FRM issue 1

Page 1




26

Message From EDITOR FRM (For Ride Magazine) คือ นิตยสาร รถจักรยานยนต์ที่เกิดขึ้นมาจากเจตนารมณ์อันเต็ม ไปด้วยความมุ่งมั่นของทีมงานที่เพียบพร้อมไปด้วย ประสบการณ์การท�างาน เต็มเปี่ยมไปด้วยความ กระตือรือร้นของคนรุ่นใหม่ และอัดแน่นไปด้วย ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งต้องการผลิตนิตยสาร รถจักรยานยนต์ที่เข้มข้นไปด้วยเนื้อหา สาระความรู้ และเรื่องราวต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการ ของผู้อ่านที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์และรักการขับขี่ ได้อย่างครบถ้วนในทุกไลฟ์สไตล์ ส�าหรับ FRM (For Ride Magazine) ฉบับ ปฐมฤกษ์นี้ เราเปิดหัวกันด้วยการเดินทางสู่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อท�าการ ทดสอบ “ยามาฮ่า นูโว เอสเอ็กซ์” ข้ามประเทศเป็น

ครั้งแรก...ต่อกันด้วย “ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ 150” กับการ เค้นสมรรถนะกันแบบเต็มพิกัดตามแบบฉบับของเรา นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวต่างๆ อีกหลากหลายให้เหล่า ไรเดอร์ได้ติดตามกัน ทั้งเรื่องราวที่เกี่ยวกับแวดวง 2 ล้อ และเรื่องราวที่เป็นไลฟ์สไตล์ทั่วไป ส่วนจะเป็นเรื่อง อะไรบ้างนั้น ต้องติดตามกันต่อภายในเล่ม ทีมงาน FRM (For Ride Magazine) คาดหวังว่า นิตยสารฉบับนี้จะเป็นเพื่อนที่รู้ใจของทุกคนที่รักการ ขับขี่รถจักรยานยนต์ และสามารถที่จะตอบสนอง ความต้องการของผู้อ่านได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด...

นพดล แผงเพชร

บรรณาธิการบริหาร nnaiae@gmail.com

14


ISSUE 01 NOVEMBER 2012

News Update ............................................ 6 First Story : Yamaha Nouvo SX .......... 14 The Shining Star in Malaysia

Product Test : Yamalube .....................20

32 20

The Next Step of Riding Experience Hot Pick of Month : Honda PCX 150 ..........26 The Scruister The Journey : 5 Mountains Tour .......32 เปิดประตูสู่มาเลเซีย Talk About : โห้...เรชซิ่ง .........................37 สอนด้วย “หัวใจ” เพื่อคนมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง Gear Review............................................ 40 TechKnow ................................................ 42 เครื่องทดสอบและล้างหัวฉีดยามาฮ่า Cool Gadgets .......................................... 44 Explore The Big 4 Riding Gears Shop ........ 46 MotoGP R.14, 15..................................... 48 Inter News ...............................................50 Music City ................................................52 BATCAT Museum & Toys Thailand ............ 53 Marketing Plan ....................................... 54 FRM TEAM

Executive Editor : Nopdon Phaengphet นพดล แผงเพชร Editorial : Kampol Gaensuwan กัมพล แก่นสุวรรณ์ Komz Giggs Mr. Black Graphic Design : Komkrit Sakulvilailerd คมกริช สกุลวิไลเลิศ Photographer : FRM Team บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : นพดล แผงเพชร โรงพิมพ์/เพลท : เอส.ออฟเซ็ทกราฟฟิคดีไซน์ จัดจ�าหน่าย : Nuchanart Distribute ส�านักงาน ฟอร์ไรด์แมกกาซีน : 12/76 ซอยนาคนิวาส 59 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 โทร. 0-2932-8716, 08-9499-1927

www.facebook.com/FRMfans

e-mail : forridemagazine@gmail.com


UPDATE Honda Scoopy i Liverpool FC & MUFC 2012 Limited Edition เอาใจแฟนหงส์-สาวกผี ลายละ 5,000 คัน  ฮอนด้า ต่อยอดความมันส์ทะลุแมตช์เพื่อแฟนหงส์และสาวกผี ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ของ ทีมลิเวอร์พูล และทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ All New Honda Scoopy i L.F.C. 2012 Limited Edition และ Man Utd. 2012 Limited Edition วางจ�าหน่ายทั่วประเทศจ�านวนจ�ากัด เพียงลายละ 5,000 คันเท่านั้น โดยมาพร้อมกับกิ๊ฟเซ็ทส�าหรับแฟนหงส์และสาวกผีมูลค่ากว่า 2,500 บาท เริ่มตั้งแต่วัน ที่ 2 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 48,000 บาท โดย Honda Scoopy i L.F.C. 2012 Limited Edition ได้รับการออกแบบให้แสดงถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ของสโมสรลิเวอร์พูล โดยใช้สีแดงและสีขาวเป็นหลัก ประกอบด้วยกราฟิกรูปหงส์ขนาดใหญ่ประดับด้วยดาวจ�านวน 5 ดวง สัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจในฐานะแชมป์ยุโรป 5 สมัย พร้อมตราสัญลักษณ์ของสโมสรและข้อความ “WE ARE THE KOP” แสดงถึงความภาคภูมิใจของแฟนหงส์แดงทุกคน ในส่วนของ Honda Scoopy i Man Utd. 2012 Limited Edition ถูกออกแบบให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกับทีม แมนฯยูฯ โดยใช้สีแดงและด�าเป็นหลัก มีแถบตารางแบบ Gingham ลายเดียวกับชุดแข่งฤดูกาล 2012-2013 อยู่รอบคัน พร้อมลายพรางของตัวเดวิลล์บนพื้นสีด�าด้าน ให้ความคลาสสิกแต่แฝงไว้ด้วยความดุดันตามสไตล์ของทีม

“เชียร์ไทยสูแ่ ชมป์” AFF SUZUKI CUP 2012 ชวนคนไทยเชียร์ทม ี ไทยให้เป็นหนึง่ !!  ซูซูกิ ร่วมกับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อม ส่งแคมเปญ “เชียร์ไทยสู่แชมป์” AFF SUZUKI CUP 2012 โดยได้รับเกียรติจาก นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, มร.โคอิชิโร่ ฮิราโอะ กรรมการ ผู้อ�านวยการ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จ�ากัด, มร.ทาคายูคิ ซูกิยาม่า กรรมการผู้จัดการ ใหญ่ บริษัท ซูซูกิมอเตอร์ (ประเทศไทย) จ�ากัด, มร.ยาซูฮิโกะ คอนโดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จ�ากัด (มหาชน) และนายสมศักดิ์ สบเสถียร MD Office Manager บริษัท อิออน (ไทยแลนด์) จ�ากัด ร่วมแถลงข่าวอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องคริสตัลบอลรูม 1 CDC “เชียร์ไทยสู่แชมป์” AFF SUZUKI CUP 2012 การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่ง ชาติอาเซียน ทัวร์นาเม้นต์ยักษ์แห่งปี เพื่อปลุกกระแสคนไทยทั่วประเทศส่งก�าลังใจเชียร์ ทีมชาติไทย และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมครั้งนี้ พร้อมร่วมในขบวนคาราวานซูซูกิ ที่จะสัญจรไปในภูมิภาคต่างๆ, กิจกรรมฟุตบอลคลินิก และร่วมลุ้นรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์, รถจักรยานยนต์ซซู กู ิ ฮายาเต้ 125 AFF SUZUKI CUP 2012 Edition จ�านวน 20 คันและ รางวัลอืน่ ๆ อีกมากมาย ติดตามรายละเอียดเพิม่ เติมได้ทโี่ ชว์รมู ซูซกู ิ ใกล้บา้ นคุณ เร็วๆ นี้

ยามาฮ่า ร่วมสนับสนุนการแข่งขัน “เรซออฟแชมเปีย้ นส์ ไทยแลนด์ 2012”  นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด (คนซ้ายสุด) ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพในงานแถลงข่าวการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกครั้งแรกในไทย “เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์ ไทยแลนด์ 2012” (Red Bull Singha Race Of Champions Thailand 2012) โดยรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักในการแข่งขันครั้งนี้ โดยมีนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มร.ไมเคิล เดอ ซานติเอซเตบาน จาก เรดบูล, นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จ�ากัด และ มร. เฟดเดอริค จอห์นสัน ประธานการแข่งขัน เรซออฟ แชมเปี้ยนส์ (Race Of Champions) ให้เกียรติถ่ายภาพร่วมกัน ณ ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ เรดบูล สิงห์ เรซออฟแชมเปี้ยนส์ ไทยแลนด์ 2012 (Red Bull Singha Race Of Champions Thailand 2012) คือการแข่งขันรถยนต์ระดับโลกที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย โดยขนนักแข่งระดับโลก อาทิ ไมเคิล เอล ชูมัคเกอร์, เซบาสเตียน เวทเทล, ไรอัน ฮันเตอร์-เรย์, เจมี่ วินช์คัป, มิค โดฮาน ฯลฯ มาร่วมงาน โดยมีบริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จ�ากัด, บริษัท สยาม ไวเนอรี่ จ�ากัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จ�ากัด และบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด ร่วมสนับสนุนการแข่งขัน 6

For Ride Magazine November 2012

อย่าลืมมาชมการแข่งขันระดับโลกครั้ง ส�าคัญ เรดบูล สิงห์ เรซ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ไทยแลนด์ 2012 (Red Bull Singha Race Of Champions Thailand 2012) โดยจะจัด ขึ้นระหว่างวันที่ 14- 16 ธ.ค. 55 ณ สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ผู้สนใจสามารถหาซื้อบัตรเข้าชมการ แข่งขันได้ที่ ThaiTicketmajor คอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 02-2623456 หรือคลิกเข้าไปดูได้ที่ www.raceofchampions.com/th และ www. facebook.com/RedBullSinghaRaceOf ChampionsThailand2012 ตัง้ แต่วนั นีเ้ ป็นต้นไป

NEWS UPDATE



UPDATE ยามาฮ่าร่วมพิธบ ี วงสรวง และแถลงข่าวเปิดกล้องภาพยนตร์แห่งปี “Yamaha Presents YOUNG BAO THE MOVIE”  นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยา มาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด (คนที่ 5 จากซ้าย) ให้เกียรติรว่ มถ่ายภาพในพิธบี วงสรวงและ แถลงข่าวเปิดกล้องภาพยนตร์แห่งปี “Yamaha Presents YOUNG BAO THE MOVIE” โดยมีผู้ก�ากับไฟแรง อาโจว-ยุทธกร สุขมุกตาภา พร้อมเหล่าบรรดา นักแสดงคับคั่ง อาทิ แอ๊ด-เล็ก-เทียรี่ คาราบาว, ตูน บอดี้สแลม, เป้ อารักษ์ ร่วม ถ่ายภาพ ณ เซ็นเตอร์ สเตจ สตูดิโอ เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด จับมือ แกรนด์ บิ๊ก แบง เปิดโปรเจค ภาพยนตร์แห่งปี “Yamaha Presents YOUNG BAO THE MOVIE” ตอกย�้า ความเป็นผู้น�ามิวสิคมาร์เกตติ้ง (Music Marketing) และต่อยอดแคมเปญภาพ ลักษณ์ Yamaha…Do>>Innovative พร้อมร่วมลุยกิจกรรมคอนเสิร์ต “ยัง ‘บาว” กว่า 50 จังหวัดทั่วประเทศ ส�าหรับการการเข้าร่วมสนับสนุนโปรเจคภาพยนตร์ในครั้งนี้ ถือเป็น ประวัตศิ าสตร์ครัง้ ส�าคัญของยามาฮ่า ทีไ่ ด้มโี อกาสเป็นส่วนหนึง่ ในภาพยนตร์ทยี่ งิ่ ใหญ่ของวงดนตรีระดับต�านานในวงการเพลงไทยทีไ่ ม่มใี ครไม่รจู้ กั อย่าง “วงคารา บาว” ซึ่งเป็นวงดนตรีที่ลูกค้ายามาฮ่าชื่นชอบ และเป็นวงที่สร้างแรงบันดาลใจกับ ใครหลายๆ คน โดยโปรเจคนีน้ อกจากจะสนับสนุนในตัวภาพยนตร์แล้ว ยามาฮ่ายัง ร่วมกับผู้จัดในการจัดทัวร์คอนเสิร์ต “ยัง ‘บาว” ไปยัง 50 จังหวัดทั่วประเทศ ก่อนที่ภาพยนตร์จะเข้าโรงฉาย ซึ่งยามาฮ่าทุ่มงบประมาณกว่า 90 ล้านบาท และ ยังมีแผนที่จะท�ากิจกรรมส่งเสริมการตลาดโปรเจคนี้อย่างต่อเนื่อง...

Kawasaki Riding Course for Lady  เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2555 บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จ�ากัด ได้จัดกิจกรรม Kawasaki Riding Course for Lady ขึ้น ณ ศูนย์คาวาซากิ พระราม9 เพื่อส่งเสริมให้สุภาพ สตรีที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เรียนรู้การขับขี่ที่ถูกต้อง ปลอดภัย และสนุก กับการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ส�าหรับกิจกรรม Kawasaki Riding Course for Lady เริ่มต้น ด้วยภาคทฤษฎีกันก่อน เพื่อให้ความรู้เรื่องการขับขี่ปลอดภัย เทคนิค วิธีการต่างๆ ที่จ�าเป็นต้องรู้ในการขับขี่เช่น อุปกรณ์ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็น หมวกนิรภัย ถุงมือ รองเท้า เป็นต้น ต่อด้วยการบริหารร่างกายกันก่อน เพื่อเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเริ่มการขับขี่ จากนั้นก็ต่อด้วย ภาคปฏิบัติด้วยการขับขี่จริง เริ่มจาก ฝึกการทรงตัวก่อนที่จะกระจาย ไปตามสถานีต่างๆ เพื่อฝึกการขับขี่ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ เข้าโค้ง, การขับขี่สลาลอม, การใช้เบรก, การขับขี่ผ่านอุปสรรค ทั้ง 3 กลุ่มจะสลับสถานทีจนครบ โดยกิจกรรมได้ไปจนถึงช่วงเย็นจึงจบการฝึก Riding Course ในครั้งนี้ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ทางคาวาซากิจัดขึ้นเพื่อลูกค้าที่ใช้ รถจักรยานยนต์คาวาซากิโดยเฉพาะ ส่วนครัง้ ต่อไปจะมีกจิ กรรมอะไรอีกนัน้ ติดตามข่าวสารจากทางคาวาซากิกันให้ดีๆ...

ฮอนด้าจัดให้ แฟนคลับสกูป ๊ ปีไ้ อ ไปมันส์ฟรีถงึ แกรมมีว่ น ั เดอร์แลนด์  เมือ่ วันที่ 7 ตุลาคม 2555 Honda Scoopy i Club กว่า 2,500 คน จากทั่วกรุงเทพฯ รวม 50 Club ตบเท้ารวมพลกันในวัน Honda Scoopy i D-Day ครั้งที่ 15 บุกชาลเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี เพื่อ ชมงาน Grammy Wonderland มหกรรมความสนุก แห่งปี ที่ค่ายแกรมมี่ยกเอาศิลปินชื่อดังมาเสิร์ฟความ มันส์กันทั้งตึก ตั้งแต่เช้ายันดึก โดยมี เอ.พี.ฮอนด้า และร้านผูจ้ า� หน่ายฯ อาสาส่งไม้ตอ่ ความสนุกมาสูล่ กู ค้า รถจักรยานยนต์ฮอนด้ากันแบบฟรีๆ ทั้งบัตรเข้าชม งานมูลค่า 300 บาทฟรี! อาหารและของว่างฟรี! เติม น�้ามันฟรี! และอีกสารพัดรายการฟรี! ที่ไม่มีใครกล้าให้ 8

For Ride Magazine November 2012

นอกจากฮอนด้าเท่านั้น! ตลอดทั้งวัน สมาชิกทุกคนได้มันส์ไม่ยั้งกันแบบ Non-Stop กับศิลปินในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ทีแ่ วะเวียน กันมาให้ความสุขแบบชุดใหญ่ไม่วา่ จะเป็น เดอะริชแมนทอย, โปเตโต้, พาราด็อกซ์, เจ-เจตริน และทีมเดอะสตาร์ ทัง้ ยัง ได้กระทบไหล่ดเี จ, พิธกี ร, และนักแสดงชือ่ ดังอีกมากมาย แถมยังได้เล่นเกมบันไดงูช่วย “บี้-สุกฤษฏิ์” ลงจาก หอคอย แล้วรับของรางวัลพิเศษกลับบ้านอีกด้วย อิม่ ทัง้ ท้อง อิม่ ทัง้ ใจแบบนี้ ชาวฮอนด้าสกูป๊ ปีไ้ อคลับเท่านัน้ ที่ได้สัมผัสกันเต็มๆ...

NEWS UPDATE



UPDATE เวสป้า อัดโปรโมชัน ่ สุดแรงส่งท้ายปี ดาวน์เริม ่ ต้นเพียง 8,900 บาท  บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จ�ากัด ได้ร่วมกับ บมจ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จึงจัดโปรโมชั่น สุดคุ้ม เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดอีกหนึ่งช่องทาง ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษกับ Vespa LX 125ie และ Vespa S 125ie ดาวน์ต�่าเพียง 10% เหลือ 8,900 บาท (ส�าหรับรุ่น LX 125ie) พร้อมรับแผ่นยางรองพื้นและกระเป๋าเวสป้า รวมมูลค่า กว่า 1,990 บาท ไม่เพียงเท่านี้ส�าหรับรถรุ่น 150 ซีซี. ในรุ่น Vespa LX 150ie และ S 150ie มาพร้อมโปรโมชั่น ดาว์นต�่าเพียง 10% เช่นกัน พร้อมรับประกันภัยชั้น 3 พลัส จากเอเชียประกันภัยและกระเป๋าเวสป้า รวมมูลค่ากว่า 2,699 บาท ซึ่งทางบริษัทฯ คาดว่าโปรโมชั่นดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการท�าตลาดและเปิดโอกาสให้แก่ลูกค้ามีโอกาสจับ จองรถเวสป้าพร้อมผ่อนในราคาสบายอีกด้วย พบกับโปรโมชั่นพิเศษสุดจาก บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จ�ากัด ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2555 ณ แฟลกชิพ สโตร์ทั้ง 2 สาขา ทั้งทองหล่อ และอาร์ซีเอ หรือตัวแทนจ�าหน่ายเวสป้าทั่วประเทศ

แผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่...ใช้นาน 157 ปี!!!  เมือ่ ช่วงปลายเดือนกันยายนทีผ่ า่ นมา กรมการขนส่งทางบก โดย นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก แถลงข่าว การก�าหนดเลขทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์แบบใหม่ โดยจะเริม่ หมวด อักษรจาก “1 กก 1” เรียงตามล�าดับ จนถึง “1 กก 9999” และเริ่ม “1 กข 1” ไปจนถึง “1 กข 9999” ต่อด้วย “1 กค 1” ไปถึง “1 กค 9999” เรื่อยไป จนถึง “1 กฮ 9999” หลังจากนั้นจึง ใช้ ตัวเลข “2” ถึง “9” น�าหน้าหมวด ตัวอักษร ตามประกาศก�าหนดให้กับเจ้าของรถที่ยื่นจดทะเบียน โดยคาดว่าหมายเลข ทะเบียนรถยนต์รูปแบบใหม่นี้จะใช้ได้นานถึง 157 ปี เนื่องจากขณะนี้หมวดอักษร ฆฮ ซึ่งเป็นหมวดสุดท้ายจะหมดลงภายในกลางเดือนตุลาคม ส่วนรถจักรยานยนต์คาดว่า จะใช้ได้ 289 ปีดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงจะเริ่มใช้หมวดอักษรแบบใหม่ โดยได้มี การประสานงานกับส�านักงานต�ารวจแห่งชาติในเรื่องการก�าหนดใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถ แบบใหม่ดังกล่าวแล้ว นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า “แผ่น ป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่นจี้ ะมีการเปลีย่ นแปลงลักษณะและรูปแบบของแผ่นป้ายทะเบียน รถจากรูปแบบเดิมเล็กน้อย โดยแผ่นป้ายทะเบียนส�าหรับรถยนต์รบั จ้างระหว่างจังหวัด,

รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน, รถยนต์รับจ้างสามล้อ, รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง, รถยนต์บริการธุรกิจ, รถยนต์บริการทัศนาจร, รถยนต์บริการให้เช่า, รถยนต์นั่งส่วน บุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน, รถยนต์ บรรทุกส่วนบุคคล, รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล, รถพ่วง รถบดถนน รถ แทรกเตอร์ และรถใช้งานเกษตรกรรม มีขนาดของแผ่นป้ายเท่าเดิม คือ กว้าง 15 ซ.ม. ยาว 34 ซ.ม. และมีตัวอักษร “ขส” อยู่ภายในวงกลม มุมล่างขวา โดยแบ่งเป็นสองบรรทัดส�าหรับตัวเลขและตัวอักษรจะมีขนาด เล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย... ส�าหรับป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์สว่ นบุคคลและรถจักรยานยนต์ สาธารณะตามกฎหมายใหม่นี้ จะแบ่งออกเป็นสามบรรทัด บรรทัดแรกเป็น ตัวเลขด้านหน้าตัวอักษรประจ�าหมวดตัวที่หนึ่งและตัวอักษรประจ�าหมวด ตัวที่สอง บรรทัดที่สองเป็นตัวอักษรแสดงจังหวัด บรรทัดที่สามเป็น หมายเลขทะเบียนไม่เกินสีห่ ลัก เป็นต้น ส�าหรับประชาชนทีส่ นใจสามารถเข้าไปดู รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dlt.go.th หรือสอบถามได้ ทีส่ �านักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ กรมการขนส่งทางบกหมายเลข โทรศัพท์ 0 2271 8708 หรือ 0 2271 8888 ต่อ 24081” อธิบดี กรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งทาย

8 แข้งเยาวชนจากโครงการยามาฮ่า อาเซียน คัพ ยู 13 บินลัดฟ้าเดินทางฝึกซ้อมทีมท็อตฮอตแน่ม ฮอตสเปอร์

10 For Ride Magazine November 2012

 แข้งเยาวชนจากโครงการ ยามาฮ่า อาเซียน คัพ ยู 13 ซึ่งเหินฟ้าเพื่อไปฝึกปรือ ฝีเท้ายังถิ่นผู้ดีกับทีม “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ทางเจ้าถิน่ วางโปรแกรมรอรับเอาไว้ เพียบ นอกเหนือการฝึกทักษะลูกหนังตลอดการ เดินทางเดินมาครั้งนี้แล้ว บรรดาแข้งเยาวชนของ ไทย ยังจะได้รบั โอกาสเข้าชมรังเหย้าไวท์ฮาร์ทเลน, สนามเวมบลีย่ ์ ร่วมชมและฝึกซ้อมกับทีมอะคาเดมี่ และท�าหน้าที่บอลบอยในเกมลอนดอนดาร์บี่แมตช์ “ไก่เดือยทอง” ฟัด “สิงโตน�้าเงินคราม อีกด้วย โดยการเดินทางไปฝึกทักษะการเล่นฟุตบอล ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ กับโค้ชสโมสร “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ยอด ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษครั้งนี้มีขึ้นระหว่าง วันที่ 12-21 ต.ค. 2555

NEWS UPDATE



UPDATE ยามาฮ่าเตรียมฉลองแชมป์ครัง้ ประวัตศ ิ าสตร์ รายการ MFJ All Japan Road Race Championship

 การแข่งขัน 2012 MFJ All Japan Road Race Championship ซึ่งนักแข่งไทยทั้ง 2 คน อย่าง เดชา ไกรศาสตร์ (หมายเลข 30) และ เฉลิมพล ผลไม้ (หมายเลข 65) ก�าลังไล่ล่า แชมป์อย่างสุดมันส์ โดยการลงท�าการแข่งขันใน รอบชิงชนะเลิศ ในรุ่น ST 600 สนามที่ 6 ณ Okayama International Circuit ประเทศญี่ปุ่น “เจ้าเบียร์- เฉลิมพล ผลไม้” ได้ออกสตาร์ทใน ต�าแหน่ง “โพลโพสิชั่น” ขณะที่ “เจ้าตั้น - เดชา ไกรศาสตร์” ซึง่ เป็นผูท้ มี่ คี ะแนนสะสมน�าเป็นอันดับ หนึ่งของรุ่น ST600 ออกสตาร์ทในต�าแหน่ง สตาร์ทในอันดับ 2 หลังสิ้นสุดการแข่งขันทั้ง 15 รอบสนาม ที่เป็นไปอย่างสุดมันส์ ผลปรากฏว่านักแข่งไทย สามารถท�าผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่เก็บชัยชนะให้กับทีมไทยกับต�าแหน่งบน

โพเดียมอันดับ 1 ที่ตกเป็นของ เฉลิมพล ผลไม้ (65) ส่วน เดชา ไกรศาสตร์ (30) แม้จะเจอปัญหา จากแผนการขี่ของนักแข่งเจ้าถิ่นที่ตั้งใจเล่นงาน เขาเป็นพิเศษ แต่เจ้าตัน้ ก็โชว์ฝมี อื สุดยอดจบการ แข่งขันในอันดับ 2 เก็บแต้มสะสมเป็น 137 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งถึง 25 แต้ม ส่งผลให้เขาขึ้นไปยืน รอการฉลองแชมป์ประจ�าปี …นั่นหมายถึงหาก เดชาจบการแข่งขันอย่างต�่าอันดับ 17 ในสนาม สุดท้ายทีซ่ ซู กู า้ ก็จะมีคะแนนเพียงพอให้คว้าแชมป์ ครั้งประวัติศาตร์ได้ทันที!! ความส�าเร็จครัง้ นี้ นายกรธัช แก่นจันทร์ดา ผูจ้ ดั การทัว่ ไปฝ่ายกิจกรรมและกฬี ายานยนต์ บริษทั ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัดเผยว่า “…ก่อนลง

ท�าการแข่งขันสนามนี้ ทางทีมและนักแข่งได้วางแผน การขับขีอ่ ย่างรัดกุม เนือ่ งจากการขึน้ โพเดียมมีผล ต่อคะแนนสะสม ซึง่ ถ้าเป็นไปตามแผน เราก็จะคว้าแชมป์ ประจ�าปีได้ทันที สนามนี้เราเริ่มต้นได้ดีเมื่อนักแข่งทั้ง คู่ออกสตาร์ทหัวแถว อันดับที่ 1 และ 2 ผมได้ก�าชับ ว่าต้องออกสตาร์ทให้ดี การขีใ่ นทุกๆ โค้งต้องเป็นไป อย่างละเอียด สนาม Okayama ความยาวประมาณ 3.703 กิโลเมตร เป็นสนามกึ่งเทคนิคกับไฮสปีด นัก แข่งของเราท�าได้ดแี ล้วกับต�าแหน่งบนโพเดียมในอันดับ หนึง่ และสอง แม้เดชาจะยังไม่ได้คว้าแชมป์อย่างเด็ดขาด แต่ผมมั่นใจว่าสนามหน้าเราจะสร้างประวัตศิ าตร์และ น�าความภูมิใจสู่ชาวไทยได้อย่างแน่นอน…”

สมัครสมาชิก FRM MEMBER ชื่อ-นามสกุล (นาย/นาง/นางสาว) ....................................................................................................................................................... วันเดือนปีเกิด...........................................อายุ ................................ปี อาชีพ ......................................การศึกษา .................................. สถานที่จัดส่งนิตยสาร ............................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................. รหัสไปรษณีย์.........................โทรศัพท์ :.......................................................Email :………………………………………………….. ................

สมัครสมาชิก 1 ปี ราคา 540 บาท (12 เล่ม) รับนิตยสาร ฟรี 1 เล่ม (ฟรีค่าจัดส่ง) สมัครสมาชิก 2 ปี ราคา 1,080 บาท (24 เล่ม) รับนิตยสาร ฟรี 2 เล่ม (ฟรีค่าจัดส่ง) ช�าระค่าสมัครสมาชิกโดย โอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เลขที่บัญชี สอบถามรายละเอียดได้ที่ กองบรรณาธิการ 08-9499-1927

ห้างหุ้นส่วนจ�ากัด ฟอร์ไรด์แมกกาซีน 403-564287-1

12 For Ride Magazine November 2012



YAMAHA Nouvo SX The Shining Star

in Malaysia

Xciting สุดตื่นตาสนุกสุดทุกโค้ง บิดระเบิดเปิดคันเร่งสะบัดมันส์สะท้านทะลุทุกความท้าทายไปกับ Yamaha Nouvo SX…โอ๊ย!! แค่ บรรยายก็เหนื่อยแล้วกับฉบับแรกของ FRM แมกกาซีนที่มีกองบรรณาธิการหน้าตาดีที่สุดในโลก เราขอท�าตามฝันจัดหนักซัดรถออโตเมติก จากค่ายส้อมเสียง “ยามาฮ่า” ลุยทริปท่องเที่ยวสุดมันส์บนเบาะนุ่มๆ ของ Nouvo SX รถออโตเมติกระดับ “Invv” เพื่อพิสูจน์ความแกร่งทดสอบความแรงบนเส้นทางจริงกับการกระหน�่าคันเร่งแบบไม่ยั้ง ฝ่าพายุฝนจาก จ.สงขลา ไปจนถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย... ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่า “Nouvo SX เฉิดฉายใจกลางมาเลเซีย”...ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไง พร้อมแล้วก็โดดขึ้นท้ายมาเลย!! 14 For Ride Magazine November 2012


For Ride Magazine November 2012 15


All star riders จับปากกาหมุนเสี่ยงดวงเลือกวันดีเตรียม “หนี” ออกนอก ประเทศ งานนี้เราไม่ได้ฉายเดี่ยวแต่กลับมีแนวร่วมพันธมิตรความมันส์ ไปช่วยหวด 2 คู่หู “DiASil” ที่มาพร้อมกับระบบหัวฉีดอัจฉริยะ “YMJET_FI” ซึ่งทั้งหมดเป็นนักทดสอบจากนิตยสารแถวหน้าของ เมืองไทยมากถึง 7 ฉบับด้วยกัน ใครเป็นแฟนนิตยสารเล่มไหนคงจ�าหน้า กันได้ดี กลับมาที่แผนการลุยทริปข้ามประเทศ...เส้นทางที่เราเลือกคือ จาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มุ่งหน้าสู่ด่าน อ.สะเดา เข้าสู่ประเทศมาเลเซีย เป้าหมายสูงสุดของเราอยู่ที่การเที่ยวเมืองหลวง “กัวลาลัมเปอร์” และถ้าโชคดีพอเราอาจได้ไปเหยียบสนาม Sepang เพื่อชมการแข่งขัน MotoGP แบบติดขอบสนาม ระยะเวลาความมันส์เกือบ 1 สัปดาห์กับเส้น ทางกว่า 1,000 กม. น่าจะเป็นเรื่อง “จิ๊บๆ” ส�าหรับ 2 คู่หู “DiASil”…

DiASil Inside

กระบอกสูบ DiASil คือ

กระบอกสูบที่ผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ของยามาฮ่า โดยมีส่วนของ “ซิลิกอน” 20% รวมกับ “อลูมินั่มอัลลอย” ท�าให้มีผิวแข็งและทนทาน ส่งผลให้ เสื้อสูบมีน�้าหนักเบา ลดแรงเสียดทานและความสึกหรอ อีกทั้งยังกระจายความร้อนได้ดีกว่า ด้วยคุณสมบัติใน การน�าความร้อนได้ดีของอลูมินั่ม (อลูมิเนียมระบาย ความร้อนได้ดีกว่าเหล็กถึง 3 เท่า) 16 For Ride Magazine November 2012

2 คู่หู “DiASil” ที่พูดถึงคือ “Yamaha Nouvo SX 125” และ “Yamaha Mio 115i” ออโตเมติกต่าง สไตล์ที่แชร์หัวใจดวงเดียวกันนั่นก็คือ กระบอกสูบ DiASil และหัวฉีด YMJET_FI ซึ่งเป็นพระเอกของงานนี้ รถที่ใช้เป็นรถเดิม จากโรงงานไม่มีการปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้น เน้น การขับขี่จริงโดยรถจริงเพื่อให้ได้ “ฟีลลิ่ง” จริงๆ เพื่อผู้อ่าน แต่...เราเลือกที่จะแพ็ครถทั้ง 6 คันขึ้นรถขนส่งเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาแถม สามารถลุยข้ามประเทศได้ทันทีที่เราลงจากรถ ทัวร์ ว่าแล้วก็มีค�าถามจากหลายคนว่า “รถ ออโตเมติกยามาฮ่าจะไปไหวเหรอ?”…ขอ นอนบนรถทัวร์ 1 คืน พรุ่งนี้ได้รู้กัน!! สวัสดียามเช้า อ.หาดใหญ่ ตื่นเช้าลง มาจากรถทัวร์ด้วยความตื่นเต้นพร้อมออก

เดินทางต่อด้วยรถตู้เพื่อเริ่มต้นการเดินทาง กันที่จุดนัดหมายซึ่งเป็นโชว์รูมยามาฮ่าหน้า ตลาดกรีนเวย์ ก่อนออกเดินทางไกลๆ แบบ นี้ก็ต้อง “ลองของ*” กันหน่อย (ติดตาม รายละเอียดการลองของได้ในคอลัมน์ถัดไป) เมื่อเช็ครถเช็คคนและทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้ เวลาออกเดินทางจาก อ.หาดใหญ่ จุดหมาย ต่อไปเป็น อ.สะเดา เพื่อข้ามด่านไทย-มาเลเซีย เนื่องจาก Nouvo SX เป็นรถที่ค่อนข้าง ใหม่ จึงต้องใช้เวลาท�าความรู้จักกันเล็ก น้อย เส้นทางช่วงแรกราว 60 กม. เป็นการ วอร์มอัพเบาๆ แสงแดดยามเช้าและบรรยากาศ สองข้างทางของประเทศไทยก�าลังจะสิ้นสุดลง เมื่อ “ด่านสะเดา” ประตูสู่ประเทศมาเลเซียตั้ง ตระหง่านอยู่ด้านหน้า....บ๊ายบายประเทศไทย อีก 6 วันเจอกันใหม่


E1 Plus : Heat ‘em up! เมื่อเจ้าหน้าที่ประทับตราอนุญาตผ่านด่านทั้ง 2 ด่านเป็นที่ เรียบร้อยก็เป็นอันพร้อมเดินหน้าพุ่งชนทุกความท้าทายในดินแดน แห่งถนนไฮเวย์นี้ ถนนเส้นหลักที่พาเราออกจากด่านมาเลเซียคือ E1 Plus ถนนลาดยางชั้นดีที่พร้อมพาเรามุ่งตรงเข้าสู่เมืองหลวง “กัวลาลัมเปอร์” หรือที่เรียกสั้นๆว่า KL ป้ายบอกระยะทาง 480 กม. ถึง KL ช่างเป็นอะไรที่เร้าใจ (แต่แอบท้อนิดๆ) เหล่านักบิดพร้อมใจกระแทก คันเร่งสุดรอบท�าความเร็วสูงสุดเพื่อลดระยะเวลาการเดินทางและเพื่อให้ ทันก่อนเจอกับพายุ...ว่าแต่เจ้า Nouvo SX คันนี้จะไหวรึเปล่า? ทันทีที่บิดคันเร่งเดินรอบก็รับรู้ได้ทันทีถึงสมรรถนะที่ผ่าน กระบวนการสูบฉีดเชื้อเพลิงละเอียดยิบด้วยหัวฉีดอัจฉริยะ YMJET_FI เข้าสู่กระบอกสูบ DiASil พร้อมอัดแน่นพลังความแรงด้วยลูกสูบ ฟอร์จ ก่อนถูกกล่องควบคุมส่งสัญญาณสั่งการจุดระเบิดอย่าง แม่นย�า ส่งก�าลังผ่านชิ้นส่วนขับเคลื่อนไล่ จากเครื่องยนต์ผ่านสายพานถึงล้อลงสู่ ยางไฮคอมพาวด์สร้างแรงขับเคลื่อนพา SX พุ่งเข้าสู่ทุกอุปสรรคที่รอเราอยู่ ช่วงแรก ของการเดินทางเป็นการสู้กับความร้อนจาก แดดที่ส่องสะท้อนลงมาท�าให้พื้นถนนกลาย เป็นยางมะตอยร้อนระอุ แต่ด้วยระบบระบาย ความร้อนด้วยน�้าแบบ Full System (เต็ม ระบบ) ช่วยระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ลดการสูญเสียก�าลังแรงม้าและยืดอายุการ

ใช้งานให้ยาวกว่าระบบระบายความร้อนทั่วไป สังเกตเกจ์วัดระดับความร้อนยังอยู่ที่ 2 ขีด และไม่มากไปกว่านี้ แม้จะใช้ความเร็วทะลุปลอก ตลอดเวลา (ล็อคคันเร่งกันยาวๆ) Nouvo SX สอบผ่านในด่านการทดสอบเรื่องความร้อน เพราะกระบอกสูบ DiASil ท�าจากวัสดุผสมที่ ช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่ากระบอกสูบเหล็ก หลายเท่า ที่ส�าคัญกระบอกสูบ DiASil มีอัตรา ขยายและหดตัวน้อยมากจนแทบจะไม่ท�าให้เกิด ความเปลี่ยนแปลงของกระบอกสูบไม่ว่าจะเจอ กับอากาศร้อนและเปลี่ยนเป็นเย็นอย่างรวดเร็ว ลูกสูบ Forged (ฟอร์จ) เป็นลูกสูบที่ถูกอัดขึ้น รูปเมื่อท�างานคู่กับ DiASil ท�าให้การท�างานของ เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก นอกจาก น�้าหนักเบาและระบายความร้อนได้ดีแล้วทาง “ยา มาฮ่า” ยังจัดหนักรับประกันชุดกระบอกสูบ DiASil ให้อีก 5 ปี!!

Unpredictable rain vs. controllable YMJET ผ่านจากด่านมาได้ราว 100 กม. ก็ได้เวลาหยุดพักเติมน�้ามัน พร้อมระบายความร้อนร่างกายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ น�้ามันที่เราเติมที่ นี่เป็นเบนซิน 95 ซึ่งราคาถูกกว่าบ้านเรามาก เส้นทางอีก 380 กม. ที่ เหลือแม้จะยังคงเป็นทางตรงที่ดูน่าเบื่อ...แต่ที่เร้าใจก็คือ “พายุฝน” ทันที ที่เห็นเมฆด�าไหลลงมาจากหลังเขา เหล่าไรเดอร์สก็เตรียมสวมเสื้อกันฝน เพื่อลุยต่ออย่างไม่ย่อท้อ...คนน่ะไม่กลัวฝนแต่ Nouvo SX ล่ะกลัวฝนรึ เปล่า ? สไตล์การขับขี่ของเหล่ามือบิดจากนิตยสารที่ร่วมทดสอบยัง คงเป็นการ “ล็อคคันเร่ง” เหมือนเดิม ต่างกันก็ตรงที่ต้องใช้ความ ระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเจอกับทางโค้ง ทัศนวิสัยการมองเห็นเริ่มแย่ ลงเมื่อสายฝนกระหน�่าหนักขึ้น ท้องฟ้าและถนนเชื่อมเป็นสีเทาด้วยพายุ ฝนและลมแรง เพื่อนร่วมทางที่เป็นรถบรรทุกเริ่มชะลอความเร็วท�าให้ เราต้องคอยเปิด-ปิดคันเร่งเป็นระยะ อากาศเลวร้ายแบบนี้แหละที่เหมาะ ส�าหรับทดสอบระบบหัวฉีด เพราะหัวฉีดอัจฉริยะ YMJET_FI นอกจากจะ ท�าหน้าที่สูบฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องจุดระเบิดอย่างแม่นย�า มันยังสามารถ ค�านวนปริมาณเชื้อเพลิงจากอุณหภูมิรอบข้างขณะที่เครื่องยนต์ท�างาน เมื่อเจอกับฝนตกหนักซึ่งส่งผลให้อากาศรอบข้างเย็นลง เซ็นเซอร์ตาม จุดต่างๆ จะส่งข้อมูลอุณหภูมิไปยังกล่องควบคุมพร้อมสั่งการให้หัวฉีด สูบฉีดเชื้อเพลิงให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิ เครื่องยนต์จึงเดินเรียบนิ่งและยัง คงแรงอย่างต่อเนื่องแม้จะเจอกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากร้อนระอุเป็น เย็นชื้นเมื่อเจอกับพายุฝนในมาเลเซีย จากอุปสรรคกลับแปรเปลี่ยนเป็น ความมันส์ แก๊งค์ Nouvo SX ร่วมถึงเพื่อนร่วมทางอย่าง Mio 115i ยังคงลุยต่อเพื่อพิชิตเป้าหมายของวันนี้…เรามาแล้ว KL !! For Ride Magazine November 2012 17


Curves Section IPOH ผ่านไปเกินครึ่งทางแล้วกับ Nouvo SX บนเส้นทางสู่ KL ที่ทอดยาวเกือบ 500 กม. สังเกตวิวทิวทัศน์รอบข้างเริ่มเปลี่ยนจากทุ่งนาเป็นภูเขารูปร่างแปลตา ทันทีที่เห็น ป้ายบอก “IPOH” ก็ให้เตรียมตัวจัดท่านั่งให้ดีเพราะข้างหน้าเป็น “โค้งลงเขา” ใคร ที่เคยมามาเลเซียและวิ่งเข้าเมืองหลวงจะรู้ดีกว่า ระหว่างทางเราจะเจอกับโค้งสุดมันส์ ในช่วงเมือง “อิโปะ” หลังจากทดสอบในส่วนของเครื่องยนต์มาตลอดทางก็ได้เวลา ทดสอบช่วงล่างกันบ้าง โชคเดิมจากโรงงานมันเวิร์คอยู่แล้วหละ!! แต่เราอยากลอง YSS Hybrid ที่โฆษณากันว่ากระบอก 2 ชั้นอัดแก๊สแยกห้อง ดูดซับแรงแทกดีนักดี หนา...ของลองหน่อยเหอะ!! *ทีมงาน FRM เซ็ตโช้คหลังให้เข้ากับน�้าหนักตัวที่มากถึง 93 กก. โค้งกว้างๆ พื้นเนียนๆ และวิวสวยๆ แบบนี้มันต้องเดินคันเร่งเข้าใส่ ความเร็ว ในช่วงโค้งขึ้นเขาอยู่ที่ราว 90 กม./ชม. นั่งขี่เข้าโค้งได้แบบชิลล์ๆ แต่โค้งลงเขานี่สิของ จริง! จัดท่านั่งให้ดี ค�านวนมุมเข้าโค้งให้เรียบร้อยแล้ว “ล็อคคันเร่ง” เข้าใส่ได้เลย จังหวะเข้าโค้งด้วยความเร็วส่วนมากรถออโตเมติกทั่วไปมักจะเกิดอาการ “สับ” ของ โช้ค แต่ส�าหรับ YSS Hybrid โช้คแก๊ส-น�้ามันที่ท�าหน้าที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกและช่วย ยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี เมื่อโช้คหลังเกาะถนนได้ดีก็จะช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนให้กับตัว รถช่วยให้สามารถเดินคันเร่งออกจากโค้งได้เร็วขึ้นอีก เบรกหน้าของ Nouvo SX ไซส์ กะทัดรัดแต่เบรกดีได้ใจ แรงเบรกจากเบรกหน้าดิสก์และหลังดรัมช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเมื่อต้องหมอบลงเขา ยางสเป็คเดิมไม่เร้าใจจับเปลี่ยนเป็นยางสเป็ค แข่งเนื้อเหนียวหนึบเกาะถนนดีช่วยเสริมความมันส์ตลอดการเดินทาง เดินทางมาเกิน ครึ่งทาง...ทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่าง FRM ยกนิ้วให้เลย

Working Decoration จากขุนเขา IPOH มุดลอดอุโมงค์ยาวมาจนถึง ใกล้ถึงตัวเมือง KL พิสูจน์กันไปแล้วทั้งเครื่องยนต์, หัวฉีด, เบรกและช่วงล่าง นอกจากนี้ชิ้นส่วนอื่นๆ Nouvo SX ที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนแต่งยังคง ใช้งานได้ดีตลอดทริป เริ่มจากหน้ารถไปท้ายรถเลย ดีกว่า...ชิ้นส่วนแต่งลายเคฟล่าดูหรูระดับ ถึงจะไม่ ใช่เคฟล่าแท้แต่ก็มั่นใจได้ว่าไม่โดนขโมยแน่ๆ, มือเบรก หน้า-หลังแต่งแบบเป็นร่องรับกับนิ้วมือใช้งานดีเมื่อใส่ ถุงมือช่วยให้แตะเบรกได้คล่องไม่ลื่นเมื่อเจอฝน, กัน ล้มปลายแฮนด์สีสันสะดุดตาท�าจากอลูมิเนียมน�้าหนัก เบาแต่ทนทานและแป็นปราการด่านแรกเมื่อรถล้ม (แต่ ไม่ได้ทดสอบ...แฮะๆ), กล่องท้ายจาก Yamaha ใส่ ของจุใจสบายตลอดการเดินทาง สรุปของแต่งรอบ คันเน้นใช้ของแต่งแท้จากยามาฮ่าที่นอกจากสวยงาม แล้ว ยังใช้งานได้จริงแถมเสริมความปลอดภัยให้กับ ผู้ขี่ได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีส�าหรับคน ที่เบื่อรถเดิมๆ...แต่ชิ้นส่วนเดิมติดรถบางชิ้นที่ไม่ว่าจะ 18 For Ride Magazine November 2012

ดูมุมไหนก็สวยไม่เปลี่ยนเช่น เรือนไมล์ดิจิตอลที่บอก สถานะเครื่องยนต์, อัตราสิ้นเปลืองน�้ามัน, บอกระยะ ทางที่สามารถรีเซ็ตได้, แสดงระดับน�้ามันและอุณหภูมิ เครื่องยนต์ ช่วงหน้าของ Nouvo SX เป็นอะไรที่ FRM ชอบที่สุด เพราะโคมไฟหน้าแบบ Projector ที่ส่อง สว่างเป็นวงกว้างยามค�่าคืนแถมดูโฉบเฉี่ยวกว่า โมเดลที่ผ่านมา ไฟท้าย LED เส้นเดียวให้ความรู้สึก แบบสปอร์ตที่เข้ากันดีกับไฟเลี้ยวและไฟหน้า เบาะที่นั่ง อัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นพี่อย่าง Elegance ที่นุ่มสบาย ขึ้นและหนึบขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ด้วยรูปลักษณ์สีสัน และสีสันที่แปลกตาท�าให้ Nouvo SX เป็นที่สนใจและ ดึงดูดสายตาชาวมาเลเซียได้ไม่น้อย หลังจากขี่หมอบ ทางตรงได้ไม่นานก็เป็นอันสิ้นสุดถนนสาย E1 Plus ออกจากไฮเวย์เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่เขต Jalan Pudu ซึ่ง เป็นที่อยู่ของโรงแรม Citin Hotel โรงแรมใจกลาง เมืองกัวลาลัมเปอร์ที่เราจะพักกันตลอดช่วงวันหยุดนี้


Light the sky up with “The Star” Nouvo SX เนื่องจากเรามีเวลาเหลือเพียบจนกว่าจะถึง วันแข่งขัน MotoGP สนาม Sepang เราจึงออก ตระเวนขี่รถเล่นส�ารวจตัวเมือง KL ย่านช็อปปิ้งใกล้ กับโรงแรมที่เราพักเค้าเรียกกันว่า China Town ซึ่งคล้ายกับโซนเยาวราชบ้านเรา ใครที่ชอบช็อปของ เทียมหลากหลายเกรดสามารถเดินลุ้นกันได้ที่นี่ เส้น ทางในเมืองกัวลาลัมเปอร์ค่อนข้างคล้ายกับถนน ในกรุงเทพฯ ตรงที่ “รถติด” ไม่ต่างกัน การเดิน ทางด้วยมอเตอร์ไซค์จึงคล่องตัวที่สุด Nouvo SX สามารถซอกแซกได้ดีด้วยแฮนด์ที่แคบและมุมเลี้ยว ที่กว้างจนสามารถลอดช่องแคบระหว่างตัวรถได้ สบาย แม้ช่วงตัวของ Nouvo SX จะยาวกว่า Mio 115i แต่ความคล่องตัวแทบไม่ต่างกัน (ขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์การขับขี่ของแต่ละคน) ใครมา KL ห้าม พลาดแวะถ่ายรูปคู่กับ Pitronas Twin Towers (ตึก ปิโตรนาส) ตึกคู่แฝดที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามอีกหนึ่งจุดและ FRM ก็ไม่ พลาดที่จะเก็บภาพสวยๆ กับ Nouvo SX มาฝาก คุณผู้อ่านด้วยเช่นกัน อีกแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้

คือตึก Sultan Abdul Samad (ซุลละต่าน อับดุล ซามัด) อาคารทรง คลาสสิคหลังนี้เคยเป็นศาลในสมัยก่อนและปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนมาถ่ายรูปกัน จุดเด่นของอาคารคือ เมื่อตกกลาง คืนจะมีไฟประดับรอบตัวอาคารดูตื่นตากว่าตอนกลางวันหลายเท่า ถ้า ใครอยากมาเที่ยวมาเลเซียแบบเจาะลึกเข้าถึงทุกซอกทุกมุมคงต้องใช้เวลา มากกว่า 1 สัปดาห์เพื่อส�ารวจให้ทั่ว... แต่อีกหนึ่งจุดที่ดึงดูดให้สิงห์นักบิดมาเที่ยวประเทศมาเลเซียก็คือ สนาม Sepang (เซปัง) สนามประลองความเร็วระดับโลกที่หลายคนใฝ่ฝัน จะได้มาชมนักบิดที่ตัวเองชื่นชอบแบบติดขอบสนามซักครั้ง และแล้วเราก็ได้ ชมการแข่งขัน MotoGP อย่างใกล้ชิด...และแล้ว Nouvo SX ก็ได้พิสูจน์ ตัวเองถึงความแกร่งเกินตัว สามารถพิชิตเส้นทางไกลข้ามประเทศกว่า 1,000 กม. ได้ส�าเร็จ แม้จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นฝนตก, แดดออก, ทางโค้งลงเขา หรือแม้แต่เส้นทางยาวสุดสายตา...แต่กระบอกสูบ DiASil ลูกสูบฟอร์จ และหัวฉีดอัจฉริยะ YMJET_FI ที่ถูกทดสอบอย่าง หนักตลอดการเดินทางก็ผ่านการทดสอบโดยที่เครื่องยนต์ยังคงเดินเรียบ เหมือนตอนออกเดินทางใหม่ๆ สมรรถนะขั้นเทพที่ซ่อนอยู่ในตัว “Yamaha Nouvo SX” คันนี้พร้อมให้คุณพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ววันนี้... “ลองซะ... แล้วจะติดใจ!” Handling 5/5 Braking 5/5 Engine 5/5 Technology 5/5 Design 5/5 Price 5/5

For Ride Magazine November 2012 19


YAMALUBE The Next Step Of Riding Experience

ที่เปิดอ่านเจอในพาร์ทแรกของทริปข้ามประเทศกับการจับ Nouvo SX และ Mio 115i หวดยาวๆ ระยะทางรวมไป-กลับกว่า 1,500 กม. โดยที่เราแอบใบ้ไว้ว่าทริปนี้มีการ “ลองของ” ...ค�าว่าลอง ของที่ว่าหมายถึงการลองในด้านที่ดี ในที่นี้เราได้รับค�า “ท้าทาย” ให้ลองใช้ “ของเหลว” ระดับเทพที่ถูกกลั่น กรองมาอย่างดี ผ่านขั้นตอนกระบวนการคิดอย่างพิถีพิถันจนได้มาเป็น “Yamalube” ว่าแล้วก็มาไขข้อข้องใจ กันเลยดีกว่า

Unboxing Santa’s Gift. FRM เราชอบทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว ซึ่งมัน พอดีกับช่วงก่อนเดินทางออกทริปตะลุย Malaysia มี โทรศัพท์สายด่วนจากบุคคลนิรนามถึง FRM ใจความ ว่า “จะขี่รถข้ามประเทศกันใช่มั้ย…กล้าลองของใหม่ มั้ยล่ะ?” เฮ้ย!! มาลงมาลองอะไรกัน ไม่น่าจะใช่ยาสระผม สูตรใหม่ แล้วก็ไม่น่าจะใช่ให้ลองชาเขียวสูตรใหม่แน่ๆ “พี่ อยากให้ลอง Yamalube กับ Carbon Cleaner น้อง กล้าป่ะล่ะ?”…อ้าวท้าทายกันแบบนี้ FRM ตอบรับจัด ไปพร้อมรับพัสดุเป็นลังกระดาษตีตรา “Yamalube” น�้าหนักค่อนข้างมาก...น่าจะไม่ได้มีของแค่อย่างสงอย่าง แล้วหละ...ต้องลองแกะดู สรุปแล้วผู้ที่ส่งมาคือ ทีมทดสอบผลิตภัณฑ์จาก Yamaha ซึ่งเล็งเห็นแล้วว่าเราจะมีโอกาสได้ “เค้น-เฆี่ยน Nouvo SX กันแบบเต็มสตรีมแน่ๆ จึงจัดผลิตภัณฑ์ 20 For Ride Magazine November 2012


ขั้น “Invv” เกรดพรีเมี่ยมมาให้ลองกัน ในกล่องมีน�้ามันเครื่อง Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) กระป๋องสีเขียวสด ลอง ส่องดูข้างกระป๋องก็ต้องร้อง “ว้าว” กับน�้ามันเครื่องเกรด SemiSynthetic พร้อมรหัส 10W-40 ถัดมาเป็นขวดรูปทรงประหลาดตา คอขวดยาวรูปทรงเล็กตัวขวดสีด�ามีตัวหนังสือเขียนว่า Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) ดูแล้วไม่น่าจะใช่น�้ายา ขัดเครื่องยนต์ อ่านฉลากก�ากับข้างขวดต้องตกใจกับค�าว่า “Made in USA” นี่เราจะได้ลองของนอกเลยหรือเนี่ย เท่าที่จับใจความได้เจ้า Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) ขวดนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อ “ผสมถังน�้ามัน” พร้อมน�้ามันเบนซิน จากนั้นมันจะ เข้าไป “แซะ” ดึงเอาคราบเขม่าที่ตกค้างและเกาะอยู่บริเวณผนังกระบอก สูบ, ลูกสูบ และวาล์ว...อันนี้น่าลอง! หมดเรื่องของเหลวขยับมาที่ ของแข็ง กล่องพัสดุมันหนักก็เพราะเจ้านี่แหละ “ยาง Y-TEQ” ยางสเป็ค แข่งที่ต้องลองสัมผัสเนื้อดูถึงจะรู้ว่ามันหนึบแค่ไหน ถัดมาเป็นชิ้นส่วน แต่งงาน CNC เช่น มือเบรกหน้า-หลัง, หมุดปลายแฮนด์, แฟริ่งแต่ง ลายคาร์บอนไฟเบอร์และชิ้นที่ใหญ่ที่สุดกล่องท้ายแบรนด์ดังที่ Yamaha สั่งท�าพร้อมตีตราส้อมเสียงเอาใจแฟนๆ ยามาฮ่าที่ชอบออกทริปและ ชอบความสะดวกในการขนสัมภาระ...

Dare to drain - down to doubt. ถ้าเราค�านวนไม่ผิด...ต้องเริ่มจากน�้ามันเครื่อง Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) ก่อนเลย ง่ายๆ แค่ถ่ายน�้ามันเครื่องเก่าออกแล้วจัด Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) กระป๋องเขียว 1 ช็อตอัดเข้าไปใน เครื่อง Nouvo SX เพื่อหล่อลื่นอย่างเหนือชั้น (แค่รู้ว่าเป็นน�้ามัน SemiSynthetic ก็สบายใจแล้ว!) จากวันก่อนออกเดินทางผ่านระยะทางกว่า 1,500 กม. เราจะมาดูกันอีกครั้งว่าเจ้า Eco Plus จะมีหน้าตาและความหนืดเปลี่ยนแปลง ไปยังไงบ้าง! ลองของชิ้นต่อมาเป็นชิ้นที่เค้าบอกกันว่า “มาใหม่” และ FRM สนใจมาก เป็นพิเศษ นั่นก็คือ Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีน เนอร์) ติดใจตั้งแต่ค�าว่า “Made in USA” หลังจากลองโทรถามกับ Yamaha ดูก็พบว่าเค้าท�าใน USA จริงๆ...มันช่างขัดแย้งกับราคาค่าตัวราว 60 บาทซะ จริง? ของนอกแต่ขายราคาได้ใจแบบนี้ต้องลองกันซักหน่อย เปิดฝาแกะซีลแล้ว เติมลงไปใน*ถังน�้ามันได้เลย (เติมในถังน�้ามันเท่านั้น...ห้ามเติมในเครื่องยนต์เด็ด ขาด!) ฉลากบอกว่าให้เติม Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) ขนาด 75 มล. แล้วเติมน�้ามันให้เต็มถังก็เป็นอันใช้ได้ แต่ FRM ขอ เปิดเครื่องให้ดูลูกสูบและวาล์วเพื่อเปรียบเทียบระหว่างก่อนเติมและหลังเติม Carbon Cleaner ว่าจะหน้าตาเป็นยังไง อีก 1,500 กม.ค่อยเจอกันนะ

For Ride Magazine November 2012 21


Good foundation = good ride พื้นฐานของรถมอเตอรไซค์ที่ส�าคัญที่สุดนอกเหนือจาก เครื่องยนต์และระบบช่วงล่างคือ “ยาง” ถ้าเครื่องยนต์ก�าลังสูงช่วงล่างดีเยี่ยมแต่ยางไม่ได้เรื่องก็จบข่าวนอนกินข้าวลิงอยู่ตามโค้ง ยิ่งถ้ามือทดสอบโหดๆ อย่าง FRM แล้วหละก็ต้องใช้ยางที่ดีที่สุด เค้าให้มาลองก็ต้องจัดไปกับยาง Y-TEQ สเป็คเดิมไซส์เดิมขอบ 16 นิ้ว แต่สังเกตความต่างตรงที่... - เนื้อยางนุ่มและหนึบกว่ายางเดิม ลองใช้นิ้วรูดดูจะรู้สึก เหมือนยางลบเลยทีเดียว - แก้มยางเตี้ยและมีขอบยางเสริมพิเศษส�าหรับเอาใจคน ชอบเข้าโค้งโหดๆ - มีร่องตรงกลางหน้ายางส�าหรับรีดน�้า หมดปัญหาเรื่อง อาการลื่นเมื่อเจอฝน เสร็จจากยางก็มาเปลี่ยนชิ้นส่วนแต่งต่างๆ เช่น มือเบรก หน้า-หลังสีแสบตาแต่รับกับมุมองศาการจับแฮนด์ เปลี่ยนหมุดปลาย แฮนด์ให้ดูโดดเด้งขึ้นอีกระดับ ตามด้วยคอนโซลแต่งลายเคฟล่า แม้ จะไม่ได้ช่วยให้รถแรงขึ้นแต่ได้ความเท่ห์เข้ามาแทนที่ สุดท้ายกับของ แต่งที่ใหญ่ที่สุดกล่องท้าย Yamaha ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง ผู้ผลิตกล่องอเนกประสงค์ระดับโลกอย่าง GIVI เพื่อท�ากล่อง และตระแกรงเฉพาะรุ่นให้กับ Yamaha และเราก็ไม่รอช้าจับ Nouvo SX แปลงโฉมใส่กล่องท้ายได้ฟีลทัวริ่งไปอีกแบบ....เฮ้อ! เสร็จซะที กับการเตรียมรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง...ต่อไปเป็นการเค้น สมรรถนะจริงบนเส้นทางจริงกันซะที

Remarkable performance! เริ่มต้นทริปหาดใหญ่-มาเลเซียด้วยการ “สตาร์ท” เครื่องยนต์ ถ้าเปรียบ เทียบกับประสบการณ์การใช้น�้ามันเครื่องธรรมดากับ Yamalube Eco Plus (ยา มาลู้ปอีโคพลัส)…แค่จังหวะสตาร์ทรถก็สร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เสียง “แต๊ะ – ชึ่ง” พร้อมเครื่องยนต์เดินเครื่องทันทีที่จิ้มปุ่มสตาร์ท ยิ่งระบบหัวฉีด YM_JET ช่วยสูบฉีดกระจายเชื้อเพลิงเป็นละอองละเอียดด้วยแล้วยิ่งสตาร์ทติดง่าย เข้าไปอีก สาเหตุก็เพราะ Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) เป็นน�้ามันเกรด Multi Grade ที่คงสภาพความหนืดในแทบทุกสภาพอากาศโดยเฉพาะอากาศที่เย็น ในช่วงเช้า และอากาศร้อนจัดในช่วงบ่าย Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) นอกจากช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายแล้ว หน้าที่หลักของมันคือช่วย “ประหยัด” ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Eco ซึ่งแปลว่าประหยัด เพราะความเป็นน�้ามันกึ่ง สังเคราะห์ที่ช่วยลดแรงเสียดทานได้ดีกว่าน�้ามันเกรดทั่วไป ผลพลอยได้จากการ ใช้ Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) ก็คือช่วยยืดอายุการ ใช้งานของเครื่องยนต์ สุดท้ายกับคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้เมื่อใช้งานควบคู่กับหัวฉีดจะยิ่ง ช่วยให้เกิดมลพิษน้อยที่สุด...รู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกกับการ “ลอง ของ” ใช้ Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) ห้ามถามถึง Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์)….เพราะรถที่เราใช้ทดสอบเป็นรถใหม่กริ๊บน่า จะมีคราบเขม่าในเครื่องยนต์ไม่มากจึงท�าให้อาจยังไม่เห็นผลตอน นี้ ต้องรอจนถึงการเติมน�้ามันถังต่อไปและรอผ่าเครื่องเมื่อจบทริป เจ้าหน้าที่ของ Yamaha แนะน�ามาว่า Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) จะท�างานได้เต็มที่เมื่อเครื่องยนต์เดิน รอบสูงสุดหรือมีอุณหภูมิภายในห้องเผาไหม้สูงสุด...เราจึงจ�าเป็น ต้อง “กระแทก” คันเร่งแบบไม่มีค�าว่าปราณีพร้อมมุ่งหน้าออกสู่ 22 For Ride Magazine November 2012


ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ประตูสู่มาเลเซีย การข้าม ด่านก็เรียบง่ายไม่มีปัญหาใดๆ จากนั้นเราก็ยิ่งยาวบน ถนนสาย E1 Plus ก่อนจะหยุดเติมน�้ามันครั้งที่ 2 น�้ามัน ที่เราเติมที่มาเลเซียเป็นเบนซิน 95 จุดนี้แหละที่เรารู้สึกได้ ถึงความแรงที่เพิ่มขึ้น จากเดิมความเร็วยืนพื้นอยู่ที่ 100 กม./ชม. แต่เมื่อ Yamalube Carbon Cleaner (ยา มาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) ที่ผสมอยู่ในน�้ามันถังแรก เข้าไปท�าหน้าที่แซะแงะแกะเอาคราบเขม่าคาร์บอนออกมาจาก เครื่องยนต์เป็นที่เรียบร้อยก็ถึงเวลาจุดระเบิดกันอย่างเต็ม สมรรถนะ... ตอนนี้ในเครื่องยนต์ก็คงเหมือนปอดคนเวลาที่ เจอกับอากาศบริสุทธิ์แล้วรู้สึกโล่งจนสามารถสูดหายใจ ได้อย่างเต็มที่ เครื่องยนต์ 125 หัวฉีด YMJET_FI ของ Nouvo SX ดูเหมือนจะตอบสนองกับน�้ามันถังใหม่ได้ดีขึ้น แรงบิดที่ติดมือขึ้นแถมความเร็วกระโดดขึ้นไปอีกเป็น 105-

110 กม./ชม. (น�้าหนักและส่วนสูงของนักบิดคือ 189 ซม. 93 กก.) เป็นความเร็วทางตรงบนถนน โล่งที่น่าประทับใจ ในช่วงที่ไม่มีลมบวกกับการหมอบ ช่วย Nouvo SX สามารถท�าความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. และเมื่อหมอบลงทางลาดความเร็วขยับขึ้น ไปได้ถึง 140 กม./ชม. และอาจไปได้มากกว่านั้นถ้า เราไม่ผ่อนคันเร่งซะก่อน (ก็คนมันกลัวนี่นา!) อีกจุด ที่น่าสังเกตของเครื่องยนต์คือจังหวะขึ้นเขา ปกติ ที่เราเคยทดสอบ Nouvo SX ไป จ.เชียงใหม่ พบ ว่าความเร็วขึ้นเขาลาดชันอยู่ที่ 80-90 กม./ชม. ไม่มากไปกว่านี้ แต่ความเร็วที่เราท�าได้ในช่วงขึ้นเขา IPOH อยู่ที่ 90-95 กม./ชม. เรารับรู้ได้ถึงความ ลื่นของเครื่องยนต์ราวจะบอกเราว่า “บิดคันเร่งไป เลยลูกพี่ ผมยังไหว”...แม้จะไม่ได้ใช้การพิสูจน์ทาง

วิทยาศาสตร์ แต่จากการวัดด้วยความ รู้สึกจากการตอบสนองของคันเร่งพบ ว่า กระบอกสูบ DiASil – ลูกสูบฟอร์จ – น�้ามันเครื่อง Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) และน�้ายาขจัดคราบ เขม่า Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) ท�างาน ผสมผสานกันอย่างลงตัว ส่งผ่าน สมรรถนะความแรงลงสู่พื้นถนนของ ประเทศมาเลเซียสร้างความมันส์บังเกิด ความสนุกให้เหล่านักบิดพร้อมใจกันลุย แบบไม่มียั้ง ท�าความเร็วได้ขนาดนี้สงสัย ต้อง “ล็อคคันเร่ง” กันยาวๆ...ป้าย ต่อไป “โค้ง S”

Great Grip thanks to Y-TEQ เดินทางมาถึงโซนภูเขาและทางโค้งที่มีทั้งโค้ง S โค้งขึ้น-ลงเขา ได้ เวลาวัดกันซักตั้งกับยาง Y-TEQ ยางสเป็คเดิมของ Nouvo SX ก็เกาะ ถนนดีอยู่แล้ว แต่มันจะเป็นยังไงถ้าเราใส่ยางคอมพาวด์อย่างดีเกรดตัวแข่ง ลงลุยโค้งลงเขาที่ต้องใช้ความเร็วสูง หลังจากวอร์มหน้ายางกันมาตลอด ทางก็ได้เวลาใช้ “แก้มยาง” ซะที ในโค้งที่ความเร็ว 90-100 กม./ชม. กับ องศาการเข้าโค้งที่ไม่ธรรมดา...ดูเหมือนยาง Y-TEQ จะมีดีกว่าที่คิด เพราะ ความเร็วขนาดนี้ถ้าใช้ยางเดิมอาจไม่สามารถ “แบน” ได้มากขนาดนี้ ยิ่งเข้า โค้งยิ่งสนุกยิ่งบิดคันเร่งเติมความเร็วเข้าไปอีก จุดสังเกตของยางที่ดีคือ เมื่อเติมคันเร่งเข้าหาโค้งยางจะยังคงเกาะถนนและไม่ท�าให้รถเกิดอาการสไลด์ Y-TEQ พิสูจน์ตัวเองแล้วกับโค้งบนเขา IPOH ที่ค่อนข้างท้าทายแถมเต็ม ไปด้วยรถยนต์ที่ต้องผ่านเส้นทางนี้ การเบรกในโค้งและการเบรกทางตรง ยาง Y-TEQ ท�าได้ดีและไม่มีเสียง “เอี๊ยด” ให้ได้ยิน นั่นหมายความว่ายาง เนื้อนุ่มหนึบจนช่วยยึดเกาะผิวถนนไว้รับกับแรงเบรกช่วยลดระยะเบรกเพิ่ม ความปลอดภัยขึ้นอีกระดับ ใครที่เคยขี่เข้ามาเที่ยวประเทศมาเลเซียคงรู้ดีว่าจะต้องเจอกับ “ฝน” Y-TEQ เป็นยางที่สามารถลุยฝนได้สบายเพราะมีร่องหลักตรงกลาง หน้ายางคอยท�าหน้าที่รีดน�้าเพิ่มการยึดเกาะของยางกับถนน สังเกตได้ จากการเข้าโค้งเมื่อเจอน�้าและการเบรกในสายฝนซึ่งยางทั่วไปจะแข็งตัวและ เกิดอาการลื่นเมื่ออุณภูมิของยางลดลง การผ่อนคันเร่งบนพื้นผิวที่เต็ม ไปด้วยน�้าเป็นอีกจุดที่มักท�าให้รถเกิดอาการสะบัด...แต่ยาง Y-TEQ นั้น แตกต่าง! วางใจได้ในจังหวะผ่อนคันเร่งและเบรกแบบฉุกเฉินเพราะเราลอง แล้วด้วยตัวเอง (ลุ้นกันแทบตาย!) สรุปฟันธงไว้เลยที่ระยะทาง 300 กว่า กิโลเมตร...ผ่านมาแล้วทั้งทางตรง, ทางโค้ง, ทั้งเบรกแบบไม่ตั้งตัวและผ่อน คันเร่งแบบไม่ตั้งใจรวมถึงพายุฝนที่กระหน�่าลงมาให้เราได้ทดสอบยางจาก โรงงาน Yamaha คู่นี้กัน FRM ขอยกนิ้วให้ Y-TEQ ไปเลย For Ride Magazine November 2012 23


1,500 KM. proved for Yamalube and Y-TEQ ในที่สุดก็สิ้นสุดการเดินทางกับระยะทาง ราว 1,500 กม. บนอุปสรรคมากมายที่ดาหน้า กันออกมาต้อนรับ Nouvo SX และ Mio 115i ต้องขอบคุณผลิตภันฑ์จาก Yamaha ไม่ว่าจะ Yamalube Eco Plus (ยามาลู้ปอีโคพลัส) ที่คอย ช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบสตาร์ทติดง่ายตลอด การเดินทางแม้ว่าอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ก็ตาม ขอบคุณ Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ ท�างานได้เหมือนออกจากศูนย์มาใหม่ๆ ไร้คราบ คาร์บอนในห้องเผาไหม้ ที่ขาดไม่ได้และช่วยเซฟเรา ไว้คือยาง Y-TEQ เนื้อหนึบนุ่มตลอดการเดินทาง สัญญาว่ามีทดสอบที่เจอโค้งเยอะๆ จะใช้บริการ Y-TEQ อีกแน่! ถ้าไม่ได้กล่องเก็บของด้านท้ายเราก็

คงต้องล�าบากกับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ชุดกันฝน, เสื้อผ้าและอื่นๆ ที่สามารถยัดใส่ กล่อง 30 ลิตรใบนี้ได้พอดี อ้อแล้วก็พวก ชิ้นส่วนตกแต่งอย่างชุดคอนโซลลายเคฟ ล่า, มือเบรกหน้า-หลังแต่งสีเจ็บตาที่ท�าให้ เรารู้สึกเท่ห์แบบแตกต่างไกลถึงมาเลเซีย... FRM ให้ผ่านส�าหรับอะไหล่ของแท้ยกชุดจาก Yamaha และของเหลวเกรดพรีเมี่ยมจาก Yamalube ขอบคุณส�าหรับค�าท้าทายและให้ โอกาส FRM ได้ “ลองของ”…มีผลิตภัณฑ์ เพื่อความแรงออกมาให้เราทดสอบอีกเมื่อ ไหร่รับรองว่าคุณผู้อ่านจะได้ติดตามร่วมเจาะ ลึกไปกับเราแน่นอน!

บทสรุปจากห้องทดลอง FRM จากวันก่อนออกเดินทางที่เราแอบผ่าเครื่องเปิดฝาสูบ ออกดูหน้าวาล์วและลูกสูบ จากนั้นก็เติม Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) ลงไปเพียง 1 ขวด (75 มล.) และวันนี้หลังจากผ่านไปกว่า 1,500 กม. ขอเชิญ ทุกท่านชมความสะอาดของชุดวาล์ว – ฝาสูบ และลูกสูบ ครับ บอกไว้ก่อนเลยว่า FRM ไม่มีย้อมแมว เปิดมายังไงถ่าย ไปแบบนั้น สังเกตความเปลี่ยนแปลงที่บริเวณฝาสูบรับรองว่า ต้องร้อง “เฮ่ย!” กันเป็นแถว เพราะฝาสูบสะอาดจริงจนน่า ตกใจ ส่วนลูกสูบอาจดูไม่ค่อยออกแต่ถามความเห็นจากช่างผู้ ช�านาญการแล้วคอนเฟิร์มว่า Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์) ท�าหน้าที่ได้เต็ม 100% ช่วย “ชะ-ล้าง-ขจัด” คราบเขม่าตามห้องเผาไหม้ออกทิ้งไป เหลือ ไว้แค่ความสะอาดของเครื่องยนต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการ ท�างานให้กลับมาเดินนิ่งเรียบจุดระเบิดได้เต็มร้อย และเมื่อ 24 For Ride Magazine November 2012

Before

After

เครื่องยนต์สามารถท�าการเผาไหม้ได้อย่างเต็มที่ ก็จะส่งผลให้ปล่อยมลพิษออกสู่อากาศลด น้อยลง ซึ่งเป็นการช่วยรักษาสภาวะอากาศให้สะอาดมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นนอกจากรถคันโปรดจะแรงเหมือนตอนไมล์ 0 กิโลเมตรแล้ว ยังช่วยประหยัด ค่าน�้ามันและรักษ์โลกไปพร้อมๆ กันอีกด้วย...เราทดสอบแล้ว Yamalube Carbon Cleaner (ยามาลู้ป คาร์บอน คลีนเนอร์)...คุณล่ะกล้าลองมั้ย?



Honda

PCX 150 “The Scruister” ABS Ideling Stop

เริ่มฉบับปฐมฤกษ์ FRM กับ Hot Pick of Month เราหยิบเอา Honda PCX 150 รถออโตเมติก ญาติสนิทของ Big Scooter ซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น ถือก�าเนิดจาก โรงงานฮอนด้าประเทศไทย ออกมาโลดแล่นบนถนนเอาใจสาวกสไตล์ “หรูหรา-ไฮโซ” นอกจากรูปร่าง หน้าตาที่ตรงคอนเซ็ปท์ Prestige ซึ่งแปลว่า “สง่างาม” แล้ว ยังมีเทคโนโลยีเพื่ออ�านวยความสะดวก สบายและความปลอดภัยยัดอัดแน่นอยู่เต็มคันรถ...แม้เส้นทางวันนี้จะไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ กรุงเทพฯ-ชลบุรี แต่ระยะทางไป-กลับราว 300 กม. ก็เพียงพอจะท�าให้ทีมทดสอบของ FRM ตั้งชื่อให้เล่นให้เจ้า PCX 150 คันนี้ว่า “Scruister” !?

Ê Head east to place where sun rises หลังจากทางฮอนด้าอนุมัติรถให้ FRM “หวด” ก็ได้เวลาตั้งเข็มทิศมุ่งไปทางทิศ ตะวันออก เป้าหมายของเราคือ จ.ชลบุรี ส่วน สาเหตุน่ะเหรอ...ก็เพราะถนนตั้งแต่ออกจาก เอ.พี.ฮอนด้า ไปจนถึงตัว จ.ชลบุรี สามารถใช้ ทดสอบเจ้า PCX 150 คันนี้ได้อย่างครบถ้วน ในทุกๆ ด้าน เริ่มต้นด้วยมหกรรมรถติดตั้งแต่ ส�าโรงจนถึงแยกบางนา...ใครที่เคยโฉบผ่านมา คงจะรู้ดีว่าการจราจรแถวนี้ชวนปวดหัวปวด ตัวขนาดไหน ส�าหรับ PCX ที่แม้จะดูใหญ่เทอะทะ 26 For Ride Magazine November 2012

แต่ด้วยแฮนด์ที่ยกสูงช่วยให้คอนโทรลรถได้ง่าย กระจกข้างทรงใบไม้ยกสูงกว่าระดับกระจกรถยนต์ ทั่วไปช่วยลดภาระสายตาในการกะระยะห่าง (มีลุ้นกับ รถตู้และรถกระบะเท่านั้น) พักเท้าแบบเดียวกับ Big Scooter ที่สามารถขยับเท้าได้ 2 แบบ คือ ยืดขาไป เหยียบพักเท้ามุมเอียงด้านหน้า หรือถอยเท้ากลับ มานั่งในท่ามาตรฐาน แต่เราแนะน�าให้ลองนั่งท่าแรก ดูครับ เพราะท่านั่ง, ช่วงเท้า, ท่าจับแฮนด์ และหลัง จะท�ามุมที่ให้นั่งแล้วรู้สึกสบายออกแนวยืดนิดๆ ดู สง่าและชิลล์ในเวลาเดียวกัน


Hot Pick of Month For Ride Magazine November 2012 27


Idling Stop ระบบหยุดการท�างานของเครื่องยนต์เมื่อรถ จอดนิ่งเป็นเวลา 3 วินาที เมื่อเครื่องยนต์ดับลง เซ็นเซอร์จะตรวจดูว่าลูกสูบอยู่ในต�าแหน่งพร้อมจุด ระเบิดหรือไม่ จากนั้นมอเตอร์หมุนขนาดเล็กจะช่วยหมุน ลูกสูบให้ขึ้นอยู่ในต�าแหน่งพร้อมจุดระเบิด เมื่อบิดคัน เร่งกล่องควบคุมจะส่งสัญญาณไปสั่งการหัวเทียนให้ จุดระเบิดพร้อมเดินเครื่องยนต์อีกครั้ง ในกรณีที่จอด นานไดสตาร์ทจะช่วยหมุนเครื่องยนต์ในรอบต่อ มาเพื่อเพิ่มแรงอัดและจุดระเบิดครั้งที่ 2

28 For Ride Magazine November 2012

Ê Idling Stop System, “Weapon of Choice” ยังคงมุดซอกแซกอยู่บนถนนเส้น ส�าโรงซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะพ้นช่วงรถติดซะ ที แถมเจอกับรถบรรทุกใหญ่ยักษ์ 2 คัน ปิดช่อง “มุด” ของชาว 2 ล้ออย่าง เราไว้อีก...ทันใดนั้นก็เกิดเรื่องไม่คาดคิด! รถดับ...เฮ๊ย!! เป็นไปไม่ได้ Impossible! น�้ามันก็เติมเต็ม แบตก็ใหม่กริ๊บ ใบขับขี่ ก็มี พระก็ไหว้แล้ว ลองส�ารวจดูที่หน้า จอเรือนไมล์จึงพบ “A” ตัวหนังสือ ภาษาอังกฤษที่มีไฟสีเขียวสว่างอยู่...ที่แท้ มันก็คือ ระบบ Idling Stop (ไอ-เดิลลิ่ง-สต๊อป) ที่จะดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถหยุดวิ่งนานเกิน 3 วินาที และ

เครื่องยนต์จะสตาร์ทอีกครั้งเพียงแค่บิด คันเร่งเบาๆ (ห้ามบิดแรงเดี๋ยวพุ่งไปจิ้ม ท้ายรถคันข้างหน้า) นี่แหละ “Weapon of Choice” ที่เราพูดถึง ระบบอัจฉริยะ นี้เป็นเหมือนอาวุธทางเลือกชิ้นเด็ดที่ สามารถเลือกเปิดการท�างาน Idling Stop เพื่อช่วยประหยัดน�้ามันลดมลพิษ และที่ส�าคัญเท่ห์ไม่ซ�้าใคร (จอดๆ อยู่บิด คันเร่งออกตัวหายไปเลย) หรือจะเลือก ปิดระบบเมื่อต้องเจอกับการจราจร ติดขัดที่ต้องซอกแซกไปมาบวกกับบีบ เบรกเป็นระยะ มันเจ๋งก็ตรงที่เราสามารถ เลือกเปิด-ปิดได้เนี่ยแหละ!


Hot Pick of Month Ê Wresting begins…(ตะลุมบอนเริม ่ แล้ว!!) ฟู้วว...เสียงถอนหายใจของนักทดสอบเมื่อหลุดจากโซนรถติดมาได้ แต่ อุปสรรคส�าหรับ PCX 150 ยังไม่หมดเมื่อต้องเจอกับ...ถนนสุด VIP (ประชด) ของเส้นบางนา-ตราด หลายคนที่เคยวิ่งแต่บนทางด่วนและไม่เคยให้ก้นของคุณ ได้สัมผัสกับกองทัพหลุมบ่อพื้นไม่เรียบทางไม่ราบที่เกิดจากพวกพี่สิบล้อต้อง ลงมาลองดูซักครั้ง ทางแบบนี้แหละเหมาะกับการทดสอบ “ช่วงล่าง” ที่สุด FRM เคารพกฏหมายขับขี่อย่างถูกต้อง จัดหนัก “รูด” ถนนเลนซ้ายสุดตลอด เส้นบางนา-ตราด แต่ความเร็วที่ใช้อยู่ที่ 80-110 กม./ชม. หน้ายางขนาดใหญ่ ของ PCX 150 (90/90-100/90) ช่วยดูดซับแรงกระแทกในจังหวะแรกของ การตกหลุม ส่วนโช้คหน้าที่ Sync (ซิงค์ แปลว่าเชื่อมต่อ) กันดีกับโช้คหลังช่วย ลดความรู้สึกสะเทือน ช่วงล่างดีแบบนี้...FRM เราจัดหนักไม่เกรงใจ ทั้งรถลง ทุกหลุมกระแทกทุกร่องเพื่อทดสอบความสามารถเจ้าสกู๊ตเตอร์คันนี้มาให้ผู้อ่าน ได้รู้กัน ผ่านมาได้ 60 กม. เกือบถึงถนนบายพาสก็ยังคงไม่รู้สึกปวดหลังหรือ ก้นแต่อย่างใด โช้คหน้า-หลัง ยังคงท�างานดีเหมือนเมื่อตอนเริ่มขี่ใหม่ๆ ความร้อนและ แรงกระแทกดูเหมือนจะท�าอะไรรถสกู๊ตเตอร์คันนี้ไม่ได้จริงๆ จุดสังเกตของคนตัว สูง (นักทดสอบสูง 189 ซม.) เมื่อลองนั่งนานๆ จะพบว่าพนักพิงอันจิ๋วที่กั้น ระหว่างต�าแหน่งที่นั่งคนขี่และคนซ้อนแม้จะจ�ากัดต�าแหน่งที่นั่งไม่ให้สไลด์ไปหน้าหลังได้ แต่ก็มีข้อดีที่ช่วยซัพพอร์ทหลังช่วงล่างไม่ให้เมื่อยเมื่อต้องนั่งนานๆ ระหว่างทางได้ลุ้นเสียวกับ “Ramp” หรือคอสะพานมฤตยู ต้องขอบคุณรถสิบ ล้อบรรทุกเกินขนาดที่ท�าให้คอสะพานปกติกลายเป็นแรมป์กระโดดสุดโหดราวกับ อยู่ในสนามแข่ง MX แตกต่างก็ตรงที่ส�าหรับ PCX แทบไม่ต้องเตรียมตัวตั้งท่า อะไรทั้งสิ้น แค่ผ่อนคันเร่งลงเล็กน้อยแล้วลอยข้ามไปเลย เบาะที่นุ่ม-โช้คที่หนึบ พร้อมรองรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดตลอดการเดินทาง ผ่านหลุมสุดโหดและเนิน กระโดดมาได้ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีกแล้ว....ได้เวลาท�าความเร็วกันซะที

For Ride Magazine November 2012 29


Ê Surprising Torque – Amazing CBS โบกมือลาถนนสุดระทึก บางนาตราด แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) น�้ามันเต็มถังจาก เอ.พี. ฮอนด้า มาจนถึงจุดนี้น�้ามันเพิ่งหมดไปแค่ 2 ขีด (ประหยัดเกินไปแล้ว!!) จากนี้ไปเป็น ถนนตรงยาวๆ....แต่! ส�าหรับ FRM ถนน ตรงยาว = กระแทกคันเร่งให้มิด แม้ทาง จะเรียบแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรคเพราะเรา ยังคงต้องเจอกับรถสิบล้อเจ้าเก่าที่เริ่มใช้ ความเร็วเช่นเดียวกับเรา อัตราเร่งของ เครื่องยนต์บล็อคใหม่ 152.9 ซีซี. แรง จนน่าแปลกใจโดยเฉพาะในด้านแรงบิดหรือ Torque (ทอร์ค) ในช่วง 0-60 กม./ชม. ไม่ต้องพูดถึงเพราะรถออโตเมติกแทบทุก รุ่นเน้นออกตัวดีอยู่แล้ว แต่ไฮไลท์มันอยู่ ที่ช่วง 60-80 และ 80-100 กม./ชม. นี่ แหละ ใครได้ลองขี่ PCX 150 รับรองเป็น ต้องเซอร์ไพส์กับแรงบิดในช่วง 60-80 ที่ สามารถแซงรถสิบล้อคันใหญ่ได้สบายๆ แถมมีก�าลังเหลือส่งต่อความเร็วเร่งได้ถึง 120 กม./ชม. ก่อนจะถูกกล่องควบคุม ตัดความเร็วให้อยู่ที่ 120 กม./ชม. (เป็น ข้อดีในเรื่องความปลอดภัยและยืดอายุการ ใช้งานของรถ) ความเร็วยืนพื้นในการเดิน

ทางอยู่ที่ 100-110 กม./ชม. สามารถ เดินทางไปเที่ยวพัทยาหรือหัวหินได้อย่าง ไร้กังวล ส�าหรับใครที่คิดว่ารถยางใหญ่ ควบคุมยากขอบอกเลยว่า PCX 150 มี อาการสั่นของช่วงหน้าน้อยมาก จากการ ลอง “สาด” โค้งดูก็พบว่าสามารถเข้าโค้ง ได้จนเกือบสุดขอบยาง (ช่วงล่างและยาง เกาะถนนดี) ระบบเบรก CBS (Combine Brake System) แม้จะไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น เพราะ Honda จับเอา CBS ใส่เข้าไปในรถ ออโตเมติกหลากรุ่นมานานแล้ว แต่ที่ถูกใจ เราก็คือ PCX 150 มี CBS มาให้ด้วย มั่นใจทุกครั้งที่เบรกและรับรองได้ว่าไม่มี การ “ล็อค-สไลด์” แน่นอนถ้าเบรกเมื่อ รถตั้งตรง ระยะเบรกที่สั้นกว่าระบบเบรก ทั่วไปของ CBS กลายเป็นตัวช่วยนักบิด มือใหม่จากการเกิดอุบัติเหตุ หลังจากลอง เบรกแบบไม่ทันตั้งตัวพบว่าระยะเบรกสั้น มากและล้อหลังไม่ล็อคเหมือนอย่างที่คิดไว้ เอาเป็นว่าถ้ามีน้องหมา-แมววิ่งตัดหน้าใน หมู่บ้านเราก็สามารถหยุดรถได้ทันก่อนที่จะ ส่งพวกเค้าขึ้นสวรรค์อย่างแน่นอน

30 For Ride Magazine November 2012


Hot Pick of Month Ê Scooter + Cruiser = Scruister! ความร้อนด้วยน�้า และปุ่มเปิดเบาะ-ถังน�้ามัน ทั้งหมดนี้ผสมผสานกันอย่างลงตัวจน FRM ขอมอบฉายาให้กับ PCX 150 คัน นี้ว่า The Scruister (เดอะ–สะ-ครูส–เต้อ) รถออโตเมติกสายพันธุ์ใหม่ที่ขี่สบายหรูหราแต่ได้อารมณ์แบบครูเซอร์แค่ถอด เสื้อสูทออฟฟิศโยนทิ้งก็ออกท่องเที่ยวใน ช่วงวันหยุดได้แล้ว! อ่านแค่รีวิวคงไม่พอ... ไปลองด้วยตัวเองดีกว่าครับ Handling – 4 / 5 Braking – 5 / 5 Engine – 4 / 5 Technology – 5 / 5 Design – 4 / 5 Price – 4 / 5 “รถที่เราจะบอกว่า ดี หรือ ไม่ ดี วัดกันที่ การควบคุมรถ – ระบบเบรก – ความปลอดภัย – เทคโนโลยี ทั้งหมดถูกวัดโดย ค�านึงถึงผู้ใช้ตั้งแต่ระดับกลางไป จนถึงระดับมือใหม่ เพราะความ ปลอดภัยต้องมาก่อน”

Well I think : ผมคิดว่า... 

จากถนนบายพาสมุ่งหน้าไปพัทยา... เราตัดสินใจแวะขี่กินลมกันที่อ่างเก็บน�้าบาง พระ ได้เห็นวิวทิวทัศน์ของต้นไม้ใหญ่สอง ข้างทางบวกกับอากาศเย็นบริสุทธิ์จากยอด หญ้าช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดสะสม จากในเมืองได้เป็นอย่างดี PCX 150 คัน นี้ดูเหมือนจะถูกออกแบบมาลึกซึ้งกว่าที่คิด ไว้ นั่งยืดขาขี่แบบเท่ห์ๆ พร้อมการจับแฮนด์ แบบสง่ามันช่างได้อารมณ์เหมือนขี่รถตระกูล Cruiser (ครูเซอร์) แต่เครื่องยนต์กลับเดิน นิ่งนิ่มเงียบเรียบพร้อมซุ่มเสียงสายพานแบบ รถสกู๊ตเตอร์ ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทุก ไลฟ์สไตล์ด้วยหน้ายางขนาดใหญ่บวกกับระบบ เบรก CBS ที่พร้อมจะพาคุณท่องเที่ยวไปได้ ทุกที่...ที่ส�าคัญชิ้นส่วนไฮเทคอย่าง Idiling Stop, สวิทช์ขาตั้ง, หัวฉีด PGM-FI, ระบบขับ เคลื่อน eSP, ระบบสตาร์ทรุ่นใหม่, ระบบระบาย

Rider: Oat H. 189 cm. W. 90 Kg. Skill: Intermidate

ขอบคุณ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จ�ากัด ส�าหรับรถตัวจริงเสียงจริงในการทดสอบครับ For Ride Magazine November 2012 31


The Journey 5 Mountains Tour

ใครเคยฝันอยาก ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจท่อง เที่ยวไปต่างประเทศบ้าง? ใครเคยอยากเห็นวิว แปลกๆ ถนนเส้นใหม่และ ภูเขาที่ไม่เคยพิชิตบ้าง? FRM ขอเสนอ.... พาสปอร์ตสูป่ ระเทศเพือ่ น บ้าน – เปิดประตูสมู่ าเลเซีย ตะลุยทริปสุดโหดที่ใคร ก็คาดไม่ถึง ทุกข้อมูล ที่ต้องรู้ทุกเรื่องราวที่ สงสัยจะได้ไขข้อข้องใจไป กับนิตยสาร FRM No.1 นี้แหละคร๊าบบ...

32 For Ride Magazine November 2012

ย ี ซ เ ล เ า ม ่ ู ส ู ต ะ ร เปิดป


the journey

เมื่อจดหมายเชิญโผล่ที่ประตูบ้าน เรื่องของเรื่องก็คือ...จุดเริ่มต้นของทริปมาจาก เพื่อนชาวอิตาลี่ที่ชื่อ “Franco Angeloni” ส่งข้อความ มาบอกว่า “ว่างซัก 10 วันมั้ย? ไปเที่ยวมาเลเซียป่ะ?” แค่นั้นแหละทีมงาน FRM ก็กรี๊ดกร๊าดตอบรับกลับไป ไม่รอช้า โปรเจ็คนี้มีชื่อว่า 5 Mountains Tour เป็นความ ร่วมมือกันของนิตยสาร WTR (World Tour Rider Magazine) และการท่องเที่ยวของมาเลเซีย แต่เป็นทริป ที่ไม่ธรรมดาเพราะเราต้องพิชิตภูเขาชื่อดัง 5 ลูกของ มาเลเซีย จุดประสงค์หลักก็เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวของ มาเลเซียโดยการใช้รถมอเตอร์ไซค์...FRM ไม่รอช้าส่งมือดี ไปร่วมทริปนี้ทันที...แต่เรายังไม่มีรถเลยอ่ะ!

รถที่ใช่ คันที่ชอบ...ออกทริปทั้งทีมันต้องมีก�าลังเหลือ หันซ้ายก็รถจ่ายตลาด หันขวาก็จักรยานแม่บ้าน...ท�าไงดีล่ะ?...คิด คิด คิด.... ปิ๊งป่อง! จะลุยทั้งทีจัดรถที่มันเข้ากับสถานะการณ์ดีกว่า หยิบโทรศัพท์โทรหา Kawasaki Real Motosports เพื่อขอยืม Versys 650 ไปบู๊โค้ง โดยมีข้อแม้ว่าต้องน�าแมว 3 ตัวมา ค�้าประกัน (ล้อเล่นครับ) ทางโชว์รูมก็ยินดีเซ็ตรถให้พร้อมออกทัวร์ ส่วนใครที่อยากทดสอบขี่รถ ตัวใหม่ๆ ของ Kawasaki ไปแวะไปเยี่ยมโชว์รูม Kawasaki Real Motosports ได้เลยครับ ตัด กลับมาที่ตัวรถ Versys ซึ่งเป็นโมเดลปี 2010 สี Red Crimson (แดงเลือดหมู) พร้อมกล่อง ท้าย GIVI ไซส์ใหญ่ ติดตั้ง Crash Bar (กันล้ม) พร้อมใส่ยาง Pirelli Scorpion…มาเต็มขนาดนี้ ที่เหลือก็แค่แพ็คกระเป๋าแล้วออกเดินทางกันซะที

เป็นนักทัวริ่งตัวจริง...แต่จัดกระเป๋าเป็นหรือเปล่า ? ใครที่บอกว่ายัดๆ เสื้อผ้าเข้ากระเป๋าก็ไปเที่ยวไหนต่อไหนได้แล้ว...ถูกต้องครับ แต่ส�าหรับการมาเที่ยวมาเลเซีย ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่า ซึ่งนั่นท�าให้ฝนตกทั่วทั้ง ประเทศตลอดทั้งปี ถ้าแพ็คกระเป๋ามาไม่ดี...รับรองได้ใส่เสื้อผ้าเน่าๆ ไปอีกหลายวันแน่นอน เมื่อเรารู้ว่าจะต้องเจอฝนและงบประมาณก็น้อยนิดไม่สามารถซื้อกระเป๋ากันน�้าได้ ให้เดินไป ที่ร้าน 7-11 แล้วซื้อถุงด�าไซส์ 30 นิ้วราคาไม่เกิน 25 บาท จากนั้นแบ่งเสื้อผ้าออกเป็น เสื้อใส่ประจ�าวัน – เสื้อใส่นอน – กางเกงใน+ถุงเท้า – เครื่องใช้อื่นๆ แล้วยัดใส่ถุงด�าไล่ลมออกให้ดีแล้วม้วนปากถุงให้แน่นเป็นอันใช้ได้ เรียงล�าดับความส�าคัญเสื้อผ้าแล้วเรียงเข้าไปในกระเป๋า ให้ดี ถ้าวางกระเป๋าแนวนอนให้วางปากถุงอยู่ด้านบน รับรองว่าน�้าไม่เข้าแน่นอน (ถ้าถุงไม่ขาด) ใครไม่ชัวร์จะ ซ้อนถุง 2 ชั้นก็ไม่มีปัญหา ข้อดีของการใช้ถุงด�าก็ คือ...ขากลับเมื่อมีเสื้อผ้าใส่แล้วเราสามารถใช้ถุงด�านี่ แหละเก็บผ้าพวกนั้นแยกออกจากผ้าที่ยังไม่ใช้ แถมยัง ป้องกันกลิ่นรบกวนได้ดีอีกด้วย อ้อ! ที่ส�าคัญ...เลือก เสื้อผ้าให้พอดีกับจ�านวนวัน อย่าแพ็คไปมากเกิน ความจ�าเป็น เมื่อกระเป๋าพร้อมก็ถึงเวลาของ อุปกรณ์ส�าคัญที่สุด “ไรดิ้ง เกียร์”

เลือกให้ดี...เพราะเราล้มได้แค่ครั้งเดียว เพราะห่วงใยท่านผู้อ่านเราจึงจ�าเป็นต้องหยิบยกเรื่อง ไรดิ้งเกียร์ออกมาพูดก่อนออกเดินทาง “ไรดิ้งเกียร์” ที่ว่าก็ คืออุปกรณ์ขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่เป็นตัวช่วยให้ผู้ขับขี่ปลอดภัย จากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด หลายคนอาจคิดว่ามัน “ร้อน หนัก แพง ไม่ใส่หรอก” แต่จากประสบการณ์ที่เราเกือบ ล้มและพลาดมาหลายครั้ง (ที่พลาดไปแล้วก็มี) ก็ได้อุปกรณ์ ขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่าง รองเท้าบูท, เสื้อ, กางเกง, ถุงมือ และหมวกกันน็อคนี่แหละ ที่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาและช่วยให้ เรารอดชีวิตมานั่งเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวได้จนถึงวันนี้ เริ่ม จากชิ้นบนสุดไล่ลงไปล่างสุดแล้วกันนะครับ... หมวกกันน็อค – เลือกใบที่ใช่ลายที่ชอบและที่ส�าคัญ ต้องป้องกันหัวเราได้นะครับ ขอให้ได้มาตรฐาน DOT, Snell, ECE ตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ ก่อนเดินทางลองถามตัวเองดูก่อนว่า For Ride Magazine November 2012 33


the journey เราจะใช้ความเร็วแค่ไหน จะขี่ช่วงเวลาไหนบ้างจะได้เตรียม Visor (ไวเซอร์) หรือ ชีลด์ที่เราเรียกกัน ให้สามารถมองเห็นตามช่วงเวลา หรือจะใช้ชีลด์สีใสกับแว่น ตาเก๋ๆ ซักอันก็ไม่ว่ากัน ส�าหรับทริปนี้เราจัด Real Kevlar ที่ได้มาตรฐาน ECE ออกทริปเพราะเราใช้ความเร็วที่ 120+ และขี่ในช่วงกลางวันเป็นหลัก เสื้อแจ็คเก็ต – มันแตกต่างจากเสื้อที่โชว์รูมแจกยังไง?...แค่เนื้อผ้าก็ต่าง กันแล้วครับ เพราะเส้นใยวัสดุที่ถักทอเป็นเสื้อขึ้นมา ถูกค�านวนมาแล้วให้ทนต่อ แรงดึง-ฉีกเพื่อรองรับการล้มแบบสไลด์ ส่วนการ์ดตามจุดต่างๆ เช่นที่ข้อศอก, หัวไหล่ และหลังจะท�าหน้าที่รับแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากเลือก แบรนด์แล้วยังต้องเลือกสไตล์อีกว่า จะเอาแจ็คเก็ตทัวริ่งหรือจะเอาแบบเรชซิ่ง จะ ใช้แบบขี่เมืองหนาวหรือเมืองร้อน อยากได้แบบกันน�้าหรือระบายความร้อนได้ดี เลือกสีสันและลวดลายได้ตามใจชอบ แต่เราเน้นรุ่นที่มันสะท้อนแสงได้ดีกว่าอย่าง Clover Air Jet 2 ที่เน้นแอร์โฟลวระบายความร้อนได้ดีมาก (และก็เปียกง่ายมาก เมื่อเจอฝน) ข้อดีของ Clover Air Jet 2 อยู่ที่การ์ดป้องกันตามจุดต่างๆ ได้ มาตรฐาน CE Level 1 มั่นใจตลอดการเดินทาง ถุงมือ – จะเลือกใช้ถุงมือลายแมงมุมราคาไม่กี่สิบบาทตามตลาดก็ได้... แต่ถ้าเกิดพลาดล้มรับรองว่าฝ่ามือละลายติดไปกับถนนแน่นอน ออกทริปทั้งที ก็ต้องใช้ถุงมือขี่มอเตอร์ไซค์ที่ดีหน่อย ถ้ากลัวหนาวใช้ถุงมือหนัง ถ้าต้อง เจอฝนใช้ถุงมือผ้าที่มีการ์ดป้องกันจะอุ่นใจกว่าถุงมือทั่วไป...FRM เตรียมไป ทั้ง 2 แบบ ถุงมือเรชซิ่ง Furygan ที่พร้อมปกป้องมือรอบด้าน และถุงมือผ้า Alpinestars Thunder ที่พร้อมลุยเมื่อเจอฝน (ถุงมือผ้าช่วยเช็ดหยดน�้าออก จากไวเซอร์ได้ดีเมื่อเจอฝน) กางเกง – อุปกรณ์ขับขี่มอเตอร์ไซค์ชิ้นนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล เลยครับ ใครชอบลุยหน่อยก็กางเกงยีนส์ ใครเน้นความปลอดภัยก็ใส่กางเกง ขี่มอเตอร์ไซค์ เช่นเดียวกับเสื้อแจ็คเก็ตที่ต้องเลือกระหว่างกันน�้าหรือกันร้อน ส่วนทีมงานของเราเลือกใช้ Clover GTS WP รุ่นกันน�้า..แต่สามารถถอดชั้น กันน�้าออกได้ แถมมีช่องระบายอากาศให้รูดเปิดปิดเล่นได้ด้วย...อิอิ รองเท้า – อุปกรณ์ป้องกันชิ้นล่างสุดแต่ก็ส�าคัญไม่แพ้หมวกกันน็อค เพราะอุบัติเหตุส่วนมากยิ่งถ้าเป็นรถบิ๊กไบค์ เมื่อรถล้มตัวรถอาจทับขาหรือ เท้าของผู้ขี่ท�าให้บาดเจ็บหรือพิการได้เลยทีเดียว รองเท้าบูทจึงเป็นตัวช่วยเซฟ อวัยวะส�าหรับเดินชิ้นส�าคัญได้เป็นอย่างดี จะเลือกซื้อทั้งทีก็รองดูว่าเราขี่รถ ประเภทไหนและชอบสไตล์ไหน...FRM ใช้บริการรองเท้าบูทเรชซิ่งของ Forma Ice แม้จะเป็นรองเท้าที่เหมาะกับการขี่รถสปอร์ต แต่เนื่องจากเป็นความชอบส่วน บุคคลเราจึงยอมทนร้อนเพื่อแลกกับความเท่ห์

หมดเวลาภาคทฤษฎี ได้เวลาบินเดี่ยวลงใต้ ตื่นแต่เช้า (ตี 5.30) แพ็คของทุกอย่างขึ้น ท้าย Versys ของส�าคัญใส่กล่อง GIVI เสื้อผ้า แพ็คใส่กระเป๋ามัดเบาะท้าย เช็คทุกอย่างครั้ง สุดท้ายแล้วบ๊ายบายบางกอก... จากกรุงเทพฯ ไป สู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระยะทางราว 1,000 กม. แถมต้องไปคนเดียวแบบนี้ Live to Ride ชัดๆ...วิ่งวอร์มอัพไปๆ มาๆ รู้ตัวอีกทีเราก็มา ถึงถนนสาย 4 เพชรเกษม ถนนสายหลักที่ส่งทุก ท่านมุ่งตรงลงใต้ ใครมาถึงถนนสาย 4 (AH2) ได้ก็ไม่ต้องกลัวหลงแล้วครับ เพราะนี่คือทางหลัก ที่ทอดยาวลงสู่ภาคใต้และเชื่อมต่อไปถึงประเทศ มาเลเซีย ความเร็วที่ใช้ในช่วงแรกอยู่ที่ 100-110 กม./ชม. เนื่องจาก Versys เป็นรถที่มีทอร์ค (แรงบิด) ค่อนข้างสูงต้องท�าความคุ้นเคยกัน ก่อนเล็กน้อยก่อนหวดเต็มคันเร่ง...ท้องฟ้าสีเทา 34 For Ride Magazine November 2012

แบบนี้แปลว่าฝนรอต้อนรับเราอยู่แน่ๆ แวะจัดการ มื้อเช้าแถวเขาวังก่อนเติมน�้ามันให้เต็มถังพร้อม ออกเดินทาง ถังน�้ามันของ Versys ความจุถัง น�้ามัน 19 ลิตรเติมน�้ามัน (แก๊สโซฮอล 95) เต็ม ถัง = 700 กว่าบาท ถ้าใช้ความเร็วเดินทางคงที่ ที่ 120 กม./ชม. จะท�าให้น�้ามัน 1 ถังวิ่งได้ราวๆ 300-350 กม. (บรรทุกของน�้าหนักกว่า 40 กก.) มาตรฐานการขับขี่ของ FRM คือ “น�้ามัน ไม่หมดไม่หยุดพัก” ถ้าเป็นรถ 115-135 ซีซี. เราก็จะได้หยุดพักกันทุก 100 กม. แต่ถ้าเป็นรถ 650 ซีซี. กว่าจะหยุดพักกันอีกทีก็ 300 กว่า กม. แน่ะ ส�าหรับท่านที่พึ่งออกทริปเป็นครั้งแรก แนะน�าให้พักทุกๆ 100-200 กม. ดีกว่าครับจะไม่ ได้ไม่เหนื่อยและรู้สึกสนุกกับการออกทริป หลังจากท้องฟ้าครึ้มมานาน...มันก็มา!!

สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาระหว่างข้ามจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ หลุดจาก จ.ประจวบฯ เข้า สู่ จ.ชุมพร...ฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ใครที่มี ถุงมือผ้าก็สบายหน่อยเพราะสามารถปาดน�้าฝน ออกจากไวเซอร์ (ชีลด์) ได้ และใครที่ไม่ลืมเตรียม เสื้อกันฝนมาก็สามารถไปต่อได้แบบไร้กังวล ส่วน ใครที่มาตัวเปล่าก็คงต้องแวะพักจิบกาแฟร้อนริม ทางรอฝนหยุดกันไปก่อน แต่ก�าหนดการของ เราค่อนข้างกระชับท�าให้ต้องท�าเวลาเป็นพิเศษ ความเร็วยืนพื้นในการวิ่งฝ่าฝนของเราอยู่ที่ 110-120 กม./ชม. เพราะ Versys มีระบบเบรก ABS ท�าให้มั่นใจได้ในกับการเบรกแบบกระทันหัน (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์การขับขี่ของเราด้วย!)


ถนนยังคงมีต่อไปและต่อไปและต่อไป...... ถึงจุดนี้รับรองว่าใครที่ไม่เคยวิ่งทางไกลต้องเริ่มรู้สึกท้อกันบ้าง เพราะระยะทาง จากกรุงเทพฯ ไปถึงที่หมายของเรา อ.หาดใหญ่ เป็นระยะทางราวๆ 1,000 กม. และ ตอนนี้เราได้ผ่าน 600 กม. มาแล้ว เหลืออีกแค่ 400 กม. เท่านั้น ฝนยังคงตกและ อากาศเริ่มเย็นลง เทคนิคแก้ง่วงส�าหรับท่านที่รู้สึกหมดก�าลังใจเมื่อถึงจุดนี้คือ “หาอะไร เปรี้ยวๆ กระแทกปาก” ไม่ว่าจะลูกอม, มะม่วง, มะขาม หรืออะไรก็ได้ที่ท�าให้คุณรู้สึก ตาตื่นแทนที่จะง่วงหลับ...ใครที่ยอมแพ้ไม่ไหวจริงๆ จะแวะพักแถว จ.สุราษฏร์ธานี หรือ จ.นครศรีธรรมราช ก็ได้ แต่เรายังคงเดินหน้าต่อเพื่อพิชิตเป้าหมายที่ตั้งใจไว้...เรามาแล้ว หาดใหญ่! ป้ายต้อนรับเข้าสู่จังหวัดแล้วจังหวัดเล่าที่เราวิ่งผ่านมา เจอเพื่อนร่วมทาง ชาวบิ๊กไบค์ เจอพี่ต�ารวจออกมาทักทาย (ทักทายจริงๆ ครับ) เจอน้องหมานอนเป็น งานศิลปะบนถนน เจอผู้คนส่งยิ้มให้ เจอแดดเจอฝน...นี่สินะประสบการณ์การขับขี่ที่ ต้องค้นหาด้วยตัวเอง จาก จ.นครศรีธรรมราช เข้าสู่ จ.พัทลุง และเมื่อเห็นป้าย “ยินดี ต้อนรับเข้าสู่จังหวัดสงขลา” ก็เป็นอันรู้ว่าเป้าหมายของเราอยู่ใกล้แค่อึดใจเดียว... ฟ้ามืดแถมไม่ค่อยมีไฟบนถนน การขับขี่ในช่วงสุดท้ายนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดย เฉพาะคนที่ใช้หมวกวิบากหรือหมวกโมตาร์ทที่มีรู้รับลมด้านหน้า *ระวังแมลงเข้าตา* เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เหล่าแมลงมักจะออกมาบินเล่นไฟบนถนน เมื่อเจอกับวัตถุ เคลื่อนที่ความเร็วกว่า 120 กม./ชม. เจ้าตัวเล็กพวกนี้แหละที่อาจบินเข้าตาจนอาจเกิด อุบัติเหตุได้...ใครมีผ้าปิดปากให้คาดปาก-จมูกไว้หรือปิดรูที่จะท�าให้แมลงลอดเข้าหมวก มาได้เลย...ฝ่าฝูงแมลงอีกไม่นานก็มาถึงตัวเมืองหาดใหญ่ หลังจากวนหาที่พักบวกงง หลงทางกับถนนวันเวย์ (เดินรถทางเดียว) ในที่สุดก็ได้ที่พักที่โรงแรมหาดใหญ่เซ็นทรัล (Hat Yai Central) ค่าที่พักคืนละ 650 บาทนับว่าไม่แพงแต่ต้องลุ้นว่าในห้องจะมีอะไร แถมมาบ้าง แล้วก็เป็นไปคาดที่คิดมีฝรั่งอยู่ในห้อง (Peter = แมลงสาบ) ขนสัมภาระทุก อย่างขึ้นห้องเรียบร้อยก็เป็นอันจบภารกิจในวันนี้...นอนให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้งานใหญ่

ตื่นเต้นที่สุด-ลุ้นที่สุดกับการผ่านด่าน โบกมืออ�าลาเมืองหาดใหญ่ตั้งแต่เช้าเพื่อออกเดินทางไป ยัง “ด่านสะเดา” ด่านมิตรภาพชายแดนไทย-มาเลเซียตั้งอยู่ใน อ.สะเดา จ.สงขลา ระยะทางจากตัวเมืองหาดใหญ่ไปถึงด่านประมาณ 60 กม. ระหว่างทางจะเห็นวิถีชีวิตของชาวสงขลาที่ดูแปลกตาไป จากในตัวเมือง การขับขี่ในช่วงนี้ต้องใช้ความระมัดระวังในส่วนของ รถมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านและรถโดยสารจ�าพวกรถสองแถวหรือรถ มินิบัส เพราะเค้าจะขับขี่กันแบบชิลล์สุดๆ อยากเลี้ยวก็เลี้ยว อยาก จอดก็จอด...เมื่อมาถึงหน้าด่านส�าหรับคนที่คิดถึงอาหารไทยก็ให้ จัดการมื้อเช้าจากหน้าด่านไปเลย ส่วนใครที่อยากลองมื้อเช้าแบบ มาเลเซียก็ให้อดใจรออีกนิด...ส่วนที่บอกว่าตื่นเต้นที่สุดก็เพราะเรา ต้องเตรียม “เอกสาร”

For Ride Magazine November 2012 35


the journey

เอกสารที่ใช้ผ่านด่าน 1. ส�าเนาบัตรประชาชน 2. ส�าเนาทะเบียนบ้าน 3. ใบขับขี่ Smart Card (ใบขับขี่รุ่นใหม่ที่มีชิพ สามารถใช้ได้ในประเทศอาเซียน) 4. ทะเบียนรถ 5. ส�าเนาทะเบียนรถ 2 ชุด 6. *ใบแปลทะเบียนรถ (ติดต่อด้วยตัวเองที่ กรมขนส่งฯ ของไทยเพื่อท�าการแปลเล่มทะเบียน เป็นภาษาอังกฤษ ค่าใช้จ่าย 25 บาท) 7. พาสปอร์ต *ส�ำหรับคนที่ยืมรถคนอื่นมำต้องใช้ 1. หนังสือยินยอมให้ใช้รถเป็นภาษาไทย-ภาษา อังกฤษ (Letter of Consent) 2. หนังสือรับรองตัวตนผู้ให้ยืมรถถ้าเป็น นิติบุคคลต้องใช้หนังสือรับรองความเป็น นิติบุคคล 3. ส�าเนาทะเบียนบ้านพร้อมลายเซ็นขอเจ้าของ รถ 4. ส�าเนาบัตรประชาชนพร้อมลายเซ็นของ เจ้าของรถ 5. ส�าเนาทะเบียนรถ 6. ใบแปลเล่มทะเบียนรถเป็นภาษาอังกฤษ 7. ส�าเนาบัตรประชาชนของตัวเอง 8. ส�าเนาท�าเบียนบ้านตัวเอง 9. พาสปอร์ต 10. ใบขับขี่ Smart Card

ขั้นตอนการผ่านด่านประเทศไทย 1. ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านด่านไทยโดยเข้าทางช่องซ้ายสุด ส�าหรับมอเตอร์ไซค์ 2. จอดรถเมื่อผ่านด่านเรียบร้อยแล้ว (น�าสิ่งของมี ค่าตัวตัวมาให้หมด) 3. ขอใบผ่านด่านแล้วกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย 4. น�าพาสปอร์ตพร้อมใบผ่านด่านยื่นที่ตู้ตรวจ จากนั้น ยิ้มกว้างๆ 5. เจ้าหน้าที่อาจถามสารทุกข์สุกดิบก็ตอบไปตามตรง 6. เรียบร้อยแล้วกลับมาที่รถพร้อมมุ่งหน้าเข้าสู่ด่าน มาเลเซีย

ขั้นตอนการผ่านด่านมาเลเซีย 1. เมื่อผ่าน Duty Free (ร้านค้าปลอดภาษี) มาจะเจอด่านมาเลเซียให้เล็งป้ายบอกช่องทางเดินรถ มอเตอร์ไซค์ให้ดี 2. จอดรถที่หน้าตู้ตรวจ ดับเครื่อง แล้วน�าพาสปอร์ตออกมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจ 3. อาจต้องสแกนนิ้วมือส�าหรับคนที่หน้าตาไม่น่าไว้วางใจ (ล้อเล่นครับ...เป็นการเก็บข้อมูลส�าหรับคน ที่ไม่เคยเข้ามาเลเซีย) 4. เสร็จแล้ว!!! 5. แต่อย่าเพิ่งดีใจกระแทกคันเร่งหนีเข้าไปมาเลเซียไปนะครับ เอกสารยังไม่ครบ 6. ออกจากด่านมาเลเซียมาให้แวะถ่ายรูปกับป้าย Welcome to Malaysia ก่อน 7. จากนั้นให้ U-Turn ตรงเกาะกลางถนนเพื่อซื้อประกันก่อนครับ 8. ฝั่งตรงข้ามป้าย Welcome จะเห็นร้านท�าประกันและท�าใบอนุญาตขอใช้รถในมาเลเซียครับ 9. เดินเข้าร้านท�าประกันแล้วยื่นเอกสารเกี่ยวกับตัวรถตามนี้ครับ ใบแปลทะเบียน ใบขับขี่ 10. จากนั้นบอกเค้าว่าเรามาท�าประกัน 1 เดือนและตัดสติ๊กเกอร์ป้ายทะเบียน (พนักงานพูดไทยได้ครับ) 11. ไม่เกิน 10 นาทีทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ถึงเวลาจ่ายค่าเสียหายเป็นค่าประกัน 600 กว่าบาทและ ค่าตัดสติ๊กเกอร์อีก 100 กว่าบาท สรุปรวมแล้วประมาณ 800 กว่าบาทครับ (ใครท�าผ่านนายหน้า รับรองว่ามี 2000 กว่าบาท) 12. จากนั้นเดินย้อนขึ้นไปอีก 1 บล็อคจะเจอตึก JPJ ลักษณะคล้ายป้อมต�ารวจบ้านเรา เปิดประตูเข้าไป เลยครับ 13. ตรงนี้ต้องใช้ภาษาอังกฤษแล้วหละครับ ใครที่พูดไม่ได้ให้หาเพื่อนที่พูดได้ร่วมทริปไปด้วยนะครับ 14. จุดนี้ให้ยื่นเอกสารที่เราได้มาจากร้านขายประกันพร้อมใบแปลทะเบียนให้เจ้าหน้านี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ จะถามว่า เราจะอยู่ในมาเลเซียกี่วัน เพราะเค้าต้องท�าเอกสารเป็นป้ายวงกลมให้เราพกติดตัวไว้ (จุดนี้ไม่มี ค่าใช้จ่ายครับ) 15. เรียบร้อย! โล่งอก...พร้อมลุยต่อ  เป็นไงครับ...ดูเหมือนยุ่งยากส�าหรับการน�ารถมอเตอร์ไซค์ผ่านด่าน แต่ที่จริงกลับง่ายและใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีตั้งแต่เข้าด่านไทยมาจนถึงด่านมาเลเซีย สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่เข้าด่านมาจนเสร็จเรียบร้อยอยู่ที่ไม่เกิน 900 บาท ครับ (รถ 650 ซีซี. เลยแพงหน่อย) เมื่อเอกสารพร้อม คนพร้อม รถพร้อม... แต่น่าเสียดายที่หมดโควต้าหน้าคอลัมน์...โปรดติดตามใน FRM ฉบับต่อไปครับกับ เส้นทางสู่เมืองหลวงมาเลเซีย “กัวลาลัมเปอร์”

36 For Ride Magazine November 2012


TALK ABOUT

ชาติชาย แซ่ลม ิ้

"โห้...เรซซิง่ "

สอนด้วย “หัวใจ” เพือ่ คนมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง!! หากจะกล่าวถึง “ป๋าดัน” แห่งวงการขับขี่ รถมอเตอร์ไซค์ในวันนี้ เชื่อเหลือเกินว่าชื่อของ “ชาติชาย แซ่ลิ้ม” หรือที่ทุกคนในวงการเรียกกัน ติดปากว่า “อาจารย์โห้” คือ ผู้ที่มีชื่ออยู่ในอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอย่างแน่นอน ด้วยเป็นเพราะกิตติศัพท์ ในเรื่องของการเป็นจ้าวแห่งความเร็วในสนามแข่งขัน ในอดีต จากนั้นก็ขยับมาเป็นผู้จัดการทีมแข่ง รวมไป ถึงการเป็นผู้ฝึกสอนเทคนิคการขับขี่รถแข่ง ฮอนด้า เรชซิ่งสคูล ก่อนที่จะผันตัวเองออกมาเป็นผู้ฝึกสอน การขับขี่อิสระให้กับผู้ที่สนใจการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ใน นาม “โห้...เรชซิ่ง” มาจนถึงปัจจุบัน... For Ride Magazine November 2012 37


“โห้...เรชซิ่ง”

มีจุดเริ่ม ต้นมาจากการที่เวลาเดินทางไปไหนมาไหนกัน เพื่อน มีการล้มบ่อยอะไรบ่อย “อาจารย์โห้” ก็เลยไปสอน เทคนิคการขับขี่ให้บ้าง พอเพื่อนๆ ได้รับการเทรนไป แล้วรู้สึกว่าขับขี่ได้ดีขึ้น ก็เลยอยากให้สอนกันต่อๆ ไป อีก จากคนที่ไม่เคยเรียนการขับขี่ เนื่องจากคิดกันว่า จะเรียนขี่มอเตอร์ไซค์เพื่ออะไร เรียนไปท�าไม เพราะส่วน ใหญ่คิดว่าขี่กันเป็นอยู่แล้ว แต่พอได้รับการเทรนจาก “อาจารย์โห้” เช่น การเลี้ยวโดยไม่ใช้แฮนด์เลี้ยว แต่ใช้ หัวไหล่เลี้ยว มันรู้สึกไปได้เร็วขึ้นแต่มันเซฟตัวเองมาก ขึ้น ก็เลยเริ่มที่จะมาเรียนกัน เริ่มจากกลุ่มเพื่อนๆ บ้าง จากพรรคพวกบ้าง ทีนี้พอกลุ่มอื่นๆ เห็นว่ากลุ่มนี้ขี่ กันดี ก็เลยอยากจะปรับอยากจะเพิ่มทักษะบ้าง ก็เลย เริ่มมาเรียนกันมากยิ่งขึ้น... ส�าหรับการสอนนั้น “อาจารย์โห้” บอกว่า “ส่วนหนึ่งก็น�ามาจากประสบการณ์ขับขี่ที่ผ่านๆ มา บวกกับมีเพื่อนที่เป็นผู้ฝึกสอนอยู่ที่ญี่ปุ่นที่มา เที่ยวเมืองไทยทุกปี เค้าก็บอกว่ารถรุ่นนี้โมเดลนี้จะ เปลี่ยนทุก 3-5 ปี ซึ่งจะมีวิธีการสอนขับขี่วิธีใหม่ เค้าก็จะส่งรายละเอียดในการสอนมาให้ เช่น ปีนี้จะ ใช้ล้อหลังเลี้ยว ปีนั้นจะใช้ล้อหน้าเลี้ยว เราก็เอา มาปรับเพื่อใช้ในการสอน จริงๆ ก็เอาจากเค้ามา แค่ 50-60 % เท่านั้น เพราะคนที่ให้เราสอนนั้นส่วน ใหญ่เป็นมือใหม่ ซึ่งเราสามารถที่จะปรับทางให้กับ คนที่มาเรียนได้ ที่นี้พอเราสอนไม่เหมือนใคร เพราะ มันมีความหลากหลายกว่า อะไรที่มันเป็น 2 ล้อ เราสอนหมด ทีนี้พอคนอยากขี่มอเตอร์ไซค์ในทุกๆ รูปแบบ ก็เลยอยากที่จะมาเรียนกับเรา เนื่องจากเรา สอนแล้วรู้สึกเซฟ เร็วแต่ปลอดภัย คนก็มาเรียน เยอะขึ้นเรื่อยๆ แบบปากต่อปากกันไป”...

นอกจากนี้ “อาจารย์โห้” ยังมีหลักการ ที่ส�าคัญในการสอนให้กับผู้มาเรียนคือ “ดูคน ที่มาเรียนกับเรา ดูว่ามาเรียนเพื่ออะไร ถ้า มาเรียนเพื่อน�าไปใช้ในชีวิตประจ�าวัน เราก็ สอนเพื่อให้เค้าน�าไปใช้ในชีวิตประจ�าวัน แต่ถ้า มาบอกว่าผมอยากเป็นนักแข่ง ก็จะสอนเรื่อง เทคนิคที่น�าไปใช้ในการขับขี่ให้เร็วให้ ซึ่งหลัก ส�าคัญก็คืออยู่ที่คนมาเรียนมากกว่า ซึ่งเรา จะคุยกันก่อนว่าจะเรียนไปเพื่ออะไร ซึ่งตอนนี้ เหมือนกับว่าการขี่รถมอเตอร์ไซค์เท่ๆ ก�าลัง กลายเป็นเทรนด์ใหม่ๆ ไปแล้ว และยังมีอีกกลุ่ม คือ กลุ่มที่ยังไม่รู้จักมอเตอร์ไซค์แต่เค้าอยาก จะเดินทางให้คล่องตัว เพราะว่าบ้านเรารถติด มาก คนก็เลยรู้สึกว่าขี่มอเตอร์ไซค์มันเร็วกว่า และยังรู้สึกว่าดูเท่ โดยเฉพาะถ้าขี่บิ๊กไบค์มันดูมี คลาสกว่าก็เลยมาเรียน” 38 For Ride Magazine November 2012


TALK ABOUT

โดย “อาจารย์โห้” บอกว่า “จริงๆ แล้วไปเรียนที่ไหนก็ได้ ถ้าคนสอนดีสอนเป็น และได้ไปเรียน ถือว่าดีหมด เพราะมันจะท�าให้ เราขี่ดีขี่เซฟขึ้น เพราะว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ ต้องไม่เจ็บตัว ไม่ใช่ขี่ไปแขนขาหักแล้วถือเป็น เรื่องปกติ อย่างนั้นมันถือว่าผิดธรรมชาติ เราต้องไม่หักไม่เจ็บถึงจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะตอนนี้มอเตอร์ไซค์ถือว่าเป็นปัจจัยใน การอ�านวยความสะดวกสบาย คนส่วนใหญ่ ซื้อมาเพื่อความคล่องตัวและเพื่อการขี่ท่อง เที่ยวกันแล้วนั่นเอง ส�าหรับมือใหม่ที่เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์และ มาเรียนกับ “อาจารย์โห้” นั้น ส่วนใหญ่แล้ว จะมีความกลัวเป็นหลัก ซึ่ง “อาจารย์โห้” ก็ บอกว่า “ถ้ามีความกลัว แล้วมาเรียนแล้ว มันเป็นเรื่องของผิดกับถูก คนส่วนใหญ่

การขี่มอเตอร์ไซค์ต้อง ไม่เจ็บตัว...เราต้องไม่หักไม่ เจ็บถึงจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ

จะเครียด พอเครียดจากที่จะขี่ได้ก็กลับกลายเป็น ว่าขี่ไม่ได้ไปเลย เราก็เลยจัดการให้เค้าลองขี่ดูก่อน แล้วค่อยๆ สอนให้เค้าไปทีละสเต็ป ไม่รีบยัดเยียด ความรู้ให้เค้า เราจะใส่ให้เค้าทีนิดๆ สอนให้เค้ารู้จัก มอเตอร์ไซค์ก่อน ไม่ว่าจะเป็นคันเร่ง เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบเบรก อะไรพวกนี้ จากนั้นก็ให้ เค้ารู้จักการทรงตัว การบาลานซ์ แล้วเราค่อย ไปปรับการขับขี่ให้กับเค้า เพราะถ้าเค้ารู้จักวิธีการ ขับขี่ที่ถูกต้อง มีเทคนิคการขับขี่ และมีทักษะที่ดีก็ จะท�าให้ขับขี่ได้ยิ่งขึ้นตามล�าดับ” ตรงนี้เองก็คือจุด เด่นที่แตกต่างของ “อาจารย์โห้” ในการสอนให้กับ คนที่มาเรียน... โดย “อาจารย์โห้” นั้นมีการสอนขับขี่ทุกรูป แบบ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์เรชซิ่ง เอ็นดูโร่ โมโตครอส ที่ เป็น 2 ล้อทั้งหมด ซึ่งแม้ว่าการขับขี่ แต่ละสไตล์นั้น จะไม่เหมือน กัน แต่มี เบสิคที่ใกล้ เคียงกันคือ มี 2 ล้อ บาลานซ์ ได้ ทรงตัวได้ ปรับ วิธีการขี่ได้ จากนั้นจะขี่รุ่น ไหนแบบไหนก็ค่อยมาปรับวิธีการขี่อีกทีนึง ซึ่ง “อาจารย์โห้” บอกว่า ถ้าผู้ที่มาเรียนมีร่างกาย

ที่แข็งแรง เรียนขับขี่แค่ 2 วันก็เริ่มเห็นผลแล้ว สามารถขี่ใช้ในชีวิตประจ�าวันได้แล้ว ถ้าผู้มาเรียน มีความกลัวเยอะอาจารย์ก็จะปรับวิธีการขี่ให้ พอ เริ่มขี่เป็นก็จะพาผู้เรียนไปลองขี่บนถนนด้วย เพื่อ ให้เรียนรู้การขี่บนถนนจริง จากนั้นก็จะเริ่มขี่ได้ดี ยิ่งขึ้น แถมคนที่ใช้รถยนต์ประจ�าอยู่ก็จะท�าให้การ ขับรถยนต์ได้ดีขึ้นด้วย ลูกศิษย์ที่มาเรียนนั้น “อาจารย์โห้” บอก ว่า มีทุกเพศทุกวัยหลากหลายอาชีพ โดยตั้งแต่ เริ่มสอนการขี่มอเตอร์ไซค์มาจนถึงปัจจุบัน “อาจารย์โห้” มีลูกศิษย์มากกว่า 120,000 คนตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี ซึ่งปัจจุบันตัว “อาจารย์โห้” เองก็มีการเรียนรู้และพัฒนาตัว เองอยู่ตลอดเวลา โดยอาศัยหลักสูตรจากญี่ปุ่น ที่เพื่อนส่งมาให้ทุก 6 เดือน ทุกปี รวมถึงศึกษา รถมอเตอร์ไซค์ของทุกค่ายไม่ว่าจะเป็นจากญี่ปุ่น ยุโรป หรืออเมริกา เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติของ รถแต่ละรุ่น เพื่อที่จะได้น�ามาสอนให้กับลูกศิษย์ได้ อย่างถูกต้อง สุดท้าย “อาจารย์โห้” ก็ฝากถึงผู้ที่จะ ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทุกคนว่า “อยากให้ ไปเรียนขับขี่รถมอเตอร์ไซค์อย่างถูก ต้อง จะที่ไหนก็ได้ เพราะการเรียน แบบครูพักลักจ�ามันไม่ได้อะไร อย่า เอาชีวิตและร่างกายมาแลกโดย เปล่าประโยชน์ แม้ตอนนี้ร่างกาย จะยังแข็งแรงอาจจะไม่เป็นอะไร มากหากเกิดอะไรขึ้น แต่มันจะ ส่งผลในระยะยาวเมื่ออายุมาก ขึ้น ร่างกายเริ่มเสื่อมลง มัน จะย้อนกลับมาเป็น 2 เท่า แต่ ถ้าเราขับขี่โดยไม่มีการบาด เจ็บไม่หัก เราก็จะสามารถใช้ ชีวิตได้อย่างเป็นปกติและมี ความสุขกับการขับขี่รถ มอเตอร์ไซค์ไป นานๆ”...

For Ride Magazine November 2012 39


RIDING GEAR

“We know it’s tough

messy shiny-pricy-

B“เราuรูว้ tา่ มันwเปน็ eงานpหนrกั omise ทีจ่ ะรีววิ อุปกรณห์ รูหราไฮโซกองนี.้ ..

�” ั ญาวา่ เราจะทา แตเ่ ราสญ

40 For Ride Magazine November 2012


to review all these

beauty gears…

we’ll do it!!” รีวิว Gears ส�ำหรับเหล่ำนักบิด ที่นี่ที่เดียว FRM

Gears review here

and now with

FRM

For Ride Magazine November 2012 41


เครื่องทดสอบและล้างหัวฉีดยามาฮ่า

ขจัดปัญหาเรื่องหัวฉีดอุดตัน!!

จจุบันระบบจ่ายน�้ามันเชื้อเพลิงแบบ หัวฉีดได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ส�าคัญของ รถจักรยานยนต์ในบ้านเราเป็นอย่างมาก ซึ่งบรรดาผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ทุกค่ายต่างก็ เริ่มเปลี่ยนจากคาร์บูเรเตอร์มาใช้หัวฉีดในการจ่าย น�้ามันเชื้อเพลิงกันมากยิ่งขึ้น เพราะระบบจ่ายน�้ามัน เชื้อเพลิงแบบหัวฉีดนั้น มีจุดเด่นอยู่ที่เรื่องของการ ประหยัดน�้ามันเชื้อเพลิงนั่นเอง...

ปั

แต่ปัญหาส�าคัญที่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ระบบหัวฉีดเป็น กังวลก็คือ เรื่องของการดูแลบ�ารุงรักษา โดยเฉพาะในกรณี ที่ “หัวฉีดเกิดการอุดตัน” เพราะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า คุณภาพของน�้ามันเชื้อเพลิงในบ้านเรายังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร อีกทั้งผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่อยู่ต่างจังหวัดที่มีการเลือกใช้ น�้ามันเชื้อเพลิงแบบขวดแบ่งขาย หรือไม่ก็เป็นแบบปั๊มหลอด ด้วยเหตุนี้จึงท�าให้เกิด คราบยางเหนียว มา สะสมและเกิดการอุดตัน อยู่ที่หัวฉีด ส่งผลให้ เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ ติดหรือเกิดอาการเครื่องยนต์ท�างานสะดุด เนื่องจากระบบ หัวฉีดไม่สามารถจ่ายน�้ามันได้อย่างเต็มสมรรถนะ ซึ่งในกรณี หัวฉีดเกิดการอุดตันเช่นนี้ ทางช่างผู้ให้บริการจ�าเป็นต้อง เปลี่ยนหัวฉีดใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถกลับมาท�างานได้

อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง... เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ ใช้รถจักรยานยนต์ระบบหัวฉีด “YMJET_FI” ยามาฮ่าจึงได้น�า “เครื่องทดสอบและล้างหัวฉีด” เข้า มาให้บริการกับลูกค้าที่ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับ ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าไปได้หลายเท่าตัว เพราะถ้าเกิดกรณีหัวฉีด อุดตันเราไม่จ�าเป็นต้อง เปลี่ยนหัวฉีดใหม่ เพียง แค่น�ารถจักรยานยนต์เข้าศูนย์บริการ ช่างประจ�า ศูนย์ก็จะจัดการถอดหัวฉีดออกมาท�าการล้างและ น�ากลับเข้าไปประกอบใหม่ ท�าให้เครื่องยนต์สามารถ กลับมาท�างานได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

เพราะถ้าเกิดกรณีหัวฉีดอุดตัน... เราไม่จ�าเป็นต้องเปลี่ยนหัวฉีดใหม่

42 For Ride Magazine November 2012


TECHKNOW “เครื่องทดสอบและล้างหัว ฉีด” ของยามาฮ่านี้ ถูกออกแบบ มาเพื่อใช้เปรียบเทียบประสิทธิภาพ ของหัวฉีดน�้ามันเชื้อเพลิงที่ใช้ใน รถจักรยานยนต์กับประสิทธิภาพ ของหัวฉีดใหม่ โดย “เครื่อง ทดสอบและล้างหัวฉีด” จะท�าการ วัดปริมาณการฉีดและองศามุม การฉีด รวมถึงการล้างหัวฉีด หลังการทดสอบ ซึ่งการท�างาน ของ “เครื่องทดสอบและล้าง หัวฉีด” นี้จะแบ่งออกเป็น 4 ขั้น ตอนการท�างานด้วยกันคือ…

1

2

ขั้นตอนที่ 1 Air Bleeding (การไล่อากาศ) เพื่อเป็นการไล่อากาศที่อยู่ในระบบและหัวฉีดออกก่อนท�าการทดสอบ ขั้นตอนที่ 2 Spray (การวัดองศามุมการฉีด) เพื่อทดสอบเปรียบเทียบองศามุมการฉีดของหัวฉีดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ก�าหนดหรือไม่ ขั้นตอนที่ 3 Jet Amount (วัดปริมาณการฉีด) เพื่อเปรียบเทียบปริมาณการฉีดของหัวฉีดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ก�าหนดหรือไม่ ขั้นตอนที่ 4 Cleaning (การล้างหัวฉีด) เป็นการน�าหัวฉีดไปล้างท�าความสะอาด เพื่อให้หัวฉีดสามารถกลับมาท�างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3

ซึ่งหลังจากที่ช่างประจ�าศูนย์บริการท�าการล้างหัวฉีดเสร็จเรียบร้อย ก็จะน�าหัวฉีดมาท�าการทดสอบเปรียบเทียบกับหัวฉีดใหม่อีกครั้งเพื่อดูว่า องศามุมการฉีดและปริมาณการฉีดของหัวฉีดนั้น อยู่ในเกณฑ์ตามมาตรฐาน ที่ก�าหนดหรือไม่ จากนั้นจึงจะน�าหัวฉีดไปประกอบเข้ากับรถของลูกค้าเหมือน เดิม โดยในการเซอร์วิสครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 30 นาทีเท่านั้นเอง นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้องเปลี่ยนหัวฉีดแล้ว ยังมีความรวดเร็วใน การเซอร์วิสอีกด้วย และนี้ก็คือ “เครื่องทดสอบและล้างหัวฉีด” ที่ยามาฮ่าเตรียมมาเพื่อ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่ใช้ระบบหัวฉีด YMJET_FI โดยเฉพาะนั่นเอง...โดยช่างประจ�าศูนย์บริการยังให้ค�าแนะน�าเพิ่ม เติมอีกว่า ควรที่จะน�ารถจักรยานยนต์ที่จ่ายน�้ามันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด เข้ารับการตรวจเช็คทุกๆ 10,000 กม. เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถท�างานได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเองครับ...

4

ขอขอบคุณ ฝ่ายบริการ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จ�ากัด ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลและสถานที่ในการถ่ายภาพประกอบคอลัมน์

For Ride Magazine November 2012 43


Cool Gadgets > Popinator หุ่นรบสังหารกระสุนป๊อปคอร์น ใครที่ชอบนั่งดูหนังแล้วทานป๊อปคอร์นไปด้วย แต่หยิบไปหยิบมาเริ่มขี้เกียจ เรามีทางออกให้ เจ้า Popinator ถูกสร้างขึ้นมาโดยบริษัท Popcorn Idianna เพื่อ เอาใจเด็กเนิร์ดที่คลั่งหนังเรื่อง “คนเหล็ก” มันสามารถยิงป๊อปคอร์นเข้าปากได้ ทันทีที่เราพูดค�าว่า “ป๊อป” เซ็นเซอร์ตรวจจับปาก 2 ชุด ท�าหน้าที่วัดและค�านวนมุม ยิง จากนั้นเครื่องดีดจะยิงป๊อปคอร์นอัดกระแทกปากอย่างแม่นย�า เจ้า Popinator สามารถยิงได้ไกลถึง 15 ฟุต และจะออกวางจ�าหน่ายเร็วๆ นี้

> ย้อนวัยหวานกับ The Impossible The Impossible ไม่ใช่วงโอลด์สคูลนะครับ แต่เป็น The Impossible Instant Lab อุปกรณ์เสริมส�าหรับ iPhone ไอเดียก็คือการแปลงสมาร์ท โฟนของท่านให้กลายเป็นกล้องถ่ายรูปโพลารอยด์ที่เหมือนจริง เมื่อถ่าย ภาพด้วย iPhone ภาพจากหน้าจอจะถูกอัดด้วยกระบวนการทางเคมีแล้ว ก็ออกมาเป็นรูป 1 ใบ มันเจ๋งก็ตรงที่...ต้องใช้ฟิล์มจริงๆ ของ Polaroid 600 ต่อไปนี้คงไม่ต้องใช้แอพเสริมแล้วสินะ ราคาค่าตัว 149$

> ชอบจิ๊กนักใช่มั้ย? ต้องเจอนี่ The Lockey ใครเคยเก็บเครื่องดื่มสุดโปรดอย่างไวน์หรือแชมเปญไว้ในตู้เย็นแล้วโดน เพื่อนแอบจิ๊กไปเดทกับสาวบ้าง ? งานนี้ได้เวลาเอาคืนพวกขาจิ๊กด้วย The Lockey ฝาปิดขวดไวน์หรือเครื่องดื่มราคาแพงที่คุณอยากเก็บไว้ในโอกาส พิเศษ มันก็ดูเหมือนฝาปิดขวดทั่วไปนั่นแหละ แต่มันมีรหัสล็อคอยู่ด้านบน....ถ้า ใส่รหัสผิดก็คงไม่มีวันได้ชิม ราคาล็อคนิรภัยชิ้นนี้อยู่ที่ 22$ แต่จะคุ้มมั้ยถ้าเรา ลืมรหัส ?

> หมดข้ออ้างว่า “หัวโต” ซะที... จัดนี่ไปเลย Carrera มันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกที่เกิดมาหัวโตกว่าชาวบ้าน แต่มันคง ล�าบากในการหาหมวกกันน็อคที่เข้ากับหัวผิดไซส์ได้พอดี ต่อไปนี้ไม่ต้องกังวล อีกแล้วเมื่อ Carrera เค้าผลิตหมวกส�าหรับนักปั่นที่สามารถขยายตัวให้เข้า กับไซส์หัวได้ทุกขนาด แถมยังคงความสามารถในการปกป้อง ที่ส�าคัญหน้าตา หมวกใบนี้สามารถบีบให้เล็กลงจนสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก...ไอเดีย ดีนะเออ

> โฮ่ง โฮ่ง…(เย้! มองเห็นข้างนอกแล้ว รักเจ้านายที่สุด) คนรักน้องหมาที่ไม่อยากให้น้องๆ ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านเตรียมไปซื้อมาเลยกับ Pet Peek Dog Window หน้าต่างติดรั้วบ้านส�าหรับน้องหมาได้เห็นคนที่วิ่งไปมานอกบ้าน รับรองได้เลยว่า น้องหมาของคุณจะมานั่งจ้องดูรถรา, หมาแมว หรือแม้แต่จ้องคุณเองอย่างมีความสุขแน่นอน ราคา หน้าต่าง 1 บาท เท่ากับ 35$ 44 For Ride Magazine November 2012


> ชอบผจญภัยนักใช่มั้ย... ปีนเข้าไปสิคะ!! หน้าผานรก M4 คุณภรรยาทั้งหลายคงเคยเจอกับข้ออ้างออกไปเที่ยวว่า “โอ๊ยก็ผมอยากไป ผจญภัยข้างนอกกับเพื่อนบ้าง!” ตัดปัญหาจุกจิกกวนใจไปเลยเมื่อใช้ Treadwall ก�าแพง หรือหน้าผาที่ปีนเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมดจากบริษัท Brewer’s Ledge รุ่นที่เห็นอยู่นี้คือ M4 ความสูง 4 ฟุต ทั้งมือใหม่และมือเก๋าก็สามารถใช้งานได้ในบ้านหรือสวนหลังบ้าน เจ๋งกว่า นั้นก็ตรงที่มันสามารถปรับมุมองศาความชันได้ด้วย...แค่นี้ก็ไม่มีข้ออ้างออกไปข้างนอกแล้ว สินะคะ...ฮึฮึฮึ

> เฮ้ยเพื่อน! ใช้ iPhone เปิดประตูบ้านให้หน่อย

> อกหักอยากตายใครช่วยที!!

โรคขี้หลงขี้ลืมกุญแจบ้านไว้ที่ออฟฟิศหรือในบ้านเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเชื่อว่าหลาย คนคงเคยเจอกับตัวเอง แต่ด้วย Lockitron ระบบล็อคบ้านอัจฉริยะที่ใช้แค่สมาร์ทโฟนก็สามารถ เปิด-ปิด หรือปลดล็อคประตูบ้านได้อย่างง่ายดาย ตัวล็อคสามารถสวมเข้ากับล็อคประตูปกติได้ ทันทีโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนล็อคหลักแต่อย่างใด ระบบการท�างานรองรับทั้ง iPhone ที่เมื่อผู้ใช้เดินเข้า ใกล้ประตูล็อคจะเปิดเองโดยอัตโนมัติ หรือจะเป็นแอนดรอยด์ที่เมื่อยืนโบกมือหน้าประตูล็อคก็จะเปิด หรือใครที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถส่ง SMS ให้ประตูเปิดได้ด้วย Lokitron ใช้ถ่าน AA แค่ 2 ก้อน เท่านั้น ราคาค่าตัวอยู่ที่ 199$

ใครที่ก�าลังประสบปัญหาอกหัก ไม่มีใครสนใจ และก�าลังคิดฆ่าตัว ตายด้วยยาหลายขนาน...เราแนะน�าให้ลองนี่ RX Shot แก้วแอลกอฮอล์ ทรงเล็กจับถนัดมือรูป “ขวดยา” ลองควงเจ้า RX Shot เข้าร้านเหล้า และนั่งซัดแถวเคาน์เตอร์คนเดียว...ถ้าคุณหน้าตาไม่ขี้เหร่มากเดี๋ยวก็มี สาวอกหักคิดว่าเราจะฆ่าตัวตายนึกสงสารมานั่งดวลเป็นเพื่อนเองแหละ ราคาเซ็ต RX Shot 4 ขวดอยู่ที่ 19.99$

> หน้าตาไม่ดี...แต่มี Seiko Star War นะคร๊าบบบ เอ้าสาวกหนังอวกาศที่พ่อลูกพยายามฆ่ากันเองโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน (Star War) เตรียมจับจองเป็นเจ้าของ เมื่อ Seiko ประเทศญี่ปุ่นเตรียมผลิตนาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษลวดลายพิเศษจับเอาตัวละครหลักในหนัง Star War ออกมา ใส่ไว้ที่ข้อมือ อย่างรุ่น R2-D2 ที่หน้าจอเป็น LCD คมชัดสามารถโชว์ฉากต่างๆ ในหนังให้ดูเล่น ส่วนด้านหลังตัวเรือนเป็น รูป R2-D2 นอกจากเจ้าหุ่นกระป๋องยังไงมี Dark Maul, Dart Vader และอีกเพียบ เค้าผลิตมาจ�านวนจ�ากัดที่ราว 1,500 เรือนต่อรุ่นและราคาก็แพงใช้ได้ (1,800$)

> รถล้มไม่ต้องกรี๊ด... เดี๋ยว ICEdot เรียกรถพยาบาลให้ สิงห์นักปั่นทั้งหลายเอ๋ย...ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวอุบัติเหตุอีกต่อไปแล้ว เพราะมันต้องเกิดขึ้นแน่ๆ แต่!! จะมีคนมาช่วยคุณทันทีที่คุณล้ม ปล. ห้ามไป ขี่ตกเขา ตกเหว หรือโดนหมีในป่าตะปบ เจ้า ICEdot เนี่ยคงช่วยไม่ไหว เพราะ มันครอบคลุมแค่พื้นที่ในเมืองหรือชานเมือง การท�างานของมันง่ายๆ แค่ติด เซ็นเซอร์ที่เป็นตัวรับส่งสัญญาณ Bluetooth 1 ตัวไว้ที่หมวกแล้วเชื่อมต่อ กับ iPhone ของคุณ จากนั่นก็แค่ปั่นไปตามทาง เมื่อล้มลงจะมีเวลานับถอย หลังให้คุณกดยกเลิก ถ้ากดยกเลิกไม่ทันระบบจะท�าการโทรเรียกรถฉุกเฉินมา ทันที ราคาค่าตัวอยู่ที่ 200$ แน่ะ! For Ride Magazine November 2012 45


Explore the big 4 FRM เปิดฉบับปฐมฤกษ์กับการแนะน�าร้านขายอุปกรณ์ขับขี่มอเตอร์ไซค์เจ๋งๆ 4 ร้านใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ...มันเจ๋งก็ตรงที่ร้านเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็น Offficial Dealer (ออฟฟิสเชี่ยล ดีลเลอร์) หรือ ตัวแทนจ�าหน่ายอย่างเป็นทางการ แปลว่าคุณจะได้แต่สินค้าของแท้ถูกต้องตามลิขสิทธิ์แถมมั่นใจได้ในคุณภาพที่ได้ มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ใครยังไม่มีอุปกรณ์ขี่มอเตอร์ไซค์ลองมาไล่ตามท�าความรู้จักกับ 4 ร้านนี้ได้เลย!

Panda Rider Station

แนะน�าช็อปไรดิ้งเกียร์เจ๋งๆ ที่มีแต่แบรนด์เด็กแนว อย่าง RevIt, Clover, Airoh, TCX และอีกหลายยี่ห้อ ที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่มนักบิดตัวจริงที่เน้นใช้ไรดิ้งเกียร์ คุณภาพแถมได้รับการยอมรับในต่างประเทศ Panda Rider (แพนด้า ไรเดอร์) ร้านนี้เค้าเป็นตัวแทนจ�าหน่ายอย่างเป็น ทางการ (Official Distributor) ของอุปกรณ์ขี่มอเตอร์ไซค์ หลากหลายยี่ห้อ เริ่มที่ไฮไลท์ของร้านกับ REV’IT ที่ถอด เทคโนโลยีป้องกันขั้นสูงจากสนามแข่งมาใส่ไว้ในชุดหนังเรช ซิ่ง, เสื้อ-กางเกงส�าหรับขี่ทัวริ่ง, ถุงมือทุกแบบที่นักบิดจะ นึกออก, Clover แบรนด์ไรดิ้งเกียร์จากอิตาลี่ที่มีดีเรื่อง การ์ดซึ่งได้มาตรฐาน CE, หมวกสุดล�้า Schubert จาก เยอรมันที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยชนิดที่เรียกว่าคิดมา อย่างดีเพื่อปกป้องหัวของคุณ, Airoh หมวกตัวแข่งที่นัก แข่งหลายคนใน MotoGP ใส่กัน, Bell หมวกแบรนด์เก่าแก่ ก็มีให้เลือก, ร้องเท้าบูท TCX ที่เน้นจุดแข็งที่การป้องกันข้อ เท้าอย่างเด็ดขาด..ฯลฯ เอาเป็นว่าอยากเท่ห์ไม่ซ�้าใครแ ถม เน้นที่การปกป้องแบบเต็มรูปแบบ ลองแวะไปเยี่ยมช็อปใหม่ ของ Panda Rider กันได้ที่ซอยประเสริฐมนูญกิจ 17 บน ถนนเกษตร-นวมินทร์ ครับ โทร. 08-7590-4244 , 085943-7555 หรือ www.pandarider.com

Pro Shop Paddock

นักบิดมือใหม่ใครยังไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน...เชยแล้วพี่เอ้าท์และเพื่อน! เดี๋ยวนี้ เค้าจัดเต็มใส่อุปกรณ์ขี่มอเตอร์ไซค์เจ๋งๆ กันหมดแล้วครับ ใครเป็นแฟนแบรนด์ RS Taichi, Komine, Alpinestars, Sidi, Forma แนะน�าให้มาที่นี่เลยครับ ProShop Paddock (แพดด็อค) ที่นี่เป็นตัวแทนจ�าหน่ายที่จัดสินค้าของแท้มารองรับเหล่าไบค์ เกอร์ส ซึ่งมีให้เลือกมากถึง 3 ช็อป สินค้าแน่นร้านชนิดที่ต้องเดินเลือกกันครึ่งวัน เลยทีเดียว เท่าที่ส�ารวจดูราคาของไรดิ้งเกียร์ในร้านหลายชิ้นแพงกว่าสินค้าก็อปปี้นิด เดียว...ขยับงบอีกนิดหน่อยแต่ได้ใส่ของแท้ก็น่าจะอุ่นใจกว่านะครับ! Paddock ตั้งอยู่ บนถนนรัชดาใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีห้วยขวาง ติดต่อ 02-692-7000 หรือ 081-641-6852 หรือ www.paddock.co.th 46 For Ride Magazine November 2012


p o h s s r a e g g n i d i r Dainese Proshop Bangkok ไม่มีใครไม่รู้จัก Dainese แบรนด์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ขับขี่มอเตอร์ไซค์ชื่อดัง ระดับโลกที่ได้รับความไว้วางใจจากนักแข่ง ในต�านานทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เควิน ชวานส์, คาร์ล ฟอการ์ตี้ หรือ วาเลนติโน่ รอสซี่ ล้วนแล้วแต่ได้รับการปกป้องขั้นเทพจาก Dainese ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วได้เปิดตัวโชว์รูม ตัวแทนจ�าหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยภาย ใต้ชื่อ Dainese Proshop Bangkok ตั้งอยู่ ที่ริมถนนเรียบทางด่วนรามอินทรา และสาขา ใหม่ล่าสุด เอกมัย-ทองหล่อ ใกล้ที่ไหนไปที่ นั่น ไม่แน่ใจหรือคิดไม่ออกว่าจะถอยชุดไหน “ลองก่อนได้” เจ้าหน้าที่ที่ร้านใจดีและพร้อม ให้ข้อมูลตลอดเวลาครับ ติดต่อ 02-5394102 หรือ www.dainese-thailand.com

DirtShop

gEARS HUNTER

สาวกรถอิตาเลี่ยนอย่าง Ducati และ เยอรมันอย่าง BMW ที่ต้องการอะไหล่แต่ง แต่ ไม่รู้จะหาจากที่ไหน เราแนะน�าที่นี่เลย DirtShop (เดิร์ทช็อพ) ร้านตัวแทนจ�าหน่ายสินค้าหลาก หลายแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็นจากอิตาลี่, เยอรมัน, อังกฤษ หรืออเมริกา...สืบเนื่องจากเจ้าของ ร้าน “รักการขี่รถวิบาก” ท�าให้มีสินค้าส�าหรับ สิงห์ทางฝุ่นได้เลือกช้อปกันแน่นร้าน นอกจาก อุปกรณ์และอะไหล่ทางฝุ่น แฟนๆ ทางเรียบก็ สามารถเลือกช็อปหมวก Limited Edition จาก Nolan X-Lite ได้ที่นี่เช่นกัน ใครก�าลังมองหา โช้คไฮเอ็นด์อย่าง Ohlins ตรงมาที่นี่เลย เค้าเป็น ตัวแทนจ�าหน่ายที่มีช่างมือเก๋าซึ่งผ่านหลักสูตร การดูแลโช้คมาคอยบริการอยู่หลังร้าน ไฮไลท์ ของร้านอีกจุดคือ “ห้อง Dynojet” ส�าหรับวัด แรงม้า-วัดค่าโน่นนี่นั่น...ใครอยู่โซนศรีนครินทร์ลาดกระบังแวะมาที่นี่ได้เลยครับ โทร 0-23221441 หรือ www.dirtshopthailand.com For Ride Magazine November 2012 47


Motosports Report

Pedrosa คว้ำชัยสนำมบ้ำนเกิด Aragon โบกธงเหลืองแดงสะบัดสะใจชำวเมืองกระทิงดุ

ศัพท์เด็ด-ค�ำโดน

มื่อการแข่งขัน MotoGP เดินทางมา ถึงสนามที่ 14 ซึ่งนับว่าใกล้จบฤดูกาลเข้ามา ทุกที (เหลืออีก 4 สนามเท่านั้น) สนามนี้แข่ง กันที่ประเทศสเปนเมืองกระทิงดุ ประเทศผู้ส่ง ออกนักแข่งมอเตอร์ไซค์เป็นสินค้าหลักอย่าง เช่น อดีตแชมป์ MotoGP ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่, คู่แข่งที่ก�าลังมาแรง ดานี่ เพโดรซ่า, อัลวาโร่ เบาทิสต้า ยิ่งถ้าไปนับนักแข่งในรุ่น Moto3 แล้วล่ะก็ จะเจอหนุ่มๆ ชาวสเปนหน้าละอ่อน เพียบ!! กลับเข้าเรื่องบินกลับมาที่สนาม Motorland Aragon (มอเตอร์แลนด์ อารากอน) เริ่มจากข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับ สนามที่มีความยาว 5,078 ม. ประกอบด้วย โค้งซ้าย 7 โค้งขวา 10 มีทางตรงยาวสุด ที่ 968 ม. (ทางตรงนี่แหละที่เค้าท�าความเร็ว กันทะลุ 300 กม./ชม.)...แม้สนามนี้จะไม่มี เคซี่ สโตเนอร์ ลงห�้าหั่นด้วยแต่ก็มีลุ้นเพราะ นักบิดหลายคน อยากชนะเอาใจแฟนๆ ใน บ้านตัวเอง ต�าแหน่งจุดสตาร์ทที่กริดในแถว แรก โพลโพสิชั่น* เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อดีตแชมป์ “เดอะร็อคเก็ตบอย” ลอเรนโซ่ ผู้เฉือนเวลาควอลิฟายน�าหน้าเพโดรซ่าไป นิดเดียว ต่อแหน่งสตาร์ทต่อมาเป็นเพโดรซ่า และคาล ครัทช์โลว แถวที่ 2 มี เบน สปีส์, สเตฟาน แบรดดอล, อังเดร โดวิสิโอโซ่

MotoGP Round 14 Aragon อาการร้อนก�าลังได้ที่บวกกับแทรค* ที่ ร้อนจัดท�าให้นักแข่งหลายคนเลือกใช้ยาง หน้า Extra Hard และหลัง Medium…และ นาทีสุดท้ายที่รถ BMW M1 ออกจาก จุดสตาร์ทเพื่อตรวจสอบสนาม...ไฟแดง สว่างขึ้น และดับลง...ลอเรนโซ่พุ่งออกตัว น�าก่อนใครตามด้วยเพโดรซ่าและสปีส์ โค้ง แรกไม่มีใครตกรอบหลุดโค้งถือว่าสอบ ผ่าน ขณะที่ลอเรนโซ่ออกน�าและเริ่มทิ้ง ระยะห่างออกไป ในรอบที่สองวาเลนติโน่ รอสซี่เกือบชนโจนาธาน รี แม้จะสามารถ ดึงรถกลับมาได้แต่ก็ต้องหลุดไปวิ่งอยู่ บนรัน-ออฟแอเรีย* ท�าให้อันดับตกลงไป อยู่ที่ 21 นาทีระทึกที่ท�าเอาคนดูทั้งสนาม ต้องยืนไม่ติดที่นั่งเกิดขึ้นเมื่อเฮย์เด้นเจอ กับอาการรถสะบัดและไม่สามารถควบคุม รถได้จนชนขอบสนามจนร่างปลิวออกไป ด้านนอก โชคดีที่อาการไม่หนัก ในรอบการ แข่งที่ 4 เพโดรซ่าเริ่มไล่จี้ลอเรนโซ่เข้ามาอีก ความกดดันจากรอบด้านส่งผลให้ลอเรนโซ่ พลาดสะบัดเพียงเล็กน้อยแต่นั่นคือโอกาส ให้เพโดรซ่าได้ขึ้นแซงและทิ้งห่างออกไป กลุ่ม ผู้ตามมีสปีส์, ครัทช์โลว์และโดวิสิโอโซ่ไล่บี้กัน อย่างเมามันส์ การแข่งขันเริ่มน่าหวาดเสียว ขึ้นเมื่อรอสซี่พลาดบานออกนอกโค้งอีก

โพลโพสิชั่น (Pole Position) – ผู้น�าในจุดสตาร์ทซึ่งเป็นผลมาจากการจับเวลาที่ดีที่สุดในรอบควอลิฟาย ควอลิฟาย (Qualify) – การคัดเลือกหาผู้ที่ท�าเวลาได้ดีที่สุดเพื่อจัดต�าแหน่งบนกริดสตาร์ท กริด (Grid) – ช่องที่เกิดจากการแบ่งเท่าๆ กัน ซึ่งหมายถึงจุดที่มาร์คไว้ส�าหรับนักแข่งในการแข่งขัน แทรค (Track) – สนามแข่ง โพเดี้ยม (Podium) – แท่นรับรางวัล ส�าหรับ MotoGP มี 3 ต�าแหน่งคือที่ 1 -2 และ 3 รัน-ออฟแอเรีย (Run-off Area) – พื้นที่พิเศษนอกโค้งอันตรายมีหน้าที่ลดการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียใน การแข่งขัน ฟรีล้อหลัง (Rear Wheel Spin) – อาการที่เกิดจากการเดินคันเร่งมากเกินความเร็วรถจนความเร็วล้อหลัง เพิ่มมากขึ้นจนไม่ยึดเกาะถนน เซฟมายไลฟ์ (Save My Life) – อัลบั้มที่ 3 ของวงบอดี้แสลม / ช่วยชีวิตผมไว้

48 For Ride Magazine November 2012

ครั้งแต่โชคดีที่สามารถประคองรถกลับลงสนามได้แถมรั้ง อันดับ 8 ด้านหน้าเพโดรซ่าเริ่มทิ้งห่างลอเรนโซ่ออกไปเกือบ 5 วินาทีและในที่สุดแชมป์สนาม Aragon ก็เป็นเพโดรซ่านักบิด เจ้าถิ่นตามมาด้วยลอเรนโซ่และโพเดี้ยม* ต�าแหน่งสุดท้ายตก เป็นของโดวิสิโอโซ่ ที่แซงสปีส์และเพื่อนร่วมทีมครัทช์โลว์แบบ ไม่มีค�าว่าปราณี...เป็นอันจบการแข่งขัน สนามที่ 14 อารากอน คะแนน 25 แต้ม ที่เพโดรซ่าคว้าไปท�าให้คะแนนรวมของ เค้าขยับขึ้นมาที่ 257 แต้มไล่ตามลอเรน โซ่อยู่อีก 33 แต้ม...อีก 4 สนามที่ เหลือมีลุ้น!!

What’s in your mind? ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ : Yamaha Factory Racing Team “ผมพยายามตามเพโดรซ่าแล้วนะ ผมไล่จี้แบบเต็มที่ แต่ดูเหมือนรถของ เค้าเกาะไลน์ได้ดีกว่าของผมท�าให้ไม่สามารถไล่ตามได้ ดูเหมือนจากนี้เราต้อง ปรับปรุงรถกันซักหน่อยแล้ว...ยังไงซะทีมเราก็ยังไปได้สวยและยังมีลุ้นกับ ต�าแหน่งแชมป์ปีนี้” ดานี่ เพโดรซ่า : Repsol Honda Team “ผมว่าสนามนี้อะไรๆ มันดีขึ้น แม้ในรอบซ้อมผมจะล้มและพังรถเล่นไป คันนึงซึ่งผมรู้สึกเสียใจกับทีมมาก แต่ยังไงวันนี้ผมก็แข่งได้และรักษาจังหวะ ได้ตลอดการแข่ง นั่นท�าให้ผมเดินหน้าได้แรงขึ้นและทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ สนามนี้ทีมงานเซ็ตรถได้ลงตัวมากโดยเฉพาะในโค้ง ต้องขอบคุณทั้งทีมงาน ครอบครัว และแฟนๆ ครับ...ชัยชนะครั้งนี้เพื่อพวกเค้า” วาเลนติโน่ รอสซี่ : Ducati Team “เขิลนิดๆ กับโค้งนั้นในรอบแรกกับโจนาทาน...ผมมาไวเค้าตีคู่ ผมก�าลัง จะเข้าโค้งแต่เค้าจะชนผมผมเลยต้องยอมบานออกนอกสนามไป ถ้าไม่หลุด โค้งนะ...มีบวกกันมันส์หยดกับเบาทิสต้าไปแล้ว อันที่จริงการแข่งวันนี้ค่อน ข้างน่าพอใจกว่ารอบซ้อมซะอีก ยังไงซะเราก็หวังว่ามันจะดีกว่านี้ที่ Motegi” นิกกี้ เฮย์เด้น : Ducati Team “ผมฟรีล้อหลัง*บ่อยมากในช่วงออกตัว เบรกก็หนืดๆ คงเป็นเพราะ ผมเบรกหนักไปหน่อย สาเหตุก็เพราะผมอยากเกาะกลุ่มไว้ให้ได้ ส่วนช็อตที่ ล้มก็เพราะผมกดด้านหน้ามากไปหน่อยและไม่สามารถทรงตัวได้ นาทีที่หลุด ออกนอกสนามผมค�านวนแล้วว่าถ้าโดดเลย ต้องโดนรถทับแน่ๆ ผมเลย กะจังหวะสละรถในนาทีสุดท้ายที่ชนพอดี…ขอโทษทีมจริงๆ ที่ผมท�ารถพัง แต่ ก็ขอบคุณไรดิ้งเกียร์ที่เซฟมายไลฟ์*” อังเดร โดวิสิโอโซ่ : Monster Yamaha Tech 3 “คลัทช์โลว์พยายามแซงผมซึ่งอันที่จริงแซงผมไปหลายทีเลยหละ แต่ ผมมีจังหวะที่ดีกว่าจึงสามารถแซงคืนได้ สุดท้ายแล้วผมรู้สึกดีกับโพเดี้ยม ต�าแหน่งสุดท้ายและแผนการแข่งในวันนี้ ผมไล่ตามสโตเนอร์มาติดๆ แล้ว!!”


ยังแรงไม่เลิก!

Pedrosa คว้ำชัยต่อเนือ่ ง MotoGP Round 15 Motegi Japan

เฉือนแต้มไล่บผ ี้ น ู้ ำ� ตำรำงคะแนนรวม คอยดูจังหวะอย่างใจเย็น...และเพียงเสี้ยว สนามที่ 15 ของการแข่งขัน MotoGP ฤดูกาล 2012 ผู้คนแน่นสนาม Motegi ประเทศญี่ปุ่น เมืองต้นก�าเนิดของ เครื่องจักรสังหาร 2 แบรนด์ใหญ่ที่ลงดวล ความเร็วกับ 1 แบรนด์ยุโรปในศึกความเร็ว ระดับโลกที่ไม่มีชาว 2 ล้อคนไหนไม่รู้จัก แฟนๆ ส่วนใหญ่ที่มาชมวันนี้เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งก็น่าแปลกที่ประเทศซึ่งดูสงบเรียบร้อย นี้จะคลั่งไคล้ MotoGP ไม่แพ้ชาติอื่นในโลก ผู้ท�าเวลาได้ดีที่สุดในรอบควอลิฟายของ สนามนี้เป็นฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ซึ่งพ่ายให้กับ ดานี เพโดรซ่าในสนามที่แล้วอย่างน่าเสียดาย ต�าแหน่งสตาร์ทที่ 2 ดานี เพโดรซ่าและที่ 3 คาล ครัทช์โลว บรรยากาศการแข่งขัน ค่อนข้างดูอึมครึมอุณหภูมิพื้นสนาม 23 องศาความชื้น 55% การเลือกใช้ยางผิด อาจหมายถึงหายนะได้เลยทีเดียว ทันทีที่ สัญญาณปล่อยตัวดับลง ลอเรนโซ่ก็ พา M1 พุ่งทะยานออกตัวน�าไปก่อนในโค้ง แรกตามมาด้วยเบน สปีส์เพื่อนร่วมทีมซึ่ง ตามหลังมาติดๆ ตามด้วยเพโดรซ่า แม้จะ ออกตัวได้ดีแต่ในไม่กี่โค้งถัดมาสปีส์กลับหลุด ออกสนามก่อนชนกับป้ายสปอนเซอร์ล้ม ลง (เหมือนเฮย์เด้นสนามที่แล้ว) แต่โชคดีที่ ไม่เป็นอะไรมาก สนามนี้เคซี่ สโตเนอร์กลับ มาลงแข่งได้อีกครั้งแต่เหมือนยังไม่สามารถ คืนฟอร์มเดิมได้ไล่ตามอยู่ในกลุ่มหลัง ที่ น่าสังเกตุก็คือสนามนี้ทีมฮอนด้าจะมาแรง มากโดยเฉพาะอัลวาโร่ เบาทิสต้าที่แซงสโต เนอร์ขึ้นมาและขยับเป้าหมายไปไล่ล่าตามชิง ต�าแหน่งที่ 3 ส่วนลอเรนโซ่ที่พยายามทิ้งห่าง เพโดรซ่าขณะโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเพโดรซ่านั้นซุ่ม

วินาทีที่เพโดรซ่าอาศัยจังหวะเดินคันเร่ง เบรกลึกแซงตัดไลน์ขึ้นน�าลอเรนโซ่ได้ส�าเร็จ เกมการแข่งขันเริ่มมีลุ้นมีเสียวกันมากขึ้น เมื่อนักแข่งต่างพยายามขยับต�าแหน่งตัว เองขึ้นทีละนิด กลุ่มหลังมีโดวิสิโอโซ่ที่แซง น้องใหม่แบรดดอลแบบไร้ความปราณี เบาทิสต้าเริ่มไล่จี้ท้ายครัทช์โลวใกล้ขึ้นทีละ นิด ส่วนด้านหน้าเพโดรซ่าเริ่มยืดระยะทิ้ง ห่างตอกย�้าความจริงทีละนิดว่า “แชมป์ สนามนี้ผมขอ” ตามด้วยผู้รั้งต�าแหน่งที่ 2 ลอเรนโซ่ และต�าแหน่งที่ 3 ที่ยังคงไม่ลงตัว เมื่อครัทช์โลวก็แรงส่วนเบาทิสต้าก็มาพร้อม ฟอร์มสุดฮ็อต ไฮไลท์ในช่วงท้ายของการ แข่งขันเป็นฉากดวลกันระหว่างเบาทิสต้าและ ครัทช์โลว ผลัดกันแซงผลัดกันน�าชนิดที่ ต้องลุ้นกันโค้งต่อโค้งไลน์ต่อไลน์ และในที่ สุดเบาทิสต้าก็สามารถแซงได้ส�าเร็จส่วน ครัทช์โลวเกิดอาการเครื่องยนต์น็อคหมด โอกาสลุ้นที่ 3 ไปอย่างน่าเสียดาย สรุปการ แข่งขันเพโดรซ่าคว้าแชมป์สนาม Motegi ประเทศญี่ปุ่นท�าให้คะแนนสะสมไล่ตามผู้น�า ตารางเข้ามาอีกเป็น 282 ห่างจากผู้น�าอีก 28 คะแนน ส่วนที่ 2 เป็นของลอเรนโซ่ที่ยัง คงน�าอยู่หัวตารางด้วยคะแนน 310 คะแนน และที่ 3 เบาทิสต้าที่ขยับคะแนนตัวเองขึ้นมา เป็น 144 แต้ม...เป็นอันจบการแข่งขันสนาม ที่ 15...จากนี้เหลืออีกแค่ 3 สนามเท่านั้น ก่อนจบฤดูดาล 2012 ใครจะเป็นแชมป์ปีนี้ ต้องมาลุ้นกัน!!

How was the race? แข่งเป็นไงบ้ำง? ดานี เพโดรซ่า Repsol Honda 282 คะแนน “ผมดีใจกับชัยชนะวันนี้แถมเป็นชัยชนะอีกครั้งในสนามเดียวกับปีก่อน แม้ก่อนวันแข่งรถจะค่อนข้างส่าย นั่นท�าให้ผมไม่แน่ใจว่าวันนี้รถจะเป็นยังไง บ้าง ช่วงแรกผมออกตัวได้ดีและรักษาความเร็วจนสามารถแซงลอเรนโซ่ ได้ในที่สุด ผมคิดว่าตอนแรกลอเรนโซ่กะจะตามผมแต่แล้วเค้าก็ลดความเร็ว ลงไปรั้งที่ 2 แทน น่าเสียดายที่ไม่มีใครเร็วพอจะมาไล่บี้ผมได้ อาจเป็น เพราะผมชนะมาหลายสนามก็ได้ (ฮ่าๆๆๆ) ขอบคุณทีม Honda ที่ช่วยให้ ผมชนะอีกครั้งในสนาม Motegi” ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ Yamaha Factory Racing 310 คะแนน “ผมพยายามอย่างสูงสุดเพื่อเกาะติดเพโดรซ่าไว้ แต่รถของเรามัน ต่างกันมากโดยเฉพาะทางตรง ผมพยายามไล่ตามแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ไม่แน่ สนามหน้ามันอาจไม่เหมือนสนามนี้ก็ได้ ต�าแหน่งแชมป์ยังคงมีลุ้นส�าหรับ เรา” เคซี่ สโตเนอร์ Repsol Honda 197 คะแนน “ผมค่อนข่างรู้สึกผิดหวังถ้าพูดตามตรง หลังจากที่อุตส่าห์ปรับ แต่งรถกันมาตลอดช่วงวันหยุดและเราก็สามารถหาจุดที่ลงตัวได้แล้วแท้ๆ แม้ช่วงแรกจะออกตัวได้ดีและรู้สึกดีมากกับการไล่ตามกลุ่มผู้น�า แต่เมื่อ ร่างกายผมมันเอาคืนด้วยการส่งความปวดร้าวมาท�าให้ผมขี่ได้ช้าลงใน แบบที่ผมก็คาดไม่ถึง นั่นแหละที่ท�าให้ผมไปเร็วกว่านี้ไม่ได้ ขอบคุณทีมงานที่ เช็ตรถได้อย่างสมบูรณ์แบบผิดที่ตัวผมเองที่ไปไม่ไหวจริงๆ” อัลวาโร่ เบาทิสต้า San Carlo Honda Gresini 144 คะแนน “ผมดีใจกับโพเดี้ยมวันนี้มากแถมผมก�าลังจะต่อสัญญากับทีมอีก ด้วย ผมรู้ว่าวันนี้ผมบู๊เอาต�าแหน่งโพเดี้ยมได้เพราะเราเซ็ตรถได้ดีตั้งแต่ รอบซ้อม เพราะงั้นผมเลยพยายมและมันก็ประสบความส�าเร็จ แม้จะ ออกตัวได้ไม่ดีแต่ผมก็ไล่แซงขึ้นมาได้และเห็นครัทช์โลว์อยู่ข้างหน้า...ผม รักษาระยะไว้และไม่เบรกแรงจนผ้าเบรกเละไปซะก่อน และใน 5 รอบสุดท้าย ผมจึงตัดสินใจแซง การต่อสู้กับครัทช์โลววันนี้มันส์มาก ต้องขอบคุณทั้ง ทีม, Showa, HRC ที่ช่วยเซ็ตรถและสนับสนุนผมมาตลอด ผมกะว่าจะขึ้น โพเดี้ยมอีกในสนามต่อไป” เบน สปีส์ Yamaha Factory Racing 88 คะแนน “ผมโคตรหงุดหงิดกับการแข่งวันนี้เลยครับ เรารู้อยู่แล้วว่าสนามมัน ค่อนข้างโหดซึ่งจะท�าให้เบรกไหม้ได้ง่าย และผมก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในรอบ ที่ 2 ของสนาม ทั้งๆ ที่ทีมอุตส่าห์บู๊อย่างหนักเพื่อให้รถได้ขึ้นโพเดี้ยมแต่ ผมก็พลาดสนามหน้าเราจะเก็บความล้มเหลวครั้งนี้ไว้ข้างหลังและลุยต่อไป เจอกันที่ Sepang” คาล ครัทช์โลว Monster Yamaha Tech 3 135 คะแนน “ก่อนแข่งผมมีปัญหากับสนามที่ค่อนข้างโหดและขี่ยาก แต่ผมภูมิใจ กับทีมมากที่สามารถเซ็ตรถจนลงตัวและผมก็มั่นใจว่าสามารถขึ้นโพเดี้ยม ได้แน่ๆ แต่ก็อย่างที่เห็นผมสนุกกับการไล่บี้กับเบาทิสต้ามาก ตอนแรกผม ก็คิดว่าที่ 4 หรือ ที่ 5 ก็น่าจะโอเค แต่สาเหตุทีผมไม่สามารถเข้าเส้นชัยได้ เป็นเพราะน�้ามันหมด...สนามนี้ผมไม่ได้ Slip Stream ใครเลย (ขี่หลบตาม ก�าแพงลมของคันหน้า) ท�าให้ผมใช้น�้ามันไปมากกว่าคนอื่น งานนี้มีลุ้นกัน ในสนามหน้า Sepang ผมจะลุยเอาที่ 3 คืนมาให้ได้!!”

For Ride Magazine November 2012 49


INTER NEWS หมวกแชมป์ใบใหม่ Max Biaggi จาก Suomy ฉลองแชมป์ปีที่ 2 กับ แม็กซ์ บีอักจี้ ในศึก World Superbike ที่ สนาม Magny-Cours โดยสวมหมวก Suomy เพนท์ลวดลายพิเศษเพื่อ บ่งบอกว่า “ผมได้แชมป์อีกแล้วฮะ” ลวดลายบนหมวกเป็นดาว 6 ดวง สื่อถึงแชมป์ 6 ครั้ง (4 ครั้งในรุ่น 250 ซีซี. และ 2 ครั้งใน WSBK) มีรูป โจรสลัดถือดาบเสียบดาว 6 ดวงยืนเหยียบลูกโลกดูยิ่งใหญ่แต่แอบน่ารักไป อีกแบบ ล่าสุดทาง Suomy เตรียมวางจ�าหน่ายหมวกลายพิเศษนี้ในจ�านวน จ�ากัด

ชาวมาเลเซียร่วมใจไว้อาลัยแด่ไอ้หนุ่มหัวฟู Super Sic Tribute ปีหน้าเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น Moto2 ทาง Dorna ประกาศปีหน้าจะไม่ได้ใช้บริการผลิต, ซ่อมบ�ารุง และ ปรับแต่งเครื่องยนต์จาก Geo Technology ผู้ผลิตเครื่องยนต์ให้ Honda อีกต่อไป แต่จะเปลี่ยนเป็นผู้ผลิตในสเปนส่งมอบเครื่องยนต์ 600 ซีซี. ให้การแข่งขัน Moto2 แทน เหตุผลหลักก็เพราะต้องการลดค่า ใช้จ่ายในการแข่งขัน ต้องรอดูกันต่อไปว่าเครื่องยนต์ตัวต่อไปจะมาจาก ค่ายไหน 50 For Ride Magazine November 2012

เดินทางมาครบ 1 ปีกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ มาร์โค่ ซิมมงเซลลี่ นักบิดเบอร์ 58 ทีม Honda Gresini ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุใน สนาม Sepang เมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดเมื่อการแข่งขัน MotoGP เดินทางเวียนกลับ มาถึงสนาม Sepang อีกครั้ง ผู้จัดการทีม Gresini ได้ท�าป้ายโลหะแสดงความ ไว้อาลัยติดตั้งอย่างถาวรบริเวณโค้งที่มาร์โค่เสียชีวิต ตามมาด้วยการยืนสงบ นิ่งไว้อาลัยและการไว้อาลัย ส่วนตัวกับป้ายร�าลึก เป็นอีกหนึ่งความสูญเสียที่ ยังได้รับการจดจ�าและผู้คนจากทั่วโลก ยังไงร่วมไว้อาลัยให้กับนักบิดขวัญใจ มหาชน...หลับให้สบายนะมาร์โค่ทุกคนจะจ�านายไว้ตลอดไป


เอาไปเลย 1 โค้ง...Stoner จองแล้วโค้ง 3 สนาม Phillip Island หลังจากได้แชมป์ปีที่แล้วในศึก MotoGP ซึ่งเป็นการคว้าชัยชนะให้กับ ทีม Repsol Honda ล่าสุดเจ้าของสนาม Phillip Island เปิดโอกาสให้ เคซี่ สโตเนอร์ ได้เลือกตั้งชื่อโค้งไหนก็ได้ในสนานแห่งประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใน ประเทศออสเตรเลียบ้านเกิดของเค้าเอง ที่ผ่านมามีนักแข่งแค่ 2 คนเท่านั้นที่ ได้รับเกียรติน�าชื่อไปประดับโค้ง คนแรกคือ เวย์น การ์ดเนอร์ สนามแข่งจึงตั้ง ชื่อทางตรงว่า “ทางตรงการ์ดเนอร์” อีกคนคือ มิค ดูฮาน ชื่อของเค้าจึง กลายเป็นชื่อโค้งดูฮาน ส่วน สโตเนอร์ ที่ชื่นชอบโค้ง 3 ซึ่งเป็นโค้งปราบเซียน

พาเอานักแข่งสไลด์ออกนอกสนามมาแล้วนักต่อนัก โค้งที่ 3 นี้แหละจึงได้ชื่อว่า Stoner Corner หรือ โค้งสโตเนอร์ “ผมชอบโค้งนี้มาก และน่าจะเป็นหนึ่ง ในโค้งที่เจ๋งที่สุดจากทุกสนาม เพราะเป็นโค้งที่เร็ว เร็วมากถึงราว 250 กม./ชม. ไม่ว่าใครก็ต้องถูกอดรีนาลีนจู่โจมที่โค้งนี้” สโตเนอร์กล่าว...ปีนี้ เป็นปีสุดท้ายของ สโตเนอร์ก่อนอ�าลาวงการ มาดูกันว่าเค้าจะคว้าแชมป์สนาม บ้านเกิดของตัวเองได้เป็นสมัยที่ 6 หรือไม่

เจมส์ บอนด์ มาเอง The Gibbs Quadski ฝันเป็นจริงส�าหรับใครที่เคยฝันอยากจะเป็น เจมส์ บอนด์ ขี่รถที่วิ่งได้ทั้งบนน�้า และบนบก เมื่อ The Gibbs ผลิตเจ็ทสกีที่กลายเป็นรถ Quad พาคุณไปได้ทั้งบนน�้า และบนบกด้วยความเร็วราว 70 กม./ชม. จุดเด่นของมันอยู่ที่ระยะเวลาการแปลงร่าง จากเจ็ทสกีเป็น Quad ใช้เวลาแค่ 4 วินาทีเท่านั้น เจ้า Quadski ใช้เครื่องยนต์ BMW Motorrad K1300 เพียงกดปุ่มปุ่มเดียวล้อก็จะกางออกมาพร้อมพาคุณวิ่งจากน�้าขึ้น บกด้วยความเร็วเท่ากัน โดยมีสนนราคาอยู่ที่ 40,000$ เริ่มวางจ�าหน่ายเดือน 11 นี้ แล้ว!

Ducati “สู้กระทิง” The Mata คลอดออกมาอีกแล้วกับรถแต่งเด็กแนวเพียงหนึ่งเดียวในโลกจากค่าย Radical Ducati ส�านักแต่งสัญชาติสเปนที่ชอบจับเอารถเฟรมสานจากอิตาลี่มาแปลงร่างให้ดู โดดเด่นแปลกตา ล่าสุดโมเดลใหม่ก็โผล่ออกมาให้โลกเห็น มันมีชื่อว่า Matador แปลเป็น ไทยว่า “นักสู้วัวกระทิง” เปโป้ โรเซล และ รามอน เรเยส สองเจ้าของส�านักแต่งจับเอา Ducati 900 Supersport มาโมดิฟายใหม่พร้อมอัพเกรดเครื่องยนต์เพิ่มความแรง เดินคอท่อใหม่จาก 2 เป็น 1 ใช้ท่อแต่งของ Wolfman และปลายท่อบึ้มของ Spark ด้านหน้าปรับแต่งเล็กน้อยเน้นที่แฮนด์บาร์ Rizoma ยกไฟหน้ามาจาก HD V-Rod ติด ตั้งเรือนไมล์จิ๋วจาก Aviacompositi Ages เสริมหล่อด้วยบังโคลนหน้า-หลังคาร์บอน ไฟเบอร์ สุดท้ายเสริมโหดกับยาง Pirelli Diablo Corsa…เป็นยังไงดุมั้ยล่ะครับ? For Ride Magazine November 2012 51


ถ้า จะกล่าวถึงความสวยงามที่ได้ช่วยเติมแต่งให้กับโลกที่เราอยู่กัน

ทุกวันนี้ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีเรื่องของ “ดนตรี” ร่วมอยู่ ด้วยนั่นเอง เสียงที่เรียงร้อย สื่อความรู้สึกถึงสุนทรียภาพ ที่เกิดขึ้น และฉบับนี้ FRM ถือโอกาสพาทุกท่านลัดเลาะ เข้ามาย่านใจกลาง เมือง เพื่อมารู้จักกับร้านขายเครื่องดนตรีที่ชื่ออาจจะใหม่ แต่ที่จริง แล้ว ร้านนี้คือเจ้าของกิจการเดียวกับร้าน ธีระ มิวสิค ร้านเก่าแก่แห่ง อาณาจักรเวิ้งนครเกษม ร้านนี้คือ “Music City”

Music City ชื่อร้านที่บอกถึงคอนเซปท์ ที่ตอบโจทย์ ของสังคมเมืองได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า เครื่องดนตรีมีมา กันครบทีเดียว อีกทั้งยังตั้งอยู่ในท�าเลที่เหมาะทีเดียว คือที่ เซ็นทรัล พระราม 9 ชั้นที่ 4 เดินหากันไม่นานหรอกครับ ร้าน เขาโดดเด่นเป็นสง่าขนาดนั้น การเดินทางไปร้านก็หลากหลาย ง่ายมากๆ เดินเข้ามาในร้าน สิ่งที่เชิญชวนให้เดินเข้าไปหาก่อนใคร นั่นก็คือ “กลองไฟฟ้า Roland” ที่นี่มีตั้งแต่ชุดเล็ก ที่เข้ากัน ได้ดีกับห้องนอน หรือคอนโดลงตัว จะ กระหน�่าอย่างโหดยังไง ก็ไม่ไปรบกวน โสตประสาทชาวบ้านเขา เพราะ สามารถเสียบหูฟังได้ หรือ อยากจัดชุดใหญ่อย่างชุด คอนเสิร์ตที่นี่ก็มีครบ ราคา ตั้งแต่ 28,000 ไปจนถึง 240,000 แต่สิ่งที่ดึงดูด ให้เราสนใจและอยากพามาให้ เหล่าชาวไรเดอร์ได้สัมผัส นั่นก็คือ “Walden” ว่า แต่มันคืออะไร.. ใช่แล้ว ครับ! มันคือกีตาร์ (ถามเอง ตอบเองครับ 555) กีตาร์ “Walden” ชื่อนี้ อาจจะฟังดูไม่ค่อยคุ้นหูนัก เพราะ เป็นกีตาร์ยี่ห้อไม่ได้เก่าแก่นัก ก็คือ 52 For Ride Magazine November 2012

ใหม่นั่นเอง (งงไหม) แต่กล้าพูดเลยครับ หลัง จากได้ลองลูบๆ คล�าๆ ขย�าบนเฟร็ท ตาม ด้วยเช็ดลูกบิดแล้วนั้น บอกได้เลยครับว่า “ไม่ ธรรมดา” แม้ราคาค่าตัวมันจะดูธรรมดาก็ เถอะ งานการผลิตมีคุณภาพที่ดีครับ หลาย คนอาจจะมองสินค้าที่มาจากประเทศจีนในเชิง ค่อนข้างลบ แต่ยี่ห้อนี้คงต้องยกเว้นล่ะครับ กีตาร์จากเมืองจีนที่มีคุณภาพก็มี และก็ดีพอที่ จะท�าให้ท่านๆ ที่อยากซื้อกีตาร์เต็มใจจ่ายค่าตัว เจ้า Walden นี้หลังจากที่ได้ลองมัน ซึ่งราคา นั้นเริ่มต้นได้ถูกกว่าค่าน�้ามันรถไปกลับจาก กรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่อีกครับ รุ่นเล็กเปิดตัว มาที่ 3,800 เท่านั้น ไล่ระดับกันไปหาพี่ใหญ่ตัว ท็อปที่ สองหมื่นต้นๆ เท่านั้นเอง และแน่นอนว่า เราก็เลือกรุ่น CG 4070ETB รุ่นท๊อปมาลอง นั่นเอง (เรื่องของเสียงนั้น อยากแนะน�าว่าให้มา ลองเองดีกว่าครับ) Walden รุ่น CG 4070 นี้ เป็นหนึ่ง ในซีรีย์รุ่น Madera ความน่าสนใจอีกอย่าง หนึ่งที่นอกจากเรื่องของเสียงที่ดีนั้น ก็คือ มันเป็นกีตาร์ที่รักษ์โลก เนื่องจากว่า วัสดุทุก ชิ้นของกีตาร์ทุกตัวในรุ่นของ Madera นั้น ท�ามาจากไม้ที่ได้จากการปลูกป่าทดแทนในทวีป อเมริกา สามารถสืบเสาะค้นหาได้เลยว่ามาจาก ไม้ต้นไหน ป่าที่ไหน ประเทศอะไร โดยดูได้จาก

serial no. ที่อยู่ในตัวกีตาร์ แบบที่ว่ากล้าให้พิสูจน์ กันเลยทีเดียว ไม้ที่ได้จากการปลูกป่า ทดแทนนั้น มีชื่อเรียกกันว่า FSC ราคา จะสูงกว่าไม้ปกติพอสมควรครับ เรียกได้ ว่าใครซื้อไป นอกจากจะได้กีตาร์คุณภาพ ราคาประทับใจแล้ว ยังได้เท่อีกด้วยที่ได้ ช่วยกันสร้างสมดุลย์ให้กับโลกใบนี้ หากใครที่ก�าลังมองหากีตาร์ คุณภาพดี ระดับปานกลาง ราคาน่า คบหา แล้วยังเป็นมิตรต่อโลก ก็มา ลองกีตาร์ Walden นี้ได้นะครับ หรือ อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยว กับ Walden สอบถามได้ที่ ร้านมิวสิค ซิตี้ ชั้น 4 เซ็นทรัลพระราม 9 โทร. 02-108-3129


BATCAT MUSEUM & TOYS THAILAND

ถ้ามีใครมาชวนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เชื่อว่าหลายๆ คน คงจะแปลกใจและ คงจะคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรให้ดึงดูดมากพอที่จะท�าให้รู้สึกอยากจะไป อาจจะเป็น เพราะหลายๆ คนติดภาพความคิดแค่ว่า พิพิธภัณฑ์ส่วนมากจะเป็นเรื่องของ อดีต หรือคิดว่ามีแต่เรื่องการเรียนรู้ที่เป็นสาระมากๆ แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดกับ ที่นี่... เพราะวันนี้ FRM ขอพาท่านไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ราวของ Super Hero ที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นมาช้านาน ที่นี่คือ “Batcat Museum&Toys Thailand” ที่มาของ “Batcat Museum&Toys Thailand” นั้น มีจุดเริ่มต้นมา จากความชื่นชอบในตัว Batmat ของ คุณสมชาย นิติมงคลชัย (Batcat) ซึ่ง เรียกได้ว่าอาจจะเป็นพงศาวดาร Batman ของเมืองไทยก็ว่าได้ จากความชอบ ก็เริ่มสะสมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับ super hero ตัวโปรดนี้ เริ่มจากชิ้นแรก จน เดี๋ยวนี้เป็นหลักหมื่นๆ ชิ้นใกล้จะแตะหลักแสนเข้าไปทุกทีแล้วครับ ที่ “Batcat” นี้ ไม่ได้มีแต่ของที่เกี่ยวข้องกับ Batman เท่านั้น แต่ยังมีสิ่งของ โมเดลและอื่นๆ เกี่ยวกับ Super Hero ตัวอื่นๆ ทั้งจากการ์ตูนและภาพยนตร์ ครอบคลุมไป จนถึง Super Hero ทางฝั่งเอเชียอย่างไอ้มดแดงก็มากันทั้งตระกูลทีเดียว

ของที่แสดงใน “Batcat Museum&Toys Thailand” นั้นมีการจัดโซน ไว้อย่างลงตัว โดยช่วงแรกจะเป็นรวมหมู่มวลฮีโร่ต่างๆ ถ้าได้ลองเข้าไปแล้ว ลองหลับตาดูนะครับ แล้วนึกถึงฮีโร่ตัวไหนที่คุณอยากจะเจอ แล้วลืมตาขึ้นมา มั่นใจว่า 99% คุณจะได้เห็นมันอย่างแน่นอนครับ ในส่วนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงาน โมเดลที่มีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดเท่าใหญ่ ถัดมาจะเป็นโซนที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ เรียกว่ามาถึงถ�้าเสือ ก็ ต้องได้เจอเสือสิ นั่นคือโซนของ Batmat ในโซนนี้จะมีตั้งแต่ของสะสมของ Batman ที่หายากระดับโลก เกร็ดความรู้ อาวุธและพาหนะของพระเอกเรา ทั้ง จากภาพยนตร์และการ์ตูน เรียกได้ว่าเป็นคลังข้อมูลของ Batman ที่ใหญ่ที่สุด ในเอเชียเลยทีเดียว ในส่วนของพื้นที่ด้านหน้าก็มีที่นั่งพักส�าหรับทานอาหารและเครื่องดื่ม สูตรฮีโร่ และมุมขายของที่ระลึกสไตล์ซูเปอร์ฮีไร่ให้เลือกซื้อกลับบ้านกันอีกด้วย แนะน�าเลยครับว่า ถ้ามีโอกาสลองแวะมาชมฮีโร่ที่เคยสร้างความสุขให้กับเราเมื่อ ครั้งอดีต ตอนนี้เขารอเราอยู่ที่นี่นะครับ ไม่ต้องกลัวเรื่องวันไหนจะไม่สะดวก เพราะที่นี่เขาเปิดทุกวัน ถ้าจันทร์-ศุกร์ ก็ 10.00-19.00 น. ส่วนเสาร์-อาทิตย์ 9.00-20.00น. สถานที่เดินทางสะดวก ไม่ต้องกลัวหลงครับ แยกล�าสาลี บางกะปิ เชิงสะพานข้ามคลองแสนแสบครับ

For Ride Magazine November 2012 53


MARKETING PLAN

ไทยซูซก ู ิ เลิศศักดิ์ นววิมาน

“ผงาดบนมาตรฐานเดียวกัน”

ผูจ้ ด ั การทัว่ ไปฝ่ายขายและการตลาด

ประเทศไทยเป็นตลาดหลักที่ส�าคัญของเรา โดยเฉพาะในแถบอาเซียน อีกทั้งเป็นผู้น�าในหลายๆ ด้าน เพราะผลิตภัณฑ์ที่ขายได้ในไทยมักจะขายได้ดีใน ประเทศอื่นๆ ด้วย

54 For Ride Magazine November 2012

เกินครึ่งทางของตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 2555 ตัวเลขยอดขายมีอัตรา การเติบโตเพิ่มสูงมาก แสดงให้เห็นว่าตลาดสองล้อคึกคักเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับ “ซูซูกิ” ที่ยอมรับต�าแหน่งยอดขายอันดับ 3 ของตลาด ได้เห็นโอกาสของตลาดรถ จักรยานยนต์เหมือนผู้ประกอบการรายอื่นๆ เช่นกัน ประกอบกับที่ผ่านมาบริษัทแม่ที่ ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้มองข้ามความส�าคัญของประเทศไทย นอกจากนี้ยังวางเป้าหมายให้ ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกรถแบรนด์ซูซูกิ ทั้งรถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์เรือ และรถยนต์ คุณเลิศศักดิ์ นววิมาน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จ�ากัด กล่าวว่า “ที่ผ่านมาได้ทยอยย้ายฐานการผลิตเครื่องยนต์เรือมาที่ ประเทศไทย และปี 2556 คาดว่าจะสามารถย้ายการผลิตมาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและ ส่งออกเครื่องยนต์เรือได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้พิจารณาขยายโรงงานผลิตรถ จักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งของพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่น่า สนใจ “โรงงานผลิตจักรยานยนต์ซูซูกิในประเทศไทย นับเป็นโรงงานแห่งแรกที่อยู่ นอกประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดด�าเนินกิจการมาแล้ว 45 ปี โดยโรงงานรถยนต์ซูซูกิที่ผลิต รถประหยัดพลังงาน (อีโค่คาร์) ที่เปิดตัวล่าสุดก็อยู่ในประเทศไทย หรือฐานการผลิต เครื่องยนต์เรือ ก็อยู่ที่นี่ ดังนั้น ประเทศไทยยังเป็นตลาดหลักที่ส�าคัญของเรา โดยเฉพาะ ในแถบอาเซียน อีกทั้งเป็นผู้น�าในหลายๆ ด้าน เพราะผลิตภัณฑ์ที่ขายได้ในประเทศไทยมัก จะขายได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ ด้วย” ปีนี้ ซูซูกิ มอเตอร์ ได้ลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งลงทุนในโรงงานเพื่อ ก�าลังการผลิตรถจักรยานยนต์ 500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโรงงานมีก�าลังการผลิต 350,000 คัน ผลิตจริงเพียง 260,000 คัน ส่งออก 140,000 คัน พร้อมวางแผน ออกรถรุ่นใหม่ต่อเนื่อง ผู้บริหารของไทยซูซูกิการันตีว่า ตลาดรถจักรยานยนต์มียอดขายดีจริง เพราะยอดขายรถจักรยานยนต์ซูซูกิในวันนี้มียอดค้างส่งมอบเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะ “ซูซูกิ เน็กซ์” มอเตอร์ไซค์ ECO ที่ใช้ Leap Technology พร้อมหัวฉีด FI ใหม่ ใช้ เครื่องยนต์น�้าหนนักเบา แต่แรง ประหยัดน�้ามัน คุ้มค่าทั้งราคา อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่ง แวดล้อม จากเดิมได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,000 คัน แต่ได้รับการตอบรับอย่างดีจนยอด ขายพุ่งขึ้นไปเดือนละ 4,000-5,000 คัน และคาดว่าจะทยอยส่งมอบรถให้เสร็จภายใน เวลา 1-2 เดือน ส�าหรับ 7 เดือนที่ผ่านมา ซูซูกิ มียอดรถจดทะเบียนรวม 50,000 คัน จากเป้าหมายยอดขายไว้ทั้งปีที่ 120,000 คัน หรือเติบโต 50% มีส่วนแบ่งการตลาด 6% และอีก 2 ปีนับจากนี้ไปจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดไม่น้อยกว่า 10 % เพื่อให้คืนกลับสู่สังเวียนได้อย่างเต็มภาคภูมิเช่นในอดีตอีกครั้ง “ซูซูกิ” ได้เดินหน้า วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เหมือนใครและยังไม่มีใครเคยท�า เช่น Leap Technology ที่ ใช้ใน ซูซูกิ เน็กซ์ และจะพัฒนาใช้กับจักรยานยนต์รุ่นอื่นๆ ต่อไป รวมไปถึงจุดมุ่งหมายที่ ตั้งไว้คือ โรงงานของซูซูกิทุกแห่งจะผลิตรถด้วยต้นทุนต�่า หาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และราคาถูก และผลิตออกภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก…




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.