ชีวิตเปลี่ยน เพราะการลงทุน

Page 1



การสร้างเงินให้งอกเงยอย่างมีเป้าหมาย ถือเป็นการบริหารเงินทีม่ ปี ระสิทธิภาพ แต่ยงั มี ผู้ลงทุนหลายคนที่เริ่มลงทุนและไม่ได้ตั้งเป้าหมายการบริหารเงินไว้ ลงทุนเพียงเพราะ ค�ำเชิญชวน ลงทุนเพียงเพราะกระแสของการลงทุนในหุ้น หรือ อนุพันธ์ และยังมีผู้ลงทุน อีกมากมายที่ลงทุนผ่านตราสารการเงินต่างๆ มาหลายปี แต่ก็ยังไม่มีเป้าหมายทางการเงิน ทีช่ ดั เจน หรือกล่าวได้วา่ ยังไม่ประสบความส�ำเร็จในด้านการลงทุน เพราะยังไม่มคี วามรูด้ า้ น การลงทุนมากนัก เพราะไม่มีเวลา หรือเพราะไม่มีวินัยในการลงทุน หนังสือ ชีวิตเปลี่ยนเพราะการลงทุน จึงเป็นหนังสือที่ทีมงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งใจ จัดท�ำขึน้ เพือ่ จุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจ แก่ผทู้ เี่ ริม่ ลงทุน รวมถึงผูท้ ลี่ งทุนแล้วแต่ยงั ไม่มเี ป้าหมายการลงทุนทีช่ ดั เจน ได้เห็นตัวอย่าง และแนวทางของผูล้ งทุนทีม่ วี นิ ยั รูจ้ กั ศึกษา ข้อมูลการลงทุนอย่างถ่องแท้ รู้จักการบริหารเงิน และรู้จักสไตล์การลงทุนของตนเอง จนน�ำ ไปสู่ความส�ำเร็จด้านการลงทุนอย่างมีคุณภาพ ทีมงานตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังว่าหนังสือ เล่มนีจ้ ะท�ำให้ผอู้ า่ นได้เห็นตัวอย่างแนวคิดของการลงทุนและน�ำมาปรับเปลีย่ นให้เหมาะกับ สไตล์การลงทุนของตนเอง เพื่อบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในหนังสือยังมีเนือ้ หา บริการด้านการลงทุนของบริษหั ลักทรัพย์ชนั้ น�ำ (Broker Services) เพื่อผู้เริ่มต้นลงทุนจะได้ทราบถึงการให้บริการของแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ และ สามารถเลือกบริษัทหลักทรัพย์ที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ลงทุนได้อย่างเหมาะสม จัดท�ำโดย ฝ่ายการตลาดผู้ลงทุนบุคคล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนิตยสาร Money & Wealth ลิขสิทธิ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทัศนะและข้อคิดเห็นต่างๆ ที่ปรากฏในหนังสือ เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ให้สัมภาษณ์ และเป็นข้อมูลของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยหรือผู้จัดพิมพ์ไม่จ�ำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน”


โลกกว้าง

เพราะการลงทุน พูนศรี การเจริญกุลวงศ์

ตลอดชีวติ ของการท�ำงานบัญชีนา่ จะท�ำให้พนู ศรี จัดสรรเงินลงทุนได้ดี ตัง้ แต่เริม่ แรก ทว่าไม่มสี ตู รส�ำเร็จรูปสูตรใดทีท่ ำ� ให้การลงทุนสมบูรณ์แบบ แต่เธอต้องเรียนรูแ้ ละพัฒนาทักษะให้เท่าทัน เพราะเป้าหมายคือความสุข ทุกช่วงเวลาของชีวิต

2

พูนศรี การเจริญกุลวงศ์ วัย 49 ปี เป็น นักบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีชีวิตแทบไม่แตกต่าง จากนักบัญชีทวั่ ๆ ไปทีต่ อ้ งอุทศิ เวลาส่วนใหญ่ ในการท�ำงานให้กับองค์กร และโดยเฉพาะ อย่ า งยิ่ ง บริ ษั ท ยั ก ษ์ ใ หญ่ ที่ ด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ สื่อสารโทรคมนาคมที่มีการแข่งขันอย่าง เข้มข้น อาชี พ นั ก บั ญ ชี ต ้ อ งอาศั ย ความเชี่ ย ว ชาญเฉพาะด้าน ท�ำให้เธอมีรายได้ค่อนข้าง

สูง สามารถเลือกใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย และสามารถเหลือเงินเก็บได้ถึง 60-70% จึ ง ท� ำ ให้ มี แ นวคิ ด ลงทุ น เพื่ อ บริ ห ารเงิ น ที่ มี อ ยู ่ ใ ห้ ง อกเงย เธอจั ด สรรเงิ น ส่ ว นหนึ่ ง ฝากธนาคาร แต่ เ งิ น ส่ ว นใหญ่ ไ ด้ ล งทุ น ด้ า นอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ซื้ อ คอนโดมิ เ นี ย ม ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว ไว้หลายแห่งในเขต กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เช่าหรือขาย แต่ ไม่ค่อยประสบความส�ำเร็จมากนัก เพราะ มีปัญหาผู้เช่าอยู่ไม่นาน และบางแห่งต้อง


3


นักลงทุนมือใหม่และลงทุน ครั้งแรก สามารถเริ่มต้นลงทุน กองทุนรวม LTF และ RMF เพราะมีความเสี่ยงไม่มาก และช่วยฝึกฝนความช�ำนาญ ก่อนที่จะก้าวไปลงทุน ในประเภทอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น หุ้น ที่ส�ำคัญ LTF และ RMF สามารถหักภาษี ได้ทุกปี

4

ปล่ อ ยทิ้ ง ไว้ ซ�้ ำ ร้ า ยต้ อ งประสบปั ญ หา อุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 จึงท�ำให้พูนศรี เริ่มมองหาแหล่งลงทุน ใหม่ๆ เธอเริม่ เดินเข้า - ออก ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย บ่อยครั้งมากขึ้น เพื่อเข้า ร่ ว มฟั ง สั ม มนาและสิ่ ง ที่ ไ ด้ ยิ น และดึ ง ดู ด ความสนใจมากทีส่ ดุ ก็คอื ค�ำพูดทีว่ า่ “ปล่อย ให้เงินท�ำงานแทนคุณ” พูนศรี เริ่มศึกษาสอบถามข้อมูลจาก ทุกแหล่งที่เห็นว่าน่าสนใจ และหลังจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนมาแนะน�ำ ทางเลือกใหม่ เธอจึงตัดสินใจลงทุนกองทุน รวม LTF และ RMF เพราะมองว่าเหมาะ กับนิสัยของตนเอง ที่ไม่ต้องการความเสี่ยง และได้ผลตอบแทนที่แน่นอน ผนวกกับงาน

ที่ท�ำไม่มีเวลาติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และด้วยวัยในปัจจุบันจึงคาดหวังไว้ว่าจะ ลงทุนเพื่อมีเงินใช้จ่ายในบั้นปลายของชีวิต ส�ำหรับกองทุนรวม RMF จะเลือกลงทุน ในกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนทอง เพราะมองว่าทั้งในและ ต่างประเทศไม่มีความเสี่ยงมากจนเกินไป ส่วนกองทุนรวม LTF จะลงทุนทุกปี เหตุผลที่เลือกลงทุนกองทุนรวม LTF และ RMF พูนศรีบอกว่านอกเหนือจากการ ได้ ผ ลตอบแทนและมี ค วามเสี่ ย งไม่ ม าก ยั ง สามารถน� ำ ไปลดหย่ อ นเพื่ อ รั บ สิ ท ธิ ประโยชน์ทางภาษีได้ เพราะเธอได้ใช้สิทธิ ที่รัฐบาลให้เพดานสูงสุดส� ำหรับลงทุนใน กองทุน LTF/RMF กองละ 15% ซึ่งรวมถึง


5 การลงทุนในกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพ การซื้อ ประกันชีวิตและประกันบ�ำนาญอีกด้วย นอกจากลงทุนในกองทุนแล้ว พูนศรียัง เลือกลงทุนในหุ้นโดยตรง โดยจะเน้นลงทุน ในบริษัทที่ด�ำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธุรกิจน�้ำ ประปา และธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งบริษัทที่เลือก ส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีฐานะ การเงินมั่นคง และมีผลตอบแทนเงินปันผล อย่างต่อเนื่อง “การเลือกหุ้นธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ของประเทศเพราะเกี่ย วข้อ งกับผู้บริโ ภค เนื่องจากเป็นสิ่งจ�ำเป็นของมนุษย์ที่หลีก เลีย่ งไม่ค่อยได้ และเลือกองค์กรขนาดใหญ่ มีฐานะการเงินมั่นคง” ทั้งนี้พูนศรี มีสไตล์การลงทุนระยะยาว ไม่เน้นเก็งก�ำไรระยะสั้น เพราะมองว่าไม่ เหมาะกับบุคลิกของตนเอง ไม่มเี วลาติดตาม ดูตลอดเวลา ซึ่งเธอบอกว่าเลียนแบบการ ลงทุนเหมือน ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กูรูนักลงทุนระดับเซียนที่มีชื่อเสียง “อ่านหนังสือ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และเลือกหุ้นลงทุนตามค� ำแนะน�ำที่บอก ให้ พิ จ ารณางบวิ เ คราะห์ ก ารเงิ น ดู ก าร เคลื่อนไหวของเงินเป็นอย่างไร เพราะงบ สามารถตกแต่งได้ ด้วยประสบการณ์ทดี่ แู ล ด้านบัญชี จึงรู้ว่าสามารถท�ำได้ นอกจากนี้

จะดูเรื่องการขยายการลงทุน ดูผู้บริหารว่า รูจ้ กั หรือเปล่า ถ้าไม่รจู้ กั และไม่ซอื่ สัตย์อาจ มีความเป็นไปได้ที่เงินจะไหลออก” พู น ศรี ข วนขวายหาความรู ้ ด ้ า นการ ลงทุนด้วยตนเอง นอกจากจะศึกษาจาก การอ่านหนังสือที่เขียนโดย ดร.นิเวศน์แล้ว เธอยังอ่านหนังสือของคุณเทพ รุง่ ธนาภิรมย์ นักวิเคราะห์หุ้นห่านทองค�ำ ที่แนะน�ำให้ ลงทุนโดยพิจารณาหุน้ ปันผลและศึกษาจาก ผูท้ ปี่ ระสบความส�ำเร็จอีกหลายๆ คน รวมทัง้ อ่านบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์อีกด้วย อย่างไรก็ดพี นู ศรี ถือว่าเป็นแฟนพันธุแ์ ท้ คนหนึ่งของ ดร.นิเวศน์ เพราะจากสถิติ การยืมหนังสือจากห้องสมุดมารวย ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากเริ่ม ลงทุนเมื่อ 2-3 ปีก่อน ได้ยืมหนังสือไปอ่าน ถึง 18 ครัง้ และเธอเองก็กล่าวชืน่ ชม ดร.นิเวศน์ ว่าเป็นคนเก่งระดับขั้นเทพ สามารถมอง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจบางอย่างได้ ค่อนข้างแม่นย�ำ “ตอนทีเ่ ลือกลงทุนหุน้ บอกกับโบรกเกอร์ เลยว่าไม่ต้องการเก็งก�ำไรระยะสั้น ฉะนั้น ไม่ต้องโทรหา จะไม่ซื้อและไม่ขาย จะทิ้งไว้ ระยะยาว ดังนั้นการติดตามข่าวสารข้อมูล ต่ า งๆ จะอ่ า นบทวิ เ คราะห์ แ ละติ ด ตาม ภาวะตลาด ไม่ได้เปิดดูหน้าจอตลอดเวลา แต่ จ ะเปิ ด ดู หุ ้ น ก็ ต ่ อ เมื่ อ จะตั ด สิ น ใจซื้ อ


6

หรือขายเท่านั้น” ส่วนการติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจ พูนศรีจะจัดสรรเวลาด้วยตัวเอง โดยจะมา ถึงที่ท�ำงานประมาณ 6 โมงเช้า จึงมีเวลา 1-2 ชัว่ โมงเพือ่ อ่านข่าวผ่านจอคอมพิวเตอร์ ก่อนเริ่มงาน 8 โมงเช้า ส่วนเวลาเที่ยงจะ แวะเข้าห้องสมุดใช้เวลาอ่านหนังสือพิมพ์ หรือ นิต ยสาร และหลังจากเลิก งานกลับ บ้านก่อนนอนจะอ่านหนังสือแทนดูโทรทัศน์ นอกจากนั้ น ก็ จ ะไปศึ ก ษาข้ อ มู ล เพิ่ ม เติ ม ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ห้องสมุดมารวย TK Park หรือซื้อหนังสือมาอ่าน รวมทั้งไปร่วม ฟังสัมมนา วิธีการจัดพอร์ตการลงทุน จะพิจารณา จากตัวเองเป็นเงื่อนไขหลัก โดยเน้นการ ลงทุนทีท่ ำ� ให้ตวั เองรูส้ กึ สบายใจ โดยวิธกี าร จัดพอร์ต คือ ลงทุนตราสารหนี้ 30% ส่วนที่ เหลือ 70% ลงทุนในกองทุนรวม LTF และ RMF ลงทุนในหุ้น และเงินฝากประจ�ำ พูนศรี ค่อนข้างพึงพอใจกับอัตราผล ตอบแทนในระดับ 7-8% จากเงินลงทุนหลัก ล้ า นบาท รวมทั้ ง มี ร ายได้ บ างส่ ว นจาก เงินปันผลด้วย

พูนศรีได้เรียนรู้จากการลงทุนในหุ้นในช่วง เริม่ ต้น ทีเ่ ธอฟังโบรกเกอร์คอ่ นข้างมาก เมือ่ ฟังแล้วมีความรู้สึกเคลิบเคลิ้มคิดไปเองว่า เมื่อลงทุนไปแล้ว จะมีกำ� ไรเท่านั้น ในตอนนัน้ ได้เลือกซือ้ หุน้ ทีท่ �ำธุรกิจเกีย่ ว กับธุรกิจเหล็ก มีแผนธุรกิจสร้างโรงหลอม ใหม่ และท�ำเหล็กแบบใหม่จึงมองว่าเป็น ธุรกิจที่มีอนาคต แต่ราคาเหล็กตลาดโลก กลับลดลง ท�ำให้หนุ้ ตกลงมาและขาดทุนมา จนถึงทุกวันนี้ ซึง่ ค�ำแนะน�ำของโบรกเกอร์ใน ขณะนั้น คือ เน้นลงทุนแบบเก็งก�ำไร “แม้ว่าหุ้นตัวนี้จะขาดทุน แต่ปัจจุบันก็ ยังถือเก็บไว้และเป็นตัวแดงอยู่ตัวเดียว จึง ต้องการเก็บไว้เตือนใจ ให้รู้ว่าตอนที่เข้ามา ใหม่ๆ ฟังโบรกเกอร์มาก ท�ำให้เรียนรู้ว่า ต้องวิเคราะห์จากหลายๆ ด้าน และน�ำมา กลั่นกรองอีกครั้งด้วยตัวเอง และหากอ่าน หนังสือก็ต้องอ่านแล้วอ่านอีกจากเล่มเดิม เพื่อซึมซับความเข้าใจ เพราะการลงทุนก็ เหมือนกับการฝึกฝนวิทยายุทธ์” พูนศรีเล่า ย้อ นประสบการณ์ ลงทุน ที่เ ก็บไว้ เป็นบท เรียนสอนใจ

บทเรียนส�ำคัญ

หลังจากพูนศรีก้าวเข้าสู่โลกการลงทุน เธอยอมรับว่าการลงทุนท�ำให้ชีวิตเปลี่ยน มากๆ จากเดิมจะอยู่ในโลกกรอบสี่เหลี่ยม

อย่ า งไรก็ ดี ก ่ อ นที่ จ ะมี ค วามรู ้ แ ละ ประสบการณ์ในการลงทุนในแบบปัจจุบัน

ชีวิตเปลี่ยนเพราะการลงทุน


7 อยู่กับตัวเลขบัญชี การปิดงบประมาณ อยู่ กับงาน รู้จักแต่ตารางงบการเงิน และกรม สรรพากร แต่การลงทุนท�ำให้โลกกว้างขึ้น มีมุมมองกว้างมากขึ้น ท�ำให้รู้ว่าเศรษฐกิจ โลก ยุโรป สหรัฐอเมริกาเป็นอย่างไร ท�ำให้ สนใจว่ า ผู ้ บ ริ ห ารคิ ด อะไร นอกจากนี้ ยั ง ได้เรียนรู้จาก ดร.นิเวศน์ ที่บอกว่าเวลา ไปช็อปปิ้งก็ต้องดูไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรมว่า เป็นอย่างไร จากแต่ก่อนแทบไม่สนใจอะไร เลย แต่ตอนนี้การลงทุนท�ำให้ชีวิตมีสีสัน มากขึ้น มีความสนใจในสิ่งรอบตัวและการ เคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสารต่างๆ มากขึ้น ส�ำหรับข้อแนะน�ำในการลงทุน กรณีเริม่ ต้นลงทุนใหม่ๆ ต้องศึกษาก่อนลงทุน ศึกษา ให้ดีและเลือกประเภทการลงทุนให้เหมาะ กับสไตล์ตัวเอง ชอบเก็งก�ำไรระยะสั้น หรือ ระยะยาว เมื่อเริ่มลงทุน ให้ฟังโบรกเกอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่เมื่อรับฟังแล้ว ต้อง น�ำมาท�ำการบ้านก่อนและน�ำมาต่อยอด “นั ก ลงทุ น มื อ ใหม่ แ ละลงทุ น ครั้ ง แรก สามารถเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวม LTF และ RMF เพราะมีความเสี่ยงไม่มาก และช่วย ฝึกฝนความช�ำนาญก่อนที่จะก้าวไปลงทุน ในประเภทอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเช่น หุ้น ที่ส�ำคัญ LTF และ RMF สามารถหัก ภาษีได้ทุกปี” พูนศรีมองว่าสิง่ ทีจ่ ะได้รบั จากการลงทุน

ก็ คื อ ผลตอบแทน ซึ่ ง ค� ำ ๆ นี้ ท� ำ ให้ ชี วิ ต หรือการวางแผนชีวิตมีความสะดวกและ ง่ายมากขึ้น จากเดิมที่พึ่งพิงแต่เงินเดือน แต่ทุกวันนี้เธอสามารถวางแผนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น การท่องเทีย่ ว ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทุกวันนี้เพื่อนๆ ของเธอมักจะเอ่ยปากด้วยความอิจฉาว่า สามารถเก็บเงินไปเทีย่ วต่างประเทศได้ทกุ ปี และยังเที่ยวในประเทศแทบจะทุกเดือน “แนวคิดของเราคือลงทุนไม่ได้หวังรวย แต่การลงทุนเหมือนกับออมเงินส่วนหนึ่ง ท� ำ ให้ มี เ งิ น ใช้ ใ นหลายช่ ว งชี วิ ต อย่ า งมี ความสุข” พูนศรี ทิ้งท้าย


การลงทุน

...มีทางเลือก พฤทธิพงศ์ ลิมาภรณ์วณิชย์

พฤทธิพงศ์ ลิมาภรณ์วณิชย์ ถามตัวเองว่าถ้าไม่รู้จักการลงทุน ชีวิตใน วันนี้คงมีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว และชีวิตคงไม่มีทางเลือก อะไรมากนัก แต่เมื่อเขาเรียนรู้และรู้จักการลงทุน ท�ำให้ชีวิตมีทางเลือก มากขึน้ เหมือนกับมีอสิ ระกับทางเลือกมากขึน้ ทีส่ ำ� คัญเขาไม่ได้ถกู บังคับ ให้ไป แต่เขาเลือกที่จะเดินไป

8

ก่อนหน้าที่พฤทธิพงศ์ ลิมาภรณ์วณิชย์ (อายุ 34 ปี) เจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จ�ำกัด จะรู้จักโลกการลงทุนนั้น เงินออมทุกบาท ทุกสตางค์อยู่กับเงินฝาก พูดง่ายๆ ในฐานะมนุษย์เงินเดือน เงินที่ เหลือจากการใช้จ่ายจะกลายเป็นเงินฝาก กองอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้ า นวิ ศ วกรรมก็ เ ริ่ ม ต้ น ท� ำ งานในฐานะ วิศวกรก่อสร้าง เขายอมรับว่าไม่รู้จักค�ำว่า ทางเลือกเพื่อการออมหรือการลงทุนอะไร

เลย รู้แค่ว่าทางเลือกของตัวเอง ก็คือ เก็บ เงินไว้กับแบงก์ให้เงินทบต้น ทบดอกไป เรื่อยๆ จากดอกเบี้ยในแต่ละปี และขยัน ท�ำงานเท่านั้น “ค�ำว่าหุ้น กองทุนรวม ไม่อยู่ในหัวเลย หรือดอกเบี้ยจะสูง จะต�ำ่ เงินเฟ้อจะกินผล ตอบแทนไปก็ไม่เคยคิดเลย แถมยังถาม ตัวเองว่าท�ำไมเราต้องไปกลัวเงินเฟ้อด้วย เงินเฟ้อก็เฟ้อไป เงินออมยังเท่าเดิม ถึงแม้ จะได้ยินจากทีวี หนังสือพิมพ์ แต่ก็คิดว่า ยังห่างไกลตัวเราอย่างมาก” พฤทธิพงศ์


9


ทบทวนความหลัง แต่วันนี้ เขาย้อนนึกกลับไปในอดีตก่อน ที่จะรู้จักเรื่องการลงทุน เขาอดเสียดายไม่ ได้ว่าเงินเฟ้อนี่แหละที่ทำ� ให้มูลค่าของเงินที่ เก็บออมเอาไว้ในแบงก์ลดลงอย่างน่าใจหาย

จุดเปลี่ยน

10

หลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ผ่านพ้นไป ได้ราวๆ 4 ปี พฤทธิพงศ์ตดั สินใจเปลีย่ นชีวติ ตัวเอง ด้วยการลาออกจากการเป็นวิศวกร ก่อสร้าง ไปเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด สถานีโทรทัศน์ ไอทีวี (ปัจจุบัน คือ สถานี โทรทัศน์ไทย พีบเี อส) และ ณ จุดนีเ้ องถือเป็น ก้ า วแรกในการเข้ า สู ่ โ ลกการลงทุ น เมื่ อ ได้ยินคนรอบๆ ข้าง ในที่ทำ� งานพูดถึงเรื่อง หุ้นตลอดเวลา “ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าหุ้น คืออะไร แต่ได้ยนิ แค่ว่าลงทุนหุ้นท�ำให้มรี ายได้ดกี ว่า เงินเดือน” พฤทธิพงศ์ ทบทวนความหลัง กระนั้นก็ดี กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำ� ให้ เขาเริ่มฉุกคิด และตั้งค�ำถามในใจว่านอก จากเงินเดือนแล้วน�ำไปฝากไว้กับแบงก์ ยัง มีทางเลือกเพื่อการลงทุนอื่นๆ อีกด้วย แล้ว ทางเลือกอื่นๆ ที่ว่า คืออะไร เขาจึงเริ่มต้น ด้วยการอ่านหนังสือพิมพ์หน้าการเงิน การ ลงทุนมากขึ้น เพื่อหาค�ำตอบ จากการอ่านหนังสือพิมพ์บวกกับหลัง วิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เศรษฐกิจไทยเริม่ ฟืน้ ตัวอย่างชัดเจน ท�ำให้บรรยากาศการลงทุน กลับมาคึกคักอีกครั้ง พฤทธิพงศ์จึงมอง ว่าน่าจะใช้จังหวะนี้เริ่มต้นลงทุน และด้วย

ความที่อยู่ในครอบครัวคนจีน จึงตัดสินใจ แบ่งเงินออมไปลงทุนทองค�ำ ถือเป็นสินทรัพย์ เพื่อการลงทุนแรกในชีวิต นอกจากเงินฝาก ออมทรัพย์ “ทองค�ำเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมาก และผม มองว่าทองค�ำมีมูลค่าจึงคิดว่าถ้าจะเริ่มต้น ลงทุนก็ควรจะเริม่ ทีท่ องค�ำ” พฤทธิพงศ์ เล่า วิธกี ารลงทุน ก็คอื ถอนเงินทีฝ่ ากไว้กบั แบงก์ ไปซื้อ และเนื่องจากยังไม่มีเงินก้อนมากนัก จึงเริ่มต้นด้วยการซื้อทองค�ำรูปพรรณ มีเพื่อนๆ ของเขาหลายคนถามว่าท�ำไม ไม่ซื้อหุ้น เพราะใครๆ ก็ซื้อหุ้น (ณ ตอนนั้น) เขาให้เหตุผลว่าทีไ่ ม่ลงทุนหุน้ เพราะรูส้ กึ ว่า มีความวุน่ วายในการเปิดพอร์ต ขณะทีท่ องค�ำ แค่เดินไปร้านทอง จ่ายเงินก็ได้ทองกลับบ้าน ทันที พฤทธิพงศ์ ลงทุนกับทองค�ำรูปพรรณได้ ไม่นาน ก็รู้ตัวว่าต้องเสียค่าก�ำเหน็จให้กับ ร้านทองทุกครั้งที่เข้าร้านทอง จึงตัดสินใจ หันไปซื้อทองค�ำแท่ง เพราะจะได้ไม่ต้อง เสียค่าก�ำเหน็จ โดยตอนนั้นเขายังไม่รู้เลย ว่าความเสี่ยงจากการลงทุนทองค�ำคืออะไร “ผมรูแ้ ค่วา่ ราคาทองค�ำจะขึน้ ไปเรือ่ ยๆ ส่วน ความเสี่ยงช่างมัน” แน่ น อนเมื่ อ เขาคิ ด แบบนี้ ถ้ า ราคา ทองค�ำขึ้นจะขายท�ำก�ำไรทันที จากนั้นก็ไป ซือ้ ทองค�ำแท่งใหม่เข้ามาเก็บเพือ่ รอให้ราคา ขยับขึ้นแล้วรอขายท�ำก�ำไร “ตอนนั้นผมไม่ คิดจะซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ผมลงทุนเพื่อ Capital gain อย่างเดียว” พฤทธิพงศ์ เล่า โดยช่วงนั้นพฤทธิพงศ์ซื้อทองค�ำแท่ง


11 แท่งละ 5 บาท ราคาประมาณ 8,000 บาท ต่อบาททองค�ำ เมื่อราคาขยับขึ้นเขาก็ขาย ท�ำก�ำไร ผลลัพธ์เขาประสบความส� ำเร็จ อย่างงดงาม “ถ้ามองย้อนกลับไป หากผม ซื้อทองค�ำเพื่อลงทุน ทุกวันนี้ผมคงท�ำก�ำไร หลายเท่าตัวเลยทีเดียว” พฤทธิพงศ์ บอก ซึง่ เขามองว่านีเ่ ป็นบทเรียนทีไ่ ด้รบั และจดจ�ำ ไปตลอดชีวิต นั่นคือ การลงทุนระยะยาว จะประสบความส� ำ เร็ จ ดี ก ว่ า การลงทุ น แบบซื้อๆ ขายๆ ถึงแม้จะประสบความส�ำเร็จจากการ ลงทุนทองค�ำแท่ง เขาเริ่มรับรู้แล้วว่าการ ลงทุนทองค�ำก็มขี อ้ เสียอยูท่ คี่ วามไม่สะดวก ในการซื้อขาย เพราะต้องเดินทางไปร้าน ทอง ด้วยสาเหตุนี้จึงตัดสินใจเปิดพอร์ตกับ โบรกเกอร์เพื่อเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น โดยก่อนที่จะกระโดดเข้าสู่ตลาดหุ้นนั้น ก็ได้ศึกษาหาความรู้ด้านการลงทุนควบคู่ ไปด้วย นอกจากจะอ่านหนังสือพิมพ์แล้ว ได้ซอื้ หนังสือกลยุทธ์การลงทุนสไตล์วอร์เรน บัฟเฟตต์ มาอ่านอย่างจริงๆ จังๆ “ท�ำให้ เราเข้าใจการลงทุนในหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ” พฤทธิพงศ์ เล่า

เข้าสู่โลกตลาดหุ้น

เมื่อพฤทธิพงศ์ตัดสินใจที่จะลงทุนใน หุ้นแล้ว เขาเริ่มต้นด้วยการจัดสรรเงินให้มี ความชัดเจน โดยจดบันทึกอย่างคร่าวๆ ว่า ในแต่ละเดือนจะต้องแบ่งเงินอย่างไร โดย นอกจากในส่วนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจ�ำวัน หลักๆ แล้วเงินออมจะอยู่ในรูปของเงินฝาก

ส่วนทีจ่ ะน�ำไปลงทุนในหุน้ เขาขอเริม่ ต้นจาก ก้อนเล็กๆ ก่อน “แม้ผมเป็นมือใหม่ แต่ไม่กลัวเพราะเป็น เงินก้อนเล็กมาก พูดง่ายๆ เป็นการเข้ามา ลงทุนเพื่อให้รู้จักกับหุ้น” พฤทธิ พ งศ์ ย อมรั บ ว่ า จุ ด เริ่ ม ของเขา ก็ ด ้ ว ยการเป็ น นั ก ลงทุ น แบบเทรดดิ้ ง การตั ด สิ น ใจด้ ว ยข้ อ มู ล ข่ า วตามหน้ า หนังสือพิมพ์ ซึ่งก็ประสบความส� ำเร็จใน ระดับหนึ่งไม่ต่างไปจากการลงทุนทองค�ำ แท่ง กระนั้นก็ดีเขาศึกษาการลงทุนผ่าน หนังสือการลงทุนจากผู้มีประสบการณ์ด้วย ตัวเองอย่างสม�่ำเสมอ จุดเปลี่ยนอีกครั้งเกิดขึ้นกับพฤทธิพงศ์ อีกครั้ง เมื่อตัดสินใจเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ การตลาด บริษัท แฟมมิลี่ โนฮาว จ�ำกัด ในเครือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งความรับผิดชอบที่ต้องเจอผู้บริหารของ บริษัทจดทะเบียน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ผู้จัดการกองทุน หรือออกบูธตามกิจกรรม ต่างๆ เช่น SET in the City, โครงการให้ เงินท�ำงานผ่านกองทุนรวม ท�ำให้ได้รับรู้ เรื่ อ งการลงทุ น และซึ ม ซั บ เกี่ ย วกั บ การ วางแผนการเงินโดยอัตโนมัติ บวกกับการ อ่านหนังสือการลงทุน ท�ำให้เขาตัดสินใจ เปลี่ ย นสไตล์ ก ารลงทุ น เป็ น นั ก ลงทุ น หุ ้ น คุณค่า “ผมเริ่มรู้แล้วว่าการลงทุนหุ้น ไม่ใช่แค่ เก็งก�ำไร รอ Capital gain แต่ผมมองว่าการ ลงทุ น หุ ้ น เหมื อ นกั บ การที่ ไ ด้ เ ข้ า ไปเป็ น เจ้าของกิจการด้วย” พฤทธิพงศ์ ทบทวน


ความหลัง เขายอมรั บ ว่ า สไตล์ ก ารลงทุ น ของ บัฟเฟตต์ ได้เปลี่ยนมุมมองการลงทุนของ เขาโดยแท้จริง นั่นคือ การลงทุนหุ้น คือ การเข้ า ไปเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของกิ จ การและ เมื่อเป็นเจ้าของกิจการแล้ว ย่อมท�ำให้เกิด ความจงรักภักดีสินค้าธุรกิจของตัวเองไป โดยปริย าย พู ด ง่ า ยๆ ต้อ งการจะใช้แต่ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทตัวเอง “ผมมีมุมมองความเป็นเถ้าแก่มากขึ้น” พฤทธิพงศ์ บอก มุมมองดังกล่าว นอกจากจะส่งผลดีต่อ การลงทุ น แล้ ว ยั ง ส่ ง ผลดี ต ่ อ การท� ำ งาน จนถึงปัจจุบัน นั่นคือ ท�ำงานเหมือนตัวเอง เป็นเจ้าของบริษัท ทุ่มเทอย่างเต็มที่ อยาก จะมีความรู้จักบริษัทมากยิ่งขึ้น “ไม่ใช่แค่ ท�ำงานไปวันๆ รอรับเงินเดือน” พฤทธิพงศ์ ให้ความเห็น “มีวนั หนึง่ ผมมองย้อนกลับไป ในช่วงทีล่ งทุนแบบเทรดดิง้ รูส้ กึ ว่าไม่เคยได้ ผลตอบแทนที่ดีและต่อเนื่องเลย แต่เมื่อหัน มาเน้นการลงทุนหุ้นคุณค่าและลงทุนระยะ ยาวกลับประสบความส�ำเร็จ หุ้นได้สร้างผล ตอบแทนได้อย่างน่าประทับใจ”

ชีวิตเปลี่ยนเพราะการลงทุน

12

จะว่ า ไปแล้ ว จุ ด เปลี่ ย นชี วิ ต ของ พฤทธิพงศ์มหี ลายครัง้ แต่ครัง้ ทีเ่ ขาจดจ�ำได้ดี เห็นจะเป็นการตัดสินใจลงทุนทองค�ำและ หุ้น เพราะท�ำให้เขามองว่าการลงทุนมีทาง เลือกอีกมาก แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกลงทุน อะไร

“พอได้รจู้ กั ลงทุนทองค�ำและหุน้ ท�ำให้รู้ เลยว่าทางเลือกการออมเงิน การลงทุนไม่ได้ มีแค่ฝากเงินไว้กับแบงก์เท่านั้น” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่ตลาด หุ้น เขามองว่าชีวิตได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง แต่ เ ป็ น การเปลี่ ย นแปลงในแง่ ข องจิ ต ใจ เพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่แค่พนักงาน บริษทั กินเงินเดือนอย่างเดียว แต่ยงั มีกจิ การ เป็นของตัวเองผ่านการลงทุนในหุ้น “เป็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงความคิด และเพิม่ Value ให้กบั ตัวเอง” พฤทธิพงศ์ บอก ส�ำหรับการคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุนนั้น เขาใช้วิธีการเลือกผ่านชีวิตประจ�ำวัน นั่น คือ ในแต่ละวันใช้สินค้าและบริการอะไร บ้าง ยกตัวอย่างเช่น เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ขับรถขึน้ ทางด่วน นัง่ รถไฟฟ้า เดินห้างสรรพ สินค้า เป็นต้น เหตุผลทีเ่ ขาเริม่ ต้นเลือกหุน้ แบบนีเ้ พราะ มองว่าทุกๆ วัน คนก็ตอ้ งใช้สนิ ค้าและบริการ เหล่านี้ทุกๆ วัน ไม่มีวันสิ้นสุด รายได้ก็น่า จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถัดจากนั้นจะเลือกว่า สินค้าหรือบริการนั้นๆ เป็นของบริษัทอะไร จดทะเบียนในตลาดหุ้นหรือไม่ เมื่อได้รายชือ่ แล้วก็จะไปดูภาพรวมของ การด�ำเนินธุรกิจผ่านเว็บไซต์ของบริษทั และ เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วดูลึกลงไป ในงบการเงิน โดยดูย้อนหลังไปสัก 5 ปีว่า ที่ผ่านมาการเติบโตเป็นอย่างไร ซึ่งสถิติ ดังกล่าวจะบอกแนวโน้มการด�ำเนินงานใน อนาคตได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งดูทีมผู้บริหาร ว่าเป็นใคร มีประวัติการท�ำงานเป็นอย่างไร


13 และบริ ษั ท มี ก ารบริ ห ารงานโปร่ ง ใสมาก น้อยแค่ไหน ทีส่ ำ� คัญการเลือกหุน้ พฤทธิพงศ์จะเลือก ธุ ร กิ จ ที่ ตั ว เองมี ค วามเข้ า ใจในตั ว ธุ ร กิ จ เท่านัน้ เพือ่ ท�ำให้การติดตามข้อมูลข่าวสาร เป็นไปได้ดี สามารถรู้แหล่งที่มาของรายได้ ต้นทุนการด�ำเนินงาน “หากลงทุนในหุ้น ที่ไม่รู้ว่าท� ำธุรกิจอะไรเหมือนกับไปเรียน วิชาที่ไม่ชอบ แต่อะไรที่เราอยู่กับมันทุกวัน และเห็นการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราเห็นการ เปลี่ยนแปลงจะรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับ หุ้นที่ลงทุนเอาไว้” พฤทธิพงศ์ บอก ยกตัวอย่างเช่น วันหนึง่ เดินเข้าไปในร้าน อาหาร ปรากฏว่าลูกค้าบางตาลงทุกวันๆ อาจจะเป็นไปได้ว่าต้องเกิดอะไรที่ไม่ดีแน่ๆ ก็สามารถเข้าไปดูว่าผลประกอบการเป็น อย่างไร ลดลงอย่างมีนัยส�ำคัญหรือไม่ ทีม ผู้บริหารเปลี่ยนหรือไม่ หรือว่ากลยุทธ์การ ตลาดเปลี่ยนไป และมีผลกระทบต่อความ สามารถในการท�ำก�ำไรระยาวหรือไม่

อย่าโลภ

ส�ำหรับแง่คดิ การลงทุน พฤทธิพงศ์บอก ว่าอย่าให้อารมณ์ชั่ววูบเข้ามารบกวนเป้า หมายการลงทุน เพราะจะท�ำให้การลงทุน เกิดความผิดพลาด “ความโลภท�ำให้การ ลงทุนผิดพลาดได้ ดังนั้นถ้าเรายึดหลักการ ไหนแล้วต้องไม่เปลี่ยนแปลง” ที่ ส� ำ คั ญ เขาบอกว่ า การลงทุ น ต้ อ ง กระจายความเสี่ ย ง หมายความว่ า อย่ า ลงทุนในสินทรัพย์เดียว ควรจะกระจายการ

ลงทุนออกไป เพราะปัจจุบันไม่มีอะไรที่ แน่นอน “สิ่งที่ท�ำได้ นั่นคือ การช่วยเหลือ ตัวเอง เราหาเงินมาแทบตาย ก็ควรท�ำให้ งอกเงย และอย่าลืมลงทุนให้กับตัวเองด้วย การศึกษาหาความรูต้ ลอดเวลา อ่านหนังสือ ฟังสัมมนา ยิง่ ไปกว่านัน้ การลงทุนไม่จ�ำเป็น ต้องรอให้มเี งินมาก มีเงินน้อยก็เริม่ ต้นลงทุน ได้เพียงแต่ขอให้มีความรู้และความใส่ใจ เท่านั้น “การลงทุนเป็นเรื่องของคนที่ใส่ใจ และอยากให้เงินงอกเงย” ทุกวันนี้พฤทธิพงศ์ได้ประยุกต์เรื่องการ ลงทุนมาใช้กับการด�ำเนินชีวิต นั่นคือ ทุก อย่างมีทางเลือก ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกเดิน ทางไหน แต่ เ มื่อ ตัด สิน ใจเลือ กแล้ ว ต้ อ ง ยอมรับผลที่จะตามมา ถึงแม้ว่าสุดท้าย (ทางเลือกนั้น) อาจจะผิดพลาด แต่ ณ วันที่ เลือก เป็นการตัดสินใจจากข้อมูลที่ดีที่สุด แล้ว “ชีวิตของผมมีทางเลือกมากขึ้น ท�ำให้ มี ค วามสุ ข กั บ การใช้ ชี วิ ต มากขึ้ น ” และ แน่นอนทุกคนย่อมมีเป้าหมาย ซึง่ พฤทธิพงศ์ บอกว่าเขาต้องการผลตอบแทนไม่มากอะไร ขอเพียงแค่มีรายได้จากการลงทุนในหุ้น ให้ ครอบคลุมค่าใช้จา่ ยไปตลอดชีวติ ก็เพียงพอ แล้ว


ลงทุนหุ้น

ลงทุนเพื่อชีวิต ชุมพล พิพัฒน์เมฆินทร์

เป้าหมายการลงทุนในตลาดหุ้นของแต่ละคนจะแตกต่างกัน บางคน เพื่อสร้างความมั่งคั่ง บางคนต้องการให้พอร์ตเติบโตเป็นร้อยๆ ล้านบาท หรือเพื่อบ้าน รถคันใหญ่หรูหรามากขึ้น แต่ส�ำหรับ “ชุมพล พิพัฒน์เมฆินทร์” ที่เขาพูดได้เต็มปากว่ามีอาชีพเป็นนักลงทุน เป้าหมายของเขา นั้นเป็นการลงทุน “เพื่อชีวิต”

14

หลังจากชุมพล เรียนจบปริญญาตรีทาง ด้านสาขาการบริหารโฆษณา ไม่ตา่ งไปจาก เพื่อนๆ ที่ส่วนใหญ่เข้าไปท�ำงานกับบริษัท โฆษณา แต่ถงึ จะเหมือนคนส่วนใหญ่ ชุมพล กลับมีเป้าหมายตัง้ แต่วนั แรกในฐานะมนุษย์ เงินเดือนว่าจะต้องเป็นเจ้าของธุรกิจให้ได้ จุดประกายที่จะเป็นเถ้าแก่เกิดจากการ ได้อา่ นหนังสือชุดพ่อรวยสอนลูก (Rich Dads Poor Dad เขียนโดย Robert T. Kiyosaki) “ที่ท�ำงานกินเงินเดือน ผมถือว่าเป็นการ หาประสบการณ์ ผมไม่ได้คิดว่าจะท�ำงาน

เพื่อให้ก้าวหน้าในต�ำแหน่งหน้าที่” ชุมพล ทบทวนความหลัง หลังจากชุมพลเป็นมนุษย์เงินเดือนได้ ประมาณ 7 ปี ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่วิกฤติ เศรษฐกิจ (ปี 2540) และขณะที่บริษัทส่วน ใหญ่ปรับลดพนักงาน หรือบางแห่ ง ก็ถึง ขั้นล้มละลาย เขากลับตัดสินใจลงขันกับ เพื่อนๆ ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อรับงานด้าน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ จัดอีเวนต์ต่างๆ “ตอนก่อตัง้ บริษทั ผมและเพือ่ นๆ ไม่ได้ คิดว่าจะมีปัญหาอะไร หรือเศรษฐกิจไม่ดี


15


จะท�ำอะไรไม่ได้ แต่กลับมามองว่าถ้าจะตั้ง บริษัทขึ้นมาแล้วสร้างธุรกิจให้เติบโตต่อไป ได้ ก็ลงมือท�ำเลย” ชุมพล เล่า แม้ว่าในช่วงแรกๆ ธุรกิจที่ชุมพลและ เพื่อนๆ สร้างขึ้นมาจะเป็นการลองผิด ลอง ถูก แต่อีกไม่นานก็สามารถเติบใหญ่ขึ้นไป ได้ในระดับที่เรียกว่ายืนอยู่ได้ โดยเฉพาะ หลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัว อีกครัง้ งานด้านโฆษณา ประชาสัมพันธ์ จัด อีเวนต์ก็ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กระนั้ น ก็ ดี แม้ ว ่ า ชุ ม พลกลายเป็ น เจ้าของธุรกิจแล้ว แต่ในเรื่องการลงทุนเขา ยอมรับว่า “ยังเป็นเรื่องที่ไกลตัว ถึงแม้จะ รู้บ้างก็ตาม” ซึ่งทุกวันนี้เขาบ่นเสียดายว่า ท�ำไมไม่ศึกษาเรื่องการลงทุนตั้งแต่ช่วงปี 2540 หรือขณะที่ตั้งหน้าตั้งตาสร้างธุรกิจ ของตัวเองให้เติบใหญ่ เขามักมีคำ� ถามกับ ตัวเองว่าถ้าน�ำเงินไปฝากออมไว้กับแบงก์ เฉยๆ ขณะที่ดอกเบี้ยขยับลงอย่างต่อเนื่อง “แล้วเราจะท�ำอะไรกับเงินก้อนนี้”

บทเรียนจากการลงทุน

16

จะว่ า ไปแล้ ว อาจจะเป็ น จั ง หวะที่ ดี ของชุ ม พล เมื่ อ บริ ษั ท ของเขาได้ รั บ งาน จัด กิจ กรรมให้ กั บ โครงการให้ เ งิน ท�ำ งาน ผ่ า นกองทุ น รวม ตลาดหลั ก ทรั พ ย์ แ ห่ ง ประเทศไทย ท�ำให้เขามีโอกาสได้เห็น ได้ พูดคุยกับเจ้าหน้าทีต่ ลาดหลักทรัพย์ฯ เกีย่ ว กับการลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งก็ได้รับค�ำ แนะน� ำ ในระดั บ หนึ่ ง เขาจึ ง ตั ด สิ น ใจซื้ อ หนังสือการลงทุนกองทุนรวมมาอ่านด้วย ตัวเองเพิ่มเติม จากค� ำ แนะน� ำ และการอ่ า นหนั ง สื อ

ดังกล่าว ชุมพลตัดสินใจแบ่งเงินออมบาง ส่วนไปลงทุนซือ้ กองทุนรวม โดยเริม่ ต้นจาก กองทุนรวมรวมทั่วไป “ผมยอมรับว่าตอน นั้นยังอยู่ในช่วงศึกษา เรียนรู้ ดังนั้นความ เข้าใจในกองทุนรวมน้อยมาก ผมยังไม่รเู้ ลย ว่าผู้จัดการกองทุน น�ำเงินไปลงทุนอะไร สัดส่วนเท่าไหร่ มีวิธีการลงทุนอย่างไร” ชุมพล ทบทวนความหลัง ถัดจากกองทุนรวมทัว่ ไป ชุมพลตัดสินใจ แบ่งเงินออมอีกก้อนไปลงทุนกองทุนรวมที่ มีนโยบายลงทุนต่างประเทศ (กองทุนรวม FIF) ซึ่ง ณ จุดนี้เองท�ำให้เขาได้รับบทเรียน ที่ต้องจดจ�ำไปตลอดชีวิต นั่นคือ ในช่วงที่ กระแสกองทุนรวม FIF มาแรง เขาตัดสินใจ ลงทุนผ่านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดย ไม่ได้มคี วามรูอ้ ะไรมากนัก “ตอนนัน้ ผมรูแ้ ค่ ผิวเผิน รู้ตามโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่ ไม่รู้ว่ากองทุน FIF ที่ลงทุนไปนั้น ผู้จัดการ กองทุนน�ำเงินไปลงทุนอะไร ประเทศอะไร” ผลลัพธ์ที่ออกมา กองทุนรวม FIF ที่ ชุมพลไปลงทุนเอาไว้นั้น “ขาดทุน” ท�ำให้ รู้สึกว่าการลงทุนไม่ควรเชื่อค�ำโฆษณาชวน เชื่อ หรือดูผ่านโบร์ชัวร์ประชาสัมพันธ์ หรือ เชื่ อ ตามเจ้ า หน้ า ที่ ก ารตลาด เพราะผล สุดท้ายอาจจะท� ำให้เงินลงทุนหายวับไป กับสายลม “บทเรียนครัง้ นัน้ ท�ำให้ผมเริม่ ต้นศึกษา หาความรูก้ ารลงทุนอย่างจริงจัง” ชุมพล บอก

เข้าสู่ตลาดหุ้น

เมือ่ ประมาณ 6 ปีทแี่ ล้ว ชุมพลตัดสินใจ แบ่งเงินส่วนเล็กๆ เข้ามาทดลองการลงทุน หุ้น โดยในช่วงนั้นเขายอมรับว่าเขาเป็น


17 “แมงเม่า” ตัวหนึง่ ในตลาดหุน้ เพราะวิธกี าร คัดเลือกหุ้น ไม่มีอะไรมากแค่ตามเพื่อนๆ ไปวันๆ “ตอนนั้นหุ้นตัวไหน ผมก็ฮิตตาม เฮไหน เฮนั่น” ชุมพล ทบทวนความหลัง อย่ า งไรก็ ต าม ด้ ว ยความที่ ต ้ อ งดู แ ล บริษทั ตัวเองควบคูต่ ามไปด้วย ท�ำให้ไม่คอ่ ย มีเวลาติดตามหุ้นแบบปะติดปะต่อมากนัก บางครั้งซื้อหุ้นเอาไว้ก็ทิ้งๆ ขว้างๆ โดยไม่มี การติดตามเลยว่าก�ำไรหรือขาดทุน หรือ ถ้าดูก็ดูแบบผ่านๆ “ดูแค่ราคาหุ้น ก็ไม่มี ประโยชน์อะไรเลย” กระนั้นก็ดี ถึงแม้เขาจะยอมรับว่าเป็น แมงเม่าแต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่น่า สนใจและติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ ได้ท�ำความรู้จักตัวเองเกี่ยวกับระดับความ เสี่ยงของการลงทุน “เมื่อลงทุนไปแล้วไม่มี การติดตามการลงทุน แล้วขาดทุนสัก 50% รู้สึกว่าตัวเองรับได้” จากกรณีดัง กล่ า ว สะท้อ นให้เห็นว่า ชุมพล สามารถรับความเสีย่ งด้านการลงทุน ได้คอ่ นข้างสูง ซึง่ เขาสรุปบทเรียนการลงทุน หุ้นครั้งแรกในชีวิตเอาไว้ว่า 1. สภาพจิตใจเป็นอย่างไร หมายความ ว่า การลงทุนในหุ้นต้องรับความเสี่ยงได้ใน ระดับสูงพอสมควร 2. ถ้ า จะลงทุ น ในหุ ้ น แล้ ว ให้ ไ ด้ ผ ล ตอบแทน จะต้ อ งศึ ก ษาหาความรู ้ อ ย่ า ง ต่อเนื่อง 3. ต้องลงทุนอย่างจริงจัง ไม่ใช่ทิ้งๆ ขว้างๆ เมื่อชุมพลสรุปบทเรียนได้แล้ว เขาเริ่ม วางแผนการลงทุนด้วยการศึกษาหาความรู้ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นความโชคดีเหมือนกัน

เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ thaivi.org เพือ่ อ่านข้อมูลการลงทุน เพียงแต่ เข้าไปอ่านเล่นๆ อ่านผ่านๆ เท่านัน้ แต่เมือ่ มี ความตั้งใจ โดยเฉพาะเริ่มคิดแล้วว่า “ต้อง มีการลงทุนเพื่อไปให้ถึงอิสรภาพทางการ เงิน” จึงเริ่มศึกษาการลงทุนผ่านหนังสือ ด้านการลงทุน ติดตามข้อมูลเว็บไซต์ thaivi อย่างจริงจัง ในปี 2553 เป็นปีที่ชุมพลเริ่มต้นอย่าง จริ ง จั ง กั บ การศึ ก ษาหาความรู ้ ด ้ า นการ ลงทุน “ตอนนั้นผมยอมรับว่าความรู้ด้าน การลงทุนยังไม่มาก แต่ก็รู้แล้วว่าหุ้นไม่ใช่ ดูแค่ราคาแต่ตอ้ งดูลงลึกไปถึงตัวธุรกิจ ดูผล การด�ำเนิงาน ดูงบการเงิน ดู ข้อมูล 56-1 ดู ทีมผู้บริหาร อย่างนี้เป็นต้น” ชุมพล บอก จากจุดเริ่มดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ชุม พลเริ่ม มีเ ข็ม ทิศ ในการลงทุน เป็ น ขั้น เป็นตอน ผ่านการเรียนรูด้ ว้ ยตัวเองเป็นหลัก จากการวางแผนด้วยการให้ความส�ำคัญ กั บ การลงทุ น ในช่ ว งปี 2553 ชุ ม พลจึ ง ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทที่ร่วมก่อ ตั้งกับเพื่อนให้เพื่อนทั้งหมด ประกอบกับ ช่วงดังกล่าวภรรยาของเขาคลอดลูก เขาจึง ต้องการให้เวลากับภรรยาและลูก ซึ่งทาง ออกที่ดีในมุมมองของเขา ก็คือ ยึดอาชีพ นักลงทุน “ตอนนัน้ ผมคิดว่าอาชีพอะไรทีท่ ำ� แล้วมี ผลตอบแทนที่ดีและเลี้ยงครอบครัว และมี เวลาให้กบั ลูก เมียได้ ผมว่า อาชีพนักลงทุน เป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งตอนนั้นก็ตั้งเป้าเอาไว้ ไม่เยอะแยะ ขอแค่ผลตอบแทน 20% ต่อปี ได้ก็โอเค” ชุมพล เล่า


ซื้อแล้วไม่คิดจะขาย

18

ส�ำหรับเทคนิคการลงทุนหุ้นนั้น ชุมพล บอกว่าไม่ยาก โดยจะดูวา่ อุตสาหกรรมนัน้ ๆ มีการเจริญเติบโตมากน้อยแค่ไหน แนวโน้ม การเติบโตเป็นอย่างไร หรืออุตสาหกรรม นั้นๆ ก�ำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ถ้าหากเป็นการดูเป็นรายตัวก็จะดูว่าหุ้นตัว นั้นก�ำลังท�ำอะไร ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรทั้ง ในเชิงการด�ำเนินธุรกิจและผลประกอบการ ทีมผู้บริหารเป็นอย่างไร “ก็จะใช้เทคนิคการดูง่ายๆ สไตล์นัก ลงทุนหุ้นคุณค่า” ชุมพล บอก แต่ ป ระเด็ น ที่ น ่ า สนใจส� ำ หรั บ คติ ก าร ลงทุนหุ้นของชุมพล อยู่ที่เมื่อลงทุนไปแล้ว “ผมไม่คิดจะขาย” เพราะหุ้นที่ลงทุนเป็น หุ ้ น ที่ เ ลื อ กแล้ ว และมี ค วามปลอดภั ย สู ง จ่ายเงินปันผลสม�่ำเสมอ “ยกเว้นวันหนึ่งผู้ บริหารบริษัทนั้นมีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจ จะเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าผู้บริหารคน เดิ ม ลาออก แล้ ว คนใหม่ ม าแทนมี ค วาม สามารถแค่ไหน หรือมาท�ำแทนแล้วนโยบาย ธุ ร กิ จ เปลี่ ย นแปลงหรื อ ไม่ ถ้ า ไม่ มี อ ะไร เปลี่ยนก็ไม่ขายหุ้น แต่ถ้าดูแล้วเกิดการ เปลี่ยนแปลง เช่น ประกาศว่าต่อไปจะเน้น การขยายกิจการ อาจจะส่งผลต่อนโยบาย การจ่ายเงินปันผล หรือหันไปท�ำธุรกิจอื่นๆ ที่ตัวเองไม่ถนัด ก็อาจจะต้องขายหุ้นตัวนั้น ออกไป” ชุมพลยกตัวอย่างการลงทุนในหุ้นได้ อย่างน่าฟังว่า นักลงทุนทีล่ งทุนหุ้นแบบเก็ง ก�ำไร เหมือนกับการทีไ่ ปมองว่าบ้านข้างๆ มี สนามหญ้าสวยกว่าบ้านตัวเอง ก็ตัดสินใจ รื้อสนามหญ้าบ้านตัวเองแล้วไปท�ำเหมือน

ข้างบ้าน นั่นคือ เมื่อลงทุนไปแล้ว เมื่อเห็น ราคาขยับขึ้นก็ตัดสินใจขาย แล้วไปหาหุ้น ตัวอื่นๆ แทน แต่ ส� ำ หรั บ นั ก ลงทุ น ระยะยาวที่ เ น้ น ลงทุนหุ้นคุณค่า เมื่อตัดสินใจลงทุนไปแล้ว จะเน้นการลงทุนระยะยาว โดยให้ความ ส�ำคัญกับเงินปันผล คล้ายๆ กับว่ามอง สนามหญ้าบ้านตัวเองสวยงามอยูแ่ ล้ว และ สวยงามในสไตล์ของตัวเอง ไม่จ�ำเป็นจะ ต้องรื้อแล้วไปท�ำเหมือนข้างบ้าน “ผมคิ ด ว่ า การลงทุ น หุ ้ น ในระยะยาว จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่าการลงทุน ระยะสั้น” มีคำ� ๆ หนึง่ ทีช่ มุ พล บอกกับน้องๆ ทีเ่ พิง่ กระโดดเข้ามาในตลาดหุน้ ว่า “อย่าโลภเกิน ความรูท้ ตี่ วั เองมี” หมายความว่า ถ้ายังไม่รู้ อะไร ก็อย่าคาดหวังสูงเกินไป “ผมอยาก ให้คิดคล้ายๆ ว่าเราก�ำลังจะท�ำธุรกิจ แต่ ไม่รู้ว่าจะท�ำอะไร แต่กลับทุ่มเงินลงไปหมด หน้าตัก ถ้าโชคดีก็ประสบความส�ำเร็จ แต่ ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาคงเจ๊ง” ชุมพล บอก “เมื่อเป็นเงินที่ได้จากน�้ำพัก น�้ำแรง และ ต้องการลงทุนต้องศึกษาหาความรู้กระจ่าง แจ้ง เหมือนกับก่อนที่จะท�ำงาน ต้องเรียน ให้จบปริญญาตรีก่อน เช่นเดียวกันถ้าคิด จะลงทุ น ในตลาดหุ ้ น แต่ ไ ม่ ย อมศึ ก ษา หาความรู้ คุณคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร”

ชีวิตเปลี่ยนเพราะการลงทุน

ช่วงแรกๆ ทีช่ มุ พลตัดสินใจให้เงินท�ำงาน ผ่านตลาดหุ้น เขายอมรับว่ามีความสับสน พอสมควร เนื่องจากไม่มีความมั่นใจว่าเป้า หมายที่วางเอาไว้ โดยเฉพาะผลตอบแทน


19 20% ต่อปีจะท�ำได้หรือไม่ เพราะหมายถึง รายได้ที่จะน�ำมาเลี้ยงครอบครัว “ตอนนั้นคิดหนักเหมือนกัน บางวันถึง กับวางแผนว่าควรจะหาอาชีพอืน่ ส�ำรองเอา ไว้หรือไม่ เช่น เปิดร้านขายของเล็กๆ น้อยๆ เผือ่ เกิดความผิดพลาดกับการลงทุนในหุ้น” แต่ เ มื่ อ ชุ ม พลคิ ด รอบด้ า นแล้ ว เขา ตัดสินใจว่าถึงแม้จะไปหาอาชีพส�ำรองท�ำ คงไม่แตกต่างไปจากอดีตที่เวลาส่วนใหญ่ หายไปกับการนั่งท�ำงานอยู่ในออฟฟิศ หรือ หากไปเปิ ด ร้ า นขายของ ซึ่งก็ต ้อ งใช้เงิน ลงทุนเช่นกัน ที่ส�ำคัญไม่รู้ว่าในอนาคตจะ ประสบความส�ำเร็จหรือไม่ และผลตอบแทน ที่จะได้มีมากน้อยแค่ไหน “ผมบอกกับตัวเองว่าเงินก้อนเดียวกัน แทนที่ จ ะไปเปิ ด ร้ า นขายของ ถ้ า น� ำ มา ลงทุนในหุ้นที่ศึกษาดีๆ แล้วเลือกหุ้นที่มี ความมั่นคง ปลอดภัย มีอนาคต ก็ไม่น่าจะ ขาดทุน และที่ส�ำคัญถ้าลงทุนหุ้นแล้วสร้าง ผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย ก็นา่ จะดีกว่า เปิดร้านขายของเอง” ชุมพล บอก ปัจจัยส�ำคัญทีท่ ำ� ให้ชมุ พลมีความมัน่ ใจ ต่อการลงทุนในหุน้ นัน้ เขาบอกว่า “ผมไม่ได้ เล่นหุ้น ผมลงทุนหุ้น” หมายความว่า การ ลงทุนหุ้นเหมือนกับการที่ร่วมหุ้นเปิดบริษัท กับเพื่อนๆ ดังนั้นแนวคิดไม่แตกต่างกัน นั่น คือ ก่อนที่จะไปลงหุ้นก็ต้องศึกษาว่าบริษัท นั้นผู้บริหารไว้ใจได้หรือไม่ (คล้ายๆ ร่วมหุ้น เปิดบริษทั กับเพือ่ นทีต่ อ้ งดูวา่ เพือ่ นแต่ละคน ไว้ใจได้หรือไม่) บริษัทนั้นๆ มีประวัติการท�ำ ธุรกิจดีแค่ไหน อยู่ในธุรกิจอะไร มีส่วนแบ่ง การตลาดอันดับเท่าไหร่ มีผลก�ำไรต่อเนื่อง หรือไม่ และแนวโน้มการเติบโตเป็นอย่างไร

“เมื่อเราดูข้อมูลทั้งหมดแล้ว ก็กลับมา ดูวา่ ราคาทีเ่ ราจะซือ้ คุม้ ค่ากับทีจ่ ะจ่ายหรือ ไม่” เกือบ 3 ปีแล้วที่ชุมพลมีการวางแผน การลงทุนในหุ้นเป็นระบบ ระเบียบ จะว่า ไปแล้วยังถือเป็นช่วงเริ่มต้นในฐานะอาชีพ นักลงทุน กระนั้นก็ดีเขาบอกว่ามาถึงวันนี้ มีความมั่นใจกับเส้นทางเดินที่เลือก และ ค่อยๆ มั่นใจมากยิ่งขึ้น “ผมมั่นใจว่า ผมเดินถูกทางแล้ว” ทีส่ ำ� คัญเขามีความมัน่ ใจมากขึน้ ว่าการ ลงทุนในหุ้นสามารถเป็นอาชีพได้ จากอดีต เขามักคิดว่าการลงทุนหุ้น คือ การพนัน แต่ เมื่อได้เข้ามาสัมผัสพบว่าเขาเข้ากับหุ้นได้ เป็นอย่างดี ที่สำ� คัญท�ำให้ชีวิตเปลี่ยนไปใน ทางที่ดีขึ้น นั่นคือ สามารถน�ำผลตอบแทน จากการลงทุนมาเป็นค่าใช้จา่ ยในครอบครัว ได้ เช่น ค่าเทอมลูก ค่าน�้ำ ค่าน�ำ้ มันรถ ค่า โทรศัพท์ ค่าน�้ำ ค่าไฟ ค่าอยู่ค่ากิน ถึงแม้ว่าปัจจุบันอาชีพการลงทุนหุ้น ยัง ไม่ท�ำให้เขาบรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ นั่น คือ สร้างรายได้จนสามารถน�ำมาเป็นค่าใช้ จ่ายในครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ “เป้า หมายของผมคือลงทุนเพื่อชีวิต ไม่ได้ลงทุน เพื่อความมั่งคั่ง” ชุม พลมองว่ า การลงทุนเป็ น เรื่องของ จิ ต ใจ ต่ อ ให้ มี ค วามรู ้ เ ยอะๆ วิ เ คราะห์ ประเมินหุ้นดีแค่ไหน แต่ถ้าจิตใจหวั่นไหว เช่น ซือ้ หุน้ แล้วราคาปรับขึน้ มาอย่างรวดเร็ว ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอก็ตอ้ งขายเพือ่ ท�ำก�ำไร “ดังนั้นเมื่อคุณมีเป้าหมายแล้วต้องท�ำตาม เป้าหมายที่วางเอาไว้ อย่างเปลี่ยนใจเด็ด ขาด” ชุมพล ทิ้งท้าย


โชคดีที่ได้รู้จัก หุ้นและอนุพันธ์ มนัสวี พรหมสถาวงศ์

สุภาษิตจีน กล่าวเอาไว้ว่า “ถ้าศัตรูเก่งขึ้นหนึ่งคืบ เราต้องเก่งขึ้นหนึ่ง วา” ใช้ได้ดีกับมนัสวี พรหมสถาวงศ์ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาภาษาจีน V Chinese Center ที่เธอน�ำสุภาษิตนี้มาใช้กับการลงทุน จนสามารถสร้าง เนื้อ สร้างตัวได้อย่างน่าประทับใจ

20

ก่อนปี 2540 ที่ประเทศไทยจะเกิดวิกฤติ เศรษฐกิจ มนัสวี พรหมสถาวงศ์ มองว่าคง ไม่มชี อ่ งทางการออมอะไรให้ได้ดอกผลมาก ไปกว่าการฝากเงินเอาไว้กับแบงก์ เพราะ ในช่วงนั้นดอกเบี้ยเงินฝากในเมืองไทยยัง อยู่ในระดับสูงด้วยเลข 2 หลัก ซึ่งสามารถ ฝากผี ฝากไข้ได้ ประกอบกับ มนัสวีท�ำงานที่ธนาคาร กสิกรไทย ยิ่งท�ำให้เงินเก็บเกือบทั้งหมดอยู่ กับบัญชีออมทรัพย์ (บางส่วนไปซื้อสลาก

ออมสิน) “เมือ่ ได้ดอกเบีย้ สูงๆ แบบนัน้ ท�ำไม ต้องไปลงทุนแบบอื่นด้วย” มนัสวี ทบทวน ความหลั ง ครั้ ง ยั ง มี ค วามสุ ข กั บ การได้ ดอกเบี้ยจากการฝากเงินในแบงก์ ถึงแม้ว่าในช่วงเวลานั้น เธอรู้จักการ ลงทุนในรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้น แต่ ก็ ไ ม่ เ คยคิ ด ที่ จ ะกระโดดเข้ า ไปลงทุ น เธอยอมรับว่าก่อนปี 2540 เงินออมของตัว เองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการฝากแบงก์ “ยังมีความสุขกับการได้ดอกเบี้ยเงินฝาก


21


ระดับ 16% ท�ำให้ไม่คิดว่าจะมีการลงทุน อะไรอี ก แล้ ว ที่ ใ ห้ ผ ลตอบแทนและมั่ น คง เท่ากับฝากแบงก์”

จุดเปลี่ยน

22

ท่ามกลางซากปรักหักพังทางเศรษฐกิจ ในปี 2540 ส่งผลให้ดอกเบี้ยจากการฝาก เงินไว้กับแบงก์พาณิชย์ค่อยๆ ปรับลดลง อย่างต่อเนื่อง แต่มนัสวียังไม่คิดอะไรมาก เนือ่ งจากในขณะนัน้ ช่องทางการลงทุนมีขอ้ จ�ำกัดจากพิษวิกฤติเศรษฐกิจ เงินออมจึงยัง คงอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ต่อไป จนกระทั่งปี 2544 เศรษฐกิจไทยเริ่ม ฟื้นตัวอีกครั้ง มนัสวีตัดสินใจลาออกจาก ธนาคารกสิกรไทย ด้วยเหตุผล ต้องการมี ธุรกิจส่วนตัว (Entrepreneur) นั่นคือ เปิด โรงเรียนสอนภาษาจีน แต่ฝันของเธอยังไม่ เป็นจริง เมื่อตัดสินใจไปเป็นอาจารย์สอน ภาษาจีนทีส่ ถาบันสอนภาษาจีน วิทยสถาน แห่งวัฒนธรรมตะวันออก OCA “ตอนนั้น จัง หวะของเรายังไม่สุก งอม พอ” มนัสวี ทบทวนความหลัง ถึงแม้จะยังไม่ได้มธี รุ กิจส่วนตัว แต่กลับ เป็นจุดเปลี่ยนในด้านการลงทุน เมื่อเพื่อน ของเธอซึ่งท�ำงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์ เ ก็ ต ติ้ ง ) บริ ษั ท หลั ก ทรั พ ย์ แ ห่ ง หนึ่ ง ชัก ชวนให้ เ ธอลงทุน ในตลาดหุ้น โดยให้

เหตุ ผ ลว่ า เศรษฐกิ จ เริ่ ม ฟื ้ น ตั ว จะท�ำ ให้ ตลาดหุ้นน่าสนใจอีกครั้งและน่าจะผ่านจุด ต�ำ่ สุดไปแล้ว ทีส่ ำ� คัญเธอก็รบั รูข้ า่ วสารด้าน ตลาดหุ้นผ่านหนังสือพิมพ์มาตั้งแต่ท�ำงาน อยู่ธนาคารกสิกรไทย จึงตัดสินใจเข้าลงทุน ในตลาดหุ้น “เราไม่กลัวตลาดหุน้ เพราะตอนนัน้ แบ่ง เงินเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ทุ่มลงทุนทั้งก้อน ที่ ส�ำคัญต้องการเข้ามาทดลองลงทุนในตลาด หุ้นด้วย” มนัสวี เล่า จะว่าไปแล้ว หลังวิกฤติเศรษฐกิจ ดอกเบีย้ เงินฝากปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ มนัสวีเริ่มคิดหนักมากขึ้นว่าจะยังคงพึ่งพา การฝากเงินอีกต่อไปได้หรือไม่ และเมื่อได้ เพื่อนคนดังกล่าวกระตุ้นเพียงเล็กน้อยก็ ท�ำให้เธอต้องตัดสินใจท�ำอะไรสักอย่างเพื่อ ให้เงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิตงอกเงยมากขึ้น และที่ส�ำคัญเธอยอมรับว่าโดยส่วนตัวแล้ว เป็ น คนที่ส ามารถรับ ความเสี่ย งได้ สูง พอ สมควร “เราเริ่มคิดว่าตลาดหุ้นจะสามารถเป็น ช่องทางการลงทุนในอนาคตได้หรือไม่” เริ่มต้น มนัสวีแบ่งเงินประมาณ 20% ของเงินออมทั้งหมดเข้าลงทุนในตลาดหุ้น ถือว่าเป็นวงเงินไม่สูงเมื่อเทียบกับราคาหุ้น ในช่วงปี 2544 แต่จะว่าไปแล้วการที่เธอ กระโดดเข้ า มาในตลาดหุ ้ น โดยที่ ไ ม่ มี


23 ความรูอ้ ะไรมากนัก ถือเป็นความเสีย่ งอย่าง มาก ซึ่งเธอบอกว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คงจะไม่ท�ำแบบนั้นอย่างแน่นอน “การจะท�ำอะไร รวมถึงการลงทุนจะต้อง ศึกษา หาความรู้ให้ถ่องแท้เสียก่อน” อย่างไรก็ตาม ในช่วงนัน้ เธอคิดแต่เพียง ว่า “การลงทุน ถ้าหากไม่เข้ามาทดลอง ด้วยตัวเอง ใช้เงินลงทุนจริงๆ จะไม่รู้จักหุ้น อย่างถ่องแท้” และเมื่อมีแนวคิดแบบนี้การ ลงทุนของเธอจึงเป็นแบบซื้อมาแล้วขายไป ประกอบกับจ�ำนวนเงินที่น�ำมาลงทุนก็ไม่ เยอะ การลงทุนระยะสั้นจึงเป็นทางออกที่ดี “ถ้าเงินนิดเดียว และลงทุนระยะยาวๆ คงไม่เห็นอะไรเป็นน�้ำเป็นเนื้อแน่นอน จึง เน้น Capital gain มากกว่าเงินปันผล” เป็น มุมมองส่วนตัวของมนัสวี ดูเหมือนการลงทุนหุ้นในช่วงแรกๆ ของ มนัสวีจะประสบความส�ำเร็จ เพราะมีก�ำไร มากกว่าขาดทุน เธอจึงค่อยๆ เพิ่มเม็ดเงิน ลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องจาก 20% เป็น 30% และ 50% แต่อีกไม่นานต่อมาระยะ เวลาฮันนีมูนเริ่มหมดลง เมื่อพอร์ตลงทุน ขาดทุนมากขึ้น มนัสวีจึงเริ่มกลับมานั่งคิดทบทวนการ ลงทุน แล้วพบว่าปัจจัยส�ำคัญที่ท�ำให้เกิด ผลขาดทุนมากกว่าก�ำไร อยู่ที่การลงทุนที่ “ผิดวิธี” โดยเฉพาะการตัดสินใจลงทุนผ่าน

ข้อมูลข่าวสารทางหนังสือพิมพ์ ทีวี หรือจาก การเชียร์หุ้นของมาร์เก็ตติ้ง “บอกกับตัวเองว่าเราขาดความรู้ ลงทุน หุน้ ไม่มหี ลักประกันอะไรเลยว่าการลงทุนจะ ไปในทิศทางไหน เหมือนกับว่าแล้วแต่ดวง ความผิดพลาดคงเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ”

การหาความรู้ คือ หลักการ

หลังจากมนัสวีรู้ตัวแล้วว่าตัวเองขาด ความรู้ด้านการลงทุน จึงตัดสินใจเริ่มต้น ใหม่ด้วยการซื้อหนังสือการลงทุนมาศึกษา ฟั ง สั ม มนาที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ หุ ้ น บวกกั บ สอบถามกับเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ด้าน การลงทุน ผลลัพธ์ที่ได้เธอยอมรับว่านับ ตั้งแต่ศึกษา หาความรู้ด้านการลงทุน และ ปรับสไตล์การลงทุนจากการซื้อมาขายไป เป็นเน้นลงทุนระยะยาว และมองหาหุ้นที่มี ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ท�ำให้พอร์ตลงทุน หยุดการขาดทุน และเริ่มค่อยๆ มีผลก�ำไร “หลังเปลี่ยนกลยุทธ์มาเน้นลงทุนหุ้น คุณค่ามากขึน้ พอร์ตลงทุนค่อยๆ เติบโตขึน้ ” มนัสวี เล่า “รู้เลยว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว” หลังจากนั้นเป็นต้นมา มนัสวีเน้นเลือก หุ้นบลูชิปลงทุนเข้าพอร์ต ขณะเดียวกันยัง ร่วมมือกับเพื่อนๆ ที่ลงทุนหุ้นคุณค่าศึกษา การลงทุนร่วมกันอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยัง


เลือกลงทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ มีปัจจัยพื้นฐานดีอีกด้วย ปีนี้เข้าปีที่ 11 แล้วที่มนัสวีอยู่ในตลาด หุ้นไทย เธอบอกว่าการดูหุ้น “ไม่ยาก” ถ้า มีหลักการและจุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง นั่นคือ การศึกษา หาความรู้ หาสไตล์การลงทุน ที่เหมาะสมกับตัวเอง และค่อยๆ เรียนรู้ จะท�ำให้การลงทุนประสบความส�ำเร็จใน ระยะยาว

เข้าสู่โลกอนุพันธ์

24

เมื่ อ ตลาดอนุ พั น ธ์ เ ปิ ด และเริ่ ม ให้ ซื้ อ ขาย SET50 Index Futures เมื่อปลายเดือน เมษายน 2549 จากบทเรียนกับการลงทุน ในตลาดหุ้นที่มนัสวีกระโดดเข้ามาด้วยวิธี ที่ผิด เธอจึงเริ่มต้นศึกษา หาความรู้ เข้าฟัง สัมมนา เข้าอบรมเพือ่ ท�ำความเข้าใจกับการ ลงทุนในตลาดอนุพันธ์ก่อนที่จะตัดสินใจ เข้ามาลงทุน “เรารู้ว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้สูง จึง น่าจะเหมาะกับตลาดอนุพันธ์ ที่สำ� คัญมอง ว่าน่าจะเป็นอีกทางเลือกส�ำหรับการลงทุน นอกเหนือไปจากตลาดหุ้น” “ถ้าคิดจะลงทุนในตลาดอนุพันธ์ ต้อง ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน ต้องรู้หลักการลงทุน เพราะเป็นทีร่ บั รูก้ นั ดีวา่ ตลาดนีม้ คี วามเสีย่ ง สูงมาก ทีส่ ำ� คัญถึงแม้ตลาดจะเปิดให้ลงทุน

กันแล้วเราก็ยังไม่เข้าไปลงทุนเพราะต้อง รอดูความเคลื่อนไหวก่อนว่าเป็นอย่างไร” มนัสวี บอก หลั ง จากมั่ น ใจแล้ ว มนั ส วี ตั ด สิ น ใจ เข้าไปลงทุนในตลาดอนุพันธ์ด้วยการเริ่ม ต้นแค่ 1 สัญญา ถือเป็นช่วงทดลอง อีกทั้ง เธอรู้ว่าที่มีความเสี่ยงสูงมาก โดยช่วงแรกๆ เธอยอมรับว่ายังสอบไม่ผ่าน เนื่องเพราะ ยังไม่ค่อยเข้าใจ นั่นหมายความว่า การที่ จะประสบความส� ำ เร็ จ กั บ ตลาดอนุ พั น ธ์ นอกจากจะมีความรู้แล้วยังต้องขึ้นอยู่กับ เวลาและประสบการณ์อีกด้วย “ขนาดศึกษามาดี และลงสนามจริงก็ ยังต้องใช้เวลา ดังนั้นหากใครคิดจะเข้ามา ตลาดอนุพนั ธ์ควรจะต้องมีความรูอ้ ย่างถ่อง แท้จริงๆ ไม่ใช่แค่งูๆ ปลาๆ” มนัสวี เตือน นักลงทุนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในตลาด อนุพันธ์ หลังจากมนัสวีได้สัมผัสโลกการลงทุน ทั้งตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ เธอบอก ว่าเวลาส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปยังตลาด อนุพันธ์ เนื่องจากต้องติดตามตลอดเวลา ขณะที่พอร์ตหุ้นนั้น เนื่องจากว่าเป็นการ ลงทุนในระยะยาว เพื่อรับเงินปันผล จึงไม่ ต้องดูอะไรมากนัก โดย 1 สัปดาห์อาจจะ เข้าไปตรวจสอบสักครั้ง ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนประมาณ 70%


25 อยูใ่ นตลาดหุน้ ทีเ่ หลืออีก 30% เป็นการลงทุน ในตลาดอนุพันธ์

ชีวิตเปลี่ยนเพราะการลงทุน

ในทีส่ ดุ ฝันของมนัสวีทจี่ ะมีธรุ กิจส่วนตัว ก็เป็นจริง เมื่อปี 2553 เธอตัดสินใจลาออก จากการเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนทีส่ ถาบัน สอนภาษาจีน วิทยสถานแห่งวัฒนธรรม ตะวันออก OCA เพื่อมาเปิดโรงเรียนกวด วิชาภาษาจีน “V Chinese Center” บนชั้น 8 อาคารวรรณสรณ์ เธอยอมรับว่า V Chinese Center เกิดมา จากน�ำ้ พัก น�ำ้ แรงจากการลงทุนในตลาดหุน้ และตลาดอนุพันธ์ ด้วยการน�ำผลตอบแทน ทีง่ อกเงยน�ำไปก่อร่างสร้างโรงเรียนกวดวิชา “แม้วา่ ผลตอบแทนทีไ่ ด้จากการลงทุนยังไม่ cover ค่าใช้จา่ ย อย่างน้อยเป็นองค์ประกอบ ส�ำคัญที่ท�ำให้ฝันของเราเป็นจริงได้” โดยปั จ จุ บั น นี้ ผลตอบแทนจากการ ลงทุน มนัสวีจะน�ำไปเป็นค่าใช้จา่ ย เช่น ค่า เช่าพื้นที่โรงเรียนกวดวิชา ค่าไฟฟ้า ค่าน�้ำ มันรถ ค่าโทรศัพท์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิต ประจ�ำวันอื่นๆ “ถ้าไม่ได้เข้ามาลงทุนในหุ้น และอนุพนั ธ์ วันนีช้ วี ติ เราคงไม่เปลีย่ นแปลง ในทางทีด่ ขี นึ้ และคงเป็นมนุษย์เงินเดือนต่อ ไป โดยไม่มีรายได้จากการลงทุนทุนอื่น” มนัสวี บอก

จากนี้ไปเธอตั้งเป้าเอาไว้ว่า ค่าใช้จ่าย ทัง้ หมดจะมาจากผลตอบแทนจากการลงทุน “เป็นความท้าทายอย่างมากว่าจะท� ำให้ เป้าหมายนี้เป็นจริงได้หรือไม่” นัน่ หมายความว่า มนัสวีจะต้องให้เวลา กับการลงทุน และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ตลอดเวลา เพราะเธอมองว่าเมือ่ ไหร่ทมี่ นั่ ใจ ว่าตัวเองมีประสบการณ์เพียงพอแล้ว หมาย ถึงความผิดพลาด “สุภาษิตจีน กล่าวเอา ไว้ว่า ถ้าศัตรูเก่งขึ้นหนึ่งคืบ เราต้องเก่งขึ้น หนึ่งวา” เช่นเดียวกันการเป็นนักลงทุนที่ดี ต้องไม่หยุดที่จะศึกษา หาความรู้เพิ่มเติม ตลอดเวลา เพราะเมื่อไหร่ที่หยุด หมายถึง ก�ำลังถอยหลัง เพราะนักลงทุนคนอืน่ ๆ เดิน ไปข้างหน้าตลอดเวลา “คุณไม่มีทางหยุดเรียนรู้ได้เลย” มนัสวี ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ถ้าหากไม่ใช่ คนที่ข วนขวายเพื่อต้ องการ อิสรภาพทางการเงิน ก็คงจะมีรายได้ประจ�ำ แค่กินเงินเดือนเท่าๆ กันไปทุกๆ เดือน และ ไม่มอี สิ ระเรือ่ งของเวลา ซึง่ เป็นชีวติ ทีเ่ ธอไม่ ต้องการ ดังนั้นการให้เงินท�ำงานผ่านการ ลงทุน จะท�ำให้หลุดพ้นจากเรื่องดังกล่าว “ท�ำให้เราโชคดี และชีวิตเปลี่ยนไปใน ทางที่ดีอย่างมาก”


การลงทุน ท�ำให้มี อิสรภาพ

ทางการเงิน นพ.บันดาล ซื่อตรง

ณ ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ อาคารกิตติวัฒนา ชั้น 5 แผนกกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เป็นสถานที่ท�ำงานของ นพ.บันดาล ซื่อตรง มี บทบาทหน้าที่ 2 อย่างคือ รักษาคนไข้เด็ก อีกด้านหนึง่ ยังต้องเป็นอาจารย์ สอนนักศึกษาแพทย์ ซึง่ ชีวติ น่าจะวุน่ วายไม่นอ้ ย ทว่าใบหน้าทีเ่ ต็มไปด้วย รอยยิ้ม บ่งบอกได้ว่ามีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม

26

นพ.บันดาล วัย 39 ปี แพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญ ระบบทางเดินหายใจเด็ก สามารถเลือก ท�ำงานในสิง่ ทีร่ กั มีครอบครัวสมบูรณ์พร้อม ภรรยาและลูกอีก 2 คน ซึ่งอีกหลายคน สามารถเลือกทีจ่ ะเป็นได้ หากมีการวางแผน ชีวิตที่ดี นพ.บันดาล เป็นคนเรียนเก่งได้รับทุน เรียนแพทย์ ของโรงพยาบาลรามาธิบดี ใน รั้วมหาวิทยาลัยมหิดล เขาจึงทุ่มเทให้กับ

การเรียน ทว่าอีกด้านหนึง่ มีความสนใจด้าน การลงทุนในเวลาเดียวกัน และได้ศึกษา หาความรู้จากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะการ อ่านหนังสือ “ผมอ่าน หนังสือพ่อรวยสอนลูก ของ Robert T. Kiyosochi ชาวญีป่ นุ่ ทีม่ แี นวคิดว่า ควรให้เงินท�ำงานแทนเรา ในทีส่ ดุ เราจะเป็น อิสรภาพทางการเงิน ไม่ต้องออกไปหาเงิน คนจะรวยต้องมีทัศนคติดี ต้องไม่ท�ำงาน


27


สไตล์ผมเป็นนักวิชาการ และนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ทุกอย่างต้องอธิบายได้ จึงวิเคราะห์หุ้นจากปัจจัยพื้นฐาน ไม่ดูเทคนิค กราฟที่เน้น การลงทุนเก็งก�ำไรระยะสั้น แต่ผมจะลงทุนเหมือนเรา ตั้งบริษัท วิเคราะห์ธุรกิจอนาคต ผลตอบแทนใน 5 ปีข้างหน้า

28

เพื่อเงิน จะไม่โฟกัสเรื่องเงิน แต่เลือกงานที่ ท�ำให้มีความสุข ไม่ต้องหวังว่าผลตอบแทน ได้เท่าไหร่” จนกระทั่งเรียนจบเริ่มมีเงินเดือนเป็น ของตนเอง ความปรารถนาที่ ต ้ อ งการมี อิสรภาพทางการเงิน ยังอยู่ในห้วงความคิด ของ นพ.บันดาลตลอดมา และหลังจากสะสม เงินก้อนแรกได้ประมาณ 1 แสนบาทต้นๆ ก็ เริม่ ลงทุนโดยเลือกทีจ่ ะลงทุนในหุน้ เป็นหลัก แต่ด้วยความรู้และประสบการณ์ในการเล่น หุ้นยังน้อย จึงใช้วิธีเลือกอ่านบทวิเคราะห์ จากโบรกเกอร์เป็นหลัก ผลลัพธ์ พอร์ตลงทุน ในช่วง 2 ปีแรก ขาดทุนประมาณ 50% แม้ ว ่ า นพ.บั น ดาลจะประสบภาวะ ขาดทุนจากการลงทุนในหุ้นตั้งแต่เริ่มต้น

เป็นนักลงทุนมือใหม่ แต่กไ็ ม่คดิ จะหยุดการ ลงทุน ตรงกันข้ามกลับมาคิดทบทวนถึงเหตุ และผลทีท่ ำ� ให้ผดิ พลาด และพบว่าทีผ่ า่ นมา ไม่ได้วเิ คราะห์ดว้ ยตนเอง จึงท�ำให้เริม่ หันมา ศึกษาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการวิเคราะห์ หุ้นเป็นรายตัว ควบคู่กับการอ่านหนังสือ การลงทุนหลากหลายประเภท เพื่อเสาะหา สไตล์การลงทุนของตนเอง นพ.บันดาล อ่านหนังสือผู้เชี่ยวชาญ ด้านการลงทุนระดับโลก อาทิ Benjamin Graham, Warren Buffet, Philip A. Fisher รวมถึงศึกษา การลงทุนของนักลงทุนไทยผ่านหนังสือ เช่น งานของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร, นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ ที่ใช้นามปากกา “สุมาอี้”


29 และหนังสือทีแ่ ปลโดย พรชัย รัตนนนทชัยสุข นพ.บันดาล เล่าว่านักลงทุนแต่ละคน จะมีสไตล์การลงทุนและให้ข้อแนะน�ำการ ลงทุนทีแ่ ตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น พรชัย และนิเวศน์จะเน้นการลงทุนหุน้ คุณค่า ส่วน สุมาอี้จะเขียนเรื่องเศรษฐศาสตร์ให้เข้าใจ ง่าย ขณะที่ Graham เน้นลงทุนบริษัทราคา ถูก โดยไม่สนใจคุณภาพ ส่วน Fisher เน้น หุ้นราคาถูกและมีคุณภาพ จากประสบการณ์การลงทุนที่ผ่านมา และการอ่านหนังสือค่อนข้างมาก บวกกับ การเริ่ม หั น มาวิ เ คราะห์ หุ้ น แต่ ล ะตัว ด้ ว ย ตนเอง ท�ำให้ นพ.บันดาล ตัดสินใจขอยืมเงิน จากมารดามาลงทุนจ�ำนวน 2 ล้านบาท และเลือกลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก ที่แทบจะ ไม่ มี ใ ครสนใจ นั่ น คื อ ธุ ร กิ จ เช่ า ซื้ อ รถ จักรยานยนต์ “ผมเริ่มตั้งแต่แกะงบการเงิน งบก�ำไร ดูผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี โดยเฉพาะ รายได้จากดอกเบีย้ รายเดือนสูงกว่าสถาบัน การเงิน และเป็นธุรกิจมีความเสีย่ งต�่ำเพราะ ผ่อนสินค้าราคาต่อเดือนไม่สูง และลูกค้าที่ ใช้บริการเป็นกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างและ ทั่วไป ที่มีวินัยในการจ่ายเงินคืน จึงมองว่า มีโอกาสเติบโต” นพ.บันดาล เล่าถึงขัน้ ตอน การลงทุนของตัวเอง จากการลงทุนในครัง้ นี้ ท�ำให้ นพ.บันดาล

มีกำ� ไร 100-200% เป็นสิง่ ทีค่ อ่ นข้างภูมใิ จมาก เพราะถือว่าเป็นการวิเคราะห์หนุ้ ด้วยตนเอง ทั้งหมด นพ.บันดาล บอกว่าสไตล์การลงทุนของ ตนเองเป็นแบบนักลงทุนหุ้นคุณค่า (Value Investor) แนวการสร้างมูลค่า คล้ายกับ ดร.นิเวศน์ โดยยึดเหตุผลซื้อหุ้นเพื่อร่วม ลงทุนธุรกิจ ด้วยการเลือกบริษัทที่ด�ำเนิน กิจการมาแล้ว และมองว่ามีความมั่นคง “สไตล์ ผ มเป็ น นั ก วิ ช าการและนั ก วิทยาศาสตร์ ดังนั้นทุกอย่างต้องอธิบายได้ จึงวิเคราะห์หนุ้ จากปัจจัยพืน้ ฐาน ไม่ดเู ทคนิค กราฟที่เน้นการลงทุนเก็งก�ำไรระยะสั้น แต่ ผมจะลงทุนเหมือนเราตั้งบริษัท วิเคราะห์ ธุรกิจอนาคต ผลตอบแทนใน 5 ปีขา้ งหน้า” นพ.บันดาล เล่า นอกจากใช้ ส ไตล์ ก ารลงทุ น เน้ น หุ ้ น คุณค่าแล้ว นพ.บันดาลยังอ่านงานวิจยั ของ ดร.ไพบูลย์ เสรีววิ ฒ ั นา จาก สถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และผู้ด�ำเนิน รายการ Money Talk โดยเฉพาะ 1-2 ปีที่ ผ่านมา ซึง่ งานวิจยั ดังกล่าวจะแนะน�ำให้นำ� หุ้น 500 ตัวมาจัดล�ำดับ โดยใช้ 3 ส่วนหลัก พิจารณา คือ P/E Ratio น้อยกว่า 10 เท่า, P/BV Ratio น้อยกว่า 1 เท่า และอัตรา เงินปันผลตอบแทนมากกว่า 3% จากนั้น ให้ดูอีก 1 ปีถัดไป ถ้าบริษัทไหนยังเข้าข่าย


30

หลักพิจารณาดังกล่าวให้ตดั สินใจซือ้ แต่ถา้ ราคาแพงก็ให้ขายออกไป “ต้องดูอัตราส่วนแบบนี้ทุกปี ซึ่งที่ผ่าน มาจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 30% แต่ ผมมองว่ากรณีจดั ล�ำดับหุน้ 500 ตัวค่อนข้าง มาก จึงน�ำมาจัดล�ำดับใหม่ให้เหลือเพียง 60 ตัว เพือ่ ให้งา่ ยในการลงทุน” นพ.บันดาล บอก นอกจากนั้น ดร.ไพบูลย์ ยังมีรายงาน ใหม่ๆ เพือ่ ให้ได้ผลตอบแทนเพิม่ สูงขึน้ ไปอีก หรือผลตอบแทนถึง 35% โดยการเลือก ลงทุนหุ้นที่นอกจากจะดูราคาถูก มีอัตรา ผลตอบแทนเงินปันผลสูง ยังต้องพิจารณา คุ ณ ภาพของบริ ษั ท ว่ า มี อั ต ราการเติ บ โต เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้น ปัจจุบันการเลือกหุ้นของ นพ. บันดาล จะไม่เลือกซือ้ หุน้ ทีม่ รี าคาถูกจนเกิน ไป แต่จะเลือกหุ้นที่มีอนาคตดี และมีอัตรา การเติบโตอย่างต่อเนือ่ ง และจะเลือกถือหุน้ เพียง 1-2 ตัวต่อปีเท่านั้น โดยหลั ก ในการเลื อ กหุ ้ น จะเลื อ กหุ ้ น ที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงและเห็น การเติ บ โต เลื อ กหุ ้ น ที่ มี ก ารแข่ ง ขั น น้ อ ย และสามารถขยายสาขาได้เพิ่มอีกมากใน อนาคต การวิเคราะห์ธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งในการ เลือกหุ้น แต่การเข้าประชุมผู้ถือหุ้นเป็นอีก

ภารกิจหนึ่งที่เขาไม่เคยมองข้ามและได้ท�ำ ทุกไตรมาส และทุกปีอย่างต่อเนือ่ ง เพือ่ เข้า รับฟังแผนธุรกิจ รวมถึงได้ใช้โอกาสในการ สอบถามข้อมูลจากผู้บริหาร “ผมไปประชุมในฐานะผู้ถือหุ้น ประชุม ทุกปี ผมอ่านประวัติการก่อตั้ง อย่างน้อย ต้องรูจ้ กั ผูบ้ ริหาร หากผูบ้ ริหารดีพอ มีความ สามารถ ซื่อสัตย์ การลงทุนก็จะสบายใจ กินอิ่ม นอนหลับ” นพ.บันดาล เล่า ส� ำ หรั บ การวางแผนการลงทุ น ของ นพ.บันดาล ปัจจุบันจะเน้นลงทุนหุ้นเป็น หลัก ทีเ่ หลือจะแบ่งเงินไปลงทุนกองทุนรวม LTF และ RMF เพื่อสิทธิประโยชน์ด้านภาษี “จากการลงทุนและศึกษาทางเลือกการลง ทุนหลายๆ ประเภท ผมมองว่าการลงทุน ในหุ้นจะได้รับผลตอบแทนที่น่าประทับใจ” และเพือ่ ให้เห็นระบบการลงทุนทีช่ ดั เจน ทั้งด้านทรัพย์สิน หนี้สิน และความมั่งคั่ง (รายได้) นพ.บันดาล ได้เริ่มท�ำกราฟ Excel ตั้งแต่ปี 2551 เพื่อให้เห็นความเคลื่อนไหว ด้านการเงินได้ง่าย รวมถึงการจัดสรรระบบ การลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ตลอดระยะเวลา 8 ปีของการลงทุนที่ ผ่านมา ผมเริ่มต้นจากลงทุนหลักแสนบาท ทุกวันนี้มีรายได้ถึง 8 หลักจากการลงทุนใน หุ้น เป็นรายได้ที่ท�ำให้ครอบครัวมีความสุข ได้อย่างสบายๆ” นพ.บันดาล บอก


31

ชีวิตเปลี่ยนเพราะการลงทุน

การลงทุ น ที่ ผ ่ า นมาของ นพ.บั น ดาล ไม่เพียงจะท�ำให้กบั ครอบครัวของเขาเท่านัน้ แต่ ยั ง ได้ น� ำ เงิ น มารดาที่ เ กษี ย ณอายุ ม า บริหารด้วยผ่านการลงทุนในหุน้ คุณค่า โดย ให้ผลตอบแทนประจ�ำและแน่นอนหรือได้ ดอกเบี้ย 6% ต่อปี จากที่ต้องฝากเงินใน ธนาคารมีอัตราดอกเบี้ย 3% โดยมีเงื่อนไข ส�ำคัญ คือ เงินต้นต้องอยู่ครบ “การลงทุนท�ำให้ชวี ติ ผมเปลีย่ นค่อนข้าง เยอะเหมือนกัน ผมว่าชีวิตของผมเหมือน ถอดแบบจาก Warren Buffet และ อาจารย์ นิเวศน์ หมายถึงการที่มีเงินมากไม่ได้ท�ำให้ เราใช้เงินเพิ่มขึ้น ผมยังใช้จ่ายเหมือนเดิม การมีเงินไม่ได้ท�ำให้เราใช้ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน ไป มีบ้านหลังใหญ่หรือรถคันใหญ่ขึ้น” ทุกวันนี้ นพ. บันดาล ใช้เงินตกวันละ 100-200 บาท “แต่ผมมีอสิ รภาพทางการเงิน แต่หน้าที่การงานก็ยังเต็มที่ จะพูดได้ว่าผม สามารถท�ำงานในสิ่งที่รัก คือ เป็นทั้งหมอ และครู” นพ.บันดาล ให้ข้อแนะน� ำส�ำหรับผู้ที่ สนใจลงทุนไว้อย่างน่าสนใจว่า ให้เริม่ ลงทุน กับตัวเองเป็นสิ่งแรก โดยศึกษาหาความรู้ อ่านหนังสือ ฟังสัมมนา สมัครใช้โปรแกรม ทดลองลงทุน ซึ่งการลงทุนเหล่านี้จะลงทุน เพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น เมื่อเทียบการ

ลงทุนหลักล้านบาททีไ่ ม่มคี วามรูใ้ ดๆ เพราะ เมือ่ มีความรูถ้ กู ต้อง การลงทุนกับการศึกษา ให้ผลตอบแทนสูงสุด เมื่อเทียบกับอย่าง อื่นแล้ว “การลงทุนต้องมีทัศนคติที่ดีและลงทุน ระยะยาว ลงทุนผูกพันไปกับบริษทั จะท�ำให้ สุขภาพจิตดี ถ้าลงทุนเพื่อเก็งก�ำไรระยะสั้น ซื้อขายบ่อยๆ เหมือนที่พูดล้อเล่นกันว่า ซื้อ ขายหุ้นเพื่อเอาไปซื้อกับข้าว 2-3 พันบาท ผมว่าใช้พลังงานชีวิตมากไป ใช้เวลา 3-6 ชั่วโมงกับการอยู่หน้าจอ ถ้าเป็นหุ้นเขียว มีความสุข ถ้าเป็นหุ้นแดง ตอนเที่ยงอาจ กินข้าวไม่ลง อาจท�ำให้อายุสั้น ดังนั้นควร สร้างความสมดุลให้ชีวิตมีความสุข” นพ. บันดาล บอก นพ.บันดาล กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่า สนใจ ส�ำหรับนักลงทุนทั้งมือใหม่และหน้า เก่าว่า “คนจะประสบความส�ำเร็จบันไดขั้น แรกต้องรูจ้ กั ขาดทุน และไม่ควรหนีออกจาก การลงทุน ถ้าลงทุนแล้วได้ก�ำไรตั้งแต่ครั้ง แรก จะมีความมั่นใจมากจนเกินไป อาจ ท�ำให้เกิดข้อผิดพลาดในครั้งต่อไปได้ง่าย แต่คนขาดทุน การตอบสนองจะมี 2 อย่าง ไม่เอาอีกแล้ว แต่ขาดทุนมากๆ เราท�ำอะไร ผิดไป มานั่งทบทวน ค้นพบวิธีที่ถูก ต่อไป จะส�ำเร็จอย่างยั่งยืน”


ชีวิต

การลงทุนของ จุลทรรศน์ จิรานนท์

นักศึกษาก็สามารถลงทุนได้ นี่คือสิ่งที่จุลทรรศน์ จิรานนท์ นักศึกษาที่ เริม่ ลงทุนตัง้ แต่อยูช่ นั้ ปีที่ 3 ได้พสิ จู น์ให้เห็นมาแล้ว แม้วา่ เงินทุนก้อนแรก จะขอมาจากมารดา แต่เขาก็ได้ใช้เงินลงทุนก้อนนี้อย่างคุ้มค่า ในการซื้อ หาประสบการณ์จริงและสั่งสมความรู้เรื่องการลงทุน จนในวันนี้มีความ มั่นใจอย่างเต็มที่ว่าจะยึดโลกการลงทุนเป็นอนาคตแห่งชีวิต

32

จุลทรรศน์ จิรานนท์ เป็นคนกรุงเทพฯ อายุ 22 ปี เรียนอยู่คณะวิทยาการจัดการ วิชาเอกเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนสุนันทา รู้จักตลาดหุ้นเพราะมีวิชาที่ เรียนตอนปี 3 เทอม 2 เป็นวิชาเรื่องการ ลงทุ น ซึ่ ง อาจารย์ ผู ้ ส อนได้ สั่ ง ให้ ไ ปฟั ง สั ม มนาที่ ต ลาดหลั ก ทรั พ ย์ ฯ มี วิ ท ยากร บรรยายเนื้อหาเรื่องกองทุนรวม เป็นการ แนะน�ำกว้างๆ ไม่ได้เป็นการเจาะลึก

เหตุที่สนใจลงทุนหลักทรัพย์เพราะเขา อยากได้ประสบการณ์จริงจากการลงทุน มากกว่าการเรียนในห้องเรียน โดยมีการ เปิดพอร์ตระหว่างเรียนกับโบรกเกอร์ เหตุที่ เลือกลงทุนในหุ้นแทนที่จะลงทุนในกองทุน รวม เพราะมองว่าการลงทุนในกองทุนจะ ไม่ ไ ด้ ป ระสบการณ์ ที่ แ ท้ จ ริ ง เนื่ อ งจาก กองทุนรวมเป็นการเอาเงินไปให้ผู้จัดการ กองทุ น บริ ห ารต่ อ แต่ ตั ว เขาอยากได้


33


ผมมองว่าการเล่นหุ้น เหมือนเป็นทางเดินที่ไม่ปกติ มีหลายอย่างที่เข้ามาบีบ ท�ำให้เราต้องเดินต่อไป ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ต้องเดินหน้าต่อไป เรื่องรายได้ก็ส่วนหนึ่ง และเราก็อยากมีความรู้มากขึ้น อยากมีความรู้มากกว่า คนในวัยเดียวกัน

34

ประสบการณ์ลงทุนหุ้นจริงๆ ด้วยตัวเอง มากกว่า ในการเปิดพอร์ตเพื่อลงทุนนั้น เขาบอก ว่าไม่มีความยุ่งยากแต่อย่างใด “ผมเปิด พอร์ตโดยใช้วธิ สี งั่ ซือ้ ขายหุน้ ด้วยตัวเองผ่าน อินเทอร์เน็ต เพราะพี่โบรกเกอร์ที่นี่มีความ คุน้ เคยกัน ก็ให้คำ� แนะน�ำตลอดและผมชอบ เทรดเองมากกว่า” จุลทรรศน์เน้นการเทรดหุน้ ระยะสัน้ และ ใช้วิธีวิเคราะห์เชิงเทคนิคอย่างเดียว ไม่ได้ ลงทุนระยะยาว เขามองว่า “ตัวผมเป็น นักศึกษา ยังไม่มภี าระ สามารถรับความเสีย่ ง ได้สงู ซึง่ ก็นา่ จะโอเคกว่า และสามารถท�ำให้ เงินโตเร็วกว่า หากเกิดข้อผิดพลาดหรือมี การขาดทุน ผมมองว่าความผิดพลาดต่างๆ

ก็คอื ความรู้ เงินเป็นเรือ่ งรองจากความรูท้ ไี่ ด้ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินมากมาย หากมี ขาดทุนก็ถือว่าเป็นค่าความรู้ครับ” หุ้นตัวแรกที่จุลทรรศน์ลงทุนคือ หุ้นของ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) เขา ไม่ได้ซอื้ ตอน IPO แต่ซอื้ หลังจากนั้น เพราะ ตอนที่เปิดให้จองซื้อ IPO นั้น เนื่องจาก พอร์ ต ลงทุ น ของเขามี ข นาดเล็ ก จึ ง ไม่ มี โควต้าให้ “ผมถามโบรกเกอร์แล้ว เขาบอก ว่าหากพอร์ตไม่ใหญ่ ก็จองให้ไม่ได้ ตอน นั้นเริ่มต้นซื้อตัวเดียว ถืออยู่ประมาณ 3-4 เดือน ราคาก็ไปต่อเนื่อง ศึกษาจากข้อมูล บริษัทฯ พบว่าเป็นกิจการที่ไม่มีหนี้สิน และ งานที่บริษัทรับมาท�ำก็มีมาร์จิ้นสูง มันก็น่า จะโอเค ส่วนมากหุ้น IPO หลังจากเข้าเทรด


35 แล้ว หากมีปจั จัยบวกเข้ามาก็จะท�ำให้ราคา วิ่งไปแรง ท�ำให้นักลงทุนได้ก�ำไรสูง” นอกจากนี้ จุ ล ทรรศน์ ยัง ได้ ไ ปศึก ษา ข้อมูลพื้นฐานของ SRICHA จากเว็บไซต์ การโฆษณา และหนังสือชีช้ วน พบว่า บมจ. ศรีราชาฯ เป็นบริษัทที่รับงานต่างประเทศ เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือ โดยหลังจากถือหุ้น SRICHA มาระยะหนึ่งก็ขายออกไป ได้ผล ตอบแทนประมาณ 14.28% จากนัน้ ก็ไปเล่น อีกตัวหนึง่ คือ บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) ซึง่ ตัวนี้ เขาท�ำก�ำไรได้มากกว่า 30% ส่วนหุ้นที่เคยลงทุนและพลาดไปบ้าง ก็มีหลายตัว เขาบอกว่า “ในพอร์ตมีการ ลงทุนหุ้นหลายตัว เพราะตอนแรกที่เล่นนั้น ยังไม่มีความรู้ ไม่ได้ศึกษาหรือถามจาก โบรกเกอร์อย่างใกล้ชิด ท�ำการซื้อเองขาย เอง เข้าออกผิดจังหวะ ก็เลยขาดทุน” ปัจจุบนั จุลทรรศน์ลงทุนมานานราว 1 ปี เขาประเมินผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตอยู่ ที่ประมาณ 30-40% “คือตัวที่เข้าออกผิด จังหวะ ก็ขาดทุน แต่ไม่มากนัก เพราะหาก ราคาปรับลดลง ก็ขายออกเลย ไม่ได้เก็บไว้ ทนขาดทุนมากมาย ผมตั้ง cut lost ที่ 5% ส่วนก�ำไรตั้งตามจังหวะขายที่เห็นสมควร เช่ น หุ ้ น CMO เหตุ ผ ลที่ ร าคาขึ้ น มาถึ ง 30-40% เพราะว่าจะมีการจ่ายปันผลเป็น หุ้นกับวอร์แรนต์ ซึ่งผมจะถือไปจนก่อนขึ้น

XD เพือ่ ดูแนวโน้มว่าเราควรจะเก็บหรือขาย ท�ำก�ำไร ส่วนมากจะขายออก เพราะพอร์ต เป็นการเล่นระยะสั้น ไม่ได้ถือยาว ดูจังหวะ เข้าออก”

อยากเป็นมาร์เก็ตติ้ง ชอบการลงทุน

จุ ล ทรรศน์ บ อกว่ า เขาชอบเล่ น หุ ้ น เหตุผลที่ลงทุนหรือศึกษาด้านนี้เพราะว่า เขาอยากเป็ น เจ้ า หน้ า ที่ ก ารตลาดหรื อ มาร์เก็ตติ้ง แต่เชื่อว่าวิชาที่เรียนหรือการ สอน ไม่ ไ ด้ ใ ห้ ค วามรู ้ กั บ เขาอย่ า งเต็ ม ที่ เขาจึ ง ลองศึ ก ษาเองเพื่ อ ลองเอาไปสอบ ใบอนุญาตและเป็นเจ้าหน้าที่มาร์เก็ตติ้ง “อยากมีความรู้พื้นฐาน เป็นความรู้เรื่อง การลงทุนจริงๆ” แน่ น อนว่ า เป้ า หมายทางวิ ช าชี พ จุลทรรศน์ต้องการจะเป็นมาร์เก็ตติง้ เพราะ ชอบการลงทุน และการลงทุนในหลักทรัพย์ เป็นการลงทุนที่สบาย ก�ำไรเยอะ มีเวลา ส่วนตัวมาก แม้ว่าจะไม่มีเพื่อนคนใดใน กลุ่มลงทุนหุ้นเลย แต่เขาก็มองว่าหากเริ่ม ก่อน ก็มีโอกาสที่จะไปไกลกว่า เขาเล่า ประสบการณ์ลงทุนให้เพื่อนฟัง ซึ่งเพื่อน ก็มักจะถามว่าจะรีบไปไหน ตัวเขาเองมี ความคิ ด ว่ า คนเรามี อ ายุ เ ฉลี่ ย ประมาณ 60 ปี หากเราอายุ 20 เราใช้ไป 1 ใน 3 หาก


เรายังไม่เริ่มท�ำอะไรในตอนนี้ มันก็ช้าไป

ชีวิตเปลี่ยนเพราะการลงทุน

36

จุลทรรศน์ยอมรับว่าชีวิตของเขามีการ เปลี่ยนแปลงหลังจากที่ได้เริ่มลงทุน “การ ลงทุนท�ำให้เราคิดเยอะขึ้นอย่างในเวลาที่ จะใช้เงิน คือหากเราเอาเงินไปใช้ในสิ่งของ ฟุ่มเฟือย สมมติจะใช้ซื้อโทรศัพท์ มูลค่า ของสิ่งของที่เราซื้อมันมีค่าลดลงทุกวัน แต่ หากเอาเงิ น ที่ จ ะไปซื้ อ โทรศั พ ท์ ม าซื้ อ หุ ้ น มันก็มโี อกาสทีจ่ ะเติบโต นอกจากนีก้ ารลงทุน ยังท�ำให้ต้องดูข่าวเศรษฐกิจมากขึ้น รู้เรื่อง รอบตัวมากขึน้ โดยเฉพาะเรือ่ งทีม่ ผี ลกระทบ ต่อตลาด” ก่อนหน้านีจ้ ลุ ทรรศน์ไม่เคยคิดเลยว่าจะ มาลงทุน ตอนที่ลงทุนครั้งแรกนั้นเป็นการ ขอสตางค์ของแม่มาลงทุน เขาเล่าว่า “แม่ ก็ให้ตังค์มา แต่เขาก็บ่นๆ พอลงทุนแล้วผม ก็เล่าให้แม่ฟงั แต่เขาไม่คอ่ ยสนใจเพราะไม่รู้ เรือ่ ง ผมก็ศกึ ษาและลงทุนด้วยตัวเอง มูลค่า พอร์ตตอนนี้ยังเป็นหลักหมื่นบาทอยู่ครับ” “ผมมองว่าการเล่นหุ้นเหมือนเป็นทาง เดินทีไ่ ม่ปกติ มีหลายอย่างทีเ่ ข้ามาบีบท�ำให้ เราต้องเดินต่อไป ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ต้องเดินหน้าต่อไป เรื่องรายได้ก็ส่วนหนึ่ง และเราก็อ ยากมีค วามรู้ม ากขึ้น อยากมี ความรู้มากกว่าคนในวัยเดียวกัน นอกจาก

นี้ ผ มมองว่ า การที่ เ รามี เ งิ น จ� ำ กั ด จ� ำ นวน หนึ่งที่นำ� มาใช้ในการลงทุน เราก็ต้องมีการ สะสมเงินเพื่อน�ำมาลงทุน เพราะเราจะเดิน ในเส้นทางการลงทุนนี้แหละ เพราะเป็น เส้นทางที่มีก�ำ ไรและไม่ ใ ช่ เ รื่องที่ยากนัก เพราะว่าหาข้อมูลแล้วก็ทำ� การลงทุน ได้เห็น ผลก�ำไรของการลงทุนนั้น” “ขณะเดียวกันเราก็อยากจะมีความรู้ มากกว่าคนในวัยเดียวกัน เรื่องการลงทุน สอนให้เราได้มคี วามรู้ และยังท�ำให้จติ ใจเรา เข้มแข็งในการตัดสินใจ ต้องเข้มแข็งในการ ที่จะตัดขาดทุน Cut lost หรือว่าตัดสินใจใน การซื้อหรือลงทุนหุ้นตัวใดสักตัวที่เราคิดว่า มันใช่ แต่คนอืน่ บอกว่าไม่ใช่ ถ้าสมมติใจเรา ไม่มนั่ คงหรือเข้มแข็ง เราก็จะคล้อยตามเขา ทั้งที่มันอาจจะดีก็ได้เพราะเราก็ศึกษามา เต็มที่แล้ว เป็นการฝึกจิตใจเรา ให้เดินหน้า ตามที่เราศึกษามีข้อมูล ไม่ไขว้เขว” นอกจากลงทุนโดยตรงแล้ว จุลทรรศน์ ยั ง สมั ค รแข่ ง ขั น เกมส์ ล งทุ น หุ ้ น ออนไลน์ Click2WIN ซึง่ เป็นเครือ่ งมือฝึกฝนการลงทุน โดยเป็นเกมส์จ�ำลองการลงทุนที่ตลาดหลัก ทรัพย์ฯ ร่วมกับบริษัทโบรกเกอร์จัดขึ้น ซึ่ง ล่าสุดนั้น เขาท�ำผลตอบแทนได้ 20% แล้ว และหวังว่าจะสามารถเข้ารอบแข่งขันใน ระดับที่ลึกขึ้นจนถึงรอบสุดท้ายในงาน SET in the City ด้วย


37

มองหุ้น 3 กลุ่มเป็น TOP PLAYER

แม้ว่าจะเริ่มศึกษาและลงทุนเพียงช่วง เวลา 1 ปี แต่จุลทรรศน์ก็ได้ค้นคว้าและ มีมุมมองหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจในปีนี้ เขาเน้น 3 กลุ่มคือสื่อสาร ค้าปลีกและธนาคาร โดย มี theme เรื่องการเปิดรับตลาด AEC ซึ่ง หุ้นใน 3 กลุ่มนี้มีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีก มาก ตลาดในประเทศเพื่อนบ้านยังมีความ ต้องการในด้านโทรคมนาคมสูง หุ้นหมวด สื่อสารจึงน่าจะมีโอกาสขยายตัวได้อีก ส่วนกลุ่มค้าปลีกนั้นก็มองในเรื่องของ ฐานผู้บริโภคมีขนาดเพิ่มขึ้นมาก การจับ จ่ายใช้สอยจะโตได้อีก และสุดท้ายคือกลุ่ม ธนาคารพาณิ ช ย์ ซึ่ ง เขามองว่ า กิ จ การ ธนาคารพาณิชย์จะสามารถเติบโตขยายตัว ได้อีก มากในตลาดเพื่อนบ้านเพื่อ รองรับ ความต้องการของฐานประชากรผู้บริโภคที่ ใหญ่มากขึ้น ส�ำหรับหุ้นในดวงใจนั้น จุลทรรศน์ยัง ชื่นชมหุ้นตัวแรกที่ลงทุนคือ SRICHA ซึ่ง เขายังสนใจจะเข้าลงทุนในหุ้นตัวนี้ต่อไป เพราะมองเป็น “หุ้นที่รักและประทับใจ” เพราะตอนแรกมาร์ เ ก็ ต ติ้ ง ห้ า มไม่ ใ ห้ ซื้ อ แต่จุลทรรศน์เชื่อมั่นตัวเอง และต้องการ สนับสนุนการคิดเชื่อมั่นตัวเองด้วย ปัจจุบัน จุลทรรศน์ฝึกงานในสถาบัน

การเงินแห่งหนึ่ง เขามองอนาคตของตัว เองว่าจะเล่นหุ้นต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ถือเป็น ส่วนหนึ่งของชีวิต “อันนี้แน่นอนครับ คือ ผมมองว่ามันเป็นอาชีพหรือวิธีหารายได้ ที่โอเคที่สุด ทั้งการเป็นมาร์เก็ตติ้งและการ เป็นนักลงทุน หากไม่ได้เป็นมาร์เก็ตติ้ง ก็ มาเป็นนักลงทุนต่อไป”


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.