Forwardmag

Page 1

รู้จักเจ้าของแบรนด์ “Thakoon” ห้องเสื้อสุดโปรดของภริยาผู้นำสหรัฐ “ก็อด-ฐากูร พานิชกุล” P.12

สัมภาษณ์ “อนุทิน วงศ์สรรคกร” นักออกแบบตัวอักษรมือหนึ่งของไทย กับการยึดเป็นอาชีพทำกิน P.18

วิพากษ์วัฒนธรรมของคนเมืองกับเรื่อง ของ “รถยนต์” ที่กลายมาเป็น POP Culture โดย โตมร ศุขปรีชา P.22

FORWARD 01

Creative Cultural Forwarding Magazine ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 ปักษ์แรกเดือนมกราคม 2553

! E E FR




ปีท่ ี 1 ฉบับที่ 1 ปักษ์แรก เดือนมกราคม 2553

Wake up!

นิตยสารเพื่อการส่งต่อวัฒนธรรมสร้างสรรค์

Index

เราเรียกตัวเองและอยากให้เรียกเราว่า "นิตยสารเพื่อการส่งต่อวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์" Creative Cultural Forwarding Magazine. เพราะเราเชื่อว่า “ความสร้างสรรค์” มีอยู่ในทุกคน ส่วนประเทศไทยต้นทุนที่ยิ่ง ใหญ่คือ “ทุนวัฒนธรรม” และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของคนไทยนอกจาก “รอยยิ้ม” แล้ว “น้ำจิตน้ำใจแห่งการส่งต่อ” สิ่งดีๆ ก็ดูเป็นเรื่องที่นิยามได้ชัดเจน เราใช้คีย์เวิร์ดดังกล่าวเป็นแนวทางในการนำเสนอและจะเป็นสื่อกลางในการส่งต่อ เรื่องราวดีๆ ไปยังทุกคน ทุกที่และทุกเวลา

! P

เราแบ่งการนำเสนอออกเป็น 5 เซคชั่นเพื่อให้ล้อกับ Forward สัญลักษณ์ในเครื่องเล่น ก็จะจัดเรียงเป็นดังต่อไปนี้

O T S

Stop : หยุด หยุดคุยกันก่อน หยุดนิ่งๆ เพื่อทำความรู้จักกันในขั้นต้นก่อนจะเปิด อ่านในหน้าต่อๆ ไป Play : เรื่องสนุกสนาน เรื่องสร้างสรรค์ ที่หยิบมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อสร้างความคุ้น ชินกันในเบื้องต้น และเป็นการสะท้อนภาพของความสร้างสรรค์แบบสนุกสนาน ของนิตยสารอีกด้วย Rewind : พาผู้อ่านย้อนอารมณ์ไปสัมผัสกับความหอมหวาน งดงาม น่าหลงใหล ของเรื่องราวศิลปวัฒนธรรมในอดีตที่น่าจดจำและถูกนำมาถ่ายทอดมุมมองใหม่ Pause : หยุดนิ่งดั่งต้องมนต์ กับเรื่องราวที่เป็น ไฮไลท์ในฉบับ ที่จะสะกดทุกสายตาและความนึกคิด ผ่านตัวหนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องราวและมุมคิด ก่อนจะนำมาแบ่งปันกันในฉบับ Forward : พาร์ทสำคัญที่เป็นบทสรุปของเรื่องราวศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้าง สรรค์ในแต่ละฉบับ จะถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเตรียมจะส่งต่อไปยังผู้อ่านคนอื่นๆ และคนทั่วไปในสังคม ไปทำความรู้จักกันต่อข้างในเล่มดีกว่าค่ะ

ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ : อาจารย์สุรีรัตน์ บุปผา เจ้าของ : บริษัท คุณชายคุณหญิง จำกัด บรรณาธิการบริหาร : คณิตศรณ์ เลาห์ขจร กองบรรณาธิการ : ศิวพร ครองวรกุล ช่างภาพ : สิริญชา วัชราภรณินทร์ บรรณาธิการศิลปกรรม : กานต์ จอมอินตา ฝ่ายโฆษณา การเงินและการตลาด : กรภศุ สุวรรณเมือง

4

Credit :

STOP P.4 P.6

Wake Up! The Letter Give and Take

Play P.7 Calendar P.8 Society Forward P.9 News Round Up P.10 Database P.12 แรงบันดาลคน P.13 คนบันดาลใจ Rewind P.14 Once P.15 พินิจพิพิธภัณฑ์ P.16 2,000 Trips P.17 O[h]Top DIY Pause P.18 Talking Head “อนุทิน วงศ์สรรคกร” P.20 Report Forward “วัฒนธรรมสร้างสรรค์” P.22 วัฒนธรรมประจำบ้าน โดย โตมร ศุขปรีชา Forward P.24 P.26 P.28 P.29

Pay It Forward The Must Idea Space At Last

เพลท : ไฮเรส พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์ตะวันออก บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : คณิตศรณ์ เลาห์ขจร สำนักงานนิตยสาร FORWARD : 128/334-335 อาคารพญาไท พลาซ่า ชั้น 9 ห้อง เอ,บี ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ (02)219-3200-4 (อัตโนมัติ) โทรสาร (02)219-3193 e-mail : forwardmag@yahoo.com website : www.forwardmag.com ข้อเขียนและภาพถ่ายในนิตยสาร FORWARD สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย บุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำไปใช้ โปรดแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร



The

Letter

“อยากให้รัฐบาลสนับสนุนคนทำงานศิลปะอย่างจริงจังเสียที เพราะชาติใดไร้ซึ่งศิลปะ ชาตินั้นล้วนขาดอารยธรรม” ท๊อป อายุ 23 ปี บัณฑิตตกงาน

“หวยออนไลน์ กลายเป็นวัฒนธรรมเก่าในขวดใหม่ของคนไทย เพราะ ไฮเทคด้วยการขายหวยเครื่อง แต่โลว์เทคด้วยการมอมเมาสังคม ซึ่ง รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมวัฒนธรรมเช่นนี้ ต้องปรับปรุงด่วนค่ะ” กุ้ง อายุ 32 ปี พนักงานบริษัทเอกชน

Give’n take เสถียรธรรมสถาน ขอรับบริจาคขวดแก้วขนาด 750 ซีซี ไม่จำกัดสี จำนวน 3,000 ขวด เพื่อนำมาสร้างธรรมาศรมดิน บริจาคได้ทุกวันที่บริเวณลานบ้านดิน ณ เสถียรธรรมสถาน (เข้าทางซอยแม่ผิว นาคอุไร) ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. โทรประสานงานได้ที่ โทร 0-2945-4445 ถึง 7 ต่อ 101-103

อยากเห็นอะไรใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม?

“อยากให้ดาราไทยเขียนหนังสือกันให้น้อยลง โดยเฉพาะประวัติส่วนตัว เพราะอ่านแล้วไม่ประเทืองปัญญา เอางบประมาณที่จะพิมพ์หนังสือให้ ดารา มาเป็นให้คนที่มีแนวคิดดีๆ พิมพ์ขายในราคาถูกๆ จะดีกว่าค่ะ” โบ อายุ 26 ปี นักศึกษาปริญญาโท “เดี๋ยวนี้คนทำบุญด้วยเงินกันมากขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ปัจจัย 4 ที่จำเป็นสำหรับพระภิกษุสงฆ์ มันทำให้เกิดการสะสมเงินทอง สมบัติของพระ ซึ่งถามว่าจำเป็นและเหมาะสมหรือไม่ คำตอบคือ ไม่” วุธ อายุ 40 ปี ข้าราชการประจำ

Letter to FORWARD สำหรับคุณผู้อ่านที่เขียนจดหมายมา พูดคุย ติชม ทักทาย แนะนำ ให้กำลังใจ

“FORWARD”

หรือส่งเรื่องราวดีๆ มาเพื่อ “ส่งต่อ” และแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างกันและกัน จดหมายและเรื่องราวที่ได้รับการตีพิมพ์ ในแต่ละฉบับจะได้รับของที่ระลึกจาก ทีมงาน “FORWARD”

FW-Workshop : “วิธีจัดการกับความฝัน คือการทำมันให้เป็นจริง”

-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์-

มูลนิธิส่งต่อประเทศไทย, เครือข่ายพุทธิกา ,สสส. และ ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ใจดี เปิด Workshop หนังสั้นฟรี พร้อมแจกงบการผลิต ในโครงการพลังภาพยนตร์ ชวนค้นคนดี วิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการ ๐เยาวชนระดับมัธยมทีมละ 5 – 7 คน ๐กรอกใบสมัคร และบทหนังสั้น/สารคดีคนดีใกล้ๆตัว ยาว 10-15 นาที 1 เรื่อง ๐ประกาศผล 15 ทีมแรก ในวันที่ 1 มีนาคม 53 ทางเว็บไซต์ www.forwardmag.com และสัมภาษณ์วันที่ 1 มีนาคม 53 ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี หมดเขตรับใบสมัครวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 53 นี้ ติดต่อสอบถามได้ที่ 0834494835

6


Calendar

Jan’10 วันที่แสดงงาน: 20 Jan 2010 ถึงวันที่: 13 Feb 2010 เทศกาลหนังสั้นจังหวัดนครราชสีมา สอบถามเพิ่มเติม: 085-6122648 086-5825332 และ 082-8688857

Thailand International Jazz Conference 2010 (TIJC2010) งานเทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติเพื่อการเรียนรู้ ประจำปี 2553 “เรียนรู้แจ๊ส เพื่อสังคมแห่งความสุข” วันที่ 29 – 31 มกราคม 2553 ณ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา นครปฐม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.music.mahidol.ac.th/tijc/index.php

นักศึกษาปริญญาโทสาขาการบริหารงานวัฒนธรรม วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชิญชมนิทรรศการศิลปะที่อัมพวา “การเดินทางของหิ่งห้อย” ตั้งแต่วันที่ 23-31 มกราคม 53 ณ ห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ เปิดเข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.

Drama Club มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชิญชม ละครเวที The Devil Wears Prada On Stage วันที่ 29-31 มกราคม 2553 เวลา 14.00 และ 19.00 น. ณ หอประชุมศรีบูรพา (หอเล็ก) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.tudramaclub.co.ccm 7


Society Forward

เปิดนิทรรศการศิลปะ “35 Presence”

แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “รักแท้มีจริง” : “ดังตฤณ”

Third Class Party 02 : Be Quite, Please

เปิดตัว Creative Commons ประเทศไทย

การค้นพบ “ตัวตน” ของศิลปินช่างมีความหมายอย่างยิ่งในชีวิต และหากการ “สำแดงตัวตน” ปรากฎใน ผลงานศิลปะที่ศิลปินคนนั้นได้สร้างสรรค์ขึ้นเด่นชัดมากเท่าใด ก็จะยิ่งมีคุณค่ามากยิ่งๆ ขึ้น -วินัย ปราบริปู ผู้ก่อตั้งหอศิลป์ริมน่าน

8


News Round Up 2 หนังไทยคว้ารางวัล UNESCO AWARD “รางวัล Asia Pacific Screen Awards ครั้งที่ 3” อย่างที่ทราบมีหนังไทย 2 เรื่องคือ “พลเมืองจูหลิง” และ “สวรรค์บ้านนา” เข้า ชิงรางวัล “หนังสารคดียอดเยี่ยม” และ “กำกับภาพ ยอดเยี่ยม” แม้ทั้งสองเรื่องจะไม่ได้ รางวัลในสาขาที่ตนเข้าชิง แต่เรื่อง “สวรรค์บ้านนา” ของผู้กำกับ “อุรุพงษ์ รักษาสัตย์” ก็ได้รางวัลพิเศษ UNESCO AWARD หนังส่งเสริมและอนุรักษ์ความหลาก หลายทางวัฒนธรรม

กระทรวงวัฒนธรรมตั้งศูนย์ปฏิบัติการมรดกโลก นางโสมสุดา ลียะวณิช รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะ คณะกรรมการมรดกโลก เปิดเผยว่า นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ได้มอบ หมายให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการมรดกโลกภายหลังจากตน ได้รับคัดเลือกให้ดำรง ตำแหน่งคณะกรรมการมรดกโลก ระหว่างปี 2552-2556 โดยศูนย์ ดังกล่าวจะทำหน้าที่ สนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทย กำหนดท่า ทีของประเทศไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก 21 ประเทศและ การประชุมที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลก นอกจากนี้จะใช้ศึกษาวิเคราะห์ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลกและส่งเสริมงานวิจัยในประเด็น ด้านมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยที่สำคัญจะทำหน้าที่เผย แพร่องค์ความรู้ด้านมรดก โลกและกระตุ้นให้คนไทยช่วยกันอนุรักษ์ สมบัติของชาติด้วยศูนย์ดังกล่าวจะช่วย ในการดูแลแหล่งมรดกทาง วัฒนธรรม ที่ยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนและ โบราณสถานอื่นๆที่สำคัญจะติดตามการแก้ไขปัญหาแหล่งมรดกโลกที่อยู่ในสภาวะเสี่ย งต่อการถูกถอดออกจากทะเบียนด้วย

“ลูกผู้ชายออนไลน์” หนังสั้นจากชีวิตจริง "เด็กติดเกม"

จีนเข็น “เส้าหลิน” เข้าตลาดหุ้น

ในเว็บไซต์ www.icamtalk.com มี "หนังสั้น" เรื่อง "ลูกผู้ชายออนไลน์ หัวใจขาสั้น" หรือ "ไลฟ์ ออนไลน์" มาให้ได้ดูกัน หนังสั้นเรื่องนี้ จัดทำขึ้นโดยกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนรู้ถึงอันตราย และผลกระทบที่ตามมากับ เกมคอมพิวเตอร์ โดยภาพยนตร์ถูกสร้างขึ้นจาก "ชีวิตจริง" ของนักเล่นเกมหลายคน ที่ติดเกมจนถอนตัวไม่ขึ้นส่งผล ให้ชีวิตเกือบพังพินาศ! รวมทั้งเป็นเครื่องมือชี้แนะให้ เห็นว่า หากนำพลังความมุ่งมั่นในการเล่นเกมที่มีอยู่ไปใช้ในการทำงาน หรือ ปฏิบัติภารกิจต่างๆ ในชีวิตจริงจะประสบความสำเร็จได้เหมือนกับการเล่นเกม นอ กจากจะรับชมได้จากทางเว็บไซต์แล้ว ยังมีแบบดีวีดี และซีดีด้วย สนใจติดต่อรับได้ "ฟรี" ที่สถาบันสุขภาพจิต เด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ โทร.0-2354-8305

วั ด เส้ า หลิ น ในประเทศจี น ที่ มี ชื่ อ เสี ย งโด่ ง ดั ง ไปทั่ ว โล ก จากการที่พระหรือหลวงจีนในวัดล้วนเป็นผู้เชี่ยวชา ญในวิชากังฟู กำลังมีแผนการที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งข องตลาดหลักทรัพย์ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน เตรียมลงทุนเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านหยวน (ประมาณ 500 ล้านบาท) ภายใต้แบรนด์เนม "เส้าหลิน" เพื่อนำไปจัดการงานภาคบริการต่าง ๆ เช่น การขายตั๋วเข้าชมวัด, กา รสร้ า งรถเคลื่ อ นที่ โ ดยสายเคเบิ ล (เคเบิล คาร์), โรงภาพยนตร์, โรงแรม และรถโดยสารของนั ก ท่ อ งเที่ ย ว ในอำเภอเติงเฟิง มณฑลเหอหนาน ซึ่งเป็นเขตที่วัดเส้าหลินตั้งอยู่ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันของ วัดเส้าหลิน คือ หลวงจีนฉี หย่ง ซิ่น ได้พยายามโปรโม ทแบรนด์การตลาดของวัดเส้าหลินอย่างหนัก หน่วง ทั้ง การเข้าไปเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์จีนกำลังภาย ในที่ใช้วัดแห่งนี้ เป็นฉากหลัง รวมถึงพยายามพัฒนาสิ่ งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยมผู้มาเยี่ ยมชมวัด

“สามชุก” รับรางวัลจาก UNESCO

โครงการอนุรักษ์ชุมชนสามชุกและตลาดเก่าร้อยปี จังหวัดสุพรรณบุรี ชนะรางวัลดี (Award of Merit) จากการประกวดรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภู มิภาคเอเชียและ แปซิฟิคแห่งองค์การยูเนสโกประจำปี 2552 คณะกรรมการผู้ตัดสินกล่าวชื่นชมว่า “โครงการดังกล่าวจะมีผลกระทบสำคัญในกา รสร้างความตระหนักถึงการอนุรักษ์มรดกใน ระดับรากหญ้า ทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ สำคัญในการสร้างแรงจูงใจให้แก่ชุมชนประวัติศาสตร์ อื่นๆในประเทศไทยต่อไป

9


Database

“วัฒนธรรมสร้างสรรค์ไม่ใช่การเอาสังคมมารับใช้ทุน แต่ต้องเอาทุนมารับใช้สังคม” -ภัทราวดี มีชูธน-

รายงานว่า อิทธิพลทางเศรษฐกิจที่กำลัง เติบโตมากที่สุดในโลก ไม่ใช่จีน หรืออินเดียแต่เป็นผู้หญิง โดยจากการประเมินของธนาคารโลก พบว่า รายได้ของผู้หญิง ทั่วโลกได้รับการคาดหมายว่าจะสูงถึง 18 ล้านล้านดอลล่าร์ หรือราว 630 ล้านล้านบาท ภายในปี 2557 ซึ่งเพิ่มขึ้น จากรายได้ปัจจุบันถึง 5 ล้านล้านดอลล่าร์ หรือราว 175 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่า 2 เท่า ของการประเมินตัวเลข GDP ของจีนกับอินเดียรวมกันในปี 2557 เสียอีก

20%

คือตัวเลขเป้าหมายที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ บอกว่านโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) จะสามารถผลักดันให้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) เพิ่มขึ้น ได้ภายในปี 2555 โดยใช้งบประมาณภาย ใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ในวงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งได้มีการอนุมัติงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในโครง การเฟสแรกไปแล้วเป็นเงิน 3,800 ล้านบาท

79%

ที่มา : สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ 10

เทรนด์ใหม่ของขวัญ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ แจ้งว่า ช่วง 1–2 ปีหลังนี้คนไทยนิยมให้ของ ขวัญปีใหม่เป็นหนังสือกันมาก ขึ้น โดยในสัปดาห์สุดท้ายของ ปีที่ผ่านมาหนังสือพระราชนิพ นธ์และเกี่ยวกับการให้กำลังใจ เป็ น หนั ง สื อ ที่ทำยอดขา ยสูงสุด

โลโก้ ช าแนลสุ ด ไฮโซนั้ น ที่ จริ ง ถอดแบบมาจากดอกพุ ด สีขาวซึ่งเป็นดอกไม้สุดโปรดที่ Gabrielle Bonheur Chanel เจ้ า ของแบรนด์ มั ก จะทั ด ไว้ ที่ ผมเธอเวลาออกงานแฟชั่นโชว์ของตัวเองเสมอและกลายเป็น ภาพสะท้อนของแบรนด์ที่มีความเป็น “Luxury must be comfortable, otherwise it is not luxury.”

เสื้อผ้าที่คนไทยนิยมซื้อมากที่สุด

56%

51%



แรงบันดาลคน เมื่อไม่นานมานี้วงการแฟชั่นอเมริกาเพิ่งจะมีชีวิตชีวาอี ก ครั้ง เพราะได้สีสันจากการแต่งกายของสตรีหมายเลขหนึ่งคนให ม่ของสหรัฐอเมริกา "มิเชล โอบามา" ซึ่งผู้ออกแบบเสื้อผ้าที่ มิเชล โอบามา นิยมชมชอบนั้น เป็น "ดีไซเนอร์เลือดไทย" ที่ชื่อ....."ฐากูร พานิชกุล" เจ้าของแบรนด์ "ฐากูร-Thakoon" "ผมรู้ว่า มิเชล โอบามาซื้อชุดแบรนด์เราไปหลายชุดก็ร อดูว่าเธอจะใส่ชุดไหนออกงานอะไร พอเห็นชุดเดรสพิมพ์ ลาย ของตัวเองถ่ายทอดออกทีวีทุกช่อง แถมยังขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือ พิมพ์ยูเอสเอ ทูเดย์ ผมได้แต่อุทาน โอ มาย ก๊อด ไม่นึกไม่ ฝันมาก่อน รู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติ อย่างมาก ที่เธอเลือก ใส่ชุดเดรสของผมในค่ำคืนประวัติศาสตร์ ของเธอของ ครอบครัวเธอ และดินแดนเสรีอย่างสหรัฐอเมริกา หลังจากวันนั้น ผมวางขายกิโมโนกลับด้าน ชุดละ 1,250 เหรียญ (ประมาณ 43,750 บาท) ขายดิบขายดี มีบรรดาผู้หญิงโทรฯสั่งจองกันจนตัดเย็บไม่ทัน ตอนนี้ แบรนด์ของผมมีขายใน 30 ประเทศทั่วโลกแล้ว"

Thakoon-ฐากูร พานิชกุล “มีวันนี้ได้เพราะคุณย่าและมิเชล โอบาม่าเป็นแรงบันดาลใจ” หลั ง จากเรี ย นจบปริ ญ ญาตรี ส าขาธุ ร กิ จ จากมหา วิทยาลัยบอสตัน ฐากูรตัดสินใจไปอยู่ที่มหานครนิวยอร์ก เริ่มจากทำงานกับแบรนด์แฟชั่น เจ.ครูว์ จากนั้นลาออกไปเป็นนั กวิจารณ์แฟชั่นให้กับฮาร์เปอร์ส บาซาร์ และเริ่มค้นพบตัวเอง ว่ าความจริงแล้วเขาอยากเป็นดีไซเนอร์มากกว่า จึงตัดสินใจเข้า คอร์ ส เรี ย นการออกแบบ-ตั ด เย็ บ เสื้ อ ผ้ า ที่ ส ถาบั น ดี ไ ซน์ ชื่ อ ดั ง ของนิวยอร์ก ใช้เวลาเก็บเกี่ยวและฝึกปรือจนฝีมือพร้อมเต็มที่ เอกลักษณ์ของแบรนด์ Thakoon เป็นสไตล์เสื้อผ้าที่มีคว ามเป็นผู้หญิงและไร้กาลเวลา เล่น กับ ไอเดียการตกแต่งอันเกิดจา กโครงสร้างของเสื้อผ้า รูปแบบจะยังคงความคลาสสิก และโดดเด่ นเรื่องความเป็นมินิมัลลิสต์ งดงาม ทว่าสมาร์ท และหวานอยู่ในที เขาสนุกกับการเล่นสีทุกสีที่มีในโลก ภายใต้ดีไซน์ที่ทันสมัย และที่สำคัญคือเขาชอบ "ลายดอก" ถามเรื่องแรงบันดาลใจ ฐากูร บอกว่ามาจาก ทุกอย่างรอบตัว โดยเฉพาะแรงบันดาลใจจากรูปภาพ สมัยนีโอคลาสสิก ยุคนั้นให้ความรู้สึกที่เบิกบาน ซึ่งตรง กับสไตล์แบรนด์ Thakoom เช่น รูปภาพผู้หญิงที่เดินไปเดินมาใ นบรรยากาศที่สว่างไสว ดูแล้วชวนให้เกิดความรู้สึก ในทางบวก แต่ก็ไม่ได้นำมาใช้ทั้งหมดเพราะ มันออก มาจะตรงไปตรงมาเกินไป เขาจะเพิ่มแง่มุมความเท่ในแบบ โตเกียวเข้าไปด้วย 12

"ไม่มีใครเป็นไอ ดอล ผมคิดของผมเอง ด้วยตัวเอง อ่านหนังสือเสื้อผ้าเยอะมาก และมากที่สุดคือบรรดาแม็กกา ซีนต่าง ๆ ทำให้ผมรักแฟชั่นและรู้จักแฟชั่นเป็นอย่างดี และรู้ จักการนำเสนอเสื้อผ้าให้ดูน่าสนใจ ดูหรูเลิศกว่าแฟชั่นทั่วไป ผู้หญิงทุกคนอยากมีความมั่นใจ อยากดูสวยในสายตาคนอื่น รวมถึงตอนส่องกระจกดูตัวเอง สิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุดคื อสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิง เวลาที่สวมใส่เสื้อผ้าของผม ทำให้เธอดูสวยและสง่างาม สิ่งสำคัญของการออกแบบเสื้อผ้าต้องมี ความคิดที่มุ่งมั่นตั้งใจ และมีความสามารถในการทำความคิดให้กล ายเป็นความจริง ผมจึงทุ่มเทสุด ๆ" ทิ้งท้ายกับคำถามถึงอนาคต "ฐากูร พานิชกุล" บอกว่า ตอนนี้เขายังเด็ก "แต่ผมก็มีความฝันแม้ว่าคงอีกหลายปีกว่าจะได้ ทำ คือมี แผนจะเปิดห้องเสื้อในประเทศไทย"


คนบันดาลใจ ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวว่า การประกวด โครงงานวิทยาศาสตร์อินเทล ไอเซฟ Intel International Science and Engineering Fair จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ เมืองรีโน มลรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีตัวแทนเยาวชนจากประเทศต่างๆ กว่า 50 ประเทศทั่วโลก มาร่วมแสดงศักยภาพทางวิทยาศาสตร์เป็น จำนวนกว่า 1,500 คน ซึ่งประเทศไทยได้ส่งเข้าประกวด 3 ผลงาน และรับรางวัลจำนวน 2 ผลงาน ได้แก่ โครงงานพัฒนา หนังเทียมจากเซลลูโลสเจล ทดแทนหนังแท้เพื่อใช้ในการ ทำหนังตะลุง และโครงงานพัฒนาชุดตรวจสอบยาต้านไวรัสเอชไอวี ดร.พันธ์ศักดิ์กล่าวว่า การพัฒนาเซลลูโลสเจลเพื่อทำหนังเทีย ม เป็นผลงานของ ด.ช.พรวสุ พงศ์ธีระวรรณ ด.ญ.อารดา สังขนิตย์ และ น.ส.ธัญพิชชา พงศ์ชัยไพบูลย์ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม หรือแกรนด์อวอร์ด ลำดับที่ 4 ประเภททีม โดยมีอาจารย์สุวารี พงศ์ธีระวรรณ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

ทำหนังตะลุงจากวุ้นมะพร้าว อุ แม่เจ้า!! เด็กไทยจากสุราษฎร์คิดได้ "เนคเทคจัดเวทีประกวดโครงการวิทยาศาสตร์ระดับประเทศขึ้น เพื่อกระ ตุ้นให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ และมีเยาวชนสนใจ สมัครกันมากทุกปี เพื่อเป็นตัวแทนเยาวชนไทยไปแข่งขันระดับโลก และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีเด็กไทยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นเกียรติป ระวัติของประเทศไทยที่มีนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์มีความสามารถทางวิชาการทัด เทียมกับเยาวชนของประเทศที่พัฒนาแล้ว" ผอ.เนคเทคกล่าว นางสุวารี อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการวิทยาศาสตร์โรงเรียนสุราษฎร์พิท ยา กล่าวว่า โครงงานพัฒนาหนังเทียมจากเซลลูโลสเจล เกิดขึ้นจากนักเรียนทั้ง 3 คน ได้สังเกตการทำหนังตะลุงในท้องถิ่นแล้วพบว่า หนังตะลุงทำจากหนังวัวห รือหนังควาย ซึ่งในปัจจุบันค่อนข้างจะหายากและมีราคาแพง ดังนั้น จึงช่วยกัน คิดค้นว่าจะมีหนังชนิดอื่นที่มาทดแทนได้หรือไม่ เด็กจึงไปค้นหาข้อมูลแล้วพบว่า วุ้นมะพร้าวเวลาแห้งจะเป็นแผ่นหนังนำมาทำหนังตะลุงได้ โดยผลิตเป็นแผ่นเซล ลูโลสเจลด้วยการเตรียมหัวเชื้อด้วยน้ำมะพร้าวแล้วนำไปหมักกับน้ำต้มเปลือกสับ ปะรด ในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เป็นเวลา 7 วัน จะได้เซลลูโลสเจลที่มีความหนา 2.45 เซนติเมตร และไม่มีฟองอากาศ

"ในการศึกษาได้นำน้ำต้มจากเปลือกสับปะ รด ซึ่งมีน้ำตาลฟรุกโตสสูงมาเพาะเลี้ยงด้วยเชื้อจุลิ นทรีย์อะซิโตแบคเตอร์ซิลินั่มพบ ว่ าสามารถผลิ ต เซลลู โ ลสเจลที่ มี ค วามหนาสม่ ำ เสมอ แล้วนำไปอบแห้งที่อุณหภูมิ 80 องศา เป็นเวลา 30 ชั่วโมงเพื่อให้น้ำระเหยออก จะได้ แผ่นเซลลูโลสแห้งที่ได้มีเนื้อเรียบไม่ยับย่น ก่อน น ำไปฟอกให้เหนียวแล้วทดสอบเปรียบเทียบกับหนัง วัว พบว่าหนังเทียมจากการเซลลูโลสเจล สามารถ ทนต่อแรงดึงน้อยกว่าหนังวัวเล็กน้อย แ ต่ก็ทดแทนกันได้และมีราคาต้นทุนต่ำกว่า 70%" นางสุวารีกล่าว ทั้งนี้ แผ่นหนังเทียมจากการพัฒนาการเพา ะเลี้ยงเซลลูโลสเจล สามารถใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ทำงานประดิษฐ์ตกแต่ง ทำกรอบรูป รวมทั้ง แกะสลักหนังตะลุงได้เช่นกัน.

13


Once

เรือป๊อกแป๊ก กับแรงบันดาลใจของ “เป้ เสลอ”

ของเล่นสังกะสีชนิดหนึ่งที่มีความน่าสนใจในรูปแบบ สีสัน ตลอดจนเทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของเทคโน โลยีทั้งหลายในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ และกลายมาเป็นของเล่นสุดโปรดของห นุ่มฮอต “เป้ อารักษ์ จากวงเสลอ” นั่นก็คือ “เรือสังกะสีพลังงานความร้อน” หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “เรือป๊อกแป๊ก” นั่นเอง หนุ่มเป้ได้การันตีความคลั่งไคล้ในกองทัพเรือป๊อกแป๊กของตนเองด้วยกา รเล่าถึงประวัติความเป็นมาของการใช้พลังงานของมนุษย์ในสมัยโบราณ เพื่อให้เร าได้เข้าใจกลไกการขับเคลื่อนของเรือสังกะสีพลังงานความร้อนชนิดน้ำได้ดียิ่งขึ้น “ในสมัยก่อนการขับเคลื่อนเครื่องมือใช้ต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ เช่น รถ เรือ หรืออื่น ๆ จะใช้พลังงานจากแรงคน สัตว์ ลมธรรมชาติ อย่างใดอย่างหนึ่ง จนกระทั่งเกิดการค้นพบ “กลจักรไอน้ำ” โดย เจมส์ วัตต์ ทำให้ระบบการขับเคลื่อนเครื่องจักรต่าง ๆ เปลี่ยนรูปแบบไปใช้พลังงานจากไอน้ำ แทน และการค้นพบดังกล่าวก็เป็นที่มาของการปฏิบัติอุตสาหกรรมในยุโรปครั้งแร ก ซึ่งถือเป็นหน้าแรกของประวัติศาสตร์ความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์เลยทีเดียว และยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการผลิตกระแสไฟฟ้าในปัจจุบัน” แต่เอ๊ะ!! เมื่อลองดู “เรือป๊อกแป๊ก” สังกะสีของหนุ่มเป้อย่างถี่ถ้วน เจ้าตัวก็อธิบายว่า “จะเห็นว่าบริเวณท้องเรือ จะมีท่อวางอยู่ 2 ท่อขนานกัน ปลา ยข้างหนึ่งแทงทะลุไปด้านท้ายเรือเพื่อเป็นระบบขับเคลื่อนขณะที่ปลายอีกด้านหนึ่ งต่อไปติดกับเพดานเรือซึ่งภายในมีลักษณะเป็นอ่างปิด วิธีการเล่นก็จะเริ่มจากเอา น้ำมากรอกใส่ท่อทั้งสองทางด้านท้ายเรือให้น้ำไหลเข้าไปในท่อ และอ่างปิด จนเต็ม จากนั้นก็นำเรือไปวางบนน้ำ ถึงตอนนี้จะมีน้ำจากภายนอกด้วย ต่อมาจึงนำเทียน ไขมาจุดไฟและสอดเข้าไปใต้เพดานเรือเพื่อให้ความร้อนกับน้ำ ในอ่างปิด ในขณะที่น้ำในอ่างปิดร้อนขึ้นเรื่อยๆ ก็จะดันฟองอากาศออกมาทางด้าน ปลายท่อท้ายเรือเพื่อทำให้เรือเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและน้ำจากภายนอก ซี่งมีอุณห ภูมิต่ำกว่าจะเคลื่อนเข้าไปแทนที่น้ำในที่เทียนไขยังคงติดไฟอยู่ ซึ่งเวลาวิ่งก็จะมีเสี ยงป๊อกแป๊กเนื่องจากฟองอากาศเสียดสีกับน้ำ จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่าห ลักการของการขับเคลื่อนเรือเป็นหลักการเดียวกับกลจักรไอน้ำเคลื่อนเรือเป็นหลัก การเดียวกับกลจักรไอน้ำ แต่อาจมีข้อแตกต่างกันบ้างเนื่องจากกลจักรไอน้ำจะใช้ ไอน้ำที่มีพลังงานสูงเป็นตัวขับเคลื่อนกลไก ขณะที่เรือป๊อกแป๊กใช้เพียงแรงดันจาก ฟองอากาศขณะที่น้ำร้อนขึ้นก็เพียงพอแล้ว”

14


พินิจพิพิธภัณฑ์

“พินิจพิพิธภัณฑ์” ในฉบับนี้เราจะพาท่าน ผู้อ่ า นไปพบกั บ ความเพลิดเพลินที่แฝงเกร็ดความรู้ กับพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า หรือ ThailandBurma Railway Centre ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ตรงใจกลาง เมืองกาญจนบุรี ติดกับสุสานทหารสัมพันธมิตร หากขับรถกินลมจากกรุงเทพฯ ประมาณ 140 กิโลเมตร จะใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ แ ห่ ง นี้ ถื อ เป็ น อี ก สถานที่ ท่ อ ง เที่ ย วที่ ยั ง ไม่ ค่ อ ยเป็ น ที่ รู้ จั ก และที่ ส นใจของคนไท ย แม้ว่า จะตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวแนวหน้า ของจังหวัดกาญจนบุรี แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสการจั ดนิทรรศการที่สื่อสารแบบเข้าใจง่าย ทำให้ประสบ การณ์ในการท่องเที่ยว ครั้งนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกร่ว มไปกับความโหดร้าย ของสงคราม

การเข้ า ชมพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ที่ นี่ น อกจากจะมี ค ำบรรยายบนแผ่ น ป้ า ยที่ น่ า ติดตามแบบ 2 ภาษาแล้ว ยังมีการสร้างความรู้สึกร่วมให้กับผู้เข้าชมด้วยการ นำไม้หมอนรางรถไฟ ลิ่มเหล็ก ตะปูไม้ รวมทั้งของใช้ส่วนตัวของทหารเชลย ศึก ที่พบเจอในสถานที่จริงมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังสร้างสถานการณ์จำลองที่หลาก หลาย ทั้งการจำลองตู้รถไฟซึ่งนำเชลยศึกเข้ามายังพื้นที่ การจำลองห้องผ่าตัดที่ แสดงความเจ็บปวดของผู้ป่วย และการขาดแคลนอุปกรณ์การรักษา จนทำให้เกิด การเสียชีวิตขึ้นมากมาย รวมถึงการจำลองการสร้างทางรถไฟบริเวณช่องเขาขาด

Thailand-Burma Railway ต้องการสื่อ สารเรื่ อ งราวการสร้ า งทางรถไฟสายไทย-พม่ า โดยเชลยศึกชาวอังกฤษ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ และแรงงานชาวมาเลเซีย พม่าและไทยอีกมากมาย ที่ ต้ อ งผจญกั บ ความยากลำบากในการบุ ก ป่ า ฝ่ า ดงเข้ า ไปสร้ า งทางรถไฟให้ กั บ กองทั พ ญี่ ปุ่ น ในระ หว่างสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งสร้างรอยแผลบอบช้ำให้ กับผู้ที่รอดชีวิต และครอบครัวของผู้เสียชีวิตในการก่อ สร้างทางรถไฟความยาวกว่า 415 กม.แห่งนี้

แม้ว่าการเข้าชมจะทำให้ได้ทราบความเป็นจริงที่โหดร้าย แต่ก็ไม่ เคยขาดแคลนความน่าสนใจ ที่นี่เราจะได้พบกับการใช้สื่อมัลติมีเดียมากมา ยทั้ ง ภาพวิ ดี โ อเชลยศึ ก ในค่ า ยกั ก กั น ที่ มี ก ารบั น ทึ ก ไว้ ก่ อ นที่ ส งครามจะสงบล ง ตู้จำลองการทำงานบนทางรถไฟแบบ 24 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาดูเพียง 6 นาที หรือการจำลองเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า จากสถานีต้นทางหนองปลาดุก บริเวณบ้านโป่งในปัจจุบัน ยาวไปจนถึงสถานีปลายทางในประเทศพม่า โดยผู้เข้า ชมสามารถกดปุ่มเพื่อระบุตำแหน่งของสถานีได้ด้วยตนเอง รายละเอี ย ดการจั ด นิ ท รรศการของพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ท างรถไฟไทย-พม่ า ยังมีอีกมากมาย และยังรอการเข้าเยี่ยมชมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาว ต่างชาติอยู่ที่กาญจนบุรี ประวัติศาสตร์และความจริงยังคงรอให้เราเข้าไปพิสูจน์ สำหรับฉบับหน้าเราจะไปติดตามกันต่อกับทางรถไฟสายมรณะ กับพิพิธภัณฑ์ที่ ใช้รูปแบบการรักษาสภาพสถานที่จริงให้ยังมีชีวิตอยู่เช่นเดิม (Insitu Technique) กับพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด หรือ Hellfire Pass Memorial Museum เพราะพิพิธภัณฑ์ ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่เคยเข้าใจ

15


ดังตฤณ

2,000 TripS

เที่ยวสนุก...ที่วัดปงสนุกเหนือ

ฉบับแรกนี้ขออนุญาตพามาเที่ยวที่ลำปางกันอีกครั้ง กับการได้ไปเยือน วัดที่ได้รับเกียรติจากทาง UNESCO ที่ได้ให้รางวัล Award of Merit ในด้านการอนุรักษ์ มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage วั ด ปงสนุ ก เหนื อ เป็ น วั ด สำคั ญ คู่ กั บ จั ง หวั ด ลำปางมาช้ า นาน สันนิษฐานว่าสร้าง ขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งห ริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมา สร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน ซึ่งเดิมทีวัดปงสนุกมีชื่อเรียก ถึง 4 ชื่อ ได้แก่วัดศรีจอมไคล-วัดเชียงภูมิวัดดอนแก้ว–วัดพะยาว ปี พ.ศ. 2429 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ ก า ร ร่ ว ม มื อ ข อ ง ชุ ม ช น ที่ ต้ อ งออกมาบู ร ณะเจดี ย์ แ ละวิ ห ารพระเจ้ า พั น องค์ ว่ า เนื่ อ งจากพระเจดี ย์ มี อ ายุเก่าแก่เท่าๆกับดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ คือกว่า 500 ปี วิหารพระเจ้า พันองค์ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ รวบรวมไว้ทั้งงานด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรมผสม ผสานระหว่างไทย จีน พม่า ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวของประเทศ ก็ว่าได้ เริ่มทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ประกอบกับช่วงปี พ.ศ.2548 มีนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติ คนไทยและกลุ่มนักศึกษาจากสถาบันการศึกษา ต่างๆ เข้ามาค้นคว้าหา ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของวัดจำนวนมาก ทำให้ทาง วัดปงสนุกได้ตัดสินใจส่งเรื่องให้กรมศิลปากรพิจารณา เพื่อจัดทำโครงการ อนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมวิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งก็ ได้รับ ความอนุเคราะห์จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยตลอดเวลา 4 ปี ที่ได้ร่วมกันบูรณะทางชุมชนฯ ได้ใช้กิจกรรมด้านศาสนาเป็น ตัวชูโรง เพื่อให้ได้ทั้งพลังชุมชน และปัจจัยที่ได้มาในการบูรณะดังกล่าว จนส่ง ผลให้เกิดกระแส การตื่นตัวในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในลำปางขึ้น อย่าง กว้างขวางจนถึงขณะนี้ “วัดปงสนุก” ได้กลายเป็นแหล่งรวมของ สิ่งสำคัญหลายอย่างที่ทรงคุณค่า ทางด้าน ศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมมากมาย อาทิ พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง ภาพพระบฎ เขียนเรื่องพระเวนสันดรบนผ้าและ กระดาษสา หีบธรรมโบราณ และธงช้างเผือกขนาด ใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งทางวัดได้นำมา รวมไว้เป็นพิพิธ ภัณฑ์ 16

ส่วนจุดเด่นของการได้รับรางวัล ด้านการ อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม จากยูเนสโกในครั้งนี้ นายอนุกุล ศิริพันธุ์ สมาชิกเทศบาลนคร ลำปาง และประธานชุมชนบ้านปงสนุกเหนือ กล่าวว่า น่าจ ะเป็นเพราะรูปแบบของการบูรณะของทางวัด ด้วย เ พราะทางกรมศิลปากรได้ใช้วัถตุเดิมเกือบ 100% ในการซ่อมแซม จะมีการเพิ่มเติมสถาปัตยกรรมสมัยให ม่ไปบ้างบางส่วนที่ไม่กระทบกับองค์ประกอบหลัก เช่น การใช้น้ำยากันปลวกอย่างดี การทำชั้นรองกระเบื้อง เพื่อไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนกลับและซึมลงมา เป็นต้น หากมีโอกาสได้แวะเข้ามาเยือนเมืองลำปาง อยากให้หาโอกาสสักครั้ง ไปชมความงามกันที่วัดปง สนุกเหนือนะคะ เพราะเข้ามาแล้ว ก็จะได้มาเห็น ความสวยงามของวิหาร พันองค์และก็เจดีย์เก่าแก่คู่ บ้ านคู่เมืองลำปางมากว่าพันปีมาเยือนแล้ว มานมัสการ ก็ถือว่าได้บุญได้แรงใจกันไป อย่างเต็มอิ่ม

มี 2,000 ก็มันส์ได้!! ๐ค่ารถ รถทัวร์ 454 ไปกลับ 908 บาท ๐ค่ายานพาหนะ รถสี่ล้อ เที่ยวละ 10 บาท เต็มที่ 100 บาท ๐ค่าโรงแรม 1 คืน 300 บาท ๐ค่าอาหาร 3 มื้อ 300 บาท ๐เหลือเงินซื้อของฝาก 392 บาท


O[h]TOP DIY : ทำสมุดเซอร์ๆ ติสต์แตก! Version 1.0 สมุดโน๊ตส่วนตัวเหลืออีกไม่กี่หน้าก็หมดแล้วเลยไปเดินเล่นตามห้างหาสมุดเก๋ๆก็ เจอแต่สมุดลายกุ๊กๆ กิ๊กๆ จะหาแบบเรียบๆ ก็ไปเจอแต่แพงๆ .. แพงแบบเว่อร์ๆ ;( อยากจะทำไว้ใช้เองเล่มสองเล่ม เอาแบบไม่มีเส้นบรรทัด จะได้เขียนได้ วาดรูปเล่น ได้ พกไว้เดินทางได้ .. เอาว่ะ ลองดู ;) 1.เอากระดาษ A4 ซ้อนกันทีละ 5 แผ่น มาตัดครึ่งแล้วพับกลาง (ใช่ 15 แผ่น จะได้ 60 แผ่น!!) 2.เย็บกะจักรมันเนี่ยแหล่ะ หนา 5 แผ่นกะลังดี เย็บง่าย ถ่ายคล่อง ไม่ต้องเบ่ง 2.5 เราไม่ได้เย็บตลอดแนวพับครึ่งนะครับ เย็บแค่นิดนึง (ยาวประมาณ 1 นิ้ว) แล้วยกฝีจักรลงมาเย็บข้างล่างอีก 1 นิ้ว ประมาณนั้น 3.อยากได้หนาเท่าไรก็ทำเองเท่าที่ต้องการ ไม่ต้องง้อร้านไหน 4.เอาผ้าบางๆมาใช้ทำตัวเชื่อมสันเล่ม (ใช้ 2 อันนะ) แทนที่จะใช้ผ้าเปล่าๆ ผมพับ 2 ทบแล้วเย็บนิดนึงด้วย *ถ้ากลัวจะหลุดเอาผ้ามาทำสันตลอดทั้งเล่มเลยก็ได้ แต่ไม่เท่ห์นะ -_-’ 5.ทากาวลาเท็กซ์(เน้นยี่ห้อดีๆเช่น TOA หรือเกรดเดียวกันเท่านั้น) หรือกาวยาง UHU ที่เหลืองๆ ก็ได้ ทาทีผ้าเยิ้มๆ แล้วโปะลงไปเลย 6. ใช้ไม้หนีบมาหนีบไว้ เอากระดาษมารองตัวหนีบไว้หน่อยกระดาษจะได้ไม่เป็นรอยหนีบ 6.5 ทำทั้งสองจุด แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง 7. ใกล้แล้ว..เอากระดาษแข็งตัดใหญ่กว่าไส้สมุดเล็กน้อยตัดมา 2 ชิ้นไว้ทำปก (*กระดาษชั้นสีเทาอย่างหนา แผ่นใหญ่ๆ แผ่นละ 16 บาท B2S) 8.ทากาวทั่วทั้งแผ่นแรก เน้นที่สันตรงที่เป็นผ้าให้มากหน่อย 8.5 เสร็จแล้วประกบปกลงไป ทำที่แผ่นปกหลังเช่นกัน แล้วเอาไม้หนีบมาหนีบไว้เหมือนเดิม 9.รอให้แห้ง ก็จะได้สมุดเซอร์ๆ โชว์สันเสี่ยวๆ หน้าตาหน้าเกลียดไว้ใช้ 1 เล่ม เสร็จแล้ว .. ใช้ล่ะ อิอิ ;) ปล.ผ้าทำสันใช้ยาวหน่อยก็ได้ เล่มจะได้แข็งแรง และควรใช้กาวลาเท็กซ์เนื้อดี แพงๆ เท่านั้น เช่นของ TOA หาได้ที่ B2S เช่นกัน

อุปกรณ์ที่ใช้ 1.กระดาษ A4 ซัก 15 แผ่น (หรือกระดาษอื่นแล้วแต่อยากใช้เขียน) 2.กระดาษชั้นทำปก หรือกระดาษอื่นหนาๆ แล้วแต่ชอบ 3.คัทเตอร์ 4.กาวลาเท็กซ์เนื้อดี 5.เศษผ้าชิ้นเล็กๆ ขนาดแค่สัก 1x2 นิ้ว 2 ชิ้น 6.จักรเย็บผ้า หรือจะเย็บกะมือก็ได้ถ้าอยากเป็นเซอร์ตัวแม่ ;) 17


TALKING HEAD

“อนุทิน วงศ์สรรคกร” Type Designer

@ย้อนไปในช่วงแรกที่ทำฟอนต์เริ่มต้นกับมันยังไง ลองผิดลองถูก เป็นคำพูดที่ดูเป็นรูปแบบมากสำห รับบริบทของทุกวันนี้ แต่มันเป็นเรื่องที่จริงสำหรับ คนที่ลองผิดลองถูกจริงๆ ผมใช้วิธีคิดแบบตัวละติน ก็คิดกับแบบตัวอักษรไทยในแบบนั้น ไม่ได้มองว่า เป็ น ภาษาที่ แ ตกต่ า งกั น แล้ ว ต้ อ งใช้ ค นละแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นความสูง ขนาด หรือแม้กระทั่งฟอร์ม ผ มทำตามที่คิดว่าเหมาะสมกับการใช้งานจริงในการ ออกแบบและจัดวาง อย่างปัญหาที่เราเคยเจอบ่อยๆ สมัยก่อน เช่นต้องปรับพอยต์ของภาษาไทยขึ้นสองพ อยต์จึงจะขนาดใกล้กันกับตัวภาษาอังกฤษ พอเราลอ งมาทำภาษาไทยเราก็มากำหนดความสูงใหม่ตามค วามคิดว่ามันต้องเป็นแบบนี้สิเพื่อการใช้งานที่คล่องขึ้ น เราก็ทำเลย มันอยู่ที่ความสมเหตุผล ผมใช้ฟอนต์ไ ทยในงานออกแบบมาก่อนตั้งแต่ แมคอินทอช แอลซีทู เราเห็นปัญหามาตลอด วิธีเริ่มต้นทำงานก็คือแก้ปัญห าตามที่เราเห็นนั่นแหละครับ @คิดว่าปัญหาสำหรับไทป์ดีไซเนอร์ในสมัยนี้เหมือน หรือแตกต่างกัน สำหรับบ้านเราผมมองว่าปัญหาเดิมๆยังคงอยู่ ตรงที่ก ารเรียนรู้เรื่องการออกแบบตัวอักษรยังผูกติดอยู่กับอง ค์ความรู้ทางด้านเทคนิค ในภาคการออกแบบฟอร์มข องตัวอักษรที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนมองข้าม @อะไรคือเสน่ห์ของตัวอักษรขนาดที่ทำให้คุณถอน ตัวไม่ขึ้นมาร่วม 20 ปี มันเป็นการยากมากที่จะแจงให้ชัดเจนว่าเสน่ห์ของสิ่ง ที่เราชอบอยู่ตรงไหน เราจะได้หลายชุดคำตอบรอบๆ ที่ช่วยอธิบายความชอบนั้น นอกจากฟอร์มของ ตัวอักษรเองแล้ว ที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวอักษรคือสิ่งที่ 18

“ นั ก อ อ ก แ บ บ บ น ศิ ล ป์ สิ่ ง พิ ม พ์ แ ล ะ นั ก อ อ ก แ บ บ ตั ว อั ก ษ ร ” รักการท่องเที่ยว ชอบถ่ายภาพ มีแนวเพลงที่ชอบ มีของเก็บสะสม บ้างตามความสมควร ตรงไปตรงมา ทานอาหารสามมื้อตรง เวลาบ้างไม่ตรงบ้าง เกลียดการโกงและการเอาเปรียบพอๆ กับเกลียดรถติด โดยรวมๆ แล้วใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากที่จะ ให้ใครเข้าใจว่าเป็นนักออกแบบ คือ พารากราฟที่ 2 ที่อนุทิน จำกัดความตัวเองผ่าน http://private.anuthin.com

มันกลายไปเป็นการร้อยเรียงกันและการนำไปใช้ ตัวอักษรที่ผ่านออกมาเป็นแบบ ที่เราเห็น รวมกันเป็นคำ เกิดเป็นความหมายทางภาษาที่เข้าใจตรงกัน กลายมา เป็นประโยค กลายมาเป็นคำสั่ง กลายมาเป็นความรู้ กลายมาเป็นข้อมูล กลายมาเป็นการบันทึก ผมอยากให้เรามองกันไปไกลกว่าที่เราใช้อยู่ใกล้ๆตัว เรา มองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปหมดเลย หรือในมิติอื่นๆ @อะไรมีอิทธิพลในการทำงานของคุณมากที่สุด ก็มีหลายอย่างอยู่ครับ วัฒนธรรมและวิธีคิดในสังคมของเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ยุคแปดศู นย์เกิดเป็นส่วนผสมที่สะท้อนมาในงานออกแบบที่ผมทำ ผมว่ามันต่างจากงานของ นักออกแบบที่เป็นดิจิตอลไปเลย นักออกแบบรุ่นใหม่ๆ ที่เกิดมาในยุคที่คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ามาตรฐานในบ้าน เขาก็จะมีมุมมองกับความเป็นดิจิตอลอีกแบบ คือเขาจะไม่เคยรู้จักกับการออกแบบในโลกใบก่อนหน้านี้ @แล้ว Émigré มีอิทธิพลต่อคุณมากน้อยแค่ไหน มีทั้งในสองด้านครับ ทั้งในด้านของทัศนคติต่องานออกแบบเอง และในด้าน ของโมเดลธุรกิจ พูดได้ว่าเราโตมากับอิมมิเกรฟอนต์เห็นนิตยสารอิมมิเกร มาตั้งแต่ ต้น ยอมรับว่าในช่วงแรกของดิจิทัลฟอนต์นั้นอิมมิเกรส่งผลต่อแนวคิดและการเกิด ขึ้นของค่ายฟอนต์ขนาดเล็กทั่วโลก ค่ายฟอนต์บูติกสมัยนี้ก็คือโครงสร้างการสร้าง แบรนด์และการจัดการแบบอิมมิเกร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคัดสรรดีมากเองก็ได้รับอิท ธิพลจากแรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นนี้เช่นกัน แนวคิดของการจัดการอย่างเป็นระบบสำ


หรับงาน(ฟอนต์)จากนักออกแบบ และการเลือกที่จะทำงานกับนักอ อกแบบคนใดคนหนึ่งในการพัฒนาแบบใหม่ ความเป็นแบรนด์ที่บูติ กเชิงธุรกิจฟอนต์มาตรฐานสากล เป็นสิ่งที่ค่ายบ้านเรายังมีการบ้าน ต้องทำอีกเยอะ

ทำให้เราแตกต่างจากค่ายอื่นโดยสิ้นเชิง เพราะมันไม่ได้เป็นการแค่รั บโจทย์มาออกแบบเพื่อให้สอดคล้องกับองค์กรนั้นๆ คอสตอมฟอนต์ ในความหมายของเรากินความไปถึงวัฒนธรรมขององค์กร เราทำง านร่วมกับบริษัทหรือเอเจนซี่ที่ดูแลเรื่องแบรนดิ้ง มิติของงานนั้นกินใ จความไปถึงการเป็นที่ปรึกษาในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้แก้ปัญหาเกี่ @แปลว่าฟอนต์ที่ดีสำหรับคุณก็คือฟอนต์ที่มีคุณสมบัติอย่างที่ว่า ยวกับภาพลักษณ์องค์กรที่ผูกพันกับแบบตัวอักษร คือเราให้ความสำ ฟอนต์ที่ดีสำหรับผมนอกจากจะต้องมีทักษะของการเขียนแบบตัว คัญกับการได้มาซึ่งแบบที่ตอบโจทย์โดยแท้จริง มันเกินกว่าที่คนทั่ว อักษรอยู่ในนั้นแล้ว มันต้องมีความตั้งใจของนักออกแบบที่มีต่อแบ ไปเข้าใจความหมายของการสั่งทำฟอนต์ บสถิตอยู่ในแบบด้วย ซึ่งก็จะผูกพันอยู่กับที่มาและแนวคิดของแบบ นั้นๆ เรื่องดีไม่ดีจะค่อนข้างปัจเจกมาก ผมว่าถ้าจะต้องตอบคำถามนี้ @การเกิดคลังความรู้เกี่ยวกับไทป์พอกราฟี และ กราฟฟิกดีไซน์ เรา ต้องหากรอบสักอันที่ค่าไม่ผันแปรมากนักสำหรับการประเมินผล ในเว็บไซต์ www.anuthin.org คุณตั้งใจไว้ว่าอย่างไร ฉะนั้นมันน่าจะอยู่ที่วิธีคิด ผมคิดว่าน่าจะนำมารวบรวมไว้ในที่เดียวเพื่อเป็นฐานข้อมูลที่สามา รถเข้าถึงได้ง่าย ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับบุคคลที่สนใจ ปรับความเข้ @อยากเห็นอะไรในวงการออกแบบฟอนต์ในประเทศไทย าใจในเรื่องการออกแบบตัวอักษร และที่สำคัญคือ นักศึกษาทางการ เราให้เกียรติและเครดิตของผู้สร้างสรรค์งานแต่ละชุด สามารถช่วยให้ ออกแบบสามารถใช้เป็นข้อมูลในการเรียนได้อีกด้วย เราเองก็ไม่ต้อง การใช้ภาษาไทยเป็นสิ่งที่จับต้องได้ในการออกแบบกราฟิกร่วมสมัย บรรยายซ้ำในเรื่องบางเรื่อง ข้อ มูลทางการออกแบบในลักษณะนี้ เป็นธุรกิจได้จริง ไม่เป็นแค่งานอดิเรกอีกต่อไป เพราะเมื่อสร้างรายไ ไม่ค่อยมีให้ได้อ่านกันเป็นภาษา ไทย ผมมองว่าน่าจะมีประโยชน์ ด้ได้จริงประเทศไทยเราก็จะมีฟอนต์ที่แบบดีทันสมัยใช้มากขึ้นโดยป อย่ า งมากสำหรั บ นั ก ออกแบบรุ่ น หลั ง ที่ จ ะได้ ใ ช้ เ พื่ อ เป็ น ทางลั ด

ริยายที่สำคัญคือการได้มาซึ่งแบบตัวอักษรที่สอดคล้องกับความต้อง กระตุ้นหรือเหนี่ยวนำความคิด การของอุตสาหกรรมการออกแบบกราฟิก หรือแบบตัวอักษรที่จะช่วย ผลักและท้าทายให้การออกแบบกราฟิกไทยสามารถไปข้างหน้าได้ @อีกสัก 30 ปี คุณอยากให้คนอื่นพูดถึงหรือจดจำคุณและคัดสร รดีมาอย่างไร @การออกแบบฟอนต์สไตล์ ‘อนุทิน’ และ ‘คัดสรรดีมาก’ ค ำ ถ า ม เ ห มื อ น จ ะ ชี้ น ำ ว่ า อี ก ส า ม สิ บ ปี เ ร า จ ะ เ ป็ น ชื่ อ ที่ ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ต้องจดจำ ที่ต้องจดจำเพราะว่าอาจจะเลือนๆไปแล้ว สไตล์เหรอครับ? สไตล์ชัดเจนจะเป็นปลายเหตุที่ส่งเป็นภาพมาจากวิ หรือเปล่า? (หัวเราะ) สิ่งที่สังคมอยากจะจดจำเรานั้น ธีคิดที่ชัดเจนและคงที่น่าจะมาจากการที่เราพยายามจะเสนอวิธีคิดฟ คือมันเป็นเรื่องของหลายๆคน คนส่วนใหญ่เห็นพ้องกันในประเด็ อร์มใหม่ พื้นผิวใหม่ ในภาษาไทย เราใส่ความท้าทายของฟอร์มตัวอั นใดประเด็นหนึ่ง เราคงไปกะเกณฑ์ไม่ได้หรอกครับ อีกสามสิบปี กษรที่สามารถทำ ความเข้าใจได้ แต่อาจจะดูค้านสายตาเพราะความ ถ้าสิ่งที่เขาเลือกจะจดจำเรา ก็คือสิ่งที่เราทำในช่วงสิบปีที่ผ่านม ไม่คุ้นชิน เรียบง่ายแต่จะมีความไม่ธรรมดาซ่อนอยู่เพื่อให้พิจารณา า วันนี้ เดี๋ยวนี้ และต่อๆไปจากนี้ ก็คงอยู่ว่าเราทำอะไรในช่วงที่ว่า พยายามดันกรอบจำกัดทางการอ่าน เราทำได้ดีที่สุดหรือยัง? และสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดในช่วงดังกล่าวนี้ เอง ก็อาจจะเป็นสิ่งที่คนพูดถึงและจดจำได้ @นอกจากเรื่องดีไซน์แล้ว คัดสรรดีมาก ยังมีจุดแข็งในเรื่องการบ ริหารจัดการทางธุรกิจด้วย เราเข้ามาในธุรกิจนี้ในพื้นที่ของฟอนต์เพื่อองค์กรหรือที่ติดปากว่า คอสตอมฟอนต์ ความเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการทำฟอนต์องค์กร 19


Report เพลานี้ ... “Creative Culture” กำลังมา ในปัจจุบันคำที่ใช้กันมากและอาจสร้างควา มสงสัยให้ผู้คนได้ไม่น้อยก็คือคำว่า Creative Economy หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งอาจส ร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญขึ้นในเศรษฐกิจ ไทยในอนาคตอันใกล้ เกาหลีใต้เป็นตัวอย่าง ของประเทศที่รู้จักใช้คอนเซ็ปท์ Creative Economy (CE) ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง การส่งออกวัฒนธรรมเกาหลีไปทั่วโลกใน รูปของภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เพลง นักร้อง แฟชั่น การท่องเที่ยว ศิลปะการแสดง อาหาร ฯลฯ ซึ่งสร้างการจ้างงานและรายได้ อย่างมหาศาลเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชม ความ หมายอย่างง่ายของ CE ซึ่งให้โดย John Hawkins (ในหนังสือ The Creative Economy : How People Make Money From Ideas) ก็คือ “การสร้างมูลค่าที่เกิดจากควา มคิดของมนุษย์” สาขาการผลิตที่พัฒนาไปสู่ CE หรือจะเรียกว่าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industries หรือ CI) ซึ่งหมายถึง กลุ่มกิจกรรมการผลิตที่ต้องพึ่งพาความคิด สร้างสรรค์เป็นวัตถุดิบสำคัญ

ความสำเร็ จ ของอั ง กฤษและเกาหลี ใ ต้ ในการพัฒนาด้าน Creative Economy ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ หรือเพียงเพราะรัฐบาล นำเงินงบประมาณมหาศาลมาสนับสนุนใ ห้ธุรกิจและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั้งหล าย ได้เติบโตแต่สิ่งหนึ่งที่เป็นโครงสร้างพื้ น ฐาน (Creative Infrastructure) ในการ เติบโตของทั้งสองประเทศนี้ก็คือ หลัก สูตร “วัฒนธรรมศึกษา” ที่มุ่งเน้นการศึกษา ค้ นคว้ า วั ฒ นธรรมร่ ว มสมั ย และวิ ถี ชี วิ ต ของ กลุ่มคนต่างๆในสังคม ซึ่งแม้ว่าในจุดเริ่ม ต้ น จะเป็ น เพี ย งการวิ จั ย ในมหาวิ ท ย าลัย แต่สุดท้าย “รากฐานความรู้” ที่บ่มเพาะมายาวนานนับสิบ ปีนี้เอง ได้ถูกนำ มาใช้ต่อยอดในการพัฒนาด้าน Creative Product ของธุรกิจสร้างสรรค์ทั้ง หลายให้มีความโดดเด่นหลากหลายและสะ ท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคนในชาตินั้น สำหรับไทย “หลักสูตรวัฒนธรรมศึกษา”

มาหลายสิบปี แต่เนื่องจากปัญหา หลายๆ ประการ จึงทำให้ไม่สามารถนำมา ใช้เป็น Creative Infrastructure เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ Creative Economy ได้ ครั้นจะกลับไปแก้ไขที่หลักสูตร ก็คงจะติดปัญหาวุ่นวายไม่จบสิ้น และหาก ทำสำเร็จก็คงจะชักช้าไม่ทันการ เนื่องจากว่า “วัฒนธรรมศึกษา” เน้นไปที่ความแม่นยำ ทางวิ ช าการและยั ง มี ข อบเขตการศึ ก ษาที่ กว้างขวางครอบคลุมมากเกินไป จึงย่อมไม่ สามารถพัฒนาให้สำเร็จได้ในช่วงเวลากระ ชั้นสั้น สังคมไทยได้ถูก “เครื่องจักรและเทคโนโลยี” ควบคุมบัญชามาหลายสิบปีแล้ว ถึงเวลา ที่ประเทศไทยจะเดินหน้าเข้าสู่ Creative Economy ที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็ นมนุษย์ โดยมีเครื่องจักรและเทคโนโลยี เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้มนุ ษยชาติที่หลากหลายด้วยอารมณ์ ความรู้สึก คุณค่า ความเชื่อ และวิชาชีพ ได้มาสนทน าแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างสร้างสรรค์ลึกซึ้ ง เพื่อนำไปสู่การผลิต Creative Product ที่ไม่ ได้ให้คุณค่าทางวัตถุแต่เพียงเท่านั้น ห ากยังหยั่งลึกลงไปถึงจิตใจอันละเอียดอ่อน ของความเป็นมนุษย์อีกด้วย

สร้างธุรกิจ เชื่อมความคิด โยงวัฒนธรรม เป็นที่ทราบกันดีว่า การพัฒนาของกระบวนทัศน์ใหม่กำลังขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในโลก ปัจจุบัน รัฐบาลทั่วโลกต่างรับเอาแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาใช้ในการขับเคลื่อนระบบ เศรษฐกิจของประเทศ จากข้อมูลของ UNCTAD พบว่าประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายกำลังใช้อุ ตสาหกรรมสร้างสรรค์เป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ การจ้างงาน รวมถึงความ เชื่อมโยงของคนในสังคม

ลุกขึ้นมาเป็นผู้ขายได้ ขณะที่การโฆษณา ประชาสัมพันธ์และเทคนิคการส่งเสริมการ ขาย (Promotion) แบบดั้งเดิมก็ไม่อาจเพียง พอกับความรู้สึกมีส่วนร่วมในเรื่องสังคมและ สิ่งแวดล้อมได้อีกต่อไป

ระบบเศรษฐกิจรูปแบบใหม่และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก อันเป็นผลมา จากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและวิถีการดำรงชีวิตรูปแบบใหม่ของคนในสั งคม ได้นำมาซึ่งความต้องการใหม่ๆ มากมาย ธุรกิจในปัจจุบันไม่สามารถที่จะเดินหน้าหรือ อยู่ได้ด้วยสูตรทางการตลาดรูปแบบเดิมที่ตั้งอยู่บนหลัก 4P ได้อีกต่อไป ผลิตภัณฑ์ (Product) ในวันนี้ จำเป็นต้องเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ทั้งทางกายภาพ และอารมณ์ แ ละไม่ได้อยู่บนการแข่งขันทางด้านราคา (Price) แบบเดิมๆ นอกจากนี้ โลกยุคดิจิตัลยัง ได้ขยายช่องทางการจำหน่าย (Place) ให้กว้างไกลจนไร้ขีดจำกัด กระทั่งใครก็สามารถ

ความต้องการรูปแบบใหม่ดั ง กล่ า วยั ง รวม ไปถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลใน แง่ของทรัพยากรมนุษย์ ศักยภาพของคน กำลังทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นและกลาย มาเป็นโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับองค์กร ขนาดใหญ่และบุคคลทั่วไปในการแข่งขันเพื่ อที่จะประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิ

20


Forward ความท้ า ทายในวั น อนาคตข้ า งหน้ า ของ ประเทศไทยควรจะกำหนดทิศทางประเทศ ไปสู่การเป็น Regional Trading Hub หรือ เป็นศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาค อาเซียน รวมถึงอุตสาหกรรมบริการ ดูจะเป็น เป้าหมายที่เป็นจุดแข็งในอนาคต เพราะจุดแข็งของประเทศไทย คือ Cultural + R&D + Branding "วัฒนธรรมไทย" ตรงนี้เราแข็งแกร่งมาก เพราะฉะนั้น Service Industry เราได้เปรียบ คือทางรอดของธุรกิจไทย ตัว Service Industry ที่เราแข็งแกร่ง คือ Tourist Industry Hotels & Restaurants Food Industry และ Medicare Industry ในเซคเตอร์ พ วกนี้ เ ราต่ อ ยอดไปได้ อี ก ไกล กับ Branding ให้เป็นตัวสร้าง Value ทางของเราในวันข้างหน้าต้องมุ่งไปที่สินค้ ทีแ่ ท้จริง ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำเ า HVA (สินค้าที่มีมาร์จินสูง) และ Service และเป็นจุดแข็งของประเทศไทย รื่อง R&D แล้วก็ต้องทำการตลาดเพื่อสร้าง Industry ที่มาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรม ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำตัว สิ่งที่ประเทศไทย Brand นี่คือ กระบวนการสร้างควา แต่เราต้องสนับสนุนโดย R&D สินค้าที่ใช้ สูญเสียไปแล้วคือ Labor Cost Leadership มสามารถในการแข่ ง ขั น ของประเทศ แรงงานราคาถู ก ไม่ ใ ช่ ท างของเราอี ก แล้ ว เราไม่ ไ ด้ เ ปรี ย บเรื่ อ งต้ น ทุ น สิ น ค้ า อี ก แล้ ว ยกตัวอย่างไนกี้เขาไม่ผลิตเอง แต่เขาทำ ส่วนการพัฒนา Thailand Brand จะพัฒน เพราะฉะนั้น การสร้างมูลค่าเพิ่มต้องมุ่งไป R&D กับ Branding เขาจ้างเราผลิตพอต้นทุ าได้อย่างไรก็ต้องมุ่งไปที่ดีไซน์ และความคิด ที่เทคโนโลยี และมาร์เก็ตติ้ง เราต้องพัฒนา นเราสูงเขาก็ย้ายไปเวียดนาม เขามี R&D กับ สร้างสรรค์บนคุณภาพของสินค้า เพราะเราเ "Thailand Brand" ใส่ดไี ซน์และครีเอทีฟเข้าไป Branding เขาย้ายฐานไปที่ไหนก็ได้ในโลก ชื่อว่าแบรนดิ้งจะมาได้ต้องเริ่มจากสินค้าต้อ ในสินค้าและต้องขายสินค้าคุณภาพสูงไม่ใ เพราะฉะนั้น เราต้องลดบทบาทการเป็น งมีคุณภาพก่อน แวลูมันจะตามมา ช่ราคาถูก แต่เราจะมีตรงนี้ได้เราต้องมี R&D Production (รับจ้างผลิต) ลง แต่ต้องไปเพิ่ม (การวิจัยและพัฒนา) มูลค่ามันถึงเกิดขึ้น R&D เพื่อสร้าง High Value Added Prodไทยต้องพยายามผลักดันเรื่อง R&D ucts and Services (HVA) ขึ้นมาให้ได้

:

กระบวนทัศน์วัฒนธรรมสร้างสรรค์ จบนเวทีระดับโลก สิ่งที่ตามมาก็คือ อิสระของแต่ละคนที่จะเลือกสถานที่ตลอดจนวิธีการที่ พวกเขาจะใช้ชีวิตและสร้างรายได้ให้กับตนเอง รูปแบบการลงทุนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ในอดีต ธุรกิจวัดกำลังกันด้วย ขนาดของสินทรัพย์ที่เป็นตัวเงิน ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีต้นทุนต่ำแทบจะไม่มีโอกาสลง แข่งขันในตลาดโลกได้ แต่ในวันนี้ วัฒนธรรม คือสินทรัพย์ที่มีค่ารูปแบบใหม่อันเป็นหัวใจ สำคัญในการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมนั้นเป็นสิ่ง ที่มีต้นทุนต่ำ แต่สามารถนำมาสร้างมูลค่าได้สูง ทั้งยังยากที่จะลอกเลียนแบบ และไม่มีใคร ยึดครองเอาไปเป็นเจ้าของได้โดยง่าย ความร่ำรวยทางวัฒนธรรมและพรสวรรค์ทางความคิดที่มากล้น คือศักยภาพของประเทศ สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่เหลือก็คือ วิธีการที่จะเชื่อมโยงและแปรสินทรัพย์ ทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ให้กลายเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป 21


วัฒนธรรมประจำบ้าน

โตมร ศุขปรีชา

วัฒนธรรมรถยนต์ Yes, We Drive! ใช่, เราขับรถครับ! ใครๆ ก็ขับรถ รถยนต์ไม่ใช่แค่ปัจจัยที่ 5 แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็น อย่างหนึ่งในชีวิตของมนุษย์เมือง มันไม่ใช่แค่พาหนะพา เราจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แต่มันกลายเป็น ‘ภาพตัวแทน’ ไลฟ์สไตล์ของเรา ตัวตนของเรา และมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของผู้ อื่นที่มีต่อเรา พูดให้ถึงที่สุด รถยนต์จึงมีอำนาจต่อการอยู่รอด และสถานภาพของเราด้วย การเลือกรถยนต์มาใช้สักคัน จึงไม่ใช่ แค่เพื่อการเดินทางอีกต่อไปแล้ว แต่มันหมายถึงว่า คุณอยาก ‘ฉาย’ ภาพของตัวเองออกไปให้คนอื่นรับรู้ว่าคุณเป็นอย่างไรด้วย ไม่ว่ารถจะติดสาหัสแค่ไหน น้ำมันกำลังจะหมดโลกอย่างไร มลพิษ ทางอากาศจะเพิ่มขึ้นมหาศาลเพียงใด เราก็ยังเลือกซื้อรถ ขับรถ และ ใช้ให้รถเป็นตัวแทนบางอย่างของเรา

1. ถ้าเป็นภาพโฆษณารถยนต์เพียงอย่างเดียว : มักมีความหมายถึงความสำเร็จ ใครสามารถไขว่คว้าหารถยนต์คัน นั้นมาครอบครองได้ ย่อมเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต 2. ถ้าเป็นภาพโฆษณาที่มีคนอยู่กับรถยนต์ด้วย : มัก เป็นภาพที่มีความหมายถึงสถานภาพทางสังคม เช่น ถ้าเป็นรถหรู คนคนนั้นจะเป็นคนรวย, ถ้าเป็นรถโฉบเฉี่ยว คนคนนั้นอาจเป็นสปอร์ตแมน, ถ้าเป็นรถครอบครัว คนคนนั้นอาจเป็นแฟมิลี่แมน เป็นต้น 3. ถ้าเป็นภาพโฆษณาที่มีคนเข้ามาขับรถออกไป : มักต้องการสื่อถึง ศักยภาพในการเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีก ที่หนึ่ง ส่วนใหญ่ใช้กับรถยนต์ที่มีการบรรทุกได้มาก เช่น รถแวน รถอเนกประสงค์ รถ SUV เป็นต้น

พูดง่ายๆ เรากำลังอาศัยอยู่ในโลกแห่งวัฒนธรรมรถยนต์นั่นเอง! รถยนต์ไม่ได้เป็นแค่เครื่องจักร แต่มันคืออุปมาอุปมัยถึงตัวของ เจ้าของรถยนต์ มันเป็นมากกว่าสิ่งที่ช่วยเคลื่อนย้ายเราจากที่ หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แรกๆมันเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยให้กั บคนในชนชั้นหนึ่ง แต่ต่อมาเมื่อรถยนต์แพร่กระจายไปมากขึ้น คนส่วนใหญ่มีรถยนต์ใช้ รถยนต์ก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเสรีนิ ยมที่จะไปที่ไหนก็ได้ รถยนต์กลายเป็นภาพตัวแทนของการแสดงอ อกทางเพศ เช่น ผู้ชายต้องขับรถเป็น ต้องชอบรถสปอร์ต ต้องรักรถ ต้องรู้จักซ่อมรถ เป็นต้น รถยนต์ทำให้คนมีงานอดิเรกแบบใหม่ ได้ ใช้เวลาว่างแบบใหม่ไปกับการดูแลเครื่องจักรด้วยความรักแล ะ หลงใหลในแบบที่ มนุษย์ไม่เคยทำมาเลยตลอดประวัติศาสตร์ และแล้ว เรื่องราวของรถยนต์ก็ไม่ได้เป็นแค่ของเล่นของคนรวยเท่า นั้น แต่มันแพร่เข้าไปในชีวิตประจำวัน เผยโฉมอยู่ในนิตยสาร ข่าว เพลง การถ่ายภาพ ภาพยนตร์ วรรณกรรม บทความ ฯลฯ ซึ่งล้วน แล้วแต่เป็นสื่อของวัฒนธรรมป๊อบและมีส่วนเอื้อให้รถยนต์มีบทบาท กับชีวิตมนุษย์มากยิ่งกว่าเครื่องจักรอื่นใด ในโลก รถยนต์ที่ปรากฏอยู่ในสื่อต่างๆ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ลักษณะ และ แต่ละลักษณะจะเป็นตัวแทนของความหมายอย่างหนึ่ง ซึ่งทั้ง หมดขับเน้นลักษณะของวัฒนธรรมป๊อบให้เห็นชัดเจน ลักษณะทั้ง 5 ได้แก่ 22

4. ถ้าเป็นภาพรถยนต์กำลังวิ่ง : มักต้องการสื่อถึงอิสรภาพในการ ขับขี่ ความรวดเร็วทันใจ 5. มีรถยนต์เป็นแบ็คกราวด์อยู่ข้างหลัง : มักต้องการสื่อให้รู้ว่า ใครๆก็ใช้รถยนต์ มีรถยนต์ดังกล่าวอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง รถยนต์ในวัฒนธรรมป๊อบทำให้เราได้เห็นว่า สังคมของเรามีชีวิตอยู่อย่างไร เพราะไม่ว่าจะสื่อสารผ่านภาพ ยนตร์ ดนตรี วรรณกรรม ศิลปะ หรือสื่อสารมวลชน ผลผลิตของ วัฒนธรรมป๊อบอย่างรถยนต์ก็สะท้อนกลับให้เราเห็นถึงค่านิยม ความหวาดกลัว และความปรารถนาของเรา ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่สำ คัญกับเรา บทความนี้ทำได้แค่สะกิดเศษเสี้ยวเล็กน้อยให้เราเห็นว่า รถยนต์มีบทบาทสำคัญกับชีวิตของเรามากแค่ไหน ใช่แล้ว, เราขับรถเพราะเรารักการขับรถ แต่มีเหตุผลอื่นอีกไหม ที่ทำให้เราหลงใหลในรถยนต์และไลฟ์สไตล์ ที่พ่วงติดมากับรถยนต์แบบนั้นๆด้วย?



Pay It Forward

เอส-คมกฤษ ตรีวิมล

ผู้กำกับ

ขอส่งต่อหนังเรื่อง The Road ให้กับ พี่นรา เพิ่งมีโอกาสได้ไปดูมาครับ และเห็นว่าเป็นหนังที่ดีมาก ทีเดียว เราดูหนังมหันตภัยถล่มโลกมากันนักต่อนักแล้ว อยากให้ลองดู สารของหนังเรื่องนี้ ที่บอกเราทางอ้อมว่า เมื่อเกิดเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ แล้วเราจะทำอย่างไร และคิดกับมันอย่างไร ในฐานะที่เป็นคนธรรมดา ไม่ได้เป็น ฮีโร่กอบกู้โลกอะไรแบบนั้น หนังสร้างจากบทประพันธ์ของ Cormac McCarthy ผู้เขียน No country for old men การันตีได้เลยว่าเนื้อหาเข้มข้น ได้อะไรกลับไปขบคิดแน่นอน น่าจะเข้าทางพี่แน่นอนครับ

24


25


THE : MUST เบื่อเมืองปาย ต้องไปเมืองปัว ตอนนี้อำเภอปัวร่วมกับชมรมร้านอาหารอำเภอปัว ได้จัดเมนูพิเศษสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาเที่ยวอำเภอปัว จังหวัดน่าน คือไข่ภูคาและไก่มะแขว่น เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อ รสชาติดี อร่อย มีคุณค่าทาง โภชนาการสูง โดยนักท่องเที่ยวสามารถสั่งเมนูพิเศษนี้ได้ทุกร้านในอำเภอปัว มาเมืองปัว........ต้องกิน....ไข่ภูคาและ....ไก่มะแขว่น ราคาไม่แพงอย่างที่คิด Precious: Based on the Novel Push by Sapphire สามารถกวาดรางวัลในทุกเทศกา ลหนังทัว่ โลก เพราะความสุดยอดของหลายๆ ด้านในการสร้าง กับเรื่องราวของ Clareece ‘Precious’ Jones (Gabourey ‘Gabby’ Sidibe) เด็กสาววัยรุ่นอ้วน ดำ กับชีวิตบัดซบ ผู้ที่ต้องก้าวผ่านระหว่างวัย เด็ ก ไปสู่ วั ย ผู้ ใ หญ่ ใ นบทบาทของแม่ กั บ ลูก 1 คน ที่เกิดจากพ่อของเธอเองข่มขืน และเธอก็กำลังตั้งท้องคนที่ 2 อีกด้วย แม้ กระทั่ ง แม่ ข องเธอเองก็ ไ ม่ ช อบขี้ ห น้ า เปรี ย บเหมื อ นเธอเป็ น ตั ว อะไรซั ก อย่ า งในบ้ า น จนถูกแม่ทุบตีอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็มีหัวใจที่ แข็งแกร่งและต่อสู้ฟันฝ่าชีวิตบัดซบและต้อ งยังเลี้ยงลูกโดยลำพัง ครูของเธอจึงได้มอง เห็นคุณค่าที่อยู่ในตัวเธอ และต้องการช่วย เหลือให้เธอพ้นสภาพชีวิตอันแสนโหดร้าย และมีชีวิตที่เป็นอิสระให้ได้ เป็นการพลิกบท บาทการแสดงกั บ นั ก ร้ อ งสาวสวยเสี ย งใส Mariah Carey และนักแสดงอีกคน Paula Patton ในบทอาจารย์ที่อยากจะช่วยเธอเต็ม ที่ เพื่อชีวิตของเธอจะได้หลุดพ้นวงจรชีวิต อันสกปรกนี้

ความเป็นมินิมอลไม่ใช่แค่ว่าน้อยชิ้น เชิญมาทำความรู้จักความ คลาสสสิคของความเรียบง่าย มีสไตล์แบบไม่ต้องเยอะกับแบรนด์ Sibling เสื้อผ้าแบรนด์ไทยน้องใหม่ สิ่งที่ต่างออกไปคือ การใส่ใจ ในดีเทลของเสื้อผ้าทุกชิ้น ความพิถีพิถันในทุกส่วนของสองพี่ น้องดีไซเนอร์คนเก่ง เอ๊ะ ศศิกานต์ และธนพล อภิชาตวรศิลป์ ไม่ว่าจะเป็นแพทเทิร์น ดีไซน์ การตัดเย็บ และวัสดุที่เลือกใช้ ซึ่งแต่ ละคอลเลคชั่นจะได้รับแรงบันดาลใจหลักมาจากสิ่งเดียวกันหากแ ต่การสร้างงานออกแบบนั้น ดีไซน์เนอร์ทั้ง 2 จะแยกส่วนกันเป็น เสื้อผ้าชายและหญิง แต่ทว่าเป็นความแตกต่างที่สามารถนำมาผ สมผสานอยู่ในคอลเลคชั่นเดียวกันได้อย่างลงตัว หากอยากลิ้ม ลองความเรียบง่ายที่ไม่จืดชืด แวะมาที่ Sibling ชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์ แล้วจะรู้ว่า เสื้อผ้าที่จะดูเหมือนธรรมดาก็ทำให้ผู้พบเห็นเข็ดฟันได้ เหมือนกัน

“สุภาษิตไทยในงานศิลปะร่วมสมัย” หยิบยก 50 สุภาษิตไทยมานำเสนอให้มีชีวิตชีวา ด้วยชั้นเ นิทรรศการศิลปะร่วมสมัย โดยแต่ละชิ้นงานได้รับการถ่ายทอดจากศิลปินที่โดดเด่นสะท้อนถึงวัฒ มานิต ศรีวานิชภูมิ ม.ล.จิราธร จิรประวัติ และพินรี สัณฑ์พิทักษ์ โดยมี ตุลยา พรพิริยกุลชัย เป นักเขียนรางวัลซีไรต์ เป็นผู้เขียนคำบรรยายสุภาษิตไทย นำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวของเด็กหญ และได้สัมผัสปัญหาที่ยากจะหาทางออกได้ โดยเชื่อมโยงสุภาษิตไทยโบราณกับมหานครที่ทันส นิทรรศการจัดแสดงตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม 2552 ถึง วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2553 สี่แยกปทุมวัน เวลา 10.00 น. – 21.00 น. (หยุดวันจันทร์) 26


“ทำไมต้องเศรษฐกิจสร้างสรรค์” รวบรวมบทความกระตุ้นอะดรีนาลิน โดย 6 นักคิด ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการ ผู้จัดการ (หัวหน้าสายงานวิจัย) บริษัท หลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ดร.ปรเมธี วิมลศิริ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ริชาร์ด ไพวิส ประธานบริหาร ของกลุ่มบริหารสินทรัพย์ CLSA Capital Partners Group ชัยประนิน วิสุทธิผล ประธานกรรมการ บริหาร บริษัท ทีบีดับบลิงเอ (ประเทศไทย) จำกัด ดวงฤทธิ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเห็นภาพใหญ่ของปัญหาเศรษบกิจโลกและเศรษฐกิจไทย การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์และชี้ให้เห็นถึงอุตสาห กรรมที่มีศักยภาพและความได้เปรียบของไทย พร้อมทั้งนำเสนอภาพของคนที่ทำงาน สร้างสรรค์และธุรกิจสร้างสรรค์ที่ประสบความสำเร็จของไทยไว้ด้วย เจ้าพ่อเพลงรัก ดี้ นิติพงษ์ มีแพลนโปรเจ็คท์ละครเวที รักเธอเสมอ เดอะมิวสิคเคิล ละครเวทีที่แตกต่างที่ทำให้คุณเข้าใจคำว่ารักมากขึ้น วางตัวพระ-นาง ไว้ ได้แก่ บุรินทร์ กรู๊ฟไรเดอร์ส คู่กับ แอน ทองประสม เพื่อถ่ายทอดละครความรักโรแมนติก ที่มีความเป็นเรียลิสติก เกือบบจะเป็นโศกนาฏกรรม แต่ไม่ถึงร้องไห้ แถมยังมีความสุขปนอยู่ด้วย แต่ว่า ตอนจบจะเป็นยังไงต้องคอยลุ้น เดาว่าน่าจะมีหักมุมด้วย เร็วๆ นี้จ้า

เชิงที่มีรสนิยมและสร้างสรรค์ในรูปแบบของ ฒนธรรมไทยยุคใหม่ อาทิ จักกาย ศิริบุตร ป็นภัณฑารักษ์ และ งามพรรณ เวชชาชีวะ ญิงลำน้ำ ผู้มาอยู่กับป้าและลุงในกรุงเทพฯ สมัยได้อย่างน่าสนใจ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

www.chicministry.com Magazine Online ที่แค่ “คลิก” ก็ชิคได้ บริษัท เว็บ คัลเจอร์ จำกัด ได้เปิดตัวเว็บไซต์ แมกกาซีนออนไลน์รายสัปดาห์น้องใหม่สำ หรับผู้หญิง โดยเนื้อหาจะเป็นการนำเสนอเ รื่องราวต่าง ๆ รอบตัวของผู้หญิงแบบ 360 องศา เพื่อให้คุณผู้หญิงได้อัพเดตความเป็นไ ปของโลกได้ชนิดที่ไม่ต้องกลัวตกเทรนด์กันเ ลยทีเดียว สำทับด้วยคอลัมนิสต์ที่คัดเลือกม าแล้วว่าต้องมีชื่อเสียงในวงการต่างๆ เพื่อม าร่วมกันแชร์ประสบการณ์และไอเดียการใช้ ชีวิตในอีกมุมมองหนึ่งสำหรับสาว ๆ คนไห นที่สนุกกับการใช้เวลาว่างอยู่ในโลกของอิน เทอร์เน็ตแล้ว นี่คืออีกหนึ่งช่องทางที่ให้คุณ สาว ๆ ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวข้อมูลไปใช้ในการ ดำเนินชีวิตและเพิ่มความชิค ความสดใส ใส่ ไอเดียให้กับตัวเองเรียกได้ว่า “แค่ เ พี ย งปลายนิ้ ว คลิ ก ก็ ชิ ค ได้ ” ไม่ตกเทรนด์เลยจริง ๆ....

‘บางลำพู แบนด์ (Banglumpoo Band)’ วงดนตรีแนว Blues ที่มีส่วนผสมของ rock เป็นส่วนใหญ่ ทำให้เรานึกถึง Muddy Waters ,Cream ,Bob Dylan ,Stones , B.B. king ไปจนถึงรุ่นใหญ่อย่าง Robert Johnson แต่ดนตรีของบางลำพูแบนด์นั้นง่ายต่อการ เข้าถึงมากกว่าเพราะด้วยเนื้อร้องเล่าถึงเรื่องราวในชีวิต ประจำวัน ท่อนฮุคที่ง่ายต่อการจดจำ ซาวน์ได้ถูกนำมา reference อย่างพอเหมาะพอดี ในสไตล์ของตัวเอง ซึ่งมีความเป็นแจมแบนด์อยู่ในตัว แน่นอนอัลบั้มชุดนี้รอขึ้นบัลลังก์ชิง ตำแหน่งอัลบั้มแห่งปีไปเรียบร้อยแล้ว ลองเปิดใจหน่อยก็จะรู้ว่าบลูส์มีอะไรมากกว่าการเป็น เพลง 3 คอร์ด ก็ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกว่าจะเป็น 8 บาร์หรือ 12 บาร์ 27


Idea Space

ฟอนต์ไทย ออกแบบโดย 28

“อนุทิน วงศ์สรรคกร”


At Last

เพลินจริง อะไรจริง ที่ ”เพลินวาน” เสียงก้องขาน ทั่วกรุง ก่อกระแส มุ่งหัวหิน พุ่งเพลินวาน พาลจอแจ อย่าได้แคร์ หากวานเพลิน ที่เพลินวาน 29



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.