Around
1
2
Around
วิเคราะห์ข่าวรอบด้าน
Around
ทันสถานการณ์ปัจจุบัน
3
4
Around
กองบรรณาธิการ
บรรณาธิการอ�ำนวยการ ผ.ศ ชญานุช วีรสาร
บรรณาธิการบริหาร นางสาวชุติกาญจน์ บ�ำรุง
บรรณาธิการบทความวิเคราะห์ นายวัชรพงษ์ อินแสง
บรรณาธิการภาพ นายอนุศักดิ์
บรรณาธิการศิลป์ นางสาวดวงกมล งามเมืองปัก
ฝ่ายศิลป์ นายทนงศักดิ์ เพ็งพารา นายปิยณัฐ แสนมานิตย์
กองบรรณาธิการ นายกิตติกานต์ บุญเหลี่ยม นางสาววาสนา เพิ่มสมบูรณ์ นางสาวสิริพร ประสานเวช นางสาวรัตน์มณี ชิมโภคลัง นางสาวอภิญญา พวงมณี นางสาวสุภาวดี ครุฑสิงห์ นางสาวอภัสรา เการัมย์ นางสาวพิมพ์ภินันท์ เคี่ยนบุ้น นางสาวจิราภรณ์ พอกพูล นางสาวพชรพร อาศรัยผล
พรมดี
Around
Editor's ก่อนที่จะไปติดตามข่าวต่างๆสุดเข้มข้นภายในเล่ม เรามา ท� ำ ความรู ้ จั ก กั บ ภาพรวมสถานการณ์ ข องมหาวิ ท ยาลั ย มหาสารคามกันก่อน ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และมีผลกระทบต่อตัว นิสิตอย่างพวกเราอย่างไร ขณะนีห้ ากจะพูดถึงเรือ่ งสุดฮอตทีย่ งั ฮอตติดลมบนคงหนี ไม่พ้นเรื่องการปรับขึ้นค่าเทอมของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เนื่องจากกระทบต่อตัวนิสิตโดยตรง มิใช่ผู้บริหารผู้คิดนโยบาย งานนีน้ โยบายนีจ้ ะรุง่ หรือร่วงคนที่ได้รบั ผลกระทบสูงสุดก็เห็นแต่ จะเป็นนิสิตเอง เพราะค่าเทอมที่ปรับขึ้นไม่ได้ปรับขึ้นทีละนิดให้ ค่อยๆปรับตัวแต่ปรับขึ้นหลายเท่าตัวจนหาเงินมาจ่ายแทบไม่ทัน งานนี้ผู้เรียนอย่างนิสิตเองคงต้องคิดนักว่าจะยอมเสียเงินค่า เทอมเพื่อแลกกับการเรียนในสถาบันที่มีชื่อเสียง หรือ เรียน สถาบันใดก็ได้โดยคิดถึงแค่ใบปริญญาเป็นส�ำคัญ เช่นเดียวกับอีกเรื่องที่มีโครงการท�ำกันเรื่อยมา แต่ก็ไม่ เห็นจะท�ำได้จริงจังและแก้ปญ ั หาได้เสียที นัน่ คือ โครงการรณรงค์ ให้นิสิตสวมหมวกกันน็อค100 % จะเห็นได้ว่ายังมีนิสิตที่ไม่สวม หมวกกันน๊อคอยู่เรื่อยๆงานนี้จะโทษแค่พี่ รปภ. ที่ไม่มาตั้งด่านก็ ไม่ได้ เรื่องแบบนี้อยู่ที่จิตส�ำนึกของนิสิตเอง เพราะจะให้ตั้งด่าน ตลอดเวลาก็คงไม่ไหว นิสิตผู้ใช้รถใช้ถนนก็ถือว่ามีวุฒิภาวะใน ระดับหนึ่งแล้ว หากคิดถึงความปลอดภัยของตนเองเป็นหลักก็ คงสวมหมวกกันน็อคเองโดยที่ไม่ต้องมีใครมาตั้งด่าน หรือคอย มาบอก มาจดชื่อ มาเตือน แต่แหม ! โครงการก็ท�ำได้แค่ 1 วัน จะวัดผลอะไรได้ ยังไม่ทันรู้เลยว่าโครงการจะประสบความส�ำเร็จ หรือไม่ก็ถอดใจซะแล้ว แต่ก็พอจะเข้าใจ คงเป็นเพราะการไม่ให้ ความร่วมมือของนิสิตที่ท�ำให้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายถอดใจ งานนี้ จะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึง่ ก็คงจะไม่ได้ เพราะความร่วมมือจากผู้ใช้รถ ใช้ถนนก็สำ� คัญเพราะเมือ ่ เกิดอุบตั เิ หตุขนึ้ มา ผูท้ ี่ได้รบั ผลกระทบ มากที่สุดก็คงไม่ใช่พี่ รปภ. ที่ตั้งด่านหรือเจ้าหน้าที่ต�ำรวจแต่คือ ตัวนิสิตเอง
5
6
Around
สารบัญ
8
11
18
Around
28
35 41 รายงานพิเศษ
47
สิ่งแวดล้อมอีสาน ในบริบทการพัฒนา ที่ไร้สิทธิ์รองรับ
7
8
Around
Around
สังเกตผลประชามติ 2559
เริ่มเวลาเปลี่ยนแปลงฐานการเมืองในอีสาน เมือ่ วันที่ 7 สิงหาคมทีผ่ า่ นมาถือเป็ นวันส�ำคัญอีกหนึง่ วันในประเทศไทย นัน่ คือการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ การชี ้ชะตาก�ำหนดอนาคต ทิศทางของประเทศ ทีจ่ ะด�ำเนินต่อ ไปหลังจากนี ้ ถงึ แม้ จะมีหลายฝ่ ายที่ยงั เคลือบแคลง สงสัยกับ ผลร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ที่ร่างโดยคณะของคุณมีชยั ฤชุพนั ธุ์ ซึง่ แน่นอนอยูแ่ ล้ วว่าฝ่ ายที่ยงั ข้ องใจ และยังยืนกราน ไม่เ ห็ น ด้ ว ยนัน้ คื อ อดี ต นัก การเมื อ งพรรคเพื่ อ ไทย พรรค ประชาธิปัตย์บ้าง ในบางส่วน รวมทังประชาชนทั ้ ว่ ๆไปส่วน หนึง่ ด้ วย แต่ครัง้ นี ้พรรคการเมืองใหญ่ตา่ งต้ องชะงัก เพราะ ความแตกต่างของผลประชามติ หากลองมองย้ อนกลับไปเมื่อ ครัง้ ปี 2550 จะเห็นสถิตขิ องความแตกต่างที่ชดั เจน ยิ่งย้ อนมองดูผลการลงประชามติของภาคอีสานแล้ ว ฐานเสียง ความคิดเห็นทางการเมืองของคนอีสานเริ่ มเปลี่ยน ไปหรื อไม่ จากสถิตกิ ารลงประชามติ ปี 2550 ที่ผลโหวตไม่รับ ร่ างในภาคอีสานแทบทุกจังหวัดต่างไม่เห็นชอบรวมแล้ วมาก ถึง 62.80%(เฉพาะภาคอีสาน) ถือว่ามากถึงมากที่สดุ ในขณะ นัน้ อีกทังในช่ ้ วงเวลานัน้ การเมืองประเทศไทยถือว่ามีความ ขัดแย้ งด้ านสีเสื ้อขันรุ ้ นแรงต่างฝ่ ายต่างไม่ยอมลดอคติ พร้ อม จะปะทุได้ ทกุ เมื่อ แต่ด้วยค�ำสัง่ กฎอัยการศึก และข้ อระเบียบ ของ คณะมนตรี ความมัน่ คงแห่งชาติ (คมช.)ที่ยดึ อ�ำนาจในปี 2549ยังมีผลบังคับใช้ อยู่ ส่วน การลงประชามติครัง้ ล่าสุดนี ้ แตกต่างจากเมื่อ 9 ปี ที่แล้ วที่ดเู หมือนจะมีความเข้ มงวดเพิ่ม มากขึ ้น และการประชาสัมพันธ์แตกต่างกับปี 2550 อย่างสิ ้น เชิง ด้ วย พ.ร.บ.ประชามติที่บอกไว้ ชดั เจน แต่ผลครัง้ นี ้กลับ ไม่เป็ นตามความคาดหมายของฝ่ ายที่ไม่เห็นด้ วยกับรัฐบาล โดยเฉพาะภาคอีสานถึงแม้ คะแนนโดยรวมจะไม่เห็น ชอบทัง้ ภาค แต่ก็ ยัง มี บ างจัง หวัด ที่ ค ะแนนเห็ น ชอบชนะ
ลอยล�ำเช่น นครราชสีมา อุบลราชธานี เลย บุรีรมั ย์ อ�ำนาจเจริญ โดยคิดเป็ น ไม่เห็นชอบ51.42% ต่อ 48.58% ซึง่ ถือว่าไม่ได้ ขาดกันมากนัก(เฉพาะภาคอีสาน) จากที่ผา่ นมาพื ้นที่ภาคอีสานถือว่าเป็ นฐานการเมือง หลักของพรรคเพื่อไทยหรื อฝั่ งเสื ้อแดง ฝั่ งที่เรี ยกตนเองว่าอยู่ ฝ่ ายประชาธิปไตยและอยู่ฝั่งตรงข้ ามกับรัฐบาลทหารชัดเจน ซึ่ง จริ ง อยู่ที่ มี ก ฎหมาย พ.ร.บ.ประชามติ แต่ ป ระชาชนก็ สามารถเข้ าถึงข้ อมูลได้ จุดนี ้คงยังชี ้วัดได้ ว่าฐานเสียงของ พรรคเพื่อไทยยังคงแน่นในหลายจังหวัดภาคอีสาน ในส่วนของจังหวัดที่โหวตรับร่างมากกว่านัน้ หากโดย เหตุผลทัว่ ไปแล้ วประชาชนหลายคนอาจเอือมระอากับรัฐบาล ชุดนี ้และอยากเลือกตังโดยไว ้ แต่ด้วยผลคะแนนที่ออกมานัน้ สามารถชี ้ได้ หลายประเด็น เช่นประชาชนเริ่ มเบื่อหน่ายกับ ระบบการเมืองไทยที่ผ่านมาเพราะบทเรี ยนจากการชุมนุมใน อดีต ระบบการเมืองแบบรัฐสภามีการคอรัปชัน่ ที่ไม่สามารถ แก้ ไขได้ มายาวนาน และรัฐบาลชุดนี ้มีความเด็ดขาดในการ ปราบปรามทุจริ ต หรื ออาจเป็ นนักการเมืองในท้ องถิ่นไม่ได้ สนใจที่จะดูแลปั ญหาอย่างจริ งจังหวังเพียงเพื่อตักตวงผล ประโยชน์สว่ นตน ซึง่ แสดงให้ เห็นแล้ วว่า แนวคิดในทางการ เมืองของภาคอีสานเริ่มมีความหลากหลายมากยิง่ ขึ ้นแม้ จะเริ่ม จากไม่กี่จงั หวัด แต่หากมองในมุมของพรรคการเมืองนัน่ คือพรรคเพื่อ ไทย จะเห็นได้ ถึงความแตกต่างจากอดีต แม้ จะมีการป่ าว ประกาศตัง้ ศูนย์ ปราบโกงประชามติก็ตาม แต่ก่อนหน้ าลง ประชามตินนดู ั ้ เหมือนว่าจะออกมาเคลือ่ นไหวน้ อยมากกระทัง่ ผลประชามติออกมาเป็ นที่เรี ยบร้ อย แต่อาจด้ วยข้ อจ�ำกัดข้ อ ห้ ามทางกฎหมาย และอีกด้ านหนึง่ ของพรรคเพื่อไทย คือ
9
10
Around
กลุม่ นปช ทีเ่ น้ นย� ้ำว่ากลุม่ ตนนันอยู ้ ฝ่ ั่งประชาธิปไตยพร้ อมทัง้ ประกาศอย่างชัดเจนว่าหากมีการเลือกตังก็ ้ จะอยูฝ่ ั่งฝ่ ายค้ าน จนกระแสเงียบไป ซึง่ จุดนี ้เองท�ำให้ คดิ ว่า พรรคเพื่อไทยและ นปช ก็ยงั มุง่ เน้ นแค่การเลือกตังเพี ้ ยงอย่างเดียวหรื อไม่ อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ วา่ ขณะนี ้ฐานเสียงของพรรคเพื่อ ไทยในอีสานนันเริ ้ ่ มสัน่ คลอนแล้ ว อีกทังค� ้ ำถามที่วา่ พรรคเพื่อ ไทยเองนัน้ ยังยึดในหลักการเดิมจริ งหรื อที่ว่าอยู่เคียงคู่กับ ประชาชน เพราะท่าทีที่แสดงออกมาแต่ละครัง้ นัน้ ตรงข้ าม กับสิง่ ทีเ่ คยประกาศเอาไว้ ด้ วยเหตุนี ้จึงไม่แปลกทีฐ่ านเสียงใน ภาคอีสานเริ่ มสะเทือน บริ บททางการเมืองเริ่ มมีความหลาก หลายมากยิ่งขึน้ ประชาชนเริ่ มเปิ ดรับสิ่งใหม่ข้อมูลใหม่ๆ
มากกว่าที่ผา่ นมา ในการเลือกตังครั ้ ง้ หน้ าที่จะถึงนี ้อาจเห็นการเปลีย่ นแปลง ครัง้ ใหม่ของการเมืองไทยยิง่ โดยเฉพาะห้ าจังหวัดในภาคอีสาน ที่ผลรับร่ างรัฐธรรมนูญออกมาเหนือความคาดหมาย อาจชี ้ ช่องให้ พรรคอื่นๆเจาะฐานคะแนนเสียง พร้ อมทังท่ ้ าทีของ พรรคการเมืองใหญ่วา่ เจตนารมณ์ แนวคิดยังคงอยูใ่ นรูปแบบ เดิมหรื อไม่ เพราะอย่าลืมว่าสถานการณ์ในตอนนี ้ประชาชน เริ่มรู้เท่าทันเกมการเมืองมากยิง่ ขึ ้นจึงชินชาและเอือมระอากับ ระบบการเมืองในรู ปแบบเดิมๆแล้ ว อีกทังค� ้ ำสัง่ ของรัฐบาล ทหารยังมีผลบังคับใช้ อยู่ชัดเจน ระยะทางบทพิสจู น์ นีอ้ าจ ท�ำให้ เห็นว่านักการเมืองคนใดจริ งใจต่อประชาชนจริ งๆ
Around
11
12
Around
พ่อข่มขืนลูก ปูข่ ่มขืนหลาน ความรุนแรงซ�้ำซ้อน วังวนข่มขืน ซ�้ำซากทุกวี่วัน วังวนข่มขืนจากคนใกล้ชิด ความรุนแรงทางเพศที่จัดว่าเป็น เรือ่ งธรรมดาไปแล้ว การด�ำเนินคดีตอ่ ผูก้ ระท�ำผิดเปรียบเสมือนยอดภูเขาน�ำ้ แข็ง ทีแ่ สดงปัญหาเพียงส่วนเสีย้ วเท่านัน้ ยังมีปรากฏการณ์ความรุนแรงทีเ่ กิดขึน้ แต่ไม่ ได้เป็นคดี หรือไม่ได้ตกเป็นข่าวอีกมาก ไหนจะเรื่องที่ได้ยินจนเพราะพริ้งสนุกหูที่ หลานแท้ๆท้องกับปู่ตนเอง
เหยื่อโจรบริ สทุ ธ์ เด็กหญิงวัย 9 ปี อาศัยกับปู่ และย่า เนื่องจากพ่อแม่ แยกทางกัน ปู่ แท้ ๆข่มขืนเป็ นเวลานาน ย่ารู้เห็นกับเรื่ องนี ้ แต่ อยู่ในภาวะจ� ำยอม ไม่อาจมี ปากสียงได้ เพราะปู่ คื อผู้น�ำ ครอบครัว จนเธอตังครรภ์ ้ ในขณะที่ก�ำลังศึกษาอยู่ชนมั ั ้ ธยม ปลาย เมื่อคลอดบุตร เธอตัดสินใจท�ำอาชีพขายบริ การในต่าง จังหวัด เพื่อส่งเสียเงินให้ ทางบ้ านเป็ นค่าเลี ้ยงดูบตุ ร แต่เรื่ องฉาวโฉ่สะเทือนใจแบบนี ้คนไทยชอบ และมอง ว่าเกิดจากคนหืน่ กาม โรคจิต เมาเครื่องดืม่ แอลกอฮอล์หรือยา เสพติด แต่ไม่มองว่าครอบครัวหรือชุมชนมีสว่ นหล่อหลอมเอื ้อ ให้ เกิดความรุนแรง เช่น ยอมรับให้ ผ้ ชู ายไม่ต้องควบคุมเรื่ อง เพศ ผู้ชายเจ้ าชู้เป็ นเรื่ องปกติมีเงินก็ซื ้อบริ การทางเพศได้ หรื อ พระเอกข่มขืนนางเอกในละครได้ แม้ หน่วยงานทุกภาคส่วนต่างตื่นตัวและต้ องการเร่งแก้ ไข ปัญหา แต่ปัญหาก็ยงั คงสะท้ อนผ่านข่าวตามหน้ าหนังสือพิมพ์ รายการโทรทัศน์ ซงึ่ มักเกิดจากบุคคลในครอบครัวหรือคนใกล้ ชิด นับวันยิ่งจะทวีความรุ นแรงมากขึ ้น ซึง่ จากสภาพปั ญหา ข้ างต้ น สิ่งที่เห็นเป็ นเพียงอาการที่สะท้ อนสภาพสังคมและ วัฒนธรรมแห่งความรุนแรง พฤติกรรมนี ้ปั ญหาไม่ใช่ที่ตวั เด็ก แต่เป็ นเรื่ อง ทัศนคติของผู้ใหญ่ที่ยงั ไม่ยอมรับและเข้ าใจใน สิทธิเด็ก ไม่ทราบถึงสิทธิที่จะมีชีวิตรอด สิทธิที่จะได้ รับการ พัฒนา สิทธิในการมีสว่ นร่ วมให้ รอดพ้ นจากการท�ำร้ าย ล่วง
ละเมิด ละเลย และแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ความเชื่อฝังหัว “ชายเป็ นใหญ่” พฤติกรรมความก้ าวร้ าวและรุนแรงทางเพศ อาจมีภมู ิ หลังมาจากครอบครั ว และบุคลิกส่วนตัวอันเติบโตมาจาก ครอบครั ว ไม่ ป กติ ผนวกกับ ความกดดัน จากปั ญ หาทาง เศรษฐกิจ และมีฐานะยากจน ไม่สามารถอยู่ได้ ตามอัตภาพ จึงต้ องดิ ้นรนเช่นปั จจุบนั ซึง่ ส่งผลให้ เกิดภาวะเครี ยดภายใน ครอบครัวและเสี่ยงต่อความรุ นแรงในครอบครัว ท�ำให้ เกิด ความต้ องการทางเพศ และเลือกระบายอารมณ์ตอ่ ผู้ที่ออ่ นแอ กว่า เด็กจึงเป็ นผู้ถกู กระท�ำในที่สดุ ผู้ชายที่มกั ระบายอารมณ์ทางเพศต่อผู้ที่ออ่ นแอกว่า ส่วนใหญ่จะมีความเชื่อและรู้ สกึ ว่า การได้ ระบายความใคร่ เป็ น เหมื อ นสิ่ ง ที่ ท� ำ ให้ เ ขาหลุด พ้ น และเป็ น วิ ธี เ ดี ย วที่ จ ะ สามารถควบคุมตนเอง โดยกดให้ เด็กอยู่ในโอวาท มากกว่า นันคื ้ อจะไม่ร้ ูสกึ เจ็บปวดกับผลลัพธ์หรื อการกระท�ำของตัวเอง ประกอบกับเป็ นบุคคลที่ไม่เคยยอมรับนับถือผู้หญิง ไม่เคย รู้ สึก ว่ า ผู้ห ญิ ง หรื อ เด็ ก เป็ น มนุษ ย์ ค นหนึ่ ง จึง ไม่ ใ ห้ เ กี ย รติ แสดงออกด้ วยค�ำพูดดูถกู และมีความเชื่อว่าเด็กเป็ นเครื่ อง สนองตอบทางเพศ จึงใช้ ก�ำลังบังคับให้ มีเพศสัมพันธ์ รวมถึง ใช้ ความรุนแรงเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ซึง่ ไม่ตา่ งนักจากที่ นางสาวจรีย์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้ าฝ่ าย ส่งเสริ มภาคีเครื อข่าย มูลนิธิหญิงชายก้ าวไกล ได้ กล่าวไว้ วา่
Around
13
14
Around
“การกระท�ำความรุนแรงทางเพศถือเป็ นปัญหาทีส่ ะท้ อนวิธีคดิ จากระบบชายเป็ นใหญ่ซงึ่ ถือว่าเป็ นรากเหตุแห่งปั ญหาคือผู้ กระท�ำใช้ อ�ำนาจเหนือบังคับให้ เป็ นไปตามที่ตนเองต้ องการ เป็ นความสัมพันธ์เชิงอ�ำนาจที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างหญิง ชายโดยเฉพาะเรื่ องเพศที่ผ้ ชู ายไม่ได้ ถกู ปลูกฝังให้ มีการ ควบคุม ผู้ชายจึงมักแสดงพฤติกรรมทางเพศแบบไหนก็ได้ ผู้ชายส่วนหนึง่ จึงใช้ อ�ำนาจกับผู้หญิงในเรื่ องเพศดังนันในการ ้ แก้ ไขปั ญหานี ้จ�ำเป็ นอย่างยิง่ ต้ องปรับเปลีย่ นวิธีคดิ มนุษย์ทกุ คนต้ องเคารพเนื ้อตัวร่างกายผู้อื่น” ความผิดพลาดไม่ถกู ใช้ เป็ นบทเรี ยน ยังไงก็ต้องไม่ลมื ว่าสาเหตุทผี่ ้ หู ญิงยังคงอดทนอยูภ่ าย ใต้ สมั พันธภาพของความรุ นแรงทางเพศ ยอมให้ สามีตนเอง ข่มขืนบุตรหลาน เนื่องจากผู้หญิงซึ่งเป็ นย่าแท้ ๆ ยังคงต้ อง ด�ำรงชีวติ อยู่ และต้ องได้ รับการดูแลช่วยเหลือ โดยเฉพาะจาก ปัญหาทางเศรษฐกิจทีร่ ายได้ มาจากสามีหาเลี ้ยงทางเดียว ทน อึดอัดในภาวะจ�ำยอม เพราะพึง่ ตนเองก็ไม่ได้ แต่ยงั คงมีความ หวังว่าสามีจะเปลี่ยนพฤติกรรมกลายเป็ นคนดีได้ ความอดทนต่อพฤติกรรมทางเพศของสามีถกู วางไว้ เหนือเหตุผล ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ต้องการตกอยูใ่ นสภาพที่โดน ท�ำร้ ายจิตใจหรื ออึดอัด โดยไม่ลกุ ขึ ้นมาต่อสู้อะไรเลย แปลก ไปกว่านี ้ผู้หญิงบางคนรู้สกึ ว่าตนเองบกพร่องต่อหน้ าที่ เพราะ ถูกสอนมาว่าให้ มีหน้ าที่คอยปรนนิบตั ิ สิ่งส�ำคัญคือผู้หญิ ง เหล่านี ้เป็ นผู้ที่ขาดการยอมรับนับถือในตัวเอง และยังคงมี ความรักเต็มเปี่ ยมให้ กบั ชายผู้ท�ำร้ ายเธอ ส่วนมากจะอธิบาย ด้ วยหลักและเหตุผลว่าพฤติกรรมความรุนแรงทางเพศต่อบุตร หลาน เกิดจากการถูกบีบคันหรื ้ อความกดดันจากแอลกฮอลล์ จากปั ญหาการท�ำงาน การถูกเลิกจ้ างงานหรื อปั จจัยอื่นๆ “ไหนๆก็เสียบริ สทุ ธิ์แล้ ว จะไปเสียฟรี ๆท�ำไม” ค�ำพูด ของหญิงสาวที่โดนปู่ แท้ ๆข่มขืนเป็ นเวลานาน เธอเลือกออก จากวังวนด้ วยการขายบริการทางเพศ ไม่ตา่ งจากแม่ที่มีอาชีพ ขายบริ การตังแต่ ้ เธอยังเด็ก จะเห็นได้ วา่ หลายครอบครัวมักมี จุดจบง่ายๆด้ วยวิธีคดิ ที่วา่ แม่ก็เคยท�ำมาก่อน ลูกก็ท�ำบ้ างไม่ เห็นเป็ นไร ถูกมองว่าเป็ นเรื่ องธรรมดา ผู้ใหญ่ไม่ได้ น�ำข้ อผิด พลาดในชีวิตมาใช้ เป็ นบทเรี ยนสอนลูกหลานให้ เดินในทางที่ ถูกที่ควร แต่กลับมองว่าที่ชีวิตเป็ นเช่นนี ้เพราะเวรกรรม ทางออกที่แก้ ไขไม่ได้
นายสุวภิ กั ษ์ แสนบัวโพธิ์ นักสังคมสงเคราะห์ บ้ านพัก เด็กและครอบครัวจังหวัดมหาสารคาม เอ่ยถึงกระบวนการให้ ความช่วยเหลือ ดังเช่นหลายๆกรณีทเี่ กิดขึ ้นส่วนใหญ่ยนิ ดีเข้ า มารับบริ การด้ วยตนเอง หรื อโทรสายด่วน 1300 และอีกทาง หนึง่ ก็คอื ติดตามจากสือ่ มวลชน เริ่มต้ นจะประเมินสถานการณ์ หากครอบครัวสามารถป้องกันดูแลกันได้ จึงไม่จ�ำเป็ นต้ องน�ำ เด็กมารับบริการเพราะยังคงมีครอบครัวหรือชุมชนคอยโอบอุ้ม ดูแล หากเป็ นกรณีที่ไม่มีใครดูแล แม่อยูใ่ นภาวะจ�ำยอมหรื อดู ศักยภาพแล้ ว เห็นควรว่าจ�ำเป็ นต้ องอาศัยอ�ำนาจของรัฐเข้ า มาจัดการ น�ำเด็กออกจากพืน้ ที่และประเมินศักยภาพเด็ก พร้ อมทัง้ ส่งเสริ มสวัสดิภาพให้ เขาอย่างรอบด้ าน เมื่อครบ ก�ำหนด 90 วัน เมื่อประเมินแล้ ว เด็กสามารถอยูด่ ้ วยตนเองได้ และเมื่อกลับสูค่ รอบครัว ต้ องมัน่ ใจว่าจะไม่โดนกระท�ำซ� ้ำอีก หากผลประเมินพบว่าเด็กยังอยูใ่ นสภาวะไม่พร้ อมก็จะส่งตัว เด็กไปยังสถานสงเคราะห์เด็กหญิงต่อไป สังคมยังมองว่าการถูกข่มขืนเป็ นตราบาปส�ำหรับผู้ เสียหาย และเชื่อว่าการลงโทษให้ รุนแรงทีส่ ดุ จะช่วยแก้ ปัญหา ได้ แต่เรามักไม่ตงค� ั ้ ำถามกับประสิทธิภาพของกระบวนการ ยุตธิ รรมทังระบบ ้ และสิง่ ที่มีผล คือ ผู้มีแนวโน้ มจะกระท�ำผิด รับรู้วา่ หากตนเองกระท�ำความผิดแล้ วโอกาสที่จะถูกจับและ ลงโทษมีสงู มาก เพราะกระบวนการยุตธิ รรมเอาจริ ง จึงต้ องมี การปรับกระบวนการยุติธรรมทังระบบ ้ ให้ มีหลักประกันว่าผู้ กระท�ำผิดมีโอกาสถูกจับตัวมาลงโทษสูง รวมถึงปรับทัศนคติ ของเจ้ าหน้ าที่ให้ มีความละเอียดอ่อนในการจัดการคดีความ รุนแรง และเร่งรัดการด�ำเนินคดี คอื ให้ รวดเร็ว แทนทีจ่ ะใช้ เวลา ถึง 10 ปี กว่าจะพิจารณาคดีขม่ ขืนเสร็ จ หากสังคมยังไม่ปรับ ทัศนคติตอ่ ผู้เสียหายและไม่ปรับปรุงประสิทธิภาพของ กระบวนการยุตธิ รรมทังระบบ ้ ผู้เสียหายจ�ำนวนมากจะไม่เข้ า แจ้ งความ และผู้กระท�ำผิดจะลอยนวลและมีโอกาสท�ำผิดซ� ้ำ วังวนข่มขืนและความรุนแรงซ� ้ำซ้ อน ยังมีหวังที่จะลด ลงเพราะทุกสังคมไม่วา่ จะมีพื ้นฐานทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ หรื อสังคมแบบใด ก็ล้วนมีความสามารถพอที่จะหยุดยังความ ้ รุนแรงทางเพศต่อเด็กได้ และสมควรอย่างยิ่งที่จะต้ องร่วมกัน ไม่ได้ หมายถึงการลงโทษผู้กระท�ำผิดเท่านัน้ แต่ยงั รวมไปถึง การเปลีย่ นแปลงทัศนคติและเงื่อนไขทางสังคมที่เกี่ยวข้ องกับ ความรุนแรงทุกรูปแบบด้ วย
Around
โล๊ะ ระบบบัตรทอง 30 บาท
เพื่อ ประชาชน หรือ ความสบายของรัฐ คนไทยทุกคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เรามีสิทธิอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต แต่ก็ เชื่อว่ามีสิทธิด้านหนึ่งที่ประชาชนหลายๆ คนก็มักจะมองข้ามไป เช่นเวลาที่เจ็บป่วย ต้องการ เข้ารักษาพยาบาล สิง่ แรกก่อนทีพ ่ ยาบาลจะให้บริการ ก็มกั จะถามถึงบัตรทอง หรือ บัตร30 บาท ที่ประชาชนต้องพกพา เวลาไปโรงพยาบาล ซึ่งค�ำถามที่ต้องการค�ำตอบจากรัฐบาล ถึงความรับผิดชอบ ในอนาคตถ้าหากเรามีการพิจารณายกเลิกบัตรประกันสุขภาพถ้วน หน้า สิทธิการเข้าถึงการรักษาพยาบาลจะส่งผลกระทบต่อสังคมมากน้อยเพียงใด แนวโน้ มที่ไทยจะมาใช้ นโยบายลด 30 % แต่ถ้าจะมองในมุมของการบริ หารบัตร 30 บาทคง เป็ นภาระที่หนักอึ ้งของรัฐบาลกลับกันถ้ าลองนึกดูวา่ ประเทศ สหรัฐอเมริ กาก็ยงั ไม่กล้ าท�ำ มีแค่ฝั่งยุโรปที่กล้ าให้ รักษาฟรี แต่ฝั่งยุโรปจัดให้ เสียภาษี กนั 30-50% ส่วนเมืองไทยแต่ละปี ก็ไม่ได้ เสียภาษีมากเท่าต่างประเทศ จึงท�ำให้ คอ่ นข้ างควบคุม ยาก ยิ่งตอนนี ้ประชาชนประเทศไทยยิ่งมีจ�ำนวนมากขึ ้นใน แต่ละปี ต่อให้ มีการรักษาฟรี ก็ตาม สิทธิมนุษยชนด้ านการเข้ า ถึงสวัสดิการสาธารณสุขก็จริ ง แต่ด้วยรายได้ ที่ประเทศได้ รับ กับ รายจ่ายที่ต้องจ่ายเพื่อดูแลประชาชนคนไทยทุกคนใน ประเทศ ช่างเป็ นเรื่ องล�ำบากใจ เพราะไม่วา่ จะเป็ นโรคอะไร เจ็บป่ วยแค่ไหน ต่างได้ นโยบายบัตร30บาท หรือ บัตรทองช่วย เหลือเสมอ สิ ท ธิ ก ารบริ ก ารของประเทศไทยที่ แ ตกต่ า งจากต่ า ง ประเทศ ชาวต่างชาตินนมั ั ้ กจะมีระบบเศรษฐกิจที่ค่อนข้ างดี เป็ นรัฐสวัสดิการ และมีการเก็บภาษี สงู มาก เพื่อน�ำเงินมา ชดเชยในส่วนนี ้ ซึง่ ภาษี ที่เก็บสูงได้ มากกว่า 50% ลักษณะ เหมือนที่เรามีเบี ้ยผู้สงู อายุ 500 บาท (แค่รัฐเค้ ามีเงินมากกว่า เก็บภาษี มากกว่า เลยจ่ายได้ มากกว่า) ถ้ าประเทศไทยเราจะ ท�ำอย่างนันบ้ ้ าง ต้ องหาทางแก้ ปัญหาหลักๆ 2 อย่าง คือต้ อง
เก็บภาษีในอัตราที่สงู ขึ ้น กับท�ำให้ ทกุ คนเข้ าสูร่ ะบบภาษีให้ ได้ ไม่ใช่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ (รับจ้ าง ค้ าขาย อาชีพอิสระ)ยังไม่ ได้ เข้ าสูร่ ะบบภาษี แบบปั จจุบนั ในส่วนของการบริ การยังไงให้ เกิดความคุ้มค่าของ เงิ น 30บาท บางคนที่ ไ ปรั ก ษาแต่ไ ปกี่ ที ก ลับ ได้ ย าแก้ ป วด เหมื อนข้ างต้ นที่ กล่าวไว้ เกื อบจะเรี ยกได้ ว่าเป็ นยาครอบ จัก รวาลก็ ว่า ได้ ซึ่ง จุด นี เ้ องท� ำ ให้ ม องเห็ น การจัด การงบ ประมาณของภาครัฐและสถานให้ บริการถึงความพร้ อมในเรื่อง นี ้ แต่ไม่แน่ ระบบบัตรทองอาจจะถูกปรั บแก้ ให้ เป็ น โครงการหลักประกันสุขภาพถ้ วนหน้ า ซึง่ มีความเสีย่ งต่อหลัก ธรรมาภิบาลของการบริ หารจัดการงบประมาณ กองทุนหลัก ประกันสุขภาพแห่งชาติหรื อบัตรทอง ตามหลักการบริ หาร จัดการบ้ านเมืองและสังคมที่ดี กรณีที่ชาวบ้ านแถบชนบทจ่ายค่าผ่าตัดหัวใจ ที่เป็ น โรงพยาบาลของรัฐ มีคา่ รักษาพยาบาลประมาณ 7แสนบาท แต่ได้ ใช้ สทิ ธิบตั ร30บาท จึงท�ำให้ ลดค่าใช้ จา่ ยลงได้ มาก ภาระที่รัฐบาลต้ องแบกรั บ หลังจากมี พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เริ่ มบังคับใช้ ในวันที่ 19 พ.ย. 2545 ผลปรากฏว่านโย บาย 30 บาทรักษาทุกโรค มีปัญหากระท่อนกระแท่นมาโดย
15
16
Around
Around
การจัดท�ำงบประมาณ ที่ไม่สอดคล้องกับความจ�ำเป็น หลักในการดูแลรักษาผู้ป่วย ตลอดจวบจนวันนี ้ผ่านมาแล้ ว 10 ปี โครงการ 30 บาทรักษา ทุกโรคก็ยงั มีปัญหาที่หนักหน่วง ส�ำหรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคนัน้ เป็ นนโยบายที่ท�ำให้ ประชาชนมาโรงพยาบาลจ� ำนวนมาก ถ้ ามาโรงพยาบาล อย่า งไรก็ จ ะได้ ยารั กษาโรคง่า ยๆ ท� ำให้ ป ระชาชนไม่ดูแล สุขภาพ เมื่อรับยาได้ งา่ ยๆ ก็ไม่ได้ เห็นความส�ำคัญของยา มี การใช้ ยาอย่างทิ ้งๆ ขว้ างๆ จึงเรี ยกได้ วา่ นโยบายป้องกันสุขภาพของทางรัฐบาล ไม่ประสบความส�ำเร็ จ คือประชาชนไม่สนใจป้องกันสุขภาพ ท�ำให้ ประชาชนมาโรงพยาบาลแม้ จะเป็ นโรคเล็กๆ น้ อยๆ ท�ำให้ โรงพยาบาลต่างๆ ต้ องแบกรับภาระคนไข้ จ�ำนวนมาก การรักษาจึงเกิดความผิดพลาดได้ งา่ ย เมือ่ เกิดความผิดพลาด ก็เกิดการฟ้องร้ องจ�ำนวนมาก โดยเฉพาะโรงพยาบาลจะถูก ต่อว่าว่ามีการบริ การไม่ดี มีความแออัด อย่างที่ พญ.อภิรมย์ เวชภูติ นักศึกษาหลักสูตรธร รมาภิบาลทางการแพทย์สาํ หรับผู้บริหารระดับสูง น�ำเสนอการ วิ เ คราะห์ ผ ลการบริ ห ารงบประมาณของ สปสช. ภายใต้ กฎหมายว่าด้ วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติวา่ การมีสว่ นร่วม ของสถานพยาบาล และทิศทางที่เหมาะสมตามหลักการธร รมาภิบาล ในการประชุมวิชาการ47ปี แพทย์สภา ประจํา ปี 2558 ว่า หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีสว่ นร่วม
หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ใน 4 ส่วน คือ 1.ความเสี่ยงในการจัดท�ำงบประมาณบัตรทอง อาทิ ความ เสี่ยงอันเกิดจากความไม่เหมาะสม ไม่ทนั สมัย และไม่เป็ น ธรรมของกฎหมาย จากข้ อจ�ำกัดด้ านงบประมาณ ดังนัน้ การจัดท�ำงบ ประมาณที่ไม่สอดคล้ องกับค่าใช้ จ่ายหรื อจ�ำนวนผู้รับบริ การ จริ ง และจากการจัดท�ำงบประมาณที่ไม่สอดคล้ องกับความ จ�ำเป็ นหลักในการดูแลรักษาผู้ป่วยซึง่ มีข้อเสนอเชิงนโยบาย และในระดับปฏิบตั ิการ มี4 ด้ าน ได้ แก่ 1.การจัดสรรท�ำงบ ประมาณบัตรทองให้ เหมาะสมและเป็ นธรรมที่ สุด 2.การ จัดสรรงบประมาณให้ สถานพยาบาล 3.การเสริ มสร้ างธร รมาภิบาลของการด�ำเนินงานของบอร์ ด สปสช. 4.การสร้ าง ความยัง่ ยืนของระบบการเงินการคลังของระบบบัตรทอง ส่วนเรื่องความล้ มเหลวของระบบการจัดการนันไม่ ้ ได้ ขึ ้นอยูก่ บั ประชาชน แต่เป็ นการจัดสวัสดิการที่ทางภาครัฐจะ มอบให้ ตามหลักการบริหารจัดการบ้ านเมืองของส�ำนักนายก รัฐมนตรี ต้องมีธรรมาภิบาล ยึดหลักนิตริ ัฐ นิตธิ รรม จากการ จัดท�ำงบประมาณ ที่ไม่สอดคล้ องกับค่าใช้ จา่ ย หรื อ จ�ำนวน ผู้รับบริการจริง และ จากการจัดท�ำงบประมาณทีไ่ ม่สอดคล้ อง กับความจ�ำเป็ นหลักในการดูแลรักษาผู้ป่วย จากข้ อมูลที่เห็น เป็ นไปได้ สงู ว่า ในอนาคตพวกเราอาจจะได้ เปลี่ยนจากระบบ บัตร 30บาทมาใช้ ระบบ แบบลด30% ก็ได้
17
18
Around
Around
Live ส่อผิดจรรยาบรรณแพทย์ หากพูดถึงแวดวงการแพทย์ ธุรกิจด้ านศัลยกรรมความงามมักเป็ นสิง่ หนึง่ ที่ทกุ คนในยุคสมัยนี ้นึกถึงกัน และถือได้ วา่ เป็ นที่สนใจของประชาชนทุกเพศทุกวัยประกอบกับระบบเศรษฐกิจมีการ ขยายตัวอย่างรวดเร็ ว และมีการน�ำความรู้ทางด้ าน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ เกิดประโยชน์ตอ่ มนุษย์ในด้ านการแพทย์ เช่น การตรวจ การรักษาพยาบาล และการป้องกันโรค ด้ วยวิธีการต่าง ๆ โดยยึดหลักจรรยาบรรณแพทย์ แต่ในทุกวันนี ้ยังมีแพทย์มากน้ อยเท่าไรที่ยดึ และปฏิบตั ิ ตามหลักจรรยาบรรณวิชาชีพของตน
19
20
Around
เหตุการณ์ ที่พบเห็นในทุกๆวันบนสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media) ต่างๆบนหน้ าจอสมาร์ ทโฟน (Smart Phone) รวมถึง การโฆษณาโปรโมชัน่ (Promotion) หรื อรี วิว(Review) เคส (Case)ผ่าตัดต่างๆของคนไข้ ตามคลินิกเสริ มความงามทัง้ หลายทีเ่ กิดขึ ้นในปัจจุบนั อีกทังการเผยแพร่ ้ หรือไลฟ์ สด (Live) คนไข้ ที่มาเสริ มความงามทังในขณะที ้ ่ท�ำการรักษา และหลัง รักษาเสร็ จเรี ยบร้ อยแล้ ว ตามหลักจรรยาบรรณแพทย์ๆไม่ สามารถกระท�ำการเผยแพร่ รูปพรรณสัณฐานของคนไข้ ใน ทางการค้ า หรื อ โฆษณาได้ เพราะแพทย์ ค วรค� ำ นึง และ ตระหนักถึงประโยชน์สงู สุดของคนไข้ มาเป็ นอันดับแรก ไม่ควร เห็นแก่ประโยชน์สว่ นตน ตลอดจนไม่ชี ้น�ำคนไข้ รายอืน่ ด้ วยการ โฆษณา บนสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media) และสื่อต่างๆ กรณีที่แพทย์อดั คลิปโปรโมท(Promote)คลินิกตนเอง มัก มี ใ ห้ เ ห็น ตามเฟซบุ๊ค (Facebook) รายละเอี ย ดในการ โปรโมท (Promote) จะกล่าวถึงระยะเวลา และราคาโปรโมชัน่ (Promotion) ของการท�ำศัลยกรรมทีท่ างคลินกิ ได้ จดั ขึ ้น พร้ อม หากคนไข้ ถา่ ยรูปก่อน และหลังท�ำเข้ ามารีววิ (Review)กับทาง คลินิกคนไข้ ก็จะได้ รับส่วนลดในการท�ำศัลยกรรม หรื ออาจจะ ได้ บตั รก�ำนัลท�ำหน้ าฟรีมา อาทิเช่น ตัวอย่างรีววิ เสริมจมูกของ คนไข้ ที่เสริ มจมูกด้ วยเทคนิ ควางซิลิโคนใต้ เยื่ อหุ้มกระดูก (Nose Renovation )ผ่านไลฟ์ สด(Live) บนเฟซบุ๊ค(Facebook)ผ่านโปรพรี วิวโชว์เคส(Case) 19,800 บาท เลือกได้ ทงั ้ ซิลโิ คนอเมริ กาและเกาหลี นิ่ม บิดได้ รู้สกึ เบาสบาย เน้ นการก ระจายแรงของซิลโิ คนลดปั ญหาทะลุ รับประกันยาว 1 ปี เต็ม พบข้ อบกพร่ องแก้ ทนั ที ไม่ลีลา ยื ้อเวลา พบปั ญหา นัดพบ แพทย์ได้ ตลอด ไม่ทิ ้งเคส(Case) แจ้ งราคาไหน จบราคานัน้ ไม่มจี า่ ยเพิม่ กังวลใจ พบปัญหา มีเจ้ าหน้ าที่ คอยให้ คำ� แนะน�ำ ตลอด 24 ชัว่ โมง เบอร์ ติดต่อ 0923549262 และหากมีการ แชร์ โพส กดไลค์ ติดดาว รับทันที เหลากระดูก เย็บอินเตอร์ โดม ยกปลาย ปรับฐาน ไม่มีคา่ ใช้ จา่ ย ในวันนัด (ข้ อมูลอ้ างอิง:www.narinthraclinic.com/contactus) เป็ นต้ น ด้ านแพทย์หญิงมนัสวรรณ เขียวชอุม่ กล่าวว่า การ ไลฟ์ สด(Live) ขณะท�ำการรั กษาคนไข้ อยู่ผ่านทางเฟซบุ๊ค (Facebook) หรื อผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media)เพื่อ
รี วิว (Review) เคส(Case) คนไข้ ที่ท�ำศัลยกรรมโดยการถ่าย ภาพใบหน้ าคนไข้ ท�ำให้ สามารถระบุได้ วา่ คนไข้ คือใคร ถือว่า เป็ นการกระท�ำที่ขดั ต่อหลักจรรยาบรรณแพทย์ เพราะว่าการ กระท�ำดังกล่าวถือเป็ นการละเมิดสิทธิ และเปิ ดเผยข้ อมูลคนไข้ ส่วนกรณี แพทย์ที่คลินิกเสริ มความงามถ่ายเฉพาะ ส่วนที่ท�ำการรักษาโดยไม่เห็นใบหน้ าคนไข้ กรณีนี ้ถือว่าไม่ผิด หลักจรรยาบรรณแพทย์ เพราะท�ำเพื่อเน้ นการรักษามากกว่า การโฆษณา ในส่วนความผิดด้ านการโฆษณาของคลินิกเสริ ม ความงาม แพทย์ทที่ ำ� การรีววิ (Review)คนไข้ หากในภาพ และ สื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media) มีโลโก้ หรื อสิง่ ที่บง่ บอกถึง อัตลักษณ์ของคลินิกเสริ มความงามแพทย์จะมีความผิดฐาน โฆษณาชวนเชื่อ และผิดจรรยาบรรณแพทย์ การโฆษณาชวนเชื่อจะมีความผิดฐานโฆษณา ตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มีโทษปรับ 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะยุตกิ ารโฆษณา ส่วน ผู้ประกอบโรคศิลปะ จะส่งให้ คณะกรรมการวิชาชี พเป็ นผู้ พิจารณาความผิด ตามพระราชบัญญัตกิ ารประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2556 ตามความรุนแรงการกระท�ำผิดตังแต่ ้ สถานเบา คือ ว่ากล่าวตักเตือนจนถึงขัน้ หนักสุดคือ เพิกถอนในอนุญาต (ข้ อมูลอ้ างอิง : http://bit.ly/2cQCHqY) ทังนี ้ ้แพทย์ที่มีพฤติกรรมขัดต่อหลักจริ ยธรรม และ จรรยาบรรณในอนาคตมีแนวโน้ มสูงขึ ้น เนื่องจากปั จจุบนั ตาม คลินกิ เสริมความงามทุกทีม่ กั ติดป้ายโฆษณาชวนเชือ่ อวดอ้ าง สรรพคุณการรักษา รวมถึงการไม่ซื่อสัตย์ตอ่ คนไข้ และไม่พดู ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ ้นหลังการท�ำศัลยกรรมแก่คนไข้ ให้ ชัดเจน ถึงแม้ คลินิกบางแห่งกล่าวว่าทางคลินิกมีการรับผิด ชอบหากเกิดกรณีผดิ พลาด แต่สำ� หรับคนไข้ ไม่มอี ะไรเป็ นหลัก ประกันได้ วา่ สิง่ ที่คลินิกกล่าวมานันเชื ้ ่อถือได้ ถ้ าหากแพทย์ยงั เห็นแก่รายได้ ที่เข้ ามามากกว่าความปลอดภัยของคนไข้ ตอ่ ไป อาจส่งผลให้ เกิดเหตุการณ์ ฟ้องร้ องเรี ยกค่าเสียหายเกิดขึ ้น เพราะคนไข้ ถูก เอารั ด เอาเปรี ย บ และเมื่ อ เกิ ด ปั ญ หาขึ น้ กระบวนการในการเรี ยกร้ องค่าเสียหายต้ องใช้ ระยะเวลานาน และสร้ างความยุง่ ยากให้ แก่คนไข้ ทจี่ ะต้ องพิสจู น์ถงึ ข้ อเท็จจริง ต่างๆ ซึง่ ไม่อยูใ่ นความคิดเห็นของตนเอง อีกทังต้ ้ องเสียค่าใช้ จ่ายในการด�ำเนินคดีสงู คนไข้ มกั ตกอยูใ่ นฐานะที่เสียเปรี ยบ
Around
อาชีพนักข่าว…
ที่ใครๆก็สามารถเป็นได้
ยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ ามามีบทบทในการใช้ ชีวิของ คนเราเป็ นอย่างมาก การรั บข้ อมูลข่าวสารมีความรวดเร็ ว ฉับไวและทันเหตุการณ์ ท�ำให้ เข้ าถึงข่าวสาร ได้ งา่ ย เพราะคนส่วนใหญ่ชอบความรวดเร็ว แต่ไม่ค�ำนึงถึงเนือ้ หาว่ามีความจริ งหรื อถูก ต้ องมากน้ อยเพียงใด จึงเป็ นสาเหตุหนึ่งที่ ท�ำให้ มีนกั ข่าวที่ไม่ข่าวนักข่าวจริ งๆเพิ่มมาก ขึ ้น สมัยก่อนการที่จะเป็ นนักข่าวได้ ต้อง เรี ยนจบทางด้ านวารสารศาสตร์ มาโดยตรง เพราะไม่ใช่ใครก็จะเป็ นนักข่าวได้ ด้ วยปั จจัย หลายๆอย่ า ง ไม่ ว่ า จะเป็ น การเรี ย นทาง วารสารศาสตร์ การตังค� ้ ำถามหรือคิดประเด็น ได้ ความถูกต้ องและชัดเจนของเรื่ องที่ จะ เขียน และที่ส�ำคัญต้ องมีจรรยาบรรณในการ เขียนหรื อน�ำเสนอข่าว ในเมือ่ ใครๆก็สามารถเป็ นนักข่าวได้ แล้ วคนทีเ่ ป็ นนัก ข่าวมืออาชีพจะถูกลดความเชื่อถือในการน�ำเสนอข่าวลงบ้ าง หรื อไม่ ทุกวันนีม้ ีนักข่าวสมัครเล่นเพิ่มขึน้ เป็ นจ�ำนวนมาก เนื่องด้ วยเทคโนยีที่ก้าวหน้ าและทันสมัย จึงเป็ นช่องทางใน การเผยแพร่ ข่าวสารได้ รวดเร็ ว ท�ำให้ นกั ข่าวมืออาชีพเริ่ มจะ ตกที่นงั่ ล�ำบาก ความน่าเชื่อถือในนักข่าวมืออาชีพอาจจะลด ลงบ้ าง แต่ยงั ไงนักข่าวมืออาชีพก็ยงั คงมีความน่าถือมากกว่า นักข่าวมือสมัครเล่นอยูด่ ี
แต่จุด หัก เหของอาชี พ นัก ข่ า วอยู่ต รงที่ บุค ลทั่ว ไป สามารถเป็ นนักข่าวได้ คนทีไ่ ม่ได้ เรียนทางด้ านวารสารศาสตร์ มา ไม่ร้ ูเรื่องจรรยาบรรณสือ่ จะสามารถน�ำเสนอข่าวได้ ถกู ต้ อง และเป็ นความจริงมากกว่าคนทีเ่ รียนมาได้ จริงหรือ นีย่ งั คงเป็ น ข้ อสงสัยที่หาค�ำตอบไม่ได้ เพราะนักข่าวมืออาชีพบางคนก็ เขียนข่าวหรื อน�ำเสนอข่าวที่ไม่ค�ำนึงถึงจรรยาสื่อ มีการน�ำ เสนอข่าวที่ไม่เป็ นความจริ ง การเขียนพาดหัวข่าวที่ผิดๆ รวม ไปถึงการน�ำเสนอภาพข่าวที่ไม่เหมาะสม การที่คนทัว่ ไปต้ องการเป็ นนักข่าว ก็ควรที่จะศึกษา ข้ อปฏิบตั หิ รื อจรรยาบรรณสื่อ ไม่เช่นนัน้ ก็จะ น� ำเสนอข่าวที่ ไม่เป็ นความจริ ง ขาดความ นึกคิดว่าสิง่ ไหนควรท�ำน�ำเสนอหรื อไม่ควรน�ำ เสนอ แต่ก็ใช่วา่ คนที่ไม่ใช่นกั ข่าวมืออาชีพจะ น�ำเสนอข่าวแบบผิดๆหมดทุกคน บางคนก็มี ความรู้ ในการที่จะท�ำเสนอข่าวให้ ให้ ถกู ต้ อง และเป็ นความจริ ง จากกรณีการโพสต์สเตตัสบนเฟชบุ๊ค แสดง ให้ เห็นว่าไม่ว่าใครก็สามารถเป็ นนักข่าวได้ เนื่องจากในปั จจุบนั การเข้ าถึงเทคโนโลยีนนั ้ ง่าย และสะดวกต่อ การน� ำ เสนอข่า ว หรื อ เหตุการณ์ตา่ งๆได้ อย่างรวดเร็ ว ส่งผลให้ มีทงั ้ ผู้ ที่ ห วั ง ดี แ ละไม่ ห วั ง ดี แ ฝงตั ว อยู่ บ นสื่ อ ออนไลน์ ซึง่ บุคคลเหล่านี ้ได้ น�ำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ ้น โดย มีการน�ำเสนอภาพข่าวทีไ่ ม่ได้ เซ็นเซอร์ สะท้ อนให้ เห็นถึงจรรยา บรรณของสื่อ และเกิดการวิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสมใน การน�ำเสนอข่าวของนักข่าวออนไลน์ ดังนัน้ ทุกคนสามารถเป็ นนักข่าวได้ เพราะไม่ว่าจะ เป็ นคนที่จบสื่อสารมวลชนมาหรื อไม่ ก็สามารถน�ำเสนอข่าว ได้ เช่นกัน แค่มีความมุง่ มัน่ ตังใจที ้ ่ดีในการที่จะน�ำเสนอความ เป็ นจริง มีจรรยาบรรณในการเขียนหรื อน�ำเสนอข่าว เพียงเท่า นี ้การเป็ นนักข่าวที่ดีก็ไม่ใช่เรื่ องยากอีกต่อไป
21
22
Around
“อยู่หรือไป”
กุ้งก้ามแดง สัตว์เศรษฐกิจพันธุ์ ใหม่ กุ้งก้ ามแดงหรื อกุ้งล็อบสเตอร์ (Lobster)น� ้ำจืด ถกู น�ำ เข้ า มาในประเทศไทยจากโครงการหลวง มี ถิ่ น ก� ำ เนิ ด ที่ ประเทศออสเตรเลีย ปั จจุบนั กุ้งชนิดนี ้ก�ำลังได้ รับความสนใจ อีกทังการเลี ้ ้ยงกุ้งก้ ามแดงมีการลงทุนต�่ำ ให้ ผลตอบแทนสูง จึงเป็ นสิง่ จูงใจให้ เกษตรกรหันมาเพาะเลี ้ยงเป็ นอาชีพเสริ ม เพราะเป็ นสัตว์ที่เลี ้ยงง่ายและสามารถเพาะเลี ้ยงในบริ เวณที่ จ�ำกัดได้ เหตุใดกุ้งเนือ้ ขาดตลาด? สถานการณ์ปัจจุบนั กุ้งก้ ามแดงหรือล็อบสเตอร์ (Lobster)น� ้ำจืดก�ำลังเป็ นทีก่ ล่าวถึงในแง่ของการสร้ างรายได้ ไม่เว้ น แม้ แต่ภตั ตาคาร ร้ านอาหารยังต้ องการกุ้งชนิดนี ้ เพราะมี รสชาติคล้ ายกับกุ้งล็อบสเตอร์ น� ้ำเค็ม ทว่าเกษตรกรหันมา เพาะเลี ้ยงลูกกุ้งและพ่อแม่พนั ธุ์จำ� หน่าย เนื่องจากได้ ผลก�ำไร ที่สงู กว่า โดยคิดเป็ นราคาพ่อแม่พนั ธุ์ 400-1,000 บาท/ชุด (ราคาที่เอวาฟาร์ ม) จึงท�ำให้ ก้ งุ เนื ้อไม่เพียงพอต่อ การบริ โภค เช่นเดียวกับการจ�ำหน่ายกุ้งเนื ้อ อยูท่ ี่ 6 เดือน ขนาด น� ้ำหนัก 15 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม (ขนาดที่ภตั ตาคาร และร้ าน อาหารต้ องการ) ต้ นทุนการเลี ้ยงต่อ 1 กิโลกรัมอยูท่ ี่ 250-300 บาท เรี ยกว่าก�ำไรเกินครึ่ง เป็ นเหตุผลที่เกษตรกรหันมาเลี ้ยง กุ้งก้ ามแดงกันมากขึ ้น (อ้ างอิง http://www.manager.co.th/ iBizChannel/) เมือ่ เปรียบเทียบราคาขายพ่อพันธุ์แม่พนั ธุ์ก้ งุ ก้ ามแดง กับราคาจ�ำหน่ายต่อกิโลกรัม ชี ้ให้ เห็นว่าการจ�ำหน่ายพ่อแม่ พันธุ์มีก�ำไรสูงกว่าหลายเท่าตัว การที่เกษตรกรนิยมในการ เพาะเลี ้ยงกุ้งก้ ามแดงมีการขยายพื ้นทีอ่ อกไปมาก โดยเฉพาะ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ หรื อแม้ แต่ภาคตะวันออก เฉียงเหนือก็ยงั มีการเพาะเลี ้ยงกุ้งชนิดนี ้ (อ้ างอิง http://www. manager.co.th/iBizChannel/) หากการจ�ำหน่ายกุ้งก้ ามแดง ในตลาดไทย ได้ รับการดูแลและการสนับสนุนจากหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้ อง ก็จะสามารถควบคุมปริ มาณกุ้งได้ ท�ำให้ ก้ งุ ไม่ล้น
ตลาดและไม่ท�ำให้ ราคาขายกุ้งก้ ามแดงตกต�่ำอีกด้ วย เปิ ดตลาดกุ้งก้ ามแดง ในอนาคตคาดว่าตลาดกุ้งก้ ามแดงตกต�่ำ เนื่องจาก เกษตรกรมีความต้ องการเพาะเลี ้ยง เพือ่ จ�ำหน่ายพันธุ์มากกว่า เลี ้ยงจ�ำหน่ายเพื่อการบริ โภค เช่น แม่พนั ธุ์ก้ งุ ก้ ามแดง 1 ตัว สามารถให้ ลกู ได้ มากถึง 400-500 ตัว หากเกษตรกรไทย เพาะเลี ้ยงพ่อแม่พนั ธุ์ก้ งุ ก้ ามแดง 1 แสนราย รายละ10 คู่ และ แม่ก้ งุ จะผลิตลูกกุ้งประมาณ 40 ล้ านตัว ด้ วยเหตุนี ้ปริ มาณกุ้ง จึงเพิ่มจ�ำนวนมากขึ ้นอย่างต่อเนื่องและยากต่อการควบคุม อาจท�ำให้ ก้ งุ ก้ ามแดงล้ นตลาด และส่งผลกระทบไปสูร่ าคากุ้ง ที่ก�ำลังตกต�่ำ เพราะเหตุนี ้เกษตรกรจึงนิยมท�ำเป็ นอาชีพเสริ ม มากกว่าอาชีพหลัก กุ้งก้ ามแดง “รุ่ งหรื อร่ วง” อาชีพเสริมเพิม่ รายได้ ให้ แก่เกษตรกร ณ ตอนนี ้คงหนี ไม่พ้นอาชีพเสริ มยอดฮิต อย่างการเพาะเลี ้ยงกุ้งก้ ามแดง แต่ ในมุมของผู้เขียนคาดว่าเทรนการเลีย้ งกุ้งชนิดนี ้ จะค่อยๆ ถดถอยน้ อยลง เพราะช่วงนี ้มีการเพาะเลี ้ยงเพือ่ ขยายพันธุ์และ สร้ างรายได้ ให้ กบั เกษตรกร ด้ วยปั จจัยจากการด�ำรงชีวิต ใน ด้ านของการเพาะเลี ้ยงกุ้งก้ ามแดงมีการลงทุนน้ อยให้ ผล ตอบแทนหลายเท่าตัว ด้ วยเหตุนี ้จึงท�ำให้ เกษตรกรหันมาเพาะ เลี ้ยงเพือ่ จ�ำหน่ายพันธุ์ ซึง่ เป็ นเหตุจงู ใจให้ กบั เกษตรกรทีม่ รี าย ได้ น้อย ดังนันเกษตรกรจึ ้ งนิยมเพาะเลี ้ยงเป็ นอาชีพเสริม หาก มองในแง่บวก คาดว่ากุ้งก้ ามแดงยังคงเป็ นที่ต้องการของ ภัตตาคาร ร้ านอาหารต่อไป เนื่องจากกุ้งก้ ามแดงให้ รสชาติ คล้ ายกับกุ้งล็อบสเตอร์ น� ้ำเค็ม และกุ้งชนิดนี ้จะตอบสนอง ความต้ องการของผู้บริ โภคตลาดระดับล่างมากกว่า เพราะมี ราคาที่ไม่สงู จนเกินไป ทว่ามองอีกด้ าน หากผู้เลีย้ งปล่อยกุ้งชนิ ดนี ล้ งใน แหล่งน� ้ำธรรมชาติ คาดว่า ก้ งุ ต่างชาติชนิดนี ้อาจเป็ นอันตราย
Around
กุ้งล็อบเตอร์ ที่เพาะเลี ้ยงขายเป็ นอาชีพเศรษฐกิจสายพันธุ์ใหม่-
เกษตรกร เพื่อคุ้มครองราคาปริ มาณผลผลิตที่ตกต�่ำ ทังนี ้ ้ยัง ช่วยสร้ างเสถียรภาพทางการสร้ างรายได้ เมื่อภาครัฐเผยแพร่ มาตรการการสนับสนุน เพือ่ โน้ มน้ าวให้ เกษตรกรหันมาท�ำตาม มาตรการการบริ หาร เพื่อรักษาสมดุลของตลาดที่เข้ ามารอง รับผลผลิตและเป็ นการลดความเสีย่ ง แต่แท้ จริงแล้ วมาตรการ ทีภ่ าครัฐท�ำมีผลเสียตามมา คอื ปริมาณผลผลิตมีจำ� นวนเพิม่ ขึ ้นอย่างต่อเนื่อง ยากต่อการควบคุม ทว่าตลาดกุ้งขยายตัวหรื อแคบลง ขึ ้นอยูก่ บั นโยบาย ของรัฐบาล เช่น กฎหมายการควบคุมดูแลของกรมประมง หรือ การสนับสนุนการค้ าระหว่างประเทศของภาครัฐ หากวันหนึง่ กุ้งก้ ามแดงล้ นตลาดไทยหรื อเป็ นไปตามที่คาดการณ์ ตลาด บทบาทของภาครั ฐ บ่อยครัง้ ที่เกษตรกรไทยประสบปั ญหาภัยธรรมชาติ กุ้งก้ ามแดงขยายตัวมากขึ ้น ภาครัฐจะมีนโนบายส่งเสริ มการ สิ่งเหล่านัน้ ล้ วนเป็ นปั จจัยส�ำคัญ ท� ำให้ เกษตรส่วนใหญ่ ค้ า โดยส่งออกกุ้งชนิดนี ้หรื อไม่ เพราะไม่แน่วา่ กุ้งก้ ามแดง ้ งเป็ นสัตว์ที่ชว่ ย ยากจน ภาครัฐพยายามผลักดันอาชีพที่สร้ างรายได้ ให้ กบั อาจจะน�ำเม็ดเงินมายังประเทศไทย อีกทังยั ฟื น้ ฟูเศรษฐกิจบ้ านเราได้ ด้วยในอนาคต ต่อระบบนิเวศบ้ านเราได้ เนื่องจากกุ้งก้ ามแดงไม่ใช่สตั ว์พื ้น บ้ านของไทย อาหารของกุ้งก้ ามแดงนัน้ ควบคุมสมดุลของ ระบบนิเวศ ยกตัวอย่างจากกรณีปลาเทศบาลหรื อที่เรี ยกอีก ชื่อว่า ปลาซัคเกอร์ (Common sucker) เป็ นสัตว์ที่กรมประมง พยายามห้ ามมิให้ น�ำเข้ ามาในประเทศไทย เพราะปลาชนิดนี ้ กินอาหารไม่เลือกโดยใช้ วิธีดดู ซึง่ เป็ นอันตรายต่อลูกหลาน สัตว์พื ้นบ้ านไทย และกุ้งชนิดนี ้จะเป็ นสัตว์ต้องห้ ามด้ วยหรื อ ไม่หรื อสามารถเพาะเลี ้ยงต่อไปได้ หรื อไม่จึง เป็ นที่น่าจับตา มอง
23
24
Around
Around
25
26
Around
Around
100 % ไหมล่ ะ ? มมส ปลอดหมวกันน็อค
27
28
Around
Around
จะเป็นอย่างไรเมื่อ มมส.ต้องรับตรง ร่วมกันคล้ายเอนทรานซ์สมัยก่อน ได้ ขา่ วแว่วๆว่า ประเทศไทยจะมีการปฎิรูปการศึกษา โดยกรวมรับตรงร่ วมกันจากโครงการของปลัด ธส. ที่ให้ ทกุ มหาวิทยาลัยรับตรงร่วมกันหรื อพร้ อมกันทัว่ ประเทศ แน่นอน ว่าคนทีไ่ ด้ รับผลกระทบมิชชัน่ นัน่ เอง !! โดยตรงนัน่ คือ นักเรียน และสถานศึกษา ซึง่ มีความคิดเห็นทังเห็ ้ นด้ วยและไม่เห็นด้ วย ส่วนเนื ้อหาของข้ อสอบรับตรงฉบับใหม่จะเป็ นข้ อสอบเดียวกัน ทัว่ ประเทศและสามารถสมัครได้ ทางออนไลน์ ส่วนเหตุผลที่ รัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิ การ ได้ ออกมาประกาศเช่นนีน้ นั ้ เพราะเกิดความไม่เท่าเทียมกันในระบบการศึกษา ซึ่ ง ในมุม มองของมหาวิ ท ยาลัย มหาสารคามที่ มี จ�ำนวนนิสิตเข้ ามาเรี ยนหลายหมื่นคนนัน้ เพราะว่าเข้ าง่าย หรื อ ปล่า ว ? “คนเค้ า พูด กัน ” เพราะเดิ ม ที ม หาวิ ท ยาลัย มหาสารคามมีการรับนิสติ เข้ าศึกษา โดยโควต้ า ใช้ GPA และ คะแนน GAT-PATและเข้ าสอบสัมภาษณ์เลยโดยรวมๆจะมีก ารรับนิสติ จ�ำนวน 4รอบ คือ ระบบรบตรงโควต้ า ระบบรบตรง ด้ วยการสอบตรง และระบบพิเศษ โดยระบบพิเศษจะแพงกว่า ระบบอื่ น ท� ำ ให้ นัก เรี ย นเสี ย ค่ า ใช้ จ่ า ยเยอะในการสมัค ร มหาวิทยาลัยก็ได้ เงินเข้ าเยอะ เพราะนักเรี ยนสามารถสมัครกี่ ครั ง้ ก็ได้ การที่มีนิสิตเยอะ มมส.ก็เกิดปั ญหาเยอะเช่นกัน โครงการนี ้จะใช้ ได้ ผลกับ มมส.หรื อไม่ ? ต้ องคอยดูกนั ต่อไป อาจกล่าวได้ วา่ ทีผ่ า่ นมาข้ อสอบของประเทศไทย เช่น ข้ อสอบโอเน็ตออกข้ อสอบนอกเนือ้ หาในหลายวิชา ท�ำให้ นักเรี ยนส่วนใหญ่ที่ท�ำข้ อสอบได้ คือ นักเรี ยนที่อาศัยการกวด วิชา ท�ำให้ ขาดความเป็ นกลาง และนักเรี ยนชันมั ้ ธยมปลาย ดิ ้นรนกวดวิชาเพื่อสอบแข่งขัน และส่วนตัว เห็นว่าอยากให้ นักเรียนไทยเรียนกวดวิชาแค่ตามความจ�ำเป็ นเท่านัน้ และ เด็ก ไทยจะได้ มีจุดมุ่งหมายในการเข้ าศึกษาในคณะที่ตนเองรัก จริ งๆ ระบบรับตรงเพียงอย่างเดียวพร้ อมกันทัว่ ประเทศจะ เป็ นการแก้ ปัญหาที่ตรงจุดหรื อไม่ก็ต้องรอดูกนั ต่อไป ข้ อเสียของการรับตรงแบบเดิมทีแ่ ยกกับแอดมิชชัน่ คือ เป็ นการท�ำให้ เข้ ามหาวิทยาลัยได้ ง่ายมากถ้ าหากเด็กคนนัน้ มีGPAสูง แต่มนั ไม่ใช่การการันตีวา่ เด็กจะสามารถเรี ยนคณะ ทีต่ นเองเข้ าได้ จริงๆส�ำหรับเด็กทีม่ จี ดุ มุง่ หมายในชีวติ แล้ วก็ไม่ น่าจะมีปัญหา ซึง่ ในกรณีที่เด็กสมัครไปหลายมหาวิทยาลัย
เพื่อเผื่อไว้ กลัวไม่มีที่เรี ยน ก็จะเป็ นการเอาเปรี ยบเด็กที่อยาก เรี ยนคณะนี ้จริ งๆแต่คะแนนต�่ำกว่า ซึง่ หลังจากที่นกั เรี ยนผ่าน การรั บ ตรงมาแล้ ว ก็ ต้ อ งมาสอบสัม ภาษณ์ ซึ่ ง การสอบ สัมภาษณ์ เพียงอย่างเดียวไม่น่าจะการันตีได้ ว่าเด็กคนนี ้จะ เรี ยนคณะนี ้ได้ ซึง่ ถ้ าเด็กคนนี ้สอบติดมหาวิทยาลัยแห่งนี ้แล้ ว แต่ไม่เอา ก็เสียค่าสมัครโดยปล่าวประโยชน์และยังท�ำให้ เด็ก นักเรี ยนคนอื่นๆที่อยากเรี ยนที่นี่จริ งๆ เสียโอกาสไป ซึง่ ผลตอบรับจากนโยบายนี ้ มีทงเสี ั ้ ยงวิภาควิจารณ์ ที่เห็นด้ วยและไม่เห็นด้ วย แตกต่างกันไป ซึง่ โดยส่วนตัวแล้ ว การรับตรงแบบเดิมเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ในมหาวิทยาลัย มีเด็กที่ไม่ร้ ู มาก่อนว่าตนเองชอบอะไรกันแน่ซงึ่ เรี ยกง่ายๆว่า ไม่มีเป้าหมายในชีวิต เรี ยนไป ไม่ใช่ก็ซวิ่ ออก ไปเรี ยนใหม่ มัน จึงท�ำให้ เสียเงินโดยปล่าวประโยชน์ แต่โดยส่วนตัวคิดว่า การกลับมาเป็ นระบบรับตรงร่วม กันทัว่ ประเทศเป็ นอันเดียวกัน จะท�ำให้ เด็กไทย โฟกัสทีอ่ นาคต และเป้าหมายชีวติ ของตนเองมากขึ ้น อยากเรี ยนอะไรก็มงุ่ มัน่ เข้ าหาสิง่ นันจริ ้ งๆ สามารถสอบพร้ อมกันทัว่ ประเทศและ มมส. จะสามารถลดจ�ำนวนนิสติ ลงได้ และสามารถลดการซิว่ ลงได้ เช่นกัน ไม่วา่ ผลจะออกมาเป็ นอย่างไร ควรยกเลิก GPA แล้ ว มาวั ด ความรู้ ตรงๆถ้ ามี ก ารรั บ ตรงรู ปแบบเดิ ม บาง มหาวิทยาลัยไม่มีการสอบ จะใช้ แค่GPA เพราะบางทีGPAไม่ ได้ มาจากสมองของเด็กโดยตรง 100%ซึง่ ประเทศไทยระบบ การสอนยังไม่ดีเท่าไรนัก เด็กยังลอกกันได้ เด็กต่างจังหวัดบอกเสียเปรี ยบไม่มีที่ตวิ หนังสือมีให้ อ่านเน็ตมีให้ หาความรู้ อยูท่ ี่เด็กเค้ าจะขวนขวายเองหรื อเปล่า เพราะความพยายามอยูท่ ี่ไหนความส�ำเร็ จอยูท่ ี่นนั่ เสมอ “แต่การปฎิรูปการศึกษาในครัง้ นี ้ระบบรับตรงจะมีความ คล้ ายกับระบบเอ็นทรานซ์ในสมัยก่อน เพียงแต่เด็กจะรู้คะแนน ล่วงหน้ า และสามารถเลือกสมัครคณะหรื อสาขาได้ 4อันดับ แล้ วมหาวิทยาลัยจะคัดเลือกเด็กรอบที1่ จากนันมหาวิ ้ ทยาลัย ก็จะส่งชื่อเด็กไปที่ระบบเคลียริ งเฮ้ าส์รอบสองได้ โดยเลือกได้ อีก4อันดับเท่ากับเด็กจะมีโอกาส2ครัง้ ถ้ าเด็กที่ยงั ไม่มีที่เรี ยน ก็สามารถติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยโดยตรงกับมหาวิทยาลัย ที่มีที่นงั่ เหลือ ระบบนี ้เด็กแทบไม่ต้องวิ่งรอกเลย เพราะการ
29
30
Around
สมัครและยื่นคะแนนจะผ่านระบบออนไลน์ มีสนามสอบทัว่ ประเทศ ส่วนเรื่ องค่าใช้ จา่ ยยังไม่มีการหารื อ แต่เท่าที่ดคู ิดว่าน่า จะมีคา่ ใช้ จา่ ยแค่2ส่วนคือ ค่าสมัครและค่าระบบเคลียริ งเฮาส์ “ ข้ อมูลบางส่ วนจาก http://www.dailynews.co.th/education/519637 การวิเคราะห์เห็นว่า คิดว่าถ้ ามีการปรับรับตรงร่วมกันทัว่ ประเทศอย่างเดียวข้ อดีก็มี อาจจะท�ำให้ เด็กเสียค่าใช้ จา่ ยใน การสมัครสอบน้ อยลง เข้ าเรี ยนได้ ตรงสายมากขึ ้น การรับตรงร่วมกับทัว่ ประเทศแล้ วจะสามารถท�ำให้ เด็กพยายามสอบเข้ ามากขึ ้น เรื่ องข้ อสอบก็อาจจะไม่มีปัญหา เหมือนที่แล้ วๆมา แต่ก็มีข้อเสียคือเหมือนจะเป็ นการตัดโอกาสของเด็กที่ไม่ร้ ูจะเรี ยนอะไร ไม่วา่ ผลของการเปลี่ยนแปลงครัง้ นี ้ จะเป็ นอย่างไร เราก็ต้องรอดูกนั ต่อไปว่าจะมีผลดีหรื อผลเสียมากกว่ากัน บางทีศกั ยภาพของการศึกษาไทยอาจจะดีขึ ้นกว่าที่ เป็ นอยูก่ ็เป็ นได้
Around
ค่าเทอมระบบเหมาจ่าย (ไม่) เอื้อประโยชน์ นิสิต มมส ก้ าวกระโดดไปอีกขัน้ มหาวิทยาลัยมหาสารคามมี การปรับเปลี่ยนรู ปแบบระบบ การจ่ า ยค่ า เทอมจากระบบ เดิมคิดตามจ�ำนวนหน่วยกิตที่ ใช้ มานานกว่า 20 ปี จนฝุ่ น เกาะ มาเป็ นระบบการจ่ายค่า เทอมแบบเหมาจ่าย ซึง่ ขณะนี ้ ร่ างจัดเก็บค่าเทอมแบบเหมา จ่ายได้ ผา่ นการลงมติเห็นชอบ จ า ก ค ณ ะ ผู้ บ ริ ห า ร มหาวิ ท ยาลัย มหาสารคาม แล้ ว และคาดว่าจะเริ่ มปรับใช้ ใ น ปี ก า ร ศึ ก ษ า 2 5 6 1 ท่ า มกลางเสี ย งคัด ค้ า นจาก นิสติ เพราะเพิ่มขึ ้นถึง 50 – 70 เปอร์ เซ็น ค่ าเล่ าเรี ย นเพิ่ ม ขึ น้ เพื่ อ พั ฒ นาสวั ส ดิ ก ารนิ สิ ต และ บุคลากร จากเสียงของคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ที่ออกมาพบนิสติ เพื่อรับฟั งความคิดเห็น และได้ ชี ้แจง นโยบายค่า เทอมระบบเหมาจ่ า ยว่า จะเกิ ด ประโยชน์ ก าร พัฒนานิสติ และบุคลากร เท่ า ที่ สั ม ผั ส ได้ จากการใช้ ชี วิ ต ประจ� ำ วั น อยู่ ใ น มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ เงินในส่วนพัฒนาสวัสดิการนิสติ มีเงิน จากโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวก้ อยกับทางรัฐอยู่ตลอดทุกปี แต่ เพราะเคยตามกระแสขอแยกมาเป็ นมหาวิทยาลัยนอกระบบ
เงินบางส่วนอาจลดน้ อยลง ซึง่ งบประมาณการปรับปรุงระบบ การเรี ย นการสอนทัง้ ในและ นอกห้ องเรี ยน รวมถึงด้ านกีฬา และนั น ทนาการ พร้ อมทั ง้ จัด สรรงบในการท� ำ กิ จ กรรม ต่าง ๆ ของนิสติ จะได้ รับแบบ ครบวงจรจะกระท� ำ เป็ นรู ป ธรรมได้ เมื่อใช้ ค่าเทอมระบบ เหมาจ่ายแล้ ว คงไม่หวังลมๆแล้ งๆ ส�ำหรับ บุคลากรมหาวิทยาลัย เพราะ ในวั น ที่ 1 ตุ ล าคม 2559 พนักงานวุฒิปริ ญญาตรี จะได้ เงินเพิ่ม 1.3 เท่า วุฒิปริ ญญา โทจะได้ เงินเพิ่ม 1.4 เท่า และ วุฒิปริ ญญาเอกจะได้ เงินเพิ่ม 1.5 เท่า แต่ส�ำหรั บบุคลากร สถานะพนักงานชัว่ คราว ยังต้ องตังความหวั ้ งไว้ สงู เฉียดฟ้าที่ ค่าเทอมระบบเหมาจ่ายจริ งหรื อ ที่จะได้ ปรับสถานะบรรจุเป็ น พนักงานประจ�ำ มองต่ างมุม ผลกระทบจากนโยบายค่ าเทอมเหมาจ่ าย สร้ างความกังวลให้ นสิ ติ แบบรู้ตวั ส�ำหรับคณะผู้บริหาร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพราะนิสติ ได้ มีความคิดเห็นที่ขดั แย้ งกับผู้บริ หารในหลายประเด็น โดยเฉพาะความกังวลเรื่ อง ระบบเหมาจ่ายกับผลกระทบที่จะตามมา ข้ อสังเกตหนึง่ คือนิสติ มหาวิทยาลัยมหาสารคามส่วน ใหญ่เป็ นคนภาคอีสาน ผู้ปกครองประกอบอาชีพเกษตรกร ราย
31
32
Around
ได้ ไม่แน่นอน ปั จจัยด้ านฐานะทางเศรษฐกิจยิ่งส่งผลถึงราย ได้ ที่น�ำมาใช้ จ่ายของนิสิตในแต่ละเดือน ดังนัน้ การเปลี่ยน ระบบค่าเทอมเป็ นแบบเหมาจ่ายจึงเหมือนเป็ นการผลักภาระ ไปไว้ ที่นิสติ ปี 2561 การปรั บขึน้ ค่าเทอมกลายเป็ นเรื่ องจ�ำเป็ นเร่ งด่วน ด้ วยภาระค่าใช้ จ่ายของมหาวิทยาลัยที่ต้องแบกรับภาระจาก การปรั บ ตัว เป็ น มหาวิ ท ยาลัย นอกระบบ ท� ำ ให้ ไ ด้ รั บ งบ ประมาณแผ่นดินไม่เพียงพอต่อการพัฒนาในด้ านต่างๆ และ การจ่ายค่าไฟที่ไม่ต�่ำกว่า 100 ล้ านบาท แต่นนั่ ก็ไม่ใช่เหตุผล ที่ควรจะปรับค่าเทอมทังระบบเป็ ้ นเหมาจ่าย เนื่องจากจะส่ง ผล กระทบถึงจ�ำนวนผู้เข้ าศึกษาต่อ โดยคาดว่าจ�ำนวนนิสิต จะลดลงถึง 50 เปอร์ เซ็นต์ เพราะไม่สามารถส�ำรองเงินจ่าย เป็ นก้ อนจ�ำนวนมากได้ ซงึ่ เท่ากับว่าไม่มีเงินจ่ายก็ไม่มีสทิ ธิได้ เรี ยน นิสิตทุกคนไม่ ได้ ก้ ู กยศ. นิ สิ ต ที่ ก้ ูก องทุน เพื่ อ การศึก ษาหรื อ กยศ. ซึ่ง เอื อ้ ประโยชน์กบั นิสติ ที่ขาดทุนทรัพย์ทางการศึกษา เหมือนจะได้ รับความใส่ใจเป็ นพิเศษเป็ นตัวแปรส�ำคัญส�ำหรับการปรับค่า เทอมแบบเหมาจ่าย โดยทางคณะผู้บริ หารชีแ้ จงข้ างต้ นว่า เป็ นการเอื ้อประโยชน์ในการจัดระบบของ กยศ. แต่อย่าลืมว่า นิสติ มหาวิทยาลัยมหาสารคามไม่ได้ ก้ ยู ืมทุกคน อีกทัง้ กยศ. เป็ นระบบหนี ้ไม่ใช่ระบบสวัสดิการ ความคิดเห็นของนิสติ ส่วน มากทีก่ ้ ู กยศ. ลงความเห็นว่าระบบการจ่ายเงินของ กยศ. ไม่มี ปั ญหากระทบต่อระยะเวลาการจ่ายค่าเทอม ซึง่ ปั ญหาหลัก ของการจ่ายเงิน กยศ. ไม่ใช่เกิดเพราะนิสิตปั จจุบนั หากแต่ เป็ นเพราะการค้ างช�ำระหนี ้ของนิสติ รุ่นพี่ ฉะนันผลประโยชน์ ้ ระบบค่าเทอมแบบเหมาจ่ายควรเอื ้อกับนิสิตทุกคนอย่างเท่า เทียม จัดตารางเรี ยนให้ นิสิต ลดเงินถ้ าลงทะเบียนเรี ยนไม่เกิน 10 หน่วยกิต อาจ จะท�ำให้ นิสิตหลายคนคลายกังวลการจ่ายเงินเต็มจ�ำนวน หน่วยกิตที่ทางคณะนันก� ้ ำหนด มหาวิทยาลัยต้ องค�ำนึงถึงใน เรื่ องการลงทะเบียนเรี ยนของนิสติ ด้ วย เพราะปั จจุบนั การลง ทะเบียนเรี ยนนิสิตยังต้ องด�ำเนินการเองเป็ นช่วงที่ต้องสู้กนั แบบไม่ยอมใคร ประกอบกับวิชาเรี ยนของศึกษาทัว่ ไปที่ต้อง ลงเรี ยนถึง 30 หน่วยกิต และแต่ละวิชาเลือกลงเรี ยนยังยาก เพราะเยอะจนไม่ร้ ูจะลงวิชาไหน หากมีการเปลี่ยนแปลงการ
การจ่ายค่าเทอมในอนาคตข้ างหน้ า ระบบลงทะเบียนควรเป็ น หน้ าที่ของทางระบบการจัดการของมหาวิทยาลัยที่จะจัดสรร ให้ นิสติ เหมือนกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่เมื่อเปลี่ยนระบบ แบบเหมาจ่ายจะจัดตารางเรี ยนให้ กบั นิสติ โดยอัตโนมัต ิ แต่ มองจากภาพการณ์ปัจจุบนั จะจัดตารางให้ นิสติ อัตโนมัติเป็ น ไปได้ ค่อนข้ างยาก เพราะจากเวทีการรับฟั งความคิดเห็น ผู้ บริ หารพบนิสิต ปั ญหานี ้ยังคงไม่ได้ รับการชี ้แจงอย่างชัดเจน ทังยั ้ งได้ รับการยืนยันว่าแม้ เปลีย่ นการจ่ายค่าเทอมระบบเหมา จ่าย นิสติ ต้ องลงทะเบียนเรี ยนด้ วยตนเองเหมือนเดิม นิสิตควรเรี ยนจบด้ วยตนเอง กลายเป็ นความห่วงใย ส�ำหรับการถอนรายวิชากลาง คัน ระบบค่าเทอมแบบเหมาจ่ายถูกหยิบขึ ้นมาเป็ นตัวช่วยลด ปั ญหา กระตุ้นให้ นิสติ ตังใจเรี ้ ยน ทังที ้ ่ความจริ งนิสติ จะเรี ยน จบหรื อไม่นนั ้ ขึ ้นอยูก่ บั นิสติ ทังสิ ้ ้น เพราะระบบที่จา่ ยค่าเทอม แบบปกติ เมื่อลงทะเบียนเรี ยนแล้ วถอน ก็ไม่สามารถรับเงิน คืนได้ เช่นกัน แต่ระบบเหมาจ่ายถูกก�ำหนดขึ ้นเพื่อท�ำให้ ค่า เทอมเพิ่มสูงท�ำให้ นิสติ นึกเสียดายเงิน แต่ในทางกลับกันอาจ เป็ นสิง่ ทีท่ ำ� ให้ นสิ ติ ไม่กงั วลกับการเรียนมากขึ ้นด้ วยเช่นกัน อีก ทังนิ ้ สติ บางกลุม่ ที่มีก�ำลังทรัพย์จา่ ยค่าเทอมก็กลายเป็ นว่าไม่ ต้ องตังใจเรี ้ ยนให้ จบ แต่สามารถซื ้อสภาพการเป็ นนิสติ ไว้ ได้ ค่าเทอมระบบเหมาจ่ายดูเหมือนจะไม่เอื ้อกับนิสติ มากนัก คง ต้ องรอลุ้นจากคณะบริ หารมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถึง แผนการบริ หารในส่วนต่างๆที่ชดั เจน ก่อนปรับใช้ จริ งในวาระ ต่ อ ไป ไม่ เ ช่ น นั น้ มหาวิ ท ยาลั ย มหาสารคามคงไม่ ใ ช่ มหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนอีกต่อไป
?
ค่าเทอมเหมาจ่าย ประโยชน์ เพือ่ มหาวิทยาลัย หรือนิสิต
Around
นิสิต มมส เมิน โครงการรณรงค์สวม หมวกกันน็อค100% พื ้นที่ภายในเขตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็ นจุดที่ นับว่ามีการใช้ จกั รยานยนตร์ จ�ำนวนมาก ดังนันสิ ้ ง่ ที่ถกู ละเลย ไปคือการใส่ใจในกฎจราจรบนท้ องถนน โครงการรณรงค์ ส วมหมวกกั น น็ อ ค100% ของ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อ 12 กันยายน 2559 ที่ผา่ นมา เพื่อลดอุบตั ิเหตุรอบมหาวิทยาลัย พร้ อมก� ำหนดข้ อบังคับ ส�ำหรับนิสิตที่ไม่ปฏิบตั ิตาม โดยหักคะแนนความประพฤติ ส�ำหรับนิสติ ที่ไม่ปฏิบตั ติ าม จากประเด็นทีม่ กี ารโพสต์ภาพ รปภ. เชิญชวนให้ นสิ ติ สวมหมวกกันน็อคในวันที่ 12 กันยายน 2559 ลงในกลุม่ เฟส บุ๊คมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หากฝ่ าฝื นจะมีการหักคะแนน ความประพฤติ ท�ำให้ มีการวิพากษ์ วิจารณ์ ในกลุ่มนิสิตถึง ประเด็นดังกล่าวในหลายด้ าน มีทงด้ ั ้ านดีและด้ านเสีย มีทงผู ั้ ้ ที่เห็นด้ วยและไม่เห็นด้ วยอีกมากมาย โครงการนี ้เป็ นเรื่ องที่ดี ช่วยลดอุบตั ิเหตุบนท้ องถนน รอบมหาวิทยาลัย ทีต่ ้ องมีการรณรงค์แบบนี ้เพราะนิสติ เราเจ็บ ตายเพราะการจราจรเยอะ ซึง่ ปี ที่แล้ วเสียชีวิต 21 ราย ซึง่ ค่า อุบตั เิ หตุมหาวิทยาลัยจ่ายให้ ศพละ 150,000 บาท กรณีบาด เจ็ บ แล้ ว มาเบิ ก ก็ เ ยอะเหมื อ นกัน เป็ น ร้ อยๆราย แต่เ ดิ ม มี อุบตั ิเหตุมากอาจจะลดลง และเป็ นการปฏิบตั ิตามกฎจราจร ดังนันเมื ้ ่อมีการตังด่ ้ าน ก็จะไม่เสียค่าปรับข้ อหาไม่สวมหมวก กันน็อคอีก ส่วนด้ านคนทีไ่ ม่เห็นด้ วยก็มองว่าหากมีการรณรงค์ ขึ ้น ปั ญหาเรื่ องหมวกกันน็อคหาย หรื อขโมยก็จะเพิ่มขึ ้น และ มองว่าเป็ นการรณรงค์ระยะสันไม่ ้ ถาวร ท�ำไม่นานเดี๋ยวก็เลิก และมีค�ำถามเกิดขึ ้นอีกว่าคะแนนความประพฤตินี ้มีจริ งไหม และน�ำมาใช้ จริ งได้ หรื อไม่ ด้ านนายจรั ญ วิ ช าคุ ณ หั ว หน้ างานวิ นั ย นิ สิ ต มหาวิ ท ยาลัย มหาสารคาม มองว่ า นิ สิ ต ทุก คนเข้ า มามี สถานภาพนิ สิ ต ในมหาวิ ท ยาลัย ทุก คนจะมี ค ะแนนความ
ประพฤติตดิ ตัวคนละ 100 คะแนน ไม่เกี่ยวกับคะแนนในการ เรี ยน 100 คะแนน ต่อ 1 ปี การศึกษานัน้ การตัดคะแนนความ ประพฤติเป็ นไปตามข้ อบังคับว่าด้ วยวินยั นิสติ ปี 2554 ซึง่ อยู่ ในคูม่ ือที่ทกุ คนมีแต่จะไม่คอ่ ยอ่านกัน “การประกาศเรื่ องของ จราจรมีมาตังแต่ ้ ปี 2554 เหมือนกัน 2 ฉบับ ซึง่ ในคูม่ ือก็มี คือ มาตรการวินยั จราจรในเขตมหาวิทยาลัย และมาตรการด�ำเนิน การบังคับใช้ วนิ ยั จราจรในเขตมหาวิทยาลัยปี 2554 สองอย่าง นี ้จะพูดถึงวินยั จราจรในเขตมหาวิทยาลัย วิธีปฏิบตั ิของเจ้ า หน้ าที่ และวิธีปฏิบตั ขิ องนิสติ เมื่อเข้ าไปในพื ้นที่การตรวจ เช่น ด่าน มี รปภ. และงานสวัสดิภาพนิสติ กับงานวินยั ไปร่วมด้ วย เดิมท�ำมาตังแต่ ้ ปี 2551 ที่เริ่ มครัง้ แรก มีการจับกันเยอะแล้ ว น�ำนิสติ ที่ถกู จับเรื่ องวินยั จราจรมาช่วยงาน ขณะนันใช้ ้ วิธีการ จดชื่อทุกคนที่ไม่สวมหมวกกันน๊ อค ไม่คาดเข็มขัด ซ้ อนสาม ขับรถย้ อนศร มีการตัดคะแนนจริ ง คณะกรรมการวินยั ระดับ มหาวิทยาลัยมีทกุ คณะมาร่ วมเป็ นคณะกรรมการด้ วย จะมี การประชุมกันก่อนว่าจะมีการด�ำเนินการทางวินยั จราจรและ ได้ มีการเชิญรองคณะบดีฝ่ายพัฒนานิสิตของแต่ละคณะมา ร่วมประชุม” นายจรัญ กล่าว พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ อามาตย์สมบัติ รองผู้กำ� กับการปราบ ปรามสถานี ต�ำรวจภูธรเขวาใหญ่ จังหวัดมหาสารคาม ที่ ปรึ กษาโครงการสวมหมวกกันน็อค100% มองว่าเป็ นเรื่ อง เกี่ยวกับวินยั ของคน ซึง่ ทางหน่วยงานรัฐได้ มีการรงณรงค์ไป แล้ ว ส่วน สภ.เขวาใหญ่จะเน้ นเรื่ องการอ�ำนวยความสะดวก บนท้ องถนนให้ แก่ประชาชนมากกว่า ส่วนสาเหตุหลักของการ เกิดอุบตั เิ หตุมี3อย่างคือ คน รถ และถนน แต่ตวั แปรส่วนใหญ่ ทีส่ ดุ คือ คน ก่อนขับรถต้ องสวมหมวกกันน็อคและเช็คดูรถและ พรบ.ให้ ดี ทีส่ ำ� คัญคือการท�ำตามกฎจราจรและการสวมหมวก กันน็อค การดูแลและการแก้ ไขปั ญหาคือการตรวจขันวินยั จราจร ตังด่ ้ านตรวจและการรณรงค์ ของหน่วยงานภาครัฐ
33
34
Around
บทลงโทษของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในโครงการ รณรงค์ สวมหมวกกันน็อค100% (2559) มาตรการดังกล่าวจะมีการรวบรวมรายชื่อนิสิตที่ท�ำ ผิดวินยั จราจรมาตัดคะแนน และแยกเป็ นแต่ละคณะจากนัน้ ก็แจ้ งไปยังคณะที่นิสติ สังกัดอยู ่ ถ้ าโดนตัดคะแนนต้ องมีการ บ�ำเพ็ญประโยชน์ 2 คะแนน ต่อ 1 ชัว่ โมง ถ้ าโดนตัด 10 คะแนน ก็บ�ำเพ็ญประโยชน์ 5 ชัว่ โมง หลังจากส่งรายชื่อไปที่คณะ ก็ แล้ วแต่ว่าคณะจะให้ บ�ำเพ็ญประโยชน์อะไร เช่น ท�ำความ สะอาดคณะ เป็ นต้ น ซึง่ 100 คะแนนที่มีในปี การศึกษานันถ้ ้ า ถูกตัดเกิน 40 คะแนน จะถูกพักการเรี ยน 1 เทอม หากโดนตัด เต็ม 100 คะแนน ก็จะ พ้ น สภาพนิ สิ ต ทัน ที และกลับมาเรี ยนที่นี่ อีกไม่ได้ มาตรการนี ้ ท� ำ ตั ้ ง แ ต่ ช่ ว ง ประมาณปี 2551 ก็ คิ ด ว่ า นิ สิ ต ค ง ใ ส่ หมวกกั น น็ อ คเป็ น ปกติดีแล้ ว ก็เลยมา เน้ นเรื่ องอื่นเช่น เรื่ อง ยาเสพติด การพนัน ที่ เริ่ มมาแรง ส่วนเรื่ อง หมวกกั น น็ อ คหาย ปั ญหานี ้มีมานาน แต่ ก็ทำ� อะไรไม่ได้ เพราะ ก็คงไปเฝ้าให้ ไม่ได้ ที่ จริ งอยากลองเสนอให้ แต่ละคณะ ท�ำที่เก็บให้ นิสติ ” ผลตอบรั บของโครงการ ประมาณ 2 ปี ที่แล้ วที่ใครไม่ใส่หมวกกันน็อค ไม่ให้ เข้ ามหาวิทยาลัย อันนันคื ้ อเป็ นมาตรการ ไม่ได้ ตดั คะแนน แล้ ว ก็เห็นว่าดีขึ ้น นิสิตคงจะตระหนักได้ แล้ ว แต่ก็หายไปอีก จึง กลับมาท�ำอีกแบบจริ งจัง แต่ปีนี ้จะจดรายชื่อรวบรวมมาแล้ ว ให้ บ�ำเพ็ญประโยชน์ ก่อน มีการให้ เป็ นชั่วโมงจิตอาสาของ กยศ. ด้ วย แต่ถ้าท�ำผิดวินยั ซ� ้ำๆ ยังมีรายชื่อเดิมๆ ถึงจะตัด คะแนน ซึง่ แต่เดิมตัดคะแนนก่อนค่อยบ�ำเพ็ญประโยชน์ ปี นี ้ก็ คือให้ โอกาสหลายๆครัง้ ก่อน แต่ผลตอบรับเป็ นเช่นเดิมคือมี นิ สิ ต บางส่ว นที่ ยัง ไม่ ส วมหมวกกัน น็ อ ค และยัง เฉยๆกับ
โครงการ และการตังด่ ้ านตรวจของทางมหาวิทยาลัยก็ยงั ไม่ จริ งจังอย่างที่โครงการได้ รณรงค์ไว้ จริ งๆแล้ วมันก็ขึ ้นอยูก่ บั ตัวนิสติ ว่ามีจิตส�ำนึกไหม เพราะตัวเองถ้ าไม่ดแู ลตัวเอง ก็ไม่ร้ ู จะพูดอย่างไรแล้ ว เพราะวินยั นิสิตก็จะคล้ ายๆกฎจราจร ซึง่ คนซ้ อนก็ต้องสวมหมวก และก็ห้ามซ้ อน 3 คน ระยะเวลาของโครงการ ระยะเวลาของการรณรงค์จะยาวนานเพียงใดขึ ้นอยู่ กับการให้ ความร่วมมือของนิสติ อยูท่ จี่ ติ ส�ำนึก ถ้ าท�ำตัวเองให้ ดีกไ็ ม่ต้องมีมาตรการอะไรมาบังคับ ถ้ าห่วงตัวเองก็สวมหมวก กันน็อค หรื อคาดเข็มขัด ส่ ว นระบบการจดชื่ อ เนื่ อ งจากนิ สิต มี จ�ำ นวน มาก ก็มีคยุ ๆกันว่าอยาก เอาแบบสแกนบัต ร ยิ ง บาร์ โค้ ด แต่ต้องดูก่อนว่า ระบบสามารถท�ำได้ เลย ไหม และสามารถท�ำได้ เร็ วที่สดุ แค่ไหน เพราะถ้ า จดก็ต้องใช้ คนเยอะ และ อยากฝากไว้ วา่ การฝ่ าฝื น กฎจราจร หรื อวินยั นิสิต แล้ ว เกิ ด ความเสี ย หาย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ ว่าจะเจ็บหรื อตาย หาก ฝ่ าฝื นเท่ากับเราเจ็บและ ตายฟรี เพราะกฎหมายและวินยั นิสติ ไม่มีการคุ้มครอง อยาก ให้ นสิ ติ ตระหนักว่าเวลาเกิดอุบตั เิ หตุอะไรขึ ้นไม่ใช่แค่เราทีเ่ จ็บ พ่อแม่ และครอบครัวก็เจ็บไปด้ วย นิสติ ควรมีจิตส�ำนึกในเรื่ อง จราจรให้ มากๆ ดังนันควรสวมหมวกกั ้ นน็อคขณะขับขี่ เพื่อ ชีวิต และทรัพย์สนิ ของตนเองและผู้อื่น ทางออกของปั ญหา ทางมหาวิทยาลัยควรใส่ใจกับโครงการมากกว่านี ้และ ติดตามผลทุกระยะและเอาจริงในการใช้ บทลงโทษ การตังด่ ้ าน ตรวจของทางมหาวิทยาลัยก็ยงั ไม่จริ งจังอย่างที่โครงการได้ รณรงค์ไว้ ถ้ าอยากให้ โครงการนี ้เกิดผลก็ต้องเอาจริ งเอาจัง ใส่ใจกันมากกว่านี ้และต้ องมีการร่วมมือของหน่วยงานทุกภาค ส่วนที่เกี่ยวข้ องโครงการนี ้ถึงจะประสบผลส�ำเร็ จ
Around
35
36
Around
ไวรัส Facebook ที่ว่าสป๊อก ปัญหา virus facebook ที่แพร่ระบาดอยู่บน facebookหลายคนอาจตั้งใจ หรือเผลอ คลิ๊กเข้าไปดูว่าเป็นลิงค์อะไร อาจเป็นเพราะลิงค์มีรูปร่างหน้าตาที่ดึงดูด แต่พอเราคลิ๊กเข้าไปดู กลับเป็นหน้าเว็บ โฆษณาเกม สินค้า คลิปโป๊ภาพอนาจาร ลิงค์เหล่านี้คือตัวการที่ดึงข้อมูล facebookของเรา แล้วท�ำการ Tag post , Post , Share link, comment , ไปยัง facebook groups หรือ facebookของผู้อื่น สิง่ ที่สแปมไวรัสสร้ างขึ ้นคือ ช่องทางให้ เราคลิก เข้ าไปในลิงค์ แต่เจอหน้ าว่างเปล่า หรื อเห็นเป็ นหน้ า เ ว็ บ แ บ บ s p a m ห รื อ phishingเป็ นการหลอกลวงทางอินเทอร์ เน็ต เพื่อขอข้ อมูลที่ ส�ำคัญเช่น รหัสผ่าน หรื อหมายเลขต่างๆเราเรี ยกหน้ า เว็บหรื อสแปมนี ้อีกอย่างหนึง่ ว่า sprok( สป๊ อก ) สป๊ อก เป็ นไวรัสที่มาจากลิงค์ปลอมในfacebook, ซอฟแวร์ แฝงที่เราติดตังลงเครื ้ ่ อง การท�ำงานของมันจะเป็ นรู ป แบบ ทีค่ อ่ นข้ างน่าเชือ่ ถือ ให้ เราผ่านพาสเวิร์ด แล้ วค่อย ดูเนื ้อหาได้ เราอาจโดนดูดข้ อมูลไปให้ ใครก็ไม่ร้ ู หรื อ บางทีก็เป็ นไวรัส ท�ำให้ แอคเคาท์เราแชร์ ไปให้ เพื่อนต่อ แต่ส่วนมากแล้ ว สป๊ อกจะมาในรู ปแบบ เป็ น spam comment ,Tag photo หรื อ video clip โดยสแปมจะ เป็ นภาษาอังกฤษ และถ้ าเป็ นแอปพลิเคชัน่ จะมาในรูป แบบภาษาจีน ดร. สมนึก พ่วงพรพิทกั ษ์ อาจารย์ประจ�ำ ภาค วิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หัวหน้ า Lab วิจยั Information Security & Advanced Network (ISAN) ได้ ให้ ความรู้เกี่ยวกับสแปมไวรัสหรื อ สป๊ อก ว่าไวรั สเหล่านีไ้ ม่ได้ มาเป็ นลิงค์ แปลกปลอม อย่างเดียว บางทีมาในรูปแบบวิชาการบทความ หรื อ ข่าวที่ล้าหลังไปแล้ ว เพื่อหลอกให้ เราสนใจและกดแชร์ ซึง่ แน่นอนว่า facebookจะแจ้ งเตือนว่าเพื่อนเรา Tag post , Post , Share link, comment ถึงเรา หากกดลิงค์
เข้ าไป สแปมจะถามขออนุญาตว่าให้ ลงิ ค์ใช้ ข้อมูลfacebookหรื อไม่เราอย่าพึง่ กดสุม่ สี่สมุ่ ห้ า ต้ องเอะใจก่อน ว่าเพื่อนเราไม่นา่ จะแชร์ ลงิ ค์ดงั กล่าวมา ถ้ าหากเรากดเข้ าไปไวรัสเหล่านี ้จะระบาดทันที หลังจากทีเ่ รากดเข้ าไป เมือ่ เทียบกับเมือ่ ก่อนไวรัสเหล่า นี ้จะไม่มีทางแก้ ไข แต่ปัจจุบนั facebookมีการพัฒนา ระบบที่ ทัน สมัย ขึ น้ จึ ง มี จุ ด วิ เ คราะห์ จัด การไวรั ส อัตโนมัติหรื อถอดถอนแอปที่ เราลงชื่ อเข้ าใช้ แล้ วไม่ ปลอดภัยให้ ทันที อย่างไรแล้ วไวรั ส จะมีขึน้ มาใหม่ เรื่ อยๆ เพราะผู้ใช้ facebookคลิ๊กเข้ าไปจ�ำนวนมากใน แต่ละวัน ท�ำให้ ไวรัสแพร่รวดเร็ วเกินที่ระบบจะตามทัน สแปมไวรั ส จะมี ขึ น้ มาใหม่ เ รื่ อ ยๆแม้ f acebookจะ ซ่อมแซมช่องโหว่ก็ตาม ดร. สมนึก ยังกล่าวถึงวิธีการป้องกันสแปมไวรัส เบื ้องต้ นว่า หากเราเจอเหตุการณ์แบบนี ก่้ อนอืน่ เราต้ อง reset password การเข้ าสู่ Facebook เสียก่อน แล้ ว remove Appแปลก ๆ ที่เราอนุญาตให้ เข้ ามาในข้ อมูล ใน facebookเรา นอกจากนีเ้ ราต้ องระวังเรื่ องสิทธิ์ มนุษยชนด้ วย เวลาเราเห็นลิงค์แปลกเราต้ องระวัง ใน การกดไลค์กดแชร์ อาจมีปัญหาด้ านกฎหมาย หากเรา ไปกดไลค์ หรื อการแชร์ ข้อมูลที่เป็ นเท็จ บางทีเราก็ต้อง เช็คก่อนว่าลิงค์หรื อบทความ เป็ นข้ อมูลปั จจุบนั หรื อ เปล่า เช่น เด็กหาย ซึง่ เด็กเห็นพ่อแม่มาสิบกว่าปี แล้ ว เราควรremove Pages,groups กลุม่ หรื อ แอป นัน้
Around
ทันทีเพราะเราไม่ร้ ู ว่า มัลแวร์ ในกลุ่มของสป๊ อก(Tag book เพราะปั ญหาเกิดขึ ้นจากผู้ใช้ facebookทังสิ ้ ้น ทังการ ้ post , Post , Share link, comment)จะแฝงมาด้ วยหรื อ ปล่อยไวรัสของแฮกเกอร์ รวมถึงผู้ใช้ ยงั คลิ๊กสป๊ อกหรื อลิงค์ เปล่า ซึง่ ปกติแล้ วเฟสบุ๊กจะตรวจหาสป๊ อกพวกนี ้เจอ Tag, comment , web visusเหล่านี ้จะอยูใ่ นเฟสบุ๊คไม่นาน เพราะ เฟสบุ๊คมีข้อดีคือ มีระบบวิเคราะห์ฟิชชิ่งมัลแวร์ ถ้ ามีปัญหา มันจะrepotออกทันที หรื อ ถ้ าใครเจอจุดเสี่ยง ใน facebookก็จะมีรางวัลให้ หากเจอจริ งทาง facebookจะเข้ าระบบ ไปปิ ดจุดอ่อนนันไว้ ้ ถึงอย่างไรนันปั ้ จจุบนั ยังมีสแปมไวรัสให้ เห็นอยูเ่ รื่อยๆ เพราะมีคนคลิก๊ เข้ าไปเป็ นจ�ำนวนมากท�ำให้ ไวรัส แพร่กระจายได้ อย่างมหาศาลในแค่คลิก๊ เดียว ดร. สมนึกกล่าว ทังนี ้ ้คุณรู้จกั การใช้ facebookดีแล้ วหรือยัง สิง่ ทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ คือ คนส่วนมากไม่ได้ เข้ าไปตังค่ ้ าเพื่อความปลอดภัย หากยังมีผ้ ู ใช้ ที่คอยคลิก๊ ลิงค์เหล่านี ้ สแปมไวรัสก็จะไม่หายไปจากface-
ปลอม อีกทัง้ ผู้ใช้ ไม่ยอมตังค่ ้ าความปลอกภัยที่ทางfacebookมีให้ เนือ่ งจากผู้ใช้ ร้ ูจกั วิธีตงค่ ั ้ าน้ อยและเป็ นวิธีทคี่ อ่ นข้ าง ซับซ้ อนส�ำหรับคนปกติทวั่ ไป ดังนัน้ แล้ วผลกระทบ จากการที่เราคลิ๊กลิงค์อาจมี ความร้ ายแรงต่ออนาคต เราควรไตร่ตรองให้ ดีก่อน เพราะถ้ า หากเราตกอยูใ่ นห่วงโซ่ของสป๊ อกแล้ ว จะแก้ ปัญหาได้ ยาก อาจ ท�ำให้ ชื่อเสียง โดนแฮกข้ อมูล หรื อ ละเมิดสิทธิผ้ อู ื่นจนโดน ฟ้อง ผ่านช่องทางfacebookได้ อย่างง่ายดายที่สำ� คัญการกระ ท�ำทังหมดเรามั ้ กจะไม่ร้ ูตวั อีกด้ วยเพราะสแปมไวรัสเหล่านี ้มี ความเจริญทางสายพันธุ์(ชนิด)มากขึ ้น เนื่องจากFacebookมี การปิ ดช่องโหว่ตลอดสป๊ อกเหล่านี ้ก็ต้องพัฒนาตามมาด้ วย
37
38
Around
HACK FACKBOOK ภัยใกล้ตัว กรณีนี ้มีผ้ แู อบอ้ างเป็ น นางสาววราภรณ์ แกล้ วเกษตรกรณ์ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานคณะกรรมการก�ำกับและส่งเสริ มการ ประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)จังหวัดชัยนาท โดยคนร้ าย ส่งข้ อความขอให้ เพื่อนในเฟสบุ๊กจ�ำนวนกว่า 20 รายโอนเงิน ให้ ผอ.วราภรณ์ หรื อ คนรู้จกั เรี ยกท่านว่า ผอ.แขก เล่า ให้ เราฟั งว่า เมื่อวันที่ 16 มิถนุ ายน ที่ผา่ นมา เฟสบุ๊คส่วนตัว ของตน ชื่อบัญชี “แขก วรา” ได้ ถกู คนร้ ายท�ำการแฮก และ แอบอ้ างเป็ นตน ส่งข้ อความไปหาเพื่อนในเฟสบุ๊ค ที่เป็ น ข้ าราชการ พนักงานบริ ษัทเอกชน และนักข่าวในจังหวัด ชัยนาท จ�ำนวนกว่า 20 ราย อ้ างขอความช่วยเหลือยืมเงิน ขอให้ น�ำเงินเข้ าบัญชีธนาคารด่วน เพราะตนติดประชุมบอร์ ด ผู้บริ หารจึงไม่สามารถไปท�ำธุรกรรมได้ ถ้าเลิกประชุมแล้ วจะ โอนเงินคืนให้ ทนั ที ซึง่ ก็มีผ้ หู ลงเชื่อโอนเงินไปให้ จ�ำนวน 3 ราย สูญ เงินรวม 110,000 บาท โดยรายแรกเป็ นเจ้ าหน้ าที่ คปภ.ที่ กรุงเทพ 5,000 บาท รายที่ 2 เป็ นเจ้ าหน้ าที่ คปภ.จังหวัด สกลนคร 95,000 บาท รายที่ 3 เป็ นข้ าราชการบ�ำนาญ 10,000 บาท ผอ.วราภรณ์ ยืนยันว่า เฟสบุ๊คบัญชีดงั กล่าวตนไม่ ได้ เข้ าไปใช้ ตงแต่ ั ้ เดือนมีนาคม 2559 เมื่อรู้วา่ ถูกแฮกเฟสบุ๊ค แอบอ้ างท�ำให้ ตนเสียหายท�ำให้ ผ้ อู ื่นต้ องสูญเงิน จึงได้ น�ำ หลักฐานข้ อความที่สง่ ให้ เพื่อนในเฟสบุ๊ค ไปแจ้ งความไว้ ที่ สภ.เมืองชัยนาท และ แจ้ งความกับ ปอท. ไว้ แล้ ว ส่วนผู้เสีย หาย 3 ราย ขณะนี ้ก็ได้ ด�ำเนินการแจ้ งความไว้ ตนน�ำเรื่ องมา
เปิ ดเผยกับสื่อมวลชนเพื่อให้ เผยแพร่เตือนภัยผู้ที่ร้ ูจกั ตนอย่า ไปหลงเชื่อโอนเงินให้ เด็ดขาดและจะไม่ใช้ เฟสบุ๊คอีกต่อไป แล้ ว ( http://news.ch7.com/detail/179765) เทคโนโลยีเป็ นสิง่ ที่อ�ำนวยความสะดวกให้ เกิดขึ ้น บนโลกใบนี ้มากมาย และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนที่สร้ างเทคโนโลยี เหล่านันขึ ้ ้นมา นัน่ คือ มนุษย์ มนุษย์จงึ มีสทิ ธิ์ที่จะใช้ เทคโนโลยีได้ อย่างไม่จ�ำกัดเท่าที่ต้องการ เมื่อไร้ ข้อจ�ำกัดย่อม ใช้ อย่างไร้ ขอบเขตและไปละเมิดสิทธิ์มนุษย์ด้วยกัน มักเกิด จากสิง่ เล็กๆเช่น คนใกล้ ตวั และอาจรวมไปถึงความมัน่ คง ระดับประเทศ สิง่ ที่อยากจะพูดถึงนันเป็ ้ นความน่ากลัวในยุค ปั จจุบนั ที่ยากจะมองเห็นด้ วยตาปล่าว นัน่ คือ สงครามจาก ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีทงคุ ั ้ ณและโทษอยูใ่ นตัวมันเอง Hack Facebook แฮกเฟสบุ๊ค คงไม่ใช่ค�ำใหม่ใน โลกปั จจุบนั แต่ก็อาจไม่ใช่ค�ำที่อยากได้ ยินกันมากนัก การ แฮกเฟสบุ๊คเริ่ มเกิดขึ ้นอย่างแพร่หลายจนเราไม่สามารถหยุด การกระท�ำดังกล่าวได้ โดยง่ายอีกต่อไป ด้ วยวิธีการที่แสน ง่าย และท้ าทายส�ำหรับผู้ที่ต้องการจะแฮกเฟสบุ๊คท�ำให้ เรา ไม่สามารถหลีกหนีภยั ของเทคโนโลยีนี ้ไปได้ หากเรายังคง ต้ องเล่นเฟสบุ๊คต่อไป ด้ านดร.สมนึก พ่วงพรพิทกั ษ์ อาจารย์ประจ�ำภาค วิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า เมื่อก่อนก่อนที่จะเข้ า เฟสบุ๊คต้ องใช้ Http:// แต่ตอนหลังได้ เปลี่ยนมาใช้ Https:// ในอดีตการแฮกเฟสบุ๊คจะวิธีจโู่ จมโดยแทรกกลางการสื่อสาร
Around
แต่ในยุคปั จจุบนั การแฮกเฟสบุ๊คท�ำได้ ยากขึ ้น เพราะเฟสบุ๊ค ได้ เพิ่มระบบความปลอดภัยมากขึ ้น โดยฝังข้ อมูลไว้ วา่ ถ้ าจะ เข้ าเฟสบุ๊คต้ องเป็ น Https:/ / เท่านัน้ ทังนี ้ ้ต้ องใช้ กบั เบราว์ เซอร์ ที่มีความปลอดภัยสูงด้ วย เช่น chrome หรื อ firefox “แต่ ในปั จจุบนั มีวิธีมาใหม่คือ time machineคือเครื่ องย้ อนเวลา โดยการท�ำให้ เวลาในเครื่ องคอมพิวเตอร์ ที่ต้องการแฮกเดิน ถอยหลังท�ำให้ สามารถโกงระบบป้องกันได้ แต่ 6 เดือนถัด มาระบบนี ้ก็ถกู ปิ ดไป สาเหตุที่ท�ำให้ โดนแฮกเฟสบุ๊คมีอีก อย่างคือ ตังรหั ้ สผ่านให้ จ�ำง่ายมากเกินไป เช่นการตังเป็ ้ น ตัวเลขล้ วน ตัวอักษรล้ วน หากจะท�ำการแฮกจริ งๆไม่เกิน 1 วันก็สามารถท�ำได้ เลย หากจะสร้ างความปลอดภัยให้ สงู ขึ ้น ไปอีกส�ำหรับรหัสผ่านเฟสบุ๊ค สามารถตังให้ ้ เป็ น ตัวเลข ตัว อักษร สัญลักษณ์พิเศษ 8 อักขระขึ ้นไป แต่ต้องระวังเพราะ หากไม่มีทริ คในการตังอาจท� ้ ำให้ ผ้ ใู ช้ ลืมได้ และหากตังรหั ้ ส ผ่านเหมือนกับระบบอื่นก็อนั ตรายเช่นกัน การตังรหั ้ สผ่านที่ดี แต่ละระบบจะต้ องไม่เหมือนกัน และเป็ นรหัสผ่านที่ผ้ ใู ช้ จ�ำได้ ด้ วย ” ดร.สมนึก กล่าวเพิ่มเติม เมื่อการแฮกเฟสบุ๊คท�ำได้ งา่ ยมากขึ ้นและเราไม่ สามารถห้ ามไม่ให้ ผ้ ทู ี่กระท�ำหยุดการกระท�ำดังกล่าวได้ อาจต้ องหันมาป้องกันที่ตวั เรา เพราะเราคือผู้ใช้ เทคโนโลยี หากเรารู้เท่าทันเทคโนโลยีเราก็สามารถอยูก่ บั มันได้ อย่าง ปลอดภัยและมีความสุข เพราะอย่างที่กล่าวมาข้ างต้ น เรา ยังต้ องใช้ เฟสบุ๊คต่อไป เฟสบุ๊คยังจ�ำเป็ นกับการด�ำเนินชีวิต ของคนส่วนใหญ่ในสังคม แต่คงไม่ดีนกั หากข้ อมูลที่เราคิด ว่าถูกเก็บไว้ ในที่ปลอดภัยแล้ วถูกผู้ไม่หวังดีขโมยไป การถูก ขโมยรหัสผ่าน ขโมยข้ อมูลจากพื ้นที่โซเชี่ยลที่เราสร้ างขึ ้นมา เอง หากวันหนึง่ ข้ อมูลเหล่านันตกไปอยู ้ ใ่ นมือของผู้ไม่หวังดี คงไม่สง่ ผลดีตอ่ ตัวผู้ใช้ เองเป็ นแน่
ดร.สมนึก ได้ กล่าวถึงวิธีปอ้ งกันการถูกแฮกเฟสบุ๊ค ที่ปลอดภัยที่สดุ คือ “ การ setting Securityในเฟสบุ๊ คคือการยืนยันตัวตนผ่านเฟสบุ๊ค2 ชัน้ ขันแรกคื ้ อ การยืนยัน 2 ชันใน ้ Browser ที่ไม่ถกู บันทึกหรื อไม่เคยมีการล๊ อกอินมา ก่อนสิง่ ที่ต้องยืนยันคือ Password และ Security Code หลังจากนันให้ ้ ล๊อกอิน Unknown Browser Security code จะถูกส่งไปยังมือถือ ( SMS ) หรื อ Facebook App และ ท�ำการยืนยันรหัสที่ได้ รับ หลังจากนัน้ step 1 : คลิกที่ login Approvals Require a Security code Step 2 : รหัส OTP จะถูกส่งมาที่มือถือเรา หลังจากนันให้ ้ ใส่รหัส OTP ที่ได้ Step 3 : ยืนยันรหัสผ่าน เท่านี ้ก็เสร็ จสิ ้นการก�ำหนด Login Approvals ขอขอบคุณข้ อมูลเพื่มเติมจากสไลท์Two Factor Authentication on Google Services and Facebook NarongritMasusai “โลกมันเปลี่ยนไปเรารับเทคโนโลยีเข้ ามาเราใช้ มนั หากเปรี ยบเสมือนยาสามัญประจ� ำบ้ านก็คือเราไม่ได้ อ่าน เอกสารก�ำกับยาว่า ยานี ้ต้ องมีข้อควรระวังอะไรบ้ าง เพราะ เทคโนโลยีอย่างไรแล้ วก็เป็ นสิง่ ที่ควรตระหนักถึงวิธีการใช้ ” ดร.สมนึก กล่าวทิ ้งท้ าย มนุษย์เป็ นผู้สร้ างเทคโนโลยีตา่ งๆขึ ้นมามากมาย และ มนุษย์อีกเช่นกันที่ท�ำลายระบบต่างๆมากมายรวมไปถึงการ ท�ำลายมนุษย์ด้วยกันเอง การรู้เท่าทันยังคงจ�ำเป็ นส�ำหรับผู้ใช้ เทคโนโลยีอย่างเฟสบุ๊ค การไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นยังคง เป็ นสิง่ ที่พงึ ตระหนักด้ วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามเทคโนโลยียอ่ ม เปรียบเสมือนดาบสองคม ใช้ ให้ ดี ใช้ ให้ ระวัง เป็ นสิง่ ทีพ่ งึ กระท�ำ
39
40
Around
Hack !!! วิธี Hack FACEBOOK
ภัยใกลตัว วิธปี ้ องกัน
àÁ×èÍ¡‹Í¹¨ÐࢌÒ㪌à¿Ê ºØ ¤µŒÍ§ãªŒ https:// à·‹Ò¹Ñé¹
µÍ¹ËÅѧà»ÅÕè¹ÁÒ㪌 https:// à·‹Ò¹Ñé¹
Setting Security ã¹ à¿ÊºØ ¤ ¤×Í 1. Â×¹ÂѹµÑǵ¹¼‹Ò¹à¿ÊºØ ¤ 2 ªÑé¹ ã¹ browser·ÕèäÁ‹à¤ÂŠͤÍÔ¹ÁÒ¡‹Í¹
Â×¹ÂѹÃËÑʼ‹Ò¹ security code
Í´Õµ¨Ù‹â¨Á´ŒÇÂÇÔ¸Õ á·Ã¡¡ÅÒ§¡ÒÃÊ×èÍÊÒà »˜¨¨ØºÑ¹¶ŒÒ¨ÐࢌÒà¿ÊºØ ¤µŒÍ§ Https://à·‹Ò¹Ñé¹ÊÒà˵طÕè·íÒ ãËŒ¶Ù¡áΡ
login unknown Browser
µÑé§ÃËÑʼ‹Ò¹¨íÒ§‹ÒÂà¡Ô¹ä»
Security code ¨Ð¶Ù¡Ê‹§ä»ÂѧÁ×Ͷ×Í sms ËÃ×Í Facebook App
Â×¹ÂѹÃËÑÊ·Õèä´ŒÃѺ
step 1 : ¤ÅÔ¡·Õè login Approrals Require a Security Code Step 2 : ÃËÑÊ OTP ¨Ð¶Ù¡Ê‹§ÁÒ·ÕèÁ×Ͷ×ÍàÃÒãËŒãÊ‹ÃËÑÊ OTP ·Õèä´Œ Step 3 : Â×¹ÂѹÃËÑʼ‹Ò¹ àÊÃç¨ÊÔé¹
Around
41
42
Around
ปปช.ผลลัพธ์คสช.ปราบปรามการ ทุจริตของชาติ ให้ดีขึ้นได้จริงหรือไม่ จากกรณีทมี่ กี ารฟ้องร้ องปมความไม่โปร่งใส่เรื่อง การ ทุจริ ตการสอบบรรจุพนักงานของเทศบาลใน 32 ต�ำบลในเขต อ�ำเภอเมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2559 ที่ผา่ นมา การสอบบรรจุบุคคลเข้ ารับราชการเป็ นพนักงานส่วนต�ำบล จ�ำนวน 31 แห่ง ในจังหวัดมหาสารคาม มีการแบ่งเป็ นใช้ “มหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์” เป็ นหน่วยงานกลาง จ�ำนวน 19 แห่งได้ รับการบรรจุเป็ นพนักงานส่วนต�ำบล 167 คน แต่มี การตรวจคะแนนพบว่า มีผ้ สู อบผ่านซึง่ อยูใ่ นเกณฑ์ที่จะได้ รับ การบรรจุแ ต่ง ตัง้ พนัก งานส่ว นต�ำ บลเพี ย ง 1 คน และใช้ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เป็ นหน่วยงานกลาง จ�ำนวน 12 แห่ง มีการบรรจุพนักงานส่วนต�ำบลไปแล้ ว 101 คน แต่มีการ ตรวจคะแนนแล้ วพบว่า มีผ้ สู อบผ่านซึง่ อยูใ่ นเกณฑ์ทไี่ ด้ รบั การ บรรจุแต่งตังเพี ้ ยง 4 คน ว่ามีการ “ทุจริ ตกระบวนการสอบ แข่ ง ขัน ขององค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น ภายในจัง หวัด มหาสารคาม การประกาศใช้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึง่ ยังคงบัญญัตใิ ห้ คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจ ริ ต แห่ ง ชาติ เ ป็ น องค์ ก รอิ ส ระตาม รั ฐธรรมนูญและให้ มีอ�ำนาจหน้ าที่ นอกเหนื อไปจากที่ เคย บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ บางประการ ที่ส�ำคัญคือให้ มีอ�ำนาจหน้ าที่ก�ำกับดูแล คุณธรรมและจริ ยธรรมของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองรวม อยูด่ ้ วย เพื่อให้ สอดรับกับบทบัญญัตติ ามรัฐธรรมนูญ ในพระ ราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนูญว่าด้ วยการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริ ต พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึง่ ได้ ประกาศและมีผลบังคับใช้ แล้ วเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๔ จึงได้ ปรับปรุ งกลไก และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบตั ิงาน นอกเหนือไปจากที่ได้ มีบญ ั ญัตไิ ว้ ในพระราชบัญญัตปิ ระกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้ วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา 9-11 อ�ำนาจหน้ าที่ที่ส�ำคัญในการจัดตังองค์ ้ กรอิสระของ คสช. รัฐบาลชุดนี ้คงเป็ นเพราะต้ องการจัดการองค์กรหลักของ ฝ่ ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ชาติในการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริ ตในภาครั ฐ โดยเป็ น ศูน ย์ ก ลางทัง้ ด้ า นการ ป้องกัน และปราบปราม การประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้ องทังหมดในการด� ้ ำเนินตามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ รวมทังก� ้ ำหนด มาตรการเพื่อให้ การป้องกันและปราบปรามการทุจริ ตในฝ่ าย บริ หารสามารถบูรณาการการด�ำเนินการระหว่างหน่วยงาน ต่าง ๆ ให้ บงั เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ ้น ( อ้ างอิง : https://th.wikipedia.org/wiki ) สาเหตุของการเกิดปั ญหาดังกล่าวที่ไม่จบสิ ้นอาจจะ เป็ นได้ จากการแก้ ปัญหาของภาครัฐทีต่ ้ องการรักษาความสงบ ภายในประเทศการเอาชนะทุจริ ตคอร์ รัปชัน่ ในระยะยาวต้ อง เน้ นส่งเสริมมากกว่าปราบปราม ไม่ใช่ไม่เห็นด้ วยกับการปราบ ปราม แต่คดีปัจจุบนั เพิ่มขึ ้นไม่หยุด ท�ำให้ เป็ นภาระหนักของ ป.ป.ช. จึงควรส่งเสริ มค่านิยมในเรื่ องการไม่เอาการทุจริ ต คอร์ รั ป ชั่น ตัง้ แต่ใ นครอบครั ว การออกแบบการแก้ ปั ญ หา คอร์ รัปชัน่ ของไทยแต่เป็ นปั ญหาเชิงโครงสร้ าง และการแก้ ปั ญ หาทุจ ริ ต คอร์ รั ป ชั่น ไม่ ใ ช่ ต้ อ งเป็ น หน้ า ที่ ข อง ป.ป.ช. เท่านัน ้ การแก้ ไขกฎหมายต้ องให้ สอดคล้ องกับสังคมและ วัฒนธรรมของไทย อีกทัง้ การแก้ ปัญหาคอร์ รัปชัน่ ไม่ใช่คนดี มาแก้ ปัญหาอย่างเดียว ต้ องเป็ นคนดีและมีความเชี่ยวชาญ รวมทังการเข้ ้ าถึงของประชาชนด้ วยการทีป่ .ป.ช.เปิ ดเผยข้ อมูล ให้ ประชาชน
Around
การจัดตังองค์ ้ กรอิสระโดยไม่ขึ ้นตรงกับภาครัฐสร้ าง ความน่าเชื่อถือให้ กบั ประชาชนต้ องการให้ ประชาชน เข้ ามา แสดงความคิดเห็น เข้ ามาแจ้ งความเสียหาย ความขัดแย้ งเพือ่ เป็ นตัวแทนของชาวบ้ านที่ไม่กล้ าวิจารณ์หรื อตรวจสอบการ ปฏิบตั งิ านของภาครัฐ ป.ป.ช. จึงเกิดขึ ้น อย่างไรก็ตามเมื่อมี องค์กรอิสระเกิดขึ ้น กระจายตามการปกครองส่วนท้ องถิ่น ใน เขตตัวเมือง ในเขตจังหวัดในแต่ละพื ้นที่ ก็แสดงให้ เห็นถึงการ
พยายามเข้ าถึงประชาชนที่ทางฝ่ ายรัฐบาลพยายามศึกษา พยายามเรี ยนรู้เรื่ องราวเพื่อให้ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้ มที่ดีขึ ้น กว่านี มี้ เม็ดเงินไหลเวียนดีขึ ้น ประชากรในประเทศไทยมีความ เป็ นอยูท่ ี่ดีขึ ้นก็จะส่งผลให้ ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว การ คมนาคม เศรษฐกิจดีขึ ้น ระบบการวางแผนโครงการทีร่ ัฐบาล ชุดนี ้จัดการอยู ่ ก็จะน�ำเงินที่ได้ มาอ�ำนวยความสะดวกสบาย และพัฒนาชีวิตความเป็ นอยูข่ องคนในประเทศให้ ดีขึ ้น
43
44
Around
สปท.ไม่ได้ ยุบ อบต แค่ยกฐานะเป็นเทศบาล
อบต.ดอนหว่าน จ.มหาสารคาม คาดว่าจะโดนยุบมาเป็ นเทศบาล ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่ เดิน หน้ ามาเกือบสองเดือนแล้ วประชาชนต่างรอดูวา่ ประเทศไทย จะมีการเปลีย่ นแปลงการปกครองในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นี ้อย่างไร และจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้ างซึ่ง โครงสร้ างทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตรวมถึง ความเหลื่อมล� ้ำในสังคม และร่ างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี ้จะ ช่วยลดปั ญหาความขัดแย้ งทางการเมืองได้ จริ งหรื อไม่ นอกจากนี ้ด้ าน การกระจายอ�ำนาจและการบริ หาร ส่วนท้ องถิน่ จะเกิดการเปลีย่ นแปลงครัง้ ใหญ่ โดยตรงในหมวด 7 มาตรา 211 ถึงมาตรา 216 ในเรื่ องการปฏิรูปประเทศการ ปกครองส่วนท้ องถิ่น (อบต.) ตามที่คณะกรรมการสภาขับ เคลื่อนปฏิรูปประเทศด้ านการปกครองท้ องถิ่นได้ มีแนวทาง ปฏิรูปโครงสร้ าง ขนาดและรูปแบบ“องค์กรปกครองส่วนท้ อง ถิ่น” (อปท.) โดยจะให้ องค์กรปกครองส่วนท้ องถิ่นขนาดเล็ก ควบเข้ ากับ อปท.ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งจะท�ำให้ อปท.ในพื ้นที่ ชุมชนลดลงโดยคณะกรรมการกรรมาธิการฯ ตังสมมติ ้ ฐานว่า หากองค์การบริ หารส่วนท้ องถิ่นมีการควบรวมแล้ วจะท�ำให้
เกิดความคุ้มค่าในการใช้ จา่ ยงบประมาณและมีประสิทธิภาพ ในการก�ำกับดูแลได้ ดีมากยิ่งขึ ้น ข้ อ มูล จากกรมส่ ง เสริ ม การปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น จังหวัดมหาสารคามและศรี สะเกษ ระบุวา่ ปั จจุบนั มีจ�ำนวน องค์กรปกครองส่วนท้ องถิ่นรวมทังสิ ้ ้น 7,853 แห่ง ประกอบ ด้ วย องค์กรบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 76 แห่ง เทศบาล 2,440 แห่ง โดยแบ่งเป็ นเทศบาลนคร 30 แห่ง เทศบาลเมือง 178 แห่ง เทศบาลต�ำบล 2,232 แห่ง องค์การบริ หารส่วนต�ำบล (อบต.) 5,335 แห่ง และพบว่ามีองค์การบริ หารส่วนต�ำบล(อบต.) จ�ำนวน 790 แห่งทีผ่ า่ นเกณฑ์ และไม่ผา่ นเกณฑ์จำ� นวน 4,545 แห่ง โดยมีเทศบาลต�ำบลทีผ่ า่ นเกณฑ์ 585 แห่ง และยังไม่ผา่ น เกณฑ์จ�ำนวน 1,628 แห่ง จากการลงพื น้ ที่ ส� ำ รวจ ใน 2 จั ง หวัด ได้ แก่ มหาสารคามและศรี สะเกษ กลับพบว่าสมาคมองค์กรบริ หาร ส่วนต�ำบล(อบต.) เห็นว่าการปฏิรูปขององค์กรปกครองส่วน ท้ องถิ่นอปท. ยังไม่มีการศึกษาของข้ อมูลที่ชดั เจน และเรื่ อง ของงบประมาณที่จะเกิดขึ ้นภายหลังการควบรวมอบต.จึงไม่
Around
ควรยึดโยงเรื่ องของงบประมาณเข้ ามาเกี่ยวข้ องแต่ต้องค�ำนึง ถึงการท�ำงานในพื ้นที่ ชุมชน หมูบ่ ้ าน ทีจ่ ะต้ องมีตวั แทนเข้ าไป ท�ำหน้ าทีใ่ นสภาเพือ่ เป็ นปากเสียงให้ กบั ประชาชน ซึง่ การควบ รวม อปท. ในระดับ อบต. กับเทศบาลต�ำบลที่มีการเสนอร่าง รัฐธรรมนูญ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากการท�ำงาน ของ อบต. มีความใกล้ ชิดและเข้ าถึงประชาชนได้ มากกว่าการ ควบรวม นายสุรศักด์ จูมศรี สิงห์ นายกองค์กรบริ หารส่วน ต�ำบลหนองปลิง จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าขณะนี ้อยู่ใน เรื่ องของการหาข้ อมูลส�ำรวจข้ อดีข้อเสียอยู่ แต่ยงั ไม่ถึงเป็ น กฎหมายว่าจะยุบ เป็ นเพียงข่าวที่พดู กันในโลกโซเชียลแต่ยงั ไม่เกิดขึ ้นจริ ง เพราะยังเหลือคณะกรรมาธิการฯ 2-3 คณะที่ จะพิจารณา ขณะนี ้น�ำไปสูก่ ารออกข้ อบังคับข้ อกฎหมาย ยัง เหลือคณะกรรมาธิ การ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)แต่สดุ ท้ ายไปอยูท่ ี่คณะรัฐมนตรี (ครม.)ทีมงานสุดท้ าย ที่จะต้ องพิจารณา “ข้ อดีข้อเสียของการยุบรวมองค์การบริหารส่วนต�ำบล (อบต.) หลักการกระจายอ�ำนาจเพื่อตอบสนองของพี่น้อง ประชาชน เป็ นการให้ บริ การชุมชนในพื ้นที่นน ถ้ ั ้ าเป็ นพื ้นที่ เล็กๆ ก็จะดูแลและตอบสนองได้ ทวั่ ถึงทุกๆความต้ องการของ ประชาชนได้ ถ้ ายุบรวมพื ้นที่ตา่ งกัน พื ้นที่ใหญ่ขึ ้น การตอบ สนองความต้ องการอาจจะไม่ทว่ั ถึงก็เป็ นข้ อเสียเล็กๆน้ อยๆ อยูใ่ นเรื่ องการบริ หารงานบุคคลด้ วย ถ้ ายุบรวมพื ้นที่มากขึ ้น พนักงานเจ้ าหน้ าที่มากขึ ้นการจัดการก็ยากขึ ้นเรื่ องหลักๆคือ การจัดการอ�ำนาจ พื ้นที่ยิ่งเล็กยิ่งตอบสนองมากขึ ้นโอกาส
ตอบสนองก็จะง่ายขึ ้น” นายสุรศักด์ กล่าวเพิ่มเติม ด้ านนายสุรเดช แสนทวีสขุ ปลัด อบต.ปราสาท อ.ขุขนั จ.ศรี สะเกษ เผยว่า ไม่มีโอกาสยุบมีแต่ยกฐานะเป็ นเทศบาล ทัว่ ประเทศคืบหน้ าประมวลกฎหมายท้ องถิ่นสรุป โดยย่อๆคือ ในจังหวัดหนึง่ ๆ จะก�ำหนดให้ มี อบจ เทศบาล ส�ำหรับ อบต. ซึง่ เทศบาล มี 3 ประเภทคือ เทศบาลต�ำบล ประชากร ไม่เกิน 15,000 คน เทศบาลเมือง ประชากร เกิน 15,000 คนแต่ไม่ เกิน 50,000 คนและ เทศบาลนคร ประชากรเกิน 50,000 คน ขึ ้นไปทังนี ้ ไม่ ้ รวมถึงเทศบาลต�ำบล เมือง ทีต่ งอยู ั ้ ก่ อ่ นกฎหมาย นี ้ใช้ บงั คับการควบรวม องค์การบริ หารส่วนต�ำบล(อบต.)ใดที่ มีประชากรต�่ำกว่า 7,000 คนรายได้ ไม่รวมเงินอุดหนุนต�่ำกว่า 20 ล้ านบาท อยูใ่ นอ�ำเภอเดียวกันให้ ควบรวมเจตนารมณ์ของ ประชาชนในพื ้นที่ โดยมีคณะกรรมการควบรวมระดับอ�ำเภอ และระดับจังหวัดเป็ นผู้พิจารณา “เมื่อยุบรวมกันแล้ วผู้บริ หารหรื อสมาชิก จะต้ องพ้ น จากต�ำแหน่งทันทีและจะต้ องมีการเลือกตังภายในก� ้ ำหนด 60 วันสมาชิกสภาต�ำบล ตามเกณฑ์ประชากร ไม่เกิน 7,000 มี สมาชิกเทศบาล12 คน/7,000-15,000 คน มี สมาชิกเทศบาล 15 คน/15,000-50,000 คน มี สมาชิกเทศบาล 18 คน/แบ่งเป็ น เขตเลื อ กตัง้ เขตละ 3สรุ ปข้ อ คิ ดเห็ น ในการปฏิ รู ป องค์ ก ร ปกครองส่วนท้ องถิ่นตามรัฐธรรมนูญการควบรวมไม่เห็นด้ วย และการควบรวม อบต. หากจะควบรวมต้ องถามความคิดเห็น ของประชาชน เสนอผ่านกระทรวงมหาดไทยถ้ ามีการควบรวม อย่ า งน้ อยต้ องมี ห นึ่ ง ต� ำ บล หนึ่ ง ท้ องถิ่ น ควรจะยุ บ เลิ ก อบจ.”นายสุรเดช กล่าวเพิ่มเติม
45
46
Around
ดังนัน้ การยุบหรื อไม่ยุบองค์การบริ หารส่วนต�ำบล (อบต.)ที่กล่าวมาข้ างต้ น ยังเป็ นข้ อถกเถียงกันในระดับชุมชน ท้ องถิ่ นในภูมิภาค ที่พูดถึงข้ อดีข้อเสียของการยุบรวมร่ าง รั ฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมีแผนจัดระเบียบโครงสร้ างหรื อ ปฏิรูปองค์กรส่วนท้ องถิ่น ประเด็นการยุบ อปท. แบ่งออกเป็ น 3 กรณี 1.การยุบเลิก อปท. โดยการยุบเลิกไม่มีการปกครอง รูปแบบ อบจ. 2.การขยายฐานะ อบต. 3.การควบรวมของ อปท.ที่มีขนาดเล็ก เข้ าด้ วยกันกับ อปท. ที่มีขนาดใหญ่ ให้ มีประสิทธิภาพในการท�ำงานมากขึ ้น อย่างไรก็ตามยังมีข้อถกเถียงและยังไม่ได้ ข้อยุติจาก หลายฝ่ ายว่าสมควรยุบ อบต. หรื อคงรู ปแบบของ อบต. ไว้ เพียงแค่ปรับบทบาทอ�ำนาจหน้ าที่และโครงสร้ างให้ มีความ เหมาะสมสอดคล้ องกับบริ บทของสังคม ทังนี ้ ้จะก�ำหนดให้ ประชาชนมีส่วนร่ วมในการตัดสิน ใจแก้ ปัญหาในพื ้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ละขอบเขตและ ขันตอนการให้ ้ ประชาชนมีสว่ นร่วมอย่างไร รัฐธรรมนูญทีก่ �ำลัง ร่ างอยู่นี ้ได้ ก�ำหนดหน้ าที่การท�ำงานของท้ องถิ่นอย่างชัดเจน มากขึ ้น รวมทังการยกฐานะของข้ ้ าราชการและพนักงานส่วน ท้ องถิ่นให้ ทัดเทียมกับข้ าราชการในส่วนอื่น ๆส�ำหรั บหลัก เกณฑ์ ที่ จ ะยุบ อบต. จะดูจ ากจ� ำ นวนประชากร รายได้ โครงสร้ างทางสังคม ลักษณะทางภูมิศาสตร์ เป็ นหลัก นางสาวภั ท ราวดี สาคุ ณ ชาวบ้ านในจั ง หวั ด มหาสารคาม กล่าวว่าเห็นด้ วยกับการที่จะยุบ อบต. ให้ เป็ น เทศบาลเป็ นหนึง่ เดียว เพราะท�ำให้ หน่วยงานของรัฐที่เป็ นผู้ จัดสรรงบประมาณสามารถควบคุม ดูแลในการใช้ จ่ายงบ ประมาณได้ อย่างถูกต้ องและตรวจสอบการท�ำงานหรื อการใช้
จ่ายงบประมาณที่มาถึงเทศบาลได้ การจัดสรรงบประมาณ จากส่วนกลางที่จะอนุมัติให้ ส่วนท้ องถิ่ นหรื อเทศบาลจะมี ความโปร่งใสมากขึ ้นสามารถตรวจสอบได้ ในส่วนของการใช้ งบประมาณของแต่ละปี ถ้ าเป็ นเทศบาลได้ ก็จะดี เพราะท�ำให้ เป็ นหน่วยงานที่มีคณ ุ ภาพมากยิ่งขึ ้นและท�ำให้ มีความเจริ ญ และพัฒนาการท�ำงานของ บุคลากรได้ ในระบบท้ องถิ่นที่ยก ฐานะเป็ นเทศบาล” นายชณายุทธ การะเกษ ชาวบ้ านจังหวัดศรี สะเกษ กล่าวถึง ข้ อเสีย1 เกิดกระแสต่อต้ านจากกลุ่มบุคคลผู้เสีย ประโยชน์โดยเฉพาะการลดจ�ำนวนสมาชิกสภา เหลือเพียง 12 คน หรื อ 18จากเดิมที่ อบต. จะมีสมาชิกได้ หมูบ่ ้ านละ 2 คน (เช่น ต�ำบลนันมี ้ 10 หมูบ่ ้ านก็จะสามารถมีสมาชิกได้ 20 คน) 2 เมื่อยกฐานะเป็ นเทศบาลแล้ ว ขอบเขตในการให้ บริ การ ประชาชนอาจไม่ทวั่ ถึงเพราะเขตพื ้นที่ของ อบต. เดิมมีพื ้นที่ กว้ างขวางมาก สมาชิกลดลง จึงท�ำให้ การดูแลไม่ทวั่ ถึง และ การพัฒนาก็จะล่าช้ ากว่าเป็ น อบต. 3 จ�ำนวนสมาชิกจะเพิ่ม ขึ ้นหรื อลดลงขึ ้นอยูก่ บั จ�ำนวนของหมูบ่ ้ าน สมาชิกที่เพิ่มขึ ้น หมายถึงตัวแทนประชาชน ซึ่งจะสามารถสะท้ อนปั ญหาได้ มากขึ ้น ตัวแทนลดลงหมายถึงการขาดความเชื่อมโยงระหว่าง รัฐกับประชาชน อธิบายการยุบในที่นี ้ไม่ใช่การยุบเลิก แต่เป็ นการยุบ เพื่อยกฐานะเป็ นเทศบาล ดังนัน้ ต้ องจับตาดูวา่ รัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่จะพลิกโฉมท้ องถิ่นและเป็ นประโยชน์ต่อประชาชน ในพื ้นที่มากน้ อยเพียงใดซึง่ ก็คงมีค�ำถามตามมาว่าอบต. และ เทศบาลต�ำบลเหล่านัน้ ทีจ่ ะต้ องยุบรวมตามแนวทางปฏิรูปใน ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี ้ มีประสิทธิภาพดีจริ ง และ เป็ นไป ตามแผนปฏิรูปมากน้ อยเพียงใดหรื อเป็ นเพียง การจัดแยก หมวดหมู่ กลุม่ ให้ เด่นชัด เท่านันเอง ้
Around
รายงานพิเศษ
จับตาขบวนการเคลื่อนไหว สิ่งแวดล้อมอีสานในบริบทการพัฒนา ที่ไร้สิทธิ์รองรับ “เกิดเป็นคนอีสานถ้าบ่อเสียเหงื่อ ออกแฮง กะบ่อมีสิทธิ์ยืนอยู่เทิงแผ่นดินนี้ได้” (ค�ำพูน บุญทวี) หากกล่าวถึงภาคอีสานในอดีตแล้ว เชือ่ ว่าหลายคนคงนึกถึงภาพ ผืนดินที่แห้งแล้งทุรกันดาร การพัฒนาเข้าถึงล่าช้าหรือแม้กระทั่งด้านสวัสดิการ จากรัฐ ผูค้ นจึงต้องดิน้ รนออกไปขายแรงงานต่างถิน่ หวังน�ำเงินสักก้อนกลับมายัง บ้านเกิด เพื่อหวังว่าชีวิตความเป็นอยู่ครอบครัวจะสุขสบายขึ้นสุขสบายขึ้น"
47
48
Around
จนปั จจุบนั นี ้อีสานกลับไม่ได้ ล้าหลัง ไร้ การพัฒนาอย่างที่ ใครหลายคนคิด รัฐบาลพยายามผลักดันโครงการต่างๆเข้ ามา นายทุนต่างจ้ องมองที่ดินเพื่อการลงทุน หรื อแม้ กระทัง่ ทุน สัมปทานข้ ามชาติที่ลงพื ้นที่ส�ำรวจแหล่งทรัพยากรในจังหวัด ต่างๆ จากผืนดินที่ไร้ คา่ ไม่มีราคากลับแปรเปลี่ยนไปในทันที สภาพจังหวัดในภาคอีสานตอนนีถ้ ือว่าเป็ นแหล่งรวม พลังงาน ทรัพยากรที่สำ� คัญของประเทศ ทงก๊ ั ้ าซธรรมชาติ แร่ โรงงานอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงการผันน� ้ำตาม แหล่งน� ้ำที่ส�ำคัญ ซึง่ ที่กล่าวมานันล้ ้ วนถือว่าเป็ นส่วนผลักดัน หนึง่ ในแผนผลักดันเศรษฐกิจระดับท้ องถิ่นจนถึงระดับชาติ ชนวนความขัดแย้ งก่อเกิดเครื อข่ายภาคประชาชน เมื่อปี พ.ศ.2538 ได้ เกิดการรวมตัวของเครื อข่าย นักศึกษา นักพัฒนา ชาวบ้ านจากชุมชนในท้ องถิ่นต่างๆที่ได้ รับผลกระ ทบจากการพัฒนาด้ านทรั พยากรและสิ่งแวดล้ อมในนาม “สมัชชาคนจน” ขึ ้นในระหว่างการคัดค้ านการก่อสร้ างเขื่อน ปากมูล ที่จงั หวัดอุบลราชธานี ซึง่ เป็ นกลุม่ แรกๆที่คดั ค้ านการ พัฒนาจากรัฐยุคนันก็ ้ วา่ ได้ หลังจากการคัดค้ านเขื่อนปากมูลผ่านไปไม่นาน มีการตัง้ โรงงานอุต สาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ อ� ำ เภอน� ำ้ พองจัง หวัด ขอนแก่น การประกอบกิจการเหมืองแร่ทองค�ำจังหวัดเลย การ ลงส�ำรวจพื ้นที่สมั ปทานแร่โปแตชในจังหวัดอุดรธานี การขุด เจาะก๊ าซธรรมชาติที่จงั หวัดขอนแก่นและเขตเศรษฐกิจพิเศษ บริ เวณชายแดนจังหวัดนครพนม หนองคาย มุกดาหาร จึงเปรี ยบเสมือนความขัดแย้ งครัง้ ใหม่ที่ขยายไปในทุกๆ พื ้นที่ มีการน�ำข้ อมูลผลกระทบ ข้ อดีข้อเสียออกมาตอบโต้ กนั แต่ละฝ่ าย โดยฝั่ งชาวบ้ านต่างบอกว่าการพัฒนานัน้ ไม่ได้ ค�ำนึงถึงผลกระทบด้ านสิง่ แวดล้ อม ไม่ได้ รับฟั งความคิดเห็น ท�ำให้ ทรัพยากรในท้ องถิ่นไม่สามารถน�ำมาใช้ ประโยชน์ได้ ซงึ่ ดูจะเป็ นเหตุผลหลักๆของการออกมาคัดค้ านรวมทังปั ้ ญหา ทางด้ านสุขภาพด้ วย เช่น แหล่งน� ้ำบริ เวณรอบเหมืองทองค�ำ มีสารปนเปื อ้ น ชาวบ้ านมีสารโลหะหนักในร่ างกายเกินค่า มาตรฐาน ที่จงั หวัดขอนแก่นชาวบ้ านที่ได้ รับผลกระทบจาก การขุดเจาะก๊ าซต่างบอกเป็ นเสียงเดียวกันว่า ยางพาราในไร่ ของตนต่างยืนต้ นตาย มกี ารแย่งชิงทรัพยากรน� ้ำในชุมชน และ เกิดอาการผื่นคันตามร่างกาย ขณะที่จงั หวัดอุดรธานียงั ไม่มี การประกอบกิจการแต่ชาวบ้ านต่างเกรงว่าจะเกิดปั ญหาดิน เค็ม ผืนดินทรุดตัวและการแย่งชิงน� ้ำ สว่ นทางกลุม่ ทุนและภาครัฐนันต่ ้ างบอกว่าเป็ นการพัฒนา ทีย่ งั่ ยืน สร้ างผลประโยชน์ให้ เกิดแก่ชมุ ชนจนถึงระดับประเทศ
โดยก่อนจะด�ำเนินโครงการได้ มี การจัดเวทีรับฟั งความคิดเห็นมา ก่อนแล้ ว รวมทังกระบวนการร่ ้ าง รายงานผลกระทบด้ านสิ่ ง แวดล้ อม(EIA)และรายงานผลก ร ะ ท บ ด้ า น สุ ข ภ า พ แ ล ะ สิ่ ง แวดล้ อม(EHIA) ต่างถูกต้ องตา มกระบวนการทางกฎหมาย พร้ อมทังวิ ้ ธีการที่จะท�ำให้ ไม่เกิด ปั ญหาผลกระทบที่ตามมา ผู้ค นในพื น้ ที่ จึ ง รวมตัว ตัง้ กลุ่ม องค์ ก ร เพื่ อ เคลื่ อ นไหวในการ ปกป้องสิ่งแวดล้ อมเช่นกลุ่มคน รักษ์ บ้านเกิดจังหวัดเลย กลุ่ม อนุรักษ์สงิ่ แวดล้ อมอุดรธานี กลุม่ อนุรั ก ษ์ สิ่ ง แวดล้ อ มนามูล -ดูน สาดฯลฯ ซึง่ ดูเหมือนว่าการจัด ตังกลุ ้ ม่ หรื อองค์กรนี ้เกิดขึ ้น มีจดุ ประสงค์เพื่อเพิ่มอ�ำนาจการต่อ รอง เรี ยนรู้ ผ่านหลักสิทธิมนุษย ชน สิทธิชมุ ชน และที่ส�ำคัญจะ เป็ นการจัดรู ปแบบกระบวนการ เคลื่ อ นไหวภาคประชาชนไปสู่ ระดับที่สงู กว่าอย่างที่เห็นชัดใน ปั จจุบนั ในสถานการณ์การเมืองที่ไม่ ปกติ สู่ ก ารลงประชามติ ร่ าง รัฐธรรมนูญ หลั ง การท� ำ รั ฐประหารเมื่ อ พฤษภาคม 2557 สองปี ที่ผ่าน สถานการณ์ สิ่งแวดล้ อมในภาค อีสานมีความรุ นแรงมากขึ ้น ดู เหมื อ นว่ า รั ฐ ท� ำ หน้ าที่ เ ป็ น นัก ประชาสัมพันธ์ ในทังทุ ้ นเสรี ทุน ข้ ามชาติ-ในชาติ ซงึ่ อาจเป็ นส่วน หนึง่ ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ มุง่ เน้ นการลงทุนจากต่างชาติ แ ล ะ ก า ร เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ภ า ค ประชาชนดูเหมือนมีปัญหากับ
Around
49
50
Around
ภาครัฐ การละเมิดเสรี ภาพการแสดงความคิดเห็น สิทธิใน การชุมนุม และการใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉกุ เฉิน พ.ร.บ.ความ มัน่ คง ซึง่ ไม่สามารถคลีค่ ลายสถานการณ์ได้ กลับท�ำให้ มีการ ลุกลามความขัดแย้ ง จนเกิดความรุนแรง เช่นกรณี ทหารสัง่ ห้ ามประชาชนบางพื ้นที่เข้ าร่วมเวทีรับฟั งความคิดเห็น การ คุกคามตามบ้ านของผู้ที่ไม่เห็นด้ วย ก่อนการลงประชามติ 7 สิงหาคม พ.ศ.2559 ชาวบ้ าน ในภาคอีสานที่ได้ รับผลกระทบจากการพัฒนาด้ านสิง่ แวดล้ อมและทรัพยากรธรรมชาติ ต่างยืนยันไม่รับร่าง รัฐธรรมนูญฉบับนี ้เพราะมีความเห็นพ้ องกันว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับมีชยั นี ้ ได้ ตดั สิทธิชมุ ชนออกและเปลี่ยนไปเป็ นหมวด หน้ าที่ ท�ำให้ สทิ ธิในการดูแลรักษาชุมชน ธรรมชาติและสิง่ แวดล้ อมนันได้ ้ ถกู ยกเลิกไป รวมทัง้ มาตรา44 และ พ.ร.บ.ชุมนุมยังมีผลบังคับใช้ อยู ่ ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐ์ เชื ้อ ภาควิชาสังคมวิทยา คณะ มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นักวิชาการด้ านสิง่ แวดล้ อมได้ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และ 2550 ชาวบ้ านจะอ้ างถึงหลักการสิทธิชมุ ชน
ชุมชนต้ องมีสว่ นร่วมในการจัดการทรัพยากรและคุณภาพ ชีวิตที่ดี รวมไปถึงเรื่ องของผลกระทบต่อสิง่ แวดล้ อม และ สุขภาพที่จะต้ องจัดท�ำรายงานการวิเคราะห์ในการมีสว่ นร่วม ของชุมชนประกอบอยูใ่ นกฎหมายด้ วย แต่รัฐธรรมนูญฉบับ 2559 นันไม่ ้ ได้ รองรับสิทธิในด้ านนี ้ ซึง่ ปั ญหาที่เกิด ความขัด แย้ ง จะยังคงมีอยูแ่ ต่ภาคประชาชนที่ได้ รับผลกระทบ จะมี ความยากล�ำบากในการต่อรอง เพราะมีกฎหมายบังคับใช้ อยู่ ประเด็นที่นา่ จับตามองคือ ที่ผา่ นมาประชาชนในท้ องถิ่น อีสาน จะเน้ นให้ ความส�ำคัญถึงเรื่ องทรัพยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดล้ อมเป็ นหลัก เพราะสังคมอีสานยังคงยืนอยูบ่ นพื ้น ฐานสังคมภาคเกษตรกรรมแบบหาอยูห่ ากิน วัฒนธรรมวิถี ชีวิตยังต้ องพึง่ พาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในท้ อง ถิ่นอยู่ เช่น ดิน น� ้ำ ป่ า ก่อนเปลี่ยนแปลงเป็ นแบบ เกษตรกรรมค้ าขายขนาดย่อมไปสูข่ นาดกลาง จึงไม่มีความ คุ้นชินและยิ่งเป็ นเรื่ องเกษตรอุตสาหกรรม อุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ นันไม่ ้ ต้องกล่าวถึงเพราะต้ องใช้ เวลาปรับตัวนาน พอสมควร ทังนี ้ ้รวมทังภาครั ้ ฐ ควรท�ำความเข้ าใจในโครงสร้ างพื ้นฐาน
Around
ของโครงสร้ างเศรษฐกิจ สังคม ของภาคอีสานก่อนเริ่ มการ ท�ำความเข้ าใจ เพราะที่ผา่ นมากระบวนการท�ำประชาคม ก่อนร่างรายงานEIA EHIA ในไทยนันถื ้ อว่ายังไม่มี มาตรฐานอย่างต่างชาติ นักวิชาการที่ไม่มีความถนัดเฉพาะ ด้ านกลับร่างรายงานผลกระทบ EIA EHIAผ่านได้ ซึง่ ถือว่า เป็ นข้ อผิดพลาดอย่างหนึง่ และมาตรการควบคุมผลกระทบ ในประเทศไทยถือว่ายังไม่สามารถจัดการได้ เด็ดขาด ส�ำคัญ ที่สดุ คือการรับฟั งความคิดเห็นของภาคประชาชนก่อนพร้ อม ทังให้ ้ มีสว่ นร่วมในการจัดการทรัพยากร หากรัฐสามารถแก้ ปั ญหาจุดนี ้ได้ ความขัดแย้ งอาจเบาบางลง อย่างไรก็ตามในส่วนของการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน จะมองเห็นว่า มีการยกระดับการเคลื่อนไหวขึ ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ เป็ นเพียงขบวนการเคลื่อนไหวที่ไม่มีมวลชนมากมาย เหมือนการเมือง แต่ด้วยปั ญหาในตอนนี ้กลับไม่ใช่ปัญหา ประเด็นทางด้ านทรัพยากรเพียงอย่างเดียว เพราะตังแต่ ้ เปลี่ยนแปลงรัฐบาลมาชาวบ้ านต่างก็ได้ รับผลกระทบในจุดนี ้ จึงมีการยกระดับขึ ้น จากทรัพยากรไปสูก่ ารเมืองแต่คงไม่มี การใช้ ความรุนแรง หรื อเหตุการณ์ปะทะ ซึง่ แตกต่างจาก ม็อบทัว่ ไปเพราะสุดท้ ายเป้าหมายของการเคลื่อนไหวคือการ ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในชุมชน ที่ผา่ นมาจะมีเจ้ าหน้ าที่รัฐเฝ้าติดตามตลอด แต่สงิ่ ที่ไม่อาจ ปฏิเสธได้ คือ เจ้ าหน้ าที่พยายามหลีกเลี่ยง ปะทะ ลดความ ขัดแย้ งกับผู้คนในชุมชนเพราะ เจ้ าหน้ าที่เองก็ไม่ตา่ งจาก คนในชุมชนนัน้ .ในส่วนของประเด็นร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ที่ผา่ นมา ทุกฝ่ าย ต้ องท�ำความเข้ าใจว่ารัฐธรรมนูญคือพันธสัญญาระหว่างรัฐ กับประชาชน ประกอบด้ วยสามเรื่ องหลักๆคือ เรื่ องสิทธิ เสรี ภาพ การตรวจสอบอ�ำนาจรัฐและการเสริ มสร้ าง ประสิทธิภาพให้ รัฐ หากเรามองถึงสิทธิการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้ อมนัน้ จะเข้ าข่ายในเรื่ อง ของสิทธิเสรี ภาพของประชาชน ไม่วา่ จะเป็ นรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540 หรื อ2550 ต่างได้ ระบุถงึ เรื่ องสิทธิชมุ ชนไว้ แล้ ว ซึง่ ชุมชนสามารถใช้ เป็ นสิง่ ต่อรองกับกลุม่ ทุนและภาครัฐได้ แต่ ปั ญหานันมาจาก ้ ร่างรัฐธรรมนูญล่าสุดนันได้ ้ ตดั สิทธิชมุ ชน ออกและปรับเปลี่ยนเป็ นหน้ าที่ หากสิทธิชมุ ชนไม่ได้ รับการ รองรับ พร้ อมทังมี ้ ม 44 พ.ร.บ. ชุมนุม กดทับอยูเ่ ชื่อว่าความ ขัดแย้ งเรื่ องทรัพยากรหลังจากกฎหมายลูกได้ ร่างผ่านแล้ ว สถานการณ์ในอีสานยิ่งน่าจับตามองมากยิ่งขึ ้น ทังนี ้ ้การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้ อมนัน้ หาก รัฐน�ำกฎหมายมาบังคับใช้ ในพื ้นที่ตา่ งๆ โดยไม่ยดึ หลักสิทธิ
ชุมชน เชื่อว่าปั ญหาความขัดแย้ งจะเพิ่มขึ ้น ซึง่ ขัดกับ นโยบายที่รัฐพยายามลดความขัดแย้ งแก้ ไขปั ญหามาโดย ตลอด เพราะประเด็นเหล่านี ้ถือว่าเป็ นเรื่ องที่ละเอียดอ่อน หากรัฐไม่สามารถท�ำความเข้ าใจในบริ บทการพัฒนากับ ชุมชน และขยายพื ้นที่สมั ปทานออกไปเรื่ อยๆ ไม่มีการ จัดการกับผลกระทบสิง่ แวดล้ อมที่จะตามมาการชุมนุม การ เคลื่อนไหวก็ยงั คงมีอยู่ หากรัฐและชุมชนสามมารถท�ำความ เข้ าใจร่วมกันไม่ได้ การพัฒนาที่เป็ นธรรมและยัง่ ยืนคงเป็ น ความหวังที่ริบหรี่
51
52
Around
Around
วิเคราะหข่าวรอบด้าน ทันสถานการณ์ปัจจุบัน
53
54
Around