คุณเนาวรัตน์ บุญมี สาขา เกษตรกร จ.จันทบุรี
คุณพีรดา ปฎิทศั น์ สาขา สิง่ แวดล้อม จ.สุพรรณบุรี
คุณณัฐนันท์ หูไธสง คุณธันยพร กริชติทายาวุธ สาขา นักการเมืองท้องถิน่ สาขา นักบริหาร จ.บุรรี มั ย์ กรุงเทพมหานคร
ศาสตราจารย์มาลี พฤกษ์พงศาวลี ผูห้ ญิงแห่งปี 2563
คุณนุชจารี คล้ายสุวรรณ สาขา นักพัฒนา จ.พิษณุโลก
คุณปุณยภา วิศวกรวิศษิ ฏ์ สาขา เยาวสตรี กรุงเทพมหานคร
บริษทั เซ็นทรัล วัตสัน จากัด องค์กรดีเด่นแห่งปี 2563
คุณวีนา จันทร์แก้ว สาขา ผูร้ เิ ริม่ ธุรกิจ จ.เชียงใหม่
คุณสุภทั รา บุณยพรหม สาขา สือ่ มวลชน กรุงเทพมหานคร
คุณอุสาห์ ไทรชมภู สาขา สมาชิก อบต. จ. ชุมพร
คุณณัฐวุฒิ บัวประทุม ผูช้ ายแห่งปี 2563
สถาบันวิจยั บทบาทหญิงชายและการพัฒนา สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมืน่ สุทธนารีนาถ สถาบันฯ ร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดทาโครงการคัดเลือกผู้หญิงเก่ง 9 สาขาอาชีพ ได้แก่ สาขาเกษตรกร สาขาสิ่งแวดล้อม สาขานักพัฒนา สาขานักการเมืองท้องถิน่ สาขาผูร้ เิ ริม่ ธุรกิจ สาขานักบริหาร สาขาเยาวสตรี สาขาสื่อมวลชน และสาขาสมาชิกองค์การบริหารส่วนตาบล และจะจัดให้มีพิธีมอบโล่ประกาศ เกียรติคุณของนายกรัฐมนตรี ให้แก่ “ผู้หญิงเก่ง 2563” ในวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ณ ห้องประชุม บารุง - รวีวรรณ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ โดยมีวัตถุประสงค์สาคัญในการเสริมสร้างการรับรู้ และการ ตระหนักในบทบาทของสตรีไทยในด้านต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่ประจักษ์ โดยมีกิจกรรม ดังนี้ ช่วงเช้า เป็นกิจกรรมเผยแพร่บทบาทของสตรีไทยในด้านต่าง ๆ โดยจัดให้มี พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติ คุณ ให้แก่ “ผู้หญิงเก่ง 2563” 9 สาขาอาชีพ และ “ผูห้ ญิงแห่งปี 2563” “ผูช้ ายแห่งปี 2563” ซึ่งเป็นรางวัลที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ มอบให้แก่บุคคลที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์และเอื้อต่อการเสริมสร้าง สถานภาพสตรี รวมทั้ง “องค์กรดีเด่นแห่งปี 2563” ซึ่งเป็นองค์กรที่ทางานเพื่อสังคมและส่งเสริมสถานภาพ ของผู้หญิง ช่วงบ่าย เป็นเวทีเสวนาโต๊ะกลม “รัฐธรรมนูญ-ประชาธิปไตยไทย ต้องใส่ใจยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง และทุกเพศสภาพ แค่ไหน? อย่างไร?” รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีบทบัญญัติหลายมาตราที่รับรองความ เสมอภาคระหว่างหญิง - ชาย รวมทั้งกลุ่มหลากหลายทางเพศ ห้ามเลือกปฏิบตั ดิ ว้ ยเหตุแห่งเพศ กาหนดให้ความรุนแรง ทางเพศ รวมทัง้ ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาที่คุกคามความมั่นคงในชีวิตของผู้หญิง รัฐต้องออกกฎหมายเพื่อให้ การคุ้มครองปกป้องผู้หญิงและยุติการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ อาทิ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทาความ รุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 การแก้ไขเพิม่ เติมประมวล กฎหมายอาญา เพื่อให้เกิดการป้องปราม การลงโทษผู้กระทาความผิดในกรณีการล่วงละเมิดให้สัมฤทธิ์ผล นอกจากนี้ สถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องของกลุม่ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทีข่ ยายวงกว้างออกไปทัว่ ประเทศ ข้อเรียกร้องทีส่ าคัญของการเคลือ่ นไหวทีน่ าโดยเยาวชนครัง้ นี้ คือ ให้มกี ารแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย สะท้อนให้ เห็นกระแสความตื่นตัวของคนรุ่นใหม่และประชาชนที่ให้ความสาคัญกับการสร้างรัฐธรรมนูญให้เป็นกติกาหลัก ที่เป็นประชาธิปไตย สร้างหลักประกันสิทธิ เสรีภาพ และคุม้ ครองประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ในการรณรงค์ ยุตคิ วามรุนแรงต่อเด็กและผูห้ ญิงของทุกวันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล (International Day for the Elimination of Violence against Women) เป็นวาระสาคัญที่มีการรณรงค์ การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงอย่างกว้างขวาง เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย และไม่กระทาความ รุนแรงต่อเด็กและผู้หญิง รวมถึงความรุนแรงในครอบครัวทุกรูปแบบ บรรณาธิการ เรียบเรียง
ออกแบบและจัดรูปเล่ม พิมพ์ พฤศจิกายน 2563
เรืองรวี พิชัยกุล / ดร.เมทินี พงษ์เวช เรืองรวี พิชัยกุล ดร.เมทินี พงษ์เวช พัชรี แรงเขตการณ์ มนัสนันท์ เกิดวร ลักษนันท์ ชมดวง รัจนา ศุภเมธิน จิตรา นวลละออง จิตรา นวลละออง
โครงการคัดเลือก “ผูห้ ญิงเก่ง ปี 2563” สถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ ได้ร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน จัดทา โครงการคัดเลือก “ผู้หญิงเก่ง ปี 2563” จานวน 9 สาขาอาชีพ ได้พจิ ารณาคัดเลือกเมือ่ วันที่ 24 ธันวาคม 2562 ณ ห้องประชุมบุญเกื้อ - กิ่งแก้ว สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนจากองค์กร ดาเนินงาน ดังนี้
กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (สสท.) ธนาคารออมสิน (สานักงานใหญ่) สานักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กลุ่มสตรีมุสลิมอาสาสมัคร สมาคมผู้บาเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทยฯ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย สานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนียนแห่งประเทศไทย จากัด สมาคมเพื่อการพัฒนาสิทธิมนุษยชนและสิทธิผู้หญิง สมาคมติดตามการพัฒนาสตรีในประเทศไทย (ตพส.ไทย) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) องค์กรติดตามความก้าวหน้าด้านมิติหญิงชายเพื่อความเสมอภาค(ตมส.) 4 ภาค สถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา เกษตรกร ค ุณเนาวรัตน์ บ ุญมี : จังหวัดจันทบ ุรี
เป็ นเกษตรกรต้นแบบ ด้วยการลงมือทาจริง ประสบผลสาเร็จจริง ทัง้ ยัง มีจิตอาสาด้วยการใช้ความรูค้ วามสามารถของตนเองถ่ายทอดบทเรียนให้ชมุ ชน ทาให้เกษตรกรในชุมชนบ้านเกิดและในสังคมมีภมู ิคมุ้ กันที่เข้มแข็ง และยัง่ ยืน
คุณเนาวรัตน์ บุญมี เป็นผูน้ าในการ ทาการเกษตรเพือ่ ลดต้นทุน เพิม่ ผลผลิตทีเ่ ป็นมิตร ต่อสิง่ แวดล้อม โดยใช้สวนผลไม้ของตนเองบนพืน้ ที่ 8 ไร่ เป็นศูนย์การเรียนรูด้ า้ นการผลิตพืช อินทรีย์และการใช้สารชีวภัณฑ์ให้กับชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กบั ชุมชนอย่าง ยัง่ ยืน และผลิตผลจากสวนนีไ้ ด้รบั รองเป็น สวนผลไม้อนิ ทรีย์ (Organic Thailand) จากกรม ส่งเสริมวิชาการเกษตร ศูนย์การเรียนรูย้ งั เปิดให้ชมุ ชนเข้ามาร่วมเรียนรูใ้ นขัน้ ตอนกระบวนการ วิธีการที่หลากหลายในการทาการเกษตรเพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม ทัง้ นีเ้ ธอยังเป็นผูผ้ ลักดันโครงการรณรงค์ปอ้ งกันกาจัดแมลงวันผลไม้แบบพืน้ ทีก่ ว้างแบบผสมผสาน โดยใช้ เทคนิคแมลงวันผลไม้ทเี่ ป็นหมันผสมผสานกับวิธกี ารอืน่ ๆ เพือ่ ให้เกิดพืน้ ทีท่ มี่ จี านวนประชากรแมลงวันผลไม้ต่า (Low Pest Prevalence) ให้เกิดขึน้ อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นาศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาในอนาคตที่จะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและ ของประชาชนในพื้นที่ จากพื้นฐานโครงการรณรงค์ป้องกันกาจัดแมลงวันผลไม้เพื่อลดการใช้สารเคมี ได้ต่อยอด ด้วยโครงการ“เมืองเกษตรสีเขียว” โดยเป็นวิทยากรร่วมกับสานักงานเศรษฐกิจ การเกษตรที่ 6 ถ่ายทอดประสบการณ์ผนวกกับองค์ความรู้วิชาการในการ ประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อมุ่งผลิตมังคุดที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมให้มีฉลาก “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” ผลิตภัณฑ์ของ ชุมชนให้เกิดความยั่งยืนภายใต้หลักคิดการประเมินวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment) ได้ จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิต มังคุดที่มีฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์รายแรกของโลกได้สาเร็จ ทาให้มังคุดของตาบลตรอกนองได้รับการพัฒนาเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมและพร้อมรับการเปลีย่ นแปลง จากผลกระทบต่าง ๆ ตัง้ แต่การผลิตต้นทางสู่การค้าระดับสากล และได้จัดทาค่ายวิทยาศาสตร์ อบรมให้เด็กนักเรียนและเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดการแมลงวันผลไม้เชิงระบบให้กบั ชุมชนต่าง ๆ รวมทัง้ กลุม่ ผูส้ นใจทัง้ ในประเทศ และต่างประเทศทีม่ าศึกษาดูงาน
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา สิ่งแวดล้อม ค ุณพีรดา ปฏิทศั น์ : จังหวัดส ุพรรณบ ุรี
เป็ นผูป้ ฏิวตั ิขยะทีม่ ีความมุง่ มัน่ เอาชนะอุปสรรคมากมายเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการลดขยะพลาสติกที่เป็ นอันตรายต่อสิ่งมีชวี ิตและทาให้โลกร้อนด้วยนวัตกรรม ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในการบริหารจัดการขยะจนประสบความสาเร็จ
คุณพีรดา ปฏิทศั น์ ประธานกลุม่ “แนวร่วมปฏิวตั ขิ ยะ” สุพรรณบุรี ผู้ที่ยึดหลักการ ทางานภายใต้แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมพิ ล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่ อ เกษี ย ณตั ว เองจากงานด้ า นเทคโนโลยี ส ารสนเทศได้ ก ลั บ มา บ้ า นเกิ ด ทีจ่ งั หวัดสุพรรณบุรี และเริ่มศึกษาเรียนรู้เรื่องโรงเรียนชาวนา ต่ อ มาใน ปี 2557 ได้เริ่มโครงการนาร่อง “โคกหนองนาโมเดล” ในพื้นที่ชุมชนเก้าห้อง อาเภอบางปลาม้า ทาน้าหมักจุลินทรีย์จากขยะเปียกและเศษอาหาร ด้วยการให้ชุมชนซึ่งเป็นสมาชิกกว่า 40 ครัวเรือน เก็บ - คัด - แยกขยะ แล้วนามาแลกน้าหมักจุลินทรีย์ไปใช้ เมื่อหมดโครงการแล้วชุมชนสะท้อนว่า โครงการดี ๆ แบบนีไ้ ม่นา่ เลิกจึงเกิดแรงบันดาลใจทีจ่ ะจัดการขยะอีกครัง้ ซึ่งคุณพีรดาได้ค้นพบกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ที่คิดค้น โดยนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นาขยะที่ถูกทิ้งแล้ว มาคัดแยกประเภทขยะ ประเภทพลาสติกนาเข้ากระบวนการไพโรไลซิส แปรรูปเป็นน้ามันเบนซินและดีเซลจนสาเร็จ กาก ที่ได้จากการ แปรรูปเป็นน้าส้มควันไม้ และยางมะตอยด์ ส่วนขยะประเภทโฟม อลูมิเนียม ฟรอยด์ นามาปั้นเป็นหินเทียม น้าตกเทียม การเปลีย่ นขยะเป็นน้ามัน นอกจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างเป็นรูปธรรม ทาให้คุณพีรดาเกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นมากขึ้น จึงเริ่มออกรณรงค์โครงการนี้กับกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชนจนมีคน สนใจอย่างจริงจังเข้าร่วมจานวนมาก นาไปสู่การก่อตั้ง “กลุ่มแนวร่วมปฏิวัติขยะ” ปัจจุบันมีสมาชิกมาจาก หลากหลายอาชีพ หลายจังหวัดกว่า 800 คน โดยใช้พื้นที่สวนพุทธชาติของตนเองเป็นศูนย์เรียนรู้สร้างโมเดล ต้นแบบในการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืนและครบวงจร ทั้งนี้ยังเป็นภาคีแลกเปลี่ยนการเรียนรู้กับ“มูลนิธิปัน ปัญญา” ซึ่งยึดแนวคิดที่ว่า “ขุดทองจากกองขยะ เท่ากับปฏิวัติสิ่งแวดล้อม”
นอกจากนี้ คุณพีรดา ยังเป็นผูร้ เิ ริม่ ก่อตัง้ และเป็นประธานบริหาร วิสาหกิจชุมชน แนวร่วมปฏิวตั ขิ ยะ สุพรรณบุรี มี เป้าหมายให้ประชาชนร่วมมือกันคัดแยกขยะ ด้วยการนาขยะพลาสติก ถุง หลอด ฝาขวด ทีไ่ ม่สามารถขายเพือ่ รีไซเคิลได้ นามาผ่านกระบวนการไพโรไลซิส แปรรูปได้เป็นน้ามันเบนซินและดีเซล ขายให้สมาชิกลิตรละ 20 บาท ซึง่ ส่วนมากนาไปใช้กบั เครือ่ งกลการเกษตร สมาชิกยังสามารถนาพลาสติกมาแปรเป็นหุน้ ในวิสาหกิจชุมชนได้อกี ด้วย
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา นักพัฒนา ค ุณน ุชจารี คล้ายส ุวรรณ : จังหวัดพิษณุโลก
ผลแห่งความพากเพียร และความพยายามที่จะทาให้ผพู้ ิการ ผูด้ อ้ ยโอกาส ได้รบั การยอมรับให้อยู่ร่วมกันในสังคม สามารถดูแลช่วยเหลือตนเองได้อย่างมี คุณค่า คุณนุชจารี คล้ายสุวรรณ จึงมีความพร้อม และเหมาะสมอย่างยิ่ง ในฐานะ ผูห้ ญิงเก่งสาขานักพัฒนาปี
คุณนุชจารี คล้ายสุวรรณ เส้นทางการทางานเพือ่ สังคมของคุณนุชจารี เริ่มต้นจาก การเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข ได้ดแู ลช่วยเหลือผูพ้ กิ าร ผู้ด้อยโอกาส ที่ไม่ทราบถึง สิทธิในการเข้าถึงสาธารณสุขพืน้ ฐาน ทาให้ตระหนักถึงสิง่ ทีพ่ วกเขาได้ประสบหลากหลาย ประการ จนในปี 2552 ได้รับการสนับสนุนที่ดินและเงินทุนจากนักธุรกิจเอกชน เพื่อสร้างอาคารสานักงาน ศูนย์บริการคนพิการ ที่ อาเภอบางระกา จังหวัดพิษณุโลก มีการทางานอย่างต่อเนื่อง ดูแลฟื้นฟูให้ผู้พิการสามารถประกอบอาชีพเลีย้ งดูตนเอง และครอบครัวได้ จนได้รบั การรับรองมาตรฐานองค์กรด้านคนพิการระดับดีมาก และในปี 2562 ได้รบั การสนับสนุนทีด่ นิ อีก จานวน 5 ไร่ เพือ่ ใช้เป็นศูนย์ฟนื้ ฟูคนพิการ “บ้านอุน่ รัก” นอกจากนีย้ งั ได้รบั การสนับสนุนและร่วมมือจากมูลนิธพิ ทุ ธฉือจี้ ไต้หวัน ซึง่ เป็นองค์กรเอกชนระดับโลก จัดทาโครงการปันรักปันน้าใจช่วยคนพิการและผู้ด้อยโอกาสที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล แจกผ้าห่มรีไซเคิลจากขวดน้าพลาสติก เสือ้ ผ้า ถุงยังชีพและทุนการศึกษา ให้แก่ นักเรียนลูกหลานครอบครัวผูพ้ กิ าร และ นักเรียนยากจนในทุกปี ในปี 2556 ได้ดารงตาแหน่งนายกสมาคมเพือ่ ผูบ้ กพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย ซึง่ เป็นองค์กรด้านคนพิการ 1 ใน 7 ประเภทความพิการตามกฎหมายในระดับประเทศ บริหารองค์กรจนได้รบั การรับรองการเป็นสมาชิกของสภาคนพิการ ทุกประเภทแห่งประเทศไทย ซึ่งนายกสมาคมฯ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นคณะกรรมการบริหารสภาคนพิการฯ ส่วนคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นคณะกรรมการกับหน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ หลายแห่ง ส่งผลให้สมาคมฯ เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและต่างประเทศ ได้รับการรับรองเป็นหน่วยงานที่ผ่าน มาตรฐานองค์กรด้านคนพิการระดับดีมาก คุณนุชจารี คล้ายสุวรรณ ได้บริหารงานสมาคมฯ และดูแลรับผิดชอบศูนย์บริการคนพิการ ชมรมเพือ่ ผูบ้ กพร่องทางจิต จ.พิษณุโลก เพือ่ เป็นศูนย์รวมในการช่วยเหลือผูท้ มี่ คี วามบกพร่องทางจิต และเป็นสถานทีจ่ ดั กิจกรรม สมาชิกชมรมฯ ช่วยกัน ออกแบบ ยางรัด เพือ่ เป็นอุปกรณ์ออกกาลังกายสาหรับผูป้ ว่ ยและผูพ้ กิ าร , ออกแบบและจาหน่ายพวงกุญแจแบบต่าง ๆ ที่ ผลิตจากเศษผ้า อาทิ พวงกุญแจช้าง เพือ่ ระดมทุนสนับสนุนกิจกรรม จัดตัง้ ชมรมตะวันทอแสง ซึง่ เป็นการรวมกลุม่ เพือ่ เป็น ปากเป็นเสียง ช่วยกันปกป้องสิทธิผ์ พู้ กิ ารและครอบครัว ขยายเครือข่ายระดับภาค 5 ภาค 1 เขต และ 1 ชมรม นับเป็น “องค์กร ของผูพ้ กิ าร โดยผูพ้ กิ าร และเพือ่ ผูพ้ กิ าร”
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา ผูร้ เิ ริ่มธ ุรกิจ ค ุณวีนา จันทร์แก้ว : จังหวัดเชียงใหม่
“จากศู นย์เป็ นแสน แล่นไปให้ถงึ ล้าน” คุณวีณา จันทร์แก้ว เจ้าของธุรกิจไม้ แกะสลักและเฟอร์นเิ จอร์ เพือ่ ขายและส่งออก ดาเนินธุรกิจด้วยความมุง่ มัน่ ทีจ่ ะเรียนรู้ ขยันอดทน จนประสบความสาเร็จและสามารถเอื้อประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม
คุณวีนา จันทร์แก้ว อายุ 54 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ผูพ้ ลิกชีวติ จากศูนย์สหู่ ลักล้าน จากความล้มเหลวในการทาธุรกิจร้านอาหาร เมือ่ ปี 2530 คุณวีนาเริ่มอาชีพใหม่ด้วย การรับซื้อไม้แกะสลักเก่าที่ดูไร้ค่ากาลังจะถูกทาลายมาทาความสะอาด ตกแต่ง สร้างมูลค่าจนสามารถจาหน่ายสร้างกาไรได้ จากนั้นคุณวีนาจึงเปิดร้านเล็ก ๆ เพื่อรับซื้อและจาหน่ายไม้แกะสลักเก่ามากขึ้น จนเป็นที่รู้จักในนาม “เจ๊เปี๊ยก ขายของเก่า” กว่า 10 ปี เมื่อเริ่มมีทุนและเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ คุณวีนาได้เปิดร้านขายส่งที่ประเทศอังกฤษเพื่อขยาย ตลาด ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวต่างชาติ ทาให้ยอดการสั่งซื้อมากขึ้นประกอบกับ ลูกค้าต้องการแบบรูปใหม่ ๆ ทีห่ ลากหลาย ทาให้เกิดแรงบันดาลใจศึกษาหาความรู้ด้านงานไม้แกะสลักอย่างจริงจัง จนสามารถสร้างแบบต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการได้ ในปี 2549 ได้เปิดโรงงานแปรรูปไม้ ผลิตไม้แกะสลักและ เฟอร์นิเจอร์เพื่อจาหน่ายและส่งออก โดยใช้ช่างฝีมือในท้องถิ่น แรงงานผลิตจากคนในชุมชน คุณวีนาได้สอน กระบวนการผลิตทุกขั้นตอนให้กับพนักงาน ตั้งแต่วิธีการอุดปิดรูไม้ การระบายสี หรือการทาแลคเกอร์ ปัจจุบัน โรงงานจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปไม้บ้านปงแม่ลอบ สร้างงานสร้างอาชีพให้คนในชุมชนกว่า 45 ครอบครัว ได้ขยายฐานธุรกิจไปสู่ภาคอีสาน ประเทศลาว และส่งออกต่างประเทศ เช่น อเมริกา แคนาดา เดนมาร์ก อีกทั้งเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการผลิตไม้แกะสลัก และเปิดโอกาสให้พนักงานสร้างธุรกิจของ ตนเอง งานด้านสังคม คุณวีนาได้ร่วมพัฒนาสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง เป็นแกนนาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เป็นที่ปรึกษาให้กับครอบครัวที่ประสบปัญหาและได้รว่ มงานกับหน่วยงานเทศบาลเมืองแม่เหียะในการเป็นแกนนาพัฒนา สตรีตาบลแม่เหียะ ช่วยส่งเสริมการสร้างอาชีพกลุ่มสตรีที่หลากหลาย จนได้รับการประกาศเกียรติคุณสตรีผู้ทา ดีแห่งเมืองแม่เหียะ ด้านส่งเสริมและพัฒนาบทบาทสตรี ในปี 2562
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา นักการเมืองท้องถิ่น ค ุณณัฐนันท์ ห ูไธสง : จังหวัดบ ุรีรมั ย์
นายกองค์การบริหารตาบลหนองแวง ผูห้ ญิงแกร่ง ทีโ่ ลดแล่นอยูบ่ นสนามการเมือง มากกว่า 20 ปี เป็ นผูส้ ร้างท้องถิ่นให้มคี วามเจริญรุง่ เรืองในทุก ๆ ด้าน ควบคูก่ บั ส่งเสริม ให้สตรีมีี บทบาทและมีสว่ นร่วมทางการเมือง ด้วยหลักธรรมาภิบาลควบคู่กบั คุณธรรม และจริยธรรมเป็ นสิง่ นาพาในการทางานสูค่ วามสาเร็จ
คุณณัฐนันท์ หูไธสง นายกองค์การบริหารส่วนตาบลหนองแวง อาเภอบ้านใหม่ ไชยพจน์ จังหวัดบุรรี มั ย์ เริม่ เข้าสูส่ นามการเมืองปี 2541 ได้รบั ความไว้วางใจให้ดารงตาแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตาบลหนองแวงตัง้ แต่ปี 2542 - ปัจจุบนั รวม 5 สมัย คุณณัฐนันท์ใช้หลักการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล จนได้รับ รางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทีม่ กี ารบริหารจัดการทีด่ 2ี ปีซอ้ น จากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จัดทา โครงการดี ๆ ขึ้นหลายโครงการ ได้รับการยอมรับสร้างชื่อเสียงและสร้างความเข้มแข็ง ความสามัคคีในชุมชน อาทิ
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เป็นศูนย์ต้นแบบในระดับเขตโครงการดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบ
โดยสร้าง
อาสาสมัครสตรีพร้อมช่วยเหลือด้วยจิตอาสา คอยดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการที่บ้าน จนเป็นต้นแบบและเป็นสถานที่
ศึกษาดูงานของจังหวัด
โครงการปลูกผักปลอดสารพิษ
โรงพยาบาลเพื่อประกอบอาหารให้กับผู้ป่วย
ได้รับการยอมรับและทาข้อตกลงซื้อขายกับ
และขยายไปยังโรงเรียนในโครงการอาหารกลางวันเด็ก
นอกจากนี้ได้ส่งเสริมกลุ่มอาชีพ จานวน 63 กลุ่ม โดยการจัดวิทยากรที่มีฝีมือเฉพาะด้านมาถ่ายทอดพร้อมทั้ง นาไปศึกษาดูงาน ส่งผลให้กลุ่มทากระเป๋าผ้าไหมจากเศษวัสดุผ้าที่เหลือใช้ ได้รับรางวัล 5 ดาวระดับจังหวัด กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเสื่อกกได้รับมาตรฐานผลิตสินค้าระดับ 5 ดาว และยังเป็นวิทยากรให้กับฝีมือ
แรงงานจังหวัดบุรีรัมย์
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา นักบริหาร ค ุณธันยพร กริชติทายาว ุธ : กร ุงเทพมหานคร
นักบริหารหญิงยุคใหม่ ทีน่ าพาองค์กรไปสูส่ ากล และ เป็ นผูอ้ ทุ ศิ ตนเพือ่ งานจิตอาสาจน ได้รบั เกียรติบัตรและเข็มรางวัล Asia Pacific Leadership Award for Honorable Leader จากองค์การผูบ้ าเพ็ญประโยชน์แห่งโลกภูมภิ าคเอเชียแปซิฟิก ทัง้ ยังนาหลักการบริหารจาก แนวพุทธศาสนา และหลักบริหารสมัยใหม่ผสมผสานประยุกต์ใช้นามาซึง่ ผลสาเร็จในทุก ภารกิจ
คุณธันยพร กริชติทายาวุธ ปัจจุบนั ดารงตาแหน่งผูอ้ านวยการ บริหารสมาคม เครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GLOBAL COMPACT NETWORK THAILAND) ดาเนินงานภายใต้พนั ธกิจขององค์การสหประชาชาติ เพือ่ ส่งเสริมให้ภาค ธุรกิจร่วมมือกับภาครัฐ และ หน่วยงานนานาชาติ ผลักดันเป้าหมายการพัฒนาเพือ่ ความ ยัง่ ยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ปัจจุบนั สมาคมฯ มีองค์กรชัน้ นาจาก หลากหลายภาคธุรกิจเป็นสมาชิกแล้วถึง 46 องค์กร คุณธันยพร ในฐานะผูอ้ านวยการบริหารสมาคมฯ และอนุกรรมการ ขับเคลือ่ นเป้าหมายการพัฒนาทีย่ งั่ ยืนของรัฐบาล มีภารกิจหลักในการประสาน ติดตาม แสวงความร่วมมือกับภาคธุรกิจเพือ่ บูรณาการนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของรัฐ และ UNDP ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาทีย่ งั่ ยืน SDG เกิดประโยชน์ตอ่ ชุมชน ประเทศไทย และสากล โดยมีวธิ กี ารทางานผ่านกลไกทีส่ ร้างสรรค์ อาทิ งานคลังสมอง (Think Tank) สร้างความรูค้ วามเข้าใจ ด้วยชุดเครือ่ งมือการพัฒนาเพือ่ ความยัง่ ยืน SDG จัดอบรมขัน้ ตอนการปฏิบตั งิ าน การทารายงานในระดับต่าง ๆ จัดทา รายงาน SDG Mega Trend 2020 จัดทาเอกสารเพือ่ การสือ่ สารระหว่างสมาชิกฯ Communication on Progress (COP) ร่วมกับ UNDP จัดทาคูม่ อื แบบประเมิน จัดแปลคูม่ อื How to report SDGs งานอบรมและพัฒนา (Platform and Develop) เป็นศูนย์กลางความร่วมมือของเครือข่ายในประเทศไทย โดยจัดเวทีแลกเปลีย่ นและทางานร่วมกันระหว่าง ภาคเอกชนและภาครัฐ อาทิ ร่วมกับ UNDP และ กรรมการตลาดหลักทรัพย์ จัดอบรม Business call to Action : Social Impact Assessment จัดอบรม Master Class ร่วมกับสภาหอการค้าไทย จัดอบรมการเขียนรายงานสาหรับ SME ร่วมกับ องค์การเพือ่ สตรีแห่งสหประชาชาติ (UN WOMEN) ให้มโี ครงการ Empower WOMEN และ Empowered Women Executive and Sustainable Supply Chain ในสถานประกอบการ
นอกเหนือจากภารกิจ คุณธันยพร ยังทาหน้าทีร่ องประธานคณะกรรมการองค์การผูบ้ าเพ็ญประโยชน์แห่งโลกภูมภิ าค เอเชียแปซิฟกิ ถ่ายทอดทักษะการพัฒนาศักยภาพและความรู้ดา้ นเทคโนโลยีสมัยใหม่แก่เยาวชนสตรีผา่ นการจัดค่าย นานาชาติ ศูนย์ภาคเหนือ และศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ , กิจกรรมเยาวชนสร้างชาติ 300 Youth Club และยังเป็นโค้ช จิตอาสา ให้กบั เยาวชนชัน้ ประถม และคณะครูในชุมชนศาลายานครปฐม
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา เยาวสตรี ค ุณปุณยภา วิศวกรวิศิษฎ์ : กร ุงเทพมหานคร
เยาวชนต้นแบบดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยความเอาใจใส่ตอ่ สังคมและสิง่ แวดล้อม เธอเป็ นผูส้ ร้าง “ความหวัง” “โอกาส” “ประสบการณ์” และ “พลังบวก” ให้เกิดขึน้ กับ เยาวชนไทย
คุณปุณยภา วิศวกรวิศษิ ฎ์ อายุ 21 ปี มีความตัง้ ใจและมุง่ หวังทีจ่ ะดูแลสิง่ แวดล้อม ทัง้ ในประเทศไทยและของโลก บทบาททีโ่ ดดเด่นของคุณปุณยภามีหลายมิติ โดยเฉพาะการ ผลักดันเยาวชนมีสว่ นร่วมในการสร้างการเปลีย่ นแปลงพร้อมเรียนรูส้ งิ่ ใหม่ ๆ รับฟังความ คิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ นามาปรับปรุงอย่างต่อเนือ่ ง ซึง่ มีความเชือ่ และหวังว่า การ เปลีย่ นแปลงนัน้ เกิดขึน้ ได้หากลงมือปฏิบตั อิ ย่างไร้อคติ คุณปุณยภาพิสูจน์ให้เห็นถึง ศักยภาพความเป็นผูน้ าในฐานะผูแ้ ทนเยาวชนไทยร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในด้านสิง่ แวดล้อม และด้านการเปลีย่ นแปลงทางสภาพ ภูมอิ ากาศ ทัง้ ในและต่างประเทศ อาทิ เป็นผูแ้ ทนเยาวชนประเทศไทยของโครงการรัฐบาลสหรัฐอเมริกาด้านสิง่ แวดล้อมทีร่ ฐั ฮาวายประเทศสหรัฐอเมริกา Greenpeace , เป็นผูแ้ ทนเยาวชนของกลุม่ เยาวชนอย่างเป็นทางการของ UNFCCC ในการ ประชุม Standing Committee on Finance ครัง้ ที่ 18 , เป็นอาสาสมัครเยาวชนด้านสิง่ แวดล้อม Greenpeace , เป็นผูแ้ ทน ภาคประชาสังคม และเยาวชนของทวีปเอเชีย และแปซิฟกิ กล่าวเปิดการประชุมเจ้าหน้าทีร่ ะดับสูงด้านการเปลีย่ นแปลงทาง สภาพภูมอิ ากาศ , เป็นวิทยากรASIA-PACIFIC CLIMATE WEEK 2019 , เป็นหัวหน้าโครงการ การประชุมแรกของเยาวชนไทย ในด้านการเปลีย่ นแปลงทางสภาพภูมอิ ากาศ , เป็นผูก้ อ่ ตัง้ และผูอ้ านวยการโครงการ Youth Delegation for Environment (YouthEN) หรือ “กลุม่ เยาวชนเพือ่ สิง่ แวดล้อม” ด้วยประสบการณ์ต่าง ๆ ที่คุณปุณยภาได้เรียนรูจ้ ากการเป็นผูแ้ ทนเยาวชนไทยในด้านสิง่ แวดล้อมในโครงการของ ต่างประเทศและองค์กรนานาชาติ จึงคิดว่ากลุม่ เยาวชนน่าจะเป็นกลุม่ ทีม่ คี วามกระตือรือร้นต่อการแก้ไขปัญหาและพัฒนา สิง่ แวดล้อมของไทย ได้พยายามคิดค้นรูปแบบการทางานทีส่ ร้างสรรค์สอดคล้องกับธรรมชาติของเยาวชน จึงได้รเิ ริม่ ก่อตัง้ เครือข่ายผูน้ าเยาวชนระหว่างประเทศ สามารถขยายฐานเยาวชนและผูท้ สี่ นใจในประเด็นสิง่ แวดล้อมได้กว้างขึน้ มีสมาชิกจาก หลากหลายประเทศมากกว่า 200 องค์กรเข้าร่วม เพือ่ ทางานด้านสิง่ แวดล้อมในนาม Youth Delegation for Environment (YouthEN) หรือ “กลุม่ เยาวชนเพือ่ สิง่ แวดล้อม” กิจกรรมหนึง่ คือการสือ่ สารผ่านสือ่ ออนไลน์ เพือ่ เปลีย่ นผูไ้ ม่สนใจให้หนั มา สนใจสิง่ แวดล้อม ซึง่ Facebook Page ของ YouthEn มีผตู้ ดิ ตามมากกว่า 1,900 บัญชี
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา สมาชิกองค์การบริหารส่วนตาบล ค ุณอ ุสาห์ ไทรชมภ ู: จังหวัดช ุมพร
สมาชิก อบต. เป็ นผูท้ ี่มีความขัยนั มุง่ มัน่ ในการทางาน โดยเข้าถึงประชาชน ทุกพื้นที่ ภายใต้คติประจาใจ “เข้าถึง พึ่ งได้” ทาให้ขา้ มผ่านข้อจากัดของการ ทางานที่สงั คมชนบทยังยึดแนวความคิดว่า ผูห้ ญิงไม่สามารถทางานด้านการพัฒนา ได้ดี หรือเท่าเทียมกับผูช้ าย เป็ นผูท้ จี่ ดุ ประกายและสร้างความเข้มแข็งให้กบั องค์กรสตรี ในตาบลเขาไชยราช
คุณอุสาห์ ไทรชมภู เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตาบลเขาไชยราช หมูท่ ี่ 3 อาเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่อย่าง มากมายเห็นได้จากการที่เธอได้รับการเลือกตั้ง 5 สมัยติดต่อกันมาตัง้ แต่ พ.ศ. 2543 คุณอุสาห์เป็นผูท้ มี่ บี ทบาทและผลงานโดดเด่นในการเป็นผูป้ ระสาน และลดความขัดแย้งใน พืน้ ทีใ่ นระดับหมูบ่ า้ นและตาบลเข้าถึงประชาชนและรับทราบปัญหาของหมู่บ้าน ด้วยตนเองทาให้สามารถแก้ไขปัญหาหรือป้องกันก่อนที่ปัญหาจะเกิดและช่วยเหลือหมูบ่ า้ นในด้านต่าง ๆ เช่น การ ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาให้สามารถได้รบั ทุนการศึกษาการป้องกันปัญหาการกระทารุนแรงในครอบครัว การ ช่วยเหลือให้ประชาชนได้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐในด้านต่าง ๆ การสนับสนุนและผลักดันให้สตรีมบี ทบาทในการพัฒนาหมูบ่ า้ น โดยการจัดตัง้ กลุม่ องค์กรสตรีและอาสาสมัครดูแลผูป้ ว่ ยติดเตียง ส่งเสริมให้สตรีจดั ตัง้ กลุม่ อาชีพขึน้ เพือ่ เป็นการเสริมเพิม่ รายได้ให้กบั ครอบครัว ทาให้ชวี ติ ความเป็นอยูด่ ขี นึ้ คุณอุสาห์ เป็นผูท้ เี่ สียสละ มีความคิดเชิงบวก และเป็นแบบอย่างให้สตรี กล้าคิด กล้าแสดงความคิดเห็น รวมทัง้ สนับสนุนให้สมาชิกองค์กรสตรีในหมูบ่ า้ น ตาบล ได้เข้ามามีบทบาทในการเป็นคณะกรรมการต่าง ๆ ในหมูบ่ า้ นและตาบล เพิม่ ขึน้ อีกทัง้ ได้สง่ เสริมกิจกรรมด้านกีฬาสร้างความสามัคคีในตาบล จัดอบรมพัฒนาศักยภาพให้แก่สตรีในเรือ่ งบุคลิกภาพ การพูดเพือ่ ใช้ให้ถกู ต้องตามประเพณีและเทศกาลต่าง ๆ นอกจากการทางานในฐานะสมาชิกองค์การบริหารส่วนตาบลแล้ว คุณอุสาห์ยงั ทางานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ของ ชุมชนในหลายภารกิจด้วยกัน เช่น อาสาสมัครหมูบ่ า้ น (อสม.), สมาชิกกลุม่ แม่บา้ นเกษตรกรรม, สมาชิกแม่บา้ นมหาดไทย, ชุด รักษาความปลอดภัยหมูบ่ า้ น (ชรบ.) , ผูส้ อื่ ข่าวอาสา ร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดชุมพร , ผูป้ ระสานพลังแผ่นดิน, อาสาป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน, แกนนาพิชติ เหล้า บุหรี่ เป็นต้น
ผูห้ ญิงเก่ง สาขา สื่อมวลชน ค ุณส ุภัทรา บ ุณยพรหม : กร ุงเทพมหานคร
สือ่ มวลชนที่ใส่ใจ เกาะติด และผลักดันประเด็นสตรีให้โดดเด่นชัดเจนขึน้ ในพืน้ ทีข่ า่ ว มีมมุ มองสิทธิสตรีเป็ นพืน้ ฐานในการสร้างเนือ้ หาข่าวทาให้เกิดการเคลือ่ นไหวเชิงนโยบายเพือ่ แก้ไขปัญหา–หาทางออกในประเด็นสตรีจนสาเร็จมากมาย ใช้อาชีพสือ่ มวลชนเป็ นพลังหนึง่ ในการพัฒนาสตรีของประเทศไทย
คุณสุภัทรา บุณยพรหม อายุ 38 ปี กรุงเทพมหานคร ตาแหน่งหัวหน้าโต๊ะ ข่าวสตรี/สังคม/ข่าวในพระราชสานัก/เยาวชน หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน และ แอดมินเว็บไซต์มติชนออนไลน์ คุณสุภัทราเริ่มปฏิบัติงานในตาแหน่ง ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน โต๊ะข่าวสตรีเยาวชน ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน จึงเป็นสือ่ มวลชนคนรุน่ ใหม่ทมี่ จี านวนไม่มากนักทีส่ นใจทาข่าวประเด็นสตรีที่ครอบคลุม หลากหลายมิติ ตัง้ แต่ปญั หาความเหลือ่ มล้าทางเพศ ความรุนแรง การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การละเมิดสิทธิสตรี กฎหมาย ทีเ่ กีย่ วข้องกับสตรี สตรีกบั บทบาททางการเมือง สตรีในกระบวนการยุตธิ รรม ผูต้ อ้ งขังหญิง สตรีพกิ าร สตรีสงู อายุ รวมไปถึง สตรีที่มีบทบาทโดดเด่นในด้านต่าง ๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และสิทธิสตรี นอกจากนีย้ งั มีความ รับผิดชอบข่าวด้านต่าง ๆ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ ทีด่ แู ลคนหลายกลุม่ อาทิ เด็ก เยาวชน คนรุน่ ใหม่ คนพิการ และผูส้ งู อายุ ในรูปแบบการนาเสนอข่าวของคุณสุภทั รานัน้ มุง่ เน้นการเสนอข้อเท็จจริง หลักฐานทางสถิติ เรือ่ งราวทีส่ งั คมควรรู้ รวมถึงการวิเคราะห์ปญั หาต่าง ๆ โดยเสนอมุมมองทีห่ ลากหลายและเป็นประโยชน์ตอ่ ผูอ้ า่ นมากทีส่ ดุ พร้อมบทสัมภาษณ์ผเู้ ชีย่ วชาญด้านต่าง ๆ เพือ่ กระตุน้ ให้สงั คมตระหนักและหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน นอกจากความรับผิดชอบด้านงานข่าวแล้ว คุณสุภทั รายังช่วยเป็นวิทยากรในหัวข้อ การทาข่าวสิทธิเด็กให้กับ หน่วยงานต่าง ๆ อาทิ องค์การยูนิเซฟและสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย อบรมเรือ่ งสิทธิเด็ก กับเยาวชนระดับประถมศึกษาและนักศึกษาปี 3 - 4 ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จากการนาเสนอข่าวของคุณสุภทั ราทีม่ คี ณุ ภาพ สร้างให้เกิดความรับรูส้ ถานการณ์ปญั หา นาไปสูก่ ารแก้ไขปัญหาของสตรี เยาวชน เด็ก และกลุม่ เปราะบางต่าง ๆ ส่งผลให้คณุ สุภทั ราได้รบั รางวัลคนดีประเทศไทยปีที่ 8 ประจาปี 2558 - 2559 สาขาข่าวส่งเสริมเยาวชนดีเด่น ประเภทหนังสือพิมพ์ โดย มูลนิธคิ นดี (ประเทศไทย) ร่วมกับบริษทั ซีพอี อลล์
รางวัล “ผูห้ ญิงแห่งปี 2563” และ “ผูช้ ายแห่งปี 2563” รางวัล “ผูห้ ญิง” และ “ผูช้ าย” แห่งปี เป็ นรางวัลทีส่ มาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ มอบให้แก่ สุภาพสตรีและสุภาพบุรษุ ทีม่ ผี ลงานโดดเด่นเป็ นทีป่ ระจักษ์วา่ เอื้อต่อการเสริมสร้างสถานภาพสตรี โดย รางวัล “ผูห้ ญิงแห่งปี ” ดาเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 ส่วนรางวัล “ผูช้ ายแห่งปี ” นั้นได้ เริ่ม ตั้งแต่ปี 2543 เป็ นต้ นมา สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้ าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ซึ่งเป็ นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดาเนินการสาธารณกุศล โดยให้ ความ ช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่ประสบปัญหาวิกฤตชีวิต สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ ขอมอบรางวัล “ผูห้ ญิงแห่งปี 2563” ให้ กบั ศาสตราจารย์มาลี พฤกษ์พงศาวลี และรางวัล “ผูช้ ายแห่งปี 2563” ให้ กบั คุณณัฐวุฒิ บัวประทุม เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติบคุ คลผู้มคี โุ ณปการทัง้ สองท่าน ทีไ่ ด้สร้างประโยชน์ให้กบั สังคมในวงกว้าง รวมทัง้ เป็ นแรงบันดาลใจ เป็ นแบบอย่างทีด่ ี โดยเฉพาะในด้าน การส่งเสริมด้านความเสมอภาคระหว่างเพศ การพัฒนาศักยภาพ และปกป้ องสิทธิสตรี
รางวัลองค์กรดีเด่นแห่งปี 2563 ในโอกาสทีภ่ ารกิจของสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ ในส่วนทีใ่ ห้ความช่วยเหลือและเสริมพลัง ให้กบั ผู้หญิงทีป่ ระสบปัญหาความรุนแรง ได้ดาเนินงานมาครบ 40 ปี เต็มในปี 2563 นี้ สมาคมส่งเสริม สถานภาพสตรีฯ จึงได้ จัดให้ มีรางวัลพิเศษเพื่อมอบให้กบั องค์กรทีใ่ ห้การสนับสนุนช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะกับกลุม่ ผู้หญิงมาอย่างต่อเนือ่ งและยาวนาน ซึง่ ได้แก่ บริษัท เซ็ นทรัล วัตสัน จากัด (Central Watson Co., Ltd.)
ผูห้ ญิงแห่งปี 2563 ศาสตราจารย์มาลี พฤกษ์พงศาวลี
ผูท้ รงคุณวุฒดิ า้ นกฎหมายแรงงานสตรีและสิทธิมนุษยชนดารงตนเป็ นส่วนหนึง่ ของ ขบวนการเคลือ่ นไหวภาคประชาชนเป้าหมายเพือ่ พัฒนาสังคมไทยให้เป็ นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็ นประมุขโดยให้ความสาคัญเป็ นพิเศษต่อประเด็นความเสมอภาค ระหว่างเพศ ปั จจุบนั ดารงตาแหน่งประธานคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อพัฒนาแรงงาน และอาชีพ (โฮมเน็ท) ศาสตราจารย์มาลี พฤกษ์พงศาวลี เป็ นต้นแบบของสตรีและบุคลากรไทยทีม่ คี วามมุง่ มัน่ ในอุดมการณ์ยดึ หลักความเสมอภาคเป็ นหลักการพืน้ ฐานมุง่ หวังขจัดปั ญหาการเลือกปฏิบตั ิ ด้วยเหตุแห่งเพศ โดยเฉพาะการกีดกันอันไม่เป็ นธรรมต่อผูห้ ญิง จากบทบาทหน้าทีอ่ าจารย์ใน สถาบันการศึกษาสูน่ กั วิชาการวิเคราะห์เสนอแนะกฎหมายซึง่ เป็ นกลไกสาคัญในการพัฒนา ประเทศ การเสนอนโยบายและแผนพัฒนาในระดับประเทศ เพือ่ ประโยชน์สาธารณะ จึงนับเป็ น แบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กบั สตรีไทย คูค่ วรต่อการยกย่องและประกาศเกียรติคณ ุ เป็ น ผูห้ ญิงแห่งปี 2563
ศาสตราจารย์มาลี พฤกษ์พงศาวลี เป็นผูม้ คี ณ ุ ปู การต่อสังคมไทยหลากหลาย ประเด็น ทัง้ ในวงการการศึกษาทางานรับราชการเป็นอาจารย์ประจาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นระยะเวลากว่า 41 ปี ใช้ความรูค้ วามสามารถในบทบาททีเ่ ป็นทัง้ ผูส้ อน และนักวิชาการทางานทางสังคมคือแนวนิตศิ กึ ษา ประวัตศิ าสตร์และปรัชญา มุง่ เน้น การขจัดการเลือกปฏิบตั โิ ดยเฉพาะการเลือกปฏิบตั ดิ ว้ ยเหตุแห่งเพศ เป็นผูส้ อนและเปิดการ สอนวิชา “สัมมนากฎหมายและนโยบายของรัฐเกี่ยวกับสตรี” ขึน้ ในคณะนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยใช้อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี ในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women - CEDAW) เป็นฐาน ในการวิเคราะห์เปรียบเทียบ เขียนตาราและเอกสารประกอบการสอน เช่น “ย้อนรอยสิทธิความเป็นคนของผู้หญิง” และ “สิทธิความเป็นคนของผู้หญิง พันธกรณีระหว่างประเทศ กฎหมายและข้อถกเถียง” ประกอบกับความ เชีย่ วชาญด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม จึงกาลังทางานเขียนเพือ่ สะท้อนสถานภาพผูห้ ญิงทีไ่ ด้เปลีย่ นแปลงไป ตามสภาพสังคม การเมือง และการปกครอง เรือ่ ง “ผู้หญิง...จาก “ควาย” สู่ “คน” และความเป็น “พลเมือง” : รัฐธรรมนูญและระบบกฎหมายไทยเรื่องความเสมอภาคระหว่างเพศ จากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 - รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560” ศาสตราจารย์มาลี พฤกษ์พงศาวลี ผ่านการดารงตาแหน่งอันสาคัญทีผ่ ลักดันให้เกิดความก้าวหน้าของสถานภาพสตรี ทัง้ รับผิดชอบการศึกษาวิเคราะห์กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เสนอแนะนโยบายและกฎหมายทีส่ ง่ เสริมคุณภาพชีวติ ของสตรี อาทิ เป็นสมาชิกผูร้ ว่ มก่อตัง้ “กลุม่ เพือ่ นหญิง” ซึง่ ในปัจจุบนั คือ “มูลนิธเิ พือ่ นหญิง” , เป็นอนุกรรมการสิทธิแรงงานของ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ อนุกรรมการในคณะอนุกรรมการจัดทาแผนพัฒนาสตรีในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 , ประธานมูลนิธเิ พือ่ แรงงานหญิง , ทีป่ รึกษาอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ด้านเด็ก สตรี ผูส้ งู อายุ และคนพิการ , กรรมการในองค์กรกลางการเลือกตัง้ 2 วาระ และ ในปี 2559 – ปี 2562 ได้รบั การแต่งตัง้ ให้ดารงตาแหน่ง ประธานกรรมการวินจิ ฉัยการเลือกปฏิบตั โิ ดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (วลพ.) ตามพระราชบัญญัตติ คิ วามเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 อีกทัง้ ยังได้รบั รางวัล สตรีนกั วิชาการด้านแรงงานดีเด่น จากกระทรวงแรงงาน ในวันสตรีสากล ประจาปี 2560 จากการอุทศิ ตนเพือ่ เป้าหมายสร้างสังคมสูค่ วามเสมอภาค โดยใช้กลยุทธ์มองปรากฏการณ์ของปัญหาอย่างเป็นองค์รวม เคลือ่ นไหวพร้อมพัฒนา ด้วยการวิเคราะห์ถงึ สาเหตุและรากเหง้าของปัญหาอย่างครอบคลุมรอบด้านทุกมิติ ปราศจากอคติ เสนอแนะแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาทัง้ ในระยะสัน้ และระยะยาวเพือ่ ให้เกิดความยัง่ ยืน
ผูช้ ายแห่งปี 2563 ค ุณณัฐว ุฒิ บัวประท ุม
อุดมการณ์และแรงบันดาลใจเปรียบเสมือนเบ้าหลอม บุคลากรอันทรงคุณค่า คานีค้ งไม่หา่ งไกล จากคุณ ‘ณัฐวุฒิ บัวประทุม’ ผูซ้ งึ่ ได้รบั แรงบันดาลใจจาก ‘ครู โกมล คีมทอง’ ครูผเู้ สียสละ และมี จุดมุง่ หมายในการดาเนินชีวติ ด้วยการเป็ นอิสระจากความเห็นแก่ตวั ตระหนักในภาระหน้าทีแ่ ละความ รับผิดชอบต่อสังคม การเป็ นผูใ้ ห้มากกว่าการทีจ่ ะรับ ดังประโยคกล่ ่ าวว่า “คนเราต้องยอมเป็ นอิฐก้อน แรกที่ ถมลงไปในบ่อนา้ เพื่ อให้บอ่ นา้ เต็ม หากไม่มอี ฐิ ก้อนแรกที่ ยอมเสียสละแล้ว ก็ไม่มที างที่ บอ่ นา้ นัน้ จะเต็มขึ้นมาแต่อย่างใด” นันจึ ่ งเป็ นความมุง่ มันในอุ ่ ดมการณ์ของผูช้ ายแห่งปี 2563 ท่านนีเ้ ช่นเดียวกัน คุณณัฐวุฒิ เรียนจบปริญญาตรีนติ ศิ าสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลือกที่จะ เข้าทางานในสายงานเอ็นจีโอทีม่ ลู นิธศิ นู ย์พทิ กั ษ์สทิ ธิเด็ก เป็ นแห่งแรกและเพียงแห่งเดียว ในภายหลัง ต่อมาได้จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีอีกหลายสาขาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อาทิ ศิลปศาสตรบัณฑิต (ไทยคดีศกึ ษา) อีกทัง้ เมื่อสาเร็จการศึกษานิตศิ าสตรมหาบัณฑิตด้าน กฎหมายมหาชนจากมหาวิทยาลัยรามคาแหง ก็ยงั คงมุง่ มัน่ ทางานทีเ่ ดิม โดยไม่ลงั เลใจ หรือหวัน่ ไหว ในประโยชน์สว่ นตนกับสายงานภาคธุรกิจ หรือเชิงพาณิชย์
จากการทางานเป็นนักกฎหมายได้รว่ มทางานกับเครือข่ายสหวิชาชีพส่งผลให้ คุณณัฐวุฒิ มีบทบาทในหลากหลายมิติ ทัง้ นักสารวจ นักพัฒนา และนักสังคมสงเคราะห์ โดย ลงพืน้ ทีค่ รอบคลุม 77 จังหวัด ให้ความช่วยเหลือผูป้ ระสบปัญหาหลากหลายนับพันกรณี เช่น เด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูกครูลว่ งละเมิดทางเพศ , เด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูกนายจ้างทุบตีทาร้าย สาหัส และใช้แรงงานเยีย่ งทาส นาไปสูก่ ารลงโทษนายจ้างข้อหาเอาคนลงเป็นทาสคดีแรกของ ประเทศไทย ฯลฯ จากบริบทของการทางานภาคสนาม ทาให้คณ ุ ณัฐวุฒติ ระหนักได้วา่ กฎหมาย นโยบาย และโครงสร้างทางสังคม เป็นต้นตอสาคัญของความเหลือ่ มล้า การถูกเอา รัดเอาเปรียบของเด็กและสตรี จึงได้เข้าร่วมกับภาคีเครือข่ายผลักดันนโยบายและข้อกฎหมายหลายประการทีเ่ อือ้ ต่อสถานภาพ สตรี เป็นหนึ่งในคณะยกร่างกฎหมายขจัดความรุนแรงต่อผูห้ ญิงภาคประชาชน ซึง่ ต่อมาเป็นพระราชบัญญัตคิ มุ้ ครอง ผูถ้ กู กระทาความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 , เป็นคณะทางานทาข้อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาความผิดเกีย่ วกับ เพศทีต่ อ่ มาเป็นประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 และ 277 ในปี 2550 , เป็นผูย้ กร่าง และเสนอข้อเสนอต่อสภาร่าง รัฐธรรมนูญในปี 2550 ทีต่ อ่ มาเป็นมาตรา 40(6) แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 เป็นทีม่ าของ การเปิดรับนายร้อยตารวจหญิง , ร่วมเป็นคณะทางานแก้ไขปรับปรุงกฎหมายคุม้ ครองผูถ้ กู กระทาด้วยความรุนแรงในครอบครัว ฉบับปัจจุบนั , เป็นหนึง่ ในคณะทางานยกร่างกฎหมายอนามัยเจริญพันธุ์ และ ยกร่างกฎหมายป้องกันและแก้ไขปัญหาการ ตั้งครรภ์ในวัยรุ่นทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผลงานอันเป็นทีป่ ระจักษ์จงึ นาไปสูก่ ารได้รบั รางวัลนักสังคมสงเคราะห์ดเี ด่น ประเภทผูป้ ฏิบตั งิ านสังคมสงเคราะห์ จากมูลนิธศิ าสตราจารย์ปกรณ์ อังศุสงิ ห์ ประจาปี 2550 และในปี 2554 ได้รบั พระราชทานเครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย กว่า 18 ปี ของการทางานเพือ่ สังคม และสัง่ สมประสบการณ์ทมี่ ลู นิธศิ นู ย์พทิ กั ษ์สทิ ธิเด็ก จนตระหนักได้ถงึ ความพร้อม ทั้งในด้านความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านวิชาชีพ ทีจ่ ะสามารถทาประโยชน์เพือ่ สังคมส่วนรวมได้ในวงที่กว้างขึ้น คุณณัฐวุฒจิ งึ ตัดสินใจลาออกจากงาน และลงสมัครรับเลือกตัง้ เป็นสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร พรรคอนาคตใหม่ ได้รบั เลือกเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งนับเป็นบทบาทใหม่ทกี่ า้ วจากนักกฎหมายเข้าสูส่ ภาพร้อมอุดมการณ์ในการสร้างสังคมแห่งความ เสมอภาค การเรียกร้องสิทธิขนั้ พืน้ ฐานทีท่ กุ คนพึงมีโดยปราศจากอคติ และการเลือกปฏิบตั ิ จากภาคประชาชนสูน่ โยบายใน ระดับประเทศ เพือ่ แก้ไขปัญหาโครงสร้างทางสังคม กอปรด้วยความเคารพในศักดิศ์ รีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ ความเข้าใจใน ประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างถ่องแท้ จึงได้รบั การแต่งตัง้ เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการเด็ก เยาวชน สตรี ผูส้ งุ อายุ ผูพ้ กิ าร กลุม่ ชาติพนั ธุ์ และผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศ , รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน รวมทัง้ เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทาชาเราและการล่วงละเมิดทางเพศ นับเป็นบทบาทหน้าทีอ่ นั สาคัญยิง่ ทีจ่ ะสามารถผลักดัน พิจารณากฎหมาย และกาหนดนโยบายอันจะมีผลต่อการช่วยเหลือเด็กและสตรีทถี่ กู ละเมิดทางเพศ ขจัดการเลือกปฏิบตั ิ เพือ่ ให้สงั คมไทยสามารถก้าวสูส่ งั คมแห่งความเท่าเทียมได้อย่างแท้จริง
องค์กรดีเด่น แห่งปี 2563 บริษทั เซ็นทรัล วัตสัน จากัด (Central Watson Co., Ltd.) วัตสัน ไทยแลนด์ 24 ปี บนเส้นทางธุรกิจขายปลีก วัตสัน ในฐานะทีเ่ ป็ นผูบ้ กุ เบิก เป็ นผูส้ ร้าง ตลาด “Health & Beauty Store” ของประเทศไทย สะท้อนเจตจานงทีแ่ น่วแน่ใน การนาเสนอผลิตภัณฑ์คณ ุ ภาพทีค่ มุ้ ค่าทัง้ สินค้าอุปโภคและ บริโภค รวมทัง้ สินค้าเพือ่ สุขภาพและความงามทีโ่ ดดเด่น หลากหลาย มุง่ สร้าง ประสบการณ์การเลือก ซือ้ สินค้ารูปแบบใหม่ และสินค้าทีม่ นี วัตกรรมใหม่ๆ พร้อมส่งมอบ การบริการที่เป็ นเลิศรอบด้านให้แก่ลกู ค้าชาวไทยอย่างต่อเนือ่ ง ครองตลาด และมียอดขายเป็ นอันดับหนึง่ ของธุรกิจประเภทสุขภาพ และความงาม มาตลอดตัง้ แต่ปี 2539 คูข่ นานกันไปกับการดาเนินธุรกิจที่ประสบผลสาเร็จอย่างน่า ประทับใจ วัตสันยังให้ความสาคัญต่อโครงการด้านความรับผิดชอบต่อ สังคมขององค์กรภายใต้ 4 เสาหลัก อันประกอบด้วย สถานทีท่ างาน ตลาด สินค้า สิง่ แวดล้อม และชุมชน ด้วยเห็นว่าโครงการเหล่านีน้ อกจากจะเอือ้ ต่อ การสร้างการตระหนักรับรูข้ องสังคมแล้ว ยังเเปิ ดโอกาสให้บคุ ลากรของ องค์กร รวมถึงลูกค้าได้มสี ว่ นร่วมในการตอบแทนสังคมด้วย เมือ่ มองจากทุกมิตขิ องความเป็ น “วัตสัน” ภาพทีป่ รากฏชัดเจน คือ องค์กรที่ เข้าใจ ใส่ใจ รูใ้ จ เห็นใจ มีใจ และจริงใจ กับผูห้ ญิง ทัง้ ในกลุม่ ทีเ่ ป็ นเป้าหมายในธุรกิจ และกลุม่ ทีเ่ ปราะบางในสังคม การพัฒนา และยกระดับคุณภาพชีวติ ของทุกคนที่ วัตสัน เข้าไปสัมผัส ในแบบทีว่ ตั สันทาอยูน่ นั้ เป็ นสิง่ ทีส่ ร้างประโยชน์ ให้แก่สงั คม และส่งผลกระทบทีย่ งั ่ ยืนต่อสังคมไทยทีค่ วรค่าแก่การยกย่องและชืน่ ชมยิง่
สาหรับวัตสัน ลูกค้ามีความสาคัญเป็นลาดับแรก ดังที่ คุณพสิษฐ์ มัน่ คงขันติวงศ์ Managing Director วัตสัน ประเทศไทย กล่าวไว้เมือ่ ไม่นานนีว้ า่ “เราไม่เคยมองลูกค้าเป็นเพียงแค่ผซู้ อื้ สินค้าอย่างเดียวเท่านัน้ เรามอง ลึกไปถึงการเชือ่ มโยงผลิตภัณฑ์ของเราเข้าไปกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เราไม่เคยหยุด นิง่ เพือ่ มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งทีด่ ีให้กบั ลูกค้าวัตสันทุกคน เราคัดสรร ผลิตภัณฑ์ทมี่ คี ณุ ภาพ มีความหลากหลาย เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า และเทรนด์ใหม่ ๆ ให้ลกู ค้าสามารถช้อปกับเราได้งา่ ยและสะดวกสบาย” ซึง่ กลไก วิธกี ารทางานทีน่ าไปสูค่ วามสาเร็จ คือ การก้าวไปข้างหน้าให้เร็ว ก้าวให้ทนั ผูบ้ ริโภค และก้าวให้เร็วกว่าคูแ่ ข่งทุกแง่มมุ รวมถึงการปรับตัวให้ทนั ต่อเส้นทางการตัดสินใจซือ้ ของลูกค้า Customer Journey ทีส่ ลับซับซ้อนขึน้ และก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึง่ คือ การทา ให้ได้มากกว่าสิง่ ทีล่ กู ค้าคาดหวังทีจ่ ะส่งผลต่อความผูกพันที่ลูกค้ามีให้ ซึ่งสามารถเห็นได้ อย่างเป็นรูปธรรมจากจานวนสมาชิกของวัตสันทีก่ า้ วกระโดดมาเรือ่ ย ๆ จนปัจจุบนั มีมากกว่า 5 ล้านราย การสร้างความแข็งแกร่งให้กบั แบรนด์ เป็นอีก กลยุทธ์ที่ คุณนวลพรรณ ชัยนาม Customer Director วัตสัน ประเทศไทย ให้ความสาคัญและยึดถือมาโดย ตลอด โดยเฉพาะในขณะทีผ่ บู้ ริโภค มีทางเลือก มีชอ่ งทางในการซือ้ มากมายในยุคของ เทคโนโลยีการสือ่ สารทีก่ า้ วกระโดด เราจะเห็นว่า วัตสันมุง่ สร้างตัวตนให้อยู่ในทุกเส้นทาง ทุกTouch Point ที่ลกู ค้าจะผ่าน เชือ่ มต่อกับผูบ้ ริโภคได้แบบ ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อมอบ ประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบไร้รอยต่อ (Seamless experience) ผ่านหน้าร้านกว่า 500 สาขาทัว่ ไทย และช่องทาง Watsons Online ทุกรูปแบบ บทพิสจู น์ความสาเร็จของ วัตสัน ประเทศไทย ร้านเพือ่ สุขภาพและความงามของประเทศไทย นัน้ จึงปรากฏในหลากหลายมิติ ของธุรกิจและเป็นทีป่ ระจักษ์ วัตสันได้รบั คัดเลือกให้เป็นหนึง่ ในสุดยอดแบรนด์ชนั้ นาแห่งปี (Superbrands Thailand) ติดต่อกัน 12 ปี จากความโดดเด่นทางด้านความแข็งแกร่งของแบรนด์ ความน่าเชือ่ ถือ เป็นทีช่ นื่ ชอบของผูบ้ ริโภค และมีบทบาทนาใน ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอีกหนึ่งความภูมิใจของชาววัตสัน คือ รางวัล Influential Brand ประจาปี 2019 หมวด Personal care store ที่ได้มาจากการโหวตของกลุ่ม Gen Y ในเขตกรุงเทพมหานคร จานวนกว่า 1,000 คน โดยผลสารวจ ของสวนดุสิตโพล จากการทีค่ รองความเป็นอันดับหนึง่ ในตลาด วัตสันยังได้รบั รางวัล The Most Valuable Brands of the Year 2019 By Longtunman ประเภทแบรนด์รา้ นขายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามในเมืองไทยอีกด้วย ในส่วนของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิง่ แวดล้อมขององค์กร วัตสัน ได้จดั กิจกรรมทีห่ ลากหลายมากมายมาโดย ตลอด เช่น การแบ่งปันความรักและเอาใจใส่ผสู้ งู อายุหญิง กิจกรรมเย็บเต้านมเทียมเพือ่ ผูป้ ว่ ยมะเร็งเต้านม การมอบเสือ้ กันหนาวแก่ นักเรียนทีโ่ รงเรียนนิคมสร้างตนเอง การรณรงค์ลดการใช้ถงุ พลาสติก หรือ การสนับสนุนการผ่าตัดให้เด็กทีม่ คี วามพิการด้านปากแหว่ง เพดานโหว่ เป็นต้น และทีต่ อ่ เนือ่ งยาวนานมาเกือบ 15 ปีแล้ว คือ การสนับสนุนและส่งเสริมสิทธิสตรี จัดกิจกรรมระดมทุนใน หลากหลายรูปแบบ ให้กบั สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมืน่ สุทธนารีนาถ เพือ่ ให้ความช่วยเหลือผูห้ ญิงและเด็กทีป่ ระสบปัญหาความรุนแรง ไม่วา่ จะเป็นความรุนแรงทางร่างกาย จิตใจ ทางเพศ การถูกละทิง้ การท้องไม่พร้อมและการถูกสังคมรังเกียจจากการติดเชือ้ เอดส์ ทีบ่ า้ นพักฉุกเฉินของสมาคมฯ ได้ให้การดูแล ไม่เพียงแค่นนั้ วัตสันยังให้ โอกาสบุคลากรได้มสี ว่ นร่วมให้การช่วยเหลือ สนับสนุน และเป็นกาลังใจ ผ่านกิจกรรมสนุกสนานทีท่ มี งานวัตสันมอบให้สมาชิกบ้านพัก ฉุกเฉินทุกเทศกาลปีใหม่ ทัง้ ยังเอือ้ ให้ลกู ค้าสามารถเป็นส่วนหนึง่ ของการให้ความช่วยเหลือ ผ่านกล่องบริจาคทีว่ ตั สันวางไว้ทกุ สาขาอีก ด้วย ความต่อเนือ่ งของการสนับสนุนนี้ ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาล เพราะได้ชว่ ยหยิบยืน่ ชีวติ ใหม่ ให้โอกาสในการฟืน้ คืนพลังและความเข้มแข็ง พัฒนาอาชีพและทักษะชีวติ ให้กบั ผูห้ ญิงและเด็กนับหมืน่ รายให้กลับคืนสูส่ งั คม ยืนหยัดได้อย่างมัน่ คง