start of photographer and Beautiful image แนะน�ำกล้องใหม่ให้คุณได้รู้จัก
ย ก ร ะ ดั บ คุ ณ ภ าพของการถ่ า ย ภ า พ ใ ห้ สู ง ขึ้ น อี ก ขั้ น นี้ คื อวิ ธี ช ่ ว ย ใ ห้ คุ ณ เ ดิ น หน้ า ไป สู ้ ควา ม ท้ า ทาย
เรียนรู้เทคนิกการ ถ่ายภาพชัดลึกชัดตื่น
แ น ะ น� ำ เ ท ค นิ ก ก า ร ถ ่ า ย ภ า พ ที่ คุ ณ ค ว ร รู ้
วยที Hair WorkShop ใครช่ ผมยุ่ง
เหลือเกิน
เรียนรู้เทคนิกการ ถ่ายภาพชัดลึกชัดตื่น แ น ะ น� ำ เ ท ค นิ ก ก า ร ถ ่ า ย ภ า พ ที่ คุ ณ ค ว ร รู ้
04 start of photographer and Beautiful image
พบกับบทสัมภาษณ์ ที่เล่า ประสบการณ์ แนวคิด เทคนิกของ ช่างภาพผู้มีฝีมือ
12 แนะน�ำกล้องใหม่ให้คุณ ได้รู้จัก ย ก ร ะดั บคุ ณ ภ าพข องการถ่ า ย ภาพ ใ ห ้ สู ง ขึ้ น อี ก ขั้ น นี้ คื อ วิ ธี ช ่ ว ยใ ห้ คุ ณ เดิ น หน้ า ไป สู ้ ค วา ม ท้ า ทาย
7,14
Welcome to your
นิตยสาร
ฉบับนี้มาพร้อมกับหลักสูตรเร่งในเทคนิคในการถ่ายภาพ ทักษะพื้นฐานที่จ�ำเป็นเพื่อควบคุมและเทคนิคการแต่งภาพ ที่ไม่เพียงช่วยให้คุณ เรียนรู้วิธีการแต่งภาพใหม่ๆ แต่ยังช่วยกระตุ้นและพัฒนาขีดความสามารถที่คุณมี อยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ผ่านทางหัวข้อการเรียนรู้ที่มีประโยชน์และสนุกสนานที่ หลายคนคุ้นเคยแต่อาจจะมองข้ามหรือยังไม่เคยได้ทดลองมาก่อน ทวั ศั ก ดิ์ สุ ข โข
บรรณาธิการ
Hair WorkShop
08
ใครช่วยที
ผมยุ่ง
เหลือเกิน
เทคนิคการถ่ายภาพภาพชัด ค�ำว่าตื้น/ลึกหมายถึงช่วงความลึกของภาพที่จะคมชัดนั่นเอง ลองนึกถึงสถานการณ์สองแบบ แบบแรกคุณอยากถ่ายรูปคนครึ่ง ตัว โดยต้องการให้คนในรูปเด่นกว่าวิวด้านหลัง ไม่ว่าวิวด้านหลังจะเป็นฝาผนังห้องสีหม่นๆ หรือมีของอะไรก็ไม่รู้รกรุงรังไปหมด หรือมีคนเดินไปเดินมา ที่อาจจะท�ำให้ภาพออกมาดูไม่ดี เราก็อยากเน้นให้คนที่เราถ่ายชัดๆ ในขณะที่ภาพด้านหลังเบลอๆ แบบนี้ เราควรจะถ่ายภาพแบบชัดตื้น นั่นคือช่วงความลึกที่ภาพจะชัดจะน้อย
ดอกไม้เล็กๆที่ต้องการเน้นให้โดดเน้นกว่าอดอื่นๆและแบ๊กกราวนด์ ข้างหลัง ถ่ายที่ 1/160 sec f/5.6 ส�ำหรับคนที่เริ่มถ่ายรูป จ�ำง่ายๆว่ายิ่งเปิดหน้ากล้องกว้าง ภาพยิ่งชัดตื้น เปิด หน้ากล้องแคบลง ภาพจะชัดลึก (จริงรายละเอียดมีมากกว่านี้ เอาไว้ผมจะมา อธิบายเรื่อง exposure ภายหลัง เรื่องมันยาว) การตั้งการเปิดหน้ากล้อง จะสังเกต จากตัวเลขที่ตามหลังค่า f อย่างเช่น f/2.2, f/4.6, f/1.8 ที่ผมเขียนก�ำกับแต่ละรูป ข้างบน โดยค่าตัวเลขยิ่งน้อย ภาพจะชัดตื้น ค่ายิ่งมาก ภาพจะชัดลึก ดังนั้นถ้า ต้องการให้เสาซ้ายชัด ถ่ายที่ 1/2000 sec, f/1.8 ต้องการถ่ายภาพชัดตื้น ก็ตั้งการเปิดหน้ากล้องด้วยค่า f ให้ต�่ำๆเท่าที่เลนส์จะตั้ง ได้ เช่น f/1.8, f/2.8 ในขณะที่ถ้าถ่ายวิวทิวทัศน์ ควรตั้งค่า f สูงๆ เช่น f/8.0 ขึ้นไป เลนส์ที่ดีๆ(และท�ำให้ราคาแพง) มีช่วงในการตั้งค่า f ได้กว้าง เลยท�ำให้สามารถ ถ่ายภาพได้หลากหลายขึ้น ถ้าถ่ายชัดลึก ทุกจุด อีกตัวอย่างของ ของภาพควรจะต้องชัด การโฟกัสที่ดวงตา หมด ดังนั้นโฟกัสตรงไหน จะเห็นว่าเมื่อเปิด ก็ไม่ควรแตกต่างกัน ปกติ หน้ากล้องกว้า เค้าก็จะโฟกัสที่ตรงกลาง งมากๆ (f/1.8) จุดที่ ภาพ แต่การโฟกัสภาพชัด อยู่คนละระนาบกับ ตื้นจะท้าทายกว่า เพราะ ต�ำแหน่งที่โฟกัส ถ้าโฟกัสผิดต�ำแหน่ง ภาพ (ดวงตา)จะเบลอ ก็จะเบลอง่าย จ�ำไว้ว่าเวลา ไปเลย ถ่ายหน้าคน จุดที่คนมัก จะมองก่อนคือดวงตา ดัง นั้นถ้าเป็นไปได้ควรโฟกัส ที่ต�ำแหน่งตาแล้วค่อย recompose ภาพอีกที
ข้อควรระวังในการถ่ายชัดตื้น
เนื่องจากภาพชัดตื้นมีความลึกของภาพที่จะคมชัดน้อย ถ้าไม่จัดภาพดีๆอาจท�ำให้คนดูคิดว่าภาพนี้เบลอได้ ดังนั้นการวางองค์ ประกอบของภาพเป็นเรื่องส�ำคัญ มาดูตัวอย่างรูปถ่ายน้องสามคนในภาพ ที่แต่ละรูปโฟกัสที่แต่ละคน ดังนี้
1/40 sec, f/1.8
รูปแรกโฟกัสที่น้องปอที่นั่งขวามือ รูปกลางที่น้องวิวที่นั่งตรงกลาง รูปสุดท้ายน้องโอที่อยู่ทางซ้ายมือ จะเห็นว่าโฟกัสที่ใคร คนนั้งชัดแต่คนที่เหลือจะมัว รูปแรกเป็นรูปที่ดูออกมาดีที่สุด เพราะคนที่ชัดอยู่ด้านหน้าของภาพและเป็นจุดที่คนจะสังเกตก่อน การที่คนอื่นมัวท�ำให้คนที่นั่งหน้าสุดเด่นขึ้น ภาพที่สองแม้คนกลางชัดแต่คนหน้าจะมัว ท�ำให้ถ้าไม่สังเกต จะไม่รู้ว่าเราต้องการ เน้นคนกลาง ยิ่งภาพสุดท้ายสองคนขวามือมัวเพราะเราไปโฟกัสคนหลัง ถ้ามองผ่านๆจะนึกว่าภาพทั้งภาพมัวไปเลย ดังนั้นการโฟกัสควรจะเน้นให้ subject ที่เราต้องการเน้นอยู่ด้านหน้า (หรือมีพื้นที่ในภาพมากกว่าองค์ประกอบอื่น) ใน ขณะที่เราอาจจะวางต�ำแหน่ง subject อยู่ตรงกลางหรือเยื้องข้างๆก็ได้ แต่อย่าให้อยู่ขอบเกินไป ก็จะได้ภาพที่ท�ำให้คนดูรู้ว่าเรา ต้องการถ่ายเน้นอะไร ต�ำแหน่งไหนแทนที่จะคิดว่าภาพนั้นเบลอ
โต๊ะเก้าอี้ที่ตึกสหกรณ์ Illini วัน หิมะตก ถ่ายที่ 1/800sec f/8.0 เปิด หน้ากล้องแคบเพื่อให้โต๊ะที่อยู่ที่ความ ลึกแตกต่างกันชัดเหมือนๆกัน
แล้วเมื่อไหร่ควรจะถ่ายภาพชัดตื้น/ชัดลึก
ถ้าของทุกอย่างในภาพอยู่ที่ระดับความลึกเท่ากันหมด ถ่ายชัดตื้นหรือลึกก็ไม่มีความ แตกต่าง แต่ถ้า subject ในภาพแต่ละชิ้นอยู่ที่ความลึกแตกต่างกัน เราควรจะใช้หลักยังไง หลักง่ายๆคืออยากเน้นอะไรก็ถ่ายให้ตรงนั้นชัด ถ้าเน้น subject ไม่ว่าจะเป็นคน ดอกไม้ แมลง ก็ถ่ายชัดตื้น โดยจัดให้ subject ที่ชัดในภาพกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของภาพ เวลาคนดู มองภาพ สายตาจะได้มองไปที่ subject นั้นๆ แต่ถ้าต้องการถ่ายเน้นวิวก็ควรถ่ายแบบชัด ลึกจะได้เห็นรายละเอียดของภาพครบ เอ๊ะแล้วถ้าคนก็อยากเน้น วิวก็สวย จะถ่ายแบบ ไหนดี ค�ำตอบคือ แล้วแต่ความพอใจคุณเองครับ ข้อควรระวังของการถ่ายชัดตื้นคือ การถ่ายรูปคู่ที่คนสองคนในภาพอยู่คนละระนาบ ความลึก ถ้าตั้งกล้องชัดตื้นไป อาจท�ำให้คนใดคนหนึ่งชัด อีกคนมัวโดยไม่ได้ตั้งใจ บาง ครั้งเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเปิดหน้ากล้องกว้าง เช่น ถ่ายในห้องที่ไม่สว่างมาก ควร จะแนะน�ำให้คนที่อยู่ในภาพยืน/นั่งห่างจากกล้องเท่าๆกัน ถ้าท�ำไม่ได้อาจจ�ำเป็นต้อง ใช้แฟลชช่วย จะได้ไม่ต้องเปิดหน้ากล้องกว้างเกินไป ทุกคนในภาพจะได้ชัดตามที่เรา ต้องการ
EOS 650D
STEP UP TO THE
CHALLENGE
นับเป็นความท้าทายในการยกระดับจากกล้องธรรมดาๆไปเป็นกล้อง DSLR ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์มากมายแต่ส�ำหรับ Canon ท�ำให้เป็น เรื่องง่ายดาย ด้วยกล้องคุณภาพล่าสุด Canon EOS 650D บางคนอาจพอใจกับการใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูป แต่ถ้าต้องการ ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริงในการถ่ายภาพ ต้องใช้กล้อง ดิจิตอลDSLR ที่มีทั้งเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ , เลนส์ชนิดถอดเปลี่ยน ได้, ระบบประมวลผลภาพประสิทธิภาพสูง และการผสมผสานของการ ตั้งค่าตัวกล้องทั้งแบบแมนวลและออโต้ เพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพ รวม ทั้งมีระบบควบคุมการใช้งานและโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ ช่วยในการถ่าย ภาพต่างๆ ได้ตามต้องการ EOS 650D ใช้ถ่ายภาพนิ่งได้อย่างมีคุณภาพและสามารถบัน ขณะนี้ คุณสามารถเป็นเจ้าของกล้อง DSLR ที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์ได้ ทึกภาพเคลื่อนไหวได้อย่างน่าทึ่งเพราะเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS อย่างง่ายๆด้วย Canon EOS 650D กล้องตัวใหม่ที่มาพร้อมความละเอียด ความละเอียด 18MP, ระบบประมวลผลภาพ 14-บิต DIGIC 18MP ซึ่งนับว่าเป็นกล้อง EOS รุ่นแรกที่มีหน้าจอสัมผัส Capacitive 5 (ปรับปรุงใหม่โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในกล้อง DSLR Touch Screen แบบ Multi-touch แบบปรับหมุนได้ โดยผู้ใช้สามารถลาก ระดับสูงของ Canon) และระบบโฟกัสแบบ Movie Servo AF นิ้วหรือแตะหน้าจอเพื่อควบคุมการใช้งานและเลือกจุดโฟกัสอัตโนมัติ ส�ำหรับการโฟกัสอัตโนมัติและติดตามวัตถุที่ก�ำลังเคลื่อนที่ ได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Touch Shutter Release สั่งชัตเตอร์ ให้ท�ำการ ระหว่างการบันทึกวิดีโอท�ำงานประสานกันเป็นอย่างดีกับเลนส์ ถ่ายภาพโดยใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอ ช่วยให้การถ่ายภาพในมุมซับซ้อน รุ่นใหม่ ท�ำได้สะดวกขึ้น Canon EF-S 18-135 มม. f/3.5-5.6 IS STM และเลนส์ นอกไปจากนั่น EOS 650D ยังเป็นกล้องส�ำหรับการถ่ายภาพทุก Pancake EF 40 มม. f/2.8 STM รวมทั้งยังมีสเตอริโอไมค์ ในตัว, สภาวะ สามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้หลายรูปแบบ มีค่า ISO ระบบปรับระดับเสียง 64-step และตัวลดเสียงลม (Wind Filter) สูง 12,800 และปรับค่าใช้สูงขึ้นได้ถึง 25,600 รวมทั้งยังมีโหมด High Dyและช่องต่อไมค์ภายนอก ทั้งหมดนี้ ท�ำให้เสียงประกอบในวิดีโอ namic Range Backlight ช่วยให้ถ่ายภาพออกมามีคุณภาพระดับมืออาชีพ ออกมามีคุณภาพดีเช่นเดียวกับภาพที่ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบ โดยไม่ต้องใช้แฟลช และไม่ต้องค�ำนึงถึงแสง Ambient (แสงฉากหลัง) Hybrid CMOS Autofocus ในโหมด Live View ช่วยให้โฟกัส แต่อย่างใดแถมยังรับประกันการจับภาพช่วงเวลาส�ำคัญได้อย่างสมบูรณ์ ภาพได้อย่างรวดเร็วทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ รวมทั้งระบบ ด้วยระบบหาจุดโฟกัสอัตโนมัติ (AF) 9 จุด แบบ cross-type ท�ำให้หาจุด ตัดต่อภาพในตัวผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ชนิดปรับหมุนได้ โฟกัสได้รวดเร็วและแม่นย�ำรวมทั้งยังมีโหมด Live View ส�ำหรับการ จึงไม่จ�ำเป็นต้องท�ำการตัดต่อวิดีโอในคอมพิวเตอร์ ติดตามโฟกัสบนใบหน้า (Face-tracking) และโหมดการถ่ายภาพต่อเนื่อง ด้วยความเร็ว 5 เฟรมต่อวินาที พร้อมความสามารถในการถ่ายวิดีโอฟุต เทจ Full HD สุดคมชัด และการเลือกใช้เลนส์แบบต่างๆ (ดูคอลัมน์ด้าน ขวา) ช่วยเพิ่มมิติแห่งความคิดสร้างสรรค์ให้กับการถ่ายภาพยนตร์ที่ง่าย ขึ้น EF 40 mm f/2.8 STM ด้วยเหตุนี้ EOS 650D จึงเป็นกล้องที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ ทั้ง EF-S 18-135 mm คุณภาพ DSLR ระดับสูง, เต็มไปด้วยฟีเจอร์และความคล่องตัวรวมอยู่ f/3.5-5.6 IS STM ภายในตัวเครื่องน�้ำหนักเบา, ดีไซน์ออกมาให้ใช้งานง่าย เพราะฉะนั้นถ้า เพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวมาก คุณต้องการยกระดับคุณภาพของการถ่ายภาพให้สูงขึ้นอีกชั้น นี่คือวิธี ยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติการโฟกัสติดตามวัตถุต่อเนื่องไม่สะดุด และ ช่วยให้คุณเดินหน้าไปสู่ความท้าทาย STM lenses
Focus on Video
ปราศจากเสียงรบกวน
HairWorkShop ใครช่วยที
ผมยุ่ง
เริ่มต้นโดยการเลือกเครื่องมือ Lass ขึ้นมา(หรือใครถนัดจะเลือก เป็น Polygonal Lasso ใช้แทนก็ไม่ว่ากัน)ที่ออปชั่นบาร์ให้ปรับ Feather เท่ากับ 0 เพื่อให้ขอบภาพที่เลือกมีความคม
เหลือเกิน
ตัวอย่างเช่นภาพนี้ถ้ามองภาพโดยรวม ก็คงจะเห็นไม่มี ปัญหาอะไรแต่ถ้าลองซูมขยายภาพขึ้นมา
วิธีที่จะขจัดเส้นผมในส่วนยุ่งเหยิงนี้เอาแบบง่ายที่สุดก็ คือ การใช้เครื่องมือ Healing Brush หรือ Clone Stamp ในการก�ำจัดเส้นผมเหล่านี้ ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นวิธีง่ายๆและได้ ผลมากๆวิธีหนึ่ง แต่ไหนๆมันก็ง่ายๆแล้วผมเลยไม่ท�ำให้ดู แล้วกันนะครับ แต่ผมอยากจะเสนออีกหนึ่งวิธีในการก�ำจัดเส้นผม เหล่านี้ให้เพื่อนๆได้พิจารณาไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะครับ การแต่งภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างเดียวกัน แต่การที่เรารู้จัก หลายๆวิธีก็จะท�ำให้เราคล่องตัวมากยิ่งขึ้นสามารถเลือกหยิบ เอาวิธีการที่ง่ายและสะดวกมาใช้ส�ำหรับภาพๆหนึ่งได้
ผมจะเริ่มต้นท�ำที่ด้านซ้ายเราตี กรอบบริเวณเส้นผมที่ยุ่งๆ โดยให้ กินพื้นที่ในส่วน Background ไป ด้วยเพราะเดี๋ยวเราจะต้องใช้ส่วน Background นี้ในการแทนที่ใน ส่วนของเส้นผมที่ยุ่งๆครับ
เราจะก๊อปปี้พื้นที่ที่เราเลือกขึ้นมา โดยการใช้คีย์ลัด Ctrl+J จากนั้นเปลี่ยน Blend Mode ให้เป็น Difference หรือ Exclusion เพื่อให้เราเห็นความแตกต่าง ของเลเยอร์นี้ (จะใช้โหมดไหนก็ตาม สะดวกเลยนะครับ ในที่นี้ผมเลือกเป็น Exclusion เพราะรู้สึกว่าจะเห็นความแตก ต่างได้ชัดเจนกว่า)
เราจะเห้นรายละเอียดของเส้นผมที่ยุ่งเหยิงเข้า ซึ่งจริงๆแล้ว กดคีย์ลัด V เพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องมือ Move แล้วเลื่อนเลเยอร์ให้ส่วนของ เส้นผมที่ยุ่งเหยิงแบบนี้ ถ้ายถ่ายในสภาพตามแสงมันอาจจะไม่ Background ปิดทับในบริเวณเส้นผมที่ยุ่งๆครับ เด่นชัดมากเท่าไหร่ แต่ถ้าในสภาพผมเดียวกันแล้วลองถ่ายย้อน แสงขึ้นมาละก็ ผมคงไม่ต้องบอกเพื่อนๆ นะครับว่ามันจะเด่น ชัดขนาดไหน
เมื่อจัดต�ำแหน่งให้กับเลเยอร์เรียบร้อยแล้ว ก็ให้เปลี่ยน Blend Mode กลับไปที่ Normal ครับ เมื่อจัดต�ำแหน่งให้กับเลเยอร์เรียบร้อยแล้ว ก็ ให้เปลี่ยน Blend Mode กลับไปที่ Normal ครับ เมื่อจัดต�ำแหน่งให้กับ เลเยอร์เรียบร้อยแล้ว ก็ให้เปลี่ยน Blend Mode กลับไปที่ Normal ครับ
เราก็เพียงแต่ใช้เครื่องมือ Brush เปลี่ยนสี Foreground ให้เป็นสีขาว แล้วเริ่มระบายในส่วนเส้นผมที่ยุ่งๆออกมา ได้เลยครับ(อาจจะมีบางส่วนที่เราไม่สามารถลบได้ เพราะ Background ที่เราก๊อปปี้มานั้น มีพื้นที่ไม่พอที่จะปิดทับ ในบริเวณเส้นผมที่ยุ่งๆ อย่าเพิ่งกังวลไปนะครับ ให้เรา ลบในส่วนที่เราสามารถลบได้ก่อน ส่วนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เดี๋ยวเราค่อยมาเก็บตอนหลังครับ
อย่าเพิ่งตกใจนะครับ ว่าท�ำไม รูปมันดูผิดปกติอย่างนี้ให้เรา กด Alt ค้างไว้แล้วคลิกปุ่ม Add Layer mask ครับจะมี Layer Mask สีด�ำปรากฏขึ้นมา ซึ่งหมายความว่าเลเยอร์นี้ได้ถูกซ่อนไว้ แล้ว
ถ้าหากมีการระบายผิด ที่ส่วนของ Layer Mask ก็ ให้กดคีย์ลัด X เพื่อสลับให้ สี Foreground เป็นสีด�ำแล้ว ระบายกลับในส่วนที่ผิด พลาด แล้วกดคีย์ X อีกครั้ง เพื่อเริ่มระบายใหม่นะครับ
คราวนี้เราจะมาท�ำด้านขวามือบ้างนะครับ ใช้วิธีเดียวกัน เลยนะครับ ดังนั้นผมไปเร็วๆเลยนะครับใช้เครื่องมือ Lasso เลือกในพื้นที่บริเวณผมกินพื้นที่ไปถึง Background
เปลี่ยน Blend Mode เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่าง เลเยอร์ใหม่ๆกับเลเยอร์ Background จากนั้นเลื่อนเลเยอร์ให้ ปิดทับในส่วนของเส้นผมที่ไม่ต้องการ
กด Alt ค้างแล้วคลิก ปุ่ม Add Layer mask แล้วใช้ Brush สีขาวลบ เส้นผมที่ไม่ต้องการออก
พาเนล Layer ให้เราคลิกกลับมาที่เลเยอร์ Background ก่อนนะครับ แล้วกดคีย์ลัด Ctrl+J เพื่อก๊อปปี้ เลเยอร์ เมื่อได้เลเยอร์ใหม่มาแล้ว ให้กดที่เลเยอร์นี้ค้าง ไว้แล้วลากขึ้นไปให้อยู่ด้านบนสุด เพื่อตัดปัญหาไม่ให้ เลเยอร์ใหม่ไปซ้อนทับเลเยอร์ที่ท�ำไปแล้ว
start of photographer and Beautiful image by Phattana Amompattaratkit
ภาพถ่ายทุกใบล้วนมีเรื่องราว ในตัวของมัน ผู้ถ่ายนั้นจะเป็นคนก�ำหนด เรื่องราวบนภาพ การเลือก Location Mongkhon Thepsuwan
คุณเริ่มต้นสนใจการถ่ายภาพตั้งแต่เมื่อไร
Location นั้นจะต้องหามุมที่น่าสนใจที่ไม่เหมือนคนอื่นโดยใช้มุม มองที่เราอยากถ่ายทอดในเรื่องนั้นๆครับ หาอะไรที่แปลกสวยงาม จังหวะท�ำให้ภาพดูมีชีวิตชีวา
คุณได้เจอกับอุปสรรค์ในเวลาถ่ายภาพหรือเปล่า
เริ่มถ่ายภาพตั้งแต่ตอน ม.5 แล้วก็มาเริ่มจริงจังตอนเข้าเรียน อุปสรรค์นั้นมีมากมายร้อยแปดครับบางครั้งก่อนถ่ายฝนตกฟ้าไม่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม คณะนิเทศศาสตร์ เปิดไม่มีแสงเวลาถ่ายจริงก็อาจจะไม่สวยเหมือนที่เราหวังไว้กล้องมี โดยตอนอยู่ชั้นมัธยมศึกษานั้นก็ได้เป็นช่างภาพประจ�ำของโรงเรียน ปัญหาระยะเลนส์ไม่ได้เลยท�ำให้ภาพที่ไม่ตรงกับความต้องการ โดยอยู่ชมรมโฟโต้ที่ตุ้งขึ้นมากับเพื่อน3คนและอาจารย์อีก1คน
คุณคิดว่าตัวเองว่าเป็นช่างภาพแนวไหนเพราะอะไร
โดยส่วนตัวของผมเองนั้นชอบถ่ายแนว Landscape และ Wildlife การถ่ายภาพแนวLandscape และ Wildlifeมันท�ำให้ผมได้ฝึกสมาธิ ความอดทนและที่ส�ำคัญผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมันท�ำให้ผมหายเหนื่อย เลยในทันทีเพราะมันคือภาพๆเดียวที่มีอยู่ในโลกด้วยฝีมือของผมเองจึง ท�ำให้ผมเลือกที่จะถ่ายแนวนี้เป็นหลักครับ
คุณมีเทคนิคในการถ่ายภาพยังไง
เรื่องเทคนิคผมคงไม่ค่อยมีเทคนิคอะไรมากมายครับนอกจากการ ปรับตั้งค่าให้ถ่ายจบที่หลังกล้อง เพื่อให้ง่ายต่อการปรับแต่งไฟล์ภาพ ครับ เพราะถ้าไฟล์ดีตั้งแต่ต้นจะสามารถต่อยอดได้ง่ายและไฟล์ภาพไม่ ช�้ำง่ายครับและที่ส�ำคัญยังต้องมีสมาธิเพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ ช้าก็เร็วเพราะบางครั้งจังหวะภาพบางจังหวะเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวหาก ควบคุมคอนโทรนไม่ได้ก็อดภาพสวยๆอย่างแน่นอน
การเลือกใช้อุปกรณ์
ก็เลือกเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสตามวัตถุประสงค์ของงานครับมี เลนส์ที่เป็น มุมกว้างเพื่อเก็บภาพวิวทิวทัศน์ และ เลนส์เทเลโฟโต้ที่ เพื่อเก็บภาพที่อยู่ระยะไกลครับ
ภาพที่คุณรู้สึกภูมิใจกับภาพนั้นคือ ภาพไหน
ผมมีความภูมิใจกับภาพของผมทุกภาพเพราะเป็นภาพที่ผมนั้นได้ ถ่ายด้วยมุมมองและฝีมือของตัวเองโดยเฉพาะ2 ภาพนี้ ซึ่งอาจจะเป็น ภาพที่หาดูได้ยากซึ่งกวางจะมีสัมผัสที่รับรู้ได้เร็วและไกลมาก การที่ จะได้ภาพที่มีความใกล้โดยไม่ได้ครอปแบบนี้ผมถือว่ามันยากและผม ทุ่มเทกับภาพนี้มาก ส่วนภาพในเมืองนี้ถ้าสังเกตุดีๆๆที่เป็นเม็ดๆนั้นไม่ใช่ฝุ่นน่ะครับ แต่เป็นเม็ดฝนที่ตกลงมากระจายทั่วพื้นที่นั้น ทั้งคนทั้งกล้องเปียกกัน ทีเดียว ส�ำหรับภาพนี้ผมดูกี่ครั้งก็รู้สึกชุ่มฉ�่ำและสบายใจอยู่ตลอดเวลา ครับ
ภาพที่ถ่ายมาแล้ว คุณต้องปรับแต่งอะไรไหม
ส่วยใหญ่ผมจะปรับก็เพราะอยากให้ภาพนั้นดูแปลกตาหรือเหนือ จริงครับอาจจะมีบ้างในบางครั้งที่ปรับโทนสีเพราะบางเหตุการมันเกิด ขึ้นภายในพริบตาอาจจะตั้งค่าไม่ทันบ้างแต่ส่วนใหญ่ผมจะจบที่หลัง กล้องครับ
Love.... ส่วนตัวแล้วผมชอบรูปภาพใบนี้มัน ท�ำให้ผมรู้สึกถึงอารมณ์ของสัตว์ที่ก�ำลัง พรางตัวกับธรรมชาติ MosPhotographer , กองบรรณาธิการ
ความเป็นจริง กล้อง Nikon D7000 Lens Nikon 50mm F/1.4 การตั้งค่า Shutterspeed 1/800 f stop 9 ISO 400 ความเป็นจริงคือมนุษย์ได้บุกลุกป่าได้แต่ไม่สามารถหนี้ธรรมชาติได้
พรางตัว กล้อง Nikon D7000 Lens Nikon 300m F/4 การตั้งค่า Shutterspeed 1/4000 f stop 6.5 ISO 200 คนเรามักจะปรับเปลี่ยนตัว เองตามสภาณการต่างๆเพื่อการ เอาตัวรอด
T H E SPEC S เซ็นเซอร์ภาพ 24.2Mp APS-C CMOS ค�ำตัวคูณโฟกัส 1.5x หน่วยความจ�ำ SD/SDHC/SDXC ช่องมองภาพ ออปติคอล ครอบคลุม พื้นที่ 95% และ ก�ำลังขยาย 0.8x ความละเอียดวิดีโอ 1080p (Full HD) ช่วง ISO 100-6400 (ขยายได้ถึง12800) จุดออโต้โฟกัส 11 จุด Burst Rate สูงสุด 4fps จอแอลซีดี 3 นิ้ว 921k จุด TFT ความไวชัตเตอร์ 1/4000 ถึง 30 วินาที น�้ำหนัก 455 กรัม (เฉพาะบอดี้) ขนาด 125x96x76.5 มม. แบตเตอรี่ EN-EL 14 Rechargeable Li-ion Nikon ประสบความส�ำเร็จอย่างมากในปี 2011 ที่ผ่านมาทั้งในหมวดกล้อง SLR และกล้องคอม แพคท์ โดยเฉพาะกล้องD3100 รุ่นยอดนิยม ซึ่งเป็น กล้อง SLR ระดับเริ่มต้นของบริษัทที่มีเซ็นเซอร์ ขนาด 14.2Mp และยังเป็นกล้อง SLR ตัวแรก ส�ำหรับมือใหม่ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย หลังจากที่ Nikon ได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ระ ดับท็อปออกมาแล้ว 2 รุ่นในปีนี้ และตอนนี้ Nikon ก็ได้เพิ่มตัวเลือกระดับเริ่มต้นขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่การมา ทดแทนรุ่น D3100 แต่เป็นการเปิดตัวกล้อง D3200 ตัวใหม่นี้ออกมาคู่กัน กล้อง D3200 ได้รับการบรรจุเทคโนโลยีที่น่า สนใจมากมายอัดแน่นอยู่ภายในบอดี้ SLR ที่มี ขนาดเล็ก ซึ่งก็รวมถึงฟีเจอร์ที่น�ำมาจากกล้องรุ่น ใหญ่ อาทิ หน่วยประมวลผลภาพ EXPEED 3 ซึ่ง ช่วยให้มีการประมวลผลที่รวดเร็วขึ้น ระดับ Noise ต�่ำลง และ เพิ่มประสิทธิภาพส�ำหรับการบันทึก วิดีโอแบบ Full HD นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาในส่วนอื่นอีกหลาย จุด รวมถึงการออกแบบรูปแบบของปุ่มกดใหม่ และการปรับปรุงจอแอลซีดีด้านหลังแต่จุดเด่น ที่แท้จริงนั้นคงหนีไม่พ้นเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งก็นับว่าเพียงไม่นานต่อมาจาก กล้อง Nikon รุ่น D800 ที่มีความละเอียดมากถึง ขนาด 36 ล้านพิกเซล
ENTRY-LEVEL SLR Nikon D3200 > 27,900 บาท > www.nikon.co.th
Nikon D3200 กล้อง Nikon D3100 นับเป็น ความละเอียดภาพ
Nikon มีความตั้งใจมากที่จะแสดงให้เห็น ถึงศักยภาพในการคร็อปภาพของเซ็ฯเซอร์ 24.2 ล้านพิกเซล โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่อาจจะ ไม่อยากจะลงทุนซื้อเลนส์ตัวที่สองที่มีทาง ยาวโฟกัสที่ยาวมากขึ้นก็สามารถจะคร็อป ภาพและยังคงมีพิกเซลจ�ำนวนมากพอใน ขณะที่ยังคงได้ภาพคุณภาพสูงอยู่ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ อะแดปเตอร์ Wi-Fi รุ่น WU-1A ซึ่งสามารถ เชื่อมต่อกล้องเข้ากับสมาร์ทโฟนรวมถึงแท็บ แล็ตส�ำหรับการถ่ายภาพระยะไกลและการ อัพโหลดภาพลงสู่โซเซียลเน็ตเวิร์ก
การผลิตและการใช้งาน
D3200 นั้นได้รับอิทธิพลจากรุ่น D3100 แต่ได้ถูกปรับปรุงในด้านการจับถือซึ่งเป็น ประโยชน์มากส�ำหรับช่างภาพที่ใช้งานกล้อง เป็นประจ�ำ ในขณะที่อาจจะมีปุ่มควบคุม โดยตรงอยู่เป็นจ�ำนวนจ�ำกัดแต่ฟังก์ชันที่ใช้ งานบ่อยๆ (อย่างเช่นการตั้งค่าความไวแสง) ก็สามารถตั้งค่าได้โดยการกดปุ่ม ‘i’ ซึ่งอยู่ ด้านหลังของตัวกล้อง
แม้ว่าจะมีบอร์ดี้ที่ค่อนข้างเล็กแต่ กริปมือจับทรงลึกท�ำให้เราจับถือมัน อย่างมั่นคง และด้วยน�้ำหนักโดยรวม ของตัวกล้องและเลนส์คิท 18-55 มม. นั่นก็หนักพอที่จะท�ำให้กล้อง D3200 ให้ความรู้สึกถึงคุณภาพที่ดี และมี ความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทนทาน ต่อการกระทบกระแทกและรอยขีด ข่วน แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มีคุณภาพ การผลิตที่สูงเท่ากล้องรุ่นพี่ที่มีขนาด ใหญ่และแพงมากกว่า