มาตรฐานการติดตั งทางไฟฟ้าสํ าหรับประเทศไทย พ.ศ. 2556 โดย
สุธี ปิ นไพสิฐ วิศวกรไฟฟ้าเชี ยวชาญ กรมโยธาธิ การและผังเมือง
มาตรฐานการติดตั งทางไฟฟ้าสําหรั บประเทศไทย พ.ศ.2556 EIT Standard 2001-56 บทที 1 นิยามและข้อกําหนดทว ั ไป บทที 2 มาตรฐานสายไฟฟ้าและบริภ ัณฑ์ไฟฟ้า บทที 3 ต ัวนําประธาน สายป้อน วงจรย่อย บทที 4 การต่อลงดิน
เป็ นมาตรฐานหลักสํ าหรับงาน ออกแบบและงานติดตั งทางไฟฟ้ า
บทที 5 การเดินสายและว ัสดุ บทที 6 บริภ ัณฑ์ไฟฟ้า บทที 7 บริเวณอ ันตราย บทที 8 สถานทีเ ฉพาะ บทที 9 อาคารชุด อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ บทที 10 บริภ ัณฑ์เฉพาะงาน บทที 11 มาตรฐานอ ัตราลําด ับการทนไฟของสายไฟฟ้า บทที 12วงจรไฟฟ้าช่วยชีวต ิ บทที 13 อาคารเพือ การสาธารณะใต้ผวิ ดิน
บทที 14 การติดตั งไฟฟ้ าชั วคราว
ใช้ เป็ นมาตรฐานเสริม สํ าหรับงานออกแบบและ งานติดตั งทางไฟฟ้ าที' เพิม' เติมจากบทที' 1 ถึง 6 2
1
ขั นตอนการออกแบบระบบไฟฟ้า มาตรฐาน กฎหมาย
เจ้ าของ โครงการ
สถาปัตย์ โครงสร้ าง
ขอห้ องเครื' อง ห้ องหม้ อแปลง Shaft ไฟฟ้ า อัตราการทนไฟ
ประสบ การณ์
วิศวกร ผู้ออกแบบ ไฟฟ้ า
วิศวกร เครื' องกล
ขอโหลดระบบ ปรับอากาศ ลิฟต์
ผลงาน
วิศวกรระบบ สุ ขาภิบาล
จรรยาบรรณ
ขอโหลดระบบ สุ ขาภิบาล 3
ตัวอย่ าง อัตราการทนไฟของห้ องต่ างๆ พืน ทีใ' ช้ สอย
อัตราการทนไฟของ แผงกั นเพลิงลุกลาม
อัตราการทนไฟของ ประตู(ชม.)
ห้ องแผงสวิตช์ ไฟฟ้ าหลัก
2
2
ห้ องหม้ อแปลงชนิดนํา มัน
3
3
ห้ องเครื' องกําเนิดไฟฟ้ า
3
3
ห้ องเครื' องสู บนํา ดับเพลิง
2
2
ห้ องทีม' ีเชื อเพลิง สารไวไฟ วัตถุระเบิด
4
4
อ้ างอิงจาก : มาตรฐานการป้ องกันอัคคีภัยของ วสท.
2
1. แนวทางการออกแบบระบบไฟฟ้ า 1.1 พืน ฐานสํ าคัญในการออกแบบ - มีความปลอดภัย (SAFETY) คือมีระบบเตือนภัย มีระบบป้ องกันต่ างๆ และระบบสายดินทีด' ี - มีความเชื' อถือได้ (RELIABILITY) คือมีความ ทนทาน ทํางานได้ แน่ นอนไม่ เกิดปัญหาบ่ อย - มีความง่ ายในการใช้ งาน (SIMPLICITY OF OPERATION คือ ไม่ มคี วามยุ่งยากในการ ใช้ งาน
- ไม่ มปี ัญหาในการดูแลรักษา(MAINTANANCE) คือมีการบํารุงรักษาน้ อยหาอุปกรณ์ ทดแทนได้ ง่าย ใช้ ผลิตภัณฑ์ ที' ได้ มาตรฐาน - มีความคล่องตัว (FLEXIBILITY) คือสามารถ ขยายปรับปรุงเปลีย' นแปลงได้ ง่ายในอนาคต - ค่ าใช้ จ่ายเริ'มต้ น (FIRST COST) ตํ'าสุ ด คือมีค่า ใช้ จ่ายไม่ สูงมากเกิน ความจําเป็ น เช่ นการเลือกใช้ ระบบ - ประสิ ทธิภาพทางไฟฟ้ าสู งสุ ด คือการเลือกใช้ อุปกรณ์ ทมี' คี ุณภาพดี มีค่าสู ญเสี ยตํ'า ประหยัดพลังงาน - คุณภาพทางไฟฟ้ า เช่ น ค่ าแรงดันสมํา' เสมอ การสวิตชิ'ง มีฮาร์ มอนิกน้ อย ฟ้ าผ่ า
5
6
3
1.2 มาตรฐาน และกฎหมายทีใ' ช้ อ้างอิง - มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อตุ สาหกรรม ; มอก. - มาตรฐานการติดตั งทางไฟฟ้าสําหรับประเทศไทยของวสท. - พรบ. การส่งเสริมการอนุรกั ษ์พลังงาน - มาตรฐานสากลอาทิ IEC, BS, NEC CIE , ANSI , UL , NFPA - พรบ. ควบคุมอาคาร
7
กฎหมายว่ าด้ วยการควบคมุ อาคาร พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร (ฉบับที2' )พ.ศ. 2535
พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร (ฉบับที3' )พ.ศ. 2543
ควบคุม ควบคุม ควบคุม ควบคุม ก่อนก่ออกแบบ อสร้ าง ขณะก่อสร้ าง การเปิ ดใช้ อาคาร การใช้ อาคาร ตรวจสอบอาคาร
8
4
อาคารขนาด ใหญ่พเิ ศษ
อาคารสู ง
กฎกระทรวง 33(2535)
กฎกระทรวง 6(2527) การรับนํ าหนัก รับแรง วัสดุ
ปรับปรุง ก. 33
กฎกระทรวง 48(2540) อาคารสาธารณะ สํานักงาน
โครงสร้ าง ทนไฟ
อาคารอาศัยรวม หอพัก อาคาร ชุมนุมชน
กฎกระทรวง 39(2537)
พ.ร.บ.ควบคุม อาคาร พ.ศ. 2522 และ(ฉบับที2' )2535
กฎกระทรวง 55(2543) กฎกระทรวง 50(2540)
บ้ านแถว บ้ านแฝด
ห้ องแถว ตึกแถว
กฎกระทรวง 44(2538)
ระบายนํ า นํ าเสี ยขยะ สิ' งแวดล้ อม
อาคารสู ง และขนาดใหญ่
กฎกระทรวง 47(2540) (อาการเก่า) โรงงาน ภัตตาคาร
อาคารทีส' ู ง เกิน 3 ชั น
อาคาร อยู่อาศัยรวม
อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ 9
ความสู ง
• พื้นที่ไม่เกิน 500 ตร.ม. สรุ ป อาคารประเภทต่ างๆ สูงเกิน 15 ม. แต่ไม่ถึง 23 ม.
อาคารสู ง
23
อาคารขนาดใหญ่
2000
บ้ านอยู่อาศัย
อาคารขนาดเล็ก
15
• พื้นที่เกิน 500 ตร.ม.แต่ไม่เกิน 1,000 ตร.ม.สูงไม่ถึง 23 ม. อาคารสู งและอาคาร • พื้นที่เกิขนาดใหญ่ น1,000 ตร.ม.แต่ พเิ ศษ ไม่เกิน 2,000 ตร.ม.สูงไม่เกิน 15 ม.
อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ พืน ที 10
5
ความสู ง
สรุ ป อาคารประเภทต่ างๆ อาคารสู ง
23
• ใช้เป็นที่อยู่อาศัยและประกอบกิจการด้วย อาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาด • มีความสูงตั้งแต่ 23 เมตร ขึ้นไป ใหญ่ พเิ ศษ • ไม่กําหนดพื้นที่
พืน ที
2000
บ้ านอยู่อาศัย
อาคารขนาดเล็ก
15
อาคารสู งและอาคาร ขนาดใหญ่พเิ ศษ
11
ความสู ง
ใช้เป็นที่อยู่อาศัยและประกอบกิจการด้วย มีพื้นที่รวมกันเกิน 1,000 ตร.ม. สรุ ป อาคารประเภทต่ างๆ และความสูงตั้งแต่ 15 เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร หรือมีพื้นที่รวมกันเกิน 2,000 ตร.ม. แต่ไม่ถึง10,000 ตร.ม. สูงไม่ถึง 23 ม.
อาคารสู ง
23
อาคารขนาดใหญ่
2000
บ้ านอยู่อาศัย
อาคารขนาดเล็ก
15
อาคารสู งและอาคาร ขนาดใหญ่ พเิ ศษ อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ พืน ที 12
6
ความสู ง
สรุ ป อาคารประเภทต่ างๆ อาคารสู ง
23 บ้ านอยู่อาศัย
อาคารขนาดเล็ก
ใช้เป็นที่อ15ยู่อาศัยและประกอบกิ จการด้วย อาคารขนาดใหญ่ มีพื้นที่รวมกันเกิน 10,000 ตร.ม.
อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ พืน ที
2000
อาคารสู ง
อาคารสู งและอาคาร ขนาดใหญ่พเิ ศษ
13
อาคารทรงจั'ว หรื อทรงปั นหยา
พืน ดาดฟ้ า
ยอดผนัง ชั นสู งสุ ด
ผนังกันตก
≥ 23 ม.
พืน ดิน
≥ 23 ม.
พืน ดิน
14
7
กฎกระทรวงฉบับที 33 (พ.ศ. 2535) ข้ อ 11 ระบบจ่ าย พลังงานไฟฟ้า อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ อาคารสู ง
การเดินสายและติดตั งอุปกรณ์ ไฟฟ้ า เป็ นไปตามมาตรฐาน กฟภ. กฟน. ในระบบจ่ ายไฟฟ้ าต้ องมีสวิตช์ ประธาน ซึ งติดตั งในทีท จี ัดไว้ โดยเฉพาะ (กั นห้ องหรื อแยกอาคาร) การติดตั งหม้ อแปลงหรื อเครื องกําเนิด ไฟฟ้ ากั นห้ องหรื อแยกอาคารหรื ออยู่รวม กับบริเวณทีต ิดตั งสวิตช์ ประธาน
15
กฎกระทรวงฉบ ับที 33 (พ.ศ. 2535)
อาคารสู ง อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ
ข้ อ 11 ระบบจ่ าย พลังงานไฟฟ้า (ต่ อ)
เมื อใช้ กระแสไฟฟ้าเต็มที ตามที กําหนดในแบบ แรงดันตกจากแผง ประธานถึงวงจรย่ อยไม่ เกิน 5 %
5%
แรงดันตกในสายป้อน ไม่ เกิน 2% แรงดันตกในวงจรย่ อย ไม่ เกิน 3%16
8
กฎกระทรวงฉบ ับที 33 (พ.ศ. 2535)
ข้ อ 12. แผงสวิตช์ วงจรย่ อย ทุกแผงของระบบ ไฟฟ้าต้ องต่ อลงดิน อาคารสู ง
การต่ อลงดิน หลักสายดิน และวิธีการต่ อให้ เป็ นไปตาม มาตรฐานของกฟภ.หรื อ กฟน.
อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ
17
การต่ อลงดินตามมาตรฐานการไฟฟ้าฯ หม้ อแปลง
MDB
ต่อถึงกันระหว่าง สายศูนย์และสายดิน
อาคาร
N G
มีการต่อลงดินที" แผงเมนไฟฟ้าเท่านั(น ไม่มีการต่อถึงกันระหว่าง สายศูนย์และสายดิน
N G 18
9
กฎกระทรวงฉบ ับที 33 (พ.ศ. 2535) ข ้อ13 ระบบป้ องกัน อันตรายจาก ฟ้ าผ่า
อาคารสูง
ระบบประกอบด ้วยสายล่อฟ้ า เสาล่อฟ้ า สายตัวนํ า สายนํ าลงดินและ ื! มโยงกันเป็ นระบบ หลักสายดินเชอ สายนํ าลงดินต ้องมีขนาดไม่น ้อยกว่า 30 ตร.มม. และต ้องเป็ นระบบทีแ ! ยกเป็ น อิสระจากระบบสายดินอืน ! อาคารแต่ละหลังต ้องมีสายตัวนํ า โดยรอบอาคารและมีสายนํ าลงดิน ห่างกัน ทุกระยะไม่เกิน 30 เมตรวัดตามแนวขอบ อาคารและสายนํ าลงดิน ของอาคารทุกหลังต ้องมีไม่น ้อยกว่า 2 สาย
19
กฎกระทรวงฉบับที! 33 (พ.ศ.2535) ข ้อ13 ระบบป้ องกัน อันตรายจาก ฟ้ าผ่า
เสาล่อฟ้ า
สายนําลงดิน ชนิดทองแดง ขนาดไม่น ้อย กว่า 30 ตร.มม. หลักสายดิน ห่างกันไม่เกิน 30 เมตร
10
ระบบป้ องกันอันตรายจากฟ้ าผ่า ระบบป้ องกัน อันตรายจาก ฟ้ าผ่า ตาม มาตรฐาน วสท.
เสาล่อฟ้ า ตัวนําล่อฟ้ า แนวราบ สายนําลงดิน ชนิดทองแดง ขนาดไม่น ้อย กว่า 50 ตร.มม.
ห่างกันไม่เกิน 20 เมตร
หลักสายดิน ห่างกันไม่เกิน 20 เมตร รากสายดิน แบบวงแหวน
กฎกระทรวงฉบ ับที 33 (พ.ศ. 2535) ข้ อ 13. ระบบป้ องกัน อันตรายจากฟ้ าผ่ า
อาคารสู ง
เหล็กเสริมหรื อเหล็ก รูปพรรณในโครงสร้ าง อาคารอาจใช้ เป็ นสายนํา ลงดินแต่ ต้องมีระบบการ ถ่ ายประจุไฟฟ้ าถูกต้ อง ตามหลักวิชาช่ าง 22
11
กฎกระทรวงฉบ ับที 33 (พ.ศ. 2535)
ข้ อ 14. ต้ องมีระบบจ่ ายพลังงาน ไฟฟ้าสํารองฉุกเฉินและ ทํางานได้ โดยอัตโนมัติ อาคารสู ง
ไม่ น้อยกว่ า 2 ชั วโมงสํ าหรับป้ าย ฉุกเฉิน ทางเดิน ห้ องโถง บันได และระบบสั ญญาณเตือนอัคคีภัย จ่ ายได้ ตลอดเวลาสํ าหรับลิฟต์ ดับเพลิง เครื องสู บนํา ดับเพลิง ห้ องช่ วยชีวติ ฉุกเฉินระบบสื อสาร เพื อความปลอดภัย ของสาธารณะเมื อกระแสไฟฟ้ าขัดข้ อง
อาคาร ขนาด ใหญ่ พเิ ศษ
23
กฎกระทรวงฉบับที 33 (พ.ศ. 2535) ข้ อ 15. ระบบไฟฟ้า สํ าหรับลิฟต์ ดบั เพลิง
กระแสไฟฟ้าที ใช้ กบั ลิฟต์ ดบั เพลิง ต้ องต่ อจากแผงเมนสวิตช์ ของอาคาร และแยกอิสระจากวงจรทั วไป บทที1 0
อาคาร ขนาด ใหญ่ พเิ ศษ
อาคารสู ง
วงจรไฟฟ้าสํารองสําหรับลิฟต์ ดับเพลิงต้ องมีการป้องกันอันตราย จากเพลิงไหม้ อย่ างดีพอ 24
12
กฎกระทรวงฉบับที 33 (พ.ศ. 2535) ข้ อ 16. ต้ องมีระบบสั ญญาณ เตือนเพลิงไหม้ ทุกชั น
ก. อุปกรณ์ ส่งสัญญาณให้ คน ที อยู่ในอาคารได้ ยนิ หรื อทราบอย่ างทั วถึง ข.อุปกรณ์ ต้องมีท งั ระบบแจ้ งเหตุ อัตโนมัตแิ ละระบบที แจ้ งเหตุ ด้ วยมือตาม ก. ทํางาน 25
กฎกระทรวงฉบับที 33 (พ.ศ. 2535)
ข้ อ 17. แบบแปลน ระบบไฟฟ้า อาคารขนาด ใหญ่พเิ ศษ
อาคารสู ง
แผนผังวงจรของแต่ ละชั นของ การเดินสายและติดตั งระบบไฟฟ้า ไฟฟ้าฉุกเฉินระบบสัญญาณเตือน อัคคีภยั แผนผังแสดงรายละเอียดสายดิน สายประธานต่ างๆ ระบบป้องกันสาย ประธานและอุปกรณ์ ไฟฟ้าทั งหมด ของทุกระบบ
26
13
กฎกระทรวงฉบับที 33 (พ.ศ. 2535) ข้ อ 17. แบบแปลน ระบบไฟฟ้า (ต่ อ) อาคารสู ง อาคารขนาด ใหญ่พเิ ศษ
รายการประกอบแบบแสดง รายละเอียดการใช้ ไฟฟ้า แผนผังวงจรการติดตั งหม้ อแปลง แผงจ่ ายไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าสํารอง แผนผังและรายละเอียดการเดินสาย และการติดตั งอุปกรณ์ ท งั หมด ของระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า
27
กฎกระทรวงฉบับที' 39 (พ.ศ. 2537) มีระบบสั ญญาณเตือนเพลิงไหม้ ข้ อ 4 - ห้ องแถว ตึกแถว บ้ านแถว บ้ านแฝด สู งไม่ เกิน2 ชั น มีระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ อย่ างน้ อย 1 เครื' อง ทุกคูหา - ห้ องแถว ตึกแถว บ้ านแถว บ้ านแฝด สู งเกิน2 ชั น มีระบบ สัญญาณเตือนเพลิงไหม้ อย่ างน้ อย 1 เครื' อง ทุกชั น ทุกคูหา ข้ อ 5 อาคารอื'น ที'มีพืน ที'รวมกันเกิน 2000 ต.ร.ม.ต้ องมีระบบ สัญญาณเตือนเพลิงไหม้ ทุกชั น 28
14
กฎกระทรวงฉบับที' 39 (พ.ศ. 2537) ข้ อ 6 มีระบบสั ญญาณ เตือนเพลิงไหม้
อุปกรณ์ แจ้ งเหตุที'มีท งั ระบบ แจ้ งเหตุอตั โนมัตแิ ละระบบ แจ้ งเหตุที'ใช้ มือเพื'อให้ อปุ กรณ์ ส่ งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ ทํางาน
ห้ องแถว ตึกแถว บ้ านแถว บ้ านแฝด หอพัก อาคารอยู่อาศัยรวม อาคารชุ มนุมชน อาคารสู งเกิน 3 ชั น
อุปกรณ์ ส่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ ที'สามารถส่ งเสียงหรื อสัญญาณ ให้ คนที'อยู่ในอาคารได้ ยนิ หรื อทราบ อย่ างทั'วถึงเพื'อให้ หนีไฟ 29
ห้ องแถว ตึกแถว บ้ านแถว บ้ านแฝด สู งไม่ เกิน2 ชั น มี 1 เครื' อง ทุกคูหา ห้ องแถว ตึกแถว บ้ านแถว บ้ านแฝด สู งเกิน2 ชั น มี 1 เครื' อง ทุกชั น ทุกคูหา 30
15
กฎกระทรวงฉบับที' 39 (พ.ศ. 2537)
ข้ อ 7. ติดตั งระบบไฟ ส่ องสว่ างสํ ารอง หอพัก อาคารอยู่อาศัยรวม อาคารชุ มนุมชน อาคารสู งเกิน 3 ชั น พืน ทีร' วมเกิน 2000 ตรม.
ต้ องมีแสงสว่างสามารถ มองเห็นทางเดินได้ ขณะเพลิงไหม้ มีป้ายบอกทางหนีไฟ โดยตัวอักษรมีขนาด ไม่ เล็กกว่ า10 เซนติเมตร 31
กฎกระทรวงฉบับที' 39 (พ.ศ. 2537) ข้ อ 7. ป้ายบอกชั นและ บอกทางหนีไฟ จากระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน หอพัก อาคารอยู่อาศัยรวม อาคารชุ มนุมชน อาคารสู งเกิน 3 ชั น พืน ทีร' วมเกิน 2000 ตรม.
ต้ องมีแสงสว่างสามารถ มองเห็นทางเดินได้ ขณะเพลิงไหม้ มีป้ายบอกชั นและทางหนีไฟ โดยตัวอักษรมีขนาด ไม่ เล็กกว่า10 เซนติเมตร 32
16
กฎกระทรวงฉบับที' 39 (พ.ศ. 2537) ข้ อ 17. ต้ องมีระบบจ่ าย พลังงานไฟฟ้า สํ ารองฉุกเฉิน แยกเป็ นอิสระ โรงงาน โรงแรม โรงมหรสพ ห้ องประชุม สถานกีฬาในร่ ม สถานพยาบาล สํานักงาน ห้ างสรรพสินค้ าหรื อตลาด
จ่ ายพลังงานไฟฟ้ าได้ ไม่ น้อยกว่ า 2 ชั'วโมงสํ าหรับป้ ายทางออก ทางเดิน ห้ องโถงบันได บันไดหนีไฟและ ระบบเตือนเพลิงไหม้ จ่ ายพลังงานไฟฟ้ าตลอดเวลาทีใ' ช้ งาน สํ าหรับ ห้ องไอซียู ห้ องซีซียู ห้ องช่ วยชีวติ ฉุกเฉิน ระบบสื' อสาร และเครื' องสู บนํา ดับเพลิง (เครื' องกําเนิดไฟฟ้ า) 33
กฎกระทรวงฉบับที' 39 (พ.ศ. 2537) ข้ อ 17. ต้ องมีระบบจ่ าย พลังงานไฟฟ้า สํ ารองฉุกเฉิน แยกเป็ นอิสระ โรงงาน โรงแรม โรงมหรสพ ห้ องประชุม สถานกีฬาในร่ ม สถานพยาบาล สํานักงาน ห้ างสรรพสินค้ าหรื อตลาด
จ่ ายพลังงานไฟฟ้าได้ ไม่ น้อยกว่า 2 ชั'วโมงสําหรับป้ายทางออก ทางเดิน ห้ องโถงบันได บันไดหนีไฟและ ระบบเตือนเพลิงไหม้ (แบตเตอรี') จ่ ายพลังงานไฟฟ้าตลอดเวลาที'ใช้ งาน สําหรับ ห้ องไอซียู ห้ องซีซียู ห้ องช่ วยชีวติ ฉุกเฉิน ระบบสื' อสาร และเครื' องสู บนํา ดับเพลิง
34
17
กฎกระทรวงฉบ ับที 39 (พ.ศ. 2537)
ข้ อ 11 ความเข้ มของแสงสว่ าง(ตามตารางที3 ) สถานที" ที"จอดรถ
lux 50
ช่องทางเดินภายในอาคารอยูอ่ าศัยรวม
100
ห้องพัก ห้องนํ(า ในโรงแรม โรงเรี ยน สํานักงาน ฯลฯ
100
โรงมหรสพ (บริ เวณที"นง"ั ดู ขณะที"ไม่มีการแสดง)
100
ทางเดินในโรงพยาบาล โรงแรม โรงเรี ยน โรงงาน
200
โรงงาน ห้างสรรพสิ นค้า ตลาด และห้องนํ(า
200
ห้องสมุด ห้องเรี ยน ห้องประชุม สํานักงาน
300
กฎกระทรวงฉบ ับที 47 (พ.ศ. 2540)
35
อาคารเก่า
- กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไข ในการให้ เจ้ าพนักงานท้ องถิ'นมีอาํ นาจสั' งให้ เจ้ าของอาคาร ปรับปรุงแก้ ไขระบบความปลอดภัยเกีย' วกับอัคคีภยั ของอาคาร 1.บันไดหนีไฟ
ประตูส่ ู บันไดหนีไฟ 80 ซม.x 2.00 ม.
3. ติดตั งเครื องดับเพลิง 5.ระบบไฟส่ องสว่างสํ ารองและป้ ายชั น
2. แบบแปลนฯ
4. ระบบสั ญญาณเตือนเพลิงไหม้ 6.ระบบป้ องกันอันตรายจากฟ้ าผ่า
36
18
กฎกระทรวงฉบ ับที 47 (พ.ศ. 2540)
อาคารเก่า
ประเภทอาคาร • อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาดใหญ่ พเิ ศษ • อาคารสาธารณะ • อาคารอยู่อาศัยรวม • โรงงาน • ภัตตาคาร • สํานักงาน
37
กฎกระทรวงฉบับที 47 (พ.ศ. 2540) อาคารเก่ า ข้ อ (4) ติดตั งระบบสั ญญาณ เตือนเพลิงไหม้ ทุกชั น อาคารสู ง อาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ โรงงาน อาคารสาธารณะ สํ านักงาน อาคารอยู่อาศัยรวม ภัตตาคาร
ก. อุปกรณ์ ส่งสัญญาณให้ คน ที อยู่ในอาคารได้ ยนิ หรื อทราบอย่ างทั วถึง ข. อุปกรณ์ ต้องมีท งั ระบบแจ้ งเหตุ อัตโนมัตแิ ละระบบที แจ้ งเหตุ ด้ วยมือตาม ก. ทํางาน
19
กฎกระทรวงฉบับที 47 (พ.ศ. 2540) อาคารเก่ า
ข้ อ (5) ติดตั งระบบไฟ ส่ องสว่ างสํ ารอง อาคารสู ง อาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ โรงงาน อาคารสาธารณะ สํ านักงาน อาคารอยู่อาศัยรวม ภัตตาคาร
ต้ องมีแสงสว่างสามารถ มองเห็นทางเดินได้ ขณะเพลิงไหม้ มีป้ายบอกทางหนีไฟ โดยตัวอักษรมีขนาด ไม่ เล็กกว่า10 เซนติเมตร
กฎกระทรวงฉบับที 47 (พ.ศ. 2540) อาคารเก่ า
ข้ อ (5) ติดตั งระบบไฟ ส่ องสว่ างสํ ารอง
ต้ องมีแสงสว่างสามารถ มองเห็นทางเดินได้ ขณะเพลิงไหม้
อาคารสู ง อาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ โรงงาน อาคารสาธารณะ สํ านักงาน อาคารอยู่อาศัยรวม ภัตตาคาร
มีป้ายบอกทางหนีไฟ โดยตัวอักษรมีขนาด ไม่ เล็กกว่า10 เซนติเมตร
20
กฎกระทรวงฉบับที 47 (พ.ศ. 2540) อาคารเก่ า ข้ อ (6) ติดตั งระบบป้องกัน อันตรายจากฟ้าผ่ า
ระบบประกอบด้ วยสายล่อฟ้ า เสาล่อฟ้ าสายตัวนํา สายนําลงดิน และหลักสายดินเชื อมโยง กันเป็ นระบบ
อาคารสู ง อาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาดใหญ่พเิ ศษ โรงงาน อาคารสาธารณะ สํ านักงาน อาคารอยู่อาศัยรวม ภัตตาคาร
อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ
อาคารสู ง 23 ม.
10000 ตร.ม.
สูงเกิน 1 ชั(นและ พื(นที" 5000 ตร.ม.
อาคารโรงงาน อาคารชุดหรื อ อยู่อาศัยรวม 50 ตร.ม.หรื อสูง จากพื(น15ม.
อาคาร ชุมนุมคน
ป้าย
การตรวจสอบ อาคาร 2000 ตร.ม. 200 ตร.ม.
สถานบริการ
1000 ตร.ม. หรื อ 500 คน
โรงมหรสพ 80 ห้อง
โรงแรม 42
21
การตรวจสภาพอาคารและอุปกรณ์ ประกอบอาคาร อาคารเก่ า ระบบใช้ การได้ ผู้ใช้ อาคารปลอดภัย สภาพทั'วไปและความมั'นคงแข็งแรงของอาคาร ระบบและอุปกรณ์ ประกอบของอาคาร สมรรถนะของระบบและอุปกรณ์ ต่างๆ ของอาคารเพื'ออพยพผู้ใช้ อาคาร ระบบบริหารจัดการความปลอดภัยในอาคาร 43
ระบบและอุปกรณ์ ประกอบอาคาร ระบบบริการและ อํานวยความสะดวก
ระบบป้องกันและ ระงับอัคคีภัย
ระบบสุ ขอนามัยและ สิ' งแวดล้ อม 44
22
ระบบบริการและ อํานวยความสะดวก ระบบลิฟต์
ระบบปรับอากาศ
ระบบบันไดเลื'อน
ระบบไฟฟ้า 45
ระบบสุ ขอนามัย และสิ' งแวดล้ อม ระบบประปา ระบายนํา เสียและ บําบัดนํา เสีย ระบายนํา ฝน
ควบคุมมลพิษ อากาศและเสียง ระบายอากาศ จัดการมูลฝอย 46
23
ระบบป้องกันและ ระงับอัคคีภัย บันไดหนีไฟ และทางหนีไฟ
ป้องกันฟ้าผ่า
เครื' องหมายและ ไฟป้ายทางออก
ระบบดับเพลิง
ระบายและ ควบคุมควัน
ลิฟต์ ดบั เพลิง
ไฟฟ้าสํารองฉุกเฉิน
สัญญาณแจ้ งเหตุ เพลิงไหม้
47
ตรวจสอบสมรรถนะระบบและอุปกรณ์ ของอาคารเพื'ออพยพผู้ใช้ อาคาร บันไดหนีไฟ และทางหนีไฟ
ระบบสัญญาณ แจ้ งเหตุเพลิงไหม้ เครื' องหมายและไฟป้าย ทางออกฉุกเฉิน 48
24
ตรวจสอบระบบบริหารจัดการ ความปลอดภัยในอาคาร แผนป้องกันและระงับ อัคคีภยั ในอาคาร
แผนการบริหารจัดการ ของผู้ตรวจสอบอาคาร
แผนอพยพผู้ใช้ อาคาร
แผนการบริหารจัดการเกีย วกับ ความปลอดภัยในอาคาร 49
ร่ างกฎกระทรวงกําหนดแบบและวิธีการเกีย วกับการติดตั งระบบไฟฟ้ า ระบบ การเดินสาย ตารางการ
ไดอะแกรม ไฟฟ้าฉุกเฉิน แจ้ งเหตุ ป้องกัน ไฟฟ้า สายดิน เส้ นเดียว และป้ายทาง เพลิงไหม้ ฟ้าผ่า สํารอง ระบบไฟฟ้า ออกฉุกเฉิน ฉุกเฉิน
ติดตั งระบบ ไฟฟ้า
ใช้ ไฟฟ้า
อาคารพืน ที น้ อยกว่า 2000ตร.ม.
√
√
ตึกแถว ห้ องแถว สู งเกิน 2 ชั น
√
√
√
อาคาร ขนาดใหญ่
√
√
√
√
√
√
√
อาคารสู ง อาคารขนาด ใหญ่ พเิ ศษ
√
√
√
√
√
√
อาคาร
Load Schedule
√
*
√
*
√ √
≥*
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-31 ข้อ3.)
√ 50
25
กฎกระทรวงการออกแบบอาคารเพือ4 การอนุรักษ์ พลังงาน ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ♦ ระดับความส่ องสว่ างสําหรับงานแต่ ละประเภทต้ องเป็ นไปตาม กฎหมายทีเ' กีย' วข้ อง ♦ อุปกรณ์ ไฟฟ้าทีใ' ห้ แสงสว่ างต้ องใช้ กาํ ลังไฟฟ้าสู งสุ ดไม่ เกินค่าดังนี
ประเภทอาคาร • สถานศึกษา สํานักงาน • ศูนย์การค้า สถานบริการ ห้างสรรพสินค้า • โรงแรม สถานพยาบาล อาคารชุด
ค่ากําลังไฟฟ้ าสูงสุด (วัตต์ / ตร.เมตร) 14 18 12
51
1.3ขั นตอนในการออกแบบระบบไฟฟ้า - ศึกษาแบบทางด้ านสถาปัตยกรรมโดยละเอียด เช่ น 1) จํานวนชั น ความสู งแต่ ละชั นและความสู งทั งหมด 2) การใช้ งานส่ วนต่ างๆของอาคาร 3) แบบฝ้าเพดาน ผนัง ประตู หน้ าต่ าง คาน พืน เสา 4) ห้ องทีใ' ช้ เป็ นห้ องเครื' องไฟฟ้ า(อยู่ใกล้กงึ' กลาง
โหลดมากที'สุด) 5) บริเวณทีเ' หมาะทีจ' ะเป็ นห้ องไฟฟ้ าประจําชั นและ ช่ องเดินสายไฟฟ้ า( ELECTRICAL SHAFT ) 52
26
- ออกแบบไฟฟ้าแสงสว่างตามการใช้ งานและเลือกชนิด ดวงโคม - ให้ ตาํ แหน่ งและจํานวนดวงโคมที'ได้ จาก LIGHTING DESIGN ลงบนแปลนพืน
- ให้ ตาํ แหน่ งเต้ ารับที'เหมาะสม - กําหนดตําแหน่ งและชนิดอุปกรณ์ ไฟฟ้าอื'นๆ - กําหนดตําแหน่ งของแผงจ่ ายไฟฟ้า - ออกแบบวงจรย่ อยสําหรับโหลดต่ างๆ ให้ ครบ 53
- ทํา LOAD SCHEDULE ของแผงจ่ ายไฟฟ้ าให้ ครบทุกแผง - ถ้ ามีแผงไฟฟ้ าหลายแผงอยู่ด้วยกัน อาจให้ แผงเหล่านี
มาจากแผงสวิตช์ เมนย่ อย (MPB) - ทํา FEEDER SCHEDULE ของแผงไฟฟ้ าและการจ่ ายไฟ
- รวบรวมโหลดของระบบอื'นๆที'ใช้ ไฟฟ้า เช่ น ระบบปรับอากาศ ระบบระบายอากาศ ระบบสุ ขาภิบาล ระบบลิฟต์ เป็ นต้ น - ทํา MAIN SCHEDULE เพื'อหาขนาดของ MDB
54
27
- หาขนาดมิเตอร์ หรื อขนาดของหม้ อแปลง - หาขนาด STANDBY GENERATER SET ( ถ้ ามี )
จากแผง EMDB -
ออกแบบระบบประธาน ออกแบบ SINGLE LINE DIAGRAM ออกแบบ RISER DIAGRAM ออกแบบงานระบบทีเ' กีย' วข้ อง เช่ น ระบบป้ องกันฟ้ าผ่ า ระบบโทรศัพท์ และสื' อสาร ระบบสั ญญาณแจ้ งเหตุเพลิงไหม้ ระบบทีวรี วม เป็ นต้ น 55
1.4 องค์ประกอบของแบบระบบไฟฟ้า - สื' อสารของ อาคารทั'วไปประกอบด้ วย - สารบัญแบบ - สั ญลักษณ์ รายละเอียด - ELECTRICAL SINGLE LINE DIAGRAM และ FACE LAYOUT FOR MAIN DISTRIBUTION BOARD (MDB) - ELECTRICAL RISER DIAGRAM - TELEPHONE , DATA NETWORK RISER DIAGRAM - FIRE ALARM RISER DIAGRAM 56
28
-
PUBLIC ADDRESS RISER DIAGRAM MATV RISER DIAGRAM SUB. PANEL, LOAD CENTER SCHEDULE ELECTRICAL LAY OUT PLAN ผังระบบไฟฟ้าแสงสว่าง เต้ ารับ โทรศัพท์ -คอมพิวเตอร์ สัญญาณแจ้ งเหตุเพลิงไหม้ ระบบเสียงประกาศ ระบบทีวรี วมชั นต่ าง ๆ - ผังล่อฟ้า ชั นหลังคา - รายละเอียดประกอบแบบ 57
ระบบไฟฟ้า Lighting Design
พื นที'ว่างเพื'อปฏิบัตงิ าน ระยะห่ างทางไฟฟ้ า
บริภัณฑ์ ไฟฟ้ า ท่ อสาย
ระบบส่ งจ่ ายกําลังไฟฟ้ า
การคํานวณโหลด วงจรประธาน ป้อน ย่ อย
ข้ อกําหนดการเดินสาย และวัสดุ
การต่ อลงดิน
กระแสลัดวงจร แรงดันตก Power Factor
58
29
ระบบประกอบอาคาร (ไฟฟ้า)
ระบบสื' อสาร (TEL ,COM)
ป้องกันฟ้ าผ่ า (ภายนอก ภายใน)
ไฟฉุกเฉินและ ไฟป้ายทางออกฉุกเฉิน
ระบบเสี ยงประกาศ(PA) ระบบ AV
ระบบ MATV,CCTV รักษาความปลอดภัย
ระบบ BAS
ไฟฟ้ าสํ ารองฉุกเฉิน (Standby ,Emer.)
ระบบแจ้ งเหตุเพลิงไหม้
59
ข้ อมูลระบบไฟฟ้าที'จะต้ องให้ และประสานกับสถาปนิก - ผังบริเวณ แนวสายป้ อนแรงสู ง เหนือดินหรือใต้ ดิน - หม้ อแปลง ตําแหน่ ง และขนาดคอกหม้ อแปลง PAD-MOUNTED UNIT-SUBSTATION หรือห้ องหม้ อแปลง - ห้ องเครื' องไฟฟ้ าหลัก ขนาดห้ องและตําแหน่ ง - เครื' องกําเนิดไฟฟ้ า ขนาดห้ องและตําแหน่ ง - ช่ องเดินสายไฟฟ้ า - สื' อสาร ขนาดกว้ าง- ยาวและตําแหน่ ง - ห้ องไฟฟ้ าประจําชั น ขนาดห้ องและตําแหน่ ง - ระบบโทรศัพท์ -สื' อสาร ระบบสั ญญาณแจ้ งเหตุเพลิงไหม้ ระบบเสี ยง ระบบทีเ' กีย' วข้ อง ขนาดห้ อง และตําแหน่ ง
30
2. การประมาณโหลด ( Load Estimating ) ในการออกแบบระบบไฟฟ้านั นหลังจากได้ แบบจาก สถาปนิกแล้ว วิศวกรไฟฟ้าต้ องทําการประมาณโหลด เพื'อให้ ทราบขนาดของระบบไฟฟ้า สามารถหาขนาดอุปกรณ์ ไฟฟ้า ที'เหมาะสมอย่ างคร่ าวๆ เช่ น หม้ อแปลง ตู้บริภณ ั ฑ์ ประธาน เครื' องกําเนิดไฟฟ้าสํารอง เป็ นต้ น นอกจากนีก ารประมาณ โหลดยังมีประโยชน์ ในการวาง แผนจัดหาพืน ทีเ' พื'อติดตั ง บริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้าต่ างๆ แต่ เนิ'นๆ อีกด้ วย พื นทีว ่ างเพื อปฏิบัตงิ าน 61
การประมาณโหลดสามารถแบ่ งได้ ออกตามลักษณะข้ อมูลทีไ' ด้ รับมา
1. ไม่ มีข้อมูลของบริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้า แต่ มีข้อมูลของพืน ที'ใช้ งาน 2. มีข้อมูลของบริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้า และข้ อมูลของพืน ที'ใช้ งาน โดยที'ข้อมูลของบริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้าได้ แก่ ขนาดโหลด (VAหรื อ kVA ) และจํานวนบริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้าแต่ ละชนิด ข้ อมูล ของพืน ที'ใช้ งาน ได้ แก่ ขนาดของพืน ที' ซึ'งอาจมีข้อมูลเพิม' เติม เช่ น เป็ นห้ องทีม' ีการใช้ เครื' องปรับอากาศ 62
31
การประมาณโหลดทีไ4 ม่ มีข้อมูลของบริภัณฑ์ ไฟฟ้าแต่ มขี ้ อมูลของ พืน ทีใ4 ช้ งาน สํ าหรับกรณีนีส ามารถทําการประมาณโหลดได้ ดังนี โดยจะ ทําการประมาณโหลดตามชนิดของโหลด ในทีน' ีจ ะกล่าวถึงเฉพาะ โหลดทีใ' ช้ เป็ นส่ วนใหญ่ ได้ แก่ โหลดไฟฟ้ าแสงสว่ าง โหลดไฟฟ้ า เต้ ารับ และโหลดไฟฟ้ าเครื' องปรับอากาศ จากหนังสื อ IEEE Recommended Practice for Electric Power Systems in Commercial Buildings สามารถสรุปเป็ นตารางแยกตามประเภท ของอาคารได้ ดังนี
63
1. การประมาณโหลดไฟฟ้ าแสงสว่ างในอาคารชนิดต่ างๆ 2. การประมาณโหลดไฟฟ้ าเต้ ารับในอาคารชนิดต่ างๆ 3. การประมาณโหลดไฟฟ้ าเครื' องปรับอากาศในอาคารชนิดต่ างๆ 4. การประมาณโหลดตามชนิดของอาคาร 5. การประมาณโหลดอื'นๆ โหลดของไฟตู้โชว์ , เต้ ารับหลายจุด และ Lighting Track อาจประมาณโหลดได้ ต่อความยาว เช่ น - ไฟตู้โชว์
670 VA/m - เต้ ารับหลายจุด 120 VA/m - Lighting Track 360 VA/m 64
32
1. การประมาณโหลดไฟฟ้ าแสงสว่ างในอาคารชนิดต่ างๆ
(ออกแบบระบบไฟฟ้า อ.ประสิทธ์ พิทยพัฒน์)
65
2. การประมาณโหลดไฟฟ้าเต้ ารับในอาคารชนิดต่ างๆ
(ออกแบบระบบไฟฟ้า อ.ประสิทธ์ พิทยพัฒน์)
66
66
33
3. การประมาณโหลดไฟฟ้ าเครื' องปรับอากาศในอาคารชนิดต่ างๆ
(ออกแบบระบบไฟฟ้า อ.ประสิทธ์ พิทยพัฒน์)
67
4. การประมาณโหลดตามชนิดของอาคาร
(ออกแบบระบบไฟฟ้า อ.ประสิทธ์ พิทยพัฒน์)
68
68
34
ข้ อมูลโหลด (บริภัณฑ์ ไฟฟ้า) ที'ใช้ ในการออกแบบ แบ่ งเป็ นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ ดงั นี
1) ไฟฟ้าแสงสว่าง 2) เต้ ารับ 3) มอเตอร์ 4) เครื' องปรับอากาศ 5) ระบบขนส่ งแนวดิง' 6) อื'นๆ 2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3
69
1) ข้ อมูลโหลดไฟฟ้ าแสงสว่ าง โหลดไฟฟ้ าแสงสว่ าง 1.1) หลอดไส้ (Incandescent Lamp) 1.2) หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) 1.3) หลอดก๊ าซแรงดันไอสูง (High Intensity Discharge, HID Lamp) 1.4) หลอดแอลอีดี
2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 )
70
35
1) โหลดไฟฟ้ าแสงสว่ าง 1.1) หลอดไส้ (Incandescent Lamp) โหลด (VA) = กําลังไฟฟ้ าของหลอด (วัตต์ ) 1.2หลอดฟลูออเรสเซนต์ กําลังไฟฟ้าของหลอด (วัตต์) 18 (20) 36 (40)
โหลด (VA) LPF บัลลาสต์ HPF บัลลาสต์ 90 40 100 60
1.2.1)หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp)ชนิด T5 หลอด T5 28 W
กระแส(A) 0.143
โหลด(VA) 40
0.180
50
2014-02-2135W
71
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 ( )
1) โหลดไฟฟ้ าแสงสว่ าง 1.2)หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) หลอดประหยัดไฟ(ฟลูออเรสเซนต์ ) กําลังไฟฟ้าของหลอด (วัตต์) 9 11 15 20 PL 5, 7, 11 2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 )
โหลด (VA) 15 20 25 35 40 72
36
1) โหลดไฟฟ้ าแสงสว่ าง
1.3) หลอดก๊าซแรงดันไอสู ง (High Intensity Discharge, HID Lamp) - หลอดแสงจันทร์ (High Pressure Mecury) - หลอดโซเดียมความดันไอสูง (High Pressure Sodium) - หลอดเมทัลฮาไลด์ (Metal Halide) กําลังไฟฟ้ าของหลอด (วัตต์ )
2014-02-21
80 125 250 400 700 1000
โหลด (VA)
LPF บัลลาสต์ 180 260 500 750 1250 มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที1900 " 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
HPF บัลลาสต์ 100 160 300 500 850 1200
73
1) โหลดไฟฟ้ าแสงสว่ าง 1.4)หลอดแอลอีดี (LED Lamp) หลอด LED Tube กําลังไฟฟ้ าของหลอด (วัตต์ ) โหลด (VA) 12 15 23 30 มอก.1955-2551 มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (
74
37
2) โหลดเต้ ารับ 1) กรณีรู้โหลดเครื' องใช้ ไฟฟ้า โหลด (VA) = กําลังไฟฟ้ าของเครื' องใช้ ไฟฟ้ า (วัตต์ ) / p.f. p.f. คือค่ า power factor
2) กรณีไม่ รู้โหลดเครื' องใช้ ไฟฟ้า (วสท.2001-56 ข้ อ 3.1.6.3) เต้ ารับชนิด เต้ าเดี'ยว(single) เต้ าคู่(duplex) และสามเต้ า (triplex) โหลด (VA) = 180 VA เต้ ารับชนิด สี' เต้ า โหลด (VA) = 360 VA
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที"
2014-02-21
75
3) โหลดมอเตอร์ ตย.พิกัดกระแสมอเตอร์ เหนี]ยวนํา 1 เฟส และ 3 เฟส มอเตอร์ 1 เฟส kW
HP
0.37 0.55 0.75 1.1 1.5 1.8 2.2 3
0.5 0.75 1 1.5 2 2.5 3 4
2014-02-21
มอเตอร์ 3 เฟส 4 ขั ว 50 Hz 230V A 3.9 5.2 6.6 9.6 12.7 15.7 18.6 24.3
kW
HP
0.37 0.55 0.75 1.1 1.5 1.8 2.2 3
0.5 0.75 1 1.5 2 2.5 3 4
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3
230V A 2 2.8 3.6 5.2 6.8 9.6 11.5 15.2
400V A 0.98 1.5 1.9 2.5 3.4 4.8 6.3 7.4 76
38
4) เครื]องปรับอากาศ ตย.โหลดเครื] องปรั บอากาศแบบแยกส่ วน (Split Type) 1 เฟส 230V ความจุ (Capacity) ตันความเย็น (TR) BTU-hr 1 12000 1.5
18000
2
24000
3
36000
โหลด (kVA) 1.50 1.70 2.60 4.20
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3
2014-02-21
77
4. ตารางแสดงค่ าโหลดของของเครื' องปรับอากาศ แบบแยกส่ วน (Split Type ) 3 เฟส 400V. ความจุ(Capacity) ตันความเย็น (TR) BTUH
โหลด(VA)
4 5 6
48,000 60,000 72,000
6,120 7,830 9,740
7 8 9 10
84,000 96,000 108,000 120,000
12,180 12,970 14,020 16,450
12.5 15 20
150,000 180,000 มาตรฐาน 240,000 วสท. 2001-51 บทที 3
18,820 22,900 35,540
78
39
4) เครื] องปรั บอากาศ
ตย.โหลดเครื] องปรั บอากาศ วสท.2001-56 ภาคผนวก ฌ ประเภทของเครื" องปรับอากาศ 1. เครื" องปรับอากาศแบบแยกส่ วน (Split Type) 2. เครื" อ งปรั บ อากาศแพคเกจระบาย ความร้อนด้วยอากาศ (Package Air Cooled) 3. เครื" อ งปรั บ อากาศแพคเกจระบาย ความร้อนด้วยนํ(า (Package Water Cooled)
โหลดเครื" องปรับอากาศแต่ละ ชนิด (kW/ตัน) 1.50 1.40 1.00
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที"3
2014-02-21
79
5) โหลดระบบขนส่ งแนวดิ]ง ตย. โหลดลิฟต์ 3 เฟส 400V ขนาด นํา หนัก (kg) (จํานวนคน) 750 (11) 900 (13)
2014-02-21
ความเร็ว
โหลด
(m/min) 45 60 90 105 45 60 90 105 120 150
(kVA) 5 6 7 7 6 8 10 11 20 24
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 ( )
80
40
5) โหลดระบบขนส่ งแนวดิ]ง ตย. โหลดบันไดเลื]อน 3 เฟส 400V ความกว้ าง (mm) 800
2014-02-21
ระยะขึน (mm) 3000 4000 4500 5000 5500 6000
โหลด (kVA) 11 15
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
81
5) โหลดระบบขนส่ งแนวดิ]ง ตย. โหลดปั aนจั]น 3 เฟส 400V ขนาดการยกนํา หนัก (Ton) 0.5 1 2 3.2 5 8 10 12.5 16 20 2014-02-21
โหลด (kVA) 2.3 2.6 4 9 13 19 19 28 29 29
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
82
41
การออกแบบระบบวงจรประธาน สายป้ อนและวงจรย่ อย • วงจรย่ อย (Branch Circuit)
บทที7 3 เป็ น • สายป้อน (Feeder) มาตรฐานการ ออกแบบและ • เมนสวิตช์ หรื อบริ ภัณฑ์ ประธาน( Service การติดตั?งทาง Equipment ) ไฟฟ้า (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทที 3.)
83
ระบบไฟฟ้าอาคาร สายแรงสู ง
แผงย่อย
สายประธานหรื อสายเมน
วงจรย่ อย M
สายป้ อน
เมนสวิตช์ MDB
หม้ อแปลง
Load
N
G
วงจรย่ อย Load
การต่ อลงดิน 84
42
ระบบไฟฟ้ าในอาคาร
สวิตช์ เกียร์ แรงสู ง
ท่ อสายป้อน
โหลดไฟฟ้า
ท่ อสายวงจรย่อย
แผงย่อย
เมนสวิตช์ หม้ อแปลง
ท่ อสายเมน
ชั นที 3
ชั นที 2
ชั นที 1
RISER DIAGRAM
85
อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน ของวงจรย่อย อุปกรณ์ป้องกันกระแส เกินแผงย่อย
ชั(นที" 3
อุปกรณ์ป้องกันกระแส เกินของ เมนสวิตช์
ชั(นที" 2
อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินของสายป้ อน
RISER DIAGRAM
ชั(นที" 1 86
43
วงจรย่ อย(Branch Circuit) มาตรฐาน ว.ส.ท.(E.I.T. Standard) 2001-56 ข้ อ 3.1
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ3.1)
87
3.1 วงจรย่ อย(Branch Circuit) 3.1.1 ขอบเขตการบ ังค ับใช ้ 3.1.2 ขนาดพิก ัดวงจรย่อย 3.1.3 ขนาดต ัวนําวงจรย่อย 3.1.4 การป้องก ันกระแสเกิน ํ หร ับวงจรย่อย 3.1.5 โหลดสา 3.1 วงจรย่อย
ํ หร ับวงจรย่อย 3.1.6 การคํานวณโหลดสา 3.1.7 เต้าร ับ ั 3.1.8 การป้องก ันไฟฟ้าดูดฯ ทีอ ยูอ ่ าศย ั ่ อ 3.1.9 การป้องก ันไฟฟ้าดูดฯไม่ใชท ี ยูอ ่ าศย
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
88
44
ความหมายของวงจรย่ อย วงจรย่ อย คือ ส่ วนของวงจรไฟฟ้ า ทีต' ่ อมาจากอุปกรณ์ ป้ องกันกระแสเกินตัวสุ ดท้ ายกับจุดจ่ ายไฟ โดยอุปกรณ์ ป้องกันนีจ ะมีหน้ าทีป' ้ องกัน สายวงจรย่ อยนั นเท่ านั น
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้ อ3.1)
89
ขอบเขตการบังคับใช้ ในบทที4 3 ใช้ สําหรั บออกแบบวงจร
3.1.1 ขอบเขตการบ ังค ับใช ้ 3.1.2 ขนาดพิก ัดวงจรย่อย
วงจรแสงสว่ าง และ
3.1.3 ขนาดต ัวนําวงจรย่อย
เต้ ารับ วงจรเครื4 องใช้ ไฟฟ้ า
3.1.4 การป้องก ันกระแสเกิน ํ หร ับวงจรย่อย 3.1.5 โหลดสา 3.1.6 การคํานวณโหลดสําหร ับวงจรย่อย 3.1.7 เต้าร ับ ั 3.1.8 การป้องก ันไฟฟ้าดูดฯ ทีอ ยูอ ่ าศย ั 3.1.9 การป้องก ันไฟฟ้าดูดฯ ไม่ใช่ทอ ี ยูอ ่ าศย
สําหรับวงจรมอเตอร์ ไฟฟ้า ต้ องใช้ ข้อกําหนดใน บทที4 6
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.1.1 )
90
45
ขนาดพิกดั ของวงจรย่ อยกําหนดอย่ างไร ? 3.1.1 ขอบเขตการบังคับใช้ 3.1.2 ขนาดพิกดั วงจรย่ อย
ขนาดพิกดั ของ วงจรย่อย ให้ เรียก หรื อกําหนดตาม ขนาดพิกดั ของ เครื' องป้ องกัน กระแสเกิน
ข้ อยกเว้น ขนาดพิกดั ของวงจรย่อยยอมให้ มี พิกดั เกิน 50 A ได้ ถ้ า อยู่ในโรงงาน อุตสาหกรรมทีม' ีบุคคล ทีม' ีคุณสมบัติคอยดูแล และบํารุงรักษา 91
วงจรย่อยทีม' ีจุดจ่ าย ไฟฟ้ าตั งแต่ 2 จุด ขึน ไปต้ องมีขนาด ไม่ เกิน 50 A. (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ3.1.2)
3.1.3 ขนาดตัวนําวงจรย่ อย 3.1.1 ขอบเขตการบ ังค ับใช ้ 3.1.2 ขนาดพิก ัดวงจรย่อย 3.1.3 ขนาดต ัวนําวงจรย่อย
OCPD
In
ขนาดกระแสตัวนํ าวงจรย่อยต ้องไม่ น ้อยกว่าโหลดสูงสุดทีค ! ํานวณได ้ (ตามข ้อ 3.1.6)
Cable
Iz
Ib Load
พิก ัดกระแสของสายต้องไม่นอ ้ ยกว่า พิก ัดของเครือ งป้องก ันกระแสเกิน
Iz ≥ In
Iz ≥ Ib
OCPD = Over Current Protective Devices
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
92
46
3.1.3 ขนาดตัวนํ าวงจรย่อย ขนาดต ัวนําวงจรย่อยกําหนดอย่างไร ?
Iz ≥ In ≥ 2.5 mm2 Iz ≥ Ib
Cable
Ib
Load
OCPD In = 40 A
Iz = 50 A
Ib = 30 A
โดยที
Iz = พิก ัดกระแสต ัวนําวงจรย่อย ( A ) Ib =โหลดสูงสุดของวงจรย่อย (A) In = พิก ัดเครือ งป้องก ันกระแสเกิน ( A ) มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
93
3.1.3 ขนาดตัวนําวงจรย่ อย กรณีวงจรย่ อยไฟฟ้าแสงสว่าง 3 เฟส 4 สาย ที'จ่ายโหลด 1 เฟส และเดินรวมในช่ องเดินสายเดียวกัน อนุญาตให้ ใช้ ตวั นํา นิวทรัลร่ วมกันได้ โดยโหลดแต่ ละเฟสต้ องมีโหลดใกล้เคียงกัน และขนาดตัวนํานิวทรัลไม่ เล็กกว่าตัวนําเฟส ยกเว้นโหลดที'มี ฮาร์ มอนิกส์ สูง ข้ อควรระวัง หากสายนิวทรัลหลุดอาจทําให้ เกิดแรงดันเกินได้ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-31 ข้อ3.)
94
47
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ3.1.3)
95
การใช้ Neutral ร่ วม ของวงจรย่ อยแสงสว่ าง 3 เฟส 4 สายทีจ ่ ายโหลด 1 เฟส สาย Neutral ร่ วม 1. สามารถใช้ กบั โหลด 1 เฟส และ 3 เฟส ได้ 2. โหลด 1 เฟส ถ้ าใช้ ครบ 3 เฟสและ สมดุลจะไม่ มีกระแสโหลดใน Neutral 3. กําลังสู ญเสียสายของระบบ 3 เฟส 4 สาย จะน้ อยกว่าระบบ 1 เฟส 3 ชุด ซึ ง มีกระแสโหลด 6 เส้ น และสามารถ ประหยัดสายได้
สาย Neutral แยก 1. ถ้ าเดินสายในท่ อเดียวกันซึ งมี 6 เส้ น และต้ องมีตัวคูณปรับค่า สําหรับ 3 วงจร Cg = 0.7 2. ถ้ าเดินท่ อแยกกัน มี 2 เส้ น ไม่ ต้องมีตัว คูณปรับค่า ต้ องมีท่อ 3 ท่ อ 3. กําลังสู ญเสียในสาย ในการเดินสาย แยกกัน จะเพิม เป็ นประมาณ 2 เท่ า ของระบบที มี Neutral ร่ วมกัน
ข้ อควรระวัง
ต้ องตรวจสอบสาย Neutral ของชุดทีใ ช้ ร่วมกัน ห้ ามหลุดหรื อขาด เพราะถ้ าสาย Neutral หลุด หรื อขาด ระบบจะกลายเป็ นแบบ Potential Divider ซึ งแรงดันทีโ หลดบางส่ วนอาจสู ง และทําให้ เกิดความเสียหายในอุปกรณ์ ได้ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-31 ข้อ3.) 96
48
3.1.4 การป้ องกันกระแสเกินของวงจรย่อย o ข้อ 3.1.4.2 วงจรย่อยต้องมีการป้องก ัน กระแสเกิน โดยขนาดพิก ัดเครือ งป้องก ัน กระแสเกินต้องสอดคล้องและไม่ตา ํ กว่า โหลดสูงสุดทีค ํานวณได้(ตามข้อ 3.1.6)
In ≥ Ib o แนะนําให้ใช ้ In ≥ 1.25 Ib o เครือ ! งป้ องกันฯ อาจเป็ นฟิ วส์หรือเซอร์กต ิ เบรกเกอร์ก็ได ้
Ib = 30 A
In = 40 A มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
97
การป้ องกันกระแสเกินแผงย่ อย เครื' องป้ องกันกระแสเกินอาจเป็ นฟิ วส์ หรื อ CB ก็ได้ แผงย่ อยสํ าหรับวงจรย่ อยแสงสว่ างและ
เครื' องใช้ ไฟฟ้ าต้ องมีเครื' องป้องกันกระแสเกินด้ านไฟเข้ า แผงย่ อยทีม ' ี CB หรื อสวิตช์ ขนาดไม่ เกิน 30 A หลายตัว
ต้ องมีขนาดพิกดั เครื' องป้องกันของแผงย่ อยไม่ เกิน 200 A. จํานวน CB ในแผงย่ อยมาตรฐาน คือ 12 , 18 , 24 , 30,
36 และ 42 วงจร (ไม่ รวมขั วประธาน) (มาตรฐาน วสท. 2001-56 ข้อ 5.17.3.6 หน้า 5-25)
98
49
การป้ องกันกระแสเกินของวงจรย่ อย 3.1.4.1 อาคารทีม' คี วามสู งเกิน 1 ชั น ต้ องแยกวงจรย่ อยอย่ าง น้ อยชั นละ 1 วงจร ข้ อแนะนํา สําหรับวงจรย่ อยชั นล่ างควรแบ่ งวงจรอย่ างน้ อย ดังต่ อไปนี 1. ไฟฟ้าแสงสว่ างภายในอาคาร 2. เต้ ารับภายในอาคาร 3 ภายนอกอาคาร (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ3.1.4)
99
3.1.4.1 การแบ่ งวงจรย่ อย และการป้ องกันกระแสเกิน
ข้ อแนะนํา
100
ควรมีวงจรอย่างน ้อย ? วงจรย่อย ัO 2 ชน
N
G
วงจรย่อย แสงสว่าง
ไฟฟ้ าแสงสว่าง ภายในอาคาร เต ้ารับภายในอาคาร
MDB
วงจรย่อย ภายนอกอาคาร
วงจรย่อยเต้าร ับ
วงจรภายนอกอาคาร
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ3.1.4)
50
การป้ องกันกระแสเกิน วงจรย่ อยมีการป้องกันกระแสเกิน โดยขนาด เครื' องป้องกัน กระแสเกินต้ องสอดคล้องกับโหลดสู งสุ ดที'คาํ นวณได้
เครื' อง ป้ องกัน กระแสเกิน
• Circuit Breaker ( CB ) ต้ องได้ ตาม มาตรฐาน IEC 60898 หรือ IEC 60947-2 • ขนาดพิกดั ของ CB ทีน4 ิยมใช้ คอื 10 A, 16A 20 A , 25 A , 32 A , 40 A , 50 A และ 63 A (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้ อ 3.1.4.2)
101
3.1.4 ขนาดตัวนําและการป้องกันกระแสเกิน Iz
เลือกขนาดสายตามตาราง Iz ≥ I t หากระแสตามวิธต ี ด ิ ตังD สาย
In
It ≥ In / ( Ca x Cg ) กําหนดขนาด OCPD In ≥ Ib
Ib
Ib มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
กระแสโหลด Ib ≥ design Load Current
102
51
3.1.4 ขนาดตัวนําและการป้องกันกระแสเกิน Iz = พิก ัดกระแสต ัวนํา ( A ) Ib =โหลดสูงสุดของสาย (A) In = พิก ัดเครือ งป้องก ันกระแสเกิน ( A )
Step 2 กําหนดขนาด OCPD
In ≥ Ib
In
กําหนด
Iz
Cable
OCPD
Step 1
Ib
Load
Step 3
Step 4
หากระแสตามวิธต ี ด ิ ตงัO
เลือกขนาด Iz (ตามตาราง)
It ≥ In / ( Ca x Cg )
Iz ≥ I t
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
103
ตารางที 5-20 (บางส่วน) ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าทองแดงหุม ้ ฉนวนพีวซ ี ี มี/ไม่มเี ปลือกนอก สําหร ับขนาดแรงด ัน (U0/U) ไม่เกิน 0.6/1 kV อุณหภูมต ิ ัวนํา 70OC อุณหภูมโิ ดยรอบ 40OC เดินในช่องเดินสายในอากาศ ล ักษณะ การติดตงัO จํานวน/ ล ักษณะ ต ัวนํา กระแส
กลุม ่ ที 1 2 แกน เดียว
กลุม ่ ที 2 3
หลาย แกน
แกน เดียว
2 หลาย แกน
แกน เดียว
3 หลาย แกน
แกน เดียว
หลาย แกน
รูปแบบ การติดตงัO รห ัสชนิด เคเบิลทีใ ช้ งาน
60227 IEC 01, 60227 IEC 02, 60227 IEC 05, 60227 IEC 06, 60227 IEC 10, NYY, VCT, IEC 60502-1 และสายทีม ! ค ี ณ ุ สมบัตต ิ า่ งๆ ทีม ! ฉ ี นวนพีวซ ี ี เช่น สายทนไฟ, สายไร ้ฮาโลเจน, สายควันน ้อย เป็ นต ้น
ขนาดสาย (ตร.มม.)
ขนาดกระแส (แอมแปร์)
1
10
10
9
9
12
11
10
10
1.5
13
12
12
11
15
14
13
13
2.5
17
16
16
15
21
20
18
17
บทที" 5 ข้อกําหนดการเดินสายและวัสดุ
104
52
การปรั บค่ าขนาดกระแสของสาย และเงื7อนไขการใช้ ตาราง It ≥ In / ( Ca x Cg )
ตารางที 5-8 เดินในช่ องเดินสาย ตารางที 5-40 & 5-41 วางบนราง เคเบิล ตารางที 5-45 & 5-46 เดินฝังดิน
เนื องจากจํานวน กลุ่มวงจร(Cg)
การปรับค่ า เนื องอุณหภูมิ โดยรอบ (Ca)
ตารางที 5-43 เดินในอากาศ ตารางที 5-44 เดินฝังดิน
บทที" 5 ข้อกําหนดการเดินสายและวัสดุ
105
กลุ่มวงจร(Grouping) เมื อมีวงจรไฟฟ้ าหลายวงจรอยู่ใกล้กนั ความร้ อนจากวงจรไฟฟ้ า ข้ างเคียงจะทําให้ อุณหภูมสิ ู งขึน การนํากระแสของสายไฟฟ้ า จะลดลง ดังนั นวงจรไฟฟ้ าหลายวงจรทีต ิดตั งใกล้กนั จะต้ อง ใช้ ตัวคูณปรับค่ า(Rating Factor) -ไฟฟ้ า 1 เฟส ตัวนํากระแส 2 เส้ น = 1 กลุ่มวงจร -ไฟฟ้ า 3 เฟส ตัวนํากระแส 3,4 เส้ น = 1 กลุ่มวงจร
53
ตารางที 5-8 ต ัวคูณปร ับค่าขนาดกระแสเนือ งจากจํานวนสาย ทีน ํากระแสในช่องเดินสายไฟฟ้าเดียวก ันมากกว่า 1 กลุม ่ วงจร
จํานวนกลุ่มวงจร 2 3 4 5 6 7 8 9 10-12 13-16 17-20
ตัวคูณ 0.80 0.70 0.65 0.60 0.57 0.54 0.52 0.50 0.45 0.41 0.38
It ≥ In / ( Ca x Cg )
บทที" 5 ข้อกําหนดการเดินสายและวัสดุ
107
ตารางที 5-43 ้ ับค่าขนาดกระแสของ ต ัวคูณปร ับค่าอุณหภูมโิ ดยรอบทีแ ตกต่างจาก 40OC ใชก เคเบิล เมือ เดินในอากาศ
It ≥ In / ( Ca x Cg )
ฉนวน
อุณหภูมโิ ดยรอบ (องศาเซลเซียส)
PVC
XLPE หรือ EPR
11-15
1.34
16-20
เอ็มไอ 70oC
105oC
1.23
1.41
1.21
1.29
1.19
1.34
1.16
21-25
1.22
1.14
1.26
1.13
26-30
1.15
1.10
1.18
1.09
31-35
1.08
1.05
1.09
1.04
36-40
1.00
1.00
1.00
1.00
41-45
0.91
0.96
0.91
0.96
46-50
0.82
0.90
0.79
0.91
บทที" 5 ข้อกําหนดการเดินสายและวัสดุ
108
54
3.1.4 ขนาดตัวนําและการป้องกันกระแสเกิน วงจรย่ อย L2 มีดวงโคม 12 ชุด(ชุดละ 200 VA ) หาขนาด OCPD & cable IbL2 InL2
IbL2
กระแสโหลด IbL2 ≥ 2400/230 = 10.4 A กําหนดขนาด OCPD InL2 ≥ 1.25x10.4=16 AT
ItL2
หากระแสตามวิธต ี ด ิ ตังD สาย
IzL2
เลือกขนาดสายจากตาราง
ItL2 ≥ 16 / ( 1 x 1)
IzL2 ≥ ItL2
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
109
3.1.5 โหลดสําหรั บวงจรย่ อย 3.1.1 ขอบเขตการบ ังค ับใช ้ 3.1.2 ขนาดพิก ัดวงจรย่อย 3.1.3 ขนาดต ัวนําวงจรย่อย 3.1.4 การป้องก ันกระแสเกิน ํ หร ับวงจรย่อย 3.1.5 โหลดสา
ลักษณะ ของโหลด ในวงจร ย่ อย ซึ4งมีจดุ ต่ อ ตั งแต่ 2จุดขึน ไป มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
ลักษณะโหลดในวงจรย่อย วงจรย่อยขนาด ≤ 20 A. วงจรย่อยขนาด ≥ 25-32 A. วงจรย่อยขนาด > 32-50 A. วงจรย่อยขนาด > 50 A.
110
55
วงจรย่อยแสงสว่าง ( Lighting Branch Circuit ) วงจรย่อยเต้ ารับ ( Receptacle Branch Circuit ) วงจรย่อยสํ าหรับเครื' องใช้ ไฟฟ้ าชนิด เต้ าเสี ยบ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.5.1)
111
โหลดสาํ หรับวงจรย่อย ≤ 20A :กรณีท ี! 1 โหลดของเครื องใช้ ไฟฟ้ าทีต ดิ ตั งถาวรสู งสุ ด ไม่ เกินขนาดวงจรย่ อย (20A)
In = 20AT N
กรณีท ี 1 โหลดโคมไฟฟ้า Ib≤ 20 A
G
เต้ าเสียบแต่ ละเครื องขนาดไม่ เกิน ขนาดวงจรย่ อย(20A)
้ หรือใชออกแบบกั บวงจร
้ ี บ าชนิดเต ้าเสย (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อมาตรฐาน 3.1.5.1) ว.ส.ท. 2556เครื บททีอ "! 3 งใชไฟฟ้ 112
56
โหลดสาํ หรับวงจรย่อย ≤ 20A :กรณีท ี! 1 กรณีที 1 โหลดสู งสุ ดไม่ เกินขนาดวงจรย่ อย (20A)
In = 20AT
กรณีท ี 1 โหลดสูงสุด Ib≤ 20 A ้ ใชออกแบบกั บวงจร ้ ี บ เครือ ! งใชไฟฟ้ าชนิดเต ้าเสย
N
G
ใช้ กับเครื องใช้ ไฟฟ้ าชนิดเต้ าเสี ยบแต่ ละเครื อง ขนาดไม่ เกินขนาดวงจรย่ อย(20A) มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
113
โหลดสาํ หรับวงจรย่อย ≤ 20A : กรณีท ี! 2 กรณีท] ี 2 ถ้ ามีโหลดเครื]องใช้ ไฟฟ้ าที]ใช้ เต้ าเสียบ รวมอยู่ด้วย โหลดที]ตดิ ตังa ถาวรรวมกันจะต้ องไม่ เกิน 50%ขนาดวงจรย่ อย (10A) In = 20AT กรณีท ี! 2 ถ ้ามีโหลดเต ้ารับรวมอยู่ ด ้วย โหลดของแสงสว่างจะต ้อง ≤ 50%(10A) N
G
ใช้ กบั เครื องใช้ ไฟฟ้ าชนิดเต้ าเสียบแต่ ละเครื อง ้ ้ ใชออกแบบกั บเครือ ! งใชไฟฟ้ า ขนาดไม่ เกินขนาดวงจรย่ อย(20A) ี บ มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3 ชนิดเต ้าเสย 80% 114
57
ลักษณะของโหลดสําหรับวงจรย่ อยขนาด 25-32 A.
≥ 250W
วงจรย่ อยแสงสว่ างทีเ' ป็ นโคมไฟฟ้าชนิด ติดตั งถาวรขนาดไม่ ตาํ' กว่ า 250 W. วงจรย่ อยสํ าหรับเครื' องใช้ ไฟฟ้าชนิด เต้ าเสี ยบ
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.5.2)
115
ตย. โหลดวงจรย่ อย ≥ 25-32 A. กรณีที 1 โคมไฟฟ้ าชนิดติดตั งถาวรขนาดไม่ ตาํ กว่ า 250W โหลดสู งสุ ดไม่ เกินขนาดวงจรย่ อย (32A) In = 32 AT
N
้ อกแบบโหลด กรณีท ี 1 ใชอ ดวงโคมไฟฟ้าติดตงถาวร ัO ดวงโคมละ ≥ 250W. ใช้ กับเครื องใช้ ไฟฟ้ า ชนิดเต้ าเสี ยบแต่ ละเครื อง ขนาดไม่ เกินขนาด วงจรย่ อย(32A)
G
กรณีที 2 เครื องใช้ ไฟฟ้ าทีไ ม่ ใช่ ดวงโคม โหลด กรณีท ี 2 ใชอ้ อกแบบ ี บ เครือ งใชไ้ ฟฟ้าทีใ ชเ้ ต้าเสย สู งสุ ดไม่ เกินขนาดวงจรย่ อย (32A) ≤" 3 80% มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556Ibบทที
(25 A.)
116
58
ตัวอย่ างที4 3-1 การออกแบบวงจรย่ อยขนาด 25-32A โหลด = 24 A., 230V. CB Iz ≥ 32A
In = 32 A
≥ 1.25 x 24 = 30 A
เลือกใช้ CB
= 32 AT.
สายไฟฟ้า ≥ 32 A. สาย 2 x 6 sqmm.(36A) IEC 01 กลุ่มที4 2 ตาราง 5-20 Ib = 24 A
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.5.2)
117
ลักษณะของโหลดสําหรับวงจรย่ อยขนาด 32-50 A. วงจรย่ อยแสงสว่ างทีเ' ป็ นโคมไฟฟ้าชนิด ติดตั งถาวรขนาดไม่ ตาํ' กว่ า 250 W. ≥ 250W
วงจรย่ อยสํ าหรับเครื' องใช้ ไฟฟ้าชนิด ติดตั งถาวร (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.5.3)
118
59
วงจรย่อยขนาด > 32 - 50A กรณีที 1 โคมไฟฟ้ าชนิดติดตั งถาวรขนาดไม่ ตํ ากว่ า 250W โหลดสู งสุ ดไม่ เกินขนาดวงจรย่ อย (50A) กรณีท ี 1 ดวงโคมไฟฟ้าติดตงถาวร ัO โหลดดวงโคมละ ≥ 250W.
In = 50 AT N
กรณีท ี 2 เครือ งใชไ้ ฟฟ้าทีต ด ิ ตงัO ถาวร
G
Ib ≤ 80% In ( 40 A.) กรณีที 2 เครื องใช้ ไฟฟ้าชนิดติดตั งถาวร โหลดสู งสุ ดไม่ เกินขนาดวงจรย่อย (50A) มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
119
ตัวอย่ าง3-2 การออกแบบวงจรย่ อยขนาด 32- 50A โหลด = 40 A., 220V. CB
≥
1.25 x 40 A.
เลือก CB = 50 AT. สายไฟฟ้ า ≥ 50 A. สาย 2 x 16 sqmm.(66A) IEC 01 กลุ่มที2' ตาราง 5-20 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.5.3)
120
60
ตารางที' 5-20 ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าทองแดงหุ้มฉนวนพีวซี ี มี/ไม่ มีเปลือกนอก สําหรับขนาดแรงดัน (U0/U) ไม่ เกิน 0.6/1 กิโล โวลต์ อุณหภูมิตัวนํา 70 องศาเซลเซียส อุณหภูมิโดยรอบ 40 องศาเซลเซียส เดินในช่ องเดินสายในอากาศ ลักษณะ การติดตั ง จํานวน/ ลักษณะ ตัวนํากระแส
กลุ่มที 1
กลุ่มที 2
2 แกนเดียว
3 หลายแกน
แกนเดียว
2 หลายแกน
แกนเดียว
3 หลายแกน
แกนเดียว
หลายแกน
รูปแบบ การติดตั ง รหัสชนิด เคเบิลที ใช้ งาน ขนาดสาย (ตร.มม.) 6 10 16
60227 IEC 01, 60227 IEC 02, 60227 IEC 05, 60227 IEC 06, 60227 IEC 10, NYY, VCT, IEC 60502-1 และสายที มีคณ ุ สมบัติต่างๆ ที มีฉนวนพีวซี ี เช่ น สายทนไฟ, สายไร้ ฮาโลเจน, สายควันน้ อย เป็ นต้ น
IEC 01, 16 mm2 30 40 53
28 37 50
ขนาดกระแส (แอมแปร์ ) 27 37 49
25 34 45
36 50 66
33 45 60
31 44 59
30 40 54 121
ลักษณะของโหลดสําหรั บวงจรย่ อยขนาดเกินกว่ า 50 A. ห้ ามใช้ สําหรับวงจรย่อยแสง สว่ าง วงจรย่อยสํ าหรับเครื องใช้ ไฟฟ้า ชนิดติดตั งถาวร (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.5.4)
122
61
การออกแบบวงจรย่ อยขนาดเกินกว่ า 50A. 100 AT
กรณีที' 2 ใช้ ออกแบบ โหลดเครื' องใช้ ไฟฟ้ า ทีต' ิดตั งถาวรไม่ เกิน พิกดั วงจรย่ อย 80% ( 80 A.) กรณีที' 1 ห้ ามใช้ กบั โหลดแสงสว่าง (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.5.4)
123
การคํานวณโหลดวงจรย่ อย 3.1.1 ขอบเขตการบังคับใช้ 3.1.2 ขนาดพิกดั วงจรย่อย 3.1.3 ขนาดตัวนําวงจรย่อย 3.1.4 การป้ องกันกระแสเกิน 3.1.5 โหลดสํ าหรับวงจรย่อย 3.1.6 การคํานวณโหลด
บริภัณฑ์ ไฟฟ้าที'ใช้ ในสถาน ประกอบการแบ่ งเป็ นกลุ่ม ใหญ่ ๆ ได้ ดงั ต่ อไปนี
1. ไฟฟ้าแสงสว่ าง 2. เต้ ารับ 3. เครื' องปรับอากาศ 4. มอเตอร์ ไฟฟ้า (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้ อ 3.1.6)
124
62
การคํานวณโหลด ขนาดของ โหลดของ บริภัณฑ์ ไฟฟ้ า
โวลต์ แอมแปร์
กระแส ( A )
( VA ) กิโลโวลต์ แอมแปร์ ( kVA)
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ3.1.6)
การทํา รายการ โหลดของ วงจรย่อย และรายการ สายป้ อน ส่ วนมากคิด โหลดเป็ น VA หรื อ kVA 125
โหลดของบริภัณฑ์ ไฟฟ้าสามารถคํานวณได้ ดงั สู ตร โหลดระบบไฟฟ้า 1 เฟส 2 สาย
โหลดระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย
Lb (VA) = VLN Ib
Lb (VA) = √ 3 VL Ib
Lb (kVA) = ( VLN Ib )/ 1,000
Lb (kVA) =(√ 3 VL Ib) / 1,000
กําหนดให้ VLN = 230 V. 1 เฟส 2 สาย
• • • •
Lb VL VLN Ib
= โหลดของบริภัณฑ์ไฟฟ้ า (VA) = แรงดันสายเฟสกับเฟส (V) = แรงดันสายเฟสกับนิวทรัล (V) = กระแสโหลด (A) VL = 400 V. 3 เฟส 4 สาย
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 บทที 3.)
126
63
POWER ในระบบไฟฟ้าเรียกว่ากําลังไฟฟ้ามีองค์ประกอบ3 ส่ วน และจะเขียนอยู่ในรูปของสามเหลีย' มหรื อเวคเตอร์ 1.กําลังจริง(Real Power or Average Power; P) คือ งานทีก' ่อเกิด ประโยชน์ เช่ น แสงสว่ าง งานทีเ' กิดจากมอเตอร์ มีหน่ วยเป็ น W, kW 2.กําลังปรากฏ(Apparent Power ;S) คือผลรวมทีเ' กิดจากกําลังจริงและ กําลังรีแอกทีฟ มีหน่ วยเป็ น VA หรื อ kVA 3. กําลังรีแอกทีฟ( Reactive Power ;Q) เป็ นการวัดค่ า สนามแม่ เหล็ก ไฟฟ้ า เช่ น ในมอเตอร์ บัลลาสต์ ของหลอด มีหน่ วยเป็ น VAR หรื อ kVAR 127
องค์ ประกอบของกําลังไฟฟ้ า ในรู ปของ POWER TRIANGLE P = kWหรื อ W
หรื อ P = S cos
θ
Q = kVARหรื อ VAR หรื อQ = Ssin
θ = มุมเฟส(Phase Angle)
ระหว่ างกระแสและแรงดัน 128
64
ตัวประกอบกําลังไฟฟ้ า(Power Factor) ตัวประกอบกําลังไฟฟ้า คือการวัดทางเทคนิค ที'แสดงให้ เห็นว่าท่ านใช้ ไฟฟ้าได้ อย่ างมีประสิทธิผล เพียงใด ค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้าในทางทฤษฎี ควรมีค่าเท่ ากับ 1 แต่ โดยทั'วไปจะมีค่าอยู่ในระหว่าง 0.65 - 0.95 99
129
ตัวประกอบกําลังไฟฟ้า คือ อัตราส่ วนของกําลังจริงต่ อกําลัง ที'ปรากฎ ตัวประกอบกําลังไฟฟ้ า(PF) = กําลังจริง(W),P กําลังทีป' รากฎ(VA),S
= cos.
กําลังจริง
กําลังทีป รากฎ
กําลังงานไฟฟ้ ารีแอคทีฟ (Reactive Power, Q) หน่ วยเป็ น var
P = S cos 130
65
P = 1200W Ɵ1
S = 2000VA P = 1200W Ɵ2
Ɵ1
S = 1333VA
Q = 1600VAR Cos Ɵ = 0.9 Q1 = 581VAR Q2 = 1018VAR
131
การแก้ไข POWER FACTOR
วงจรย่ อยต้ องมีขนาดไม่ น้อยกว่ าผลรวมของโหลดทั งหมด ที'ต่ออยู่ในวงจรนั น โหลดแสงสว่ าง หรื อเครื' องใช้ ไฟฟ้าที'ทราบแน่ นอนให้ คํานวณโหลดตามที'ตดิ ตั งจริง โหลดเต้ ารับใช้ งานทั'วไป ให้ คาํ นวณโหลดจุดละ 180 VA. โหลดอื'นๆ คํานวณตามขนาดของเครื' องใช้ ไฟฟ้า (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.1.6)
132
66
ตย.3-3 การคํานวณโหลดแสงสว่ างวงจรย่ อย หลอด FL 36W, 230V.
LPF HPF
= 0.43 A. = 0.25 A. Lb (VA) = VLN Ib
Lb (LPF) = 230x 0.43 = 98.9 VA. Lb (LPF) ≅ 100 VA Lb (HPF) ≅ 60 VA (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 บทที 3
133
ตย.3-4 การคํานวณโหลดสําหรั บวงจรย่ อย 3 เฟส Ib = kVA / √ 3 VL = 20 x 1000 / (√ 3 x 400) = 28.87 A.
ลิฟต์โดยสาร 15 คน(1000 kg) 20 kVA. ระบบไฟฟ้ า 400V. 3 เฟส 4 สาย
Ib
Ib = design load current มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
134
67
ตย. 3-5การคํานวณโหลดสําหรั บวงจรย่ อย 3 เฟส โจทย์ มอเตอร์ 3 เฟส 400 V , 75 kW ,Ib = 138A ให้ หาโหลด √ 3 VL Ib VA √ 3 x400 x138 95,606 VA 95.6 kVA 95.6/3 kVA/Phase 31.87 kVA/Phase
วิธีทาํ โหลด ( VA ) Lb (VA) = = = หรื อ = คิดต่ อเฟสได้ = =
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้ อ3.)
135
3.1.6 การคํานวณโหลดสําหรั บวงจรย่ อย (ข ้อ 3.1.6.1) วงจรย่อยต ้อง มีขนาดไม่น ้อยกว่าผลรวม ของโหลดทังD หมดทีต ! อ ่ อยู่
136
Lb ≥ Σ Lbi
Ib
Lb
Lbi
• Lb = โหลดวงจรย่อย ( A , VA ) • Σ Lbi =ผลรวมของโหลด ( A , VA )
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
68
ตย.3-6 การคํานวณโหลดวงจรย่ อยแสงสว่ าง โจทย์ วงจรย่อยแสงสว่าง 230 V 1 เฟส จ่ายโหลด หลอด HID 250 W HPF 8 ชุด ให ้หาโหลด
วิธีทาํ หลอด HID 250 W HPF = 300 VA Lb = ΣL = 8 x 300 = 2400 VA Ib
HID =8 ชุด มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
137
การคํานวณโหลดสําหรั บเต้ ารั บทั4วไป วิธีคด ิ โหลด กรณีเต้ าเดี'ยว เต้ าคู่
และชนิดสามเต้ า คิด 180 VA. กรณีมากกว่ าสามเต้ า คิด 360 VA. (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.6.3)
138
69
ตย. 3-7 การคํานวณโหลดเต้ ารับ วงจร 15A.
Lb = 10 x180 VA. = 1,800 VA. วงจร 20A.
Lb = 13 x180 VA. = 2,340 VA. (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.6.3 )
139
ตย.3-8 การออกแบบวงจรย่ อย โหลดเป็ นเครื' องซักผ้าชนิด 3 เฟส 400V. มีกระแสโหลด 15 A. จงหา ขนาด CB และขนาดสายไฟฟ้ าของ วงจรย่อย
IL
= 15 A.
CBs
= 1.25 x IL = 18.75 A.
เลือก CB
= 20 AT.
สายไฟฟ้ าต้ องมีขนาดไม่ น้อยกว่า 20 A. IL = 15 A.
เลือกสายขนาด 4 x 4.0 Sqmm.(24A) ตาราง 5-20 IEC 01 กลุ่มที2'
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.1.3 และ 3.1.4 )
140
70
เต้ ารับ 3.1.1 ขอบเขต 3.1.2 ขนาดพิกัดวงจรย่ อย 3.1.3 ขนาดตัวนําวงจรย่ อย 3.1.4 การป้ องกันกระแสเกิน 3.1.5 โหลดสําหรับวงจรย่ อย 3.1.6 การคํานวณโหลด 3.1.7 เต้ ารับ
2014-02-21
• 3.1.7.1 เต้ ารับทีอ' ยู่ใน วงจรย่ อยต้ องเป็ นแบบมี ขั วสายดิน และต้ องต่ อลง ดิน ตามบทที' 4 • 3.1.7.2 เต้ ารับในสถานที' เดียวกันแต่ ใช้ แรงดัน ต่ างกัน หรื อเพื'อวัตถุ ประสงค์ ในการใช้ งาน ต่ างกัน ต้ องจัดทําเพื'อให้ เต้ าเสี ยบไม่ สามารถ สลับกันได้ มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
141
ข้ อแนะนํา ในการออกแบบวงจรย่ อยทีด' ี (Good Design) นั น จะต้ องไม่ ใช้ เต็มพิกดั วงจรย่ อย โดยจะต้ องเผื'อสําหรับ
โหลดทีใ' ช้ ต่อเนื'องเป็ นเวลานานๆ การขยายโหลดในอนาคต
โดยทั'วไปจะใช้ เพียง 80 % ของพิกดั วงจรย่ อย
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ3.)
142
71
3.1.8 การติดตั งเครื' องตัดไฟรั'วในที'อยู่อาศัย ต้ องมีสายดินและติดตั งเครื' องป้องกัน ไฟฟ้ าดูดทีว' งจรไฟฟ้ าต่ อไปนี
( I∆n ≤ 30 mA)
3.1.1 ขอบเขตการบังคับใช้ 3.1.2 ขนาดพิกดั วงจรย่อย 3.1.3 ขนาดตัวนําวงจรย่อย 3.1.4 การป้ องกันกระแสเกิน 3.1.5 โหลดสํ าหรับวงจรย่อย 3.1.6 การคํานวณโหลด 3.1.8 การป้ องกันไฟฟ้ าดูด (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.8)
ก) วงจรเต้ ารับในบริเวณห้ องนํา ห้ องอาบนํา โรงจอด รถยนต์ ห้ องครัว ห้ องใต้ ดนิ ข) วงจรเต้ ารับในบริเวณ อ่ างล้ างชาม อ่ างล้ างมือ (บริเวณพื น ทีเ' คาน์ เตอร์ ทีม' กี ารติดตั ง เต้ ารับ ภายในระยะ 1.5 เมตร ห่ างจากขอบด้ านนอกของ อ่ าง) ค) วงจรไฟฟ้ าเพื'อใช้ จ่ายภายนอกอาคารและบริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้ าทีอ' ยู่ในตําแหน่ งทีบ' ุคคลสัมผัสได้ ทกุ วงจร ง) วงจรเต้ ารับในบริเวณชั นล่ าง (ชั น 1) รวมถึงใน บริเวณทีอ' ยู่ตาํ' กว่ าระดับผิวดินทีอ' ยู่ในพื น ทีป' รากฏ ว่ าเคยมีนาํ ท่ วมถึงหรื ออยู่ในพื นทีต' าํ' กว่ าระดับ ทะเลปานกลาง จ) วงจรย่ อยสําหรับ เครื' องทํานํา อุ่น เครื' องทํานํา ร้ อน อ่ างอาบนํา
143
ทําไมต้ องติดตั?งเครื7 องตัดไฟรั7 ว?
ลดอันตรายทีเ กิดจากไฟฟ้ า กรณีนํา ท่ วม
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
144
72
ทําไมต้ องติดตั?งเครื7 องตัดไฟรั7 ว?
ลดอันตรายจากไฟฟ้ าในทีอ ยู่อาศัย และสาธารณะ
ตูท ้ ํานําO เย็น ร.ร. คร่าชีวต ิ อนุบาล (ข่าว นสพ ไทยร ัฐ ว ันที 15 ธ ันวาคม 2548 )
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
145
ตัวอย่ างวงจรทีต4 ้ องติดตั งเครื4องตัดไฟรั4ว
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.8)
146
73
3.1.8 การติดตั งเครื' องตัดไฟรั'วในทีอ' ยู่อาศัย เครื องทํานํา อุ่นทีม ี RCD ติดมาพร้ อมเครื องไม่ ถือว่ า มีการป้องกันแล้ ว ต้ องติด RCDเพิม ทีว งจรย่ อยด้ วย
วงจรเต้ ารับ ห้ องนํา ห้ องอาบนํา ห้ องครัว โรงจอดรถยนต์ ห้ องใต้ ดิน วงจรย่อยสํ าหรับเครื' องทํานํา อุ่น เครื' องทํานํา ร้ อน อ่างอาบนํา
วงจรภายนอกอาคาร
มิเตอร์
วงจรเต้ารับชั-นล่าง(ชั-น 1)
รั ว
วงจรเต้ ารับทีอ' ยู่ตาํ' กว่ าระดับ ผิวดิน 147
3.1.9 การติดตั งเครื' องตัดไฟรั'วในที'ไม่ ใช่ ทอี' ยู่อาศัย
ต้ องมีสายดินและติดตั งเครื' องป้ องกันไฟฟ้ าดูดทีว' งจรไฟฟ้ าต่ อไปนี ( I∆n ≤ 30 mA) 3.1.1 ขอบเขตการบังคับใช้ 3.1.2 ขนาดพิกดั วงจรย่อย 3.1.3 ขนาดตัวนําวงจรย่อย 3.1.4 การป้ องกันกระแสเกิน 3.1.5 โหลดสํ าหรับวงจรย่อย 3.1.6 การคํานวณโหลด 3.1.9 การป้ องกันไฟฟ้ าดูด
ก) วงจรสําหรับสระหรื ออ่ างกายภาพบําบัด ธาราบําบัด อ่ างนํา แร่ (spa) อ่ างนํา ร้ อน (hot tub) อ่ างนวดตัว ข) เครื' องทํานํา อุ่น เครื' องทํานํา ร้ อน และเครื' องทํานํา เย็น ค) วงจรย่ อยเต้ ารับ ในบริเวณต่ อไปนี
1) ห้ องนํา ห้ องอาบนํา ห้ องครัว 2) สถานทีท' าํ งานก่ อสร้ าง ซ่ อมบํารุง บนดาดฟ้ า อู่ซ่อมรถ 3) ท่ าจอดเรื อ โป๊ ะจอดเรื อ ทีท' าํ การเกษตร พืชสวนและปศุสัตว์ 4) การแสดงเพื'อการพักผ่อนในทีส' าธารณะ กลางแจ้ ง 5) งานแสดงหรื อขายสินค้ าและทีค' ล้ ายคลึงกัน
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.9)
148
74
3.1.9 การติดตั งเครื' องตัดไฟรั'วในที'ไม่ ใช่ ที'อยู่อาศัย วงจรสําหรับสระหรืออ่าง เครือ ! งทํานํD าอุน ่ นํD าร ้อน นํD าเย็น วงจรเต ้ารับห ้องนํD า ห ้องครัว สถานทีก ! อ ่ สร ้าง อู่ ท่าเรือ งานแสดงสินค ้า ัO าง เต้าร ับชนล่ ัO 1) (ชน
เต้าร ับทีอ ยูต ่ า ํ กว่า ระด ับผิวดิน
D ล่าง(ชัน D 1) วงจรเต ้ารับชัน
วงจรเต ้ารับทีอ ! ยูต ่ าํ! กว่าระดับ ผิวดิน
149
สรุปการกําหนดขนาดเครื4องป้ องกันฯ และ ขนาดตัวนําวงจรย่ อย คํานวณโหลด(Ib ) (IL) ขนาดเครื' องป้ องกันฯ(In ) หากระแสของสายตามวิธต ี ด ิ ตงสาย ัO It ≥ In / ( Ca x Cg )
( Ib ) เลือกสายและวิธีการเดินสาย
หาขนาดกระแสของสาย(I ) t
ขนาดเครื' องป้ องกัน(In) / (Ca x Cg)
ขนาดตัวนํา ( Iz ) (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.1.6.1)
( It ) 150
75
เพิม' เติมเรื' องวงจรย่ อย วงจรย่ อยทีใ4 ช้ ในแผงย่ อย แบ่ งออกเป็ น 3 ชนิด คือ 1. วงจรย่ อยใช้ งาน ( Active Branch Circuit ) คือ วงจรย่ อยทีจ' ่ ายโหลดจริงๆ จึงมีท งั เซอร์ กติ เบรก เกอร์ และสายวงจรย่ อย 2. วงจรย่ อยสํ ารอง ( Spare Branch Circuit ) คือ วงจร ย่ อยทีค' าดว่ าจะใช้ ในอนาคตจะมีเฉพาะ เซอร์ กติ เบรกเกอร์ แต่ ไม่ มสี ายวงจรย่ อย 3. วงจรย่ อยว่ าง ( Space Branch Circuit ) คือ ช่ อง ว่ างทีจ' ะใส่ เซอร์ กติ เบรกเกอร์ ในอนาคต
ต้ องจัดให้ มี วงจรย่ อยสํ ารอง ( Spare Branch Circuit ) และ วงจรย่ อยว่ าง ( Space Branch Circuit ) ในการออกแบบนั น ควรใช้ วงจรย่ อยปริมาณหนึ'งเป็ นวงจรใช้ งาน ส่ วนทีเ' หลือนั นใช้ เป็ นวงจรย่ อยสํ ารอง และ วงจรย่ อยว่ าง เพื'อเผื'อโหลดที' จะเกิดขึน ในอนาคตโดยทัว' ไปจะใช้ วงจรย่อยดังต่ อไปนี
Active Branch Circuit Spare Branch Circuit Space Branch Circuit
60-80% ของวงจรย่อยในแผงย่อย 10-20% ของวงจรย่อยในแผงย่อย 10-20% ของวงจรย่อยในแผงย่อย
แผงย่อยจะมีจํานวนวงจรมาตรฐานเป็ น 12 , 18 , 24 , 30 , 36 และ 42 วงจร
76
Active Branch Circuit Spare Branch Circuit Space Branch Circuit
60-80% 10-20% 10-20%
153
ตัวอย่างขั้นตอนการออกแบบระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
• ศึกษาแปลน รูปด้าน รูป ตัด • ศึกษาวัสดุ ผนัง พื้น เพดาน
ศึกษาแบบ
คํานวณ • เลือกดวงโคม • คํานวณแสงสว่าง
• ร่างแบบแสงสว่าง • กําหนดวงจรย่อย • คํานวณโหลดวงจรย่อย ทําตารางโหลด
จัดทําแบบ
77
ตัวอย่ างการออกแบบระบบไฟฟ้า
วงจรย่อยแสงสว่าง แผงย่อย
A/C
A/C
วงจรย่อยเต้ารับไฟฟ้า วงจรย่อยแสงสว่าง แผงย่อย วงจรย่อยเต้ารับไฟฟ้า
บริภัณฑ์ประธาน
ตัวอย่ างการออกแบบระบบไฟฟ้าแสงสว่ าง หมายเลขวงจรย่อย/ชื่อ แผงย่อย
9/LP
ทางเดิน
5/LP
7/LP
แผงย่อย
สวิตช์ไฟฟ้า
LP
3/LP
ประชุมย่อย 1/LP
ดวงโคมไฟฟ้า
สํานักงานป้องกันจังหวัด หัวหน้า
พื้นที่วางเครื่องปรับอากาศ 4.50
4.50
4.50
4.50
4.50
78
ตัวอย่ างการออกแบบเต้ ารั บไฟฟ้า ทางเดิน
แผงย่อย
LP 8/LP
4/LP
เต้ารับไฟฟ้า
หมายเลขวงจรย่อย/ชื่อ แผงย่อย
2/LP ประชุมย่อย
สํานักงานป้องกันจังหวัด
6/LP
หัวหน้า
พื้นที่วางเครื่องปรับอากาศ 4.50
4.50
4.50
4.50
4.50
ตัวอย่ างการออกแบบระบบโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ ทางเดิน C
ตู้ Rack C
8/LP
C
4/LP
TO TC
1-4C-0.65mm TIEV-1/2”EMT C
TO DR
สายสัญญาณคอมพิวเตอร์/ท่อ ร้อยสาย
แผงโทรศัพท์
TC LP DR 2/LP ประชุมย่อย
สายโทรศัพท์/ท่อร้อยสาย
C
1-8C-UTP Cat.6-1/2”EMT เต้ารับโทรศัพท์
เต้ารับคอมพิวเตอร์ C
C
C
6/LP
หัวหน้า C
C
พื้นที่วางเครื่องปรับอากาศ 4.50
4.50
4.50
4.50
4.50
79
การจัดทํารายการโหลด(LOAD SCHEDULE) ขนาดสายป้อน
G N A B C
อุปกรณ์ป้องกันเมนแผงย่อย 3 เฟส อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 1 เฟส
อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 1 เฟส
เลข คี
1 3 5 7 9 11
2 4 6 8 10 12
เต้ารับไฟฟ้า
เลข คู่
นิวตรอล (N) ดิน (G)
แผงย่อยจะมีจํานวนวงจรมาตรฐานเป็ น 12 , 18 , 24 , 30 , 36 และ 42 วงจร
1.ทําการจัดวงจรย่ อยไฟฟ้ าแสงสว่ าง แสงสว่าง 1(A),3(B),5(C) 7( A ) , 9 ( B ) , 11( C )
แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง
2.ทําการจัดวงจรย่ อยเต้ ารับ เต้ ารับ 2(A),4(B),6(C) 8( A ) , 10 ( B ) , 12( C )
G N A B C
1 3 5 7 9 11
2 4 6 8 10 12
เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า
นิวตรอล (N) ดิน (G)
แผงไฟฟ้ าแสงสว่างหรื อเต้ ารับ
80
3.ทําการจัดวงจรย่อยของเครื องปรับอากาศ
4.ทําการจัดวงจรย่อยของมอเตอร์
G N A B C อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 1 เฟส
อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 3 เฟส
1 3 5 7 9 11
A/C 1 เฟส A/C 1 เฟส A/C 1 เฟส
A/C 3 เฟส
2 4 6 8 10 12
มอเตอร์ 3 เฟส
นิวตรอล (N) ดิน (G) อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 3 เฟส
แผงไฟฟ้ ากําลัง
6.คํานวณหาขนาด ของสายป้ อนและขนาด ของ อุปกรณ์ป้องกัน
5.ทําการรวมโหลดของแต่ ละเฟส ของแสงสว่างและเต้ ารับ ขนาดสายป้อน
G N A B C
อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 1 เฟส
อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 1 เฟส แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง แสงสว่าง
อุปกรณ์ป้องกันเมนแผงย่อย 3 เฟส
1 3 5 7 9 11
2 4 6 8 10 12
เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า เต้ารับไฟฟ้า
นิวตรอล (N) ดิน (G)
81
7.ทําการรวมโหลดของแต่ ละเฟส ของระบบไฟฟ้ ากําลัง
8.คํานวณหาขนาด ของสายป้ อนและขนาด ของ อุปกรณ์ป้องกัน
G N A B C
ขนาดสายป้อน อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 1 เฟส A/C 1 เฟส
A/C 3 เฟส
อุปกรณ์ป้องกันเมนแผงย่อย 3 เฟส
อุปกรณ์ป้องกันวงจรย่อย 3 เฟส
1 3 5 7 9 11
2 4 6 8 10 12
มอเตอร์ 3 เฟส
นิวตรอล (N) ดิน (G)
ตัวอย่ างรายการโหลด(LOAD SCHEDULE) สายป้อนใช้ ดีมานด์ แฟคเตอร์ได้
82
3.2 สายป้ อน(Feeders) 3.2.1 ขนาดตัวนําของสายป้อน 3.2.2 การป้องกันกระแสเกิน 3.2.3 การคํานวณโหลดสําหรับสายป้อน 3.2.4 ขนาดตัวนํานิวทรัล(Neutral)
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้ อ 3.2 )
165
3.2.1 ขนาดตัวนําของสายป้ อน 166
3.2.1 ขนาดต ัวนําสายป้อน Total Load ;Ib
InT
ต้องไม่เล็กกว่าพิก ัดเครือ งป้องก ันฯ และต้อง ไม่เล็กกว่า 4 ตร.มม.
M
InA A
IzA ≥ InA ≥ IbA
B
IbA InA1
A2
IbA1 IbA1-1 IbA1-2 IbA1-n
3.2.2 เครือ งป้องก ันฯ สายป้อน ต้องสอดคล้องและมากกว่าโหลดสูงสุด ของสายป้อนทีค ํานวณได้(IbA)
InA ≥ มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
IbA 166
83
3.2.1 ขนาดตัวนํ าของสายป้ อน ขนาดต ัวนําของสายป้อนกําหนดอย่างไร ?
IzF ≥ InF ≥ 4 mm2 IzF ≥ IbF
Cable
IbF
OCPD
Load
โดยที
IzF = พิก ัดกระแสต ัวนําสายป้อน( A ) IbF =โหลดสูงสุดของสายป้อน(A) InF = พิก ัดเครือ งป้องก ันกระแสเกิน ( A ) 167
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
3.2.1 ขนาดตัวนําและการป้องกันกระแสเกิน Step 2 กําหนดขนาด OCPD
In ≥ Ib
In
กําหนด
Iz
Cable
OCPD
Step 1
Ib
Ib Load
Step 3
Step 4
หากระแสตามวิธต ี ด ิ ตงัO
เลือกขนาด Iz (ตามตาราง)
It ≥ In / ( Ca x Cg ) มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
Iz ≥ I t 168
84
3.2.3 การคํานวณโหลดสําหรับสายป้ อน 3.2.3.1 สายป้ อนต้ องมีขนาดกระแสเพียงพอสํ าหรับการจ่ ายโหลดและ
ต้ องไม่ น้อยกว่ าผลรวมของโหลดในวงจรย่ อยเมื อใช้ ดมี านด์ แฟกเตอร์
LF ≥ (L1 x D1) +( L2 x D2) + …( Ln x Dn ) LF ≥
IF
≥
Σ(
LBC ) x D.F.
LF(VA) / (
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
√3
x 400)) 169
ชนิดของโหลด โหลดต่ อเนื4อง คือโหลดไฟฟ้ าทีใ' ช้ ติดต่ อกันตั งแต่ 3 ชั'วโมงขึน
ไป เช่ น โหลดดวงโคม
ในสํ านักงาน , เครื' องปรับอากาศ เป็ นต้ น เพื'อให้ ระบบไฟฟ้ ามีความปลอดภัยและเชื' อถือได้ สูง บริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้ า สํ าคัญๆ เช่ น เซอร์ กติ เบรกเกอร์ , สายไฟฟ้ า , หม้ อแปลงไฟฟ้ า เป็ นต้ น จะเผื'อพิกดั อีก 25 % สํ าหรับโหลดต่ อเนื'อง
โหลดไม่ ต่อเนื4อง
คือโหลดไฟฟ้ าทีใ' ช้ ติดต่ อกันไม่ ถึง 3 ชั'วโมง เช่ น เตาไฟฟ้ า เป็ นต้ น (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ3.)
170
85
คํานิยามเกีย' วที'ใช้ เกีย' วกับโหลด Total Connected Load
คือผลรวมทั งหมดของโหลดไฟฟ้าที'ตดิ ตั งอยู่ของ สถานประกอบการ คิดเป็ น VA , kVA หรื อ MVA Maximum Demand
คือโหลดไฟฟ้าที'ใช้ พร้ อมกันสู งสุ ดในเวลาทีก' าํ หนดให้ คิดเป็ น VA , kVA หรื อ MVA
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้ อ3.)
171
คํานิยามเกีย' วที'ใช้ เกีย' วกับโหลด Demand Factor ( D.F. )
คืออัตราส่ วนของ
D.F. =
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ3.)
172
86
ตัวอย่ างที4 3-14 โจทย์ โหลด 1000 VA 3 เฟส 4 สาย 400/230 V จงหากระแสโหลดสาย ป้ อนทีต' ้ องใช้ โดยพิจารณาเป็ นโหลดต่ อเนื'อง Feeder
วิธีทาํ กระแสโหลดสายป้ อน IF = 1000/√3x400 = 1.443 A ถ้ าเป็ นโหลดต่ อเนื'อง พิกดั กระแสสายป้ อน IF ≥ 1.25 x 1.443 = 1.80 A ในการคํานวณต่ อไป เพื'อความสะดวกรวดเร็วสํ าหรับโหลดขนาด 1000 VA สามารถใช้ ค่ากระแสโหลด คูณด้ วย 1.80 หรื อ 1.443 แล้วแต่ กรณี (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้ อ3.)
173
ดีมานด์ โหลดเต้ ารั บสําหรั บที4อยู่อาศัย โหลดเต้ ารับที'ทราบโหลดแน่ นอน
Demand Load = โหลดจากเต้ ารับตัวใหญ่ สุด 1 เครื' อง + 40% ของขนาดโหลดในเต้ ารับส่ วนทีเ' หลือ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.2.3.5 )
174
87
ดีมานด์ โหลดเต้ ารั บในสถานประกอบการ ตามตารางที7 3-2 ้ ม ตามข้อ 3.2.3.3 โหลดของเต้าร ับอนุญาตให้ใชด ี านด์ แฟกเตอร์ตามตารางที 3-2 ได้เฉพาะโหลดของเต้าร ับที มีการคํานวณโหลดแต่ละเต้าร ับไม่เกิน 180 VA
โหลดเต้าร ับทีค ด ิ ที 180 VA.
Demand Load = 10kVA + 50%(เกิน 10kVA.)
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
175
การใช้ ดมี านด์ แฟกเตอร์ Demand Load = Demand Factor x Connected loads แสงสว่ าง ตารางที4 3-1 เต้ ารั บใช้ งานทั4วไป ตารางที4 3-2 เครื4 องใช้ ไฟฟ้ าทั4วไป ตารางที4 3-3 ห้ ามใช้ กบ ั การคํานวณวงจรย่ อย (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.2.3)
176
88
ข้ อ 3.2.3.2 โหลดแสงสว่ าง อนุญาตให้ ใช้ ดมี านด์ แฟกเตอร์ ตามตารางที7 3-1
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
177
ข้ อ 3.2.3.3 โหลดของเต้ ารั บ อนุญาตให้ ใช้ ดมี านด์ แฟกเตอร์ ตามตารางที7 3-2
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
178
89
ข้ อ 3.2.3.4 โหลดเครื7 องใช้ ไฟฟ้าทั7วไป อนุญาตให้ ใช้ ดมี านด์ แฟกเตอร์ ตามตารางที7 3-3
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
179
ตย. การใช้ ดมี านด์ แฟคเตอร์ คํานวณโหลดแสงสว่ างในโรงพยาบาล LP2
N
G
Lighting Load = 60,000 VA.
- จากตาราง 3 -1
LP1
50,000 แรก = 40 % เกิน 50,000 = 20 %
N
G MDB
N
- หาดีมานด์ โหลด = 50,000 x 0.4 + 10,000x 0.2 = 22,000 VA.
G (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.2.3 ตารางที 3-1 )
180
90
ตย. การใช้ ดมี านด์ แฟคเตอร์ คํานวณโหลดเต้ ารั บที4คาํ นวณจาก 180 VA LP2
จากตาราง 3 -2 N
G LP1
N
Duplex Receptacles
10kVA แรก = 100 % เกิน 10kVA = 50 %
= 100x180VA
คํานวณโหลดเป็ น VA โหลด = 100 x180 = 18,000VA
G
หาดีมานด์ โหลด = 10,000 + 0.5 x 8,000 = 14,000 VA. N
G
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ตารางที 3-2 )
181
ตย. อาคารประเภทโรงแรม LP2
Description
Q’ty
G LP1
MDB MEA LP1 LP2
L2
L3
1-∅ ,230V Water heater ,1-∅
10
13,800
184,00
13,800
22
12,000
10,500
9,000
42,400
47,500
39,400
230 V.@ 4,600W
G
N
L1
16,600 18,600 16,600
Lighting Load N
Load(VA) 400/230V. 3-∅ ∅
Air Cond.(Split Type ), 1-∅, 230V,@ 12,000 BTU(1,500VA)
Total Load
Step1 :คํานวณโหลดของแผงย่อย LP2
N
G
Lighting = 16,600+18,600+16,600 = 51,800 VA. Max. Demand = 0.50( 20,000) + 0.40(31,800) VA. = 22,720 VA.
91
ตย. อาคารประเภทโรงแรม(ต่ อ) LP2
Description
Load(VA) 400/230V. 3-∅ ∅
Q’ty
L1
Lighting Load G
N
18,600
16,600
1-∅ ,230V
10
13,800 184,00 13,800
Air Cond.(Split Type ), 1-∅, 230V,@ 12,000 BTU(1,500VA)
22
Total Load
MDB
12,000
10,500
9,000
42,400
47,500
39,400
Step2 :คํานวณโหลด แผงย่อย LP2
LP1 LP2
L3
230 V.@ 4,600W G
N
16,600
Water heater ,1-∅
LP1
L2
G
N
Heater =13,800+18,400+13,800
= 46,000 VA.
Max. Demand =(2 x 4,600)+0.25 ( 8 x 4,600 ) = 18,400 VA.
ตย. อาคารประเภทโรงแรม(ต่ อ) LP2
Description
Load(VA) 400/230V. 3-∅ ∅
Q’ty
L1 G LP1
1-∅ ,230V Water heater ,1-∅
10
13,800
184,00
13,800
22
12,000
10,500
9,000
42,400
47,500
39,400
230 V.@ 4,600W
G
N
L3
16,600 18,600 16,600
Lighting Load N
L2
MDB
Air Cond.(Split Type ), 1-∅, 230V,@ 12,000 BTU(1,500VA)
Total Load
Step3 :คํานวณโหลดของแผงย่อย LP2 LP1 LP2
N
G
Air Cond. = 12,000+10,500+9,000 = 31,500VA. Max. Demand = 0.75 x 31,500 = 23,625VA.
เครื องปรับอากาศ แยกแต่ละห้ อง
92
ตย.3 อาคารประเภทโรงแรม(ต่ อ) LP2
Description
Q’ty
Load(VA) 400/230V. 3-∅ ∅ L1
G
N LP1
L2
L3
16,600 18,600 16,600
Lighting Load 1-∅ ,230V Water heater ,1-∅
10
13,800
184,00
13,800
22
12,000
10,500
9,000
42,400
47,500
39,400
230 V.@ 4,600W
G
N
Total Load
MDB
รวม= 129,300
Step 4 : หา Total Max. Demand ของแผงย่อย LP2
LP1 LP2
Air Cond.(Split Type ), 1-∅, 230V,@ 12,000 BTU(1,500VA)
G
N
Max. Demand : LP2 = 22,720 + 18,400+ 23,625 Lighting Load
= 64,745 VA.
Water heater
Air Cond
ตย. อาคารประเภทโรงแรม(ต่ อ) LP2
Description
Q’ty
G
1-∅ ,230V Water heater ,1-∅
LP1
L1
L2
L3
16,600 18,600 16,600
Lighting Load N
Load(VA) 400/230V. 3-∅ ∅
10
13,800
184,00
13,800
22
12,000
10,500
9,000
42,400
47,500
39,400
230 V.@ 4,600W G
N
Total Load
MDB
Step 5 : หาพิก ัดกระแสของโหลดแผงย่อย LP2
LP1 LP2
Air Cond.(Split Type ), 1-∅, 230V,@ 12,000 BTU(1,500VA)
N
G
พิก ัดกระแสโหลด : LP2
= 64745 /√3x400 = 93.45 A.
93
ตย. อาคารประเภทโรงแรม(ต่ อ) LP2
Description
1-∅ ,230V
G
Water heater ,1-∅
LP1
L2
L3
10
13,800
184,00
13,800
22
12,000
10,500
9,000
42,400
47,500
39,400
230 V.@ 4,600W
Air Cond.(Split Type ), 1-∅, 230V,@ 12,000 BTU(1,500VA)
G
N
L1
16,600 18,600 16,600
Lighting Load N
Load(VA) 400/230V. 3-∅ ∅
Q’ty
Total Load
MDB
Step 6 : หาพิก ัดกระแสของเครือ งป้องก ันฯ แผงย่อย LP2 LP1 LP2
พิก ัดกระแส CB : LP2 = 1.25 x 93.45A.
G
N
= 116 A. •
เลือกพิก ัดกระแสของเครือ งป้องก ันฯ In = 125A
ตย.3-17 อาคารประเภทโรงแรม(ต่ อ) LP2
Description
Load(VA) 400/230V. 3-∅ ∅
Q’ty
L1 1-∅ ,230V
G
Water heater ,1-∅
LP1
10
13,800
184,00
13,800
22
12,000
10,500
9,000
42,400
47,500
39,400
230 V.@ 4,600W 200A
G
N
L3
16,600 18,600 16,600
Lighting Load N
L2
Air Cond.(Split Type ), 1-∅, 230V,@ 12,000 BTU(1,500VA)
Total Load
MDB
ํ หร ับแผงย่อย LP2 Step 7 : หาพิก ัดกระแสของต ัวนําสา LP1 LP2
พิก ัดกระแสต ัวนํา : หล ักการ N
G
IZ ≥
In
เลือกพิก ัดกระแสของต ัวนํา Iz ≥ 125 A
อุณหภูมิโดยรอบ(Ca) จํานวนวงจร (Cg)
เลือกเดินสายในท่อโลหะ ดูขนาดสายจากตาราง 5-20
94
ตย. อาคารประเภทโรงแรม(ต่ อ) 3-70, N-??
LP2
125AT N
G LP1
N
G
MDB
N
G
EGC= 16
(แอมแปร์) 20 40 70 100 200 400
ตร.มม. 2.5* 4* 6 10 16 25
3.2.4 ขนาดตัวนํานิวทรั ล - ขนาดตัวนํา ต้ องสามารถรับกระแส ไม่ สมดุลสู งสุ ดได้และต้ องมีขนาดไม่ เล็ก กว่าสายดินของบริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้าตามข้ อ 4.20 - ขนาดกระแสของสายนิวทรัลคิดจาก โหลด 1-เฟส ที'ต่ออยู่ในวงจร 3-เฟส โดยเลือกจากเฟสที'มากที'สุด (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.2.4 )
190
95
ตารางที4 4-2 ขนาดตํ4าสุ ดของสายดินของบริภณ ั ฑ์ ไฟฟ้า พิกดั หรื อขนาดปรับตั งของ เครื' องป้องกันกระแสเกินไม่ เกิน(แอมแปร์ ) 20
ขนาดตํา' สุ ดของสายดินของบริภัณฑ์ ไฟฟ้ าทองแดง (ตร.มม.) 2.5
40
4
70
6
100
10
200
16
400
25
500 EIT Standard 2001-51 (บทที' 4 ตาราง 4-2)
35 191
ขนาดตัวนํานิวทรัล (Neutral)
กรณีมีกระแสไม่ เกิน 200 A(3.2.4.1)
IN = ILN ( Full Neutral) กรณีมีกระแสเกิน 200 A(3.2.4.2)
IN = 200 + 0.7( ILN- 200)
กรณีเป็ นโหลดชนิด Electric Discharge, Data Processing หรื อ Harmonic (3.2.4.3)
IN = ILN ( Full Neutral) (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.2.4 )
192
96
หมายเหตุ 1) กระแสของโหลดไม่สมดุลสูงสุดคือค่าสูงสุดที คํานวณได้จากโหลด 1 เฟส (Single-phase load) ทีต ่อระหว่างตัวนํานิวทรัลและสายเส้นไฟเส้นใดเส้นหนึ ง 2) ในระบบไฟ 3 เฟส 4 สายทีจ า่ ยให้กบั ระบบคอมพิวเตอร์ หรือโหลดอิเล็กทรอนิกส์จะต้องเผือ ตัวนํานิวทรัลให้ใหญ่ ขึ3น เพือ รองรับกระแสฮาร์มอนิกด้วย ในบางกรณี ตวั นํา นิวทรัลอาจมีขนาดใหญ่กว่าสายเส้นไฟ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-31 ข้อ3.)
193
กรณีที'โหลดส่ วนใหญ่ ไม่ เป็ น Harmonic Loads 500A
L3 L2 L1
500A 600A 600 A
N
500 A
500 A
480A ขนาดสาย N = 200 + 0.7x400 = 480 A (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้ อ 3.2.4)
194
97
กรณีทโี' หลดส่ วนใหญ่ เป็ น Harmonic Loads 500A
L3 L2 L1
500A 600A 600 A
N
500 A
500 A
600A
Full Neutral = 600 A (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.2.4)
195
กรณีมโี หลด 3 เฟส และส่ วนใหญ่ ไม่ เป็ น Harmonic Loads 700 A
L3 L2 L1
700 A 800A 600 A
N
500 A
500 A
200 A
480A
ขนาดสาย N = 200 + 0.7x400 = 480 A (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.2.4)
196
98
3.3 การป้ องกันกระแสเกิน สําหรับวงจรย่ อย และสายป้ อน วงจรย่ อย และสายป้ อน ต้ องมีการป้ องกัน
N
L
กระแสเกิน เป็ น ฟิ วส์ หรื อ เซอร์ กต ิ เบรกเกอร์ (CBs) ห้ ามต่ อขนานกันเพื'อเพิม ' พิกดั เครื' องป้ องกันกระแสเกิน ต้ องป้ องกันตัวนํา เฟสได้ ห้ ามติดตั งในสายนิวทรัล ยกเว้น กรณีเครื' องป้ องกันกระแสเกิน สามารถตัดวงจรทุกเส้ นพร้ อมกันได้ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.3)
197
3.3 การป้องกันกระแสเกินสํ าหรับวงจรย่ อยและสายป้อน 3.3.9 ต้ องติดตั งเครื' องป้ องกันกระแสเกินทุกจุด ต่ อแยก
2014-02-21
ข้ อยกเว้ นที4 1 กรณีเครื' องป้ องกันกระแสเกินของสาย ป้ อนสามารถป้ องกันสายทีต' ่ อแยกได้ ไม่ ต้องติดตั งเครื' อง ป้ องกันกระแสเกินทุกจุดต่ อแยก ข้ อยกเว้ นที4 2สายทีต' ่ อแยกจากสายป้ อนเป็ นไปตามทุกข้ อ ดังนี
1)ความยาวของสายทีต' ่ อแยกไม่ เกิน 7.5 เมตร 2)ขนาดกระแสของสายทีต' ่ อแยกไม่ น้อยกว่า 1 ใน 3 ของ ขนาดกระแสสายป้ อน 3)จุดปลายของสายต่ อแยกต้ องมีเครื' องป้ องกันกระแส เกิน 1 ตัว มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิอวงติ เวทย์ ด อัคตั รพั ง นธุในช่ )์ 4)สายที ต' ่ อแยกต้ องเดินสาย 198
99
การต่ อแยกสายป้ อน ทุกจุดต่ อแยกต้ องมี เครื] องป้ องกันกระแสเกิน To other load
ที อุปกรณ์ ต้องมี เครื องป้องกัน กระแสเกิน 2014-02-21
ยกเว้ น 1 ไม่ ต้องมีเครื]อง ป้ องกันกระแสเกินถ้ าสามารถ ป้ องกันสายต่ อแยกได้ มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์ 199
การต่ อแยกสายป้ อน ยกเว้ น 2 ไม่ ต้องมีเครื] อง ป้ องกันกระแสเกิน 3. อยู่ในท่ อร้ อยสาย
4. มีเครื]องป้ องกัน กระแสเกินที]ปลาย 2014-02-21
1. ความยาวสายต่ อแยกไม่ เกิน 7.5ม. 2. กระแสของสายต่ อแยก >1/3* I ของ มาตรฐาน วสท.2001-56สายป้ บทที" 3 (ศิวเวทย์ อนอัครพันธุ)์ 200
100
3.3.10 เครื' องป้องกันกระแสเกินของวงจรย่ อยและสายป้อนในแผง สวิตช์ ต่างๆ ต้ องระบุโหลดที'จ่ายให้ ชัดเจนติดไว้ตามข้ อ1.107
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-31 ข้อ3.)
201
สรุป…..สายป้ อน โหลดในวงจรย่ อย(Ib)
แยกประเภท
Ib ≥ design Load Current Lb
คํานวณโหลดใช้ demand Factor กําหนดขนาด OCPD ( In ) หากระแสของสายตามวิธต ี ด ิ ตงสาย ัO It ≥ In / ( Ca x Cg )
กําหนดขนาดตัวนําไฟฟ้า
เลือกสายและวิธีการเดินสาย Iz ≥ It 202
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ3.2)
101
วงจรประธาน
วงจรประธาน หมายถึง ต ัวนํา และอุปกรณ์ ไฟฟ้าต่างๆ ในสว่ นของวงจรไฟฟ้าทีร ับไฟ จากการไฟฟ้าฯ ไปจนถึงบริภ ัณฑ์ประธาน
ํ ค ัญ 2 ส่วน คือ วงจรประธาน ประกอบด้วยส่วนสา ต ัวนําประธาน ( Service Conductors ) บริภ ัณฑ์ประธาน ( Service Equipment ) วงจรประธาน แบ่งออกเป็น 2 ระด ับ คือ ระบบแรงตํา ( Low Voltage System ) (ระบบไม่เกิน 1,000 V.) ระบบแรงสูง ( High Voltage System) (ระบบทีม แ ี รงด ันเกิน 1,000 V.)
• ตัวนําประธานที จ่ายไฟให้ กบั อาคารหลังหนึ งๆ หรื อผู้ใช้ ไฟฟ้ารายหนึ งต้ องมีชุดเดียว มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
ขนาดตัวนํานิวทรั ลประธานแรงตํ4า ตัวนํานิวทรัลของตัวนําประธานแรงตํ'า (สายทีม' กี ารต่ อลงดิน )ต้ องมีขนาดดังนี
- มีขนาดเพียงพอทีจ' ะรับกระแสไม่ สมดุล สู งสุ ด ตามทีค' าํ นวณได้ ในข้ อ 3.2.4 - ต้ องไม่ เล็กกว่ า สายต่ อหลักดิน(GEC) ของระบบไฟฟ้ าตามข้ อ 4.19( ตาราง 4-1) - ไม่ เล็กกว่ าร้ อยละ 12.5 ของสายเฟส (ประธาน) ขนาดใหญ่ ทสี' ุ ด (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.4)
204
102
ตารางที4 4-1 ขนาดตํ4าสุ ดของสายต่ อหลักดินของระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ขนาดตัวนําประธานทองแดง (ตร.มม.)
ขนาดตํา' สุ ดของสายต่ อหลักดินทองแดง (ตร.มม.)
ไม่ เกิน 35
10
เกิน 35 แต่ ไม่ เกิน
50
16
เกิน 50 แต่ ไม่ เกิน
95
25
เกิน 95 แต่ ไม่ เกิน
185
35
เกิน 185 แต่ ไม่ เกิน
300
50
เกิน 300 แต่ ไม่ เกิน
500
70
เกิน 500
95 EIT Standard 2001-56 (บทที' 4 ตาราง 4-1)
ขนาดตัวนํานิวทรัล
205
ตัวนํานิวทรัลของตัวนําประธานแรงตํ'า (สายทีม' กี ารต่ อลงดิน) - ต้ องมีขนาดกระแสเพียงพอทีจ' ะรับกระแสไม่สมดุล สู งสุ ด ตามทีค' าํ นวณได้ ในข้ อ 3.2.4 - ต้ องไม่ เล็กกว่ า สายต่ อหลักดิน(GEC) ของระบบไฟฟ้ าตามข้ อ 4.19( ตาราง 4-1) - ไม่ เล็กกว่ าร้ อยละ 12.5 ของสายเฟสขนาดใหญ่ ทสี' ุ ด
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้ อ 3.4)
ขนาดตัวนํานิวทรัล ต้ องสามารถรับกระแส ไม่ สมดุลสู งสุ ดได้ ตามข้ อ 3.2.4 และต้ องมี ขนาดไม่ เล็กกว่ าสายดินของบริภัณฑ์ ไฟฟ้า ตามข้ อ 4.20(ตาราง 4-2) ขนาดกระแสของสายนิวทรัลคิดจาก โหลด 1-เฟส ทีต' ่ ออยู่ในวงจร 3-เฟส โดย เลือกจากเฟสทีม' ากทีส' ุ ด
206
103
ข้ อยกเว้ น … ทีย4 อมให้ มีตัวนําประธานมากกว่ า 1 ชุด สํ าหรับเครื' องสู บนํา ดับเพลิง ซึ'งต้ องแยกจากระบบประธาน สํ าหรับระบบไฟฉุกเฉินและระบบกําลังไฟฟ้ าสํ ารอง มีอาคารมากกว่ า 1 หลัง ในบริเวณเดียวกัน รับไฟจากหม้ อแปลงมากกว่ า 1 ลูก เมื'อต้ องการตัวนําประธานทีร' ะดับแรงดันต่ างกัน เป็ นอาคารชุ ด อาคารสู งหรื ออาคารขนาดใหญ่ พเิ ศษ ที'
จําเป็ นต้ องใช้ ตัวนําประธานมากกว่ า 1 ชุด (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.4 )
207
เงื4อนไข ข้ อยกเว้ น กรณีอาคารมีมากกว่ า 1 หลัง M CB o) o
1) อาคารทุกหลังต้ องมีบริภัณฑ์ ประธาน โดยขนาดเครื4องป้ องกัน กระแสเกินของบริภัณฑ์ ประธานรวมกันต้ องไม่ เกินพิกดั เครื4องป้ องกันกระแสเกินของเครื4องวัดฯ 2) ตัวนําประธาน จากเครื4องวัดฯ ถึงจุดต่ อแยกเข้ าแต่ ละอาคาร ต้ องมีขนาดกระแสไม่ น้อยกว่ าเครื4องป้ องกันกระแสเกิน ของอาคารทุกหลังรวมกัน 3) จุดต่ อแยกตัวนําประธาน ต้ องอยู่ในบริเวณของผู้ใช้ ไฟฟ้า
Ls
อาคาร 1
บริภณ ั ฑ์ประธาน
บริเวณผู้ใช้ ไฟ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.4 ยกเว้น 3)
Ls บริภณ ั ฑ์ประธาน
อาคาร 2 208
104
ตัวอย่ างข้ อยกเว้ น กรณีอาคารทีใ4 ช้ หม้ อแปลงมากกว่ า 1 ลูก
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.4 ยกเว้น 4)
209
ตัวอย่ างข้ อยกเว้ น กรณีอาคารชุดหรื ออาคารขนาดใหญ่ พเิ ศษ กรณีทมี4 ีลกั ษณะดังนี • ต้ องใช้ หม้ อแปลง มากกว่ า 1 ลูก • ต้ องรับไฟฟ้าจากระบบ สายใต้ ดินแรงสู ง • ต้ องรับระบบไฟมากกว่ า 1 สายป้ อน (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.4 ยกเว้น 6)
210
105
3.4.ขนาดตัวนําประธานแรงตํ"า แผงเมนสวิตช์
มิเตอร์
มิเตอร์
รัว
รั ว
สายเมนเดินในท่อฝั งดิน
สายเมนเดินในอากาศ
3.4.1 ระบบสายอากาศ ต ้องเป็ นตัวนํ าทองแดง ขนาดไม่ เล็กกว่า 4 ตร.มม. ้ ัวนํา หมายเหตุ กฟภ. ยอมให้ใชต อะลูมเิ นียมได้ ขนาด ≥ 10 ตร.มม.
3.4.2 ระบบสายใต ้ดิน ต ้องเป็ นตัวนํ าทองแดง ขนาดไม่เล็กกว่า 10 ตร.มม.
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.4 ตอน ก.)
211
การติดตั งตัวนําประธานใต้ ดนิ แรงตํา' - ต้ องมีแผนผังแสดงแนวสายไฟฟ้า มีป้ายระบุแนวระยะห่ างระหว่ างป้ ายไม่ เกิน 50 m - สายใต้ ดินทีม' หี ลายวงจร ทีป' ลายสาย และสายทีอ' ยู่ ในช่ องเปิ ดต้ องมีเครื' องหมายแสดงให้ เห็น ความแตกต่ างติดอยู่อย่ างถาวร
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.4.2
212
106
บริภัณฑ์ ประธาน ( Service Equipment ) บริภัณฑ์ ประธาน หมายถึง อุปกรณ์ ไฟฟ้ าทีท' าํ หน้ าทีป' ลดวงจร บริภัณฑ์ ประธานจะ ประกอบด้ วยส่ วนสํ าคัญ 2 ส่ วน คือ 1. 2.
เครื' องปลดวงจร(Disconnecting Means) เครื' องป้องกันกระแสเกิน (Overcurrent Protective Device)
ซึ'งอาจประกอบเป็ นชุดเดียวกันก็ได้ (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ3.5)
213
3.5 ตําแหน่ งติดตั?งบริ ภณ ั ฑ์ ประธาน (บ้ านชั?นเดียว)
แผงเมน สวิตช์ มิเตอร์
รวัO
ตําแหน่งบริภ ัณฑ์ประธาน
มิเตอ ร์
รวัO
ตําแหน่งบริภ ัณฑ์ประธาน
O ไม่ตา ควรติดตงสู ัO งจากพืน ํ กว่า 1.60 ัO ัO ควรติดตงอยู ัO ช ่ นลอยหรื อชนสอง เมตร มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3 214 (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.5.1.4
107
3.5.2 เครื7 องป้องกันกระแสเกินของบริ ภัณฑ์ ประธาน 215
บริภ ัณฑ์ประธานต้องมี ขนาดพิก ัดกระแสสูงสุด ไม่เกินด ังนีO
การไฟฟ้านครหลวง
ตามตารางที 3- 4
การไฟฟ้าสว่ นภูมภ ิ าค
ตามตารางที 3- 5
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3 ข้อ 3.5.2
215
พิกัดสูงสุดของเครื!องป้ องกันกระแสเกินและโหลด สูงสุดของเครื!องวัดฯ กฟน.(ตร.3-4)
หมายเหตุ พิกดั ของเครื องป้ องกันกระแสเกิน มีค่าตํ ากว่ าทีก าํ หนดในตารางได้ แต่ ทงั: นี:ต้องไม่ น้อยกว่ า1.25 เท่ าของโหลดทีค าํ นวณได้ มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
216
108
พิกัดสูงสุดของเครื! องป้ องกันกระแสเกินและโหลดสูงสุด ของเครื! องวัดฯ กฟภ.(ตร. 3-5) ขนาดเครื องวัด โหลด หน่ วยไฟฟ้ า สู งสุ ด (แอมแปร์ ) (แอมแปร์ )
5 (15) 15 (45) 30 (100)
12 36 80
ขนาดตัวนําประธาน เล็กที สุดที ยอมให้ ใช้ ได้ (ตร.มม.) สาย อะลูม-ิ เนียม 10 25 50
เซฟตีสวิตช์ หรื อ โหลดเบรกสวิตช์
บริภัณฑ์ ประธาน คัตเอาต์ ใช้ ร่วมกับ คาร์ ทริดจ์ ฟิวส์
เซอร์ กิต เบรกเกอร์
สาย ทองแดง
ขนาดสวิตช์ ตํา สุ ด (แอมแปร์ )
ขนาดฟิ วส์ สู งสุ ด (แอมแปร์ )
ขนาดคัท เอาต์ ตํ าสุ ด (แอมแปร์ )
ขนาดฟิ วส์ สู งสุ ด (แอมแปร์ )
ขนาด ปรับตั ง สู งสุ ด (แอมแปร์ )
4 10
30 60 100
15 40-50 100
20 -
16 -
15-16 40-50 100
35
หมายเหตุ 1) สําหรับตัวนําประธานภายในอาคารให้ ใช้ สายทองแดง 2) ขนาดสายในตารางนี:สําหรับวิธีการเดินสายลอยในอากาศวัสดุฉนวนภายนอกอาคาร หากวิธีเดินสายแบบอื นให้ พจิ ารณาขนาดตัวนําประธานในบทที 5 แต่ ทั:งนี: ขนาดตัวนํา ประธานต้ องรับกระแสได้ไม่ น้อยกว่ า 1.25 เท่ าของโหลดตามตาราง มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3 ข้อ 3.5.2
ตาราง 5 - 217 22
การประเมิณโหลดการออกแบบระบบเคเบิลใต้ ดนิ กฟภ.
2014-02-21
ขนาดมิเตอร์ ท] เี หมาะสมของผู้ใช้ ไฟนันa พิจารณาจาก ตารางที] 6-3 สําหรับอาคารที]พักอาศัย และตารางที] 6-5 สําหรับอาคารสํานักงาน อาคารสโมสรหรือร้ านค้ าทั]วไป โดยใช้ ตารางดังกล่ าวในการตรวจสอบรายการคํานวณ กระแสโหลดสูงสุดที]ตดิ ตังa จริงที]ผ้ ูใช้ ไฟเสนอมาในขันa ตอน การขอใช้ ไฟฟ้ า ซึ]งจะต้ องมีค่ากระแสโหลดสูงสุดไม่ เกิน ตามที]ระบุไว้ ก็จะได้ ขนาดมิเตอร์ ท] เี หมาะสมของผู้ใช้ ไฟ หาก กฟภ.ตรวจสอบแล้ ว พบว่ ารายการคํานวณกระแส โหลดสูงสุดที]ตดิ ตังa จริงที]ผ้ ูใช้ ไฟเสนอมามีค่าน้ อยเกินไปไม่ สอดคล้ องกับข้ อมูลที] กฟภ.มีหรือจัดหามาได้ กฟภ.จะใช้ ตารางที] 6-4 สําหรับอาคารที]พักอาศัย และตารางที] 6-6 สําหรับอาคารสํานักงาน อาคารสโมสรหรือร้ านค้ าทั]วไป แทนมาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์ 218
109
การประเมิณโหลดการออกแบบระบบเคเบิลใต้ ดนิ กฟภ. 1) อาคารที]พักอาศัยประเภทบ้ านเดี]ยว บ้ านแฝด หรือ อาคาร ประเภทบ้ านแถว (ทาวน์ เฮาส์ ) ในหมู่บ้านจัดสรรจัดสรร 1.1) กรณีท] พ ี ิจารณาจากกระแสโหลดสูงสุดที]ตดิ ตังa จริงที]ผ้ ูใช้ ไฟ ให้ ใช้ ค่าตามตารางที] 6-3
2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
219
การประเมิณโหลดการออกแบบระบบเคเบิลใต้ ดนิ กฟภ. 1) อาคารที]พักอาศัยประเภทบ้ านเดี]ยว บ้ านแฝด หรือ อาคาร ประเภทบ้ านแถว (ทาวน์ เฮาส์ ) ในหมู่บ้านจัดสรรจัดสรร 1.2) กรณีท] พ ี ิจารณาจากพืนa ที]ใช้ สอยในอาคาร (พืนa ที]ตัวอาคาร) ของผู้ใช้ ไฟ ให้ ใช้ ค่าตามตารางที] 6-4
2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
220
110
การประเมิณโหลดการออกแบบระบบเคเบิลใต้ ดนิ กฟภ. 2) อาคารสํานักงาน อาคารสโมสร หรื อร้ านค้ าทัว ไป เช่ น อาคารพาณิชย์ (ห้ องแถว) ในหมู่บ้านจัดสรร 2.1) กรณีท] พ ี ิจารณาจากกระแสโหลดสูงสุดที]ตดิ ตังa จริงที]ผ้ ูใช้ ไฟ ให้ ใช้ ค่าตามตารางที] 6-4
2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
221
การประเมิณโหลดการออกแบบระบบเคเบิลใต้ ดนิ กฟภ. 2) อาคารสํานักงาน อาคารสโมสร หรื อร้ านค้ าทัว ไป เช่ น อาคารพาณิชย์ (ห้ องแถว) ในหมู่บ้านจัดสรร 2.2) กรณีทพี จิ ารณาจากพื นทีใ ช้ สอยในอาคาร (พื นทีต วั อาคาร) ของ ผู้ใช้ ไฟ ให้ ใช้ ค่าตามตารางที 6-6
2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
222
111
อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินต้ องป้ องกันวงจรและอุปกรณ์ท งั หมดได้ อนุญาตให้ ติดตั งทางด้ านไฟเข้ าของเครื' องป้ องกันกระแสเกิน เฉพาะวงจรระบบฉุกเฉินต่ างๆ - เครื' องแจ้ งเหตุเพลิงไหม้ - ระบบสั ญญาณป้ องกัน อันตราย - เครื' องสู บนํา ดับเพลิง - นาฬิ กา - เครื' องป้ องกันอันตรายจาก ฟ้ าผ่า - คาปาซิเตอร์ - เครื' องวัด - วงจรควบคุม บริภณ ั ฑ์ ประธาน
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.5.2.2)
223223
คุณสมบัติของบริ ภณ ั ฑ์ ประธานแรงตํ4า L1 L2 L3
LOADS
N
ห้ ามติดตั งเครื' องป้ องกันกระแสเกินใน
สายที'มีการต่ อลงดิน(สายนิวทรัล) ต้ องสามารถตัดกระแสลัดวงจรค่ ามาก ที'สุดที'อาจเกิดได้ และต้ องไม่ ตาํ' กว่า 10 KA (ยกเว้นบางพืน ที'ที'การไฟฟ้ากําหนด เป็ นกรณีพเิ ศษ) (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001- 56 ข้อ 3.5.2.1 , 3.5..2.3)
224
112
การติดตั งเครื' องป้องกันกระแสรั'วลงดิน ที'บริภัณฑ์ ประธานแรงตํา' กรณีระบบระบบทีน' ิวทรัลของระบบวาย(wye ) ต่ อลงดินโดยตรงเครื' องป้ องกันกระแสเกินบริภัณฑ์ ประธานแรงตํ'าทีม' ี I ≥ 1000 A ต้ องมี GFP
ข้ อยกเว้ น 1. ไม่ ใช้ กบั กระบวนการทางอุตสาหกรรมแบบ ต่ อเนื4องถ้ าหยุดกระทันหันจะทําให้ เกิด ความเสียหายมาก 2.2 ไม่ ใช้ กบั เครื4องสู บนํ าดับเพลิง (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.5.2.6)
225
การป้ องกัน Ground Fault อาจแบ่ งตามความไวของการ Setting ดังนี
1. RCD ( Residual Current Device ) - ความไว 30 mA ใช้ ป้องกันคน จากไฟดูด - ความไว 300 mA ใช้ ป้องกันสถานทีห' รื ออุปกรณ์ จากไฟไหม้ - ความไว 30 A ใช้ ป้องกันสถานทีห' รื ออุปกรณ์ 2. GFP ( Ground Fault Protection ) - ความไว 100 – 1200 A - ใช้ ป้องกันสถานทีห' รื ออุปกรณ์
จาก Arcing Ground Fault 226
113
วิธีการตรวจจับกระแสรั'วลงดิน การตรวจวัดการเกิด Ground Fault ใช้ กฎของ Kirchhoff คือ
ΣI =
0
1. Residual Sensing ใช้ รีเลย์ ( 50N / 51N ) 2. Ground Return Sensing ใช้ รีเลย์ ( 51G ) 3. Zero Sequence Sensing ใช้ รีเลย์ ( 50GS / 51GS ) 4.
Integral Sensing (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.5.2.6)
227
Residual Sensing ( RS ) - กระแสจาก CT ของทั ง 3 Phases รวมแบบ Phasor เป็ น Iph , Ia + Ib + Ic = Iph - นํากระแส Iph มาเปรียบเทียบกับกระแสจาก CTของสาย Neutral In - ถ้ า Iph = In แสดงว่า ระบบเป็ นปกติ - ถ้ า Iph ≠ In แสดงว่า เกิด GF ผลต่ างคือ กระแส Ig - ถ้ า Ig > Setting , แสดงว่าเกิด Ground Fault มากพอ CB จะตัดวงจรตามเวลาทีต' งั ไว้
07/08/2015
228
114
-
Source Ground Return ( SGR )
สาย Ground ( PE ) จะต่ อเข้ าจุด Neutral ( N ) มี ZCT ติดตั ง ระหว่ างสาย PE และจุด N สาย Ground จะต่ อเข้ ากับส่ วนโลหะทีเ' ครื' องห่ อหุ้มทีไ' ม่ นํากระแส เมื'อเกิด Ground Fault , Ig จะไหลกลับไปจุด N ถ้ า Ig > Setting แสดงว่ าเกิด Ground Fault มากพอ “ CB ตัดวงจรตามเวลาทีต' งั ไว้ ”
07/08/2015
229
Zero Sequence ( ZS ) - มี ZCT ล้อม Phases ทั งสามพร้ อมสาย Neutral ( ถ้ ามี ) - ระบบเป็ นปกติ กระแสทั งหมดจะหักล้างกันหมด ทางด้ าน Secondary ของ ZCT ไม่ มีกระแส - เมื'อเกิด GF, ทางด้ าน Secondary ของ ZCTจะมีกระแสไหลคือ Ig - เมื'อ Ig > Setting , แสดงว่าเกิด Ground Fault มากพอ CB จะตัดวงจรตามเวลาทีต' งั ไว้
07/08/2015
230
115
ระดับของการป้ องกัน การป้ องกันการลัดวงจรลงดินอาจทํา ได้ 3 ระดับตามความสํ าคัญของสถาน ประกอบการคือ 1. มี GFP ที' Main อย่ างเดียว 2. มี GFP ที' Main และ Feeders 3. มี GFP ที' Main , Feeders และ Branch Circuits จากข้ อกําหนดของ ว.ส.ท. กําหนดให้ ต้ องมี GFP ทีบ' ริภัณฑ์ ประธานแรงตํ'า ขนาดเกิน 1000 A (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.5.2.6)
231
ค่าปรับตั ง ( Setting ) ของ GFP 1) วงจรย่อย - กระแสปรับตั ง 5-15 A - เวลา ตั งให้ ทาํ งานทันที( Instantaneous) 2) วงจรสายป้ อน - กระแสปรับตั ง 200-800 A - เวลา ตั งให้ Coordination กับ GFP ของ BC หรื อประมาณ 0.1-0.2 s 3) วงจรประธาน - กระแสปรับตั ง 400-1200 A - เวลาตั งให้ Coordination กับ GFP ของ Feeder หรื อ 0.2-0.5 s 232
116
บริภัณฑ์ ประธานระบบแรงสู ง อุปกรณ์ ทนี' ิยมใช้ เป็ นบริภัณฑ์ ประธานในระบบแรงสู งมี 4ชนิด ดังนี
1. ฟิ วส์ ชนิดขาดตก (Drop Fuse Cutout) 2. ฟิ วส์ และสวิตช์ สําหรับตัดโหลด( Load Break Switch , Switch Disconnector ) 3. เซอร์ กติ เบรกเกอร์ และสวิตช์ แยกวงจร ( Isolating Switch , Disconnector ) 4. Ring Main Unit (RMU) (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.5.3)
233
เซอร์ กติ เบรกเกอร์ และสวิตช์ แยกวงจร เซอร์ กติ เบรกเกอร์ จะทําหน้ าที เป็ นเครื องป้ องกัน กระแสเกิน และ เครื องปลดวงจร โดยจะต้ องใช้ ร่ วมกับ สวิตช์ แยกวงจรเนื องจาก สวิตช์ แยกวงจรจะทําหน้ าทีป ลด วงจร เพื อนําเซอร์ กติ เบรกเกอร์ ออกไปซ่ อมแซม หรื อบํารุงรักษา
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.5.3)
234
117
ข้ อกําหนดสําหรั บเซอร์ กติ เบรกเกอร์ 1. เซอร์ กติ เบรกเกอร์ ต้องเป็ นแบบปลดวงจรได้ โดย อิสระ ( Trip Free ) 2. จะต้ องมีเครื องหมายบอกตําแหน่ งปลด-สั บ ชัดเจน 3. จะต้ องมีค่าพิกดั ตัดกระแสลัดวงจร IC ไม่ น้อยกว่า ค่ ากระแสลัดวงจรสู งสุ ดทีต ําแหน่ งติดตั ง IS โดยที IC = Interrupting Capacity ( kA ) IS = กระแสลัดวงจรสู งสุ ด ณ จุดติดตั ง ( kA )
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-51 ข้อ 3.5.3)
235
การป้ องกันกระแสเกินของตัวนําประธาน •ถ้ าเป็ น Circuit Breaker ปรับตั งไม่ เกิน 400 - 600 % In
•ถ้ าเป็ น Power Fuses
พิกดั กระแสไม่ เกิน 300 % In
ปรับตั งไม่ เกิน 125 % In ( EIT. 2001-56: ข้อ 3.5.5 ตารางที 6-5)
236
118
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ตาราง 6-5 หน้า 6-23)
237
กรณีที 1 รับไฟฟ้าด้ วยระบบสายแรงสู งอากาศ
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
238
119
กรณี ที7 2 รั บไฟฟ้าด้ วยระบบสายใต้ ดินในพืน? ที7สายอากาศ
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
239
กรณี ที7 3
โหลดไม่เกิน 4,000 kVA
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
240
120
ต้ องจัดทํา Wiring Diagram ของระบบป้ องกันตั งแต่ ด้านรับไฟฟ้ า(Incoming) จนถึงด้ านจ่ ายไฟออก(Outgoing)ของบริภัณฑ์ ประธานแรงสู ง แผงเมนสวิตช์ แรง สู ง หม้ อแปลงไฟฟ้ า และบริภัณฑ์ ทสี' ํ าคัญอื'น ทีค' งทนถาวรและเห็นได้ ชัดเจน ติดตั ง ไว้ ในห้ องทีต' ิดตั งแผงสวิตช์ ทกุ ห้ อง
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.5.5.7)
241
3.6.1 แรงดันไฟฟ้าตกสําหรั บระบบแรงตํ4า การคิดแรงดันไฟฟ้ าตก คิดจากสายประธานแรงตํ'าจนถึงจุด ใช้ ไฟฟ้ า ต้ องไม่ เกิน 5%
242
121
3.6.2 แรงดันตก กรณีรับไฟแรงสู งจากการไฟฟ้ าฯ แรงดันตกคิดจาก บริภัณฑ์ ประธานแรงตํ าจนถึงจุดใช้ ไฟจุดสุ ดท้ ายรวมกันไม่ เกิน 5% จากแรงดันทีร ะบุ MDB
5%
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-56 ข้อ 3.6)
ภาคผนวก ฐ. แรงดันตก (แนะนํา) แรงดันตก คือแรงดันแรงดันไฟฟ้ าที]สูญเสียไปในสายไฟฟ้ าระหว่ างทาง ที]กระแสไหล การหาค่ าแรงดันตกจึงเป็ นการหาแรงดันไฟฟ้ าที]ปลายทางเทียบกับต้ น ทาง เขียนเป็ นวงจรสมมูลและเฟสเซอร์ ไดอะแกรมได้ ดังนี a
วงจรสมมูล 1 เฟส
เฟสเซอร์ ไดอะแกรม
cos sin cos sin
เนื]องจาก imaginary part น้ อยกว่ า real part มาก จะได้ แรงดันตก; cos sin
2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
244
122
ภาคผนวก ฐ. แรงดันตก (แนะนํา) เพื]อให้ ง่ายต่ อการใช้ งาน ภาคผนวกนีไa ด้ กาํ หนดตารางแรงดัน ตกไว้ ด้วยโดยค่ าแรงดันตกที]กาํ หนดเป็ นไปดังนี a 1. อ้ างอิงตาม BS7671 2. ค่ าที]กาํ หนดเป็ นค่ าสูงสุด ที]ได้ จากการคํานวณ ตังa แต่ pf 85% lagging ถึง pf 100% 3. เงื]อนไขการคํานวณ - ระบบไฟฟ้ า 3 เฟส แรงดันตกคิดเป็ น Line to Line แบบสมดุล - ขนาดสายไฟ ถึง 16 mm2 ให้ คิดค่ า r อย่างเดียว ละเลยค่ า x ซึ งมีค่าน้ อย - ขนาดสายไฟ ตั งแต่ 25 mm2 ให้ คิดค่ า r และ x เพื อคํานวณ แรงดันตก ตาม Power Factor ของ Load - รูปแบบการติดตั ง (กลุ่มการเดินสาย) เป็ นไปตามตารางที 5-47 มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
2014-02-21
245
ภาคผนวก ฐ. แรงดันตก (แนะนํา) ตารางที] ฐ.1 แรงดันตกสําหรับสายไฟฟ้ า ฉนวน PVC แกนเดียว ที] 70OC ขนาดสาย (mm2)
1 เฟส AC (mV / A / m)
3 เฟส AC (mV / A / m)
รู ปแบบการติดตั(ง
รู ปแบบการติดตั(ง
กลุ่มที" 1,2 1.0 1.5 2.5 4 6 10 16 25 35
2014-02-21
44 29 18 11 7.3 4.4 2.8 1.81 1.33
กลุ่มที" 3,7
กลุ่มที" 1,2
Touching Spaced 44 44 38 29 29 25 18 18 15 11 11 9.5 7.3 7.3 6.4 4.4 4.4 3.8 2.8 2.8 2.4 1.75 1.75 1.52 1.25 มาตรฐาน วสท.2001-56 1.27 บทที" 3 (ศิ1.13 วเวทย์ อัครพันธุ)์
กลุ่มที" 3,7 Trefoil 38 25 15 9.5 6.4 3.8 2.4 1.50 1.11
Flat 38 25 15 9.5 6.4 3.8 2.4 1.50 1.12
Spaced 38 25 15 9.5 6.4 3.8 2.4 1.52 1.15 246
123
ภาคผนวก ฐ. แรงดันตก (แนะนํา) ตารางที] ฐ.2 แรงดันตกสําหรับสายไฟฟ้ า ฉนวน PVC หลายแกน ที] 70OC ขนาดสาย (mm2)
1 เฟส AC (mV / A / m)
3 เฟส AC (mV / A / m)
1.0 1.5 2.5 4 6 10 16 25 35
ทุกกลุ่มการติดตั(ง 44 29 18 11 7.3 4.4 2.8 1.75 1.25
ทุกกลุ่มการติดตั(ง 38 25 15 9.5 6.4 3.8 2.4 1.50 1.10
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
2014-02-21
247
ภาคผนวก ฐ. แรงดันตก (แนะนํา) ตารางที] ฐ.3 แรงดันตกสําหรับสายไฟฟ้ า ฉนวน XLPE แกนเดียว ที] 90OC ขนาดสาย (mm2)
1 เฟส AC (mV / A / m)
3 เฟส AC (mV / A / m)
รู ปแบบการติดตั(ง
รู ปแบบการติดตั(ง
กลุ่มที" 1,2 1.0 1.5 2.5 4 6 10 16 25 35
2014-02-21
46 31 19 12 7.9 4.7 2.9 1.85 1.37
กลุ่มที" 3,7
กลุ่มที" 1,2
Touching Spaced 46 46 40 31 31 27 19 19 16 12 12 10 7.9 7.9 6.8 4.7 4.7 4.0 2.9 2.9 2.5 1.85 1.85 1.60 1.35 มาตรฐาน วสท.2001-56 1.37 บทที" 3 (ศิ1.17 วเวทย์ อัครพันธุ)์
กลุ่มที" 3,7 Trefoil 40 27 16 10 6.8 4.0 2.5 1.57 1.14
Flat 40 27 16 10 6.8 4.0 2.5 1.58 1.15
Spaced 40 27 16 10 6.8 4.0 2.5 1.60 1.17 248
124
ภาคผนวก ฐ. แรงดันตก (แนะนํา) ตารางที] ฐ.4 แรงดันตกสําหรับสายไฟฟ้ า ฉนวน XLPE หลายแกน ที] 90OC ขนาดสาย (mm2)
1 เฟส AC (mV / A / m)
3 เฟส AC (mV / A / m)
1.0 1.5 2.5 4 6 10 16 25 35
ทุกกลุ่มการติดตั(ง 46 31 19 12 7.9 4.7 2.9 1.85 1.35
ทุกกลุ่มการติดตั(ง 40 27 16 10 6.8 4 2.5 1.60 1.15
2014-02-21
มาตรฐาน วสท.2001-56 บทที" 3 (ศิวเวทย์ อัครพันธุ)์
249
ตัวอย่ าง วงจรย่อย 1 เฟส 230 V ,IEC01 ขนาด 2.5 Sq.mm. I = 10A การติดตั ง กลุ่มที2 ต้ องการ VD ไม่ เกิน 2 % และ 3 % ระยะไกลสุ ดเท่าใด
ภาคผนวก ฐ1. สาย 2.5 Sq.mm. VD = 18 mV / A / m 2% = 230 x .02 = 4.6 V (18 x 10xL)/1000 = 4.6 ∴ L = 25.6 m. 3 % = 230 x .03 = 6.9 V ∴L = 38.3 m.
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-31 ข้อ3.)
250
125
ตัวอย่ าง วงจรสายป้ อน 3 เฟส 4 สาย 230/400V จ่ ายไฟ 110 A จากตู้ DB ไปยังตู้ LP ระยะทาง 100 m. ใช้ สาย XLPE แกนเดียว การติดตั ง กลุ่มที2 ถ้ าต้ องการ VD ไม่ เกิน 2 % จะต้ องใช้ สายขนาดเท่าใด
VD 2 % = 400 x .02 = 8 V จาก ตาราง 5-27 และ ภาคผนวก ฐ.3 สาย 35 Sq.mm. 131A VD สาย 50 Sq.mm. 159A VD สาย 70 Sq.mm. 202 A VD
I = 110A = 1.17 mV / A / m = 0.91 mV / A / m = 0.65 mV / A / m
สาย 35 Sq.mm. VD = (1.17 x 110 x 100)/1000 = 12.9V สาย 50 Sq.mm. VD = (0.91 x 110 x 100)/1000 = 10.0 V
สาย 70 Sq.mm. VD = (0.65 x 110 x 100) /1000 = 7.2 V (มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-31 ข้อ3.)
251
สรุป การคํานวณโหลด โหลดวงจรย่อย Lbi
คํานวณโหลดของแต่ละ สายป้อน LbF
รวมโหลดของสายป้อน ต่างๆ ∑LbFi
Demand Factor Demand Factor กําหนดขนาดหม้อ แปลง
กําหนดขนาด OCPD
Ini > Ibi กําหนดขนาด OCPD Ini > Ibi
กําหนดขนาด OCPD
InM ≤ InT กําหนดขนาดกระแสของ วงจรย่อย
Iz ≥ In
กําหนดขนาดกระแสของสายป้ อน
กําหนดขนาดกระแสของสายเมน
Iz ≥ In
Iz ≥ InM
มาตรฐาน ว.ส.ท. 2556 บทที" 3
252
126
ตัวอย่ างการคํานวณโหลด
•อาคารประเภทโรงแรม ตั งอยู่ทใี' นกรุงเทพฯ มีโหลดดังนี
PB-111 จ่ ายจากสายป้ อน F-112
PB-112 จ่ ายจากสายป้ อน F-113
โหลดเครื' องปรับอากาศ
400 kVA. จ่ ายจาก F-12
เครื' องทํานํา ร้ อน(Water heater) ในแผงย่ อย PB-111
และ PB-112 ,
มีขนาดตัวละ 4,400W 230 V. 1 เฟส
จงกําหนดขนาด หม้ อแปลง, CBs และ ตัวนําต่ างๆ ในวงจร มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที 3
โหลดวงจรสายป้อน F-112 แผง P-111
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
254
127
โหลดวงจรสายป้ อน F-113 แผง P-112
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
255
วงจรประธาน สายป้อน วงจรย่ อย
แผง P-111
แผง P-112
มาตรฐาน วสท. 2001-51 บทที" 3
256
128
การคํานวณโหลดสายป้ อน F-112 1. คํานวณโหลดของแผงย่อย PB-111 โหลดแสงสว่ าง = 0.50( 20,000) + 0.40(2,000) VA. = 10,800 VA.
Water Heater = (2 x 4,400) + 0.25 ( 3 x 4,400 ) VA. = 12,100 VA.
Air Conditioning 65,816 x3 = 197,448 VA.
@ 4400W
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
257
การคํานวณโหลดสายป้ อน F-112 2. รวมโหลดของสายป้ อน F-112 โหลดรวม
= ( 10,800) +( 12,100) + (197,448) VA. = 220,348 VA. หาขนาดกระแสสายป้อน = 220,348 /(1.732 x 400) = 318.05 A.
กําหนดขนาด OCPD(
In)
F-112 = 1.25x318.05 A. = 397.56 A
In) = 400 AT/630AF It ≥ In / (Cg x Ca) กําหนดขนาดตัวนําสายป้ อน(Iz) I เลืกใช้ OCPD(
z
= 2x3-120 Sqmm.
Cg =1.0 Ca=1.0
≥I
t
ตารางที 5-20
IEC01 กลุ่มที2 (ในท่ อร้ อยสายในอากาศ ; 2 x 208 A) มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
258
129
การคํานวณโหลดสายป้ อน F-112 3. หาขนาดตัวนํานิวทรัลของสายป้ อน F-112 หาขนาดกระแส 1
เฟส (สู งสุ ด) = 22,000/ 230 = 95.65A. กําหนดขนาดตัวนํานิวทรัล ไม่ น้อยกว่ า 95.65A. = สายขนาด 50 sqmm. IEC 01(117A)
(แอมแปร์)
ตร.มม.
20 40 70 100 200 400 500
2.5* 4* 6* 10 16 25 35
400 AT
2(3-120,1-50/25G Sqmm.IEC01ท่ อ 2 1/2”) สายควบ
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
259
การเดินสายควบ คือการใช้ สายไฟฟ้ าตั งแต่ สองเส้ นขึน ไป โดยสายทั งหมดมีการต่ อ ทีป ลายสายทั งสองข้ างเข้ าด้ วยกัน อนุญาตให้ วงจรไฟฟ้ าเส้ นไฟ และนิวทรัลเดินสายควบได้ โดย การเดินสายควบ ต้องใช้สาย
ขนาดไม่เล็กกว่า 50 ตร.มม. ใช้สายชนิ ดเดียวกัน ขนาดเดียวกัน มีความยาวเท่ากัน วิธกี ารต่อสายเหมือนกัน
ต้ องครบทุกข้ อ
เพื'อให้ อมิ พีแดนซ์ ใกล้เคียงกันมากที'สุด ข้อ 5.1.15 หน้า 5 - 6
130
การคํานวณโหลดสายป้ อน F-113 1. คํานวณโหลดของแผงย่ อย PB-112 โหลดแสงสว่ าง = 0.50( 20,000) + 0.40(46,000) = 28,400 VA. Water Heater = (2 x 4,400) +0.25( 8 x 4,400) VA. = 17,600 VA. Air Conditioning.( 3x 65,816) = 197,448 VA
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
261
การคํานวณโหลดสายป้ อน F-113
2. รวมโหลดของสายป้ อน F-113 โหลดรวม
= ( 28,400) +( 17,600) + (197,448) VA.= 243,448 VA. หาขนาดกระแสสายป้ อน = 243,448 / (1.732 x 400) = 351.39 A. กําหนดขนาด OCPD (CB) F-113= 1.25 x 351.39 A. = 439.23 A เลือกใช้ OCPD(In) = 500AT/ 630AF Cg =1.0 It ≥ In / (Cg x Ca) Ca=1.0 กําหนดขนาดตัวนําสายป้ อน (Iz) Iz ≥ I t Iz = 2x(3-185 Sqmm.IEC01) ,ในท่ อ; 2x258A)
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
262
131
การคํานวณโหลดสายป้ อน F-113 3. หาขนาดตัวนํานิวทรัลของสายป้ อน F-113 หาขนาดกระแส 1 เฟส (สู งสุ ด)
= 44,000/ 230 = 191.30 A. กําหนดขนาดตัวนํานิวทรัล ต้ องไม่ น้อยกว่า 191.30 A = 1x120 Sqmm.(ในท่อ ; 208A) หรื อ 2x50 Sq.mm.
(แอมแปร์)
ตร.มม.
20 40 70 100 200 400 500
2.5* 4* 6* 10 16 25 35
500 AT 2x(3-185,1-50/35G Sqmm.IEC01) ,ในท่ อ
263
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
การคํานวณโหลดสายป้ อน F-11 1. คํานวณโหลดของแผงย่ อย PB-111 + PB-112 โหลดแสงสว่ าง = 0.50( 20,000) +0.40(68,000) VA. = 37,200 VA. Water Heater
= (2 x 4,400) + 0.25 (13 x 4,400) VA. = 23,100 VA.
Air Conditioning = 394,894 VA. P111 มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
P112 264
132
การกําหนดขนาด CBs และตัวนําสายป้อน F-11 2. รวมโหลดและหาขนาดกระแสของของสายป้ อน F-11 โหลดรวม
= ( 37,200) +( 23,100) + (394,894) VA.= 455,194 VA. หาขนาดกระแสสายป้ อน = 455,194 / (1.732 x 400) = 657.04 A. กําหนดขนาด OCPD(In) F-11 = 1.25x657.04 A. = 821.29 A เลือกใช้ OCPD(In) = 1000 AT/ 1000AF Cg =1.0 It ≥ In / (Cg x Ca) Ca=1.0 กําหนดขนาดตัวนําสายป้ อน (Iz) Iz ≥ I t Iz = 3x(3-300 Sqmm. IEC01) (ในท่ อในอากาศ ; 343A) มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
265
การคํานวณตัวนํานิวทรัลสายป้อน F-11 3. หาขนาดตัวนํานิวทรัลของสายป้อน F-11 หาขนาดกระแสโดยพิจารณาจากโหลด 1 เฟส
(สู งสุ ด)
(แอมแปร์)
ตร.มม.
800
50 70 95 120 185 240 400
1000 = (44,000+11,000) / 230 1250 2000 = 239.13 A. 2500 4000 กําหนดขนาดตัวนํานิวทรัล 6000 ต้ องไม่ น้อยกว่ า 239.13 A. = 1x185 Sqmm. (ในท่ อ; 258A) หรื อ 3x70 Sq.mm.
1000 AT
3x(3-300,1-70/70G Sqmm.IEC01) (ในท่อโลหะในอากาศ) มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
266
133
การคํานวณโหลดหม้ อแปลง 1. คํานวณโหลดจากแผงย่ อย( PB-111 + PB-112) และ F-12 โหลดแสงสว่ าง = 0.50( 20,000) +0.40(68,000) VA. = 37,200 VA. Water Heater
= (2x4,400) + 0.25 (13 x 4,400) VA. = 23,100 VA.
Air Conditioning
= 394,894 + 400,000 VA. = 794,894 VA. มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
267
การคํานวณโหลดหม้ อแปลง 2. รวมโหลดเพื อกําหนดขนาดหม้ อแปลง Max. Demand Load = ( 37,200) +( 23,100) + (794,894) VA. = 855,194 VA. หาขนาดหม้ อแปลงต้ องไม่ น้อยกว่ า 125 % ของโหลด
= 1.25 x (855,194 / 1000)
= 1,089 kVA. กําหนดขนาดหม้ อแปลง = 1,250 kVA มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
268
134
การคํานวณโหลดเพื อกําหนด MCB-1 และตัวนําประธานแรงตํา
3. กําหนดขนาด MCB-1 ที พกิ ดั 400/230 V. = (1,250 x 1000) / (1.732 x 400) = 1,804.27 A. กําหนดขนาด MCB-1 ต้ องไม่ เกิน 125 % ของพิกด ั หม้ อแปลง
= 1.25 x 1,804.27 = 2,255.33 A.
In )
กําหนดขนาด MCB-1 (
= 2,000 AT/2500AF กําหนดขนาดตัวนําประธานแรงตํ า( Iz ) It ≥ In / (Cg x Ca , I ≥ I Iz = 5( 3-400 sqmm.IEC01;3x406A ) ร้ อยในท่ อโลหะในอากาศ z
t
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
269
การคํานวณตัวนํานิวทรัลจากหม้ อแปลง 5(3-400,1-70 sqmm.IEC01) 4. หาขนาดตัวนํานิวทรัลจากหม้ อแปลง ในท่ อโลหะ หาขนาดกระแสโดยพิจารณาจากโหลด 1 เฟส
(สู งสุ ด)
= (44,000 + 11,000) / 230 = 239.13 A. กําหนดขนาดตัวนํานิวทรัลต้ องไม่ น้อยกว่ า 239.13 A. ( 1x185 Sqmm.) , ไม่ น้อยกว่ า ตาราง 4-1 และต้ องไม่ น้อยกว่า 12.5 % ของสายเฟสใหญ่สุด =( 5x400 =2000 sqmm.) x 12.5 % = 250 sqmm. = 300 Sq.mm. หรื อ 1- 70 sqmm. 5 เส้ น ตามสายเฟส มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
270
135
(ข้ อ 3.4) ขนาดสายทีม กี ารต่ อลงดิน(Grounded Conductor ) ต้ องมี การกําหนดขนาดสายดิน ขนาดไม่เล็กกว่าทีค าํ นวณข้ อ 3.2.4 และต้องไม่เล็กกว่าสายต่อหลัก ดินในตารางที 4-1(ข้ อ 4.19)และไม่เล็กกว่ า 12.5% ของสายเมน ขนาดใหญ่ ทสี ุ ด (ข้ อ 4.15.6) ขนาดสายต่ อฝากทางด้ านไฟเข้ าของบริภัณฑ์ ประธาน และสายต่ อฝากประธาน ต้ องมีขนาดไม่ เล็กกว่ าทีก าํ หนดในตารางที 4-1 แต่ พื นทีห น้ าตัดต้ องไม่ เล็กกว่ า 12.5% ของสายเมนขนาดใหญ่ ทีส ุ ด (ข้ อ 4.19) ขนาดสายต่ อหลักดินของบริภณ ั ฑ์ ประธาน ( Grounding Electrode Conductor;GEC) ต้ องมีขนาดไม่ เล็กกว่ าทีก าํ หนดในตารางที 4-1 สรุป
(ข้ อ4.15.6.4, 4.20) สายต่อฝากบริภัณฑ์ ไฟฟ้าด้านไฟออกและขนาด สายดินของบริภัณฑ์ ไฟฟ้ า(Equipment Grounding Conductor ;EGC)ต้ องมีขนาดไม่ เล็กกว่ าทีก าํ หนดในตารางที4 -2 EIT Standard 2001-51 (บทที" 4 ข้อ 4.19)
271
กําหนดขนาดเครื องวัดฯแรงสู ง เครื องวัดหน่ วยไฟฟ้าแรงสู ง กําหนดขนาดตามความต้ องการไฟฟ้า สู งสุ ด(Maximum Demand) มีหน่ วยเป็ น kVA สมมติรับจากระบบ 24kV 3Ph 3W ของ กฟน. 1) กําหนดจาก Maximum Demand = 855,194 VA.
= 1000 kVA 24kV, 3Ph 3W 2) กําหนดจากขนาดหม้ อแปลง = 0.8x 1250 kVA. = 1000 kVA 24kV, 3Ph 3W มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
272
136
วงจรประธาน
ขนาดสายนิวทรัล(Grounded Conductor ) - ให้ เป็ นไปตามข้ อ 3.2.4 และต้ องไม่ เล็กกว่าขนาดสาย ต่ อหลักดินของระบบไฟฟ้าตามข้ อ4.19 และไม่ เล็ก กว่า 12.5%ของตัวนําประธานขนาดใหญ่ ที สุด
1000 kVA 24kV, 3Ph 3W
ข้ อแนะนําในทางปฏิบัติ - ถ้ าโหลด 3 เฟส มากกว่า 40% ของพิกดั หม้ อแปลง ให้ ใช้ สายนิวทรัลไม่ น้อยกว่า 50% ของกระแสพิกดั หม้ อแปลง เช่ น สายขนาด 5(3-400,1-240)sq.mm.
สาย N
สายไฟฟ้าพืน ที หน้ าตัดครึ งหนึ งจะนํากระแส มากกว่า60% ของสายไฟฟ้าพืน ที หน้ าตัดเต็ม
1,250 kVA 5(3-400,1-70) sqmm. ในท่ อโลหะในอากาศ
2,000 AT
300 หรื อ 5-70.sqmm
273
มาตรฐาน วสท. 2001-56 บทที" 3
ตาราง D - 5 CB (A)
ขนาดสายไฟฟ้า XLPE แกนเดียว ร้ อยท่ อฝังดิน
Full Neutral
Half Neutral ขนาดสาย (mm²)
ขนาดสาย (mm²)
ขนาดท่อ (mm)
16 20 25 32 40 50 63 80 100 125 160 200 250 320 400 500
4x2.5 , G-2.5 4x2.5 , G-2.5 4x2.5 , G-4 4x4 , G-4 4x6 , G-4 4x10 , G-6 4x16 , G-6 4x16 , G-10 4x25 , G-10 4x35 , G-16 4x70 , G-16 4x95 , G-16 4x120 , G-25 -
25 25 32 32 32 32 40 40 50 50 65 65 80 -
3x120 , 1x70 , G-25 3x180 , 1x95 , G-25 3x240 , 1x120 , G-25 2 ( 3x120 , 1x70 , G-35 )
80 90 100 2x80
630
-
-
2 ( 3x185 , 1x95 , G-50 )
2x90
800
-
-
2 ( 3x240 , 1x120 , G-50 )
2x100
ผศ. ประสิทธิ พิทยพัฒน์
ขนาดท่อ (mm)
274
137
ตาราง G-14 ขนาดสายไฟฟ้ า XLPE แกนเดียวเดินใน ท่ อร้ อยสาย ในอากาศ กลุ่มที 2 ระบบการจ่ ายไฟฟ้ า 230/400 V ของ ก.ฟ.ภ. พิกัดหม้ อแปลง (kVA)
315
กระแสพิกัด In (1.25In) (A)
ขนาดสาย (mm²)
ขนาดท่ อร้ อยสาย (mm.)
455 ( 569 )
2 ( 3 x 150 , 1 x 95 ) 3 ( 3 x 70 , 1 x 50 )
2 x 80 3 x 50
400
577 ( 721 )
2 ( 3 x 240 , 1 x 120 ) 3 ( 3 x 95 , 1 x 50 ) 4 ( 3 x 70 , 1 x 50 )
2 x 90 3 x 65 4 x 50
500
722 ( 903 )
2 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 3 ( 3 x 150 , 1 x 95 ) 4 ( 3 x 95 , 1 x 50 )
2 x 100 3 x 80 4 x 65
630
909 ( 1136 )
3 ( 3 x 240 , 1 x 120 ) 4 ( 3 x 120 , 1 x 70 ) 5 ( 3 x 95 , 1 x 50 )
3 x 90 4 x 65 5 x 65
800
1155 ( 1444 )
3 ( 3 x 400 , 1 x 240 ) 4 ( 3 x 240 , 1 x 120 ) 5 ( 3 x 150 , 1 x 95 )
3 x 125 4 x 90 5 x 80
275
ผศ. ประสิทธิ พิทยพัฒน์
ตาราง G-14 (ต่อ) ขนาดสายไฟฟ้ า XLPE แกนเดียวเดินใน ท่ อร้ อยสาย ในอากาศ กลุ่มที 2 ระบบการจ่ ายไฟฟ้ า 230/400 V ของ ก.ฟ.ภ. พิกัดหม้ อแปลง (kVA)
กระแสพิกัด In (1.25In) (A)
ขนาดสาย (mm²)
ขนาดท่ อร้ อยสาย (mm.)
1000
1443 ( 1804 )
4 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 5 ( 3 x 240 , 1 x 120 ) 6 ( 3 x 150 , 1 x 95 ) 7 ( 3 x 120 , 1 x 70 )
4 x 100 5 x 90 6 x 80 7 x 65
1250
1804 ( 2255 )
5 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 6 ( 3 x 240 , 1 x 120 ) 7 ( 3 x 185 , 1 x 95 ) 8 ( 3 x 120 , 1 x 70 )
5 x 100 6 x 90 7 x 80 8 x 65
1600
2309 ( 2886 )
6 ( 3 x 400 , 1 x 240 ) 7 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 8 ( 3 x 240 , 1 x 120 )
6 x 125 7 x 100 8 x 90
2000
2887 ( 3609 )
7 ( 3 x 400 , 1 x 240 ) 8 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 9 ( 3 x 240 , 1 x 120 )
7 x 125 8 x 100 9 x 90
ผศ. ประสิทธิ พิทยพัฒน์
276
138
ตาราง G-16 (ต่อ) ขนาดสายไฟฟ้ า XLPE แกนเดียวเดินใน ท่ อสาย ฝังดิน กลุ่มที 5 ท่ อห่ าง 250 mm. ระบบการจ่ ายไฟฟ้ า 230/400 V ของ ก.ฟ.ภ. พิกัดหม้ อแปลง (kVA)
กระแสพิกัด In (1.25In) (A)
ขนาดสาย (mm²)
ขนาดท่ อร้ อยสาย (mm.)
1000
1443 ( 1804 )
5 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 6 ( 3 x 240 , 1 x 120 ) 7 ( 3 x 185 , 1 x 95 ) 8 ( 3 x 150 , 1 x 95 )
5 x 100 6 x 90 7 x 80 8 x 80
1250
1804 ( 2255 )
6 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 7 ( 3 x 240 , 1 x 120 ) 8 ( 3 x 185 , 1 x 95 )
6 x 100 7 x 90 8 x 80
1600
2309 ( 2886 )
7 ( 3 x 400 , 1 x 240 ) 8 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 9 ( 3 x 240 , 1 x 120 )
7 x 125 8 x 100 9 x 90
2000
2887 ( 3609 )
9 ( 3 x 400 , 1 x 240 ) 10 ( 3 x 300 , 1 x 150 ) 11 ( 3 x 240 , 1 x 120 )
9 x 125 10 x 100 11 x 90
277
ผศ. ประสิทธิ พิทยพัฒน์
สรุ ปขั3นตอนการออกแบบ คํานวณโหลดวงจรย่ อย
รวมโหลดวงจรย่ อย
รวมโหลดสายป้ อน
กําหนดขนาด OCPD(In)
ใช้ Demand Factor
ใช้ Demand Factor
ขนาดตัวนําวงจรย่ อย(Iz)
กําหนดขนาด OCPD(In)
ขนาดหม้ อแปลง กําหนด TR’s Protection
เลือกสายและวิธีการเดินสาย
ขนาดตัวนําสายป้ อน(Iz)
หากระแสของสายตามวิธีติดตั งสาย
It ≥ In / ( Ca x Cg )
MCB (In) ขนาดตัวนําประธาน(Iz)
หาขนาดตัวนํา ( Iz ≥ It )
139
THE END
(มาตรฐาน ว.ส.ท. 2001-45 บทที" 3)
279
140