ฉบับส่งสื่อมวลชน
ตรุษจีนปี’56 นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยคึกคัก : สร้างรายได้ในไตรมาสแรกเกือบ 3 หมื่นล้านบาท
CURRENT ISSUE ปีที่ 19 ฉบับที่ 2317 วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556
ประเด็นสาคัญ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจี น โดยแรงขับเคลื่อนสาคัญส่วนหนึ่งมาจากกระแสความนิยมเที่ยวประเทศไทย ตามรอยภาพยนตร์ จีนที่กาลังมาแรงในปัจจุบัน แรงหนุนของเทศกาลตรุษจีนปี 2556 จะช่วยให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนของไทยในช่ วง ไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัวในอัตราร้อยละ 37.9 หรือมีจานวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้า มายังประเทศไทยประมาณ 8 แสนคน และการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มก่อให้เกิด เม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยวสะพัดในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 29,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น ร้อยละ 44.4 เทศกาลตรุ ษ จี น ซึ่ ง ในปี นี้ ต รงกั บ วั น ที่ 10 กุ ม ภาพั น ธ์ 2556 นั บ เป็ น หนึ่ ง ในเทศกาลส าคั ญ ของประเทศจีน ซึ่งจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และจัดเป็น Golden Week ของบรรดาผู้ประกอบการธุรกิจ ท่องเที่ยวของจีนและประเทศต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ต่างมีนักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดเป้าหมายสาคัญ รวมทั้ง ประเทศ ไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้ด้วยความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่าง ยาวนานระหว่างประเทศจีนและประเทศไทย รวมทั้งสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีอยู่อย่างหลากหลายของประเทศไทย นอกเหนือจากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความคุ้มค่าเงิน ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ บริการด้านสุขภาพซึ่งมี บริการด้านสปาที่โดดเด่น และแหล่งช้อปปิ้ง เมื่อได้รับแรงเกื้อหนุนจากหลายปัจจัยสาคัญ โดยเฉพาะความสะดวก ในการเดินทางด้วยการบินตรงมายังเมืองท่องเที่ยวสาคัญของไทย คือ กรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่มี ชื่อเสียงของไทย อาทิ พัทยา ภูเก็ต กระบี่ และสมุย รวมทั้งเชียงใหม่ ส่งผลให้ ตลาดนักท่องเที่ยวจีน เติบโตอย่าง รวดเร็ว และแซงตลาดนักท่องเที่ยวมาเลเซียขึ้นมาเป็นตลาดท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่เป็น อันดับหนึ่ง ครองตลาด นักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยได้เป็นครั้งแรกในปี 2555
2
เทศกาลตรุษจีน : เปิดศักราชความคึกคักของตลาดนักท่องเที่ยวจีนในปี’56 ตรุษจีนปีนี้ ทางการจีนประกาศให้มีวันหยุด 7 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 9 - 15 กุมภาพันธ์ 2556 วันหยุดยาว ช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ของจีน เป็นช่วงเวลาที่คนจีนส่วนใหญ่นิยมเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้าน เพื่อฉลองปีใหม่กับ ครอบครัว หรือเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่ง สถาบัน วิจัยการท่องเที่ย วจีนวิ เคราะห์ว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้จะมีประชาชนชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 20 เมื่อพิจารณาการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ คาดว่ามี แนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลจากการที่ทางการจีนผ่อนคลายความเข้มงวดในการควบคุมการ เดินทางไปต่างประเทศของประชาชน โดยเฉพาะการอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติใน ต่ า งประเทศได้ โดยไม่ ต้อ งซื้ อ แพ็ ก เกจทั ว ร์ แ บบเหมาจ่ า ยจากบริ ษั ท น าเที่ ย ว และ การเพิ่ มจ านวนประเทศ ที่ทางการจีนอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางไปได้เป็นหมู่คณะ มาตามลาดับ เริ่มจากฮ่องกงและมาเก๊าในปี 2526 ตามมาด้ วยประเทศไทยในปี 2531 (ส าหรั บ ประเทศซึ่ งเป็ น แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วส าคัญ ได้แ ก่ ออสเตรเลี ย และ นิวซีแลนด์ได้รับอนุญาตในปี 2542 ญี่ปุ่นในปี 2543 ประเทศในแถบยุโรปช่วงปี 2546-2551 และสหรัฐอเมริกาใน ปี 2551) เหล่านี้ล้วนเพิ่มโอกาสในการเดินทางไปต่างประเทศในแก่ประชาชนชาวจีนมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนยังได้รับแรงเกื้อหนุนสาคัญจากความสะดวกในการเดิน ทางเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จากการขยายเส้นทางบินตรงไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลัก ทั้งเที่ยวบินประจา และเที่ยวบินเช่าเหมาลา รวมทั้งการขยายเส้นทางบินและความถี่ของเที่ยวบินของสายการบินต้นทุนต่า ประกอบกับเศรษฐกิจของจีนยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทาให้ชาวจีนโดยรวมมีกาลังซื้อสูงขึ้น เอื้ออานวยต่อการขยายตัวของการเดินทางระหว่างต่างประเทศ ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของ ชาวจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยทางการจีนคาดว่า ในปี 2555 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปต่างประเทศกว่า 80 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้นราว 7 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2543 ที่มีจานวน 10.5 ล้านคน/ครั้ง ในจานวนนักท่องเที่ยวจีนที่ เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศดังกล่าวประมาณ 20 ล้านคน/ครั้ง หรือคิดเป็นร้อยละ 25 เป็นนักท่องเที่ยวที่เพิ่งจะ เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็น ครั้งแรก ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ในเอเชีย คือ ฮ่องกง, มาเก๊า, ไต้หวัน และแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในปลายทาง ยอดนิยม ส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่เ คยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรกแล้ว จะนิยมเลือกเดินทางไปยัง ภูมิภาคอื่นๆ ที่ยังไม่เคยเดินทางไป สาหรับการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในครั้งต่อๆ ไป สาหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีน ของไทยในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมาเติบโตจากที่มีขนาดเพียง 33,344 คน ในปี 2531 เพิ่ มขึ้นมาแตะจานวนล้านคนเป็นครั้งแรกในปี 2549 ด้วยจานวน 1.03 ล้านคน และแม้ว่าตลาด นักท่องเที่ยวจีนจะถดถอยลงไปในช่วงระหว่างปี 2550-2553 จากเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ ช่วงคืน วันที่ 31 ธันวาคม 2549 และตามมาด้วยสถานการณ์ ความไม่สงบภายในประเทศ สืบเนื่องมาจากการชุมนุม เรียกร้องทางการเมือง อย่างไรก็ตาม หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายลงตามลาดับตั้งแต่ช่วง กลางปี 2553 ตลาดนักท่องเที่ยวจีนก็มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราสูงตั้งแต่ปี 2553 ต่อเนื่องมาถึงปี 2555
CURRENT ISSUE
3
จากบรรยากาศการท่องเที่ยวของไทยในช่วงปลายปี 2555 ที่คึกคักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่เกิดอุทกภัย ร้ายแรง เกื้อหนุนการขยายตัวของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมของไทย รวมทั้งตลาดนักท่องเที่ยวจีน ที่มีทิศ ทางการเติ บโตอย่ างรวดเร็ ว โดยมีนัก ท่ องเที่ย วจี น เดิน ทางเข้ ามายังประเทศไทยเฉลี่ย เดือนละ 2.9 แสนคน ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2555 (พฤศจิกายน-ธันวาคม) ขณะที่หลายปัจจัยสาคัญที่ เอื้ออานวยต่อการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ยังคงส่งผลต่อเนื่องมา ในปี 2556 โดยเฉพาะความสะดวกในการเดินทางมายังแหล่ งท่องเที่ ย วหลั กของไทย จากการขยายตัวของ เที่ยวบินตรง จากเมืองต่างๆ ของจีนเข้ามายังแหล่งท่องเที่ยวหลักของไทย นอกจากนี้ ยังได้แรงขับเคลื่อนสาคั ญจากกระแสความนิยมภาพยนตร์ จีนที่เข้ามาถ่ายทาในเมืองไทย ซึ่งทาให้แพ็กเกจนาเที่ยวประเทศไทยตามรอยภาพยนตร์ดังกล่าว ได้รับความสนใจอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยวจีนที่ เดินทางเข้ามาในลักษณะกรุ๊ปทัวร์ ทาให้นักท่องเที่ยวจีน ที่เดิมนิยมเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวของไทยอยู่ ไม่กี่แห่ง คือ กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ต่างหันไปเที่ยวเชียงใหม่กันมากขึ้น ตลาดนั ก ท่ อ งเที่ ย วจี น จึ ง มี แ นวโน้ ม ขยายตั ว ในอั ต ราสู ง ต่ อ เนื่ อ งมาในช่ ว งต้ น ปี 2556 โดยเฉพาะ เดื อนกุ มภาพัน ธ์ที่ มี เทศกาลตรุ ษจี น ซึ่ งหน่ วยงานภาครั ฐ โดยการท่ องเที่ ย วแห่ งประเทศไทย (ททท.) ให้ก าร สนับสนุนการจัดงานเทศกาลตรุษจีนตามพื้นที่ต่างๆ 12 แห่งทั่วประเทศอย่างยิ่งใหญ่ คือ ที่เยาวราช (กรุงเทพฯ) พัทยา (ชลบุรี) ภูเก็ต หาดใหญ่ (สงขลา) เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครราชสีมา และตรัง เพื่อกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ ภู เ ก็ ต จะเป็ น แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วยอดนิ ย มของนั ก ท่ อ งเที่ ย วต่ า งชาติ ใ นช่ ว งเทศกาลตรุ ษ จี น ปี นี้ โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจานวนมากจองที่พักเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน และนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีน จากประเทศต่างๆ อาทิ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และเกาหลีใต้ ขณะที่ยังมีนักท่องเที่ยวยุโรป รวมทั้งรัสเซีย และออสเตรเลียจานวนไม่น้อยพักยาวจากช่วงปลายปี 2555 ต่อเนื่องมาในช่วงต้นปี 2556 ทาให้ คาดว่า อัตราการเข้าพักโรงแรมภูเก็ตในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับสูงต่อเนื่องมาจากเดือนธันวาคม 2555 และมกราคม 2556 ตลาดนักท่องเที่ยวจีนของไทย ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555-2556*
ไตรมาสที่ 1 255 ,000 ( 37.9%) (3.35 ล้านคน) 2555 (2.80 ล้านคน)
580,282 ( 22.2%)
ที่มา : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หมายเหตุ : * ประมาณการโดย บริษัท ศูนย์วิจยั กสิกรไทย จากัด
CURRENT ISSUE
4
จากแนวโน้มดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดการณ์ว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 255 จะมี นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยไม่ต่ากว่า แสนคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.9 เมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปีก่อนหน้า และการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มก่อให้เกิดเม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยว สะพัดในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 29, ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.4
สรุป : ปี’56 จีนยังครองความเป็นผู้นาในตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย ศู นย์ วิ จั ย กสิ ก รไทย คาดการณ์ ว่า หากไม่ เกิ ดเหตุก ารณ์ ร้ ายแรงใดมากระทบบั่ น ทอนการเติ บ โต ของตลาดนั ก ท่ อ งเที่ ย วต่ า งชาติ ข องไทยในปี 2556 ที่ ค าดว่ า จะขยายตั ว ไม่ ต่ ากว่ า ร้ อ ยละ 10 แล้ ว ตลาด นักท่องเที่ยวจีนยังคงมีบทบาทสาคัญอันดับหนึ่ง ในการผลักดันการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวม ของไทย โดยคาดว่า ตลอดทั้งปี 2556 จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางเข้ามายังประเทศไทยรวมทั้งสิ้น ไม่ต่ากว่า 3.35 ล้านคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.5 จากปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มก่อให้เกิดรายได้ท่องเที่ยวเข้า ประเทศคิดมูลค่าประมาณ 123,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.5 จากข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในปี 2554 พบว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้า มาส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 5 เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราสูงถึงร้อยละ 5 . ใกล้เคียง กับนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางมาเที่ยวซ้า ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.2 จากปีก่อนหน้า สาหรับ รูปแบบของการจัดการ เดินทาง พบว่า นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 59 จัดการเดินทางด้วยตนเอง กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.7 ขณะที่กลุ่มที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์เดินทางมาเป็นกลุ่มกับบริษัทนาเที่ยว ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 41 เพิ่มขึ้นช้ากว่า คือ ร้อยละ 41.2 โดย นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มที่จัดการเดินทางด้วยตนเอง เป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะมีแนวโน้มขยายตัว รวดเร็ว และมีบทบาทในตลาดการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น ตามลาดับ เนื่องจากเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่วัย ทางานที่มีกาลังซื้อสูง อายุ 30 ปีขึ้นไป และใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่ทันสมัยในการค้นหาข้อมูลด้านแหล่ง ท่องเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งบริการด้านการท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจการบิน และธุรกิจที่พัก หากภาครัฐและภาคเอกชนของไทยร่วมมือกันขยายส่วนแบ่งในตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่จัดการเดินทาง กันเอง คาดว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะสามารถเติบโตและสร้างรายได้เข้าประเทศได้สูงกว่าที่คาดการณ์ ไว้เดิม โดยเฉพาะการปรับใช้กลยุทธ์การทาตลาดออนไลน์ การปรับรูปแบบรายการนาเที่ยวให้สอดคล้อง กับความต้องการของนักท่องเที่ยว และพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายดึงดูด นักท่องเที่ยวจีน ควบคู่กับการยกระดับด้านคุณภาพของบริการรองรับนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความ ประทับใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาเที่ยวอีก โดยเร่งแก้ไขปัญหาด้านคมนาคมขนส่ง ที่มีอยู่ใน ปั จ จุ บั น ทั้ ง ความแออั ด ของสนามบิ น ข้ อ จ ากั ด ด้ า นเที่ ย วบิ น จากต้ น ทาง และบริ ก ารรถรั บ -ส่ ง นักท่องเที่ยวในประเทศ ----------------------------------------Disclaimer รายงานวิจยั ฉบับนี้จัดทาเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทาขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความ น่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงข้อมูลได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ ล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิด ต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็นหรือคาแนะนาในการตัดสินใจทาง ธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น
CURRENT ISSUE