Editor's Note
บทบรรณาธิการ
Special Issue @ Annual : 2021
การสร้างภูมค ิ ้ม ุ กันหมูข ่ น ึ้ ได้เมือ ่ ไหร่ก็จะหยุดยัง ้ ความเสียหายจากมหันตภัยโควิด-19 ได้ เมื่อนั้น แวดวงอุตสาหกรรมก็ขานรับและอ�ำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ทั้งทางด้านสถานที่ โดยมี นิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและความพร้อมจัดให้บริการฉีดวัคซีน มีทั้งหมด 25 แห่ง 13 จังหวัด โดยคาดว่านิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จะเป็นแห่งแรกที่พร้อมเป็นจุดฉีดวัคซีนได้ในวันที่ 7 มิ.ย. 2564 ส�ำหรับวัคซีนทางเลือกนั้น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เตรียมนัดประชุมเพื่อวาง แนวทางการกระจายวัคซีนให้กับสมาชิกที่แจ้งความประสงค์ในเร็วๆ นี้ โดยเบื้องต้นจะจัดสรรให้กับ บริษัทที่แจ้งความประสงค์แบบมาก่อนได้ก่อน และกลุ่มอุตสาหกรรมต้นน้�ำเป็นกลุ่มแรก เพื่อไม่ให้ กระทบห่วงโซ่การผลิต เพื่อช่วยสร้างภูมิค้ม ุ กันให้ประเทศไทยกลับมาปกติสุขกันอีกครัง้ Magazine ๑ ใน... ผูจ ้ ัดท�ำวารสาร “๑ ใน...อุตสาหกรรมไทย” ในรูปแบบใหม่ฉบับปรับปรุง และเพิม ่ ่าสนใจและทันต่อเหตุการณ์ ในแวดวงอุตสาหกรรมของประเทศ ตลอด ่ Contents ใหม่ๆ ทีน จนได้รวบรวมรายชื่อหน่วยงานในสังกัดกระทรวง รายชื่อโรงงานอุตสาหกรรม รายชื่อบริษัท ห้าง ร้านหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทีป ่ ระกอบธุรกิจเกี่ยวข้องทางด้านการอุตสาหกรรม จัดท�ำเป็นคู่มอ ื ซื้อง่าย-ขายสะดวก (INDUSTRY MARKET) โดยแยกประเภทต่างๆ เป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน อาทิ กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง, กลุ่มธุรกิจเครือ ่ งจักรกล, กลุ่มธุรกิจรถยนต์, กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและไฮโดรลิค, กลุ่ม ธุรกิจเหล็กและอลูมเิ นียม เป็นต้น เพือ ่ ใช้สำ � หรับเป็นคู่มอ ื ติดต่อส�ำหรับภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่าง ดี ติดต่อลงข้อมูลสินค้าและบริการของท่านได้ที่ โทร. 0-2380-3709-10 ขอบคุณครับ...
Contents
สารบัญ
> บทความ กระทรวงอุตสาหกรรม
พร้อมขับเคลื่อน BCG Model ................ 23 .
ฉบับพิเศษ : ไทสมุทรเดลี่
บริษัท กิตวรินทร์ อาร์ตแอนด์มีเดีย จ�ำกัด
ส�ำนักงาน 32/67 ถ.สุขุมวิท ต.ปากน้�ำ อ.เมือง สมุทรปราการ 10270
0-2380-3709-10
magazine1nai@gmail.com
www.magazine1nai.com
magazine1nai
1Nai Thailand ผู้ให้บริการโฆษณา
ประธานที่ปรึกษา
พ.ต.ท. สมชาย ศรลัมพ์
ผู้อ�ำนวยการ
วริยา แย้มเพียรวัฒนา
ฝ่ายกฏหมาย
นงคราญ นันชนะ
> ข่าวสารอุตสาหกรรม .......................... 27. > พลังงานทดแทน “Solar cell”
บจ.เอ็มจี โซล่า เซลล์
.......................
> เครื่องจักรโรงงานและอุปกรณ์
บจ.กิมไท่แสง แมชชีนเนอรี่ > INTERVIEW
.............
บจ.เอส.เจ.สกรูไทย
คุณศรีวิกรณ์ จินทรักษา
.......................
3 3. 34. 43.
บรรณาธิการบริหาร กิตติ ฉันทกิจนุกูล กองบรรณาธิการ
สุเชาว์ ศรลัมพ์
ผู้จัดการโครงการ
มาลี ชื่นส�ำอางค์
สุชาดา พุกทรัพย์
ผู้จัดการส่วนภูมิภาค ประทุมมาศ สนทอง ฝ่ายประชาสัมพันธ์
พัชรีพร เชื้อบุญมี
นภาพร ดรุณพันธ์
ฝ่ายศิลปกรรม
จีรวรรณ ปลั่งเปล่ง ศิรพ ิ รรณ ชัยเกียรติ์สุนทร สราลักษณ์ ชูประเสริฐ ยุวดี พะบ�ำรุงษ์ รุง่ รัศมี ชาลี
นัฐธิวรรณ สุรรี ม ั ย์
พลากร ค�ำโครตสูนย์
ศักดิ์ชัย รันจัตุรส ั
ฝ่ายบัญชี-ธุรการ
ปิยพร ม่วงศรี
อรรถพล นารูลา
อุรุพงษ์ รุง่ เรือง
Industry
MARKET’ 2021
แนะน�ำสินค้าและบริการต่างๆ
ในแวดวงด้านอุตสาหกรรม ............ 47.
ม ร ร ก ห า ส ุ ต อ ง l กระทรว e d o M G C B น ่ื ั เคลอ บ ้ มข พรอ
ื น ย ั ่ ง ย ง ่ า ย อ า น ั ฒ ู่ ารพ เปา้ หมายสก
นายสุรย ิ ะ จึงรุง ่ เรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวง
ได้ ด�ำเนิ นการแต่ งตั้ งคณะกรรมการขับเคลื่ อนการพัฒนาเศรษฐกิ จชีวภาพ – เศรษฐกิ จ
หมุนเวียน - เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) ของกระทรวง อุตสาหกรรม เพื่อก�ำหนดแนวทางและบูรณาการการจัดท�ำแผนงานโครงการให้เป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยการขับเคลื่อน นโยบาย BCG โมเดล ของกระทรวงฯ มุ่งเน้นไปที่ 4 เป้าหมายหลัก คือ
1.สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ เน้นเพิม ้ ระกอบการใหม่, 2.สร้างความ ่ ผลผลิต สร้างมูลค่าเพิม ่ สร้างโมเดลธุรกิจและผูป
ยั่งยืนทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดการใช้ ทรัพยากร และพลังงาน ลดของเสียและมลพิษสิ่งแวดล้อม, 3.สร้าง
ความยั่งยืนให้ภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบายตลาด และนวัตกรรมน�ำอุตสาหกรรมไทย และ 4. ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals –SDGs)
“ปัญหาสิง ่ านาประเทศทัว ่ งมือในการกีดกัน ่ แวดล้อมถือเป็นปัญหา ส�ำคัญระดับโลกทีน ่ โลกให้ความส�ำคัญ และน�ำมาเป็นเครือ
ทางการค้า โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมทีถ ่ ก ู มองว่าเป็นสาเหตุหนึ่งในการท�ำลายสิง ่ แวดล้อม กระทรวงฯ จึงได้น�ำนโยบายการพัฒนา BCG Model ของรัฐบาลมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าและขีดความสามารถ ในการแข่งขัน กับลดของเสียโดยจัดการ ทรัพยากรภายในสถานประกอบการให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการน�ำกลับมาใช้ใหม่ เป็นมิตรกับ สิง ่ แวดล้อม”
อุตสาหกรรมไทย
23
ชีวภาพแก่ผู้ประกอบการจัดท�ำแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมตาม แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (ส�ำนั กงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม) การ จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมชีวภาพ จังหวัดชลบุร ี (ส�ำนักงานคณะ กรรมการอ้อยและน้�ำตาลทราย)
การพั ฒ นาและส่ ง เสริม อุ ต สาหกรรมชี ว ภาพ (กรมส่ ง เสริม
อุตสาหกรรม) การพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา จังหวัดสงขลา (การ นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) การจัดท�ำมาตรฐานด้านเศรษฐกิจ
หมุ น เวี ย น มาตรฐานการตรวจสอบและรับ รองแห่ ง ชาติ การออก
มาตรฐานทีเ่ กี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ชว ี ภาพ 21 เรือ ่ ง (ส�ำนักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) ศูนย์การเรียนรูด ้ ้านเทคโนโลยีรไี ซเคิลและ ขยะ อิเล็กทรอนิกส์ (กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่) ส่งเสริม
อุตสาหกรรมเกษตรครบวงจร การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน
(กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม)/
โครงการน�ำร่องโซล่าเซลล์ ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา
วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ วิ จั ย แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม ( ส� ำ นั ก ง า น ป ลั ด ก ร ะ ท ร ว ง
อุตสาหกรรม)/การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial
Town) เพื่อสนับสนุนนโยบาย BCG ของรัฐบาล (การนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย) และการยกระดับอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรมสี เขียว (กรมโรงงานอุตสาหกรรม) เป็นต้น
ส�ำหรับ BCG Model เป็นรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ที่
เร่งให้เศรษฐกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างทัว ่ ถึงบนฐานการพัฒนาที่
ยั่งยืนสอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการเติบโต โดยไม่ท้ิงใครไว้ข้างหลัง ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกภาคส่วน ประกอบ ด้วย 4 สาขายุทธศาสตร์คือ เกษตรและอาหาร /สุขภาพและการแพทย์ /พลั ง งาน วั ส ดุ แ ละเคมี ชี ว ภาพ และ /การท่ อ งเที่ ย วและเศรษฐกิ จ
สร้างสรรค์ และ 1 ฐานความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม ซึ่ง เป็นทุนพืน ้ ฐานส�ำคัญในการพัฒนาประเทศและการเพิม ิ ที่ ่ คุณภาพชีวต
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
ว่า กระทรวงฯ ได้ด�ำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนฯ ทัง ้ การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมที่
น�ำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม กับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม การด�ำเนินการจัดการซากรถยนต์
การน� ำ ร่อ งโครงการพั ฒ นาสถานประกอบการตามกรอบ
แนวคิ ด BCG ทั้ ง ในส่ ว นกลางและส่ ว นภู มิ ภ าค กั บ เอสเอ็ ม อี ที่ เป็ น
นิติบุคคล ที่ได้รบ ั อนุมัติสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชา รัฐ และเอสเอ็มอีทม ี่ โี อกาสได้รบ ั ความ ช่ ว ยเหลื อ จากกองทุ น ฯ ในอนาคต
รวมทั้ ง ได้ มี ก ารส� ำ รวจข้ อ มู ล ความ ต้ องการในการพัฒนาทางด้ าน Bio
Economy Circular Economy และ
Green Economy ของสถานประกอบ การผ่านทางส�ำนั กงานอุ ตสาหกรรม
จังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพื่อให้รบ ั ทราบ ถึงความต้องการที่แท้จริง
อย่ า งไรก็ ต าม ในส่ ว นของ
หน่ วยงานในสั ง กั ด ของกระทรวง อุตสาหกรรม ได้มก ี ารด�ำเนินการโครง การส� ำ คั ญ ๆ ที่ ต อบสนองนโยบาย
BCG โมเดลของรัฐ บาล อาทิ การ ประกาศรับรองผลิตภัณฑ์พลาสติกที่
ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ การรับรอง ผลิตภัณฑ์พลาสติกทีย ่ อ ่ ยสลายได้ทาง
24
อุตสาหกรรมไทย
ดีให้กับประชาชน
โดยมีการคาดการณ์ โมเดลเศรษฐกิจ BCG ทัง ้ 4 สาขา ซึ่งมีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าเป็น 4.4 ล้านล้านบาท หรือ คิดเป็น 24% ของ GDP ในอีก 6 ปี ข้างหน้า และการรักษา ฐานทรัพ ยากรและความหลากหลายทางชี ว ภาพให้ ส มดุ ล ระหว่างการมีอยู่และใช้ไปเพื่อน�ำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ลด ความเหลื่อมล้�ำของสังคมและสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับ ทุกภูมิภาคของประเทศ.
ิ ต า ช ่ ง ห แ ะ ร า ว BCG Model .ไทยฝา่ โควดิ -19 ก ศ ม ฉ โ ิ ก ล พ ม ้ พรอ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกรอบใหม่ซึ่งรวม ถึงไทยยิ่งตอกย้�ำให้เห็นว่าโครงสร้างเศรษฐกิจที่เน้นพึ่งพา ตนเองนั้นจะเป็นค�ำตอบในการอยู่รอดท่ามกลางวิกฤตต่างๆ ได้ ดีย่ิงขึ้น และนโยบายต่ างๆ คงถึ งเวลาที่รฐ ั บาลต้ องหัน กลับมามองสิง ่ ะท�ำให้คนไทยมีความเป็นอยูท ่ ด ี่ ีและมีความ ่ ทีจ ยั่งยืนได้ในระยะยาว
การพั ฒ นาเศรษฐกิ จ ชี ว ภาพ-เศรษฐกิ จ หมุ น เวี ย น-เศรษฐกิ จ สี เขี ย ว
ระดับมูลค่าในห่วงโซ่การผลิตสินค้าและบริการให้มีมูลค่าสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 การประชุมคณะกรรมการบริหาร
(Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็น
ประธาน จึงได้เห็นชอบยุทธศาสตร์การขับเคลือ ่ นประเทศไทยด้วยโมเดล เศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564-2569 และพร้อมประกาศให้เป็นวาระแห่ง ชาติ ส�ำหรับการขับเคลื่อนแบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
ยุทธศาสตร์ที่ 1 : สร้างความยัง่ ยืนของฐานทรัพยากรและความ
หลากหลายทางชีวภาพ ด้วยการจัดสมดุลระหว่างการอนุรก ั ษ์ และการ ใช้ประโยชน์
ยุทธศาสตร์ที่ 2 : การพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้เข้ม
แข็งด้วยทุนทรัพยากร อัตลักษณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี
สมัยใหม่ ใช้ศักยภาพของพื้นที่โดยการระเบิดจากภายใน เน้น ‘ความ หลากหลายทางชีวภาพ’ และ ‘ความหลากหลายทางวัฒนธรรม’ ยก
ยุ ทธศาสตร์ที่ 3 : ยกระดั บการพัฒนาอุ ตสาหกรรมภายใต้
เศรษฐกิจ BCG ให้สามารถแข่งขันได้อย่างยัง ่ ยืนด้วยความรู ้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาให้ ความส�ำคั ญต่ อระบบการผลิ ตที่เป็นมิตรต่ อสิ่ง
แวดล้อม แบบ ‘ท�ำน้อยได้มาก’ และ
ยุทธศาสตร์ที่ 4 : เสริมสร้างความสามารถในการตอบสนอง
ต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก สร้างภูมิคุ้มกันและความสามารถ ในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างเท่าทันเพื่อบรรเทา ผลกระทบ
“เรายกให้ BCG เป็ น วาระแห่ ง ชาติ เช่ น เดี ย วกั บ นโยบาย
ประเทศไทย 4.0 และจะต้องส�ำเร็จภายใน 5 ปีเพือ ่ การด�ำเนินวิถช ี ว ี ต ิ ใหม่
หลังการระบาดของโรคติดเชือ ้ โควิด-19 (Post COVID-19 Strategy ลด การพึง่ พาจากต่างประเทศ รวมถึงให้ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความ ปลอดภัยในด้านสาธารณสุข และจะน�ำแผนยุทธศาสตร์ฯ ฉบับนี้เป็นก
รอบการท�ำงานของงบประมาณปี 2565 ด�ำเนินการให้สอดคล้องกับ นโยบายของรัฐบาลด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุม
อุตสาหกรรมไทย
25
ส� ำ หรับ กิ จ กรรมหลั ก ภายใต้
โมเดลเศรษฐกิจ BCG ประกอบด้วย 1.
อนุรก ั ษ์ ฟื้ นฟู พัฒนา เพิม ่ พูนทรัพยากร ความหลากหลายทางชี ว ภาพและ วั ฒ นธรรม 2. บริห ารจั ด การการใช้ ประโยชน์ แ ละบริ โ ภค อย่ า งยั่ ง ยื น
3. ลดและใช้ ป ระโยชน์ ข องทิ้ ง จาก กระบวนการผลิตสินค้าและบริการ 4.
สร้า งมู ล ค่ า เพิ่ ม ตลอดห่ ว งโซ่ มู ล ค่ า
ตั้ ง แต่ ภ าคเกษตรที่ เป็ น ต้ น น้� ำ จนถึ ง
ภาคการผลิ ตและบริ ก าร และ 5. สร้างภูมิคุ้มกัน พึ่งพาตนเอง และเพิ่ม
สมรรถนะในการฟื้ นตัวอย่างรวดเร็ว
ขณะเดี ย วกั น ขั บ เคลื่ อ นการ
พัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ
BCG พ.ศ. 2564-2569 อยู่บนพื้น ฐานของ 4+1 ประกอบด้วย 4 สาขา
ยุ ทธศาสตร์ คื อ 1. เกษตรและอาหาร 2. สุขภาพและการแพทย์ 3.
ต่� ำไปสู่สินค้ าเกษตรมูลค่ าสูง เช่น ปศุสัตว์ พืชผัก ผลไม้เมืองหนาว
สร้างสรรค์ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปี 2561 รวมกัน 3.4
เที่ยว ซึ่งก�ำหนดแผนด�ำเนินการไว้ระยะ 5 ปี คือปี 2565-2570
พลั งงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ และ 4. การท่องเที่ยวและเศรษฐกิ จ ล้านล้านบาท คิดเป็น 21% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
ดอกไม้ ทดแทนการน�ำเข้า และเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมและการท่อง
หากมองย้อนนโยบายต่างๆ เหล่านีไ้ ม่อาจปฏิเสธได้วา ่ จุดก�ำเนิด
มีการจ้างแรงงานรวมกัน 16.5 ล้านคน หรือประมาณครึง่ หนึ่งของการ
นัน ิ ก ั ษ์ รองนายกรัฐมนตรี ้ มาจากทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพท
วัฒนธรรม ซึ่งเป็นทุนพื้นฐานส�ำคัญในการพัฒนาประเทศและการเพิ่ม
แลนด์ 4.0 นั่นเอง โดยได้มก ี ารฉายภาพให้เห็นมาอย่างต่อเนื่องเพือ ่ การ
จ้างงานรวมของประเทศ และ 1 ฐานความหลากหลายทางชีวภาพและ คุ ณ ภาพชีวิตที่ดี ให้ แก่ ป ระชาชน โดยรัฐ บาลมุ่ ง หวั ง ว่ า หากมีการขับ
เคลื่อนนโยบายดังกล่าวในอีก 6 ปีขา ้ งหน้าจะสามารถเพิม ่ จีดีพไี ทยเป็น
4.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 24% ของ GDP
หากเจาะย่อยมาเฉพาะในพืน ้ ทีเ่ ขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(อีอีซ)ี รัฐบาลยังได้ก�ำหนด “แผนยุทธศาสตร์พฒ ั นาด้านการเกษตร”
ในพืน ้ ทีอ ่ อ ี ซ ี ท ี เี่ น้นเชือ ่ มโยงอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ตัง ้ เป้าให้การ พัฒนาในพืน ้ ทีน ่ ี้เป็นต้นแบบการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทย
ในรัฐบาลบิ๊กตู่ 2/1 ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายไทย ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบทัว ่ ถึง ซึง่ ประเทศไทยมีความหลาก
หลายใน 2 ด้าน คือ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม เพราะความท้าทายการพัฒนาประเทศของไทยปัจจุบน ั
และอนาคตคือแรงงานในภาคเกษตรที่มีราว 12 ล้านคน แต่ 90% ของ
พืน ้ ทีเ่ พาะปลูก ปลูกพืชเพียง 6 ชนิด คือ ข้าว อ้อย มันส�ำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้�ำมัน และข้าวโพด
ขณะที่ ร าคาเกษตรผั น ผวน เกษตรกรรายได้ ต่� ำ ทรัพ ยากร
ด้วยการด�ำเนินการยึดกรอบแนวคิดการตลาดน�ำการผลิต เน้นการใช้
ธรรมชาติเสื่อมโทรม และแรงงานภาคเกษตรมีอายุมากขึ้น สังคมสูงวัย
คุณภาพสินค้าสู่ตลาดสินค้ามูลค่าสูง 2. ประมงเพาะเลี้ยง เพิ่มมูลค่าใน
แสนล้านบาท ขณะที่ 60% ของพลังงานน�ำเข้าจากต่างประเทศ 15.5%
เทคโนโลยีการเกษตรแก้ปัญหา เน้น 5 กลุ่มสินค้าคือ 1. ผลไม้ พัฒนา ห่วงโซ่อป ุ ทานด้วยเทคโนโลยีการผลิต 3. พืชส�ำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ
4. เพิ่มมูลค่าพืชสมุนไพร และ 5. ปรับเปลี่ยนผลผลิตสินค้าเกษตรราคา
ต้องพึง่ พิงการน�ำเข้ายา วัสดุและอุปกรณ์การแพทย์จากต่างประเทศนับ ของพลั งงานในประเทศมาจากพลั งงานหมุนเวียน ความท้าทายคื อ
การจัดหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต และการลด นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล
26
อุตสาหกรรมไทย
การน�ำเข้าพลังงาน ส่วนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งไทย
เคยมีรายได้จากการท่องเทีย ่ ว 3 ล้านล้านบาท มากเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ 80% ของนักท่องเที่ยว กว่า 35 ล้านคนกระจุกตัวอยู่ใน 8 จังหวัด และเมื่อโลกเผชิญโควิด-19 จึงกระทบต่อไทยเต็มๆ
ภาคเอกชน โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
เป็นส่วนหนึ่ งในการผลั กดั นให้เศรษฐกิ จไทยมีการปรับเปลี่ ยนไป
สู่ BCG Model เพราะถือว่าเป็นแนวทางเศรษฐกิจที่เดินมาถูกทาง สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศ และเป็นการสร้างเศรษฐกิจที่
เข้มแข็งยั่งยืนได้ในระยะยาว ที่ไม่ว่าจะวิกฤตเศรษฐกิจโลกจะเป็น อย่างไร อย่างน้อยฐานเศรษฐกิจใหม่ทเี่ น้นพึง ่ พาตนเองจะเป็นเกราะ ป้องกันได้เป็นอย่างดี
“เศรษฐกิจไทยที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เราพึ่งพาการส่งออก 60-
70% ของจีดีพี พร้อมทั้งพึ่งพาเรือ ่ งของการท่องเที่ยวมาก เมื่อโควิด-
น้�ำแบบอัตฉริยะ การใช้ดาวเทียมเพือ ่ การเกษตร การปลูกพืชทีเ่ หมาะสม
ใน 50 บริษัทแรกๆ ล้วนเป็นของต่างชาติ ไทยเป็นเพียงฐานการผลิต
แบบอย่างในการพัฒนาต่อไป ส่งผลให้เกิดการพลิกโฉมเกษตรไทยและ
19 เกิดขึ้นจึงได้รบ ั ผลกระทบรุนแรง และหากยิ่งดูการส่งออกของไทย
หลายอุตสาหกรรมที่ส่งออกเราได้แค่ค่าแรง บางอุตสาหกรรมน�ำเข้า วัตถุดิบมาจากต่างประเทศเป็นหลักแล้วมาอาศัยแรงงานในไทยซึ่งก็
เชิงภูมศ ิ าสตร์ เพือ ่ ให้เกิด Smart Agriculture Industry รุน ่ ใหม่ทจ ี่ ะเป็น เป็นการยกระดับภาคการเกษตรโดยรวมของประเทศ
“ปี 2564 ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ยิ่ง
เป็นแรงงานต่างด้าวด้วยซ้�ำ แล้วเราได้อะไร BCG Model คือทางรอด
สะท้อนให้เห็นถึงความจ�ำเป็นที่ทุกภาคส่วนของสังคมไทยต้องเร่งปรับ
สูงระดับต้นของโลกหากแต่เรายังขาดการบริหารจัดการ” นายเกรียง
ยกระดับภาคการเกษตรดั้งเดิมไปสู่เกษตรอัจฉริยะ (สมาร์ทฟาร์มมิ่ง)
ของเศรษฐกิจไทยเพราะเรามีจุดแข็งจากความหลากหลายทางชีวภาพ ไกร เธียรนุกูล กล่าว
ทั้งนี้ ภาคเกษตรของไทยมีปัญหาผลผลิ ตล้ นตลาด แต่ ขณะ
เดียวกัน ไทยส่งออกวัตถุดิบไปต่างประเทศเพื่อผลิตสารสกัดหรือสาร
เครือ ่ งยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ด้วยการมุ่งเน้น BCG Model และเกษตรปลอดภัย (GAP) เพื่อเป็นทางรอดให้แก่ประเทศ ซึ่งเชื่อว่า
หากมีการด�ำเนินการอย่างจริงจังเพียง 5-10 ปีก็จะน�ำไปสู่การเพิ่มการ ส่งออกอาหารแปรรูปและเพิม ่ มูลค่าสินค้าเกษตรของไทยให้อยูใ่ นอันดับ
ชีวภาพมูลค่าสูงที่ใช้ในอุตสาหกรรมยา เครือ ่ งส�ำอาง อาหารเสริม และ
ต้นๆ ของโลกได้ จากทีป ่ จ ั จุบน ั ไทยส่งออกอุตสาหกรรมอาหารอยูอ ่ ันดับ
เสียโอกาสมูลค่าทางเศรษฐกิจมาตลอด เช่น ส่งจมูกข้าวไปญี่ปุ่นเพื่อ
เพื่อการเกษตร ส.อ.ท.กล่าวเสริม
สารปรุงแต่งอาหาร แล้วไทยก็ตอ ้ งน�ำเข้าสารเหล่านี้กลับมาซึง่ ท�ำให้ไทย ผลิตวิตามินที่มีราคาแพง ส่งออกเปลือกมังคุดไปผลิตสารสกัดทางยา แต่หากไทยผลิตสารสกัดได้เองจะยกระดับการผลิตให้แข่งขันได้ โดย
อุตสาหกรรมนี้พึ่งพาวัตถุดิบภายในประเทศ 90% ดังนั้นมูลค่าเพิ่มจะ
ตกในประเทศต่างจากอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ไทยต้องน�ำเข้าเทคโนโลยี
ดังนั้น ส.อ.ท.มีแผนที่จะตั้งบริษัทด�ำเนินการในรูปแบบกิจการ
เพื่อสังคม Social Enterprise หรือ SE ในปี 2564 ที่จะให้เอกชนร่วม ลงทุน โดยจะเป็นหน่ วยงานรวบรวมความต้องการพืชผลการเกษตร
จากโรงงานที่เป็นสมาชิก ส.อ.ท. รวมทั้งจะลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีการ
ที่ 11 ของโลก” นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล ประธานสถาบันอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ส.อ.ท.ได้ท�ำงานกับรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ ในการเปลี่ ยนแปลงเกษตรดั้ งเดิ มด้ วยการเร่ง ใช้
เทคโนโลยี การท�ำเกษตรแปลงใหญ่ มีการวิเคราะห์ดิน หาเงินกู้อย่าง เป็นระบบให้ ฯลฯ คาดว่าปี 2564 ภาพจะชัดขึ้น และเชื่อว่าหลายส่วน
จะหันมามองเกษตรมากขึ้น เพราะนี่คือทางรอดเป็นเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชด�ำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่จะท�ำให้ไทยพึ่งตัวเอง หรือเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สกัดสารชีวภาพและเทคโนโลยีการแปรรูปขั้นสูงร่วมกับสถาบันวิจัยใน ประเทศ เพื่อให้สมาชิก ส.อ.ท.น�ำไปลงทุนพัฒนาการผลิตและกลับไป ซื้อผลผลิตเกษตรกรมาแปรรูปเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง
พร้อมกันนี้ ยังจะสร้างโปรแกรมการบริหารจัดการฟาร์ม การท�ำ
เกษตรความแม่นย�ำสูง และการวิเคราะห์ขอ ้ มูลคาดการณ์ล่วงหน้า การ มีเครือ ่ งมือตรวจวัดในทุกกระบวนการผลิต การจัดท�ำข้อมูลพืชและการ
วิเคราะห์ การใช้หน ุ่ ยนต์และโดรนในการเกษตร การจัดท�ำระบบจัดการ
การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่ “BCG Model” ที่ถือ
เป็นวาระแห่งชาติน้ันจ�ำเป็นต้องอาศัยร่วมมือจากทุกภาคส่วน แต่
หั ว ใจส� ำ คั ญ คื อ ฝ่ า ยปฏิ บั ติ ห ลั ก ที่ ห นี ไ ม่ พ้ น หน่ ว ยงานรัฐ ทั้ง ฝ่ า ย
การเมือง ราชการที่เกี่ยวข้องต้องเดินไปในทิศทางเดียวกันและส่ง เสริมอย่างจริงจังและต้องอาศัยเวลา หาไม่เช่นนั้นแล้วนโยบายเหล่า นี้กเ็ ป็นเพียงแค่นโยบายทีถ ่ ก ู ทิง ่ าคปฏิบต ั ไิ ด้ ้ ไว้บนหิง ้ ไม่อาจน�ำมาสูภ
ซึ่งในที่สุดไทยก็ไม่อาจก้าวข้ามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้.
อุตสาหกรรมไทย
27
NEWS INDUSTRY
กระทรวงอุตสาหกรรม แนะ 4 เรื่องส�ำคัญ ยุค New Normal ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต้องรู้!
“อุตสาหกรรมอาหารและเภสัชภัณฑ์จะเป็นอุตสาหกรรมดาว
รุง่ ในปี 2564 เนื่องจากสามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมการบริโภคที่ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้แต่ในภาพรวมภาคอุตสาหกรรมผูป ้ ระกอบ
การจ�ำเป็นต้องปรับตัวโดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับภาค
อุตสาหกรรม เพือ ่ ลดต้นทุนและเพิม ่ ขีดความสามารถในการแข่งขัน ปรับ
เปลี่ยนรูปแบบการจัดการห่วงโซ่การผลิต มุ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ลดการปล่อยมลภาวะและสร้างเศรษฐกิจสีเขียว สามารถตอบสนองต่อ ความต้องการสินค้าทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อมทีก ่ �ำลังขยายตัวอยูท ่ ว ั่ โลก
เพือ ่ รักษาฐานการผลิตทีส ่ ำ � คัญของโลก และพัฒนาสินค้าทีม ่ เี ทคโนโลยี และนวัตกรรมให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยัง่ ยืน” นายสุรย ิ ะ กล่าวปิดท้าย ______________________________
นายสุรย ิ ะ จึงรุง่ เรืองกิจ รัฐมนตรีวา ่ การกระทรวง อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ได้ ส่งผลกระทบต่ อพฤติ กรรมผู้บริโภคที่เปลี่ ยนแปลงสู่ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่เน้นสินค้าจ�ำเป็นมากขึ้น เช่น สินค้า
กลุ่ม อุ ปโภคและบริโภค โดยผลการศึกษาของส�ำนั กงานเศรษฐกิ จ อุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ประมาณการขยายตัวของอุตสาหกรรมทีม ่ แ ี นว
โน้มเป็นอุตสาหกรรมเด่นทีข ่ ยายตัวต่อเนื่องในปี 2564 ซึง่ มาจากปัจจัย ด้ านความต้ องการในการรักษาโรคและความกั งวลจากสถานการณ์
โควิด-19 ได้แก่อุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์ และอุตสาหกรรมอาหารคาด
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเศรษฐกิจ
อุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคต้ องเปลี่ ยนแปลงรู ปแบบการ บริโภคและต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีมากขึ้น
ดังนั้น ผูป ้ ระกอบการไทยจ�ำเป็นต้องปรับตัวให้สอดรับกับความ
ต้องการของผูบ ้ ริโภคในยุคนิวนอร์มอล โดยการน�ำเทคโนโลยีมาปรับใช้
ในภาคอุตสาหกรรม และสร้างนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความ
ต้องการของผูบ ้ ริโภค ปรับรูปแบบการจัดการตลอดห่วงโซ่การผลิตรวม ถึงต้องตระหนักในเรือ ่ งสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ว่าทั้งปี 2563 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5 เมื่อเทียบจากปีก่อน เช่น
ผู้ประกอบการควรให้ความส�ำคัญกับเรือ ่ งดังต่อไปนี้
ขึน ้ ร้อยละ 23.2 เมือ ่ เทียบจากปีกอ ่ น จากความต้องการใช้ทางการแพทย์
เช่น เทคโนโลยีดิจิทล ั ทีท ่ ำ � ให้การซือ ้ ของและการท�ำธุรกรรมทางการเงิน
เดียวกันกับอุตสาหกรรมถุงมือยาง ทีค ่ าดว่าในปี 2563 จะขยายตัวเพิม ่
ที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่ างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศ สหรัฐอเมริกาสหราชอาณาจักรและญีป ่ ุน ่ ในขณะทีอ ่ ุตสาหกรรมอาหาร
(ไม่รวมน้�ำตาล) คาดว่าทั้งปี 2563 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อ
เทียบจากปีก่อนโดยได้ รบ ั อานิ สงส์จากการส�ำรองสินค้ าทั้งตลาดใน ประเทศและส่งออก
นอกจากนี้ยงั มีอุตสาหกรรมเครือ ่ งใช้ไฟฟ้าชนิดทีใ่ ช้ในครัวเรือน
คาดว่าในปี 2563 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบจากปีก่อน
จากความต้องการใช้สินค้าประเภทตู้เย็นเตาอบไมโครเวฟและกระติก น้�ำร้อน เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความต้องการส�ำรองอาหารสดไว้ที่บ้าน
เพิม ้ ประกอบกับผูป ้ ระกอบการมีการลดราคาสินค้าส่วนเครือ ่ งซักผ้า ่ ขึน มีการส่งออกไปตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น
ในขณะที่อุ ตสาหกรรมหลั ก เช่ น อุ ต สาหกรรมยานยนต์ และ
ยางล้ออุตสาหกรรมปิโตรเลียม อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า เริม ่
ฟื้ นตั วตามปัจจั ยการฟื้ นตั วของการบริโภคของภาคเอกชนหรือครัว
เรือน และการจ้างงานเริม ่ กลับเข้าสู่ภาวะใกล้เคียงปกติแล้วประกอบ กั บสถานการณ์ เศรษฐกิ จของประเทศคู่ค้าที่เริม ่ กลั บมาดี ขึ้น รวมถึ ง มาตรการภาครัฐทีม ่ โี ครงการฟื้ นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้เร่งขยายการพัฒนาและการส่ง
เสริมการลงทุนมุ่งยกระดั บอุ ตสาหกรรมหลั กและอุ ตสาหกรรมอื่ น ๆ เพิ่มเติมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นใน อนาคต
28
1. การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ท�ำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
มาอยูบ ่ นสมาร์ทโฟนเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ทีเ่ ป็นสือ ่ กลางระหว่างผูซ ้ อ ื้ และผูข ้ าย ท�ำให้เกิดเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันโดยไม่ผา ่ นตัวแทนจ�ำหน่าย ซึง่ ผู้ขายสามารถขายสินค้ากับผู้ซื้อได้โดยตรง
2. ห่วงโซ่การผลิตเมือ ่ ระบบอัตโนมัตแ ิ ละหุน ่ ยนต์สามารถท�ำงาน
แทนคนได้ เกื อบทั้งหมดท�ำให้หลายธุรกิ จซึ่งเดิ มกระจายขั้นตอนการ
ผลิตไปหลาย ๆ ที่ท่ว ั โลกย้ายกลับมาผลิตในภูมิภาคมากขึ้น หรือดึงขั้น
ตอนการผลิตกลับไปผลิตภายในประเทศปลายทาง เพือ ่ ตอบสนองความ
ต้องการของตลาดได้เร็วขึน ้ ซึง่ จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเนื่องจาก เป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกและภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่
3. สิ่งแวดล้อมผู้ประกอบการจ�ำเป็นต้องให้ความส�ำคัญกับสิ่ง
แวดล้อมซึ่งส่งผลต่อการด�ำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตของประชากรโลก โดยคาดว่าในอนาคตน้� ำสะอาดจะเป็นสิ่งที่ขาดแคลน ส่งผลต่ อการ
ด�ำเนินธุรกิจและการใช้ชว ี ต ิ ของประชากรโลก อีกทัง้ ยังมีความเสีย ่ งด้าน กฎเกณฑ์หรือมาตรฐานในการท�ำธุรกิจ ที่ต้องค�ำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็น
ส�ำคัญ และให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้น
4. แรงงานจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรในอนาคต
อีก 15-20 ปีข้างหน้าประเทศไทยก� ำลังเป็นประเทศที่ก้าวเข้าสู่สังคม
สู ง วั ย มี จ� ำ นวนผู้ สู ง อายุ ม ากขึ้ น และคนวั ย ท� ำ งานน้ อ ยลง ส่ ง ผลต่ อ โครงสร้างแรงงานที่เปลี่ยนไป ท�ำให้การท�ำธุรกิจในรูปแบบเดิมที่ต้อง
ใช้แรงงานจ�ำนวนมากอาจไม่เหมาะสมภาคธุรกิจ จึงต้องปรับรูปแบบ
การผลิตจากการเน้นความได้เปรียบจากต้นทุนค่าแรงหรือใช้แรงงาน
จ�ำนวนมาก เปลี่ยนเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรม นายทอง
ชัย กล่าวปิดท้าย.
อุตสาหกรรมไทย
NEWS INDUSTRY
กระทรวงอุตสาหกรรม
เร่งหนุนผู้ประกอบการเครื่องมือแพทย์ รับมือโควิดระบาด กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งหนุนผู้ประกอบการ เครือ ่ งมือแพทย์รบ ั มือโควิดระบาด ตั้งเป้ายกระดับกว่า 100 ราย ภายในปี 2564
นายสุ ร ิ ย ะ จึ ง รุ ่ ง เรื อ งกิ จ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวง
อุ ต สาหกรรม เปิ ด เผยว่ า กระทรวงอุ ต สาหกรรม โดยกรมส่ ง เสริม อุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรม
เครือ ่ งมื อ แพทย์ ให้ เ ติ บ โตอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง เพื่ อ สอดคล้ อ งกั บ แผนการ
พัฒนาระยะยาวของทางกระทรวงที่ต้องการยกระดั บศักยภาพและ มาตรฐานของผลิตภัณฑ์เครือ ่ งมือและการให้บริการทางการแพทย์ให้
เทียบเท่ากั บระดั บสากล โดยเน้ นการยกระดั บการแพทย์ สร้างศูนย์ ทดสอบมาตรฐานของผลิ ตภั ณฑ์ทางการแพทย์ ส่งเสริมการอ�ำนวย ความสะดวกในการตรวจและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
ของไทยให้กับผู้ประกอบการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ในราคาที่เป็นธรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
(Covid-19) ในประเทศไทยในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ท�ำให้
จ� ำ นวนผู้ ติ ด เชื้ อ ยั ง คงเพิ่ ม ขึ้ น จากปั จ จั ย ดั ง กล่ า วจึ ง ส่ ง ผลให้ ค วาม ต้ อ งการเครือ ่ งมื อ ทางการแพทย์ มี เพิ่ ม มากขึ้ น ในช่ ว งที่ ผ่ า นมา โดย
กระทรวงอุ ต สาหกรรมเล็ ง เห็ น ถึ ง ความส� ำ คั ญ และเร่ง การสนั บ สนุ น
อุตสาหกรรมเครือ ่ งมือทางการแพทย์ในการพัฒนาและผลักดันให้พร้อม รับมือวิกฤติสข ุ ภาพได้อย่างมีสท ิ ธิภาพสูงสุด เพือ ่ เป็นอีกหนึง ่ จิก ี่ ะ ๊ ซอว์ทจ ช่วยประเทศไทยผ่านวิกฤติโควิด-19 ครัง้ นี้ไปให้ได้
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิด
เผยว่า ดีพร้อม เร่งด�ำเนินการปรับแผนและรูปแบบการด�ำเนินงานในช่วง
25% ของผลิตภัณฑ์ทไี่ ด้รบ ั การส่งเสริมนั้น จะครอบคลุมทัง้ ในด้านของ
การรองรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาทิ ชุด
อุปกรณ์จ่ายอากาศแบบต่อเนื่องส�ำหรับหน้ากากชนิดครอบเต็มใบหน้า (PAPR) เครือ ่ งทวนสอบเครือ ่ งช่วยหายใจ (Ventilator Tester) ระบบ ปรึกษาข้อมูลสุขภาพทางไกล ระบบ AI ในการวิเคราะห์โรคปอด และ
เครือ ่ งดูดละอองฝอยน้�ำลาย (เครือ ่ งมือทันตกรรม) ทั้งนี้ การพัฒนา ต้นแบบผลิตภัณฑ์ด�ำเนินการโดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างสถาน
ประกอบการ ภาคการศึกษา และบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึง สถาบันฯ และสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. การส่งเสริมสถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการ
ผลิตและบริการ การปรับปรุง และพัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถ
ที่จะลดต้นทุน ลดของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต รวมถึงสามารถผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อการใช้งานในปัจจุบัน อีกทั้งส่งเสริมในเรือ ่ ง
การวางแผนการตลาด เพิ่มมูลค่า และยอดขายอีกครัง้
4. การส่ ง เสริม การรวมกลุ่ ม อุ ต สาหกรรม เพื่ อ ให้ เ กิ ด
เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถของ
อุตสาหกรรมเครือ ่ งมือแพทย์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และองค์ความรู ้ รวมถึงวิสย ั ทัศน์รว่ มกัน การสร้างและรวบข้อมูลเครือข่ายหน่วยทดสอบ มาตรฐานเครือ ่ งมือแพทย์ ให้เกิดความพร้อมทุกมิติ อีกทั้งยังร่วมกัน
พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สอดคล้องต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ ดีพร้อม ได้ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการ
วิจัยและนวัตกรรมแก่ผู้ประกอบการ ผ่านการเชื่อมโยงหน่วยงานอื่นๆ อาทิ ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้าน
การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ส�ำนั กงาน
ครึง่ ปีหลังของงบประมาณประจ�ำปี 2564 เพื่อให้สอดรับนโยบายทาง
สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ
ของโรคโควิด-19 โดยหนึ่งในนั้นคือการเร่งสนับสนุนอุตสาหกรรมเครือ ่ ง
นวัตกรรมไทยและบัญชีสง ่ิ ประดิษฐ์ไทย ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์
กระทรวงอุตสาหกรรม และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด มือแพทย์อย่างครอบคลุมในหลายมิติให้มีความสอดคล้องสถานการณ์
และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างความพร้อมในการเป็นรากฐานที่ ส�ำคัญรองรับต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบน ั และอนาคต ด้วย
การผลักดันให้เกิดความพร้อมในภาคอุตสาหกรรมเครือ ่ งมือแพทย์ ผ่าน
(สอวช.) อีกทั้ง ยังช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการน�ำผลิตภัณฑ์เข้าสู่บัญชี
และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งในการสร้าง ความน่ า เชื่ อ ถื อ และสามารถจ� ำ หน่ า ยผลิ ต ภั ณ ฑ์ ให้ กั บ ส่ ว นราชการ รัฐวิสาหกิจอีกด้วย
ดี พร้อมตั้ งเป้าว่าภายในปี 2564 ต้ องสามารถสนั บสนุ นผู้
4 มาตรการเร่งด่วน ดังนี้
ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมเครือ ่ งมือการแพทย์ได้
มือแพทย์ ให้มีความพร้อมและองค์ความรูท ้ ้ง ั ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ดีพร้อม สามารถยกระดับอุตสาหกรรมเครือ ่ งมือแพทย์กว่า 400 ราย
1. การส่งเสริมด้ านบุ คลากรในภาคอุ ตสาหกรรมเครือ ่ ง
การน�ำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม รวมไปถึงสร้างความรูค ้ วาม เข้าใจด้านกฎระเบียบและข้อบังคับของอุตสาหกรรมเครือ ่ งมือแพทย์
2. การส่งเสริมด้านการพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ เป็นการ
พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI และ IoT รวมถึงใน กลุ่มของการบ�ำบัดฟื้ นฟู วินิจฉัย และการรักษา โดยต้นแบบผลิตภัณฑ์
กว่า 100 ผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559 – 2563
อาทิ การพัฒนาชุดอุปกรณ์จ่ายอากาศแบบต่อเนื่องส�ำหรับหน้ากาก ชนิดครอบเต็มใบหน้า บริษัท ทีเอ็มดีดี จ�ำกัด โดยทาง ดีพร้อมได้ให้การ
สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านวัสดุในการผลิต ระบบในการปรับ
อัตราการไหลของอากาศ แบตเตอรีใ่ นการใช้งาน และการใช้งานร่วม กับชุดกรองเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ฯลฯ
อุตสาหกรรมไทย
29
NEWS INDUSTRY
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ เปิดเผยถึ งแนวทางการบริหารจั ดการรจุดบริการให้ฉีด วั ค ซี น ป้ อ งกั น โรคติ ด เชื้ อ ไวรัส โคโรนา (โควิ ด -19) ให้ แก่ แรงงานภาคอุตสาหกรรมและประชาชนทั่วไปผ่านรายการ “ปลัดกอบฯ ตอบโจทย์” ซึง ่ มีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร จัดการจุดบริการให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ในการจั ดตั้ งเป็นศูนย์กลางฉีดวัคซีนป้องกั นโค วิด-19 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการฉีดวัคซีนให้ ได้ 5 แสนคนต่อวัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม ได้
ด�ำเนินการประชุมจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการจุดบริการให้ฉีด
วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อหาแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ของนิ คมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ
ในการเป็นศูนย์กลางการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานภาคอุตสาหกรรมและ ประชาชนทั่ ว ไป มี ผู้ เข้ า ร่ว มประชุ ม ประกอบด้ ว ยผู้ บ ริห ารกระทรวง
อุตสาหกรรม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และหน่ ว ยงานที่ เกี่ ย วข้ อ ง อาทิ สภาอุ ต สาหกรรมแห่ ง ประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยที่ ป ระชุ ม มี ม ติ แ ต่ ง ตั้ ง คณะกรรมการบริห ารจั ด การจุ ด บริการให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ให้แก่
แรงงานภาคอุตสาหกรรม ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ
นายสุรย ิ ะ จึงรุ ง่ เรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อ ให้การด�ำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ในการให้วค ั ซีน
ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แก่ประชาชนทั่วประเทศตาม ความสมัครใจ
ส�ำหรับคณะกรรมการฯ ชุดดั งกล่ าว ประกอบด้ วยนางวร
วรรณ ชิ ต อรุ ณ รองปลั ด กระทรวงอุ ต สาหกรรม เป็ น ประธานคณะ กรรมการ, นายเดชา จาตุธนานั นท์ หัวหน้ าศูนย์บริหารสถานการณ์
วิกฤต กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นรองประธาน, นายวีรศ ิ อัมระปาล ผู้
ว่าการ กนอ. เป็นรองประธาน, โดยมีคณะกรรมการ ประกอบด้วยนาย
30
อุตสาหกรรมไทย
สหวัฒน์ โสภา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, ผูช ้ ว ่ ยปลัดกระทรวง
อุตสาหกรรม, ประธาน ส.อ.ท. หรือตัวแทน เป็นต้น โดยหน้าที่หลักของ คณะกรรมการชุดดังกล่าว คือ
1. ก�ำหนดแนวทางพืน ้ ทีจ ่ ด ุ บริการและเตรียมความพร้อมการ
2. ประสานงานและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่
ให้วค ั ซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรมและประชาชน เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพือ ่ ให้การบริการมีความพร้อมและ
มีประสิทธิภาพ
3. ติดตามและรายงานผลการด�ำเนินการเพื่อขับเคลื่อนการ
4. ปฏิบัติหน้าที่อ่ืน ๆ ตามที่ได้รบ ั มอบหมายจากกระทรวง
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้จัดตั้ง
ด�ำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม และ อุตสาหกรรม
คณะท�ำงานเพื่อลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้นได้ส�ำรวจพื้นที่นิคม อุ ตสาหกรรมที่เหมาะสมส�ำหรับรองรับการฉี ดวัคซีนแล้ ว ซึ่งมีทั้งใน ส่วนที่ กนอ. บริหารจัดการเองและในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมร่วม
ด�ำเนินงาน รวมทั่วประเทศ 59 นิคมฯ แต่จะต้องรอความชัดเจนจากที่
NEWS INDUSTRY
ประชุมคณะกรรมการฯ อีกครัง้ ว่าความสามารถในการฉีดวัคซีนต่อวัน
ต้องการฉีดให้ได้วันละ 5 แสนคน โดยกรมควบคุมโรค ได้รบ ั เรือ ่ งไป
ประเมินความพร้อมของสถานที่ ไม่ให้เกิดความแออัด ขณะเดียวกันต้อง
อุตสาหกรรมต่อไป เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด
จะได้ประมาณกี่ราย โดยคิดจากอัตราส่วนต่อผู้ปฏิบัติงานทั้งหมด เพื่อ เป็นพืน ้ ทีท ่ อ ี่ ยูใ่ กล้โรงพยาบาล เพราะหากเกิดเหตุฉก ุ เฉินจะได้ด�ำเนินการ
ได้ทน ั ท่วงที ในเบือ ้ งต้นจากทีป ่ ระชุมได้หารือว่าจะแบ่งกลุ่มผูท ้ ร ี่ บ ั วัคซีน ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. ผูป ้ ฏิบต ั งิ านในโรงงานอุตสาหกรรมทีอ ่ ยูใ่ นนิคมอุตสาหกรรม
2. โรงงานอุ ตสาหกรรมนอกนิ คมอุ ตสาหกรรมที่แจ้ งความ
ประสงค์เข้ามาและโรงงานอุตสาหกรรมทีอ ่ ยูใ่ นสวนอุตสาหกรรมทีก ่ ำ � กับ ดูแลโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)
3. ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ ได้มีการประสานไปยังกรมควบคุมโรค เพื่อหารือถึงการ
ขอใช้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเป็นศูนย์กลางฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่าง ๆ รวม ทั้งวางแนวทางการฉี ดวัคซีนในแต่ ละวันเพื่อให้เป็นไปตามหลั กเกณฑ์ ของกระทรวงสาธารณสุข ซึง่ การด�ำเนินงานของคณะกรรมการฯ ในครัง้
นี้ เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการฉีดวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล ที่
พิจารณาและจะประสานข้อมูลในเชิงลึกร่วมกับ กนอ. และกระทรวง
ซึง ่ ในขณะนี้ มีนค ิ มอุตสาหกรรมทีเ่ ตรียมสถานทีส ่ ำ � หรับ
รองรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทัง ้ หมด 19 แห่ง ประกอบด้วย นิคม
อุตสาหกรรม ลาดกระบัง กรุงเทพฯ; นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด,
อาร์ไอแอล, เอเชีย, ดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุด) และอีส เทิรน ์ ซีบอร์ด จังหวัดระยอง; นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครและสิน
สาคร จังหวัดสมุทรสาคร นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ชลบุร ี 1, ดับบลิวเอชเอ ชลบุร ี 2, ดับบลิวเอชเอ อีสเทิรน ์ ซีบอร์ด 1, ดับบลิวเอช
เอ อีสเทิรน ์ ซีบอร์ด 2, ดับบลิวเอชเอ อีสเทิรน ์ ซีบอร์ด 3, ดับบลิวเอช เอ อีสเทิรน ์ ซีบอร์ด 4, แหลมฉบัง, ปิ่ นทอง, ปิ่ นทอง (แหลมฉบัง), ปิ่ น
ทอง โครงการ 3, และปิ่ นทอง โครงการ 4 จังหวัดชลบุร ี ทั้งนี้ หาก จ�ำนวนวัคซีนมีการกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ มากเพียงพอ
“ขอเชิ ญ ชวนแฟนเพจรายการ ตลอดจนประชาชน
ทั่วไป ให้ไปฉีดวัคซีนตามสถานที่ที่ท่านสะดวกนะครับ เพื่อสร้าง
ภูมิค้ม ุ กันให้ตัวเอง คนรอบข้าง และเพื่อให้สังคมของเรากลับมา
ใช้ชว ี ต ิ ได้อย่างปกติโดยเร็วครับ ซึง ่ กระทรวงฯ ก็พร้อมสนับสนุน
ด้านสถานที่ เพื่ออ�ำนวยความสะดวกในการเข้าถึงวัคซีนได้ง่าย
ขึ้นอีกด้วย” นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ กล่าวปิดท้ายรายการ.
อุตสาหกรรมไทย
31
NEWS INDUSTRY
SME มีเฮ! ก.อุต ฯ ขยายเวลา
พักช�ำระหนีต้ ่อถึงสิ้นปี’64
กระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาตรการช่วยเหลือ ลูกหนี้ ฝ่าวิกฤต COVID-19 ระลอกใหม่ ผ่านกองทุน พัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ โดยการพักช�ำระหนี้ เงินต้นสูงสุด ไม่เกิน 6 เดือนและไม่เกินสิน ้ ปี 2564 ผ่าน SME D BANK เริม ่ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2564
2019 (COVID-19) ให้สามารถยืน ่ ความประสงค์ขอพักช�ำระหนีเ้ งินต้นกับ ทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
(SME D Bank) โดยสามารถพักช�ำระหนี้ได้สูงสุด ไม่เกิน 6 เดือน และ ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2564
“จากภาระที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก�ำลังเผชิญอยู่ในขณะ
นี้ ทางกองทุนฯ มองเห็นความพยายามช่วยเหลือตัวเองอย่างสุดก�ำลัง
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ใน
ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาโดยตลอด จึงต้องการเป็นอีกพลังช่วย
เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ได้เข้ามาซ้�ำเติม
มาตรการช่วยเหลือระยะที่ 3 นี้ เป็นมาตรการต่อเนื่องจากการให้ความ
ส่วนใหญ่ของประเทศ ยังไม่สามารถพลิกฟื้ นธุรกิจให้กลับสู่ภาวะปกติ
เอ็มอี โดยเฉพาะรายเล็กที่ประสบปัญหาจากการขายสินค้าหรือการให้
ฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ
สนั บ สนุ น ให้ เอสเอ็ ม อี ส ามารถก้ า วผ่ า นวิ ก ฤตไปได้ อี ก ครัง ้ โดยออก
ผลกระทบจากสถานการณ์ในรอบแรกทีผ ่ ป ู้ ระกอบการเอสเอ็มอี (SME)
ช่วยเหลือก่อนหน้า ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเอส
ได้ และสร้างความยากล�ำบากในการด�ำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น กองทุน
บริการในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชือ ้ ไวรัสโคโรนา (COVID19) และ
สถานการณ์ดังกล่าวจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ที่เป็นลูก
กล่าว
พัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นถึง
หนี้สินเชื่อของกองทุนฯ ที่ได้รบ ั ผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งและ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID 19) ไปแล้ว
2 ครัง้ ด้ วยการพักช�ำระหนี้ และให้บริการความช่วยเหลื อผู้ประกอบ
การเอสเอ็มอีในเรือ ่ งการตลาด การเงิน และระบบบัญชี ตั้งแต่วันที่ 16
เมษายน 2563 โดยมีผเู้ ข้าร่วมในโครงการดังกล่าว จ�ำนวนทัง้ สิน ้ 3,300 ราย
แต่เนื่องจากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังคงส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ
และการด�ำเนิ นธุรกิจของเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่ อง ดังนั้น เพื่อเป็นการ
บรรเทาภาระการช� ำ ระหนี้ ข องลู ก หนี้ ให้ มี ส ภาพคล่ อ ง และสามารถ ด� ำเนิ นธุ รกิ จต่ อไปได้ ในช่วงภาววะวิกฤต รวมทั้งยังเป็นการลดแนว
โน้ มการเป็นหนี้ ที่ไม่ก่อให้เกิ ดรายได้ (NPLs) คณะกรรมการบริหาร กองทุนฯ จึงมีมติในคราวประชุม เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เห็น ชอบมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อของกองทุนฯ ที่ยัง
ไม่ด้อยคุณภาพ (Non NPL) หรือไม่อยู่ในระหว่างที่ถูกกองทุนด� ำเนิน
คดี ซึ่งได้รบ ั ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
32
อุตสาหกรรมไทย
คาดว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงานได้ไปจนถึงสิน ้ ปีนี้” นายกอบชัย ฯ
ทั้งนี้ ลูกหนี้สินเชื่อของกองทุนฯ สามารถแจ้งความ ประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการพักช�ำระเงินต้น พร้อมขอรับการ ส่งเสริมพัฒนาในด้านต่าง ๆ อาทิ การตลาด การผลิต การ เงินและบัญชี ได้ที่ SME D BANK ทุกสาขาทั่วประเทศในเขต พืน ้ ทีท ่ ส ี่ ถานประกอบการตัง ั้ แต่วน ั ที่ วันที่ 1 มิถน ุ ายน ้ อยู่ ได้ตง 2564 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 และสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 1357
ส� ำ หรับ กิ จ กรรมหลั ก ภายใต้
โมเดลเศรษฐกิจ BCG ประกอบด้วย 1.
อนุรก ั ษ์ ฟื้ นฟู พัฒนา เพิม ่ พูนทรัพยากร ความหลากหลายทางชี ว ภาพและ วั ฒ นธรรม 2. บริห ารจั ด การการใช้ ประโยชน์ แ ละบริ โ ภค อย่ า งยั่ ง ยื น
3. ลดและใช้ ป ระโยชน์ ข องทิ้ ง จาก กระบวนการผลิตสินค้าและบริการ 4.
สร้า งมู ล ค่ า เพิ่ ม ตลอดห่ ว งโซ่ มู ล ค่ า
ตั้ ง แต่ ภ าคเกษตรที่ เป็ น ต้ น น้� ำ จนถึ ง
ภาคการผลิ ตและบริ ก าร และ 5. สร้างภูมิคุ้มกัน พึ่งพาตนเอง และเพิ่ม
สมรรถนะในการฟื้ นตัวอย่างรวดเร็ว
ขณะเดี ย วกั น ขั บ เคลื่ อ นการ
พัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ
BCG พ.ศ. 2564-2569 อยู่บนพื้น ฐานของ 4+1 ประกอบด้วย 4 สาขา
ยุ ทธศาสตร์ คื อ 1. เกษตรและอาหาร 2. สุขภาพและการแพทย์ 3.
ต่� ำไปสู่สินค้ าเกษตรมูลค่ าสูง เช่น ปศุสัตว์ พืชผัก ผลไม้เมืองหนาว
สร้างสรรค์ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปี 2561 รวมกัน 3.4
เที่ยว ซึ่งก�ำหนดแผนด�ำเนินการไว้ระยะ 5 ปี คือปี 2565-2570
พลั งงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ และ 4. การท่องเที่ยวและเศรษฐกิ จ ล้านล้านบาท คิดเป็น 21% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
ดอกไม้ ทดแทนการน�ำเข้า และเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมและการท่อง
หากมองย้อนนโยบายต่างๆ เหล่านีไ้ ม่อาจปฏิเสธได้วา ่ จุดก�ำเนิด
มีการจ้างแรงงานรวมกัน 16.5 ล้านคน หรือประมาณครึง่ หนึ่งของการ
นัน ิ ก ั ษ์ รองนายกรัฐมนตรี ้ มาจากทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพท
วัฒนธรรม ซึ่งเป็นทุนพื้นฐานส�ำคัญในการพัฒนาประเทศและการเพิ่ม
แลนด์ 4.0 นั่นเอง โดยได้มก ี ารฉายภาพให้เห็นมาอย่างต่อเนื่องเพือ ่ การ
จ้างงานรวมของประเทศ และ 1 ฐานความหลากหลายทางชีวภาพและ คุ ณ ภาพชีวิตที่ดี ให้ แก่ ป ระชาชน โดยรัฐ บาลมุ่ ง หวั ง ว่ า หากมีการขับ
เคลื่อนนโยบายดังกล่าวในอีก 6 ปีขา ้ งหน้าจะสามารถเพิม ่ จีดีพไี ทยเป็น
4.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 24% ของ GDP
หากเจาะย่อยมาเฉพาะในพืน ้ ทีเ่ ขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(อีอีซ)ี รัฐบาลยังได้ก�ำหนด “แผนยุทธศาสตร์พฒ ั นาด้านการเกษตร”
ในพืน ้ ทีอ ่ อ ี ซ ี ท ี เี่ น้นเชือ ่ มโยงอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ตัง ้ เป้าให้การ พัฒนาในพืน ้ ทีน ่ ี้เป็นต้นแบบการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทย
ในรัฐบาลบิ๊กตู่ 2/1 ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายไทย ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบทัว ่ ถึง ซึง่ ประเทศไทยมีความหลาก
หลายใน 2 ด้าน คือ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม เพราะความท้าทายการพัฒนาประเทศของไทยปัจจุบน ั
และอนาคตคือแรงงานในภาคเกษตรที่มีราว 12 ล้านคน แต่ 90% ของ
พืน ้ ทีเ่ พาะปลูก ปลูกพืชเพียง 6 ชนิด คือ ข้าว อ้อย มันส�ำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้�ำมัน และข้าวโพด
ขณะที่ ร าคาเกษตรผั น ผวน เกษตรกรรายได้ ต่� ำ ทรัพ ยากร
ด้วยการด�ำเนินการยึดกรอบแนวคิดการตลาดน�ำการผลิต เน้นการใช้
ธรรมชาติเสื่อมโทรม และแรงงานภาคเกษตรมีอายุมากขึ้น สังคมสูงวัย
คุณภาพสินค้าสู่ตลาดสินค้ามูลค่าสูง 2. ประมงเพาะเลี้ยง เพิ่มมูลค่าใน
แสนล้านบาท ขณะที่ 60% ของพลังงานน�ำเข้าจากต่างประเทศ 15.5%
เทคโนโลยีการเกษตรแก้ปัญหา เน้น 5 กลุ่มสินค้าคือ 1. ผลไม้ พัฒนา ห่วงโซ่อป ุ ทานด้วยเทคโนโลยีการผลิต 3. พืชส�ำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ
4. เพิ่มมูลค่าพืชสมุนไพร และ 5. ปรับเปลี่ยนผลผลิตสินค้าเกษตรราคา
ต้องพึง่ พิงการน�ำเข้ายา วัสดุและอุปกรณ์การแพทย์จากต่างประเทศนับ ของพลั งงานในประเทศมาจากพลั งงานหมุนเวียน ความท้าทายคื อ
การจัดหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต และการลด นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล
26
อุตสาหกรรมไทย
NEWS INDUSTRY
กระทรวงอุตสาหกรรม
เร่งหนุนผู้ประกอบการเครื่องมือแพทย์ รับมือโควิดระบาด กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งหนุนผู้ประกอบการ เครือ ่ งมือแพทย์รบ ั มือโควิดระบาด ตั้งเป้ายกระดับกว่า 100 ราย ภายในปี 2564
นายสุ ร ิ ย ะ จึ ง รุ ่ ง เรื อ งกิ จ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวง
อุ ต สาหกรรม เปิ ด เผยว่ า กระทรวงอุ ต สาหกรรม โดยกรมส่ ง เสริม อุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรม
เครือ ่ งมื อ แพทย์ ให้ เ ติ บ โตอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง เพื่ อ สอดคล้ อ งกั บ แผนการ
พัฒนาระยะยาวของทางกระทรวงที่ต้องการยกระดั บศักยภาพและ มาตรฐานของผลิตภัณฑ์เครือ ่ งมือและการให้บริการทางการแพทย์ให้
เทียบเท่ากั บระดั บสากล โดยเน้ นการยกระดั บการแพทย์ สร้างศูนย์ ทดสอบมาตรฐานของผลิ ตภั ณฑ์ทางการแพทย์ ส่งเสริมการอ�ำนวย ความสะดวกในการตรวจและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
ของไทยให้กับผู้ประกอบการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ในราคาที่เป็นธรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
(Covid-19) ในประเทศไทยในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ท�ำให้
จ� ำ นวนผู้ ติ ด เชื้ อ ยั ง คงเพิ่ ม ขึ้ น จากปั จ จั ย ดั ง กล่ า วจึ ง ส่ ง ผลให้ ค วาม ต้ อ งการเครือ ่ งมื อ ทางการแพทย์ มี เพิ่ ม มากขึ้ น ในช่ ว งที่ ผ่ า นมา โดย
กระทรวงอุ ต สาหกรรมเล็ ง เห็ น ถึ ง ความส� ำ คั ญ และเร่ง การสนั บ สนุ น
อุตสาหกรรมเครือ ่ งมือทางการแพทย์ในการพัฒนาและผลักดันให้พร้อม รับมือวิกฤติสข ุ ภาพได้อย่างมีสท ิ ธิภาพสูงสุด เพือ ่ เป็นอีกหนึง ่ จิก ี่ ะ ๊ ซอว์ทจ ช่วยประเทศไทยผ่านวิกฤติโควิด-19 ครัง้ นี้ไปให้ได้
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิด
เผยว่า ดีพร้อม เร่งด�ำเนินการปรับแผนและรูปแบบการด�ำเนินงานในช่วง
25% ของผลิตภัณฑ์ทไี่ ด้รบ ั การส่งเสริมนั้น จะครอบคลุมทัง้ ในด้านของ
การรองรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาทิ ชุด
อุปกรณ์จ่ายอากาศแบบต่อเนื่องส�ำหรับหน้ากากชนิดครอบเต็มใบหน้า (PAPR) เครือ ่ งทวนสอบเครือ ่ งช่วยหายใจ (Ventilator Tester) ระบบ ปรึกษาข้อมูลสุขภาพทางไกล ระบบ AI ในการวิเคราะห์โรคปอด และ
เครือ ่ งดูดละอองฝอยน้�ำลาย (เครือ ่ งมือทันตกรรม) ทั้งนี้ การพัฒนา ต้นแบบผลิตภัณฑ์ด�ำเนินการโดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างสถาน
ประกอบการ ภาคการศึกษา และบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึง สถาบันฯ และสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. การส่งเสริมสถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการ
ผลิตและบริการ การปรับปรุง และพัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถ
ที่จะลดต้นทุน ลดของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต รวมถึงสามารถผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อการใช้งานในปัจจุบัน อีกทั้งส่งเสริมในเรือ ่ ง
การวางแผนการตลาด เพิ่มมูลค่า และยอดขายอีกครัง้
4. การส่ ง เสริม การรวมกลุ่ ม อุ ต สาหกรรม เพื่ อ ให้ เ กิ ด
เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถของ
อุตสาหกรรมเครือ ่ งมือแพทย์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และองค์ความรู ้ รวมถึงวิสย ั ทัศน์รว่ มกัน การสร้างและรวบข้อมูลเครือข่ายหน่วยทดสอบ มาตรฐานเครือ ่ งมือแพทย์ ให้เกิดความพร้อมทุกมิติ อีกทั้งยังร่วมกัน
พัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สอดคล้องต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ ดีพร้อม ได้ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการ
วิจัยและนวัตกรรมแก่ผู้ประกอบการ ผ่านการเชื่อมโยงหน่วยงานอื่นๆ อาทิ ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้าน
การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ส�ำนั กงาน
ครึง่ ปีหลังของงบประมาณประจ�ำปี 2564 เพื่อให้สอดรับนโยบายทาง
สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ
ของโรคโควิด-19 โดยหนึ่งในนั้นคือการเร่งสนับสนุนอุตสาหกรรมเครือ ่ ง
นวัตกรรมไทยและบัญชีสง ่ิ ประดิษฐ์ไทย ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์
กระทรวงอุตสาหกรรม และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด มือแพทย์อย่างครอบคลุมในหลายมิติให้มีความสอดคล้องสถานการณ์
และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างความพร้อมในการเป็นรากฐานที่ ส�ำคัญรองรับต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบน ั และอนาคต ด้วย
การผลักดันให้เกิดความพร้อมในภาคอุตสาหกรรมเครือ ่ งมือแพทย์ ผ่าน
(สอวช.) อีกทั้ง ยังช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการน�ำผลิตภัณฑ์เข้าสู่บัญชี
และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งในการสร้าง ความน่ า เชื่ อ ถื อ และสามารถจ� ำ หน่ า ยผลิ ต ภั ณ ฑ์ ให้ กั บ ส่ ว นราชการ รัฐวิสาหกิจอีกด้วย
ดี พร้อมตั้ งเป้าว่าภายในปี 2564 ต้ องสามารถสนั บสนุ นผู้
4 มาตรการเร่งด่วน ดังนี้
ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมเครือ ่ งมือการแพทย์ได้
มือแพทย์ ให้มีความพร้อมและองค์ความรูท ้ ้ง ั ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ดีพร้อม สามารถยกระดับอุตสาหกรรมเครือ ่ งมือแพทย์กว่า 400 ราย
1. การส่งเสริมด้ านบุ คลากรในภาคอุ ตสาหกรรมเครือ ่ ง
การน�ำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม รวมไปถึงสร้างความรูค ้ วาม เข้าใจด้านกฎระเบียบและข้อบังคับของอุตสาหกรรมเครือ ่ งมือแพทย์
2. การส่งเสริมด้านการพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ เป็นการ
พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI และ IoT รวมถึงใน กลุ่มของการบ�ำบัดฟื้ นฟู วินิจฉัย และการรักษา โดยต้นแบบผลิตภัณฑ์
กว่า 100 ผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559 – 2563
อาทิ การพัฒนาชุดอุปกรณ์จ่ายอากาศแบบต่อเนื่องส�ำหรับหน้ากาก ชนิดครอบเต็มใบหน้า บริษัท ทีเอ็มดีดี จ�ำกัด โดยทาง ดีพร้อมได้ให้การ
สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านวัสดุในการผลิต ระบบในการปรับ
อัตราการไหลของอากาศ แบตเตอรีใ่ นการใช้งาน และการใช้งานร่วม กับชุดกรองเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ฯลฯ
อุตสาหกรรมไทย
29