> สาธารณสุขสร้างชาติ
2565 พาประเทศพ้นวิกฤต ......................................
> ข่าวสารสาธารณสุข ................................................................................. > แนะน�ำ ครัวน่านน�ำ้ ครัวตัง้ หลัก ....................................
โครงการพัฒนาตลาดเกษตรสีเขียว ................... > คูม ่ อื บริการนักท่องเทีย่ ว วารสาร “๑ ใน...สาธารณสุข” Buniness & Public Health จัดท�ำขึน้ เพือ่ เผยแพร่ขอ้ มูลข่าวสารทีน่ า่ สนใจในแวดวง การแพทย์ สุขภาพและสาธารณสุข UPDATE! รายชือ่ หน่วยงาน รายชื่อสถานพยาบาล ศูนย์พยาบาลเนอร์สซิ่งโฮม รายชื่อบริษัท ห้างร้านหน่วยงานและองค์กรต่างๆ อาทิ ยา อาหาร เครื่องมือ แพทย์ เครื่องส�ำอาง ฯลฯ รายชื่อบริษัท ห้างร้านหน่วยงานและ องค์กรต่างๆ ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องทางด้านสุขภาพและ สาธารณสุขของประเทศ จัดท�ำในรูปแบบใหม่ PUBLIC HEALTH MARKET ทีส่ ามารถสือ่ สารกับกลุม่ ลูกค้าได้ชดั เจนมากขึน้ ให้ธรุ กิจ คุณซื้อง่าย...ขายสะดวก นอกจากนี้ยังได้รวบรวม ร้านอาหาร สะอาดรสชาติอร่อย และทีพ ่ กั ในฝัน สินค้าของฝาก OTOP ส�ำหรับ นักเดินทางและนักท่องเทีย่ วโดยทัว่ ไป... หน่วยงาน องค์กร บริษทั ห้างร้าน ใดที่สนใจจะลงข้อมูลสินค้าและบริการของท่าน สามารถ ติดต่อได้ที่ โทร. 0-2380-3709-10 ขอบคุณครับ...
แนะน�ำร้านอาหาร คาเฟ่ .......................................................... แนะน�ำโรงแรม สถานทีพ ่ กั ............................................. > ท�ำเนียบสาธารณสุข ส่วนราชการสังกัดกระทรวงฯ .................................................................. ศูนย์พยาบาล เนอร์สซิง่ โฮม ........................................................................ สถานพยาบาล โรงพยาบาล .......................................................................
03 16 32 31 34 48 49 51 63
PUBLIC HEALTH MARKET’ 2022 คู่มือซื้อ-ขาย แนะน�ำสินค้าและบริการต่างๆ
ในแวดวงการสาธารณสุข .......................................................
ฉบับพิเศษ : ไทสมุทรเดลี่
บริษัท กิตวรินทร์ อาร์ตแอนด์มีเดีย จ�ำกัด ส�ำนักงาน 32/67 ถ.สุขุมวิท ต.ปากน�้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ 10270 0-2380-3709-10
magazine1nai@gmail.com
magazine1nai
1Nai Thailand ผู้ให้บริการโฆษณา
www.magazine1nai.com
68
ที่ปรึกษา พ.ต.ท. สมชาย ศรลัมพ์, มาลี ชื่นส�ำอางค์ ฝ่ายกฏหมาย นงคราญ นันชนะ ผู้อ�ำนวยการ วริยา แย้มเพียรวัฒนา บรรณาธิการบริหาร กิตติ ฉันทกิจนุกูล กองบรรณาธิการ สุเชาว์ ศรลัมพ์ , สุชาดา พุกทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป ปิยพร ม่วงศรี ผู้จัดการโครงการ นภาพร ดรุณพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประทุมมาศ สนทอง, พัชรีพร เชื้อบุญมี, จีรวรรณ ปลั่งเปล่ง ศิริพรรณ ชัยเกียรติ์สุนทร, สราลักษณ์ ชูประเสริฐ, ยุวดี พะบ�ำรุงษ์ รุ่งรัศมี ชาลี, นัฐธิวรรณ สุรีรัมย์, ศิริวรรณ ศิริพรวิวัฒน์ ฝ่ายศิลปกรรม พลากร ค�ำโครตสูนย์, ศักดิ์ชัย รันจัตุรัส ฝ่ายธุรการ-จัดส่ง อุรุพงษ์ รุ่งเรือง, อรรถพล นารูลา
สาธารณสุขสร้างชาติ
ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ปี 2565 พาประเทศ
พ้นวิกฤตโควิด-19
‘อนทิ น ’ มอบนโยบายการด� ำ เนิ น งานด้ า น สาธารณสุขในปีงบประมาณ 2565 ยึดการสนองโครงการ พระราชด�ำริเป็นภารกิจแรก เดินหน้าประเทศผ่านพ้น วิกฤตโควิด-19 รองรับการเปิดประเทศ ใช้สาธารณสุข สร้างชาติ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนงานบริการปฐมภูมิ 3 หมอ, 30 บาท และมะเร็งรักษาทุกที,่ พัฒนาพืชสมุนไพร กัญชา กัญชง กระท่อม นายอนุทนิ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รั ฐ มนตรี ช ่ ว ยว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข และนายแพทย์ เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมมอบ นโยบายการด� ำ เนิ น งานกระทรวงสาธารณสุ ข ประจ� ำ ปีงบประมาณ 2565 แก่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขส่วนกลาง และภูมิภาคผ่านระบบออนไลน์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ด�ำรงต�ำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข ผ่านเหตุการณ์ท้าทายหลายเหตุการณ์ ทั้งฝุ่น PM 2.5, น�้ำท่วม, คดีกราดยิงโคราช และวิกฤตโควิด-19 ซึ่งปัจจัยที่ท�ำให้การ สาธารณสุขไทยประสบความส�ำเร็จ คือ พลังของคนสาธารณสุขทีร่ ว่ มกัน ท�ำงาน ทั้งระดับนโยบาย หน่วยงาน จังหวัด และพื้นที่ โดยบุคลากร ทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกภาคส่วน รวมถึง อสม. จึงให้ความ ส�ำคัญกับการสร้างขวัญก�ำลังใจให้แก่บคุ ลากร ทีผ่ า่ นมาได้ขบั เคลือ่ นการ บรรจุขา้ ราชการใหม่ในสังกัด 45,242 ต�ำแหน่ง ค่าตอบแทนเงินเพิม่ พิเศษ 7 เดือน การเลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ 1 เปอร์เซ็นต์ ค่าตอบแทนเสีย่ งภัยของเจ้าหน้าที่ และค่าตอบแทนการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกสถานบริการ ส�ำหรับการด�ำเนินงานในปีงบประมาณ 2565 ซึง่ ยังต้องเผชิญกับ โรคโควิด-19 และต้องใช้ชีวิตร่วมกับโรคนี้อย่างปลอดภัย ขอให้บุคลากร ทุกคนยึดมัน่ แนวนโยบายของรัฐบาลและการสนองโครงการพระราชด� ำริ สาธารณสุข
3
ทางด้ า นสาธารณสุ ข ในพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศ์ทุกพระองค์เป็น ภารกิจล�ำดับแรก ส่วนการขับเคลือ่ นและพัฒนา ระบบบริการสุขภาพให้เข้มแข็ง น�ำองค์ความรู้ ด้านสาธารณสุขสร้างชาติ ฟื้นฟูเศรษฐกิจของ ประเทศด้วยสาธารณสุขวิถีใหม่ เพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจ ไทยแข็ ง แรง ประเทศไทยแข็ ง แรง” มี 9 ประเด็นส�ำคัญ ได้แก่ 1.การใช้มาตรการสาธารณสุขขับ เคลือ่ นและฟืน้ ฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ทุกมิติ เพื่อเตรียมการเปิดประเทศรับนักท่อง เที่ยวจากต่างประเทศ โดยยึดความปลอดภัย ของคนไทยเป็นส�ำคัญ 2.พั ฒ นาศั ก ยภาพสถานพยาบาล ของรัฐให้รองรับสถานการณ์วิกฤตโรคระบาด โรคอุบัติใหม่ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ 3.พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพการ แพทย์ปฐมภูมิ ทั้งเขตชุมชนและเขตเมือง จัด ตั้ ง หน่ ว ยบริ ก ารปฐมภู มิ แ ละเครื อ ข่ า ยหน่ ว ย บริการปฐมภูมิ 3,000 ทีม จังหวัดละ 1 อ�ำเภอ สนับสนุนให้คนไทยทุกครอบครัว มีหมอประจ�ำ ตัวครบ 3 คน 30 ล้านคน 4.พัฒนาและเสริมศักยภาพ รพ.สต. เป็นศูนย์การสาธารณสุขประจ�ำต�ำบล ให้บริการ ส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู และคุ้มครองผู้ บริโภค 5.บู ร ณาการดู แ ลสุ ข ภาพผู ้ สู ง อายุ แบบองค์รวมครบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ ฟัน ตา หู และหัวใจ 6.พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพงาน บริการ ด้วยการต่อยอด 30 บาทรักษาทุกที่ เข้า รับบริการโดยไม่ตอ้ งมีใบส่งตัว เพือ่ อ�ำนวยความ สะดวก ลดความยุ่งยากด้านเอกสารและราย จ่ายของประชาชน 7.พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพการ รักษามะเร็งทุกที่ ทัง้ การผ่าตัด เคมีบ�ำบัด และ รังสีรักษา 8.พัฒนาพืชสมุนไพร กัญชา กัญชง กระท่อม และภูมิปัญญาไทย เพื่อเพิ่มมูลค่า ผลิตภัณฑ์ สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างราย ได้แก่ประชาชน และ 9.พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) เป็นศูนย์กลางข้อมูลสุขภาพประชาชน เพื่อเข้าถึงบริการสาธาณสุขส่วนบุคคลอย่าง รวดเร็ว
4
สาธารณสุข
ด้าน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สุขภาพ ประชาชนเป็นสิ่งส�ำคัญในการขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะการอยูร่ ว่ มกับ โควิด-19 อย่างปลอดภัย พร้อมต่อการเปิด ประเทศ ตามนโยบายรัฐบาล ขอให้มุ่งเน้นใน 4 ประเด็น คือ 1. ดูแลสุขภาพประชาชนให้เข้าสู่ สุข ภาพดีวิถีชีวิตปกติใหม่ ทั้งระดับบุคคล ครอบครัว องค์กร และชุมชน ยกระดับมาตรฐาน ป้องกันควบคุมโรค COVID Free Setting เพื่อ รองรับการเปิดประเทศ เช่น สตรีทฟู้ด โรงเรียน โรงแรม ร้านอาหาร สถานประกอบการ เป็นต้น
ส่งเสริมการมีสมุดสุขภาพประจ�ำตัวออนไลน์ ใน เด็กแรกเกิด ป.1 และอายุ 60 ปีขนึ้ ไป การจัดการ ข้อมูลสุขภาพเพื่อส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพ และส่งเสริมการออกก�ำลังกายในกลุ่มเยาวชน โรคอ้วนมากขึ้น มีอาหารคุณภาพปลอดภัยเพื่อ ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
2. ยกระดับการแพทย์แผนไทย การ แพทย์ทางเลือก สมุนไพร และภูมิปัญญาไทย เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ บริการ และการท่องเที่ยว เชิงสุขภาพ เพิม่ เศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจ ของประเทศ ต่อยอดโปรดักต์แชมเปี้ยนโควิด “ฟ้าทะลายโจร” พัฒนาองค์ความรู้แพทย์แผน ไทยฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยภาวะลองโควิด ส่งเสริม การใช้สมุนไพรไทย ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อ สร้างรายได้ครบห่วงโซ่ ทั้งต้นทาง ยกระดับ คุณภาพวัตถุดบิ กลางทางต่อยอดวิจยั นวัตกรรม ปรับปรุงกฎระเบียบและระบบการขึ้นทะเบียน ให้ค�ำปรึกษาเชิงรุกผู้ประกอบการ และปลาย ทาง สร้างความเชื่อมั่นส่งเสริมการตลาด เพิ่ม มูลค่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 3. สนับสนุน ดูแล และเพิม่ ศักยภาพ อสม. ซึง่ เป็นหมอคนแรกทีใ่ กล้ชดิ ประชาชนมาก ที่ สุ ด ตามนโยบาย 3 หมอ ให้ เ ป็ น อสม. วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน เป็นแกนหลัก 3 หมอ ให้ความรู้วัคซีน ท�ำงานด้วยจิตอาสา 4. เสริ ม สร้ า งศั ก ยภาพด้ า นวิ ท ยา ศาสตร์การแพทย์ ของภาครัฐและภาคีเครือ ข่ายให้ทันสมัย ประชาชนเข้าถึงได้ เฝ้าระวังเชื้อ โควิดกลายพันธุ์ ตั้งศูนย์ทรัพยากรชีวภาพแห่ง ชาติ จัดเก็บเชื้อโรค ควบคุมคุณภาพวัคซีนเน้น การแพทย์แม่นย�ำจัดท�ำฐานพันธุกรรมมนุษย์ น�ำร่องพื้นที่อีอีซี 5 หมื่นตัวอย่าง คุ้มครองผู้ บริโภคพัฒนาห้องปฏิบัติการให้ได้มาตรฐาน และวิธีตรวจใหม่ ๆ ทั้งยา วัตถุเสพติด อาหาร สมุนไพร กัญชา ต�ำรับยาไทย และ 5. ปรับบทบาทการก�ำกับดูแลอาหาร และยา เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศ เป้าหมายผู้บริโภคปลอดภัย ผู้ ประกอบการก้าวไกล ระบบคุม้ ครองสุขภาพไทย ยั่งยืน เน้นรวดเร็ว ลดขั้นตอนการให้บริการ อนุมัติรวดเร็ว ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างความรู้
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ สุ ข ภาพ เฝ้ า ระวั ง ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ผิ ด กฎหมาย ท�ำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ เพิ่มขีด ความสามารถภาคธุรกิจในการแข่งขัน และสร้าง ความมัน่ คงด้านยาและเวชภัณฑ์ในภาวะฉุกเฉิน นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2565 นอกจากการร่วมกันพาประเทศผ่านพ้น วิกฤตโควิด-19 แล้ว ยังต้องพัฒนาสาธารณสุข ไทยให้สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าน�ำนโยบายมุง่ เน้นของกระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อนให้เกิด เป็นรูปธรรม 9 ประเด็น ได้แก่ 1. ขับเคลื่อนระบบสุขภาพปฐมภูมิ เข้มแข็ง ให้คนไทยทุกครอบครัวมีหมอประจ�ำ ตัว 3 คน จัดตั้งหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือ ข่ายเต็มพืน้ ทีอ่ ย่างน้อยจังหวัดละ 1 อ�ำเภอ และ พัฒนาศักยภาพ รพ.สต.ให้ได้ตามมาตรฐาน 2. เศรษฐกิ จ สุ ข ภาพ โดยสถาน พยาบาลกลุม่ เป้าหมายมีศกั ยภาพในการแข่งขัน ด้านอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10 3. ยกระดับสมุนไพร กัญชา กัญชง ทางการแพทย์ และภูมิปัญญาไทย เพิ่มมูลค่า การบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศ ร้อย ละ 5 จากปีที่ผ่านมา 4. ส่งเสริมสุขภาพดีวิถีใหม่ Living With COVID 19 พร้อมรองรับการเปิดประเทศ 5. การจัดการวิกฤตโควิด 19 ตั้งเป้า ให้ทุกจังหวัดควบคุมสถานการณ์โรคโควิด 19 ให้สงบได้ภายใน 21-28 วัน ลดความรุนแรง และ อัตราป่วยตายให้ต�่ำกว่าร้อยละ 1.55 6. พัฒนาระบบบริการก้าวหน้า โดย ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมะเร็งรักษาได้ทุกที่ พัฒนา ศักยภาพโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย รองรับผู้ป่วยโค
วิด-19 และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจพัฒนาโรง พยาบาลทุกระดับให้มสี งิ่ แวดล้อมทีด่ ี มีความทัน สมัย และบริการที่ดี ตามนโยบาย (EMS : Environment, Modernization and Smart Service) 7. การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผู้ สูงอายุและพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพจิตเชิง รุกให้คนไทยมีปญ ั ญา อารมณ์ดี มีความสุข และ มีความเข้มแข็งทางใจ ปลอดภัยจากผลกระทบ ด้านสุขภาพจิต 8. การบริหารด้วยหลักธรรมาภิบาล สุจริต ยึดประโยชน์ของประชาชน โปร่งใส ตรวจ สอบได้ ทุกจังหวัดพัฒนาระบบ ICT เป็นศูนย์ ข้อมูลกลางด้านสุขภาพของประชาชน และ 9. ผู ้ น� ำ ทุ ก ระดั บ ต้ อ งใส่ ใ จดู แ ล บุคลากร ให้มีความสุขและปลอดภัยในการ ท�ำงาน
“ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” สาธารณสุขวิถีใหม่.... สาธารณสุข
5
Digital Health Pass รับเปิดประเทศ สุขEALTH ข่าวEสWาSธPาUรBณ ฟื้นเศรษฐกิจไทย LIC H N กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระ ทรวงดิจิทัลฯ และคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ผลักดัน Thailand Digital Health Pass ผ่านการรับรองระบบการตรวจสอบ เอกสารรับรองเกีย่ วกับโควิด 19 จากสหภาพยุโรป ช่วยอ�ำนวยความ สะดวกการเดินทางเข้าประเทศในระบบนี้กว่า 60 ประเทศ/ดินแดน และยังใช้ในการติดตามผู้เดินทางเข้าประเทศไทยได้ด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒน์ พันธ์ชยั ปลัดกระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม และนพ.เจตน์ ศิรธรา นนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวเรือ่ ง “การ ใช้ Digital Health Pass บนหมอพร้อม เพื่อการเดินทางในกลุ่มประเทศ EU” นายอนุทนิ กล่าวว่า ขณะนีป้ ระเทศไทยเปิดให้เดินทางเข้าประเทศ ผ่านระบบ Test&Go อีกครัง้ ตัง้ แต่วนั ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวมถึงยังมีการ เข้าประเทศผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์และระบบกักตัว จึงต้องมีการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคในผูเ้ ดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้นต่อเนือ่ ง ซึง่ เมือ่ วัน ที่ 21 ธันวาคม 2564 สหภาพยุโรป (EU) ได้มีมติยอมรับและขึ้นทะเบียน เอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด 19 ของประเทศไทย หรือ Thailand Digital Health Pass บนหมอพร้อม ให้มีความเท่าเทียมกับเอกสารรับรองของ สหภาพยุโรป (EU Digital COVID Certificate :EU DCC) ดังนั้น ผู้ที่อาศัย อยูใ่ นประเทศไทยทุกคนจึงสามารถใช้เอกสารรับรองบน Thailand Digital Health Pass ของหมอพร้อม แสดงสถานะสุขภาพเกี่ยวกับโควิด 19 ก่อน เดินทางสูป่ ระเทศ/ดินแดนทีเ่ ข้าร่วมระบบการตรวจสอบเอกสารรับรองของ
16
สาธารณสุข
สหภาพยุโรปนีก้ ว่า 60 ประเทศ/ดินแดน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565) รวมถึงสามารถใช้แสดงข้อมูลก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในประเทศ/ดิน แดน เหล่านั้นได้ด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดให้ประชาชนเริ่ม ทดสอบใช้งานระบบดังกล่าวได้แล้ว “ต้องขอบคุณคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข และผู้บริหารทั้ง 3 กระทรวง ทีร่ ว่ มกันขับเคลือ่ นและผลักดันเรือ่ งนีจ้ นประสบความส�ำเร็จ เชือ่ มั่นว่าประชาชนทุกคนจะได้รับความสะดวกจากการใช้งานระบบ Digital Health Pass และสามารถเดินทางระหว่างประเทศได้อย่างอุ่นใจและ ปลอดภัย” นายอนุทินกล่าว ดร.สาธิต กล่าวว่า การเข้าร่วม EU DCC นอกจากจะช่วยอ�ำนวย ความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน ที่ถือเอกสารรับรองฯ ของ ประเทศไทยแล้ว ยังจะช่วยให้กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามและ ตรวจสอบสถานะสุขภาพของนักเดินทางจากประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศนอกกลุม่ สหภาพยุโรปทีไ่ ด้รบั การขึน้ ทะเบียน EU DCC ทีเ่ ดิน
สาธารณสุข
17
ทางเข้ามาในประเทศไทยได้ดว้ ย โดยเจ้าหน้าทีข่ องไทย ร้านค้า/หน่วยงาน ต่างๆ สามารถสแกนคิวอาร์โคดตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวกับโควิด 19 ของ นักเดินทางได้เช่นกัน เป็นการยกระดับระบบตรวจสอบข้อมูลเกีย่ วกับโควิด 19 ของประเทศไทย ช่วยเพิม่ ประสิทธิภาพในการควบคุมโรคของเจ้าหน้าที่ สาธารณสุข อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่ระบาดได้ง่าย การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จึงยังคงต้องระมัดระวังสูงสุดยึดมาตรการ VUCA คือ การฉีดวัคซีน การป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา COVID Free Setting และการตรวจ ATK เพื่อช่วยป้องกันการแพร่และรับเชื้อ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เอกสารดิจิทัลเกี่ยวกับโควิด 19 ของ EU DCC ใน Thailand Digital Health Pass จะแสดงข้อมูลส�ำคัญ 2 ส่วน คือ 1.ข้อมูลพื้นฐานจ�ำเป็นในการยืนยันตัวตน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจ�ำ ตัวประชาชน 13 หลัก อายุ สัญชาติ และหมายเลขหนังสือเดินทาง (ถ้ามี) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในการ เชื่อมโยงข้อมูลชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษและหมายเลขหนังสือเดินทาง (passport number) ของผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทย และ 2. สาธารณสุข 18
ข้อมูลเกีย่ วกับโควิด 19 ประกอบด้วย 1) ข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด 19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่รับเข็มล่าสุด 2) ข้อมูลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วย วิธี RT-PCR หรือ ATK เฉพาะรุ่นที่ EU รับรอง มีอายุ 7 วัน นับจากวันที่ ตรวจล่าสุด และ 3) ข้อมูลการหายป่วยจากโควิด 19 มีอายุ 180 วัน นับ จากวันที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วย โดยแสดงในรูปแบบ QR Code ที่มีลาย เซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ก�ำกับ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง เอกสาร ซึ่งจะอ่านได้เฉพาะแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาตามมาตรฐานของ EU เท่านั้น นายธานี กล่าวว่า การที่สหภาพยุโรปรับรอง Thailand Digital Health Pass ให้มีสถานะเทียบเท่า EU Digital COVID Certificate แสดง ถึงความสัมพันธ์ใกล้ชดิ ระหว่างไทยและยุโรป รวมถึงความสามารถ ความ พร้อม และมาตรฐานด้านดิจทิ ลั ของไทย ท�ำให้ระบบของประเทศไทยเชือ่ ม โยงกับระบบเอกสารวัคซีน 60 ประเทศ ได้แก่ ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป 27 ประเทศ และประเทศนอกสหภาพยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรอง 33 ประเทศ โดยไทยเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนที่ได้รับการรับรองระบบนี้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้าประเทศต่างๆ จะมีความแตกต่างกันใน เงื่อนไข ทั้งชนิดวัคซีนและชุดตรวจ ATK ที่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป ให้การยอมรับ จึงขอให้ตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเดินทางทุกครั้ง นางสาวอัจฉรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม ได้ร่วมพัฒนาระบบหลังบ้านกับกระทรวงสาธารณสุข ส�ำหรับออกเอกสาร รับรองเกีย่ วกับโควิด 19 ตามมาตรฐานสหภาพยุโรป ซึง่ เป็นระบบมาตรฐาน ที่ใ หญ่ที่สุดในปัจจุบัน นับเป็นโอกาสส�ำคัญของประเทศไทยที่ได้น�ำ เทคโนโลยีทางดิจิทัลมาพัฒนาระบบเอกสารรับรอง เป็นการขับเคลื่อน Digital Transformation ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ช่วยพัฒนา มาตรฐานของข้อมูลและยกระดับระบบข้อมูลของประเทศให้สอดคล้องกับ มาตรฐานสากล ซึ่ ง จะเป็ น ประโยชน์ ต ่ อ การด� ำ เนิ น ธุ ร กรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศในอนาคต ส�ำหรับระบบเอกสารรับรองเกีย่ วกับ โควิด 19 ทีพ่ ฒ ั นาขึน้ ด�ำเนินการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูล
ส่วนบุคคลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีการตรวจสอบความถูกต้อง ของข้อมูลจากหน่วยบริการสุขภาพที่ประชาชนเข้ารับบริการ มีการลง ลายมือชือ่ อิเล็กทรอนิกส์กำ� กับในเอกสารรับรองทุกฉบับ โดยใช้เทคโนโลยี โครงสร้างพืน้ ฐานกุญแจสาธารณะ (Public Key Infrastructure หรือ PKI) เพื่อเข้ารหัสลับในการลงลายมือชื่อ สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง และป้องกันการปลอมแปลงได้ มีการจัดเก็บหลักฐานการออกเอกสาร รับรองด้วยเทคโนโลยี Blockchain เพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อ ถือ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอยู่ภายใต้การก�ำกับดูแลของส�ำนักงานพัฒนา ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA นพ.เจตน์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้ ติดตามและผลักดันการจัดท�ำข้อตกลงดังกล่าวมาโดยตลอด ขอขอบคุณ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 กระทรวง ที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานจนส�ำเร็จอย่างรวดเร็ว
เนือ่ งจากระบบนีม้ คี วามส�ำคัญในการอ�ำนวยความสะดวกให้กบั ประชาชน ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ ที่เข้า ร่วมระบบนี้ สามารถใช้ข้อมูลใน Thailand Digital Health Pass บนหมอ พร้อม รวมถึงเอกสารรับรองทีอ่ อกโดยจุดฉีดวัคซีน แสดงกับประเทศปลาย ทางเพือ่ ตรวจสอบข้อมูลได้ทนั ที โดยไม่ตอ้ งขอเอกสารรับรองอืน่ ๆ อีก ช่วย ประหยัดเวลาและลดภาระของประชาชนในการขอเอกสารรับรอง ทีส่ ำ� คัญ ประชาชนสามารถใช้งานระบบนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส�ำหรับการน�ำระบบ ไปใช้จริง (Go Live) คณะกรรมาธิการการสาธารณสุขจะสนับสนุนและ ติดตามการด�ำเนินการ รวมถึงรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในการใช้ งานระบบอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อให้สามารถน�ำระบบไปใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สาธารณสุข
19
สุขEALTH ข่าวEสWาSธPาUรBณ LIC H N NE
สธ. เพิ่ม สายด่วน 02-590-4111 ให้ค�ำปรึกษา คัดกรองอาการ
ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่กักตัวที่บ้าน
รั ฐ มนตรี ช ่ ว ยว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข เผย กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มช่องทางให้ค�ำปรึกษา คัดกรอง อาการผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่กักตัวที่บ้าน และประสานส่งต่อ หากมีอาการรุนแรงขึ้น ผ่านสายด่วน COVID Watch 02590-4111 ให้เข้าสู่ระบบได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความ มัน่ ใจ ลดความวิตกกังวล และแบ่งเบาภาระสายด่วน 1330 ดร.สาธิต ปิตเุ ตชะ รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยม ศูนย์สายด่วนผู้พิทักษ์อนามัย COVID Watch “สร้ า งความรอบรู ้ อ ยู ่ กั บ โควิ ด ” ว่ า ในช่ ว ง สถานการณ์ที่ผู้ติดเชื้อโควิด 19 มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และกว่า 90% เป็นผู้ที่ไม่มีอาการ กระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายให้ผู้ติดเชื้อกลุ่ม สีเขียวเข้ารับการรักษาแบบ Home Isolation ท�ำให้มีผตู้ ิดต่อสายด่วน 1330 ของส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ 1669 ของ
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจ�ำนวนมาก ส่งผลให้ไม่สามารถติดต่อ ได้ หรือไม่ได้รับการติดต่อกลับตามระยะเวลาที่ก�ำหนด จึงมอบหมายให้ กรมอนามัยเปิดสายด่วน 02-590-4111 จ�ำนวน 10 คูส่ าย ช่วยให้คำ� ปรึกษา ค�ำแนะน�ำ ประสานงานเกีย่ วกับอาหาร ยา เครือ่ งตรวจวัดอุณหภูมิ ส�ำหรับ ผู้ที่ติดเชื้อแล้วต้องการรักษาตัวที่บ้าน คล้ายกับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก รวมถึงช่วยคัดกรองและแยกผู้ป่วยให้เข้ารับการักษาตามกลุ่มอาการ โดย มีการท�ำงานเป็นเครือข่ายร่วมกับกรมการแพทย์ และกรมสนับสนุนบริการ สุขภาพ ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดความวิตกกังวล สร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยใน ระบบการรักษาแบบ Home Isolation ว่ามีความปลอดภัย ทั้งนี้ สายด่วนผู้พิทักษ์อนามัย COVID Watch 02-590-4111 มี เจ้าหน้าที่รับสายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-20.30 น. นอกจากนี้ ยังมี เพจเฟซบุ๊ค COVID Watch เพื่อให้ค�ำปรึกษา อีกช่องทางหนึ่ง โดย เฉพาะเมื่อนอกเวลา จะมีการรับฝากข้อความเพื่อติดต่อกลับ สาธารณสุข
23
สุขEALTH ข่าวEสWาSธPาUรBณ LIC H N NE
สธ.ยังใช้ UCEP COVID รักษาโควิดฟรีทุกที่ สธ. ทบทวน “โควิ ด รั ก ษาตาม สิ ท ธิ ” ตามมติ ครม. และยั ง ใช้ ก ลไก UCEP COVID รักษาฟรีทุกที่ตามเดิม สถานพยาบาลเอกชนไม่สามารถปฏิเสธ การรักษาได้ เร่งสื่อสารท�ำความเข้าใจ ประชาชน เรื่องกระบวนการใช้สิทธิการ รักษา ช่องทางเข้ารับบริการ และ UCEP Plus ก่อนน�ำเสนอ ครม.อีกครั้ง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรม สนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมด้วย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการส�ำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉกุ เฉินแห่ง ชาติ (สพฉ.) แถลงแนวทางการรักษาและเบิก จ่ายโรคโควิด 19 นพ.ธเรศ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ก�ำหนดปรับระบบการรักษาโรคโควิด 19 ให้ เป็นการรักษาตามสิทธิ เริม่ วันที่ 1 มีนาคม 2565 และจะมีการประกาศใช้ UCEP Plus ดูแลผูป้ ว่ ย โควิดอาการสีเหลืองและสีแดงให้เข้ารับบริการ ได้ ใ นสถานพยาบาลรั ฐ และเอกชนทุ ก แห่ ง อย่างไรก็ตาม ทีป่ ระชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วัน นี้ ได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนเรือ่ งนี้ อีกครั้ง ดังนั้น ขณะนี้โรคโควิด 19 จึงยังเป็น สาธารณสุข 24
โรคฉุกเฉินสามารถรักษาได้ทุกที่ (UCEP COVID) สถานพยาบาลโดยเฉพาะโรง พยาบาลเอกชนไม่สามารถปฏิเสธการรับผู้ ป่วยได้ หากไม่มีศักยภาพในการดูแลหรือ ไม่มเี ตียงจะต้องส่งต่อ และไม่สามารถเรียก เก็ บ เงิ น มั ด จ� ำ ได้ มิ เ ช่ น นั้ น จะมี ค วามผิ ด ตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล ส่วนการทบทวนจะเน้นท�ำความเข้าใจ ประชาชน ทัง้ การเข้าสูร่ ะบบเมือ่ ติดเชือ้ ช่องทาง ติ ด ต่ อ การใช้ สิ ท ธิ รั ก ษาของแต่ ล ะกองทุ น สุขภาพ ความเข้าใจเรื่องระดับอาการที่มีการ
ดูแลแตกต่างกัน เช่น อาการปานกลางสีเหลือง ที่เข้ารักษาได้ทุกที่มีเกณฑ์อย่างไร เป็นต้น รวม ถึ ง ระบบการส่ ง ต่ อ เพื่ อ ให้ ป ระชาชนเข้ า รั บ บริการได้ถูกช่องทาง รวมถึงท�ำความเข้าใจกับ ฝัง่ สถานพยาบาลด้วย ส่วนเรือ่ งของ UCEP Plus ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้ เตรียมการรองรับและท�ำระบบคัดแยกไว้แล้วนัน้ จะมีการทบทวนไปพร้อมกัน ซึ่งไม่ได้ก�ำหนด กรอบระยะเวลาในการทบทวนไว้ หากเตรียม กระบวนการบริการและการสือ่ สารครบถ้วนก็นำ� เสนอ ครม.ต่อไป
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ยืนยันว่า UCEP COVID ยังรักษาได้ทุก ที่ ไม่จ�ำเป็นต้องกลับไปรักษายังหน่วยบริการที่ลงทะเบียนไว้ ส่วน การรับบริการทั้งที่บ้าน ชุมชน โรงแรม โรงพยาบาล ระบบจะเข้าไป ดูแลค่าใช้จ่าย ส�ำหรับช่องทางลงทะเบียนผู้ติดเชื้อผ่านสายด่วน 1330 พบว่า วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 มีจ�ำนวนสายติดต่อเข้ามาสูง ทีส่ ดุ 49,005 สาย ในรอบ 24 ชัว่ โมง จึงเพิม่ เจ้าหน้าทีร่ บั สายอีก 150 คน อย่างไรก็ตาม ทุกวินาทีจะมีผรู้ อสายประมาณ 50 สาย จึงแนะน�ำ ให้ติดต่อผ่านไลน์ สปสช. @nhso หรือเว็บไซต์ของ สปสช. จะมีเจ้า หน้าที่รับเรื่องและติดต่อกลับเช่นกัน ด้าน ร.อ.นพ.อัจฉริยะ กล่าวว่า สพฉ.พร้อมให้การสนับสนุน ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่า จะเป็น UCEP COVID หรือ UCEP Plus ส�ำหรับผู้ติดเชื้อให้โทร ประสาน สปสช. ทางหมายเลข 1330 หรือ @nhso แต่หากระหว่าง รอการประสานเพือ่ รับยา หรือรอการรักษา มีอาการแย่ลง เช่น เหนือ่ ย หายใจไม่สะดวก ไข้สูง หรือมีอาการที่คิดว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิต ให้โทรสายด่วน 1669 ซึง่ ใน กทม.ศูนย์เอราวัณเป็นผูด้ แู ล ส�ำหรับต่าง จังหวัด หรือปริมณฑล จะเป็นโรงพยาบาลประจ�ำจังหวัดแต่ละแห่ง ดูแลโดยทางศูนย์ฯ 1669 จะพิจารณา ส่งทีมและรถไปรับผู้ป่วยไป ส่งยังสถานพยาบาล ที่จะไปรับการรักษาตามค�ำแนะน�ำของ สปสช. ซึง่ ต้องสอดคล้องกับกองทุนทีจ่ ะไปตามจ่ายต่อไปด้วย โดย สพฉ.ได้ มีการประสานและท�ำงานร่วมกับศูนย์เอราวัณมาโดยตลอด ในช่วง นี้จ�ำนวนเคสยังไม่มากนัก ซึ่ง กทม.ยังสามารถดูแลได้ ศูนย์เอราวัณ จะเป็นผู้จัดทีมเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย แต่หากในอนาคตมี จ�ำนวนเคสเพิ่มมากขึ้นเกินศักยภาพของ กทม. ที่จะช่วยเหลือได้ สพฉ.ก็พร้อมทีจ่ ะระดมทรัพยากรและจัดทีมเข้าไปช่วยดูแลผูป้ ว่ ยให้ ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีต่อไป
ปลัด สธ.แจงไม่ได้ยกเลิก HI/CI หลังเตรียมเพิ่มบริการดูแลโควิด แบบผู้ป่วยนอก
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจง การดูแลผู้ติดเชื้อโควิดแบบผู้ ป่วยนอก ที่จะเริ่ม 1 มีนาคมนี้ เป็นการจัดบริการเพิ่มจากระบบปกติ ไม่ ได้ยกเลิกการดูแลแบบ HI/CI ได้เร่งหารือ 3 ราชวิทยาลัยแพทย์วาง หลักเกณฑ์ขนั้ ตอนการรับบริการ ยืนยันดูแลแบบผูป้ ว่ ยนอกได้ เนือ่ งจาก โอมิครอน 90% ไม่มีอาการหรืออาการน้อย และเป็นการเตรียมพร้อม เข้าสู่โรคประจ�ำถิ่นในอนาคต นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการ เพิ่มระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 แบบผู้ป่วยนอก ที่จะเริ่มวันที่ 1 มีนาคม 2565 ว่า การดูแลผู้ติดเชื้อโควิดแบบผู้ป่วยนอกเป็นบริการเพิ่มเติมจากระบบ ปกติ ไม่ได้มีการยกเลิกระบบการดูแลรักษาที่บ้านหรือชุมชน (HI/CI) ดังนั้น หากผลตรวจหาเชือ้ เป็นบวกยังสามารถติดต่อเข้าระบบ HI/CI ได้ตามปกติ แต่ ที่เพิ่มการดูแลแบบผู้ป่วยนอก เพื่อรองรับกรณียังเข้าระบบ HI/CI ไม่ได้ หรือ ยังไม่ได้รบั การติดต่อ เป็นทางเลือกให้สามารถไปรับบริการทีค่ ลินกิ โรคทางเดิน หายใจ (ARI Clinic) ในลักษณะผูป้ ว่ ยนอกได้ ซึง่ จะท�ำให้ได้รบั การตรวจวินจิ ฉัย จ่ายยารักษาตามระดับอาการอย่างเหมาะสม และให้คำ� แนะน�ำในการกลับไป แยกกักรักษาที่บ้าน ซึ่งรายละเอียด ขั้นตอน และหลักเกณฑ์ต่างๆ อยู่ระหว่าง การหารือร่วมกับราชวิทยาลัยแพทย์ 3 แห่ง คือ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่ง ประเทศไทย ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และราชวิทยาลัยสูติ นรีแพทย์แห่งประเทศไทย นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า การเพิ่มบริการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 แบบ ผู้ป่วยนอกสามารถท�ำได้ เนื่องจากโรคโควิด 19 ที่พบในปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ โอมิครอน ซึ่ง 90% ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ไม่จ�ำเป็นต้องเข้ารับการรักษา ในโรงพยาบาล ขณะเดียวกันราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยได้ออก ค�ำแนะน�ำการดูแลผูต้ ดิ เชือ้ โควิด 19 ในเด็กเบือ้ งต้นแล้วว่า สามารถตรวจรักษา ในลักษณะผูป้ ว่ ยนอกได้ จึงเป็นทีม่ าของการเพิม่ แนวทางการดูแลดังกล่าว ซึง่ จะครอบคลุมทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ถือเป็นการขับเคลื่อนเเพื่อเตรียมการปรับ เปลี่ยนโรคโควิด 19 จากการระบาดใหญ่ (Pandemic) ไปสู่โรคประจ�ำถิ่น (Endemic) “การไปรับบริการแบบผู้ป่วยนอกโควิดวันที่ 1 มีนาคมนี้ เบื้องต้น สามารถไปรับบริการได้ทุกที่ เนื่องจากยังคงประกาศให้โรคโควิด 19 เป็นโรค ฉุกเฉินภายใต้สิทธิ UCEP COVID อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือกับกองทุน สุขภาพแต่ละกองทุนถึงแนวทางการเบิกจ่ายค่าบริการโควิด 19 แบบผู้ป่วย นอกให้เหมาะสมต่อไป” นพ.เกียรติภูมิกล่าว สาธารณสุข
25
สุขEALTH ข่าวEสWาSธPาUรBณ LIC H N NE
ปลดล็อก !
กัญชา กัญชง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รั ฐ มนตรี แ ละรั ฐ มนตรี ว ่ า การกระทรวง สาธารณสุข ลงนามในประกาศกระทรวง สาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 5 พ.ศ. 2565 โดยจะมี ก าร ควบคุมสารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชา หรือกัญชง ยกเว้นสารสกัดที่มี THC ไม่เกิน ร้อยละ 0.2 จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ /แพทย์แผน ไทย เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพ สร้าง อาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชน นอกจากนี้ นายอนุทิน เปิดเผยว่า การ ปลดล็อกกัญชาเป็นการส่งสัญญาณการเข้าสู่ ประวัตศิ าสตร์หน้าใหม่ของไทย เน้นย�ำ้ ว่ากัญชา และกัญชงมีประโยชน์มากมาย สามารถน�ำมา รักษาอาการเจ็บป่วย ขณะนีเ้ ราก�ำลังเดินหน้าให้ คนไทยน�ำกัญชาและกัญชงมาใช้เพื่อการรักษา โรค ใช้ในการหาประโยชน์ทางการแพทย์ และใน ด้านการค้าขาย ไม่ต่างจากพืชสมุนไพรตัวอื่น อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ยัง มี ก ารควบคุ ม อย่ า งเหมาะสมในระยะแรกๆ เพราะต้องปรับตัวท�ำความคุน้ เคยกับกัญชาและ กัญชง ซึง่ คนไทยล้วนถูกป้อนข้อมูลมาตัง้ แต่เกิด
26
สาธารณสุข
ว่า นี่คือยาเสพติด เราพยายามจะลบการตีตรา ของกัญชาให้ค่อยๆ ลดลง และเมื่อคนได้เห็น ประโยชน์ ก็ จ ะส่ ง เสริ ม ให้ มี ก ารใช้ เ ฉพาะ ประโยชน์ของพืชชนิดนี้ โดยการใช้กัญชาและกัญชง ยังคงเน้น ไปที่การใช้ประโยชน์ต่อกลุ่มประชาชน ทั้งด้าน การแพทย์ การศึกษา และการวิจัย รวมไปถึง อุตสาหกรรมการผลิต สิ่งของ หรือผลิตภัณฑ์ ต่างๆ ภายใต้กฎหมายที่ก�ำหนด โดยมีกฎหมาย เฉพาะไว้ควบคุมตั้งแต่การปลูก สกัด แปรรูป และวิจัย ในขณะที่ นพ.เกียรติภมู ิ วงศ์รจิต ปลัด กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมา สธ. ได้ รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการปลดล็อกให้ พืชกัญชาและพืชกัญชงพ้นจากความเป็นยาเสพ ติด เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ในการรักษา ตั้งแต่ระดับครัวเรือน พร้อมกับสนับสนุนให้กัญชากัญชงเป็น พืชเศรษฐกิจ แต่ยงั คงมีการควบคุมการผลิตสาร สกั ด ที่ มี คุ ณ ภาพมาตรฐาน และมี ม าตรการ ป้องกันการน�ำไปใช้ในทางที่ผิด ดั ง นั้ น สธ. ในนามส� ำ นั ก งานคณะ กรรมการอาหารและยา (อย.) จึ ง ได้ จั ด ท� ำ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุยาเสพ ติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 ซึ่งจะปลด
ล็อกทุกส่วนกัญชาออกจากความเป็นยาเสพติด อย่างสิ้นเชิง ยกเว้นสารสกัดของกัญชาที่มีค่า THC เกิน 0.2% จะยังถือว่าเป็นสารเสพติด จะ มีการควบคุม ท�ำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาต โดยจะมีผลบังคับใช้อกี 120 วัน หลังจาก มีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้พืช กัญชงกัญชาพ้นจากยาเสพติด และประชาชน จะสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาและกัญชงได้ ทั้งในด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ รวมไปถึงเกิด การสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ประชาชน ภาย ใต้ พ.ร.บ.กัญชากัญชง
“เป้าหมายการสนับสนุนให้มีการ เปิ ด เสรี กั ญ ชาทางการแพทย์ เพื่ อ ประโยชน์ในทางการแพทย์ และผลักดัน การแพทย์แผนไทย รวมถึงเปิดโอกาสให้ ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ตนเอง และก่ อ ให้ เ กิ ด ประโยชน์ ท าง เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม จากการปลูก สกัด แปรรูปสินค้ากัญชากัญชง รวมไปถึง คุม้ ครองประชาชนไม่ให้ใช้กญ ั ชาในทางที่ ผิด เมื่อทุกอย่างโปร่งใสชัดเจน เราหวัง ว่าการแพทย์สาธารณสุขจะสามารถใช้ยา จากกัญชาได้”
ครัวน่านน�้ำ
20 ปี ความอร่อยคู่เมืองพิษณุโลก ครัวน่านน�้ำ ร้านอาหารเก่าแก่ริมแม่น�้ำน่าน ที่อยู่คู่บ้านเมือง พิษณุโลกมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2544 หรือเป็นเวลา 20 ปี ปัจจุบัน ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างร้านให้มีความเข้ายุคสมัยมากขึ้นและมี การตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์ยุโรป แต่ยังคงไว้ซึ่งความสดชื่นของ บรรยากาศการทานอาหารที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติไว้คงเดิม
นอกจากบรรยากาศทีเ่ ย็นสบายริมแม่นำ�้ แล้วนัน้ เมือ่ เราเดินเข้ามา ในร้านอาหารจะเหมือนเราได้ไปเทีย่ วยุโรป การตกแต่งร้านอาหารและสวน เป็นสไตล์ยุโรปที่ท�ำออกมาได้อย่างงดงาม น่านั่ง มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ ให้เราได้เช็คอินไปอวดเพื่อนๆ ในโลกโซเชียลกัน โดยมีโซนที่นั่งให้เลือก มากมาย ทั้งในห้องแอร์ ริมน�้ำ ในสวน และมีดนตรีสดบรรเลงให้ฟังในช่วง ยามเย็นอีกด้วย มาถึงอาหารกันบ้างทีค่ รัวน่านน�ำ ้ บริการอาหารคาวหวานนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย อินเดีย อาหารยุโรป ที่ท�ำออกมาด้วยความเอาใจ ใส่ตั้งแต่พ่อครัวจนถึงมือพนักงานเสิร์ฟถึงโต๊ะของคุณลูกค้าทุกท่าน และยังมีบริการรับจัดงานมงคลสมรส หรือเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ Birthday party งานเลี้ยงสัมนา ปีใหม่ จัดประชุม คาราโอเกะ ด้วยสถานที่ และมุมถ่ายรูปสวยงามแบบคลาสสิคมากมาย หากใครมีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดพิษณุโลก หรืออาศัยอยู่ในพิษณุโลก ต้องไม่พลาดที่จะแวะมาเยี่ยมชมบรรยากาศ และชิมเมนูอาหารอร่อยๆ ที่ครัวน่านน�้ำกันนะคะ ร้านตั้งอยู่บนถนนเส้นริมแม่น�้ำน่าน ข้ามสะพานเอกาทศรถและเลี้ยวซ้าย
เปิดทุกวันตั้งแต่ 11:00 - 22:30 ส�ำรองโต๊ะ โทร. 055-230-444, 097-923-0448 หรือเข้าไปสอบถามและเยี่ยมชมบรรยากาศร้านได้ที่ www.facebook.com/KRUANANNUM
k Restauran u l g n t Ta ครัวตั้งหลัก ร้านอาหารกึ่งผับ สถานที่สังสรรค์ยามค�่ำคืน ท่ามกลาง บรรยากาศที่ร่มรื่นสวยงาม เหมาะส�ำหรับพักผ่อนหลังเลิกงาน กับเพื่อนฝูง คนรัก หรือนัดพบปะกับคนในครอบครัว อิ่มอร่อย ด้วยอาหารนานาชนิด เครื่องดื่มที่โปรดปราน และดนตรีสดฟัง สบายๆ ในแนวเพลงร่วมสมัย มีทั้งเพลงใหม่ และย้อนอดีตกับ สตริงยุค 80-90 ให้คุณได้รับความบันเทิงอย่างเต็มเปี่ยม
ต�ำนานความอร่อยจากสยามแสควร์ ซอย 9 ไม่มีเด็กสยามคนไหนไม่รู้จัก !
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ปิรันย่า ที่อยู่มาคู่สยามสแควร์
ยวัตถุดิบสดๆ
แซ่บๆ กันไปเลย!าตด้น้วต�ำรับที่กรุงเทพ
จากโรงงานที่สาข ณุโลกได้ชิมกันแล้ว พิษ พร้อมเสริฟใ้ห้ชาว 0 น. ตั้งแต่เวลา 08:0
ครัวตั้งหลัก ตั้งอยู่ 3/2ถ.เอกาทศรฐ ต.ในเมืองอ.เมืองจ.พิษณุโลก เปิดบริการ 10:30 - 23:30 สำ�รองโต๊ะ โทร. 055-214245, 098-8981002
www.facebook.com/Tangluk Restaurant