PLAY magazine

Page 1


newsletter

สมัครเป็น PlayMember วันนี้

รับสิทธิพิเศษเพียบ! Become

PlayMember

NOW! and gain MORE

PRIVILEGES!

is searching for... แหล่งรวมข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในวงการศิลปะ วิจารณ์แลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างผู้รู้และผู้ชม ใครรู้อะไร ไปดู อะไรมา บอกต่อกันได้ง่าย ๆ ใน “ปฏิทินงานศิลป์” ระบบเปิด ให้ทุกคนได้สมัครสมาชิกฟรีและโพสได้อย่างอิสระ การสมัคร สมาชิกเป็น PlayMember ยังเติมเต็มหัวใจคุณ ด้วยสิทธิ พิเศษต่าง ๆ ตั้งแต่ส่วนลดค่าบัตรไปจนถึงส่วนลดจากร้านค้า ร้านอาหาร ที่ทีมงานพยายามสรรหามาให้อยู่เสมอ

Our free-membership website, www.PlayMember.com, is the center of art news, critiques, opinions and information from scholars, specialists, artists and audiences. Being a member, you will also receive privileges, range from free tickets to discounts for restaurants, hotels and much more.

นิ ต ยสาร PLAY เราหมายมั่นว่าจะนิตยสารเล่มนี้จะเป็นพื้นที่สาธารณะส�ำหรับ ผู้ชมและศิลปิน ให้ได้เขียนตามคิด วาดตามชอบ ตอบตาม ตรง โดยเรายินดีให้คุณได้ร่วมเป็นนักเขียน เพื่อช่วยพัฒนา แวดวงศิลปะไปด้วยกัน เนื้อหาจาก PlayMember.com จะ กลายเป็นเนื้อหาส�ำคัญของแต่ละเล่ม ให้คุณได้แสดงออก เต็มที่ พร้อมกับเรื่องราวดี ๆ จากเหล่าศิลปิน พ่วงที่กินที่เที่ยว รอบกรุงและทั่วประเทศ ตะลุยคอนเสิร์ต นิทรรศการ และงาน ศิลปะทั่วโลก

Our free magazine, Play, is to be a free canvas, a public space where you can share your experiences, critique, show your talent or anything you want to do with free pages. Also, it will include some good read: where to eat, places to go, and even art exhibitions from around the world.

Should Play Production เอเจนซี่ศิลปะน้องใหม่ เราตั้งใจเป็นก�ำลังเสริมให้เหล่าศิลปิน ช่วยโปรโมต ออกทุน อ�ำนวยการสร้าง ให้ศิลปะการแสดงและ นิทรรศการศิลปะทุกแขนงที่เรามีแรงจะช่วยได้ ใครสนใจส่งร่าง โครงการ หรือรายละเอียดเท่าที่มีมาได้ที่ contact@playmember.com Our free-application, Should Play Production is a young alternative support for artists. We help fund, promote, and produce any fields of art. Interested? Please feel free to send anything you’ve got to contact@playmember.com

2

Project Coordinator Production Manager Graphic Designer Photographer Web Coordinator Assistant Editor

send your resume and portfolio to beourteam@playmember.com


prologue

magazine team บรรณาธิ ก าร

chief editors

ชนก ชาตะวราหะ

Chanok Chatawaraha

ผมได้คิดอะไรอย่างหนึ่งจากการพูดคุยกับพี่นักแสดงที่เป็นนัก จิตบ�ำบัดด้วยการเต้น พี่เขาพูดท�ำนองว่า จะดีกว่าไหมถ้าเราอยู่ร่วม กันแบบไม่ตัดสินใคร? หลายวันหลังจากนั้น อยู่ดี ๆ ผมก็คิดได้ว่า เห้ย จริงๆ แล้วศิลปะ มันไม่ต้องการการตัดสิน แต่มันต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยอาศัยความเคารพและการยอมรับซึ่งกันและกันต่างหาก แล้วถ้า หากว่าศิลปะต้องการอะไรแบบนั้น บ้านเมืองเราก็อาจจะคล้าย ๆ กัน คุณคิดว่ายังไงครับ?

กิตติพร โรจน์วณิช

Kittiporn Rodvanich

กองบรรณาธิ ก าร editors

ธารินทร์ คีรี

Ployjai Pintobtang

รักษ์ศักดิ์ ก้งเส้ง

Raksak Kongseng

กนต์ธร เตโชฬาร

อัจฉรา สุริยะ

Kittiporn Rodvanich

จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ

Nattawut Kongsawat

สุวิดา บุญยาทิษฐาน

Jitlaeka Rampongsa

Peangdao Jariyapun

พริมา ผู้พัฒน์

นภัค ไตรเจริญเดช

Chavatvit Muangkeo

ชนก ชาตะวราหะ / บรรณาธิการ

Poonperm Vardhanabindu

รู ป เล่ ม และภาพประกอบ

graphics + illustrations

It just popped into my mind the other day..if Art were really

ชลิตา โตพึ่งพงศ์

a human, will we call it a he or a she? Then I realized, why

Chalita Topeongpong

would that be important? Sometimes we just spend too much

http://be.net/llchalita or portfolios.net/profile/llchalita

time catagorizing things around us.Why not just enjoy it!

Kittiporn Rodvanich / Chief editor

นิตยสาร Play : A Free Magazine For All Arts เป็นนิตยสารรายเดือน จัดท�ำโดย โครงการเพลย์เมมเบอร์ ของ บริษัท ชู้ดบี จ�ำกัด 531 ซ. พัฒนาการ 29 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. 10250 Play : A Free Magazine For All Arts is a monthly free magazine published by PlayMember project by Should Be Co., Ltd. 531 Pattanakarn 29 Suanluang Bangkok 10250 Tel. 02 318 6756 Fax: 02 328 6756 / Email: contact@playmember.com / Website: www.playmember.com ภาพและข้อมูลที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Play เป็นลิขสิทธิ์ตามกฎหมายของบริษัท ชู้ดบี จ�ำกัด All texts and images contained within are strictly copyright of Should Be Co., Ltd.

พิมพ์ที่ บริษัท ประชุมช่าง จ�ำกัด 1/14 ถ. วิภาวดีรังสิต แขวง ตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210 Pra Choom Chang Ltd. 1/14 Vipavadee Rungsit Road, Laksi Bangkok 10210

ติดต่อโฆษณา Advertising with us please contact อัจฉรา สุริยะ 02 - 318 - 6756 และ 08 - 7086 - 0252 atchara@playmember.com

พบกับ Play ทุกสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนที่

Keep yourself updated with our latest 'Play' Magazine monthly at

และติดตามในรูปเล่มได้ที่ or look for the hard-copy version at: หอศิลป์

/

กรุงเทพมหานคร / Icedea, 4th floor,

Department of Dramatic Arts, Faculty of Arts BACC

- หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน / Bangkok Art and Culture - ศูนย์สารนิเทศมนุษยศาสตร์ คณะอักษร - CupB ชั้น 2 โรงภาพยนตร์ลิโดมัลติเพล็กซ์ / ศาสตร์ / Humanities Information Center, CupB, 2nd floor, Lido Multiplex Center Faculty of Arts - Muse garden 2/23 ซอยอารีย์ (พหลโยธิน - Bangkok Art House ชั้น 3 หอศิลป 7) / Muse garden, Soi Ari วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร / Bangkok - ร้านกาแฟ สมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ / Coffee shop, Association of Political Art House, 3rd floor BACC - Teddy House’s kitchen สยามสแควร์ Science Alumni ซอย 11 / Teddy House’s kitchen, Siam - หอศิลปวิทยนิทรรศน์ (ห้องสมุดกลาง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / Gallery on 7th - ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ / Library, Faculty Square soi 11 floor, Central library, Chulalongkorn of Political Science - Toys Coffee ซอยพหลโยธิน 6 / Toys CofUniversity - Art4d คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ Art4d, fee, soi Phaholyotin 6 - หอศิลป์จามจุรี ริมถนนพญาไท จุฬาลงกรณ์ Faculty of Architecture - Ohana Fresh Café สุขุมวิท 24 / Ohana มหาวิทยาลัย / Chamchuri Gallery, Chula- คณะนิเทศศาสตร์ / Faculty of Com- Fresh Café, Sukhumvit 24 longkorn University - Blue door(ประตูสีฟ้า) ซอยเอกมัย 10 / จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Chula- munication Arts longkorn University

ร้านอาหาร Café

- ภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ - Icedea ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่ง

สถานที่ข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของผู้สนับสนุนใจดีของโครงการ PlayMember สนใจร่วมสนับสนุนโครงการเพื่อชุมชนคนรักศิลปะ ติดต่อ คุณอัจฉรา สุริยะ

Blue door, soi Ekamai 10

- Happy Monday bar เอกมัย / Happy

Monday bar, Ekamai

- Jamaree Yak Café Gallery พระราม 9 ซอย 60 / Jamaree Yak Café Gallery,

Rama 9

โรงละคร

- Democrazy studio ซอยสะพานคู่ ถนน พระราม 4 / Democrazy studio, Soi

Saphan Koo, Rama 4

- M theatre ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ / M theatre, New Petchburi Rd.

- ภัทราวดีเธียร์เตอร์ ซอยวัดระฆัง ถนน อรุณอัมรินทร์ / Patravadi Theatre, Soi

Wat Rakang, Arun Amarin Rd.

- สถาบันปรีดี พนมยงค์ ทองหล่อ / Pridi

Banomyong Institute, Thonglor

และที่หน้าสถานที่จัดการแสดงของ Should Play Production And at every production of Should Play

on the list here is just a part of our kind sponsors to join this list, please kindly contact atchara@playmember.com

3


content

spotlight

article

พล นิกร กิมหงวน

p.5

FREE TICKETS AT intermission

p.8-9 p.14

p.23

on stage

GRAB&Go! with our

calendar.

off scene

p.15-18 p.11-13, dialogue 19-22

p.26

observation

Oberammergau

10 ปีมีหน ละครแก้บนของฝรั่ง home theatre

epilogue

p.30

p.27

p.28-29


spotlight

เรื่ องนี้ ไม่ ได้เป็นเพี ยงแค่เรื่ องของ “ผู ้หญิ ง” ที่ ออกมาจิ ก กั ดประชดประชั นสั งคม เธอเล่าเรื่ องผ่านการพู ดบ้าง ร้อง บ้ า ง แต่ เ รื่ อ งนี้ ยั ง เสนอแง่ มุ ม บางอย่ า ง ที่ ยั ง ซุ ก ซ่ อ นอยู ่ ในสั งคมเรา อยู ่ในตั วเรา เกี่ ยวกั บชนชาติ และวั ฒนธรรม ที่ ไม่ ว่ า ผู ้ ห ญิ ง หรื อผู ้ ชายก็ ป ฏิ เสธไม่ ได้ว ่ามันมีอยู่จ ริง

actor

พัช รกมล จันทร์ตรี | Pacharakamol Chantri previous works

BTF’50 นางแบบแอบอยาก

BTF’50 Tragedy of Bellies

BTF’51 ดัก (สัน )ดาน

BTF’51 Trap your pace

BTF’52 ดูโ อ้

BTF’52 Duo

นางฟ้ านิร นาม Cocktails

น�้ำใสใจจริง

Nam Sai Jai Jing The Musical award

สดใสอวอร์ ด ปี 2551 Outstanding Actor จากเรื่ อ ง วัย หวาน Sodsai Award 2008 outstanding actor from Whai-Whan

cast and crew

สี่ ด ารุ มะ

สุว ลี วิชัยวุฒิคุณ

มาลิ น ดา ภมรสุว รรณ

นภัค ไตรเจริญเดช

4DARUMA Malinda Pamornsuwan

Suwalee Wichaiwuttikun Napak Tricharoendej

This is not just a story of a “woman” who satirizes society which told through speeches and songs, but it also reveals the ugly truth that lies hidden in our society and within ourselves, about culture and ethnicity. The truth that no one can deny its existence.

showtime 13-17 ตุ ล าคม 2553 19.30น. เสาร์ - อาทิ ต ย์ เพิ่ ม รอบ 14.00น. บลู บ็ อ กซ์ ส ตู ดิ โอ เอ็ ม เธี ย ร์ เ ตอร์ ถนนเพชรบุ รี บั ต รราคา 500 350 250 บาท บั ต รนั ก เรี ย นราคา 250 บาท สมาชิ ก Playmember ราคา 350 บาท 13-17 October 2010 19.30 Sat-Sun 14.00 and 19.00 @Bluebox theatre, M Theatre, Petchburi Rd. Tickets 500 350 250 Baht Student 250 Baht Playmember discount @ 350 Baht

5


ผู้หญิงและเวที กับการขอพื้นที่ทางสั ง คม

แนวคิด สตรี นิ ย มในละคร

โดย รศ.พรรัตน์ ด�ำรุง อาจารย์ประจ�ำภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนวคิดสตรีนิยมที่พัฒนาในยุค 60 นั้นท�ำให้ผู้หญิงในโลกตะวันตกเริ่มตระหนักถึง สถานะที่ไม่เท่าเทียมกัน และเริ่มแสวงหาความเสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจ น�ำไป สู่การเรียกร้องสิทธิ ความเสมอภาคและโอกาสในการท�ำงาน การศึกษา รวมถึงอิสรภาพ ในการตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเธอ “ละคร” ถูกน�ำมาใช้เป็นเครื่อง มือเพื่อโฆษณาแนวคิดสตรีนิยม มีการเล่นละครตามถนนในระหว่างการชุมนุมเพื่อเรียก ร้องสิทธิเสรีภาพทางการเมือง กระแสละครสตรีนิยมในยุคนั้นเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงในโลก ตะวันตกได้แสดงความคิด มุมมองทางสังคมและเป็นเครื่องมือส�ำคัญที่ใช้ต่อต้านสังคมวัฒนธรรมกระแสหลักที่ผู้ชายเป็นผู้ก�ำหนดมาช้านาน

ละครที่ผู้หญิงน�ำเสนอเป็นละครที่มีหลายมิติ การแสดงบางครั้งเป็นกิจกรรมที่พวก เธอน�ำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มผู้หญิง แบ่งปันเรื่องราวและแลก เปลี่ยนพูดคุย ในขณะที่ละครหลายเรื่องเขียนขึ้นเพื่อใช้แสดงแก่ผู้ชมสาธารณะ ละคร ผู้หญิงจึงมีความเป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะเฉพาะที่สะท้อนวิธีคิดแบบผู้หญิง มีความ เฉพาะในกระบวนคิดและแนวการน�ำเสนอ ละครที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาผู้หญิงด้วย กัน ปฏิเสธการพัฒนาโครงเรื่องแบบโครงเรื่องเดี่ยวและการท�ำงานภายใต้วิถีแบบผู้ชาย ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์เฉพาะบุคคล ผู้หญิงให้ความส�ำคัญกับครอบครัว เพื่อนๆ งาน ที่น�ำเสนอจึงมีความชัดเจนที่สะท้อนความคิดของคนหลายคน และให้พื้นที่ส�ำหรับการ ท�ำงานร่วมกัน(Collaborative) ของกลุ่มผู้หญิง มีการแบ่งปันพัฒนาเรื่องราวแบบเรื่อง ละครสตรีนิยมได้สร้าง “พื้นที่ใหม่” ให้กับนักเขียนบทละครหญิง พวกเธอได้ค้นหา เล่า (Story theatre) และน�ำมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน สร้างลักษณะเฉพาะในการน�ำเสนอ สาระใหม่ ประเด็นทางสังคมที่ผู้หญิงสนใจ ตัวละครหญิงที่ไม่ใช่”ภาพลักษณ์”ที่ผู้ชายสร้าง ที่หลากหลาย มีทั้งการแสดง การใช้สื่อผสม การเต้นร�ำ และดนตรี ขึ้น แต่เป็นตัวละครที่สะท้อนความเป็นจริงของผู้หญิง ที่เป็นปุถุชนและมีชีวิตจิตใจ มี นักเขียนบทละครหญิงและคณะละครผู้หญิงล้วนเกิดขึ้นมากมายในช่วงสองทศวรรษแรก ในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงทั่วโลกมีบทบาทในการเป็นผู้สร้างสรรค์ศิลปะการ บทละครสะท้อนความไม่เสมอภาค การใช้อ�ำนาจและการเอาเปรียบกดขี่ผู้หญิง ทั้งใน ละครร่วมสมัยอันเคยเป็นพื้นที่ของผู้ชายมากขึ้น ผู้ชมละครกระแสหลักเริ่มเข้าถึงและ ครอบครัวของเธอเองและในสถานะทางสังคมในขณะนั้น ได้รับชมละครของพวกเธอ นักการละครหญิงหลายคนได้รับรางวัลระดับนานาชาติ มี เครือข่ายนักเขียนบทละครและผู้ก�ำกับการแสดงผู้หญิงที่มีสมาชิกอยู่ทั่งโลก ละครผู้ “ละครผู้หญิง (women’s Theatre)” เป็นพัฒนาการที่ต่อเนื่องและสัมพันธ์กับแนวคิด หญิงเป็นละครที่ท้าทายและต่อต้านแนวคิดของละครกระแสหลัก อันได้แก่ ละครที่เน้น สตรีนิยม บทละครและการแสดงในระยะหลังมีความหลากหลาย สะท้อนแนวคิดทางการ ความบันเทิงและละครที่เน้นความส�ำคัญของผู้ชาย มีภาพของผู้หญิงที่เป็นแบบแผนตาม เมืองและความเปลี่ยนแปลงของสังคมปัจจุบัน เรื่องราวที่น�ำเสนอล้วนโดดเด่น มีความ ที่สังคมคุ้นเคย ละครของพวกเธอน�ำเสนอเรื่องราวที่มาจากทัศนะคติของผู้หญิงในทุก พ้องเหมือน แต่ก็มีความแตกต่างทั้งในบริบททางสังคมและวัฒนธรรม มีนักเขียน คน เรื่อง มีประเด็นมากมายที่ผู้หญิงให้ความส�ำคัญ ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เช่น สุขภาพ ความ ท�ำละครผู้หญิงอยู่ทั่วโลก ศิลปินหญิงจ�ำนวนมากไม่ต้องการผูกพันกับค�ำว่า “สตรีนิยม” ทุกข์จากการเจ็บป่วย ความวิตกกังวลของผู้หญิง ความต้องการ อารมณ์และความ เพราะเธอมีความคิดที่แตกต่างไปจากแนวคิดแบบสตรีนิยมของตะวันตกในอดีต ผู้หญิง สัมพันธ์ทางเพศที่เธออยากแบ่งปัน การเปลี่ยนแปลงของชีวิต และคุณค่าแห่งตัวเธอที่ หลายเชื้อชาติ ต่างวัยและชนชั้นล้วนเขียนบทละคร และน�ำเสนอการแสดง ที่มีประเด็น ไม่ต้องผูกพันกับความคาดหวังของสังคม ผู้หญิงที่ท�ำงานในสายละคร เขียนบทละครที่ ทางสังคมในบริบทที่เธอมีชีวิตอยู่ ผู้สร้างสรรค์บทและผู้ก�ำกับการแสดงที่เป็นผู้หญิง มี มีสาระและกลวิธีน�ำเสนอที่มีความโดดเด่น เป็นงานที่เป็นเอกลักษณ์ของนักเขียนหญิงที่ มุมมองในการเสนอเรื่องราวและกลวิธีเล่าเรื่องที่แตกต่างจากละครแบบฉบับ พวกเธอ สังคมยอมรับ ละครหลายเรื่องสร้างกระแสให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งค�ำถามกับสังคม ปฏิเสธการน�ำเสนอตัวละครหญิงที่อยู่ในมโนทัศน์ที่ผู้ชายและที่สังคมสร้างขึ้น ละครผู้ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสภาพของพวกเธอในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ผลงานเหล่า หญิงเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้หญิงที่ไม่เคยได้รับความใส่ใจ ละครเป็นการแสดงออก นี้ช่วยท�ำให้ละครและผู้หญิงสามารถค้นหาบทบาทและขยายสาระของละครให้กว้างขึ้น และท�ำให้ผู้ชมได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้หญิงต้องการแบ่งปันให้กันและกัน จากครั้งหนึ่งที่เคยเป็นเพียงละครที่ผู้หญิงเขียนจากมุมมองของตนเท่านั้น

Women, Stage, and Their space in society

Feminist theatre

Pornrat Damrhung , Associate professor at the Department of Dramatic Arts Faculty of Arts, Chulalongkorn University Women’s theatre developed in relationship to the broader trends in feminism.

in the contemporary theatre arts. In doing so, their theatre performances have

Since the 1960s, feminism has sought to give women social equality and economic

reached mainstream audiences in a field which long dominated by men. Many

pay parity with men. At the same time, many women artists have created theatre

of these women playwrights and performers have created performances using

pieces from women’s perspectives, criticized the current social place of women,

unconventional styles and plots. These have addressed such political themes

and explored new options for women’s lives. Women’s theatre, in other words,

as questioning how women live, and the unequal laws, rules and regulation that

has become a site for women to express their thoughts, to criticize their society,

society uses to constrain options for women. These new women’s plays challenge

and to consider new ways of living.

or resist the currents of mainstream society, and base themselves on stories from

Women theatre workers have written plays that embodied unique messages,

women’s viewpoints, relaying issues such as health and desire—traumas due to

and adopted distinctive modes of presenting them to the wider public, many of which made waves by raising critical questions about the socio-economic status and cultural and artistic place of women in contemporary society. These works helped the theatre and women to explore new roles and expanded the range of themes in their plays. In recent decades, women around the world have taken leading creative roles

6

illness or difficult life transitions, or sexual experiences and women’s values. The plays also criticized the norms and ways of thinking that have affected women and their social roles, whether in the family or outside of it. The once radical idea of women writing plays from their own point of view is now widely accepted as normal all over the world, and has helped to give voice to issues beyond those of women’s rights.


“ดูจบแล้วรู้สึกว่าผู้หยิ๊งงง ผู้หญิง คือ feminist มากๆ รู้สึกว่าเรื่องมันถูกแบ่งเป็นส่วนๆ ท่อนๆ สิ่งที่ประทับใจคือ พอดูแล้วไม่รู้สึกว่าดูละครอยู่ เพราะดูแล้วเหมือนเราถูกดึงเข้าไป เข้าไปจนรู้สึกตัวอีกทีก็ เอ้ยย ละครๆ อีกอย่าง แค่เป็นโซโล มันก็ไม่ธรรมดาแล้ว มันหา ได้น้อยในเมืองไทย ยิ่งเป็นผู้หญิงอีก เจ๋งอ่ะ น่าสนใจ แค่ดูจากโปสเตอร์ก็ดึงดูดแล้วด้วย” อธิกุล เหมันต์สุทธิกุล (อาร์ท) นิสิตศิลปกรรมศาสตร์ มศว. ปี 4 “Sooooooooooo feminist! The stories are cut up in many parts. What I like the most is--when I watched it, I wasn’t feel like watching at all. I felt like I was drawn into it till I had to remind myself so many times that it’s just a play! And since it is a solo, it’s already extraordinary and rare in Thailand….and when the performer turns out to be a girl! Cool! Very interesting. And the poster just caught my attention at the first glance.”

“พอดูเสร็จแล้วรู้สึกว่า คนเราให้ความส�ำคัญกับอะไรที่ไม่ได้ส�ำคัญ กับชีวิตเลย ละครมันบอกความจริงอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคยคิด ลึกๆ มาก่อน ท�ำให้เราเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงมากขึ้นด้วย ส่วน นักแสดงก็สุดยอด เก่งมาก มีดี... ดีดี...” ณภัทร เลาหะกาญจนศิริ (ปัน) นักศึกษานิเทศศาสตร์ หอการค้า ปี 4 “When the show ended, I realized that people actually value things which have no importance to their lives at all. This play reveals many truths the way I have never thought about it before. It gives me an idea of how women really feel. The soloist is just extreme! She is awesome, very talented…..good….very good.” Pun / Senior Student, Faculty of Communication Arts, University of the Thai Chamber of Commerce

Art / Senior Student, Faculty of Fine arts, Srinakharinwirot University

SPOTLIGHT

Audiences’ voice เนื่องจากละครเรื่องนี้เคยจัดท�ำการแสดงไปแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่คุณผู้ อ่านจะตัดสินใจไปชมการ restage ที่ก�ำลังจะเกิดขึ้น ลองมาดูกันว่า คนดูบางส่วนจากคราวที่แล้ว เขามีความเห็นอย่างไร “เห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ผู้ชายก็ไม่ ได้เดือดร้อนอะไร ไม่ต้องแนะน�ำให้ผู้ชายมาดู เล่นคนเดียวก็เอาอยู่ เพราะเรื่องราวมันเรียง ร้อยท�ำให้ติดตามไปจนจบ ตอนดูไม่รู้สึกเลย ว่าละครยาวตั้งชม.กว่า” ปิติพงษ์ ผาสุขยืด (พีท) นักร้องน�ำวงโอเวอร์มี

Since this play has been performed once, so before you decide whether or not to watch the play…let’s see what people think about it!

to watch. The stories are brilliantly adapted

“ก็โดนนะ เพียงแต่ว่าตอนนี้บริบทมันเปลี่ยนไป สังคมไทยที่เราอยู่ ให้สิทธิผู้หญิง ไทยมากขึ้นกว่าในบทละคร ดูแล้วเกิดความสงสารผู้หญิงโบราณ แต่ยังไงผู้ชายส่วน ใหญ่ก็ยังเห็นผู้หญิงเป็น sex object อยู่ดี จากค่านิยมต่างๆ เช่น แห่ไปถ่ายรูปพริต ตี้ในมอเตอร์โชว์ ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะไม่คิดมากเหมือนสมัยก่อน แต่ก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี ควรให้เกียรติกันมากกว่านี้หน่อย” รชยา ลิ่้มปิยะชาติ (มาศ) โปรดิวเซอร์ละครโทรทัศน์

which helps her to hold the audience just

“Touched, but now everything has changed. Thai women already have more

perfect. I felt like hypnotized, absolutely have

right than those in the play, which makes me sympathize women in the past.

no idea that an hour has already passed.”

Somehow men still see us as ‘sex objects’ like when thousands of men parade

“Some I agree, some I don’t. But guys ain’t troubled anyway, so no need suggesting a guy

Pete / Lead vocalist of “Over Me”

to the motor show to take photos of sexy pretties. Even though women aren’t paranoid like in the old days but please you guys, show us some respect.” Mas / TV show producer

“อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังจากนี้ ของทั้งหมดที่เห็นอยู่จะเอาไปท�ำอะไร บ้าง ไม่เคยดูละครเล่นคนเดียว สนุก สร้างสรรค์ เป็นละครที่ท้าทาย เล่นคนเดียว แต่สามารถเอาคนดูอยู่ ละครปกติก็ไม่ค่อยดู เพราะดูก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมาย แต่ อันนี้ดูแล้วก็ค่อนข้างเข้าใจ และเข้าถึงเพราะมันมีเรื่องที่... “เออจริงว่ะ” “อ้อหรอ” ก็มีบ้างว่ามีความคิดแบบนี้ด้วยเหรอ” แพรวา จิรประวัติ ณ อยุธยา (แพรวา) ศิลปินอิสระ “Wanna know what will happen next. What will she do with all these props!! I’ve never watch a solo before. It’s great fun, creative, and very challenging. Only one person can hold the entire audience spellbound. I normally don’t watch a lot of plays cause I simply don’t understand them, but for this one I do…it touches. There are moments when I go….. ‘This is so freaking true’ or ‘Really?’ It’s just surprised me to know that this kind of thing really exists.” Praewa / Freelance artist

เรื่ อ ง นภั ค ไตรเจริ ญ เดช / Content Napak Tricharoendej แปล กิ ต ติ พ ร โรจน์ ว ณิ ช / Translate Kittiporn Rodvanich

“สนุกดี เรื่องของผู้หญิงดี น่ารักดี ผู้ชายไม่ได้ติดใจอะไร สะกิด ใจนะว่า ผู้หญิงล�ำบาก ต้องหาอะไรมาใส่เพื่อเรียกร้องความสนใจ เข้าใจว่ามาเรียกร้อง ก็เข้าใจ แต่ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ใช่แบบ.. เฮ้ย อะไรของเธอออออ น่าดูที่ได้แง่มุมของผู้หญิง บางทีผู้ชายไม่เข้าใจ พอดูก็เข้าใจมากขึ้น” ธนะ คุตไชยกุล (บี) นิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 3 “It was fun, very feminine, and cute. Guys don’t mind it. I reminded me of how hard it is to be a woman; they have to seek beautiful cloths to wear just to get people’s attention. Totally understand what she’s talking about. It wasn’t like… What the heck are you doinggggg???? Should watch to get the women’s inside view; sometimes men just don’t understand… after watch this play, they will.” Bee / Junior Student, Faculty of Education, Chulalongkorn University

7


A R Ticle หนึ่งศตวรรษที่แล้ว กวีมากความสามารถคนหนึ่ง ถือก�ำเนิดขึ้นพร้อมพรสวรรค์ในการสร้างเสียงหัวเราะ หนึ่งศตวรรษให้หลัง เขากลายเป็นอดีต ทิ้งไว้เพียงชาย หนุ่มสามคนที่โลดแล่นอย่างมีชีวิตชีวาบนหน้ากระดาษ “พล นิกร และกิมหงวน” “พล นิกร กิมหงวน” หรือ “สามเกลอ” ผลงานเอก ของปรีชา อินทรปาลิต หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ป. อินทรปา ลิต” หัสนิยายอมตะที่ชาวไทยยุคกึ่งพุทธกาลทุกคนต้องรู้จัก ตลอดร่วมสามสิบปีกับกว่าพันตอน นับตั้งแต่ออกวางแผง ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2482 พล นิกร กิมหงวนได้สร้างเสียง หัวเราะแก่คนไทยผ่านเรื่องราวชวนหัวและชวนติดตามที่ ถ่ายทอดด้วยภาษาที่เรียบง่ายแต่คมคาย ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นกระจกสะท้อนสังคมในยุคเปลี่ยนแปลง จึงไม่น่า แปลกใจที่พล นิกร กิมหงวนจะเป็นวรรณกรรมโมเดิร์น

คลาสสิคหนึ่งในไม่กี่เล่มที่ประสบความส�ำเร็จเป็นอย่าง มากและยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจ�ำของคนไทยเรื่อย มา เรื่องราวของสามเกลอ พล นิกร และกิมหงวน เป็น เรื่องราวตลกขบขันของชายหนุ่มสามคนที่เป็นเพื่อนรัก กัน ในเล่มแรกๆ มีเพียงพล พัชราภรณ์และนิกร การุณ วงศ์เท่านั้น ต่อมาป. อินทรปาลิตได้เพิ่มตัวละครหลัก เข้ามาอีกตัวนั่นก็คือกิมหงวน ไทยแท้ หรือชื่อเดิม สงวน ไทยเทียม และได้เพิ่มตัวละคร ที่มีบทบาทส�ำคัญเข้ามาเรื่อย ๆ เช่น ดร.ดิเรก พระยาปัจจนึก พินาศ และเจ้าแห้ว เหตุการณ์ ต่างๆ ในเรื่องมักเกิดขึ้นที่บ้าน “พัชราภรณ์” บ้านของพลและ

แหล่งรวมของเหล่าสหาย มีตั้งแต่เรื่องธรรมดาสามัญอย่าง มิตรภาพ ความรัก ความใคร่ หวย คนใช้ หรือขอทาน จน ไปถึงเรื่องราวทางการเมืองอย่างการเปลี่ยนแปลงการ ปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตย มีทั้งความบันเทิงและ สาระ และความลงตัวระหว่างความสนุกสนาน ทะลึ่ง ตึงตังที่ผสมผสานกับความคิดอันหลักแหลมนี้เองที่นับ ได้ว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพล นิกร กิมหงวน ความพิเศษของพล นิกร กิมหงวนอยู่ที่การมิใช่แค่

One century ago, a gifted author was born with a talent for making people laugh. One century passed by, he has become a past tense. All left are three characters who vivaciously live on paper; Phol, Nikorn, and Kim-nguan.

makes them the unputdownable stories. Hence, there

ship, affection, passion, lotteries, maids, or beggars

is no doubt why Phol Nikorn Kim-nguan is one of the

to a political issue like the Siamese revolution of 1932.

few modern classic pieces of literature which have

The fiction offers both recreation and knowledge. The

succeeded and are still in Thai people’s minds.

harmony of enjoyment, dirtiness, and deep thoughts in

the fiction are the charms of Phol Nikorn Kim-nguan.

“เครื่ อ งยื น ยั น ความส� ำ เร็ จ ของพล นิ ก ร กิ ม หงวนคื อ การที่ นิ ย ายเรื่ อ งนี้ มี อิ ท ธิ พ ลเป็ น อย่ า งสู ง ต่ อ สั ง คมไทย ในหลายๆ ด้ า น ตั ว ละครหลายตั ว แม้ ไม่ใ ช่ตัวละครเอก ต่ า งก็ เป็ น ที่ รู ้ จั ก และมี ส ่ ว นสร้ า งวั ฒ นธรรมสมั ย นิ ย ม ใหม่ ๆ ขึ้ น มา ยกตั ว อย่ า งเช่ น ค� ำ ว่ า “แห้ว””

พล นิกร กิมหงวน สั้น ๆ ยาว ๆ

8

A story of the three comrades – Phol, Nikorn,

and Kim-nguan – is a humorous story of three guys

who are close friends. In the first chapters, there are

it is a comedy which does not only offer jokes but

A specialty of Phol Nikorn Kim-nguan is that

“Phol Nikorn Kim-nguan” or “Samgler”(Three

only Phol Pacharaporn and Nikorn Karunwong. Por

contains a great amount of ideas and believes, satires

friends) – written by Preecha Intharapalit, also known

Intharapalit then added one more main character in

society, and perfectly reflects images of each class

as “Phor Intharapalit” – is an everlasting comic fiction

later chapters which is Kim-nguan Thai-tae(Real Thai)

of the society at that time. This comic fiction was

of which all Thais in the mid Buddhist Era must have

or the former Sa-nguan Thai-tiam(Fake Thai) and

composed at the time of changing, from monarchism

been familiar with. Throughout almost 30 years with

put more important characters in, such as Dr. Direk,

to capitalism, when people were getting to be keen

more than a thousand chapters since it was first

Prayapatcha-neukpinart, and Haew. A situation in the

on the Thai cultural mandates. Everything was being

published in 1939, Phol Nikorn Kim-nguan were not

fiction usually takes place at “Pacharaporn’s”, Phol’s

modified. The characters, too, had to face alterations

only hilarious, but also mirrored our changing society

house and the place where all characters gather. The

in the altering society. Lives of the upper class who

as it was. Told through simple but thoughtful words

situation varies from a simple matter such as friend-

were adjusting themselves to the word ‘Civilization’,


เพียงนิยายตลกขบขันที่ตลกโปกฮา แต่ยังบรรจุความ คิดความเชื่อต่างๆ ล้อเลียนเหตุการณ์ และสะท้อนภาพ สังคมของแต่ละชนชั้นในขณะนั้นออกมาได้เป็นอย่างดี หัสนิยายหรือนิยายตลกขบขันเรื่องนี้เกิดขึ้นในยุคแห่ง การเปลี่ยนผ่านทางสังคม จากสังคมเจ้าขุนมูลนายสู่ สังคมทุนนิยม ประชาชนเริ่มตื่นตัวกับแนวความคิดรัฐ นิยม เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในทุกๆ ด้าน ตัว ละครในเรื่องก็เช่นกัน ต่างก็เจอกับความเปลี่ยนแปลง ของสังคมที่ก�ำลังเปลี่ยนไป ชีวิตของคนชั้นสูงที่ก�ำลังปรับ ตัวกับการสร้างความเป็นอารยะ สภาพของคนชั้นกลางที่ ก�ำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดในโลกใหม่ เหล่านี้ล้วน เป็นสิ่งที่พบได้ในเรื่อง ความบันเทิงจึงไม่ใช่สิ่งเดียวที่ผู้ อ่านจะได้รับ แต่รวมไปถึงการได้เรียนรู้วิถีชีวิต ค่านิยม และประวัติศาสตร์ด้วย การได้อ่านนิยายเรื่องนี้จึงเปรียบ เสมือนการได้อ่านชีวิตจริงของคนในยุคเปลี่ยนแปลงการ ปกครองนั่นเอง เครื่องยืนยันความส�ำเร็จของพล นิกร กิมหงวนคือ

การที่นิยายเรื่องนี้มีอิทธิพลเป็นอย่างสูงต่อสังคมไทยใน หลายๆ ด้าน ตัวละครหลายตัวแม้ไม่ใช่ตัวละครเอก ต่าง ก็เป็นที่รู้จักและมีส่วนสร้างวัฒนธรรมสมัยนิยมใหม่ๆ ขึ้น มา ยกตัวอย่างเช่น ค�ำว่า “แห้ว” ก่อนหน้านี้แห้วมิได้มี ความหมายเป็นอย่างอื่น นอกจากอาหารชนิดหนึ่งและ ตัวละครตัวหนึ่งในนิยายสามเกลอ “เจ้าแห้ว” หรือ “ศักดิ์ แห้ว โหระพากุล” คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์โกงไปโกงมาของพล พัชราภรณ์ผู้ไม่เคยโกงส�ำเร็จ ได้ทำ� ให้ค�ำว่าแห้วมีความ หมายใหม่ขึ้นมา ค�ำว่า “เชย” ก็เช่นกัน มีที่มาจาก “ลุง เชย” หรือ “เชย พัชราภรณ์” ผู้ที่เชยแสนเชยจน “ท�ำค�ำ ว่าเชยให้เชยได้” ดังที่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ได้เขียนไว้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีการจากไปของป. อินทร ปาลิต ยิ่งไปกว่านั้นลุงเชยยังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ค�ำขวัญประจ�ำอ�ำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ บ้าน เกิดของลุงเชยตามท้องเรื่องอีกด้วย ความนิยมพล นิกร กิมหงวนยังมิได้หมดไปจาก สังคมไทยปัจจุบันเสียทีเดียว แม้จะเลิกวางแผงไปนาน

แล้วก็ตาม แต่ภาพความสนุกสนานของสามเกลอยังคง กระจ่างชัดในใจคนไทยโดยเฉพาะนักอ่านรุ่นใหญ่ ยังคงมี นักอ่านกลุ่มหนึ่งที่ยังคงรักและอ่านนิยายเรื่องนี้ได้อย่าง มิรู้เบื่อ พวกเขาได้จัดท�ำเวปไซต์ www.samgler.org ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของนักอ่านสามเกลอ นอกจากนี้ยัง มีการกล่าวถึงนิยายเรื่องนี้อยู่เนืองๆ ทั้งในงานวิจัยต่างๆ วิทยานิพนธ์ รวมถึงการสัมมนาทางวิชาการ และในช่วง ปีพ.ศ. 2540 - 2541 ที่ผ่านมา พล นิกร กิมหงวนก็ได้ รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควร อ่านตามโครงการวิจัยเพื่อคัดเลือกและแนะน�ำหนังสือดี ในรอบศตวรรษ โดยศูนย์วิจัยสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย รังสิตซึ่งได้รับการสนับสนุนจากส�ำนักงานกองทุนสนับสนุน การวิจัย (สกว.) อีกด้วย เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เวลาของป. อินทรปาลิตช่าง สั้นเมื่อเทียบกับลมหายใจของตัวละครอย่าง พล นิกร และกิมหงวน ฉันใดฉันนั้น ชีวิตสั้นแต่ศิลปะยืนยาว

Phol   Nikorn

Kim-nguan

Short   but   long

and of the lower class who were struggling to survive

the word (now it is a slang for “being unsuccessful”).

ing it. They have created the website www.samgler.

in the new world; these are all seen in the fiction.

Also, the new definition of the word “Choei” has formed

org to be an online community for Samgler’s fans.

Therefore, pleasure is not the only thing readers will

from “Uncle Choei” or “Choei Pacharaporn” who is so

Furthermore, there constantly are some references

get but understandings about ways of life, social

old-fashioned that “can make the word ‘Choei’ really

to the fiction in pieces of research, dissertations,

values, and history, too. Reading this comedy, thus,

choei (another slang for old-fashioned) ” – an excerpt

and academic seminars. During the time between

is no difference from reading a real life of people in

from a poem authored by Naowarat Pongpaiboon, The

1997 - 1998, Phol Nikorn Kim-nguan was listed as

the time of the revolution.

National Artist of Thailand in Literature, in memorial of

one of the “100 good books Thai people should read”

Por Intharapalit. Moreover, the name of Uncle Choei

under a research project to select and promote good

appears in the slogan of Krok Phra District in Nakhon

literary works of the century, a project of The Social

Some characters, though not playing an important role,

Sawan Province, his hometown according to the plot.

Research Center of Rangsit University subsidized by

are in fond remembrance of Thais and a part of newly

The Thailand Research Fund (TRF).

born pop cultures. For instance, the word “Haew” was

vanished from Thailand. Although the fiction is no longer

once nothing but one kind of food and a character

on a stand, a vivid image of joyfulness of Samgler is

to that of Phol Nikorn Kim-nguan. Yes. Ars longa, vita

in Samgler. “Haew” or “Sak-haew Horapakul”, Phol

still brilliantly clear in Thai people’s minds especially

brevis. Art is long, life is short.

Pacharaporn’s faithfully faithless servant who has never

in those of long-standing readers. There is a group

succeeded in cheating, has given the other meaning to

of the fiction’s fanatics who love and still enjoy read-

A guarantee of success of Phol Nikorn Kim-nguan

is a great impact it has on Thai society in several ways.

Popularity of Phol Nikorn Kim-nguan has not all

Por Intharapalit’s time is quite short comparing

เรื่ อ ง รั ก ษ์ ศั ก ดิ์ ก้ ง เส้ ง / Raksak Kongseng

9



dialogue

พล ตัณฑเสถียร

ARTISTIC C O N V E R S AT I O N

นายแบบ นักแสดงอาชีพ เป็น Chef และเจ้าของร้านอาหาร

คอลิด มิด�ำ

นักแสดงละคร คณะละครแปดคูณแปด

นิกร แซ่ตั้ง

นั กการละครอาชี พ หั วหน้ า คณะละครแปดคู ณแปด

3 หนุ่มคนละคร กับ ชี วิ ต บางตอนที่ ไ ม่ ค ่ อ ยปลื้ ม 3 Past 3 Future 3 Actors

ฉาก ห้องท�ำงานขนาดกะทัดรัด ในโรงงานผลิตอาหารของพล ล้อมรอบด้วยก�ำแพงปูน สีขาวบนพื้นเทาเข้ม ก�ำแพงฝั่งหนึ่งทึบ ฝั่งตรงข้ามเป็นกระจกใสบานใหญ่ขนาดครึ่งตัว มองออกไปเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ เคาน์เตอร์และอุปกรณ์ท�ำครัวทุกอย่างเป็นสีเงินวาววับ ทางเข้าออกมีเพียงทางเดียวคือประตูกระจกใสที่เปิดเข้ามาจากทางห้องครัว กลางห้อง เป็นโต๊ะส�ำนักงานสีน�้ำตาลเข้มสองตัววางต่อกัน บนโต๊ะเต็มไปด้วยต�ำราอาหารภาษา อังกฤษ นิตยสาร play ที่วางเปิดทิ้งไว้ ปฏิทินตั้งโต๊ะขนาดมาตรฐาน สก็อตเทป คลิป หนีบกระดาษ แฟ้มขนาดใหญ่ส�ำหรับใช้ในส�ำนักงาน โน้ตบุ๊ค แว่นกันแดด กระเป๋าเงิน และมือถือ มุมห้องสองด้านมีตู้เก็บเอกสารสีเข้ม ฝั่งหนึ่งมีโต๊ะวางคอมพิวเตอร์เล็กๆ แยกออกมา เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นโทนสีเข้ม ตั้งแต่น�้ำตาลเข้มไปจนถึง ด�ำ เว้นแต่เพียงเก้าอี้ไม้ขัดมันสามตัวที่ล้อมโต๊ะกลางห้องอยู่ สลับกับเก้าอี้ส� ำนักงาน ล้อหมุนสีด�ำ ฝั่งที่เป็นก�ำแพงทึบ แขวนกระดานไวท์บอร์ดขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง บน กระดานเต็มไปด้วยเมนูอาหารที่เขียนด้วยปากกาสีแดงและสีน�้ำเงิน พลนั่งหันหลังให้ กระดานไวท์บอร์ดตรงข้ามกับคอลิด ส่วนนิกรนั่งตรงกลางระหว่างทั้งสองคน หันข้าง ให้กับประตูกระจก พล : เราต้องเข้าใจว่าสมัยก่อนเนี่ย รวมถึงสมัยนี้ ต้องยอมรับว่าคนที่เล่นละครเนี่ยคือ... ไม่มีทางท�ำมาหากินอย่างอื่นน่ะ เลยมาเล่นละคร (ทุกคนหัวเราะ) พูดเล่นๆ... คือต้อง บอกก่อนนะ ทุกวันนี้ยังสงสัยอยู่เลย จะเป็นค�ำถามที่ถามนิกรบ่อยๆ นิกร : ว่าอยู่ได้ไหม พล : ว่าคนที่เล่นละครอย่างเดียวอยู่ได้ยังไง เพราะตัวฉันเอง ฉันอยู่ไม่ได้ (เสียงโทรศัพท์ ดัง) ตายละ โดนทวงเมนู (รับโทรศัพท์) แอนจ๋า...(คุยโทรศัพท์งึมง�ำ) นิกร : (เปรยขึ้นมากับคอลิด) อยู่ได้ยังไง มันก็ต้องท�ำอย่างอื่นด้วย พล : (ยังคุยโทรศัพท์) มันยังไม่เสร็จจริงๆ เพราะยังไม่ได้เริ่มงานอะไรซักอย่าง นิกร : (กับคอลิด) ท�ำอย่างเดียวมันอยู่ไม่ได้ มันจะอยู่ได้ถ้ามีเล่นติดกันไปเรื่อยๆ แต่ นี่มันสิบรอบก็หยุด มันต้องเล่นแบบห้าสิบรอบ เล่นต่อยาวไปเลยสองเดือน พล : (ยังคุยโทรศัพท์ต่อ) แอนใส่ไปเลย แอนท�ำไปเลย แอนใส่เมนูไปเลย ใช่จ้ะใช่ ช่าย ช่าย จ้ะๆ ได้จ้ะ แต๊งกิ้วจ้ะ (วางหู) งานไม่เสร็จ โดนจิกทุก 15 นาที (พูดเข้าเรื่อง)

Scene In an office in Phol’s food processing plant, neatly furnished, the floor is painted grey, surrounded by a white cement wall. On one side of the wall is hung a big white board with lists of menus written on it. On the opposite wall are glass windows which look on to a big kitchen, the heart of the operation. The only exit is a glass door beside the window. Two dark brown tables are located in the middle, surrounded by polished wooden chairs and leather office chairs. On the table, there are several cookbooks, magazines, laptops, calendars, sunglasses, cell phones, wallets, and other stationery. In one corner is located a computer desk, in another is placed a file cabinet. Phol is sitting on a leather chair facing the windows, Khalid is seated opposite to him and Nikorn is closest to the door.

Phol : We must accept that back then, even till now, the reason why anyone would wanna become an actor is because …..it was the last thing in the world he could do. (Everybody laughs) Just kidding! For me…this career…alright, to tell the truth,till now I’m still wondering…it’s the same old question I used to ask you about. Nikorn : How can I survive this? Phol : How can anyone live on the income that comes from only acting??? Cause for me, I can’t, seriously. (Cell phone rings) Oops, they’re calling for the menu (Answers the phone) Ann, my dear, … (On the phone) Nikorn : (Speaks spontaneously to Khalid) To live…we’ve gotta do some other things too. Phol : (Still on the phone) It is not done yet, seriously…. cause I haven’t started! Nikorn : Acting alone cannot feed us…the only possible way is to be in a play that runs for a long period of time. It won’t do for only 10 rounds; it has to be, like, 50… 2 months in a row. Phol : (Still on the phone) Just do it. Go ahead. Put it in the menu. Yes…. Right…. Right…. Awesome …..OK…Thanks! (Hangs up) Work’s not done, They’ve gotta call me every 15 minutes! (Back to the story) If you ask me whether I can live on that, I think I probably can’t. Khalid : Nikorn can. Phol : No. You’ve got to live well. If you are an artist, you must make a good living. If not, you do not have a successful career. Our career should give us

11


ถามว่าอยู่ได้ไหม เราว่าไม่น่าจะอยู่ได้ คอลิด : พี่นิกรอยู่ได้ พล : ไม่ได้ อยู่ได้อย่างดีสิ ถ้าคุณเป็นศิลปิน เป็นอาร์ตติส คุณต้องอยู่ได้อย่างดี ไม่งั้น คุณดูถูกอาชีพตัวเองนะ อาชีพของเราต้องให้สิ่งที่ดีกลับมาให้เรา ดีนี่ไม่ได้หมายความ ว่ามีรถดี ๆ มีรถขับหรืออะไร แต่หมายความว่า นี่สมมุติว่าถ้าเราเดินผ่านตู้เค้กแล้วมี ความรู้สึกอยากกิน เราต้องซื้อกินได้ นิกร : ได้ๆๆๆ อย่างนี้ได้ (ทุกคนหัวเราะ) พล : เข้าใจมะ หมายถึงชีวิตเราต้องไม่ขาดหายอะไรไป นิกร : มีความมั่นคงในระดับหนึ่ง พล : ช่าย อันนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องฟุ่มเฟือยนะ แต่หมายความว่าเราจะต้องมี ความรู้สึกว่า ถ้าฉันท�ำงานหนักแล้ว อุ๊ย วันนี้แบบว่าอยากกินราเมงร้านนี้จัง แต่ตังค์ ไม่พอ อันนี้จะเศร้าเกินไป นิกร : ใช่ๆๆๆ (ทุกคนหัวเราะ) พล : เพราะฉะนั้นน่ะ ส�ำหรับตัวพี่เอง พี่ท�ำงานศิลปะ แต่จะดีไหม ถ้าเราจะรักเพื่อน มนุษย์เหมือนรักตัวเราเอง ถ้าเผื่องานศิลปะมันสามารถท�ำให้คุณมีความเป็นอยู่ที่ดี และ ถ้ามันท�ำให้คุณมีความเป็นอยู่ที่ดีนั่นเท่ากับว่าคนชื่นชม ให้ค่ากับงานของคุณ นิกร : อืม พล : อย่างถ้าเราท�ำงานขึ้นมาแล้วบอกว่ามันเป็นงานที่ดี แต่คนไม่เห็นค่า มันจะดีกว่า ไหมถ้างานของคุณมีคุณค่าทางงานศิลปะ และมีคุณค่าในเชิงพาณิชย์ด้วย พี่ถือว่าอัน นี้มันดีที่สุด เราต้องหาจุดสมดุล คอลิด : ผมว่าศิลปินท�ำเองแบบนี้ไม่ได้ หมายถึงว่า ท�ำโดยเบ็ดเสร็จในตัว พล : ได้สิ คอลิด : ก็ต้องเป็นศิลปินที่เรียนมาร์เก็ตติ้งนิดนึงนะ พล : ได้สิท�ำไมมันจะไม่ได้ แต่มันก็จะต้องเริ่มจากผู้ใหญ่ด้วยอะไรอย่างนี้ คือในแง่ ของพี่นะ ถ้าเผื่อถามพี่ พี่ก็ไม่รู้นะ พี่ก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรใคร ไม่ได้อะไรเลย ถามพี่ว่า ละครที่โปรดักชั่นใหญ่ๆ รัชดาลัยเธียเตอร์อะไร ถามว่าดูไหม พี่ก็ชอบดูนะ ถามพี่ว่า มีคุณค่าในด้านงานศิลปะไหม พล / นิกร : (พร้อมกัน) มี พล : แล้วก็มีความเป็นพาณิชย์ ถูกต้องไหม? คือว่าเขาหาจุดที่ถูกต้อง คุณค่าของทาง ด้านศิลปะหรือว่าทางด้านแบบอาร์ตทิสติก บางเรื่องที่อาร์ตทิสติกมาก ก็อาจจะพาณิชย์ น้อยลงหรืออะไรอย่างเนี้ย มันมีวิถี คือมันมาถึงจุดๆนึงที่มันจูนกันได้ อย่างรายการทีวี หรือรายการโทรทัศน์เนี่ย ถามว่าไม่มีสปอนเซอร์อยู่ได้ไหม? นิกร : (ปลงๆ แบบเข้าใจธรรมชาติของชีวิต) อยู่ไม่ได้ พล : อยู่ไม่ได้ เสร็จก็ยังต้องเกาะกระทะ เกาะน�้ำมันพืช เกาะแครกเกอร์ เกาะน�้ำปลา เกาะซีอิ๊วอะไรอย่างเนี้ย เพื่อท�ำให้อยู่ได้ แต่ถ้าคุณเก่งจริงคุณต้องท�ำให้มันมีคุณค่าทาง ศิลปะ นั่นหมายความว่าคุณต้องคิด คุณจะท�ำแต่ผัด เปรี้ยวหวานตลอดเวลาก็ ไม่ควร ต้องท�ำให้คนดู ว้าว แต่เวลาเดียวกันคนดูก็ต้องเข้าใจว่ามันเป็นพาณิชย์นะ คุณ ต้องเห็นฉลาก คุณต้องเห็นอะไร แต่หน้าที่ของเราคือเราต้องท�ำงานจากโจทย์ที่มี ให้ เกิดคุณค่ามากที่สุด นิกร : อืม แลกเปลี่ยนนะ ตรงนี้ของเรามองว่า ตรงนี้มันอยู่ที่ ... (คิด) เค้าเรียกไร รสนิยม คอลิด : ปรัชญาในการท�ำงาน นิกร : ของแต่ละกลุ่ม ของแต่ละคนด้วย อย่างเราไม่ได้หมายความว่าเราไม่อยากให้มี คนดูเยอะนะ เราก็อยากให้มีคนดูเยอะ คนดูเยอะก็ดีสิ ท�ำไมจะไม่ดี คอลิด : พี่มีการจ้างพีอาร์ท�ำงานด้วยใช่ไหม? นิกร : มี บางเรื่องมี พล : ถูกต้อง! (หยิบเอกสารต่างๆที่วางอยู่ข้างหน้าออกไปวางให้พ้นตัว)

12

good things in return. I don’t mean you have to have a nice car or anything. It’s like if you walk past a coffee shop and you wanna eat that lovely looking cake, you should be able to afford it. Nikorn : That I can. (Everybody laughs) Phol : I mean, our lives should be fulfilling. Nikorn : Some stability, at least. Phol : Yep. I don’t mean that you should be extravagant. If you are working your guts out and one day you happen to wanna dine in a nice ramen restaurant but you don’t have enough money, wouldn’t that be a little bit sad? Nikorn : That’s my case. (Everyone bursts into laughter) Phol : So, wouldn’t it be nice if we love ourselves like we love our neighbors. If art can provide us with a good living, it actually means that people appreciate and value our work. Nikorn : Um… Phol : If you make a piece of work and consider it a good job but no one cares about it, then what is the point? Wouldn’t it be much nicer if your works were great in both ways, artistically and commercially? I think that is the best. We’ve got to find balance. Khalid : I don’t think an artist can do that. I mean, managing and creating an art work at the same time. Phol : Why not? Khalid : He’s gotta be a marketing artist! Phol : But listen to me. It just has to start from the one on top of the ladder –a big name in an industry. See, if you ask me whether I watch big production plays, like ones at Rachadalai Theater? Yes, I do like watching them. And do they have artistic value? Phol / Nikorn : (At the same time) Yes. Phol : And that’s commercial, right? They’ve found the balance. Some plays that are very artistic can be less commercial… it depends. That’s the way of the world. When you come right down to it, at some point, two things can come together. For instance, TV shows, do you think they can go on air without advertising sponsors? Nikorn : (Understandingly) No. Phol : No. They’ve gotta consider brands, pans, oil, crackers, fish sauce, soy sauce, whatever! So the show can be on air. But if you are good, you’ve gotta give it artistic value. That means you’ve gotta think, you can’t cook fried rice in every programme. You’ve gotta give the audience great entertainment, but they have to understand too that ‘this is commercial’, they have to see labels and products. But our job is to work from what we’ve got and give it value. Nikorn : Um…I just wanna share. For this, I think it depends on…. (Thinking) what do we call it….‘taste’. Khalid : Motto. Nikorn : For each group of people, and individually. I didn’t mean that I don’t care about the audience… I want them… more is better than less. Phol : Yes, isn’t that right? Khalid : You hired a PR company lately, didn’t you? Nikorn : Yes, for some productions. Phol : Good! (Clears off the papers in front of him and puts them aside) Khalid : Working in 8x8, we learned to work in the commercial way a little…I don’t know about other theatre groups…they might not care much about that, do they?...maybe, but… Nikorn : It depends on what their message is. Some theatre groups select a topic that it’s already difficult to get a normal audience, you know. So to sell the show is difficult. Khalid : So, why commercial? Nikorn : Sometimes they don’t really care if it isn’t. Phol : Actually, I don’t think what you did has commercial value. It’s about Aiming at a target group. So, the question is, can this group fill a theatre?


“มั น จะดี ก ว่ า ไหมถ้ า งาน ของคุ ณ มี คุ ณ ค่ า ทางงาน ศิลปะ และมีคุณ ค่ า ในเชิ ง พาณิชย์ด้วย พี่ถือว่าอัน นี้มันดีที่สุด เราต้องหาจุด สมดุล” คอลิด : อยู่ในแปดคูณแปดเราก็จะรู้ว่า เราท�ำงานเกี่ยวกับมาร์เก็ตติ้งได้ในระดับนึง ไม่รู้กลุ่มอื่นเป็นไง กลุ่มอื่นอาจจะไม่มีนะพี่ อาจจะมี แต่แบบ... นิกร : อยู่ที่ตัวเนื้อหาที่เขาจะพูดด้วย บางกลุ่มเขาก็เลือกเนื้อหาที่คนทั่วไปก็ยากที่จะมา ดูแล้วอ่ะ เกทป่ะ? แล้วเนื้อหาที่เขาเลือกไม่สามารถท�ำประชาสัมพันธ์ขายได้ คอลิด : แล้วจะพาณิชย์ ไปท�ำไม ใช่มะ? นิกร : บางทีเขาก็ไม่ได้สนใจว่ามันจะพาณิชย์ พล : จริงๆ แล้วแบบที่นิกรท�ำ เราไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องพาณิชย์นะ แต่มันเป็นเรื่องที่ จับกลุ่มแค่ตลาดเดียว แต่ถามว่ากลุ่มที่จับเนี่ย ใหญ่พอที่จะท�ำให้เฮ้าส์นี้เต็มได้ไหม พล / นิกร : (พร้อมกัน) ได้ พล : ได้ เพราะนิกรไม่ได้เล่นที่รัชดาลัย เล่นในที่ซึ่งแบบว่าคนบอกต่อกันแล้วเนี่ย มัน ก็ได้ อย่าง “พระเจ้าเซ็ง” ของเราเนี่ย อาทิตย์แรกก็ยังเป็นโอท็อปอยู่ พอมาหลังๆ เนี่ย เราก็เริ่มเป็น ออฟบรอดเวย์ แล้วคนก็แบบว่า ก็เริ่มเต็มขึ้นมานิดนึง คอลิด : โอท็อป (หัวเราะชอบใจ) พล : อย่างอาทิตย์แรกของเราเนี่ย ยังไม่มั่งคั่งเท่าไร แต่อาทิตย์ที่สองนี่มีไลน์บุฟเฟต์ มาตั้งหน้าโรงก็ยังได้ (ทุกคนหัวเราะ) พี่ว่าจริง ๆ แล้ว มันต้องเป็นความสมดุล ส�ำหรับ ตัวพี่เองเนี่ย พี่เล่นละคร หรือพี่ท�ำงานศิลปะ สิ่งที่พี่ท�ำไว้ พี่อยากท�ำให้โลกรู้จักเรา พี่ อยากท�ำให้มีความรู้สึกว่าเราเกิดมาแบบมนุษย์คนหนึ่งที่มีค่า พี่มีความรู้สึกว่าพี่ดีใจที่ ว่า วันนึงพี่อยู่ในจุดที่เราท�ำอะไรเพื่อสังคมได้ การที่มนุษย์จะท�ำอะไรเพื่อสังคมได้ นั่น หมายความว่า ให้ตัวเองเสียจนพอแล้ว ถึงท�ำให้คนอื่นได้ แต่คนที่พี่จะแอนตี้มากๆ เลย นะ คือพวกคนที่ไม่มีแล้วชอบท�ำอะไรให้สังคม เช่น แบบว่าหาเงินแล้วเอาไปท�ำบุญหมด พี่ถือว่าคนพวกนั้นพี่ไม่เคารพ คอลิด : อืม พล : ถ้าเกิดสมมุติว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องบ�ำรุงตัวเองก่อนถ้าคุณยังบ�ำรุงตัวเองได้ ไม่ดี คุณอย่าเพิ่งบ�ำรุงคนอื่น (ป้าเข้ามาพร้อมถุงกาแฟสตาร์บัคส์ วางให้ที่มุมโต๊ะ) นิกร : (รับถุงกาแฟไว้) ขอบคุณครับ (แจกจ่ายกาแฟให้ทุกคนในระหว่างที่พลพูด) (ทุก คนรับหลอดในซองกระดาษมาแล้วก็แกะทันที) พล : แต่พี่จะถือว่าตัวพี่เองอยู่ในจุดที่ให้ได้ พี่ถึงมีความสุขที่ว่าทุกวันนี้งานที่พี่ท�ำ นอกจาก เราจะมีค่ากับตัวเองแล้ว เรายังมีค่ากับสังคมได้ คอลิด : การมาเล่นละครเหรอพี่? พล : ไม่ใช่ๆ อันนี้พี่พูดถึงงานทั่วไป พี่เลยบาลานซ์งานได้ไง แบบงานบางชิ้นเราท�ำ เพื่อที่จะเป็นรูธีน อย่างถามพี่ว่าพี่ท�ำอาหาร พี่สนุกทุกวันรึเปล่า? เนี่ย มันก็ไม่ได้สนุก ทุกวันหรอก บางวันมันก็มีน�้ำตา บางวันมันก็มีความเซ็ง บางวันมันก็มีความเป็นรูธีน เกิดขึ้น แต่นั่นคือ ”สัมมาอาชีพ” พี่พระพุทธเจ้าบอกว่าคนเราต้องมีสัมมาอาชีพ อาชีพ ที่สุจริต เลี้ยงดูตัวเองได้ แต่ในส่วนที่เหลือเนี่ย จะไปเล่นละครโอท็อปบ้าง จะไปเล่น แสงสีเสียงให้ปอเต๊กตึ๊งบ้าง คอลิด : (ระเบิดหัวเราะ) เฮ่ย เล่นจริงเหรอ? พล : เขาติดต่อมาเมื่อวาน (เริ่มแกะมัฟฟิ่นชอคโกแลตกิน)

Phol / Nikorn : (At the same time) Yes Phol : Yes, cuz your theatre isn’t Ratchadalai…. It’s ok as long as in formation about your show spreads by word of mouth. Like our show last month, Desperation of God. First week, it was a deserted parking lot. But by the end, it became an off-broadway show! Khalid : A deserted parking lot!! (Laughing in agreement) Phol : Our first week was poor, but in second, we could even put a buffet in front of the theatre. (Everybody laughs) I think it’s all about balance. For me, I acted in, or created, some art works, cause of what I have done, I wanted the world to know me. I want to live my life as a worthy human being. I’m glad that today, I stand in a position from where I can provide for others. Anyone who can do so is the one that has already given of himself enough. The kind of people that I disrespect the most is the one that gives away all they earn. Khalid : Um Phol : However, you’ve got to provide for yourself first, then others. (The housekeeper comes in with a Starbucks paper bag. She puts it on the corner of the table by Nikorn) Nikorn : (Takes the bag from her hand) Thank you (Gives out coffee to everyone while Phol’s talking) (Each takes a straw from Nikorn and begins his Starbucks business) Phol : I count myself as able to give. That’s why I’m happy with what I am doing…to be able to give back to society. Khalid : By acting on stage, you mean? Phol : No, no. I mean, my regular job. That’s how I balance it. Cooking is my Routine. If you ask me “am I always happy when I cook?” I can simply say, no, not always. Sometimes I’m stressed out, sometimes desperate; sometimes it feels like a darned boring routine. But it’s the “right livelihood” like Buddha teaches us, the occupation which is fair and gives you enough to be able to take care of yourself. But for the rest, you can do whatever you crave…. acting in a “deserted parking lot” play, or even in a spectacular show for volunteer firefighters sometimes. Khalid : (Bursts into laughter) You did!?! Phol : They called yesterday. (Begins to eat a double chocolate muffin) Nikorn : And you’ll do it? Phol : No (Takes off the top part of the muffin and bites a mouthful of it) Khalid : (Still laughing) Why don’t you do it? Loads of fun! A firefighters-musical spectacular!!! Phol : (Chewing) Actually I want to do it but I have to be in a TV show, “Coffee Master”. But what I wanna say is… (swallows) if we have the “right livelihood”, it gives us opportunities to do these kinds of things. We can recharge our batteries by doing new things. It’s different, though, for you and me. The only person you have to take care of is yourself, while I have hundreds of employees that work for me. If I only acted in “Desperation of God” for a living and paid them, (Amused by this own thought) They would all be dead since the first show. Khalid :“Desperation of employees” (Everybody laughs) Phol : (Continues eating) “Why do you act? For your own sake to convince yourself that you are good?” Nikorn : (Giggles) Nah…That’s the line in “Desperation of God”!!

13


intermission READING BREAK-OFF

พั ก ค รึ่ ง กั น ห น ่ อ ย น ะค ะ ละครทั้งสามกันต่อ ในฉ ก ่ อ น ที่ เ รา จะ ไป พ บ กั บ เรื่ อ งร าว อั น แส น เข ้ ม ข ้ น ข เราได้รู้จักกับ “สามเกล บับนี้เรามี mission สนุกๆ มาฝากทุกคนค่ะ อ งนั ก ก าร ของสามหนุ่มสามมุมมาจอ” หัสนิยายอมตะของไทยกันไปแล้ว และได้อ หลังจากที่ ใดก็ได้ของคุณมาให้เรา นถึงหน้านี้ ตอนนี้เราขอท้าคุณ ให้ส่งรูปถ่าย ่านเรื่องราว ม า ห รื อ lo m o เล น ส จะถ่ายที่ไหนก็ได้ กับใครก็ได้ จะถ่ายด้วยกลในอิริยาบถ จากฟิลม์หมดอายุ ถ่าย์ ธ รร ม ด า ห รื อ fi sh e y e เป ็ น ไฟ ล ์ ดิ จิ ตั ล ห ้องพาโนรา รื อ ภ าพ อั ด เมื่อวานหรือสิบปีที่แล้ว รู ป เด ี ย วห รื อสิบรูป เราก็ไม่เกี่ยง ขอเพียงเป็นรูปที่ประกอ บด้วยคนสาม

คน (หมาแมวเราไม่นับน จากนั้นให้อัพโหลดรูปขอ ะคะ) ห งค บน Facebook (sea ุณได้ที่หน้า fan page ของ Playmembeลัง rch ค�ำว่า Playmem r ber) 3 อันดับแร

กที่ปร Details | Cannoะtทั|บใจเราที่สุด จะได้รับบัตรชมละคร รีบๆ หน่อยนะคะ ละค B o d y | W a n ts ฟ รี ทั น ที 3 ใบ !! รดี มีคนอยากชมเย อะ

be a o t s a h ly k! I t o n a eople e r p b t 3 r f o h o s a o t and s Let’s takoentinue reading thee p h o t a C ( r e w c Before f those 3 men, n. t o g e t h nt!) u o c t o io s o s is e n ri m sto u a little about d o g s d o save got yo ad

h pre have re After you r” Thai everlastinhge 3 m o s t i m W I N tos o “Samglection, And enjoy t his h p e v t i fi l comic f 3 actors up til re s stories o r page… We da o. 3 F R E E nnot a C | s l i particulaend us your phot a et ants W you to s u wear, wherever D | y d o o r Whateverky it, with whateveor | B s ! ! you too camera--digital g t i c k e t to on type of matter how lon t- p l o a d y o u p h o a c e film, no e it, does not ma u U y m e m b e r ’ s F r c h you hav m a n y p h o t o y o 5 P l a f a n p a g e ( S e a t e r h o w send; 1 photo or b o o k y m e m b e r ’ ) want to tos for ‘ Pla o h p 5 or 1 ke it! We will ta

14


E V A H U O Y T A H W

n o k r to ma

TIPS:

the t u o l l u p 1. spreads

. r a d n e l your ca มดของ ห ง ้ ั ท ง ด ส แ ร กา แผ่นเดี ยว เดือน รวมไว้ใน

calendar WHEN & WHERE

2. GRAOB! and G

10/10

BOY PEACEMAKER PLAYBOY CONCERT บทเพลงของผู้ชายคนนี้ จะอยู่ในทุกความรู้สึกของคุณพบกับ Playboy Concert by Boy PEACEMAKER คอนเสิร์ตเดี่ยว ครั้งแรกในเส้นทางดนตรีของ บอย พีชเมกเกอร์ พร้อมแขก รับเชิญสุดพิเศษที่คุณคาดไม่ถึง

Dunk Revolution Concert ครั้งแรกกับการปฏิวัติทุกขีดจ�ำกัดทางดนตรีกับอีก หนึ่งคอนเสิร์ตแห่งปีที่เกิดขึ้นจากฝีมือของผู้ปฏิวัติ วงการเพลงรุ่นใหม่ “ดัง พันกร บุณยะจินดา” จาก Revol Music Creation ในคอนเสิร์ตสนุก ที่จะ ปลุกทุกความมันในตัวคุณให้ตื่น!!!

Event Type : Live Concert / Pop

Event Type : Live Concert / Pop

Date : Saturday October 2, 2010. - Sunday October 3, 2010.

Date : Saturday October 9, 2010.

Time : 7.00 P.M.

Time : 7.00 P.M.

Venue : Main Hall, Thammasat University (Phrachan)

Venue : Indoor Stadium Huamark

Ticket : ThaiTicketMajor

Ticket : ThaiTicketMajor

2010 HAN GENG Asia Tour Fan Meeting in Bangkok หลังจากปล่อยให้แฟนคลับตั้งตารอผลงานใหม่อยู่นาน ในที่สุดหนุ่มหล่อมากความสามารถ หานเกิง (Han Geng) ก็ได้โอกาสคลอด อัลบั้มเดี่ยว อัลบั้มแรกใน ชีวิต ‘GENG XIN’ พร้อมบินเดี่ยวจัดงาน แฟนมีทติ้งเต็ม รูปแบบกับแฟนคลับชาวไทย

Vampire Weekend Live in Bangkok วงดนตรีจากนิวยอร์ก เจ้าของอัลบัม Contra ที่ขึ้น อันดับ 1 ชาร์ตบิลบอร์ดอเมริกาตั้งแต่สัปดาห์แรก Event Type : Live Concert / Rock Date : Friday October 22, 2010. Time : 7.30 P.M. Venue : Thunder Dome, Muang Thongtani

Event Type : Live Concert / Pop

Ticket : ThaiTicketMajor

Date : Saturday October 9, 2010. Time : 6.00 P.M. Venue : MCC Hall The Mall Bangkapi Ticket : ThaiTicketMajor

คอนเสิร์ต โปงลาง STO(เบอร์)RY Live In Bangkae (Ponglang Story Live in Bangkae) ได้เวลาฮาอีกครั้งแล้วกับคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ของวงโปงลางสะออน อาร์ สยาม ที่ทุกคนรอคอย

Koh Mr.Saxman Live in Bangkok ครั้งแรกในชีวิต ของ Koh Mr.Saxmanกับ Concert เต็ม รูปแบบที่จะเติมเต็มความสุขทุกท่านด้วยเสียง Saxophone และบทเพลงของเขาพร้อมแขกรับเชิญพิเศษสุด

Event Type : Live Concert / Country

Stanley Jordan Jazz Concert Live in Bangkok Stanley Jordan เป็นมือกีตาร์และมือเปียโนแนว jazz / jazz fusion ชาวอเมริกันที่เป็นที่รู้จักจากการ เล่น tapping (จิ้มสาย) ในรูปแบบที่เขาพัฒนาขึ้น มาใช้กับกีตาร์

Date : Sunday October 17, 2010.

Event Type : Live Concert / Jazz

Date : Saturday and Sunday

Time : 1.00 P.M. and 7.00 P.M.

Date : Thursday October 7, 2010.

October 2-3, 2010.

Venue : MCC Hall The Mall Bangkae

Time : 8.00 P.M.

Time : 7.00 P.M. / 3.00 P.M.

Ticket : ThaiTicketMajor

Venue : M Theatre ( Bangkok Playhouse)

Venue : Aksra Theatre King Power

Ticket : ThaiTicketMajor

Ticket : ThaiTicketMajor

Event Type : Live Concert / Pop

15


BSO-YUNDI Piano-Great Artists of the World 2010

Venue : Thailand Cultural Center, Main Hall

RSU Jazz Education Festival การแสดงครั้งแรกในประเทศไทย ของสองนักดนตรีแจ๊ส ระดับสุดยอดของโลก ณ วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัย รังสิต ในงาน “RSU Jazz Education Festival”ได้แก่ Ms. Maria Schneider และ Joey Calderazzo Trio

Ticket : ThaiTicketMajor

Event Type : Live Band / Jazz

Event Type : Live Concert / Classical Date : Monday October 25, 2010. Time : 8.00 P.M.

Maria Schneider Date : Saturday September 25, 2010. Time : 3.00 P.M. Joey Calderazzo Date : Thursday October 7, 2010. Time : 7.00 P.M. Venue : RANGSIT UNIVERSITY (Digital Multime-

HIT MAN David Foster & Friends Live in Bangkok 2010 คนที่เป็นแฟนเพลงของ เดวิด ฟอสเตอร์ (David Foster) สุดยอดนักแต่งเพลงระดับโลก และโปรดิวเซอร์มือทอง ต้องไม่พลาด... กับการมาเยือนเมืองไทยครั้งแรก! ของเขา พร้อมศิลปินดังระดับโลกอย่าง นาตาลี โคล (Natalie Cole), ชารีส (Charice), ปีเตอร์ เซทาร่า (Peter Cetara), รูเบน ส ตัดดาร์ด (Ruben Studdard) และ เดอะ แคนาเดียน เทเนอ ร์ส (The Canadian Tenors) Event Type : Live Concert / Pop Date : Monday October 25, 2010. Time : 8.30 P.M. Venue : Impact Arena, Muang Thongtani Ticket : ThaiTicketMajor

dia Complex Building 15) Ticket : ThaiTicketMajor

xCOOLsive Moment PARN THANAPORN “On My OWN” คลื่นวิทยุ COOL 93 fahrenheit ครบรอบ 10 ปี จัด คอนเสิร์ตครั้งใหญ่แห่งปีของนักร้องหญิงคุณภาพที่ได้ รับการยอมรับสูงสุดตลอด 10 ปี ใน Vocal Concert ปาน ธนพร “On My Own” คอนเสิร์ตครั้งสมบูรณ์ แบบที่สุดในชีวิตของ ปาน ธนพร ที่พร้อมให้คุณ พิสูจน์ตัวตนของคนร้องเพลง...ที่มากกว่าเคยรู้จัก Event Type : Live Concert / Pop

Date : Saturday October 30, 2010.

เพลงไทย ไพเราะที่ สุ ด ในโลก

(This Music : Best music of the world) พบกับนักร้องแผ่นเสียงทองค�ำพระราชทาน นักร้องยอดเยี่ยมแห่ง ประเทศไทยและศิลปินแห่งชาติ

Time : 7.00 P.M. Venue : Royal Paragon Hall Ticket : ThaiTicketMajor

Bangkok Acoustic Guitar Celebration 2010 งานวัฒนธรรมดนตรี ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อคนดนตรีได้ ถูกจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 เพื่อน�ำเสนอดนตรีที่มีคุณภาพจาก ศิลปินคุณภาพระดับโลก ทั้งที่เป็นศิลปินจากต่างชาติและ ศิลปินชาวไทย และเปิดโอกาสให้นักกีต้าร์มืออาชีพ และ มือสมัครเล่น ได้โชว์ฝีมือกันบน Lobby Stage ทั้งยังเปิด โอกาสให้ผู้เข้าชม ได้พบปะกับศิลปินอย่างไกล้ชิด ในช่วง Lobby Program Event Type : Live Concert / Acoustic Date : Sunday October 31, 2010. Time : 3.30 P.M. Venue : Centerpoint playhouse 8th fl. CentralWorld, Rama 1 Road, Phathumwan Bangkok Ticket : ThaiTicketMajor

Bangkok Music Marathon 2010 คุณอึดพอมั้ย? ที่จะมันส์สะใจแบบไม่มีเบรกไปกับมหกรรม ดนตรีครั้งยิ่งใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ครั้งแรกที่ ATime Showbiz ขนกองทัพศิลปินแนวหน้าของเมืองไทย มาไว้บนเวทีเดียวกันทั้ง Pop, Rock, Hip-hop และ Indy ให้คุณได้ระเบิดความมันส์ Fun สุดขีด ในคอนเสิร์ต มาราธอน กว่า 10 ชั่วโมง Event Type : Live Concert / Pop, Rock, Hip-hop and Indy Date : Saturday October 16, 2010. Time : 12.00 P.M. - 12 A.M. Venue : Impact Arena, Muang Thongtani Ticket : ThaiTicketMajor

เด็ ด สะมอเร่

Date : Sunday October 24, 2010.

( Dude! Where’s my life? ) ชีวิต ความตาย และความทรงจ�ำชั่วนิรันดร์

Time : 2.00 P.M.

Event Type : Live Performance / Straight

Venue : Sala Chalermkrung Royal Theatre

Play

Ticket : ThaiTicketMajor

Date : October 6-10,13-17, 2010.

Event Type : Live Concert / Country

Time : 7.30 P.M.

หงส์ เ หนื อ มั ง กร เดอะ มิ ว สิ คั ล

( Hong Nuer Mangkorn The Musical ) จากละครโทรทัศน์เรื่องเยี่ยมที่กวาดทั้งรางวัล และ ความนิยมมาแล้วมากมาย เมื่อปี 2543 สู่ละครเวที เรื่องยิ่งใหญ่ที่ทุกคนก�ำลังเฝ้ารอประจ�ำปีนี้ จากฝีมือ การก�ำกับของ ถกลเกียรติ วีรวรรณ Event Type : Live Performance / Musical Date : Wednesday September 22 - Sunday October 25, 2010.

16

Venue : Rachadalai Theatre Ticket : ThaiTicketMajor

Venue : Pridi Banomyong Institute Ticket : 086-814-1676

รายละเอี ย ด|ไม่ ไ ด้ | ร่ า งกาย|อยาก

( Details|Cannot|Body|Wants ) การแสดงเดี่ยวของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บอกเล่าเรื่องราวความเจ็บปวด ของผู้หญิงอีกทั่วโลก Event Type : Live Performance / Solo Date : Wednesday 13 - Sunday October 17, 2010. Time : 7.30 P.M. Sat.-Sun. 2.00 P.M. and 7.30 P.M. Venue : BlueBox Studio Ticket : Bananabooking


ICP 2010-BANGKOK’S 12TH INTERNATIONAL FESTIVAL OF DANCE AND MUSIC ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของมหกรรมศิลปะการแสดงและ ดนตรีนานาชาติ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 โดยเทศกาลนี้จะ จัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกปี ส�ำหรับในปีนี้ ผู้ชมเตรียมตัวให้พร้อมกับ การแสดง ที่เพิ่มรสชาติให้เข้มข้นมากกว่า Date : 11 September – 24 October 2010.

Venue : Main Hall, Thailand Cultural Center Ticket : ThaiTicketMajor

“ผลของการที่ ก ่ อ สร้ า งไว้ ดี แ ล้ ว ย่ อ มไม่ สู น ย์ ห าย”

สถาบันปรีดี พนมยงค์ ขอเชิญชมภาพยนตร์ในงานเทศกาลศิลปะนานาพันธุ์ ครั้งที่ ๓ “ผลของการที่ก่อสร้างไว้ดีแล้ว ย่อมไม่สูนย์ หาย” ในวาระครบรอบ ชาตกาล ๑๑๐ ปี รัฐบุรุษอาวุโสปรีดี พนมยงค์ Event Type : Performance / Video Performance (Screening through LCD) Date : 3 – 30 October 2010. Venue : Pridi Banomyong Institute Ticket : Bananabooking

ฉายภาพยนตร์ที่จัดสร้างขึ้นในวาระครบรอบชาตกาล ๑๑๐ ปี รัฐบุรุษอาวุโสปรีดี พนมยงค์ โดยนักสร้างสรรค์รุ่น ใหม่ น�ำเสนอมุมมองของคนรุ่นใหม่กับสภาวะที่เกิดขึ้นในสังคม มาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์พร้อมด้วยการเสวนาของ เหล่านักสร้างภาพยนตร์ ฯลฯ โดย มูลนิธิหนังไทย Date : Sunday October 3, 2010. Time : 2.00 P.M.

Whereabouts Unknown / Bella Figura

THE BATTLESHIP POTEMKIN 1925

WERCKMEISTER HARMONIES 2000

Event Type : Live Performance / Contemporary

RUSSIA DUBBED / THAI SUBTITLES

HUNGARLISH DUBBED / THAI SUBTITLE

dance

พิเศษสุดเพียงรอบเดียว! การบรรเลงดนตรีสดประกอบ การฉายภาพยนตร์เงียบ โดยนักดนตรีผู้มากด้วย ประสบการณ์ คานธี อนันตกาญจน์ และเพื่อน กับ ภาพยนตร์เงียบที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลกตลอด กาล

Date : Saturday October 16, 2010.

Date : Friday 22 and Saturday 23 October 2010. Time : 2.30 P.M. / 7.30 PM.

Zubin Mehta & Israel Philharmonic Orchestra

Time : 2.10 P.M.

THE ADVENTURES OF BARON MUNCHAUSEN 1989 ENGLISH DUBBED / THAI SUBTITLE

Event Type : Live Concert / Classical

Date : Sunday October 10, 2010.

Date : Tuesday October 12, 2010.

Date : Sunday October 24, 2010.

Time : 1.30 PM.

Time : 12.00 P.M.

Time : 7.30 PM.

THE KID 1924

MIRRORMASK 2006

ENGLISH DUBBED / THAI SUBTITLE

ENGLISH DUBBED / THAI SUBTITLE

Event Type : Live Performance / Dance

Date : Sunday October 10, 2010.

Date : Tuesday October 12, 2010.

Date : Tuesday October 12, 2010.

Time : 3.00 PM.

Time : 2.30 P.M.

Time : 7.30 PM.

SÉ RAPHINE 2008

INTOLERANCE 1916

FRENCH DUBBED / THAI SUBTITLE

THAI SUBTITLE

Date : Sunday October 10, 2010.

Date : Saturday October 30, 2010.

Event Type : Live Band / Jazz

Time : 4.00 PM.

Time : 12.00 P.M.

Date : Friday October 15, 2010.

THE LOWER DEPTHS 1957

WATERLOO BRIDGE 1940

JAPANESES DUBBED / THAI SUBTITLE

HUNGARLISH DUBBED / THAI SUBTITLE

Date : Saturday October 16, 2010.

Date : Saturday October 30, 2010.

Time : 12.00 P.M.

Time : 3.10 P.M.

Tango Feeling

Jazz Evening: Shuffle Demons / Swedish Jazz Kings Time : 7.30 PM.

Dance: Ritu Samhara Event Type : Live Performance / Dance Date : Sunday October 17, 2010. Time : 7.30 PM.

Carmina Burana by Daejeon Philharmonic Choir Event Type : Live Concert / Choir Date : Wednesday October 20, 2010. Time : 7.30 PM.

รวมมิ ต รศิ ล ปวั ฒ นธรรม My Beloved Absurd Country พลาดไม่ได้...ตื่นตาตื่นใจ...ไปกับการแสดงศิลปวัฒนธรรม อันหลากหลาย “ไทยจ๋า” โดย กลุ่มเบบี้ไมม์ (My absurd beloved country by BABYMIME)

STARMAN “เผยวจนะจากต่างดาว...19-24 ตุลาคม 2010 นี้ จานบิน จะลงจอดที่ซอยทองหล่อ”

Event Type : Live Performance / mime

Date : 19-24 October 2010

Date : Sunday October 31, 2010.

Time : 7.30pm

Time : 2.00 P.M.

Venue : Pridi Banomyong Institute, Main Audi-

Venue : Pridi Banomyong Institute, Main Auditorium

torium

Event Type : Live Performance / Physical Theatre

Ticket : 089-167-4039

17


is searching for... นิ ท รรศการ “ผี : ความกลั ว ...จั ด การได้ ด้ ว ยจิ น ตนาการสร้ า งสรรค์ ”

(Ghost Exibition) มนุษย์เกิดมาพร้อมความกลัว...ปัจจัยกระตุ้นเร้าจินตนาการสร้างสรรค์ Event Type : Exhibition / MIXED MEDIA Date : 20 August - 1 November 2010. Venue : BANGKOK ART AND CULTURE Studio, floor 2nd.

นิ ท รรศการศิ ล ปกรรมแห่ ง ชาติ ครั้ ง ที่ 56

(The 56th National Exhibition of Art) The exhibition shows a current stream of art in content, technique and presentation of young artists going on at present. Event Type : Exhibition / Designs Date : 7 September - 31 October 2010. Venue : BANGKOK ART AND CULTURE Studio, floor 7-8th.

Project Coordinator Production Manager Graphic Designer Photographer Web Coordinator Assistant Editor

send your resume and portfolio to beourteam@playmember.com

นิ ท รรศการ “Paper Matter กระดาษเป็ น เรื่ อ ง”

(Paper Matter Exhibition) น�ำเสนอบทสนทนาของกระดาษ เป็น “เรื่อง” ของกระดาษเอง ไม่มีประเด็น หรือหัวข้อให้กระดาษไปรับใช้หรือเป็นภาชนะ มีเพียงแต่การให้กระดาษท�ำ หน้าที่ให้กับตัวมันเอง Event Type : Exhibition / Designs Date : 11 September - 1 October 2010. Venue : BANGKOK ART AND CULTURE Studio, floor 4th. and outdoor in front of BANGKOK ART AND CULTURE

Return Ticket: Thailand – Germany Around 100 works by 28 Thai artists, who studied, lived or worked on projects in Germany Event Type : Performance / Video Performance Date : 15 September - 7 November 2010. Venue : BANGKOK ART AND CULTURE Studio, floor 9th.

รอยรั ก สั ก สหคาม - ที่ ใ ดมี รั ก ที่ นั่ น มี ทุ ก ข์ 2553

การฉายวีดิโอและเว็บบล็อคของนายโฆษิต จันทรทิพย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ นิทรรศการ “Return Ticket: Thailand - Germany” Event Type : Performance / Video Performance Date : 14 September - 7 November 2010. Venue : BANGKOK ART AND CULTURE Studio, floor 4th. and outdoor in front of BANGKOK ART AND CULTURE

TICKETS SOLD HERE! ThaiTicketMajor Call Center 0-2262-3456 www.thaiticketmajor.com BANANA booking Hotline 080-2600771-6 www.bananabooking.com WeBooking Call Center 02-900-9999 press 4 www.we-booking.com

18


dialogue Khalid : I..I am happy when I play. I don’t know why…but being in this process of work makes me so happy.

(ต่อ) 3 หนุ่มคนละคร กับ ชี วิ ต บางตอนที่ ไ ม่ ค ่ อ ยปลื้ ม 3 Past 3 Future 3 Actors

Phol : Um Khalid : I used to think of doing something else, cause I wasn’t aiming for acting on stage after I graduated anyway. When I first graduated, I worked in one TV programme. It wasn’t hard but I felt miserable. When I woke up each day, the only thing I think about was the rehearsal at 6 pm. Nikorn : He was in Chonburi at that time.

นิกร : เราไปใช่ไหม? พล : ไม่ไป (บิส่วนยอดของมัฟฟิ่นที่อยู่เหนือจากพิมพ์กระดาษไขจีบรอบออกมา แล้ว กัดเข้าไปค�ำโต) คอลิด : (ยังหัวเราะชอบใจอยู่) เจ๋งดีออก แสงสีเสียง ปอเต๊กตึ๊งเดอะมิวสิคัล พล : (ป้องปากขณะเคี้ยวมัฟฟิ่น) ความจริงเราอยากไปเล่นให้เขานะ แต่เราติด Coffee Master แต่ก�ำลังจะบอกว่า (กลืน) ถ้าเรามีสัมมาอาชีพแล้วอะ มันจะท�ำให้เราท�ำงาน พวกนี้ได้บ้าง ท�ำงานแบบที่เราจะได้รีชาร์ตตัวเอง ได้ท�ำอะไรแปลกๆ แง่มุมใหม่ ๆ อะไรเงี๊ยะบ้าง แต่จุดที่พี่กับคอลิดยืนเนี่ยมันไม่เหมือนกันไง เราดูแลตัวเอง แต่พี่ดูแล คนเป็นร้อย ถ้าพี่ไปเล่น“พระเจ้าเซ็ง”เพื่อมาจ่ายเงินเด็ก ๆ (ข�ำความคิดตัวเอง) ทุกคน ตาย คงตายไปตั้งแต่รอบแรกแล้ว คอลิด : เด็กคงเซ็งอ่ะพี่ ไม่ใช่พระเจ้าเซ็ง พล : (กินต่อ) “ยูเล่นละครเพราะอะไร เพื่อปรนเปรอตัวเอง ว่าข้าเก่งข้าดีเหรอ?” นิกร : (หัวเราะ) แน่ะ เอาบทในละครมาพูด คอลิด : ก็คือผมอ่ะ ก็มีความสุขกับการได้เล่นนะพี่ ไม่รู้ว่าเล่นแล้วมีความสุขเพราะ อะไร แต่หมายถึงอยู่ในกระบวนการท�ำงานนี้ แล้วรู้สึกตัวเองมีความสุข พล : อืม คอลิด : เคยอยากจะท�ำอย่างอื่นแหละ เพราะก็ไม่ได้คิดว่าจบแล้วจะมาท�ำละคร พบ จบผมก็ไปท�ำงานอย่างอื่น ตอน ท�ำงานน่ะ มันก็ไม่ได้ยากมาก แต่ผมไม่มีความสุข เลย คือตอนนั้นท�ำไมรู้สึกว่าตื่นมาทุกเช้า ตอนนั้นซ้อมหกโมงเย็น ก็จะคอยนึกถึงแต่ ว่า เมื่อไรจะถึงเวลาได้นั่งรถไปซ้อมละคร นิกร : มันอยู่ชลบุรีเลยนะตอนนั้น คอลิด : ตอนกลับก็คือสามทุ่มครึ่งแล้วรถราคาถูกก็จะหมด ก็จะมีรถ ปอ.1 แบบ 110 บาท แต่ผมก็รู้สึกว่า พล : (แทรกขึ้น) อยากไป คอลิด : อยากไป แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นอาชีพได้เพราะตอนนั้นก็จะไปท�ำงานโฆษณา พล : อืม คอลิด : จบวารสาร ผมก็พยายามไปสมัครงานกับบริษัทโฆษณา แต่ท�ำแล้วมันก็ติดอ่ะ อืม ติด อยากปรนเปรอตัวเองอย่างนั้นแหละ ผมลองไปท�ำงานกับกลุ่มละครอื่น อย่าง มะขามป้อม ก็ได้ไปท�ำงานกับเด็กชาวเขาที่เล่นละคร ก็ท�ำให้เรารู้สึกว่าละครมันไปอยู่ ตรงนั้นแล้วมันก็สร้างประโยชน์ได้ อืม ดีจัง มีความสุขจังที่ได้เห็น ผมก็ยังคิดนะพี่ว่า ชีวิตปีหน้าจะเป็นอย่างไร ต้องเรียนจบปริญญาโทแล้ว พ่อแม่เริ่มคาดหวังแล้ว อนาคต ของการแสดงก็ไม่รู้จะมีได้มากแค่ไหน อาจจะไม่ได้เล่นละครตลอดเหมือนเดิม อาจ ต้องไปท�ำงานประจ�ำอย่างอื่น แต่ก็คิดว่า (เศร้าๆ) วันนึงเราก็คงไม่ได้เป็นนักแสดง ก็ เป็นคนดูที่ดีได้ แต่ก็เสียดายเหมือนกันนะ นึกภาพไม่ออกเลย พล : คือเราจะบอกให้มะ เราฟังเขาแล้วเราเศร้าอะ เราจะบอกให้ว่าเราเป็นคนโชคดี หรือว่าเราเป็นคนที่พุ่งเข้าหาคนก็ไม่รู้ พี่อยากท�ำอะไรพี่ก็เดินเข้าไปเลย ชีวิตของพี่ไม่ เคยมีแมวสักตัวมามองหา คอลิด : อืม

Khalid : After 9 pm, the cheap buses stopped. And I had to pay more than 100 Bt for an expensive bus, but I just… Phol : (Cuts in) Wanted to do it. Khalid : Wanna do it. But I wasn’t thinking of doing it for living at that time. I was aiming for a job in an advertising agency.. Phol : Um Khalid : I studied Communication Arts, so I was thinking about ads and stuff. But I still..um…want to fulfill myself like you said, I guess. As time went by, I found other choices. I tried working with other theatre groups, like Makhampom Foundation, I had a chance to work with kids in tribes. I felt so happy to see that plays can do some good even out there on a high mountain. I still wonder what my life will be like next year... my parents probably expect a lot from me. (Sadly) I might not have time to act in many plays like I used to, cause I might work office hours. But at least I can still be a good audience. What a sad ending….I can’t imagine it. Phol : You sadden me too. You know what, I’m probably a lucky guy, or maybe I am a kind of person who always runs into opportunities. All my life I’ve never been scouted, if I wanna do anything, I’ll just walk right into it. Khalid : Um Phol : I walked right into every job. Refused? So many times I cannot count, far more than what I’ve been accepted. Like the story I told you before, I asked them to be the leading actor,and they put me on the stage crew. But I was determined, that I wasn’t born to be behind the set, I was born to be in a spotlight! (Laughs) I wanna be on the stage, so I told them. You know what they said? ‘Theatre business in Thailand requires actors who are already stars, otherwise it’s impossible to sell tickets. Come back again when you are famous.’ So what I thought was… “You bet!” From that day,I was on the back of a hired motorbike, I went to every production house. I casted for every ad… toothpaste, candy, detergent, anything! I was once an extra in the background, people couldn’t even see my face. Till one day, I finally passed an audition for a leading actor for a movie Sunset at Chaophraya 2. At that time I didn’t want to be in a movie at all, not like ‘hate’ to do it but I just totally have no idea about movie business. But I wanted to be a “star”, so I can do what I wanna do, I wanna act in the theatre. Nikorn / Khalid : (Together) Oh! Phol : That’s it. One day after the press released the news about me playing in that movie, the theatre called me, asked if I wanna play in Cinderella. I didn’t think they were wrong to not accept me in the first place. It was just a condition of a production that big at the time. You gotta have a ‘name’ that can sell. So, don’t let that drag you down. Don’t pity yourself about how your life will be, or be afraid of letting your parents down. You see, my parents have never been disappointed in me. First of all, my dad already passed away, so he can’t be! (Everyone laughs) Secondly, every parent wants his or her kids to be successful, no matter what kind of work they are doing. What makes them proud is your success. Even though you are just a security guard, if you are really good, you are the leading man and have like 200 men under control, your parents will be proud of you! I guarantee it.. What they worry about is… ‘will you be able to take care of yourself doing this job???’ Nikorn : (To Phol) He doesn’t even let his parents watch him when he is in plays. Phol : Since the first time I acted, my mom has been complaining about it every day. But behind my back she bought the movie synopsis and gave them out to all the neighbors. She was proud of me, quietly; any moms would want their kids to be successful. It’s simple psychology. Like whenever her son has a girlfriend and he happens to be well behaved, mom will heartily accept that

19


พล : งานทุกงานพี่เดินเข้าหางานหมดเลย แล้วถามว่าโดนปฏิเสธไหม เยอะมาก มากกว่า ที่ได้รับการยอมรับ เหมือนที่ฉันไปขอเล่นละคร เขาให้ฉันเป็น Backstage ฉันก็ยังยืนยัน เจตนาเดิมว่าฉันไม่ได้เกิดมาเป็น Backstage ฉันเกิดมาเป็นดารา (หัวเราะ) ฉันจะอยู่ ข้างหน้า อย่างเนี๊ยะ พี่ก็บอกเค้าเลยอย่างแจ่มแจ้ง รู้มั้ยเขาบอกพี่ว่ายังไง วงการละคร เวทีเมืองไทยน่ะ คนดูยังไม่เยอะ ถ้ายูไม่ได้มีความเป็นแม่เหล็กที่ดึงให้คนมาดูได้ เค้า บอกยังไม่ได้ ไปปั่นตัวเองให้ดังก่อน ซึ่งฉันคิดเลยว่า จะกลับมา ขอไปปั่นตัวเองให้ ดังก่อน ชีวิตวัน ๆ คือกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซด์ โปรดักชั่นเฮาส์นู้นนี้ ไปแคสหมด ซัก ผ้งซักผ้า ลูกองลูกอมอะไรก็ไปแคสหมด แต่ก็ไม่ได้เล่นเยอะนะ เป็นเอ็กซ์ตร้าอะไรอยู่ ด้านหลังลาง ๆ อะไรอย่างเนี้ยก็เป็นมาหมดแล้ว ของพี่เนี่ยมาได้ตอนที่เขาเปิดแคสไอ้ คู่กรรมภาคสอง ซึ่งอันนั้นก็แคสเหมือนกัน ตอนนั้นก็ไม่ได้อยากเล่นหนังอะไร ไม่ใช่ “ไม่อยาก” นะ แต่ไม่มีความรู้ว่าหนังนี่เขาท�ำกันยังไงมากกว่า แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากดัง เพื่อที่ว่าดังแล้ว วันนึงฉันจะกลับมาท�ำสิ่งที่ฉันอยากท�ำ ฉันอยากเล่นละครเวที นิกร / คอลิด : (พร้อมกัน) โอ! พล : แค่นั้นเอง แค่ตอนนั้นเองที่เขารับแล้ว แล้วออกข่าวว่าเป็นลูกโกโบริเท่านั้นเอง พี่ ฮั้วก็โทรกลับมาทันทีว่า มาเล่นซินเดอเรลล่าไหม ก็ไม่ได้บอกนะว่าเป็นเรื่องผิดส�ำหรับ เขา เพราะว่าเงื่อนไขของละครเวทีโปรดักชั่นขนาดนั้น ณ เวลานั้น มันเป็นอย่างนั้นไง ก็ ต้องมีชื่อให้โฆษณานิดนึงล่ะว่านะ เป็นโกโบริ ลูกโกโบริอะไรก็ว่าไป ดังนั้นอย่าปล่อยให้ โชคชะตาพายูไป ยูอย่าคิดเศร้ากับตัวเอง ว่าปีหน้าฉันจะต้องแบบว่า ไปท�ำงานโฆษณา แล้ว จะต้องไปเป็นเออีหรืออะไรที่เรียนมา เพราะกลัวว่าพ่อแม่จะผิดหวัง พี่จะบอกให้ มะ ว่าพ่อแม่พี่ไม่เคยผิดหวังในตัวพี่ อันแรกเนี่ยเพราะว่าพ่อพี่เสียไปแล้ว ไม่ทันเสียใจ (ทุกคนหัวเราะ) แต่อันที่สองพ่อแม่เนี่ย อยากให้ลูกประสบความส�ำเร็จ ไม่ว่ายูจะอยู่ใน สายงานอะไรก็ตาม สิ่งที่ท�ำให้เขาภูมิใจคือลูกประสบความส�ำเร็จ ถึงยูจะเป็นหัวหน้า รปภ. แต่แบบโคตรเก่งเลย ไปไหนมีกองทัพงูเห่าอยู่ข้างหลัง ยูเป็นหัวโจกอะไรอย่าง เนี๊ยะ สิ่งที่ท�ำให้พ่อแม่เป็นห่วงคือลูกเราท�ำอาชีพนี้แล้วจะอยู่ได้รึเปล่า นิกร : (ฟ้อง) เนี่ย มันยังไม่ยอมให้พ่อแม่มาดูมันเล่นละคร พล : ตอนพี่ท�ำแรก ๆ นะ แม่พี่ด่าตลอดเลย แต่จริงๆ แล้วก็แอบซื้อเรื่องย่อไปแจก เพื่อนๆ เขาก็ภูมิใจ แต่แอบภูมิใจอยู่เงียบ ๆ แม่ที่ไหนก็อยากเห็นลูกดี ดูจิตวิทยาง่ายๆ เลยนะ เวลาที่ลูกมีแฟน ถ้าตอนนั้นเป็นเวลาที่ลูกดี พ่อแม่ก็จะรักแฟนไปด้วย เพราะ เมื่อลูกฉันอยู่กับผู้หญิงคนนี้แล้วดี ลูกฉันมีความสุข เรียนหนังสือดีขึ้น ทันทีที่เป็นอย่าง นั้นเนี่ย ผู้ใหญ่จะส่งเสริมทันทีแล้วผู้ใหญ่จะรักไปด้วย เพราะฉะนั้นเนี่ย ทันทีที่ถ้าคุณ ท�ำให้อาชีพของคุณเป็นสัมมาอาชีพ เป็นอาชีพที่สุจริต ที่คุณจะอยู่ได้แล้วก็ไม่เบียดเบียน คนอื่น ทันใดนั้นพ่อแม่คุณก็จะรักอาชีพคุณทันที นิกร : (กับคอลิด) เข้าใจไหม? พล : คุณจะเป็นอะไรก็ตาม ช่างเย็บผ้า ช่างซ่อมรองเท้า โอเปอเรเตอร์..... คอลิด : อย่างการเรียนปริญญาโทของผมเนี่ยก็เป็นการหนีชีวิต พล : พี่จะบอกให้ว่าตอนที่พี่ไปเรียนปริญญาโท พี่หนีชีวิต พี่ประชด แล้วก็ไปเรียนใน สิ่งที่เราไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ไปเรียนแล้วดันชอบ เหมือนตอนที่คอลิดบอกว่าอาจต้องไป ท�ำงานโฆษณา บางทียูไปท�ำแล้วอาจจะชอบก็ได้ อย่าเพิ่งไปตัดสินในสิ่งที่ตัวเองยังไม่ ได้สัมผัส พี่ไม่เคยคิดเลยว่าพี่จะชอบ ตอนไปเรียนนี่พี่ได้เหรียญทองเลยนะ ได้อันดับ หนึ่งชนะฟะหร่งฝรั่งหมดเลย แล้วพอกลับมาไปเป็น Backstage พี่ก็คิดเลยว่าพี่ต้องมี อาชีพ พี่ท�ำ resume ขึ้นมาประมาณ 30 ชุด คิดเลยว่าอยากท�ำงานที่ไหน หนึ่ง ออฟฟิศ ต้องสวย ไปอัมรินทร์พลาซ่าแล้วกัน ไปถึงอัมรินทร์พลาซ่า ก็ไปกรอกใบสมัครแล้วก็ไป หย่อนไว้ ตอนนั้นยังจ�ำได้เลย เขาถามบุคคลที่ชื่นชอบ ตอบไปว่าพี่เบิร์ด ธงชัย เพราะ ว่าชอบพี่เบิร์ดร้องเพลง (ทุกคนหัวเราะ ช่วงที่พลพูด คอลิดนั่งอมยิ้ม ตั้งใจฟัง) แล้ว ตอนนั้นไปสมัครท�ำการตลาด เค้ามาอ่านก็คงคิดว่าไอ้นี่บ้า แต่เราก็เป็นตัวของเราเอง เนี่ยแล้วเดินไปเจอ บริษัทโน้นนี้ก็อยากท�ำ วันเดียวร่อนใบสมัครหมดเลย แต่เนี่ย เห็น ไหมว่าพี่ไม่เคยรอให้โอกาสเข้ามาหาเรา พี่เดินเข้าไปหาโอกาสตลอด พี่เองก็ไม่รู้นะ ว่าท�ำแล้วจะชอบรึเปล่า บางงาน ท�ำไปท�ำมาแล้วสนุกว่ะ ก็เลยชอบ แต่กับงานไหนที่ พี่ท�ำแล้วพี่รู้สึกไม่ชอบเนี่ย อาทิตย์เดียวพี่เลิกท�ำเลย ไม่ทนต่อ พอเข้าไปแล้วมันจะมี รัศมีอะไรที่บอกเราว่าเราชอบไม่ชอบ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปตัดสินว่าชีวิตปีหน้าของยู

20

“ทั น ที ที่ ถ ้ า คุ ณ ท� ำ ให้ อ าชี พ ของ คุณเป็นสัมมาอาชีพ เป็นอาชีพ ที่สุจริต ที่คุณจะอยู่ ได้แล้วก็ไม่ เบียดเบียนคนอื่น ทัน ใดนั้น พ่อ แม่คุณ ก็จะรักอาชีพ คุณ ทัน ที” girl with the idea that ‘she’ will make her son happy and successful, see? Whenever you make your acting career a ‘right livelihood’,, your parents will surely love what you do. Nikorn : (To Khalid) See? Phol : Or whatever… you can be a janitor, a shoemaker, an operator, a… Khalid : Like studying my master’s degree right now, it’s kind of… my way of escape. Phol : You know, when I studied my master’s degree, I escaped too. I did it just to spite my friend. I didn’t even know what marketing was. But since then, I kind of like it. So you think that you would be so miserable working in an advertisement or media industry, but hey!.. It might turn out differently. You might like it! I never thought I would. I graduated a first class honor student with gold medal award. Then I came back… and become a member of a stage crew, so I thought I must have a real job. I made 30 copies of my CV, thinking about where I wanna work. First of all, the office has to look nice. So Amarin Plaza was my first choice. I went there and filled out an application form. I still remember the question they asked… “who is your model”, I answer Bird Thongchai …cause I like his songs. (Everyone laughs. While Phol is talking, Khalid smiles and listens attentively.) Phol : The time I applied for a marketing job, they probably thought I was crazy. But I am proud to be who I am. I applied in several places till my CVs were all gone by the end of the day. You see, I never sit and wait for opportunities, I go for it. I have no idea whether I’ll like it or not, some jobs turned out to be fun, some weren’t. But as soon as I wasn’t happy with a job, I quit. Each place has its own aura which you can feel, about peers and so on. So don’t assume that your life next year will suck. Just choose your own path, and all you have to do is deal with it. If it’s not right for you, you will get sick of it,…really, even it is your dream career you thought you were longing for. Khalid : Like the time I worked in the TV programme I told you about, I thought… if it wasn’t for money, there would be no other reason for doing it at all. I was so sicked and tired of it. I did it in order to have enough money to live on so I could still play in theatres. But I just hated it!. And when they called to cancel, Hurray!!! That day I knew there was my que…I have to cheer myself up all day, “Khalid go go! Khalid you can do it!”....But when I was my professor’s teaching assistant, I felt just the opposite. Nikorn : Yeah…you are good at that kind of thing, especially when you were at drama workshops. Khalid : You ain’t fed up with it yet, right? Theatre? Nikorn : Wooh…that time is already passed. There was … just a moment. Phol : (Just finishes chewing) Ever thought of giving up? Nikorn : No, not like that. Since I have no monthly salary, when someone of- fered me a job, teaching mostly, I hesitated. By the end I refused to do it though. Cause for me the only reason for becoming a teacher is “you wanna teach”, not for financial stability. And if I became a teacher, I would have to devote myself to it. I might have a chance to do a show in school…,but it’s not me. So I ditched the opportunity, and regretted it. Phol : Why? Nikorn : For missing a chance for having financial stability…but I didn’t want to teach that much and did not want to do it only because of money. So I decided


จะเศร้า แต่ขอให้คุณเลือกเอง แล้วคุณก็ต้องรับกับผลของมัน ถ้ามันไม่ใช่ เดี๋ยวคุณจะ เอียนกับมัน จริงๆ นะ ถึงจะเป็นกับงานละครที่คุณรักก็เถอะ คอลิด : คือตอนนั้นเคยไปท�ำงานเป็นพิธีกรรายการ ผมคิดเลยว่า ถ้าไม่ใช่เพราะเงิน ผมจะมาท�ำท�ำไมวะตรงนี้ ผมไม่มีความสุขเลย ตอนแรกคิดว่ามันก็แค่นิดเดียวถ้าท�ำ ทุกอาทิตย์ก็ได้เกือบสองหมื่น ก็ท�ำไปเพื่อที่จะได้เล่นละครได้ แต่แค่ต้องไปพูดหน้า กล้องเปิดรายการแค่ 15 นาทีเนี่ย ผมก็แบบ โอ๊ย(เสียงทนทุกข์ทนมานมาก) วันไหนที่ เขาโทรมาบอกว่าวันนี้ยกเลิกนะ จะดีใจมากเลย แบบ ครับๆ ได้ครับ (ร่าเริง) วันไหน ที่รู้ว่ามีถ่ายรายการก็ต้องคอยเชียร์ตัวเองว่า เฮ้ย วันนี้ต้องสู้ คอลิดสู้ๆ...แต่อันที่ได้ไป ช่วยครูอุ๋ยสอนน้อง ๆ เนี่ย ผมกลับรู้สึกโอเคกว่ามากเลย นิกร : อืม แต่มันมีแววด้านการอบรมเด็กนะ เวลาไปเวิร์คชอปอะไรอย่างเนี้ยะ คอลิด : แล้วพี่นิกร ยังไม่เอียนใช่ไหม กับละครเวที? นิกร : โอย ผ่านไปแล้ว คือมันมีโมเม้นท์หนึ่ง พล : (เพิ่งเคี้ยวเสร็จ) เคยท้อไหม? นิกร : ไม่ ไม่ใช่ท้อ อย่างอาชีพของเราเนี่ย มันไม่มีเงินประจ�ำใช่ไหม เวลามีคนมายื่น ข้อเสนอให้เราว่าไปสอนที่นี่สิ เราก็คิดว่าจะเป็นอาจารย์หรือไม่เป็นอาจารย์ สุดท้ายเรา ก็ปฏิเสธไปว่าไม่เป็นอาจารย์ อย่างนึงเลยเพราะว่า ถ้าเป็นอาจารย์เนี่ย มันก็ต้องเป็น เพราะอยากสอนสิ ไม่ใช่เป็นเพราะเราอยากได้เงินเดือนหรือเพื่อความมั่นคง พอเป็น อาจารย์มันก็ต้องทุ่มเทให้กับการสอน มันอาจจะได้ท�ำละครในสถานศึกษา แต่มันไม่ ใช่อะ เราก็เลยปฏิเสธไป แล้วก็มาเสียดายว่าท�ำไมเราไม่เลือก พล : ท�ำไมเสียดาย? นิกร : ที่เราไม่ได้ความมั่นคง แต่เราก็ไม่ได้อยากสอนขนาดนั้นไง เราไม่รับเพราะเรา ไม่อยากท�ำมันเพื่อความมั่นคงอย่างเดียว สอนก็อยากสอน แต่ขอเป็นอาจารย์พิเศษก็ พอ มาตอนนี้ก็เป็นอาจารย์พิเศษไปสอนที่นู่นที่นี่ ก็มีความสุขดี คอลิด : ถ้าตอนนี้มีคนมายื่นโอกาสให้อีกล่ะ? นิกร : ก็คงไม่ท�ำ มารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่ส�ำหรับเราก็หลังจากที่ลาออกจากแด๊สเนี่ยแหละ พล : เรารู้สึกว่าบางทีนิกรสร้างภาพให้ตัวเองด้วยรึเปล่า? (กินมัฟฟิ่นหมดพอดี ดูด นิ้ว พับกระดาษรอง) นิกร : สร้างภาพยังไง? พล : (เช็ดปาก เช็ดมือด้วยผ้าขนหนู) บางทีคนเราชอบสร้างภาพไว้ก่อนไง เหมือนคน ชอบคิดว่างานออฟฟิศน่าเบื่อ แต่มาท�ำแล้วชอบจังเลย วันนี้จะแต่งตัวอะไรไปดี (ทุก คนระเบิดหัวเราะ) เนี่ย เราเลยรู้สึกว่านิกรอาจจะคิดว่างานสอนมันเป็นรูธีน แต่ความ จริงมันไม่ใช่หรอก นิกร : ใช่ ๆ แต่ถ้าเรารับงานสอนประจ�ำแล้วเนี่ย มันจะมีเงื่อนไข หน้าที่รับผิดชอบ ต่างๆ ในขณะที่เราเป็นอาจารย์พิเศษเนี่ย สอนอย่างน้อยเทอมละตัวสองตัว ที่เหลือ เราก็อิสระของเราแล้วไง พล : ถามค�ำนึง ท�ำไมถึงกลัวเรื่องหน้าที่? นิกร : เออ นั่นสิ ท�ำไมไม่รู้ พล : มนุษย์ทุกคนมีหน้าที่ อายุสิบห้าต้องไปท�ำบัตรประชาชน ต้องไปเลือกตั้ง นิกร : แต่เรารู้สึกว่า การที่เราเข้าไปอยู่ตรงนั้น เราอาจจะสูญเสียตัวตนแล้วก็เวลาของ เราที่เราอยากจะเอาไปท�ำอะไรต่างๆไง

to be just a special instructor which now I’m happy with it. Khalid : If someone offers you a chance right now? Nikorn : The answer is still no. Actually I knew what I really wanted to do after I left Dass. Phol : I think you imagine too much. (Finish eating muffin, sucks his fingers, and folds the paper napkin) Nikorn : What do you mean? Phol : (Wipes his mouth and rubs his fingers with paper napkin) Many times people tend to imagine things before they really happen. Like folks that usually think the office work is boring, but when they really do work in the office…some like it! Enjoying a “what should I wear today?” moment. (Everybody laughs) So, you might think teaching is a boring job, but actually it’s not. Nikorn : I know, but if I am a teacher, there are responsibilities and duties, while I’m more independent being a special instructor. Phol : One question, why are you afraid of having duties? Nikorn : Err…actually…I don’t know. Phol : Every human being was born with a duty. When you reach fifteen, you have to have an ID card and go to the elections. Nikorn : I just feel like, by doing that kind of thing, I might not be myself anymore. I might not have the time to do what I want. Phol : Why don’t you think it this way…that it might be a beginning for you to do so much for others. Nikorn : That’s possible. Phol : Why don’t you think that you might be an inspiration to millions of students. Nikorn : I’m teaching now, just not a full time teacher. Khalid : In the way that he is happy. Nikorn : Um…I think this way I can still have my own free time. Phol : Um, we just see it differently. Nikorn : Yah…just like you said…it’s the thing I’ve chosen, and I’m satisfied with it. Wanna eat a lovely looking cake? I can, just not so often. Phol : It has to be EVERYDAY! (Everybody laughs including Phol) Khalid : Like my friend, he thinks my life is happy, while I see him wealthy, owns a car, a condo… Phol : (Shaking his head) Not the essence. Nikorn : Not an overall standard. Phol : The essence is not owning a car. Khalid : I thought so too. He told me my life is far better than him. No one is satisfied with what he actually has. Nikorn : Like when there is an economic bubble, lots of people suffer with unemployment. I am fine cause I have nothing to lose. Phol : Different lifestyle. Nikorn : He chose stability and felt like his life has something missing. He sees my life as independent and carefree. One of my friends started to work in an office right after he graduated, then he began to notice that he didn’t really like what he was doing...but he endures it. He feels like he has to bear the burden. Phol : I dislike these kinds of people.. If one day I don’t feel like cooking anymore, I’ll stop. Right away. Nikorn : See, that’s why your works are good, cause everything you do, you want to do it.

21


พล : แล้วท�ำไมไม่คิดล่ะว่ามันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่เราอาจจะไปท�ำอะไรให้คนอื่น ได้อีกเยอะแยะ นิกร : ท�ำได้เหมือนกัน พล : ท�ำไมไม่คิดล่ะว่านักเรียนอาจจะได้แรงบันดาลใจจากเรา นิกร : ก็สอนอยู่ไง แต่สอนเป็นอาจารย์พิเศษในแบบที่เราไม่ต้องไปประจ�ำแบบนั้น คอลิด : ในแบบที่เราสบายใจ นิกร : อืม ก็คิดว่าท�ำแบบนี้ เราท�ำได้เหมือนกัน แต่ก็ยังคงมีเวลาของเราไง พล : อืม คิดไม่เหมือนกันไง มันคิดไม่เหมือนกัน นิกร : ช่าย เหมือนที่พลบอกไง ว่ามันเป็นสิ่งที่เราเลือกแล้ว แล้วเราพอใจกับสิ่งที่เรา เป็นอยู่ไหม ก็อยากกินเค้กเนี่ยก็กินได้ แต่อาจจะไม่ได้กินบ่อยนักไง พล : ต้องกินทุกวัน (ตบเข้าฉาด) (ทุกคนหัวเราะรวมถึงพลด้วย) คอลิด : อย่างเพื่อนผมมันก็มองว่าผมมีความสุขดี ในขณะที่เรามองมัน มันก็มีเงิน ซื้อ รถ ก�ำลังจะซื้อคอนโด พล : (ส่ายหัว) ไม่ใช่บรรทัดสุดท้าย นิกร : ไม่ใช่บรรทัดฐาน พล : บรรทัดสุดท้ายไม่ได้อยู่ที่รถ คอลิด : แต่ผมก็เคยคิด แล้วมันก็ตอบให้ผมว่า ชีวิตผมโอเคกว่ามัน ต่างคนต่างก็ไม่ ชอบชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ นิกร : อย่างตอนฟองสบู่แตก โดนเลย์เอาท์เนี่ย ทุกคนทุกข์ทรมานมาก แต่เราไม่กระทบ อะไรเลย เพราะเราไม่มีอะไรอยู่แล้ว พล : ใช่ มันเป็นชีวิตคนละแบบกัน นิกร : เขาเลือกความมั่นคง ในขณะที่บางทีเขาก็จะรู้สึกว่าขาดอะไรไปบางอย่าง เขา ก็จะมองว่าชีวิตเรามีอิสระ ท�ำอะไรได้อย่างที่ฝัน เพื่อนบางคนจบมาแล้วก็ท�ำงาน แล้ว ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ชอบสิ่งที่ตัวเองก�ำลังท�ำเท่าไหร่ ก็ยังฝืนทนท�ำต่อ เพราะคิดว่ามีภาระที่ ต้องรับผิดชอบ พล : ไม่ชอบคนอย่างนี้เลย ถ้าเผื่อวันหนึ่ง อย่างเช่นวันนี้ ถ้ารู้สึกว่าฉันเกลียดการท�ำ อาหารมาก ฉันก็จะหยุดท�ำเลยทันที นิกร : เนี่ย มันถึงท�ำได้ดีไง เพราะทุกอย่างที่ท�ำมันอยากท�ำหมด พล : สมุมติถ้าวันนี้ฉันอยากปักโครเช ปักนิตติ้ง ฉันก็จะถักเลย เพราะอย่างนึง เรา เชื่อมั่นในเรื่องของจิตวิญญาณ ว่างานต้องมีจิตวิญญาณ ต่อให้คุณท�ำบัญชี ถ้าคุณท�ำ ด้วยจิตวิญญาณคนก็จะสัมผัสได้ ว่าแหม ไอ้นี่หักมุมบัญชีปึ๊บปั๊บๆ คนก็จะมาจ้างคุณ เยอะ คุณเชื่อไหมว่าคนที่วิ่งตามหาเงินก็ต้องวิ่งไปตลอดชีวิต แต่ใครที่ท� ำในสิ่งที่ตัว เองรัก แล้วท�ำด้วย passion เงินจะวิ่งตามคุณจนคุณเหนื่อย แบบว่าไม่ไหวแล้ว ขอ พักได้ไหม จะเป็นอย่างนี้จริงๆ บอกให้จริงๆ ว่าทรัพยากรในโลกที่ขาดเนี่ย มันไม่ใช่ ตึก ไม่ใช่ที่ดิน แต่มันคือทรัพยากรมนุษย์ นิกร : ตอนนี้คนขาดความรู้ความเข้าใจตัวเองว่าอยากท�ำอะไร พล : คนไม่รักในสิ่งที่ตัวเองท�ำ (พูดกับคอลิด) พี่ว่าทิศทางที่ยูเป็นอยู่เนี่ยดีนะ ยูรู้ว่า ตัวเองชอบอะไร แต่ยูต้องบอกให้มันดังๆ เท่านั้นเอง เวลาที่ยูรู้ว่าตัวเองชอบท� ำอะไร อย่ากลัวที่จะโดนปฏิเสธ คอลิด : เหมือนแต่ก่อนพอญาติพี่น้องถามว่าท�ำงานอะไร ผมก็....... (ไม่พูด) เนี่ย ผม ถึงต้องมาเรียนต่อ เพื่อเอาสถานภาพนิสิต พอจบปริญญาโทแล้ว โดนถามว่าท�ำงาน อะไรดี ท�ำงาน “ละครเวที” เหรอ ท�ำอะไร แล้วก็ต้องอธิบาย นิกร : (เข้าใจ) อีพวกเนี้ยจะโดนตลอดแหละ คอลิด : “เป็นฟรีแลนซ์เหรอ?” พล : “เล่นละครเหรอ ช่องอะไรครับ?” ทุกคน : เอ้อ (เสียงดังลั่นห้อง แบบเห็นด้วยเป็นอย่างมาก)

22

นิกร : เนี่ย อย่างบางคนท�ำละครก็ไม่ยอมบอกที่บ้านนะว่าท�ำ พล : ตาย นิกร : ใช่ พล : ไม่ได้นะ ถ้าหากว่าตัวเราเองยังไม่ภูมิใจกับสิ่งที่เราท�ำ เราจะท�ำให้คนอื่นภูมิใจ ในงานของเราได้ยังไงเล่า!

Phol : If today I want to knit, I’ll knit. Cause I believe in spirit…you have to have it in order to work, to do anything. Even though you are an accountant, if you do it with spirit…people will see the difference, and they will hire you. If you work cause you want the money, that’s all you will do for the rest of your life. While another does it with passion, money will come to him till he gets tired of it and has to ask for a break. It’s the truth that the resources we need the most are not buildings, not properties, but human resources. Nikorn : People nowadays don’t really know what they want to do. Phol : They don’t love what they do. (To Khalid) As least in your case, you know what you like. All you have to do is to say it out loud. When you know what you want, don’t be afraid to be rejected. Khalid : People always ask me what do I do for living, so I….(Decides not to say) See, I have to study for a master’s degree to have a student status. When I’ve graduated, I probably will have to explain to them all about acting, theatre, and so on. Nikorn : (Agrees) Always the issue. Khalid : “Are you freelancing?” Phol : “You act? In what movie?” Everybody : Right!!!!!! (Totally agree) Nikorn : Some people don’t even dare to tell their family about their careers in theatre. Phol : OMG Nikorn : Really! Phol : That can’t be done! If you aren’t proud of what you do, how can you make others proud!!!

เรี ย บเรี ย ง กิ ต ติ พ ร โรจน์ ว ณิ ช / Kittiporn Rodvanich ภาพ สุ ว ลี วิ ชั ย วุ ฒิ คุ ณ / Suwalee Wichaiwuttikun


on stage

ผมรู้จัก “BTF” ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งนี้มาก่อน เพิ่งจะมารู้ก็ตอนที่เพื่อนๆ ที่ภาควิชาชวนให้ท�ำละครด้วยกัน ตอนนั้นถึงได้เข้าใจว่า “อ๋อ มัน คือ เทศกาลที่เขามาเล่นละครกัน” แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรมากกว่านั้น ไม่เคยรู้ว่ามัน “เจ๋งเป้ง” จน ได้เอาตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลทั้งในฐานะคนท�ำละครแล้วก็คนดู แต่ที่จะเล่านี่ คือสิ่งที่รู้มาแล้วครับ I had no idea what BTF was until I was introduced to it 4 years back. I started to realize what it was when my Drama Department peers invited me to participate in a play. It was then that I gripped the definition out of it, “a play festival it is”. But I did not know it was so cool that the next thing I realized was my full participation in it, as a dramatist and as an audience.

Any way, what I am about to say now is what I have learned about it.

เทศกาลละคร? “BTF” นี่ย่อมาจากค�ำว่า Bangkok Theatre Festival หรือ เทศกาลละครกรุงเทพ ครับ งานนี้จะจัดขึ้นในทุกๆ ช่วงปลายปี ซึ่งมีติดต่อกันมา 8 ปีแล้ว เทศกาลนี้ส�ำหรับคน ละคร เปรียบเทียบกันง่าย ๆ ก็เหมือนงานรวมรุ่น ที่ศิลปินทั้งหลายจะได้มาพบปะและแลก เปลี่ยนมุมมองชีวิต ผ่านงานละครของกันและกัน โดยใช้พื้นที่หลักในการรวมตัวที่สวนสันติ ชัยปราการ และร้านอาหารบริเวณถนนพระอาทิตย์ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก ชุมชนบางล�ำพูมาโดยตลอด :) ผู้เข้าร่วมเทศกาลคือกลุ่มละครต่าง ๆ รวมไปจนถึงชมรมของน้อง ๆ จากสถาบันการ ศึกษาทั้งระดับมหาวิทยาลัยและระดับมัธยม เนื่องจากมีกลุ่มผู้ผลิตงานละครที่หลากหลาย ท�ำให้เทศกาลในแต่ละปี มีละครให้เราได้ชมกันหลายเรื่องหลากรูปแบบ ซึ่งล้วนแล้วแต่สื่อสาร ความคิดบางอย่างให้แก่ผู้ชมทั้งสิ้น จุดนี้ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องไหนจะไปกระทบใจใครมากน้อย ซึ่ง จะต่างกันไปตามประสบการณ์ของคนดูแต่ละคนครับ ส�ำหรับเรื่องความหลากหลายของละครในเทศกาลนั้น รับรองได้ว่าครบรสและสามารถตอบ โจทย์ของคนดูได้ทุกคน เพราะแต่ละกลุ่มละครจะน�ำเสนอเรื่องราวที่ตนเองอยากจะสื่อสารกับ คนดูออกมาต่างกัน ในแต่ละปีจะมีละครที่พูดถึงแง่มุมทางสังคม การเมือง วัฒนธรรม การ ใช้ชีวิต หรือเรื่องราวใกล้ ๆ ตัว อย่างเรื่องในที่ท�ำงาน เรื่องในบ้าน ความรัก (รักร่วมเพศก็มี ครับ) บ้างเป็นละครเพลงหรือละครใบ้ หลายเรื่องเป็นละครพูด แต่ที่น่าสนใจคือมีศิลปะพื้น บ้านที่หาดูยากมากมาให้ดูกันทุกปี แล้วถ้าสมมุติว่าเกิดอยากดูละครหลายเรื่อง ทางเทศกาล ก็จะมีตารางการแสดงมาให้อย่างดิบดี แค่หยิบไปแล้วก็จัดตารางของตัวเองได้เลย

ร ค ะ ล ม ช กินลม ear with

y val. i t s e F Once a e eatr Th k o k Bang

Theatre Festival? “BTF” stands for Bangkok Theatre Festival, an event organized at the end of every year and has been there for the last 8 years. The festival is like a reunion where drama artists come to enjoy each other’s company and project their life experience through the plays. The festival is organized mainly in the Santichaiprakarn Park, Ta Pra-a-tit restaurants, always with a warm welcome and collaboration of Banglamphoo community. The drama artists range from those of professional troupes to university, secondary and high school drama club members. The diversity of drama artists truly merits on a variety and quantity of the plays. Each play conveys ideas in its own way and creates different kinds of experience to the audience, depending on individual interpretation and background. The variety of the plays is guaranteed, suiting audience of any tastes. Each drama troupe communicates their own ideas differently. Every year, there are plays about social aspects, politics, culture, lifestyles, and daily stuffs such as what goes on at work and at home. There are plays about love and homogenous love. There are musical plays and pantomimes, several plays with dialogues. The highlight is always rare folk plays. To make life easier, the audience can just grab the play schedule published by the festival committee and see what’s on.

23


สวนสันติฯ ถนนพระอาทิตย์ บางล�ำพู ตอนที่เริ่มรู้จักเทศกาลละครกรุงเทพใหม่ๆ จ�ำได้ว่าตัวเองรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสถานที่จัดงาน มาก ๆ เพราะสวนสันติฯ หรือชื่อเต็มคือ “สวนสันติชัยปราการ” นั้น “สวยแบบไม่ไหวแล้ว” สวน สาธารณะแห่งนี้ติดกับแม่น�้ำเจ้าพระยาแถมยังมีวิวสวยๆ ของสะพานพระราม 8 อีก นึกสงสัยอยู่ เหมือนกันว่าหาที่แบบนี้จัดงานกันได้ยังไง อย่างไรก็ตามครับ (เข้าเรื่อง) เทศกาลละครกรุงเทพฯ นี้ เขาแบ่งพื้นที่ของสวนสันติฯ ออกเป็นส่วน ๆ เช่น เวทีกลาง เวทีส�ำหรับละครทดลอง ละครริม น�้ำ ฯลฯ แต่ละส่วนจะมีละครมาเล่นแตกต่างกันไป ส่วนรายละเอียดว่าเรื่องไหนเล่นตรงไหน อันนี้ ขอให้ไปลองหยิบตารางงานมาดูครับ ที่ส�ำคัญที่อยากจะบอกก็คือ มีละครให้นั่งดูฟรี ๆ หลายเรื่อง มาก แต่ถ้าหากว่ารู้สึกอยากสนับสนุนงานดี ๆ ที่เราชอบ ก็มีกล่องให้หย่อนสตางค์ จะหย่อนมาก หย่อนน้อย อันนี้ไม่ว่ากันครับ ในเทศกาลนอกจากจะมีละครดี ๆ ที่ศิลปินภูมิใจน�ำเสนอแล้ว ยังมี อาหารอร่อย ๆ ขายแบบไม่ต้องกลัวหิวด้วย ประมาณว่า”อิ่มใจสบายท้อง” สิ่งที่ต้องมาซื้อไปทาน จริง ๆ ก็คือขนมต้มแดงกับขนมต้มขาว เป็นขนมไทยโบราณที่หากินยาก แต่อร่อยมาก (ผมเองรอ ไปซื้อมาทานทุกปี) คราวนี้ นอกจากที่สวนสันติฯ แล้ว ร้านอาหารบนถนนพระอาทิตย์ก็ยังอนุเคราะห์พื้นที่บาง

ส่วนของร้านให้ใช้เป็นพื้นที่การแสดงด้วย ส่วนที่เป็นร้านอาหาร นี้จะค่อนข้างเจาะจงหน่อย เพราะมีการขายบัตรเข้าชม ร้าน อาหารที่ถนนพระอาทิตย์มีหลายร้าน แล้วก็อร่อย ๆ ทั้งนั้น ถ้า ได้มีโอกาสไปชมงาน ก็ลองวางแผนดูเล่น ๆ ว่าจะทานข้าวก่อน แล้วค่อยดูละคร หรือดูละครก่อนแล้วค่อยลงมาทานข้าว(หรือ ค่อยไปต่อกันที่ถนนข้าวสาร) ก็ได้ ตามแต่เวลาที่มี การเดินทางมาที่สวนสันติฯ นี่ไม่ยากเลยครับ สนุกด้วย นั่ง รถเมล์สายอะไรมาก็ได้ที่ผ่านถนนข้าวสาร เดินเล่นเพลิน ๆ เดี๋ยว ก็ถึงแล้วครับ หรือถ้าจะให้สนุกกว่านั้นก็นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี สะพานตากสินแล้วนั่งเรือมาขึ้นที่ท่าพระอาทิตย์ เลี้ยวซ้ายแล้ว เดินไปหน่อยก็จะเจอป้อมพระสุเมรุตั้งเด่นเป็นสง่า หาได้ง่าย ๆ ไม่มีหลงครับ Santichaiprakarn Park, Ta Pra-a-tit Road, Banglamphoo Community I remember the excitement I had when I knew where the festival would be held. I just could not name a prettier and better place to be chosen as the venue. The Santichaiprakarn Park is situated on the Chaopraya River, overlooking a great view of Rama 8 Bridge. I am still impressed with such a fine selection of venue. Anyway, back to the point, the Santichaiprakarn Park is divided into different parts: the main stage, stages for experimental play, stages by the river, etc. Every stage is packed with different plays queuing up for the audience. The play schedule tells us the time and stage in which the plays are performed. What I want to tell you is that there are also several plays free of charge. If you feel like supporting them, you can make a donation all you want. Besides good plays, there is delicious food sold around the area you don’t have to worry you’d be starved. Let’s just say, “Happiness fills up your heart while it fills up your stomach.” By the way, can I recommend Kanomtom

24

Daeng and Kanomtom Khao? These are really rare Thai dessert. You just can’t miss it. I myself have to take a few pieces every time I am there. Besides the Santichaiprakarn Park, some restaurants on Pra-a-tit Road provide some space for the plays to be performed. But you have to buy tickets to see them though. There are many restaurants on this road. All offer delicious dishes. It’s really up to you, seeing a play first, dining first, or doing both and end the night on Khaosan Road. How to get here? So easy, and so much fun. Just take any bus that brings you to Khaosan Road, the plays are just around the corner. If you want more excitement, take the sky train to Taksin station, hop on the boat, get off at Pra-a-tit Pier and keep straight. You will just walk into Phra Sumen Fort. No way you’d get lost.


บรรยากาศเปลี่ยน ความรู้สึกเปลี่ยน ในชีวิตปรกติประจ�ำวันแล้ว จะมีเวลาไหนบ้างที่จะได้ออกจากบ้านมาเดินเล่นในสวนสาธารณะริมแม่น�้ำ เจ้าพระยา แถมยังมีอาหารอร่อย ๆ แล้วก็ละครดี ๆ ให้ได้ชมแบบจุใจ คงมีไม่มากใช่ไหมครับโอกาสแบบนี้? อ่านมาเยอะแล้วเอาเป็นว่า ลองเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการมาชมละครในเทศกาลนี้ด้วยตัวเองน่าจะเห็นภาพ กว่า จูงไม้จูงมือลูกหลานมาดูด้วยก็ได้ เด็ก ๆ ได้สนุกแถมยังได้ใช้เวลาด้วยกันกับคนในครอบครัวอีก นอกจาก ค่ารถกับเงินอุดหนุนกลุ่มละครนิดหน่อยแล้ว มีแต่ได้กับได้ครับ Atmosphere changed, feeling changed Imagine how many times in your life you get to come hang out on Chaopraya riverside with mouth-watering food and a variety of plays. This doesn’t happen to you often, right? Up to this point, I think the best is to come and see the festival yourself. Come with your children, spend time and have some fun with your family. Except very few baht for the bus tickets and some donations to the drama artists, you will only gain. Trust me.

6-14 พฤศจิกายน Nov 6-14,2010

ณ สวนสันติชัยปราการและร้านอาหารบนถนนพระอาทิตย์ย่านบางล�ำพู @ Suan Santi Chaiprakarn & restaurants on Pra Ar-tit rd., Banglumpoo, Bangkok รายละเอียดเพิ่มเติม More Information http://www.lakorn.org , http://www.bangkoktheatrefestival.com เรื่ อ ง ชนก ชาตะวราหะ / Content Chanok Chatawaraha แปล สุ วิ ด า บุ ญ ยาทิ ษ ฐาน / Translate Suwida Boonyatistarn

25


off scene

Dine / Drink / aRt… R all in one place

* hemlock * เฮ็มล็อก เป็นร้านอาหารที่เป็นอาร์ต ในเทศกาลก็สามารถแวะมาทานอาหารได้ แกลลอรี่ไปด้วยในตัว นอกจากรสชาติของ ทุกวันตั้งแต่วนั จันทร์ - วันเสาร์ครับ อาหารที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีงาน Hemlock is an ‘art restaurant’ with its ศิลปะแวะเวียนเข้ามาจัดแสดงอย่างต่อเนื่อง own art gallery. Cool and soothing interior สีที่ใช้ภายในร้านเป็นสีขาว สะอาดตา ท�ำให้ decor, chilling atmosphere with music, suited บรรยากาศภายในร้านโปร่ง นั่งสบาย มีดนตรี best for getting together with friends. Apart เพราะ ๆ ให้ได้นั่งฟังแบบไม่ต้องตะโกนคุยกับ from serving us delicious dishes, it is also เพื่อน เหมาะส�ำหรับการนั่งสังสรรค์พูดคุย a venue for art events. Like many other เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นร้านเฮ็มล็อกแห่ง restaurants on Pra-a-tid Road, Hemlock นี้ยังเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ร้านอาหารบนถนน generously provides its 2nd floor to be one พระอาทิตย์ ที่เข้าร่วมโครงการกับเทศกาล of the stages for participated artists in BTF ละครกรุงเทพเป็นประจ�ำทุกปี โดยได้เอื้อเฟื้อ (Bangkok Theatre Festival) every year. If you พื้นที่ชั้น 2 ภายในร้านให้เป็นพื้นที่สำ� หรับจัด have a chance to come by Pra-a-tid Road แสดงละคร หากว่าท่านไหนมีโอกาสได้แวะ or visit BTF this year, from Mon-Sat, you are มาแถวถนนพระอาทิตย์หรือได้มาชมละคร more than welcome at Hemlock!

26

RECOMMENDED menus ข้าวผัดน�้ำพริกลงเรือ / ข้าวห่อใบบัว / แกง นพเก้า / ย�ำทวาย Fried rice with shrimp-chilli-paste / Rice wrapped in lotus leaf / Nine vegetable mixed soup / Thawai dressed salad Hemlock

ถนนพระอาทิตย์ ตรงข้ามท่าพระอาทิตย์ เวลาท�ำการ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.00 - 24.00 น. วันเสาร์ เวลา 17.00 - 24.00 น. ติดต่อ คุณเนตรนภิส วรศิริ โทรศัพท์ : 02-282-7507 Hemlock Pra-a-tid Road, Opposite to Tha Pra-a-tid Open Mon - Fri 4pm - midnight Sat 5pm - midnight Tel. 02-282-7507

Special just for you ! รับส่วนลด 5 % ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ส�ำหรับ ผู้ถือนิตยสาร play ฉบับเดือนตุลาคมเข้าไปด้วย (เฉพาะเดือนตุลาคม)

5% discount (not include alcohol) for customers with Play Mag October 2010 issue. เรื่ อ ง ชนก ชาตะวราหะ / Content Chanok Chatawaraha แปล กิ ต ติ พ ร โรจน์ ว ณิ ช / Translate Kittiporn Rodvanich


observation

เรื่ อ ง ธาริ น ทร์ คี รี / Content Tharin Keeree แปล พริ ม า ผู ้ พั ฒ น์ / Translate Parima Phoopat

ปีมีหน Oberammergau 10 ละครแก้บนของฝรั่ง Passion play Once in a decade : an offering play

คุ

ณรู้หรือไม่ว่าในโลกนี้ นอกเหนือจากละครเวที บรอดเวย์ ที่เป็นที่นิยมและเล่นติดต่อกันเป็น ระยะเวลายาวนาน จนกลายเป็นต�ำนาน อาทิ The Phantom of the Opera หรือ Les Misérables แล้ว ยังมีการแสดงอีกเรื่องหนึ่งที่เปิดการแสดงมากว่า 400 ปี และในการเปิดการแสดงแต่ละครั้งมีผู้ชมถึง เกือบครึ่งล้านคน! เราก�ำลังพูดถึงการแสดง การตรึงการเขนพระเยซู (Passion Play) ที่โด่งดังที่สุดในโลก ณ หมู่บ้านโอ เบอร์อัมเบอร์เกา แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่าการแสดงนี้เป็นการแก้บน อย่างหนึ่ง จุดเริ่มต้นของการแสดงนี้เริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1633 เมื่อชาวเมืองสวดภาวนาอ้อนวอนพระเจ้าให้ช่วยให้ พวกเขาพ้นภัยจากโรคระบาดครั้งใหญ่ โดยสาบาน ว่าจะจัดการแสดง Passion Play ถวายพระเจ้าทุกๆ สิบปี ซึ่งชาวเมืองได้ท�ำตามค�ำสาบานนั้นติดต่อกัน มาเป็นระยะเวลาเกือบสี่ร้อยปีแล้ว การแสดงนี้ถือ เป็นงานทางศาสนาและวัฒนธรรมที่มีความส�ำคัญ ที่สุดในเยอรมนีก็ว่าได้ สิ่งที่น่าสนใจของการแสดงนี้คือการคัดเลือกนัก แสดงและทีมงาน ที่ต้องเป็นชาวเมืองโอเบอร์อัม เบอร์เกาตามกฎหมายท้องถิ่น นั่นหมายความว่า ตั้งแต่นักแสดงน�ำ ทีมงาน ไปจนถึงนักร้องประสาน เสียงและพนักงานต้อนรับ ทุกคนต้องเกิดหรืออาศัย อยู่ในโอเบอร์อัมเบอร์เกาอย่างน้อยเป็นเวลา 20 ปี การแสดงนั้นเล่าเรื่องราวจากพระคัมภีร์ทั้งในภาค พันธสัญญาเดิม อาทิ การเดินทางออกจากประเทศ

อียิปต์ของชนชาติอิสราเอลไปยังดินแดนแห่งพันธ สัญญา เรื่องราวการถูกทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพของพระเยซู การแสดงมีความ ยาวประมาณ 7 ชั่วโมง โดยมีช่วงเวลาพักส�ำหรับ รับประทานอาหาร การเล่าเรื่องนั้นมีการผสมผสาน ทั้งบทพูด บทร้องและการขับร้องร่วมกันของนักร้อง ประสานเสียง ท�ำให้เรื่องราวนั้นมีความหลากหลาย และน่าสนใจมากขึ้น ในปีนี้ การแสดงถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 41 และได้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคมถึง 3 ตุลาคมที่ ผ่านมา โดยมีคริสเตียน สตัคล์ ผู้อ�ำนวยการโรงละคร Munich Volkstheater (ซึ่งแน่นอนว่าเป็นชาวเมือง โอเบอร์อัมเบอร์เกา) รับหน้าที่เป็นผู้ก�ำกับเป็นครั้ง ที่ 3 แล้ว ด้วยจ�ำนวนนักแสดงที่มากกว่า 2,500 คน ถือได้ว่าเป็นจ�ำนวนที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีผู้เข้าชมการแสดงนี้ถึง 500,000 คนในแต่ละ ปี กว่าครึ่งของทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ พวกเราต่างเคยเห็นวิธีการแก้บนแปลกๆ ในบ้าน เรามาหลากหลายรูปแบบ แต่หากอยากไปเห็นกับตา ว่าการแก้บนของฝรั่งที่มีมาเป็นร้อยๆ ปีแล้วจะเป็น อย่างไร คงต้องรอกันอีกหน่อย ให้ถือเสียว่าเป็นโชค ดี ที่เราจะมีเวลาเก็บสตางค์ค่าเดินทางอีกตั้ง 10 ปี! แล้วค่อยพบกัน Passionplay Oberammergau 2020

D

o u know? Besides the popular and long-running legendary Broadway plays e.g. The Phantom of

the Opera or Les Misérables, another play has been

going on for 4 centuries with almost half a million audience in each show!

We’re talking about the world-renown Passion

Play of Oberammergau, a village in Bavaria, Germany. It is hardly known as a redeeming of vow to God. The beginning of the play dated back to 1633 when the villagers prayed to God for salvation from an epidemic by vowing to offer a Passion Play to God every ten years onwards. The vow has been done for 400 years now. The play is considered the most important religious and cultural play in Germany.

What is interesting about the play is the selection

of cast and crew who must be the Oberammergau people by law only. This means that from leading actors, staff to chorus and receptionists, all must be born or reside in Oberammergau for at least 20 years.

The play recites the bible from both the Old Testa-

ment, the Egyptian Exodus to the Promise Land and the Resurrection of Christ. It is about 7 hours long with an entr’acte for audience to have dinner. The recitation are combined with dialogues, arias and chorus, all of which makes diversify the story and makes it more interesting.

This year’s play was the 41th and was held on

May 15- October 3, under the 3 time direction of Christian Stulk, director of the Munich Volkstheater (an Oberammergau, naturally!) with the highest number of casts in history; 2500 casts, 450 are volunteer children and 500,000 audience, half of which are foreigners. It is common enough to see astonishing ways of offerings in Thailand but if we would like to see the century-year-old German’s offering, we’d have to wait for a long while. Looking on the bright side, we’d have a whole decade to save up for the trip! Auf Wiedersehen im Oberammergau 2020!

27


home theatre MOVIE REVIEW

หมายเลข 5 พาให้เรานึกย้อนกลับ ไปถึงวัยเด็กของเรา เมื่อเราได้เริ่ม เรียนรู้สิ่งต่างๆเป็นครั้งแรก

จะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากโลกใบนี้มีหุ่นยนต์ที่ สามารถชงเหล้า เสิร์ฟน�้ำ ท�ำความสะอาด ขน ขยะไปทิ้ง และยิงเลเซอร์ระเบิดรถถังได้ทั้งคัน แน่นอนว่าคนที่ต้องตกงานคงไม่ใช่แค่แม่บ้าน หรือคนกวาดถนน แต่รวมไปถึงเหล่าทหาร และ อีกหลายอาชีพที่อาจถูกทดแทนด้วยแรงงานที่ ไม่มีเลือดเนื้อ และค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกจากค่า ไฟ บริษัท โนวา โรโบติกส์ ได้สร้างหุ่นยนต์เพื่อ ใช้ในการสงครามโดยติดตั้งเลเซอร์ท�ำลายล้าง สูง พละก�ำลังมหาศาล โดยสนนราคาของเจ้า หุ่นเหล่านี้ไม่แพงเลย เพียง 11 ล้านดอลลาร์ สหรัฐเท่านั้น แถมเวลาที่ไม่ต้องออกรบ เจ้า หุ่นยนต์รุ่นนี้ยังสามารถชงเหล้าและเสิร์ฟน�้ำได้ ด้วย ซึ่งสร้างความหมั่นไส้ให้นายทหารสโครเด อร์ (G.W. Balley) เป็นอย่างมาก (สังเกตุได้ จากสีหน้าป่วยใจตลอดเวลาของเขา) เรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นเมื่ออยู่ดีๆ พระเจ้าก็ ส่งสายฟ้าฟาดลงมาที่หุ่นยนต์หมายเลข 5 ท�ำให้ มันเกิดระบบขัดข้อง และโดยความบังเอิญอีก ครั้ง หมายเลข 5 หลุดรอดออกไปจากบริษัท

28

SHORT CIRCUIT คนครับ ผมเป็นคน (1986)

และต้องการ “ข้อมูล” เพิ่มเติม มันได้ไปพบ กับ สเตฟานี่ (Ally Sheedy) สาวบ้านนอกผู้ รักสัตว์กว่าผู้คนทั่วไป มันอ่านหนังสือจนหมด บ้านของเธอเพื่อให้ได้ “ข้อมูล” ที่ต้องการ และ ภายหลังมันพบว่ามันไม่ได้ก�ำลัง “ระบบขัดข้อง” หรอก... มัน “มีชีวิต” ต่างหาก ทางโนวาเดือดร้อนหนักเพราะกลัวว่า หมายเลข 5 จะไปยิงเลเซอร์ใส่ชาวบ้าน ประธาน โนวา (Austin Pendleton) จึงส่งนักวิทยาศาสตร์ ผู้พัฒนาโปรแกรมของหมายเลข 5 นิวตัน ครอ สบี้ (Steve Guttenberg) และคู่หูจอมเป๋อ (Fisher Stevens) ออกตามหาหมายเลข 5 กลับมาให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่พยายามที่จะ น�ำหมายเลข 5 กลับมาอย่างปลอดภัย ในขณะ ที่สโครเดอร์พยายามที่จะระเบิดมันทิ้ง โดยพูด อยู่ตลอดเรื่องว่าเพราะเขามีครอบครัวที่ต้อง ปกป้อง การหลบหนีของหมายเลข 5 ท�ำให้มันได้ เรียนรู้โลก และเข้าใจบางสิ่งมากขึ้น หมายเลข 5 ไม่ต้องการกลับไปถูก “แยกชิ้นส่วน” เพื่อ แก้ไขความผิดพลาดเพราะนั่นหมายถึง “ความ

ตาย” มันเรียนรู้ที่จะมีชีวิต และไม่ต้องการสิ่ง อื่นใดนอกจากการได้ใช้ชีวิต มันฟังเพลง เต้นร�ำ และท�ำอาหาร หมายเลข 5 พาให้เรานึกย้อนกลับไปถึงวัย เด็กของเรา เมื่อเราได้เริ่มเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็น ครั้งแรก ความประทับใจต่อเรื่องราว ความอยาก รู้อยากเห็น ความสนุกสนาน และจินตนาการ อันใสซื่อบริสุทธิ์ พาลให้บางทีอาจจะต้องเป็น เราที่ย้อนกลับมาถามตัวเองว่า ตัวเราเองต่าง หากที่ “มีชีวิต” หรือ “ระบบขัดข้อง” ไปเสียแล้ว Short Circuit เป็นหนังตระกูลไซไฟคอมเม ดี้ ผสมแอคชั่น พอให้น่ารักน่าหยิก มันอาจจะ ไม่ได้มีเนื้อเรื่องใหม่สด หรือประเด็นทางสังคม ที่รุนแรงนัก แต่หมายเลข 5 ก็พาให้เรารู้สึกร่วม กับมันไปได้อย่างเพลิดเพลิน เมื่อเปิดใจให้มัน สักหน่อย คุณจะรักเจ้าหุ่น “ระบบขัดข้อง” ตัวนี้ และถึงแม้จะไม่มีฉากแอคชั่นตระการตา หรือ ดราม่าน�้ำตาเล็ด Short Circuit กลับจะพา ให้คุณน�้ำตาคลอไปได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณเห็น หมายเลข 5 หยอกล้อกับผีเสื้อแสนสวย


What would happen if this world went on with the robots that could make you some whisky, get you some water, clear up the garbage in the trash can, or blow up the whole tank with a laser? No surprised if housekeepers or road sweepers would have lost their jobs, and probably also soldiers and many more people. That was because they would be substituted by the non-living workers and by no other expenses, apart from the electricity bill. The Nova Robotics Company had created robots with highly-damaged lasers and immense power in order to be served in wars. Actually, they did not cost a lot money, only 11 million US dollars. However, when those soldiers did not have to serve in wars, the good things about these robots were that they could serve them water, and make them some whisky. All these things had strongly irritated Officer Scroder (G.W. Balley) (noticeable from his face which always appeared to be in trouble). The problem occurred when God stroked the thunderbolt into Robot 5, which had contributed to the fault of his system. He,

however, had accidentally freed from the company. He, then, needed more “information” for the system, which later he ran into Stefanie (Ally Sheedy), a country girl who loved animals more than any others. He had read all of the books in her house, but still could not get the “information” he was looking for. Consequently, he realized that there was nothing wrong with the system, but it was him that was “alive”, instead. In the mean time, the company found themselves in trouble since they were afraid that Robot 5 would strike lasers to people. Therefore, the president of Nova (Austin Pendleton) had sent out 2 scientists who were the programmers of Robot 5, Newton Crosby (Steve Guttenberg) and his stupid partners (Fisher Stevens) to brough him back to the company, safely of course. Anyhow, Officer Scroder had intended to get rid of him, keeping saying he had a family to protect. The running away of Robot 5 had given him a chance to know the world and to understand more of it. He did not want to go back to be “torn apart” in order to fix the abnormality because it would mean “death”.

He had learnt to live and had needed nothing else but to live, to listen to the music, to dance, and to cook. Robot 5 has brought us back to our childhood, the time when we, for the first time, started to learn things and to appreciate the fun, the moments, the curiosity, and the pure imagination that sometimes we might have to ask ourselves whether we should be “alive” or we have already turned into a “system crash”. Short Cut is a Sci-Fi Comedy with some cute action scenes. And even though the plot is neither something new nor has included serious social issue, Robot 5 will definitely bring us to the feeling of fun and joy. If you just open a small room in your heart to accept him, you will certainly fall in love with this “system crash” robot. Moreover, even if there is not much completely action or any worth-tear drama scenes, Short Circuit will still easily cost you tears only if you see Robot 5 teasing with Blue Butterfly.

เรื่ อ ง จตุ ร ชั ย ศรี จั น ทร์ วั น เพ็ ญ / Jaturachai Srichanwanpen แปล วั น สุ ด า สว่ า งอารมณ์ / Wansuda Sawang-arom

29


epilogue finish reading with this historic artist

ถ้าศิลปะเป็นคน อาจารย์อยากจะพูดอะไรกับศิลปะคะ?

“ พูดกับศิ ล ปะเหรอ เออ.... ศิ ล ปะเอ๊ ย ...ก็ ดี เ เล้ ว ที่ เ อ็ ง เกิ ด มา เป็ น ศิ ล ปะ เพราะมั น เป็ น สิ่ ง ที่ มี ค ่ า มี ป ระโยชน์ ม หาศาล กั บ โลก กั บ มนุษ ย์ ดีเ เล้ ว ที่ เ กิ ดมาเป็ นศิลปะ ...เท่านั้น หละ ” “ Talk to Art? Um… dear Art… It’s good that you were born ‘arts’ Because you are priceless; you give enormous benefit to the world, to all mankind. It is good that you were born, Art.”

ผลงานในหน้ า ที่ ครู

- ก่อตั้งศูนย์ศิลป์สิรินธร ศูนย์ศิลปเด็กและเยาวชนสมบูรณ์แบบแห่งแรกของ ประเทศไทย - ก่อตั้งมูลนิธิศิลป์ศรีสงคราม 2531 - จัดหาทุนการศึกษาจากมูลนิธิต่างๆ ภาคเอกชนและบุคคลเพื่อช่วยเหลือ นักเรียนยากจน กว่า 20 ล้านบาท

เกี ย รติ คุ ณ

- รางวัล ผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ ปี 2552 ของคุรุสภา - รางวัล ASHOKA Fellow Award จาก ASHOKA Innovator For The Public, Virginia, USA ในฐานะผู้สร้างสรรค์แนวคิดใหม่และงานต่อสาธารณะชน - รางวัล ผู้มีผลงานดีเด่นเพื่อผู้ยากไร้ในชนบทของ ESCAP องค์การสหประชาชาติ - นิตยสาร TIME MAGAZINE นิตยสาร FAR EASTERN ECONOMICS REVIEW สถานีโทรทัศน์ CNN เผยแพร่ประวัติและผลงานไปทั่วโลก - ประวัติชีวิตและผลงานได้รับการเผยแพร่ เขียนเป็นหนังสือชื่อ “สีชอล์กในเปลว เทียน...ครูสังคม ทองมี” ทางชีวิตครูศิลปะชื่อก้องโลก โดย ชูเกียรติ ฉาไธสง ฯลฯ

30

Achievement as teacher

- Founded Sirindhorn Art Gallery, Thailand first completed Art Gallery for youth - Founded Sil Srisongkhram foundation in 1988 - Raised more than 20 million Baht to support needy students’ education

Awards

- The Outstanding Coaching Teacher Award, Beijing, China - ASHOKA Fellow Award from ASHOKA Innovator for the Public, Virginia, USA - 2001 ESCAP HRD (Human Resources Development) Award, “Empowering the Rural Poor through HRD” from UN (United Nations) - National Outstanding Person Award from National Identity Board - His biography and his works are world-known by TIME MAGAZINE, FAR EASTERN ECONOMICS REVIEW, and CNN

เรื่ อ ง กนต์ ธ ร เตโชฬาร / Content Konthorn Taecholarn แปล กิ ต ติ พ ร โรจน์ ว ณิ ช / Translate Kittiporn Rodvanich




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.