Long Acting Antibody หรือ LAAB คือ แอนติบอดี ออกฤทธิ์ยาว ที่ประกอบด้วยแอนติบอดี 2 ชนิด ได้แก่ Tixagevimab และ Cilgavimab ซึ่งพัฒนามาจากบีเซลล์ ของผู้ที่เคยเป็นโควิด 19 และ ได้พัฒนาเพิ่มเติมเพื่อขยาย ระยะเวลาครึ่งชีวิตให้ยาวนานกว่าแอนติบอดีทั่วไปอย่างน้อย 3 เท่า โดยมีหลักฐานยืนยันว่าสามารถออกฤทธิ์ลบล้าง เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ทั้งต่อสายพันธุ์ดั้งเดิม และ สายพันธุ์กลายพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีการระบาดในปัจจุบัน จากข้อมูลการศึกษาระยะที่สามในต่างประเทศพบว่า แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว มีประสิทธิภาพสูง ในการป้องกัน การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบบมีอาการในผู้ที่มีความ เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง หรือผู้ที่อาจมีการตอบสนองต่อวัคซีน ได้ไม่เพียงพอเนื่องจากภาวะหรือโรคร่วมต่าง ๆ เช่น ภาวะ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือการได้รับยากดภูมิคุ้มกัน โดย สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบบมีอาการ ได้ร้อยละ 77 หลังจากได้หนึ่งโดสไปแล้ว 3 เดือน และร้อย ละ 83 หลังจากได้ไปแล้ว 6 เดือน 1. อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 4 กิโลกรัม 2. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ได้แก่ - ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะหรือได้รับการปลูกถ่าย ไขกระดูกที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน - ผู้ป่วยโรคมะเร็งทางโลหิตวิทยาหรือมะเร็งอวัยวะ - ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ - ผู้ป่วยโรคไตระยะสุดท้าย - ผู้ที่กําลังได้รับยากดภูมิคุ้มกัน หรือ ผู้ที่แพทย์พิจารณา แล้วว่ามีภูมิคุ้มกันบกพร่อง 3. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด 19 4. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็ม สุดท้ายเกิน 6 เดือน 5. ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือฉีด วัคซีนโควิด 19 เข็มสุดท้ายเกิน 6 เดือน ไม่เป็นสตรีตั้งครรภ์และสตรีให้นมบุตร แนะนำให้ LAAB จำนวน 1 ครั้ง ครั้งละ 2 เข็ม (Tixagevimab 150 มก. และ Cilgavimab 150 มก.) ใช้ เข็มขนาด 23-25G ยาว 1-1.5 นิ้ว ให้แยกฉีดชนิดละข้าง เข้ากล้ามเนื้อบริเวณสะโพก (Gluteal muscle) ข้างละ1.5 มล. และเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง 1. ปฏิกิริยาภูมิไวเกิน รวมถึงอาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) แต่พบไม่บ่อย 2. อาการผิดปกติบริเวณที่ฉีดยา บวม แดง ปวด 3. มีผื่น หรือ ลมพิษหลังฉีดยาซึ่งมาจากการที่มีภูมิไวเกิน 4. ไม่ควรใช้ในสตรีตั้งครรภ์ หรือ สตรีให้นมบุตร อาการที่ท่านต้องพบแพทย์โดยทันที ได้แก่ 1) เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 2) เหนื่อย แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก 3) มีอาการคัน/ ผื่นขึ้น 4) มีอาการชา/ แขน-ขาอ่อนแรง
(Long-acting Antibody: LAAB) 1. กลุ่มเป้าหมาย ฉีดในผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปและมี น้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กก. คือ 600 มก.ของ Tixagevimab 300 มก. และ Cilgavimab 300 มก. โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ สะโพกทั้งสองข้างแยกกัน และควรให้ยาอย่างเร็วที่สุด หลังจากที่ผลการตรวจไวรัส SARS-CoV-2 เป็นผลบวก และ ควรให้ยาภายใน 7 วัน หลังจากเริ่มมีอาการ 2. กลุ่มทั่วไป แนะนำให้ LAAB จำนวน 1 ครั้ง เข้ากล้ามเนื้อบริเวณ สะโพก ชนิดละข้าง ช้างละ 3 มล. และให้เฝ้าระวังอาการ ไม่พึงประสงค์หลังการฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง สื่อความรู้ สู่ประชาชน เนื้อหาโดย : งานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ การตรวจรักษา : โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โทร. 043-202130-4 สื่อความรู้สุขภาพ : งานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โทร 043-363077-9 www srinagarind md kku ac th • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ • ต้องไม่มีไข้ หรืออาการเจ็บป่วย • แจ้งข้อมูลสำคัญที่แพทย์ควรทราบก่อนฉีด เช่น โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยาหรือวัคซีน และข้อมูลอื่นๆ ที่แพทย์ควรทราบ (Long-acting Antibody: LAAB) HPMD DL 66-001 การให้แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว การให้แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว