G-Lab Scaling Impact Booklet by G-Lab

เนื้อหา

CONTENT

เกี่ยวกับ

ABOUT

หน้า

PAGE

ตลาดนัด SE: ธุรกิจนำ�ดีของนักลงทุนรักษ์โลก The Social Impact Marketplace

GLab Scaling Impact คืออะไร

การศึกษา

EDUCATION

Learn Education WinPhysics A•chieve Afterword Begin@ Home Career Visa Thailand

6 7 8 9 10 11

การเกษตรและสิ่งแวดล้อม

AGRICULTURE & ENVIRONMENT

Mivana Coffee Green Growth Folk Rice ธัญญเจริญผล Grassroot Innovation Begreening

13 14 15 16 17 18

สุขภาพ

HEALTH & WELLNESS

ชาวไร่ (ไทยแลนด์) Urbie One Change Hopewear

20 21 22 23

การพัฒนาชุมชน

ECONOMIC DEVELOPMENT

Folkcharm Crafts Wo•manis WYN Local Alike Hive Fisher Folk Dee Group Community Creative Project MUSE

สารบัญ INDEX

25 26 27 28 29 30 31 32 33

การส่งเสริมและสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม SOCIAL ENTERPRISE SUPPORT

Socialgiver Taejai Ma:D CreativeMove

องค์กรภาคีผู้ร่วมจัดงาน

PARTNERS AND SUPPORTS

35 36 37 38

40 2

ตลาดนัด SE : ธุรกิจน้ำ�ดีของนักลงทุนรักษ์โลก SOCIAL IMPACT MARKETPLACE งาน “ตลาดนัด SE: ธุรกิจนำ�ดีของนักลงทุนรักษ์โลก (The Social Impact Marketplace)” หรือเรียกสั้นๆว่างาน “ตลาดนัด SE” เกิดขึ้น โดยการริเริ่มของ GLab ศูนย์นวัตกรรมสังคม ภายใต้วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการส่งเสริมกิจการเพื่อสังคม และ โครงการต่างๆที่ดำ�เนินงานเพื่อสร้างประโยชน์ที่ดีให้กับสังคม แต่มีปัญหาในการดำ�เนินงานเนื่องจากมีอุปสรรคปัญหาต่างๆ อาทิเช่น การขาด ทักษะความรู้ ขาดที่ปรึกษาในการดำ�เนินงาน การวางแผน เงินทุนและทรัพยากรต่างๆ รวมทั้งเครือข่ายความร่วมมือที่จะช่วยขยายผลก่อการ ให้เกิดประโยชน์ที่ดีในสังคมวงกว้าง ทำ�ให้บางหน่วยงานซึ่งเป็นหน่วยงานที่สร้างประโยชน์เพื่อสังคมต้องหยุดชะงักการดำ�เนินงานหรือล้มเลิก กิจการ GLab ศูนย์นวัตกรรมสังคม ภายใต้วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้ร่วมมือกับ มูลนิธิเพื่อคนไทย สถาบัน ChangeFusion และ Thai Young Philanthropist Network (TYPN) จัดงาน “ตลาดนัด SE” ขึ้น โดยมีจุดประสงค์ให้ผู้ประกอบการ สังคม และเหล่าผู้ดำ�เนินงานเพื่อสังคมได้พบปะตัวแทนจากภาคเอกชน และกลุ่มคนทั่วไป ที่สนใจสนับสนุนงานกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย ได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านหลักคิด และแนวทางการดำ�เนินงาน รวมทั้งก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคส่วนเพื่อส่งเสริมผู้ ประกอบการสังคมในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น ร่วมเป็นพันธมิตร ซื้อสินค้าและบริการล่วงหน้า พัฒนาทรัพยากรบุคคลโดยใช้ทรัพยากรจากหน่วย งานเอกชน และลงทุนเพื่อขยายผลลัพธ์ทางสังคม เป็นต้น โดยงานในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมภายใต้โครงการ GLab Scaling Impact ที่ทาง GLab ได้รับการสนับสนุนจาก J.P. Morgan และ JP Morgan Chase Foundation เพื่อจัดกิจกรรมเสริมสร้าง และพัฒนาศักยภาพหน่วยงานเพื่อสังคมเหล่านี้ให้สามารถขยายกิจการได้อย่าง ยั่งยืน และสร้างผลลัพธ์ให้สังคมไทยในวงกว้างได้

โครงการ GLab SCALING IMPACT เป็นโครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการเพื่อสังคมรุ่นใหม่ที่ GLab ศูนย์นวัตกรรมสังคม ภายใต้วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับ การสนับสนุนจาก J.P. Morgan และ JP Morgan Chase Foundation โดยมุ่งเน้นสนับสนุนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา สังคมอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนในรูปแบบของการจัดตั้งกิจการเพื่อสังคม ผ่านการอบรมสร้างเสริมทักษะการเรียนรู้และเห็นความสำ�คัญในการ ดำ�เนินงาน การสร้างชุมชนของผู้ประกอบการเพื่อสังคมรุ่นใหม่ การได้รับคำ�แนะนำ�จากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาอาชีพและผู้ประกอบการเพื่อ สังคมที่มีประสบการณ์ รวมถึงขยายโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรสำ�คัญที่จะทำ�ให้เกิดการเติบโตแบบยั่งยืนรวมทั้งการดำ�เนินงานที่มีประสิทธิภาพ โดยกิจกรรมของโครงการสามารถแบ่งออกเป็น 8 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้ 1. GLab Scaling Impact Launch Day: งานเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ 2. In-depth Need Assessment: การสัมภาษณ์เพื่อเข้าใจความต้องการและอุปสรรค์ของเหล่าผู้ประกอบการเพื่อสังคมในเชิงลึกอย่าง แท้จริงและเพื่อสนับสนุนการปรับแผนโครงการให้สอดรับความต้องการมากขึ้น 3. Monthly Skill-building Workshop: การอบรมรายเดือนเพื่อพัฒนาทักษะในการดำ�เนินธุรกิจและขยายประโยชน์เพื่อสังคมในหลาก หลายแนวทาง อาทิ เช่น การคิดเชิงระบบ (Systems Thinking) ทฤษฏีการเปลี่ยนแปลง (Theory of Change) การตลาดและแบรนด์ (Marketing and Branding) และการนำ�เสนอแผนงาน(Pitching) เป็นต้น 4. Expert Office Hours: การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเพื่อสังคม ได้พบผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ นักธุรกิจ และผู้ประกอบการต้นแบบ เพื่อปรึกษาและเปิดมุมมองในการดำ�เนินงานในหัวข้อต่างๆ 5. Optional Workshop: การอบรมเสริมทักษะที่จำ�เป็นแก่ผู้เข้าร่วมโครงการบางกลุ่ม อาทิ Business Model, Human-Centered Design (HCD) เป็นต้น 6. GLab Ideation Session: ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเข้าพบทีม GLab เป็นการส่วนตัวหรือรายทีมเพื่อขอคำ�ปรึกษาในการปรับแผน โมเดลธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และการบริการต่างๆ 7. On-going Resource Mobilization: กิจกรรมที่ให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้พบปะกับนักลงทุน และ/หรือผู้ที่สนใจสนับสนุนกิจการ/ โครงการเพื่อสังคม ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ อาทิ สถานที่ วัตถุดิบ พันธมิตร เทคโนโลยี องค์ความรู้ในการบริหารงาน จากผู้เชี่ยวชาญ และ/หรือ เงินทุน เป็นต้น เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถขยายกิจการ/โครงการเพื่อสังคม และสามารถดำ�เนินการอย่าง ยั่งยืนต่อไปได้ 8. งานตลาดนัด SE (Social Impact Marketplace) 4

การศึกษา EDUCATION

LEARN EDUCATION SECTOR:

Education

AREA OF WORK: Education and Teacher Development PARTNERS: โรงเรียนสหวิทย์

นำ�เสนอเครื่องมือเพื่อช่วยพัฒนาการเรียนการสอนในห้องเรียน โดยนำ�เทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ สูงสุดในการควบคุมคุณภาพและการขยายตัวอย่างยั่งยืน ปัญหาและที่มา

จากจำ�นวนเด็กทั้งหมดเกือบ 16ล้านคนในประเทศไทย มีเด็ก นักเรียนที่เป็นเด็กด้อยโอกาสกว่า 4 ล้านคน และนักเรียนเลิกเรียน กลางคันสะสมในปี2551-2555 ทั้งสิ้น 271,045 คน นอกจากนี้ การประเมินผลทางการศึกษาของนักเรียนไทยในแต่ละปีก็ตำ�มาก ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค สะท้อนถึงปัญหาทางการศึกษาของ ประเทศ ซึ่งสาเหตุหลักของปัญหาคือทรัพยากรครูทั้งทางปริมาณ และคุณภาพ โดยเฉพาะในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

ผลิตภัณฑ์และบริการ

เครื่องมือช่วยครู ที่ประกอบไปด้วย 1. เนื้อหาการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนรู้สึกสนุกกับการเรียนและมีความ เข้าใจในเนื้อหาได้โดยง่ายซึ่งอยู่ในรูปแบบดิจิตอลไฟล์และหนังสือ 2. ระบบการเรียนที่ช่วยให้การกระจายเนื้อหาการสอนคุณภาพไปสู่ ผู้เรียนในทุกแห่ง 3. กระบวนการ Implement ที่เป็นขั้นตอน ฝึกสอนและพัฒนา คุณครู รวมถึงติดตามผลการใช้ระบบของเราอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• นักเรียนมีวิชาการที่ดี ผลสัมฤทธิ์ดี มีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น • ยกระดับการสอนของครู ให้ครูได้ดูแลนักเรียนได้ใกล้ชิดขึ้น • ยกระดับมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน • ลดความเหลื่อมลำ�ของคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนในเมืองและต่าง จังหวัด

พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ.

2557 2558 2559 2560

ขยายเพิ่มเป็น ขยายเพิ่มเป็น ขยายเพิ่มเป็น ขยายเพิ่มเป็น

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

15 โรงเรียน = 50 โรงเรียน = 100 โรงเรียน = 200 โรงเรียน =

นักเรียน นักเรียน นักเรียน นักเรียน

3,314 คน 16,500 คน 36,500 คน 80,000 คน

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

การสนับสนุนในรูปแบบของเงินสนับสนุนสำ�หรับ 2 โครงการดังนี้ โครงการที่ 1: กระจาย solution เข้าโรงเรียนขนาดเล็ก-กลาง เงินทุนที่ต้องการ: 1,000,000 บาท/โรงเรียน ระยะเวลา 3 ปี ผลที่จะเกิดขึ้น: เป็นเงินทุนในการติดตั้งระบบและ solution ทั้งหมด ของ Learn Education ให้กับโรงเรียนด้อยโอกาส เป็นเวลา 3 ปี ซึ่งจะ ครอบคลุมมอบการศึกษาที่ดีให้นักเรียนได้จำ�นวนทั้งสิ้นราว 1,000 คน โครงการที่ 2: การพัฒนาเนื้อหาใหม เพื่อตอบโจทย์การศึกษาของประเทศ เงินทุนที่ต้องการ: 2,000,000 บาท ผลที่จะเกิดขึ้น: เงินในส่วนนี้จะใช้ในการพัฒนาเนื้อหาด้านคุณธรรมและ การใช้ชีวิต(ซึ่งทางผู้สนับสนุนสามารถร่วมสร้างเนื้อหาได้) เราเชื่อว่าเนื้อหา ประเภทนี้จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสังคมในระยะยาวได้ รวมถึงทำ�ให้ นักเรียนมีชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้เรายังต้องการpartnerที่มีใจด้านการศึกษา และสามารถช่วยเรา ในการscale เผยแพร่solutionนี้ ให้กับโรงเรียนในประเทศไทย เพื่อให้ เกิดผลกระทบต่อสังคมอย่างยั่งยืน

บริหารจัดการ: คุณธานินทร์ ทิมทอง

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

081-771-1101

Email:

tanin@learn.co.th

Website:

www.learneducation.co.th

Facebook:

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ชนะเลิศรางวัล Change Award จากการประกวดSE Award โดย สำ�นักงานส่งเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ได้รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท

WIN PHYSICS SECTOR:

Education

AREA OF WORK: Free Tuition Website PARTNERS: Ashoka Thailand, Change Fusion, Banpu

“เราจะทำ�ให้เด็กมัธยมปลายทุกคนสามารถเรียนฟิสิกส์กันแบบง่ายๆ จากที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ แต่สามารถทำ� ข้อสอบได้ทั่วโลก” ปัญหาและที่มา

ภาระงานของครูและสัดส่วนของนักเรียนต่อครูที่สูงขึ้นทำ�ให้คุณภาพ การศึกษาของประเทศไทยอยู่สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ปัญหานี้อาจ จะส่งผลกระทบน้อยกับนักเรียนบางส่วนที่มีกำ�ลังทรัพย์สำ�หรับการ เรียนเสริมในสถาบันกวดวิชา แต่นักเรียนกว่าครึ่งประเทศยังเข้าไม่ ถึงการเรียนการสอนที่ดีและครูกว่าค่อนประเทศยังต้องการเครื่อง มือสนับสนุนการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์และบริการ

เว็บไซต์ www.WinPhysics.com ที่ประกอบด้วย • วีดีโอประกอบการเรียนการสอนฟิสิกส์ • ระบบสอบก่อนและหลังเรียน • ระบบจัดการข้อมูลเพื่อใช้ในการสนับสนุนการสอนของครู

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• นักเรียนในระดับม.ปลายสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนฟิสิกส์ที่มี คุณภาพอ้างอิงเนื้อหาจากหลักสูตรชั้นนำ�ทั่วโลกเช่น SAT, IGCSE, OCR, IB, A-level ในรูปแบบวีดีโอที่บรรยายเป็นภาษาไทยควบคู่กับภาษา อังกฤษ • ครูสอนฟิสิกส์มีเครื่องมือในการในติดตามพัฒนาการของเด็กแบบเป็น รายบุคคลหรือทั้งห้องเรียน ผ่านทางคะแนนสอนก่อนและหลังเรียน ซึ่ง WinPhysics ได้จัดเรียงไว้เป็นหมวดหมู่ง่ายต่อการวิเคราะห์

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• WinPhysics สามารถอยู่ได้จากการขายไอเท็มในเกมส์ออนไลน์และการ ขายโฆษณา • มีสื่อการเรียนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษเพื่อขยายกลุ่มนักเรียนเป้าหมาย และเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กไทยสำ�หรับการมากถึงของ AEC • ขยายเนื้อหาไปยังวิชาอื่นๆ เช่น คณิ ตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ภาษาอังกฤษ

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

• ต้องการเงินทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาเกมส์ออนไลน์ที่ใช้ในการเรียนฟิสิกส์ เกมส์แรกของโลก งบประมาณที่จะใช้ในส่วนนี้ประมาณ 1,500,000บาท • ต้องการเงินทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการทำ� workshop ในการพัฒนา ศักยภาพของครูสอนฟิสิกส์ให้สามารถใช้เครื่องมือของ Winphysics ใน การสนับสนุนการเรียนการสอนในห้องเรียนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดผลกระทบต่อสังคมอย่างยั่งยืน

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ: นาย สุทธิชัย บุญประสพ (วิน) โทรศัพท์:

083-606-0808

Email:

Sutthichai.bs@gmail.com

Website:

www.winphysics.com

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

Facebook: 7

A-CHIEVE SECTOR:

Education

AREA OF WORK: การแนะแนวอาชีพ, การแนะแนวสำ�หรับนักเรียนม. 1-6 PARTNERS: องค์กรทำ�งาน 35 องค์กร และพี่ต้นแบบอิสระ อีกกว่า 40 ท่าน, a day foundation, CP All, Blackberry, Junior Achievement Thailand, Adecco

“อาชีพที่ใช่ ชีวิตที่ชอบ” จัดกิจกรรม และสร้างสื่อให้ข้อมูลอาชีพในรูปแบบต่างๆ เพื่อทำ�ให้เด็กมัธยมมีแรง บันดาลใจ ข้อมูล และประสบการณ์ตรง ทำ�ให้เลือกอนาคตเองได้ ปัญหาและที่มา

ปัจจุบันนักเรียนมัธยมในประเทศไทยส่วนใหญ่ไม่มีเป้าหมายชีวิต และไม่สามารถให้คำ�ตอบได้ว่า โตขึ้น อยากจะประกอบอาชีพอะไร อาชีพไหนที่จะเหมาะสมกับตัวเขา ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งสำ�คัญสำ�หรับการ ตัดสินใจเลือกเส้นทางการศึกษา การวางแผนชีวิตและการทำ�งาน ทำ�ให้พวกเขาไม่มีความสุขในการประกอบอาชีพ ทำ�งานไม่เต็ม ศักยภาพและประเทศชาติสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีโอกาสกลาย เป็นผู้เชี่ยวชาญ ขาดความหลากหลายในอาชีพ

ผลิตภัณฑ์และบริการ

บริการมีทั้งแบบที่เก็บค่าเข้าร่วมและขายสปอนเซอร์ ดังนี้ > กิจกรรมที่เก็บค่าเข้าร่วมจากเด็ก 2 กิจกรรม คือ a-chieve shadow: โตแล้วไปไหน? และ a-chieve openworld เปิดโลกอาชีพ > กิจกรรมที่ขายสปอนเซอร์ 2 กิจกรรม คือ Talk ชิด with พี่ต้นแบบอาชีพ นร. 25 คน/ครั้ง เพื่อให้นร.ได้ถาม คำ�ถามกับพี่ต้นแบบที่ทำ�งานอยู่อย่างใกล้ชิดพร้อมจัดทำ�สื่อเผยแพร่ เทศกาล ฟัก ฝัน เฟส ขนาด 5,000 คน เพื่อเรียนรู้ข้อมูลอาชีพที่ เด็กมัธยมจะได้พูดคุยหรือลองปฏิบัติการจริงกว่า 40 อาชีพ

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• จัด a-chieve shadow: เด็กที่เข้าร่วม >90% มีการตัดสินใจที่ดีขึ้น • จัด a-chieve openworld: ได้รับผลโหวตว่า 73% เข้าใจอาชีพมากขึ้น • Talk ชิด with พี่ต้นแบบอาชีพ: เด็ก >90% รู้สึกได้รับคำ�ตอบครบถ้วน • เทศกาล ฟัก ฝัน เฟส: มีผู้สมัครที่ล้นเกินที่จะรับได้ถึง 6,000 กว่าคน ผลคือ เด็กที่เข้าร่วมกว่า 91% ที่กลับไปพร้อมแรงบันดาลใจที่จะเริ่มค้นหา อาชีพและกล้าที่จะถามผู้ใหญ่มากขึ้น

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

1. ดำ�เนินกิจกรรมที่เก็บค่าใช้จ่ายจากเด็กและที่เปิดรับ Sponsorship ตลอดปีเพื่อสร้างรายได้เข้าองค์กร 2. สร้างฐานข้อมูลเว็บไซต์ที่มีข้อมูลอาชีพที่ตรงกับความต้องการของเด็ก มัธยม ผู้ปกครองและครูแนะแนว 3. ขยายเครือข่ายพี่ต้นแบบอาชีพและครูแนะแนว เพื่อสร้างความร่วมมือใน อนาคต 4. Research insight เด็กมัธยม และพัฒนา content ขององค์กร

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

Sponsorship • สปอนเซอร์ 350,000 บาท สำ�หรับจัดกิจกรรม Talk ชิด with พี่ต้นแบบ อาชีพ จำ�นวน 14 ครั้ง (เด็กเข้าร่วมรวม 350 คน) พร้อมจัดทำ�สื่อการเรียน รู้ด้วยเนื้อหาที่ได้รับจากกิจกรรมให้เด็กมัธยมในวงกว้างต่อไป • สปอนเซอร์ 3,000,000 บาท สำ�หรับจัดเทศกาล ฟัก ฝัน เฟส ขนาด 5,000 คน ในเดือนตุลาคม 2558 จำ�นวน 1 ครั้ง Investment • เงินลงทุน 200,000 บาทสำ�หรับทดลองจัดกิจกรรม a-chieve openworld จำ�นวน 1 ครั้ง/สายอาชีพ เพื่อทดลองเก็บค่าเข้าร่วมจากเด็ก มัธยม • เงินลงทุน 100,000 บาท สำ�หรับรวบรวมข้อมูลอาชีพ 50 อาชีพ พร้อม เผยแพร่ให้กับเด็กมัธยม ผู้ปกครอง และครูแนะแนวทั่วประเทศผ่านทาง เว็บไซต์

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ: นายนรินทร์ จิตต์ปราณีชัย, นายภูมิสิทธิ์ ศิระศุภฤกษ์ชัย โทรศัพท์:

087-610-2391, 081-423-3323

Email:

info@a-chieve.org

Website:

www.a-chieve.org

Facebook:

www.facebook.com/achieve.org

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ชนะเลิศการประกวดแผนธุรกิจเพื่อสังคมโครงการ Banpu Champion4change และโครงการ UnLtd Thailand

AFTERWORD SECTOR:

Publishing/Content

AREA OF WORK: Crowdfunding/Book Financing PARTNERS: สำ�นักพิมพ์ Happening

ระดมทุนผลิตหนังสือดีโดยนักเขียน สำ�นักพิมพ์เสนอผลงานเข้ามา นักอ่านร่วมกันสนับสนุนให้โครงการหนังสือ เกิดขึ้นตามเป้าหมายระดมทุน ปัญหาและที่มา

การผลิตหนังสือในระบบปัจจุบันไม่เอื้อต่อหนังสือที่มีคุณค่าแต่ มีตลาดเล็กเพราะว่ามีการแข่งขันสูง ความเสี่ยงสูง และไม่ได้ Economies of scale

ผลิตภัณฑ์และบริการ

Afterword ช่วยในการหาทีมงานทำ�หนังสือ การบริการ platform สำ�หรับระดมทุนทำ�หนังสือโดยเฉพาะ จัดส่ง และช่วยกระจาย หนังสือหลังจากระดมทุนสำ�เร็จ

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• หนังสือที่ดีมีคุณภาพเกิดได้มากขึ้น • มีคนอยากทำ�หนังสือที่มีคุณค่ามากขึ้น • ลดการใช้ทรัพยากรในการพิมพ์ • เพิ่มรายได้ให้กับนักเขียนซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงาน • นักอ่านมีโอกาสซื้อหนังสือในราคาที่ถูกลง

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• เกิดหนังสือดีที่เป็นทางเลือกของตลาด ไม่ตำ�ว่า 30 หัวเรื่องต่อปี • เกิดแนวหนังสือใหม่ในตลาดไม่ตำ�กว่า 3 แนวทาง • เกิดกลุ่มผู้อ่านเฉพาะมากขึ้น • เป็นแนวทางหลักให้กับนักเขียนและสำ�นักพิมพ์ในการพิมพ์หนังสือเนื้อหา เฉพาะทาง

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

• เงินทุน 200,000 บาท ในการพัฒนาระบบเว็บไซต์ • เงินทุน 250,000 บาท ในการดำ�เนินโครงการ Afterword Fellowship ซึ่งเป็นโปรแกรม 1 ปี สำ�หรับคนที่สนใจทำ�งานกับ Afterword ในตำ�แหน่ง fellow • เงินทุน 100,000 บาท ในการทำ�การประชาสัมพันธ์โครงการ • ที่ปรึกษาด้านบัญชี/กฎหมาย ที่เกี่ยวกับการระดมทุน

บริหารจัดการ: กิตติศักดิ์ ปัญญาจิรกุล

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

087-126-5348

Email:

contact@afterword.co

Website:

www.afterword.co

Facebook:

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

• Finalist in Banpu Champions for Change 2014, won a 50,000-baht reward • Finalist in DTAC Accelerate 2014 (Incubation Track) • Finalist in AIS Startup 2014 (Social Business Track) • ได้รับเงิน 50,000 บาท จาก Ashoka Thailand

BEGIN @ HOME SECTOR:

Education

AREA OF WORK: Family and Learning PARTNERS: สมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย, Homeschool

Network

ธุรกิจเพื่อสังคมที่หนุนหลังให้พ่อแม่ทำ� “โฮมสคูล” การศึกษาด้วยความสุข ทำ�ได้เองที่บ้าน ปัญหาและที่มา

ในรั้วโรงเรียนปัญหามากมายที่ซุกอยู่ใต้พรม คุณครูดูแลเด็กจำ�นวน มากได้ไม่ทั่วถึง โฮมสคูลจึงได้รับความสนใจจากพ่อแม่ในฐานะ ทางเลือกที่ดีกว่า ปัจจุบัน 500 ครอบครัว มีแนวโน้มจะขยายตัว แบบก้าวกระโดด แต่ปัญหาปัจจุบันยังคงเผชิญกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมี ทัศนคติปิดกั้น จึงเป็นงานหนักของเครือข่ายที่ต้องอาศัยการผลักดัน อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของ Begin@Home เพื่อจัดตั้งกองทุน ขับเคลื่อนความก้าวหน้าของเครือข่ายโฮมสคูลในระยะยาว

ผลิตภัณฑ์และบริการ

Marketplace Project ตลาดรวบรวมผลิตภัณฑ์ในกิจการของ ครอบครัวโฮมสคูล อาทิเช่น • ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ข้าวอินทรีย์ บ้านเรียนน้องบอส จ.อุทัยธานี • ธัญพืชพร้อมชงดื่มและข้าวพอง บ้านเรียนอัศวินดาส จ.เลย • ผลิตภัณฑ์เซรามิค งานดินปั้น บ้านเรียนดารัณดา จ.ลำ�ปาง • หมอนรองคอ หนุนหลังเพื่อสุขภาพ • ผลิตภัณฑ์เนยถั่ว บ้านเรียน Bogy Bong จ.แม่ฮ่องสอน

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ยกระดับสินค้าครอบครัวสู่การเป็น ผลิตภัณฑ์เพื่อสังคม • เรียกคืนสิทธิตามธรรมชาติ “พ่อแม่คือครูคนแรกของลูก” • เพิ่มจำ�นวนครอบครัวผู้จัดโฮมสคูลอย่างมีคุณภาพ • เกิดการตระหนักคุณค่าของการศึกษาที่ผู้เรียนเป็นเจ้าของการเรียนรู้ • สร้างมิติใหม่ในการทำ�งานร่วมกับภาครัฐบนฐานองค์ความรู้ทางวิชาการ

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• ทำ�รายได้สนับสนุนกองทุนขับเคลื่อนงานไม่ตำ�กว่าปีละ 3 แสนบาท • ลงทุนพัฒนาระบบฐานข้อมูลสนับสนุน เช่น เว็บไซด์ หนังสือ สร้างความ มั่นใจให้แก่ครอบครัวใหม่ • เป็นองค์กรกลางเชื่อมความช่วยเหลือระหว่างเครือข่ายโฮมสคูลทุกสังกัด • หนุนเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายโฮมสคูลทั้ง 4 ภูมิภาค • เป็นส่วนหนึ่งของภาคีขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาไทย

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

• การออกร้านประจำ�เดือน เป็นช่องทางทำ�ให้สินค้าและเป้าหมายของ องค์กรเป็นที่รับรู้ นอกจากนั้นเป็นโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนรับฟังผลตอบรับ โดยตรงจากลูกค้าเพื่อพัฒนากิจการ • เพิ่มช่องทางการจำ�หน่าย ให้ผลิตภัณฑ์กระจายไปสู่ตลาดผู้บริโภคในวง กว้างขึ้น • ผู้เชี่ยวชาญให้คำ�ปรึกษาด้านการพัฒนาสินค้า สำ�หรับผลิตภัณฑ์ใน เครือข่ายที่ยังขาดการตอบโจทย์การตลาดหรือสิ่งแวดล้อม

บริหารจัดการ: วรวัส สบายใจ

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

095-691-9367

Email:

BeginAtHome2557@gmail.com

Website:

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

Facebook: 10

CAREER VISA THAILAND SECTOR:

พัฒนาทรัพยากรคน

AREA OF WORK: Education, Youth Employment PARTNERS: Asia Internship Program, Mind Dojo

Turning youth into professional talents through integrated career development program เปลี่ยนนักศึกษาให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความเป็นมืออาชีพ ผ่านทางการส่งเสริมความรู้เพื่อค้นหาอาชีพ การพัฒนาทักษะ และจัดหาโปรแกรมฝึกงานคุณภาพ ปัญหาและที่มา

• มหาวิทยาลัยในไทยยังคงขาดระบบของศูนย์แนะนำ�อาชีพที่มี ประสิทธิภาพ และการศึกษาภายในห้องเรียนไม่สามารถตอบโจทย์ ในการค้นหาอาชีพ และพัฒนาทักษะได้อย่างครบถ้วน • ปัจจุบันราว 30% ของแรงงานไทยซึ่งเป็นกลุ่ม Gen Y ยังคงขาด เป้าหมายทางด้านอาชีพ เป็นปัจจัยส่งผลให้นายจ้างประสบปัญหา Turnover ที่สูงกว่าปกติ และในอีกประมาณ 5 ปีข้างหน้า กลุ่มคน เหล่านี้จะเพิ่มเป็น 40% ซึ่งจะส่งผลต่อ productivity ของสังคมไทย

ผลิตภัณฑ์และบริการ

• Career Exploration • กิจกรรมสำ�หรับนักศึกษาในการหา แรงบันดาลใจทางด้านอาชีพ • Career Bootcamp • กิจกรรมเตรียมความพร้อมทักษะทาง ด้านอาชีพให้กับนักศึกษา • Career Simulation • เว็บไซต์รวบรวมแหล่งฝึกงานเรียนรู้ผ่าน โปรเจคฝึกงานแบบมืออาชีพ

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ระดับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกอาชีพที่เพิ่มขึ้น • ระดับความพึงพอใจในอาชีพแรกของนักศึกษาที่ผ่านโครงการที่สูงขึ้น • ระยะเวลาในการค้นหานักศึกษาจบใหม่ที่เหมาะสมกับตำ�แหน่งที่ลดลง • ระยะเวลาในการทำ�งานกับบริษัทที่ยาวขึ้น • ระดับความพึงพอใจของนายจ้างจากผลงานของนักศึกษาที่ผ่านโครงการที่ สูงขึ้น

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• 50% ของนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร และ20% ของ นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในเขตต่างจังหวัดที่ศึกษาในคณะในกลุ่มเป้า หมายมีโอกาสเข้าถึงโปรแกรมฝึกงานที่มีคุณภาพ • 30% ของนักศึกษาที่ผ่านการอบรมทักษะทางอาชีพ • พัฒนาฐานข้อมูลโปรแกรมฝึกงานครอบคลุม 100% ในบริษัทที่เป็นกลุ่ม เป้าหมาย”

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

• เงินทุนสนับสนุนจากบริษัทในการสร้างเว็บไซต์และฐานข้อมูลเกี่ยวกับ โปรเจคฝึกงานเพื่อให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมผ่านทาง ระบบออนไลน์ • ที่ปรึกษาทางด้านเทคโนโลยี สามารถให้คำ�แนะนำ�ในการสร้างธุรกิจเกี่ยว กับเว็บไซต์จัดหางาน หรือ content strategy • อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษา ให้คำ�แนะนำ�ใน การพัฒนาหลักสูตรทักษะทางอาชีพที่นักศึกษายังคงขาด

บริหารจัดการ: พิน เกษมศิริ

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

089-776-3203

Email:

pin.kasemsiri@careervisathailand.com

Website:

www.careervisathailand.com

Facebook:

www.facebook.com/careervisathailand

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

การเกษตรและสิ่งแวดล้อม AGRICULTURE /ENVIRONMENT

MIVANA SECTOR:

Organic Beverages

AREA OF WORK: Forest Conservation, Comm. Dev., Organic, Fair Trade PARTNERS:

Earth Net Foundation/Green Net, Khun Chae National Park

ส่งเสริม ผลิตและจัดจำ�หน่าย กาแฟอินทรีย์รักษาป่า โดยการมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ดีเลิศ ร่วมกับการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกรและชุมชน และการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ� ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปัญหาและที่มา

พื้นที่ป่าไม้ในประเทศไทย ได้ถูกบุกรุกทำ�ลายไปกว่าครึ่งใน 50 ปี ที่ผ่านมา กาแฟเป็นพืชที่ต้องการร่มเงาสูง เกษตรกรสามารถปลูก โดยไม่ต้องไปตัดไม้ทำ�ลายป่า อีกทั้งกาแฟอินทรีย์ที่ปลูกในป่าจะให้ ผลผลิตที่มีคุณภาพทั้งกลิ่นและรสชาติดีกว่ากาแฟกลางแจ้งที่ใช้สาร เคมี

ผลิตภัณฑ์และบริการ

กาแฟอินทรีย์ที่ปลูกในป่าซึ่งมีคุณภาพยอดเยี่ยมได้รับรางวัลกาแฟ คุณภาพอันดับ 1 ของประเทศไทย 2 ปีซ้อน เป็นกาแฟอินทรีย์ที่ได้ รับการรับรองมาตรฐานอินทรีย์ในระดับสากล ช่วยรักษาผืนป่า ต้นนำ� และรับซื้อจากเกษตรกรด้วยราคาที่เป็นธรรม ช่วยให้ เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมั่นคง กาแฟดังกล่าวจึงเป็นมิตรกับทั้ง สิ่งแวดล้อม เกษตรกร และผู้บริโภค

• • • • • •

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ฟื้นฟูป่าจากพื้นที่การเกษตรที่เข้าร่วมโครงการ 7,000 ไร่ เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มจากการขายกาแฟ ในราคาที่เป็นธรรม กลุ่มเกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการแปรรูปกาแฟ ในราคาที่เป็นธรรม การจ้างงานของกลุ่มเกษตรกรภายในชุมชน สุขภาพและความปลอดภัยของเกษตรกร และผู้บริโภค การลดลงของความขัดแย้งระหว่างรัฐและชาวบ้าน

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

1. ต้นแบบในการอนุรักษ์ป่าต้นนำ�ในพื้นที่ที่เป็นเขตกันออก 2. ปกป้องและฟื้นฟูป่า 10,000 ไร่ 3. กาแฟที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยชนะการประกวดกาแฟนานาชาติ 4. มีผลผลิตกาแฟ 500 ตันต่อปี 5. ต้นแบบของการทำ�กิจการเพื่อสังคมที่ประสบความสำ�เร็จอย่างยั่งยืน

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

เพื่อที่จะสามารถจัดจำ�หน่ายผลผลิตที่มี ให้โครงการฯสามารถดำ�เนินการ บรรลุวัตถุประสงค์ที่มีได้ โครงการต้องการสนับสนุนในด้านต่างๆดังนี้ • การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด • การจัดจำ�หน่ายและช่องทางการจัดจำ�หน่ายสินค้า • การวางแผนและวางระบบแฟรนไชส์ • การสร้างแบรนด์ • การสื่อสาร และการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ • การออกแบบบรรจุภัณฑ์

บริหารจัดการ: ธีรสิทธิ์ อมรแสนสุข

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

02-933-9451

Email:

t.saensuk@gmail.com

Website:

www.greennetse.com

Facebook:

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

• แผนธุรกิจเพื่อสังคมดีเด่น สำ�นักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ • Best Quality Award – Thailand Coffee, Tea and Drink 2013, 2014

GREEN GROWTH SECTOR:

เกษตรอินทรีย์ และสิ่งแวดล้อม

AREA OF WORK: เกษตรอินทรีย์กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต PARTNERS:

มูลนิธิชีววิถี, มูลนิธิข้าวขวัญ, สำ�นักงานพาณิชย์, สำ�นักงาน พัฒนาชุมชน, สำ�นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, ฯลฯ

มีเป้าหมายเพื่อลดการใช้สารเคมีและขยายพื้นที่การทำ�เกษตรอินทรีย์ในสังคมชนบท รักษา และปกป้องฐานความ มั่นคงทางอาหาร แปรรูปสินค้าเกษตรอินทรีย์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เชื่อมโยงพลังผู้บริโภคในสังคมเมืองให้มาสนับ สนุนโอบอุ้มช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยให้ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า สร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อนำ�ไปสู่ สังคมสุขภาวะ ปัญหาและที่มา

การใช้สารเคมีการเกษตร ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ราคา ผลผลิตตกตำ� เนื่องจากเน้นการผลิตในเชิงปริมาณ มากกว่าเชิง คุณภาพ เกษตรกรรายย่อยถูกกีดกัน และไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางการค้า เกิดเป็นปัญหาหนี้สิน ขาดการรวมกลุ่มเพื่อสร้างอำ�นาจ ต่อรอง ขาดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยตำ� คนในสังคมเมือง ประสบปัญหาสุขภาพ เกษตรกรไม่มีความภาคภูมิใจในอาชีพ เกษตรกรรมของตนเอง สิ่งแวดล้อมต่างๆ ถูกทำ�ลาย

ผลิตภัณฑ์และบริการ

1. สินค้า Organic แปรรูป (เกษตรอินทรีย์) อาทิเช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช (ถั่วเขียว แดง ดำ� ขาว และถั่วเหลือง) สมุนไพรชงดื่ม แชมพู มะกรูด สบู่จากสมุนไพรธรรมชาติ มูลไส้เดือน ปุ๋ยอินทรีย์ ฯลฯ 2. เมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นบ้าน ธัญญพืชต่างๆ Organic Non•GMO 3. คอร์สฝึกอบรมให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำ�เกษตรอินทรีย์ ให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่และบุคคลที่สนใจทั่วไป 4. เงินลงทุน (Microfinance) ดอกเบี้ยตำ�ให้กับเกษตรกรรายย่อย

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร เพิ่มพื้นที่ทำ�เกษตรอินทรีย์ของอุทัยธานี • ปกป้องพื้นที่ความมั่นคงทางอาหาร (ดิน นำ� อากาศ ป่าไม้) ของอุทัยธานี • สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ด้วยระบบการค้าที่เป็นธรรม (Fair Trade) • สร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ให้ลุกขึ้นมาปกป้องที่ดินทำ�กินของตน • สร้างสมดุลในระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม • ผู้ผลิตและผู้บริโภคตระหนักร่วมกันถึงพิษภัยอันตรายของสารเคมี เกิดการ ช่วยเหลือโอบอุ้มกันระหว่างคนในสังคมเมืองกับสังคมชนบท

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

ขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้ได้ตามเป้าหมายดังนี้ ปี 2558 = 1,000 ไร่ ปี 2559 = 2,000 ไร่ ปี 2560 = 4,000 ไร่ ปี 2561 = 8,000 ไร่ ภายในปี 2562 = 10,000 ไร่

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

ต้องการการสนับสนุนในที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการ วางแผน และเงิน ลงทุนเพื่อขยายกิจการ เพื่อขยายพื้นที่การทำ�เกษตรอินทรีย์ ทั้งในรูปแบบ เงินทุนแบบให้เปล่า เพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงและรับผิดชอบสังคมร่วม กันจากบริษัทที่ต้องการทำ� CSR จำ�นวน 20 บริษัท บริษัทละ 5 ล้านบาท , แบบร่วมทุน หรือแบบกู้ยืมดอกเบี้ยตำ� เพื่อนำ�ไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. นำ�ไปจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรอินทรีย์ ที่ได้ มาตรฐาน GMP ส่งออก เครื่องจักร คลังเก็บสินค้า ออกแบบพัฒนาบรรจุ ภัณฑ์ บริหารจัดการ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฯลฯ 2. นำ�ไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อผลผลิต Organic จากเกษตรกร รายย่อยแบบ Contract Farming เพื่อให้เกิดระบบการค้าที่เป็นธรรม (Fair Trade) 3. นำ�ไปจัดตั้งเป็นสถาบันการเงินชุมชนเพื่อเป็นกองทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ชุมชน เพื่อให้เกษตรกรรายย่อย สามารถเข้าถึงเงินลงทุนดอกเบี้ยตำ� เพื่อ นำ�ไปส่งเสริมอาชีพ ลงทุนปรับปรุงระบบนำ�เพื่อใช้ในฟาร์ม ทำ�แนวกันชน ปัจจัยการผลิต เงินช่วยเหลือเวลาประสบปัญหาภัยแล้ง และนำ�ท่วม ฯลฯ

บริหารจัดการ: นายธีรภัทร เทพพันธ์

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

086-324-6400, 086-323-0009

Email:

trptp@hotmail.com

Website:

Facebook:

www.facebook.com/greengrowthshop

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ชนะเลิศการประกวด แผนธุรกิจกิจการเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม จาก สำ�นักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ปี 2555 ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท

FOLKRICE SECTOR:

เกษตรกรรม

AREA OF WORK: เกษตรกรรุ่นใหม่ตามภูมิภาคต่างๆ ผู้บริโภคคนเมือง PARTNERS: เครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ทั่วประเทศ

ช่องทางจำ�หน่ายข้าวที่ผลิตจากเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อสนับสนุนการทำ�เกษตรของคนรุ่นใหม่ให้ยั่งยืน

ปัญหาและที่มา

ในประเทศไทยข้าวพันธุ์พื้นเมืองกำ�ลังจะสูญพันธุ์ ส่งผลให้ความ หลากหลายของพันธุกรรมข้าวลดลง เครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่รวม ตัวกันเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่กำ�ลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะข้าวพันธุ์พื้น เมืองที่ไม่ได้รับความนิยมเนื่องมาจากขาดการสื่อสารทางการตลาด และวิจัยอย่างจริงจัง ทำ�ให้คนทั่วไปไม่ทราบว่าการบริโภคข้าวพื้น เมืองนั้นนอกจากจะได้ความหลากหลายทางโภชนาการแล้ว ยังช่วย รักษาสมดุลของระบบนิเวศและสังคมเกษตรกรรมอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์และบริการ

จำ�หน่ายข้าวพื้นเมืองภายใต้แบรนด์ Folk Rice โดยมีบริการส่งถึง บ้าน ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น www.folkrice.com, www.lazada.co.th

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ข้าวพื้นเมืองเจริญเติบโตได้ดีในระบบนิเวศที่เหมาะสมต่อแต่ละสายพันธุ์ จึงทำ�ให้ข้าวมีความทดทาน แข็งแรง ไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีในการจัดการ • ข้าวพื้นเมืองมีคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้บริโภค • ภายใต้ความแปรปรวนของฤดูที่รุนแรงมากขึ้น เกษตรกรที่ปลูกข้าวพื้น เมืองหลากหลายสายพันธุ์ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการผลิตได้เป็นอย่างดี • ช่วยรักษาฐานทางพันธุกรรม เพื่อคัดเลือก ปรับปรุงและผสมพันธุ์ข้าวใหม่ • เกษตรกรรุ่นใหม่มีช่องทางรายได้เพิ่มขึ้น

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

วางจำ�หน่ายข้าวพันธุ์พื้นเมืองอย่างน้อย 20 สายพันธุ์ให้ได้ภายใน 5 ปี

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

เงินลงทุนจำ�นวน 700,000 บาท เพื่อทำ� application สำ�หรับเป็นช่องทางเช็คสต๊อกผลผลิต(ข้าว) และเป็น ช่องทางในการจำ�หน่ายสินค้า และติดตามตรวจสอบกระบวนการผลิตของ เกษตรกร เพื่อวางแผนกระจายสินค้า

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ:

เครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ 5 หมู่ที่ 2 ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ 32130

โทรศัพท์:

081-439-0736

Email:

saipet999@gmail.com

Website:

www.folkrice.com

Facebook:

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ธัญญเจริญผล

SECTOR:

เกษตรกรรม

AREA OF WORK: บูรณาการความรู้ ด้านเกษตร, ชุมชน, การตลาด, ฯลฯ PARTNERS: ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์, กลุ่มเครือ ข่ายชาวนา(วิสาหกิจชุมชน), มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยาม ยาก, ธ.ก.ส.

ส่งเสริมให้ชาวนาหันมาทำ�เกษตรอินทรีย์แทนการทำ�เกษตรโดยใช้สารเคมีปริมาณมาก เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ของชาวนา และเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัย ปัญหาและที่มา

• ชาวนาประสบปัญหาทำ�นาแล้วขาดทุน ตกอยู่ในการค้าที่ไม่เป็น ธรรม มีต้นทุนสูงจากการใช้สารเคมีในการผลิต และขายข้าวไม่ได้ ราคา ทำ�ให้เกิดหนี้สินตามมามากมาย และสูญเสียที่ดินทำ�กินใน ที่สุด ทั้งยังเสียสุขภาพเพราะการใช้สารเคมีอีกด้วย • ผู้บริโภคได้รับสารพิษจากการทานอาหารที่เต็มไปด้วยสารเคมี • สิ่งแวดล้อมที่เคยอุดมสมบูรณ์ถูกทำ�ลาย และปนเปื้อนไปด้วยสาร เคมีจนไม่สามารถได้ผลผลิตที่ดี

ผลิตภัณฑ์และบริการ

ผลิตภัณฑ์ ธัญญเจริญผล จัดจำ�หน่ายข้าวกล้องอินทรีย์และจมูกข้าว กาบา ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ใบบุญ” เพื่อกระจายสินค้าและ ข้อมูลสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้ถึงมือผู้บริโภค บริการ ธัญญเจริญผล ให้บริการส่งเสริมการทำ�นาตามวิถีเกษตร อินทรีย์ โดยมีทีมวิทยากรในการลงพื้นที่ให้ข้อมูลและคำ�ปรึกษาแก่ เกษตรกรในการทำ�เกษตรอินทรีย์ ซึ่งมีการจัดทำ�มาตรฐานเกษตร อินทรีย์ IFOAM เพื่อให้ผลผลิตได้รับการรับรองในระดับสากล

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ชาวนาสามารถลดต้นทุนการผลิตและปลดหนี้ได้ เข้าใจในวิถีเกษตร อินทรีย์ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น • ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยจากสารเคมี สุขภาพแข็งแรง ห่าง ไกลจากโรคภัย • สิ่งแวดล้อมฟื้นฟูจากการถูกทำ�ลายโดยสารเคมี และกลับคืนสู่ความอุดม สมบูรณ์อีกครั้งด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์และการพึ่งพาอาศัยอย่างสมดุลของ ระบบนิเวศ

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

1. ขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในโครงการข้าวอินทรีย์ธัญโอสถให้ได้เป็น 30,000 ไร่ ภายในปี 2559 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินี เนื่องใน วโรกาสพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา 2. เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำ�เกษตรอินทรีย์อย่างลึกซึ้ง และเกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง ทำ�ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆ ปี (วัดผลโดยการวิจัยโดยใช้เครื่องมือประเมินผลตอบแทนทางสังคม SROI)

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

ธัญญเจริญผลกำ�ลังจับมือเป็นพันธมิตรกับหลายองค์กรเพื่อจะทำ�ให้เกิดการ พัฒนาด้านเกษตรอินทรีย์ในประเทศ โดยขณะนี้เน้นไปที่การส่งเสริมปลูก ข้าวอินทรีย์ธัญโอสถ ซึ่งโครงการดังกล่าว ยังขาดแคลนและมีความต้องการ งบประมาณเพื่อทำ�ให้เป้าหมายบรรลุผลสำ�เร็จ ดังต่อไปนี้ 1. งบประมาณ/ เงินทุนเพื่อการก่อตั้งโรงสีเกษตรอินทรีย์ เพื่อรองรับการ แปรรูปผลผลิตที่ได้จากการส่งเสริมปลูกข้าวอินทรีย์ เพราะการจะเป็นเกษตร อินทรีย์ได้อย่างสมบูรณ์ จะต้องเป็นอินทรีย์ทั้งระบบ ไม่ใช้โรงสีปะปนกับ ผลผลิตที่ได้จากการใช้สารเคมีทั่วไป 2. งบประมาณ/ เงินทุนเพื่อการก่อสร้างโรงเก็บรักษาผลผลิตในแต่ละเขต พื้นที่ (มีการรับซื้อข้าวและเคลื่อนย้ายมาเก็บไว้ที่โรงเก็บประจำ�ภูมิภาค) ซึ่ง เก็บเฉพาะผลผลิตที่ได้จากการทำ�เกษตรอินทรีย์เท่านั้น ไม่ปะปนกับผลผลิต เกษตรเคมี รวมถึงใช้เป็นศูนย์กลางสำ�หรับเก็บรักษาอุปกรณ์เครื่องมือใน การทำ�เกษตรอินทรีย์ด้วย

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ: บริษัท ธัญญเจริญผล จำ�กัด (ธุรกิจเพื่อสังคม) โทรศัพท์:

044-681-780, 084-920-8758

Email:

tunyajaroenphon@gmail.com

Website:

Facebook:

www.facebook.com/tunyajaroenphon

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

1. ทุนสนับสนุนการจัดกิจกรรม “เกษตรกรกล้าใหม่” จากมูลนิธิ สยามกัมมาจล (ปี 2557) 2. ทุนสนับสนุนการทำ�วิจัยผลตอบแทนทางสังคม (SROI) สำ�หรับโครงการ ข้าวอินทรีย์ธัญโอสถ จากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก (ปี 2557)

GRASSROOT INNOVATION SECTOR:

Agricultural & Rural Development

AREA OF WORK: Organic Farming & Appropriate Technology PARTNERS: Grassroots Innovation Network

บริการเกษตรอินทรีย์ครบวงจรสำ�หรับเกษตรกรรายย่อย เพื่อสร้างทางเลือกที่ดีในการประกอบอาชีพ และความเป็นอยู่ที่ดีของคนชนบท

• • • • •

ปัญหาและที่มา

แนวโน้มความสนใจในการทำ�เกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรลดลง เกษตรกรอยู่ห่างไกลจากร้านค้าปัจจัยการผลิต และผู้เชี่ยวชาญ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและความผันผวนของตลาดสินค้าเกษตร เกษตรกรขาดความรู้ความเข้าใจในการทำ�เกษตรอินทรีย์ เคมีเกษตรมีผลกระทบต่อสุขภาพเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมชนบท

ผลิตภัณฑ์และบริการ

“เกษตรพันธะสัญญาชุมชน” ( Social Contract Farming ) • สินเชื่อปัจจัยการผลิตอินทรีย ส่งมอบให้เกษตรกรในพื้นที่ชนบท โดยไม่ต้องจ่ายเงินสด ให้รายย่อยสามารถเริ่มทำ�เกษตรอินทรีย์ได้ • บริการให้คำ�ปรึกษาในพื้นที่ทำ�กินและผู้เชี่ยวชาญภาคสนาม โดย การตรวจสภาพดิน อากาศ นำ� ฯลฯ และ ตรวจรับรองมาตรฐาน • ประกันราคารับซื้อพร้อมเชื่อมโยงตลาด ประกาศและคาดการณ์ ราคารับซื้อล่วงหน้า และทำ�การตลาดเชิงรุก “การตลาดนำ�การผลิต”

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• การลงทุนของ บริษัท นวัตกรรมชาวบ้าน จำ�กัด ทุก 1 บาท จะได้ผล ตอบแทนทางสังคมกลับมา 2.58 บาท • รายจ่ายของเกษตรกรลดลง 45% และรายได้เพิ่มขึ้น 32% • เกษตรกรมีสุขภาพดีขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่า 14 % • ลดพื้นที่สารเคมีมีพิษทางการเกษตรลงไม่น้อยกว่าปีละ 1,000 ไร่ • เกษตรกรรายย่อยมีความสุขเพิ่มขึ้นและได้ประโยชน์จากการรวมกลุ่มไม่ น้อยกว่า 9 %

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

2015 ครอบคลุมพื้นที่ชนบท 4 จังหวัดอีสานใต้ = 300 ครอบครัวเกษตรกร ครอบคลุมพื้นที่ 1,500 ไร่ 2017 ขยายเครือข่ายทั่วภาคอีสาน 20 จังหวัด = 1,500 ครอบครัวเกษตรกร ครอบคลุมพื้นที่ 7,500 ไร่ 2019 กระจายสู่ชนบทในภาคกลาง เหนือ ภาคใต้ = 5,000 ครอบครัวเกษตรกร ครอบคลุมพื้นที่ 25,000 ไร่

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

สมทบเงินใน “กองทุนนวัตกรรมชาวบ้าน” ( Grassroots Innovation Fund ) จำ�นวน 5,000,000 บาท กองทุนฯบริหารจัดการโดย ตัวแทนเครือข่ายชุมชนฯ + บจก.นวัตกรรมชาว บ้าน + ตัวแทนสนง.กิจการเพื่อสังคมฯ 1. สินเชื่อปัจจัยการผลิตในระบบเกษตรอินทรีย์ 3,000,000 บาท * เปลี่ยนเกษตรกรกว่า 300 ครอบครัว ( 1,500 ไร่ ) จากการทำ� เกษตรกรรมเชิงเดี่ยวสู่พื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 2.เงินหมุนเวียนรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร 1,000,000 บาท * ช่วยให้เกษตรกรกว่า 300 ครอบครัวมีเงินทุนในการผลิตทางการเกษตร และใช้จ่ายในครัวเรือนทันทีที่ขายผลผลิต 3.เงินลงทุนในการพัฒนานวัตกรรมสำ�หรับกิจการเพื่อสังคมระดับชุมชนหรือ วิสาหกิจชุมชน 1,000,000 บาท * ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากิจการฯระดับชุมชน กว่า 10 กิจการ โดยเน้นการแปรรูปหรือเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร

บริหารจัดการ: นายนาวี นาควัชระ

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

093-3279184

Email:

jacknawee@gmail.com

Website:

Facebook:

www.facebook.com/นวัตกรรมชาวบ้าน

• • • •

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

JICA Community Building & Management 2006 Ashoka Fellow 2009 LGT-VP Social Enterprise Selected 2012 TSEO High Impact SE Prototype 2015

BEGREENING SECTOR:

ขยะและสิ่งแวดล้อม

AREA OF WORK: พัฒนาบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ทดแทนโฟมและพลาสติก PARTNERS:

กลุ่มโอท๊อปเกษตรกรสวนหมาก อ.สูงเนิน นครราชสีมา

พัฒนาบรรจุภัณฑ์จากกาบหมากสู่ตลาด เพื่อเป็นทางเลือกบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารทดแทนโฟมและพลาสติก ลด ปัญหาขยะ และการสร้างรายได้ให้กับชุมชนสวนหมาก ปัญหาและที่มา

การสำ�รวจปริมาณขยะประเภทโฟมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2552 – 2556 กรมควบคุมมลพิษ) พบว่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 34 ล้านใบ/วัน เป็น 61 ล้านใบ/วัน ซึ่ง ส่วนใหญ่มาจากบรรจุภัณฑ์ใส่ อาหาร ซึ่งขยะโฟมและพลาสติกนับเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำ�คัญ และผู้บริโภคอาหารที่บรรจุในภาชนะโฟมและพลาสติกยังเสี่ยงได้รับ สารเคมีปนเปื้อนในอาหารจากบรรจุภัณฑ์สังเคราะห์จากปิโตรเลียม นี้ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็ง

ผลิตภัณฑ์และบริการ

Begreening เสนอบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารที่ผลิตจากกาบหมาก ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้เอง จากต้นหมากในท้องถิ่น ประเทศไทย โดยปราศจากการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตจึง ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการ จำ�หน่ายอาหารที่มีบริการซื้อกลับ (take away) หรือผู้จัดเลี้ยง นอกสถานที่สามารถนำ�ไปใช้งานทดแทนบรรจุภัณฑ์จากโฟมหรือ พลาสติก

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ลดปริมาณขยะจากบรรจุภัณฑ์โฟม/พลาสติก ลดค่าใช้จ่ายการจัดการขยะ ของรัฐในระยะยาว • เพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนผู้ผลิตและเกษตรสวนหมาก • สร้างการตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้ที่ได้ใช้งาน บรรจุภัณฑ์ • ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งในกลุ่มผู้บริโภคอาหารสะดวกซื้อ

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

จำ�นวนแบบบรรจุภัณฑ์กาบหมากที่วางจำ�หน่าย 10-14 แบบ จำ�นวนผู้ประกอบการที่หันมาใช้บรรจุภัณฑ์ Begreening แทนโฟม 5060 ราย จำ�นวนภาชนะ Begreening ที่ถูกนำ�ไปใช้แทนโฟม 5 แสน - 1 ล้านชิ้น/ปี ให้ความรู้และตั้งศูนย์การผลิตในชุมชนสวนหมากพื้นที่ใหม่ 2-3 ชุมขน ประชาสัมพันธ์ให้คนเมืองรู้จักผลิตภัณฑ์ และสร้างจิตสำ�นึกในการอนุรักษ์สิ่ง แวดล้อมและการลดปัญหาขยะ 1,000 - 2,000 คน

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทางทีมได้เรียนรู้และวางแผนในการ scale up โดยมี ความต้องการทางด้านเงินทุนประมาณ 3-5 ล้านบาท เพื่อ • ปรับปรุงโรงผลิตให้ได้มาตรฐานการผลิตสินค้า GMP, HACCP ต่อไป โดยการเช่าพื้นที่ที่มีความเหมาะสม.oการทำ�เป็นแหล่งผลิตและสต๊อกสินค้า เนื่องจากปัจจุบันแหล่งผลิตเป็นการประยุกต์พื้นที่โรงจอดรถเดิมในการ ทำ�งาน จึงมีพื้นที่ไม่เพียงพอ และทำ�ให้การควบคุมมาตรฐานทำ�ได้ยาก • เพิ่มกำ�ลังการผลิตสินค้า จาก 1,000 ชิ้น/วัน ไปเป็น 5,000-7,000 ชิ้น/ วัน ด้วยการเพิ่มเครื่องจักรใหม่ และการปรับปรุงเครื่องจักรสู่ระบบอัตโนมัติ ในบางส่วนของขั้นตอนการผลิต • เพิ่มสัดส่วนการสต๊อกวัตถุดิบและสินค้าในคลังสินค้า เพื่อลดระยะเวลา การส่งมอบสินค้าลง เนื่องจากไม่มีการสต๊อกสินค้าทำ�ให้ระยะเวลาการส่ง มอบปัจจุบันอยู่ที่ 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ทางทีมยังมีความต้องการทางด้านบุคลากร ที่ปรึกษา และผู้ร่วมงาน ที่ มีความเชี่ยวชาญในด้าน Finance, Brand& Marketing, กฏหมายเกี่ยว กับการดำ�เนินธุรกิจ, product design , web & graphic design

บริหารจัดการ: จันทิมา พิพิธสุนทร

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

089 976 0550

Email:

morning.hwan@gmail.com, info@begreeningware.com

Website:

www.begreeningware.com

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

1. Banpu Champions for Change (2013) จำ�นวน 250,000 บ. 2. Incubase: Idea to Innovation 2014 โดยมูลนิธิ Ashoka Thailand จำ�นวน 20,000 บ.

Facebook: 18

สุขภาพ HEALTH /WELLNESS

ชาวไร่ไทยแลนด์

SECTOR:

อาหารและเครื่องดื่ม

AREA OF WORK: เกษตรอินทรีย์ PARTNERS:

Bangkok Farmers’ Market, ศูนย์วิจัยอุตสาหกรรม เกษตรร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร, เครือข่ายนวัตกรรมชาวบ้าน

ผลิตน้ำ�เพื่อสุขภาพจากวัตถุดิบธรรมชาติที่มีอยู่ในประเทศไทยรับซื้อจากเกษตรกรด้วยราคาที่เป็นธรรม ให้คน รุ่นใหม่มีสุขภาพที่ดีจากการบริโภคสิ่งที่ดี ปัญหาและที่มา

ทางเราเล็งเห็นถึงโอกาสที่สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร และส่งเสริมเกษตรกรในส่วนของการสร้างรายได้เพิ่มจากผลผลิต ทางการเกษตร โดยทางเรามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลัก ดันให้คนไทยหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น เครื่องดื่ม ธัญพืชที่ปราศจากสารเคมีและสามารถหาซื้อได้ง่าย เพื่อให้ทุกคนมี สุขภาพที่ดีได้ทุกวัน

ผลิตภัณฑ์และบริการ

UP เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มธัญพืชเพื่อสุขภาพ มีส่วนช่วยในเรื่อง ระบบขับถ่ายและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ ไม่เจือสี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย เหมาะสำ�หรับคนทุกเพศทุกวัย ดื่มง่าย เน้นเรื่อง ความสะอาดในกระบวนการผลิตและความสดใหม่ของวัตถุดิบเป็น หลัก

• • • •

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

สร้างรายได้ให้เกษตรกร ทำ�ให้ธัญพืชไทยเป็นที่รู้จัก เพิ่มมูลค่าให้สินค้าทางการเกษตรของไทย ส่งเสริมให้คนใสใจสุขภาพ

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• เป็นผู้นำ�ในการจำ�หน่ายเครื่องดื่มธัญพืชเพื่อสุขภาพ • เกษตรกรพืชไร่มีรายได้ที่มั่นคงและสามารถส่งผลผลิตที่มีคุณภาพตาม ความต้องการของตลาด • ขยายประเภทของสินค้าให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย มากขึ้น

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

• นำ�ไปพัฒนาคุณภาพสินค้าให้สามารถจัดเก็บได้นานเพื่อสามารถเข้าถึงผู้ บริโภคได้กว้างขึ้น • ประชาสัมพันธ์สินค้าและแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง • ขยายช่องทางการเข้าถึงเกษตรกรเพื่อให้ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์เพื่อให้ ผลผลิตมีคุณภาพและสร้างรายได้ได้มากขึ้น

บริหารจัดการ: บจก. ชาวไร่ (ไทยแลนด์)

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

094-779-4024

Email:

chrowrai.thailand@gmail.com

Website:

www.facebook.com/updrinkthailand

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

Facebook: 20

URBIE SECTOR:

อาหารและเครื่องดื่ม

AREA OF WORK: เกษตรอินทรีย์ PARTNERS:

URBIE เป็นแบรนด์ (ภายใต้ บจก. นกฮูก กรุ๊ป) ที่ทำ�หน้าที่เป็นช่องทางการตลาดที่เป็นธรรมให้กับเกษตรกร อินทรีย์ และเป็นผู้กระจายผลผลิตเหล่านั้นสู่ตลาด รวมถึงนำ�ผลผลิตเหล่านั้นมาแปรรูปให้เป็นสินค้าอาหารและ เครื่องดื่มที่เข้ากับวิถีชีวิตของคนเมือง เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงอาหารอินทรีย์ให้กับคนเมืองอีกด้วย ปัญหาและที่มา

จากการศึกษาพบว่าเกษตรกรกว่า 90% นั้นเคยประสบปัญหา สุขภาพเนื่องจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร ยิ่งไปกว่านั้นปัญหา การเพิ่มขึ้นของราคาปัจจัยการผลิตยังนำ�ไปสู่ปัญหาหนี้สินและ ปัญหาความยากจนของเกษตรกร แม้ปัจจุบันเกษตรกรจะหันมา สนใจทำ�เกษตรอินทรีย์มากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น แต่ เกษตรกรอินทรีย์จำ�นวนมากยังมีปัญหาในเรื่องของการหาตลาด บางครั้งถูกกดราคาเนื่องจากผลผลิตไม่สวยเท่าผลผลิตเกษตรเคมี

ผลิตภัณฑ์และบริการ

ผลผลิตจากระบบเกษตรอินทรีย์ / ไร้สารพิษ และผลิตภัณฑ์แปรรูป อาหารและเครื่องดื่มที่มาจากเกษตรอินทรีย์ / เกษตรไร้สารพิษ ปัจจุบันสินค้าที่มีคือ เครื่องดื่มชาข้าวใบหม่อน ใบชาใบหม่อน ชา เขียวข้าวคั่ว ข้าวมะลินิลสุรินทร์อินทรีย์ในแพ็คสูญญากาศ

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• เกษตรกรอินทรีย์ได้มีช่องทางการจำ�หน่ายที่เป็นธรรม ซึ่งจะนำ�ไปสู่การ แก้ไขปัญหาเรื่องความยากจนและปัญหาหนี้สิน • เกษตรกรมีสุขภาพที่ดีขึ้นจากการลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร • ผู้บริโภคได้มีทางเลือกสำ�หรับสินค้าอาหาร / เครื่องดื่มที่มีความเป็น ธรรมชาติมากขึ้น และมาจากวัตถุดิบที่ไร้สารพิษ • ช่วงส่งเสริมการรักษาธรรมชาติ ผ่านการสนับสนุนการทำ�เกษตรอินทรีย์ (ทางอ้อม)

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• URBIE ตั้งใจที่จะเป็นผู้ซื้อที่เป็นธรรมและมีการสั่งซื้อที่สมำ�เสมอ โดยมี เป้าหมายสนับสนุนเกษตรกรอินทรีย์ได้ไม่ตำ�กว่า 10 กลุ่มทั่วประเทศ • มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนกลุ่มเกษตรกรให้เป็นเกษตรกรอินทรีย์ได้ไม่ตำ�กว่า 5 กลุ่ม ผ่านการทำ�งานร่วมกับเครือข่ายต่างๆ • เป็นกิจการเพื่อสังคมต้นแบบ ที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์สินค้ารายใหญ่ อื่นๆ ในท้องตลาดได้อย่างทัดเทียมกัน

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

ความต้องการ • การเชื่อมโยงกับกับร้านค้าปลีก modern trade ต่างๆ • การเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจเช่น ร้านอาหาร โรงแรม ที่สนใจนำ�ผลผลิต เกษตรอินทรีย์ไปใช้ในธุรกิจ • การเชื่อมโยงกับบริษัทตัวแทนนำ�เข้าสินค้าในต่างประเทศ และคำ�ปรึกษา ในการหาตลาดต่างประเทศ • เงินทุนในการดำ�เนินกิจการ : 3,000,000 บาท การนำ�ไปใช้ประโยชน์ • การเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจช่วยให้ URBIE สามารถทำ�การรับซื้อผลผลิต จากเกษตรกรได้จำ�นวนมากขึ้น และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกร กลุ่มใหม่ๆ ให้กล้าที่จะหันมาทำ�เกษตรอินทรีย์มากขึ้น • เงินทุนจะถูกนำ�ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำ�เนินกิจการของ URBIE และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเป็นค่าใช้จ่าย ด้านการตลาด

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ: ธนภณ เศรษฐบุตร / ณฐมนต์ ทวีนวกิจเจริญ โทรศัพท์:

095-957-9417 / 086-413-4975

Email:

thanaponsr@gmail.com/ gnatthamon@gmail.com

Website:

www.urbiebrand.com

Facebook:

www.facebook.com/urbiethailand

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ONE CHANGE SECTOR:

Preventive Healthcare

AREA OF WORK: Mobile Health PARTNERS: โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลเทพธารินทร์,

OpenDream

การปรับพฤติกรรมและสร้างเสริมนิสัยการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยคำ� แนะนำ�จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโภชนาการ ปัญหาและที่มา

คนไทยป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้แก่ โรคหัวใจ โรค เบาหวาน และ โรคหลอดเลือดสมอง มากว่า 1 ล้านคน อยู่ในกลุ่ม เสี่ยงกว่า 16.7 ล้านคน ตัวเลขเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่อง ไม้เว้นแม้แต่ในกลุ่มวัยเด็กและวัยทำ�งาน เราสามารถป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้โดยปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการกินและออกกำ�ลังกาย

ผลิตภัณฑ์และบริการ

OneChange เป็น mobile app ที่พัฒนาขึ้นโดยยึดหลักการ behavioural economics และ gamification ทำ�ให้การปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเรื่องง่ายและสนุก แอพพลิเคชั่นสามารถ: 1. วิเคราะห์ระดับความเสี่ยงในการเกิดโรค NCDs 2. ตั้งเป้าหมายส่วนบุคคล ซึ่งมีลักษณะเป็นเป้าหมายเชิงพฤติกรรม 3. ให้คำ�แนะนำ�ในการปฏิบัติตามเป้าหมายอย่างชัดเจนเพื่อการ สร้างพฤติกรรมอย่างยั่งยืน

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• สร้างความตระหนักในการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล รวมถึงคนในครอบครัว • ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค NCDs • ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลของประเทศ (national healthcare spending)

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย จำ�นวน 200,000 คน ภายในปี 2560 • ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ (แพทย์ นักโภชนาการ trainer) ใช้ OneChange ในโรงพยาบาล คลินิก หรือ Cooperate Health and Wellness Program เป็นเครื่องมือช่วยในการแนะนำ�และดูแลด้าน สุขภาพ สำ�หรับกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น อย่างน้อย 5 ที่ ภายในปี 2563

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

ด้านความร่วมมือ: ต้องการ partner กับหน่วยงานด้านการดูแลสุขภาพ และสาธารณสุข ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีเป้าหมายและพันธกิจหลักใน การสร้างเสริมสุขภาพ ต้องการร่วมสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรมในการ ดูแลสุขภาพมิติใหม่ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ด้านเงินทุน: -

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ: ชุติกา อุดมสิน (พฤศ), ธนทัต ไชยานนท์ (นนท์) โทรศัพท์:

พฤศ - 086.332.9619

Email:

chutika@goodfactory.co /nina@goodfactory.co

Website:

Facebook:

นนท์ - 083.572.6690

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

AIS the StartUp 2014 รองชนะเลิศหมวด Social Business รางวัล พิเศษ Samsung – AIS ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท Social Innovation Camp รางวัลชนะเลิศ 30,000 บาท BANPU Champions for Change รอบแรก ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท 22

HOPEWEAR SECTOR:

Elderly foot health

AREA OF WORK: PARTNERS:

• Local elderly communities • Local shoe factories • Local hospitals

“หนึ่งคนได้ หนึ่งคนรับ” เมื่อคุณซื้อรองเท้าหนึ่งคู่ คุณได้มอบรองเท้าสุขภาพอีกคู่ให้ผู้ยากไร้ด้วย

ปัญหาและที่มา

รองเท้าทั่วไปที่คนฐานะปานกลางถึงยากจนสามารถซื้อได้ เน้นแค่ ความทนทานและตามแฟชั่น แต่ไม่ได้คำ�นึงถึงผลกระทบกับเท้า ในระยะยาว ทำ�ให้ปัจจุบันผู้สูงอายุหลายคนเกิดปัญหาสุขภาพเท้า กระดูกมีลักษณะผิดปกติ, เป็นเท้าแบน ฯลฯ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ยากไร้ที่ยังต้องทำ�งานหาเลี้ยงชีพ

ผลิตภัณฑ์และบริการ

1. รองเท้าแฟชั่นสุขภาพสไตล์มินิมอล - รุ่นออริจินัล ORIGINAL สำ�หรับคนเท้าอ้วนและเบาหวาน - รุ่นฟรีเชฟ FREE-SHAPE สำ�หรับคนที่กระดูกเท้าผิดปกติ 2. วัสดุแผ่นรองพื้นในรองเท้า แบบ DIY (ใช้กับรองเท้ายี่ห้ออื่นได้) *มีบริการสั่งซื้อทางออนไลน์ และส่งทางไปรษณีย์ **จะนำ�รองเท้าไปมอบให้ผู้สูงอายุยากไร้ ทุกวันที่ 12 สิงหาคมของ ทุกปี

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ลดความเหลื่อมลำ�ในเรื่องความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพดี เพื่อสุขภาพ ผู้ที่รายได้น้อยสามารถหาซื้อได้เองในราคาที่เอื้อมถึง • ปัญหาเท้าในผู้สูงอายุจะลดลงในอีก 10-20 ปีข้างหน้าเพราะวัยผู้ใหญ่ ฐานะปานกลางถึงยากจนในปัจจุบันรู้วิธีเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับเท้าของ ตนเอง

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

ขายรองเท้าแฟชั่นสุขภาพภายในประเทศอาเซียนให้ได้อย่างน้อย 1 ล้านคู่ และหมายถึงสามารถมอบรองเท้าสุขภาพให้ผู้สูงอายุยากไร้ 1 ล้านคนด้วย

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

1. เรื่องเงินทุนในการขยายกิจการ • ต้องการทำ�เว็บไซต์เพื่อจำ�หน่ายสินค้าทางออนไลน์อย่างเป็นระบบจริงจัง เพราะในระยะยาวเมื่อสินค้ามีให้เลือกมากขึ้น ลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จำ�เป็น ต้องมีระบบจัดการชัดเจน • ต้องการปรับปรุงและเพิ่มแบบสินค้าให้มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์เรื่องอาการ แต่ละอย่างที่เกิดขึ้นกับเท้าให้ลูกค้าได้เลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับตัวเอง ที่สุด • ต้องการที่เก็บสต๊อกสินค้า 2. เรื่องพันธมิตรและทีมงาน • ต้องการพันธมิตรที่สามารถแบ่งปันข้อมูลและร่วมวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพเท้า ของคนอาเซียน • ต้องการตัวแทนจำ�หน่ายที่เข้าใจในวิสัยทัศน์ของเรา • ต้องการทีมงานเพิ่มเรื่องการตลาด,การออกแบบ และบัญชี

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ: วลัยพร เจริญศักดิ์ และ ณัฐพจน์ อัฒนวานิช โทรศัพท์:

087-004-4340 หรือ 085-210-1747

Email:

hopewear@hotmail.com

Website:

Facebook:

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

• Banpu Champions for Change • UnLtd 2012 Social Innovation Incubator

Line: 0870044340, IG: @hopewear_shoe 23

การพัฒนาชุมชน COMMUNITY DEVELOPMENT

FOLK CHARM CRAFT SECTOR:

ผลิตภัณฑ์ชุมชน

AREA OF WORK: Econ. Dev., Traditional and Env. Preservation PARTNERS: กลุ่มแม่บ้านชุมชน

เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ respect local artisans, fair trade เพื่อสร้างวัฒนธรรมผู้บริโภคที่ตระหนักถึงสังคม สิ่งแวดล้อม โดยเป็นผู้สื่อสาร•เล่าเรื่อง พัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ่านการเชื่อมโยงนักออกแบบแฟชั่น เป็นคนกลางที่ ให้ความสำ�คัญต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลิตเป็นหลัก ปัญหาและที่มา

ผลิตภัณฑ์และบริการ

พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือจากฝ้ายธรรมชาติและย้อมธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี จากชุมชนชนบท และเชื่อมโยงถึงตลาดภายใน และภายนอกประเทศ โดยเน้นการเล่าเรื่องชุมชน ดีไซน์พัฒนา ผลิตภัณฑ์ กระบวนการและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• หัตถกรทอผ้าในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คนในรุ่นต่อไปหันมาสนใจ การทอผ้ามากขึ้น สร้างงานในชุมชน • เกิดการตระหนักถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมของผลิตภัณฑ์จากวิถีชีวิตชุมชน • กระบวนการการผลิตไม่ใช้สารเคมีทั้งกระบวนการ ใช้วัตถุดิบจากชุมชน ไม่พึ่งปัจจัยภายนอกซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาต้นทุนและสุขภาพ

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

ดีไซน์ และผลิตผลิตภัณฑ์ อย่างน้อย 3 Product Lines สร้าง Sustainable Market Channel ขยายผลชุมชนให้ครอบคลุม สปป.ลาวและพม่า

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

• ด้านเงินทุน เพื่อลงทุนในการผลิต logistics และขยายผล • การเชื่อมโยง Partners ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และโอกาสการ ตลาด • การปรึกษา เพื่อการพัฒนาศักยภาพในด้าน ดีไซน์ และผลิตผลิตภัณฑ์

บริหารจัดการ: ภัสสร์วี ตาปสนันทน์

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

089-814-8800

Email:

folkcharm@gmail.com

Website:

www.folkcharm.com

Facebook:

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

WO-MANIS SECTOR:

ส่งเสริมอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่สตรี

AREA OF WORK: การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ, สตรี และเด็กกำ�พร้า PARTNERS: • เครือข่ายผู้หญิงยุติความรุนแรงแสวงสันติภาพ 3

จังหวัดชายแดนภาคใต้. • ผู้หญิงภาคประชาสังคมชายแดนใต้ Civic Women

ส่งเสริมรายได้แก่สตรีผู้ได้รับผลกระทบใน 3จว. ชายแดนภาคใต้ด้วยการตัดเย็บ/ปักผ้าฮิญาบและผ้าพันคอ จัดจำ�หน่ายออนไลน์ กำ�ไรของการจำ�หน่ายสินค้ามอบเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กกำ�พร้าใน จ.ปัตตานี ปัญหาและที่มา

สตรีหม้ายจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน3จังหวัดชายแดนภาค ใต้(ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) กว่า 6,000 ชีวิต ขาดเสาหลักของ ครอบครัว ทำ�ให้ไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัวที่เพียงพอ นอกจากนี้ ยังมีเด็กกำ�พร้าอีกหลายพันรายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ขาดทุน การศึกษา

ผลิตภัณฑ์และบริการ

WO-MANIS ร่วมมือกับดีไซเนอร์อาสาในการออกแบบผลิตภัณฑ์ Handmade ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ฮิญาบ ปักลายสะท้อนความ อ่อนหวาน และเอกลักษณ์ภาคใต้ โดยกลุ่มสตรีผู้ได้รับผลกระ ทบ เหมาะสำ�หรับเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษในทุกโอกาสพิเศษ สินค้าจัดจำ�หน่ายผ่านสื่อออนไลน์ Website, Facebook และ Instagram

• • • •

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

สร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงแก่สตรี เยียวยา พัฒนาจิตใจแก่สตรีผู้ได้รับผลกระทบ สตรีมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ เด็กกำ�พร้ามีทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายในการดำ�รงชีวิตพื้นฐาน

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

ภายใน 5 ปีข้างหน้า WO-MANIS มีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือสตรีหม้าย และเด็กกำ�พร้าให้ครอบคลุมทั้ง 3 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยสตรีหม้ายจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยเดือนละ 2,000- 4,000 บาท และเว็บไซต์ WO-MANIS ก็จะเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อดีไซเนอร์ อาสาสมัคร และลูกค้า ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้Model ธุรกิจ ของWO-MANIS สามารถเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ และขยาย ตลาดให้แก่สินค้า OTOP และวิสาหกิจชุมชน

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

WO-MANIS มีความต้องการอาสาสมัครที่มีความสามารถด้านการพัฒนา เว็บไซต์และMobile Application รวมทั้ง Graphic Designer เพื่อ ช่วยในการออกแบบ และพัฒนาฟังก์ชันในการสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์ www. wo-manis.com และ พัฒนาApplication ที่รองรับการใช้งานผ่านมือ ถือ นอกจากนี้WO-MANIS มีความต้องการด้านเงินลงทุน เพื่อใช้ในการ พัฒนา Application Demo และทำ� Market Research เพื่อศึกษา หาตลาดและพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าและตลาดใน ประเทศไทย และกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งนี้ WO-MANIS ยังต้องการ partner ในการประชาสัมพันธ์ และหาช่องทางในการจัดจำ�หน่ายสินค้าอีก ด้วย

บริหารจัดการ: น..ส.อัสมา นาคเสวี

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

083-191-4010

Email:

as_ma_nak@hotmail.com, wo-manis@outlook.com

Website:

www.wo-manis.com

Facebook:

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ชนะเลิศ โครงการ BANPU Champions for Change 3 ได้รับเงิน สนับสนุนในการดำ�เนินโครงการ จำ�นวน 200,000 บาท

WYN SECTOR:

Career

AREA OF WORK: Digital Career Development & Youth Education PARTNERS: -

วิน ดิจิตอลเอเจนซี่ เพื่อสังคม ผู้สนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้สามารถสร้างรายได้ ประสบการณ์จากงานด้านดิจิตอล และพัฒนาทักษะเพื่อต่อยอดเส้นทางอาชีพในอนาคต ปัญหาและที่มา

กลุ่มคนรุ่นใหม่ขาดโอกาสในการเข้าถึงช่องทางการสร้างราย ได้ เพราะขาดวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ และผู้จ้างงานส่วน ใหญ่เลือกที่จะจ้างงานคนที่มีประสบการณ์ที่ดี ทำ�ให้คนรุ่นใหม่ไม่ สามารถหารายได้เพื่อเลี้ยงดูตัวเองหรือแบ่งเบาภาระครอบครัว และ ใช้เวลาว่างทำ�ในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์แทน วิน ดิจิตอลเอเจนซี่ จึงถือ กำ�เนิดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มคนเหล่านี้

ผลิตภัณฑ์และบริการ

วิน ดิจิตอลเอเจนซี่ ให้บริการดิจิตอล โซลูชั่นแก่ธุรกิจ ด้วยการ แนะนำ�เทคโนโลยีที่ทันสมัยปรับใช้ตามความเหมาะสมแก่ประเภท ธุรกิจ ผ่านการพัฒนาและออกแบบเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นมือถือ และกราฟิกดีไซน์ เพื่อช่วยยกระดับของบริษัทและเพิ่มประสิทธิภาพ การทำ�งานของผู้ประกอบการ โดยไม่ละทิ้งการคำ�นึงถึงผู้ใช้

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• เปิดโอกาสการทำ�งานในสายงานด้านดิจิตอลให้แก่คนรุ่นใหม่ โดย สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถและศักยภาพด้วยการทำ�งาน จริงตามความต้องการของลูกค้า และรับค่าบริการตามความเหมาะสม • นอกจากนี้ระหว่างร่วมงานกับเรา พวกเขาจะได้รับคำ�ปรึกษาและคำ�แนะนำ� ต่างๆ ไปจนถึงการฝึกสอนให้ทำ�งานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น • หลังจากร่วมงานแล้วพวกเขาสามารถนำ�ผลงานเหล่านั้นไปต่อยอดเส้นทาง อาชีพของตนเองในอนาคตได้

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

โครงการวางแผนที่จะขยายบริการทางด้านดิจิตอล เช่น การตลาดออนไลน์ เขียนเนื้อหาเพื่อใช้ในสื่อออนไลน์ และงานดิจิตอลประเภทอื่นๆ เพื่อเปิด โอกาสให้คนรุ่นใหม่ในสายอาชีพด้านอื่นๆสามารถเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้โครงการวางแผนที่จะสร้างความยั่งยืนให้กับผู้เข้าร่วมโครงการใน ปัจจุบัน โดยผลักดันให้พวกเขาริเริ่มผลงานของตัวเอง เพื่อให้เขาสามารถ สร้างรายได้ให้กับตนเองได้ในอนาคต

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

เนื่องจากโครงการยังใหม่ต่อตลาดและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ทางทีมจึง ต้องประชาสัมพันธ์โครงการเป็นอย่างมากเพื่อรองรับผู้สมัครได้ทั่วถึงและต่อ เนื่อง พร้อมกันนี้โครงการยังมีแนวคิดต้องการขยายผลกระทบทางสังคมโดย เปิดรับคนรุ่นใหม่ในสายงานด้านดิจิตอลที่ใกล้เคียง เช่น การตลาดออนไลน์ เขียนเนื้อหาเพื่อใช้ในสื่อออนไลน์ และงานดิจิตอลประเภทอื่นๆ

บริหารจัดการ: นายพิชญ์ พิสิษฐ์กุล โทรศัพท์:

089-777-0684

Email:

hello@thewyn.com

Website:

www.thewyn.com

Facebook:

รายละเอียดติดต่อ

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

LOCAL ALIKE SECTOR:

ท่องเที่ยวชุมชน

AREA OF WORK: Econ, Sustainable Tourism & Dev., Culture PARTNERS: สถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT•I),AIS the

Startup 2014, DBS•NUS, Development Bank of Singapore, SIF, Kiva เป็นต้น

สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนโดยใช้การท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นเครื่องมือพัฒนาชุมชนโดยจัดทำ�เว็บไซต์ www.localalike.com ที่เป็นช่องทางในการสร้างการเข้าถึง ประชาสัมพันธ์ และเชื่อมชุมชนกับนักท่องเที่ยวที่ สนใจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้เกิดการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ร่วมกันอย่างแท้จริง ปัญหาและที่มา

ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 22 ล้านคนในปีที่ผ่านมาแต่การ ท่องเที่ยวส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเขตเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวที่ มีชื่อเสียง ธุรกิจขนาดใหญ่ และการนำ�เสนอก็เป็นไปอย่างฉาบฉวย การคำ�นึงถึงด้านความยั่งยืนของสภาพแวดล้อมไม่ได้ถูกให้ความ สำ�คัญ ชุมชนที่เป็นเจ้าของวัฒนธรรม ทรัพยากรไม่มีส่วนร่วมใน การจัดการ และ ขาดช่องทางการสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยว ทำ�ให้ผล ประโยชน์ต่างๆไม่ตกสู่ท้องถิ่นอย่างเป็นธรรม

ผลิตภัณฑ์และบริการ

• ให้บริการจองโปรแกรมท่องเที่ยวของชุมชน ผ่านเว็บไซต์ ปัจจุบัน การให้บริการบน platform มี 3 รูปแบบ ได้แก่ โปรแกรมการท่อง เที่ยวแบบค้างคืนโดยชุมชน โปรแกรมการท่องเที่ยวแบบ 1 วัน และ โปรแกรมการท่องเที่ยวแบบครึ่งวัน • ให้บริการออกแบบและพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว • ให้บริการให้คำ�ปรึกษาด้านการออกแบบและพัฒนาเส้นทางการ ท่องเที่ยวโดยชุมชนสำ�หรับบุคคลและองค์กร

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น โดยใช้การท่องเที่ยวที่ ยั่งยืนเป็นเครื่องมือพัฒนาชุมชน • พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและการเข้าใจต้นทุนทางทรัพยากรต่างๆของชุมชน • ส่งเสริมการอนุรักษ์ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น • ลดการย้ายถิ่นฐานจากชนบทเข้าสู่เมืองโดยการสร้างงาน • ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน และสร้างทางเลือกให้นัก ท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงวิถีชีวิต และวัฒนธรรมพื้นถิ่นอย่างอย่างลึกซึ้ง

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• บรรลุเป้าหมายด้านผลกระทบทางสังคมและสร้างรายได้ตามเกณฑ์ที่ ประเมินไว้ รวมทั้งจัดตั้งกองทุนท่องเที่ยวชุมชนในแต่ละชุมชน • มีชุมชนพร้อมเข้าร่วมในแพลตฟอร์มของโลเคิล อไลค์ มากกว่า 100 ชุมชน โดยเน้นที่ชุมชนในไทย และมีการขยายไปยังชุมชนอาเซียนบางส่วน • เป็นหนึ่งในผู้นำ�ในด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน • มีระบบเทคโนโลยีที่ชุมชนสามารถเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ บริหารจัดการตนเอง

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

1. ต้องการเงินลงทุนจำ�นวน 8-10 ล้านบาท เพื่อขยายจำ�นวนชุมชนทั้ง บน platform ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีชุมชนที่ ทำ�เรื่องการท่องเที่ยวโดยชุมชนมากกว่า 200 ชุมชนในประเทศไทย และ มากกว่า 1,000 ชุมชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2. ต้องการขยายธุรกิจโดยการสร้าง platform สำ�หรับขายผลิตภัณฑ์ให้ กับชุมชน 3. ต้องการหาภาคีเครือข่าย (Partners) ในการให้บริการขายทัวร์ในตลาด ต่างประเทศ

รายละเอียดติดต่อ

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

บริหารจัดการ: นายสมศักดิ์ บุญคำ� และนางสาวสุรัชนา ภควลีธร

• เป็นผู้ชนะโครงการ BANPU Champions for Change ปีที่ 2

โทรศัพท์:

083-076-3593, 091-719-2356

• รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 DBS NUS Social Venture Challenge Asia

Email:

info@localalike.com

สิงคโปร์

Website:

www.localalike.com

• รางวัลชนะเลิศรายการ AIS the Startup 2014 ในสาขา Social Business

Facebook:

www.facebook.com/LocalAlike

• ชนะเลิศการแข่งขัน Young Social Entrepreneurship Program 2014 จาก Singapore International Foundation (SIF) สิงคโปร์ • ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทางสังคม ลงทุนก้อนแรกจำ�นวน 1.2 ล้านบาท

HIVE SECTOR:

Activities & Travel

AREA OF WORK: Activities & Business Development PARTNERS: Local SMEs, Social Enterprises and

Individuals

เว็ปไซด์ที่รวบรวมเเละจัดกิจกรรมที่สนุก แปลกใหม่ ให้คนเมืองและนักท่องเที่ยวได้ทำ�กิจกรรมที่สร้างสรรค์และ เพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยที่ยังขาดการเข้าถึงตลาดเเละความรู้ทางธุรกิจ ปัญหาและที่มา

ปัจจุบัน ผู้ประกอบกิจการที่จัดกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจ SME SE หรือบุคคล (Suppliers) มีรายได้ที่ไม่เเน่นอน เเละยังไม่มีกำ�ลังเพียงพอในการเข้าถึงตลาด อีกทั้งยังขาดข้อมูลที่ จะผลิตกิจกรรมให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนเมืองและนักท่องเที่ยวมีความต้องการที่จะทำ�กิจกรรมสนุก มีคุณภาพ เเต่ประสบความยากลำ�บากในการค้นหากิจกรรมเหล่า นั้น เบื่อกับการทำ�กิจกรรมซำ�เดิม เช่น กินข้าว ดูหนัง ช้อปปิ้ง

ผลิตภัณฑ์และบริการ

เว็ปไซต์ที่เป็น • เเหล่งรวบรวมกิจกรรมที่สนุกเเละหลากหลายตาม lifestyle สำ�หรับกรณีกิจกรรมที่ยั่งยืนจะเน้นให้เด่นเป็นพิเศษและเชื่อมโยง กิจกรรมนั้นกับประเด็นปัญหาสังคม • จัดกิจกรรมที่สนุกให้ลูกค้าได้มาเข้าร่วมงานเเละรู้จักเพื่อนใหม่ • ให้คำ�ปรึกษา Suppliers ในการสร้างกิจกรรม, ทำ�โปรเเกรม, ตั้งราคาให้เหมาะสม เเละช่วยทำ�การตลาดโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

เพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการเเละเพิ่มการเข้าถึงตลาด กิจกรรมที่คัดเลือกมานั้นต้องไม่มีผลกระทบในเเง่ 1. รายได้: ต้องให้ผลตอบเเทนแก่ผู้จัดที่เป็นธรรม 2. เเรงงาน: ไม่ใช้เเรงงานเด็ก แรงงานบังคับ 3. วัฒนธรรม: ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยทำ�ให้กิจกรรมดูทันสมัย เข้ากับคนยุค ใหม่ได้ 4. สิ่งเเวดล้อม: กิจกรรมไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งเเวดล้อม

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

เป้าหมายที่จะสร้างกลุ่มคนทำ�กิจกรรมดีๆเเละใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ปี 2015 จำ�นวนผู้เข้าร่วม list กิจกรรมเพิ่มเป็น 100 ปี 2016 จำ�นวนผู้เข้าร่วม list กิจกรรมเพิ่มเป็น 500 ปี 2017 จำ�นวนผู้เข้าร่วม list กิจกรรมเพิ่มเป็น 1200 ผู้จัดกิจกรรมมีรายได้เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับก่อนเข้าร่วมกับ Hive

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

ทีมHiveต้องการเงินทุนในการสนับสนุนเพื่อขยายธุรกิจ 1. การจัดทำ�เว็ปไซด์ ที่มีระบบจัดการสินค้าที่ทันสมัย ใช้งานง่าย สามารถ จองเเละชำ�ระเงินได้ทันที อีกทั้งผู้จัดกิจกรรม สามารถมาลิสต์ขายสินค้าเอง ได้ - เงินทุน 600,000 บาท 2. การจ้างทีมงานเพิ่มเพื่อสามารถขยายธุรกิจได้ ปัจจุบันมีอยู่3คน ซึ่งไม่ เพียงพอในการขยายฐานกิจกรรม, ทำ�การตลาดเเละจัดทำ�เว็ปไซด์ - เงินทุน 600,000 บาท 3. การจัดกิจกรรมเเละทำ�การตลาดโปรโมทเเบรนด์ให้เป็นที่รู้จักเเละเกิด การทดลองใช้ - เงินทุน 400,000 บาท

บริหารจัดการ: อชิรญา ธรรมปริพัตรา

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

081- 754-8629

Email:

achiraya@hivesters.com

Website:

www.hivesters.com

Facebook:

www.facebook.com/hivesters

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ชนะเลิศรางวัล Banpu Champions for Change ปี 2014

FISHERFOLK SECTOR:

อาหารทะเลปลอดภัย

AREA OF WORK: ชุมชนประมง และชาวประมงพื้นบ้าน PARTNERS: สมาคมรักษ์ทะเลไทย, อบต.บ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์,

สมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย

เป็นตลาดแฟร์เทรดที่เชื่อมอาหารทะเลที่สะอาด ปลอดภัย จากการประมงพื้นบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ผู้ บริโภคโดยตรง ทำ�ให้ผู้บริโภคได้รับอาหารทะเลคุณภาพสูงที่ สะอาดปลอดภัย ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนชาว ประมงพื้นบ้าน และส่งเสริมการประมงยั่งยืนที่ดีต่อท้องทะเลไปพร้อมๆกัน ปัญหาและที่มา

สัตว์นำ�ในท้องทะเลไทยลดลงอย่างมากใน 20-30 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากถูกจับปริมาณมากและเร็วเกินไป จากการเพิ่มการประมง พาณิชย์และการใช้เครื่องมือแบบทำ�ลายล้าง นอกจากนี้ยังต้องผ่าน หลายกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะถึงมือผู้บริโภค ผลผลิตจากทะเลบางส่วนที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดจึงมีการเติม สารเคมี เช่นสารฟอร์มาลีน และโซดาไฟเพื่อให้สินค้าดูสดใหม ่ผู้ บริโภคจึงไม่ไดทานอาหารทะเลที่สด สะอาด ปลอดภัยอย่างแท้จริง

ผลิตภัณฑ์และบริการ

1. อาหารทะเลสดที่จับได้ตามฤดูกาล เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ฯลฯ 2. อาหารทะเลแปรรูป เช่น ปลาหวาน ปลาเค็ม กระปิ กุ้งแห้ง 3. อาหารทะเลสำ�เร็จรูป เช่น ปูนึ่ง ปลาจิ้ม กุ้งแช่นำ�ปลา ปลาทูต้ม หวาน

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• สร้างรายได้ที่เป็นธรรมและความเข้มแข็งแก่ชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน • มอบสุขภาพที่ดีขึ้นแก่ผู้บริโภค ผู้ผลิตและผู้บริโภคเกิดความตระหนักใน การบริโภคและผลิตอาหารที่ไม่ใช้สารเคมี • ส่งเสริมการประมงยั่งยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกำ�ไรส่วนหนึ่งจะคืน กลับสำ�หรับฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของชุมชน

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• ขยายเครือข่ายให้คลอบคลุมใน 5 พื้นที่ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สตูล สงขลาและตรัง โดยมุ่งเน้นในการพัฒนามาตรฐานที่ มีคุณภาพเท่าเทียมกันและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค • ชาวประมงพื้นบ้าน 250 ครัวเรือน มีรายได้เพิ่มขึ้น 50% จากกิจการ • เป็นต้นแบบให้แก่เครือข่ายท้องถิ่นที่ต้องการพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมเพื่อ พัฒนาระบบเศรษฐกิจชุมชนและคุณภาพชีวิต รวมไปถึงระบบนิเวศน์ทาง ธรรมชาติอย่างยั่งยืนและมั่นคง

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

1) เงินทุนในการพัฒนาระบบขนส่งอาหารทะเล: ปัจจุบัน ระบบขนส่งยัง ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารทะเลของทางเครือข่าย ทางเครือข่ายมีความ ประสงค์จะลงทุนเพื่อพัฒนาระบบขนส่งของตนเองเพื่อลดต้นทุนและทำ�ให้ เข้าถึงผู้บริโภคได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น 2) เงินทุนสำ�หรับส่งเสริมการขยายเครือข่ายคนจับปลาไปยังชุมชนประมง ชายฝั่งที่มีความพร้อมในเรื่องของการทำ�งานอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและ มีความพร้อมในการจัดการผลผลิตของตนเองได้ 3) เงินทุนเพื่อพัฒนากรอบมาตรฐานอาหารทะเลปลอดภัยและยั่งยืน คุณภาพและความปลอดภัย รวมไปถึงความยั่งยืนของอาหารทะเลและระบบ นิเวศน์เป็นสิ่งที่สำ�คัญมากต่อ “คนจับปลา” ทั้งนี้ การมีมาตรฐานการตรวจ สอบที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงมีความ สำ�คัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ 4) เครือข่ายผู้บริโภคและสื่อมวลชน: ทำ�งานเพื่อเผยแพร่ข้อมูลสินค้าและ ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการจับปลาอย่างยั่งยืน รวมไปถึงความเป็นอยู่ของ ชุมชนท้องถิ่นจำ�เป็นต้องได้รับการสนับสนุน เพื่อโปรโมตสินค้าในวงกว้าง

บริหารจัดการ: เสาวลักษณ์ ประทุมทอง

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

098-921-1884

Email:

fisher.folk@hotmail.com

Website:

Facebook:

www.facebook.com/Khon.jab.pla.fisherfolk

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ได้รับทุกสนับสนุนจากอ็อกซ์แฟมประเทศไทย

DEE BY FOUNDATION FOR COMMUNITY-SOUL SECTOR:

Education and Employment

AREA OF WORK: Sex Ed, Education, Employment Prep. PARTNERS: UNFPA, Women’s Health Advocacy

Foundation,

สร้างการเรียนรู้เรื่องเพศปลอดภัยแก่วัยรุ่น พร้อมการสร้างโอกาสการศึกษาและเตรียมความพร้อมและทักษะพ่อ แม่วัยรุ่นเข้าสู่โลกการทำ�งาน ปัญหาและที่มา

สถิติปี 2555 ชี้ว่าวัยรุ่นอายุ 15-19 ปีคลอดบุตรถึง 129,451 คน หรือในกลุ่มอายุดังกล่าวทุก 1000 คนจะมีการคลอดประมาณ 534 คน เนื่องจากการเรียนรู้เรื่องเพศยังไม่เปิดกว้างในสถาบันการ ศึกษา ยังมีช่องว่างการเรียนรู้เรื่องเพศในครอบครัว และสังคมมี อคติทางลบต่อพ่อแม่วัยรุ่น ทำ�ให้โอกาสการศึกษาและการทำ�งาน ของพ่อแม่วัยรุ่นลดลง สังคมขาดพลเมืองที่มีคุณภาพ

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• พ่อแม่วัยรุ่นมีความปลอดภัยทางเพศและสร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นใน ครอบครัว • พ่อแม่วัยรุ่นเพิ่มโอกาสในการศึกษาและการทำ�งาน • สังคมได้ครอบครัววัยรุ่นที่มีความพร้อมในการเติบโตเป็นสมาชิกสังคมที่มี คุณภาพ

ผลิตภัณฑ์และบริการ

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• ทุนสนับสนุนการศึกษาระดับมัธยมและการดำ�รงชีพ • หลักสูตรระดับปริญญาตรี ผู้ประกอบการสังคม • Day care service บ้านฝันดี จ.สุรินทร์ • โมดูลการเรียนรู้เพศปลอดภัยและการสื่อสารเรื่องเพศใน ครอบครัว

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

1. ต้องการการสนับสนุนพัฒนารูปแบบโมเดลกิจการเพื่อสังคม (Business Model Canvas) และแผนการเงิน และการบริหารจัดการ 2. ต้องการสนับสนุนการวางระบบประเมินผลกระทบทางสังคมของ DEE 3. ต้องการสนับสนุนจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนเพื่อการศึกษาและสัมมาชีพ จำ�นวน 3,000,000 บาท เพื่อใช้การเรียนรู้ระดับมัธยม และการเรียนรู้ใน ระดับปริญญาตรีหลักสูตรการประกอบการสังคม สำ�หรับคน 250 คนใน แรกเริ่ม

บริหารจัดการ: เฉลิมชัย ทองสุข

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

083-365-2002, 044-520-845

Email:

cthongsook@yahoo.com

Website:

www.fcssurin.org

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

Facebook: 31

COMMUNITY CREATIVE SECTOR:

Comm. and NGO, Comm. Strategy

AREA OF WORK: Cultural Promotion, Community KM PARTNERS: Creative people in Advertising Agency

“คนในชุมชนก็เป็นครีเอทีฟที่สร้างสรรค์เพื่อชุมชนได้” เพิ่มคุณค่าให้ชุมชนด้วยกลยุทธ์การสื่อสารที่สร้างสรรค์จากคนในชุมชน ปัญหาและที่มา

“content จะดีแค่ไหน แต่หากขาดรูปแบบการสื่อสารที่ดี ผู้รับสาร ก็จะไม่เข้าใจคุณค่าในสิ่งที่ชุมชนหรือ NGO ทำ�” ชุมชนหรือ NGO มี content ที่ดี แต่ขาดวิธีในการดึงเรื่องราว เหล่านั้นออกมานำ�เสนอให้คนทั่วไปได้เห็นคุณค่าของชุมชน หรือ การทำ�งานของ NGO นั้นๆ หากชุมชนหรือ NGO รู้จักวิธีการ วางแผนกลยุทธ์ด้วยตัวเองจึงเป็นทางออกที่ยั่งยืนที่สุด

ผลิตภัณฑ์และบริการ

• การสร้างรูปแบบและเครื่องมือการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารโดย ใช้ศักยภาพจากคนในชุมชนในการจัดการและดำ�เนินการด้วยตัวเอง

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• การจัดการองค์ความรู้ภายในชุมชน • การตระหนักในศักยภาพของตนเองและคนในชุมชน • คนในชุมชนอยากพัฒนาและสร้างสรรค์ชุมชนด้วยตัวเอง

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• ชุมชน และ NGO จะใช้ content ที่มีอยู่กับตัวพัฒนาเป็นองค์ความรู้ใน การใช้ประโยชน์ให้กับชุมชนได้เองไม่ตำ�กว่า 10 ชุมชนหรือองค์กร • รูปแบบการทำ�งานจะสร้างโมเดลในเชิงการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับ ชุมชนที่สามารถพึ่งพาตัวเองในด้านการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสาร • รายได้จากการดำ�เนินธุรกิจเพื่อสังคมจะทำ�ให้ครีเอทีฟชุมชนสามารถสร้าง ผลกำ�ไรและอยู่ได้อย่างยั่งยืน

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

เงินทุนสนับสนุนของท่านจะสร้างพลังและเปลี่ยนทัศนคติของคนรุ่นใหม่ใน ชุมชนสามารถดึงศักยภาพของคนในชุมชน สร้างสรรค์กลยุทธ์การสื่อสารได้ด้วยคนในชุมชนเอง “สร้างสรรค์ชุมชนด้วยครีเอทีฟจากชุมชน”

บริหารจัดการ: มนต์ศักดิ์ ชัยวีระเดช

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

081-689-0074

Email:

communitycreativethailand@gmail.com

Website:

Facebook:

www.facebook.com/communitycreative

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

PROJECT MUSE SECTOR:

พื้นที่การเรียนรู้

AREA OF WORK: Social and Cultural Engagement PARTNERS: -

การเปิดพื้นที่เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างสันติใน สังคมที่มีความหลากหลาย โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ปัญหาและที่มา

ปัจจุบันสังคมไทยกำ�ลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านในทุกด้าน ทำ�ให้มีความแตกต่างทางความคิดที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งที่อาจ สร้างความรุนแรง ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงการอยู่ร่วมกันในสังคม ด้วยความอดทนมีความจำ�เป็นอย่างยิ่ง แต่กลับไม่มีพื้นที่ในการจัด กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เช่นนี้อยู่อย่างชัดเจนในสังคมไทย เราจึงมีความคิดที่จะสร้างพื้นที่และกิจกรรมด้านสันติศึกษาที่คน ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม

ผลิตภัณฑ์และบริการ

• นำ�เข้านิทรรศการที่ส่งเสริมสันติภาพและสร้างความเข้าใจระหว่าง กลุ่มคนในสังคมที่มีความหลากหลายทางอุดมการณ์และวัฒนธรรม • จัดอบรมและชั้นเรียนระยะสั้น ให้กับสถานศึกษาและองค์กรต่างๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนากิจกรรมและนิทรรศการทางสังคม • สร้างเครือข่ายและระดมทรัพยากรสนับสนุนองค์กรด้านสันติศึกษา • จัดชั้นเรียน “Do No Harm” สำ�หรับ Social Enterprise, CSR เพื่อให้ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• คนทั่วไปมีโอกาสเข้าถึงนิทรรศการและกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรมที่ เกี่ยวกับสันติภาพ ซึ่งมาจากหลากหลายประเทศ • มีพื้นที่ให้กับกิจกรรมการเรียนรู้ด้านสันติศึกษาและเกิดเครือข่ายองค์กรที่ ทำ�งานด้านนี้อย่างเป็นรูปธรรมในสังคมไทย • เกิดความสนใจที่จะเรียนรู้แนวคิดเรื่อง สันติภาพ การสลายความขัดแย้ง การอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลาย และการไม่ใช้ความรุนแรง

ปี นิทรรศการ 1 2558 1 2559 1 2560 2561 1 2562 1

ชั้นเรียน 2 2 3 3 3

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า เสวนา 4 4 4 4 4

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 1,500 2,000 3,000 4,000 5,000

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

ต้องการการสนับสนุนในรูปแบบเงินลงทุนและสนับสนุนแบบสปอนเซอร์ ซึ่ง จะนำ�มาใช้ใน 2 โครงการ ดังนี้ โครงการที่ 1: นำ�เข้านิทรรศการเชิงสังคมชื่อ “Dinner with Pol Pot” เพื่อมาจัดแสดงในประเทศ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ใน กรุงเทพฯ เชียงใหม่ หาดใหญ่ และขอนแก่น มีค่าใช้จ่ายประมาณ 400,000 บาท ซึ่งจะใช้ เป็นค่าจัดทำ� และติดตั้งนิทรรศการ และค่าตอบแทนที่ปรึกษานิทรรศการ จากต่างประเทศ ค่าเช่าสถานที่ (ถ้ามี) ค่าประชาสัมพันธ์ และค่ากิจกรรม ประกอบนิทรรศการต่างๆ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชม และร่วมกิจกรรม 8001,000 คน โครงการที่ 2: การพัฒนาและจัดชั้นเรียนหลักสูตร “Do No Harm” สำ�หรับกิจการเพื่อสังคมและธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีค่าใช้จ่าย ประมาณ 100,000 บาท ซึ่งจะใช้ในการพัฒนาหลักสูตร โดยผู้เชี่ยวชาญ ด้านสันติศึกษา และธุรกิจเพื่อสังคม และใช้ในการจัดชั้นเรียน เป็นค่าสถานที่ วิทยากร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง) ซึ่งเราเชื่อว่าองค์ความรู้เหล่านี้จะ ส่งผลให้ภาคธุรกิจดำ�เนินกิจกรรมบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชนและสันติวิธี

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ: สุพจน์ ชุณหโชติอนันต์ และภัทรภร ภู่ทอง โทรศัพท์:

081-611-1070, 086-575-5157

Email:

supotchun@live.com

Website:

Facebook:

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

ได้รับทุนจาก SungKongHoe University ประเทศเกาหลี ในการจัด พื้นที่การเรียนรู้ทางสังคมวัฒนธรรม ซึ่ง Project MUSE ได้จัดกิจกรรม เสวนาร่วมกับร้านหนังสือก็องดิด ศูนย์ข่าวสารเพื่อสันติภาพ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำ�นักข่าวประชาไท ในปีพ.ศ. 2557 จำ�นวน 5 ครั้ง 33

การส่งเสริม ธุรกิจเพื่อสังคม SE SUPPORT

SOCIALGIVER SECTOR:

Lifestyle, Technology, Financial Innovation

AREA OF WORK: CSR & CSV, Fundraising, Citizen Engagement, IT, Consulting PARTNERS:

30 Businesses, 15 Projects New business and projects added monthly

พื้นที่ออนไลน์ที่รวบรวมธุรกิจชั้นนำ�ทั่วประเทศ เพื่อเปิดช่องทางให้ธุรกิจร่วมคืนกำ�ไรสู่สังคม Socialgiver แปลง Spare Capacity มาเป็นทุนเพื่อดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ควบคู่ไปกับแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและที่มา

เนื่องจากธุรกิจด้านบริการ ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรม ต่างๆ มี Spare Capacity ในรูปแบบห้องพัก หรือตั๋วที่ว่าง ที่สูญ เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ (ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1.6 พันล้านบาทต่อ วัน) Socialgiver จึงริเริ่มแนวคิดที่จะช่วยลดช่องว่างดังกล่าวของ ธุรกิจ โดยแปลง Spare Capacity ให้เป็นทุนสนับสนุนโครงการ ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การทำ� CSR อีกทั้งเปิดโอกาสให้ “ทุกคน สามารถทำ�ดีได้ง่ายๆ” ผ่านพฤติกรรมการบริโภคที่ตัวเองคุ้นเคย

ผลิตภัณฑ์และบริการ

Socialgiver.com เป็นพื้นที่ออนไลน์ที่รวบรวมสินค้าและบริการ ชั้นนำ� ในราคาที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก ร้านอาหาร และ กิจกรรมต่างๆที่เราคัดสรรจากทั่วประเทศ เมื่อผู้บริโภค “คลิก ซื้อ” สินค้าและบริการบนเว็ปไซต์ เงินจำ�นวนนั้นจะนำ�ไปช่วยเหลือ โครงการต่างๆเพื่อสังคม พร้อมสร้างความยั่งยืนและดำ�รงสังคม แห่งการให้ นับว่า Socialgiver เป็น Win-Win-Win Solution ให้แก่ทั้งภาคประชาชน ธุรกิจ และโครงการเพื่อสังคมก็ว่าได้

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

1. ระดมทุนให้แก่โครงการต่างๆเพื่อนำ�ไปพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม 2. สร้างความโปร่งใสและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ�งานของโครงการเพื่อ สังคม 3. แปลงศักยภาพการบริการส่วนที่เหลือของธุรกิจให้เป็นการเพิ่ม กำ�ไรในการตลาด การทำ� CSR และลดภาระค่าใช้จ่าย 4. เพิ่มมูลค่าการ ใช้จ่ายของผู้บริโภคให้เป็นสองเท่า โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถ ‘ช็อป’ และ ‘ช่วย’ ในเวลาเดียวกัน 5. Socialgiver เป็นนวัตกรรมใหม่ที่นำ�ไป ใช้ได้ในระดับสากล (innovative, scalable, sustainable)

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

Target: 5% weekly growth of paying users (best case scenario) Thailand Only Financial projection: 2% weekly growth of paying users (worst case scenario) Thailand Only

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

การระดมทุน: เราประสบความสำ�เร็จในระยะทดลองโมเดลที่ผ่านมา และกำ�ลังเตรียม พร้อมเปิดตัวเว็ปไซต์ Socialgiver อย่างเป็นทางการสู่ตลาดใน ประเทศไทย รวมถึงการขยายโมเดลสู่ตลาดในต่างประเทศในปี 2558 เงินสนับสนุนที่ได้รับจะนำ�ไปเพิ่มประสิทธิภาพในการเติบโตของเรา และในอนาคตเรามีความหวังว่าจะนำ� Socialgiver ไปพัฒนาระบบ ต่อ ณ สหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่เหมาะสมกับโมเดล Socialgiver (ไม่ว่าจะเป็นความตระหนักของผู้บริโภค การทำ� CSR ของ ธุรกิจ รวมถึงนวัตกรรมและความพร้อมของโครงการเพื่อสังคม) ผู้สนับสนุน : เรากำ�ลังมองหาผู้สนับสนุนที่สามารถส่งเสริม Socialgiver ในทุกๆ ด้าน ผู้สนับสนุนที่ร่วมงานกับเราปัจจุบัน ได้แก่ Dentsu360 (Agency Partner) และผู้สนับสนุนที่สนใจร่วมงานกับเราในอนาคต ได้แก่ การท่อง เที่ยวแห่งประเทศไทย (ผู้สนับสนันด้านการท่องเที่ยว) และ VGI Global Media (ผู้สนับสนุนด้านสื่อ)

รายละเอียดติดต่อ

บริหารจัดการ: Arch Wongchindawest (MYSOCIALMOTION) โทรศัพท์:

091-993-6595

Email:

arch@mysocialmotion.org

Website:

www.socialgiver.com

Facebook:

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

1. Winner GSVC SE ASIA 2014 2. Winner Banpu Champions for Change 2013 3. Runner-up DIA Award “Most socially responsible initiative” 4. Marie Claire, Hero of the Month 5. Esquire, Men at their best. Received 3M investment from Premier 35

เทใจ

SECTOR:

Social

AREA OF WORK: Online PARTNERS:

มูลนิธิเพื่อ “คนไทย”, ChangeFusion, TYPN, บริษัท โอเพ่นดรีม จำ�กัด

พื้นที่กลางทางเทคโนโลยี (technology platform) ในการเชื่อมโยงชุมชนผู้ให้แนวใหม่ให้สามารถสนับสนุน โครงการเพื่อสังคมที่สร้างสรรค์ หลากหลาย และมีผลชัดเจน ได้อย่างสะดวก และผ่านช่องทางใหม่ๆ เข้ากับยุคสมัย ปัญหาและที่มา

แม้ในปี 2012 สำ�รวจจาก CAF พบว่าไทยเป็นประเทศที่มีการ บริจาคเป็นอันดับที่ 9 จาก 153 ประเทศ แต่ในขณะเดียวกันมูลนิธิ หรือหน่วยงานเพื่อสังคมด้านต่างๆ มีแนวโน้มว่าจะต้องปิดตัวลง เพราะขาดการสนับสนุน เทใจก่อตั้งในปี 2555 เพื่อสร้างช่องทางการให้รูปแบบใหม่ที่เป็น พื้นที่กลางในการระดมทุนให้โครงการเพื่อสังคมที่สร้างสรรค์และ วัดผลได้ เพื่อยกระดับการให้อย่างมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาสังคม

ผลิตภัณฑ์และบริการ

เว็บไซต์บริจาคออนไลน์ ที่รวบรวมโครงการเพื่อสังคมเอาไว้อย่าง หลากหลาย ให้เลือกบริจาค พร้อมทั้งออกใบเสร็จเพื่อนำ�ไปลด หย่อนภาษีได้

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• ไอเดียดีๆ จากกลุ่มคน มูลนิธิเกิดขึ้นจริง เป็นที่รู้จัก ได้รับการสนับสนุน ซึ่ง อาจเกิดกิจการเพื่อสังคม เพื่อการแก้ปัญหาอย่างถาวรได้ • ประชาชนมีทางเลือกในการให้ที่แตกต่าง หลากหลายและน่าสนใจ ซึ่งจะ ทำ�ให้เกิดการให้แบบใหม่ • เกิดพื้นที่กลาง หรือcrowdfunding online ที่เชื่อมโยงผู้ให้และผู้ให้เข้า ด้วยกัน เกิดเป็นเครือข่ายผู้ให้แนวใหม่ • เกิดการแก้ไขปัญหาสังคมในแนวทางที่มีความแตกต่างและหลากหลาย

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• มีสมาชิกและผู้ติดตาม 200,000 คน • มีโครงการที่ระดมทุนสำ�เร็จ 100 โครงการต่อปี • มีแคมเปญร่วมกับบริษัทและเครือข่ายอื่นๆ อีก 45 แคมเปญ • ภายใน 5 ปีสามารถระดมทุนได้ 100 ล้านบาทต่อปีเพื่อให้เทใจมีความ ยั่งยืน

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

• เปิดช่องทางการให้ใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ เห็นผลชัดเจน • ทำ�ให้เขารู้สึกว่าเป็นผู้นำ�เทรนด์ ทันสมัยcreative • เป็นช่องทางหักภาษี • รู้สึกดีต่อตัวเองที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม • Partnerจากองคก์รเอกชนได้ภาพลักษณ์ที่ดีในการ สนับสนุนโครงการที่ สร้างสรรค์และทำ�เพื่อสังคม

บริหารจัดการ: ChangeFusion

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

02-938-2636

Email:

info.taejai@gmail.com

Website:

www.taejai.com

ไม่เคยได้รับทุนหรือรางวัล

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

Facebook: 36

MA :D SECTOR:

Social Entrepreneurs Support

AREA OF WORK: Community and Capacity Building PARTNERS: Change Fusion, CreativeMOVE, Good

Factory, Gyudon Harmony, SVN (Social Venture Network)

Ma:D เป็นกิจการเพื่อสังคมที่เชื่อในพลังของคนธรรมดาที่จะมาร่วมมือกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน สังคม โดยสร้างพื้นที่สุมหัวซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างความร่วมมือและเครือข่ายให้แข็งแรง สร้างโปรแกรมพัฒนา ศักยภาพในการเป็นผู้ประกอบการทางสังคม และจัดกิจกรรมอื่นๆเพื่อสื่อสาร สร้างแรงบันดาลใจทางสังคม และ ขยายเครือข่าย ปัญหาและที่มา

ผู้ประกอบการทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ดำ�เนินการอยู่ หรือเพิ่งเริ่ม ต้นในประเทศไทยนั้น มีจำ�นวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงบุคคลที่ อยากทำ�สิ่งดีๆ เพื่อสังคมแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือไปที่ไหน นั้นมีอยู่ทั่วประเทศไทย Ma:Dเล็งเห็นถึงความสำ�คัญของการสร้างเ ครือข่ายผู้ประกอบการทางสังคม เพื่อสร้างสรรค์ และเกื้อกูลกันทั้ง ทางด้านความรู้ ประสบการณ์ และทรัพยากร จึงอยากเปิดพื้นที่ให้ ทุกคนได้มาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือทำ�งานร่วมกัน

ผลิตภัณฑ์และบริการ

1. โปรแกรมพัฒนาศักยภาพ และสร้างความร่วมมือเชิงประเด็น 2. อีเวนท์สื่อสารและสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม 3. พื้นที่เช่า: ออฟฟิศทำ�งาน/ห้องประชุม/พื้นที่จัดกิจกรรม

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

มาดีเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดผลกระทบทางสังคมผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม ต่างๆ ที่มาดีจัดขึ้น หรือร่วมกับองค์กรต่างๆ เพื่อมุ่งเน้นประโยชน์ทางการ พัฒนาสังคม

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

Ma:D มีความมั่นคงทางการเงิน มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของ Ma:D ไม่ว่าจะเป็น Online หรือ Offline ไม่ตำ�กว่า 100,000 คนต่อปี

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

1. ค่าจัดทำ�เว็บไซด์ เพื่อ Match Need and Offer ของ Social Enterprise = 200,000 บาท 2. วิทยากรที่สนใจจะมาให้ความรู้ด้านต่างๆ/เรียนรู้ร่วมกัน เป็นประจำ�ต่อ เนื่อง

บริหารจัดการ: ปรีห์กมล จันทรนิจกร

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

085-917-7795

Email:

gift@madeehub.com / info@madeehub.com

Website:

www.madeehub.com

Facebook:

facebook.com/madeehub

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

Banpu Champions for Change ปี 4 2014

CREATIVE MOVE SECTOR:

Sector: Social Innovation, Creative, Art &

AREA OF WORK: Design PARTNERS:

ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม สสส., Change Fusion , Ma:D Hub

องค์กรนวัตกรรมสังคมที่มีเป้าหมายในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ และการออกแบบ แก้ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม ปัญหาและที่มา

ปัจจุบันพบว่าองค์การจำ�นวนมากที่ทำ�งานด้านสังคมหรือสิ่ง แวดล้อม ทั้งภาครัฐ เอกชน หรือ NGO มักมีปัญหาในการสื่อสาร ให้มีความน่าสนใจ รูปแบบการจัดกิจกรรมรณรงค์ที่ขาดความ สร้างสรรค์ หรือออกแบบสื่อนิทรรศการ กิจกรรม ไม่ดึงดูดผู้พบเห็น รวมถึงสินค้าและบริการของผู้ประกอบการด้านสังคมต้องการความ ช่วยเหลือในการพัฒนาสินค้า วิจัย การสื่อสารและประชาสัมพันธ์

ผลิตภัณฑ์และบริการ

• ให้คำ�ปรึกษา วิจัย และออกแบบนวัฒกรรมสังคม อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ ออกแบบงานบริการ กิจกรรม แคมเปญด้านรณรงค์ กิจกรรม CSR ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม • ออกแบบและวางแผนการสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์ ด้าน สังคมหรือสิ่งแวดล้อม

ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

• สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อม ทั้งเป็นโครงการ ภายใน และโครงการที่ร่วมกับองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง • สนับสนุบการทำ�งานของ NGO ผู้ประกอบการเพื่อสังคม และองค์กร ต่างๆ ที่ต้องการทำ�กิจกรรม ออกแบบ หรือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพขึ้น • สร้างเครือข่ายนักสร้างสรรค์นวัตกรรมสังคม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ พัฒนาศักยภาพ รวมถึงสนับสนุน และเปิดโอกาสให้กับสมาชิกในการ สร้างสรรค์นวัตกรรมสังคมร่วมกันอย่างสมำ�เสมอ

เป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้า

• ขยายขนาดเครือข่ายนักสร้างสรรค์นวัตกรรมสังคม (Social Innovation Community) ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น • เพิ่มจำ�นวนโครงการสร้างการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสังคม (ร่วมคิด ร่วมทำ� และร่วมสนับสนุน) • ขยายขนาดองค์กร เพื่อเพิ่มทีมงานบริหารจัดการ ทีมงานฝ่ายสร้างสรรค์ และฝ่ายออกแบบนวัตกรรมสังคม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้ บริการลูกค้าที่กำ�ลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความต้องการในปัจจุบัน และการนำ�ไปใช้

1. ต้องการเงินลงทุน เพื่อ 1.1 ขยายขนาดองค์กร พัฒนาศักยภาพทีมงาน เพื่อเพิ่มขีดจำ�กัดในการให้ บริการกับลูกค้าที่กำ�ลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 1.2 พัฒนาเครือข่ายนักสร้างสรรค์นวัตกรรมสังคม (Social Innovation Community) ทั้งในรูปแบบออนไลน์แพตฟอร์ม และกิจกรรมออฟไลน์ เพื่อขยายโอกาสการมีส่วนร่วมในในการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน (Co Creation) 2. ต้องการหาภาคีเครือข่าย (Partners) ทั้งภาครัฐ เอกชน หรือ NGO เพื่อร่วมพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยในการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม

บริหารจัดการ: ธนบูรณ์ สมบูรณ์

รายละเอียดติดต่อ

โทรศัพท์:

085-044-0999

Email:

ace@creativemove.com

Website:

www.creativemove.com

Facebook:

www.facebook.com/creativemove

ทุนหรือรางวัลที่เคยได้รับ

2014 GOOD 100: List of Global Citizens and Creative Change Makers. www.good.is/the100

องค์กรภาคีผู้ร่วมจัดงาน PARTNERS & SPONSORS

SCHOOL OF GLOBAL STUDIES, THAMMASAT UNI.

วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

วิทยาลัยโลกคดีศึกษามีเป้าหมายหลักในการสร้างนักพัฒนาและผู้นำ�การเปลี่ยนแปลงที่มุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คนในสังคมผ่าน หน่วยย่อยต่างๆ ได้แก่ หลักสูตรปริญญาตรี “Bachelor of Arts in Global Studies and Social Entrepreneurship” หลักสูตรปริญญา โท “The Master of Public Health (Global Health)” และศูนย์นวัตกรรมสังคม GLab ( Social Innovation Lab) (www.sgs.tu.ac.th) 2.1. หลักสูตรนานาชาติ ระดับปริญญาตรี “Bachelor of Arts in Global Studies & Social Entrepreneurship (GSSE)” หลักสูตรที่สร้างนักคิด ผู้นำ� ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง และนักธุรกิจเพื่อสังคมอย่างเป็นองค์รวม พัฒนาเด็กรุ่นใหม่ให้เป็นพลเมืองโลกที่มีความคิด วิเคราะห์และความคิดสร้างสรรค์ในการบริหารธุรกิจอย่างเป็นธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม 2.2. หลักสูตรนานาชาติระดับปริญญาโท “The Master of Public Health (Global Health)” หลักสูตรที่ทำ�ให้นักศึกษาได้เข้าใจถึงมุมมองรวมทั้งบริบทด้านสาธารณสุข และสุขภาพในระดับสังคมโลก ได้องค์ความรู้ทักษะที่จำ�เป็นในการส่งเสริม ป้องกันสุขภาวะของผู้คนโดยไร้ขอบเขตของประเทศ บริบทของสังคมและวัฒนธรรมมาขวางกั้น 2.3. ศูนย์นวัตกรรมสังคม GLab

ศูนย์นวัตกรรมสังคม GLab ศูนย์นวัตกรรมสังคม GLab ภายใต้วิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (School of Global Studies, Thammasat University) มีความตั้งใจที่จะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในการสร้างและส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมและเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาคนเหล่านี้ให้สามารถสร้างผลประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้างแบบยั่งยืน รวมทั้งสร้างความร่วมมือในทุกภาคส่วนทั้งระดับโลก ภูมิภาค และท้องถิ่นเพื่อสร้างความตระหนักในสังคม ก่อให้เกิดนวัตกรรมสังคมกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างสังคมและโลกที่ดียิ่งขึ้น โดยโครงการหลักในปี 2557 – 2558 คือโครงการ GLab Scaling Impact

J.P. MORGAN & CO. (NYSE:JPM) JPMorgan Chase & Co. (NYSE: JPM) เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการเงินชั้นนำ�ระดับโลกโดยมีสินทรัพย์ 2.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และ ดำ�เนินธุรกิจทั่วโลก เป็นผู้นำ�ในด้านวาณิชธนกิจ บริการด้านการเงินสำ�หรับผู้บริโภค และธุรกิจขนาดเล็ก ธนาคารพาณิชย์ การดำ�เนินธุรกรรม ทางการเงิน และการจัดการสินทรัพย์ JPMorgan Chase & Co. อยู่ใน Dow Jones Industrial Average และให้บริการลูกค้าในสหรัฐนับ ล้าน รวมทั้งลูกค้าบรรษัท สถาบัน และรัฐบาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกมากมายภายใต้แบรนด์ JPMorgan และ Chase โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่ม เติมเกี่ยวกับ JPMorgan Chase & Co. ได้ในเว็บไซต์ www.jpmorganchase.com

มูลนิธิเพื่อคนไทย มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” ได้ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เกิดความตระหนัก เข้าใจ และที่สำ�คัญ มีส่วนร่วมในการลงมือทำ�เพื่อแก้ไขปัญหา เสริม สร้างปัจจัยที่มีผลในการสร้างความอยู่ดีมีสุขให้สังคมไทย การทำ�งานของมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” เน้นถึงการสร้างกลไกหลัก เพื่อให้เกิดการทำ�งานร่วม กันอย่างเป็นระบบ ดังต่อไปนี้ 1. โครงการวิจัย “คนไทย” มอนิเตอร์ เสียงนี้มีพลัง งานสำ�รวจระดับชาติที่ใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่ง โดยรวบรวมข้อมูลจากคนไทย 100,000 คน ใน 77 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในและนอกเขต เทศบาล โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสะท้อนเสียงที่แท้จริงและโปร่งใสของประชาชน วัดระดับความเปลี่ยนแปลงของคุณภาพชีวิต สะท้อนภาพรวม ของการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศไทยในระยะยาว 2. โครงการสื่อหัวรถจักร โครงการสร้างความร่วมมือกับสื่อมวลชนในแขนงต่างๆ ในการเผยแพร่บทบาท และตัวอย่างการทำ�งานของคนไทยในภาคส่วนต่างๆ รวมถึงกระตุ้น สังคมให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ 3. โครงการ “คนไทย” ขอมือหน่อย คนละไม้ คนละมือ เพื่อสังคมน่าอยู่ เทศกาลการรวมตัวของคนลงมือทำ�งานด้านสังคมในหลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น งานจิตอาสา/อาสาสมัคร มูลนิธิ CSR ขององค์กรธุรกิจ สายงาน บันเทิง นักเรียน นักศึกษา และอื่น ๆ โดยงานเทศกาลนี้จะถูกจัดขึ้นทุกปี โดยมุ่งหวังที่จะให้เกิดการรับรู้ และสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชน คนไทยทุกคนที่เข้าร่วมงาน โดยผ่านการลงแรง ลงเงิน และลงความคิดรวมถึงเป็นงานที่ทำ�ให้คนทำ�งานด้านสังคมได้มารวมตัวกัน เพื่อแลกเปลี่ยน ความรู้และประสบการณ์ในการทำ�งานและเชื่อมต่องานเพื่อขยายผล

สถาบัน CHANGE FUSION เป็นองค์กรไม่แสวงหากำ�ไรภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อสังคมให้เติบโต ส่ง เสริมพัฒนาระบบนิเวศน์ของกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทยและในทวีปเอเชีย โดยมีโมเดลการสนับสนุนดังนี้ 1. Mentoring การแนะนำ� ให้คำ�ปรึกษา ร่วมวางแผนในด้านยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ การกำ�หนดเป้าหมายทางสังคม และการวัดผล 2. Investing การสนับสนุนทุนที่เหมาะสมตามลำ�ดับขั้นความเติบโตของกิจการเพื่อสังคม ทั้งยังช่วยระดมทุนจากนักลงทุนเพื่อสังคมเช่นกัน 3. Networking การเชื่อมเหล่าผู้ประกอบการเพื่อสังคมกับบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานต่างๆที่จะมีผลสำ�คัญต่อการเติบโต และรวมถึง การเชื่อมโยงกับตลาดด้วย

THAI YOUNG PHILANTHROPIST NETWORK (TYPN) Thai Young Philanthropist Network (TYPN) เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมไทย โดย TYPN เป็นเสมือน Platform ในการเชื่อมโยงพลเมืองสร้างสรรค์รุ่นใหม่ (young active citizens) ให้สามารถรวมตัวกันเพื่อทำ�โครงการและกิจกรรมเพื่อสังคม รวมทั้งเป็นเครือข่ายกลางในการสร้างร่วมมือระหว่างองค์กรในภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และกลุ่มพลเมืองสร้างสรรค์ TYPN ก่อตั้งขึ้นในปี 2551 โดยมีทีมงานหลัก (Core Team) เป็นแกนกลางในการจัดโครงการ/กิจกรรม และประสานความร่วมมือระหว่าง TYPNers และองค์กรภาคี ปัจจุบัน TYPN มีสมาชิกประมาณ 2,700 คน และมีทีมงานหลัก 40 คน ซึ่งบุคลากรทั้งหมดเป็นอาสาสมัคร งานของ TYPN แบ่งเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่ • การสร้างโอกาสให้กับเยาวชน และกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคม (Underprivileged Empowerment) เช่น โครงการ Youth Entrepreneurship Training (ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ) โครงการ English for Young Local Guides (ร่วมกับสำ�นักงาน เขตประเวศ และชุมชนริมคลองประเวศฝั่งเหนือ) และโครงการสอนภาษาอังกฤษให้กลุ่มสตรีด้อยโอกาส (ร่วมกับ Goodwill Group Foundation) เป็นต้น • การสร้างชุมชนของผู้นำ�การเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ในสังคมไทย (Caring Leaders Community) เช่น โครงการ Nexus Thailand (กลุ่ม คนรุ่นใหม่ที่สนใจด้านการลงทุนเพื่อสังคม และการบริจาคอย่างมีกลยุทธ์) กิจกรรม Caring Leader Initiatives และโครงการ Social Enterprise Business Plan Competition (ร่วมกับ British Council หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการ บัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันธุรกิจเพื่อสังคม ศูนย์พัฒนาตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (CSRI) และสถาบัน ChangeFusion ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย) เป็นต้น • การสร้างกลไกเพื่อสนับสนุนนักเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย (Creating an enabling ecosystem for change makers in Thailand) โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้ประกอบการสังคม เช่น โครงการ Taejai.com (ร่วมกับมูลนิธิเพื่อคนไทย สถาบัน ChangeFusion ภายใต้มูลนิธิบูรณะ ชนบทแห่งประเทศไทย บริษัท OpenDream และ Ashoka Thailand) โครงการ Brain Exchange Initiative: http://www.brainexchange.org (ได้รับการรองรับโดยสำ�นักนายกรัฐมนตรีตอนเริ่มจัดทำ�โครงการฯ และได้รับการสนับสนุนจาก School of International and Public Affairs at Columbia University and John F. Kennedy School of Government at Harvard University) โครงการ Social Entrepreneur Mentorship (ร่วมกับสถาบัน ChangeFusion ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย บริษัท บ้าน ปู จำ�กัด และ Bain & Company) เป็นต้น ติดตามงานของเครือข่าย TYPN ได้ที่ TYPN Facebook Group http://www.facebook.com/groups/thaiypn/ หรือที่ TYPN Website http://www.typn.org 42

มูลนิธิ ASHOKA (THAILAND) ในทศวรรษแรก อโชก้ามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการทำ�งานของผู้ประกอบการสังคมแนวหน้าในเอเชีย ลาตินอเมริกา อัฟริกา และยุโรปตอนกลาง โดย การช่วยให้เขาประสบความสำ�เร็จในการทำ�งาน แต่ในทศวรรษ 1990 ภาคประชาชนได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว อโชก้าจึงตอบสนองด้วยการจัดตั้ง โครงการ และนำ�เสนอความคิดริเริ่มใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น อโชก้าในฐานะองค์กรจึงเติบโตเช่นเดียวกันโดยขยายตัวเป็น สามเท่า ระหว่างปี 2541-2533 และอีกครั้งหนึ่งในระหว่างปี 2542-2545 มูลนิธิอโชก้า (ประเทศไทย) ได้เริ่มดำ�เนินงานปี 2532 และจดทะเบียนเป็นมูลนิธิปี 2547 ปัจจุบันมีอโชก้าเฟลโลว์จำ�นวน 105 คน สำ�นักงานใน กรุงเทพฯ มีทีมงาน 7 คน นอกจากนี้มีอาสาสมัคร ทั้งชาวไทย และต่างประเทศ โดยมีอโชก้าเฟลโลว์อาวุโสเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และมีเฟลโลว์ ช่วยประสานความร่วมมือระหว่างเฟลโลว์ด้วยกันเอง วิสัยทัศน์ อโชก้ามองเห็นโลกที่ซึ่งทุกคนเป็นผู้เปลี่ยนแปลงสังคม “Everyone a ChangemakerTM” โลกซึ่งตอบสนองต่อการท้าทายทางสังคม อย่าง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ และโลกที่ซึ่งบุคคลมีเสรีภาพ ความมั่นใจ ตลอดจนได้รับการสนับสนุนจากสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาและเป็นผู้นำ�การ เปลี่ยนแปลง พันธกิจ อโชก้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาภาคประชาชน ให้มีลักษณะเป็นสากล มีทักษะในการประกอบการ และมีการแข่งขัน เพื่อเป็นฐานให้ผู้ประกอบการสังคม เติบโต และส่งเสริมให้ประชาชนในโลกคิดและทำ�อย่างผู้นำ�การเปลี่ยนแปลง

สำ�นักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ(สกส.) เป็นหน่วยงานเชิงยุทธศาสตร์ขนาดเล็กที่จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้ระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่สำ�คัญคือการสร้างปัจจัย แวดล้อมสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้ทุกภาคส่วนในสังคมสามารถเข้ามามีส่วนร่วมให้เกิดวัฒนธรรมกิจการเพื่อสังคม (Culture of Social Enterprise) ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สกส.มีหลักการสำ�คัญคือการใช้นวัตกรรมทางสังคม (Social Innovation) และแนวคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อ นำ�ไปสู่การแก้ไขปัญหาสำ�คัญที่มีอยู่ของประเทศผ่านความร่วมมือในทุกระดับ เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ยั่งยืน (Systemic Change) นั้นไม่สามารถทำ�ได้โดยใครคนใดคนหนึ่ง และไม่สามารถใช้วิธีการในรูปแบบเดิมๆได้ หากแต่จำ�เป็นต้องมีกลไกเชิงนวัตกรรมที่สามารถดึงพลังจาก ทุกภาคส่วนขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และแตกต่างไปจากเดิม “กิจการเพื่อสังคม” คือหนึ่งในกลไกดังกล่าวที่เราเชื่อว่าเป็นคำ�ตอบที่ใช่ และอยากเชิญชวนทุกคนให้เริ่มเปลี่ยนจากการเป็นส่วนหนึ่งของผู้สร้าง ปัญหาเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทางออกที่ร่วมกัน