ไชน่าทาวน์ เยาวราช ย่านวัฒนธรรมจีนในต่างแดน
“องค์พระปฏิมาทองคา ซุ้มประตูวัฒนธรรมร่วมใจ เป็นแหล่งอาหารเลิศรส ตลาดเก่าเยาวราชมีมานาน
ไตรมิตรสถิตธรรมแจ่มใส จีนไทยสืบสัมพันธ์มั่นคง ร้านทองชื่อปรากฏกล่าวขาน ไทยจีนร่วมสมานสัมพันธวงศ์”
“ไชน่าทาวน์”
เป็ นชื่ อของสถานที่ที่หลายๆคนไทยอาจฟั งแล้วไม่คุน้ หู แต่ถา้ เป็ นคาว่า “เยาวราช”
อาจเป็ นที่คุน้ หูของใครหลายๆคนนะครับ ซึ่งเยาวราชที่พูดถึงเป็ นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันกับประเทศไทย อย่างยาวนาน ตั้งอยู่บนพื้นที่ไม่ใหญ่มากเพียงแค่ 1.4 ตารางกิโลเมตร ไม่น่าเชื่ อเลยนะครับว่าพื้นที่ เพียงแค่ น้ ี จะเป็ นพื้นที่ที่ชาวจีนได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ประเทศไทย และได้สร้างประวัติศาสตร์ไว้มากมาย ชาวจีนที่อพยพ มาในประเทศนั้น ณ สมัยที่อพยพนั้น ได้เสมือนกับคาโบราณว่า “ไปตายเอาดาบหน้า” หรื อ “เสื่อผืนหมอนใบ” และในปั จจุบนั นี้ เยาวราชได้กลายเป็ นย่านชุ มชนธุ รกิจอันดับต้นๆของประเทศไทยกันแล้ว นอกจากนี้ เยาวราช มีสถานที่สาคัญอย่างมากมายทั้งในเวลากลางวันและเวลากลางคืนทาให้เยาวราชเป็ นสถานที่คนพลุกพล่านแทบ ตลอดทั้งวัน
1
เยาวราชกลางวัน เยาวราชกลางวัน จะเต็มไปด้วยสิ นค้าต่ างๆภายในตลาดต่ างๆ คื อ ตลาดสาเพ็ง ที่ คา้ ขายเกี่ยวกับเสื้ อผ้า เครื่ องประดับต่างๆ ของขวัญในเทศกาล ของใช้เบ็ดเตล็ด ซึ่ งมีราคาไม่สูงมาก เป็ นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสาหรับ นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในการช็อปปิ้ ง ตลาดเล่งบ๋ วยเอี๊ย จะเป็ นตลาดที่มีวตั ถุดิบและส่ วนประกอบในการทาอาหาร จีน ถ้าใครอยากทาอาหารจีนทานเองตลาดแห่ งนี้ จะเป็ นสถานที่ ที่ทาให้คุณไม่ผิดหวังแน่ นอน และอีกสถานที่ สาคัญภายในเยาวราชอีกอย่างหนึ่ งคือ ย่านค้าทอง ซึ่ งเป็ นย่านที่ เมื่ อผมได้พบเห็ นครั้งแรกค่อนข้างที่แปลกตา อยูไ่ ม่นอ้ ย เพราะในย่านค้าทองนี้มีร้านทองรวมกันกว่า 130 ร้าน ซึ่งถือได้เลยว่าเป็ นชุมชนทองทามือใหญ่ที่สุดใน โลกอีกที่หนึ่งเลยทีเดียว และนอกจากนี้ ยงั มีวดั ไทย วัดจีนเป็ นสถานที่สร้างความผ่อนคลาย ความสบายอกสบาย ใจให้กบั ผูค้ นที่มีความเชื่อในเรื่ องเกี่ยวกับปี ชง นอกจากสถานที่ต่างๆในเยาวราชที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นนี้แล้วยังมี สถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย
2
เยาวราชกลางคืน เยาวราชกลางคืน จะเป็ นสถานที่ถูกเรี ยกว่า ย่านร้านอาหารจีนเป็ นหลัก เพราะมีร้านอาหารอยู่ มากมายกว่า พัน ร้ า นให้เ ลื อ กซื้ อ ชิ ม เลื อ กซื้ อ กัน นั่น เอง ภายในย่า นนี้ มี ต้ งั แต่ ร้ า นหาบเร่ แผงลอย ไปจนถึงร้านภัคตาคารหรู เลยทีเดียว ภายในสถานที่แห่งนี้มีต้งั แต่อาหารทัว่ ไป เช่น บะหมี่ ข้าวหมูแดง ข้าวขาหมู ไปจนถึง หู ฉลาม และยังมีของหวานอีกหลายชนิ ดให้เลือกชิ มตลอดเส้นทางที่มีความยาว มากกว่าหนึ่งกิโลเมตร เรี ยกได้ว่าย่านเยาวราชนี้ เป็ นสวรรค์ของนักชิมนักช็อปปิ้ งเลยทีเดียว เยาวราชก ลางวัน และเยาวราชกลางคื น อาจเป็ นตัวขับเคลื่ อ นธุ รกิ จของประเทศไทยได้แห่ ง หนึ่ ง ในปั จจุ บนั ทั้งความหลากหลายของสถานที่ การจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยว และที่สาคัญคือความสวยงาม ซ่อนอยูใ่ นสถานที่มีความจาเพราะซึ่งหาได้ยากในประเทศ
3
ถนนเยาวราช “ถนนเยาวราช” เป็ นชื่ อถนนที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้กบั ถนน “ยุพราช” ที่สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ.
2434-2441 มีความยาว 1,430 เมตร
กว้าง 20 เมตรเป็ นถนนที่สร้างขึ้นเพื่อ
ขยายความเจริ ญจากย่าน “สาเพ็ง” ถนนเยาวชราชนี้ ได้สร้างตามศาสตร์ ฮวงจุย้ เป็ นมังกร โดยแต่ละส่ วนก็จะมี ความหมายของมัน หัวมังกร หมายถึง บริ เวณวงเวียนโอดิน ซึ่งในบริ เวณดังกล่าวยังเป็ นที่ต้ งั ของวัดไตรมิตรวิทยา รามซึ่งเป็ นที่ประดิษฐานพระพุทธรู ปทองคาตามตาราฮวงจุย้
ลาตัวมังกร ความคดโค้งของถนนประกอบกับอาคาร ซึ่ ง เที ยบได้กับภู เ ขาตามต าราฮวงจุ ้ย และจากการที่ บังคับให้มีการเดินรถทางเดียวจากหัวมังกรไปยังหาง มังกร จึงทาให้ดูเหมือนมังกรที่แหวกว่ายไปมา ซึ่งตาม
หั ว มั ง กรทอง ประกอบด้ว ยการที่
ตาราฮวงจุย้ เรี ยกว่า “ทาเลเป็ น” คือทาเลที่มีชีวิต
สร้ า งซุ้ม ประตู จี น ขนาดใหญ่ ซึ่ งจะ เสมือนว่าสวนมงกุฎให้มงั กรทอง
หางมังกร หมายถึง บริ เวณ เวิ้ ง นาครเกษม เป็ นแหล่ ง
ท้อ งมั ง กร บริ เวณถนน
ชุมนุมของร้านขายเครื่ องมือ
เยาวราชช่ ว งกลาง ตาม
แ ล ะ เ ค รื่ อ ง จั ก ร ใ น ก า ร
ศาสตร์ และความเชื่ อของ
ทาอาหาร
ชาวจี น นั้น บริ เ วณนี้ เป็ น จุ ด ที่ เหมาะต่ อการอยู่ อาศัย 4
วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี)่ วัดมังกรกมลาวาส มีชื่อจีน “วัดเล่ งเน่ ยยี่” ในภาษาจีนแต้จิ๋ว คาว่า “เล่ ง” แปลว่า มังกร คาว่า “เน่ ย” แปลว่า ดอกบัว และคาว่า “ยี่” แปลว่า อารามหรื อวัด ทางด้านหน้าของวัดติดกับถนน เจริ ญกรุ งนั้น เป็ นบริ เวณย่านการค้า ของชาวไทยเชื้อสายจีนตลอดสาย ด้านหน้าทางเข้าวัดมีร้านขาย ของเครื่ องเซ่ นไหว้และขนมต่างๆ เมื่อเดินเข้ามาภายในบริ เวณวัดจะเป็ นลานกว้าง ด้านหน้าจะเป็ น วิหารท้าวจตุโลกบาล ทางด้านขวามือจะเห็นศาลเจ้า ส่ วนทางด้าน ซ้ายมือจะมีศาลา และเมื่อหันหลัง กลับไปจะเห็นตึก 9 ชั้น ที่มีชื่อว่า “ตึกพิพิธภัณฑ์วตั ถุธรรม”
5
และมีโรงเรี ยนมังกรกมลาวาสวิทยาลัย โดยพระคณาจารย์จีนธรรมปั ญญาจริ ยาภรณ์ (ท่านเจ้าคุณเย็น เชี้ ยว) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบนั โรงเรี ยนพระปริ ยตั ิธรรมสายสามัญศึกษาของวัดมังกรกมลาวาสที่ มี การสอนตั้งแต่ช้ นั มัธยมศึกษาปี ที่ 1 ถึง 6 และยังเป็ น โรงเรียนแห่ งแรกของคณะสงฆ์ จีน ในประเทศ ไทยอีกด้วยครับ
สถาปัตยกรรมของวัดมังกรกมลาวาส เป็ นการวางผังตามแบบลักษณะสถาปั ตยกรรมจีนทาง ตอนใต้ โดยมี ลกั ษณะแบบสกุล ช่ า งแต้จิ๋วเป็ นหลัก การวางผัง ถื ด ตามแบบพระพุทธศาสนานิ กาย มหายาน ตัวอาคารจะวางล้อมลานเรี ยกว่า “ซี่เตี่ยมกิม” เป็ นแบบ เฉพาะของตัวอาคารพื้นถิ่นแต้จิ๋ว การจัด วางวิหารถื อ ตามแบบวัง หลวง โดยมี วิหารท้า วจตุ โลกบาลเป็ นวิหารแรก อุ โบสถอยู่กลาง ด้านหลังพระอุโบสถมีวิหารบูรพาจารย์ ตัวอาคารทั้งหมดในวัดประกอบด้วยอิฐและไม้ เป็ นโครงสร้าง สาคัญของวัดมังกรกมลาวาส โดยเฉพาะภายในอุโบสถของวัดมังกรกมลาวาสเป็ นที่ประดิษฐานของ พระประธานของวัด คือ พระศากยมุนีพุทธเจ้ า และวิหารด้ านหน้ า ประดิษฐานท้าวจตุโลกบาลข้างละ 2 องค์ เป็ นรู ปหล่ อปู น เขี ยนสี แ ต่ ง กายแบบนักรบจี น ส่ วนด้า นข้า งเป็ นเทพเจ้า ตามความเชื่ อ ของ ลัทธิ เต๋ าและเทพเจ้าพื้ นเมื อ งของจี น เช่ นเทพเจ้าคุม้ ครองดวงชะตา (ไท้ส่วยเอี๊ ยะ) เทพเจ้า แห่ งยา (เซียงซือกง) เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ) และยังมีรูป 18 พระอรหันต์ต้งั อยูท่ ้ งั สองข้างของวิหาร ซึ่งรวมเทพเจ้าได้ท้งั หมด 58 องค์ 6
วัดกันมาตุยาราม วัดกันมาตุยาราม สร้างเมื่อรัชกาลที่ 4 ศาสนสถานในกรุ งเทพฯนั้น แม้ว่าในอดีตจะนิ ยมสร้าง กันริ มฝั่งแม่น้ า คูคลอง เพื่อให้สะดวกต่อการสัญจรไปมานั้น สถานที่ศกั ดิ์สิ ทธิ์ ที่สร้างกระจุกอยูอ่ ย่าง หนาแน่นที่สุด เห็นจะไม่พน้ เกาะรัตนโกสิ นทร์ ทั้งนี้ เนื่ องจากมีปัจจัยของทาเลที่ต้ งั ที่เอื้อต่อการสร้าง วัด หลวง หรื อแม้แ ต่ เ ป็ นวัด ที่ ขุ น นางสร้ า งถวายพระเจ้า แผ่ น ดิ น ก็ ย ัง นิ ย มสร้ า งกัน ริ มฝั่ ง น้ า แต่ ที่กรุ ง เทพมหานครฯ นั้น นอกจากเกาะรัตนโกสิ นทร์ แล้ว ยังอยู่อี กเพียงไม่กี่ย่า นที่ มีการสร้ า ง ศาสนสถานใกล้ๆ กัน อาทิ ย่ า นบางขุ น เที ย น หรื อแม้แ ต่ ย่ า นที่ มี ผูค้ นแออัด ที่ สุ ด อย่ า งเยาวราช ย่านเยาวราชนั้น นอกจากเป็ นย่านที่เต็มไปด้วยศาลเจ้า และวัดจีนที่ชาวบ้านรวมใจกันสร้างขึ้นตามคติ ความเชื่ อดั้งเดิมของชาวจีนแล้ว ย่านนี้ ก็ยงั มีวดั ไทยตั้งแฝงอยู่ดว้ ยไม่น้อย ทั้งนี้ ขอ้ ดีของศาสนาพุทธ คือศาสนาพุทธทุกนิ กายสามารถเกื้อกูลกันได้โดยไม่มีการแบ่งแยกเรื่ องเข้ารี ตหรื อนอกรี ต ดังนั้นชาว จีนโพ้นทะเล และชาวไทยที่ ทามาหากิ นในละแวกนี้ จึ งนิ ยมแวะมาสักการะทั้งวัดจีน และวัดไทย ที่ ถ นนมังกรย่า นเยาวราช ไม่ ไกลจากตรอกตลาดใหม่นัก เป็ นย่านเก่ า แก่ ที่บางที เรามักจะเรี ยกว่า ซอยคาร์ เธ่ ตามชื่ อห้างสรรพสิ นค้าที่เคยตั้งอยู่ปากถนนฝั่งเยาวราชนั้น มีวดั ไทยตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ด้านข้างของอดีตห้างฯ คาร์เธ่น้ นั เป็ นวัดหลวงที่สร้างมาได้กว่าหนึ่งร้อยปี แล้ว
7
วัดกันมาตุยารามเป็ นชื่อวัดไทยที่มีอยูเ่ พียงแห่ งเดียวที่ถนนมังกร วัดนี้ แต่เดิมนั้นเป็ นวัดราษฎร์ ที่ผูส้ ร้างคือ นางกลีบ สาครวาสี เป็ นผูส้ ร้างขึ้น โดยใช้พ้ืนที่ที่เคยเป็ นสวนดอกไม้ของเธอสร้างเป็ น วัดขึ้น เพื่อใช้สะเดาะเคราะห์แก้เคล็ดเพื่อให้ลูกๆ ที่มีสุขภาพอ่อนแอนั้นหายป่ วยตามคาแนะนาของ ั ฑ์เทศน์เพื่อให้ลูกมีสุขภาพที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต โดยการยกลูกคนหนึ่ งที่ ชื่อว่า “กัน” ใส่ กณ แข็งแรง หลังจากที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โตเทศน์เสร็จ ก็ให้เปลี่ยนตัวสะกดชื่อเสี ยใหม่เป็ น กัณฑ์ ที่มา จากกัณฑ์เทศน์ที่มารดาถวาย ดังนั้นวัดที่สร้างขึ้นนี้ จึงมีคาแปลตรงตัวว่า วัดของมารดานายกัน ต่อมา เมื่อนายกัณฑ์เจริ ญวัยขึ้น ก็ได้ครองผ้าเหลืองถวายตัวเป็ นมหาดเล็กในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยูห่ วั มีการสันนิษฐานในเวลาต่อมาว่า นางกลีบอาจจะถวายวัดให้กบั รัชกาลที่ 4 วัดนี้ จึงได้เป็ นวัด ในสายธรรมยุติกนิ กาย ในวัดนี้ นอกจากจะเป็ นวัดเก่ าแก่ ที่มีตวั อุโบสถที่มีอายุกว่าหนึ่ งร้อยปี แล้ว ในวัดก็ยงั มีเจดี ยท์ รงระฆังคว่า แบบลังกา ที่ สร้างเลี ยนแบบธัมเมกสถูปในอินเดี ยด้วย เจดี ยแ์ บบนี้ มีเพียง 2 แห่งในประเทศไทยคือที่ วัดโสมนัสวิหารและวัดกันมาตุยารามนี้ 8
วัดโลกานุเคราะห์
วัดโลกานุเคราะห์ หรื อเรี ยกในภาษาจีนว่า “วัดตื้อเต้ ตื่อ” วัดในพระพุทธศาสนาฝ่ ายมหายาน ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนัง่ เกล้าเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 3 หรื อเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2394 โดยพ่อค้าชาวจี นและชาวญวน ร่ วมกันสร้ างเป็ นสานักสงฆ์ เพื่อใช้เป็ นศาสนสถาน ประกอบศาสนกิจตามลัทธิ พิธีทางฝ่ ายพระพุทธศาสนาฝ่ ายมหายานสาหรับชื่ อ “วัดโลกานุเคราะห์ ” ภาษาไทยนี้กไ็ ด้รับพระราชทานนามมาจากรัชกาลที่ 5 โดยวัดแห่งนี้กม็ ีขนาดไม่ใหญ่โตนักแต่กม็ ีความ งดงามไม่แ พ้วดั ไหนๆตรงซุ้มพระประธานเน้น สี ทองกับสี แดง ส่ วนพระพุทธรู ปในซุ้มนั้นก็มีท้ งั พระพุทธรู ปแบบไทยทั้งในอิ ริยาบถนั่งและยืน ประดิ ษฐานรวมอยู่กบั พระพุทธรู ปแบบจีนอี กด้วย ส่ วนที่ผนังด้านหลังพระประธานนั้นก็วาดลวดลายเป็ นรู ป พระพุทธเจ้าตามแบบจีนสามองค์ดว้ ยกัน นอกจากนั้นแล้ว ที่ฝาผนังทั้งด้านซ้ายและขวาภายในพระอุโบสถนี้ ก็ยงั เป็ นกระเบื้ องที่มีลวดลาย เป็ นพระศรี ศากยมุนีหรื อพระพุทธเจ้าติดอยูร่ ายรอบเป็ นอยู่ ณ ปัจจุบนั
9
วัดไตรมิตรวิทยาราม วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็ นวัดโบราณ พระอารามหลวงชั้นโท ชนิ ดวรวิหาร สร้างเมื่อสมัยใดไม่ ปรากฏหลักฐาน เดิมมีชื่อว่า วัดสามจีนใต้ มีคาเล่ากันว่าวัดสามจีน เดิมมีอยูส่ ามวัด คือ วัดสามจีนอยู่ ในคลองบางอ้อด้านตรงข้ามกับเทเวศร์วดั หนึ่ง วัดสามจีนเหนื อ บางท่านก็ว่าอยูท่ ี่บางขุนพรหม บางที่ ก็ว่า อยู่ที่ จงั หวัด นนทบุ รี สาหรั บ วัด ที่ อ ยู่บ างขุน พรหม คื อ วัด สัง เวชวิศ ยาราม ส่ ว นที่ อ ยู่จงั หวัด นนทบุรี ได้แก่ วัดโชติการาม อาเภอเมืองนนทบุรี และวัดสามจีนใต้ ได้แก่ วัดไตรมิ ตรวิทยาราม นอกจากนี้ วดั ไตรมิตรยังมีปูชนี วตั ถุที่มีชื่อเสี ยงระดับโลกแห่ งหนึ่ งและสิ่ งนั้นไม่สามารถประเมินค่า มิได้น้ นั คือ พระพุทธมหาสุ วรรณปฏิมากร ใจกลางกระแสธารแห่ งอารยธรรมตั้งแต่อดีตจวบปัจจุบนั ปรากฏร่ อ งรอยหลัก ฐานความเจริ ญ รุ่ ง เรื อ งสื บ เนื่ อ งมาอย่า งไม่ ข าดสาย มรดกทางวัฒ นธรรม สถาปั ตยกรรม ศิลปกรรม สะท้อนให้เห็นความรุ่ งโรจน์แห่ งอารยธรรมไทยแต่ครั้งโบราณกาล ดังที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้ าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสื อ เที่ยวเมืองพระร่ วง
10
ซึ่ งทรงตรวจสอบค้นคว้าด้านโบราณคดีเกี่ยวกับสุ โขทัย ความว่าชาติไทยเรา ไม่ใช่ชาติใหม่ และไม่ใช่ชาติที่เป็ นคนป่ า หรื อที่เรี ยกตามภาษาอังกฤษว่า อันซิ วิไลซ์ ชาติไทยเราได้เจริ ญรุ่ งเรื องมา มากแล้ว เพราะฉะนั้น ควรที่จะรู ้สึกอายแก่ใจว่า ในกาลปัจจุบนั นี้ อย่าว่าแต่จะสู ้ผอู ้ ื่น แม้แต่จะสู ้คนที่ เป็ นต้นโคตรของเราเองก็ไม่ได้ ฝี มือช่าง หรื อความอุตสาหะของคนครั้งพระร่ วงดีกว่าคนสมัยนี้ปานใด ถ้าอ่านหนังสื อนี้ แล้ว บางทีพอรู ้สึกหรื อเดาได้บา้ งไม่มากก็น้อย ถ้าอ่านแล้วคงจะเห็นความเพียรของ คนเราเพียงไรพระราชนิพนธ์ชิ้นนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามรุ่ งเรื องในอดีตโดยเฉพาะ สุ โขทัย อาณาจักรไทย ที่ครอบคลุมดิ นแดนดอนเหนื อในช่ วงพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 20 ร่ องรอยแห่งความเจริ ญดังกล่าว นอกจากจะพบได้จากซากเมือง และวัดวาอารามต่างๆรวมทั้งศิลปวัตถุ อัน ตกทอดมาถึ ง ปั จ จุ บ ัน ที่ ส ร้ า งขึ้ นอย่ า งประณี ตด้ ว ยศิ ล ปะชั้ นสู ง แล้ ว ความยิ่ ง ใหญ่ แ ห่ ง อารยธรรมในอดี ต ยังพบเห็ นได้ชัดเจนจากพระพุทธรู ปทองคาสุ โขทัยไตรมิ ตพระพุทธรู ปทองคา บริ สุทธิ์ สมัยสุ โขทัย อันเป็ นมรดกแห่ งอารยธรรมที่ตกทอดเป็ นประจักษ์พยานถึงความเจริ ญรุ่ งเรื อง แห่งอารยธรรมของสยามประเทศ 11
พระพุทธรู ปทองคาสุ โขทัยไตรมิต หรื อ หลวงพ่ อทองคา หรื อที่มีนามซึ่ งปรากฏตามพระราชทินนาม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรั ชกาลปั จจุบนั (รัช กาลที่ 9) ว่า พระพุทธมหาสุ วรรณปฏิ มากร ปัจจุบนั ประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหารแห่ งวัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุ งเทพมหานคร เป็ น พระพุทธรู ปปางมารวิชยั คือ อยูใ่ นพระอิริยาบถนัง่ สมาธิ ราบ พระหัตถ์ซา้ ยหงายวางบนพระเพลา พระ หัตถ์ขวาวางเหนื อพระชานุ ปลายพระหัตถ์ช้ ีลงพื้นธรณี หน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ ว สู งจากฐานถึงพระ เกตุเมาฬี 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว น้ าหนักประมาณ 5 ตันครึ่ ง เป็ นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศใน ปัจจุบนั นี้ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรหรื อพระพุทธรู ปทองคาสุโขทัยไตรมิตร หรื อเรี ยกกันในภาษา ชาวบ้านว่า หลวงพ่อทองคา ประดิษฐานอยู่ ณ พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ วัดไตรมิตรวิทยาราม เลขที่ 661 ถนนเจริ ญกรุ ง เขตสัมพันธวงศ์ กรุ งเทพมหานคร เป็ นที่เคารพสักการะของประชาชนชาว ไทยและชาวต่างประเทศที่พากันหลัง่ ไหลกันเข้ามาชมความงดงามแห่ งองค์พระปฏิมาที่ทาจากเนื้ อ ทองคาบริ สุทธิ์ ขนาดใหญ่ที่สุด ในโลกอัน ประเมิ นค่า มิ ได้ นับเป็ นความภาคภูมิใจของชาวไทยทั้ง ประเทศต่อมรดกแห่งอารยธรรมไทยที่ยิ่งใหญ่งดงาม อันเป็ นประจักษ์พยานถึงความรุ่ งโรจน์แห่ งพุทธ ศิลปะ ฝี มือช่าง และพลังแห่งศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาที่สืบเนื่องเรื่ อยมาจากอดีตจวบปัจจุบนั
12
พิพิธภัณฑ์วัดไตรมิตรวิทยาราม ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราชนิทรรศ์รัตนโกสินทร์ พิ พิ ธ ภัณ ฑ์ว ดั ไตรมิ ต ร ศู น ย์ป ระวัติ ศ าสตร์ เ ยาวราชนิ ท รรศน์ รั ต นโกสิ น ทร์ น าเราย้อ นสู่ ประวัติศาสตร์รัตนโกสิ นทร์ และ มิวเซียมสยาม ก็ได้นาเอาความเข้าใจในชาติพนั ธุ์แห่งสุวรรณภูมิมาสู่ ใจเราอย่างถึงแก่น ดังนั้น เพื่อให้ครบครอบรอบด้านของการเดินทางท่องเที่ยว ฉบับพิพิธภัณฑ์ One Day Trip เราจึงขอนาชาว คู่หูเดินทาง มาปิ ดท้ายวันกันที่พิพิธภัณฑ์อีกแห่งที่ชื่อ พิพิธภัณฑ์วดั ไตรมิตร หรื อ ศู น ย์ประวัติ ศาสตร์ เยาวราชศึ กษาความเป็ นมาและเรี ยนรู ้ เกี่ ยวกับ ความเจริ ญรุ่ ง เรื อ งที่ มีม า ยาวนานของชุมชนจีนย่าน เยาวราชจะมีหอ้ งให้รับชมนิทรรศการออกเป็ น 6 ส่วนคือ 1. เติบใหญ่ใต้ร่มพระบารมี ฟั งคาบอกเล่าจากอากงชาวเยาวราช เพื่อทาความรู ้จกั เบื้องต้นกับ ชุมชนชาวจีนสาเพ็งและเยาวราช 13
2. ก าเนิ ด ชุ ม ชนจี น แห่ ง กรุ งรั ต นโกสิ น ทร์ (พ.ศ. 2325 - 2394) จุ ด ก าเนิ ด ของชุ ม ชน จีน-สาเพ็ง และการเข้ามาของชาวจีนโพ้นทะเลในช่วงสมัยรัชกาลที่ 1-3 จนกระทัง่ กลายเป็ นย่านการค้า ที่ใหญ่ที่สุดของกรุ งเทพฯ 3. เส้นทางสู่ ยคุ ทอง (พ.ศ. 2394 - 2500) พัฒนาการของชุมชนจีนจากตลาดสาเพ็งสู่ ความเป็ น ย่านธุรกิจสมัยใหม่บนถนน เยาวราช เรื่ องราววิถีชีวิตที่ช่วยให้ผชู ้ มเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อวิถีทาง สังคมของชาวเยาวราชในยุคนั้น 4. ตานานชีวิต Hall of Fame ประกอบวีดิทศั น์แสดงตานานชีวิตของบุคคลชาวเยาวราชที่เป็ น แบบอย่างและแรงบันดาลใจให้แก่อนุชนรุ่ นหลัง 5. พระบารมี ป กเกล้า ฯ แกลเลอรี่ ภ าพถ่ า ยและวี ดิ ท ัศ น์ แสดงถึ ง พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และพระบรมวงศานุวงศ์ ในรัชกาลปัจจุบนั ต่อชุมชนเยาวราช 6. ไชน่าทาวน์วนั นี้ ภาพลักษณ์อนั โดดเด่นในแง่มุมของเยาวราชที่เป็ นอยู่ในปัจจุบนั ซึ่ งได้รับ การขนานนามว่าเป็ น “ไชน่าทาวน์” ของประเทศไทย
“เพิม่ เติมนะครับ” รู ้ก่อนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วดั ไตรมิตร (ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช) เปิ ดให้ เข้าชมทุกวัน คนไทยฟรี ชาวต่างชาติคนละ 140 บาท 14
อาจารย์ วินัย ผู้นาพล 15
ชาวจีนเข้ามาอาศัยในประเทศไทยได้อย่างไร? ความจริ งแล้วชาวจีนยุคบุกเบิกที่เข้ามามีบทบาทสาคัญ โดยเฉพาะเรื่ องการค้าคายตั้งแต่ก่อนสมัย กรุ งสุ โขทัย แล้ว ในช่ วงกรุ งศรี อยุธยา จานวนชาวจี นอพยพได้เพิ่มจานวนขึ้นทาให้ธุรกิ จการค้าใน ราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น ซึ่ งชาวจีนส่ วนใหญ่ที่เข้ามาในยุคนี้ ส่วนใหญ่จะเป็ นพวกฮกเกี้ยน เข้ามาเพื่อทา การค้าที่มาพร้อมเรื อสาเภา เป็ นผูท้ ี่มีท้ งั ทรัพย์สินและความรู ้ จึงมีชาวจีนไม่น้อยที่ได้เข้ารับใช้ในวัง และรับราชการในตาแหน่งต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็ นการดูแลด้านการจัดเก็บภาษีอากร การรับสัมปทาน เช่ น การทาเหมืองแร่ ดี บุก รักนก เป็ นต้น เนื่ องจากการให้สิทธิ์ เป็ นแบบผูกขาด จึงสร้างความมัง่ คัง่ ให้กบั คนจีนกลุ่มนี้ จนถึงปั จจุบนั และส่ วนหนึ่ งเจริ ญหน้าที่การงานได้เลื่อนยศเป็ นเจ้าเมืองหัวเมือง ต่างๆ ในสมัยพระเจ้ากรุ งธนบุรีคร้องราชย์แล้ว ชาวจีนแต้จิ้วได้เข้ามาทาการค้า และอพยพมายังกรุ ง ธนบุรีจานวนมาก พ่อค้าจีนแต้จิ้วจานวนมากได้รับสิ ทธิ พิเศษ สาเหตุเนื่ องจากพระเจ้ากรุ งธนบุรีทรงมี เชื้ อสายแต้จิ้วเช่ นกัน และในช่ วงต้นกรุ งรั ตนโกสิ น ทร์ ชาวจี นส่ วนใหญ่อพยพมาเพราะหนี ความ ยากจน ความอดอยาก เพราะเกิดการคอรัปชัน่ ในรัฐบาลราชวงศ์ชิง การเก็บภาษีที่เอาเปรี ยบ ทาให้ชาว จีนจานวนมากมุ่งสู่ สยามประเทศ เพื่อสร้างชี วิตใหม่จึงเกิ ดความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิตเหมือนเป็ นพี่น้อง ระหว่างไทย-จีน จนถึงทุกวันนี้
16
ทาไมเยาวราชจึงเป็นไชน่าทาวน์ของกรุงเทพมหานคร? เนื่ องจากบางกอกหรื อธนบุรี เป็ นเมืองหน้าด่านในการค้าขายทางทะเลกับชาวต่างชาติมานาน ตั้ง แต่ ส มัย อยุ ธ ยา และมี ชุ ม ชนชาวจี น ขนาดเล็ ก ตั้ง อยู่ ม าแต่ โ บราณเช่ น กั น เดิ ม ที อ ยู่ แ ถวๆ พระบรมมหาราชวัง แต่ภายหลังสมัยรัชกาลที่ 1 ได้ทรงสถาปนากรุ งเทพฯเป็ นราชธานี ก็เห็นว่าชุมชน ชาวจีนที่อยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังดูไม่เหมาะสม จึงโปรดฯ ให้ชาวจีนย้ายไปอยู่ที่เยาวราชแทน ทาให้เยาวราช-สาเพ็ง และคนแถวนั้นส่วนใหญ่กเ็ ป็ นคนแต้จิ๋ว ดังนั้นพอคนรุ่ นใหม่ๆอพยพมา ก็มกั จะ มาพึ่งพาอาศัยญาติแถบนั้นก่อน พื้นที่ตรงนี้เลยพัฒนากลายเป็ นถิ่นของชาวจีนในระยะเวลาต่อมา
17
1. ร้านลอดช่องสิงคโปร์ : Lod Chong Singapore ร้านลอดช่องสิ งคโปร์ร้านแรกของเมืองไทย ที่ขายมากว่า 60 ปี เดิมทีชื่อว่าร้านสิ งคโปร์โภชนา เพราะในอดีตมีโรงหนังสิ งคโปร์หรื อโรงหนังเฉลิมบุรีอยูบ่ นถนนเส้นนี้ แต่ต่อมาหลายคนมักเรี ยกสั้นๆ ว่าร้านลอดช่องสิ งคโปร์ จึงเปลี่ยนชื่ อให้จาง่ายๆ ว่าร้านลอดช่องสิ งคโปร์แทน ความอร่ อยของร้านนี้ คือแป้งที่เหนียวนุ่มหนึบๆ น้ ากะทิหอมหวาน เวลาทานตอนอากาศร้อนๆ จะชื่นใจมากๆ ด้วยราคาสุ ด ประหยัดเพียง 20 บาท/ถ้วย เท่านั้นคะ
18
2. คั้นกี่ น้าเต้าทอง : Khan Ki Namtao Thong อีกร้านหนึ่ งที่ต้ งั อยูบ่ นถนนเจริ ญกรุ ง คือร้านคั้นกี่ น้ าเต้าทอง ร้านนี้ เขาเปิ ดมา 100 กว่าปี แล้ว ค่ะ ขายน้ าขม น้ าหวาน แบบโบราณ ภายในร้านจะมีน้ าเต้าสี ทองสองอัน อันหนึ่งบรรจุน้ าขม อันหนึ่ง บรรจุน้ าหวาน ลูกค้าที่เข้ามาทานก็เดิ นมาสั่งแล้วยืนดื่ มกันหน้าร้านเลย แก้วละ 10 บาทเท่านั้น สรรพคุณมีมากมายบารุ งสุขภาพ ปรับสมดุลพลังหยินและหยาง หน้าร้านจึงเต็มไปด้วยอาแปะมาดื่มน้ า ขมกันโฮกๆ ส่ วนเราลองดื่มทั้งสองแบบสรุ ปแล้วว่าน้ าหวานเหมาะกับเรามากกว่าน้ าขม เพราะน้ าขม นั้นขมเอาเรื่ องเลยล่ะคะ
19
3. ขนมปังร้านน้องแอม (ขนมปังซอยเท็กซัส) : Kanompung Nong Am ร้านขนมปั งปิ้ งน้องแอมตรงตรอกเท็กซัส(ถนนผดุงด้าว) ร้านนี้ ขายตอนเย็นๆ จะมีบรรดาอา แปะ อากงมานัง่ สนทนากันพร้อมจิบชากินขนมปังปิ้ งไปด้วย ความโดดเด่นของร้านนี้ คือตัวขนมปังที่ เขาใช้ขนมปังหัวกะโหลกสัง่ ทาอย่างดี ก่อนปิ้ งก็จะทาเนยที่ทางร้านทาเอง และเหยาะนมลงบนขนมปัง แล้วนาไปปิ้ งให้เนยและนมซึ มเข้าไปในขนมปั ง ทาให้ขนมปังหวาน มัน หอม นุ่มอร่ อยมากๆเลยค่ะ อ้อ...อย่าลืมทานคู่กบั นมสดร้อนๆด้วยนะคะ
20
4. ข้าวแกงเจ๊กปุ้ย(เจ้เฉี๋ย) (ข้าวแกงเก้าอี้ดนตรี) : Khaokang Jek Pui ข้าวแกงร้านนี้เขาไม่มีโต๊ะค่ะ มีแต่เก้าอี้วางๆ ให้นงั่ ที่มาของข้าวแกงเก้าอี้ดนตรี คือลูกค้าที่จะมา ทานในร้านต้องรอเก้าอี้ว่าง ซึ่ งคนที่นงั่ ทานนั้นขอบอกว่าเยอะมาก รวมกับคนที่มาต่อแถวซื้ อใส่ ถุง กลับไปอี กซึ่ งแถวยาวมาก ขนาดเราไปถึงกว่าจะได้ทานนานมาก แต่พอทานแล้วก็สมใจเลยล่ะค่ะ เพราะเป็ นข้าวแกงที่อร่ อยจริ งๆ โดยเฉพาะแกงกะหรี่ หมูที่เข้มข้น หมูนุ่ม เวลาเขาราดมาก็ราดน้ าแกง มาท่วมข้าวสวยร้ อนๆ เวลาตักกิ นตอนหิ วๆ อร่ อยสุ ด ๆ นอกจากนั้นยังมี กบั ข้า วอื่ นๆ ที่ น่า กิ น อี ก มากมาย ข้าวราดสองอย่างคิดราคาเพียงแค่ 40 บาท
21
5. ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กระทะทองเหลือง : Kua Teaw Kua kai Yaowarat จากเจริ ญกรุ งเลี้ยวเข้าสู่ ถนนเยาวราช บริ เวณปากซอยอิสรานุ ภาพ(เยาวราชซอย 6) หลังจาก ตลาดตอนกลางวันปิ ดลง ก็เป็ นเวลาที่เราจะได้ทานก๋ วยเตี๋ ยวคัว่ ไก่อร่ อยโฮก ที่เขาจะขายประมาณ 1 ทุ่ม จะมีลูกค้ามียนื ต่อคิวซื้อกันตั้งแต่ตอนเย็น ความโดดเด่นของร้านนี้คือเขาใช้กระทะทองเหลืองใน การคัว่ โดยอาเฮียเจ้าของร้านที่สืบต่อการทามาตั้งแต่รุ่นพ่อ จนวันนี้ ก็ 30 กว่าปี แล้ว ใช้เส้นใหญ่ควั่ จน แห้ง น้ ามันน้อย หอม เส้นนุ่มรสชาติน้ นั เข้าไปถึงเส้น ไม่ตอ้ งปรุ งอะไรเลยก็อร่ อย หมึกกรุ บกรอบ ไข่ ที่สุกกาลังพอดี ไม่เละ และไก่รสชาติดี ทาให้เราลืมก๋ วยเตี๋ยวคัว่ ไก่ท้ งั หลายที่เคยกินมาเลย แม้ราคาจะ แพงไปหน่อย ชามละ 50 บาทแต่ความอร่ อยขนาดนี้เราก็ยอมจ่ายให้อาเฮียแกไปเลยค่ะ
22
6. หมี่หวานเจ๊หมวย : Mee Wun Jae Muay จากปากซอยอิสรานุภาพ เดินข้ามฝั่งมาฝั่งตลาดเก่า เราจะพามาทานหมี่หวานกันที่ร้านเจ๊หมวย ตอนแรกที่ได้ยินว่าเส้นหมี่มาทาเป็ นของหวานเรายังนึ กไม่ออกว่ารสชาติมนั จะเป็ นอย่างไร แต่ทาน แล้วขอบอกว่าอร่ อยมากๆ เส้นหมี่ของเขาจะเป็ นประเภทที่ไม่ใส่ไข่ ใส่ เครื่ องมากมายทั้งเม็ดบัว พุทรา จีน ถัว่ แดง รากบัว กับน้ าตาลเคี่ยวหอมหวาน โปะด้วยน้ าแข็งใส ร้อนแบบนี้ มาทานหมี่เย็นสักถ้วย ก็ช่วยคลายร้อนได้แล้ว
23
7. ก๋วยจั๊บโรงหนัง (อ้วนโภชนา) : Auan Pochana เดินขึ้นไปทางถนนเยาวราช บริ เวณโรงหนังไชน่าทาวน์ราม่า ที่นี่เป็ นที่ต้ งั ของร้านก๋ วยจับ๊ ชื่อดัง ร้านก๋ วยจับ๊ อ้วนโภชนา หรื อก๋ วยจับ๊ โรงหนัง เพราะตั้งอยู่ทางเข้าโรงหนัง ซึ่ งโรงหนังแห่ งนี้ ยงั เปิ ด บริ การอยู่ค่ะ เป็ นโรงหนังเก่าๆ นั่งทานไปก็นั่งดูบรรยากาศแบบโรงหนังย้อนยุคไปได้บรรยากาศ ชะมัด ส่ วนก๋ วยจับ๊ ร้านเฮียอ้วนนั้นถูกใจเรามาก เพราะเส้นเขาจะหนึ บๆ ไม่เหมือนเส้นก๋ วยจับ๊ ทัว่ ไป ตัว น้ าซุ ป ก็ ห อม เผ็ด ร้ อ นพริ กไทย เขาบอกว่ า เวลาทานร้ อ นๆ จะช่ ว ยขับ ลมได้ดี ม ากๆเลยค่ ะ ราคา 50 บาท/ถ้วย
24
8. ฮั่วเซ่งฮง สาขาเยาวราช : Hua Seng Hong ภัต ตาคารฮั่ว เซ่ ง ฮง ร้ า นนี้ นี้ เขาเป็ นร้ า นอาหารจี น กวางตุ ้ง ผสมแต้จิ๋ ว เมนู เ ด่ น ของร้ า น คือหู ฉลามน้ าแดง และบีหมี่ เป็ ดย่าง แต่สาหรับคนที่บดั เจ็ทน้อยจะไปทานหู ฉลามกระเป๋ าคงฉี กเป็ น แน่ เลยไปนัง่ เหลาแล้วสัง่ ข้าวหน้าเป็ ดในราคาที่สามารถจ่ายได้ (60 บาท) รสชาติอร่ อยใช้ได้เลยล่ะค่ะ ส่วนบรรยากาศภายในก็เป็ นแบบภัตตาคารจีน เหมาะกับการพาครอบครัวมาทานมากๆค่ะ
25
9. ข้าวต้มแปลงนาม 24 น. : Kaotom Prang Nam ในตรอกแปลงนาม มีที่ต้ งั ของร้านข้าวต้มเปิ ดบริ การ 24 ชัว่ โมง ชื่อว่า ร้านข้าวต้มแปลงนาม 24 น. ร้านนี้ขายข้าวต้มกุ๊ยร้อนๆ ทานคู่กบั กับข้าวที่มีให้เลือกถึง 40 กว่าอย่าง เช่น ผัดแขนงหมูกรอบ ผัดปลาช่อนกับผักกาดดอง ปลาเก๋ านึ่งซีอิ๊ว มะระตุ๋นกระดูกหมูรสชาติอร่ อยมาก ทานกับข้าวต้มร้อนๆ ในยามดึกๆ ที่อากาศเริ่ มเย็นก็อร่ อยสุดๆ สามารถนัง่ ทานได้ที่หน้าร้านริ มฟุตบาทง่ายๆ แต่รสชาติเยี่ยม ไปเลยจ้า
26
10. มานพ สุกรี้ ถกระบะ (สุกี้นวิ โอเดียน) : Manop Suki Rod Kraba เราเดิ น มาถึ ง บริ เ วณแถวๆวงเวี ย นโอเดี ย นเพื่ อ เดิ น มาทานสุ ก้ ี ที่ ร้ า นมานพสุ ก้ ี รถกระบะ ซี่ งจุดเด่นของร้านนี้ คือเขาใช้รถกระบะเก่าๆมาทาเป็ นร้าน มีสุก้ ีให้เลือกทั้งน้ าและแห้ง น้ าสุ ก้ ีรสชาติ กลมกล่อม หมูนุ่มๆ ใส่ น้ าจิ้มสุ ก้ ีเต้าเจี้ยวรสชาติกลมกล่อม ร้านจะเปิ ดช่วงหลัง 6 โมงเย็นเป็ นต้นไป ใครมาช้าระวังหมดอดทานนะ จะหาว่าไม่เตือน!!!
27
28
นายณัฐกิตติ์ ป่าพฤกษา
นายสุธรรม ทรัพย์น้อย
56080502242
ภาควิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า
นางสาวจันทร์เพ็ญ สุขสุเมฆ 56080502242
ภาควิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า
29
56080502261
ภาควิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า
นายสัชฌะ แก้วเขียว 56080502259
ภาควิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า