ปที่ 8 ฉบับที่ 4 เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2561
เทคโนโลยีใหมและ ปญญาประดิษฐ (AI)
ชวยควบคุมคาใชจายการซอมบำรุง ในธุรกิจเหมืองแร ไดอยางไร
กรอ. เรงเคร�่อง
ยกระดับโรงงานทั่วไทย ตั้งเปา 5 ป มี Smart Factory กวา 1,000 โรงงาน
ภาพปก : เหมืองสหชาติ
ดัชนีราคาวัสดุกอสราง เดือนมิถุนายน 2561 ทำสถิติเพ�่มข�้นสูงสุดในรอบ 6 ป รับอานิสงสจากโครงการ เมกะโปรเจกต-EEC ของภาครัฐ
หมอดูขางเหมือง
8
4 เดือนกรกฏาคม - สิงหาคม 2561
คณะกรรมการสภาการเหมืองแร่
1. นายเกรียงศักดิ ์ หล่อวัฒนตระกูล 2. นายเข็มชาติ ว่องชาญกิจ 3. นายยุทธ เอีย่ มสอาด 4. นายดิเรก รัตนวิชช์ 5. นายสุทธิเลิศ วีระไพบูลย์ 6. น.ส.อัญชลี ตระกูลดิษฐ 7. นายศิรชิ ยั มาโนช 8. นายทวี ทวีสขุ เสถียร 9. นายเสกข์สรร ธีระวาณิชย์ 10. นายอนุพงศ์ โรจน์สพ ุ จน์ 11. นายณรงค์ จ�ำปาศักดิ ์ 12. นายสุรชิต มานะจิตต์ 13. นายวัลลภ การวิวฒ ั น์ 14. นายยงยุทธ รัตนสิร ิ 15. นายสุเทพ สุนทรารัณย์ 16. นายศิรสิทธิ ์ สืบศิริ 17. นายอภิชาติ สายะสิญจน์ 18. นายวรพจน์ โพธิแ์ ก้ว
ประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่
เลขาธิการสภาการเหมืองแร่ นายสมพร อดิศกั ดิพ ์ านิชกิจ
ผูช้ ว่ ยเลขาธิการสภาการเหมืองแร่ นางอรพิน เปรือ่ งการ
ทีอ่ ยู่ สภาการเหมืองแร่
222/2 ซอยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถนนวิภาวดี-รังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2275-7684-6 แฟกซ์ 0-2692-3321 E-mail Contact : miningthai@miningthai.org Website : www.miningthai.org ID LINE : miningthai ที่ปรึกษา : เกรียงศักดิ์ หล่อวัฒนตระกูล ประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ วัลลภ การวิวัฒน์ กรรมการสภาการเหมืองแร่ และประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ สมพร อดิศักดิ์พานิชกิจ เลขาธิการสภาการเหมืองแร่ บรรณาธิการ : กิตติ วิสุทธิรัตนกุล กองบรรณาธิการ : สุรีย์พร วงศ์ศรีตระกูล / ทัศนีย์ เรืองติก / อ�ำพันธุ์ ไตรรัตน์ / ชุติภา จริตพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : เขมจิรา ปลาทิพย์ ฝ่ายโฆษณา : ศิริภรณ์ กลิ่นขจร / มนัส ไชยเพส / กษิรา เหมบัณฑิตย์ / กัลยา ทรัพย์ภริ มย์ จัดท�ำโดย : บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จ�ำกัด เลขที่ 471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2354-5333 แฟกซ์ 0-2640-4260 **วารสารเหมืองแร่ จัดท�ำขึน้ เพือ่ ให้ขอ้ มูลข่าวสารทีเ่ ป็นประโยชน์แก่สมาชิกสภาการเหมืองแร่ ประชาสัมพันธ์การด�ำเนินงานและกิจการของสภาฯ ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ ทีเ่ กีย่ วข้องกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ทัง้ นีบ้ ทความต่างๆ ใน วารสารเหมืองแร่ นีเ้ ป็นดุลพินจิ ของกองบรรณาธิการ โดยจะออกทุกๆ 2 เดือน
FEED THE BEAST TELSMITH
IRON GIANT
™
Long Crushing Chamber delivers higher volume and greater productivity
JAW CRUSHER Hydraulic Wedge Lock allows safe and easy jaw adjustments
Liner in various locations protects the lifetime component of the jaw
No rock too hard. No mine too large. Don’t believe it? See for yourself at telsmith.com
ASTE L I S T E D
ASTE L I S T E D
ASTE L I S T E D
THE
EXTRA MILE
The extra mile isn’t extra... It’s included.
For more information, please contact Patchara Yimtam 091 889 1292 l Patchara.y@dksh.com © 2018 Telsmith, Inc. TELSMITH.COM
Contents ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 ประจำ�เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2561
12 เทคโนโลยีเหมืองแร่
23 แวดวงชาวเหมือง
เทคโนโลยีใหมแ่ ละปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชว่ ยควบคุม ค่าใช้จ่ายการซ่อมบำ�รุงในธุรกิจเหมืองแร่ได้อยา่ งไร
24 Industry 4.0
รอบ สตัมเมอร์
15
กรอ. เร่งเครื่องยกระดับโรงงานทั่วไทย ตั้งเป้า 5 ปี มี Smart Factory กวา่ 1,000 โรงงาน
Report
กองบรรณาธิการ
กระทรวงอุตฯ เชิญชวน SME สมัครรางวัล อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น เพิ่มเติม 3 รางวัล หมดเขต 27 สิงหานี้
27 ขา่ วเศรษฐกิจแร่
กองบรรณาธิการ
18
29 การคา้ แร่
กพร. ย้ำ�ผูป้ ระกอบการตอ้ งเครง่ ครัดความปลอดภัย การใช้วัตถุระเบิดในงานเหมืองแร่
30 เรื่องเลา่ จากชาวเหมือง
กองบรรณาธิการ
หมอดูขา้ งเหมือง รุ่งศักดิ์ อินทร์สิงห์
19 Mega Project ดัชนีราคาวัสดุกอ่ สรา้ งเดือนมิถุนายน 2561 ทำ�สถิติเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี รับอานิสงส์ จากโครงการเมกะโปรเจกต-์ EEC ของภาครัฐ กองบรรณาธิการ
22 เหมืองแรส่ ีเขียว
คณะกรรมการตรวจสอบขอ้ เท็จจริงฯ เผยบอ่ กักเก็บ กากแรท่ ี่ 1 ของบริษัท อัคราฯ มีการรั่วซึม กองบรรณาธิการ
33 News
38 CSR
สิรินิธิ รว่ มกับ ปูนซิเมนต์ไทย (แกง่ คอย) และ ปูนซีเมนต์นครหลวง จำ�กัด (มหาชน) จัดงาน “มหกรรมตรวจสุขภาพ 3+1” กองบรรณาธิการ
ตอกย้ำ�ความสำ�เร็จ
S
ด้วยยอดขายใกล้ 1000 คัน
ANY Group เป็นผูผ้ ลิตเครือ่ งจักรกลหนักรายใหญ่อยูใ่ น 3 อันดับแรกของโลก
และใหญ่ทส่ี ดุ เป็นอันดับ 1 ในประเทศจีน โดยมีฐานการผลิตในเขตอุตสาหกรรม ต่างๆ มากกว่า 5 เขตอุตสาหกรรมในประเทศจีน นอกจากนีย้ งั มีฐานการผลิตและศูนย์วจิ ยั และพัฒนามากกว่า 4 แห่งในต่างประเทศ ได้แก่ อเมริกา เยอรมัน อินเดีย และบราซิล สำ�หรับในประเทศไทย เนื่องจากทาง SANY Group ที่ประเทศจีนได้เล็งเห็นถึง ศั ก ยภาพการเติ บ โตทางด้ า นอุ ต สาหกรรมต่ า งๆ ในประเทศไทย รวมถึ ง ตลาดของ เครือ่ งจักรกลหนักทีม่ กี ารเติบโตขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง จึงทำ�ให้ในปี พ.ศ. 2557 SANY Group และ บริษัท ไทยยนต์ อีควิปเมนท์ จำ�กัด ตัดสินใจจับมือร่วมทุนกัน จนเกิดเป็น บริษัท ซานี่ ไทยยนต์ จำ�กัดขึ้น โดยมีคุณยศวัฒน์ เรืองรักษ์ลิขิต เป็นกรรมการผู้จัดการ โดยมี จุดมุง่ หมายคือการเข้ามาบุกตลาดเครือ่ งจักรกลหนัก ให้เครือ่ งจักรของซานีเ่ ป็นทีน่ ยิ ม และใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เป็นที่ยอมรับจากบริษัทชั้นนำ� เนื่องจากมีความคุ้มค่า ต่อการใช้งาน ทั้งในด้านราคาและคุณภาพ และที่สำ�คัญคือเรื่องบริการหลังการขาย ด้วยองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้จะสามารถทำ�ให้เครื่องจักร SANY สามารถก้าวขึ้นสู่ อันดับต้นๆ ได้ภายใน 3 ปี โดย คุณยศวัฒน์ เรืองรักษ์ลิขิต กรรมการผู้จัดการของบริษัท ซานี่ ไทยยนต์ ได้ ก ล่ า วว่ า “สำ � หรั บ เรา ซานี่ ไทยยนต์ คื อ ตั ว แทนจำ � หน่ า ยเครื่ อ งจั ก รกลหนั ก แบรนด์ซานี่ในประเทศไทย เรามุ่งมั่นและตั้งใจในทุกๆ การบริการ เพราะเรา ให้ความสำ�คัญในเรื่องคุณภาพ ทั้ง เครื่องจักร คน และกระบวนการทำ�งาน เพื่อ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทำ�ให้เราเติบโตแบบก้าวกระโดด และเข้าไปอยู่ ในใจลูกค้า โดยที่เราไม่ละเลยที่จะพัฒนาและใส่ใจทุกๆ รายละเอียด เพราะเรา เชื่อว่า Quality Changes The World” สำ�หรับผลิตภัณฑ์ของซานี่ที่เรานำ�เข้ามาในตลาดในไทย มีทั้งรถขุด รถตัก รถบด รถเกรด และรถเจาะ ซึ่งได้รับการผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐานระดับ โลก ประกอบกับเรามีทมี พัฒนาและบุคลากรทีม่ คี ณ ุ ภาพ พร้อมทัง้ การนำ�เทคโนโลยี ชั้นสูงที่ทันสมัยเข้ามาใช้ ทำ�ให้เครื่องจักรของเรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมี คุณภาพ อีกหนึง่ จุดสำ�คัญคือชิน้ ส่วนอุปกรณ์ตา่ งๆ ทีเ่ ราเลือกนำ�มาใช้กบั เครือ่ งจักร ได้รับการผลิตจากผู้ผลิตชั้นนำ�และเป็นที่ยอมรับทั่วโลก สำ�หรับปี พ.ศ. 2561 บริษทั ซานี่ ไทยยนต์ จำ�กัด ได้ทำ�การตัง้ เป้ายอดขายไว้ที่ 300 คัน ซึ่งเพียง 2 ไตรมาสแรก เราสามารถทำ�ยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อ เทียบกับปี พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการขายและ การตลาด รวมไปถึงการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานและรวดเร็ว โดยยึด หลักการบริการแบบ 1137 (1 = ตอบกลับลูกค้าภายใน1 ชั่วโมง, 1 = ช่างบริการต้องเข้าไปตรวจเช็คและซ่อมเครือ่ งจักรภายใน
ยศวัฒน์ เรืองรักษ์ลขิ ติ กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั ซานี่ ไทยยนต์ จำ�กัด
1 วัน, 3 = ช่างบริการต้องทำ�การซ่อมแซมและแก้ไขปัญหาให้กบั ลูกค้าภายใน 3 วัน, 7 = หากภายใน 7 วัน ช่างบริการไม่สามารถ ซ่อมแซมหรือแก้ไขปัญหาได้ ทางบริษัทต้องชดใช้ค่าเสียหาย ให้กับลูกค้า) ซึ่งตอนนี้เรามีศูนย์บริการทั่วประเทศแล้วทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ (สำ�นักงานใหญ่) พิษณุโลก ลำ�ปาง ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานี โดยในปี พ.ศ. 2561 นี้ เรามีแผน ที่จะทำ�การเปิดสาขาเพิ่มอีก 6 จังหวัดทั่วประเทศ คือ ระยอง นครราชสีมา เพชรบุรี และอุดรธานี เพื่อสามารถให้บริการแก่ ลูกค้าได้ทวั่ ถึงและรวดเร็วยิง่ ขึน้ นอกจากนีเ้ รายังได้มกี ารจัดทำ� โครงการ SANY Service ขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2561 ได้ทำ�การ เปิดโครงการเป็นทีเ่ รียบร้อยแล้วเมือ่ วันที่ 18 มิถนุ ายนทีผ่ า่ นมา และจะทำ�การออกเยี่ ย มชมลู ก ค้ า ตั้ ง แต่ วั น ที่ 19 มิ ถุ น ายน จนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2561 โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ คื อ เพื่ อ เข้ า ไปเยี่ ย มเยี ย นลู ก ค้ า ในเขตพื้ น ที่ ต่ า งๆ พร้ อ มทั้ ง เข้ า ไปทำ�การตรวจเช็คเครื่อ งจักรและรับฟังปัญหาเกี่ ยวกั บ เครื่องจักรจากลูกค้าโดยตรง เพื่อนำ�มาปรับปรุงแก้ไขได้อย่าง ตรงจุด เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา SANY Leasing (Thailand) ได้ทำ�การเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ ที่โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันของ 3 ฝ่าย ซึ่งได้แก่ SANY Group, SANY Thaiyont และ Maxcrane Machinery ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 300 ล้านบาท ซึง่ ประเทศไทย เป็นประเทศที่ 4 ที่ SANY Leasing ได้มา ทำ�การเปิดตัว ต่อจาก
USA, Singapore และ South Africa ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็น แล้วว่าตลาดของเครื่องจักรหนักในบ้านเรานั้นมีการเติบโต มากขึ้ น และต่ อ เนื่ อ ง ซึ่ ง อาจจะมี ผ ลมาจากการที่ รั ฐ บาลมี นโยบายที่จะลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ให้เติบโตและรวดเร็วยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีเหมืองแร่ l
*รอบ สตัมเมอร์
เทคโนโลยี ใหม่
และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายการซ่อมบำ�รุงในธุรกิจเหมืองแร่ได้อย่างไร
นั
กเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมจาก บิส อ๊อกฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (BIS Oxford Economics) ระบุวา่ กิจการเหมืองแร่ของประเทศออสเตรเลียกำ�ลังเดินหน้า อย่างเต็มที่ ซึ่งส่งผลดีต่อภาคการส่งออกและเศรษฐกิจใน วงกว้าง แต่ด้วยต้นทุนด้านการซ่อมบำ�รุงที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 5 ปีถดั ไป ทำ�ให้หลายบริษทั ต้อง หั น มาพิ จ ารณาเรื่ อ งการลงทุ น ในระบบที่ จ ะช่ ว ยควบคุ ม ค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากรายงานของ บิส อ๊อกฟอร์ด อีโคโนมิกส์ เรื่องการ ทำ�เหมืองแร่ในประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ถึง พ.ศ. 2575 พบว่าการสำ�รวจ การผลิต การซ่อมบำ�รุงของการ ทำ�เหมืองแร่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจนถึงปี พ.ศ. 2561 และหลังจากนั้น การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในด้านราคาทำ�ให้ ผูป้ ระกอบกิจการเหมืองแร่มผี ลกำ�ไรเพิม่ มากขึน้ แต่ดเู หมือนว่า การซ่อมบำ�รุงกลับกลายเป็นต้นทุนสูงสุดในการดำ�เนินงาน *กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอฟเอส ประจำ�ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
12
July-August 2018
รั บ เฮน จี ย่ า นั ก เศรษฐศาสตร์ จ าก บิ ส อ๊ อ กฟอร์ ด อีโคโนมิกส์ และผู้เขียนรายงานระบุว่า การซ่อมบำ�รุงมีผล ต่อต้นทุนการดำ�เนินงานอย่างมากในช่วงหลายปีทผี่ า่ นมา และ จากการใช้งานสินทรัพย์ทมี่ อี ยูเ่ พิม่ มากขึน้ อันเนือ่ งมาจากสภาพ ตลาดที่เกิดการฟื้นตัว ทำ�ให้คาดได้ว่างานซ่อมบำ�รุงจะเพิ่มขึ้น เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 5 ปีขา้ งหน้านี้ ซึ่งถือเป็นโอกาส สำ�คัญสำ�หรับบรรดาผู้รับเหมาด้านการบริการ สำ�หรั บ เจ้ า ของสิ น ทรั พ ย์ แ ล้ ว การควบคุ ม ต้ น ทุ น ด้ าน การซ่อมบำ�รุงจะครอบคลุมถึงการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ และการทำ�งานสอดประสานร่ ว มกั บ ผู้ รั บ เหมาที่ ใ ห้ บ ริ ก าร ด้านการซ่อมบำ�รุง ขณะที่ฝั่งของผู้รับเหมาเองนั้น พวกเขาจะ พยายามมองหาแนวทางที่จะช่วยให้การดำ�เนินงานตามสัญญา บรรลุผลได้อย่างดีที่สุด ตลอดจนเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับเจ้าของ สินทรัพย์ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายของตัวเองได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี ใ หม่ ๆ ได้ แ ก่ การประมวลผลแบบคลาวด์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (Internet of Things) การซ่อมบำ�รุงเชิงพยากรณ์ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการ วางแผนและการจัดตารางเวลา ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (Artificial Intelligence : AI) และ ความเป็นจริงเสมือน หรือเออาร์ (Augmented Reality: AR) ทั้งหมดนี้ล้วนมีบทบาทสำ�คัญในการควบคุมต้นทุนด้านการ ซ่อมบำ�รุงโดยตรง
ใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซ่อมบำ�รุง
จากรายงานการวิจยั ของเออาร์ซี แอดไวเซอรี่ กรุป๊ (ARC Advisory Group) พบว่า 82% ของสินทรัพย์มีรูปแบบของ ความล้มเหลวแบบสุ่ม (Random Failure) กล่าวคือ กลยุทธ์ ด้านการซ่อมบำ�รุงเชิงป้องกันแบบดั้งเดิมนั้นไม่มีประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการด้านการหยุดทำ�งานของอุปกรณ์และเพิ่ม อายุการใช้งานได้อย่างสูงสุด จึงไม่นา่ แปลกใจทีบ่ รรดาบริษทั เหมืองแร่ตา่ งกำ�ลังเดินหน้า ปรับเปลี่ยนแนวทางจากการซ่อมบำ�รุงเชิงป้องกันตามปฏิทิน ไปเป็นการซ่อมบำ�รุงตามสภาพหรือการใช้งานจริง และด้วย เซ็นเซอร์ที่สามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นจริงได้ จึงทำ�ให้แนวคิด ด้านอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือไอโอที เข้ามามีส่วนผลักดัน ที่ สำ�คั ญ ต่ อ แนวโน้ ม ดั ง กล่ า ว แต่ ดู เ หมื อ นว่ า วิ ธี ที่ ดี ที่ สุ ด ในการจัดการการซ่อมบำ�รุงอุปกรณ์และสินทรัพย์อื่นๆ เห็นจะ หนีไม่พ้นการซ่อมบำ�รุงเชิงพยากรณ์ การซ่อมบำ�รุงเชิงพยากรณ์นำ�เสนอความน่าเชื่อถือทั้ง โดยทันทีและในระยะยาว ทัง้ ยังช่วยประหยัดค่าใช้จา่ ยได้อกี ด้วย และเมื่อรวมเข้ากับระบบการเฝ้าติดตามและการบริหารจัดการ สินทรัพย์แล้ว ก็จะช่วยให้บริษัทเหมืองแร่สามารถมองเห็น สินทรัพย์ของตนได้ดีขึ้น ช่วยลดปัญหาและความท้าทายที่ไม่ สามารถควบคุมได้ เช่น ระยะทางและสภาพแวดล้อม การซ่ อ มบำ�รุ ง เชิ ง พยากรณ์ ใ ห้ ม ากกว่ า ความสามารถ ในการตรวจสอบประสิทธิภาพของสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องผ่าน เซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น การตรวจสอบการสั่นสะเทือน นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือพยากรณ์ที่สามารถใช้ในการประมวลผลข้อมูล ป้อนเข้าและให้การตอบสนองอย่างชาญฉลาดโดยอัตโนมัตดิ ว้ ย ข้อมูลที่เก็บรวบรวมและการตอบสนองที่เกิดขึ้นจะถูกบันทึก และประมวลผลในระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ขององค์กร เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ระบบธุร กิจ
อัจฉริยะทำ�งานอย่างมีประสิทธิภาพ และลูกค้าได้รับความ พึงพอใจ ด้วยระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ขององค์กรแบบ ครบวงจรและการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ ทำ�ให้สามารถลดเวลา หยุดทำ�งานของเครือ่ งจักรลงได้ เพิม่ ประสิทธิภาพในการทำ�งาน ได้ อ ย่ า งสู ง สุ ด และปรั บ กระบวนการทำ�งานภายในห่ ว งโซ่ เหตุการณ์ให้เหมาะกับกระบวนการทำ�งานทัง้ หมด ซึง่ ครอบคลุม ตั้งแต่การบริหารจัดการสินค้าคงคลังไปจนถึงทรัพยากรมนุษย์ หลังจากเปรียบเทียบข้อมูลที่ผ่านมากับข้อมูลปฏิบัติการแบบ เรียลไทม์แล้ว การแจ้งเตือนจะกระตุน้ การทำ�งานของซอฟต์แวร์ การบริหารจัดการสินทรัพย์ขององค์กรเหมืองแร่ให้ดำ�เนินการ จัดตารางเวลาให้กับช่างเทคนิคที่มีทักษะความชำ�นาญการที่ เหมาะสมและระบุชิ้นส่วนที่ถูกต้องเพื่อนำ�มาใช้ในการแก้ไข สิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เป็นต้น การเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพในระดั บ นี้ ต้ อ งใช้ แ หล่ ง ข้ อ มู ล หลายแหล่งร่วมกัน เช่น ข้อมูลสภาพเครื่องจักร ความสำ�คัญ ของสินทรัพย์ ระดับการให้บริการ การจัดหาอะไหล่ชิ้นส่วน ความพร้อมของวิศวกรบริการ เวลาเดินทาง สภาพอากาศ และ อื่ น ๆ ทั้ ง หมดนี้ เ กี่ ย วข้ อ งโดยตรงกั บ ความสามารถในการ ดึงข้อมูลมารวมเข้าด้วยกันเพือ่ ให้เห็นภาพทีช่ ดั เจน และนำ�ไปสู่ การนำ�เสนอทางเลือกในการตัดสินใจที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ ผ่านระบบซอฟต์แวร์
ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เพื่อคิดนอกกรอบ
แม้ว่าการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในหลายรูปแบบ กำ�ลังอยูใ่ นขัน้ ตอนเริม่ ต้น แต่ในบางพืน้ ทีก่ ไ็ ด้พสิ จู น์ให้เห็นแล้วว่า เทคโนโลยีนี้สามารถสร้างประโยชน์ได้จริง บริษัท ไอเอฟเอส กำ�ลังใช้อลั กอริทมึ การเรียนรูข้ องเครือ่ งจักรและเทคนิคอัจฉริยะ อืน่ ๆ ภายใน ไอเอฟเอส แพลนนิง่ แอนด์ สเกดิวลิง่ ออปติไมเซชัน่ หรือพีเอสโอ (IFS Planning & Scheduling Optimization (PSO)) เพื่อสร้างตารางเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำ�หรับลูกค้า เป็นระยะเวลามากกว่า 12 ปี หนึ่งในองค์ประกอบหลักใน IFS PSO คือ Dynamic Scheduling Engine (DSE) โดย DSE จะพยายามหาทางออก ที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติเพื่อปรับให้เข้ากับปัญหาที่มีความเฉพาะ เจาะจง ซึ่งโดยปกติแล้วจะเลือกใช้อัลกอริธึม 2 ถึง 6 ชุด จากความน่าจะเป็น 35 แนวทาง เพราะการทำ�งานร่วมกันของ อั ล กอริ ธึ ม ย่ อ มดี กว่ า การแยกส่ ว นการทำ�งานเพี ย งชุ ด เดี ยว
July-August 2018
13
ส่งผลให้ทีมงานมักจะพบแนวทางที่สร้างสรรค์เนื่องจากระบบ สามารถเรียนรู้การปรับเปลี่ยนได้โดยอัตโนมัติ โดยปกติแล้ว “การคิดนอกกรอบ” ของระบบจะทำ�ได้ดีกว่ามนุษย์ เนื่องจาก สามารถค้นหาแนวทางทีเ่ ป็นไปได้ในจำ�นวนทีม่ หาศาลอย่างมาก จะเห็นได้จากกรณีของบริษัท คิวบิก ทรานสปอเตชัน ซิสเต็มส์ (Cubic Transportation Systems) ซึ่งเป็นหนึ่งใน ลูกค้าของเราทีเ่ ริม่ ใช้ DSE เป็นครัง้ แรก บริษทั แห่งนีส้ งั เกตเห็น ว่าระบบกำ�ลังทำ�การตัดสินใจในการจัดตารางเวลาที่แตกต่าง จากการจัดตารางเวลาที่ดำ�เนินการโดยมนุษย์ ตัวอย่างเช่น อาจมีงานซ่อมจำ�นวน 3 งาน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสถานที่แห่ง เดียวกัน และหากเป็นก่อนหน้านี้วิศวกรจะต้องเดินทางไปยัง สถานที่แห่งนี้และทำ�งานทั้ง 3 งานนี้พร้อมกัน แต่ในบางครั้ง DSE จะจั ด ตารางเวลาให้ วิ ศ วกรทำ�งานเร่ ง ด่ ว นที่ ส ถานที่ ดังกล่าวก่อน จากนั้นจึงเดินทางไปที่อื่นเพื่อทำ�งานเร่งด่วน อี ก อย่ า งเป็ น ลำ�ดั บ ต่ อ ไป แล้ ว ค่ อ ยมาจั ด การงานซ่ อ มที่ ยั ง ไม่เร่งด่วนในภายหลัง อีกตัวอย่างหนึ่งที่คิวบิกสังเกตเห็นได้ก็คือเมื่อวิศวกรเริ่ม ทำ�งาน พวกเขามักจะเดินผ่านงานที่ต้องทำ�เพื่อไปหางานอื่นๆ ทีม่ คี วามสำ�คัญมากกว่าหรือกลุม่ งานทีร่ วมกันอยูห่ รือทีม่ คี วาม เหมาะสมมากกว่า พวกเขาตัง้ คำ�ถามเรือ่ งนีใ้ นตอนแรกจนทราบ ชัดเจนว่า DSE กำ�ลังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตารางเวลาในการ ทำ�งานทัง้ หมด และเมือ่ ภารกิจเสร็จสิน้ เหล่าวิศวกรก็จะกลับมา ทำ�งานเดิมในภายหลัง การที่ DSE สามารถคิดหาแนวทางใหม่ๆ ได้สำ�เร็จ ทำ�ให้ คิวบิกสามารถปรับปรุงอัตราการบรรลุข้อตกลงระดับการให้ บริการ หรือเอสแอลเอ (SLA) และเพิ่มความพร้อมใช้งานของ เครื่องจักรได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถทำ� สัญญาได้เพิ่มมากขึ้นโดยไม่ต้องสรรหาบุคลากรเพิ่มเติม
ความเป็นจริงเสมือน หรือเออาร์ จะเข้ามาปฏิวัติงานซ่อมบำ�รุง
เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ความเป็นจริงเสมือน หรือเออาร์ (Augmented Reality : AR) มีศกั ยภาพในการเพิม่ ประสิทธิภาพ การซ่อมบำ�รุงในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในลักษณะเดียวกับที่ รถบรรทุกไร้คนขับที่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของการ ขนส่งสินค้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษทั ไอเอฟเอส เพิง่ ประกาศเปิดตัวแนวคิดใหม่ทผี่ สาน รวมโซลูชันความเป็นจริงเสริมหรือฟาวต์ซ (fountx™) ซึ่งเป็น ผลงานการพัฒนาของชาวออสเตรเลีย เข้ากับข้อมูลองค์กรจาก ไอเอฟเอส แอพพลิเคชัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ�งาน ของวิศวกรอุตสาหการได้เป็น ผลสำ�เร็จ ซึ่งเป็นการพัฒนาโดย 14
July-August 2018
ทีมสร้างสรรค์นวัตกรรม ได้แก่ ไอเอฟเอส แลบส์ (IFS Labs) ร่วมกับบริษทั ฟาวต์ซ (fountx) และบริษทั แม่ทช่ี อ่ื ว่า เตแอร์โรสเปซ (TAE Aerospace) และสิ่ ง นี้ มี ศั ก ยภาพอย่ า งมากในการ เปลี่ยนแปลงวิธีการที่บริษัทจะสามารถดูแลรักษาสินทรัพย์ที่ ซั บ ซ้ อ นได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ซึ่ ง แตกต่ า งจากเทคโนโลยี สำ�หรั บ ผู้ บ ริ โ ภคที่ ส ามารถสวมใส่ ไ ด้ โดยฟาวต์ ซ (fountx) ถูกสร้างขึน้ เพือ่ สภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมทีซ่ บั ซ้อนโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำ�งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่ง แยกออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ สถานีสำ�หรับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่ง ประกอบด้วยชุดหูฟังและจอภาพใกล้ตา (near-eye headset) ที่ มี น้ำ� หนั ก เบาและคอมพิ ว เตอร์ แ บบสวมใส่ ไ ด้ และสถานี สำ�หรับผู้เชี่ยวชาญในระบบหน้าจอสัม ผัสสำ�หรับการใช้งาน นอกสถานที่ โดยทั้งหมดนี้จะช่วยให้ช่างเทคนิคสามารถทำ�งาน ซ่อมบำ�รุงที่ซับซ้อนได้โดยที่มีผู้เชี่ยวชาญจากระยะไกลสามารถ มองเห็นการทำ�งานของพวกเขาได้อย่างใกล้ชิด แนวคิดนีช้ ว่ ยให้ชา่ งเทคนิคสำ�หรับงานซ่อมบำ�รุงสามารถ มองเห็นข้อมูลซอฟต์แวร์ ไอเอฟเอส ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ที่ พวกเขากำ�ลังให้บริการอยูบ่ นจอภาพใกล้ตา (near-eye display) ของฟาวต์ซ (fountx) ได้อย่างชัดเจน ด้วยวิธีนี้ ช่างเทคนิคจะ สามารถทำ�งานซ่อมบำ�รุงได้อย่างเต็มทีท่ งั้ สองมือโดยไม่จำ�เป็น ต้องใช้แผ่นงานที่พิมพ์ออกมาหรือใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แยก ต่างหาก นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกภาพความละเอียดระดับ เอชดี จากกล้ อ งฟาวต์ ซ ไปไว้ ใ นไอเอสเอส แอพพลิ เ คชั น ได้โดยตรงด้วย ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน รูปแบบใหม่ๆ อย่างฟาวต์ซ (fountx) จะเข้ามาปฏิวัติวิธีการ ซ่อมบำ�รุงในอุตสาหกรรมเหมืองแร่อย่างไม่ต้องสงสัย และ เมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีตา่ งๆ เช่น การซ่อมบำ�รุงเชิงพยากรณ์ ปัญญาประดิษฐ์ และการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวางแผน และการจัดตารางเวลา ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในสภาพแวดล้อมระยะไกลที่มีต้นทุนด้านการซ่อมบำ�รุงสูงสุด ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำ�รุงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน การตัด ค่าใช้จา่ ยทีเ่ ราพบในอุตสาหกรรมเหมืองแร่นนั้ เป็นไปในทิศทาง ทีไ่ ม่ยงั่ ยืน ในขณะทีส่ นิ ทรัพย์ใหม่ๆ ก็เริม่ มีปริมาณเพิม่ มากขึน้ รวมถึงปริมาณการผลิตก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย แต่ด้วยการทำ�งาน ร่วมกันของเทคโนโลยีใหม่และระบบซอฟต์แวร์สำ�หรับองค์กร ส่ ง ผลให้ บ ริ ษัท บางแห่ ง มองเห็ นต้ นทุ นด้ า นการซ่ อมบำ�รุง ที่ เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เทียบเท่ากับที่มีการคาดการณ์จากทั้ง อุ ต สาหกรรมและเจ้ า ของสิ น ทรั พ ย์ เ หล่ า นี้ แ ละผู้ รั บ เหมา ด้านบริการจะอยู่ในตำ�แหน่งที่ดีกว่าผู้อื่นในการสร้างผลกำ�ไร ให้เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีขา้ งหน้านี้
Report
l
กองบรรณาธิการ
กระทรวงอุตฯ
เชิญชวน SME
สมัครรางวัลอุตสาหกรรม ขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น เพิ่มเติม 3 รางวัล หมดเขต 27 สิงหานี้
ก
ระทรวงอุตสาหกรรมได้ริเริ่มดำ�เนินการคัดเลือก “อุ ต สาหกรรมและโรงงานดี เ ด่ น ” เพื่ อ ประกาศ เกียรติคุณ และมอบโล่รางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวง อุตสาหกรรมของทุกๆ ปี ในวันที่ 5 พฤษภาคม มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524-2535 ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 กระทรวงอุตสาหกรรม ได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการคัดเลือกและการมอบรางวัล โดยจัดเป็นงาน “อุตสาหกรรมดีเด่น” ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2536 โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (Prime Minister’s Industry Award) เป็นผูม้ อบรางวัล ซึง่ ได้ดำ�เนินการ จัดต่อเนื่องทุกปีจนมาถึงปัจจุบัน การทีก่ ระทรวงอุตสาหกรรมดำ�เนินการคัดเลือกอุตสาหกรรม ดีเด่นขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกำ�ลังใจและเป็นแบบอย่างแก่ ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมให้มีความคิดริเริ่ม และความ วิรยิ ะอุตสาหะในการสรรค์สร้างสิง่ ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ การพัฒนา อุตสาหกรรมของประเทศ โดยผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล สามารถนำ�เครื่องหมายเชิดชูเกียรติไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ กิจการของตนเองได้ ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายก รัฐมนตรี เป็น ผู้มอบรางวัลในงานประกาศเกียรติคุณรางวัล อุตสาหกรรมเป็นประจำ�ทุกปี
ปีนี้เพิ่มรางวัล SME ดีเด่น 3 ประเภทรางวัล
สำ�หรับรางวัลอุตสาหกรรม มี 2 ประเภท คือ รางวัล อุตสาหกรรมยอดเยีย่ ม (The Prime Minister’s Best Industry Award) และ รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น (The Prime Minister’s Industry Award) ประกอบด้วย 9 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1. ประเภทการเพิ่มผลผลิต 2. ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3. ประเภทการบริหารความปลอดภัย 4. ประเภทการบริหารงานคุณภาพ 5. ประเภทการจัดการพลังงาน 6. ประเภทการบริหารอุตสาหกรรมขนาดกลางและ ขนาดย่อม 7. ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน 8. ประเภทอุตสาหกรรมศักยภาพ 9. ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม
July-August 2018
15
โดยในปีนก้ี ระทรวงอุตสาหกรรมได้เชิญชวนผูป้ ระกอบการ SME สมัครเข้ารับการคัดเลือกรับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น เพิ่มเติม 3 ประเภทรางวัล ได้แก่
1
รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดีเด่น (The Prime Minister’s Small and Medium Industry Award) ประเภทบริหารธุรกิจสูส่ ากล (Global SME) ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ คือ 1) วิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม ประเภทกิจการผลิตสินค้า ที่มีจำ�นวนการจ้างงานไม่เกิน 200 คน หรือมีมูลค่า สินทรัพย์ถาวรสุทธิซึ่งไม่รวมที่ดินไม่เกิน 200 ล้าน บาท 2) สถานประกอบการต้ อ งมี หุ้ น ส่ ว นคนไทย ไม่นอ้ ยกว่า 50% และจะต้องมีผบู้ ริหารคนไทยอยูด่ ว้ ย และ 3) เป็นสถานประกอบการที่มีการส่งออกสินค้า ไปยังตลาดต่างประเทศ
2
รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดีเด่น (The Prime Minister’s Small and Medium Industry Award) ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เชิงสร้างสรรค์ (Creative SME) ทัง้ สถานประกอบการ จะต้องมีคณ ุ สมบัตเิ ฉพาะ คือเป็นวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ประเภทกิจการผลิตสินค้าที่มีจำ�นวน การจ้างงานไม่เกิน 200 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ ถาวรสุทธิซึ่งไม่รวมที่ดินไม่เกิน 200 ล้านบาท และ มีความโดดเด่นด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เชิงสร้างสรรค์
16
July-August 2018
3
รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดีเด่น (The Prime Minister’s Small and Medium Industry Award) ประเภทการจัดการเทคโนโลยี ุ สมบัติ เชิงนวัตกรรม (Innovative SME) ซึง่ จะต้องมีคณ เฉพาะ คือ 1) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ประเภทกิ จ การผลิ ต สิ น ค้ า ที่ มี จำ�นวนการจ้ า งงาน ไม่ เ กิ น 200 คน หรื อ มี มู ล ค่ า สิ น ทรั พ ย์ ถ าวรสุ ท ธิ ซึ่งไม่รวมที่ดินไม่เกิน 200 ล้านบาท 2) เป็นกิจการ ทีด่ ำ�เนินการผลิตมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี และ 3) ได้การ รับรองมาตรฐานสากลในการดำ�เนินงาน อาทิ ISO 9001, ISO 14001, TS16949, GMP, HACCP, HALAL, ISO 22000, SEDEX เป็นต้น สำ�หรับผลการคัดเลือกตัดสินสถานประกอบการ ได้รบั รางวัล จะแจ้งให้ทราบทางเว็บไซต์ www.industry. go.th/industry_award โดยจะออกเป็ น ประกาศ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึง่ มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็ น ผู้ ล งนามในประกาศ พร้ อ มกั บ ทำ�หนั ง สื อ แจ้ ง ยืนยันเป็นทางการตามไปอีกครั้งด้วย จากนั้นจะมีพิธี มอบรางวัล ทั้งรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม รางวัล อุตสาหกรรมดีเด่น และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดย่ อ มดี เ ด่ น ประจำ�ปี พ.ศ. 2561 โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัล
นำ�รางวัลไปต่อยอดธุรกิจทั้งด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาธุรกิจ และพัฒนาสังคม
ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดย่อมดีเด่น จะได้รบั การเชิดชูเกียรติโดย ฯพณฯ นายก รัฐมนตรี เป็นผู้มอบรางวัล ได้รับการยกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่
ผูป้ ระกอบการอุตสาหกรรม สามารถใช้รางวัลเป็นใบเบิกทาง ด้านการตลาด สามารถสร้างภาพพจน์และความรู้สึกที่ดี ด้ า นมาตรฐานและคุ ณ ภาพให้ แ ก่ ลู ก ค้ า ได้ และมี สิ ท ธิ ประดับธงตราสัญลักษณ์รูปรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ณ สถานประกอบการเฉพาะสถานประกอบการที่ได้รับ รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมเท่านั้น ซึ่งสามารถต่อยอด ใช้ประโยชน์ให้กบั ธุรกิจ ครอบคลุม ทัง้ ด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาธุรกิจ และด้านการพัฒนาสังคม
ในปี นี้ ก ระทรวงอุ ต สาหกรรมได้ เ พิ่ ม รางวั ล อุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทอุตสาหกรรมขนาดกลางและ ขนาดย่อมดีเด่น เพิม่ เติม 3 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัล อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่นประเภท บริหารธุรกิจสู่สากล ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เชิ ง สร้ า งสรรค์ และประเภทการจั ด การเทคโนโลยี เชิงนวัตกรรม
July-August 2018
17
Report l
กองบรรณาธิการ
กพร. ย้ำ�ผู้ประกอบการ
ต้องเคร่งครัดความปลอดภัยการใช้วัตถุระเบิดในงานเหมืองแร่ กรมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและการเหมื อ งแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม สั่งห้ามนำ�เครื่องมือสื่อสารเข้าบริเวณ หน้างานระเบิด ป้องกันแก๊ปไฟฟ้าจุดระเบิด และให้แยกงาน เจาะระเบิดกับงานบรรจุวัตถุระเบิดออกจากกัน วิษณุ ทับเทีย่ ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการ เหมืองแร (กพร.) กล่าวว่า จากกรณีเกิดอุบตั เิ หตุขณะอัดระเบิด ในบริเวณบ่อเหมืองทีจ่ งั หวัดสุราษฎร์ธานี ซึง่ ในเบือ้ งต้นคาดว่า สาเหตุเกิดจากคลืน่ สัญญาณโทรศัพท์มอื ถือทำ�ให้แก๊ปไฟฟ้าเกิด การจุดระเบิด จึงขอย้ำ�ให้ผู้ประกอบการเหมืองแร่ต้องเคร่งครัด เรื่ อ งความปลอดภั ย อย่ า งสู ง สุ ด ในการใช้ วั ต ถุ ร ะเบิ ด ในงาน เหมืองแร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามนำ�เครื่องมือสื่อสารเข้าไปใน บริเวณหน้างานระเบิด และควรใช้แก๊ปที่จุดระเบิดแบบไม่ใช้ ไฟฟ้าแทนการใช้แก๊ปไฟฟ้า รวมทั้งควรแยกงานเจาะระเบิดกับ งานบรรจุวัตถุระเบิดออกจากกัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการ
18
July-August 2018
ระเบิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ทัง้ นี้ กรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ ตระหนัก ดีถึงความปลอดภัยในการใช้วัตถุระเบิดในการทำ�เหมืองแร่ จึ ง จั ด ให้ มี ก ารฝึ ก อบรมหลั ก สู ต ร “โครงการขึ้ น ทะเบี ย น ผู้ควบคุมการใช้วัตถุระเบิดในงานเหมืองแร่” มาอย่างต่อเนื่อง มากกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา เพื่อถ่ายทอด และทบทวนความรู้ด้านการใช้วัตถุระเบิดให้กับผู้ประกอบการ และบุคลากรในงานเหมืองแร่ให้มคี วามรูค้ วามเข้าใจและมีความ เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการใช้วัตถุระเบิดอย่างถูกต้อง โดยในปีนี้ กำ�หนดให้ มีก ารอบรมและขึ้ นทะเบี ย นผู้ ค วบคุ ม การใช้วัตถุ ระเบิดในงานเหมืองแร่ ระหว่างวันที่ 6-11 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าร่วมรับ การอบรมทั้งหมด 50 คน
Mega Project l
กองบรรณาธิการ
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนมิถุนายน 2561
ทำ�สถิติเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี
รับอานิสงส์จากโครงการเมกะโปรเจกต์-EEC ของภาครัฐ พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำ�นวยการสำ�นักงานนโยบาย และยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า ดัชนีราคาวัสดุกอ่ สร้าง เดือนมิถุนายน 2561 เท่ากับ 108.1 เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อ เทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็ น เดื อ นที่ 12 และเพิ่มสูงสุดในรอบ 6 ปี นับจากเดื อน มิ ถุ น ายน 2555 ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น 4.5% และเมื่ อ เที ย บกั บ เดื อ น พฤษภาคม 2561 เพิม่ ขึน้ 0.7% ขณะทีด่ ชั นีเฉลีย่ 6 เดือนของ ปี พ.ศ. 2561 (ม.ค.-มิ.ย.) เพิม่ ขึน้ 3.2% เนือ่ งจากความต้องการ นำ�ไปใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างพืน้ ฐานขนาดใหญ่ของประเทศ มากขึ้น รวมถึงราคาวัตถุดิบและราคานำ�เข้าที่สูงขึ้น
สาเหตุทท่ี ำ�ให้ดชั นีราคาวัสดุกอ่ สร้างเดือนมิถนุ ายน 2561 ที่ สู ง ขึ้ น ถึ ง 4.4% เป็ น เพราะหมวดเหล็ ก และผลิ ต ภั ณ ฑ์ (เหล็กเส้นกลมผิวเรียบ-ผิวข้ออ้อย, เหล็กรูปตัวซี, เหล็กฉาก, เหล็กรูปตัวไอ, เหล็กรูปตัวเอช, เหล็กรางน้ำ�, ลวด เหล็กเสริม คอนกรีต) เพิ่มขึ้น 15.5% จากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ทั้งแร่ เหล็ก บิลเล็ต (เหล็กแท่ง) และเศษเหล็ก และหมวดซีเมนต์ (ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนซีเมนต์ผสม ปูนซีเมนต์ขาว) เพิม่ ขึน้ 3.6% จากการปรับราคาสู่ภาวะปกติ เนื่องจากช่วงเดียวกัน ของปีกอ่ น ผูผ้ ลิตให้สว่ นลดสูงเพือ่ เพิม่ ยอดจำ�หน่าย ประกอบกับ ต้นทุนสูงขึ้นตามราคาถ่านหิน
July-August 2018
19
นอกจากนี้ หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต (เสาเข็มคอนกรีต อัดแรง พื้น-คานคอนกรีตสำ�เร็จรูปอัดแรง ถังซีเมนต์สำ�เร็จรูป ชีทไพล์คอนกรีต) เพิ่มขึ้น 1.8% ตามราคาปูนซีเมนต์และ ลวดเหล็กอัดแรง ขณะที่หมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆ (ทรายถมที่ ดินถมที่ ดินลูกรัง หินคลุก ทรายหยาบ ทรายละเอียด หินย่อย อิฐมอญ) เพิ่มขึ้น 2.3% ส่วนหมวดกระเบื้อง เพิ่มขึ้น 0.5% จากความต้องการฟืน้ ตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และหมวดไม้ และผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้น 0.3% จากไม้นำ�เข้าที่ปรับราคาขึ้น แต่ หมวดวัสดุฉาบผิว และหมวดสุขภัณฑ์ ลดลง 0.4% และ 0.6% ตามลำ�ดั บ ขณะที่ ห มวดอุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า และประปา ราคา ไม่เปลี่ยนแปลง พิมพ์ชนก กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างจะ ยังคงขยายตัวเพิม่ ขึน้ ต่อเนือ่ ง จากโครงการก่อสร้างภาครัฐทีอ่ ยู่ ระหว่างการก่อสร้าง และอยูร่ ะหว่างดำ�เนินการเปิดประมูลอย่าง ต่อเนื่อง รวมทั้งการเร่งก่อสร้ างโครงการต่ างๆ เพื่อให้ทัน เบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2561 และยังมีความคาดหวังจากการ เดินหน้าของภาครัฐในการลงทุนโครงการด้านสาธารณูปโภค พืน้ ฐานอีกจำ�นวนมาก ทัง้ โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟฟ้า สายสีต่างๆ โครงการพัฒนาถนน ท่าเรือ ท่าอากาศยาน และ โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้น ทัง้ นีม้ กี ารลงทุนโครงการขนาดใหญ่ทคี่ าดว่าภาครัฐจะเร่ง ผลั ก ดั น งานประมูลต่ างๆ ให้อ อกมามากที่สุด อาทิ รถไฟ ความเร็วสูงเชือ่ ม 3 สนามบิน, ทางด่วนดาวคะนอง-พระราม 3, งานบำ�รุงรักษามอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และบางใหญ่กาญจนบุรี เป็นต้น
20
July-August 2018
จากข้อมูลของวิจัยกรุงศรี โดย นิรัติศัย ทุมวงษา เรื่อง แนวโน้มธุรกิจ/อุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2561-2563 ธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง ได้คาดการณ์มลู ค่าการลงทุนก่อสร้างโดยรวม ในช่วงปี พ.ศ. 2561-2563 มีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ย 7-9% ต่อปี อานิสงส์จากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ของรัฐทีม่ ปี ระมาณ 61 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 3.2 ล้านล้าน บาท ภายในปี พ.ศ. 2569 นอกจากนี้ยังมีแรงฟื้นตัวของการ ลงทุ น ก่ อ สร้ า งภาคเอกชน ซึ่ ง เป็ น อี ก ปั จ จั ย ผลั ก ดั น สำ�คั ญ ให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยที่ ง านก่ อ สร้ า งภาครั ฐ มี แ นวโน้ ม เติ บ โตสู ง จาก เมกะโปรเจกต์ โดยเฉพาะโครงการใน EEC แนวโน้ ม งานก่อสร้างภาครัฐในปี พ.ศ. 2561 คาดว่าจะกลับมาขยายตัว สูงในอัตรา 9-11% YoY มีมูลค่า 747-761 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็น ผลจากการเปรียบเทียบกับฐานที่ตำ�่ ในปี พ.ศ. 2560 และคาดว่ า ช่ ว งปี พ.ศ. 2562-2563 จะขยายตั ว ต่อเนื่องในอัตรา 8-12% เนื่องจากจะมีการลงทุนในโครงสร้าง พื้ น ฐานขนาดใหญ่ โ ครงการใหม่ ที่ เ ซ็ น สั ญ ญาไปแล้ ว เมื่ อ ปี พ.ศ. 2560 ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (มีนบุรี-แคราย) และ สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำ�โรง) รวมถึงรถไฟทางคู่ระยะแรก จำ�นวน 5 เส้นทาง ซึ่งน่าจะมีความคืบหน้าในการก่อสร้าง มากขึ้น นอกจากนี้ ยั ง มี โ ครงการใหม่ ที่ เ ตรี ย มจะเปิ ด ประกวด ราคาในช่ ว งปี พ.ศ. 2561-2562 เช่ น ทางพิ เ ศษสาย พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ ด้ า นตะวั น ตก รถไฟความเร็วสูงเชือ่ มต่อ 3 สนามบิน (ท่าอากาศยานดอนเมือง-
ท่าอากาศยานสุวรรณภุมิ-ท่าอากาศยานอู่ตะเภา) และท่าเรือ แหลมฉบังระยะที่ 3 ซึง่ คาดว่าภาครัฐจะเร่งดำ�เนินการก่อสร้าง ให้ทันตามกำ�หนดและจะทยอยประมูลโครงการอื่นในช่วงปี พ.ศ. 2562-2564 อีก 3 ปีข้างหน้า นอกจากการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของ ภาครัฐแล้ว ยังมีแผนการลงทุนในโครงการขนาดกลางและ ขนาดย่ อ ยภายใต้ ง บประมาณประจำ�ปี โดยส่ ว นใหญ่ เ ป็ น โครงการขยายและปรับปรุงโครงข่ายถนนของกรมทางหลวงและ กรมทางหลวงชนบท ซึ่งในปีงบประมาณ 2561 มีกรอบวงเงิน ลงทุน 144.8 พันล้านบาท ขณะที่งานก่อสร้างในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLM หรือ กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา มีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะ โครงสร้างพื้นฐาน เห็นได้จากสัดส่วนค่าก่อสร้างต่อผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Products : GDP) ในกัมพูชาและเมียนมา ในช่วงปี พ.ศ. 2554-2559 เพิ่มขึ้น ในอัตราเร่ง ขณะที่สัดส่วนค่าก่อสร้างต่อ GDP ใน สปป.ลาว หดตัวลงในปี พ.ศ. 2558-2559 เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ อย่างเขื่อนผลิตไฟฟ้าทยอยสร้างเสร็จแล้ว ขณะที่การก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์สว่ นใหญ่เติบโตดีเฉพาะในเมืองหลวง เนือ่ งจาก ยังเป็นประเทศเล็ก อย่างไรก็ดี คาดว่างานก่อสร้างทั้ง 3 ประเทศมีทิศทาง เติบโตสูงในระยะ 3 ปีข้างหน้าตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้ม ขยายตัว (IMF คาดเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ CLM ในช่วง
ปี พ.ศ. 2561-2563 ขยายตัว 6.2-7.6% ต่อปี) โดยคาดว่า การพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ CLM ยังคงต้องอาศัย การลงทุ น ในโครงสร้ า งพื้ น ฐานและสิ่ ง อำ�นวยความสะดวก ต่อเนือ่ ง โดยเฉพาะพืน้ ทีใ่ นเมืองและเขตเศรษฐกิจพิเศษทีก่ ำ�ลัง เติบโตสูงจากการขยายตัวของภาคธุรกิจและท่องเที่ยว จึงเป็น โอกาสแก่ผู้รับเหมาไทยที่จะเข้าไปขยายฐานตลาดก่อสร้าง เนื่องจากมีความได้เปรียบจากการมีชายแดนติดต่อกัน ทำ�ให้ สะดวกต่อการขนส่งวัสดุก่อสร้างและเครื่องมือ/เครื่องจักร สำ�หรับใช้ในงานก่อสร้าง 1) กัมพูชา คาดมีการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หลายโครงการ รวมถึงงานก่อสร้างในกลุม่ อสังหาริมทรัพย์ทจี่ ะ เติบโตตามแนวเส้นทางคมนาคมที่พัฒนาขึ้นใหม่ 2) สปป.ลาว คาดว่ า จะมี ก ารขยายการลงทุ นโครงข่าย คมนาคมขนาดใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่ร่วมลงทุน ระหว่ า งประเทศ จากที่ ก่ อ นหน้ า นี้ มี ก ารพั ฒ นาโครงการ โรงไฟฟ้าค่อนข้างมาก นอกจากนี้ผู้รับเหมาไทยยังมีโอกาส รับงานก่อสร้างและตกแต่งที่อยู่อาศัยตลาดระดับสูง เนื่องจาก ไทยมี นั ก ออกแบบและแรงงานก่ อ สร้ า งที่ มี ฝื มื อ และเป็ น ที่ ยอมรับใน สปป.ลาว 3) เมียนมา รัฐบาลเมียนมายังลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ต่ อ เนื่ อ ง อี ก ทั้ ง การลงทุ น อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ก ลั บ มาฟื้ น ตั ว โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ทำ�ให้เป็นโอกาสของ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างไทย
July-August 2018
21
เหมืองแร่สีเขียว l
กองบรรณาธิการ
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ
เผยบ่อกักเก็บกากแร่ที่ 1 ของบริษัท อัคราฯ มีการรั่วซึม ดร.พสุ โลหารชุ น ปลั ด กระทรวงอุ ต สาหกรรมและ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา ข้อขัดแย้ง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจากการทำ� เหมืองแร่ทองคำ�ของบริษทั อัครา รีซอร์สเซส จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา ข้อขัดแย้ง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจากการทำ� เหมืองแร่ทองคำ�ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำ�กัด (มหาชน) ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ องค์กรพัฒนา เอกชน ภาคประชาชน และผู้แทนของบริษัท อัคราฯ มีมติว่า บ่อกักเก็บกากแร่ที่ 1 (TSF1) มีการรั่วซึม และอาจเป็นสาเหตุ การแพร่กระจายของโลหะหนัก เพิม่ เติมจากโลหะหนักทีอ่ าจเกิด อยูแ่ ล้วตามธรรมชาติ หลังจากทีไ่ ด้มกี ารรับฟังและพิจารณาจาก รายงานผลการศึกษาโครงการ “การสำ�รวจตรวจสอบโอกาส การรั่วไหลของสารพิษจากบ่อกักเก็บกากแร่ที่ 1 (TSF1) ของเหมืองทองคำ� บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำ�กัด (มหาชน) จังหวัดพิจิตร” ซึ่งมี ผศ. ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ มหาวิทยาลัย นเรศวร และคณะ เป็นผู้ศึกษาโครงการ จากผลการศึกษามีข้อบ่งชี้ว่า พบความผิดปกติทางความ ต้านทานไฟฟ้า แสดงถึงการรัว่ ไหลของน้ำ�เหมืองจากบ่อกักเก็บ กากแร่ที่ 1 และพบความผิดปกติของธรณีเคมีร่วมกับไอโซโทป โดยระบุ ว่ า มี ร่ อ งรอยการไหลของน้ำ� เหมื อ งจากบ่ อ กั ก เก็ บ กากแร่ที่ 1 ไปถึงบ่อสังเกตการณ์ และบริเวณนาข้าวตามทีม่ กี าร ร้องเรียนจากชาวบ้าน ประกอบกับข้อมูลการเพิม่ ความถีใ่ นการ เฝ้ า ระวั ง คุ ณ ภาพน้ำ� ผิ ว ดิ น และน้ำ� ใต้ ดิ น อย่ า งต่ อ เนื่ อ งของ กรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) และรายงาน การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำ�กัด (มหาชน) ที่พบว่า ภายหลังหยุดการประกอบกิจการ ในปี พ.ศ. 2560-2561 คุณภาพน้ำ�ผิวดินและน้ำ�บ่อสังเกตการณ์ มีคา่ โลหะหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานทีก่ ำ�หนด และเมือ่ ตรวจสอบ ข้อมูลทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการก่อสร้างบ่อกักเก็บกากแร่ พบว่า น้ำ�ในบ่อกักเก็บกากแร่สามารถซึมผ่านชั้นดินเหนียวได้ หลังจากมีการใช้งานไปแล้วประมาณ 1 ปี อีกทัง้ พบว่า คุณภาพ 22
July-August 2018
น้ำ�ในบ่อ Seepage ซึ่งรองรับน้ำ�ซึมใต้ชั้นดินเหนียว และน้ำ� ในบ่อ Underdrain มีคุณสมบัติของน้ำ�ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ ข้ อ มู ล การประเมิ น พื้ น ที่ เ สี่ ย งต่ อ การแพร่ กระจายของโลหะหนักในพื้นที่รอบเหมืองแร่ทองคำ�ของ กพร. ซึ่ ง ใช้ ข้ อ มู ล คุ ณ ภาพน้ำ� ใต้ ดิ น ของบริ ษั ท อั ค ราฯ ในปี พ.ศ. 2544-2558 ทีค่ ณะทำ�งานย่อยประมวลผลข้อมูลและวิเคราะห์ ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้การรับรองแล้ว เปรียบเทียบกับข้อมูล คุณภาพน้ำ�ใต้ดินช่วงหยุดการประกอบกิจการทำ�เหมืองและ โลหกรรม ในปี พ.ศ. 2560-2561 ที่บริษัท อัคราฯ รายงานต่อ กพร. พบว่า ภายหลังการหยุดการทำ�เหมือง ตามคำ�สั่งหัวหน้า คณะรั ก ษาความสงบแห่ ง ชาติ ที่ 72/2559 พื้ น ที่ เ สี่ ย งที่ มี การกระจายตัวของแมงกานีส สารหนู และเหล็ก เพิ่มขึ้นจาก ปี พ.ศ. 2544-2558 “คณะกรรมการฯ ได้รับฟังความเห็นและพิจารณาอย่าง ถีถ่ ว้ นทัง้ จากรายงานทางวิชาการ และข้อมูลข้อเท็จจริงจากการ ตรวจสอบทีเ่ กีย่ วข้องต่างๆ โดยคำ�นึงถึงผลกระทบด้านสุขภาพ อนามัยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรือ่ งสำ�คัญอันดับ แรก ก่อนทีค่ ณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่จะมีมติดงั กล่าว แม้ผแู้ ทน ของบริ ษั ท อั ค ราฯ จะไม่ เ ห็ น ด้ ว ยก็ ต าม” ปลั ด กระทรวง อุตสาหกรรม กล่าว วิษณุ ทับเทีย่ ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการ เหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า กรณีผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำ�ผิวดิน และน้ำ� บ่ อ สั ง เกตการณ์ มี ค่ า เกิ น เกณฑ์ ม าตรฐานที่ กำ�หนด และมีการตรวจสอบพบว่า มีการแพร่กระจายของโลหะหนัก บริเวณรอบพื้นที่เหมืองแร่ทองคำ� ได้สั่งการให้บริษัท อัคราฯ เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ�อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ปรับปรุงแก้ไข คุณภาพน้ำ�ที่เป็นกรดบริเวณพื้นที่โครงการและคุณภาพน้ำ�ใน บ่อสังเกตการณ์ให้อยูใ่ นเกณฑ์มาตรฐาน เพือ่ ป้องกันผลกระทบ ออกสู่ สิ่ ง แวดล้ อ มภายนอกพื้ น ที่ โ ครงการ ทั้ ง นี้ กระทรวง อุตสาหกรรมได้มอบหมายให้ กพร. พิจารณาแนวทางในการ ดูแลประชาชนในพื้นที่เสี่ยงด้วย
แวดวงชาวเหมือง l
กองบรรณาธิการ
กพร. หารือร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี และสมาคมย่อยหินไทย กรณีเหมืองหินเพือ่ การก่อสร้าง วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรม พืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ร่วมด้วย สุระ เพชรพิรณ ุ รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐาน และการเหมืองแร่ สกล จุลาภา ผู้อำ�นวยการ กองบริการงานอนุญาต พร้อมด้วยตัวแทนจาก กรมทรัพยากรธรณี และสมาคมอุตสาหกรรม ย่อยหินไทย เข้าประชุมหารือกับ พลเอก สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจง เรื่ อ งความเดื อ ดร้ อ นของสมาชิ ก สมาคม อุ ต สาหกรรมย่ อ ยหิ น ไทยและผู้ ป ระกอบการ เหมืองหินเพื่อการก่อสร้าง ซึ่งอาจมีผลกระทบ ต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (Mega Projects) ของรัฐบาลและประชาชนโดยรวม เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ณ ห้องประชุม 302 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำ�เนียบรัฐบาล
สัมมนาหลักสูตร “แนวทางการปฏิบัติตามอนุบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560” สกล จุลาภา ผูอ้ ำ�นวยการกองบริการงาน อนุญาต กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการ เหมืองแร่ (กพร.) นำ�ทีมวิทยากรจากกองบริการ งานอนุญาต และกองกฎหมาย กพร. มาบรรยาย และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในการสัมมนาหลักสูตร “แนวทางการปฏิบัติตามอนุบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560” ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ โดยในวันแรกจะเป็นการเสวนาในหัวข้อ “การขออนุญาตสิทธิสำ�รวจและทำ�เหมืองแร่ และ “การอนุญาตการประกอบธุรกิจแร่” ส่วน วันที่ 2 เสวนาในหัวข้อ “แนวทางการจัดเก็บ รายได้ ภ าครั ฐ ตามพระราชบั ญ ญั ติ แ ร่ พ.ศ. 2560” และการตอบปัญหา “ประเด็นปัญหา ข้อกฎหมาย การดำ�เนินการตามพระราชบัญญัติ แร่ พ.ศ. 2560” โดยมีผู้ประกอบการเหมืองแร่ ให้ ค วามสนใจเข้ า ร่ ว มสั ม มนาอย่ า งคั บ คั่ ง ตลอดทั้ง 2 วัน ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ July-August 2018
23
Industry 4.0 l
กองบรรณาธิการ
กรอ. เร่งเครื่อง ยกระดับโรงงานทั่วไทย ตั้งเป้า 5 ปี มี Smart Factory กว่า 1,000 โรงงาน
ก
มงคล พฤกษ์วัฒนา
อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) 24
July-August 2018
รมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เร่งยกระดับ โรงงานไทยให้ก้าวสู่ Smart Factory โดย ในช่วงครึ่งปีหลัง พ.ศ. 2561-2562 ได้จัดมาตรการ ส่งเสริม 5 ด้าน ได้แก่ 1. การลดขัน้ ตอน ลดระยะเวลา การดำ�เนินงานผ่านระบบออนไลน์ 2. การผลักดัน โครงสร้ า งพื้ น ฐาน และส่ ว นสนั บ สนุ น เพื่ อ ขยาย การลงทุ น 3. การสนั บ สนุ น ระบบการจั ด การกาก อุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ 4. การส่งเสริมการ จัดการด้านพลังงานในโรงงานอุตสาหกรรม 5. การ จัดทำ�ระบบกำ�กับดูแล ติดตาม และควบคุมคุณภาพ สิ่งแวดล้อม คาดภายใน 5 ปี จะสามารถยกระดับ โรงงานให้กา้ วสูส่ มาร์ท แฟคตอรี่ ได้กว่า 1,000 โรงงาน
มงคล พฤกษ์วฒ ั นา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า เพือ่ ยกระดับการดำ�เนินงานของโรงงานอุตสาหกรรมไทยให้มปี ระสิทธิภาพ และมีคณ ุ สมบัตเิ ป็น Smart Factory มากขึน้ ในช่วงครึง่ ปีหลัง พ.ศ. 25612562 กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เตรียมแผนส่งเสริมสถานประกอบการ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ด้วยการนำ�เทคโนโลยี นวัตกรรมมาใช้ในการบริหาร จัดการ รวมถึงพัฒนาในด้านสิง่ แวดล้อมและความปลอดภัย โดยมีแนวทาง การดำ�เนินงาน 5 ด้าน ได้แก่ • ลดขั้นตอน ลดระยะเวลาผ่านระบบออนไลน์ โดยจะมุ่งสร้างความ สะดวกสบายให้แก่ผปู้ ระกอบการ ทัง้ ในการลดขัน้ ตอนการพิจารณา-อนุมตั ิ กระบวนการขออนุญาต การต่ออายุ หรือแม้กระทั่งการขยายโรงงาน ที่แต่เดิมกระบวนการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาประมาณ 30 วัน ทั้งนี้ กรอ. จะนำ�ระบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติมาช่วยควบคุมทุกขั้นตอน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่น และการเข้าถึงข้อมูลระหว่าง ผู้ ป ระกอบการและเจ้ า หน้ า ที่ ข อง กรอ. ในแบบเรี ย ลไทม์ รวมถึ ง ลด ข้อผิดพลาดในงานเอกสารที่อาจเกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นได้ต้ังเป้าให้การ ดำ�เนินการต่างๆ เหลือระยะเวลาในการจัดการเพียง 3-10 วัน
• ผลักดันโครงสร้างพืน้ ฐาน และส่วนสนับสนุนเพือ่ ขยายการลงทุน
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการ SME กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ กลุ่มอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดย จะให้การส่งเสริม อาทิ การปรับปรุงหรือปรับเปลีย่ นเครือ่ งจักร การยกเว้น ภาษีหรือออกสิทธิพิเศษเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ�จากสถาบันการเงิน การร่วมมือ กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย การจัดทำ�มาตรการรองรับด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เช่น การกำ�จัดแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว
กรอ. จะนำ�ระบบดิจิทัลและ ระบบอัตโนมัติมาช่วยควบคุมทุกขั้นตอน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่น และการเข้าถึงข้อมูลระหว่างผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ของ กรอ. ในแบบเรียลไทม์ โดยเบื้องต้นได้ตั้งเป้าให้การดำ�เนินการ ต่าง ๆ เหลือระยะเวลาในการจัดการ เพียง 3-10 วัน ในกลุ่มยานยนต์แห่งอนาคต การกำ�หนดมาตรฐาน สถานประกอบการสำ�หรับอุตสาหกรรมใหม่ที่กำ�ลัง เกิดขึ้น การผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและ ความรู้ด้านอุตสาหกรรมเป้าหมาย เป็นต้น • ระบบการจัดการกากอุตสาหกรรม 4.0 โดย จะมุ่งเน้นการเป็นศูนย์กลางข้อมูล (Big Data) เพื่อ กำ�กับดูแลกระบวนการกำ�จัดของเสียจากโรงงาน ให้ มี ค วามรวดเร็ ว ขึ้ น ซึ่ ง ขณะนี้ กรอ. ได้ ร่ ว มกั บ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดทำ�ฐานข้อมูล การกำ�จัดกากขยะอุตสาหกรรมให้เป็นระบบเดียวกัน พร้ อ มกั บ พั ฒนาระบบออนไลน์ เ พื่ อ ติ ด ตามดู แ ล การกำ�จัดขยะอุตสาหกรรมในโรงงานทัว่ ประเทศเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว หรือ Auto E-license โดยมั่นใจว่า จะช่วยให้กระบวนการทำ�งานด้านดังกล่าวมีความ คล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ กรอ. ยังจะเร่งทบทวน กฎหมายหรื อ กฎระเบี ย บบางประการที่ ยั ง เป็ น ช่องโหว่ และอุปสรรคของการรีไซเคิลหรือกำ�จัดขยะ อุตสาหกรรมไทย เพื่อให้ภาคสังคม ชุมชน และ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมีความเชื่อมั่นมากขึ้น • เสริมการจัดการด้านพลังงาน เพือ่ ลดต้นทุน การผลิตและประสิทธิภาพประหยัดพลังงาน ภายใน ปี พ.ศ. 2561-2565 กรอ. จึงมุง่ ทีจ่ ะยกระดับโรงงาน ให้ มี ก ารใช้ ร ะบบ Smart Boiler หรื อ หม้ อ น้ำ� อุตสาหกรรมอัจฉริยะให้ได้กว่า 13,000 เครือ่ ง หรือ
ระบบการจัดการกากอุตสาหกรรม 4.0 July-August 2018
25
ประมาณ 7,840 โรงงาน ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าว จะช่วยให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานใน ภาพรวมได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งเพิ่ม ประสิ ท ธิ ภ าพการเผาไหม้ เ ชื้ อ เพลิ ง ทำ�ให้ ล ดการ ปลดปล่อยมลภาวะ ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมและความ ปลอดภัยดีขึ้น
• ระบบ Monitoring ครบวงจร กรอ. ได้จดั ทำ�
ระบบการกำ�กับดูแล ติดตาม และควบคุมคุณภาพ อากาศ น้ำ� ดิน และน้ำ�ใต้ดิน เพื่อป้องกันและรักษา สิ่งแวดล้อมไม่ให้เกินค่ามาตรฐานจากการประกอบ กิจการ โดยมีตวั อย่าง เช่น ระบบ BOD Online ทีจ่ ะ คอยเตือนระดับค่าน้ำ�ก่อนปล่อยสู่แหล่งธรรมชาติ ระบบ CEMs หรื อ ระบบการตรวจวั ด มลพิ ษ ทางอากาศจากปล่องระบายความร้อน ฯลฯ โดย ระบบเหล่านี้จะทำ�การตรวจสอบ ประมวลผล และ รายงานผลแบบเรียลไทม์ ซึง่ ปัจจุบนั ได้มกี ารรายงาน ตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่จะพัฒนาให้การทำ�งาน ของระบบครบวงจร มีประสิทธิภาพการส่งข้อมูล การรายงานและการติดตามให้ดียิ่งขึ้น มงคล กล่ า วเพิ่ ม เติ ม ว่ า นอกจากนี้ กรม โรงงานอุตสาหกรรมยังเร่งดำ�เนินโครงการร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรม ก้าวสู่ Smart Factory อย่างเต็มรูปแบบผ่าน 7 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Green Industry 2. โครงการนำ�ร่องการขยายผลการ เพิ่มประสิทธิภาพหม้อน้ำ� 3. อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco Industry Town 4. โครงการขับเคลื่อน Factory 4.0 5. โครงการพั ฒนาประสิ ท ธิ ภ าพ หม้อไอน้ำ�สำ�หรับโรงงานขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) 6. โครงการสร้างองค์ความรูแ้ ละแนวทาง การใช้ เ ทคโนโลยี แ ละระบบดิ จิ ทั ล แก่ โ รงงาน อุตสาหกรรม 7. โครงการศึกษาความเป็นไปได้ใน การจั ด ทำ�มาตรฐานประสิ ท ธิ ภ าพพลั ง งานของ โรงงานอุตสาหกรรม ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 5 ปี กรอ. จะยกระดับโรงงานให้ก้าวสู่ Smart Factory ได้กว่า 1,000 โรงงาน
เสริมการจัดการด้านพลังงาน
ระบบ Monitoring ครบวงจร
ลดขั้นตอน ลดระยะเวลาผ่านระบบออนไลน์ 26
July-August 2018
ข่าวเศรษฐกิจแร่ l
จรินทร์ ชลไพศาล
• กพร. เผยการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ บริษัท ไชน่า หมิงต๋า เป็นไปตามกฎหมาย วิษณุ ทับเที ่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื ้นฐานและ การเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มรักษ์วานรนิวาส จ.สกลนคร ยื่นหนังสือเพื่อขอทบทวน อาชญาบัตรพิเศษสำ�รวจแร่โพแทชของบริษัท ไชน่า หมิงต๋า โปแตช คอร์ปอเรชัน่ (ประเทศไทย) จำ�กัด ให้เป็นไปตามมาตรา 188 แห่ง พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 นั้น บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาต อาชญาบัตรพิเศษสำ�รวจแร่โพแทชแล้ว ตัง้ แต่วนั ที่ 12 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 11 มกราคม 2563 (มีอายุ 5 ปี) โดยมีเงื่อนไข ให้ผู้ถืออาชญาบัตรพิเศษต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ ก่อนจึงจะเข้าพื้นที่ทำ�การสำ�รวจได้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ ทำ�การสำ�รวจตามแผนงานและเงื่อนไขการอนุญาต มีการเจาะ สำ�รวจไปแล้ว 3 หลุม โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินที่มี การเจาะสำ�รวจแล้ว ทั้งนี้กระบวนการสำ�รวจแร่โพแทชจะใช้ พื้นที่เพียงเล็กน้อยในการเจาะสำ�รวจ และต้องทำ�การฝังกลบ พร้อมกับฟื้นฟูพื้นที่ทันทีหลังเสร็จสิ้นการเจาะสำ�รวจ สำ�หรับการขอให้ทบทวนอาชญาบัตรพิเศษของบริษทั ฯ ให้ เป็นไปตามประกาศของ กพร. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไขในการรังวัดกำ�หนดเขตคำ�ขอตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 188 แห่ง พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 ปัจจุบันบริษัทฯ ไม่มีคำ�ขอประทานบัตรและคำ�ขอใดๆ ที่อยู่ ระหว่างดำ�เนินการ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 188 แห่ง พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2560 ดังกล่าว ส่ ว นกรณี การขอข้ อมู ล เกี่ ยวกั บ อาชญาบั ต รพิเศษของ บริษัทฯ ของภาคีเครือข่ายประชาชนวานรนิวาสนั้น สำ�นักงาน อุตสาหกรรมจังหวัดสกลนครได้สง่ เรือ่ งให้คณะกรรมการวินจิ ฉัย การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมายสำ�นักงานปลัดสำ�นักนายกรัฐมนตรี แล้ว ซึง่ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตาม กพร. และบริษทั ฯ จะได้ชแี้ จงทำ�ความเข้าใจ และประชาสั ม พั น ธ์ ก ารดำ�เนิ น งานของบริ ษั ท ฯ ให้ แ ก่ ผู้ ที่ เกี่ ย วข้ อ งได้ รั บ ทราบอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง เพื่ อ สร้ า งการรั บ รู้ แ ละ ความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกันต่อไป
• ครม. เห็นชอบร่าง MOU ด้านทรัพยากรแร่ ไทย-โมซัมบิก คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 มีมติเห็นชอบการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องความ ร่วมมือด้านทรัพยากรแร่ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และสาธารณรั ฐ โมซั ม บิ ก ฉบั บ เดิ ม ซึ่ ง ลงนามเมื่ อ วั น ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 และให้ความเห็นชอบร่าง MOU เรื่องความ ร่วมมือด้านทรัพยากรแร่ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐโมซัมบิก โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์เป็น ผู้ลงนามในร่าง MOU ฉบับใหม่ โดย สามารถเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ�ในส่วนที่ไม่กระทบต่อสาระสำ�คัญ
ของร่าง MOU โดยไม่ต้องเสนอ ครม. อีก MOU ฉบั บ ใหม่ มี วั ต ถุ ป ระสงค์ เ พื่ อ สร้ า งกรอบการ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างคูภ่ าคีและสถาบันของทัง้ 2 ประเทศ ในด้านทรัพยากรแร่ โดยมีความร่วมมือด้านทรัพยากรระหว่าง 2 ประเทศครอบคลุมสาขาต่างๆ เช่น การสำ�รวจทรัพยากรแร่ การส่งเสริมการลงทุนในการใช้ประโยชน์การค้าและการสร้าง มูลค่าเพิ่มทรัพยากรแร่ การวิจัยและเทคโนโลยีความช่วยเหลือ ทางเทคนิค การฝึกอบรมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ และข้อกฎหมายด้านการเหมืองแร่ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
July-August 2018
27
• PTT ศึกษาลงทุนห่วงโซ่ธุรกิจไฟฟ้าตั้งแต่เหมืองลิเทียม
ยันรีไซเคิลแบตเตอรี่ รับมือ Disruptive Technology
เทวิ น ทร์ วงศ์ ว านิ ช ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห ารและ กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า เทคโนโลยี ใหม่ ที่ เ ข้ า มาทำ�ให้ เ ปลี่ ย นวิ ถี ชี วิ ต และรู ป แบบการทำ�ธุ ร กิ จ ในอนาคต โดย ปตท. ได้ ศึ ก ษาธุ ร กิ จ การผลิ ต ไฟฟ้ า จาก ก๊ า ซธรรมชาติ พลั ง งานทดแทน การเข้ า ไปลงทุ น ในบริ ษั ท วิจยั ด้านแบตเตอรี่ รวมถึงลงทุนในกองทุนทีล่ งทุนในเทคโนโลยี ทั่วโลกที่เกี่ยวกับด้านแบตเตอรี่ เพื่อหาโอกาสที่เหมาะสมและ มีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากนี้ ปตท. ยังศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับธุรกิจ รถยนต์ไฟฟ้า และหารือกับบริษทั รถยนต์หลายแห่ง โดยให้ความ สนใจเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเชื่อมโยงกับ
สถานีบริการน้ำ�มัน ปตท. และผู้ใช้รถยนต์ วิทวัส สวัสดิ์-ชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรม และดิจิตอล ปตท. กล่าวว่า สำ�หรับห่วงโซ่ธุรกิจของแบตเตอรี่ นั้น ปตท. ได้ศึกษาตั้งแต่ด้าน Materials ตั้งแต่ธุรกิจเหมือง ลิเทียม, Components, การผลิตแบตเตอรี่ สาหรับยานยนต์ ไฟฟ้า, Module & Packs, Users ซึ่งจะเป็นสถานีอัดประจุ ส่วนสุดท้ายเป็นการรีไซเคิลของธุรกิจแบตเตอรี่ เพื่อดูว่าการ ลงทุ นใดมี ค วามเหมาะสมและมี โอกาสที่ จ ะเกิ ด ขึ้นได้ และ Smart Grid ซึ่ ง จะเป็ น สิ่ ง สำ�คั ญ ของห่ ว งโซ่ ธุ ร กิ จ ไฟฟ้ า ซึง่ ปัจจุบนั ได้ลงนาม MOU กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อช่วยกันพิจารณาเพื่อให้เกิด Smart Grid ต่อไป
• BANPU คงเป้าปริมาณขายถ่านหินปีนี้ 45 ล้านตัน เตรียมหาปริมาณสำ�รองเพิ่ม
สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) กล่าวว่า บริษัทฯ คงเป้าปริมาณการขายถ่านหินปีนี้ 45 ล้านตัน คาดว่าราคาขายถ่านหินในปี พ.ศ. 2561 จะอยู่ที่ ประมาณ 80-85 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ขณะที่ราคาในตลาด โลกอยู่ที่ 104-107 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน สำ�หรั บ ปริ ม าณการสำ�รองถ่ า นหิ น ของบริ ษั ท ณ สิ้ น ไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2561 ลดลงเหลือ 741 ล้านตัน ซึ่งบริษัท มีแผนจะหาปริมาณสำ�รองเพิ่มเป็น 15 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 11 ปี เน้นการเพิ่มปริมาณถ่านหินจากเหมืองในอินโดนีเซีย
28
July-August 2018
โดยอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนขุดเหมืองให้ลึกขึ้น พร้อมกับ ศึกษาการซือ้ เหมืองถ่านหินบริเวณใกล้เคียงกับเหมืองของบริษทั คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปี พ.ศ. 2562 สมฤดี คาดว่ า แนวโน้ ม ผลการดำ�เนิ น งานไตรมาส 2 ปี พ.ศ. 2561 จะดีขึ้น จากปริมาณการขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ปริมาณการขายถ่านหิน ผ่านจุดต่ำ�สุดของปีในช่วง ไตรมาสแรก และราคาขายถ่านหินยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่ ธุรกิจไฟฟ้ายังดำ�เนินต่อไปตามปกติ
ที่มา : กพร. เศรษฐกิจปริทรรศน์ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๑
July-August 2018
29
เรื่องเล่าจากชาวเหมือง l
รุ่งศักดิ์ อินทร์สิงห์
หมอดูขา้ งเหมือง ชี
วิ ต คนเหมื อ ง...ดู ๆ ไปก็ ค ล้ า ยกั บ คนที่ ถู ก ตั ด ขาด จากโลกภายนอก ตรากตรำ�ทำ�งานหนัก ท่ามกลาง สายลมและแสงแดดในป่าเปลีย่ ว มองไปรอบๆ เห็นต้นไม้ ภูเขา ยืนทะมึนสูงตระหง่านเสียดขอบฟ้าชั่วนาตาปี วันแล้ววันเล่า ที่พวกเขาชาวเหมืองต้องตรากตรำ�ทำ�งานกัน ทุ่มเทแรงกาย แรงใจทำ�มาหาเลีย้ งชีพ โดยมิยน่ ย่อท้อถอยต่อความเหนือ่ ยยาก ลำ�บากแต่อย่างใด เพราะตราบใดที่เหมืองมีกำ�รี้กำ�ไรอยู่ได้ พวกเขาก็อยู่ได้ แต่ถา้ เหมืองเจ๊งขาดทุนอยูไ่ ม่ได้ ก็หมายถึงว่าพวกเขาก็ยอ่ มต้อง ม้วนเสื่ออยู่ไม่ได้เช่นกัน แร่ธาตุเป็นของสิ้นเปลืองมีวันหมดสิ้น ไม่เหมือนพืชและ สัตว์ที่สามารถเพาะปลูกหรือเพาะเลี้ยงทดแทนขึ้นมาใหม่ได้ สภาพของคนเหมืองจึงเหมือนกับเจ้าไม่มีศาล สมภารไม่มีวัด พลัดที่นาคาที่อยู่ ระหกระเหเร่ร่อนซัดเซพเนจรผจญภัยไปทั่ว เฉกเช่นนกขมิ้นเหลืองอ่อนค่ำ�ไหนนอนนั่นไม่เป็นที่เป็นทาง หมดแร่เหมืองนีต้ ระเวนไปทำ�ต่อเหมืองนัน้ หมดแร่เหมืองนัน้ ก็ตะลอนเปลี่ยนไปอยู่เหมืองโน้น หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ คนเหมืองจึงเป็นแบบฉบับของนักสู้พเนจรโดยแท้แบบหนึ่ง “นายช่างครับ ... นายช่าง!” ธนูสะดุ้งจากภวังค์หันไปทางเสียงที่เรียก เห็นไอ้ชิตเดิน กะปลกกะเปลีย้ อ่อนระโหยโรยแรงเข้ามาหา หน้าดำ�คร่ำ�เครียด หมดอาลัยตายอยากในชีวิต เหมือนกับคนอมทุกข์แบกโลก ทั้งโลกไว้อยู่คนเดียว มองหน้าธนูก็รู้ใจแล้วว่ามันมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไร ...ไอ้ชิต มั น กลุ้ ม ใจเกี่ ย วกั บ เหตุ ก ารณ์ ผี ซ้ำ� ด้ า มพลอยที่ เ กิ ด ขึ้ น กั บ ครอบครัว คือเมื่อเดือนที่แล้วเมียมันขึ้นไปทำ�งานที่หน้าเหมือง บนเขา ไม่รู้ไปทะเล่อทะล่าอีท่าไหนถูกก้อนหินหล่นมาโดน ศีรษะ สมองกระทบกระเทือนกลายเป็นคนสติฟนั่ เฟือนไม่รเู้ รือ่ ง และเมื่อไม่กี่วันมานี้ไอ้แช่มซึ่งเป็นลูกชายทำ�งานอยู่ที่เหมือง ได้ ป ระสบอุ บั ติ เ หตุ ขั บ รถตกเขา บาดเจ็ บ สาหั ส ไม่ รู้ ว่ า จะ พิกลพิการหรือเปล่า ธนูเองในฐานะที่รับผิดชอบงานของเหมืองนี้ รู้สึกสลด หดหู่พลอยสมเพชเวทนาไปกับวิบากกรรมของมันด้วย ชีวิต คนเราลองได้ดวงซวยเคราะห์หามยามร้าย โดนเวรซ้ำ�กรรมซัด ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก แล้วจะไม่กลุ้ม 30
July-August 2018
ไม่ทุกข์ได้อย่างไรกัน เมือ่ หลายปีมาแล้ว ...เหมืองทีธ่ นูทำ�อยูน่ นั้ เป็นแร่วลุ แฟรม อยูท่ างภาคเหนือไกลออกไปติดเขตชายแดนพม่าทางทิศตะวันตก ของประเทศ ลักษณะแหล่งแร่เป็นสายแร่แทรกในหินแกรนิต แร่วุลแฟรมจะเกิดร่วมกับแร่ดีบุก วิธีการทำ�เหมืองทำ�แบบ เหมืองอุโมงค์เจาะระเบิดตามสายแร่ แร่ที่ระเบิดได้จะถูกนำ�มา บดและคัดขนาดเพื่อให้แร่และหินแตกตัวหลุดจากกัน จากนั้น ก็จะนำ�มาล้างเอาหิน ดิน ทราย ที่เบาออกจากแร่ซึ่งมีนำ�้ หนัก มากกว่าให้ได้แร่สะอาดต่อไป ในอดีตเมือ่ ก่อนแหล่งผลิตแร่วลุ แฟรมทีส่ ำ�คัญของประเทศ ได้ จ ากดอยโง้ ม จ.แพร่ ดอยหมอก จ.เชี ย งราย แม่ ล ามา จ.แม่ฮ่องสอน ปิล็อก จ.กาญจนบุรี คลองศก จ.สุราษฎร์ธานี และเขาศูนย์ จ.นครศรีธรรมราช แร่วุลแฟรมเป็นสินแร่ทังสเตน มีประโยชน์หลายอย่าง เมื่อนำ�มาผสมธาตุอ่ืนๆ จะได้โลหะที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ ความแข็งแรงทนทาน แข็งแกร่งต่อการสึกกร่อน ทนกรด ทนความร้อนได้ดี มีความต้านทานสูง จากคุณสมบัตดิ งั กล่าว วุลแฟรมจึงจัดเป็นแร่ยทุ ธปัจจัยทีส่ ำ�คัญทางทหาร ใช้ทำ�อาวุธ ยุทโธปกรณ์ เช่น ทำ�เกราะ รถถัง อุปกรณ์ยานอวกาศ ฯลฯ แร่ วุ ล แฟรมจะมี ร าคาสู ง เป็ น ที่ ต้ อ งการมากในยามที่ เ กิ ด สงคราม สามารถใช้เป็นเครื่องต่อรองทางการเมืองระหว่าง ประเทศได้ด้วย ไอ้ชิต... เป็นหัวหน้าโรงล้างแร่ที่เหมือง ทำ�งานมาหลายปี จนมีประสบการณ์ สามารถคาดคะเนเปอร์เซ็นต์แร่ทลี่ า้ งออกมา ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ�ด้วยสายตา การล้างแร่ดูๆ ไปก็ไม่เห็น ยากเย็นอะไรเลย แต่ถา้ คนล้างไม่เป็นหรือว่ามีฝมี อื ความชำ�นาญ ู เสียในการ ไม่เพียงพอ จะทำ�ให้แร่ทลี่ า้ งได้ไม่คอ่ ยสะอาด แร่สญ ล้างมาก สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ กับครอบครัวไอ้ชติ นัน้ ธนูเองก็อดอเนจอนาถใจ ในชะตากรรมของมันไม่ได้ ก็ได้แต่อำ�้ อึ้งปลอบโยนช่วยเหลือ ไปตามมีตามเกิดเท่าที่ทำ�ได้ เพราะรู้ดีว่าเรื่องของความกลุ้ม ความทุกข์นี่ มันเจ็บปวดรวดร้าวจิตใจแค่ไหน ...เล่าสู่กันฟัง ก็แค่นั้น ไม่มีใครรู้ได้นอกจากประสบพบเจอด้วยตัวเอง คนเคย ปวดฟันเท่านั้นจึงจะรู้รสชาติของการปวดฟัน ว่ามันทรมาน เด็ดสะระตี่สะแด่วแห้วเพียงไร
“เฮ้ยชิต... พยายามหักห้ามใจปลงให้ตกบ้าง อย่าไปทุกข์ อะไรกับมันมากนัก สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ ไม่มีอะไรจีรัง ยัง่ ยืนตลอดกาลหรอก ขอให้คดิ เสียว่าสิง่ ทีเ่ รากำ�ลังเผชิญอยูน่ นั้ มั น เป็ น เรื่ อ งของกรรมก็ แ ล้ ว กั น ทุ ก คนเกิ ด มาก็ เ พื่ อ ชดใช้ เวรกรรมเก่ า ด้ ว ยกั น ทั้ ง นั้ น ถ้ า จะคิ ด ในอี ก แง่ มุ ม หนึ่ ง แล้ ว ชีวติ คนเราก็เหมือนกับเกมการต่อสู้ มีได้มเี สีย มีแพ้มชี นะ มีดใี จ เสียใจ สุขทุกข์คลุกเคล้ากันไปหลากหลายรูปแบบ ก่อนฝนตก หมอกเมฆจะมืดทะมึน พายุฝนฟ้ากระหน่ำ�อย่างบ้าคลั่ง แต่ หลังจากฝนหยุดตกซาไป ท้องฟ้าก็จะแจ้งจางปางกลับแจ่มใส คืนสูส่ ภาพเดิม... วัฏจักรของชีวติ ก็เป็นแบบนีแ้ หละ” ธนูพยายาม พูดประเล้าประโลมปลอบขวัญให้กำ�ลังใจ “ดวงคนเรามีขนึ้ มีลง ไม่มใี ครดวงดีตลอดกาลและดวงตก ตลอดไป คงต้องมีสกั วันหนึง่ ซึง่ เป็นวันของเรา ขอให้เรามีความ ตั้งใจจริงที่จะต่อสู้กับชีวิต อย่าสิ้นหวังหมดกำ�ลังใจเสียก่อนล่ะ การสมหวังราบรืน่ เสมอไปย่อมทำ�ให้ชวี ติ จืดชืด การผิดหวังบ้าง นั่นแหละจึงจะดี ทำ�ให้ชีวิตแข็งแกร่งมีรสชาติ ข้อสำ�คัญอย่า ท้อถอยยอมแพ้กับชีวิต ไม่มีชัยชนะใดที่ได้มาโดยไม่มีการต่อสู้ คนทีไ่ ม่คดิ สูม้ กั แพ้ คนทีไ่ ม่ยอมแพ้มกั ไม่แพ้ ชิตเข้าใจทีผ่ มพูดนะ” “ครับ” ไอ้ชิตพยักหน้าอย่างใช้ความคิด ธนูพยายามพูดอธิบายให้ฟงั ว่า ทุกสิง่ ทุกอย่างในโลกมนุษย์ ต่ า งดำ�เนิ น ไปตามวิ ถี ท างของมั น มี ก ารเกิ ด ดำ�รงอยู่ แ ละ ดับสลายในที่สุด ไม่มีใครสามารถจะไปบังคับหรือหลีกเลี่ยง เบี่ยงเบนสัจธรรมนี้ได้ ข้อสำ�คัญอยู่ที่ว่าเราจะทำ�กายทำ�ใจ ของเราให้ เ ข้ ม แข็ ง แกร่ ง กล้ า พร้ อ มที่ จ ะรั บ สภาพการณ์ ทุกรูปแบบที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่เท่านั้นเอง อุปสรรคและความทุกข์ในชีวิตคนเราเหมือนดั่งบัวใน โคลนตม ดอกบัวนั้นสง่างามอยู่เหนือพื้นน้ำ� ทั้งที่รากเหง้า มาจากดิน อุปสรรคและทุกข์เข็ญของคนก็เช่นกัน หากไม่มี ปัญหาอุปสรรคเหล่านีเ้ ป็นบทเรียนแล้ว ไฉนจะก้าวผ่านกลาย เป็นผูเ้ ข้มแข็ง มัน่ คงและยืนหยัด ดัง่ บัวโดดเด่นอยูเ่ หนือน้ำ�ได้ หลั ง จากที่ พู ด คุ ย ปรั ช ญาชี วิ ต ปลอบประโลมไอ้ ชิ ต ได้ พักใหญ่ จากนัน้ ธนูกช็ วนมันคุยโน่นคุยนีส่ พั เพเหระไปตามเรือ่ ง เปลี่ยนเรื่องคุยให้เบาสมองสนุกสนานเฮฮา ไอ้ชิตค่อยสบายใจ มีสีหน้าแช่มชื่นเบิกบานขึ้นมาบ้าง “เอ... นายช่าง เคยได้ยนิ ชือ่ ยายแม้น หมอดูทบี่ า้ นแกอยู่ แถวๆ ข้างเหมืองบ้างไหม เขาลือกันว่าแกมีเวทมนตร์คาถา ดูหมอดูแม่นมาก” ไอ้ชิตเอ่ยปากถามขึ้น “เคยได้ยนิ ชือ่ แต่ไม่รจู้ กั ตัว เห็นมีคนบอกว่าถ้าใครเคราะห์รา้ ย แกจะสะเดาะเคราะห์ให้กลายเป็นดีได้ แต่ผมก็ไม่เคยไปสัมผัส ให้เห็นกับตาตัวเองสักที ทำ�ไมล่ะ” “ผมอยากจะลองดูบ้าง ถ้าเกิดดวงไม่ดี จะได้แก้เคล็ด สะเดาะเคราะห์ล้างซวยเสียที” “เอาสิ ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ธนูตกปากรับคำ�เอาใจมันทันที “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น จริงไหม”
โหราศาสตร์... เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของท้องฟ้า ดวงดาว อันส่งผลต่อการดำ�เนินชีวิตของคนบนโลกพิภพ ศาสตร์แต่ละศาสตร์มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันไม่โดยตรง ก็ทางอ้อม บางคนคิดว่าการเรียนรู้ในเรื่องของโหราศาสตร์ เป็นเรื่องงมงายหาสาระแก่นสารไม่ได้ แต่ทว่าหลายครั้งที่ โหราศาสตร์สามารถพยากรณ์ ทำ�นายเหตุการณ์ในอนาคต ช่วยลดความรุนแรงของเหตุการณ์หรือปัญหาลงได้ อย่างน้อย ก็ เ ป็ น ที่ พึ่ ง ทางใจของคนในยามยาก ซึ่ ง เต็ ม ไปด้ ว ยความ ระทมทุกข์ที่ไม่มีใครรู้ซึ้งเข้าใจได้ หลังจากถามไถ่เส้นทางจากคนในเหมือง ธนูขับรถพา ไอ้ชิตวิ่งปุเลงๆ ไปตามถนนลูกรังได้สักพัก ก็ถึงซอยทางแยก เข้าบ้านยายแม้น ถนนทีแ่ ยกเป็นช่องทางเล็กรถเข้าไม่ได้ ธนูเลย จอดรถทิ้งไว้ที่ถนนใหญ่ แล้วก็เดินลัดเลาะไปตามทางเรื่อยๆ 2 คน ระยะทางจากถนนใหญ่เข้าบ้านยายแม้นไม่ไกลเท่าไหร่นกั ข้างทางหญ้าขึ้นระเกะระกะ เดินทอดน่องตามสบายไม่เร่งรีบ ครูใ่ หญ่กม็ าถึงบ้านยายแม้น ดูลกั ษณะบ้านช่องใหญ่โตค่อนข้าง มี อันจะกิ น คนคงศรั ท ธาเชื่ อถื อการดู ห มอสะเดาะเคราะห์ กันมาก รายได้แกคงไม่เบาเลยทีเดียว หลังจากบอกเล่าเก้าสิบเรือ่ งราวทีเ่ กิดขึน้ และจุดประสงค์ ทีม่ า โดยไม่ชกั ช้ารีรอ ยายแม้นก็คว้าสมุดดินสอจดฤกษ์ผานาที วัน เดือน ปีเกิดของไอ้ชดิ แล้วก็บวก ลบ คูณ หารของแกไปตาม ตำ�รา จากนัน้ ก็หลับตาตัง้ สมาธิทำ�ปากขมุบขมิบ ท่องคาถาอาคม ตามพิธีกรรมอยู่ครู่ แล้วจึงเอ่ยทำ�นายขึ้นว่า “ดวงพ่อหนุ่มยังไม่หายหมดเคราะห์หมดโศก” ยายแม้น ถอนหายใจเฮือกใหญ่ทำ�ท่าหนักใจ หลังจากตรวจดูดวงชะตา ของไอ้ชิต “จากปรากฏการณ์ ด วงดาวสองดวงที่ โ คจรมาพบกั น ระยะนีด้ วงพ่อหนุม่ กำ�ลังโดนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ชะตา ชี วิ ต พ่ อ หนุ่ ม จะต้ อ งประสบเคราะห์ ก รรมที่ ห ลี ก เลี่ ย งไม่ ไ ด้ ในเร็วๆ นีอ้ กี ครัง้ นับแต่นไ้ี ประมัดระวังตัวให้ดี จะโชคร้ายถึงกับ เลือดตกยางออก” “จริงๆ หรือครับหมอ” ไอ้ชิตตาลุกพองโต ตะลีตะลาน ถามขึ้นด้วยความตกใจ “จริงสิ ดวงพ่อหนุ่มถูกกำ�หนดกฎเกณฑ์มาอย่างนี้” “เฮ้อ ชีวิตนี้ซวยจริงๆ โดนอีกทีผมบ้าแน่ๆ ...นายช่าง” “มีทางใดจะช่วยได้ไหม” ธนูถามไปที่ยายแม้นด้วยความ รู้สึกเห็นใจสงสารได้ชิตมัน ยายแม้นหันมามองธนูดว้ ยสายตาทีแ่ ปลกประหลาดพิกล ก่อนที่แกจะนั่งสมาธิพินิจพิเคราะห์อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ “มีทางเดียวที่พอจะช่วยได้ คือต้องทำ�พิธีสะเดาะเคราะห์ สถานเดียว” “ค่ า สะเดาะเคราะห์ เ ท่ า ไหร่ แพงไหมหมอ” ไอ้ ชิ ต ตาลีตาเหลือกถามอย่างร้อนรน “เคราะห์หนักอย่างนี้ ก็ต้องแพงหน่อยละ ทำ�ไงได้” July-August 2018
31
ยายแม้นยักท่าทำ�เล่นตัวอย่างไม่ง้อ แสดงความหินชาติ ออกมา แกคงคิดว่าผีหามเข้าป่าช้าแล้ว ยังไงไม่เผาก็ต้องฝัง อยู่วันยังค่ำ� ...อ้อยเข้าปากช้างแล้วนี่ “เท่าไหร่ครับ” ไอ้ชิตถามย้ำ� “หนึ่งหมื่น” “ตัง้ หนึง่ หมืน่ เชียว” ไอ้ชติ สะดุง้ โหยงอุทานออกมาเสียงดัง “โอ้โฮ! แพงเป็นบ้า หน้าเลือดชิบหายอีแก่นี่” “จะทำ�หรือไม่ทำ� จะสะเดาะเคราะห์ไหม” ยายแม้นค้อนประหลับประเหลือก กระแทกเสียงด้วย ความโกรธจนตัวสั่น ที่ถูกไอ้ชิตบังอาจสบประมาทพูดว่าแก หน้าเลือด แกไม่เคยโดนใครกล้าลองของอวดกำ�แหงกล่าวว่า แบบนี้มาก่อน “ไม่ทงไม่ทำ�มันแล้ว แพงระยำ�เลย กว่าจะเก็บเงินได้ครบ หมื่นก็อดตายพอดี” “จะทำ�หรือเปล่าชิต เงินค่าทำ�ผมออกให้ก็ได้” ธนูหันมา พู ด ปลอบไอ้ ชิ ต ตั้ ง ใจว่ า จะยอมกั ด ฟั น จ่ า ยเงิ น ให้ มั น เพื่ อ ความสบายใจ แม้รู้สึกว่าโคตรจะแพงหูฉี่ก็ตาม “นายช่าง ...ไม่ทำ�ดีกว่าเสียดายเงิน” “ใจเย็นๆ สิชิต” ธนูปราม “หมอลดราคาลงบ้างได้ไหม” ธนูพยายามทำ�เสียงให้อ่อนลง หันมาต่อรองราคากับ ยายแม้นอย่างนิ่มนวล ในความรู้สึกส่วนลึกธนูก็ไม่สบอารมณ์ เหมือนกัน คนเรามันต้องมีความรู้สึกเอื้ออาทร สงสารเพื่อน มนุษย์ที่กำ�ลังตกทุกข์ได้ยากกันบ้าง ไม่ใช่พอมีโอกาสก็แสดง ความเห็นแก่ตวั คิดจะรีดเลือดกับปูเอาแต่ได้ตะพึดตะพือท่าเดียว โดยไม่สนใจไยดีว่าคนอื่นเขาจะเป็นทุกข์เป็นร้อนอย่างไรบ้าง “หมื่นหนึ่งขาดตัว โดยเฉพาะคนปากเสียอย่างนี้ด้วยแล้ว ข้าไม่ยอมลดราคาเด็ดขาด” ยายแม้นยืนกระต่ายขาเดียวไม่ยอม ไอ้ชิตเห็นยายแม้น เล่นตัวมากนัก อดรนทนไม่ไหวเลยหันไปด่าด้วยความหมั่นไส้ เต็มทน “ไม่ทำ�แล้ว จะเป็นอะไรก็ให้มันเป็นไป กระดูกฉิบหาย อีแก่ขี้งก” “เอ็งอวดดีกล้าด่าข้าเชียวหรือ ลองดูถา้ ไม่สะเดาะเคราะห์ กั บ ข้ า ข้ า ขอทำ �นายว่าพอออกจากบ้านข้าไป เอ็ ง จะต้ อ ง ประสบเหตุถงึ เลือดตกยางออก ไม่เชือ่ คอยดูกแ็ ล้วกัน ข้าขอแช่ง” พูดจบก็ตีหน้ายักษ์ ยกมือชี้หน้าด้วยความโกรธมาที่ไอ้ชิต พอถูกยายแม้นชีห้ น้าพร้อมกับแช่งชักหักกระดูก เหมือนกับ ถูกหยามศักดิศ์ รี ไอ้ชติ ฉุนกึกเลือดขึน้ หน้ายัวะใหญ่ ขยับมือตัง้ ท่า จะตบยายแม้น ธนูถลันคว้าข้อมือรั้งไว้ทันพร้อมกับเข้าไปห้าม “กลับเถอะ... นายช่าง ขืนอยูน่ านผมได้ซดั อีแก่ปากกระโถน แน่” “ระวังตัวให้ดีไอ้หนุ่ม เอ็งบังอาจลองดีกับข้า จะต้องได้ เลือดแน่” ยายแม้นงอนตุ๊บป่องหน้างอหงิกเป็นม้าหมากรุก ตะโกนสาปส่งไล่หลัง “แล้วจะได้รู้ดำ�รู้แดงเห็นดีกันว่า กูกับมึง 32
July-August 2018
ใครจะแน่กว่ากัน” “เออ ...จะคอยดู” ไอ้ชิตหันมาตะคอกใส่อย่างท้าทาย แบบหมูไม่กลัวน้ำ�ร้อนแล้ว ธนูและไอ้ชิตเดินออกจากบ้านยายแม้นด้วยบรรยากาศ ไม่ สู้ ดี ไม่ คิ ด ว่ า เรื่ อ งมั น จะลงเอยมาเป็ น การทะเลาะวิ ว าท อาฆาตแค้ น กั น เช่ น นี้ ไอ้ ชิ ต ยั ง คงอารมณ์ ค้ า งเดิ น บ่ น งึ ม งำ� เป็นหมีกิน ผึ้ง สบถด่ายายแม้นมาตลอดทางอย่างคนหัวเสีย ธนู เ องเห็ น มั น กำ�ลั ง หนี เ สื อ ปะจระเข้ ก็ เ ลยปล่ อ ยให้ มั น ระบายอารมณ์ของมันไปตามเรื่อง “นายช่างคอยดูนะ อีแก่ปากปลาร้ามันบอกว่า ผมออก จากบ้านมันจะต้องเลือดตกยางออก จะดูซิว่าจะแม่นจริงหรือ เปล่า ถ้าไม่จริงพรุง่ นีผ้ มจะมาอาละวาดมันอีก คนขีง้ กหน้าเลือด แบบนี้ต้องสั่งสอนเสียให้เข็ด รู้จักกันน้อยไป” ธนูพยักหน้าให้มันแล้วก็ก้าวเท้าเลาะเลี้ยวไปตามทาง เงียบๆ สักพักใหญ่ก็มาถึงถนนที่รถจอดอยู่ ยังไม่ทันที่ไอ้ชิต จะขยับเท้าก้าวขึ้นรถ จังหวะที่เผลอตัว พลันก็มีหมาตัวหนึ่ง โผล่พรวดมาจากทีไ่ หนไม่ทราบ พุง่ ตัวกระโดดขย้ำ�กัดเข้าทีน่ อ่ ง ไอ้ชิตเต็มรัก แล้วก็พรวดพราดวิ่งหางจุกตูดหนีไปอย่างรวดเร็ว “โอ๊ย! ...อื้อฮือเลือด” ธนูเห็นไอ้ชติ ทรุดฮวบก้นจ้ำ�เบ้า ร้องเสียงหลง พลางเอามือ กดแผลห้ามเลือดทีไ่ หลออกมา หน้าบิดเบีย้ วเหยเกแสดงอาการ เจ็บปวด พอตั้งหลักได้ด้วยความโมโหสุดขีด โดยไม่พูดพร่ำ� ทำ�เพลง ธนูคว้าท่อนไม้ขนาดเหมาะมือได้ท่อนหนึ่ง โกยแน่บ วิ่งแจ้นเผ่นเผล็วตามไอ้หมาเปรตตัวนั้นไปทันที ในหูก็แว่วเสียง ไอ้ชิตตะโกนตามหลัง “ทายแม่นจริงๆ อูย... อูย ผมเห็นทีจะต้องเสียเงินสะเดาะ เคราะห์แน่... เชื่อแล้ว” ในขณะที่วิ่งพลางธนูก็คิดไปพลาง นึกฉงนสนเท่ห์การ ทำ�นายทายทั ก ที่ แ ม่ น ยำ�ราวกั บ หลั บ ตาเห็ น ของยายแม้ น อย่างนี้นี่เล่า... ใครต่อใครถึงได้กล่าวขานร่ำ�ลือกิตติศัพท์กัน นักหนา ธนูนึกเลื่อมใสขึ้นมาในใจเสียแล้วสิ! ธนูวิ่งไล่กวดหมาตัวนั้นมาติดๆ เห็นหลังมันไวๆ ผลุบ เข้าไปในรั้วบ้านยายแม้น พอวิ่งมาถึงบริเวณหน้าบ้านก็ไม่เห็น หมาตั ว นั้ นเสี ย แล้ ว ค่ อยๆ ผลั ก ประตู รั้ ว ย่ องเข้าไปในบ้า น ในมือถือท่อนไม้เกร็งไว้แน่นในท่าเตรียมพร้อม เพราะไม่รวู้ า่ มัน จะแอบซ่อนคอยจังหวะดักเล่นงานเมือ่ ไหร่ ในขณะทีธ่ นูยอ่ งเข้าไป เงียบๆ อย่างระมัดระวังตัว ยังไม่ทันที่จะผลักประตูบ้านเข้าไป พลันธนูก็ได้ยินเสียงคนพูดดังลอดออกมาจากในห้องขึ้นว่า “เหนื่อยไหมเจ้าหมาแสนรู้ของข้า มานี่ข้าจะให้รางวัล ปลาทูตัวหนึ่ง โถ... วิ่งมาคงจะเหนื่อยมาก หอบแฮ่กๆ เลย มิ เ สี ย แรงที่ ข้ า เลี้ ย งและฝึ ก สอนเจ้ า มาอย่ า งดี เจ้ า ทำ � ให้ คำ � ทำ � นายทายทั ก ของข้ า แม่ น ยิ่ ง กว่ า แม่ น พรุ่ ง นี้ ไ อ้ ห นุ่ ม หน้าโง่ปากเสียคนนัน้ ก็จะต้องมาศิโรราบเสียเงินสะเดาะเคราะห์ กับข้าวันยังค่ำ� ฮ่ะ... ฮ่ะ.... ฮ่า”
NEWS
อธิบดี กพร.
เยี่ยมชมเหมืองแร่ปูนซีเมนต์ ในเมียนมา วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและ การเหมืองแร่ (กพร.) นำ�ทีมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ กพร. เข้าเยี่ยมชม บริษัท Mawlamyine Cement Limited (MCL) เมาะลำ�ไย ในระหว่างวันที่ 15-17 มิถนุ ายน 2561 ณ สาธารณรัฐ
แห่งสหภาพเมียนมา เพื่อศึกษาดูสถานการณ์การทำ�เหมือง การแต่งแร่ การผลิต การจำ�หน่าย การนำ�เข้า การส่งออก การค้าและการลงทุนด้านเหมืองแร่ รวมถึงสถานการณ์ตลาดแร่ ในต่างประเทศ สำ�หรับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์
July-August 2018
33
กรมทรัพยากรธรณี จัดการประชุมหารือทางเทคนิค
เรื่อง “แนวทางการกำ�หนดหลักเกณฑ์การจำ�แนก ทรัพยากรแร่ของประเทศไทย”
ต
ามที่ คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ พ.ศ. 2560 มอบหมายให้ กรมทรัพยากรธรณีและ กรมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและการเหมื อ งแร่ (กพร.) เป็ น เลขานุการร่วมในการจัดทำ�แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ซึ่ ง ประกอบด้ ว ย การสำ�รวจทรั พ ยากรแร่ แหล่ ง สำ�รองแร่ การจำ�แนกเขตพื้ น ที่ ศั ก ยภาพแร่ และเขตแหล่ ง แร่ เ พื่ อ การ ทำ�เหมืองแร่ (Mining Zone) กรมทรัพยากรธรณี สำ�นักทรัพยากรแร่ กรมทรัพยากรธรณี จึงได้จัดการ ประชุมหารือทางเทคนิค เรือ่ ง “แนวทางการกำ�หนดหลักเกณฑ์ การจำ�แนกทรั พ ยากรแร่ ข องประเทศไทย” เพื่ อ กำ�หนด หลั ก เกณฑ์ การจำ�แนกทรัพยากรแร่ที่ส ามารถเชื่องโยงหรื อ
34
July-August 2018
เทียบเคียงกับการจำ�แนกทรัพยากรแร่ในระบบสากลให้เป็นที่ ยอมรับทุกฝ่าย นำ�ไปใช้ได้จริง และนำ�ไปเป็นส่วนหนึ่งของการ กำ�หนดพื้นที่ศักยภาพในการทำ�เหมืองแร่ เพื่อเป็นเขตแหล่งแร่ เพื่อการทำ�เหมืองแร่ต่อไป การประชุมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เป็นประธานในพิธี และ มนตรี เหลืองอิงคะสุต ผู้อำ�นวยการสำ�นักทรัพยากรแร่ เป็นผู้กล่าว รายงาน ภายในงานประชุมประกอบด้วย การบรรยายและการ อภิปราย โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 120 คน เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอร์ริน
จีร่วมเป็นจันเจ้บามืภาพจั อไทย และ CCOP ดการประชุม The 8th China-ASEAN Mining Cooperation Forum (CAMCF) Liaison Officials Meeting
C
hina-ASEAN Mining Cooperation Forum (CAMCF) Secretariat สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่ ว มกั บ ประเทศไทย โดยกรมทรั พ ยากรธรณี และคณะ กรรมการประสานงานการสำ�รวจทรัพยากรธรณีในภูมิภาค เอเชี ย ตะวั น ออกและตะวั น ออกเฉี ย งใต้ (Coordinating Committee for Geoscience Programmes in East and Southeast Asia : CCOP) ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม The 8th CAMCF Liaison Officials Meeting เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี ถนนสีลม สมหมาย เตชวาล รองอธิ บ ดี ก รมทรั พ ยากรธรณี ในฐานะ Liaison Official อย่างเป็นทางการในนามประเทศไทย ของ CAMCF ได้ เ ป็ น ประธานร่ ว มและกล่ า วในพิ ธี เ ปิ ด การประชุม The 8th CAMCF Liaison Officials Meeting โดยมี Mr.Lu Jingyu, Secretary General of CAMCF, Deputy Director General of Guangxi Department of Land and Resources สาธารณรั ฐ ประชาชนจี น เป็ น ประธานร่วมฝ่ายจีน มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดจำ�นวน 39 ราย ทั้งจากองค์การระหว่างประเทศ CCOP หน่วยงานภาครัฐและ
ภาคเอกชนในกลุม่ ประเทศอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงผู้แทนจากกรมทรัพยากรธรณีและกรมอุตสาหกรรม พื้นฐานและการเหมืองแร่ โดยที่ประชุมได้มีการสรุปผลการดำ�เนินงานของ 2017 China-ASEAN Mining Cooperation Forum & Exhibition (CAMCE) และ The 6th Training Course of China-ASEAN Mining Personnel Exchange & Training Center (CAMPETC) และหารือแผนงานภาพรวมปี 2561 และการจัด The 7th Training Program of CAMPETC รวมถึงการหารือ โครงการความร่วมมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลจากการดำ�เนินความร่วมมือ CAMCF ในครัง้ นีจ้ ะเป็น ประโยชน์ต่อประเทศไทยในการเป็น Hub ของเครือข่ายความ ร่วมมือด้านการทำ�เหมืองแร่ของภูมิภาคอาเซียน-จีน สร้างเวที การหารือระดับภูมิภาคเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางวิชาการ และการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ และเทคโนโลยีดา้ นการ ทำ�เหมืองแร่ระหว่างกัน และช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น สถานที่ในการจัดประชุมนานาชาติ
July-August 2018
35
กรมทรัพยากรธรณี และ กรมธรณีศาสตร์ และแร่ธาตุ สปป.ลาว ประชุมหารือ
เรือ่ ง “การบริหารจัดการทรัพยากรแร่ของประเทศไทยและ สปป.ลาว”
ท่
านจันทะลา แก้วหาวง รองอธิบดีกรมธรณีศาสตร์ และแร่ธาต และคณะผู้แทนกรมธรณีศาสตร์และ แร่ธาตุ กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว ได้เข้าพบ ทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ในโอกาสที่คณะ ผูแ้ ทนกรมธรณีศาสตร์และแร่ธาตุเดินทางมาเข้าร่วมการประชุม The 8th China-ASEAN Mining Cooperation Forum (CAMCF) Liaison Officials Meeting ณ กรุงเทพมหานคร พร้อมกันนี้ได้ประชุมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน กับคณะผู้บริหารและผู้แทนกรมทรัพยากรธรณี ในหัวข้อเรื่อง “การบริหารจัดการทรัพยากรแร่ของประเทศไทยและ สปป.ลาว” ณ กรมทรัพยากรธรณี โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันนำ�เสนอสถานะการดำ�เนินงาน การบริหารจัดการทรัพยากรแร่ของประเทศ โดยฝ่ายไทยได้
36
July-August 2018
นำ�เสนอสถานะการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ของประเทศไทย และการดำ�เนินงานตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 และ ฝ่ า ย สปป.ลาวได้ นำ�เสนอสถานะการดำ�เนิ น งานของกรม ธรณี ศ าสตร์ แ ละแร่ ธ าตุ แ ละยุ ท ธศาสตร์ พั ฒ นาแร่ ธ าตุ ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ธาตุ ฉบับปรับปรุง ของ สปป.ลาว ผลจากการประชุมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกันครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการจัดทำ� Action Plan ของความร่วมมือด้านการบริหารจัดการแร่โพแทชเพือ่ ให้เป็นไป ตาม The Record of Discussion between DGM and DMR เมื่ อ วั น ที่ 1 กุ ม ภาพั น ธ์ 2561 ณ นครหลวงเวี ย งจั น ทน์ สปป.ลาว และจะมีการแลกเปลีย่ นเรียนรูเ้ รือ่ งการบริหารจัดการ ทรัพยากรแร่ของทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป
การประชุมระดมความคิดเห็นเชิงวิชาการ เรื่อง (ร่าง) นโยบายการบริหารจัดการหินอุตสาหกรรม พ.ศ. 2561-2564
สื
บเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่ แห่งชาติ ได้มีมติรับทราบความคืบหน้าการจัดทำ� (ร่าง) นโยบายการบริหารจัดการหินอุตสาหกรรม พ.ศ. 2561 -2564 โดยมอบหมายให้ ก รมทรั พ ยากรธรณี กระทรวง ทรั พ ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมอุตสาหกรรม พืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม จัดการ ประชุมระดมความคิดเห็นเชิงวิชาการ เรือ่ ง (ร่าง) นโยบายการ บริหารจัดการหินอุตสาหกรรม พ.ศ. 2561-2564 เพื่อสร้าง การมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ต่อ (ร่าง) นโยบายการบริหารจัดการหินอุตสาหกรรม พ.ศ.
2561-2564 รวมทั้ ง กำ�หนดแนวทางการบริ ห ารจั ด การ แหล่งหินอุตสาหกรรม ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมซีเมนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และรองรับโครงการลงทุนด้านโครงสร้าง พื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ให้มีความสอดคล้องกับหลักการ บริหารจัดการแร่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้ดุลยภาพทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และ สุขภาพของประชาชน ให้ประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตาม หลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้รับเกียรติจาก ทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เป็นประธานในพิธี เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมรามาการ์เดน July-August 2018
37
CSR l
กองบรรณาธิการ
สิรินิธิ ร่วมกับ ปูนซิเมนต์ ไทย (แก่งคอย) และ ปูนซีเมนต์ นครหลวง จำ�กัด (มหาชน) จัดงาน “มหกรรมตรวจสุขภาพ 3+1”
บ
ริษัท สิรินิธิ จำ�กัด ร่วมกับ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำ�กัด และ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำ�กัด (มหาชน) จัดงาน “มหกรรมตรวจสุขภาพ 3+1” ซึ่งเป็น กิจกรรมภายใต้กองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ รอบพื้นที่โครงการ เหมืองแร่ทั้ง 3 บริษัท เพื่อให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตรวจเอกซเรย์ปอดและบริการสุขภาพอืน่ ๆ ณ ศาลาประชาคม บ้านบุญบันดาล ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมือ่ วันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ในโอกาสนี้สภาการเหมืองแร่เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ภายในงานมีชาวบ้านให้ความสนใจร่วมกิจกรรมจำ�นวนกว่า 80 คน มีกิจกรรมเพิ่มเติม เช่น บริการตัดผม ฯลฯ พร้อมเลี้ยง อาหารเย็น และมีการจับรางวัล ซึ่งมีของรางวัลเป็นพัดลม หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ และตู้เย็น สภาการเหมืองแร่ขอแสดงความยินดีกับชาวบ้านที่ได้รับ รางวัลด้วย และขอบคุณบริษทั สิรนิ ธิ ิ จำ�กัด, บริษทั ปูนซิเมนต์ ไทย (แก่งคอย) จำ�กัด และบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำ�กัด (มหาชน) ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ให้ชุมชนรอบพื้นที่โครงการเหมืองแร่ให้ยั่งยืนต่อไป
38
July-August 2018