C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
72
คำว่าบ้านไม่มีผิดไม่มีถูก
อยู่ที่สุขในหัวใจ Story : พงศ์ธร พริบไหว Photographer : กัณณ์ กาญจนประชาชัย
ใ
นยามเช้าปลายฤดูฝนเช่นนี้บรรยากาศที่ปายดูช่างเงียบสงบ หมอกจางๆ กำลังกระทบ กั บ แดดอุ่ น ๆ บรรดาไม้ ด อกบานรั บ น้ ำ ค้ า งอย่ า งพร้ อ มหน้ า โมงยามนั้ น ยิ่ ง ทำให้ บ้านหลังเล็กๆ สีส้มเบื้องหน้าดูงามจับใจ… สุภารัตน์ ธีรพัตร์หรือคุณกบ คือเจ้าของบ้านน้อยสีส้มหลังนี้ ซึ่งเธอตั้งเสาและแขวนป้าย ชื่ อ บ้ า นว่ า ‘ข้ า วหอม’ อั น มี ที่ ม าจากเศษข้ า วและฟางที่ น ำมาทำบ้ า นดิ น ของเธอ คุ ณ กบ ไม่ใช่คนพื้นเพเมืองปายหากแต่หลงเสน่ห์เมืองนี้ กระทั้งเลือกปลูกบ้านเด่นอยู่บนสันเขาเพื่อเป็น หลักพักพิง ซึ่งกว่าจะมาเป็นบ้านข้าวหอมอย่างเช่นทุกวันนี้ เรื่องราวบ้านบ้านของคุณกบ ทำให้ รู้ สึ ก ว่ า บ้ า นดิ น ในนิ ย ามของเธอกิ น ความหมายมากมายในการออกแบบพื้ น ที่ แ ห่ ง ความสุข “แรกเริ่ ม เดิ ม ที เ ราก็ ไ ม่ ไ ด้ ตั้ ง ใจมาสร้ า งบ้ า นอยู่ ที่ ป ายนะ แต่ ช่ ว งหนึ่ ง เรารู้ สึ ก เหมื อ น ทำงานแล้ ว เจอปั ญ หาเดิ ม ๆ เราก็ เริ่ ม เบื่ อ หน่ า ยกั บ ชี วิ ต เลยแบกกระเป๋ า มาเที่ ย วปาย ประมาณ 20 ปี ที่ แ ล้ ว นะ ก็ ม าอยู่ เ รื่ อ ยจนรู้ จั ก ผู้ ค นที่ นี่ แ ละคนปายพื้ น ฐานเป็ น คนใจดี พ อเราอยากอยู่ ป าย เขาก็ แ บ่ ง ที่ ใ ห้ โ ดยไม่ ต้ อ งเสี ย ค่ า เช่ า ก็ เ ลื อ กปลู ก บ้ า นหลั ง แรกอยู่ ที่ ป ายเป็ น บ้ า นดิ น แต่ ห ลั ง เล็ ก ๆ พอน้ ำ ท่ ว มปี 2548 ก็ ห มดเลยแต่ พี่ ก็ ไ ม่ คิ ด จากปายไปไหนนะ ก็ ห าเงิ น มาทำบ้ า นอี ก หนเวลานั้ น พี่ คิ ด ว่ า ปายกำลั ง ทดสอบเรา”
A B
จากวันนั้นบ้านหลังใหม่ของเธอก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง คุณกบเลือกปลูกบ้านดินเช่นเดิม ด้วยเงินลงทุนทั้งหมด 160,000 บาท เพราะเชื่อว่าบ้านดินแข็งแรงทนทานและไม่ต้องลงทุน เยอะ อาศัยเพียงแรงตัวเองก็สามารถเนรมิตรบ้านให้เป็นดังใจ ในส่วนของการวางโครงสร้าง เธอเลื อ กประหยั ด งบประมาณด้ ว ยการนำวั ส ดุ เ ศษที่ เ หลื อ จากการทำเกสเฮ้ า ส์ แ ละช็ อ ป เข้ามาใช้ และด้วยเป็นคนเชื่อในเรื่องของฮวงจุ๊ยจึงเลือกวางโครงสร้างของบ้านในลักษณะ ‘แปดเหลี่ ย มเก้ า เสา’ ซึ่ ง คุ ณ กบอธิ บ ายให้ ฟั ง ว่ า บ้ า นที่ มี ลั ก ษณะแปดเหลี่ ย มคนจี น จะไม่ อยู่อาศัย เพราะถือว่าเป็นลักษณะบ้านของเซียน เธอจึงนำความเชื่อของคนไทยเข้าไปผสม ผสาน ด้วยการวางเสาภายในตัวบ้านเพิ่มเข้าไป 9 ต้น เพื่อความเป็นศิริมงคล หลักในการทำบ้านดินของคุณกบจะไม่ได้ใช้ดินเพียงอย่างเดียว เพราะเธอต้องการจะเน้น เรื่องงานโครงสร้างรากฐานให้แข็งแรงจึงใช้หลักการทำบ้านแบบปกติในส่วนฐาน แต่ผนัง A.ก่อนเข้าตัวบ้านข้าวหอมจะมีสวนหย่อมเล็กๆ ที่เจ้าของบ้านตั้งใจวางปูนก่อให้เป็นทางเดินเข้าไปสู่ตัวบ้าน ซึ่งรอบๆ บริเวณจะปลูกไม้น้ำไว้สูงเคียงตัวบ้าน ทำให้บ้านดินยิ่งดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติเข้าไปอีก ไม้ดอกรอบๆ บริเวณยังเพิ่มความสดชื่นและความร่มรื่นให้กับผู้อาศัย และเพิ่มฟังก์ชั่นให้กลายเป็นมุมนั่งพัก เอนกายเพิ่มเข้าไปอีกด้วยเก้าอี้ไม้ตัวยาวสีเขียวมะนาวดูลงตัวอย่างที่สุดกับสีของตัวบ้าน B.ความน่ารักอย่างหนึ่งของบ้านดินคือการปรับใช้ดิน ให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ลงตัว ซึ่งเจ้าของบ้านก่อดินให้ เป็นฐานแล้วนำวัสดุไม้มาวางพาดเข้ากับตัวเสากลายเป็นโต๊ะที่แปลกตา เสริมบรรยากาศให้ดูดีขึ้นอีก ทั้งยังทำ ให้เสาบ้านไม่โลนและไร้ประโยชน์ กลายเป็นมุมนั่งสนทนาจิบชารับแขกที่ดูกลมกลืนไปกับตัวบ้านได้อย่าง เหลือเชื่อ สวนบนโต๊ะเพียงวางแจกันเล็กๆ พอให้ดูสบายตาแค่นี้ก็ทำให้กลายเป็นอีกมุมโปรดของแขกผู้มา เยือน
73
D
C F
74
E
C.ด้านหนึ่งของโต๊ะทำงานเล็กๆ สามารถมองเห็นระเบียงบ้านผ่านบานประตู ม่านสีอ่อนคอยทำ หน้าที่เบรกแสงไม่ให้เข้ามามากเกินไป อีกทั้งหากวันไหนลมแรงม่านก็เป็นตัวเบรกกระแสลมให้ พัดเข้ามาเอื่อยๆ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ทำจากวัสดุไม้เก่าดูเข้ากันกับสไตล์บ้านดิน ทั้งยังเพิ่มสีสันเติม ความสวยตามสไตลชนบทด้วยการนำผ้าลายพื้นเมืองมาคลุม D.เจ้าของบ้านตั้งใจใช้ไม้ไฝ่เข้ามาแทนที่ไม้เนื้อแข็งด้วยเพราะต้องการลดต้นทุน แต่กลับถือว่า เป็นการใช้วัสดุได้อย่างคุ้มค่าเพราะด้วยตัวเนื้อไม้ไผ่เมื่อเก่าจะเกิดเป็นไม้ที่มีแท๊คเจอซึ่งกลืนไป กับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ เพิ่มความเก๋ด้วยการเพนซ์ลายดอกไม้สีสันสดใสเข้าไปก็ชวนให้ รื่นรมย์ ซึ่งถ้าเข้าไปในตัวห้องเราจะสามารถเห็นวิวโดยรอบเพราะตั้งใจออกแบบโดยการกรุบาน กระจกรอบตัวห้องเพื่อให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้แบบเอ็กซ์คลูชีพ E.สุภารัตน์ ธีรพัตร์ กับมุมโปรดของเธอและน้องแมวอ้วนสุดรัก
คงเลือกใช้ดนิ ทีย่ ำ่ เองทัง้ หมด เมือ่ นำทัง้ ปูน ไม้ ดิน มาผสานกันบ้านของเธอจึงออกมาแข็งแรงอย่าง ที่ตั้งใจ เจ้าของบ้านยืนยันอย่างมั่นใจว่าสามารถอยู่ได้ไปจนรุ่นลูกหลาน ปัจจุบันผ่านมาแล้ว 8 ปี บ้านของเธอยังไม่เคยถูกซ่อมแซมคุนกบเลือกยกตัวบ้านให้สูงขึ้น มาจากพื้น 80 ซม. เพื่อให้อากาศระบายและเพิ่มความเย็นให้ตัวบ้านและความพิเศษของ บ้านหลังนี้อีกอย่างคือไม่มีการปรับพื้นที่ โดยอาศัยปรับโครงสร้างเข้าหาธรรมชาติ ถ้าเกิด มีต้นไม้ขว้างจริงๆ ถึงค่อยตัดเพราะเธอคิดว่ามนุษย์ไม่ควรทำลายธรรมชาติเพียงเพื่อต้อง การจะอยู่กับธรรมชาติ ในส่วนของการวางโครงประตูและหน้าต่างคุณกบพูดติดตลกว่า เธอไม่รู้เลยว่าหลักการสร้างบ้าน หน้ า ต่ า งกั บ ประตู จ ะต้ อ งอยู่ ต รงไหน แต่ เ ธอเลื อ กวางจากภาพความเป็ น จริ ง ในชี วิ ต ประจำวัน ถ้าหากชอบมองออกไปมุมไหนก็จะวางช่องหน้าต่างไว้ตรงจุดนั้น และเมื่อเปิด กระจกออกทั้ ง หมดจะเห็ น ว่ า บรรยากาศภายในบ้ า นของคุ ณ กบ เชื่ อ มต่ อ กั บ บรรยากาศ สวยๆ ของธรรมชาติ ภ ายนอกได้ อ ย่ า งใกล้ ชิ ด และลงตั ว อี ก ทั้ ง ยั ง เลื อ กทำเพดานบ้ า นสู ง โปร่งหลอกสายตาทำให้บ้านหลังเล็กๆ ดูกว้างเหมือนห้องโถงทำให้ดูไม่อึดอัด ในส่วนของ คอนเช็ปบ้านพี่กบอธิบายให้ฟังด้วยร้อยยิ้มว่า
F.ในแปลนบ้านพืน้ ทีร่ อบมีความกว้างเสาต่อเสาด้านละ 3 เมตรซึง่ ถูกทำให้เป็นรูปแปดเหลีย่ มดูเก๋ๆ ไม่เฉยและให้ อารมย์เหมือนห้องสี่เหลี่ยมที่แสนจะน่าเบื่อ ภายในตัว บ้านดูเป็นโถงใหญ่เพราะเลือกยึดคานบ้านด้วยเสากลาง บ้านที่สูงเกือบ 4 เมตรถึงแม้จะดูขวางหูขวางตาแต่เมื่อ ปรับให้กลายเป็นเสาเตียงนอน กลับทำให้ดูสวยงามขึ้น ได้และภายในตัวบ้านยังทำให้เห็นถึงการผสมผสาน ของวัสดุอย่างเช่นปูน ดิน และไม้ ทีเ่ มือ่ มาอยูร่ วมกัน กลายเป็นความกลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเปิด หน้าต่างและประตูทุกบานลมหนาวของปายจะทำให้ เตียงนุ่นๆ น่านอนมากกว่าเดิมซึ่งไม่จำเป็นต้องง้อแอร์ หรือเครื่องทำความเย็นเลย เรียกได้ว่าแค่ลมธรรมชาติ ก็หนาวจับใจมากเกินพอ G.เจ้าของบ้านเลือกใช้เสื่อสารเข้ามาวางในโถงทางเดิน เพื่อทำให้ดูเข้ากันกับฝาเพดานที่กรุด้วยวัสดุชนิด เดียวกัน ช่วยให้ห้องดูน่าสนใจมากขึ้น ทัง้ ยังเลือกการ จัดแสงด้วยการใช้ไฟเฉพาะจุดเปลือยสายห้อยลงเป็น ดวงเล็กๆเสริมบรรยากาศให้ดูแสนจะอบอุ่น เลือกห้อย เครื่องรางดักฝันหรือที่เรียกกันว่า Dreamcatcher ตาม ความเชือ่ ของชาวอินเดียแดงเผาชิปเปว่าทีม่ ไี ว้เพือ่ ปกป้อง ให้พ้นจากฝันร้าย และอีกเช่นเดิมเจ้าของบ้านละเอียดกับ การทำพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ใช้สอยอย่างมากที่สุด เธอ เลือกใช้กลุ่มเสากลางบ้านทำเป็นชั้นหนังสือ อีกทัง้ ตัง้ ใจ วางเดเบสให้ใกล้ชน้ั หนังสือเพื่อความสะดวกในการหยิบ มาอ่าน ทั้งยังเป็นจุดที่ลมโกรกทำให้สามารถนอนอ่าน หนังสือเงียบๆ ได้อย่างมีความสุข
G
75
“สำหรับพี่บ้านต้องตามใจคนอยู่นะ ไม่ได้ตามใจสถาปนิก พวกสถาปนิกมาแล้วก็ไป พีจ่ ะคิดเสมอว่าเราทำบ้านไม่ได้ทำมาให้คนอืน่ ดูแค่สามนาที แล้วก็ตบิ า้ นกูฉบิ หายเลย แต่พี่คิดว่าบ้านนี้พี่อยู่อะไรจะขัดใจคนอื่นก็ได้ แต่พี่ไม่ขัดใจตัวเองเป็นพอ แล้วอย่าง บ้านหลังนี้เราก็คิดอยากให้มันเหมือนคอนโด เพราะจริงๆ วันๆ เราใช้พื้นที่ไม่เยอะ หลอก เลยรวมทุกอย่างอยู่ในห้องเดียวง่ายดี เพราะชีวิตจริงเราก็อยู่เท่านี้พอแก่เรา ก็ ไ ม่ ขึ้ น หลอกบั น ได คื อ ถึ ง เห็ น ง่ า ยๆ แต่ บ้ า ของพี่ ก็ คิ ด เยอะนะในเรื่ อ งของ การใช้สอยพื้นที่คืออย่างเราทำมุมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วมันก็จะกายเป็นมุมอับ สังเกตดีๆ บ้านหลังนี้จะใช้พื้นที่แต่ละมุมให้มีประโยชน์ที่สุด” หลั ง ประโยคนั้ น ก็ ยิ่ ง แน่ ใ จในคำพู ด ของเจ้ า ของบ้ า น ถึ ง การใช้ พื้ น ที่ ใ ห้ เ กิ ด ประโยชน์ เพราะมองไปมุ ม ไหนๆ ก็ มี แ ต่ แ มวแสนรั ก ของคุ ณ กบจั บ จองเป็ น เจ้าของไปเสียทุกมุม
H I
H.หากมองดูเผินๆ จะดูเหมือนบาร์ยาวที่ก่อด้วยดินกว้างสามเมตรสูง 80 ชม. ใช้สำหรับผสม เครื่องดื่มหรือที่ปรุงเมนูอาหาร แต่ถ้าหากเลื่อนผ้าม่านสีเหลืองมาสตาสออกไป จะพบสิ่งที่เจ้า ของบ้านช้อนไว้ไม่ให้รกสายตานั้นคือตู้เก็บเสื้อผ้า เป็นการแต่งบ้านที่หลอกสายตาได้อย่าง แนบเนียน ยิ่งทำให้ในบ้านดูน่าค้นหาเข้าไปอีก I.ระเบียงของบ้านข้าวหอมสามารถมองเห็นภูเขาเขียวไกลลิบ ยามเช้าจะเห็นเป็นเวิ้งหมอก ถ้าหากขยับเก้าอี้ออกมานั่งๆ มองๆ พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ก็ดูจะเป็น ความสุขที่ได้มาง่ายๆ นอกจากนั้นระเบียงของตัวบ้านยังเชื่อมไปถึงห้องนอนซึ่งมีไว้สำหรับรับ แขก ทั้งยังทำให้เห็นอีกว่าการออกแบบและสร้างบ้านดินหลังนี้ คำนึงถึงการรักษาสภาพโดยรอบ เพื่อเอื้ออาศัยระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ได้อย่างลงตัว J.ตั้งใจใช้บานพับแบบคลาสสิกเป็นหน้าต่างของห้องน้ำ ดึงดูดสายตาด้วยสีสดอย่างสีน้ำเงินและ สีเหลือง เพิ่มมิติของหน้าต่างขึ้นไปอีกโดยการทาสีผนังด้วยสีเขียวโทนอ่อน เมื่อมองเข้าไปก็คง ไม่มีใครคิดหลอกว่าจะเป็นห้องปลดทุกข์
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
J
76
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
AD PD M12.pdf
1
12/13/13
9:29 PM
R
Coffee Tea Sapan Story : ปกร Photographer : กัณณ์ กาจนประชาชัย, พายุทราย พรายทะเล
กเดินทางที่นิยมชมชอบเมืองในหุบเขาเฉกเมืองปาย ไม่มีใครไม่ เคยเห็นร้านกาแฟร้านนี้ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะร้านอยู่ตีนสะพาน ข้ามแม่น้ำปาย (ก่อนเข้าเมือง) ตรงนี้มีทั้งสะพานสำหรับรถยนต์และ สะพานทางรถไฟประวั ติ ศ าสตร์ ส ร้ า งขึ้ น ในยุ ค สงครามโลกครั้ ง ที่ 2 จุ ด นี้ จึ ง เป็ น จุ ด แวะพั ก เยี่ ย มชม บั น ทึ ก ภาพ ไม่ น่ า แปลกใจหากนัก ท่ อ งเที่ ย วทุ ก คนรู้ จั ก ร้ า นนี้ เ ป็ น อย่ า งดี ต้ อ งบอกว่ า Coffee Tea Sapan แลนด์ ส เคปดี ม าก ดี ทั้ ง ในเชิ ง พาณิ ช ย์ (อยู่ ต รงจุ ด แวะพั ก ) ดีทั้งในเชิงความงาม (อยู่ติดแม่น้ำ ภูเขาล้อมรอบ) แม้อยู่ห่างตัวเมือง แต่แลนด์สเคปช่วยให้ที่นี่ไม่มีเหงา โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นคนเพียบครับ ก่อนเข้าเรื่องงานดีไซน์ในร้าน ลองหันมาดูชื่อร้านกันก่อนครับ Coffee Tea Sapan ความหมายคือกาแฟ ชา สะพาน แต่เขียนเป็นภาษาไทย ได้ว่า “คอฟฟี่ที่สะพาน” เป็นเหลี่ยมคมทางภาษาที่เจ้าของนำมาใช้ได้ อย่างสวยงาม และบ่งบอกที่ตั้งของร้านได้ดีทีเดียว
148
A
B
C
A.-B.ทัศนียภาพภายในร้านมองเห็นชั้นสอง ของบ้าน (ทำเป็นครึ่งเดียวแบบชั้นลอย) กลางโถงชั้นล่างจัดวางโซฟาหนังสีดำบนพื้น กระเบื้อง ในตู้กระจกแสดงงานเซรามิก ด้านหนึ่งเป็นโซนอินเตอร์เน็ต ฝาผนังประดับ ด้วยภาพสีน้ำและสีน้ำมัน สร้างสีสันและ ความสวยงามให้มุมนี้ได้เป็นอย่างดี ประตูเล็กๆ ตรงผนังพาออกไปสู่ระเบียง ด้านหลัง C.มุมหนึ่งบนระเบียงด้านนอก จัดวางเบาะ บุนวมบนเก้าอี้ไม้โบราณ (มีพนักวางแขน) ต่อเนื่องด้วยโซฟาลายทาง ช่วยให้มุมนี้ ไม่ราบเรียบจนเกินไป 149
Coffee Tea Sapanเป็ น ร้ า นกาแฟ ขนาดใหญ่ ลั ก ษณะสถาปั ต ยกรรมเป็ น บ้านไม้สองชั้น หลังคามุงกระเบื้องว่าว ตัว บ้านสร้างบนที่ลุ่มระนาบเดียวกับแม่น้ำ คื อ ต่ ำ กว่ า ถนน การเดิ น เข้ า ไปในร้ า น ต้องใช้สะพานไม้เป็นตัวเชื่อม
E
พืน้ ทีใ่ ช้สอยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือระเบียง ด้านนอก ภายในร้าน และระเบียงด้านหลัง ใครใคร่นงั่ ๆ ใครใคร่เอนๆ ใครใคร่เดินดูของ เก่ า เก็ บ เชิ ญ ตามสะดวกบรรยากาศโดย รวมเยี่ยมยอดครับ ส่วนผูเ้ ขียนชอบระเบียงเล็กๆ ด้านหลัง ขณะเอนกายอยูต่ รงนัน้ เหมือนอยูท่ บี่ า้ น ตัวเอง มีต้นไม้เขียวขจี มีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าจุดอื่น สำหรับรสชาติกาแฟผมไม่บอกนะว่ามันดีมันเลิศ อยากให้ไปลองกันเอง ของ อย่างนี้ไม่ลองไม่รู้ไม่ดูไม่เห็น แต่เรื่องดีไซน์บอกกันตรงๆ ว่าออกแบบได้ดี ดีใน ที่นี้คือมีการปล่อยพื้นที่ว่าง ไม่อึดอัด เฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายแต่ดูดี ของประดับ ตกแต่งไม่มากไม่น้อยไม่รกรุงรังกำลังงาม ทั้งหมดทั้งมวล..ลงตัวครับ C
M
F
Y
CM
D
MY
CY
CMY
K
D.มุมโปรดของใครหลายคน (รวมผู้เขียน) เป็นมุมอาร์ตสุดๆ จะเห็นว่า ผ้าลายเพียงผืนเดียวสามารถทำให้มมุ นีน้ า่ สนใจมากขึน้ แม้วา่ มันน่าสนใจ ด้วยภาพสีน้ำมันขนาดใหญ่อยู่แล้วก็ตาม เป็นมุมดิบแต่โดน บรรยากาศ กับองค์ประกอบโดนความรู้สึกเต็มๆ E.จักรยานกับบุรุษไปรษณีย์ ของคู่อยู่ด้วยกันมานาน เป็นคู่ของร้านที่คน จดจำได้มากที่สุด เป็นอีกหนึ่งงานจัดวางที่ตอบสนองงานศิลปะ เชิงพาณิชย์ได้ดี F.ระเบียงหลังบ้านแคบเล็กกว่าส่วนอื่นแต่มีความน่าสนใจตรงสภาพ แวดล้อม อยู่ตรงนี้เหมือนถูกโอบกอดด้วยพันธุ์ไม้โดยรวมโปร่งสบาย มุมนี้ผู้ออกแบบเลือกโต๊ะเหล็กทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดแม้พื้นที่แคบเล็ก G.ทัศนียภาพโดยรวม มองจากด้านหน้า จะเห็นว่ามีสะพานทางเดิน เข้าสู่ตัวบ้าน มีระเบียงด้านหน้ากว้าง ถึงกับเอารถเก่ามาจอดโชว์ได้ และมีต้นไม้ปกคลุมให้ความร่มรื่น นับเป็นบ้านกาแฟที่เหมาะแก่การ พักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
150
G
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
56
57
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
F
F.เติมลูกเล่นในการจัดเก็บหรือแม้แต่ตั้งโชว์ของในบ้านด้วยตู้ไม้โบราณเก๋ๆ ขนาดต่างๆ ข้อดีคือสามารถวางอะไรก็ได้และไม่ทำให้ดูน่าเบื่อ เพราะสามารถสลับของ กระจุกกระจิกไปตามชั้นต่างๆ คุณจิว-อภิชาต สุรศักดีศิลป อีกหนึ่งเจ้าของบ้านผู้มีหน้าที่เป็นสถาปนิก อธิบายเสริมว่า พื้นที่ทั้งหมดของบ้านมีอยู่ทั้งหมด 40 ตารางวา ซึ่ง สามารถแบ่งกันได้คนละ 10 ตารางวา ฉะนั้นการออกแบบโครงสร้าง จึ ง คล้ า ยกั บ อาคารพานิ ช ที่ มี ห น้ า กว้ า งของแต่ ล ะหลั ง เท่ า กั น หมด ที่ 4 เมตร แต่ความลึกของตัวบ้านก็ไล่ระดับกันไปตามพื้นที่ตั้งแต่ 8-12 เมตร ด้ ว ยเพราะพื้ น ที่ เ ป็ น สี่ เ หลี่ ย มคางหมู แม้ ดู ภ ายนอกตั ว บ้ า น เหมือนจะเชื่อมเข้าหากันได้หมด ทว่าทั้งหมดกลับถูกแบ่งเป็นสัดส่วน ของตั ว เองอย่ า งชั ด เจน อี ก ทั้ ง แต่ ล ะคนก็ ส ร้ า งบุ ค ลิ ก ให้ ตั ว บ้ า น ของตัวเองตามความชอบ แล้วจึงค่อยมาช่วยกันปรับแต่งให้กลายเป็น ภาพรวมที่ผสานไปด้วยกัน ซึ่งเหมือนกับการนำเอาไลฟ์สไตล์ของแต่ละ คนมาแชร์และรวมเป็นหนึ่งเดียว เนื่อ งจากบ้ า นหลั ง แรกซึ่ง ออกแบบตั ว อาคารโดยเน้ น วั ส ดุ เ หล็ ก แผ่ น และไม้มารวมกัน ยังอยู่ระหว่างการตกแต่งภายในจึงขอพูดถึงแค่สาม หลังโดยเริม่ จากบ้านสีฟา้ สดของ จิกโก๋-นันทวุติ นามนวล หนุม่ ใต้เจ้าของ
60
บาร์คอ็ กเทลชือ่ ดังแห่งหนึง่ ในปาย ด้วยเพราะเป็นคนทีม่ กั มีเพือ่ นฝูงพีน่ อ้ ง แวะเวียนเข้ามาหาอยู่เรื่อย เขาจึงอยากทำให้บ้านเป็นเหมือนฮาเร็ม หลังน้อยคอยต้อนรับ ซึ่งจิกโก๋เล่าถึงบ้านของตัวเองด้วยรอยยิ้มว่า “คือจริงๆ เลยเราอยากให้บ้านของเป็นฮาเร็มส่วนตัว (หัวเราะ) ตอนแรก อยากทำชัน้ ล่างให้เป็นบาร์เล็กๆ แต่เรารูส้ กึ ว่ามันคงเหนือ่ ยไปเพราะไหน จะร้ า นที่ มี อ ยู่ อี ก ก็ เ ลยเอาแค่ ท ำเป็ น ที่ ต อนรั บ เพื่ อ นๆ คื อ ตั้ ง ใจ ทำให้เหมือนเป็นร้านขายเครื่องดื่มแต่เราปรับให้เป็นบ้าน ไว้เป็นที่พบ ปะกันคือคนทีเ่ ดินเข้ามาบ้านเราอยากให้เขาเห็นบาร์เลยแล้วการออกแบบ เราคิ ด จากความชอบ เลื อ กใช้ สี ที่ คิ ด ว่ า จะสามารถอยู่ โ ดยไม่ เ บื่ อ แล้ ว ที่ นี่ พิ เ ศษหน่ อ ยคื อ มี ห้ อ งใต้ ดิ น เนื่ อ งจากเนื้ อ ที่ มั น น้ อ ยแต่ เรา อยากใช้พนื้ ทีเ่ ยอะก็แก้ปญ ั หาพืน้ ทีด่ ว้ ยการทำห้องใต้ดนิ แล้วกลับน่าสนใจ ตรงที่ข้างในนี้อากาศถ่ายเทเย็นสบายกว่าข้างบน อีกอย่างยังสามารถจัด ปาร์ ตี้ ข้ า งล่ า งได้ ด้ ว ย”ห้องใต้ดินที่พูดถึงทำให้เห็นถึงวิธีการคิดอย่าง ละเอียดตั้งแต่ครั้งเริ่มต้นการออกแบบ
G
H
I
G.หากไม่อยากให้บ้านปูนดูน่าเบื่อ ลองนำวิธีที่พี่ฮูกใช้กับผนังบ้านตัวเองไป ปรับใช้ดู น่าจะสร้างความแปลกใหม่ได้เป็นอย่างดี H.ห้องชั้นล่างถูกออกแบบให้เป็นออฟฟิตที่เปิดโล่งทำให้มีพื้นที่กว้างขวาง ต่างไปจากบ้านหลังอื่น ให้บรรยากาศที่ดูเชื่อมต่อกันไว้อย่างกลมกลืน I.ในส่วนของห้องนอนยังคงเลือกวัสดุไม้เข้ามาใช้ ทั้งงานใหม่งานเก่าซึ่งสามารถอยู่ ด้วยกันแล้วดูไม่ขัดเขิน เพิ่มลูกเล่นในการใช้ฟังชั่นของตัวโครงสร้างให้มีประโยชน์ ด้วยการเจาะเป็นที่วางของ เจาะเป็นที่รับลมก็ดูเข้ากันได้เป็นอย่างดีอีกทั้งทำ ชั้นลอยเพิ่มเป็นมุมอ่านหนังสือก็ดูเก๋ไม่น้อย ยิ่งมองยิ่งลงตัวรู้สึกถึงความสบาย
มาต่ อ กั น กั บ บ้ า นของพี่ ฮู ก ซึ่ ง ดู ชั ด เจนที่ สุ ด ในส่ ว นของคาแรคเตอร์ ทีม่ ตี วั อักษร ฮ. เป็นตัวเชือ่ มโยงอารมณ์ของบ้าน ซึง่ พีฮ่ กู บอกว่าเขาเองคิด เสมือนว่าตัวเองเป็นนกและบ้านที่อยู่ก็เป็นเหมือนรังนก บ้านหลังนี้ จึ ง เด่ น ด้ ว ยการเจาะช่ อ งประตู แ ละหน้ า ต่ า งเป็ น ลั ก ษณะของโผง ให้ น กบิ น เข้ า ออกได้ ในส่ ว นของวั ส ดุ พ่ีฮูก ก็ น ำความชอบเข้ า มาใช้ แต่ ง ภายใน โดยการนำเอาลั ก ษณะของโรงบ่ ม ยาของทางเหนื อ เข้ามาปรับใช้ โดยการนำก้อนอิฐใหญ่มาปรับขนาดแต่ละก้อนและก่อ เรียงเป็นผนัง เลือกใช้สีธรรมชาติให้เข้ากับไม้และอิฐ “เราไม่อยากให้มันมีความเป็นคันทรีจ๋าเราก็ใส่ความป๊อบลงไปหน่อยๆ ด้วยการเลือกใช้สีตามลักษณะตามคาแรคเตอรของเราแล้วส่วนพื้นที่ ชั้ น ล่ า งก็ อ อกแบบให้ เ ป็ น ช็ อ ปรั บ ทำงานแฮนด์ เ มดทั้ ง ของเราเอง และของคนอื่นและอย่างเราไม่ได้ทำครัวเยอะเราก็เอาแค่เล็กๆ พอข้าง บนก็เป็นห้องนอนใหญ่ คือหลักๆ เราจะคิดง่ายๆ ว่าข้างล่างเอาไว้ทำงาน ข้างบนนอน หากชอบอะไรก็ไปเน้นตรงนั้นคือพี่จะทำบ้านตามที่เรา ชอบเพราะเราจะอยู่กับมันได้นาน” 61
C
M
Y
J K
J.ทาสีห้องครัวเล็กๆ ด้วยเฉดสีที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลทำให้ครัวดูมีชีวิตชีวา อีกทั้ง ยังเพิ่มเสน่ห์ของห้องด้วยการจัดแสงที่พนังให้เข้ากับเพดานท่อนไม้ แค่นี้ก็ทำให้ ครัวเล็กๆ ดูมีรสนิยมขึ้นมาก K.เป็นอีกหนึ่งมุมที่เหมาะสำหรับการทำงานอย่างมาก ด้วยเพราะออกแบบให้เป็น จุดที่แสงรอดผ่านอย่างพอดี อีกทั้งเมื่อนำโต๊ะไปวางกับผนังหินก่อให้ความรู้สึก เป็นส่วนตัว หากมีแจกันหรือรูปวาดมาเสริมหน่อยมุมนี้จะสวยขึ้นมากกว่าเดิม ดูไม่แข็งเกินไป ในส่วนบ้านหลังสุดท้ายของคุณจิวแกเองพูดถึงมันว่า “คือผมต้องการ ให้ อ อกมาแนวโมเดิ ร์ น และแบ่ ง เป็ น สองชั้ น ซึ่ ง มี ท างเข้ า แยกกั น เลย จะเห็นว่าหน้าประตูบ้านจะมีบันไดวนขึ้นไปถึงชั้นบนได้โดยไม่ต้องเข้า ไปในตัวบ้าน เพราะว่าถ้าเราเอาบันไดไปใส่ข้างในมันจะทำให้แคบนี้ คือวิถีการแก้ปัญหาไปด้วย โดยตอนสร้างก็คิดถึงฟังชั่นหลักๆ ของมัน ก็คือเป็นที่พัก ที่ทำงานที่นอน ในส่วนของการออกแบบก็เลือกผสมวัสดุ ให้ดูซอฟๆ คืออาจไม่ถึงกับโมเดิร์นมากมาย เพราะอยากให้เรียบง่าย ที่สุดด้วยต้องการเปิดเป็นสำนักงานให้เช่า จึงไม่ใส่ความต้องการลงไป มากปล่อยให้เป็นฟรีสเปซ แล้วความพิเศษของบ้านหลังนี้อยู่ที่การทำ หอคอยเชื่อมเข้าไปถึงห้องอาบน้ำที่เป็นแบบโอเพ่น” ถึงแม้แต่ละห้องจะออกแบบต่างกัน แต่ก็มีความต่อเนื่องที่เชื่อมถึงกัน หมด อี ก ทั้ ง ยั ง ช้ อ นความน่ า สนใจไว้ ม ากมายทำให้ ภ าพรวมออกมา เป็ น บ้ า นที่ มี ค วามเก๋ ไ ม่ เ หมื อ นใคร หากมี โ อกาสไปปายลองผ่ า นไป ละแวก ‘ชุมชนโพธิ์ร่มรื่น’ ดูนะครับ มีเจ้าของบ้านน่ารักๆ คอยคุณ อยู่
62
CM
MY
CY
CMY
K