การบริหารสมอง

Page 1

บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

ี การบริหารสมองสองซก

เมื่อวันพุธที่ 30 พฤษภาคม 2555 ชมรมกรุงไทยอาวุโส ก็ได้จดั กิจกรรม เพื่อให้ผเ้ ู กษี ยณอายุของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ได้มีโอกาสบริหาร สมองทัง้ สองซึก เพื่อป้ องกันความเสื่อมของสมอง โดยอาจารย์สพุ ชั รา ซิ้ม เจริญ ศึกษานิเทศน์ เชี่ยวชาญในการฟื้ นฟูสมอง ซึ่งเป็ นวิทยากรประจํา โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬา ฯลฯ อ.สุพชั ราฯ บรรยายให้ผเ้ ู กษี ยณอายุทราบว่า การบริหารสมอง นัน้ ก็เพื่อป้ องกันความเสื่อมของสมอง ต้นเหตุความเสื่อมของสมองมาจาก หลายสาเหตุ อาทิ ความเครียด หรือ การละเลยไม่ใช้สมองในการคิด โดย อาจฝึ กจําหมายเลขรถที่จอดข้างรถเรา เวลามีการุอยเฉี่ ยวชน เราก็จะจําได้ ว่า รถทะเบียนหมายเลขอะไร หรือ ขึน้ รถแท็กซี่หมายเลขทะเบียนอะไร เวลาลืมสิ่งของไว้ หรือ ทําของตกหล่น การติดตามก็จะง่าย การใช้ชีวิตประจําวันของเรานัน้ ก็ต้องระวัง บางคนลงรถแล้ว แทนที่จะกดล็อครถ แต่กลับกดปลดล็อครถ พอกลับมาอีกครัง้ ของมีค่าใน รถสูญหาย โดยประกันก็ไม่จ่าย เพราะไม่มีร่องรอยงัดแงะ เป็ นต้น ผูป้ ่ วยที่สมองเสื่อมในระดับสอง เท่าที่ อ.สุพชั ราฯ เคยพบ คือ ขนาดนับ 1-10 ไม่ได้ นุ่งผ้าไม่เป็ น ผูป้ ่ วยอัลไซเมอร์ในขัน้ สุดท้ายนัน้ ขนาด ลืมไปว่า มีฟันไว้เคี้ยวอาหาร มีขาไว้เดิน มีมือไว้หยิบสิ่งของ แต่ละวันจึงไม่ ทําอะไรเลย ซึ่งน่ าสงสารญาติพี่น้องลูกหลานที่ต้องคอยดูแล ปกติแล้ว สมองต้องการพลังงานมากกว่าอวัยวะอื่นๆ ทุกคน ควรจิบนํ้าสะอาดให้บอ่ ย เพื่อให้สมองสดชื่นและมีพลังงาน เนื้ อสมองนัน้ บอบบางมากกว่าอวัยวะต่างๆในร่างกาย มีลกั ษณะเหมือนเต้าหู้อ่อน มี กะโหลกเท่านัน้ ที่ช่วยปกป้ องเนื้ อสมองไม่ให้เสียหาย แม้มีน้ําหนักเพียง 2% ของนํ้าหนักของร่างกาย แต่มีความสําคัญมากต่อร่างกาย และ ต้องการ หน้ า 1 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

พลังงานมากกว่าร่างกายส่วนอื่นๆถึง 10 เท่าตัว หากถูกกระทบกระแทกเนื้ อ สมอง จะทําความเสียหายมาก อีกทัง้ ปลูกถ่ายใหม่ไม่ได้ ในช่วงที่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา หากหญิงที่ตงั ้ ครรภ์ขาด สารอาหาร ติดยาเสพติด ติดเชื้อไวรัส มีอารมณ์ แปรปรวน จะมีผลทําให้ เด็กทารกพิการได้ หรือ เป็ นเด็กปัญญาอ่อน เป็ นโรคลมชัก ออทิสซึม จิต พิการ ฯลฯ ได้ เป็ นช่วงที่สาํ คัญ ทัง้ อารมณ์ อาหาร อากาศ ของหญิงที่มี ครรภ์จะต้องดี ความฉลาดของเด็กหรือไม่ มิใช่ ปริมาณเนื้ อสมอง หรือ เซลสมองตามที่เคยเข้าใจกันในสมัยก่อน ทัง้ นี้ นักวิทยาศาสตร์และความรู้ ทางการแพทย์แผนใหม่ ได้ผลสรุปตรงกันว่า ผลการวิจยั พบว่า เซลสมอง ของมนุษย์ทกุ คน ปรากฏว่ามีคนละ 100 ล้านเซลเท่ากัน ไม่ว่าจะ เป็ นอัลเบิรต์ ไอร์สไตล์ หรือ คนธรรมดาทัวไป ่ ความแตกต่างอย่างมี นัยสําคัญ นัน้ ได้แก่ กิ่งก้าน และแขนงของสมองจะมีมากกว่ากันอย่างเห็น ได้ชดั คนฉลาด มักพบว่า มีกิ่งก้าน และ แขนงของสมองมีปริมาณมาก คน ฉลาดเหล่านี้ มักเป็ นคนช่างสังเกต หมันอ่ ่ าน หมันค ่ ิ ด หมันไตร่ ่ ตรอง จะ ทําให้กิ่งก้าน แขนงแข็งแรง หากไม่ค่อยใช้สมอง กิ่งก้าน และ แขนงของ สมองก็จะเหี่ยว และ เฉาตาย เท่าที่ผา่ นมา ได้เคยปรากฏว่า บางคนหลังเกษี ยณไปแล้วถึง 10 ปี เมื่อมีอายุ 70 ปี ได้แสดงความฉลาด ความสามารถพิเศษออกมาให้ ปรากฏก็ยงั มี หากรู้จกั ใช้สมองคิดและไต่ตรองอยู่บอ่ ยๆ เพราะในร่างกาย นัน้ มีระบบกระแสไฟฟ้ า หากรู้จกั คิด ก็เสมือนจะมีการใส่ป๋ ยบํ ุ ารุงกิ่งก้าน และ แขนงของสมองได้ ดังนัน้ ผูท้ ี่เกษี ยณไปแล้ว ก็ยงั มีโอกาสใส่ป๋ ยบํ ุ ารุง กิ่งก้าน และ แขนงของสมองได้ ยังไม่หมดหวัง ปกติ กิ่งก้าน และ แขนงของสมอง จะมีพฒ ั นาการตัง้ แต่อยู่ใน ครรภ์ จนมีอายุได้ 14 ปี เท่านัน้ ที่กิ่งก้าน และ แขนงของสมองจะแตกออกได้ และ ก็จะหยุดการแตก โดยเซลสมองจํานวน 100 ล้านเซลนัน้ ก็มีอยู่เท่า เดิม จากนัน้ หลังจากอายุ 14 ปี แล้ว เซลสมองจะเริ่มตายประมาณ 50,000 หน้ า 2 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

เซลต่อวัน ซึ่งเป็ นไปตามปกติ ดังนัน้ เรื่องของสมองเสื่อมของผูส้ งู อายุ จึง เป็ นเรื่องปกติธรรมดา ผูใ้ ดที่มีสารสื่อประสาทมาก ก็จะทําให้มีความสุข หากขาดเซโร โทนิน ย่อมทําให้เกิดความซึมเศร้าได้ ปกติสารกลูตาเมต ทําให้เกิดการ เรียนรู้ดี ความจําดี แต่ถ้าได้มากเกินไป ก็จะเป็ นพิษต่อสมองได้ หากได้ สารโดพามีน ก็จะเพิ่มความสนใจ การจดจ่อในเรื่องต่างๆมากขึน้ สําหรับอาหารเช้านัน้ ห้ามขาด เพราะจะช่วยให้สมองดี นํ้า เต้าหู้พยายามหามาดื่มทุกวัน ถ้าไม่ให้หวาน ก็ย่อมจะดี ไม่จาํ เป็ นต้องกาเป๊ ปตีนมาดื่มให้เปลืองเงิน เรื่องของพัฒนาการของเด็กที่ดีนัน้ ต้องให้หดั คลานก่อน ที่จะ ให้ไปหัดเดิน มิฉะนัน้ อาจทําให้มีปัญหาด้านการอ่านหนังสือได้ช้าลง เพราะจากงานวิจยั พบว่า บิดามารดาบางคน รีบหาคอกให้เด็กทารกเดิน โดยไม่ผา่ นการหัดคลานนัน้ พบว่ามักจะอ่านหนังสือช้าอย่างมีนัยสําคัญ สมองแต่ละซีกของคนนัน้ จะแบ่งออกเป็ น 4 ส่วนเท่าๆกัน โดย มีหน้ าที่ต่างกัน คือ สมองส่วนหน้ า จะทําหน้ าที่ในการวิเคราะห์หาเหตุผล การวางแผน การตัดสินใจ และ การแก้ปัญหา อีกมองส่วน ก็จะเป็ น ความสามารถในการกะระยะ และ ความทรงจํา ความทรงจํานัน้ ถ้าได้จากการรู้สึกสัมผัส มักจะฝังใจไปนาน ทัง้ เรื่องที่ดี และ ไม่ดี จะถูกบันทึกลงในจิตใต้สาํ นึ ก และ ระบบการจําในระยะ สัน้ และ ระยะยาว สิ่งที่ต้องระวังพฤติกรรมในการทําลายสมอง พวกเราจํานวนไม่ น้ อย ได้ทาํ ลายสมองของตนในทุกวันด้วยความรู้ไม่เท่าถึงการณ์ ที่จะเกิด ผลร้ายตามมา จึงขอเรียนให้ทราบถึงพฤติการณ์ 10 ประการในการทําลาย สมอง คือ 1. ไม่ทานอาหารมือ้ เช้า 2. กินอาหารแต่ละมือ้ ในปริมาณที่มากเกินไป กินจนอิ่มแปร้ หน้ า 3 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

3. ความเครียด ความวิตกกังวล ทําให้เซลสมองตายเร็วมากขึน้ หลายเท่าตัว 4. หายใจผิดวิธี หายใจถูก คือ ลมหายใจเข้า- ท้องต้องพองออก หายใจ ออก-ท้องต้องยุบลง และ ต้องฝึ กหายใจเข้า-ออก ยาวๆ ฝึ กหายใจได้ นาทีละ 4 ครัง้ เป็ นประจําได้จะดีมาก 5. มลพิษในอากาศ 6. อดนอน หรือ นอนดึกๆ ทําให้เซลสมองตายเร็วมากขึน้ หลายเท่าตัว เช่นเดียวกัน 7. นอนคลุมโปง ทําให้ขาดอ็อกซิเจน ทําให้เซลสมองตายได้มากขึน้ เช่นเดียวกัน 8. ใช้สมองในขณะไม่สบายมาก 9. ขาดการใช้ความคิดเป็ นเวลานาน ปล่อยเวลาผ่านไปโดยไม่ได้คิดใน เรื่องอะไรเลย 10. เป็ นคนไม่ค่อยพูดจากับคนอื่น การพูดน้ อยเกินไป ทําให้สมอง เฉื่ อยชา ผูส้ งู อายุ ต้องพยายามนอนให้ได้อย่างน้ อยวันละ 6 ชัวโมง ่ และ งีบตอนสาย ตอนบ่ายบ้าง การนอนช่วยทําให้สมองได้ออ็ กซิ เจนมากขึน้ ปกติ สมองจะทํางานพร้อมๆกัน โดยแต่ละส่วนก็ทาํ หน้ าที่ของตนไป ส่วนความจํา ส่วนการวิเคราะห์ ส่วนการสังเคราะห์ ส่วนการแสดงออก โรคสมองเสื่อมนัน้ คือ ความจํา ความคิด และ การตัดสินใจเสื่อม ถอยลง พฤติกรรมต่างๆจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากเป็ นมากขึน้ เรื่อยๆ จะไม่สามารถช่วยตัวเองได้ โรคสมองเสื่อมนัน้ เกิดได้ในทุกเพศ ทุกวัย มิใช่จะเกิดเฉพาะผูส้ งู อายุ เท่านัน้ เด็ก หรือ คนหนุ่มสาว ที่ได้รบั อุบตั ิ เหตุทางสมอง หรือ เป็ นโรค ก็ ทําให้สมองเสื่อมลงได้เช่นเดียวกัน หน้ า 4 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

การเสื่อมนัน้ มีได้หลายสาเหตุ เช่น 1. เนื้ อสมองเสื่อม 2. หลอดเลือดในสมองเสื่อม ซึ่งมาจากโรคความดันสูง โรคอ้วน เบาหวาน ไขมันเลือดสูง 3. การติดเชื้อในสมอง 4. สมองถูกกระทบกระเทือน เช่น ถูกต่อยที่หวั ถูกตีหวั ถูกตบหัว ถูก เขกหัวบ่อยๆ 5. เนื้ องอกในสมอง 6. การอักเสบของหลอดเลือด 7. ยานอนหลับ ยาคลายเครียด ยากันชัก ล้วนมีผลทําให้สมองเสื่อม ได้หากกินติดต่อกันนาน 8. ขาดสารอาหาร เช่น B1 B12 เป็ นต้น ผูส้ งู อายุ จะต้องฝึ กการปล่อยวางให้มาก ฝึ กการให้อภัยให้มาก จะ หายเครียดสมองจะดีขึน้ การกินอาหารมีความสําคัญ ควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารไขมัน ออกกําลังกายโดยการเดินเร็วๆ พยายาม ไม่ให้เครียด อย่าเก็บเรื่องใดๆมาคิดโดยไม่จาํ เป็ น ทําสมาธิ รักษาให้ จิตแจ่มใส เข้าร่วมสังคม ไม่หยุดใช้สมอง ผักที่มีแคลเซี่ยมสูง เช่น คะน้ า ผักขม ปวยเล้ง ตําลึง ใบเหลี ยง ควรหามากิน ฟั กทอง แครอท ก็ดี ทําให้ผิวหนังเปล่งปลัง่ ห้ามปล่อยให้ท้องผูกหลายวัน พยายามขับถ่ายให้ได้ทกุ วัน พยายาม ทายอาหารที่มีเส้นใย ทานนํ้าบ่อยๆ มะละกอ กล้วยสุก นํ้ามะนาว ผสมนํ้าใส่ขวดดื่มวันละหลายๆครัง้ สุขภาพจะดี สําหรับการบริหารสมองนัน้ เป็ นสิ่งจําเป็ นที่ผส้ ู งู อายุทุกคน ควร ฝึ กฝนเป็ นประจํา จะมีประโยชน์ อย่างมาก หน้ า 5 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

การบริหารสมอง )brain activation( หมายถึง การบริหารร่างกายในส่วนที่ สมองควบคุมโดยเฉพาะกล้ามเนื้ อ corpus callosum ซึ่งเชื่อมสมอง ๒ ซีกเข้า ด้วยกัน ให้ประสานกัน แข็งแรง และ ทํางานคล่องแคล่ว จะทําให้การถ่ายโยง ข้อมูล และ การเรียนรู้ของสมอง ๒ ซีก เป็ นไปอย่างสมดุล เกิด ประสิทธิภาพ และ ยังช่วยให้เกิดการผ่อนคลายความตึงเครียด ทําให้สภาพ จิตใจ เกิดความพร้อมที่จะเรียนรู้ เกิดความจําทัง้ ระยะสัน้ และระยะยาว มี อารมณ์ ขนั เพราะคลื่นสมอง )brain wave) จะลดความเร็วลง คลื่นบีตา )beta) เป็ นแอลฟา )alpha) ซึ่งเป็ นสภาวะที่สมองทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ สูงสุด ๑การบริหารปุ่ มสมอง ปุ่ มขมับ ปุ่ มใบหู . ►ปุ่ มสมอง ใช้มือซ้ายวางบริเวณใต้กระดูกคอและซี่โครงของกระดูกอก หรือ ที่เรียกว่าไหปลาร้า จะมีหลุมตื้นๆ บนผิวหนัง ใช้นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้ คลําหาร่องหลุมตื้นๆ ๒ ช่องนี้ ซึ่งห่างกันประมาณ ๑ นิ้ว หรือมากกว่านี้ ขึน้ อยู่กบั ขนาดร่างกายของแต่ละคนที่มีขนาดไม่ เท่ากัน ให้นวดบริเวณนี้ ประมาณ ๓๐ วินาที และให้นํามือขวา วางไปที่ตาํ แหน่ งสะดือ ขณะที่นวดปุ่ มสมองก็ให้กวาดตามองจากซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย และจากพืน้ ขึน้ เพดาน จากนัน้ ให้เปลี่ยนมือด้านขวาทําเช่นเดียวกัน

ประโยชน์ ของการบริหารปุ่ มสมอง ♦ เพื่อกระตุ้นระบบประสาทและหลอดเลือดที่ไปเลีย้ งสมองให้ดีขึน้ ♦ ช่วยสร้างให้ระบบการสื่อสารระหว่างสมอง ๒ ซีกที่เกี่ยวกับการพูด การ หน้ า 6 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

อ่าน การเขียนมีประสิทธิภาพมากขึน้ ►ปุ่ มขมับ ข้างนวดขมับเบาๆ วนเป็ นวงกลม ประมาณ ๒ ใช้นิ้วทัง้ .๑ นาที ๑ วินาที ถึง ๓๐ ๒กวาดตามองจากซ้ายไปขวา และจากพืน้ มองขึน้ ไปที่เพดาน . ประโยชน์ ของการนวดปุ่ มขมับ ♦ เพื่อกระตุ้นระบบประสาทและหลอดเลือดที่ไปเลีย้ งสมองส่วนการมองเห็น ให้ทาํ งานดีขึน้ ♦ ทําให้การทํางานของสมองทัง้ ๒ ซีกสมดุลกัน ► ปุ่ มใบหู

ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จบั ที่ส่วนบนสุดด้านนอกของ .๑ ข้าง ๒ ใบหูทงั ้ ๒ .นวดตามริมขอบนอกของใบหูทงั ้ ๒ ข้างพร้อมๆ กัน ให้นวดไล่ลงมาจนถึง ติ่งหูเบาๆ ทําซํา้ หลายๆ ครัง้ ควรทําท่านี้ ก่อนอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มความจํา และมีสมาธิมากขึน้

ประโยชน์ ของการกระตุ้นปุ่ มใบหู หน้ า 7 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

♦ เพื่อกระตุ้นหลอดเลือดฝอยที่ไปเลีย้ งสมองส่วนการได้ยินและความจํา ระยะสัน้ ให้ดีขึน้ ♦ สามารถเพิ่มการรับฟั งที่เป็ นจังหวะได้ดีขึน้ ๒) การเคลื่อนไหวสลับข้าง .cross crawl) ท่าที่ ๑ นับ ๑๑๐-

ขึน้ มา ๒ ยกมือทัง้ .๑ ๒ มือขวา ชูนิ้วชี้ตงั ้ ขึน้ .นับ ๑ มือซ้าย ให้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือขนานกับพืน้ ๓ .นับ ๒ ให้เปลี่ยนมาเป็ นมือซ้ายชู ๒ นิ้ว คือ นิ้วชี้กบั นิ้วกลาง ส่วนมือขวาก็ ใช้นิ้วชี้และหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้ ๔ .นับ ๓ ให้เปลี่ยนมาเป็ นชูมือขวา ๓ นิ้ว คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง มือซ้ายก็ ให้นิ้วชี้และหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้

หน้ า 8 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

๕. นับ ๔ ให้เปลี่ยนมาเป็ นชูมือซ้าย ๔ นิ้ว คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย ส่วนมือขวาก็ให้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้ ๖ .นับ ๕ ให้เปลี่ยนมาเป็ นชูมือขวา ๕ นิ้ว คือ นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย ส่วนมือซ้ายให้นิ้วชี้และหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้ ๗ .นับ ๖ ให้เปลี่ยนมาเป็ นชูมือซ้าย ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะที่นิ้วก้อย ส่วนมือ ขวาให้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้

๘ .นับ ๗ ให้เปลี่ยนมาเป็ นชูมือขวา ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะที่นิ้วนาง ส่วนมือซ้าย ให้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้ .๙ นับ ๘ ให้เปลี่ยนมาเป็ นชูมือซ้าย ใช้นิ้วหัวแม่มือ คือแตะที่นิ้วกลาง ส่วนมือขวาก็ให้นิ้วชี้และหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้ ๑๐ .นับ ๙ ให้เปลี่ยนมาเป็ นชูมือขวา ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะที่นิ้วชี้ ส่วนมือซ้าย ให้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้ ๑๑ .นับ ๑๐ ให้เปลี่ยนมาเป็ นกํามือซ้าย ส่วนมือ ขวาก็ให้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือชี้ขนานกับพืน้ ประโยชน์ ของการบริหารท่านับ ๑๑๐♦ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้ อมือให้ประสานกัน เพื่อ ไม่ให้เกิดอาการนิ้วล็อก ♦ เพื่อกระตุ้นสมองที่มีการสังการให้ ่ เกิดความ สมดุลทัง้ ซ้ายขวาหน้ า 9 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

♦ เพื่อกระตุ้นความจํา ท่าที่ ๒ จีบ L ๑ข้างขึน้ มา ให้มือขวาทําท่าจีบ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือประกบกับ ๒ ยกมือทัง้ . นิ้วชี้ ส่วนนิ้วอื่นๆ ให้เหยียดออกไป ๒) มือซ้ายให้ทาํ เป็ นรูปตัวแอล .L) โดยให้กางนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ออกไป ส่วนนิ้วที่เหลือให้กาํ เอาไว้ ๓เปลี่ยนเป็ นจีบด้วยมือซ้ายบ้าง ท .◌ําเช่นเดียวกับข้อ ๑ ส่วนมือขวาก็ทาํ เป็ นรูปตัวแอล )L) เช่นเดียวกับข้อ ๒ ๔ครัง้ ๑๐ ให้ทาํ สลับกันไปมา .

ประโยชน์ ของการบริหารท่าจีบซ้ายขวา♦ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้ อมือให้ประสานกัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการนิ้วล็อก ♦ เพื่อกระตุ้นสมองเกี่ยวกับการสังการให้ ่ สมดุล มีการเคลื่อนไหวอย่าง คล่องแคล่ว ♦ เพื่อกระตุ้นการทํางานความสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา

ท่าที่ ๓ โป้ งก้อยหน้ า 10 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

๑ข้างขึน้ มาให้มือขวาทําท่าโป้ ง โดยกํามือและยกหัวแม่มือ ๒ ยกมือทัง้ . ขึน้ มา ส่วนมือซ้ายให้ทาํ ท่าก้อย โดยกํามือและเหยียดนิ้วก้อยชี้ออกมา ๒เปลี่ยนมาเป็ นโป้ งด้วยมือซ้ายและก้อยด้วยมือขวา .

๓ครัง้ ๑๐ ให้ทาํ สลับกันไปมา . ท่าที่ ๔ แตะจมูกแตะหู(ลักษณะมือไขว้กนั ) มือขวาไปแตะที่หซู ้าย ส่วนมือซ้ายให้ไปแตะที่จมูก .๑ ๒ เปลี่ยนมาเป็ นมือซ้ายแตะที่หขู วา .ส่วนมือขวาไปแตะที่จมูก ลักษณะมือ) (ไขว้กนั

ประโยชน์ ของการบริหารท่าแตะจมูกแตะหู♦ ช่วยให้มองเห็นภาพทางด้านซ้ายและขวาดีขึน้ ท่าที่ ๕ แตะหู ๑มือขวาอ้อมไปที่หซู ้าย ส่วนมือซ้ายอ้อมไปจับหูขวา . ๒ เปลี่ยนมาเป็ นมือซ้ายอ้อมไปจับหูขวา .ส่วนมือขวาอ้อมไปจับหูซ้าย

หน้ า 11 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


บทความของ อ.มงคล กริชติทายาวุธ

เรื่ องที่ 962 การบริ หารสมองสองซีก

ประโยชน์ ของการบริหารท่าโป้ ง แตะหู-ก้อย แตะจมูก♦ เพื่อกระตุ้นการสังการของสมองให้ ่ สมดุลทัง้ ซีกซ้ายและซีกขวา ♦ เพื่อกระตุ้นสมองส่วนการคิดคํานวณกะระยะ ♦ เพื่อป้ องกันกล้ามเนื้ อหัวไหล่เกิดการติดยึด ๓การผ่อนคลาย . ยืนใช้มือทัง้ ๒ ข้างประกบกันในลักษณะพนมมือ เป็ นรูปดอกบัวตูม โดยให้นิ้วทุกนิ้วสัมผัสกันเบาๆ พร้อมกับหายใจเข้า๕ ออก ทําท่านี้ ประมาณ--๑๐ นาที ประโยชน์ ของการบริหารท่าผ่อนคลาย ♦ ทําให้เกิดสมาธิ เป็ นการเจริญสติที่ดี ขออํานวยพรให้ท่านผูส้ งู อายุทุกท่านที่ได้อ่านบทความเรื่องนี้ จงมีสมองที่ดี จวบจนสิ้นอายุขยั ของท่าน กอร์ปด้วยความสุข และ มีสขุ ภาพทัง้ ใจและกาย ที่ดี ด้วยความปรารถนาดี จาก อ.มงคล กริชติทายาวุธ    หน้ า 12 จาก 12

มงคล กริชติทายาวุธ


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.