“เยาวชนสร้ างสรรค์ กิจกรรมสร้ างเสริม ในสมัยก่อนเราเชื่อกันว่าความคิดสร้างสรรค์น้ นั เป็ นพรสวรรค์ที่ติดตัวคนบางคนมาตั้งแต่เกิด แต่ พอมาถึงปั จจุบนั ที่เป็ นยุคแห่ งวิทยาการทาให้ความเชื่ อดั้งเดิมที่มีเคยมีมาปรับเปลี่ยนไป เพราะนักจิตวิทยา ส่ วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าความคิดสร้างสรรค์น้ นั เป็ น ความสามารถที่มีอยูใ่ นตัวมนุ ษย์ทุกคนตั้งแต่เกิด เพียงแต่มีการแสดงออกหรื อมีพฒั นาการมากน้อยต่างกันไป และยังสามารถพัฒนาเพิ่มให้มีมากขึ้นด้วยการ ฝึ กฝนอย่างสม่าเสมอ การส่ งเสริ มความคิดสร้างสรรค์น้ นั อาจทาได้ท้ งั ทางตรงโดยการสอนและฝึ กอบรม และทางอ้อมก็ สามารถทาได้ดว้ ยการจัดบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริ มความเป็ นอิสระในการเรี ยนรู ้อย่างเช่น การส่ งเสริ มให้ใช้จินตนาการตนเอง ส่ งเสริ มและกระตุน้ การเรี ยนรู ้อย่างต่อเนื่ อง ยอมรับความสามารถและ คุณค่าของคนอย่างไม่มีเงื่อนไข แสดงให้เห็นว่าความคิดของทุกคนมีคุณค่า และนาไปใช้ประโยชน์ได้ ให้ ความเข้าใจ เห็นใจและความรู้สึกของคนอื่น อย่าพยายามกาหนดให้ทุกคนคิดเหมือนกัน ทาเหมือนกัน ควร สนับสนุนผูค้ ิดค้นผลงานแปลกใหม่ได้มีโอกาสนาเสนอ เอาใจใส่ ความคิดแปลกๆของคนด้วยใจเป็ นกลาง ระลึกเสมอว่าการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ตอ้ งค่อยเป็ นค่อยไปและใช้เวลา ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์ ทาให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ทาให้เกิดแนวทางใหม่ๆในการ ดาเนินชี วติ และหนทางใหม่ๆในการแก้ปัญหาชี วติ และการทางาน ก่อให้เกิดความสนุก เป็ นธรรมดาของ มนุษย์ที่ตอ้ งค้นหาวิธีการคิดใหม่ๆขึ้นมาทดแทน ความคิดเก่าๆสาหรับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว การที่มนุษย์ตอ้ งคิดอะไรใหม่ๆอยูเ่ สมอย่อมเป็ นเรื่ องสนุกเพราะทาให้ชีวติ ไม่จาเจ ชมรมTO BE NUMBER ONE ชุมชนบ้านลิพอนเขาล้าน ตระหนักถึงความสาคัญของการส่ งเสริ ม สนับสนุนให้เยาวชนได้มีโอกาส มีกิจกรรมดีๆ สร้างสรรค์ ให้ได้ร่วมเรี ยนรู ้ ฝึ กปฏิบตั ิ เพราะเป็ นการสร้าง ความเชื่อมัน่ ความน่านับถือและความพอใจในตัวเองขึ้นมา เมื่อใดก็ตามที่เราพัฒนาขีดความสามารถในการ คิดสร้างสรรค์จนสามารถเผชิ ญหน้าและแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างราบรื่ น ก็จะกลายเป็ นผูน้ าทางด้านความคิด และเกิดความภูมิใจในตนเองนอกจากนี้ความคิดสร้างสรรค์ยงั ช่วยยกระดับความสามารถ ความอดทนและ ความคิดริ เริ่ มของผูน้ าให้เพิ่มมากขึ้นและยังเป็ นการพัฒนาความสนใจในงาน พัฒนาการใช้เวลาว่างให้เป็ น ประโยชน์และพัฒนาชี วติ ให้ทนั สมัยมากขึ้น
ทีป่ รึกษา มดงาน TO BE NUMBER ONE นางจิตรา โรมินทร์ (พยาบาลวิชาชีพชานาญการ ทีป่ รึกษา พีเ่ ลีย้ ง) โครงการTO BE NUMBER ONE เป็ นโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปั ญหายาเสพติด โดยมี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิ ริวฒั นาพรรณวดี เป็ นองค์ประธานโครงการ ซึ่งมียทุ ธศาสตร์ ใน การดาเนินงาน 3 ยุทธศาสตร์ อันจะนาไปสู่ เป้ าหมายสู งสุ ดในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปั ญหายาเสพติด ประกอบด้วย การรณรงค์ปลุกจิตสานึกและสร้างกระแสนิ ยมที่เอื้อต่อการป้ องกันและแก้ไขปั ญหายาเสพติด ยุทธศาสตร์ การเสริ มสร้างภูมิคุม้ กันทางจิตใจให้แก่เยาวชนและยุทธศาสตร์ การสร้างและพัฒนาเครื อข่าย เพื่อการป้ องกันและแก้ไขปั ญหายาเสพติด โครงการTO BE NUMBER ONEเป็ นโครงการที่ ส่ งเสริ มการ แสดงความสามารถ กล้าคิด กล้าทา กล้าแสดงออกและช่วยสร้างเสริ มความภาคภูมิใจมีกิจกรรมที่สนับสนุน การเปิ ดโอกาส พื้นที่ ในการเข้าถึงเยาวชน และกระตุน้ ให้เยาวชนเข้ารวมกลุ่มกัน สร้างความรู้และทักษะใน การป้ องกันและแก้ไขปั ญหายาเสพติด ซึ่งเป็ นภูมิคุม้ กันที่สาคัญ สาหรับเยาวชน ชมรมTO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้าน ชุมชนต้นแบบรักษามาตรฐาน พร้อมก้าวสู่ ระดับ เพชรปี ที่ 2 ดาเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่ อง 12ปี เป็ น 12 ปี แห่งคุณภาพ ทางชมรมได้จดั กิจกรรม ส่ งเสริ ม สนับสนุนและเปิ ดโอกาสให้เยาวชนได้มีเวที มีพ้นื ที่ดีๆ ในการทากิจกรรม ทุกคนได้แสดงฝี มือ ค้นหาตัวเอง ทากิจกรรมที่ชอบ ในหน้าที่ที่ตวั เองถนัด ดาเนินงานด้วยตัวเขาเอง เรี ยกได้วา่ เด็กนาผูใ้ หญ่หนุน อย่าง แท้จริ ง เรี ยนรู้การทางานเป็ นทีม การบริ หารจัดการระบบ ทุกคนจะแบ่งหน้าที่ มอบหมายงานตามความ ถนัด อาทิเช่นด้าน ฉาก เวที แสง สี เสี ยง ไวนิวประชาสัมพันธ์ การขนส่ งอุปกรณ์ ช่างไฟตัวน้อย ตกแต่ง สถานที่ จัดเตรี ยมสถานที่ เอกสาร อุปกรณ์ต่างๆ อาหาร การแต่งกาย เสื้ อผ้า หน้าผม พิธีกร การแสดง บทสคริ ป ทุกคนต่างร่ วมแรงร่ วมใจในการจัดกิจกรรม อย่างไม่ยอ่ ท้อ แม้จะพบปั ญหาระหว่างการทางาน บ้าง ก็สามารถดาเนินกิจกรรมจนแล้วเสร็ จ ซึ่ งถ้าจะเปรี ยบไปแล้ว ก็คล้ายกับ “มด” มดงานตัวเล็กๆ ที่ ร่ วมมือกัน ถึงงานจะใหญ่เท่าช้างแต่เขาทุกคนก็มี”กาลังใจที่ใหญ่เท่าช้าง” ได้เหมือนกัน และเมื่อ มองการทา ของแกนนาเยาวชนก็ทาให้ นึกถึงปรัชญา แนวคิด ของมด ทีม่ องกีค่ รั้ง ก็ภาคภูมิใจในแกนนาเยาวชนบ้ าน ลิพอนเขาล้าน แกนนาทุกคน ขอยึดหลักการทางานของมดงาน เป็ นหลักการทางานของทีมชมรมTO BE NUMBER ONE ชุมชน บ้านลิพอนเขาล้าน
ข้ อคิดปรัชญามด ปรัชญาข้ อแรก “มดไม่เคยละความพยายาม” เพราะหากมันมุ่งหน้าไปทางทิศใด แล้วเกิดอุปสรรค ปิ ดกั้นหนทางขึ้น มดก็จะพยายามหาทางเดินทางอื่น มดจะปี นขึ้น ปี นลง ปี นไปรอบๆ มดจะมองหา หนทางอื่นๆ เสมอ นี้คือ “ความพยายามของมด ในการหาหนทางไปสู่ สิ่งที่หมายมาด” ปรัชญาข้ อทีส่ อง มดจะคิดถึงฤดูหนาวตลอดฤดูร้อน มดจะไม่เคยรักสบายจนคิดเพียงว่าฤดูร้อนจะ คงอยูต่ ลอดเวลา ดังนั้น มดจึงพยายามเก็บสะสมเสบียงไว้สาหรับฤดูหนาวตลอดฤดูร้อน เรื่ องนี้ สอนให้เรารู ้วา่ “เราต้องคิดถึงความยากลาบากในอนาคต” ไม่หลงสนุกสนานอยูก่ บั สายลมและ แสงแดดเพียงแค่ช่วงสั้นๆ ตระหนักถึงความเป็ นจริ ง และเตรี ยมรับกับเหตุการณ์ในอนาคต ปรัชญาข้ อทีส่ าม “มดคิดถึงฤดูร้อนตลอดระยะเวลาฤดูหนาว” ท่ามกลางความหนาวเหน็บแห่งฤดู หนาว มันจะเตือนตัวเองว่า “ความยากลาบากจะอยูเ่ พียงไม่นาน แล้วก็จะพ้นจากสภาวะเช่นนี้ ” เมื่อ วันที่แสงแห่งความอบอุ่น ได้สาดส่ องมดจะออกมาเริ งร่ า ถ้าอากาศกลับกลายเป็ นหนาวอีกครั้งมัน จะเข้าไปในโพรงอีก และเตรี ยมตัวที่จะออกมารับความอบอุ่นในวันอากาศดีทนั ใด ข้อคิดของมดใน ปรัชญาข้อนี้คือ “จงมองทุกสิ่ งในเชิงบวกตลอดเวลา” ปรัชญาข้ อทีส่ ี่ “ทุ่มเททุกสิ่ งเท่าที่สามารถ” มดสามารถยกใบไม้ใบใหญ่ที่มีน้ าหนักมากกว่าตัวมันตั้ง หลายเท่า มดสามารถเก็บเกี่ยวเสบียงตลอดฤดูร้อนเพื่อเตรี ยมพร้อมฤดูหนาวได้มากมากเท่าที่มนั จะ ทาได้ ปรัชญาข้อนี้ให้ขอ้ คิดว่า “จงพยายามทาทุกสิ่ งทุกอย่างเต็มกาลังหรื อเกินกาลัง” ปรัชญาทั้งสี่ ขอ้ สอนให้เราอดทน ต่อสู ้ อย่ายอมแพ้ อย่าท้อถอยไปกับอดีต ให้มองไปข้างหน้า ออกไปเผชิญการทางานในชุมชน มองสังคมในแง่ดีและเชิงบวก สร้างสรรค์สิ่งที่วเิ ศษที่สุดให้เต็มความสามารถ
TO BE NUMBER ONE สานฝันเยาวชน (นายวิวฒ ั น์ รวมชั ยภูมิ) เวลามองตัวเองปั จจุบนั ผมก็แอบยิม้ ไม่ได้ มันทาให้ผมนึกถึงตัวเองในช่วงก่อนหน้านี้ ก้าวแรกที่กา้ ว เข้ามา จาได้วา่ นานพอสมควร สมัยเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่1 ได้กา้ วเข้ามาเรี ยนรู ้ โครงการTO BE NUMBER ONE ได้ช่วยริ เริ่ มดาเนินงานในโรงเรี ยนวัดศรี สุนทร จาได้วา่ สนุก กับการทากิจกรรมครั้งนั้น หลังจากนั้น ก็ได้กา้ วเข้ามาร่ วมในชมรมTO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้าน รับตาแหน่งประธาน ชมรม นาทีมขับเคลื่อนการทางานในช่วงแรกๆแบบยังมีทิศทางไม่ชดั เจนมากนัก พวกเราต้องเรี ยนรู ้ จาก ประสบการณ์ จากคาชี้แนะของท่านคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สาธารณสุ ขหลายๆท่าน แนวความคิด แนว การดาเนิ นงานเริ่ มก่อเป็ นรู ปเป็ นร่ างขึ้นมา และเริ่ มชัดเจนมากยิง่ ๆขึ้น ได้มีโอกาสไปร่ วมเวทีการประกวด ระดับภาค ระดับประเทศ ได้เรี ยนรู ้เกี่ยวกับโครงการ TO BE NUMBER ONE จากทัว่ ประเทศ และได้มี โอกาสได้ทูลตอบคาถามขององค์ประธานที่พระองค์ท่านได้ ถามและพูดคุยด้วย อย่างไม่ถือพระองค์ นั้นคือ แรงใจ พลังใจ พลังศรัทธาที่ทาให้ผม ตั้งใจดาเนินกิจกรรม ยิง่ ๆขึ้นไป และทุกๆปี ชมรมของพวกเราได้เข้า เฝ้ ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด และทางชมรม ได้ถวายผลการดาเนินงานของชมรมให้องค์ประธานทุกปี วันนี้ชมรม TO BE NUMBER ONEบ้านลิพอนเขาล้าน เปรี ยบเสมือนองค์กรองค์กรหนึ่งที่มีเยาวชน หลายๆคนเข้ามาร่ วมกันดาเนิ นงานภายใต้กรอบการทางานที่ชดั เจน คือ3ก และ3ยุทธศาสตร์หลักของ โครงการTO BE NUMBER ONE ในการดาเนินงานโครงการและแกนนาเยาวชนทุกคนต่างเสี ยสละเวลา มี จิตอาสาเข้ามาร่ วมกันดาเนิ นกิจกรรมดีๆ พวกเราเป็ นผูส้ ร้าง ให้กบั น้องๆเยาวชนคนอื่นๆที่ขาดโอกาส ได้มี โอกาสเข้ามาเรี ยนรู้ ได้มีโอกาสเข้ามาทากิจกรรมดีๆ ชมรม จะแบ่งบทบาทหน้าที่ มีการมอบหมายงานตาม ความถนัดของทุกคน ทุกคนมีศกั ยภาพเท่าเทียมกัน ทุกวันนี้ ทีมงานพวกเรามีความสนุก ความสุ ข ถึงแม้จะ มีปัญหาเข้ามาให้พวกเราได้เรี ยนรู ้ รู ้จกั การแก้ไขปัญหา การวางแผน จัดการกับปั ญหา ก้าวสู่ ปีที่ 12 ของการดาเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง วันนี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นเชิ งประจักษ์ถึง ผลลัพธ์เชิงคุณภาพ ของเหล่าแกนนาเยาวชน ต่างเติบโตและก้าวย่างอย่างมัน่ ใจ ในสายอาชีพของแต่ละคน ทุกคนต่างพูดเป็ นเสี ยงเดียวกันว่า เพราะTO BE NUMBER ONEส่ งผลให้พวกเขาทุกคนมีวนั นี้ และวันนี้ น้องๆแกนนารุ่ นใหม่ได้เข้ามาเรี ยนรู ้ผลจากความสาเร็ จของรุ่ นพี่ๆ มดงานตัวเล็กๆทีมนี้ต่างบอกเป็ นเสี ยง เดียวว่า ไม่มีอะไรไกลเกินฝัน
เหนื่อยได้ ..ท้อได้ ...แต่ ไม่ ถอย (นางสาวศิริพร ทองเนื่อง) “คนละพ่อ คนละแม่ แต่ เรามารวมกัน คนละเรือน คนละบ้ าน เป็ นลิพอนเขาล้าน คนละรุ่ น คนละ วัย แต่ หัวใจดวงเดียว คนละซีก คนละเสี้ยว เป็ นหนึ่งเดียวนัมเบอร์ วนั ”เสี ยงแกนนาเยาวชนรุ่ นน้องๆ บูมTO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้าน มันสร้างความเร้าใจ สร้างความฮึกเหิ มให้ทีมพวกเรา มุ่งทางานด้วย ใจดวงเดียวกันอย่างไม่ยอ่ ท้อ จูน ได้เข้ามาเป็ นแกนนาเยาวชนชมรมTO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้านรุ่ นที่ 2 และช่วย ดาเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่ อง มันเป็ นความรัก ความผูกพัน ในโครงการ ในรุ่ นพี่ รุ่ นน้อง ที่พวกเรามี ความสุ ข มีรอยยิม้ มีเสี ยงหัวเราะด้วยกันเสมอ แม้บางครั้ง การทางานของพวกเรา จะมีอุปสรรคบ้าง แต่พวก เรากลับ มีพลังคิดบวก คิดสวนกระแสว่า พวกเรา ทางานและสร้างทีมงานต้องทาด้วยจิตอาสา จิตสาธารณะ ด้วยการให้ ให้กบั สังคม ชุมชนอย่างไม่ยอ่ ท้อ ทุกอย่างสาเร็ จได้ดว้ ยพลังทีมค่ะ จูนและแกนนาคนอื่นๆเป็ นเสมือนมดงานตัวน้อยๆตัวหนึ่ง มดยอมเหนื่อยมิใช่เพื่อตัวเอง แต่มอง ความสุ ขของสังคมส่ วนรวมเป็ นภาพใหญ่ ยอมแบกภาระหนักอึ้งเกินตัวโดยไม่เกี่ยงงอน สามัคคีรักพวกพ้อง น่าจะเป็ นตัวอย่างที่ดีของการทางานแบบมดๆ คะ
พลังใจทีย่ งิ่ ใหญ่......จากTO BE NUMBER ONE (นางสาวจีรติ ทานคา) สวัสดีค่ะ หนูชื่อ นางสาวจีรติ ทานคา ปัจจุบนั เรี ยนอยูช่ ้ นั มัธยมศึกษาปี ที่ 6 หนูได้เข้าร่ วม โครงการ TO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้าน เป็ นเวลา 5ปี และปี 2556 ก็จะเป็ นปี ที่ 6 ค่ะ ก่อน หน้าที่หนูได้เข้าร่ วมโครงการ TO BE NUMBER ONE ในช่วงนั้นหนูยอมรับเลยว่าหนูเป็ นเด็กเกเร แบบเรี ยนก็ไม่เรี ยน แต่ก็มีรุ่นพี่ไปชักชวนหนูกบั เพื่อนที่โรงเรี ยน หนูเห็นเพื่อนเข้าร่ วมหนูก็เลยตามเพื่อนมา ค่ะ ช่วงนั้นก็ประมาณว่าติดเพื่อนมาก ในการเข้าชมรมแรกๆก็ไม่เข้าใจว่าโครงนี้มนั คืออะไร โครงการสร้าง มาเพื่ออะไร และโครงการนี้ จะมอบอะไรให้กบั สังคมของเรา หนูก็ไม่ได้สนใจหรื อให้ความสาคัญกับมัน มากนักในช่วงแรกๆ เมื่อหนูเข้ามาอยูใ่ นช่วงแรกๆ หนูวา่ หนูเป็ นเด็กที่เข้ากับคนอื่นค่อนข้างยาก เพราะว่าหนูไม่ค่อยไป เข้าร่ วมโครงการหรื อเข้าค่ายอะไรบ่อยนัก หรื อถ้าไปเข้าก็จะอยูก่ บั เพื่อนกลุ่มเดิมๆ เลยทาให้หนูไม่ค่อยใส่ ใจในกิจกรรมใหม่ๆ ประมาณว่าไม่เปิ ดรับอะไรใหม่ๆเลย นั้นคือนิสัยเดิมๆของหนู แต่เมื่อผ่านไปได้สัก เดือน ผ่านช่วงแรกที่เข้ากับคนอื่นไม่ได้ หนูสังเกตเห็นเพื่อนสนุกกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรุ่ นพี่ หนู เลยคิดว่า “เราต้องเปิ ดใจที่จะมาเป็ นแกนนาซะแล้ว” หนูเลยเริ่ มต้นที่จะเรี ยนรู ้สิ่งใหม่ๆจากรุ่ นพี่ในชมรมไป พร้อมๆกับเพื่อนๆ แรกๆรุ่ นพี่ก็สอนให้เราต้องเรี ยนรู ้ในเรื่ องสาคัญในฐานะแกนนาเช่น การอยูร่ ่ วมกันใน สังคม สอนให้อยูก่ บั ผูใ้ หญ่ สอนถึงขั้นตอนต่างๆในการทางาน มีน้ าใจให้กนั การคบเพื่อน การอยูก่ บั เพื่อน การทางานร่ วมคนอื่น สิ่ งที่วยั รุ่ นอย่าพวกเราสามารถทาอะไรที่ดีๆให้กบั ชุมชนของเราได้และก็เรื่ องยาเสพ ติดที่เป็ นสิ่ งสาคัญมาก แล้วนี้ คือจุดเริ่ มต้นที่ทาให้หนูเริ่ มเข้าใจเรื่ องราวต่างๆหลายๆเรื่ องในการดาเนินชี วติ ให้มีความสุ ข ประมาณว่าเป็ น “วัยรุ่ นสุ ดทีนและต้ องมีนา้ ใจ” มีอยูค่ รั้งหนึ่ง พี่ๆให้เขียนเรี ยงความเรื่ องความฝันที่แกนนาอยากจะเป็ นในอนาคต หนูจึงเขียน เรื่ องราวที่หนูฝันใฝ่ อยากจะเป็ นในอนาคต หนูเล่าว่าหนูชอบที่จะเป็ นพิธีกร ชอบดูรายการบันเทิงมาก เพราะชอบข่าวสารวงการบันเทิงหลายเรื่ อง เรื่ องไหนIN เรื่ องไหน OUT โดยเฉพาะวงการนักร้องดารา ของ เกาหลี หนูเลยใฝ่ ฝันที่จะทางานบันเทิงในอนาคต และเมื่อพี่ๆได้อ่านเรี ยงความของหนูแล้ว พี่ๆก็ได้เริ่ มสอน หนูในเรื่ องการพูด การเรี ยบเรี ยงถ้อยคา การใช้คาต่างๆ และพี่ๆก็ให้หนูทดลองพูดให้ฟัง และพี่ๆเขาก็ได้เปิ ด โอกาสให้หนู ได้เป็ นตัวแทนของเพื่อนๆในการนาเสนอผลการดาเนินงานของชมรมเป็ นครั้งแรก ซึ่ งครั้งนั้น เป็ นครั้งแรกที่หนูได้เป็ นพิธีกรอย่างเต็มตัว แต่ก่อนจะมาถึงขั้นที่เป็ นพิธีกรเต็มตัว หนูตอ้ งเรี ยนรู ้ ฝึ กฝนและ ฝึ กปฏิบตั ิ เพื่อลดและควบคุมอารมณ์ความรู ้สึกที่ตื่นเต้นไว้ให้ได้ แรกๆกลัวมาก เพราะจาบทไม่ได้ แต่พี่ก็ สอนเทคนิคของการซ้อมบท ให้จาเป็ นเรื่ องราวและใจความสาคัญเรี ยบเรี ยงด้วยภาษาของเราเอง และใน ที่สุดก็ผา่ นพ้นไปอย่างราบรื่ น ความรู ้สึกหลังจากที่ได้รับหน้าที่นาเสนองานหนูชอบมาก เหมือนได้เป็ นตัวของตัวเองต่อหน้าคน อื่นๆนับร้อยที่รอฟังเราอยู่ มีท้ งั ความสนุกปะปนความเครี ยดความชอบ ผสมกันไปในช่วงเวลาที่ได้อยูบ่ น
เวที แต่หนูก็ชอบมาก เพราะเหมือนเราได้แชร์ ข่าวสารการทางานของชมรมให้คนอื่นๆได้ทราบกัน เป็ น เหมือนการแลกเปลี่ยนเรื่ องราวของชมรมที่ทุกคนตั้งใจทา หลายๆที่มารวมกัน “จากจุดๆนีท้ าให้ หนูได้ ค้ นพบตัวเองและพบตัวตนของหนูทซี่ ่ อนอยู่จากความชอบทีม่ ีอยู่จนมีโอกาสได้ พฒ ั นามาเป็ ความสามารถ” จากเด็กที่ไม่กล้าทาอะไร ไม่กล้าแม้แต่ที่จะเปิ ดใจคุยกับเพื่อน คบกับเพื่อนใหม่ จากคนที่ไม่ชอบ สังคม เข้ากับคนอื่นได้ยาก กลายเป็ นเด็กหนูคนใหม่ในวันนี้ที่กล้าคิด กล้าฝัน กล้าแสดงออก กล้าพูด กล้าทา สิ่ งดีๆ อย่างถูกต้อง และที่สาคัญหนูมีท้ งั กาลังจากเพื่อนๆแกนนาเยาวชน เพื่อนร่ วมอุดมการณ์ที่มีใจดวง เดียวกัน ตอนนี้ชีวติ ของหนูเปลี่ยนไปเป็ นอย่างมาก และหนูก็คิดเสมอว่า เป็ นสิ่ งดีและวิเศษ ที่มี โครงการ TO BE NUMBER ONE ที่มีชมรม TO BE NUMBER ONEชุมชน บ้านลิพอนเขาล้าน ที่คอยเปิ ด โอกาส ให้คาแนะนา สนับสนุนทุกความฝันของหนู “ถ้าไม่มี TO BE NUMBER ONE ในวันนั้น ก็คงไม่มีหนูในวันนี้ ” หนูขอขอบพระคุณทูลกระหม่อมมากๆค่ะที่มีโครงการTO BE NUMBER ONE ทาให้ชีวติ ในวัยรุ่ น ของหนูมีประโยชน์และค้นพบตัวเอง ทาความใฝ่ ฝันของหนูให้กลายมาเป็ นความสามารถในวันนี้.....
“มองมุมกลับ ปรับมุมมอง เสริมพลังคิดบวก” (เด็กชายเกียรติศักดิ์ คลายทุกข์ ) ป่ านๆ ไปทูบีกนั ดีกว่ าวันนี้ เขามีกจิ กรรม เสี ยงนุ๊ก เพื่อนชายรุ่ นพี่ บ้านอยูใ่ กล้บา้ นผม มาชวนผม เขาชมรมเป็ นครั้งแรก ในใจผมคิดว่ามันคืออะไร ก็ไม่รู้ แต่ก็คิดว่า “ดีกว่าอยูบ่ า้ น” เพราะผมก็คงไม่ได้ ทาอะไรมากนอกจากขับรถจักรยานเที่ยวบ้านเพื่อนอย่างเดียว ผมเลยบอกไปว่า เออ...ได้ๆ รอแป๊ ปน่ะ ผมก็ได้มาทูบีกบั นุ๊กเป็ นครั้งแรกและก็มีครั้งต่อๆไป มาตลอดเพราะผมรู ้สึกว่า ได้ทาอะไรที่แปลก ใหม่ มันมีท้ งั ความสนุก กิจกรรมที่ไม่เคยทา ได้พดู คุยกับเพื่อนใหม่ๆหลายๆวัย ที่อยูใ่ นชมรม ในตอนนั้นผมอายุ 10 ปี ที่ผมเข้ามาเป็ นช่วงแรกๆ ผมเข้ามาในฐานะสมาชิกชมรมร่ วมทากิจกรรม ได้มี โอกาสดูพี่ๆทางานมันเลยเป็ นแรงบันดาลใจ ทาให้ผมอยากที่จะเข้าไปมีโอกาสในการเป็ นทีมแกนนาและ หลังจากนั้นแค่ 1 ปี ผมได้สมัครเป็ นแกนนาเยาวชน จนตอนนี้ 5ปี แล้วที่ผมได้เข้ามาเรี ยนรู ้ มาช่วยงาน มาทากิจกรรมต่างๆ เวลาว่างหรื อตอนผมเลิก เรี ยนผมก็แวะที่ชมรม เสาร์ -อาทิตย์ผมก็มาที่ชมรม ผมได้เรี ยนรู ้ ได้รับการประสบการณ์ใหม่ๆเป็ นความรู ้ติด ตัว พี่ๆสอนงานต่างๆ มันสะสมในตัวผมเรื่ อยๆมาตลอด พอมาช่วงปี หลังๆพี่เขาให้ผมได้ลงมือทาได้อย่าง แท้จริ ง ไม่วา่ จะเป็ นช่างไฟ ช่วยจัดเวที ติดบอร์ ด ไวนิว การเก็บของอุปกรณ์ต่างๆของชมรม แทบทุกอย่าง เป็ นตัวหลักให้กบั ชมรมก็วา่ ได้คบั แต่ที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุดคือการได้มีโอกาส ได้รับความไว้วางใจให้ เป็ นตากล้องประจาชมรมเป็ นตาแหน่งที่ผมภาคภูมิใจมาก ถึงมากที่สุดคับ ในนามหรื อฉายาที่ใครรู ้จกั ว่า “ตา กล้องรุ่ นเยาว์” ทาให้ผมรู ้สึกว่าผมมีความสามารถ ตัวผมเองมีคุณค่า ทั้งจากความรู ้สึกของผมและจากเพื่อนๆ พี่ๆ ในชมรม ทุกๆภาพที่ผมถ่าย ที่ผมบันทึกจากทุกๆกิจกรรม ทุกๆโครงการ มันเป็ นเหมือน การสะท้อนให้เห็น คุณภาพ คุณค่าของงาน ที่พวกเราทา มากกว่าคาบรรยาย ทุกครั้งที่ผมได้ทากิจกรรม ผมมีความสุ ขมากและ ทุกประสบการณ์ที่ผมได้สัมผัสจะช่วยสอนผมไปในตัวคับผมกล้าที่จะพูดได้เลยว่า TO BE NUMBER ONE ให้หลายอย่างกับผมมากๆ ให้ผมเรี ยนรู ้ระบบการทางาน รู ้จกั การวางแผนงานต่างๆได้เรี ยนรู ้ท้ งั ความสุ ข สุ ข ทั้งตัวผมและคนในชุมชน มีท้ งั ความสนุกและการฝ่ าฟันปั ญหาอุปสรรคของชมรม ซึ่งหมอน้อง(ที่ปรึ กษาชมรม)บอกเสมอว่า ถึงเราจะเป็ นแค่เด็กแต่เราก็สามารถทาสิ่ งดีๆเพื่อสังคมได้ และที่สาคัญคือการพัฒนาตัวเราเอง ถึงแม้การทางานต่างๆย่อมต้องมีปัญหาอุปสรรคบ้าง แต่พวกเราอย่าท้อ เราต้องมองปั ญหาในมุมบวก ให้คิดว่ามันเป็ นโอกาสที่ทาให้เรามีประสบการณ์เพิ่มขึ้น ถึงเวลาที่เราต้องมี มุมมองกับปั ญหา “มองมุมกลับ ปรับมุมมอง
ป่ านคิดว่า พวกเราแกนนาเยาวชนก็คล้ายกับ มดงาน ตัวหนึ่งที่ร่วมมือร่ วมใจกันทาหน้าที่ของ ตนเองอย่างดีที่สุด มด เวลาออกไปหาอาหารมดไม่รู้หรอกว่า จะพบอาหารหรื อไม่ รู ้แต่วา่ ต้องพยายามเดิน ไปเรื่ อยๆ จนกว่าจะเจออาหารแล้วถึงจะกลับรัง พวกเราคนหางานหรื อคนทางาน คนทากิจกรรม ก็ตอ้ ง พยายามไปเรื่ อยๆ เพราะยังไงก็จะมีงาน มีกิจกรรม ที่พวกเราต้องทา ต้องพัฒนา ต้องสร้างเพื่อนเยาวชน รอ เราอยูเ่ สมอ ได้สั่งสมและสร้างประสบการณ์ดว้ ยตัวเราเองตั้งแต่ที่พวกเราเป็ นเด็ก เป็ นวัยรุ่ น นี้แหละมดใน มุมมองของผม
สุ ดกาลัง...สู้ ให้ ถึงทีส่ ุ ด (นายกฤษดา ทองมาลี) ผมไม่คิดว่าจะมีวนั นี้สาหรับผม วันที่ผมได้รับโอกาสเป็ นรองประธานชมรมTO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้าน ได้รับโอกาสในการเป็ นวิทยากรถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆให้กบั แกนนาเยาวชนรุ่ น น้อง ได้รับความไว้วางใจ ให้รับผิดชอบในการสร้างงานหลายต่อหลายชิ้นในโครงการ ทาให้ผมรู ้สึก ภาคภูมิใจมากที่สุด จากชีวติ ลูกผูช้ ายวัยรุ่ น ที่เคยเกเรสุ ด ทะเลาะ ชกต่อย รบรากันสารพัดอย่าง หลังจากที่ ได้เข้ามาเป็ นแกนนาเยาวชนในโครงการTO BE NUMBER ONE กิจกรรมหลายๆกิจกรรม สอนให้ผมเป็ น คนเก่ง เป็ นคนดี เป็ นที่ภาคภูมิใจของครอบครัว พ่อแม่ ญาติพี่นอ้ ง กับภาพที่ผมได้ถวายงานแด่องค์ประธาน โครงการ เป็ นภาพแห่งความสุ ข ภาพแห่งเกียรติยศของครอบครัว ในบทบาทหน้าที่ รองประธานชมรม และในบทบาทของชมรมต้นแบบรักษามาตรฐานก้าวสู่ ระดับ เพชร ผมและทีมงานจะมุ่งมัน่ ตั้งใจ ดาเนินกิจกรรมในโครงการอย่างต่อเนื่องไม่ยอ่ ท้อ แม้จะมีอุปสรรค มากมายมาขวางกั้น แต่พวกเรา ทุกคนได้รับการฝึ กให้ คิดบวก พวกเราจะเติมพลังกาย พลังใจ ต่อสู ้กบั เหตุการณ์ต่างๆ ดังเช่นเนื้อเพลงๆหนึ่งขออนุ ญาตหยิบยกมาเป็ นแรงใจ สุ ดกาลัง ไป สู้ให้ถึงที่สุดหมดดวงใจ แม้วา่ มันจะเหน็ดเหนื่ อยแค่ไหน อย่าให้ความเหนื่อยล้า หยุดความหวังและหัวใจที่ศรัทธา สุ ดกาลัง ไป แม้หนทางข้างหน้ายังอีกแสนไกล ขอแค่ยงั ยืนยันว่าไม่ยอมถอดใจ จะวันนี้ จะพรุ่ งนี้ จะวันไหน คงต้องถึงเส้นชัยสักวัน ผมและทีมงาน เพื่อนๆทุกคน สัญญาว่า ถึงพวกเราจะเป็ นเพียงมดตัวเล็กๆ แต่พวกเรามีหวั ใจพลังยิง่ ใหญ่ เสริ มกับพลังคิดบวก จะ“ทุ่มเททุกสิ่ งเท่าที่สามารถ”ดัง่ เช่น มด มดสามารถยกใบไม้ใบใหญ่ที่มีน้ าหนัก มากกว่าตัวมันตั้งหลายเท่า มดสามารถเก็บเกี่ยวเสบียงตลอดฤดูร้อนเพื่อเตรี ยมพร้อมฤดูหนาวได้มากเพียงใด คาตอบก็คือ มากเท่าที่มนั จะทาได้ หลักการทางานของมด ให้ขอ้ คิดว่า จงพยายามทาทุกสิ่ งทุกอย่างเต็มกาลัง หรื อเกินกาลัง และสอนให้เราอดทน ต่อสู ้ อย่ายอมแพ้ อย่าท้อถอยไปกับอดีต ให้มองไปข้างหน้า จงออก เผชิญโลกกว้าง มองโลกในแง่ดี และสร้างสรรค์สิ่งที่วเิ ศษที่สุดให้เต็มความสามารถ
ข้ อคิด ...พลังมด พลังคิดบวก (นางสาวฐิ ตาพา คลายทุกข์ ) ป้ อ ดาเนินกิจกรรมของชมรม TO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้าน มาอย่างต่อเนื่องเป็ น เวลา 5 ปี ได้รับรู ้ แง่คิด เทคนิคต่างๆมากมาย โดยเฉพาะได้เห็นแบบอย่างที่ดีของพี่ๆ ที่ทุ่มเท ทากิจกรรมดีๆ ให้เยาวชน ได้เห็นการแก้ปัญหา เห็นรอยยิม้ ความสุ ข และคราบน้ าตาทั้งของทีมงาน พี่เลี้ยงที่ปรึ กษาที่นามา เล่าสู่ กนั ฟัง เมื่อจบกระบวนการทางาน ทีมงานพวกเราก็ไม่ทอ้ แท้ กลับได้รับการเสริ มสร้างกาลังใจให้กนั และกัน เป็ นพลังบวก คิดบวกเสมอมา ป้ อขอนาแนวคิดดีๆ ประสบการณ์ดีๆที่ได้จากการเรี ยนรู ้เกี่ยวกับพลังมด พลังแห่งความสาเร็ จ ที่ ทางชมรมTO BE NUMBER ONEบ้านลิพอนเขาล้าน เรี ยนรู้และนาหลักการมาปฏิบตั ิ มาเล่าสู่ กนั ฟังน่ะค่ะ มดรู ้ วิธีแบ่งหน้าที่การทางานที่เหมาะสมได้อย่างไร มดรู ้ ได้อย่างไรว่าอะไรคือสิ่ งที่สาคัญและ งานอะไรต้องท าก่ อ น และหลัง
และมดเขาท างานโดยสามารถเรี ย งล าดับ ความส าคัญ ของงานได้
อย่างไร ทั้งที่ พวกเขาไม่ได้เข้าโรงเรี ยน ทุกประสบการณ์ที่กล่าวมาถ้าเราเปิ ดใจกว้างยอมรับในความรู้ สาระจากสิ่ งต่าง ๆ ว่ามี ประโยชน์ก็จะทาให้เราเข้าใจในโลกมากขึ้น มดก็เป็ นสัตว์ สังคมที่ อยูร่ วมกันเป็ น กลุ่ม เช่นเดียวกับมนุษย์ โดยมีการแบ่งหน้าที่ รับผิดชอบในการทางานอย่างชัดเจน การทางานของมดจะไม่ ก้าวก่ายกัน เป็ นงานลักษณะสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกัน ลักษณะเป็ นทีม ไม่น่าเชื่ อว่ากระบวนการทางานของ มดจะสรุ ปเป็ นความรู ้ หลายเรื่ อง เช่ น ความรับผิดชอบ การทางานเป็ นทีม การแบ่งงานตามความสามารถ เป็ นต้น สุ ดท้ายนี้ ป้ อและทีมแกนนาเยาวชน มดงานทุกคน จะ มุ่งมัน่ ตั้งใจดาเนิ นกิจกรรม เพื่อสื บสานงาน โครงการTO BE NUMBER ONE เพื่อองค์ประธานโครงการฯของพวกเรา
มดงาน......นามน้ องแพรว (นางสาวศิริรัตน์ วรพัฒน์) “ความพยายามอยู่ทไี่ หน ความสาเร็จอยู่ที่นั่น” พวกเราเชื่อมัน่ ในคาสอน นี้เสมอ เพื่อนๆบางคน ที่ไม่เข้าใจในการทางานในฐานะแกนนาเยาวชน ของชมรมTO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้าน จะ ถามเสมอว่า มาเป็ นแกนนา แล้วเหนื่อย ต้องทางานมากมาย กิจกรรมเยอะ แล้วทาไมยังเข้าไปเป็ นแกนนา สาหรับแพรว มิได้คิดเช่นนั้น เพราะจากการที่ได้มีโอกาส เข้ามาเป็ นแกนนาเยาวชน TO BE NUMBER ONE กลับทาให้ น้องแพรวได้มีโอกาสในการแสดงความสามารถ เป็ นตัวของตัวเอง ได้เรี ยนรู้ การทางาน อย่างเป็ นระบบ ได้มองเห็นการทางานของแกนนารุ่ นพี่ กว่า30 คน ที่ทุ่มเท เสี ยสละให้กบั การทางาน สร้างสรรค์กิจกรรมดีๆให้กบั เด็กและเพื่อนๆในชุมชน กว่า 5ปี กับการทางานในโครงการTO BE NUMBER ONE ทาให้แพรวรู ้วา่ โครงการ TO BE NUMBER ONE เปรี ยบเหมือนแสงนาทาง สามารถเปลี่ยนชีวติ ให้ เป็ นคนเก่งและดีทู บีนมั เบอร์วนั เป็ น หนึ่งโดยไม่พ่ งึ ยาเสพติด มีเหตุผล มีการฟังความคิดเห็นซึ่ งกันและกัน มีความเข้าอกเข้าใจและเคารพในกฎ กติกาในการดาเนินงาน อุปสรรคนานาไม่ ช้าก็พ้นไปถ้ าหัวใจเราเก่ ง เข้ มแข็งพร้ อมทีจ่ ะลุยทุกอย่ าง ตั้งสติได้ ดีเข้ าไว้ ... ทุกๆคาของเพลงไม่มีอะไรไกลเกินฝัน ล้วนเป็ นคาที่เสริ มแรงบันดาลใจ ให้พวกเราทีมงานชมรมTO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้าน มีพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมดีๆ ไปข้างหน้า ให้ถึงเป้ าหมายที่เราวาง ไว้พวกเรา ไม่ยอ่ ท้อ พวกเราก็เปรี ยบเสมือนมดตัวเล็กแต่มีพลังใจที่ยงิ่ ใหญ่ "ถึงแม้ ...จะเป็ นมดงานตัวเล็ก ๆ......แต่ กส็ ามารถทาให้ งานสาเร็จได้ ค่ะ"...
มดตัวน้ อย ตัวนิด.... (เด็กชายนภสิ นธ์ คลายทุกข์ ) จากสมาชิก ชมรม TO BE NUMBER ONE ก้าวสู่ แกนนาเยาวชน ชมรมTO BE NUMBER ONE บ้านลิพอนเขาล้านในปี 2554 มีความรู้สึกมีความสุ ขทุกครั้งที่ได้มาร่ วมกิจกรรม ป๊ อกได้รับการฝี กงาน การถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆจากการเป็ นแกนนา จากรุ่ นพี่หลายๆคน มี ความสุ ขและสนุกมากๆกับการได้มาทากิจกรรมดีๆถ่ายทอดความรู ้ แนวคิดของการทางาน ในการทางานแต่ละกิจกรรม แต่ละโครงการ ได้เรี ยนรู ้ประสบการณ์จากการทางาน ได้เรี ยนรู้ วิธีการแก้ไขปั ญหา แนวคิดคาสอนจากรุ่ นพี่ บอกว่า ปั ญหามีไว้แก้ไข และให้คิดในเชิ งบวก แล้วทุกอย่างจะ ผ่านไปได้ดี ผมคิดว่า โครงการTO BE NUMBER ONE เป็ นโครงการที่ใช่เลย ผมรู้สึกภาคภูมิใจมาก ที่มดงาน ตัวเล็กๆอย่างผม ได้มีโอกาสทากิจกรรมดีๆเพื่อสังคม เพื่อชุมชน อยากให้ที่อื่นๆได้มีโอกาสเรี ยนรู้เหมือน พวกเรา ผมสัญญาว่าจะนาสิ่ งดีๆ ไปประชาสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนๆในโรงเรี ยน และที่อื่นๆให้รู้จกั กับ โครงการTO BE NUMBER ONE
ทางานอย่างมด...กับมดนาย (นายเสรษฐวุฒิ ตั้งจิต และนายไกรสร จันทร์ งาม) ชมรมTO BE NUMBER ONE มีเวที ให้โอกาส ในการทากิจกรรมดีๆ สาหรับเราสองคน ที่มีชื่อ เล่นเหมือนกัน นายและนาย ได้เข้ามาเป็ นแกนนาของชมรมTO BE NUMBER ONE บ้าน ลิพอนเขาล้าน แกนนาทุกคนมีโอกาส ได้แสดงความสามารถ ทากิจกรรมที่เราชอบ ส่ งเสริ มให้เรากล้าคิด กล้าทา กล้า แสดงออกมากขึ้น ได้เรี ยนรู ้การทางานของรุ่ นพี่ๆว่าทางานอย่างไร ถึงประสบความสาเร็ จ พบว่า การทางาน มีการมอบหมายงาน แบ่งหน้าที่ จัดตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบ อย่างชัดเจน และที่สาคัญชมรมTO BE NUMBER ONEชุมชน บ้านลิพอนเขาล้าน จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทุกเดือนอย่างน้อย1-2กิจกรรม กิจกรรม ต่างๆ ส่ งผลต่อการเรี ยนรู ้ การวางแผนงาน การพัฒนาระบบการทางาน และที่สาคัญได้ เรี ยนรู้ การทางานร่ วมกัน กับผูอ้ ื่นหลากหลายความคิด รู ้จกั การปรับตัว การทางานเป็ นกลุ่ม และทางานเป็ น ทีม เรี ยนรู ้ขอ้ ผิดพลาด เรี ยนรู ้การแก้ไขปั ญหา และพัฒนางาน โดยมีหลักคิดว่าต้องทางานแบบ "มด" ขยันใฝ่ เรี ยนรู้ มีทีมงานที่เข้มแข็ง มีเป้ าหมายชัดเจน สาหรับพวกเรา มด พลังช้ าง
ความประทับใจในองค์ ประธาน นายปรเมศวร์ แสงอาทิตย์ ผมได้รับโอกาสจากหมอน้องซึ่งเป็ นที่ปรึ กษาของชมรม TO BE NUMBER ONE ชุมชนบ้านลิพอน เขาล้าน หลังจากที่ได้รู้จกั กันเพียงไม่นาน หมอน้องได้ช่วยไปศึกษาดูงานในการประกวดผลการดาเนิ นงาน ในรอบภาคใต้ที่จงั หวัดสุ ราษฎ์ธานี หนึ่ งวันก่อนไป ผมตกลงโดยที่ไม่รู้ว่ากาหนดการเป็ นยังไง ไปแล้วได้ อะไร ผมก็โทรลากลับคุณครู ที่โรงเรี ยนว่าไปศึกษาดูงานที่จงั หวัดสุ ราษฎร์ธานี2วัน พอไปถึ งผมรู ้ ศึกษาตื่นตาตื่นใจมากเพราะไม่เคยเห็ นการรวมพลของคนมากขณะนี้ มีการประดับ ตกแต่งอย่างสวยงามมีพรมแดงปูลาดยาวไปทัว่ งาน พอวันประกวดผมก็นงั่ ดูเขาแข่งขันกันรู ้สึกได้วา่ ทุกคน เต็มที่และเตรี ยมตัวกันมาดีมากสาหรับการประกวด หลังจากการประกวดเสร็ จผมเห็นทุกคนต่างตั้งหน้าตั้ง ตารอในการรั บเสด็จทูลกระหม่อมหญิ งอุ บลรั ตนราชกัญญา สิ ริวฒั นาพรรณวดี องค์ประธานโครงการที่ เสด็จมาในการประทานรางวัลแก่ชมรมที่ผ่านการคัดเลือกในรอบภาคใต้ รู ้สึกปี นั้นเป็ นปี สุ ดท้ายที่พระองค์ เสด็จมาประทานรางวัลให้ และนับว่าเป็ นโชคดี ผมจาได้ว่าตอนนั้นพระองค์อยู่บนเวที กาลังมี พระดารัส ให้กบั สมาชิ ก ซึ่ งผมอยู่ห่างจากพระองค์ท่านประมาณ 100 เมตร ขณะทูลกระหม่อมจะเสด็จกลับทางลาด พระบาทด้านหน้า แต่ เหมือนปาฏิหาริ ยม์ ีจริ ง พระองค์ท่านได้เสด็จมาทางด้านหลัง ทักทายหมู่มวลสมาชิก TO BE NUMBER ONE ทุ กคนที่ อยู่หลังห้องส่ งเสี ยงดังเกริ กก้องทัว่ ทั้งห้องประชุ มว่า พวกเรารัก ทูลกระหม่อม พวกเรารักTO BE NUMBER ONE ซึ่ งผมยืนอยูห่ ่ างจากพระองค์ท่านเพียงไม่กี่กา้ ว นับว่า โชคดีที่สุดเลยสาหรับการมาร่ วมกิจกรรมในครั้งนี้ หลังจากนั้นพียงไม่กี่วนั ผมก็ได้รับโอกาสดีๆ อีกครั้งนัน่ ก็คือการได้ไปร่ วมบันทึกรายการ TO BE NUMBER ONE Variety ซึ่งได้ใกล้ชิดกับองค์ประธานโครงการฯมากกว่าครั้งก่อน พระองค์ท่านสง่างาม และทรงพระปรี ชาสามารถมากเลยครับ และที่สาคัญพระองค์ยงั เข้าใจวัยรุ่ นอีกด้วย พระองค์ทรงเป็ นแรง บันดาลใจให้ผม ผมได้มาทาโครงการ To Be Number One นี้ เพราะมีพระองค์เป็ นแรงผลักดัน และค่อยดาเนินงานอยู่ ข้างหน้า เรารักทูลกระหม่อม ของพระองค์ทรงพระเจริ ญ