รายงานการทำ�เหมืองประจำ�เดือน รายงานการแต่งแร่ประจำ�เดือน และรายงานการประกอบโลหกรรมประจำ�เดือน ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่ได้มีประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการรายงานการท�ำเหมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยก�ำหนดแบบบัญชีแสดงการผลิตแร่ได้และแบบรายงานการท�ำเหมืองประจ�ำเดือนไว้ด้วย ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรายงานการแต่งแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการ รายงานการประกอบโลหกรรม พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ และประกาศกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง ก�ำหนดแบบพิมพ์อื่นๆ ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยก�ำหนดแบบพิมพ์รายงาน การแต่งแร่ประจ�ำเดือน (พร. ๕๐๑) และแบบพิมพ์รายงานการประกอบโลหกรรมประจ�ำเดือน (พร. ๖๐๑) ไว้ดว้ ย (เอกสารแนบ) นัน้ เพือ่ ให้ผถู้ อื ประทานบัตร ผูร้ บั ใบอนุญาตแต่งแร่ และผูร้ บั ใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ทราบและปฏิบตั ติ ามประกาศดังกล่าว อย่างทัว่ ถึง รวมทัง้ ให้การด�ำเนินการตรวจสอบรายงานดังกล่าวเป็นไปในแนวทางเดียวกัน กรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ จึงขอให้สำ� นักงานอุตสาหกรรมจังหวัดด�ำเนินการ ดังนี้ ๑. แจ้งผู้ถือประทานบัตร ให้กรอกรายการให้ถูกต้องตามความเป็นจริงลงในแบบบัญชีแสดงการผลิตแร่ได้ และเก็บไว้ในเขต เหมืองแร่นนั้ เพือ่ ให้พนักงานเจ้าหน้าทีต่ รวจสอบได้ทกุ เวลา และส่งรายงานการท�ำเหมืองประจ�ำเดือน ตามประกาศกรมอุตสาหกรรม พื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการรายงานการท�ำเหมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒. แจ้งผู้รับใบอนุญาตแต่งแร่ ให้ส่งรายงานการแต่งแร่ประจ�ำเดือน (พร. ๕๐๑) ตามประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและ การเหมืองแร่ เรือ่ ง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงือ่ นไขในการรายงานการแต่งแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ และประกาศกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและ การเหมืองแร่ เรื่อง ก�ำหนดแบบพิมพ์อื่นๆ ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๓. แจ้งผูร้ บั ใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ให้สง่ รายงานการประกอบโลหกรรมประจ�ำเดือน (พร. ๖๐๑) ตามประกาศกรมอุตสาหกรรม พื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรายงานการประกอบโลหกรรม พ.ศ. ๒๕๖๐ และประกาศ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง ก�ำหนดแบบพิมพ์อื่นๆ ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๔. ด�ำเนินการตรวจสอบในเบื้องต้น เกี่ยวกับความครบถ้วนและความถูกต้องของรายงานการท�ำเหมืองประจ�ำเดือน รายงาน การแต่งแร่ประจ�ำเดือน (พร. ๕๐๑) และรายงานการประกอบโลหกรรมประจ�ำเดือน (พร. ๖๐๑) เช่น ข้อมูลของประทานบัตร ข้อมูล ของใบอนุญาตแต่งแร่ ข้อมูลของใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ข้อมูลวิศวกรควบคุม ความครบถ้วนในการกรอกรายการ ความสอดคล้อง ของปริมาณแร่ หางแร่ วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ ผลพลอยได้ ตะกรัน และกากของเสีย ที่ยกมากับปริมาณคงคลังหรือปริมาณคงเหลือของ เดือนที่ผ่านมา ความสอดคล้องของเครื่องจักรและคนงานเมื่อเปรียบเทียบกับก�ำลังการผลิตในกรณีที่สังเกตความผิดปกติได้ชัดเจน เป็นต้น แล้วส่งรายงานให้ส�ำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขตที่รับผิดชอบพื้นที่ กรณีข้อมูลการช�ำระค่าภาคหลวงแร่ ในรายงานการท�ำเหมืองประจ�ำเดือน และรายงานการแต่งแร่ประจ�ำเดือน (พร. ๕๐๑) ให้สำ� นักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบและลงนามในช่องส�ำหรับเจ้าหน้าทีผ่ ตู้ รวจสอบ หากเห็นว่าไม่ถกู ต้อง ให้ดำ� เนินการตาม อ�ำนาจหน้าที่ แล้วแต่กรณี จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และถือปฏิบัติ ตามประกาศดังกล่าวต่อไป (นายวิษณุ ทับเที่ยง) อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
4
January-February 2018
8
1 เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2561
คณะกรรมการสภาการเหมืองแร่
1. นายเกรียงศักดิ ์ หล่อวัฒนตระกูล 2. นายเข็มชาติ ว่องชาญกิจ 3. นายยุทธ เอีย่ มสอาด 4. นายดิเรก รัตนวิชช์ 5. นายสุทธิเลิศ วีระไพบูลย์ 6. น.ส.อัญชลี ตระกูลดิษฐ 7. นายศิรชิ ยั มาโนช 8. นายทวี ทวีสขุ เสถียร 9. นายเสกข์สรร ธีระวาณิชย์ 10. นายอนุพงศ์ โรจน์สพ ุ จน์ 11. นายณรงค์ จ�ำปาศักดิ ์ 12. นายสุรชิต มานะจิตต์ 13. นายวัลลภ การวิวฒ ั น์ 14. นายยงยุทธ รัตนสิร ิ 15. นายสุเทพ สุนทรารัณย์ 16. นายศิรสิทธิ ์ สืบศิริ 17. นายอภิชาติ สายะสิญจน์ 18. นายวรพจน์ โพธิแ์ ก้ว
ประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่
เลขาธิการสภาการเหมืองแร่ นายสมพร อดิศกั ดิพ ์ านิชกิจ
ทีอ่ ยู่ สภาการเหมืองแร่
222/2 ซอยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถนนวิภาวดี-รังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2275-7684-6 แฟกซ์ 0-2692-3321 E-mail Contact : miningthai@miningthai.org Website : www.miningthai.org ID LINE : miningthai ที่ปรึกษา : เกรียงศักดิ์ หล่อวัฒนตระกูล ประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ วัลลภ การวิวัฒน์ กรรมการสภาการเหมืองแร่ และประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ สมพร อดิศักดิ์พานิชกิจ เลขาธิการสภาการเหมืองแร่ บรรณาธิการ : กิตติ วิสุทธิรัตนกุล กองบรรณาธิการ : สุรีย์พร วงศ์ศรีตระกูล / ทัศนีย์ เรืองติก / อ�ำพันธุ์ ไตรรัตน์ / ชุติภา จริตพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : เขมจิรา บุญพระรักษา ฝ่ายโฆษณา : ศิริภรณ์ กลิ่นขจร / มนัส ไชยเพส / กษิรา เหมบัณฑิตย์ / กัลยา ทรัพย์ภริ มย์ จัดท�ำโดย : บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จ�ำกัด เลขที่ 471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2354-5333 แฟกซ์ 0-2640-4260 **วารสารเหมืองแร่ จัดท�ำขึน้ เพือ่ ให้ขอ้ มูลข่าวสารทีเ่ ป็นประโยชน์แก่สมาชิกสภาการเหมืองแร่ ประชาสัมพันธ์การด�ำเนินงานและกิจการของสภาฯ ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ ทีเ่ กีย่ วข้องกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ทัง้ นีบ้ ทความต่างๆ ใน วารสารเหมืองแร่ นีเ้ ป็นดุลพินจิ ของกองบรรณาธิการ โดยจะออกทุกๆ 2 เดือน
Contents ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 ประจำ�เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2561
10 15
แวดวงชาวเหมือง Report
กพร. สานต่อโครงการ CSR-DPIM ประจ�ำปี พ.ศ. 2561 ชี้ 8 ปี มีสถานประกอบการเหมืองแร่ได้มาตรฐาน สากล เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมกว่า 90 แห่ง
กองบรรณาธิการ
19
Report
กพร. ชวนผู้ประกอบการเหมืองแร่สมัครคัดเลือก รางวัลอุตสาหกรรม 2561 ชูต้นแบบสู่การพัฒนา เศรษฐกิจประเทศ
กองบรรณาธิการ
20
เหมืองแร่สีเขียว
กพร. ส่งเสริมและพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากร ทดแทน เดินหน้าเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี รีไซเคิลของรัฐแห่งแรก ส.ค. นี้
22
เหมืองแร่สีเขียว
กองบรรณาธิการ
กฟผ. เหมืองแม่เมาะ ลงนามประกาศเจตนารมณ์ ธรรมาภิบาลเหมืองแร่ มุ่งมั่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน
กองบรรณาธิการ
24
Interview
คุณวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่ (กพร.) กพร. เผยยุทธศาสตร์ส่งเสริมเทคโนโลยีรีไซเคิล รองรับอุตสาหกรรมไทย 4.0
กองบรรณาธิการ
30
เหมืองแร่น่ารู้
การรีไซเคิลแก้วและเศษแก้ว
33
เรื่องเล่าจากชาวเหมือง
มยุรี ปาลวงศ์
คนเก่งเหมืองแร่
36
ประกาศกระทรวง อุตสาหกรรม
38
News
รุ่งศักดิ์ อินทร์สิงห์
แวดวงชาวเหมือง l
กองบรรณาธิการ
มิติใหม่ เหมืองแร่ไทย :
ก้าวสู่หลักธรรมาภิบาลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม เป็นประธานในพิธเี ปิดการ ประชุมสัมมนาวิชาการ “มิตใิ หม่ เหมืองแร่ไทย : ก้าวสูห่ ลักธรรมาภิบาลและเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม” (Thailand Green and Smart Mining Forum 2018) ซึง่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และกลุม่ ผูป้ ระกอบการ เหมืองแร่ ร่วมจัดขึ้น เพื่อร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการพัฒนาเหมืองแร่ที่ยึดหลักธรรมาภิบาลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทัง้ ร่วมกันรับทราบข้อมูลความรูเ้ กีย่ วกับแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ. 2560-2564 พระราชบัญญัตแิ ร่ พ.ศ. 2560 และ การด�ำเนินงานด้านการปฏิรปู ระบบบริหารจัดการแร่ของประเทศไทย ซึง่ มีการค�ำนึงถึงสุขภาพของประชาชน วิถชี วี ติ ของชุมชน และสิง่ แวดล้อม พร้อมกันนีไ้ ด้บรรยายในหัวข้อ “มิตใิ หม่ เหมืองแร่ไทย : ก้าวสูห่ ลักธรรมาภิบาลและเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม” ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ. 2560-2564 ในโอกาสนี้ยังมีการลงนามประกาศเจตนารมณ์ร่วมเป็นเหมืองแร่มีธรรมาภิบาลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระหว่าง 3 สมาคม ได้แก่ สภาการเหมืองแร่ สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย สมาคมอุตสาหกรรมย่อยหินไทย และ 8 ผูป้ ระกอบการ กิจการเหมืองแร่ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จ�ำกัด กลุ่มโรงหินหน้าพระลาน จ.สระบุรี ชมรมโรงโม่หิน จ.สระบุรี ชมรมโรงโม่หิน จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มโรงโม่หิน จ.บุรีรัมย์ กลุ่มโรงโม่หินเขาสามง่าม จ.ราชบุรี และ บริษัท สุรินทร์ ศิลาทรัพย์ จ�ำกัด จ.สุรินทร์ ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานและแนวทางการท�ำงานจากผู้ประกอบการเหมืองแร่ที่ได้รับรางวัลการดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมหรือมีการประกอบกิจการที่ดี เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ผู้ประกอบการเหมืองแร่รายอื่นๆ ตลอดจนมีการบรรยาย ให้ความรูเ้ สวนาทางวิชาการในหัวข้อ “มิตใิ หม่ เหมืองแร่ไทย ก้าวสูห่ ลักธรรมาภิบาลและเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม” โดย ทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี วิษณุ ทับเทีย่ ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) รวีวรรณ ภูรเิ ดช เลขาธิการส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรแห่งชาติ (สผ.) เกรียงศักดิ์ หล่อวัฒนตระกูล ประธานกรรมการสภา การเหมืองแร่ และ นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย ท่ามกลางผูป้ ระกอบการเหมืองแร่และผูท้ เี่ กีย่ วข้องเข้าร่วมงาน อย่างคับคั่ง ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมรามา การ์เดนส์ กรุงเทพฯ
10
January-February 2018
พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานในพิธี
เกรียงศักดิ์ หล่อวัฒนตระกูล ประธานกรรมการสภา การเหมืองแร่
ดิเรก รัตนวิชช์ สมาคมอุตสาหกรรมย่อยหินไทย
ประธานสภาการเหมืองแร่ลงนามประกาศเจตนารมณ์ ร่วมเป็นเหมืองแร่มธี รรมาภิบาลและเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม
สมาคมอุ ต สาหกรรมย่ อ ยหิ น ไทยลงนามประกาศ เจตนารมณ์ร่วมเป็นเหมืองแร่มีธรรมาภิบาลและเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม
January-February 2018
11
l
กองบรรณาธิการ
ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
12
January-February 2018
เสวนาทางวิชาการ โดยผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วิทยากรถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
ผู้ประกอบการเหมืองแร่และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมงานคับคั่ง
บูธส�ำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรแห่งชาติ (สผ.) ให้ความรู้ Smart EIA
บูธสภาการเหมืองแร่
January-February 2018
13
ขอเชิญประชุมสามัญสภาการเหมืองแร่ประจ�ำปี 2561 คณะกรรมการสภาการเหมื อ งแร่ ได้กำ� หนดจัดประชุมสามัญประจ�ำปี 2561 เพือ่ เสนอนโยบายและรายงานผลการด�ำเนินงาน พร้ อ มด้ ว ยงบดุ ล ประจ� ำ ปี ในโอกาสนี้ สภาการเหมืองแร่จะจัดให้มกี ารบรรยายพิเศษ เพื่อให้สมาชิกได้รับประโยชน์สูงสุดในการ เข้าร่วมประชุมและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ระหว่างข้าราชการ นักวิชาการ ผูป้ ระกอบการ เหมืองแร่ต่างๆ จากทุกภาคส่วน
ในวันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2561 ณ ห้องแมจิก 2 ชั้น 4 โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีก�ำหนดการดังต่อไปนี้ 08.30-09.30 น. ลงทะเบียน และรับประทานอาหารว่าง 09.30-10.45 น. พิธีเปิดประชุม และบรรยายพิเศษ โดย วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่ 11.00-12.30 น. ด�ำเนินการประชุมสามัญประจ�ำปี 2561 12.30 น. ปิดประชุม และเชิญร่วมรับประทานอาหาร
อธิบดี กพร. ลงพื้นที่เปิดโครงการ “เหมืองแร่ปลอดภัย ห่วงใยประชาชน” วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “เหมืองแร่ปลอดภัย ห่วงใยประชาชน” เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ณ โรงเรียนบ้านคุ้งเขาเขียว ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี โดยได้รับความร่วมมือจากชมรมโรงโม่หินหน้าพระลาน โรงพยาบาล หน้าพระลาน ในการจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ เช่น การตรวจ วัดสายตาและตัดแว่นให้กับผู้ที่มีปัญหาทางสายตา ตรวจเช็คปอด แจกข้าวสาร และ ร่วมกิจกรรมเพื่อลุ้นรับของรางวัล วัตถุประสงค์ในการจัดโครงการ “เหมืองแร่ปลอดภัย ห่วงใยประชาชน” เพื่อ ขานรับนโยบายของรัฐบาลทีใ่ ห้ทกุ กระทรวงมอบของขวัญปีใหม่ให้กบั ประชาชน อีกทัง้ ยังเป็นการส่งเสริมและยกระดับด้านสุขภาพของผู้ประกอบการ เป็นการบูรณาการ ในการท�ำงานของทุกภาคส่วน ในการดูแลสุขภาพของประชาชน
วิษณุ ทับเทีย่ ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและ การเหมืองแร่ (กพร.)
14
January-February 2018
ประธานในพิธเี ยีย่ มชมและร่วมกิจกรรมต่างๆ ทีจ่ ดั ขึ้น
ถ่ายภาพร่วมกับผู้เข้าร่วมโครงการ
ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงโครงการ “เหมืองแร่ ปลอดภัย ห่วงใยประชาชน”
Report
กพร. สานต่อ
โครงการ CSR-DPIM ประจำ�ปี พ.ศ. 2561
ชี้ 8 ปี มีสถานประกอบการเหมืองแร่ได้มาตรฐานสากล เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมกว่า 90 แห่ง
วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)
กรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้กำ�หนดยุทธศาสตร์ในการผลักดัน และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมแร่ผ่าน โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหมืองแร่ให้มมี าตรฐานสากล เพือ่ ความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR-DPIM ซึง่ ได้จดั ต่อเนือ่ ง เป็นปีที่ 8 เพื่อปลูกจิตสำ�นึกให้สถานประกอบการเหมืองแร่ ผู้ประกอบการเหมืองแร่มีมาตรฐานในความรับผิดชอบต่อสังคม สามารถประกอบการได้อย่างต่อเนื่องและอยู่ร่วมกับสังคมและ สิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างความเข้าใจและการ ยอมรับในการนำ�ทรัพยากรแร่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและ เกิดความมั่นคงในระยะยาว วิ ษ ณุ ทั บ เที่ ย ง อธิ บ ดี ก รมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและ การเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า การดำ�เนินงานภายใต้โครงการ ส่งเสริมอุตสาหกรรมเหมืองแร่ให้มีมาตรฐานสากลเพื่อความ รับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR-DPIM ตลอดระยะเวลา 8 ปีทผ่ี า่ นมา มี ส ถานประกอบการเหมื อ งแร่ ที่ ไ ด้ ต ามมาตรฐานสากลเพื่ อ ความรับผิดชอบต่อสังคม รวม 91 แห่ง ในจำ�นวนนี้มีสถาน ประกอบการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย CSR-DPIM จำ�นวน 58 แห่ง โดยสร้างให้เกิดโครงการและแผนงานการพัฒนาร่วมกับ
ชุมชมโดยรอบ ซึ่งนำ�มาสู่ความสัมพันธ์อันดีและ การอยู่ ร่ ว มกั น อย่ า งยั่ ง ยื น ในรู ป แบบต่ า งๆ เช่ น โครงการพัฒนาชุมชนจากผูป้ ระกอบการ CSR-DPIM จำ�นวน 56 โครงการ แผนงานด้านสิง่ แวดล้อม มูลค่า การสนับสนุน และแผนงานยกระดับคุณภาพชีวิต ของผู้มีส่วนได้เสีย เป็นต้น และในปี 2561 นี้ กพร. ยังคงมุ่งมั่น ผลักดันให้สถานประกอบการเหมืองแร่ มี ก ารประกอบการที่ ไ ด้ ม าตรฐานสากลในด้ า น ความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ธุรกิจเหมืองแร่ สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนโดยรอบได้อย่างยั่งยืน ธุรกิจเหมืองแร่ 10 แห่ง คว้ารางวัล CSR-DPIM ประจำ�ปี 2560 สำ�หรับสถานประกอบการทีไ่ ด้รบั รางวัลส่งเสริม อุ ต สาหกรรมเหมื อ งแร่ ใ ห้ มี ม าตรฐานสากลเพื่ อ ความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR-DPIM ประจำ� ปี 2560 มีทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ บริษัท ศิลาชัย สุราษฎร์ จำ�กัด, บริษัท แม่ปิงพนากิจ จำ�กัด, ห้าง หุ้นส่วนจำ�กัด หาญกิติชัย (โรงโม่หินศิลาแม่ทะ), ห้างหุน้ ส่วนจำ�กัด นางรองศิลาทอง, บริษทั สมบูรณ์ ศิลาทอง, บริษทั สุวลี จำ�กัด, บริษทั ศุภศิลาชัย จำ�กัด, บริษัท สันตาเพีย จำ�กัด, บริษัท ตะวันออกพัฒนา จำ�กั ด และบริ ษั ท เอ็ น .ที . เอส.สตี ล กรุ๊ ป จำ�กั ด (มหาชน) สถานประกอบการเหมืองแร่ 64 แห่ง รับรางวัล CSR-DPIM Network 2560 ขณะทีส่ ถานประกอบการทีไ่ ด้รบั รางวัลสถาน ประกอบการเครื อ ข่ า ยที่ มี ก ารดำ�เนิ น งานด้ า น ความรั บ ผิ ด ชอบต่ อ สั ง คมอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง หรื อ CSR-DPIM Network 2560 มี 64 แห่ง แบ่งเป็น January-February 2018
15
ผู้บริหารถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
พิธีมอบโล่และเกียรติบัตรแก่สถานประกอบการ ที่ได้รับรางวัล CSR-DPIM ประจำ�ปี พ.ศ. 2560
พิธีมอบโล่และเกียรติบัตรแก่สถานประกอบการ ที่ได้รับรางวัล CSR-DPIM ประจำ�ปี พ.ศ. 2560
16
January-February 2018
สถานประกอบการประเภทเหมืองแร่ จำ�นวน 23 สถานประกอบการ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทย (กฟผ.) เหมื อ งแม่ เ หมาะ, บริ ษั ท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำ�กัด (มหาชน) (สระบุรี), บริษทั พี.แอนด์ เอส.มิลลิง่ จำ�กัด, ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด ชุตวิ รรณ, บริษทั ปูนซีเมนต์นครหลวง จำ�กัด (มหาชน) เหมื องอิ นทรี สุพ รรณบุ รี , บริ ษั ท ปู นซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำ�กัด, บริษัท พี. แอนด์ เอส. แบไรท์ ไมน์นิ่ง จำ�กัด, บริษัท สุรินทร์ ออมย่า เคมิคอล (ประเทศไทย) จำ�กั ด , บริ ษั ท ชิ น ชนะอิ น ดั ส ตรี้ (ประเทศไทย) จำ�กัด, บริษัท หินเพชร จำ�กัด, บริษทั ราชบุรี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำ�กัด, บริษัท สโตนวัน จำ�กัด (มหาชน), ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด วังศิลา, บริษัท ร็อคส์ ไมน์นิ่ง (ไทยแลนด์) จำ�กัด, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำ�ปาง) จำ�กัด, บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ไทย จำ�กัด (เหมืองแม่ทาน), บริษัท เอ็มอาร์ดี-อีซีซี จำ�กัด, บริษทั ปูนซีเมนต์ ตราลูกโลก จำ�กัด, บริษทั ปรินดา จำ�กัด (มหาชน), บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำ�กัด (มหาชน) โรงงานตาคลี บริษัท ไมน์เค็ม จำ�กัด, บริษัท ผาทองทุ่งสง จำ�กัด และบริษัท ชลประทาน ซีเมนต์ จำ�กัด (มหาชน) โรงงานชะอำ� สถานประกอบการประเภทโรงโม่ บด หรือ ย่อยหิน จำ�นวน 11 แห่ง ได้แก่ บริษัท ศิลาอารี จำ�กัด, ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด ทุ่งนุ้ยศิลาทอง, บริษัท มานะศิลา 2537 จำ�กัด, บริษทั แพร่ธำ�รงวิทย์ จำ�กัด, บริษัท ผาทองทุ่งสง จำ�กัด, บริษัท สยามสโตน แอ๊กกริเกรท จำ�กัด (สำ�นักงานใหญ่ จังหวัดเชียงใหม่), บริ ษั ท นั น ทศิ ล า จำ�กั ด , บริ ษั ท สยามสโตน แอ๊กกริเกรท จำ�กัด (สาขาชลบุร)ี , ห้างหุน้ ส่วนจำ�กัด นางรองศิลาทอง, บริษัท สุรินทร์ศิลาทรัพย์ จำ�กัด และบริษัท พันธ์ประเสริฐเพชรศิลา จำ�กัด สถานประกอบการประเภทโรงแต่งแร่ จำ�นวน 9 แห่ง ได้แก่ บริษทั ชินชนะอินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จำ�กัด, บริษทั พี. แอนด์ เอส. แบไรท์ ไมน์นงิ่ จำ�กัด, บริษัท หล่อวัฒนา จำ�กัด, บริษัท เคมีแมน จำ�กัด, บริษัท สินแร่สาคร จำ�กัด, บริษัท พิพัฒน์กร จำ�กัด, ห้ า งหุ้ น ส่ ว นจำ�กั ด สิ น แร่ เ จริ ญ ผล และบริ ษั ท อิมเมอรี่ส์ มินเนอรัลส์ (ประเทศไทย) จำ�กัด และ สถานประกอบการประเภทโรงประกอบโลหกรรม จำ�นวน 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท จี เจ สตีล จำ�กัด
ผู้บริหาร กพร. ร่วมถ่ายภาพกับผู้ประกอบการที่เข้ารับรางวัล CSR-DPIM ประจำ�ปี พ.ศ. 2560
(มหาชน) จำ�กัด, บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำ�กัด, บริษัท มิลล์คอน สตีล จำ�กัด (มหาชน) และบริษัท มิลล์คอน บูรพา จำ�กัด 4 รางวัลบุคลากรดีเด่น ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม CSR-DPIM One Mine One Person นอกจากนี้ทางโครงการ CSR-DPIM ประจำ�ปี 2560 ยังมอบรางวั ล บุ ค ลากรดีเ ด่นด้านความรับ ผิดชอบต่ อ สั ง คม CSR-DPIM One Mine One Person สาขาด้านการมีสว่ นร่วม และการพัฒนาชุมชน แก่ นภดล ช้างลี้ นักธรณีวิทยา บริษัท พี. แอนด์ เอส. แบไรท์ ไมน์นิ่ง จำ�กัด, สาขาด้านแรงงานและ ชีวอนามัยและความปลอดภัย แก่ รัตนาภรณ์ เพ็ชร์ประพันธ์ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำ�งานระดับวิชาชีพ บริษัท ศิลาอารี จำ�กัด, สาขา Popula Vote แก่ ศรุดา ศรีศิริ ผู้จัดการ แผนกฝึกอบรม บริษทั ผาทองทุง่ สง จำ�กัด และ วันดี คำ�ปวนบุตร พนักงานธุรการและสารบรรณส่วนเหมือง บริษทั ปูนซิเมนต์ไทย (ลำ�ปาง) จำ�กัด
ISO กำ�หนดมาตรฐานความรับผิดชอบ ต่อสังคมของผู้ประกอบการเหมืองแร่ ตามแนวทางมาตรฐานสากล ISO 26000 ภูวนัย ธรรมสถิตย์ เจ้าหน้าที่จากสถาบัน รับรองมาตรฐานไอเอสโอ กล่าวถึงโครงการ CSRDPIM ประจำ�ปี 2561 ว่า โครงการฯ มีระยะเวลา ดำ�เนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560-เดือน กรกฎาคม 2561 เป็นต้นมา ซึ่งทางไอเอสโอจะ แนะนำ�รายละเอียดมาตรฐานความรับผิดชอบของ โครงการ CSR-DPIM แก่ผู้ประกอบการ สถาน ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมทราบ เพื่อจะได้เข้าใจ เป็ น ข้ อ มู ล เบื้ อ งต้ น โดยทางไอเอสโอได้ กำ�หนด มาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมของผูป้ ระกอบการ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ ตามแนวทางของมาตรฐาน สากล ISO 26000 ซึ่งเป็นแนวทางมาตรฐานที่ ประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำ�คัญ ประกอบด้วย การกำ�กับดูแลองค์กร หลักสิทธิมนุษยชน การ ปฏิบัติด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม การดำ�เนินงาน January-February 2018
17
อนุ กัลลประวิทย์ ผู้อำ�นวยการกองบริหารสิ่งแวดล้อม
ภูวนัย ธรรมสถิตย์ เจ้าหน้าที่จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ
บรรยากาศภายในงาน
18
January-February 2018
ในปี 2561 มาตรฐานสากล ในด้านความรับผิดชอบ ต่อสังคม เพื่อให้ธุรกิจ เหมืองแร่สามารถอยู่ ร่วมกับชุมชนโดยรอบ ได้อย่างยั่งยืน อย่างเป็นธรรม ผู้ใช้แร่ และการมีส่วนร่วมในการ พัฒนาชุมชนตามกรอบกฎหมายและข้อกำ�หนด ของสังคมในพื้นที่นั้นๆ โดยสถานประกอบการที่ เข้าร่วมโครงการจะต้องทบทวนการประกอบการ ตามมาตรฐานทุกด้าน เพื่อกำ�หนดโครงการหรือ แผนงานที่ ต้ อ งปฏิ บั ติ ห รื อ ควรปฏิ บั ติ เ พิ่ ม เติ ม ให้ เป็นไปตามมาตรฐานที่กำ�หนด รวมทั้งเพื่อนำ�ไป ประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการประกอบการ ให้ความรับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาว โดยผ่าน กิจกรรมฝึกอบรม จัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ จัดทำ�รายงานด้านการพัฒนาอย่างยัง่ ยืน ซึง่ ไอเอสโอ ร่วมกับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ทำ�หน้าที่ฝึกอบรม จัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ เข้าตรวจสถานประกอบการ แล้วนำ�ผลมาประเมิน พิจารณาผลโดยคณะกรรมการทีท่ างกรมอุตสาหกรรม พื้นฐานและการเหมืองแร่แต่งตั้งและประกาศผล การดำ�เนิ น งานของโครงการแก่ ผู้ ป ระกอบการที่ เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ จ ะคอยให้ คำ�ชี้ แ นะเรื่ อ งอื่ น ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ นำ�ไปปรั บ ใช้ ต ามขี ด ความสามารถและความ เหมาะสมของแต่ละสถานประกอบการ
Report
กพร.
ชวนผู้ประกอบการเหมืองแร่ สมัครคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรม 2561 ชูต้นแบบสู่การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ
กรมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและการเหมื อ งแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม เชิญชวนผูป้ ระกอบการภาคอุตสาหกรรม สมั ค รเข้ า รั บ การคั ด เลื อ กรางวั ล อุ ต สาหกรรม ประจำ�ปี พ.ศ. 2561 หวังสร้างแรงจูงใจและแบบอย่างความสำ�เร็จของ ภาคอุตสาหกรรมนำ�สูก่ ารพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รองรับ การแข่งขันในตลาดโลก วิษณุ ทับเทีย่ ง รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและ การเหมื องแร่ รัก ษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตสาหกรรม พืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า คณะกรรมการจัดงาน รางวั ล อุ ต สาหกรรม ประจำ�ปี พ.ศ. 2561 ของกระทรวง อุ ต สาหกรรม ได้ มี ป ระกาศรั บ สมั ค รผู้ ป ระกอบการภาค อุตสาหกรรมเข้ารับการคัดเลือกเพื่อรับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำ�ปี พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของภาค อุตสาหกรรมไทยทีไ่ ด้รบั มอบจากนายกรัฐมนตรีเป็นประจำ�ทุกปี เพื่ อ เป็ น กำ�ลั ง ใจและเป็ น แบบอย่ า งแก่ ผู้ ป ระกอบการภาค อุตสาหกรรมให้มคี วามคิดริเริม่ สร้างสรรค์ ความวิรยิ ะอุตสาหะ สร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ขานรับ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 และขั บ เคลื่ อ นการพั ฒ นาภาค อุตสาหกรรมไทยไปสู่ Industry 4.0 เพื่อมุ่งให้เกิดการยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศได้ในอนาคต รวมถึงสร้างเครือข่ายการเชื่อมโยงจากนโยบายรัฐไปยังภาค อุ ต สาหกรรมให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมากยิ่ ง ขึ้ น โดยกระทรวง อุตสาหกรรมจะเข้ามามีบทบาทสำ�คัญทุกด้าน ทั้งการส่งเสริม องค์ความรู้ การสร้างบุคลากรทีเ่ ป็นมืออาชีพให้กระจายสูภ่ มู ภิ าค ทั้งนี้ เพื่อปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ ภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่เวทีการค้าโลก
สำ�หรับกำ�หนดจัดพิธมี อบรางวัลในเดือนสิงหาคม 2561 ที่ทำ�เนียบรัฐบาล โดยรางวัลอุตสาหกรรมประกอบด้วยรางวัล อุตสาหกรรมยอดเยี่ยม 1 รางวัล และในปีนี้มีการปรับเปลี่ยน รางวั ล อุ ต สาหกรรมดี เ ด่ น เป็ น 9 ประเภทรางวั ล จากเดิ ม 7 รางวัล ประกอบด้วย 1) ประเภทการเพิม่ ผลผลิต 2) ประเภท การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3) ประเภทการบริหารความ ปลอดภัย 4) ประเภทการบริหารงานคุณภาพ 5) ประเภทการ จัดการพลังงาน 6) ประเภทการบริหารอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดย่อม 7) ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อปุ ทาน 8) ประเภทอุตสาหกรรมศักยภาพ 9) ประเภทความรับผิดชอบ ต่อสังคม ทั้งนี้ ประเภทรางวัลที่เพิ่มขึ้นใหม่ 2 ประเภทรางวัล คือ ประเภทอุตสาหกรรมศักยภาพ และประเภทความรับผิดชอบ ต่อสังคม เพื่อรองรับและสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวง อุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต รวมถึง เสริมสร้างศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมให้มีความเข้มแข็ง และเติบโตอย่างยั่งยืน มีความรับผิดชอบต่อสังคม สามารถ แข่งขันได้ในตลาดโลก กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ในฐานะเป็น หน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรม ประจำ�ปี พ.ศ. 2561 จึงกำ�หนดแผนดำ�เนินงาน ประกอบด้วย การ ประชาสัมพันธ์การรับสมัครและชี้แจงหลักเกณฑ์การคัดเลือก การนำ�เสนอผลการดำ�เนิ น งาน การตรวจประเมิ น ที่ ส ถาน ประกอบการ ตลอดจนการตัดสิน ผลการคัดเลือก รวมทั้งจัด พิธีมอบรางวัล ทั้งนี้ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่มีความ สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกสามารถยืน่ ใบสมัครได้ตงั้ แต่บดั นี้ จนถึงวันปิดรับสมัคร ในวันที่ 16 มีนาคม 2561
ผู้ประกอบการสามารถยื่นใบสมัครหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โทร. 0-2202-3856, 0-2202-3904, 0-2202-3555 January-February 2018
19
เหมืองแร่สีเขียว l
กองบรรณาธิการ
กพร. ส่งเสริมและพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน เดินหน้าเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลของรัฐแห่งแรก ส.ค. นี้ กรมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและการเหมื อ งแร่ (กพร.) ตัง้ เป้าส่งเสริมและพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ด้านแร่ โลหะ และสารประกอบโลหะ เพื่อรองรับการพัฒนา อุตสาหกรรมไทย 4.0 ที่เน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วย นวัตกรรม การสร้างการมีสว่ นร่วม และการพัฒนาทีเ่ ป็นมิตรต่อ สิง่ แวดล้อม เดินหน้าเปิดศูนย์วจิ ยั และพัฒนาเทคโนโลยีรไี ซเคิล ของรัฐแห่งแรกของประเทศไทยภายในเดือนสิงหาคม ศกนี้ วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและ การเหมื อ งแร่ (กพร.) กล่ า วว่ า ตามนโยบายการพั ฒ นา อุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมไทย 4.0 กระทรวงอุตสาหกรรมได้ มีการปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมทีเ่ น้นการขับเคลือ่ น อุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรม การสร้างการมีส่วนร่วม และการ พัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กพร. ถือเป็นหน่วยงานหนึ่ง ที่มีการปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น โดยมุ่งเน้นการดำ�เนินงานในฐานะที่เป็นหน่วยงานจัดหาและ บริหารจัดการวัตถุดิบ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านวัตถุดิบ ให้ แ ก่ ภ าคอุ ต สาหกรรม ทั้ ง วั ต ถุ ดิ บจากแหล่ ง แร่ ธ รรมชาติ (Natural Mineral Resources หรือ Primary Raw Materials) วัตถุดบิ ทดแทนทีไ่ ด้จากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย (Secondary Raw Materials) และวัตถุดบิ ขัน้ สูง (Advanced Raw Materials) ที่เป็นแร่ โลหะ สารประกอบโลหะชั้นคุณภาพสูง เพื่อรองรับ การพั ฒ นาอุ ต สาหกรรมเป้ า หมายในอนาคตของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการ ท่องเทีย่ วเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยี ชีวภาพ และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-curve) ได้แก่ อุตสาหกรรม หุ่นยนต์ อุตสาหกรรม
20
January-February 2018
การบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมี ชี ว ภาพ อุ ต สาหกรรมดิ จิ ทั ล และอุ ต สาหกรรมการแพทย์ ครบวงจร รวมทัง้ รองรับการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานขนาดใหญ่ หรือ Mega Projects ของรัฐบาล ในการพัฒนาอุตสาหกรรม เป้าหมาย (ยกเว้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว) และโครงสร้าง พืน้ ฐานขนาดใหญ่ดงั กล่าว จำ�เป็นต้องใช้วตั ถุดบิ ตัง้ ต้นทีเ่ ป็นแร่ โลหะ สารประกอบจากแร่และโลหะ ที่มีความหลากหลาย มีคุณภาพสูง มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ และสามารถ แข่งขันได้ในตลาดโลก ในเรือ่ งของวัตถุดบิ ทดแทนทีม่ าจากการรีไซเคิลขยะหรือ ของเสีย กพร. ได้ให้ความสำ�คัญกับการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย เพือ่ แยกสกัดแร่และโลหะกลับมาใช้ประโยชน์ รวมถึงแปรรูปเป็น พลังงานทดแทน หรือที่เรียกกันในหลายประเทศว่า “การทำ� เหมืองแร่ในเมือง” หรือ “Urban Mining” โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ได้ดำ�เนินโครงการต่อเนือ่ ง เพือ่ ส่งเสริม การนำ�ขยะ วัสดุเหลือใช้ รวมถึงผลพลอยได้ (By-products) จากกระบวนการผลิต กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นแหล่ง ทรัพยากรทดแทนให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ลดการใช้ทรัพยากร ธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน รวมทัง้ ส่งเสริมให้เกิดการขับเคลือ่ นสู่ Zero Waste Society โดยอาศั ย จุ ด แข็ ง ของกรมฯ ที่ มี ผู้ เ ชี่ ย วชาญด้ า น เทคโนโลยีแต่งแร่ และด้านเทคโนโลยีโลหการ ซึ่งเป็นรากฐาน ของเทคโนโลยี รี ไ ซเคิ ล ร่ ว มดำ�เนิ น งานกั บ ที่ ป รึ ก ษาที่ เ ป็ น ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อให้วัสดุเหลือใช้และ กากของเสียที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเฉลี่ย 50 ล้านตันต่อปี กลายเป็นแหล่งวัตถุดิบด้านแร่ โลหะ และพลังงานทดแทน ทีส่ ำ�คัญของประเทศ ซึง่ จากการติดตามประเมินผลการดำ�เนินงาน ที่ผ่านมาจากผู้ประกอบการที่ได้รับการฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ ความรู้ แ ละเทคโนโลยี รี ไ ซเคิ ล จาก กพร. พบว่ า ก่ อ ให้ เ กิ ด มูลค่าเพิม่ ในประเทศจากการลงทุนและ/หรือการรีไซเคิลของเสีย
เป้าหมาย 100–130 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบนั กพร. มีเทคโนโลยี รีไซเคิลขยะหรือของเสีย รวม 69 ชนิด โดย 39 ชนิด ได้พัฒนา เป็นเทคโนโลยีรีไซเคิลต้นแบบของ กพร. ซึ่งมีศักยภาพในการ ถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ วิษณุ กล่าวว่า ประเทศไทยมีขยะหรือของเสียเกิดขึน้ เฉลีย่ 50 ล้านตันต่อปี เป็นของเสียครัวเรือน 25-26 ล้านตันต่อปี โดย มีสัดส่วนการใช้ประโยชน์ในประเทศเฉลี่ยเพียง 18-20% และ ของเสียอุตสาหกรรม 25-30 ล้านตันต่อปี มีสัดส่วนการใช้ ประโยชน์ในประเทศเฉลี่ย 70-75% ซึ่งหากสามารถเพิ่มอัตรา การใช้ประโยชน์ของเสียครัวเรือนและอุตสาหกรรมได้อีก 10% และมีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขยะหรือของเสียที่มี ประสิทธิภาพและครบวงจรตัง้ แต่กจิ กรรม/กระบวนการทีก่ อ่ ให้ เกิดของเสีย กระบวนการคัดแยก การจัดเก็บรวบรวม การขนส่ง การรี ไ ซเคิ ล การบำ�บั ด และการกำ�จั ด รวมถึ ง การพั ฒนา เทคโนโลยีการรีไซเคิลในประเทศ คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มใน ประเทศจากการลงทุน/การนำ�ของเสียเป้าหมายกลับมาใช้ ประโยชน์ใหม่เพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี โดย กุญแจสำ�คัญ คือ การสร้างความร่วมมือแบบ 3 ฝ่าย ระหว่าง รัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา
“ด้วยนวัตกรรมและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เราสามารถเปลีย่ นขยะหรือของเสียให้กลายเป็นแหล่งทรัพยากร ทดแทนที่สำ�คัญ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในอนาคตของประเทศได้ ดั ง เช่ น ในประเทศที่ พั ฒ นาแล้ ว ซึ่งหลายประเทศไม่มีแหล่งแร่ธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นการ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหา มลพิ ษ ต่ อ สิ่ ง แวดล้ อ มและชุ ม ชน ตามแนวทางการพั ฒ นา อุตสาหกรรมทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม รวมทัง้ ส่งเสริมให้เกิดการ ขับเคลื่อนสู่ Zero Waste Society” วิษณุ กล่าว ภายในเดือนสิงหาคม 2561 นี้ กพร. จะเปิดศูนย์วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีรไี ซเคิลของรัฐแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลทั้งในระดับ ห้องปฏิบัติการ (Lab Scale) และขยายผลไปสู่โรงงานต้นแบบ (Pilot Scale) เพือ่ ผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยีรไี ซเคิลสูก่ าร ผลิตในเชิงพาณิชย์ รวมทัง้ เป็นต้นแบบให้ผปู้ ระกอบการได้ศกึ ษา เรียนรู้กระบวนการรีไซเคิล และการจัดการมลพิษที่เกิดขึ้นตาม หลั กวิ ชาการ โดยจะสามารถรองรั บ การฝึ กอบรมถ่ายทอด เทคโนโลยีรีไซเคิลให้แก่ผู้ประกอบการทั้งใน Lab Scale และ Pilot Scale ได้ไม่น้อยกว่า 200 รายต่อปี
January-February 2018
21
เหมืองแร่สีเขียว l
กองบรรณาธิการ
กฟผ. เหมืองแม่เมาะ
ลงนามประกาศเจตนารมณ์ธรรมาภิบาลเหมืองแร่ มุ่งมั่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
กฟผ. เหมืองแม่เมาะ ร่วมกับสภาการเหมืองแร่ และ ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ ลงนาม ประกาศเจตนารมณ์ธรรมาภิบาลเหมืองแร่ เพื่ อ มุ่ ง มั่ น ให้ ก ารประกอบกิ จ การเหมื อ งแร่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคมและ สุขภาพประชาชน พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีลงนาม ประกาศเจตนารมณ์ธรรมาภิบาลเหมืองแร่ ระหว่าง เหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับกิจการเหมืองแร่ไทย สภาการเหมืองแร่ สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย สมาคมอุตสาหกรรม ย่อยหินไทย และผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ เพื่อมุ่งมั่นให้การประกอบกิจการ เหมื อ งแร่ เ ป็ น มิ ต รต่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม รั บ ผิ ด ชอบต่ อ สั ง คมและสุ ข ภาพประชาชน 22
January-February 2018
ภายในงานประชุมสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “มิตใิ หม่ เหมืองแร่ไทย : ก้าวสูห่ ลักธรรมาภิบาล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” (Thailand Green and Smart Mining Forum 2018) ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่ ง แวดล้ อ ม ร่ ว มกั บ กระทรวง อุตสาหกรรม ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ บรรพต ธีระวาส ผูช้ ว่ ยผูว้ า่ การเหมือง แม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึง่ เป็นผูแ้ ทนในการร่วมลงนามครัง้ นี้ กล่ า วว่า กฟผ. ร่ ว มลงนามเพื่ อประกาศ เจตนารมณ์ชัดเจนว่า กฟผ. มีความมุ่งมั่น พัฒนาการประกอบกิจการเหมืองแร่ของ
กฟผ. โดยยึ ด หลั ก ธรรมาภิ บ าล มุ่ ง สู่ ค วามเป็ น มิ ต ร ต่อสิ่งแวดล้อม เอาใจใส่สงั คม และดูแลสุขภาพประชาชน โดยรอบพื้นที่เหมืองแร่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เหมืองแม่เมาะ เป็นเหมืองแร่ลิกไนต์ท่ีใหญ่ที่สุดใน ภาคพืน้ เอเชียอาคเนย์ มีภารกิจในการผลิตและส่งถ่านหิน เพือ่ ใช้เป็นเชือ้ เพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า แม่เมาะ มีการควบคุมผลกระทบสิง่ แวดล้อมให้มคี า่ อยูใ่ น เกณฑ์มาตรฐานหรือดีกว่ามาตรฐานทีท่ างราชการกำ�หนด และปฏิบัติตามมาตรการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (EIA) ที่กำ�หนดอย่างเคร่งครัด ทั้งยังมีการ ดู แ ลสุ ข ภาพชุ ม ชนภายใต้ ก องทุ น เฝ้ า ระวั ง สุ ข ภาพ ประชาชนรอบพืน้ ทีเ่ หมืองแร่ โดยจัดหน่วยแพทย์เคลือ่ นที่ ตรวจสุขภาพประชาชนเป็นประจำ�ทุกปี จัดอบรมให้ความรู้ และจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เพือ่ ให้ชมุ ชนทีอ่ ยูโ่ ดยรอบ มีสุขภาพอนามัยที่ดี
บรรพต ธีระวาส
“เหมื อ งแม่ เ มาะได้ มี ก ารบู ร ณาการแผนการพั ฒ นา คุณภาพชีวิตราษฎร ร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อ ให้การช่วยเหลือเป็นไปตามความต้องการของชุมชนมากที่สุด เช่น ส่งเสริมการทำ�เกษตรอินทรีย์ และการจ้างแรงงานท้องถิ่น เป็นต้น นอกจากนีไ้ ด้มกี ารแต่งตัง้ ตัวแทนชุมชนเข้ามามีสว่ นร่วม ตรวจวัดสิ่งแวดล้อมกับ กฟผ. อย่างต่อเนื่อง เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจให้กับชุมชน และมีการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ควบคู่ไปกับการทำ�เหมือง โดยการ จัดตั้ง “กองทุนฟื้นฟูสภาพเหมือง” เพื่อจัดสรรเป็นค่าใช้จ่าย ในการดำ�เนินงานฟื้นฟูสภาพเหมืองตลอดอายุประทานบัตร โดยดำ�เนินการปลูกป่าทดแทนไปแล้วหมื่นกว่าไร่ พร้อมพัฒนา พืน้ ทีใ่ ห้เป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วและแหล่งเรียนรูด้ า้ นพลังงานของ ชุ ม ชน จนทำ � ให้ เ หมื อ งแม่ เ มาะกลายเป็ น แหล่ ง ท่ อ งเที่ ยวที่ สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดลำ�ปาง” บรรพต กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
January-February 2018
23
Interview
คุณวิษณุ ทับเที่ยง
อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)
กพร. เผยยุทธศาสตร์ส่งเสริมเทคโนโลยีรีไซเคิล รองรับอุตสาหกรรมไทย 4.0 ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการใช้ทรัพยากรแร่ เพือ่ ใช้เป็นวัตถุดบิ ในการผลิตสินค้าเพือ่ ตอบสนองความต้องการ ของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทรัพยากรแร่เป็นวัตถุดิบ ตั้งต้นที่ส�ำคัญในการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค และสิง่ อ�ำนวยความสะดวกต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องและมีความจ�ำเป็น ต่อการใช้ในชีวิตประจ�ำวัน แต่ทว่าแร่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ ประเภทที่ใช้แล้วหมดไป และมีแนวโน้มขาดแคลนเพิ่มขึ้นจาก ปริมาณส�ำรองแร่ทลี่ ดลง ประกอบกับกระแสการอนุรกั ษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้น ท�ำให้การขยาย พืน้ ทีท่ ำ� เหมืองแร่ในประเทศไทยและพืน้ ทีใ่ นต่างประเทศเป็นไป ได้ยาก ดังนัน้ กรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ในฐานะที่ เ ป็ น หน่ ว ยงานบริ ห ารจั ด การการใช้ ท รั พ ยากรแร่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ภายใต้การบริหารงานของ คุ ณ วิ ษ ณุ ทั บ เที่ ย ง อธิ บ ดี ก รมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและ การเหมืองแร่ (กพร.) จึงได้ตระหนักในการหามาตรการรีไซเคิล ของเสียที่มีแร่เป็นองค์ประกอบให้กลายเป็นแหล่งทรัพยากร แร่ทดแทน รวมถึงการแปรรูปให้เป็น ผลิตภัณฑ์ได้อย่างเป็น รูปธรรม ซึ่งจะเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นคง ด้านวัตถุดิบในอนาคตให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ทั้งด้านแร่ โลหะ และพลังงาน อันจะเป็นการเพิม่ ขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ ตลอดจนลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและ สุขภาพอนามัยของประชาชน ซึง่ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาประเทศ อย่างมั่นคงและยั่งยืน คุณวิษณุ ทับเทีย่ ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและ การเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวในงานแถลงข่าว “กพร. ส่งเสริม เทคโนโลยี รี ไ ซเคิ ล รองรั บ อุ ต สาหกรรมไทย 4.0” ว่ า กรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ในฐานะทีเ่ ป็น หน่วยงานบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรแร่ให้เกิดประโยชน์สงู สุด 24
January-February 2018
ต่อประเทศ รวมทั้งสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบให้เพียงพอต่อ สู่ Industry 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล ที่เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความต้องการใช้ของภาคอุตสาหกรรม ได้ตระหนักถึงความส�ำคัญ ด้วยนวัตกรรม ของการรีไซเคิลของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ โดยได้ด�ำเนิน โครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้มีการน�ำของเสียทั้งจากภาค กพร. ผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยก้าวสู่ ครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ตั้งแต่ Industry 4.0 ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปี 2551 ซึ่งได้ทำ� การส�ำรวจ ศึกษา และจัดท�ำแผนผังการไหล วัตถุดิบ คุณวิษณุ กล่าวว่า กพร. พร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการ ในปัจจุบันของวัสดุเหลือใช้และกากของเสีย (Waste Flow) ใน ประเทศไทย ศึกษาและเปรียบเทียบแผนผังการไหลของวัสดุ ไทยก้าวสู่ Industry 4.0 ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมวัตถุดิบ เหลือใช้และกากของเสียเป้าหมายของประเทศไทย กับแผนผัง โดยก�ำหนดหลักการด�ำเนินงานด้วยการส่งเสริมการพัฒนา การไหลของวัสดุเหลือใช้และกากของเสียของประเทศที่พัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรมวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมเพื่อสร้าง แล้ว ซึ่งประสบความส�ำเร็จในการพัฒนาให้วัสดุเหลือใช้และ มูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ หาแหล่งวัตถุดิบทดแทนในอนาคต กากของเสียกลายเป็นแหล่งวัตถุดิบและพลังงานทดแทนของ อีกทั้ง ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของ ประเทศ พร้อมทั้งจัดท�ำแผนผังการไหลเชิงยุทธศาสตร์ของ บุคลากรผู้ปฏิบัติงานให้มีความรู้ความสามารถในการวิจัยให้ วัสดุเหลือใช้และกากของเสีย มากขึน้ พร้อมๆ กับการพัฒนา (Strategic Waste Flow) ของ ระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศ หากมี ค วามจ� ำ เป็ น ที ่ จ ะต้ อ งแก้ ไ ข ประเทศไทย เพื่อพัฒนาให้ เพื่ อ การวิ จั ย และพั ฒ นา ระเบีย บ ประกาศ ข้ อ บั งคับอื่ นๆ รวมถึ ง รวมถึ ง การให้ บ ริ ก ารแก่ เป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน กฎหมาย ที่ เ ป็ น อุ ป สรรคต่ อ การพั ฒ นา ผู ้ ป ระกอบการบน Digital และสร้ า งความมั่ น คงทาง วัตถุดิบในอนาคตให้แก่ภาค เทคโนโลยีเพือ่ สร้างนวัตกรรมวัตถุดบิ ในภาค Platform และให้ความช่วยเหลือ อุ ต สาหกรรมของประเทศ อุตสาหกรรม ซึ่งจะเกิดผลดีต่อการลงทุน ในการปรับปรุงประสิทธิภาพ พั ฒนา ปรั บ ปรุงคลังข้อ มูล ของภาคเอกชนและเศรษฐกิจโดยรวมของ ก ร ะ บ ว น ก า ร ผ ลิ ต แ ก่ ผูป้ ระกอบการอย่างสม�ำ่ เสมอ อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ สนั บ สนุ น ประเทศ ทาง กพร. ก็ พ ร้ อ มด� ำ เนิ น การอย่ า ง เพื่ อให้ เ กิ ด ความร่วมมือกัน การบริ ห ารจั ด การแผนผั ง เร่งด่วน เพื่อสร้างฐานและความมั่นคงให้ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและ การไหลของวัสดุเหลือใช้และ วัตถุดิบแร่มีใช้อย่างยั่งยืนต่อไป นวัตกรรม อีกทั้งส่งเสริมและ กากของเสี ย ของประเทศ สนั บ สนุ น ให้ ผู ้ ป ระกอบการ วัตถุดบิ เพือ่ สร้างความมัน่ คง ทางด้านวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ทั้งวัตถุดิบจากแหล่ง ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ มีส่วนร่วมในการ ธรรมชาติ (Natural Raw Materials) วัตถุดบิ ทดแทน (Secondary พัฒนาเทคโนโลยีตั้งแต่เริ่มโครงการเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม และเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมทั้งให้ความ Raw Materials) ทีไ่ ด้จากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย และวัตถุดบิ ขัน้ สูง (Advanced Raw Materials) ทีเ่ ป็นแร่ โลหะ และสารประกอบ ช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ตา่ งๆ ส่งผลให้งานวิจยั และพัฒนา โลหะชั้นคุณภาพสูง ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการวิจัยและ เทคโนโลยีทำ� ได้เร็วขึน้ และสามารถช่วยประหยัดเงินงบประมาณ พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมเหมืองแร่และ ของภาครัฐได้ “หากมีความจ�ำเป็นทีจ่ ะต้องแก้ไขระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ โลหกรรม อุตสาหกรรมพืน้ ฐานและอุตสาหกรรมต่อเนือ่ ง พร้อม ถ่ายทอดให้ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้มีศักยภาพ อื่นๆ รวมถึงกฎหมาย ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเทคโนโลยี รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคตของประเทศ เพื่อสร้างนวัตกรรมวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะเกิดผลดี โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve ซึ่งการให้ความส�ำคัญ ต่อการลงทุนของภาคเอกชนและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ กับอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน�้ำจนถึงปลายน�้ำจะส่งผลให้ภาค ทาง กพร. ก็พร้อมด�ำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างฐานและ อุตสาหกรรมทัง้ ระบบมีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก ความมั่นคงให้วัตถุดิบแร่มีใช้อย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งทรัพยากรแร่ และมีความยัง่ ยืน สอดรับตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม ทีไ่ ด้จากวัตถุดบิ จากแหล่งแร่ธรรมชาติ จากผูป้ ระกอบการ จาก January-February 2018
25
คุณวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) วัตถุดบิ ทดแทนทีไ่ ด้จาการรีไซเคิลหรือขยะ จากของเสีย ซึง่ เป็น Secondary Raw Materials และวัตถุดิบขั้นสูง หรือ Advance Raw Materials ทีเ่ กิดมาจากการพัฒนาต่อยอดวัตถุดบิ แร่โลหะ หรือส่วนประกอบที่ผลิตมาจากแร่หรือโลหะที่ต่อยอด พัฒนา วัตถุดิบที่มีคุณค่าขั้นสูงขึ้นเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรม เป้าหมายของรัฐบาลในอนาคต ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ส่วนอุตสาหกรรมอนาคตที่ภาครัฐ ก�ำลังเร่งส่งเสริมและผลักดัน ได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงเคมี ชีวภาพและชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์แบบครบวงจร” นอกจากนี้ กพร. พยายามมองหาวัตถุดิบในการพัฒนา โครงสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งในส่วนที่เป็นเมกะโปรเจกต์ และระบบสาธารณูปโภคขัน้ พืน้ ฐาน การก่อสร้างเส้นทางคมนาคม ทัง้ ระบบ การพัฒนาท่าเรือ หรือการแบ่งพัฒนาอุตสาหกรรมอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องต้องใช้แร่และโลหะ หรือส่วนทีท่ ำ� มาจากแร่และโลหะ ซึง่ วัสดุทวี่ า่ นีต้ อ้ งมีความหลากหลาย ต้องมีคณ ุ ภาพสูง ทีส่ ำ� คัญ ทีส่ ดุ คือต้องมีปริมาณเพียงพอในราคาทีเ่ ข้าถึงได้ และเหมาะสม เพื่อที่จะท�ำให้ภาคอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบเหล่านี้สามารถ แข่งขันได้ในตลาดโลก
26
January-February 2018
กพร. วางยุทธศาสตร์การท�ำงาน สร้างประโยชน์ ให้เกิดสูงสุด
ส�ำหรับยุทธศาสตร์ในการท�ำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดร่วมกันนั้น คุณวิษณุ กล่าวว่า กพร. ต้องการให้ทุกฝ่าย ร่วมกันท�ำงานมากกว่าทีจ่ ะแยกกันท�ำ ต่างคนต่างท�ำ โดยเฉพาะ อย่างยิง่ ภาครัฐ เอกชน รวมทัง้ สถาบันการศึกษา ควรสร้างความ ร่วมมือและการพัฒนา สร้างเครือ่ งมือการรีไซเคิลเพือ่ ท�ำงานไป ในทิศทางเดียวกัน ท�ำโจทย์ตัวเดียวกันแล้วพัฒนาไปด้วยกัน เพราะหากพั ฒนาไปด้ ว ยกั น ในทิ ศ ทางและแนวการท� ำ งาน เดียวกัน จะช่วยให้การบริหารจัดการขยะเกิดประสิทธิภาพ กลายเป็นทรัพยากรส�ำคัญที่จะรองรับอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งที่ เป็นเป้าหมายในอนาคตและในปัจจุบัน “ส�ำหรับของเสียทีม่ นี นั้ ท�ำได้โดยใช้กระบวนการรีไซเคิลทีด่ ี ในส่วนของประเทศไทยใช้ทรัพยากรแร่เกือบหมดแล้วเช่นกัน จึงได้นำ� ประโยชน์ของขยะรีไซเคิลทีม่ สี ว่ นผสมของแร่กลับมาใช้ ใหม่อีกครั้ง ซึ่งการน�ำขยะหมุนเวียนที่รีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่นี้ ยังช่วยลดปัญหาก่อมลพิษท�ำลายสิง่ แวดล้อมได้อกี ทางหนึง่ ด้วย โดย กพร. ก�ำลังด�ำเนินทิศทางการใช้วตั ถุดบิ ในภาคอุตสาหกรรม ทีเ่ ป็นซัพพลายเชน มีการท�ำงานทีท่ ำ� ให้เกิดความเชีย่ วชาญมาก ยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้หลักการต่างๆ ในการที่จะ ท�ำการรีไซเคิลขยะ รีไซเคิลของเสียจากโรงงาน หรือจากของทิ้ง ในบ้านเรือน แล้วน�ำกลับมาใช้ใหม่อย่างไม่ก่อมลพิษ”
รีไซเคิลวัตถุดิบที่เป็นของเสียให้กลับมา ใช้ประโยชน์ ใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มปีละกว่า 130 ล้านบาท
ด้านวัตถุดบิ ทดแทนทีม่ าจากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย นั้น กพร. ได้ให้ความส�ำคัญกับการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย เพื่อแยกสกัดแร่และโลหะกลับมาใช้ประโยชน์ รวมถึงแปรรูป เป็นพลังงานทดแทน หรือทีเ่ รียกกันในหลายประเทศว่า “การท�ำ เหมืองแร่ในเมือง” หรือ “Urban Mining” โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ได้ดำ� เนินโครงการต่อเนือ่ ง เพือ่ ส่งเสริม การน�ำขยะ วัสดุเหลือใช้ รวมถึงผลพลอยได้ (By-products) จากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นแหล่ง ทรัพยากรทดแทนให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ลดการใช้ทรัพยากร ธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนสู่ Zero Waste Society จากผูเ้ ชีย่ วชาญด้านเทคโนโลยีแต่งแร่ และด้านเทคโนโลยี โลหการของ กพร. ร่วมด�ำเนินงานกับทีป่ รึกษาทีเ่ ป็นผูเ้ ชีย่ วชาญ จากหน่วยงานต่างๆ “ปัจจุบนั กพร. ได้พฒ ั นาแร่ทพี่ บในขยะรีไซเคิลไปแล้วกว่า 69 ชนิด ซึ่งบางชนิดที่สกัดได้อาจจะยังอยู่ในระดับห้องทดลอง และยังไม่ได้น�ำมาใช้งานจริงได้ทั้งหมด โดยขณะนี้มี 39 ชนิด ทีท่ าง กพร. ได้พฒ ั นาเป็นเทคโนโลยีตน้ แบบ เพือ่ น�ำกลับมาใช้งาน อีกครั้ง และพร้อมที่จะถ่ายทอดให้ผู้ประกอบการน�ำไปปรับใช้ ในการลงทุนได้ โดย กพร. จะถ่ายทอดให้แก่ผปู้ ระกอบการทัง้ ภาค ทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิ เพือ่ ผูป้ ระกอบการจะได้เข้าใจพืน้ ฐานใน
ภาคทฤษฎีแล้วน�ำไปปฏิบตั งิ านได้จริง ส�ำเร็จลุลว่ งตามเป้าหมาย ที่ได้วางเอาไว้ หากท�ำได้ตามแผนที่วางเอาไว้ พัฒนาวัตถุดิบ จากของเสียโดยการรีไซเคิลให้กลายเป็นแหล่งวัตถุดิบด้านแร่ โลหะ และพลังงานทดแทน จะช่วยสร้างมูลค่าเพิม่ ปีละกว่า 130 ล้านบาท”
ทุ่มงบ 96 ล้านบาท จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยี รีไซเคิลภาครัฐแห่งแรก
ปัจจุบนั ไทยมีวสั ดุเหลือใช้และกากของเสีย 50 ล้านตันต่อปี ซึ่งในแต่ละปีกว่า 26 ล้านตัน เป็นของเสียจากภาคครัวเรือน มีการน�ำกลับมาใช้ประโยชน์เฉลีย่ เพียง 18-20 เปอร์เซ็นต์ และ เป็นของเสียอุตสาหกรรมประมาณ 25-30 ล้านตัน ถูกน�ำกลับ มาใช้ประโยชน์ภายในประเทศเฉลี่ย 70-75 เปอร์เซ็นต์ หาก สามารถเพิม่ อัตราการใช้ประโยชน์ได้อกี 10 เปอร์เซ็นต์ และมีการ พัฒนาระบบการบริหารจัดการขยะหรือของเสียทีม่ ปี ระสิทธิภาพ คาดว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิม่ ในประเทศไม่นอ้ ยกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือในการพัฒนาของเสีย ขยะของเสียหรือวัสดุที่ได้จากการรีไซเคิลทั้งจากภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ร่วมมือบูรณาการท�ำงานร่วมกันก็จะท�ำให้ การด�ำเนินงานรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กพร. ได้งบประมาณจัดสร้างศูนย์เทคโนโลยีรีไซเคิล 96 ล้านบาท ทีอ่ ำ� เภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึง่ จะ แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2561 นี้ ถือเป็นศูนย์เทคโนโลยี รีไซเคิลแห่งแรก ศูนย์ดังกล่าวนี้จะศึกษารวบรวมงานวิจัยและ
January-February 2018
27
พัฒนาเทคโนโลยีรไี ซเคิลทัง้ ในระดับห้องปฏิบตั กิ าร และโรงงาน ต้นแบบ รวมถึงถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ประกอบการ เบื้องต้น ในช่วงแรกจะมีการให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในอนาคต จะมีการคิดค่าบริการในสัดส่วนที่เหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตาม กพร. ยังท�ำหน้าทีพ่ ฒ ั นาความเชือ่ มโยงของ อุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยสนับสนุนการพัฒนาความเชื่อมโยง ของอุตสาหกรรมต่อเนือ่ งให้สามารถใช้ประโยชน์วตั ถุดบิ ได้อย่าง คุม้ ค่า และเพิม่ มูลค่าวัตถุดบิ น�ำไปสูก่ ารเป็นก�ำลังส�ำคัญในการ ขับเคลือ่ นเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทัง้ ประสานความร่วมมือ ระหว่างประเทศ ซึง่ กพร. จะมีบทบาทในการจัดหาวัตถุดบิ ธรรมชาติ จากอุตสาหกรรมแร่จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศ
กพร. ต้ อ งการให้ ทิ ศ ทางการใช้ วั ต ถุ ดิ บ ในภาคอุ ต สาหกรรมมี ก ารพั ฒ นา อย่างยั่งยืน เพื่อให้ผู้ประกอบการแร่ไม่เป็น ผู้ร้ายในสังคมไทยอีกต่อไป เพราะหากเรามี วิธีการจัดการแร่ กากของเสียที่เกิดจากแร่ ด้วยการควบคุม การบริหารจัดการทีด่ ี ไม่กอ่ มลพิษทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน�้ำ จะช่วย สร้างความมั่นใจให้ประชาชน สิ่งแวดล้อม และ ชุมชนที่อยู่รอบข้าง 28
January-February 2018
เพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และ เวียดนาม
เดินหน้าพัฒนาสู่ Zero Waste สร้างความมั่นใจให้ประชาชน - สิ่งแวดล้อม และชุมชนรอบข้าง
คุณวิษณุ กล่าวว่า การพัฒนาประเทศไทยสู่ Zero Waste ให้เป็นตามกรอบทีว่ างไว้ กพร. ต้องการให้ทศิ ทางการใช้วตั ถุดบิ ในภาคอุตสาหกรรมมีการพัฒนาอย่างยัง่ ยืน เพือ่ ให้ผปู้ ระกอบการ แร่ไม่เป็น ผู้ร้ายในสังคมไทยอีกต่อไป เพราะหากเรามีวิธีการ จัดการแร่ กากของเสียที่เกิดจากแร่ และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแร่ ทั้งหมดด้วยการควบคุม การบริหารจัดการที่ดี ไม่ก่อมลพิษทั้ง ทางบก ทางอากาศ ทางน�ำ้ จะช่วยสร้างความมัน่ ใจให้ประชาชน สิง่ แวดล้อม และชุมชนทีอ่ ยูร่ อบๆ ทีส่ ำ� คัญจะช่วยลดการน�ำเข้า แร่จากต่างประเทศ โดยเฉพาะแร่ทองค�ำ ทีแ่ ยกออกมาจากขยะ อิเล็กทรอนิกส์ได้ประมาณ 20 ล้านตันต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่า ปีละ 20,000 ล้านบาท และช่วยลดต้นทุนภาคอุตสาหกรรมที่ ต้องใช้แร่นำ� เข้าในราคาสูง ซึง่ เป็นส่วนประกอบในการผลิต เช่น แผงวงจรโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เครือ่ งใช้ ไฟฟ้า เป็นต้น ภายใต้เงือ่ นไขระบบการบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ และกากของเสียที่มีประสิทธิภาพครบวงจร ตั้งแต่กิจกรรม/ กระบวนการทีก่ อ่ ให้เกิดของเสีย กระบวนการคัดแยก การจัดเก็บ รวบรวม การขนส่ง การรีไซเคิล การบ�ำบัด และการก�ำจัด รวมถึง การพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลในประเทศ
ที่มา : กพร. เศรษฐกิจปริทรรศน์ เดือนธันวาคม ๒๕๖๐ January-February 2018
29
เหมืองแร่น่ารู้ l
มยุรี ปาลวงศ์
การรีไซเคิล แก้วและเศษแก้ว
โลกเรามีการนำ�แก้วและเศษแก้วมารีไซเคิลมากว่า ๓,๐๐๐ ปี เนื่องจากแก้วเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบแร่ธรรมชาติ ได้แก่ ทรายแก้ว เฟลด์สปาร์ โดโลไมต์ และหินปูน แก้วเป็น บรรจุ ภั ณ ฑ์ ที่ ไ ด้ รั บ ความนิ ย มอย่ า งสู ง ด้ ว ยคุ ณ สมบั ติ ที่ ใ ส สามารถมองเห็นสิ่งที่บรรจุอยู่ภายใน ไม่ทำ�ปฏิกิริยากับสิ่ง ที่บรรจุ ทำ�ให้คงสภาพอยู่ได้นาน สามารถออกแบบให้มีรูปทรง ได้ตามต้องการ สามารถนำ�ไปใช้เป็นภาชนะใส่ของต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำ�อาง ฯลฯ แก้วจึงเป็นภาชนะ ที่ ใ ช้ ป ระโยชน์ ไ ด้ ม ากที่ สุ ด รวมทั้ ง มี ร าคาไม่ สู ง จนเกิ น ไป ประกอบกับคุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์แก้วสามารถนำ�กลับมา รี ไ ซเคิ ล ได้ เ สมอ และให้ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ใ หม่ ที่ มี คุ ณ ภาพคงเดิ ม ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ว่ารีไซเคิลซ้ำ�กี่ครั้งก็ตาม นอกจากนี้แก้วและ เศษแก้ ว ยั ง เป็ นวั ต ถุ ดิ บ ที่ เ ป็ น มิ ต รกั บ สิ่ ง แวดล้ อ มและเป็ น ตัวกลางสำ�คัญในการผลิตแก้ว สำ�หรับโรงงานที่นำ�แก้วและ เศษแก้วมาหลอมใหม่จะต้องตอบสนองความต้องการ เช่น
30
January-February 2018
เป็นแก้วที่มีคุณภาพและความบริสุทธิ์สูง ซึ่งจำ�เป็นสำ�หรับการ รีไซเคิลทีด่ แี ละการคัดประเภทของสีนนั้ ก็มคี วามสำ�คัญเท่าเทียม กันในการกำ�จัดสารปนเปื้อน (เซรามิก หิน ดิน โลหะ ฯลฯ)
การผลิตแก้ว ๑. เตรียมวัตถุดิบธรรมชาติในประเทศ ได้แก่ ทรายแก้ว เฟลด์สปาร์ หินปูน โดโลไมต์ เศษแก้ว และโซดาแอซ (Soda Ash) ซึ่งต้องนำ�เข้ามาจากต่างประเทศ ๒. การหลอม ใช้ อุ ณ หภู มิ ใ นการหลอม ๑,๖๐๐ ํ C จนเป็ น น้ำ� แก้ ว และนำ�ไปขึ้ น รู ป เป็ น บรรจุ ภั ณ ฑ์ ต่ า งๆ เช่ น แก้วน้ำ� ขวดแก้ว เป็นต้น ๓. นำ�บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตได้ไปลดความเครียด ๔. ตรวจสอบคุณภาพก่อนนำ�ไปบรรจุกล่อง เพื่อนำ�ไปใช้ ประโยชน์ต่อไป
ประเภทของแก้วและเศษแก้วที่นำ�กลับมาใช้ใหม่
ในแต่ละปีจะมีแก้วทีผ่ า่ นการใช้แล้วไม่ตำ�่ กว่า ๒๘ พันล้านใบ ที่ ถู ก ทิ้ ง ให้ เ ป็ น ขยะออกสู่ สิ่ ง แวดล้ อ ม แก้ ว บางชนิ ด ใช้ แ ล้ ว สามารถนำ�มาล้างทำ�ความสะอาดฆ่าเชื้อโรคและหมุนเวียนนำ� มาบรรจุใหม่ได้ซำ�้ อีกหลายๆ ครัง้ โดยผูผ้ ลิตสินค้าประเภทเดิม เช่ น ขวดเครื่ อ งดื่ ม เป็ น ต้ น ส่ ว นแก้ ว บางชนิ ด ผลิ ต ขึ้ น เป็ น เนือ้ แก้วบางเบา เพือ่ ความสะดวกในการใช้งานและพกพา อาจไม่ สามารถนำ�มาล้างเพื่อใช้ใหม่ได้อีก แก้วและเศษแก้วทุกชนิด สามารถรวบรวมส่งคืนโรงงานเพือ่ ส่งเข้าสูก่ ระบวนการผลิตใหม่ หรือที่เรียกว่า “กระบวนการรีไซเคิล” แก้วและเศษแก้วที่จะนำ� มาใช้มี ๒ ประเภท คือ ๑. แก้ ว ที่ มี ส ภาพดี จะถู ก นำ�มาคั ด แยกชนิ ด สี และ ประเภทที่บรรจุสินค้า ได้แก่ ขวดแม่โขง ขวดน้ำ�ปลา ขวดเบียร์ ขวดซอส ขวดโซดาวันเวย์ ขวดน้ำ�ดื่มชูกำ�ลัง ขวดยา ขวดน้ำ� อัดลม ฯลฯ การจัดการขวดเหล่านี้หากไม่แตกบิ่นเสียหาย จะ ถูกนำ�กลับเข้าโรงงาน เพื่อนำ�ไปล้างให้สะอาดและนำ�กลับมา ใช้ใหม่ เรียกว่า “Reuse” ๒. แก้วแตก ขวดทีแ่ ตกหัก บิน่ ชำ�รุดเสียหาย จะถูกนำ�มา คัดแยกสี เช่น ขวดแก้วใส ขวดแก้วสีชา และขวดแก้วสีเขียว จากนั้นนำ�เศษแก้วมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล โดยเบื้องต้นจะ เริ่มแยกเศษแก้วออกตามสี เอาฝาจุกที่ติดมากับปากขวดออก แล้ ว บดให้ ล ะเอี ย ด ใส่ น้ำ� ยากั ด สี เพื่ อ เก็ บ รวบรวมเข้ า สู่ กระบวนการผลิตบรรจุภณ ั ฑ์แก้วต่อไป เรียกว่า “Recycle” เศษแก้ว ที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลจะถูกทุบและบดให้แตกละเอียด ก่อนจะนำ�ไปหลอมในเตาหลอมรวมกับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เพื่อเป็นส่วนผสมในการผลิตแก้วใหม่
การคัดแยกแก้วและเศษแก้วก่อนนำ�ไปรีไซเคิล บรรจุภัณฑ์แก้วที่ผลิตมีหลายประเภท เช่น แก้วกลวง แก้วแบน และแก้วพิเศษ บรรจุภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ หลังจาก ใช้งานแล้วสามารถนำ�กลับมาหมุนเวียนใช้ได้อีกหลายๆ ครั้ง อย่ า งไม่ รู้ จ บ แม้ ว่ า แก้ ว จะยั ง คงสภาพที่ ส มบู ร ณ์ ห รื อ แตก แต่ก่อนนำ�ไปใช้จำ�เป็นจะต้องผ่านการคัดแยกประเภทของแก้ว และเศษแก้ว เช่น แก้วกลวง แก้วแบน และแก้วพิเศษ มีความ สำ�คัญต่อการนำ�ไปรีไซเคิล ดังนี้
การรีไซเคิลแก้วกลวง
การรีไซเคิลแก้วกลวงช่วยประหยัดวัตถุดิบ (ทรายแก้ว โซดา หินปูน โดโลไมต์ ฯลฯ) และพลังงานเป็นจำ�นวนมาก อีกทัง้ ยังช่วยลดการปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ กระบวนการ รีไซเคิลที่ดีจะต้องใช้ระบบคัดประเภท สี และระบบแยกสาร ปนเปื้ อ น เพื่ อ ช่ ว ยให้ ก ารผลิ ต บรรจุ ภั ณ ฑ์ แ ก้ ว ใหม่ แ ละขวด เหล่านั้นออกมามีคุณภาพ
การรีไซเคิลแก้วแบน
การรี ไ ซเคิ ล แก้ ว แบนนั้ น จะมี ค วามเกี่ ย วข้ อ งกั บ สาร ปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ เช่น ลวดความร้อน และแผ่นฟอยล์ที่ใช้ กันความร้อนในรถ และวัสดุสารปนเปื้อนชนิดอื่นๆ (เซรามิก หิน ดิน เศษหิน อิฐอาคาร โลหะ ผงสำ�หรับอุดรู พลาสติก แก้วทนความร้อน แก้วเซรามิก) จะต้องถูกแยกออกไป ทำ�ให้ได้ เศษแก้ ว ที่ มี คุ ณ ภาพ และตอบสนองความต้ อ งการใช้ ไ ด้ เป็นอย่างดี
January-February 2018
31
การรีไซเคิลแก้วพิเศษ
แก้วพิเศษ เช่น จอภาพ มอนิเตอร์ หลอดไฟชนิดต่างๆ การรีไซเคิลแก้วที่มีคุณภาพสูงเหล่านี้ จะต้องมีความสมบูรณ์ ของวัสดุ โดยระบบการคัดประเภทและการแยก จะแยกแก้ว ออกจากโลหะหนัก เช่น สารตะกั่ว ทำ�ให้ได้แก้วที่มีคุณภาพสูง ไม่ทำ�ลายสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิผลในเชิงเศรษฐกิจ
ประโยชน์ของการนำ�แก้วและเศษแก้วมารีไซเคิล การนำ�แก้วและเศษแก้วกลับมาใช้ใหม่ เกิดประโยชน์ หลายอย่าง เช่น ๑. ประหยัดค่าใช้จ่าย ทรัพยากรธรรมชาติ และพลังงาน เนื่องจากวัตถุดิบทรายมีแหล่งและปริมาณลดน้อยลง ทำ�ให้ ผูป้ ระกอบการโรงงานผลิตแก้วนิยมนำ�เศษแก้วมาเป็นส่วนผสม ในการหลอม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและพลังงาน ซึ่งหากนำ� เศษแก้วประมาณร้อยละ ๑๐ มาเป็นส่วนผสมในการหลอมแก้ว จะช่วยประหยัดพลังงานประมาณร้อยละ ๓ เช่น หากนำ�ขวดแก้ว ๑ ใบมาหลอมใหม่ ส ามารถประหยั ด พลั ง งานได้ เ ที ย บเท่ า พลังงานทีใ่ ช้เปิดโทรทัศน์ ๒๐ นาที หรือเปิดคอมพิวเตอร์ ๒๕ นาที นอกจากนี้จะช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติที่จะนำ�มาเป็น วัตถุดิบในการผลิตด้วยการกัดสีที่ติดมากับขวดแก้ว ล้างให้ สะอาด แล้วนำ�ส่งโรงงานผลิตขวดแก้ว เพื่อนำ�ไปหลอมใหม่ ๒. ช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม การรีไซเคิลไม่ว่าจะเป็นการ นำ�กลั บมาใช้ ใ หม่ การบำ�บั ด น้ำ� เสี ย การลดการปล่ อ ยก๊ า ซ คาร์บอนไดออกไซด์ มีส่วนช่วยลดสภาวะเรือนกระจกที่ทำ�ให้ โลกร้อนขึ้น
32
January-February 2018
๓. ช่วยลดปริมาณของเสีย แก้วไม่สามารถย่อยสลายได้ใน หลุมฝังกลบขยะมูลฝอย แต่สามารถนำ�กลับมาหลอมใช้ใหม่ได้ หลายรอบ และมีคุณสมบัติเหมือนเดิม การนำ�ขวดแก้วมา รีไซเคิลจะช่วยลดปริมาณน้ำ�เสียลงร้อยละ ๕๐ และลดมลพิษ ทางอากาศลงร้อยละ ๒๐ ๔. สร้างรายได้ การคัดแยกแก้วและเศษแก้วสามารถนำ� ไปขายยังร้านรับซื้อของเก่า นอกจากเป็นการสร้างรายได้ให้ ครอบครัวแล้ว ยังช่วยให้แก้วและเศษแก้วเหล่านั้นถูกนำ�ไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ แม้วา่ แก้วและเศษแก้วจะมีความสำ�คัญ แต่เราก็ไม่อาจนำ� แก้วกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ทั้งหมด เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ แก้วบางชนิดที่ใช้บรรจุอาหาร เครื่องดื่ม ยา ฯลฯ หรือเป็น ผลิตภัณฑ์ประเภทกระจก หลอดไฟ และจอภาพ มอนิเตอร์ ฯลฯ เป็ น สิ น ค้ า ที่ มี ก ารส่ ง ออกไปต่ า งประเทศ หรื อ คนไทยยั ง ให้ ความสำ�คัญไม่มากนัก ทำ�ให้ไม่สามารถนำ�กลับมาใช้ได้ทงั้ หมด ซึ่ ง สั ด ส่ ว นการนำ�แก้ ว และเศษแก้ ว กลั บ มาใช้ ใ หม่ ข องไทย มี ป ริ ม าณไม่ ม ากนั ก ผ่ า นร้ า นรั บ ซื้ อ ขวดแก้ ว และเศษแก้ ว ทั่ ว ประเทศ หากมี ก ารรณรงค์ ใ ห้ นำ�แก้ ว และเศษแก้ ว มา หมุนเวียนใช้ใหม่หลาย ๆ ครั้ง จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลน วัตถุดิบ และลดการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี ที่มา : https://www.sesotec.com.sg/th/profiler/ recycling/glass-recycling/1/100 : https://www.recyclethai.wordpress.com/tag/ : https://www.surasuk602.blogspot.com/p/ blog-page.html
เรื่องเล่าจากชาวเหมือง l
คนเก่งเหมืองแร่
สิ่งต่างๆ ที่เราพบเจอในแต่ละวันนั้นไม่ต่างจากโจทย์ คณิตศาสตร์ในห้องเรียน บางโจทย์กง็ า่ ยบางโจทย์กย็ าก บางโจทย์ ก็ทำ�ถูกบางโจทย์ก็ทำ�ผิด ฯลฯ โจทย์คณิตศาสตร์ก็ไม่ต่างจาก โจทย์ชีวิต ยิ่งเราได้ทำ�มากเท่าไร เราก็ยิ่งเก่งมากขึ้นเท่านั้น การฝึกแก้โจทย์ปัญหาบ่อยๆ ถือเป็นกำ�ไรของชีวิต เพราะมัน ทำ�ให้เราเก่งขึน้ ทำ�ให้เราได้พฒ ั นา นอกจากนีย้ งั ทำ�ให้เรามีวธิ คี ดิ มีความคิดที่เป็นระบบมากยิ่งขึ้น สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด และหาคำ�ตอบได้เร็วขึน้ ปัญหาจึงมีไว้เพือ่ ให้เราได้เรียนรู้ เพือ่ ให้ เราพัฒนาก้าวหน้าเป็นคนที่เก่งยิ่งขึ้น มีถอ้ ยคำ�อมตะประโยคหนึง่ กล่าวไว้ “ก่อนทีฟ่ า้ จะประทาน ภารกิจอันยิง่ ใหญ่ให้แก่ใคร จักต้องเคีย่ วกรำ�ผูน้ น้ั อย่างหนักหนา สาหั ส เสี ย ก่ อ น” นั ย ความหมายก็ คื อ ฟ้ า อาจจะ “ลองใจ” หรืออาจจะอยาก “ลองของ” ถ้าคุณคือ “คนเก่ง” เป็น “ของแท้” ...ก็จะสามารถฝ่าด่านทดสอบอันแสนทรหดมาได้ และก้าวถึง จุดที่ปรารถนาคือความสำ�เร็จในชีวิตในที่สุด ครับ...ทองแท้ไม่กลัวไฟฉันใด คนเก่งย่อมไม่กลัวการ พิสูจน์ฉันนั้น! ท่าน ดร.วิชา เศรษฐบุตร อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี (สมัยนั้น) ท่านได้เขียนเรื่องราวในอดีต มีใจความที่น่าสนใจ เป็นความรู้ว่า... ย้อนดูเหตุการณ์ในประเทศในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2450 กัปตันเอดเวิด ไมลล์ ชาวทาสมาเนีย ได้นำ�เรือขุดซึง่ ออกแบบใหม่ เข้ามาขุดดีบุกในอ่าวทุ่งคา เกาะภูเก็ต ผลสำ�เร็จของเรือขุด ดีบุกลำ�แรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ได้ก่อให้เกิด การลงทุ น ทำ�เหมื อ งดี บุ ก ด้ ว ยเรื อ ขุ ด อย่ า งมหาศาลในไทย มลายู และอินโดนีเซีย การลงทุนในประเทศไทยสมัยนั้นส่วนใหญ่เป็นการลงทุน ของฝรัง่ 2 ชาติ คือ อังกฤษ และออสเตรเลีย ทำ�ให้ประเทศไทย มีเรือขุดแร่ดีบุกมากที่สุดถึง 40 ลำ�ในปี พ.ศ. 2484 และฝรั่ง เข้ า มาหากิ น ในภาคใต้ ข องเราด้ ว ยการเป็ น ผู้ จั ด การบริ ษั ท เหมืองแร่หรือเป็นนายเรือขุด ส่วนคนไทยนั้นเป็นได้แต่เพียง นายการหรือกรรมกร เมื่อประเทศญี่ปุ่นบุกประเทศไทยในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 พวกฝรั่งต้องหลบหนีออกจากประเทศไทยเพราะกลัว ถูกญีป่ นุ่ จับฆ่า เหมืองเรือขุดต้องหยุดเพราะขาดนาย รัฐบาลใน สมัยนัน้ ต้อง “เข็น” นิสติ วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่วา่ แผนกโยธา ไฟฟ้า เครือ่ งกล หรือเหมืองแร่ ออกมา “ทำ�เหมือง” ที่ฝรั่งทิ้งไป เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทำ�ให้กรรมกรไทยได้มี งานทำ�ต่อไป และเศรษฐกิจของภาคใต้ซึ่งเคยรุ่งเรืองอยู่ด้วย
รุ่งศักดิ์ อินทร์สิงห์
แร่ดบี กุ นัน้ ไม่ทรุดลงไป นับเป็นครัง้ แรกทีค่ นไทยได้เป็นนายเรือขุด หรือได้เป็น ผู้จัดการเหมืองฝรั่ง และนับเป็นโชคดีของคนไทย เจ้ า ของประเทศ เพราะจะคอยให้ ฝ รั่ ง เขาเชิ ญ รั บ ตำ�แหน่ ง เหล่านี้คงไม่มีวันเสียหรอก สงครามเลิก ฝรัง่ เป็นฝ่ายชนะสงคราม เขากลับมาทวงเอา ของของเขาคืน เขากลับมาเป็นนายต่อไปอีก นายช่างไทยที่มี ความสามารถและพอใจชีวิตชาวเหมืองคงอยู่กับเขาต่อมาได้ จนได้รบั การยกย่องให้เป็นคนหนึง่ ในพวกเขาก็มี คือได้รบั ฐานะ เป็น European Staff มีเงินเดือนและตำ�แหน่งสูง มีสิทธิลา พักผ่อนในต่างประเทศเช่นพวกเขา บุคคลเหล่านี้เป็น ผู้ท่ีจบ วิศวกรรมศาสตร์ในเมืองไทยนีเ่ อง เขาได้กลายเป็นผูบ้ กุ เบิกทาง ให้แก่คนไทยรุ่นหลัง เพราะได้ทำ�ตัวอย่างที่ดีให้ฝรั่งเห็นว่า คนไทยก็เก่งมีฝีมือความสามารถเท่าเขา ผลจากสงครามทำ�ให้ฝรั่งมีทัศนคติใหม่ต่อคนเจ้าของ ประเทศ ฝรัง่ เริม่ รับคนไทยเข้าทำ�งานในเหมืองมากขึน้ เพราะ สงความโลกครั้งที่ 2 แท้เชียว...ที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้ แจ้งเกิด ทำ�ให้ฝรัง่ ยอมรับในความสามารถของคนไทย แล้วยังงี้ ใครว่าสงครามไม่ดี..หน็อยแน่ะ เขียนมาถึงตรงนี้ทำ�ให้นึกถึงอดีตเมื่อปี 2530...ผมได้ไป ทำ�งานเหมืองเรือขุดทีบ่ ริษทั เอเชียสแตนนัม่ จ.ภูเก็ต โดยบริษทั ฯ ที่ว่านี้มีเรือขุด 2 ลำ� ขุดแร่ที่อ่าวบางเทา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และ ที่บ่อดาล จ.พังงา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ ที่เรือขุดทั้ง 2 ลำ�นี้ เป็นบริษัทของคนไทย ทำ�งานขุดแร่โดยฝีมือคนไทยครับ มีคนบางคนพูดไว้วา่ “โลกนีไ้ ม่มคี นทีม่ พี รสวรรค์ มีแต่คน ที่มีความพยายามและตั้งใจเท่านั้น ถึงจะประสบความสำ�เร็จ” จริงหรือเท็จคงไม่มีใครตอบได้ เพราะบางทีคนมีพรสวรรค์อาจ มีอยูจ่ ริง แต่เท่าทีท่ ราบต่อให้มพี รสวรรค์ แต่หากขีเ้ กียจไม่หมัน่ ฝึกฝน แล้วยังเอาดีได้นั่นคงเป็นแค่ในนิยายเพ้อฝันซะมากกว่า ไทเกอร์ วูดส์ แม้ปัจจุบันไม่ได้ดำ�รงสถานะนักกอล์ฟ หมายเลข 1 ของโลก แต่ในช่วงเวลาหนึง่ โปรลูกครึง่ ไทย-อเมริกา ได้รบั การยอมรับว่านีค่ อื หนึง่ ในนักกอล์ฟทีด่ ที สี่ ดุ เท่าทีโ่ ลกมีมา หากถามว่า ไทเกอร์มพี รสวรรค์หรือไม่ แน่นอนคนส่วนใหญ่ ย่อมเชือ่ ว่า...ไทเกอร์มพี รสวรรค์ แต่สง่ิ ทีท่ ำ�ให้ไทเกอร์ยง่ิ ใหญ่นน้ั มาจากการฝึกซ้อมอย่างหนักแสนสาหัส ไทเกอร์มตี ารางฝึกซ้อม ตั้งแต่ 06.30 น. ไปจนถึง 08.30 น. เน้นที่ความแข็งแกร่งของ ร่างกายก่อนพักกินอาหารเช้า และลงซ้อมบนสนามกอล์ฟทั้ง การสวิง ซ้อมพัด เล่น 9 หลุมตั้งแต่ 09.00-13.00 น. จากนั้น กิ น อาหารเที่ ย งแล้ ว ซ้ อ มต่ อ ตั้ ง แต่ 14.00 น. ซ้ อ มวงสวิ ง เกมลูกสั้นหรือเล่นอีก 9 หลุมในบางครั้ง ก่อนเข้ายิมฟิตเนส ตอน 18.30 น. เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงและเป็นอันจบ 1 วัน ดูเอาเถอะ ซ้อมบ้าเลือดขนาดนี้ทุกวันแล้ว คุณยังคิดว่า ไทเกอร์มีพรสวรรค์จนแทบไม่ต้องซ้อมหรือ? January-February 2018
33
แต่เปล่าเลย ต่อให้มีพรสวรรค์ แต่คุณก็ต้องยิ่งซ้อมหนัก ให้มากขึ้น บางทีเมื่อไรที่คุณหยุดเดิน มันไม่ได้หมายความว่าคุณ หยุดนิ่ง แต่มันเสมือนการถอยหลังเพราะคนอื่นกำ�ลังจะแซง ขึ้นมาต่างหาก ท่านเห็นเบื้องหลังการฝึกซ้อมอันหฤโหดของคนเก่ง ไทเกอร์ วูดส์ ไหมครับ... หากคำ�กล่าวทีว่ า่ “โลกนีไ้ ม่มคี วามบังเอิญ” เป็นความจริง แล้ ว ไซร้ ใช่ ห รื อ ไม่ เ ราก็ ไ ม่ ค วรประหวั่ น พรั่ น พรึ ง กั บ “บาง ปรากฏการณ์” ทั้งในทางที่ดีและร้ายที่อุบัติขึ้นมาในชีวิตเรา โดยไม่คาดฝัน เพราะบางปรากฏการณ์อาจผ่านเข้ามาในชีวติ เรา ในฐานะเป็น “ส่วนเติมเต็ม” ความสมบูรณ์แบบให้กบั ช่วงชีวติ เรา ที่นึกไม่ถึงก็ได้...สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอครับ! สตีฟ จ็อบส์…ไม่ได้เรียนจบปริญญาแต่อย่างใด หลังจาก เรียนมหาวิทยาลัยรีดได้ครึ่งปี เขามองไม่เห็นประโยชน์ของการ เรียน และก็ไม่รวู้ า่ ปริญญาจะช่วยอะไรเขาได้...จึงตัดสินใจลาออก การตัดสินใจตอนนัน้ เขากลัวเหมือนกัน แต่ตอนนีเ้ ขารูส้ กึ ว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตเขา นาทีที่เขาลาออก แปลว่าเขาไม่ต้องไปเรียนวิชาที่เขาไม่สนใจอีกต่อไป วันที่ลาออก...ระหว่างเดินลงจากตึกมหาวิทยาลัย จ็อบส์ เดิ น ผ่ า นห้ อ งเรี ย นพิ เ ศษห้ อ งหนึ่ ง ซึ่ ง กำ�ลั ง เปิ ด สอนวิ ช า “คัดลายมือ” มีผู้ลงทะเบียนเรียนไม่มากนัก วิชานี้ไม่มีเกรด ไม่มีประกาศนียบัตร ใครใคร่เรียนก็เรียน จ็อบส์เห็นเป็นวิชาที่ แปลกดี จึงเข้าไปเรียนวิชาคัดลายมือกับเขาด้วย และเมื่อลอง เรียนต่อไปเขาก็ค้นพบว่า วิชานี้เป็นวิชาที่สนุกมีความสุข และ เมื่อมีความสุข เขาจึงตัดสินใจเรียนวิชานี้ไปจนจบคอร์ส สตีฟ จ็อบส์ เล่าว่า...ชีวติ ของผมช่วงนัน้ ไม่ได้โรแมนติกตลอด ผมไม่มีหอพักแล้วก็เลยต้องไปอาศัยนอนบนพื้นในห้องของ เพื่อนๆ ผมเก็บขวดโค้กไปแลกเงินค่าคืนขวดห้าเซนต์ เก็บไป ซือ้ ข้าวกิน และทุกๆ วันอาทิตย์ ผมจะเดินเจ็ดไมล์จากฟากหนึง่ ของเมืองไปยังอีกฟากหนึง่ ไปกินข้าวดีๆ ซักมือ้ ทีว่ ดั พระกฤษณะ ...ผมรักวัดนี้มากเพราะทำ�ให้ได้ลิ้มรสชาติอาหารอร่อยปาก ประทังชีวิต การที่ผมปล่อยชีวิตไปตามความอยากรู้อยากเห็นและ สัญชาตญาณ ทำ�ให้ผมได้เจอหลายสิ่งหลายอย่างโดยบังเอิญ ผมเรียนวิชาเขียนตัวอักษร เรียนวิธีเว้นช่องไฟ เรียนรู้เทคนิค การเรี ย งพิ ม พ์ อ ย่ า งยอดเยี่ ย ม ล้ ว นเป็ น เรื่ อ งเกี่ ยวกั บ ความ สวยงาม ประวัติศาสตร์และศิลปะ ที่มีความลึกล้ำ�ในแง่มุมที่ วิทยาศาสตร์ไม่อาจอธิบายได้ สตีฟ จ็อบส์ กล่าวทิง้ ท้ายด้วยความภาคภูมใิ จว่า “ผมรูส้ กึ ว่ า วิ ช าคั ด ลายมื อ เป็ น เรื่ อ งละเอี ย ดอ่ อ นที่ น่ า ทึ่ ง มาก วิ ช านี้ ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ที่จะนำ�มาใช้ในชีวิตจริงของผมได้เลย แต่ แ ทบไม่ น่ า เชื่ อ อี ก สิ บ ปี ต่ อ มา ตอนที่ เ รากำ�ลั ง ออกแบบ คอมพิวเตอร์แมคอินทอชรุ่นแรก ความรู้เหล่านี้ก็ย้อนกลับมา 34
January-February 2018
ใช้ใหม่จนประสบผลสำ�เร็จอย่างน่าอัศจรรย์ เราใส่มันลงไปใน เจ้าแมคนีห้ มดเลย ทำ�ให้แมคเป็นคอมพิวเตอร์เครือ่ งแรกในโลก ที่มีตัวพิมพ์ท่ีสวยงาม ถ้าผมไม่ได้ไปเรียนวิชานั้น ป่านนี้แมค ก็คงไม่มีตัวพิมพ์หลากหลายรูปแบบ หรือตัวพิมพ์ที่เว้นช่องไฟ ในสัดส่วนที่เหมาะสมแบบนี้” เพียงเพราะวิชาคัดลายมือแท้ๆ ทีเ่ ติมเต็มชีวติ ส่วนทีข่ าด ของสตีฟ จ็อบส์ ผู้ซึ่งเรียนไม่จบปริญญาในมหาวิทยาลัย แต่สำ�หรับมหาวิทยาลัยชีวิตแล้ว เขาคือคนเก่ง...อัจฉริยะผู้ เยี่ยมยอดยิ่งใหญ่ในวงการนวัตกรรมมือถือครับ! เราไม่รู้ใจเราเองเลย แต่กลับอยากให้คนอื่นเข้าใจเรา เห็นใจเรา เราจึงทำ�ร้ายใจเราและทำ�ร้ายใจคนอื่นอยู่เสมอ ดังนั้นจึงจำ�เป็นต้องรู้ใจ เข้าใจตัวเองเสียก่อน แล้วจึงไปเข้าใจ คนอื่น...รู้สิ่งใดก็ไม่สู้ รู้ตนเองครับ ขอแทรกรายการเล่าเรื่องอิสปให้ฟังครับ...มีกบตัวหนึ่ง อาศั ย อยู่ ใ กล้ ส ระน้ำ� ใกล้ กุ ฏิ พ ระ ตอนเช้ า กบเห็ น พระออก บิณฑบาตได้อาหารมาฉันอย่างสบายๆ ทุกวัน เจ้ากบก็ปรารถนา อยากจะเป็นพระกับเขาบ้างคงจะดีหนอ ต่อมาเมือ่ พระฉันเสร็จ ก็เอาข้าวสุกมาโปรยให้ไก่กิน เจ้ า กบเห็ น ไก่ ไ ด้ กิ น ข้ า วโดยไม่ ต้ อ งออกแรง ก็ เ ปลี่ ย น ความคิดใหม่ ไม่เป็นพระดีกว่า ขอเป็นไก่นา่ จะดีกว่า ขณะนั้น หมาวัดตัวหนึ่งมาแย่งอาหารกิน ไก่กลัวหมาจึงต้องหนีเอา ตัวรอด เอาอีกแล้วเจ้ากบเกิดเห็นหมาเป็นวีรบุรุษอยากเป็น หมาอีก มีชายคนหนึง่ เดินเข้ามาในวัด เจ้าหมาก็โดดใส่จะขบกัด ชายคนนั้ น ก็ เ อาไม้ ห วดเจ้ า หมาจนเจ็ บ ตั ว วิ่ ง ร้ อ งลั่ น หนี ไ ป เจ้ากบก็คิดอีก ทำ�ไมหนอจึงจะได้เป็นคนกะเขาบ้าง ขณะนั้น ชายผู้นั้นก็มานั่งอยู่ขอบสระมีแมลงวันตอมจนชายผู้นั้นรำ�คาญ ลุกหนีไปพร้อมกับบ่นว่า “รำ�คาญแมลงวันจริงโว้ย” กบได้ยินก็ นึกว่าคนจะแน่ ที่แท้ก็สู้แมลงวันไม่ได้ อยากเป็นแมลงวันอีก บังเอิญมีแมลงวันตัวหนึง่ บินมาเกาะตรงปลายจมูกพอดี เจ้ากบ ก็แลบลิน้ แผลบกินแมลงวันเป็นอาหาร...เจ้ากบจึงค้นพบสัจธรรม อันยิ่งใหญ่ เป็นอะไรก็ไม่ดีเท่าตัวเราเอง!! นิทานเรือ่ งนีส้ อนให้รวู้ า่ คนเราทุกวันนีห้ ลายๆ คนไม่ตา่ ง อะไรจากกบเท่าไหร่ คือไม่รู้จักตัวเองไม่รู้คุณค่าความสามารถ ว่าตัวเองก็เก่งมีของดีอยู่ในตัว ก่อนที่จะไปรู้จักคนอื่น...มาทำ� ความรู้จักตัวเองก่อนดีกว่าครับ ผมมีเรื่องขำ�ขันของนักสู้ที่คิดจะเป็นคนเก่งคนหนึ่ง เขียน ให้หัวเราะกันเล่นคลายเครียด เสียงหัวเราะทำ�ให้จิตแจ่มใส หัวใจเบิกบานครับ หนุ่มคนเก่งคนนี้เข้าไปในร้านหนังสือขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง แจ้งความประสงค์ว่าอยากได้หนังสือประเภท...วิธีพิชิตความ สำ�เร็จในชีวิต คนขายที่เป็นสาวสวยแนะนำ�ว่า “หนังสือเกีย่ วกับการเอาชนะเพือ่ ความสำ�เร็จนี้ จะอยูท่ าง ซีกซ้ายมือ อยูท่ โี่ ซนหนังสือวิทยาศาสตร์วางอยูใ่ กล้หนังสือชือ่ ... สู้แล้วรวย แนะนำ�ให้ซื้อคู่กันค่ะ”
หลังจากเดินไปเลือกหนังสือถูกใจตามคำ�แนะนำ�ได้แล้ว พลันคิดอะไรขึ้นมาได้จึงพูดถามว่า “น้องครับ หนังสือประเภทวิธีพิชิตภรรยา มีไหมครับ” “อ๋อ! คุณคิดจะเอาชนะภรรยาคุณหรือ” หญิงสาวทำ�หน้า ฉงนย้อนถาม พลางพูดว่า “มีสิ หนังสือประเภทวิธีเอาชนะภรรยานี่ จะอยู่ทางซีก ขวามือ อยู่ในโซนนิยายจินตนาการและเพ้อฝันค่ะ วางอยู่ ใกล้หนังสือชื่อ...ความคิดที่ล้มเหลว ขอแนะนำ�ให้ซื้อคู่กัน เลยค่ะ” อ่ า นแล้ ว ขำ�ก็ ฮ าด้ ว ยนะครั บ ...ท่ า นผู้ ส ามี ที่ อ ยากเก่ ง ทั้งหลาย (แฮ่ม) สิ่ ง ใหม่ ๆ ในโลกนี้ จ ะเกิ ด ขึ้ น ไม่ ไ ด้ ถ้ า ขาดสิ่ ง ที่ ชื่ อว่ า “ความคิดสร้างสรรค์” สารพัดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมต่างๆ บนโลกนี้ ล้วนแล้วแต่เกิดขึน้ ด้วยน้ำ�มือและความคิดจินตนาการ... ที่ ไ ม่ มี ขี ด จำ�กั ด ไม่มีข้อ กำ�หนดของมนุษย์เ ราทั้งสิ้น คนที่ มี ความคิดสร้างสรรค์จะคิดว่า ทำ�ในสิง่ ทีเ่ คยทำ�ก็จะได้สง่ิ ทีเ่ คยได้ แต่ถ้าทำ�ในสิ่งที่ไม่เคยทำ� ก็จะได้ในสิ่งที่ไม่เคยได้...ความคิด สร้างสรรค์สร้างคนเก่งขึ้นมาแล้วมากมาย คนที่ มี ค วามคิ ด สร้ า งสรรค์ จ ะเป็ น คนที่ พ ยายามทำ�ให้ ตัวเองเก่งขึ้น โดยการพัฒนาตนเอง พัฒนาการเรียนรู้ พัฒนา กลยุทธ์ต่างๆ ให้ตัวเองดีขึ้น เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้า ประสบผลสำ�เร็จในชีวิต การแสดงความคิดสร้างสรรค์ทดี่ คี วรดูตาม้าตาเรือ จังหวะ จะโคนที่เหมาะสม แสดงให้ถูกสถานที่ ถูกเวลาและถูกบุคคล ด้วยจึงจะมีประโยชน์ และที่สำ�คัญควรรู้เขารู้เราจึงจะดี เหมือน ดังเรื่อง “คนเก่งเหมืองแร่” ที่ผมจะเล่าเป็นตัวอย่างให้ฟังครับ เมือ่ ปี 2517...หลังจากเรียนจบผมได้เข้าทำ�งานทีอ่ งค์การ เหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจดำ�เนิน กิจการเกี่ยวกับเหมืองแร่ องค์การเหมืองแร่...ในอดีตมีเหมืองทำ�อยู่หลายเหมือง เช่น เหมืองปิล็อก จ.กาญจนบุรี เป็นแร่ดีบุก-วุลแฟรม เหมือง สะเมิง จ.เชียงใหม่ เป็นแร่ดีบุก-ชีไลต์ เหมืองเจิงเจ้ย จ.ราชบุรี เป็นแร่ดีบุก เหมืองห้วยยอด จ.ตรัง เป็นแร่ดีบุกปนโคลัมไบท์แทนทาไลท์ เหมืองจะนะ จ.สงขลา เป็นแร่ดบี กุ และเหมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต เป็นแร่ดบี กุ โดยแร่จากเหมืองต่างๆ (ยกเว้นจากเหมือง จะนะและเหมืองภูเก็ต) จะถูกนำ�มาแยกทีโ่ รงแยกแร่พระประแดง เมื่อครั้งที่นายช่างผดุงโชติ...เข้าทำ�งานใหม่ๆ ที่องค์การ เหมืองแร่ แกได้รับมอบหมายให้ควบคุมโรงงานแยกแร่ ตั้งอยู่ที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากการที่เรียนเก่งไฟแรง เป็นคนร้อนวิชามีความคิดสร้างสรรค์แปลกๆ ใหม่ๆ ในการ ปรับปรุงเปลีย่ นแปลงวิธกี ารทำ�งานตลอดเวลา เพียงแค่เข้างาน ไม่นาน สามารถทำ�ให้เพิ่มผลผลิตในการแยกแร่เป็นที่น่าพอใจ ของผู้อำ�นวยการเป็นอย่างมาก วันหนึ่งผู้อำ�นวยการได้แจ้งกำ�หนดการมาดูโรงแยกแร่
นายช่างผดุงโชติจึงได้กุลีกุจอจัดเตรียมข้อมูลรวบรวมปัญหา อุ ป สรรคต่ า งๆ พร้ อ มทั้ ง ข้ อ คิ ด เห็ น ในการปรั บ ปรุ ง โรงงาน เพื่ อ นำ�เสนอให้ ฟั ง ครั้ ง นี้ ถื อ เป็ น โอกาสทองที่ จ ะได้ แ สดง วิสัยทัศน์โชว์เจ้านาย...อนาคตการทำ�งานจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ก็อีคราวนี้นี่แหละ ในระหว่างพาผูอ้ ำ�นวยการ พร้อมด้วยหัวหน้าคนงานเดิน เข้าชมโรงงาน นายช่างผดุงโชติก็ได้อธิบายรายละเอียดต่างๆ ในการพั ฒ นาโรงงานเป็ น อย่ า งดี เป็ น ที่ ชื่ น ชอบพอใจของ ผู้อำ�นวยการเป็นอย่างมาก “มี เ รื่ อ งสำ � คั ญ อี ก เรื่ อ งหนึ่ ง ที่ ผ มอยากจะเรี ย นท่ า น ผู้อำ�นวยการทราบครับ” “เรื่องอะไรล่ะ” “คื อ โรงงานแยกแร่ แ ห่ ง นี้ ค นออกแบบสร้ า งไม่ ดี เ ลย ออกแบบอาคารทึ บ ไป ฝุ่ น แร่ ป ลิ ว ฟุ้ ง กระจายเต็ ม โรงงาน ไปหมด เป็นอันตรายต่อสุขภาพคนทำ�งานมาก น่าจะทุบทิ้ง สร้างให้โล่งโปร่งลมจะได้ถา่ ยเทได้สะดวก คนทำ�งานก็ทำ�งาน สบายไม่ร้อนด้วย” “คุณเป็นนายช่างเหมืองแร่ คุณควรดูเรื่องแยกแร่ดีกว่า เรื่องการก่อสร้างโรงงานเป็นเรื่องของนายช่างฝ่ายโยธาเขา” ผู้อำ�นวยการเอ่ยขึ้น “จริงๆ นะครับผูอ้ �ำ นวยการ ออกแบบโรงงานโดยไม่ค�ำ นึง ถึงระบบการระบายอากาศ ทิศทางลมแบบนี้ ไม่มนี ายช่างโยธา ที่ไหนเขาทำ�กันหรอกครับ...ออกแบบไม่ได้เรื่องเลย” นายช่างผดุงโชติพูดย้ำ�จี้จุดบกพร่องอย่างไม่ลดละ “ผมบอกแล้วไง อย่าไปก้าวก่ายยุง่ งานโยธาของคนอืน่ เขา ยุง่ เฉพาะงานแยกแร่ของคุณก็พอแล้ว ขืนแต่ละหน่วยงานทำ�งาน ออฟไซด์กันมิยุ่งตายหรือ เอ้อ...ผมมีธุระกลับก่อนละนะ” พูดจบผูอ้ ำ�นวยการก็ลกุ ลีล้ กุ ลนขอตัวกลับ ก้าวฉับๆ ขึน้ รถ โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ทิ้งให้นายช่างผดุงโชติยืนงงเป็นไก่ตาแตก.. ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอรถของผูอ้ ำ�นวยการเคลือ่ นลับตาจากไป นายช่างผดุงโชติ เกาหัวแกรก หันมาพูดกับหัวหน้าคนงานว่า “เสียดายยังพรีเซนต์ข้อเสียของโรงงานแยกแร่ไม่หมด ผมอุตส่าห์เตรียมข้อมูลจุดด้อยของโรงงานไว้เพียบเลย ทำ�ไม ผู้อำ�นวยการแกรีบร้อนกลับปุบปับก็ไม่รู้ ทั้งที่ตอนแรกนัดจะ ทานข้าวด้วยกัน...แปลก” “โธ่! นายช่าง ผมทำ�งานทีน่ มี่ า 20 กว่าปี ก่อนนายช่างอีก ผมรู้อะไรดี จะบอกอะไรให้...นายช่างเป็นคนเก่ง ความคิด สร้างสรรค์ดี แต่ไม่รู้เรื่องสังคมสิ่งแวดล้อม” “หมายความว่ายังไง” “อ้าว...ก็โรงงานแยกแร่ท่ีนายช่างพูดว่าสร้างไม่ดีนั่นน่ะ ผูอ้ ำ�นวยการคนเมือ่ ตะกีน้ นั่ แหละแกเป็นคนออกแบบคุมงาน ก่อสร้างทั้งหมดด้วยตนเองน่ะสิครับ ไปพูดว่าจี้จุดแทงใจดำ� กันอย่างนี้...ใครเขาจะชอบล่ะนายช่าง!” January-February 2018
35
อนุบัญญัติออกตามความในพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม
เรื่อง กำ�หนดวิธีการร่อนแร่ หลักเกณฑ์ และวิธีการ การแจ้งและรับแจ้งการร่อนแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยที่เป็นการสมควรกำ�หนดวิธีการร่อนแร่ ชนิดแร่ ท้องที่ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแจ้งและรับแจ้งการร่อนแร่ อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๕ มาตรา ๙๕ และมาตรา ๙๖ แห่งพระราชบัญญัตแิ ร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำ�หนดวิธีการร่อนแร่ หลักเกณฑ์ และวิธีการ การแจ้งและ รับแจ้งการร่อนแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หมวด ๑ การร่อนแร่ ข้อ ๓ การร่อนแร่ให้กระทำ�ได้ทุกจังหวัด โดยให้กระทำ�ได้เฉพาะแร่ ดังต่อไปนี้ (๑) แร่ดีบุกและแร่อื่นที่เป็นผลพลอยได้จากการร่อนแร่ดีบุก (๒) แร่วุลแฟรมและชีไลต์ (๓) แร่ทองคำ� (๔) แร่รัตนชาติ ุ สมบัตติ ามข้อ ๖ และได้แจ้งการร่อนแร่ตอ่ เจ้าพนักงานท้องถิน่ ตามข้อ ๗ โดยใช้แรงงาน ข้อ ๔ การร่อนแร่ให้กระทำ�โดยผูท้ มี่ คี ณ คนแต่ละคน และให้ใช้อุปกรณ์ประเภทจอบ เสียม พลั่ว หรืออุปกรณ์อื่นในลักษณะทำ�นองเดียวกัน ในการขุดตักแล้วล้าง เลียง เพื่อให้ได้มาซึ่งแร่ หมวด ๒ การแจ้งและการรับแจ้งการร่อนแร่ ข้อ ๕ ผู้ใดประสงค์จะร่อนแร่ ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในท้องที่ที่จะร่อนแร่ ข้อ ๖ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้แจ้งการร่อนแร่ (๑) มีสัญชาติไทย (๒) มีภูมิลำ�เนาหรือถิ่นที่อยู่อาศัยในจังหวัดที่จะร่อนแร่ (๓) เป็นผู้ขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยกับกระทรวงการคลัง หรือผู้ใหญ่บ้านรับรองว่าเป็นผู้มีรายได้น้อย (๔) ไม่เป็นผูร้ บั จ้างหรือเป็นตัวแทนทำ�การร่อนแร่แทนตัวการใด ๆ ไม่วา่ จะเป็นการตกลงโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายในการ ร่อนแร่เพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น (๕) ไม่ขัดกับประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมว่าด้วยการกำ�หนดข้อห้ามการกระทำ�ที่มีลักษณะเป็นการครอบงำ�กิจการ ทำ�เหมืองแร่โดยคนต่างด้าวและการห้ามยื่นคำ�ขอรับใบอนุญาตเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น ข้อ ๗ เมื่อได้รับแจ้งตามข้อ ๕ แล้ว ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบคุณสมบัติของผู้แจ้งและออกใบรับแจ้งการร่อนแร่ ตามแบบแนบท้ายประกาศนี้
36
January-February 2018
ในกรณีทเี่ อกสารหรือหลักฐานไม่ถกู ต้องครบถ้วน ให้เจ้าพนักงานท้องถิน่ แจ้งให้ผแู้ จ้งการร่อนแร่แก้ไขเพิม่ เติมหรือจัดส่งเอกสาร หรือหลักฐานเพิ่มเติมให้ถูกต้องครบถ้วนภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากเพิกเฉยไม่จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติม ภายในกำ�หนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้แจ้งไม่ประสงค์จะร่อนแร่ ข้อ ๘ กรณีเอกสารหรือหลักฐานถูกต้องครบถ้วน ให้เจ้าพนักงานท้องถิน่ ออกใบรับแจ้งการร่อนแร่และขึน้ ทะเบียนเป็นผูร้ อ่ นแร่ ในท้องที่นั้น และแจ้งให้เจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำ�ท้องที่ทราบภายใน ๗ วันนับแต่ได้มีการขึ้นทะเบียน ข้ อ ๙ ให้ เ จ้ า พนั ก งานอุ ต สาหกรรมแร่ ป ระจำ�ท้ อ งที่ ร วบรวมใบรั บ แจ้ ง และการขึ้ น ทะเบี ย นผู้ ร่ อ นแร่ ใ นท้ อ งที่ แ จ้ ง ให้ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ข้อ ๑๐ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและกำ�กับดูแลการร่อนแร่ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำ�นาจในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่น เพื่อกำ�หนดรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการร่อนแร่ได้โดยไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ ข้อ ๑๑ ให้ผู้แจ้งการร่อนแร่แจ้งปริมาณแร่ที่ได้จากการร่อนแร่ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น และชำ�ระค่าภาคหลวงแร่ให้ครบถ้วน ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นจัดเก็บค่าภาคหลวงแร่จากผู้ร่อนแร่ตามที่กำ�หนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยอัตราค่าภาคหลวงแร่ และ ราคาประกาศแร่ทอี่ ธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่กำ�หนด ส่วนหลักเกณฑ์และวิธกี ารจัดเก็บค่าภาคหลวงแร่ให้เป็น ไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธกี ารจัดเก็บค่าภาคหลวงแร่ การกำ�หนดราคาตลาดแร่ การตรวจสอบ และการประเมินการชำ�ระค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงแร่ที่จัดเก็บได้จากผู้แจ้งการร่อนแร่ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นนำ�ส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ข้อ ๑๒ ใบรับแจ้งการร่อนแร่ให้มีอายุไม่เกิน ๑ ปีนับแต่วันขึ้นทะเบียนการร่อนแร่ หมวด ๓ เงื่อนไขการร่อนแร่ ข้อ ๑๓ ห้ามมิให้ใช้สารเคมีในการร่อนแร่ ข้อ ๑๔ การร่อนแร่ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสภาพแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือก่อให้เกิดความ เสียหายแก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่น ข้อ ๑๕ ใบรับแจ้งการร่อนแร่ให้ใช้ได้เฉพาะตัวผูแ้ จ้งและจะกระทำ�การร่อนแร่แทนตัวการใด ๆ หรือเพือ่ ประโยชน์แก่บคุ คลอืน่ มิได้ ข้อ ๑๖ การร่อนแร่ให้กำ�หนดจำ�นวนน้ำ�หนักตามชนิดแร่ ดังนี้ (๑) แร่ดีบุก ไม่เกินเดือนละ ๓๐ กิโลกรัม (๒) แร่วุลแฟรมและชีไลต์ ไม่เกินเดือนละ ๓๐ กิโลกรัม (๓) แร่ทองคำ� ไม่เกินเดือนละ ๓๐ กรัม ประกาศ ณ วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๐ อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
January-February 2018
37
News กพร. จับมือภาคเอกชนไทย และกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก อัดฉีดเงิน 1,200 ล้านบาท
พัฒนานวัตกรรมอุตสาหกรรมหลอมโลหะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรม แห่งสหประชาชาติ และภาคเอกชนไทย พัฒนาอุตสาหกรรม หลอมโลหะทีม่ ปี ระสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม ภายใต้ กองทุนสิ่งแวดล้อมโลก กว่า 1,200 ล้านบาท ตั้งเป้าลดการ ปลดปล่อยมลพิษทางอากาศได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ต่อปี วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและ การเหมืองแร่ กล่าวว่า การพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานให้เข้าสู่ยุค 4.0 โดยเน้น การประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สมัยใหม่เพื่อสร้าง ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็น มิตรกับสิง่ แวดล้อม เป็นยุทธศาสตร์สำ� คัญประการหนึง่ ของ กพร. โดยในปี 2561 กพร. จะด�ำเนินโครงการลดมลภาวะทางอากาศ จากโรงงานหลอมเศษโลหะ โดยเฉพาะมลพิษทีต่ กค้างยาวนาน ซึง่ อาจเกิดขึน้ โดยไม่จงใจ (U-POPs) อาทิ ไดออกซินและฟิวแรน ซึง่ ข้อมูลจากการศึกษาทีผ่ า่ นมาพบการปลดปล่อยสารไดออกซิน หรื อ ฟิ ว แรนจากอุ ต สาหกรรมหลอมโลหะของไทยแต่ ล ะปี มีปริมาณมากกว่า 119 กรัม TEQ (Toxic Equivalent) หรือคิดเป็น ร้อยละ 11 ของการปลดปล่อย U-POPs จากภาคอุตสาหกรรม ทัง้ หมด การด�ำเนินโครงการจึงตัง้ เป้าลดปริมาณการปลดปล่อย มลพิษดังกล่าวให้ได้ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 20 โดยใช้เทคนิคทีด่ ที ส่ี ดุ (Best Available Technique: BAT) และแนวทางปฏิบัติด้าน สิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด (Best Environmental Practice: BEP) ในการพัฒนาอุตสาหกรรมหลอมโลหะเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยี การผลิตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทัง้ นี้ กพร. จะด�ำเนินงานร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Industrial Development Organization: UNIDO) โดยได้รบั การสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility: GEF) รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทย ภายใต้วงเงินกว่า 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1,200 ล้านบาท มีระยะเวลาด�ำเนิน โครงการ 5 ปี
38
January-February 2018
วิษณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า การด�ำเนินงานโครงการดังกล่าว จะมี ก ารก� ำ หนดแนวทางการพั ฒนากลุ ่ ม ผู ้ ป ระกอบการใน อุตสาหกรรมหลอมโลหะอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมาย ที่ส�ำคัญ ได้แก่ “พัฒนาคน” จัดท�ำคู่มือการปฏิบัติงานเพื่อลด ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตส�ำหรับ กระบวนการหลอมโลหะ พร้อมถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรม ให้แก่บุคลากรในภาคอุตสาหกรรม “พัฒนาโรงงาน” จัดตั้ง โรงงานหลอมโลหะต้นแบบที่มีการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการ ลดผลกระทบสิง่ แวดล้อมและเพิม่ ประสิทธิภาพการผลิต จ�ำนวน 4 โรงงาน เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้ประกอบการได้เข้ามาศึกษา พร้อมบริการให้คำ� ปรึกษาจากผูเ้ ชีย่ วชาญทัง้ ในและต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถน�ำนวัตกรรมและเทคโนโลยีท่ี ทันสมัยไปปรับใช้ในโรงงานได้จริง และ “พัฒนาคลัสเตอร์” ปรับปรุง กฎ ระเบียบ และมาตรฐานต่างๆ พร้อมทัง้ ก�ำหนดนโยบายเพือ่ ผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมมีความใส่ใจด้านสิง่ แวดล้อม ส่งเสริม ให้เกิดการพัฒนาของอุตสาหกรรมหลอมโลหะตลอดทั้งห่วงโซ่ อุปทาน และสร้างความเชือ่ มโยงทีเ่ ข้มแข็งของกลุม่ อุตสาหกรรม โลหการตั้งแต่ต้นน�ำ้ จนถึงปลายน�ำ้ นอกจากเป้าหมายที่จะพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมแล้ว โครงการนีย้ งั มุง่ เน้นในด้านส่งเสริม การให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการรับซื้อเศษโลหะ รายย่อยในเรื่องการคัดแยกขยะหรือของเสีย รวมทั้งการจัดเก็บ ที่ถูกวิธี ซึ่งจะช่วยลดการปนเปื้อนของวัตถุดิบที่จะน�ำกลับไป รีไซเคิลและเป็นการลดมลพิษที่จะเกิดขึ้นได้อย่างตรงจุดมาก ทีส่ ดุ โดยจะมีการประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดความรูใ้ ห้แก่ภาค เอกชนและประชาชนผู้สนใจอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ “กพร. มีความมุง่ มัน่ ในการขับเคลือ่ นอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมพืน้ ฐาน โดยยึดแนวทางการสานพลังประชารัฐ ด้วยการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้สามารถก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ควบคูไ่ ปกับการประกอบการทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมและสร้าง ประโยชน์ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน” วิษณุ กล่าวทิ้งท้าย