หน้าปก
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
คู่มือผู้รับการฝึก 0920164170203 สาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 3
ชุดการฝึกตามความสามารถ (CBT)
โมดูลการฝึกที่ 11 09217322 หลักความปลอดภัยในการทางาน
กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
คานา คู่มือผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่างเครื่ องปรั บ อากาศในบ้านและการพาณิช ย์ขนาดเล็ก ระดับ 3 โมดูล 11 หลั กความ ปลอดภัยในการทางานฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามความสามารถ (Competency Based Training : CBT) ซึ่งพัฒ นาขึ้น เพื่อใช้เป็ น เอกสารประกอบการจัด การฝึ ก อบรมกั บชุดการฝึ กตามความสามารถ โดยได้ ดาเนินการภายใต้โครงการพัฒนาระบบฝึกและชุดการฝึกตามความสามารถเพื่อการพัฒนาฝีมือแรงงาน ด้วยระบบการฝึกตาม ความสามารถ (Competency Based Workforce Skill Training System) พ.ศ. 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับการ ฝึกได้ใช้เป็นเครื่องมือในการฝึกอบรมให้เป็นไปตามหลักสูตร กล่าวคือ หลังเรียนจบโมดูลการฝึก ผู้รับการฝึกสามารถอธิบาย เกี่ยวกับวิธีการเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า วิธีการตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้าก่อนเริ่มเดินเครื่องปรับอากาศ การเลือกขนาดสายไฟฟ้ากาลัง และสายไฟฟ้าควบคุมตามมาตรฐานการติดตั้งได้อย่างถูกต้อง ระบบการฝึกอบรมตามความสามารถเป็นระบบการฝึกอบรมที่ส่งเสริมให้ผู้รับการฝึกอบรมสามารถฝึกฝนเรียนรู้ได้ ตามพื้นฐานความสามารถของตนในเวลาที่มีความสะดวก โดยเน้นในเรื่องของการส่งมอบการฝึกอบรมที่หลากหลายไปให้แก่ ผู้ รับการฝึ กอบรม และต้องการให้ ผู้ รั บ การฝึ ก อบรมเกิด การเรี ยนรู้ ด้ว ยตนเอง การฝึ กปฏิบัติจะด าเนิน การในรู ป แบบ Learning by Doing และเน้นผลลัพธ์การฝึกอบรมในการที่ทาให้ผู้รับการฝึกอบรมมีความสามารถในการปฏิบัติงานตามที่ ตลาดแรงงานต้องการ โดยยึ ดความสามารถของผู้รับการฝึกเป็นหลัก การฝึกอบรมในระบบดังกล่าว จึงเป็นรูปแบบการ ฝึกอบรมที่สามารถรองรับการพัฒนารายบุคคลได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เนื้อหาวิชาในหลักสูตรการฝึกตามความสามารถ (Competency Based Curriculum : CBC) ซึ่งได้จากการวิเคราะห์งานอาชีพ (Job Analysis) ในแต่ละสาขาอาชีพ จะถูก กาหนดเป็นรายการความสามารถหรือสมรรถนะ (Competency) ที่ผู้รับการฝึกอบรมจาเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติงาน และ สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบกิจการและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งผู้รับการฝึกจะต้องเรียนรู้และฝึกฝนจนกว่าจะ สามารถปฏิบัติเองได้ ตามมาตรฐานที่กาหนดในแต่ละรายการความสามารถ ทั้งนี้ การส่งมอบการฝึก สามารถดาเนินการได้ ทั้งรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ (Paper Based) และผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ (Computer Based) โดยผู้รับการฝึกสามารถ เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง (Self-Learning) ที่บ้านหรือที่ทางาน และเข้ารับการฝึกภาคปฏิบัติตามความพร้อม ตามความสะดวก ของตน หรือตามแผนการฝึก หรือตามตารางการนัดหมาย การฝึกหรือทดสอบประเมินผลความรู้ความสามารถกับหน่วยฝึก โดยมีครูฝึกหรือผู้สอนคอยให้คาปรึกษา แนะนาและจัดเตรียมการฝึกภาคปฏิบัติ รวมถึงจัดเตรียมและดาเนินการทดสอบ ประเมินผลในลักษณะต่าง ๆ อันจะทาให้สามารถเพิ่มจานวนผู้รับการฝึกได้มากยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง และ ประหยั ดงบประมาณค่าใช้จ่ ายในการพัฒ นาฝี มือแรงงานให้ แก่กาลั งแรงงานในระยะยาว จึงถือเป็นรูปแบบการฝึ กที่มี ความสาคัญต่อการพัฒนาฝีมือแรงงาน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหากมีการนาระบบการฝึกอบรมตามความสามารถมาใช้ ในการพัฒนาฝีมือแรงงาน จะช่วยทาให้ประชาชน ผู้ใช้แรงงานผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบอาชีพอิสระ สามารถเข้าถึงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาตนเองได้อย่างสะดวก และได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ก กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
สารบัญ เรื่อง
หน้า
คานา
ก
สารบัญ
ข
ข้อแนะนาสาหรับผู้รับการฝึก
1
โมดูลการฝึกที่ 11 09217322 หลักความปลอดภัยในการทางาน หัวข้อวิชาที่ 1 0921732201 การเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า 14 หัวข้อวิชาที่ 2 0921732202 การตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้า 24 หัวข้อวิชาที่ 3 0921732203 การเลือกขนาดสายไฟฟ้ากาลัง และสายไฟฟ้าควบคุมตามมาตรฐานการติดตั้ง 44 คณะผู้จัดทาโครงการ 59
ข กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ข้อแนะนาสาหรับผูร้ ับการฝึก ข้อแนะนาสาหรับผู้รับการฝึก คือ คาอธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดของคู่มือ และขั้นตอนการเข้ารับการฝึก ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 6 ข้อ ดังนี้
1. รายละเอียดของคู่มือ 1.1 โมดูลการฝึก / หัวข้อวิชา หมายถึง โมดูลการฝึกที่ครูฝึกต้องจัดการฝึกอบรม โดยภายในโมดู ลจะประกอบไปด้วย หัวข้อวิชาที่ผู้รับการฝึกต้องเรียนรู้และฝึกฝน ซึ่งมีรหัสโมดูลและรหัสหัวข้อวิชาเป็นตัวกาหนดความสามารถ ที่ ต้องเรียนรู้ 1.2 ระยะเวลาการฝึก หมายถึง จานวนชั่วโมงในการฝึกอบรม เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของแต่ละโมดูล 1.3 ระบบการฝึกตามความสามารถ (CBT) หมายถึง ระบบการฝึกที่เกิดจากการนาความรู้ ทักษะ ความสามารถ (Competency) ที่จาเป็นสาหรับการทางานมาเป็นฐาน (Based) ของการจัดฝึกอบรม หรือนามากาหนดเป็นเนื้อหา (Content) และเกณฑ์การประเมิน การฝึกอบรม ทาให้ผู้รับการฝึกอบรมมีความสามารถ (Competency) ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กาหนด และตามความสามารถในการเรียนรู้ของผู้รับการฝึกเป็นหลัก 1.4 ชุดการฝึก หมายถึง สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ใช้สาหรับเป็นอุปกรณ์ช่วยฝึก โดยแต่ละโมดูลประกอบด้วย คู่มือครูฝึก คู่มือผู้รับการฝึก คู่มือประเมิน สื่อวีดิทัศน์ 1.5 ระบบจัดการฝึกด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Managed Instruction : CMI) หมายถึง การนาระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งใช้ในการจัดการเรียนรู้และฝึกอบรม เช่น ระบบรับสมัครออนไลน์ ระบบลงทะเบียน เข้ารับ การฝึกอบรมออนไลน์ ระบบการฝึกอบรมภาคทฤษฎีผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์สื่อสาร แบบพกพา การทดสอบออนไลน์ การบันทึกผลการฝึกอัตโนมัติ และการออกใบวุฒิบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โดยการเข้าใช้งานระบบ แบ่งส่ว นการใช้งานตามความรับผิดชอบของผู้มีส่ว นได้ส่ว นเสียดังภาพในหน้า 2 ซึ่งรายละเอียดการใช้งานของผู้เข้ารับการฝึกสามารถดูได้จากลิงค์ mlearning.dsd.go.th/download/files/trainee.pdf
1 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
.
2 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
2. ผังการฝึกอบรม
3 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
3. วิธีการฝึกอบรม 3.1 ผู้รับการฝึก ทาความเข้าใจการฝึกอบรมในระบบ CBT ซึ่งสามารถฝึกอบรมได้ 3 รูปแบบ คือ 3.1.1 การฝึกอบรมด้วยการส่งมอบสื่อสิ่งพิมพ์ (Offline) 3.1.2 การฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรม (Offline) 3.1.3 การฝึกอบรมด้วยสื่อในระบบออนไลน์ (Online) โดยในแต่ละรูปแบบจะมีรายละเอียดแตกต่างกัน ดังนี้ 3.1.1 การฝึกอบรมด้วยการส่งมอบสื่อสิ่งพิมพ์ (Offline) คือ การฝึกอบรมที่ผู้รับ การฝึกเรียนรู้ภาคทฤษฎี (ด้านความรู้) ด้ว ยตนเอง โดยครูฝึกเป็น ผู้ส่งมอบ คู่มือผู้รับการฝึกที่พิมพ์จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) และวีดิทัศน์ (DVD) แก่ผู้รับการฝึก และฝึกภาคปฏิบัติ (ด้านทักษะ) ที่ศูนย์ฝึกอบรม การฝึกภาคทฤษฎี - ผู้รับการฝึกเรียนรู้ภาคทฤษฎีด้วยตนเอง โดยใช้คู่มือผู้รับการฝึกที่พิมพ์จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) และวีดิทัศน์ (DVD) ที่ครูฝึกส่งมอบให้ การประเมินผลภาคทฤษฎี 1) ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบก่อนฝึก (Pre-Test) ลงในกระดาษคาตอบ แล้วส่งกระดาษคาตอบ ให้ครูฝึก เพื่อตรวจและประเมินผล 2) ครูฝึกประเมินแบบทดสอบก่อนฝึก - ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จะมีสิท ธิ์ข อเข้า รับ การฝึก ภาคปฏิบัติ (ถ้า มี) หรือ เข้า รับ การฝึก ในโมดูล ถัด ไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ครูฝึกกาหนดได้ - ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ครูฝึกมอบหมายให้ผู้รับการฝึกศึกษาเนื้อหา จากสื่อด้วยตนเองจนเข้าใจ จึงทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) 3) ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) ลงในกระดาษคาตอบ แล้วส่งให้ครูฝึกตรวจ และประเมินผล โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการประเมินแบบทดสอบก่อนฝึก การฝึกภาคปฏิบัติ 1) ผู้รับการฝึกตรวจสอบวันฝึกภาคปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกอบรม - หากครูฝึกกาหนดวันฝึกและห้องฝึกโดยระบุชื่อผู้รับการฝึกไว้แล้ว ให้ผู้รับการฝึก มาฝึกภาคปฏิบัติให้ตรงวันและเวลาที่กาหนด - หากครูฝึกกาหนดวันฝึกและห้องฝึกแต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับการฝึก ให้ผู้รับการฝึกลงชื่อ ในวันและเวลาที่ตนเองสะดวก
4 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
2) ผู้รับการฝึกศึกษาใบขั้นตอนปฏิบัติงานก่อนเข้ารับการฝึกภาคปฏิบัติ 3) เมื่อถึงวันฝึกภาคปฏิบัติ ให้ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงานจากครูฝึก แล้วฝึก ปฏิบัติงานตามขั้นตอน 4) ผู้รับการฝึกส่งผลงานให้ครูผู้ฝึกประเมินผล และวิเคราะห์ผลงานร่วมกับครูฝึกเพื่อให้มาตรฐาน เป็นไปตามเกณฑ์การประเมิน การประเมินผลภาคปฏิบัติ 1) ผู้รับการฝึกตรวจสอบวันสอบภาคปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกอบรม - หากครูฝึกกาหนดวันสอบและห้องสอบโดยระบุชื่อผู้รับการฝึกไว้แล้ว ให้ผู้รับการฝึก มาสอบภาคปฏิบัติให้ตรงวันและเวลาที่กาหนด - หากครูฝึกกาหนดวันสอบและห้องสอบแต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับการฝึก ให้ผู้รับการฝึกลง ชื่อในวันและเวลาที่ตนเองสะดวก 2) เมื่อถึงวันสอบภาคปฏิบัติ ให้ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงจากครูฝึก แล้วสอบปฏิบัติงานตามคาชี้แจง 3) ผู้รับการฝึกส่งผลงานให้ครูฝึกตรวจผลงานและกรอกคะแนนลงในใบประเมินโดยต้องผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จึงจะผ่านการฝึกโมดูลนั้น 4) ผู้รับการฝึกดูประกาศผลการทดสอบภาคปฏิบัติจากครูฝึก 3.1.2 การฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรม (Offline) คือ การฝึกอบรมที่ผู้รับการฝึกเรียนรู้ภาคทฤษฎีจากครูฝึก และฝึกภาคปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกอบรม การฝึกภาคทฤษฎี - ผู้รับการฝึกเรียนรู้ภาคทฤษฎีจากครูฝึกโดยใช้สื่อสิ่งพิมพ์จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) และวีดิทัศน์ (DVD) ที่ศูนย์ฝึกอบรม การประเมินผลภาคทฤษฎี 1) ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบก่อนฝึก (Pre-Test) ลงในกระดาษคาตอบ แล้วส่งกระดาษคาตอบ ให้ครูฝึกตรวจและประเมินผล 2) ครูฝึกประเมินแบบทดสอบก่อนฝึก - ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร ผู้รับการฝึกจะมีสิทธิ์ขอเข้ารับการฝึกภาคปฏิบัติ (ถ้ามี) หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ครูฝึกกาหนดได้ - ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ผู้รับ การฝึกศึกษาเนื้อหาจากสื่อด้วยตนเอง จนเข้าใจ จึงทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) 3) ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) ลงในกระดาษคาตอบ แล้วส่งให้ครูฝึกตรวจ และประเมินผล โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการประเมินแบบทดสอบก่อนฝึก 5 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
การฝึกภาคปฏิบัติ 1) ผู้รับการฝึกตรวจสอบวันฝึกภาคปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกอบรม - หากครูฝึกกาหนดวันฝึกและห้องฝึกโดยระบุชื่อผู้รับการฝึกไว้แล้ว ให้ผู้รับการฝึก มาฝึกภาคปฏิบัติให้ตรงวันและเวลาที่กาหนด - หากครูฝึกกาหนดวันฝึกและห้องฝึกแต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับการฝึก ให้ผู้รับการฝึกลงชื่อ ในวันและเวลาที่ตนเองสะดวก 2) ผู้รับการฝึกศึกษาใบขั้นตอนปฏิบัติงานก่อนเข้ารับการฝึกภาคปฏิบัติ 3) เมื่อถึงวันฝึกภาคปฏิบัติ ให้ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงานจากครูฝึก แล้วฝึก ปฏิบัติงานตามขั้นตอน 4) ผู้รับการฝึกส่งผลงานให้ครูผู้ฝึกประเมินผล และวิเคราะห์ผลงานร่วมกับครูฝึกเพื่อให้มาตรฐาน เป็นไปตามเกณฑ์การประเมิน การประเมินผลภาคปฏิบัติ 1) ผู้รับการฝึกตรวจสอบวันสอบภาคปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกอบรม - หากครูฝึกกาหนดวันสอบและห้องสอบโดยระบุชื่อผู้รับการฝึกไว้แล้ว ให้ผู้รับการฝึก มาสอบภาคปฏิบัติให้ตรงวันและเวลาที่กาหนด - หากครูฝึกกาหนดวันสอบและห้องสอบแต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับการฝึก ให้ผู้รับการฝึกลงชื่อ ในวันและเวลาที่ตนเองสะดวก 2) เมื่อถึงวันสอบภาคปฏิบัติ ให้ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงจากครูฝึก แล้วสอบปฏิบัติงานตามคาชี้แจง 3) ผู้รับการฝึกส่งผลงานให้ครูฝึกตรวจผลงานและกรอกคะแนนลงในใบประเมินโดยต้องผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จึงจะผ่านการฝึกโมดูลนั้น 4) ผู้รับการฝึกดูประกาศผลการทดสอบภาคปฏิบัติจากครูฝึก 3.1.3 การฝึกอบรมด้วยสื่อในระบบออนไลน์ (Online) คือ การฝึกอบรมที่ผู้รับการฝึกเรียนรู้ภาคทฤษฎีด้วยตนเองผ่านระบบจัดการฝึกด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ CMI โดยใช้คู่มือผู้รับการฝึกที่เป็นสื่อออนไลน์ในแอปพลิเคชัน DSD m-Learning และฝึกภาคปฏิบัติที่ศูนย์ฝึกอบรม วิธีดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DSD m-Learning - ผู้รับการฝึกดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DSD m-Learning ซึ่งวิธีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางตามแต่ละระบบปฏิบัติการ คือ 1) ผู้รับการฝึกที่ใช้เครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ระบบปฏิบัติการ iOS ค้นหา แอปพลิเคชัน DSD m-Learning ใน App Store จากนั้นกดดาวน์โหลด เพื่อติดตั้งบนเครื่องมือสื่ อสาร และเข้าใช้งานโดยกรอก Username และ Password ตามที่เคยลงทะเบียนไว้
6 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
2) ผู้รับการฝึกที่ใช้เครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ระบบปฏิบัติการ Android ค้นหา แอปพลิเคชัน DSD m-Learning ใน Google Play Store จากนั้นกดดาวน์โหลด เพื่อติดตั้งบนเครื่ องมือสื่ อสาร และเข้าใช้ งานโดยกรอก Username และ Password ตามที่เคยลงทะเบียนไว้ การฝึกภาคทฤษฎี - ผู้รับการฝึกเรียนรู้ภาคทฤษฎีด้วยตนเอง จากคู่มือผู้รับการฝึก ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์บนแอปพลิเคชัน DSD m-Learning การประเมินผลภาคทฤษฎี 1) ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบก่อนฝึก (Pre-Test) ลงในแอปพลิเคชัน โดยระบบจะตรวจและประเมินผล อัตโนมัติ - ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร ผู้รับการฝึกจะมีสิทธิ์ขอเข้ารับการฝึกภาคปฏิบัติ (ถ้ามี) หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ครูฝึกกาหนดได้ - ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ผู้รับการฝึกศึกษาเนื้อหาจากสื่อด้วยตนเอง จนเข้าใจแล้วจึงทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) 2) ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบหลังฝึก โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการประเมินแบบทดสอบก่อนฝึก การฝึกภาคปฏิบัติ 1) ผู้รับการฝึกตรวจสอบวันฝึกภาคปฏิบัติในแอปพลิเคชัน - หากครูฝึกกาหนดวันฝึกและห้องฝึกโดยระบุชื่อผู้รับการฝึกไว้แล้ว ให้ผู้รับการฝึก มาฝึกภาคปฏิบัติให้ตรงวันและเวลาที่กาหนด - หากครูฝึกกาหนดวันฝึกและห้องฝึกแต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับการฝึก ให้ผู้รับการฝึกลงชื่อ ในวันและเวลาที่ตนเองสะดวก 2) ผู้รับการฝึกศึกษาใบขั้นตอนปฏิบัติงานก่อนเข้ารับการฝึกภาคปฏิบัติ 3) เมื่อถึงวันฝึกภาคปฏิบัติ ให้ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงานจากครูฝึก แล้วฝึก ปฏิบัติงานตามขั้นตอน 4) ผู้รับการฝึกส่งผลงานให้ครูผู้ฝึกประเมินผล และวิเคราะห์ผลงานร่วมกับครูฝึกเพื่อให้มาตรฐาน เป็นไปตามเกณฑ์การประเมิน การประเมินผลภาคปฏิบัติ 1) ผู้รับการฝึกตรวจสอบวันสอบภาคปฏิบัติในแอปพลิเคชัน - หากครูฝึกกาหนดวันสอบและห้องสอบโดยระบุชื่อผู้รับการฝึกไว้แล้ว ให้ผู้รับการฝึก มาสอบภาคปฏิบัติให้ตรงวันและเวลาที่กาหนด
7 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
- หากครูฝึกกาหนดวันสอบและห้องสอบแต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับการฝึก ให้ผู้รับการฝึกลง ชื่อในวันและเวลาที่ตนเองสะดวก 2) เมื่อถึงวันสอบภาคปฏิบัติ ให้ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงจากครูฝึก แล้วสอบปฏิบัติงานตามคาชี้แจง 3) ผู้รับการฝึกส่งผลงานให้ครูฝึกตรวจผลงานและกรอกคะแนนลงในใบประเมินโดยต้องผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จึงจะผ่านการฝึกโมดูลนั้น 4) ผู้รับการฝึกดูประกาศผลการทดสอบภาคปฏิบัติในแอปพลิเคชัน 3.2 ครูฝึกชี้แจงรูปแบบการฝึกอบรมทั้ง 3 รูปแบบแก่ผู้รับการฝึก เพื่อทาการตกลงรูปแบบการฝึกอบรมร่วมกับผู้รับการฝึก โดยให้ผู้รับการฝึกเลือกวิธีที่สะดวก 3.3 ครูฝึกวางแผนการฝึกตลอดหลักสูตรร่วมกันกับผู้รับการฝึก
4. อุปกรณ์ช่วยฝึกและช่องทางการเข้าถึงอุปกรณ์ช่วยฝึก ผู้รับการฝึกสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ช่วยฝึกได้ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ (Offline) และรูปแบบระบบจัดการฝึก ด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ CMI (Online) โดยมีช่องทางการเข้าถึงอุปกรณ์ช่วยฝึกแต่ละรูปแบบแตกต่างกัน ดังนี้ 4.1 รูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ (Offline) ประกอบด้วย - คู่มือผู้รับการฝึก เพื่อใช้ศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ - คู่มือการประเมิน เพื่อใช้ในการทดสอบ - สื่อวีดิทัศน์ (DVD) เพื่อประกอบการศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ 4.2 รูปแบบระบบจัดการฝึกด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ CMI (Online) ดังนี้ - คู่มือผู้รับการฝึกรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) เพื่อใช้ศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ - คู่มือการประเมินรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) เพื่อใช้ในการทดสอบ - สื่อวีดิทัศน์ (Online) เพื่อประกอบการศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
5. การวัดและประเมินผล 5.1 การประเมินผลภาคทฤษฎี (ด้านความรู้) ประเมินผลจากแบบทดสอบภาคทฤษฎีก่อนฝึก และแบบทดสอบภาคทฤษฎีหลังฝึก โดยกาหนดเกณฑ์การให้คะแนน และการระบุความสามารถด้านความรู้ ดังนี้ เกณฑ์การให้คะแนน ภาคทฤษฎี ตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป ต่ากว่าร้อยละ 70
เกณฑ์การประเมิน ความสามารถ ผ่าน (C) ไม่ผ่าน (NYC) 8
กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
5.2 การประเมินผลภาคปฏิบัติ (ด้านทักษะ) ประเมินผลจากแบบทดสอบภาคปฏิบัติก่อนฝึก และแบบทดสอบภาคปฏิบัติหลังฝึก โดยกาหนดเกณฑ์การให้คะแนน และการระบุความสามารถด้านทักษะ ดังนี้ เกณฑ์การประเมิน ภาคปฏิบัติ ตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป หรือทา ได้ตามเกณฑ์การปฏิบัติงาน ต่ากว่าร้อยละ 70 หรือ ไม่ สามารถทาได้ ตามเกณฑ์การปฏิบัติงาน
เกณฑ์การประเมิน ความสามารถ ผ่าน (C) ไม่ผ่าน (NYC)
ผู้รับการฝึกจะได้รับการประเมินผลการฝึกจากครูฝึก โดยจะต้องสามารถปฏิบัติตามความสามารถในแต่ละโมดูลนั้น ๆ ได้ตามเกณฑ์ที่กาหนด จึงจะถือว่าผ่านการฝึกโมดูลนั้น และเมื่อผ่านการฝึกครบทุกโมดูล จึงจะถือว่าฝึกครบชุดการฝึกนั้น ๆ แล้ว
6. เงื่อนไขการผ่านการฝึก ผู้รับการฝึกที่จะผ่านโมดูลการฝึก ต้องได้รับค่าร้อยละของคะแนนการทดสอบหลังฝึก ภาคทฤษฏี คะแนนรวมไม่ต่ากว่าร้อยละ 70 ภาคปฏิบัติ คะแนนรวมไม่ต่ากว่าร้อยละ 70 โดยคะแนนรวมจะถูกนามาคิดแบ่งเป็นสัดส่วน ภาคทฤษฏี คิดเป็นร้อยละ 20 ภาคปฏิบัติ คิดเป็นร้อยละ 80 เมื่อนาคะแนนมารวมกัน ผู้รับการฝึกจะต้องได้ไม่ต่ากว่าร้อยละ 70 จึงจะผ่านเกณฑ์ ทั้งนี้ ผู้รับการฝึกจะต้องทาคะแนนผ่านเกณฑ์ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ จึงจะผ่านโมดูลการฝึก
9 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
รายละเอียดหลักสูตร หลักสูตรฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามความสามารถ สาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้าน และการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 3 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน
รหัสหลักสูตร 0920164170203
1. ขอบเขตของหลักสูตร หลักสูตรนี้พัฒ นาขึ้น ให้ครอบคลุมด้านความรู้ ทั กษะ และเจตคติแก่ผู้รับการฝึก ในสาขาช่างเครื่อ งปรับ อากาศใน บ้านและการพาณิชย์ ขนาดเล็ ก เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถและทัศนคติตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาช่าง เครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 3 ดังนี้ 1.1 มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับสัญลักษณ์สากลของอุปกรณ์ และเขียนแบบร่างเพื่อแสดงแผนผังการติดตั้ง เครื่องปรับอากาศ 1.2 มีความรู้ความสามารถในการใช้เครื่องมือวัดต่าง ๆ ที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศ 1.3 มีความรู้ เกี่ย วกับ การทาความเย็ น ด้ว ยระบบระเหยตรง (Direct Expansion System) และระบบน้าเย็ น (Chilled Water System) 1.4 มีความรู้ เกี่ย วกับ ระบบสารทาความเย็ นท่ว ม (Flooded System) และไดเร็กเอ็กซ์ แ พนชั่นวาล์ ว (Direct Expansion Valve) 1.5 มีความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบที่มีผลต่อสมรรถนะของคอนเดนเซอร์ และแฟนคอยล์แบบครีบ 1.6 มีความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบที่มีผลต่อสมรรถนะของคอนเดนเซอร์แบบระบายความร้อนด้วยน้า 1.7 มีความรู้เกี่ยวกับพื้นผิวถ่ายเทความร้อนผ่านชั้นตัวนาความร้อนลาดับต่าง ๆ 1.8 มีความรู้ความสามารถในการแขวนหรือยึดท่อให้มั่นคง 1.9 มีความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของสารเจือปนในสารทาความเย็น 1.10 มีความรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานไฟฟ้า การคานวณหากาลังไฟฟ้าของมอเตอร์ การคานวณหาความเร็วรอบ ของมอเตอร์ การคานวณค่าใช้จ่ายค่ากระแสไฟฟ้าที่เครื่องปรับอากาศใช้ 1.11 มีความรู้เกี่ยวกับหลักความปลอดภัยในการทางาน 2. ระยะเวลาการฝึก ผู้ รั บ การฝึ กจะได้รั บ การฝึ ก ในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบั ติ โดยสถาบันพัฒ นาฝี มือแรงงาน หรือสานักงานพัฒนา ฝีมือแรงงานที่เป็นหน่วยฝึกตามความสามารถใช้ระยะเวลาในการฝึก 50 ชั่วโมง 10 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
เนื่ อ งจากเป็ น การฝึ ก ที่ ขึ้ น อยู่ กั บ พื้ น ฐานความรู้ ทั ก ษะ ความสามารถและความพร้ อ มของผู้ รั บ การฝึ ก แต่ละคน มีผลให้ผู้รับการฝึกจบการฝึกไม่พร้ อมกัน สามารถจบก่อนหรือเกินระยะเวลาที่กาหนดไว้ในหลั กสูตรได้ หน่วยฝึกจึงต้องบริหารระยะเวลาในการฝึกให้เหมาะสมตามความจาเป็น ทั้งนี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือผู้อานวยการสานักงานพัฒนาฝีมือแรงงานที่เป็นหน่วยฝึกตามความสามารถจะเห็นสมควร 3. หน่วยความสามารถและโมดูลการฝึก จานวนหน่วยความสามารถ 11 หน่วย จานวนโมดูลการฝึก 11 โมดูล 4. วุฒิบัตร 4.1 ชื่อเต็ม : วุฒิบัตรพัฒนาฝีมือแรงงาน สาขา ช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 3 4.2 ชื่อย่อ : วพร. สาขา ช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 3 4.3 ผู้ รั บ การฝึ ก ที่ ผ่ า นการประเมิ น ผลหรื อ ผ่ า นการฝึ ก ครบทุ ก หน่ ว ยความสามารถ จะได้ รั บ วุ ฒิ บั ต ร วพร. สาขา ช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 3
11 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
รายละเอียดโมดูลการฝึกที่ 11 1. ชื่อหลักสูตร
สาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 3 หลักความปลอดภัยในการทางาน
รหัสหลักสูตร 0920164170203 2. ชื่อโมดูลการฝึก รหัสโมดูลการฝึก 09217322 3. ระยะเวลาการฝึก รวม 5 ชั่วโมง 30 นาที ทฤษฎี 1 ชั่วโมง 30 นาที ปฏิบัติ 4 ชั่วโมง 4. ขอบเขตของหน่ว ย หน่วยการฝึกนี้ พัฒนาขึ้นให้ครอบคลุ มด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติแก่ผู้รับการฝึ ก การฝึก เพื่อให้มีความสามารถ ดังนี้ 1. อธิบายวิธีการเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าได้ 2. อธิบายวิธีการตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้าก่อนเริ่มเดิน เครื่องปรับอากาศได้ 3. ตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้าก่อนเริ่มเดินเครื่องปรับอากาศได้ 4. อธิบายการเลือกขนาดสายไฟฟ้ากาลัง และสายไฟฟ้าควบคุมตามมาตรฐาน การติดตั้งได้ 5. พื้นฐาน ผู้สมัครเข้ารับการฝึกต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ ความสามารถของ 1. มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวิธีการเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า วิธีการตั้งค่าอุปกรณ์ ผู้รับการฝึก ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้าก่อนเริ่มเดินเครื่องปรับอากาศการเลือกขนาดสายไฟฟ้า กาลั ง และสายไฟฟ้าควบคุมตามมาตรฐานการติดตั้งได้ หรือผ่ านการฝึ กอบรมที่ เกี่ยวข้อง จากหน่วยงานหรือสถาบันที่เชื่อถือได้ 2. ผู้รับการฝึกผ่านโมดูลที่ 10 มาแล้ว 6. ผลลัพธ์การเรียนรู้ :เมื่อสาเร็จการฝึกในโมดูลนี้แล้วผู้รับการฝึกสามารถปฏิบัติงานโดยมีความรู้ความสามารถและใช้ ระยะเวลาฝึก ดังนี้ ระยะเวลาฝึก (ชั่วโมง: นาที) ผลลัพธ์การเรียนรู้ ชื่อหัวข้อวิชา ทฤษฎี ปฏิบัติ รวม 1. อธิบายวิธีการเลือกอุปกรณ์ หัวข้อที่ 1: การเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า 0:30 0:30 ป้องกันทางไฟฟ้าได้ 2. อธิบายวิธีการตั้งค่าอุปกรณ์ หัวข้อที่ 2: การตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้ 0:30 4:00 4:30 ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า
12 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ก่อนเริ่มเดินเครื่องปรับอากาศ ได้ 3. ตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุม การใช้กระแสไฟฟ้า ก่อนเริ่มเดินเครื่อง ปรับอากาศได้ 4. อธิบายการเลือกขนาด หัวข้อที่ 3: การเลือกขนาดสายไฟฟ้ากาลัง และ สายไฟฟ้ากาลัง และสายไฟฟ้า สายไฟฟ้าควบคุมตามมาตรฐาน ควบคุมตามมาตรฐาน การติดตั้ง การติดตั้งได้ รวมทั้งสิ้น
13 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
0:30
-
0:30
1:30
4:00
5:30
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
รายละเอียดหัวข้อวิชาที่ 1 0921732201 การเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า (ใบแนะนา) 1. ผลลัพธ์การเรียนรู้ - อธิบายวิธีการเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าได้
2. หัวข้อสาคัญ - การเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า
3. วิธีการฝึกอบรม การฝึกอบรมสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ 1) การฝึกอบรมด้วยการส่งมอบสื่อสิ่งพิมพ์ 2) การฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรม 3) การฝึกอบรมด้วยสื่อในระบบออนไลน์ ดังรายละเอียดในข้อแนะนาสาหรับผู้รับการฝึก
4. อุปกรณ์ช่วยฝึก อุปกรณ์ช่วยฝึกสามารถเลือกใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ 1. รูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ (Offline) ประกอบด้วย - คู่มือผู้รับการฝึก เพื่อใช้ศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ - คู่มือการประเมิน เพื่อใช้ในการทดสอบ - สื่อวีดิทัศน์ (DVD) เพื่อประกอบการศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ 2. รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Online) ประกอบด้วย - คู่มือผู้รับการฝึกรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) เพื่อใช้ศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ - คู่มือการประเมินรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) เพื่อใช้ในการทดสอบ - สื่อวีดิทัศน์ (Online) เพื่อประกอบการศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
14 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
5. การรับการฝึกอบรม 1. ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบก่อนฝึก (Post-Test) แล้วส่งให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลตามวิธีที่เลือกฝึกอบรม 1.1 ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จะมีสิทธิ์ขอเข้ารับการฝึก ภาคปฏิบัติ (ถ้ามี) หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ครูฝึกกาหนดได้ 1.2 ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ผู้รับการฝึกเข้าฝึกอบรมภาคทฤษฎี 2. การฝึกอบรมภาคทฤษฎี ให้ผู้รับการฝึกศึกษาคู่มือผู้รับการฝึก และฝึกหัดทาใบทดสอบท้ายหัวข้อวิชา 3. เมื่อผู้รับการฝึกศึกษาคู่มือผู้รับการฝึกประจาโมดูลนั้นเข้าใจแล้ว ให้ทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) แล้วส่งให้ ครูฝึกหรือระบบประเมินผลเช่นเดียวกับแบบทดสอบก่อนฝึก 4. การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ ผู้รับการฝึกอ่านและทาความเข้าใจกับใบงาน ใบขั้นตอนการปฏิบัติงาน และเกณฑ์การวัด และประเมินผลงาน 5. ผู้รับการฝึกเข้ารับการฝึกที่ศูนย์ฝึกอบรมที่ลงทะเบียนหรือจองไว้ 6. ผู้รับการฝึกอ่านระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัยในการฝึกของหน่วยฝึก 7. ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงลาดับการปฏิบัติงานตามใบขั้นตอนการปฏิบัติงาน 8. ผู้รับการฝึกปฏิบัติงานตามใบงาน แล้วส่งให้ครูฝึกตรวจประเมินผล 9. ผู้รับการฝึกที่คะแนนผลงานผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 สามารถขอทดสอบเพื่อจบโมดูลที่ฝึกกับครูฝึก
6. การวัดผล 1. ผู้รับการฝึกส่งแบบทดสอบก่อนฝึก ให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลภาคทฤษฎีตามวิธีที่เลือกฝึกอบรม 1.1 ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จะมีสิทธิ์ขอเข้ารับการฝึก ภาคปฏิบัติ (ถ้ามี) หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไปได้ 1.2 ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ครูฝึกมอบหมายให้ผู้รับการฝึกศึกษาเนื้อหาจากสื่อด้วยตนเองจนเข้าใจ จึงทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) 2. ผู้รับการฝึกส่งแบบทดสอบหลังฝึก ให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลภาคทฤษฎี โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการประเมิน แบบทดสอบก่อนฝึก 3. ผู้รับการฝึกส่งผลงานในการฝึกภาคปฏิบัติให้ครูฝึกตรวจประเมินผลงานของผู้รับการฝึก โดยต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ ครูฝึกกาหนดได้
7. บรรณานุกรม วิทยาลัยสารพัดช่างกาแพงเพชร. อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/book-16.html 15 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบข้อมูล หัวข้อวิชาที่ 1 การเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า 1. การเลือกอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า 1.1 เซอร์ กิ ต เบรกเกอร์ (Curcuit Breaker) เซอร์ กิ ต เบรกเกอร์ จ ะทางานเกี่ ย วกั บ การป้ อ งกั น เมื่ อ กระแสไฟฟ้ า เกิ น โดยแบ่ ง ออกเป็ น 3 ประเภท 1.1.1 Molded Case Circuit Breaker (MCCB) มีหน้าที่เป็นสวิตช์เปิดปิดด้วยมือ และเป็นตัวเปิดวงจรอัตโนมัติเมื่อมีกระแสเกิน MCCB ที่ขายอยู่ทั่วไป มี 2 ชนิด ได้แก่ - Thermal Magnetic MCCB มี โ ครงสร้ า งการทางาน 2 ส่ ว น ได้ แ ก่ Thermal Unit ทาหน้ า ที่ ปลดวงจรเมื่อมีโ หลด เกิน ความร้อ นจะทาให้แ ผ่น ไบเมทอลโค้ง งอไปปลดวงจรออกและMagnetic Unit ทา หน้ า ที่ ป ลดวงจรเมื่ อ มี ก ารลั ด วงจร หรื อ มี ก ระแสสู ง 8 – 10 เท่ า ไหลผ่ า น ท า ใ ห้ เ กิ ด สนามแม่ เ หล็ ก ไปดึ ง ปลดวงจรออก
ภาพที่ 1.1 Thermal Magnetic MCCB
16 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
- Electronic Trip MCCB เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีไมโครโปรเซสเซอร์ ทาหน้าที่วิเคราะห์ค่ากระแสไหลผ่าน เมื่อมีค่า สูงกว่ากาหนดจะไปดึงปลดวงจร โดยสามารถปรับตั้งค่ากระแสและเวลาปลดวงจรได้
ภาพที่ 1.2 Electronic Trip MCCB 1.1.2 Air Circuit Breaker (ACB) เหมาะส าหรั บระบบที่ แรงดั นไฟฟ้ าน้ อยกว่ า 1,000 V โครงสร้ างท าด้ วยเหล็ กมี น้ าหนั กมาก ใช้ วงจร อิเล็กทรอนิกส์ในการสั่งปลดวงจร
ภาพที่ 1.3 Air Circuit Breaker 1.1.3 Miniature Circuit Breaker มีขนาดเล็ก ใช้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์ป้องกันในแผงวงจรย่อย นิยมใช้ป้องกันวงจรแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ และเครื่องทาน้าร้อน
17 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ภาพที่ 1.4 Miniature Circuit Breaker 1.2 ฟิ ว ส์ (Fuse) เป็นอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน เนื่องจากโหลดเกินและการลัดวงจร เมื่อเกิดการโหลดเกินจะทาให้เกิดความร้อน ซึ่ง จะไปหลอมละลายฟิวส์จนขาด และตัดวงจรการไหลของไฟฟ้า ฟิวส์แรงดันต่าจะใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับที่มีแรงดันต่ากว่า 600 โวลต์ ได้แก่ 1) ฟิ ว ส์ ต ะกั่ ว ทาจากส่ ว นผสมของตะกั่ ว กั บ ดี บุ ก ซึ่ ง มี จุ ด หลอมละลายต่า มั ก จะใช้ กั บ คั ต เอาต์ (Cut out) ฟิวส์ตะกั่วจะมีหลายขนาดตามเบอร์ ซึ่งจะมีอัตราการทนกระแสต่างกัน
ภาพที่ 1.5 ฟิวส์ตะกั่ว 2) ฟิวส์ก้ามปู มีลักษณะแบนเรียบ หัวท้ายทาด้วยแผ่นทองแดงสาหรับขันสกรู ใช้ติดตั้งร่วมกับคัตเอาต์ โดยดูพิกัดกระแสได้ที่แผ่นทองแดง
ภาพที่ 1.6 ฟิวส์ก้ามปู 18 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
3) ปลั๊กฟิวส์ หรือ เรียกอีกอย่างว่ า ฟิวส์หลอด เนื่องจากฟิวส์บรรจุไว้ในหลอดกระเบื้องที่มีทรายบรรจุ ไว้ รอบ ๆ เพื่อระบายความร้อน
ภาพที่ 1.7 ปลั๊กฟิวส์ 4) คาร์ทริดจ์ฟิวส์ (Cartridge Fuse) เรียกว่า ฟิวส์กระบอก ใช้ติดตั้งในเซฟตี้สวิตช์ มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ 1) แบบปลอก มีขนาดเล็ก ทนกระแสได้ตั้งแต่ 10 A – 60 A 2) แบบใบมีด มีขนาดใหญ่ ทนกระแสได้ตั้งแต่ 70 A ขึ้นไป สามารถเปลี่ยนไส้ฟิวส์ได้ 1.3 เซฟตี้สวิตช์ (Safety Switch) ทาหน้ าที่ป้ องกันกระแสไฟฟ้าไหลเกิน ในวงจร และสามารถใช้เปิดปิดวงจรเซฟตี้สวิตช์ มีส่วนประกอบ ดังนี้ 1) ตู้สวิตช์ ทามาจากโลหะแข็งแรง ทนต่อแรงระเบิดของฟิวส์ได้ 2) ฝาตู้ 3) ฐานยึดฟิวส์ ต้องยึดติดกับตู้ให้แน่น เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลสะดวกและทนต่อแรงดึงในการถอด และใส่ฟิวส์ 4) ฟิวส์ ใช้คาร์ทริดจ์ฟิวส์ 5) คันโยกสวิตช์ เป็นตัวเปิดปิดวงจรไฟฟ้า 6) ขั้วต่อสาย ต่อสายเมนที่มาจากระบบจ่ายไฟของการไฟฟ้า และเป็นขั้วต่อไปยังโหลดเซ็นเตอร์ 7) ขั้วต่อสายดิน ใช้เป็นขั้วต่อสายดินของวงจร
ภาพที่ 1.8 เซฟตี้สวิตช์ 19 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
1.4 โหลดเซ็ น เตอร์ (Load Center) ทาหน้าที่เป็นศูนย์รวมการควบคุมโหลดให้ตัดและต่อวงจรของแต่ละวงจรย่อย
ภาพที่ 1.9 โหลดเซ็นเตอร์ 1.5 สวิตช์ทิชิโน (Ticino) ใช้ในการควบคุมวงจรเฉพาะชุด เช่น ปั๊มน้า มอเตอร์ ตู้เย็น เป็นต้น อาศัยการทางานแผ่นโลหะ ที่เรียกว่า ชั้นท์คอยล์ทริป (Shunt Coil Trip) เพื่อปรับอัตราการไหลของกระแสไฟฟ้า
ภาพที่ 1.10 สวิตช์ทิชิโน 1.6 อุ ป กรณ์ ป้ อ งการลั ด วงจรลงดิ น เบรกเกอร์กันไฟดูด ELCB จะมีค่าความไวในการตรวจจับกระแสไฟรั่วหรือที่เรียกว่าค่า Sensitive มีหน่วยเป็น มิลลิแอมแปร์ : mA หลักการทางานของ ELCB คือการเปรียบเทียบกระแสไฟฟ้าระหว่างสายไฟ 2 สาย โดยที่ในสภาวะ ปกตินั้น กระแสไฟฟ้าที่ไหลไปกลับต้องมีค่าเท่ากัน ผลรวมของค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลไปและกลับจะมีค่าเท่ากับ 0 แต่หากมีกระแสรั่วออกจากระบบหรือมีคนถูกไฟดูด ผลรวมของกระแสไฟฟ้าที่ไหลไปและกลับจะไม่เป็น 0 และผลต่าง ที่เกิดขึ้น นี้หากมีค่ามากพอถึงจุดที่กาหนด ก็จะถูกส่งเข้าวงจรขยายสัญญาณ และสั่งการให้คอยล์แม่เหล็กภายใน ปลดวงจรออกทันที
20 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ภาพที่ 1.11 วงจรของอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด 1.7 รีเลย์ป้องกันทางไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ควบคุมสภาวะผิดปกติที่จะทาให้เกิดความเสียหายต่อวงจรไฟฟ้า โดยจะส่งสัญญาณให้เซอร์กิต เบรกเกอร์ตัดวงจรที่มีปัญหาทันที แต่ระบบใหญ่ยังสามารถทางานต่อไปได้ โดยมีรีเลย์หลายชนิดดังนี้ 1) รีเลย์ระยะไกล (Distance Relay) ใช้ตรวจสอบระยะทางในการเกิดฟอลต์ 2) รีเลย์ตรวจจับแรงดันต่าเกิน (Under Voltage) ทางานเมื่อแรงดันมีค่าต่าลงกว่าพิกัด 3) รีเลย์ตรวจจับแรงดันสูงเกิน (Over Voltage) ทางานเมื่อแรงดันมีค่าสูงเกินพิกัด
21 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบทดสอบ คาชี้แจง ให้ผู้รับการฝึกทาเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคาตอบข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าไม่จาเป็นต้องคานึงถึงสิ่งใด ก. กระแสไฟฟ้าที่ใช้งาน ข. คุณภาพของอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า ค. ลักษณะการใช้งาน ง. เวลาในการใช้งาน 2. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้า ก. ฟิวส์ ข. เทอร์มินอล ค. สายไฟ THW ง. สวิตช์ 3. พิกัดกระแสไฟของฟิวส์ก้ามปู สามารถสังเกตได้ที่ใด ก. แผ่นทองแดงที่ฟิวส์ ข. แผ่นป้ายปะเก็น ค. ขั้วเบรกเกอร์ ง. ตู้ควบคุม
22 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
กระดาษคาตอบ ข้อ
ก
ข
ค
1 2 3
23 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
รายละเอียดหัวข้อวิชาที่ 2 0921732202 การตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้า (ใบแนะนา) 1. ผลลัพธ์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้าก่อนเริ่มเดินเครื่องปรับอากาศได้ 2. ตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้าก่อนเริ่มเดินเครื่องปรับอากาศได้
2. หัวข้อสาคัญ - การตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมทางไฟฟ้า 3. วิธีการฝึกอบรม การฝึกอบรมสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ 1) การฝึกอบรมด้วยการส่งมอบสื่อสิ่งพิมพ์ 2) การฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรม 3) การฝึกอบรมด้วยสื่อในระบบออนไลน์ ดังรายละเอียดในข้อแนะนาสาหรับผู้รับการฝึก
4. อุปกรณ์ช่วยฝึก อุปกรณ์ช่วยฝึกสามารถเลือกใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ 1. รูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ (Offline) ประกอบด้วย - คู่มือผู้รับการฝึก เพื่อใช้ศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ - คู่มือการประเมิน เพื่อใช้ในการทดสอบ - สื่อวีดิทัศน์ (DVD) เพื่อประกอบการศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ 2. รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Online) ประกอบด้วย - คู่มือผู้รับการฝึกรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) เพื่อใช้ศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ - คู่มือการประเมินรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) เพื่อใช้ในการทดสอบ - สื่อวีดิทัศน์ (Online) เพื่อประกอบการศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
24 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
5. การรับการฝึกอบรม 1. ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบก่อนฝึก (Post-Test) แล้วส่งให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลตามวิธีที่เลือกฝึกอบรม 1.1 ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จะมีสิทธิ์ขอเข้ารับการฝึก ภาคปฏิบัติ (ถ้ามี) หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ครูฝึกกาหนดได้ 1.2 ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ผู้รับการฝึกเข้าฝึกอบรมภาคทฤษฎี 2. การฝึกอบรมภาคทฤษฎี ให้ผู้รับการฝึกศึกษาคู่มือผู้รับการฝึก และฝึกหัดทาใบทดสอบท้ายหัวข้อวิชา 3. เมื่อผู้รับการฝึกศึกษาคู่มือผู้รับการฝึกประจาโมดูลนั้นเข้าใจแล้ว ให้ทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) แล้วส่งให้ ครูฝึกหรือระบบประเมินผลเช่นเดียวกับแบบทดสอบก่อนฝึก 4. การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ ผู้รับการฝึกอ่านและทาความเข้าใจกับใบงาน ใบขั้นตอนการปฏิบัติงาน และเกณฑ์การวัด และประเมินผลงาน 5. ผู้รับการฝึกเข้ารับการฝึกที่ศูนย์ฝึกอบรมที่ลงทะเบียนหรือจองไว้ 6. ผู้รับการฝึกอ่านระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัยในการฝึกของหน่วยฝึก 7. ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงลาดับการปฏิบัติงานตามใบขั้นตอนการปฏิบัติงาน 8. ผู้รับการฝึกปฏิบัติงานตามใบงาน แล้วส่งให้ครูฝึกตรวจประเมินผล 9. ผู้รับการฝึกที่คะแนนผลงานผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 สามารถขอทดสอบเพื่อจบโมดูลที่ฝึกกับครูฝึก
6. การวัดผล 1. ผู้รับการฝึกส่งแบบทดสอบก่อนฝึก ให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลภาคทฤษฎีตามวิธีที่เลือกฝึกอบรม 1.1 ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จะมีสิทธิ์ขอเข้ารับการฝึก ภาคปฏิบัติ (ถ้ามี) หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไปได้ 1.2 ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ครูฝึกมอบหมายให้ผู้รับการฝึกศึกษาเนื้อหาจากสื่อด้วยตนเองจนเข้าใจ จึงทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) 2. ผู้รับการฝึกส่งแบบทดสอบหลังฝึก ให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลภาคทฤษฎี โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการประเมิน แบบทดสอบก่อนฝึก 3. ผู้รับการฝึกส่งผลงานในการฝึกภาคปฏิบัติให้ครูฝึกตรวจประเมินผลงานของผู้รับการฝึก โดยต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ ครูฝึกกาหนดได้
7. บรรณานุกรม ศิลารีเสิร์ช. Real Time Controller. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.es.co.th/Schemetic/PDF/SILA-TMX-28.PDF 25 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบข้อมูล หัวข้อวิชาที่ 2 การตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้า 1. การตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมทางไฟฟ้า 1.1 ระบบทาน้าเย็นระบายความร้อนด้วยน้า ระบบทาน้าเย็นระบายความร้อนด้วยน้า มีส่วนประกอบสาคัญ คือ เครื่องทาน้าเย็น (Chiller) เครื่องสูบน้าเย็น (Chiled Water Pump) เครื่ องสู บ น้ าระบายความร้ อน (Condenser Water Pump) หอผึ่ งน้า (Cooling Tower) เครื่ อ งส่ ง ลมเย็ น (Air Handintg Unit, Fan Coil Unit) ระบบปรั บ อากาศเมื่ อ ใช้ ง านไประยะเวลาหนึ่ ง จะท าให้ สมรรถนะลดลง ทาให้เกิดการใช้พลังงานสูงขึ้น หรือถ้ามีการใช้งานไม่ถูกต้องก็ทาให้เกิดการใช้พลังงานสูงเช่นกัน ดังนั้น ผู้ดูแลระบบปรับอากาศจะต้องศึกษาถึงการใช้ การดูแลรักษา และปรับปรุงระบบเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพสูงสุด 2 ส่วนหลัก ดังนี้ 1.1.1 การเปิดระบบปรับอากาศและการตรวจสอบการทางานก่อนการใช้ ระบบปรับอากาศต้องมีข้อมูล การสารวจว่าอาคารนั้น ๆ ในแต่ละเวลาของวัน มีภาระความเย็ นเท่าใด เพื่อจะได้เดินเครื่องปรับอากาศ ตามจานวนของภาระความเย็นในแต่ละเวลานั้น เช่น เริ่มเดินเครื่องทาน้าเย็น 1 ชุด ตั้งแต่เวลา 7.30 น. และเพิ่มขึ้นอีก 1 ชุด เวลา 10.00 น. และปิดเครื่องแรกก่อนเลิกใช้อาคาร 1 ชั่วโมง และเครื่องที่ 2 ปิดในเวลาเลิกงาน โดยผู้ดูแลจะต้องเป็นผู้วัดอุณหภูมิภายในอาคารว่าจะใช้ช่วงเวลาการปิดและ เปิดเครื่องปรับอากาศแต่ละชุดเท่าใด จึงจะไม่ทาให้สภาวะความสุขสบายของผู้อยู่อาศัยเสียไป ลาดับขั้นตอน การเปิดอุปกรณ์ในระบบต่าง ๆ ควรดาเนินการ ดังนี้ 1) เปิดหอผึ่งน้าในขนาดที่เหมาะสมกับเครื่องทาน้าเย็นที่จะเปิด 2) เปิดปั๊มน้าระบายความร้อนตามจานวนที่เปิดหอผึ่งน้า 3) เปิดปั๊มน้าเย็นในขนาดเท่ากับเครื่องทาน้าเย็น 4) เปิดเครื่องทาน้าเย็นในขนาดที่เหมาะสมกับภาระการปรับอากาศของอาคารขณะนั้น 5) ตรวจสอบอุณหภูมิของน้าเย็นได้ตามต้องการแล้วจึงเปิด FCU และ AHU กรณีถ้าความเย็น ยังไม่เพียงพอ จะต้องเปิดหอผึ่งน้าเพิ่มขึ้น โดยดาเนินการตามขั้นตอนที่กล่าวแล้ว ในการเปิด อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ควรให้อยู่ภายใน 15 นาทีเดียวกัน เนื่องจากจะทาให้เกินความต้องการไฟฟ้าสูงสุด ของอาคารได้ และในการเปิดเครื่องทาน้าเย็นเพิ่มนั้นต้องตรวจสอบอุณหภูมิน้าเย็นให้แน่ใจว่า อุณหภูมิน้าเย็นไม่ได้ตามที่ตั้งไว้และควรจะเปิดหอผึ่งน้าเพิ่มหรือไม่
26 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
6) ควรตรวจดูอุณหภูมิน้าระบายความร้อนที่เข้าเครื่องได้ตามที่กาหนดไว้หรือไม่หลังจากระบบ ทางานปกติแล้วควรตรวจสอบดูค่าต่าง ๆ ต่อไปนี้ - CHILLED WATER LEAVING POINT ปกติ เมื่ อ เครื่ อ งท างานได้ ถู ก ต้ อ งและเปิ ด ได้ เพียงพอกับภาระการปรับอากาศ และอ่านอุณหภูมิได้ 44 F หรือ 45 F ค่าที่อ่านได้ สูงกว่านี้จะแสดงผลว่าภาระการปรับอากาศยังสูง - CHILLED WATER ENTERING POINT ปกติ จ ะอ่ า นค่ า ได้ สู ง พอควร และจะได้ ค่าประมาณตั้งแต่ 52 F จน 58 F ถึง ค่าที่อ่านได้สูงขึ้นแสดงผลว่าภาระของระบบ ปรับอากาศของอาคารยังสูง - ENTERING CONDENSER TEMPERATURE ปกติจะอ่านค่าประมาณตั้งแต่ 85 F จนถึง 90 F อุณหภูมิที่สูงกว่านี้แสดงผลว่าเปิดหอผึ่งน้าน้อยเกินไป - LEAVING CONDENSER TEMPERATURE ปกติควรจะอ่านค่าได้โดยประมาณที่ช่วง 95100 F อุณหภูมิที่สูงกว่า 100 F แสดงว่าเปิดหอผึ่งน้าน้อยเกินไป ควรเปิดเพิ่ม เพื่อลดค่าการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เครื่องทาน้าเย็น - CHILLED WATER SET POINT ควรตั้งค่าไว้ที่ 45F - CURRENT LIMITING SET POINT ควรตั้งค่าไว้ที่ 80 - 90% - CAPACITY CONTROL โดยปกติจ ะสามารถเลือ กการใช้ง านได้เ ป็น 2 แบบ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและประสบการณ์ของช่างควบคุม - OIL PRESSURE ค่าความดันของน้ามันหล่อลื่นชุดคอมเพรสเซอร์ของระบบทั่ว ๆ ไป จะมีค่าประมาณ 45 - 60 psi - ค่าอื่น ๆ เช่น EVAPORATOR PRESSURE, ONDENSER PRESSURE OIL TEMPERATURE ของเครื่องทาน้าเย็นแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน ในที่นี้จะไม่แสดงค่าไว้ - POWER CONSUMPTION เป็นค่าที่แสดงการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องทาน้าเย็น หมายเหตุ ในการเดินอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าของระบบปรับอากาศในแต่ละขั้นตอนควรจะเดินโดยเว้นช่วงห่างกันประมาณ 2-3 นาที และถ้าเป็นไปได้โหลดใหญ่ๆควรเดินให้ห่างกันเกิน 15 นาที
27 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
1.1.2 การปิดระบบปรับอากาศ การปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ ควรปิดให้เร็วที่สุดโดยไม่จาเป็นต้องเว้นช่วงห่างในการปิด โดยเริ่มปิดเครื่องทา น้าเย็น ปิดปั๊มน้าระบายความร้อนและปิดหอผึ่งน้า ในส่วนปั๊มน้าเย็นและอุปกรณ์ส่งลมเย็น (AHU / FCU) สามารถเดินได้อีกประมาณ 15 - 30 นาที แล้วจึงปิด ดั งนั้นจะเห็นว่าก่อนเลิกงานประมาณ 15 - 30 นาที อุปกรณ์บางชุดสามารถหยุดได้แล้ว แต่ทั้งนี้ควรตรวจสอบอุณหภูมิภายในบริเวณปรับอากาศ หลังจากทาการหยุด เดินเครื่องทาน้าเย็นแล้ว เนื่องจากอาคารบางลักษณะไม่สามารถเก็บความเย็นไว้ได้นาน เพราะอาคารใช้วัสดุ ประกอบอาคารเป็นวัสดุที่ทาให้ความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคารได้มาก ดังนั้นบางอาคารอาจหยุดเครื่องทา น้าเย็นก่อนเลิกงานมากกว่า 30 นาที 1.2 ระบบทาน้าเย็นแบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air Cooled Water Chiller) ระบบทาน้าเย็นระบายความร้อนด้วยอากาศ จะมีส่วนประกอบส่วนใหญ่เหมือนกับระบบน้าเย็นระบายความร้อน ด้วยน้ า เพีย งแต่ขาดปั๊ มน้ าระบายความร้ อนและหอผึ่ งน้า ดังนั้น สารทาความเย็นในคอนเดนเซอร์ จะถูกระบาย ความร้อนออกโดยใช้อากาศแวดล้อม 2 ส่วนหลัก ดังนี้ 1.2.1 การเปิดระบบปรับอากาศ เริ่มจากการเปิดปั๊มน้าเย็น แล้วเปิดเครื่องทาน้าเย็นเพื่อทาความเย็นแก่น้าในระบบท่อก่อน แล้วจึงทยอยเปิด AHU และ FCU พร้ อ ม ๆ กั บ การเพิ่ ม เปอร์ เ ซนต์ โ หลดเอง เครื่ อ งท าน้ าเย็ น ในการตรวจสอบนั้ น ปฏิ บั ติ เช่นเดียวกับเครื่องทาน้าเย็นแบบระบายความร้อนด้วยน้า เรื่องการระบายความร้อนนั้น เครื่องปรับอากาศแบบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ จะมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ต่ากว่าแบบระบายความร้อนด้วยน้า เนื่องจากความจุความร้อนของอากาศต่ากว่าของน้าจึงส่งผลให้อากาศมีความสามารถในการพาความร้อนออกจาก ท่อคอนเดนเซอร์ได้น้อยกว่า ดังนั้น เครื่องทาน้าเย็นที่มีขนาดเท่ากัน เครื่องที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ จะมีความดันคอนเดนเซอร์สูงกว่าแบบระบายความร้อนด้วยน้า จึงทาให้ใช้พลังไฟฟ้าสูง 1.2.2 การปิดระบบปรับอากาศ เริ่ม จากการปิด เครื่อ งทาน้าเย็น ต่อ จากนั้น เว้น ช่ว งห่า งประมาณ 15-20 นาที แล้ว ค่อ ยปิด ปั๊ม น้ าเย็น และ AHU หรือ FCU เนื่องจากน้าในระบบท่อและความเย็นในอาคารยังคงหลงเหลื อที่จะใช้ไปได้อี กช่วง ระยะเวลาหนึ่ง
28 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบทดสอบ คาชี้แจง ให้ผู้รับการฝึกทาเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคาตอบข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ในการเปิดระบบทาน้าเย็นระบายความร้อนด้วยน้า ต้องเปิดอุปกรณ์ใดเป็นลาดับแรก ก. เครื่องทาน้าเย็น ข. ปัม๊ น้าระบายความร้อน ค. เปิดปั๊มน้าเย็น ง. หอผึ่งน้า 2. ค่าความดันของน้ามันหล่อลื่นชุดคอมเพรสเซอร์อยู่ที่ประมาณเท่าใด ก. 45-60 psi ข. 100-150 psi ค. 150 -200 psi ง. 60-70 psi 3. AHU ใช้นาเย็นจากส่วนใดในการทาความเย็น ก. FCU ข. ปั๊มน้าเย็น ค. คอมเพรสเซอร์ ง. เครื่องสูบน้าระบายความร้อน
29 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
กระดาษคาตอบ ข้อ
ก
ข
ค
1 2 3
30 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบงาน ใบงานที่ 2.1 การตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้า 1. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม - ตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้าก่อนเริ่มเดินเครื่องปรับอากาศได้
2. ระยะเวลาการฝึกปฏิบัติงาน - ระยะเวลาการฝึกปฏิบัติงาน รวม 2 ชั่วโมง
3. คาชี้แจง ให้ผู้รับ การฝึ กตั้ ง ค่าโปรแกรมการเปิด – ปิด เครื่ องปรั บอากาศแบบระบายความร้ อนด้วยน้า เพื่ อการประหยั ดพลั งงาน
แบบบันทึกข้อมูลพื้นฐาน Chilled Water Set Point
………………………………………………………………… °F
Current Limit Set Point
………………………………………………………………… %
Chilled Water Entering Point
………………………………………………………………… °F
Chilled Water Leaving Point
………………………………………………………………… °F
Condenser Water Entering Point ………………………………………………………………… °F Condenser Water Leaving Point ………………………………………………………………… °F 31 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบขั้นตอนการปฏิบัติงาน ใบขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ 2.1 การตั้งค่าอุปกรณ์ควบคุมการใช้กระแสไฟฟ้า 1. การเตรียมการ 1.1 การเตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลก่อนเริ่มปฏิบัติงาน ได้แก่ - ถุงมือผ้า - รองเท้านิรภัย - ชุดปฏิบัติการช่าง 1.2 รับฟังคาสั่งจากครูฝึก พร้อมรับใบงาน 1.3 การเตรียมสถานที่ 1. ตรวจสอบสภาพพื้นที่ปฏิบัติงาน ไม่ให้มีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือวัสดุอันตราย เช่น สายไฟฟ้าวาง กีดขวางอยู่ 2. ดูแลไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณปฏิบัติงาน 3. เตรียมชุดปฐมพยาบาลเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน 4. รับทราบจุดที่ตั้งของอุปกรณ์ช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ รวมถึงวิธีการใช้อุปกรณ์เหล่านั้น 1.4 การเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ต่อผู้รับการฝึก 1 คน - ชุดเครื่องปรับอากาศแบบระบายความร้อนด้วยน้าขนาด 150 - 500 ตัน
จานวน 1 ชุด
หมายเหตุ ตรวจสอบเครื่องมือว่ามีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ หากพบว่าเครื่องมือชิ้นใดชารุด ให้รายงานครูฝึกให้ทราบ 1.5 การเตรียมวัสดุต่อผู้รับการฝึก 1 คน 1. ดินสอ/ปากกา
จานวน 1 แท่ง
2. แบบบันทึกผล
จานวน 1 แผ่น
32 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
2. ลาดับการปฏิบัติงาน 2.1 การเปิดการทางานเครื่องปรับอากาศแบบระบายความร้อนด้วยน้า ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 1. ศึกษาข้อมูลจากคู่มือการใช้งาน
คาอธิบาย ศึกษาคู่มือการใช้งาน เครื่องปรับอากาศแบบระบาย ความร้อนด้วยน้าชนิดนั้น ๆ
2. เปิดหอผึ่งน้า
เปิ ด หอผึ่ ง น้ า (Cooling Tower) ใน ขนาดที่เหมาะสมกับเครื่องทาน้าเย็น ที่จะเปิด
33 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ข้อควรระวัง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 3. เปิดปั๊มน้า
คาอธิบาย เปิดปั๊มน้าเย็นในขนาดเท่ากับเครื่อง ทาน้าเย็น (Condenser Water Pump)
4. เปิดปั๊มน้าเครื่องทาน้าเย็นและเปิดเครื่อง เปิดปั๊มน้าเครื่องทาน้าเย็นและเปิด ทาน้าเย็น
เครื่องทาน้าเย็นในขนาดที่เหมาะสม กับภาระการปรับอากาศของอาคาร ขณะนั้น
34 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ข้อควรระวัง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 5. ตรวจอุณหภูมิน้าเย็นที่หน้าจอ
คาอธิบาย
ข้อควรระวัง
ตรวจอุณหภูมิน้าเย็นที่หน้าจอ แสดงผล
6. เปิด FCU และหรือ AHU
เปิด FCU และ/หรือ AHU
กรณีถ ้า น้ าเย็น ไม่พ อจะต้อ ง เ ป ิด ห อ ผึ ่ง น้ า เ พิ ่ม ขึ ้น โ ด ย ด า เ น ิน ก า ร ตามข้ อ ขั้ น ตอน เบื้ อ งต้ น ที ล ะขั้ น ตอน ในการ พิจารณาว่าควรเปิดหอผึ่งน้าเพิ่ม หรือไม่นั้น ต้องตรวจดูอุณหภูมิ น้าระบายความร้อนที่เข้าเครื่อง ว่าได้ตามที่ตั้งค่าไว้หรือไม่
7. ตรวจค่าต่าง ๆ จากหน้าจอของอุปกรณ์
หลังจากระบบทางานตามปกติแล้ว ให้
ต่าง ๆ
ตรวจค่าต่าง ๆ ต่อไปนี้จากหน้า จอแสดงผลของเครื่องปรับอากาศ
35 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 8. ตรวจค่า Chilled Water Entering Point
คาอธิบาย ตรวจ Chilled Water Entering Point ปกติจะอ่านค่าได้สูงพอควร โดยจะมีค่าประมาณ 52-58 °F (ฟาเรนไฮต์) ค่าที่อ่านได้สูงแสดงว่า ภาระของระบบปรับอากาศของ อาคารยังสูง
9. ตรวจค่า Chilled Water Leaving Point
ตรวจ Chilled Water Leaving Point ปกติเมื่อเครื่องทางานแล้วจะ อ่านค่าได้ 44-46 °F
10. ตรวจค่า Entering Condenser
ตรวจ Entering Condenser
Temperature
Temperature ปกติจะอ่านค่าได้ ประมาณ 85-90 °F อุณหภูมิที่สูงกว่า นี้แสดงว่าเปิดหอผึ่งน้าน้อยเกินไป
11.ตรวจค่า Leaving Condenser
ตรวจ
Leaving Condenser
Temperature
Temperature ป ก ติ อ่ า น ค่ า ไ ด้ ที่ ประมาณ 95-100 °F อุ ณ หภู มิ ที่ สู ง กว่า 100 ฟาเรนไฮต์ แสดงว่าเปิดหอ ผึ่งน้าน้อยเกินไป ควรเปิดเพิ่มเพื่อลด
36 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ข้อควรระวัง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
คาอธิบาย การใช้ พ ลั ง งานไฟฟ้ า ที่ เ ครื่ อ งท า น้าเย็น
12. ตรวจค่า Chilled Water Set Point
ตรวจ Chilled Water Set Point ควรตั้งไว้ที่ 45 °F
13. ตรวจค่า Current Limiting Set Point
ตรวจ Current Limiting Set Point ควรตั้งไว้ที่ 80-90%
14. ตรวจค่า Capacity Control
ตรวจ Capacity Control โดยปกติ จะสามารถเลือกการใช้งานได้เป็น 2 แ บ บ ขึ้ น อยู่ กั บ วิ จ ารณญาณ และ ประสบการณ์ของช่างควบคุม
37 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ข้อควรระวัง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 15. ตรวจค่า Oil Pressure
คาอธิบาย ตรวจ Oil Pressure ค่าความดันของ น้ ามั น หล่ อ ลื่ น คอมเพรสเซอร์ ข อง ระบบทั่ว ๆ ไปจะมีค่าประมาณ 4560 Psi
16. บันทึกค่าต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากนี้ล ง บั น ทึ ก ค่ า ต่ า ง ๆ เช่ น Evaporator ใบบันทึก
Pressure, Condenser Pressure, Oil Temperature ของเครื่องทาน้าเย็น แต่ละประเภทจะแตกต่างกัน
17. ตรวจ Power Consumption
ตรว จ Power Consumption เป็ น ค่าที่แสดงการใช้พลังงานของเครื่องทา น้าเย็น
38 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ข้อควรระวัง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 18. ส่งผลการบันทึก
คาอธิบาย ส่งผลการบันทึกให้ครูฝึกประเมิน
39 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ข้อควรระวัง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
2.2 การปิดการทางานเครื่องปรับอากาศแบบระบายความร้อนด้วยน้า ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 1. ศึกษาคู่มือการใช้งาน
คาอธิบาย ศึกษาคู่มือการใช้งาน เครื่องปรับอากาศแบบระบาย ความร้อนด้วยน้าชนิดนั้น ๆ
2. ปิดเครื่องทาความเย็น
ปิดเครื่องทาน้าเย็น (Chiller)
40 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ข้อควรระวัง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 3. ปิดปั๊มน้าระบายความร้อน และหอผึ่งน้า
คาอธิบาย ปิดปั๊มน้าระบายความร้อน และ
ปั๊มน้าเย็นและอุปกรณ์ส่งลมเย็น
หอผึ่งน้า โดยยังคงให้ปั๊มน้าเย็น
(AHU,FCU) สามารถเดินได้อีก
ทางานต่ออีกระยะหนึ่ง
ประมาณ 15-30 นาทีแล้วจึงปิด
4. ปิดปั๊มน้าเย็นและอุปกรณ์ส่งลมเย็น เป็น ลาดับสุดท้ายปิดปั๊มน้าเย็นและ ลาดับสุดท้าย
ข้อควรระวัง
อุปกรณ์ส่งลมเย็น (AHU,FCU) สามารถเดินได้อีกประมาณ 15-30 นาทีแล้วจึงปิด
41 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
3. ตรวจสอบชิ้นงาน ตรวจสอบและบันทึกข้อบกพร่องต่อไปนี้ ลาดับที่ 1
2
รายการตรวจสอบ
เกณฑ์การพิจารณา
เปิด – ปิด เครื่องปรับอากาศแบบระบายความร้อนด้วยน้า 1.1 เปิดเครื่องปรับอากาศแบบระบายความร้อนด้วยน้าได้ถูกต้อง
ความถูกต้องตามวิธีการปฏิบัติงาน
1.2 ปิดเครื่องปรับอากาศแบบระบายความร้อนด้วยน้าได้ถูกต้อง
ความถูกต้องตามวิธีการปฏิบัติงาน
1.3 บันทึกข้อมูลได้ถูกต้อง
ความถูกต้องตามวิธีการปฏิบัติงาน
กิจนิสัย 2.1 เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์อย่างถูกต้องและครบถ้วน
ความถูกต้องตามวิธีการใช้งาน
2.2 สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลอย่างถูกต้องและ
ความถูกต้องตามวิธีการใช้งาน
ครบถ้วน ก่อนเริ่มปฏิบัติงาน 2.3 ปฏิบัติตามลาดับขั้นตอนการทางาน
ความถูกต้องตามวิธีการปฏิบัติงาน
2.4 ความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติงาน
ความถูกต้องตามวิธีการปฏิบัติงาน
2.5 การเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และทาความสะอาดพื้นที่
ความถูกต้องตามวิธีการใช้งาน
ปฏิบัติงาน
42 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบให้คะแนนการตรวจสอบ ลาดับที่
รายการประเมิน
เกณฑ์การให้คะแนน
คะแนนเต็ม
คะแนนที่ ได้
1
การปฏิบัติงาน
15
1.1 เปิดเครื่องปรับอากาศแบบระบายความ
- เปิด เครื ่อ งปรับ อากาศตามล าดับ ขั ้น ตอนการท างานทุ ก
ร้อนด้วยน้าได้ถูกต้อง
ขั้ นตอน ให้ คะแนน 5 คะแนน
5
- เปิ ด เครื่ อ งปรั บ อากาศผิ ด ล าดั บ ขั้ น ตอน หั ก คะแนนจุ ด ละ 1 คะแนน 1.2 ปิดเครื่องปรับอากาศแบบระบายความ
- ปิด เครื่อ งปรับ อากาศตามลาดับ ขั้นตอนการทางานทุก ขั้นตอน
ร้อนด้วยน้าได้ถูกต้อง
ให้ คะแนน 5 คะแนน
5
- ปิดเครื่องปรับอากาศผิดลาดับขั้นตอน หักคะแนนจุดละ 1 คะแนน 1.3 บันทึกข้อมูลได้ถูกต้อง
- บันทึกข้อมูลได้ถูกต้อง ครบถ้วน ให้คะแนน 5 คะแนน
5
- บั น ทึ ก ข้ อ มู ล ผิ ด พลาด หรื อ ไม่ ไ ด้ บั น ทึ ก หั ก คะแนนจุ ด ละ 1 คะแนน 2
กิจนิสัย
5
2.1 เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์อย่างถูกต้อง
- ปฏิบัติได้ครบถ้วน ถูกต้อง ให้คะแนน 1 คะแนน
และครบถ้วน
- ปฏิบัติไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ให้คะแนน 0 คะแนน
1
2.2 สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล - ปฏิบัติได้ครบถ้วน ถูกต้อง ให้คะแนน 1 คะแนน อย่างถูกต้องและครบถ้วน ก่อนเริ่มปฏิบตั ิงาน - ปฏิบัติไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ให้คะแนน 0 คะแนน
1
2.3 ปฏิบัติตามลาดับขั้นตอนการทางาน
1
- ปฏิบัติได้ครบถ้วน ถูกต้อง ให้คะแนน 1 คะแนน - ปฏิบัติไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ให้คะแนน 0 คะแนน
2.4 ความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติงาน
- ปฏิบัติได้ครบถ้วน ถูกต้อง ให้คะแนน 1 คะแนน - ปฏิบัติไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ให้คะแนน 0 คะแนน
1
2.5 การเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และทา
- ปฏิบัติได้ครบถ้วน ถูกต้อง ให้คะแนน 1 คะแนน
1
ความสะอาดพื้นที่ปฏิบัติงาน
- ปฏิบัติไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ให้คะแนน 0 คะแนน คะแนนเต็ม
20
หมายเหตุ หากผู้เข้ารับการฝึกได้รับคะแนน 14 คะแนนขึ้นไป (คะแนนมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 70) ให้ผู้เข้ารับการฝึก ขอเข้ารับการทดสอบภาคปฏิบัติได้
43 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
รายละเอียดหัวข้อวิชาที่ 3 0921732203 การเลือกขนาดสายไฟฟ้ากาลัง และสายไฟฟ้าควบคุมตามมาตรฐานการติดตั้ง (ใบแนะนา) 1. ผลลัพธ์การเรียนรู้ - อธิบายการเลือกขนาดสายไฟฟ้ากาลัง และสายไฟฟ้าควบคุมตามมาตรฐานการติดตั้งได้
2. หัวข้อสาคัญ 1. การเลือกขนาดสายไฟฟ้ากาลัง 2. การเลือกขนาดสายไฟฟ้าควบคุม
3. วิธีการฝึกอบรม การฝึกอบรมสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ 1) การฝึกอบรมด้วยการส่งมอบสื่อสิ่งพิมพ์ 2) การฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรม 3) การฝึกอบรมด้วยสื่อในระบบออนไลน์ ดังรายละเอียดในข้อแนะนาสาหรับผู้รับการฝึก
4. อุปกรณ์ช่วยฝึก อุปกรณ์ช่วยฝึกสามารถเลือกใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ 1. รูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ (Offline) ประกอบด้วย - คู่มือผู้รับการฝึก เพื่อใช้ศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ - คู่มือการประเมิน เพื่อใช้ในการทดสอบ - สื่อวีดิทัศน์ (DVD) เพื่อประกอบการศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ 2. รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Online) ประกอบด้วย - คู่มือผู้รับการฝึกรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) เพื่อใช้ศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ - คู่มือการประเมินรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (.pdf) เพื่อใช้ในการทดสอบ - สื่อวีดิทัศน์ (Online) เพื่อประกอบการศึกษาภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
44 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
5. การรับการฝึกอบรม 1. ผู้รับการฝึกทาแบบทดสอบก่อนฝึก (Post-Test) แล้วส่งให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลตามวิธีที่เลือกฝึกอบรม 1.1 ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จะมีสิทธิ์ขอเข้ารับการฝึก ภาคปฏิบัติ (ถ้ามี) หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ครูฝึกกาหนดได้ 1.2 ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ผู้รับการฝึกเข้าฝึกอบรมภาคทฤษฎี 2. การฝึกอบรมภาคทฤษฎี ให้ผู้รับการฝึกศึกษาคู่มือผู้รับการฝึก และฝึกหัดทาใบทดสอบท้ายหัวข้อวิชา 3. เมื่อผู้รับการฝึกศึกษาคู่มือผู้รับการฝึกประจาโมดูลนั้นเข้าใจแล้ว ให้ทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) แล้วส่งให้ ครูฝึกหรือระบบประเมินผลเช่นเดียวกับแบบทดสอบก่อนฝึก 4. การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ ผู้รับการฝึกอ่านและทาความเข้าใจกับใบงาน ใบขั้นตอนการปฏิบัติงาน และเกณฑ์การวัด และประเมินผลงาน 5. ผู้รับการฝึกเข้ารับการฝึกที่ศูนย์ฝึกอบรมที่ลงทะเบียนหรือจองไว้ 6. ผู้รับการฝึกอ่านระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัยในการฝึกของหน่วยฝึก 7. ผู้รับการฝึกฟังคาชี้แจงลาดับการปฏิบัติงานตามใบขั้นตอนการปฏิบัติงาน 8. ผู้รับการฝึกปฏิบัติงานตามใบงาน แล้วส่งให้ครูฝึกตรวจประเมินผล 9. ผู้รับการฝึกที่คะแนนผลงานผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 สามารถขอทดสอบเพื่อจบโมดูลที่ฝึกกับครูฝึก
6. การวัดผล 1. ผู้รับการฝึกส่งแบบทดสอบก่อนฝึก ให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลภาคทฤษฎีตามวิธีที่เลือกฝึกอบรม 1.1 ถ้าผลการประเมินผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จะมีสิทธิ์ขอเข้ารับการฝึก ภาคปฏิบัติ (ถ้ามี) หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไปได้ 1.2 ถ้าผลการประเมินต่ากว่าร้อยละ 70 ให้ครูฝึกมอบหมายให้ผู้รับการฝึกศึกษาเนื้อหาจากสื่อด้วยตนเองจน เข้าใจ จึงทาแบบทดสอบหลังฝึก (Post-Test) 2. ผู้รับการฝึกส่งแบบทดสอบหลังฝึก ให้ครูฝึกหรือระบบประเมินผลภาคทฤษฎี โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการประเมิน แบบทดสอบก่อนฝึก 3. ผู้รับการฝึกส่งผลงานในการฝึกภาคปฏิบัติให้ครูฝึกตรวจประเมินผลงานของผู้รับการฝึก โดยต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ตามที่กาหนดในเอกสารโครงร่างหลักสูตร จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการฝึกในโมดูลถัดไป หรือเข้ารับการฝึกในโมดูลที่ ครูฝึกกาหนดได้
45 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
7. บรรณานุกรม ธารงศักดิ์ หมินก้าหรีม. 2559. กฎและมาตรฐานทางไฟฟ้า. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี : ศูนย์หนังสือเมืองไทย. ลือชัย ทองนิล. มาตรฐานการติดตั้ง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: ttp://www.technologymedia.co.th/articledetail .asp?arid=2492&pid=257
46 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบข้อมูล หัวข้อวิชาที่ 3 การเลือกขนาดสายไฟฟ้าตามมาตรฐานการติดตั้ง การเลือกขนาดของสายไฟฟ้ามีความสาคัญกับวงจรไฟฟ้ามาก เนื่องจากขนาดของสายไฟฟ้าจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงปริมาณมากน้อย ที่สามารถรับกระแสไฟฟ้าได้ ดังนั้น การเลือกขนาดสายไฟต้องเลือกให้มีขนาดเหมาะสม ซึ่งสายไฟฟ้ามีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ สายไฟฟ้ากาลัง และสายไฟฟ้าควบคุม สาหรับการเลือกขนาดของสายไฟทั้งสองประเภทมีลักษณะคล้ายคลึงกัน และอิงตามมาตรฐาน เดียวกันได้ 1. การเลือกขนาดสายไฟฟ้ากาลัง มาตรฐานที่กาหนดของสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนนั้นจะแบ่งตามลักษณะของสายไฟฟ้า ซึ่งมีดังนี้ 1) สายไฟฟ้าทองแดงหุ้มฉนวน พีวีซี ตาม มอก.11 – 2553 สายไฟชนิดนี้จะมีตัวนาไฟฟ้าเป็นทองแดง และมีพีวีซี เป็นฉนวนหุ้ม โดยมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมควบคุมบังคับใช้ 2) สายไฟฟ้าอะลูมิเนียมหุ้มฉนวน พีวีซี ตาม มอก. 293 -2541 สายไฟชนิดนี้จะมีตัวนาไฟฟ้าเป็นอะลูมิเนียม และมีพีวีซีเป็นฉนวนหุ้ม มีน้าหนักเบาแต่มีขนาดใหญ่กว่าสายตัวนาทองแดงในขนาดกระแสเท่ากัน จึงนิยมใช้ ในงานไฟฟ้าชั่วคราว ไม่อนุญาตให้ใช้กับระบบสายแรงต่าภายใน 3) สายไฟฟ้าตามมาตรฐานการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คือ สายไฟฟ้าที่ไม่ได้ผลิ ตตาม มาตรฐาน มอก. เช่น สายไฟฟ้า ทองแดงหุ้มฉนวนแข็ง แบบดรอสลิง ค์โ พลีเ อทีลีน สายเคเบิล เอ็ ม ไอ (MI-Mineral Insulated) ซึ่งเป็นสายชนิดทนอุณหภูมิสูงสีฉนวนตามมาตรฐาน มอก. 11-2553 ดังตารางที่ 3.1 ตารางที่ 3.1 การเทียบเคียงสีฉนวนสายไฟฟ้า ชื่อสายไฟ
สีฉนวน
สีฉนวน
มอก.11-2531
มอก.11-2553
L1
ดา
น้าตาล
L2
แดง
ดา
L3
น้าเงิน
เทา
N
เทา หรือ ขาว
ฟ้า
G
เขียวแถบเหลือง
เขียวแถบเหลือง
47 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
สีฉนวน ตามมาตรฐาน มอก.11-2553 1 แกน : ไม่กาหนดสี 2 แกน : สีฟ้าและสีน้าตาล 3 แกน : สีฟ้า สีน้าตาล และสีเขียวแถบเหลือง หรือ สีน้าตาล สีดา และสีเทา 4 แกน : สีน้าตาล สีดา สีเทา และสีเขียวแถบเหลือง หรือ สีฟ้า สีน้าตาล สีดา และสีเทา 5 แกน : สีฟ้า สีน้าตาล สีดา สีเทา และสีเขียวแถบเหลือง หรือ สีฟ้า สีน้าตาล สีดา สีเทา 2. การเลือกขนาดสายไฟฟ้าควบคุม ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับพื้นที่หน้าตัดของตัวนาที่จะยอมให้กระแสไหลผ่านได้ นอกจากนี้ สายไฟฟ้าแต่ละ ชนิดมีวิธีการเดิน สายที่ต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อขนาดกระแสของสายที่มีพื้นที่หน้าตัดเท่ากัน และอีกปัจจัยที่มีผลต่อขนาด กระแสของสายไฟฟ้า คือ ความร้อนของตัว นาไฟฟ้า เนื่องจากกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านทาให้อุณหภูมิของตัว นาสูงขึ้น หากระบายความร้อนไม่ดีอาจทาให้เกิดการไหม้ได้ ดังนั้น การเลือกใช้สายไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กาหนด โดยขนาด กระแสไฟฟ้าตามมาตรฐานจะกาหนดให้ใช้งานที่อุณหภูมิโดยรอบ 40 องศาเซลเซียส แต่ถ้าหากบริเวณที่ใช้งานที่มีอุณหภูมิสูง กว่าข้างต้นควรลดขนาดกระแสของสายไฟฟ้า และในกรณีสายไฟฟ้าที่มีระยะความยาวของสายมากจะส่งผลให้แรงดันตกในสาย ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดย ใช้สายไฟฟ้าที่มีขนาดพื้นที่หน้าตัดใหญ่ขึ้นหรือใช้สายมากกว่า 1 เส้นต่อเฟส เพื่อ ลดความ ต้านทานของสายไฟฟ้า การเดิน สายไฟฟ้า ในช่อ งเดินสายไฟฟ้านั้น กรณีที่มีจานวนสายไฟฟ้า มากกว่า 3 เส้น ในท่อ ร้อยสายหรือ มากกว่า 30 เส้น ในรางเดินสายเดียวกัน โดยไม่นับสายดิน จะต้องใช้ตัวคูณลดขนาดกระแสของสายไฟฟ้า เนื่องจากอุณหภูมิในช่องเดินสายที่สูงขึ้นเพราะจานวนสายที่มากขึ้น ตารางที่ 3.2 ตัวคูณค่ากระแสของสายเนื่องจากจานวนสายหลายเส้นในช่องเดินสายเดียวกัน จานวนสาย
ตัวคูณ
4–6
0.82
7–9
0.72
10 – 20
0.56
21 – 30
0.48
31 – 40
0.44
เกิน 40
0.38
48 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
- ขนาดของสายไฟและการเลือกใช้ขนาดสายไฟสาหรับอาคารและโรงงาน ซึ่งใช้กระแสไฟที่ 380 โวลต์ ต้องใช้สายไฟที่สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าที่มีแรงดันสูง ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังนี้ ชนิดของสายไฟฟ้าและลักษณะการติดตั้ง สายไฟฟ้าตาม มอก. 11-2553 ซึ่งเป็นตัวนาทองแดงเท่านั้น โดยแต่ละชนิดจะมีข้อกาหนดและลักษณะการใช้งาน ที่ต่างกันไป ดังนั้นจาเป็นต้องเลือกใช้งานให้ถูกต้องและเหมาะสม 1) สายไฟฟ้าชนิดทีเอสดับบลิว (THW) ภาพที่ 3.1 ลักษณะสายทีเอสดับบลิว โครงสร้าง - ตัวนาทองแดง - ไม่กาหนดสีของฉนวน การติดตั้ง - เดิน ลอยต้อ งยึด ด้ว ยวัส ดุฉ นวน เอนในช่อ งเดิน ส่า ยในสถานที่แ ห้ง ห้า มฝัง ดิน โดยตรง สามารถเดิน ร้อ ยฝัง ดิน แต่ต ้อ งป้อ งกัน น้ าไม่ใ ห้เ ข้า ภายในท่อ และไม่ใ ห้ส ายแช่น้ า แรงดันไฟฟ้า ที่กาหนด 750 โวลต์ ตารางที่ 3.3 ขนาดสายไฟฟ้าชนิดทีเอสดับบลิว ขนาดสาย (มม.2)
เส้นผ่าศูนย์กลางสายไฟฟ้า (มม.)
พื้นที่หน้าตัดสายไฟฟ้า (มม.2)
0.5
3
7.07
1
3.3
8.55
1.5
3.6
10.18
2.5
4
12.57
4
4.8
18.10
6
5.8
26.42
10
7.2
40.72
16
8.4
55.42
25
10.5
86.59
35
11.5
103.87 49
กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขนาดสาย (มม.2)
เส้นผ่าศูนย์กลางสายไฟฟ้า (มม.)
พื้นที่หน้าตัดสายไฟฟ้า (มม.2)
50
13.5
143.14
70
15.5
188.69
95
18
254.47
120
19.5
198.65
150
21.5
363.05
185
24
452.56
240
27
572.56
300
30
706.86
400
33.5
881.41
500
38
1,134.11
2) สายไฟฟ้าชนิดเอ็นวายวาย (NYY) ภาพที่ 3.2 ลักษณะสายเอ็นวายวาย โครงสร้าง - ตัวนาทองแดง - สีของฉนวนตามตารางที่ 3.1 - เปลือกในพีวีซีสีดา - เปลือกนอกพีวีซีสีดา การติดตั้ง - ใช้งานทั่วไป เดินร้อยท่อฝังดิน ฝังดินโดยตรงแรงดันไฟฟ้าที่กาหนด 750 โวลต์
50 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ตารางที่ 3.4 ขนาดสายไฟฟ้าชนิดเอ็นวายวาย ขนาดสาย
เส้นผ่าศูนย์กลางสายไฟฟ้า (มม.)
พื้นที่หน้าตัดสายไฟฟ้า (มม.2)
(มม.2)
แกนเดียว
2 แกน
3 แกน
4 แกน
แกนเดียว
2 แกน
3 แกน
4 แกน
1
8.6
12
12.5
13.5
58.09
113.10
122.72
143.14
1.5
9
12.5
13
14
63.62
122.72
132.73
1533.94
2.5
9.4
13.5
14
15
69.40
143.14
153.94
176.71
4
10
15
15.5
17
78.54
176.71
188.69
226.98
6
11
17
18
19
95.03
226.98
254.47
283.53
10
12
19.5
20.5
23
113.10
298.65
330.06
415.48
16
13
22.5
24.5
26.5
132.73
397.61
471.11
551.55
25
14.5
27
28.5
31
165.13
572.56
637.94
754.77
35
16
29.5
31.5
35
201.06
683.49
779.31
962.11
50
17
33.5
36
39.5
226.98
881.41
1,017.88
1,225.42
70
19
38
40.5
44.5
283.53
1,134.11
1,288.25
1,555.28
95
21.5
42.5
46
51.5
363.05
1,418.63
1,661.90
2,083.07
120
23
46.5
50.5
56
415.48
1,698.23
2,002.96
2,463.01
150
26
52
56
62
530.96
2,123.72
2,463.01
3,019.07
185
28
57
61.5
68
615.75
2,551.76
2,970.57
3,631.68
240
31.5
64
69
76.5
779.31
3,216.99
3,739.28
4,596.35
300
35
70.5
76
85
962.11
3,903.63
4,536.46
5,674.50
400
38.5
-
-
-
1,164.16
-
-
-
500
43
-
-
-
1,452.20
-
-
-
51 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
3) สายไฟฟ้าชนิดวีซีที (VCT)
ภาพที่ 3.3 ลักษณะสายไฟฟ้าชนิดวีซีท โครงสร้าง - ตัวนาทองแดง - สีของฉนวนตามตารางที่ 3.1 - เปลือกพีวีซีสีดา การติดตั้ง - ใช้งานทั่วไป เดินร้อยท่อฝังดิน ฝังดินโดยตรง ใช้ต่อเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าที่กาหนด 750 โวลต์ ตารางที่ 3.5 ขนาดสายไฟฟ้าชนิดวีซีที ขนาดสาย
เส้นผ่าศูนย์กลางสายไฟฟ้า (มม.)
พื้นที่หน้าตัดสายไฟฟ้า (มม.2)
(มม.2)
แกนเดียว
2 แกน
3 แกน
4 แกน
แกนเดียว
2 แกน
3 แกน
4 แกน
0.5
5.4
8.8
9.2
10.5
22.90
60.82
66.48
86.59
0.75
5.6
9.2
9.6
11
24.63
66.48
72.38
95.03
1
6.2
9.6
10.5
12
30.19
72.38
86.59
113.10
1.5
6.6
11
11.5
12.5
34.21
95.03
103.87
122.72
2.5
7.4
12.5
13
15
43.01
122.72
132.73
176.71
4
8.6
14.5
15.5
17
58.09
165.13
188.69
226.98
6
9.4
16
17.5
19.5
69.40
201.06
240.53
298.65
10
12
20
21.5
24
113.10
312.16
363.05
452.39
16
13.5
23
25
28
143.14
415.48
490.87
615.75
25
16
27
30
33
201.06
593.96
706.86
855.30
35
17.5
31
33.5
37
240.53
754.77
811.41
1,075.21
50
21
-
-
-
346.36
-
-
-
52 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขนาดสาย
เส้นผ่าศูนย์กลางสายไฟฟ้า (มม.)
พื้นที่หน้าตัดสายไฟฟ้า (มม.2)
(มม.2)
แกนเดียว
2 แกน
3 แกน
4 แกน
แกนเดียว
2 แกน
3 แกน
4 แกน
70
23
-
-
-
415.48
-
-
-
95
26.5
-
-
-
551.55
-
-
-
การเลือกสายไฟฟ้าและเซอร์กิตเบรกเกอร์ให้เหมาะสมกับโหลด การเลือกสายไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้กระแสไฟฟ้า จะต้องพิจารณาที่พิกัดการทนกระแสของสายไฟฟ้า ถ้าอุปกรณ์ท่ีใช้กระแสไฟฟ้ามากควรใช้สายไฟขนาดใหญ่ ถ้าอุปกรณ์ใช้กระแสไฟฟ้าน้อยควรใช้สายไฟขนาดเล็ก โดยขั้นตอนการหาขนาดสายไฟฟ้า มีดังนี้ 1) ต้องทราบค่ากระแสไฟฟ้าที่อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ ในเครื่องปรับอากาศจะมีฉลากติดที่อุปกรณ์ รุ่น
DK040S130
Model ประสิทธิภาพการทาความเย็น
114,190 BTU/h
Cooling Capacity ระบบไฟฟ้า
380 V.
Power Source
3 PH. 50 Hz.
กระแสไฟฟ้า
กาลังไฟฟ้า
Current
Power
30 Amps.
ขนาด
34,436 W.
(77×34.5×68.2) inches
Overall Dimensions
ถ้าหากไม่มีฉลากระบุ สามารถคานวณค่ากระแสไฟฟ้าได้จาก I = P/U โดย
I = ค่ากระแสไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้า หน่วย แอมป์ (A) P = ค่ากาลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้า หน่วย วัตต์ (W) U = ค่าแรงดันไฟฟ้าที่อุปกรณ์ใช้งาน หน่วย โวลต์ (V)
53 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ตัวอย่างที่ 1 เครื่องปรับอากาศ กาลังไฟฟ้า 22,800 วัตต์ ใช้แรงดันไฟฟ้าในประเทศไทย 380 โวลต์ แทนค่าในสูตรด้านบน จะได้ I
= 34,436 W / 380 V = 90.62 A
2) คิดค่ ากระแสไฟฟ้าเพิ่ มอี ก 25% เนื่ อ งจากอุ ปกรณ์ ไฟฟ้าที่ใช้ งานติ ดต่ อกั นเกิ น 3 ชั่ ว โมงขึ้น ไป ส่ งผลให้ ป ระสิ ทธิภ าพการทนของกระแสของสายไฟฟ้าลดลง จึงต้องคานวณเผื่อสาหรับอัตราการทน กระแสไฟฟ้าด้วย จากตัวอย่างที่ 1 คานวณค่ากระแสไฟฟ้าทั้งหมด ได้ดังนี้ ค่ากระแสไฟฟ้า = 90.62 x 1.25 = 113.27 A 3) เทียบค่ากระแสไฟฟ้าที่คานวณได้กับตารางหาขนาดสายไฟฟ้า ตารางที่ 3.6 แสดงขนาดกระแสของสายไฟฟ้า ขนาดกระแส (แอมแปร์) วิธีการเดินสาย (ดูหมายเหตุ)
ขนาดสาย (ตร.มม.)
ก
ข
0.5
9
1
ค
ง
จ
ท่อโลหะ
ท่อโลหะ
ท่อโลหะ
ท่อโลหะ
8
8
7
10
9
-
14
11
11
10
15
13
21
1.5
17
15
14
13
18
16
26
2.5
23
20
18
17
24
21
34
4
31
27
24
23
32
28
45
6
42
35
31
30
42
36
56
10
60
50
43
42
58
50
75
16
81
66
56
54
77
65
97
25
111
89
77
74
103
87
125
35
137
110
95
91
126
105
50
50
169
-
119
114
156
129
177
70
217
-
148
141
195
160
216
95
271
-
187
180
242
200
259
120
316
-
214
205
279
228
294
54 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ขนาดกระแส (แอมแปร์) ขนาดสาย
วิธีการเดินสาย (ดูหมายเหตุ)
(ตร.มม.)
ค
ก
ข
150
364
185
ง
จ
ท่อโลหะ
ท่อโลหะ
ท่อโลหะ
ท่อโลหะ
-
251
236
322
259
330
424
-
287
269
370
296
372
240
509
-
344
329
440
352
431
300
592
-
400
373
508
400
487
400
696
-
474
416
599
455
552
500
818
-
541
469
684
516
623
ตามตารางค่าทนกระแสไฟฟ้าของสายไฟฟ้าจะแตกต่างกันไปขึ้นกับวิธีการเดินสาย ดังนี้ - แบบ ก หมายถึง สายแกนเดียวหุ้มฉนวนเดินในอากาศ - แบบ ข หมายถึง สายแบบหุ้มฉนวนมีเปลือกเดินเกาะผนัง - แบบ ค หมายถึง สายแกนเดียวหุ้มฉนวนไม่เกิน 3 เส้น หรือสายหุ้มฉนวนมีเปลือกไม่เกิน 3 แกน เดินในท่อ ในอากาศ ในท่อฝัง ในผนังปูน ในท่อ หรือในฝ้าเพดาน - แบบ ง หมายถึง สายแกนเดียวหุ้มฉนวนไม่เกิน 3 เส้น หรือสายหุ้มฉนวนมีเปลือกไม่เกิน 3 แกน เดินในท่อฝังดิน - แบบ จ หมายถึง สายแกนเดียวหุ้มฉนวนมีเปลือกไม่เกิน 3 แกนฝังดินโดยตรง ในกรณี ตั ว อย่ า งที่ 1 ถ้าต้องการเดิ น สายไฟฟ้ า แบบ ค โดยที่มีค่าการใช้ กระแส 113.27 จากตารางพบว่ า สายไฟฟ้าที่เหมาะสม คือ ขนาด 50 ตร.มม. ซึ่งมีค่าทนกระแสไฟฟ้าถึง 114 A เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย เนื่องจาก ความร้อนของสายไฟฟ้ามากเกินไป ส่วนเซอร์กิตเบรกเกอร์ ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันการลัดวงจร จะพิจารณาจากค่ากระแสไฟฟ้าที่เครื่องปรับอากาศใช้ ในกรณีตัว อย่างที่ 1 ค่ากระแสไฟฟ้าที่เครื่องปรับอากาศใช้ เท่ากับ 113.27 A ดังนั้น เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่เหมาะสม ควรเป็นขนาด 120 A สายต่อหลักดิน สายต่อหลักดิน เป็นตัวนาที่อยู่ระหว่างขั้วต่อสายดินกับหลักดิน ซึ่งเป็นตัวนาทองแดงเปลือยหรือหุ้มด้วยฉนวน โดยขนาดของสายต่อหลักดินจะต้องทนกระแสลัดวงจร 55 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ตารางที่ 3.7 ขนาดต่าสุดของสายต่อหลักดิน ขนาดตัวนาประธาน (ตัวนาทองแดง) (มม.2)
ขนาดต่าสุดของสายต่อหลักดิน (มม.2)
ไม่เกิน 35
10
เกิน 35 แต่ไม่เกิน 50
16
เกิน 50 แต่ไม่เกิน 95
25
เกิน 95 แต่ไม่เกิน 185
35
เกิน 185 แต่ไม่เกิน 300
50
เกิน 300 แต่ไม่เกิน 500
70
เกิน 500
95
โดยสายต่อหลักดินที่มีขนาด 10 มม.2 ควรติดตั้งในท่อโลหะหนา ปานกลาง บาง เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย ทางกายภาพ
56 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
ใบทดสอบ คาชี้แจง ให้ผู้รับการฝึกทาเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคาตอบข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ในกรณีที่มีสายไฟจานวน 12 สายในต้องในช่องเดินสายเดียวกันจะใช้ตัวคูณที่จานวนเท่าใด ก. 0.44 ข. 0.56 ค. 0.48 ง. 0.38 2. ตามมาตรฐาน มอก. 11-2553 สายไฟ 2 แกน มีฉนวนสีอะไรบ้าง ก. สีฟ้าและสีน้าตาล ข. สีเขียวและสีดา ค. เขียว ง. ดา 3. หากสายไฟมีความร้อนมากเกินไปจะเกิดผลอย่างไร ก. นากระแสไฟได้น้อยลง ข. ไม่สามารถทนน้าได้ ค. ฉนวนอาจเกิดสนิม ง. สายอาจไหม้ได้
57 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
กระดาษคาตอบ ข้อ
ก
ข
ค
1 2 3
58 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
ง
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
คณะผู้จัดทาโครงการ คณะผู้บริหาร 1. นายสุทธิ
สุโกศล
อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
2. นางถวิล
เพิ่มเพียรสิน
รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
3. นายธวัช
เบญจาทิกุล
รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
4. นายสุรพล
พลอยสุข
รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
5. ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดา
ผู้อานวยการสานักพัฒนาผู้ฝึกและเทคโนโลยีการฝึก
6. นางเพ็ญประภา
ศิริรัตน์
ผู้อานวยการกลุ่มงานพัฒนาระบบการฝึก
7. นายวัชรพงษ์
มุขเชิด
ผู้อานวยการสานักงานรับรองความรู้ความสามารถ
คาเงิน
ภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์
คณะที่ปรึกษาโครงการ 1. ผศ. ดร. มนตรี
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 2. รศ. ดร. วิสุทธิ์
สุนทรกนกพงศ์
ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสาร คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
3. ผศ. สันติ
ตันตระกูล
ภาควิชาครุศาสตร์วิศวกรรม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
4. นายสุระชัย
พิมพ์สาลี
ภาควิชาครุศาสตร์วิศวกรรม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
5. นายวินัย
ใจกล้า
ภาควิชาครุศาสตร์วิศวกรรม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
6. นายวราวิช
กาภู ณ อยุธยา
สานักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
7. นายมนตรี
ประชารัตน์
แผนกวิชาช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี
8. นายธเนศ
วงค์วัฒนานุรักษ์
แผนกวิชาช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี
9. นายณัฐวุฒิ
เสรีธรรม
แผนกวิชาช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี
10. นายหาญยงค์
หอสุขสิริ
แผนกวิชาโลหะการ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร
11. นายสวัสดิ์
บุญเถื่อน
แผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร 59 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน
คู่ มื อ ผู้ รั บ การฝึ ก สาขาช่ า งเครื่ อ งปรั บ อากาศภายในบ้ า นและการพาณิ ช ย์ ข นาดเล็ ก ระดั บ 3 โมดู ล การฝึ ก ที่ 11
60 กรมพั ฒ นาฝี มื อ แรงงาน