Waowoww

Page 1

WAO...WOWW หว่าว...ว้าวว

1


AMAZING PICTURE Bermuda Triangle


AMAZIND PICTURE Yosemite Firefall


W W O W O A W ว ว า ้ ว หว่าว EDITOR’S TALK สวัสดีท่านผู้อ่านที่รัก ในโลกของเราจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด เกิด ปาฏิหารย์ เรื่องแปลกๆ หรือเรื่องที่เป็นความที่สุดของที่สุด มากมาย ซึ่ง บางสิ่งที่ผมเคยเห็นในภาพยนตร์ ที่ผมเคยคิดว่ามันเกิดจากจินตนาการ ของผู้สร้าง แต่แล้วมันกลับมีอยู่จริงในโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อเป็น อย่างนั้นแล้วผมจึงได้สรรหาเรื่องราวแปลกๆมากมายจากทั่วทุกมุมโลก มาบอกต่อให้กับผู้อ่านได้รับรู้ เพราะในบางเรื่องมันแปลกๆจริงๆ ผม เชื่อว่าใครได้อ่านแล้วจะต้องร้องออกมาว่า ว้าว ว้าว ว้าว...มันมีด้วยหรอ เนี่ยยยย ขอให้คุณผู้อ่านมีความสุขกับสิ่งที่ผมได้นำ�มาบอกต่อกันนะ ครับ

EDITOR __56110610__ SITTIPONG SENKEN


สารบัญ ฉลามไซคลอป.......4 มังกรน้ำ�เงิน..........5 อ่าวเรืองแสง...........6 บ้านผีสิงอมิตตี้วิลล์...7 Gallery.................12 Lincoln VS Kennedy...14 ที่สุดในโลก...........17 ปริศนาเบอร์มิวดา..... 19 หลุมยักษ์.............24 ถ้ำ�หนอนเรืองแสง........26 ความเชื่อนักบอล......28 ร้านอาหารแปลก..........31


©ÅÒÁ䫤ÅÍ»

เจ้ า ฉลามหน้ า ตาแบบนี้ ถู ก พบภายในท้ อ งของ ฉลามดัสกี้ที่ถูกจับอย่างถูกกฏหมายโดยชาวประมงชื่อ เอ็นริ เก้ ลูเซโร่ ลีออน ใกล้เกาะเซอร์ราลโว ในอ่าวแคลิฟอร์เนียเมื่อ ฤดูร้อนปี 2554 นี้เอง ซึ่งเมื่อเขาผ่าท้องแม่ฉลามออกมา เขา ก็ได้พบกับเหล่าลูกอ่อนฉลาม 9 ตัวที่มีรูปร่างลักษณะปกติ และ ลูกฉลามตัวผู้ยาว 56 ซม. ที่มีลูกตาที่ใช้การซึ่งมีเส้นผ่าน ศูนย์กลางประมาณ 2.6 ซม. อยู่ตรงกลางหัวด้านหน้าปนอยู่ ด้วย ลักษณะร่างกายอย่างนี้ถูกเรียกว่า “Cyclopia เอามาจาก ยักษ์ตาเดียวในตำานานชื่อ Cyclops ในตำานานกรีก-โรมัน” ซึ่งเป็นอะไรที่สามารถเกิดขึ้นกับสัตว์บางสปีชีส์ เช่นมนุษย์ได้ เหมือนกัน หลังจากที่ลูกฉลามหน้าตาแปลกถูกพบ เอ็นริเก้ก็ ไม่รอช้าที่จะเล่าเรื่องราวผ่านทาง Facebook และหลังจากนั้น ไม่นาน เรื่องการค้นพบที่น่าทึ่งนี้ก็เข้าไปถึงหูของ Galvan-Magana และเพื่อนชื่อ Marcela Bejarano-Alvarez จาก Interdisciplinary Center of Marine Sciences ในเมืองลา ปาซ ประเทศ เม็กซิโก้ ซึ่งทั้งสองและทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ เข้าพบกับเอ็นริเก้เพื่อขอยืมเจ้าลูกอ่อนฉลาม มาศึกษาทันที นักวิทยาศาสตร์นั้นได้ทำาการ เอ็กซ์เรย์ เจ้าฉลามและเปรียบเทียบ กั บ การสถิติการค้นพบ cyclopia ใน อดีตเพื่อยืนยันว่าเจ้าตัว อ่ อ นฉลามนี้ คื อ ไซคลอป จริงๆ จากการค้นคว้าศึกษา ที ม นั ก วิ ท ยาศาสตร์ พ บว่ า ในสัตว์ไซคลอปนั้นเคยถูกค้นพบมา

4

ก่อน (น้อยกว่า 50 ครั้ง) ในขั้นตัวอ่อน ซึ่งหมายความว่าสัตว์ ไซคลอปนี้ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นอกมดลูก นอกจากลูกตาเดียวตรงกลางหัวแล้ว ฉลามไซ คลอปนี้ยังมีลักษณะทางกายภาพที่ผิดปกติอื่นๆอีก เช่น ภาวะ ผิวเผือก การขาดเม็ดสี การหายไปของรูจมูก โหนกบนหัว ฟัน เล็กๆ และความผิดปกติของกระดูกสันหลัง นอกจากนี้ ฉลาม ไซคลอปนั้นก็จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้นานหลังจากเกิดมาจากท้อง แม่ เหตุของ cyclopia ในฉลามนั้นนักวิทยาสาสตร์ไม่สามารถ ยืนยันได้ถึงแม้ว่าภาระนี้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (รวมถึงคน เช่น เด็กผู้หญิงที่เกิดในปี 2525 มาพร้อมกับลูกตาตรงกลาง ใบหน้าและไม่มีจมูก ซึ่งเธอเสียชีวิตหลังจากการคลอด 30 นาที) จะมีสาเหตุจากแม่ที่กินอาหารขาดสารอาหารโดยเฉพาะ วิตามิน เอ นอกจากนี้ ภาวะ cyclopia นั้นก็แทบจะไม่เคยเกิด ขึ้นกับปลากระดูกอ่อนอย่างฉลามอีกด้วย (เกิดกับปลากระ

ดูกแข็งมากกว่าถึงจะน้อยมากก็ตามที) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สาเหตุของ cyclopia ในฉลามไซคลอปนี้ก็ไม่ได้มาจากมลพิษ ทางน้ำาแน่นอนเพราะน่านน้ำารอบๆ ที่มันถูกจับได้นั้นสะอาด พอดู นอกจากลักษณะผิดปกติที่กล่าวไปแล้ว เจ้าฉลามไซคลอ ปนี้ก็มีร่างกายที่ปกติเหมือนฉลามทั่วไป เช่น ครีบและเหงือก ที่ถูกรูปร่าง การค้นพบฉลามไซคลอปครั้งนี้นับว่าเป็นการค้น พบความผิดปกติทางกายภาพครั้งแรกในฉลามดัสกี้ ซึ่งเอ็น ริเก้ผู้ค้นพบนี้ได้เก็บรักษามันไว้อย่างดีในแอลกอฮอล์และได้ ปฏิเสธข้อเสนอในการซื้อของชาวประมงอื่นๆเมื่อเทียบกับ ฉลามไซคลอปแล้ว ฉลามดัสกี้ปกติ นั้นมีมีฟ้าออกเทาบนหลัง และสีขาวใต้ท้องและมีร่างกายยาว 3 เมตร พวกมันเป็นหนึ่ง ในฉลามที่เติญโตช้าที่สุดในโลกแต่สามารถมีชีวิตยืนยาว ได้ถึง 45 ปี ฉลามดัสกี้นั้นเป็นฉลามที่มักจะถูกล่าเพื่อครีบ ซึ่งทำาให้พวกมันมีสถานะเสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์โดย IUCN ที่มา : my.dek-d.com/JiPpieZz


Glaucus atlanticus

“มังกรน้ำ�เงิน” สัตว์ที่สวยและแปลกตาตัวนี้มีชื่อว่าGlaucus atlanticus หรือสัตว์ที่ถูกเรียกว่า “มังกรน้ำ�เงิน” เป็นสัตว์จำ�พวกหอยและปลิง ที่หาพบได้ยากที่สุด และมีความสวยงามมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งเลยก็ ว่าได้มีขนาด 3.5เซ็นติเมตรลำ�ตัวด้านบนตรงกลาง เป็นแถบสีเทาเงินด้านข้างเป็นสีน้ำ�เงินเข้มจรดหาง มีระยาง 6 อันโดยปลายระยาง ที่เหมือนนิ้วจะมีหน่อ เล็กที่เรียกว่า Cerata จะพบเห็นได้เฉพาะในโอกาส

ที่ ล ม ท ะ เ ล พั ด ขึ้ น สู ชายหาด เพราะจะพัด พามังกรสีน้ำ�เงินขึ้น มา และเหยื่อของพวกมังกร สีน้ำ�เงินเข้ามา บริเวณ ใกล้ชายหาด ลอยอยู่ บนผิวน้ำ� บ้างก็ถูกพัดขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาด มัน จะกิน สิ่งมีชีวิตที่มีพิษเป็นอาหาร เช่น Portuguese Man o’ War บางทีก็กินกันเอง พวกมันมีภูมิคุ้มกัน พิษ และพิษที่กินเข้าไปมันยังสามารถ นำ�ไปสะสมที่ ถุงบริเวณ Cerata และที่สำ�คัญพิษที่มันสะสมไว้นั้น รุนแรงกว่า พิษที่ได้จากเหยื่อเสียอีก มังกรสีน้ำ�เงินจะใช้

การกลืนแก๊สเข้าไปในกระเพาะ เพื่อใช้ในการ ลอยตัว เนื่องจากตำ�แหน่งของกระเพาะทำ�ให้ ลอยกับหลัง ทำ�ให้ช่วงท้องที่มีสีฟ้าเข้มลอย อยู่ด้านบนเพื่อลวงตานกจากด้านบนให้คิดว่า เป็นท้องน้ำ�และหลังที่มีสีเทาเงินอยู่ด้านล่าง เพื่อลวงตาพวกปลานักล่าจากเบื้องล่างว่าเป็น ท้องฟ้า มังกรสีน้ำ�เงินจะออกไข่เป็นสาย ครั้ง

ละ 4-6 สาย ต่อชั่วโมง แต่ละสายประกอบไปด้วย ไข่ 36-96 ฟอง ทำ�ให้วันๆ สามารถผลิตไข่ได้ 3300 8900 ฟอง เลยทีเดียว ที่มา : upyim

5


Bioluminescent Bay อ่าวเรืองแสง

กลับมาพบกับความเป็นที่สุดในโลกกันอีกครั้ง

วั น นี้ เ ราจะพาไปชื่ น ชมความมหั ศ จรรย์ ข องธรรมชาติ กั น หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยดูภาพยนตร์สุดอลังการ Life of Pi ที่เราได้เห็นทะเลเรืองแสงสวยงามในบางฉาก และวันนี้เราจะ พาไปชมสถานที่จริงที่สามารถเรื่องแสง ได้ อ ย่ า ง ในหนังเรื่องนี้ และอาจจะเป็นไปได้ว่า สถานที่แห่งนี้คือแนวคิดของฉากทะเล เรื่องแสงในหนังก็เป็นได้ สถานที่ดังกล่าวนี้มีชื่อว่า ไบโอลูมิเนส เซนท์ เบย์ (Bioluminescent Bay) เป็นอ่าวเรือง แสงขึ้นชื่อตั้ง อยู่ ใ นชายฝั่ ง ทะเลคาริบเบียน (Caribbean coast) ในประเทศเปอร์โตริโก ความมหัศจรรย์ของน้ำาทะเลที่นี่ก็คือเมื่อถึงเวลากลางคืน ถ้า เราสัมผัสกับน้ำา มันจะเรื่องแสงเป็นสีฟ้าเขียวสวยงาม ที่มาของแสงดังกล่าวนี้เกิดจาก แพลงตอนพืช และสัตว์ขนาดเล็ก ที่เรียกกว่า ไดโนแฟลกเจลเลต (Dinoflagellates) กว่า 720,000 เซล ต่อน้ำาหนึ่งแกลลอน ซึ่งหากปลา หรือมนุษย์รับประทานเข้าไป ก็จะทำาให้ร่างกายได้รับสารพิษ ที่มีผลต่อระบบประสาท และด้วยการที่แพลงตอนพืชชนิด นี้ มันจะสะสมพลังงานจากแสงอาทิตย์เอาไว้ในตอนกลาง วัน และจะปล่อยแสงสีน้ำาเงินออกมาในตอนกลางคืนเมื่อมี การสั่นสะเทือนของน้ำา ดังนั้นเมื่อเราสัมผัสหรือทำาให้เกิด เคลื่อนไหวของน้ำาจึงจะเกิดแสงสีฟ้าเขียวสวยงามนี้อ่าวเรือง

6

แสงสุดมหัศจรรย์น่าทึ่งที่สุดในโลก ด้านผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งชี้ว่า ปรากฏการณ์ดัง กล่าวเกิดจากกลไกสิ่งมีชีวิตปล่อยแสงน้ำาเงินที่เกิดจาก ปฏิกิริยาทางเคมีภายในเซลล์ของมัน และเมื่อเซลล์นับพัน ล้านๆเซลล์รวมตัวกัน จากคลื่นที่ซัดมารวมกัน ก็จะได้ภาพ เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้จะเห็นได้เฉพาะจากระยะ ไกล และเมื่อยามที่เรือก่อปฏิกิริยาเคลื่อนไหวต่อท้องทะเล เช่น การออกเรือ การแล่นเรือ หรือการที่คนลงไปเล่นน้ำา การเรื อ งแสงของแพลงตอนดั ง กล่ า วจะอยู่ ไ ด้ นานเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจกนั้นแสงจะค่อยๆลด ลงเรื่อยๆ แต่ว่า แสงที่เราได้เห็นนั้นในช่วงแรกจะมีความ สว่างมาก ในคืนเดือนมืดถึงกับอ่าน หนังสือได้เลยทีเดียว นักท่องเที่ยวนิยม พายเรือไปชื่นชมแสงมหัศจรรย์แห่งนี้ ในตอนกลางคืนด้วยเรือคายัค และลง ไปว่ายน้ำาให้มีแสง ถือเป็นสิ่งที่สวยงาม และ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจริง จริงๆ โลกของเรานั้นยังมีความสวยงามและมหัศจรรย์อีก มากมายที่เรายังไม่ได้พบเจอ และนี่ก็ถือเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ และน่าถึงที่สุดในโลก ขอยกย่องให้อ่าวแห่งนี้เป็นสถานที่ท่อง เที่ยวที่น่าทึ่งที่สุดในโลกไปเลยครับ ที่มา : board.postjung และ wikipidia


มองไม‹เหçน ¾ิสÙ¨น ไม‹ไดŒกับ...

บ้าน¼Õสิง อมิตี้วิลล (amityville)

ตำานานสยอมขวัญที่จ ะนำ ามาเล่าให้ฟังในเล่มนี้ ถืเป็นเรื่อวราวของบ้านสยองขวัญที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ว่า จริงรึเปล่าในขณะนี้ ในบ้านหลังหนึ่งที่สร้างความสยองขวัญ ให้กับผู้ที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ พวกเขาต้องพบเจอกับอะไรบ้าง เพราะเหตุใดพวกเขาจึงอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นได้เพียง 28 วัน เท่านั้น เรื่องเกิดขึ้น ณ เมืองอมิตี้วิลล์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1965-1976 บ้านอมิตี้วิลล์ โอเชี่ยนอเวนิว เป็นบ้านทรงดัทซ์ โค โลเนียล หน้าตาเหมือนโรงนาทรงสูงที่ที่สวยงามมากหลังหนึ่ง และมันมีหน้าต่างสองบานใหญ่คล้ายตาขนาดใหญ่สองตา มัน ตั้งอยู่ทางโค้งแม่น้ำาอมิตี้วิลล์ มีเรือนแพริมน้ำา สระน้ำาอุ่น โรง จอดรถ 2 คน ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ และห้องนอน 6 ห้อง บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าแก่ มันถูกสร้างตั้งแต่ปี 1924 โดยจอห์น โมนาแฮนและครอบครัวต่อมาย้ายและมีครอบครัว อื่นมาเช่าต่อกันไปอีก 6 ครอบครัวด้วยกัน ดูๆ ไปบ้านนี้น่าอยู่อย่างยิ่ง แต่............................. ค.ศ.1965 โรนัลด์ เดเฟโอและครอบครัว พากันย้าย เข้ามาในบ้านหลังนี้ โรนิลด์ชอบที่นี้มากและติดป้ายท้ายสวน ว่า “สุดยอดแห่งความหวัง(High Hopes)” ครอบครัวเดเฟโอเป็นครอบครัวที่เคร่งศาสนา และ เป็นตัวอย่างที่ดีของครอบครัวที่อยู่ ในระแวกนั้น พวกเขาดู เป็นครอบครัวธรรมดามีความสุข ครอบครัวหนึ่ง พฤศจิกายน ค.ศ. 1965 นางและนายเดเฟโอยัง อาศัยบ้านเลขที่ 112 โอเชี่ยนอเวนิว กับลูกถึง 5 คน พวกเขาน่า จะมีความสุข ถ้าไม่เป็นเพราะรอนนี่ ลูกชายคนโต ทำาเรื่องขึ้น รอนนี่เป็นแกะดำาของครอบครัว เป็นคนติดยาเสพย์ติดขนาด

หนักประเภทเฮโรอีน ยาบ้าและยากล่อมประสาท ชอบ ทำาเรื่องเสียๆ หายๆ เขาต้องมีเรื่องขึ้นโรงพักมากกว่า 1 ครั้ง โดยข้อหาเป็นขโมย แม้ฐานะการเงินในครอบครัว มีกินพอใช้ก็ตาม ครั้งหนึ่งรอนนี่เคยเอาปืนจ่อหัวพ่อและ ลั่นไก แต่ว่ากระสุนด้านไปเสียก่อน และต่อมาตอนต้น เดือนเขาถูกสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการปล้นเงิน 19000 ดอลลาร์และนี้เป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ผู้เป็นพ่อเหลือ ดอดต้องไล่เขาออกจากบ้าน 13พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 รอนนี่ร้อง ตะโกนในบาร์ “พ่อกับ แม่ผมถูกยิง!” ผู้ชายในบาร์ พากั น ยกพลไปที่ บ้ า น เลขที่ 112 โอเชี่ยนอเวนิ ว ภายในบ้านทางขวาจะ เป็ น ทางเข้ า สู่ ห้ อ งนอน ขนาดใหญ่ ที่นั้นได้พบ ร่างของนายโดนัลด์ และ นางหลุยส์ เดอฟีโอ อายุ 43 ปี และ 42 ปี ทั้งคู่ถูก ยิ ง ในขณะหลั บ ด้ ว ยปื น ยาวยี่ห้อมาร์ลีน ขนาด 35 มม. ฝั่งตรงข้ามของห้องนอนเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ที่สอง ที่นั้นพบร่างของจอห์น เดฟฟีโอ อายุ 9 ขวบ และมาร์ค เดอฟีโอ อายุ 11 ขวบ ลูกของโรนิลด์ ทั้งคู่อยู่ในชุดนอน ถูกยิง เข้าที่กลางหลังในระยะประชิด ส่วนห้องนอนชั้นล่างมีศพของแอลลิสัน เดอฟีโอ อายุ 13 ปี และดอว์น เดอฟีโอ อายุ 18 ปี ทั้งคู่อยู่ในสภาพเดียว กับศพคนอื่นๆ คือนอนคว่ำาหน้า และถูกยิงกลางหลัง เหตุกา รณ์ณ์ทั้งหมดน่าจะเกิดในเวลา 3.16 นาิกา เจ้าหน้าที่พบว่า เหยื่อทั้งหมดถูกวางยาในอาหารมื้อ

7


“เขาล่ามโซ่สุนัขไว้ที่คอกนอกบ้านเพื่อเฝาบ้าน เมื่อรัตติกาลมาเยือน จอร์จได้ยินมันหอนโหยหวน มีอะไรบางอย่างที่ทําให้มันตกใจกลัวมากเสียจนมันพยายามดิ้นรนออกจากคอก” ค่ำาเมื่อคืนวาน ฆาตกรใช้วิธีนี้ในการฆ่าเขาโดยไม่มีใครรู้ คนที่ ทำารื่องเหี้ยมนี้ได้มันจะต้องเป็นคนในครอบครัว ตำารวจพบอาวุธที่ใช้ในการฆาตกรรม รอนนี่ถูกจับกุม ในข้อหาฆาตกรรมในครอบครัว 6 ศพ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1974 รอนนี่ เดเฟโอถูกฟ้อง ข้อหาฆาตกรรมคน 6 คน กันยายน ค.ศ.1975 รอนนี่ เดเฟโอ ถูกนำาตัวมา พิจารณาคดีที่ศาล เป็นการพิจารณาคดีที่ยาวที่สุดเท่าที่เมือ งอมิตี้วิลล์เคยมีมา เขาให้การว่า เจ้าหน้าที่ตำารวจซ้อมเขาเพื่อ

เด็กชายสองคนชื่อ คริสและแดนนี่ และเด็กหญิงอีกหนึ่งคน ชื่อเมลิสสา หรือเรียกสั้นๆ ว่า มิสซี่ ครอบครัวลัทซ์รู้เรื่องการฆาตกรรมครอบครัวเดเฟ โอ แต่เพราะเหตุนี้นี่เอง พวกเขาจึงซื้อบ้านหลังนี้ได้ด้วยราคา ถูกแสนถูกและเพื่อความสบายใจพวกเขาได้นิมนต์บาทหลวง แฟรงค์ แมนคูโซ มาสวดที่บ้าน ในขณะที่บาทหลวงแมนคูโซ่เดินพรมน้ำามนต์ไป รอบๆ บ้านนั้นเอง มีเสียงห้าวลูกว่า “ออกไป” บาทหลวงรู้สึก แปลกใจแต่ก็ไม่นึกกังวล.... สายในวันนั้นเอง รถของบาทหลวงเกือบจะพลิก คว่ำาเมื่อฝากระโปรงและประตูรถเปิดออกมาเอง รถสตาร์ท ไม่ติด พอดีมีบาทหลวงท่านหนึ่งผ่านมาช่วย แต่ภายหลัง บาทหลวงคนนั้นก็ประสบกับอุบัติเหตุร้ายแรง จอร์จ ลัทซ์ พบว่าเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ของ ครอบครัวผู้ตายถูกนำาไปขายอยู่ที่ร้านตั้งแต่การตายหมู่ เขา สนใจจะซื้อมันกลับมา บ้านนี้จึงคืนสู่สภาพเดิมเหมือนกับ ยามเกิดคดีฆาตกรรมสุดสยองครั้งนั้น เขาล่ามโซ่สุนัขไว้ที่คอกนอกบ้านเพื่อเฝ้าบ้าน เมื่อ รัตติกาลมาเยือน จอร์จได้ยินมันหอนโหยหวน มีอะไรบาง อย่างที่ทำาให้มันตกใจกลัวมากเสียจนมันพยายามดิ้นรน ออกจากคอก จนโซ่เกือบจะรัดคอมัน จอร์จจึงตัดโซ่ให้สั้น ให้การรับสารภาพ แต่เขา ลง แสดงความเสี ย ใจเพี ย ง 19 ธันวาคม ค.ศ.1974 เมื่อทั้งหมดขึ้นนอนหลับสนิท เล็กน้อยเท่านั้น ยกเว้นจอร์จ ลัทซ์ที่ตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงกุกกักดังตอนตี สาม 3.15 น. เวลาเดียวกันที่ครอบครัวเดเฟโอถูกฆ่าบนเตียง จอร์จมองไปที่หน้าต่าง สุนัขตั้งต้นเห่าอย่างเอาเป็นเอาตาย 4 ธันวาคม ค.ศ. 1975 มันเห่าอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นที่บริเวณเรือนแพ บ้านริม ศาลพิพากษาจำาคุกรอนนี่ เดเฟโร 150 ปี ผลสุดท้ายรอนนี่ก็เอ่ย น้ำา จอร์จคิดว่าตัวเองเห็นคนหายไปในเรือนแพ เมื่อเขาลงไป ปากสารภาพ ตรวจสอบดูก็พบว่า ประตูเรือนแพเปิดอ้าอยู่ท่ามกลางลมอัน “ผม............ได้ยินเสียงกระซิบและเสียงฝีเท้าในบ้าน หนาวเหน็บ ทั้งที่เขาปิดมันก่อนข้าวนอนแล้ว อยู่ๆ ก็มีมือสีดำายืนปืนให้ผม ผมได้ยินเสียงคนทั้งๆ ที่ไม่มีใคร 20 ธันวาคม ค.ศ.1974 ทุกอย่างเริ่มจะไม่ค่อยดีสำาหรับ อยู่ตรงนั้น มันบอกให้ผมฆ่า ในหัวมีแต่เสียงดังเต็มไปหมด” ครอบครัวลิทซ์เสียแล้ว จอร์จตื่นขึ้นตอนตี 3.15 น.ทุกคืน เขา “มันเพิ่มเริ่มต้น” เขาพูด “แต่แล้วมันก็เกิดขึ้นเร็ว กลายเป็นคนหงุดหงิด ลงมือลงไม้กับพวกเด็กๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ มาก ผมหยุดไม่ได้” เขาไม่เคยทำามาก่อน เขาหอบฟืนเพื่อให้ตัวอบอุ่น บ้านร้อน 18 ธันวาคม ค.ศ.1974 ระหว่างนั้นเอง ครอบครัว เหมือนเตาอบ แต่จอร์จกลับหนาวเย็นจนเกือบแข็ง ใหม่ก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านบ้านเลขที่ 112 โอเชี่ยนอเวนิว จอร์จ 22 ธันวาคม ค.ศ.1974 มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นในห้องน้ำา ลัทซ์กับภรรยาแคธลีน และลูกๆ ที่เป็นลูกติดของแคธลีน เป็น กล่าวคือมันเกิดรอยคราบประหลาดสีดำาที่ขัดไม่ออก มัน

8


มีกลิ่นหอมเอียนๆ อบอวล อยู่ในอากาศ จอร์จเดินไปเปิด หน้าต่างเพื่อไล่กลิ่นนั้นออกไป เขาเห็นแมลงวันนับร้อยนับ พันเกาะอยู่เต็มไปหมด ในขณะที่หน้าต่างบานอื่นใส่สะอาด แต่มีเพียงบานเดียวเท่านั้นที่แมลงวันเกาะจนดำ�มืด มันคือ หน้าต่างที่หัวหน้าออกสู่เรือนแพ คืนนั้นเอง พอเวลาตี 3.15 น. จอร์จก็ตกใจตื่นขึ้นด้วย เสียงดังโครม เขารีบรุดลงไปยังชั้นล่าง แล้วพบว่าประตูหน้า บ้านเปิดอ้าห้อยอยู่กับบานพับตัวหนึ่ง 24 ธันวาคม ค.ศ.1974 เป็นวันคริสต์มาส บาทหลวง แมนคูโซ่ป่วยเป็นไข้สูง จอร์จโทรศัพท์ไปหาท่าน แล้วเริ่ม ต้นพูดถึงเรื่องลึกลับที่เกิดขึ้น บาทหลวงได้พยายามเตือน จอร์จ แต่สายโทรศัพท์ขาดไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ค่ำ�วันนั้น เองแมลงวันกลับมาอีกครั้งมันเกาะหน้าต่างบานที่หันไปทาง เรือนแพอีก จอร์จรู้สึกไม่จำ�เป็นจะต้องไปตรวจดูเรือนแพ ขณะ ที่หันกลับไปดูบ้านนั้นเอง เขาแลเห็นมิสซี่จ้องมองเขาอยู่ที่ หน้าต่าง เบื้องหลังเด็กหญิงคือหมูตัวหนึ่ง กำ�ลังมองข้ามไหล่ ของเธอมา ดวงตาของหมูตัวนั้นมีสีแดงวาว ชายหนุ่มวิ่งกลับ ไปยังห้องนอน แต่แล้วกลับพบว่าเด็กหญิงนอนหลับอยู่ 24 ธันวาคม ค.ศ.1974 อีกครั้งจอร์จตื่นข้นในเวลา 3.15 น.แคธี่ ภรรยาของเขานอนเอาแขนหนุนศีรษะอยู่ในท่า เดียวกับคนตาย เขาแตะตัวเธอ แล้วเธอก็ตื่นตกใจกรีดร้อง ออกมา “เธอถูกยิงที่หัว! คุณนายเดโฟถูกยิงที่หัว! ฉันได้ยิน เสียงปืน!” หลังจากนั้นจอร์จปลอบจนแคธีก็หลับต่อ สุนัขเริ่ม ต้นเห่า จอร์จเดินไปนอนบ้าน เมื่อเขามองมาที่ห้องนอนของ มิสซี่ เขาเห็นเด็กผู้หญิงมิสซี่จ้องมองที่เขา และเบื้องหลังของ เธอ มีหมูตัวเดิมจองเขม็งด้วยนัยน์ตาแดงวาว จอร์จรีบเข้าไป ตรวจห้องของเด็กน้อย พบว่าเธอนอนหลับคว่ำ�หน้าเอาศีรษะ วางบนแขน คืนวันคริสต์มาส มิสซี่เริ่มคุยถึงเรื่องเพื่อนใหม่ เป็น หมูชื่อโจดี้ แต่พีชายของเธอบอกว่า หมูตัวนั้นเป็นจินตนาการ ของเธอ คืนนั้นแคธี่ได้ยินเสียงมิสซี่ พูดกับใครบางคนในห้อง “ลูกพูดกับใครจ๊ะมิสซี่ นางฟ้า หรือจ๊ะ” “เปล่าค่ะแม่ เพื่อนของหนู โจ ดี้ค่ะ เด็กน้อยตอบเธอ” 26 ธันวาคม ค.ศ.1974 วัน บ็อกซิ่งเดย์ ครอบครัวลัทธ์ค้นพบห้อง

ลับ ซ่อนอยู่ข้างหลังตู้โชว์ ห้องนั้นมีกลิ่นคาวชวนคลื่นเหียน มันคือกลิ่นเลือด! ก่อนจะถึงปีใหม่ จอร์จ เริ่มสืบค้นประวัติของบ้าน และสถานที่แห่งนี้ สมาคมประวัติศาสตร์ท้องถิ่นกล่าวว่าบ้าน หลังนี้ตั้งอยู่ค่ายสำ�หรับอินเดียแดง มีทั้งคนป่วย คนบ้า คน ใกล้ตาย แต่ไม่มีการฝังคนตายไว้ เพราะที่นี้มีปีศาจชุกชุม 1 มกราคม ค.ศ.1975 แคธี่เห็นร่างปีศาจอยู่ในเปลวไฟ ที่กำ�ลังลุกโชนอยู่ในเคาผิง เมื่อไฟมอดลงปรากฏเป็นรูปศีรษะ ทีมีเขาเป็นรอยสีขาวอยู่บนคราบเขม่าที่ปล่องไฟ คืนนั้นลมกรรโชกพัดผ่านเข้ามาในบ้าน มันพัดเอา ผ้าคลุมเตียงปลิวหลุดไปจากเตียงของจอร์จและแคธี่ หน้าต่าง บานที่หันหน้าไปทางเรือนแพเปิดออก 2 มกราคม ค.ศ.1975 พบรอยเท้าอยู่บนหิมะ บริเวณเดียวกับเรือนแพ เป็นรอยเท้าที่คล้ายกับปีศาจทิ้งเอาไว้ 6 มกราคม ค.ศ.1975 จอห์นตื่นขึ้นกลางดึก เขา มองภรรยาแต่เธอไม่อยู่ที่นั้น เขาเอื้อมมือไปเปิดไฟ แล้วก็เห็น เธอลอยอยู่บนเตียง..................แต่ใบหน้าเธอกลายเป็นใบหน้า ของหญิงชราอายุสัก 90 ปี เขาจับผมเธอดึงลงมา เธอตื่นขึ้น ดูหน้าตัวเองในกระจกแล้วร้องกรีดออกมา เพราะใบหน้า นั้นค่อยๆ กลับเป็นปกติ........... แต่ทว่ามีรอยย่นที่ไม่เคยเห็น ปรากฏขึ้นแทน 10 มกราคม ค.ศ. 1975 แคธี่ตื่นขึ้นมาพบว่าตนเอง มีริ้วรอย ขีดข่วนเต็มตัว แต่พอถึงตอนค่ำ� รอยนั้นกับหายไป อย่างลึกลับ คำ�สาปแช่งของวิญญาณในบ้านเริ่มออกฤทธิ์กับ ด้านอื่นของชีวิตในครอบครัว ธุรกิจของจอร์จกำ�ลังตกต่ำ�ถึง ขั้นล้มละลาย 11 มกราคม ค.ศ. 1975 วันนี้เป็นวันที่เลวร้ายที่สุด พายุ ฝ นพั ด กระหน่ำ � พั ง ประตู แ ละหน้ า ต่ า งจนแตกเกลื่ อ น ขณะที่น้ำ�ฝนไหลเข้านองพื้น พายุพัดต้นไม้ในสวนของบ้าน เลขที่ 112 โอเชี่ยนเวนิวล้มลง แต่ต้นไม้อื่นบนถนนนั้นกลับ ไม่เป็นอะไร จอร์จกับแคธี่นำ�สุนัขเข้าบ้าน เพื่อดูว่ามันสังเกตอะไร ด้างบ้าง ผลปรากฏว่ามันไม่ยอมเข้าไปใน ห้องของเมลซี่ 12 มกราคม ค.ศ. 1975 จอร์จตื่น ขึ้นจากฝันร้าย เมื่อตื่นขึ้น เขาตัวสั้นเทา แล้วมิสซี่ร้องเรียกเขา “พ่อลงมาหาหนู หน่อยสิค่ะ โจดี้อยากคุยกับคุณพ่อ” “ใครคือโจดี้จ๊ะ” โจดี้เป็นเพื่อนหนูค่ะ เป็นหมูตัว ใหญ่ที่สุดเท่าที่คุณพ่อเคยเห็นมาเลยค่ะ”

9


“จอร์จรวบรวมสติสมาชิกในบ้าน แล้วย้ายออกจากบ้านหลังนั้น หลังจากที่ย้ายมาอยู่ ได้เพียง 28 วัน” จอห์นวิ่งเข้าไปในห้อง เขาไม่เห็นหมูสักตัว” “อยู่ตรงนั้นไงค่ะ คุณพ่อ!” มิสซี่ร้องออกมา แล้วชี้ไปที่หน้าต่าง ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งจ้องเข้ามา ไม่มีหมู ไม่มีแม้ หน้าตา มีเพียงดวงตาสีแดงคู่นั้น “นั้นไง โจอี้”เด็กผู้ร้อง “เขาอยากเข้ามา” แคธี่ก้าวพรวดผ่านตัวจอร์จไป เธอหยิบเก้าอี้ ขึ้นแล้วขว้างไปที่หน้าต่าง กระจกแตกกระจาย มีเสียง ร้องโหยหวน เป็นเสียงคล้ายหมูกำ�ลังเจ็บปวด ดวงตา คู่นั้นหายไปแล้ว แต่เมื่อมองผ่านกระจกหน้าต่างบาน ที่แตกไป จะยังได้ยินเสียงร้องโหยหวน มันค่อยๆ แผ่วไปทาง เรือนแพ 13 มกราคม ค.ศ. 1975 มิสซี่คุยกับโจดี้ที่ใต้โต๊ะอาหาร “ใครคือโจอี้น่ะลูก” แคธี่คาดคั้น “เขาเป็นเทวดาค่ะ” มิสซี่กล่าว “เขาเล่าเรื่องเด็กผู้ชาย ที่เคยอยู่ห้องหนู เด็ ก คนนั้ น ตาย แล้วแม่รู้ไหมค่ะ” ห้อง นอนของมิ ส ซี่ เคยเป็นห้องของ ลู ก ชายคนเล็ ก ของครอบครั ว เดเฟโอที่ ถู ก ฆ่ า ตาย “โจอี้ บอกว่า เขาจะอยู่ที่นี้ต่อไปค่ะ” มิสซี่พูดอย่างภาคภูมิใจ แต่ความอดทนของครอบครัวลัทซ์หมดลง พวกเขา เชื่อว่ามีบางอย่างอยู่ร่วมบ้านกับพวกเขา บาทหลวงคูโซ่แนะนำ�ว่า “ปล่อยให้เขาอยู่ในที่ของ เขาเถอะ ส่วนพวกลูกๆ จงไปเสีย” แต่ก่อนพวกเขาจะไป พายุร้ายกลับมาอีกแล้ว บ้าน ร้อนขึ้นแม้จะปิดเครื่องทำ�ความร้อนก็ตาม ยกเว้นห้องของมิส ซี่ที่เย็นเฉียบ จอร์จเดินไปเปิดหน้าต่าง เขามองไปที่ประตูห้อง นั่งเล่น เห็นอะไรบางอย่างที่เป็นเมือกสีเขียว เจ้าเมือกสีเขียว เริ่มไหลย้อยไปตามขั้นบันได เขาพยายามหยุดมันโดยใช้ผ้าปิด

10

ไว้

14 มกราคม ค.ศ. 1975 จอร์จตื่นนอน เขาเหน็ดเหนื่อย กับการสู้ก้อนเมือกนั้น แต่ต้องตื่นขึ้นเพราะถูกผีอำ� มันขึ้นอยู่ บนตัว มีบางอย่างที่เท้าเป็นกีบ พวกเด็กๆ ตื่นขึ้นพร้อมแผดเสียงร้องว่า มีตัว ประหลาดไร้หน้าบุกเข้ามาในห้อง เมื่อจอร์จไปตรวจดู เขาก็ พบร่างที่มีผ้าคลุมขนาดใหญ่นั้นอีก ร่างนั้นขวางทางเขาแล้วชี้ มือไปทางชายหนุ่ม จอร์จรวบรวมสติสมาชิกในบ้าน แล้วย้ายออกจาก บ้านหลังนั้น หลังจากที่ย้ายมาอยู่ได้เพียง 28 วัน จอร์จกับครอบครัวย้ายไปบ้านของแม่แคธี่ หวังว่า เรื่องนี้คงจะสงบได้เสียที” 15 มกราคม ค.ศ. 1975 จอร์จถูกภรรยาปลุกให้ ตื่น “จอร์จค่ะตัวคุณกำ�ลังลอยอยู่เหนือเตียง เราจะต้องออก จากห้องนี้แล้วค่ะ!” ขณะที่พาเขาลงมาชั้นสองนั้นเอง ทั้งคู่ ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นก้อนเมือกสีเขียวคืบคลานขึ้นตามขั้น บันได........................” บ้านอมิตี้วิลล์เรื่องจริงหรือมั่วนิ่ม มีหลายคนสงสัยว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่ มันอาจเป็น เรื่องครอบครัวลัทซ์แต่งขึ้นก็ได้เพื่อเรียกร้องความสนใจและ เพื่อเพิ่มรายได้ อย่าลืมน่ะว่าธุรกิจของจอร์จกำ�ลังล่มจม ต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่สนับสนุนกับเรื่องจริงที่จับผิด บางประการเกี่ยวกับเรื่องของจอร์จ อันนี้สนับสนุนว่าเป็นของจริง หลังจากที่ครอบครัวลัทซ์ย้ายออกไป ครอบครัวใหม่ก็เข้า มาอยู่แทน ลูกชายเจ้าของบ้านนอนอยู่ในห้องรอนนี่เดเฟโอ


แต่เขาเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าใจในขณะที่อายุยังน้อย เจย์ แอนสันเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งจัดเป็น หนังสือขายดีเล่มหนึ่ง เขาขายเรื่องให้กับนักสร้างภาพยนตร์ รายหนึ่ง แต่ระหว่างเขียนบทเกิดสิ่งผิดปกติขึ้น สุภาพสตรีคนหนึ่งขอยืมต้นฉบับไป 2-3 บท......... บ้าน ของเธอเกิดระเบิดลุกไหม้ มีสิ่งเดียวไม่เสียหายคือ ต้นฉบับ ชายคนหนึ่งขับรถโดยวางต้นฉบับไว้ท้ายรถ รถเกิดไหล ลงไปคูน้ำ�ลึก หลังจากเจ้าหน้าที่กู้รถในวันถัดมา มีสิ่งเดียวที่ แห้งคือต้นฉบับ เมื่อนำ�เรื่องฉบับสมบูรณ์ส่งโรงพิมพ์ รถเกิดไฟไหม้ และ พบว่าน็อตทุกตัวที่เครื่องยนต์หลวมหลุด แอนสันมีอาการหายใจวาย ลูกชายของแอนสันเสียชีวิตในอุบัติเหตุรถชน

ตี้วิลล์สยองขวัญเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะ.................. ไม่มีพยานรู้เห็นเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น นอกจากคนใน ครอบครัวและบาทหลวงที่ป่วยไข้ ข้ออ้างที่ว่าบ้านหลังนั้นสร้างอยู่ข้างของชาวอินเดียแดง ที่ป่วย เป็นบ้าและใกล้ตาย ไม่เป็นความจริงเพราะอินเดียแดง เผ่าซินเนอค็อธซึ่งอาศัยอยู่ที่นี้มาก่อนผิวขาวที่จะมาตั้งรกราก บอกว่าไม่เคยมีค่ายที่ว่าอยู่ที่ไหนทั้งสิ้น สถาบันไสยศาสตร์แห่งอเมริกาได้รับเชื้อเชิญจากจอร์จ ลัทซ์ แต่เขากลับเลิกนัดหรืออาจเป็นเพราะเขากลัวถูกจับได้ ว่าเป็นเท็จ จนผู้อำ�นวยการสถาบันต้องมุ่งหน้าไปตรวจสอบ บ้านหลังนั้นด้วยตนเอง ผลปรากฏว่าเป็นเรื่องโกหก (แต่ใน ขณะนั้นบ้านหลังนี้เป็นที่นิยมสูงมากขึ้นมาก จนไม่มีใครเชื่อ ว่าเป็นเรื่องโกหก

ช่างภาพมาหาเจย์ที่บ้าน เพื่อถ่ายภาพผู้เขียน แต่ด้วยไม่ ทราบสาเหตุ รถเขาเกิดไฟไหม้ทั้งที่จอดเฉยๆ แอนสันก้าวมามีชื่อเสียง เขาได้รับเงิน 1 ล้านดอลลาร์ สำ�หรับหนังสือเรื่องต่อไป หลังจากได้รับเช็คจำ�นวน 1 ล้าน ดอลลาร์ไม่นานนัก เขาก็เสียชีวิตด้วยอาการหายใจวาย นักข่าวพอล ฮอฟแมนเขียนถึงเรื่องนี้เป็นคนแรก เมื่อ มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เขาเสียชีวิตอีกไม่นาน จากนั้น ด้วยลักษณะอันแปลกประหลาด เจมส์ โบรสัน ผู้สวมบทเป็นจอร์จ ลัทซ์อ้างว่าเขาถูกโชค ร้ายเล่นงานมาโดยตลอดในทันทีที่เขาเริ่มถ่ายภาพยนต์ วัน แรกติดอยู่กับลิฟต์ วันที่สองในขณะที่ถ่ายไปดพียง 1 นาที เท่านั้นก็สะดุดจนขาแพลง ทำ�ให้บริษัทต้องเสียเงินจำ�นวน มากเพราะความล่าช้าในการถ่ายทำ� ผู้สร้างภาพยนตร์กลัวว่าเรื่องนี้อาจเป็นจริงจึงไม่กล้าใช้ สถานที่จริงในการถ่ายทำ� ในอีกแง่หนึ่งมีคนอีกมากมายโต้แย้งว่า เรื่องบ้านอมิ

เจ้าของบ้านคนต่อมาคือครอบครัวโครมาร์ตี้ พวกเขานำ� เรื่องนี้มาเล่นสนุก แม้จะรำ�คานที่ชาวบ้านคอยจ้องดู(คงหวัง ดี) แต่ไม่วายยังจัดงานฮัลโลวีนเพื่อล่อผีมาปรากฏตัว แต่ไม่มี อะไรเกิดขึ้น ล่าสุดการถ่ายทำ�หนังเรื่องผีทวงบ้านก็ไม่เกิดเหตุ ประหลาดเกิดขึ้นเช่นกัน

ที่มา : my.dek-d.com/cammy

รู้แล้วอึ้ง!!

“ถ้าจามแรงมากเกินไป อาจทำ�ให้คุณซี่โครงหักได้ แต่ ถ้าคุณกลั้นการจามไว้ จะทำ�ให้หลอดเลือดที่ศีรษะหรือ คอโป่งออกจนเสียชีวิตได้”

11


< < < ทางด่วน Hanshin Expressway ในญี่ปุ่น ซึ่งตัดผ่านชั้น 5-7 ของตึก Fukushima Towers เมื่อ กรมทางหลวงประกาศจะ เวนคืนที่ดินดังกล่าวเพื่อสร้างทางด่วน แต่เจ้าของปฎิเสธที่จะย้าย ออกไป สุดท้ายก็ลงเอยแบบนี้... > > > ใครจะไปเชื่อ นี่คือภาพที่สร้างมาจากหมุดติด CIS Student Association ในเดือนกุมภาพันธุ์ปี 2008 ใช้เวลาในการสร้าง 2 เดือนและหมุดกว่า 17,000 อัน (ปัจจุบันภาพดังกล่าวประดับอยู่ที่ตึกคอม มหาลัย Fraser Valley)

GALL ก่อนอำ�พราง

> > > ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงาน ผลิตเครื่องบิน Lockheed Burbank Aircraft Plant แห่งนี้ ป้องกันการโจมตีจากญี่ปุ่นโดยการอำ�พราง โรงงานที่เห็น แล้วจะต้องอึ้ง

หลังอำ�พราง 12


< < < ภาพถ่ายรูปแรกของโลก เกิดขึ้นในปี 1826 โดย Joseph Nicéphore Niépce ซึ่งเรียกกระบวนการนี้ว่า heliography ใช้แสงอาทิตย์ในการวาด ซึ่งใช้เวลาถึง 8 ชม

> > > ภาพถ่ายสีภาพแรกของโลก ถ่ายโดย Louis Ducos du Hauron ในปี 1872 ซึ่งเป็นภาพของเมือง Angouleme ทางตอนใต้ ของฝรั่งเศส

LERY

< < < นักวิทยาศาสตร์เจาะรูบนท้องวัวเพื่อศึกษาระบบย่อ ยอาห ารแต่ละชนิดที่มันกินเข้าไป และเอาไว้ศึกษาโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายในท้องของมัน ดูเหมือนมันจะไม่สนใจสัก นิดเดียว

> > > ถนนที่มีความชันมาก ที่สุดในโลก

< < < น้ำ�ตก Niagara Falls เป็นน้ำ�แข็ง

13


Abraham Lincoln VS John F Kennedy รู้หรือไม่ว่าระหว่างประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น และ ประธานาธิบดี จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี มีอะไรหลายๆอย่างที่บังเอิญเหมือนกัน อย่างไม่น่าเชื่อ ตัวผมเองเมื่อรู้ถึงสิ่งที่เหมือนกันของท่านทั้ง สองยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามีอย่างนี้ด้วยหรือนี่ เอาเป็นว่า ก่อนที่เราจะพูดถึงสิ่งที่เหมือนกันของบุคคลสำ�คัญทั้งสอง ท่านนี้ ผมจะดขอพูดถึงระวัติโดยย่อของแต่ท่านให้ฟังโดย สังเขปกันก่อนนะครับ เผื่อว่าผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า ท่านทั้งสองนี้เป็นใครและมีความสำ�คัญมากแค่ไหน อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ที่ได้รับ การยกย่องว่า เป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของ สหรัฐอเมริกา เริ่มดำ�รงตำ�แหน่งเมื่อ 4 มีนาคม ค.ศ. 1861 จน กระทั่งถูกยิงเสียชีวิต ลินคอร์น ประกาศว่าเขาต่อต้านระบบ ทาสในสหรัฐอเมริกา ลินคอร์นชนะตัวแทนจากพรรครีพับ ลิกันในปี ค.ศ. 1860 และได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี ใน ปีถัดมา ระหว่างการดำ�รงตำ�แหน่ง ลินคอร์นได้ช่วยรักษา ประเทศ โดยการเป็นผู้นำ�ในการถอนตัวออกจากผู้สบคบร่วม คิดในสงครามประชาชนอเมริกัน ของรัฐบาลกลางสหรัฐใน สงครามอเมริกัน เขายังได้แนะนำ�มาตรการในการเลิกทาส ซึง นโยบายอันนี้ได้ประกาศใช้ในปี ค.ศ. 1863 และได้รับการผลัก ดันให้บรรจุเข้าไปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 13 ในปี ค.ศ. 1865 อับราฮัม ลินคอล์น ได้ติดตามในควาพยายามใน การทำ�สงครามเพื่อชัยชนะอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ คัดเลือกนายพลระดับสูง รวมไปถึง ยูลิสซิส เอส. แกรนต์ นัก ประวัติศาสตร์สรุปเอาไว้ว่า ลินคอล์นได้เข้าไปช่วยเหลือแต่ละ กลุ่มในพรรครีพับลิกันเป็น อย่างดี การนำ�มาของผู้นำ�แต่ละ กลุ่มเข้ามาร่วมในคณะรัฐมนตรีของเขา และบังคับให้พวกเขา เหล่านั้นร่วมมือกัน ลินคอล์นประสบความสำ�เร็จ ในการลด

14

ความรุนแรงของสงครามที่ทำ�ให้เกิดความหวาดกลัว (Trent Affair) กับสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1864 ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับสงคราม (Copperheads) ได้ วิจารณ์ลิงคอล์นเกี่ยวกับการปฏิเสธการทำ�ข้อตกลงเกี่ยวกับ นโยบายการเลิกทาส ความขัดแย้งโดยเฉพาะพวกรีพับลิกันที่ เป็นพวกหัวรุนแรง หัวหน้ากลุ่มที่มีความคิดในการเลิกทาส ในพรรครีพับลิกัน ได้วิจารณ์ว่าลิงคอล์นออกมาเคลื่อนไหว ช้าเกินไป การเอาสิ่งกีดขวางมากั้นถนนไว้ ลิงคอล์นประสบ ความสำ�เร็จ ในการปลุกระดมมวงลชนโดยการพูดโน้มน้าวใจ ประชาชนในที่สาธารณะ ยกตัวอย่างเช่น Gettysburg Address แต่นี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ลิงคอล์นมองหาจังหวะ ในการเร่งให้มีการจัดการชุมนุมอีกครั้ง ในคืนวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1865 เขาถูกลอบยิง ในโรงละครฟอร์ดเธียร์เตอร์ (Ford’s Theater) และเสียชีวิตใน เช้าวันต่อมา ฆาตกรเป็นนักแสดงชื่อ จอห์น วิลกี้ส์ บู้ธ (John Wilkes Booth) การตายของเขายังความเศร้าสลดแม้แต่ในกลุ่ม ฝ่ายค้านและหลายคนเห็นว่าเขาคือ ผู้เสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์ เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกลอบสังหารในประวัติศาสตร์ สหรัฐอเมริกา และทำ�ให้เขากลายเป็นผู้เสียสละเพื่อความ สามัคคีของคนในชาติในความคิดของประชาชนคนรุ่นหลัง อับราฮัม ลินคอล์น เป็น 1 ใน 4 ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกาที่รูปใบหน้าได้รับการสลักไว้ที่อนุสรณ์สถาน แห่งชาติ เมานต์รัชมอร์ (Mount Rushmore) ใบหน้าของเขา ปรากฏอยู่บนธนบัตรราคา 5 ดอลลาร์สหรัฐ และเหรียญราคา 1 เซนต์ ชื่อของเขาถูกนำ�มาตั้งเป็นชื่อเรือดำ�น้ำ�นิวเคลียรและ เรือบรรทุกเครื่องบิน


จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี (John Fitzgerald Kennedy) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เจเอฟเค (JFK) เกิดเมื่อ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1917 เป็นประธานาธิบดีคนที่ 35 ของ สหรัฐอเมริกา เจ้าของวาทะเปี่ยมไปด้วยจิตสำ�นึกหน้าที่ความ รับผิดชอบของพลเมือง: “จงอย่าถามว่า ประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถาม ตัวท่านเองว่าท่านจะทำ�อะไรให้ประเทศ ชาติ” ลงสนามการเมื อ งได้ เ ป็ น วุฒิสมาชิกรัฐบ้านเกิด จากนั้นเข้าชิง ตำ�แหน่งประธานาธิบดี ค.ศ. 1960 สหรั ฐ อเมริ ก าได้ ป ระธานาธิ บ ดี ที่ ห นุ่ ม ที่สุดเพียง 43 ปี และเป็นคริสตังคนแรก ที่ดำ�รงตำ�แหน่งยิ่งใหญ่นี้ เจเอฟเคบริหาร ประเทศด้วยพลังหนุ่ม (เป็นคำ�หนึ่งที่เขา ชอบมาก) และมองโลกในแง่ดี วันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1961 เขาแถลงต่อ สภาคองเกรสว่าอเมริกากำ�ลังเผชิญหน้า กับความท้าทายที่ไม่ธรรมดา ให้สภาอนุมัติ งบประมาณเพื่อจุดมุ่งหมายของชาติคือ การส่งมนุษย์ไปลง บนดวงจันทร์ และเดินทางกลับอย่างปลอดภัย ด้านการต่างประเทศ เคนเนดียุติวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ทางการเมืองด้วยการยื่นคำ�ขาดให้สหภาพโซเวียตถอนฐาน ยิงขีปนาวุธในประเทศคิวบา ความสำ�เร็จอีกประการหนึ่ง คือ สนธิสัญญาระหว่างประเทศในการห้ามทดสอบอาวุธ นิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามนโยบายที่ผิดพลาดก็มีเช่นกัน การ ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่เวียดนามใต้ เป็นจุดเริ่มต้น สงครามเวียดนามที่โหดร้ายรุนแรง แรกที เ ดี ย วประธานาธิ บ ดี เ ชื่ อ ข้ อ มู ล ฝ่ า ยทหาร และนักค้าอาวุธสงคราม ว่าสหรัฐจะสามารถชนะกองกำ�ลัง คอมมิวนิสต์ในเวียดนามได้ไม่ยาก เพราะแสนยานุภาพทาง ทหารเหนือกว่า เฉพาะอย่างยิ่งกองกำ�ลังทางอากาศที่ใช้ เฮลิคอปเตอร์เป็นหลัก แต่นั่นไม่จริง สงครามเวียดนามยืดเยื้อ ทหารอเมริกันเข้าสมรภูมิเป็นจำ�นวนมหาศาล ความสูญเสีย เกินบรรยาย ช่วงเวลาที่จะหมดวาระ เตรียมชิงเก้าอี้ผู้นำ�สมัยที่ 2 เขาตัดสินใจใช้การเจรจาทางการทูตยุติสงคราม แต่ จ ากนั้ น ไม่ น านเคนเนดี ก็ ถู ก ยิ ง เสี ย ชี วิ ต ที่ เมืองแดลลัส รัฐเทกซัส ในเหตุการณ์การลอบสังหารฯ เมื่อ วันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 ประวัติศาสตร์บันทึกถึง ประธานาธิบดีผู้มีอายุน้อยที่สุดของสหรัฐอเมริกา ผู้มีผลงาน โดดเด่นมากมายท่ามกลางวิกฤตการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่

สอง รอยต่อของยุคก้าวสู่สงครามเย็น เพื่อเป็นการให้เกียรติของท่าน รัฐบาลจึงนำ�ชื่อ ของท่านมาตั้งเป็น ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเน ดีในนครนิวยอร์ก ของ สหรัฐอเมริกา อีกด้วย

ต่อไปเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เป็นเรื่องที่บังเอิญ เหมือนกันของประธานาธิบดีทั้งสอง อับราฮัม ลินคอล์น และ จอห์น เอฟ เคนเนดี - อับราฮัม ลินคอล์น ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภา Congress ในปี 1846 - จอห์น เอฟ เคนเนดี ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภา Congress ในปี 1946 (ซึ่งห่างกัน 100 ปี พอดี) หลังจากนั้นอีก 14 ปี... - อับราฮัม ลินคอล์น ได้รับการเลือกเป็นประธา นาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 1860 - จอห์น เอฟ เคนเนดี ได้รับการเลือกเป็นประธา นาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 1960 (ซึ่งห่างกัน 100 ปี อีกเช่นกัน) - ทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องสิทธิของคนผิว ดำ�ด้วยกันทั้งคู่ - คำ�ว่า Lincoln และ Kennedy ต่างมีตัวอักษร ทั้งหมด 7 ตัวเท่ากัน - ทั้งคู่เป็นประธานาธิบดีที่ให้ความสนใจกับสิทธิ ของประชาชนเป็นหลัก - รองประธานาธิบดีของทั้งคู่ชื่อ Johnson - Andrew Johnson เป็นรองประธานาธิบดีของ อับราฮัม ลินคอล์น เกิดปี 1808 - Lyndon Johnson เป็นรองประธานาธิบดีของ Kennedy เกิดปี 1908

15


- ชื่อของรองประธานาธิบดีทั้งสองมีความยาว 13 ตัวอักษรเท่ากัน - และทั้งคู่เกิดห่างกัน 100 ปีพอดี และรอง ประธานาธิบดีทั้งสองมาจากภาคใต้ ผ่านการเป็นวุฒิสมาชิก มาแล้ว - อับราฮัม ลินคอล์น มีลูก 2 คน ชื่อ Edward และ Robert - จอห์น เอฟ เคนเนดี มีน้อง 2 คน ชื่อ Edward และ Robert - อับราฮัม ลินคอล์น ต้องพบกับความสูญเสียเมื่อ ลูกชื่อ Edward ป่วยและเสียชีวิต - จอห์น เอฟ เคนเนดี ต้องพบกับความสูญเสีย เมื่อ น้องชื่อ Robert ถูกยิงเสียชีวิต - ทั้งสองได้บุตรขณะดำารงตำาแหน่งประธานาธิบดี - ภรรยาของทั้งสองคนต้องสูญเสียลูกเมื่อขณะ อยู่ที่ทำาเนียบขาว - 1 อาทิตย์ก่อนที่ลินคอล์นจะถูกยิง เขาอยู่ที่เมือง มอนโร รัฐแมรี่แลนด์ - 1 อาทิตย์ก่อนที่เคนเนดี้จะถูกยิง เขาอยู่กับมาริ ลีน มอนโร - เลขาฯ ของประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ชื่อ Kennedy ได้แนะนำาว่าไม่ควรเดินทางไปที่โรงละครในวัน ที่ถูกยิง - เลขาฯ ของประธานาธิบดี Kennedy ชื่อ Lincoln ได้แนะนำาว่าไม่ควรเดินทางไปที่เมือง Dallas ในวันที่ถูก ยิง - และประธานาธิบดีทั้งสองก็ถูกยิงจนเสียชีวิต อย่างปริศนา - มือสังหารที่สังหารประธานาธิบดีทั้งสองเป็น ชาวใต้เหมือนกัน - John Wilkes Booth ซึ่งเป็นมือปืน

ที่สังหาร อับราฮัม ลินคอล์น เกิดในปี 1839 - Lee Harvey Oswald ซึ่งเป็นมือปืนที่สังหาร จอห์น เอฟ เคนเนดี เกิดในปี 1939 - ทั้งสองเกิดห่างกัน 100 ปี - ชื่อมือปืนทั้งคู่มีความยาว 15 ตัวอักษรเท่ากัน - อับราฮัม ลินคอล์น ถูกยิงขณะที่อยู่ในโรงละคร ชื่อ “Kennedy ฟอร์ด” ของ “เฮนรี่ ฟอร์ด” - จอห์น เอฟ เคนเนดี ถูกยิงขณะที่อยู่ในรถยี่ห้อ “ฟอร์ด Lincoln” ซึ่งผลิตโดยบริษัท “เฮนรี่ ฟอร์ด” - ทั้งคู่ถูกยิงในวันศุกร์ และถูกยิงที่ศีรษะเหมือน กัน - ทั้งคู่ถูกยิงในขณะที่มีภรรยาอยู่เคียงข้าง - Booth หลังจากซุ่มยิงประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ที่โรงละครแล้วได้หนีไปซ่อนตัวที่โกดัง และระบบ โทรเลขล่ม - Oswald หลังจากซุ่มยิงประธานาธิบดี Kennedy จากโกดังแล้วได้หนีไปซ่อนตัวที่โรงละคร และระบบโทรศัพท์ ล่ม - ทั้ง John Wilkes Booth และ Lee Harvey Oswald เสียชีวิตก่อนที่จะได้รับการพิจารณาคดีในชั้นศาล - รองประธานาธิบดีจอห์นสันได้รับการแต่งตั้ง เป็นประธานาธิบดีทั้งสองคน

“จอห์น เอฟ เคนเนดี มีน้อง 2 คน ชื่อ Edward และ Robert”

“อับราฮัม ลินคอล์น มีลูก 2 คน ชื่อ Edward และ Robert”


บ้านที่แคบที่สุดในโลก ออกแบบโดยนาย Jakub Szczesny สถาปนิกชาวโปแลนด์ ส่วนที่กว้างที่สุดมีขนาดเพียง 120 เซนติเมตร และส่วน ที่แคบที่สุด แค่ 71 เซนติเมตร มีสิ่งอำานวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน รวมไปถึงห้องอาบน้ำาฝักบัว และสุขาบนพื้นที่แคบๆ ชั้นเดียวกัน และมีเตาทำาอาหารและอ่างล้างจานเล็กๆด้วย สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 2 คนอย่างไม่อึดอัดจนเกินไป

·ÕèÊØ´ã¹âÅ¡

หนังสือการ์ตูนแพงที่สุดในโลก คือหนังสือการ์ตูนแอ็กชั่น คอมมิก เล่มที่ 1 (Action Comics #1) ถือเป็นหนึ่ง ในของสะสมหายากยิ่ง กล่าวถึงการกำาเนิด ของซูเปอร์แมนครั้ง แรกในโลก ด้วยราคาจากปกเพียง 10 เซ็นต์ ปัจจุบันคาดว่าเล่มที่สมบูรณ์อาจ มีราคากว่า 12 ล้านบาท

ทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลก ทะเลเดดซี(Dead Sea) หรือเรียกกันอีกชื่อว่า ทะเลมรณะ ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ระหว่างเขตจอร์แดนและอิสราเอล น้ำาในทะเลสาบเดดซีนี้มีเกลือละลายอยู่ในน้ำามากถึง 25% ขณะที่ทะเลทั่วไปมีปริมาณเกลืออยู่เพียงแค่ 4% – 6% เท่านั้น ด้วยความเค็มของน้ำาในทะเลสาบแห่งนี้นี่เองที่ทำาให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว ยกเว้นพวกแบคทีเรียและ พวกพืชขนาดเล็กบางชนิดเท่านั้น ทะเลสาบนี้มีความหนาแน่นของน้ำามากเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อเราลงไปในน้ำาของทะเลสาบ เดดซีจึงไม่มีวันที่จะจมลงไปได้ ถึงคุณจะอ้วนหนือมีน้ำาหนักมากแค่ไหนก็ตาม เพราะว่าความหนาแน่นของตัวเราก็น้อยกว่า น้ำาในทะเลสาบอยู่ดี จึงไม่มีวันจมนั่นเอง

17


แอพพลิเคชั่นที่ราคาแพงที่สุดในโลก จริงๆแล้วแอพพลิเคชั่นที่ราคาแพงที่สุดมีหลายตัวด้วยแต่ที่ผมจะนำามาบอกต่อ คือตัวนี้ครับ VIP Black ราคา $999.99 หรือราว– 30000 บาท แอพพลิเคชั่นนี้เป็นที่รู้จักกัน โดยทั่วไปในชื่อ “แอพมาหาเศรษฐี” ตัวจริงเพราะใครที่ซื้อแอพนี้ไปจะได้รับการดูแลแบบดี ที่สุดหรือแบบ VIP อย่างดีจากพาร์ทเนอร์ทั่วโลกกันเลย และคนที่จะซื้อแอพนี้ไปได้จะต้องมี ทรัพย์สินอยู่เกินกว่า $1,000,000 เหรียญสหรัฐเท่านั้น จึงจะสามารถโหลดและใช้งานแอพพลิ เคชั่นนี้ได้ ว้าว!! สุดยอดจริงๆ ไม่รวยโหลดไม่ได้น่ะครับ

รถบ้านที่แพงที่สุดในโลก คันดังกล่าวนี้มีชื่อว่า ”เอเล็มเมนท์ พาลาซโซ่ (eleMMent PALAZZO)” ราคาของมันนั้นอยู่ที่ 2 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 96 ล้านบาทเลยทีเดียว ตัวอย่างสิ่งอำานวยความสะดวกในรถบ้านคันนี้ได้แก่ ทีวีขนาด 40 นิ้ว ระบบปรับอากาศ ตู้ เย็น ห้องน้ำา ห้องครัว และตัวรถสามารถปรับขนาดพื้นที่ได้อัตโนมัติอีกด้วย รวมไปถึงระบบความปลอดภัย ระบบการล้างรถ อัตโนมัติ ระบบทำาความสะอาดใต้ท้องรถอัตโนมัติ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วยังสามารถเปลี่ยนโซฟาสุดหรูเป็นบาร์เครื่องดื่มได้ เพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น การใช้สร้อยเนื้อที่ทุกตารางวาให้มีประโยนช์ เป็นรถบ้านที่ถือว่าสุดยอดจริงๆ

18

นักเตะที่รวยที่สุดในโลก โกล์ดอทคอมเว็บไซต์กีฬาชื่อดังได้ออกมาทำาการจัดอันดับรายชื่อนักเตะที่ร่ำารวยที่สุดในโลก โดยผลที่ออกมานั้น ปรากฎว่านักเตะชื่อดังชาวอังกฤษพ่อลูกอ่อนนั่นก็คือ เดวิด เบ็คแฮม นั้นครองแชมน์เป็นนักเตะที่รวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สิน กว่า 175 ล้านปอนด์ หรือราว 8,750 ล้านบาท แม่จ้าวอะไรจะปานนั้น ถึงแม้ว่ายอดนักเตะจากสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ของฝรั่งเศสคนนี้จะใกล้เวลาที่จะต้องแขวนสตัทแล้วก็ตาม แต่หากว่าเขายังคงเป็นนักเตะที่ทำาเงินและมีรายได้มหาศาลอยู่เช่น เดิม ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปตามอายุที่แก่ขึ้นแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาก็เป็นได้น่ะครับ


ปริศนา? สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle)


“สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า” หรือ “Bermuda Triangle” นี้มาจากบทความของผู้ชายคนหนึ่งในนิตยารอาร์กอส ซี่บทความชื่อ Vincent H. Gaddisซึ่งเขาได้นำ�เสนอเรื่องราว ของเรือและเครื่องบินที่สาบสูญไปอย่างลึก ลับโดยปราศจาก คำ�อธิบาย ในนิตยสารดังกล่าว เมื่อปี 1964 แต่เขาไม่ได้เป็น คนแรกหรอก เพราะมีอีกเยอะแยะทั้งรัฐและเอกชน ต่างก็ พยายามค้นหาเงื่อนงำ� และปริศนาที่เกิดขึ้นในที่แห่งนี้ ที่เขา เรียกกันว่า ดินแดนมรณะ..ดินแดนแห่งความอาถรรพ์..ดิน แดนแห่งปีศาจเบอร์มิวด้า.....จนกระทั่งบัดนี้...ก็ยังไม่มีคำ� อธิบายใด ๆ ที่ให้ความกระจ่างได้เท่าที่ควร เ รื่ อ ง ลี้ ลั บ นี้ ไ ด้ บั ง เ กิ ด เ ริ่ ม ขึ้ น ตั้ ง แ ต่ ห ลั ง สงครามโลกครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1945มาจนถึงปัจจุบัน เครื่อง บินจำ�นวนกว่า 100 ลำ�และเรือ เดินสมุทร จำ�นวนอีกมาก หลายได้หายไปในบรรยากาศ และพื้นทะเลของ สามเหลี่ยม เบอร์มิวดาแห่งนี้ โดยไม่มีร่องรอยชีวิตมนุษย์จำ�นวนนับพัน

ในระยะเวลา กว่า 20 ปีที่ผ่านมาได้หายไปพร้อมกับ พาหนะ โดยไม่มีซากศพ แม้แต่รายเดียวหรือเศษชิ้นส่วนใด ๆ ของเรือ หรือ เครื่องบินที่หายไปเหลือให้เห็น การหายสาบสูญของ เรือ เครื่องบิน และชีวิตมนุษย์ ในบริเวณดินแดนสามเหลี่ยมเบอร์มิวดายังคงปรากฏอยู่ต่อไป และมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียเหล่านี้ ต่างก็พยายามดำ�เนินการ ค้นคว้า หาสาเหตุแห่งปรากฏการณ์อันประหลาดและลึกลับนี้ อย่างเร่งด่วน จากบันทึกของกองเรือยามฝังสหรัฐฯและบริษัท ประกันภัยทางทะเล บริษัทประกันภัยเรือเดินสมุทรและ เครื่องบิน มีสถิติความสูญหาย อย่างผิดปกติในอาณาบริเวณนี้ เป็นบริเวณต้องห้ามและเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ มันอาถรรพณ์อย่างไร? สิ่งที่ทำ�ให้ย่านทะเลแห่ง นี้กลายเป็นดินแดนมรณะ ซึ่งทำ�ให้นักบินหรือนักเดินเรือ ต่างพยายามหลีกเลี่ยงถ้าไม่จำ�เป็นก็จะไม่ยอม ผ่านเข้าไปใน

20

บริเวณนี้อย่างเด็ดขาด เหตุการณ์ประหลาดๆ อย่างที่ไม่น่า เชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้มักจะเกิดขึ้นกับเรือ หรือเครื่องบินที่ ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น นับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน จาก สถิติของบริษัท Lioyd’s ov London ซึ่งเป็นบริษัทรับประกัน ภัยเรือเดินสมุทรพบว่านับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ถึง 1973 มีเรือ ในประกันของบริษัทจำ�นวน 60 ลำ� รวมผู้โดยสาร 900 คน ได้หายสาบสูญไปในบริเวณน่านน้ำ�เบอร์มิวด้า โดยเฉพาะ ในปี ค.ศ. 1967 มีเรือทะเล เรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้หายไป อย่างลึกลับเป็นจำ�นวน 15 ลำ� ทั้ง 15 ลำ�ไม่มีการส่งสัญญาณ “SOS” หรือส่งวิทยุขอความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้นสิ่งที่แปลก และน่ากลัวไปกว่านั้น คือ เรือทั้ง 15 ลำ�เป็นเรือขนาดใหญ่ มี อุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ช่วยในการเดินเรือแบบทัน สมัยบริบูรณ์ เช่นวิทยุสื่อสาร เรดาร์นำ�ร่องโซน่าร์นำ�ร่องการ ค้นหาได้กระทำ�กันเป็นเดือนๆ แต่ก็ประสบผลล้มเหลวโดย สิ้นเชิงไม่พบแม้แต่เงา...เป็นตัวอย่างได้มา จากบริษัทประภัย ของเอกชนที่ต้องจ่ายประกันไป จนบริษัทแทบล้มละลายนำ� มาซึ่งความงุนงง ให้แก่ผู้ที่อยู่ข้างหลังอย่างสิ้นหวัง...อะไรเกิด ขึ้นกับเรือเหล่านั้นลูกนาวี 900 คนหายไปไหน...ใครบ้างจะมี คำ�ตอบสำ�หรับคำ�ถามเหล่านี้ อี ก ตั ว อย่ า งที่ ย กมาให้ พิ จ ารณาว่ า มั น เป็ น อาถรรพณ์หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุ ของดินแดนมรณะแห่งนี้ ได้แก่ การหายสาบสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดนาวีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ TBM ของนาวีสหรัฐฯ เครื่อง TBM เอว็งเยอร์ ของฝูงบินที่ 19 แห่งราชนาวีสหรัฐ หายไปหลังฝึกซ้อมการทิ้งระเบิดเสร็จ แล้ว และไม่ได้หายไปในทันทีแต่ได้พูดคุยกับ หอบังคับการ บินที่ ฐานบินที่ฟอร์ดลอดเดอร์เดล นานพอสมควรแล้วมี คลื่นรบกวนมากขึ้นจนไม่สามารถติดต่อกันได้ เค้าบอกกันว่า ฝูงบินที่ 19 นี้ อาจบินไปทางอ่าวแมกซิโก หรือไม่ก็ออกนอก ทะเลหลวงไปทุกทีๆ และมีนักรับส่งวิทยุสมัครเล่นสามารถ รับคลื่นของผู้นำ�ของฝูงบินที่ 19 ว่า “โปรดอย่าบินตามข้าพเจ้า ดูเหมือนเรากำ�ลังพบกับมนุษย์จากโลกอื่น” และทางราชนาวี สหรัฐก็ออกมายอมรับแล้วด้วย หลังจากที่เครื่องบินของ ฝูงบินที่ 19 ควรจะน้ำ�มันหมดไปแล้ว2 ชม. ทางหอบังคับการ บิน ได้รับสัญญาณว่า “FT-28” ซึ่งเป็นรหัสประจำ�เครื่องของ หัวหน้าฝูงบิน แต่เลือนรางมากอีกด้วย การค้นหาฝูงบินที่ 19 เป็การค้นหาครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300,000 ตารางไมล์ มีเครื่องบินขึ้นลง กว่า 100 เที่ยว แต่ไม่พบคราบน้ำ�มัน หรือเศษชิ้นส่วน เลย มี ชาวประมงกล่าวว่า เห็นแสงไฟสว่างจ้ามาก ซึ่งบองคนคาดว่า เครื่องบินได้บินชนกันอย่างรุนแรง หรือ ฝูงบินที่ 19 ประสบ


กับ ปรากฏการ CAT เป็นปรากฏการที่อากาศจะเปลี่ยนแปลง โดยเฉียบพลันยากแก่การพยากรณ์ โดยที่สามารถเกิดได้แม้ อากาศแจ่มใสไม่แน่ใจแต่รู้สึกว่าเคยมีคนรอดจาก CAT ด้วย (ไม่แน่ใจนะ) อย่างไรก็ตาม CAT ก็ไม่สามารถทำ�ให้เรือเดิน สมุทรขนาดใหญ่จมได้อย่างรวดเร็ว นักประดาน้ำ�กลุ่มหนึ่ง กล่าวว่าพวกเขาเคยพบถ้ำ�ใต้น้ำ�น้ำ�ซึ่งมีกระแสน้ำ�ไหล เชี่ยว และวกวน ซึ่งเรียกกันว่า “ปล่องน้ำ�เงิน” ยากแก่การสำ�รวจ แต่มีการคาดการกันว่า ปล่องน้ำ�เงินนี้ เชื่อมต่อไปยังสถานที่ หลายแห่ง เช่น มีคนเคยพบฉลามยาวกว่า 20ฟุต ในทะเลสาบ ปิดแห่งหนึ่ง ไม่เคยมีฉลามอยู่ในนี้และอยู่ก็หายไป คาดว่า ฉลามตัวนี้ เดินทางผ่าน ปล่องน้ำ�เงินที่ติดต่อกับมหาสมุทร มี คนเคยเห็น ซากเรือเล็กอยู่ภายในปล่องด้วย แม้กระทั่งปลาเอง ก็ยังสับสนกับกระแสน้ำ� ใน ปล่องน้ำ�เงิน ถึงขั้นว่ายน้ำ�กลับหัว ก็มี เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ TBM ของนาวีสหรัฐฯ 1 ฝูงบิน (5 เครื่อง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำ�เครื่อง ทั้งหมด 14 นายที่ได้ออกทำ�การบินฝึกทิ้งระเบิดเหนือดินแดนเบอร์ มิวด้า ห่างจากฐานทัพฟอร์ทล๊อคเดอร์เดลประมาณ 225 ไมล์... และแล้ว ฝูงบินทั้ง 5 ลำ�ก็หายสาบสูญ ไม่เหลือแม้แต่เงา ..นาวี สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินผู้ประสบภัยมาร์ติน มารีนเนอร์ แบบ PBM (เป็นเครื่องบินน้ำ� 2 เครื่องยนต์) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ประจำ�เครื่อง 13 นาย ออกตามหา...20 นาทีต่อมา ....PBM ก็ หายสาบสูญ โดยขาดการติดต่อ กับหอบังคับการและหายไป อย่างลึกลับเช่นกันไม่มีเหลือแม้แต่เงามันจะเป็นเหตุ บังเอิญ อุบัติเหตุ หรือเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงแนวโน้มจากสถิติ การสูญหายอาจบอกเราได้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือ และเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณ เบอร์มิวด้าแล้วเป็น จำ�นวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอนเป็น จำ�นวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้ อุบัติการณ์ ลึกลับที่ไม่อาจให้คำ�อธิบายได้ การค้นหาร่องรอย อย่างละเอียดละออ แต่ก็ประสบความ ล้มเหลวที่จะพบพยาน หลักฐาน ซึ่งจะนำ�ไปสู่การไขปัญหาลึกลับนี้ในที่สุด กองทัพ เรือสหรัฐ ก็ได้เก็บเรื่องเหล่านี้ไว้เป็นความลับ ไม่ยอมเปิดเผย หรือให้คำ�วิจารณ์ใดๆแก่ประชาชนการสาบสูญ ก็ยังคงปรากฏ อยู่ต่อไป โดยไม่มีทางป้องกันหรือขัดขวางได้เลย ดินแดนอาถรรพณ์มีอยู่แห่งเดียวหรือ ? เปล่า เลย เบอร์มิวด้าไม่ใช่ดินแดนอาถรรพณ์เพียงแห่งเดียวบนโลกนี้ เท่านั้น ยังมีอีกแห่งหนึ่งเป็นอาณาบริเวณบนท้องทะเลเล็กๆ อยู่ทางตอนทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น บริเวณนี้ เคยเป็นดินแดนอาถรรพณ์เช่นกัน แต่ปัจจุบันความอาถรรพณ์

ของบริเวณนี้ เบาบางลงจนดูเหมือนจะจางหายไปแล้ว เมื่อ สมัยปี ค.ศ. 1950 บริเวณนี้ได้ถูกขนานนามว่า “ทะเลปิศาจ” (Devil’s Sea) มันเคยกลืนกินเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ๆ ไปกว่า า 50 ลำ�...ในปี ค.ศ. 1955 รัฐบาลญี่ปุ่นถึงกับลงทุนจ้างคณะนัก สำ�รวจสมุทรศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญพร้อม ด้วยอุปกรณ์สำ�รวจทางวิทยาศาสตร์อันทันสมัยที่สุดเท่าที่จะ

เครื่องบินแบบ kc 135 หาได้ในสมัยนั้นพร้อมเรือสำ�รวจสมุทรศาสตร์ขนาดยักษ์ เดิน ทางไปยังทะเลปิศาจเพื่อค้นหาคำ�ตอบของความอาถรรพณ์ ลี้ลับ ณ บริเวณนั้น ...สองสามวันต่อมาเมื่อเรือไปถึงบริเวณ ทะเลปิศาจ...รัฐบาลญี่ปุ่นก็ต้องพบ กับความอาถรรพณ์ ความ งุนงงและความตกตะลึง ก็จะอะไรเสียอีกล่ะ...เรือของคณะ นักสำ�รวจลำ�นั้นได้หายสาบสูญไป หน่วยค้นหาถูกส่งตาม ออกไปค้นหากันแทบพลิกท้องทะเล...แต่ไม่พบแม้แต่เงา ไม่มี สัญญาณวิทยุ ไม่มีสัญญาณขอความช่วยเหลือ ไม่มีอะไรทั้ง นั้น.. เหตุการณ์สำ�คัญต่างๆของเรือเดินสมุทรที่หายไปเหนือดิน แดนสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา •ปี ค.ศ. 1840 : เรือสินค้าขนาดใหญ่ของฝรั่งเศษ ชื่อ โรซาลี่ ได้หายไปในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาระหว่าง เดินทางจากยุโรปไปฮานาวา โดยไม่มีผู้ใดเหลือชีวิตรอดพอที่ จะบอกเรื่องราวให้ฟังได้ •ปี ค.ศ. 1840 : เรือลาดตระเวนอังกฤษชื่อ แอ๊ตตา แลนตา หายไปอย่างลึกลับไม่ห่างจากเบอร์มิวดานักพร้อมทั้ง ทหารประจำ�เรือ 290 นาย •วันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 1902 : เรือเยอรมันชื่อ เฟร ย่า มีผู้พบทอดสมออยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ไม่มี สิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่บนเรือลำ�นั้น จากปฏิทินฉีกประจำ�วันใน ห้องกัปตันระบุเป็นวันที่ 4 ตุลาคม 1902 •วันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1998 : เรือบรรทุกอุปกรณ์

21


และสินค้าชื่อ ไซคล๊อปส์ เป็นเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ มี ความยาว 500 ฟุต และระวางขับน้ำ� 1900ตัน หายไปอย่างไร้ ร่องรอยในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาพร้อมด้วยชีวิตลูกเรือ และ ผู้โดยสาร •กลางเดือน กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1925 : เรือโคโทแพ็ค ซี หายไปในดินแดนสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ในระหว่างเดินทาง จากซาร์ลตันสู่ฮานาวา •เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1932 : เรือใบ 21 ลำ�ชื่อ จอนและแมรี่ เป็นเรือที่ขึ้นทะเบียนในนิวยอร์คทั้งสองลำ�มี ผู้พบลอยละล่องใกล้ ๆ กันอยู่ในบริเวณเบอร์มิวดาใบเรือทั้ง สองลำ�ถูกลดลงจากเสาเรียบร้อยแล้ว •วันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ.1944 : เรือยอร์จ ชื่อ กลอเรีย โคไลท์ มีผู้พบถูกปล่อยให้ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทร ในบริเวณสามเหลี่ยม เบอร์มิวดา สิ่งของเครื่องใช้ทุกอย่างใน เรืออยู่อย่างเป็นระเบียบ และของมีค่ายังอยู่ครบถ้วน •เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1950 : เรือบรรทุกสินค้า ยาวชื่อแซนดรา ได้หายไปบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแถว เปอร์โตริโกอย่างไม่มีร่องรอยใด ๆ พร้อมชีวิตลูกเรือทั้งหมด และสินค้าอีก 300 ตัน •เดือนกันยายน ค.ศ. 1955 : เรือยอร์จชื่อ คันแนม าร่าที่ 4 ได้หายไปอย่างลึกลับประมาณ 400 ไมล์ทางตะวันตก เฉียงใต้ของเบอร์มิวดา •วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1963 : เรือเดินทะเล ขนาดยักษ์ซึ่งมีความยาวถึง 425 ฟุต ชื่อมารีน ซัลเฟอร์ ควีน ได้หายไปอย่างไม่มีร่องรอยใด ๆ •วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1963 : เรือจับปลาชื่อ โช บอยหายไปพร้อมด้วยลูกเรือ 4 คนโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ เหลือให้เห็น •ปี ค.ศ. 1942 : เรือโดยสารญี่ปุ่นชื่อ ไรฟูกุ มารู ได้ วิทยุขอความช่วยเหลือขณะที่วิ่งอยู่ระหว่างคิวบาและบาฮามัส

22

แต่แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย •ปี ค.ศ. 1931 : เรือสินค้า สตาฟเวงเยอร์ หายไป ระหว่างบาฮามัสและ แค็ต ไอร์แลน พร้อมด้วยชีวิตลูกเรือ 43 คน •เดือนมีนาคม ค.ศ. 1938 : เรือแองโกลออสเตรเลียน ได้หายไปทางใต้ของแอโซซเรส พร้อมด้วยชีวิต ลูกเรือ 39 ชีวิต •เดือนธันวาคม ค.ศ. 1967 : เรือยอร์จขนาด 46 ฟุต ชื่อ เรโวน๊อค หายไปอย่างปราศจากร่องรอย •วันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 1967 : เรือยอร์จ วิชคร๊าฟ หายไปอย่างปราศจากร่องรอยนอกฝั่งไมอามีพร้อมกับชีวิต เจ้าของเรือและผู้โดยสาร • เดือนเมษายน ค.ศ. 1970 : เรือมิลตัน เอไทรด์ หายไป อย่างไร้ร่องรอยบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา • เดือนมีนาคม ค.ศ. 1973 : เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ระวาง ขับน้ำ� 20000 ตัน ได้หายไปพร้อมกับชีวิตลูกเรือและผู้โดยสาร ทั้งหมด เหตุการณ์สำ�คัญต่าง ๆ ของเครื่องบินที่หายไปเหนือดินแดน สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา •วันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 : เครื่องบินทิ้งระเบิด แบบ TBM ของกองทัพเรือสหรัฐจำ�นวน 5 เครื่อง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ประจำ�เครื่อง 14 นาย หายไปขณะฝึกบินทิ้งระเบิด เหนือดินแดนสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ห่างจากฐานทัพฟอร์ท ล๊ อดเดอร์เดล ประมาณ 225 ไมล์ •วันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 : เครื่องบินช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย มาร์ตินน มารีน แบบ PBM พร้อมพลประจำ� เครื่อง 13 นาย ได้หายไปประมาณ 20 นาที หลังจากบินไป ทำ�การช่วยเหลือเครื่องบินฝึกทิ้งระเบิดแบบ TBM จำ�นวน 5 เครื่องที่ขาดการติดต่อกับ หอบังคับการณ์และหายไปอย่าง ลึกลับ •วันที่ 3 กรกฏาคม ค.ศ. 1967 : เครื่องบินลำ�เลียง พลแบบ G-54 ของกองทัพบกสหรัฐหายไปห่างจาก เบอร์มิวดา ขึ้นมาทางเหนือประมาณ 100 ไมล์ •วันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1948 : เครื่องบินโดย สารชื่อสตาร์ไทยเกอร์ เป็นเครื่องบินสี่เครื่องยนต์ แบบทิวเดอร์-4 ของอังกฤษหายไปเหนือดินแดน สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาพร้อมกับชีวิตของเจ้าหน้าที่ และผู้โดยสาร 31 คน •วันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 1948 : เครื่องบินโดยสาร ชาร์เตอร์ ส่วนบุคคล แบบ DC-3 หายไประหว่างซาน ฮวนกับไมอามี่ พร้อมพนักงานประจะเครื่องและผู้

เรือกูดนิวเรือลากจูงเครื่องดีเซลสามารถรอดพ้นอันตรายจากเบอมิวดามาได้


โดยสาร 32 คน •วันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1949 : เครื่องบินโดยสาร สตาร์ แอเรียล ของอังกฤษ บินจากลอนดอนไปซานดิเอโก โดย ผ่านทาง จาไมกา เครื่องบินได้หายไปในบริเวณสามเหลี่ยม เบอร์มิวดาในระหว่างเส้นทางไปยังคิงส์ตัน •วันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1950 : เครื่องบิน โกล๊ปมาส เตอร์ ของสหรัฐอเมริกา หายไปทางตอนเหนือของสามเหลี่ยม เบอร์มิวดา ขณะมุ่งบินไปสู่ไอร์แลนด์ •วันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1950 : เครื่องบินโดยสาร ของบริ ษั ท เดิ น อากาศยอร์ ค แห่ ง อั ง กฤษหายไปในบริ เ วณ สามเหลี่ยม เบอร์มิวดา พร้อมผู้โดยสาร 33 คน •วันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1954 : เครื่องบินแบบ ซุป เปอร์คอนสเตลเลชั่น ของสหรัฐ หายไปพร้อมผู้โดยสาร 42 คน ในบริเวณเดียวกับจุดที่ฝูงบิน ที่ 19 สูญหายทั้ง 5 เครื่องมา ก่อน •วันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1956 : เครื่องบินลาด ตระเวนของกองทัพเรือสหรัฐแบบ P5M หายไปใกล้ๆ กับ เบอร์มิวดา พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำ�เครื่องอีก 10 นาย •วัน ที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1962 : เครื่องบินบรรทุก น้ำ�มันสำ�หรับเติมน้ำ�มันกลางอากาศแบบ KB-50 ของสหรัฐ ได้หายไปอย่างลึกลับ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา •วันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1963 : เครื่องบินของกอง ทัพอากาศสหรัฐสี่เครื่องยนต์แบบ KC-135 จำ�นวนสองเครื่อง หายไปทางทิศตะวันตกห่างจาก สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาราว 300 ไมล์ •วันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1965 : เครื่องบินโดยสาร ขนาดกลางแบบ C-119 หายไปใกล้ ๆ กับเบอร์มิวดา พร้อม ด้วยผู้โดยสาร 10 คน •วันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1956 : เครื่องบินทิ้งระเบิด แบบทันสมัย B-52 ของสหรัฐ ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นเครื่องบิน บรรทุกสินค้า หายไปตรงจุดศูนย์กลาง ของสามเหลี่ยมเบอร์ มิวดา พร้อมทั้งชีวิตของชีวิตของนักบินทั้ง 3 นาย •วันที่ 11 มกราคม 1967 : เครื่องบินแบบ YC122ซึ่งดัดแปลงเป็นเครื่องบินบรรทุกสินค้าหายไปพร้อมกับพ นักงานประจำ� เครื่อง 4 นาย ในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ใกล้ ๆ กับบาฮามัส •วันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1963 : เครื่องบินแบบ C-132 ซึ่งเป็นเครื่องบินบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ หายไปใน บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ตอนใดตอนหนึ่งระหว่างทางสู่ แอโซเรส มีนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ นักสมุทร

วิทยา และอีกหลายอาชีพ ให้ความเห็นและทฤษฎีเกี่ยวกับ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา มาดังนี้ 1.ทฤษฎีที่ว่าอาจจะเป็นไปได้ที่บริเวณสามเหลี่ยม เบอร์มิวดานั้น ตั้งอยู่ในจุดสมดุลของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า กับ พลังของสนามแห่งแรงโน้มถ่วงพอดี ซึ่งทำ�ให้เกิดช่องว่าง ของอีกมิติหนึ่งในห้วงเวลาอวกาศ และเมื่อเรือหรือเครื่องบิน แล่นเข้าสู่ช่องว่างแห่งนี้ ทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางมิติ หายลับไปทันที แต่เนื่องจากว่าวิทยาการทางเทคนิคของเราใน ปัจจุบันนี้ยังไม่มีความรู้พอที่ จะแก้ไขสถานการณ์อันนี้ได้ การ หายสาบสูญของพวกเรา ก็เป็นไปในทำ�นอง เดินทาง

เครื่องบินแบบเดียวกับฝูงบินที่ 19 เดียว เท่านั้น คือเมื่อมิติถูกเปลี่ยนไปแล้วก็ไม่อาจจะทำ�ให้ กลับคืนสู่มิติเดิมได้ ส่วนสิ่งมีชีวิตปัญญาสูงจากนอกโลกที่มา จากจานบิน คงจะทราบและเข้าใจในกฎเกณฑ์อันนี้เป็นอย่าง ดีจึงได้ใช้ช่องว่างที่เกิดจาก สมดุลอันนี้ เป็น ประตู ทางเข้า ออกในการเปลี่ยนแปลงทางมิติเพื่อเข้าสู่โลก ด้วยเหตุจึงมีผู้ พบเห็นจานบินบ่อยๆ (สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นสถานที่ซึ่ง มีผู้พบเห็นจานบินบ่อยที่สุดและมากที่ สุดในโลก) และมัน จะหายตัวไปแบบฉับพลัน ซึ่งตอนนั้นเองที่จานบินเปิดประตู มิติ เรือหรือเครื่องบินผ่านมาบริเวณนั้นพอดี ก็เลยแล่นเข้าสู่ ประตูมิติ 2. ทฤษฎีที่ว่า บริเวณใต้สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา นั้นเป็นจุดที่ อาณาจักรแอตแลนติสจมลง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า ชาวแอตแลนติสมีความเจริญรุ่งเรืองมาก ต้องมีพลังงานอะไร บางอย่างที่ชาวแอตแลนติสสร้างเอาไว้ ทำ�ให้เรือและเครื่อง บินบริเวณนั้นหายสาบสูญแบบไร้ร่องรอย

22


3. ทฤษฎีที่ว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เป็ น เหมื อ นสถานี ที่ สิ่ ง มี ชี วิ ต ที่ ท รงปั ญ ญากว่ า มาสร้ า งเอา ไว้ เพราะหลายต่อหลายครั้งที่มีผู้คนพบเห็นแสงไฟจากใต้ น้ำ�บ้าง จานบินใต้น้ำ�บ้างและก็มีผู้พบเห็นจานบินโผล่ขึ้นมา จากน้ำ� ดำ�ดิ่งลงไปในน้ำ� ความเร็ว 150 นอตต่อชั่วโมงเท่ากับ เฮลิคอปเตอร์ และในปัจจุบันก็ยังไม่มีเรือดำ�น้ำ�ให้ทำ�ความเร็ว ได้ขนาดนั้น บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นจุดที่พบเห็น จานบินบ่อยและมากที่สุดในโลก เพราะบริเวณสามเหลี่ยม เบอร์มิวดาเป็นจุดบอดของสนามแม่เหล็กจึงสามารถทำ�ให้ สามารถนำ�ยานลงจอดซึ่งมีไม่กี่แห่งบนโลก 4. ทฤษฎีที่ว่า มีสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาอยู่ใต้ท้อง มหาสมุทร ตามหลักของชีววิทยา สิ่งมีชีวิตจะเริ่มต้นมาจาก ทะเลก่อน และเนื่องมากจากท้องทะเลมีอาณาเขตมากกว่าพื้น ดินถึงสองเท่า มนุษย์ใต้มหาสมุทรเหล่านี้จึงมีเนื้อที่สำ�หรับ การแพร่ขยายพันธุ์มากกว่าเรา และจากเหตุที่พวกนี้ได้เกิดขึ้น ก่อนมนุษย์เรา ดังนั้น การพัฒนาทางเทคนิคของพวก เขาก็คง ล้ำ�หน้าไปกว่าเรามากทีเดียว เท่าที่ผ่านมาเป็นเวลานาน มนุษย์ ใต้สมุทรเหล่านี้จะไม่ติดต่อเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเรา ถือว่า ต่างคนต่างอยู่ แต่จากความก้าวหน้าทางเทคนิคของพวกเรา ในปัจจุบัน อาจจะทำ�ให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อมของ พวกเขาได้ พวกนี้จึงเปลี่ยน นโยบายที่ว่าต่างคนต่างอยู่ ออก มาสังเกตความเป็นไปของชาวเรา ที่อยู่บนพื้นโลกอย่างลับๆ และเงียบสงบ ซึ่งบางทีบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา อาจเป็น บริเวณที่สะดวกที่สุดที่พวกเขาจะออกมาสำ�รวจโลกเบื้องบน ที่มา : baanmaha.com/community/

23

นักล่าสัตว์สองคนเข้าป่าล่าสัตว์ ทันใดนั้นคนหนึ่งก็ล้มลงดิ้นพราดๆ ชักตากลับและดูเหมือนจะไม่หายใจ เพื่อนก็รีบ หยิบโทรศัพท์มือถือและเรียกบริการฉุกเฉิน บอกไปว่า “เพื่อนผมตายแล้วๆ ! ผมจะทำ�ยังไงดี” มีเสียงตอบมาอย่างสงบ ลดความร้อนแรงของอารมณ์ว่า “ใจเย็นๆ ครับ ผมช่วยได้ อย่างแรกช่วยให้แน่ใจว่าเขาตายแล้วจริงๆ” เงียบไปสักพัก และก็มีเสียงปืนดัง มีเสียงตอบมาว่าสงบ “เอาละตายแน่แล้ว คราวนี้จะให้ผมทำ�ยังไงต่อไป” เรื่องโจ๊ก


หลØมยÑ¡É์

Mirny Diamond Mine

หลุ ม หรื อ เหมื อ งเพชรยั ก ษ์ ที่ ใ หญ่ ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ ไซบีเรีย เขตตะวันออกไกล ในนิทานพื้นบ้านของชาวยาคุต มีเรื่องหนึ่ง ที่บอกว่า เมื่อพระเจ้าผู้สร้างโลก ที่นำาเอา ทรัพยากรไปโปรยปรายไว้ทั่วโลก เหาะมาถึง ดินแดนของพวกเขา พระหัตถ์ของพระองค์ ต้องเจอกับความหนาวเหน็บอย่างมาก ถุง ใส่เพชรจึงตกลงมา และเพชรเหล่านั้นได้ กระจัดกระจายอยู่ทั่วเขตยาคูเตีย ซึ่งหลุมนี้ มีความลึกถึง 525 เมตร ส่วนขนาดของปาก หลุมนั้น วัดได้ถึง 1200 เมตร และเหนือปาก หลุมนี้ ได้จัดเป็นเขตห้ามบินเนื่องจากว่าเคยมี เฮลิคอปเตอร์ได้ถูกดูดตกลงไปในหลุมนี้แล้ว

24


The Great Blue Hole

หลุมเกรทบลูโฮล ประเทศเบลิส

หลุมนี้เป็นหลุมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เรียกว่าหลุมสีน้ำ�เงิน อยู่ในทะเลห่างจากชายฝั่งประเทศเบลิซ ประมาณ 60 ไมล์ แม้ว่าโลกนี้จะมีหลุมสีน้ำ�เงินหลายแห่ง แต่หลุมนี้ใหญ่ที่สุด ตายกันมาหลายศพแล้วครับ The Great Blue Hole คือหลุมขนาดยักษ์ที่จมอยู่ใต้น้ำ�นอกชายฝั่งของ Belize ตั้งอยู่ใกล้เขตศูนย์กลางของ Lighthouse Reef ซึ่ง เป็นเกาะปะการังขนาดย่อม ประมาณ 100 กม. (62 ไมล์) จากชายฝั่งเมือง Belize เขตพื้นที่แนวหินโสโครกนี้ทอดตัว ยาว ประมาณ 1,000 ฟุต และเป็นที่อยู่สุดสบายของปะการังจึงทำ�ให้เขตนี้เป็นเขตปะการัง ที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม มากที่สุดแห่งหนึ่ง หลุมนี้มีขนาดกว้างประมาณ 300 ม.(984 ฟุต) และลึกประมาณ 125 ม.(410 ฟุต) เองครับ รูปร่าง ของหลุมเป็นลักษณะเหมือนถ้ำ�ครับ สันนิษฐานกันว่ามันก่อตัวขึ้นในยุคน้ำ�แข็ง ซึ่งระดับน้ำ�ทะเลในขณะนั้นอยู่ที่ ประมาณ 100-120 ม. (330-390 ฟุต) ซึ่งต่ำ�กว่าในปัจจุบันครับ โดยคาดว่าแรกเริ่มเดิมทีมันเคยเป็นถ้ำ�หิน Limestone มาก่อน ต่อมาพอระดับน้ำ�ทะเลสูงขึ้นก็เลยท่วมถ้ำ�จนหมด เพดานถ้ำ�โดนน้ำ�เซาะจนพังทลาย และยุบตัวซ้ำ�ๆ จนกลาย เป็นหลุมกลวงโบ๋อย่างที่เห็นในปัจจุบัน โดยมีอุณหภูมิที่ความลึก 130 ฟุต (40 เมตร) ประมาณ 76 องศา F (24 C) ตลอด ทั้งปี The Great Blue Hole ยังเป็นสุสานของนักดำ�น้ำ�มากมายด้วย สาเหตุของการตายของนักดำ�น้ำ�เพราะที่ระยะ 60 ม. นักดำ�น้ำ�จะเกิดอาการ Nitrogen narcosis ทำ�ให้หมดสติได้ ประกอบกับปากอุโมงค์ เห็นยากเพราะมีลักษณะเป็น หลุมที่ลึกและมืด ทำ�ให้นักดำ�น้ำ�ที่ยังอยากลงไป พบจุดจบมากๆต่อมากแล้ว แต่ยังมีนักประดาน้ำ�จัดอันดับให้มันเป็น 1 ใน 7 สถานที่ดำ�น้ำ�ประเภทที่สุดของโลกอยู่ดี

25


Waitomo Glowworm Caves ถ้ำ�หนอนเรืองแสง

สิ่งที่ผมกำ�ลังจะพาทุกท่านไปติดตามกัน ในวันนี้นั้นมันอยู่ในถ้ำ� ถ้ำ�ที่ไม่ธรรมดาส่วนใหญ่แล้วเรา เข้าไปในถ้ำ�จะเจอกับค้างคาว หินงอก หินย้อย หรือไม่ก็งู แต่วันนี้ในถ้ำ�ที่เราจะได้เห็นกันต่อไปนี้เต็มไปด้วยแสงสี สวยงามระยิบระยับราวกับเรากำ�ลังอยู่ท่ามกลางดวงดาว ในจักรวาลก็มิปาน ถ้ำ�ที่ว่านี้มีชื้อว่า “Waitomo Glowworm Caves” อยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ครับ และราขอยกย่อง

ให้มันเป็นถ้ำ�หนอนเรืองแสงสวยที่สุดในโลก ทำ�ไม่นะ เหรอก็มันสสวยงามเรืองแสงจริงๆน่ะสิ ถ้ำ�ที่ว่านี้อยู่ใน เกาะเหนือ ทางตอนใต้ของเมืองไวกาโต คำ�ว่า Waitomo แปลว่าน้ำ�ที่ลอดผ่านถ้ำ� ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากลักษณะทาง กายภาพภายในถ้ำ�ที่มีสายน้ำ�ไหลผ่านนั่นเอง...

26


ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากลักษณะทางกายภาพ ภายในถ้ำ�ที่มีสายน้ำ�ไหลผ่านนั่นเอง ถ้ำ�แห่งนี้ได้รับการ สำ�รวจเป็นครั้งแรกในปี 1887 และสิ่งที่ทำ�ให้หลายคน ต้องตกตลึงเมื่อเข้าไปสู่ถ้ำ�แห่งนี้ก็คือแสงระยิบระยับจน เหมือนว่ากำ�ลังมองดูดวงดาวบนฟ้าในยามค่ำ�คืน โดย สาเหตุของแสงที่ว่านี้ก็เนื่องมาจาก หนอนเรืองแสง ที่อยู่ ภายในถ้ำ�นั่นเอง หนอนเรืองแสงดังกล่าวนี้หากมองกันจริงๆ ก็ไม่ใช่หนอนซะทีเดียว เป็นตัวอ่อนของแมลงลักษณะ คล้ายกับยุง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Araachnocampa Luminosa โดยในช่วงเวลาของการเป็นตัวอ่อนของแมลง ดังกล่าวจะมีการส่องแสงประกายกินระยะเวลา 6 ถึง 12 เดือนตามความสมบูรณ์ของร่างกายของหนอนแต่ละตัว หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นแมลงที่โตเต็มที่ต่อไป หนอนหรือว่าตัวอ่อนแมลงดังกล่าวนี้ยัง สามารถพบได้ตามถ้ำ�ในญี่ปุ่นและออสเตรเลียด้วย แต่ บ้านเรานั้นไม่แน่ใจว่าจะมีหรือเปล่าน่ะครับ เพราะไป ถ้ำ�ทีไรก็เห็นแต่ค้างคาวกับหิน ยิ่งช่วงหลังๆนี้จะไม่เจอ ค้างคาวแต่เจอลายเซ็นต์ของนักท่องเที่ยวซะมากกว่า เช่น “ต้อยรักติ๋ม” เป็นต้น ที่มา : ที่สุดในโลก.com

เรื่องโจ๊ก

27

เลขา : ฉันเลิกนุ่งกระโปรงยาวแล้ว ..... ไม่ไหวทำ�งานหนัก เหนื่อยจัง สู้ใส่กระโปรงสั้นๆ ไม่ได้ เสมียน : จริง...กระโปรงยาว ทำ�งานไม่ค่อยสะดวก มันรุ่มร่าม เลขา : ไม่ใช่ยังงั้น เสมียน : แล้วทำ�ไมล่ะ เลขา : วันไหนฉันนุ่งกระโปรงยาว ผู้จัดการนั่งดูฉันทำ�งานทั้งวัน ไม่ได้หยุดพักเลย .... ฉันนุ่งกระโปรงสั้นวันไหน.... ผู้จัดการนั่งดูขาฉันทั้งวัน....ไม่ถามเรื่อง งานเลย


ความเชื่อแปลกๆ ของนักฟุตบอลระดับโลก

28


เปเป้ เรน่า Pepe Reina

• ชอบเดินลงสู่สนามเป็นคนสุดท้าย และไม่ลืมแตะป้าย “This is Anfi eld” ใน อุโมงค์ทางออกอย่างเด็ดขาด • ก่อนลงสนาม จะเข้าห้องน้ำาราวๆ 3-4 ครั้ง เพราะมีความเชื่อว่า การปัสสาวะ เป็นการผ่อนคลายเส้นปราสาท และเป็นส่วนหนึ่งในการอบอุ่นร่างกาย • หลังจากเดินลงสู่สนาม จะเอาพื้นสตั๊ดเคาะกับเสาด้านขวา, กระโดดแตะ คาน, เอาสตั๊ดเคาะกับเสาด้านซ้าย ปิดท้ายด้วยโบกมือทักทายภรรยาที่อยู่บน อัฒจันทร์ จากนั้นค่อยเริ่มแข่งขันได้

ฟิล โจนส์ Phil Jones

• หากต้นสังกัด “ปีศาจแดง” ลงเล่นในฐานะเจ้าบ้าน จะเลือกสวมถุงเท้าข้าง ซ้ายก่อน ส่วนเกมไหนที่ออกไปเยือน จะสวมข้างขวาก่อน • การเข้าพักในโรงแรม ใช้หลักการเดียวกับถุงเท้า คือเลือกใช้ผ้าเช็ดตัว ที่วาง ตำาแหน่งซ้าย-ขวา ตามการเล่นเหย้า-เยือน • เวลาเดินลงสนาม ไม่ชอบเหยียบเส้นตีสนามสีขาว โดยก้าวไปยังพื้นหญ้าเลย • ไม่ขึ้นลิฟต์ เวลาออกไปเยือนทีมต่างประเทศอย่างเด็ดขาด

จอห์น เทอร์รี่ John Terry

29

• นั่งรถบัสทีมเชลซี ที่เก้าอี้ตัวเดิมเสมอ • ฟังซีดีเพลงแผ่นเดิมในรถยนต์ส่วนตัว • จอดรถจุดเดิม ที่สนามซ้อม • ใช้สนับแข้งนำาโชคอันเดียวมากว่า 10 ปี ก่อนจะเลิกใช้ไปในปี 2005 • ดึงถุงเท้าตึงคลุมหัวเข่า • สะสมปลอกแขนกัปตันไว้เสมอ


คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ (Cristainno Ronaldo)

• จะต้องนั่งรถบัสของทีมแถวหลังสุดคนเดียว • ในห้องแต่งตัวระหว่างพักครึ่งจะต้องมาตกแต่งทรงผม • ต้องสัมผัสลูกบอลก่อนออกจากห้องแต่งตัว

อิเคร์ คาซิยาส Iker Casillas

• เกมส์ไหนเสียประตูเกมต่อไปจะเปลี่ยนยูนิฟอร์มใหม่ทั้งหมด • ตัดแขนเสื้อแข่งออกเล็กน้อย • จะใส่ถุงเท้ากลับด้าน (เอาด้านในมาข้างนอก ข้างนอกไปข้างใน)

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ Robin van Persie

• สมัยอยู่กับ “เดอะ กันเนอร์ส” จะสวมรองเท้าข้างซ้ายในห้องแต่ง ตัว ก่อนมาใส่ข้างขวาด้านนอกห้อง ส่งผลให้ซีซั่นดังกล่าว สามารถยิง ประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำา • ฤดูกาล 2012 ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยังเลือกใช้ รองเท้าคู่เดิมคือ “Adidas Adipower Predator” (สีเลม่อน-น้ำาเงิน) แม้ สปอนเซอร์อยากให้ใช้รุ่นใหม่ก็ตาม • รองเท้าคู่เดิม สามารถพาอาร์วีพี เป็นดาวซัลโวได้อีกหนึ่งสมัย (ยิง ไป 26 ประตู) พร้อมพาทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นแชมปพรีเมียร์ลีก • ฤดูกาล 2012-13 เปลี่ยนมาใส่รุ่นใหม่ “Adidas F50 Adizero” (สี แดงสด) แต่นำาชุดพื้นปุ่มของ “Adipower” มายัดใส่ลงไปเหมือนเดิม

30


ร้านอาหารโลกตะลึง!! เราอาจเคยพบเห็นร้านอาหารที่ดีที่สุด หรูหราที่สุด คราวนี้ลองมาเปิดมุมมองใหม่ เกี่ยวกับการรับประทานอาหารกันมั่งดีกว่าครับ ผมมีตัวเลือกมานำ�เสนอให้คุณผู้อ่านครับ ร้าน ที่ผมจะนำ�มาบอกต่อนั้น เป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่าไม่เหมือนใครมีความแปลก แต่จะแปลกแค่ไหนผู้ อ่านไปพิสูจน์กันเองเลยครับ...

ภัตตาคารในความมืด Dans le Noir

ภัตตาคารนี้รับประกันไว้ว่า คุณจะได้รับประสบการณ์แบบที่ไม่เคยได้จาก ที่ไหนมาก่อน (ยกเว้นจะบ้านไฟดับตอนกินข้าวบ่อยๆ หรือตาบอดอยู่แล้ว) ภัตตาคารนี้ไม่ ทราบเหมือนกันว่าการตกแต่งเป็นอย่างไร เพราะในร้านจะมืดสนิทไม่เห็นกระทั่งมือของ ตัวเอง วิธีการก็คือ คุณจะต้องเรียกพนักงานมา สั่งอาหารจากการดมกลิ่นตัวอย่าง จากนั้น ก็ภาวนาให้ของที่สั่งไปออกมาพอกินได้ เมื่ออาหารมาเสริฟก็ต้องกินกันในความมืดแล้ว เดากันเอาเองว่าที่กินเข้าไปนั่นคืออะไรกันแน่ ใครชอบลุ้นภัตตาคารนี้น่าจะเหมาะมาก

ภัตตาคารในคุก Alcatraz Prison Restaurant

สำ�หรับใครที่สงสัยว่า กินข้าวในคุกจะให้ความรู้สึกยังไง ไม่ต้องสงสัยอีกต่อ ไป ภัตตาคารอัลคาทราซแห่งนี้ ถูกจำ�ลองขึ้นมาให้มีสภาพเหมือนคุก (แต่ไม่ใช่คุกอัลคาทราซของจริง) นอกจากนั้น เมนูต่างๆ ก็จะมีชื่อเป็นเอกลักษณ์ เช่น เมนูคบชู้ น้ำ�ประหาร ด้วยการฉีดยา เป็นต้น ลูกค้าจะได้นั่งกินในห้องขังแยกเป็นส่วนตัว และถ้าใครอยากถูกใส่ กุญแจมือด้วย ก็ขอไปทางพนักงานได้ เขามีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้หมดแล้ว

31


ภัตตาคารห้องน้ำ� Modern Toilet

ร้านนี้เคยโด่งดังในอินเตอร์เน็ตอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งก็สมควรแล้วเพราะว่าแปลก จริงๆ ภัตตาคารจะตกแต่งด้วยชักโครกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ และที่เด็ดที่สุด ก็คือ จานชามเป็นรูปโถส้วมทั้งหมด ดูแล้วก็บอกไม่ถูกว่าจะน่ากินดีหรือไม่น่ากินดี เมนูชื่อดังของร้านนี้ได้แก่ ไอศครีมช็อคโกแลต ซึ่งถูกบีบออกมาวางบนจานได้รูปร่าง สวยงาม เข้ากับภาชนะเป็นอย่างยิ่ง ใครที่จินตนาการล้ำ�เลิศอาจจะไม่เหมาะมากินอาหาร ที่ร้านนี้ ไม่งั้นคงจะกินไม่ลงสักอย่าง

ภัตตาคารโรงพยาบาล Hospitalis Restaurant

นอกจากภัตตาคารนี้จะแปลกแล้ว คนที่มากินก็คงต้องแปลกพอตัวอยู่ เพราะใครกันอยากจะกินอาหารที่โรงพยาบาล? ที่นี่ตกแต่งให้เป็นเหมือนโรงพยาบาล ย่อมๆ แห่งหนึ่ง ต้องขอบอกว่าของตกแต่งที่นี่ทำ�ได้ดีมาก เหมือนในโรงพยาบาลมาก จริงๆ แม้แต่จานชามที่ใช้ก็เป็นแบบของโรงพยาบาล และเครื่องดื่มก็เสิร์ฟมาในบีก เกอร์ทดลอง พร้อมด้วยพนักงานทุกคนก็แต่งตัวเป็นหมอกับพยาบาลให้บรรยากาศ สมจริง ส่วนเมนูยอดนิยมของที่นี่เป็นอาหารชุดพิเศษซึ่งคนกินจะถูกจับใส่เสื้อรัด (แบบที่ใช้กับคนไข้โรคประสาท) แล้วจะมีนางพยาบาลคนสวยคอยป้อนอาหารให้ จริงๆ ก็อาจจะไม่เลวนักนะเนี่ย

รู้แล้วอึ้ง

“ถ้ารูปปั้นในสวนสาธารณะเป็นรูปคนขี่ม้าที่ยกสองขาหน้าขึ้นบนอากาศ แสดงว่าคนนั้นเสียชีวิตในสงคราม แต่ถ้าม้ายกขาหน้า ขึ้นข้างเดียว คนนั้นเสียชีวิตจากการบาดเจ็บในสงคราม และถ้าม้ายืนอยู่บนขาทั้งสี่ คนผู้นั้นเสียชีวิตเองตามธรรมชาติ”

32



ชื่อ_นาย สิทธิพงษ์ เสนเคน ชื่อเล่น_แบงค์ วันเกิด_2 พฤศจิกายน 2533 ส่วนสูง_180 เซนติเมตร น้ำ�หนัก_74 กิโลกรัม อีเมลล์_Senken_bk@hotmail.com กีฬาที่ชอบ_ฟุตบอล ทีมที่ชอบ_เชลซี สีที่ชอบ_สีแดง


WAO...WOWW หว่าว...ว้าวว


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.