจากวิทยาลัยตลอดระยะเวลาหลายปีทผี่ า่ นมา ล้วนแล้วแต่ประสบความส�ำเร็จในหน้าทีก่ ารงาน ทัง้ ในแวดวงศิลปะ การสือ่ สาร อุตสาหกรรมบันเทิง ธุรกิจ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ การท่องเทีย่ ว และธุรกิจบริการ ทัง้ ในองค์กรของภาครัฐและเอกชน บัณฑิตทีส่ ำ� เร็จการศึกษาจากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลทุกคนนั้นจะได้รับพื้นฐานของทักษะการใช้ชีวิตและความ ใฝ่เรียนรูต้ ดิ ตัวไปด้วย ซึง่ เป็นอีกสิง่ หนึง่ ทีส่ ำ� คัญไม่แพ้วฒ ุ ปิ ริญญา

144 | 145


MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE



Chaokoh

A

Theppadungporn coconut co., Ltd. T: +66 2622 1501 to 8 F: +66 2222 3757 E: tccsince1976@gmail.com W: www.tcc-chaokoh.com

Aconatic

Hifi Orient Thai Public Company Limited T: +66 2954 5281 to 3 F: +66 2954 8990 E: service_mng@hifithai.co.th W: www.hifithai.co.th

Cotto

Siam Sanitaryware Industry Co., Ltd T: +66 2973 5040 E: cottolib@scg.co.th W: www.cotto.com

Aeroflex

Aeroflex Co.,Ltd. T: +66 2249 3976 F: +66 2249 4098 E: Sales_eie@aeroflex.co.th W: www.aeroflex.co.th

Crafactor

Craft Factor Co.,Ltd. T: +66 2679 9800 F: +66 2679 8622 E: info@crafactor.com W: www.crafactor.com

Aeroklas

Aeroklas Co.,Ltd. T: +66 2744 3020 to 9 F: +66 2744 3030 E: webinfo@aeroklas.com W: www.aeroklas.com

Deesawat

Deesawat Industries Co.,Ltd. T: +662 521 1341 F: +662 551 1503 E: info@deesawat.com W: www.deesawat.com

Alfa One

Kasisuri Co.,LTD T: +66 2234 1502 to 9 F: +66 2236 5197 E: riceexport@kasisuri.com W: www.kasisuri.com

D

Deksomboon

Yan Wal Yun Co.,Ltd. T: +66 2674 7990 F: +66 2674 8530 E: recruitment@deksomboon.com W: www.deksomboon.com

Altron

Thai Habel Industrial Co., Ltd T: +66 2292 1770 to 4 F: +66 2291 1062 E: info@thaihabel.co.th W: www.thaihabel.co.th

Diamon

Diamond Building Products Public Co.,Ltd. T: +66 2619 0742 to 4 F: +66 2619 0488 E: pongpol.jak@dbp.co.th W: www.dbp.co.th

Amena

Unico Consumer Products Co., Ltd. T: +66 2517 1819, 2517 1733 F: +66 2517 8530 E: sales@amena-air.com W: www.amena-air.com

Doi Kham

DoiKham Co., Ltd. T: +66 2656 6992 F: +66 2656 6991 E: info@doikham.co.th W: www.doikham.co.th

Asava

Asava Co., Ltd T: +66 2662 6526 to 7 F: +66 2662 5440 E: info@asavagroup.com W: www.asavagroup.com

Dutch Mill

Dairy Plus Co.,Ltd. T: +66 2760 2000 F: +66 2760 2235 E: jiraporn.k@dutchmill.co.th W: www.dutchmill.co.th

Ayodhya

Ayodhya Trade(93) Co., Ltd T: +66 2679 8521 F: +66 2679 8521 E: sales@ayodhyatrade.com W: www.ayodhyatrade.com

E

B

EPP

Betagro Public Co., Ltd T: +66 2833 8333 E: contactcenter@betagro.com W: www.betagro.com

Eastern Polypack Co.,Ltd. T: +66 2744 3139 to 48 F: +66 2361 8853 to 4 E: Sales@eppcup.com W: www.eppcup.com

BIDC

Erb

Betagro

Bangkok International Dental Center Co.,Ltd. T: +66 2692 4433 E: marketing@bangkokdentalcenter.com W: wwww.bangkokdentalcenter.com

Palama-Lapa Co.,Ltd. T: +66 2255 5872 to 3 F: +66 2255 5874 E: varangpa@erbasia.com W: www.erbasia.com

Blue Spice

Euro

BLUE ELEPHANT INTERNATIONAL PLC. T: +66 2673 9353 F: +66 2673 9355 W: www.blueelephant.com

Boncafé

Boncafe (Thailand) Ltd. T: +66 2693 2570 F: +66 2693 2579 E: welcome2@ boncafe.co.th W: www.boncafe.co.th

Buono

Buono (Thailand) Co., Ltd. T: +66 34331 984 to 6 F: +66 34331 880 E: export@buonogroup.com W: www.buonogroup.com

C

Chaiseri

Chaiseri Metal & Rubber Co. LTD. T: +66 2581 4981 to 5, 2581 7885 to 6 F: +66 2581 4411 E: info@chaiseri-defense.com W: www.chaiseri-defense.com

European Food Public Co., Ltd T: +66 2384 3049, 384 2891 F: +66 2384 3719 E: chadchaya@europeanfood.in.th W: www.eurofood.co.th

Exotic Food

Exotic Food Thailand Co.,Ltd. T: +66 2650 7779 F: +66 2650 7779 E: pheerayuch@exoticfoodthailand.com W: www.exoticfoodthailand.com

F

FB Battery

Siam Furukawa Co.,LTD. T: +66 36373 573 F: +66-36373 574 to 5 E: kritsana@fbbattery.com W: www.fbbattery.com

G

Gambol

Big Star Co.,LTD. T: +66 2451 3300 to 1 F: +66 2451 4089 to 93 E: contact@bigstar.co.th W: www.gambol.co.th

Giffarine

Giffarine Skyline Unity Co.,Ltd. T: + 66 81822 2241,81822 2241 E: enquiry@ giffarinefactory.com W: www.giffarine.com

Glascera

SY Glascera Limited, SS Glascra Factory T: +66 2584 5759 to 61 F: +66 2584 5701 E: info@glascera.com W: www.glascera.com

H

King

Thai Edible Oil Public Co., Ltd T: +66 2249 9348 to 52 F: +66 2249 4914 E: contact@kingriceoilgroup.com W: www.kingriceoilgroup.com

L

Labrador

labrador factory Co.,Ltd. T: +66 2951 3488 F: +66 2951 3489 E: labradorfactory@gmail.com W: www.labradorfactory.net

Lactasoy

Lactasoy Co.,Ltd. T: +66 2396 0320 to 7 F: +66 2399 5233 E: lactasoy@lactasoy.com W: www.lactasoy.com

Harnn

Lucky Flame

HARNN GLOBAL CO., LTD T: +66 2000 0555 F: +66 2015 1602 E: noolalintip@gmail.com W: www.harnn.com

LuckyFlame Co.,Ltd. T: +66 2312 4331 to 40, 2312 4560 to 1 F: +662 750 0300, 2312 4341 E: info@luckyflame.co.th W: www.luckyflame.co.th

Hand Brand No.1

M

Artchit International Pepper and Spice Co., Ltd T: +66 2468 5611 , 2468 1232 F: +66 2460 0901 E: handbrand@nguansoon.com W: www.nguansoon.com

Hawaii Thai

Maepranom

Phiboonchai Maepranom Thai Chili Paste Co., Ltd. T: +66 2441 3595 to 8 F: +66 2441 3594 E: marketing@maepranom.com W: www.maepranom.com

Hawaii Thai Furniture Gallery T: +66 2376-0100 to 3 F: +66 2376-0112 E: hawaii@hawaiithai.com W: www.hawaiithai.com

Mahidol University International college

Hale’s Blue Boy

Malee

Mahidol University International College T: +66 2700 5000 E: icpr@mahidol.ac.th W: www.commas.music.mahidol.ac.th

Hale Trading (Thailand) Co., Ltd T: +66 2971 7160 F: +66 2552 4829 E: info@halesblueboy.co.th W: www.halesblueboy.co.th

Malee Group Public Co., Ltd T: +66 3431 1310 E: exportsales@malee.co.th W: www.malee.co.th

I

Thai President Foods Public Public Co., Ltd T: +66 2374 4730 F: +66 2374 7743 E: tf@mama.co.th W: www.mama.co.th

I-SPA

Bathroom Design Co.,Ltd. T: +66 2683 7322 to 3, 2683 7516 to 27 F: +66 2683-7324 E: service@bathroomtomorrow.com W: www.bathroomtomorrow.com

J

J-Lek

K.R.S. SPICY FOOD CO.,LTD. T: +66 2569 6317 to 9 F: +66 2504 1940 E: info@krsspicyfood.com W: www.krsspicyfood.com

K

Kenkoon

Kenkoon Co.,Ltd T: +66 2319 1015 to 6 F: +66 2319 6440 E: info@kenkoon.com W: www.kenkoon.com

Kenzai Ceramics

Kenzai Ceramics Industry Co., Ltd T: +66 2692 5080 to 90 F: +66 2692 5091to92 E: marketing.kenzai@gmail.com W: www.kenzai.co.th

Keratiles Ceramic

KERATILES CERAMIC CO.,LTD. T: +66 2692 9201to 5, 2274 1226 to 7 F: +66 2692 7552 E: info@keratiles.co.th W: www.keratiles.co.th

K fresh

Coconut today Co., Ltd. T +66 2138 0628, 2138 0629 F: +66 2138 0627 E: info@coconuttoday.com W: www.coconuttoday

Mama

MC jeans

MC group plc T: +66 2329 1051 to 56 F: +66 2727 7287 E: info@mcjeans.com W: www.mcjeans.com

Mobella

Mobella Co.,Ltd. T: +66 2323 2886, 2323 2887 F: +66 2323 2888 E: koi@mobella.co.th W: www.mobella.co.th

Mitr Phol

Mitr Phol Sugar Corporation., Ltd. T: +66 2794 1000 F: +66 2656 8581 W: www.mitrphol.com

Mitsumaru

T.A.T. (Thailand) Co.,LTD. T: +66 2892 5950 to 8, 2429-3433 E: sirichai@mitsumaru.com W: www.mitsumaru.com

Mogu Mogu

Sappe Public Company Limited. T: +662 319-4949 F: +662 319-7337 E: contact@sappe.com, export@sappe.com W: www.sappe.com

Monsoon

Siam Winery Trading Plus Co., LTD T: +66 81701 0444 F: +66 8137 61474 E: info@siamwinery.com W: www.siamwinery.com

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE


Morakot

Morakot Industries PCL T: +66 2626 0999 F: +66 2626 0912 E: marketing.morakot@simedarby.com W: www.morakot.com

N

Naraya

Narai Intertrade Co., Ltd. T: +66 2502 2000 F: +66 2502 2011 E: naraya@naraya.com W: www.naraya.co.th

O

Oggi

Meepiyaboon Co., Ltd. T: +66 8770 05401 F: +66 2530 7075 E: oggiliving@yahoo.com W: www.oggi-living.com

P

Panel Plus

Panel Plus Co.,Ltd. T: +662-656-8188 F: +662-656-8533-4 E: sales@panelplus.co.th W: www.panelplus.co.th

Panpuri

Puri Co., Ltd. T: 02 234 7888 F: 02 234 8881 E: info@panpuri.com W: www.panpuri.com

Performax

Performax Co.,Ltd. T: +66 2989 9020 to 23 F: +66 2989 9024, 2-989-9020-23 E: pformax@truemail.co.th W: www.pformax.com

Phantainorasigh

Phantainorasigh Co., Ltd. T: +662 265 6999 F: +662 265 6996-7 E: marketing@pantainorasingh.com W: www.pantainorasingh.com

Plantoys

Thailand Plan Creations Co., Ltd. T: +66 2237 9070 F: +66 2237-5790 E: mktg@plantoys.com W: www.plantoys.com

Pornthip

Pornthip (Phuket) Co., Ltd. T: +66 76261 555 F: +66 76261 557 E: prpornthip8@gmail.com W: www.pornthipphuket.com

Pranda

Pranda Group Co.,Ltd. T: +66 2769 9999, 2769 9998 E: Info@pranda.com W: www.pranda.com

Patum Rice Mill And Granary Patum Rice Mill and Granary Public Co.Ltd. T: +66 2661 7900 F: +66 26617901 E: sales@ patumrice.co.th W: www.patumrice.co.th

Pet Focus

Pet Focus Co.,Ltd. T: +66 2833 8333 E: petenjoy@betagro.com W: www.dognjoy.com

Premprachas

Premprachas Collection Co., Ltd T: +66 5333 8540 F: +66 5333 8857 E: info@prempracha.com W: www.prempracha.com

PTT Lubricants

PTT Public Co., Ltd T: +66 2239 7877 E: pttlubricants@pttplc.com W: www.pttlubricants.pttplc.com

Q

Qualy

New Arriva Co., Ltd. T: +66 2689 8591 F: +66 2292 1229 E: info@qualydesign.com W: www.qualydesign.com

R

Ranong Tea

Green Tea Ltd. T: +66 2274 7050, 274-7306 to 7 F: +66 2274 7053, 274 7245 E: greenteathai@greenteathai.com W: www.greenteathai.com

Redbull

T.C. Pharmaceutical industries Co.,Ltd. T: +66 2415 0100 to 3 F: +66 2899 0332 E: export@redbullextra.com W: www.tcp.com

Roza

Hi-Q Food Co.,Ltd. T: +66 2750 0505 F: +66 2750 2636 E: export@rozafood.com W: www.rozafood.com

Royal porcelain

Royal Porcelain Public Co. Ltd. T: +662 253 6823 or 38 F: +662 254 4093 to 4 E: parinya.p@royalporcelain.co.th W: www.royalporcelain.co.th

Royal Umbrella

C.P. Intertrade Co., Ltd. T: +66 (0) 2646 - 7200 F: +66 (0) 2646 - 7392 E: csm@cptrading.co.th W: www.khaotrachat.com

Rubber Killer

Rubber Killer T: +66 81491 4062 E: rubberstore@gmail.com W: www.rubberkiller.com

S

Sabai-arom

Authentic Thai Spa Co.,Ltd T: +66 2 372 2468 F: +66 2 729 5836 E: marketing@sabai-arom.com W: sabai-arom.com

Saijo Denki

Saijo Denki T: +66 2832 1999 E: utarat_ch@saijo-denki.co.th W: www.saijo-denki.co.th

Singha

Boonrawd Brewery Co., Ltd. T: +66 2242 4000 F: +66 2669 2089 , 243 1740 E: pr_relations@boonrawd.co.th W: www.boonrawd.co.th

Snake

The British Dispensary (L.P.) Co., Ltd T: +66 2645 1333 F: +66 2755 7315 E: sivisa_n@britishdispensary.com W: www.britishdispensary.com

Sonite

Sonite Innovative Surfaces Co., Ltd T: +66 2935 5575 E: w.wongp@sonitesurfaces.com W: sonitesurfaces.com

Squid

SSK

CO Suan Srakaew Co.,Ltd. T: +66 80568 0808, 81 444 5945 E: sskfruit1989@gmail.com

Suree

Suree Interfoods Co., LTD. T: +66 34419 400, 34839 870 to 3 F: +66 34419 448 E: marketing@sureefoods.com W: www.sureefoods.com

Sutharos

Q Plus Concept Co.,Ltd. T: +66 34993 117 , 34993 118 , 91 379 9054 F: +66 34 993 119 E: mkt@qplusfood.com W: www.sutharosfood.com

T

Taokaenoi

Taokaenoi Food & Marketing PCL T: +66 105 4142 F: +66 108 8708 E: intertrade@taokaenoi.co.th, domesticsales@taokaenoi.co.th W: www.taokaenoi.co.th

Taro

P.M. Food Co., Ltd. (PMF) T: +66 2301 1600, 2301 1700 F: +66 2398 2050 W: www.premier-marketing.co.th

Tipco

TIPCO FOOD CO., LTD. T: +66 2273 6200 F: +66 2271 4304, 271 1600 E: info@tipco.net W: www.tipco.net

Thai Choice

Monty & Totco Co., Ltd. T: +66 2271 0987 F: +66 2271 0545 E: info@thai-choice.com W: www.thai-choice.com

THANN

THANN-Oryza Co.,Ltd, T: +66 2714 3239 to 45 F: +66 2714 3247 E: whan@thann.info W: www.thann.info

Thantawan

Thantawan Industry Public Co. Ltd. T: +66 2811 4700, F: +66 2431 3056 E: info@thantawan.com W: www.thantawan.com

Thasia

Win Chance Foods Co.,Ltd. T: +66 2705 6969 E: thasia@thasiafoods.com W: www.thasiafoods.com

Twin Elephant

Erawan Food Public Co.,LTD. T: +66 2681 0251 59 F: +66 2681 0250 to 50 E: admin@erawanfood.com W: www.erawanfood.com

Twin Lotus

Twin Lotus Co.,Ltd. T: +66 2743 4000 F: +66 2361 5852 to 3 E: anothai@twinlotus.com W: www.twinlotus.com

U

UFC

Thai Fishsauce Factory (Squid Brand) Co., Ltd T: +66 2234 3402, 2235 8315, F: +66 2236 4693 E: export@squidbrand.com W: www.squidbrand.com

Universal Food Public Co., Ltd T: +66 2398 8555 to 361 F: +662 744 0860 E: export@ufc.co.th W: www.ufc.co.th

Srithai

Uniaire Corporation Co., Ltd. T: +66 2312 4500 F: +66 2312 4277 E: info@uni-aire.com W: www.uni-aire.com

Srithai Superware Public Co., Ltd T: +66 22427 0088 F: +66 2428 9675 E: supranee@srithaisuperware.com

Uni-Aire

148 | 149

Vitamilk

Green Spot Co. Ltd. T: +66 2 725 9800 F: +66 2 374 0824 E: export@greenspot.co.th W: www.greenspotco.com

W

Wel-B

Joe-Ry Family Co., Ltd. T: +66 34871 825 E: marketing1@joeryfamily.co.th W: www.welbsnack.com

Y

Yothaka

Yothaka International Co.,LTD. T: +66 2679 8631or 32 F: +66 2679 8965 E: info@yothaka.com W: www.yothaka.com

Z

Zebra

Satien Stainless Steel Public Co., Ltd T: +66 2720 5959 F: +66 2720 5995 E: info@zebra-head.com W: www.zebra-head.com

Zequenz

Zenith Enterprise Co.,ltd T: +66 2726 8805-8 F: +66 2726 7763 E: info@zenithpaper.com W: www.zequenz.com

Zpark

Bangkok Pattana Winery Co.,LTD. T: +66 2451 7122 to 3 F: +66 2451 7039 E: info@siamwinery.com W: www.bangkokwinethai.com


WHAT

IS THAILAND TRUST MARK? Thailand Trust Mark is a symbol of excellence and trusted quality that was established to add distinctive value to Thai products and services that are made in Thailand.

WHY

THAILAND TRUST MARK?

THE ESSENCE OF EXCELLENCE IN THE MARKETING WORLD, BIG WORDS AND BOLD GRAPHICS ARE TOSSED AROUND TO ENTICE CUSTOMERS. HOWEVER, IN THE INTERNATIONAL TRADE ARENA WHERE

Thailand Trust Mark gives you trusted quality. It gives assurance that Thai products and services with the Thailand Trust Mark offer world-class excellence including labour standards, environmental and social responsibility. For added reassurance, it is supported by the Royal Thai Government. When you see the Thailand Trust Mark, you can be confident that you are getting the best quality goods and services that Thailand has to offer.

A MARK OF SYNERGY

Through collaboration between Thai Government agencies including the Ministry of Commerce, Ministry of Industry and Ministry of Labour, Thailand Trust Mark applicants can apply for Thailand Trust Mark certification together with certifications of Green Industry, Thailand (Level 2 upwards) and the Thai Labour Standard, by the Ministry of Labour, Thailand.

QUALITY IS PARAMOUNT, ONE NEEDS TO BE ABLE TO LOOK BEYOND ADVERTISING CAMPAIGNS AND FIND A RELIABLE MEANS TO MEASURE MERIT. NO MATTER HOW ONE DEFINES QUALITY, IT IS ALWAYS REASSURING TO HAVE A BENCHMARK THAT CAN GAUGE THE ESSENCE OF EXCELLENCE. TO FACILITATE THIS PROCESS, THAILAND TRUST MARK WAS CREATED UNDER THE ROYAL THAI GOVERNMENT, THROUGH THE DEPARTMENT OF INTERNATIONAL TRADE PROMOTION, MINISTRY OF COMMERCE.

WHAT

CAN THAILAND TRUST MARK DO FOR YOU? For customers, Thailand Trust Mark offers the best choice of quality Thai products and services, making for a more convenient and worthwhile shopping experience. For manufacturers, Thailand Trust Mark brings more exposure to the global market in less time and helps earn trust. Moreover, the exclusivity of the Thailand Trust Mark raises the bar and encourages the industry to strive for excellence.

Department of International Trade Promotion, Ministry of Commerce

Tel: +66 2507 8260 E-mail: ttm@ditp.go.th

563 Nonthaburi Road, Bangkasor, Nonthaburi 11000 Thailand

Website: www.ditp.go.th, www.thailandtrustmark.com


WHERE

CAN YOU FIND THAILAND TRUST MARK? Thailand Trust Mark can be easily found on labels or packaging of a certified product. For certified services, it will appear as signage in the location the service is rendered.

150 | 151


FOOD INDUSTRY: Agricultural Products, Fresh Vegetables and Fruits, Frozen and Processed Foods, Pet and Farming Products

INDUSTRIAL PRODUCTS: Electronic/Electrical Products and Parts, Automotive/Auto Parts and Accessories, Building Materials and Hardware Items, Chemicals and Plastic Resin, Industrial Machinery and Equipment

LIFESTYLE INDUSTRY: Furniture, Household Products, Toys and Games, Gifts and Decorative Items, Handicrafts, Home Textiles, Stationery, Office Supplies and Equipment

THAILAND TRUST MARK MEMBERS Consist of Thai Manufacturers and Thai Service Providers

FASHION INDUSTRY: Gems and Jewelry, Textiles, Garments and Fashion Accessories, Footwear and Leather Products

OTHER INDUSTRIES: Cosmetics, Toiletries, Medical Supplies, Optical Goods, Printing Products and Services, Packaging

HOSPITAL/MEDICAL SERVICES: Hospital Services, Medical Services

HEALTH AND BEAUTY SERVICES: Spa and Thai Traditional Massage Services, Beauty Care, Health Care

Thailand Office of Innovation and Value Creation, Department of International Trade Promotion, Ministry of Commerce Tel: +66 2507 8266 E-mail: ttm@ditp.go.th Website: www.thailandtrustmark.com, www.ditp.go.th, www.thaitrade.com, www.facebook.com/ThailandTrustMark, www.youtube.com/user/ThailandTrustMark

INTERNATIONAL EDUCATION SERVICES: Schools and Universities

MADE IN THAILAND 100 BRAND HEROES PROUD TO BE THAI ON THE WORLD STAGE




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.