คนใบ ้ในลอนดอน
โดย คนมองหนัง
“คนใบ ้ในลอนดอน”
บทกวีวา่ ด ้วย หญิงสาวแปลกหน ้า, ฝนฟ้ าอากาศ, นักเดินทางฝึ กหัด, ซากปรักของอนุสาวรีย,์ ี งดนตรีรายรอบตัว และสรรพส-ี เสย
โดย คนมองหนัง
คำนำ ราวปี ค.ศ.2009 (พ.ศ.2552) ผมแอบชอบผู ้หญิงคนหนึง่ กลางปี นัน ้ เธอกาลัง ึ ษาต่อทีอ จะเดินทางไปศก ่ งั กฤษ ผมแอบแต่งกลอนให ้เธอ มันเป็ นกลอนสุภาพหรือกลอนแปดทีไ่ ม่เคร่งฉันทลักษณ์มากนัก แต่ก็ยงั มีฉันทลักษณ์กากับอยู่ มันเป็ นกลอนเชยๆ มีเนือ ้ หาทานองว่า ถึงแม ้เธอจะได ้ไปเล่าเรียนทีล ่ อนดอน แล ้ว ก็จงอย่าไปลุม ่ หลงกับการใชช้ วี ต ิ อย่างหรูหราฟู่ ฟ่ าตามแบบนักเรียนนอกผู ้รา่ รวย ั ้ ของสงั คมอังกฤษ แต่โปรดจงตระหนักในปั ญหาเรือ ่ งชนชน ิ้ นัน สุดท ้ายแล ้ว ผมไม่ได ้สง่ กลอนชน ้ ให ้เธอ เธอไม่ได ้ไปเรียนทีล ่ อนดอน แต่ไปเรียนทีเ่ มืองอืน ่ ั พันธ์ระหว่างเราสองคนก็คอ และสายสม ่ ยๆ เบาบางเหินห่างกันไป
สามปี หลังจากนัน ้ (ระหว่างปี ค.ศ.2012-13) ผมมีโอกาสไปเป็ นนักเรียน อังกฤษบ ้าง ทีน ่ ่าขันคือ ผมก็ไม่ได ้ประพฤติปฏิบต ั ต ิ วั ตามอย่างคาแนะนาในกลอน เชยๆ ทีต ่ นเองเคยพยายามจะเขียนสงั่ สอนเธอ ั ในพืน ผมไปอยูอ ่ าศย ้ ทีโ่ ซนสอง ย่านตะวันออกเฉียงใต ้ของกรุงลอนดอน ซงึ่ ื่ มโทรมและเต็มไปด ้วยอาชญากรรมจากสายตา “คนนอก” ออกจะเป็ นย่านเสอ แต่ผมก็ใชช้ วี ต ิ เรือ ่ ยๆ เปื่ อยๆ จนอยูร่ อดปลอดภัยได ้ครบหนึง่ ปี ิ หน ้ากับคน ทว่า การได ้ไปใชช้ วี ต ิ ในพืน ้ ที่ “นอกใจกลางเมือง” และต ้องเผชญ ้ นคา่ ชาติพน ดา คนแขก ฝรัง่ ขอทาน-ขีเ้ มา รวมทัง้ คนหาเชากิ ั ธุอ ์ น ื่ ๆ จานวนมาก ก็ ไม่ได ้ทาให ้ผมเข ้าอกเข ้าใจพวกเขา หรือหยัง่ รู ้ถึงปั ญหาอันเกิดจากความไม่เท่าเทียม ระหว่างพวกเขากับกลุม ่ คนทีม ่ ส ี ถานะทางสงั คม-เศรษฐกิจสูงกว่าภายในประเทศ ั เจนขึน เดียวกัน อย่างกระจ่างชด ้ ั อยู่ ผมมักนั่งรถไฟใต ้ดิน/รถไฟ/ ยามเบือ ่ ๆ เซง็ ๆ กับสถานทีท ่ ต ี่ นเองพักอาศย ็ ปปิ้ งในย่านการค ้าดังๆ, กินดืม รถเมล์ เข ้าไปยังใจกลางเมือง เพือ ่ หาโอกาสชอ ่ ใน 1
ร ้านอาหารดีๆ, ดูหนังชมคอนเสริ ต ์ ทีห ่ าเสพได ้ยากในเมืองไทย หรือฟั งเสวนาวิชาการ ในหัวข ้อทีต ่ นเองสนใจและพอจะจับใจความได ้ ึ ษาและทุนทาง ทัง้ หมดนี้ ต ้องพึง่ พาทุนทางเศรษฐกิจ รวมถึงทุนทางการศก วัฒนธรรม อันสูงลิบลิว่
อย่างไรก็ตาม ตลอดหนึง่ ปี ทใี่ ชช้ วี ต ิ อยู่ ณ ชานกรุงลอนดอน รวมทัง้ ได ้ เดินทางท่องเทีย ่ วไปในพืน ้ ทีอ ่ น ื่ ๆ ของสหราชอาณาจักรอยูบ ่ ้าง ผมกลับไม่กล ้า อวดอ ้างตนเองเป็ นนักเรียนอังกฤษ เป็ นลอนดอนเนอร์ หรือเป็ นสงิ่ อืน ่ ใดทีม ่ ี ความหมายใกล ้เคียงกับสถานะใหญ่โตโก ้หรูดงั กล่าว ประการแรก ภาษาอังกฤษของผมไม่ได ้ดีเลิศมากมาย ผมแค่อา่ นงานวิชาการที่ ตนเองชอบและสนใจได ้ค่อนข ้างคล่อง สง่ ผลให ้พอจะเขียนถึงประเด็นเหล่านัน ้ ได ้พอ รู ้เรือ ่ ง (แต่กต ็ ้องมีคนชว่ ยอ่านซา้ และปรับแก ้รูปประโยคหรือหลักไวยากรณ์ให ้บ ้าง) ทักษะการพูดและการฟั งอาจดร็อปลงมานิดนึง แต่หากยังอยูใ่ นขอบเขตของการเรียน แล ้ว ผมพอเอาอยู่ ผิดกับทักษะภาษาอังกฤษนอกห ้องเรียน ซงึ่ ผมก็มค ี วามรู ้ระดับงูๆ ปลาๆ เหมือนคนไทยทั่วไปนั่นแหละ ผมจึงแค่พด ู คุยกับคนขายของในร ้านชาขนาดเล็ก, ิ ค ้า, คนเฝ้ าร ้านหนังสอ ื พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่, พนักงานห ้างสรรพสน หรือเหล่าบริกรในร ้านอาหาร พอรู ้เรือ ่ ง ื่ สารอันกะพร่องกะแพร่ง การใช ้ นอกนัน ้ ก็พงึ่ พาการทึกทักตีความจากการสอ ภาษามือ และทักษะการคาดเดา เอาเป็ นสว่ นใหญ่ ผมจึงไม่กล ้ากล่าวอ ้างว่าตนเอง เข ้าใจคนอังกฤษ รู ้จักสงั คมอังกฤษ อย่างถ่องแท ้ แต่อย่างใด ้ เกีย ่ วพันมายังประการทีส ่ อง นั่นคือ ทักษะการใชภาษาอั งกฤษทีไ่ ม่คล่องแคล่ว ้ ได ้สง่ ผลให ้ผมใชเวลาอยู ค ่ นเดียวเยอะมาก ตลอดเวลาร่วม 12 เดือนในสหราชอาณาจักร ื คนเดียว ึ ษา จากการอ่าน-เขียนหนังสอ ซงึ่ เป็ นภาระจาเป็ นสาหรับนักศก ปริญญาโทหลักสูตรไม่ถงึ หนึง่ ปี ภาวะหมกมุน ่ ครุน ่ คิด ตรึกตรองกับตัวเองดังกล่าว ก็ ่ ต ค่อยๆ ขยับขยายไปสูม ิ ใิ นการใชช้ วี ต ิ ประจาวันด ้านอืน ่ ๆ เรือ ่ ยไปจนถึงการประกอบ กิจกรรมยามว่างแขนงต่างๆ
2
ั ดาห์ (เชน ่ ในชว่ งสอบ หรือ ปิ ดคริสต์มาส) ทีผ มีบางสป ่ มไม่ได ้ปริปากพูดจา กับมนุษย์คนอืน ่ เลย นอกจากสนทนากับตัวเองอย่างเงียบๆ อยูใ่ นใจ กระทัง่ แทบจะ กลายเป็ น “คนใบ ้” ึ เปลีย การอยูค ่ นเดียวในลอนดอน อาจทาให ้มีเพือ ่ นน ้อยหรือรู ้สก ่ วเหงาเป็ น ่ งว่างของชวี ต บางครัง้ แต่มน ั กลับทาให ้ผมมีชอ ิ (ทัง้ ทางด ้าน “พืน ้ ที”่ และ “เวลา”) มากพอ ทีจ ่ ะเขียน “บทกวี” ภาษาไทยออกมาได ้จานวนหนึง่ ื อิเล็กทรอนิกสเ์ ล่มนี้ และบางสว่ นของบทกวีเหล่านัน ้ ก็ถก ู บรรจุอยูใ่ นหนังสอ ื เล่มนี้ บทกวีทเี่ ต็มไปด ้วยเรือ ่ งรัก ความโดดเดีย ่ ว และอารมณ์พาฝั น ในหนังสอ คงไม่ได ้ทาให ้ผู ้อ่านรู ้จักสงั คมอังกฤษหรือสหราชอาณาจักรอย่างลึกซงึ้ ขึน ้ ั ผัส กลับกลายเป็ นภาวะพลัดพราก ตกหล่น ตรงกันข ้าม สงิ่ ทีพ ่ วกคุณจะได ้สม สูญหาย งุนงง ไม่รู ้เรือ ่ ง ไม่เข ้าใจ และไม่สมบูรณ์ จากประสบการณ์สว่ นตัวของ ั ้ ๆ อยูใ่ นมหานครใหญ่แห่ง ปั จเจกบุคคลชาวไทยคนหนึง่ ซงึ่ แวบไปใชช้ วี ต ิ ชว่ งสน หนึง่ ของโลก ิ ใจนาบทกวี 4 ชน ิ้ ซงึ่ ตนเองเขียนขึน อนึง่ ผมตัดสน ้ ก่อนเดินทางไปเรียนต่อไม่ ื เล่มนีด นานนัก มาตีพม ิ พ์อยูใ่ นชว่ งต ้นของหนังสอ ้ ้วย เพราะเห็นว่างานเหล่านัน ้ มี จังหวะจะโคน ลักษณะรูปแบบ และเนือ ้ หา ทีค ่ อ ่ นข ้างสอดคล ้องกับบทกวีซงึ่ เขียนขึน ้ ทีส ่ หราชอาณาจักร ื เล่มนีค ขอให ้มีความสุขตามสมควรกับการอ่านหนังสอ ้ รับ คนมองหน ัง
3
้ มลงว ันของเรำ ขีแ จากขีแ ้ มลงวันสองจุดตรงข ้อพับแขนขวา ่ แ ้ ฉั นไล่สายตาไปสูข ี้ มลงวันอีกสองจุดบริเวณแก ้มซาย ใบหน ้าของเธอเริม ่ บิดเบีย ้ ว ้ ตามรูปโครงดัง้ เดิมทีก ่ รามซายใหญ่ กว่ากรามขวา ่ งประกายผ่านดวงเนตร ความเยาว์วย ั ซงึ่ เคยสอ ถูกชะล ้างด ้วยม่านน้ าตาอันขุน ่ มัว เธอค่อยๆ ก ้มหน ้า โน ้มลาตัวลงแนบตักตัง้ ฉากกับท่อนขา ่ อาการกระสบ ั กระสา่ ย ร่างกายครึง่ บนสอ คล ้ายท ้องไสก้ าลังปั่ นป่ วน อุณหภูมข ิ องเครือ ่ งปรับอากาศในห ้องถูกกาหนดไว ้ที่ 19 องศา ้ ฉั นเอานิว้ กลางซายกดขยี ข ้ แ ี้ มลงวันเหนือริมฝี ปากตัวเอง ลุกขึน ้ ยืนแล ้วเดินจากมา
4
งำนวิวำห์ ี เผือด ใบหน ้าซด แววตาโศกเศร ้าไร ้ประกาย เธอนั่งอยูต ่ รงมุมมืดของห ้องนัน ้ ห ้องทีผ ่ ู ้คนกาลังเริงรืน ่ กับงานวิวาห์ เธอไม่ใชเ่ จ ้าสาว เธอไม่มรี อยยิม ้ เธอมีเพียงคราบน้ าไหลเป็ นทางบนถุงใต ้ตา ื ฉั นยืนสูดกลิน ่ ผมหยักศกของเธอในห ้องอ่านหนังสอ ้ ง 3 นิว้ ทาให ้เธอสูงสง่า รองเท ้าสนสู เธอเหลียวหลังเหลือบแลลงมาสบตาฉัน เราไม่ได ้จุมพิตกัน เพราะฉันมิใชเ่ จ ้าบ่าวในงานวิวาห์
5
ฮำนอย ึ ษา” แม่สาว “นักศก เธอปรากฏกายกลางถนนสายเล็ก ี งเจือ สง่ เสย ้ ยแจ ้วแข่งกับแตรรถนานาชนิด ฉั นแหงนหน ้าทามุม 20 องศา สบสายตาเธอ แล ้วเราก็เดินทางฝ่ าสายลมไปด ้วยกัน ระหว่างทาง ฉั นไม่มอ ี ารมณ์รว่ มอะไรเลย กับพิพธิ ภัณฑ์โปรปะกันดาเหล่านัน ้ ึ รู ้สา แต่ฉันรู ้สก ื เมือ ่ เธอแสร ้งนาตัวมาอิงแอบในห ้องนิทรรศการแสนจืดชด ฉั นหวั่นไหว ั ผัสใบหน ้ายามซอนท ้ เมือ ่ ผมยาวสลวยของเธอปลิวสยายมาสม ้ายมอเตอร์ไซค์ ฉั บพลัน เธอก็หายไป ทิง้ เศษซากอาวุธยุทโธปกรณ์อน ั ปรักหักพังจากสงครามเวียดนามไว ้ดูตา่ งหน ้า ึ ษา” แม่สาว “นักศก เธอดูดกลืนความฝั นของนักเดินทางฝึ กหัดอย่างฉัน ี ครึง่ หนึง่ ไปเสย
6
อ่ำวฮำลอง เราไม่รู ้จักกัน ขณะกาลังนั่งรอรถโดยสาร ระยะห่างไม่ถงึ ครึง่ เมตรกับระยะเวลา 3 ชวั่ โมงครึง่ ไม่ได ้ทาให ้เราคุ ้นเคยกันมากขึน ้ การรอนแรมบนเรือไม ้ทีก ่ าลังแล่นฝ่ าหมอกหนา ั พันธ์อน ก็ไม่ตา่ งอะไรกับการเดินทางของความสม ั พร่าเลือน เธอรู ้แค่วา่ ฉันเป็ นคนไทย ฉั นแอบได ้ยินว่าเธอเป็ นชาวเวียดนาม ผู ้เดินทางท่องเทีย ่ ว “ภายใน” ราว “คนนอก” จากบทสนทนาระหว่างเธอกับตาแก่หน ้าตาคล ้าย “อัฟราม แกรนท์” คนนัน ้ ่ งโพรงสลับซบ ั ซอนในถ ้ ความรักมันคงลึกลับดังชอ ้า ั คนมันคงเหนือ ความพยายามจะเป็ นคนรักของใครสก ่ ยยาก ั ขึน ่ าสูง เหมือนทัวริสต์รา่ งกายอ่อนแอผู ้ทะเยอทะยานจะไต่บน ั ไดลืน ่ ชน ้ สูผ เมือ ่ พบเห็นแสงสว่างด ้านบน ทุกอย่างก็วา่ งเปล่า เธอก ้าวเท ้าเดินจากไปอย่างรวดเร็วบนถนนมาเมย์ ิ ฝากรอยสะกิดตรงแขนขวา ณ เวลา 19 นาฬกา ไว ้เป็ นนามธรรมเบาบางแห่งความทรงจาและห ้วงคะนึงหา
7
Autumn ี ละร่วงหล่น ใบไม ้ทยอยเปลีย ่ นสแ งู grass snake เลาะเลือ ้ ยใต ้ผืนพรมเรืองรองสว่างไสว ี งคนเมาดังชาแรกสายลมหนาวเดือนตุลาคม เสย
Heron เบียร์สงิ ห์กลายสภาพกลางอุณหภูม ิ 5 องศา ี งหัวเราะ ควันบางเบาพวยพุง่ ออกจากปากพร ้อมเสย ผู ้หญิงฝรั่งทีไ่ ม่มไี ฝเดินผ่านไปเงียบๆ
Tube (1) ิ วิง่ ไปมา มุสก ชานชาลาไร ้ผู ้คน คา่ คืนอันมืดหม่น ผีหนึง่ ตนรอรถไฟ
Tube (2) ผู ้ชายนั่งใสร่ องเท ้าสเี หลือง ี ดง ผู ้หญิงยืนใสร่ องเท ้าสแ ี มก ้ าลังวิง่ ไป รถไฟสายสส
8
Bar Italia (1) จิบกาแฟหน ้าบาร์อต ิ าเลีย หลังกรึม ่ เบียร์ในผับเก่าย่านโซโห เพลงของ “พัลพ์” แว่วดังมาพร ้อมวาโย ควันบุหรีม ่ วลโตลอยเคลือ ่ นคล ้อยไป ี งของ “จาร์วส ฟั งไอพ็อดได ้ยินเสย ิ ” ท่ามกลางสรรพชวี ต ิ อันหลับใหล สาวสองคนผู ้โดยสารบนรถไฟ ่ น สวมใสย ี สเ์ ขียวขีม ้ ้าสเี หมือนกัน
Bar Italia (2) เพ่งมองรอยปรุบนใบหน ้าบริกรสาว ึ ผ่านฟองนม น้ าตาลทรายแดงแทรกซม ความร ้อนของคาปูชโิ นไหลล่องไปตามทางเดินอาหาร
9
Noodle and Rice พนักงานเดลิเวอรีฝ ่ รัง่ นั่งจีบสาวเสริ ฟ ์ ชาวไทย ื้ ชาติกาลังทานอาหารญีป คนไทยทีพ ่ ยายามปกปิ ดเชอ ่ น ุ่ ื้ เบียร์อาซาฮก ี ลับไปดืม แหม่มเมาๆ เดินเข ้ามาซอ ่ ในผับอังกฤษ
Nepali Girl ฉั นนั่งฟั งเธอพึมพาเพลงประหลาด ราวพรา่ มนต์อาศริ วาทคเณศวร ่ รวน รึ? เธอคือกุมารีลโี้ ซต มาสง่ สายตากาสรวลอันพริม ้ เพรา หรือเธอร่าร ้องเพลงปฏิวัต?ิ ื่ สาเนียงสูส ่ หายลัทธิเหมา สอ การต่อสูยั้ งยืดเยือ ้ อีกนานยาว กว่าจะก ้าวถึงยอดเขาหิมาลัย
10
เปี ยโนก ับเชลโล่ เพือ ่ นเอ๋ย เธอไม่จาเป็ นต ้องมองเห็นฉัน ฉั นอาจซุกแอบอยูห ่ ลังทีวจ ี อแบน ใต ้เปี ยโนตัวเก่าครา่ ครึ ี ากลิน หรือภายในโซฟาหนังสด ่ ใหม่สด ฉั นอาจยืนจิบไวน์อยูต ่ รงมุมมืดของห ้อง เปิ ดขวดไซเดอร์ทา่ มกลางผู ้คนทีก ่ าลังพูดคุยหัวเราะกัน หรือแสดงทรรศนะเชยๆ เกีย ่ วกับเหตุสงั หารหมูใ่ นสหรัฐ ึ ซบ ั ตัวโน ้ตทัง้ หมดทีเ่ ธอบรรเลงผ่านเชลโล่ ฉั นรับรู ้แต่มอ ิ าจซม ฉั นไม่เคยอ่านงานของ “เจน ออสเตน” ี่ วชาญ ซงึ่ นักเรียนวรรณคดีองั กฤษอย่างเธอเจนจัดเชย หากฉันจะระลึกถึงแววตาไร ้เดียงสาของเธอ ยามนั่งเคีย ้ วบ๊วยจากเหล ้าอุเมะชูเพียงคนเดียว ในห ้องพักอันเหน็ บหนาวสงัดเงียบ
11
กำซู่ ้ เ่ ศร ้าทีส อาหารมือ ้ เชาที ่ ด ุ ในรอบหลายปี ไข่คนในรูปลักษณ์ของออมเล็ตต์ถก ู โลมเลียโดยอากาศ ่ กันกับเบค่อน แฮม และไสกรอก ้ เชน เค็มๆ เหล่านัน ้ ผงกาแฟอเมริกาโน่สาเร็จรูปไม่ถก ู ชง แน่ละ่ รสกลิน ่ ของมันคงเทียบไม่ได ้แม ้แต่กบ ั กาแฟคอสต ้า ี งกาซูส ่ าเนียงหม่นกาลังดังเสย ี ดแทงห ้วงอารมณ์ มีเพียงเสย ไม่ตลก ไม่สนุก ไม่ “ยิม ้ เย ้ยยุทธจักร” ี งเบสของเธอประสานเคียงคู่ ยามไร ้เสย เป็ นการบรรเลงดนตรีทไี่ ร ้ความหวังทีส ่ ด ุ ในรอบหลายปี
12
ื้ เขียว สำวเสอ อากาศหนาวพลันอบอุน ่ ั ผัสมือกับเธอ เมือ ่ ฉั นสม ื้ เขียว แม่สาวเสอ ั ้ กระชบ ั บทสนทนาเดินทางอย่างสน ก่อนผู ้คนเหล่านัน ้ จักพรากเธอไปจากฉั น ฉั นจะไร ้ตัวตนในภาพถ่ายของเธอ ฉั นไม่มโี อกาสแม ้แต่จะหยุดนิง่ ในภาพเคลือ ่ นไหวของเธอ แต่ผัสสะจากมือของเธอ จะยังคงอบอวลอยูบ ่ นมือของฉัน
13
Spanish Scholar ี องอยูห ผมถูกไฮไลท์เป็ นสท ่ นึง่ หย่อม ี ดง ผ ้าพันคอแคชเมียร์สแ ื้ แจ๊คเก็ตหนังสม ี ว่ ง เสอ ์ ส ี ม้ กางเกงยีนสส ฟั ดหัวใจให ้โลกตะลึง! ฉั นต ้องมนต์เคลิบเคลิม ้ ในห ้องเสวนา ก่อนลอบสะกดรอยตามเธอจากอาคารหอสมุดใหญ่ มุดดิง่ ลงสูโ่ ลกใต ้ดิน ี ้ าเงิน บนรถไฟสายสน ี ดกัน ร่างของเราเริม ่ เบียดเสย เธอสูงราว 5 ฟุต 9 นิว้ ครึง่ ครัน ้ ฉันแหงนหน ้าขึน ้ สบตา ภาพเธอกลับรางเลือนสูญหาย คล ้ายลมปลิววูบหนึง่ ี น ั ย่านโคเวนท์ การ์เด ้น ซงึ่ พัดคลอเคลียไปกับหมูต ่ ก ึ หลากสส
14
The Japanese Girl from Ipanema Tall and tan and young and lovely ฉั นลอบมองหญิงสาวญีป ่ นจากอิ ุ่ ปานีมาผ่านบานกระจกใส ี ้ าตาลหม่นในย่านเสอ ื่ มโทรมแห่งกรุงลอนดอน ของตึกสน ่ งตึกทีค ระยะห่างระหว่างชอ ่ น ั่ ด ้วยสวนหย่อมเล็กๆ อันร ้างไร ้ผู ้คน ชา่ งแลดูยาวไกล ั พันธ์ตอ ห่างไกลจนเรายากจะมีปฏิสม ่ กัน เหมือนทีห ่ วั ใจฉันอยากขับขานบทเพลงของ “ลิซา่ โอโนะ” ี งและสาเนียงแบบ “เซลโซ่ ฟอนเซก ้า” ด ้วยเสย แต่ลน ิ้ แบบไทยๆ กลับต่อต ้านขัดขืนอย่างร ้ายกาจ ฉั นจะทาอะไรได ้มากไปกว่าการนั่งจิบกาแฟจากกัวเตมาลา ึ จากเครือ ซงึ่ ค่อยๆ หยดซม ่ งชงแบบเวียดนาม ่ ้วยเซรามิกราคาถูกจากเซนสบ ์ วิ รี่ ลงสูถ แล ้วลอบมองเธอไม่ให ้คลาดสายตา ี ้ าในห ้องพักของ The Japanese Girl from Ipanema กระทั่งม่านสฟ ถูกรูดมาปิ ดฉากละครรัก บนเวทีทถ ี่ ก ู คลีค ่ ลุมด ้วยม่านรัตติกาลผืนใหญ่แสนหม่นเศร ้า ั เพลงเบาๆ ผ่านละอองฝนและสายลมโชย ฉั นฮม It’s only fair to say That I’m in love So much in love You mean the world to me So be with me, stay with me 15
Summer (1) ั เมอร์น่าหลงใหลเสมอ การเยีย ่ มเยือนของซม ื่ ชมแสงแดดโดยพร ้อมเพรียงในสวนสาธารณะ ผู ้คนพากันไปชน ็ สห ์ มูท บังเกิดเซก ่ ม ี่ ไิ ด ้มีขน ึ้ ต่อหน ้าธารกานัล เพราะไม่มใี ครต ้องการถอยห่างออกไปเป็ นผู ้ดู มีแต่คนอยากเข ้ามาร่วมรัก ั เปลีย พวกเขาและเธอสบ ่ นคูอ ่ ย่างไม่รู ้จักเหนือ ่ ยหน่าย ไม่เลือกหน ้า ก ้าวพ ้นวัย ข ้ามผ่านเพศสภาพ หนุ่มสาวเปล่งพลังชวี ต ิ อันเริงร่าเร่าร ้อน ิ้ เรีย ชายแก่หญิงชราคูห ่ นึง่ กระหืดกระหอบไร ้สน ่ วแรง ราวกับเพิง่ ปลดปล่อยพลังสุดท ้ายแห่งชวี ต ิ ออกมา เรือนร่างของเขาและเธอค่อยๆ ย่อยสลายกลืนกลายกับพืน ้ ดิน ี น ั จะผลิดอกงอกงามในซม ั เมอร์หน ้า บุปผานานาสส มวลหมูภ ่ มรจะนาพาเกสรของมันไปยังสวนสาธารณะแห่งอืน ่ ๆ ในฤดูร ้อนปี ตอ ่ ๆ ไป
16
Summer (2) ดอกไม ้กาลังผลิบานอีกครัง้ อายุของแสงแดดยืนยาวกว่าปกติ ลูกฟุตบอลเกลือกกลิง้ กับสนามหญ ้า ลูกเซลลูลอยด์ถก ู ตีโต ้ไปมา โดยคนดาทีเ่ พิง่ หัดเล่นปิ งปอง บนถนนรอบสวนสาธารณะ มีเศษกระดูกไก่ถก ู ขว ้างทิง้ ไว ้
จ ันทร์ (1) กองทัพเมฆมวลหนายาตราทัพ ื้ เชญ ิ ผู ้คนบนโลก ดวงจันทร์เชอ ่ นหากันเถอะ” “มาเล่นซอ ฉั นปิ ดตา นับหนึง่ ถึงร ้อย แล ้ววิง่ เข ้าไปไล่จบ ั กระต่าย ในซูเปอร์มาร์เก็ต
จ ันทร์ (2) ิ จูงมือหนุ่มโคลอมเบียไปชมจันทร์ สาวบราซล ิ ปะกับการต่อสู ้ นักวิชาการคนนัน ้ กาลังพูดเรือ ่ งศล กระต่ายข ้างบนโน ้นยิม ้ เยาะลงมาทีฉ ่ ัน
17
สวอนซ:ี ถนนสำยลม ฝนตกต่อเนือ ่ งยาวนาน ไม่เห็นทัง้ แสงจันทร์และแสงอาทิตย์ พืน ้ ถนนปูด ้วยอิฐเจิง่ นองเฉอะแฉะ ร่มกันฝนราคาถูกผุพงั เพราะแรงกรรโชกของสายลม ื้ กันหนาวมีฮดเปี เสอ ู ้ ยกเปื่ อยเพราะจังหวะสมา่ เสมอของสายฝน ์ องกลุม หนุ่มสาวชาวเวลชส ่ เปิ ดฉากตะลุมบอนข ้างหน ้าบาร์ ี งหมัดกระแทกศรี ษะกระทบรถยนต์ดงั ก ้องเต็มรูหู เสย ี งของนักแสดงละครเวทีฝีมือดี ราวกับการโปรเจ็คท์เสย ตารวจชุดเขียวเรืองแสงวิง่ วุน ่ มาพบกันโดยมิได ้นัดหมาย หนังชุด “ร็อคกี”้ กาลังแพร่ภาพผ่านจอโทรทัศน์ ไซเดอร์แก ้วแรกหลังอาหารมือ ้ เย็นเหือดหายไปเกือบหมด ตามด ้วยไอริชวิสกี้ ออน เดอะ ร็อก หยาดฝนค่อยๆ รวมตัวเป็ นน้ าแข็ง แล ้วละเลียดละลายด ้วยฤทธิส ์ รุ าบนปลายลิน ้ ของกาในฝูงหงส ์ น้ าเริม ่ เอ่อท ้นรางรถไฟ
18
ไม่มด ี วงอำทิตย์ทเี่ อดินบะระ ไม่มด ี วงอาทิตย์ทเี่ อดินบะระ ั พร่าพรางเพราะสายหมอก ทัศนวิสย สายฝนเม็ดเล็กละเอียด ่ น พรั่งพรูลงสูพ ื้ ทีล ่ ดหลัน ่ ทุกระดับของเมือง ร่างกายผู ้คนล ้วนเปี ยกปอนทัดเทียมกัน ฉั นย่าเท ้าลัดเลาะไปตามตรอกทึบและซอกหลืบ ด ้วยปรารถนาแสงสว่าง ซงึ่ ยังไม่ถก ู ค ้นพบ
Wallace Monument ละอองฝนทะเลหมอก มินานหรอกจะเคลือ ่ นคลาย ยามแสงสุรย ี ฉ ์ าย คนจักกลายคืนชวี ต ิ หยาดเลือดของนักสู ้ ทีพ ่ รั่งพรูยงั กรังติด ิ แนบแน่นสนิทชด ยากปกปิ ดฤาลบล ้าง
19
ั ส ิ ธิ์ กรวยศกดิ ์ ท เมฆครึม ้ ฝนตก หรือแดดออก สามวันแล ้ว ทีฉ ่ ั นนั่งจ ้องมองอนุสาวรีย ์ “ดยุค ออฟ เวลลิงตัน” ี ม้ และศรี ษะของท่านซงึ่ ถูกครอบด ้วยกรวยจราจรสส มิใช ่ “นโปเลียน” หรอก ทีล ่ ก ั ลอบมายึดกุมความหมายของรูปเคารพแห่งกลาสโกว์เพือ ่ ล ้างแค ้น เป็ นผู ้คนมากหน ้าหลายตาแห่งเมืองนีต ้ า่ งหาก ทีผ ่ ลัดเปลีย ่ นหมุนเวียนกันปฏิบต ั ภ ิ ารกิจอันสาธารณ์ ั ดิส ิ ธิส เพือ ่ ลดทอนความศก ์ ท ์ ถาพรของรูปปั น ้ ด ้วยน้ ามือแห่งสามัญชน ท่านดยุคและกรวยจราจรบนหัว ื พวงกุญแจ เสอ ื้ ยืด สถิตอยูใ่ นโปสการ์ด แม็กเน็ต เข็มกลัด ทีร่ องแก ้ว ทีค ่ น ั่ หนังสอ ท่านดยุคและกรวยจราจรบนหัว ิ ค ้าทีร่ ะลึก กลายสถานะเป็ นสน ั ดิส ิ ธิไ์ ด ้ด ้วยอานาจเงินตราจากกระเป๋ าสตางค์ของนักท่องเทีย ซงึ่ จะคืนความศก ์ ท ่ ว ท่านดยุคและกรวยจราจรบนหัว กลายเป็ นสงิ่ ธรรมดาสามัญสาหรับชาวเมือง ี งหัวเราะ ไม่มเี สย ไร ้อารมณ์ขน ั เพราะคุณมันก็แค่ไอ ้เบื๊ อกคนหนึง่ ี ม้ ทีถ ่ ก ู สวมหัวด ้วยกรวยจราจรสส เท่านัน ้ เอง 20
แถมท้ำย 28 ธันวาคม 2012 ั ประมาณสท ี่ ม ื้ ไก่ทอด-เฟรนชฟ ์ รายแถวๆ หอพัก สก ุ่ ผมเดินไปซอ ร ้านไก่ทอด-พิซซา่ แห่งนี้ ถือเป็ นเจ ้าประจาของผม แม ้ว่ารสชาติของอาหาร ั เท่าไหร่ (ขณะทีค ขยะเหล่านัน ้ จะไม่ได ้เรือ ่ งสก ่ นขายซงึ่ ค่อนข ้าง “ซ”ี้ กับผม มักชอบ อวดอ ้างถึงความเอร็ดอร่อยของพิซซา่ จากร ้านของเขา) ั อยูแ แต่ทางเลือกของคนทีม ่ ฝ ี ี มือการทาอาหารห่วยแตก ซงึ่ อาศย ่ ถวสถานี “นิว ครอสส ์ เกต” ก็มอ ี ยูไ ่ ม่มากนัก วันนัน ้ ผมเข ้าไปทักทายกับคนขายตามปกติ ถ ้าจาไม่ผด ิ บังกลาเทศ (ผมรู ้เรือ ่ งนีจ ้ ากการแอบฟั งเขาพูดคุยกับลูกค ้ารายหนึง่ ี เมือ มาเลเซย ่ ราวๆ เดือนก่อน) ผมถามเขาว่าชว่ งปี ใหม่นม ี้ แ ี ผนจะไปเทีย ่ วต่างจังหวัด
เขาเป็ นคน ซงึ่ เป็ นคน
“นอกลอนดอน”
บ ้าง
ไหม? เขาตอบกลับมาแบบ “กลับหัวกลับหาง” ว่า เขาอยากจะเดินทางเข ้าไปเทีย ่ ว “ข ้างในใจกลางกรุงลอนดอน” มากกว่า เพราะทีน ่ ั่นจะมีคนมาร่วมเฉลิมฉลองกัน เยอะแยะ มีการจุดพลุ มีเทศกาลกินดืม ่ บลา บลา บลา บทสนทนาระหว่างเรากลายเป็ นประเด็นน่าสนใจขึน ้ มา เนือ ่ งจากผมตัง้ คาถามผ่านโลกทัศน์ทค ี่ ด ิ ว่าตัวเองอยู่ “ในลอนดอน” คือ แม ้จะ อยูโ่ ซนนอกๆ แต่ก็สามารถเดินทางเข ้าไปในใจกลางเมืองหลวงได ้ง่ายๆ และบ่อยครัง้ ตามใจปรารถนา ั อยู่ “นอก ทว่า สาหรับคนขายไก่ทอดชาวบังกลาเทศ เขาคงคิดว่าตนเองอาศย กรุงลอนดอน” และนานๆ ครัง้ เขาจึงจะมีโอกาส (ในแง่ “เวลา” และ “กาลังทรัพย์”) ั ที ได ้เข ้าไปเดินเทีย ่ วตรงใจกลางเมืองหลวงสก แล ้วประเด็นการพูดคุยก็ไถลออกจากเรือ ่ งวันปี ใหม่ คนขายไก่ทอดเริม ่ พูดถึงเรือ ่ ง “ชวี ต ิ ” 21
เขาบอกว่าตนเองไม่สามารถจากัดนิยามความหมายของคาว่า “ชวี ต ิ ” ได ้ ิ ใจ เพราะชวี ต ิ ใครก็ชวี ต ิ มันแตกต่างกันไป นอกจากนี้ ชวี ต ิ ยังเกีย ่ วพันอยูก ่ บ ั การตัดสน ิ ใจในเรือ เพราะจะมีชว่ งเวลาใดชว่ งเวลาหนึง่ ในชวี ต ิ ทีค ่ ณ ุ ต ้องตัดสน ่ งหนึง่ ๆ และการ ิ ใจครัง้ นัน ่ างสายใหม่อก ้ ตัดสน ้ จะ “เปลีย ่ น” ทางเดินชวี ต ิ ของคุณไปสูท ี เสนหนึ ง่ โดย ทันที อย่างไม่มวี น ั หวนกลับ ผมไม่แน่ใจว่า วันนัน ้ เราหยุดคุยกัน (หรือกล่าวให ้ตรงไปตรงมายิง่ ขึน ้ คือ ผม หยุดฟั งเขาพูด) ตรงจุดไหน? เมือ ่ ใด? ์ ราย และจ่ายเงินเรียบร ้อย ผมก็เดินฝ่ าอากาศ แต่หลังจากรับไก่ทอด-เฟรนชฟ หนาวปลายเดือนธันวาคมกลับมาทีห ่ อ เมือ ่ ถึงห ้องพัก ผมเปิ ดคอมพิวเตอร์ “Something Changed” ของวงพัลพ์
เข ้าเว็บไซต์ยท ู บ ู
เพือ ่ เสริ ช ์ หาเพลง
หลังวันขึน ้ ปี ใหม่ 2013 ผ่านพ ้นไปเพียงไม่กเี่ ดือน ร ้านไก่ทอดเจ ้านัน ้ ก็ปิดกิจการ ั ญาณเรือ ผมไม่ได ้รับสญ ่ งนีล ้ ว่ งหน ้าจากคนขายไก่ทอดชาวบังกลาเทศ เวลาผ่านไปไม่นานนัก ร ้านไก่ทอดเจ ้าใหม่ก็เปิ ดให ้บริการในพืน ้ ทีเ่ ดิมของร ้าน ไก่ทอดเจ ้าเก่าซงึ่ เพิง่ ปิ ดตัวลง พนักงานในร ้านกลายเป็ นคนหน ้าใหม่ กลุม ่ ใหม่ ์ รายแบบเดิมๆ แล ้ว เมนูพซ นอกจากไก่ทอด-เฟรนชฟ ิ ซา่ รสชาติแย่ๆ หายไป และถูกแทนทีด ่ ้วยซโี่ ครงหมูบาร์บค ี วิ รสชาติพอทานได ้
สูญ
ผมไม่ได ้เจอคนขายไก่ทอดชาวบังกลาเทศอีกเลย เพราะเขาคงหันเห (หรือถูก ้ บังคับให ้หันเห) ชวี ต ิ ของตนเองไปยังเสนทางสายใหม่ ๆ เรียบร ้อยแล ้ว
22
บทกวีวา่ ด ้วยหญิงสาวแปลกหน ้า, ฝนฟ้ าอากาศ, นักเดินทางฝึ กหัด, ซากปรักของ ี งดนตรีรายรอบตัว อนุสาวรีย,์ และสรรพส-ี เสย