ศีล 5 คืออะไร ทําไมตองรักษา เรามาทําความเขาใจเรื่องศีล 5 กันเถอะเพื่อประโยชนสุขในชีวิตเรา หลายๆคนคงคุนเคยกันดีกับคําวา "ศีล 5" ... อืม ไดยินมาตั้งแตเด็กแลวละ ก็เราเปน พุทธศาสนิกชนนี่นายอมรูจัก ศีล 5 เปนอยางดี หลายคนรูจักแตนอยคนนักจะเขาใจวาแทจริงแลว ศีล 5 คืออะไรแลวมันมีผลอะไรกับชีวิตของเรา เราถึงตองไปรักษา ศีล 5 ดวย เพียงเพราะเรานับถือศาสนาพุทธ แคนั้นหรือ แลวอยางนี้ผูที่นับถือศาสนาอื่นเขาจะมี ศีล 5 ใหรักษาดวยหรือเปลา ... เรามาเริ่มกันเลยดีกวา ศีล 5 คืออะไร ศีล 5 เปนขอพึงปฏิบัติพื้นฐานของสรรพสัตวตามที่ธรรมชาติไดกําหนดไว ซึ่งไมไดเปนการคิด หรือตั้งขึ้นมาเองจากพระพุทธเจาเลย พระพุทธเจาเพียงแครูทุกสิ่งอยางของธรรมชาติแลวจึงนํามาบอกไว เทานั้นวา ถาเราพึงรักษา ศีล 5 นี้ไวจะไดรับผลอยางไร และถาเราไปผิด ศีล 5 นี้ก็จะไดรับผลอยางไร ถูกตองแลวครับ ศีล 5 เปนสิ่งที่ธรรมชาติกําหนดขึ้นมาดังนั้นไมวาจะเปนใครหรือนับถือศาสนาใด ก็ตองอยูภายใตเงื่อนไขของ ศีล 5 หรือธรรมชาติกันทั้งนั้น ผมจะยกตัวอยางงายๆมาอธิบายใหเขาใจกัน เชน แรงโนมถวงของโลก ตอใหเราไปอยูที่มุมไหน ของโลกจะที่สูงที่ต่ําหรือเปนชนเชื้อชาติใดก็ตาม ถาเราลองโยนกอนหินขึ้นไปบนทองฟาสุดทายมันยอม ตกลงมาบนพื้นดินใชไหมครับ บางคนอาจแยงในใจวาถาโยนไปติดบนกิ่งไมละมันก็ไมตกถึงพื้นหรอก ... (ฮึ่ม ... เดี๊ยะ ปด เหนี่ยว)
รักษา ศีล 5 แลวไดอะไร คําตอบคือ ไดบุญครับ แลวบุญคืออะไร เอาเปนวาบุญคืออะไรก็ตามที่ ทําใหเราเกิดความสุขกาย สุขใจ ไมกอใหเกิดผลเสียใดๆแกเราจะเปนไปในทางกุศล การรักษา ศีล 5 ทํา ใหเราไดมาซึ่งทรัพยและของบริโภคทั้งหลาย ไดมาซึ่งความสุขความสบาย ไดมาซึ่งหนทางแหงพระ นิพพานหรือหนทางแหงการพนทุกข ซ้ํายังทําใหเราไปเกิดยังภพภูมิที่ดีหรือที่เรียกวา สุคติภูมิ อันมี มนุษย เทวดา และพรหม รักษา ศีล 5 ไดบุญมากนอยแคไหนละ อันนี้ใหคําตอบไมไดแตขอใหรูวาทุกขณะที่เรารักษา ศีล 5 เราจะไดรับบุญตลอดเวลาถาศีลไมขาดและไดรับบุญไปอยางมากมายจนเรานึกไมถึงวาแครักษา ศีล 5 แค นี้สงผลแกเราถึงเพียงนี้เชียวหรือ แลวถาเกิดวาทําผิด ศีล 5 ขึ้นมาละจะเปนอยางไร คําตอบคือก็จะบาป ครับและก็จะไดรับผลของบาปนั้นๆแตกตางกันออกไปแลวแตเรื่องที่เราทําผิด และที่สําคัญจะทําใหเราตอง ไปชดใชกรรมในนรกอยางทุกขทรมานแสนสาหัสจนความเจ็บปวดใดๆก็ตามในโลกนี้ยังเทียบแมเพียงเศษ เสี้ยวความเจ็บปวดในนรกไมไดเลยแมแตนอย พระพุทธเจาไดเคยตรัสตอบคําถามแกภิกษุที่ถามไววาความเจ็บปวดในนรกนั้นมากนอยเพียงใด พระพุทธองคตรัสวา หากเปรียบเทียบความเจ็บปวดบนโลกนั้นเทากับความหนาของใบไมแลว ไซร ความเจ็บปวดในนรกก็เปรียบเสมือนความสูงของภูเขาใหญ จะเปรียบเทียบกันก็หาไดไม โอว .... อยางนี้ถาเราไมรักษา ศีล 5 ถึงผิด ศีล 5 ไปเราก็ไมบาปนะสิ ... งั้นไมตองรักษาศีล 5 ดีกวา อยาลืมครับที่ผมบอกไววา ศีล 5 เปนธรรมชาติ ลองพิจารณานะครับวา ถาเราหรือใครก็ตามจะ รักษา ศีล หรือไมรักษา ศีล เมื่อโยนกอนหินขึ้นไปบนทองฟาแลวเกิดมันตกมาใสหัวเรา เราจะเจ็บไหม ครับ บางคนอาจแยงในใจ ก็ถาเราใสหมวกกันน็อคไวก็ไมเจ็บหรอก ... (ฮึ่ม ... เดี๊ยะ ปด เหนี่ยวอีกรอบ)
เห็นไหมครับ ไมวาจะเปนใครหรือนับถือศาสนาใดถาทําผิด ศีล 5 ก็ตองไดรับบาปและตองชดใชกรรมกัน ทั้งนั้น ไมตองรักษา ศีล 5 ไดไหม หลายคนคิดอยางนี้ครับวา ก็เราไมไดทําผิด ศีล 5 ก็เทากับเรารักษา ศีล 5 อยูแลวไมจําเปนตอง ไปรักษา ศีล 5 ใหวุนวายหรอก .... มันก็ถูกครับ แตเปนถูกใจไมถูกตองตามหลักธรรมชาติ ขอยกตัวอยาง ใหเห็นภาพนะครับ ลองพิจารณาดูนะครับวาถามีคนสองคน คนนึงถือแกวน้ําอยูในมือ กับอีกคนทําทาถือ แกวน้ํา(ไมมีแกวน้ําจริงๆในมือ) มันเหมือนกันหรือเปลา ... คําตอบคือ ไมเหมือน เปรียบเสมือนวาคนที่ถือแกวน้ําคือคนที่รักษา ศีล 5 สวนคนที่ทําทาถือแกวน้ําคือคนที่ไมไดรักษา ศีล 5 แตนึกวาตัวเองรักษาอยู คนสองคนนี้ถาไมไดทําผิด ศีล 5 จะแตกตางกันไหม คําตอบคือ มีทั้ง เหมือนกันและแตกตางครับ ที่เหมือนกันคือ เมื่อไมไดทําผิด ศีล 5 ก็ไมตองบาปและไมตองรับโทษจาก การผิด ศีล 5 แตที่ตางกันคือ คนที่รักษา ศีล 5 จะไดรับบุญไปเรื่อยๆสวนคนที่ไมไดรักษา ศีล 5 ก็จะ ไมไดบุญอะไรแลวทําไมจึงเปนเชนนั้น มาพิจารณากันอีกทีระหวางคนถือแกวน้ํา(รักษา ศีล 5) กับคนทําทาถือแกวน้ํา(ไมไดรักษา ศีล 5) ถาบุญเปรียบเสมือนน้ําแลวมีน้ําไหลมาใหกับคนทั้งสองนี้ คนแรกที่มีแกวน้ําในมือก็จะสามารถใชแกวน้ํา นั้นรองน้ําที่ไหลมาไดและสามารถนําไปใชดื่มกินหรือทําประโยชนอื่นๆได แตคนที่ทําทาถือแกวน้ํามือแค ทําทาแตไมมีแกวน้ําจริงๆจะไปรองน้ําที่ไหลมาไดอยางไร บางคนยังคงแยงในใจอีก ก็เอามือรองก็ไดหรือ เอาปากรองก็ได ... (ฮึ่ม ... เดี๊ยะ ...)
การรักษา ศีล 5 จึงมีแตคุณไมมีโทษ การไมรักษา ศีล 5 ก็ไมไดคุณแตก็จะไมไดโทษอะไรถา ไม ไ ด ผิ ด ศี ล แต มั น จะไปมี ผ ลตอนเปลี่ ย นภพถู มิ ห รื อ ตอนตายน ะ สิ ค รั บ เพราะการที่ เ ราจะไปอยู ใ น สุคติภูมิไดตองมีบุญครับถาไมมีก็ไปไมได คนที่ไมมีบาปใดๆแตก็ไมมีบุญใดๆเมื่อตายแลวเกิดใหมอยาง มากก็เปนไดแคสัตวเดรัจฉานครับ เห็นไหมครับพี่ผมกลาวมาแลวทั้งหมดในขางตนนั้นเปนเหตุผลวา ทําไมเราจึงตองรักษา ศีล 5 เพราะการรักษา ศีล 5 จะทําใหเราพบแตความสุขความเจริญไมเกิดโทษใดๆแกเราในภายภาคหนา ทีนี้ เรามาพิจารณาถึง ศีล 5 วามีอะไรและเปนอยางไรกันบาง ก อ นอื่ น มาทํ า ความเข า ใจกั น ใหม อี ก รอบว า ศี ล 5 เป น สิ่ ง ที่ ธ รรมชาติ กํ า หนดไว อ ยู แ ล ว พระพุทธเจาไมไดคิดหรือกําหนดขึ้นเอง และแทจริงแลวก็ไมได หาม แต ใหละเวน นะครับเพราะถาแปล คําบาลีออกมาตรงๆจะแปลวา ละเวน ไมใช หาม แตเพื่อเปนการงายใหผูปฏิบัติทําตามเราจึงมักไดยินคํา วา หาม มาใชกับ ศีล 5 อยูเปนปกติ ศีล นั้นสําคัญที่เจตนาเปนหลักและการจะที่จะผิดศีลไดนั้นตองครบองคประกอบหลักๆจึงเรียกไดวาผิดศีล องคประกอบนั้นมีดังนี้ 1. ตองคิดหรือมีเจตนาในการกระทํา 2. กระทําสิ่งนั้นลงไปทั้งดวยตัวเอง หรือวานใหคนอื่นกระทําแทนก็ตาม 3. ผลของการกระทําสิ่งนั้นเปนผลสําเร็จ
ศีลขอ 1 ละเวนจากการฆาสัตวทั้งหลาย การฆานั้นเปนบาปสงผลใหเราตองชดใชกรรมในนรกและเศษของกรรมในการฆานั้นจะทําใหเรา ตองมาเปนสัตวตัวนั้นที่เราฆาประมาณวาอยางนอย 500 ชาติตอการฆา 1 ตัว เชน ถาเราตบยุงไป 10 ตัว เราก็ตองกลายไปเปนยุงใหถูกเขาตบตายทั้งหมด 5,000 ชาติ (10 x 500) แตถาการฆานั้นไมไดเกิดจาก ความตั้งใจของเราอาจเกิดจากความบังเอิญหรืออุบัติเหตุ เชน เราบังเอิญเดินไปเหยียบมดตายไป 100 ตัว เราไมไดมีเจตนาจะทําใหมดตายอยางนี้ไมถือวาผิด ศีลขอ 1 คือวาดวยการฆา จะไมบาปและไมตองไป ชดใชกรรมใดๆ กรณีการจางวานฆานั้นแมเราไมไดเปนผูฆาถาการฆานั้นทําสําเร็จเราก็จะบาปเทากับคนที่ฆาอยู ดี เชน เราไม อยากตียุงแตเราไปบอกวา นั่นไงยุงอยูนั่นตีเลยแล ว คนอื่ นก็ตียุงตาย อยางนี้เราก็ บ าป เหมือนกันนะ ศีลขอ 2 ละเวนจากการลักทรัพย ทรัพยก็หมายถึงพวกทรัพยสินเงินทอง ของมีคาตางๆ ที่ดิน รวมถึงสิ่งของที่จับตองไดตางๆที่มี เจาของและเจาของหวง ถาเราไปลักขโมยสิ่งเรานี้มาเปนของตัวเองโดยที่เจาของไมไดอนุญาตอยางนี้ก็จะ ผิดศีลและก็บาป ตองไปชดใชกรรมในนรก แตอยางที่บอกเอาไวแลวศีลจะขาดไดก็ตองครบองคประกอบ ในกรณีการลักทรัพยนี้จะประกอบดวย การคิดไตรตรองหรือวางแผนจะขโมย ลงมือขโมย ขโมยไดสําเร็จ และตองเปนของที่เจาของหวง ถา เจาของไมหวงตอใหขโมยสําเร็จศีลก็ไมขาด เชน เราเห็นมะมวงเพื่อนบานนากินมาก ก็คิดอยากจะไป ขโมยพอวันนึงสบโอกาสก็ลงมือขโมยมาไดสําเร็จ แตปรากฏวาเจาของไมไดหวง ใครอยากกินก็มาเด็ดไป
กินไดเลย อยางนี้ถือวาไมผิดศีลแตเปนอกุศลกรรมจะสงผลจากอกุศลกรรมเทานั้น ศีลไมไดขาดก็ไมตอง รับโทษจากการทําผิดศีลขอนี้เทานั้น อีกประเด็นที่หลายคนมักมองขามไป นั่นคือการนําสิ่งของจากที่ทํางานเอากลับมาใชที่บาน เชน ปากกา ดินสอ กระดาษ ฯลฯ เรื่องนี้ตองระวังเพราะโดยปกติแลวสิ่งของเหลานี้ไมใชของเราแตเปนของ บริษัท ซึ่งเขาจะอนุญาตใหใชงานภายในบริษัทหรือใชในกิจการของบริษัทเทานั้น การที่เรานํากลับไปใช เปนของสวนตัวก็อาจทําใหเราศีลขาดในขอลักทรัพยไดหากเจาของบริษัทไมอนุญาต เพราะเจาของบริษัท คงไมอยากใหพนักงานเอาของบริษัทกลับไปใชสวนตัว นั่นหมายความวาเขาหวง เมื่อไปเอาของหวงของ เขาไปก็เทากับขโมยอยางนี้จึงผิดศีล ศีลจึงขาดและตองไดรับโทษในนรก จึงเปนเรื่องที่เราทั้งหลายพึง ระวังเอาไวดวยเพราะศีลขอนี้เรามักคิดวาเราไมผิดกันงายๆแตแทจริงเราผิดโดยไมรูตัวกันมากนั่นเอง ศีลขอ 3 ละเวนจากการผิดลูก ผิดผัว ผิดเมีย ของผูอื่น ขอขยายความการกระทําในขอนี้อยางตรงไปตรงมาวา หมายถึง ไปมีเพศสัมพันธกับบุคคลอื่นทั้ง ลูกเขา ผัวเขา เมียเขา โดยที่เขาไมรูเรื่องหรือไมอนุญาต และมีการไปละเมิด(สอดใส)เขาไปทางทวาร ตางๆเพียงแคหนึ่งขอนิ้วกอยเทานั้นก็ถือวาผิดแลว ... ถูกตองครับละเมิดเขาไปยังทวารตางๆดังนั้นการ ออรัลเซ็กซแมไมไดมีการสอดใสก็ผิดเหมือนกันนะครับเพราะปากก็เปนทวารทางหนึ่ง ผลคือตองไปชดใช กรรมในนรกอยางทุกขทรมาน แตถาเขาอนุญาตหรือยินยอมก็ถือวาไมผิดศีลขอนี้ กรณีละเมิด ผัวเขา เมียเขา นั้นไมจําเปนวาจะตองเปนคนที่แตงงานแลวเทานั้น แมเขายังไมได แตงงานกันแตอยูกินกันฉันทสามีภรรยาแลวและสังคมก็รับรูอยางนี้หากเราไปละเมิดเขาก็ผิดเหมือนกัน
เรามาพิจารณาประเด็นที่หลายคนไมคิดวาผิดศีลขอ 3 นี้แตความจริงแลวผิดกันดูนะครับมันเปน เรื่องที่สวนมากยังไมรูกัน นั่นคือ การที่เปนแฟนกันโดยฝายชายก็ไมไดมีใครอื่นที่ไหนและฝายหญิงก็ไมมี ใครอื่นหรือไปมีกิ๊กที่ไหนเชนกัน แตมีเพศสัมพันธกันอยางลับๆโดยที่พอแมของแตละฝายไมไดรับรูหรือ ยินยอมแตประการใด แมวาจะไมไดผิดผัวผิดเมียใครแตเปนการผิดลูกเขานะครับ อยางนี้ก็ผิดศีลขอ 3 นี้ เหมือนกัน มักจะเกิดขึ้นกับนักเรียนนักศึกษาในปจจุบัน นอกเสียจากวาทั้งฝายชายและฝายหญิงทํางาน หาเงินเลี้ยงชีพไดดวยตัวเองโดยไมตองพึ่งพอแมแลวก็จะพนจากความผิดขอนี้ไป มาถึงอีกประเด็นที่มักเกิดขึ้นกับฝายหญิง นั่นคือ การเปนเมียนอยเขาจะทั้งที่รูและทั้งที่ไมรูก็ตาม ก็จะผิดศีลเหมือนกันหากภรรยาอีกคนไมรูเรื่องหรือไมยินยอมใหสามีของตนไปมีหญิงอื่นได ผูที่เปนเมีย นอยโดยที่ไมรูตัวเนื่องจากผูชายไมยอมบอกนั้นก็เรียกไดวาโชครายเพราะไดกระทําผิดศีลไปโดยไมรูตัว หนทางแกไขสําหรับการเปนเมียนอยก็คือ การเลิกไปซะเลยใหสิ้นปญหาจะไดไมตองผิดศีลอีก หรือการไปพูดคุยตกลงกับภรรยาอื่นๆใหยอมรับตกลงในความเปนภรรยานอยของตนถาเขาตกลงก็เปน อันเรียบรอยก็จะไมผิดศีลอีกตอไป แตถาเขาไมตกลงก็ควรจะเลิกไปซะไมอยางนั้นเราก็จะตองทําผิดศีลขอ นี้อยูร่ําไป แตการผิดศีลขอ 3 นี้ไมใชวาเปนเมียนอยเขาแลวจะผิดศีลตลอดเวลานะครับ จะผิดศีลก็ตอเมื่อ มีเพศสัมพันธกันตามเงื่อนไขที่อธิบายไวแลวเทานั้น ในกรณีที่เราไปแอบชอบแฟนหรือผัวหรือเมียของคนอื่นเขา อยางนี้ไมผิดศีลครับจนกวาเราจะไป มีเพศสัมพันธตามเงื่อนไขที่บอกเอาไวเราถึงจะผิดศีลขอ 3 นี้ แมวาไมไดผิดศีลแตถือเปนอกุศลกรรมใน ดานมโนกรรมก็จะสงผลใหรับกรรมเชนกันแตก็ไมไดรายแรงเทากับการผิดศีล แตอาจนํามาซึ่งการผิดศีล ไดซึ่งเราควรระมัดระวังและควรทําความเห็นใหถูกตองเสียตั้งแตเนิ่นๆจะดีกวา
ศีลขอ 4 ละเวนจากการพูดเท็จ การพูดโกหก พูดไมจริง รวมถึงการแสดงพฤติกรรมทั้งทางกายและทางวาจาเพื่อใหบุคคลอื่น เขาใจไปในทางที่โกหกก็ถือวาเปนการโกหกและผิดศีลทันที เรื่องคําพูดคงไมตองอธิบายอะไรกันมาก เพราะถาตั้งใจพูดโกหกซึ่งผลมันชัดเจนก็ผิดศีล แตถา พูดผิดไมไดมีเจตนาโกหกอยางนี้ไมถือวาเปนการโกหกก็จะไมผิดศีลครับ บางคนอาจหัวหมอวาโกหกตอง พูดออกมาใชไหมถาอยางนั้นเราไมพูดก็ไมเปนการโกหกละสิ เชน นาย ก ถามเราวา เห็นนาย ข ไหม ซึ่ง จริงๆแลวเราเห็นนาย ข วาอยูที่ไหน แตเราจะโกหกนาย ก วาไมเห็นและถาพูดออกไปเราก็จะกลายเปน การพูดโกหกเราจึงใชวิธีสายหนาบอกนาย ก แทน อยางนี้ก็ถือเปนการโกหกเชนกันครับซึ่งผิดศีลขอนี้ทํา ใหเราตองไปชดใชกรรมในนรก โดยสวนใหญการโกหกเปนขอที่เรามักจะผิดกันมากเพราะเรามักจะเคยชินกับการโกหกที่เราเคย ทําอยูเปนประจํา ทั้งเพื่อแสวงหากําไร ปกปดความผิดของตัวเอง หรือเพื่อความสนุกคะนองปาก เหลานี้ กลายเปนการสรางนิสัยในการโกหกของเราขึ้นมาโดยที่เราไมไดตระหนักเลยวามันผิดศีลและมันก็ตองไป รับใชกรรมในนรกเหมือนกัน ดังนั้นเราควรประพฤติปฏิบัติตัวกันเสียใหม
ศีลขอ 5 ละเวนจากการดื่มสุราเมรัย สุราเมรัย หมายถึงเหลาและสิ่งที่ทําใหมึนเมาทั้งหลาย(ดังนั้นจึงตองรวมพวกยาเสพติดเขาไป ดวย) ถาเราไปดื่มไปเสพเขาก็จะผิดศีลขอนี้ทําใหตองไปชดใชกรรมในนรก แตในกรณีที่นําเหลาไปปรุง อาหารแลวเราไปกินอาหารนั้นเขา อยางนี้ไมถือวาผิดศีลเพราะจะถือวาเหลานั้นเปนเครื่องสําหรับปรุง อาหารไมใชเพื่อนํามาดื่มใหมึนเมา แตทั้งนี้ไมใชวาอางวาเอาเหลามาปรุงอาหารแตใสเหลาลงไปซะเยอะ เลยซึ่งเกินกวาการเปนเครื่องปรุงอยางนี้ถาไปกินเขาก็ถือวาผิดศีลขอ 5 นี้เหมือนกัน การดื่มเหลานั้นอยากใหเรานึกวาการยกแกวขึ้นดื่มเมื่อใดก็เปรียบเสมือนเรากําลังยกน้ําทองแดง ซึ่งรอนสุดแสนจะพรรณนาขึ้นดื่มเพราะในนรกเราตองเจอแบบนั้นอยางแนนอนและมันจะทุกขทรมานแสน สาหัสมาก ศีล 5 นั้นพระพุทธเจาไมไดหามแตใหละเวนดวยเหตุที่ไดกลาวมาทั้งหมดแลวขางตน ในสวนทาย นี้ก็จะไดบอกถึงวาเราควรจะรักษาศีล 5 อยางไรและเมื่อศีลขาดเราจะตองทําอยางไร ก็อยางที่บอกไปแลววาการรักษา ศีล 5 นั้นเปนบุญและเราก็จะไดรับบุญไปตลอดเวลาตราบเทาที่ ศีล 5 ยังไมขาดแมกระทั่งตอนนอนที่เราไมไดทําอะไรเลยเราก็ยังไดรับบุญมาอยางตอเนื่อง ลองคิดดูวามี วิธีไหนที่ทําใหเราไดบุญโดยที่เราไมเหนื่อยและไมตองทําอะไรเลยบาง เห็นไหมครับวาแครักษา ศีล 5 ก็ ทําใหเราไดรับบุญอยางงายๆและมากมายมหาศาล เพราะ ศีล ถือเปนบุญขั้นกลาง ซึ่งบุญแบงเปน 3 ขั้น ดังนี้
1. บุญขั้นตน คือ ทาน 2. บุญขั้นกลาง คือ ศีล 3. บุญขั้นสูง คือ สมาธิ
การรักษาศีลนั้นจําเปนตองมีการอาราธนาเพื่อรับศีลมาเปนขอปฏิบัติเสียกอนจึงถือไดวาเปนผูมี ศีลใหรักษา จะอาราธนาจากพระที่วัดหรือจากพระพุทธรูปที่บานก็ทําไดทั้งนั้น เมื่ออาราธนารับมาแลวเรา ก็จะกลายเปนคนที่มีศีล แต ศีล 5 ตองรับมาทั้ง 5 ขอไมใชรับมาเพียงบางขอถาทําอยางนี้ไมไดไมตรงตาม หลักของธรรมชาติเราจะไมถือวาเปนผูมีศีล สรุปคือตองรับมาทั้ง 5 ขอเทานั้นและก็จะไดรับบุญจากการ รักษาศีลทันที แตเมื่อใดก็ตามที่เราเกิดไปผิดศีลขอใดขอหนึ่งจะถือวา ศีล 5 จะขาดทั้งหมดทันทีเพียงแต จะไดรับโทษตามแตขอที่ขาดเทานั้นและบุญจากการรักษาศีลก็จะไมไดรับอีกตอไป หากเราตองการให ศีล 5 กลับมาใหมเราก็ทําไดสองวิธีโดย วิธีแรกก็อาราธนาศีลใหมทั้งหมด วิธีที่สองคือการวิรัติศีลหรือคือการ ตอศีลขอที่ขาดนั่นเอง (วิธีการเหลานี้ไปศึกษาเพิ่มเติมไดในหนังสือสวดมนตทั่วๆไปได) ศีลขาดเราควรตอศีลเมื่อไหร คําตอบคือเราควรตอศีลทันทีเร็วที่สุดเทาที่จะทําไดหรืออยางชาก็ กอนนอนเพราะเมื่อเรานอนหลับแลวเราก็จะไมมีโอกาสทําผิดศีลอีกในขณะที่เราหลับและเราก็จะไดรับบุญ จากการรักษาศีลไปอยางงายดาย เมื่อเรารักษา ศีล 5 อยางตอเนื่องไปไดสักระยะหนึ่งแลว เดี๋ยวเราก็จะเห็นอานิสงสผลบุญที่จะ สะทอนกลับมายังตัวเราไดเองภายในชาตินี้ จะชาจะเร็วก็จะไดเห็นอยางแนนอน
เมื่อทานทั้งหลายอานมาถึงตรงนี้ก็หมายความวาทานไดมีความรูความเขาใจเรื่อง ศีล 5 ขึ้นมา อยางมากมายแลว ผมก็ขออนุโมทนาบุญแกทุกทานที่จะรักษา ศีล 5 และตั้งอยูในศีลในธรรม ตอไปในอนาคตกาลขางหนา และขอใหคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ จงดล บันดาลใหทาน มีความสุข ความเจริญ คิดสิ่งใดในเรื่องกุศลก็ขอใหสมความปรารถนา ตลอดทั้ง ชาตินี้และตลอดทุกๆชาติไป เทอญ