น�ำ้ เต้ าวิเศษ (ชนชาติเหมียว) -อยูท่ างตอนใต้ของประเทศจีน อาศัยอยูบ่ นภูเขา และท�ำนาขันบั ้ นได-
นานมาแล้ วยังมีชายชราอยูค่ นหนึง่ มีลกู ชายอยูส่ ามคน คืนวันที่สามสิบเดือนสิบสองของปี นี ้จะเป็ นวันครบรอบแปดสิบปี ของเขา เขาจึงเตรี ยมที่จะฉลองครัง้ ใหญ่ เมื่อถึงต้ นเดือนสิบ เขา ได้ เรี ยกลูกชายทังสามมาพบ ้ พร้ อมกับบอกว่า “วันทีส่ ามสิบเดือนสิบสองเป็ นวันครบรอบแปดสิบปี ของพ่อ พ่อจะจัดงานอย่างใหญ่โต ตอนนี ้พ่อจะให้ เงินพวกเจ้ าคนละร้ อย ต�ำลึง เพื่อที่จะไปจัดหาของขวัญมาให้ เมื่อถึงเวลานัน้ จงกลับ มาให้ ตรงเวลา ดูสิว่าใครมีความสามารถสูง ของขวัญของใคร มากที่สดุ ผู้นนก็ ั ้ จะได้ ดแู ลบ้ านหลังนี ้”
2
วันต่อมา พีน่ ้ องทังสามคนก็ ้ ออกเดินทางพร้ อมกัน เดินทาง
ไปได้ ส ามวัน ก็ถึงทางแยกแห่งหนึ่ง พี่ใหญ่ก็พูดขึน้ ว่า ไปถนน เส้ นทางขวาสิดี พีร่ องบอกว่า ควรจะไปเส้ นกลาง น้ องสามบอกว่า ต้ องไปถนนเส้นทางซ้ ายสิถงึ จะถูก ทังสามต่ ้ างก็ยดึ ในความคิดของ ตัวเอง สุดท้ ายจึงต้ องแยกทางกันไป และนัดกันว่า วันทีย่ สี่ บิ ห้ าเดือน
3
“เลาละร้ อยต�ำลึงก็ไม่แพง น่าเสียดายนักที่ข้าเป่ าไม่เป็ น” น้ องสามตอบ “ถ้ าหากว่าท่านซื ้อ พวกเราทังหมดนี ้ ้จะสอนท่านให้ เป็ น” เด็กเลี ้ยงวัวตอบ ครัน้ พูดจบ เด็กเลี ้ยงวัวก็ยื่นปาอูให้ และสอนเขาเป่ า น้ อง
สิบสอง ให้ กลับมารวมกันที่ทางแยกนี ้ ใครถึงก่อนก็ให้ คอยอยู่
สามฝึ กซ� ้ำแล้ วซ� ้ำอีก เรี ยนไปได้ ไม่กี่วนั ก็สามารถเป่ าได้ แล้ ว เขา
ที่นนั่
จึงจ่ายเงินหนึง่ ร้ อยต�ำลึงให้ แก่เด็กเลี ้ยงวัวและถือปาอูเดินจากไป หลัง จากที่ น้ อ งสามแยกทางกับ พี่ ทัง้ สองคน เขาเดิ น
ตรงไปข้ างหน้ าอย่างไร้ จุดหมาย จนมาถึงทุ่งเลี ้ยงวัวแห่งหนึ่ง อย่างไม่ร้ ูตวั เขาเห็นเด็กเลี ้ยงวัวหลายๆคนก�ำลังเป่ าปาอู (เครื่ อง เป่ าชนิดหนึง่ ของชนกลุม่ น้ อย) เขาเดินเข้ าไปฟั งดูใกล้ ๆ ก็ร้ ูสกึ ว่า ชอบเป็ นอย่างมาก จึงถามว่า
หลังจากทีเ่ ขาแยกจากเด็กเลี ้ยงวัวไป เขาก็เดินทางอย่างไร้ จดุ หมาย ไปเรื่ อยๆจนมาพบกับทะเลตรงหน้ า ซึง่ ขวางทางที่เขาจะรุดหน้ า ขวางหน้ า ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ เขาจึงนัง่ ลงบนชายหาด และเป่ าปาอูที่ตนรักแก้ กลุ้ม เขายิ่งเป่ าก็ยิ่งสนุก ท่วงท�ำนองของ เสี ย งปาอู นั น้ เดี๋ ย วสู ง เดี๋ ย วต�่ ำ เดี๋ ย วช้ าเดี๋ ย วเร็ ว ช่ า งพลิ ว้
“เด็กน้ อย ปาอูของพวกเจ้ านันขายหรื ้ อไม่”
ไ ห ว ไพเราะจั บ ใจ ในขณะนั น้ เอง พญามั ง กรซึ่ ง ก� ำ ลั ง จะ
เด็กเลี ้ยงวัวจึงตอบว่า “ขาย”
จั ด งานฉลองวันเกิดเช่นกัน ได้ สง่ ทหารปลาขุนพลกุ้งและปี ศาจ
“แล้ วขายเลาละเท่าไหร่ละ่ ” น้ องสามถาม
ตระเวนทะเลไปทุกหนทุกแห่งเพื่อเสาะหานักดนตรี แขนงต่างๆ
“เลาละร้ อยต�ำลึง” เด็กเลี ้ยงวัวตอบ
ไปร่วมงานฉลอง ทหารปลาและขุนพลกุ้งได้ ยินเสียงอันพลิ ้วไหว
4
5
ของปาอูดงั มาจากริ มทะเล จึงเดินเข้ าไปแสดงความเคารพต่อ
“รอสักครู่ ข้ าไปรายงานพญามังกรแล้ วจะกลับมา”
น้ อ งสาม และพูด ว่ า
เมื่อพญามังกรมีค�ำสัง่ ให้ เข้ าไปได้ น้ องสามจึงคารวะพญา
“ท่ า นอาจารย์ เจ้ า นายของข้ า จะจัด งานฉลองวัน เกิ ด
มังกร พญามังกรถามว่า
จึ ง อยากจะขอเชิ ญ ท่ า นไปช่ ว ยสร้ างบรรยากาศสนุก สนาน
“หนุม่ น้ อย เจ้ าเล่นเครื่ องดนตรี อะไรได้ ”
ด้ วยการเป่ าปาอู”
“ข้ าเป่ าปาอูได้ ” น้ องสามตอบ
“บ้ านของเจ้ านายเจ้ าอยูท่ ี่ไหนล่ะ” น้ องสามถาม
พญามังกรจึงสัง่ ให้ เขาเป่ าให้ ฟังสักเพลงหนึ่ง น้ องสามล้ วงเอา
“อยูใ่ ต้ ทะเล ห่างจากที่นี่ไม่ไกลนัก” ขุนพลกุ้งตอบ
ปาอู อ อกมาจากกระเป๋ าเสื อ้ แล้ วเป่ า เสี ย งของปาอู ดั ง
“อยูใ่ นทะเล แล้ วข้ าจะไปอย่างไรล่ะ”
ก้ องไ ปทั่ ว ทั ง้ วั ง ช่ า ง ไพเรา ะเสนาะหูยิ่งนัก เพียงครู่เดียวก็
“ไม่ยากเลย เพียงท่านวางศีรษะไว้ ในอ้ อมแขนของข้ า
ท�ำให้ ตื่นตะลึงไปทังวั ้ งพญามังกร ลูกมังกร หลานมังกรต่างก็เฮโล
พร้ อมทังปิ ้ ดตาให้ แน่น ไม่นานก็จะถึงเอง”
กันออกมาชื่นชม พญามังกรจึงกล่าวอย่างชื่นชมว่า
ครันพู ้ ดจบ ก็โอบแขนรอบศีรษะของน้ องสาม น้ องสามรู้สกึ
“หนุม่ น้ อย เจ้ าเป่ าปาอูได้ เยีย่ มมาก ในวังพญามังกรมีเครื่ อง
เพี ย งแค่ อ ากาศเย็ น ๆโหมพัด เข้ า มา ไม่ น านก็ ม าถึ ง วัง มัง กร
ดนตรี หลายชนิด แต่อย่างเดียวที่ไม่เคยได้ ยินคือปาอูของเจ้ า
พอเขาลืมตาทังสองขึ ้ ้น ก็เห็นพระราชวังพญามังกร และมีเสียงขลุย่
ข้ าอยากให้ เจ้ าสอนลูกหลานข้ าให้ เป่ าปาอูได้ แล้ วข้ าจะให้ รางวัล
บ้ างสูง บ้ างต�ำ่ บางครังแผ่ ้ วหาย ช่างไพเราะเสนาะหู เต็มไปด้ วยชีวติ
เพื่อตอบแทนบุญคุณเจ้ าอย่างงาม”
ชีวาดังลอยมา เมื่อเดินไปถึงประตูทางเข้ าพระราชวัง ขุนพลกุ้งจึง บอกว่า
ตังแต่ ้ นนมา ั ้ น้ องสามสอนการเป่ าปาอูให้ บรรดาลูกๆ หลานๆ ของพญามังกรด้ วยความตังใจทุ ้ กวัน พวกเขาล้ วนชอบน้ องสาม
6
มาก โดยเฉพาะองค์ชายสามที่ขอคบเขาเป็ นเพื่อน ไม่นานนัก ลูกหลานมั ง กรก็ ส ามารถเป่ าปาอู ไ ด้ น้ องสามจึ ง จะไป จา ก วั ง มั ง ก ร องค์ชายสามพูดกับเขาว่า
ลูกน� ้ำเต้ าหรื อ”
7
น้ องสามพูดว่า “ในเมื่อท่านอ๋องตัดใจให้ น� ้ำเต้ าวิเศษไม่ ได้ ข้ าก็ไม่ต้องการอะไรทังนั ้ น” ้
“เพื่อนเอ๋ย สิง่ ที่เจ้ าสอนนัน้ พวกข้ าก็เรี ยนรู้จนสามารถเป่ า
ในเวลานัน้ องค์ชายสามช่วยพูดจูงใจอยูข่ ้ างๆ พญามังกรจึงต้ อง
ได้ แล้ ว ท่านพ่อของข้ าต้ องการที่จะตอบแทนบุญคุณเจ้ า ถึงเวลา
หยิบน�ำ้ เต้ าเล็กๆ ลูกหนึ่งออกมาให้ น้องสาม และหลังจากกิน
นัน้ หากท่านพ่อมอบเงินทองให้ เจ้ าจงอย่ารับ เพราะเงินทองเป็ น
อาหารเช้ าเสร็ จ ก็สงั่ ให้ ปีศาจตระเวนทะเลน�ำเขาไปส่งบนบก
สิง่ ที่ใช้ แล้ วหมดไป เจ้ าจงขอน� ้ำเต้ าลูกนัน้ เพราะมันคือน� ้ำเต้ า วิเศษ เมือ่ ติดตัวเจ้ าไป เจ้ าคิดสิง่ ใด ก็จะได้ สงิ่ นัน” ้ ชัว่ พริบตาเดียว เวลาทีจ่ ะต้ องกลับก็มาถึง น้ องสามได้ ไปกล่าว ค�ำอ�ำลาต่อพญามังกร พญามังกรรัง้ เขาไว้ ไม่อยู่ จึงกล่าวว่า “เจ้ าหนุม่ เจ้ าสอนลูกหลานข้ าเป็ นหมดแล้ ว ถ้ าเจ้ าอยากได้ เงินทองมากเท่าใด ข้ าก็จะให้ ” น้ อ งสามจึ ง พูด ว่ า “ท่ า นอ๋ อ ง ข้ า น้ อ ยนี ไ้ ม่ ต้ อ งการจะ ได้ ทรัพย์สนิ เงินทองแต่อย่างใด แต่หากข้ าชอบน� ้ำเต้ าลูกนันของ ้
น้ องสามเดินต่อไปเรื่ อยๆ จนปวดขา ในใจก็คดิ ว่าหากมีม้า ให้ ขี่สกั ตัวหนึง่ ก็คงจะดี เขาลูบๆ ที่น� ้ำเต้ า ทันใดนันก็ ้ คิดว่า นี่เป็ น น�ำ้ เต้ าวิเศษที่อยากได้ อะไรก็ได้ อย่างนัน้ ก็คิดอยากจะเอาม้ า สักตัวจากน� ้ำเต้ า ทันทีที่เขาเปิ ดฝาของน� ้ำเต้ าออก ก็มีคนตัวเล็กๆ คนหนึง่ ยื่นหัวออกมาจากน� ้ำเต้ า ถามว่า “นายท่านต้ องการสิง่ ใด” “ข้ าต้ องการขี่ม้า” น้ องสามตอบ เพียงชัว่ พริ บตา ก็มีม้าตัวหนึง่ ที่พร้ อมออกเดินทางยืนอยู่
ท่าน”
เบื ้องหน้ า เขากระโดดขึ ้นขี่ม้าตัวนัน้ ได้ ยินแต่เพียงเสียงลมที่ข้าง
พญามังกรพูดว่า “เป็ นเช่นนันได้ ้ อย่างไร ทรัพย์สนิ เงินทองไม่ดกี ว่า
หู ในเวลาอันสัน้ ก็ไม่ร้ ูวา่ ผ่านถนนไปกี่สายแล้ ว แต่มองๆ ดูก็เห็น
8
ว่าใกล้ จะถึงสามแยกแล้ ว เขาจึงบอกกับม้ าว่า “ข้ าต้ องการเดิน” ฉับพลันทันใด ม้ าก็หายไปแล้ ว พอเขามาถึงที่สามแยก
“ไม่มีอะไร” น้ องสามยังคงตอบเช่นเดิม
9
พี่ใหญ่โมโหขึ ้นมา ก็ดา่ น้ องสามอย่างเทสาดเสียเทเสีย อยูอ่ ีกพักหนึง่ เช่นกัน
พี่ ช ายทัง้ สองก็ ยัง มาไม่ ถึ ง เขาจึ ง เอนกายเงยหน้ า ขึ น้ ฟ้ ารอ
พี่ชายทังสองขนสิ ้ นค้ าขึ ้นม้าและจากไป น้ องสามจึงหยิบ
อยู่ ที่นัน้ ไม่นานพี่สองขี่ม้าน�ำกองคาราวานกองใหญ่ที่ บรรทุก
น� ้ำเต้ าออกมาพร้ อมกับเปิ ดฝา ทันใดนันคนตั ้ วเล็กก็กระโดดออก
สินค้ ามา เมื่อพี่สองเห็นน้ องสามนอนเอนกายอยู่ที่นัน้ มือทัง้
มา และถามว่า
สองก็วา่ งเปล่า จึงตังใจถามเขาว่ ้ า “น้ องสาม เจ้ าจะให้ ของขวัญอะไรแก่ทา่ นพ่อ” “ข้ าไม่มีของขวัญอะไรเลย” น้ องสามตอบ
“นายท่านต้ องการอะไร” “รี บช่วยข้ าเตรี ยมเกีย้ วขนาดใหญ่แปดเกีย้ วสักหนึ่ง ขบวน ข้ างหน้ ามีกองก�ำลังน�ำหน้ าและข้ างหลังมีหน่วยคุ้มกัน”
พีส่ องจึงด่าน้องสามอย่างเทสาดเสียเทเสียอยูพ่ กั หนึง่ ผ่านไปอีกครู่หนึง่
ทันใดนัน้ เกี ้ยวขนาดใหญ่แปดเกี ้ยวปรากฏขึ ้นตรงหน้า ข้ างหน้ า
พี่ใหญ่ก็มาถึง พร้ อมกับเสียงดังติงตังของกองคาราวานที่บรรทุก
มีกองก�ำลังน�ำหน้าหนึง่ ขบวนเปิ ดทาง และด้านหลังมีทหารและม้ าเป็ น
สินค้ ากองใหญ่เหมือนกับพี่สอง เขาขนสินค้ าลงมา และชีไ้ ปที่ สินค้ าของพี่สอง พลางถามว่า
หน่วยคุ้มกันหนึง่ ขบวน ส่วนตัวน้ องสามก็กระโจนขึ ้นเกี ้ยวนัน้ ดีดสีตี เป่ าไปตลอดทาง น่าเกรงขามยิง่ นัก สักครู่กต็ ามทันพีช่ ายทังสอง ้ พอ
“สินค้ าพวกนี ้เป็ นของพวกเจ้ าทังสองคนหรื ้ อ”
พีใ่ หญ่และพีส่ องเห็นเข้าก็เข้าใจว่าเป็ นข้าราชการทหารผ่านทางมา ก็รีบ
“ของข้ าทังหมด” ้ พี่สองตอบ
ต้อนปศุสตั ว์ไปทีข่ า้ งทาง และก้มหัวคอย ‘ขนุ นางทหาร’ ผ่านไปอยูเ่ งียบๆ
“น้ องสาม แล้ วของเจ้ าล่ะ” พี่ใหญ่ถามอีก
ขบวนของน้ องสามเดินทางไปสักระยะหนึง่ จึงสัง่ ว่า “จงหยุด” ทันใด
10
11
นัน้ ทหาร ม้ าและเกี ้ยวก็พลันหายไป น้ องสามจึงนัง่ รอพี่ชายทัง้
ก็เดินตุปัดตุเป๋ กลับมาถึง พอชายชราพบว่าน้ องสามกลับมาด้ วย
สองอย่างเหนื่อยหน่ายอยูข่ ้ างทาง ครัน้ ทังสองคนเจอน้ ้ องสามนัง่
มือที่วา่ งเปล่า จึงหยิบแส้ มาเส้ นหนึง่ และเฝ้าที่หน้ าประตูใหญ่ ไม่
อยูร่ ิ มถนน จึงถามขึ ้นว่า
อนุญาตให้ น้องสามเข้ าประตู พลางด่าว่า “เจ้ ายังมีหน้ ากลับมาอีก ไปให้ พ้น!”
“น้ องสาม ตะกี ้เจ้ าเห็นขุนนางทหารผ่านทางมาไหม” “ข้ าไม่เห็นเลย” น้ องสามตอบ และแล้ วพี่ทงสองก็ ั้ เดินหน้ าต่อไป
น้ องสามจึงพูดขึ ้นอย่างช้ าๆว่า
พี่ชายทัง้ สองนัน้ กลับถึงบ้ านก่อน เมื่อชายชราเห็นลูก บรรทุกสิง่ ของเต็มกลับบ้ านก็ดีใจมาก ชายชราจึงถามขึ ้นว่า
สองหามานัน้ เป็ นแค่ของเล็กๆน้ อยๆ ท่านพ่ออย่าให้ ผลประโยชน์
“ของพวกนี ้ พวกเจ้ าสามพี่น้องท�ำการค้ าร่วมกันหรื อ” “ทังหมดเป็ ้ นของข้ าทังสอง ้ น้ องสามนันไม่ ้ เป็ นโล้เป็ นพาย ใช้ เงินหมดเกลี ้ยงแล้ ว ของขวัญสักชิ ้นก็ซื ้อไม่ได้ ” เมื่อชายชราได้ ฟัง ก็โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟและพร้ อมกับ พูดว่า
“ท่านพ่อได้ โปรดหยุดโมโหก่อน ลูกเห็นว่าสิง่ ของที่พี่ทงั ้ น้ อยนิดท�ำให้ จิตใจโง่เขลา จนท�ำลายความรู้ สึกดีๆของพ่อและ ลูก ถ้ าหากว่าท่านให้ อภัยข้ าไม่ได้ หนึง่ ร้ อยต�ำลึงนันข้ ้ าก็ยินดีจะ ชดใช้ ให้ ทา่ นตามเดิม แต่ข้าขอถามท่านว่า เรายังคงเป็ นพ่อลูกกัน หรื อไม่” เมื่อพ่อฟั งจบก็เหมือนกับเอาน� ้ำมันไปรดบนกองไฟ จึงด่าว่า “นับจากวันนี ้เป็ นต้ นไป ถึงเจ้ าประสบความส�ำเร็จ ข้ าก็จะ
“ไอ้ ลกู จองล้ างจองผลาญคนนี ้ ถ้ ามันกลับมาเมื่อไร ต้ อง ให้มนั ลิ ้มลองความล�ำบากสักหน่อย” หลังจากทีพ่ ช่ี ายทังสองเอาสิ ้ นค้าไปเก็บเรียบร้ อยแล้ว น้ องสาม
ไม่คาดหวังสิง่ ใดจากเจ้าอีก เจ้าไม่ต้องมาเรียกข้าว่าพ่อ เพราะเจ้ าก็ไม่ใช่ ลูก ของข้ า ” พูด จบ ก็ ปิ ดประตูเ สี ย งดัง ปั ง้ ! น้ อ งสามจึ ง ต้ อ งไปค้ า งคืน
12
ที่คอกวัวที่ด้านตรงข้ าม
13
ที่ไปดูเหตุการณ์นี ้ ไม่วา่ จะเป็ นเด็กหรื อผู้ใหญ่ น้ องสามก็เชิญมา
คืนวันนี ้เป็ นวันครบรอบแปดสิบปี ของชายชรา บรรดาญาติ
นัง่ กินเลี ้ยงกันทังหมด ้ ฝ่ ายชายชรา เมื่อได้ ยินว่ามีสงิ่ มหัศจรรย์
พี่น้องทังหลายต่ ้ างรี บพากันมาอวยพรวันเกิดเขา ทั้งดีดสีตีเป่ ากัน
เกิดขึ ้นกับน้ องสาม ก็ยงั ไม่คอ่ ยเชื่อ จึงสัง่ ให้ พี่ใหญ่ไปดูสาเหตุ
อย่างครื น้ เครงกันตลอดทังคื ้ น เมื่อน้ องสามเห็นเข้ า จึงล้ วงเอาน� ้ำ
ที่แท้ จริ งนัน้
เต้ าออกมา เปิ ดฝาออก ทันใดนันก็ ้ มคี นตัวน้ อยกระโดดออกมา และ
เมื่อพี่ใหญ่มาถึงที่ประตูวงั ก็เห็นจริ งๆว่ามีผ้ คู นมากมาย
ถามว่า “นายท่านประสงค์สงิ่ ใด”
ก�ำลังเล่นทายนิว้ และพนันกินเหล้ ากันอยู่ในห้ องโถง ส่วนน้ อง
น้ องสามพูดว่า “สร้ างปราสาทหนึ่ ง หลั ง ให้ ข้ าที่ นี่ เ ดี๋ ย วนี ้ และเตรียมโต๊ ะอาหารร้ อยตัวให้ ข้า ข้ าต้ องการเลี ้ยงแขกอย่างเต็มที”่
สามก็กำ� ลังรับแขกอยู่ ก็รบี กลับไปเล่าเรือ่ งราวให้พอ่ ฟัง พ่อจึงกล่าวว่า
ครัน้ พูดจบ ก็ปรากฏปราสาทขึ ้นตรงหน้ าในทันใด ในห้ อง โถงก็มีโต๊ ะอาหารวางอยูเ่ ต็ม เมื่อเสียงพลุดงั ขึ ้นสามครัง้ ก็ท�ำให้
“ยังไม่รีบไปแจ้ งทางราชการเสียอีก นี่ต้องมีปีศาจเกิดขึ ้น เป็ นแน่” พี่ใหญ่จงึ รี บวิ่งเข้ าเมืองไปแจ้ งที่อ�ำเภอ ขุนนางอ�ำเภอก็
คนทังหมู ้ บ่ ้ านตกใจ ทุกคนเบิง่ ตามองดู คอกวัวในอดีตหายไปแล้ ว
รี บรายงานไปตามล�ำดับขัน้ จนสุดท้ ายก็รายงานไปถึงฮ่องเต้ เมื่อ
มีแต่ปรากฏเป็ นปราสาทที่โอ่อา่ หรูหราสง่างามตังตระหง่ ้ านอยู่
ฮ่องเต้ ได้ ทราบข่าวนี ้ จึงน�ำขุนนางฝ่ ายบุน๋ และฝ่ ายบู๊ทงหมดไป ั้
เบื ้องหน้ า ทุกคนล้ วนตื่นตะลึงมากว่าท�ำไมเวลาเพียงชัว่ ข้ ามคืน
ปราบปรามทันที วันนัน้ ทหารและม้ าของฮ่องเต้ ก็ทยอยกันมา
ฝั่ งตรงข้ ามถึงสร้ างปราสาทหลังหนึง่ ขึ ้นมาได้ ข่าวนี ้กระจายไป
เมื่อน้ องสามได้ ยินข่าวว่าฮ่องเต้ เสด็จมา ก็ออกมารับเสด็จที่หน้ า
เรื่ อยๆ จากหนึ่งเป็ นสิบ จากสิบเป็ นร้ อย ทุกคนต่างพากันมาดู
ประตู เมื่อฮ่องเต้ เสด็จเข้ าไปข้ างในและทอดพระเนตรไปรอบๆ ก็
สาเหตุที่แท้ จริ ง แขกที่บ้านของชายชราก็ไปกันหมด ใครก็ตาม
ทรงเห็นว่า ‘วังนี ้สวยกว่าพระราชวังของข้ านัก’ ฮ่องเต้ นนตั ั ้ งใจจะ ้
14
แกล้ งน้ องสาม จึงตรัสว่า “เจ้ าหนุม่ ปั ญหาเรื่ องการกินการอยูข่ องม้ าและผู้ตดิ ตาม ของข้ า เจ้ าแก้ ไขได้ ไหม” “ฝ่ าบาทมีคนและม้ ามากน้ อยเพียงใด และทรงต้ องการ โต๊ ะอาหารกี่ตวั ”
โต๊ ะตามล�ำดับ
15
หลังจากที่พวกขุนนางอิ่มหน�ำและเมาสุรา ก็ทยอยกันลุก จากโต๊ ะไปชื่นชมปราสาทที่พิเศษสุด มองดูแล้ วก็ไม่มีใครที่จะไม่ อุทานด้ วยความตื่นเต้ น ฮ่องเต้ ก็ทรงเรี ยกน้ องสามมาถามว่า
ฮ่องเต้ ตรัสว่า “ข้ าต้ องการโต๊ ะอาหารจ�ำนวนร้ อยยี่สบิ โต๊ ะ
“เจ้ าก็แค่ประชาชนธรรมดาๆ ท�ำไมถึงมีวงั อย่างนี ้ แล้ ว พวกอาหารชันดี ้ มาจากไหนกัน?”
ข้ าก�ำหนดให้ เจ้ าจัดการให้ เรี ยบร้ อยในเวลาสองชัง่ โมง หาไม่แล้ ว
น้ องสามจึงเล่าเรื่ องจริ งทังหมดให้ ้ ฮอ่ งเต้ ฟัง ฮ่องเต้ จงึ
จะถูกลงโทษ” น้ องสามฟั งแล้ วก็พดู ว่า “ฝ่ าบาทเดินทางมาไกล สอง ชัว่ โมงนันนานเกิ ้ นไป ท�ำไมไม่จดั อาหารขึ น้ โต๊ ะตอนนี ้เลยล่ะพะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ ทรงคิดอยูใ่ นพระทัยว่า ‘เจ้ าหมอนี่หาเรื่ องใส่ ตั ว
ตรัสว่า “มีเรื่ องอย่างนี ้ได้ อย่างไรกัน ข้ าสัง่ ให้ เจ้ าสร้ างวังที่ด้านบน ไม่แตะฟ้า และด้ านล่างไม่ตดิ พื ้นขึ ้นที่นี่ทนั ที จะว่ายังไง” น้ องสามจึงหยิบน� ้ำเต้ าออกมาเปิ ดทันที ก็มีคนตัวเล็กกระโดด ออกมาจากข้ างใน และถามว่า
เสียแล้ ว ถ้ านัง่ โต๊ ะแล้ วไม่มีอาหาร ก็จะถูกลงโทษฐานหลอกลวง
“นายท่านต้ องการสิง่ ใด”
ฮ่องเต้ ต้ องถูกตัดหัว’ ครัน้ แล้ วก็ทรงได้ ยินเสียงน้ องสามพูดขึ ้นว่า
“จงสร้ างวิมานบนอากาศทันที”
“เชิญนัง่ โต๊ ะ” ทันใดนัน้ โต๊ ะอาหารทังร้้ อยยีส่ บิ ตัวก็วางเรียงอย่างเรี ยบร้ อย เต็มไปด้ วยอาหารชันดี ้ และเลิศรส ขุนนางทังหลายจึ ้ งเข้ าไปนัง่
ทันใดนันวิ ้ มานบนอากาศหลังหนึง่ ก็ลอยอยูบ่ นท้ องฟ้า เมื่อฮ่องเต้ ได้ ทอดพระเนตรเห็นก็ประหลาดใจมาก จึงตรัสว่า “ขึ ้นไปชมข้ างบนได้ ไหม”
16
17
น้ องสามพูดว่า “ได้ แน่นอนพะย่ะค่ะ”
เจริ ญรุ่งเรื องในโลกมนุษย์นนั ้ ข้ าก็ได้ เสวยสุขมาหมดแล้ ว แต่ก็ยงั
ฮ่องเต้ ถามต่อ “แล้ วจะขึ ้นไปอย่างไร”
อดกังวลในเรื่องใหญ่ของประเทศไม่ได้ ไหนเลยจะสู้เสวยความเงียบ สงบและสบายเช่นนี ้ได้ ’ ฮ่องเต้ จงึ ตรัสกับน้ องสามว่า
น้ องสามจึงเปิ ดฝาน� ้ำเต้ าออก คนตัวเล็กก็กระโดดออกมา จากข้ างใน และถามว่า “นายท่านต้ องการสิง่ ใด” น้ องสามจึงบอกให้ พาฮ่องเต้ และเหล่าขุนนางทังฝ่้ ายบุน๋
“เจ้ าหนุม่ ข้ าจะขอแลกน� ้ำเต้ านี ้ด้ วยประเทศชาติ จะว่า อย่างไร” น้ อ งสาม พู ด ว่ า “ข้ า ไม่ มี ว า ส นาที่ จ ะ ปกค รอ ง
และบู๊ ไปยั ง วิ ม านบนอากาศนัน่ นัน้ ทันใดนัน้ ฮ่องเต้ และเหล่า
ป ร ะ เ ท ศ หรอกพะย่ะค่ะ ข้ าใช้ ชีวิตที่เงียบสงบและสบายอย่าง
ขุนนางก็ลอยขึ ้นไปสูท่ ้ องฟ้าและไปถึงวิมานบนอากาศทังหมด ้
นี ้ก็ดีแล้ ว”
พวกเขาเยี่ ย มชมที่ ต่ า ง ๆ ข อ ง วิ ม า นแล้ ว จึ ง ถามน้ อ งสามว่า “ลงไปอย่างไร” น้ องสามจึงเปิ ดฝาน� ้ำเต้ าออก คนตัวเล็กก็กระโดดออกมา จากข้ างใน และถามว่า
ฮ่องเต้ ก็ทรงยืนยันที่จะแลกให้ ได้ น้ องสามจึงต้ องฝื นใจรับปาก ฮ่องเต้ จงึ ให้ ราชลัญจกรหยกแก่น้องสามในทันที ส่วนน้ องสามก็ มอบน� ้ำเต้ าวิเศษให้ ฮอ่ งเต้ วันต่อมา น้ องสามก็เป็ นฮ่องเต้ ไปแล้ ว เมื่อฮ่องเต้ ได้ น� ้ำเต้ ามา ก็ทรงคิดที่จะทดสอบอานุภาพ
“นายท่านต้ องการสิง่ ใด”
ของมัน จึงหยิบน� ้ำเต้ าขึ ้นมาและเปิ ดฝาออก คนตัวเล็กก็กระโดด
“ช่วยพาคนทังหมดลงไปที ้ ”
ออกมาจากข้ างใน และถามว่า
ในชัว่ พริบตา ฮ่องเต้ และขุนนางทังหมดก็ ้ กลับมาสูป่ ราสาท บนพืน้ ดิน ฮ่องเต้ ก็ทรงคิดในใจว่า ‘ตัวข้ านัน้ เป็ นฮ่องเต้ ความ
“นายท่านต้ องการสิง่ ใด” “พาข้ าขึ ้นไปยังวิมานบนอากาศที”
18
ทันใดนัน้ พระองค์ ก็ ขึ น้ ไปบนวิ ม านนั่น นัน้ หลัง จาก
ที่ พระองค์ชื่นชมจนทัว่ แล้ ว ก็ร้ ูสกึ โดดเดี่ยวและอ้ างว้ าง จึงหยิบ น� ้ำเต้ าขึ ้นมาและเปิ ดฝาออก คนตัวเล็กก็กระโดดออกมาจากข้ าง ใน และถามว่า “นายท่านต้ องการสิง่ ใด” เดิมทีฮอ่ งเต้ คดิ จะตรัสว่า “ช่วยข้ าพาวิมานบนอากาศลง ไป” แต่ บัง เอิ ญ เผลอพูด ไปว่ า “ให้ ท� ำ ลายวิ ม านอากาศเสี ย ” ชั่ว พริ บตาเดียว วิมานบนอากาศทังหลั ้ งก็แตกออกเป็ นเสี่ยงๆ ฮ่องเต้ ก็ไม่ร้ ูกระเด็นไปที่ไหนแล้ ว จากเรื่ อง《宝葫芦》
19
20
21
22
23