BOOK 60 Part 2/2

Page 1

P 98-145 (chapter 4).indd 98

21/12/2012 18:36


P 98-145 (chapter 4).indd 99

21/12/2012 18:36


การพัฒนา พลังงานทดแทน Alternative Energy Development

พลั ง งานทดแทน  (Alternative Energy) คือแหล่งพลังงานที่ได้จากธรรมชาติรอบตัวเรา สามารถนำ �มา

ใช้ได้อย่างไม่มีวันหมด หรือสามารถสร้างทดแทนได้ในช่วงเวลาสั้นๆ  มีหลายชื่อที่ใช้เรียก เช่น พลังงานหมุนเวียน   พลังงานทางเลือก รวมถึงพลังงานสะอาดและพลังงานสีเขียว เนื่องจากเป็นพลังงานที่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย   ตัวอย่างของพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังน้ำ� พลังงานชีวมวล พลังงานชีวภาพ  ประเทศไทยต้ อ งพึ่ ง พาการนำ � เข้ า พลั ง งานจากต่ า งประเทศเป็ น หลั ก  จากข้ อ มู ล ในปี   2555 ที่ ผ่ า นมาพบว่ า  กว่ า ร้ อ ยละ 60 ของความต้ อ งการพลั ง งานเชิ ง พาณิ ช ย์ ขั้ น ต้ น มาจากการนำ � เข้ า  โดยมี สั ด ส่ ว นการนำ � เข้ า น้ำ � มั น สู ง ถึ ง  ร้อยละ 80 ของปริมาณการใช้น้ำ�มันทั้งหมดภายในประเทศ และยังมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีก เพราะไม่สามารถเพิ่มปริมาณ  การผลิตปิโตรเลียมในประเทศได้ทันกับความต้องการใช้งาน  การพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างจริงจังจะช่วยลดการพึ่งพา และการนำ�เข้าน้ำ�มันเชื้อเพลิงและพลังงานชนิดอื่น และยังช่วยกระจายความเสี่ยงในการจัดหาเชื้อเพลิงเพื่อการผลิตไฟฟ้า ของประเทศซึ่งเดิมต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเป็นหลักมากกว่าร้อยละ 70 โดยพลังงานทดแทนถือเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิง  เป้าหมายที่คาดว่าจะสามารถนำ�มาใช้ในการผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซธรรมชาติได้อย่างมีนัยสำ�คัญ โดยเฉพาะพลังงานแสง อาทิตย์ พลังงานลมแบบทุ่งกังหันลม พลังน้ำ�ขนาดเล็ก ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และขยะ และหากเทคโนโลยีพลังงานทดแทน เหล่านี้มีต้นทุนถูกลงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ก็อาจสามารถพัฒนาให้เป็นพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้าสำ�หรับ ประเทศไทยได้ในอนาคต

100 P 98-145 (chapter 4).indd 100

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:36


ดังนั้นรัฐบาลจึงมอบหมายให้กระทรวงพลังงานจัดทำ �แผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก  ร้อยละ 25 ใน 10 ปี (พ.ศ. 2555-2564) หรือ Alternative Energy Development Plan : AEDP (2012-2021) เพือ่ กำ�หนด  กรอบและทิศทางการพัฒนาพลังงานทดแทนของประเทศ การพยากรณ์ความต้องการพลังงานของประเทศคาดว่าจากความต้องการพลังงานในปัจจุบัน 71,728 ktoe (kilo-  tons of oil equivalent – พันตันเทียบเท่าน้ำ�มันดิบ) ในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 99,838 ktoe  ดังนั้นตามแผนการ  พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2555-2564 จึงกำ �หนดให้มีสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นจาก 7,413 ktoe ในปี 2555 เป็น 25,000 ktoe ในปี 2564 หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของการใช้พลังงานรวมทั้งหมด ทั้งนี้ได้กำ�หนดวัตถุประสงค์ของการพัฒนาพลังงานทดแทน คือ 1. เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาพลังงานทดแทนให้เป็นหนึ่งในพลังงานหลักของประเทศ ทดแทนเชื้อเพลิง  ฟอสซิลและการนำ�เข้าน้ำ�มันได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยในแผนนี้จะไม่รวมเป้าหมายการพัฒนาก๊าซธรรมชาติในภาคขนส่ง  (NGV) 2. เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ 3. เพื่อเสริมสร้างการใช้พลังงานทดแทนในระดับชุมชนในรูปแบบชุมชนสีเขียวแบบครบวงจร 4. เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีพลังงานทดแทนในประเทศ 5. เพื่อวิจัยพัฒนาส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทนของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดสากล

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 101

101 21/12/2012 18:36


การพัฒนาพลังงานทดแทน กับบทบาทของ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ธรรมยศ ศรี ช ว ่ ย รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ?

ที่ผ่านมางานพลังงานทดแทนของ พพ. มี ด้านใดซึ่งท่านได้ดูแลเป็นพิเศษ จากประสบการณ์การทำ�งานของผมใน พพ.  ได้ มี โ อกาสดู แ ลเรื่ อ งโรงไฟฟ้ า พลั ง น้ำ � เกื อ บทุ ก  โครงการ นับเป็นเวลาร่วม 20 ปี ทำ�ให้ผมเห็นว่า  โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ�ขนาดเล็กเป็นโครงการ  ที่มีประโยชน์และแตกต่างจากของหน่วยงานไฟฟ้า  อื่นที่เน้นเรื่องการซื้อขายไฟฟ้าเป็นสำ�คัญ  แต่เรา  มองเรื่องของการพัฒนาท้องถิ่น การพัฒนาชุมชน จากแหล่งน้ำ�ที่น�ำ มาผลิตไฟฟ้า เพื่อสร้างความเป็น อยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชน  โรงไฟฟ้ า พลั ง น้ำ � ที่ เ ราจั ด ทำ � แบ่ ง เป็ น สอง ประเภท คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ�ขนาดเล็กซึ่งมีขนาด 1 เมกะวั ต ต์ ถึ ง กว่ า  10 เมกะวั ต ต์   ซึ่ ง ไม่ ไ ด้ ใ ห้   ประโยชน์ เ ฉพาะการผลิ ต ไฟฟ้ เ ท่ า นั้ น  แต่ เ ป็ น  โครงการอเนกประสงค์เพื่อการชลประทานในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าด้วย  ส่วน  โรงไฟฟ้าอีกประเภทหนึ่งคือโรงไฟฟ้าชุมชนกับโรงไฟฟ้าระดับหมู่บ้าน ซึ่ง  เป็นพื้นที่ในชนบทห่างไกลที่สายส่งไฟฟ้าเข้าไม่ถึง  ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนคือ  โรงไฟฟ้าซึ่งเราไปพัฒนาเพื่อให้ชุมชนขายไฟฟ้าเป็นรายได้ให้แก่ชุมชน

?

ปัจจุบันโรงไฟฟ้าชุมชนซึ่งมีการขายไฟฟ้าคืนให้แก่รัฐอยู่ในสภาพเช่นไร โรงไฟฟ้ า ชุ ม ชนส่ ว นใหญ่ ยั ง ดำ � เนิ น การในสภาพที่ ดี อ ยู่    หลาย  โครงการอยู่ ร ะหว่ า งการก่ อ สร้ า งและรอการเชื่ อ มสายกั บ การไฟฟ้ า ส่ ว น ภูมิภาค  เนื่องจากโรงไฟฟ้าชุมชนเป็นโรงไฟฟ้าที่ on grid เพื่อให้ชุมชน  โดย อบต. หรื อ องค์ ก รท้ อ งถิ่ น สามารถขายไฟฟ้ า เข้ า ระบบไฟฟ้ า หลั ก ได้   เพราะฉะนั้นตัวโรงไฟฟ้าจะต้องก่อสร้างอย่างมีมาตรฐาน  เครื่องจักรส่วน  ใหญ่จึงอยู่ในสภาพค่อนข้างดีกว่าโรงไฟฟ้าระดับหมู่บ้านพอสมควร  อย่างไร  ก็ตามในส่วนขั้นตอนการขอรับการสนับสนุนการซื้อขายไฟฟ้าเข้าระบบยัง  ต้องเป็นไปตามระเบียบราชการซึ่งใช้เวลาพอสมควร

102 P 98-145 (chapter 4).indd 102

? โครงการด้านพลังงานทดแทนที่ทาง พพ.

กำ�ลังส่งเสริมในปัจจุบัน  ตอนนี้ มี เ รื่ อ งการส่ ง เสริ ม ให้ ชุ ม ชนเป็ น เจ้าของกิจการพลังงาน หรือชุมชนสีเขียว  เรา ศึ ก ษาศั ก ยภาพเรื่ อ งแหล่ ง พลั ง งานทดแทนใน ชุมชนหลายแห่งทั่วประเทศ โดยร่วมมือกับสถาบัน การศึกษาแล้วคิดต้นแบบการพัฒนาชุมชนสีเขียว  ขึ้ น มา  ทาง พพ. จะสนั บ สนุ น งบประมาณ  ส่ ว นหนึ่ ง ให้ ชุ ม ชน และเชิ ญ ชวนเอกชนซึ่ ง เป็ น  ผู้ประกอบการมาลงทุนร่วมกับชุมชนเพื่อการผลิต ไฟฟ้าหรือก๊าซเชื้อเพลิงพลังงาน โดยใช้วัสดุหรือ ปัจจัยต่างๆ ที่มีในท้องถิ่น แล้วขายไฟฟ้าให้แก่ การไฟฟ้าหรือขายก๊าซชีวภาพอัดให้ ปตท.  โดย รูปแบบส่วนใหญ่จะเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล  ขณะนี้ เ รากำ� ลั ง ทำ � งานในหลายพื้ น ที่ แ ละ จะเสนอของบประมาณมาดำ�เนินการโครงการ ซึ่งการสนับสนุนการพัฒนา พลังงานทดแทนในชุมชนนี้นับเป็นเรื่องใหม่ มีหลายชุมชนที่สนใจ  ในการ เริ่มทำ�โครงการ เราต้องประชุมร่วมกับชาวบ้านอย่างจริงจังโดยจัดเป็นเวที ประชาคม เพราะหลายครั้งที่การพัฒนาซึ่งมีผู้ประกอบการไปลงทุนนั้นชาว บ้านจะปฏิเสธ  แต่ถ้าให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม รับรู้ข้อเท็จจริง และให้เขามีส่วน ร่วมในการเป็นเจ้าของ ก็จะทำ�ให้โครงการเกิดความเป็นไปได้   อันที่จริงรูปแบบนี้เราเคยทำ�มาแล้วในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ�ชุมชน  ซึ่งเราต้องหาชุมชนที่พร้อม มีความเข้มแข็ง มีผู้นำ�ชุมชน  เราต้องถามความ สมัครใจ และบอกข้อเท็จจริงแก่เขา ให้ชุมชนเข้าใจในกิจกรรมโครงการที่จะ นำ�ไปพัฒนา  ทั้งนี้ชุมชนต้องจัดตั้งองค์กรชุมชนในท้องถิ่น จะเป็นนิติบุคคล  สหกรณ์ หรือวิสาหกิจชุมชนก็ได้ และต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจึงจะมี คุณสมบัติเป็นเจ้าของกิจการขายไฟฟ้า

?

บทบาทของ พพ. ในด้านพลังงานแสงอาทิตย์   เรื่องของพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการผลิตไฟฟ้า เราสนับสนุนเรื่อง 60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:36


การนำ � ไปใช้ ใ นหมู่ บ้ า น ชนบท องค์ ก รท้ อ งถิ่ น  สถานี อ นามั ย  โรงเรี ย น ตำ � รวจตระเวนชายแดน ซึ่ ง เป็ น พื้ น ที่ ห่ า งไกลในชนบท มี อ ยู่ ป ระมาณ  2,000 แห่ง และส่วนใหญ่เราได้ยกให้อยู่ในการดูแลของแต่ละพื้นที่ไปแล้ว  แต่เรายังติดตามเรื่องการซ่อมบำ�รุงให้อยู่ เช่นเดียวกับไฟฟ้าพลังน้ำ�  การใช้ พ ลั ง งานแสงอาทิ ต ย์ อี ก ด้ า นหนึ่ ง ที่ สำ� คั ญ เช่ น กั น  คื อ การนำ� มาใช้ผลิตความร้อน  เราสนับสนุนชุมชนในเรื่องการทำ�ตู้อบพลังงานแสง อาทิตย์ โดยสนับสนุนเงินลงทุนแบบให้เปล่าร้อยละ 60 และสนับสนุนการ  นำ�ความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้กับพลังงานความร้อนเหลือทิ้งจาก ระบบผลิตเดิม เรียกว่า พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์แบบผสมผสาน  เราสนับสนุนเงินลงทุนแบบให้เปล่าร้อยละ 30  นี่เป็นงานโดยตรงของเรา ที่ทำ�มาอย่างต่อเนื่อง  ส่วนเรื่องการลงทุนโรงไฟฟ้าเป็นฟาร์มแสงอาทิตย์  ขนาดใหญ่นั้นไม่เกี่ยวข้องกับงานของ พพ. โดยตรง

?

มองการทำ�งานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแผนการพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก ร้อยละ 25 ใน 10 ปีไว้อย่างไร คิดว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำ�ได้ตามเป้าหมาย แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย  และขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐด้วย  เราต้องการใช้พลังงานทดแทนร้อยละ 25 ของพลังงานทั้งหมด ซึ่งพลังงานทั้งหมดที่ใช้ภายในประเทศ ปี 2554 คิดเป็น  มูลค่าถึง 2 ล้านล้านบาท หมายความว่าต้องใช้พลังงานทดแทน 5 แสน  ล้านบาท  ขณะที่งบประมาณของ พพ. ในส่วนของพลังงานทดแทนปีนี้เรา ได้ประมาณ 400 ล้านบาท เท่านั้น  ตามแผนฯ ตัวเลขใหญ่ที่สำ�คัญคือการใช้เชื้อเพลิงแทนน้ำ�มันดีเซล  25 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือในการทำ�วิจัยและพัฒนากับ  องค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งสถาบันการศึกษาและองค์กรภาคเอกชนต้องช่วยกันหา เทคโนโลยีหรือการพัฒนาวิจัยใหม่ๆ ทั้งจากในและนอกประเทศ มาทำ�ให้ เกิดการพัฒนาภายในประเทศ คิดว่าตรงนี้เป็นส่วนที่ยากที่สุด สำ � หรั บ บทบาทของ พพ. คื อ การเป็ น ผู้ ป ระสานงานทุ ก ภาคส่ ว น  ประสานกับองค์กรนอกประเทศ เช่น ออสเตรเลีย จีน ในเรื่องการศึกษา เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะส่งเสริมทรัพยากรภายในประเทศ เช่น สาหร่าย ซึ่ง  วันนี้อาจจะยังไปไม่ถึงจุดที่เป็นเชิงพาณิชย์  หรือการสร้างความร่วมมือกับ

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 103

ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ด้านงานวิจัย สนับสนุนการพัฒนาเชื้อเพลิง ชี ว ภาพ หรื อ พลั ง งานทดแทนในหลากหลายรู ป แบบ  ประสานกั บ กรม วิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ ในเรื่องการปลูกพืชพลังงาน เช่น ปาล์ม น้ำ�มัน เป็นต้น ในฐานะ พพ. เราไม่มีอำ�นาจใดๆ ในทางกฎหมายเกี่ยวกับพลังงาน ทดแทนที่จะไปบังคับหรือสร้างสิ่งจูงใจให้ภาคเอกชน หน้าที่หลักของเราจึง เน้นไปที่การประสานงาน  อย่างไรก็ตามข้าราชการประจำ�ทุกคนของ พพ. ได้ทุ่มเทกำ�ลังความ สามารถอย่างมาก และในระดับผู้บริหารก็ตั้งใจผลักดันการพัฒนาพลังงาน ทดแทนมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง

?

ในแง่ของกฎหมายเกี่ยวกับการส่งเสริมพลังงานทดแทนมีจุดใดที่เป็น

ปัญหา ที่ผ่านมาเรามีนโยบายเชิญชวนเอกชนมาลงทุนด้านพลังงานทดแทน  แต่ ยั ง มี ร ะเบี ย บ ข้ อ ปฏิ บั ติ   กติ ก าของภาครั ฐ บางประการที่ เ ป็ น อุ ป สรรค  ตั ว อย่ า งเช่ น  พลั ง งานลม เคยมี เ อกชนสนใจลงทุ น ติ ด ตั้ ง กั ง หั น ลมผลิ ต  ไฟฟ้ า  แต่ พื้ น ที่ ติ ด ตั้ ง อยู่ ใ นพื้ น ที่ ลุ่ ม น้ำ � ชั้ น  1-B  ทั้ ง ที่ ใ นความเป็ น จริ ง  หมดสภาพความเป็นป่าแล้ว หรือการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของ  อาคารติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนอาคารเพื่อผลิตไฟฟ้าขาย แต่มาติดระเบียบ ราชการว่าการจะผลิตไฟฟ้าขาย เจ้าของอาคารต้องจดทะเบียนเป็นโรงงาน ประเภทหนึ่ง หรือแม้แต่เอทานอล ปัจจุบันตามกฎหมายยังถือว่าเป็นสุรา  การผลิ ต  การเก็ บ  และการขนส่ ง เอทานอลจึ ง ถู ก ควบคุ ม เหมื อ นกั บ สุ ร า ประเภทหนึ่ง  สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างบางส่วนของการไม่ประสานสอดคล้อง ของหน่วยงานราชการด้วยกันเอง และเป็นอุปสรรคด้านกฎหมายที่ทำ�ให้การ พัฒนาพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียนยังเดินไปข้างหน้าได้ล่าช้า ในส่วนของ พพ. เราพร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อให้เกิดความเชื่อม โยงกันในระดับกระทรวงและระดับนโยบาย ที่จะทำ�ให้กติกาและข้อกฎหมาย ต่างๆ ซึ่งมีความยุ่งยากได้รับการแก้ไข เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เอกชนซึ่งมี บทบาทสำ�คัญมาลงทุนและพัฒนาพลังงานทดแทนให้เกิดขึ้น

103 21/12/2012 18:36


พลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นแหล่งพลังงานความร้อน

และให้ แ สงสว่ า งที่ ใ หญ่ ที่ สุ ด ในจั ก รวาล และเป็ น พลั ง งานทดแทนที่ สามารถนำ�มาใช้ได้อย่างไม่สิ้นสุด อีกทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานสะอาด  ปราศจากมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม  ที่ผ่านมามนุษย์ใช้พลังงานจากแสง อาทิตย์ในชีวิตประจำ�วันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้แสงสว่าง การตาก ผ้า การถนอมอาหาร เป็นต้น ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตบริเวณเส้นศูนย์สูตร จึงได้รับแสงอาทิตย์   ตลอดทั้ ง ปี   และมี ค วามเข้ ม ของแสงอาทิ ต ย์ อ ยู่ ใ นระดั บ ค่ อ นข้ า งสู ง  กระจายทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ มีค่าเฉลี่ย 4.7 กิโลวัตต์ต่อตารางเมตร  ต่ อ วั น  ซึ่ ง เพี ย งพอต่ อ การนำ � ไปใช้ ป ระโยชน์    กรมพั ฒ นาพลั ง งาน  ทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จึงดำ�เนินโครงการเพื่อใช้ประโยชน์ จากพลังงานแสงอาทิตย์ในสองรูปแบบ คือเทคโนโลยีพลังงานแสง  อาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้า และเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิต  ความร้อน

พลังงานแสงอาทิตย์ Solar Energy 1 2

แผงผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ช่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่ชนบทห่างไกล ซึ่งระบบสายส่งไฟฟ้าหลักยังเข้าไม่ถึง สามารถมีไฟฟ้าใช้ พลังงานแสงอาทิตย์ยังมีประโยชน์ในการผลิตความร้อนเพื่ออบอาหาร  หรือเพื่อผลิตน้�ำ ร้อน (3)

104 P 98-145 (chapter 4).indd 104

2 3 60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:36


1

1. พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้า การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้ามีอุปกรณ์ตัวกลางสำ�คัญ สำ � หรั บ เปลี่ ย นรู ป พลั ง งานแสงให้ ก ลายเป็ น พลั ง งานไฟฟ้ า  เรี ย กว่ า “เซลล์แสงอาทิตย์” (Solar Cell หรือ Solar PV)  พพ. ได้ส่งเสริม สนับสนุน และติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์  แสงอาทิตย์ เพื่อจัดทำ�ระบบประจุแบตเตอรี่ ระบบสูบน้ำ� ระบบ Mini  Grid และระบบผลิตไฟฟ้า สำ�หรับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลจากระบบ  สายส่ ง ไฟฟ้ า ของการไฟฟ้ า ส่ ว นภู มิ ภ าค (กฟภ.) หรื อ พื้ น ที่ ซึ่ ง มี ข้ อ จำ�กัดบางประการที่ทำ�ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่สามารถดำ�เนินการ  จ่ายไฟฟ้าได้ เช่น โรงเรียนในชนบท สถานีอนามัย ศูนย์การเรียนรู้

2 3

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 105

105 21/12/2012 18:36


ชุ ม ชน ฐานปฏิ บั ติ ก ารทางทหารและตำ � รวจตระเวนชายแดน พื้ น ที่   ป่าสงวนแห่งชาติ และกิจกรรมในพื้นที่โครงการพระราชดำ�ริ เป็นต้น  โดย พพ. ได้ ดำ � เนิ น การติ ด ตั้ ง ระบบผลิ ต ไฟฟ้ า พลั ง งานแสงอาทิ ต ย์   ตั้งแต่ปี 2536-2554 จำ�นวนทั้งสิ้น 1,756 แห่ง ขนาดกำ�ลังการผลิต  รวม 3,905.491 กิโลวัตต์

2. พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตความร้อน การใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตความร้อนมีอุปกรณ์สำ �คัญ  เช่น แผงผลิตน้�ำ ร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (solar collector) รวมถึง  โครงสร้างอาคารที่สามารถรวบรวมและกักเก็บความร้อนแสงอาทิตย์  ไว้ภายใน เช่น โรงอบอาหารพลังงานแสงอาทิตย์  พพ. ได้ส่งเสริมการผลิตและการใช้น้ำ�ร้อนพลังงานแสงอาทิตย์  ด้ ว ยระบบผสมผสาน โดยการใช้ แ ผงผลิ ต น้ำ � ร้ อ นด้ ว ยพลั ง งาน  แสงอาทิตย์ ร่วมกับ “ความร้อนปล่อยทิ้ง” (waste heat) ของสถาน  ประกอบการ เช่น ความร้อนทิ้งจากชุดระบายอากาศของเครื่องปรับ  อากาศ เตาเผา หม้อไอน้ำ� เป็นต้น  รวมทั้งสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการ  ลงทุนติดตั้งระบบผลิตน้�ำ ร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณร้อยละ 30  ของการลงทุนติดตั้งระบบให้แก่กิจการธุรกิจ อาคารภาครัฐ หน่วยงาน  ในกำ�กับของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำ�ไรที่ใช้น�้ำ ร้อน ทั้งนี้ พพ. ได้ดำ�เนินการส่งเสริมตั้งแต่ปี 2551-2554 มีสถาน  ประกอบการที่ ติ ด ตั้ ง แล้ ว เสร็ จ  115 แห่ ง  รวมพื้ น ที่ แ ผงรั บ รั ง สี   ดวงอาทิ ต ย์   25,653 ตารางเมตร คิ ด เป็ น ผลประหยั ด  3.247 ktoe  ต่อปี

106 P 98-145 (chapter 4).indd 106

เป้าหมายตามแผน AEDP ในปี 2564 1. กำ�หนดเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ในปี  2564 คือ 2,000 MW จากปัจจุบัน (ตุลาคม 2555) มีกำ �ลังการผลิต  รวม 360 MW โดยมีมาตรการส่งเสริมที่สำ�คัญ เช่น   การส่งเสริมโครงการระบบขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งในระดับ ชุ ม ชนและครั ว เรื อ น รวมทั้ ง ระบบผลิ ต ไฟฟ้ า พลั ง งานแสงอาทิ ต ย์   บนหลั ง คา (Solar PV Rooftop) เช่ น  บ้ า นเรื อ น คอนโดมิ เ นี ย ม  อาคารสำ�นักงาน อาคารภาครัฐ โรงงาน ฯลฯ     การส่ ง เสริ ม อุ ต สาหกรรมผลิ ต แผงแสงอาทิ ต ย์ ต้ น น้ำ� แบบ ครบวงจร เช่น โรงงานผลิตซิลิคอนเวเฟอร์     การปรับมาตรการจูงใจภาคเอกชนในการลงทุนจัดตั้งโรง ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากการให้ Adder มาเป็นระบบ Feed in  Tarif (FiT)      การให้การไฟฟ้าทั้งสามหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการ ขยายและเพิ่มระบบสายส่งเพื่อรองรับพลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้น รวม ทั้งเตรียมการพัฒนาสู่ระบบ Smart Grid 2. กำ�หนดเป้าหมายการผลิตความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์  ในปี   2564 คื อ  100 ktoe จากปั จ จุ บั น  (ตุ ล าคม 2555) ที่ มี กำ � ลั ง  การผลิตรวม 4 ktoe โดยมีมาตรการส่งเสริมที่สำ�คัญ เช่น    ส่งเสริมการติดตั้งระบบน้ำ�ร้อน/น้ำ�เย็นแสงอาทิตย์ (solar heating/cooling)    พัฒนาระบบน้�ำ ร้อนแสงอาทิตย์ระดับครัวเรือนที่มีต้นทุนต่ำ�   พัฒนากลไกภาคบังคับ เช่น building energy code เพื่อ บังคับอาคารขนาดใหญ่ติดตั้งระบบน้ำ�ร้อน/น้ำ�เย็นแสงอาทิตย์   ส่งเสริมระบบอบแห้งแสงอาทิตย์สำ�หรับธุรกิจขนาดกลางและ ขนาดเล็ก (SME) และวิสาหกิจชุมชน (OTOP)

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:36


บานาน่าโซไซตี้ ยกระดับกล้วยตากสูพ ่ าราโบลาโดม แห่งแรกของไทย “ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า นาทีนี้บานาน่าโซไซตี้คือ  กล้วยตากที่ขายแพงที่สุดในประเทศไทย” วุฒิชัย ชะนะมา ผู้จัดการ บริษัทบานาน่าโซไซตี้ จำ�กัด แสดง

ความภาคภู มิ ใ จในมู ล ค่ า กล้ ว ยตากจากอำ � เภอบางกระทุ่ ม  จั ง หวั ด พิษณุโลก ที่สามารถขายได้ในราคากล่องละ 35 บาท (มีสามชิ้น) “กล้วยตากของผมผ่านองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และกระบวน  การผลิตทางเทคโนโลยี รับรองจาก Innovative House (สำ�นักงาน  กองทุนสนับสนุนการวิจัย) ผู้บริโภคจึงไม่ได้แค่ความอร่อยยังสามารถ วางใจในเรื่องคุณภาพด้วย”

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 107

1.

วุฒิชัยย้อนอดีตของอำ�เภอบางกระทุ่มว่า แม้จะเป็นเมืองกล้วย ตากมาช้านาน แต่กล้วยตากของอำ�เภอบางกระทุ่มกลับไม่เป็นที่รู้จัก  ของคนเมืองนัก เนื่องจากยังไม่มียี่ห้อเป็นของตนเอง  เมื่อชาวบ้าน  ตากกล้วยเสร็จจะบรรจุลงเข่งลำ�เลียงไปสถานีรถไฟเพื่อขนส่งไปขาย  ต่อโรงงานในกรุงเทพฯ และถูกใส่บรรจุภัณฑ์ตีตรายี่ห้อของโรงงาน แทน  แต่หากใครเดินทางขึ้นภาคเหนือ เมื่อผ่านอำ�เภอบางกระทุ่มก็จะ เห็นภาพสองข้างทางรถไฟและถนนเต็มไปด้วยแผงตากกล้วยเรียงราย  และเป็นสินค้าขายดี  โดยเฉพาะกล้วยตากที่ทำ�จากกล้วยน้ำ�ว้าสายพันธุ์ มะลิอ่องนั้น ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นหอมและรสอร่อยติดลิ้นจนเป็นเอกลักษณ์ ของที่นี่  ต่อมาเมื่อกระบวนการผลิตอาหารพัฒนาไป ผู้บริโภคต่างหันมา ใส่ใจด้านสุขลักษณะมากขึ้น กล้วยตากขายดีข้างทางกลับถูกมองว่าไม่ สะอาด  ชาวบ้านที่เคยตากกล้วยบนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้านอวดสายตาผู้ บริโภค ต้องหลบมาไว้ในบ้าน นำ�ออกมาเฉพาะเวลามีแดดมีลม  เมื่อ ความต้องการของผู้บริโภคลดลง แต่จำ�นวนผู้ขายคงที่ จึงเกิดปัญหา  ในการรักษาคุณภาพของสินค้า เพื่อให้มรดกทางวัฒนธรรมอาหารที่สานต่อจากครอบครัวอยู่รอด  วุฒิชัยจึงปรับแนวคิดใหม่  ในปี 2548 เขาก่อตั้ง “วิสาหกิจชุมชนกล้วยตากบุปผา” ขึ้น ปรับ  กระบวนการผลิตกล้วยตากแบบภูมิปัญญาชาวบ้านให้ได้มาตรฐานสากล  โดยเริ่มนำ�ตู้อบมาใช้  แต่เมื่อถึงฤดูฝนซึ่งไม่ค่อยมีแดด การตากกล้วย ต้องใช้เวลานานถึง 7 วัน  บางครั้งฝนตกหนักติดกันหลายวันก็ประสบ ปัญหากล้วยตากเน่าเสีย บางครั้งคิดเป็นมูลค่าเสียหายนับแสนบาท

107 21/12/2012 18:36


ปรกติพาราโบลาโดมจะปิดประตูไว้เสมอ เพื่อป้องกันความชื้น ฝุ่น แมลง ฯลฯ

ทั้งวุฒิชัย ผู้ประกอบการรายอื่น และชาวบ้าน จึงต่างพยายาม ช่วยกันคิดหาพลังงานทดแทนที่จะมาใช้เพื่อมิให้เกิดความเสียหายขึ้นอีก แล้ ว วั น หนึ่ ง จากความมุ่ ง มั่ น ที่ จ ะต่ อ สู้ กั บ ฤดู ฝ น กล้ ว ยตาก บางกระทุ่มก็พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...

2.

“ผมมี โ อกาสได้ รู้ จั ก อาจารย์ บั ณ ฑิ ต  อิ น ณวงศ์   ผู้ ป ระสานงาน  กองทุน สกว. (สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย) ภาควิชาเทคโนโลยี  อาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย  ศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ ซึ่งกำ�ลังทำ�งานวิจัยเกี่ยวกับกล้วยตาก  ให้ชาวเขาที่อำ�เภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ในโครงการส่งเสริมอาชีพของ  สมเด็ จ พระเทพฯ โดยใช้ โ รงอบพลั ง งานแสงอาทิ ต ย์ ข นาดเล็ ก มาก

108 P 98-145 (chapter 4).indd 108

ทั น ที ที่ เ ห็ น  ผมรู้ สึ ก ว่ า สามารถนำ � มาประยุ ก ต์ กั บ องค์ ค วามรู้ ข อง ชาวอำ � เภอบางกระทุ่ ม ที่ มี ทั ก ษะเรื่ อ งการตากกล้ ว ยมาไม่ น้ อ ยกว่ า  100 ปี แล้วขยายขนาดให้เป็นอุตสาหกรรม โดยนำ�กล้วยน้ำ�ว้าเข้าไปใน  โรงอบให้ได้อย่างน้อย 1,400 กิโลกรัม” วุฒิชัยเล่าถึงจุดเริ่มต้นก่อน  จะพัฒนามาเป็น “โรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ (พาราโบลาโดม)”  เมื่ อ จุ ด ประกายความคิ ด แล้ ว  วุ ฒิ ชั ย พยายามศึ ก ษาข้ อ มู ล เพิ่ ม  กระทั่งได้ร้จู ัก รศ. ดร. เสริม จันทร์ฉาย ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย ศิ ล ปากร ผู้ คิ ด ค้ น เครื่ อ งอบแห้ ง พลั ง งานแสงอาทิ ต ย์   เพื่อทำ�หน้าที่ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และระยะเวลาในการอบผลไม้  ทั้งยังช่วยให้ผลิตได้ในทุกฤดูกาล  เขาจึงเล่าถึงแผนโครงการที่ต้องการ ขยายโรงอบแบบที่อำ�เภอสวนผึ้ง   และนี่เป็นการเริ่มต้นของโครงการใหม่ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:36


การพลิกกล้วยเพื่อให้ได้รับความร้อน ทั่วถึงกันทุกส่วน

“อาจารย์ เ สริ ม เคยทำ � วิ จั ย เรื่ อ งพลั ง งานแสงอาทิ ต ย์ ร่ ว มกั บ ทาง พพ. อยู่ ก่ อ นแล้ ว  จึ ง นำ � แนวคิ ด พาราโบลาโดมของผมไปทดลองทำ � ที่ แ ขวงจำ � ปาสั ก  ประเทศลาว เป็ น แห่ ง แรก  ของโลก และนำ � เงิ น ค่ า ตอบแทนส่ ว นหนึ่ ง ซึ่ ง ได้ รั บ จากงานวิ จั ย ชิ้ น นั้ น มาผลั ก ดั น ให้ เ กิ ด  โครงการนี้ขึ้นในเมืองไทย โดย พพ. ได้ร่วมสนับสนุนงานวิจัย 70 เปอร์เซ็นต์ และผมลงทุนเอง  อีก 30 เปอร์เซ็นต์  ถือเป็นจุดเปลี่ยนจากการใช้ตู้อบสู่พาราโบลาโดมหลังแรกของประเทศไทย” ตั ว โครงสร้ า งโดมใช้ เ หล็ ก แป๊ บ  บางส่ ว นเป็ น เหล็ ก ชุ บ กั ล วาไนซ์   (Hot-Dip Galvanized)  กันสนิม และใช้แผ่นโพลีคาร์บอเนต (PC Hollow Sheet) ชนิดใสขนาดใหญ่คลุม เพื่อกักเก็บความ  ร้อนไว้ภายใน  โดมมีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 20 เมตร พื้นที่ส�ำ หรับตากแห้ง 160 ตารางเมตร   ต้นทุนสร้างกว่า 8 แสนบาท  โดยหลักการทำ�งาน พาราโบลาโดมใช้กระบวนการสะสมความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์   ที่ ต กลงมากระทบแล้ ว เก็ บ ไว้ ภ ายในโดม โดยลั ก ษณะองศาของโครงสร้ า งทรงพาราโบลา  จะช่วยขยายความร้อนภายในโดมจากปรกติได้มากขึ้น 20-30 เปอร์เซ็นต์ คล้ายกับการขยายแสง  ด้วยเลนส์เว้าเลนส์นูน ทำ �ให้สามารถอบกล้วยตากได้ครั้งละประมาณ 1,400 กิโลกรัม และย่น  ระยะเวลาตากกล้วยจากเดิม 7 วัน เหลือเพียง 4 วัน ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมต่างมุ่งหวังว่าพาราโบลาโดมจะแก้ปัญหากล้วยเน่าเสียในฤดูฝนให้หมดลง  ได้ และช่วยให้สภาพผิวกล้วยดีกว่าการตากแดดแบบทัว่ ไป  เนือ่ งจากโดมเป็นระบบปิด โอกาสทีก่ ล้วย  จะสัมผัสความชื้น ยีสต์ รา ฝุ่น หรือแมลง ที่เข้ามาปนเปื้อนจึงมีน้อยมาก และช่วยยืดอายุการเก็บ กล้วยตากให้นานถึง 4 เดือน แต่ทุกอย่างยังไม่ง่ายอย่างที่คิด...

3.

“สองปีแรกไม่ได้ผล เราต้องการอบกล้วยให้ออกมาเป็นกล้วยตาก แต่กลับได้กล้วยนึ่ง เพราะ กล้วยไม่แห้ง บางทีผิวกล้วยก็เกิดจุดแดงหรือไม่ก็ขาวกระด้างเหมือนกล้วยที่วางบนเตาปิ้ง” วุฒิชัยเผยอุปสรรคในช่วงเริ่มต้น ถึงอย่างนั้นเขายังมั่นใจในประสิทธิภาพของพาราโบลาโดม  ว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง เพียงแต่มนุษย์ต้องถอดรหัสเทคโนโลยีให้ได้ก่อน “เราตั้งข้อสังเกตว่าการอบเฉยๆ อาจไม่ทำ�ให้น้ำ�อิสระหายไป (น้ำ�ซึ่งทำ�หน้าที่คงความสดใน อาหาร) เหมือนเราอยู่ในตู้อบ เหงื่อออกก็จริงแต่ไม่แห้ง ต่างจากเมื่อเวลาตากแดดกลางแจ้ง เหงื่อ ออกแล้วแห้ง เราจึงคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับลมสัมพัทธ์”  นี่นำ�มาสู่การมองสาเหตุของปัญหาว่าพาราโบลาโดมติดตั้งพัดลมไม่เพียงพอ  ทีมวิจัยร่วม กันประมวลข้อมูลและจับทิศทางลมใหม่ จากนั้นได้นำ�พัดลมตัวใหญ่วางเสริมเพื่อสร้างลมสัมพัทธ์  ผลลัพธ์คือ กล้วยแห้งสนิท กล้วยตากเคลือบช็อกโกแลต

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 109

109 21/12/2012 18:37


เมื่อถอดรหัสจากเทคโนโลยีสำ�เร็จในปี 2551 ภาพลักษณ์ใหม่  ของกล้วยตากบางกระทุ่มจึงถือกำ�เนิด... “ผมอยากประกาศให้ รู้ ว่ า กล้ ว ยตากบางกระทุ่ ม ไม่ ไ ด้ ต ากแดด  ตากลมแบบเดิมแล้ว เรามีพาราโบลาโดมแห่งแรกของประเทศไทย จึง มาคิดเรื่องชื่อผลิตภัณฑ์ว่าต้องสร้างแบรนด์ให้ดูเป็นสากล จึงเป็นที่มา ของชื่ อ  บานาน่ า โซไซตี้   เพื่ อ สะกิ ด ให้ สั ง คมและผู้ บ ริ โ ภครู้ ว่ า นี่ ไ ม่ ใ ช่ กล้วยตากธรรมดา แต่ผ่านองค์ความรู้ด้านพลังงานมาผสานเข้ากับ เทคโนโลยีต่างๆ โดยนักวิจัยและการช่วยเหลือจาก พพ.” ความสำ�เร็จของพาราโบลาโดมส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง  ในอำ�เภอบางกระทุ่ม โดยมีวุฒิชัยเป็นผู้เริ่มต้นสร้างสรรค์กรรมวิธีตาก  กล้วยแบบไม่ต้องทิ้งไว้กลางแจ้ง โดยได้รับการส่งเสริมช่วยเหลืองบ  ลงทุนบางส่วนจาก พพ. “สิ่งที่ผมภาคภูมิใจมาก คือบานาน่าโซไซตี้เป็นผู้สร้างแรงกระตุ้น  แก่ผู้ประกอบการกล้วยตากในอำ�เภอบางกระทุ่ม เริ่มใส่ใจกระบวนการ  ผลิต  วันนี้ผมมีพาราโบลาโดมสี่หลัง โดยทุนสนับสนุนส่วนหนึ่งจาก  พพ.  แต่ในอำ �เภอบางกระทุ่มวันนี้มีผู้ประกอบการใช้แล้วไม่ต่ำ �กว่า  10 ราย  บางรายขอเงิ น สนั บ สนุ น จาก พพ. เช่ น กั น   บางรายที่ มี  ศั ก ยภาพก็ ส ร้ า งขึ้ น เลี ย นแบบเองเลย ซึ่ ง หากทาง พพ. เห็ น ว่ า ผู้   ประกอบการบางรายสร้างแบบผิดๆ ถูกๆ เขายังส่งเจ้าหน้าที่เข้ามา ช่วยแนะนำ�แบบที่ถูกต้องให้”

กล้วยตากเคลือบช็อกโกแลตและไซรัปกล้วย (น้ำ�หวานเข้มข้นจากกล้วย น้ำ�ว้าที่ได้จากกระบวนการผลิตกล้วยตากในพาราโบลาโดม) ซึ่งได้รับ ความนิยมสูง   ในอนาคตอำ�เภอบางกระทุ่มอาจได้รับการส่งเสริมให้เป็นเมือง ต้นแบบด้านกระบวนการตากกล้วยที่ผู้ประกอบการทั่วประเทศต้องมา ศึกษาดูงาน การตากกล้วยเปรียบเสมือน DNA ของชาวบางกระทุ่ม แม้วิธี  ตากแดดตากลมกลางแจ้งจะเคยเป็นที่มาของ “เมืองกล้วยตาก” แต่วันนี้  การอบแห้งใน “พาราโบลาโดม” โดยการสนับสนุนจาก พพ. ได้รับการ ยอมรับให้เป็นภาพลักษณ์ใหม่ของบางกระทุ่มเรียบร้อยแล้ว วุฒิชัย ชะนะมา เจ้าของผลิตภัณฑ์บานาน่าโซไซตี้ กล่าวทิ้งท้าย “เมื่อก่อนคนเห็นแผงกล้วยตากบางกระทุ่มข้างทางก็เตือนกันให้ ระวังแมลงวัน ระวังความสะอาด  เดี๋ยวนี้เราพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า  ถ้าใครอยากเห็นแผงกล้วยตากบางกระทุ่ม ต้องขึ้นเครื่องบินแล้วมอง ทะลุลงมายังพาราโบลาโดม”

4.

ผลพวงจากการทำ�วิจัยด้วยการสร้างองค์ความรู้ ทำ�ให้อุตสาห-  กรรมกล้วยตากบางกระทุ่มมีคุณภาพเป็นจุดขาย สามารถระบุบนฉลาก  ผลิตภัณฑ์ได้อย่างภาคภูมิใจว่าคือกล้วยตากจากพาราโบลาโดม และช่วย  ให้เกษตรกรในพื้นที่รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย “เวลานี้กำ�ลังการผลิตกล้วยตากของอำ�เภอบางกระทุ่มยิง่ ใหญ่มาก  ผมว่าไม่ตำ่�กว่า 7 แสนตันต่อปี  ผมลองคำ�นวณว่ากล้วยน้ำ�ว้า 1,400  กิโลกรัม ตากเสร็จได้ 350 กิโลกรัม เฉพาะสต๊อกกล้วยตากที่ผมขาย  ก็ 100 ตันต่อปี มาจากกล้วยน้ำ�ว้าหลายแสนกิโลกรัม แล้ว  ผู้ประกอบการรายใหญ่กว่าผมอีก รวมแล้วจะเป็นเท่าใด” บานาน่าโซไซตี้ตอกย้ำ�ความสำ�เร็จอีกขั้นด้วยผลิตภัณฑ์

110 P 98-145 (chapter 4).indd 110

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:37


“น้�ำ ร้อนพลังงานแสงอาทิตย์” โรงพยาบาลฯ  สถาบันวิจยั จุฬาภรณ์ ในบรรดาอาคารจำ�นวนมากที่เรียงรายอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต  อาคาร 14 ชั้นของโรงพยาบาลศูนย์วิจัยศึกษาและบำ � บัดโรคมะเร็ง  สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ดูจะพิเศษกว่าอาคารอื่นๆ ด้วยบนชั้นดาดฟ้า  มี แ ผงรั บ รั ง สี ด วงอาทิ ต ย์   (solar collector) 100 แผงตั้ ง เรี ย งราย  อยู่เต็มพื้นที่  เป็นเวลา 3 ปีแล้วที่แผงรับรังสีดวงอาทิตย์เหล่านี้ทำ�งานร่วม  กับระบบปรับอากาศโรงพยาบาล ผลิตน้ำ�ร้อนถึงวันละ 30,000 ลิตร และช่วยให้โรงพยาบาลประหยัดค่าไฟฟ้าจากระบบการทำ�น้ำ�ร้อนแบบ ดั้งเดิมได้ถึงปีละ 1.49 ล้านบาท ทั้งยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  ได้ 91.83 ตันต่อปี

1.

ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2552 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์   พลังงาน (พพ.) ได้เริ่มดำ�เนินโครงการศึกษาพัฒนาและสาธิตการผลิต น้ำ�ร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ของโรงพยาบาลฯ สถาบันวิจัยจุฬา-  ภรณ์ โดยถือเป็นโครงการนำ�ร่องศึกษาพัฒนาการผลิตน้ำ�ร้อนพลังงาน แสงอาทิตย์ผสมผสานกับความร้อนเหลือทิ้งจากระบบทำ�ความเย็น ปั จ จุ บั น เทคโนโลยี ก ารผลิ ต น้ำ � ร้ อ นด้ ว ยพลั ง งานแสงอาทิ ต ย์   จากแผงรับความร้อนมีส องแบบ คือแบบแผ่นเรียบ และแบบหลอด  สุ ญ ญากาศ ซึ่ ง มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ 21 เปอร์ เ ซ็ น ต์   และ 38 เปอร์ เ ซ็ น ต์   ตามลำ�ดับ ขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีดวงอาทิตย์ที่ได้รับและประสิทธิภาพ ของอุปกรณ์รับรังสี โดยโรงพยาบาลเลือกใช้ระบบแบบผสมผสาน เจษฎา ใบเจริญ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรส่วนอาคารและสถานที่และ บริ ก ารกลาง ซึ่ ง ดู แ ลระบบผลิ ต น้ำ � ร้ อ นพลั ง งานแสงอาทิ ต ย์ เ ล่ า ว่ า  แผงรั บ รั ง สี ด วงอาทิ ต ย์   100 แผงมี พื้ น ที่ รั บ รั ง สี   200 ตารางเมตร  แผงรับรังสีดวงอาทิตย์บนดาดฟ้าอาคารโรงพยาบาล

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 111

111 21/12/2012 18:37


ระบบผลิตน้ำ�ร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ที่โรงพยาบาลฯ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มีกำ�ลังผลิต 30,000 ลิตรต่อวัน และทำ�งานติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว

โดยหันไปในทิศทางที่คำ�นวณแล้วว่าเป็นองศาที่รับพลังงานแสงอาทิตย์  ได้มากที่สุด โดยจะทำ�น้ำ�ร้อนร่วมกันกับระบบปรับอากาศที่มีการติดตั้ง  “ระบบแลกเปลี่ยนความร้อน” ซึ่งจะดึงความร้อนจากเครื่องปรับอากาศ ขนาด 250 ตั น ของตึ ก สถาบั น วิ จั ย จุ ฬ าภรณ์ ที่ ตั้ ง อยู่ อี ก ด้ า นของโรง  พยาบาลมาใช้ “เราได้น้ำ�ร้อนจากสองระบบ คือระบบปรับอากาศ และระบบแผง  รับรังสีดวงอาทิตย์  น้ำ�ร้อนร้อยละ 70 จะถูกจ่ายให้แก่ผู้ป่วย ที่เหลือ  จะสำ�รองเอาไว้ในถังเก็บขนาด 15,000 ลิตร จำ�นวนสองถัง ที่มีความ  สามารถในการรักษาอุณหภูมิของน้�ำ เช่นเดียวกับกระติกน้ำ�ร้อน”  เจษฎาบอกว่าระบบที่เห็นในปัจจุบันเกิดจากการคำ �นวณความ

112 P 98-145 (chapter 4).indd 112

ต้องการใช้น้ำ�ของห้องพักผู้ป่วยทั้งตึก  “เช่นที่นี่เป็นโรงพยาบาลขนาด 100 เตียง แต่ละห้องต้องการใช้ น้ำ�เฉลี่ยวันละ 60 ลิตร  เมื่อคูณด้วยจำ�นวนห้อง จำ�นวนวัน จะได้ค่า  ต้องการน้ำ�ร้อนในแต่ละเดือน เราพบว่าปริมาณที่ต้องการคือ 15,000  ลิตรต่อวัน  นอกจากระบบแผงรับรังสีดวงอาทิตย์แล้ว ระบบผลิตที่ เราเพิ่มขึ้นมา คือการดึงความร้อนที่ปรกติเครื่องปรับอากาศจะปล่อย ทิ้งไปโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ นำ�กลับมาใช้ทำ�น้ำ�ร้อนด้วยเครื่อง Edge  Heat Exchanger โดยเราทำ�น้ำ�อุณหภูมิสูงสุดได้ที่ 70 องศาเซลเซียส  แล้วส่งเข้าถังเก็บซึ่งจะรักษาอุณหภูมิไว้ที่ 40-50 องศาเซลเซียสและ  จ่ายออกไปเมื่อใช้งาน”  60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:37


ปัจจุบันกำ�ลังการผลิตน้ำ�ร้อนจากระบบนี้อยู่ที่ 30,000 ลิตรต่อวัน  โดยร้อยละ 70 จ่ายเข้าสู่ห้องพักฟื้นผู้ป่วยชั้น 7-10  อีกร้อยละ 30 ใช้  ในกิจกรรมทั่วไปของโรงพยาบาล  โดยช่วงกลางวันเน้นการใช้น้ำ�ร้อน ที่ได้จากระบบแผงรับรังสีดวงอาทิตย์  ส่วนกลางคืนใช้น้ำ�ร้อนที่สะสม ไว้จากกลางวันและน้ำ�ร้อนจากระบบปรับอากาศเป็นหลัก  ทั้งนี้ปริมาณ การใช้อาจเพิ่มสูงกว่า 15,000 ลิตรต่อวัน หากโรงพยาบาลมีคนไข้มาใช้  บริการและมีผู้ป่วยในจำ�นวนมาก แต่ในภาพรวมถือว่าสามารถผลิตได้  อย่างเพียงพอและเหลือใช้งานจำ�นวนมาก

2.

สำ�หรับการดูแลระบบนั้นไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด  เจษฎา ใบเจริญ อธิบายว่าปรกติเขากับทีมงานทั้งหมด 14 คน  จะคอยติดตามหน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องควบคุมซึ่งเดินโปรแกรมระบบ การทำ�งานผลิตน้ำ�ร้อนอยู่ และข้อมูลส่วนหนึ่งจากระบบจะส่งไปแสดง บนจอภาพในโถงต้อนรับผู้ป่วยของโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้มาใช้บริการ ทราบว่าขณะนี้สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกได้เป็นปริมาณเท่าใด ส่วนปัญหาความไม่สม่ำ�เสมอของแสงอาทิตย์นั้น เขาบอกว่าที่ ผ่านมาถือว่าแผงรับรังสีดวงอาทิตย์ยังทำ�งานได้ดี  “เพราะบ้านเรามีช่วงไม่มีแดดจริงๆ เพียงไม่กี่วันเท่านั้นในรอบปี  และระบบยังอาศัยความร้อนจากระบบปรับอากาศซึ่งทำ�งานตลอดเวลา  จึ ง ไม่ ต้ อ งกั ง วลว่ า ระบบจะสะดุ ด  และหากสองระบบที่ ผ สมผสานกั น ทำ�งานไม่ได้ทง้ั คู ่ เรายังมีระบบฮีตเตอร์ท�ำ น้�ำ ร้อนสำ�รองไว้อกี หนึง่ ระบบ” หลังจากเริ่มใช้งานระบบเต็มที่ในปี 2552 วันนี้ระบบผลิตน้ำ�ร้อน  ยังทำ�งานได้อย่างราบรื่น “เราคาดว่าแผงรับรังสีดวงอาทิตย์จะมีอายุการใช้งานไม่ต่ำ�กว่า  10 ปี    สิ่ ง ที่ ต้ อ งทำ � คื อ การบำ � รุ ง รั ก ษาอุ ป กรณ์ ต่ า งๆ และทำ � ความ  สะอาดแผงรับรังสีดวงอาทิตย์ซึ่งอาจมีฝุ่นเกาะหรือเกิดการชำ�รุด  ระยะ แรกที่ปรึกษาของเราซึ่งเข้ามาช่วยวางระบบ คือคณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำ �แพงแสน จังหวัดนครปฐม  ส่วนปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี”  ล่าสุดทางโรงพยาบาลมีแนวคิดต่อยอดระบบผลิตน้�ำ ร้อนพลังงาน แสงอาทิตย์ ด้วยการนำ�น้ำ�ร้อนเข้ามาช่วยการทำ�งานของระบบปรับ อากาศ

เจษฎาอธิบายถึงแนวคิดนี้ว่า “ปัจจุบันเราใช้น้ำ�ร้อนแค่ 15,000 ลิตรต่อวัน หมายความว่าเรามีกำ�ลังการผลิตเหลือ  ขณะที่ระบบปรับ อากาศปรกติจะทำ�งานลดอุณหภูมิห้องพร้อมกับรีดความชื้นออกไป แต่ เมื่อถึงระดับที่ห้องมีอุณหภูมิเหมาะสม ระบบจะตัดการทำ �งาน และ ทำ�ให้การรีดความชื้นสะดุดไปด้วย  เราจึงคิดนำ�น้ำ�ร้อนที่เหลือมาแก้ ปัญหาการตัดการทำ�งานของเครื่องปรับอากาศโดยไม่ต้องลดอุณหภูมิ ห้อง ด้วยการเดินท่อน้ำ�ร้อนเข้าไปในระบบปรับอากาศ เพื่อให้มีการ รีดความชื้นอยู่ตลอดเวลา  ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนำ�เสนอหลักการ ขอ งบประมาณ และปรึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีให้ช่วยดูข้อมูลและ ประเมินผลดีผลเสีย”

3.

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบอกว่า ทุกวันนี้มีคนมาชมงานระบบ ผลิตน้ำ�ร้อนพลังงานแสงอาทิตย์อยู่เป็นระยะ ส่วนมากมาศึกษาเพื่อนำ� ไปปรับใช้กับอาคารหน่วยงานของตน “ต่อไปโรงพยาบาลยังจะเปลี่ยนหลอดไฟและติดตั้งระบบไฟฟ้า อัจฉริยะ เพื่อให้แสงสว่างเหมาะสมตามความต้องการใช้งานในแต่ละ พื้ น ที่    ถ้ า ทุ ก อาคารทำ � เช่ น เดี ย วกั น กั บ ที่ โ รงพยาบาลฯ สถาบั น วิ จั ย  จุฬาภรณ์ รัฐบาลจะประหยัดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนได้จำ�นวนมาก” เจษฎายังทิ้งท้ายกับเราว่า “ระบบนี้เหมาะกับเมืองไทยมาก และ พพ. ควรจะสนับสนุนและขยายผลให้หลายอาคารทำ�ต่อไป”

ส่วนหนึ่งของระบบท่อส่งน้ำ�ร้อน

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 113

113 21/12/2012 18:37


> กังหันลมขนาดใหญ่  ขนาด 1.5 MW ตัวแรกของประเทศไทย ที่บ้านทะเลปัง ตำ�บลหัวไทร อำ�เภอหัวไทร  จังหวัดนครศรีธรรมราช

ลมเป็ น พลั ง งานรู ป แบบหนึ่ ง ซึ่งอยู่รอบตัวเรา

พลังงานลม Wind Energy

มนุษย์คุ้นเคยกับลมเป็นอย่างดี และรู้จักนำ�ลมมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ โบราณ เช่น เรือ กังหันลมวิดน้ำ�  จัดเป็นแหล่งพลังงานธรรมชาติที่ สะอาด และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน การศึกษาศักยภาพพลังงานลมในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นตั้งแต่ ปี 2518 โดยปัจจุบันกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน  (พพ.) มีสถานีวัดลมรวม 70 สถานี เป็นสถานีวัดลมที่มีความสูง 40  เมตร จำ � นวน 47 สถานี   และสถานี วั ด ลมที่ มี ค วามสู ง  90 เมตร  จำ � นวน 23 สถานี   และอนาคตมี แ ผนที่ จ ะปรั บ ปรุ ง ให้ ส ถานี วั ด ลมที่   ความสูง 40 เมตร เป็นความสูง 90 เมตรทั้งหมด ปัจจุบันเทคโนโลยีการใช้พลังงานลมมีประโยชน์ในสองรูปแบบ  ด้วยกัน คือกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า และกังหันลมเพื่อสูบน้ำ�

พลังงานลมจะเปลี่ยนเป็น พลังงานไฟฟ้าโดยการ หมุนใบพัดซึ่งเชื่อมต่อ กับเครื่องกำ�เนิดไฟฟ้า

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” P 98-145 (chapter 4).indd 114

21/12/2012 18:37


สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 115

115 21/12/2012 18:37


116 P 98-145 (chapter 4).indd 116

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:37


< กังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาด 1 kW  ติดตั้งที่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร  จังหวัดเพชรบุรี

1. กังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า  (Wind Turbine for Electricity)

2. กังหันลมเพื่อสูบน้�  ำ (Wind Turbine for Pumping)

กังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าเป็นกังหันลมที่อาศัยลมหมุน “ใบพัด” ของกังหันซึ่งติดอยู่กับ “เครื่องกำ�เนิดไฟฟ้า” โดยปริมาณไฟฟ้าที่ผลิต ได้ ขึ้ น อยู่ กั บ ความเร็ ว ของลม ความยาวของใบพั ด  และสถานที่ ติ ด ตั้ง โดยการออกแบบกังหันลมต้องอาศัยความรู้ด้านพลศาสตร์ และ หลักวิศวกรรมศาสตร์แขนงต่างๆ เพื่อให้ได้กำ�ลังงาน พลังงาน และ ประสิทธิภาพสูงสุด ปัจจุบันการใช้ประโยชน์จากพลังงานลมเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้ามี เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศแถบยุโรป  สำ�หรับประเทศไทยการ ใช้ประโยชน์จากพลังงานลมเพื่อผลิตไฟฟ้ายังมีค่อนข้างน้อย เนื่องจาก ศักยภาพพลังงานลมในประเทศไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ พพ. ได้ ส่ ง เสริ ม การวิ จั ย จั ด สร้ า งกั ง หั น ลมความเร็ ว ลมต่ำ � ที่ เหมาะสมกั บ ประเทศไทย ส่ ง เสริ ม การใช้ กั ง หั น ลมประสิ ท ธิ ภ าพสู ง  จากทั้งในและต่างประเทศ และสาธิตการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมขนาด  ตั้งแต่ 1-1,500 กิโลวัตต์ โดยถึงปี 2554 ดำ�เนินการติดตั้งแล้วเสร็จ  จำ�นวน 9 แห่ง มีขนาดกำ�ลังการผลิต 1,897 กิโลวัตต์ โครงการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ท่สี ุดของประเทศไทย  ตั้งอยู่บนพื้นที่สาธารณประโยชน์ประมาณ 3 ไร่ ณ บ้านทะเลปัง หมู่  2 ตำ�บลหัวไทร อำ�เภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาดกำ�ลัง  การผลิ ต  1.5 เมกะวั ต ต์   เริ่ ม ต้ น โครงการตั้ ง แต่ วั น ที่   28 กั น ยายน  2550 สามารถผลิ ต ไฟฟ้ า ได้ ปี ล ะ 1.8 ล้ า นหน่ ว ย คิ ด เป็ น ค่ า ไฟฟ้ า  ประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี ลดการนำ�เข้าพลังงานได้ 0.153 ktoe ต่อปี  นอกจากนี้ยังสนับสนุนส่วนต่างด้านราคาในการพัฒนาพลังงาน ลมสู่ระบบทุ่งกังหันลม (Wind Farm) และในเชิงพาณิชย์ที่สำ�คัญต่อไป  ในอนาคต

กังหันลมเพื่อสูบน้ำ� คือกังหันลมแบบสูบชัก เป็นกังหันลมชนิด หลายใบ ส่วนใหญ่ใช้สูบน้ำ�จากบ่อ สระน้ำ� หนองน้ำ� และแหล่งน้ำ�ที่ไม่ ลึกนัก เพื่อนำ�น้ำ�มาใช้ในการเกษตร ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ทำ�นาเกลือ และ การอุปโภคบริโภค มีความสามารถในการยกหรือดูดน้ำ�ได้ในระยะที่สูง กว่าแบบระหัด

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 117

เป้าหมายตามแผน AEDP ในปี 2564 กำ�หนดเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในปี 2564 คือ  1,200 MW  ปัจจุบัน (ตุลาคม 2555) มีกำ �ลังการผลิตรวม 90 MW  โดยมีมาตรการส่งเสริมที่สำ�คัญ เช่น    การส่งเสริมกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าร่วมกับระบบผลิตไฟฟ้าอื่น ในชุมชนห่างไกล และเกาะที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้   การอำ � นวยความสะดวกให้ เ อกชนสามารถขอใช้ พื้ น ที่ แ ละ ดำ�เนินการติดตั้งกังหันลมในพื้นที่ห่างไกลได้   การผลักดันให้มีอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ส่วนควบ เพื่อ การกักเก็บไฟฟ้าและระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานลมแบบผสมผสาน   พัฒนารูปแบบกังหันลมทีเ่ หมาะสมกับความเร็วลมของประเทศ เช่น กังหันลมความเร็วต่ำ� (Lowspeed Wind)

117 21/12/2012 18:37


> ไฟฟ้าพลังน้�ำ อาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก เปลี่ยนพลังงานศักย์ให้เป็นพลังงานจลน์เพื่อหมุนกังหัน ของเครื่องกำ�เนิดไฟฟ้า

“น้ำ�” เป็นพลังงานทดแทนที่ใช้เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า

โดยการกั ก น้ำ � ให้ มี ร ะดั บ สู ง ขึ้ น ด้ ว ยการสร้ า งเขื่ อ นหรื อ ฝาย แล้ ว ผั น น้ำ�ลงผ่านท่อที่ทอดลงสู่ที่ต่ำ� เข้าสู่เครื่องกังหันน้ำ�ผลักใบพัดให้เกิดแรง หมุนเพลาซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องกำ�เนิดไฟฟ้า ผลิตกระแสไฟฟ้าออกมา  เพื่อส่งไปใช้ตามบ้านเรือน   ประเทศไทยส่ ง เสริ ม การใช้ พ ลั ง น้ำ � มาตั้ ง แต่ ปี   2507 โดยมี   วัตถุประสงค์เพื่อให้ชุมชนที่อยู่ห่างไกลในชนบท มีแหล่งกำ�เนิดไฟฟ้า จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ�เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในชุมชน ลดและป้องกัน ปัญหาอุบัติภัยทางธรรมชาติ โดยการรักษาต้นน้ำ� รวมทั้งลดการนำ�เข้า น้ำ�มันซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า  ที่สำ�คัญคือการส่งเสริม การมีส่วนร่วมของชุมชน เพราะประชาชนจะร่วมกันเป็นเจ้าของ และ บริหารจัดการทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ    ในปี ง บประมาณ 2554 โครงการไฟฟ้ า พลั ง น้ำ � ที่ อ ยู่ ใ นความ  รับผิดชอบของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)  สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้รวมทั้งสิ้น 143.282 ล้านกิโลวัตต์ต่อ  ชั่วโมง ลดการนำ�เข้าน้ำ�มันดิบได้ 31.743 ktoe

พลังงานน้ำ�ขนาดเล็ก Mini Hydro > ท่อส่งน้�ำ ที่ผันจากเขื่อนหรือฝาย เข้าสู่อาคารโรงไฟฟ้าซึ่งอยู่ในระดับพื้นที่ซึ่งต่ำ�กว่า

118 P 98-145 (chapter 4).indd 118

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:37


โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ�ขนาดเล็ก

โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ�ระดับหมู่บ้าน

มีกำ�ลังการผลิตไฟฟ้าขนาดตั้งแต่ 200 กิโลวัตต์ขึ้นไปแต่ไม่เกิน  12 เมกะวัตต์  พพ. ได้เริ่มดำ�เนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2507 จนถึง  ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จรวม 25 แห่ง โอนไปอยู่ภายใต้การดำ �เนิน งานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 3 แห่ง อยู่ภายใต้การ  ดำ�เนินงานของ พพ. 22 แห่ง  มีก�ำ ลังการผลิตรวม 43.318 เมกะวัตต์  สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 124.32 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง  หรือ 27.54 ktoe  ลดการปล่อยก๊าซประมาณ 72.254 tCO2 ต่อปี

พพ. ได้ ดำ � เนิ น การจั ด ตั้ ง โครงการไฟฟ้ า พลั ง น้ำ � ระดั บ หมู่ บ้ า น  เป็นรูปแบบความร่วมมือกับชุมชนโดยการใช้พลังงานน้ำ�ขนาดเล็กจาก  แม่ น้ำ � ในชุ ม ชน มี กำ � ลั ง การผลิ ต ต่ำ � กว่ า  200 กิ โ ลวั ต ต์    ปั จ จุ บั น มี   จำ�นวนโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ�ระดับหมู่บ้านที่เดินเครื่องผลิตพลังงาน ไฟฟ้ า อยู่ จำ � นวน 47 โครงการ กำ � ลั ง ผลิ ต รวม 1,590 กิ โ ลวั ต ต์   มี   ครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการจำ�นวน 4,115 ครัวเรือน และ  อยู่ระหว่างการก่อสร้างเพิ่มอีกหลายแห่ง

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 119

119 21/12/2012 18:37


โรงไฟฟ้าพลังน้�ำ แม่ก�ำ ปอง จากพลังงานชุมชน สูจ่ ติ สำ�นึกการอนุรกั ษ์ > โรงไฟฟ้าพลังน้ำ�แม่กำ�ปอง โครงการแรกสร้างแล้วเสร็จ  และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้า เข้าหมู่บ้านได้เมื่อปลายปี 2526

เป้าหมายตามแผน AEDP ในปี 2564 กำ�หนดเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ� (พลังน้ำ�ขนาดเล็ก  ระบบพลังน้ำ�ท้ายเขื่อนชลประทานและระบบสูบกลับ) ในปี 2564 คือ  1,608 MW จากปัจจุบัน (ตุลาคม 2555) มีก�ำ ลังการผลิตรวม 586 MW  โดยเน้นมาตรการส่งเสริม เช่น   การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ�ระดับหมู่บ้านให้แก่ราษฎรที่ไม่มีไฟฟ้า ใช้ โดยไม่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า (Off Grid)   สนับสนุนการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ�ระดับชุมชนให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือชุมชนเจ้าของพื้นที่มีส่วนร่วมเป็นเจ้า  ของโครงการ และสามารถบริหารงานและบำ�รุงรักษาเองได้ในอนาคต   แก้ ไ ขปั ญ หาอุ ป สรรคในการพั ฒ นาโครงการไฟฟ้ า พลั ง น้ำ� ขนาดเล็กที่อาจตั้งอยู่ในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พื้นที่ลุ่มน้ำ�ชั้น 1-B พื้นที่  อุทยานแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นต้น   วิจัยและพัฒนา Micro Hydro Turbine แบบน้ำ�ไหล   ศึกษาพัฒนาเครื่องกังหันน้ำ�แบบความสูงหัวน้�ำ ต่ำ�

120 P 98-145 (chapter 4).indd 120

หมู่ บ้ า นแม่ กำ � ปอง ตำ � บลห้ ว ยแก้ ว  อำ � เภอแม่ อ อน จั ง หวั ด เชี ย งใหม่   เป็ น ชุ ม ชนเก่ า แก่ อ ายุ ก ว่ า  100 ปี   ตั้ ง อยู่ บ นเนิ น เขาของ  ดอยแม่กำ�ปอง สูงจากระดับน้ำ�ทะเลโดยเฉลี่ย 1,300 เมตร  ปัจจุบัน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวโฮมสเตย์ที่มีชื่อเสียง แต่ละปีมีนักท่องเที่ยว แวะเวียนมาพักอาศัยนับพันคน เนื่องจากอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี  และตำ�แหน่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา แวดล้อมด้วยไร่ชา กาแฟ ป่า ธรรมชาติที่อุดมด้วยแมกไม้นานาพรรณ  อีกทั้งยอดดอยม่อนล้านที่อยู่  ไม่ไกลจากหมู่บ้านยังเป็นต้นกำ�เนิดลำ�ห้วยหลายสาย เช่น ห้วยแม่ลาย  ห้วยแม่กำ �ปอง ที่ไหลผ่านหมู่บ้านลงไปสู่ที่ต่ำ � ก็เป็นแหล่งพลังงาน สำ�หรับผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในชุมชน สภาพธรรมชาติและแหล่งน้ำ�อันอุดมสมบูรณ์นอกจากเกื้อหนุน ศักยภาพการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แล้ว ยังทำ�ให้บ้านแม่กำ�ปอง  กลายเป็นต้นแบบของหมู่บ้านในโครงการพัฒนาไฟฟ้าพลังน้ำ�อีกด้วย

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:37


สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 121

121 21/12/2012 18:37


> ลำ�ห้วยแม่กำ�ปองซึ่งกำ�เนิดจาก ยอดดอยม่อนล้านมีน้ำ�เพียงพอ สำ�หรับผลิตไฟฟ้าได้ตลอดปี

1.

ย้อนไปในอดีตกว่า 20 ปีก่อน บ้านแม่กำ�ปองยังเป็นชุมชนบน  ดอยในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และไม่มีถนนสำ�หรับรถยนต์วิ่ง  เข้ามาในหมู่บ้าน  โครงการก่ อ สร้ า งโรงไฟฟ้ า พลั ง น้ำ � ขนาดเล็ ก บ้ า นแม่ กำ � ปอง  เกิดขึ้นเมื่อปี 2525 จากความร่วมมือของหน่วยงานรัฐและชาวบ้าน  ในชุ ม ชน โดยสำ � นั ก งานพลั ง งานแห่ ง ชาติ   (พพ. ในขณะนั้ น ) เป็ น  ฝ่ายสำ�รวจพื้นที่และความเป็นไปได้ กำ�หนดจุดสร้างฝายและโรงไฟฟ้า  ให้ความรู้ด้านการออกแบบและงานช่าง รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณ  จั ด ซื้ อ เครื่ อ งกำ � เนิ ด ไฟฟ้ า  เครื่ อ งจั ก ร หม้ อ แปลง สายส่ ง  และวั ส ดุ  อุ ป กรณ์ ด้ า นงานช่ า งต่ า งๆ  ส่ ว นชาวบ้ า นเป็ น ผู้ จั ด หาวั ส ดุ ก่ อ สร้ า ง  บางส่วน ได้แก่ หิน ทราย ไม้แบบ และร่วมลงแรงในงานก่อสร้าง  เช่น การวางท่อส่งน้ำ�จากฝายสู่โรงไฟฟ้า เดินสายไฟ ตั้งเสาไฟฟ้า ฯลฯ การก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2526 ขณะนั้นติดตั้งเครื่องกำ�เนิด  ไฟฟ้าเพียงเครื่องเดียว มีกำ�ลังการผลิตไฟฟ้า 20 กิโลวัตต์ โดยฝาย  คอนกรีตเสริมเหล็กกักเก็บน้ำ�จากห้วยแม่กำ�ปองที่สร้างบริเวณด้านบน หมู่บ้าน มีความสูงต่างระดับจากโรงไฟฟ้าถึง 55 เมตร  น้ำ�ที่ส่งผ่าน มาตามท่อสู่โรงไฟฟ้าจึงมีแรงดันสูง ไหลผ่านใบพัดกังหันที่เพลาหมุน มีเฟืองทดรอบเชื่อมต่อกับเพลาหมุนของเครื่องกำ�เนิดไฟฟ้า ซึ่งจะผลิต กระแสไฟฟ้าออกมาผ่านตู้ควบคุมไฟ ส่งไปยังหม้อแปลงไฟฟ้า ก่อนจ่าย กระแสไฟฟ้าผ่านระบบสายส่งเข้าสู่หมู่บ้าน หลังจากนั้น พพ. ก็ส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังน้ำ�ให้ชุมชนดูแลจัดการ  เอง โดยให้ความรู้ในเรื่องการควบคุมและบำ�รุงรักษาระบบกำ�เนิดไฟฟ้า  ฝึกอบรมชาวบ้านจนกระทั่งสามารถดูแลโรงไฟฟ้าด้วยตนเองได้ แต่ หากเกิ ด ปั ญ หาที่ เ กิ น ความสามารถของชาวบ้ า น หรื อ ต้ อ งซ่ อ มแซม เครื่องจักรส่วนต่างๆ ทาง พพ. จะเข้ามาช่วยแก้ไข ปลายปี 2526 หมู่บ้านแม่กำ�ปองซึ่งมีจำ�นวนราว 140 หลังคา  เรือน จึงมีไฟฟ้าใช้เป็นครั้งแรก โดยขณะนั้นมีข้อตกลงการใช้ไฟฟ้า

122 P 98-145 (chapter 4).indd 122

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:37


ร่วมกันว่า บ้านแต่ละหลังใช้หลอดไฟได้สามดวง มีปลั๊กไฟได้หนึ่งตัว  และห้ามใช้เครื่องอ๊อกเชื่อมเหล็กหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก  รวมทั้ ง มี ก ารจดทะเบี ย นจั ด ตั้ ง  “สหกรณ์ ไ ฟฟ้ า โครงการหลวง  แม่กำ�ปอง จำ�กัด” เมื่อปี 2529 เพื่อทำ�หน้าที่ดูแลโรงไฟฟ้า บริหาร  จัด การรายได้ ค่ า ไฟฟ้า  โดยผู้ ใ ช้ไ ฟฟ้า ทุ กครัว เรื อ นจะต้อ งสมั ค รเป็น สมาชิกของสหกรณ์  ค่าไฟที่เก็บได้หลังหักรายจ่ายส่วนกองทุนเพื่อ บำ�รุงรักษาและซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ ค่าจ้างคนดูแลโรงไฟฟ้าแล้ว ยัง มีเงินปันผลและกองทุนให้สมาชิกกู้ยืม รวมทั้งเหลือเงินกองทุนเพื่อทำ� ประโยชน์สาธารณะให้แก่ชุมชน

2.

“ก่อนหน้านั้นสมัยที่หมู่บ้านไม่มีไฟฟ้า ชาวบ้านมีแต่ทีวีที่ใช้ไฟ  จากหม้อแบตเตอรี่ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่เครื่อง ตู้เย็นก็ยังไม่มีสักเครื่อง แต่  หลังจากโรงไฟฟ้าพลังน้�ำ ของหมู่บ้านเริ่มจ่ายไฟฟ้าในปี 2527 เครื่องใช้  ไฟฟ้าในหมู่บ้านเริ่มเยอะขึ้น เริ่มต้นด้วยทีวี เครื่องเสียง ตอนหลังมี  ตู้เย็นตามมาอีก ทำ�ให้เครื่องกำ�เนิดไฟฟ้าทำ�งานหนัก  ในปี 2528-  2529 จึงมีเหตุการณ์ไฟฟ้าตกหรือไฟดับบ่อยครั้ง” พ่อหลวงพรมมินทร์  พวงมาลา อดีตผู้ใหญ่บ้านแม่กำ�ปองบอกเล่า  ในปี 2532 พพ. จึงเข้ามาสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ �  บ้านแม่กำ�ปองโครงการ 2 โดยติดตั้งเครื่องกำ�เนิดไฟฟ้าตัวใหม่มีกำ�ลัง การผลิต 20 กิโลวัตต์ภายในอาคารโรงไฟฟ้าเดิมที่ติดตั้งเครื่องกำ�เนิด  ไฟฟ้าตัวแรก แล้วเดินท่อส่งน้ำ�มาจากฝายเดียวกัน  ต่อมาสหกรณ์ฯ ตัดสินใจขายไฟฟ้าแก่หมู่บ้านใกล้เคียง คือ บ้าน แม่ลาย เพื่อเพิ่มรายได้  หลังจากนั้นประมาณ 1-2 ปี เมื่อทั้งสองหมู่   บ้ า นมี เ ครื่ อ งใช้ ไ ฟฟ้ า เพิ่ ม ขึ้ น เรื่ อ ยๆ ก็ ส่ ง ผลให้ เ กิ ด ไฟตกหรื อ ไฟดั บ  บ่อยครั้ง เมื่อกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้เริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการ โรง ไฟฟ้าพลังน้ำ�บ้านแม่กำ�ปองโครงการที่ 3 จึงเกิดขึ้นตามมาในปี 2537  โดย พพ. เข้ามาสนับสนุนเช่นเดิม แต่คราวนี้สร้างฝายและอาคาร  โรงไฟฟ้ า ใหม่   ห่ า งจากจุ ด แรกราว 1 กิ โ ลเมตร อยู่ ใ นเขตหมู่ บ้ า น  ธารทอง ซึ่ งขณะนั้นยังไม่ แ ยกตัว จากหมู่ บ้า นแม่ กำ � ปอง และติด ตั้ ง  เครื่องกำ�เนิดไฟฟ้าที่มีกำ�ลังการผลิต 40 กิโลวัตต์ สถานการณ์การใช้  ไฟฟ้าของทั้งสองหมู่บ้านจึงกลับสู่ภาวะปรกติ

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 123

123 21/12/2012 18:37


1 2

1 2 3

124 P 98-145 (chapter 4).indd 124

3

ชาวบ้านแม่กำ�ปองส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าพลังน้ำ� สลับกับไฟฟ้าของ กฟภ. ภายในบ้านจึงติดตั้งคัตเอาต์ควบคุมไฟสองตัว อุปกรณ์สำ�คัญที่ติดตั้งในอาคารโรงไฟฟ้า ได้แก่  กังหันน้ำ� เครื่องกำ�เนิดไฟฟ้า และตู้ควบคุมไฟฟ้า พ่อหลวงพรมมินทร์ พวงมาลา   60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


ความเปลี่ ย นแปลงเกิ ด ขึ้ น อี ก ครั้ ง  เมื่ อ การไฟฟ้ า ส่ ว นภู มิ ภ าค  (กฟภ.) ขยายระบบสายส่ ง ไฟฟ้ า เข้ า มาถึ ง หมู่ บ้ า นแม่ กำ� ปองเมื่ อ ปี   2544  อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังเลือกใช้ไฟสองระบบ คือทัง้ ไฟฟ้าพลังน้� ำ  และ “ไฟหลวง” ควบคู่กันมาถึงปัจจุบัน เพราะเมื่ อ เปรี ย บเที ย บกั น แล้ ว  ค่ า ไฟฟ้ า พลั ง น้ำ � ของชุ ม ชน  มีราคาหน่วยละ 2 บาท ซึ่งคงที่เป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว นับแต่โรง  ไฟฟ้าสร้างเสร็จ ถูกกว่าค่าไฟฟ้าของ กฟภ. ซึ่งราคาหน่วยละ 4 บาทกว่า  เพียงแต่กระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ�ยังไม่สม่ำ�เสมอ โดยเฉพาะ ช่วงหัวค่ำ�ที่มีการใช้ไฟฟ้ามากอาจเกิดไฟตกหรือไฟดับ ดั ง นั้ น ที่ ห มู่ บ้ า นแม่ กำ � ปองแทบทุ ก หลั ง คาเรื อ นจะมี คั ต เอาต์ ควบคุมไฟฟ้าสองตัว  ตอนกลางวันที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในหมู่บ้านยัง  ไม่มากนัก ก็สับคัตเอาต์เลือกใช้ไฟฟ้าพลังน้ำ� เมื่อถึงช่วงหัวค่ำ�ที่คนใช้ ไฟฟ้ามาก ค่อยสับคัตเอาต์อีกตัวเพื่อใช้ไฟฟ้าของ กฟภ. ดังเช่นที่บ้านของป้าเกษร เสทธะยะ ซึ่งพาเราขึ้นไปดูแผงควบคุม ไฟบนชั้นสอง ขณะนั้นเวลาประมาณบ่าย 3 โมง  คัตเอาต์ตัวซ้ายบน  แผงเป็นของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ส่วนคัตเอาต์ด้านขวาของไฟฟ้าพลัง น้�ำ ถูกสับลงมา บ่งบอกว่าบ้านนี้ก�ำ ลังใช้กระแสไฟจากโรงไฟฟ้าพลังน้�ำ ป้าเกษรเล่าว่า ตามปรกติที่บ้านจะใช้ไฟฟ้าพลังน้ำ�ในตอนกลาง วั น  จนถึ ง ทุ่ ม กว่ า ค่ อ ยสั บ คั ต เอาต์ เ ปลี่ ย นไปใช้ ไ ฟจากการไฟฟ้ า ส่ ว น ภูมิภาค และเสียค่าไฟฟ้าเดือนละ 200 กว่าบาท แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีอยู่ช่วงหนึ่งที่น้ำ�แล้ง ทำ�ให้ป้าต้องใช้ไฟจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเกือบทั้งเดือน ปรากฏว่าเดือนนั้นบ้านของป้าเสีย ค่าไฟถึง 400 กว่าบาท ป้าเกษรบอกว่าที่เลือกใช้ไฟฟ้าพลังน้�ำ เพราะ  “โรงไฟฟ้าพลังน้ำ�เป็นของบ้านเรา แล้วเป็นสหกรณ์ด้วย เราก็ ช่วยกันไป  เราจ่ายค่าไฟฟ้าเราก็ได้ประโยชน์ สิ้นปีได้รับเงินปันผล ถึง จะได้ไม่มากนัก ประมาณ 20-30 บาท”

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 125

3.

พ่อหลวงพรมมินทร์ซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่คนในชุมชนให้ความนับถือ  ให้ความเห็นว่า “โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ�มีประโยชน์ต่อหมู่บ้านหลายแง่ ทั้งแง่ ของการมีส่วนร่วม เพราะชาวบ้านทุกหลังคาเรือนมีส่วนร่วมสร้างโรง ไฟฟ้า ตั้งแต่สมทบหิน ทราย ไม้แบบ เสาไฟ และทำ�ให้เกิดการรวม กลุ่ม เพราะพอมีการตั้งสหกรณ์การไฟฟ้าฯ ก็เกิดกลุ่มต่างๆ ตามมา เป็นสมาชิกสหกรณ์ เช่น กลุ่มโฮมสเตย์ กลุ่มแม่บ้าน ฯลฯ” สิ่งที่สำ�คัญคือพ่อหลวงพรมมินทร์มองว่า  “โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้�ำ ช่วยสร้างจิตสำ�นึกในการอนุรักษ์ให้แก่ ชุมชน  ชาวบ้านรู้ว่าเพราะมีป่าจึงมีน้ำ�เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า ดังนั้นการใช้ พลังงานจึงนำ�ไปสู่การรู้คุณค่าของป่าและธรรมชาติได้ในชีวิตจริง” ตัวอย่างซึ่งเป็นรูปธรรมเกิดขึ้นในระหว่างปี 2537-2538 เมื่อมี  บางช่วงเวลาที่ลำ�ห้วยแม่กำ�ปองมีน้ำ�น้อยเกือบแห้งขอด ทำ�ให้โรงไฟฟ้า  พลังน้ำ�ไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในหมู่บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง  กระทั่ ง ปี   2539 เมื่ อ พ่ อ หลวงพรมมิ น ทร์ ไ ด้ รั บ ตำ � แหน่ ง ผู้ ใ หญ่ บ้ า น  แม่กำ�ปอง เขาคิดว่าสถานการณ์น้ำ�น้อยอาจมีสาเหตุจากไฟป่าที่เกิดขึ้น หลายปีติดกัน จึงจัดประชุมชาวบ้านเพื่อหารือ แล้วเริ่มออกไปช่วยกัน ทำ�แนวกันไฟป่าตั้งแต่ปี 2540  นับจากนั้นน้ำ�ในลำ�ห้วยแม่กำ�ปองก็  กลับมามีปริมาณเพิ่มขึ้น สามารถใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตลอดปี นอกจากนั้ น ชุ ม ชนแม่ กำ � ปองยั ง ดำ � เนิ น กิ จ กรรมการอนุ รั ก ษ์ ธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง โดยทุกภาคส่วนของชุมชนเข้ามามีบทบาท ไม่ว่าคณะกรรมการหมู่บ้าน กลุ่มโฮมสเตย์ กลุ่มสมุนไพร ฯลฯ ร่วม กำ�หนดกฎระเบียบ กติกาการดูแลรักษาป่า การปลูกป่า หรือการทำ�แนว กันไฟ  โดยทุกปีชาวบ้านจะร่วมกันทำ�แนวกันไฟในเดือนมีนาคม และ ร่วมกันปลูกป่าในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม ผลของการดูแลรักษาป่า ทำ�ให้บ้านแม่กำ�ปองมีสภาพแวดล้อม ทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ กลายเป็นหมู่บ้านการท่องเที่ยวโฮมสเตย์ ที่มีชื่อเสียง เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชุมชน อีกทั้งลำ�ห้วยยังมีน้ำ�สำ�หรับ ผลิตไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกให้แก่ชุมชนมาตราบจนทุกวันนี้

125 21/12/2012 18:38


ชีวมวล หมายถึง วัตถุหรือสสารที่ได้จากธรรมชาติหรือสิ่งมีชีวิต

โดยไม่นับการกลายเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งสามารถนำ�มาใช้เป็นแหล่ง พลังงาน เช่น ไม้ยางพารา ต้นข้าวโพด ซังข้าวโพด ฟางข้าว แกลบ กากมะพร้าว กะลามะพร้าว ปาล์ม มันสำ�ปะหลัง อ้อย ฯลฯ  ในอดีต  ชีวมวลส่วนใหญ่เป็นเศษวัสดุจากผลิตผลทางการเกษตรที่ถูกทิ้งให้เป็น ปุ๋ยอินทรีย์ หรือถูกกำ�จัดโดยการเผาทำ�ลายซึ่งเป็นการสร้างมลภาวะให้ แก่สิ่งแวดล้อม ทั้งที่ชีวมวลมีคุณสมบัติในการเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และ  ให้ค่าพลังงานความร้อนในระดับที่สามารถนำ�ไปใช้ประโยชน์ได้   ประเทศไทยนับเป็นประเทศเกษตรกรรมที่สำ�คัญแห่งหนึ่งของ โลก ประชาชนมากกว่าร้อยละ 50 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จึงมี  ชี ว มวลซึ่ ง เป็ น ผลพลอยได้ จ ากผลิ ต ผลทางการเกษตรจำ � นวนมาก  ปัจจุบันประเทศไทยมีศักยภาพจากชีวมวลคงเหลือ 26,449,250 ตัน คิด เป็นศักยภาพในการผลิตพลังงานไฟฟ้าประมาณ 2,900 เมกะวัตต์ และ ศักยภาพในการผลิตพลังงานความร้อน 10,340 ktoe

พลังงานชีวมวล Biomass

126 P 98-145 (chapter 4).indd 126

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


โครงการสาธิต Biomass  Gasification ที่ พพ. ริเริ่มขึ้น

วิธีการเปลี่ยนชีวมวลให้เป็นพลังงานนั้นมีหลายรูปแบบ ได้แก่   การเผาไหม้ ต รง (direct combustion) การผลิ ต ก๊ า ซชี ว มวล  (gasification) การผลิตก๊าซชีวภาพ (biogas) และการผลิตเชื้อเพลิง  ชีวภาพ โดยปัจจุบันชีวมวลส่วนใหญ่ได้รับการแปรเป็นพลังงานโดยวิธี การเผาไหม้ตรง และการผลิตก๊าซชีวมวลเป็นส่วนใหญ่    กรมพั ฒ นาพลั ง งานทดแทนและอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งาน (พพ.) ได้ ดำ�เนินการวิจัย สาธิต และสนับสนุนการผลิตพลังงานจากชีวมวล เช่น  การศึ ก ษา ออกแบบ ปรั บ ขยายขนาดกำ � ลั ง การผลิ ต ของระบบผลิ ต พลังงานจากชีวมวลแบบ Three Stages Gasifier ให้สอดคล้องกับ

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 127

ปริมาณความต้องการกระแสไฟฟ้าสำ�หรับชุมชนขนาดใหญ่  การคัดเลือก  พื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อติดตั้งและสาธิตระบบผลิตก๊าซชีวมวลในการสูบน้ำ� เพื่อการเกษตรขนาด 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เป็นต้น  ผลการติดตั้งระบบผลิตพลังงานจากชีวมวลถึงปี 2555  พพ. ได้  ติดตั้งระบบสำ�หรับผลิตพลังงานความร้อน ไฟฟ้า และการสูบน้ำ�เพื่อ  การเกษตรรวม 5 แห่ง กำ�ลังการผลิตติดตั้งรวม 1,320 กิโลวัตต์ และ  ส่งเสริมให้เอกชนลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดต่างๆ มีกำ�ลังการผลิต รวมเกือบ 2,000 เมกะวัตต์

127 21/12/2012 18:38


เป้าหมายตามแผน AEDP ในปี 2564 กำ�หนดเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลในปี 2564 คือ 3,630  MW โดยเน้นมาตรการส่งเสริม เช่น    การจัดตั้ง “สถานีผลิตพลังงานชุมชน Distributed-Green Generation (DGG)” โดยมีกลุ่มวิสาหกิจพลังงานชุมชนเป็นเจ้าของ  และบริหารจัดการสถานีฯ ได้อย่างครบวงจร   ส่ ง เสริ ม การปลู ก ไม้ โ ตเร็ ว และหญ้ า โตเร็ ว ในพื้ น ที่ ร กร้ า ง ว่างเปล่า หรือพื้นที่ที่ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์ พร้อมแปรรูปเพื่อจำ�หน่าย เป็นเชื้อเพลิงให้สถานีผลิตพลังงานชุมชน นำ�ไปใช้ต่อยอดในการผลิต ไฟฟ้า

128 P 98-145 (chapter 4).indd 128

พิจารณากำ�หนดมาตรการสนับสนุนเชิง Adder หรือ FiT และ Renewable Heat Incentive (RHI) พิเศษสำ�หรับโครงการ DGG  ในระดับชุมชนเป็นการเฉพาะ   จัดเตรียมมาตรการด้านการเงินสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้ า ชี ว มวลที่ ใ ช้   Low Pressure Boiler ที่ ผ ลิ ต ไฟฟ้ า จาก  ชีวมวล ให้เป็น High Pressure Boiler   พัฒนาเทคโนโลยี Gasifier และ Gas Engine และพัฒนา อุตสาหกรรมต่อเนื่องเพื่อการผลิตภายในประเทศ   พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลเหลว (Biomassto-Liquid)

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 129

129 21/12/2012 18:38


1 ของเสียในบ่อหมักจะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ กลายเป็นก๊าซชีวภาพ 2  เครื่องยนต์ดีเซลที่ดัดแปลงให้ใช้ก๊าซมีเทน เป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า 3  บ่อรวบรวมน้ำ�เสียของโรงงาน 4  ฟาร์มหมูเป็นหนึ่งในภาคการเกษตรที่มีศักยภาพสูง ในการผลิตก๊าซชีวภาพ

ก๊าซชีวภาพ Biogas

ก๊าซชีวภาพ คือก๊าซที่เกิดจากระบบบำ�บัดของเสียด้วยกระบวน

การหมักสารอินทรีย์ที่มีอยู่ในของเสีย เช่น น้ำ�เสีย มูลสัตว์ ขยะ เศษ อาหาร หรือของเหลือใช้ทางการเกษตร ในสภาพไร้ออกซิเจน โดย แบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจนจะย่อยสลายสารอินทรีย์ แล้วผลิตก๊าซหลาย ชนิดออกมา รวมเรียกว่าก๊าซชีวภาพ  ส่วนใหญ่จะเป็นก๊าซมีเทนซึ่งมี สมบัติในการติดไฟได้ จึงนำ�มาใช้ผลิตเป็นพลังงานทดแทนได้ ปัจจุบันของเสียและน้ำ�เสียมีปริมาณมหาศาล ซึ่งมาจากทั้งภาค อุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และอุตสาหกรรมผลิตอาหาร และจากภาคเกษตรกรรม เช่น ฟาร์ม ปศุสัตว์ ซึ่งมีอยู่จำ�นวนมาก รวมทั้งของเสียจากขยะมูลฝอย เศษอาหาร เหลือทิ้งในเมืองใหญ่ๆ   การส่ ง เสริ ม การใช้ ก๊ า ซชี ว ภาพผลิ ต พลั ง งานทั้ ง ในรู ป พลั ง งาน ความร้อนและไฟฟ้า นอกจากจะเป็นการบริหารจัดการของเสียให้คืน กลับมาเป็นพลังงานที่มีค่าแล้ว ยังช่วยให้ชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้ฟาร์ม เลี้ยงหมู โรงงาน หรือโรงฆ่าสัตว์ ได้บรรเทาผลกระทบจากมลภาวะ ต่างๆ รวมทั้งยังมีส่วนช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นต้นเหตุ สำ�คัญของปัญหาภาวะโลกร้อน  ระบบก๊าซชีวภาพที่ใช้แพร่หลายในประเทศไทยมีหลายวิธีด้วยกัน  ขึ้นอยู่กับปริมาณของเสีย หรือน้ำ�เสีย ที่สำ�คัญ ได้แก่

1

130 P 98-145 (chapter 4).indd 130

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


2

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 131

3 4

131 21/12/2012 18:38


1. ระบบก๊าซชีวภาพจากอุตสาหกรรม ทางการเกษตร  ประเภทอุตสาหกรรม เช่น โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร โรงงาน น้ำ�ตาล โรงงานแป้งมันสำ�ปะหลัง โรงฆ่าสัตว์ เป็นต้น โดยใช้เทคโน-  โลยีการบำ�บัดน้�ำ เสียแบบไร้อากาศ กรมพั ฒ นาพลั ง งานทดแทนและอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งาน (พพ.) ได้   ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนจากก๊าซชีวภาพตั้งแต่ปี  2547 โดยการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำ�เสียโรงงานอุตสาหกรรม  4 ราย รวมขนาดกำ�ลังผลิตประมาณ 41,502 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

2. ระบบก๊าซชีวภาพจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์  ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่มีศักยภาพ เช่น ฟาร์มสุกร ฟาร์มโค โดย พพ.  ดำ�เนินการผ่านโครงการส่งเสริมระบบผลิตก๊าซชีวภาพในฟาร์มปศุสัตว์  แบบ พพ.1 และ แบบ พพ.2 ดังนี้   ระบบก๊าซชีวภาพสำ�เร็จรูปแบบ พพ.1 สามารถรองรับน้ำ�เสีย ที่เกิดจากกระบวนการเลี้ยงสุกรขุน จำ�นวน 500 ตัว ปริมาณน้ำ�เสียที่  เกิ ด จากกิ จ กรรมการเลี้ ย งประมาณ 10 ลู ก บาศก์ เ มตรต่ อ วั น  และ  สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ประมาณ 25 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน  ตั้งแต่  ปี 2550-2554 มีผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมจากระบบนี้จำ�นวน 48 ราย ผลิตก๊าซชีวภาพได้ 438,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี   ระบบก๊าซชีวภาพสำ�เร็จรูปแบบ พพ.2 สามารถรองรับน้ำ�เสีย ที่เกิดจากกระบวนการเลี้ยงสุกรขุน จำ�นวน 100 ตัว ปริมาณน้ำ�เสียที่  เกิ ด จากกิ จ กรรมการเลี้ ย งประมาณ 2 ลู ก บาศก์ เ มตรต่ อ วั น  และ  สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ประมาณ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน  ตั้งแต่  ปี 2550-2554 มีผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมจากระบบนี้จำ�นวน  25 ราย ผลิตก๊าซชีวภาพได้ 45,625 ลูกบาศก์เมตรต่อปี

132 P 98-145 (chapter 4).indd 132

3. ระบบก๊าซชีวภาพจากขยะมูลฝอย   พพ. ได้ ดำ � เนิ น โครงการส่ ง เสริ ม การผลิ ต พลั ง งานจากขยะ  ตั้งแต่ปี 2547 โดยพัฒนาถังหมักก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์สำ�เร็จรูป  ขนาดเล็ก ซึ่งรองรับขยะอินทรีย์ได้วันละ 40 กิโลกรัม และผลิตก๊าซ  ชี ว ภาพได้ ป ระมาณ 2.5 ลู ก บาศก์ เ มตรต่ อ วั น  ทดแทนก๊ า ซหุ ง ต้ ม  (LPG) ได้ ป ระมาณ 1.15 กิ โ ลกรั ม ต่ อ วั น  รวมทั้ ง พั ฒ นาระบบผลิ ต  ก๊าซชีวภาพจากขยะในระดับชุมชน รองรับขยะอินทรีย์ได้สูงสุด 15 ตัน  ต่ อ วั น  ซึ่ ง ที่ ผ่ า นมามี ก ารติ ด ตั้ ง ระบบให้ แ ก่ ชุ ม ชนไปแล้ ว หลายแห่ ง  ทั่วประเทศ

เป้าหมายตามแผน AEDP ในปี 2564 กำ�หนดเป้าหมายในปี 2564 ใช้ก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตไฟฟ้า 600  MW จากปัจจุบัน (ตุลาคม 2555) มีกำ�ลังการผลิตรวม 140 MW และ  ใช้ขยะเพื่อผลิตไฟฟ้า 160 MW จากปัจจุบัน (ตุลาคม 2555) มีกำ�ลัง  การผลิตรวม 27 MW โดยมุ่งเน้นมาตรการส่งเสริม เช่น   สนับสนุนการผลิตก๊าซชีวภาพในระดับครัวเรือนโดยเฉพาะ ชุมชนชนบทเพื่อประโยชน์ในการนำ�มาใช้เองในครัวเรือน   สนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายท่อก๊าซชีวภาพในชุมชน (Biogas Network) เพื่อต่อเชื่อมระบบที่อาจมีกำ�ลังการผลิตเหลือให้สามารถนำ�  มาแบ่งปันกันใช้ได้ในชุมชน โดยกลไกการบริหารของชุมชนเอง   วิจัยและพัฒนาการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียผสม (CoDigestion) โดยเฉพาะการนำ�ชีวมวลบางประเภท เช่น ผักตบชวา ซัง  ข้าวโพด มาหมักผสมกับมูลสัตว์   ส่งเสริมสนับสนุนการผลิตพลังงานจากขยะในองค์การปกครอง ท้องถิ่นขนาดกลางและขนาดเล็ก   ส่งเสริมสนับสนุนการผลิตพลังงานจากขยะในชุมชนขนาด เล็ก เช่น ในโรงเรียน วัด หน่วยงานต่างๆ   ส่งเสริมการปลูกหญ้าโตเร็วเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการหมัก ร่ ว มกั บ ของเสี ย ผสมเพื่ อ ผลิ ต ก๊ า ซชี ว ภาพสำ � หรั บ ทดแทนก๊ า ซหุ ง ต้ ม  (LPG) ใช้ในภาคขนส่งในรูปแบบ CBG และผลิตกระแสไฟฟ้า

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


ก๊าซพลังขีห้ มู กับเส้นทางสู่ “ตำ�บลปลอดก๊าซแอลพีจ”ี

แนวท่อก๊าซชีวภาพที่ต�ำ บลแพรกหามีระยะทางรวมเกือบ 100 กิโลเมตร

สมเกียรติ โหสกุล เจ้าของ “สมเกียรติฟาร์ม” เอ่ยปากขณะ

เดินสำ�รวจ “บ่อก๊าซชีวภาพ” ซึ่งมีลักษณะคล้ายยานอวกาศ และมีราง เชื่อมต่อกับโรงเลี้ยงหมู “เรารู้ดีว่ากิจการนี้สังคมรังเกียจ ทั้งเรื่องน้ำ�เสีย กลิ่นเน่าเหม็น  ฟาร์มเราอยู่ติดที่ประชุมหมู่บ้าน ลมพัดแรงๆ ผมไม่กลัว แต่พอลมสงบ กลิ่นขี้หมูมันโชยออกทุกทิศทาง ถึงเราจะพยายามรักษาความสะอาด คอยล้างขี้หมู”  ฟาร์มเลี้ยงหมูของคุณสมเกียรติตั้งอยู่ที่ตำ�บลแพรกหา สุดทาง ด้านเหนือของจังหวัดพัทลุง  ชาวบ้านเลี้ยงหมูขายเป็นอาชีพรองจากทำ� สวนยางพารา ว่ากันว่าหมูย่างเมืองตรังที่เลื่องลือ เนื้อหมูส่วนหนึ่งถูกซื้อไปจาก ที่นี่ นอกเหนือจากที่ชาวบ้านส่งขายให้บริษัทด้านการเกษตรรายใหญ่ ชาติชาย ศรีหนูสุด นายกเทศมนตรีตำ�บลแพรกหา เล่าให้ฟังใน  ฐานะคนเก่าแก่ว่า “กลิ่นขี้หมูในฟาร์มจะส่งกลิ่นโชยออกไปทุกทิศทาง  ไม่ ต่ำ � กว่ า ครึ่ ง กิ โ ลเมตร  ถึ ง หน้ า ฝนก็ ยิ่ ง หนั ก ใจ เพราะหน้ า ร้ อ น

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 133

ชาวบ้านยังตากขี้หมูขายเป็นปุ๋ยได้ แต่หน้าฝนต้องกวาดขี้หมูทิ้งลงท่อ เท่านั้น  แล้วยังมีเรื่องแมลงวันจำ�นวนมากที่ถึงกับต้องปิดบ้านกินข้าว กันเลย” แม้มีรายได้งามจากการทำ�ฟาร์มเลี้ยงหมู แต่ชาวแพรกหาก็ต้อง แลกกับมลภาวะ  ข้อขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าของฟาร์มมีมาตลอด   ก่อนนั้นเคยมีเจ้าของฟาร์มบางคนนำ�ขี้หมูในคอกมาลงบ่อหมัก  ก๊าซชีวภาพ ทำ�เป็นเชื้อเพลิงพลังงานใช้ในฟาร์มหรือครัวเรือน เป็นการ นำ�สิ่งปฏิกูลเหลือทิ้งไร้ราคามาผ่านการบำ�บัดเพื่อใช้ประโยชน์ ทว่ายัง เป็นส่วนน้อยเท่านั้น   จนเมื่ อ สำ � นั ก งานพลั ง งานจั ง หวั ด พั ท ลุ ง  กระทรวงพลั ง งาน  ร่ ว มกั บ เทศบาลตำ � บลแพรกหา สำ � รวจว่ า ฟาร์ ม หมู ทั้ ง  21 ฟาร์ ม ซึ่ ง  กระจายอยู่ทั่วทั้งตำ�บล มีหมูมากพอต่อการนำ�มูลมาผลิตก๊าซชีวภาพ  ใช้ในครัวเรือนได้   เมื่อนั้นโครงการพัฒนาการใช้ก๊าซชีวภาพจากขี้หมู ตำ�บลแพรกหา  อำ�เภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ก็เริ่มขึ้น

133 21/12/2012 18:38


1.

ก๊าซชีวภาพมีที่มาจากกระบวนการเปลี่ยนสารอินทรีย์ที่อยู่ในรูป ของแข็งและของเหลว เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ฯลฯ ให้เป็น ก๊าซ โดยกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการดำ�รงชีวิต   การสร้างก๊าซชีวภาพจึงต้องมีสารอินทรีย์เป็นวัตถุดิบ มีจุลินทรีย์ ชนิ ด ที่ ไ ม่ ใ ช้ อ อกซิ เ จนในการดำ � รงชี วิ ต เป็ น ผู้ ผ ลิ ต ภายใต้ ส ภาวะไร้ ออกซิเจน ในประเทศไทย ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ซึ่งติดตั้งระบบผลิตก๊าซชีวภาพ มากที่สุดคือฟาร์มเลี้ยงหมู โดยมากใช้ระบบหมักช้าแบบรางหมักของ เสียที่มีสารอินทรีย์สูง คือ มูล ปัสสาวะ น้ำ�ล้างคอก ใช้เวลาหมักราว  40 วัน  ก๊าซที่ได้จะอยู่ใน “บ่อหมัก” โครงสร้างปิดกักเก็บก๊าซไม่ให้ฟุ้ง  กระจายออกไป บ่อหมักก๊าซชีวภาพรูปร่างคล้ายยานอวกาศหรือหนอนยักษ์สีดำ�  ภายในบรรจุก๊าซชีวภาพจากการหมักขี้หมู

134 P 98-145 (chapter 4).indd 134

บ่อหมักก๊าซชีวภาพรุน่ แรกของไทยมักมีลกั ษณะเป็น Fixed-dome  คือก่ออิฐทรงโค้งครอบบ่อขี้หมูไว้  ปัจจุบันหันมาใช้แผ่นผ้ายางพีวีซี  หนาประมาณ 4 มิลลิเมตรคลุมบ่อแทน ที่ตำ�บลแพรกหา สมเกียรติเดินนำ�ชมใน “สมเกียรติฟาร์ม” ซึ่ง  โรงเรือนเลี้ยงหมูเปลี่ยนจากระบบเปิดมาเป็นระบบปิดได้ 2-3 ปีแล้ว ส่วนการก่อสร้างบ่อหมักก๊าซชีวภาพเพิ่งเริ่มได้ราว 3-4 เดือน จากตัวโรงเรือนเลี้ยงหมู สมเกียรติชี้ให้ดูรางของเสียที่ต่อจาก  โรงเรือนมายังบ่อรวมน้ำ�เสีย   “นี่คือบ่อเก็บขี้หมู ทุกเช้าหลังล้างคอกหมู ปฏิกูลทุกอย่างจะไหล ตามรางมาเก็บไว้ในบ่อนี้ แล้วค่อยสูบเข้าไปในบ่อหมักก๊าซชีวภาพ” บ่อหมักก๊าซชีวภาพของสมเกียรติฟาร์มมีขนาด 300 ลูกบาศก์  เมตร ลักษณะคล้ายยานอวกาศ หรือบางคนก็บอกว่าหนอน มีสีดำ�ตาม สีของผ้ายางพีวีซี   ในวันที่เราเดินทางมา แผ่นยางสีดำ�ของบ่อก๊าซตึงแน่น บ่งบอก ว่าภายในมีก๊าซชีวภาพอัดแน่น “ขี้หมูจะถูกสูบเข้าบ่อนี้  พื้นบ่อเป็นรูปตัววี ก้นบ่อลึกประมาณ  2 เมตร” คุณสมเกียรติอธิบาย   กระบวนการหมักขี้หมูนั้นไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงสูบขี้หมูเข้าไป ในบ่อ  จุลินทรีย์จะค่อยๆ ย่อยสลายขี้หมูจนเกิดเป็นก๊าซชีวภาพ  มวล ก๊าซค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนดันแผ่นผ้ายางพีวีซีตึง สุรเชษฐ์ หรดี พลังงานจังหวัดพัทลุง เล่าเสริมว่า “องค์ประกอบ  ของก๊าซชีวภาพประกอบด้วยก๊าซมีเทนราวร้อยละ 50-75  มีเทนเป็น  ก๊าซติดไฟ ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ กับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราวร้อยละ  40 รวมทั้ ง ยั ง มี ก๊ า ซอื่ น ๆ อี ก   สมบั ติ ข องก๊ า ซชี ว ภาพที่ ไ ด้ จึ ง ขึ้ น อยู่   กับปริมาณมีเทนเป็นสำ�คัญ” ทั่วไปนั้นก๊าซชีวภาพ 1 ลูกบาศก์เมตร (คิดปริมาณมีเทนเฉลี่ย  ร้อยละ 60) จะให้ค่าความร้อน 5,000-5,500 กิโลแคลอรี หรือเทียบได้  กับความร้อนจากถ่านไม้ 1.6 กิโลกรัม  น้ำ�มันเตา 0.5 ลิตร หรือไฟฟ้า 1.2 กิโลวัตต์ หลังปฏิกิริยาภายในบ่อหมัก กากขี้หมูจะถูกดูดออกไปเก็บไว้ใน บ่อดึงกาก ตามด้วยลานตากตะกอน

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


สิ่งปฏิกูลจากคอกหมูรอลำ�เลียงเข้าสู่ “บ่อหมัก”

คุณสมเกียรติเล่าว่าเจ้าของฟาร์มสามารถนำ�กากขี้หมูที่แทบไม่มี กลิ่นแล้วไปขายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ หรือใช้ใส่บ่อปลาให้เป็นจุลินทรีย์ บำ�บัดน้ำ�ได้เช่นกัน อี ก ด้ า นหนึ่ ง นั้ น ก๊ า ซชี ว ภาพที่ อั ด แน่ น ในบ่ อ หมั ก จะถู ก ดู ด เข้ า กระบวนการบำ�บัดสารพิษ   คุณสมเกียรติชี้ให้ดูแนวท่อพีวีซีที่ต่อจากบ่อหมักมายังถังใบใหญ่ สีน้ำ�เงิน บอกว่า “ก๊าซชีวภาพที่เพิ่งออกมาจากบ่อยังสกปรกอยู่ ต้องเข้า กระบวนการบำ�บัดในถังนี้” กระบวนการบำ�บัดเกิดขึ้นในถังสองใบ ภายในใบแรกมีอุปกรณ์ กำ�จัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์หรือก๊าซไข่เน่า ใบถัดมามีผงเหล็ก ปูนขาว  ช่วยกรองกำ�มะถัน รวมทั้งกรดต่างๆ ที่จะกัดกร่อนหัวเตาแก๊ส  ก๊าซชีวภาพที่ผ่านการบำ�บัดแล้วจะถูกส่งเข้าไปยังอุปกรณ์กำ�จัด

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 135

ของเหลว (ไอน้ำ�)  สุดท้ายจึงถูกดูดเข้าไปใน “ถังพักก๊าซ” ที่มีขนาด  8 ลูกบาศก์เมตร ถั ง พั ก ก๊ า ซตั้ ง อยู่ ใ นบ่ อ ปู น ทรงกระบอก ปากถั ง คว่ำ � ลงน้ำ � เพื่ อ ป้องกันก๊าซชีวภาพรั่วไหล  ก้นถังวางทับไว้ด้วยก้อนอิฐใหญ่หนักราว  2 ตัน   เมื่อก๊าซชีวภาพถูก “อัด” เข้าถัง ปริมาณก๊าซเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  แรง ดันภายในถังจากการเก็บสะสมก๊าซชีวภาพจะเริ่มต่อสู้กับน้ำ �หนักของ ก้อนอิฐ  เมื่อแรงดันก๊าซมากเข้า  ถังที่ลอยน้ำ �จะค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้น ตามแรงดัน  นี่เป็นวิธีเพิ่มแรงดันของก๊าซชีวภาพให้สามารถส่งก๊าซไป ตามระบบท่อเพื่อแจกจ่ายก๊าซให้ชาวบ้านเมื่อเปิดวาล์วแล้ว สมเกียรติเล่าว่า “ทุกเช้าพอเราเปิดวาล์วปั๊บ ก๊าซชีวภาพจะพุ่งปรู๊ด  (ตามท่อ) ไปถึงสี่แยกโน่นเลย”

135 21/12/2012 18:38


เชื้อเพลิงหุงต้มจากก๊าซชีวภาพ ช่วยให้ชาวบ้านประหยัดค่าใช้จ่าย จากการใช้ก๊าซแอลพีจี

136 P 98-145 (chapter 4).indd 136

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


2.

สังคมการปกครองของตำ�บลแพรกหาแบ่งออกเป็นแปดหมู่บ้าน  มีประชากรราว 1,447 ครัวเรือน มีฟาร์มเลี้ยงหมู 21 ฟาร์ม มีฟาร์ม  เข้าร่วมโครงการพัฒนาการใช้ก๊าซชีวภาพ 15 ฟาร์ม คิดเป็นบ่อหมัก  ก๊าซชีวภาพรวมกันขนาด 2,822 ลูกบาศก์เมตร   จากฟาร์มทุกฟาร์ม ประเมินว่าทุกวันสามารถผลิตก๊าซชีวภาพจาก ขี้หมูไปใช้หุงต้มได้ 2,600 ครัวเรือน เกินจำ�นวนประชากรทั้งตำ�บล  โครงการข้ า งต้ น ได้ รั บ การสนั บ สนุ น จากกรมพั ฒ นาพลั ง งาน  ทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เป็นผู้รับผิดชอบแบบแปลนทาง  วิชาการ สำ�นักงานพลังงานจังหวัดพัทลุงรับผิดชอบการประสานงาน  ในพื้นที่ และบริษัท ปตท. รับผิดชอบเรื่องงานท่อส่งก๊าซชีวภาพ บนเนื้อที่ราว 11,428 ไร่ ท่อเมนยาว 28 กิโลเมตรติดตั้งอยู่ใต้  ดิ น ตามแนวถนนสายหลั ก ในทิ ศ ตะวั น ออก-ทิ ศ ตะวั น ตก  มี อ าคาร ควบคุมก๊าซและระบบกำ�จัดไอน้ำ�ติดตั้งอยู่เป็นระยะ  ท่อเมนจะรับก๊าซ ชีวภาพจากฟาร์มเข้ามาในระบบ  ส่งต่อก๊าซไปตามท่อพีวีซีซึ่งมีขนาด เล็ ก กว่ า ท่ อ เมนเข้ า สู่ ค รั ว เรื อ นจนถึ ง หั ว เตาแก๊ ส ในห้ อ งครั ว  คิ ด เป็ น  ความยาวท่อที่ต่อเข้าไปในบ้านรวมกันประมาณ 70 กิโลเมตร สมปอง อมรวิริยะชัย เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูที่เข้าร่วมโครงการ  และได้ใช้ก๊าซชีวภาพในครัวเรือน เล่าว่า “ลุงใช้ขี้หมูทำ�ก๊าซชีวภาพตั้งแต่ ปี 2525 แต่บ่อหมักชำ �รุดจนต้องหยุดใช้งานไป 2 ปีแล้ว  จนเมื่อปี   ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่เข้ามาวางระบบใหม่ เป็นบ่อก๊าซชีวภาพแบบใหม่   ที่ใช้ผ้ายางคลุมบ่อ  คิดว่าระบบใหม่มีข้อดีตรงวิธีดูดกากขี้หมู  แต่ลุง เห็นว่าต้องใช้ไฟฟ้าในหลายจุดด้วยกัน” สุรเชษฐ์ หรดี พลังงานจังหวัดพัทลุง ชี้แจงว่าค่าไฟฟ้าในส่วนนี้  ติดตั้งมิเตอร์แยกต่างหาก และมีหน่วยงานส่วนกลางเป็นผู้รับผิดชอบ สมปองเดินนำ�เราเข้าไปในครัว รบกวนให้ภรรยาสาธิตการใช้ก๊าซ ชีวภาพจุดเตาแก๊สให้ดู  ไฟลุกพรึ่บเมื่อเปิดวาล์วแล้วจุดไฟ ภรรยาคุณสมปองเล่าว่าทุกวันนี้เธอใช้ก๊าซชีวภาพในการหุงต้ม  ไม่ใช้ก๊าซแอลพีจี (LPG) เลย แต่ยังเก็บถังแอลพีจีไว้สำ�หรับใช้ในกรณี  ฉุกเฉิน สุรเชษฐ์ประเมินและกล่าวถึงแผนการในอนาคตว่า “ทางผู้ดำ�เนิน  โครงการได้ปรึกษากับเทศบาลตำ�บลแพรกหา  เบื้องต้นตกลงว่าจะเรียก  เก็บค่าก๊าซในอัตราเหมาจ่ายครัวเรือนละ 30 บาท  หากครัวเรือนเปิด  ร้านอาหาร เก็บเดือนละ 100 บาท

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 137

“เงินจำ�นวนนี้หากเปรียบเทียบกับการใช้ก๊าซในบ้านเรือนทั่วไป   ก๊าซแอลพีจีถังใหญ่ราคาประมาณ 300 บาท ปรกติใช้ได้นาน 3 เดือน  ตกเฉลี่ยเดือนละ 100 บาท  แต่หากเปลี่ยนมาใช้ก๊าซชีวภาพทั้งหมด  จะประหยัดเงินเฉพาะการหุงหาอาหารได้เบื้องต้นถึงเดือนละ 70 บาท  และเป็นการแก้ปัญหาเรื่องการทิ้งขี้หมูด้วย”

3.

การวางท่อส่งก๊าซชีวภาพและติดตั้งระบบแจกจ่ายก๊าซในตำ�บล  แพรกหายั ง ไม่ แ ล้ ว เสร็ จ ดี    ในบางพื้ น ที่ แ นวท่ อ ใต้ ดิ น ได้ รั บ ความ  เสียหาย มีท่อแตกชำ�รุดจากการขุดถนน  ประเมินว่าปัจจุบันมีชาวบ้าน  สัก 300 ครัวเรือนเท่านั้น (จาก 1,447 ครัวเรือน) ที่ได้ใช้ประโยชน์  จากโครงการนี้ ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าว่า “บ้านอีกฝั่งมีก๊าซชีวภาพใช้ฟรีแล้ว แต่ ทำ�ไมบ้านที่อยู่ฝั่งนี้ถึงไม่มีใช้บ้าง ทั้งที่อยู่ห่างกันนิดเดียว” แต่ละวันการจ่ายก๊าซชีวภาพจะเริ่มขึ้นเวลาประมาณ 06.00 น.  และสิ้นสุดลงเวลา 19.00 น. โดยเจ้าของฟาร์มที่ติดตั้งระบบบ่อหมัก  ก๊าซชีวภาพจะต้องเป็นผูร้ บั ผิดชอบในการเปิดปิดวาล์ว  หากเจ้าของฟาร์ม  รายใดไม่เข้าใจระบบการทำ�งาน ไม่สามารถดูแลรักษาบ่อหมักได้ จะ  มีเจ้าหน้าที่สองคนคอยให้คำ�แนะนำ� รวมทั้งเปิดปิดแทนทุกเช้าและเย็น ขณะที่การดูแลการทำ�งานของบ่อหมักก๊าซชีวภาพ เจ้าของฟาร์ม ต้องรักษาระดับก๊าซในบ่อไม่ให้ลดน้อยลงจนเกินไป ไม่เช่นนั้นผ้ายาง พีวีซีที่คลุมบ่อไว้จะหย่อนคลาย หากฝนตกจะเกิดน้ำ�ขัง จึงจำ�เป็นต้อง รักษาจำ�นวนหมูในฟาร์มให้สม่ำ�เสมอ  บ่อยครั้งท่อรางในระบบการ ผลิตก๊าซมีขยะเข้าไปอุดตันจนมอเตอร์ในระบบสูบน้ำ �ได้รับความเสีย หาย แม้วันนี้จะยังมีอุปสรรคและปัญหาที่ต้องปรับปรุงแก้ไข แต่คง เป็นเรื่องธรรมดาสำ�หรับการผลักดันโครงการนำ�ร่อง  ความฝันในการ เป็น “ตำ�บลปลอดก๊าซแอลพีจี” ยังรออยู่ข้างหน้า   เป็นเป้าหมายว่าจะเกิดขึ้นจริงในเร็ววัน

137 21/12/2012 18:38


เชื้อเพลิงชีวภาพ คือเชื้อเพลิงที่ได้จากชีวมวล (Biomass)

หรือสสารที่ได้จากพืชและสัตว์ โดยมีพื้นฐานจากการสังเคราะห์แสง  แล้วเก็บรวบรวมพลังงานจากดวงอาทิตย์เอาไว้ในรูปของสารอินทรีย์   เมื่ อ เรานํ า สารอิ น ทรี ย์ ม าผ่ า นกระบวนการที่ เ หมาะสมก็ จ ะสามารถ เปลี่ยนชีวมวลให้เป็นพลังงานในรูปของเหลวที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ โดย เฉพาะการใช้ทดแทนน้ำ�มันเบนซินและน้ำ�มันดีเซลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ได้ จากฟอสซิล จุดเด่นของเชื้อเพลิงเหลวชีวภาพ คือการเผาเชื้อเพลิงชนิดนี้จะ ปล่อยปริมาณสารไฮโดรคาร์บอนต่ำ� และยังก่อให้เกิดปริมาณก๊าซพิษ น้อยกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นเมื่อเทียบกันในอัตราต่อหน่วย  ปัจจุบันเชื้อเพลิงชีวภาพมีใช้ในสองรูปแบบหลักๆ คือ ไบโอดีเซล  และเอทานอล

ไบโอดีเซล (Biodiesel) ไบโอดีเซลคือน้ำ �มันจากพืชหรือไขมันสัตว์ มีการผลิตได้หลาย  รูปแบบ แม้กระทั่งน้ำ�มันพืชที่ไม่ผ่านกระบวนการใดๆ ก็สามารถใช้ กั บ  เครื่องยนต์ดีเซลได้ แต่อาจมีปัญหาการใช้งานบ้าง  การผลิตไบโอ-  ดี เ ซลใช้ ก ระบวนการทางเคมี เ ปลี่ ย นโครงสร้ า งของน้ำ � มั น พื ช  โดย ใช้ แ อลกอฮอล์ เ ข้ า ไปทำ � ปฏิ กิ ริ ย าเคมี แ ละใช้ ก รดหรื อ ด่ า งเป็ น ตั ว เร่ ง  ปฏิ กิ ริ ย า เรี ย กว่ า  Transesterification จนได้ เ อสเทอร์ ซึ่ ง มี ส มบั ติ   ใกล้เคียงกับน้ำ�มันดีเซล  ไบโอดีเซลสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้โดยไม่ต้องผสมน้�ำ มันดีเซล  เลย เรียกว่า B100 หรือผสมกับน้ำ�มันดีเซลในอัตราส่วนต่างๆ เช่น  ผสมไบโอดีเซล 5 ส่วนกับน้ำ�มันดีเซล 95 ส่วน เรียกว่า B5  ปัจจุบัน  ทั่วโลกใช้น้ำ�มันดีเซลในรูปของไบโอดีเซลหลายประเทศแล้ว

เชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuel

138 P 98-145 (chapter 4).indd 138

> การทดลองไบโอดีเซล เพื่อให้ได้เชื้อเพลิงประสิทธิภาพ สูงสุด

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


ปาล์มน้ำ�มัน

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 139

วัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซลมาจากพืชชนิดที่ให้น้ำ�มันเป็นหลัก  ที่สำ�คัญ เช่น ปาล์มน้ำ�มัน สบู่ดำ� มะพร้าว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ละหุ่ง งา  ฯลฯ  การสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล นอกจากจะช่วยลดการนำ�เข้าน้�ำ มัน  จากต่ า งประเทศแล้ ว  ยั ง เป็ น การส่ ง เสริ ม การเพาะปลู ก พื ช พลั ง งาน ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรนอกเหนือไปจากการเพาะปลูก  พืชอาหาร  โดยปัจจุบันปาล์มน้ำ�มันเป็นพืชน้ำ�มันที่นิยมใช้ผลิตไบโอ-  ดีเซลมากที่สุด และพืชที่กำ�ลังอยู่ในความสนใจมากขึ้น คือ สบู่ดำ� และ สาหร่ายน้ำ�จืด-น้ำ�เค็ม  กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้จัดทำ�  แผนยุ ท ธศาสตร์ ไ บโอดี เ ซลมาตั้ ง แต่ ปี   2548 เพื่ อ ส่ ง เสริ ม ให้ มี ก าร  ผลิ ต และการใช้ ไ บโอดี เ ซลทดแทนน้ำ � มั น ดี เ ซล  โดยในปี   2555 มี

139 21/12/2012 18:38


สบู่ดำ� และมันสำ�ปะหลัง  เป็นพืชเกษตรสำ�คัญในการผลิต เชื้อเพลิงชีวภาพ

โรงงานผลิตไบโอดีเซลจำ�นวน 16 รายที่ได้คุณภาพตามประกาศของ  กรมธุรกิจพลังงาน มีกำ�ลังการผลิตรวม 6.5 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งที่ผ่าน  มาประเทศไทยยังประสบปัญหาความไม่มีเสถียรภาพของผลผลิตปาล์ม น้�ำ มันที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลัก

เอทานอล (Ethanol) เอทานอลคือแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการหมักพืชเกษตร เช่น อ้อย  มันสำ�ปะหลัง ข้าวโพด กากน้ำ�ตาล ฟางข้าว ฯลฯ โดยกระบวนการหมัก  จะเปลี่ยนแป้งในพืชให้เป็นน้ำ�ตาล แล้วเปลี่ยนจากน้ำ�ตาลเป็นเอทิล-  แอลกอฮอล์ซึ่งมีความบริสุทธิ์ 99.5 เปอร์เซ็นต์  เมื่อนำ �เอทานอลมา  ผสมกับน้ำ�มันเบนซินจะได้เชื้อเพลิงที่เรียกว่า แก๊สโซฮอล์ (Gasohol)  หากนำ�ไปผสมกับน้�ำ มันดีเซล เรียกว่า ดีโซฮอล์ (Diesohol) เอทานอลสามารถทดแทนการใช้ น้ำ � มั น เบนซิ น และสารเพิ่ ม  ออกเทน MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) ซึ่งประเทศไทยต้อง  นำ�เข้าจากต่างประเทศ  เครื่องยนต์เบนซินสามารถใช้แก๊สโซฮอล์ได้ โดยไม่ต้องดัดแปลง เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ช่วยลดการปล่อยควัน ดำ� และสารก่อมลพิษอื่นๆ    ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91  แทนการใช้น้ำ�มันเบนซิน 95 ซึ่งเกิดจากการผสมเอทานอลกับน้ำ�มัน  เบนซิ น  โดยมี เ อทานอลผสมไม่ เ กิ น ร้ อ ยละ 10  ในอนาคตกำ � ลั ง  ส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ซึ่งมีเอทานอลผสมในอัตราส่วนที่สูงขึ้น เช่น  E20 (เอทานอลผสมร้อยละ 20) E85 เป็นต้น พพ. ได้ จั ด ทำ � ยุ ท ธศาสตร์ แ ก๊ ส โซฮอล์ ม าตั้ ง แต่ ปี   2546 เพื่ อ  ส่งเสริมการผลิตเอทานอลมาผสมน้ำ�มันเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์สำ�หรับ  รถยนต์   โดยในปี   2554 มี โ รงงานผลิ ต เอทานอล 19 โรง มี กำ� ลั ง  การผลิตรวม 3.08 ล้านลิตรต่อวัน แต่ยังผลิตเอทานอลได้ 1.5 ล้าน  ลิตรต่อวัน

140 P 98-145 (chapter 4).indd 140

เป้าหมายตามแผน AEDP ในปี 2564 1. ไบโอดีเซล กำ�หนดเป้าหมายในปี 2564 คือ 5.97 ล้านลิตร ต่อวัน ปัจจุบัน (ตุลาคม 2555) มีกำ�ลังการผลิตรวม 1.8 ล้านลิตร  ต่อวัน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริม เช่น   การปลูกปาล์มน้ำ�มันในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยไม่แย่งพื้นที่พืช อาหาร 5.5 ล้านไร่    มีกำ�ลังการผลิตน้ำ�มันปาล์มดิบไม่น้อยกว่า 3.05 ล้านตันต่อปี   เตรียมพัฒนามาตรฐานไบโอดีเซลแบบ FAME ให้สามารถมี สัดส่วนผสมในน้�ำ มันดีเซลถึง 7 เปอร์เซ็นต์ (B7)   การบริหารจัดการแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูกปาล์มน้�ำ มัน การสกั ด น้ำ � มั น  การผลิ ต น้ำ � มั น พื ช บริ โ ภค การผลิ ต ไบโอดี เ ซลและ  อุตสาหกรรมต่อเนื่อง การนำ�เข้า การส่งออก และ R&D เพื่อลดต้นทุน  และสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ประเทศสูงสุด  2. เอทานอล กำ�หนดเป้าหมายในปี 2564 คือ 9 ล้านลิตรต่อวัน ปัจจุบัน (ตุลาคม 2555) มีกำ�ลังการผลิตรวม 1.5 ล้านลิตรต่อวัน โดย  มุ่งเน้นการส่งเสริม เช่น   เพิ่ ม ผลผลิ ต เฉลี่ ย ของมั น สำ � ปะหลั ง และอ้ อ ยไม่ น้ อ ยกว่ า 5 และ 15 ตันต่อไร่ต่อปี   สนับสนุนงบประมาณการวิจัย ทดสอบ และการสร้างแรง จูงใจเพื่อเพิ่มความต้องการใช้เอทานอล   ปรับปรุงกฎระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมาย เพื่อรองรับการ ค้าเอทานอลอย่างเสรีมากขึ้นในอนาคต   ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจน้ำ�มันแก๊สโซฮอล์ E10 E20 E85 อย่างต่อเนื่อง   ยกเลิกประเภทน้ำ�มันเบนซิน 91  สนับสนุนการผลิตรถยนต์ E85 ในรถยนต์นั่งทั่วไป และ ECO-CAR โดยการลดภาษีสรรพสามิต

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:38


เกาะพะลวย “กรีนไอส์แลนด์” บนเส้นทางสูเ่ กาะต้นแบบพลังงานสะอาด

เซลล์แสงอาทิตย์ระบบ “โซลาร์โฮม” ติดตั้งอยู่ทั่วไป  ในทุกครัวเรือนบนเกาะพะลวย

เกาะพะลวยเหมือนเกาะในตำ�นาน ที่แม้แต่ชาวสุราษฎร์ฯ บางคน ก็ไม่รู้จัก คุณป้าคนหนึ่งที่ “อ่าวสอง” ถึงกับสัพยอกในเชิงน้อยอกน้อยใจ ว่า “นักท่องเที่ยวนั่งเรือผ่านไประหว่างท่าดอนสัก เกาะวัวตาหลับ กับ เกาะสมุย ยังไม่มีใครแนะนำ�ให้รู้จักเกาะนี้” ทั้งๆ ที่เรือท่องเที่ยวแล่น อยู่ห่างไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น เกาะลึกลับในสายตาสาธารณชนตั้งอยู่กลางอ่าวไทย ห่างจาก  เกาะสมุยไปทางทิศตะวันตกราว 20 กิโลเมตร ห่างจากท่าเรือดอนสัก  (อำ�เภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี) ไปทางทิศตะวันออก 23 กิโลเมตร   เป็นหนึ่งในหมู่เกาะน้อยใหญ่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และ พื้นที่ราวครึ่งหนึ่งของเกาะก็อยู่ในเขตอุทยานฯ ด้วย

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 141

ด้านการปกครอง แม้เกาะพะลวยจะขึ้นตรงกับอำ�เภอเกาะสมุย แต่เรื่องราวของเกาะซึ่งชุมชนบนเกาะเคยเรียกและเขียนว่า “พลวย”  (ออกเสียงควบกล้ำ�หนึ่งพยางค์) ทั้งในอดีตและปัจจุบัน น้อยคนนักจะ  ทราบประวัติความเป็นมาอย่างชัดเจน   อาจเพราะเกาะพะลวยมี บ้ า นชาวประมงอาศั ย อยู่ ไ ม่ ถึ ง  200  หลังคาเรือน ไม่มีชายหาดงดงามสะอาดสะอ้านดังเช่นเกาะท่องเที่ยว ชื่อดังอื่นๆ ในผืนทะเลเดียวกัน คงเป็นเหตุผลให้เกาะพะลวยไม่ได้รับ ความสนใจนักจากโลกภายนอก ในยามคลื่นลมสงบ เรือโดยสารจากท่าดอนสักแล่นมาถึงเกาะ พะลวยได้ในเวลาชั่วโมงครึ่ง แต่หากอยู่ในช่วงฤดูมรสุม ผู้คนบนเกาะ อาจต้องตัดขาดจากโลกภายนอกนานเป็นสัปดาห์

141 21/12/2012 18:38


ซึ่ ง อาจถื อ เป็ น เรื่ อ งปรกติ ธ รรมดาสำ � หรั บ ลู ก หลานชาวประมง  บนเกาะนี้ สิ่งจำ�เป็นอย่างยิ่งสำ�หรับการดำ�รงชีวิตบนเกาะนี้คือน้ำ�จืด  ที่ ผ่านมาชาวบ้านอาศัยน้ำ�ฝน และมักเกิดความขาดแคลนทุกปี  อ่างเก็บ  น้ำ�ที่มีอยู่ไม่อาจกักเก็บน้ำ�ไว้ใช้ประโยชน์ได้ จนชาวบ้านต้องติดต่อกอง  ทัพเรือขอให้ช่วยขนน้ำ �จืดมาให้ หรือถึงกับต้องเช่าเรือไปซื้อน้ำ �จาก  บนฝั่งซึ่งมีราคาแพง ด้านการใช้ไฟฟ้า ชาวบ้านยุคแรกที่เข้ามาตั้งรกรากบนเกาะนี้ อาศัยแสงสว่างจากตะเกียงน้ำ�มัน กับเครื่องปั่นไฟ  จนราวปี 2545 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เข้ามาติดตั้ง “โซลาร์โฮม” ให้ เป็นระบบไฟฟ้า พลังแสงอาทิตย์ทุกครัวเรือน จนปี 2553 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ริเริ่มผลักดันโครงการเกาะต้นแบบพลังงานสะอาดหรือกรีนไอส์แลนด์ (Green Island) ขึ้นที่นี่  วัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้เกิด  ชุมชนพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งพัฒนา คุณภาพชีวิตของชาวเกาะพะลวยอย่างยั่งยืน   ถึ ง แม้ วั น นี้ จ ะอยู่ ใ นขั้ น ดำ � เนิ น การท่ า มกลางอุ ป สรรคปั ญ หาที่ ต้องก้าวผ่าน  เหนืออื่นใดดูเหมือนว่าวันนี้เกาะพะลวยซึ่งเคยเป็นแดน สนธยาในอดีต จะได้รับการเปิดตัวสู่สาธารณชนมากขึ้นแล้ว

1.

โครงการเกาะพะลวยกรี น ไอส์ แ ลนด์ เ ป็ น ผลสื บ เนื่ อ งจากการ ร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศ เดนมาร์ก  เมื่อปี 2553 ประเทศเจ้าภาพได้เสนอความสำ�เร็จของโครงการ  “The Renewable Energy Island” ที่เกาะแซมโซ่ (Samso) เกาะพื้นที ่ 114 ตารางกิโลเมตร ที่ผู้คนบนเกาะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล  เดนมาร์กให้หันมาใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน 100 เปอร์เซ็นต์  โครงการแซมโซ่เริ่มต้นด้วยการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ต่อมา  ขยับขยายใช้ฟางและเศษไม้ผลิตไฟฟ้าและความร้อน  ในระยะเวลา  ราว 8 ปีค่อยๆ ติดตั้งกังหันลม โซลาร์เซลล์ ไบโอแมส ปลูกหญ้าทำ�  น้ำ�มัน จนเกาะที่มีประชากรราว 4,000 คน เดินหน้าสู่เส้นทาง “เกาะ  พลังงานสะอาด” อย่างมั่นคง โดยมีปัจจัยที่ส่งผลให้การดำ �เนินงาน  ชาวบ้าน “อ่าวสี่” กับอาหารทะเลตากแห้งภายในโดมพลังงานแสงอาทิตย์

142 P 98-145 (chapter 4).indd 142

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:39


พลั ง งานมาก  ที่ สุ ด เราหั น มามองเกาะพะลวย ซึ่ ง แม้ ข นาดเกาะ  จะไม่เล็กนัก แต่มีชุมชนขนาดเล็กไม่เกิน 500 คน และอยู่ห่างจากฝั่ง  พอสมควร”

2.

กังหันลมและเซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งคู่กันในระบบ “ไฮบริด”  สาธิตอยู่หน้าสถานีอนามัย ทำ�หน้าที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม และแสงแดด

ประสบผลสำ�เร็จ คือการมีส่วนร่วมของชุมชนบนเกาะในทุกกระบวน  การ ถึงขั้นสามารถระดมทุนจากภาคประชาชนเพื่อพัฒนาระบบผลิต พลังงานสำ�หรับใช้ในชุมชนเอง   หลังเดินทางกลับไทย คณะผู้บริหารกระทรวงพลังงานได้มอบ หมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จัดหา พื้นที่เหมาะสมดำ�เนินโครงการในลักษณะเดียวกันนี้ ไกรฤทธิ์   นิ ล คู ห า  อธิ บ ดี   พพ. ในขณะนั้ น เล่ า ว่ า  “เราเริ่ ม สำ�รวจความเป็นไปได้ ดูว่าเกาะทั่วท้องทะเลไทยพื้นที่ไหนเหมาะสม   เบื้ อ งต้ น คิ ด ว่ า ควรอยู่ ห่ า งจากชายฝั่ ง พอสมควร พื้ น ที่ ไ ม่ ก ว้ า งนั ก  เพราะถ้าพื้นที่มากและใกล้เมืองจะผลักดันลำ�บาก  เกาะที่เข้าตา เช่น  เกาะราชา เกาะเต่ า  แต่ เ กาะเหล่ า นี้มีเ อกชนเข้ า ไปทำ� ธุ ร กิ จ  ต้ อ งใช้

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 143

เรือโดยสารจากท่าดอนสักมีแล่นมาเกาะพะลวยทุกวันคี่ โดยมี   เพียงวันละหนึ่งเที่ยว ออกจากท่าดอนสักราวเที่ยงวัน และจากเกาะ พะลวยตอนเช้าตรู่  ครึ่งซีกบนของเกาะพะลวยตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะ อ่างทอง ครึ่งซีกล่างอยู่ในการดูแลของกรมธนารักษ์  เขตชุมชนตั้งอยู่  บริเวณอ่าวหลักทั้งสี่อ่าว มีประชากรราว 438 คน จาก 180 ครัวเรือน  เกือบทั้งหมดทำ�อาชีพประมง รองลงมาคือปลูกยางพารา เศรษฐศิ ษ ฎิ์   นรเทพไพศาล  ผู้ ป ระสานงานโครงการเกาะ พลังงานสะอาด ให้ข้อมูลเบื้องต้นเมื่อเราก้าวเท้าลงจากเรือว่า “ก่อนนี ้ ชาวเกาะใช้ไฟจากระบบโซลาร์โฮม ติดตั้งโซลาร์เซลล์หนึ่งแผงต่อบ้าน  หนึ่งหลัง จนเมื่อ พพ. มีแผนพัฒนาเป็นเกาะต้นแบบพลังงานสะอาด  ได้ เ ข้ า มาสำ � รวจพบว่ า มี โ ซลาร์ โ ฮมเสี ย หายอยู่ ม ากกว่ า ร้ อ ยละ 70  จึงซ่อมแซม แล้วกำ�หนดว่าจะเปลี่ยนจากระบบโซลาร์โฮมเป็นระบบ  “ไฮบริ ด ” คื อ ติ ด ตั้ ง โซลาร์ เ ซลล์ คู่ กั บ กั ง หั น ลม มี ร ะบบอิ น เวอร์ เ ตอร์   สลั บ การทำ � งาน  ระบบใหม่ นี้ จ ะติ ด ตั้ ง ไฮบริ ด หนึ่ ง ชุ ด ต่ อ ครั ว เรื อ น  สองสามหลัง เริ่มติดตั้งในปี 2556”  เศรษฐศิษฎิ์พาชมกังหันลมและแผงโซลาร์เซลล์สาธิตที่ติดตั้งอยู่ หน้า “อ่าวสอง” มองเห็นสายไฟต่อไปยังหม้อแปลงและแบตเตอรี่ และ เสาไฟบริเวณท่าเรือ  เขาชี้แจงว่าตอนนี้ระบบยังมีปัญหาแบตเตอรี่ค่อน ข้างเสื่อม   ในการพั ฒ นาเกาะพะลวยสู่ เ กาะพลั ง งานสะอาด ผู้ ผ ลั ก ดั น โครงการประเมินว่าจำ�เป็นต้องทำ�ควบคู่การยกระดับคุณภาพชีวิต คือ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานบนเกาะ ไม่ว่าเรื่องถนนหนทาง  จัดหาแหล่งน้ำ�จืด ไปจนถึงการส่งเสริมอาชีพ ฯลฯ บนเกาะนี้มีรถกระบะอยู่เพียงแปดคันเท่านั้น เรานั่งรถคันหนึ่ง ออกเดินทางไปตามถนนคอนกรีตผ่านเนินเขาลูกย่อม  ทางนี้เชื่อม  ต่อจากอ่าวสองไปยังอ่าวสาม ผ่านสถานีประจุแบตเตอรี่ชุมชนสำ�หรับ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ก่อนแวะดูพื้นที่ขุดเจาะบ่อน้ำ�บาดาลซึ่งอาศัยการสูบ

143 21/12/2012 18:39


น้ำ�ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์   ปั จ จุ บั น ปั ญ หาขาดแคลนน้ำ � จื ด ยั ง เป็ น ปั ญ หาใหญ่ อั น ดั บ  1  ของชาวเกาะพะลวย  กระทรวงพลั ง งาน โดยกรมพั ฒ นาพลั ง งาน ทดแทนและอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งาน (พพ.) จึ ง ประสานความร่ ว มมื อ ไป ยั ง กรมทรั พ ยากรน้ำ � บาดาลและบริ ษั ท บางจากปิ โ ตรเลี ย ม จำ � กั ด  (มหาชน) ให้ขุดหาน้ำ �บาดาลและวางระบบท่อประปาสำ �หรับส่งจ่าย น้ำ � ให้ ช าวบ้ า นในอ่ า วหนึ่ ง  อ่ า วสอง และอ่ า วสาม รวมทั้ ง ติ ด ต่ อ ไป ยั ง สำ � นั ก พั ฒ นาพลั ง งานแสงอาทิ ต ย์ อั น เป็ น หน่ ว ยงานลู ก ของ พพ.  เข้ามาติดตั้งระบบสูบน้ำ�ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อสูบน้ำ�ขึ้นไปยังถัง  กักเก็บน้ำ�แบบหอสูง ในวันที่เราเดินทางมาถึง ท่อประปาไปยังถังพักน้ำ�ซึ่งตั้งอยู่บน เนินเขาชำ�รุด รวมทั้งมีการรั่วซึมของท่อในหลายจุด  ด้วยเหตุนี้แม้มีน้ำ� บาดาล แต่ชาวบ้านต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการติดตั้งปั๊มน้�ำ ชนิด ใช้น�้ำ มันเป็นเชื้อเพลิง สูบน้�ำ ในถังขึ้นมาแจกจ่ายกัน  ความที่น้ำ�มันบน เกาะมีราคาแพงกว่าบนฝั่งเป็นเท่าตัว จึงได้แต่หวังว่าหน่วยงานรับผิด ชอบจะเร่งแก้ปัญหาให้ชาวบ้านโดยเร็ว เรามุ่งหน้าไปยังอ่าวสาม ผ่านอ่างเก็บน้ำ�ซึ่งเพิ่งได้รับการขยาย ขอบเขตพื้นที่อ่างให้กว้างขึ้น ปูผ้ายางก้นอ่างและสร้างประตูเปิดปิดเพื่อ แก้ปัญหาน้ำ�ทะเลรั่วซึม  เศรษฐศิษฎิ์เล่าว่าอ่างเก็บน้ำ�ยังต้องใช้เวลา เก็บสะสมน้ำ�อีกราว 4-5 ปีจึงจะเต็ม จากอ่ า งเก็ บ น้ำ �  เรามุ่ ง หน้ า ไปทางสถานี อ นามั ย  มองเห็ น  กังหันลมสีส้มรูปทรงแปลกตา ปีกใบพัดมีลักษณะคล้ายตัว S  เป็น  กังหันลมชนิด “แนวแกนตั้ง” ที่มีแกนหมุนและใบพัดตั้งฉากกับการ  เคลื่อนที่ของลมในแนวราบ เศรษฐศิษฎิ์อธิบายว่านี่เป็นตัวอย่างกังหันซึ่งจะได้รับการติดตั้งใช้ งานจริงในระบบ “ไฮบริด” ตัวกังหันไม่ต้องติดตั้งในพื้นที่มีลมแรงก็ใช้ การได้  วันนี้ระบบกังหันยังชำ�รุดทำ�ให้ไม่มีการจ่ายไฟเข้าระบบเพื่อให้ แสงสว่างหน้าสถานีอนามัย  การประจุไฟฟ้าลงแบตเตอรี่ใช้การเชื่อม ต่อกับโซลาร์เซลล์เป็นการชั่วคราว เราเดินทางมาถึงอ่าวสาม มองเห็นหย่อมบ้าน  หาดทรายด้าน หนึ่งมีชาวประมงนั่งแกะกุ้งหอยปูปลาออกจากอวน  อีกด้านเป็นพื้นที่ กิจกรรมปลูกป่าชายเลน  เบื้องหน้าคือผืนทะเลกว้างไกล เราแวะพูดคุยกับเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งถึงโครงการกรีน-  ไอส์แลนด์ เธอแสดงความเห็นว่า “โครงการนี้ดีถ้าทำ�สำ�เร็จ แต่นี่ยังไม่

144 P 98-145 (chapter 4).indd 144

สำ�เร็จ ไฟฟ้าเรายังใช้โซลาร์โฮมกันอยู่  ส่วนน้�ำ ประปาตอนนี้ท่อต่อมา ถึงหน้าบ้านแล้วแต่ยังไม่มีน้ำ� หวังว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งดำ�เนินการตามที่ ได้ให้สัญญาไว้”

3.

รุ่งเช้าเรากลับมาอ่าวสามอีกครั้ง สังเกตว่าบนเกาะมีเขาหินปูน สูงชันตั้งเด่นเป็นสัญลักษณ์ของเกาะพะลวย  ตามตำ�นานระบุว่าโขดเขา ที่ชาวบ้านเคารพนับถือมีชื่อว่า เขาพ่อตาเสี้ยม เขาพ่อตาศักดิ์ และเขา พ่อตาแสง เรากลับมาอ่าวสามเพื่อขึ้นเรือหางยาวไปอ่าวสี่ ชุมชนเดียวบน เกาะที่รถยนต์แล่นไปไม่ถึง ต้องลงเดินข้ามภูเขา ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือไม่ ก็นั่งเรือ ชาวบ้านที่อ่าวสี่ยังมีปัญหาเรื่องอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ประกาศพื้นที่ทับซ้อนที่ดินและที่อยู่อาศัย ทั้งที่ชาวบ้านยืนยันว่าตนตั้ง รกรากอยู่ที่นี่มานานแล้ว  ในเอกสาร เรื่องเล่า...ชาวพลวย (ชื่อเกาะ แต่เดิมไม่มีสระอะ) ของนายสุรินทร์ จิตรมุ่ง วัย 63 ปี พิมพ์เผยแพร่  ในงานมหกรรมการศึกษาศิลปวัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น  31 มีนาคม 2546 ระบุว่าผู้คนจากเกาะสมุยและเกาะแตนเดินทางมา  จับจองที่ดินบนเกาะพะลวยตั้งแต่ปี 2495 ก่อนที่จะมีการประกาศเขต  อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองเมื่อราวปี 2523 เสียอีก  ที่อ่าวสี่เราพบว่าแทบทุกครัวเรือนประกอบอาชีพทำ�ประมงพื้นบ้าน  ชาวบ้านมีรายได้จากการออกเรือหาอาหารทะเลนำ�มาตากแห้งขายให้ กับฝั่งแผ่นดินใหญ่หรือเกาะสมุย   ก่อนหน้านี้ชาวบ้านนิยมนำ�อาหารทะเลที่จับได้มาตากแห้งซึ่งต้อง ระมัดระวังเรื่องฟ้าฝน รวมทั้งความสะอาด  ล่าสุด พพ. ได้เข้ามาติดตั้งระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ที่ อ่าวสองและอ่าวสี่  ตัวอาคารมีลักษณะเป็นโดมกระจกโปร่งแสง  ท้าย โดมติ ด ตั้ ง พั ด ลมดู ด อากาศ ขั บ เคลื่ อ นการทำ � งานด้ ว ยพลั ง งานแสง อาทิตย์ ช่วยในเรื่องความสะอาด สภาพอากาศ รวมทั้งประหยัดเวลาใน การตากแห้งด้วย วันดี เรืองศรี ประธานกลุ่มสมาชิกตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ เล่าว่า “ตอนนี้อาหารแห้งจากอ่าวสี่ขายดีที่เกาะสมุย เราส่งไปเท่าไรก็ ไม่พอ  หน้าซองเราติดฉลากระบุว่านี่เป็นผลงานของกลุ่มอาหารทะเล

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:39


โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ�บาดาล และระบบสูบน้ำ�พลังงานแสงอาทิตย์

ชาวบ้านที่ “อ่าวหนึ่ง” ชาร์จประจุแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

ตากแห้งเกาะพะลวย มีทั้งปลากระบอกร้า ปลาแห้ง กุ้งแห้ง ปลาหมึก แห้ง ตามแต่พ่อบ้านจะจับมาได้  ด้านการใช้งานตู้อบแสงอาทิตย์ เรา ออกกฎบำ�รุงรักษาให้ใช้งานตู้อบไปได้นานๆ เบื้องต้นตกลงกันว่าให้ เก็บค่าบำ�รุงรักษา 20 บาทต่อเดือน” เรานั่งเรือหางยาวลำ�เดิมกลับมาอ่าวสาม ขับรถไปยังอ่าวหนึ่ง พบว่าบนเกาะนี้ยังมีธรรมชาติบริสุทธิ์ อุดมสมบูรณ์ มีป่าไม้ โขดเขา รวมทั้งท้องทะเลแสนงาม  เราได้เห็นนกเงือกบินผ่านไปมาหลายครั้ง ถนนหนทางบนเกาะพะลวยนั้นมีระยะทางรวมกันเพียง 7 กิโล-  เมตร  ไม่ถึง 2 วันก็พอเรียกได้ว่าเราไปมาแล้วทั่วทั้งเกาะ ที่อ่าวหนึ่งเราได้พบกับครอบครัวคุณกนกทิพย์ เมืองเกิด เธอทำ� เครื่องพริกแกงขายเป็นรายได้เสริม  ทั้งเครื่องกะทิ เครื่องแกงส้ม ครึ่ง กิโลกรัมขายราคา 60 บาท  เธอเล่าว่าวันนี้วัตถุดิบหลายอย่างยังต้อง

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 98-145 (chapter 4).indd 145

หาซื้อจากบนฝั่ง  อนาคตหากโครงการน้ำ�บาดาลสำ�เร็จเป็นรูปเป็นร่าง  น่าจะช่วยให้การเพาะปลูกพืชผลบนเกาะดีขึ้น เราถามถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันเป็นกิจกรรมสำ�คัญหนึ่งในโครง การกรีนไอส์แลนด์ เศรษฐศิ ษ ฎิ์ เ ล่ า ว่ า  เมื่ อ เริ่ ม ผลั ก ดั น ให้ ช าวบ้ า นใช้ ม อเตอร์ ไ ซค์ ไฟฟ้ า  ทาง พพ. ได้ จั ด เตรี ย มมอเตอร์ ไ ซค์ ไ ฟฟ้ า ให้ ช าวบ้ า นใช้ ง าน  จำ�นวน 85 คัน ต่อมาพบปัญหาเมื่อใช้งานจริงในพื้นที่ เช่น ไม่สามารถ  ขี่ขึ้น “เนินปราบเซียน” (เส้นทางช่วงหนึ่งระหว่างเดินทางไปอ่าวสาม)  ด้วยเครื่องยนต์มีกำ�ลังไม่พอ หรือบางพื้นที่ไม่สามารถขี่ซ้อนกันสองคน ได้ บางกรณีชาวบ้านล้างรถและมีน้ำ�เข้าไปในระบบ ทำ�ให้แบตเตอรี่ เสียหาย ล่าสุด พพ. ได้ส่งมอบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าชุดใหม่ อัปเกรดคุณภาพ  ของเครือ่ งยนต์ แต่กม็ เี พียง 20 คัน  มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าชุดนี้ให้ชาวบ้าน ซื้อผ่อน ในราคาเดือนละ 1,000 บาท นาน 20 เดือน กนกทิพย์ เมืองเกิด  ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านำ�เรามายังสถานี ประจุแบตเตอรี่ชุมชนอ่าวหนึ่ง  มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของเธอ “แบตหมด”  ต้องชาร์จไฟเพิ่มพอดี  ตัวสถานีประจุแบตเตอรี่นั้นมีติดตั้งอยู่ที่อ่าวหนึ่ง อ่าวสอง และ  อ่าวสาม มีกำ�ลังผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์สถานีละ 3,500 วัตต์  หาก  ชาร์จแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “เต็มถัง” จะต้องใช้เวลาชาร์จราว  6-7 ชั่วโมง  ที่สถานีชาวบ้านยังสามารถนำ�แบตเตอรี่เครื่องใช้ไฟฟ้า  ชนิดอื่นในบ้านมาชาร์จไฟเก็บไว้ได้   อย่างไรก็ตามเราพบว่าบางสถานีมีผู้เสียบปลั๊กไฟซึ่งต่อตรงมา จากครัวเรือนของตนค้างไว้  เนื่องจากโครงการยังไม่มีกฎระเบียบการ ใช้งานสถานีประจุแบตเตอรี่ที่แน่ชัด  ทางแก้ไขอาจเป็นการจัดตั้งคณะ กรรมการหรือสภาพัฒนาชุมชนร่วมกันเพื่อวางระเบียบการใช้งาน ........................ เราเดินทางไปทุกอ่าว ได้พบทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการดำ�เนิน การ โครงการที่ต้องร่วมกันแก้ปัญหา ตลอดจนโครงการที่สำ�เร็จแล้ว เส้นทางสู่ “กรีนไอส์แลนด์” เกาะพลังงานสะอาดแห่งแรกของ ประเทศไทยยังคงทอดไกล  การจะผลักดันจนประสบผลสำ �เร็จคงต้อง อาศัยความร่วมมือกันอย่างจริงใจของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง   นั่นรวมถึงประชาคมชุมชนเกาะพะลวย ว่าจะมีส่วนร่วมกำ �หนด อนาคตของตนอย่างไร

145 21/12/2012 18:39


P 146-157 (chapter 5).indd 146

21/12/2012 18:43


P 146-157 (chapter 5).indd 147

21/12/2012 18:43


การอนุรักษ์ พลังงาน

Energy Conservation

การอนุรักษ์พลังงานมีความหมายสองประการ คือ

1. การประหยัดหรือการลดการใช้พลังงานที่ไม่จ�ำเป็น  2. การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งหมายถึงการท�ำงานที่ได้ผลลัพธ์เท่าปรกติแต่ใช้พลังงานน้อยกว่าปรกติ ไม่ว่าจะเป็น  การส่องสว่าง การท�ำน�้ำร้อน การท�ำความเย็น การขนส่ง หรือการขับเคลื่อนเครื่องจักรกลในกระบวนการผลิต  การอนุรักษ์พลังงานมีส่วนส�ำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงพลังงาน การลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน การลดต้นทุนการผลิตและ  บริการ การลดการเสียดุลการค้า และการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนการลดการปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็น  ต้นเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นการอนุรักษ์พลังงานจึงเป็นนโยบายส�ำคัญของรัฐบาล  มาตลอด โดยเฉพาะตั้งแต่การประกาศใช้พระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535  โดยได้มีการจัดท�ำแผนการใช้จ่าย เงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในกิจกรรมการอนุรักษ์พลังงาน ในช่วงระยะเวลา 5 ปี มาแล้วสามระยะ  อย่างไรก็ตามในอนาคตปัญหาเรือ่ งราคาพลังงาน การแย่งชิงทรัพยากรพลังงานระหว่างประเทศ ปัญหาสิง่ แวดล้อม และการเปลีย่ น  แปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นผลพวงของการผลิตและใช้พลังงาน จะมีความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชน  และความสามารถในการแข่งขันเชิงเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ รวมทั้งรัฐบาลได้ให้สัตยาบันต่อผู้น�ำกลุ่มประเทศความร่วมมือทาง เศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (เอเปก) เมื่อปี 2550 ว่าจะร่วมกันส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สำ� หรับ ปี 2573 (ค.ศ. 2030) กระทรวงพลังงานจึงได้จัดท�ำแผนอนุรักษ์พลังงานระยะ 20 ปี (2554-2573) ขึ้น เพื่อก�ำหนดแนวนโยบายและ  แนวทางการด�ำเนินการด้านการอนุรักษ์พลังงานของประเทศในระยะยาว

148 P 146-157 (chapter 5).indd 148

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:43


เป้าหมายตามแผนอนุรักษ์พลังงานนี้ คือการลดการใช้พลังงานต่อผลผลิตลงร้อยละ 20 ภายใน 20 ปี เมื่อเทียบกับการใช้  พลังงานในปี 2553 ของปริมาณการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายทั้งหมดของประเทศ หรือลดพลังงานที่ใช้ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์มวลรวมของ  ประเทศ (GDP) ที่เรียกว่า ดัชนี Energy Intensity ร้อยละ 25 ในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2548 ซึ่งหมายถึงการลดการใช้พลังงานลง  38,200 ktoe ในปี 2573 หรือคิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซ CO2 ลง 130 ล้านตัน  ส�ำหรับการอนุรกั ษ์พลังงานทีผ่ า่ นมาได้ใช้กลยุทธ์และมาตรการทัง้ การบังคับด้วยกฎระเบียบและการส่งเสริมด้วยการจูงใจทางการเงิน สิทธิประโยชน์ทางภาษี การให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค และการให้ความรู้ การสาธิตโครงการต้นแบบ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์  รูปแบบต่างๆ เพือ่ สร้างความตระหนักของสาธารณชนในการอนุรกั ษ์พลังงาน ซึง่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน (พพ.) ได้ดำ� เนินกิจกรรมด้วยมาตรการต่างๆ เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 146-157 (chapter 5).indd 149

149 21/12/2012 18:43


การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กับบทบาทของ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ประมวล จั น ทร์ พ งษ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ?

บทบาทของ พพ. ในแผนอนุรักษ์ พลังงาน 20 ปี การอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งานที่   พพ.  ด�ำเนินการอยู่ในปัจจุบันแบ่งเป็นสาม กลุ ่ ม ใหญ่ ๆ  คื อ  หนึ่ ง  โรงงานและ อาคารควบคุมประมาณ 6,000 แห่ง ซึง่   เราต้องก�ำกับดูแลให้เขาท�ำตามกฎหมาย สอง SMEs มีจำ� นวนราวแสนแห่ง  แต่กลุ่มเป้าหมายส� ำคัญซึ่งมีปริมาณ  การใช้ไฟฟ้ากว่า 2 แสนหน่วยขึ้นไปมี  ประมาณ 3-5 หมื่นแห่ง  เราใช้การให้  ความรู้ การพัฒนาบุคลากร เข้าไปช่วย ให้ เ ขาเกิ ด การประหยั ด พลั ง งานใน โรงงาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการอนุรักษ์พลังงานอย่างมีส่วนร่วม การจัดสัมมนา  เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร   และสาม ภาคครัวเรือน  ปัจจุบันเราก�ำหนดค่าประสิทธิภาพพลังงานของ อุปกรณ์ที่ใช้น�้ำมันหรือพลังงานอื่นๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เครื่องปรับความเร็วรอบมอเตอร์ เครื่องยนต์เกษตร เพื่อจัดท�ำฉลาก ประสิทธิภาพสูงให้แก่สินค้าเหล่านี้ เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้า ที่ประหยัดพลังงาน คล้ายกับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า  ที่ ใ ช้ ใ นครั ว เรื อ น เช่ น  ตู ้ เ ย็ น  ที วี   พั ด ลม  ประโยชน์ ส� ำ คั ญ อี ก อย่ า งหนึ่ ง  ของการจั ด ท� ำ ค่ า ประสิ ท ธิ ภ าพพลั ง งาน คื อ ป้ อ งกั น สิ น ค้ า คุ ณ ภาพต�่ำ จาก  ต่างประเทศเข้ามาและช่วยอุตสาหกรรมภายในประเทศของเราเอง ส�ำหรับอาคารราชการหรืออาคารของภาครัฐ เราได้เข้าไปปรับเปลี่ยนให้ เขาใช้อปุ กรณ์ประสิทธิภาพสูง เช่น การเปลีย่ นเครือ่ งปรับอากาศทีม่ อี ายุใช้งาน มานานเป็นสิบปีแล้ว เปลี่ยนหลอดไฟเก่า เพื่อให้ราชการเป็นตัวอย่างส�ำหรับ ภาคเอกชน   ? ปัจจัยส�ำคัญที่จะท�ำให้เดินไปถึงเป้าหมายตามแผน สิง่ ส�ำคัญคือการมีสว่ นร่วม ราชการหน่วยเดียวท�ำไม่ได้ ภาคเอกชน ไม่วา่ สภาอุตสาหกรรมฯ หอการค้า สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการ ต้องร่วมมือกัน

150 P 146-157 (chapter 5).indd 150

อย่างจริงจัง โดย พพ. เราท� ำ หน้าที่  เป็นตัวประสาน เราเคยท�ำการประเมินหาเหตุผล ว่าท�ำไมผูป้ ระกอบการจึงไม่ท�ำเรือ่ งการ อนุรักษ์พลังงาน โดยให้มหาวิทยาลัย หลายแห่งเป็นผูช้ ว่ ยท�ำการประเมิน พบ ว่า หนึ่ง ผู้ประกอบการไม่เชื่อมั่นใน เทคโนโลยีที่จะปรับปรุงใหม่ เกรงว่าจะ  ท�ำให้ผลิตภัณฑ์มีปัญหาเมื่อส่งออกไป  ต่างประเทศ  เราก็แก้ไขโดยการหาโรง  งานทีอ่ าสาสมัครจะรับการสนับสนุนและ  ให้เขาท�ำสัญญากับเราว่าเมื่อท�ำส�ำเร็จ จะต้องให้โรงงานอื่นเข้ามาดูงานได้ สอง คือผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการลงทุนด้านการขยายก�ำลังการ  ผลิต มากกว่าลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงาน เพราะคิดว่าได้ผลตอบแทนคืน  กลับมาช้ากว่า และจับต้องไม่ค่อยได้  เรื่องนี้มีส่วนจริงอยู่บ้างเพราะราคา พลังงานในบ้านเราถูก  เราแก้ไขโดยเสนอบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO)  มาลงทุนให้ 100 เปอร์เซ็นต์ และขอเป็นผลประหยัดพลังงานคืนกลับมา หรือ  ถ้ า ผู ้ ป ระกอบการมี เ งิ น ลงทุ น เอง เราจะช่ ว ยประกั น ผลการประหยั ด ให้ ว ่ า  1 ปีตอ้ งได้ไม่นอ้ ยกว่า 1 ล้านบาท แต่ถา้ ได้ไม่ถงึ  บริษทั จัดการด้านพลังงานจะ เติมให้ครบ 1 ล้าน   ส่วนเหตุผลทีส่ ามเป็นเรือ่ งส�ำคัญแต่เรามักมองข้าม คือเรือ่ งของบุคลากร ผู้ประกอบการบอกว่าเขากลัวปัญหาเรื่องบุคลากร ไม่กลัวเรื่องเครื่องจักรใหม่ วิธีแก้ไข เราก็ต้องพัฒนาคน ไปอบรมไปสอนในโรงงานให้เขาเรียนรู้เรื่องของ เครื่องจักรใหม่ๆ ? โดยทั่วไปการอนุรักษ์พลังงานนั้นมีแนวทางวิธีปฏิบัติอย่างไร  แนวทางการอนุรักษ์พลังงานมีอยู่สามส่วนใหญ่ๆ  ส่วนแรกเรียกว่า การ บ�ำรุงรักษาเบื้องต้น เช่น เครื่องปรับอากาศ เราต้องถอดฟิลเตอร์ไปล้างเป็น  ระยะๆ ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม  ในการอนุรักษ์พลังงานทั้งหมดจะมาจาก  ส่วนนี้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์  60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:43


ส่วนที่ 2 เรียกว่า การปรับปรุงกระบวนการผลิต เป็นการปรับปรุงเครื่อง จักรบางส่วน ยกตัวอย่างรถยนต์รุ่นเก่าเราน�ำเครื่องยนต์ใหม่มาเปลี่ยน ท�ำให้ ได้ประสิทธิภาพดีขึ้น ส่วนนี้ได้อีกประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน  ส่วนที่ 3 คือเปลี่ยนตัวเครื่องจักรทั้งหมด ประหยัดได้อีกประมาณ 2530 เปอร์เซ็นต์ และการเปลี่ยนส่วนนี้ยากที่สุด เพราะคนจะคิดว่ายังใช้งาน  เครื่องเก่าได้อยู่ ทั้งที่มันใช้พลังงานมากเกินไป  ในส่วนการบ�ำรุงรักษา ทาง พพ. ได้ส่งเสริมโดยการประชาสัมพันธ์ให้ ความรู้และการจัดฝึกอบรม  ในส่วนการปรับปรุงกระบวนการผลิต เราจัดการ สาธิตเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ  ส่วนการเปลี่ยนเครื่องจักรนั้น  ต้องใช้การลงทุนสูง เราต้องจัดการสาธิตให้เขาได้ดูเทคโนโลยีว่าได้ผลจริง  ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนคืน  ? การอนุรักษ์พลังงานอย่างมีส่วนร่วมเป็นอย่างไร เป็นเครื่องมือที่ยึดหลักการมีส่วนร่วม เริ่มจากผู้ประกอบการต้องตั้งทีม  ขึ้นมา มีการส�ำรวจอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานในโรงงาน ยกตัวอย่างเหมือนกับบ้าน เราเอง ถ้าคุณอยากประหยัดไฟในบ้าน สมาชิกครอบครัวต้องมานั่งคุยกันว่าจะ ท�ำอย่างไร ต้องเริ่มส�ำรวจว่าในบ้านมีกี่ห้อง มีหลอดไฟกี่หลอด กาต้มน�้ำกี่ตัว  เครื่องปรับอากาศกี่ตัว ค่าไฟเดือนละเท่าไร แล้วมานั่งดูว่าถ้าเราตั้งเป้าจะลด  10 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของห้องแต่ละห้องจะดูแลการใช้ไฟของตัวเองอย่างไร  จดบันทึกการใช้ไฟมา แล้วเอามาวางแผนกัน ทุกห้องต้องช่วยกัน  แต่ถ้ามี  ห้องไหนบอกว่าจะไม่ทำ�  ก็ไม่สำ� เร็จ  เพราะฉะนัน้ เครือ่ งมือของเราคือการดึงคน เข้ามามีส่วนร่วม ทรัพย์สินทุกอย่างในโรงงานที่ประหยัดได้ก็เป็นผลประโยชน์ ของพนักงาน  โรงงานต้องใจกว้างพอที่จะแบ่งสวัสดิการให้พนักงานเมื่อเขา ท�ำได้ตามเป้าหมาย  นี่เป็นเครื่องมือที่เราสอนให้แก่ผู้ประกอบการซึ่งบางแห่งไม่รู้ว่าจะเริ่มต้น อย่างไร เป็นเครื่องมือที่ใช้กันทั่วโลก และเน้นในส่วนการบ�ำรุงรักษาเบื้องต้น ซึ่งถือเป็นการอนุรักษ์พลังงานขั้นพื้นฐาน  ถ้าส่วนนี้ยังท�ำไม่ส�ำเร็จ ก็จะไม่ สามารถท�ำในส่วนอื่นต่อไปได้  แต่ถ้าท�ำส่วนนี้ได้แล้ว เขาจะเริ่มมองการจัด  การในส่วนอื่น เช่น เครื่องปรับอากาศเก่ามากจะดูแลอย่างไรก็ได้เท่านี้  ถ้าจะ ให้ได้มากขึ้นต้องเปลี่ยนไปใช้เครื่องใหม่เบอร์ 5 เรียกว่าเกิดความคิดต่อยอด  ขึ้นมาเรื่อยๆ  จนไปถึงอีกจุดหนึ่ง เขาจะเริ่มคิดต้นทุนต่อผลผลิต เช่น ผลิต  แก้วน�้ำใบหนึ่ง มีค่าพลังงานกี่บาทต่อสินค้าหนึ่งชิ้น  ถ้าพบว่ามีเครื่องจักรรุ่น ใหม่ใช้พลังงานแค่ครึ่งเดียว เขาก็อยากจะพัฒนาต่อเอง

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 146-157 (chapter 5).indd 151

?

ในส่วนของบริษัทจัดการพลังงาน หรือ ESCO จะมีบทบาทอย่างไร   บริษัท ESCO คือบริษัทจัดการด้านพลังงาน ซึ่งเข้าไปลงทุนเรือ่ งอนุรกั ษ์ พลังงานให้แก่โรงงาน เช่น โรงงานอยากปรับปรุงอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง  บริษทั  ESCO จะเข้าไปส�ำรวจ ตรวจวิเคราะห์ ออกแบบ วางแผนทุกอย่างให้ และ  ท�ำรายงานว่าถ้าเปลีย่ นเครือ่ งจักรชิน้ นีล้ งทุน 20 ล้าน ประหยัดไฟ 10 ล้าน ได้  ทุนคืนภายใน 2 ปี บริษทั จะลงทุนให้กอ่ น 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วให้ผปู้ ระกอบการ  ผ่อนช�ำระ 2 ปี บริษัทจะบวกค่าประกอบการเข้าไป กลไกนีม้ ใี ช้กนั มาทัว่ โลก ทาง พพ. มาสนับสนุนให้เกิดขึน้ และเร่งเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้คนเข้าใจมากขึ้น  ปัจจุบันมีการลงทุนโดยบริษัท ESCO แล้ว  4,000-5,000 ล้านบาท มีบริษัท ESCO ในประเทศไทยประมาณ 61 บริษัท   ในส่วนของ พพ. เรามีกองทุนที่ท�ำอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท โดยให้มูลนิธิ  อนุรกั ษ์พลังงานแห่งประเทศไทยเป็นผูบ้ ริหารงาน ESCO ให้เราเพือ่ ท�ำคูข่ นาน ไปกับภาคเอกชน   เรียกได้ว่า ESCO หรือธุรกิจการจัดการด้านพลังงานในประเทศไทยเกิด  ขึ้นแล้ว บริษัทเอกชนก้าวเดินได้เอง ถือเป็นเครื่องมือส� ำคัญอันหนึ่งที่ท�ำให้  การอนุรักษ์พลังงานประสบความส�ำเร็จ   ? ฉลากประสิทธิภาพสูงมีการด�ำเนินการอย่างไรบ้าง ในอดีตเวลาประชาชนไปซื้อหลอดไฟ คนขายหยิบแบบไหนให้ ประชาชน  ก็ซื้อ แต่วันนี้เราให้ความรู้แก่ประชาชนว่าต้องเลือกหลอดไฟเบอร์ 5  สิ่งนี้เป็น ตัวกระตุ้นให้ผู้ประกอบการผลิตแต่สินค้าคุณภาพสูงและประหยัดพลังงาน และ อุปกรณ์ประสิทธิภาพต�่ำจะหมดไปจากท้องตลาด  การอนุรักษ์พลังงานส�ำหรับ ภาคครัวเรือน เราเน้นที่การทดแทนอุปกรณ์เก่าด้วยอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง   โดยทั่วไปอุปกรณ์ฉลากเบอร์ 5 ใช้พลังงานดีกว่าอุปกรณ์ทั่วไป 20 เปอร์เซ็นต์  หมายความว่าประเทศประหยัดพลังงาน 20 เปอร์เซ็นต์ทันทีที่ใช้ของเหล่านี้ ? มปี ระเด็นใดอีกทีจ่ ะท�ำให้ผปู้ ระกอบการเกิดความสนใจการอนุรกั ษ์พลังงาน ขณะนี้เราใช้กฎหมายในการส่งเสริม ซึ่งอันที่จริงกฎหมายมีบทลงโทษ  ผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามอยู่ด้วย  แต่รัฐพยายามใช้การกระตุ้นและส่งเสริม ซึ่งเป็นแนวทางที่ยั่งยืนกว่า ที่ผ่านมาอาคารและโรงงานหลายแห่งได้รับผล ตอบแทนที่ดีขึ้น เพราะเขาเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง เขาปรับตัวเร็ว และได้คืนทุนเร็ว เพราะฉะนั้นสิ่งส�ำคัญจึงอยู่ที่วิธีคิดของผู้ประกอบการ  ผู้ที่  ปรับตัวไม่ได้จะแข่งขันกับคนอื่นไม่ได้  นี่คือสิ่งที่ก�ำลังจะเกิดขึ้น เมื่อวันหนึ่ง พลังงานมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการจะประสบปัญหาเอง

151 21/12/2012 18:43


โครงการเงินทุนหมุนเวียน เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทดแทน (Revolving Fund) มีวัตถุประสงค์คือการกระตุ้น ส่งเสริม และผลักดัน ให้สถาบันการเงิน  เกิดความคุ้นเคยกับการปล่อยสินเชื่อในโครงการลงทุนด้านพลังงาน ทั้งการ อนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ให้แก่อาคารและโรงงาน รวมทั้งบริษัท จัดการพลังงาน  โดยโครงการเงินทุนหมุนเวียนฯ จะช่วยสนับสนุนเงินลงทุน ผ่านสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ และสถาบันการเงินเป็นผู้รับความเสี่ยง ทั้งนี้โครงการเงินทุนหมุนเวียนฯ คิดอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินเพียง  ร้อยละ 0.5 ต่อปี ส�ำหรับวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อโครงการ ระยะ  เวลาไม่เกิน 7 ปี ปัจจุบันมีธนาคารเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 11 แห่ง เกิดโครงการลงทุน  ด้านพลังงานจ�ำนวน 295 โครงการ  โดยเป็นเงินลงทุนจากสินเชือ่ ภายใต้โครง การเงินทุนหมุนเวียนฯ 7,133 ล้านบาท และจากสถาบันการเงินปล่อยกู้เอง  เพิ่มเติมอีก 8,826 ล้านบาท ท�ำให้เกิดผลประหยัดพลังงาน 5,423 ล้านบาท  ต่อปี คิดเป็นพลังงานที่ประหยัดได้ 320 ktoe ต่อปี และลดการปล่อยก๊าซ  คาร์บอนไดออกไซด์ 1 ล้านตันต่อปี

โครงการส่งเสริมการลงทุน ด้านอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานทดแทน  (ESCO Fund) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนการอนุรักษ์พลังงานและพลังงาน ทดแทนโดยการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการด้านพลังงาน และช่วยผู้ลงทุนให้ได้ประโยชน์จากการขายคาร์บอนเครดิต  โครงการด�ำเนิน การผ่านกองทุน ESCO Fund ซึ่งมีผู้จัดการกองทุนสองราย ได้แก่ มูลนิธิ  พลังงานเพือ่ สิง่ แวดล้อม และมูลนิธอิ นุรกั ษ์พลังงานแห่งประเทศไทย  ท�ำหน้าที่ บริหารการลงทุนในหลายรูปแบบ ได้แก่ การเข้าร่วมทุนในโครงการ (Equity Investment)  การเข้าร่วมทุนกับบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO Venture

152 P 146-157 (chapter 5).indd 152

Capital)  การเช่าซื้ออุปกรณ์ประหยัดพลังงาน/พลังงานทดแทน (Equipment Leasing)  การช่วยให้โครงการอนุรักษ์พลังงาน/พลังงานทดแทนได้รับ ประโยชน์จากการขาย รับซือ้ /ขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) การอ�ำนวย  เครดิตให้สินเชื่อ (Credit Guarantee Facility) และการช่วยเหลือทางเทคนิค  โดยกองทุนฯ จะได้รับผลตอบแทนตามสัดส่วนของการลงทุนและขึ้นกับผล ประกอบการของบริษัท/โครงการที่เข้าร่วมลงทุน กรณีร่วมลงทุนในโครงการ มีเงื่อนไขร่วมลงทุน 10-50 เปอร์เซ็นต์ ของ  มูลค่าโครงการ แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนกรณีการเช่าซือ้ อุปกรณ์ สนับสนุน  การเช่าซื้ออุปกรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ของราคาอุปกรณ์ แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ผลการด�ำเนินงานตั้งแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบัน มีการลงทุนในโครงการรวม  71 โครงการ เกิดการลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนรวม  กว่า 5,500 ล้านบาท   60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:43


โครงการสินเชื่อพลังงาน  (Energy Credit) มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกับสถาบันการเงินที่เล็งเห็นถึงศักยภาพใน โครงการลงทุนด้านพลังงาน ปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ โดยใช้หลักเกณฑ์ ของสถาบันการเงินเอง และทางกรมพัฒนาพลังงานฯ ด�ำเนินการสนับสนุนเพือ่ เตรียมความพร้อมให้แก่สถาบันการเงินผ่านกิจกรรมฝึกอบรมเพือ่ พัฒนาบุคลากร ของธนาคาร การให้คำ� ปรึกษาและสนับสนุนด้านเทคนิคในการพิจารณาข้อเสนอ โครงการด้านพลังงาน การประชาสัมพันธ์และสร้างเสริมภาพลักษณ์ทางสังคม ให้แก่สถาบันการเงิน รวมทั้งการสร้างเครือข่ายระหว่างกระทรวงพลังงานและ สถาบันการเงินเพื่อส่งเสริมและผลักดันการลงทุนด้านพลังงานในอนาคต ปัจจุบันมีสถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการ 16 แห่ง โดยสถาบันการเงิน  ได้ปล่อยสินเชื่อภายใต้โครงการรวมแล้วกว่า 242,000 ล้านบาท แบ่งเป็น  โครงการด้ า นอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งาน เช่ น  การเปลี่ ย นเครื่ อ งจั ก รและอุ ป กรณ์ ประสิทธิภาพสูง การผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม เป็นต้น และโครงการ ด้านพลังงานทดแทน เช่น การผลิตเอทานอล การผลิตไบโอดีเซล เป็นต้น

โครงการส่งเสริม และวัสดุอุปกรณ์ เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน  (Direct Subsidy 20%) มีวตั ถุประสงค์เพือ่ ส่งเสริมและกระตุน้ ให้ผปู้ ระกอบการ ทัง้ ทีเ่ ป็นนิตบิ คุ คล  และบุคคลธรรมดา ลงทุนในเครือ่ งจักร วัสดุ และอุปกรณ์ทมี่ ผี ลต่อการประหยัด พลังงาน โดยภาครัฐสนับสนุนเงินลงทุนร้อยละ 20 ของแต่ละมาตรการ สูงสุด ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย และวงเงินต�่ำสุด 50,000 บาทต่อราย  ระยะเวลา  การคืนทุนของมาตรการไม่เกิน 7 ปี  มาตรการอนุรักษ์พลังงานที่ได้รับการสนับสนุน ประกอบด้วยมาตรการ มาตรฐาน เช่น บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ความถี่สูง อุปกรณ์ปรับความเร็วรอบ มอเตอร์ทใี่ ช้กบั เครือ่ งอัดอากาศ อุปกรณ์นำ� ความร้อนทิง้ กลับมาใช้ใหม่ มอเตอร์ ประสิทธิภาพสูง เป็นต้น และมาตรการในโครงการสาธิตเทคโนโลยีเชิงลึก เช่น การบ�ำบัดและปรับสภาพน�ำ้ ด้วยโอโซน การลดความชืน้ ด้วยฮีตไปป์ หัวเผาแบบ

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 146-157 (chapter 5).indd 153

รีเจเนอเรทีฟ เป็นต้น ผลการด�ำเนินงานได้สนับสนุนการลงทุนทั้งหมด 283 โครงการ เกิดการ ลงทุนทั้งสิ้น 650 ล้านบาท เกิดการประหยัดพลังงาน 308 ล้านบาทต่อปี

มาตรการสิทธิประโยชน์ ทางภาษีเพื่อการอนุรักษ์ พลังงานผ่าน BOI เป็ น โครงการที่ เ กิ ด จากความร่ ว มมื อ ระหว่ า งกระทรวงพลั ง งานและ ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ ลงทุนในกิจการผลิตเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ประหยัดพลังงาน กิจการผลิต พลังงานทดแทน กิจการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานทดแทน กิจการบริการด้าน จัดการพลังงาน และการใช้เครื่องจักรที่ใช้เพื่อการประหยัดพลังงาน  โดยผู้ ประกอบการจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ได้รับการยกเว้น  อากรขาเข้าเครือ่ งจักรหรืออุปกรณ์ประหยัดพลังงานทีใ่ ช้ในโครงการบริการด้าน จัดการพลังงาน  ปัจจุบันมีโครงการที่ได้รับการอนุมัติสิทธิประโยชน์นี้แล้ว 56 โครงการ  คิดเป็นผลการประหยัดพลังงานกว่า 2,900 ล้านบาทต่อปี และเกิดการลงทุนใน ธุรกิจด้านพลังงาน 13,525.49 ล้านบาท

มาตรการสิทธิประโยชน์ ทางภาษีเพื่อการอนุรักษ์ พลังงานผ่านกรมสรรพากร มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนและผู้ประกอบการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ประหยัดพลังงานเป็นอันดับแรก  กรมพัฒนาพลังงานฯ จึงร่วมกับกรม สรรพากร ให้สิทธิประโยชน์แก่ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อซื้อวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรประหยัดพลังงานที่ได้รับการรับรองจากกรมพัฒนา  พลังงานฯ แล้ว สามารถขอรับสิทธิประโยชน์เป็นรายจ่ายทางภาษีเป็นจ�ำนวน ร้อยละ 25 ของค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อนั้น

153 21/12/2012 18:43


โครงการสาธิต เทคโนโลยีเชิงลึก เพือ่ การอนุรกั ษ์พลังงาน

154 P 146-157 (chapter 5).indd 154

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:43


จากการด�ำเนินงานส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม

และธุรกิจ มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ท�ำให้กรมพัฒนาพลังงาน ทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน (พพ.) ทราบว่ายังมีเทคโนโลยีการอนุรกั ษ์พลังงาน ขัน้ สูงส�ำหรับอุตสาหกรรมหรืออาคารบางประเภทโดยเฉพาะ แต่ยงั ไม่เป็นทีแ่ พร่ หลายในประเทศนัก  กรมพัฒนาพลังงานฯ จึงเกิดแนวคิดทีจ่ ะน�ำเทคโนโลยีการ อนุรักษ์พลังงานขั้นสูงนั้นมาสาธิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและแรงจูงใจให้ผู้ ประกอบการน�ำมาใช้งาน และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี การอนุรักษ์พลังงานขั้นสูงขึ้นภายในประเทศ เทคโนโลยีซึ่งกรมพัฒนาพลังงานฯ น�ำมาสาธิตเพื่อเป็นการน�ำร่องมีเจ็ด  เทคโนโลยี ได้แก่  1. การลดความชื้นด้วยฮีตไปป์ (Heat Pipe) 2. การลดความชื้นด้วยสารดูดความชื้นเหลว  3. การใช้ปั๊มความร้อนส�ำหรับการท�ำความร้อน  4. การบ�ำบัดและปรับสภาพน�้ำด้วยโอโซน  5. การให้ความร้อนแบบไดอิเล็กทริก (Dielectric) 6. หัวเผาแบบเซลฟ์-รีคูเพอเรทีฟ (Self-recuperative Burner) 7. หัวเผาแบบรีเจเนอเรทีฟ (Regenerative Burner)) และยังเปิดโอกาสให้ผปู้ ระกอบการทีส่ นใจเข้าร่วมโครงการ สามารถเสนอ เทคโนโลยีอื่นเข้ามา เพื่อขอให้น�ำมาสาธิตในโครงการ โดยต้องผ่านการ พิจารณาของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิก่อน ในการด� ำ เนิ น โครงการ ผู ้ ป ระกอบการจะต้ อ งยื่ น ใบสมั ค รเข้ า มาให้  กรมพัฒนาพลังงานฯ พิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการ  เมื่อผ่านการ พิจารณาแล้ว กรมพัฒนาพลังงานฯ จะส่งทีมงานเข้าไปประเมินผลประหยัด พลังงาน ทั้งก่อนและหลังการติดตั้งเทคโนโลยีดังกล่าว  และเมื่อพิสูจน์ได้ว่า  ผลการประหยัดพลังงานเป็นไปตามเกณฑ์ที่กรมพัฒนาพลังงานฯ ก�ำหนดไว้  เช่น เป็นเทคโนโลยีใหม่ในกระบวนการผลิต หรือ Utility ที่มีศักยภาพการ  ประหยัดพลังงานได้ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 15 หรือ 20 ตามล�ำดับ หรือใช้ระยะเวลา  คืนทุนไม่เกิน 5 ปี เป็นต้น  กรมพัฒนาพลังงานฯ จะให้เงินสนับสนุนการ

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 146-157 (chapter 5).indd 155

ลงทุนเป็นจ�ำนวนครึ่งหนึ่งของเงินลงทุนที่สถานประกอบการได้ลงทุนไป โดย  ไม่เกิน 7.5 ล้านบาท บริษทั เกษมศักดิ ์ เทรดดิง้  จ�ำกัด เป็นตัวอย่างหนึง่ ของผูป้ ระกอบการทีเ่ ข้า ร่วมโครงการ โดยขอเข้ารับการสาธิตเทคโนโลยีหัวเผาแบบรีเจเนอเรทีฟ โดย การเปลี่ยนหัวเผาส�ำหรับเตาอุ่นเหล็กแท่งก่อนน�ำไปรีด จากหัวเผาแบบอากาศ แรงดันสูง (High Pressure Air Current Burner) มาเป็นหัวเผาแบบรีเจเนอเรทีฟ  ซึ่งน�ำก๊าซปล่อยทิ้งจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงในเตาเผา มาหมุนเวียนเพื่ออุ่น อากาศให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 1,000-1,200 องศาเซลเซียส ก่อนป้อนเข้า  ห้องเผาไหม้ ท�ำให้ประหยัดเชื้อเพลิงลงได้ถึงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ และลด  การปล่อยก๊าซไอเสียไนโตรเจนออกไซด์ได้ถึงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ผลจากการเปลีย่ นมาใช้หวั เผาแบบรีเจเนอเรทีฟ บริษทั เกษมศักดิ ์ เทรดดิง้   จ�ำกัด สามารถประหยัดเงินได้ประมาณปีละ 12.4 ล้านบาท จากเงินลงทุน  ทั้งสิ้น 30.9 ล้านบาท และใช้เวลาคืนทุนประมาณ 2 ปีครึ่ง เปรียบเทียบเป็น  ผลประหยัดพลังงานได้เกือบ 20 ล้านเมกะจูลต่อปี และหากด�ำเนินการขยายผล เทคโนโลยีขั้นสูงหัวเผาแบบรีเจเนอเรทีฟนี้ให้แก่โรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรม โลหะมูลฐานซึง่ เป็นกลุม่ อุตสาหกรรมเหล็กขัน้ ปลาย (รีดซ�้ำ) คาดว่าจะก่อให้เกิด ผลประหยัดพลังงานได้ไม่น้อยกว่า 300 ktoe ต่อปี  นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของโครงการสาธิตเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการ อนุรักษ์พลังงาน  ส�ำหรับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่กรมพัฒนาพลังงานได้ด�ำเนินการ ไปแล้ว เช่น การลดความชื้นด้วยฮีตไปป์ การลดความชื้นด้วยสารดูดความชื้น เหลว การใช้ปั๊มความร้อนส�ำหรับการท�ำความร้อน เป็นต้น  การด�ำเนินงานในขั้นต่อไปคือการส่งเสริมเทคโนโลยีที่ได้สาธิตในครั้งนี้  ให้แก่สถานประกอบการที่เป็นกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ และเปิดให้มีการสาธิต เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อการอนุรักษ์พลังงานแบบอื่นๆ อีกในอนาคต นอกจากนี้ กรมพัฒนาพลังงานฯ ยังคาดหวังว่าโครงการสาธิตฯ จะช่วยกระตุน้ ให้มกี ารวิจยั และพัฒนาเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงานขั้นสูงขึ้นภายในประเทศอีกทาง  หนึ่งด้วย

155 21/12/2012 18:43


“อาคารหลังนี้ตั้งใจออกแบบและก่อสร้างโดยให้ทุกส่วน ของอาคารเป็นตัวอย่างของการอนุรักษ์พลังงาน”  ศ.ดร. สุนทร บุญญาธิการ สถาปนิกผูอ้ อกแบบอาคารอนุรกั ษ์พลังงาน

เฉลิมพระเกียรติ กล่าวถึงเจตนารมณ์ของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน (พพ.  ขณะนั้น) ในการริเริ่มโครงการก่อสร้างอาคารแห่งนี้ขึ้นในปี 2538 รวมทั้ง ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (2539) ด้วย

อาคารอนุรกั ษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติตั้งอยู่ที่บริเวณเทคโนธานี ต�าบล คลองห้า อ�าเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีพื้นที่ใช้งานขนาด 14,000  ตารางเมตร ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งอาคารรูปทรง พีระมิด และอาคารรูปทรงโดม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนทั่วไปเข้ามาสัมผัสและ เรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน โดยมีปรัชญาส�าคัญในการก่อสร้างและ ออกแบบว่า “ความเป็นอัจฉริยะสูงสุดคือระบบธรรมชาติ”  “ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติ เราจะสามารถน�าธรรมชาติมาเป็นประโยชน์  ใน ธรรมชาติมีความเย็น เราก็น�าความเย็นมาใช้  มีความร้อนท�าให้อากาศร้อน ลอยตัว เราก็น�าการลอยตัวมาใช้  มีแสงสว่าง เราก็น�าแสงสว่างมาใช้โดยผสม ผสานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เพราะเราไม่สามารถฝ นธรรมชาติ แต่เราใช้ประโยชน์ จากธรรมชาติได้”

156 P 146-157 (chapter 5).indd 156

ศ. ดร. สุนทรยกตัวอย่างการออกแบบอาคารแห่งนีบ้ นพืน้ ฐานความเข้าใจ ธรรมชาติตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ว่า “ตัง้ แต่ทางเข้าอาคาร เราสร้างเป็นทรงหน้าจัว่ ยืน่ ออกไป เมือ่ คนเดินผ่าน ทางเข้าอาคารทีแ่ สงสลัว ม่านตาจะเปิดกว้างขึน้ เพือ่ ช่วยการมองเห็น พอเข้าไป ภายในอาคารจะรูส้ กึ ว่าอาคารสว่างขึน้ โดยอัตโนมัต ิ ซึง่ ความจริงในอาคารไม่ได้ สว่างมาก แต่เพราะม่านตาถูกปรับมาก่อนแล้ว  นี่เป็นความรู้ทางฟิสิกส์ที่เรา น�ามาใช้ “ทางเข้าอาคารนีย้ งั ตัง้ อยูท่ างทิศเหนือซึง่ เป็นทิศทีร่ บั ลมหนาว และอับลม ในช่วงฤดูร้อน  ปรกติเมืองไทยลมจะพัดมาทางทิศตะวันตกและทิศตะวันตก เฉียงใต้ ในทิศนั้นเราวางต�าแหน่งอาคารทรงพีระมิดไว้ เพราะด้วยรูปทรงที่มี ความลาดเอียง ลมทีพ่ ดั มาจะเคลือ่ นผ่านข้ามหลังคาไป ช่วยลดแรงอัดของลมที่ ปะทะกับอาคาร และท�าให้อากาศภายนอกซึ่งมีทั้งความร้อนและความชื้นรั่วซึม เข้าสูอ่ าคารได้นอ้ ยมาก  การวางต�าแหน่งทางเข้าอาคารไว้ทศิ เหนือท�าให้อาคาร ไม่เปิดรับลมร้อนภายนอก ขณะที่อาคารทรงพีระมิดช่วยให้ลมเคลื่อนผ่าน ไปสะดวก ทั้ ง หมดนี้ ช ่ ว ยประหยั ด พลั ง งาน   ด้ า นการปรั บ อากาศให้ แ ก่ อ าคารอย่ า ง มหาศาล

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:43


“บริเวณรอบอาคารยังจัดให้มีสระน�้า เนินดิน โดยมีหลักว่าจะไม่ปล่อย เป็นพืน้ ดินแห้งหรือปูพนื้ คอนกรีตโล่ง  พืน้ ดินต้องมีตน้ ไม้มหี ญ้าปกคลุม ท�าให้ รอบอาคารมีความชุม่ ชืน้ จากการระเหยของน�า้  แม้ในเดือนเมษายนทีร่ อ้ นสุด ๆ  ตามพื้นหญ้ารอบอาคารอุณหภูมิยังอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส แต่ถ้าเป็นอาคาร ซึ่งพื้นรอบอาคารปูคอนกรีต อุณหภูมิจะสูงถึง 42-45 องศาเซลเซียส  เมื่อ อาคารแห่งนี้ตั้งในสภาพแวดล้อมที่เย็นกว่า ความเย็นก็จะซึมเข้ามาในอาคาร  ท�าให้อาคารเย็นกว่าอาคารที่ตั้งในสภาพแวดล้อมที่ร้อนกว่า” จากการจัดการสภาพภายนอกให้มอี ณ ุ หภูมติ า�่ สุดเท่าทีธ่ รรมชาติเอือ้ อ�านวย   ตัวอาคารก็ได้รับการออกแบบและใช้วัสดุประสิทธิภาพสูงสุดในการประหยัด พลังงาน เช่น การใช้ผนังที่มีฉนวนหนา 6 นิ้ว ท�าให้อุณหภูมิผิวของผนัง ภายในใกล้เคียงกับอุณหภูมิอากาศในอาคาร ส่วนกระจกหน้าต่างมีคุณสมบัติ ตัดแสงทั้งแสงอัลตราไวโอเลตและอินฟราเรดหรือรังสีความร้อน   “หน้าต่างของอาคารนี้เป็นหน้าต่างที่มีก�าไร เราได้แสงธรรมชาติเข้ามา มากกว่าความร้อน หมายถึงเราเสียค่าพลังงานในการน�าความร้อนออกไปน้อย กว่าค่าไฟที่ประหยัดได้ ขณะที่อาคารส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นหน้าต่าง ที่ขาดทุน”   ผลลัพธ์คือภายในอาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ แม้จะเป็น พื้ นที่โ ถงกว้ า งทะลุถึงกันและใช้ระบบปรับอากาศให้แก่อ าคารทั้ ง หลั ง แต่ กลับใช้พลังงานในการปรับอากาศต�่ากว่าอาคารทั่วไป 3-5 เท่า ไม่นับการใช้ ประโยชน์ จ ากแสงธรรมชาติอย่างชาญฉลาด โดยเพดานอาคารทรงโดม เปิดช่องแสงกว้างราว 1.20 เมตร ให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคาร  มีความสว่างไสวราวตะเกียงโคมยักษ์ ช่วยลดการใช้หลอดไฟฟ้าใน อาคารส่วนนี้  นอกจากนี้ยังมีการใช้ท่อน�าแสง (light pipe)  น�าแสงธรรมชาติลงไปให้ความสว่างแก่ห้องน�้าในส่วน ชั้นใต้ดินด้วย

“เราผสมผสานแสงธรรมชาติกับระบบไฟฟ้าแสงสว่างอย่างครบวงจร   ใช้ ห ลอดไฟและอุ ป กรณ์ ป ระสิ ท ธิ ภ าพสู ง สุ ด ที่ มี ใ นขณะนั้ น  ท� า ให้ อ าคารนี้ ประหยัดไฟฟ้าสูงสุด  โดยเฉพาะในส่วนของระบบปรับอากาศ เราใช้การท�า คลังน�้าแข็งในช่วงกลางคืนซึ่งเป็นช่วงที่ค่าไฟฟ้าต�่ากว่าช่วงกลางวัน แล้วจึงน�า น�้าแข็งมาละลายในเวลากลางวัน ท�าให้ลมเย็นที่ออกจากท่อจ่ายลมมีอุณหภูมิ ต�่าเพียง 8 องศาเซลเซียส ต�่ากว่าอุณหภูมิจ่ายลมเย็นของอาคารทั่วไปซึ่งอยู่ ที่   12 องศาเซลเซี ย ส ช่ ว ยลดปริ ม าณของกระแสลมที่ ต ้ อ งจ่ า ยไปตามท่ อ  และลดขนาดท่อและอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ในระบบจ่ายลมลงได้ ท�าให้ลดการใช้พลังงาน ในระบบปรับอากาศลงอย่างมาก”   ขณะที่การออกแบบและก่อสร้างอาคารส่วนใหญ่เน้นการใช้งบประมาณ การก่อสร้างให้ต�่าสุด และยอมเสียค่าใช้จ่ายกับระบบปรับอากาศและความสิ้น เปลื อ งของการใช้ พ ลั ง งานในภายหลั ง  แต่ อ าคารอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งานเฉลิ ม พระเกียรติแสดงให้เห็นว่า การลงทุนในวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ประสิทธิภาพ สูงซึ่งช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงานสูงสุด ในที่สุดแล้วค่าก่อสร้างอาคารโดย รวมไม่แตกต่างกันเท่าใด แต่อาคารลักษณะนี้จะช่วยประหยัดพลังงานในระยะ ยาว ไม่นับคุณภาพชีวิตของคนในอาคารซึ่งดีกว่าอาคารทั่วไป  “ผมคิดว่า อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติเป็นอาคารที่เข้าใจใน ภูมิอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเราอย่างสมบูรณ์แบบ  ทุกส่วนของอาคารถือเป็น ตัวอย่างสาธิตของการอนุรักษ์พลังงาน นับเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงานซึ่งมี การประยุกต์ด้านการออกแบบดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แม้จะสร้างมากว่า 10 ปี แล้วก็ตาม ทั้งคุณภาพและเทคโนโลยีที่ใช้ยังทันสมัยมาก”  อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติจึงเป็นอาคาร ต้นแบบด้านการอนุรักษ์พลังงานที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ภาคภูมิใจ และถือเป็นกลไก ส� า คั ญ ในการกระตุ ้ น ให้ เ ห็ น ถึ ง ความส� า คั ญ และ ประโยชน์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อให้ เกิดการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่าง สมดุลและยั่งยืนต่อไป รูปตัดตามยาว ของอาคารอนุรักษ์พลังงาน เฉลิมพระเกียรติ

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 146-157 (chapter 5).indd 157

157 21/12/2012 18:43


ทิศทางอนาคต พลังงานไทย

P 158-176 (chapter 6).indd 158

21/12/2012 18:45


P 158-176 (chapter 6).indd 159

21/12/2012 18:45


ดร. บั ณ ฑิ ต  เอื อ ้ อาภรณ์ ผู้อ�ำนวยการสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เราต้องยอมรับความจริงว่า พลังงานไม่ได้อยู่โดดๆ เหมือนในอดีต  แต่เกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เรียกว่า 3E 1S   3E คือ Energy Economic Environment  และ 1S คือ Social ซึ่งเป็นตัวเชื่อมที่สำ� คัญ  การพัฒนาที่เน้นหนักไปด้านใดด้านหนึ่งจะก่อผลกระทบต่อด้านอื่นๆ” 160 P 158-176 (chapter 6).indd 160

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:46


?  มองปัญหาพลังงานในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง

สถาบันวิจัยพลังงานจุฬาฯ ได้ศึกษาเรื่องนโยบายและการจ�ำลองปัญหา  พลังงาน Energy Policy and Modeling เป็นการมองไปในอนาคต 2030 ปี และเป็นเรื่องซึ่งต้องใช้การเชื่อมโยงความรู้จากหลายสาขา  วันนี้  เราต้องยอมรับความจริงว่า พลังงานไม่ได้อยู่โดดๆ เหมือนในอดีต แต่เกี่ยว โยงกับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เรียกว่า 3E 1S  3E คือ Energy Economic Environment และ 1S คือ Social ซึง่ เป็น  ตัวเชื่อมที่ส�ำคัญ  การพัฒนาที่เน้นหนักไปด้านใดด้านหนึ่งจะก่อผลกระทบต่อ ด้านอื่นๆ เช่น หากเราพัฒนาโครงการด้านพลังงานมากๆ เศรษฐกิจอาจจะ เติบโตขึ้น แต่สิ่งแวดล้อมจะเสียหายหรือไม่ สังคมจะเป็นสุขหรือไม่ หรือกลับ กันถ้าเราสนใจด้านสิ่งแวดล้อมมาก เราก็อาจพัฒนาพลังงานไม่ได้ เศรษฐกิจ ก็ไม่เติบโต  เพราะฉะนัน้ ท�ำอย่างไรจึงรักษาสมดุลของ 3E 1S นีค่ อื สิง่ ทีเ่ ราพยายาม  เชือ่ มโยง  ในงาน Energy Policy and Modeling เรามองเรือ่ งนโยบายด้าน พลังงานในอนาคต การจ�ำลองปัญหาพลังงานในระยะยาว  ในอนาคตประเทศ  ไทยต้องน�ำเข้าพลังงานมากขึน้ แน่ๆ จะต้องจัดหาพลังงานจากไหน จะกระจาย แหล่งพลังงานอย่างไร ต้องประหยัดอย่างไร ทางเลือกของเรามีอะไรบ้าง และ ปัจจุบันเรายังขยายขอบเขตการศึกษาวิจัยไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อมโยง  กับอาเซียน เอเชียและสหภาพยุโรป (EU) เป็นต้น โดยการท�ำงานร่วมกับ  ต่างประเทศจะช่วยเปิดมุมมองของเราให้กว้างและหลากหลายขึ้น

?   คาดว่ า สถานการณ์ ใ นอนาคตด้ า นการจั ด หาหรื อ ผลิ ต พลั ง งาน

ของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร การผลิตพลังงานหรือการจัดหาแหล่งพลังงาน มีตัวขับเคลื่อนหลักคือ การใช้พลังงาน  เราต้องยอมรับความจริงว่าโลกวันนี้อยู่ภายใต้ระบบทุนนิยม  เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นระบบที่สอดคล้องกับกิเลสมนุษย์  พูดง่ายๆ คือเราอยู่  ด้วยกิเลสและมีแต่ความต้องการที่มากขึ้น  รัฐบาลทุกชุดพูดเรื่องการพัฒนา เศรษฐกิจ รากฐานคือการตอบสนองกิเลสและระบบทุนนิยมทั้งสิ้น เมื่อความ ต้ อ งการใช้ พ ลั ง งานมากขึ้ น  การพั ฒ นาเศรษฐกิ จ มากขึ้ น  การท�ำ ลายสิ่ ง

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 158-176 (chapter 6).indd 161

แวดล้อมก็มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เป็นเฉพาะประเทศไทย แต่เป็นกันทั่วโลก  อีก  20 ปีขา้ งหน้า เราคาดว่าความต้องการใช้พลังงานจะเพิม่ ขึน้  60-70 เปอร์เซ็นต์  จากปริมาณที่ใช้วันนี้  ค�ำถามคือเราจะหาแหล่งพลังงานจากที่ไหน  ผมเชื่อว่าพลังงานฟอสซิลจะยังเป็นแหล่งพลังงานหลักของโลกไปอีก หลายสิบปี ส่วนพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานทดแทน ซึง่ สังคมคาดหวังนัน้   เราต้องกลับมาสู่ความจริงว่าในการใช้พลังงาน เราต้องการแหล่งพลังงานที่ ตอบสนองได้ตลอดเวลาและทันที ซึ่งขณะนี้มีเพียงเชื้อเพลิงฟอสซิลเท่านั้น  ส�ำหรับพลังงานหมุนเวียน เช่น แสงแดด ในเวลากลางวันถ้าแดดดีก็ให้ พลังงานมาก ถ้าแดดน้อยก็ให้พลังงานน้อย ในเวลากลางคืนไม่มีแสงอาทิตย์ ก็ไม่มีพลังงาน พลังงานหมุนเวียนจึงขาดความสม�่ำเสมอ ท�ำให้มีช่องว่าง ระหว่างความต้องการใช้กับความสามารถที่จะตอบสนอง  อย่างไรก็ตามเรา ต้องจัดหาพลังงานหมุนเวียนมาทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลให้เพิ่มมากขึ้น  ข้อเสียอีกอย่างของพลังงานหมุนเวียนคือราคา มันเปรียบเหมือนสินค้า ประเภทพรีเมี่ยมซึ่งราคาจะสูงกว่าสินค้าคุณภาพปรกติ  โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า ราคาของพลังงานหมุนเวียนจะสูงกว่าราคาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

? ในอนาคตราคาพลังงานทดแทนจะต�่ำลงมาจนแข่งขันกับพลังงานจาก

ฟอสซิลได้หรือไม่ โดยส่วนตัวผมเองก็อยากเห็นเช่นนั้น แต่เราต้องยอมรับความจริงว่า  พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่สะอาดกว่าพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล  และความสะอาดนี้เป็นตัวบ่งชี้คุณภาพสินค้าพลังงาน  ค�ำถามคือราคาของ สินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าจะตกลงมาสู้กับสินค้าคุณภาพปรกติที่เราคุ้นชินได้  หรือไม่ เปรียบเหมือนราคากระเป๋าแบรนด์เนมคงไม่มที างตกลงมาเท่ากับราคา กระเป๋าทั่วไป เพราะกลไกตลาดบังคับอยู่  ดังนั้นถ้ามองในแง่เศรษฐกิจ นี่จึง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก

? ทิศทางเรื่องการอนุรักษ์พลังงานจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต

ทุกประเทศในโลกก�ำลังเดินหน้าเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน เพราะเป็น แนวทางที่คุ้มค่ามากที่สุด แทนที่จะจัดหาพลังงานเพิ่มขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์

161 21/12/2012 18:46


หันมาลดการใช้พลังงานลง 10 เปอร์เซ็นต์ซงึ่ ท�ำได้งา่ ยกว่า เพียงแต่ศกั ยภาพ ในการลดนั้นมีอยู่จ�ำกัด เพราะทุกคนยังมีกิเลส ยังต้องการความสะดวกสบาย  อยากเปิดแอร์ เปิดไฟ ดูทีวี เล่นอินเทอร์เน็ต ยังมีความต้องการพื้นฐานอยู่ ระดับหนึ่ง การลดการใช้พลังงานจะท�ำได้จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วน หนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจากเทคโนโลยี เช่น เมื่อก่อนเตารีดอาจกินไฟ 1,000 วัตต์  ตอนนี้อาจอยู่ที่ 700-800 วัตต์ ก็รีดผ้าได้  เรือ่ งการปรับเปลีย่ นพฤติกรรมของคนขึ้นอยู่กบั สององค์ประกอบ หนึง่   คือเมื่อเปลี่ยนแล้วก่อให้เกิดความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจหรือไม่ สอง คือเมื่อ เปลี่ยนแล้วล�ำบากมากขึ้นเกินกว่าที่จะรับได้หรือไม่ เช่น การปรับเปลี่ยนจาก การใช้รถยนต์สว่ นตัวมาใช้รถไฟฟ้า ถ้าช่วยประหยัดเวลาการไปท�ำมาหากินได้ และคุ้มค่า เขาก็เปลี่ยน แต่ถ้าบ้านอยู่ไกลจากสถานีฯ มาก เสียเวลามากหาก  ออกจากบ้านมาถึงสถานีฯ เขาก็ไม่เปลี่ยน เรื่องนี้จึงเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ

?   สิ่งใดเป็นอุปสรรคให้การอนุรักษ์พลังงานยังท�ำได้ไม่เต็มที่

สิ่งที่ประเทศไทยขาดในแทบทุกเรื่อง คือเจ้าภาพ ซึ่งต้องไม่ใช่เจ้าภาพ แต่ในนาม แต่เป็นคนที่ขับเคลื่อนเรื่องนั้นจริงๆ และรับทั้งผิดทั้งชอบ  เรา ต้องปรับแนวคิดและพฤติกรรมการยอมรับจากสังคมว่าหากท�ำงานไปทั้งหมด  10 เรือ่ ง ก็มโี อกาสพลาดได้สกั สองสามเรือ่ ง แต่วนั นีท้ กุ คนกลัวว่าหากท�ำพลาด  สองเรือ่ งแล้วจะถูกเล่นงาน สูท้ �ำแค่สองเรือ่ งแล้วไม่ผดิ ดีกว่า นีค่ อื แนวคิดทีผ่ ม สัมผัสได้จากการท�ำงานกับหน่วยงานหลายแห่ง ซึ่งท�ำให้การขับเคลื่อนเรื่อง การอนุรักษ์พลังงานยังท�ำได้ไม่เต็มที่ โดยธรรมชาติเมื่อราคาพลังงานสูงขึ้น ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ  เขาก็จะปรับตัว  วันนี้ภาคอุตสาหกรรมพยายามปรับตัวเรื่องการอนุรักษ์ พลังงานมากพอสมควร  แต่ถงึ จะลดแล้ว ในภาพรวมก็ยงั ใช้พลังงานเพิม่ มาก ขึ้นเนื่องจากมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นสูงกว่าความสามารถในการลด

?   ด้านนโยบายของรัฐมีประเด็นใดที่น่าเป็นห่วง

ปั ญ หาคื อ การออกนโยบายที่ ขั ด แย้ ง กั น เอง เช่ น  กระทรวงหนึ่ ง มี  นโยบายขับเคลื่อนให้เกิดการอนุรักษ์พลังงาน แต่อีกกระทรวงหนึ่งมีนโยบาย สนับสนุนให้ประชาชนเป็นเจ้าของรถยนต์เพิม่ ขึน้  ซึง่ ท�ำให้การใช้พลังงานเพิม่ ขึน้ อย่างชัดเจน โดยภาพรวมเรามีนโยบายทีด่  ี แต่ภาคปฏิบตั จิ ริง ท�ำได้แค่ไหน  เช่น การสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน แต่ผลิตแล้วขายไฟ

162 P 158-176 (chapter 6).indd 162

ไม่ได้ เรือ่ งนีเ้ กีย่ วข้องกับกฎหมาย ซึง่ กฎหมายควรจะช่วยอ�ำนวยความสะดวก ให้การพัฒนาพลังงานทดแทนเป็นไปได้เร็วขึ้น  อีกประเด็นหนึ่งคือการอุดหนุนพลังงานหมุนเวียนซึ่งมีต้นทุนสูงกว่า  เชื้อเพลิงฟอสซิล วันนี้เราอุดหนุนโดยหลักเกณฑ์ว่า ใครต้นทุนสูงก็ได้รับการ อุดหนุนสูง ใครต้นทุนถูกเราก็อุดหนุนต�่ำ แต่ไม่ได้ดูว่าเป็นต้นทุนในประเทศ ของเราเอง หรือต้นทุนที่เราต้องน�ำเข้า เช่น โซลาร์เซลล์ เป็นต้นทุนจาก การน�ำเข้าประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าเราลงทุน 1,000 ล้านบาท เรา  เสียเงินออกนอกประเทศ 800 กว่าล้านบาท ตอนนี้รัฐอุดหนุนโดยให้ adder  ค่าไฟที่รับซื้ออีกประมาณ 6 บาท แต่ถ้าเป็นโรงผลิตไฟฟ้าจากแกลบหรือ  ชีวมวล รัฐอุดหนุนเพียง 30 สตางค์ ทั้งที่เป็นเชื้อเพลิงที่อยู่ในประเทศไทย  เทคโนโลยีสว่ นหนึง่ ก็ของไทย และเรามีนโยบายผลักดันให้เกิดมากขึน้  แต่ดว้ ย หลักการทีใ่ ช้อยูน่ อี้ าจเหมือนกับแสดงว่าเราสนับสนุนต่างชาติมากกว่าสนับสนุน คนไทย การพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในทุกประเทศทั่วโลกนั้นเป็นที่ทราบกัน โดยทั่วไปว่า รัฐต้องให้การอุดหนุนพลังงานหมุนเวียนจึงจะสู้กับเชื้อเพลิง ฟอสซิลได้ และการอุดหนุนนั้นเป็นเงินมาจากประชาชนโดยตรง ประเด็นจึง อยู่ที่ว่าจะสนับสนุนอย่างไรให้พอดี ไม่ให้ประชาชนต้องจ่ายมากเกินไป

?   ในอนาคตราคาพลังงานมีแต่จะเพิม่ สูงขึน้  ขณะทีป่ ระเทศไทยต้องน�ำเข้า

พลังงานเป็นส่วนใหญ่ ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน น�ำเข้าพลังงาน 9798 เปอร์เซ็นต์ แต่ท�ำไมเขาอยู่ได้ ประเทศไทยต้องปรับตัว เราจะแข่งขันด้วย ค่าแรงราคาถูกไม่ได้แล้ว  สิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรมากเท่าเรา เขาต้องน�ำเข้า จ�ำนวนมาก แต่เขารู้จักปรับตัว  เราต้องยอมรับความจริงว่าราคาพลังงานในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น เรือ่ ยๆ และทีผ่ า่ นมาประเทศไทยไม่ได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยี เราเป็นประเทศ ผู้ซื้อเทคโนโลยีที่ดีมาก น�ำเข้าเครื่องจักร น�ำเข้าวัตถุดิบ แล้วมารับจ้างผลิต  ในทีส่ ดุ เมือ่ เศรษฐกิจโตขึน้  ค่าแรงสูงขึน้  เงินเฟ้อมากขึน้  ขีดความสามารถใน การแข่งขันก็ลดน้อยถอยลง ถ้าปรับตัวช้าในที่สุดเราอาจแพ้ แต่ถ้าปรับตัวเร็ว  เราอาจอยู่ได้  และสิ่งส�ำคัญคือการพัฒนาประเทศโดยสร้างสมดุลของ 3E 1S ซึ่งเป็น โจทย์ยากของทุกรัฐบาลบนโลกนี้  60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:46


ดร. ขวั ญ ฤดี   โชติ ช นาทวี ว งศ์ ผู้อ�ำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เมืองที่ก�ำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ควรมีนโยบายด้านพลังงานของเมืองนั้นๆ ชัดเจน  เช่น เมืองเชียงใหม่ ควรเริ่มคิดว่าถึงเวลาสร้างโรงไฟฟ้าของตัวเองแล้วหรือไม่  จะมีการใช้พลังงานทดแทนอย่างไร เมืองจะเติบโตขึ้นไปในทิศทางใด  ซึ่งต้องมองควบคู่ไปกับเรื่องของผังเมือง”

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 158-176 (chapter 6).indd 163

163 21/12/2012 18:46


? การใช้พลังงานทดแทนในประเทศไทยมีด้านใดที่น่าส่งเสริม

ตอนนีท้ างสถาบันสิง่ แวดล้อมไทยเน้นเรือ่ งของพลังงานทดแทนในเชิง ของโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเป็นแหล่งพลังงานในอนาคต ถึงแม้อาจมีปริมาณ  ไม่มาก แต่เป็นสิ่งที่เราควรจะเริ่มต้น    เราท�ำโครงการทีแ่ ม่ฮอ่ งสอนทัง้ ในพืน้ ทีซ่ งึ่ ไม่มแี ละมีสายส่งไฟฟ้า ตัง้ แต่ ศึกษาศักยภาพของพืน้ ทีว่ า่ มีความสามารถในการผลิตพลังงานอย่างไรบ้าง  ดู ว่าชาวบ้านต้องการอะไร บางแห่งมีล�ำธารที่พอจะยกระดับน�้ำผลิตไฟฟ้าได้  หรือบางแห่งต้องติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือใช้ทั้งสองอย่างร่วมกัน  ถ้าชาวบ้าน ต้องการ เราจะเข้าไปอบรมในชุมชน ให้ชาวบ้านรูว้ า่ พลังงานแบบไหนทีเ่ หมาะ กับพื้นที่ของเขา มีเครื่องมืออุปกรณ์อะไรบ้างที่เขาต้องใช้ ต้องดูแลรักษา เราพยายามเลือกเทคโนโลยีที่ไม่ยากเกินไปส�ำหรับชาวบ้าน เพราะจะ กลายเป็นภาระในการดูแลรักษาและซ่อมแซมเมื่อเกิดเครื่องเสีย  ในพื้นที่  ห่างไกล การหาช่างเข้าไปซ่อมแซมเป็นเรื่องล�ำบาก ต้องสอนชาวบ้านให้ดูแล จัดการได้ในเบื้องต้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  การพัฒนาโครงการนีไ้ ม่ใช่เราไปให้อย่างเดียว  เราต้องการให้ชมุ ชนมี ความแข็งแรง  ภาพทีเ่ ราอยากเห็นคือ ชุมชนมีธรุ กิจจากการเก็บค่าไฟ ได้ก�ำไร ไปดูแลต้นน�้ำ ดูแลป่า   นอกจากนี้เรายังมองไปถึงการสนับสนุนภาคธุรกิจในพื้นที่ให้สนใจมา ลงทุนเป็นผู้ให้บริการซ่อมแซมอุปกรณ์ ท�ำอย่างไรให้เขามั่นใจว่าเป็นงานที่มี ก�ำไร  ถ้ามีหลายชุมชนให้เขาดูแลก็มีความเป็นไปได้มากขึ้น  ถ้าธุรกิจอยู่ได้  ชาวบ้านก็อยู่ได้ มีช่างมาซ่อมเครื่องให้เมื่อมีปัญหา

? พลังงานจากชีวมวล หรือก๊าซชีวภาพ โดยชุมชนมีความเป็นไปได้แค่ไหน

ชีวมวลมาจากเศษวัสดุของพืช เช่น เปลือกทุเรียน เปลือกผลไม้ กิ่งไม้  ใบไม้ ต้องน�ำมาเผาในเครือ่ งแก๊สซิไฟเออร์ (gasifier) ได้กา๊ ซเชือ้ เพลิงส�ำหรับ เครื่องยนต์ผลิตไฟฟ้าอีกทอดหนึ่ง เป็นระบบที่มีความยุ่งยากในการดูแล ต้อง ควบคุมอุณหภูมิ ต้องคัดเลือกวัสดุว่าเศษวัสดุพืชแบบไหนให้พลังงานดีกว่ากัน  ต้องรู้จักผสมผสานชีวมวลแบบต่างๆ เพื่อให้ได้ค่าพลังงานที่เหมาะสม โดย  ส่วนตัวคิดว่าการส่งเสริมให้ชุมชนท�ำยังเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเป็นโรงงานที่มี วิศวกรดูแลจะง่ายกว่า  ส่วนก๊าซชีวภาพหมักจากมูลสัตว์กบั เศษอาหารเปียก ผลิตเป็นแก๊สหุงต้ม   ถ้าเป็นโรงงานทีม่ เี ศษอาหาร หรือฟาร์มขนาดกลาง เช่น ฟาร์มสุกรก็ท�ำได้ แต่ ส�ำหรับชาวบ้านท�ำเองไม่ง่าย ส่วนใหญ่ไม่ส�ำเร็จ เพราะพออุปกรณ์มีปัญหา

164 P 158-176 (chapter 6).indd 164

ชาวบ้านก็แก้ไขไม่เป็น  และแก๊สไม่มมี าต่อเนือ่ ง ชาวบ้านก็เลิกใช้  อุปกรณ์ก็ จะถูกทิ้งไม่มีคนดูแลรักษา    ส่วนขยะยังมีปัญหาการแยกขยะ ขยะเปียกซึ่งเป็นเศษอาหารใช้ท�ำก๊าซ ชีวภาพได้ แต่ยงั แยกขยะเปียกออกจากขยะประเภทอืน่ ไม่ได้ ซึง่ ต้องแยกตัง้ แต่ ต้นทาง เช่น ในชุมชน หมู่บ้าน มีถังแยกทิ้งชัดเจนเพื่อให้ง่ายในการจัดการ   ั หาว่าขยะแต่ละบ้านมีปริมาณ ขยะแห้งก็สามารถน�ำไปรีไซเคิลได้  แต่กย็ งั มีปญ น้อย ต้องน�ำมารวมกันจึงจะได้ปริมาณมากพอ ท�ำให้มีเรื่องของค่าขนส่งอีก

? เรื่องการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์มีความเป็นไปได้มากแค่ไหน

ประเทศไทยยังขาดการท�ำงานด้านวิจยั และพัฒนา หรือ R&D  พลังงาน  แสงอาทิตย์ราคาจะแพงหรือถูกอยู่ที่โซลาร์เซลล์  เราไม่เคยคิดจะผลิตโซลาร์-  เซลล์เอง เราพึง่ แต่การน�ำเข้าโซลาร์เซลล์ราคาถูกจากต่างประเทศ ซึง่ ราคาคง ไม่มที างลงมาต�ำ่ เท่ากับราคาค่าไฟฟ้าปรกติ  แต่ถา้ เราท�ำ R&D เอง จะมีความ  เป็นไปได้ที่ทำ� ให้ราคาใกล้เคียงกัน  นอกจากนี้เรายังมีนโยบายด้าน R&D ที่ผิดทาง คือไปเน้นให้ภาครัฐ  เป็นคนท�ำ ซึ่งที่จริงแล้วต้องเน้นให้ภาคเอกชนเป็นผู้ท�ำ  ต่างประเทศพัฒนา ไปได้เร็วเพราะให้เอกชนท�ำ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ  เอกชนจะต่ อ ยอดธุ ร กิ จ ได้ เ ร็ ว กว่ า ภาครั ฐ   แต่ ป ระเทศไทยเอกชนขอเงิ น  ภาครัฐล�ำบากมาก ภาครัฐเองก็มีงบประมาณสนับสนุนงาน R&D ต�่ำ นัก  วิทยาศาสตร์ไทยก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ท�ำให้เราพัฒนาไปค่อนข้างยาก

? ด้านการอนุรักษ์พลังงานควรมีทิศทางอย่างไร

ในส่วนภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ท�ำมาตรการการลดการใช้พลังงาน ไปได้ดีแล้ว  ขณะนี้เหลือในส่วนของภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ซึ่งเขายัง  ไม่ต้องการลงทุนด้านนี้  สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยจึงเริ่มจากการสนับสนุนให้ เกิด small group activity คือการท�ำกิจกรรมกลุม่ ย่อย ให้เกิดการปรับเปลีย่ น  พฤติกรรมกันเองภายในกลุ่มก่อน เช่น การปิดไฟ  ตั้งเป้าว่าเดือนนี้เราจะลด  เท่าไร  มีกลุ่มที่ท�ำหน้าที่ตรวจสอบ และมีทีมผู้บริหารคอยดูแล  ถ้าไปบังคับ เขาเรือ่ งการลงทุน เขาจะหนีทนั ที แต่กจิ กรรม small group activity จะอยู่ยาว  โรงงานอุตสาหกรรมไม่ปฏิเสธ เพราะให้ผลเรือ่ งสิง่ แวดล้อมและเศรษฐกิจ  ให้ ท�ำตรงนี้ไปก่อนจนแข็งแรง เมื่อถึงจุดหนึ่งเจ้าของธุรกิจจะมองภาคการลงทุน เอง  เราแค่ท�ำหน้าทีใ่ ห้ความรูว้ า่ สิง่ ใดน่าท�ำและช่วยลดต้นทุนได้มากกว่า เขา จะมีความเข้าใจ เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการใช้งานอัตโนมัติ หรือการ 60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:46


ซ่อมแซมช่องลมที่รั่วในระบบปรับอากาศ   ส่วนภาคประชาชน การรณรงค์ให้แต่ละบ้านประหยัดไฟจะยากกว่า แต่ ก็ไม่ควรทิ้ง  สิ่งที่จะช่วยได้มากคือการผลิตอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและ  ประหยัดพลังงานจ�ำหน่ายให้ประชาชนใช้ตั้งแต่แรก   ส�ำหรับอาคารยังมีโอกาสลดการใช้พลังงานได้อกี  โดยเฉพาะอาคารเก่า  เช่น อาคารที่ใช้กระจกรุ่นเก่าซึ่งปล่อยให้ความร้อนเข้าอาคารมาก ท� ำให้สิ้น เปลืองพลังงานในระบบปรับอากาศ  ถ้าดูตวั เลขโดยรวม การประหยัดพลังงาน ของอาคารยังมีน้อย ถ้าลดได้เต็มที่จะประหยัดได้อีกมาก  แต่การปรับปรุง อาคารเป็นเรื่องที่ต้องลงทุนพอสมควร  เพราะฉะนั้นในส่วนของอาคารสร้าง ใหม่ เช่น คอนโดมิเนียม อาคารส�ำนักงานต่างๆ ต้องมีแนวคิดตั้งแต่การ ออกแบบในเรือ่ งการประหยัดพลังงานทีช่ ดั เจน ซึง่ จะดีกว่ามาแก้ไขกันภายหลัง  ส่วนอาคารเก่าต้องมาคุยกันว่าจะปรับปรุงส่วนไหนก่อน ค่อยๆ แก้ไขไป อีกกรณีหนึง่ คือการใช้พลังงานของห้างสรรพสินค้า ในยุโรปห้างสรรพ-  สินค้าปิดห้างตั้งแต่ 6 โมงเย็น เพราะ หนึ่ง เพื่อประหยัดพลังงาน  สอง ถือ  เป็นคุณภาพชีวิต คือคนควรจะกลับบ้านอยู่กับครอบครัว ไม่ใช่ไปเดินอยู่ตาม ห้าง  ร้านสะดวกซื้อปิดตั้งแต่ 2 ทุ่ม ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงแบบบ้านเรา  ใน  อนาคตเราอาจต้องทบทวนเรื่องเวลาปิดห้างสรรพสินค้าหรืออาคารร้านค้า  แบบนี้

? การสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นผูผ้ ลิตพลังงานไฟฟ้าเองจะเป็นไป

ได้หรือไม่ ในอนาคตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่บางแห่งอาจต้องจัดหาพลังงานใช้เอง  ไม่ใช่ให้ภาครัฐจัดสรรให้ฝ่ายเดียว  ถ้ารัฐตั้งโจทย์แบบนี้ เขาต้องกลับไป ปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือหันมาใช้พลังงานความร้อนที่เคยทิ้งเสียเปล่า  รัฐอาจตั้งกลไกการรับซื้อไฟฟ้าจากเขา  ฝ่ายอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพผลิต พลังงานเองจะเริ่มดูแนวโน้มทางธุรกิจว่าสามารถต่อยอดได้หรือไม่ และอาจ กลายเป็นโรงไฟฟ้าในชุมชนซึง่ ช่วยลดการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของภาครัฐ

? ปัญหาของการจัดตั้งโรงไฟฟ้ากับการคัดค้านของชุมชนมีแนวทางแก้ไข

อย่างไร   ทางสถาบันฯ ได้ท�ำวิจัยพบว่าการจะท�ำให้คนไทยยอมรับโรงไฟฟ้าใหม่ นั้น จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเราจัดการกับปัญหาเก่าได้แล้ว  เราส�ำรวจชุมชนที่มี โรงไฟฟ้ามาตั้งอยู่แล้วหลายปี ชาวบ้านไม่เห็นว่ามีอะไรดีขึ้น ค่าไฟก็ต้องจ่าย

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 158-176 (chapter 6).indd 165

ปรกติ ไม่ได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น ลูกหลานต้องย้ายไปท�ำงานอยู่ที่อื่น   เราต้องกลับไปดูแลชาวบ้านที่เสียสละก่อน และต้องเปลี่ยนแนวคิดว่า หากจะสร้างโรงไฟฟ้าโรงใหม่ ต้องท�ำให้คนในพื้นที่ได้รับสิทธิพิเศษดีกว่าคน อื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าไฟฟ้าที่เขาควรได้ส่วนลดจากที่เขาต้องเสียสละพื้นที่ ผลิตไฟฟ้าให้คนจังหวัดอื่นใช้  มีระบบสาธารณูปโภคดีขึ้น  มีระบบการศึกษา ดีขนึ้  ซึง่ เป็นสิง่ ทีเ่ ขาห่วงใยว่าลูกหลานจะต้องมีโรงเรียนทีด่  ี มีโรงเรียนวิชาชีพ  หรือมหาวิทยาลัย  สิ่งที่ประชาชนต้องการ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจัดสรรให้เขา  เพราะเขาต้องเสียสละบ้านของเขาเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า และต้องดูแลเรื่องผล  กระทบด้านสิง่ แวดล้อมให้มนี อ้ ย การท่องเทีย่ วอยูไ่ ด้ อุตสาหกรรมอยูไ่ ด้ เมือง อยู่ได้  ส่วนโรงไฟฟ้าเก่าที่มีปัญหา เราต้องเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ให้ดีขึ้น ชาว บ้านก็จะรับได้มากขึ้น จะเป็นทางออกทางหนึ่งเมื่อเราสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ ใหม่ไม่ได้ เรายังใช้พื้นที่เก่าได้ แต่จะท�ำให้ชาวบ้านอุ่นใจได้อย่างไร

? บทบาทของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานที่น่าจะ

ด�ำเนินการต่อไป ระยะหลังบทบาทของ พพ. ก้าวทันปัญหามากขึน้   ในส่วนการเชิญชวน  ภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงาน ควรชี้ให้เขาเห็นถึง  เรือ่ งผลตอบแทน ใช้ภาคบังคับไม่ได้ ซึง่ ความจริงท�ำไปได้ดรี ะดับหนึง่ แล้ว แต่  ยังไม่จูงใจส�ำหรับธุรกิจขนาดเล็ก   อีกประเด็นหนึ่งคือที่ผ่านมาเรามองการใช้พลังงานโดยแบ่งเป็นภาค ธุรกิจด้านต่างๆ แต่ยังไม่มองเป็นเขตพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองที่ก�ำลังเติบโตขึ้น เรือ่ ยๆ ควรมีนโยบายด้านพลังงานของเมืองนัน้ ๆ ชัดเจน เช่น เมืองเชียงใหม่  ควรเริม่ คิดว่าถึงเวลาสร้างโรงไฟฟ้าของตัวเองแล้วหรือไม่ จะมีการใช้พลังงาน ทดแทนอย่างไร เมืองจะเติบโตขึน้ ไปในทิศทางใด ซึง่ ต้องมองควบคูไ่ ปกับเรือ่ ง ของผังเมือง ถ้าตั้งโจทย์แบบนี้ นักธุรกิจในพื้นที่จะเริ่มมองตามเรา เขาจะไปสร้าง หน่วยลงทุนขึ้นเอง  ต้องเริ่มจากเมืองหลักที่ใช้พลังงานสูงๆ เช่น ขอนแก่น  อุดรธานี  เมืองที่มีมหาวิทยาลัยมักมีความแข็งแรงเป็นพื้นฐาน เราสามารถ ใช้คนในพื้นที่ท�ำงาน ซึ่งช่วยให้เกิดการกระจายธุรกิจและแรงงาน แทนที่เขา ต้องเข้ามาท�ำงานในกรุงเทพฯ

165 21/12/2012 18:46


สนั่น อังอุบลกุล

ประธานกรรมการ บริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จ�ำกัด (มหาชน), ประธานคณะกรรมการพลังงานหอการค้าไทย

ในการด�ำเนินการใดๆ ถ้าต้องการให้เกิดผลส�ำเร็จอย่างยั่งยืน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การให้ความร่วมมือเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน...และต้องมีหลักคิดทางทฤษฎี  รวมทั้งหลักปฏิบัติที่ให้ผลได้จริงและถูกต้องตามกฎกติกา รวมเป็นสามส่วนประกอบกัน จึงจะเกิดความส�ำเร็จที่เป็นของแท้” 166 P 158-176 (chapter 6).indd 166

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:46


? ในฐานะผู้ประกอบการมองเรื่องการอนุรักษ์พลังงานอย่างไร

เราเชือ่ ว่าการท�ำเรือ่ งการอนุรกั ษ์พลังงานเป็นสิง่ ทีเ่ กิดประโยชน์ ถ้ารูจ้ กั เริม่ ต้นและท�ำอย่างต่อเนือ่ งแล้ว ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์รว่ มกัน บริษทั ศรีไทยฯ  เราอนุรกั ษ์พลังงานแบบมีสว่ นร่วม เริม่ จากผูบ้ ริหารระดับสูงจะต้องมีเป้าหมาย ที่ชัดเจน ต้องให้นโยบายที่มีความชัดเจนกับผู้บริหารทุกระดับจนถึงผู้ที่ท�ำอยู่ หน้างาน แม้แต่ยามหน้าประตู ตลอดจนพนักงานท�ำความสะอาด เรามีการตัง้ คณะกรรมการเรือ่ งพลังงานขึน้ มาให้ความรูแ้ ละสร้างความร่วมมือผ่านกิจกรรม ต่างๆ ที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วม และมีการติดตามซึ่งเป็นเรื่องส�ำคัญ เราจะแสดง กราฟตัวเลขให้พนักงานได้รู้ว่าอาทิตย์นี้คุณใช้พลังงานไปเท่าไร สามารถ ประหยัดเป็นตัวเงินได้เท่าไร นอกจากนี้เรายังมีนโยบาย Srithai Energy Conservation หรือ SEC  โดยมีปณิธานว่าการประหยัดพลังงานเป็นสิง่ ทีท่ กุ คนได้กบั ได้  พนักงานเราได้ รับการปลูกฝังจนมีการเสนอขึน้ มาเองว่าจะท�ำงานวันอาทิตย์ตอ่  1 เดือน แล้ว  หยุดวันจันทร์แทน เนื่องจากวันอาทิตย์ค่าไฟฟ้าอยู่ใน rate ต�่ำ ทางบริษัทฯ  เห็นถึงความมุ่งมั่ นและตั้งใจของพนักงาน จึงตกลงว่า ส่ว นที่ประหยัดได้  40 เปอร์เซ็นต์ เราจะคืนให้แก่พนักงานทั้งหมด เอาไปจัดกิจกรรมท่องเที่ยว  หรือจัดกิจกรรมกองทุนช่วยเหลือเพื่อนพนักงานด้วยกัน ขณะเดียวกันเราก็มี การแข่งขันประหยัดไฟระหว่างโรงงาน เรามีรางวัลให้โรงงานทีช่ นะเลิศ รางวัล รองชนะเลิศ และรางวัลชมเชย เราจะเดินตรวจและพูดคุยกันหน้างานว่าปัญหาอยูท่ ไี่ หน ถ้าส่วนนีใ้ ช้ไฟ เกินความจ�ำเป็นจะต้องท�ำอย่างไร ต้องพูดคุยซ�ำ้ ๆ เจออะไรเราก็พดู จนเกิดเป็น วัฒนธรรมทางสังคมในบริษทั  ถ้ามีคนทีไ่ ม่ท�ำ เขาก็จะรูส้ กึ ว่าไม่เหมือนคนอืน่   ท�ำให้เขารู้สึกว่าต้องคิดต้องท�ำ หลังจากมีการปรับปรุงแก้ไขอยู่ตลอดเวลาก็จะ เกิดความคิดริเริ่มขึ้นมา พนักงานหรือนายช่างจะคุยกันเองว่าเครื่องเก่าและ เราประหยัดเต็มที่แล้ว มีทางไหมที่จะเสนอให้บริษัทตั้งงบลงทุนเปลี่ยนเครื่อง ใหม่   เมื่ อ ประมาณ 5 ปี ที่ แ ล้ ว เราลงทุ น เปลี่ ย นเครื่ อ งจั ก รเป็ น พั น ล้ า น  บาท ไม่เพียงประหยัดค่าไฟได้ถึงประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ ยังประหยัด  น�ำ้ มันทีร่ วั่ จากเครือ่ งเก่า ทีส่ ำ� คัญสามารถเพิม่ ปริมาณการผลิตและเพิม่ รายได้  เพราะเครื่องใหม่ท�ำงานเร็วกว่าเครื่องเก่าเกือบสองเท่า สรุปว่าเท่ากับซื้อหนึ่ง เครื่องเหมือนได้สองเครื่อง  ผมชอบเปรียบเทียบให้พนักงานฟังว่าเหมือนกับผ้าเปียกผืนหนึ่งใน โรงงาน เราท�ำกิจกรรมประหยัดพลังงาน ก็เหมือนกับบิดผ้าให้น�้ำค่อยๆ ออก จนแห้ง ถามว่าแห้งแล้วจะท�ำอะไรต่อ ค�ำตอบคือต้องเปลี่ยนเทคโนโลยี หลัก คิดนี้ผมว่าส�ำคัญมากๆ

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 158-176 (chapter 6).indd 167

ต้องชืน่ ชมทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงานทีเ่ อาใจ ใส่มาก เขาพยายามมากระตุ้นเราในทุกรูปแบบ และจัดสรรงบประมาณให้ สถาบันการศึกษาส่งอาจารย์มาเป็นที่ปรึกษาและให้บริการฟรีกับบริษัทฯ

? คิดว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ท�ำให้ผู้ประกอบการไม่สนใจเรื่องการอนุรักษ์

พลังงาน เถ้าแก่หรือเจ้าของกิจการโดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ ละเลยเรื่องการประหยัดพลังงาน เพราะ หนึ่ง ไม่มีความใกล้ชิดกับคนที่ทำ�   หน้างาน  สอง ไม่เคยดูเรื่องค่าใช้จ่ายของค่าไฟฟ้า ส่วนใหญ่ดูเรื่องซื้อของ  ให้ถกู  ตัง้ ราคาขายของให้สงู ขึน้  เพราะค่าใช้จา่ ยของไฟฟ้าถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ แล้วเป็นตัวเลขเล็กๆ น้อยๆ ส่วนใหญ่จึงมองข้าม ท�ำให้ประสิทธิภาพการใช้ พลังงานในบ้านเรายังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถ้าทุกคนเข้าใจและได้เริ่มต้นท�ำแล้ว จะเห็นประโยชน์ อย่างน้อยไม่ต้องลงทุนอะไรก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง  10 เปอร์เซ็นต์  ส�ำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ทุกรายมีหน้าที่ต้องท�ำเรื่องประหยัด พลังงานอยูแ่ ล้ว ไม่ทำ� ไม่ได้ เพราะเราต้องสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน กับคู่แข่ง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในเมืองไทย  แม้ว่าทาง พพ. จะให้ความสนใจและกระตือรือร้นมากที่จะท�ำให้ภาค เอกชนเกิดการประหยัดพลังงาน  แต่ภาคเอกชนก็ตอ้ งหาทางช่วยเหลือตัวเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกันควบคู่กันไป ขณะเดียวกันบุคลากรของหน่วยงาน ภาครัฐที่เกี่ยวข้องก็มีจ� ำนวนจ�ำกัด หลายครั้งไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือ  ภาคเอกชนได้ตามทีต่ งั้ ใจไว้  ต้องยอมรับว่าในการด�ำเนินการใดๆ ถ้าต้องการ ให้เกิดผลส�ำเร็จอย่างยั่งยืน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการให้ความร่วมมือเผื่อแผ่  ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะใหญ่คนเดียว โตคนเดียว หรือเก่งคนเดียวไม่ได้  และต้องมีหลักคิดทางทฤษฎี รวมทั้งหลักปฏิบัติที่ให้ผลได้จริงและถูกต้องตาม กฎกติกา รวมเป็นสามส่วนประกอบกันจึงจะเกิดความส�ำเร็จทีเ่ ป็นของแท้  เรา มีสถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าที่คอยให้หลักคิดทางทฤษฎี  เรามีหน่วยงาน ของรัฐที่คอยให้ค�ำแนะน�ำเรื่องการปฏิบัติตามกฎกติกา  แต่ส�ำคัญที่สุดคือเรา ต้องช่วยเหลือระหว่างผูป้ ระกอบการเอกชนด้วยกัน ในลักษณะเพือ่ นช่วยเพือ่ น  พี่ช่วยน้อง  ผมจึงคิดว่าเมื่อบริษัทใหญ่ดูแลตัวเองได้ เราจะให้บริษัทใหญ่มา ช่วยบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กได้อย่างไร เพราะเรามีบุคลากร มีความรู้ อยู่แล้ว

167 21/12/2012 18:46


? ขณะนีผ้ ปู้ ระกอบการรายใหญ่ชว่ ยเหลือผูป้ ระกอบการด้วยกันอย่างไรบ้าง

ที่ผ่านมาทางหอการค้าไทยได้จัดตั้งศูนย์ที่ปรึกษาการประหยัดพลังงาน  โดยได้รับงบประมาณจากทาง พพ. ท�ำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5-6 แล้ว เน้นการ ประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกกว่า 26,000 รายทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ  ขนาดกลางและเล็กหรือ SMEs  เราจัดสัมมนาโดยเชิญคนที่ประสบความ  ส�ำเร็จมาคุยให้ฟัง และบอกสมาชิกว่าเรายินดีที่จะช่วยเหลือ  นอกจากนีบ้ ริษทั ใหญ่ๆ ซึง่ เป็นสมาชิกของหอการค้าไทย ยังมีโครงการ ต่างๆ เช่น เพื่อนช่วยเพื่อน โดยแต่ละบริษัทจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้ทางศูนย์ฯ  สัปดาห์ละ 2 วันออกไปหาผู้ที่ต้องการใช้บริการ เอาคนที่ประสบความส�ำเร็จ  ในอุตสาหกรรมเดียวกันกับเขาไปช่วยเขา อย่างเช่น โรงงานพลาสติกมีเป็น หมื่นโรง ใครช�ำนาญพลาสติกก็ไปช่วยพลาสติก ขณะเดียวกันเราก็เชิญกลุ่ม สมาชิกให้มาดูโรงงานของเราว่าเราท�ำอะไรบ้าง เพือ่ เป็นแรงบันดาลใจว่าคุณ ก็ทำ� ได้ และคุณท�ำแล้วคุณได้

? ในฐานะผู้ประกอบการมองปัญหาที่ต้นทุนด้านพลังงานมีราคาสูงขึ้น

เรื่อยๆ อย่างไร หนึ่ง ต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน เพราะวันนี้เราใช้ไฟฟ้าแบบยังไม่ ประหยัดเท่าที่ควร และการรู้จักใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพยังไม่ดี  สอง  ต้องพยายามน�ำพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานทดแทนมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานจากพืช  และสิง่ ทีเ่ ป็นทางเลือก สุดท้าย คือพลังงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ต้องคิดและต้องจริงจังว่าเราจ�ำเป็น ต้องใช้หรือเปล่า เพราะการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องใช้เวลาถึง 12 ปี  ปัญหาคือเรายังไม่เชือ่ ในความมีวนิ ยั ของคนไทยด้วยกัน เทคโนโลยีด ี แต่มอง ว่าวินัยดีพอหรือเปล่าที่จะดูแลสิ่งเหล่านี้ได้  ขณะเดียวกันเรือ่ งของโลจิสติกส์หรือภาคขนส่งก็เป็นเรือ่ งใหญ่ ทุกวันนี้ เราเผาผลาญน�้ำมันไปมากกับภาคการขนส่ง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ตอนนีต้ น้ ทุนด้านโลจิสติกส์ของผูป้ ระกอบการสูงมาก แต่ถา้ รัฐกล้าลงทุนพัฒนา ระบบรางรถไฟให้ดี ซึ่งเป็นระบบการขนส่งที่ง่ายและเร็วที่สุด จะช่วยภาค อุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้อย่างมาก  ถ้าตอนนี้ประเทศไทยยังไม่ตื่นตัวในการหาพลังงานที่มีต้นทุนต�ำ่  เรียก ว่า green กับ clean แล้ว ในอนาคตอาจจะสายเกินไป เราจะต้องใช้ไฟฟ้า  ในต้นทุนทีแ่ พงมาก และอาจขาดแคลนด้วยซ�้ำ เพราะเราพึง่ ก๊าซธรรมชาติจาก อ่าวไทยอย่างเดียวอีกต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น solution คืออะไร ผมขอตั้ง  เป็นค�ำถามให้ทุกคนคิดร่วมกัน

168 P 158-176 (chapter 6).indd 168

? มีสิ่งใดที่คิดว่าจะช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นอีก

ผมคิดว่าเรือ่ งการอนุรกั ษ์พลังงานในกลุม่ ประเทศอาเซียน ประเทศไทย ยังเป็นผู้น�ำ แต่อาจเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป  ไม่ได้ ซึ่งเขาท�ำจริงจังมาก เพราะเขามีดัชนีวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงาน  (Energy Efficiency Index) ของแต่ละประเภทอุตสาหกรรม ท�ำให้ผปู้ ระกอบการ  มีตัวชี้วัดหรือ benchmark ว่าเขาอยู่ในระดับไหน และตัวเลขของต่างประเทศ จะถู ก ต้ อ งตามทั น สถานการณ์ ม าก ขณะที่ ข องเรามี ข ้ อ มู ล นี้ ไ ม่ กี่ ภ าค อุตสาหกรรม  ถ้าผู้ประกอบการได้ทราบข้อมูลนี้จะช่วยให้หาทางประหยัดมากขึ้น  เช่น อุตสาหกรรมพลาสติก เราจะเห็นข้อมูลเปรียบเทียบ benchmark ของ  เรากับของประเทศญีป่ นุ่  ว่าเขาใช้แค่น ี้ เราใช้แค่น ี้ และห่างกันแค่ไหน เราจะ หาทางประหยัดมากกว่านี้ได้อย่างไร ต้องใช้เทคโนโลยีอะไรถึงจะเข้าถึง  benchmark ได้เช่นเดียวกับเขา ถ้าน�้ำมันขึ้นแล้วจะท�ำให้ต้นทุนการใช้ไฟฟ้า  ของเราสูงขึ้นเท่าไร เราก็คาดการณ์ได้ อยากฝากทางภาครัฐว่าให้จัดท�ำดัชนีตัวนี้ขึ้นมา อุตสาหกรรมประเภท ไหนพร้อมก่อนก็ท�ำก่อน และท�ำให้มีความต่อเนื่อง ตัวเลขดัชนีต้องทันสมัย ตลอดเวลา เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก อีกสิ่งหนึ่งที่สำ� คัญคือเรื่องการศึกษา เราควรจะบรรจุเรื่องการประหยัด พลังงานเข้าไปในสถานศึกษา อาชีวะ มหาวิทยาลัย ควรมีเรื่องนี้สอนอยู่ใน หลักสูตร ส�ำหรับ พพ. ผมขอชื่นชมว่ามีความมุ่งมั่น อธิบดีแต่ละท่านช่วยกัน  สานต่อนโยบายและงานมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความตั้งใจ แต่  ทาง พพ. อาจยังขาดจ�ำนวนเจ้าหน้าที่ในการให้บริการอย่างเพียงพอ แม้  ทีผ่ า่ นมาจะได้กระจายงานให้เอกชนเข้ามาช่วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าทีใ่ นการ ติดตามการด�ำเนินการตามมาตรการอาจยังมีนอ้ ยไป ถึงกระนัน้ ก็ตามเจ้าหน้าที่ ทุกคนท�ำงานด้วยใจ เพื่อประโยชน์ของทุกภาคส่วน  ผมขอชื่นชมครับ

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:46


ดร. ทวารั ฐ  สู ต ะบุ ต ร รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (2552-ปัจจุบัน) ในอดีตเราเหมือนนายช่างที่ต้องท�ำงานมือเปื้อน แต่ปัจจุบันและในอนาคต  เราต้องเป็นนายช่างที่ให้บริการจากสมอง ความคิด และความรู้  ถ้าเปรียบการพลังงาน ของประเทศไทยกับร่างกาย พพ. คงท�ำหน้าที่เสมือนสมองและหัวใจในการควบคุม   และพร้อมจะสื่อสารเพื่อให้บริการที่มีคุณภาพแก่สังคม”

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 158-176 (chapter 6).indd 169

169 21/12/2012 18:46


? มองทิศทางการใช้พลังงานทดแทนในอนาคตอย่างไร

ผมเชื่อว่าใน 10-20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยยังต้องใช้พลังงานกระแส  หลั ก คื อ  น�้ ำ ม้ น  ก๊ า ซธรรมชาติ   และถ่ า นหิ น  ในสั ด ส่ ว นที่ น ่ า จะมากกว่ า  50 เปอร์เซ็นต์ เพราะเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนรูปแบบต่างๆ ที่ใช้  ในระบบอาจจะยังไม่พร้อมนัก หรือบางอย่างอาจจะพร้อมแต่มีราคาสูง  จากฐานเศรษฐกิจเกษตรกรรมของไทย พลังงานทดแทนที่เหมาะสม  ที่สุด คือพลังงานทดแทนจากพืช ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ  แบบแรกคือจาก เศษวัสดุเหลือใช้ เช่น แกลบ ชานอ้อย กากน�้ำตาล  ตลอด 5-10 ปีที่ผ่านมา  เป็นนโยบายที่พยายามเร่งรัดให้เก็บเกี่ยวของพวกนี้เข้าระบบให้มากที่สุด ซึ่ง เมื่อก่อนของพวกนี้ไม่มีราคาจนปัจจุบันมีราคาสูง ในอนาคตเศษวัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตรจะถึงจุดทีต่ งึ ตัว แปลว่าแพงกว่านีก้ ไ็ ม่มใี ครใช้แล้ว เพราะฉะนัน้ ระบบพืชพลังงานของประเทศไทยต้องก้าวสู่ระบบการปลูกเพื่อพลังงานโดย เฉพาะ เรียกว่า agro energy อย่างทีย่ โุ รปหรือบราซิลท�ำกันมากแล้ว เขาปัน ส่ ว นพื้ น ที่ บ างแห่ ง ซึ่ ง ไม่ ค ่ อ ยเหมาะสมกั บ พื ช อาหารมาปลู ก พื ช พลั ง งาน   agro energy จึงเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือได้พลังงาน และท�ำให้  ราคาพืชผลทางการเกษตรไม่ขึ้นๆ ลงๆ    ผมเชื่อว่าจากนี้และต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 10 ปี ประเทศไทยต้อง  เดินหน้าเรื่อง agro energy และพลังงานทดแทนของประเทศไทยจะมาจาก  พืชพลังงานเป็นอันดับ 1 คือมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์    พลังงานทดแทนอันดับรองลงมาน่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมี ตัวแปรส�ำคัญคือเทคโนโลยีและต้นทุน  ปัจจุบนั ต้นทุนแพงกว่าค่าไฟทีผ่ ลิตจาก ก๊าซธรรมชาติอย่างน้อยสามเท่า ในอนาคตต้องหาทางลดต้นทุนลง โดยเรา ต้องพัฒนาเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง จึงจะสามารถควบคุมต้นทุนได้

?   บทบาทของ พพ. ในการขับเคลื่อนเรื่องพลังงานทดแทน

เราได้รบั มอบหมายให้เป็นผูด้ แู ลแผนแม่บทการพัฒนาพลังงานทดแทน แห่งชาติ ซึง่ มีเป้าหมายว่าจะให้มพี ลังงานทดแทนเข้ามาในระบบ 25 เปอร์เซ็นต์  ใน 10 ปีข้างหน้า โดย พพ. ก�ำลังจัดท�ำแผนปฏิบัติการย่อยออกมา  ใน  ส่วนแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย เราท� ำงานควบคู่กับกระทรวง  วิทยาศาสตร์ฯ จ�ำแนกเทคโนโลยีที่จ�ำเป็นแล้วจัดท�ำเป็นแผนปฏิบัติการ 5 ปี

170 P 158-176 (chapter 6).indd 170

ตั้งแต่ปี 2555 ถึง 2559 ใช้เงินประมาณ 6,000 ล้านบาทใน 189 โครงการ   ถ้างานวิจยั ประสบความส�ำเร็จ ตัง้ แต่ป ี 2560 เป็นต้นไป เราจะเริม่ เห็นผลงาน  วิจัยเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการผลิต ในฐานะผูก้ ำ� กับแผนหลัก พพ. มีหน้าทีใ่ นการจัดท�ำแผนปฏิบตั กิ ารย่อย  เพือ่ ท�ำงานกับทุกภาคส่วนทีเ่ กีย่ วข้องแล้วจ�ำแนกแผนงานและโครงการออกมา ให้ชัดเจน จัดให้มีเจ้าภาพเพื่อการขับเคลื่อน และจัดหาเงินงบประมาณให้ ส่วนแผนงานด้านการส่งเสริม เราท�ำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน โดย  พพ. อยูใ่ นฐานะผูส้ ง่ เสริม คือหน่วยเชียร์ เช่น มาตรการเงินกูด้ อกเบีย้ ต�่ำ เงิน ทุนร่วมทุน เงินภาษียกเว้นพิเศษ เป็นต้น  เรามีบทบาทท�ำให้คนลงทุนมั่นใจ  เห็นภาพว่าเราเอาจริง รัฐบาลท�ำงานพร้อมกันจริง ซึง่ ช่วง 3-4 ปีทผี่ า่ นมา ผม มั่นใจว่าเรามีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมพลังงานทดแทนของประเทศ มี คนมาลงทุนเป็นแสนล้านบาทในหลายโครงการ

?   การผลักดันเรื่องการอนุรักษ์พลังงานมีก้าวเดินต่อไปในทิศทางใด

ในเบื้องต้นกลไกการอนุรักษ์พลังงานมีการผลักดันอยู่สามประเภท  ประเภทที ่ 1 คือการบังคับใช้ดว้ ยมาตรการทางกฎหมาย ซึง่ ประเทศไทยถือเป็น  ประเทศแรกๆ ในเอเชียที่บังคับให้ผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ต้องปฏิบัติตาม  มาตรฐานทีภ่ าครัฐก�ำหนด คือโรงงานและอาคารใหญ่ทงั้ หลาย มีรวมประมาณ  6,000 แห่ง ซึ่งถูกบังคับให้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายก�ำหนด  ที่ผ่านมา  พพ. ด�ำเนินการในลักษณะส่งเสริม ไม่มีการลงโทษในกรณีที่เจ้าของอาคาร  ไม่ท�ำตามแผน ซึ่งอันที่จริงในกฎหมายมีอยู่มาตราหนึ่ง ก�ำหนดโทษกรณีที่  ไม่ปฏิบตั ติ ามมาตรฐาน โดยให้เจ้าของอาคารต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษ คือ เสียค่าไฟแพงขึ้น แต่เราไม่เคยน�ำมาตรการนี้มาใช้ ประเภทที่ 2 คือมาตรการทางสังคมกับมาตรการทางราคา ซึ่งได้ผล  กว่า แต่ พพ. มีบทบาทในด้านนี้น้อย ซึ่งบทบาทหลักอยู่ที่ทางกระทรวง พลังงาน หรือส�ำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ประเภทที ่ 3 คือมาตรการส่งเสริมผ่านกลไกทางภาษี หรือมีเงินอุดหนุน  บางอย่าง รวมทั้งส่งเสริมโดยการให้ความรู้ เป็นมาตรการที่ภาคเอกชนนิยม  เป็นอีกบทบาทหลักของ พพ.  ทีผ่ า่ นมาถือว่ากระตุน้ ได้ผลระดับหนึง่  มีผสู้ นใจ  เข้าร่วมโครงการอยู่ตลอดเวลา ด้วยกลไกตามกฎหมายพระราชบัญญัติการ  60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:46


ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ พลังงาน น�ำมาใช้สนับสนุนโครงการต่างๆ ปัจจุบนั ผมคิดว่าประเทศไทยค่อนข้างอิม่ ตัวกับมาตรการส่งเสริมเหล่านี้ แล้ว และควรจะมีนวัตกรรมการก�ำกับดูแลเพิ่มขึ้น เช่น การให้เงินสนับสนุน ตามประสิทธิภาพในการอนุรักษ์พลังงานที่ท�ำได้  อาคารใดส่งรายงานและ ท�ำได้จริง อาจได้รับการลดภาษีเพิ่ม ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมคนที่มีความตั้งใจ  ใน ขณะเดียวกันก็คงต้องผลักดันมาตรการในเชิงการใช้กฎหมายบังคับให้มีความ  เข้มข้นขึ้น เพื่อให้ภาคธุรกิจ โรงงาน อาคารต่างๆ ให้ความส�ำคัญกับการ อนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง

?   ความร่วมมือกับกลุ่มอาเซียนเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานมีแนวโน้ม

อย่างไร  ประเทศอาเซียนมี 10 ประเทศ เป็นประเทศผู้ผลิตพลังงานส่งออก  ห้าประเทศ มี มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย เป็นเจ้าของน�ำ้ มัน ลาวเป็นเจ้าของ ไฟฟ้ า  และพม่ า เป็ น เจ้ า ของก๊ า ซ และประเทศที่ ต ้ อ งน�ำ เข้ า พลั ง งานอี ก  ห้าประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลปิ ปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และกัมพูชา แต่ประเทศ  ไทยมีข้อเด่นคือเรามีเนื้อนโยบายด้านพลังงานที่ทำ� มานาน จนประเทศเพื่อน บ้าน เช่น ฟิลิปปินส์ เลียนแบบเราไปหลายอย่าง   ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเชื่อมโยงแหล่งพลังงานให้เป็น เครือข่ายในกลุ่มประเทศอาเซียน เพราะบางแห่งมีไฟฟ้าเหลือใช้ เช่น รัฐ ซาราวักของมาเลเซีย แทนทีจ่ ะพัฒนาเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหนัก ถ้าสามารถ เชือ่ มมาถึงบ้านเรา เราก็ยนิ ดีรบั ซือ้  และเขาก็ไม่ตอ้ งสร้างผลกระทบให้แก่พนื้ ที่ ป่าอุดมสมบูรณ์ในรัฐซาราวัก ซึ่งโครงการลักษณะนี้ประเทศในกลุ่มอาเซียน อาจต้องช่วยกันลงทุนตามสัดส่วน   ผมคิดว่าทิศทางส�ำคัญของพลังงานอาเซียนในอนาคต คือ หนึ่ง การ เชื่อมโยงทางกายภาพ หมายถึงการเดินท่อส่งก๊าซ หรือสายไฟ เชื่อมถึงกัน และ สอง คื อ การใช้ ม าตรฐานเชื้ อ เพลิ ง และสิ น ค้ า ที่ ส อดคล้ อ งกั น  เช่ น มาตรฐานสินค้าเบอร์ 5 มาตรฐานรถยนต์ มาตรฐานน�้ำมัน หมายความว่า  ถ้าจะขับรถจากสิงคโปร์ไปเวียดนาม เราสามารถแวะเติมน�้ำมันที่ใดก็ได้

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 158-176 (chapter 6).indd 171

?   บทบาทของ พพ. จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอนาคต

บทบาทของ พพ. มีความเปลีย่ นแปลงมาตลอด และตัง้ แต่ตงั้ กระทรวง พลังงานขึ้นมา ท�ำให้บทบาทของเราเปลี่ยนจากที่เคยเป็นหน่วยงานปฏิบัติใน ภาคสนาม กลับมาเป็นหน่วยงานที่ต้องมองนโยบายในภาพรวมและส่งเสริม ให้เอกชนเป็นผูล้ งมือท�ำแทน  ปัจจุบนั เราได้สะสมองค์ความรู ้ ทัง้ คน งานวิจยั   โครงการ มาตรการต่างๆ ท�ำให้ พพ. มีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์ความรู้ หรือ  knowledge center ในเรื่องของพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน  เพือ่ ให้บริการเชิงวิชาการแก่ผสู้ นใจทีจ่ ะลงทุนด้านนี ้ เป็นทิศทางซึง่ ท�ำให้ พพ.  มีบทบาทโดดเด่นขึ้น ในอดีตเราเหมือนนายช่างที่ต้องท�ำงานมือเปื้อน แต่ปัจจุบันและใน อนาคต เราต้องเป็นนายช่างที่ให้บริการจากสมอง ความคิด และความรู้  ถ้า เปรียบการพลังงานของประเทศไทยกับร่างกาย พพ. คงท�ำหน้าทีเ่ สมือนสมอง และหัวใจในการควบคุม และพร้อมจะสือ่ สารเพือ่ ให้บริการทีม่ คี ณ ุ ภาพแก่สงั คม

171 21/12/2012 18:46


ข้าราชการทุกคนต้อง ทุ่มเทพลังกาย พลังใจ  พลังสมอง ต้องตื่นตัว และมีไฟแรงตลอดเวลา   ทุกคนต้องมีแนวคิดที่ มองภาพอนาคตชัดเจน  มีทิศทางและก�ำหนดเวลา ที่สอดคล้องกัน”

จากใจอธิ บ ดี พพ.

อ�ำนวย ทองสถิตย์

อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (2555-ปัจจุบัน)

172 P 158-176 (chapter 6).indd 172

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:46


สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 158-176 (chapter 6).indd 173

173 21/12/2012 18:46


?   กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานมีแนวทางการท�ำงาน

ในระยะต่อไปอย่างไร กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานถือเป็นกรมใหญ่ที่สุด ในกระทรวงพลังงาน เรามีบุคลากรมากกว่าพันคน  ผมขอขอบคุณอธิบดี  ท่านก่อนๆ ที่ได้สร้างงานเตรียมไว้อย่างดี ซึ่งผมตั้งใจสานงานต่อให้ลุล่วง  รวมทั้งการมองภาพใหม่ๆ และงานใหม่ๆ ในเชิงรุก ณ วันนีเ้ รามีภารกิจชัดเจนอยูส่ องประการ คือ หนึง่  เป้าหมายการพัฒนา  การใช้พลังงานทดแทนเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ของการใช้พลังงานทั้งหมดในปี  2564 และ สอง เป้าหมายการลดดัชนีความเข้มข้นของการใช้พลังงานลง  25 เปอร์เซ็นต์ในปี 2573 ซึ่งนับเป็นเป้าหมายที่ท้าทายผู้บริหารทุกระดับ ในการขับเคลือ่ นสูเ่ ป้าหมายขึน้ อยูก่ บั สองปัจจัย คือทิศทางและความเร็ว  ผมมองว่าต้องมีทศิ ทางทีถ่ กู ต้องก่อนแล้วท�ำงานเพิม่ ความเร็วไปในทิศทางนัน้ ส�ำหรับการพัฒนาพลังงานทดแทนมีทิศทางอยู่สามข้อหลักๆ ได้แก่  หนึ่ง การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ พลังงานน�ำ้  และอืน่ ๆ  สอง การใช้พลังงานความร้อนในอุตสาหกรรม  และ สาม การพัฒนาการใช้เชือ้ เพลิงชีวภาพ โดยสัดส่วนหลักนัน้ มาจากการใช้ เชือ้ เพลิงชีวภาพอย่างน้อยวันละ 30 ล้านลิตร  เป้าหมายทีเ่ ราจะขับเคลือ่ นไป นี้มีข้อจ�ำกัดและปัญหาในการด�ำเนินการหลายประการ เช่น ด้านกฎหมาย  ด้านการท�ำงานเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน  เราต้องดูว่าเป้าหมายที่เรา ต้องการอาจกลายเป็นการสร้างปัญหาให้แก่หน่วยงานอืน่ หรือไม่  เราจะสร้าง สมดุลให้ทั้งสองฝ่ายได้อย่างไร  เรือ่ งการพัฒนาพลังงานทดแทนนัน้ มีผเู้ กีย่ วข้องหลายฝ่าย ฝ่ายแรกคือ รัฐซึ่งเป็นผู้ก�ำหนดนโยบาย ประสานประโยชน์ ส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือ  ฝ่ายผู้ประกอบการเอกชนซึ่งท�ำหน้าที่ด�ำเนินการโครงการเพื่อประโยชน์ของ ตนเอง ของรัฐ และของประเทศ และฝ่ายที่สามคือประชาชนซึ่งเป็นผู้ใช้และ  รับประโยชน์จากพลังงาน  ปัญหาคือการพัฒนาพลังงานเหล่านี้จะไปสร้างผล  กระทบเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตดั้งเดิมของประชาชนหรือไม่ ก่อมลพิษหรือไม่   ประชาชนได้อะไรจากการพัฒนาพลังงานทดแทน ใครจะได้ประโยชน์สูงสุด  ผู้ประกอบการ หรือประเทศชาติ เหล่านี้เป็นประเด็นส�ำคัญของการพัฒนา พลังงานที่เราต้องคิดถึง ส่วนเป้าหมายด้านการประหยัดพลังงานนั้นมีความชัดเจนกว่าด้าน  พลังงานทดแทน เนื่องจากเรามีแผนอนุรักษ์พลังงานอยู่แล้วเพียงแต่น�ำมา ปรับปรุงให้กระชับมากขึ้น และให้เกิดผลกระทบเชิงบวกที่มากขึ้น โดยหลักแล้วสิ่งที่ทาง พพ. ต้องท�ำเป็นอันดับแรก คือการจัดท�ำแผน ปฏิบัติการพัฒนาพลังงานทดแทนที่ปฏิบัติได้จริง

174 P 158-176 (chapter 6).indd 174

?   การจัดท�ำแผนปฏิบัติการที่ทำ� ได้จริงมีลักษณะเป็นเช่นไร

ในเรือ่ งของพลังงานทดแทน เรามีแผนใหญ่ซงึ่ เป็นการก�ำหนดภาพรวม  แต่แผนปฏิบตั กิ ารนัน้ มีอยูบ่ างส่วน และอาจยังร้อยเรียงได้ไม่ดพี อ ซึง่ จะปฏิบตั ิ ให้ส�ำเร็จจริงได้ยาก  ผมมองว่าแผนปฏิบัติการที่ปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่แค่แผนที่ บอกว่าจะท�ำอะไรแล้วก็จบ แต่เป็นแผนซึง่ ต้องบอกทิศทางว่าจะไปทางไหน และ ท�ำอย่างไรจึงส�ำเร็จ ใครเป็นคนท�ำ ท�ำเสร็จเมื่อไร บริหารความเสี่ยงอย่างไร เช่นหากเรามีเป้าหมายว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนให้ได้ 1,000 เมกะวัตต์  ก็ต้องระบุให้ได้ว่าเป็นชุมชนที่ไหน ต�ำบลอะไร ซึ่งต้องเป็นชุมชนที่มีความเข้ม แข็งหรือความพร้อมที่จะเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพอสมควร  เรื่องของเงินลงทุน  ควรแบ่งสัดส่วนระหว่างรัฐและชุมชนเท่าไร  บริษัทจัดการพลังงานหรือ  ESCO ควรเข้ามามีสัดส่วนแค่ไหน จะใช้พลังงานอะไร  การเตรียมโครงการ  และชุมชนท�ำอย่างไร เป็นต้น นั่ น คื อ แผนปฏิ บั ติ ก ารต้ อ งมี ภ าพชั ด เจนว่ า ท� ำ สิ่ ง ใด ใครท� ำ  ที่ ไ หน  อย่างไร เมื่อไร  ซึ่งการท�ำงานลักษณะนี้ ทุกฝ่ายในกรม ตั้งแต่ผู้ปฏิบัติการ  ผู้อ�ำนวยการส�ำนักฯ รองอธิบดี และอธิบดี ต้องท�ำงานหนัก ตามภารกิจและ ความรับผิดชอบกันทีช่ ดั เจน  นอกจากนีเ้ รายังต้องเชือ่ มประสานกับหน่วยงาน  อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้บริหารระดับสูงในระดับกระทรวง ข้าราชการทุกคนต้องทุ่มเทพลังกาย พลังใจ พลังสมอง ต้องตื่นตัวและ มีไฟแรงตลอดเวลา ทุกคนต้องมีแนวคิดทีม่ องภาพอนาคตชัดเจน มีทศิ ทางและ ก�ำหนดเวลาที่สอดคล้องกัน

?   มองประเด็นเรื่องโรงไฟฟ้าชุมชนซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดการเชิงสังคม

อย่างไร ความจริงเป้าหมายตัวเลขของพลังงานชุมชนอาจไม่มาก แต่มิติด้าน  สังคม ความรักประเทศ รักชุมชน ถือเป็นมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะการมีแหล่ง พลังงานเป็นของชุมชนเปรียบเหมือนประเทศที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่ง เป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และเมื่อชุมชนเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าก็ จะท�ำให้เขาใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ  เพราะฉะนั้นทิศทาง  เรื่องโรงไฟฟ้าชุมชน เราคงไม่มองเพียงเรื่องของพลังงาน แต่ต้องมองมิติ  เชิงสังคมและเศรษฐกิจพอเพียงด้วย  ในการท�ำงาน เราต้องเดินเคียงคูไ่ ปกับชาวบ้านในการพัฒนาชุมชน ใน การพัฒนาแหล่งพลังงานที่เขามีอยู่ในพื้นที่ให้เขาใช้เองและเป็นเจ้าของ เกิด การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดวิสาหกิจชุมชนที่จะมาดูแลการใช้พลังงาน  และการขายพลังงานให้ผอู้ นื่  ซึง่ ชุมชนต้องมีความเข้มแข็ง และประโยชน์ทเี่ กิด ขึ้นจะมีมูลค่ามหาศาล อาจมากกว่ามูลค่าในเรื่องของพลังงานด้วยซ�ำ้

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:46


พพ. มีภารกิจหลักในการเป็นเจ้าภาพขับเคลื่อนการท�ำงานในภูมิภาค  เพื่อให้โครงการ กิจกรรม หน่วยงาน เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เดินไปด้วยกันได้  จากประสบการณ์การท�ำงานของผม ผมคิดว่าเราต้องฟังเสียงคนท�ำงานจาก หลายภาคส่วน ทัง้ ภาควิชาการ ภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม และภาคสิง่ แวดล้อม   ถ้าเรารับฟังข้อมูลให้รอบด้าน จะท�ำให้เรามองเห็นภาพการพัฒนาพลังงานใน อีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากนี้เราต้องแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชนหรือผู้ที่ยัง  ไม่เข้าใจเรามากขึน้  เราต้องไปหาเขาและท�ำความเข้าใจว่าท�ำไมเขาจึงต่อต้าน โรงไฟฟ้าชีวมวล มีสงิ่ ใดทีท่ ำ� ให้เขาไม่ชอบ ต้องพยายามเข้าใจถึงจิตใจของเขา   บางครัง้ อาจเกิดขึน้ จากการทีป่ ระชาชนขาดข้อมูลทีถ่ กู ต้อง เราก็ตอ้ งไปให้ความ เข้าใจ  ส่วนประชาชนจะรับหรือไม่รับ เราต้องยอมรับและต้องอดทน

?   เรื่องพืชพลังงานมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานหลายฝ่าย พพ. จะผลัก

ผมเชือ่ ว่าขณะนีก้ ารท�ำงานด้านอนุรกั ษ์พลังงานเป็นไปได้ดว้ ยดีตามแผน   ในกลุ ่ ม อุ ต สาหกรรมจ� ำ นวน 20 เปอร์ เ ซ็ น ต์ ซึ่ ง เป็ น ผู ้ ใ ช้ พ ลั ง งานถึ ง  80  เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มแรกที่เราเข้าไปดูแลอย่างเต็มที่ นั่นคืออาคารควบคุม  และโรงงานควบคุมตามกฎหมาย  ส่วนโรงงานขนาดเล็กเราเข้าไปดูแลตาม สภาพของแต่ละแห่ง   ในการท�ำงานด้านอนุรกั ษ์พลังงานโดยพืน้ ฐานมีสามขัน้  คือ หนึง่  การ ปรับปรุงตัวเอง  สอง คือการปรับปรุงกระบวนการ  สาม คือ การปรับเปลีย่ น เครื่องจักร  ส�ำหรับโรงงานขนาดเล็กสามารถท�ำสองขั้นแรกได้ แต่ขั้นที่ 3  เป็นเรื่องยาก ต้องลงทุนมาก ส่วนธุรกิจ SMEs ก็น่าห่วงใยเนื่องจากการ  บริหารจัดการเป็นครอบครัวหรือบุคคล ท�ำให้มีความล�ำบากในการเข้าไปดูแล   แต่เรามีมาตรการส�ำหรับทั้งสามกลุ่ม ทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก  มีงบ ประมาณด้านการอนุรักษ์พลังงานหลายพันล้านบาทเข้ามาช่วยผลักดันใน  แต่ละกลุ่มตามสัดส่วนที่เราเข้าไปดูแล

ดันอย่างไร  ทิศทางในอนาคตของเรื่องพืชพลังงาน อยู่ที่การจัดการพื้นที่ให้ชัดเจน ส�ำหรับการเพาะปลูกพืชพลังงาน โดยต้องไม่เกิดการแก่งแย่งพื้นที่กับการ  เพาะปลูกพืชอาหาร  นอกจากนัน้ เราต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การผลิต ก๊าซหรือน�้ำมันจากไม้หรือพืชพลังงาน เป็นต้น ทั้งนี้การขับเคลื่อนเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานเป็นสิ่งจ�ำเป็นอย่างยิ่ง  พพ. ถือเป็นหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งในการขับเคลื่อนโดยองค์รวมของประเทศ เรา ต้องไปพร้อมกันหลายกระทรวง ต้องเกิดการเชื่อมโยงความคิด และเชื่อมโยง ภารกิจที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง

องค์กรของเราถือว่าบ่มเพาะมานานมาก องค์ความรู้ที่อยู่ในสมองและ ในหัวใจนั้นมีอยู่เต็มเปี่ยม เพียงแต่ต้องน�ำความสามารถของแต่ละคนที่  โดดเด่นในแต่ละด้านมาท�ำงานร่วมกัน  ทุกคนต้องเข้ามาปรับแต่งและแบ่งปัน  ความคิดร่วมกัน เพื่อท�ำให้แผนปฏิบัติการนั้นปฏิบัติได้จริง การระดมสมอง  ร่วมกันจึงมีความจ�ำเป็นอย่างยิง่   นอกจากนีเ้ ราต้องคิดท�ำงานแบบนอกกรอบ แบบเชิงรุก มีนวัตกรรมใหม่ๆ ในเชิงบริหารจัดการ และที่ส�ำคัญคือต้องตั้ง  เป้าหมายและทิศทางให้ชัดเจน

?   การสนับสนุนงานวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทาง พพ. มีส่วน

?   ยังมีงานด้านใดอีกที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพลังงานซึ่งท่านเห็นว่า

เกี่ยวข้องในด้านใด  งานวิจัยมีอยู่สามขั้นตอน หนึ่ง คือการวิจัยขั้นพื้นฐาน เป็นหน้าที่ของ หน่วยงานวิจัย เช่น สกว. สภาวิจัยฯ หรือมหาวิทยาลัย เป็นหลัก  สอง การ  วิจัยเพื่อพัฒนาน�ำร่องต้นแบบ  และ สาม คือการวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบเพื่อ น�ำเข้าสู่ตลาดหรืออุตสาหกรรม  ในส่วนนี้กระทรวงพลังงาน หรือ พพ. จะ  เข้ามาเชื่อมโยงต่อยอด  เราต้องช่วยตั้งโจทย์การวิจัยจากแผนของเราซึ่งมา จากการสังเคราะห์และวิเคราะห์แล้วว่าจะมีผลต่อการขับเคลือ่ นพัฒนาพลังงาน ทดแทนในทุกรูปแบบ

?   การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของโรงงานและอาคารต่างๆ มีปัญหา

?   การก�ำกับการท�ำงานของเจ้าหน้าที่ใน พพ. จะไปในทิศทางใดมากขึ้น

ควรให้ความส�ำคัญเป็นพิเศษ  ผมคิดว่ามีสิ่งส�ำคัญอย่างหนึ่งซึ่งเราต้องท�ำ คือการให้ความรู้เรื่อง พลังงานต่อเด็กและเยาวชน  ต้องน�ำเรือ่ งพลังงานมาย่อยข้อมูลและร้อยเรียง  เข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอนทุกระดับ ในทุกประเภท ทั้งการศึกษาใน ระบบ การศึกษานอกระบบ และอาชีวศึกษา  ถ้าท�ำได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า  เยาวชนทุกคนจะเข้าใจเรื่องพลังงาน รู้จักการประหยัดพลังงาน และเด็กจะ  ช่วยส่งต่อความเข้าใจเหล่านี้ให้แก่พ่อแม่อีกทอดหนึ่ง  ผมเชื่อว่านี่จะเป็นสิ่งที่ เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาวต่อการพัฒนาพลังงาน และพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศอย่างแท้จริง

ใดหรือไม่

สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน” P 158-176 (chapter 6).indd 175

175 21/12/2012 18:46


60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” สู่ “กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน” จัดท�ำโดย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เลขที่ 17 ถนนพระราม 1 แขวง/เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โทรศัพท์ 0-2226-2311, 0-2223-2322 www.dede.go.th คณะที่ปรึกษา นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา นายอ�ำนวย ทองสถิตย์ นายธรรมยศ ศรีช่วย นายประมวล จันทร์พงษ์ นายสัมฤทธิ์ เหมะ นายดนัย เอกกมล นางสาวพัชรีพร หาญสกุล นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ นายยศพงศ์ คุปตะบุตร นายประพนธ์ กิติจันทโรภาส นางสาวจรัสพรรณ พุ่มพวง นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ นายกุศล ชีวากร นางศิรินทร วงษ์เสาวศุภ นางสาวพิสมัย เสถียรยานนท์ นายสมชาย สถากุลเจริญ

อดีตอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ผู้อ�ำนวยการส�ำนักวิจัยค้นคว้าพลังงาน ผู้อ�ำนวยการส�ำนักก�ำกับและการอนุรักษ์พลังงาน ผู้อ�ำนวยการส�ำนักพัฒนาพลังงานทดแทน ผู้อ�ำนวยการกองแผนงาน ผู้อ�ำนวยการส�ำนักส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ผู้อ�ำนวยการส�ำนักพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ ผู้อ�ำนวยการศูนย์สารสนเทศข้อมูลพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ผู้อ�ำนวยการส�ำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักถ่ายทอดและเผยแพร่เทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญด้านอนุรักษ์พลังงาน ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทน ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทน

คณะผู้จัดท�ำ นายทวารัฐ สูตะบุตร นางณารุณี ฉายอรุณ นายนาวิน นาคนาวา นางสาวบุษรินทร์ สุวรรณศรี นายประสิทธิ์ นุ่นสังข์ นายสยาม มัชฌิมา นายวัชรินทร์ บุญฤทธิ์ นายสมศักดิ์ สุขสวัสดิ์ นายสมนึก เนาวแก้ว นายวิชัย รอเซ็น นางสาวฉัตรแก้ว ดีปัญญา นางสาวอารีรัตน์ ดีเรือก นายเอกชัย อมรทรัพย์เจริญ

รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ผู้อ�ำนวยการส�ำนักบริหารกลาง ผู้อ�ำนวยการกลุ่มประชาสัมพันธ์ นักประชาสัมพันธ์ช�ำนาญการ ส�ำนักพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านพลังงาน ส�ำนักก�ำกับและอนุรักษ์พลังงาน ส�ำนักส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ส�ำนักบริหารกลาง ส�ำนักบริหารกลาง ส�ำนักบริหารกลาง ส�ำนักบริหารกลาง ส�ำนักบริหารกลาง ส�ำนักบริหารกลาง

จัดท�ำเนื้อหาและออกแบบรูปเล่ม นิตยสาร สารคดี (ในนามบริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ำกัด) 28, 30 ถนนปรินายก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร. 0-2281-6110 (อัตโนมัติ) โทรสาร 0-2282-7003 www.sarakadee.com

P 158-176 (chapter 6).indd 176

21/12/2012 18:46


4 P 1-29 (9 b0ss).indd 4

60 ปี จาก “การพลังงานแห่งชาติ” 21/12/2012 18:31



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.