ความหนาวเหน็บที่ โดย อุดมพร เพ็ชรรัตน์
21-26 Feb 2013
พี่ก้อยกะว่าจะรอรูปจากฝีมือตากล้อง (ขั้นเทพ) สุดหล่อมาดเท่ นามว่า “เจ” ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ.2556 ก็ไม่คลอดสักที สาเหตุขอบอกพี่เจเค้าแต่งรูปนาน กลัวไม่สวยเดี๋ยวเสียยีห่ ้อหมด ก็เลยเอารูป ฝีมือตัวเองก็ได้น่ะ ก็พอใช้ได้ (กล้องก็เก่าคนก็แก่) เพราะเลยเวลา Back Pack มานานแล้ว สงสารน้อง ๆ ทีมงาน KM ที่มีความตั้งใจทํางานสูง น่ารักทุกคน ก็ขอส่งต้นฉบับ พร้อมรูปงาม ๆ เดี่ยว บก.ว่าเอา ว่า ไม่ส่งข่าวสักที ไปกันเลย...จุดหมายปลายทาง คือ Korea…..
วันแรก 22 ก.พ.2556 ถึงสนามบินอินซอล ประเทศเกาหลีใต้ 10 โมงเช้า (เวลาเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชม.) ก็เดินทางสู่หมู่บ้านฝรั่งเศส La Petite France ซึ่งโอบล้อมด้วยภูเขาโฮมีซัน และทะเลสาบซอน เพียงโฮ ได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ต่อจากนั้นรับประทานอาหารเที่ยงคือ บาร์บีคิวไก่/ทัค คาลบี้ (ขอบอกอร่อยมาก/กรุบกริบ) บ่าย เดินทางสู่อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน/ สวิสเซอร์แลนด์เกาหลี ตั้งอยู่ใจกลางภูเขาแทแบค มี สัญญลักษณ์เป็นรูปหมี ตั้งอยู่หน้าอุทยาน ซึ่งชาวเกาหลีเชื่อกัน ว่า “หมี” คือบรรพบุรุษของพวกเขา และค่ําทานชาบู ชาบู/สุกี้ เกาหลี (ก็คล้ายสุกี้บ้านเรา/หมูเยอะมาก)
วันที่สอง 23 ก.พ.2556 เช้า นั่งกระเช้าขึ้นยอดเขามองบลังค์ PHOENIX PARK SKI RESORT สกีรีสอร์ท ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งมีสถาปัตยกรรม การออกแบบในสไตล์ยุโรป ไป Mont Blanc ยอดเขามองบลังค์ จุดชมวิว ซึ่งสูง 1,050 เมตร จากระดับน้ําทะเล ก็เลยเล่น สกี บนลานหิมะ ซึ่งเพิ่งเจอครั้งแรก ยังไง ต้องถ่ายรูป เล่นสกีให้ได้ สู.้ .สู.้ . บอกกับ ตัวเอง เพราะชุดสกีหนักมาก พี่ก้อยไม่ ค่อยแข็งแรง เลยลําบากทุลักทุเลแต่ดูภาพ ...........หายเหนื่อย
เที่ยง รับประทานอาหาเที่ยง คาลบี้/หมูย่างเกาหลี (ของแท้หมูนุ่ม อร่อยมาก) บ่าย ไปไร่สตอเบอรี่ ที่เมืองอิชอน ทานฟรีไม่อั้น หวานอร่อยมาก มุ่ง หน้าต่อสู่ Seoul Tower สัญญลักษณ์ของเกาหลี อีกอย่าง เดินทาง ต่อ พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้ แบร์ The Teddy Bear Museum ได้ความรู้ เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการก่อกําเนิด ชนชาติ และบรรพบุรุษของคนเกาหลี ค่่า รับประทาน ข้าวยําชาววัง (คล้าย ๆ กันทุกมื้อ คือ ต้องมี กิมจิ) ตบท้ายด้วยการชมโชว์ BIBAB SHOW เป็นโชว์ที่ผสมผสานระหว่าง การแสดงตลก ประกอบการร้องเพลง การเต้น ผ่านเรื่องราวในการ ทําอาหาร พร้อมความสามารถด้านกายกรรม
วันที่สาม 24 ก.พ.2556 เช้านําชม คลองชองเกชอน คลองใจกลางเมืองที่ใส และสะอาด เดินทางต่อสู่ หมู่บ้านวัฒนธรรมบุกชอน ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังเคียงบกกุง และพระราชวัง ชางด๊อกกุง แล้วก็ชอปปิ้งนิดหน่อยเที่ยง รับประทาน ไก่ ตุ๋นโสม อาหารบํารุงสุขภาพ เสิร์ฟในหม้อดิน ไก่ 45 วัน ตุ๋นยาจีน เอ้ย ..ตุ๋นโสมเกาหลี บ่าย ไปชมศูนย์รัฐบาลโสม ดูวงจรชีวิตของโสม ถ้าแวะก็ต้องซื้อทดลอง ตอนนี้ยังทานอยู่เลย ผลลัพธ์ กําลัง ทดสอบอยู่ ยังไม่เฉลย
วันทีสี่ 25ก.พ.2556 (วันมาฆบูชาบ้านเรา) เช้า เดินทางไปทําบุญที่วัดโชเกซา JOGYESA TEMPLE วัดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงในปี 1910 ศูนย์กลางพุทธศาสนานิกายโซเก นิกายที่ใหญ่ ที่สุดในเกาหลี ภายในวัดมีพระพุทธรูปใหญ่เยอะมาก และยังมีต้นสนที่นํามาจากเมืองจีน อายุกว่า 500 ปี ให้คนอธิษฐานให้มีอายุยืนยาว เที่ยง รับประทานอาหารเซตอาหารชาววัง ฮันจองซิก (ก็แปลกดี เหมือนข้าวยําปักษ์ใต้บ้านเรา) บ่าย เยี่ยมชมศูนย์เทคโนโลยี DIGITAL PAVILLION สุดยอดแห่งเทคโนโลยีที่ทันสมัย โรงหนัง 4 มิติ แต่ชอบสุดก็การเลี้ยงปลาในบ่อปลา แห่งโลกไซเบอร์ และชอปปิ้งย่านฮงอิก ตลาดทงเดมุน/ประตูน้ําบ้านเรา เย็น รับประทาน ไก่พะโล้ จิมทัค (ใส่กระทะผัดไท หอยทอด ที่แม่ค้าใช้ / ทานกัน 4 คน ใครจะไหว)
วันที่ห้า 26 ก.พ.2556 เช้า ดูงานที่ YONSE UNIVERSITY มหาวิทยาลัยยอนเซ หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และดีที่สุดในประเทศเกาหลี ตามลักปรัชญา “ความ สัตย์จริงและอิสรภาพเสมือนพญาเหยึ่ยว” ของม.ยอนเซ เที่ยง รับประทานซีฟู้ด (ของกินเยอะมาก/อิ่มมาก) บ่าย ไปดูสมุนไพร ฮ็อกเกตนามู บํารุงตับ ดูแลตับ พี่ก้อยก็ซื้อทดลอง ตามระเบียบ ตอนนี้ยังทานอยู่ ยังไม่เฉลย......... หลังจากนั้นเดินทางต่อ TRICK EYE MUSEUM “พิพิธภัณฑ์ภาพลวงตา” งานศิลปะแห่งภาพแนวคิดแบบใหม่ที่สร้างสรรค์ออกมาได้สวยงาม เป๊ะ.....สนุกมาก แวะชอปปิ้งก่อนขึ้นเครื่อง...ตามระเบียบ 21.10 น. เดินทางกลับ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ ในเวลา 01.15 น.
สิ่งที่ได้รับจากการไปเกาหลีครั้งนี้ 1. ความสนุกสนาน ความประทับใจ ดินแดนกิมจิ ดินแดนหิมะขาวบริสุทธิ์ ดินแดนที่มีอุโมงค์ใต้ ดินมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา 2. ความทันสมัย ของมหาวิทยาลัยยอนเซ ซึ่งก้าวล้ําหน้า ทางด้านการบริการมากกว่าเรา ซึ่ง ทางห้องสมุดเราควรจะพัฒนากําลังกายกําลังคนให้เพิ่มขึ้นอีก 3. การเดินทางเป็นหมู่คณะ การท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม ก็จะเห็นความน่ารักของเด็ก ๆ เป็น ส่วนมาก 4. ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ใช้ได้เลย คุยกันพอรู้เรื่อง ซื้อของกลับมา ได้ก็แล้วกัน..ฮิ..ฮิ.. ......................................................................................................................................................