Telev ision
ผู้ประดิษฐ์โทรทัศน์คือ จอห์น โลกี แบร์ด เกิดที่สก็อตแลนด์ ใน ค.ศ. 1888 เขาเริ่มการทดลองตั้งแต่อายุได้เพียง 18 ปี แต่อ ีกยี่ส ิบปีต่อ มาจึงสามารถประดิษฐ์คิดส่งโทรทัศน์ขึ้นมาได้ และนำ�ออกแสดงในปี ค.ศ. 1926 ในปี ค .ศ. 1929 กรมไปรษณี ย์ เ ยอรมั น และอั ง กฤษได้ ท ดลองส่ ง โทรทั ศ น์ ต ามระบบของแบร์ ด การส่ ง โทรทั ศ น์ ร ะ บ บ 3 0 เ ส้ น ค รั ้ ง แ ร ก จั ด โ ด ย ส ถ า นี โ ท ร ทั ศ น์ บี บี ซี ข อ ง อั ง ก ฤ ษ ใ น ปี ค . ศ . 1 9 3 5 ก า ร ส่ ง โ ท ร ทั ศ น์ ระบบ 405 เส้น เริ่ม ในปี ค.ศ.1936 แต่ใ นปีต่อ มาสถานีโ ทรทัศน์ก็เลิกวิธีส ่งโทรทัศน์ด้วยเครื ่ องกลของแบร์ ด เพราะได้ วิ ธี ใ หม่ เ ป็ น ระบบอิ เ ลคทรอนิ ค ส์ ซึ่ ง ดี ก ว่ า แต่ ถึ ง อย่ า งไรแบร์ ด ก็ เ ป็ น คนแรกที่ ส ามารถแสดงการ ส่ ง โทรทั ศ น์ ไ ด้ ยั ง มี นั ก วิ ท ยาศาสตร์ อ ี ก หลายคนซึ่ ง ควรเอ่ ย ถึ ง ในเรื่ อ งเกี่ ย วกั บ โทรทั ศ น์ น ี ้ คนหนึ ่ ง คื อ อแลนขิบอลด์ แคมป์เบลสวินตัน เป็นชาวสก็อ ตเหมือ นกันเขาทดลองเรื่อ งการส่งโทรทัศน์่อ นแบร์ ด เสี ยอี ก แต่ ผ ล ที่ไ ด้ย ังไม่ส ามารถนำ�มาใช้งานได้อ ีกคนหนึ่งซึ่งมีส ่วนอย่างมากในความก้าวหน้าด้านนี้คือ วลาดิ เ มี ยร์ ซ วอรี ก ิ น เป็นชาวอเมริกันแต่เดิม ทีเดีย วเป็นรุส เซีย ซวอรีกินได้คิดกล้อ งอิเลคโทรนิคส์เครื่อ งแรกใช้ใ นการถ่ า ยโทรทั ศ น์ ชื่อ ว่า ไอโคโนสโคป แบร์ดเองไม่ไ ด้เลิกการทดลองแม้ว่าผลงานของเขาจะไม่ส มบูรณ์แต่ก็ไ ด้ ท ำ � งานอย่ า งหนั ก คิดระบบส่งโทรทัศน์ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกคิดโทรทัศน์ส ีใ นปี ค.ศ. 1982 แล้วยังสามารถสร้ า งเครื ่ องมองใน ความมืดเรีย กว่า นอคโต วิเซอร์ ได้ส ำ�เร็จสมบูรณ์ 2
Eye gl a s s e s What Man Devised That He Might See? เลนส์ ที่ ใ ช้ ส วมปิ ด ตาเพื่ อ ใช้ ดู สิ่ ง ต่ า งๆ หรื อ ที่ เ รี ย กกั น ว่ า แว่ น ตานั้ น มี ใ ช้ ค รั้ ง แรกในยุ โ รปเมื่ อ ปลายศตวรรษที สิ บ สามแต่ ไ ม่ ท ราบว่ า ใครเป็ น ผู้ ทำ � ขึ ้ น แต่ อ ย่ า งไรก็ ต ามใน ประวัติศาสตร์ข องแว่น ตากล่าวไว้ว่ า จีนยุคแรกๆ ก็ร ู้จัก การใช้แ ว่น ตาแล้วเพื่อการมองดูที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังมี บั น ทึ ก ในประวั ติ ศ าสต์ ส มั ย จั ก รพรรดิ เ รโนแห่ ง กรุ ง โรม พระองค์ ใ ช้ แ ว่ น ตามรกตเพื่ อ ใช้ ท อดพระเนตรการแข่ ง ขั น กีฬ าในปี ค.ศ. 1268 โรเจอร์เบคอนนักวิทยาศาสตร์ชาวอัง กฤษได้แนะนำ�ให้ป ระชาชน ใช้ แ ว่ น ตาในการอ่ า นหนั ง สื อ แว่ น ตาชนิ ด ที่ ใ ช้ กั บ คนตาพร่ า มัว มองเห็น อะไรไม่ชัด ได้มีการประดิษฐ์ข ึ้นในปี ค.ศ. 1827 โดย นักดาราศาสตร์ชื่อ เซอร์ จอร์ว แอรีย ์ ส่วนเบนจามิน แฟรงคลินเป็น ผู้ประดิษฐ์ แว่น ตาชนิดที่ใช้ดูใกล้ก็ได้ ดูไกลก็ได้ ประดิษฐ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1827 นักดาราศาสตร์อีกท่านหนึ่ง คือ เซอร์ จอห์น เซล เป็นผู้แนะนำ�ให้ร ู้จัก คอนแทคท์เ ลนส์น ี้ ประดิษฐ์ข ึ้น ในปี ค.ศ. 1887 โดยนักฝนเลนส์ชาวเยอรมันชื่อ เอฟ. อี. มิล เลอร์
4
Camera History of camera กล้ อ งถ่ า ยรู ปชนิ ดแรกที่ส ุดของโลกเท่าที่รู้จ ักก็คือ กล้ อ งรู เข็ ม มี ห ลั ก การง่ายๆเพีย งแต่ใ ห้แ สงผ่านเข้ า ทางรู เข็ ม ที ่ เจาะบนฝากล่องทึบ ด้านหนึ่ง ลีโอนาร์โ ด ดาวิ น ซี ่ เป็ น ผู ้ อ ธิ บ ายหลักการทำ�งานของกล้องรูเข็ ม โดยอธิ บ ายว่ า เมื ่ อ เจาะรูที่ผนังห้องรูห นึ่ง ให้แ สงผ่ า น เข้ า ทางรู เจาะนี ้ บ นฝาผนังด้านตรงข้ามกับ รูจ ะเกิด เงา ของวั ต ถุ ท ี ่ อ ยู ่ ห น้ ารูที่เ จาะไว้
C obscura นั ก ฟิ สิ ก ส์ ช าวอิ ต าลี ชื ่ อ เกี ย มแบททิ ส ตา เ ดลา พอร์ต า ได้ น ำ � ไปดั ดแปลงให้ เกิ ดภาพ เงาเมื่อแสงนั้น ผ่านเข้ าไปในเลนส์ ในศตวรรษที ่ 16 และนี ่ ก ็ คื อ กล้ อ งถ่ า ยรู ป รุ่ น แรกที่ เ รี ย กกั น ว่ า กล้ อ งออพสคิ ว รา กล้ อ งชนิ ด นี้ ม ี ห ลั ก การถ่ า ยรู ป คล้ า ยกั บ กล้ อ งถ่ า ยรู ป ปั จ จุ บ ั น เพี ย งแต่ ว ่ า แทนที ่ จ ะใช้ ฟิม ล์กลับ ใช้แ ผ่น กระจกแทน กล้ องถ่ ายภาพยุ ค แรกนั ้ น จึง ถ่ายภาพออกมาเป็น ภาพอย่ างกล้ องในปั จจุ บ ั น ไม่ ไ ด้
6
Nex t step
Escalator ชาวอเมริ ก ั น คนหนึ ่ ง ชื ่ อ เจสส์ ดั บเบิ ้ ลยู เรโน (Jesse W. Reno) ได้จดทะเบีย นสิทธิบัตรบันไดเลื่อ นในปี ค.ศ. 1891 แต่อ ีกไม่นานนักก็ม ีผู้จด ทะเบี ยนบั น ไดเลื ่ อ นอี ก ระบบหนึ ่ ง เจ้ า ของชื ่ อ ชาร์ ลส์ ดี. ซีเบอร์เกอร์ (Charles D. Seebarger) บันไดของเรโนเป็นเหมือ นสายพานเลื่อ นไป เรื ่ อ ยๆ ไม่ น ิ ยมกั น ของซี เ บอร์ เ กอร์ ยั ง มี ข ั ้ น บั น ไดแต่ ก ็ม ีปัญ หาว่าคนขึ้นต้อ งก้าวขึ้นทางด้านข้างจึงไม่ปลอดภัย นัก ทั้งสองขายสิทธิบัตรให้กับ บริ ษ ั ท โอทิ ส ซึ ง นำ � ออกแสดงในงาน 8
IT ’S KIN D OF FU N TO DO TH E IM POS SIBLE
10