๑ ใน...คมนาคมไทย 2022

Page 1



Editor's Note

บทบรรณาธิการ

Special Issue @ Annual : 2022

กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมเพือ่ การรองรับการเปิดประเทศในทุกมิติ ทัง้ ทาง บก ราง น�ำ้ และอากาศ โดยมีการเตรียมความพร้อมมาตรการสาธารณสุข ทัง้ การคัดกรอง ป้องกัน ควบคุม ก�ำกับดูแล บุคลากร และนักท่องเทีย่ วตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข รวมทัง้ การด�ำเนินการมาตรการด้านความปลอดภัย การ อ�ำนวยความสะดวก และการให้บริการส�ำหรับนักท่องเทีย่ วในการเดินทาง การให้ขอ้ มูลประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ รวมถึงการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการติดตาม อ�ำนวยความสะดวกและ ความปลอดภัยอย่างต่อเนือ่ งส�ำหรับนักท่องเทีย่ ว ๑ ใน...ไทยแลนด์ กลุ่มธุรกิจที่ด�ำเนินงานด้านสื่อโฆษณาหลากหลายช่องทางทั้งด้าน Online และวารสารสิ่งพิมพ์ได้จัดท�ำ “๑ ใน...คมนาคมไทย” เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่น่า สนใจและทันต่อเหตุการณ์ในแวดวงคมนาคม ตลอดจนได้รวบรวมรายชื่อหน่วยงานในสังกัด กระทรวงคมนาคม รายชื่อบริษัทขนส่งสินค้า ด้านการเดินทาง ทางบก ทางน�้ำ และอากาศ, ราย ชือ่ บริษทั ห้างร้านหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทีป่ ระกอบธุรกิจเกีย่ วข้องทางด้านการคมนาคมของ ประเทศ จัดท�ำเป็นท�ำเนียบ TRANSPORT MARKET โดยแยกเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน เป็นคู่มือที่ สะดวกในการค้นหาส�ำหรับนักธุรกิจ นักลงทุน และประชาชนผูส้ นใจทัว่ ไป นอกจากนีย้ งั ได้เพิม่ ช่อง ทางน�ำเสนอผ่านทางโซเซียลมีเดียในรูปแบบ E-Book อีกด้วย

Contents > หัวลำ�โพง

ฉบับพิเศษ : ไทสมุทรเดลี่

บริษัท กิตวรินทร์ อาร์ตแอนด์มีเดีย จ�ำกัด

ส�ำนักงาน 32/67 ถ.สุขุมวิท ต.ปากน้�ำ อ.เมือง สมุทรปราการ 10270

0-2380-3709-10 magazine1nai@gmail.com www.magazine1nai.com magazine1nai 1Nai Thailand ผู้ให้บริการโฆษณา ที่ปรึกษา ฝ่ายกฏหมาย ผู้อ�ำนวยการ บรรณาธิการบริหาร กองบรรณาธิการ ผู้จัดการทั่วไป ผู้จัดการโครงการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์

ฝ่ายศิลปกรรม ฝ่ายธุรการ-จัดส่ง

พ.ต.ท. สมชาย ศรลัมพ์ มาลี ชื่นส�ำอางค์ นงคราญ นันชนะ วริยา แย้มเพียรวัฒนา กิตติ ฉันทกิจนุกูล สุเชาว์ ศรลัมพ์ สุชาดา พุกทรัพย์ ปิยพร ม่วงศรี นภาพร ดรุณพันธ์ ประทุมมาศ สนทอง พัชรีพร เชื้อบุญมี จีรวรรณ ปลั่งเปล่ง ศิรพ ิ รรณ ชัยเกียรติ์สุนทร สราลักษณ์ ชูประเสริฐ ยุวดี พะบ�ำรุงษ์ รุง่ รัศมี ชาลี นัฐธิวรรณ สุรรี ม ั ย์ ศิรวิ รรณ ศิรพ ิ รวิวัฒน์ พลากร ค�ำโครตสูนย์ ศักดิ์ชัย รันจัตุรส ั อุรุพงษ์ รุง่ เรือง อรรถพล นารูลา

สารบัญ

In Your Eye

106 ปี สถานีแห่งความทรงจำ� .................. 04.

> กางแผนคมนาคมปี

65

ขับเคลื่อนโปรเจคท์ 1.4 ล้านล้านบาท ............

22.

> ข่าวสารคมนาคมไทย

News Thailand Transport .................. 27.

> คู่มือติดต่อส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม .................. 36.

TRANSPORT

MARKET’ 2022

แนะน�ำสินค้าและบริการต่างๆ

ในแวดวงด้านคมนาคม .................. 39.


ในปีที่การคมนาคมระบบรางรถไฟไทยทั่วประเทศ ก�ำลังพัฒนาต่อไปอีกขั้น เพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดใน การพัฒนาประเทศ มีกระแสข่าวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาถึง การด�ำรงอยู่ของ “หัวล�ำโพง” หรือในชื่อเป็นทางการว่า สถานีกรุงเทพ ให้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆ มาท�ำความรู้จัก “สถานีหัวล�ำโพง” ปี 2565 เป็นปีที่สถานี รถไฟแห่งนี้อยู่คู่คนไทยมานาน 106 ปี โดยท�ำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง ควบคุมการท�ำงานของรถไฟแต่ละขบวน อกี ทัง้ เป็นสถานีหวั ใจส�ำคัญ ทีท่ ำ� หน้าทีเ่ ชือ่ มต่อหัวเมืองและเส้นทางรถไฟสายต่างๆ เป็นการรวม ตัวของผู้คนมากมายจากทั่วถิ่นทั่วประเทศ เข้ามาสู่กรุงเทพมหานคร จนท�ำให้เกิดการเชือ่ มต่อการเดินทางให้ถงึ กันอย่างสะดวกสบาย เกิด การขยายตัวทางการค้า และความเจริญมากยิ่งขึ้น

4

คมนาคมไทย


หัวลำ�โพง In Your Eyes

106 ปี สถานีรถไฟแห่งความทรงจ�ำ

‘สถานีกรุงเทพ’ ยังเป็นสถานที่ เพื่อบอกชาวต่างชาติว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีอารยธรรม... คมนาคมไทย

5


ตามรอยกิจกรรม Hua Lamphong in Your Eyes ความ งาม วิจิตรศิลป์ สถาปัตย์ จุดเช็คอินทั้ง 10 จุด ที่จะท�ำให้คุณรู้จัก หัวล�ำโพง สถานที่ประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความทรงจ�ำของ คนไทยใจกลางกรุงเทพฯ แห่งนี้มากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการก่อเกิด ประโยชน์ใช้สอยและรูปแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์

1. อนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวง

ตั้งอยู่ที่ปลายชานชาลาที่ 12 เป็นอนุสรณ์ที่พนักงานการรถไฟฯ ร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อน้อมร�ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่รัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระศรีพัชริน ทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชด�ำเนินทรง ประกอบพิธีตรึงหมุดรางทอง รางเงิน ติดกับไม้หมอนมะริดคาดเงิน และ เปิดการเดินรถไฟหลวงในราชอาณาจักรสายแรก เส้นทางสถานีกรุงเทพอยุธยา ในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2439 ซึ่งการรถไฟฯ ถือเป็นวันคล้ายวัน สถาปนากิจการรถไฟตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบนั ภาพประวัตศิ าสตร์ภาพนีจ้ ำ� ลองขึน้ เป็นอนุสรณ์ปฐมฤกษ์ รถไฟหลวง ตั้งอยู่ที่ปลายชานชาลาที่ 12

3. ลานน�้ำพุหัวช้าง

สร้างขึ้นโดยพนักงานการรถไฟฯ ที่ร่วมใจกันรวบรวมทุนทรัพย์จัด สร้างขึ้นเพื่อน้อมร�ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ฐานเป็นหินอ่อน ด้านบนเป็นยอม แหลมท�ำจากโลหะรมด�ำเป็นรูปหัวช้าง 3 เศียร มีพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั เป็นภาพนูนสูง ประดิษฐานอยู่ ด้านบนสุด เมือ่ ปี พ.ศ.2482 ในสมัยสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ทางการเห็นว่าชุมชน หัวล�ำโพงยังขาด หลุมหลบภัย จากระเบิดที่ทิ้งจากเครื่องบิน ซึ่งจุดนี้เป็น แหล่งเส้นทางการคมนาคมที่ส�ำคัญ ซึ่งเป็นจุดที่ถูกโจมตีอย่างแน่นอน จึง ได้ก่อปูนอย่างหนาคลุมทุกทางไว้ เพื่อใช้เป็นหลุมหลบภัยให้ประชาชนวิ่ง เข้ามาหลบภัยในยุคสมัยนั้น ต่อมาการรถไฟฯ ทุบอุโมงค์หลบภัยออก และดัดแปลงเป็นบ่อน�้ำ พุ และอัญเชิญอนุสาวรีย์ช้างสามเศียรมาติดตั้งไว้เป็นอนุสรณ์

2. สะพานล�ำเลียงจดหมายเชื่อมต่ออาคารไปรษณีย์

สมัยก่อน การเขียนจดหมาย เป็นวิธีสื่อสารทางไกลที่สะดวก ประหยัด ได้รับความนิยมมาก และมี “รถไฟ” เป็นพาหนะในการน�ำส่งธุระ ปะปังทั้งมวลรวมทั้งพัสดุให้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ สะพานล�ำเลียง จดหมาย เชื่อมต่ออาคารไปรษณีย์ ตั้งอยู่ปลายชานชาลาที่ 4 ของสถานี กรุงเทพ เป็นสิง่ ปลูกสร้างทีเ่ หมือนสะพานขนาดใหญ่ ด้านข้างเป็นสีเหลือง สะดุดตา หน้าตึกไปรษณีย์เชื่อมต่อไปถึงชานชาลาที่ 4 สถานีกรุงเทพ ในอดีตส่วนไปรษณียต์ งั้ อยูภ่ ายในสถานีกรุงเทพ แต่ภายหลังมีการ แยกมาตัง้ อาคารต่างหาก และสร้างสะพานขนาดใหญ่ยาวมาถึงชานชาลา ที่ 4 ของสถานีกรุงเทพ เดิมเคยท�ำหน้าที่เป็นทางขนส่งพัสดุในระหว่างที่มี รถไฟวิ่งผ่านนั่นเอง

6

คมนาคมไทย

4. ป้ายสถานีกรุงเทพ

จุดเริ่มต้นการเดินทางใจกลางมหานคร ตรงด้านหน้าของสถานีมี ตัวอักษรปูนปั้นว่า สถานีกรุงเทพ ติดอยู่ที่ด้านบนโถงระเบียงทางเข้าด้าน หน้าอาคารสถานี ซึง่ ได้รบั การออกแบบเมือ่ พ.ศ.2455 โดย นายมาริโอ ตา มานโญ (Mr.Mario Tamagno) สถาปนิกชาวอิตาเลียนซึ่งขณะนั้นท�ำงาน ที่กรมโยธาธิการ การก่อสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ.2459 เป็นส่วนต่อเติมจากโถงพัก คอยผู้โดยสารและชานชาลาที่สร้างขึ้นก่อนหน้านี้ การออกแบบเน้นที่มุขริมด้านข้าง 2 ข้าง ให้สวยงามลงตัว เมื่อ ประกอบเข้ากับอาคารที่เป็นมุขตรงกลาง โดยมุขทั้งสามเชื่อมต่อกันด้วย ระเบียงทางเดินชั้นเดียว เสาระเบียงเป็นเสาไอโอนิก (Ionic) ลอยตัว แบบเสาคู่ รับหลังคา คอนกรีตแบน การออกแบบท�ำให้เห็นโครงสร้างของหลังคาโถงพักคอยผู้ โดยสารและชานชาลาอย่างเต็มที่ และองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม โดยรวม ท�ำให้อาคารดูมั่นคงและสง่างาม


5. สถาปัตยกรรมภายนอกสถานีกรุงเทพ

ศิลปะยุคเรอเนสซองส์ ลักษณะคล้ายกับสถานีรถไฟเมืองแฟรงค์ เฟิร์ต ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี อีกทั้งวัสดุในการก่อสร้างก็เป็น วัสดุส�ำเร็จรูปจากเยอรมนี เสาปูนเปลือยสีขาว ที่หัวเสามีลวดลายวิจิตร บานหน้าต่าง ราว บันได ประกอบกับตัวอาคารเป็นรูปโดมสไตล์อิตาเลียน ผสมผสานกับ ศิลปะยุคเรอเนสซองส์ อันเป็นศิลปะสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการที่เน้น ลักษณะภายนอกของมนุษย์และธรรมชาติที่ท�ำให้ สถานีกรุงเทพ โดดเด่น กว่าสิ่งก่อสร้างใดๆ ในกรุงเทพมหานครในยุคสมัยนั้น สถานีกรุงเทพ ยังเป็นสถานทีเ่ พือ่ บอกชาวต่างชาติวา่ ประเทศไทย เป็นประเทศทีม่ อี ารยธรรม ซึง่ หมายถึงประเทศไทยสามารถยืนด้วยตัวเอง ได้ ไม่จ�ำเป็นต้องเป็นเมืองขึ้นของชาติใด

8. โรงแรมราชธานี อดีตโรงแรมคู่สถานีกรุงเทพ

โรงแรมราชธานี สร้างขึ้นพร้อมกับอาคารสถานีกรุงเทพ ซึ่งเริ่ม ก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2453 ส�ำหรับเป็นที่พักแรมของคนเดินทาง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เสด็จทรงเปิด โฮเต็ลราชธานี ทีส่ ถานีกรุงเทพ เมือ่ วันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2470 การด�ำเนิน งานด้านโรงแรม เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่ามีมาตรฐานในระดับสากล มี การเอาใจใส่ปรับปรุงบริการ จัดหาอุปกรณ์เครื่องใช้และสิ่งอ�ำนวยความ สะดวกที่ทันสมัย จัดสถานที่ให้ดูใหม่และเพิ่มความสะดวกสบาย ตลอด จนวางระเบียบวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับสังคมยุคใหม่ นับได้ว่าโรงแรม ราชธานีเป็น “โฮเต็ลชั้นหนึ่ง” ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนั้น โรงแรมราชธานีปิดกิจการตัวเองลงโดยปริยายในปี พ.ศ.2512 ปัจจุบันดัดแปลงชั้นบนเป็นที่ท�ำการของพนักงานการรถไฟฯ

6. ระเบียงด้านหน้าสถานีกรุงเทพ

ความสวยงามของโถงระเบียงด้านหน้าและด้านข้างทีม่ ี โถงระเบียง ลูกกรง หัวเสา ลวดบัว และเชิงชายต่างๆ โดยลดทอนความส�ำคัญของตัว มุขกลางเหลือเพียงมุขยื่นหลังคาตัด เปิดมุมมองให้กับ ผนังโถงชานชาลา รูปโค้งวงกลมขนาดใหญ่ กับตัวอาคาร เช่นเดียวกับนาฬิกาบอกเวลาที่มีอายุเก่าแก่เท่าๆ กับตัวอาคาร สถานี โดยติดตัง้ ไว้ทกี่ งึ่ กลางยอดโดมสถานี เป็นนาฬิกาสัง่ ท�ำพิเศษเฉพาะ ไม่ระบุชื่อบริษัทผู้ผลิตแสดงให้เห็นเหมือนนาฬิกาอื่นๆ นาฬิกาเรือนนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 160 เซนติเมตร ควบคุมด้วย ไฟฟ้าระบบ ดี.ซี. จากห้องชุมสาย เป็นเครื่องบอกเวลาแก่ผู้สัญจรผ่าน ไป-มา และผู้ใช้บริการที่สถานีกรุงเทพจนถึงปัจจุบันนี้ ด้านข้างมุขริมทั้ง 2 ข้าง มีโครงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนกลางกว้างเป็น 2 เท่าของส่วนริม และเจาะช่องเป็นประตู โครงสร้างคานโค้งขนาดใหญ่ ส่วนบนเป็นผนังเจาะส่องแสงสี่เหลี่ยมเรียง เป็นแถว มีการใช้เสาคู่ลอยตัวระเบียงไอโอนิก (Ionic) ระเบียงยื่นที่ขอบ ท�ำพนักโปร่งประดับลูกกรง และการตกแต่งด้วยปูนปั้นแบบคลาสสิก ให้ ความรู้สึกอ่อนช้อยนุ่มนวล

9. เก้าอี้ชานชาลารูปวงรี สัญลักษณ์ประจ�ำสถานีรถไฟ

เก้าอีท้ มี่ เี อกลักษณ์พเิ ศษ สร้างจากไม้เนือ้ แข็ง รูปทรงคล้ายหมวก ปีกถูกทับจนแบนยาว ส่วนปีกหมวกเป็นที่นั่ง ตัวหมวกเป็นพนักพิง มี โครงสร้างโปร่งเหมือนไม้ระแนง ท�ำให้ระบายอากาศได้ดี และยังนัง่ ได้รอบ ทุกด้าน

10. รถจักรไอน�้ำแปซิฟิก รุ่นเลขที่ 824 และเลขที่ 850

เป็นรถจักรไอน�้ำที่ใช้การหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อทดแทนรถ จักรทีเ่ สียหายจากภาวะสงคราม เป็นการสัง่ รถจักรไอน�ำ้ เข้ามาใช้งานเป็น ครัง้ สุดท้าย โดยรถจักรรุน่ นีส้ งั่ มาใช้การ จ�ำนวน 30 คัน (รุน่ เลขที่ 821-850) ระหว่าง พ.ศ.2492-2493 สร้างโดยสมาคมอุตสาหกรรมรถไฟแห่งญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น รถจักรไอน�้ำทั้ง 2 คันนี้ น�ำมาใช้งานในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2492 โดยใช้ฟนื เป็นเชือ้ เพลิง ต่อมาได้ดดั แปลงให้ใช้นำ�้ มันเตาเป็นเชือ้ เพลิงแทน ในปี พ.ศ.2514 ปัจจุบันการรถไฟฯ ใช้ท�ำเป็นชบวนรถน�ำเที่ยวในโอกาส พิเศษที่ส�ำคัญๆ ปีละ 6 ครั้ง

7. โถงกลางสถานีกรุงเทพ

จุดเด่น คือ กระจกสี ทีช่ อ่ งระบายอากาศ ทัง้ ด้านหน้าและด้านหลัง ซึง่ ติดตัง้ ไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนกับตัวอาคาร เช่นเดียวกับนาฬิกาบอก เวลาที่มีอายุเก่าแก่เท่าๆ กับตัวอาคารสถานี ติดตั้งไว้ที่กึ่งกลางยอดโดม สถานี ด้านข้างของโถงกลางมีมุขริมทั้งสองข้าง มีโครงสร้างเป็นรูป สีเ่ หลีย่ มจัตรุ สั หรือเกือบจัตรุ สั ทีแ่ บ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนกลางกว้างเป็น 2 เท่า ของส่วนริม และเจาะช่องเป็นประตู โครงสร้างคานโค้งขนาดใหญ่ส่วนบน เป็นผนัง เจาะส่องแสงสี่เหลี่ยมเรียงเป็นแถว มีการใช้เสาคู่ลอยตัวระเบียง ไอโอนิก (Ionic) ระเบียงยื่น ที่ขอบท�ำพนักโปร่งประดับลูกกรง และการ ตกแต่งด้วยปูนปั้นแบบคลาสสิก ให้ความรู้สึกอ่อนช้อยนุ่มนวล

ดังนั้นไม่ว่าอนาคต สถานีกรุงเทพ หรือ หัวล�ำโพง จะ เปลีย่ นแปลงเป็นเช่นไร ภาพแห่งความทรงจ�ำของชาวไทยก็ จะคงเด่นชัดว่า “หัวล�ำโพง” เป็นประวัติศาสตร์แห่งการเดิน ทางที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยมากว่า 106 ปี... คมนาคมไทย

7
















กางแผนคมนาคมปี 65

“ศักดิ์สยาม” น�ำทัพขับเคลื่อนโปรเจคท์ 1.4 ล้านล้านบาท “คมนาคม” ลุยขับเคลื่อน 37 โปรเจคท์ 1.49 ล้านล้านบาท “ศักดิส์ ยาม” น�ำทัพ “คมนาคม ยูไนเต็ด” ใช้เวลาทีเ่ หลืออีก 1 ปี 8 เดือน สานต่อ นโยบายเก่า เพิ่มนโยบายใหม่ สร้างคุณภาพ ชีวิตการเดินทางที่ดีให้ประชาชน นายศั ก ดิ์ ส ยาม ชิ ด ชอบ รมว.คมนาคม แถลงผลการ สั ม มนาเชิ ง ปฏิ บั ติ ก าร “สรุ ป ผลงานปี 64 และขั บ เคลื่ อ น นโยบายไปสู่การปฏิบัติในปี 65” ว่า ในปี 64 กระทรวงคมนาคม ด�ำเนินนโยบายแล้วเสร็จกว่า 30 นโยบาย และในปี 65 จะ สานต่อนโยบายเดิม พร้อมขับเคลื่อนนโยบายเพิ่มเติม รวม ทั้งสิ้น 76 นโยบาย ส�ำหรับนโยบายที่ด�ำเนินการส�ำเร็จเป็น รูปธรรม อาทิ นโยบายเพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 120 กิโลเมตร (กม.) ต่ อ ชั่ ว โมง (ชม.) โดยปี 64 ประกาศใช้ แ ล้ ว กว่า 178 กม. และปี 65 จะเพิ่มเติมอีก 9 เส้นทาง ระยะทาง 138 กม. นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีนโยบายพัฒนา ระบบผ่านทางด่วนแบบไร้ไม้กนั้ (M-Flow) โดยปี 64 กรมทางหลวง (ทล.) จะทดสอบระบบบนมอเตอร์เวย์สาย 9 จ�ำนวน 4 ด่าน ปี 65 เปิดให้บริการ เต็มรูปแบบ 7 ด่าน (ทล. 4 ด่าน และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 3 ด่าน) นโยบายจัดระเบียบรถรับจ้าง(รถยนต์)ผ่านแอพพลิเคชัน่ โดยกรม การขนส่งทางบก (ขบ.) ประกาศจัดระเบียบรถรับจ้างผ่านแอพแล้ว ซึ่ง ปี 65 ผูป้ ระกอบการจะทยอยจดทะเบียนจนครบทุกราย, นโยบายเร่งรัด เปิดบริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่อ โดยจะ เปิดบริการอย่างเป็นทางการปลายเดือน พ.ย.2564 นโยบายจัดท�ำแผนแม่บท MR-MAP โดยขณะนี้ศึกษาแผน แม่บทโครงข่ายแล้วเสร็จ และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก

22

คมนาคมไทย

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ (คจร.) เห็นชอบแล้ว เริม่ ศึกษาออกแบบเบือ้ งต้น 4 โครงการน�ำร่อง และ นโยบายเร่งรัดก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ได้ลงนามในสัญญาให้ เอกชนร่วมลงทุนส�ำหรับงาน O&M แล้ว และจะพร้อมเปิดให้บริการปี 66


นายศักดิส์ ยาม กล่าวอีกว่า ส�ำหรับในปี 65 กระทรวงคมนาคม มีแผนลงทุนทั้งหมด 37 โครงการ วงเงินลงทุน 1.49 ล้านล้านบาท แบ่ง เป็น โครงการลงทุนต่อเนื่อง 13 โครงการ วงเงินลงทุน 5.16 แสนล้าน บาท และโครงการลงทุนใหม่ 24 โครงการ วงเงินลงทุน 9.74 แสน ล้านบาท โครงการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ ทางถนน 1 โครงการ ได้แก่ มอเตอร์เวย์ M82 สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงมหาชัย-บ้านแพ้ว วงเงิน 3.22 หมื่นล้านบาท ทางบก 1 โครงการ ได้แก่ โครงการศูนย์ เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย วงเงิน 2.86 พันล้านบาท, ทางราง 7 โครงการ วงเงิน 4.76 แสนล้านบาท อาทิ 1.โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางลพบุรี-ปากน�้ำโพ วงเงิน 2.06 หมื่น ล้านบาท 2.โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 2.74 หมื่นล้านบาท 3.โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางนครปฐมชุมพร วงเงิน 4.03 หมื่นล้านบาท และ 4.โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เส้นทาง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท และทางอากาศ 4 โครงการ วงเงิน 5.71 พันล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ พัฒนาท่าอากาศยานขอนแก่น วงเงิน 2 พันล้านบาท 2.ท่าอากาศยาน สุราษฎร์ธานี วงเงิน 169 ล้านบาท 3.ท่าอากาศยานกระบี่ วงเงิน 2.92 พันล้านบาท และ 4.ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ วงเงิน 619 ล้านบาท นายศั ก ดิ์ ส ยาม กล่ า วอี ก ว่ า ส่ ว นโครงการลงทุ น ใหม่ ประกอบด้ ว ย ทางถนน 12 โครงการ วงเงิ น 2.81แสนล้ า น บาท ได้ แ ก่ 1.โครงการมอเตอร์เวย์ M9 วงแหวนตะวันตก ช่วง บางขุนเทียน-บางบัวทอง วงเงิน 5.60 หมื่นล้านบาท 2.โครงการ มอเตอร์เวย์ M5 ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิตบางปะอิ น วงเงิ น 2.78 หมื่ น ล้ า นบาท 3.โครงข่ า ยเชื่ อ มต่ อ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา กับ ทล.32 วงเงิน 4.7 พันล้านบาท 4.โครงการมอเตอร์เวย์ M7 ทางยกระดับช่วงศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ วงเงิน 2.95 หมื่นล้านบาท 5.โครงการมอเตอร์เวย์ M8 สายนครปฐมชะอ�ำ ช่วงนครปฐม-ปากท่อ วงเงิน 5.17 หมื่นล้านบาท 6.โครงการ

ทางพิเศษ ขั้นที่ 3 สายเหนือ N1 และ N2 วงเงิน 3.78 หมื่นล้านบาท 7.โครงการทางพิเศษส่วนต่อขยาย สายฉลองรัช ช่วงจตุโชติถนนวงแหวนรอบที่ 3 วงเงิน 2.19 หมื่นล้านบาท 8.โครงการทาง พิเศษกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต วงเงิน 1.44 หมื่นล้านบาท 9.โครงการ ทางพิเศษ ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จ.ภูเก็ต วงเงิน 3.04 หมื่น ล้ า นบาท 10.โครงการถนนเชื่ อ มศู น ย์ ซ ่ อ มอากาศยาน-สะพาน มิตรภาพแห่งที่ 3 จ.นครพนม วงเงิน 1.6 พันล้านบาท 11.โครงการ สะพานมิ ต รภาพไทย-ลาว แห่ ง ที่ 6 (อุ บ ลราชธานี - สาละวั น ) จ.อุบลราชธานี วงเงิน 4.76 พันล้านบาท และ 12.โครงการนโยบาย แต่งแต้มสีสันทางหลวง ส่งเสริมการท่องเที่ยว วงเงิน 280 ล้านบาท ทางบก 1 โครงการ ได้แก่ โครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จังหวัดนครพนม วงเงิน 1.36 พันล้านบาท ทางราง 5 โครงการ วงเงิน 6.24 แสนล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ เส้น ทาง เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 8.53 หมื่นล้านบาท 2.โครงการ รถไฟทางคู่สายใหม่ เส้นทาง บ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 6.79 หมื่น ล้านบาท 3.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทาง ศูนย์วัฒนธรรมฯบางขุนนนท์ วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท 4.โครงการรถไฟฟ้าสายสี ม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 1.24 แสนล้านบาท และรถไฟ ความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วงเงิน 2.24 แสนล้านบาท, ทางน�้ำ 2 โครงการ วงเงิน 7.56 พันล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการแนวป้องกันการ กัดเซาะตลิ่ง วงเงิน 6.11 พันล้านบาท และ 2.โครงการพื้นฟูชายหาด วงเงิน 1.44 พันล้านบาท และทางอากาศ 4 โครงการ วงเงิน 5.94 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 วงเงิน 1.58 หมื่นล้านบาท 2.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงิน 3.68 หมื่นล้านบาท 3.ท่าอากาศยานชุมพร วงเงิน 3.25 พันล้านบาท และ 4. ท่าอากาศยานระนอง 3.55 พันล้านบาท ขณะนี้ยังมีเวลาเหลืออยู่ในต�ำแหน่ง อีก 1 ปี 8 เดือน (ตุลาคม 64) หากได้อยู่จนครบต�ำแหน่ง ก็จะเดินหน้าสานต่อ โครงการต่างๆ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งดูแลการพัฒนา ระบบคมนาคมให้มีความสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา และราคา สมเหตุสมผล เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการเดินทางของประชาชน ถือว่าผลงานในปี 64 มีผลส�ำเร็จอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่จะ ให้ตัวเองประเมินคะแนนคงไม่ได้ ขอให้ประชาชนประเมินและ ตัดสินให้ อยากให้ถามว่าเหนื่อยมั้ย “ไม่เหนื่อย” ส�ำหรับงานทุก นโยบายนัน้ จะส�ำเร็จขึน้ ได้จะท�ำงานเพียงคนเดียวไม่ได้ ทีผ่ า่ นมา เน้นความเป็นยูไนเต็ด จึงท�ำให้ผลงานส�ำเร็จลุลว่ งไปได้ ขอบคุณ ทุกคน พวกเราพร้อมที่จะขับเคลื่อนงานต่างๆ ต่อไปในปี 65 คมนาคมไทย

23


“คมนาคม” ลุยฟื้น อุตสาหกรรมการบินปี 65 “คมนาคม” เตรียมจัด “แอร์โชว์” ดึงความเชื่อมั่น แล้ว 3 ระยะ และเตรียมเดินหน้ามาตรการในระยะที่ 4 (2565-2568) อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัว ด้าน “ไออาร์ต้า” คาดการณ์ ต่อไป ปี 2574 ไทยจะมีปริมาณผูโ้ ดยสารเดินทางเข้าออกอันดับ เตรียมจัด “แอร์โชว์ นานาชาติ” 9 ของโลก หรือ 200 ล้านคนต่อปี นายศักดิส​์ ยาม​กล่าวอีกว่า ตามทีส่ มาคมการขนส่งทางอากาศ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดงานสัมมนาอุตสาหกรรมการบินของไทย ประจ�ำปี 2564 ภายใต้หัวข้อ ทะยานสู่การบินบริบทใหม่ (Thai Aviation Industry Conference 2021 : flying to the new era of Thai aviation) ว่า อุตสาหกรรมการบินมีส่วนส�ำคัญต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของ ประเทศ เนื่องจากเป็นกลไกสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ถือ เป็นรายได้หลักของประเทศ ทั้งยังก่อให้เกิดรายได้จากการบริโภค การ จ้างงาน การค้า และการลงทุน ทั้งนี้ ยอมรับว่าในปี 2563 อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทร วงฯได้ด�ำเนินมาตรการ เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการใน อุตสาหกรรมการบิน รวมทัง้ มาตรการกระตุน้ ความต้องการการเดินทาง ทางอากาศจากวิกฤตที่เกิดขึ้น อาทิ มาตรการลดค่าใช้จ่าย มาตรการ ทางการเงิน และมาตรการผ่อนคลายกฎระเบียบ โดยได้ด�ำเนินการมา

24

คมนาคมไทย

ระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า ในอีก​10 ปีข้างหน้า หรือปี​2574


คมนาคมไทย

25


ไทยจะมีผู้โดยสารมากเป็นอันดับที่​9 ของโลก​หรือมีผู้โดยสารมากกว่า​ 200 ล้านคน​ต่อปี หลังจากนี้ จะต้อ งจัดท�ำแผนปฏิบัติการณ์ (Action Plan) ว่า ประเทศไทยจะต้องด�ำเนินการอย่างไรบ้า ง เพื่อจะให้ได้รับ ประโยชน์จากการเดินทางและรับโอกาสที่เพิ่มขึ้น จึงต้องพิจารณาการ พัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การใช้เทคโนโลยี, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), 5G เป็นต้น รวมถึงพิจารณา จ�ำนวนไฟลท์บิน และการพัฒนาอาคารผู้โ ดยสาร (Terminal) อย่าง รอบคอบ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสดังกล่าว สิ่งที่กระทรวงฯ และหน่วยงานด้านการบินที่เกี่ยวข้องได้ด�ำเนิน การ เพือ่ สร้างความเชือ่ มัน่ กับผูท้ มี่ สี ว่ นเกีย่ วข้องในอุตสาหกรรมการบิน โดยในปีหน้า อาจจะมีการจัดอีเวนต์การประชุมระดับนานาชาติ (Air Show) คล้ายกับประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้ทุกคนมาเห็นว่าประเทศไทย ก�ำลังท�ำอะไรบ้าง และตอบโจทย์การเป็นศูนย์กลางด้านการบินใน ภูมิภาคอาเซียน

การบินหลังเปิดประเทศ ปรับฟื้นตัว

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนการเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับมาต รการด้านสาธารณสุข ส่งผลให้จ�ำนวนผู้โดยสารใน ช่วง 2 เดือนสุ ดท้ายของปี 2564 (พ.ย.-ธ.ค. 2564) ปรับฟื้นตัวขึ้นจาก นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 หรือในปี 2562 ไทยมีผู้โดยสาร 165 ล้านคน มีปริมาณเที่ยวบิน 1 ล้านเที่ยวบิน และมี อัตราการขนส่งสินค้ามากถึง 1.5 ล้านตัน ขณะทีเ่ มือ่ เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นัน้ ส่งผลให้การ เดินทางของผู้โ ดยสารลดลง 64% แบ่งเป็นผู้โดยสารต่างชาติลดลงถึง 82% เมื่อเทียบกับปี 2562 และเชื่อว่าในปีนี้ไทยจะมีปริมาณผู้โดยสาร ลดลง 62.7% เมื่อเทียบกับปี 2562

เร่งโอน 3 สนามบินให้ ทอท.บริหาร ชง ครม.ใน ม.ค. 65

ขณะที่ ความคื บหน้าการให้สิทธิบริหารสนามบินของกรมท่า อากาศยาน (ทย.) 3 แห่ง ได้แก่ สนามบินกระบี่, สนามบินอุดรธานี และ สนามบินบุรีรัมย์ ให้แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จ�ำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. นายศักดิส์ ยาม กล่าวว่า กระทรวงฯ เตรียมเสนอให้ทปี่ ระชุม ครม. พิจารณาภายใน ม.ค. 2565 ขณะนี้อยู่ระห ว่างประสานกรมธนารักษ์​ พิจารณาเรื่องค่า เช่าพื้นที่ ซึ่งเมื่อมอบสิทธิการบริห ารแล้ว ทอท.จะต้องจ่ายให้​กับกรม ธนารักษ์ เพราะเดิม ทย.เป็นผู้จ่าย​รวมถึงการหารือกับกรมบัญชีกลาง ในเรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ

26

คมนาคมไทย

ทัง้ นี้ คาดว่า จะให้อำ� นาจการมอบสิทธิบริหารสนามบินดังกล่าว พร้อมทัง้ เจรจาและก�ำหนดเงือ่ นไขต่างๆ ในช่วง มี.ค.-ธ.ค. 2565 โดยใน ระหว่างนี้จนถึง มี.ค. 2565 ส�ำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และ ทย. จะด�ำเนินการออกใบรับรองการใช้สนามบินทั้ง 3 แห่ง อย่างไรก็ตาม ตนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารงานของ ทอท. และจะสามารถมีผลประกอบการเป็นก�ำไร ส�ำหรับการให้สิทธิ ทอท. บริหาร 3 สนามบินของ ทย.นั้น เพื่อ เป็นการสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพความสามารถการเป็นศูนย์การ ขนส่งผู้โดยสารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Secondary Hub) เชื่อมต่อ โหมดการขนส่งและการเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ และประเทศเพื่อน บ้านในภูมภิ าคนี้ อีกทัง้ ยังเป็นการสนับสนุนการท่องเทีย่ วเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของภาคฯ รวมถึงส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวภายใน ประเทศและระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ในส่ วนของเงินทุนหมุนเวียน ทย. จะได้รับรายได้ ชดเชย เพื่อใช้ป รับปรุงด้านความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัย สิ่งอ�ำนวยความสะดวก และใช้จ่ายในการบริหารจัดการสนามบิน

คาดปี 65 ผู้โดยสารใช้ 6 สนามบิน 62 ล้านคน

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อ�ำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ส�ำ หรับปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการ 6 แห่ง ได้แก่ ท่า อากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ ฟ้าหลวง เชียงราย โดยในปี 2564 มีจ�ำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 20 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 9.51 แสนคน และผู้โดยสารภายใน ประเทศ 19 ล้านคน ขณะที่ปี 2565 คาดการณ์ว่า จะมีผู้โดยสารใช้บริการ 62 ล้าน คน แบ่งเป็น ผูโ้ ดยสารระหว่างประเทศ 26 ล้านคน และผูโ้ ดยสารภายใน ประเทศ 35 ล้านคน


‘ศักดิ์สยาม’ เร่งเครื่อง ‘คมนาคม’

สร้าง ‘ฮับโลจิสติกส์อาเซียน’ แผนการขับเคลื่อนงานในปี 2565

การท�ำงานของกระทรวงคมนาคม ในปี 2564 ที่จะด�ำเนินการ ต่อปี 2565 งานของกระทรวงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระบบโลจิสติกส์ 4 มิติ ได้แก่ ทางบก ทางราง ทางน�้ำ และทางอากาศ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่อง ที่คมนาคมต้องดูแล ประกอบกับในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ารับต�ำแหน่ง ได้วางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) โลจิสติกส์ทั้ง 4 มิตขิ องอาเซียน เมือ่ เข้ารับต�ำแหน่งจึงมุง่ หน้าเดินตามเป้าหมายทีน่ ายก รัฐมนตรีวางแผนไว้ ซึง่ สิง่ เหล่านีห้ ากจะบูรณาการตามนโยบายร่วมกัน เพื่อลดปัญหาของประชาชน ก็สามารถด�ำเนินการได้ ในช่ ว งที่ เ ข้ า มาเริ่ ม ด� ำ เนิ น การ ในส่ ว นของงานถนน นโยบายทางถนน ซึ่งเป็นนโยบายต่อเนื่องจากปี 2564 จ�ำนวน 9 นโยบาย ได้แก่ 1. ก�ำหนดความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง (ชม.) ซึง่ ในปี 2564 ประกาศใช้แล้วเป็นระยะทางกว่า 178 กม. ส่วนปี 2565 จะ เพิม่ เติมอีก 9 เส้นทาง ระยะทาง 138 กม. จากระยะทางทัง้ หมด 12,000 กม.ทัว่ ประเทศ โดยในงบประมาณปี 2566 จะเสนอของบประมาณจาก ส�ำนักงบประมาณ เพื่อจัดท�ำแบริเออร์ แบ่งเป็น 3 ช่วง จากระยะทาง ทัง้ หมด 12,000 กม. เพือ่ เป็นการเพิม่ ความปลอดภัย และช่วยเกษตรกร ในการคลายสต๊อกยางพาราอีกด้วย 2. พัฒนาระบบผ่านทางด่วน ทางพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น หรือ เอ็มโฟลว์ ปี 2564 โดยกรมทางหลวง (ทล.) ทดสอบระบบบนมอเตอร์เวย์

สาย 9 จ�ำนวน 4 ด่าน ส่วนปี 2565 เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบ จ�ำนวน 7 ด่าน (ทล. 4 ด่าน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) 3 ด่าน) 3.เร่งรัดก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ปี 2564 แล้วเสร็จ 23 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 17 สัญญา ก้าวหน้า 94% และลงนามในสัญญาให้เอกชนร่วมลงทุนส�ำหรับงานการปฏิบัติ การและการบํารุงรักษา (O&M) แล้ว ส่วนปี 2565 เร่งรัดการก่อสร้าง ให้แล้วเสร็จ เปิดให้บริการปี 2566 4. เร่งรัดก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ปี 2564 แล้วเสร็จ 4 สัญญา อยูร่ ะหว่างก่อสร้าง 21 สัญญา ก้าวหน้า 63% และลงนามในสัญญาให้เอกชนร่วมลงทุนส�ำหรับงาน O&M แล้ว ส่วนปี 2565 เร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ เปิดให้บริการปี 2566 5.จัดท�ำแผน แม่บท MR-MAP ปี 2564 เป็นการศึกษาแผนแม่บทโครงข่าย MR-MAP เสร็จ และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบแล้ว ส่วนปี 2565 ศึกษาความเหมาะสมเส้นทางทั้ง 10 เส้นทาง 6.พัฒนา ทางพิเศษ จ.ภูเก็ต ปี 2564 คณะกรรมการรัฐร่วมเอกชน (พีพีพี) ได้ให้ ความเห็นชอบโครงการกะทู้-ป่าตองแล้ว ส่วนในปี 2565 เวนคืน พร้อม ด�ำเนินการคัดเลือกเอกชน และสามารถก่อสร้างได้ในปี 2566 และเปิด ให้บริการในปี 2570 7. โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง) ปี 2564 ศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ส่วนปี 2565 ออกแบบแนวคิดท่าเรือ ผลการศึกษาจะแล้วเสร็จในปี 2566 และจะสามารถเริ่มการพัฒนาโครงการได้ในปี 2568 พร้อมเปิด คมนาคมไทย

27


โครงการได้ในช่วงปี 2573 8.การแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางด่วน ปี 2564 ศึกษาจัดท�ำแผนการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางพิเศษ ส่วน ในปี 2565 เสนอผลการศึกษาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะท�ำการ ศึกษารายโครงการในต้นปี 2566 เริ่มก่อสร้างโครงการเพื่อแก้ไขปัญหา ต่อไป 9.การวางระบบติดตามโครงการขนาดใหญ่ ปี 2564 เริม่ โครงการ น�ำร่อง จ�ำนวน 5 โครงการ ส่วนปี 2565 ติดตามโครงการก่อสร้างขนาด ใหญ่เพิ่มเติมอีก 22 โครงการ

โครงการที่จะได้เห็นปี 2565

ส่วนโครงการที่จะได้เห็นในปี 2565 อาทิ แผนเชื่อมต่อการเดิน ทางเข้าสูร่ ะบบรถไฟฟ้า ในปี 2564 ขบ.ได้ปรับเส้นทางรถโดยสารประจ�ำ ทางเพื่อเป็นฟีดเดอร์ รถไฟชานเมืองสายสีแดงแล้ว 14 เส้นทาง และจะ เพิ่มเติมการเชื่อมต่อสถานีรถไฟรังสิตตามมติ คจร.อีก 3 เส้นทาง ในปี 2565 นอกจากนี้ ในปี 2565 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะ ขอความเห็นชอบเพือ่ พัฒนาระบบอีทคิ เก็ตบนรถประจ�ำทาง ซึง่ เป็นการ ด�ำเนินการตามแผนฟื้นฟู ขสมก. นอกจากนี้จะมีการเดินหน้าเรื่องการจัดระเบียบรถรับจ้างผ่าน แอพพลิเคชั่น (รถมอเตอร์ไซค์) ในปี 2565 กรมขนส่งทางบก (ขบ.) จะ ยกร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบฯ เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.และ รัฐสภา ตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนในเรื่องของการแก้ปัญหาจุดตัด รถไฟ ในปี 2565 พัฒนาแอพพลิเคชัน่ แก้ปญ ั หาจุดตัดรถไฟ และปี 2566 ปรับปรุงแก้ไขจุดตัดที่มีความเสี่ยงทั่วประเทศ ขณะที่การเดินหน้าเรื่อง การจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ คาดว่าในปี 2565 จัดตั้งสายเดินเรือ แห่งชาติและเปิดให้บริการเส้นทางโดเมสติก ขณะทีน่ โยบายใหม่ทจี่ ะขับเคลือ่ นต่อในปี 2565 เพือ่ การพัฒนา ระบบคมนาคมที่ยั่งยืน อาทิ การต่อเติมโครงข่ายทางพิเศษ เชื่อม โยงภูมิภาค ได้แก่ มอเตอร์เวย์ M82 สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วง เอกชัย-บ้านแพ้ว มอเตอร์เวย์ M7 ต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา มอเตอร์เวย์ M5 ต่อขยายยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) และเติมเต็มมิสซิ่งลิงก์ เชื่อมโยงต่างประเทศ ได้แก่ ถนนเชื่อมศูนย์ซ่อม อากาศยาน-สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 จ.นครพนม สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-ปากซัน) จ.บึงกาฬ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่ง ที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) จ.อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 348 และ 3486 ช่วงเขาช่องตะโก จ.สระแก้ว

คมนาคมมีบทบาทในการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างไร

ส่วนบริบทการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกระทรวงคมนาคมนั้น ในเรื่องของการเร่งผลักดันการปฏิรูปเส้นทางการเดินรถ และการปรับ

28

คมนาคมไทย

เปลีย่ นรถทีใ่ ห้บริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะเป็น อีกเรื่องหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่แผนดังกล่าว จะแปรเปลี่ยนไปสู่การปฏิบัติจริงได้อย่างไรนั้น คาดว่าจะได้เห็นภาพที่ ชัดเจนภายในปี 2565 แน่นอน ส่วนเรือ่ งของการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงคมนาคมใน ปีทผี่ า่ นมา มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้กว่า 90% และในปีงบประมาณ 2565 กระทรวงตั้งเป้าจะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณต่อไปและจะเบิกจ่าย ให้ครบ 100% โดยกระทรวงคมนาคมรับจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจ�ำปี พ.ศ.2565 วงเงินรวม 208,455 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่าย ลงทุน 171,860 ล้านบาท รายจ่ายประจ�ำ วงเงิน 16,283 ล้านบาท และ ช�ำระเงินกู้ 20,311 ล้านบาท

ศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของกระทรวงคมนาคม

ขณะเดียวกัน การเดินหน้าเพิ่มศักยภาพของกระทรวงที่มีเป้า หมายผลักดันไทยให้เป็นฮับด้านโลจิสติกส์ของอาเซียนนั้น ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบนั กระทรวงได้เดินหน้าพัฒนาโครงการคมนาคมทัง้ 4 มิติ มา โดยตลอด อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงที่เมื่อสร้าง แล้วเสร็จจะสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ยัง มีโครงการแลนด์บริดจ์ ที่เมื่อแล้วเสร็จจะเพิ่มช่องทางการขนส่งสินค้า ข้ามภูมิภาคได้สะดวก และช่วยเพิ่มมูลค่าด้านการขนส่งให้กับไทยอีก ด้วย ซึ่งโครงการต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะได้เห็นความคืบหน้าและ ผลส�ำเร็จในช่วง 1-3 ปีนี้ ซึ่งไม่ว่าหลังจากนี้ เมื่อผ่านการเลือกตั้งจะมี การเปลีย่ นแปลงทางการเมือง แต่โครงการเหล่านีก้ ย็ งั ต้องถูกขับเคลือ่ น เพื่อให้ไปสู่ความส�ำเร็จต่อไป เพราะล้วนแต่เป็นโครงการที่มีผลบวกกับ ประเทศชาติทั้งสิ้น ความส�ำเร็จจะเกิดขึน้ ได้ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะเรือ่ งโควิด-19 คาดว่าในช่วงกลางปี 2565 จะ ได้เห็นประสิทธิภาพของวัคซีนที่ใช้กันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชัดเจนขึ้น และเมื่อไหร่ที่โควิด-19ได้รับการการันตีว่าไม่ใช่โรคร้ายแรง หรือเป็นแค่โรคประจ�ำถิ่น เชื่อว่าหลังจากนั้นเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้น ตัวอย่างก้าวกระโดดทันที เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ตอ้ งหยุดชะงักไปกว่า 2 ปี เมือ่ โอกาสกลับมาเชือ่ ว่านักธุรกิจจะรีบลงทุนทันที ซึง่ เรือ่ งนีก้ ระทรวง ได้เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานของกระทรวง คมนาคมวางแผนรับมือหากสถานการณ์กลับมาเหมือนปี 2562 เพื่อ ไม่ให้เกิดการซ�้ำรอยเกิดขึ้นต่อไป แต่ยืนยันว่าปี 2565 ไม่มีอะไรน่าเป็น ห่วง และขอย�้ำว่าทุกอย่างจะส�ำเร็จได้ทุกคนต้องช่วยกัน.


คมนาคม เตรียมพร้อมขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบ

ต้อนรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายเปิดประเทศ กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดประเทศทั้ง 3 ระยะ โดยมีการเตรียมความพร้อมมาตรการสาธารณสุข ทั้งในการคัดกรอง ป้องกัน ควบคุม ก�ำกับดูแล บุคลากร และนักท่องเที่ยวตามมาตรการป้องกันการ แพร่ระบาดของโควิด-19 ซึง่ เป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข รวมทัง้ การด�ำเนิน การมาตรการด้านความปลอดภัย ตลอดจนการอ�ำนวยความสะดวกและการให้บริการส�ำหรับ นักท่องเที่ยวในการเดินทางและการให้ข้อมูลตลอดจนการประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ รวมทั้งการตรวจติดตาม โดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการติดตามและอ�ำนวยความ สะดวกและความปลอดภัยอย่างต่อเนือ่ ง พร้อมมอบนโยบายให้หน่วยงานไปด�ำเนินการ โดย ในทั้งมิติทางบก ทางราง ทางน�้ำ และทางอากาศ โดยหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้องทัง้ 4 มิติ รับนโยบายฯ และมีแนวทางการด�ำเนินการ สรุปได้ ดังนี้

มิติการเดินทางทางบก

การเดินทางของประชาชนจากประเทศเพื่อน บ้านที่มีพรมแดนติดต่อกับไทย และเตรียม ความพร้อมในการอ�ำนวยความสะดวกด้าน การขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ โดยให้ มี ก ารติ ด ตั้ ง เครื่ อ ง Thermo Scan บนรถ โดยสารสาธารณะทุกคัน และมีมาตรการข้อ ปฏิบัติในการเดินทางของผู้โดยสาร คือ ตรวจ วัดอุณหภูมิก่อนการเดินทาง สวนหน้ากาก อนามัยตลอดเวลาระหว่างการเดินทาง งดรับ ประทานอาหารบนรถโดยสาร กรอกข้อมูลตาม เอกสารที่ก�ำหนด และปฏิบัติตามข้อก�ำหนด ของแต่ละจังหวัด

ลดการสัมผัสในการผ่านด่านค่าผ่านทางต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่มีการสวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือขณะ ปฎิบัติงาน ให้มีการตรวจ Antigen test kit (ATK) เป็น ประจ�ำ สนับสนุนใช้บัตร M-Pass และ F-Flow เร่งฟื้นฟู ทางหลวงทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากอุทกภัย เร่งรัดการฉีดวัคซีน ให้กับพนักงานขับรถโดยสารและบุคลากรด้านการขนส่ง ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีการติดตั้งเจล แอลกอฮอล์บนรถทุกคัน ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการใช้รถ สาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมายและซักซ้อมการด�ำเนิน งาน รวมทั้งรองรับการเดินทางทางถนนของประชาชน จากประเทศที่ 3 (รถส่วนบุคคลเพื่อการท่องเที่ยว) ตาม ข้อก�ำหนดด้านสาธารณสุข และก�ำหนดมาตรการรองรับ คมนาคมไทย

29


มิติการเดินทางทางราง

กรณีเป็นผู้โดยสารต่างชาติ ให้มีการ ตรวจเอกสารยืนยันการรับวัคซีน 2 กรณี คือ กรณีได้รับวัคซีนแล้ว หรือมีผลตรวจ ATK/ RT-PCR ไม่พบเชื้อภายใน 72 ชม.ต้องตรวจ วัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการ หากมีอุณหภูมิ สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้งดการใช้บริการ และจัดให้มีการตรวจคัดกรองผู้โดยสาร มีการ Scan อุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการทุกคน และ ก่อนจ�ำหน่ายตั๋วโดยสารให้กับนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ เจ้าหน้าที่จ�ำหน่ายตั๋วจะต้อง ตรวจสอบสอบเอกสารก่อน คือ หลักฐานการ ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือครบโดสตามจ�ำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือ หลักฐานจากโรงพยาบาลแสดงว่าเป็นผูท้ หี่ าย จากอาการป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแล้ว ณ วันเดินทาง โดยจะต้องไม่เกิน 90 วัน และกรณีตรวจพบว่าไม่ได้รับวัคซีน และไม่ มี ผ ลตรวจ ATK/RT-PCR หรื อ มี อาการเสี่ยงในการติดเชื้อ สงวนสิทธิการให้ บริการในระบบขนส่งทางราง และติดต่อเจ้า หน้าที่สาธารณสุขท้องที่เพื่อด�ำเนินการตาม มาตรการของกรมควบคุมโรคต่อไป และมี มาตรการเพิ่มเติมรองรับการเปิดประเทศ คือ จัดบริการจ�ำหน่ายชุดตรวจ ATK ภายในสถานี รถไฟต้นทาง หรือใกล้ด่านชายแดนระหว่าง ประเทศ กรณีรถไฟระหว่างเมืองที่เป็นระบบ ปรับอากาศ ให้เปิดช่องหน้าต่าง หรือประตู ระบายอากาศเมื่อถึงสถานีปลายทาง ควบคู่ การท�ำความสะอาด และให้เจ้าหน้าที่บริการ ด่านหน้าตรวจ ATK ทุก 7 วัน และเพิ่มความ เข้มข้นในการตรวจคัดกรองเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งาน และผู้ใช้บริการรถไฟ ทุกสถานี ทุกคนจะ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาในขณะปฏิบตั หิ น้าที่ และใช้บริการ เดินทางโดยรถไฟ และจะต้องเข้ารับการตรวจ วัดอุณหภูมิร่างกาย โดยจะต้องมีอุณหภูมิ ร่างกายไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส

30

คมนาคมไทย

มิติการเดินทางทางน�้ำ

จัดตัง้ จุดคัดกรองทางน�ำ้ ในแต่ละพืน้ ที่ ตรวจคัดกรอง ให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบและ เพิ่มเติมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โรค Covid-19 ในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งก�ำหนดให้มีการก�ำกับติดตามการ ด�ำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โรค Covid-19 อย่างต่อเนื่อง ให้มีการติดตั้ง เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอัตโนมัติมาตรวจวัด อุณหภูมขิ องผูโ้ ดยสารก่อนการใช้บริการระบบ ขนส่งสาธารณะทุกท่าเรือ และให้มีเจ้าหน้าที่ มาก�ำกับดูแลที่จุดตรวจวัดอุณหภูมิด้วย รวม ทั้ ง ตรวจสอบการฉี ด วั ค ซี น ของเจ้ า หน้ า ที่ ที่ ปฏิบัติงาน กรณีเจ้าหน้าที่ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขอให้ ป ระสานเพื่ อ ฉี ด วั ค ซี น กั บ จั ง หวั ด หรื อ ศูนย์ฉดี วัคซีนทีส่ ถานีกลางบางซือ่ หากไม่สาม รถฉีดวัคซีนได้ก่อนการเปิดประเทศขอให้เจ้า หน้าที่ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนย้ายไปปฏิบัติงานใน ส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ

มิติการเดินทางทางอากาศ

เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กบั พนักงานและ ผู้ปฏิบัติงานท่าอากาศยานให้ครบทุกคน รวม ทัง้ เตรียมการรับนักท่องเทีย่ วตามนโยบายการ เปิดประเทศโดยด�ำเนินการตามมาตรฐานของ ส�ำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพิ่มขีดความสามารถของด่านคัดกรองและ เฝ้าระวังโรคติดต่อระหว่างประเทศ เตรียมการ

คัดกรองผู้โดยสารขาเข้าและขาออกระหว่าง ประเทศ ให้มีความสะดวก รวดเร็ว หรือไม่ ให้เกิดความแออัดในช่วงที่มีผู้โดยสารมาก รวมถึงที่พักนั่งคอยต้องปฎิบัติตามมาตรการ SOCIAL DISTANCING รวมทั้ง โดยให้ตรวจ สอบเรื่องปัญหาคอขวดของการท�ำ visa on arrival ขอให้มีการจัดท�ำป้ายประชาสัมพันธ์ ให้ครอบคลุมกับนักท่องเทีย่ วชาวต่างชาติทจี่ ะ เข้ามา เพื่อให้เกิดความสะดวกในการสื่อสาร และขอให้มมี าตราการป้องกันส�ำหรับพนักงาน ขับรถและผู้โดยสาร เช่น การท�ำฉากกั้น ขอให้ มีการท�ำเครื่องหมายส�ำหรับการเว้นระยะห่าง ให้ชัดเจน เข่น บริเวณที่นั่งหรือการเข้าแถว ทัง้ นีไ้ ด้กำ� ชับให้มกี ารตรวจวัดอุณหภูมิ และตรวจวั ด ATK ให้ กั บ เจ้ า หน้ า ที่ แ ละ บุคลากรผู้ให้บริการอย่างเป็นประจ�ำ ตรวจ สอบสถานะการฉีดวัคซีนและเร่งรัดการฉีด วัคซีนให้กบั เจ้าหน้าทีแ่ ละบุคลากร ตรวจสอบ เอกสารยืนยันการรับวัคซีนของผู้เข้าใช้ระบบ ขนส่งสาธารณะทุกประเภท โดยยกระดับ ความเข้มข้นในการคัดกรอง Entry Scan ให้ มีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอัตโนมัติ มาตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารก่อนการใช้ บริการระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบก ทาง ราง ทางน�้ำ และทางอากาศ จัดเจ้าหน้าที่ ประจ� ำ บริ เ วณจุ ด ตรวจคั ด กรองอุ ณ หภู มิ ผู ้ โดยสาร โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องสวม ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ในขณะปฏิบตั หิ น้าที่ โดยยังคงด�ำเนินการตาม มาตรการ SOCIAL DISTANCING และให้มี ป้ายแนะน�ำเส้นทางที่เป็นสากลเพื่อรองรับนัก ท่องเทีย่ วชาวต่างชาติ รวมถึงให้มกี ารถอดบท เรียนจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปี พ.ศ.2563 เพื่อมา ปรับใช้กบั มาตรการการเปิดประเทศในปี พ.ศ. 2565 ต่อไป







คู่มือติดต่อหน่วยงาน ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ

ในสังกัดกระทรวงคมนาคม

ส่วนราชการในสังกัด กระทรวงคมนาคม ส�ำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม 38 ถนนราชด�ำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 โทรศัพท์ 02-2833000 โทรสาร 02-2813959 http://www.mot.go.th

กรมเจ้าท่า 1278 ถ.โยธา แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทรศัพท์ 0-22331311-8 โทรสาร 0-2238-3017 http://www.md.go.th

ส�ำนักงานนโยบาย และแผนการขนส่งและจราจร 35 ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 02-2151515 โทรสาร 02-2155500 http://www.otp.go.th

กรมการขนส่งทางราง

กรมการขนส่งทางบก 1032 ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2271-8888 โทรสาร 0-2271-8805 (เฉพาะวันเละเวลาราชการเท่านั้น) http://www.dlt.go.th

กรมท่าอากาศยาน 71 ถ.พระรามที่ 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2287-0320-9 โทรสาร 0-2286-3373 https://www.airports.go.th/

กรมทางหลวง 2/486 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0 2354 6668-78 โทรสาร 0 2354 6738 http://www.doh.go.th

กรมทางหลวงชนบท 9 ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทรศัพท์ 02-551-5000 โทรสาร 02-551-5896 http://www.drr.go.th/

514/1 ถนนหลานหลวง แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 โทรศัพท์: 02 164 2619 โทรสาร: 02 164 2617 https://www.drt.go.th/

รัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย

1 ถ.รองเมือง แขวงรองเมือง ปทุมวัน กทม.10330 โทรศัพท์ 1690 โทรสาร 1690 กด 1 กด 4 http://www.railway.co.th

การท่าเรือแห่งประเทศไทย

444 ถนนท่าเรือ คลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2269-3000 โทรสาร 0-2672-7156 http://www.port.co.th

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

2380 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทรศัพท์ 02-579-5380-9 โทรสาร 02-561-2984 http://www.exat.co.th


การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

175 ถ.พระราม 9 ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทรศัพท์ Call Center: 0 2716 4044 โทรสาร 0 2716 4019 http://www.mrta.co.th

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ

131 ถนนวัฒนธรรม ห้วยขวาง กทม. 10310 โทรศัพท์ Call Center 1348 โทรสาร 0-2247-2189 http://www.bmta.co.th

บริษัท การบินไทย จ�ำกัด (มหาชน)

89 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2545-3691 โทรสาร 0-2545-3199 http://www.thaiairways.co.th

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จ�ำกัด (มหาชน)

333 ถ.เชิดวุฒากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ AOT Call Center 1722 โทรสาร 02-5354061 http://www.airportthai.co.th

สถาบันการบินพลเรือน

1032/355 ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทรศัพท์ 0-2272-5741-4 โทรสาร 0-2272-5288 http://www.catc.or.th

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จ�ำกัด

102 ซอยงามดูพลี ทุ่งมหาเมฆ สาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2287-3531-41 โทรสาร 0-2287-3131 http://www.aerothai.co.th

บริษัท ขนส่ง จ�ำกัด

999 ถ.ก�ำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 02-9362852-66 โทรสาร 02-9361160 http://home.transport.co.th

บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จ�ำกัด

1 ถ.รองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 https://srtasset.com/

บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ�ำกัด 999 หมู่ 1 ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540 โทรศัพท์ 02-131-1035 - 46 โทรสาร 02-131-1189 http://www.suvarnabhumihotel.co.th

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จ�ำกัด

ศูนย์ซ่อมบ�ำรุงคลองตัน เลขที่ 27 ซอยเพชรบุรี 47 (ศูนย์วิจัย) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 โทรศัพท์ 02-308-5600 โทรสาร 02-308-5696 http://www.srtet.co.th

สายด่วน

ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม

HOTLINE

1356

















































Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.